Professional Documents
Culture Documents
Thai Final Proj
Thai Final Proj
โดย
นาย พศนิ งามธนไพศาล ชั นม ้ ั ธยมศก ึ ษาปี ที่ 5/1 เลขที่ 8
้ ั ธยมศก
นาย ปัถย ์ ชุณหนิ รันฤทธิ์ ชั นม ึ ษาปี ที่ 5/1 เลขที่ 4
นาย ชวิน ไวเมลืองอรเอก ชั นม ้ ั ธยมศก ึ ษาปี ที่ 5/1 เลขที่ 18
เสนอ
อ. ปัทวรรณ พันชั ย
โรงเรี ยนสาธิตนานาชาติมหาวิทยาลัยมหิดล
ึ ษาปี ที่ 5
้ ั ธยมศก
รายวิชาภาษาไทยและวัฒนธรรม ระดับชั นม
คาํ นํา
ึ ษาปที่ 5 โดยมีจุด
ศก
ประสงคเ์ พื่อศก
ึ ษาหาความรู้ และวิเคราะห์ วรรณคดีเรื่ อง บทละครพูดคาํ ฉันท์ เรื่ อง
มัทนะพาธา ซ่ึงมาจาก
เหลือ และ
นี้ จะเปนประโยชน์แกผ
่ ู้
2
คณะผูจ้ ั ดทาํ
สารบัญ
หน้า
1.2. โครงเรื่ อง
1.3. ตัวละคร
1.4. ้ งเรื่ อง
ฉากทอ
1.6. ่ เรื่ อง
แกน
2. การอา่ นและพิจารณาการใชภ
้ าษาในวรรณคดีและวรรณกรรม ประกอบดว้ ย
2.1. การสรรคาํ
3
2.2. การเรี ยบเรี ยงคาํ
บรรณานุ กรม
การอา่ นและพิจารณาเนื้ อหาและกลวิธีในวรรณคดีและวรรณกรรม
4
1.2 โครงเรื่ อง
โครงเรื่ องหลักๆของเรื่ องนี้ เกิดจากความรักของชายคนหนึ่ งที่มีให้กับผูห ้ ญิงคน
หนึ่ ง เเตผ่ ูห
้ ญิงคนนั ้ นดันปฏิเสธความรักนัน ้ ทาํ ให้ผูช้ ายโกรธเเละสาบผูห
้ ญิงคนนัน ้
เป็ นดอกไม้ จะเป็ นคนไดเ้ เคค ่ ืนวันเพ็ญ รวมถึงถา้ มีความรักก็ขอให้มีเเตค ่ วามทุกข์
เมื่อผูห
้ ญิงคนนัน ้ พบเจอความรักที่เเทจ้ ริ งก็ถูกกีดกันตามคาํ สาบของผูช้ ายคนนัน ้ จน
สุดทา้ ยผูห ้ ญิงคนนี้ ตอ ้ งกลายเป็ นดอกไมต ้ ลอดชีวต ิ เพราะไมร่ ั บรักจากชายคนนัน ้ อีก
รอบ
1.3 ตัวละคร
สุเทษณ์
เหลา่ ขา้ พึ่งพระเดช ้
ปกป้องเกศขา้ ทังปวง
จึ่งพร้อมณแดดวง ภักดีหมายถวายพร
สงิ่ ใดพระประสงค์ จงสท ิ ธินิรันดร
ใดองคจ์ อมอมร ไมโ่ ปรดปรานเร่งผา่ นไปฯ
5
เพื่อร้องและราํ บาํ เรอเทพไท, แมโ้ ปรดจะได้ เรี ยกมาบัดนี้ .
สุเทษณ์: เอาเถิดลองดู เผื่อวา่ ตัวกู จะคอ่ ยสุขี.
จิตระเสน: (เรี ยก) คณาอับสร ผูฟ ้ ้ อนราดี, ออกมาํ บัดนี้ ราํ ถวายกร.
มัทนา
ฟังถอ
้ ยดาํ รัสมะธุ ระวอน ดนุ น้ี ผิเอออวย.
จักเป็ นมุสาวะจะนะดว้ ย บ มิตรงกะความจริ ง.
อันชายประกาศวะระประทาน ประดิพัทธะแดห ่ ญิง,
หญิงควรจะเปรมกะมะละยิง่ ผิวะจิตตะตอบรัก;
แตห ่ ากฤดี บ อะภิรมย ์ จะเฉลยฉะนัน ้ จัก
เป็ นปดและลวงบุรุษะรัก ก็จะหลงละเลิงไป.
ตูขา้ พระบาทสส ิ ุจริ ต บ มิคด ิ จะปดใคร,
จึ่งหวังและมุง่ มะนะสะใน วรเมตตะธรรมา.
6
จากบทความนี้ เเสดงให้เห็นวา่ มัทนาเป็ นบุคคลที่มีความซ่ือตรง ไมม ่ เ์ หลี่ยม
่ ีเลห
ไมพ ่ ูดโป้ปด มีความเคารพผูท ้ ่ีสูงกวา่ ปากกับใจตรงกัน คิดเห็นอยา่ งไรก็พูดไปอยา่ ง
้ ไมเ่ สแสร้งแตค
นัน ่ วามจริ งที่นางพูดทาํ ให้นางตอ้ งไดร้ ั บความลาํ บาก นัน้ คือโดนสาบ
และทาํ ให้ทุกขร์ ะทมใจ
มายาวิน
เป็ นผูม
้ ีความสามารถพิเศษคือมีเวทยม ้ ั นเพื่อ
์ ะกดจิต เขามีวชิ าอาคม และเขาใชม
์ นตส
ชว่ ยสุเทษณ์เมื่อใช้ มนตส
์ ะกดนางมัทยา
ตัวละครเสริ ม
นางจัณฑี : อัครมเหสแ ี หง่ ทา้ วชั ยเสน ที่น้อยอกน้อยใจผัว จนถึงขันอิ ้ จฉาริ ษยานาง
มัทนาอันเป็ นเหตุให้นางออกอุบายชั ่วร้ายทังต ้ อ่ ผัวและนางที่ผัวรัก
ทา้ วชั ยเสน : ราชาผูท
้ รงครองเมืองรหัสตินาปุระ มีอัครมเหสอ ี ยูแ่ ลว้ แตก
่ ย็ ั งพึงใจ
นางมัทนา
จนรับนางกลับวัง
7
้ งเรื่ อง
1.4 ฉากทอ
ฉากทอ ้ งเรื่ องของมัทนะพาธานัน ้ เกิดขึ้นบนสวรรคเ์ นื่ องจากสุเทศณ์มัทนา และ
มายาวินเป็ นเทพ เทวดานางฟ็ า ซ่ึงเทพ เทวดา และ นางฟ้าจะอาศั ยอยูบ ่ นสวรรคแ์ ละ
ขอ ้ ก็สามารถดูไดด
้ สั งเกตุนัน ้ ั ่งบทตอ่ ไปนี้ ที่เมื่อมายาวินคลายคาถาให้มัทนา พอมัทนา
รู้ สกึ ตัวก็ถาม วา่ ทาํ ไมมาอยูใ่ นนี้ และมัทนาก็ไดก ้ ลา่ ววา่
8
มัทนา “โอรู ปวิไลยะมละแรง ละก็จาํ จะแข็งใจ.”
2. การอา่ นและพิจารณาการใชภ
้ าษาในวรรณคดีผูแ
้ ตง่ ละวรรณกรรม
การสรรคาํ
การสรรคาํ คือการเลือกใชค ้ าํ ให้ส่อ
ื ความคิด ความเขา้ ใจ ความรู้ สก
ึ และ
อารมณ์ไดอ้ ยา่ งงดงาม โดยคาํ นึ งถึง ความงามดา้ นเสยี ง โวหาร และรู ปแบบคาํ
ประพันธ์
9
บทสนทนาระหวา่ งสุเทษณ์และมัทนา ซ่ึงใชค ้ าํ ประพันธป
์ ระเภทอินทวงส
ฉันท๑ ้ าํ งา่ ย ๆ และมีคาํ ภาษาอื่นที่ใชเ้ ฉพาะ
์ ๒ และ วสั นตดิลกฉันท์ ๑๔ สว่ นใหญใ่ ชค
ในบทประพันธป ์ ะปนบา้ งเล็กน้อย
้ ั พทส์ ูง
การเลือกใชศ
การเลือกใชค
้ าํ ให้เหมาะสมกับประเภทของคาํ ประพันธ์
วรรณคดีเรื่ องนี้ เป็ นคาํ ประพันธบ ์ ทละครพูดคาํ ฉันท์ ไดม ้ ีการใช้ คาํ บาลี
และสั นสกฤตเป็ นหลัก ประกอบกับการใชป ้ ระเภทคาํ ประพันธต ์ า่ ง เพื่อส่อ
ื อารมณ์
หรื อ
่ึ อื่นไดอ
ความรู้ สก ้ ยา่ งมีคุณภาพ
ฟังถอยคาํ ดาํ รัสมะธุ ระวอน ดนุ น้ี ผิเอออวย
จักเป็ นมุสาวะจะนะดว้ ย บมิตรกะความจริ ง
วันชายประกาศวะระประทาน ประดิพัทธะแดห ่ ญิง
หญิงควรจะเปรมกะละมะยิง่ ผิวะจิตตะตอบรัก
10
ตอ้ งการเน้นอารมณ์ท่ีออ่ นหวาน ผูแ ้ ตง่ จึงเลือกใชค
้ าํ ประพันธป
์ ระเภทวสั นตดิลก
ฉันท์ 14 เพื่อส่อ
ื อารมณ์โดยได้ คาํ มาจากภาษาสั นสกฤตและบาลี
คาํ ที่เลน
่ เสยี งหนักเบา
คาํ ซาํ ้ เกิดจากการสร้างคาํ ขึ้นใหม่ โดยนําคาํ มูลซ่ึงสว่ นมากเป็ นคาํ พยางคเ์ ดียว
มาซาํ ้ กัน มีความหมายเปลี่ยนแปลงไป อาจเน้นหนักขึ้น เบาลงหรื อไมก ่ เ็ ปลี่ยนเป็ น
อยา่ งอื่น ซ่ึงคาํ ที่ซาํ กัน จะเรี ยงชิดกันหรื อมีคาํ อื่นมาคั่นก็ได และจะอยูในวรรค
เดียวกันหรื อตางวรรคตางบาทกันก็ได
11
คาํ พอ้ งเสยี งคือคาํ มูลที่มีรูปคาํ ตา่ งกันแตอ่ อกเสยี งเหมือนกัน เชน ่ คาํ ที่ออก
เสยี ง สั น มีรูปคาํ ไดต ้ า่ งๆ
การซาํ ้ คาํ ที่วรรคหน้าอีกลักษณะหนึ่ ง คือทรงนําคาํ ซาํ ้ ประกอบเขากับคาํ กริ ยา
อื่นๆ เพื่อชว่ ยส่อ ื ความหมายของความรู สก ึ ที่ทวีข้ึนเรื่ อยๆ ดังตัวอยา่ ง
สุเทษณ์
ดวยอาํ นาจอิทธิ์ฤทธี อันประมวลมี ณ ตัวกูผูแรงหาญ,
กูสาปมัทนานงคราญ ใหจุติผาน ไปจากสุราลัยเลิศ,
สูแดนมนุ ษยและเกิด เปนมาลีเลิศ อันเรี ยกวากุพชะกะ,
12
ใหเปนเชนนัน ้ กวาจะ ึ อุระ
รู สก ระอุเพราะรักรึ งเข็ญ.
ทุกเดือนเมื่อถึงวันเพ็ญ ใหนางนี้ เปน มนุ ษยอยูกาํ หนดมี
เพียงหนึ่ งทิวาราตรี ; แตหากนางมี ความรักบุรุษเมื่อใด,
เมื่อนัน
้ แหละใหทรามวัย คงรู ปอยูไซร บ คืนกลับเปนบุปผา,
หากรักชายแลวมัทนา บ มีสุขา ภิรมยเพราะเริ ดรางรัก,
และนางเปนทุกขยิง่ นัก จนเหลือที่จัก อดทนอยูอีกตอไป
เมื่อนัน้ ผิวาอรไท กลาววอนเราไซร เราจึ่งจะงดโทษทัณฑ
การใชโ้ วหาร
อุปมาคืการเปรี่ ยบเทียบหรื อเปรี่ ยบเปรยโดยนัยของสงิ่ หนึ่ งกับอีกสงิ่ หนึ่ งมีคาํ
อติพจนคือการกลาวเกินจริ ง ซ่ึงเปนความรู สก ึ หรื อความคิดของผูแตงที่ตองการที่จะ
เนนยาํ ้ ความหมาย
ใหผูอ ึ วาหนัก และ จริ งจัง
้ า่ นรู้ สก
13
ไหนๆ ก็เจา้ สายสมร มาแลว้ จะร้อน และรนและรี บไปไหน?
มัทนา. เทวะ, อันฃา้ นี้ ไซร้ มานี่ อยา่ งไร บทราบสาํ นึ กสั กนิ ด;
้ ุกรุ กถึงลานใน.
ขอพระองคจ์ งเมตตา และงดโทษฃา้ ผูบ
พี่เองใชม
้ ายาวิน ให้เชอญยุพิน มาที่น้ี ดว้ ยอาถรรพ.์
่ มูช่ าวฟ้าทังหลาย?
แกห ้ โอพ ์ ทรงปราณี .
้ ระฦๅสาย พระองคบ
ความรักเหมือนโรคา บันดาลตาให้มืดมน
ไมย่ น
ิ และไมย่ ล อุปสรรคคะใดใด
ความรักเหมือนโคถึก กาํ ลังคึกผิขังไว้
ก็จะโลดจากคอกไป บย่ อมอยู ่ ณ ที่ขัง
14
ถา้ หากปลอ่ ยไว้ ก็ดึงไปดว้ ยกาํ ลัง
ยิง่ ห้ามก็ยงิ่ คลั่ง บห
่ วนคิดถึงเจ็บกาย
- ให้ขอ
้ คิดในการครองตน หญิงใดอยูใ่ นฐานะอยา่ งนางมัทนาจะตอ ้ งมี
ความ ระมัดระวังตัว หลีกหนี จากผูช้ ายมาราคะให้ไกล
- สอนให้หญิงสาวรู้ จักใชป ้ ั ญญา และให้มีความเฉลียวฉลาดรู้ ทัน
เลห่ เ์ หลี่ยมของ ผูช้ ายและผูท ้ ่ีมาหมิน่ ในศั กดิศ
์ รี
- ในเรื่ องนี้ กวีจึงกาํ หนดให้ทางมัทนาถูกสาปกลายเป็ นดอกไมช้ ่ือดอกุ
พชกะ (กุหลาบ) ซ่ึงสวยงามแตม ่ ีหนามแหลมคมเปรี ยบดั่งสติปญญาเป็ นเกราะ
ป้องกันตนให้ พน จากมือผูท ้ ่ีปรารถนาจะเด็ดดอกไปเชยชมหรื อผูท ้ ่ีปรารถนาไมด ่ ี
15
“มัทนา: พระรักสมัครณพระหทัย ฤจะทอดจะทิ้งเสีย?”
บรรณานุ กรม
กระทรวงศก ึ ษาธิการ, กระทรวง. สาํ นักงานคณะกรรมการการศก ้ ้ นฐาน.
ึ ษาขันพื
ื เรี ยน รายวิชาพื้น
หนังสอ
้ ั ธยมศก
ฐาน ภาษาไทย วรรณคดีวจิ ั กษ์ ชั นม ึ ษาปี ที่ 5. ลาดพราว : โรงพิมพ์ สกสค.
2551. 131 หน้า
โรงเรี ยนโนนเจริ ญพิทยาคม อาํ เภอบา้ นกรวด จังหวัดบุรีรัมย ์ สพม. 32, สาระ
สาํ คัญมัทนะพาธา [ ออนไลน์]. เขา้ ถึงเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2562. สบ
ื คน
้ ไดจ้ าก
https://sites.google.com/site/learnthaibykrugikk/mathna-phatha
16
วันที่ 5 พฤษภาคม 2562. สบ
ื คนไดจ้ าก
http://thesis.swu.ac.th/swuthesis/Tha(M.A.)/Kanokkan_N.pdf
ครู ธีรศั กดิ์ จิระตราชู (ครู หนึ่ ง) , ตาํ นานรักดอกกุหลาบ มัทนะพาธา, เขา้ ถึงเมื่อวันที่
5 มิถุนายน 2562. สบ ื คน้ ไดจ้ าก
http://119.46.166.126/resource_center11/Admin/acrobat/v_4_th_t
h_580.pdf
17