Professional Documents
Culture Documents
Ae 5 e 049000356 CD 850 e 3
Ae 5 e 049000356 CD 850 e 3
โดย
เสนอ
โรงเรียนสาธิตนานาชาติมหาวิทยาลัยมหิดล
รายงานนีเปนส่วนหนึงของกิจกรรมการเรียนรูโ้ ดยใช้โครงงานเปนพืนฐาน
รายวิชาภาษาไทยและวัฒนธรรม ระดับชันมัธยมศึกษาปที 5
คํานํา
พระบาทสมเด็พระเจ้าอยูห
่ วั รัชกาลที 6 ว่าด้วยความทุกข์ระทมจากความรัก โดยในรายงานเล่มนีจะมีเนือหา
และประโยชน์ทีได้รบ
ั จากวรรณคดีเรืองนี
คณะผูจ
้ ัดทําขอขอบคุณอาจารย์พนมศักดิ มนูญปรัชญาภรณ์ ผูใ้ ห้ความรู,้ คําแนะนํา และความช่วย
เหลือมาตลอดจนทําให้รายงานเล่มนีสําเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี คณะผูจ
้ ัดทําได้หวังเปนอย่างยิงว่ารายงานเล่มนีจะ
เปนประโยชน์แก่ผอ
ู้ ่าน หากมีขอ
้ ผิดพลาดประการใด ทางคณะผูจ
้ ัดทําขอน้อมรับไว้และขออภัยมา ณ ทีนี
คณะผูจ
้ ัดทํา
พฤษภาคม 2563
1
สารบัญ
เรือง หน้า
1. การอ่านและพิจารณาเนือหาและกลวิธใี นวรรณคดีและวรรณกรรม
เ นือเรือง 3
โครงเรือง 3
ตัวละคร 3-4
ฉากท้องเรือง 4
บทเจรจาหรือรําพึงรําพัน 5
แก่นเรือง 5-6
2. การอ่านและพิจารณาการใช้ภาษาในวรรณคดีและวรรณกรรม
การสรรคํา 6-8
การเรียบเรียงคํา 8
การใช้โวหาร 9-10
3. การอ่านและพิจารณาประโยชน์หรือคุณค่าในวรรณคดีและวรรณกรรม
คุณค่าด้านอารมณ์ 11
คุณค่าด้านคุณธรรม 11-13
คุณด่าด้านวรรณศิลป 14-16
4. บรรนาณุกรม 17
2
1. การอ่านและพิจารณาเนือหาและกลวิธใี นวรรณคดีและวรรณกรรม
เนือเรือง
มัทนะพาธาเปนเรืองสมมุติว่าเกิดในอินเดียโบราณเนือเรืองกล่าวถึงเหตุการณ์บนสวรรค์ เทพ
บุตรสุเทษณ์หลงรักเทพธิดามัทนาแต่นางไม่ปลงใจด้วย สุเทษณ์จึงขอให้วิทยาธรมายาวินใช้เวทมนตร์
สะกดเรียกนางมา มัทนาเจรจาตอบสุเทษณ์อย่างคนไม่รูส ้ ก
ึ ตัว สุเทษณ์จึงไม่โปรดเมือขอให้มายาวิน
คลายมนตร์ มัทนาก็รูส้ ก
ึ ตัวและตอบปฏิเสธสุเทษณ์ สุเทษณ์โกรธจึงสาปให้เธอจุติไปเกิดบนโลกมนุษย์
มัทนาขอไปเกิดเปนดอกกุหลาบ สุเทษณ์กําหนดว่าให้ดอกกุหลาบดอกนันกลายเปนมนุษย์เฉพาะวัน
เพ็ญเพียงวันและคืนเดียวต่อเมือมีความรักจึงจะพ้นสภาพจากเปนดอกไม้ และหากเปนความทุกข์เพราะ
ความรักก็ให้วิงวอนต่อพระองค์พระองค์จะช่วย
โครงเรือง
ตัวละคร
ดังตัวอย่าง
3
มัทนา - ซือสัตย์ นิสย
ั ตรงไปตรงมา คิดอย่างไรก็พดู อย่างนัน ไม่รก
ั ก็บอกตรงๆ ไม่พด
ู
ปดหลอกลวง ไม่มเี ล่หเ์ หลียม พูดแต่ความจริง แต่ความจริงทีนางพูดทําให้นางต้องได้
รับความลําบากทุกข์ระทมใจ ตัวอย่างเมือ
สุเทษณ์บอกรักนางและขอให้นางให้คําตอบ
จักเปนมุสาวะจะนะด้วย บ มิตรงกะความจริง.
อันชายประกาศวะระประทาน ประดิพท
ั ธะแด่หญิง,
หญิงควรจะเปรมกะมะละยิง ผิวะจิตตะตอบรัก;
เปนปดและลวงบุรุษะรัก ก็จะหลงละเลิงไป.
ตูขา้ พระบาทสิสจ
ุ ริต บ มิคิดจะปดใคร,
มายาวิน-วิทยาธรผูม้ วี ิชาอาคมใช้เวทย์มนต์เรียกนางมัทนามาพบสุเทษณ์เทพบุตรทังๆ
ทียังหลับใหล อัน เปนบ่อเกิดแก่โทสะของสุเทษณ์ ต่อนางมัทนา
ฉากท้องเรือง
แก่หมูช
่ าวฟาทังหลาย? โอ้พระฦสาย พระองค์จงทรงปราณี”
ในบททีมัทนาได้กล่าวมานัน จะสังเกตุได้จากคําว่าหมูช
่ าวฟา ซึงคํานีแสดงให้เห็นว่าสถานทีแห่งนีไม่ใช่บนโลก
แต่เปนบนสวรรค์ เนืองจากคําว่าชาวฟานันสือถึงเทพ เทวดา นางฟาทีอยูบ ่ นสวรรค์ หรือจะเปนตอนทีสุเทษณ์กํา
ลังจะ สาปมัทนาให้มาจุติอยูบ
่ นโลกมนุษย์
4
บทเจรจาหรือรําพึงรําพัน
บทละครพูดคําฉันท์เรืองมัทนะพาธา ประพันธ์ขนเพื
ึ อใช้แสดงละครพูด กวีทรงคํานึงถึงรูปแบบในการ
ประพันธ์ให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ในการใช้ กล่าวคือมีคําฉันท์ประเภทต่างๆเช่น กาพย์ยานี กาพย์ฉบัง กาพย์
สุรางคนางค์ ทําให้การใช้ภาษามีความหลากหลาย เหมาะสมกับการเจรจาสนทนาของตัวละคร เช่น ตอนทีสุ
เทษณ์ ตัดพ้อมัทนา และนางเจรจาตอบ ได้แสดงจังหวะทีรวดเร็วของการโต้ตอบกัน กวีจึงเลือกใช้วสันตดิลกฉันท์
ซึงมีลีลา กระชับฉับไหว
ดังตัวอย่าง
แก่นเรือง
5
ไม้เรียกปะกากุพ- ชะกะสีอรุณแสง
ดอกใหญ่และเกสร สุวะนธะมากมาย
อยูท
่ น บ วางวาย มธุรสขจรไกล
อีกทังสะพังหนาม ดุจเข็มประดับไว้
ผึงเขียวสิบน
ิ ไขว่ บ มิใคร่จะห่างเหิน
คําฉันท์ดังกล่าวนันคือ นิยามของดอกกุหลาบทีพระองค์ทรงตังให้สข
ี องดอกกุหลาบนัน เหมือนสีของแก้มผู้ หญิง
เวลาอาย ดอกกุหลาบนันมีดอกใหญ่ เกสรของมันกลินหอมและมีหนามแหลมคม
2. การอ่านและพิจารณาการใช้ภาษาในวรรณคดีและวรรณกรรม
การสรรคํา
การสรรคํา คือการเลือกใช้คําให้สอความคิ
ื ด ความเข้าใจ ความรูส
้ ก
ึ และอารมณ์ได้อย่างงดงาม โดยคํานึง
ถึงความงามด้านเสียง โวหาร และรูปแบบคําประพันธ์ การสรรคําทําได้ดังนี การเลือกคําให้เหมาะแก่เนือเรือง
และฐานะของบุคคลในเรือง
ทีผูเ้ เต่งได้ใช้ในการประพันธ์บทละครพูดคําฉันท์เรืองมัทนะพาธานัน สามารถ แบ่งไดดังหัวข้อตอไปนี
- การเลือกใช้คําให้เหมาะสมกับประเภทของคําประพันธ์
ในวรรณคดีเรือง มัทนะพาธา ซึงเปนคําประพันธ์ประเภทบทละครพูดคําฉันท์ได้มก ี ารเลือกใช้คําบาลี
และ สันสกฤตเปนหลัก ประกอบกับการใช้ประเภทคําประพันธ์ต่างๆทีเปนแบบแผน เพือสืออารมณ์และความ
รูส
้ ก
ึ ได้อย่าง ชัดเจน อย่างเช่น
ฟงถอยคําดํารัสมะธุระวอน ดนุนผิี เอออวย
ดนุนผิ
ี เอออวย บมิตรกะความจริง
วันชายประกาศวะระประทาน ประดิพท
ั ธะแดหญิง
หญิงควรจะเปรมกะละมะยิง ผิวะจิตตะตอบรัก
ในตัวอย่างนีผูเ้ เต่งได้นาํ คําทีมาจากภาษาบาลีเเละภาษาสันสกฤตเพือเน้นอารมณ์ทีอ่อนหวาน
6
- การเลือกใช้คําศัพท์สงู
ในวรรณคดีเรืองนี มีการใช้คําทีมาจาก๓าษาอืนๆ เช่น ภาษาบาลีและภาษาสันสกฤตเเละภาษาเขมร ผู้
เเต่งเลือกใช้คําชนิดนีในบางบทเพือให้เหมาะสมกับตัวละคร คําทีมาจากภาษาอืนนีเมือเลือกสรรและนํามาไว้ใน
บทประพันธ์อย่างเหมาะสมแล้ว จะช่วยให้บท ประพันธ์มค ี วามสง่างามและมีเสียงไพเราะ
ดังตัวอย่าง
ฆาพิฆน
ฺ ะสินสุด ประลัย;
อางามกายะพระพรายประหนึงระวิอุทัย,
กองโกญจะนาทให สะหรรษ;
เปนเจาสิบปะประสิทธิวิวิธะวรรณ
วิทย
ฺ าวิเศษสรร- พะสอน;
ยามฃากอบกรณียพิธม
ี ะยะบวร,
จงโปรดประทานพร ประสาท,
ตัวอย่างนีประกอบไปด้วยคําทีมาจากหลายภาษาเช่นภาษาบาลีเเละภาษาสันสกฤตซึงช่วยทําให้ใช้คําใน
หลากหลายรูปเเบบง่ายขึนเพราะมีคําให้ใช้เปนจํานวนมาก ทําให้เกิดความรูส ้ ก
ึ ทีเกียวกับการบูชากษัตริยเ์ เละ
เทพเจ้า
- คําทีเล่นเสียงหนักเบาของบทประพันธ์
ลักษณะสําคัญอย่างหนึงทีกวีมกั เลือกใช้คือการเล่นเสียงหนักเบาและจังหวะ เพือให้รอ ้ ยแก้ว หรือร้อย
กรองทีประพันธ์นนมี ั ความไพเราะทางด้านเสียง
ในบทประพันธ์เรืองมัทนะพาธา พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยูห ่ วั ได้ใช้คําประพันธ์ประเภทฉันท์
ใน ตอนทีต้องการจังหวะเสียงและเน้นอารมณ์และในการประพันธ์ฉน ั ท์ อย่างเช่น
ดูกอนสุชาตา มะทะนาวิไลศรี
ยามองคสุเทษณม วรพจนประการใด
นางจงทํานูลตอบ มะธุรสธตรัสไซร
7
เขาใจมิเขาใจ ฤก็ตอบพะจีพลัน
- คําพ้องเสียงและคําซา
การซาคํา คือการใช้คําคําเดียวกันหลายครังในการเรียบเรียงคําประพันธ์ตอนใดตอนหนึง ซึงคําทีซากัน
จะ เรียงชิดกันหรือมีคําอืนมาคันก็ได้และจะอยูใ่ นวรรคเดียวกันหรือต่างวรรคต่างบาทกันก็ได้สว่ นตําแหน่งขอ
งการซาคํา จะอยูท่ ีต้นวรรค กลางวรรค หรือ ทายวรรคก็ได้ทังนีเพือความไพเราะ และช่วยสือความหมายของคํา
ประพันธ์การ ซาคําทีปรากฏในพระราชนิพนธ์เรืองมัทนะพาธา เพือขับเน้นความหมายของคํานันๆให้หนักแน่น
และเพือความไพเราะของบทประพันธ์
ดังตัวอย่าง
งามผิวประไพผอง กลทาบศุภาสุพรรณ
ง ามแกมแฉลมฉัน พระอรุณแอรมละลาน
ง ามเกศะดําฃํา กลนําณทองละหาน
ง ามเนตรพินศ
ิ ปาน สุมณีมะโนหะรา
การเรียบเรียงคํา
จงมะละฐาน สุระแมนสวรรค์
ไปเถอะกําเนิด ณ หิมาวัน
ดังดนุลัน วจิสาปไว้
8
การใช้โวหาร
ผูป
้ ระพันธ์ใช้โวหารประเภทต่างๆในวรรณกรรมเรืองนีเพือทําให้ผอ ู้ ่านสามารถใช้จินตนาการ นึกภาพ
ตามบทประพันธ์จนเห็นภาพและเข้าใจฉากต่างๆรวมไปถึงความรูส ่ ก
ึ นึกคิดของตัวละครในเรืองมากขึน การใช้
ู้ ่านมีอารมณ์รว่ มและคล้อยตามไปกับบทประพันธ์มากยิงขึน
โวหารประเภทต่างๆนีจะช่วยเสริมให้ผอ
- มีการเปรียบเทียบสิงหนึงเหมือนกับอีกสิงหนึง(Simile)
ผูป
้ ระพันธ์ได้ใช้กลวิธใี นการนําสิงนึงมาเปรียบทับกับอีกสิง เเละ บอกว่าสิงนันเหมือนกับอีกสิง
ในบทประพันธ์นี เช่น การเปรียบเทียบรูปร่างลักษณะเทพเจ้าเพือให้ผอ ู้ ่านเห็นภาพชัดเจนขึน ทังยังมี
การเปรียบเทียบอากัปกริยาของสิงมีชวิ ิต
ดังตัวอย่าง
ครานางสนมเปรียบ ประหนึงและถอยที
วูธยอดฤดีพี ประหนึงหงส์สพ
ุ รรณพรรณ
ในบทประพันธ์มก ี ารเปรียบเทียบนางมัทนากับหงส์มค ี วามหมายว่านางมัทนามีความสวยสดงดงามอ่อน
ช้อยเหมือนหงส์
- การเปรียบเทียบสิงหนึงเปนอีกสิงหนึง(Metaphor)
ในบทประพันธ์มก ี ารเปรียบเทียบด้วยการกล่าวว่าสิงหนึงเปนอีกสิงหนึงเปนการเปรียบเทียบที
ไม่กล่าวตรง ๆ ใช้การกล่าวเปนนัยให้ผอ ู้ ่านเข้าใจได้เอง โดยนําเอาลักษณะ สําคัญของสิงทีต้องการ
เปรียบเทียบ มาเปรียบเทียบทันทีโดยโดยไม่ต้องมีคําเชือมโยง ไม่ต้องใช้คําแสดงการเปรียบเทียบ ไม่มี
คําแสดงความหมายว่า “ เหมือน” ปรากฏอยู่ หรือถ้าจําเปนต้องใช้ก็ใช้คําว่า “เปน” หรือ “คือ” อุป
ลักษณ์ เปนการใช้ถ้อยคําภาษา ในเชิงการเปรียบเทียบทีมีชนเชิ ั งและลึกซึงกว่าอุปมา จึงได้ความมากแม้
จะใช้คําน้อย
ดังตัวอย่าง
จิตระรถ : ผูน ้ มี
ี ความรูช ้ น
ิ เชิงชาญโยคิน
และเชียวอาถรรพวิทยา,
รูจ
้ ักใช้โยคะนิทรา ไปผูกหทยา
แห่งผูท
้ ีอยูแ
่ ม้ไกล,
9
อาจร่ายมนตร์เรียกมาได้
สุเทษณ์ : อ๊ะ ! จริงหรือไฉน?
จิตระรถ : ฃ้าบาทได้เห็นเองแล้ว
สุเทษณ์ : ถ้าจริงเฃาก็เปนแก้ว !
จากในบทประพันธ์ มีการเปรียบเทียบว่ามายาวินเปนเเก้ว เเละ เเก้วเปนสิงทีสําคัญเเละลาค่า ในเรืองนี
มายาวินสามารถใช้เวทมนตร์ได้เเละยังมีความรูเ้ ปนมหาศาลย์จึงเปรียบเทียบว่ามายาวินเปนเหมืนเเก้ว
- การใช้ชอส่
ื วนประกอบทีเด่นของสิงหนึงแทนสิงนันๆ (Symbol)
ผูป
้ ระพันธ์มกี ารเรียกชือสิงหนึงเพือแสดงถึงอีกสิงหนึงแทนการเรียกตรงๆ คล้ายๆสัญลักษณ์แต่
ต่างกันตรงที นามนัยจะดึงเอาลักษณะบางส่วนของสิงหนึงมากล่าวให้หมายถึงส่วนทังหมด หรือใช้ชอ ื
ส่วนประกอบสําคัญของสิงนันแทนสิงนันทังหมด
ดังตัวอย่าง
ยิงฟงพะจีศร ก็ระตีประมวญประมูล
ยิงขัดก็ยงพู
ิ น ทุขะทวมระทมหะทัย
อ้าเจ้าลําเภาพักตร์ สิรล
ิ ักษะณาวิไลย
พีจวนจะคลังไคล สติเพือพะวงอนงค์
ในบทประพันธ์นี นางมัทนาโดนสุเทษณ์สาปให้กลายเปนดอกกุหลาบ ดอกกุหลาบเปนตัวเเทนข
องความรักทีอยูใ่ นโลก ในพระพุทธศาสนาความรักเปนสิงทีไม่เเน่นอนเเละสามารถนําพาความยากทุกข์
มาได้
3. การอ่านและพิจารณาประโยชน์หรือคุณค่าในวรรณคดีและวรรณกรรม
คณ
ุ ค่าด้านอารมณ์
10
อย่างยิงในการใช้ถ้อยคําและโวหารต่างๆในการทําให้ผอ ู้ ่านมีอารมณ์คล้อยตาม และรูส้ กึ ทราบซึงไปกับ
วรรณกรรมไม่ว่าจะเปนอารมณ์อกหักและอารมณ์ โกรธของสุเทษณ์ทีต้องบังคับให้นางมัทนารักตนและโดนยนาง
มัทนาปฏิเสธรัก, อารมณ์สข ุ สมของท้าวชัยเสนและนางมัทนาทีรักกัน, อารมณ์รษ ิ ยาของจัณฑีมเหสีทีได้เห็นพระ
สวามีของตนหรือท้าวชัยเสนรักนางมัทนา, อารมณ์เศร้าและผิดหวังของท้าวชัยเสนตอนที ษีบอกกับตนว่านาง
มัทนานอกใจไปทําเสน่หใ์ ส่ทหารคนสนิทของตน และอารมณ์ใจสลายของท้าวชัยเสนและนางมัทรีตอนทีสุเทษณ์
เสกให้นางมัทนากลายเปนดอกกุพชกะอย่างถาวรจึง ไม่สามารถกลับมาพบรักกันได้อีกครัง
หนึงในตัวอย่างทีผูป้ ระพันธ์สออารมณ์
ื ให้ผอ
ู้ ่านคล้อยตามได้เปนอย่างดี คือ เมือมายาวินเล่าเรืองราวใน
อดีตของสุเทษณ์และนางมัทนาและอธิบายเหตุผลว่าทําไมนางมัทนาจึงไม่รก ั สุเทษณ์ ผูป
้ ระพันธ์เลือกใช้
อินทรวิเชียรฉันท์ 11 ทีมีทํานองเร็วในการประพันธ์ตอนส่วนเล่าเรือง, ใช้วสันตดิลกฉันทร์ทีมีทํานองอ่อนหวาน
เมือเล่าถึงตอนสุเทษณ์ฝากรักนางมัทนา และ ใช้กมลฉันท์ทีมีคําครุลหุตอนสุเทษณ์กริวนางมัทนาเพือให้ผอ ู้ ่านมี
อารมณ์โกรธร่วมไปกับตัวละคร
ดังตัวอย่าง
มะทะนาชะเจ้าเล่ห์ ชิชช
ิ า่ งจํานรรจา
ก็และเจ้ามิเต็มจิต จะสดับดนูชวน
ผิวะให้อนงค์นวล ชนะหล่อนทนงใจ
บ่มย
ิ อมจะร่วมรัก และสมัครสมรไซร้
ก็ดะนูจะยอมให้ วนิดานวาศสวรรค์
คุณค่าด้านคุณธรรม
1.2 ท้าวสุราษฎร์รก
ั ลูกและรักศักดิศรี พร้อมทีจะปกปองศักดิศรีและลูกแม้จะสูไ้ ม่ได้และต้องตาย
แน่นอนก็พร้อมทีจะสู้ เพราะรักของพ่อแม่เปนรักทีลริสท
ุ ธิและเทียงแท้
11
1.4 ท้าวชัยเสนและนางจันที เปนความรักทีมีความใคร่และความหลงอยูด ่ ้วยจึงมีความรูส
้ ก
ึ หึงหวง โกรธ
แค้นเมือถูกแย่งชิงคนรัก พร้อมทีจะต่อสูท
้ ําลายทุกอย่างเพือให้ได้กลับคืนมา
2. สะท้อนให้เห็นค่านิยมเกียวกับการครองรักระหว่างหญิงชายต้องเกิดจากความพึงพอใจทังสองฝาย
มิใช่เกิดจากการบังคับขูเ่ ข็ญให้รบ
ั รัก จึงจะเกิดความสุขในชีวิต
ดังตัวอย่าง
สุเทษณ์ : อ๊ะ! เราไม่ขอ ได้นางละหนอ โดยวิธน
ี น!
ั
3. สะท้อนให้เห็นค่านิยมของสตรีไทยในยุคสมัยนันว่ามีความซือสัตย์และยึดมันความรักเดียวใจเดียว
ดังตัวอย่าง
มัทนา : โอ้โอ๋ละเหียอุระสดับ วรศัพทะท่านทรง
อ้อยอิงแสดงวรประสง- คะ ณ ตัวกระหม่อมฉัน;
อยากใคร่สนองพระวรสุน- คะ ณ ตัวกระหม่อมฉัน;
อยากใคร่สนองพระวรสุน- ทรคุณอเนกนัน
จนใจเพราะผิดคติสธ
ุ รรม์ สุจริตประติชฺญา
ขอให้พระองค์อะมะระเท- วะเสวยประโมทา
หม่อมฉันจะขอประณตะลา สุระราชลิลาศไป.
12
4. ใ ห้ขอ
้ คิดในการครองตน
5. ให้ขอ
้ คิดในเรืองการมีบริวารทีขาดคุณธรรมอาจทําให้นายประสบหายนะได้
6. สอดแทรกความคิดเกียวกับความเชือในสังคมไทย เช่น
- ความเชือเรืองชาติภพ
- ความเชือเรืองการทําบุญมากๆ จะได้ไปเกิดในสวรรค์ และเสวยสุขในวิมาน
- ความเชือเรืองทํากรรมสิงใดย่อมได้รบ
ั ผลกรรมนัน
- ความเชือเรืองเวทมนตร์คาถา การทําเสน่หเ์ ล่หก
์ ล
13
คุณด่าด้านวรรณศิลป
1. การใช้ถ้อยคําและรูแบบคําประพันธ์เหมาะสมกับเนือหา
ทําให้ผอ
ู้ ่านเกิดความรูส
้ ก
ึ คล้อยตาม เกิดความประทับใจอยากติดตามอ่าน เช่น เมือมายาวินเล่าเรืองราวในอดีต
ถวายสุเทษณ์ว่าเหตุใดมัทนาจึงไม่รก ั สุเทษณ์ กวีเลือกใช้อินทรวิเชียรฉันท์ ๑๑ ทีมีท่วงทํานองเร็วเหมาะแก่การ
เล่าความ หรือบรรยายเรือง ส่วนเนือหาตอนสุเทษณ์ฝากรักนางมัทนานันใช้วสันตดิลกฉันท์ ซึงมีท่วงทํานองที
อ่อนหวาน เมือสุเทษณ์กริวนางมัทนาก็ไช้ กมลฉันท์ ซึงมีคําครุลหุทีมีจํานวนเท่ากันแต่ขนต้ ึ นด้วยคําลหุ จึงมีทํา
นองประแทกกระทันถ่ายทอดอารมณ์โกรธเกรียวได้ดี
ดังตัวอย่าง
มะทะนาชะเจ้าเล่ห์ ชิชช
ิ า่ งจํานรรจา,
….………………………………
ก็และเจ้ามิเต็มจิต จะสดับดนูชวน,
ผิวะให้อนงค์นวล ชนะหล่อนทนงใจ.
บ่มย
ิ อมจะร่วมรัก และสมัครสมรไซร้,
ก็ดะนูจะยอมให้ วนิดานิวาศสวรรค์,
2. การใช้โวหารกวีใช้อุปมาโวหารในการกล่าวชมความงามของนางมัทนา
ทําให้ผอ
ู้ ่านมองเห็นภาพความงามของนางมัทนาเด่นชัดขึน
ดังตัวอย่าง
งามผิวประไพผ่อง กลทาบศุภาสุพรรณ
งามแก้มแฉล้มฉัน พระอรุณแอร่มละลาน
งามเนตรพินจ
ิ ปาน สุมณีมะโนหะรา
งามทรวงสล้างสอง วรถันสุมนสุมา-
ลีเลิดประเสริฐกว่า วรุบลสะโรชะมาศ
งามเอวอนงค์ราว สุระศิลปชาญฉลาด
14
เกลากลึงประหนึงวาด วรรูปพิไลยพะวง
งามกรประหนึงงวง สุระคชสุเรนทะทรง
นวยนาฏวิลาศวง ดุจะรําระบําระเบง
ซาไพเราะนาเสียง อรเพียงภิรมย์ประเลง,
ได้ฟงก็วังเวง บ มิว่างมิวายถวิล
3. การใช้ลีลาจังหวะของคําทําให้เกิดความไพเราะ
กวีมค
ี วามเชียวชาด้านฉันทลักษณ์อย่างยิง สามารถแต่งบทเจรจาของตัวละครให้เปนคําฉันท์ได้อย่างดีเยียม อีก
ทังการใช้ภาษาก็คมคาย โดยทีบังคับฉันทลักษณ์ ครุ ลหุ ไม่เปนอุปสรรคเลย เช่น บทเกียวพาราสีต่อไปนี แต่ง
ด้วยวสันตดิลกฉันท์ ๑๔ มีการสลับตําแหน่งของคํา ทําให้เกิดความไพเราะได้อย่างยอดเยียม
ดังตัวอย่าง
เช่น ตอนมายาวินร่ายมนตร์
15
มาเถิดนางมา อย่าช้าเชืองช้อย ตูขา้ นีคอย ต้อนรับทรามวัย
16
5. บรรนาณุกรม
● กระทรวงศึกษาธิการ, กระทรวง. สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขันพืนฐาน. หนังสือเรียน
รายวิชาพืน ฐาน ภาษาไทย วรรณคดีวิจักษ์ ชันมัธยมศึกษาปที 5. ลาดพราว : โรงพิมพ์
สกสค. 2551. 131 หน้า 42-73
● ธนวรรณ โสขุมา. คุณค่าทีได้รบ
ั คุณค่าด้านวรรณศิลปและคุณค่าด้านสังคม [ออนไลน์]. เข้า
ถึงเมือวันที 21 พฤษภาคม 2563. สืบค้นได้จาก
https://sites.google.com/a/chs.ac.th/kru-thanawan/neuxha/khunkha-thi-di-rab
● นรีรต
ี น์. มัทนะพาธา [ออนไลน์]. เข้าถึงเมือวันที 19 พฤษภาคม 2563. สืบค้นได้จาก
https://krunareerat59.wordpress.com/2016/03/15/ใบความรูม ้ ท
ั นะพาธา/
● บุญกว้าง ศรีสทุ โธ. มัทนะพาธา [ออนไลน์]. เข้าถึงเมือวันที 21 พฤษภาคม 2563. สืบค้นได้
จาก
https://sites.google.com/a/htp.ac.th/mathna-phatha/7-bth-wikheraah/7-3-khunkha-
dan-sangkhm
● ภัททิรา เอียมประโคน. มัทนะพาธา [ออนไลน์]. เข้าถึงเมือวันที 21 พฤษภาคม 2563. สืบค้นได้
จาก
https://sites.google.com/site/learnthaibykrugikk/mathna-phatha
● อุปลักษณ์ (Metaphor) [ออนไลน์]. เข้าถึงเมือวันที 19 พฤษภาคม 2563.
สืบค้นได้จาก
https://sites.google.com/site/rtimaphr/2-xup-laksn-metaphor
● เนือเรือง [ออนไลน์]. เข้าถึงเมือวันที 27 พฤษภาคม 2563.
https://www.slideshare.net/0869435602/ss-28019563
17