Professional Documents
Culture Documents
สานักงานคณะกรรมการอาหารและยา
แนวทางหลักเกณฑ์วิธีการที่ดีในการผลิต
ยาแผนโบราณ และผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
Draft 1
หลักการ
ยาแผนโบราณ และผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ต้องได้รับการควบคุมกระบวนผลิตเพื่อให้แน่ใจได้ว่า เหมาะสมกับ
วัตถุประสงค์การนาไปใช้ ปฏิบัติตามข้อกาหนดของหน่วยงานภาครัฐที่ออกกฎหมาย(NRA)และไม่ทาให้ผู้ป่วย
หรือผู้บริโภคได้รับความเสี่ยง อันเนื่องมาจากความปลอดภัยและคุณภาพที่ไม่เพียงพอ การบรรลุวัตถุประสงค์
ด้านคุณภาพถือเป็นความรับผิดชอบของฝ่ายบริหาร ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือและความไว้วางใจจากเจ้าหน้าที่
ทุกแผนกและทุกระดับภายในบริษัท รวมทั้งจากบริษัทจัดหาวัตถุดิบ และจากบริษัทกระจายผลิตภัณฑ์ด้วย
เพื่อที่จะบรรลุวัตถุประสงค์ด้านคุณภาพนั้น บริษัทจะต้องมีระบบการประกันคุณภาพที่ถูกออกแบบมาอย่างดี
ครอบคลุมทุกส่วนที่เกี่ยวข้องและได้ผลที่ถูกต้อง หลักเกณฑ์วิธีการที่ดีในการผลิต (GMP) และการควบคุม
คุณภาพ จะต้องมีการจัดทาระบบเอกสารและมีการตรวจสอบความมีประสิทธิภาพในทุกส่วนของระบบการ
ประกันคุณภาพ ดังนั้นจึงต้องมีทรัพยากรที่เพียงพอ มีบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถและประสบการณ์การ
ทางานในสาขาที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งมีสถานที่ อุปกรณ์ และสิ่งอานวยความสะดวกที่เหมาะสมและเพียงพอ
หลักการ
หลักการ
ก. สถานที่
ทั่วไป
3.1 สถานที่จะต้องมีขนาด รูปแบบ โครงสร้าง และที่ตั้งที่เหมาะสม เพื่อให้สามารถทาความสะอาดและบารุงรักษาได้ง่าย
3.2 สถานที่จะต้องเอื้ออานวยต่อการซ่อมแซมและบารุงรักษา เพื่อไม่ได้เกิดอันตรายกับผลิตภัณฑ์ สถานที่ต้อง
สะอาด มีการฆ่าเชื้อตามความเหมาะสม และเป็นไปตามวิธีการปฏิบัติงานที่เป็นลายลักษณ์อักษร
3.3 จะต้องป้องกันไม่ให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องเข้ามาในบริเวณทางเดิน พื้นที่การผลิต บริเวณจัดเก็บ และบริ เวณ
ควบคุมคุณภาพ
3.4 แสงสว่าง อุณหภูมิ ความชื้น และการระบายอากาศ จะต้องเหมาะสม ไม่ส่งผลเสียทั้งทางตรง และทางอ้อมต่อ
ผลิตภัณฑ์ในระหว่างการผลิต และจัดเก็บ รวมทั้งไม่ส่งผลเสียความแม่นยาในการทางานของอุปกรณ์
3.5 สถานที่ตั้งในที่ที่เหมาะสม ได้รับการอนุมัติจากผู้ที่มีอานาจหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
3.6 สถานที่ตั้งอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีความเสี่ยงน้อยที่สุดที่จะก่อให้เกิดการปนเปื้อนกับวัตถุดิบหรือผลิตภัณฑ์
3.7 ต้องแยกอาคารผลิตยาแผนโบราณ และผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร อย่างไรก็ตาม หากจาเป็นต้องใช้อาคารผลิต
ร่วมกัน ต้องมีมาตรการป้องกันปนเปื้อนข้ามที่เหมาะสม
3.8 สถานที่ถูกออกแบบ สร้าง และบารุงรักษา เพื่อป้องกันการเป็นที่หลบซ่อนและเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของสัตว์
พาหะต่างๆ เช่น หนู นก แมลง เป็นต้น
3.9 ต้องแยกการผลิตผลิตภัณฑ์อื่นๆออกจากพื้นที่การผลิตยาแผนโบราณ และผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
3.10 การออกแบบสถานที่จะต้องป้องกันโอกาสที่จะเกิดการปนเปื้อนข้ามและการปนกันระหว่างผลิตภัณฑ์ หรือ
ส่วนประกอบที่ต่างกัน
3.11 กระบวนการผลิ ต ที่ ก่ อให้ เ กิ ดฝุ่ น เช่น ผงแป้ ง จะต้ อ งควบคุ ม เป็ น พิ เ ศษ เพื่อ ป้ อ งกัน การสะสม และการ
แพร่กระจายของฝุ่น
3.12 การดาเนินการต่อไปนี้ ต้องมีพื้นที่ที่ถูกกาหนดอย่างชัดเจน
3.12.1 การรับเข้า และการกักกันวัตถุดิบ
3.12.2 การสุ่มตัวอย่าง
3.12.3 การจัดเก็บวัตถุดิบ และวัสดุสาหรับการบรรจุ
3.12.4 การชั่งน้าหนัก / การตวง
3.12.5 การผลิต
ข.พื้นที่การผลิต
3.13 ในบริเวณที่วัตถุดิบและวัสดุการบรรจุปฐมภูมิ (Primary Packaging Materials) ผลิตภัณฑ์ระหว่างผลิต หรือ
ผลิตภัณฑ์รอบรรจุ มีการสัมผัสกับสภาพแวดล้อม พื้นผิวภายใน (ฝาผนัง พื้น และเพดาน) ต้องเรียบ ไม่มีทั้ง
รอยแตกและรอยต่อที่เชื่อมไม่สนิท ไม่มีเศษวัสดุ (Shed Particulate Matter)หลุดร่วง สามารถทาความ
สะอาดได้ง่าย และสามารถทาการฆ่าเชื้อได้ ซอกที่อยู่ระหว่างฝาผนังกับพื้นที่การผลิตถูกออกแบบให้ง่ายต่อการ
ทาความสะอาด
3.14 หลีกเลี่ยงการมีช่องเปิดใดๆ เว้นแต่ถ้าต้องการให้มีช่องเหล่านั้น ก็ ต้องตื้นพอที่จะทาความสะอาด และฆ่าเชื้อ
โรคได้ง่าย ทางระบายน้าออกต้องมีรางน้า
3.15 ตัว อาคารจะต้ อ งมีก ารระบายอากาศที่ มี ป ระสิ ท ธิ ผ ล อั นเกิ ด จากเครื่ อ งควบคุ ม อากาศ (รวมทั้ ง อุ ณ หภู มิ
ความชื้น และการกรองอากาศ) ให้เหมาะสมทั้งการดาเนินการภายใน และสภาพแวดล้อมภายนอก
3.16 พื้นที่การผลิตต้องมีแสงสว่างเพียงพอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในที่ที่มีการควบคุมด้วยสายตาในสายการผลิต (Visual
On-Line Controls)
3.17 ท่อ หลอดไฟ จุดระบายอากาศ และสิ่งอานวยความสะดวกอื่นๆ ต้องออกแบบ และติดตั้งโดยหลีกเลี่ยงซอกมุม
ที่ทาความสะอาดยาก และต้องออกแบบให้สามารถเข้าไปบารุงรักษาได้จากภายนอกพื้นที่การผลิต
3.18 การผลิตผลิตภัณฑ์ที่ใช้สาหรับภายนอก (External) และภายใน (Internal) ต้องทาในห้องที่แยกจากกัน
3.19 ในสถานที ่ที่ม ีโ อกาสเกิด ฝุ ่น ขึ ้น (ตัว อย่า งเช่น ระหว่า งการสุ ่ม ตัว อย่า ง การชั่ง น้ าหนัก การผสม และ
กระบวนการการบรรจุผลิตภัณฑ์แห้งลงในภาชนะบรรจุ ) ต้องมีการเตรียมการที่ดีเพื่อหลีกเลี่ยงการปนเปื้อน
ข้าม และทาความสะอาดได้ง่าย
3.20 สถานที่สาหรับบรรจุยาแผนโบราณและผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ต้องออกแบบและจัดวาง เพื่อหลีกเลี่ยงการ
ปะปน และการปนเปื้อนข้าม
3.21 มีการจัดบริเวณการผลิตให้เป็นไปตามสายงานการผลิต และตามระดับของความสะอาด
3.22 พื้น ที่การปฏิบัติงานเพีย งพอ ไม่แออัดจัดวางอุปกรณ์และวัตถุดิบอย่างมีระเบียบและเรียงตามล าดับให้
เหมาะสมกับการทางาน
3.23 ห้องเปลี่ยนชุดแต่งกายพนักงานต้องเชื่อมต่อถึงพื้นที่การผลิตแต่แยกจากกันเป็นสัดส่วน
3.24 ห้องเปลี่ยนชุดแต่งกายพนักงาน ต้องมีอ่างล้างมือจานวนเพียงพอ
แนวทางหลักเกณฑ์วิธกี ารที่ดีในการผลิตยาแผนโบราณ และผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร หน้า 9 จาก 45
ค. พื้นที่การจัดเก็บ
3.25 มีพื้นที่การจัดเก็บเพียงพอ เพื่อให้สามารถจัดเก็บวัตถุดิบ ภาชนะบรรจุ ผลิตภัณฑ์ระหว่างผลิต ผลิตภัณฑ์รอ
บรรจุ ผลิตภัณฑ์สาเร็จรูป ผลิตภัณฑ์ที่ถูกกักกัน ผลิตภัณฑ์ที่รอจาหน่าย ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เป็นไปตามข้อกาหนด
หรือผลิตภัณฑ์ที่ถูกเรียกคืนอย่างมีระเบียบ เป็นสัดส่วน ไม่ปะปนกัน
3.26 ออกแบบหรื อปรั บ ปรุ งพื้น ที่การจั ดเก็บ ให้ อยู่ใ นสภาวะการจัดเก็บที่ดี พื้นที่ส ะอาด แห้ ง รักษาอุณหภูมิ ที่
พอเหมาะ ส่วนพื้นที่การจัดเก็บที่ต้องควบคุมอุณหภูมิและความชื้น จะต้องมีการตรวจสอบอย่างสม่าเสมอ
3.27 จัดเก็บวัตถุดิบแยกเป็นสัดส่วนกับผลิตภัณฑ์ที่ไม่เป็นไปตามข้อกาหนด ถูกเรียกคืนหรือถูกส่งคืน
3.28 วัตถุดบิ หรือผลิตภัณฑ์ที่เกิดปฏิกิริยาง่าย (ตัวอย่างเช่น สารที่ติดไฟง่าย ระเบิดได้ หรือมีพิษ) ต้องจัดเก็บในที่ที่แยก
ออกต่างหาก และปลอดภัย
3.29 บริเวณรับวัตถุดิบและจัดส่งผลิตภัณฑ์ ต้องมีการป้องกันการปนเปื้อนจากสภาพแวดล้อม พื้นที่รับวัตถุดิบต้องมี
การออกแบบ และจัดเตรียมอย่างดี เพื่อให้หีบห่อวัตถุดิบที่ส่งเข้ามามีความสะอาด ก่อนจะถึงขั้นตอนการจัดเก็บ
3.30 พื้นที่ที่ใช้สุ่มตัวอย่างวัตถุดิบ ต้องแยกออกจากพื้นที่จัดเก็บวัตถุดิบ ถ้าหากมีการสุ่มตัวอย่างภายในพื้นที่จัดเก็บ
จะต้องมีการป้องกันการปนเปื้อนข้าม
3.31 วัสดุสาหรับการบรรจุที่พิมพ์ฉลากแล้ว ต้องตรวจสอบว่าเป็นชนิดเดียวกันกับผลิตภัณฑ์ ที่จะบรรจุ และต้องมี
การควบคุมการจัดเก็บ
3.32 วัตถุดิบธรรมชาติที่ยังดิบอยู่ (ยังไม่ผ่านกระบวนการใดๆ) ต้องถูกจัดเก็บในพื้นที่แยกต่างหาก พื้นที่การจัดเก็บ
ต้องมีการระบายอากาศ สามารถป้องกันแมลงหรือสัตว์อื่นๆ โดยเฉพาะหนูและมีมาตรการที่มีประสิทธิผลใน
การป้ องกันการแพร่ของสัตว์ และเชื้อจุลิ นทรีย์ที่มาพร้อมกับวัตถุดิบธรรมชาติที่ยังดิบอยู่ เพื่อป้องกันการ
เปลี่ยนแปลงทางเคมี การเกิดเชื้อรา และการปนเปื้อนข้าม
3.33 ทาความสะอาดและบารุงรักษาพื้นที่จัดเก็บผลิตภัณฑ์สม่าเสมอ
3.34 จัดเก็บพืชและสารสกัดต่างๆ ในอุณหภูมิ ความชื้นที่เหมาะสม และหลีกเลี่ยงแสงแดดเพื่อป้องกันการเสียสภาพ
ง. พื้นที่การควบคุมคุณภาพ
3.35 ห้องทดลอง หรือพื้นที่ควบคุมคุณภาพ ต้องแยกออกจากพื้นที่การผลิต
3.36 ห้องทดลอง ต้องมีการออกแบบให้เหมาะกับการปฏิบัติงาน มีพื้นที่เพียงพอเพื่อป้องกัน การปะปนหรือการ
ปนเปื้อนข้าม และมีพื้นที่การจัดเก็บที่เหมาะสม เพียงพอสาหรับจัดเก็บตัวอย่าง และการจดบันทึก
3.37 เครื่องมือที่มีความไวต่อการสั่นสะเทือน การรบกวนของกระแสไฟฟ้า ความชื้น และอื่นๆต้องเก็บในห้องแยก
ต่างหาก (ถ้าจาเป็น)
จ. พื้นที่เสริม
3.38 ห้องอาหารและห้องสุขา ต้องแยกออกจากพื้นที่อื่นๆ และไม่มีทางเชื่อมโดยตรงกับพื้นที่ควบคุม (ตัวอย่างเช่น
พื้นที่การผลิต และจัดเก็บ)
3.39 ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า ห้องซักล้าง และห้องสุขา มีจานวนเหมาะสมกับผู้ใช้
3.40 พื้นที่ซ่อมบารุงแยกออกจากพื้นที่ผลิต กรณีที่มีการจัดเก็บชิ้นส่วนและเครื่องมืออุปกรณ์ไว้ในพื้นที่การผลิต
จะต้องเก็บในห้องหรือตู้ที่มิดชิดและเป็นสัดส่วน
แนวทางหลักเกณฑ์วิธกี ารที่ดีในการผลิตยาแผนโบราณ และผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร หน้า 10 จาก 45
ฉ. อุปกรณ์ (Equipment)
3.41 อุปกรณ์ที่ใช้ในการผลิตต้องถูกออกแบบ จัดวาง และเก็บรักษาให้เหมาะสมกับการใช้งาน
3.42 อุปกรณ์ที่ใช้ในการผลิตต้องถูกติดตั้ง เพื่อป้องกันการปนเปื้อน หรือลดความเสี่ยงที่จะผิดพลาดให้น้อยที่สุด
และที่สาคัญต้องมีการทดสอบอุปกรณ์ให้มั่นใจว่าทางานได้เหมาะสม
3.43 อุป กรณ์ที่ใ ช้ใ นการผลิต ต้อ งถูก วางไว้ใ ห้ห ่า งจากอุป กรณ์อื ่น ๆมากพอ เพื ่อ หลีก เลี ่ย งความแออัด และ
สิ่งเจือปน
3.44 ท่อลาเลียง ต้องมีป้ายชี้บ่ง มีการแสดงรายละเอียดและทิศทางการไหลชัดเจน
3.45 เครื่องชั่ง และอุปกรณ์วัดอยู่ในช่วงที่เหมาะสม มีความถูกต้องแม่นยา พร้อมสาหรับการผลิตและการปฏิบัติการ
ควบคุม
3.46 อุปกรณ์ชั่ง ตวง วัด ต้องมีการสอบเทียบตามความถี่ที่กาหนด โดยวิธีการที่เหมาะสม และต้องมีการบันทึกการ
สอบเทียบ
3.47 อุ ป กรณ์ ก ารผลิ ต ถู ก ออกแบบให้ ท าความสะอาดง่ า ยและทั่ ว ถึ ง การท าความสะอาดต้ อ งสอดคล้ อ งกั บ
รายละเอียดในคู่มือการปฏิบัติงาน อุปกรณ์ที่ทาความสะอาดแล้วต้องจัดเก็บในที่สะอาดและแห้งเท่านั้น
3.48 อุปกรณ์การผลิตผลิตภัณฑ์สาหรับใช้ภายในแยกออกจากอุปกรณ์ที่ใช้ผลิตผลิตภัณฑ์สาหรับใช้ภายนอก
3.49 เคลื่อนย้ายอุปกรณ์ที่เสีย ชารุด ออกจากพื้นที่การผลิตและพื้นที่ควบคุมคุณภาพ ทั้งนี้ระหว่างรอการเคลื่อนย้าย
ต้องมีป้ายบอกชัดเจนว่าชารุด
3.50 การซ่อมแซมและบารุงรักษาจะต้องไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อคุ ณภาพของผลิตภัณฑ์ กรณีมีชิ้นส่วนอุปกรณ์สูญ
หาย เช่น เกลียว สปริง ที่หนีบ เป็นต้น ต้องมีการรายงาน และตรวจสอบโดยละเอียดทันที
3.51 อุปกรณ์การผลิต (รวมถึง ท่อลาเลียง และท่อยืดหยุ่น ) จะต้องไม่ก่อให้เกิดอันตรายกับผลิตภัณฑ์ ชิ้นส่วนของ
อุปกรณ์การผลิตที่สัมผัสกับผลิต ภัณฑ์ จะต้องไม่ทาปฏิกิริยาหรือดูดซับในระดับที่ส่งผลถึงคุณภาพผลิตภัณฑ์
และทาให้เกิดอันตราย
3.52 ท่อลาเลียง (Pipes) ท่อยืดหยุ่น (Hoses) เครื่องสูบ (Pumps) และวาล์วที่ใช้กับน้าสะอาด (Valve used for
treated water) วัตถุดิบเริ่มต้น และผลิตภัณฑ์ต้องสะอาดและถูกฆ่าเชื้อสอดคล้องกับคู่มือการปฏิบัติงาน ทั้งนี้
ต้องกาหนดเกณฑ์การยอมรับสาหรับการปนเปื้อนจุลินทรีย์และวิธีการตรวจสอบ
3.53 สารทาความสะอาด ซักล้าง และอุปกรณ์ทาความสะอาดต้องไม่ก่อให้เกิดการปนเปื้อน
หลักการ
ก. บุคลากร
4.1 ก่อนการจ้างงาน บุคลากรทุกคนต้องผ่านการตรวจสุขภาพ และจะต้องมีการตรวจสุขภาพเป็นประจาในระหว่าง
การจ้างงาน
4.2 บุคลากรทุกคนจะต้องได้รั บการฝึ กอบรมเรื่องสุ ขลั กษณะส่ ว นบุคคลที่ดี มีการปฏิบัติตามหลั กการของ
สุขลักษณะส่วนบุคคลที่ดี และมีการสังเกตการณ์จากผู้ที่อยู่ในกระบวนการผลิต
4.3 บุคคลที่มีอาการเจ็บป่วย หรือมีบาดแผลชัดเจน ที่อาจส่งผลเสียกับคุณภาพผลิตภัณฑ์ จะไม่ได้รับอนุญาตให้
จัดการวัตถุดิบ วัสดุสาหรับการบรรจุ ผลิตภัณฑ์ระหว่างผลิต และผลิตภัณฑ์สาเร็จรูป จนกว่าอาการจะทุเลา
4.4 ลูกจ้างทุกคนจะต้องได้รับการอบรมให้รายงานสภาพต่างๆ (เครื่องจักร อุปกรณ์ หรือบุคลากร) ที่เห็นว่าอาจจะ
ส่งผลเสียต่อผลิตภัณฑ์ ให้ผู้บังคับบัญชาทราบทันที
4.5 ต้องหลีกเลี่ยงการสัมผัสโดยตรงระหว่างมือผู้ปฏิบัติงานกับวัตถุดิบ ผลิตภัณฑ์ระหว่างผลิต หรือผลิตภัณฑ์รอ
บรรจุ ถ้าหลีกเลี่ยงการสัมผัสโดยตรงไม่ได้ ให้ล้างมืออย่างถูกวิธีและสวมถุงมือ
4.6 บุคลากรต้องสวมใส่เสื้อผ้าที่สามารถป้องกันการปนเปื้อนสู่ผลิตภัณฑ์ และมีความปลอดภัยขณะปฏิบัติงาน
4.7 ให้บุคลากรที่มีอานาจเท่านั้น ที่สามารถเข้าไปในพื้นที่การผลิตได้
4.8 จะต้ อ งจ ากั ด พื้ น ที่ก ารสู บ บุ ห รี่ การรั บ ประทานอาหาร และห้ า มน าอาหาร อุป กรณ์ ก ารสู บ บุ ห รี่ และยา
ประจาตัว เข้าในพื้นที่การผลิต ห้องทดลอง ห้องจัดเก็บ หรือพื้นที่อื่นๆ ที่อาจส่งผลเสียต่อคุณภาพผลิตภัณฑ์ได้
4.9 ไม่ให้ผู้ เยี่ย มชม หรื อบุคลากรที่ไม่ผ่านการฝึกอบรม เข้าไปในพื้นที่การผลิต และพื้นที่ควบคุมคุณภาพ ถ้า
หลีกเลี่ยงไม่ได้ ก็ต้องให้ข้อมูลในเรื่องสุขลักษณะส่วนบุคคล และเสื้อผ้าที่ป้องกันได้เสียก่อน รวมถึงจะต้องมี
การควบคุมอย่างใกล้ชิดด้วย
4.10 ห้ามใช้เครื่องสาอาง นาฬิกาข้อมือ หรือเครื่องประดับในพื้นที่การผลิต ถ้าเครื่องประดับ หรือวัตถุใดๆ ถอดออก
จากร่างกายไม่ได้ ก็ตอ้ งห่อหุ้มด้วยวัสดุที่มีสภาพคงทน สะอาด และถูกสุขลักษณะ
ข. สถานที่
4.11 ต้องออกแบบ และสร้างสถานที่ผลิตอาหารขึ้นอย่างเหมาะสม เพื่อให้เกิดการสุขาภิบาลที่ดี
4.12 ต้องมีจานวนห้องสุขาที่เพียงพอสาหรับพนักงาน มีเครื่องระบายอากาศที่ดีในห้องสุขา และห้องเปลี่ยนชุดในที่ ที่
เหมาะสม
4.13 ต้องมีอ่างล้างมือจานวนพอเพียงในห้องเปลี่ยนชุดพนักงาน
4.14 ต้องมีตู้เก็บของในที่ที่เหมาะสม เพื่อให้พนักงานจัดเก็บเสื้อผ้า และทรัพย์สินของตน
ค. อุปกรณ์ และเครื่องมือ
4.20 ต้องทาความสะอาดอุปกรณ์ และเครื่องมือหลังจากใช้แล้ว ทั้งภายใน และภายนอก เพื่อให้สอดคล้องกับคู่มือการ
ปฏิบัติงาน และต้องเก็บไว้ในที่ที่สะอาด และตรวจเช็คความสะอาดก่อนใช้แต่ละครั้ง
4.21 ต้องใช้วิธีการทาความสะอาดแบบสุญญากาศ (Vacuum cleaning) หรือแบบเปียก (Wet cleaning) ไม่ใช้
แรงดันลม (Compressed air) และแปรงในการทาความสะอาด หากมีการใช้ ก็ต้องใช้ด้วยความระมัดระวัง
เพราะจะเพิ่มความเสี่ยงของการปนเปื้อนในผลิตภัณฑ์
4.22 ต้องมีพื้นที่การทาความสะอาด เก็บอุปกรณ์เคลื่อนที่ และเก็บสารทาความสะอาดในที่ที่กว้างพอ และแยกออก
จากพื้นที่การผลิต
4.23 ต้องทาความสะอาดอุปกรณ์ เครื่องมือ และบรรจุภัณฑ์ที่ใช้ในการผลิตยาแผนโบราณ และผลิตภัณฑ์เสริม
อาหาร ตามคู่มือการปฏิบัติงาน
4.24 คู่มือการปฏิบัติงานการทาความสะอาด หรือสารทาความสะอาด ที่จัดทาขึ้นเพื่อป้องกันการปนเปื้อนจาก
อุปกรณ์ ต้องมีหัวข้ออย่างน้อย ดังนี้
4.24.1 ความรับผิดชอบในการทาความสะอาด (responsibility for cleaning)
4.24.2 ตารางการทาความสะอาด
4.24.3 วิธีการทาความสะอาด
4.24.4 อุปกรณ์ และวัสดุที่ใช้ทาความสะอาด
4.24.5 วิธีการถอด และประกอบอุปกรณ์
4.24.6 การบ่งชี้สถานะในการทาความสะอาด
4.24.7 การป้องกันอุปกรณ์ และเครื่องมือที่ทาความสะอาดแล้ว มิให้ปนเปื้อนก่อนนามาใช้งาน
4.25 ต้องมีบันทึกการทาความสะอาด และการตรวจสอบที่เหมาะสมก่อนการใช้งาน
หลักการ
ก. ทั่วไป
5.1 ต้องมี การบั น ทึ กที่ม าของผลิ ตภัณ ฑ์แต่ ล ะชุ ดอย่ างสมบูรณ์ ต้อ งมีก ารตรวจสอบ และติด ตามผลิ ต ภัณฑ์ ที่
บกพร่อง
5.2 เอกสารต้องมีข้อมูลที่จาเป็น มีความทันสมัย และการปรับปรุงใดๆ ต้องได้รับอนุมัติ ต้องมีการทบทวนอย่าง
ต่อเนื่อง และมีการปรับปรุงใหม่ ถ้าจาเป็น
5.3 ต้องเก็บบันทึกที่เกี่ยวกับการผลิต ไว้อย่างน้อย 1 ปี หลังจากวันหมดอายุผลิตภัณฑ์สาเร็จรูป
5.4 เอกสารต้องมีการออกแบบ จัดเตรียม ทบทวน และเผยแพร่ด้วยความระมัดระวัง ต้องปฏิบัติตามหลักการผลิต
และข้อกาหนดของกฎหมาย
5.5 เอกสารต้องได้รับความเห็นชอบ ลงลายมือชื่อ และลงวันที่ โดยผู้ได้รับอนุญาตที่เหมาะสม
5.6 เอกสารต้องมีเนื้อหาที่ไม่คลุมเครือ หัวเรื่อง ข้อเท็จจริง และจุดประสงค์มีความชัดเจน ถูกวางในรูปแบบที่
เรียงลาดับแล้ว ง่ายต่อการตรวจสอบ เอกสารที่ทาขึ้นใหม่ จะต้องชัดเจน อ่านง่าย และได้รับอนุญาตให้ทาขึ้น
ใหม่ (Reproduction) การทาเอกสารขึ้นมาใหม่ (Reproduction of working documents) ต้องไม่เกิด
ข้อผิดพลาดตลอดกระบวนการทาขึ้นใหม่ (Reproduction process)
5.7 เอกสารจะต้องมีการทบทวนเป็นระยะ และมีความทันสมัย เมื่อจะปรับปรุงเอกสารใหม่ ต้องมีระบบป้องกันการ
นาเอกสารผิดฉบับไปใช้
5.8 ไม่ใช้ลายมือเขียนในเอกสาร อย่างไรก็ตาม เมื่อต้องการลงข้อมูลในเอกสาร ก็ต้องลงข้อมูลให้ชัดเจน อ่านออก
ได้ และเขียนถาวร และต้องมีที่ว่างเพียงพอกับการลงข้อมูล
5.9 การเปลี่ยนแปลงแก้ไขใดๆในเอกสาร จะต้องมีลงลายมือชื่อและวันที่กากับการแก้ไข รวมถึงมีเหตุผลของการ
เปลี่ยนแปลงแก้ไข การเปลี่ยนแปลงแก้ไขนี้ต้องแสดงข้อมูลพืน้ ฐานด้วย
5.10 การจดบันทึกต้องทาให้แล้วเสร็จในขณะปฏิบัติงาน และทุกกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการผลิต สามารถสอบกลับได้
5.11 การเก็บข้อมูล สามารถใช้วิธีระบบประมวลผลข้อมูลอิเล็กทรอนิคส์ รูปถ่าย หรือวิธีอื่นๆที่น่าเชื่อถือ
ข. เอกสารการควบคุมคุณภาพ
5.13 ในแผนกควบคุมคุณภาพ ต้องมีสิ่งต่อไปนี้พร้อมอยู่เสมอ:
5.13.1 ข้อกาหนด (Specifications)
5.13.2 วิธีการสุ่มตัวอย่าง
5.13.3 วิธีการทดสอบ และการบันทึก (รวมทั้งแผ่นงานการวิเคราะห์ (Analytical Worksheets) และ/หรือ
สมุดจดบันทึกการทดลอง (Laboratory Notebook)
5.13.4 รายงานการวิเคราะห์ และ/หรือ หนังสือรับรอง
5.13.5 ข้อมูลที่ได้จากการตรวจตราสภาพแวดล้อม
5.13.6 กระบวนการ และการบันทึกของการสอบเทียบเครื่องมือ และการบารุงรักษาอุปกรณ์
5.14 ต้องเก็บเอกสารการควบคุมคุณภาพ ที่เกี่ยวข้องกับการผลิต ไว้อย่างน้อย 1 ปี หลังจากวันหมดอายุผลิตภัณฑ์
สาเร็จรูป
ข้อกาหนด
5.15 วัตถุดิบต้องผลิตภายใต้การควบคุมที่เหมาะสม เพื่อป้องกันการปนเปื้อนข้าม การสืบย้อนกลับของข้อมูลวัตถุดิบ
และผู้จัดหาวัตถุดิบ มีความสาคัญต่อคุณภาพของผลิตภัณฑ์สาเร็จรูป และต้องมีวัตถุดิบพร้อมใช้อยู่เสมอ
ข้อกาหนดสาหรับวัตถุดิบจากธรรมชาติ
5.16 ข้อกาหนดสาหรับวัตถุดิบจากธรรมชาติ ต้องรวมถึงสิ่งต่อไปนี้:
5.16.1 ชื่อวิทยาศาสตร์ และถ้าเป็นไปได้ ก็ต้องอ้างอิงถึงผู้ตั้งชื่อ
5.16.2 รายละเอียดที่มาของวัตถุดิบจากธรรมชาติ (ประเทศ หรือจังหวัดแหล่งกาเนิด การเตรียมดินสาหรับ
เพาะปลูก เวลาในการเก็บเกี่ยว วิธีการเก็บรวบรวม การใช้ยาฆ่าแมลง ลลล)
5.16.3 พืช และสัตว์ที่ถูกใช้ทั้งหมด หรือใช้แค่บางส่วน
แนวทางหลักเกณฑ์วิธกี ารที่ดีในการผลิตยาแผนโบราณ และผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร หน้า 15 จาก 45
5.16.4 เมื่อซื้อพืช หรือสัตว์ที่ทาให้แห้งแล้ว ต้องมีการระบุถึงระบบการทาให้แห้ง
5.16.5 การแสดงทางรูปภาพ คาอธิบายถึงวัตถุดิบจากธรรมชาติ การตรวจสอบที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า และ/
หรือ ไม่สามารถมองด้วยตาเปล่าได้
5.16.6 สภาวะการจัดเก็บ และข้อควรระมัดระวังเมื่อจาเป็น
5.16.7 ช่วงอายุของผลิตภัณฑ์ (Shelf Life)
5.17 การทดสอบดังต่อไปนี้ ต้องมีเอกสารแสดงวิธีการทดสอบควบคู่ไปด้วย
5.17.1 การตรวจสอบเอกลักษณ์ (Identification tests) สารออกฤทธิ์ (known active constituents) หรือ
สารเทียบ (markers)
5.17.2 การวิเคราะห์องค์ประกอบของสารเทียบ ที่เกี่ยวกับการรักษาโรคที่เป็นที่รู้จัก และไม่เป็นที่รู้จัก
5.17.3 การทดสอบหาขีดจากัด (Limit Test) เช่น ปริมาณสารสกัด (extractive value) ปริมาณเถ้า (ash
value) และน้ามันหอมระเหย (essential oils) กับส่วนที่เสียไปจากการทาให้แห้ง (loss on drying)
5.17.4 ข้อกาหนดการปนเปื้อนยาฆ่าแมลง และปริมาณที่ยอมรับได้
5.17.5 การทดสอบโลหะหนัก และสิ่งปนเปื้อน วัตถุดิบจากต่างประเทศ และสิ่งเจือปน
5.17.6 การทดสอบการฉายรังสี พิษจากเชื้อรา และการปนเปื้อนของจุลินทรีย์
5.17.7 จัดทาเอกสารแสดงวิธีการเก็บรักษา เพื่อลดการปนเปื้อนเชื้อรา/จุลินทรีย์ หรือสิ่งปนเปื้อนอื่นๆ
5.17.8 การทดสอบอื่นๆตามต้องการ
ข้อกาหนดสาหรับวัตถุดิบเริ่มต้น และวัสดุสาหรับการบรรจุ
5.18 ข้อกาหนดสาหรับวัตถุดิบเริ่มต้น และวัสดุสาหรับการบรรจุ มีรายละเอียดดังต่อไปนี้ (เมื่อวัตถุดิบเริ่มต้นเป็น
วัตถุดิบจากธรรมชาติ กรุณาอ้างอิงถึงย่อหน้า 5.17)
5.18.1 คาอธิบายของวัตถุดิบ รวมถึง:
5.18.1.1 ชื่อวัตถุดิบ
5.18.1.2 การอ้างอิงถึงบทความทางเภสัชตารับ
5.18.1.3 ผู้จัดหาวัตถุดิบที่ได้รับการยอมรับ และผู้ผลิตเบื้องต้นของผลิตภัณฑ์
5.18.1.4 ตัวอย่างวัตถุดิบที่ถูกติดฉลากแล้ว
5.18.2 วิธีการสุ่มตัวอย่าง และการทดสอบ หรือการอ้างอิงถึงวิธีการปฏิบัติ
5.18.3 ความต้องการเชิงคุณภาพ และเชิงปริมาณ พร้อมด้วยระดับการยอมรับ
5.18.4 สภาวะการจัดเก็บ และข้อควรระมัดระวัง
5.18.5 ช่วงเวลาที่ยาวนานที่สุดในการจัดเก็บ ก่อนจะทาการตรวจสอบซ้า
ข้อกาหนดสาหรับผลิตภัณฑ์ระหว่างผลิต และผลิตภัณฑ์รอบรรจุ
5.19 ถ้าหากมีการนาข้อมูลที่ได้จากผลิตภัณฑ์ระหว่างผลิต ไปใช้ประเมินผลิตภัณฑ์สาเร็จรูป ก็ ต้องมีข้อกาหนด
เกี่ย วกับ ผลิ ต ภัณฑ์ ร ะหว่างผลิ ต และผลิ ตภั ณฑ์ร อบรรจุ ให้ เ หมือ นกั บของวัต ถุดิบ เริ่ม ต้น หรือ ผลิ ต ภัณ ฑ์
สาเร็จรูป
เอกสารการผลิต
สูตรการผลิต และวิธีการของกระบวนการ
ต้องกาหนดสูตรการผลิต และวิธีการผลิตขึ้นสาหรับผลิตภัณฑ์ และปริมาณการผลิตแต่ละชุด สิ่งเหล่านี้มักจะรวมอยู่
ในเอกสารเดียวกัน
5.22 สูตรการผลิต ต้องประกอบด้วย:
5.22.1 ชื่อผลิตภัณฑ์ และรหัสอ้างอิงของผลิตภัณฑ์ที่มีความสัมพันธ์กับข้อกาหนดของผลิตภัณฑ์นี้
5.22.2 คาอธิบายของรูปแบบการใช้ผลิตภัณฑ์ ความแรงของผลิตภัณฑ์ และขนาดของชุดการผลิต
5.22.3 การแสดงรายการของวัตถุดิบเริ่มต้นทุกชนิด และปริมาณของแต่ละชนิด รวมถึงให้ระบุชื่อวัตถุดิบ และ
ต้องระบุด้วยว่า สารใดบ้างที่อาจหายไประหว่างกระบวนการผลิต
5.22.4 รายงานของผลผลิตสุดท้ายที่คาดหวัง (statement of the expected final yield) พร้อมทั้งข้อจากัด
ที่ยอมรับได้ (acceptable limits) และผลผลิตระหว่างการผลิต (relevant intermediate yields)
5.23 การชี้แจงของกระบวนการผลิต ต้องประกอบด้วย:
5.23.1 ระบุบริเวณที่ใช้ผลิตผลิตภัณฑ์ และอุปกรณ์ที่ใช้ผลิต ให้ชัดเจน
5.23.2 วิธีการ หรือการอ้างอิงถึงวิธีการ ที่ใช้สาหรับการติดตั้งอุปกรณ์ (ตัวอย่างเช่น การทาความสะอาด การ
ประกอบ การสอบเทียบ)
5.23.3 รายละเอียดกระบวนการผลิตทีละขั้นตอน (ตัวอย่างเช่น การตรวจเช็ควัตถุดิบ ก่อนการปฏิบัติการ
ลาดับของการใส่วัตถุดิบ เวลาที่ใช้ผสม อุณหภูมิ)
แนวทางหลักเกณฑ์วิธกี ารที่ดีในการผลิตยาแผนโบราณ และผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร หน้า 17 จาก 45
5.23.4 วิธีการ และข้อจากัดสาหรับควบคุมในระหว่างผลิต
5.23.5 การจัดเก็บผลิตภัณฑ์ในคลังสินค้า รวมทั้งบรรจุภัณฑ์ การติดฉลาก และสภาวะการจัดเก็บแบบพิเศษ
5.23.6 ความระมัดระวังเป็นพิเศษ ที่ต้องมีการสังเกต
ข้อเสนอแนะกระบวนการ ต้องอธิบายการดาเนินการแบบต่างๆในเรื่องวัตถุดิบ เช่น การแยกประเภท
การทาความสะอาด การทาให้แห้ง การทาให้แตก และการร่อนออกมา รวมทั้งเวลาที่ใช้ทาให้แห้ง และอุณหภูมิ และ
วิธีที่ใช้ควบคุมขนาดของชิ้นส่วน หรืออนุภาคเล็กๆ ต้องอธิบายถึงกระบวนการการกรอง หรือวิธีอื่นๆที่ใช้คัดแยกสิ่ง
แปลกปลอมด้วย
ต้องมีวิธีการปฏิบัติงาน และบันทึก เพื่อให้แน่ใจว่าบรรจุภัณฑ์ของผลิตภัณฑ์ มีการตรวจสอบอย่าง
ระมัดระวัง เพื่อป้องกันการเจือปน/การแทนที่ หรือการมีอยู่ของสิ่งแปลกปลอม เช่น โลหะ แก้ว ชิ้นส่วนหรือมูลสัตว์
หิน ทราย ลลล หรือสิ่งที่เน่าเปื่อย
คาชี้แนะสาหรับการเตรียมการผลิต ต้องรวมถึงรายละเอียดของด่าง หรือตัวทาละลาย เวลาและ
อุณหภูมิของการสกัด รายละเอียดของขั้นตอน ความเข้มข้น และวิธีที่ใช้
วิธีการบรรจุ
5.24 ต้องมีวิธีการบรรจุที่ได้รับอนุญาตอย่างเป็นทางการสาหรับผลิตภัณฑ์แต่ละชนิด ขนาดและชนิดของภาชนะ
บรรจุ ซึ่งประกอบด้วยหรือต้องมีการอ้างอิง ดังต่อไปนี้:
5.24.1 ชื่อผลิตภัณฑ์
5.24.2 คาอธิบายรูปแบบการใช้ผลิตภัณฑ์ และความแรง (ถ้ามี)
5.24.3 บอกขนาดของภาชนะบรรจุเป็นจานวน น้าหนัก หรือปริมาตรของผลิตภัณฑ์ในภาชนะบรรจุสุดท้าย
5.24.4 การแสดงรายการของวัสดุส าหรับการบรรจุ ต้องมีขนาดมาตรฐานของผลิตภัณฑ์แต่ละชุด รวมถึง
ปริมาณ ขนาด และชนิด ที่มีรหัส หรือตัวเลขอ้างอิงที่สัมพันธ์กับข้อกาหนดของวัสดุสาหรับการบรรจุ
5.24.5 ตัวอย่าง หรือสาเนาของวัสดุสาหรับการบรรจุที่มีการพิมพ์แล้ว และตัวอย่างที่แสดงตาแหน่งที่มีตัวเลข
อ้างอิงของผลิตภัณฑ์แต่ละชุด และช่วงอายุของผลิตภัณฑ์
5.24.6 ข้อควรระวังเป็นพิเศษในการสังเกต รวมถึงการตรวจสอบพื้นที่ และอุปกรณ์อย่างรอบคอบ ก่อนเริ่ม
การผลิต เพื่อให้มั่นใจว่าสายการผลิตสมบูรณ์
5.24.7 คาอธิบายการดาเนินการบรรจุ รวมถึงการดาเนินการอื่นๆที่มีนัยสาคัญ และอุปกรณ์ที่ใช้
5.24.8 รายละเอียดของการควบคุมระหว่างการบรรจุ วิธีการสุ่มตัวอย่าง และข้อจากัดที่ยอมรับได้
การบันทึกกระบวนการผลิตแต่ละชุด
5.25 บั น ทึกกระบวนการผลิ ต แต่ล ะชุด ให้ เป็ นแนวทางเดียวกับสู ตรการผลิ ต และวิธีการผลิ ต (Processing
Instructions) ที่เป็นปัจจุบัน
วิธีการจดบันทึกเหล่านี้ ต้องได้รับการออกแบบ เพื่อหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดจากการคัดลอก บันทึก ต้องมี
ตัวเลขชุดของผลิตภัณฑ์ที่ได้ผลิตขึ้น
5.26 ก่อนที่กระบวนการผลิตจะเริ่มต้นขึ้น ต้องมีบันทึกการทวนสอบอุปกรณ์ และสถานที่ทางาน ว่าปราศจาก
ผลิตภัณฑ์ชุดก่อนๆ เอกสาร หรือวัตถุดิบที่ไม่จาเป็นสาหรับกระบวนการผลิตที่วางแผนไว้ รวมทั้งอุปกรณ์ต้อง
สะอาด และเหมาะสมจะใช้งาน
แนวทางหลักเกณฑ์วิธกี ารที่ดีในการผลิตยาแผนโบราณ และผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร หน้า 18 จาก 45
5.27 ต้องมีก ารบั น ทึกข้อ มูล ระหว่างการผลิ ตทุกครั้ง ต้ องลงวันที่ และลงลายมื อชื่อ โดยบุ คคลที่ รับผิ ด ชอบใน
กระบวนการ ข้อมูลต้องมีดังต่อไปนี้
5.27.1 ชื่อผลิตภัณฑ์
5.27.2 วันที่ และเวลาเริ่มต้นผลิต ช่วงกลางการผลิต และการผลิตเสร็จสมบูรณ์
5.27.3 ชื่อบุคคลที่รับผิดชอบในแต่ละช่วงการผลิต
5.27.4 วันที่ และลายมือชื่อของผู้ดาเนินการในแต่ละขั้นตอนการผลิต และลายมือชื่อของผู้ที่ตรวจสอบแต่ละ
ขั้นตอนด้วย (ตัวอย่างเช่น การชั่งน้าหนัก)
5.27.5 หมายเลขชุดการผลิตผลิตภัณฑ์ และ/หรือ หมายเลขควบคุมการวิเคราะห์ รวมทั้งปริมาณของวัตถุดิบ
เริ่มต้นแต่ละชนิด ที่ชั่งตามจริง (รวมกับหมายเลขชุดการผลิต และปริมาณวัตถุดิบที่นากลับมาใช้ใหม่
หรือนามาผ่านกระบวนการใหม่ที่ผสมเข้าไปด้วย)
5.27.6 การดาเนินการที่เกี่ยวข้อง เหตุการณ์ และอุปกรณ์หลักที่ใช้
5.27.7 บันทึกการควบคุมระหว่างผลิต วันที่ และลายมือชื่อของบุคคลที่ดาเนินการจนเสร็จ และผลที่ได้รับ
5.27.8 ผลที่ได้รับในแต่ละขั้นตอนการผลิตที่แตกต่างกัน
5.27.9 บันทึกปัญหาพิเศษ และระบุรายละเอียด ลายมือชื่อผู้ได้รับอนุญาต สาหรับสิ่งที่เบี่ยงเบนจากสู ตรการ
ผลิต และวิธีการผลิต (Processing Instructions)
การบันทึกการบรรจุแต่ละชุดของผลิตภัณฑ์
5.28 ต้ อ งมี ก ารบั น ทึ ก การบรรจุ แ ต่ ล ะชุ ด ของผลิ ต ภั ณ ฑ์ ให้ ส อดคล้ อ งกั บ วิ ธี ก ารของการบรรจุ (Packaging
Instructions)
วิธีการจั ดเตรี ย มการบั น ทึกนี้ ต้ องออกแบบให้ ห ลี กเลี่ ยงความผิ ดพลาดจากการคัดลอก การบัน ทึก ต้องมี
หมายเลขชุดผลิตภัณฑ์ และปริมาณของผลิตภัณฑ์รอบรรจุ และปริมาณการผลิตที่วางแผนไว้
5.29 ก่อนจะเริ่มต้นการบรรจุ ต้องมีการตรวจสอบตามบันทึกว่า อุปกรณ์ และสถานที่ทางานปราศจากผลิตภัณฑ์
เอกสาร หรือวัตถุดิบชุดก่อนที่ไม่จาเป็นสาหรับการดาเนินการบรรจุที่วางแผนไว้ และอุปกรณ์ต้องสะอาด และ
เหมาะสมพร้อมใช้
5.30 ข้อมูลต่อไปนี้ ต้องมีการบันทึกทุกครั้ง เมื่อเกิดการดาเนินงานแต่ละครั้ง และหลังจากเสร็จงาน ต้องลงวันที่
และลงลายมือชื่อโดยบุคคลที่รับผิดชอบในการดาเนินการบรรจุ:
5.30.1 ชื่อผลิตภัณฑ์
5.30.2 วันและเวลาของการบรรจุ เมื่อใดที่เกิดความเสี่ยงการปนเปื้อนขึ้น ต้องทากิจกรรมด้านบรรจุให้แล้ว
เสร็จภายในวันนั้น
5.30.3 ชื่อของบุคคลที่รับผิดชอบด้านการบรรจุ
5.30.4 วันและลายมือชื่อของผู้ปฏิบัติงาน ในแต่ละขั้นตอน
5.30.5 บันทึกการทวนสอบเอกลักษณ์ และความถูกต้องของวิธีการบรรจุ (Packaging Instructions) รวมทั้ง
ผลการควบคุมกระบวนการบรรจุ
5.30.6 รายละเอียดของการบรรจุที่แล้วเสร็จ รวมทั้งอ้างอิงถึงอุปกรณ์ กับสายการบรรจุที่ใช้
หลักการ
ทั่วไป
6.1 การผลิตจะต้องดาเนินการ และควบคุมโดยผู้ที่มีความรู้ความสามารถ
6.2 มีการบันทึกที่จาเป็นสาหรับการจัดการด้านวัตถุดิบ และผลิตภัณฑ์ เช่น การได้รับ การกักกัน การสุ่มตัวอย่าง
การจัดเก็บ การติดฉลาก การเบิกจ่าย กระบวนการผลิต การบรรจุ และการกระจายผลิตภัณฑ์ และต้องปฏิบัติ
ให้สอดคล้องกับคู่มือการปฏิบัติงาน (Written Procedure) หรือวิธีการ (Instructions)
6.3 วัตถุดิบ ที่รับเข้ามาทุกครั้ง ต้องมีการตรวจสอบ ให้แน่ใจว่า จานวนที่ได้รับ เท่า กับที่สั่งไป หี บห่อบรรจุ ต้อง
สะอาด และติดฉลากด้วยข้อมูลที่กาหนด
6.4 ต้องมีการพิสูจน์ และบันทึกความเสียหายที่มีต่อหีบห่อบรรจุ และปัญหาอื่นๆ ที่อาจส่งผลเสียต่อคุณภาพ
วัตถุดิบ และรายงานไปยังแผนกควบคุมคุณภาพ
6.5 วัตถุดิบที่รับเข้ามา ต้องถูกกักกันทางด้านกายภาพ (Physically) และด้านการจัดการ (Administratively)
ทันทีหลังจากการรับ จนกว่าจะมั่นใจว่าสามารถนามาใช้ หรือกระจายได้
6.6 ผลิตภัณฑ์ระหว่างผลิต และผลิตภัณฑ์รอบรรจุที่ซื้อมา ต้องมีการตรวจรับ เช่นเดียวกับวัตถุดิบ
6.7 วัตถุดิบ และผลิตภัณฑ์ทุกชนิด ต้องถูกจัดเก็บภายใต้สภาวะแวดล้อมที่เหมาะสมตามที่ผู้ผลิตกาหนด และอยู่ใน
รูปแบบที่เป็นระเบียบ เพื่อให้มีการแบ่งแยกชุดผลิตภัณฑ์ และการหมุนเวียนในคลัง
6.8 มีการตรวจสอบความสอดคล้ องของผลผลิ ต และปริมาณที่คาดว่าจะได้ รับ เพื่อให้ แน่ใจว่าจะไม่เกิดความ
แตกต่างระหว่างผลิตภัณฑ์ชนิดเดียวกัน ที่เกินขอบเขตที่ยอมรับได้
6.9 ไม่ทาการผลิตผลิตภัณฑ์ที่ต่างชนิดกัน ในเวลาเดียวกัน หรือมีลาดับต่อเนื่องกัน ในห้องเดียวกัน ยกเว้นว่าจะไม่
มีความเสี่ยงของการปะปน หรือการปนเปื้อนข้าม
6.10 ในทุกขั้น ตอนของกระบวนการผลิต จะต้องสามารถป้องกันผลิตภัณฑ์ และวัตถุดิบจากจุลินทรีย์ และสิ่ง
ปนเปื้อนอืน่ ๆได้
6.11 ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ เพื่อป้องกันการเกิด และการแพร่กระจายของฝุ่น ในเวลาที่ทางานกับวัตถุดิบ
และผลิตภัณฑ์ที่แห้ง
6.12 ตลอดเวลาในกระบวนการผลิต วัตถุดิบ หีบห่อของผลิตภัณฑ์รอบรรจุ อุปกรณ์หลัก และห้องผลิต ต้องติดป้าย
หรื อบ่ งชี้ ด้วยเครื่องหมายของผลิตภัณฑ์ หรือวัตถุดิบที่กาลั งอยู่ในกระบวนการ ความแรงของผลิ ตภัณฑ์ และ
หมายเลขชุดผลิตภัณฑ์ นอกจากนี้ เครื่องหมายนี้ต้องแจ้งถึงขั้นตอนการผลิตด้วย
6.13 ฉลากที่นาไปติดบนหีบห่อ อุปกรณ์ หรือสถานที่ ต้องชัดเจน ไม่คลุมเครือ และอยู่ในรูปแบบที่องค์กรกาหนด ซึ่ง
สามารถใช้สีเพื่อบ่งชี้สถานะได้ (ตัวอย่างเช่น ผลิตภัณฑ์ที่ถูกกักกัน ที่ยอมรับ ที่ถูกปฏิเสธ ที่สะอาด ลลล)
การทวนสอบความเป็นจริง
6.17 ต้องมีการจัดทาเอกสารการทวนสอบที่จาเป็น เพื่อพิสูจน์การควบคุมลักษณะวิกฤต (Critical Aspects) ของ
กระบวนการ
การเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสาคัญที่เกิดกับสิ่งอานวยความสะดวก อุปกรณ์ และกระบวนการ ที่อาจส่งผลถึงคุณภาพ
ผลิตภัณฑ์ ต้องมีการทวนสอบ และใช้วิธีการประเมินความเสี่ยง เพื่อกาหนดแนวทาง และขอบเขตของการทวน
สอบ
การป้องกันการปนเปื้อนข้ามในการผลิต
6.18 ต้องหลีกเลี่ยงการปนเปื้อนวัตถุดิบเริ่มต้น หรือผลิตภัณฑ์ จากวัตถุดิบหรือผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้จาก
การแพร่กระจายของฝุ่น แกสส ไอน้า ละอองน้า หรือสิ่งมีชีวิตที่มากับวัตถุดิบ และผลิตภัณ ฑ์ระหว่างผลิต (In
Process) จากเศษตกค้างในอุปกรณ์ และจากเครื่องแต่งกายของผู้ดาเนินงาน ความสาคัญของความเสี่ยงนี้
ขึ้นอยู่กับชนิดของสิ่งปนเปื้อน และชนิดของผลิตภัณฑ์ที่ถูกปนเปื้อน
6.19 ต้องหลีกเลี่ยงการปนเปื้อนข้าม ตัวอย่างเช่น:
6.19.1 การผลิตในพื้นที่ที่แบ่งส่วน (Segregated Area) หรือแบ่งแยกเวลาการผลิต ตามด้วยการทาความ
สะอาดที่เหมาะสม
6.19.2 การจัดเตรียมพื้นที่ควบคุมสภาวะอากาศ (Air-Locks) และการแยกอากาศอย่างเหมาะสม
6.19.3 การลดความเสี่ยงของการปนเปื้อน ที่มีสาเหตุจากการไหลเวียนอีก (Recirculation) หรือการเข้ามาอีก
(Re-entry) ของอากาศที่ไม่ได้บาบัด หรือบาบัดไม่เพียงพอ
6.19.4 ต้องเก็บเครื่องแต่งกายที่ใช้ป้องกันการปนเปื้อน ไว้ภายในพื้นที่ที่มีการผลิตผลิตภัณฑ์ที่มีความเสี่ยงใน
การปนเปื้อนข้ามสูง
6.19.5 วิธีการทาความสะอาดอุปกรณ์ ที่ทาให้ปราศจากการปนเปื้อนข้าม
6.19.6 การใช้การผลิตแบบระบบปิด (Closed Systems)
6.19.7 การทดสอบสิ่งตกค้าง และการใช้ป้ายบอกสถานะความสะอาดของอุปกรณ์
6.19.8 เงื่อนไขสาหรับ การสุ่มตัวอย่าง การชั่งน้าหนัก การผสม และการดาเนินการผลิตสมุนไพร (Crude
Plants) กรณีที่มีฝุ่นเกิดขึ้น
6.20 ต้องมีการตรวจสอบมาตรการป้ องกันการปนเปื้อนข้าม และประเมินความมีประสิ ทธิผ ล เป็นระยะๆ ให้
สอดคล้องกับวิธีการปฏิบัติที่กาหนด
การดาเนินการบรรจุ
6.45 เมื่อมีการจัดตั้งโปรแกรมสาหรับการดาเนินการด้านภาชนะบรรจุ ต้องให้ความสาคัญในการลดความเสี่ยงของ
การปนเปื้อนข้าม การปะปน หรือการสลับกัน ให้เหลือน้อยที่สุด ผลิตภัณฑ์ที่ต่างกัน ต้องไม่ถูกบรรจุไว้ใกล้ๆกัน
เว้นแต่จะมีการแบ่งกั้นทางกายภาพแล้ว
หลักการ
ทั่วไป
7.1 การควบคุมคุณภาพมีความเกี่ยวข้องกับการสุ่มตัวอย่าง ข้อกาหนด การทดสอบ และร่วมกับหน่วยงานอื่น
ภายในองค์กรในการบริหารจัดการระบบเอกสาร และวิธีการปฏิบัติในการปล่อยผ่าน ซึ่งมั่นใจว่ามีการนาการ
ทดสอบที่จาเป็นมาใช้ ทั้งนี้จะไม่นาวัตถุดิบมาใช้ หรือจะไม่นาผลิตภัณฑ์ออกจาหน่าย และจัดส่ง จนกว่าจะ
ได้รับการประเมินว่าคุณภาพเป็นที่น่าพอใจ
7.2 แผนกควบคุมคุณภาพ ต้องมีพื้น ที่ที่กาหนดขึ้น พร้อมด้ว ยเจ้าหน้าที่ที่ฝึ กอบรมมาอย่างดี จานวนเพียงพอ
เพื่อให้สามารถวิเคราะห์ตามข้อกาหนด ทั้งก่อน ระหว่าง และหลังทาการผลิตได้
7.3 ถ้าแผนกควบคุมคุณภาพภายในองค์กร ไม่สามารถทาการวิเคราะห์ตามข้อกาหนด ได้อย่างแม่นยา ก็สามารถใช้
บริการจากห้องปฏิบัติการภายนอกที่ได้รับความเชื่อถือ/ที่เป็นที่รู้จัก
7.4 การประเมินผลิตภัณฑ์สาเร็จรูป ต้องรวมทุกปัจจัยที่เกี่ยวข้องเข้าด้วยกัน ทั้งสภาวะในการผลิต ผลของการ
ทดสอบในระหว่างผลิต การทบทวนเอกสารการผลิต (รวมถึงภาชนะบรรจุ ) การปฏิบัติตามข้อกาหนดของ
ผลิตภัณฑ์สาเร็จรูป และการทดสอบหีบห่อสาเร็จรูป
7.5 บุคลากรควบคุมคุณภาพ ต้องสามารถเข้าไปในพื้นที่การผลิต สาหรับการสุ่มตัวอย่าง และการตรวจสอบได้ตาม
ความเหมาะสม
7.6 บุคลากรควบคุมคุณภาพ ต้องมีทักษะพิเศษในเรื่องผลิตภัณฑ์ เพื่อให้สามารถทาการทดสอบเอกลักษณ์ และ
สังเกตเห็นถึงการเจริญเติบโตของเชื้อรา สิ่งแปลกปลอม และความไม่เป็นเนื้อเดียวกัน (Non-Uniformity) ใน
ขั้นตอนการรับวัตถุดิบ ลลล
7.7 ต้องมีการตรวจสอบ/ทดสอบ และยืนยันว่าวัตถุดิบแต่ละชนิดแยกกันต่างหาก ก่อนทาการผสม
7.8 นอกเหนือจากข้างต้น แผนกควบคุมคุณภาพทั้งหมด ยังมีหน้าที่อื่นๆอีก เช่น
- สร้าง และทาให้วิธีการปฏิบัติการควบคุมคุณภาพเกิดผลจริง
- เก็บตัวอย่างอ้างอิงของวัตถุดิบ และผลิตภัณฑ์
- ทาให้มั่นใจในความถูกต้องของฉลากของหีบห่อวัตถุดิบ และผลิตภัณฑ์
- ทาให้มั่นใจในการตรวจสอบความแน่นอนของผลิตภัณฑ์ ลลล
การดาเนินงานทั้งหมดนี้ ต้องทาให้สอดคล้องกับคู่มือการปฏิบัติงาน (Written Procedure) และมี
การบันทึก
แนวทางหลักเกณฑ์วิธกี ารที่ดีในการผลิตยาแผนโบราณ และผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร หน้า 28 จาก 45
7.9 การศึกษาความคงตัว (stability) ของผลิตภัณฑ์สาเร็จรูป ต้องสอดคล้องกับการศึกษาความต่อเนื่องที่เหมาะสม
(Continuous Appropriate Programme) และสัมพันธ์กับการกาหนดในโปรแกรมทางการตลาด (Marketed
Package)
การสุ่มตัวอย่าง
7.10 การสุ่มตัวอย่างวัตถุดิบต้องทาด้วยความระมัดระวัง เป็นพิเศษ โดยบุคลากรที่มีความสามารถ โดยแต่ละชุด
วัตถุดิบ ต้องมีการบ่งชี้เอกลักษณ์ตรงกับวัตถุดิบนั้นๆ
7.11 การเก็บตัวอย่าง ต้องทาอย่างสอดคล้องกับคู่มือการปฏิบัติงาน (Written Procedure) และได้รับการยอมรับ ที่
อธิบายถึง:
7.11.1 วิธีการของการสุ่มตัวอย่าง
7.11.2 อุปกรณ์ที่ใช้
7.11.3 ปริมาณของตัวอย่างที่ถูกเก็บ
7.11.4 คาชี้แจงสาหรับการแบ่งย่อยของตัวอย่าง
7.11.5 ชนิด และสภาพของหีบห่อตัวอย่างที่จะใช้
7.11.6 การบ่งชี้ถึงหีบห่อตัวอย่าง
7.11.7 สภาวะการจัดเก็บ
7.11.8 คาชี้แจงสาหรับการทาความสะอาด และการจัดเก็บอุปกรณ์สุ่มตัวอย่าง
7.12 ตัวอย่างที่ใช้อ้างอิง ต้องเป็นตัวแทนของชุดของวัตถุดิบ หรือผลิตภัณฑ์ ที่ตัวอย่างนั้นถูกสุ่มขึ้นมา ซึ่งตัวอย่าง
อาจจะถูก สุ่ ม เพื่อ ตรวจติดตามในขั้น ตอนที่ ส าคั ญที่สุ ดของกระบวนการ (ตัว อย่า งเช่น ตอนเริ่ มต้น หรื อ
ตอนท้ายของกระบวนการ)
7.13 หีบห่อตัวอย่างต้องมีฉลากที่แสดงถึงเนื้อหา หมายเลขชุดผลิตภัณฑ์ วันที่สุ่มตัวอย่าง และหีบห่อที่ได้ทาการสุ่ม
ตัวอย่างมา
7.14 ตัวอย่างที่ใช้อ้างอิง จากแต่ละชุดของผลิตภัณฑ์สาเร็จรูป ต้องเก็บไว้จนครบ 1 ปี หลังวันหมดอายุ ผลิตภัณฑ์
สาเร็จรูปต้องเก็บไว้ในภาชนะบรรจุสุดท้าย และจัดเก็บภายใต้สภาวะที่แนะนา
ตัวอย่างของวัตถุดิบเริ่มต้น (นอกเหนือจากตัวทาละลาย แกสส และน้า) ต้องเก็บไว้อย่างน้อย 2 ปี
หลังจากการปล่อยผ่านผลิตภัณฑ์ แต่ช่วงเวลาการเก็บรักษานี้ อาจจะสั้นลงได้ ถ้าความคงตัวลดลง
ตัวอย่างที่ใช้อา้ งอิงของวัตถุดิบ และผลิตภัณฑ์ ต้องมีปริมาณมากพอที่จะสามารถตรวจสอบใหม่ เต็มช่วง
การตรวจสอบ
การทดสอบ
7.15 การดาเนินการทดสอบ ที่ได้อธิบายไว้ในข้อกาหนดของกฎหมาย ต้องปฏิบัติให้สอดคล้องกับการยอมรับระดับ
สากล หรือวิธีการอื่นๆ (ที่กาหนดโดย ATSC)
7.16 ผลลัพธ์ที่ได้ ต้องมีการบันทึก และทวนสอบ เพื่อให้มั่นใจว่าผลลัพธ์มีความสม่าเสมอ ต้องมีการตรวจสอบการ
คานวณใดๆอย่างเคร่งครัด
7.17 ต้องมีการบันทึกการทดสอบที่ได้ทาไป และในบันทึกต้องมีข้อมูล อย่างน้อยต่อไปนี้
แนวทางหลักเกณฑ์วิธกี ารที่ดีในการผลิตยาแผนโบราณ และผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร หน้า 29 จาก 45
7.17.1 ชื่อของวัตถุดิบ หรือผลิตภัณฑ์ และแบบฟอร์มการใช้
7.17.2 หมายเลขชุดผลิตภัณฑ์ และผู้ผลิต และ/หรือ ผู้จัดหาวัตถุดิบ
7.17.3 การอ้างอิงไปยังข้อกาหนดที่เกี่ยวข้อง และกระบวนการทดสอบ
7.17.4 ผลการทดสอบ พร้อมด้วยข้อสังเกต การคานวณ และการอ้างอิงถึงหลักฐานการวิเคราะห์
7.17.5 วันที่ทดสอบ ชื่อผู้วิเคราะห์ และชื่อห้องปฏิบัติการภายนอก (ถ้ามี)
7.17.6 วันที่ และลายมือชื่อของบุคคลผู้ทาการทดสอบ
7.17.7 วันที่ และลายมือชื่อของบุคคลผู้ทวนสอบการทดสอบ และการคานวณ
7.17.8 รายงานการปล่อยผ่านหรือการปฏิเสธ (หรือการตัดสินใจ สถานะอื่นๆ) และลายมือชื่อของบุคคลที่
รับผิดชอบ พร้อมวันที่
7.18 การควบคุมระหว่างผลิต พร้อมทั้งการควบคุมในพื้นที่การผลิต โดยบุคลากรฝ่ายผลิต ต้องปฏิบัติตามวิธีการที่
เห็นชอบโดยฝ่ายควบคุมคุณภาพ และมีการบันทึกผลที่ได้ด้วย
7.19 ต้องใส่ใจเป็นพิเศษในเรื่องควบคุมคุณภาพ ให้มีความสอดคล้องกับคู่มือการปฏิบัติงาน (Written Procedure)
7.20 สารที่ใช้เป็นตัวทาปฏิกิริยา (Reagents) ในห้องปฏิบัติการ ที่มีการเก็บไว้ใช้เป็นเวลานาน ต้องมีฉลากระบุวันที่
ที่เตรียม และลายมือชื่อผู้ที่เตรียม สารที่ใช้เป็นตัวทาปฏิกิริยา (Reagents) ที่ใช้ในห้องปฏิบัติการซึ่งไม่คงตัว
และอาหารเลี้ยงเชื้อ ต้องระบุวันหมดอายุ และสภาวะการเก็บรักษาบนฉลาก นอกจากนี้ สาหรับสารละลายที่ทราบ
ความเข้มข้นแน่นอน ต้องระบุวันที่หาค่าความเข้มข้นครั้งสุดท้าย
7.21 สาหรับข้อมูลบางชนิด (ตัวอย่างเช่น ผลวิเคราะห์ ผลลัพธ์ที่ได้ การควบคุมสิ่งแวดล้อม) ต้องมีการเก็บบันทึกถึง
วิธีการที่ทาให้ประเมินแนวโน้มได้
7.22 นอกเหนือจากข้อมูลที่ถือเป็นส่วนหนึ่งของการจดบันทึกผลิตภัณฑ์แต่ละชุด ข้อมูลเบื้องต้นอื่นๆ เช่น สมุดบันทึก
ในห้องปฏิบัติการ และ/หรือ รายงาน ก็ต้องมีการเก็บรักษาไว้ และมีพร้อมใช้งานทันที
การติดตามความคงตัวอย่างต่อเนื่อง
7.23 หลั งจากออกสู่ ตลาดแล้ ว ความคงตัว ของผลิ ตภัณฑ์ ต้องมีการตรวจติดตามตามที่กาหนดไว้ในแผนอย่า ง
ต่อเนื่อง เพื่อตรวจสอบความคงตัวใดๆ (ตัวอย่างเช่น การเปลี่ยนแปลงในระดับของความไม่บริสุทธิ์ หรือข้อมูล
การสลายตัว) ร่วมกับการกาหนดด้านโปรแกรมการตลาด (Marketed Package)
7.24 จุดประสงค์ของการศึกษาความคงตัวแบบต่อเนื่อง ก็เพื่อตรวจสอบผลิตภัณฑ์ตลอดช่วงอายุ และตัดสินใจว่า
ผลิตภัณฑ์ยังคงสภาพเดิม และยังคงมีคุณภาพตามข้อกาหนดภายใต้สภาวะการเก็บรักษาที่ระบุไว้บนฉลาก
7.25 โดยปกติแล้ว การศึกษานี้จะถูกใช้กับผลิตภัณฑ์ในภาชนะบรรจุที่ถูกจาหน่ายแล้ว แต่ ต้องรวมถึงผลิตภัณฑ์รอ
บรรจุด้วย ยกตัวอย่างเช่น เวลาที่ผลิตภัณฑ์รอบรรจุถูกจัดเก็บเป็นเวลานาน ก่อนจะถูกบรรจุ และ/หรือ ถูก
ขนส่งจากสถานที่ผลิตไปยังสถานที่บรรจุ ต้องมีการประเมิน และศึกษาผลกระทบต่อความคงตัวของผลิตภัณฑ์ที่
ถูกบรรจุแล้ ว ภายใต้สภาวะที่ถูกควบคุม นอกจากนี้ การพิจารณาก็ ต้องมุ่งไปยังผลิตภัณฑ์ระหว่างผลิ ต ที่ถูก
จัดเก็บ เป็นระยะเวลายาวนาน
ต้องศึกษาความคงตัวของผลิตภัณฑ์ใหม่ ในระหว่างการพัฒนาผลิตภัณฑ์ และไม่ จาเป็นจะต้องมีการ
ติดตามอย่างต่อเนื่อง
หลักการ
สัญญาจ้างการผลิต
8.1 สัญญาจ้างการผลิต ต้องมีข้อตกลงทางสัญญาจ้างที่ เป็นลายลักษณ์อักษรระหว่างผู้ว่าจ้าง และผู้รับจ้าง ซึ่ง
กาหนดหน้าที่ และความรับผิดชอบของแต่ละฝ่ายไว้อย่างชัดเจน การจัดทาสัญญาจ้างการผลิต รวมถึงการ
เปลี่ยนแปลงด้านเทคนิคต่างๆ หรือการจัดเตรียมอื่นๆ ต้องสอดคล้องกับข้อตกลงของกฎหมายที่กาหนด
การวิเคราะห์สัญญาจ้าง
8.2 การวิเคราะห์สัญญาจ้างต้องมีข้อตกลงทางสัญญาจ้างที่เป็นลายลักษณ์อักษรระหว่างผู้ว่าจ้าง และผู้รับจ้าง ซึ่ง
กาหนดหน้าที่ และความรับผิดชอบของแต่ละฝ่ายไว้อย่างชัดเจน
8.3 การวิเคราะห์ สั ญญาจ้ า ง รวมถึ งการเปลี่ ย นแปลงด้านเทคนิค หรื อการจั ดเตรีย มอื่น ๆ ต้ องสอดคล้ อ งกั บ
กฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ผู้ว่าจ้าง
8.4 ผู้ว่าจ้ างต้องประเมิน ความสามารถของผู้ รับจ้าง เพื่อให้ มั่นใจว่าผู้ รับจ้างได้ดาเนินการผลิ ต /ทดสอบ และ
ปฏิบัติงานต่างๆ ตามหลักวิธีการที่ดีในการผลิต (GMP) ฉบับนี้
ในการดาเนินการทางาน/ทดสอบให้สาเร็จลุล่วง และให้แน่ใจในวิธีการของสัญญาจ้างว่า หลักการของ
หลักเกณฑ์วิธีการที่ดีในการผลิต (GMP) ที่บรรยายในแนวทางนี้ จะถูกดาเนินตาม
8.5 ผู้ว่าจ้าง ต้องให้ข้อมูลทุกอย่างที่จาเป็นแก่ผู้รับจ้าง ในอันที่จะดาเนินการตามสัญญาจ้างได้ถูกต้องสอดคล้องกับ
ข้อตกลงของกฎหมายที่กาหนด ผู้ ว่าจ้ างต้องแน่ใจว่ า ผู้ รับจ้างได้ตระหนักอย่างเต็มที่ในปัญหาที่เกี่ยวกับ
ผลิตภัณฑ์ หรืองานที่อาจนาอันตรายมาสู่สถานที่ อุปกรณ์ บุคลากร วัตถุดิบ หรือผลิตภัณฑ์อื่นๆ
8.6 ผู้ว่าจ้าง ต้องแน่ใจว่าผลิตภัณฑ์ และวัตถุดิบที่ส่งมา โดยผู้รับจ้าง เป็นไปตามข้อกาหนดที่วางไว้
ผู้รับจ้าง
8.7 ผู้รับจ้างมีสถานที่ อุปกรณ์ ความรู้ ประสบการณ์ และบุคลากรที่มีความสามารถ ในการที่จะทางานได้ ตาม
คาสั่งของผู้ว่าจ้าง สัญญาจ้างการผลิตต้องรับรองโดยผู้ผลิต (ผู้เป็นเจ้าของอานาจทางการผลิตตามกฎหมาย)
8.8 ผู้รับจ้างต้องแน่ใจว่าผลิตภัณฑ์ หรือวัตถุดิบทุกอย่างที่ได้รับมานั้น เหมาะสมตามจุดประสงค์ที่ตั้งใจ
สัญญาจ้าง
8.11 ต้องมีการจัดทาสัญญาจ้างให้เรียบร้อยระหว่างผู้ว่าจ้าง และผู้รับจ้า ง ซึ่งระบุความรับผิดชอบของแต่ละฝ่ายที่
สอดคล้องกับการผลิต และการควบคุมผลิตภัณฑ์ เกณฑ์ทางเทคนิคของสัญญาจ้าง ต้องจัดทาให้เรียบร้อย โดย
บุคคลที่มีความสามารถเหมาะสม ในด้านการผลิตยาแผนโบราณ และผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร การวิเคราะห์ และ
หลักเกณฑ์วิธีการที่ดีในการผลิต (GMP)
การจัดเตรียมสาหรับการผลิต และการวิเคราะห์ จะต้องสัมพันธ์กับข้อกาหนดของกฎหมาย และเห็น
พ้องกันทั้งสองฝ่าย
8.12 สัญญาจ้างต้องกาหนดรายละเอียดในทางที่ว่า หัวหน้าของแผนกควบคุมคุณภาพ ที่ปล่อยผ่านผลิตภัณฑ์แต่ละ
ชุดออกจาหน่าย มั่นใจว่าแต่ละชุดผลิตภัณฑ์ ถูกผลิต และตรวจสอบตามข้อกาหนดของกฎหมาย
8.13 สัญญาจ้างต้องอธิบายโดยชัดเจนว่า ใครรับผิดชอบด้านการจัดซื้อวัตถุดิบ การทดสอบ และปล่อยผ่านวัตถุดิบ
การรับรองการผลิต และควบคุมคุณภาพ รวมทั้งการควบคุมระหว่างผลิต และใครรับผิดชอบการสุ่มตัวอย่าง
และการวิเคราะห์ ในกรณีของการวิเคราะห์สัญญาจ้าง สัญญาจ้างต้องกล่าวว่า ผู้รับจ้างต้องเก็บตัวอย่างที่
สถานที่ของผู้ผลิตหรือไม่
8.14 บันทึกการผลิต ผลวิเคราะห์ บันทึกการกระจายผลิตภัณฑ์ และตัวอย่างที่ใช้อ้างอิง ต้องเก็บโดยผู้ว่าจ้าง รวมถึง
บันทึกใดๆที่สัมพันธ์กับการประเมินคุณภาพผลิตภัณฑ์ บันทึกเหตุการณ์ข้อร้องเรียน หรือข้อบกพร่องที่น่าสงสัย
ต้องสามารถเข้าถึงง่าย และระบุรายละเอียดเกี่ยวกับข้อบกพร่อง/กระบวนการเรียกคืนของผู้ว่าจ้าง
8.15 สัญญาจ้างต้องอนุญาตให้ผู้ว่าจ้าง เข้าตรวจเยี่ยมสถานที่ผลิตผู้รับจ้างได้
8.16 ในกรณีของการวิเคราะห์สัญญาจ้าง ผู้รับจ้างต้องเข้าใจว่า เขาจะต้องอยู่ภายใต้การตรวจสอบ โดยหน่วยงานที่มี
อานาจที่เกี่ยวข้อง
หลักการ
ข้อร้องเรียนเรื่องผลิตภัณฑ์
9.1 ข้อร้ องเรี ย นเรื่ องผลิ ตภั ณฑ์ โดยปกติจ ะให้ ความสนใจในเรื่องคุณภาพของผลิ ต ภัณฑ์ เช่ น คุณสมบัติทาง
กายภาพ หรือสภาพของบรรจุภัณฑ์ ข้อร้องเรียน (ภายใน หรือภายนอก) สามารถมีถึงผู้ผลิต ทั้งการใช้คาพูด
หรือการเขียน โดยผู้บริโภค ผู้กระจายผลิตภัณฑ์ หรือทางกฎหมายก็ได้
9.2 ข้อร้องเรียนทุกคาร้อง ต้องมีการพิสูจน์ และประเมิน คู่มือการปฏิบัติงาน (Written Procedure) ที่อธิบายเรื่อง
การจัดการข้อร้องเรียนทั้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษร และแบบใช้คาพูดที่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ ต้องมีการทาขึ้น
และปฏิบัติตาม วิธีปฏิบัติดังกล่าว ต้องรวมถึงข้อกาหนด เพื่อการทบทวนโดยหน่วยงานควบคุมคุณภาพ บันทึก
ข้อร้องเรียนที่เป็นลายลักษณ์อักษร ต้องเก็บไว้ในแฟ้มที่กาหนดให้สาหรับข้อร้องเรียนเรื่องผลิตภัณฑ์
9.3 ต้องมีการมอบหมายให้มีบุคคลที่รับผิดชอบ ในการจัดการกับข้อร้องเรียน
9.4 ต้องมีคู่มือการปฏิบัติงาน (Written Procedure) ที่อธิบายการดาเนินการที่เกี่ยวข้องกับข้อร้องเรียน รวมถึง
ความจาเป็นที่ต้องมีการเรียกเก็บคืน ในกรณีที่มีข้อร้องเรียนที่เกี่ยวกับข้อบกพร่องของผลิตภัณฑ์
9.5 ข้ อ ร้ อ งเรี ย นที่ เ กี่ ย วกั บ ข้ อ บกพร่ อ งของผลิ ต ภั ณ ฑ์ ต้ อ งบั น ทึ ก และมี ก ารพิ สู จ น์ โ ดยทั่ ว ถึ ง ตลอด บุ ค คลที่
รับผิดชอบสาหรับการควบคุมคุณภาพ ถือเป็นส่วนหนึ่งของทีมงานด้วย
9.6 ต้องใส่ใจเป็นพิเศษในการพิสูจน์ว่า ผลิตภัณฑ์ที่เป็นปัญหาของข้อร้องเรียน เป็นของแท้ หรือเป็นผลิตภัณฑ์ปลอม
9.7 ถ้าผลิ ตภัณฑ์ ที่ บกพร่ อง ถู กค้ นพบ หรื อถู กสงสั ยในชุ ดผลิ ตภั ณฑ์ชุ ดหนึ่ ง ต้ องมี การพิ จารณา เพื่ อตรวจสอบ
ผลิตภัณฑ์ชุดอื่นๆด้วย เพื่อตัดสิ นใจว่า ผลิ ตภัณฑ์ชุดอื่นๆได้รับผลกระทบด้วยหรือไม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ชุด
ผลิตภัณฑ์ชุดอื่นๆที่อาจจะบรรจุผลิตภัณฑ์บกพร่องกลับเข้ากระบวนการใหม่ (Rework) ก็ต้องได้รับการพิสูจน์ด้วย
9.8 ต้องมีการบันทึกการตัดสินใจ และมาตรการการแก้ไขข้อร้องเรียนทั้งหมด และอ้างอิงถึงบันทึกการผลิตของชุด
ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวด้วย
9.9 บันทึกข้อร้องเรียน ต้องมีการทบทวนเป็นประจา เพื่อให้เห็นถึง ปัญหาที่เกิดขึ้นซ้ากันหลายครั้ง เพื่อจะได้เกิด
ระมัดระวังมากขึ้น
9.10 สาหรับปัญหาที่เกิดขึ้นซ้ากันหลายครั้ง ต้องมีการสร้างแนวทาง เพื่อเป็นการบ่งชี้สิ่งบกพร่อง อย่างเป็นระบบ
9.11 ถ้าผู้ผลิตพบปัญหาดังนี้ การผลิตที่มีข้อผิดพลาด การเสื่อมของผลิตภัณฑ์ หรือปัญหาที่ร้ายแรงด้านคุณภาพของ
ผลิตภัณฑ์ ต้องมีการแจ้งหน่วยงานที่มีอานาจที่เกี่ยวข้อง
9.12 ต้องสรุปผลการดาเนินการที่เกี่ยวข้องกับข้อร้องเรียน ให้แก่หน่วยงานที่มีอานาจที่เกี่ยวข้อง และผู้ร้องเรียน
รับทราบ
ข้อร้องเรียนถึงอาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ผลิตภัณฑ์สุขภาพ
9.24 อาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ผลิตภัณฑ์สุขภาพ จะต้องตรวจพิสูจน์ และจัดทาเอกสารอย่างละเอียดถี่ถ้วน
รายงานของปฏิกิริยาที่ไม่คาดคิดที่เป็นเชิงลบ ต้องถูกส่งต่อไปยังหน่วยงานที่มีอานาจเกี่ยวข้องโดยทันที
หลักการ
10.1 ต้องพิจารณาเรื่ องของบุ คลากร สถานที่ อุปกรณ์ งานเอกสาร การผลิต การควบคุมคุณภาพ การกระจาย
ผลิตภัณฑ์ การเตรียมการเพื่อจัดการกับข้อร้องเรียน/การเรียกคืน และการตรวจสอบตนเอง ในช่วงเวลาที่
กาหนดไว้ล่วงหน้า เพื่อทวนสอบว่ามีความสอดคล้องกับหลักการของการประกันคุณภาพ
10.2 การตรวจสอบตนเอง ต้ อ งจั ด การอย่ า งเป็ น อิ ส ระ และอยู่ ใ นขอบเขต โดยผู้ ไ ด้ รั บ อนุ ญ าต ที่ มี ค วามรู้
ความสามารถจากองค์กร หรืออาจตรวจสอบโดยผู้ตรวจประเมินอิสระที่เป็นผู้เชี่ยวชาญจากภายนอก ก็ถือว่า
เป็นผลดี
10.3 ต้องบันทึกการตรวจสอบตนเอง ในรายงานต้องระบุข้อสังเกตทุกอย่างที่เกิดในระหว่างการตรวจสอบ มาตรการ
การแก้ไข (Corrective action) มาตรการการป้องกัน (Preventive action) และระยะเวลาที่ใช้ในการแก้ไข
(Corresponding Time Frames) รวมถึงต้องมีการบันทึกรายการของปฏิบัติการแก้ไขที่ต้องทาต่อไปด้วย
7. Office of Dietary Supplement, National Institute of Health. US: Dietary Supplement Analytical Methods/
Reference Materials (AMRM) Program. http://ods.od.nih.gov/Research/AMRMProgramWebsite.aspx
8. WHO – Quality Control Methods for Herbal Materials, 1998 (first version) and update version
10. TLC Atlas of Chinese Crude Drugs in Pharmacopeia of The People's Republic of China Vol. 1
หมายเหตุ :
การใช้งานของรายการวิธีการวิเคราะห์ ที่ได้รับการยอมรับในระดับสากลนี้ ส ามารถพิจารณาภายใต้
กฎหมาย กฎระเบียบและหน้าที่ของผู้มีอานาจในการกากับดูแลของแต่ละประเทศ
กรณีที่มีการใช้วิธีการวิเคราะห์อื่นๆที่นอกเหนือจากรายการข้างต้น ต้องได้รับการพิจารณาโดยผู้มีอานาจ
กากับดูแลของประเทศนั้น โดยมีเงื่อนไขว่าต้องมีการการทวนสอบกับแนวทางและค่าพารามิเตอร์ที่กาหนดโดยการ
ประชุมระหว่างประเทศเกี่ยวกับความสอดคล้องกันของความต้องการด้านเทคนิคสาหรับการขึ้นทะเบียนยาในการใช้
งานของมนุษย์ (ICH) หรือแนวทางในการทวนสอบขั้นตอนการวิเคราะห์ของอาเซียน (ASEAN Guidelines for
Validation of Analytical Procedures)
หลักการ
1. ภาคผนวกนี้จะอธิบายถึงหลักการของการทวนสอบซึ่งสามารถนาไปประยุกต์ใช้ในการผลิตยาแผนโบราณและ
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร (TMHS)
เอกสาร
2. แผนการทวนสอบซึ่งรวมถึงเอกสารขั้นตอนการปฏิบัติงาน จะต้องจัดทาขึ้นเฉพาะโดยระบุถึงกิจกรรมการทวน
สอบที่ต้องปฏิบัติ เอกสารที่จัดทาขึ้นจะต้องแสดงให้เห็นถึงระบบการประกันคุณภาพ (QA) ที่จาเป็นในการผลิต
ยาแผนโบราณและผลิตภัณฑ์เสริมอาหารให้มีคุณภาพ ระบบประกันคุณภาพประกอบด้วยองค์ประกอบที่สาคัญ
ได้แก่ หน้าทีแ่ ละความรับผิดชอบ การฝึกอบรมพนักงาน การจัดการเอกสาร การสอบเทียบและการบารุงรักษา
อุปกรณ์การผลิตและขั้นตอนการควบคุมในห้องปฏิบัติการ รวมถึงการประเมินอายุการเก็บรักษาของผลิตภัณฑ์
การทวนสอบเครื่องจักรและอุปกรณ์
เครื่องจักรและอุปกรณ์ที่ใช้จะต้องได้รับการทวนสอบก่อนที่จะมีการทวนสอบกระบวนการและพนักงานที่ทา
การทวนสอบต้องได้รับการอบรมอย่างเหมาะสม
4. ทั่วไป
การทวนสอบกระบวนการ ช่วยให้เกิดความเชื่อมั่นต่อคุณภาพของผลิตภัณฑ์และเป็นหลักการพื้นฐานของการ
ประกันคุณภาพ ทีผ่ ลิตภัณฑ์จะต้องมีการผลิตภายใต้สภาวะที่เหมาะสมสาหรับการใช้งาน
ก) สาธิต
การสาธิต สามารถดาเนินการในสภาพแวดล้อมที่เกิดขึ้นจริงหรือในสภาวะจาลอง
ข) การทดสอบและการวิเคราะห์
ค) การควบคุมกระบวนการ
6. เอกสารขั้ น ตอนการปฏิ บั ติ จ ะต้อ งจะอธิบ ายการด าเนิ น การถ้า เกิด การเปลี่ ย นแปลงตั้ งแต่ วัต ถุ ดิบ เริ่ม ต้ น
ส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์ อุปกรณ์การผลิต สภาพแวดล้อมของการผลิต วิธีการผลิตหรือการทดสอบหรือการ
เปลี่ยนแปลงอื่นใดที่อาจส่งผลกระทบต่อคุณภาพของผลิตภัณฑ์หรือการทาซ้ากระบวนการ วิธีการควบคุมการ
เปลี่ยนแปลงจะต้องมั่นใจว่ามีข้อมูลสนับสนุนทีเ่ พียงพอที่จะหรือแสดงให้เห็นว่าขั้นตอนที่มีการเปลี่ยนแปลงถูก
ควบคุมและสามารถผลิตต่อผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพตามที่ต้องการ สอดคล้องกับข้อกาหนดที่ได้รับการอนุมัติ
ดิบ (Crude)
การอยู่ในสภาวะที่เป็นธรรมชาติ และรูปแบบที่ไม่ผ่านกระบวนการใดๆ
งานเอกสาร (Documentation)
วิธีการ คาชี้แจง และบันทึกทั้งหมดที่เป็นลายลักษณ์อักษร และเกี่ยวข้องกับการผลิตยาแผนโบราณ หรือ
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
สารเทียบ (Markers)
องค์ประกอบของวัตถุดิบธรรมชาติ ซึ่งถูกกาหนดทางเคมี และใช้เพื่อวัตถุประสงค์ในการควบคุม
วัตถุดิบ (Material)
สารหรือส่วนประกอบที่มีสมบัติทางกายภาพที่แน่นอน ซึ่งใช้เป็นส่วนประกอบในการผลิต
บรรจุภัณฑ์ (Package)
การดาเนินการทุกอย่าง ซึ่งประกอบด้วยการนาผลิตภัณฑ์รอบรรจุมาบรรจุใส่ภาชนะและติดฉลาก เพื่อให้
ได้เป็นผลิตภัณฑ์สาเร็จรูป
การกักกัน (Quarantine)
สถานะของวัตถุดิบหรือวัสดุการบรรจุ ผลิตภัณฑ์ระหว่างผลิต ผลิตภัณฑ์รอบรรจุหรือผลิตภัณฑ์สาเร็จรูป
ที่ถูกจัดแยกไว้ต่างหากโดยวิธีการทางกายภาพ หรือวิธีการอื่นที่มีประสิทธิภาพ ในระหว่างรอการตัดสินเพื่อการปล่อย
ผ่านหรือไม่ผ่าน
การนาเข้ากระบวนการผลิตอีกครั้ง (Reprocessing)
การนาผลิตภัณฑ์ระหว่างกระบวนการผลิตหรือผลิตภัณฑ์รอบรรจุหรือผลิตภัณฑ์สาเร็จรูปของรุ่นหรือครั้ง
ที่ผลิตที่มีคุณภาพไม่ตรงตามข้อกาหนดในขั้นตอนใดขั้นตอนหนึ่ง มาทาซ้าด้วยกระบวนการเดิม ที่ระบุไว้ในทะเบียน
ตารับ เพื่อให้มีคุณภาพเป็นที่ยอมรับ
การปรับปรุงใหม่ (Reworked)
การนาผลิตภัณฑ์ระหว่างกระบวนการผลิตหรือผลิตภัณฑ์รอบรรจุหรือผลิตภัณฑ์สาเร็จรูปของรุ่นหรือครั้ง
ที่ผลิตที่มีคุณภาพไม่ตรงตามข้อกาหนดในขั้นตอนใดขั้นตอนหนึ่ง มาผ่านกระบวนการผลิตที่ ต่างจากกระบวนการผลิต
เดิมซึ่งไม่ได้ระบุไว้ในทะเบียนตารับ เพื่อให้มีคุณภาพเป็นที่ยอมรับ
สุขาภิบาล (Sanitation)
การควบคุมสุขลักษณะของกระบวนการผลิต พร้อมทั้งบุคลากร สถานที่ อุปกรณ์ และการจัดการวัตถุดิบ
(จากวัตถุดิบเริ่มต้นถึงผลิตภัณฑ์สาเร็จรูป)
ข้อกาหนด (Specification)
เอกสารที่มีรายละเอียดของวัตถุดิบเริ่มต้น ผลิตภัณฑ์ระหว่างผลิต ผลิตภัณฑ์จานวนมาก หรือผลิตภัณฑ์
สาเร็จรูป ในรูปของคุณสมบัติทางเคมี ทางกายภาพ และทางชีววิทยา ซึ่งปกติจะรวมถึงประโยคบรรยายและประโยค
ตัวเลข การอ้างอิงถึงมาตรฐาน และความทนทานที่รับได้ (ถือเป็นเกณฑ์สาหรับประเมินคุณภาพ)