Professional Documents
Culture Documents
อาสา คำภา ความเปลี่ยนแปลงของเครือข่ายชนช้ันนำไทย พ.ศ. 2495 2535OKSread PDF
อาสา คำภา ความเปลี่ยนแปลงของเครือข่ายชนช้ันนำไทย พ.ศ. 2495 2535OKSread PDF
พ.ศ. 2495-2535
อาสา คาภา
ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต
สาขาวิชาประวัตศิ าสตร์
บัณฑิตวิทยาลัย
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
กรกฎาคม 2562
ความเปลีย่ นแปลงของเครือข่ายชนชั้นนาไทย
พ.ศ. 2495-2535
อาสา คาภา
ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต
สาขาวิชาประวัตศิ าสตร์
บัณฑิตวิทยาลัย
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
กรกฎาคม 2562
ความเปลีย่ นแปลงของเครือข่ ายชนชั้นนาไทย
พ.ศ. 2495-2535
อาสา คาภา
บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
กรกฎาคม 2562
ก
ความเปลีย่ นแปลงของเครือข่ ายชนชั้นนาไทย
พ.ศ. 2495-2535
อาสา คาภา
...................................... กรรมการ
(รศ. สมชาย ปรี ชาศิลปกุล)
...................................... กรรมการ
(อ. ดร. สิ ทธิเทพ เอกสิ ทธิพงษ์)
15 กรกฎาคม 2562
© ลิขสิ ทธิ์ ของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่
ข
ค
กิตติกรรมประกาศ
เมื่อปี พ.ศ. 2543 ครั้งเป็ นนักศึกษาปริ ญญาตรี คณะเศรษฐศาสตร์ ผูเ้ ขียนมีโอกาสเข้าไปนัง่ เรี ยน
วิช า 004271 A Survey of Thai History ซึ่ งเป็ นหนึ่ งในวิช าบังคับ ส าหรั บ การเลื อ กวิช าโท (Minor)
ประวัติ ศ าสตร์ และจาได้ดี ว่า วิ ช านี้ แบ่ ง สอนเป็ น 2 ส่ วนโดยอาจารย์ 2 ท่ าน คื อ อาจารย์ส ายชล
สั ต ยานุ รั ก ษ์ สอนช่ ว งสมัย จารี ต จนถึ ง ปฏิ รู ป การปกครองแผ่ น ดิ น สมัย รั ช กาลที่ 5 และอาจารย์
อรรถจักร์ สัตยานุ รักษ์ สอนตั้งแต่รัฐสมบูรณาญาสิ ทธิ ราชย์ ลงมาถึ งประวัติศาสตร์ ร่วมสมัยจนถึ ง
ทศวรรษ 2540 น่ าแปลกที่ประวัติศาสตร์ ไทยซึ่ งครอบคลุ มระยะเวลายาวนานขนาดนี้ กลับเป็ นเรื่ อง
“ใหม่” ไปหมดสาหรับผูเ้ ขียน ซึ่ งก่อนหน้านี้ สนใจประวัติศาสตร์ อย่าง “สนุกๆ” ตามประสาคนชอบ
อ่ านหนัง สื อ “จัก รๆ วงศ์ๆ ” และเข้า ใจว่า ตนเองเดี ย งสาและ “รู้ ค วาม” ประวัติ ศ าสตร์ ไ ทยดี พ อ
สมควร ทว่า การเรี ยนวิชาสารวจประวัติศาสตร์ ไทยในครั้งนั้น เสมือนเป็ นการ “ปรับทัศนคติ” ครั้ง
ส าคั ญ ของผู ้เขี ย นต่ อ การพิ นิ จ พิ เคราะห์ ป ระวัติ ศ าสตร์ และท าให้ เกิ ด ข้ อ ตระหนั ก ว่ า การรู ้
ประวัติศาสตร์ แบบตั้งคาถามกับไม่ต้ งั คาถามแตกต่างกันอย่างไร
ง
สัมมนาที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ในส่ วนของอาจารย์สายชล นอกจากฐานะนักศึกษา
ที่ เคยเรี ยนกับอาจารย์ในคลาสใหญ่ห้องสโลปตั้งแต่สมัยเรี ยนปริ ญญาตรี ผูเ้ ขียนก็มิได้รู้จกั อาจารย์
เป็ นพิเศษ จวบจนกระทัง่ ได้อ่าน (2550) งานวิจยั เล่ ม
ใหญ่ที่ถูกตีพิมพ์เป็ นหนังสื อ ด้วยความรู ้สึกอยากสนทนาถกเถี ยง จึงนามาสู่ “บทวิจารณ์ คึกฤทธิ์ กับ
ประดิษฐกรรมความเป็ นไทย” ลงพิมพ์ในวารสารไทยคดีศึกษา แน่นอนว่าข้อเขียนนี้คือหนึ่งในพอร์ ต
งานที่ ผูเ้ ขี ยนส่ งไปเพื่ อการพิจารณาคัดเลื อกศึ กษาต่อระดับ ปริ ญญาเอกของภาควิชาประวัติศาสตร์
คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ในอีกหลายปี ต่อมา
ผูเ้ ขี ยนถู ก ชักชวนไปเรี ยนปริ ญ ญาเอกที่ ภาควิช าประวัติศาสตร์ มหาวิท ยาลัยเชี ยงใหม่ โดย
อาจารย์อรรถจักร์ หากแต่จาได้ดีว่าได้ตดั สิ นใจทาบทามขออาจารย์สายชลเป็ นที่ปรึ กษาตั้งแต่ที่ได้
พูดคุยกับอาจารย์เป็ นวันแรกๆ เพราะชอบจริ ตการทางานวิจยั แบบ
และเห็นว่าอาจารย์เปิ ดใจรับฟั งคาวิจารณ์ ที่สาคัญเพราะอาจารย์ศึกษาปั ญญาชน “ฝ่ ายขวา”
มามาก จึ ง น่ า จะเข้ า ใจนั ก ศึ ก ษาที่ ส นใจสอดรู ้ ส อดเห็ น “อี ลี ท ไทย” ดั ง ที่ ก ล่ า วมา ผู ้เขี ย นจึ ง
ขอขอบพระคุณ ศาสตราจารย์เกียรติคุณ สายชล สัตยานุ รักษ์ และศาสตราจารย์ ดร.อรรถจักร์ สัตยานุ
รักษ์ ที่กรุ ณารับเป็ นที่ปรึ กษาหลักและที่ปรึ กษาร่ วม อาจารย์ได้ให้คาปรึ กษาอันเป็ นประโยชน์อย่าง
ต่อเนื่ องตลอดช่ วงระยะเวลาหลายปี ที่ ผ่านมา ขณะเดี ยวกันก็ให้อิสระอย่างมากในการคิดการเขียน
รวมถึ งยังได้ให้ความกรุ ณาทั้งกับผูเ้ ขียนและภรรยาเป็ นอย่างยิ่งในหลายครั้งหลายคราว นอกจากนี้
อาจารย์สายชลยังให้โอกาสในการเข้าร่ วมโครงการวิจยั ซึ่ งนับเป็ นประสบการณ์ อนั หาได้ยากที่ช่วย
เติมเต็มการทางานทางวิชาการของผูเ้ ขียนด้วย
ขอขอบคุ ณ พี่ ๆ เพื่อนๆ และน้องๆ ไม่ว่าจะเป็ น พี่วนั อาจารย์อภิวนั ท์ พันธ์ สุข, พี่โต้ ผูช้ ่ วย
ศาสตราจารย์มนตรา พงษ์นิล, เก๋ อาจารย์สิรีธร ถาวรวงศา ที่ได้ร่วมพูดคุ ยแลกเปลี่ ยนถกเถี ยงทาให้
บรรยากาศการเรี ยนปริ ญ ญาเอกของผูเ้ ขี ย นไม่ เงี ยบเหงาและโดดเดี่ ยวจนเกิ น ไป ขอขอบคุ ณ จ้าย
ดร.กฤษณ์ พ ชร โสมวัต ร ที่ ช่ ว ยสื บ ค้น ข้อ มู ล ในขั้น ตอนการแก้ไ ขดุ ษ ฎี นิ พ นธ์ , ขอบคุ ณ คุ ณ บุ๋ ม
จ
วรัญธร คานาง ในเรื่ องการติดต่อประสานงานกับภาควิชา, ทศ ทศพล ศรี นุช ที่ช่วยเดิ นเรื่ องเอกสาร
ห้องสมุด, บาส พงศกร เฉลิมชุ ติเดช ในการเป็ นธุ ระช่ วยเดิ นเรื่ องเอกสารและขั้นตอนต่างๆ หลังการ
สอบดุษฎีนิพนธ์
ท้ายสุ ดผูเ้ ขียนขอขอบคุณครอบครัว “พ่อ” “แม่” และ “ภรรยา” ผูใ้ ห้กาลังใจ เข้าอกเข้าใจ และ
ช่วยเหลือในทุกสิ่ งทุกอย่าง ตลอดระยะเวลาในช่วง “สุ ข” และ “ทุกข์” ของการทาดุษฎีนิพนธ์น้ ี
อาสา คาภา
ฉ
2495-2535
. . 2495-2535
2490
2500-2510
14
2516 2525 -
2520
2535
Consensus
Dissertation Title Changes of the Thai Elite Network, 2495-2535 B.E.
ABSTRACT
This dissertation aims to study how the Thai elite network had changed between 2495 and
2535 B.E., with special emphasis on the "Network Monarchy" which played a key role in the
network politics of the Thai elite. The study also focuses on the dynamics of the relationships within
the network monarchy and those between the monarchical network and many individuals and
groups among the Thai elite in each period of the said time frame.
The vital finding is that the dynamics of the network monarchy were related to the "Royal
Hegemony" of His Majesty King Bhumibol Adulyadej, King Rama IX. It resulted from interactions
among many factors. The network monarchy was highly dynamic as the said people and groups had
both cooperative and conflictual relations. Each individual or group was also relatively autonomous
from the monarchy. In this sense, their decisions on various matters were made under the dynamics
of changing social, economic and political context.
During the decade following the year 2490 B.E., military leaders held a hegemonic position
in the network politics of the elite, becoming a senior partner of the monarchy in the power nexus.
Even though initially the monarchical network was still limited to a narrow circle, a lot of efforts
had been expended to expand it as well as restore the status of the monarchy. Hence the conception
of the "Rajapracha Samasai" ideology, which would become a crucial tool to incorporate wider
individuals and groups into the networks for decades to come.
The dynamics of the network monarchy had increased greatly in the period between 2500
and 2510 B.E., attracting many leading groups, in particular elites in the bureaucratic such as the
judiciary, Ministry of the interior, the police, the military, the technocracy and some business elite.
Whilst royal power rapidly increased, it was nevertheless unstable due to the changing political
situation in the aftermath of the October th, 2516 uprising until 2525 B.E. Many new and diverse
groups of people became influential in politics, such as leading politicians, political parties, right-
wing groups, military reformers, military officers from the nd Army Area, the 21st Infantry
rk monarchy was therefore involved in the process of
fighting and negotiating intensely to win hegemony. In this sense, the dynamics of the monarchical
network were subject to a myriad of factors, be it individual personality and decision-making skills
as well as contest for status and role among the elite groups. Given that each of these groups had
their own respective political project, it was obvious that the actual degree of royal hegemony was
by no means of the king's making alone.
By the middle of the decade following the year 2530 B.E., the monarchy had become the
senior partner of the military in the power nexus and the network monarchy came to reign over the
Thai elite as a whole. As the Sino-Thai middle class came to identify with the monarchy and
became its mass base, the royal-nationalist political project turned into the state project that could
mobilize both public resources and funding as well as the populace at large. Royal hegemony
reached its zenith with the Black May incident in 2535 B.E.
Since then, consensual politics against monopolistic domination had been the rule of the
political game among the Thai elite groups, with the monarchy acting as the ultimate umpire in
formulating and keeping the elite consensus as well as removing any violators.
The study of the dynamics of the network monarchy helps us gain an in-depth
understanding of the complexities and developments of Thai politics especially among the elites
under the long and important reign of King Bhumibol.
ABSTRACT
STATEMENTS OF ORIGINALITY
1 1
1.1 1
1.2 9
1.3 9
1.4 9
1.5 1
1.6 3
1.6.1 (Faction)
3
1.6.2 Social Power 4
1.6.3 Hegemony
Cultural Politics 4
1.7 4
1.8 4
2 2475
4
2 -
2475-2500 4
2.2
9 6
2.2.1
6
2.2.2
2490 7
2.2.3 : -
2490 7
1) :
2) 8
3) 2490
2.3 2490 9
3
2500-2516 10
3.1 2500 10
3.2 1
3.2.1 -
11
3.2.2 12
3.2.3
2500 1
3.3
-
3.3.1
: 1
3.3.2
3
2506-2516
4 2500
2510 1
4.1 2500 1
4.2 - -
:
17
4.3 - : Pilot Projects
4.4 - 1
4.4.1 : 19
4.4.2 : 19
4 2
5
21
5.1 : 21
5.2 -
2510 22
5.2.1 22
5.2.2 23
5.2.3 2510 23
5.3.
:
24
6
14 2516 25
6.1 -
25
6.1.1 -
1, 2 25
6.1.2 :
14 2516 2
6.2 14 :
26
6.3 99:
27
6.4 :
2517 28
7
2518-6 2519 2
7.1
14 2516 2
7.1.1 29
7.1.2
7.2.
30
7.2.1 14 :
30
7.2.2
31
7.3 :
32
7.3.1 :
3
7.3.2
6 2519 34
8 -
14 2516 35
8.1
14 2516 3
8.2
2 3
8.2.1 3
8.2.2 2 37
9 6 2519:
38
9.1
2519:
38
9.2
39
9.3 41
9.3.1 - 41
9.3.2 42
9.3.3 4
9.3.4 43
9.4 43
9.5
44
10 :
2520-2523 45
10.1
45
10.2
20 2520 46
10.2.1 - :
4
10.2.2 2521
47
10.3
10.3.1 48
10.3.2 - 4
10.3.3
6 49
10.4
50
11
2520 5
11.1
2520 5
11.2
2520 5
11.2.1
5
11.2.2
54
11.2.3
2
5
11.2.4
66 2523 5
1) 7 5
2) 21 5
3) 66 2523 5
12 -
57
12.1
2520 57
12.2
58
12.2.1 - 5
12.2.2 -
12.2.3 - 6
12.2.4 61
12.2.5 62
12.3
2520 2530 6
12.3.1 :
200
5 63
12.3.2 :
2520 6
12.3.3
64
1) 64
2) 64
3) - 6
13 65
13.1
13.1.1
Bureaucratic Polity
13.1.2 ( )
13.2
13.3 :
. . 2535
1)
Network Monarchy
2495-2535
2) Network Monarchy
Royal Hegemony
9
STATEMENTS OF ORIGINALITY
1) This dissertation presents the history of the formation and development of the
network monarchy under the interaction with the Thai elite network between
2495 and 2535 B.E.
2) This dissertation proposes that the network monarchy is able to take the lead and
do
1
ผูเ้ สนอใช้คาแปลนี้ คือ ศาสตราจารย์ พงษ์เพ็ญ ศกุนตภัย รายละเอียดโปรดดู เกษียร เตชะพีระ, “ไพร่ กบั อามาตย์
ปี ศาจวาทกรรม”, ใน สงครามระหว่ างสี ในคืนวันอันมืดมิด (กรุ งเทพฯ: Open books, 2553).
2
Fred W. Riggs, Thailand: The Modernization of a Bureaucratic Polity ( Honolulu: East-West Center Place,
1967).
1
แวดล้อมอย่างที่เป็ นส่ วนหนึ่ งในการวิเคราะห์มองภาพปฏิสัมพันธ์ พลวัต และความเปลี่ยนแปลงของ
กลุ่ มชนชั้นนาไทย จึงเป็ นประเด็นที่ ยงั ไม่มีการพิจารณาอย่างจริ งจัง ดุ ษฎี นิพนธ์ น้ ี สนใจที่ จะศึกษา
ความเปลี่ ย นแปลงทางการเมื อ งไทยระหว่ า ง พ.ศ. 2495-2535 โดยเลื อ กพิ จ ารณาผ่ า นความ
เปลี่ ยนแปลงของเครื อข่ายชนชั้นนาไทยที่ สัมพันธ์กบั สถาบันพระมหากษัตริ ย ์ เนื่ องจากการที่จะทา
ความเข้าใจการเมื องไทยในช่ วงเวลาดังกล่าวได้อย่างลึ กซึ้ งจาเป็ นอย่างยิ่งที่ จะต้องเข้าใจพลวัตทาง
การเมือง เศรษฐกิ จ และวัฒนธรรม ที่ สัมพันธ์กบั เครื อข่ายชนชั้นนาไทยกลุ่มนี้ ซึ่ งเป็ นเครื อข่ายที่ มี
บทบาทสาคัญอย่างโดดเด่น ทั้งนี้ เราอาจใช้คาเรี ยกเครื อข่ายชนชั้นนาไทยที่เป็ นเป้ าประสงค์และวัตถุ
ในการศึกษาครั้งนี้ดว้ ยคาว่า “สถาบันพระมหากษัตริ ยเ์ ชิงเครื อข่าย” (Network Monarchy)
3
Duncan McCargo, Network Monarchy and Legitimacy Crisis in Thailand, The Pacific Review, 18(4) (December,
2005).
4
ผูเ้ สนอใช้คาแปลนี้ คือ ศาสตราจารย์ ดร. นิธิ เอียวศรี วงศ์.
5
ดู ธงชัย วินิจจะกูล, “ข้ามให้พน้ ประชาธิ ป ไตยแบบหลัง 14 ตุลาฯ”, ใน ประชาธิ ป ไตยที่ มีพ ระมหากษั ตริ ย์อ ยู่
เหนือการเมือง (นนทบุรี: ฟ้ าเดียวกัน, 2556).
2
ได้คือการมองการเมืองในฐานะการต่อสู ้แข่งขันกันระหว่าง “เครื อข่าย” (Network) ในกลุ่มของชนชั้น
นาไทยด้วยกันเอง โดยเครื อข่ายที่มีอิทธิ พลต่อการเมืองไทยเป็ นอย่างมากในช่ วงเวลา 3-4 ทศวรรษที่
ผ่านมา คือ สถาบันพระมหากษัตริ ยเ์ ชิงเครื อข่าย6
ขณะเดี ย วกัน ควรกล่ า วด้ว ยว่า การใช้ แ นวคิ ด การเมื อ งเชิ ง เครื อ ข่ า ย (Political Network)
โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเจาะจงไปที่ “สถาบันพระมหากษัตริ ยเ์ ชิ งเครื อข่าย” (Network Monarchy) ใน
ฐานะหน่ วยวิ เคราะห์ ใ นการท าความเข้า ใจการเมื อ งไทยดู จะมี ป รากฏในงานศึ ก ษาอยู่ห ลายชิ้ น
นอกเหนื อจาก Network Monarchy and Legitimacy Crisis in Thailand (2005) ของ Duncan McCargo
ก็ เช่ น King, Country and Constitution: Thailand Political Development 1932-2000. โด ย Kobkua
Suwannathat-Pian (2003),
(2006) โดย Pual M. Handley, โครงการอันเนื่ องมาจากพระราชดาริ : การสถาปนาพระราชอานาจนา
ในพระบาทสมเด็จพระเจ้ าอยู่หัว (2547) โดย ชนิ ดา ชิตบัณฑิต, วิทยานิ พนธ์ เรื่ อง การเสด็จพระราช
ดาเนิ นท้ องที่ ต่างจังหวั ดของพระบาทสมเด็จพระเจ้ าอยู่หัว ภูมิพ ลอดุลยเดช พ.ศ.2493-2530 (2551)
โดย ปราการ กลิ่ นฟุ้ ง, งานเขี ยนประเภทบทความ เช่ น ควา่ ปฏิ วัติ โค่ นคณะราษฎร: การก่ อตัวของ
ระบอบประชาธิ ปไตยอันมีพระมหากษัตริ ย์ทรงเป็ นประมุข (2551) และ พระบารมีปกเกล้ าฯ ใต้ เงา
อิ นทรี : แผนสงครามจิ ตวิทยาอเมริ กันกับการสร้ างสถาบันพระมหากษัตริ ย์ให้ เป็ นสั ญลักษณ์ (2554)
โดย ณัฐพล ใจจริ ง ฯลฯ งานศึกษาเหล่านี้ ลว้ นปรากฏการใช้ “สถาบันพระมหากษัตริ ยเ์ ชิ งเครื อข่าย”
เป็ นหน่ วยวิเคราะห์ร่วมอยูด่ ว้ ย เกี่ยวกับประเด็นนี้ นิ ธิ เอียวศรี วงศ์ เคยตั้งข้อสังเกตไว้วา่ การเมืองเชิ ง
เครื อ ข่ า ยเป็ นพลัง ของทุ ก กลุ่ ม ไม่ ใ ช่ เฉพาะแต่ ส ถาบั น พระมหากษั ต ริ ย ์ หากแต่ ก รณี สถาบั น
พระมหากษัตริ ยเ์ ชิงเครื อข่ายถือได้วา่ ประสบความสาเร็ จมากกว่ากลุ่มการเมืองทุกกลุ่ม7
6
Dancan McCargo, Network Monarchy and Legitimacy Crisis in Thailand, p. 499.
7
นิ ธิ เอียวศรี วงศ์, “กระฎุมพี การเมืองมวลชนและชุดพระราชทาน”, ใน โมงยามไม่ ผันแปร (กรุ งเทพฯ: มติชน,
2558), หน้า 322.
3
อย่างไรก็ตาม แม้จะปรากฏการใช้แนวคิดการเมืองเชิ งเครื อข่ายและสถาบันพระมหากษัตริ ย ์
เชิ งเครื อข่ายในงานวิชาการร่ วมสมัย ทว่า การศึกษาโดยตรงที่ตวั สถาบันพระมหากษัตริ ยเ์ ชิ งเครื อข่าย
ในฐานะที่ เป็ นปั จ จัย ตัว แสดงหลัก อย่า งเป็ นมิ ติ ท างประวัติ ศ าสตร์ ที่ ค รอบคลุ ม และลึ ก ซึ้ ง 8 เช่ น
พัฒนาการและเงื่อนไขที่นามาสู่ การก่อรู ปของเครื อข่ายพลวัตของสถาบันพระมหากษัตริ ยเ์ ชิ งเครื อข่าย
ในฐานะเครื อข่ายที่ “ประสบความสาเร็ จมากที่สุด” ดาเนิ นไปบนความสัมพันธ์เชิงการต่อสู ้ต่อรองกับ
เครื อ ข่ า ยชนชั้น น าไทยอื่ น ๆ อย่างไรในช่ วงระยะเวลาที่ ส ถาบัน พระมหากษัต ริ ย ์เชิ ง เครื อ ข่ า ยมี
พัฒนาการก่อรู ปเป็ นร่ างขึ้นมา กล่าวได้วา่ ประเด็นเหล่านี้ ยงั ไม่มีงานศึกษาที่ชดั เจน ด้วยเหตุน้ ี การ
พัฒนาองค์ความรู ้ในเรื่ องนี้ จึงเป็ นสิ่ งที่น่าสนใจอย่างยิ่ง ไม่เพียงเท่านั้น การศึกษาประเด็นดังกล่าวยัง
จะก่อให้เกิดภาพความเชื่ อมโยงและความเข้าใจถึงพลวัตความเปลี่ยนแปลงของเครื อข่ายชนชั้นนาไทย
ที่เป็ นองค์รวมได้อย่างลึกซึ้ งมากขึ้น จากฐานคิดมุมมองที่เป็ นวิชาการและการให้คุณค่าความสาคัญกับ
กลุ่มก้อนตัวแสดงทางประวัติศาสตร์ กลุ่มนี้ (สถาบันพระมหากษัตริ ยเ์ ชิ งเครื อข่าย) ซึ่ งมีอิทธิ พลทั้ง
ทางด้านการเมื องวัฒ นธรรม ความคิ ด ภูมิ ปัญ ญา ภายใต้เงื่ อนไขทางประวัติศาสตร์ ที่ การเมื องเชิ ง
เครื อข่ายของชนชั้นนาไทยกลุ่มอื่นๆ ต่างไม่ประสบความสาเร็ จในการครอง “อานาจนา” หรื อ “อริ ย
สิ ทธิ์” (Hegemony) ได้เท่ากับกรณี ของสถาบันพระมหากษัตริ ยเ์ ชิงเครื อข่าย
อัน ดับ แรก หากพิ จารณาอย่างวิเคราะห์ เจาะจงบนฐานคิ ดการเมื องเชิ งเครื อข่ าย “สถาบัน
พระมหากษัตริ ยเ์ ชิ งเครื อข่าย” หรื อ Network Monarchy ย่อมสามารถพิจารณาได้ในฐานะที่เป็ นส่ วน
หนึ่ งของกลุ่ ม ก้อ นตัว แสดง (Faction) ภายใต้โ ครงสร้ า งการเมื อ งเชิ ง เครื อ ข่ า ยชนชั้น น าไทย อัน
ประกอบไปด้วยคนกลุ่มต่างๆ นับตั้งแต่ พระบรมวงศานุ วงศ์ ชนชั้นนาในระบบราชการ ผูน้ าทหาร
เทคโนแครต นักการเมือง ชนชั้นนาทางธุ รกิจ (ทั้งกลุ่มเก่า-ใหม่) ตลอดจนคนกลุ่มใหม่ๆ ที่ปรากฏตัว
8
แม้แต่งานเขียน Network Monarchy and legitimacy crisis in Thailand ของ Duncan McCargo (2005) ก็เป็ นลักษณะ
ของการตั้งข้อสังเกตและเชื่ อมโยงข้อมูลบทบาทของกลุ่มก้อนตัวแสดงในสถาบันพระมหากษัตริ ยเ์ ชิง เครื อข่ายที่
เห็นในช่วงประวัติศาสตร์ยคุ ใกล้ คือราวทศวรรษ 2530-พ.ศ. 2549 ก่อนการรัฐประหาร 19 กันยายน พ.ศ. 2549.
9
ดูตวั อย่างงานศึกษาเหล่านี้ในหัวข้อที่ 1.5 เอกสารและงานวิจยั ที่เกี่ยวข้อง
4
ขึ้นมา เช่ น ชนชั้นกลางแรงงาน “คอปกขาว” (White Collar) เป็ นต้น ทั้งนี้ การจาแนกนิยามทาความ
เข้าใจความสัมพันธ์ ระหว่างกลุ่ มก้อนตัวแสดงแต่ละกลุ่มสามารถพิจารณาลงลึ กได้อย่างซับซ้อน10
โดยองค์ประกอบและการจัดวางความสัมพันธ์ เครื อข่ายชนชั้นนาไทยที่ กล่ าวมาเหล่ านี้ ลว้ นเป็ นผล
สื บเนื่องจากเงื่อนไขทางประวัติศาสตร์ยุคหลังเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 เป็ นสาคัญ แม้วา่
บางส่ วนของสมาชิกเครื อข่ายชนชั้นนาไทยจะเคยมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันทั้งในทางวัฒนธรรม การ
แต่งงาน ตลอดจนผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจที่เคยมีร่วมกันมาก่อน ทว่า ในสถานการณ์ ที่เปลี่ ยนไป
หลัง พ.ศ. 2475 ที่ เกิ ด การต่ อ สู ้ ต่ อ รองโดยเฉพาะอย่า งยิ่ ง ระหว่ า งสถาบัน พระมหากษัต ริ ย ์ กับ
คณะราษฎร จุดเปลี่ยนทางการเมืองไม่วา่ จะเป็ นการเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 รัฐประหาร
พ.ศ. 2490 รัฐประหาร พ.ศ. 2500 ฯลฯ ตลอดจนปั จจัยจากภายนอก เช่ น สงครามโลกครั้ งที่ 2 ใน
ทศวรรษ 2480 อิทธิ พลของสหรัฐอเมริ กาในทศวรรษ 2490-2500 ฯลฯ
สิ่ ง เหล่ า นี้ ล้ว นมี ผ ลต่ อ การเปลี่ ย นแปลงสถานภาพ การปรากฏตัว แสดงใหม่ ๆ รวมถึ ง
สัมพันธภาพและการจัดวางความสัมพันธ์ระหว่างกลุ่มก้อน ตัวแสดง ที่เป็ นสมาชิกเครื อข่ายชนชั้นนา
ไทยทั้งเก่า-ใหม่ ซึ่ งแตกต่างไปจากก่อน พ.ศ. 2475 อย่างสิ้ นเชิ ง ไม่ว่าจะเป็ นปรากฏตัวของกลุ่ มตัว
แสดงฝ่ ายกษัตริ ยน์ ิยมที่ห่างไกลจากคุณลักษณะ “เลือดสี น้ าเงินเข้ม” ดังเช่นยุคก่อน 247511 การปรากฏ
ตัวของกลุ่มผูน้ าทหารที่ไม่ศรัทธาแนวคิดรัฐธรรมนูญนิ ยม เช่น จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ และพวกพ้อง
หรื อการเกิ ดขึ้นของบรรดา “เจ้าสัวใหม่” ในช่ วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 212 ซึ่ งแตกต่างไปจากกลุ่ ม
เจ้าสัวเก่า หรื อ “จีนผูด้ ีบางกอก”13 ตลอดจนการเกิ ดขึ้นของชนชั้นกลางประเภท “คอปกขาว” (White
Collar) ตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 2500 เป็ นต้นมา
10
รายละเอียดเกี่ยวกับประเด็นนี้ ผูส้ นใจสามารถดูได้จากงานเขียน รวมถึงปาฐกถาวาระต่างๆ ของ ศาสตราจารย์ ดร.
นิ ธิ เอียวศรี วงศ์ อาทิ นายกพระราชทาน, มติ ชนรายวัน (4, 11 เมษายน พ.ศ. 2554) พลวัตชนชั้นนาไทย, มติ ชน
รายวัน (1, 8, 15 ตุ ล าคม พ.ศ. 2555) ปาฐกถา “เสรี ภาพ ประชาธิ ป ไตยกับ สั งคมไทยในระยะเปลี่ ย นผ่า น” (21
กุมภาพันธ์ 2556) บทความขนาดยาว 8 ตอน ว่าด้วยการเมืองมวลชนกับกระฎุมพี ทยอยตีพิมพ์ใน มติชนสุดสั ปดาห์
ตั้งแต่ฉบับวันที่ 13 มิถุนายน 2557.
11
ตัวอย่างที่ชดั เจนที่ สุดคือการที่เจ้านายราชสกุล “มหิ ดล” (รัชกาลที่ 8 และรัชกาลที่ 9) ซึ่ งทรงมีเลือดสามัญชนอยู่
ครึ่ งหนึ่ง ได้รับการสถาปนาขึ้นเป็ นพระมหากษัตริ ยโ์ ดยมติของรัฐสภาและความเห็นชอบในหมู่พระราชวงศ์.
12
ตัวอย่างของเจ้าสัวกลุ่มนี้ เช่น นายชิ น โสภณพนิ ช แห่ งธนาคารกรุ งเทพ นายถาวร พรประภา แห่ งสยามกลการ
นายเทียม โชควัฒนา แห่ งเครื อสหพัฒน์ นายสุ กรี โพธิ รัตนังกูร เจ้าพ่ออุตสาหกรรมสิ่ งทอไทย นายสหัส มหาคุณ
ผูร้ ิ เริ่ มตานานธุรกิจสุราและแบรนด์แม่โขง ฯลฯ.
13
คือ กลุ่มพ่อค้าจีน ที่ทาราชการมาแต่สมัยต้นรัตนโกสิ นทร์ โดยมากมักรับราชการในกรมท่าซ้าย บ้างเป็ นเจ้าภาษี
นายอากร ตัวอย่างเช่น บรรพบุรุษต้นตระกูล กัลยาณมิตร ไกรฤกษ์ โชติกเสถียร พิศาลบุ ตร โปษยานนท์ โปษยะ
จินดา ฯลฯ ในเวลาต่อมา พวกขุนนางเชื้อสายจีนเหล่านี้ ยังได้พฒั นาความสัมพันธ์กบั กลุ่มพ่อค้าจีนที่เป็ น Subjects
5
ดังที่ ได้กล่ าวข้างต้น เนื่ องจากสถาบันพระมหากษัตริ ยเ์ ชิ งเครื อข่ายไม่ใช่ ท้ งั หมด หากเป็ น
ส่ วนหนึ่ งในโครงสร้างการเมืองเชิ งเครื อข่ายชนชั้นนาไทย การก่อรู ปของสถาบันพระมหากษัตริ ยเ์ ชิ ง
เครื อข่ายจึงเกิ ดขึ้นบนความสัมพันธ์อย่างมีพลวัตกับกลุ่มก้อนตัวแสดงต่างๆ ในโครงสร้างการเมือง
เชิ งเครื อข่ายนี้ เอง ด้วยเหตุน้ ี ช่วงหลายทศวรรษที่ผา่ นมาเส้นทางเดิ นของสถาบันพระมหากษัตริ ยเ์ ชิ ง
เครื อข่ายจึงปรากฏการต่อสู ้ ต่อรอง ประนีประนอม ผสานผลประโยชน์ ทั้งโดยเปิ ดเผยและโดยนัย อา
พรางกับกลุ่มอื่นๆ ในสมาชิกเครื อข่ายชนชั้นนาไทยอยูเ่ สมอ
หรื อ “สัปเยก” ในบังคับต่างชาติ อาทิ ต้นตระกูลหวัง่ หลี ล่าซา ฯลฯ ซึ่งเป็ นพ่อค้าเอกชน ภายในระยะเวลาไม่ถึงสอง
ช่วงอายุคน บรรดา “จีนผูด้ ีบางกอก” เหล่านี้สามารถกลมกลืนกลายเป็ นส่ วนหนึ่ งชนชั้นนาไทยอย่างแนบสนิท ด้วย
สายสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับราชสานักและระบบราชการไทย.
14
ดูคาอธิบายนี้ในหัวข้อ 1.6 แนวคิดในการศึกษาและการประยุกต์ใช้.
6
ปรารถนาในระบบเกี ยรติ ยศซึ่ งสัม พันธ์ กบั พระราชอานาจนา หรื อบางครั้งสิ่ งนี้ ก็เกิ ดขึ้ นจากความ
พยายามสร้างการถ่วงดุลอานาจในกลุ่มชนชั้นนาไทยด้วยกันเอง
อย่างไรก็ ตาม บนตรรกะที่ ก ารก่ อรู ป ของสถาบัน พระมหากษัตริ ยเ์ ชิ งเครื อข่ าย (Network
Monarchy) สัมพันธ์กบั พระราชอานาจนา (Royal Hegemony) บางช่วงเวลาสถาบันพระมหากษัตริ ย ์
เชิ งเครื อข่ายก็อาจหดเรี ยวลงได้เช่ นกัน เช่ น หลังรัฐประหาร 20 ตุลาคม พ.ศ. 2520 ที่คณะปฏิรูปการ
ปกครองแผ่นดินทาการโค่นล้มรัฐบาลนายธานิ นทร์ กรัยวิเชียร พร้อมๆ กับการที่สมาชิ กเครื อข่ายชน
ชั้นนาไทยจานวนหนึ่ งดูจะถอยห่ างออกมาอย่างรักษาระยะกับสถาบันพระมหากษัตริ ย ์ กระนั้นก็ตาม
การเมืองเชิ งเครื อข่ายและการก่อรู ปของสถาบันพระมหากษัตริ ยย์ งั คงดาเนิ นสื บเนื่ องมาในทศวรรษ
2520 จวบจนกระทัง่ ราวกลางทศวรรษ 2530 ที่การก่อรู ปดังกล่าว เดินทางมาถึงจุด “อยูต่ วั ” ด้วยเพราะ
ความสาเร็ จของสถาบันพระมหากษัตริ ยเ์ ชิ งเครื อข่ายที่มีเหนื อสมาชิ กเครื อข่ายชนชั้นนาไทยทุกกลุ่ม
สิ่ งนี้ สั มพันธ์ กบั ช่ วงจังหวะที่ พ ระราชอานาจนาขึ้ นสู่ กระแสสู งอี กครั้ งในช่ วงกลางทศวรรษ 2520
และเดิ นมาสู่ จุดสู งสุ ดในช่ วงหลังเหตุการณ์ พฤษภาทมิฬ 2535 (และจักดาเนิ นต่อเนื่ องและดารงอยู่
เกื อบตลอดช่ วงทศวรรษ 2540) สังเกตได้ว่า ช่ วงเวลานี้ ส มาชิ กเครื อข่ายชนชั้นนาไทยทุ กกลุ่ มต่าง
ยินยอมน้อมรับพระราชอานาจนา (Royal Hegemony) โดยดุษณี
กระนั้นก็ ตาม อาจตั้งข้อสั งเกตได้ว่า กระบวนการ “ยิน ยอมน้อมรับ โดยดุ ษ ณี ” เช่ น นี้ ได้
เกิดขึ้นในสภาวการณ์ ที่สมาชิ กเครื อข่ายชนชั้นนาไทยต่างมี ฉันทามติร่วม (Consensus) ที่เห็นพ้องจะ
หยิบยกเชิ ดชู สถาบันพระมหากษัตริ ยข์ ้ ึ นมาอย่างมี จุดมุ่งหมายทางการเมื อง (Political Project) ของ
พวกเขาเองด้วยเช่นกัน โดยสิ่ งที่เรี ยกว่า ฉันทามติร่วม (Consensus) นี้ อาจเป็ นได้ท้ งั เรื่ องผลประโยชน์
เป็ นข้อตกลงในการอยู่ร่วมกัน ได้อย่างมี ดุ ล ยภาพซึ่ งอาจไม่ ไ ด้ระบุ ไ ว้อย่างเป็ นลายลัก ษณ์ อกั ษร
หากแต่เป็ นเงื่ อนไขที่ เกิ ดขึ้ นจากกลไกทางวัฒนธรรมมากกว่า เช่ น การแบ่ งสั นอานาจ คานอานาจ
ปฏิ เสธการควบรวมอานาจไว้แต่เฉพาะกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ ง การละเมิดฉันทามติร่วมของชนชั้นนาไทย
กลุ่มใดกลุ่มหนึ่ งอาจนามาซึ่ งการเสี ยดุลยภาพตลอดจนอานาจผลประโยชน์ที่ แบ่งสันกันลงตัวแล้ว15
ดัง นั้ น ฉั น ทามติ ร่ ว ม (Consensus) จึ ง เป็ นสิ่ งส าคัญ ที่ ช นชั้ น น าไทยทุ ก กลุ่ ม ซึ่ งรวมถึ ง สถาบั น
พระมหากษัตริ ยเ์ ชิ งเครื อข่าย จาเป็ นต้องเคารพยึดถือเพื่อการอยูร่ ่ วมกัน สาหรับคาอธิ บายเกี่ยวกับการ
เปลี่ยนแปรพระราชสถานะของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั ในช่วงทศวรรษ 2520-ต้นทศวรรษ 2530
ที่สัมพันธ์กบั เงื่อนไข พระราชอานาจนา (Hegemony) (ที่เพิ่มมากขึ้น) และ ฉันทามติร่วม (Consensus)
ของชนชั้นนาไทย สิ่ งนี้ อาจเป็ นดังลักษณะที่ สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล เคยตั้งข้อสังเกตไว้ นัน่ คือ พระองค์
15
โปรดดู นิธิ เอียวศรี วงศ์, “รัฐธรรมนูญฉบับวัฒนธรรมไทย”, ใน ชาติไทย เมืองไทย แบบเรี ยน และอนุสาวรี ย์ว่า
ด้ วยวัฒนธรรม, รั ฐ และรู ปการจิตสานึก (กรุ งเทพฯ: มติชน, 2538).
7
ได้ทรงเคลื่อนผ่านสถานะ ...จากประมุขของกลุ่มปกครอง16 กลายเป็ นประมุขของชนชั้นปกครอง...”
(From Head of a Ruling Clique to Head of Ruling Class)17
ดังที่ ก ล่ าวมาทั้ง หมดจะเห็ น ได้ว่า สถาบัน พระมหากษัตริ ย ์เชิ ง เครื อข่ าย นับ เป็ นประเด็ น
การศึกษาที่มีความซับซ้อนทั้งในแง่กลุ่มก้อนตัวแสดงที่หลากหลาย ตลอดจนความซับซ้อนในแง่มิติ
ความสัมพันธ์ที่ไม่ได้หยุดนิ่งตายตัว โดยภาพรวมการศึกษาประเด็นว่าด้วยสถาบันพระมหากษัตริ ยเ์ ชิ ง
เครื อข่ายอย่างเป็ นมิติทางประวัติศาสตร์ ย่อมทาให้เห็นภาพความเป็ นจริ งของระบบความสัมพันธ์ทาง
อานาจในกลุ่มชนชั้นนาไทยที่ถือได้ว่าเป็ น “เครื อข่ายที่ ประสบความสาเร็ จมากที่สุด” ที่เกิ ดขึ้นและ
16
อนึ่ ง ค าว่า กลุ่ ม ปกครอง (Ruling Clique) ของ สมศัก ดิ์ เจี ย มธี ร สกุล ในความเข้าใจของผูเ้ ขี ย นย่อ มหมายถึ ง
สถาบันพระมหากษัตริ ยเ์ ชิงเครื อข่าย ในช่วงก่อนถึงจุด “อยูต่ วั ” นัน่ เอง.
17
สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล, “หลัง 14 ตุลา”, ฟ้ าเดียวกัน, 3(4) (ตุลาคม-ธันวาคม, 2548), หน้า 170.
8
คลี่ คลายเปลี่ยนแปลงไปท่ามกลางระบบการเมืองและเศรษฐกิ จ พร้อมกันนี้ ยงั ทาให้เห็ นพลวัตความ
เปลี่ยนแปลงที่เกิ ดขึ้นภายในเครื อข่ายชนชั้นนาไทยในประวัติศาสตร์ ร่วมสมัยอย่างสาคัญ ซึ่ งช่วยให้
เข้าใจความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองของไทยได้อย่างลึกซึ้ งขึ้นด้วย
1.4 สมมุติฐำนในกำรวิจัย
9
ตรงกัน ข้า มก็ จ ะถู ก ขจัด ออกไป ขณะเดี ย วกัน ฝ่ ายสถาบัน พระมหากษัต ริ ย ์เชิ ง เครื อ ข่ า ยเองก็ มี
กระบวนการคัดเลือกคัดสรรบุคคลเข้าสู่ เครื อข่าย ทั้งโดยการเลือกเพื่อตอบสนองจุดประสงค์ในการ
ทางานอย่างมีเป้ าหมาย ซึ่ งสะท้อนความพยายามที่จะจัดวางดุ ลอานาจภายใต้โครงสร้ างการเมืองเชิ ง
เครื อข่ายชนชั้นนาไทยอย่างสาคัญด้วยเช่นกัน
เนื้ อ หาในส่ ว นนี้ เป็ นการทบทวนวรรณกรรม (Literature Review) เพื่ อ ให้ ภ าพพรมแดน
ความรู ้ ที่ เกี่ ย วข้อ งกับ ประเด็ น เครื อ ข่ า ยชนชั้น น าไทย โดยให้ ค วามส าคัญ เป็ นพิ เศษแก่ “สถาบัน
พระมหากษัตริ ย ์เชิ ง เครื อข่ าย” กลุ่ ม ตัวอย่างในงานทบทวนวรรณกรรมผูว้ ิจยั จะได้วิเคราะห์ เพื่ อ
ประเมินสถานะ “การมี อยู่/ไม่ มีอยู่” ของประเด็น “สถาบันพระมหากษัตริ ยเ์ ชิ งเครื อข่ าย” จากงาน
ศึกษานั้นๆ การนาเสนอจะให้ภาพที่ไล่เรี ยงลาดับงานศึกษาจากอดีตถึงมาจนถึงช่วงเวลาของการศึกษา
ครั้งนี้ (พ.ศ. 2558)
10
ทักษ์ เฉลิ มเตียรณ (1974) เรื่ อง The Sarit Regime, 1957-1963: The Formative Years of Modern Thai
Politics. ซึ่ งต่ อ มาได้ รั บ การแปลเป็ นภาษาไทยในชื่ อ การเมื อ งระบบพ่ อขุ น อุ ป ถั ม ภ์ แ บบเผด็ จ
การทหาร (2526) แม้วา่ ใจความหลักของงานจะเป็ นการศึกษาการเมืองไทยในยุคจอมพลสฤษดิ์ ธนะ
รัชต์ (พ.ศ. 2501-2506) หากแต่มีประเด็นวิเคราะห์ เกี่ ยวกับสถาบันพระมหากษัตริ ยท์ ี่ สาคัญคือ การ
ฟื้ นฟูสถาบันพระมหากษัตริ ยข์ องจอมพลสฤษดิ์ในช่วงต้นทศวรรษ 2500 ซึ่ งเป็ นปั จจัยสาคัญหนึ่งใน
การสร้ างความชอบธรรมของรัฐบาลเผด็จการทหารในการโค่นล้มอานาจ จอมพล ป. พิบูลสงคราม
นัยหนึ่ งทั้งจอมพลสฤษดิ์และสถาบันพระมหากษัตริ ยจ์ ึงต่างสนับสนุนซึ่ งกันและกัน ไม่วา่ จะเป็ นเรื่ อง
ที่รัฐบาลสนับสนุ นการฟื้ นฟูพระราชพิธีต่างๆ ซึ่ งเคยถูกยกเลิกไปในช่วงหลัง พ.ศ. 2475 ให้ปรากฏแก่
สาธารณะอี ก ครั้ ง ตลอดจนธรรมเนี ย มปฏิ บ ัติ ที่ เป็ น “ประเพณี ป ระดิ ษ ฐ์ ” ใหม่ ที่ ส ะท้อ นการให้
ความส าคัญ แก่ ส ถาบัน พระมหากษัต ริ ย ์ นอกจากนี้ จอมพลสฤษดิ์ ยัง ได้ ส่ ง เสริ ม ให้ ส ถาบั น
พระมหากษัตริ ยม์ ีบทบาทในฐานะสถาบัน ที่เชื่อมโยงบูรณาการกลุ่มคนต่าง ๆ ในสังคมไทยซึ่ งทาให้
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ มีโอกาสประกอบพระราชกรณี ยกิจที่สัมพันธ์กบั สังคมภายนอกมาก
ขึ้ น ทั้ง นี้ การเชิ ด ชู ส ถาบัน พระมหากษัต ริ ย ์ข องจอมพลสฤษดิ์ ส่ ง ผลดี ต่ อ รั ฐ บาลหลายด้า น ทั้ง
ความรู ้ สึ ก ของคนในประเทศที่ ใ ห้ ค วามเคารพศรั ท ธาต่ อสถาบัน พระมหากษัต ริ ย ์ และชื่ น ชมใน
ภาพลักษณ์ อนั ทันสมัยและทรงเสน่ ห์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และพระราชิ นี การเชิ ดชู
สถาบันพระมหากษัตริ ย ์ ยังส่ งผลดี ต่อรัฐบาลในด้านอื่นๆ ด้วย เช่ น ภาพลักษณ์ ของพระบาทสมเด็จ
พระเจ้าอยูห่ วั ฯ ที่มีความเป็ น “ผูด้ ี” ก็ได้ช่วยลดสถานภาพในเชิงลบของรัฐบาลแบบ “พื้นๆ” ในสายตา
ของต่างชาติ ตลอดจนลดภาพลักษณ์ ในเชิ งลบของรัฐบาลเผด็จการที่ เป็ นปฏิ ปักษ์ต่อการเมืองระบบ
รัฐสภาที่ตนได้โค่นล้มมา
11
ด้วยต้นทุนทางวัฒนธรรมที่มีอยู่สูงของสถาบันพระมหากษัตริ ย ์ ประกอบกับการที่จอมพล
สฤษดิ์ส่งเสริ มให้สถาบันพระมหากษัตริ ยม์ ีบทบาทในฐานะสถาบันที่เชื่อมโยงบูรณาการกลุ่มคน ต่าง
ๆ ในสังคมไทย ส่ งผลให้ในระยะเวลาไม่นานสถาบันพระมหากษัตริ ยไ์ ด้กลายเป็ นศูนย์รวมแห่ งความ
ชื่นชมยินดีและเป็ นระบบเกียรติยศในที่สุด ประเด็นทิ้งท้ายของทักษ์ที่น่าสนใจ คือ แม้อาจเป็ นไปโดย
มิได้ต้ งั ใจ แต่จอมพลสฤษดิ์ก็ได้ทาให้พระมหากษัตริ ยม์ ีพระราชอานาจมากพอที่จะทรงมีบทบาทเป็ น
อิสระหลังจากที่จอมพลสฤษดิ์ ถึงแก่อสัญกรรมแล้ว ความบกพร่ องในทางการเมืองของผูส้ ื บอานาจ
ต่ อมาเมื่ อ เที ย บกับ จอมพลสฤษดิ์ ได้ท าให้ส ถาบัน พระมหากษัต ริ ย ์ยิ่ง กลายเป็ นศู น ย์รวมของเวที
การเมื องมากขึ้ นอย่างเห็ นได้ชัด19 และเนื่ องจากงานของทักษ์ เน้นการศึ กษาที่ ยุคสมัยของจอมพล
สฤษดิ์ (พ.ศ. 2501-2506) เป็ นส าคั ญ ดั ง นั้ น เขาจึ ง ไม่ ไ ด้ ใ ห้ ภ าพถึ ง กระบวนการที่ ส ถาบั น
พระมหากษัตริ ย ์เริ่ ม กลายเป็ นศู น ย์รวมของเวที ก ารเมื อง ซึ่ งแน่ น อนว่ากระบวนการดังกล่ าวย่อม
สัมพันธ์กบั การก่อรู ปของสถาบันพระมหากษัตริ ยเ์ ชิงเครื อข่ายในช่วงทศวรรษ 2500 ด้วยเป็ นสาคัญ
หลังจากงานชิ้ นส าคัญของ ทักษ์ (1974) ไม่ ป รากฏงานศึ ก ษาที่ มี ป ระเด็ นใจกลางเกี่ ยวกับ
สถาบันพระมหากษัตริ ยใ์ นประวัติศาสตร์ ร่วมสมัยอย่างชัดเจน เนื่ องจากงานศึ กษาโดยมากให้ภาพ
กว้า งในเชิ งพั ฒ นาการของการเมื อ งไทย อาทิ งานศึ ก ษาของ David Morell and Chai-anan
Samudavanija (ชั ย อ นั น ต์ ส มุ ท ว ณิ ช ) เรื่ อ ง Political Conflict in Thailand: Reform, Reaction,
Revolution (1981)20 หรื อ งานของ Prudhisan Jumbala (ม.ร.ว. พฤทธิ ส าณ ชุ ม พล) เรื่ อ ง Nation-
Building and Democratization in Thailand: Political History (1992) 21 ใ น ง าน ก ลุ่ ม นี้ ส ถ า บั น
พระมหากษัตริ ยม์ กั ถูกให้ภาพในฐานะตัวแสดงหนึ่งในกระบวนการพัฒนาการการเมืองไทย หากแต่
ก็ไม่ได้เป็ นตัวแสดงที่ถูกศึกษาอย่างลงลึกเจาะจง สิ่ งที่น่าสนใจเห็นจะได้แก่การปรากฏ “ข้อสนเทศ”
และร่ องรอยที่ช้ ี ชวนให้เห็นนัยความสัมพันธ์ที่ไม่ได้เป็ นอันหนึ่ งอันเดียวกันระหว่างราชสานักกับผูน้ า
รัฐบาล ดังตัวอย่างงานศึกษาของ Morell และChai-anan ที่กล่าวถึ งความไม่เห็ นพ้องต้องกันระหว่าง
พระบาทสมเด็ จพระเจ้าอยู่หัว กับ รั ฐบาลจอมพลถนอม เช่ น นับ แต่ ช่ วงปลายทศวรรษ 2500 เริ่ ม
ปรากฏพระราชดารัสถึงข้อวิพากษ์วิจารณ์ รัฐบาลในขณะนั้น ตลอดจนทรงแสดงความห่ วงใยต่อการ
19
เรื่ องเดียวกัน, หน้า 374.
20
David Morell and Chai-anan Samudavanija, Political Conflict in Thailand: Reform, Reaction, Revolution
(Cambridge, Massachusetts: Oelgeschlager, Gunn & Hain, 1981).
21
Prudhisan Jumbala, Nation-Building and Democratization in Thailand: Political History ( Bangkok:
Chulalongkorn University Social Research Institute, 1992).
12
ใช้ความรุ นแรงในการปราบ พคท. ตลอดจนประเด็นเรื่ องการทุจริ ตคอรัปชัน่ ของบุ คคลในรัฐบาล22
หรื อ งานศึกษาของ ม.ร.ว. พฤทธิ สาณ ที่ระบุวา่ ช่วงต้นทศวรรษ 2510 หลังการประกาศใช้รัฐธรรมนูญ
ฉบับ พ.ศ. 2511 และมี การเลื อกตั้งทัว่ ไป พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเคยมี พระราชดารั สใน
ทานองว่า “รัฐประหารไม่ใช่ สิ่งที่จาเป็ นอีกต่อไป”23 ซึ่ งสื่ อความหมายได้ถึงการปราม “ดักคอ” ผูน้ า
ทหาร ดังนั้น การท ารั ฐประหารตัวเองของจอมพลถนอมเมื่ อปลาย พ.ศ. 2514 จึ งสร้ างรอยร้ าวใน
ความสัมพันธ์ระหว่างราชสานักและผูน้ าทหารที่คาดเดาได้ดงั ที่กล่าวมา แม้วา่ ข้อมูลเหล่านี้ จะเป็ นที่
รับรู ้ รับทราบในหมู่นกั เรี ยนประวัติศาสตร์ และผูส้ นใจประวัติศาสตร์ การเมืองไทย หากแต่คาอธิ บาย
ในเชิงวิเคราะห์เชื่อมโยงเพื่อทาความเข้าใจพลัง พลวัตและปฏิบตั ิการของสถาบันพระมหากษัตริ ยเ์ ชิ ง
เครื อข่ายที่ก่อตัวขึ้นมานับตั้งแต่ทศวรรษ 2500-ต้นทศวรรษ 2510 ยังคงไม่เห็ นภาพในงานศึกษากลุ่ม
นี้24
13
อย่างไรก็ตาม แม้คาว่า “เครื อข่าย” ที่ใช้ในการพิจารณาความสัมพันธ์ทางอานาจระหว่างกลุ่ม
ก้อน ตัวแสดงในโครงสร้างการเมืองไทย จะยังไม่ได้เป็ น “คาหลัก” ที่ถูกใช้ในทางวิชาการ ณ เวลานั้น
หากแต่การคิดเชื่ อมโยงตัวแสดงในเหตุการณ์ ประวัติศาสตร์ อย่างเป็ นเครื อข่าย น่าจะอยูใ่ นวิธีคิดของ
นักประวัติศาสตร์ เป็ นพื้นฐาน ดังจะพบว่า บทความบางชิ้นของ สมศักดิ์ เจียมธี รสกุล เช่น ใครเป็ นใคร
ในเหตุ ก ารณ์ 6 ตุ ล า (2542)27 ตลอดจนงานเขี ย นที่ ไ ด้ รั บ อิ ท ธิ พ ลทางความคิ ด จากสมศัก ดิ์ เช่ น
บทความของ พุทธพล มงคลวรรณ เรื่ อง กลุ่มพลังฝ่ ายขวาและสถาบันพระมหากษัตริ ย์ในเหตุการณ์ 6
ตุลาคม 2519 (2546)28 ล้วนมองภาพความสั มพันธ์ ของชนชั้นนาไทยอย่างเป็ นเครื อข่ายกลุ่ มอานาจ
ทั้งนี้ สมศักดิ์ และ พุทธพล ตั้งข้อสังเกตถึงการมีอยูข่ องเครื อข่ายกลุ่มอานาจต่างๆ ในช่วงก่อน 6 ตุลาฯ
2519 ที่อาจแบ่งได้เป็ น 4-5 กลุ่มใหญ่ ได้แก่ 1) กลุ่มทหารของ พล.อ. กฤษณ์ สี วะรา 2) กลุ่มศักดิ นา
ประชาธิ ปั ต ย์-กิ จ สั ง คม 3) กลุ่ ม ฝ่ ายขวาจัด ราชครู -พรรคชาติ ไ ทย 4) กลุ่ ม อ านาจเก่ า ของถนอม-
ประภาส และ 5) กลุ่ม “ศักดินาใหญ่ราชสานัก” ซึ่ งอาจกล่าวได้วา่ กลุ่มท้ายสุ ดนี้ เองคือ แกนกลางของ
สถาบันพระมหากษัตริ ยเ์ ชิ งเครื อข่าย ทั้งนี้ สถานภาพบทบาทที่ น่าสนใจของกลุ่ มศักดิ นาใหญ่ ราช
สานัก ที่ได้รับการวิเคราะห์ไว้ นัน่ คือ เนื่ องจากกลุ่มนี้ ไม่มีฐานกาลังของตนเอง ดังนั้น จึงไม่ได้ยืนอยู่
กับกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ งอย่างเด็ดขาดลงไป หากแต่ใช้วิธี “เหยียบเรื อหลายแคม” และสร้างความสัมพันธ์
กับทุกกลุ่ม29 ข้อได้เปรี ยบของกลุ่มศักดินาใหญ่ราชสานัก (หรื อสถาบันพระมหากษัตริ ยเ์ ชิ งเครื อข่าย
ในเวลานั้น) คือ ความสาคัญในฐานะที่ เป็ นสัญลักษณ์ ในทางอุ ดมการณ์ และเป็ นศูนย์รวมจิตใจของ
กลุ่ มพลัง “ฝ่ ายขวา” ทั้งปวง30 คาอธิ บายดังกล่าวสะท้อนความสัมพันธ์ เชิ งอานาจภายใต้โครงสร้ าง
การเมืองเชิงเครื อข่าย ณ ขณะนั้นได้เป็ นอย่างดี อย่างไรก็ตาม พุทธพลยังไม่ได้วิเคราะห์วา่ แต่ละบุคคล
และแต่ละกลุ่มเข้ามา และ/หรื อ ออกไปจากเครื อข่ายอย่างไรเพราะเหตุใด
27
สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล, “ใครเป็ นใครในเหตุการณ์ 6 ตุลา”, ใน ประวัติศาสตร์ ที่เพิ่งสร้ าง.
28
พุทธพล มงคลวรรณ, “กลุ่ม พลังฝ่ ายขวาและสถาบัน พระมหากษัตริ ยใ์ นเหตุการณ์ 6 ตุ ลาคม 2519”, ใน รวม
บทความทางวิชาการ 25ปี 6 ตุลา ในบริ บทสังคมไทย บรรณาธิการโดย สุ ธาชัย ยิม้ ประเสริ ฐ (กรุ งเทพฯ: 6 ตุลาราลึก,
2546).
29
พุทธพล มงคลวรรณ, เรื่ องเดียวกัน, หน้า 207.
30
เรื่ องเดียวกัน, หน้า 201.
14
ตระเวนชายแดน ตารวจพลร่ ม กลุ่มเหล่านี้เป็ นผลพวงในยุคสมัยรัฐตารวจของ พล.ต.อ. เผ่า ศรี ยานนท์
ซึ่ งถู กลดบทบาทอานาจลงตั้งแต่ สมัยจอมพลสฤษดิ์ แต่ ได้พ ฒ ั นาความสั มพันธ์ ใกล้ชิดกับสถาบัน
พระมหากษัตริ ยต์ ้ งั แต่ช่วงทศวรรษ 2500 จากพระราชกรณี ยกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั ฯใน
เรื่ องการพัฒ นาชนบท 31 นับ ได้ว่างานของสมศักดิ์ เริ่ ม ท าให้เกิ ดการปะติ ดปะต่อภาพกระบวนการ
ประกอบสร้ างของกลุ่มก้อนตัวแสดง (บางกลุ่ม) ในสถาบันพระมหากษัตริ ยเ์ ชิ งเครื อข่าย ที่น่าจะใช้
เป็ นแนวทางในการศึกษาเงื่อนไขที่มีผลต่อกระบวนการประกอบสร้างโดยกลุ่มหรื อบุคคลอื่นๆ ที่เข้า
มาสัมพันธ์ในเครื อข่ายได้เช่นกัน
ช่ วงครึ่ งหลังทศวรรษ 2540 นับ เป็ นระยะเวลาที่ ป รากฏงานศึ ก ษาในประเด็ นเกี่ ยวข้องกับ
สถาบันพระมหากษัตริ ยเ์ กิ ดขึ้นมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน พ.ศ. 254832 หนึ่ งในนั้นคือ งานเขียน
ของ สมศักดิ์ เจียมธี รสกุล เรื่ อง หลัง 14 ตุลา (2548)33 ที่ได้ขยายภาพมิติความสัมพันธ์เชิงอานาจในหมู่
ชนชั้นนาไทยที่สอดรับกับมุมมอง “การเมืองเชิงเครื อข่าย” ทั้งนี้ ควรกล่าวด้วยว่า “หลัง 14 ตุลา” เป็ น
งานเขียนที่สมศักดิ์เขียนขึ้นเพื่อแย้งแนวคิดของ ธงชัย วินิจจะกูล ในบทความขนาดยาวเรื่ อง ข้ ามให้
พ้ นประชาธิ ปไตยแบบหลัง 14 ตุลาฯ (2548)34 สื บเนื่องจาก ธงชัย ต้องการ “ให้สติ” สังคมในขณะนั้น
ที่กาลังหลงลืมประวัติศาสตร์ และมักมีมุมมองต่อความก้าวหน้าและพัฒนาการของประชาธิ ปไตยแต่
เพี ยงมิ ติก ารต่อสู ้ ข องประชาชนกับ ความเลวร้ ายของผูม้ ี อานาจ ไม่ว่าจะเป็ นอานาจเผด็ จการทหาร
(ก่อน 14 ตุลาฯ) หรื อความฉ้อฉลกลโกงของนักการเมือง (หลัง 14 ตุลาฯ) มุมมองดังกล่าวจึงทาให้มกั
มองข้ามปั ญหาว่าด้วยบทบาทสถาบันพระมหากษัตริ ยท์ ี่ครั้งหนึ่ งก็เคยเป็ นตัวแสดงที่ตอ้ งต่อสู ้ดิ้นรน
บนเวทีการเมื องไทย เนื่ องจากความจริ งชุ ดนี้ ถูกแทนที่โดยภาพ “ธรรมราชาผูอ้ ยู่เหนื อการเมือง” ที่
พระมหากษัตริ ยม์ ีส่วนสาคัญในการช่วยให้ภารกิจการสร้างประชาธิ ปไตยบรรลุผล อันเป็ นภาพจาที่มี
อิ ทธิ พลต่อความคิ ดทางการเมื องของคนไทยนับ ตั้งแต่เหตุ การณ์ 14 ตุ ลาฯ 2516 และถู กตอกย้ าใน
เหตุการณ์พฤษภาทมิฬ 2535
31
สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล, “ใครเป็ นใครในเหตุการณ์ 6 ตุลา”, ใน ประวัติศาสตร์ ที่เพิ่งสร้ าง, หน้า 193-194.
32
ส่ วนหนึ่ งเป็ นผลจากกระแสเรี ยกร้องของสังคมเรื่ องการ “ทวงคืนพระราชอานาจ” โดยกลุ่มพันธมิตรประชาชน
เพื่อประชาธิปไตยเพื่อต่อสู ้กบั รัฐบาล พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร ที่ก่อตัวขึ้นใน พ.ศ. 2548 นับเป็ นการปลุกความสนใจ
ทั้งในแง่พลังมวลชนที่ต่อมาได้พฒั นามาเป็ นกลุ่ม “เสื้ อเหลือง” ตลอดจนก่อให้เกิดกระแสวิวาทะในทางวิชาการของ
บรรดานักรัฐศาสตร์ นิติศาสตร์ ประวัติศาสตร์ ซึ่งมีท้ งั ฝ่ ายสนับสนุนและคัดค้านในประเด็นนี้.
33
สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล, “หลัง 14 ตุลา”, ฟ้ าเดียวกัน, 3(4) (ตุลาคม-ธันวาคม, 2548).
34
ธงชัย วินิจจะกูล, “ข้ามให้พน้ ประชาธิปไตยแบบหลัง 14 ตุลาฯ”, ฟ้ าเดียวกัน, 3(4) (ตุลาคม-ธันวาคม, 2548).
15
“ในการเมือง” พร้อมกันนี้ ก็มีสถาบันพระมหากษัตริ ยท์ ี่อยู่ “เหนือการเมือง” เหตุที่อยูเ่ หนื อการเมืองก็
เพราะคาว่า “การเมือง” มักถูกเข้าใจแต่เพียงในความหมายแคบๆ เพียงแค่การต่อสู ้เพื่อเข้าครอบครอง
เป็ นรัฐบาลและรัฐสภาเพื่อใช้อานาจรัฐในการบรรลุวตั ถุประสงค์หรื อนโยบายต่างๆ ดังนั้น การปฏิบตั ิ
พระราชกรณี ย กิ จ ของสถาบัน พระมหากษัต ริ ย ์ จึ ง เป็ นสิ่ ง ที่ ถู ก มองว่า อยู่เหนื อ การเมื อ ง-ไม่ เป็ น
การเมือง เพราะกิ จกรรมเหล่านี้ ถือว่าไม่เกี่ ยวข้องกับการเมืองในสายตาของสังคม35 และด้วยสถานะ
“เหนื อการเมือง” นี้ เองจึงทาให้สถาบันพระมหากษัตริ ยพ์ น้ ไปจากความเลวร้ายทางการเมืองต่างๆ ที่
เป็ นปฏิปักษ์ต่อพัฒนาการประชาธิ ปไตย ทั้งความเลวร้ายจากเผด็จการทหารในอดีต และความเลวร้าย
จากนักการเมืองที่ฉอ้ ฉล
งานเขียนของ ธงชัย วินิจจะกูล (2548) ดังกล่าว ถูกโต้แย้งโดย สมศักดิ์ เจียมธี รสกุล ซึ่ งมอง
ว่าคาอธิ บาย “ประชาธิ ปไตยแบบหลัง 14 ตุลาฯ” ของธงชัย ให้ภาพในเชิง “เหมารวม” มากจนเกินไป
เนื่ องจากบริ บททางการเมืองตั้งแต่ช่วงหลัง 14 ตุลาฯ 2516 ครอบคลุมระยะเวลานานพอสมควรที่จะ
ปรากฏลักษณะเฉพาะของแต่ละช่ วง สมศักดิ์ เสนอว่า การเมืองหลัง 14 ตุลาฯ 2516 สามารถแบ่งได้
ออกเป็ น 2 ช่วง ช่วงที่หนึ่งคือ หลังเหตุการณ์ 14 ตุลาฯ จนถึงการขึ้นมามีอานาจของรัฐบาล พล.อ. ชาติ
ชาย ชุ ณหะวัณ ซึ่ งมาจากการเลื อกตั้งใน พ.ศ. 2531 ช่ วงที่ สองอาจปั กหมุ ดหมายที่ พ.ศ. 2535 และ
ระยะเวลาต่อเนื่ องหลังจากนั้นเป็ นต้นมา ทั้งนี้ สมศักดิ์กล่าวว่าทั้งสองช่วงนั้นมีความแตกต่างกันอย่าง
มีนยั สาคัญ โดยช่วงแรกพบว่าอานาจรัฐยังไม่ได้รวมศูนย์อยูท่ ี่รัฐสภา หากแต่มีกลุ่มการเมืองต่างๆ ที่
ยังดิ้นรนต่อสู ้และประนีประนอมกันทั้งกลุ่มทหารซึ่ งก็แบ่งแยกเป็ นหลายขั้ว กลุ่มคนในระบบราชการ
นักการเมือง กลุ่มธุ รกิจ รวมทั้งราชสานัก
35
เรื่ องเดียวกัน, หน้า 151.
16
พระมหากษัตริ ย36์ โดยสรุ ปแล้ว สมศักดิ์ มีความเห็ นว่า พัฒนาการของสถาบันพระมหากษัตริ ยห์ รื อ
บทบาทขององค์พ ระมหากษัต ริ ย ์ใ นช่ ว งหลัง 14 ตุ ล าฯ 2516 แบ่ ง ออกเป็ นสองช่ วง ในช่ ว งแรก
พระองค์ทรงเป็ นประมุขของกลุ่มปกครอง ต่อมาพระองค์ทรงเป็ นประมุขของชนชั้นปกครอง (From
Head of a Ruling Clique to Head of Ruling Class)37
36
สมศักดิ์ เจี ยมธี รสกุล, “Mass Monarchy”, ใน ยา้ ยุค รุ กสมัย เฉลิมฉลอง 40 ปี 14 ตุลา บรรณาธิ การโดย ชัยธวัช
ตุลาธน (กรุ งเทพฯ: Fong Tong Enterprise, 2556), หน้า 114-115.
37
สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล, “หลัง 14 ตุลา”, ฟ้ าเดียวกัน, หน้า 170.
38
Duncan McCargo, Network Monarchy and Legitimacy Crisis in Thailand, pp. 499-519.
39
Ibid, p. 501.
17
เอี ย งมาในทางฝ่ ายสถาบัน พระมหากษัต ริ ย ์ อาทิ พล.อ. เปรม ติ ณ สู ล านนท์ รั ฐ บาลจากพรรค
ประชาธิ ปั ต ย์ ฯลฯ นอกจากนี้ บุ ค คลในสถาบัน พระมหากษัต ริ ย ์เชิ ง เครื อ ข่ า ยในความเห็ น ของ
McCargo ยัง หมายรวมถึ ง บุ ค คล เช่ น นายแพทย์ป ระเวศ วะสี อดี ตนัก เรี ย นทุ น อานัน ทมหิ ดลที่ มี
เครื อ ข่ า ยกว้า งขวางในหมู่ นัก พัฒ นาองค์ก รเอกชน (NGOs) นายอานัน ท์ ปั น ยารชุ น อดี ต นายกฯ
พระราชทานหลังเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ 2535 ซึ่ งจากการตั้งข้อสังเกตของ McCargo บุคคลเหล่านี้ มี
ส่ วนต่อกระบวนการชี้ นาและแทรกแซงการเมืองไทยให้เป็ นไปตามกระแสเรี ยกร้องของสังคมและ
เป็ นไปตามแนวโน้มทิศทางของสถาบันพระมหากษัตริ ย ์40 เช่ น กรณี พล.อ. เปรม ติณสู ลานนท์ กับ
การสร้างความกดดันเพื่อเปลี่ยนรัฐบาล พล.อ. ชวลิต ยงใจยุทธ ที่ลม้ เหลวในการแก้ไขปั ญหาวิกฤติ
เศรษฐกิจ พ.ศ. 254041 หรื อ กรณี นายอานันท์ ปั นยารชุ น ในฐานะภาพตัวแทนของฝ่ ายที่ยืนอยูค่ นละ
ฝั่งกับรัฐบาล พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร ต่อประเด็นเรื่ องการแก้ไขปั ญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้42
40
แนวการวิ เคราะห์ ข อง McCargo นั บ ว่าสอดคล้อ งกับ สถานการณ์ ก ารเมื อ งไทยในเวลาต่ อ มาคื อ ช่ ว งก่ อ น
รัฐประหาร 19 กันยายน พ.ศ. 2549 อยู่มาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บทบาทของ พล.อ. เปรม ติ ณสู ลานนท์ ประธาน
องคมนตรี ในการเดินสายบรรยายปลุกจิตสานึ กความเป็ นทหารในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั ให้แก่โรงเรี ยนนาย
ร้อยเหล่าต่างๆ ทั้งนี้ วาทะประวัติศาสตร์ที่สาคัญของ พล.อ.เปรม คือครั้งการบรรยายให้แก่นกั เรี ยนนายร้อยโรงเรี ยน
นายร้อยพระจุลจอมเกล้า (วันที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2549) ที่ ปรากฏคาเปรี ยบเปรยว่า “ม้า” คือ “ทหาร” และรัฐบาล
เป็ นเพียง jockey คือ คนดูแลม้า ไม่ใช่เจ้าของม้า ดังใจความที่ วา่ “...รั ฐบาลก็เหมือนกับ jockey คื อเข้ ามาดูแลทหาร
ไม่ ใช่ เจ้ าของทหาร เจ้ าของทหารคื อ ชาติ แ ละพระบาทสมเด็จพระเจ้ าอยู่หั ว...” จาก ASTV ผูจ้ ัด การออนไลน์
http://www.manager.co.th/Politics (เผยแพร่ เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2549]
41
Dancan McCargo, Network Monarchy and Legitimacy Crisis in Thailand, p. 510.
42
โ ป ร ด ดู Duncan McCargo, “ Thaksin and the resurgence of violence in the Thai South: Network Monarchy
Strikes back?”, Critical Asian Studies, 38(1) (2006), pp. 39-71.
43
ดังตัวอย่างทัศนะของ ธเนศ อาภรณ์สุวรรณ ในงานเสวนา “6 ปี รัฐประหาร 19 กันยา 49 อดีต ปั จจุบนั และอนาคต
การเมื องไทย” วัน ที่ 17 กั น ยายน พ.ศ. 2555 ณ ห้ อ งประชุ ม คึ ก ฤท ธิ์ ปราโมช สถาบั น ไทยคดี ศึ กษ า
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่ าพระจันทร์ และทัศนะของ สมศักดิ์ เจี ยมธี รสกุล ในงานเสวนา “กษัตริ ยศ์ ึกษาในรัฐ
ไทย-รั ฐ ไทยกับ การศึ ก ษาสถาบัน กษัต ริ ย ์” วัน ที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 ณ ห้ อ งประชุ ม ประกอบ หุ ต ะสิ ง ห์
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์.
18
แสดงตัวใดตัวหนึ่ งในฐานะ “ผูก้ ระทา” มากจนเกิ นไป เช่ น บทบาทของ พล.อ. เปรม ติณสู ลานนท์
อี ก ทั้ง เนื่ อ งจากงานเขี ย นนี้ เป็ นลัก ษณะของการวิเคราะห์ เชิ ง น าเสนอประเด็ น ที่ ค รอบคลุ ม ช่ ว ง
ระยะเวลาและการอธิ บายเหตุการณ์ในช่วงทศวรรษ 2540 เป็ นสาคัญ งานศึกษาของ McCargo จึงไม่มี
ภาพกระบวนการก่ อ รู ป ของสถาบัน พระมหากษัต ริ ย ์เชิ ง เครื อข่ า ยในเชิ ง พัฒ นาการที่ ค รอบคลุ ม
ระยะเวลาสื บย้อนไปไกลเท่าใดนัก ซึ่ งหมายถึงการไม่ปรากฏกลุ่มก้อนตัวแสดงสาคัญๆ ที่มีบทบาท
อย่างซับซ้อนอย่างที่ควรจะเป็ น
44
ชนิ ดา ชิตบัณฑิตย์, โครงการอันเนื่ องมาจากพระราชดาริ : การสถาปนาพระราชอานาจนาในพระบาทสมเด็จพระ
เจ้ าอยู่หัว (กรุ งเทพฯ: มูลนิธิโครงการตาราสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์, 2550), หน้า 4.
19
จากการเกิ ดขึ้นขององค์กรประสานงานในชื่ อ “สานักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อการประสานงาน
โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดาริ ” (กปร.) ซึ่ งสะท้อนการเติบโตของกิจกรรมด้านการพัฒนาของ
พระมหากษัตริ ย ์ และท้ายสุ ดคือ ยุคกาเนิดองค์ กรเอกชนสนับสนุนด้ านงบประมาณ (พ.ศ. 2531-2546)
ภายใต้การดาเนินงานของ “มูลนิธิชยั พัฒนา” ซึ่ งนับเป็ นองค์กรพัฒนาภาคเอกชนของพระมหากษัตริ ย ์
(เอ็นจีโอเจ้า) ที่ทาหน้าที่สนองงานโครงการอันเนื่ องมาจากพระราชดาริ ได้อย่างมีประสิ ทธิ ภาพ ด้วย
ข้อได้เปรี ยบด้านการระดมทรัพยากร ทุนเอกชน และงบประมาณรัฐ มาสนองโครงการและแนวทาง
การพัฒนาได้อย่างกว้างขวาง ผ่านการถวายเงินและทรัพย์สิ นโดยเสด็จพระราชกุศล ขณะเดี ยวกันก็
ปราศจากระเบียบข้อกาหนดของหน่วยงานราชการในด้านความล่าช้าในการอนุ มตั ิโครงการมูลนิธิชยั
พัฒนาจึงเป็ นองค์กรสาคัญที่ ทาให้มิติการพัฒนาจากแนวทางพระราชดาริ เกิ ดขึ้ นอย่างเป็ นรู ปธรรม
ผ่านโครงการอันเนื่ องมาจากพระราชดาริ พร้อมๆ กับการเผยแพร่ อุดมการณ์โครงการพระราชดาริ ที่มี
มิ ติข องอุ ดมการณ์ ก ารพัฒ นาควบคู่ ก ับ อุ ดมการณ์ ก ษัตริ ย ์นิ ยมที่ เน้น บทบาทกษัตริ ยน์ ัก พัฒ นาแก่
สังคมไทย
20
พัฒนาที่มีลกั ษณะประสานการดาเนินการของหน่วยงานราชการอย่างเป็ นองค์รวม ซึ่ งมีบทบาทในการ
หนุนเสริ มและเติมเต็มช่องว่างให้กบั การพัฒนาของรัฐ45
นอกจากนี้ เนื่ อ งจากการศึ ก ษานี้ อ้า งอิ ง แนวคิ ด “อ านาจน า” (Hegemony) ชนิ ด าจึ ง ให้
ความสาคัญกับการสร้างกลุ่มทางประวัติศาสตร์ (Historical Bloc) และบทบาทของปั ญญาชน ซึ่ งเป็ น
ปั จจัยสาคัญของสงครามช่ วงชิ งพื้นที่ (War of Position) ทางอุดมการณ์ เพื่อสถาปนาอานาจนา ดังจะ
พบการให้ความสาคัญกับกลุ่ มคนที่ เรี ยกว่า “เครื อข่ายในหลวง”46 ซึ่ งบุ คคลในเครื อข่ายนี้ ล้วนเป็ น
“ปั ญ ญาชนของโครงการพระราชด าริ ” ผูม้ ี บ ทบาทขับ เคลื่ อ นด าเนิ น กิ จ กรรมและแพร่ ก ระจาย
อุดมการณ์โครงการพระราชดาริ สู่สังคม ทั้งนี้ น่าสนใจว่า “เครื อข่ายในหลวง” ในงานศึกษาของชนิดา
แท้จริ งแล้วล้วนเป็ นบุคคลกลุ่มเดียวกันที่ถูกคัดเลื อกคัดสรรและสังกัดใน “สถาบันพระมหากษัตริ ย ์
เชิงเครื อข่าย” หากแต่เป็ นกลุ่มที่เน้นเฉพาะความเกี่ยวข้องกับโครงการพระราชดาริ เป็ นแกนกลาง47 ดัง
ตัวอย่างปั ญญาชนของโครงการพระราชดาริ ในยุคก่อกาเนิด (พ.ศ. 2494-2500) ที่ชนิดาหยิบยกมา เช่น
ขวัญแก้ว วัชโรทัย ผูม้ ี บทบาทในแง่สื่อมวลชนส่ วนพระองค์ (นายสถานี วิทยุ อ.ส.พระราชวังดุ สิ ต
ส่ วนพระองค์) ตลอดจนปั ญญาชนในหน่วยงานกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เช่น ม.ร.ว. เทพฤทธิ์ เท
วกุล วิศวกรของโครงการพระราชดาริ ขณะที่ปัญญาชนของโครงการพระราชดาริ ในยุคการพัฒนาเพื่อ
ความมัน่ คง (พ.ศ. 2501-2523) ที่ ได้รับการยกตัวอย่าง คื อ ม.จ. วิภาวดี รังสิ ต ผูแ้ ทนพระองค์ในการ
เสด็ จพระราชด าเนิ น เยือนราษฎรภาคใต้ ม.จ. ภี ศ เดช รั ช นี ผูอ้ านวยการโครงการส่ ว นพระองค์
โครงการหลวง พล.ต.อ. วศิษฐ เดชกุญชร นายตารวจราชสานัก หรื อกรณี ปัญญาชนของโครงการ
พระราชดาริ ในยุคกาเนิ ดองค์กรประสานงาน (พ.ศ. 2524-2530) ก็คือ สุ เมธ ตันติ เวชกุล เลขาธิ การ
มูลนิธิชยั พัฒนา เป็ นต้น48
45
เรื่ องเดียวกัน, หน้า 446.
46
คาแปลภาษาอังกฤษ คาว่า “Network Monarchy” ในสานวนของ ศาสตราจารย์ ดร. เกษียร เตชะพีระ ซึ่ งเป็ นหนึ่ ง
ในกรรมการสอบวิทยานิพนธ์ของ ชนิดา ชิตบัณฑิตย์.
47
ด้วยเหตุน้ ี “ปั ญญาชนของโครงการพระราชดาริ ” ในงานของชนิ ดา จึงครอบคลุมบางกลุ่มก้อนตัวแสดงในสถาบัน
พระมหากษัตริ ยเ์ ชิงเครื อข่ายในกลุ่มที่สัมพันธ์กบั งานพัฒนาชนบท ตลอดจนเทคโนแครต “สายวัง” เช่น สุ เมธ ตันติ
เวชกุล หากแต่อาจไม่เห็นภาพชัดเจนนัก กรณี กลุ่มก้อนตัวแสดงในสถาบันพระมหากษัตริ ยเ์ ชิงเครื อข่ายอื่นๆ อาทิ
กลุ่ม ปั ญญาชนอนุ รักษ์นิยมที่ เป็ น “นักการเมืองวัฒนธรรม” (Cultural Politicians) เครื อข่ายในสายข้าราชการอื่นๆ
อีกเป็ นจานวนมาก อาทิ ตุลาการ ข้าราชการมหาดไทย ตารวจ ตชด. ที่มีเงื่อนไขและบริ บททางประวัติในการเข้ามา
เกี่ยวข้องยึดโยงใน “เครื อข่ายในหลวง” หรื อ “สถาบันพระมหากษัตริ ยเ์ ชิงเครื อข่าย” ค่อนข้างมาก.
48
ชนิ ดา ชิตบัณฑิตย์, โครงการอันเนื่ องมาจากพระราชดาริ : การสถาปนาพระราชอานาจนาในพระบาทสมเด็จพระ
เจ้ าอยู่หัว, หน้า 371-453.
21
ดัง ที่ ก ล่ า วมา งานศึ ก ษาของชนิ ด าจึ ง นั บ ว่ า มี ป ระโยชน์ ต่ อ การศึ ก ษาประเด็ น สถาบัน
พระมหากษัตริ ยเ์ ชิงเครื อข่ายอยูไ่ ม่นอ้ ย เนื่องจากสามารถใช้ขอ้ มูลตัวแสดงชุดเดียวกันในการวิเคราะห์
ตลอดจนอาจใช้เป็ นแนวทางในการพิจารณากลุ่มก้อนตัวแสดงในสถาบันพระมหากษัตริ ยเ์ ครื อข่าย
อื่ น ๆ ที่ อ ยู่ใ นเงื่ อ นไขบริ บ ทใกล้เคี ย งกัน อัน ได้แ ก่ ก ลุ่ ม ข้าราชการมหาดไทย ตชด. ทหาร และ
ข้าราชการ “สายวัง” ที่ เกี่ ยวข้องกับมิติการพัฒนาชนบทอีกจานวนหนึ่ งที่ชนิ ดายังไม่ได้หยิบยกเป็ น
ตัวอย่างศึ กษา นอกจากนี้ ข้อแตกต่ างที่ ดุษ ฎี นิพ นธ์ น้ ี อาจมองต่างจากงานศึ กษาของชนิ ดา คื อ การ
ไม่ ไ ด้ม องบุ ค คลในสถาบัน พระมหากษัต ริ ย ์เชิ ง เครื อ ข่ า ยเฉพาะในแง่ ที่ เป็ นเครื่ อ งมื อ ขององค์
พระมหากษัต ริ ย ์ โดยมิ ไ ด้พิ จ ารณาเครื อ ข่ า ยในมิ ติ ที่ แ ต่ ล ะคนหรื อ แต่ ล ะกลุ่ ม ต่ า งมี อ านาจและ
ผลประโยชน์และมีบทบาทในเชิง Active หรื อ มีอิสระเชิงสัมพัทธ์ (Relative Autonomy) ในตัวเอง ซึ่ ง
ทาให้เห็นภาพพลวัตภายในเครื อข่ายได้มากกว่า
ช่ วง พ.ศ. 2549 ปรากฏงานเขี ย นชี วประวัติข องพระบาทสมเด็ จพระเจ้าอยู่หัว ฯ ซึ่ งเป็ นที่
กล่าวถึงและก่อให้เกิดกระแสวิพากษ์วจิ ารณ์อย่างกว้างขวาง คือ The King Never Smiles: A Biography
(2006)49 โดย Paul Handley นั ก หนั ง สื อ พิ ม พ์ ช าวอเมริ ก ัน งาน
เขียนนี้ เป็ นการนาเสนอพระราชประวัติของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ ัวภูมิพลอดุ ลยเดช ควบคู่ไป
กับประวัติศาสตร์ การเมืองไทยนับตั้งแต่หลังเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475-ทศวรรษ 2540 ทั้งนี้
ข้อเสนอหลักของงานเขียนนับว่าท้าทายต่อกรอบการรับรู ้ เดิ มในประเด็นที่ว่า พระมหากษัตริ ยม์ ิได้
ทรงยุ่ ง เกี่ ย วกับ การเมื อ ง ด้ ว ยการวิ เคราะห์ ไ ปในอี ก ทิ ศ ทางหนึ่ งที่ ใ ห้ ภ าพพระมหากษัต ริ ย ์ คื อ
“ผูก้ ระทาการ” โดยตรง ตลอดจนการนาเสนอข้อมูลที่แสดงให้เห็นว่าในช่วงกว่า 6 ทศวรรษที่ผา่ นมา
นับตั้งแต่ทรงครองราชสมบัติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงใช้กุศโลบายทางวัฒนธรรมและ
ประเพณี ไทยในการสร้ างพระราชอานาจเพื่ อกอบกู้อานาจของสถาบัน กษัตริ ย ์ก ลับ คื น มาได้เป็ น
ผลสาเร็ จ อาจด้วยเพราะทัศนะในงานเขียนที่เป็ นการวิพากษ์วจิ ารณ์สถาบันพระมหากษัตริ ยอ์ ย่างมาก
เช่น การวิเคราะห์ที่ให้ภาพจุดยืนและทัศนะทางการเมืองของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั ฯ ที่ยืนตรง
ข้ามกับอุดมการณ์ ประชาธิ ปไตย การปฏิ บตั ิพระราชกรณี ยกิ จที่ เป็ นไปอย่างหวังผลในทางการเมื อง
ตลอดจนเรื่ องราวภายในของสมาชิ กราชวงศ์ในลักษณะข้อมูล “ซุ บซิ บนิ นทา” งานเขียนนี้ ถูกจัดให้
เป็ น "หนังสื อต้องห้าม" ในประเทศไทยอย่างไม่เป็ นทางการตั้งแต่ก่อนตีพิมพ์
49
Paul M. Handley, (Yale University
Press: New Haven and London, 2006).
22
รอบพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ ัวฯ ตลอดช่วงระยะเวลาหลายทศวรรษ จนสามารถจินตนาการได้ถึง
การสร้ างความสัมพันธ์เชิ งเครื อข่ายที่ มีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เป็ นแกนกลางของเรื่ อง ทว่า
งานของ Handley กลับไม่ปรากฏเห็ นบทบาทการกระทาของกลุ่มคนต่างๆ เหล่านี้ อย่างที่ควรจะเป็ น
มากไปกว่าบทบาทการตัดสิ นใจกระทาการหรื อไม่กระทาการของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั ฯ เป็ น
หลัก50 ด้านหนึ่ง The King Never Smiles จึงเสมือนการให้ภาพที่ผลิตซ้ า “ทฤษฎีมหาบุรุษ” (Great Man
Theory) หากแต่เป็ นการนาเสนอในมุมมองที่เป็ นปฏิภาคกลับด้าน ที่แตกต่างไปจากงานเขียนพระราช
ประวัติแนวเฉลิ มพระเกี ยรติ ซึ่ งการอธิ บายเช่นนี้ มกั ลดทอดความซับซ้อนของบริ บท ตลอดจนความ
ซับซ้อนของกลุ่มก้อนตัวแสดงต่างๆ ที่อยูร่ ายรอบ “มหาบุรุษ” ลงไปอย่างมาก
ปลายปี พ.ศ. 2549 งานวิช าการเฉลิ มพระเกี ยรติ ในชื่ อ พระผู้ทรงปกเกล้ าฯ ประชาธิ ปไตย
ไทย: 60 ปี สิ ริราชสมบัติกับการเมืองการปกครองไทย (2549)51 เรี ยบเรี ยงโดย นคริ นทร์ เมฆไตรรัตน์
ปรากฏขึ้นมาในห้วงวาระแห่ งการเฉลิมฉลอง 60 ปี แห่ งการครองราชย์ ด้านหนึ่งงานชิ้นนี้ อาจถูกผลิต
ขึ้นเพื่อโต้ตอบทัศนะใน The King Never Smiles (2006) ที่ให้ภาพพระมหากษัตริ ย ์ ในฐานะ “ผูก้ ระทา
การ” ทางการเมืองโดยตรง52 ดังข้อความที่ปรากฏในบทนาของหนังสื อตอนหนึ่งว่า
50
ตัวอย่างบทวิจารณ์ที่น่าสนใจ โปรดดู Nidhi Eoseewong,
Smiles,” (Panel Discussion) เอกสารแจกสื่ อมวลชน งานประชุมทางวิชาการนานาชาติไทยศึกษา ครั้งที่ 10 จัดโดย
สถาบันไทยคดีศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ วันที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2551.
51
นคริ นทร์ เมฆไตรรัตน์ , พระผู้ทรงปกเกล้ าประชาธิ ปไตยไทย 60 ปี สิ ริราชสมบัติกับการเมืองการปกครองไทย
(กรุ งเทพฯ: มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, 2549).
52
อนึ่ ง ตัวอย่างงานศึกษาที่ อาจกล่าวได้ว่าเป็ นกระแสโต้ทศั นะใน The King Never Smiles (2006) อย่างชัดเจน คือ
งานเขียนของ วิมลพรรณ ปี ตธวัชชัย เรื่ อง เอกกษัตริ ย์ใต้ รัฐธรรมนูญ (2553) ที่ให้ภาพชีวประวัติพระบาทสมเด็จพระ
เจ้าอยูห่ ัวภูมิพลอดุลยเดชในบริ บทของการเมืองไทยนับตั้งแต่หลัง พ.ศ. 2475-ทศวรรษ 2540 (เช่นเดียวกับงานของ
Handley) นับเป็ นหนังสื อเฉลิมพระเกี ยรติ “กึ่ งวิชาการ” ที่ มีการค้นคว้าข้อมูลและใช้ขอ้ มูลอย่างหลากหลายทั้งใน
และนอกประเทศ กระนั้น งานเขี ยนนี้ ยงั คงปรากฏโครงเรื่ องแบบ “มหาบุ รุษ ” ท่ ามกลาง “หมู่มาร” ที่ ได้รับการ
วิจารณ์วา่ ผูแ้ ต่งได้นากลวิธีการประพันธ์ที่จาลองมาจากชาดกมาใช้ในการแต่งประวัติศาสตร์แบบรอยัลลิสต์ (ดู ณัฐ
พล ใจจริ ง, “ชาดกในประวัติศาสตร์ นิพนธ์ไทย บทวิจารณ์หนังสื อ เอกกษัตริ ย ์ใต้รัฐธรรมนู ญ ของวิมลพรรณ ปี ต
ธวัชชัย”, ฟ้ าเดียวกัน, 8(2) (ตุลาคม-ธันวาคม, 2553)) หลังจากนั้นไม่นาน
Thailand's Monarchy in Perspective (2012) หรื อ ในชื่ อฉบับแปลภาษาไทย คือ กลางใจราษฎร์ : หกทศวรรษแห่ ง
การทรงงาน (2556) ซึ่งเขียนโดยนักวิชาการทั้งไทย-เทศ อาทิ พอพันธุ์ อุยยานนท์ คริ ส เบเคอร์ เดวิด สตรี คฟัส ฯลฯ
ก็ถูกผลิตออกมา ทั้งนี้ หากพิจารณารายชื่อคณะผูเ้ ขียน หลายคนเป็ นนักวิชาการที่ผลิตงานเชิงวิพากษ์ ตลอดจนคณะ
ที่ปรึ กษาก็ลว้ นเป็ นบุคคลที่ใกล้ชิดสถาบันพระมหากษัตริ ย ์ อาทิ นายอานันท์ ปั นยารชุน ดร.สุ เมธ ตันติเวชกุล ท่าน
ผูห้ ญิ งบุ ต รี วีร ะไวทยะ ดร.ประพจน์ อัศ ววิรุ ฬ หการ ฯลฯ ดู เหมื อ นว่า
(2012) ต้องการจะสื่ อให้สังคมเห็ นด้วยว่า งานเขียนนี้ ถูกเขียนขึ้นอย่างไม่มีอคติ ใช้มุมมองหลายด้าน อีกทั้งคงไม่
23
... เรามีพระบาทสมเด็จพระเจ้ าอยู่หัว ทรงเป็ นผู้ปกเกล้ าฯ พวกเราเหล่ า
พสกนิ กร และพระองค์ ไม่ ได้ ทรงมีความสามารถและไม่ ได้ ทรงอยู่ใน
ฐานะที่ ทาให้ ประชาธิ ปไตยของไทยมีความรุ่ งเรื องและยิ่งใหญ่ ไปได้
โดยตลอด หรื อในทางกลับกั น พระองค์ ก็ไม่ ทรงสามารถที่ จะทาให้
ระบอบประชาธิ ไตยตกตา่ ถึ งขี ดสุ ดด้ วยพระองค์ เองตามลาพัง ซึ่ งการ
พิจารณาอย่ างสุ ดโต่ งในด้ านหนึ่ งด้ านใด ล้ วนไม่ มีความสอดคล้ องกับ
การศึ ก ษาระบอบประชาธิ ป ไตยทั้ งที่ ไ ด้ มี วิวัฒ นาการอยู่ในประเทศ
ต่ างๆ และวิวฒั นาการในประเทศไทยด้ วยในตลอดระยะเวลาภายหลังปี
พ.ศ. 2475 เป็ นต้ นมา ...53
สาหรับ หนังสื อ พระผู้ทรงปกเกล้ าฯ (2549) นคริ นทร์ วิเคราะห์ ภายใต้กรอบความคิ ดที่ ว่า
พัฒ นาการการเมื องการปกครองในระบอบประชาธิ ป ไตยไทย คื อ กระบวนการปรั บ สภาพของ
แนวความคิดประชาธิ ปไตยให้ผสมผสานกลมกลืนกับโครงสร้างอานาจ วิถีชีวติ สถาบันการเมืองและ
การปฏิบตั ิการทางการเมืองที่เป็ นจริ งของประชาชนชาวไทย ทั้งนี้ นับตั้งแต่ พ.ศ. 2475 กระบวนการ
ดังกล่าวมีการเปลี่ยนแปลงมาเป็ นลาดับใน 4 ช่วงเวลาด้วยกัน ได้แก่ 1) สมัยระบอบกึ่งประชาธิ ปไตย
(พ.ศ. 2475-2500) 2) สมัย ระบอบประชาธิ ป ไตยแบบไทย (พ.ศ. 2501-2516) 3) สมัย ระบอบ
ประชาธิ ปไตยแบบแบ่งปั นอานาจ (พ.ศ. 2516-2544) และ 4) สมัยระบอบประชาธิ ปไตยของรัฐบาล
พรรคเดียว (พ.ศ. 2544-2549) ทั้งนี้ ความเปลี่ ยนแปลงใน 4 ช่ วงเวลาดังกล่าว สะท้อนความผันผวน
และความไม่แน่ นอนของระบอบประชาธิ ปไตยของไทย ซึ่ งในทางหนึ่ งพิจารณาได้วา่ เป็ นการแสดง
ระบบความสัมพันธ์ทางอานาจระหว่างกลุ่มคนและระหว่างสถาบันทางสังคมการเมืองต่างๆ ซึ่ งมีการ
ปรับดุลยภาพทางอานาจเป็ นระยะๆ อย่างไรก็ตาม นคริ นทร์ ตั้งข้อสังเกตว่าภายใต้พลวัตและความผัน
ผวนทางการเมื องดังกล่ าว สถาบันพระมหากษัตริ ยน์ ้ ี เองที่ กลับ ดารงอยู่ในฐานะศูนย์รวมจิตใจของ
ประชาชนในชาติมาอย่างต่อเนื่ องยาวนาน เสมือนว่าประเทศไทยและประชาชนชาวไทยได้ตดั สิ นใจ
ต้องการให้มีภาพ “อนุ รักษ์นิยม” มากจนเกิ นไป (หากเที ยบกับ เอกกษัตริ ย์ใต้ รัฐธรรมนูญ ของ วิมลพรรณ) ดังจะ
พบว่า แม้ประเด็นที่อยูใ่ นกระแสวิพากษ์วจิ ารณ์ก็มีปรากฏอยูด่ ว้ ย เช่น ทรัพย์สินส่ วนพระมหากษัตริ ย ์ กฎหมายหมิ่น
พระบรมเดชานุ ภาพ บทบาทของคณะองคมนตรี ฯลฯ สิ่ งนี้ อาจสะท้อนนัยความพยายามปรั บตัวเพื่อให้เข้ากับ
สถานการณ์ปัจจุบนั อย่างไรก็ตาม อาจกล่าวได้วา่ ภาพรวมของงานศึกษาทั้งสองเล่ม คือ ตัวอย่างของพระราชประวัติ
ที่เป็ นแบบฉบับทางการที่ได้รับการพิจารณาแล้วว่าควรเป็ น “ภาพจา” ทางประวัติศาสตร์ ของยุคสมัยรัชกาลที่ 9 ใน
อนาคตต่อไป.
53
นคริ นทร์ เมฆไตรรัตน์, พระผู้ทรงปกเกล้ าประชาธิ ปไตยไทย 60 ปี สิ ริราชสมบัติกับการเมืองการปกครองไทย,
หน้ า 7.
24
แล้วที่จะปกครองประเทศในระบอบประชาธิ ปไตย ซึ่ งมีการปรับเปลี่ยนได้เป็ นระยะๆ โดยที่มีองค์
พระมหากษัตริ ยเ์ ป็ นองค์พระประมุข โดยถือเป็ นหลักการที่มีความเด็ดขาดและเป็ นนิจนิรันดร54
นิธิ เอียวศรี วงศ์ คือ ผูห้ นึ่ งที่วิพากษ์วิจารณ์งาน พระผู้ทรงปกเกล้ าฯ (2549) ของนคริ นทร์ ไว้
อย่างแหลมคม ด้วยข้อสังเกตที่ว่า เนื้ อหาทั้งหมดของงานล้วนคือบทบาททางการเมืองของกลุ่มพลัง
ต่างๆ อาทิ ทหาร นัก การเมื อง ขบวนการนิ สิ ตนัก ศึ ก ษา ภาคธุ รกิ จ ฯลฯ ซึ่ งอาจมี ค วามสั ม พัน ธ์ ที่
ราบรื่ นบ้างไม่ราบรื่ นบ้างกับสถาบันพระมหากษัตริ ย ์ กลุ่มพลังเหล่านี้มีปฏิสัมพันธ์กนั ในทางการเมือง
อย่างเข้มข้น โดยมีสถาบันพระมหากษัตริ ยต์ ้ งั อยู่แต่เพียงห่ างๆ ยกเว้นแต่เมื่อเกิ ดวิกฤติทางการเมื อง
ครั้ งใด พระมหากษัตริ ยก์ ็ จะทรงเข้ามาแก้ไขเพื่ อให้อย่างน้อยรู ป แบบของประชาธิ ป ไตยสามารถ
ดาเนิ นต่อไปได้55 แต่ภายใต้กรอบแนวคิดของ นคริ นทร์ ที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ ัว “ทรงเป็ นผู้
ปกเกล้าฯ มิได้ทรงปกครอง” ด้านหนึ่ งกลับผลิ ตซ้ าภาพความเป็ นสถาบันที่ “ไม่เป็ นการเมื อง” ซึ่ ง
ความคิดเช่นนี้ทาให้พระราชกรณี ยกิจทั้งหมดจึงไม่เคยถูกพิจารณาในฐานะ “การกระทาทางการเมือง”
ไม่ ว่าการเสด็ จเยี่ยมเยือนประชาชน โครงการพระราชดาริ หรื อ การมี พ ระราชดารั สและพระบรม
54
เรื่ องเดียวกัน, หน้า 4-5.
55
โป รดดู ร ายละเอี ย ดใน Nidhi Eoseewong “Critical Comments on Paul Handley’s The King Never Smiles”
(Panel Discussion).
25
ราโชวาทต่างๆ ฯลฯ56 และด้วยความ “ไม่เป็ นการเมือง” นี้ เอง วิกฤตการณ์ ทางการเมืองต่างๆ จึงเป็ น
วิกฤติที่เกิดขึ้นจากพลังกลุ่มต่างๆ ที่ไม่อาจจัดความสัมพันธ์ให้ลงตัวได้เอง สถาบันพระมหากษัตริ ยไ์ ม่
มีส่วนในพัฒนาการของวิกฤติน้ นั ๆ ยกเว้นแต่การระงับความขัดแย้งที่รุนแรงเกินไป
... ความขัดแย้ งที่ เกิ ดขึ น้ จากกลุ่มการเมืองต่ างๆ อาทิ กลุ่มทหาร กลุ่ม
ธุรกิจ กลุ่มกรรมกร และกลุ่มนักศึกษา เริ่ มกดดันรั ฐบาลจอมพลถนอม
มากขึน้ เรื่ อยๆ การประนี ประนอมที่ ไม่ เคยปรากฏมาก่ อนในสมัยของ
จอมพลสฤษดิ์ จึงมาปรากฏขึ น้ ในสมัยจอมพลถนอม ไม่ ว่าจะเป็ นการ
ริ เริ่ มนโยบายเกี่ยวกับสมาคมธุรกิจเป็ นครั้ งแรกเพื่อเอาใจกลุ่มนักธุรกิ จ
หรื อ เอาใจกลุ่ม กรรมกรด้ วยการออกพระราชบัญ ญัติจัดหางานและ
คุ้มครองแรงงาน ที่ สาคัญจอมพลถนอมยังต้ องประนีประนอมกับกลุ่ม
ทางการเมืองอื่นๆ ในสั งคมอีก โดยเฉพาะกลุ่มนักศึกษา จนต้ องจัดให้ มี
รั ฐ ธรรมนู ญ ขึ ้น ในปี พ.ศ. 2511 และจั ด ให้ มี ก ารเลื อ กตั้ งในปี พ.ศ.
2512 ...57
ดั ง เนื้ อความที่ ย กมา จะเห็ น ได้ ว่ า ความพยายามจั ด วางต าแหน่ ง แห่ งที่ ข องสถาบั น
พระมหากษัตริ ย ์ที่ ต้ งั ไว้ห่ างๆ จาก “การเมื อง” ดังกล่ าว จึ งท าให้ แทบไม่ป รากฏภาพการมี อยู่ข อง
สถาบันพระมหากษัตริ ยเ์ ชิ งเครื อข่าย ณ ขณะนั้นแต่อย่างใดเลย หรื อถ้ามีก็อาจเห็นได้แต่เพียงรางๆ ไม่
เป็ นรู ปธรรม (ด้วยการใช้คาว่า “กลุ่มทางการเมืองอื่นๆ ในสังคม”) อย่างไรก็ตาม แม้วา่ สิ่ งนี้ อาจเป็ น
ข้อด้อยของงานศึกษา ด้วยเงื่อนไขของงานเขียนที่ถูกผลิตขึ้นมาอย่างมีวาระและวัตถุประสงค์เพื่อการ
เฉลิ มพระเกียรติ หากแต่ขอ้ เสนอหลักบางประการของนคริ นทร์ คือบทบาทของพระบาทสมเด็จพระ
เจ้าอยูห่ ัวฯ ในฐานะผูร้ ักษาและสร้างเสริ มให้เกิดดุ ลยภาพทางการเมืองไทยกลับเป็ นคาอธิ บายที่สอด
56
ควรกล่าวด้วยว่า คาวิจารณ์ ของนิ ธิ ต่องาน พระผู้ทรงปกเกล้ าฯ (2549) ของนคริ นทร์ ยังสอดคล้องกับใจความ
สาคัญในงานศึกษาของ ธงชัย วินิจจะกูล เรื่ อง ข้ ามให้ พ้นประชาธิ ปไตยแบบหลัง 14 ตุลาฯ (2548) ในประเด็นเรื่ อง
มโนทัศน์การอยู่ “เหนือการเมือง” ของสถาบันพระมหากษัตริ ย ์ อีกด้วย.
57
นคริ นทร์ เมฆไตรรัตน์, พระผู้ทรงปกเกล้ าประชาธิ ปไตยไทย 60 ปี สิ ริราชสมบัติกับการเมืองการปกครองไทย,
หน้า 135-136.
26
รับกับบริ บทบางช่ วงสมัยได้เป็ นอย่างดี เช่ น สถานการณ์ ทางการเมืองในช่ วงทศวรรษ 252058 ทั้งยัง
สอดรั บ กับ ค าอธิ บ ายที่ ว่าสิ่ งนี้ ย งั เป็ น “ฉัน ทามติ ร่วม” (Consensus) ของชนชั้นนาไทยในช่ วงเวลา
ดังกล่าวอีกด้วย
58
โปรดดู อรรถจักร์ สัตยานุรักษ์, ประชาธิ ปไตยคนไทยไม่ เท่ ากัน (กรุ งเทพฯ: มติชน, 2557).
59
Kobkua Suwannathat-Pian, , 1932-1957 (New
York: Oxford University Press, 1995).
60
Ibid, p. 95.
27
พ.ศ. 2497 ซึ่ งราชสานักไม่อาจยับยั้งทัดทานมติของสภาได้61 ดังที่กล่าวมา งานศึกษาของกอบเกื้ อ จึง
นับเป็ นข้อมูลชุ ดสาคัญที่ทาให้เห็นสภาวการณ์ ของสถาบันพระมหากษัตริ ยใ์ นช่วงต้นรัชกาล ที่ยงั อยู่
ในสถานะ “คู่ข ดั แย้ง” และมีค วามเป็ นการเมื องสู งชัดเจนมากยุคหนึ่ ง ขณะเดี ยวกันก็สะท้อนภาพ
สถาบันพระมหากษัตริ ยเ์ ชิงเครื อข่ายที่ยงั จากัดกลุ่มอยูใ่ นวงแคบและกระทาการได้อย่างจากัด
28
ประชาธิ ปัตย์ บุ คคลเหล่านี้ ล้วนมี ส่วนในฐานะผูเ้ ชื่ อมต่อและพยายามสร้ างความสนิ ทสนมใกล้ชิด
ระหว่างสถาบันพระมหากษัตริ ยก์ บั สหรัฐอเมริ กา64 และทาให้สหรั ฐฯ เริ่ มเล็งเห็ นถึ งศักยภาพของ
สถาบันพระมหากษัตริ ย ์ ซึ่ งมีอิทธิ พลสู งต่อความคิดจิตใจของประชาชนว่าน่ าจะเป็ นเครื่ องมือที่ดีใน
การทาสงครามจิ ตวิทยาต่อต้านคอมมิวนิ สต์ได้ ทั้งนี้ เมื่ อสหรัฐฯ มี นโยบายต่อต้านคอมมิวนิ สต์ใน
ไทยที่ชดั เจนขึ้น ด้วยการสร้างสถาบันพระมหากษัตริ ยใ์ ห้เป็ น “สัญลักษณ์ ” แห่ งชาติ และตอกย้ าว่านี่
คือสิ่ งที่จะถูกคุ กคามจากคอมมิวนิ สต์ เงื่อนไขนี้ มีส่วนทาให้แผนการเสด็จฯ เยี่ยมเยือนประชาชนใน
ชนบทซึ่ งเป็ นความปราถนาของราชสานักสามารถเกิดขึ้นได้จริ ง65 โดยที่รัฐบาลจอมพล ป. จาต้องยอม
โอนอ่อนผ่อนตาม
เมื่ อประกอบกับท่าที ของรั ฐบาลจอมพล ป. ในช่ วงปลายทศวรรษ 2490 ที่ เริ่ มถอยห่ างจาก
สหรัฐฯ ด้วยการเริ่ มนโยบายต่างประเทศที่เป็ นกลาง ตลอดจนการแอบติดต่อกับ “จีนแดง” เป็ นการ
ลับ ๆ โดยคณะทู ตใต้ดิน อี กทั้งรั ฐบาลจอมพล ป. เองก็ ไม่ก ระตือรื อร้ น ที่ จะสนองต่อนโยบายการ
ลงทุนภาคเอกชนที่ช้ ี นาโดยสหรัฐฯ เท่าที่ควร ด้วยเหตุน้ ี ท่ามกลางความขัดแย้งระหว่างรัฐบาลจอมพล
ป. กับ สถาบัน พระมหากษัต ริ ย ์และกลุ่ ม ทหารภายใต้ก ารน าของจอมพลสฤษดิ์ ส่ งผลให้ ส หรั ฐ ฯ
ตัดสิ นใจให้การสนับสนุ นกลุ่มการเมืองใหม่ คือ สถาบันพระมหากษัตริ ยแ์ ละกลุ่มทหารของจอมพล
สฤษดิ์ ให้ข้ ึ นมามี อานาจแทน เพื่ อให้การเมื องไทยมี เสถี ยรภาพและดาเนิ นนโยบายตามที่ ส หรัฐฯ
ต้องการต่อไป66 การสิ้ นสุ ดอานาจของจอมพล ป. นับเป็ นจุดเริ่ มต้นของโครงสร้างอานาจการเมืองที่
สาคัญระหว่าง สหรัฐอเมริ กา-สถาบันพระมหากษัตริ ย-์ กองทัพ หรื อ “อานาจไตรภาคี” ที่มีผลสาคัญ
ต่อการแปรเปลี่ ยนโฉมหน้าและบทบาทของสถาบันพระมหากษัตริ ยเ์ ชิ งเครื อข่ายซึ่ งจากนี้ ไปจะมี
พัฒนาการควบคู่ไปกับระบอบสฤษดิ์-ถนอม
วิท ยานิ พ นธ์ระดับ ปริ ญ ญาโทของ ปราการ กลิ่ น ฟุ้ ง เรื่ อง การเสด็จพระราชดาเนิ น ท้ องที่
ต่ างจังหวัดของพระบาทสมเด็จพระเจ้ าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช พ.ศ. 2493-2530 (2551)67 เป็ นอีกงาน
ศึกษาหนึ่ งที่มีความน่าสนใจและเกี่ ยวข้องกับประเด็นสถาบันพระมหากษัตริ ยเ์ ชิ งเครื อข่าย เนื่องจาก
การเสด็จพระราชดาเนิ นท้องที่ต่างจังหวัดเป็ นพระราชกรณี ยกิ จที่ตอ้ งเกี่ยวข้องกับบุคคลจานวนมาก
64
เรื่ องเดียวกัน, หน้า 320-321.
65
เรื่ องเดียวกัน, หน้า 331.
66
ณัฐพล ใจจริ ง, การเมืองไทยสมัยรั ฐบาลจอมพล ป. พิ บูลสงคราม ภายใต้ ระเบี ยบโลกของสหรั ฐอเมริ ก า (พ.ศ.
2491-2500).
67
ปราการ กลิ่นฟุ้ ง, การเสด็จพระราชดาเนิ นท้ องที่ ต่างจังหวัดของพระบาทสมเด็จพระเจ้ าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช
พ.ศ. 2493-2530, วิทยานิ พนธ์อกั ษรศาสตรมหาบัณฑิ ต สาขาวิชาประวัติศาสตร์ คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์
มหาวิทยาลัย, 2551.
29
ทั้งนี้ ปราการตั้งข้อสังเกตเบื้องต้นว่าการเสด็จฯ ท้องที่ต่างจังหวัดของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ ัวฯ
เป็ นพระราชกรณี ยกิจที่เกิดขึ้นเฉพาะในรัชกาลปั จจุบนั เท่านั้น เมื่อสังคมการเมืองไทยเปลี่ยนแปลงไป
ใน พ.ศ. 2475 ส่ งผลให้ความสัมพันธ์ระหว่างสถาบันพระมหากษัตริ ยแ์ ละสังคมไทยเปลี่ยนแปลงไป
เช่ นกัน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงเป็ นพระมหากษัตริ ยพ์ ระองค์แรกที่ทรงปฏิ บตั ิพระราช
กรณี ยกิ จการเสด็จฯ ท้องที่ ต่างจังหวัดภายใต้ระบบความสัม พันธ์ แบบใหม่น้ ี ประกอบกับ เงื่ อนไข
แวดล้อมอื่ นๆ ที่ เกิ ดขึ้ นเฉพาะยุคสมัยเช่ นกันที่ ท าให้การเสด็จฯ ท้องที่ ต่างจังหวัดเกิ ดขึ้ น เช่ น การ
คมนาคมสมัยใหม่ การคุ กคามของภัยคอมมิวนิ สต์ แนวคิดเรื่ องการพัฒนาในยุคสงครามเย็น เป็ นต้น
จะเห็ นว่าปั จจัยเหล่ านี้ ไม่ปรากฏในรัชสมัยของพระมหากษัตริ ยพ์ ระองค์ใดก่ อนหน้านี้ ดังนั้น การ
เสด็จฯ ท้องที่ต่างจังหวัดจึงเป็ นพระราชกรณี ยกิจที่มีลกั ษณะเฉพาะของรัชกาลปั จจุบนั โดยแท้จริ ง
68
เรื่ องเดียวกัน, หน้า 40-41.
30
สฤษดิ์ ธนะรัชต์ และ พล.ต.อ. เผ่า ศรี ยานนท์ มีส่วนที่ทาให้ จอมพล ป. ต้องหันมาสนับสนุ น เรื่ องการ
เสด็จฯ ท้องที่ต่างจังหวัดอย่างจริ งจังเพื่อหวังความช่วยเหลือจากราชสานัก69
69
เรื่ องเดียวกัน, หน้า 127.
70
เรื่ องเดียวกัน, หน้า 225.
31
งานศึ ก ษาประวัติ ศ าสตร์ ค วามคิ ด ปั ญ ญาชนกระแสหลัก นับ เป็ นงานอี ก ประเภทหนึ่ ง ที่
เกี่ยวข้อง เช่น งานของ สายชล สัตยานุรักษ์ เรื่ อง คึ กฤทธิ์ กับประดิ ษฐกรรม “ความเป็ นไทย” (2550)71
คือตัวอย่างของการศึกษาวิเคราะห์ปัญญาชนกระแสหลัก ผูม้ ีส่วนในการสร้างวาทกรรมความเป็ นไทย
ซึ่งกรณี ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช นับเป็ นบุคคลสาคัญคนหนึ่ งในสถาบันพระมหากษัตริ ยเ์ ชิ งเครื อข่าย
ทั้งนี้ ข้อสมุมติฐานที่น่าสนใจของสายชล คือ การนิยามความเป็ นไทยของ ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ดูจะสัมพันธ์
กับ ความปรารถนาในตาแหน่ งนายกรั ฐมนตรี ของ ม.ร.ว. คึ ก ฤทธิ์ เองวิธี การดังกล่ าวคื อการสร้ าง
“อานาจทางปัญญา” ที่จะหนุนส่ งให้ ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ กลายเป็ นปราชญ์ เป็ นผูน้ าทางปั ญญาแก่สังคมอัน
จะเป็ นผลดีต่อการเข้าสู่ อานาจทางการเมืองในภายภาคหน้า
71
สายชล สัตยานุรักษ์, คึ กฤทธิ์ กับประดิษฐกรรม “ความเป็ นไทย” (เล่ม 1 ยุคจอมพล ป.พิบูลสงคราม) และ (เล่ม 2
ยุคจอมพลสฤษดิ์ ถึงทศวรรษ 2530) (กรุ งเทพฯ: มติชน, 2550).
72
สายชล สัตยานุรักษ์, คึกฤทธิ์ กับประดิษฐกรรม “ความเป็ นไทย” (เล่ม 1), หน้า 186-188.
32
ช่วยเหลื อเกื้ อกูลกันระหว่างคนที่ มีสถานภาพต่างกัน73 ขณะเดี ยวกันสิ่ งที่ควบคู่ไปกับ “การปกครอง
แบบไทย” ก็คือ “ผูป้ กครองแบบไทย” ซึ่ งถู กนิ ยามว่าควรเป็ นผูท้ ี่ มีอานาจเด็ดขาด หากแต่เสี ยสละ
ตนเองเพื่อส่ วนรวม ไม่ถวิลหาในอานาจ และปฏิบตั ิหน้าที่เพื่อชาติและประชาชนอย่างแท้จริ ง นัยหนึ่ ง
การปกครองที่ มีผนู ้ าเช่นนี้ คือสิ่ งที่ถูกต้องดีงามและแน่นอนกว่าประชาธิ ปไตยระบอบรัฐสภาซึ่ งเป็ น
สิ่ งที่ตรงกันข้ามกับระบอบสฤษดิ์
73
สายชล สัตยานุรักษ์, คึกฤทธิ์ กับประดิษฐกรรม “ความเป็ นไทย” (เล่ม 2), หน้า 33.
74
เรื่ องเดียวกัน, หน้า 110-112.
75
เรื่ องเดียวกัน, หน้า 304-305.
76
เรื่ องเดียวกัน, หน้า 229-233.
33
เผด็จการทหาร ขณะเดี ยวกันก็เป็ นปั ญญาชนผูม้ ี ทกั ษะในการใช้การเมืองวัฒนธรรมเพื่อสนับสนุ น
สถาบัน พระมหากษัต ริ ย ์ มิ พ ัก ที่ ต้อ งกล่ า วถึ ง บทบาทของ ม.ร.ว. คึ ก ฤทธิ์ ในหลายสถานะ เช่ น
นักหนังสื อพิมพ์ นักการเมืองที่เคยเป็ นถึงนายกรัฐมนตรี นักการธนาคาร ฯลฯ ข้อเท็จจริ งนี้ แสดงให้
เห็นถึงแง่มุมส่ วนบุคคลที่มีลกั ษณะ “อิสระเชิงสัมพัทธ์” สู ง มีบทบาทหลายบทบาท ขณะเดียวกันก็มี
วัตถุ ป ระสงค์ในทางการเมื องของตนเองที่ ชัดเจน นับ เป็ นตัวอย่างที่ ดีใ นแง่ ก ารพิ จ ารณาบทบาท
เชิงซ้อนของตัวแสดงในสถาบันพระมหากษัตริ ยเ์ ชิงเครื อข่าย
นอกเหนื อ จากงานวิ ท ยานิ พ นธ์ งานวิ จ ัย ที่ เกี่ ย วข้ อ งเชื่ อ มโยงกั บ ประเด็ น “สถาบั น
พระมหากษัตริ ยเ์ ชิ งเครื อข่าย” ดังที่ กล่ าวมาแล้ว งานเขี ยนวิชาการที่ ได้รับการพิ มพ์เผยแพร่ ในช่ วง
ทศวรรษ 2550 หลายชิ้นก็นบั ว่ามีความโดดเด่น เช่น หนังสื อชุ ด กษัตริ ย์ศึกษา ที่เป็ นการรวมบทความ
ตีพิมพ์ของ ณัฐพล ใจจริ ง ในชื่อหนังสื อ ขอฝั นใฝ่ ในฝั นอันเหลือเชื่ อ ความเคลื่อนไหวของขบวนการ
ปฏิ ปักษ์ ปฏิ วัติสยาม พ.ศ. 2475-2500 (2556) ทั้งนี้ บทความในหนังสื อที่ควรกล่าวถึ ง คือ ควา่ ปฏิ วัติ
โค่ นคณะราษฎร การก่ อตัวของระบอบประชาธิ ปไตยอันมีพระมหากษัตริ ย์ทรงเป็ นประมุข (2556)77
ปรับปรุ งมาจาก เอกสารเรื่ อง The Monarchy and Royalist Movement in Modern Thai Politics, 1932-
1957. (2550)78 งานเขี ยนของณั ฐพลชิ้ นนี้ ให้ภาพประวัติศาสตร์ การเมื องไทยในช่ วงระหว่าง พ.ศ.
2475-2500 บนคาอธิ บายเรื่ องปั ญหาและอุปสรรคของกระบวนการสถาปนาระบอบประชาธิ ปไตย
ไทยที่มีความไม่มนั่ คงสู ง สื บเนื่ องจากต้องเผชิ ญกับการต่อต้านของสถาบันพระมหากษัตริ ยแ์ ละกลุ่ม
กษัตริ ยน์ ิ ยมทั้งโดยเปิ ดเผยและโดยนัยอาพราง ทั้งนี้ แม้ว่าฝ่ ายต่อต้านจะประสบความล้มเหลวใน
ช่วงแรก ในกรณี เหตุการณ์กบฏบวรเดช พ.ศ. 2476 และการกวาดล้างจับกุมในช่วงต้นทศวรรษ 2480
หากแต่รัฐประหาร พ.ศ. 2490 เปิ ดโอกาสให้บุ คคลกลุ่ มนี้ กลับคื นสู่ พ้ื นที่ ทางการเมื องอี กครั้ ง และ
ต่อมาความใฝ่ ฝั นของบุ คคลกลุ่ มนี้ ก็ได้ปรากฏเป็ นจริ งจากการรัฐประหาร พ.ศ. 2500 อันทาให้การ
เมืองไทยพ้นจากยุค “คณะราษฎร”
77
ณัฐพล ใจจริ ง, “คว่าปฏิ วตั ิ โค่นคณะราษฎร การก่อตัวของระบอบประชาธิ ปไตยอันมีพระมหากษัตริ ยท์ รงเป็ น
ประมุข”, ใน ขอฝั นใฝ่ ในฝั นอันเหลือเชื่ อ ความเคลื่อนไหวของขบวนการปฏิ ปักษ์ ปฏิ วตั ิสยาม พ.ศ. 2475-2500.
78
บทความนาเสนอในการสัมมนา ณ มหาวิทยาลัยโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ ก วันที่ 23-24 พฤศจิ กายน พ.ศ.
2550 ต่ อ มาบทความนี้ ได้ รั บ การตี พิ ม พ์ ใ นหนั ง สื อเรื่ อง Saying the Unsayable Monarchy and Democracy in
Thailand, edited by Soren Ivarsson and Lotte Isagar (2011).
34
เป็ นสาคัญ ทั้งนี้ ข้อสังเกตที่น่าสนใจของณัฐพล คือ กระบวนการสร้ างพันธมิตรกับกลุ่มทหารและ
กลุ่มการเมืองที่แตกแยกจากคณะราษฎรของกลุ่มต่อต้าน ซึ่ งบางครั้งพวกเขาก็ร่วมมือกับพลเรื อนโค่น
ล้มทหาร (ร่ วมมือกับกลุ่มปรี ดี ล้มจอมพล ป.) บางครั้งก็ร่วมมือกับทหารโค่นล้มพลเรื อน (ร่ วมมือกับ
คณะรัฐประหาร 2490 ล้มกลุ่ มปรี ดี) และบางครั้งก็ร่วมมือกับทหารกลุ่มใหม่โค่นล้มทหารกลุ่มเก่ า
(ร่ วมมื อกับจอมพลสฤษดิ์ ในการโค่นอานาจ จอมพล ป. กับกลุ่มราชครู ) จนกระทัง่ สามารถเปลี่ ยน
โครงสร้างอานาจในยุคคณะราษฎรไปสู่ ทหารกลุ่มอื่นที่ไม่ได้ผกู พันกับการปฏิวตั ิ 2475 อีกเลย กล่าว
โดยสรุ ปแล้ว ความเคลื่ อนไหวต่อต้านการปฏิ วตั ิที่เกิ ดขึ้นระหว่าง พ.ศ. 2475-2500 ก้าวถึ งจุดสาคัญ
ด้วยการกวาดล้างคณะราษฎรและคติการจากัดอานาจพระมหากษัตริ ยใ์ ห้ตกไปจากหน้าประวัติศาสตร์
ซึ่ งเกิดขึ้นอย่างสมบูรณ์หลังการรัฐประหาร พ.ศ. 250079
79
เรื่ องเดียวกัน, หน้า 62-63.
80
พอพันธ์ อุยยานนท์, “สานักงานทรัพย์สินส่ วนพระมหากษัตริ ยก์ บั บทบาทการลงทุนทางธุรกิจ”, ใน พระพรหม
ช่ วยอานวยให้ ชื่นฉา่ เศรษฐกิจการเมืองว่ าด้ วยทรั พย์ สินส่ วนพระมหากษัตริ ย์หลัง 2475.
81
Suehiro Akira, Capital Accommodation in Thailand 1855-1985 ( Tokyo: The Center for East Asian Cultural
Studies, 1989).
35
แนวหน้าของเศรษฐกิ จไทยมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 และเป็ นเสมือนทุนภาครัฐที่บุกเบิกการพัฒนา
อุตสาหกรรมใหม่ๆ ในเศรษฐกิจไทยสมัยนั้น82
นอกเหนื อจากข้อมูล ประวัติศาสตร์ เชิ งพัฒ นาการของสานักงานทรัพ ย์สิ นฯ ซึ่ งมีที่ มาจาก
“พระคลังข้างที่” ตลอดจนข้อมูลประเภทการจาแนกโภคทรัพย์ของสานักงานทรัพย์สินฯ แล้ว สิ่ งที่
เห็ นได้จากงานของพอพันธ์ คือ ภาพความเติบโตของธุ รกิ จหลักที่สานักงานทรัพย์สินฯ เป็ นผูถ้ ื อหุ ้น
ใหญ่ อันได้แก่ บริ ษทั ปูนซิ เมนต์ไทยและธนาคารไทยพานิชย์ ที่ขยายตัวไปพร้อมๆ กับกลุ่มทุนสาคัญ
ระดับชาติ อื่นๆ ทั้ง กลุ่ มทุ นการเงิ น กลุ่ มทุ นอุ ตสาหกรรม กลุ่ มทุ นการค้า ภายใต้บ ริ บ ทการพัฒนา
กระแสหลัก นับ ตั้งแต่ ยุค สมัยจอมพลสฤษดิ์ ในทศวรรษ 2500 ทั้งนี้ ค วามเชื่ อมโยงที่ น่ าสนใจ คื อ
กระบวนการสะสมทุนของธุ รกิจในสานักงานทรัพย์สินฯ มีความสัมพันธ์กบั การเติบโตของเศรษฐกิจ
ในอัตราเร่ งอันสื บเนื่ องจากแผนพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติ ฉบับ ที่ 1 และ 2 เป็ นอย่างมากเช่น การผลิต
ปูนซิ เมนต์ที่สอดรับกับการขยายตัวเมืองกรุ งเทพฯ และภาคบริ การ83 อีกทั้งในบริ บทของการพัฒนา
เศรษฐกิจ ช่วงทศวรรษ 2500-2510 ธุ รกิจในเครื อปูนซิ เมนต์ไทย รวมทั้งธุ รกิจภาคอุตสาหกรรมชั้นนา
อื่นๆ ล้วนได้รับความคุม้ ครองจากรัฐบาล ทั้งจากนโยบายคุ ม้ ครองอุตสาหกรรมทดแทนการนาเข้า
และการส่ งเสริ มการลงทุนด้านอื่นๆ จากสานักงานคณะกรรมการส่ งเสริ มการลงทุน
ด้า นแง่ มุ ม ในประเด็ น สถาบัน พระมหากษัต ริ ย ์เชิ ง เครื อ ข่ าย แม้ว่าบริ บ ทและการด าเนิ น
กิจกรรมทางเศรษฐกิจของสานักงานทรัพย์สินฯ อาจดูไม่สัมพันธ์กบั ภาพลักษณ์ในทางพระราชกรณี ย
82
พอพันธ์ อุยยานนท์, เรื่ องเดียวกัน, หน้า 245.
83
เรื่ องเดียวกัน, หน้า 279.
84
เรื่ องเดียวกัน, หน้า 291-292.
36
กิ จของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ มากนัก หากแต่ผบู ้ ริ หารระดับสู งของสานักงานทรัพย์สินฯ
กลับ มี ค วามสั ม พัน ธ์ ที่ ใ กล้ชิ ด กับ สถาบัน พระมหากษัต ริ ย ์เป็ นอย่างยิ่ง ดัง จะพบว่า ผูอ้ านวยการ
สานักงานทรัพ ย์สิ นฯ ทุ กคนนับ ตั้งแต่ พล.ต. หม่อมทวีวงศ์ ถวัลยศักดิ์ (ม.ร.ว. เฉลิ มลาภ ทวีวงศ์)
(พ.ศ. 2491-2513) นายพูนเพิ่ม ไกรฤกษ์ (พ.ศ. 2513-2530) นายจิรายุ อิศรางกูร ณ อยุธยา (พ.ศ. 2530-
2561) หาได้มีภาพลักษณ์ที่เป็ นเพียง “นักบริ หารมืออาชี พ” เท่านั้นไม่ เนื่ องจากบุคคลเหล่านี้ ท้ งั โดย
สถานะ ตระกูลวงศ์ และความใกล้ชิด ล้วนจัดอยูใ่ นสาย “ข้าราชบริ พาร” ดั้งเดิม พอพันธ์ยงั ชี้ให้เห็นว่า
ผูอ้ านวยการสานักงานทรัพย์สินฯ มักดารงตาแหน่ งเลขาธิ การพระราชวังควบคู่กนั ไปด้วย นอกจากนี้
นับตั้งแต่ราวทศวรรษ 2510 เป็ นต้นมา มักพบความเกี่ยวข้องที่เทคโนแครตระดับนาของประเทศเริ่ ม
เข้ามามี ปฏิ สัมพันธ์กบั ส านักงานทรั พย์สินฯ และบริ ษทั ในเครื อ ในฐานะผูบ้ ริ หารมื ออาชี พ ดังนั้น
ธุ รกิ จในเครื อส านัก งานทรั พ ย์สิ น ฯ จึ ง มี ข ้อได้เปรี ย บในเรื่ องบุ ค ลากร การเข้าถึ งข้อ มู ล และรั บ รู้
รับทราบนโยบายเศรษฐกิจระดับชาติ ที่จะส่ งผลต่อการตัดสิ นใจในการดาเนิ นธุ รกิจได้ดีและมากกว่า
องค์กรทางธุ รกิจอื่นๆ
37
เปลี่ ย นแนวทางการศึ ก ษาสั ง คมจากเดิ ม ที่ เน้ น ถึ ง ความสั ม พั น ธ์ ท างสั ง คมที่ ย ั่ง ยื น (Enduring
Relationship) และกลุ่มทางสังคมที่มีลกั ษณะเป็ นทางการ มีกฏระเบียบทางสังคมที่ควบคุมพฤติกรรม
สมาชิ กของกลุ่ม ไปเป็ นลักษณะการศึกษาการรวมตัวของบุคคล ที่ทฤษฎี เกี่ ยวกับกลุ่มที่เป็ นทางการ
ไม่อาจอธิ บายได้85 ด้านหนึ่ งแนวคิด “กลุ่มการเมือง” เริ่ มต้นนาไปใช้ศึกษาสังคมชนบทเพื่อพยายาม
สร้างคาอธิ บายที่แตกต่างไปจากกรอบแนวคิดโครงสร้างหน้าที่นิยม (Structural Functionalism)
85
ชาติชาย ณ เชียงใหม่, “การเมืองของกลุ่มในหมู่บา้ นภาคเหนือ การวิเคราะห์โดยใช้แนวคิดข่ายสังคม”, รั ฐศาสตร์
สาร, 9(2) (พฤษภาคม-สิ งหาคม, 2526), หน้า 45.
86
Jeremy Boissevain, Friends of Friends: Network, Manipulators and Colitions (Oxford: Basil Blackwell, 1974).
87
F.G. Bailey, Political and Social Changes: Orisa in 1959 (London: Oxford University Press, 1959).
38
ที่ ใ กล้ชิ ด กัน 88 นอกจากนี้ ปั จ จัย ส าคัญ ของการวมตัว กัน ของบุ ค คลเป็ นกลุ่ ม การเมื อ ง คื อ การมี
ผลประโยชน์ร่วมกันในการควบคุมทรัพยากร ผลประโยชน์และชื่ อเสี ยง กลุ่มการเมืองเกิดขึ้นก็เพราะ
มีการแข่งขันทางการเมืองเพื่อปกป้ องและแสวงหาผลประโยชน์ต่างๆ เพื่อบรรลุเป้ าหมายนี้ ผูน้ าของ
กลุ่มการเมืองจึงระดมการสนับสนุนจากผูต้ ิดตามแข่งขันกับกลุ่มการเมืองอื่นๆ ดังนั้น การแข่งขันต่อสู ้
จึงเป็ นปั จจัยพื้นฐานของการดารงอยูข่ องกลุ่มการเมือง
39
การเมืองและเครื อข่ายสังคม สามารถช่วยให้เห็ นภาพชี วิตการเมืองอีกด้านหนึ่ งของชาวนา กล่าวคือ
ภายใต้พ ลังกดดันต่ างๆ จากภายนอก ด้านหนึ่ งชาวนาก็มี ความตื่ นตัวทางการเมื องโดยสามารถใช้
ความสัมพันธ์ส่วนตัวที่มีกบั ชาวนาด้วยกัน หรื อกับข้าราชการหรื อคนในเมืองเป็ นเครื่ องมือหนึ่ งใน
การแก้ปัญหาต่างๆ หรื อส่ งผ่านความต้องการทางการเมืองและมีส่วนร่ วมในการกาหนดนโยบายของ
รัฐบาล แนวความคิ ดนี้ จึ งไม่ เพี ยงแต่ช่วยให้เข้าใจพฤติ ก รรมทางการเมื องของชาวนาในแต่ล ะวัน
หากแต่ ย งั แสดงให้ เห็ น ถึ ง ความสั ม พัน ธ์ ระหว่างคนในชนบทกับ คนในเมื อ งตลอดจนผูน้ าและ
นักการเมืองระดับประเทศที่ประกอบกันเป็ นระบบการเมืองไทย
91
ธเนศ อาภรณ์ สุวรรณ, คาบรรยายในงานเสวนา “6ปี รั ฐประหาร 19 กัน ยา 49 อดี ต ปั จจุ บัน และอนาคตการ
เมื อ งไทย” วัน ที่ 17 กัน ยายน พ.ศ. 2555 ณ ห้ อ งประชุ ม คึ ก ฤทธิ์ ปราโมช สถาบัน ไทยคดี ศึ ก ษา มหาวิท ยาลัย
ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์.
92
นวลน้อย ตรี รัตน์ และภาคภูมิ วาณิ ชกะ, “เครื อข่ายผูบ้ ริ หารระดับสู งผ่านเครื อข่ายทางการศึ กษาพิเศษ”, ใน สู่
สังคมไทยเสมอหน้ า บรรณาธิการโดย ผาสุก พงษ์ไพจิตร (กรุ งเทพฯ: มติชน, 2557).
93
เรื่ องเดียวกัน, หน้า 108.
94
Michael Mann, The Source of Social Power (Volume 1. A History of Power from the Beginning to AD 1760)
(Cambridge: Cambridge University Press, 2005).
40
จะก าหนดควบคุ ม หรื อมี อิท ธิ พ ลครอบงาโครงสร้ างสั งคมได้ท้ งั หมด อย่างไรก็ ตาม สิ่ งที่ เรี ยกว่า
อานาจทางสังคม (Social Power) กลับเกิ ดขึ้นได้จากปฏิ สัมพันธ์ระหว่างเครื อข่าย (Networks) ต่างๆ
ในสังคมเหล่านี้ โดยที่อานาจทางสังคมเป็ นผลสาคัญจากกระบวนการสร้างความเป็ นสถาบันที่นามาสู่
การสร้ างความหมายและคุ ณค่าเพื่อตอบสนองความต้องการของบุคคลที่สังกัดอยู่ในเครื อข่ายได้เป็ น
ผลสาเร็ จ
อาจกล่ า วได้ ว่ า แนวคิ ด อ านาจทางสั ง คม (Social Power) เน้ น ความส าคัญ ในประเด็ น
ปฏิ สัมพันธ์ระหว่างเครื อข่ายอานาจต่างๆ ทั้งนี้ ข้อเสนอหลักของ Michael Mann มองว่าแหล่งที่ มา
ของอานาจทางสังคม (Source of Social Power) มี ที่มาจาก 4 แหล่ ง ได้แก่ 1) อานาจทางอุดมการณ์
(Ideology) ซึ่ งเกี่ ยวข้องกับการสร้ างความหมายให้แก่ วิถีปฏิ บตั ิในชี วิตทางวัตถุ ตลอดจนระบบคุ ณ
ค่าที่แสดงออกในความเชื่ อทางศาสนา ธรรมวิทยาแห่ งพลเมือง และอุดมการณ์ แห่ งรัฐ 2) อานาจทาง
เศรษฐกิ จ (Economics) ได้แก่ ความสัม พันธ์ ท างการผลิ ต วงจรทางการการผลิ ต ตลอดจนชนชั้นที่
สัมพันธ์ กบั ระบบการผลิ ตและการถื อครองทรั พยากรและปั จจัยการผลิ ตทั้งปวง 3) อานาจกองทัพ
(Military) คืออานาจรวมศูนย์ของการใช้กาลัง ซึ่ งมักสัมพันธ์กบั การธารงรักษาอานาจรัฐและเกื้อหนุ น
ชนชั้นปกครอง 4) อานาจทางการเมือง (Politics) ที่ แสดงออกในนามรั ฐชาติ และการเมื องระหว่าง
ประเทศ ตลอดจนกระบวนการจัดการภายในรัฐ ระบบการเมืองและการจัดการความสัมพันธ์ระหว่าง
เครื อข่ายสังคมต่างๆ ต่อประเด็นนี้ จึงอาจสรุ ปได้วา่ เครื อข่ายอานาจสาคัญซึ่ งเป็ นที่มาและนาไปสู่ การ
เกิดขึ้นของ “อานาจทางสังคม” (Social Power) ประกอบไปด้วย 4 เครื อข่าย คือ อุดมการณ์ (Ideology)
เศรษฐกิ จ (Economics) กองทัพ (Military) และ การเมื อง (Politics) ทั้งนี้ Michael Mann ได้ส ร้ างคา
เรี ยกปฏิสัมพันธ์ทางอานาจทั้ง 4 แหล่ง/เครื อข่าย ของเขาว่า “IMEP Model”95
95
Ibid, pp. 2-3.
96
อรรถจักร์ สัตยานุ รักษ์, “ดุ ลยภาพทางการเมื องในสายตาชนชั้น น าไทย”, ใน การประชุ มวิ ชาการนานาชาติ :
ไทยศึ กษาในสายลมตะวันออก (International Conference: Thai Studies through the East Wind) (วันที่ 24 สิ งหาคม
พ.ศ. 2556).
41
การเมื องที่ เน้นให้ความส าคัญกับ “ผูน้ า” ภายใต้ระบอบรัฐธรรมนู ญ อานาจทางเศรษฐกิ จ ด้วยการ
สร้ า งทุ น นิ ย มโดยรั ฐ เพื่ อ เป็ นฐานทางเศรษฐกิ จ ในการสนั บ สนุ น คณะราษฎร และอ านาจทาง
วัฒ นธรรมด้ว ยความพยายามเปลี่ ย นความหมายในการด ารงชี วิ ต ประจ าวัน เช่ น ความคิ ด เรื่ อ ง
ความก้าวหน้าของชาติ การลดทอนโครงสร้ างความสัมพันธ์ที่เหลื่ อมล้ าสู งต่ าผ่านการเปลี่ ยนแปลง
เรื่ องภาษา สรรพนาม การแต่งกาย สุ ขภาวะอนามัยของประชาชน ฯลฯ ทั้งหมดนี้ รัฐนิ ยมของจอมพล
ป. ล้วนเป็ นความพยายามที่จะสถาปนาอานาจทางสังคม (Social Power) ชุ ดใหม่ให้เกิ ดการน้อมรั บ
เกิ ดความเข้าใจที่ ตรงกันจนเป็ นมติ ม หาชน เพื่ อสิ่ งนี้ จะมาแทนที่ อานาจทางสังคมเดิ มของระบอบ
สมบูรณาญาสิ ทธิราชย์
97
ข้อเสนอในลักษณะนี้ โปรดดู สมศักดิ์ เจียมธี รสกุล, “หลัง 14 ตุลา”, ฟ้ าเดียวกัน, 3(4) (ตุลาคม-ธันวาคม, 2548)
และ สมศัก ดิ์ เจี ย มธี ร สกุ ล , การเสวนาเรื่ อ ง “จากพฤษภาประชาธรรม ถึ ง รั ฐ ประหารเพื่ อ ประชาธิ ป ไตยอัน มี
พระมหากษัตริ ยท์ รงเป็ นประมุข” (19 ธันวาคม 2552), ฟ้ าเดียวกัน, 8(1) (มกราคม-กันยายน, 2553).
98
โปรดดู อรรถจักร์ สัตยานุ รักษ์, “บทที่ 1 โครงสร้างการเมือง ‘ประชาธิ ปไตยครึ่ งใบ’ อันมีพระมหากษัตริ ยท์ รง
เป็ นประมุข”, ใน ประชาธิ ปไตยคนไทยไม่ เท่ ากัหน้ า
42
ตลอดจนไม่กา้ วก่ายกันมากนักระหว่างกลุ่มอานาจต่างๆ อาทิ ระหว่างนักการเมืองกับระบบราชการ
หรื อ ระหว่างนายกรั ฐ มนตรี กับ ผูน้ ากองทัพ ฯ ฯลฯ หากแต่ อ านาจทางสั ง คม (Social Power) ที่
ก่อให้เกิ ดดุ ลยภาพในหมู่ชนชั้นนาไทยและความรู ้ สึกของประชาชนไทยภายใต้ร่มพระบารมีเช่ นนี้
กลับถูกท้าทายในช่วงทศวรรษ 2540 เมื่ออดีตนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท. ทักษิณ ชิ นวัตร ขึ้นสู่ อานาจด้วย
เงื่อนไขการชนะเลื อกตั้งอย่างถล่ มทลาย ตลอดจนท่าที ต่อการควบรวมอานาจในด้านต่างๆ ทั้งด้าน
การเมือง เศรษฐกิจ กองทัพ และวัฒนธรม (วัฒนธรรมประชานิ ยม) ซึ่ งเป็ นอันตรายต่อดุลยภาพที่มีมา
ตั้งแต่ทศวรรษ 2520
แนวคิ ด “อ านาจน า” (Hegemony) หรื อ การครอง “อริ ย สิ ทธิ์ ” เป็ นแนวคิ ด ที่ นัก ทฤษฎี
ตะวันตกกลุ่มหนึ่ งได้พฒั นาแนวทางดังกล่าวไว้ ที่สาคัญคือ Antonio Gramsci (ค.ศ. 1831-1937) นัก
ทฤษฎีมาร์ กซิ สม์ชาวอิตาเลียน Gramsci ที่ได้เสนอมโนทัศน์ “อานาจนา” ในฐานะที่เป็ นยุทธศาสตร์
การปฏิวตั ิของชนชั้นกรรมาชี พ ด้วยเพราะต้องการอธิ บายสาเหตุที่มวลชนยังคงยินยอมอยูใ่ นภาวะถูก
กดขี่ขดู รี ดและไม่ลุกขึ้นมาปฏิวตั ิ แม้วา่ ในสถานการณ์สากลจะเกิดเหตุปฏิวตั ิรัสเซี ยใน ค.ศ. 1917 แล้ว
ก็ตาม99 ทั้งนี้ ข้อเสนอสาคัญของ Gramsci มองว่า อานาจที่จะปกครองรัฐได้น้ นั มีสองส่ วน ส่ วนที่หนึ่ ง
คืออานาจครอบงา (Domination) หรื ออานาจจัดตั้ง ซึ่ งหมายถึ งการเข้าไปควบคุ มกลไกของรัฐ เช่ น
กองกาลังติดอาวุธ ระบบราชการ เครื่ องมือสื่ อสาร ฯลฯ เป็ นอานาจครอบงา เป็ นอานาจใหญ่ที่สุดของ
รัฐที่ไม่มีใครต้านทานได้ ตลอดจนผูกขาดความรุ นแรง อย่างไรก็ตาม อานาจครอบงาอย่างเดี ยวแม้จะ
สามารถปกครองได้ก็ไม่ยงั่ ยืน เพราะการใช้อานาจประเภทนี้ คือ การกดขี่และปราบปราม จึงเป็ นการ
ยากที่จะได้รับความยินยอมจากผูอ้ ยู่ใต้ปกครอง (Consent) ดังนั้น อานาจส่ วนที่สองจึงมีความสาคัญ
ไม่ยงิ่ หย่อนกว่าการครอบงา นัน่ คือ อานาจนา (Hegemony) ซึ่ งก็คือ ฐานทางวัฒนธรรมที่ทาให้สังคม
99
จิอูเซ็ปเป ฟิ โอรี , ชี วิตของอันติ นิโอ กรั มชี่ แปลโดย นฤมล-ประที ป นครชัย (กรุ งเทพฯ: มูลนิ ธิโกมล คีมทอง,
2526), หน้า 38.
43
ยอมรั บ อานาจครอบง าซึ่ งรั ฐต่ างๆ ยึดกุ ม อยู่100 อานาจเช่ น นี้ เองที่ ท าให้ ผูค้ นสยบยิน ยอมพร้ อมใจ
กระทัง่ รัฐสามารถเสนออะไรออกมาแล้วผูค้ นย่อมเห็ นด้วยและพูดแบบเดี ยวกับที่ รัฐพูด นอกจากนี้
หากพิ จารณาในแง่ บุ ค คล อานาจนา ยังหมายถึ งความสามารถในการแสดงบทบาทนา โดยผูต้ าม
ยินยอมให้นาและยินดีตามโดยสมัครใจ มิใช่ดว้ ยกาลังบังคับข่มเหง อันเป็ นความสามารถทางการเมือง
วัฒนธรรมหรื ออุดมการณ์ มิใช่เรื่ องของตาแหน่งตามฐานะตัวบทกฏหมายโดยตัวของมันเอง101
100
นิธิ เอียวศรี วงศ์, “มองการเมืองไทยผ่านกรัมชี่”, มติชนรายวัน (5 มกราคม, 2548).
101
เกษียร เตชะพีระ, “อธิปไตยกับอานาจนา”, ใน ทางแพร่ งและพงหนาม ทางผ่ านสู่ประชาธิ ปไตย (กรุ งเทพฯ: มติ
ชน, 2551).
102
ผูเ้ สนอใช้คาแปลนี้ คือ ศาสตราจารย์ ดร. เกษียร เตชะพีระ ซึ่ งเป็ นหนึ่ งในกรรมการสอบวิทยานิ พนธ์ของชนิ ดา
ชิตบัณฑิตย์.
103
ตัวอย่างทางความคิดจากทฤษฎีการเมืองวัฒนธรรม โปรดดู Walter Benjamin, The Author as Producer (London:
Verso, 1984). และ The Work of Art in the Age of Mechanical Reproduction (New York: Schocken Book, 1983).
สาหรับผูเ้ สนอใช้คาแปล Cultural Politics ในศัพท์พากษ์ไทยว่า “การเมืองวัฒนธรรม” คือ ศาสตราจารย์ ดร. เกษียร
เตชะพีระ.
44
ครองพื้นที่แห่ งการนิยามความหมายคุณค่าต่างๆ104 หรื อ อาจกล่าวได้วา่ คือ แนวทางการพินิจพิเคราะห์
การต่อสู ้ทางการเมืองในฐานะที่เป็ นพื้นที่ของการช่ วงชิ งอานาจนา (Hegemony) ด้วยเหตุน้ ี การเมือง
วัฒนธรรม จึงเป็ นมุมมองที่ประยุกต์ปรับใช้ได้กบั เรื่ องต่างๆ ได้อย่างหลากหลาย นับตั้งแต่ ศาสนา
วรรณกรรม ภาพยนตร์ ดนตรี แบบเรี ย น อนุ ส าวรี ย ์ สถาปั ต ยกรรม ไปจนถึ ง พิ ธี ก รรมต่ า งๆ
ขณะเดียวกัน การเมืองวัฒนธรรมก็มีลกั ษณะที่สามารถเลื่อนไหลเปลี่ยนแปลงไม่หยุดนิ่งตายตัว เพราะ
เล็ งเห็ นว่าองค์ป ระกอบต่ างๆ ในสั งคม ไม่ ว่าจะเป็ นความรู ้ ค่ านิ ยม จารี ต ประเพณี สถาบันต่ างๆ
รวมทั้งสังคมเองไม่ได้มีความหมายหรื อสารัตถะที่ตายตัว หากมีคุณสมบัติที่เปิ ดกว้างให้กลุ่มฝ่ ายต่างๆ
เข้ามาต่อสู ้ ช่ วงชิ งนิ ยามให้ค วามหมายที่ ส ามารถแปรเปลี่ ย นมันไปตามวาทกรรม 105 ต่ อประเด็น นี้
แนวคิดการเมืองวัฒนธรรม จึงช่ วยเปิ ดแนวทางใหม่ๆ ในการศึกษากระบวนการสร้างสมอุดมการณ์
รวมถึงวิธีการที่โครงสร้างอุดมการณ์อาจถูก “รื้ อ” และ “สร้าง” ใหม่ หรื อ องค์ประกอบทางอุดมการณ์
บางส่ วนอาจถูกคัดเลือกมาประกอบสร้างใหม่106
104
เกษี ยร เตชะพี ระ, “ค าน าเสนอ”, ใน และแล้ วความเคลื่ อ นไหวก็ป รากฏ การเมื อ งวัฒ นธรรมของนั กศึ กษา
ปั ญญาชนก่ อน 14 ตุลาฯ (กรุ งเทพฯ: มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, 2548).
105
ประจักษ์ ก้องกีรติ, การเมืองวัฒนธรรมไทย ว่ าด้ วยความทรงจา วาทกรรม อานาจ (นนทบุรี: ฟ้ าเดียวกัน, 2558),
หน้า (13).
106
แอนดรู ว์ เทอร์ทนั่ , การครอบงาและความหวาดกลัวในสังคมไทย แปลโดย อู่ทอง ประศาสน์วนิ ิจฉัย (นครปฐม
: คณะบุคคลบ้านเรี ยนน้ าริ น, 2551), หน้า 14.
45
ปั จจุบนั โดยที่ก่อนรัชกาลนี้ ไม่มี107 ดังนั้นสิ่ งต่างๆ ที่เกิ ดขึ้นตลอดรัชสมัยไม่ว่าจะเป็ นการเสด็จพระ
ราชดาเนิ นท้องที่ ต่างจังหวัด โครงการพระราชดาริ วัฒนธรรมการบริ จาคโดยเสด็จพระราชกุศล
แนวคิดราชประชาสมาสัย พ่อแห่ งชาติ ฯลฯ สิ่ งเหล่ านี้ จึงล้วนเป็ นผลสั มฤทธิ์ ของปฏิ บตั ิ การด้าน
การเมืองวัฒนธรรม (ชัยชนะของการต่อสู ้ทางการเมืองวัฒนธรรม) ที่นาไปสู่ พระราชอานาจนา ซึ่ งมี
บุ ค คลที่ อ ยู่เบื้ อ งหลัง ความส าเร็ จนี้ มากมาย (สถาบัน พระมหากษัตริ ย ์เชิ ง เครื อข่ าย) ดังที่ ก ล่ าวมา
แนวคิดการเมืองวัฒนธรรม (Cultural Politics) จึงน่าที่จะนามาประยุกต์ใช้ในหัวข้อการศึกษาครั้งนี้ ได้
เป็ นอย่างดี
1.7 ระเบียบวิธีวจิ ัย
“สมเด็ จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชิ นี น าถ” ในดุ ษ ฎี นิ พ นธ์ น้ ี หมายถึ ง สมเด็ จ พระนางเจ้าสิ ริกิ ต์ ิ
พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพนั ปี หลวง (พ.ศ. 2475-ปัจจุบนั /2562)
107
เกษียร เตชะพีระ, “บทวิจารณ์ การสร้าง ‘ความเป็ นไทย’ กระแสหลัก และ ‘ความจริ ง’ ที่ ‘ความเป็ นไทย’ สร้าง”,
ฟ้ าเดียวกัน, 3(4) (ตุลาคม-ธันวาคม, 2548), หน้า 78-80.
46
พระนาม พระอิสริ ยยศ เจ้านายพระบรมวงศานุ วงศ์ ในดุ ษฎี นิพนธ์น้ ี ออกพระนามและพระอิสริ ยยศ
ตามที่ได้รับการเฉลิมพระยศ ในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั ภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 (พ.ศ.
2489-2559)
47
2
: 2475
9
2475
-
Network Monarchy
2475-2500
2 -
2475-2500
2475
49
Bureaucratic
Polity
1-2
2475,
24761
7
2
2477
1
2475 1 :
2543 .
2
2476
19 32
50
2467
2476-2489
2480
24 2475
State Co-
operativism
2475
2476
2475
3
: 2539 432
51
2481-2487
2481
5 8
4
Royalist
2( 2484-2488
-
5
439-440
52
2485-2488
1 2487
1 2487-31 2488
-
: 2525
53
2
17 2488-15
2488
Consensus
2489
24 2489
2489
2475
2
2488- 2489
7 2489
54
2489
2
2475
9 2489
2467
8 2490
2
1
11
1
55
2490
-
2490
78
33 2492 6
8 2491
2490
2492
60 :
2549 5
56
8
2490 Royalist
8 1
9 1
3
2490
2490
4
2492
2495
( 26 2492) 18
29
2494
2490
The Lost of Elites Consensus
8
3 :
2540 40
9
, 17 2 (2016)
57
2
Consensus
2
2489
10
2490
2490
2492
2490
11
29 2494
2490
2492 2475
10
2500 1 59 YouTube
1 2559 .
11
Kobkua Suwannathat-Pian Kings, Country and Constitutions: Thailand's Political Development, 1932-2000
(London: Routledge Curzon, 2003), p. 150.
58
2 249412
2475 6
13
2494
2494- 2495
8 2595
14
12
2528 -
15-16.
13
Pual Handley The King Never Smiles: A Biography of Thailand’s Bhumibol Adulyadej (New Haven: Yale
University Press 2006), p. 115.
14
Ibid p. 118.
59
15
2495
2
16
2 3
2490
2490
2490
2490 1
1
29 2494
2497
15
2542
502
2495.
16
Kobkua Suwannathat-Pian Thailand ’s Durable Premier: Pibun Through Three Decades 1932-1952 p. 79.
60
2
2475
2490
2490
3 Authoritarian Triumvirate Rule
17
Royalist
Network Monarchy
2.2
9
2477
17
2547 147.
61
8
5
2477 8
2476
2 1
2477-2489
18
2 2481-
2482 2488- 2489
2.2.1
2434-2472 19 69
18
: 2549 34
19
2472
62
5
2460
1 2466-2551
9
2 2468-2489
8
3 2470-2559
920
2470
2477 9
2513.
20
2470 7
2460
63
7
21
22
2472
2475
2477
2467 8
21
, 2527 96
22
4 : 2517 673-676
64
2475
2475
23
24 25
2463
26
23
: 2539 42.
24
:
2507
25
6
6
6
7:
26
1 : 2516 318
65
27
4 2472-2476
28
29
5 2498 2475
30
2471-2476
27
6
: 2538 177
28
23 2541.
29
158-159.
30
23 2541.
66
31
8
9
32
2538
33
8
2481
31
52
32
: 60
42
33
177
67
5
40 3-4
8,
34
2475
8
9
29
2481
435
6 7
2475
36
34
: 2550 28
35
4 6
2465 9
36
: 2556
177
68
37
2475-2489
38
2481-2486
8 2477-2489
2 8 2489- 2489
37
10-11.
38
6
-
4
90
3
2556
69
The Old Siamese Concept of Monarchy
39
9
2495-2517 8 2490
40
2
Network Monarchy
9
2490
2.2.2
2490
39
34 -
2548 166.
40
2556 8
2490
:
70
2490
2490
2492
2490
2475
41
2492
249342
2491-2492
41
31
1
2482 2487
1
2490-2493
42
2503
2493
71
2490
43
44
43
23 2514 64
44
2
72
2471
45
2472
2475
2480
2490
46
6
47
2490
48
45
46
3
47
2 64
48
: 2536 21
73
2491
49
2490
8 2493 28-
29 2493 5 2493
2494
2490
2493
2494
2495-2517
50
51
5
2490
49
22 2536 270
50
46
51
24
74
5
4.4.1
52
2475
2490
53
54
55
2490
29 2494
-
56
52
27
53
15.
54
5, 27, 42.
55
21.
56
3 3 -
101-102.
75
5 Return to Chulalongkorn
2499
5
244057
5
58
2490
2490
3.2.3
57
58
100
76
2.2.3 : -
2490
1) :
Network Monarchy
-
2
8
859
60
61
2493
62
59
Pual M. Handley The King Never Smiles: A Biography of Thailand’s Bhumibol Adulyadej p. 69-70.
60
170
61
80
23 274 2550 70
62
5
77
5
7
2475-2477
2477
-
2475 -
2493
5
63
Network Monarchy
63
78
5 2493
64
65
66
2495
7
67
2475
68
2490
769
64
2494
65
4
66
234
67
4
68
4
69
79
7
2500
2494
70
71
2490
4
8
2
70
4
71
3 :
2544
80
72
2488
73
74
75
2495
2488
6
7
2477-2478
72
2481.
73
1 2554 156
74
157
75
2490
: 2547 .
81
2480
76
77
9 2489
78
2490-2493
2 1 4
79
2493 28
76
, , ,
30 2537 10-11
77
13.
78
79
, , ,
30 2537 13
82
2493
80
2490
2490
1
11
8 2490
249081
Relative Autonomy
Network Monarchy
80
2548
81
Paradoxocracy (YouTube) 23
2557
83
4 6
2490
2)
-
2490
2489
2475
2 2
2487-2488 8
2490
84
2481 1
1 2487-31 2488
82
2475
2490
83
2491
29 2494
2492
29 2494
- 3-4
82
2550 69-70, 84
83
42.
85
84
85
86
2484 2
87
8 2490
2492
2475
88
84
73, 75
85
151
86
87
100 1 182 2543
88
91
- 2554 97.
86
29 2494
2497
2 2497
2
2498
89
2490
90
2490
89
103-104
90
:
2475-2500 : 2556
87
91
2493
28-29 2493
28 2493 5
2493
92
2494
93
91
1 :
2550 31 72
92
: 2546 74
93
2493
Political Project
10
1.
88
94
2481
95
2494
Consensus
96
2498
97
29
2494
94
2478-2485
95
2493 147
96
123.
97
124-125.
89
Relative
Autonomy
98
3) 2490
2475
2480
98
22
90
99
2495-2517 7
25 2473
12
100
2480- 2490
2487-
2492
2490
101
99
2558 23
100
123
101
2555 29.
91
102
2489103
2490
104
2492
9
2490-2491
2490
2491105
2490
102
3
: 2550 116
103
45
104
:
2531 102-103.
105
: 2550 182
92
2490
2495
2494
2497
4.3
2494
2496
106
107
2500
2490
106
, , ,
30 2537 36
107
2 : 2547 55
93
2
108
2490
2494
109
2480
3
110
108
15
109
2 15, 25-26, 32-33.
110
2476 2478 2481
2521 53
94
2476
4
10
111
2480
2481
112
2480- 2490
111
57-58
112
:
3(42) - 2538 160-182
95
2494
26 2495
113
2490
2500-2510
113
84
, 2555 226-246.
96
2.3 2490
2475
2475
114
2490
115
2498-2499
2491
114
Royal Hegemony
115
50 35 3
- 2552
97
24550
116
6 7
117
2492
2492
116
: 2546 .
117
The Old Siamese Concept of Monarchy
: 2517 99-113
98
118
7
119
2492
8
3 2489
2498 4 2498
118
19
119
99
120
2490
120
: 14 3
- 2541 8-9.
100
2490
1 2495
121
2495
122
123
2490
121
23 274 2550 78
122
2 55
123
https://blogazine.pub/blogs/
kasian/ post/
101
2490 2494
2494
124
2
2490125
126
2498
- -
124
109
125
100
126
Kobkua Suwannathat-Pian Thailand ’s Durable Premier: Pibun Through Three Decades 1932-1952 p. 79.
102
2-20 2498
2490
Network Monarchy
103
3
2500-2516
16 2500
Consensus
2500 Senior
Partnership
2490 Factions
2490
2494
29 2494
2490
105
2
2500-2501
2500-2501 2
16 2500
2 20 2501
1
3.1 2500
2500
2490
2500 2501
14 2516
2
1
16 2500
20
2501
106
2490
2
2
2530 : 2550 .
3
: 2559
4
The Ethno-Ideology of
Thainess
: :
2537 .
107
5
6
2480-2490
2500 -
2510
7
14
2516
2510
: 2550
6
14 40 14 :
Fong Tong Enterprise 2556 98
7
: 2547 95-96
108
-
2500
16
2500
1
Palladium-Ization 10
2475 Senior Partnership
17 2502
Virtual
Public Morality
8
- , 2550 3
9
Kobkua Suwannathat-Pian, Kings, country and constitutions: Thailand's political development, 1932-2000
(London: Routledge Curzon, 2003), pp. 164-165
10
Palladium-Ization
Benedict Anderson Withdrawal Symtoms: Social and Cultural Aspect of the Octorber 6
Coup :
6 14 6
4 : 2551
109
11
Hard Power
Soft Power
12
13
2475
14
11
!
!! YouTube 16 2561.
12
Network Monarchy
9
13
Fred W. Riggs, Thailand: The Modernization of a Bureaucratic Polity Honolulu: East-West Center Place,
1967 p. 323.
14
2475
110
Hard Power Soft Power
2500
Consensus
World Bank
3.2
2451-2506
16
2500 20 2501
2545 2 2550
111
15
1
1 1 1
8 2490 1
1 2593 2495
2497
2499 47
247516
2490
2426
2497
2493-2496
1 1
17
1 1
15
2500
16 2500
16
2 :
2548 114
17
115-116
112
2484-2488
18
2490
8 2490
26 2492 29 2494
29 2494
2
19
16
2500
18
28 2541 34, 42
19
25 2555
2555
113
:
20
2500
21
:
2500
22
20
:
2525 121.
21
: 2548 115-117.
22
: 2558
219
114
3.2.1 -
20 2501
23
1
2501
20 2501
24
29 2501
20 2501
16 2500 25
23
: 2549 172
24
- 58
25
16 2500
115
1
2501
26
1
1 1
27
26
: 2517 86-90
27
2525
8 2490:
: 1
:
114-115
2500-2501
2519
116
2 1 2504
28
29
3 2502
240
180
110 60
20
28
2551
29
6 :
2559 26-27
117
30
2475 2490
The
Ethno-Ideology of Thainess
Senior Partnership
2500
2485-2489
31
2
2493
1
30
2506-2516 112-113.
31
100 2555 33
118
1
1
2493
2501
32
2494
2500
2503
33
34
2501
35
1 2
32
2541 51-55
33
57-58.
34
63.
35
81-82
119
2502-2508
2494 2499
2506
2516
16 2500
36
36
16 2500
10 2498
120
20 2501
2501-2507
16
14 2516
-
2506-2515
20
1 1
1 5
1 2504-2505
37
2501
:
2531 81-83.
37
2549
121
2503
50
38
39
2512
38
2502-2508 2519
2503
25
2519 : 2519
39
5 2490
2499
: 2556 .
122
30 2512
40
36.48
3.2.2
41
42
40
? ?
: 2554 54-55.
41
: 2560 173
42
: 2 58
123
20 2501
43
44
45
46
20 2501
43
16 :
2526 35
44
:
2525 122
45
: 2560 174
46
: 2549 153.
124
2502-2512
2502-2514
1 1
47
Technocrat
48
49
47
:
2554 32
48
5
: 2543 99
49
125
50
51
2490
2501
20 250152
50
:
: 2529 91
51
; 2556 91
52
6-10.
126
53
2493-2499
:
2501-2506
2502-2504
Visiting Professor of Government
2502
54
55
56
53
16 218.
54
23
55
50 :
2527
56
16 103-104.
127
2505
2506
BOI
57
58
57
: 2547 62-63.
58
2 2499-2506
4 2512-1516
5 2516-2518 7 2523-2532
2518-2520
2512-2528
128
59
2510
251160
61
59
76.
60
2506-2516
2550 307
61
2507
133 12 2539 .
129
2514-251562
3.2.3
2500
2500
2475
16 2500
20 2501
63
62
2514-2515
63
Thailand: The Politics of Despotics
Parternalism 1979
130
5
64
2503
65
9 5
24 2503
2530 .
64
: 2557
65
39.
131
The Theatre State 66
2502
1
21
5 7
2501
2502-2506
2504
67
66
Clifford Geertz Negara: The
Theatre State in Nineteenth Century Bali 1980
1-7 2555
67
373
132
68
69
247570
Paul M. Handley
68
Adulyadej (New Haven: Yale
University Press, 2006), p. 140.
69
355-356
70
354.
133
-
71
2475
72
-
29
2494
2492
2.1
16 2500
2501
71
8 9 -
2500
.
72
: 2525 237
134
73
3 2501
20 2501
74
75
73
2506-2516 151-152
74
133
75
2475
: - 2528
135
2505
76
2500
-
2500
2499 2505
4.2
76
2505
16 107 128
136
5
2500
2503
27
77
2504 2504
2500
2505
78
77
: 2558 44-
45.
78
: 2542 44
137
79
1
2502-2505
250580
81
79
51.
80
134-135.
81
2490
138
Relative Autonomy
2500
2490
4.2, 4.3
82
83
2500
2506
82
2500
2502
2506 2510 2510 2513
2515 2515 2525
139
2490
2492
84
140
85
86
3.3 -
3.3.1 :
- - -
Senior Partnership
Consensus
Development
87
Situational Consensus
85
2489
8 9 - 3 2489
7 2528
200
2 : 2530
86
25 2551 , 2551
106.
141
Fundamental Consensus
2435-
2475
Divided Loyalty
88
89
87
Situational Consensus
2
8 2490
2520
88
YouTube 17 2555.
89
: 2562 208.
142
6
90
Divided Loyalty
2475 Bureaucratic
Polity Fred W. Riggs 3.1
Effective Control Ligitimacy
Political
90
: 2552 29.
143
Culture Fundamental Consensus
2475- 2490
247091
2481- 2487 2.1
92
2475
The Lack of Elites Consensus
2476
Situational Consensus
2
The Lack of
Elites Consensus The Lost of Elites
Consensus
2490
2.1
2490
91
92
2481-2492
2531
144
- 2497
Consensus 2490
Network Monarchy
Cultural Politics
247593
25
94
2500
250095
93
2480 2481-2487
Cultural Politics
94
25 13 12 2555 .
95
145
2498
16 250096
-
2500
2480
97
24 2500
16 2500 9 2489:
23 3 2546
96
- :
2498-2500 29 2551 .
97
2490
2500
16
2500
2500
146
Fuadamental Consensus
17
3.3.2
20 2502
- 2501
98
2500: :6
2544
98
- 59-60.
147
99
1
2501
2501
100
101
2503
2505
99
69.
100
6 :
2529 27.
101
- 71
148
102
2505
2550 -
20 2501
103
1 2503
16 2500
102
69
103
2506-2516 125, 172
149
2506
104
105
16 2500
20 2501
106
2500
107
2500-2511
104
173
105
1 :
2534 186, 190-191.
106
84
107
2 83-84
150
2494-2500
2500
108
109
2500
108
2506-2516 2550
-
30 2500-30 2506
2502
109
2506-2516 303.
151
2506-2515
110
20
2502
2502111
25 2501
110
89
111
17 2502
17
2521
152
112
2502
113
2502 20
108 100 1
114
112
152-153
113
140
114
97
153
-
9 2501-2511
2506
2502
2504
2506
2550
115
115
2506-2516 315-317.
154
116
2506 2515
2502
117
3.3.3
2506-2516
9
2506-2516
116
316-317.
117
: 2553
155
Factions -
Consensus
11 2506 11 2507
2507
2516
1 2506-11
2506
118
1 1 2506-30
2508 2508
118
2506-2516 302
156
2509 2500
-
Senior
Partnership
2500-2516
2500-2511
2
119
120
2500-2515
1 1
2506-2515
121
2506-2512
119
60 : 2534
58
120
16 94
121
David Morrell Asain Survey February 1973
157
122
2475
2.
2497123
122
A 8.6/53
14 2516
123
2497
.. .. . .
. . . . 5
. .
. . . . . . 5
4 .. 11
158
2500 16
2500
2497
2500
8
124
17 2502
17
125
. .
Individual Study 1
124
59-61
125
2506-2516 324
159
Consensus
2502- 2514
126
127
- 2550
2512-2514
126
4 : 2559 13
127
16 206
160
128
Vietnamization
5.2.3
2510
17 2514
2502
1 2502-2505
2 2505-2511
128
- 183-187.
161
129
130
:
2511-2517
2517-2523
Consensus
-
-
-
2511 10
131
2512 3.3.2
17 2514
129
130
2559 225
131
74
55
21
90
162
132
Factions 5 1
2 3 4
5
1
133
134
135
132
-
134
Devid Morrell Power and Parliament inThailand: The futile challenge, 1968-1971 Doctoral dissertation,
Princeton University p. 953.
135
2511
2501-2511
163
136
-
-
2514
1
2515
2514137
138
2512
2512-2513
2516
14 2516.
136
: 2545 62.
137
David Morrell Asain Survey February 1973 p. 164.
138
7
164
2515
2516
2509
2516
139
1 2516
140
1
1
141
A 8.6/53 14 2516.
139
- 287-288.
140
A 8.6/53
14 2516.
141
342-343.
165
142
-
- -
14 2516
2512
44
50 33
142
2530
166
143
22
2510
2504144
2556
145
143
, 2539 470.
144
1 5
227
145
: 2556 93
167
2502-2514
Network Monarchy
2511
146
Intellectual
146
8 2511 2511
168
2512-2514
3
147
148
14
2516
Consensus
2500-2516
-
147
:
2498-2514
2524 140.
148
120-121
169
14 2516
14 2516
149
Actors
Network Monarchy
-
2510 14 2516
149
A 8.6 53
14 2516
170
4
2500 2510
Network Monarchy -
Factions
Actors
Political Project
Formal Informal
2510
4.1 2500
171
16 2500
2490
2500
2490 60
2.2.2
2490
2500
Network Monarchy
172
2502 45
2502 2500
2501
2 2549 .
173
2
2502
2503
3
2504
2515
2521
25004
2
318
3
319.
4
2556
2508-2509
174
2500
5
2517
2500
: 2556 350
5
2541 115
6
20 2540
2540 102-103
7
295
175
2504
State Visit
8
25009
2500
Home Economics
10
2510
8
28 25
2559 14
9
2504-2507 : 2557 57.
10
: 2540
176
11
12
2515
13
2471 1
11
315
12
13
: - 2553 140
177
-Walkie Talkie Radio
14
66
2500- 2510
2504
15
4.2 - - :
14
142-147
15
2553 , 2548
178
Network Monarchy
16
-
-
2500 3.2.3
17
16
2501 2502
2501-2506
17
2490
179
2506-2516
18
19
20
2506
2505
18
2471-2560
9
9
19
2542 50-51.
20
51.
180
21
-
2490- 2500 -
-
Network Monarchy
2480- 2490
2475
23 Mass Politics
2500
-
9 2489-2559
2503
21
80
23 274 2550 76-77
181
2506 2512
2518 2519
2531 -
4.4.2
22
23
2500
24
22
2518
23
14
2516 -
24
50
: 2543 574
182
Network
Monarchy
-
2500
-
2500
25
25
2542 74
183
-
Pilot Projects
26
27
2500
28
26
2502-2504
-
2502-2518
, 2539
27
2500 -
28
: 2560 123, 130.
184
29
60,000
300 250630
2505-2506
31
29
: 2550 13
30
74
31
130
185
32
2505 -
2507
33
2500-2510
32
2530
30 2537
, 2537
33
, 2560
72-77.
186
34
7
600
2490
35
2500
36
34
2512
1,002,000
100
9 YouTube 6 2559.
35
1 :
2543 586.
36
2543 2592
187
! That So the cost of
production is very hight.
resolved :
He
: was impressed.
: advise project
advise
project
37
2500
2506
1 2543
37
1 85.
188
- 2500
Pilot Projects
Engineering Agricultural
38
39
2501-2511
38
: O.S. Printing House 2528 30
39
2492
Food and
Agriculture Organization of United Nation FAO
-
2511
51
189
40
2514
41
250642
2556
8
43
44
2510
40
75.
41
30
2555 : 2555 59
42
75
43
: 2556 57
44
2502-2518 403-410
190
Pilot Projects
2507
2514
2500
2510
2513
50,000
2512
-
2505
2500- 2510
191
2500-
2510
4
45
-
2504
46
8.1
2556
47
Political Project
2500
45
236, 238, 291.
46
25 145
47
192
14 2516
8.1
4.4 -
2 1
2
48 49
50 51 52
48
2497 2504
2512 2516-2517
2518-2536 .
49
2489-2500
2500-2512 2508-2514
50
2492-2510 2500-
2507 2508
2507 2512
51
2496-2501
2502-2506 2506-2510 2511-2516
2514-2517 2516 -2518 2518-2545
193
9
2490
2500
Network Monarchy
4.4.1 :
53
52
2511-2515
2515-2517
53
5 2416
194
54
30 200
55
1 2 3
4 5 1
2 3 4 5
54
: 2554 243-244
55
:
2547 92.
195
56
2505
2507
2509
56
2490-2510
2517
- 2480
18
2501 1-4
2500
2501-2512
2505
2558
196
57
2511
2518
2515
57
- 2500-2516
2502
2504
2507
2511
2511 Senior
Partnership
14 2516
Royal Hegemony 9 51
14
14
2510-2520
14
14
197
58
2519
2541
59
4.4.2 :
2500- 2510
2506-2510
60
2510
2511
58
11 : 2559 149
59
125
60
2510
2501
198
2510
2510-2515
61
62
2495
26 2495
61
23 2540 :
2540 131-132.
62
2516-2518) 40
-41.
199
63
2 2.3
2490
2506-2510
2507
64
2510-2515
2512
65
Hegemony
63
84 :
2555 293
64
281-282.
65
303.
200
Senior Partnership
2490- 2510
-
14
251666
2507-2510
67
Middle Temple
2509
68
66
: 14
2552 69.
67
9
2544.
68
201
2510-2513
69
2512
70
71
2510
69
4 2534
2534 78
70
Hi Class
4 37 2530 33 35.
71
2524
2527 2531
26 2534.
202
1
2511
10 2502
2511
72
2 -
Pilot Projects
-
2506
72
Hi Class.
203
2511-2515
2500
73
2507
74
2508
73
.
74
Chiang Mai: Silkworm Books 2545 207
204
75
2515
76
77
Political Project
2518
75
189.
76
: 1 - 2548 104.
2545 :
77
1 1
0204/2477 25 2515
2
01000/3430 8 2516
4 :
459.
205
2517-2518 11 2501-2511
78
2503-2514
2505
78
2511-2516
2512
6 2543 2543
206
251279
2515-2518
80
16 2500
81
2505
79
2527 83.
80
311-312
81
:6 2544 192-194
207
25-26 2507
82
83
-
82
10
83
52.
208
84
14 2516
85
2500-2510
2503
2510
86
2510
87
84
15, 31
85
A 8.6/53
14 2516.
86
128
87
121, 136, 182.
209
Senior
Partnership
14
88
2516
89 90
9
91
88
89
2509-2521 2522-2539
9.
90
2530-2559
9.
91
2509
210
3.2.1
2500 2501
14 2504-2517
2503-2517
2513
30 2532 : 2532 .
211
92
-
-
2510
3 2512-
93
2516
1 2510-
2511
1
1
1
3
1
2515
92
2551 77.
93
A8.6/53
14 2516.
212
2514
94
2518
Network
Monarchy
Relative Autonomy
-
2492-2509
2510
94
7 2541
2541 350
213
2490
95
20 2501
2501-2506
2506-2516
96
2515-14 2516
1 2498
2502-2506
2506-2510
95
79
96
266-267
214
2512-2522
2512
5 2513
97
2504-2514
98
2500
97
215
2520
Network Monarchy
Relative Autonomy
216
5
8 2506 2
- 3
1
3
-
3.3.2
9
2
1
25
2519 : 2519
2
17.00
2506 -2516
2550
217
11 2507
2503
6 3 2504-
2506
-
2
2495
2501 2510
2512
25134
2480-2490
9
3
2506-2516 154 180.
4
:
2560 172-173.
218
2506-2516
Senior Partnership
3 1
2506- 2511
2512 2 2512-2514
3 17
2514
14 2516
5.1 :
2516
35 25095
28
5
: 2542 121.
219
6
2509 2542
25 2512
37
2516
2475
6
123.
7
124.
8
23 2514
: 2514 61
220
9
2476
10
11
12
1
2510
9
: 2534 73, 74, 89.
10
: 2495
11
17 2541 :
2541 80.
12
2551 35
221
13
14
2507
2
1
13
Restow to President Johnson September 12 1967 in
Foreign Relation of United State, 1964 1968, Volume XXVII, Mainland Sotheast Asia Regional Affairs
2506-2516 276
14
9
2510
4 1 2512
1 13 : 14 16 :
14 2546 118
222
2511
250715
251016 2505
-
2506
2512
2 2506-2515
15
:
2547 519, 506.
16
50
: 2543 576
223
2506
2512-2516
-
17
2513 31 1
3.3.2
Network Monarchy
17
10 19 2538- 2539 74
224
18
-
2508
19
18
20 2501
2510.
19
: 2558 263-264
225
2502
20
21
Political Project
2508
20
: 2508 196
21
112-113
226
2508 2509
2511 20
2511
2508
9
2530
2511
22
2511
-
28 2512
22
9
: 2560 247.
227
2514
23
2511-2512
-
2511 20
2511 10 2512
2512-2514
Hierarchy
20 2511
24
25 2512
9
37
23
: 2520 99-100.
24
9 2489-2559
2 1 2475
2495 8 2495 2 2511
20 2511 2511
2511
.
228
5.2 -
2510
2500
Consensus
- -
Network Monarchy
5.2.1
-
Pilot Projects 9
2494-2519
229
2505-
2509 1 6 4
2
25
Toshio Yatsushiro
2500
500,000
26
2510
25
2494-2519
2548 345-346
26
Toshio Yatsushiro The Appeal of Communism in Northeast Thailand Usom Community Development in
Thailand Bangkok: USOM n.d. p. 5
230
27
2500
28
29
9 Network Monarchy
2500
27
20 2540
2540 183.
28
: 6
4 : 2551 109
29
, 2548 303.
231
- Pilot Projects
2510
-
13 2512
...
30
13 2512)
30
2511-
2512 : 2513 131-132
232
...31
5.2.2
2510
31
78-79
233
32
Network Monarchy
33
2500
2554
2524-2526
2501-2505
17
34
2504
32
42-43
33
2510
: 2531 143.
34
? : 1987) , 2554 215-
216
234
35
2511-2513 3
2515
3
2
36
Network
Monarchy -
35
31
36
156, 224
235
2508
37
-
2508-2516
37
7 2508
236
2510
38
Network Monarchy
39
40
38
? 155.
39
39
333
-
Network Monarchy
40
: 2557 222-224.
237
4
2514
100,000
41
5.2.3 2510
-
2510
2 20 2511
10 2512 2512-2514
2510
41
Katherine Bowie Rituals of national loyalty: an anthropology of the state and the village scout movement in
Thailand New York: Columbia University Press 1997 pp. 55-59, 82
238
30 -20 2511
commitment
42
-
43
2511 2511 1
2550
42
: 2533 347
43
351 403
239
44
2510-2512 3
45
2511
2511
Lotus Project
2511
251146
2512-2514
44
- 175-177
45
691-692.
46
164 169
240
75
215
47
17
2514
Network Monarchy
2510
2510
47
15
241
48
2510
1 2
17 2514
48
2 : 2547 217
242
2516
49
14 2516
50
Mass Politics
49
- 258.
50
Frank C. Darling, Thailand: Stability and Escalation Asain Servey February 1968
243
5.3 :
Network Monarchy
2510 Key Persons
14 2516
- 2510
Political Projects
2511
9 2490
16 2500
51
51
2 : 2550 63-72
244
9
2505 16 2505
9
1 2 3
9
52
53
2500
52
23 274 2550 138.
53
2 109-110
245
- 2510
Key Persons Network Monarchy
2511
2514
54
2500
55
2505
54
2516-2518)
: 2554 49
55
2500
2502
2506
2542
2503
2505
246
2510
2509
2514 2514
56
- 2510
57
Consensus
15 3 - 2542 .
56
:
2553 .
57
2500
90 2559
90 :
2559 .
247
17 2514
58
2515 299
59
2514
2
11 2515
2515- 2516
60
58
- 14
2552 56
59
29 344 2556 129
60
248
17 251661
14 2516
62
2550, 2558
2514
11 2514
63
2515
64
61
: 2538 56.
62
: 2550
63
66.
64
2 221-222.
249
-
1 3 2515
2-3
65
66
65
75 28 1 -
2552 141-142.
66
250
2515
2515
40-80
2515
67
17
2514
300
2515
2515
68
2515
2515 15 2515
2515
69
67
68
69
2530
251
2510 14
2516 Network Monarchy
Actors
-
Relative Autonomy
17 2514
-
70
14 2516
2515
2515
15 2515
21
2515 : 2554 356-357.
70
A 8.6/53
14 2516
252
71
-
3.3.2
14
2516
14
- 14
2 1
2
72
73
14 2516
14 2516
14
-
71
: 6
14 6 123
72
- 69
73
2533 94
253
14 2516
14 251674
15
75
15 20 2501
74
-
4 -
18 2551
2512-2514
2550
75
- 389
254
6
14 2516
14 2516
9
1
-
14 2516
Royal Hegemony
2489
1
: 60
: 2549 121
2
John L. S. Girling Thailand, society and politics Ithaca: Cornell University Press 1981 p. 193
255
6.1 -
6.1.1 -
1, 2
3
1
1 14 2516-22 2517
14
25164
29 2519 : 2519
13
4
: 2558
5-6
5
6
256
14 15-16 2516
14
16 1 2
10
6
16 :
2526 142
7
8
18 2516
9
2544 89
10
14
257
14 -
11
14
2517
-
7.1.2
1 14 2516-22
2517
12
Paul M. Handley
11
ibol Adulyadej New Haven: Yale
University Press 2006 p. 218
12
14
Informal Network Formal
Organization
258
13
2 27 2517-14 2518
99
13
2516-2518)
69
259
14
2514-14 2516
14
2518
26 2518
15
16
14
2516
15
16
Network Monarchy
2500-2510
23 2511
260
Network Monarchy 14 2516
6.1.2 :
14 2516
14 1 2
2,347 299
2517
- 14
2515
14
18
27 2513
8 2517
8 2518
25 2519.
261
28 251617
18
10
2516
2,347
2 23 00 02.00
19
17
28 2516 18
-
- -
18
2517
19
90 161 10 2516
262
20
95
21
20
2516-2518 2552
21
12 2516
263
2515 5.3
22
2,347
23
24
25
2 347
22
.
23
: 2518 210
24
18 2516
25
2544
264
26
27
2,347
28
29
188
2558 238
26
: 2538 126.
27
: 2555 50
28
15 2516
29
17 2516
265
18 2516
299
9
14
2516 Royal Hegemony
Void
14
30
2517-2519
2510
30
2534
128
266
6.2 14 :
14
299
31
32
14 2516
33
34
31
Paul M. Handley, The p. 216.
32
2537 74
33
6 :
2529 42
34
2 347 10
2516
267
27
35
36
16-17 2516
18 2516 19
2516
18-19 2516 1
!
2 2
6
42
36
2521
2516
268
14
-
- 3
14
39
16 10
8.6 - 11
37
4,000
25
75 5
2516 7 8
: :
:
2521 230-231
37
2548 108
269
14
14 2516
-
3
1
38
14
38
188-189
270
39
-
39
14
2 2
2,347
2517
18
20
14 2516
271
Social Action Party
40
14
: 2559 .
40
2489
2489
272
1
2
2517
14
-
14
Royal Hegemony
14
Network Monarchy Factions
273
6.3 99:
14
Relative Autonomy
14
23 2516-10
2517
14
:
41
14
41
82
2536 109
274
42
17
14
43
17
move
44
:
42
: 2555 50
43
44
275
2517
20 2517
17
2515
17
1 2
45
14
46
45
47
46
2
27
2517
44 18 2517 97 55
3 1
17
276
3
19 2517
47
48
99
22 2517
17 17
2516-2518 2554
47
: 2558 7
48
11 2517
277
99
49
2 27 2517-14
2518
Social Action Party
50
99
99
51
49
10 1 29 6 2517 21-23.
50
2517
9 2517
2533 192
7
2517 2518.
51
2537 74
278
99
52
99 106 114
99
53
99
52
,5 2517
53
99
99
99
22-23 2519
A12/79 71 85
279
54
55
2518
44
56
10
99
14 2516
99
99 2
54
? http://blogazine.in.th/blogs/
pandit-chanrochanakit/ post/ 2 2559
55
280
57
2512
2510
58
99
2512-2528
57
7-8.
58
: 2537 67
281
59
2-3
60
2528-2530 -
310
2510
2530
99
61
2510
99
-
59
: 2553 63.
60
2500-2520
2508 2509 -
2514 2515
2520 2524
61
, ,
, 2549
33.
282
62
63
64
99
14
-
14
Relative Autonomy
Hegemony
99
99
62
26 2495
63
17 2539 2539
146.
64
245
283
Network Monarchy 99
99
2
2519-2523
2520 14 2516
99
6.4 :
2517
2516
10
2517 7 2517
2
14
2517 2
1 2
14
177
284
179
65
2517
107
66
65
2522 237-242
66
110
285
67
3 10
2517
68
14
Royal Hegemony
69
Factions
Relative Autonomy
67
8
68
110
69
9
14
64
286
14 2516
70
2 14 2518
6 3
2518
2517
factions
70
14
2518
2559 73
287
90 60
71
99
2518
4 251972
2518
71
67 2475-2542
2542
72
73-75
288
6
73
2517
14
14
2517- 2518
73
67 2475-2542
289
7
2518-6 2519
14 2516
14
1
3
-
6.1.1
6.1.2 14
2
1
Fine Day Night (YouTube) 6
2560
2
3 8
2516 31 - 2548 133.
3
-
50 2550 376.
2
14
2518-2519
14 6.4
2518-2519 6 2519
Consensus
7.1 14
2516
14 2516
14
Senior Partnership
1 2516-30
2518 14 2516
2490 2500
292
-
-
1 2500
2 2503 1 2506
1 2508 2509
2510 -
14
3.3.2
14
Network Monarchy -
14
25 2519
2519 14
293
5
14
7.1.1
2517
2516
14
1
16 2516-22 2517
2 30 2517-14 2518
294
6
3
3
3
7
14 6.2
1 2518-30
2519 1 2519-30 2520
1 2520-30 2521
3
14
6
2510-2520
2517-2519 2519
21
295
1
2517
2519
2524
1 2516 19
25169
1 2518-30 2519
8
30-31
9
139-147.
296
10
1 2518-30
2519
1
11
23 2519
1 2519
10
16 , 2523 29-30
11
:
2524
297
12
2503
2517
13
2519 28 2519
1 2517-31 2520
1 2519-30 2520
12
8 2519 :
2519
13
, 2542 391
298
5.2.2
14
14
14
15
Open Arm
Project
16
14
14 2516 2548
26-28.
15
2554 14
12 83
299
14
17
14
2516- 2518
30 2518
18
2517
19
17
: 1987 2549 266
18
269
19
23 2519
300
39
14
12 . 83
14
- 1
14 2516 2518
3 1 251820
Relative Autonomy
2518
20
3
1
2500
301
Relative Autonomy -
2517
21
2519
22
Hegemony Consensus
Mentality
14
7.1.2
14
21
391-392
22
17 2541
, 2541 69
302
2517
-
2518
179
2517
64
1 2
Whip
2512-2514
23
14
24
2518 26 2518
23
45.
24
-
32
303
25
26 2518
2517
42 7-8
14
25
2500
2514
14 2516
: 2548 115-
118.
304
26
JUSMAG
27
28
-
26
: 6
14 6
4 :
2551 147
27
2517
28
2544 89
305
29
14
29
:
2558 237-238.
306
26 2518
72 45
28 19 18 16
15 12
10
14
2516 3
14
72
19
91
6 2518
18
16
307
30
14
18
31
2490
2514
45
2517
28
30
- 18 2551
31
3/2518 6 2518.
308
32
18
11
2518
12 2518
33
34
72 2 91
6
2518
32
2 67 27 2518 8-10.
33
34
3/2518 6 2518.
309
35
152
111
8 251836
4
37
13
2518 16 4
12
35
2559
36
: 2521 114-115.
37
89
310
38
14
39
40
14
26
41
2518
38
241.
39
- 14
2552 107.
Pual M Handley
40
Adulyadej New Haven: Yale
University Press 2006
41
: 2555 48
311
42
2518
7.2
7.2.1 14 :
14 2516
14
14 2517-2518
43
44
42
- 107
43
6
: 2544 111
44
14 14
( : 2549) 49
312
14
2516-2519
14
14 1 180
45
2517 357 3
6 2519
2517
2518
46
14
45
6 82-83
46
2475-
2540 : 2537 88-89
313
37
2496
47
14
2516 2516
14
48
2517
47
6 79
48
: , 2516 112-116.
314
49
14
50
14
51
14
24 2517
52
49
2516-2518)
147-148.
50
Hi Class, 2530 35
51
2516-
2517 : 2518 355.
52
, 139.
315
2517
( 23 2517)
53
14 14
14 radical
54
14
55
53
, 218.
54
Mass Monarchy 40 14 : Fong Tong
Enterprise 2556 111
55
6 2519
129-130.
316
2518
2518
2519
7.2.2
18
16
6.3
Consensus
317
14 2518-12 2519
14 251656
57
Consensus
Populism
58
56
14 2516
.
57
193-194.
58
: 2549 394
318
2.5
5,000
59
60
250061
1,000
1,000 Poverty Line
62
99
59
195
60
2545 121-122
61
2538 14
62
123
319
63
:
64
65
2519
62,000 48,000
1 2518 15
2518
62,000
48,000
63
127
64
2547 112
65
2548 122
320
66
1
2518
20 2519 20,000
67
350
68
66
1 2518 15 2518
67
2510 7
30 - 600
25 2548
68
82 45
321
69
13-15
2518 1,100
17 2518
14 2516
70
2518
69
(Mayaguez Incident) 3
13-15 2518
(SS Mayaguez)
( )
39
70
2475-
2540 91
322
14
71
72
71
6 2519 14 6 47
72
82 45
323
- 29 -6 2518
73
74
75
73
26 2559 233.
74
: 2518 101
75
157
324
14
-
76
19 2518
77
76
77
9
19
2518
325
14
78
2518
79
78
6 157
79
2526
2518-2519
2-3
16 :
2526 , 152.
326
80
4 2519
20 2519
81
Consensus
82
80
15 2518 2 2518.
81
Fine Day Night YouTube 6
2560
82
98
327
-
83
84
Network Monarchy
14 5.3
4 2519
83
17
84
Paul M. Handley Adulyadej p. 229
328
23 251985
7.3 :
14
14 2516-6 2519
6 251986
Relative Autonomy 14
2516-6 2519
Consensus 2
85
4-5
86
https://prachatai.com/journal/
329
1
14
2518
2544
2518
87
87
1 2518
330
! !88
17
2518 -
30 2518
17
2518.
88
128-129
3
3
2538
331
89
14
14
89
200
2514
14 2516
: :
2559
332
2518
2519
7.3.1 :
2518
2
2518
1 2
90
14
14
2516-2517 14
251691
90
15 2518 2 2518.
91
:
2525 226 -227.
333
92
93
3-4
2519
12 . 83
92
14
1
19
YouTube 20
2559
93
- 107
334
94
7.1.1
95
4 2519
14
96
94
49
95
2545 33-34.
96
2 30 + 28 28 2521 .
335
97
12 . 83
99
98
97
2541
3
3
Fort Levenworth
2541 126-128.
98
23
: 2537 254
336
14
50
99
100
101
14 2516
12
99
337
2519
102
103
104
5 4
102
65-66
103
2476 5
2481.
104
2541
1,000
338
14
105
106
- -
107
105
? 148-150.
106
6 2519-2549
2551
6 2519
107
: 2551 154-155.
339
108
9
3
001109
110
2510
111
6 2519112
2551
108
A 11.1/11
109
6 137
110
Katerine A. Bowie Rituals of National Loyalty: an Anthropology of the State and the Village Scout Movement
in Thailand New York: Columbia University Press 1997 p. 319.
111
A 11.1/11
112
62 -
2551 18
340
6 2519
113
Dual
Identity
114
113
:
14 62 - 2551 93
114
155
341
115
116
117
- -
5,000
20 2519
115
: 2521 131
116
30 28 28 2521 .
117
A11.2/38 36-40
342
Hate Speech -
-
:
- -
118
-
-
:
119
Consensus
Royal Hegemony
118
A11.1/15 - -
119
:6 2544 168
343
7.3.2
6 2519
23 2519 20
2519-6 2519
120
2518- 2519
121
122
14
120
24 2519
121
: 2560
26
122
Paul M. Handley, Adulyadej p. 167.
344
123
2519
124
14
20 -6 2519
125
123
2490
2494
: 2556
3
Mega Scope, 2553 88-106.
124
35
125
16 2525
345
14 2516
31 2519 6 2519
126
2541
5 2519
5 :
:
4
125-126.
126
2541 57-61.
346
127
2519
128
-
127
2540
: :
130.
128
167-169.
347
129
2519
2507
130
2544
6
2519
131
129
287 15 2519 .
130
2527
131
6 2519 6
348
2519 2518
1,494 203,715 2519
132
2,387 1,915,604
133
2519
2512-2514
134
14
6
132
23 134.
133
120.
134
349
2518 2519
4 2519
135
2519
9 1, 9.2
136
137
135
2518
2518
2
7-10.
136
: 2543 70-75.
137
https://bangkokrecorder.wordpress.com/tag 1 2561 .
350
15-22 2519 2519
19 2519 -
138
138
2547
2542
14
2517
:
:
245-246
1 2519
6 2519
351
139
-
3.3.2
140
141
142
2519 19 2519
139
300 30 2519 17
140
2519
406-407.
141
301 2 2519 .
142
,
, 14
2553 2553 229
352
143
2517
144
47
145
-
1
146
1147
2519
148
143
300 30 2519 .
144
125.
145
20 2519
146
7 2541 2541 55
147
300 30 2519 .
148
, 2 23 24 2521
353
1
149
1
150
151
- -
2519
149
:
2521).
150
2531 61
151
24 2519
354
6 2519
18 00
6 2519
22.00
152
152
2519 6
18 00 6
355
6 2519
-
153
10
2519
8 2519
6 2519
6 2519 ?1 (2)
7-13 14-20 2559.
153
! 6 20 www.matichonweekly.com/
column/article_29893 30 2560
356
8
-
14 2516
- 14 2516-6 2519
20 2518
357
14
14 5.1.2
2517 2518-2519
25182
3
2556 161
26 2559
2559 230-231
2
John Girling Thailand: Society and Politics Ithaca: Cornell University Press 1981 p 218.
3
30
358
9
2519 3 6 2519
14
14
2518-2519
2518-2519
2540
- 2550
Facebook
2559
4
-
50 2550 117
359
3 001
2518 19 2518
14
2516
25196
2551 4
6
2511
2518
2515
11 : 2544 203.
360
4
2510 43
Ideological Practices
9 2489-2559
2475
14 2516
8.1 14
2516
14
Network Monarchy
361
8
2517
9
14
10
14 Consensus
14
Network Monarchy
8
2538- 2539
10 19 66
9
10 19
2538- 2539 75
10
50 :
2553 580
362
11
2518
251912
14
2519 21 2519
2518 2 2518
13
251914
11
Chiang Mai: Silkworm Books, 2545 121
12
2560
114-115.
13
, 2534
14
: 2523 .
363
4.1
15
14 2516
2500- 2510
16
17
18
2500- 2510
15
9
2549
16
14 2516
17
: 2559 119
18
226
364
-
4.3
14
2516
Survey
19
14
2500- 2510
14
14
19
2540 183
365
14
2
20
2517
21
1
2517
22
20
: 2551 160
21
11 : 2559 25 44
22
366
14 2516
23
24
14 2516:
14
23
39-40.
24
Thairath TV 9
(YouTube) 9 2559.
367
25
26
25
200 300
( )
25
2520
: 2559
26
5 2501-2504
6 2505-2556
2510
...
368
14
251627
2518
28
9 2519-
2526
11 2521-2533
12 2523-2535
, 2539
369
29
2516
2517-2518
30
29
104
30
2559
370
14
2518-2522
9
3
2510
7-8
2515 5
371
31
14
Mass Politics
Network Monarchy 14
8.2
2
8.2.1
14 2516
2515
2518
2519
31
, 2555 61-62.
372
2516-2517 2518-
32
2519
2518
2518 2518
33
2519 23 22
500-800
2519
34
=
13
10 2517
32
Katerine A. Bowie Rituals of National Loyalty: an Anthropology of the State and the Village Scout Movement
in Thailand New York: Columbia University Press 1997 p. 99.
33
1 - 2548 108.
34
Majorie A Muecke 23
, 2537 129
373
35
1 2518
5
36
4
37
35
23
140-141
36
: 1 - 2548 109-
110
37
2516
374
2519
12 2519
38
4 2519
39
24.00
2520
2528
9
2556
38
23 86-88
39
2515
375
5 2519
40
2519
Soft Power
23
66-70.
40
5 2519
376
2519
2500 4.4.2
41
21
2520
8 2
14 2516
3 2512-2516
-
14
2519
41
2510
377
-
14
2 2517-2520
2520
-
2515
2511
2502 14
2516
14
42
2 2516
2517 2
42
: 2522 .
378
5.2.2
2518-2519 2 2
43
44
43
: 1987) , 2554 255
44
A11 2 8 1-10
379
2
45
2500
5 2517
2 14
251846 2
2
2516
23
2518
23
13 3
45
2510
46
263
380
47
23
2516
48
47
: , 2529 48.
48
73-74
2529
31 2529
2527 2528
2529
2520
381
2
14
2516
Network Monarchy
2520
14 2516
2500
2 21
2504
13 2516
49
14
2516
49
: 2557
59-60
382
2518
4
50
2520 11.2.3
2510
14
2518-2519
2518-2519 2519-2521
2520-2521
14
14
14
6 1.2
Royal Hegemony
14
50
17
2538 2538 .
383
9.1
Senior Partnership
2518-2519
Relative Autonomy
Consensus
7.3.1
Relative Autonomy
6
2519 Network
Monarchy
384
9
6 2519:
6 2519 -
Network Monarchy
Consensus
Factions
8 2519-20 2520
Royal Hegemony
9.1 2519:
8 2519 2
385
Royal Hegemony 14 2516
2518-2519
7.3.1
14
14
Network Monarchy
99
2518-2519
6 2519
14 2516
386
2510 4.2.2
2519
14
2519
2518
Look
Network Monarchy
1
:
2519 38-39.
387
2
14 2516 6.1.1
14 2516 6 2519
6 2519
- -
14 2516
2
2519 1 2
3 4 5 6
7 8 9 10
11 12 13 14
15 16 17 18
19 20 21 22
23 24
3
:
2546 .
388
2518
7.3
Senior Partnership
2518-2519
2525
2519
3
4
15
4
2519
12 2519 4 2519
23 2519
389
5
2518
19 2520
20 2520 1
2519
15
1-3 2524 :
2525 185-187 9
19
2520.
390
2495
6
9.
7
50-60 100
24 2518 :
40
:
2
:
2519 38-39.
391
2519 4
2519
4
5 6 10
20 2519-6
2519
Master Plan
Network Monarchy
6 2519
10
2533 131.
9
136-137.
10
John Girling Thailand: Society and Politics Ithaca: Cornell University Press 1981 p. 218.
392
11
12
6 2519
340
141 41.4713
14 8.6
11
30 2519 23
2519
12
- 117
13
2519-2529)
2533 60
393
14 6.1.2
-
14
14
2518-2519
14
14 2516
14
6.1.2
394
14 2516
15
Master Plan
12
16
17
6 2519
15
14
16
Master Plan 12
2519 22 2519
Master Plan
279-286.
17
6 36 6
2556 48.
395
4 4.2
18
19
18
6 2529
3 2517:
6 : 2529 57-58.
19
396
6 2519
20
21
1 20
397
2520
9.2
Network Monarchy
14 2516-6 2519
22
6 2519
23
22
2519-2529) 56
23
141
398
24
25
2519 29
2519
26
24
The King Never Smiles Pual Handley 2006
25
13
2519
22
2519.
26
16 166
399
1
27
27
: 2521 30-34
400
28
17
29
30
28
Hi Class 5 55 2531 42
29
B4/25 1 3 2520
30
4 2520
401
1
7
31
25
2495
32
22
6
4
171-172.
31
93 131 18 2519 : 1
32
93 130 17 2519 : 3
402
33
30
34
1
35
8,000
36
33
22 93 128 13
2519
34
88.
35
: 2539 522.
36
160
2495
9.
403
21
2519
37
21
17 2502
17
21
1
21
9 29 17
2501-2516
38
76 53
37
21
18.
38
2531
404
6 2519
39
27 2519
103 2519
40
1
22
3 5
41
15
39
: 2520
148-150.
40
103 2519
41
40.
405
42
15 2520
43
14
44
45
46
42
6 - https://
mgronline.com politics/detail 15 2551
43
14 2520.
44
522.
45
: : 2558 12
46
406
2519
2520 2520
2519
47
2519
48
1 1 2520
49
6 2519
47
224-227.
48
The Tai Race: The Eleder Brother of the Chinese 2466
William Clifton Dodd
4,000
Dodd
Eleder Brother
49
14
11 2520 : 122.
407
8.00 18.00
14
50
51
2517
50
22 263 2550 85
51
141
408
government hand-outpublication
52
53
-
Network Monarchy
54
2
55
52
18-19.
53
20
2517 67 47
54
6 49
55
160-161.
409
12
2520
56
57
realistic
58
6 2519
59
56
3 - : 2553 85
57
16 :
2526 167-168.
58
2542
552.
59
410
60
61
62
-
1 2518
6 49.
60
14 3
2519
93
14
60
61
- -
: 2543 21
62
306 :
2545 180.
411
63
6 2519
64
63
2 30 + 28 28 2521 6.
64
6 59
412
1
1
65
66
20,000 29 2519
20
2520 12 319 14.6 15,809
67
2521 19.5 2521
65
6
28.
66
60 , 2538 202-203
67
23 2520 2.
413
22 2520
468 203
68
145 13 90
69
6 2519
70
14 2516
71
68
2 2520 : 2520
1015.
69
, 2547 111.
70
133-134.
71
67, 170.
414
6 2519
72
48
1
3-4
26
2520
11.1
20
2520
6 2519
23 2520
72
333 171.
415
73
15 2520
9.3
2525
over-conservative
74
2558
75
14
76
73
60 208
74
16 165, 220
75
https://prachatai.com/journal/
76
14 2516
416
14
99
14
6.3
53
99
77
1 2
Liberalism
2490
2 3
4
22
2514
77
, 2536 110
417
realistic
realistic
Network Monarchy
Royal Hegemony
9.3.1 -
6 2519 14 2516
Master Plan 12
1
8 2519-20 2520
2520
418
78
6
56
4 2519
6
79
6 2519
80
78
1-3 2524 160
79
, 2553 100
80
6
36 6 2556
419
81
2520 -
6-12
252082
6 2519
6 2519
81
2541
116.
82
B4/25 1 3 2520
420
83
Relative Autonomy
84
2
16
60
6 2519
85
27 2519
83
4 2520
178-180.
84
6 62-63
85
5
421
6 2519
7.3.1
86
2519
87
86
2 30 +30 12 2521 .
87
2521 11
422
2527
2520
19 2520
88
88
2527 162.
423
20 2520
29 29
2521
21 2519
29 2,000
89
29
5 2520
89
2 30 +30 12 2521 .
424
5 2519
8.2
3 2520
90
9.3.2
90
: 2520 269-270.
425
14 2516
91
14
99
2517
6.3 6.4
2518-2519
6 2519
5
92
2518
1 2518
91
95.
92
1-3 2524 166.
426
93
94
95
96
93
: 35 35 - :
2553 87.
94
The Nation
- YouTube 28 2560
95
, 2542 30-33.
96
-
427
97
99
2518 12 6 2519
98
14
14
99
97
121.
98
,
2558 .
99
197.
428
12 2520
2513 7
100
100
: , 2520
429
101
102
103
9.3.3
101
111 117.
102
take over 16
167.
103
164
430
14
2519 6
2517
1 17
5.9
30.8
104
32.4
2518 35
104
:
: 2527 144
431
105
12
4 2520-
2524
106
107
108
105
2539 44-45
106
4
107
, ,
19 2541 2541 193
108
432
109
22
6 2519
110
109
6 36 6
2556
110
198.
433
2520111
2520 12 2.3
9.3.4
2518-2519
2518-2519
111
2519
2520
2520
2534 18-19
434
6 2519
2516-2518
2519
112
6 2519
113
112
! 6 20 30
2560
113
16 224
435
114
6 2519
115
114
16 : 2523 26
115
17-23
2560
436
6 6 2519 1,500
116
118
116
80
117
526-527.
118
: 2546 145-147.
437
14 2516
Open Arm Project
119
2554
2520
120
121
119
180
120
? 188
121
146, 157
438
122
2520
123
20 2520
9.2
9.4
6 2519
realistic
122
2519-2529) 61
Montri Chenvidakarn, One Year of Civilian Rule in Thailand in Thai Press Coverage of China since the
123
439
Agent
Network Monarchy
Actor
1
Royal Hegemony
14 2516 6.1
440
124
125
126
127
14
128
2520
124
2519
3 45 114 56
2518 27
6 2519
125
2520
126
Paul M. Handley The King Never Smiles: bol Adulyadej p. 266.
127
Montri Chenvidyakarn, Thai Press Coverage of China since the Normalization of Sino-Thai Relation in 1975,
p. 20.
128
8 2520.
441
129
130
131
129
: 2539 24, 50, 52, 55, 58,
66, 117.
130
38.
131
60
442
2520
2520
132
133
132
19-23 2520
15 2520
facebook
133
19-23 2520
: 2524 109.
443
Royal Hegemony
9.5
20
135
134
Paul M. Handley ibol Adulyadej p. 260.
135
17
444
2518
Network Monarchy
:
136
50,000
2518
137
136
558, 569
137
14 2516
445
-
Pilot Project
4.3
2517
138
2500
14 2516
2517
25 2518
8
226
: , 2521 312-315
138
118.
446
6 2519
50,000
102
139
140
155
139
376-377.
140
3
2553 7
447
141
30 20
142
4 2520-2524
1-3143
141
10
20
142
3
26-27.
143
http// www. coop.eco.ku.ac.th.>learning1> five 28.
448
5.2.1 6
2519
144
14
3 2520
- -
145
2490
2.2.2
144
2494-2519
2548 345-347.
145
258
449
Theatre State
146
14 2516
147
14
146
261-265.
147
: , 2521 345.
450
148
149
2513
148
7
84
84 60 2538
2 24 2520
The King Never Smiles
2006 Paul M. Handley
149
390
451
2520
150
2520
:
151
2520
150
5 : 2540 166.
4-5
2525
151
360-363.
452
152
9
14 2516 8.1
6 2519 2520
153
152
27 2559 :
2559 173
153
2520 31 2519
2520
2500-2535
2551
453
-
100
1 2524
2517-2518
154
16
1
155
2521 9
Theatre State
2520 50
200
154
30 2539 2539
195, 221.
155
6 129.
454
2525
455
10
:
2520-2523
20 2520
2520- 2521
11 2523-3 2523
2
1
2520
1
2520 9 2520-21
2521
457
2521
2520
2
-
Consensus
Consensus
10.1
2
2519-2529)
2533 89
458
-
2511
2515
3
2505
93 4 2492
3
15
6-7.
4
93
2
93 93
2 2
2492 93
2496 93
3
5
2506 3 5
-
93
2537
459
2514
-
-
5
14 2516
2517-2518 2518-2519
2519-2520
14
2515
2509
5
5 3
6
93 : 2537
64.
460
2517-2520
2517-2518
2518-2519
2519-2520 7.1.1
2519
5
2519
2520
461
26 2520
21 2519
7
1
21 2519
15 2520
21 2520
26 2520 7
17-23 2560 5-11 2560.
8
16 :
2531 172
462
9
10 1
26
2520
3
2 2520
50
5 2520
10
20 2520
9
26 2520
2545
10
3 2520.
463
11
12
13
6
11
26 2520
5
2520
6 2520
15 2520
20 2520
12
, 24 ( : , 2549.), 134.
13
6 2519
3 000
2 6
5 2519
464
6 2519 26 2520
14
6
26 2520
6
6
18
6 252015
6
18
14
2520 2520
6
50
5
100
6
60 6
B5.1.1 69, 83, 85
15
30 2520
465
11 2.2
6
26 2520 1 6
10.2
20 2520
14 2516
16
16
: 2545
355
466
17
2521
2520
20 2520
1
2519 2520
20
2520
20 2520
17
467
18
19
20 2520
3
20
20 2520
251921
18
2533 168.
19
16 173.
20
16 : 2523 33-34
21
20 2520 1 2
3 4 5 6
7 8 9 10
11 12 13 14
15 16 17 18
19 20 21 22
23 24 24
- 23 2519
26 2520
468
22
2516-2517
-
2519 2520
22
16 34-36
20 2520
469
Political Projects
22 2522
20 2520
1
360
10.2.1 - :
470
2 2517-2520
1 24 -
2519
23 4
23
24
2519
20
2519-6 2519
2
25
23
2538 8
: 2538 65.
24
2
2517 3 2518
1 4
2519.
25
2519
2
471
26
14 2516
8.2.2
6 2519 2
27
2520 2
20 2520
30 2519
14
6.3.1
26
16 10-11
27
25-26.
472
:
:
28
29
28
68-69.
29
76
473
2517-2520
8.2.2
( .)30
30
15 6-7.
474
31
32
20 2520
2521 2524
31
16 108.
32
95
2545
:
475
2517-2518
2521
2545
3 1
11 2521 2 3
33
2521
11 2521
34
33
72
34
73
476
11 2521
2521
35
2
25 2521
2521
36
2521
35
Voice of Taksin 1 8
2552 .
36
77
477
2521
37
2521
38
Relative Autonomy
10.2.2 2521
37
14 2521 16-17.
38
Voice of Taksin.
478
2521
39
2520
9 2520
18
23
7
40
2520 360
41
209
39
:
2525 103.
40
2520 94 111 9
2520 5-11.
41
17 2520
2520
479
2521
2520
1 10 35
2517
2511
2
42
42
480
2
2 19 35
4 2
2 2
2 1 2
3 4
43
43
32 35 9, 2521 197
481
2
44
:
252145
20 2520
46
2521 2
47
2521
3 4
44
:
2525 103.
45
: 2524 66
46
105.
47
27
2520
17 13
2520 2521
482
4
186 112 38 34
10 32 126
2520 99
48
2521
49
2521
50
51
48
29 2521.
49
88.
50
: 2544 22.
51
Irony
483
2521
Master Plan 12
22 2522
2521
75
2521
52
22 2522
52
2521
2526
484
2522
2521
2519
2 3
53
54
55
2521 75
6
: 2529 150-152.
53
Paul M. Handley The King Never Smiles: A Bi bol Adulyadej p. 268.
54
https://sites.google.com/site/free thai/home/
55
2521 5 56
485
10.3
20 2520
Consensus
Senior Partnership
10.3.1
20 2520
2521 22 2522
2517 179
2521
99
486
2520
56
14
57
99
58
93
2510
56
Hi Class 10 111 2536 42
57
: 2537 115
58
117.
487
14
2518 7.2.2
2559 :
59
2 22 2522
252360
59
488
2 2517-2518 99
2
3
61
ESCAP
62
63
Network Monarchy
2493-2499
61
:
2556 5
62
1-3 2524 :
2525 150
63
2475
489
64
2 2499-2506
14 2516 7.2.2
2523-2531
22 2522 42
12 - 10
65
22
66
64
5
2543 218, 228
65
92.
66
https://th.wikipedia.org/wiki/ https://th.wikipedia.org/wiki/
10 2562
490
22
2522
10.3.2 -
2521 Consensus
6 2519
20
2520 2 1 12
2
67
2522
67
60 , 2538 209
491
6
Political Project
50
6 24
2520 100
18 6
68
9 2520
20 2520
2521
25 2521
69
70
68
B5.1.1 69, 83, 85
69
: 2522 127-128.
70
6 370 16 2530 23.
492
71
29 -4
2521
71
2520
- : 6 1975-1977 2518-
2521 39 12 2561
493
72
1
2
2521
2517
73
2517
72
2541 116.
73
6 2519
3 2519
2519
494
2521
74
2521 2 6
99,900
75
2517
74
2545 92
75
2 30 + 28 28 2521 .
495
4 2519 2
56
30
2521
76
2521 29
2521
77
22 2521
76
2 30 + 29 5 2521 .
77
2521
6 19
19
496
78
2521 22 2521
22 2522
99
Agents
14 2516
78
B4 29 6
497
2521
2523
2523
79
22 2522
79
2534 21
498
80
2520
10.3.3
6
3 -
14
2516
Mass Politics
22 9.2
80
192-193
499
20 2520
1
81
Mass
Politics
2520 61 7
2521 156 21
205 64 2522
2521 23
82
52 55 2522 2523
81
2515-2534
: 2534 160-
161
82
135-136
500
2545
83
6
2519 1 19
6
6
84
6 2519
26 2520
9.1
83
62.
84
17-23
2560 .
501
6
11 . . 2521
6 251985
4 2521
86
6
2521
6
6
6
85
15
86
1: 30 + 8 17 2521 10-12.
502
87
6
Consensus
6
13 2521 6
88
14 2521
89
6
15 2521 3
180 1
87
FineDayNight YouTube
6 2560
88
B4 29 6
89
503
1 19 6
90
Royal Hegemony
6
19
91
92
6
19
90
YouTube 17 2556.
91
B4 29 6
92
504
93
2500
2521
94
10.4
Consensus Political
Project
2521
22
2522
93
94
505
Consensus
22 2522
95
82 38 34
32 22
96
55 301
2521
4
2518-2519
95
2522- 2524
22 2522
96
2521
2533 133
506
97
22 5
99
14 6.3
98
4
22
2522
2
97
138.
98
94.
507
2522
82 301
17 13
2518
22 2522
99
2521
2522
2521
2529
99
145 191-192.
508
100
22 2522
101
2522102
11 2522
100
14 2516
6 156-157.
101
22 2522 2
102
509
103
104
2521
105
2519
103
6 161-164.
104
16
: 2527
105
209
510
Relative Autonomy
106
2521
107
9.3.1
106
2 30 + 28 28 2521
11
107
511
14 2516
108
2521 2
108
30 2522 8
512
Clean Run
2
109
1 3
22 2522
30
110
2523
109
: 2559
110
16 174.
513
2556
111
112
14 2516
3.3.2
OPEC
13 2522
111
: 2556 134-135.
112
135.
514
22 2522
99
113
9 2523
4
114
115
113
.
114
16 125
115
112
515
116
2522
116
2500
USOM United States Overseas
Missions to Thailand
2504
20 2520 Welfare Economics
16
516
2522
2522
117
118
117
16 71
118
72.
517
2545
2522
119
2
6 2519
120
2523
121
119
233.
120
16 12
121
87
518
122
Consensus Hegemony
2522
123
122
86
123
:
2549 55, 60
519
124
60 22 2522 25
125
2523
126
29 2523
127
Autonomy
124
11.2.3
2 .
125
www.mgronline.com.
126
16 174-175.
127
520
Royal Hegemony
521
11
2520
2520 9 10
7
Network Monarchy
Actor
523
11.1 2520
2520
14 2516
6 2519
2519 20 2520
2521
48 6 2519
1
6
9
26 2520
1
2519 3
14 2516
524
21
2
2519
21 2520
26
2
2533
21
2 1 2
2519
21
2533 164-166.
3
1 3 2520
1
26 2520
5
B4/25 1 3
2520
525
9
21
4
22 2520
2 2
2532
26 2520
9
1
5
M16 Hi Class 5 58
2532 28-40
2553 26
2520
526
2520
2 3
5
10.2.1
2520
3 26
3 20
20 2520
2520
7
1 2520
5
16 12-16.
6
41-44.
7
:
Voice of Taksin 1 8 2552
1
1
.1
527
26 2520
26 2522
20
2520
2525
2516
7 2503
14
2516
9
6 6
2519
1 2521
8
:
2525 86.
9
2525
1 42
528
Conspiratorial Group
7
2500
2510
07
:
10
11
3 2518
3 14
15 6
10
YouTube 12
2561
11
92-93.
529
14
12
14
2518-2519 2519-2521
1 1
13
1
Pressure Group
6 2519
6 2519
12
83
13
81-83.
530
14
3 2520
15
16
2520
2
2520
14
97.
15
6 2519
1
6 2519
26
2520
1
16
16 25
531
20
2520
20
2520
20 2520
17
18
17
1 2
3 4
20 2520
2525
2547
2549
18
: 2547 196- 197
2549
532
19
20
20
2520
21
14
2520
20
2520 4
2521 13
: 1987 2549
526-527 1
19
16 73
20
526.
21
196
533
2522- 2524
2524
1
14
22
23
7
24
7
2520
22
120-123.
23
7 5
2533-
2535
7 5
7
: 2545
362
24
339.
534
2523
2
1 1 2522-2523
25
26
2524
25
: 2525 242-243.
26
2524
535
2524
1 2523- 2524
30 1 2524
27
28
8 42
27
2538
2
16
2 1-3 2524
1-3 2524 2525
28
Chi-Anan Samudavanija The Thai Young Turks Singapore: ISEAS 1982 pp. 46, 65.
536
2
2
2
29
1 2524
30
29
23
:
2537
30
4 18 -30
2519
2523
1 2524
537
31
20
32
Autonomy
33 34
31
1-3 2524 :
2525 17-18.
32
205-206
33
481.
538
2
35
1-3 2524
13
2525
11.2.3
2524
36
11.2 2520
2520
6
34
2543 96
35
235
36
103
539
2519 1-3 2524
-
2
66 2523
11.2.1
2519-2523
14 2516
2515
2494
14 2516
7.1.1
2516-2519
2518-2519
540
2519
37
2
6 2519 20 2520
38
6
Network Monarchy
39
2519
40
37
2541 129
38
6 59
39
1-3 2524 187.
40
2519 6
2519 9.1
541
6 2519
41
42
43
2518
41
129
42
16 160
43
167 170.
542
44
2519
45
1 8 2519-20 2520
44
144-149.
45
1-3 2524 186.
543
46
2522-2525
47
11.2.2
2522
48
2 22 2522
46
22 2555
2555
47
50 :
2553 583.
48
7 2524 263
544
6 2519
2518-2519
2519-2522
49
50
21 2523
-
6 2519 2520
11.2.2
49
Voice of Taksin 1 8
2552
50
202
545
26 2520
20 2520
6
2521
6 2521
6
6
51
51
6 2521
6
2520]
546
15 2521
6 : 10.3.3
52
2521
boat people
6 21
52
6
https://www.facebook.com/photo.php?fbid= &set=a.
547
boat people
53
2522
2522
54
26 2522
55
21
53
28 2559
2559 55
54
2559 4-7.
55
10.
548
boat people
Soft Power
56
-
2521-2523
56
12.
549
2521-
2522 2521
6 2519 2
5
57
57
A11.1/13 1-17
550
Network Monarchy
58
50 2520
5
2520
28 2520
59
2521
6 2521
58
2520
B4/25
1 3 2520
-
14 2516
2490
-
8
2489
59
2510- 2520
: 2521
551
60
11
2522
5
2522 5
12 12 3
Theatre State
50
200
2525
61
Network Monarchy
20 2520
60
: 2546
205.
61
:
2527 111
552
62
63
64
65
62
6 85-86
63
: 2560
188.
64
1-3 2524 150-151.
65
16 176.
553
10.3.3
Consensus
11.2.3 2
2 2517-2520
23 2
2523-2524 14 2516
8.2
2521-2524
2521
554
-
66
2522
66
2521-2522
4 2554
3 2517
6 7
555
67
14
2517 2521
200,000
68
69
14 2516
67
80 23 274
2550 109
68
A11 2 8 1-10
69
7
.
556
Network Monarchy
6 2519
70
71
1 2523- 2524
70
16 174-175.
71
12.2.5
557
2
2
8.2
1 1
2522
72
2523
2
73
1-3
2524 2
30 1
72
: 2529 50
73
110-111
558
74 75
3 2524
2524
3
1
2524
1
2525
76
74
2
1-3 2524 1-3 2524 208-216.
75
2530
?
20 2559
76
1
1
559
1
2524-
2525
77
22 2524
1 5
1
77
2524- 2525
2524
5
2525 5
2526
14 2516
560
30 2524
78
2525
19 252579
5 2523
2525
78
2 1-3
2524 1-3 2524 208-216.
79
: , 2540
561
2526
80
Soft Power
2528
2526
2520
2520
12 2 Royal Hegemony
80
58
562
11.2.4
66 2523
1) 7
20 2520
81
82
81
196
82
6 36 6
2556 50
16 2526
2500
2501
20 2501
6 2519
563
17
83
2521
84
2511
5.2
6
85
2519
2521
6
20 2520
83
16 17-18.
84
1-3 2524 23.
85
101-102.
564
2523
1
1
2
2524
2510
86
86
2 30 + 28 28 2521 11
565
87
88
89
90
87
YouTube 12
2561
88
17 3 2524
1-3 2524 208-216.
89
2 1-3
2524 1-3 2524 210.
90
, 1 : 2524 41-43.
566
91
2) 21
2520
21
2 21
2504 3.2.3
14 2516
Informal
2 21
5
12
2516 2
14 2516
91
21 1-3 2524
237.
567
92
93
2
21 15
4 25 14 94
2510
19 8
- -
14 2516
2510
21
21 2519
Soft Power
92
17
2538. 2538
93
: 2557 60.
94
21
15 4 15 4
19 8 21
17 6 21 10 23 12
25/ 14
21
568
8.2
21 21
21
95
6 2519
2523-2531
2520
96
-
95
, 41
96
2520
569
-
97
5
2 21
21 19 8
15/ 4 15 4
2 21
98
21 2520
2
2)
2
Thairat TV 9,
2 YouTube 9 2559.
97
75-79 90
98
2528
2 21 2526
21
570
2528
2540
2524
21
23
2524
99
2
21
100
101
21
99
35
100
YouTube 29
2516.
101
28 2516
571
1
2 3
2520
1-3 2524
2 21
5.00
3
102
2
21
103
2510
: - 2526
2 21
104
-
21 21
1 1
102
20 2524
21
100
21
14
1-3 2524
103
36
104
4 2526
572
2
21
105
2520
21
2520
Royal Hegemony
-
2521-2523 2525-2529
2523 ( 3 2523)
106
573
2520
Network Monarchy
3) 66 2523
66 2523107
66 2523
66 2523
108
...
2523
: 2524
107
108
FineDayNight YouTube 6
2560
574
2521
2521-2523
2
109
2522
66 2523
2524-2526
4
2528
2529-2533
2530
66 2523
66 2523
109
16 154.
575
66 2523
110
2520
66 2523
66 2523
66 2523
111
112
6 2519
110
2519-2529)
2533 90
111
2490
2510
2508
6
112
414 .
576
113
66 2523
Status Quo
66 2523
114
115
12.1
113
1-3 2524 78-79.
114
6 252-253.
115
:
2531 241.
577
2530
2520
Royal Hegemony
578
12
-
8 2523-
2531
-
-
Factions
Royal Hegemony
2520 Consensus
-
12.1 2520
2520
2520
2521
66/2523
23 2523
579
1
- 2525
2527
2527
2
2520
3
Resource Base
2520
resource base
Consensus
1
: 1987) 2554 269
2
2556 212
3
: 2559
580
2520
-
14 2516
14 2516
14 2516 7.2.1
2521
2524
4
2520
2520
64 - 2551 108
5
2529 : 2530 .
581
2520
2521
12 22 2521-23 2534
Status Quo
2518-2519
1 3 2523-10 2524
582
Micro-
Macro-
6
Political Project
2529
66 2523
6
1-3 2524 :
2525 220
7
151.
583
2526
2532
2520
Consensus
10
Status Quo
8
15 2526
9
2 : 2538
143, 146
10
584
-
Senior Partnership
2510
1 2 3
11
2545
!
! 82
11
16 50-51
585
2523
Consensus
2520
Royal Hegemony
-
200 2525
1 8 2519-20 2520
9.4
586
The monarchy I would say it is soul of the Thai nat
of the clan. He is the father of very big family of Thais He is the source
of Thai culture. Everything emanates from him; good manners, well living,
the source of thought and the way of thinking wish regard as the best of
Thai thinking 12
13
Royal Hegemony
1-3 2524
14
12
BBC Soul of a Nation: The Royal Family of Thailand [Part1/2] YouTube 15
2555.
13
Soul of a Nation: The Royal Family of Thailand 1979
Devid Lomax
They usually regards king
as father of the nation 2523
5
12.3.1
14
1-3 2524
587
2524
200
15
2520
16
15
: 66.
16
2524
4 2524
588
1
8 2523-2531
2521
2520-2523
17
10.4
17
2545 210.
589
Factions
2521
2520
Network Monarchy
6 2519
18
Blue Blood
- 5
2 8.2.2
Political Projects
18
- - 3
6 2519 2526
6 .
590
12.2.1 -
2521- 2524
3 2523
2522-2529
591
Relative Autonomy
19
- 2526
4 2521
22 2526
1 1
16 2526
19
2523-
2531
2549 195
592
20
21
22
18 2526 1 18
2526
1
2
20
2475-
2540 : 2537 135.
21
6 248
22
16 186
593
2527
23
5
1
Relative Autonomy
F16
2526 12,000
16
24
12,000
F16
25
90
23
2523-
2531 164-165.
24
11 1 2535 75
25
:
16 3 - 2533 18.
594
18 2528 F16 A 12
2528-2532
26
8,901
2530
53
27
15 2
2527
7 2527
1
28
26
76
27
68
28
1 3 45 64 17-23 2527 13
595
Royal Hegemony
1
1-3
2524
2525 11.2.3
:
29
2523
30
31
1
29
Lisa Hong, Thailand in 1984: Toward a Political Modus Vivendi Southeast Asian Affair 1985 Singapore :
ISEAS 1985 p 324.
30
3 2 : 2533 38
31
4 182 14 2524 8
596
32
2
2526
2526-2527
33
2527
7 2527
2527
1 1
2
2528
34
32
9
33
:
18
34
2523-
2531 221.
597
2528 16 2528
1 1 2528-30 2529
9 2528 2
35
11
35
9 2528
- - - -
598
36
9 2528
37
38
2527 9 2528
2529
39
36
41 - 2549 107
37
2523-
2531 227.
38
5 239 3-9 2528 9.
39
5 258 12-18 2529
12
599
2529
40
40
24 2529
2522 2529
1
252941
40
5 264 26 -1 2529 16
41
Suchit Bunbongkarn The Change of Military Leadership and Its Impact on Thai Politics Southeast Asain
Affairs 1987 Singapore: ISEAS 1987 .
600
42
27 2529
43
30 2529
1 9 2528
2
2549
44
2529
12.2.2 -
2520
4-5
14 2516
7.2.2, 7.3.1
42
:
30
43
107
44
2523-
2531 231-232.
601
8
4-5
1 3 2523-10 2524
11.1 2
2524 1- 3
45
2523-2526
4 30 2526-4 2529
2529 5
46
45
22 2524
46
61 62 YouTube
29 2561.
602
2531
2519
2
10.2.1
2520
2519 6 2519
22 2522
-
2522
47
2520
47
4 182 14 2524 25
603
-
48
2520
1 5
26 2522-3 2525 3 2525-26
2534
49
50
48
1
2 3
4
1 4
5
2 3
4 5
5
49
: 93 -
2554 55
50
2523-
2531 171
604
51
52
18 2526
92
4
53
2522
22 2526
51
141
52
141
53
2 76 27.
605
18 2526
2522
4
2526
54
2 2527
7 2527
5 7
54
606
3 9
55
2520
2528
2530 Thai
Politics at the Cross Road 1 2530
:
7
56
55
5+1 44 -
2549 218.
56
6 270 16 2530 23
607
:
3-4
57
14 2516
2523 1 3 2523-2526
57
24
608
18 2526
2
1 3
58
58
62 YouTube 19
2562.
609
59
2526-2529
29 2527
100
1
1
3 2527
60
61
59
UNSEEN : 2547 304-305.
60
3 153 12-18 2527 8
61
10.
610
62
5 5 2529-3 2531
63
8
2523-2531
-
-
62
: 2548 246.
63
254
611
5 2529 86.7
64
2535
Royal Hegemony
- -
12.2.3 -
2520-2523
3.2.2
64
113.
612
14 2516
2500
5 2524-2530
65
2 World Bank
2523
66
65
Hi Class 6 64
2532 3 -37.
66
:
4
613
2 11 2523-22
2524 1
1
2524 2524
2517-2518 29
67
67
10
614
2523-2531
6
Super Board
68
Political Projects
68
615
69
6
70
5 2524-2529
2523
- 2520
2518-2519
71
2526
69
: 2556 .
70
,
, 30 2551
: 2551 61
71
16 152
616
72
F16
2527
73
72
:
14
73
19
617
Political Space
74
75
76
12.2.4
6 2519
8
2519-20 2520
9.3.3
74
26
75
264.
76
: 2557 52.
618
1
2520-3 2523
41 42
77
8.6 6.7
3
1 34.278
14 2516
7.2.2
1 2 2
5
2525-2529
79
77
:
: 2527
146
78
79
:
8
619
30 2524
2523
80
80
2534 88-93
620
2524-2531
1 5
46 34
81
2527
82
81
:
23-24
82
11 11
2520) 2521)
621
2523-2531
2534
6 2519
26
2520
242483
1 2520
2522)
2523) 11"
16 2553 https://net209.blogspot.com/2010/02/blog-post_241.htm.
83
36 16
25 2532 46.
622
2527-2529
2529
1 2529
27 2529
2532
84
85
2532
84
2539 99
85
1
55
623
86
2 2533
87
22 2522
2521 75
2
22 2526
8 2531
2526
2532 2532
86
Hi Class 2534 130
87
131
624
2530
22 2535
88
2535
2520
The Ethno-
Ideology of Thainess
12.2.5
89
88
67 2475-2542
2542
89
30
625
14 2516
2 2517-2520
2521
2522
2522
90
3
2523
3 2523
90
16 : 2523 81
626
91
4 2523
2524 9 2524
2519-2520
9.5
92
91
19 2540 :
2540 114.
92
219-220
627
93
94
2500
93
7 : 2555 17-18
94
2512
2512
: 2555 61-63.
628
- 4.3
2-3
2522
2524
2525 2525
2525 2526
95
Pilot Project
95
629
2520
30
96
3 5
2525-2529:
1
2523
4
2523
96
5 : 2540 142.
630
97
Royal Hegemony
2520
6 2519
98
2526
2521 4
99
?
2 2529
100
97
4 168 33
98
103-104
99
6 768.
100
5 263 13
631
2 8
2
1 1-3 2524
11.1 11.2.4
1982
101
2
2527
101
Chi-Anan Samudavanija The Thai Young Turks Singapore: ISEAS 1982 p. 66
632
102
103
25 2529
104
2520
105
2520
102
2530 2545
82
103
81 - 2553 204
104
26 2527.
105
, : 60
: 2549 145
633
Factions
Royal Hegemony
Consensus
2520
-
200
106
2525
2520
-
Consensus
106
37
634
Royal Hegemony
200
2525 2530
1 :
200 5
107
Negara, The Theatre State in Nineteenth-
Century Bali 1980 Clifford Geertz
(Theatrical State)
1-7
2555
635
200
9
200
200
200
108
1 -31
2525109 4-21
2525
-
200
8 11
110
2525
108
2542
382-383
109
383
110
200
2 : 2530 13-14.
636
200 2525 2530
5
5
2530
5 2530
111
2531
42
3 5 2531
2531 2528
7 8-13
2528 2599
2525
111
383
637
2525-2531
Theatre State
112
5 2530
5 12
Royal Hegemony
5
6 2519
112
3.2.3
5
2525
638
113
114
5 2522
1
115
116
5 12
2520
113
3
5
114
399-401.
115
5 https://www.thairath.co.th/content/
116
5 : 2536
639
117
5 2520
5
2540 -
118
5 12
119
5
117
:
: 2558 -
118
5
119
5 12
640
5
2530 5 2536
120
5 12
Royal Hegemony
2520-2530
120
5
641
121
122
2530-
2540
1 2 :
2520
Void
14
121
5 12
2530
9
122
48
642
123
2526
124
123
2514
14
2515-2539
2529-2544
2540
2549
9.2 9.5
124
, ,
2534 127-128.
643
14 2516
Macro Consultant
125
126
Royal Hegemony
37
125
2548
3
The Right to be Consulted
The Right to be Encourage The Right
towarn
126
128.
644
127
2526 3
2489 200
Senior Partnership
2520
1
9.4
12.3.3
127
128-129.
645
6 2519
Comparative Macro Historical Approach
3 1
128
2 3
129
3
2520
1)
128
3 1
2518
2490
2490-2510
2513
2500
2,000
17
: 2560
Modern Monarchies in Global Comparative Perspective
129
: ( ) YouTube
2 2556
YouTube 30 2558.
646
2
130
2500
131
132
5
133
Cultural Politics
130
: 2551 160
131
:
: 2558 .
132
-
2557
133
5 2545-2449 - 2547.
647
2)
2520
134
2525-2529
2526-2529
135
134
42
135
2527
2528
27 2529
30 2529
4
2529
30 2530
648
136
2529-2533
2530-2533
11.2.4
15 2530
137
10 86
5
136
: 2549 297.
137
a day 17 196 2559 44
649
17 2530138
2532
2530
139
2533
140
138
http://www.pangmalakul.com
139
30 3 2530 74
140
: 2539 582
650
2529-2532 3
141
142
2520
143
11.2.4
144
141
339-340
142
Hi Class 5 57
2532 44-45
143
, 2556 209-210.
144
44.
651
145
2500-2510
4.3
2535
2536
2520
Royal Hegemony
2540146
145
146
15 4 2
21
2528 1 2540
2541 2544
2545
14 3
2
2520 2 2543 2544
652
3)
2520-
2530
147
148
9 2490- 2500
2.3
14 2516
14 2516
6 2519
2490-2510
147
: 6
14 6 4 : 2551 126.
148
: 2558 185.
653
2500
14
8.1
2520
2520
2520
150 2529 2 30
65
149
2-3
2553 to shift
150
200 2525
2520 2530
Theatre State
2518 2520
2523
2526
149
2551 4-5.
150
205
654
2526
6 -
151
8 2530
151
:
2551 46-47.
152
43-44.
655
153
2520
Consensus
-
Network Monarchy
153
Nidhi Eoseewong Panel Discussion
10
10 2551
656
13
2495-2535
2540
Duncan McCargo Network Monarchy and Legitimacy Crisis in Thailand 2005
Royal Hegemony
9
Relative Autonomy
657
Network Monarchy
Senior Partnership
Hegemony
Network Monarchy 4
Royal Hegemony Agency
Thai Elite Consensus Structure of
Political Culture
-
Relative Autonomy
Political Projects
658
1
13.1.1
Bureaucratic Polity
Network Monarchy
Fundamental
Consensus
1
Fred W. Riggs Thailand: The Modernization of a Bureaucratic Polity Honolulu: East-West Center Place,
1967
2
Ibid, p. 323.
659
Riggs 1967 Benedict R.O
Exploration and Irony in Studies of Siam over Forty Years 2014 3
2475
2475
2475
Riggs 1967
Bureaucratic
Polity Riggs
3
Benedict Anderson Exploration and Irony in Studies of Siam over Forty Years Itaca: Southeast Asia Program
Publication, 2014
4
:
2560 58.
660
2500-2510
2490-2510
Eatablishment
5
-
5
:
186-187.
6
2 : 73-74.
661
7
Moment of Crisis
16 2500
3.2.3
5.1 2518-2519
7.3
Royal Hegemony
13.1.2
Consensus
Royal Hegemony
Hegemony
:
2494-2547 2547 2550
9
3 1 2 3
: -
662
Network Monarchy
Royal Hegemony
2548
: Royal Hegemony
8
2
: 2551 27.
663
9
2540
Consensus
2 1 14
2516 2 2535
14 2516
14 2516 2535
2535
664
14 2516
2535
14 2516
Hegemony
Hyper Royalism
Hegemony
Royal Hegemony
10
2535
9
, Hyper Royalism YouTube 12 2555.
10
YouTube 10
2561
665
- -
14 2516
2535
14 2516
2535
14 2516
- - 6
14 2516
14 2516
14 2516
1 8
2519-20 2520
9
2524
666
-
12.1
2520 2535
13.2
:
9 2489-2559
2475
-
9
11
14 34 - 2548 170.
667
-
Royalist
2475
8 2490
29 2494
2490
16 2500
Consensus
668
-
2500
Senior Partnership
Network Monarchy
17
669
2506-2516
Consensus
2510
2509
Hegemony
2500-2516 -
14 2516
14 2516
Senior Partnership
670
-
2503 2506
2500
-
Pilot Projects
-
Pilot Projects 2500-2510
2510
-
2511
-
Relative Autonomy
671
2506
12
Royal
Hegemony
Factions
2500- 2510
Political Project
12
2526 7:
2544
672
-
2510
14 2516
17 2514
2515 14 2516
2515
14 2516
9
673
13
Royal Hegemony
14
Informal
Network -> Formal Organization
14 2516
2510
14 2518-12 2519
13
John L. S. Girling Thailand, Society and Politics Ithaca: Cornell University Press 1981 p. 193
674
14 2516
Consensus 14
2
2517
2518 26 2518
14
14
3 37
675
Consensus
2516-2518
3
3
2518
676
2518
2518
677
2517
2519
6 2519
14 2516
14
2518
2519
14
-
2 2517-2520
678
14
2519
6 2519
-
6 2519
8 2519-20 2520
12
679
Network Monarchy Consensus
20 2520
20 2520
680
7 2503
20 2520
5 2
2520
2521
2520
14 2516
681
- 2521
Political
Projects 2521
Consensus
22 2522
2522
682
Consensus
2523
Network Monarchy
20 2520
20 2520
683
2521
2522
14 2516
Network Monarchy
Royal Hegemony
2523
1-3 2524
-
Royal Hegemony
200 2525
-
2520
684
2523-2531 -
Consensus
Political Projects
-
- - -
2526-2529
14 2516
685
2520
-
Network
Monarchy
Royal Hegemony
2520
2520
2524
686
-
2520- 2530
200 2525 5
12
Senior
Partnership
2530
Relative Autonomy
1 : 2535
2531
12
2531-2534 Consensus
23 2534
687
2535
9 14 2516
20 2535
23.30 20 2535
688
18 2535
24 2535
2535
Royal Hegemony
2535 Royal
Hegemony
2530
4
2537
2540
2536
2
2537
5
2542 6
689
72
2530
2540
Bhumibol Consensus
690
22 93 128
1 5 2518
2521 32-35 9
1 10 2518
11 15 2518
A 8.6/53
14 2516
2516
2517
691
A11.1/11
A 11.1/13 1-17
A 11.1/15 - -
A 11 2 8 1-10
A 11.2/38 36-40
B 4/25 1 3
2520
B 4 29
1 : 2543
3 2553
: 5 2536
90 : 2559
100 2555
2524
692
2510- 2520
: 2518
:
82 : 2536
: 2538
: 2531
93
2537
2 : 2547
: 2550
2527
-
14 2552
: 2562
2542
: 2544
2545
693
:
2560
:
: 2537
: 2551
: 2551
2
: 2551
40
2547
: 2553
: 2522
- :
2000
2547
,
, : 2553
694
2558
2 : 2547
: 2524
2531
: 2538
:
2538
: 2539
: 2559
2549
- :
2526.
1 : 2516
: 2517
3 - : 2553
:
: 2559
3 2 : 2533
695
:
2544
2519-2529)
2533
: 2536
2542
: 2512
16 2523
2475 2557
40 14 : Fong Tong
Enterprise 2556
: 2525
50 :
2527
14 6
2551
2551
:
2525
23 : 2537
696
2475-2540 : 2537
:
2560
19 2540
2540
: 2556
17 2538.
: 2550
:
2521
: 2556
60 :
2534
: -
2553
,
2542
697
, ,
2534
: 2521
,
,
2548
: :
2558
28 2541 2541
28
25. 2559
26 2559
2559
, ,
30
2551 : 2551
30 2532 :
2532
, ,
19 2541
2541
698
30
2537 2537
, ,
23
2540 2540
2556
, ,
14
2553 2553
22 2536 2536
10 2548. 2548
30 2555
2555
: 2549
1 : 2524
6 2519-2549
2551
: 2556.
2548
699
! :
2547
14 40 14
: Fong Tong Enterprise 2556
1 13 : 14 16 :
14 2546
: 2516
9 : 2518
:
2520
50
: 2553
:
2531
2475 1 :
2543
30 - 600
25 2548 2548
14 2516
700
: 60
: 2549
2553
6 : 2538
: 2557.
84 :
2555
: 2559
: 2558
:
2558.
4 : 2555
: 2538.
:
2540
3 : 2550
701
1-3 2524 :
2525
: 2533
16 :
2526
60
2549
2 : 2558
:
6
14 6
4 : 2551
:
2558
: 2559
: 2546
23 2514 : 2514
1
: 2534
702
2511- 2512 : 2513
2523
: 2524.
UNSEEN : 2547
: 2520
4 :
2531
2541
:
2558
6 2519 14 6 4
: 2551
8 2511
2511
:
: 2529
703
4
2554
2539
25
2537
5
2543
2475 : 2557.
. 6 2519
25 6 6 2546.
:
2517
: 2556
2504-2507 :
2557
704
2527
8 2511
2511
: 2560
2559
2539
: 2527
: 2556
23
: 2537
2533
:
2518
: :
2529
67 2475-2542
2542
705
3 :
2544
: 2523.
:
2559
333
2535
:
2540
: 2536
2547
: 2557
11 : 2559
: 2516
2531
: 2549
: 2560
200 2 :
2530
2 :
2538
706
1 5
:
2543
5
:
2543
: 1984 2553.
:
2551
: 2553
9
: 2560
: 2554
:
:
2527
: 2521
24 : 2549
:
2545
:
2557
707
15
: 2552
:
2546
200
2 :
2530
: 2495
5
: 2540
:
2508
: 2548
25
2519 2519
:
2558
2529
: 2530
60 :
2527
708
2500:
:6 2544
:6 2544
2515-
2534 :
2534
: 2521
2522
60 2538
: 2553
2 : 2520
: 2521
: 2546
2556
:
: 2558
709
1
: 2550
2 : 2550
:
: 2558
:
2556
: 2546
:
: 2558
: 1987 2549
? : 1987) 2554
:
2546
: 2550
4 : 2559
23 :
2537
: 2551
710
6 36 6
2556
6
: 2544
:
2528
: 2525
3 :
2540
: 2539
: 2555
: 2555
2502-2518
2539
2548
: 2549
, 2541
: 2556
:
2527.
711
6 :
2529
25 2551.
2551
, ,
-
14 2544 2544
25
2555 2555
22
2555 2555
2, 1
: 2547
17 2541
2541
4 2534
2534
2558
712
6 2543
2543
7
2541 2541
: 2551
28 2547
2547
:
2524
8 2519 :
2519
2551
29 2519 :
2519
2541
7 2541 2541
713
30
2539 2539
27 2559
: 2559
: 2521
20
2540 2540
, ,
, 30
2537 2537
, 2548
23
2541 2541
2549
1
2554 2554
17 2539.
2539
714
2539
: 2527
?
? : 2554
: 2557
: 2546
: 2550
2560
25 2520
:
2559
:
2520
: 2529
2539
715
: 2551
: 2520
2547
Muecke Majorie A 23
2537
-
50 2550
2512 2520
Individual Study 1
2544
60
2549
716
2549.
2500-2535
2551
2545
2521
2533
2516-
2518) : 2554
2506-2516
2550
2476
19
717
2551
:
2498-2514
2524
2521
2522
2523-2531
2549
2494-
2519
2548
2534
2531
Hi Class 2530
718
Hi
Class 4 37 2530
Hi Class 5 55 2531
Hi Class
5 57 2532
Hi Class 5 58 2532
Hi
Class 6 64 2532
Hi Class
2 67 27 2518 : 8-10.
34 - 2548 : 68-81.
91 - 2554
1 30 +8 1 17 2521 : 10-12.
2 30 +28 28 2521
2 30 +30 12 2521
5 263
2493
1 3 45 64 17-23 2527
719
Voice of Taksin
18 2552
50
35 3 - 2552
5 264 26 -1 2529
2530
92 - 2526 : 45-126
- : 2498-2500
29 2551 .
:
3 42 - 2538
6 370 16 2530
17 2 (2016)
34
- 2548
41 - 2549
5+1 44
- 2549
720
41 2512
11 1 2535
[ ] 301 2 2519
[ ] 15 2519
:
14 3 - 2541
5 2548 .
1-7 2555
2 30 +29 5 2521
5 258 12-18
2529
:
14 62 - 2551
1 29 6 2517
: 93 -
2554
10 19 2538- 2539
36 16 25 2532
9 2489:
23 3 2546
721
2518
: 1 - 2548
80
23 274 2550
6 2519 ?1
7-13 2559
6 2519 ?2
14-20 2559
25 13 12 2555
300 30 2519
10 19 2538-
2539
4 182 14
2524
2 30 +28 28 2521
64 - 2551
2 30 +28 28
2521
2545
722
133 12
2539
75 28 1
- 2552
10 19 2538- 2539
68 Hi-Class 15 172
2541 : 74-80.
62 -
2551
Hi Class 3 30 2529
2518
22 263 2550
33
- 2548 : 95-106
3 8
2516 31 - 2548
81 - 2553
15 3 - 2542
30 3 2530
4 182 14 2524
723
9 2549
2 76
41 2512
- : 6
1975-1977 2518-2521 39 12 2561
40 26 : 5-11
2560
! 6 20 24-30
2560
17-23 2560
29 344 2556
:
16 3 - 2533
23 2520
11 2517
5 2517
5 2519
30 2520
29 2521
724
24 2519
12 2516
18 2516
3 2520
16 2520
8 2520
20 2519
18 2516
24 2519
26 2527
14 2521
15 2516
17 2516
14 2520
15 2526
30 2522
22-23 2519
725
: ( )
YouTube 2 2556
TCIJ FES)
2
YouTube 30 2558
2500 YouTube 1
2559
! !!
YouTube 16 2561
https://blogazine.pub/
blogs/kasian/post/
YouTube 17 2555 .
https://net209.blogspot.com
/2010/02/blog-post_241.html 16 2553
YouTube 12 2018
FineDayNight YouTube
6 2560
5 https://www.thairath.co.th/
content/
17 2555
YouTube 17 2513
726
https://prachatai.com/journal/
YouTube 21 2556
?
http://blogazine.in.th/ blogs/pandit-chanrochanakit/ post/ 2 2559
Intelligence . : ,
YouTube 1 2560
www.mgronline.com
http://www.pangmalakul.com
YouTube 29
2516
9 YouTube 6 2559
YouTube 20 2559
61 62 YouTube 29
2561
YouTube 17 2556
https://sites.google.com/site/free thai/home/
6
https://www.facebook.com/photo.php?fbid= &set=a.
YouTube 10 2561
727
- YouTube 28 2560
62 YouTube 19 2562
6
https://mgronline.com politics/detail 15 2551
BBC Soul of a Nation: The Royal Family of Thailand [Part1/2] YouTube 15 2555
http://bangkokrecorder.wordpress.com/tag 1 2561.
Thairat TV 9,
2 YouTube 9 2559
Anderson Benedict Exploration and Irony in Studies of Siam over Forty Years Itaca: Southeast
Asia Program Publication, 2014
Anderson Benedict Withdrawal Symptoms: Social and Cultural Aspect of the October 6 Coup
Bulletin of Concerned Asian Scholars 9 3 July-September 1977
Bailey F.G. Political and Social Changes: Orisa in 1959 London: Oxford University Press
1959.
Barnes John A Class and Committees in Norwegian Island Parish Human Relation 7 1954
728
Benjamin, Walter. The Work of Art in the Age of Mechanical Reprodution New York: Schocken
Book 1983.
Boissevain, Jeremy. Friends of Friends: Network, Manipulators and Colitions Oxford: Basil
Blackwell 1974.
Bowie Katerine A. Rituals of national loyalty: an anthropology of the state and the village scout
movement in Thailand New York: Columbia University Press 1997
Darling Frank C. Thailand: Stability and Escalation Asain Servey February 1968
Geertz, Clifford Negara: The Theatre State in Nineteenth-Century Bali. Princeton, New Jersey:
Princeton University Press 1980.
Girling John L. S. Thailand, Society and Politics Ithaca: Cornell University Press 1981
Grossman Nicholas and Faulder, Dominic, Editorial Team. King Bhumibol Adulyadej: a life's
work: Thailand's monarchy in perspective. Singapore: Editions Didier Millet 2012.
Hong Lisa Thailand in 1984: Toward a Political Modus Vivendi Southeast Asian Affair
Singapore: ISEAS 1985
Mann, Michael The Source of Social Power Volume 1 A History of Power from the Beginning to
AD 1760 Cambridge: Cambridge Univeresity Press 2005
729
McCargo, Duncan. Network Monarchy and Legitimacy Crisis in Thailand. The Pacific Review.
18(4) (December 2005)
McCargo, Duncan. Thaksin and the resurgence of violence in the Thai South: Network Monarchy
Strikes back? Critical Asian Studies. 38(1) (2006).
Montri Chenvidyakarn. Thai Press Coverage of China since the Normalization of Sino-Thai
Relation in 1975 Research Paper P and
China Communication Institute, East- West Center, Honolulu,
Hawai, January 6-12 1980
Morrell Devid L Power and Parliament in Thailand: The futile challenge, 1968-1971 Doctoral
dissertation, Princeton University 1974
Morell David L. and Chai-anan Samudavanija. Political Conflict in Thailand: Reform, Reaction,
Revolution. Cambridge, Massachusetts: Oelgeschlager, Gunn & Hain 1981.
Taylor J. L. Forest monks and the nation-state: an anthropological and historical study in
northeastern Thailand Singapore: Institute of Southeast Asian Studies 1993
730
-
14 2524
2544
2548
731