You are on page 1of 124

3

การลงทุนแบบเนนคุณคาของ วอเร็น บัฟเฟตต


ตามรอยวิถีเซียนลงทุน
ผูŒแต‹ง ดร.กฤษฎา เสกตระกูล, CFPTM
ผูŒช‹วยกรรมการผูŒอํานวยการ
สถาบันกองทุนเพื่อพัฒนาตลาดทุน
ตลาดหลักทรัพยแห‹งประเทศไทย
กองบรรณาธิการ ปยาภรณ ครองจันทร
อลิศรา ฮัววานิช
พงษพันธ พูลเพิ่ม
จํานวน 124 หนŒา (รวมปก)
พิมพครั้งที่ 1 พฤศจิกายน 2555 จํานวน 3,000 เล‹ม
พิมพครั้งที่ 2 กุมภาพันธ 2556 จํานวน 3,500 เล‹ม
จัดทําโดย ฝ†ายพัฒนาความรูŒผูŒลงทุน
ศูนยส‹งเสริมการพัฒนาความรูŒตลาดทุน (TSI)
ตลาดหลักทรัพยแห‹งประเทศไทย
เลขที่ 62 ถนนรัชดาภิเษก แขวงคลองเตย
เขตคลองเตย กรุงเทพฯ 10110
โทรศัพท 0 2229 2222 โทรสาร 0 2229 2722
www.tsi-thailand.org

ลิขสิทธิ์ของตลาดหลักทรัพยแหงประเทศไทย
สงวนสิทธิ์ หามลอกเลียนแบบไมวาสวนใดสวนหนึ่งของหนังสือ นอกจากจะไดรับอนุญาต
เกริ่นนํา
เมื่อกล‹าวถึง “ไอดอล” ของการลงทุนแบบเนŒนคุณค‹า หรือ Value
Investing ที่ประสบความสําเร็จและเปšนแบบอย‹างในการลงทุนที่ดี เชื่อว‹า
นักลงทุนเลื่องชื่อระดับโลกอย‹าง วอรเรน บัฟเฟตต และ จอหน เนฟฟŠ หรือ
นักลงทุนที่มีชื่อเสียงของไทยอย‹าง ดร.นิเวศน เหมวชิรวรากร และ คุณเทพ
รุ‹งธนาภิรมย คงจะเปšนไอดอลอันดับหนึ่งในใจใครต‹อใครหลายคน เพราะ
บุคคลเหล‹านีล้ วŒ นมีแนวคิดการลงทุนทีน่ า‹ สนใจ และเปšนแบบอย‹างการลงทุนทีด่ ี
ที่นักลงทุนสามารถนํามาประยุกตใชŒในการลงทุนของตนเองไดŒ
ตลาดหลักทรัพยแห‹งประเทศไทย จึงไดŒจัดทําหนังสือ “ตามรอยวิถี
เซียนลงทุน” เล‹มนี้ขึ้น เพื่อรวบรวมแนวคิดและหลักการลงทุนแบบเนŒนคุณค‹า
ของกูรูทั้งระดับโลกและระดับประเทศ ใหŒสมาชิกในโครงการ “ออมไวŒในหุŒน
by TSI” มั่งคั่งดŒวยหุŒน ลงทุนอย‹างคุณภาพ ไดŒเรียนรูŒและเกิดแรงบันดาลใจ
ในการลงทุนในหุŒนและกŒาวสู‹เสŒนทางการเปšนนักลงทุนแบบเนŒนคุณค‹าที่ประสบ
ความสําเร็จในอนาคต
ฝ†ายพัฒนาความรูŒผูŒลงทุน
ศูนยส‹งเสริมการพัฒนาความรูŒตลาดทุน
ตลาดหลักทรัพยแห‹งประเทศไทย
สารบัญ
คํานํา 5

ตามรอยวิถีเซียนลงทุน :
การลงทุนแบบเนนคุณคาของ วอเร็น บัฟเฟตต 8
ประวัติโดยสังเขป 11
ปรัชญาหลักในการลงทุนของ วอเร็น บัฟเฟตต 19

ตามรอยวิถีเซียนลงทุน :
การลงทุนหุนคุณคา แบบเนน P/E ตํ่าของ จอหน เนฟฟ 30
ประวัติโดยสังเขป 33
เริ่มชีวิตการบริหารกองทุน 35
หลักปรัชญาการลงทุน 7 ประการของ จอหน เนฟฟŠ 37
เทคนิคการคŒนหาหุŒนดี ราคาถูก 46
เทคนิคในการบริหารพอรตหุŒนที่มี P/E ตํ่า 49

ตามรอยวิถีเซียนลงทุน :
การลงทุนแบบดันโด 54
ประวัติโดยสังเขป 56
ลักษณะเด‹นของวิถีแห‹งดันโด 57
กลยุทธการลงทุนแบบดันโด 61
ศิลปะการขายหุŒน : การตีฝ†าออกจากจักรพยุหะ 67
ตามรอยวิถีเซียนลงทุน :
การลงทุนแบบเซียน VI ของ ดร.นิเวศน เหมวชิรวรากร 70
ประวัติโดยสังเขป 72
เริ่มตŒนชีวิตการลงทุนดŒวยการ “ตีแตก” 75
เรียนรูŒหลักการ “ตีแตก” 76
เรียนรูŒตัวอย‹างพอรต “ตีแตก” ของ ดร.นิเวศน 78
ตีแตกสู‹ความสําเร็จ 80
สไตลการลงทุน 82
เทคนิคการคŒนหาหุŒน VI ของ ดร.นิเวศน 84
ตะแกรงร‹อนหุŒน VI จากป˜จจัยทางดŒานคุณภาพ 86
ตะแกรงร‹อนหุŒน VI จากป˜จจัยดŒานราคา 89
เทคนิคการขายหุŒน VI (เมื่อถึงเวลา) 94
ประเด็นเพิ่มเติมเกี่ยวกับการลงทุนแบบ VI 95

ตามรอยวิถีเซียนลงทุน :
การลงทุนหุนหานทองคําของ คุณเทพ รุงธนาภิรมย 100
ประวัติโดยสังเขป 102
รูŒจักธรรมชาติของตลาดหุŒน 103
รูŒจักกลยุทธการลงทุนในตลาดหุŒน 104
ลักษณะสําคัญของหุŒนห‹านทองคํา 107
เขŒาใจตัวเลขทางการเงินเพื่อคŒนหาหุŒนห‹านทองคํา 108
รูŒจักดัชนีวัดความสามารถในการทํากําไร 111
การเชื่อมโยงของดัชนีวัดความสามารถในการทํากําไร 113
ดูการเติบโตของกําไร 114
ยุทธศาสตรหุŒนห‹านทองคํา 114
แนวคิดในการสรŒางความมั่งคั่งในระยะยาว 118
แผนการลงทุนแบบระยะยาวดŒวยหุŒนห‹านทองคํา 120
กลยุทธการลดตŒนทุนหุŒนในพอรตหุŒนห‹านทองคํา 121
8
ตามรอยวิถีเซียนลงทุน
9
การลงทุนแบบเนนคุณคาของ วอเร็น บัฟเฟตต

ตามรอยวิถีเซียนลงทุน :
การลงทุนแบบเนนคุณคา
ของ วอเร็น บัฟเฟตต
10
ตามรอยวิถีเซียนลงทุน

ถึงนาทีนไี้ ม‹มนี กั ลงทุนคนไหนทีจ่ ะไม‹รจŒู กั “วอเร็น บัฟเฟตต” (Warren Buffett)


ผูŒมั่งคั่งสูงสุดอันดับสองของโลก เปšนรองก็แต‹ บิล เกตส (Bill Gates) เจŒาพ‹อ
ไมโครซอฟทเท‹านัน้ วอเร็น บัฟเฟตต ไม‹ใช‹นกั ธุรกิจมืออาชีพ แต‹เขาเปšนนักลงทุน
มืออาชีพ ความสําเร็จของบัฟเฟตต ทําใหŒมผี ตŒู ดิ ตามศึกษาอัตชีวประวัตขิ องเขา
สังเกตและวิเคราะหวิธีและสไตลการลงทุนของเขาจนเกิดคําว‹า “การลงทุนเนŒน
คุณค‹า” (Value Investing) และนักลงทุนที่ปฏิบัติตามแนวคิดนี้ถูกเรียกว‹า
“นักลงทุนเนŒนคุณค‹า” (Value Investor) มีผูŒเขียนถึง วอเร็น บัฟเฟตต อย‹าง
มากมายในหลายแง‹มุม ผมในฐานะนักตีความก็จะขอเลือกหนังสือชื่อ “Warren
Buffett Wealth” เขียนโดย Robert P. Miles ซึ่งมีฉบับแปลและเรียบเรียงเปšน
ภาษาไทย โดย ดร.กุศยา ลีฬหาวงศ จัดพิมพโดยสํานักพิมพฟเ ดลลิตี้ โดยใชŒชอื่
ว‹า “มั่งคั่งอย‹าง วอเร็น บัฟเฟตต” มาสรุปใหŒท‹านนักลงทุนที่สนใจไดŒทราบกัน
ผูŒที่ตŒองการอ‹านรายละเอียดเจาะลึกก็ไปหาหนังสือฉบับเต็มมาอ‹านเพิ่มเติมกัน
ต‹อไปครับ
หนังสือเล‹มนี้เริ่มตŒนดŒวยการชี้ใหŒเห็นขŒอมูลที่น‹าตื่นตะลึงว‹า ถŒาป‚ 1956
เรานําเงินไปร‹วมลงทุนกับ วอเร็น บัฟเฟตต จํานวน 10,000 ดอลลารสหรัฐ
มาถึงป‚ 2004 เงินลงทุนของเราเมือ่ หักค‹าธรรมเนียม ค‹าใชŒจา‹ ย และภาษีแลŒว จะมี
มูลค‹าสุทธิสงู ถึง 300 ลŒานดอลลาร วอเร็น บัฟเฟตต ทําไดŒอย‹างไร ทัง้ ๆ ทีเ่ ขาไม‹ไดŒ
ถือครองสิทธิบตั รใดๆ ไม‹ไดŒพฒ ั นาเทคโนโลยีใหม‹หรือทําธุรกิจใดๆ แต‹สงิ่ ทีเ่ ขาใชŒ
ก็คือเครื่องมือในโลกทุนนิยมที่เรียกว‹า “การลงทุน” (ซึ่งทุกคนสามารถนําไป
ใชŒไดŒ) วิธีตามสไตลของเขาก็คือ “การมีวินัยที่เคร‹งครัด และยึดมั่นในหลักการ
ลงทุนแบบเนŒนคุณค‹าอย‹างไม‹เสือ่ มคลาย” แมŒอายุจะล‹วงเลยมาจนถึง 81 ป‚แลŒว
ก็ตาม สิ่งที่ทุกคนยอมรับและชื่นชม วอเร็น บัฟเฟตต ไม‹ใช‹การสรŒางตัวเองเปšน
มหาเศรษฐีพันลŒาน แต‹เขาใชŒเวลาทั้งชีวิตสรŒางความมั่งคั่งใหŒแก‹ผูŒอื่นดŒวย
นอกจากนี้ เขายังไดŒคŒนหาวิธีการที่ทําใหŒเกิดความยั่งยืนของความมั่งคั่ง
และถ‹ายทอดความมั่งคั่งไปยังคนรุ‹นต‹อไปเพื่อสังคมที่ดีกว‹าดŒวย เราจะค‹อยๆ
ตามดูชวี ติ และแนวคิดของ วอเร็น บัฟเฟตต กันครับ โดยในตอนแรกนีจ้ ะเริม่ ตŒน
จากอัตชีวประวัติและช‹วงเวลาในการสรŒางความมั่งคั่งของเขา
11
การลงทุนแบบเนนคุณคาของ วอเร็น บัฟเฟตต

ประวัติโดยสังเขป
ความมั่งคั่งไมจําเปนตองมาจากชาติตระกูล
วอเร็น บัฟเฟตต ไม‹ไดŒเกิดมารํา่ รวย แต‹สงิ่ ทีเ่ ขามีคอื สติปญ ˜ ญา ซึง่ ก็ไม‹ไดŒ
มีมาทั้งหมดตั้งแต‹เกิด แต‹เขาเพิ่มพูนมันภายหลังดŒวยความตั้งใจและอดทน
เรียกว‹า เขามีทั้งพรสวรรคและพรแสวง แต‹ที่สําคัญที่สุดก็คือแรงบันดาลใจ
(Inspiration) และความหลงใหล (Passion) ในเรื่องการลงทุน ทําใหŒเขาใชŒ
เวลาพัฒนาสติปญ ˜ ญาเพือ่ เรือ่ งการลงทุนนีม้ ากทีส่ ดุ วอเร็น บัฟเฟตต ใชŒแนวคิด
เรียบง‹ายเหมือนกับคนที่ประสบความสําเร็จอื่นๆ คือ เริ่มดŒวยการศึกษาอย‹าง
ไม‹ยอ‹ ทŒอในเรือ่ งใดเรือ่ งหนึง่ เพือ่ ทีจ่ ะเปšนคนเก‹งทีส่ ดุ เขาเรียนรูจŒ ากผูเŒ ชีย่ วชาญ
ลงมือปฏิบัติอย‹างแทŒจริง หาหลักการแห‹งความสําเร็จ เมื่อคŒนพบและทํามันอีก
ซํ้าแลŒวซํ้าเล‹า จนกลายเปšนวิธีการลงทุนชนิดหนึ่งที่เปšนที่ยอมรับ
“วอเร็น เอ็ดเวิรด บัฟเฟตต” (Warren Edward Buffett) เกิดเมื่อวันที่
30 สิงหาคม 1930 ที่เมืองโอมาฮา รัฐเนบราสกŒา สหรัฐอเมริกา เปšนบุตรชาย
ของ โฮเวิรด และ ไลล‹า บัฟเฟตต ตระกูลของเขาเปšนพ‹อคŒา คุณทวดและคุณปู†
ของวอเร็นมีรŒานขายของชําชื่อ Buffett and Son ในเมืองโอมาฮา ขณะที่เขาเกิด
คุณพ‹อของเขาประกอบอาชีพเปšนผูŒบริหารของบริษัทนายหนŒาขายหลักทรัพย
(Broker) ซึง่ เปšนช‹วงเวลาพอดีกบั เกิดการตกตํา่ ครัง้ ใหญ‹ในตลาดหุนŒ ของสหรัฐฯ
และทั้งโลก

สายเลือด ความหลงใหล และลงมือทํา


ขณะที่มีอายุ 6 ขวบ วอเร็น บัฟเฟตต ก็เริ่มตŒนเปšนพ‹อคŒาแลŒว โดยขอซื้อ
โคŒกแพ็ค 6 ขวด ในราคา 25 เซนต จากรŒานของคุณปู†แลŒวเอาไปขายต‹อใหŒถึง
มือเพื่อน ในราคาขวดละ 5 เซนต ทําใหŒไดŒผลตอบแทนจากการลงทุนโดยรวม
20%
12
ตามรอยวิถีเซียนลงทุน

ตอนเปšนเด็ก เขาหลงใหลในตัวเลข คณิตศาสตร เงินตรา และเหรียญ


เขาเริ่มอ‹านหนังสือ A Thousand Ways to Make $1000 ตั้งแต‹อายุ 8 ขวบ และ
เมือ่ อายุ 10 ขวบ เขาก็เริม่ อ‹านหนังสือทีเ่ กีย่ วกับการลงทุน การเงิน และตลาดหุนŒ
ทุกเล‹มทีม่ อี ยูใ‹ นหŒองสมุดเมืองโอมาฮา นอกจากนี้ เขายังไดŒเรียนรูจŒ ากการช‹วยงาน
เล็กๆ นŒอยๆ ในบริษทั โบรกเกอรของพ‹อ โดยการช‹วยเขียนราคาหุนŒ บนกระดาน
ราคาดŒวยชอลค
ขณะที่อายุ 11 ขวบ วอเร็นซื้อหุŒนเปšนครั้งแรก เปšนหุŒนบุริมสิทธของ
City Service จํานวน 6 หุŒน ในราคาหุŒนละ 38 ดอลลาร โดยเปšนของตนเอง
3 หุŒน และของพี่สาว 3 หุŒน เขาขายหุŒนนี้ออกไปเมื่อราคา 40 ดอลลาร แมŒจะไดŒ
กําไร แต‹เขาก็ไดŒเรียนรูŒเกี่ยวกับจังหวะการซื้อขาย เพราะภายหลังหุŒนนี้มีราคา
ปรับตัวขึน้ ไปถึง 200 ดอลลาร การกระหายความรูดŒ าŒ นการลงทุนมีไม‹หยุดหย‹อน
โดยเฉพาะความตŒองการเขŒาไปมีส‹วนร‹วมในตลาดลงทุน เมื่ออายุ 13 ป‚ เขาไดŒ
กําหนดเป‡าหมายว‹าจะเปšนเศรษฐีใหŒไดŒเมื่ออายุ 30 ป‚
ต‹อมาเมื่อเขาอายุ 14 ป‚ คุณพ‹อของเขาไดŒรับเลือกใหŒเปšนสมาชิก
สภาคองเกรสของรัฐเนบราสกŒา และครอบครัวตŒองยŒายไปอยูท‹ กี่ รุงวอชิงตัน ดีซี
เพื่อทํางานที่รัฐสภา วอเร็นตŒองเขŒาเรียนต‹อที่เมืองนี้ เขาไม‹ค‹อยชอบเมืองหลวง
เพราะผูกพันกับเมืองโอมาฮาบŒานเกิด (ซึง่ ทําใหŒเราเห็นว‹าเมือ่ โตขึน้ เขาเลือกทีจ่ ะ
อยู‹อาศัยและทํางานที่บŒานเกิดเท‹านั้น) ขณะที่อยู‹เมืองหลวง วอเร็นทํางานพิเศษ
เปšนเด็กส‹งหนังสือพิมพวอชิงตันโพสต โดยมีรายไดŒพเิ ศษ 175 ดอลลารตอ‹ เดือน
นอกจากนัน้ ยังทําธุรกิจการขายลูกกอลฟมือสอง ถึงตอนนัน้ วอเร็นยังนําเงินออม
อีก 1,200 ดอลลาร ไปลงทุนซือ้ ทีด่ นิ เกษตรกรรมในรัฐเนบราสกŒา และต‹อดŒวยการ
ทําธุรกิจเครื่องเล‹นพินบอลมือสอง ซึ่งซื้อเครื่องเล‹นเก‹ามาในราคา 25 ดอลลาร
เมื่อเทียบกับราคาเครื่องใหม‹ 300 ดอลลาร แลŒวนําไปวางในรŒานตัดผมชาย
ธุรกิจนีไ้ ปไดŒดวŒ ยดี โดย 1 ป‚ตอ‹ มา เขาและเพือ่ นไดŒขายธุรกิจนีใ้ หŒแก‹ทหารผ‹านศึก
ไปในราคา 1,200 ดอลลาร
เมื่อจบชั้นมัธยมศึกษา วอเร็นมีอายุ 16 ป‚ มีทรัพยสินที่หาดŒวยตนเองถึง
6,000 ดอลลาร เขายังคงทําธุรกิจ ใชŒชีวิตอย‹างมัธยัสถ รายจ‹ายนŒอยกว‹ารายไดŒ
และเขายังกระหายความรูŒอยู‹ตลอดเวลา เขาอ‹านหนังสือดŒานธุรกิจ การเงิน
13
การลงทุนแบบเนนคุณคาของ วอเร็น บัฟเฟตต

การลงทุนมาแลŒวถึง 100 เล‹ม และผลการเรียนมีความโดดเด‹นในวิชาคณิตศาสตร


เปšนอย‹างมาก

The Intelligent Investor :


หนังสือที่เปลี่ยนแปลงชีวิตของวอเร็น บัฟเฟตต
วอเร็นสมัครและเขŒาเรียนระดับปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย
แต‹ ต ‹ อ มาไดŒ ย Œ า ยไปเรี ย นและจบระดั บ ปริ ญ ญาตรี ด Œ า นเศรษฐศาสตร จาก
มหาวิทยาลัยเนบราสกŒา ในป‚ 1950 ในขณะที่เรียนในป‚สุดทŒาย เขาไดŒอ‹าน
หนังสือ “The Intelligent Investor” ของเบนจามิน เกรแฮม หนังสือเล‹มนี้ไดŒ
จุดประกายหรือเปšนจุดเริ่มตŒนของปรัชญาการลงทุนที่เรียกว‹า “การลงทุนแบบ
เนŒนคุณค‹า” ที่มีแนวคิดที่สําคัญ คือ การลงทุนจะดีที่สุดเมื่อผูŒซื้อรูŒจักธุรกิจ
มากที่สุด และลงทุนโดยปราศจากอารมณ ความกลัว หรือวิ่งตามแนวโนŒมหรือ
ความนิยมชั่วครั้งชั่วคราว
ตอนอายุ 19 ป‚ วอเร็นมีความมั่งคั่งของตนเอง 9,800 ดอลลาร เขา
สมัครเรียนปริญญาโทดŒานเศรษฐศาสตรที่มหาวิทยาลัยฮารวารด แต‹ไดŒรับการ
ปฏิเสธ แต‹นั่นกลับเปšนสิ่งดี เพราะเขาไดŒตามหาเบนจามิน เกรแฮม และพบว‹า
เปšนอาจารยอยู‹ที่มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย เขาไดŒสมัครและไดŒรับการตอบรับ ที่นี่
เขาไดŒความรูŒจากนักการเงินที่มีชื่อเสียง รวมทั้ง เดวิด ดอดจ ผูŒเขียนหนังสือ
“Security Analysis” ร‹วมกับเบนจามิน เกรแฮม
ระหว‹างเรียน ในตอนทีเ่ ขาอายุ 21 ป‚ เขาทราบว‹า เบนจามิน เกรแฮม เปšน
ประธานกรรมการบริษัทประกันภัยรถยนต “GEICO” เขาอาสาเขŒาไปช‹วยงาน
ในวันหยุด และไดŒเรียนรูŒหลักการวิเคราะหธุรกิจประกันภัยรถยนต ซึ่งทําใหŒเขา
ไดŒพนื้ ฐานการหามูลค‹าทีแ่ ทŒจริงผ‹านการวิเคราะหธรุ กิจในแง‹มมุ ต‹างๆ ระหว‹างนี้
เขายังไดŒเขียนงานวิจัยชื่อ “The Security & Like Best” ลงใน The Commercial
and Financial Chronicle โดยใชŒขŒอมูลหุŒน GEICO นั้นเอง
14
ตามรอยวิถีเซียนลงทุน

หลังจบการศึกษาในป‚ 1951 เขาอยากทํางานที่ตลาดหุŒนในวอลลสตรีท


แต‹บิดาและเบนจามิน เกรแฮม ไม‹เห็นดŒวย นอกจากนี้ เบนจามิน เกรแฮม
ยังปฏิเสธที่จะรับเขาเขŒาทํางานดŒานวิเคราะหหุŒนในบริษัทของเขา ทั้งที่วอเร็น
เปšนลูกศิษยทไี่ ดŒเกรด A+ คนเดียวในวิชาวิเคราะหหลักทรัพยและเสนอตัวไม‹รบั
เงินเดือนดŒวย วอเร็นจึงตŒองกลับบŒานที่รัฐโอมาฮา

อาชีพที่เกี่ยวของกับการลงทุน :
เมื่อหลงใหล ก็ลงมือทําเลย
วอเร็น บัฟเฟตต เริ่มตŒนทํางานเปšนนายหนŒาคŒาหลักทรัพย ที่บริษัท
บัฟเฟตต แอนด ฟอลค ที่คุณพ‹อของเขาเปšนหุŒนส‹วน และเริ่มสอนหนังสือ
ภาคคํ่าในวิชาหลักการลงทุนของมหาวิทยาลัยโอมาฮา เมื่ออายุเพียง 21 ป‚ ในป‚
1952 เขาแต‹งงานกับซูซี่ ทอมปŠสัน เพื่อนร‹วมหŒองในมหาวิทยาลัยของนŒองสาว
ของเขา ว‹ากันว‹าระหว‹างไปฮันนีมูน เขายังนําหนังสือการวิเคราะหหลักทรัพย
ของ เบนจามิน เกรแฮม ไปอ‹านดŒวย
ในป‚ 1954 เบนจามิน เกรแฮมไดŒโทรศัพทไปหาวอเร็นและชวนเขากลับมา
ทํางานในฐานะหุŒนส‹วนของบริษัท เกรแฮม นิวแมน ที่นิวยอรค มีรายไดŒ 12,000
ดอลลารต‹อป‚ ในช‹วง 2 ป‚ที่เขาไดŒอยู‹กับบริษัทนี้ เขาไดŒฝƒกฝนตัวเองอย‹างหนัก
จนพรŒอมทีจ่ ะออกไปจัดตัง้ ธุรกิจหุนŒ ส‹วนการลงทุนของตนเองในบŒานเกิด ซึง่ เวลา
นัน้ มาถึงเมือ่ วอเร็นอายุ 26 ป‚ เกรแฮมถอนหุนŒ ส‹วนออก วอเร็นจึงกลับไปทีโ่ อมาฮา
เขาเริ่มลงทุนดŒวยเงินของตนเอง 100 ดอลลาร และอีก 105,000 ดอลลาร จาก
ครอบครัวและเพื่อนๆ เขาเริ่มลงทุนโดยทํางานอยู‹กับบŒาน ไม‹มีสํานักงาน ไม‹มี
เลขานุการ ตลอด 13 ป‚ นับจากนัน้ กองทุนบัฟเฟตตทาํ กําไรโดยไม‹เคยลดลงเลย
โดยอัตราผลตอบแทนเฉลี่ยป‚ละ 29.5%
15
การลงทุนแบบเนนคุณคาของ วอเร็น บัฟเฟตต

กองทุนบัฟเฟตต :
เมื่อโอกาสมาถึง แสดงฝมือออกมาใหเต็มที่
หลังจากจัดตัง้ กองทุนเล็กๆ ดŒวยเงินเริม่ ตŒน 105,000 ดอลลารในป‚ 1956
นั้น วอเร็นก็ไดŒความรูŒและประสบการณที่ไดŒสั่งสมมาลงทุนในตลาดหลักทรัพย
หุนŒ ทุกตัวทีเ่ ขาลงทุนผ‹านการอ‹านเอกสารสิง่ พิมพเกีย่ วกับธุรกิจนัน้ อย‹างละเอียด
เรียกว‹าเขาทําวิจัยอย‹างรอบคอบเพื่อคŒนหาของดีราคาถูก อย‹างไรก็ตาม วอเร็น
ก็มักจะไม‹ลงทุนในหุŒนตัวใดตัวหนึ่งเกินกว‹า 10% ของความมั่งคั่งของเขา เพื่อ
กระจายความเสี่ยง แนวคิดนี้ถูกยึดถือมาตลอด โดยในช‹วงเริ่มตŒน เขาไดŒซื้อ
บŒานหลังใหม‹ในป‚ 1957 เมื่อภรรยาคลอดบุตรคนที่ 3 เพื่อขยับขยายครอบครัว
บŒานที่เขาซื้อและอยู‹จนถึงป˜จจุบันมีราคาในขณะนั้น 31,500 ดอลลาร หรือ
ประมาณ 10% ของความมัง่ คัง่ ของวอเร็นในตอนนัน้ ซึง่ แนวคิดนีต้ า‹ งจากคนทัว่ ไป
ซึง่ ใชŒเงินเก็บของตนเองเกือบทัง้ หมดไปดาวนบาŒ นประมาณ 20% ของราคาบŒาน
และเปšนหนีร้ ะยะยาวทีต่ อŒ งผ‹อนในยอดเงินตŒนอีก 80% เปšนเวลา 30 ป‚ แนวคิดนี้
ของวอเร็นไม‹เหมือนคนอื่นตรงที่หาเงินมาใหŒไดŒครบก‹อน จึงค‹อยมีบŒาน เขาจะ
ไม‹กูŒเลยและการซื้อบŒานก็ใชŒเงินแค‹ 10% ของที่มีทั้งหมด ทําใหŒชีวิตมีส‹วนเหลือ
ของความปลอดภัยอยู‹อีกมาก ภาษาลงทุนเรียกว‹า “ส‹วนเผื่อความปลอดภัย”
(Margin of Safety) การทําเช‹นนี้ไดŒบ‹งบอกว‹าวอเร็นมีปรัชญาการประหยัด
เปšนหลักดŒวย
ในป‚ 1962 วอเร็นมีอายุ 32 ป‚ กองทุนของเขาทีเ่ ริม่ ตŒนดŒวยเงิน 105,000
ดอลลาร เติบโตเปšน 7.2 ลŒานดอลลาร ในตอนนั้นเขามีสํานักงานแลŒวห‹างจาก
ทีพ่ กั ออกไปเพียง 20 ช‹วงตึกเท‹านัน้ เขาไดŒบรรลุเป‡าหมายการเปšนเศรษฐีเงินลŒาน
เมื่ออายุ 30 ป‚ ตามที่ไดŒตั้งปณิธานเอาไวŒตั้งแต‹อายุ 13 ป‚แลŒว ในการบริหาร
กิจการหุŒนส‹วนลงทุนนั้น วอเร็น บัฟเฟตต รับประกันผลตอบแทนใหŒหุŒนส‹วน
ป‚ละ 6% โดยที่เขาจะไดŒรับส‹วนแบ‹ง 25% ของส‹วนที่เกิน 6% นั้น
16
ตามรอยวิถีเซียนลงทุน

บริษัทเบิรกไชร ฮาธาเวย
ธุรกิจลงทุนแบบมืออาชีพของ วอเร็น บัฟเฟตต
ช‹วงตŒนทศวรรษ 1960 วอเร็น บัฟเฟตตไดŒคนŒ พบบริษทั เบิรก ไชร ฮาธาเวย
ซึ่งเปšนบริษัทสิ่งทอที่ตั้งอยู‹ที่เมืองนิวเบดฟอรด รัฐแมสซาชูเซตส ขณะนั้น
เขายังทําธุรกิจหุŒนส‹วนลงทุนอยู‹ โดยผ‹านการวิเคราะหอย‹างละเอียดรอบคอบ
เขาเริ่มซื้อหุŒนนี้ในราคา 7 ดอลลารต‹อหุŒน ในขณะที่มูลค‹าทางบัญชีเท‹ากับ 17
ดอลลารต‹อหุŒน และหนี้สินของบริษัทมีนŒอยมาก ในป‚ 1963 กองทุนของ วอเร็น
บัฟเฟตต กลายเปšนผูŒถือหุŒนใหญ‹ของบริษัทแห‹งนี้ วอเร็นคŒนหาหุŒนตามสไตล
ของเขาเขŒาพอรตโฟลิโอหุŒนสามัญของกองทุนอย‹างต‹อเนื่อง หุŒนของ GEICO
และ DISNEY เปšนอีกบางตัวอย‹างของหุŒนเนŒนคุณค‹าที่เขาไปวิเคราะหและเลือก
เขŒามาในพอรต
ในป‚ 1969 เปšนจุดเปลีย่ นสําคัญเมือ่ วอเร็น บัฟเฟตต ปดกองทุนเดิมจาก
ธุรกิจหุนŒ ส‹วนลงทุน โดยขายหุนŒ ทัง้ หมดทีม่ อี ยูใ‹ นพอรต จํานวน 100 ลŒานดอลลาร
ยกเวŒนแต‹หนŒุ ของเบิรก ไชรฯ ทีต่ กเปšนของวอเร็น อยูท‹ ี่ 25 ลŒานดอลลาร ทําใหŒเขา
ถือหุนŒ ในเบิรก ไชรฯ ไดŒเกือบครึง่ หนึง่ ขณะนัน้ ตัวเขาอายุไดŒ 39 ป‚ และเบิรก ไชร
ฮาธาเวยกก็ ลายเปšนเครือ่ งจักรลงทุนทีส่ รŒางผลตอบแทนใหŒแก‹วอเร็นและผูถŒ อื หุนŒ
คนอื่นๆ ไดŒอย‹างไม‹รูŒจักเหน็ดเหนื่อย
แมŒว‹าในขณะนั้น เบิรกไชร ฮาธาเวย จะยังคงดําเนินธุรกิจสิ่งทอต‹อไป
แต‹กาํ ไรจากธุรกิจสิง่ ทอในป‚ 1969 มีเพียง 45,000 ดอลลาร ในขณะทีก่ าํ ไรจาก
การลงทุนดŒวยฝ‚มือของวอเร็นทําไดŒถึง 4.7 ลŒานดอลลาร หรือสูงกว‹า 10 เท‹าตัว
วอเร็นใชŒกลยุทธซื้อของดีราคาถูก และขายออกไปเมื่อมีกําไร และนําเงินที่ไดŒ
ไปซื้อกิจการอื่นต‹อไปอีก ซึ่งเปšนการสรŒางวงจรในการสรŒางความมั่นคงแบบ
ไม‹รจŒู บ พŒนป‚ 1985 วอเร็นปดโรงงานผลิตสิง่ ทอ ซึง่ เปšนธุรกิจดัง้ เดิมของ เบิรก ไชร
ฮาธาเวย เนือ่ งจากแรงงานต‹างชาติมรี าคาถูกกว‹าและมีคแ‹ู ข‹งจากต‹างชาติเขŒามา
มากขึ้น แต‹หน‹วยธุรกิจดŒานการลงทุนยังคงอยู‹ต‹อไป
17
การลงทุนแบบเนนคุณคาของ วอเร็น บัฟเฟตต

ในป‚ 1988 พอรตโฟลิโอของ เบิรก ไชรฯ แสดงใหŒเห็นว‹าวอเร็นเปšนเจŒาของ


ธุรกิจหลากหลาย หุนŒ บางตัวสัมพันธกบั ช‹วงชีวติ ตัง้ แต‹วยั เด็กของเขา เช‹น บริษทั
โคคา-โคล‹า, บริษัท เดอะวอชิงตันโพสต, บริษัท GEICO เปšนตŒน หุŒนเหล‹านี้และ
หุŒนต‹างๆ ที่เขาเลือกลŒวนแต‹เปšนหุŒนที่มีคุณค‹า ซึ่งเมื่อเวลาผ‹านไป บางตัวก็ยัง
คงอยู‹ บางตัวก็ไม‹ใช‹หุŒนคุณค‹าอีกต‹อไป ซึ่งวอเร็นทําการตรวจสอบตลอดเวลา
และปรับพอรตซื้อเพิ่ม หรือขายออกตามความเหมาะสม
การลงทุนของวอเร็นในเบิรก ไชร ฮาธาเวย ผ‹านช‹วงวัฏจักรเศรษฐกิจทัง้ ดี
ทั้งรŒายมาเปšนเวลายาวนาน ซึ่งเปšนบททดสอบที่ดีพอสมควร โดยราคาหุŒนของ
เบิรกไชรฯ จากป‚ 1962-1998 แสดงการเติบโตไวŒดังนี้
ราคาหุŒนของ เบิรกไชร ฮาธาเวย
ป‚ ค.ศ. ราคาหุŒน/ดอลลาร
1962 7
1971 70
1982 775
1989 7,000
1998 70,000
ที่มา : Andy Kilpatrick, of Permanent Value (AKPE, 2002)

ถŒาดูเวลาที่ วอเร็น บัฟเฟตตลงทุนผ‹านมาครึ่งศตวรรษ (1956-2007)


ตอนที่ เ ขาบริ ห ารกองทุ น บั ฟ เฟตต ผลตอบแทนไดŒ รั บ ถึ ง 29.55% ต‹ อ ป‚
ตลอดช‹วง 13 ป‚ และผลตอบแทนของเบิรก ไชรฯ เฉลีย่ ที่ 22.6% ต‹อป‚ ตลอด 38 ป‚
ที่ผ‹านมา ซึ่งสูงกว‹าผลตอบแทนของดัชนี S&P 500 ที่ปรับตัวเพิ่มเพียง 11%
ในช‹วงเวลาดังกล‹าว
18
ตามรอยวิถีเซียนลงทุน

บทเรียนที่ไดจากอัตชีวประวัติ
ของ วอเร็น บัฟเฟตต
1. คุณควรคŒนหาว‹าเราถนัดอะไรมากที่สุด ลงมือศึกษาสิ่งนั้นใหŒดีที่สุด
เพื่อที่จะเปšนคนเก‹งที่สุดในการลงทุนนั้น วอเร็น บัฟเฟตต เก‹งที่สุดในการสรŒาง
ความมัง่ คัง่ โดยการลงทุนในธุรกิจของผูอŒ นื่ เราไม‹ไดŒคดิ ว‹านักลงทุนทุกคนจะเก‹ง
เท‹าวอเร็น หรืออาจมีวิธีการลงทุนที่ดีหลายวิธี แต‹การศึกษาและทําความเขŒาใจ
เกีย่ วกับวิธขี อง วอเร็น บัฟเฟตต น‹าจะเปšนประโยชนอย‹างยิง่ ต‹อการลงทุนของเรา
2. ในโลกของลัทธิทุนนิยม ความมั่งคั่งเกิดขึ้นจากการเปšนเจŒาของ
ธุรกิจ แต‹วอเร็นไปไกลกว‹านั้น เขานําเงินเขŒาไปลงทุนกับนักธุรกิจที่เนŒนคุณค‹า
แลŒวไม‹หยุดแค‹นนั้ แต‹นาํ กําไรทีไ่ ดŒไปซือ้ กิจการอืน่ เพิม่ เพือ่ สรŒางกําไรทีจ่ ะนําไป
ลงทุนต‹อไป เปšนวงจรเรื่อยไป ซึ่งคุณก็ควรทําเช‹นนั้น
3. เนื่องจากเวลา งบประมาณ พลังงานทั้งหมด เปšนขŒอจํากัดของทุกคน
ในชีวติ ไม‹วา‹ จะทําอะไร แมŒแต‹การลงทุน การทีจ่ ะเปšนนักลงทุนทีป่ ระสบความสําเร็จ
ตŒองทุม‹ เทพรสวรรค เวลา และพลังงานทัง้ หมดในเรือ่ งนี้ กล‹าวไดŒวา‹ วอเร็นไดŒอทุ ศิ
ตัวเองเพื่อการนี้ ดึงพรสวรรคของตัวเองในการคŒนหาธุรกิจที่ดี และผูŒบริหารที่ดี
เพื่อจะลงทุน โดยไม‹จําเปšนตŒองคิดคŒนสิทธิบัตรหรือก‹อตั้งธุรกิจอะไรเลย
4. คัดเลือกตŒนแบบอย‹างรอบคอบ วอเร็นไม‹ไดŒมีแต‹โชคดีที่มีครอบครัว
ที่เปšนพ‹อคŒาช‹วยเปšนตŒนแบบ แต‹เขาลงมือทํามัน เขาหาตŒนแบบ เช‹น อาจารย
ที่ดีอย‹าง เบนจามิน เกรแฮม เขาใฝ†รูŒ มีแรงบันดาลใจ มีความหลงใหลในเรื่องที่
เกี่ยวกับการลงทุน และมีเป‡าหมายที่ชัดเจนในชีวิต
5. มีพฤติกรรมการดํารงชีวิตส‹วนตัวและชีวิตการลงทุนที่ดี เช‹น
■ เริ่มลงทุน และสรŒางความมั่งคั่งโดยเร็ว
■ เก็บสะสม ลงทุน และใชŒชีวิตตํ่ากว‹าระดับรายไดŒ
■ อ‹านและศึกษาธุรกิจในอดีต หลายทศวรรษก‹อนที่จะลงทุน
■ เขŒาใจระบบบัญชี และวิธีการดําเนินธุรกิจ
19
การลงทุนแบบเนนคุณคาของ วอเร็น บัฟเฟตต

■ เปšนนักวิเคราะหธุรกิจ ไม‹ใช‹นักวิเคราะหตลาด (หุŒน)


■ เรียนรูทŒ จี่ ะประเมินราคาธุรกิจ และซือ้ หุนŒ ของกิจการนัน้ ๆ ในราคา
ตํ่ากว‹ามูลค‹าที่คุณคิด

ปรัชญาหลักในการลงทุน
ของ วอเร็น บัฟเฟตต
หลักปรัชญาในการลงทุน (ซึง่ จะส‹งผลไปยังวิธใี นการลงทุน) ของ วอเร็น
บัฟเฟตต อาจหาอ‹านไดŒในหนังสือการลงทุนตามสไตลของ วอเร็น บัฟเฟตต
ซึ่งมีมากมาย แต‹ในฐานะผูŒตีความคนหนึ่ง ผมขอสรุปไวŒสั้นๆ 3 ขŒอหลัก ดังนี้

1 ลงทุนในธุรกิจที่คุณเขาใจ
วอเร็น บัฟเฟตต แนะนําว‹าการจะลงทุนในหุŒนของธุรกิจอะไรสักอย‹าง
เราควรจะรูจŒ กั สิง่ ทีเ่ รากําลังจะเปšนเจŒาของอย‹างแทŒจริง นอกจากเขŒาใจแลŒวจะตŒอง
ทําวิจยั ก‹อนตัดสินใจซือ้ ดŒวย ในการลงทุนในหุนŒ เราอาจลองใชŒแนวคิดเหมือนกับ
เรากําลังจะลงทุนในธุรกิจนัน้ ๆ ถŒาเราจะเปดรŒานอาหาร เราก็คงตŒองตอบคําถาม
หลายอย‹าง เช‹น
■ เรากําลังจะขายอะไร
■ สินคŒาและบริการคืออะไร
■ ลูกคŒาของเราคือใคร
■ เขามีความตŒองการอย‹างไร
■ วิธีการผลิตและบริการเปšนอย‹างไร
■ คู‹แข‹งเปšนอย‹างไร
■ ความพรŒอมและความสามารถของผูบ Œ ริหารและพนักงานเปšนอย‹างไร
■ ราคา ตŒนทุน และกําไรเปšนอย‹างไร
■ ตŒองลงทุนเท‹าไร
■ ฯลฯ
20
ตามรอยวิถีเซียนลงทุน

ถŒ า คิ ด แบบนี้ เวลาสนใจจะลงทุ น ในหุ Œ น ของบริ ษั ท จดทะเบี ย นที่ ทํ า


รŒานอาหาร เราก็คงตŒองวิเคราะหเพื่อทําความเขŒาใจแบบนี้เช‹นกัน แต‹การลงทุน
ในหุนŒ จะมีขอŒ ดี คือ เราไม‹ตอŒ งเหนือ่ ยไปบริหารธุรกิจเอง เพราะมีผบŒู ริหารมืออาชีพ
คอยดูแล เราเพียงแต‹คอยติดตามวิเคราะหดวู า‹ บริษทั จดทะเบียนยังดําเนินธุรกิจ
ไปไดŒดŒวยดี เติบโต กําไรดี ผลตอบแทนดี มีความมั่นคงอยู‹เสมอหรือไม‹
วอเร็น บัฟเฟตต มักจะกล‹าวว‹า “ผมไม‹เขŒาใจเทคโนโลยี ดังนั้น ผมจึง
ไม‹ลงทุนในกลุ‹มนี้” ไม‹ไดŒหมายความว‹า ธุรกิจเทคโนโลยีไม‹ดี ไม‹มีอนาคต
แต‹ วอเร็น บัฟเฟตต อธิบายว‹าเขาไม‹ถนัดในการทําความเขŒาใจกับธุรกิจดังกล‹าว
ทําใหŒไม‹มนั่ ใจทีจ่ ะคาดการณสภาพของธุรกิจในอนาคต ซึง่ ส‹งผลต‹อความไม‹เขŒาใจ
ในการคาดการณกระแสเงินสด และการประเมินมูลค‹าของธุรกิจนี้ เขาจึงไม‹กลŒา
ลงทุน
ลองสังเกตหุŒนที่อยู‹ในพอรตของธุรกิจลงทุนอย‹างยาวนานของ วอเร็น
บัฟเฟตต เช‹น
■ การลงทุนในหุŒนของโรงงานสิ่งทอ เบิรกไชร ฮาธาเวย ซึ่งภายหลัง
ไดŒ เ ปลี่ ย นมาเปš น ธุ ร กิ จ การลงทุ น ของ วอเร็ น บั ฟ เฟตต แทน
แต‹ในตอนที่เขาซื้อหุŒนของโรงงานสิ่งทอนี้ วอเร็น บัฟเฟตต ตŒองการ
ลงทุนในธุรกิจสิ่งทอจริงๆ เพราะในยุคทศวรรษ 1960 ธุรกิจสิ่งทอ
ยังขยายตัวไดŒดีในสหรัฐฯ ซึ่งวอเร็นศึกษาธุรกิจนี้มาอย‹างถ‹องแทŒ
แมŒธรุ กิจสิง่ ทอจะถูกวิพากษวจิ ารณวา‹ เปšนธุรกิจในเศรษฐกิจแบบเก‹า
แต‹ก็ยังเปšนหนึ่งในป˜จจัย 4 ที่จําเปšน
อย‹างไรก็ดี ในทศวรรษ 1980 ธุรกิจสิ่งทอในสหรัฐฯ เผชิญกับการ
แข‹งขันจากสิ่งทอของประเทศจีน และประเทศกําลังพัฒนา ทําใหŒ
สภาพแวดลŒอมเปลี่ยนไป วอเร็นจึงเปลี่ยนบริษัทสิ่งทอนี้เปšนธุรกิจ
การลงทุนแทน แมŒว‹าวอเร็นจะเห็นว‹าการตัดสินใจลงทุนในธุรกิจ
สิ่งทอนี้เปšนความผิดพลาด แต‹ในตอนที่ตัดสินใจซื้อ เขาใชŒหลักการ
ทีเ่ กีย่ วกับ “การลงทุนในธุรกิจทีค่ ณ
ุ เขŒาใจ” แต‹บทเรียนทีไ่ ดŒมาเพิม่ เติม
ก็คือ “เราตŒองเขŒาใจมันตลอดทุกช‹วงเวลาดŒวย”
21
การลงทุนแบบเนนคุณคาของ วอเร็น บัฟเฟตต

■ การลงทุนในหุŒนบริษัทประกันภัย GEICO หุŒนบริษัทเครื่องดื่มโคคา-


โคล‹า หรือหุŒนบริษัทหนังสือพิมพ เดอะ วอชิงตันโพสต ทั้งหมดนี้
ลŒวนเกีย่ วขŒองกับชีวติ ในอดีตทีผ่ า‹ นมาของวอเร็น ทีเ่ ขามีประสบการณ
ไดŒทาํ งานเกีย่ วขŒองหรือมีโอกาสไดŒวเิ คราะหจนเขŒาใจในธุรกิจเหล‹านัน้
อย‹างลึกซึ้ง จนแน‹ใจในความมั่นคง และโอกาสการเติบโตของธุรกิจ
เหล‹านั้น ซึ่งนําไปสู‹การประมาณการมูลค‹าที่แทŒจริงของกิจการ และ
เมือ่ นํามาเทียบกับราคาตลาดของหุนŒ ทีต่ าํ่ มากเมือ่ เทียบกับมูลค‹าของ
บริษทั เหมือนกับไดŒ “ของดี ราคาถูก” ทําใหŒมสี ว‹ นเผือ่ ความปลอดภัย
(Margin of Safety) ถŒาในอนาคตราคาหุŒนขึ้นไปตามมูลค‹า ก็จะไดŒ
ผลตอบแทนสูง (เพราะซื้อมาราคาถูก) หรือถŒาราคาหุŒนเคลื่อนไหว
ขึ้นลง เราก็จะไม‹ตกใจมาก เพราะซื้อมาในราคาถูก จึงทนต‹อความ
ผันผวนไดŒมากกว‹า

จะเขาใจในธุรกิจไดตองทําอยางไรบาง
วอเร็นใหŒกําลังใจว‹า นักลงทุนรายย‹อยก็สามารถศึกษาวิจัยธุรกิจไดŒ
ไม‹ตŒองกลัวว‹าเปšนศาสตรขั้นสูง ตŒองเปšนนักวิเคราะห นักวิชาการเท‹านั้นที่ทําไดŒ
วิธีการศึกษาธุรกิจ ซึ่งตŒองเปšนไปตลอดช‹วงเวลาการลงทุน (ซื้อ, ถือ และ
ขายออก) พอสรุปไดŒดังนี้
■ อ‹าน วิเคราะห ขŒอมูลทีเ่ กีย
่ วขŒองกับการดําเนินธุรกิจ เช‹น ประวัตกิ จิ การ
สินคŒาและบริการ ตลาด คู‹แข‹ง ฐานะการเงิน และผลการดําเนินงาน
เปšนตŒน
■ เขŒาใจหลักการพื้นฐานของบัญชี การวิเคราะหงบการเงินของบริษัท
เพราะบัญชีเปšนภาษาของธุรกิจ ภาพความสําเร็จหรือไม‹สําเร็จทาง
ธุรกิจจะสะทŒอนออกมาที่งบการเงิน
■ ไปเยี่ยม สํารวจ และสัมภาษณกิจการ
■ เขŒาร‹วมประชุมประจําป‚ รูŒจักผูŒบริหารของบริษัท
■ ฯลฯ
22
ตามรอยวิถีเซียนลงทุน

กล‹าวกันว‹าในแต‹ละวันของ วอเร็น บัฟเฟตต และทีมงานใชŒเวลามากกว‹า


8 ชั่วโมงต‹อวันในการศึกษาขŒอมูลต‹างๆ เหล‹านี้ และการใชŒเวลาอาจนานกว‹านี้
โดยเฉพาะในช‹วงที่รายงานประจําป‚ที่สรุปรวมภาวะการดําเนินงานของบริษัท
ต‹างๆ ออกมาสู‹สาธารณชน
และเนือ่ งจากขŒอมูลต‹างๆ มีมาก นักลงทุนจึงตŒองเรียนรูวŒ ธิ ที จี่ ะย‹อยขŒอมูล
และนําเขŒาสู‹กระบวนการวิเคราะห ซึ่งอาศัยความรูŒพื้นฐานเกี่ยวกับการบริหาร
ธุรกิจ เช‹น การบริหารเชิงกลยุทธ การบริหารการตลาด การบริหารการผลิต
การบริหารบุคลากร และการบริหารการเงิน เขŒามาช‹วยในการวิเคราะห เพื่อหา
ขŒอสรุปว‹าธุรกิจนั้นยังดีและคุŒมค‹าที่จะลงทุนต‹อไปหรือไม‹

2 ลงทุนในตลาดสินคาและบริการ
ไมใชตลาดหุน
วอรเร็น บัฟเฟตต ใชŒคําเปรียบเทียบใหŒเห็นภาพว‹า เวลาเลือกลงทุน
ใหŒคดิ ว‹ากําลังลงทุนในเมนสตรีท (Main Street) ไม‹ใช‹ วอลลสตรีท (Wall Street)
คําว‹า “เมนสตรีท” (Main Street) คือ ธุรกิจทีม่ กี ารดําเนินงานอยูแ‹ ลŒวและ
เติบโตอย‹างต‹อเนื่อง ทําธุรกิจแบบยั่งยืนไม‹ใช‹ธุรกิจตามกระแส ส‹วนการลงทุน
ใน “วอลลสตรีท” (Wall Street) เปšนการเปรียบเปรยว‹าเปšนการดําเนินธุรกิจ
ในโลกที่จับตŒองไม‹ไดŒ เปšนแค‹สัญญาณการซื้อขาย สัญญาณราคาจับตŒองไม‹ไดŒ
วอรเร็นใหŒความเห็นว‹าการทีเ่ รารูจŒ กั สิง่ ทีเ่ ราเปšนเจŒาของ ทําใหŒเราสามารถ
เนŒนการลงทุนไปที่ถนนสายหลัก (Main Street) หรือตัวธุรกิจ แมŒว‹าเราจะซื้อ
มันจากตลาดหุŒน (Wall Street) แต‹เราก็จะไม‹ตกใจง‹ายๆ กับการเคลื่อนไหว
ของราคาหุนŒ เพราะทุกครัง้ เราจะกลับไปดูทตี่ วั ธุรกิจว‹ามันยังดีอยูไ‹ หม แนวคิดนี้
จึงเปšนการยํา้ ใหŒนกั ลงทุนแบบเนŒนคุณค‹าเห็นว‹า “ความมัง่ คัง่ … เกิดจากเมนสตรีท
มากกว‹าวอลลสตรีท”
23
การลงทุนแบบเนนคุณคาของ วอเร็น บัฟเฟตต

คนหาธุรกิจดีบนเมนสตรีท
เวลาเราคŒนหาธุรกิจดีที่น‹าสนใจจะลงทุน วิธีหนึ่งที่ควรทําก็คือเดินไปใน
ย‹านเศรษฐกิจของเมือง สอดส‹ายสายตาคอยดูว‹าประชาชนทั่วไปจับจ‹ายใชŒสอย
อะไร รŒานคŒาบางรŒาน บริษทั บางแห‹ง ทําไมจึงขายดี ทําเลทีต่ งั้ ดี หรือเพราะสินคŒา
บริการถูกใจลูกคŒา หรือเราอาจเดินเขŒาไปในรŒานสะดวกซือ้ หรือซุปเปอรมารเก็ต
เขŒาไปซื้อนํ้าผลไมŒยี่หŒอที่เราโปรดปราน แลŒวอาจจะฉุกใจคิดว‹า จะมีคนอีกเท‹าไร
ทีม่ รี สนิยมแบบเรา ขนาดตลาดของนํา้ ผลไมŒแบบนีม้ อี ยูเ‹ ท‹าใด และเปšนส‹วนแบ‹ง
การตลาดของนํ้าผลไมŒยี่หŒอนี้อยู‹เท‹าใด นี่คือตัวอย‹างของการเขŒาไปหาธุรกิจที่ดี
บนเมนสตรีท ซึ่งแนวคิดการลงทุนแบบนี้ใหŒคิดเสมือนว‹าเรากําลังจะทําธุรกิจ
แบบนี้ดŒวยตัวของเราเอง
ส‹วนประเด็นต‹อมา ถŒาบริษัทที่เราสนใจนั้นเปšนบริษัทที่จดทะเบียนอยู‹
ในตลาดหลักทรัพยดŒวย อย‹างนี้ถือว‹าอยู‹ในวอลลสตรีท ซึ่งถือว‹าเปšนโชคดีที่จะ
สามารถขอเขŒาไปลงทุนร‹วมไดŒง‹าย โดยเขŒาไปซื้อหุŒนเก็บไวŒผ‹าน “วอลลสตรีท”
แต‹เราจะสบายใจมากกว‹าเดิม เพราะผ‹านการวิเคราะหบน “เมนสตรีท” มาเลŒว

การลงทุนในเมนสตรีท เปนการลงทุนระยะยาว
วอรเร็น บัฟเฟตต ใชŒคาํ พูดทีโ่ ดนใจมาก เมือ่ ถูกถามว‹า “ทําอย‹างไรจึงจะ
รวยเร็ว” เขาตอบว‹า “ตลาดหุŒน (วอลลสตรีท) เปšนสถานที่เพียงแห‹งเดียวที่
คนขับรถโรลสรอยซไดŒรบั คําแนะนําจากคนนัง่ รถไฟฟ‡าใตŒดนิ ” ซึง่ ตีความหมาย
ไดŒวา‹ คนนัง่ รถไฟฟ‡าใตŒดนิ ก็คอื ประชาชนทัว่ ไปนัน่ เอง เขาใชŒชวี ติ อย‹างไร บริโภค
อะไร วอรเร็นจึงลงทุนในบริษัทที่ผลิตอิฐ สีทาอาคาร ฉนวนกันความรŒอน พรม
เครื่องดูดฝุ†น เครื่องประดับอัญมณี เฟอรนิเจอร เครื่องใชŒในครัวเรือน เปšนตŒน
หลายบริษัทที่วอรเร็นเขŒาไปลงทุน เขาเริ่มจากการเปšนเจŒาของกิจการบางส‹วน
โดยซื้อขายผ‹านตลาดหลักทรัพย ไปสู‹การซื้อเพื่อเปšนเจŒาของทั้งกิจการ โดย
ซื้อเพิ่มเรื่อยๆ ถือหุŒนไวŒในระยะยาว ถŒาบริษัทมั่นคงดีกําไรสูง มูลค‹าหุŒนก็สูงขึ้น
ดŒวย กลยุทธการลงทุนแบบนี้มีผลทําใหŒในระยะยาวมูลค‹าพอรตการลงทุนของ
วอรเร็นก็เปลี่ยนไปดŒวย
24
ตามรอยวิถีเซียนลงทุน

การจัดสรรสินทรัพยของ วอรเร็น บัฟเฟตต


1997 1998 1999 2000 2001 2002
เงินสด 2% 18% 5% 5% 6% 10%
หุŒนกูŒ 21% 27% 39% 34% 39% 34%
หุŒนสามัญ 73% 51% 51% 39% 30% 26%
ธุรกิจ 4% 4% 5% 22% 25% 30%
รวม 100% 100% 100% 100% 100% 100%

จะเห็นไดŒว‹า ในพอรตลงทุนของวอรเร็น ในป‚ 1997 ลงทุนในหุŒนสามัญ


ถึง 73% ของสินทรัพยและลดลงเหลือ 26% ในป‚ 2002 โดยไม‹มีการขายหุŒน
ออกเลย แต‹ขณะทีไ่ ดŒเขŒาซือ้ หุนŒ ธุรกิจทีด่ เี พิม่ จนมีสดั ส‹วนจาก 4% ของสินทรัพย
เปšน 30% ในอีก 5 ป‚ต‹อมา ถŒาบริษัทเหล‹านั้นทํากําไรไดŒดี ราคาหุŒนที่สูงขึ้น ก็จะ
ทําใหŒพอรตการลงทุนของเขามีมูลค‹าสูงขึ้น อีกทั้งเงินป˜นผลที่เปšนส‹วนแบ‹งจาก
กําไรก็จะยังช‹วยใหŒความมัง่ คัง่ ของเขาเพิม่ สูงขึน้ เพิม่ โอกาสในการไปซือ้ กิจการ
เมนสตรีทดีๆ เพิม่ ขึน้ อีก อย‹างไรก็ดี วอรเร็นจะไม‹เขŒาไปเกีย่ วขŒองกับการซือ้ ขาย
กิจการแบบไม‹เปšนมิตร และพนักงานทั้งหมดจะยังคงทํางานอยู‹ต‹อไปเมื่อเขา
ซื้อกิจการ
การลงทุนสไตลแบบวอรเร็น บัฟเฟตต มีลักษณะที่ขัดแยŒงกับการลงทุน
ทัว่ ไปในวอลลสตรีท นักซือ้ ขายหลักทรัพยหรือเทรดเดอรในวอลลสตรีทหารายไดŒ
จากการเคลือ่ นไหวของราคาหุนŒ ซึง่ ตรงขŒามกับวอรเร็นทีส่ รŒางความมัง่ คัง่ และทํา
กําไรจากผลประกอบการของแต‹ละธุรกิจทีเ่ ขาลงทุน เขาเนŒนและจํากัดการลงทุน
ในบริษทั เพียงไม‹กแี่ ห‹ง เวลาประเมินบริษทั เขาไม‹ใชŒการเคลือ่ นไหวของราคาหุนŒ
ของบริษัท แต‹จะวัดจากการเปลี่ยนแปลงของมูลค‹าตามบัญชีในแต‹ละป‚
25
การลงทุนแบบเนนคุณคาของ วอเร็น บัฟเฟตต

โดยสรุปแลŒว วิธกี ารของ วอรเร็น บัฟเฟตต ทีล่ งทุนในเมนสตรีทเปšนเรือ่ ง


การวิเคราะหธรุ กิจดีๆ เพียง 1-2 ธุรกิจ เขาเจาะลึกศึกษางบกําไรขาดทุน งบดุล
ผลตอบแทนต‹อส‹วนของผูŒถือหุŒน ความตŒองการเงินทุน หนี้สิน มูลค‹าที่แทŒจริง
จริยธรรมของผูŒบริหาร ค‹านิยมของผูŒบริหาร บุคลิกของผูŒบริหาร ความภักดี
ของลูกคŒา พนักงานและเจŒาของ เขาเห็นว‹าการลงทุนแบบวอลลสตรีท ซึ่งเปšน
สิ่งที่คนอื่นๆ กําลังกระทํา เช‹น เขŒาซื้อวันนี้แลŒวขายออกพรุ‹งนี้ มีระยะเวลาสั้น
มันไม‹เกี่ยวกับมูลค‹า แต‹เกี่ยวกับราคาทั้งสิ้น
Robert P. Miles ผูŒเขียนหนังสือ “มั่งคั่งอย‹าง วอรเร็น บัฟเฟตต” ไดŒสรุป
วิธีการตรวจสอบกิจการในเมนสตรีทไวŒ 3 ประการดังนี้
■ พิจารณาที่ตัวธุรกิจ เรียบง‹ายหรือไม‹ อยู‹ในอุตสาหกรรมที่เราเขŒาใจ
หรือไม‹ เปšนธุรกิจที่มีอัตรากําไรสูงหรือไม‹ มีหนี้สินหรือไม‹ อัตรา
ผลตอบแทนต‹อส‹วนของผูŒถือหุŒนเปšนอย‹างไร
■ พิจารณาตัวผูŒบริหาร พวกเขาซื่อสัตยหรือไม‹ แผนการขยายธุรกิจ
เปšนอย‹างไร ฐานะการเงินดีหรือไม‹ สัดส‹วนการถือหุŒนในกิจการของ
พวกเขามากนŒอยเพียงใด
■ พิจารณามูลค‹าธุรกิจ กิจการมีมูลค‹าที่แทŒจริงเท‹าใด สามารถซื้อใน
ราคาถูกหรือไม‹

3 ซื้อเพื่อถือระยะยาว ซื้อจํานวนมาก
และของจํานวนนอย
เคล็ดลับของวอรเร็นอยู‹ตรงที่ว‹า ถŒาหุŒนบริษัทนั้นถูกพิสูจนตลอดเวลาว‹า
เปšนของดี เราก็ควรจะ
■ ซื้อเพื่อถือระยะยาว
■ ถŒาเรามีกําลังซื้อสูง เราควรซื้อมากๆ (ซื้อจํานวนมาก)
■ ของดีจริงๆ มีจํานวนนŒอย ควรซื้อแบบเจาะลึกกับบริษัทเพียง 2-3
บริษัทเท‹านั้น (ของจํานวนนŒอย)
26
ตามรอยวิถีเซียนลงทุน

วิธีการดังกล‹าวนี้ตรงขŒามกับการซื้อหุŒนเพื่อขายเมื่อมีกําไร วอรเร็น
เห็นว‹า “ถŒาซื้อของดี คุณไม‹จําเปšนตŒองรีบขาย อย‹าซื้อเพื่อถือไวŒเพียง 10 นาที”
ถŒาเราลงทุนเพื่อถือระยะยาว เราจะคิดถึงหุŒนนี้ต‹างจากพวกนักเก็งกําไรและ
นักคŒาหลักทรัพย เราจะนึกถึงสิ่งที่จะปกป‡องธุรกิจ ความสุข และความภักดีของ
พนักงาน ผูŒบริหาร ลูกคŒา ถŒาผูŒคนเหล‹านี้ยังคงพอใจและทําธุรกิจเติบโตต‹อไปไดŒ
มันจะทําใหŒมูลค‹าในระยะยาวของธุรกิจสูงขึ้น และราคาหุŒนก็จะสูงขึ้นดŒวย
ขŒอมูลการซื้อหุŒนจํานวนมากในบริษัทดีๆ เพียงไม‹กี่แห‹งของวอรเร็น
บัฟเฟตต สรุปไดŒดังนี้
การถือหุŒนสามัญของเบิรกไชร ฮาธาเวย ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2002
บริษัท ตŒนทุน มูลค‹าตลาด % ของ
(ลŒานดอลลาร) (ลŒานดอลลาร) พอรตโฟลิโอ
โคคา-โคล‹า 1,299 8,768 31
อเมริกันเอ็กซเพรส 1,470 5,359 19
ยิลเลตต 600 2,915 10
เวลลฟารโก 306 2,497 9
วอชิงตันโพสต 11 1,275 4
อื่นๆ 5,478 7,549 27
หุŒนสามัญทั้งหมด 9,164 28,363 100
ขŒอมูลการถือหุŒนแบบระยะยาวของ วอรเร็น บัฟเฟตต สรุปดังนี้
น ระยะเวลาการเ นเ าของ
วอ ง นโพส 30
โคคา-โค า 14
ลเลต 14
เวล ฟา โก 13
อเม นเ ก เพรส 12
ระยะเวลาการถือครองเฉลี่ย 17
27
การลงทุนแบบเนนคุณคาของ วอเร็น บัฟเฟตต

โดยทั่วไปนักลงทุนที่เขŒาไปในตลาดวอลลสตรีทเชื่อว‹า พอรตโฟลิโอ
ทีล่ งทุนในหุนŒ จํานวนนŒอยบริษทั หรือแบบเขŒมขŒนนัน้ มีความเสีย่ งมากเกินไป ดังนัน้
จึงตŒองซือ้ และขายหุนŒ จํานวนมาก ซึง่ เปšนการ “ซือ้ เพือ่ ถือและขายเปšนครัง้ คราว”
หรือ “ซื้อและถือจนกว‹าแนวโนŒมของตลาดจะเปลี่ยนแปลง” แต‹วอรเร็นเห็นว‹า
“ควรตัดสินใจนŒอยครั้งกว‹า แต‹ดีกว‹า” เราควรซื้อแต‹สิ่งที่ดีจนไม‹จําเปšนตŒองขาย
หรือจะขายเฉพาะเมือ่ ป˜จจัยพืน้ ฐานบางอย‹างของธุรกิจนัน้ มีการเปลีย่ นเเปลงหรือ
เมื่อมีการลงทุนอื่นที่มีคุณภาพดีกว‹าเกิดขึ้นเท‹านั้น วอรเร็นสรุปดŒวยว‹า เราแทบ
จะไม‹เคยพบเลยว‹ามีคนรํ่ารวยมหาศาลจากการนําเงินจํานวนนŒอยไปลงทุนและ
ซื้อๆ ขายๆ หุŒนของกิจการหลายแห‹งทุกวันหรือทุก 6-12 เดือน
ขŒอมูลที่แสดงว‹าวอรเร็นซื้อหุŒนจํานวนมากในบริษัทจํานวนนŒอย สรุปไดŒ
จากรายงานประจําป‚ 2002 ของบริษัท เบิรกไชร ฮาธาเวย ดังนี้
ชื่อหุŒน สัดส‹วนการเปšนเจŒาของ
วอชิงตันโพสต 18%
อเมริกันเอ็กซเพรส 11%
ยิลเลตต 9%
โคคา-โคล‹า 8%
สัดส‹วนการเปšนเจŒาของโดยเฉลี่ย 11.5%
ความสําคัญของการซื้อเพื่อถือระยะยาวในแบบของ วอรเร็น บัฟเฟตต
ก็คอื การตŒองตรวจสอบตลอดเวลาว‹าหุนŒ หรือบริษทั จดทะเบียนเหล‹านีย้ งั คงดีอยู‹
สมควรอยู‹ในพอรตโฟลิโอของเราต‹อไปหรือไม‹ เราจะรูŒไดŒอย‹างไรว‹าบริษัทนั้น
ยังคงดีอยู‹ วอรเร็นแนะนําใหŒใชŒแบบจําลองที่เรียกว‹า “Circle of Competence”
ซึ่งแสดงไดŒดŒวยรูปดังนี้
28
ตามรอยวิถีเซียนลงทุน

Circle of Competence
Outstanding Top-notch
Businesses Managers จากรูป เราอาจเรียก Circle of
Competence นี้ว‹า การกําหนดขอบเขต
ความสามารถของบริษัท (ที่เราสามารถ
เขŒาใจไดŒ) บริษทั ทีด่ คี วรจะมีองคประกอบ
Attractive พรŒอมเพรียงทั้ง 3 ดŒาน (ส‹วนสีทึบที่
Prices
วงกลม 3 วงทับซŒอนกัน)
Outstanding Businesses หมายถึง ความโดดเด‹นทางธุรกิจ ไดŒแก‹
■ ธุรกิจเรียบง‹าย เขŒาใจไดŒ
■ มีงบดุล (ฐานะการเงิน) ที่เขŒมแข็ง
■ มีภาวะเศรษฐกิจที่ดี (เช‹น กระแสเงินสดดีมีแนวโนŒมเพิ่มขึ้น
ผลตอบแทนต‹อส‹วนของผูŒถือหุŒนสูง)
■ มีความไดŒเปรียบในการแข‹งขัน

Top-notch Managers หมายถึง ความสามารถในการบริหารงาน ไดŒแก‹


■ มีผูŒบริหารที่มีความสามารถ
■ จัดสรรเงินทุนอย‹างมีเหตุผล
■ ใหŒความสําคัญกับผูŒถือหุŒน
■ ผูŒบริหารมีส‹วนการเปšนเจŒาของ

Attractive Prices หมายถึง ราคาดี น‹าสนใจ


■ ราคาตลาดป˜จจุบัน ตํ่ากว‹ามูลค‹าที่แทŒจริง (ของดีราคาถูก)

สิง่ ทีเ่ ราควรทําก็คอื การคŒนหาบริษทั ทีด่ มี ากๆ ซึง่ อาจมีอยูไ‹ ม‹มากในพืน้ ที่
สีทึบขŒางตŒน ซึ่งในกระบวนการวิเคราะห ตŒองใชŒทั้งขŒอมูลเชิงปริมาณ (วัดไดŒ)
และขŒอมูลเชิงคุณภาพ (วัดไม‹ไดŒ) ประกอบกัน
29
การลงทุนแบบเนนคุณคาของ วอเร็น บัฟเฟตต

ผมขอจบบทความแนวคิดการลงทุนแบบ วอรเร็น บัฟเฟตต ไวŒที่ตอนนี้


ในความเปšนจริงเนื้อหาหรือเรื่องราวการลงทุนแบบเนŒนคุณค‹าของ วอรเร็น
บัฟเฟตต อาจมีรายละเอียดมากมายกว‹านี้ ซึ่งผูŒสนใจสามารถศึกษาเพิ่มเติม
ต‹ อ ไปไดŒ แต‹ ส‹ ว นที่ ส รุ ป มาใหŒ นี้ห วั ง ว‹ า พอเปš น ภาพเบื้ อ งตŒ น ที่ จ ะช‹ ว ยสรŒ า ง
แรงบันดาลใจใหŒผูŒที่มีความชอบการลงทุนสไตลแบบนี้ เริ่มตŒนนําไปใชŒประยุกต
กับการลงทุนเพื่อสรŒางความมั่นคงทางการเงินในระยะยาวต‹อไปครับ
30
ตามรอยวิถีเซียนลงทุน
31
การลงทุนหุนคุณคาแบบเนน P/E ต่ํา ของ จอหน เนฟฟ

ตามรอยวิถีเซียนลงทุน :
การลงทุนหุนคุณคาแบบเนน P/E ตํ่า
ของ จอหน เนฟฟ
32
ตามรอยวิถีเซียนลงทุน

บทความชุด “ตามรอยวิถีเซียนลงทุน” ต‹อไปนี้ จะกล‹าวถึงนักลงทุน


เอกของโลกอีกท‹านหนึ่ง ไดŒแก‹ “จอหน เนฟฟŠ” (John Neff) ซึ่งเปšนผูŒบริหาร
กองทุนทีม่ ชี อื่ เสียง คือ Windsor Fund ของ Van Guard ในประเทศสหรัฐอเมริกา
โดยเขาสามารถบริหารกองทุนนี้ใหŒประสบความสําเร็จไดŒเปšนอย‹างมากในช‹วง
ทศวรรษ 1960–1990
จอหน เนฟฟŠ เกษียณอายุจากการทํางานในป‚ 1995 ตลอดระยะเวลา 31 ป‚
(ป‚ 1964–1995) ทีบ่ ริหารกองทุน Windsor เขาสามารถสรŒางผลตอบแทนเฉลีย่
ไดŒสงู ถึง 13.7% ต‹อป‚ เมือ่ เทียบกับอัตราผลตอบแทนเฉลีย่ ต‹อป‚ในช‹วงเวลาเดียวกัน
ของการลงทุนบนดัชนี S&P 500 ซึ่งเท‹ากับ 10.6% ต‹อป‚
จอหน เนฟฟŠ ไดŒรับการกล‹าวขวัญว‹า เปšนผูŒยึดมั่นสไตลการคŒนหาหุŒน
โดยใชŒ P/E ตํ่า (อัตราส‹วนราคาตลาดของหุŒนต‹อกําไรสุทธิต‹อหุŒนของบริษัท
จดทะเบียน) เปšนหลัก แต‹ก็พิจารณาป˜จจัยพื้นฐานอื่นๆ ประกอบดŒวย กล‹าวคือ
นอกจาก P/E ตํ่าแลŒว ยังตŒองคัดเลือกหุŒนที่มีการจ‹ายเงินป˜นผลสมํ่าเสมอ อัตรา
การเติบโตของกําไรดี อีกทัง้ กลยุทธในการซือ้ ขายของจอหน เนฟฟŠ ก็มลี กั ษณะ
เปšนนักลงทุนที่ชอบลงทุนสวนทางกับนักลงทุนส‹วนใหญ‹ในตลาด (Contrarian
Investor) กล‹าวคือ เมื่อตลาดขึ้น เขาจะขายหุŒนออกมา และเมื่อตลาดลง เขาจะ
มองหาหุŒนที่ดีมีอนาคตที่ขายในราคาถูกๆ และซื้อหุŒนนั้นเปšนจํานวนมากๆ
โดยเฉลี่ยเขาจะถือหุŒนไวŒประมาณ 3 ป‚
จากกลยุทธดังกล‹าว บางคนก็เรียก จอหน เนฟฟŠ ว‹า เขาเปšนนักลงทุน
แบบเนŒนคุณค‹าอย‹างสุดโต‹ง (Hard-core Value Investor) ผมในฐานะผูŒตีความ
ไดŒสรุปเนื้อหาจากหนังสือ “ลงทุนแบบจอหน เนฟฟŠ” (John Neff on investing,
1999) ซึ่งเขียนโดย John Neff และ S.L. Mint แปลโดย ดร.กุศยา ลีฬหาวงศ
จัดพิมพโดยสํานักพิมพฟเ ดลลิตี้ และจัดจําหน‹ายโดย บริษทั ซีเอ็ดยูเคชัน่ จํากัด
(มหาชน) สรุปสาระสําคัญบางประเด็นมาใหŒผูŒที่สนใจไดŒรับความรูŒในเรื่องนี้
อย‹างง‹ายๆ
33
การลงทุนหุนคุณคาแบบเนน P/E ต่ํา ของ จอหน เนฟฟ

ประวัติโดยสังเขป
“จอหน เนฟฟŠ” (John Neff) เกิดในป‚ 1931 เปšนบุตรของจอหน
เอฟ เนฟฟŠ และบารบารา บราวน บิดามารดาของจอหน เนฟฟŠ หย‹ารŒางกันตัง้ แต‹
เขาอายุไดŒ 4 ขวบ โดยมารดาของเขาไดŒยŒายมาอยู‹กับคุณตาคุณยายของเขา
ในเมืองแกรนดแรพพิด รัฐมิชิแกน ที่ซึ่งเขาเติบโตและไดŒรับการศึกษาจนจบ
เกรด 5 หลังจากนั้นในป‚ 1941 มารดาไดŒแต‹งงานใหม‹ และยŒายไปอยู‹ที่
รัฐเทกซัส จนเขาเรียนจบชั้นมัธยม จึงเดินทางกลับมาที่เมืองแกรนดแรพพิด
อีกครัง้ เพือ่ หางานทําเปšนพนักงานขายเครือ่ งดนตรี ต‹อมาบิดาของเขาชวนใหŒไป
ทํางานในบริษัทของครอบครัวชื่อ Neff Equipment ซึ่งจําหน‹ายอุปกรณหล‹อลื่น
ไม‹นานนักเขาก็ลาออกไปเปšนพนักงานขายรถยนต และต‹อมา จอหน เนฟฟŠ
ก็ถูกเกณฑไปเปšนทหารเรือ
หลังปลดประจําการ จอหน เนฟฟŠ สมัครเขŒาเรียนที่ University of Toledo
และทํางานเปšนพนักงานขายรองเทŒาในรŒานขายเครื่องแต‹งกายดŒวย ระหว‹าง
เรียนในมหาวิทยาลัย จอหน เนฟฟŠ สนใจในวิชาดŒานการลงทุนมาก โดยอาจารย
ผูŒจุดประกายใหŒเขา คือ ดร.ซิดนีย รอบบินส ที่ยŒายมาจาก Columbia University
ซึ่งเปšนลูกศิษยของเบนจามิน เกรแฮม และเดวิด ดอดจ ปรมาจารยที่สอนดŒาน
การวิเคราะหหลักทรัพย
จอห น เนฟฟŠ ไดŒ ซึ ม ซั บ ความรู Œ ด Œ า นการวิ เ คราะห ห ลั ก ทรั พ ย จ าก
ดร.รอบบินส แมŒว‹าเขาจะเรียนวิชาเอกดŒานการบริหารอุตสาหกรรมก็ตาม เขาไดŒ
เรียนรูŒเกี่ยวกับพื้นฐานการลงทุน เริ่มรูŒจักกับยอดขาย กําไรจากการดําเนินงาน
กระแสเงินสด นอกจากนี้ ยังไดŒเขŒาร‹วมกับชมรมนักลงทุนมืออาชีพ แมŒว‹าเขา
จะลงทะเบียนเรียนวิชาดŒานการเงินและการลงทุนเพียง 2 วิชา แต‹ผลการเรียน
ก็โดดเด‹นมากจนไดŒรับรางวัลนักเรียนดีเด‹นในวิชาการเงิน และเปšนจุดตั้งตŒน
นําพาเขาไปสู‹เสŒนทางของวิชาชีพดŒานการลงทุนต‹อไป
34
ตามรอยวิถีเซียนลงทุน

จอหน เนฟฟŠ เริ่มตŒนชีวิตการทํางานเปšนนักวิเคราะหหลักทรัพยของ


National City Bank ในเมืองคลีฟแลนด หลังจากพยายามสมัครงานเปšนผูŒคŒา
หลักทรัพยในบริษัทหลักทรัพยหลายแห‹งในวอลลสตรีทแต‹ไม‹มีใครตอบรับ
โดยในช‹วงแรกๆ เขาไดŒรบั มอบหมายใหŒดแู ลการวิเคราะหอตุ สาหกรรม 6 ประเภท
ไดŒแก‹ เคมีภัณฑ เวชภัณฑ รถยนตและชิ้นส‹วนรถยนต ยาง ธนาคาร และบริษัท
เงินทุน ซึ่งประสบการณในการวิเคราะหอุตสาหกรรมเปšนประโยชนต‹อพื้นฐาน
การบริหารการลงทุนของเขา ในระยะเวลาต‹อมาจอหน เนฟฟŠ ไดŒเรียนรูŒวิธีการ
ศึกษาขŒอมูลจากวารสาร คู‹มือทางเทคนิค ตลอดจนการเยี่ยมชมกิจการของ
บริษทั ในอุตสาหกรรม ไดŒพดู คุยและตัง้ คําถามกับผูบŒ ริหารของบริษทั นอกจากนี้
เขายังมีประสบการณจากราคาหุŒนที่ผันผวนขึ้นลงเมื่อเทียบกับมูลค‹าจากป˜จจัย
พื้นฐานที่เขาวิเคราะห และเริ่มพบว‹านักลงทุนไม‹ค‹อยสนใจขŒอมูลข‹าวสาร
แต‹มง‹ุ เนŒนรายไดŒและกําไรจากส‹วนต‹างของราคา จอหน เนฟฟŠ จึงพยายามคิดคŒน
วิธีสรุปขŒอมูลรายงานแบบสถิติ คลŒายกับรายงาน Value Line เพื่อใชŒประโยชน
ในการกําหนดกลยุทธการลงทุน ซึ่งถือว‹าเปšนวิธีฝƒกฝนตนเองอย‹างดีเยี่ยม เขา
เรียนรูดŒ วŒ ยว‹าเมือ่ ศึกษาบริษทั ต‹างๆ อย‹างลึกซึง้ คําถามทีเ่ กีย่ วกับบริษทั เหล‹านัน้
ก็จะผุดขึ้นมาเองตามธรรมชาติ และการหาคําตอบจากคําถามเหล‹านั้น จะช‹วย
ส‹งสัญญาณเตือนว‹าหุŒนเหล‹านั้นเปšนหุŒนที่ดีหรือไม‹ดี ลดโอกาสการตกเปšนเหยื่อ
ของบางบริษัทที่เติบโตเร็วเกินไป แต‹ขาดพื้นฐานที่แข็งแรง
งานในฐานะนักวิเคราะหหลักทรัพยของ จอหน เนฟฟŠ ประสบความสําเร็จ
เปšนอย‹างมาก เขาไดŒรับการเลื่อนตําแหน‹งใหŒสูงขึ้นอย‹างรวดเร็ว จอหน เนฟฟŠ
ใชŒความคิดสรŒางสรรคคนŒ หาวิธนี าํ เสนอขŒอมูลของบริษทั และเป‡าหมายแบบสัน้ ๆ
ดŒวยแผนภูมสิ บี นกระดาษแผ‹นเดียว โดยแสดงเฉพาะขŒอมูลทีส่ าํ คัญๆ ทําใหŒเปšน
ที่ยอมรับของเพื่อนร‹วมงานอย‹างมาก และระหว‹างที่ทํางานธนาคารนั้น เขาไดŒ
ลงทะเบียนเรียนปริญญาโทภาคคํ่า สาขาการเงินการธนาคารที่ Care Western
Reserve University โดยใชŒเวลา 3 ป‚ครึ่ง จึงจบการศึกษา
ในป‚ 1963 หลังจากทํางานทีธ่ นาคารมาไดŒ 8 ป‚ จอหน เนฟฟŠ ก็ยาŒ ยไปเปšน
ผูŒวิเคราะหตราสารทุนของกองทุน Wellington Equity Fund ของบริษัท
Wellington Management
35
การลงทุนหุนคุณคาแบบเนน P/E ต่ํา ของ จอหน เนฟฟ

เริ่มชีวิตการบริหารกองทุน
ตอนที่เขาเริ่มงานกับกองทุน Wellington Equity Fund (ต‹อมาภายหลัง
เปลี่ยนชื่อเปšน “กองทุน Windsor”) ผลประกอบการไม‹ดีนัก กองทุน Windsor
ในตอนนัน้ จัดตัง้ มาแลŒว 6 ป‚ ผลงานในป‚ 1962 ลดลงจากเดิมถึง 25% นักลงทุน
เริ่มขายกองทุนออกถึง 75 ลŒานดอลลาร จากมูลค‹ากองทุน 2,000 ลŒานดอลลาร
ส‹งผลทางลบต‹อชื่อเสียงของ Wellington Management ซึ่งเปšนบริษัทบริหาร
การลงทุนชั้นนําและจดทะเบียนกับตลาดหลักทรัพย จอหน เนฟฟŠ ไดŒวิเคราะห
ว‹า ความเสียหายของกองทุน Windsor ในขณะนั้น มาจากการลงทุนในบริษัท
ขนาดเล็กที่คิดว‹าจะเติบโตดีเปšนจํานวนมาก โดยไม‹ไดŒวิเคราะหใหŒดีเกี่ยวกับ
ระยะเวลาหรือความยั่งยืนในการเติบโต ผลดังกล‹าวนี้กระทบต‹อเนื่องมายัง
ป‚ 1963 โดยดัชนี S&P 500 เพิม่ ขึน้ 22.8% ในขณะทีผ่ ลตอบแทนของ Windsor
ลดลงกว‹า 10% บรรดาตัวแทนจําหน‹ายก็พากันเรียกรŒองใหŒหาวิธีการบริหาร
กองทุนใหŒดีขึ้น ตามมาดŒวยผูŒถือหุŒนของ Wellington Management ฟ‡องรŒอง
ทีมบริหารและการเปลี่ยนชื่อเปšน “กองทุน Windsor” ก็เกิดขึ้นในป‚ 1963 นี้
จอหน เนฟฟŠ เริม่ ตŒนการทํางานกับกองทุน Windsor ในฐานะนักวิเคราะห
หลักทรัพย เขาพบว‹าพอรตการลงทุนของ Windsor เต็มไปดŒวยหุŒนหวือหวา
ที่นิยมซื้อขายกันในระยะสั้นๆ ซึ่งหุŒนจํานวนมากกลายเปšนขยะในตลาด เช‹น
ถŒาอุตสาหกรรมไบโอเทคโนโลยีอยูใ‹ นกระแส ก็นยิ มซือ้ หุนŒ กลุม‹ นี้ เมือ่ ราคานํา้ มัน
สดใส ก็หันมาซื้อหุŒนนํ้ามัน จอหน เนฟฟŠ จึงไดŒนําเสนอวิธี “วิเคราะหภาพรวม”
ทําใหŒเห็นว‹า
■ กองทุน Windsor ในขณะนั้น ลงทุนในหุŒนอุตสาหกรรม 41 บริษัท
แต‹มีเพียง 8 บริษัทเท‹านั้นที่ประสบความสําเร็จ
■ คาดการณกําไรสูงเกินไป จากการประมาณการเติบโตที่มากเกินไป
■ ไม‹มว ี ธิ ปี อ‡ งกันหรือลดการขาดทุนจากการขายหลักทรัพยไดŒในราคา
ไม‹ดี
36
ตามรอยวิถีเซียนลงทุน

เขาไดŒแนะนําใหŒกรรมการกองทุนมีความเขŒมงวดในการคัดเลือกหุนŒ และ
เลือกอุตสาหกรรมทีส่ ามารถคาดการณผลประกอบการไดŒ วิธกี ารดังกล‹าวทําใหŒ
การวิเคราะหมีความลึกซึ้งขึ้น มีคุณภาพมากขึ้น มองหาหุŒนของบริษัทที่มีความ
ยั่งยืนตามความสามารถในการทํากําไร แมŒยามที่เกิดภาวะผันผวนในระยะสั้น
ผลประกอบการของกองทุน Windsor ก็ไม‹ไดŒเปลี่ยนแปลงอย‹างมีนัยสําคัญ
แต‹มองเห็นแนวทางและสถานการณของกองทุนชัดเจนขึ้น ภายใน 11 เดือน
ต‹อมา จอหน เนฟฟŠ ไดŒรบั การแต‹งตัง้ ใหŒเปšนผูจŒ ดั การกองทุนคนแรกของ Windsor
ที่ทํางานคนเดียว โดยเขาขอใหŒมีนักวิเคราะหหลักทรัพย 1 คนที่คอยสนับสนุน
จอหน เนฟฟŠ เริ่มบริหารกองทุน โดยแบ‹งการลงทุนตามหลัก “ทําใหŒง‹าย
เขŒาไวŒ” เปšนหุŒน 2 กลุ‹ม คือ
■ หุŒนเติบโต (Growth Stocks) เปšนหุŒนของบริษัทที่มั่นคง และมีอัตรา
การเจริญเติบโตในระดับสูง ธุรกิจเหล‹านี้มักใหŒผลตอบแทนสูงกว‹า
ค‹าเฉลีย่ ผลประกอบการและเงินป˜นผลมีแนวโนŒมจะเติบโตไดŒยาวนาน
■ หุน Œ อุตสาหกรรมพืน้ ฐาน (Basic Industry Stocks) เปšนหุนŒ ของบริษทั
ที่มีส‹วนสําคัญในการเติบโตระยะยาวของเศรษฐกิจประเทศ ถŒาเลือก
ลงทุนในเวลาที่เหมาะสม อาจไดŒรับผลตอบแทนที่ดี
ในการแบ‹งเงินลงทุนในหุŒนแต‹ละกลุ‹ม เขานําเสนอวิธีการที่เรียกว‹า
“Measured Participation” โดยวิเคราะหผลตอบแทน ความเสีย่ ง กระจายนํา้ หนัก
และใชŒ ก ลยุ ท ธ ที่ เ นŒ น การลงทุ น ในหุ Œ น ที่ มี อ นาคตมากกว‹ า หุ Œ น ที่ มี ป ระวั ติ ดี
ดŒวยเทคนิคดังกล‹าว ผลตอบแทนป‚แรกที่เขาบริหาร ทําไดŒถึง 29% สูงกว‹าดัชนี
S&P 500 ถึง 17%
จนถึงป‚ 1967 อัตราผลตอบแทนของกองทุน Windsor เท‹ากับ 31.5%
เทียบกับดัชนี S&P 500 ซึง่ ทําไดŒ 23.9% ในขณะนัน้ สินทรัพยภายใตŒการบริหาร
ของเขาสูงกว‹า 100 ลŒานดอลลาร โดยลงทุนในหุŒนเพียง 77 ตัว จอหน เนฟฟŠ
เริ่มมีบทบาทมากขึ้นเรื่อยๆ และแนวคิดของเขาในการบริหารกองทุน Windsor
ก็เริ่มเปšนที่ยอมรับ เขาอยู‹ในแวดวงการบริหารพอรตการลงทุนจนเกษียณอายุ
ในป‚ 1995
37
การลงทุนหุนคุณคาแบบเนน P/E ต่ํา ของ จอหน เนฟฟ

หลักปรัชญาการลงทุน 7 ประการ
ของ จอหน เนฟฟ
กองทุน Windsor ยึดมั่นหลักปรัชญาการลงทุน 7 ประการของ จอหน
เนฟฟŠ เปšนรูปแบบในการลงทุน ไม‹วา‹ ตลาดจะขึน้ จะลง หรือทรงตัว โดยหลักการ
ลงทุนดังกล‹าวจะคŒนหาและเลือกลงทุนในหุŒนที่มีลักษณะดังนี้

คุณลักษณะที่ เปนหุนที่มีอัตราสวน
1 ราคาตอกําไรตํ่า (P/E ตํ่า)
จอหน เนฟฟŠ บอกว‹าเขาชอบสมญานามที่คนอื่นตั้งใหŒเขา คือ เปšน
“Low Price-Earning Investor” (นักลงทุนที่ชอบซื้อหุŒนที่มี P/E ตํ่าๆ) ซึ่ง P/E
เปšนอัตราส‹วนที่มาจากราคาตลาดของหุŒนหารดŒวยกําไรต‹อหุŒน

P/E = ราคาตลาดของหุŒน = Current Market Price


กําไรต‹อหุŒน Earnings per Share

ผมขออธิบายเพิ่มเติมใหŒเห็นว‹า ทําไมในการลงทุน เราจึงควรสนใจ


ค‹า P/E
นั่นเปšนเพราะ “ค‹า P” หรือ “ราคาตลาดในป˜จจุบัน” ของหุŒนมีการ
เปลี่ยนแปลงไปทุกวัน โดยหุŒนของบริษัทจดทะเบียนแต‹ละบริษัทอาจมีราคา
ไม‹เท‹ากัน แมŒจะอยู‹ในอุตสาหกรรมเดียวกันก็ตาม บางบริษัทอาจมีราคา
ตํา่ กว‹า 100 บาท ในขณะทีบ่ างบริษทั อาจมีราคาตลาดอยูใ‹ นช‹วง 200-300 บาท
ซึ่งการที่ราคาตลาดของหุŒนแตกต‹างกันอาจมาจากหลายสาเหตุ ไม‹ว‹าจะเปšน
ป˜จจัยพืน้ ฐานของบริษทั ตอนเสนอขายหุนŒ แก‹ประชาชนทัว่ ไปเปšนครัง้ แรก (IPO)
ป˜จจัยพื้นฐานของบริษัทหลังจากเสนอขายหุŒนครั้งแรกไปแลŒว รวมถึงระยะเวลา
ที่บริษัทอยู‹ในตลาด การเพิ่มทุน หรือการแตกพารต‹างๆ ฯลฯ ดังนั้น การจะ
38
ตามรอยวิถีเซียนลงทุน

บอกว‹าหุŒน A ที่มีราคาตลาด 30 บาท ถูกกว‹า หุŒน B ที่มีราคาตลาด 90 บาท


จึงอาจจะเปรียบเทียบกันไม‹ไดŒในทันที
วิธีการหนึ่งที่ช‹วยใหŒเปรียบเทียบไดŒก็คือ การทําใหŒราคาตลาดของทั้ง
2 หุŒนอยู‹ในหน‹วยเดียวกัน โดยนําเอา “ราคาตลาดมาหารดŒวยกําไรต‹อหุŒน”
(Price to Earnings Ratio : P/E Ratio) เมื่อทั้ง 2 หุŒนอยู‹ในหน‹วยเดียวกันแลŒว
จึงจะสามารถนํามาเปรียบเทียบกันไดŒ โดย P/E จะอธิบายว‹า ราคาตลาดคิดเปšน
กี่เท‹าของกําไร
ตัวอย‹างเช‹น หุŒน A มีกําไรต‹อหุŒน 1 บาท และหุŒน B มีกําไรต‹อหุŒน 6 บาท
(P/E)A = 30 / 1 = 30 เท‹า
(P/E)B = 90 / 6 = 15 เท‹า

กล‹าวคือ เมื่อเทียบต‹อ 1 หน‹วยกําไรแลŒว ราคาตลาดของหุŒน A คิดเปšน


30 เท‹าของกําไร และราคาตลาดของหุŒน B คิดเปšน 15 เท‹าของกําไร สรุปว‹า
หุŒน B มีราคาถูกกว‹า
จอหน เนฟฟŠ ไดŒใหŒแนวคิดในการดูคา‹ P/E อย‹างง‹ายๆ โดยยกตัวอย‹างว‹า
เวลาเราเดินเขŒาไปในซุปเปอรมารเก็ต และตŒองการซื้อคุกกี้ แต‹มีคุกกี้อยู‹
2 ยี่หŒอ แต‹ละยี่หŒอมีราคาและนํ้าหนักแตกต‹างกัน แนวทางหนึ่งในการเลือก คือ
ดูราคาต‹อปอนด ซึ่งจะช‹วยแกŒป˜ญหาไดŒ ค‹า P/E Ratio ก็เช‹นกัน ถือเปšนเกณฑ
เบื้องตŒนที่จะหาของราคาถูก แต‹ของจะดีหรือไม‹ เราตŒองใชŒเกณฑคัดเลือกอื่นๆ
ในการวิเคราะหต‹อไป
นอกจากนี้ การคํานวณค‹า P/E ยังแบ‹งออกเปšน
Trailing P/E = ราคาตลาดในป˜จจุบัน / กําไรต‹อหุŒนในอดีต
Forward P/E = ราคาตลาดในป˜จจุบัน / กําไรต‹อหุŒนในอนาคต
39
การลงทุนหุนคุณคาแบบเนน P/E ต่ํา ของ จอหน เนฟฟ

การคŒนหาว‹าหุนŒ นัน้ ๆ เปšนหุนŒ ราคาถูกหรือไม‹ จะตŒองเทียบดูวา‹ ราคาตลาด


มีปฏิกิริยาตอบสนองต‹อกําไรในอดีตและต‹อกําไรในอนาคตอย‹างไร ถŒา P/E สูง
แสดงว‹าราคาตอบสนองต‹อกําไรมาก ในทางกลับกัน ถŒา P/E ตํ่า แสดงว‹า
ราคาตอบสนองต‹อกําไรนŒอย
จอหน เนฟฟŠ ใหŒขŒอสังเกตว‹า ในขณะที่ตลาดเปšนขาขึ้น ราคาหุŒนกําลัง
รŒอนแรงและพุง‹ ขึน้ จะทําใหŒหนŒุ ทีก่ าํ ลังเปšนทีน่ ยิ มในตลาด มีคา‹ P/E สูงขึน้ เรือ่ ยๆ
(จากผลของค‹า P ที่สูงขึ้น) แต‹กองทุน Windsor จะทําในทางตรงกันขŒาม คือ
จะคŒนหาหุŒนที่ถูกมองขŒาม ไม‹เปšนที่นิยมของตลาด หรือหุŒนที่มีค‹า P/E ตํ่า และ
เมื่อประกอบกับการวิเคราะหอื่นๆ จะทําใหŒสามารถคŒนหาหุŒนที่ถูกประเมิน
ราคาตํ่าไป (ราคาตลาด นŒอยกว‹า มูลค‹าที่แทŒจริงของหุŒน) หรือที่เรียกว‹า
“หุŒน Undervalue” ไดŒ โดยกลยุทธการคŒนหาหุŒนลักษณะนี้มีขŒอดีต‹อพอรต
การลงทุน 3 ประการ ไดŒแก‹
■ หุน Œ ดี ราคาถูก ทําใหŒเม็ดเงินทีใ่ ชŒลงทุนเกิดประสิทธิภาพ เพราะไดŒหนŒุ
ทั้งปริมาณและคุณภาพ
■ หุน Œ ดี ราคาถูก ทําใหŒพอรตการลงทุนไม‹เสีย่ งเกินไป เนือ่ งจากเนŒนหุนŒ
ที่มีความเสี่ยงนŒอยกว‹า และราคามีโอกาสปรับขึ้นไดŒง‹ายกว‹า
■ หุŒนดี ราคาถูก ช‹วยป‡องกันในช‹วงตลาดขาลงไดŒดี เพราะการซื้อจาก
ราคาตลาดที่ถูก เมื่อเทียบกับมูลค‹าที่แทŒจริงที่มีป˜จจัยพื้นฐานรองรับ
ทําใหŒทนต‹อแรงกระแทกไดŒดีกว‹า เหมือนเราซื้อของดีและไดŒราคา
ส‹วนลดมาสูง หุŒนหลายตัวที่กองทุน Windsor หามามักจะมี P/E
ตํ่ากว‹าตลาดประมาณ 40–60% ซึ่งอาจหาไดŒค‹อนขŒางง‹ายในตลาด
ขาลง และหาไดŒยากขึ้นในตลาดขาขึ้น
จอหน เนฟฟŠ ยํ้าว‹า หุŒนเติบโตที่มีชื่อเสียงโด‹งดัง มักจะมี P/E สูงขึ้น
เรือ่ ยๆ ซึง่ การเพิม่ ขึน้ ของราคาทําใหŒนกั ลงทุนสนใจ และความสนใจของนักลงทุน
ก็จะทําใหŒราคาปรับสูงขึ้นอีก แต‹ก็จะทําไดŒจนถึงระดับหนึ่งเท‹านั้น ในที่สุดอัตรา
การเติบโตก็กลับสูภ‹ าวะปกติ ราคามักจะปรับตัวลดลงมา ทําใหŒนกั ลงทุนทีเ่ ขŒาไป
ทีหลัง ซื้อหุŒนในราคาที่สูง และเกิดการขาดทุนไดŒ
40
ตามรอยวิถีเซียนลงทุน

ดังนั้น การลงทุนของกองทุน Windsor จึงมักจะเลือกลงทุนในหุŒนที่มีค‹า


P/E ประมาณ 8–11 เท‹า ซึ่งปลอดภัยกว‹าหุŒนที่มี P/E เริ่มแรก 40 เท‹า ที่ P/E
อาจจะเพิ่มสูงขึ้นเปšน 55 เท‹า แต‹เวลาที่ตลาดเปšนขาลง ราคาของหุŒนที่มี P/E
สูงๆ เช‹นนี้ ก็จะปรับตัวลดลงเร็วกว‹าหุŒนที่มี P/E ตํ่าๆ

คุณลักษณะที่ เปนหุนที่มีอัตราการเติบโต
2 ของกําไรอยางสมํ่าเสมอ
แมŒว‹า จอหน เนฟฟŠ จะตั้งตŒนคัดเลือกหุŒนที่มี P/E ตํ่า แต‹ก็ตŒองคอยดู
ป˜จจัยพืน้ ฐานว‹าแข็งแกร‹งหรือไม‹ ตัวแปรหนึง่ ก็คอื “ผลการดําเนินงานของธุรกิจ”
ผ‹านตัว “กําไร” ว‹าเติบโตดีหรือไม‹ เพราะกําไรที่เพิ่มขึ้น จะทําใหŒตลาดสนใจ
และทําใหŒ P/E สูงขึ้น จอหน เนฟฟŠ แนะนําใหŒดูขŒอมูลกําไร ทั้งในอดีต ป˜จจุบัน
และอนาคต ซึ่งผมขอสรุปเปšนภาพดังนี้

‫ۺ‬۸ʝ‫ھ‬$
‰•L .,=5ࣱ=৞Š

–‫ࡾۺ‬8$6ः –‫ۺ‬Ľ=6‫=ٳ‬
Historical Earnings Forecasted Earnings

Trailing
Earnings

“Historical Earnings” และ “Trailing Earnings” คือ กําไรที่เกิดขึ้นแลŒว


ซึ่งเราตŒองนํามาวิเคราะหว‹า ที่ผ‹านมาเติบโตอย‹างไร สะทŒอนถึงความสําเร็จของ
กิจการและความแข็งแกร‹งของป˜จจัยพืน้ ฐาน เมือ่ นําไปเปรียบเทียบกับราคาตลาด
ในป˜จจุบัน ทําใหŒแน‹ใจว‹าไดŒของดี ราคาถูก แต‹ “Forecasted Earnings” เปšน
41
การลงทุนหุนคุณคาแบบเนน P/E ต่ํา ของ จอหน เนฟฟ

สิ่งที่ตŒองประมาณการขึ้น เพราะเปšนตัวบ‹งบอกถึงอนาคตของกิจการ นักลงทุน


ตŒองจินตนาการอนาคตของบริษัทและอุตสาหกรรมนั้นใหŒไดŒ และตŒองเขŒาใจ
ธรรมชาติของบริษทั ซึง่ เปšนการยากทีบ่ ริษทั ต‹างๆ จะสามารถทํากําไรในแต‹ละป‚
ใหŒเพิม่ ขึน้ ตลอดไปไดŒ ผลกําไรอาจเพิม่ ขึน้ หรือลดลง เปรียบไดŒกบั ลูกตุมŒ นาฬกา
ที่แกว‹งขึ้นลงไปมา
กองทุน Windsor เขŒาใจสถานการณเช‹นนี้ดี จึงคŒนหาบริษัทที่มีอัตราการ
เติบโตของกําไรทีค่ อ‹ นขŒางสมํา่ เสมอ โดยกําหนดเกณฑวา‹ ถŒาอัตราการเติบโตของ
กําไรตํ่ากว‹า 6% หรือมากกว‹า 20% ก็จะขายหุŒนนั้นออก โดยใหŒความเห็นว‹า
หุŒนที่มีอัตราการเติบโตสูงๆ มักจะมีความเสี่ยงมากเกินกว‹าที่ตŒองการ
ส‹วนการพยากรณกําไรไปขŒางหนŒา จอหน เนฟฟŠ เห็นว‹าระยะเวลา 5 ป‚
มีความเหมาะสม เพราะมีความยาวนานพอทีจ่ ะพิสจู นความสามารถทางการตลาด
ราคา และการแข‹งขันของธุรกิจ อย‹างไรก็ดี การพยากรณไปขŒางหนŒาเปšนเวลา
นานๆ ใหŒแม‹นยํา อาจทําไดŒยาก ควรพิจารณาปรับตามวัฏจักรของอุตสาหกรรม
ดŒวย เช‹น หุŒนในกลุ‹มเทคโนโลยี ตัวสินคŒาอาจมีอายุไม‹ยาวนาน การพยากรณ
กําไรทําไดŒยากกว‹าหุŒนของอุตสาหกรรมโภคภัณฑที่มีอัตราการเติบโตตํ่า เช‹น
ปูนซีเมนตและทองแดง เปšนตŒน
วิธีการลงทุนของ จอหน เนฟฟŠ แตกต‹างจากวิธีของนักลงทุนประเภทที่
ลงทุนตามสภาวะตลาด (Momentum Investor) แมŒจะสนใจตัวกําไรของบริษัท
เหมือนกัน แต‹ Momentum Investor มักตัง้ ความหวังในหุนŒ ทีม่ อี ตั ราการเติบโตสูง
ดังนั้น เมื่อกําไรจากการดําเนินงานรายไตรมาสลดลง จึงอาจก‹อใหŒเกิดผล
กระทบอย‹างรุนแรงไดŒ ส‹วนการปรับตัวเพิ่มขึ้นของกําไรเพียงเล็กนŒอย ก็ส‹งผล
ใหŒเกิดความรูสŒ กึ สดใส ราคาหุนŒ จึงขึน้ ไดŒ โดยธรรมชาติแลŒว ถŒาบริษทั ส‹วนใหญ‹มี
ผลประกอบการออกมาใกลŒเคียงกับเป‡าหมายทีค่ าดไวŒ ราคาตลาดก็ควรขยับตัว
เขŒาใกลŒราคาเป‡าหมาย แต‹สาํ หรับหุนŒ ทีม่ ี P/E สูงๆ หากความคาดหวังในเป‡าหมาย
กําไรที่เติบโตสูง มีการพลาดเป‡าแมŒเพียงเล็กนŒอย ก็จะทําใหŒราคาปรับตัวลดลง
อย‹างรุนแรง ดังนั้น การซื้อหุŒนที่มีค‹า P/E ตํ่า และมีกําไรเติบโตอย‹างสมํ่าเสมอ
จึงช‹วยลดความผันผวนของราคาหุŒนในอนาคตไดŒ
42
ตามรอยวิถีเซียนลงทุน

คุณลักษณะที่ เปนหุนที่มีอัตราผลตอบแทน
3 จากเงินปนผลคงที่
อัตราผลตอบแทนจากการป˜นผล = เงินป˜นผลจ‹าย
(Dividend Yield) ราคาตลาดของหุŒนป˜จจุบัน
เปšนการประมาณโดยคร‹าวๆ ว‹า ถŒาลงทุนซื้อหุŒนในขณะนั้นแลŒวถือไวŒ
เมื่อไดŒรับเงินป˜นผลมา จะคิดเปšนอัตราผลตอบแทนเท‹าไร ถŒาเราซื้อและถือหุŒน
ไวŒเปšนระยะเวลานานๆ Dividend Yield จะมีความสําคัญมาก เพราะจะทําใหŒเรา
เห็นกระแสเงินสดรับจากการถือหุŒน (เงินป˜นผล) ซึ่งเปšนส‹วนแบ‹งที่เราจะไดŒรับ
อย‹างสมํ่าเสมอจากผลการดําเนินงานของบริษัท การมีบริษัทที่ดีอยู‹ในพอรต
โฟลิโอและไดŒรบั เงินป˜นผลดีอย‹างต‹อเนือ่ ง จะทําใหŒอตั ราผลตอบแทนของพอรต
อยู‹ในระดับที่ดสี มํ่าเสมอ ไม‹ตŒองตื่นเตŒนตกใจกับการขึ้นลงของราคาหุŒน เพราะ
ตราบใดที่ยังไม‹ขายออก กําไร/ขาดทุนจากส‹วนต‹างของราคาก็ยังไม‹เกิดขึ้น
เนื่องจากกลยุทธการลงทุนของจอหน เนฟฟŠ เนŒนที่หุŒน P/E ตํ่า ซึ่งราคา
ตลาดมักจะมีราคาถูก จึงทําใหŒโดยเปรียบเทียบแลŒว เมือ่ ไดŒรบั เงินป˜นผลตอบแทน
กลับมา Dividend Yield จะมีอตั ราสูง (เพราะราคาเปšนตัวหาร) สําหรับคนทีล่ งทุน
แลŒว รอที่จะขายโดยมีความหวังว‹าจะไดŒกําไรจากส‹วนต‹างราคาซื้อกับราคาขาย
นั้น Dividend Yield จะมีความสําคัญมาก โดยเปรียบเปรยไวŒว‹า “Yield ที่ดีกว‹า
อย‹างนŒอยก็ทําใหŒคุณมีออรเดิรฟ (เงินป˜นผล) ไวŒรับประทานเล‹นระหว‹างรอ
อาหารจานหลัก (กําไรจากการขาย)”
อย‹างไรก็ตาม ในภาวะตลาดขาขึ้น และราคาตลาดของหุŒนสูงขึ้นเรื่อยๆ
เปšนการยากที่ Dividend Yield จะสูงขึ้นเรื่อยๆ เพราะตŒองทําใหŒ Dividend หรือ
เงินป˜นผลมีอัตราที่โตกว‹าการเพิ่มขึ้นของราคา คนที่เขŒาซื้อหุŒนนี้ทีหลังก็มักจะมี
ตŒนทุนสูงกว‹า คนทีซ่ อื้ คนแรก ผมจึงคิดว‹า จอหน เนฟฟŠ พยายามบอกเราเมือ่ มา
ถึงตรงนีว้ า‹ ใหŒเราหาของถูก (หุนŒ P/E ตํา่ ) พืน้ ฐานดี (กําไรดี อัตราผลตอบแทน
จากเงินป˜นผลดี) Dividend Yield ที่ขยับสูงต‹อไปไม‹ไดŒหรือเริ่มลดลง อาจเปšน
สัญญานเตือนใหŒปรับพอรต และเริ่มขายออกก็ไดŒ
43
การลงทุนหุนคุณคาแบบเนน P/E ต่ํา ของ จอหน เนฟฟ

คุณลักษณะที่ เปนหุนที่มีความสัมพันธที่ดี
4 ของอัตราผลตอบแทนโดยรวม
กับคา P/E ที่ซื้อ
อัตราผลตอบแทนโดยรวม (Total Return) ในที่นี้ คํานวณไดŒจาก

อัตราการเติบโตของกําไรสุทธิ +
Total Return = อัตราผลตอบแทนจากเงินป˜นผล
อัตราส‹วนราคาต‹อกําไร

Earnings Growth + Dividend Yield


=
P/E

อธิบายไดŒวา‹ หุนŒ ทีม่ รี าคาตามหน‹วยของ P/E 1 หน‹วย สรŒางผลตอบแทน


จากกําไรและเงินป˜นผลไดŒเท‹าไร ยิ่งมากก็ยิ่งทําใหŒ Total Return มีค‹ามาก
นัน่ หมายความว‹า ถŒาไดŒหนŒุ ที่ P/E ตํา่ กําไรเติบโตดี จ‹ายป˜นผลสมํา่ เสมอ ก็ทาํ ใหŒ
ผลตอบแทนโดยรวมมีค‹าสูงขึ้น
ดังนั้น หุŒนที่เราเลือกมาจึงควรเปšนหุŒนที่มี Total Return สูงมากๆ ที่จริง
แลŒว ผมเห็นว‹าคุณลักษณะที่ 4 นี้ ไม‹มีอะไรใหม‹ เพราะเปšนการรวมคุณสมบัติ
ที่ 1 ถึง 3 เขŒาดŒวยกันเปšนอัตราส‹วนเดียว เพื่อยืนยันว‹า “เปšนของดี ราคาถูก”
44
ตามรอยวิถีเซียนลงทุน

คุณลักษณะที่ เปนหุนที่มีความผันผวน
5 ตามวัฏจักรเศรษฐกิจ
ซึ่งจะถูกชดเชยดวย P/E
หุŒน P/E ตํ่าที่กองทุน Windsor เลือกมามีหลายประเภท แมŒหุŒนที่เรียกว‹า
“หุŒนวัฏจักร” (Cyclical Stocks) จอหน เนฟฟŠ ก็ลงทุนดŒวย โดยในบางขณะ
กองทุน Windsor มีหุŒนวัฏจักรถึง 1 ใน 3 หรือมากกว‹านั้นในพอรตการลงทุน
ซึ่งหุŒนวัฏจักรที่ จอหน เนฟฟŠ ลงทุน ไดŒแก‹ หุŒนของบริษัทผลิตรถยนต เคมีภัณฑ
และอลูมเิ นียม หุนŒ เหล‹านีม้ กั มีราคาผันผวนขึน้ ลงตามวัฏจักรเศรษฐกิจและธุรกิจ
ในช‹วงทีว่ ฏั จักรรุง‹ เรือง ราคาจะสูงขึน้ มากอย‹างรวดเร็ว แต‹ชว‹ งหลังจากจบวงจร
ราคาหุŒนก็ลดลงอย‹างมาก ดังนั้น จังหวะในการเขŒาซื้อควรจะเปšนช‹วงหลังจาก
จบวงจร ซึ่งราคาหุŒนลดลงอย‹างมาก (P/E จึงตํ่า ทําใหŒชดเชยความเสี่ยง
ดŒานราคาไปไดŒมาก) และเมื่อถึงช‹วงรุ‹งเรือง กําไรของธุรกิจเพิ่มขึ้นกว‹าเดิม
ราคาหุŒนพุ‹งสูงขึ้น มีความตŒองการซื้อหุŒนกลุ‹มนี้มากขึ้น กองทุน Windsor
จะถือว‹าเปšนจังหวะที่จะขายหุŒนกลุ‹มนี้
จอหน เนฟฟŠ ยํ้าว‹า ช‹วงจังหวะเวลาเปšนเรื่องสําคัญ นักลงทุนทุกคน
ลŒวนอยากซื้อเมื่อถึงจุดตํ่าสุด และขายเมื่อวัฏจักรถึงจุดสูงสุด ซึ่งยากที่จะ
คาดการณไดŒอย‹างแม‹นยํา ดังนัน้ การซือ้ หุนŒ ที่ P/E ตํา่ ไวŒกอ‹ น จะทําใหŒปลอดภัย
เพราะมีตŒนทุนตํ่ากว‹า นอกจากนี้ ถŒาเรามีการติดตามสภาวะและแนวโนŒมของ
กําไรจากการดําเนินงานอย‹างสมํา่ เสมอระหว‹างการลงทุน เราจะสามารถช‹วงชิง
จังหวะการขายออก เพื่อทํากําไรไดŒดีกว‹านักลงทุนทั่วไป และโปรดจําไวŒว‹า
อย‹าลงทุนเมื่อบริษัทมีกําไรสูงสุด (เพราะราคาจะขึ้นไปสูง ทําใหŒ P/E มีค‹าสูง
เกินไป)
45
การลงทุนหุนคุณคาแบบเนน P/E ต่ํา ของ จอหน เนฟฟ

คุณลักษณะที่ เปนหุนของบริษัทที่มั่นคง
6 แข็งแกรงในอุตสาหกรรม
ที่กําลังเติบโต
หุŒนที่กองทุน Windsor สนใจ
■ เปšนบริษัทที่มีตําแหน‹งการตลาดที่เขŒมแข็ง มีศักยภาพในการเติบโต
ซึ่งมีค‹า P/E ตํ่า
■ อาจเปšนหุŒนเติบโต (Growth Stock) ที่มีป˜จจัยพื้นฐานดี แต‹ไม‹มีคน
สนใจ (ราคาจึงถูกอยู‹)
■ หรืออาจเปšนหุน Œ บริษทั ขนาดใหญ‹ชนั้ แนวหนŒา แต‹เผชิญข‹าวรŒาย ทัง้ ที่
มีป˜จจัยพื้นฐานดี (ราคาจึงยังถูก)
■ วงจรธุรกิจของบริษัทเหล‹านี้ กําลังจะกลับมารุ‹งเรือง ซึ่งอาจเกิดจาก
ทัง้ ป˜จจัยภายนอก และ/หรือ การดําเนินกลยุทธภายในของบริษทั เอง
■ เจาะดูฐานะการเงิน และการทํากําไรตŒองดี

คุณลักษณะที่
7 เปนหุนที่มีปจจัยพื้นฐานดี
ในขŒอนี้ผมคิดว‹า จอหน เนฟฟŠ คงจะอธิบายประเด็นดŒานป˜จจัยพื้นฐาน
เพิม่ เติมนอกเหนือจากทีอ่ ธิบายในคุณลักษณะที่ 6 โดยสิง่ ทีค่ วรพิจารณาหุนŒ ของ
บริษัทเป‡าหมายเพิ่มเติม ไดŒแก‹
■ ตรวจสอบความสัมพันธระหว‹างยอดขายที่เปšน “จํานวนเงิน” และ
“จํานวนหน‹วย” ถŒายอดขายทีเ่ พิม่ ขึน้ มาจากทัง้ ราคาและปริมาณ จะ
สะทŒอนใหŒเห็นถึงความสําเร็จของธุรกิจ
■ ตรวจสอบการส‹งมอบสินคŒาใหŒแก‹ลูกคŒา ทําไดŒตามกําหนดหรือไม‹
ถŒาไม‹ทัน อาจจะกระทบต‹อยอดขาย กําไร และราคาหุŒนใหŒลดลงไดŒ
46
ตามรอยวิถีเซียนลงทุน

■ อย‹าสนใจแต‹กําไรสุทธิ ซึ่งเปšน Bottom Line ใหŒกลับมาดู EBITDA


(Earnings Before Interest, Taxes, Depreciation and Amortization)
หรือกําไรจากการดําเนินงานชนิดหนึง่ ทีด่ จู าํ นวนเงินก‹อนหักค‹าใชŒจา‹ ย
ที่เราไม‹ตŒองจ‹ายเงินไปจริง เช‹น ค‹าเสื่อมราคา (Depreciation) และ
ค‹าใชŒจ‹ายตัดจ‹าย (Amortization) ยิ่ง EBITDA สูงเท‹าไร ก็แสดงว‹า
บริษัทจะจ‹ายคืนภาระค‹าใชŒจ‹ายทางการเงินและภาษีไดŒดีเท‹านั้น
■ พิจารณากระแสเงินสดของบริษัท เพื่อตรวจสอบใหŒมั่นใจว‹าบริษัท
ไดŒเงินมาจากไหน เอาไปใชŒทาํ อะไร ใชŒเงินทุนผิดประเภท ไม‹เหมาะสม
และจะทําใหŒเกิดป˜ญหาในอนาคตหรือไม‹ ในหลายๆ กรณี กระแสเงินสด
มีประโยชนสําหรับใชŒเปšนแนวทางในการประเมินราคาของบริษัท
■ พิจารณาค‹า ROE (Return on Equity)

กําไรสุทธิ
ROE =
ส‹วนของผูŒถือหุŒน

ยิ่งค‹า ROE สูง ยิ่งสะทŒอนใหŒเห็นถึงประสิทธิภาพที่ดีในการใชŒเงินของ


ผูŒถือหุŒน มาสรŒางผลการดําเนินงาน ผลกําไรใหŒธุรกิจ ซึ่งจะส‹งผลดีกลับมายัง
ผูŒถือหุŒน ผ‹านโอกาสการรับเงินป˜นผลที่สูงขึ้นในงวดถัดไป และ/หรือ ผ‹านมูลค‹า
ธุรกิจทีอ่ าจดีขนึ้ ในอนาคต ถŒาบริษทั นํากําไรไปขยายการลงทุนต‹อ ทําใหŒมโี อกาส
ไดŒรับกําไรส‹วนเกิน (Capital Gain) ในอนาคต

เทคนิคการคนหาหุนดี ราคาถูก
ติดตามหุนที่ราคาลดลงทุกวัน
จอหน เนฟฟŠแนะนําว‹าใหŒคอยจับตาดูราคาหุŒนในช‹วงที่ตลาดขาลง
ลองดูวา‹ มีหนŒุ ตัวไหนทีท่ าํ สถิตริ าคาตํา่ กว‹าทีเ่ คย (New Low) ลงมา 2-3 วัน และ
มีราคาใกลŒเคียงกับราคาตํา่ สุดในรอบ 52 สัปดาห โดยเราอาจจะตัง้ เกณฑเอาไวŒ
47
การลงทุนหุนคุณคาแบบเนน P/E ต่ํา ของ จอหน เนฟฟ

เช‹น ถŒาราคาลดลง 8-30% หรือมากกว‹า เราคิดว‹าหุŒนนี้น‹าสนใจและคุŒมที่จะ


เขŒาไป “วิเคราะหหุŒนตัวนี้” เพราะนั่นอาจทําใหŒเราซื้อหุŒนของบริษัทที่ดีไดŒ
ในราคาถูก และมีโอกาสไดŒกําไรในอนาคต

คนหาบริษัทที่มีคุณภาพ
ในยามภาวะเศรษฐกิจหรือธุรกิจคับขัน
บริษทั จดทะเบียนต‹างๆ ตŒองต‹อสูใŒ นโลกธุรกิจกันอย‹างไม‹หยุดหย‹อน ไม‹วา‹
ในภาวะเศรษฐกิจรุ‹งเรืองหรือตกตํ่า ความสําเร็จของธุรกิจอาจมาจากการใชŒ
จุดแข็ง แกŒไขจุดอ‹อนภายในกิจการ การใชŒโอกาสและลดอุปสรรคจากป˜จจัย
ภายนอก ในช‹วงเศรษฐกิจรุ‹งเรือง บริษัทจดทะเบียนจํานวนมากไดŒอานิสงสจาก
ผลบวกของป˜จจัยภายนอก การทําธุรกิจจึงไม‹ค‹อยลําบากมากนัก แต‹ในช‹วงที่
เศรษฐกิจตกตํ่า หลายๆ บริษัท (ที่ยามปกติมีป˜จจัยพื้นฐานดี) ก็ตŒองพยายาม
ขวนขวายเอาตัวรอด ตŒองแกŒป˜ญหาเฉพาะหนŒาต‹างๆ มากมาย ซึ่งตŒองใชŒเวลา
พิสูจนว‹าจะผ‹านวิกฤติไปไดŒหรือไม‹ แต‹นักลงทุนอาจไม‹มั่นใจกับภาวะการณ
หรือไม‹ทันสังเกตจุดที่น‹าสนใจของบริษัทนั้นๆ จึงแห‹ขายหุŒนออก จนทําใหŒราคา
หุŒนตกไปอย‹างมาก
จอหน เนฟฟŠ เล‹าประสบการณจากกรณีบริษัท Owens Corning ซึ่งเปšน
ผูผŒ ลิตไฟเบอรกลาสรายใหญ‹ในช‹วงทศวรรษ 1980 โดยในป‚ 1986 บริษทั แห‹งนี้
ป‡องกันตนเองจากการถูกซื้อกิจการ โดยกูŒเงินจํานวนมากเพื่อซื้อหุŒนคืนจาก
ผูถŒ อื หุนŒ และออก Stub Shares เพือ่ แทนสัดส‹วนของผูถŒ อื หุนŒ เดิม การปรับโครงสรŒาง
ใหม‹นี้ทําใหŒส‹วนของผูŒถือหุŒนในงบดุลติดลบ มูลค‹าตามบัญชีตํ่ากว‹าศูนย ทําใหŒ
นักลงทุนส‹วนใหญ‹ไม‹มั่นใจ เทขายออกมา จนทําใหŒ P/E ตํ่า เหลือประมาณ
5.5 เท‹า แต‹กองทุน Windsor คาดว‹าอุตสาหกรรมไฟเบอรกลาสยงั ไปไดŒดี รายไดŒ
และกําไรในอนาคต น‹าจะช‹วยลดภาระหนี้ไดŒ แมŒจะยังไม‹สามารถจ‹ายป˜นผลไดŒ
ในป˜จจุบัน แต‹ถŒาระดับส‹วนของผูŒถือหุŒนที่จะเพิ่มขึ้นในภายหลัง จะทําใหŒกลับมา
จ‹ายเงินป˜นผลไดŒผลที่เกิดจริงหลังจากนั้น คือ บริษัทเริ่มมีกําไรในป‚ 1991 และ
กองทุน Windsor ขายหุŒน Owens Corning ไปในราคา 2 เท‹าของราคาทุนในป‚
1993
48
ตามรอยวิถีเซียนลงทุน

คนหาบริษัทดีที่ถูกจําแนกผิดประเภท
บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย จะถูกจําแนกเขŒาอยู‹ในหมวด
อุตสาหกรรม (Industry) ใดอุตสาหกรรมหนึง่ เพือ่ ใหŒงา‹ ยต‹อการเลือกลงทุน การ
กําหนดประเภทของอุตสาหกรรมทีบ่ ริษทั จะเขŒาไปอยู‹ อาจพิจารณาจากลักษณะ
ของผลิตภัณฑ ธุรกิจ และขŒอจํากัดที่อาจไม‹สามารถเปดกลุ‹มอุตสาหกรรมใหม‹
ที่เหมาะสมกว‹าไดŒ เราอาจใชŒจุดนี้ในการคŒนหาหุŒนดีที่ถูกจําแนกผิดประเภทไดŒ
จอหน เนฟฟŠ มีประสบการณจากการลงทุนในหุนŒ Bayer AG ในช‹วงปลาย
ป‚ 1990 ซึ่งขณะนั้น หุŒน Bayer ถูกจัดใหŒอยู‹ในอุตสาหกรรมเคมีภัณฑ ทั้งๆ ที่
รายไดŒ 1 ใน 3 มาจากผลิตภัณฑยาและผลิตภัณฑดูแลสุขภาพ ในขณะที่ 8%
มาจากเคมีเกษตร และ 13% มาจากเคมีภัณฑเกี่ยวกับการถ‹ายภาพ ซึ่งสรุป
โดยรวมว‹า รายไดŒประมาณครึ่งหนึ่งของ Bayer ไม‹ไดŒขึ้นอยู‹กับภาวะเศรษฐกิจ
โดยตรง ต‹อมาภาวะเศรษฐกิจที่ตกตํ่า ส‹งผลใหŒหมวดอุตสาหกรรมเคมีภัณฑ
มีราคาหุŒนตกตํ่าดŒวย ราคาหุŒน Bayer ลดลงถึง 35% ตอนที่กองทุน Windsor
เขŒาไปซื้อหุŒน Bayer P/E ของ Bayer มีค‹าประมาณ 6 เท‹า จากการที่โครงสรŒาง
รายไดŒของ Bayer ไม‹ผนั ผวนมากตามวงจรเศรษฐกิจ เมือ่ เศรษฐกิจกลับมารุง‹ เรือง
ผลประกอบการที่กลับมาดี ส‹งผลใหŒราคาหุŒนกลับมาเพิ่มในป‚ 1993 กองทุน
Windsor ไดŒกําไรจากการขายหุŒน Bayer สูงกว‹าตลาด

มองหาบริษัทที่จะลงทุนจากเพื่อนบาน
โอกาสหาหุŒนดีๆ มีอยู‹สมํ่าเสมอ จอหน เนฟฟŠ แนะนําวิธีหาบริษัท
จดทะเบียนดีๆ ทีม่ ผี ลิตภัณฑวางขายอยูใ‹ นศูนยการคŒา หรือจะพูดคุยกับพ‹อคŒาปลีก
แถวบŒาน หรือฟ˜งความเห็นของวัยรุ‹น จึงจะรูŒว‹าตลาดนิยมบริโภคอะไร ของใคร
ตัวอย‹างการลงทุนกรณีของ Windsor คือ เฝ‡าติดตามหุŒนของ Pier One Imports
ซึ่งเปšนผูŒคŒาปลีกอุปกรณตกแต‹งบŒานและสินคŒาเกี่ยวกับบŒานชั้นนําของสหรัฐฯ
เช‹น เฟอรนิเจอร ตะกรŒา หมอน วัสดุปูพื้น เปšนตŒน แต‹ P/E ของหุŒนนี้ ในขณะนั้น
สูงเกินไป แมŒว‹าจะมั่นใจในธุรกิจก็ตาม กองทุน Windsor รอคอยจนกระทั่งเกิด
49
การลงทุนหุนคุณคาแบบเนน P/E ต่ํา ของ จอหน เนฟฟ

เหตุการณ Black Monday ในเดือนตุลาคม ป‚ 1987 ตลาดหุŒนตกตํ่า กองทุน


Windsor เขŒาซื้อ Pier One Imports ในป‚ 1989 ขณะที่ P/E มีค‹าประมาณ
8 เท‹าเท‹านัน้ ไม‹คอ‹ ยมีนกั ลงทุนมองเห็นกําไรต‹อหุนŒ ของ Pier One Imports ว‹า
กลับมาเพิ่มขึ้นถึง 47% ในป‚ 1988 และคาดว‹าจะเพิ่มขึ้นอีก 25% ในป‚ 1989
ผลลัพธก็คือ กองทุน Windsor สามารถไดŒกําไรจากการขายหุŒน Pier One
Imports เพิ่มขึ้นอีกเกือบเท‹าตัวภายในเวลา 6 เดือนหลังจากนั้น

พัฒนาความคิดเห็นใหเปนลําดับขั้น
จอหน เนฟฟŠ เห็นว‹าการลงทุนไม‹ใช‹ธุรกิจซับซŒอน แต‹คนทําใหŒซับซŒอน
เอง เราควรเรียนรูโŒ ดยการพัฒนาความคิดเห็นใหŒเปšนลําดับขัน้ ตอน (Curbstone
Opinions) โดยตัง้ ขŒอสังเกตทีเ่ ปšนประโยชนจากขŒอมูลทัว่ ไปของบริษทั อุตสาห-
กรรม และภาวะเศรษฐกิจทีม่ ผี ลต‹อบริษทั ทีเ่ ราสนใจอยู‹ ซึง่ อาจจะตัง้ คําถามและ
หาคําตอบใหŒกับคําถามเหล‹านี้ เช‹น
■ อะไรที่ทําใหŒบริษัทมีชื่อเสียง (และจะทําชื่อเสียงไดŒต‹อไป)?
■ ธุรกิจมีแนวโนŒมเติบโตหรือไม‹?
■ บริษัทเปšนผูŒนําในอุตสาหกรรมหรือไม‹?
■ แนวโนŒมของการเติบโตของอุตสาหกรรมเปšนอย‹างไร?
■ ผูŒบริหารมีภาวะผูŒนําในเชิงกลยุทธหรือไม‹?

เทคนิคในการบริหาร
พอรตหุนที่มี P/E ตํ่า
แมŒเราจะไดŒเรียนรูŒคุณลักษณะของหุŒน P/E ตํ่าในแบบของ จอหน เนฟฟŠ
ซึ่งมีประโยชนในการคัดเลือกหุŒนเขŒาพอรตโฟลิโอมาแลŒว แต‹การบริหารพอรต
โฟลิโอไม‹ไดŒมเี ฉพาะการคัดเลือกหุนŒ เท‹านัน้ แต‹ยงั รวมถึงการติดตาม ปรับพอรต
เอาหุŒนเดิมที่ไม‹เปšนไปตามคุณสมบัติออกไป เอาหุŒนใหม‹ที่เหมาะสมกว‹าเขŒามา
โดย จอหน เนฟฟŠ ไดŒแนะนําเทคนิคในการบริหารพอรตเพิ่มเติมไวŒดังนี้
50
ตามรอยวิถีเซียนลงทุน

เทคนิคการจัดกลุมหุน
แบบ Measured Participation
จอหน เนฟฟŠ ไดŒเสนอมิติการแบ‹งกลุ‹มหุŒนโดยไม‹สนใจประเภทอุตสาห-
กรรม แต‹แบ‹งตามการเติบโตของกําไร โดยแบ‹งหุŒนออกเปšน 4 กลุ‹ม ดังนี้
■ กลุ‹มที่มีอัตราการเติบโตและเปšนที่นิยม
(Highly Recognized Growth : HRG)
■ กลุ‹มที่มีอัตราการเติบโต แต‹ไม‹ค‹อยไดŒรับความนิยม
(Less Recognized Growth : LRG)
■ กลุ‹มที่มีอัตราการเติบโตปานกลาง (Moderate Growth : MG)
■ กลุ‹มที่มีการเติบโตตามภาวะเศรษฐกิจ หรือ หุŒนวัฏจักร
(Cyclical Growth : CG)
จอหน เนฟฟŠ แนะนําว‹า “หุŒนกลุ‹ม HRG” มักมาจากบริษัทที่มีชื่อเสียง
ผูบŒ ริโภครูจŒ กั และจําชือ่ สินคŒาของบริษทั เหล‹านีไ้ ดŒดี บริษทั มีอตั ราการเติบโตของ
ผลประกอบการและกําไรสูง มีความมัน่ คง มักเปšนผูนŒ าํ ตลาด นักลงทุนส‹วนใหญ‹
ต‹างตŒองการเปšนเจŒาของหุŒน HRG เกือบทั้งนั้น ความนิยมทําใหŒราคาหุŒนกลุ‹มนี้
มักอยู‹ในกลุ‹มดัชนีหุŒนชั้นนําของตลาด และราคาก็มักสูง (ทําใหŒ P/E สูงดŒวย)
นักวิเคราะหหลักทรัพยใหŒฉายาหุŒน HRG ว‹า “One-decision Stock” คือ ใหŒซื้อ
และถือตลอดไป โดยมีสมมติฐานว‹า บริษัท HRG เหล‹านี้มีการเติบโตของกําไร
อย‹างไม‹จาํ กัด ในขณะทีจ่ าํ นวนหุนŒ มีจาํ กัด นักลงทุนส‹วนใหญ‹จงึ เชือ่ ว‹า ราคาคงจะ
เพิ่มไปอย‹างต‹อเนื่อง ซึ่งจะเกิดอย‹างนี้ไดŒตŒองมีนักลงทุนหนŒาใหม‹ที่เชื่อคนง‹าย
เขŒามาในตลาดเพิ่มขึ้นโดยไม‹มีขีดจํากัดเช‹นกัน จอหน เนฟฟŠ ยกตัวอย‹างหุŒนใน
ดัชนี Nifty Fifty ซึ่งมี P/E สูงขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่หุŒน P/E ตํ่า ไม‹มีใครสนใจเลย
จนกว‹าจะเกิดความตกตํ่าในตลาดหุŒน ผูŒคนที่บาดเจ็บจากหุŒน HRG จึงจะหันมา
สนใจหุนŒ P/E ตํา่ ทีม่ กี ารเติบโตของกําไรดี แต‹ไม‹มใี ครสนใจ (LRG) อย‹างไรก็ดี
กองทุน Windsor ก็ลงทุนในกลุ‹ม HRG บŒาง โดยมีสัดส‹วนประมาณ 8-9%
ของมูลค‹าการลงทุน
51
การลงทุนหุนคุณคาแบบเนน P/E ต่ํา ของ จอหน เนฟฟ

ถัดมาเปšน “หุŒนกลุ‹ม LRG” โดยจอหน เนฟฟŠ แนะนําว‹า ขณะที่คนสนใจ


แต‹หนŒุ HRG ทําใหŒเรามีตวั เลือกมากมาย สําหรับพอรตการลงทุน P/E ตํา่ ของเรา
ที่จริงแลŒวบริษัทเหล‹านี้มีอัตราการเติบโตของกําไรดีไม‹นŒอยกว‹าของกลุ‹ม HRG
เพียงแต‹ขาดวิสยั ทัศน และขนาดไม‹ใหญ‹พอทีจ่ ะทําใหŒเกิดความสนใจในบางช‹วง
ของการลงทุน สัดส‹วนการลงทุนในหุŒน LRG ของกองทุน Windsor สูงถึง 33%
โดยสัดส‹วนที่เหมาะสมที่ จอหน เนฟฟŠ แนะนําไวŒอยู‹ที่ประมาณ 25%
ส‹วน “หุŒนกลุ‹ม MG” จอหน เนฟฟŠ อธิบายว‹า เปšนหุŒนที่มีจํานวนมากที่สุด
ในตลาด แต‹ดŒวยผลการดําเนินงานที่ไม‹ค‹อยโดดเด‹น นักลงทุนจึงไม‹นิยมลงทุน
และ P/E ก็มักจะตํ่า ถŒาสามารถวิเคราะหคŒนหาหุŒนที่มีพื้นฐานดี และมีอนาคต
P/E ของหุŒนกลุ‹มนี้สามารถปรับเพิ่มขึ้น และจะทําใหŒเกิดกําไรมาก ซึ่งกองทุน
Windsor ลงทุนในกลุ‹มนี้ ประมาณ 50% ของพอรตทั้งหมด
สุดทŒาย คือ “หุŒนกลุ‹ม CG” จะมีการเติบโตของกําไรในอัตราเฉลี่ย โดย
ในช‹วงเศรษฐกิจขาขึ้น การเติบโตของกําไรจะสูงกว‹าค‹าเฉลี่ย แต‹ในช‹วงวัฏจักร
ขาลง กําไรจะเติบโตนŒอยกว‹าค‹าเฉลี่ยของตลาด P/E ของหุŒนกลุ‹มนี้จะผันผวน
ขึ้นๆ ลงๆ ซึ่งบริษัทที่ดีในกลุ‹ม CG และมี P/E ตํ่า ก็ยังมีใหŒคัดเลือกอยู‹เสมอ
ดังนั้น กลยุทธการซื้อและขายหุŒนกลุ‹มนี้จึงมีความสําคัญมาก
กองทุน Windsor จะเขŒาซื้อหุŒนกลุ‹มนี้ก‹อนที่กําไรจะปรับตัวเพิ่มขึ้น 6-9
เดือน และขายเมื่อมีสัญญาณว‹า ความตŒองการในสินคŒาและบริการของบริษัท
เหล‹านี้มีการขยายตัวอย‹างชัดเจน เช‹น ดูจากการเพิ่มขึ้นของยอดขายและกําไร
โดยเฉลี่ยแลŒว กองทุน Windsor จะมีหุŒนวัฏจักรอยู‹ประมาณ 30%

เทคนิคการกําหนดจํานวนหุนในพอรต
ในขณะที่กองทุน Windsor บริหารเงินทุน 11 พันลŒานเหรียญ กองทุนนี้
ลงทุนในหุŒนเพียง 60 บริษัท และ 40% ของเงินกองทุน ลงทุนในหุŒนเพียง 10
บริษทั เท‹านัน้ และเมือ่ เจาะลึกลงไป 25% ของมูลค‹าเงินลงทุน ลงในบริษทั นํา้ มัน
เพียง 3 แห‹งเท‹านัน้ ดังนัน้ จึงไม‹จาํ เปšนทีจ่ ะตŒองใหŒพอรตมีจาํ นวนหุนŒ มากเกินไป
52
ตามรอยวิถีเซียนลงทุน

เทคนิคการวิเคราะหหุน
นักลงทุนมักจะสับสนว‹า ควรเลือกใชŒวิธี Top-down คือ วิเคราะหป˜จจัย
พื้นฐานจากเศรษฐกิจ อุตสาหกรรม ลงไปหาตัวบริษัท หรือจะใชŒวิธี Bottom-up
คือ วิเคราะหที่บริษัทก‹อน แลŒวค‹อยดูว‹าบริษัทที่ดีเหล‹านี้มีป˜จจัยแวดลŒอมดŒาน
อุตสาหกรรม เศรษฐกิจ สนับสนุนหรือไม‹ จอหน เนฟฟŠ ใหŒความเห็นว‹าจะใชŒวิธี
อะไรก็ไดŒ จะดูอะไรก‹อนหลังก‹อนก็ไดŒ แต‹ตŒองดูควบคู‹กันไป

เทคนิคการสรางฐานขอมูล
เพื่อติดตามและตัดสินใจ
ในการสรŒางและบริหารพอรต P/E ตํ่า จอหน เนฟฟŠ สรŒาง Fact Sheet
เพื่อช‹วยวิเคราะหและติดตามหุŒนอย‹างเปšนระบบ ขŒอมูลที่เขาสนใจ ไดŒแก‹
จํานวนหุŒนที่ลงทุน ตŒนทุนเฉลี่ย ราคาป˜จจุบัน กําไรต‹อหุŒน และประมาณการ
อัตราการเติบโตทั้งในอดีตและที่คาดการณ P/E ในอดีตและที่คาดการณ
ผลตอบแทนจากเงินป˜นผล (Yield) ผลตอบแทนต‹อส‹วนของผูŒถือหุŒน (ROE)
ราคาเป‡าหมายบนพืน้ ฐานของกําไรทีค่ าดการณ P/E เป‡าหมาย ตลอดจนโอกาส
และศักยภาพทีร่ าคาจะปรับตัวสูงขึน้ ซึง่ ขŒอมูลหลายตัวขŒางตŒน เปšนขŒอมูลทีห่ าไดŒ
ง‹าย เพราะมีการเปดเผยต‹อสาธารณะอยู‹แลŒว

เทคนิคการขายหุนจากพอรต
จอหน เนฟฟŠ กําหนดลักษณะของการขายหุŒนออกจากพอรต ดังนี้
■ ป˜จจัยพื้นฐานแย‹ลง
■ ราคาเท‹ากับราคาเป‡าหมายที่กําหนด
53
การลงทุนหุนคุณคาแบบเนน P/E ต่ํา ของ จอหน เนฟฟ

การลดลงหรือแย‹ลงของป˜จจัยพื้นฐานจะพิจารณาจากเกณฑ 2 ประการ
คือ “กําไรที่คาดการณ” และ “อัตราการเติบโต 5 ป‚” หากเราไม‹มั่นใจในป˜จจัย
พื้นฐานเหล‹านี้ ใหŒขายหุŒนออกทันที อย‹างไรก็ดี ถึงแมŒว‹าป˜จจัยพื้นฐานยังดี
แต‹ถŒาราคาหุŒนสูงขึ้นไปเท‹ากับราคาเป‡าหมายที่ตั้งไวŒ ก็สามารถขายหุŒนจาก
พอรต เพื่อนํารายไดŒและกําไรมาลงทุนกับหุŒนตัวใหม‹ตามเกณฑที่กําหนดต‹อไป
(Reinvestment) โดยเฉลี่ยแลŒวถŒาป˜จจัยพื้นฐานของหุŒนยังดี กองทุน Windsor
สามารถถือหุนŒ ไปนานถึง 3 - 5 ป‚ โดยอาจแบ‹งขายทํากําไรบŒางระหว‹างช‹วงเวลา
ลงทุน จอหน เนฟฟŠ เตือนว‹าการถือหุนŒ นานเกินไป ก็อาจเปšนป˜ญหาไดŒ เพราะอาจ
เกิดสถานการณ “ตกหลุมรัก” หุนŒ ในพอรตจนลืมจังหวะการขายออก เพือ่ ทํากําไร
ในช‹วงเวลาที่เหมาะสม จงจําไวŒว‹า “หุŒนทุกตัวที่เราเปšนเจŒาของ มีไวŒเพื่อขาย
ทั้งสิ้น” และ “ไม‹จําเปšนตŒองซื้อและถือหุŒนตลอดไป”
ฝากทิ้งทŒายไวŒสักนิดว‹า การลงทุนในหุŒนแบบ P/E ตํ่า เปšนกลยุทธการ
ลงทุนชนิดหนึ่ง ซึ่งมีลักษณะค‹อนขŒางอนุรักษนิยม ไม‹หวือหวา จอหน เนฟฟŠ
เองก็เห็นว‹าหลักการดังกล‹าวนี้เปšนการกระทําซํ้าๆ คงเสŒนคงวา สิ่งที่เหมือน
กับการวิเคราะหหลักทรัพยในกลยุทธอื่นๆ ก็คือ “การคŒนหาหุŒนที่มีป˜จจัย
พื้นฐานดี” แต‹สิ่งที่ต‹างจากคนอื่นก็คือ “พยายามคŒนหาของดี ราคาถูก” และ
“เปšนของทีค่ าดการณแลŒวว‹าจะมีการเติบโตของกําไรทีด่ อี ย‹างต‹อเนือ่ ง” จนส‹งผล
ในทางบวกต‹อผลตอบแทนจากการลงทุนในอนาคต หากท‹านนักลงทุนอ‹านแลŒว
คิดว‹าชอบสไตลการลงทุนแบบนี้ ลองนําหลักการไปสรŒางและบริหารพอรตลงทุน
ดŒวยตนเองไดŒเลยครับ ขอใหŒทุกท‹านโชคดีครับ
54
ตามรอยวิถีเซียนลงทุน
55
การลงทุนแบบดันโด

ตามรอยวิถีเซียนลงทุน :
การลงทุนแบบ ดันโด
56
ตามรอยวิถีเซียนลงทุน

การเรียนรูกŒ ลยุทธและสไตลการลงทุนของนักลงทุนทีป่ ระสบความสําเร็จ


มาแลŒว เปšนเรือ่ งทีจ่ ะช‹วยใหŒเราไดŒตวั อย‹างของแนวคิดและวิธกี ารลงทุนในรูปแบบ
ต‹างๆ ซึ่งเราจะสามารถเลือกแบบที่เหมาะกับสไตลของเรา คราวนี้ผมขอพูดถึง
“การลงทุนแบบดันโด” ซึ่งสรุปรวบยอดความรูŒมาจากหนังสือ The Dhandho
Investor เขียนโดย โมนิช พาไบร แปลและเรียบเรียงเปšนภาษาไทย โดยคุณพรชัย
รัตนนนทชัยสุข จัดพิมพโดยสํานักพิมพวิสดอมเวิรค เพรส หนังสือเล‹มนี้
แปลชื่ อ การลงทุ น แบบดั น โดว‹ า “กลยุ ท ธ ก ารลงทุ น แบบมี ค วามเสี่ ย งตํ่ า
แต‹ ใหŒผลตอบแทนสูง” แนวคิดของกลยุทธนี้สะกิดใจผมในฐานะนักการเงิน
ที่ถูกพรํ่าสอนมาตลอดว‹า “ถŒาความเสี่ยงตํ่า ผลตอบแทนที่คาดว‹าจะไดŒรับ
ก็จะตํ่าดŒวย (Low Risk Low Expected Return)” ถŒามีวิธีการลงทุนที่ทําใหŒ
ความเสี่ยงตํ่าแต‹ไดŒรับอัตราผลตอบแทนสูงดŒวย วิธีการนี้ก็น‹าสนใจไม‹ใช‹นŒอย

ประวัติโดยสังเขป
“โมนิช พาไบร” (Mohnish Pabrai) เปšนนักธุรกิจและนักลงทุนชาวอเมริกนั
เชื้อสายอินเดีย ซึ่งคลุกคลีกับธุรกิจดŒาน IT มาก‹อน เขาก‹อตั้ง Transtech Inc.
ซึ่งเปšนบริษัทใหŒคําปรึกษาเกี่ยวกับระบบ IT ขึ้นในป‚ 1991 ดŒวยเงินลงทุน
ตนเองเพียง 30,000 ดอลลารและจากหนี้บัตรเครดิต 70,000 ดอลลาร
เขาพัฒนาธุรกิจของบริษัทจนเติบโตและขายบริษัทออกไปในป‚ 2000 ใหŒแก‹
Kurt Salmon Associates ในราคาประมาณ 20 ลŒานดอลลาร ป˜จจุบันเขาเปšน
หุŒนส‹วนผูŒจัดการของ Pabrai Investment Funds ซึ่งเปšนธุรกิจดŒานการลงทุน
ที่ไดŒก‹อตั้งมาตั้งแต‹ป‚ 1999 ดŒวยความที่เปšนคนเชื้อสายอินเดียซึ่งเก‹งกาจ
ดŒานการทําธุรกิจไม‹แพŒใคร โมนิช พาไบร ไดŒสังเกตและรวบรวมเคล็ดลับของ
นักธุรกิจเชื้อสายอินเดียที่มาตั้งรกรากในสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะกลุ‹มตระกูล
“พาเทล” ซึง่ มาจากรัฐกุจราช ประเทศอินเดีย ทีค่ รอบครองธุรกิจโมเต็ลกว‹าครึง่
ในสหรัฐฯ ในป˜จจุบนั ทัง้ ๆ ทีก่ ลุม‹ คนเหล‹านีเ้ พิง่ อพยพเขŒามาตัง้ รกรากในสหรัฐฯ
เมื่อทศวรรษ 1970 ที่ผ‹านมานี้เอง โมนิช พาไบร ไดŒสังเกตแนวคิดและเคล็ดลับ
การทําธุรกิจจนประสบความสําเร็จของคนกลุม‹ นี้ ซึง่ สามารถประยุกตใชŒกบั การ
ลงทุนในหุŒนไดŒ โดยตั้งชื่อว‹า “การลงทุนแบบดันโด”
57
การลงทุนแบบดันโด

“ดันโด” (Dhandho) เปšนคําจากภาษากุจาราตี โดย “Dhan” มาจาก


คําว‹า “Dhana” หรือธนา ซึ่งหมายถึง “เงินหรือความมั่งคั่ง” และ “Dhando”
แปลไดŒว‹า “ความพยายามสรŒางความมั่งคั่ง” เมื่อศึกษาไปเรื่อยๆ แนวคิดดันโด
จะเกี่ยวขŒองกับการพยายามขยายผลตอบแทนใหŒสูงสุด ขณะที่จํากัดความเสี่ยง
ใหŒอยู‹ในระดับตํ่าสุด ผูŒเขียน (โดยผูŒแปล) สรุปแนวคิดใหŒเปšนภาษาชาวบŒาน
เขŒาใจแนวคิดแบบดันโดอย‹างง‹ายๆ ว‹า “ออกหัว ผมไดŒเงิน ออกกŒอย ผมเสียเงิน
นิดหน‹อย”

ลักษณะเดนของวิถีแหงดันโด
โมนิช พาไบร หยิบยกเอากรณีศึกษาของ “ปาปา พาเทล” (Papa Patel)
ผูŒอพยพเชื้อสายอินเดียที่พาครอบครัวหนีตายมาจากยูกันดาของจอมเผด็จการ
อีดี้ อามิน ในช‹วงทศวรรษ 1970 และตŒองดิ้นรนทํางานอย‹างหนักในการเปšน
ลูกจŒางรŒานขายของชําเพื่อใหŒครอบครัวอยู‹รอด ในทศวรรษ 1970 นี้เอง เกิด
วิกฤตราคานํ้ามันที่สูงขึ้นหรือเรียกว‹า “Oil Shock” ครั้งแรกของโลก ส‹งผลใหŒ
เกิดเศรษฐกิจตกตํ่าทั่วโลกรวมทั้งสหรัฐฯ ดŒวย ผลดังกล‹าวกระทบต‹อธุรกิจ
โมเต็ลที่จัดอยู‹ในกลุ‹มการใชŒจ‹ายที่ไม‹จําเปšน แมŒผูŒคนจะจําเปšนตŒองเดินทาง
แต‹ความตŒองการทีจ่ ะเขŒาพักก็ลดลงไปอย‹างมาก สิง่ ทีต่ ามมาก็คอื ป˜ญหาหนีเ้ สีย
ในธุรกิจโมเต็ลของธนาคารพาณิชยเริ่มสูงขึ้น ธนาคารบางแห‹งยึดโมเต็ลมา
ประกาศขายทอดตลาดในราคาถูก ปาปา พาเทล เห็นโอกาสนี้เขาเขŒาซื้อโมเต็ล
เล็กๆ ขนาด 20 หŒอง โดยรวบรวมเงินของตนเองและญาติๆ มาไดŒเพียง 5,000
ดอลลารและขอกูโŒ ดยคํา้ ประกันส‹วนตัวในอัตราสูงถึงประมาณ 90% ของราคาขาย
ซึ่งธนาคารก็ตŒองยอม เพราะไม‹เช‹นนั้นก็ตŒองแบกภาระหนี้เสียต‹อไป เขาและ
ครอบครัวบริหารและพักอาศัยอยู‹ในโมเต็ลนี้ดŒวย ทําใหŒประหยัดค‹าใชŒจ‹ายไปไดŒ
นอกจากนี้ จุดเด‹นของการควบคุมตŒนทุนใหŒตาํ่ ทีส่ ดุ โดยทํางานเองทุกอย‹าง รวมทัง้
ลดราคาหŒองพักใหŒตาํ่ ลงมาใหŒไดŒมากทีส่ ดุ ทําใหŒโมเต็ลของ ปาปา พาเทล สามารถ
อยู‹รอดมาไดŒภายใตŒภาวะเศรษฐกิจที่ตกตํ่า
ตอนที่ ปาปา พาเทล ตัดสินใจว‹าจะลงทุนในโมเต็ลนี้ สังเกตไดŒว‹าเขา
กําหนดหลักการสําคัญๆ ไวŒดังนี้
58
ตามรอยวิถีเซียนลงทุน

1. ธุรกิจนี้เปšนธุรกิจที่ดําเนินงานอยู‹แลŒว ไม‹ผันผวน มีประวัติการสรŒาง


กําไรและกระแสเงินสดมายาวนานลักษณะธุรกิจไม‹ซับซŒอน ถŒาควบคุมตŒนทุน
ใหŒตํ่าไดŒจะไดŒเปรียบเชิงแข‹งขัน
2. แมŒว‹าในขณะนั้นภาวะเศรษฐกิจจะตกตํ่า แต‹ถŒาในอนาคตภาวะ
เศรษฐกิจดีขึ้น จะส‹งผลดีต‹อกําไรและผลตอบแทนสูงมาก ถŒาภาวะเศรษฐกิจ
ตกตํา่ ภายใตŒการควบคุมตŒนทุนใหŒตาํ่ ถึงขีดสุด (ซึง่ ครอบครัวนีท้ าํ ไดŒแน‹) ธุรกิจนี้
ก็จะยังคงใหŒกําไร แต‹ถŒาโชครŒายเศรษฐกิจตกตํ่ามากที่สุด (ซึ่งความน‹าจะเปšน
ไม‹สงู ) ผลประกอบการยํา่ แย‹ ชําระหนีไ้ ม‹ไดŒ ธนาคารเขŒามายึดทรัพยสนิ ก็ยดึ ไดŒ
แต‹โรงแรม ตัวเขาเองไม‹มีทรัพยสินใด อย‹างมากเขาก็กลับไปทํางานเปšนลูกจŒาง
รŒานขายของชําแลŒวค‹อยๆ ผ‹อนหนี้ส‹วนที่เหลือต‹อไป
หลักการในขŒอ 2 นี้ เปšนที่มาของแนวคิดว‹า “ออกหัว ผมไดŒเงิน ออกกŒอย
ผมเสียเงินนิดหน‹อย” ซึ่ง ปาปา พาเทล รูŒอยู‹แลŒวว‹าโอกาสออกกŒอยมีนŒอยกว‹า
ทําใหŒ ปาปา พาเทล มีโอกาสขยายผลตอบแทนจากการลงทุนไดŒมาก ในขณะ
ที่สามารถควบคุมความเสี่ยงจากการลงทุนไดŒ ไม‹ว‹าภาวะเศรษฐกิจจะผันผวน
มากหรือนŒอยก็ตาม นักการเงินมองว‹าความผันผวน (ของเหตุการณ) คือ ความเสีย่ ง
จึงระบุว‹า High Risk High Return แต‹ในมุมมองของ ปาปา พาเทล แลŒว แมŒว‹า
สภาวะการณจะผันผวน แต‹ถาŒ ควบคุมความเสีย่ งโดยจัดการใหŒอยูใ‹ นระดับตํา่ ไดŒ
โอกาสที่จะไดŒอัตราผลตอบแทนสูงก็ย‹อมมีความเปšนไปไดŒ
บางคนอาจคิดว‹า ปาปา พาเทล อาศัยเหตุการณ Oil Shock ในยุคทศวรรษ
1970 ซึ่งเปšนเหตุการณพิเศษและอาจไม‹เหมือนยุคอื่น และวิถีแห‹งดันโดนี้จะ
ประยุกตใชŒไดŒกับช‹วงเวลาอื่นหรือไม‹ ผูŒเขียนไดŒยกกรณีศึกษาอื่นๆ ในช‹วงเวลา
อื่นๆ เพื่อยืนยันกฎของดันโด

กรณีศึกษาของ มณีลาล ชอธุรี


“มณีลาล ชอธุรี” (Manilal Chaudhari) เปšนนักธุรกิจอเมริกันเชื้อสาย
อินเดียที่ลงทุนในธุรกิจโมเต็ลเช‹นกัน แต‹อดีตนักบัญชีจากอินเดียคนนี้เขŒามาตั้ง
59
การลงทุนแบบดันโด

รกรากในสหรัฐฯ ในป‚ 1991 โดยเริ่มจากการทํางานอย‹างหนักในป˜มนํ้ามันและ


เปšนนักบัญชีของบริษทั ผูผŒ ลิตแหล‹งจ‹ายไฟสําหรับคอมพิวเตอร เขาพยายามเก็บ
ออมเงินเพื่อจะเอาไปลงทุน แต‹ก็ยังไม‹มากพอที่จะลงทุนในธุรกิจโมเต็ลเสียที
จังหวะของมณีลาลมาถึงเมื่อเกิดเหตุการณ 911 ทําใหŒภาวะการท‹องเที่ยวเกิด
ภาวะชะงักงันคลŒายกับในช‹วงทศวรรษ 1970 มณีลาลใชŒโอกาสนี้เขŒาซื้อธุรกิจ
โมเต็ลในราคาถูกทันที เขาใชŒแบบจําลองธุรกิจคลŒายกับ ปาปา พาเทล วิถีแห‹ง
ดันโดเริม่ ชัดเจนขึน้ เรือ่ ยๆ จากแนวคิด “ออกหัว ผมไดŒเงิน ออกกŒอย ผมเสียเงิน
นิดหน‹อย” ซึ่งจะมองหาธุรกิจที่ดําเนินงานอยู‹แลŒว และเปšนธุรกิจที่ไม‹ซับซŒอน
โดยมีสิ่งที่เพิ่มเติมขึ้นมาจากกรณีของปาปา พาเทล คือ “เดิมพันนŒอยอย‹าง
เดิมพันหนักๆ ไม‹เดิมพันบ‹อย”

กรณีศึกษาของ ลักษมี มิตทาล


“ลักษมี มิตทาล” (Lakshmi Mittal) เจŒาพ‹อธุรกิจเหล็กเชื้อสายอินเดีย
ที่รวยอันดับ 3 ของโลก รองจาก บิล เกตส และ วอรเรน บัฟเฟตต เท‹านั้น
มิตทาลเปšนเจŒาของธุรกิจเหล็กที่เขาสรŒางและควบรวมมาเกือบทั่วโลก โดยการ
เขŒาเทคโอเวอรบริษัทเหล็กในหลายๆ ประเทศ เขาไดŒของราคาถูกที่กําลังแย‹
ซื้อแลŒวเขาก็นํามาบริหารใหŒเกิดประสิทธิภาพ ในบางกรณีที่เขŒาไปช‹วยธุรกิจ
เหล็กของบางประเทศ เช‹น Karmet Steel Works ของคาซัคสถาน เขาช‹วยรักษา
คนงานและธุรกิจของเมืองนี้เอาไวŒ มิตทาลไดŒรับความเคารพและศรัทธาเปšน
อย‹างมาก เสŒนทางความมัง่ คัง่ ของมิตทาลอยูบ‹ นการวิพากยวจิ ารณของนักวิเคราะห
ที่มองว‹าธุรกิจเหล็กเปšนอุตสาหกรรมที่แย‹ เพราะควบคุมราคาขายไม‹ไดŒ ตŒองใชŒ
เงินลงทุนสูง เมื่อภาวะเศรษฐกิจตกตํ่า จึงมีธุรกิจเหล็กที่ลŒมละลายจํานวนมาก
แต‹มติ ทาลมองต‹างจากคนอืน่ เขาคอยจังหวะเขŒาซือ้ ในราคาถูกและนํามาบริหาร
ใหŒดี มีตนŒ ทุนตํา่ ทําใหŒเขายืนหยัดอยูไ‹ ดŒ นีก่ เ็ ขŒาข‹ายการลงทุนตามแนวคิดแห‹งวิถี
ดันโดเหมือนกัน ซึง่ สามารถใชŒไดŒกบั ธุรกิจเหล็ก ซึง่ เปšนธุรกิจตŒองต‹อสูอŒ ย‹างมาก
และลักษณะธุรกิจก็ไม‹ไดŒเติบโตอย‹างกŒาวกระโดด มิตทาลตŒองว‹ายทวนนํา้ ดŒวยซํา้
แต‹เขาก็สามารถรํ่ารวยเปšนอันดับ 3 ของโลกไดŒ
60
ตามรอยวิถีเซียนลงทุน

กรณีศึกษาของ ริชารด แบรนสัน


วิถีแห‹งดันโดไม‹ไดŒใชŒไดŒผลเฉพาะคนเชื้อสายอินเดียเท‹านั้น แต‹มันใชŒไดŒ
กับคนทั่วไป ยกตัวอย‹างกรณีของ “ริชารด แบรนสัน” (Richard Branson)
ผูกŒ อ‹ ตัง้ สายการบิน Virgin Atlantic ก็เริม่ ตŒนธุรกิจสายการบินโดยใชŒเงินลงทุนนŒอย
มาก และสามารถควบคุมความเสีย่ งใหŒตาํ่ ไดŒ ทัง้ ๆ ทีไ่ ม‹มปี ระสบการณดาŒ นธุรกิจ
การบินเลย รูแŒ ต‹ธรุ กิจการแต‹งเพลงหรือค‹ายเพลงเท‹านัน้ เขามองเห็นช‹องว‹างใน
การทําสายการบินตŒนทุนตํ่าโดยการเช‹าเครื่องบิน ซึ่งจะเสียค‹าใชŒจ‹ายหลังจาก
บินไปแลŒว ทําใหŒเขามีรายรับจากการจําหน‹ายตั๋วเขŒามาก‹อน โดยไม‹จําเปšนตŒอง
ลงทุนซื้อเครื่องบิน เพราะสามารถเช‹าเครื่องบินในระยะสั้นๆ จากโบอิ้งไดŒ นี่คือ
จุดเริ่มตŒนที่ทําใหŒธุรกิจของ Virgin ขยายตัวออกไปอย‹างมาก และถŒาสังเกตใหŒดี
ธุรกิจนี้ก็เปšนสไตลวิถีแห‹งดันโดเช‹นกัน
สิง่ ทีผ่ มประทับใจทีส่ ดุ ในฐานะของผูตŒ คี วามและเอามาเขียนสรุปประเด็น
สําคัญใหŒท‹านผูŒอ‹านไดŒรับรูŒกันก็คือบางครั้งเวลาที่เราเขŒาไปลงทุนในตลาดที่มี
ความผันผวนมากๆ ซึ่งนักการเงินเรียกว‹า “มีความเสี่ยงสูง” เราย‹อมตŒองการ
ผลตอบแทนสูงๆ เพื่อชดเชยความเสี่ยงนั้น แต‹สิ่งที่ผมเห็น คือ เรามักไม‹ไดŒใน
สิ่งที่ตŒองการ แถมยังพบว‹าคนส‹วนใหญ‹มักจะขาดทุนเมื่อตลาดมีความผันผวน
ทําใหŒรูŒสึกว‹า “เรามีความเสี่ยงสูง (High Risk) แต‹ไม‹เห็นจะไดŒผลตอบแทนสูง
(High Return) ตามไปดŒวยเลย” แต‹เมื่อไดŒศึกษาและทําความเขŒาใจเกี่ยวกับ
วิถีแห‹งดันโด ทําใหŒผมเห็นแนวคิดที่ต‹อยอดความรูŒเพิ่มเติมว‹า ภายใตŒความ
ผันผวนสูง ถŒาเราสามารถควบคุมความเสี่ยงใหŒตํ่าไดŒ เราก็มีโอกาสไดŒรับ
ผลตอบแทนในอัตราที่เราพึงพอใจไดŒ ซึ่งชาวดันโดเรียกวิธีนี้ว‹า “ลงทุนในธุรกิจ
ที่มีความเสี่ยงตํ่าแต‹มีความไม‹แน‹นอนสูง”
61
การลงทุนแบบดันโด

กลยุทธการลงทุนแบบดันโด
โมนิช พาไบร สรุปแนวคิดแบบดันโดเอาไวŒดังนี้
■ ลงทุนในธุรกิจที่มีการดําเนินงานอยู‹แลŒว
■ ลงทุนในธุรกิจที่เรียบง‹าย
■ ลงทุนในธุรกิจทีม
่ ปี ญ
˜ หาในอุตสาหกรรมซึง่ กําลังอยูใ‹ นภาวะยากลําบาก
■ ลงทุนในธุรกิจที่มีความไดŒเปรียบเชิงแข‹งขันอันยั่งยืน
■ เดิมพันนŒอยอย‹าง เดิมพันหนักๆ ไม‹เดิมพันบ‹อย
■ มองหาโอกาสทําอารบิทราจ (ซื้อถูก ขายแพง)
■ มีส‹วนเผื่อความปลอดภัยเสมอ (Margin of Safety)
■ ลงทุนในธุรกิจที่มีความเสี่ยงตํ่า แต‹มีความไม‹แน‹นอนสูง
■ ลงทุนในพวกเลียนแบบ ไม‹ใช‹พวกสรŒางสรรคสิ่งใหม‹ๆ

ลงทุนในธุรกิจซึ่งมีการดําเนินงานอยูแลว
หุŒนสามัญของบริษัทจดทะเบียนมีจํานวนมากมายใหŒเลือก ทุกบริษัทก็มี
การดําเนินงานอยู‹แลŒว แต‹การลงทุนแบบดันโดตีความเอาไวŒว‹า เราควรเลือก
หุŒนที่บริษัทมีโมเดลทางธุรกิจที่ชัดเจน มีประวัติการดําเนินงานยาวนาน จนเรา
สามารถวิเคราะหปจ˜ จัยทีแ่ วดลŒอมทัง้ ภายในและภายนอกธุรกิจไดŒ เช‹นเดียวกับที่
ปาปา พาเทล เริ่มตŒนเขŒาซื้อโรงแรมที่เปดดําเนินงานอยู‹แลŒว

ลงทุนในธุรกิจที่เรียบงาย
วิถแี ห‹งดันโดแนะนําใหŒเราเลือกหุนŒ ของบริษทั ทีม่ ลี กั ษณะเรียบง‹าย มีการ
เปลี่ยนแปลงในระยะยาวนŒอย มีประวัติการสรŒางรายไดŒ กระแสเงินสด ผลกําไร
มายาวนาน จนเราวิเคราะหไดŒและคาดการณกระแสเงินสดในอนาคตไดŒง‹าย
ปาปา พาเทล มองเห็นความเรียบง‹ายของธุรกิจโมเต็ล เพราะตราบใดทีผ่ คŒู นยังคง
62
ตามรอยวิถีเซียนลงทุน

เดินทางไกลและตŒองการพักผ‹อน ธุรกิจโรงแรมก็จะไม‹มีวันตาย Transtech ของ


พาไบร แมŒจะอยูใ‹ นอุตสาหกรรม IT ทีด่ เู หมือนเปลีย่ นแปลงอย‹างรวดเร็ว แต‹ความ
เปšนธุรกิจบริการของ Transtech มันจึงเปšนความเรียบง‹ายท‹ามกลางความวุน‹ วาย

ลงทุนในธุรกิจที่มีปญหาในอุตสาหกรรม
ที่กําลังอยูในภาวะยากลําบาก
ในสถานการณวกิ ฤตทีเ่ กีย่ วขŒองกับเศรษฐกิจ เช‹น ราคานํา้ มันสูง เศรษฐกิจ
ถดถอย ผูŒคนลดรายจ‹ายที่ไม‹จําเปšนจะส‹งผลกระทบต‹ออุตสาหกรรมหลายชนิด
ดŒวยความรุนแรงต‹างกัน แต‹สิ่งที่เหมือนกัน คือ การตื่นกลัวของนักลงทุน ทําใหŒ
เทขายหุŒนของบริษัทต‹างๆ ออกมาในราคาถูก ซึ่งในนี้มี “ของดี ราคาถูก” อยู‹
ดŒวยเสมอ เช‹น ปาปา พาเทล เขŒาซื้อธุรกิจโมเต็ลในช‹วง Oil Shock หรือ มณีลาล
ชอธุรี เขŒาสู‹ธุรกิจโรงแรมหลังเหตุการณ 911 หรือลักษมี มิตทาล เขŒาซื้อธุรกิจ
เหล็กในภาวะอุตสาหกรรมทีก่ าํ ลังแย‹ โดย โมนิช พาไบร ยกคํากล‹าวของวอรเรน
บัฟเฟตตที่ว‹า “จงกลัวในขณะที่คนอื่นๆ กําลังโลภ และจงโลภเมื่อใครๆ ต‹างพา
กันกลัว” พาไบรยังเปรียบเปรยเรื่องการตื่นกลัวของนักลงทุนนี้ว‹า เปšนเรื่อง
จิตวิทยาธรรมดาๆ นี่เอง คลŒายกับไปเจอราชสีหที่คํารามและสมองก็สั่งโดย
อัตโนมัติว‹า “โกยเถอะเรา” จึงตŒองตั้งสติในเรื่องนี้ใหŒดี

ลงทุนในธุรกิจที่มีความไดเปรียบ
เชิงแขงขันอันยั่งยืน
ธุรกิจทีม่ กี ารบริหารทีด่ จี นทําใหŒเกิดความไดŒเปรียบในการแข‹งขัน จะนํามา
ซึง่ การมีผลการดําเนินงานทีด่ แี ละยัง่ ยืน มีรากฐานแข็งแกร‹งแมŒจะพบกับวัฏจักร
เศรษฐกิจที่ไม‹ดีก็ตาม ความไดŒเปรียบของ ปาปา พาเทล, มณีลาล ชอธุรี และ
ลักษมี มิตทาล มาจากการมีตŒนทุนตํ่าสุด ส‹วนของ ริชารด แบรนสัน มาจาก
แบรนด นวัตกรรม และทีท่ กุ คนมีเหมือนกันคือ การลงมือปฏิบตั อิ ย‹างยอดเยีย่ ม
อย‹างไรก็ดี พึงระวังไวŒวา‹ ความไดŒเปรียบเชิงแข‹งขันแบบถาวรไม‹มอี ยูจ‹ ริง เพราะ
63
การลงทุนแบบดันโด

การทําธุรกิจเหมือนการสูรŒ บกัน เปรียบเสมือนผูคŒ รอบครองปราสาททีแ่ ข็งแกร‹ง


พยายามสรŒางคูเมืองที่กวŒางและลึก เลี้ยงสัตวดุรŒายไวŒในคูเมือง แต‹ผูŒรุกราน
ก็จะพยายามเขŒาโจมตีโดยปรับปรุงกองกําลัง เทคนิค อาวุธ อย‹างไม‹ลดละ
พาไบรอŒางคําพูดของ ชารลี บังเกอร หุŒนส‹วนคู‹ใจของ วอรเรน บัฟเฟตต ที่ว‹า
ในหุŒน 50 ตัวสําคัญของตลาดหลักทรัพยนิวยอรค เมื่อป‚ 1911 เหลืออยู‹รอด
มาจนถึงป˜จจุบัน เพียงตัวเดียว คือ General Electric หลักคิดนี้ในเวลาลงทุน
จึงไม‹ควรคาดการณกระแสเงินสดในอนาคตของบริษัทเกิน 10 ป‚ขึ้นไป

เดิมพันนอยอยาง
เดิมพันหนักๆ ไมเดิมพันบอย
นักลงทุนส‹วนใหญ‹มักจะมีเงินจํานวนจํากัด คําถามก็คือว‹า เราจะกลŒานํา
เงินลงทุนจํานวนเท‹าไรดีเปšนเดิมพัน โมนิช พาไบร แนะนําใหŒใชŒ Kelly Formula
ของ จอหน ลารรี เคลลี จูเนียร ในการคํานวณหาจํานวนเงินที่เหมาะสมที่สุดที่
จะนํามาลงทุน ซึ่งคํานวณไดŒดังนี้
Edge
Kelly Formula =
Odds
(ผลรวมของความน‹าจะเปšน
X ผลตอบแทนหรือผลขาดทุน)
=
ผลตอบแทนสูงสุดที่จะไดŒรับ
จากการชนะเดิมพัน

ตัวอย‹างเช‹น การเดิมพันโยนเหรียญ ถŒาออกหัว เราไดŒเงิน 2 ดอลลาร


ถŒาออกกŒอยเราจะเสียเงิน 1 ดอลลาร จากเกมนี้ เราควรเดิมพันเท‹าไรจากเงิน
ทั้งหมดที่เรามีอยู‹
64
ตามรอยวิถีเซียนลงทุน

แทนค‹าในสูตร Edge = (0.5 x $2) + (0.5 x -$1)


= $ 0.5
Odds = $2
Kelly Formula = 0.5 / 2 = 0.25
คําตอบที่ไดŒ คือ เราควรนําเงินเพียง 25% มาเดิมพันในแต‹ละครั้ง
จากตัวอย‹างขŒางตŒน วิถีแห‹งดันโดสอนเราว‹า เราจะเดิมพันหนักๆ ไดŒ
ขึ้นอยู‹กับโอกาสที่จะไดŒผลตอบแทนนั้นมีมากหรือไม‹ (หรือเรียกว‹าเดิมพันมาก
เมื่อมีแตŒมต‹อ) ซึ่งเหตุการณที่ว‹านี้ไม‹ไดŒเกิดขึ้นบ‹อยๆ เราจึงไม‹ควรที่จะเดิมพัน
ดŒวยหุนŒ หลายตัวมากเกินไป (ถŒาไม‹มอี ะไรยืนยันว‹าเปšนเหตุการณทวี่ า‹ นัน้ จริงๆ)
ประสบการณของปาปา พาเทล, มณีลาล ชอธุรี เองก็ใชŒ Kelly Formula
โดยไม‹รูŒตัว แมŒเขาจะไม‹รูŒและไม‹ไดŒคํานวณ Kelly Formula แต‹พวกเขาต‹างก็
เดิมพันหนักและเดิมพันนŒอยครั้ง เขาจะเดิมพันมากก็ต‹อเมื่อมีแตŒมต‹อเกิดขึ้น
การลงทุนก็คลŒายกัน มันเปšนเรื่องความน‹าจะเปšน การมองหาโอกาสการลงทุน
ทีม่ รี าคาผิดพลาดและการลงทุนหนักๆ เมือ่ มีโอกาสไดŒผลตอบแทนสูง ซึง่ นีก่ ค็ อื
บัตรผ‹านประตูไปสู‹โลกแห‹งความมั่งคั่ง

มองหาโอกาสการทําอารบิทราจ
การทําอารบิทราจ (Arbitrage) คือ ความพยายามหาผลกําไรจากราคา
ที่แตกต‹างกันของสิ่งของแบบเดียวกันหรือคลŒายกัน แต‹ผมขอปรับใชŒในภาษา
ง‹ายๆ ว‹า “ซือ้ ถูก ขายแพง” สําหรับของทีซ่ อื้ ขาย ไม‹วา‹ จะอยูใ‹ นตลาด (สถานที)่
เดียวกันหรือต‹างกัน หรือในเวลาเดียวกันหรือต‹างกันก็ตาม การซื้อถูกขายแพง
จะไดŒส‹วนต‹างราคา ซึ่งคนที่ทําคนแรกๆ ก็จะไดŒส‹วนต‹างราคามาก คนที่เขŒามา
ทีหลังก็จะไดŒนอŒ ยลงไปเรือ่ ยๆ การทําอารบทิ ราจจะจบสิน้ ลงเมือ่ ส‹วนต‹างราคานี้
หมดไป
65
การลงทุนแบบดันโด

การซื้อโมเต็ลมาบริหารของ ปาปา พาเทล และ มณีลาล ชอธุรี พวกเขา


ทําใหŒตนŒ ทุนการดําเนินงานตํา่ ลงและอัตราเขŒาพักทีส่ งู ขึน้ (เพราะลดราคาลงไดŒ)
เมื่ อ เกิ ด ช‹ อ งว‹ า งระหว‹ า งพวกเขากั บ คู ‹ แ ข‹ ง ทํ า ใหŒ เ กิ ด ส‹ ว นต‹ า งราคาไดŒ
ส‹วนต‹างราคานี้ ในกรณีโมเต็ลจะใชŒเวลานานมาก (บางกรณีกเ็ ร็วมาก) ถึงแมŒวา‹
สุดทŒายแลŒวส‹วนต‹างนี้จะหมดไป แต‹พวกเขาก็ไดŒรับกําไรกันไปจนมากพอแลŒว
กรณีของ ริชารด แบรนสัน การทําอารบิทราจก็คือการออกสินคŒาและ
บริการที่แปลกใหม‹ แมŒช‹องว‹างนี้จะลดลงในภายหลังเมื่อคู‹แข‹งลอกเลียนแบบ
แต‹มันก็อาจใชŒเวลานาน
ส‹วนกรณีของ ลักษมี มิตทาล เขาทําอารบทิ ราจโดยสรŒางความไดŒเปรียบ
โดยเขŒาซือ้ สินทรัพยราคาถูก แต‹นาํ มาสรŒางความไดŒเปรียบอันยัง่ ยืนอย‹างทีส่ องขึน้
โดยบริหารใหŒเกิดประสิทธิภาพทําใหŒตŒนทุนตํ่าลง และสรŒางความไดŒเปรียบ
อย‹างทีส่ าม คือ ทําแบบนีก้ บั ธุรกิจเหล็กทีซ่ อื้ มาทัว่ โลกจนมีเครือข‹ายและแบรนด
ที่เขŒมแข็ง

มีสวนเผื่อความปลอดภัยเสมอ
ส‹วนเผื่อความปลอดภัย (Margin of Safety) หมายถึง ส‹วนที่เราสํารอง
เอาไวŒระดับหนึ่งเพื่อใหŒสบายใจว‹าเกิดอะไรขึ้นมาเราจะยังไม‹เปšนไร มนุษย
ส‹วนใหญ‹จะชอบถŒามีส‹วนนี้ ตัวอย‹างเช‹น การออมเพื่อกันไวŒว‹าอาจมีเหตุฉุกเฉิน
ซึ่งถŒาเหตุนั้นเกิดขึ้น เราก็จะดึงเงินออมนั้นออกมาใชŒ ยิ่งระดับเงินออมนั้นสูงขึ้น
เราก็จะยิ่งสบายใจ
ในการทํ า ธุ ร กิ จ หรื อ ลงทุ น ในหุ Œ น วิ ถี แ ห‹ ง ดั น โดก็ ส อนใหŒ มี ส ‹ ว นเผื่ อ
ความปลอดภัยเสมอ แลŒวเราจะทําไดŒอย‹างไร? การลงทุนแบบดันโดแนะนําว‹าใหŒ
“ซือ้ ธุรกิจในราคาทีต่ าํ่ กว‹ามูลค‹าทีแ่ ทŒจริงอย‹างมาก” เมือ่ ใดมีโอกาสใหŒทาํ แบบนี้
เพราะการเขŒาซื้อในราคาตํ่า ทําใหŒเรากลัวนŒอยลงเวลาราคาลดลงกว‹าเดิม และ
ที่จริงแลŒวเรากําลังควบคุมความเสี่ยงไดŒ เนื่องจากโอกาสที่ราคาจะลดลงกว‹านี้
มันมีนŒอยลงแลŒว (เพราะว‹าราคาลดลงมามากแลŒว) และถŒาโอกาสที่ราคาจะขึ้น
มีมากกว‹า ก็แปลว‹าเรามีโอกาสไดŒรับผลตอบแทนสูงมีมากขึ้น
66
ตามรอยวิถีเซียนลงทุน

แนวคิดส‹วนเผือ่ ความปลอดภัยนีม้ คี วามสําคัญมาก เพราะเปšนการเขŒาหา


โอกาสของเหตุการณที่มีความเสี่ยงตํ่า แต‹ใหŒผลตอบแทนสูง ในขณะที่โรงเรียน
ธุรกิจชัน้ นําส‹วนใหญ‹พรํา่ สอนว‹า “ความเสีย่ งตํา่ ผลตอบแทนก็จะตํา่ ความเสีย่ งสูง
ผลตอบแทนก็จะสูง” ถŒาลองสังเกตเรื่องราวของ ปาปา พาเทล, มณีลาล ชอธุรี,
ลั ก ษมี มิ ต ทาล, ริ ช าร ด แบรนสั น หรื อ แมŒ แ ต‹ เบนจามิ น เกรแฮม และ
วอรเรน บัฟเฟตต ทุกคนต‹างใชŒแนวคิดนี้ คือ จํากัดความเสี่ยงใหŒเหลือนŒอยที่สุด
และการขยายผลตอบแทนใหŒมากทีส่ ดุ ซึง่ หัวใจสําคัญ คือ การรอคอยอย‹างอดทน
ในช‹วงเขŒาซื้อและขาย

ลงทุนในธุรกิจที่มีความเสี่ยงตํ่า
แตมีความไมแนนอนสูง
โมนิช พาไบร อธิบายว‹าการซื้อโมเต็ลของปาปา พาเทล ไม‹ไดŒมีความ
เสี่ยงมากมายอะไรเลย ในขณะที่ผลลัพธที่จะเกิดขึ้นมีความไม‹แน‹นอนสูงมาก
ถŒาราคานํ้ามันอยู‹ในระดับสูงอย‹างต‹อเนื่องหรือภาวะเศรษฐกิจถดถอยไม‹จบลง
เสียที ถŒาวิเคราะหดูไม‹ว‹ากรณีไหน ปาปา พาเทล ก็จะยังคงมีตŒนทุนตํ่าต‹อใหŒ
สถานการณมืดมนเขาก็ยังอยู‹ไดŒ แต‹ถŒาเศรษฐกิจรุ‹งเรือง และราคานํ้ามันไม‹แพง
ไปตลอด เขาก็จะไดŒรบั ผลตอบแทนอย‹างงาม นีแ่ หละแนวคิดของนักลงทุนดันโด
ที่ว‹า “ออกหัว ผมไดŒเงิน ออกกŒอย ผมเสียเงินนิดหน‹อย”

ลงทุนในพวกลอกเลียนแบบ
ไมใชพวกสรางสรรคสิ่งใหมๆ
การลงทุนแบบดันโดไม‹ไดŒบอกว‹าธุรกิจสรŒางสรรคสิ่งใหม‹ๆ ไม‹ดี แต‹
พวกเขาไม‹สนใจมัน พวกเขาสนใจธุรกิจที่มีอยู‹แลŒวและพัฒนาความคิดต‹อยอด
ออกไป (ที่จริงผมมองว‹าเปšนการสรŒางสรรคชนิดหนึ่ง แต‹วิถีแห‹งดันโดเรียกว‹า
“การลอกเลียนแบบ”) การทําเช‹นนีม้ คี วามเสีย่ งตํา่ กว‹าและใหŒผลตอบแทนดีกว‹า
67
การลงทุนแบบดันโด

การซื้อโมเต็ลของ ปาปา พาเทล ก็เขŒาไปในธุรกิจที่มีอยู‹แลŒว พวกเขา


ลอกเลียนแบบในการทําธุรกิจ แต‹มาต‹อยอดดŒวยการควบคุมตŒนทุนใหŒตํ่าลง
ตัวอย‹างธุรกิจ Microsoft ของ บิล เกตส และ พอล อัลเลน ก็ไม‹ใช‹พวกสรŒางสรรค
สิ่งใหม‹ในสายตาของชาวดันโด แต‹เปšนผูŒพัฒนาต‹อยอดความคิดไดŒดีเยี่ยม ตาม
ประวัติในป‚ 1980 เขาไดŒทําขŒอตกลงทางธุรกิจกับ IBM ในการพัฒนาระบบ
ปฏิบัติการ MS-DOS ใหŒแก‹เครื่อง PC ของ IBM ที่กําลังจะวางตลาด ที่จริงแลŒว
ในขณะนั้น Microsoft ไม‹มีระบบปฏิบัติการของตนเอง แต‹เพื่อใหŒทันส‹งมอบ
เขาไปซือ้ ระบบปฏิบตั กิ าร Quick and Dirty Operating System (QDOS) จากบริษทั
ขนาดเล็กชือ่ Seattle Computer ในราคา 50,000 ดอลลาร และพัฒนาเปšน MS-DOS
อันโด‹งดัง ทําใหŒ Microsoft เติบโตแบบกŒาวกระโดด แมŒแต‹ระบบ Microsoft
Office เช‹น Excel ก็พัฒนามาจาก Lotus 1-2-3 และ VisiCalc ส‹วน Word
ก็มาจาก Word Perfect และ PowerPoint ก็พัฒนามาจากบริษัทซอฟทแวร
ขนาดเล็กในซานฟรานซิสโก เปšนตŒน วิถีแห‹งดันโดจึงเนŒนใหŒมองหาธุรกิจที่มี
ผูŒบริหารที่เก‹งกาจ เรื่องการหยิบยืมแนวคิดจากที่อื่นแลŒวนํามาต‹อยอด

ศิลปะการขายหุน :
การตีฝาออกจากจักรพยุหะ
วิถแี ห‹งดันโดไม‹ไดŒสอนเฉพาะกลยุทธการเขŒาซือ้ หุนŒ 9 อย‹างตามทีอ่ ธิบาย
มาในบทความ 2 ตอนที่แลŒว แต‹แนะนําดŒวยว‹าตอนขายหุŒนออกก็เปšนศิลปะดŒวย
โมนิ ช พาไบร ยกตั ว อย‹ า งจากวรรณกรรมคลาสสิ ค ของอิ น เดี ย
“มหาภารตะยุทธ” ซึง่ เปšนการสูรŒ บของ 2 ตระกูล ระหว‹างตระกูลเการพและตระกูล
ปาณฑพ ฝ†ายเการพไดŒคิดกลศึกที่เรียกว‹า “จักรพยุหะ” ขึ้น โดยกองทัพจะจัด
รูปแบบเปšนวงกลมซŒอนกันเปšนชั้นๆ เหมือนกงจักร ทําลายไดŒยาก และสรŒาง
ความเสียหายแก‹ตระกูลปาณฑพเปšนอย‹างมาก มีแม‹ทพั ฝ†ายปาณฑพคนหนึง่ ชือ่
อภิมนั ยุ อาสายกทัพเขŒาไปตีจกั รพยุหะนี้ เพราะรูวŒ ธิ ฝี า† เขŒาไป ซึง่ เรือ่ งนีต้ อŒ งยŒอน
หลังไป 16 ป‚ ระหว‹างที่อภิมันยุยังอยู‹ในครรภมารดา เจŒาหญิงสุภัทรานŒองสาว
ของพระกฤษณะ เคยฟ˜งพระกฤษณะเล‹าเรื่องจักรพยุหะใหŒแก‹มารดาของตน
68
ตามรอยวิถีเซียนลงทุน

โดยเล‹าถึงวิธีตีเขŒาไปในพยุหะ แต‹เมื่อพระกฤษณะจะเล‹าต‹อถึงวิธีตีออกมาจาก
พยุหะ มารดาของอภิมนั ยุเกิดง‹วงนอน อภิมนั ยุจงึ ไดŒฟง˜ เฉพาะวิธตี เี ขŒา เมือ่ เผชิญ
กับจักรพยุหะจริงๆ และเปšนความคับขันของตระกูลปาณฑพ อภิมันยุจึงอาสา
ตีฝ†าเขŒาไปซึ่งก็ทําไดŒดี แต‹เนื่องจากไม‹รูŒวิธีตีออก อภิมันยุจึงตŒองต‹อสูŒกับนักรบ
ฝ†ายตรงขŒามอีก 9 คนจนบาดเจ็บและเสียชีวิตในที่สุด
เรือ่ งนีค้ ลŒายกับการตัดสินใจของนักลงทุน การตัดสินใจฝ†าเขŒา เดินทะลุ และ
ออกจากพยุหะก็เหมือนการตัดสินใจซือ้ ถือ และขายหุนŒ นัน่ เอง เรือ่ งของอภิมนั ยุ
ใหŒบทเรียนว‹า ก‹อนจะซื้อหุŒนเราตŒองมีแผนการขายหุŒนอันชัดเจน ซึ่งนักลงทุน
ส‹วนใหญ‹มักจะตัดสินใจคลŒายกัน กล‹าวคือ เขŒาซื้อหุŒนในราคา 100 บาท เวลา
ตกลงไปเหลือ 80 บาท พวกเขาจะรูŒสึกไม‹สบายใจ รีบขายหุŒนออกไป ซึ่งขาดทุน
และมองหาหุŒนตัวใหม‹ เปรียบเสมือนเขาไปในจักรพยุหะ เพราะอยากไดŒรางวัล
ตรงใจกลาง แต‹ตŒองจบชีวิตลงในที่สุด
แผนการขายของดันโดก็คือ
■ ไม‹ควรรีบขาย วิถีแห‹งดันโดเสนอใหŒถือหุŒนอย‹างนŒอย 2-3 ป‚ เหตุผล
เพราะธุรกิจมีการเปลีย่ นแปลงขึน้ ลง เปšนวัฏจักร แมŒระยะสัน้ จะไดŒรบั
ผลกระทบทางลบ แต‹เราควรใหŒเวลาธุรกิจปรับตัวต‹อการเปลีย่ นแปลง
ระยะหนึ่ง
■ เราสามารถหามูลค‹าที่แทŒจริงในป˜จจุบันและในอีก 2-3 ป‚ ของหุŒน
ตัวนี้ไดŒอย‹างมั่นใจ
■ ราคาเสนอซื้อ (หรือ ราคาขายของเรา) ตŒองสูงกว‹ามูลค‹าที่แทŒจริงที่
เราคํานวณไดŒ หรือเราไม‹ควรขายขาดทุนถŒาไม‹จําเปšน
แผนการขายนี้สอดคลŒองกับกฎเหล็ก 2 ขŒอ ของวอรเรน บัฟเฟตต คือ
กฎขŒอ 1 : อย‹าขาดทุน
กฎขŒอ 2 : อย‹าลืมกฎขŒอ 1
69
การลงทุนแบบดันโด

นอกจากนี้ โมนิช พาไบร ยังมองว‹า เราควรจัดพอรตโฟลิโอแบบมุ‹งเนŒน


โดยมีหนŒุ ทีเ่ ขŒาข‹ายวิถแี ห‹งดันโดเท‹านัน้ เปรียบเสมือนการต‹อสูกŒ บั จักรพยุหะเพียง
ทัพเดียว โดยหาโอกาสที่ไม‹เกิดขึ้นบ‹อย แต‹เมื่อเกิดขึ้นก็ลงทุนใหŒหนัก จะทําใหŒ
เราเปšนนักลงทุนดันโดทีป่ ระสบความสําเร็จ บรรลุตามแนวคิด “ออกหัว ผมไดŒเงิน
ออกกŒอย ผมเสียเงินนิดหน‹อย (หรืออาจจะไดŒเงินนิดหน‹อยก็ไดŒ)” ถŒาสไตล
แบบนักลงทุนดันโดเปšนสไตลทคี่ ณ ุ ชอบ ก็ขอใหŒลงทุนแบบนีต้ อ‹ ไป ขอใหŒนกั ลงทุน
ทุกท‹านโชคดีครับ
70
ตามรอยวิถีเซียนลงทุน
71
การลงทุนแบบเซียน VI ของ ดร.นิเวศน เหมวชิรวรากร

ตามรอยวิถีเซียนลงทุน :
การลงทุนแบบเซียน VI
ของ ดร.นิเวศน
เหมวชิรวรากร
72
ตามรอยวิถีเซียนลงทุน

บทความชุดนี้จะกล‹าวถึงเซียนลงทุนพันธุแทŒแบบ Value Investor (VI)


อันดับตŒนๆ ของเมืองไทย ซึ่งก็คงเปšนใครไปไม‹ไดŒนอกจาก “ดร.นิเวศน
เหมวชิรวรากร” ท‹านเปšนคนแรกทีศ่ กึ ษาและปฏิบตั ติ นแบบ VI โดยใชŒการลงทุน
จริงในตลาดหุŒนไทย จากชีวิตมนุษยเงินเดือนที่ทํางานประจํา ท‹านไดŒผันตัวเอง
มาเปšนนักลงทุนมืออาชีพจนประสบความสําเร็จในทุกวันนี้ โดยใชŒแนวทาง
การลงทุนทีเ่ นŒนคุณค‹า ทีส่ าํ คัญคือ ท‹านไม‹ไดŒหวงวิชาแมŒแต‹นอŒ ย ท‹านไดŒรวบรวม
แนวคิ ด และประสบการณ ก ารลงทุ น ที่ ผ ‹ า นมาผ‹ า นหนั ง สื อ บทความ และ
การบรรยายในที่ต‹างๆ ผมรูŒสึกชื่นชมและภาคภูมิใจแทนคนไทยทุกคนที่มี
บุคลากรทีม่ คี ณ
ุ ค‹าสูง เช‹น ดร.นิเวศน เหมวชิรวรากร อยูใ‹ นตลาดทุนไทยของเรา
ดร.นิเวศน ไดŒเขียนหนังสือออกมาหลายเล‹มและแต‹ละเล‹มก็ตพี มิ พกนั หลายครัง้
ซึง่ ผมคงสรุปไดŒไม‹หมด นอกจากนี้ ยังมีปรากฏการณเกิดหนังสือจากผูทŒ ศี่ รัทธา
และชื่นชม ดร.นิเวศนทําหนังสือสรุปอัตชีวประวัติและวิธีลงทุนของท‹าน ทําใหŒ
การสรุปตีความของผมทําไดŒง‹ายขึ้น ในการเขียนบทความชุด “ตีแตก : กลยุทธ
การเล‹นหุŒนในภาวะวิกฤต” ป‚ 2551 และ “เล‹นหุŒนในป‚ทอง” ป‚ 2553 ทั้ง 2 เล‹ม
พิมพและจัดจําหน‹ายโดย บริษัท ซีเอ็ดยูเคชั่น จํากัด (มหาชน) และอีก 2 เล‹ม
คือ “พลิกชีวิตดŒวยการลงทุนเซียนหุŒนพันลŒาน” พิมพครั้งที่ 4 กุมภาพันธ 2554
และ “ลงทุนอย‹าง ดร.นิเวศน” พิมพครัง้ ที่ 1 กันยายน 2554 ทัง้ 2 เล‹ม เขียนโดย
ประภาคาร ภราดรภิบาล จัดพิมพโดยบริษทั วิง มีเดีย จํากัด และจัดจําหน‹ายโดย
บริษัท ซีเอ็ดยูเคชั่น จํากัด (มหาชน)

ประวัติโดยสังเขป
“ดร.นิเวศน เหมวชิรวรากร” เกิดเมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2496 เปšน
ลูกชาวจีนโพŒนทะเลทีอ่ พยพเขŒามาในประเทศไทย ตัง้ รกรากอยูแ‹ ถวตรอกจันทร
กรุงเทพฯ คุณพ‹อประกอบอาชีพเปšนช‹างไมŒ ฐานะทางบŒานในขณะนั้นถือว‹า
“ยากจน” ดร.นิเวศน เปšนลูกคนสุดทŒองในบรรดาพี่นŒอง 3 คน ในวัยเด็กเพื่อ
ช‹วยเหลือทางบŒาน ดร.นิเวศน เริม่ รูจŒ กั หารายไดŒดวŒ ยตนเองตัง้ แต‹อายุ 8-9 ขวบ
ดŒวยการลงทุน 7.50 บาท ไปซือ้ หมากฝรัง่ และแบ‹งขายปลีกแก‹เพือ่ นๆ ไดŒเงินมา
12 บาท จากนัน้ จึงเริม่ ขายขนมประเภทต‹างๆ รวมทัง้ รับจŒางทํางานพิเศษเพือ่ หา
รายไดŒ การรูจŒ กั หารายไดŒดวŒ ยตนเองตัง้ แต‹เล็กๆ ทําใหŒ ดร.นิเวศน รูจŒ กั “คุณค‹า”
73
การลงทุนแบบเซียน VI ของ ดร.นิเวศน เหมวชิรวรากร

ของเงินจะซือ้ สินคŒาและบริการหรือลงทุน โดยจะเปรียบเทียบ “คุณค‹าทีจ่ ะไดŒรบั ”


กับ “เงินที่จะตŒองจ‹าย” อยู‹เสมอ
สําหรับประวัตกิ ารศึกษานัน้ ดร.นิเวศน จบระดับประถมศึกษาป‚ที่ 7 จาก
โรงเรียนวัดดอน และจบระดับมัธยมศึกษาป‚ที่ 3 จากโรงเรียนวัดสุทธิวราราม
หลังจากนั้นสามารถสอบเขŒาเรียนต‹อที่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา โดยจบ
ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ในป‚ 2515 และสอบเขŒามหาวิทยาลัยไดŒในคณะ
วิศวกรรมศาสตร จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย ดร.นิเวศน ใหŒขŒอคิดว‹า “การศึกษา
เปšนการลงทุนที่สําคัญของชีวิต ตอนที่ยังเปšนเด็ก ถŒาไม‹ไดŒลงทุนเรียนหนังสือ
จนจบมหาวิทยาลัย โอกาสที่จะประสบผลสําเร็จในชีวิตคงลดลงไปมหาศาล”
ในช‹วงทีเ่ รียนระดับมัธยมและมหาวิทยาลัย ดร.นิเวศน ฉายแววความขยัน
และมุ‹งมั่นในหลายๆ เรื่อง ทั้งการเขียนบทความ ซึ่งไดŒรับคัดเลือกใหŒลงตีพิมพ
ในหนังสือพิมพเดลินิวสในช‹วงที่เรียนมัธยม และการทดลองเปšนผูŒประกอบการ
เล็กๆ ในช‹วงเรียนมหาวิทยาลัย ไม‹ว‹าจะเพาะเห็ดฟาง เลี้ยงกุŒง เปดโรงเรียน
สอนคอมพิวเตอร เปšนตŒน ซึ่งมักประสบความลŒมเหลวบ‹อยๆ ทําใหŒ ดร.นิเวศน
ไดŒเรียนรูŒว‹าการทําธุรกิจตŒองอาศัยประสบการณ และองคประกอบที่สําคัญ
หลายอย‹าง
ดร.นิเวศน เริม่ ชีวติ การทํางานหลังจากจบวิศวกรรมศาสตรบณ ั ฑิต สาขา
เครือ่ งกล ในป‚ 2519 ทีโ่ รงงานนํา้ ตาลของบริษทั ไทยรุง‹ เรืองอุตสาหกรรม จํากัด
ทีจ่ งั หวัดกาญจนบุรี ในตําแหน‹งวิศวกร เมือ่ ทํางานไปไดŒ 2 ป‚ ก็ไดŒรบั การชักชวน
จาก ดร.ไพบูลย เสรีวิวัฒนา เพื่อนร‹วมคณะวิศวกรรมศาสตรที่เรียนต‹อระดับ
ปริญญาโท MBA ที่สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร (NIDA) ใหŒเขŒามาศึกษา
ต‹อระดับปริญญาโท ซึ่งตŒองเรียนในช‹วงเวลาปกติ ไม‹ใช‹ภาคกลางคืนหรือเสาร
อาทิตย เมื่อไปขอลาออกเพื่อศึกษาต‹อ ผูŒบริหารของโรงงานนํ้าตาลไดŒต‹อรอง
ขอใหŒทํางานไปดŒวยเรียนไปดŒวย โดยลดเงินเดือนลงแต‹ไม‹ตŒองลาออกจากงาน
หลังจบ MBA ดร.นิเวศน ไดŒเลื่อนตําแหน‹งเปšนหัวหนŒาวิศวกร แต‹เริ่มอยาก
เปลี่ยนแปลงชีวิตบŒาง โดยเพื่อนคนเดิม คือ ดร.ไพบูลย ซึ่งไดŒทุนเรียนต‹อระดับ
ปริญญาเอกดŒานการเงินทีม่ หาวิทยาลัยมิสซิสซิปป‚œ สหรัฐอเมริกา ไดŒชกั ชวนใหŒมา
เรียนต‹อ ในทีส่ ดุ ก็ไดŒรบั การตอบรับเขŒาเรียนต‹อระดับปริญญาเอกทีม่ หาวิทยาลัย
มิสซิสซิปป‚œ จึงไดŒขอลาออกจากงานวิศวกรที่ทํามาเปšนเวลา 7 ป‚
74
ตามรอยวิถีเซียนลงทุน

การไปเรียนต‹อปริญญาเอกของ ดร.นิเวศน ไปโดยไม‹ไดŒมีเงินทุนมาก


นัก ไปแบบเรียนไปดŒวยทํางานไปดŒวย โดยเปšนผูŒช‹วยงานวิจัยและผูŒช‹วยสอน
ซึ่งใชŒเวลาประมาณ 4 ป‚ ก็สามารถจบการศึกษาระดับปริญญาเอก และกลับมา
เริ่มชีวิตการทํางานในป‚ 2529 ที่บรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแห‹งประเทศไทย
หรือ IFCT ในตําแหน‹งผูŒจัดการสํานักวางแผนและบริหารการเงิน โดยทํางานที่
IFCT เปšนเวลา 7 ป‚
หลังจากนั้นไดŒยŒายมาดํารงตําแหน‹ง ผูŒช‹วยกรรมการผูŒจัดการ ดŒานวานิช
ธนกิจ ของบริษัทเงินทุนหลักทรัพยนวธนกิจ จํากัด (มหาชน) ในยุคที่ธุรกิจ
หลักทรัพยเฟ„›องฟูในป‚ 2534 ดร.นิเวศน เริ่มทดลองลงทุนมาบŒางตั้งแต‹ตอน
ทํางาน IFCT และสัมผัสมากขึน้ ตอนทํางานอยูท‹ นี่ วธนกิจ ช‹วงอยูท‹ นี่ วธนกิจยังไดŒ
เริ่มตŒนงานเขียน ซึ่งเปšนงานที่รักอีกครั้ง โดยแปลหนังสือ “คิดใหญ‹ ไม‹คิดเล็ก”
ซึ่งเปšนหนังสือแปลขายดีระดับ Best Seller มาจนบัดนี้
ในช‹วงป‚ 2538-2539 ระหว‹างอยูท‹ นี่ วธนกิจ ดร.นิเวศน เริม่ ศึกษาวิธกี าร
ลงทุนแบบเนŒนคุณค‹าอย‹างจริงจัง และเริม่ มาประยุกตใชŒกบั การลงทุนของตนเอง
บŒาง อย‹างไรก็ตาม ในช‹วงวิกฤตตŒมยํากุŒง ป‚ 2540 ขณะนั้นเขŒาดํารงตําแหน‹ง
รองกรรมการผูŒจัดการของนวธนกิจ ไดŒรับผลกระทบจากการปดตัวลงของ
นวธนกิจและตŒองตกงาน ในขณะอายุ 40 ป‚เศษ ซึ่งถือว‹าเปšนช‹วงยากลําบาก
ของชีวิต แต‹ในวิกฤตก็เปšนโอกาสที่ทําใหŒ ดร.นิเวศน ไดŒมีเวลากับการลงทุน
มากขึน้ ดร.นิเวศน “ตีแตก” ดŒวยการนําเงินลงทุนเริม่ ตŒน 10 ลŒานบาท เขŒามาลงทุน
แบบ VI จนพอรตการลงทุนบรรลุ 1,000 ลŒานบาท เมื่อ 10 ป‚ผ‹านไป ก‹อนเขา
อายุครบ 60 ป‚ดŒวยซํ้า
แมŒว‹า ดร.นิเวศน จะกลับเขŒาทํางานประจําอีกในป‚ 2544 ที่ธนาคาร
นครหลวงไทย จํากัด (มหาชน) ในตําแหน‹งผูŒช‹วยกรรมการผูŒจัดการใหญ‹
สายบริหารความเสี่ยงและนโยบาย โดยลงทุนในหุŒนควบคู‹กันไปดŒวย แต‹ก็เปšน
ช‹วงทีไ่ ม‹นาน พอมาถึงป‚ 2547 ดร.นิเวศน คิดว‹าตนเองมีความพรŒอมทางดŒานฐานะ
ทางการเงินที่เพียงพอต‹อการครองชีพของตนเองและครอบครัว โดยไม‹จําเปšน
ตŒองพึง่ เงินเดือน และพบเป‡าหมายทีต่ อŒ งการทีม่ ากกว‹า คือ การเปšน “ผูเŒ ชีย่ วชาญ
การลงทุน” จึงลาออกจากงานประจําอย‹างถาวร เพือ่ เปšน “นักลงทุนอย‹างเต็มตัว”
75
การลงทุนแบบเซียน VI ของ ดร.นิเวศน เหมวชิรวรากร

เริ่มตนชีวิตการลงทุนดวยการ “ตีแตก”
ช‹วงป‚ พ.ศ. 2540 ซึ่งเกิดวิกฤตการเงิน “ตŒมยํากุŒง” ภาวะเศรษฐกิจไทย
ตกตํ่าอย‹างมาก รัฐบาลประกาศลดค‹าเงินและนําประเทศเขŒาโครงการ IMF
ดัชนีราคาหุŒนที่เคยสูงถึง 1,354 จุด ตอนตŒนป‚ 2539 ไดŒลดลงเหลือ 373 จุด
เมื่อสิ้นป‚ 2540 นักลงทุนเจ็บหนักกันถŒวนหนŒา ไม‹ว‹าจะเปšนนักลงทุนระยะสั้น
หรือระยะยาว ไม‹ว‹าจะเปšนนักเก็งกําไร หรือ Value Investor โดยภายในเวลา
2 ป‚นนั้ มูลค‹าหุนŒ ทัง้ ตลาดหายไปถึง 73% หุนŒ จํานวนมากกลายเปšนเศษกระดาษ
ที่ไรŒค‹า
ขณะที่ตกงานในช‹วงเวลานั้น ดร.นิเวศน มีเงินทุนตั้งตŒน 10 ลŒานบาท
ถŒานําไปฝากธนาคารไดŒดอกเบีย้ 3% ต‹อป‚ คิดเปšนรายไดŒดอกเบีย้ ป‚ละ 3 แสนบาท
หรือประมาณ 3 หมืน่ บาทต‹อเดือน ในขณะทีต่ อŒ งเลีย้ งดูครอบครัวและส‹งลูกเรียน
ดŒวยรายไดŒขนาดนี้ถือว‹าค‹อนขŒางลําบาก
ดร.นิเวศน จึงตัดสินใจ “ตีแตก” ดŒวยการนําเงินสะสมกŒอนเดียวในชีวิต
ขณะนั้น 10 ลŒานบาท เขŒาไปซื้อหุŒนที่วิเคราะหไวŒอย‹างดีแลŒวว‹ามีความปลอดภัย
ใหŒผลตอบแทนสูง คุŒมค‹าในการลงทุน ทั้งๆ ที่คนอื่นๆ มองว‹าตลาดหุŒนไทยไม‹มี
ความปลอดภัย แต‹ ดร.นิเวศน เชื่อว‹ายังมีหุŒนที่อยู‹รอดปลอดภัยและตŒองดีขึ้น
ในอนาคต มีกําไร และจ‹ายเงินป˜นผลดีขึ้น
ในช‹วงวิกฤตตŒมยํากุŒงป‚ 2540 ดร.นิเวศนมองเห็นโอกาส คือ ไปพบว‹า
หุŒนบางตัวมีราคาลดลงมาเยอะมาก แต‹ไม‹ค‹อยไดŒรับผลกระทบทางเศรษฐกิจ
โดยกําไรและเงินป˜นผลไม‹ไดŒลดลง ดร.นิเวศน จึงหาหลักเกณฑในการเลือกซื้อ
หุŒนในขณะนั้น โดยเลือกหุŒนที่
■ รายไดŒไม‹ลด
■ กําไรไม‹ลด
■ หนี้ไม‹มี
■ ความเสี่ยงที่จะเกิดจากความตŒองการสินคŒานŒอยลงมีนŒอยมาก
■ ราคาตํ่า แต‹จ‹ายเงินป˜นผลสูง
76
ตามรอยวิถีเซียนลงทุน

■ มีจุดแข็งทางดŒานการตลาด โดยมีมารเก็ตแชรเปšนอันดับ 1 และเปšน


ผูŒนําอย‹างโดดเด‹นซึ่งทิ้งห‹างเบอร 2
การเลือกหุนŒ แบบนีท้ าํ ใหŒไดŒหนŒุ ทีม่ คี วามเสีย่ งเฉพาะตัวลดลงมาก และเมือ่
รวมกันเปšนพอรตโฟลิโอ ความเสี่ยงของพอรตก็ตํ่า เงินป˜นผลที่ไดŒรับก็สูงกว‹า
ดอกเบี้ยเงินฝาก ถŒายังไม‹ขายหุŒนออกไป แมŒไม‹ทํางานประจําก็น‹าจะพออยู‹ไดŒ
และเมื่อเศรษฐกิจกลับมาดี หุŒนเหล‹านี้ก็มีราคาสูงขึ้นในภายหลัง
พอรตตั้งตŒน 10 ลŒานบาทของ ดร.นิเวศนในป‚ 2540 ใหŒผลตอบแทน
สูงเกือบ 13% ขณะที่ดัชนีตลาดหลักทรัพยในป‚นั้นตกลงมามากกว‹า 50%
ดร.นิเวศน อธิบายว‹า ในป‚ 2540 นัน้ ดัชนีตลาดหลักทรัพยตกลงไปอยูท‹ ี่ 200 จุด
แต‹หุŒนที่เลือกตามหลัก VI ไม‹ตกเลย แถมยังปรับขึ้นตลอด และเมื่อเศรษฐกิจ
ฟ„œนตัวก็ยิ่งปรับตัวเพิ่มขึ้น ทําใหŒพอรตลงทุนมีมูลค‹าเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ผมในฐานะผูตŒ คี วามขอใหŒความคิดเห็นเพิม่ เติมก‹อนจบบทความตอนแรกว‹า
การ “ตีแตก” ของแต‹ละคนไม‹เหมือนกัน การ “ตีแตก” ของ ดร.นิเวศนเกิดขึ้น
เมือ่ เผชิญกับวิกฤตในชีวติ จําเปšนตŒองนําเงินกŒอนเดียวทีม่ อี ยูใ‹ นชีวติ มา “ตีแตก”
ดŒวยการลงทุนในหุŒนคุณค‹า ซึ่งผมเห็นว‹ามาไดŒถูกเวลา สถานที่ สภาพแวดลŒอม
และถูกตัวอย‹างมาก แต‹สาํ หรับคนอืน่ ๆ ผมเห็นว‹าเราไม‹จาํ เปšนตŒองออกจากงาน
และนําเงินในกระปุกไปลงทุนแบบนี้ แต‹เราอาจเริม่ นําเงินออมของเราทีแ่ บ‹งส‹วน
เอาไวŒแลŒว ทยอยสรŒางพอรตหุŒนคุณค‹าแบบไม‹ว‹อกแว‹ก ค‹อยเปšนค‹อยไป การยึด
แนวทางการลงทุนแบบ VI นี้ ผมถือว‹าเปšนการ “ตีแตก” ชนิดหนึ่งเหมือนกัน
ครับ

เรียนรูหลักการ “ตีแตก”
ในหนังสือ “ตีแตก : กลยุทธการเล‹นหุŒนในภาวะวิกฤต” ดร.นิเวศน
นําหลักการของการเล‹นไพ‹ตีแตก มาใชŒกับสถานการณชีวิตในขณะนั้นที่พบกับ
วิกฤตและมีเงินทุนกŒอนเดียวกŒอนสุดทŒาย นี่ก็อีกเหมือนกันที่ตŒองชี้แจงใหŒผูŒอ‹าน
อย‹าไดŒเขŒาใจผิดว‹าทําไมเราจึงยกตัวอย‹างการเล‹นไพ‹ตแี ตกมาอธิบาย ซึง่ หลายคน
เห็นว‹าการเล‹นไพ‹เปšนอบายมุขชนิดหนึ่ง ผมอยากใหŒเรามองเฉพาะหลักหรือ
77
การลงทุนแบบเซียน VI ของ ดร.นิเวศน เหมวชิรวรากร

วิธกี ารเล‹นไพ‹ชนิดนี้ มาเพือ่ เปšนอุปมาอุปมัยในการลงทุน ไม‹ไดŒตงั้ ใจจะส‹งเสริม


ใหŒเล‹นไพ‹ ซึ่งผมคิดว‹า ดร.นิเวศน ก็คงจะเห็นเหมือนๆ กัน
สมมติวา‹ ในวงไพ‹ “ตีแตก” มีคนอยู‹ 5คน แต‹ละคนมีวงเงินคนละ 100 บาท
รวมเปšนเงินกองกลาง 500 บาท และแต‹ละคนไดŒรับไพ‹คนละ 4 ใบ โดยมี
รายละเอียดดังนี้
โพ า โพแดง ดอก ก าวหลาม ด
♠ ♥ ♣ ♦
นาย ก - 9, Q 4, J -
นาย ข A 2 7, Q -
นาย ค J 8, 10 - Q
นาย ง 2 3 - 9, J
นาย จ 10 K A A
โดยกําหนดว‹าไพ‹ที่ถือว‹าใหญ‹ คือ A, K, Q, J, 10, 9, 8, 7, 6, 5, 4, 3,
2 และสีที่ใหญ‹ที่สุด คือ “โพดํา” เรียงลงไปถึง “ขŒาวหลามตัด”
■ ใหŒ นาย ก เริ่มพนันก‹อน โดย นาย ก จะพนันแบบ “ยกเคŒา” หรือ
“ตีแตก” ทั้งหมดกับเงินกองกลาง 500 บาทก็ไดŒ หรือจะไม‹พนันเลย
ก็ไดŒ ก็หลบและใหŒผูŒเล‹นรายต‹อไป (นาย ข) มาพนันต‹อ แต‹ถŒาพนัน
ก็จะเปดไพ‹ในสํารับมา 1 ใบ นาย ก ก็จะตŒองแสดงไพ‹ในมือ ถŒาใหญ‹
กว‹าไพ‹ที่เปด ก็จะชนะพนัน
■ นาย ก ดูไพ‹ของตัวเอง แมŒส‹วนใหญ‹จะมีแตŒมสูง แต‹มีดอกเพียง
2 ประเภทซึง่ อยูร‹ ะดับกลางๆ จึงพนันเพียง 20 บาท เมือ่ เปดไพ‹ในสํารับดู
สมมติวา‹ เปšน 3 ขŒาวหลามตัด ซึง่ นาย ก ไม‹มเี ลย นาย ก ก็ตอŒ งจ‹ายเงิน
ใหŒกองกลาง ดังนั้น เงินในกองกลางจะเพิ่มเปšน 520 บาท
■ ลําดับถัดไปเปšน นาย ข ซึ่งมีแตŒมสูงสุด คือ A โพดํา และรองลงไป
คือ Q ดอกจิก นาย ข ตัดสินใจพนัน 40 บาท สมมติเปดไพ‹สํารับเปšน
6 โพดํา นาย ข จะชนะไดŒเงิน 40 บาท เงินกองกลางจะเหลือ 480 บาท
78
ตามรอยวิถีเซียนลงทุน

■ ต‹อมาเปšน นาย ค ซึ่งไดŒแตŒมค‹อนขŒางสูง คือ J โพดํา, 10 โพแดง,


Q ขŒาวหลามตัด นาย ค จึงตัดสินใจพนัน 200 บาท สมมติว‹าเปดไพ‹
สํารับเปšน 5 โพดํา นาย ค จะไดŒเงิน 200 บาท เงินกองกลางเหลือ
280 บาท
■ นาย ง ตัดสินใจหลบไม‹พนัน เพราะไดŒแตŒมและดอกไม‹สูง
■ คนสุดทŒาย คือ นาย จ ตัดสินใจพนันแบบ “ตีแตก” เพราะประเมิน
แลŒ ว ว‹ า ตนเองมี ไ พ‹ แ ตŒ ม สู ง ทุ ก ดอก จึ ง พนั น ดŒ ว ยเงิ น 280 บาท
เท‹าที่กองกลางมี สมมติว‹าเปดไพ‹สํารับมาแลŒวไดŒ J ขŒาวหลามตัด
ดังนั้น นาย จ จะไดŒเงินกองกลางไปทั้งหมด
■ ถŒาจะเล‹นต‹อ ทุกคนก็ตŒองลงเงินกองกลางใหม‹ และเริ่มแจกไพ‹ใหŒ
นาย จ เปšนคนแรก เพราะเปšนคนที่ “ตีแตก” ไดŒสําเร็จ
ถŒานําหลักการ “ตีแตก” มาใชŒกับการลงทุนในหุŒน ก็จะคลŒายคลึงกันและ
มีขŒอดีกว‹า เนื่องจาก
■ “ไพ‹ตีแตก” เราพนันกับกองกลาง ไม‹มีเจŒามือ “การซื้อหุŒนในตลาด”
ก็เช‹นกัน เราเปšนฝ†ายทีจ่ ะเลือกเล‹นหรือไม‹เล‹นก็ไดŒ ทําใหŒเราไดŒเปรียบ
■ “ไพ‹ตีแตก” เราเลือกที่จะพนันเท‹าไรก็ไดŒ ถŒาเห็นโอกาสชนะมาก เรา
ก็ลงมาก “การลงทุนในหุนŒ ” ก็เช‹นกัน ถŒาโอกาสมีมาก ก็ตแี ตกไดŒเลย
■ “ไพ‹ตีแตก” ที่เราไดŒรับขึ้นอยู‹กับดวง แต‹ “การลงทุนในหุŒน” ดีกว‹า
ตรงที่เราสามารถวิเคราะหและคŒนหาหุŒนดีไดŒ

เรียนรูตัวอยางพอรต “ตีแตก”
ของ ดร.นิเวศน
ในช‹วงวิกฤตเศรษฐกิจป‚ พ.ศ. 2540 เปšนโอกาสที่ ดร.นิเวศน เขŒาซื้อ
กิจการดีๆ ในราคาที่ตํ่ามาก เช‹น
79
การลงทุนแบบเซียน VI ของ ดร.นิเวศน เหมวชิรวรากร

หุน SSC หรือ บริษัท เสริมสุข จํากัด (มหาชน)


เปšนผูŒผลิตและจําหน‹ายเครื่องดื่มเปˆปซี่ มิรินดŒา 7-up ซึ่งมี Brand ที่แข็ง
อยู‹ในตลาดในประเทศอยู‹แลŒว ราคาหุŒนในตอนนั้นตกลงมาเหลือ 70 บาทต‹อหุŒน
(ราคา Par ในขณะนั้น 10 บาทต‹อหุŒน) มารเก็ตแคปหรือมูลค‹าตลาดของกิจการ
ในขณะนั้นประมาณ 2 พันลŒานบาท
หลักคิดของ ดร.นิเวศน สําหรับ SSC ก็คือ SSC ขณะนั้นไม‹มีหนี้สินเลย
มีเงินสดคงเหลือ 600 ลŒานบาท ถŒาลงทุนจริงมูลค‹าลงทุนจะเท‹ากับ 2,000 - 600
= 1,400 ลŒานบาท ในขณะทีบ่ ริษทั มียอดขายต‹อป‚ 14,000 ลŒานบาท มีกาํ ไรประมาณ
400-500 ลŒานบาท ถŒาสมมติวา‹ เอากําไรมาจ‹ายป˜นผลทัง้ หมด เราสามารถคืนทุน
ไดŒในเวลา 3-4 ป‚ นี่ยังไม‹นับว‹าราคาหุŒนจะกลับมาเพิ่มเมื่อเศรษฐกิจกลับมา
ฟ„œนตัว หุŒนอย‹างนี้ถือว‹ามี “ส‹วนเผื่อความปลอดภัย” (Margin of Safety) สูง
หรือหมายถึง เราสามารถซื้อของดีในราคาถูก

หุน TF บริษัท ไทยเพรสซิเดนทฟูดส จํากัด (มหาชน)


ผูŒผลิตและจําหน‹ายบะหมี่สําเร็จรูปตรามาม‹า ซึ่งขายดีมากแมŒจะเปšน
ช‹วงวิกฤตเศรษฐกิจ กําไรยังดี ผลการดําเนินการยŒอนหลัง 5 ป‚มีกําไรเพิ่มทุกป‚
หนี้ไม‹มี เงินสดคงเหลือมีมาก เมื่อนํามารเก็ตแคป ลบดŒวย เงินสดคงเหลือ
เทียบแลŒวเหมือนกับบริษทั ลงทุน 100 บาท แต‹เราซือ้ ไดŒในราคา 50 บาท นีก่ เ็ ปšน
ตัวอย‹างหุŒนที่มี Margin of Safety สูงอีกตัวหนึ่ง เงินป˜นผลก็จ‹ายดีกําไร 20 บาท
ต‹อหุนŒ จ‹ายเงินป˜นผล 10 บาทต‹อหุนŒ ความแข็งแกร‹งทําใหŒบริษทั ลŒมไดŒยากเพราะ
ตลาดแข็งแกร‹งมาก ซึ่งต‹อมาก็พิสูจนใหŒเห็นว‹า ดร.นิเวศน ไดŒรับผลตอบแทน
จํานวนมากจากหุŒนตัวนี้ ทั้งในดŒานเงินป˜นผลและราคาหุŒนที่ปรับตัวสูงขึ้นมาก
80
ตามรอยวิถีเซียนลงทุน

หุน STANLY
หรือ บริษัท ไทยสแตนเลยการไฟฟา จํากัด (มหาชน)
ผูผŒ ลิตและจําหน‹ายหลอดไฟและอุปกรณสอ‹ งสว‹างสําหรับรถยนต ซึง่ ในช‹วง
เศรษฐกิจตกตํ่าในขณะนั้นยอดขายรถยนตเหลือแสนกว‹าคัน เมื่อเปรียบเทียบ
กับก‹อนวิกฤต รถยนตมียอดขาย 6-7 แสนคัน ราคาหุŒนจึงตกไปมาก เมื่อดู
ฐานะการเงินยังแข็งแกร‹งและแผงไฟหนŒาจําเปšนกับรถทุกคัน ถŒาเศรษฐกิจฟ„นœ ตัว
จะกลับมาขายไดŒมากขึ้นเหมือนเดิม ซึ่งก็เปšนความจริง ยอดขายกลับมา แถมมี
การส‹งออกเพิ่มมากขึ้นหลังจากเศรษฐกิจดีขึ้น ดร.นิเวศน จึงสามารถทํากําไร
ต‹อหุŒนจากหุŒนตัวนี้ไดŒหลายสิบเท‹า
หุนŒ ตัวอืน่ ของพอรตตัง้ ตŒนของ ดร.นิเวศน ยังมีอกี หลายตัว เช‹น WACOAL,
APRINT เปšนตŒน โดย ดร.นิเวศน กระจายการลงทุน 7-10 ตัว แต‹ละตัวมีความ
แข็งแกร‹งมาก ทําใหŒความเสีย่ งมีการกระจายตัว ถŒาพลาดก็คงไม‹ทาํ ใหŒเกิดความ
เสี่ยงมาก รับเงินป˜นผลก็น‹าจะพอทําใหŒอยู‹ไดŒ

ตีแตกสูความสําเร็จ
เมื่อกลายมาเปšนนักลงทุนมืออาชีพ ในฐานะผูŒแปลหนังสือ “คิดใหญ‹
ไม‹คิดเล็ก” ดร.นิเวศน ไดŒตั้งเป‡าหมายการลงทุน คือ ทําใหŒพอรตเงินลงทุน
งอกเงยเปšน 1,000 ลŒานบาท เมื่ออายุ 80 ป‚ โดยใชŒกลยุทธการลงทุนแบบ
Value Investment แต‹ในความเปšนจริง คือ ดร.นิเวศนสามารถบรรลุเป‡าหมายนี้
ไดŒตอนอายุ 50 ป‚เศษๆ ซึ่งเร็วกว‹าที่ตั้งเป‡าหมายไวŒถึง 20 กว‹าป‚
สถิติอัตราผลตอบแทนเฉลี่ยต‹อป‚จากพอรตตีแตกของ ดร.นิเวศน ที่เริ่ม
ในป‚ 2540 จนถึงป‚ 2553 เฉลี่ย 14 ป‚ ไดŒอัตราผลตอบแทนประมาณ 46.5%
ต‹อป‚ ขณะที่อัตราผลตอบแทนของตลาดหลักทรัพยฯ ไดŒประมาณ 10.9% ต‹อป‚
โดยตัวอย‹างพอรตการลงทุนในป‚ 2545 และป‚ 2554 เปšนดังนี้
81
การลงทุนแบบเซียน VI ของ ดร.นิเวศน เหมวชิรวรากร

ป‚ 2545
านวน ราคา ตราผล
Symbol น ลา ตอบแทน เ น นผล บ
เ น นผล
PR 100,000 81.00 8,100,000.00 6.05 605,000.00
SSC 200,000 21.40 4,280,000.00 0.90 180,000.00
STANLY 250,000 68.50 17,125,000.00 2.10 525,000.00
WACOAL 71,750 18.20 1,305,850.00 0.90 64,575.00
30,810,850.00 1,374,575.00

ป‚ 2554
ตราผล
Symbol านวน น ราคา ลา ตอบแทน เ น นผล บ
เ น นผล
AS 2,000,000 10.80 21,600,000.00 0.84 1,684,000.00
BAFS 4,000,000 10.80 43,200,000.00 0.54 2,160,000.00
CPALL 22,500,000 43.75 984,375,000.00 1.40 31,500,000.00
HMPRO 34,801,428 8.65 301,032,352.20 0.37 12,911,329.79
IRC 5,400,000 11.40 61,500,000.00 0.50 2,700,000.00
IT 11,000,000 8.30 91,300,000.00 0.60 6,600,000.00
JMART 7,000,000 3.12 21,840,000.00 0.24 1,680,000.00
KTC 2,000,000 18.60 37,200,000.00 0.45 900,000.00
MBK 1,000,000 97.00 97,000,000.00 4.75 4,750,000.00
METCO 120,000 243.00 28,080,000.00 7.26 2,040,000.00
SVOA 8,000,000 1.18 9,440,000.00 5.25 496,000.00
1,696,627,352.20 67,421,329.79
82
ตามรอยวิถีเซียนลงทุน

สไตลการลงทุน
ก‹อนที่จะอธิบายถึงรายละเอียดของหุŒนที่มีลักษณะแบบ VI ตามแนวคิด
ของ ดร.นิเวศน จะขอเริ่มตŒนอธิบายจากสไตลการลงทุน ซึ่งมีลักษณะการลงทุน
แบบ VI ก‹อนจะเจาะเขŒาไปถึงเคล็ดลับการคŒนหาหุŒนแบบ VI ตามสไตลของ
ดร.นิเวศน
สไตล คือ แบบแผนของการกระทํา ซึง่ ถŒาทําซํา้ ๆ กันหรือกล‹าวไดŒวา‹ ชอบมี
พฤติกรรมแบบนี้ เราอาจเรียกว‹า “สไตล” ซึ่งในการลงทุนนั้น นักลงทุนที่มี
ประสบการณนอŒ ยหรือเรียนรูหŒ ลักการลงทุนมานŒอย มักจะลงทุนโดยไม‹มวี ธิ กี าร
ทีช่ ดั เจน เช‹น เล‹นเก็งกําไรตามข‹าวลือ ลงทุนเพราะตลาดกําลังบูม เปšนตŒน อย‹างนี้
อาจกล‹าวไดŒว‹า ลงทุนแบบไม‹มีสไตล หรือเล‹นหุŒนแบบมวยวัด
แต‹นักลงทุนที่มีประสบการณมากๆ มักจะคุŒนเคยหรือชื่นชอบวิธีการ
บางอย‹างเปšนพิเศษ เพราะคิดว‹าเปšนวิธกี ารลงทุนทีไ่ ดŒผล ไดŒกาํ ไรเปšนประจํา หรือ
ไม‹ก็ดีกว‹าวิธีการอื่นที่เคยใชŒมา อย‹างนี้เรียกว‹า เริ่มมีสไตลการลงทุน
โดย ดร.นิเวศน สรุปสไตลการลงทุนออกเปšน 3 แนวทางใหญ‹ๆ ดังนี้

ลงทุนในหุนโตเร็ว (Growth Investment)


เปšนสไตลที่ลงทุนซื้อหุŒนคุณภาพสูง ไม‹ค‹อยเกี่ยงราคา นักลงทุนกลุ‹มนี้
มีความคิดว‹าหุŒนคุณภาพสูงมักจะใหŒผลตอบแทนคุŒมราคา แมŒราคาที่ลงทุน
จะสูงแต‹กําไรของบริษัทจะเติบโตขึ้นอย‹างรวดเร็ว เช‹น คอมพิวเตอรซอฟทแวร
อิเล็กทรอนิกส และสินคŒาไฮเทคทั้งหลาย บริษัทเหล‹านี้จะมียอดขายและกําไร
เติบโตเร็วมาก โดยเฉพาะในยามเศรษฐกิจดี ทําใหŒคนแย‹งกันซื้อ จนทําใหŒหุŒน
โตเร็วมีราคาสูงขึ้นเรื่อยๆ ใหŒผลตอบแทนสูงกว‹าการลงทุนสไตลอื่น แต‹ในช‹วง
เศรษฐกิจตกตํ่าหุŒนกลุ‹มนี้ก็จะมีราคาตกลงเร็วกว‹ากลุ‹มอื่น ที่จริงในทุกวันนี้
นักลงทุนที่ชอบหุŒนกลุ‹มนี้ก็คงมีอยู‹จํานวนไม‹นŒอย
83
การลงทุนแบบเซียน VI ของ ดร.นิเวศน เหมวชิรวรากร

ลงทุนในหุนแบกับดิน (Value Investment)


ผมคิดว‹าสไตลการลงทุนของ ดร.นิเวศน คือแบบนี้ คําว‹าหุŒนแบกับดิน
ไม‹ไดŒหมายความว‹า หุŒนไม‹ดีถึงขนาดว‹าตŒองเอามาวางแบกับดิน แต‹หมายถึง
หุนŒ ทีด่ ี (หรือมีโอกาสจะดี) แต‹มรี าคาตกตํา่ ลงมามากจนแทบไม‹มคี า‹ อาจเนือ่ งจาก
ไม‹มใี ครมองเห็น หรือพูดง‹ายๆ ว‹าเปšน “หุนŒ ทีด่ ี แต‹ราคาถูก” การซือ้ ไดŒในราคาถูก
ทําใหŒเรามีภมู คิ มŒุ กันแมŒในอนาคตราคาขึน้ ไปแลŒวลงกลับมา เนือ่ งจากเรามีตนŒ ทุน
ตํา่ กว‹า ซึง่ เรียกเปšนภาษาการลงทุนว‹า เรามี “ส‹วนเผือ่ ความปลอดภัย” (Margin
of Safety) อยู‹ในระดับสูง
วิธีคŒนหาหุŒนแบกับดินที่มี Margin of Safety สูง ดร.นิเวศน แนะนําสูตร
อย‹างง‹ายของ เบนจามิน เกรแฮม ปรมาจารยการลงทุนแบบ VI ดังนี้

ราคาหุŒน ≤ 2 ใน 3 ของ (สินทรัพยหมุนเวียน - หนี้สินทั้งหมด) ของบริษัท

ดร.นิเวศน อธิบายว‹า ถŒานําสินทรัพยหมุนเวียนซึง่ คล‹องตัวอยูแ‹ ลŒวไปเปลีย่ น


เปšนเงินสดและนําไปชําระหนี้ทั้งหมดแลŒว ยังเหลือเงินสดเหลืออยู‹มากเกินกว‹า
ราคาหุŒนที่เราซื้อ โดยที่ยังไม‹ไดŒรวมถึงสินทรัพยถาวรอื่นๆ เลย ถŒาเปšนเช‹นนี้
ถือว‹าหุŒนตัวนั้นราคาถูกและคุŒมค‹าที่จะซื้อ เพราะโอกาสที่จะขาดทุนนŒอยมาก
มีความปลอดภัยสูง
นอกจากวิธดี งั กล‹าวแลŒว ผมคิดว‹าเราอาจพิจารณาวิธปี ระเมินมูลค‹าแบบอืน่
ที่มุ‹งหามูลค‹าที่แทŒจริงของหุŒน โดยดูจากความสามารถของกิจการในการสรŒาง
กระแสเงินสดในอนาคต แลŒวคิดส‹วนลดกลับมาเปšนมูลค‹าป˜จจุบนั ถŒามูลค‹าทีแ่ ทŒจริง
อยู‹สูงกว‹าราคาตลาดป˜จจุบันของหุŒนมาก ก็ควรเขŒาไป “ซื้อ” อย‹างไรก็ตาม
การประมาณการกระแสเงินสดในอนาคตอาจทําไดŒไม‹ง‹ายนักสําหรับนักลงทุน
มือใหม‹ เราอาจดูจากรายงานวิเคราะหหุŒนของนักวิเคราะหหลักทรัพยประกอบ
ก็ไดŒ ซึ่งส‹วนใหญ‹จะมีการพยากรณและสรŒางแบบจําลองเพื่อคํานวณหามูลค‹า
ที่แทŒจริงของหุŒนเอาไวŒ
84
ตามรอยวิถีเซียนลงทุน

ลงทุนแบบเหวี่ยงแห (Passive Investment)


การลงทุนแบบนี้เกิดจากแนวคิดที่ว‹า ตลาดหุŒนมีประสิทธิภาพ นักลงทุน
ทุกคนรูขŒ อŒ มูลค‹อนขŒางเท‹าเทียมกัน ถŒาหุนŒ A มีขอŒ มูลทางบวก ราคาหุนŒ A ก็จะขึน้
ถŒาขŒอมูลส‹วนใหญ‹เปšนลบ ราคาหุŒน A ก็จะตกลงมา ดังนั้น ราคาหุŒน A ก็จะ
สะทŒอนขŒอมูลทีเ่ ขŒามากระทบอยูเ‹ สมอ ไม‹มใี ครสามารถคาดการณราคาหุนŒ A ไดŒ
จึงไม‹มปี ระโยชนทจี่ ะไปนัง่ วิเคราะหใหŒเสียเวลาว‹า หุนŒ A ราคาตํา่ หรือสูงกว‹าทีค่ วร
จะเปšน วิธีการลงทุนที่ดีที่สุดก็คือ ซื้อหุŒนกระจายไปหลายๆอุตสาหกรรม หรือ
ถ‹วงนํา้ หนักใหŒเหมือนตลาด ทําใหŒผลตอบแทนขึน้ ลงตามดัชนีหลักทรัพย เปšนตŒน
ในทางปฏิบตั เิ ราไม‹จาํ เปšนตŒองหาว‹าวิธไี หนดีกว‹ากัน แต‹ตอŒ งหาว‹า วิธไี หน
หรือสไตลไหนเหมาะกับเรามากกว‹ากัน เพราะแต‹ละสไตลมีขŒอดีขŒอเสียต‹างกัน
ในช‹วงเศรษฐกิจดี หุŒนโตเร็วมักจะใหŒผลตอบแทนที่ดี ในขณะหุŒนแบบแบกับดิน
มักจะทําไดŒดีกว‹าในช‹วงเศรษฐกิจถดถอย ดร.นิเวศน เสนอแนะว‹า เราควรเลือก
สไตลที่เขŒากับตัวเรา ไม‹ควรเลือก 2 อย‹างที่อาจขัดแยŒงในตัว สําหรับ ดร.นิเวศน
ท‹านเลือกสไตลการลงทุนในหุŒนแบบแบกับดิน (แบบ VI) พยายามคŒนหาหุŒน
แบบนี้ และคŒนหาวิธบี ริหารพอรตหุนŒ แบบนีใ้ หŒเกิดความมัง่ คัง่ เพือ่ บรรลุเป‡าหมาย
ในระยะยาว

เทคนิคการคนหาหุน VI ของ ดร.นิเวศน


การคŒนหาหุŒน VI ของ ดร.นิเวศน ไม‹ไดŒเริ่มที่กระดานหุŒน บทวิเคราะห
ของโบรกเกอร งบการเงินของบริษัท แต‹เริ่มจากวิธีเรียบง‹าย โดยการสังเกต
จากสินคŒาและบริการที่พบเห็นไดŒในชีวิตประจําวัน ซึ่งประเภทของกิจการที่
น‹าลงทุนตามหลัก VI คือ กิจการของสินคŒาทีเ่ ปšนผูนŒ าํ ในตลาด คนจําเปšนตŒองซือ้
ยี่หŒอเปšนที่นิยมติดตลาด หรือเปšนสินคŒาเจŒาเดียวในตลาด คนอื่นเขŒามาแย‹ง
ส‹วนแบ‹งทางการตลาดไดŒยาก
85
การลงทุนแบบเซียน VI ของ ดร.นิเวศน เหมวชิรวรากร

ดร.นิเวศน ใหŒความสําคัญกับตัวสินคŒาบริการ และฐานะทางการตลาด


ของบริษัทก‹อนผลกําไรหรือฐานะการเงิน เมื่อไดŒพบสินคŒาและบริการถูกใจ และ
เปšนของบริษัทที่อยู‹ในตลาดหลักทรัพยฯ จึงค‹อยหาขŒอมูลเกี่ยวกับการลงทุน
โดยพิจารณาจากป˜จจัยดŒานคุณภาพและป˜จจัยทางดŒานราคา
หัวขŒอสําคัญของป˜จจัยทางดŒานคุณภาพ เช‹น ดูจาก
■ รูปแบบการทําธุรกิจ (Business Model)
■ ความไดŒเปรียบทางการแข‹งขันที่ยั่งยืน
(Durable Competitive Advantage)
■ ผลการดําเนินงาน หรือกําไรของบริษัท
■ ผลตอบแทนต‹อส‹วนของผูŒถือหุŒน (Return on Equity : ROE)
■ ฐานะการเงินหรือหนี้สิน
■ ความสามารถในการสรŒางกระแสเงินสด
■ ผูŒบริหาร

หัวขŒอสําคัญของป˜จจัยทางดŒานราคา เช‹น ดูจาก


■ ราคาต‹อกําไรต‹อหุŒน (P/E Ratio)
■ ราคาหุŒนต‹อมูลค‹าทางบัญชี (P/B Ratio)
■ อัตราผลตอบแทนจากเงินป˜นผล (Dividend Yield)
■ มูลค‹าตลาดของหุŒน (Market Capitalization)
86
ตามรอยวิถีเซียนลงทุน

ตะแกรงรอนหุน VI
จากปจจัยทางดานคุณภาพ
รูปแบบการทําธุรกิจ
รูปแบบการทําธุรกิจ (Business Model) หมายถึง กระบวนการทําธุรกิจ
ทุกอย‹าง ตั้งแต‹เรื่องของผลิตภัณฑ การตลาด การจัดจําหน‹าย การบริการ
หลังการขาย การบริหารบุคลากร เปšนตŒน การเขŒาใจในรูปแบบดังกล‹าวจะทําใหŒ
เห็นรายละเอียดว‹าผลิตภัณฑจะเปšนอย‹างไร คุณภาพระดับไหน ราคาเท‹าไร
ช‹องทางการจัดจําหน‹ายเปšนอย‹างไร กระบวนการผลิตเปšนอย‹างไร นักลงทุน
สามารถคŒนหาขŒอมูลดังกล‹าวจาก “รายงานประจําป‚” (Annual Report)
หรือ “แบบฟอรม 56-1” ที่บริษัทตŒองจัดทําและส‹งใหŒแก‹ตลาดหลักทรัพยแห‹ง
ประเทศไทย

ความไดเปรียบทางการแขงขันที่ยั่งยืน
หรือ Durable Competitive Advantage ที่นักลงทุน VI เรียกย‹อๆ ว‹า
“DCA” ซึ่งบริษัทที่จะมี DCA จะตŒองมีคุณสมบัติขŒอใดขŒอหนึ่งดังต‹อไปนี้
■ บริษัทอาจมีสินทรัพยที่จับตŒองไม‹ไดŒ แต‹มีความโดดเด‹น หรือ กีดกัน
คู‹แข‹งขัน เช‹น ยื่หŒอ ลิขสิทธิ์ สัมปทาน เปšนตŒน
■ สินคŒาหรือบริการของบริษัทอาจมีลักษณะที่ทําใหŒลูกคŒามีความยาก
ลําบากที่จะเลิกใชŒหรือเปลี่ยนผูŒขายหรือใหŒบริการ
■ บริษัทมีเครือข‹ายลูกคŒาที่ใหญ‹กว‹าคู‹แข‹งมาก
■ บริษท ั มีขอŒ ไดŒเปรียบทางดŒานตŒนทุนการผลิต ซึง่ อาจมาจากทําเลทีต่ งั้
ขนาดของธุรกิจหรือเนื่องมาจากทรัพยสินเฉพาะอย‹าง
87
การลงทุนแบบเซียน VI ของ ดร.นิเวศน เหมวชิรวรากร

สัญญาณของการมี DCA อย‹างหนึง่ ก็คอื “ส‹วนแบ‹งการตลาด” ของสินคŒา


ของบริษัทเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และการมีตŒนทุนตํ่ากว‹า ทําใหŒทํากําไรไดŒดีกว‹าคู‹แข‹ง
ก‹อใหŒเกิด “วงจรแห‹งความรุง‹ เรือง” ต‹อเนือ่ งไปเรือ่ ยๆ และแมŒในช‹วงเวลามีปญ
˜ หา
หรือวิกฤต ก็จะขาดทุนนŒอยกว‹าและฟ„œนตัวกลับมาไดŒรวดเร็วกว‹า

ผลการดําเนินงานหรือกําไรของบริษัท
กําไรเปšนป˜จจัยที่สะทŒอนถึงผลการดําเนินงานไดŒ นอกจากกําไรที่เปšน
เม็ดเงินหรือกําไรต‹อหุŒนแลŒว เราอาจดูผ‹าน “กําไรปกติ” (Profit Margin) ซึ่งนํา
กําไรไปเทียบกับยอดขาย ยิ่งอัตราสูง ก็แสดงใหŒเห็นถึงผลการดําเนินงานที่ดี
หลังหักค‹าใชŒจ‹ายออก อย‹างไรก็ตาม กิจการที่มีคุณภาพดี มีกําไรสมํ่าเสมอ
และเปšนกําไรปกติ (หมายถึง กําไรทีจ่ ะเกิดขึน้ ต‹อเนือ่ งไปในระยะยาวไดŒ) ความ
แน‹นอนของกําไรหรือการเติบโตของกําไร อาจมองยŒอนกลับไปประมาณ 5 ป‚

ผลตอบแทนตอสวนของผูถือหุน
หรือ Return on Equity (ROE) ซึ่งคํานวณมาจาก (กําไรสุทธิ/ส‹วนของ
ผูถŒ อื หุนŒ ) x 100 ยิง่ อัตราส‹วนนีม้ คี า‹ สูง ยิง่ แสดงว‹าเงิน 1 บาทของผูถŒ อื หุนŒ ก‹อใหŒเกิด
กําไรยิง่ มาก แสดงถึงคุณภาพของบริษทั ยิง่ ดี ผูถŒ อื หุนŒ มีโอกาสจะไดŒผลตอบแทน
เปšนเงินป˜นผลก็สงู ขึน้ หรือเงินทุนจากกําไรถŒานําไปลงทุนต‹อก็มโี อกาสสรŒางกําไร
ในอนาคตต‹อ ช‹วยเพิม่ โอกาสการไดŒรบั Capital Gain ในอนาคตต‹อไป ดร.นิเวศน
แนะนําว‹าบริษัทที่น‹าสนใจควรมี ROE ประมาณ 15% ขึ้นไป
88
ตามรอยวิถีเซียนลงทุน

ฐานะการเงินหรือหนี้สิน
ดร.นิเวศน เสนอแนะว‹า VI ชอบบริษัทที่มีหนี้นŒอย และกลัวบริษัทที่มี
หนี้มาก โดยเฉพาะถŒาเปšนบริษัทที่มีผลกําไรไม‹ค‹อยแน‹นอน และพยายามโตเร็ว
โดยการก‹อหนี้ แมŒว‹าถŒาสําเร็จจะไดŒกําไรมาโดยไม‹ตŒองเพิ่มทุน ทําใหŒ ROE สูง
แต‹ถาŒ เกิดการผิดพลาด ภาระหนีท้ สี่ งู ตŒองจ‹ายทัง้ ดอกเบีย้ และเงินตŒนจํานวนมาก
ถŒาผลการดําเนินงานไม‹ดี จะส‹งผลกระทบทางลบต‹อฐานะการเงิน บางกรณี
อาจลŒมละลายไดŒ ดร.นิเวศน ใหŒเราลองสมมติว‹าเปšนเจŒาของ ถŒาตŒองรับภาระหนี้
สูงมากๆ เราคงรับไม‹ไดŒและไม‹มีความสุข บริษัทที่มีหนี้มากจึงไม‹น‹าสนใจ

ความสามารถในการสรางกระแสเงินสด
กระแสเงินสดที่ดีมาจากการมี “กําไรเปšนเงินสดสูง” มักขายสินคŒาเปšน
เงินสด ขณะที่ซื้อวัตถุดิบเปšนเงินเชื่อ มักไม‹ค‹อยลงทุนมากในการที่จะรักษา
ยอดขายหรือขยายกิจการต‹อไป หุนŒ ของบริษทั ทีม่ เี งินสดมากและมีกระแสเงินสด
ที่ดี มักจะจ‹ายป˜นผลไดŒในอัตราที่สูง และมักปลอดหนี้เงินกูจŒ ากสถาบันการเงิน
ทําใหŒความเสี่ยงของบริษัทลดลงมาก

ผูบริหาร
นักลงทุน VI ควรติดตามขŒอมูลและวิเคราะหขอŒ มูลทีเ่ กีย่ วขŒองกับบรรษัท-
ภิบาลของผูบŒ ริหารดŒวย เพราะเปšนเครือ่ งชีว้ ดั คุณภาพของกิจการอย‹างหนึง่ เช‹น
มีประวัตเิ สียหาย ทุจริต ผิดจริยธรรม เอาเปรียบนักลงทุนรายย‹อย มีการฟอกเงิน
ออกจากกิจการ อย‹างนี้นักลงทุน VI ควรหลีกเลี่ยงแมŒว‹าผลประกอบการจะดี
เพียงใดก็ตาม เพราะในระยะยาวกิจการยากที่จะดีไปไดŒ
89
การลงทุนแบบเซียน VI ของ ดร.นิเวศน เหมวชิรวรากร

ตะแกรงรอนหุน VI จากปจจัยดานราคา
การคัดเลือกหุนŒ ดŒวยป˜จจัยทางดŒานคุณภาพตามทีไ่ ดŒกล‹าวถึงในบทความ
ตอนที่แลŒว ดร.นิเวศน เห็นว‹าจําเปšนตŒองช‹วยคัดกรองใหŒไดŒหุŒนคุณภาพดี
มาจํานวนหนึง่ แต‹ในขัน้ ตอนต‹อไปก็คอื “การนําป˜จจัยทางดŒานราคา” มาวิเคราะห
ว‹าหุŒนนั้นมีราคาถูกหรือแพง โดยใชŒป˜จจัยราคาหลายๆ ตัว ไดŒแก‹

ราคาตอกําไรตอหุน : P/E Ratio


เนื่องจากราคาหุŒนแต‹ละตัวไม‹เหมือนกัน เช‹น หุŒน A และหุŒน B อยู‹ใน
อุตสาหกรรมเดียวกัน สมมติวา‹ ป˜จจุบนั หุนŒ A ราคา 250 บาท หุนŒ B ราคา 19 บาท
เราจะบอกว‹าหุŒน B ราคาถูกกว‹าไม‹ไดŒ แต‹ควรหาตัวเปรียบเทียบ เช‹น นํากําไร
ต‹อหุŒนมาหาร

ราคาหุŒน
P/E Ratio =
กําไรต‹อหุŒน
เช‹น หุŒน A มีกําไรต‹อหุŒน 25 บาทต‹อหุŒน หุŒน B มีกําไรต‹อหุŒน 0.50 บาท
ต‹อหุŒน
250 = 10 เท‹า
ดังนั้น P/E Ratio ของหุŒน A = 25

ดังนั้น P/E Ratio ของหุŒน B = 11 = 22 เท‹า


0.50
90
ตามรอยวิถีเซียนลงทุน

ซึ่งอธิบายไดŒว‹าใน 1 หน‹วย (บาท) ของกําไรไม‹ว‹าหุŒน A หรือหุŒน B


นักลงทุนใหŒราคาของหุŒน A สูงกว‹ากําไร 10 เท‹า แต‹ใหŒราคาของหุŒน B สูงกว‹า
กําไร 22 เท‹า หรือสรุปไดŒว‹า หุŒน A มีราคาถูกเมื่อเทียบกับหุŒน B (ใน 1 หน‹วย
ของกําไร) การทีม่ รี าคาถูกกว‹าอาจมาจากหลายสาเหตุ เช‹น A เปšนของดีราคาถูก
หรือเปšนของไม‹ดี ราคาจึงถูกกว‹า B หรืออาจเปšนของดีราคาแพง หรือของไม‹ดี
แต‹คนถูกภาพลวงตา หรือราคาทัว่ ไปเพราะข‹าวลือ เพราะป˜จจัยทางจิตวิทยาก็ไดŒ
แต‹ถŒาเราผ‹านการวิเคราะหป˜จจัยดŒานคุณภาพมาแลŒว หุŒนที่ P/E ตํ่า จึงน‹าจะ
ยืนยันไดŒเพิ่มเติมว‹าเปšน “ของดี ราคาถูก”
ดร.นิเวศน เสนอแนะใหŒกาํ หนดโซนการลงทุนเบือ้ งตŒน โดยใชŒคา‹ P/E ดังนี้

ค‹า P/E ค‹า P/E สูงกว‹า 10 ค‹า P/E


นŒอยกว‹า 10 เท‹า แต‹ไม‹เกิน 20 เท‹า มากกว‹า 20 เท‹า
š
โซนซื้อ
š
โซนอยู‹เฉยๆ
š
โซนขาย

อย‹างไรก็ดี ดร.นิเวศน อธิบายว‹า ค‹า P/E ตํ่าเปšนหลักเกณฑเบื้องตŒน


ในการคัดหุŒนเพื่อซื้อเท‹านั้น นักลงทุน VI จะตŒองระวัง “กับดัก” จากค‹า P/E ตํ่า
ดŒวย ถŒากําไรหรือตัว E ที่บริษัทไดŒมาในป‚นั้นไดŒมาจากรายการพิเศษ เช‹น กําไร
จากการปรับโครงสรŒางหนี้หรือขายสินทรัพยบางอย‹างทําใหŒเกิดกําไรพิเศษขึ้น
ไม‹ไดŒเกิดจากฝ‚มือการดําเนินงานตามปกติ เปšนกําไรที่เพิ่มสูงแบบชั่วคราว
หุŒนที่มีค‹า P/E ที่ตํ่าแบบนี้ไม‹ถือว‹าน‹าสนใจจาก Value Investor
บางกรณีมีการนําค‹า P/E หารดŒวย G หรืออัตราการเติบโตของกําไร
หากเราสามารถประมาณการอัตราการเจริญเติบโตของกําไรของบริษทั ไดŒ ทําใหŒ
ไดŒอัตราส‹วนใหม‹ คือ

P/E
PEG = G
91
การลงทุนแบบเซียน VI ของ ดร.นิเวศน เหมวชิรวรากร

โดย Common Sense เราอยากเห็นว‹าค‹า P/E ตํ่าๆ และ G สูงๆ ดังนั้น


VI จะชอบถŒาค‹า PEG มีค‹าตํ่าๆ หุŒนที่มีค‹า PEG ตํ่าๆ อาจมาจากค‹า P/E ตํ่า
เปšนของ (ดี) ราคาถูก และมีอนาคตสดใสจากการเติบโตของกําไรในอนาคต
ที่ดี (ค‹า G สูง)

ราคาหุนตอมูลคาทางบัญชี : P/B Ratio


มูลค‹าทางบัญชี หรือ Book Value มาจาก สินทรัพย ลบดŒวย หนี้สิน
ซึ่งหมายถึงมูลค‹าสินทรัพยสุทธิที่ตกมาเปšนของผูŒถือหุŒน มูลค‹าทางบัญชีต‹อหุŒน
สามารถคํานวณไดŒจาก
สินทรัพย – หนี้สิน
Book value per share (B) =
จํานวนหุŒนสามัญ

เมื่อนําราคาตลาดของหุŒน มาหารดŒวย มูลค‹าทางบัญชีต‹อหุŒน จะไดŒ

อัตราส‹วนราคาหุŒนต‹อมูลค‹า = ราคาหุŒน P
=
ทางบัญชี (P/B Ratio) มูลค‹าทางบัญชี B

ถŒา P/B Ratio < 1 แสดงว‹า ราคาหุŒนนั้นถูกกว‹ามูลค‹าทรัพยสินที่เปšน


ส‹วนของผูŒถือหุŒน
ถŒา P/B Ratio = 1 แสดงว‹า ราคาหุŒนนั้นเท‹ากับมูลค‹าทรัพยสินที่เปšน
ส‹วนของผูŒถือหุŒน
ถŒา P/B Ratio > 1 แสดงว‹า ราคาหุนŒ นัน้ แพงกว‹ามูลค‹าทรัพยสนิ ทีเ่ ปšน
ส‹วนของผูŒถือหุŒน
โดยทั่วไปไม‹แปลกเลยที่ P/B จะมีค‹า > 1 เพราะการที่นักลงทุนใหŒราคา
ตลาดสูงกว‹า Book Value อาจเนื่องมาจากเชื่อมั่นในสินทรัพยอื่นๆ ของบริษัท
ที่อาจไม‹ไดŒถูกระบุไวŒในงบการเงิน เช‹น ยี่หŒอ ความสามารถของผูŒบริหาร
ความน‹าเชื่อถือของกิจการ ความเชื่อมั่นในผลิตภัณฑ เปšนตŒน
92
ตามรอยวิถีเซียนลงทุน

การวิเคราะห P/B Ratio อาจนํามาใชŒในกรณีที่บริษัทมีป˜ญหากําไรเปšน


ชั่วคราว เช‹น เกิดการขาดทุน ทําใหŒไม‹สามารถวิเคราะหผ‹าน P/E Ratio ไดŒ
แต‹มนั่ ใจว‹าบริษทั ยังดีอยูโ‹ ดยทัว่ ไป ถŒาวิเคราะหปจ˜ จัยคุณภาพว‹าเปšนหุนŒ ทีด่ แี ลŒว
ยังพบว‹า P/E Ratio และ P/B Ratio มีค‹าตํ่าๆ ก็เปšนป˜จจัยเสริมที่ทําใหŒเชื่อมั่น
ในหุนŒ ตัวนัน้ ไดŒเพิม่ ขึน้ ดร.นิเวศน ใหŒความเห็นเพิม่ เติมว‹าค‹า P/B ทีต่ าํ่ กว‹า 2 เท‹า
น‹าจะถือว‹าหุŒนนั้นยังมีราคาไม‹แพง

อัตราผลตอบแทนจากเงินปนผล : Dividend Yield


เงินป˜นผล คือ ส‹วนแบ‹งจากผลกําไรซึ่งนํามาจัดสรรจ‹ายใหŒแก‹ผูŒถือหุŒน
ดร.นิเวศน เห็นว‹าเงินป˜นผลเปšนผลตอบแทนของการรอคอย (ซึ่งผมตีความว‹า
สําคัญสําหรับ VI เนื่องจากนักลงทุนแบบ VI พยายามเขŒาซื้อหุŒนที่วิเคราะหแลŒว
ว‹าเปšนกิจการทีด่ ี ราคาถูก และรอคอยไดŒอย‹างใจเย็น ซึง่ อาจจะนานเพราะไม‹รวŒู า‹
ราคาหุŒนจะวิ่งขึ้นไปเมื่อใด) นักลงทุน VI จึงอาจตŒอง “รอคอย” นานมาก ดังนั้น
ระหว‹างทางการไดŒรับเงินป˜นผลที่ดีจึงเปšนผลตอบแทนจากการรอคอย
การคํานวณอัตราผลตอบแทนจากเงินป˜นผล (Dividend Yield) ไดŒดังนี้

Dividend Yield = เงินป˜นผลต‹อหุŒน x 100


(D/P) ราคาหุŒน

วิ ธี คิ ด ง‹ า ยๆ ก็ คื อ ถŒ า เราเขŒ า ไปซื้ อ แลŒ ว ใชŒ ร าคาซื้ อ เปš น ราคาตŒ น ทุ น


เงินป˜นผลที่ไดŒรับในแต‹ละป‚ถŒาคิดเปšน Dividend Yield แลŒว สูงกว‹าอัตรา
ดอกเบี้ยเงินฝากธนาคาร ก็ถือว‹าคุŒมแก‹การรอคอย แมŒว‹าระหว‹างรอคอย
ราคาหุŒนจะขึ้นไปถึงไหน แต‹เพราะ VI เขŒาซื้อไดŒราคาตŒนทุนตํ่าตั้งแต‹แรก
Dividend Yield จริ ง ๆ ของเราก็ ยั ง สู ง อยู ‹ แมŒ ร าคาหุ Œ น ในภายหลั ง จะยั ง
ไม‹ไปไหน แต‹ถŒาเทียบกับค‹าเสียโอกาส เราก็อาจไดŒรับผลตอบแทนสูงกว‹า
ดอกเบี้ยเงินฝากธนาคาร
93
การลงทุนแบบเซียน VI ของ ดร.นิเวศน เหมวชิรวรากร

อย‹างไรก็ตาม นักลงทุนแบบ VI จะตŒองเลือกหุŒนที่จ‹ายเงินป˜นผลอย‹าง


สมํ่าเสมอและในอัตราที่เหมาะสมหุŒนที่จ‹ายป˜นผลดีและมีราคาหุŒนยังตํ่าอยู‹ จะมี
ความน‹าสนใจมาก (เรียกดู P/E ตํา่ P/B ตํา่ ยังไม‹พอตŒองดูวา‹ D/P มีคา‹ สูงดŒวย)

มูลคาตลาดของหุน : Market Capitalization


ดร.นิเวศน แนะนําใหŒเราดู “ขนาดของหุŒน” ประกอบในการวิเคราะห
ป˜จจัยดŒานราคาของหุŒนดŒวย “ขนาดของหุŒน” อาจดูจาก “มูลค‹าตลาดของหุŒน”
หรือ Market Capitalization (Market Cap) ซึ่งคํานวณจาก
Market Cap = ราคาหุŒน x จํานวนหุŒนทั้งหมดของบริษัท

ตัวอย‹างเช‹น
■ หุŒน A ราคา 200 บาท มีจํานวนหุŒนทั้งหมด 10 ลŒานหุŒน
Market Cap หุŒน A = 2,000 ลŒานบาท
■ หุŒน B ราคา 10 บาท มีจํานวนหุŒนทั้งหมด 1,000 ลŒานหุŒน
Market Cap หุŒน B = 10,000 ลŒานบาท
อย‹างนี้เรียกว‹า หุŒน B มีขนาดใหญ‹กว‹าหุŒน A
ดร.นิเวศน แบ‹งขนาดของหุŒนตาม Market Cap ออกเปšน 4 พวก ไดŒแก‹
■ หุŒนขนาดจิ๋ว มี Market Cap ไม‹เกิน 1,000 ลŒานบาท
■ หุŒนขนาดเล็ก มี Market Cap ไม‹เกิน 1,000–8,000 ลŒานบาท
■ หุŒนขนาดกลาง มี Market Cap ไม‹เกิน 8,000–40,000 ลŒานบาท
■ หุŒนขนาดใหญ‹ มี Market Cap ตั้งแต‹ 40,000 ลŒานบาทขึ้นไป

ขนาดของหุŒนซึ่งวัดจาก Market Cap มีนัยสําคัญต‹อการลงทุนเพราะ


ส‹งผลต‹อสภาพคล‹องในการซื้อขาย ขนาดของธุรกิจ ความสนใจของนักลงทุน
นักวิเคราะห เปšนตŒน เช‹น “หุนŒ ขนาดใหญ‹” มักจะมีนกั วิชาการติดตามมาก ทําใหŒ
นักลงทุนสนใจ ส‹งผลใหŒมีสภาพคล‹องสูง และราคาหุŒนสูงขึ้นไดŒอย‹างรวดเร็ว
จนมีระดับราคาใกลŒเคียงหรือสูงกว‹ามูลค‹าทีแ่ ทŒจริงไดŒงา‹ ย ส‹วน “หุนŒ ขนาดกลาง”
94
ตามรอยวิถีเซียนลงทุน

หลายตัวมีจุดขายนŒอย เช‹น มีอัตราการเติบโตของกิจการไม‹สูง ขณะที่ฐานะ


การเงินและฐานะการตลาดของกิจการก็ไม‹เขŒมแข็งอย‹างหุŒนขนาดใหญ‹ ส‹วน
“หุŒนขนาดเล็ก” ดร.นิเวศนใหŒความสนใจเปšนพิเศษ แมŒจะมีขนาดเล็กและ
นักวิเคราะหไม‹ค‹อยสนใจ แต‹มีโอกาสที่จะพบหุŒนราคาถูกไดŒง‹ายกว‹า และหาก
หุŒนกลุ‹มนี้เติบโตดีจนถึงจุดที่จะกลายเปšนหุŒนขนาดกลาง ก็จะสามารถดึงดูด
นักลงทุนสถาบันใหŒเขŒามาลงทุนไดŒ ซึง่ จะช‹วยผลักดันราคาหุนŒ ใหŒวงิ่ สูงขึน้ ไปไดŒอกี
แต‹นักลงทุนจะตŒองออกแรงอย‹างมากในการวิเคราะหหุŒนขนาดเล็กที่มีโอกาส
เติบโต โดยผ‹านตัวขนาดของกิจการ ตŒองมีราคาตํ่า (P/E ตํ่า, P/B ตํ่า) และมี
อัตราผลตอบแทนจากเงินป˜นผลสูง (D/P สูง)

เทคนิคการขายหุน VI (เมื่อถึงเวลา)
ดร.นิเวศน อธิบายว‹า ในตอนขายหุนŒ VI ก็เหมือนกับตอนซือ้ คือ ไม‹ไดŒองิ กับ
ภาวะเศรษฐกิจหรือตลาดหุนŒ และนักลงทุน VI มักจะถือหุนŒ เปšนเวลาค‹อนขŒางยาว
(เช‹น 3-4 ป‚) ซึง่ แต‹ละคนก็อาจแตกต‹างกัน เวลาขายหุนŒ ของ VI จึงไม‹ไดŒกาํ หนด
ชัดๆ ว‹าเมื่อใด แต‹กําหนดหลักการกวŒางๆ ว‹าจะขายหุŒน VI ในกรณีดังต‹อไปนี้
■ พบว‹ากิจการของหุŒนที่ซื้อมานั้น เราวิเคราะหผิดพลาดเอง เนื่องจาก
มีขŒอมูลใหม‹ที่เราไม‹ทราบ และไม‹ไดŒนํามาวิเคราะห
■ พื้นฐานของกิจการเปลี่ยนไป เคยเปšนหุŒน VI ที่ดี ตอนนี้ไม‹ใช‹แลŒว
แต‹ในขŒอนี้ ดร.นิเวศน บอกว‹าถŒาของดีจริง พืน้ ฐานไม‹ใช‹จะเปลีย่ นง‹าย
■ ราคาหุŒนขึ้นไปเกินมูลค‹าพื้นฐานแลŒว หลักสําคัญจะอยู‹ที่การประเมิน
มูลค‹าพืน้ ฐานของกิจการ ในสถานการณปกติ ยังขายของไดŒ ยังผลิตไดŒ
ยังทํากําไรอยู‹ ราคาทีเ่ คยซือ้ ไวŒในราคาทีถ่ กู เมือ่ นักลงทุนทัว่ ไปทราบ
ก็จะทําใหŒราคาสูงขึน้ เขŒามาหาสภาพป˜จจัยพืน้ ฐาน แต‹ตอŒ งระวังดŒวยว‹า
มูลค‹าพืน้ ฐานของบริษทั ก็อาจเปลีย่ นแปลงไดŒ จึงตŒองประเมินเทียบกับ
ราคาตลาดเปšนระยะๆ
■ มี หุŒ น ตั ว อื่ น ที่ น ‹ า สนใจและมี Margin of Safety สู ง กว‹ า มาก และ
ในตอนนั้นเราไม‹มีเงินสดเหลือ จึงตŒองขายหุŒนตัวเดิม และไปซื้อหุŒน
VI ตัวใหม‹
95
การลงทุนแบบเซียน VI ของ ดร.นิเวศน เหมวชิรวรากร

■ ภาวะเศรษฐกิจ การเมือง และสภาพแวดลŒอมอื่นๆ เปลี่ยนไปมาก


จนทํ า ลายพื้ น ฐานของกิ จ การ เช‹ น การเปลี่ ย นแปลงทางวิ ก ฤต
เศรษฐกิจ การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี หรือโครงสรŒางประชากร
ที่เปลี่ยนแปลงไป ทําใหŒสินคŒาและบริการบางชนิดไม‹ไดŒรับความนิยม
อีกต‹อไป เปšนตŒน

ประเด็นเพิ่มเติมเกี่ยวกับ
การลงทุนแบบ VI
VI ตองมี EQ หรืออารมณที่มั่นคง
ดร.นิเวศน ใหŒความสําคัญในเรื่องนี้มากว‹า VI จะตŒองมีสติ ใจเย็น
ไม‹ถูกชักนํา โดยจิตวิทยาสังคมหรือสภาวะของตลาดหลักทรัพยฯ และใหŒ
ขŒอคิดว‹า “เราตŒองกลŒาในยามทีค่ นส‹วนใหญ‹ในตลาดกําลังกลัว และกลัวในยามที่
นักลงทุนส‹วนใหญ‹กําลังฮึกเหิม” ดร.นิเวศน อธิบายว‹า นักลงทุน VI ควรมองว‹า
ตลาดหุŒนเปšนเสมือนคนที่มีอารมณแปรปรวน และทําการซื้อขายหุŒนในราคา
ที่บ‹อยครั้งมีลักษณะไม‹มีเหตุผล ตอนอารมณดีก็เสนอขายราคาสูงลิ่วเกินกว‹า
พื้นฐานไปมาก ตอนอารมณหดหู‹ก็เสนอราคาตํ่าติดดินทั้งที่เปšนกิจการเดียวกัน
เราตŒองไม‹ไปตามตลาดแต‹คอยดูว‹าตอนไหนที่เราจะเอาเปรียบตลาดไดŒ เช‹น
ซื้อตอนราคาตํ่าๆ ขายตอนราคาสูงๆ หลักน‹าจะมีแค‹นี้ จะมีอารมณมั่นคง
ไม‹หวั่นไหวไปตามตลาด จึงเปšนคุณสมบัติหนึ่งที่สําคัญของนักลงทุนแบบ VI
96
ตามรอยวิถีเซียนลงทุน

VI ตองรูหลักในการควบคุมความเสี่ยง
ใหอยูในระดับที่เหมาะสม
ดร.นิเวศน เห็นว‹าความเสี่ยงสําหรับ VI ไม‹ใช‹ความผันผวนของราคาหุŒน
ในพอรต แต‹เปšนเรื่องความเสี่ยงของราคาหุŒนที่ซื้อเอาไวŒจะ “ลดลงอย‹างถาวร”
หรือไม‹ ถŒาซื้อไปแลŒวราคาหุŒนลดลงระยะสั้น อย‹างนี้ไม‹ใช‹ความเสี่ยง ถŒาเรา
วิเคราะหแลŒวพบว‹ามูลค‹าพืน้ ฐานยังอยูเ‹ หมือนเดิม กลับตŒองคิดว‹าเปšนโอกาสทีจ่ ะ
ซื้อเพิ่มขึ้น เพราะความเสี่ยงที่จะซื้อหุŒนนั้นกลับลดลง เพราะราคาหุŒนที่ลดทําใหŒ
Margin of Safety สูงขึ้น
หลักในการควบคุมความเสี่ยง VI สรุปไดŒดังนี้
■ รูŒจักธุรกิจที่ลงทุนเปšนอย‹างดี แน‹ใจว‹าไดŒหุŒนของกิจการที่มีคุณภาพดี
■ ลงทุนในสิ่งที่มี Margin of Safety สูง “ของดี ราคาถูก”
■ หลีกเลี่ยงการเก็งกําไร
■ กระจายความเสีย ่ งของการถือครองทรัพยสนิ อย‹างเหมาะสม สําหรับ
หุŒนควรกระจายการถือครอง 5-6 ตัวขึ้นไป ในหลายอุตสาหกรรม

บัญญัติ 10 ประการของการเลนหุนแบบ VI
หัวขŒอนี้ผมชอบมากครับ เพราะสรุปแก‹นแทŒกลยุทธการลงทุนในหุŒน
แบบ VI ซึ่ง ดร.นิเวศน สรุปไวŒแบบคั้นหัวกะทิเอาไวŒใหŒนักลงทุน VI ทุกคน
■ ศึกษาขŒอมูลหุน Œ ใหŒดกี อ‹ นตัดสินใจซือ้ หุนŒ เนŒนว‹าอย‹าซือ้ โดยใชŒอารมณ
อย‹าโลภ อย‹ารีบด‹วนตัดสินใจซื้อเพราะหุŒนกําลังวิ่ง เพราะเราไม‹ใช‹
นักเล‹นหุŒนรายวัน เราตŒองรอจังหวะเวลาที่พบแลŒวว‹า ราคาอยู‹ตํ่ากว‹า
มูลค‹าพื้นฐานมากๆ เท‹านั้น
■ อย‹าสนใจข‹าวลือหรือ “หุน Œ เด็ด” ข‹าวลือ ถŒาเราไดŒยนิ คนอืน่ ก็คงไดŒยนิ
ข‹าวแบบนี้ไม‹มีความหมายอะไร มีแต‹ทําใหŒเสียเงิน
97
การลงทุนแบบเซียน VI ของ ดร.นิเวศน เหมวชิรวรากร

■ ใหŒความสําคัญกับตัวกิจการหรือตัวหุŒนมากกว‹าสภาพตลาดหรือ
เศรษฐกิจโดยทัว่ ไป เพราะแมŒสภาวะเศรษฐกิจไม‹ดี แต‹ตวั กิจการของ
บริษัทอาจจะดีก็ไดŒ หรือแมŒกิจการอาจมีสภาวะไม‹ดีนัก แต‹ราคาหุŒน
ก็ยังตํ่ากว‹าพื้นฐานมากก็ยังลงทุนไดŒ อย‹าใหŒภาพของสภาวะตลาด
มาหันเหการตัดสินใจซื้อหุŒนของเรา
■ หุŒนนั้นมักจะดูแย‹กว‹าที่คิดเวลาที่ตลาดตกตํ่ามากที่สุดของตลาดหมี
และมักจะดูดีกว‹าที่คิดในช‹วงตลาดขาขึ้นสูงสุดของตลาดกระทิง
นักลงทุน VI ควรยึดหลักที่ว‹า “มีความกลŒาหาญที่จะซื้อเมื่อทุกอย‹าง
ดูเลวรŒายและขายเมื่อทุกอย‹างดูดีจนไม‹น‹าเชื่อ”
■ จงจําไวŒวา‹ มันเปšนเรือ่ งยากทีเ่ ราจะสามารถซือ้ หุนŒ ในราคาพืน้ ฐานและ
ขายหุŒนไดŒที่จุดสูงสุด ในช‹วงตลาดตกตํ่า ราคาหุŒนอาจลงไปตํ่ากว‹า
มูลค‹าพื้นฐานไดŒมาก และในยามที่ตลาดมีความรุ‹งเรือง ราคาหุŒน
ก็อาจสูงเกินกว‹ามูลค‹าพืน้ ฐานไดŒ ซึง่ ภาวะตลาดเปลีย่ นแปลงไดŒตลอด
ดังนั้น ตŒองไม‹คาดหวังว‹าเมื่อซื้อหุŒนแลŒวราคาตŒองขึ้นทันที แมŒเรา
จะมั่นใจกับการวิเคราะหมูลค‹าพื้นฐานของเรา ไม‹ควรฝากความหวัง
ไวŒกับภาวะตลาด แต‹ควรดูว‹าในระยะยาวพื้นฐานที่ดีและดีเพิ่มขึ้น
ของกิจการจะเปšนตัวดึงใหŒราคาหุŒนสูงขึ้นตามพื้นฐาน
■ อย‹าขายเพียงเพราะว‹าราคาหุนŒ อาจจะดูวา‹ สูงเกินไปหรือหุนŒ วิง่ ขึน้ มา
เร็วเกินไปหรือชัว่ คราว เพราะถŒาเราพลาด อาจไม‹สามารถซือ้ กลับมา
ทําใหŒพลาดโอกาสทีจ่ ะไดŒรบั ผลตอบแทนทีด่ เี ยีย่ มมากกว‹าในอนาคต
■ อย‹า “หลงรักหุŒน” จนตาบอด ถŒาหุŒนดี ก็ขอใหŒวิเคราะหและมอง
อย‹างเปšนกลาง รักไดŒแต‹อย‹าหลง เพราะตŒองประเมินและตรวจสอบ
ความคุŒมค‹าอยู‹ตลอดเวลา ซึ่งถŒาไม‹ไหวก็ตŒอง “ตัดรัก” เปšนหุŒน VI
ของวันก‹อน มาถึงวันนี้อาจจะเปลี่ยนคุณสมบัติไปแลŒวก็ไดŒ
■ อย‹าสนใจว‹าหุŒนเคยอยู‹ที่จุดไหนมาก‹อน จงสนใจว‹าหุŒนจะไปอยู‹ที่
จุดไหน กิจการอาจเคยมีผลประกอบการดี ราคาหุŒนก็สูงตามไปดŒวย
แต‹เมื่อสถานการณเปลี่ยนไปกําไรลดลง ราคาหุŒนตกและวิเคราะห
แลŒวว‹าผลการดําเนินงานลดลงแบบหวนกลับไปเปšนเหมือนเดิมไดŒยาก
อย‹างนี้ตŒองลืมตัวเลขเก‹า ตัวเลขใหม‹คือของจริง ตŒองมองไปขŒางหนŒา
ว‹ามูลค‹าหุŒนจริงๆ เปšนเท‹าใดกันแน‹ ราคาอาจตกลงไปกว‹าเดิมอีก
ก็เปšนไดŒ
98
ตามรอยวิถีเซียนลงทุน

■ เนŒนการลงทุนในหุŒนคุณภาพสูง การลงทุนในหุŒนที่มีโอกาสทํากําไร
หวือหวา โดยไม‹สนใจว‹าคุณภาพของหุŒนจะเปšนอย‹างไรในบางครั้ง
อาจจะใหŒผลตอบแทนที่ดีและเร็ว ทําใหŒนักลงทุนเกิดความตื่นเตŒน
แต‹โอกาสที่จะประสบผลสําเร็จในระยะยาวจะเปšนไปไดŒยาก และ
ทําบ‹อยเขŒาก็จะติดเปšนนิสัย ซึ่งเปšนคนละขั้วกับนักลงทุน VI ที่เลือก
เฉพาะหุŒนคุณภาพดีเท‹านั้น พอรตของหุŒนที่มีคุณภาพดีนั้นจะทําใหŒ
เรารวยไดŒอย‹างยั่งยืนและดŒวยความเสี่ยงที่ตํ่ากว‹ามาก
■ ใชŒ เ วลากั บ การลงทุ น ตรวจสอบกิ จ การและหุ Œ น อย‹ า งสมํ่ า เสมอ
ทุกอย‹างมีการเปลี่ยนแปลงอยู‹ตลอดเวลา หุŒน VI ที่เคยเขŒมแข็ง
เมื่ออ‹อนแอลงเราก็ตŒองตัดออกจากพอรต และหาซื้อตัวใหม‹ใส‹เขŒาไป
แต‹การเปลี่ยนแปลงพื้นฐานของกิจการมักไม‹ไดŒเกิดขึ้นแบบรายวัน
ตŒองใชŒระยะเวลา ถŒาเราซือ้ หุนŒ แต‹อยูไ‹ ม‹ถงึ ป‚ คําถามคือกิจการไดŒแสดง
ความสามารถในการทําธุรกิจใหŒเราเห็นการเปลี่ยนแปลงไดŒชัดเจน
แลŒวหรือ คุณภาพที่สูงขึ้นของหุŒนตŒองใชŒเวลาพอสมควร ซึ่งเราตŒอง
ทําหนŒาที่วิเคราะหและตรวจสอบกิจการอยู‹เปšนระยะๆ
ผมคิดว‹าการลงทุนแบบ VI ของ ดร.นิเวศน นั้น น‹าจะเปšนการช‹วยฝƒก
ความอดทนไดŒเปšนอย‹างดี ใครทีม่ นี สิ ยั ใจรŒอน ลองมาลงทุนตามสไตลนดี้ ู อาจจะ
พอเปลี่ยนอุปนิสัยไดŒบŒาง ทั้งนี้ เนื่องจาก ดร.นิเวศน อธิบายว‹าสไตลการลงทุน
แบบ VI เปรียบไดŒกับ “เต‹า” คือ ชŒา แข็งแกร‹ง อดทน และอายุยืนนาน มีจิตใจ
หนักแน‹นมั่นคง สามารถเดินทางไปไดŒทุกภูมิประเทศ และทุกความผันแปรของ
สภาพแวดลŒอม ซึ่งตรงขŒามกับ “กระต‹าย” ที่เปรียบไดŒกับนักลงทุนที่ใจรŒอน
อาจจะวิ่งในบางช‹วงแต‹ขาดเกราะป‡องกันตัว จึงมีโอกาสถูกสัตวอื่นจับกินไดŒง‹าย
แถมทŒายอีกนิดหนึง่ เรือ่ งการกูเŒ งินมาลงทุนหรือเรียกว‹า “การใชŒมารจนิ้ ”
ดร.นิเวศน เห็นว‹า VI มักจะไม‹กูŒเงินมาลงทุน แมŒว‹าถŒาหุŒนขึ้น โอกาสไดŒกําไร
มีมากและเร็ว แต‹ถาŒ พลาดก็อาจเสียหายรุนแรงไดŒ อย‹างไรก็ตาม หากเราพบว‹ามี
หุนŒ VI ทีด่ แี ละราคาตํา่ ลง หรือถูกอย‹างไม‹นา‹ เชือ่ แต‹เราไม‹มเี งินสดเลย ประกอบกับ
ไม‹อยากขายหุŒนตัวอื่นจากพอรต ซึ่งเปšนของดีและขณะนั้นหุŒนในพอรตก็มี
ราคาตํ่าไปเหมือนกัน ดร.นิเวศน ใหŒหลักการกูŒเงินซื้อหุŒนไวŒดังนี้
99
การลงทุนแบบเซียน VI ของ ดร.นิเวศน เหมวชิรวรากร

■ ยอดเงินทีก่ ไŒู ม‹ควรเกิน 10-20% ของมูลค‹าพอรต (ไม‹ใช‹กเŒู ท‹าไรก็ไดŒ)


■ หุŒนที่จะซื้อ นอกจากตŒองเปšน VI แทŒๆ แลŒว ยังตŒองมีสภาพคล‹องสูง
พอใหŒเราขายไดŒทันที
■ หุŒนที่จะซื้อตŒองมีราคาตํ่ามาก กําไรอยู‹ในระดับที่ดีและจะดีขึ้นกว‹านี้
■ ตŒองมี Exit Strategy หรือทางออกจากหนี้ เช‹น นําเงินป˜นผลรับ
จากพอรตเดิมมาลดหนี้ หรือทยอยขายหุนŒ ทีซ่ อื้ มาเพือ่ นําเงินมาลดหนี้
หรือลŒางหนี้ใหŒเร็วที่สุด
ทีจ่ ริงแลŒว ดร.นิเวศน นําประสบการณทมี่ ที งั้ ความสําเร็จและความลŒมเหลว
มาใชŒในการลงทุนจนประสบความสําเร็จอย‹างสูงถึงทุกวันนี้ ผมขอชื่นชมและ
ขอขอบคุณ ดร.นิเวศน เหมวชิรวรากร อีกครั้ง ที่เปšนแบบอย‹างที่ดีของการเปšน
นักลงทุนมืออาชีพ และถ‹ายทอดความรูจŒ ากประสบการณของท‹านอย‹างไม‹หวงวิชา
ตลาดทุนไทยและสังคมไทยโชคดีจริงๆ ครับทีม่ เี ซียนหุนŒ คุณค‹าอย‹าง ดร.นิเวศน
สุดทŒายนี้ผมก็ขออวยพรใหŒนักลงทุนทุกคนที่ชื่นชอบสไตลการลงทุนแบบ VI
โชคดีและประสบความสําเร็จเหมือนกับ ดร.นิเวศน ครับ
100
ตามรอยวิถีเซียนลงทุน
101
การลงทุนหุนหานทองคําของ คุณเทพ รุงธนาภิรมย

ตามรอยวิถีเซียนลงทุน :
การลงทุนหุนหานทองคํา
ของ คุณเทพ
รุงธนาภิรมย
102
ตามรอยวิถีเซียนลงทุน

เนือ้ หาในบทความนีจ้ ะพูดถึงการลงทุนแบบทีเ่ รียกว‹า “กลยุทธการลงทุน


ในหุŒนห‹านทองคํา” ซึ่งผมตีความมาจากหนังสือ “ยุทธศาสตรหุŒนห‹านทองคํา”
ของคุณเทพ รุ‹งธนาภิรมย จัดพิมพโดยตลาดหลักทรัพยแห‹งประเทศไทย
โดยส‹วนตัว ผมมีความเคารพและชื่นชม “พี่เทพ” เพราะไดŒมีโอกาสรูŒจักร‹วมชั้น
เรียนในสถาบันวิทยาการตลาดทุนรุน‹ ที่ 4 ดŒวยกัน และเคยเชิญท‹านมาบรรยายเรือ่ ง
หุŒนห‹านทองคําใหŒนักลงทุนที่สนใจไดŒฟ˜งกัน เมื่อศึกษางานของท‹านผมอดไม‹ไดŒ
ที่จะใหŒคนไทยและนักลงทุนไทยมีความภาคภูมิใจร‹วมกันว‹า ประเทศเราก็มี
เซียนลงทุนที่เปšนนักลงทุนมืออาชีพไม‹แพŒประเทศใด ซึ่งคุณเทพไดŒคŒนหาสไตล
การลงทุนของตนเอง ลองผิดลองถูกจนมีประสบการณ และที่สําคัญท‹านไม‹ไดŒ
หวงความรูแŒ ละประสบการณของท‹าน แต‹ไดŒรวบรวมเปšนองคความรูแŒ ละถ‹ายทอด
สู‹พวกเราชาวไทย เพื่อใหŒลงทุนไดŒอย‹างมีความรูŒที่แทŒจริง

ประวัติโดยสังเขป
“คุณเทพ รุ‹งธนาภิรมย” จบการศึกษาบัญชีบัณฑิต (เกียรตินิยมดี) และ
พาณิชยศาสตรบัณฑิต (เกียรตินิยมดี) จากคณะพาณิชยศาสตรและการบัญชี
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร และจบ MBA จากมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย ประเทศ
สหรัฐอเมริกา ประวัตกิ ารทํางานเคยเปšนรองกรรมการผูจŒ ดั การ ธนาคารกสิกรไทย
จํากัด (มหาชน) และกรรมการของบริษัทจดทะเบียนที่สําคัญอีกหลายแห‹ง
ป˜จจุบันถึงแมŒคุณเทพจะเกษียณอายุจากการทํางานประจําแลŒว แต‹ก็ยังใชŒ
ประสบการณความรูคŒ วามสามารถในการเปšนกรรมการและกรรมการตรวจสอบ
ใหŒกับบริษัทจดทะเบียนหลายแห‹ง รวมถึงเปšนที่ปรึกษาใหŒกับสมาคมส‹งเสริม
ผูŒลงทุนไทยดŒวย
นอกจากการเปšนนักลงทุนมืออาชีพที่มีสไตลการลงทุนเปšนของตนเอง
แลŒว คุณเทพยังถ‹ายทอดความรูŒผ‹านการบรรยายและการเขียนบทความและ
พ็อคเก็ตบุคสอย‹างสมํา่ เสมอ โดยมีปรัชญาชีวติ ว‹า “ตŒองการเห็นทุกคนในสังคม
มีชีวิตที่ดีขึ้น ผาสุกขึ้น” เชื่อว‹ากลยุทธหุŒนห‹านทองคําจะสามารถทําใหŒนักลงทุน
รายย‹อยมี “ความเปšนไททางการเงินอย‹างยัง่ ยืน” ทีจ่ ริงแลŒวคุณเทพเขียนหนังสือ
และบทความเกีย่ วกับการลงทุนเปšนจํานวนมาก ซึง่ ผูสŒ นใจไปต‹อยอดหาความรูกŒ นั
103
การลงทุนหุนหานทองคําของ คุณเทพ รุงธนาภิรมย

เพิ่มเติมไดŒ แต‹โดยส‹วนตัวผมชอบ “ยุทธศาสตรหุŒนห‹านทองคํา” เพราะทําใหŒ


เห็นภาพรวมเกี่ยวกับแนวคิดและกลยุทธการลงทุนในหุŒนประเภทนี้

รูจักธรรมชาติของตลาดหุน
มือใหม‹หัดลงทุนเวลามองกระดานหุŒนที่มีสีเขียวๆ แดงๆ ราคาหุŒนต‹างๆ
เปลี่ยนแปลงขึ้นลงไปมา มักจะมองอย‹างกลŒาๆ กลัวๆ หลายคนคิดว‹าตนเอง
ไม‹มีความรูŒดีพอ กลัวจะเปšนแมงเม‹าที่ถูกไฟเผา ตกเปšนเหยื่อของนักลงทุนที่มี
ประสบการณมากกว‹า คุณเทพเริ่มตŒนโดยอยากใหŒมองว‹า ในตลาดหุŒนจะมี
การเคลื่อนไหวเพียง 3 อย‹าง คือ ขึ้น ลง หรืออยู‹นิ่งๆ
■ ราคาหุน Œ ส‹วนใหญ‹จะวิง่ ขึน้ เมือ่ มีผสŒู นใจซือ้ มากกว‹า ผูทŒ ตี่ อŒ งการจะขาย
ซึ่งเราเรียกภาวะเช‹นนี้ว‹า “ภาวะกระทิง” (Bull Market)
■ ราคาหุน Œ ส‹วนใหญ‹จะตกลง เมือ่ มีผตŒู อŒ งการจะขาย มากกว‹า ผูสŒ นใจซือ้
ซึ่งเราเรียกภาวะเช‹นนี้ว‹า “ภาวะหมี” (Bear Market)
■ ราคาหุ Œ น ส‹ ว นใหญ‹ อ ยู ‹ นิ่ ง ๆ หรื อ เคลื่ อ นไหวในช‹ ว งแคบๆ เรี ย กว‹ า
“ภาวะ Sideway” ซึ่งเปšนช‹วงที่ทั้งหมีและกระทิงสูŒกันจนเหนื่อย
ตŒองมีการพัก
ในภาวะกระทิง ราคาหุŒนส‹วนใหญ‹วิ่งขึ้น นักลงทุนบางคนรูŒสึกคึกคัก
พากันซื้อมากขึ้น และคิดว‹าคนอื่นก็จะเขŒามาซื้ออีก (ในระยะสั้น) ทําใหŒราคาสูง
ขึน้ อีก ดังนัน้ จึงเขŒาใจว‹าการทํากําไรจากตลาดหลักทรัพยฯ เปšนเรือ่ งง‹ายจนอาจ
นํามาเปšนค‹ากับขŒาว (จากตลาดหลักทรัพยฯ) ไดŒแทบทุกวัน
พอตลาดอยู‹นิ่งๆ (เพราะกระทิงวิ่งจนหมดแรง) นักลงทุนก็จะเกิดความ
อึดอัด เพราะเริ่มหาค‹ากับขŒาวไดŒยากขึ้น และพอมีข‹าวรŒายขึ้นมา ราคาหุŒน
ก็เริ่มลด นักลงทุนเริ่มเทขาย ราคาหุŒนก็ตกลงไปอีก ภาวะคุณหมีก็จะปรากฏ
ชัดเจนขึ้น ใน 3 ช‹วงดังกล‹าวดูเหมือนว‹านักลงทุนจะมีความสุขในการ “ซื้อถูก
ขายแพง” ในช‹วงตลาดขาขึ้นเท‹านั้น
104
ตามรอยวิถีเซียนลงทุน

แต‹คุณเทพมองโอกาสและวิธีการลงทุนในตลาดหลักทรัพยฯ ในแต‹ละ
ช‹วงต‹างกันออกไป
■ ในช‹วงตลาดขาขึ้น ราคาหุŒนส‹วนใหญ‹จะสูงขึ้น การเขŒาไปซื้อในช‹วงนี้
ตŒนทุนจะสูงขึ้นและอัตราผลตอบแทนจะลดลง เช‹น หุŒนที่เคยมีราคา
20 บาท จ‹ายป˜นผล 2 บาท คิดเปšน Dividend Yield จะไดŒ 10%
แต‹ถŒาราคาขึ้นไป 40 บาท และเงินป˜นผลเท‹าเดิม Yield จะเหลือเพียง
5% คุณเทพคิดว‹าในช‹วงกระทิงนี้ควร เขŒาไปขาย มากกว‹า เพียงแต‹
คุณเทพยังมีเทคนิคค‹อยๆ ทยอยขาย เพื่อใหŒตŒนทุนลดลง และ Yield
สูงขึ้นเรื่อยๆ
■ ในช‹วงตลาดนิง่ ๆ คุณเทพมองว‹าควรเปšนช‹วงใชŒเวลาไปศึกษาคŒนหาว‹า
หุŒนที่มีป˜จจัยพื้นฐานดีอยู‹ที่ไหนบŒาง คัดเลือกไวŒในใจ รอคอยจังหวะที่
ตลาดหมีจะมาเยือน
■ ในช‹วงตลาดหมี คุณเทพมองว‹านักลงทุนมักจะกลัวและเทขายออก
มาอย‹างมากมาย จนทําใหŒมีของดี ราคาถูกออกมาขายปนอยู‹ดŒวยใน
ตลาด ซึ่งควรจะเปšนโอกาสทองในการ เขŒาไปซื้อ เหมือนไปชŒอปปœง
ในหŒางตอนมีการกระหนํ่า Summer Sales

รูจักกลยุทธการลงทุนในตลาดหุน
การลงทุนในตลาดหลักทรัพยฯ นั้น คุณเทพเห็นว‹ามีกลยุทธเพียง 5 วิธี
เท‹านั้น โดยสรŒางคําใหŒคลŒองจองจําง‹ายๆ ดังนี้
■ เล‹นกับไฟ
■ ไข‹ทองคํา
■ กําไวŒแน‹น
■ แผนรังนก
■ ชกผ‹านสิงห
105
การลงทุนหุนหานทองคําของ คุณเทพ รุงธนาภิรมย

กลยุทธ “เลนกับไฟ”
เปšนการลงทุนแบบซื้อหุŒนตัวที่คาดว‹าราคาจะขึ้น โดยอาจจะไดŒขŒอมูลมา
หรือวิเคราะหเองมาอย‹างดีก็ตาม ซึ่งผมเองตีความว‹า ก็ไม‹แปลกเพราะตรง
กับ “สัญชาติญาณของนักลงทุน” ที่ตŒองการ “ซื้อถูก ขายแพง” เพียงแต‹คนที่
ลงทุนแบบเล‹นกับไฟนี้ เมื่อราคาหุŒนขึ้นมามากบŒาง นŒอยบŒางก็ขายเอากําไร
ไม‹ตŒองการถือยาว แต‹บ‹อยครั้งที่ราคาหุŒนกลับตกลง ไม‹ขึ้นตามที่คิด ก็ตŒองยอม
ตัดขาดทุนขายทิ้ง ที่เรียกว‹า “Cut Loss” คนที่ชอบแบบนี้ซึ่งมีมากก็เพราะเปšน
วิธที งี่ า‹ ย ใครๆ ก็ทาํ กัน แต‹คณ
ุ เทพมองว‹า นีแ่ หล‹ะคือ “แมงเม‹า” ทีช่ อบเล‹นกับไฟ
ซึ่งบ‹อยครั้งก็ถูกไฟเผาไดŒ

กลยุทธ “ไขทองคํา”
เปšนกลยุทธที่คุณเทพใชŒอยู‹ในการลงทุน วิธีการนี้จะคŒนหาหุŒนที่ดี ราคา
สมเหตุสมผล จ‹ายป˜นผลสมํ่าเสมอ และคุมสติไม‹ใหŒโลภมาก ปรับพอรตบŒาง
(คุณเทพใชŒคําว‹า ตกแต‹งสวน) โดยทยอยขายเมื่อราคาขึ้น เคล็ดลับจึงอยู‹ที่
การคŒนหาหุนŒ ห‹านทองคําทีจ่ ะสามารถออกไข‹ทองคําสมํา่ เสมอ และเมือ่ ห‹านทองคํา
ในฟารมของเราโตขึน้ ก็ตอŒ งแบ‹งขายออกไปบŒาง นักลงทุนทีช่ อบสไตลการลงทุน
แบบนี้ตŒองเรียนรูŒดŒานการเงิน มีเวลาติดตามบŒาง แต‹มีขŒอดี คือ ไม‹ตŒองตื่นเตŒน
คอยติดจอหุŒนตลอดเวลา

กลยุทธ “กําไวแนน”
กลยุทธนี้คุณเทพมองว‹าเปšนญาติสนิทกับกลยุทธ “ไข‹ทองคํา” ตัวอย‹าง
ที่สําคัญไดŒแก‹ การลงทุนแบบ Value Investor ของ วอรเร็น บัฟเฟตต วิธีการ
นี้จะคŒนหาหุŒนห‹านทองคําที่ไข‹ทองคําไดŒเหมือนกัน แต‹จะถือไวŒนานมาก และ
รอคอยจนห‹านทองคําโตเต็มที่และขายออกไปภายหลัง วิธีการลงแบบนี้จึงตŒอง
มีสายป†านยาวและเปšนเงินเย็น
106
ตามรอยวิถีเซียนลงทุน

กลยุทธ “แผนรังนก”
กลยุทธแบบนี้คุณเทพมองว‹าเหมาะสมกับนักลงทุนมือใหม‹ ซึ่งมีเงิน
ลงทุนนŒอย ค‹อยๆ หาหุŒนดี สะสมเขŒาพอรตตามกําลังที่มี เขŒากับตําราที่ว‹า
“นกนŒอยทํารังแต‹พอตัว” รอคอยจนกว‹ารังนกนัน้ จะใหญ‹ขนึ้ เรือ่ ยๆ ผมตีความว‹า
กลยุทธนี้ก็เปšนญาติสนิทของ “ไข‹ทองคํา” และ “กําไวŒแน‹น” เช‹นกัน เพราะการ
หาหุŒนดีเขŒารังนกก็ควรเปšนหุŒนห‹านทองคํานั่นแหล‹ะ แต‹ก็ไม‹ไดŒมีวิธีเดียวนะครับ
เพราะของที่ใหŒเลือกอาจมีหุŒนในลักษณะอื่นอีก เช‹น ห‹านเนื้อ (หุŒนของบริษัท
ทีโ่ ตเร็ว) ห‹านวัยรุน‹ (หุนŒ ของบริษทั ทีเ่ ริม่ เขŒามาในตลาด) ห‹านบาดเจ็บ (หุนŒ ทีอ่ าจ
ฟ„œนตัวในภายหลัง) เปšนตŒน

กลยุทธ “ชกผานสิงห”
วิธีการนี้คือการลงทุนผ‹านกองทุนรวม ซึ่งเปรียบเสมือนสิงโต ซึ่งเปšน
เจŒาป†าเปšนที่พึ่งพิงของนักลงทุนตัวเล็กๆ อย‹างเราซึ่งมีอีกจํานวนมาก ถŒาเรามี
เงินลงทุนไม‹มากและขาดความรูคŒ วามเขŒาใจทางการเงิน รวมทัง้ ไม‹มเี วลาติดตาม
จึงตŒองอาศัยสิงโตเปšนผูŒคุŒมครองและลงมือลงทุนแทนเรา เพราะกองทุนรวม
จะมีทีมงานผูŒเชี่ยวชาญที่จะคัดเลือก วิเคราะหติดตามหุŒน ตรวจเยี่ยมกิจการ
ของหุนŒ ซือ้ ขายหุนŒ เพือ่ ใหŒไดŒกาํ ไร เปšนตŒน อย‹างไรก็ตาม กองทุนรวมมีหลากหลาย
ซึ่งอาจใหŒลงทุนในห‹านชนิดต‹างๆ กันไป ซึ่งเราก็ตŒองเลือกใหŒเขŒากับสไตล
การลงทุนของเราดŒวย
ผมตีความเพิ่มเติมว‹าในชีวิตจริงของการลงทุน เราอาจเลือกสไตล
หรือกลยุทธการลงทุนแบบใดแบบหนึ่งตามที่เราชอบ บางคนอาจเริ่มตŒนแบบ
“แผนรังนก” แลŒวโตขึ้นเปšนแบบ “ไข‹ทองคํา” บางคนอาจเปšนแผน “กําไวŒแน‹น”
ตลอด บางคนแบ‹งเงินลงทุนเปšน 2 ส‹วน ส‹วนหนึ่งใชŒกลยุทธแบบ “ไข‹ทองคํา”
อีกส‹วนหนึ่ง “ชกผ‹านสิงห” บางคนเริ่มตŒนแบบ “ไข‹ทองคํา” และเมื่อทํากําไรไดŒ
อาจนํากําไรบางส‹วนมาทํากลยุทธ “เล‹นกับไฟ” ก็ไดŒ
107
การลงทุนหุนหานทองคําของ คุณเทพ รุงธนาภิรมย

ลักษณะสําคัญของหุนหานทองคํา
คุณเทพบอกว‹าถŒาเราหาหุŒนห‹านทองคํามาไดŒ เปรียบเสมือนกับเราไดŒ
เครื่องจักรทํากําไรไวŒในมือ ซึ่งหุŒนห‹านทองคําพันธุแทŒ ควรจะมีลักษณะเด‹นๆ
9 ประการ ดังนี้
■ มีกําไรอย‹างต‹อเนื่อง
■ เปšนกําไรที่มีคุณภาพ
■ กําไรสะสมเปšนบวก
■ เงินสดมีเหลือเฟ„อ
■ หนี้สินตํ่ามาก
■ ลงทุนขยายงานไม‹หยุด
■ ป˜นผลเพิ่มอย‹างสมํ่าเสมอ
■ ยอดขายก็เติบโต
■ ไม‹รบกวนผูŒถือหุŒนเรื่องเพิ่มทุน

การกําหนดลักษณะ 9 ประการของคุณเทพนี้ ถือว‹าเปšนคุณูปการต‹อ


นักลงทุนเปšนอย‹างมาก เพราะทําใหŒงา‹ ยเวลาคŒนหาหุนŒ ห‹านทองคํา ว‹าบริษทั เป‡าหมาย
ต‹างๆ มีลักษณะดังนี้หรือไม‹ ผมคิดว‹าคุณเทพมีความรูŒดŒานบัญชีและการเงิน
เปšนอย‹างดี สามารถเขŒาใจงบการเงิน ซึง่ ช‹วยบอกถึงผลการดําเนินงานและฐานะ
การเงินของกิจการไดŒ ลองสังเกตลักษณะ 9 ประการขŒางตŒน เกีย่ วขŒองกับเรือ่ งกําไร
ของกิจการถึง 4 ประการ (โอกาสการมีกาํ ไรดีจากยอดขายเติบโต กําไรต‹อเนือ่ ง
กําไรมีคณ ุ ภาพ และกําไรทีท่ าํ ใหŒมปี น˜ ผลอย‹างสมํา่ เสมอ) เกีย่ วขŒองกับสินทรัพย
ของกิจการ 2 รายการ (เงินสดมาก และสินทรัพยหมุนเวียนและสินทรัพยถาวร
ที่เพิ่มขึ้นจากการขยายงาน ทําใหŒเพิ่มโอกาสการขยายธุรกิจ) เกี่ยวขŒองกับดŒาน
หนี้สินและทุน 3 รายการ (หนี้สินตํ่า ไม‹เพิ่มทุนบ‹อย และไดŒเงินทุนจากกําไร
สะสมเพิ่มขึ้นอย‹างสมํ่าเสมอ) จึงอยากใหŒกําลังใจแก‹นักลงทุนว‹าควรหาความรูŒ
เพิ่มเติมเกี่ยวกับการวิเคราะหงบการเงิน เพราะเปšนองคความรูŒสําคัญที่จะช‹วย
คŒนหาหุŒนห‹านทองคําไดŒดี ที่จริงในหนังสือของคุณเทพหลายๆ เล‹มก็ไดŒอธิบาย
ในเรื่องนี้โดยใชŒภาษาแบบง‹ายๆ ลองหามาอ‹านเพิ่มเติมดูครับ
108
ตามรอยวิถีเซียนลงทุน

เขาใจตัวเลขทางการเงิน
เพื่อคนหาหุนหานทองคํา
ผมชอบรูปทีค่ ณ
ุ เทพอธิบายไวŒเกีย่ วกับงบการเงินใหŒเขŒาใจมากในรูปเดียว
ดังนี้ครับ

คุณเทพเล‹าใหŒฟ˜งแบบง‹ายๆ ว‹า ในการทําธุรกิจนั้น CEO ซึ่งเปšนแม‹ทัพ


ตŒองไปหาเงินทุนก‹อน ในหŒองที่ 1 ของรูปจึงเปšนเงินที่นายทุนใส‹เขŒามา ซึ่งมีทั้ง
นายทุนถาวร (เจŒาของ) และนายทุนชั่วคราว (เจŒาหนี้) เงินทุนที่ไดŒมานี้จะตŒอง
เอามาลงทุนในสินทรัพยในหŒองที่ 2 สินทรัพยนจี้ ะทําใหŒกองทัพมีกาํ ลังทําใหŒเกิด
รายไดŒและกําไรในหŒองที่ 3 แม‹ทัพที่เก‹งกาจก็จะตŒองทําใหŒหŒองที่ 3 เติบโต
จึงทําใหŒกองทัพมีความแข็งแรง สูŒรบในสมรภูมิการคŒาของธุรกิจตลอดไป
109
การลงทุนหุนหานทองคําของ คุณเทพ รุงธนาภิรมย

ที่จริงแลŒว ผลการดําเนินงานในหŒองที่ 3 เมื่อหักจ‹ายเงินป˜นผล ซึ่งเปšน


ผลตอบแทนใหŒแก‹เจŒาของเงินทุนแลŒว ส‹วนที่เหลือยังนํามาเก็บสะสมไวŒใน
หŒองที่ 1 ในส‹วน Equity เพื่อใหŒธุรกิจมีกําลังที่จะขยายตัว หรือสะสมไวŒเพื่อเปšน
ส‹ ว นเผื่ อ ความปลอดภั ย ในอนาคตไดŒ ซึ่ ง ตรงนี้ สํ า คั ญ มาก เพราะมี ผ ลต‹ อ
“การสรŒางมูลค‹าของหุŒน” ตามความคิดของคุณเทพ
นอกจากนี้ คุณเทพยังสอนใหŒเราเจาะลึกลงไปอีก โดยขยายรูปงบการเงิน
อย‹างง‹ายของธุรกิจใหŒเปšนดังนี้

จากรูปที่ขยายจาก 3 ช‹อง เปšน 6 ช‹อง มีคําเพิ่มเติมในช‹อง 4, 5 และ 6


ไดŒแก‹
■ OCF คือ กระแสเงินสดจากการดําเนินงาน
หรือ Cash Flow from Operating
■ ICF คือ กระแสเงินสดจากการลงทุน
หรือ Cash Flow from Investment
■ FCF คือ กระแสเงินสดจากการจัดหาเงิน
หรือ Cash Flow from Financing
110
ตามรอยวิถีเซียนลงทุน

การเพิ่มเติมขŒอมูลเกี่ยวกับกระแสเงินสด (Cash Flow) เขŒามา จะทําใหŒ


เราวิเคราะหคุณภาพของมูลค‹าหุŒนไดŒลึกขึ้น
■ กรณี OCF ธุรกิจที่มีกําไร (P) เปšนบวก ถือว‹ามีแหล‹งของเงินทุน
ภายในจากการดําเนินงาน ซึง่ ดŒวยความรูสŒ กึ เราจะชอบ อย‹างไรก็ตาม
คุณเทพมองว‹า ไม‹ไดŒหมายความว‹าการทําธุรกิจจะมีผลขาดทุนไม‹ไดŒ
หากพิสูจนไดŒว‹าภาพรวมเขายังเขŒมแข็ง แต‹เจอป˜ญหาและอุปสรรค
ชัว่ คราวเท‹านัน้ คุณเทพแนะนําใหŒนาํ กําไรสุทธิหรือขาดทุนสุทธิในช‹อง
ที่ 3 บวกกับค‹าใชŒจา‹ ยทางบัญชีทไี่ ม‹ไดŒจา‹ ยเงินไปจริงในรอบบัญชีนนั้
เช‹น ค‹าเสื่อมราคา เพื่อใหŒเปšนกําไรที่เปšนเงินสด ซึ่งตรงนี้เราเรียกว‹า
“OCF” แต‹ตอŒ งไปดูเพิม่ เติมว‹าเราตŒองจ‹ายเงินสดไปในการสต็อคสินคŒา
หรือเงินไปจมในลูกหนี้ หรือตŒองจ‹ายเงินแก‹เจŒาหนี้การคŒาเพิ่มเติม
ในรอบบัญชีนี้หรือไม‹ ถŒาหักรายการนี้ไวŒ จะทําใหŒ OCF ลดลง เปšน
Net OCF ซึ่งเราคาดหวังว‹าบริหารไปแลŒว Net OCF ยังเปšนบวกอยู‹
(บางครั้ง Net OCF อาจมากกว‹า OCF เพราะสต็อคสินคŒาอาจนŒอยลง
เก็บเงินจากลูกหนีไ้ ดŒเร็ว และยืดหนีจ้ ากเจŒาหนีก้ ารคŒาไดŒนานขึน้ ทําใหŒ
มีกระแสเงินสดเขŒามาในกิจการ)
■ กรณี ICF ในแต‹ละป‚ตŒองดูเพิ่มเติมว‹า ธุรกิจตŒองลงทุนในสินทรัพย
ถาวร เช‹น โรงงาน เครื่องจักรเพิ่มขึ้นหรือไม‹ ถŒา Net OCF เปšนบวก
ก็สามารถ Matching ไดŒ โดยไม‹ตŒองไปกูŒธนาคารหรือเพิ่มทุน
■ กรณี FCF ถŒาเงินทุนไม‹พอมาลงทุนใน ICF ก็ตŒองใชŒเงินทุนจากช‹องนี้
แต‹ถŒามีเงินเหลือมาจาก Net OCF หักดŒวย ICF ก็นําเงินที่เหลือมา
ชําระหนี้แก‹เจŒาหนี้ และจ‹ายป˜นผลใหŒแก‹ผูŒถือหุŒนไดŒ
วิธีการของคุณเทพ จึงทําใหŒเราเขŒาใจงบการเงินอย‹างง‹ายๆ ไดŒ โดยจะ
เห็นว‹า
ช‹องที่ 1 และ 2 คือ งบดุล (สินทรัพย = หนี้สิน + ทุน)
ช‹องที่ 3 คือ งบกําไรขาดทุน (รายไดŒ - ค‹าใชŒจ‹าย = กําไร)
ช‹องที่ 4, 5, 6 คือ งบกระแสเงินสด (Net OCF + ICF + FCF)
111
การลงทุนหุนหานทองคําของ คุณเทพ รุงธนาภิรมย

การอ‹านงบการเงินทั้ง 3 งบ และเห็นความเชื่อมโยงระหว‹างกัน จะทําใหŒ


เขŒาใจว‹าเหตุและผลที่บอกว‹าบริษัทนั้นดีหรือไม‹ดีมาจากอะไร ผมขอเพิ่ม
ความคิดเห็นส‹วนตัวในเรื่องนี้ โดยอุปมาอุปมัยว‹าเหมือน “คน” งบดุลที่ดี
ก็เหมือนคนทีห่ น‹ุ ดี โครงสรŒางสวยงามแข็งแรง งบกําไรขาดทุนยืนยันว‹าแข็งแรง
จริงหรือไม‹ ถŒาวิง่ เร็ว (รายไดŒและกําไรดี) ก็แสดงว‹าแข็งแรง ส‹วนงบกระแสเงินสด
ก็ยืนยันว‹าเลือดไหลเวียนดี สุขภาพสมบูรณ
เมื่อเขŒาใจแบบนี้แลŒว ค‹อยนําลักษณะเด‹น 9 ประการมาตอบ จะไดŒมั่นใจ
จริงๆ ว‹า หุŒนที่เราเลือกเปšนหุŒนห‹านทองคําจริงหรือไม‹

รูจักดัชนีวัดความสามารถ
ในการทํากําไร
ในความรูŒสึกทั่วไป การคŒนหาหุŒนของบริษัทที่ดีนั้น “บริษัทที่มีกําไร”
คงเปšนป˜จจัยสําคัญประการหนึ่งที่เราตŒองมอง แต‹คุณเทพสอนเราเพิ่มเติมอีกว‹า
การมอง “กําไร” ไม‹ควรจะมองจากเม็ดเงินเท‹านั้น แต‹ควรจะมองในลักษณะ
เปรียบเทียบกับอะไรสักอย‹าง จึงจะสามารถวิเคราะหไดŒวา‹ กําไรนัน้ มีความสวยงาม
(มีคุณภาพ) เพียงใด โดยนําเสนอดัชนี หรือ Ratio พื้นฐานซึ่งนักการเงินทั่วไป
รูŒจักดี ไดŒแก‹
■ Net Profit Margin เปšนการมองคุณภาพกําไรในการหารายไดŒ
■ Return On Asset (ROA) เปšนการมองคุณภาพกําไรในดŒานการใชŒ
ทรัพยสิน
■ Return On Equity (ROE) เปšนการมองคุณภาพกําไรในดŒานการใชŒ
เงินของผูŒถือหุŒน
ในดŒาน Net Profit Margin วิธีคํานวณทําไดŒดังนี้
กําไรสุทธิ
Net Profit Margin = X 100
รายไดŒ
112
ตามรอยวิถีเซียนลงทุน

ดัชนีนี้จะอธิบายว‹า ใน 1 หน‹วยของรายไดŒที่บริษัทหามาไดŒ พอหัก


ตŒนทุนและค‹าใชŒจ‹ายต‹างๆ แลŒวเหลือเปšนกําไรกี่เปอรเซนต โดยหลักแลŒวเรา
คงอยากเห็นดัชนีนี้มีค‹ามากๆ คุณเทพบอกว‹าจากประสบการณบริษัทที่เปšน
เป‡าหมาย ถŒาทํา Net Profit Margin ไดŒอยู‹ระหว‹าง 4-7% ก็ถือว‹าดีแลŒว
ใครทําไดŒเกินกว‹านี้ก็ถือว‹าเก‹ง แต‹ก็มักจะมีคู‹แข‹งเขŒามาทŒาชิงอยู‹เสมอ การรักษา
ใหŒมี Net Profit Margin สูงอยู‹เสมอจึงเปšนเรื่องที่ตŒองมีฝ‚มือมากๆ ทั้งในเรื่อง
การตลาดและการควบคุมค‹าใชŒจ‹าย
ในดŒาน ROA คํานวณไดŒดังนี้
กําไรสุทธิ
ROA = X 100
สินทรัพย

ดัชนีนี้มองกําไรโดยเปรียบเทียบกับสินทรัพย อธิบายไดŒว‹า สินทรัพยที่


บริษทั ลงทุน 1 บาทจะสรŒางกําไรสุทธิไดŒกบี่ าท เปšนการวิเคราะหถงึ ประสิทธิภาพ
การใชŒสินทรัพยไปในการสรŒางกําไร เพราะนักลงทุนบางคนมองแต‹กําไร ไม‹ไดŒ
มองว‹าบางบริษทั ก็ไปขยายสินทรัพยมากขึน้ แต‹ความคุมŒ ค‹าในการสรŒางเปšนกําไร
อาจทําไดŒไม‹ดีก็ไดŒ โดยหลักการเราคงอยากเห็นดัชนีนี้มีค‹าสูง คุณเทพบอกว‹า
บริษัทใดทํา ROA ไดŒถึง 10% ก็ถือว‹าดีมาก
ในดŒาน ROE คํานวณไดŒดังนี้
กําไรสุทธิ
ROE = X 100
ส‹วนของผูŒถือหุŒน
ดัชนีนี้มองในฐานะผูŒถือหุŒนที่ใหŒเงินแก‹บริษัทไปลงทุนแลŒวเอาไปสรŒาง
ใหŒเกิดกําไรไดŒกี่บาท ดัชนีนี้จึงเปšนการวัดคุณภาพของกําไรในสายตาของ
นักลงทุนทีเ่ ขŒาไปซือ้ หุนŒ ซึง่ ถŒามีคา‹ สูงโอกาสทีน่ กั ลงทุนจะไดŒรบั ผลตอบแทนจาก
ส‹วนแบ‹งของกําไรเปšนเงินป˜นผลก็จะมีสูงขึ้น ในความเห็นของคุณเทพ ถŒาบริษัท
ใดทํา ROE ไดŒ 15% ขึ้นไปก็ถือว‹าอยู‹ในขั้นดีแลŒว
113
การลงทุนหุนหานทองคําของ คุณเทพ รุงธนาภิรมย

โดยสรุปแลŒวถŒาอยากรูŒว‹า บริษัทใดมีคุณภาพของกําไรว‹าดีหรือไม‹
ลองติดตามดูค‹า Net Profit Margin, ROA และ ROE ซึ่งยิ่งมีค‹าสูงก็ยิ่งดี

การเชื่อมโยงของดัชนี
วัดความสามารถในการทํากําไร
ถŒาเรานําดัชนี ROE มาตั้งตŒนแลŒวเริ่มกระจายใหม‹ จะไดŒว‹า
กําไรสุทธิ รายไดŒ สินทรัพย
ROE = X X
รายไดŒ สินทรัพย ส‹วนของผูŒถือหุŒน
จะสามารถเจาะลึกเพิ่มเติมใหŒเห็นเลยว‹า การที่บริษัทจะมี ROE สูงๆ
ขึ้นอยู‹กับว‹า
■ มีกา ํ ไรสุทธิ/รายไดŒ หรือ Net Profit Margin สูงหรือไม‹ ค‹านีส้ งู แสดงว‹า
บริษัทดําเนินงานอย‹างดี มีการควบคุมค‹าใชŒจ‹าย ทําใหŒธุรกิจมีกําไร
■ องค ป ระกอบที่ ส อง คื อ รายไดŒ / สิ น ทรั พ ย ซึ่ ง เราเรี ย กว‹ า Asset
Turnover คือ ดูการหมุนของสินทรัพยเพื่อใหŒเกิดยอดขาย ยิ่งมากยิ่ง
สะทŒอนประสิทธิภาพของสินทรัพยของกิจการในการสรŒางรายไดŒ
■ องค ป ระกอบที่ ส าม คื อ สิ น ทรั พ ย / ส‹ ว นของผู Œ ถื อ หุ Œ น ตามหลั ก
คณิตศาสตรแลŒว ยิ่งอัตราส‹วนนี้มีค‹ามากก็ยิ่งทําใหŒ ROE มาก เพราะ
สูตรเปšนผลคูณกันอยู‹ อัตราส‹วนนีเ้ รียกว‹า Equity Turnover ซึง่ อธิบาย
ไดŒว‹าเงินที่ลงทุนในสินทรัพยตŒองพึ่งเงินจากผูŒถือหุŒนแค‹ไหน ถŒาค‹า
ของ Equity Turnover สูง แสดงว‹าพึ่งเงินจากผูŒถือหุŒนนŒอย (โดยนัย
คือ ไปพึ่งเงินทุนจากเจŒาหนี้) การดําเนินงานที่ไม‹ตŒองพึ่งเงินจาก
เจŒาของไม‹ตŒองเพิ่มทุนบ‹อยๆ เปšนความสามารถชนิดหนึ่ง เพราะ
เอาเงินจากภายนอกมาทําธุรกิจเมื่อหักคืนเงินตŒนและดอกเบี้ยแลŒว
จะทําใหŒยงั เหลือกําไรแบ‹งมาใหŒผถŒู อื หุนŒ โดยไม‹ตอŒ งลงทุนอีก ค‹า ROE
ก็จะสูงขึน้ อย‹างไรก็ดี ตŒองคอยดูแลไม‹ใหŒเงินจากเจŒาหนีส้ งู มากเกินไป
เพราะแมŒจะดีต‹อ ROE แต‹อาจทําใหŒความเสี่ยงทางการเงินสูงเกินไป
จากการมีภาระหนี้สินสูงมากก็เปšนไดŒ
114
ตามรอยวิถีเซียนลงทุน

ดูการเติบโตของกําไร
นอกจากการดูดัชนีวัดความสามารถในการทํากําไรแลŒว คุณเทพยัง
แนะนําใหŒดูในประเด็น “การเติบโตของกําไร” ดŒวย เวลาเราพูดถึงอัตราการ
เติบโต (Growth Rate) จากช‹วงเวลาหนึ่งไปยังอีกช‹วงเวลาหนึ่ง ลักษณะเช‹นนี้
ไดŒสะทŒอนถึงประสิทธิภาพในการดําเนินงานอีกดŒวย เราจะหยิบขŒอมูลสําคัญ เช‹น
สินทรัพย ยอดขาย ส‹วนของผูŒถือหุŒน กําไรสุทธิและกําไรสุทธิต‹อหุŒน มาดูอัตรา
การเติบโตหลายๆ ป‚
แมŒว‹าเราจะสนใจอัตราการเติบโตของกําไรสุทธิต‹อหุŒน (Earnings Per
Share : EPS) แต‹เราสามารถวิจารณไดŒว‹า กําไรที่เพิ่มขึ้นมาจากอะไร มาจาก
การเติบโตของยอดขายทีเ่ ร็วมากในช‹วงนี้ ขณะทีก่ ารเติบโตของสินทรัพยชาŒ กว‹า
เปšนตัวอย‹างแสดงถึงฝ‚มือในการบริหารแบบหนึ่ง เปšนตŒน
บริษัทที่มีลักษณะการดําเนินงานที่แข็งแกร‹ง มี EPS เติบโตต‹อเนื่อง และ
ถŒาวิเคราะหไปขŒางหนŒาดŒวยว‹าจะดีอย‹างนี้ต‹อไป ราคาหุŒนในอนาคตก็มีโอกาส
จะเพิม่ ขึน้ ใครทีเ่ ห็นหุนŒ ลักษณะนีแ้ ต‹เนิน่ ๆ ก็มโี อกาสสรŒางกําไรไดŒดใี นระยะยาว

ยุทธศาสตรหุนหานทองคํา
บริ ษั ท จดทะเบี ย นที่ ส ามารถจะเปš น หุ Œ น ห‹ า นทองคํ า ไดŒ น อกจากจะมี
คุณสมบัติ 9 ประการ ตามที่ไดŒเคยกล‹าวถึงไปแลŒวนั้น คุณเทพใหŒความสําคัญ
แก‹ CEO ผูŒเปšนแม‹ทัพของบริษัทเปšนอย‹างมาก ในการดําเนินธุรกิจเขŒาสู‹สมรภูมิ
การคŒา ในตอนนีจ้ ะไดŒสรุปและตีความจากหนังสือ “ยุทธศาสตรหนŒุ ห‹านทองคํา”
กันในประเด็นนี้
115
การลงทุนหุนหานทองคําของ คุณเทพ รุงธนาภิรมย

รูจักสภาสงครามหุน
คุณเทพเปรียบเปรยไวŒว‹าการลงทุนในหุŒนเปรียบเหมือนเขŒาสู‹สงคราม
ซึง่ จะมีสนามรบ 2 สนาม ไดŒแก‹ “สนามรบบนกระดานหุนŒ ” ทีช่ ว‹ งชิงกันซือ้ ขายหุนŒ
จนราคาขึ้นๆ ลงๆ อย‹างที่เห็น กับ “สนามรบทางการคŒาของบริษัทเจŒาของหุŒน”
ซึ่งตŒองไปสูŒรบเพื่อขายสินคŒา และ/หรือ บริการ ของตนเองใหŒชนะกับคู‹แข‹ง
คุณเทพมองว‹า มูลค‹าหรือราคาของหุŒนจะขึ้นอยู‹กับสนามรบการคŒาเปšนหลัก
ซึง่ ในระยะยาวก็จะไปส‹งผลต‹อราคาบนกระดานหุนŒ ดŒวย ส‹วนสนามรบบนกระดาน
หุนŒ ราคาถูกกระทบตลอดเวลาทัง้ ในระยะสัน้ และระยะยาว คุณเทพแนะนําใหŒเรา
ใหŒความสําคัญกับ “ผลบนสนามรบทางการคŒา” มากกว‹าการดู “ผลบนกระดาน
หุŒน” โดยใหŒมองว‹าหุŒนแต‹ละตัวเปรียบเสมือนกองทัพๆ หนึ่ง ซึ่งมีหนŒาที่หลัก
ในการยึดและขยายดินแดนทางการตลาด
ทัง้ นี้ ตัว CEO คือ แม‹ทพั ใหญ‹ ทีม่ หี นŒาทีต่ อŒ งรายงานผลต‹อคณะกรรมการ
บริษทั ซึง่ เปรียบเหมือนเปšนสภาสงคราม และผูถŒ อื หุนŒ ก็คอื ผูมŒ สี ทิ ธิเลือกสมาชิก
สภาสงคราม โดยที่สภาสงครามตŒองร‹วมรับผิดชอบกับแม‹ทัพใหญ‹ดŒวย เช‹น
คณะกรรมการตรวจสอบ (Audit Committee) ทําหนŒาทีค่ มุ กฎไม‹ใหŒมกี ารนําเงิน
กองทัพไปใชŒส‹วนตัว คณะกรรมการบริหาร (Executive Committee) ทําหนŒาที่
กําหนดแนวทางและวิธกี ารในการทําสงคราม ทางบริษทั มีการตัง้ คณะกรรมการ
สรรหาและกําหนดค‹าตอบแทน (Nominating & Compensation Committee)
เพือ่ ช‹วยกันหาคนเก‹งๆ มาเสริมทัพ และกําหนดหลักเกณฑปนู บําเหน็จ นักลงทุน
ตŒองคอยวิเคราะหวา‹ หุนŒ ตัวไหนทีม่ สี ภาสงครามดี มีแม‹ทพั เก‹ง เราจะมัน่ ใจมากขึน้
ที่จะเขŒาไปซื้อ โดยเฉพาะตอนที่ราคาถูกๆ กว‹ามูลค‹าจริงๆ ของบริษัท

รูจักหนาที่หลักของ CEO
เนื่องจาก CEO และทีมบริหารมีความสําคัญมากในการนําทัพออกรบ
ถŒารบสําเร็จมูลค‹าของหุŒนก็จะเพิ่มสูงขึ้น คุณเทพเห็นว‹า CEO ที่ดีควรจะรูŒวงจร
กระบวนการสรŒางมูลค‹าหุŒน ซึ่งสรุปไดŒดังนี้
116
ตามรอยวิถีเซียนลงทุน

ৰ$"࣍)ࢅ

.=-LՖ ؈$

ĞL.

จากรูป CEO จะตŒองเขŒาใจว‹า กระบวนการสรŒางมูลค‹าหุŒน เริ่มตŒนตั้งแต‹


ผูŒถือหุŒนใส‹ ทุน เขŒามา จากนั้นคณะกรรมการจะเลือก CEO เพื่อนํา ทุน ไปทํางาน
ใหŒเกิดผล CEO จะตŒองตัดสินใจว‹าจะนํา ทุน ไปลงทุนใน สินทรัพย ใด และดูแล
การใชŒ สินทรัพย ไปก‹อใหŒเกิด รายไดŒ ในขณะเดียวกันก็ตŒองดูแลตŒนทุนและ
ค‹าใชŒจ‹ายต‹างๆ ไม‹ใหŒสูงเกินไป และมีกําไรอย‹างสมํ่าเสมอ และจะตŒองอยู‹ใหŒไดŒ
ในทุกๆ ป‚ ไม‹วา‹ จะเผชิญกับความรŒายแรงของเศรษฐกิจในบางป‚กต็ าม เราตŒองการ
CEO ที่เก‹งแบบนี้
การไปลงทุนเพื่อคŒนหาหุŒนห‹านทองคํา จึงตŒองรูŒจัก CEO ดŒวย คุณเทพ
อธิบายว‹า “CEO คือ บุคคลทีผ่ ถŒู อื หุนŒ ทัง้ นŒอยใหญ‹ฝากอนาคตไวŒ ผูถŒ อื หุนŒ ทีต่ ดั สินใจ
ซื้อหุŒนของบริษัทที่ CEO เปšนผูŒนํา เพราะมีความตŒองการไดŒรับผลตอบแทนที่
สูงขึน้ จากเงินออมทีไ่ ดŒเพียรสะสมไวŒ อดเปรีย้ วไวŒกนิ หวานอย‹างอดทน หนทาง
เดียวที่ CEO จะทําใหŒผถŒู อื หุนŒ ไม‹ผดิ หวัง ตŒองการทุม‹ เทชีวติ และจิตใจใหŒกบั บริษทั
ที่ดูแลอยู‹ ไม‹วอกแวก ไม‹สนใจอย‹างอื่นใหŒเสียสมาธิ” (จากหนังสือยุทธศาสตร
หุŒนห‹านทองคํา, 2550, หนŒา 173)

คุณสมบัติของ CEO ที่เกงและดี


คุณเทพมองว‹าจากประสบการณที่ไดŒพบกับ CEO ที่เก‹งและดีของบริษัท
จดทะเบียน พบว‹ามีคุณสมบัติคลŒายๆ กันอย‹างนี้
117
การลงทุนหุนหานทองคําของ คุณเทพ รุงธนาภิรมย

■ เขŒาใจถึงหลักการสรŒางมูลค‹ากิจการ
■ มีวิสัยทัศน
■ เก‹งในเรื่องการเลือกใชŒคน และมอบหมายงาน
■ เขŒาใจความตŒองการที่เปลี่ยนไปของตลาดและลูกคŒา
■ ทํางานอย‹างมุ‹งมั่น ทําในสิ่งที่รูŒว‹ามีจุดแข็ง
■ สนใจการเพิ่มประสิทธิภาพ และการลดตŒนทุน

โอกาสที่เราจะรูŒจัก CEO อาจผ‹านจากการศึกษาประวัติ ประสบการณ


ผลการบริหารงานทีผ่ า‹ นมา การแสดงความเห็นผ‹านเวทีสมั มนา การเขŒาฟ˜งขŒอมูล
ผ‹านงานวัน Opportunity Day ที่ตลาดหลักทรัพยฯ เปดโอกาสใหŒนักลงทุน
ไดŒซักถามผูŒบริหาร หรือไดŒพบเมื่อมีโอกาสเยี่ยมชมกิจการ ที่จริงผมคิดว‹า
การประเมินควรครอบคลุมไปถึงทีมงานบริหารดŒานการผลิต การตลาด การเงิน
ของ CEO ดŒวย
ที่จริงแลŒวก็ไม‹ง‹ายนักที่เราจะเห็นขŒอมูลทุกดŒานอย‹างละเอียดของ CEO
และผูŒบริหาร เพราะขŒอมูลทุกอย‹างไม‹ไดŒถูกนํามาเปดเผยต‹อสาธารณชน
เราคงประเมินไดŒระดับหนึง่ ผ‹านฐานะการเงินในงบการเงิน การติดตามผลสําเร็จ
ทางการตลาด เปšนตŒน อย‹างไรก็ดผี มคิดว‹าคุณเทพใหŒความสําคัญกับการประเมิน
CEO และทีมบริหารผ‹านคณะกรรมการบริษัทหรือสภาสงครามหุŒน บริษัทใด
มีคณะกรรมการบริษัทที่เขŒมแข็ง เก‹ง และดี ก็จะมีนโยบายและเกณฑในการ
ประเมิน CEO เปšนกรอบใหŒ CEO ไปปฏิบัติอย‹างชัดเจนไดŒ
คุณเทพอธิบายถึงหลักเกณฑ หรือป˜จจัยที่คณะกรรมการบริษัทจะใชŒ
ประเมิน CEO ไวŒดังนี้
■ การวางแผนกลยุทธ
■ ความเปšนผูŒนํา
■ ผลงานดŒานการเงิน
■ การบริหารงานระบบต‹างๆ
■ การพัฒนาผูŒบริหาร และการสืบทอดตําแหน‹ง
■ การดูแลพนักงาน
■ การสื่อสาร
■ ความสัมพันธกับคณะกรรมการ
118
ตามรอยวิถีเซียนลงทุน

แนวคิด
ในการสรางความมั่งคั่งในระยะยาว
คุณเทพเสนอแนะว‹าการที่จะทําใหŒเกิดความมั่งคั่งในระยะยาว มนุษย
ทุกคนไม‹วา‹ จะเปšนมนุษยเงินเดือนหรือผูปŒ ระกอบการ จะรูหŒ ลักการซึง่ อธิบายไดŒ
ดŒวยรูปง‹ายๆ ซึ่งคุณเทพเรียกว‹า แบบจําลองสรŒางความมั่งคั่ง ดังนี้

‫=ؚ‬$ {š‘† K̒ʝ=-


’‘†

ެH34 Hŀ%88,

8 '0 0؈$

ตามแบบจําลองนี้ คุณเทพอธิบายว‹า ตŒองเริ่มตŒนดŒวยการรูŒวิธี หาเงิน


จากการทํางาน ซึ่งอาจเปšนมนุษยเงินเดือน หรือทําธุรกิจส‹วนตัวก็ไดŒตามความ
ถนัด แต‹พอมีรายไดŒแลŒวก็ทําใหŒมีเงินที่จะจับจ‹ายใชŒสอย ดังนั้นจึงตŒองรูŒวิธี
ใชŒเงิน หลักการที่ควรยึดถือก็คือ ไม‹ควรใชŒจ‹ายเกิน 90% ของรายไดŒ เพื่อใหŒ
มีเงินเก็บออมอย‹างนŒอย 10% ของรายไดŒเสมอ ซึ่งจะตŒองปฏิบัติอย‹างมีวินัย
ไปตลอดชีวิตการทํางาน ซึ่งการทําแบบนี้ เรียกว‹า เรารูŒวิธี การเก็บเงิน จะทําใหŒ
ฐานเงินออมของเราใหญ‹ขึ้นเรื่อยๆ จึงจะมีโอกาสต‹อยอดความมั่งคั่งไดŒมากขึ้น
119
การลงทุนหุนหานทองคําของ คุณเทพ รุงธนาภิรมย

คุณเทพแนะนําใหŒแต‹ละคนลองคิดว‹า เรามีความสามารถพิเศษอะไร
เพิ่มเติมที่จะหารายไดŒอีกหรือไม‹ คนเรามีเวลา 24 ชั่วโมงเท‹ากัน แต‹บางคน
ใชŒเวลาว‹างในการหารายไดŒพเิ ศษเพิม่ เติมไดŒอกี เช‹น ทํางานอดิเรกเพือ่ หารายไดŒ
การสอนพิเศษ ซึ่งเปšนการใชŒเวลาว‹างใหŒเปšนประโยชน และยังช‹วยผูŒอื่นไดŒดŒวย
รายไดŒพิเศษส‹วนนี้ สามารถนําไปสะสมใหŒยอดเงินออมสูงขึ้นไดŒ
จากการเก็บออม คุณเทพยังแนะนําเพิม่ เติมว‹า เราตŒองรูจŒ กั วิธที จี่ ะใหŒเงิน
ไปหาเงิน ดŒวยการนําไปลงทุนในสินทรัพยการเงินชนิดต‹างๆ เพื่อใหŒดอกผล
กลับมาอย‹างสมํ่าเสมอ ในหนังสือ “ยุทธศาสตรหุŒนห‹านทองคํา” ฉบับป‚ 2550
หนŒา 220 คุณเทพอธิบายว‹า “ดอกผลทีไ่ ดŒรบั เปšนผลตอบแทนจากการลงทุนเปšน
รายไดŒสาํ คัญในระยะยาว เพราะเปšนรายไดŒทไี่ ดŒมาโดยไม‹ตอŒ งใชŒเวลาและแรงงาน
คําถามคือ รายไดŒนี้ควรจะเอามาใชŒจ‹ายหรือไม‹ คําตอบคือ ไดŒ ถŒามีความจําเปšน
แต‹ถŒาไม‹ตŒองใชŒนํากลับไปเก็บออม เงินที่นําไปลงทุนก็มีเพิ่มมากขึ้น ที่วิเศษ
กว‹านัน้ ก็คอื รายไดŒดอกผลก็เพิม่ พูนขึน้ อย‹างไม‹หยุดยัง้ เพราะกลไกของเงินทําเงิน
เริ่มทํางานอย‹างมีประสิทธิภาพสูงขึ้น”
วิธีการเหล‹านี้ถŒาเราทําไดŒ เรียกว‹า เรารูŒวิธีการ ทําเงิน และสุดยอดของ
การทําเงินที่ประสบความสําเร็จ ก็คือ

8 '0 K̒ʝ=-

เมือ่ เราสามารถทําใหŒรายไดŒจากดอกผลมากเกินการใชŒจา‹ ยแลŒว ก็จะถือว‹า


มีความมั่งคั่งอย‹างแทŒจริง เราไม‹ไดŒพูดว‹าตŒองมีดอกผลมากๆ เพื่อจะไดŒใชŒจ‹าย
มากๆ ทุกคนตŒองรูŒระดับความเพียงพอที่เหมาะสมกับการดํารงชีวิต ไม‹เช‹นนั้น
ก็จะเปšนความโลภที่ตŒองการไดŒเม็ดเงินมากๆ อย‹างไม‹รูŒจักจบสิ้น
120
ตามรอยวิถีเซียนลงทุน

แผนการลงทุนแบบระยะยาว
ดวยหุนหานทองคํา
สําหรับการสรŒางความมัง่ คัง่ ในระยะยาวดŒวยหุนŒ ห‹านทองคํา คุณเทพสรŒาง
แบบจําลองใหŒเรา ดังนี้

88,Hɶ$ 0؈$
1 3

8؈$ Hɶ$5 ਠ$ Hɶ$‫۽‬$'0


˜ H˪$ ਗ=$"8nj
2 4.1 4.2 4.3

ก‹อนทีจ่ ะสรŒางพอรตหุนŒ ห‹านทองคํา คุณเทพอธิบายว‹า ทุกคนควรเริม่ ตŒน


จากการออมเงิน ค‹อยๆ สะสมใหŒฐานเงินออมใหญ‹ขนึ้ ตามขŒอ ➊ เมือ่ มีเงินออม
พอสมควรแลŒว ก‹อนจะนําไปลงทุน ควรกันเงินไวŒเผือ่ เหตุฉกุ เฉินในครอบครัว เช‹น
เผื่อการเจ็บป†วยของสมาชิกในครอบครัว ซ‹อมบŒานเรือนจากภัยนํ้าท‹วม รวมทั้ง
สํารองการใชŒจา‹ ยในช‹วงเวลาหนึง่ ซึง่ คุณเทพเสนอว‹า ควรกันเงินเผือ่ เหตุฉกุ เฉิน
ในขŒอ ➋ นี้อย‹างนŒอย 12 เดือน ของค‹าใชŒจ‹ายต‹อเดือนหรือเก็บไวŒ 1 ป‚ เพื่อใชŒ
เลี้ยงดูตัวเองก็ไดŒ เงินส‹วนที่เหลือจึงเตรียมไวŒเพื่อลงทุนในส‹วนที่ ➌ โดยหลัก
ก็คอื เตรียมเงินไวŒในบัญชีไวŒเพือ่ ลงทุนกับโบรกเกอรตาม 4.1 จากนัน้ ก็คนŒ หาและ
เลือกลงทุนในหุนŒ ห‹านทองคําตาม 4.2 เมือ่ ห‹านทองคําจ‹ายไข‹ทองคําเปšนเงินป˜นผล
ตาม 4.3 ก็จะนํากลับไปเปšนเงินลงทุน ซึง่ จะวนกลับไปเปšนเงินตาม 4.1 เพือ่ ใหŒเรา
ลงทุนในหุŒนห‹านทองคําต‹อใน 4.2
121
การลงทุนหุนหานทองคําของ คุณเทพ รุงธนาภิรมย

ลูกศรที่วิ่งกลับไปมาระหว‹าง 4.1 และ 4.2 เกิดขึ้นเนื่องจากระหว‹างทาง


ของการลงทุน ถŒาเราเห็นว‹าราคาหุŒนห‹านทองคําสูงขึ้นกว‹าราคาที่เราซื้อไวŒมาก
แลŒว คุณเทพแนะนําใหŒเราขายออกบางส‹วนเพื่อทํากําไร ทําใหŒหุŒนห‹านทองคํา
ที่เหลือในพอรตมีตŒนทุนลดลง ซึ่งจะช‹วยใหŒมีเบาะรองรับ (Margin of Safety)
ถŒาเกิดราคาหุŒนห‹านทองคําในอนาคตลดลง เราก็ไม‹ตŒองตกใจมาก เพราะตŒนทุน
ของเราถูกดึงใหŒตํ่าลงไปแลŒว ขณะเดียวกัน รายไดŒจากการขายหุŒนไปบางส‹วน
ก็นําไปลงทุนในหุŒนห‹านทองคําตัวอื่นๆ ไดŒ

กลยุทธการลดตนทุนหุน
ในพอรตหุนหานทองคํา
กลยุทธนี้ในหนังสืออีกเล‹มของคุณเทพ คือ “กลยุทธหุŒนห‹านทองคํา”
เรียกว‹า “การตกแต‹งสวน” ซึง่ ผมคิดว‹าก็เขŒาท‹าดี ผมนึกถึงพอรตการลงทุนตัง้ ตŒน
ในหุŒนห‹านทองคํา เหมือนกับเราปลูกสวนดอกไมŒ พอเวลาผ‹านไปสวนดอกไมŒ
บานสะพรั่งทั้งสวน ซึ่งเปรียบไดŒกับราคาหุŒนที่สูงขึ้น เราอาจตัดดอกไมŒทั้งสวน
ไปขายก็ไดŒ (เคลียรพอรต) แต‹คณ ุ เทพแนะนําใหŒตดั ดอกไมŒบางส‹วน และเก็บไวŒ
บางส‹วน ส‹วนที่เก็บตŒนทุนจะลดลง ผมลองคิดเปšนตัวอย‹างดังนี้ครับ
สมมติว‹าเราเคยซื้อหุŒนห‹านทองคําตัวหนึ่งมา 100 หุŒน ในราคาหุŒนละ
10 บาท ตŒนทุนเปšน 1,000 บาท ต‹อมาราคาหุŒนตัวนี้สูงขึ้น 30% จาก 10 บาท
เปšน 13 บาทต‹อหุนŒ มูลค‹าพอรตของเราก็จะกลายเปšน 1,300 บาท ถŒาเรานําหุนŒ นี้
ออกขายครึ่งหนึ่ง คือ 50 หุŒน คําถามคือ หุŒนที่เหลือนี้ตŒนทุนเท‹าไหร‹ แมŒตŒนทุน
ที่ซื้อมาเท‹ากับ 500 บาท แต‹ตŒนทุนที่แทŒจริง =( 500-150) / 50 = 350 / 50
เท‹ากับ 7 บาทต‹อหุŒน เพราะ 50 หุŒนที่ขายไปแลŒว ไดŒเงิน 650 บาท แบ‹งเปšน
เงินตŒน 500 บาท และกําไรส‹วนเกิน 150 บาท กําไรส‹วนเกินนี้ สามารถนําไป
ลดตŒนทุนหุŒนที่เหลืออยู‹ ไดŒตŒนทุนหุŒนที่เหลือ 7 บาทต‹อหุŒน ทําใหŒช‹องว‹างของ
ราคาตลาด 13 บาทต‹อหุŒน กับตŒนทุน 7 บาทต‹อหุŒน มีส‹วนเผื่อความปลอดภัย
(Margin of Safety) 6 บาทต‹อหุŒน จึงถือว‹ามีเบาะรองรับไม‹ตŒองตกใจมากเวลา
หุŒนมีราคาตกลง โอกาสที่จะขาดทุนก็นŒอยกว‹าคนอื่น แต‹ถŒาหุŒนห‹านทองคํานี้
122
ตามรอยวิถีเซียนลงทุน

ยังดีอยู‹ต‹อไป ราคาสูงขึ้น โอกาสการทํากําไรของเราก็ยังมีอยู‹ และส‹วนต‹าง


กําไรก็มีโอกาสมากกว‹าของคนอื่น นอกจากนี้ เม็ดเงิน 650 บาทที่ไดŒมาก‹อน
ยังนําไปลงทุนสะสมหาหุŒนห‹านทองคําตัวอื่นๆ เขŒาพอรตเพิ่มเติมไดŒต‹อไป
ลองศึกษาเพิ่มเติมในหนังสือเล‹มอื่นๆ ของคุณเทพในเรื่องนี้ครับ ตัวอย‹างเช‹น
ในหนังสือกลยุทธหนŒุ ห‹านทองคํามีการทําเปšนตารางเปšนตัวอย‹างซือ้ เขŒาขายออก
หุŒนห‹านทองคําเพื่อทําใหŒตŒนทุนเฉลี่ยลดลงว‹าทําอย‹างไร ที่จริงผมคิดว‹าถŒาเรา
รวมผลประโยชนของเงินป˜นผลที่ไดŒระหว‹างการถือครองเขŒาไปดŒวย ตŒนทุน
ที่แทŒจริงก็จะลดตํ่าลงไดŒอีก
วิธีการบริหารพอรตหุŒนห‹านทองคําของคุณเทพนั้นเชื่อว‹า ตŒองถือหุŒน
ค‹อนขŒางระยะยาว การเห็นราคาวิง่ ขึน้ ตามตัวอย‹างทีผ่ มสมมติขนึ้ 30% แมŒมโี อกาส
จะเห็นไดŒในระยะสั้น (ไม‹กี่วัน หรือไม‹กี่เดือน) แต‹ก็มาจากป˜จจัยทางจิตวิทยา
เท‹านั้น ถŒาจะใหŒแน‹ใจตŒองดูจากป˜จจัยพื้นฐาน แมŒจะใชŒเวลาเปšนป‚ แต‹ถŒาราคา
ที่ขึ้นมาจากป˜จจัยพื้นฐานที่ดีจริง เราก็ทํากําไรไดŒเหมือนกัน คือ ตŒองใหŒโอกาส
บริษัทที่เปšนหุŒนห‹านทองคําทํางานพิสูจนฝ‚มือตนเอง ซึ่งเราไม‹ควรใหŒโอกาส
เพียงไม‹กี่วัน หรือไม‹กี่เดือนเท‹านั้น การลงทุนแบบนี้ทําใหŒเราไม‹ตŒองตื่นเตŒน
กับราคาตลาดของหุŒนที่เคลื่อนไหวไปมาในทุกๆ วันมากนัก ไม‹ตŒองกังวลมาก
ว‹าจะอ‹านกราฟราคาไม‹ไดŒ แถมไม‹ตŒองเสียค‹าใชŒจ‹ายใหŒโบรกเกอรมากเกินไป
ในการซื้อๆ ขายๆ หุŒน
ผมอยากทิ้งทŒายดŒวยการขอบพระคุณ คุณเทพ รุ‹งธนาภิรมย ในฐานะ
ทีเ่ ปšนผูหŒ นึง่ ทีบ่ กุ เบิกกลยุทธการลงทุนในหุนŒ แบบระยะยาว และถ‹ายทอดความรูŒ
ในเชิงปฏิบตั ใิ หŒงา‹ ยต‹อความเขŒาใจแก‹นกั ลงทุนชาวไทย ซึง่ ถือว‹าจะมีสว‹ นสนับสนุน
ใหŒการลงทุนในตลาดหลักทรัพยฯ เกิดการขยายตัว และมีเสถียรภาพในระยะยาว
ผมหวังว‹าองคความรูขŒ องคุณเทพนีจ้ ะช‹วยสรŒางแรงบันดาลใจใหŒกบั ผูทŒ ชี่ อบสไตล
การลงทุนนี้ ใชŒการลงทุนในตลาดหลักทรัพยฯ เพือ่ สรŒางความมัน่ คงทางการเงิน
ใหŒกับตนเองในระยะยาวไดŒ ขอใหŒท‹านนักลงทุนทุกท‹านโชคดีครับ

You might also like