Professional Documents
Culture Documents
InvestmentGuru PDF
InvestmentGuru PDF
ลิขสิทธิ์ของตลาดหลักทรัพยแหงประเทศไทย
สงวนสิทธิ์ หามลอกเลียนแบบไมวาสวนใดสวนหนึ่งของหนังสือ นอกจากจะไดรับอนุญาต
เกริ่นนํา
เมื่อกลาวถึง “ไอดอล” ของการลงทุนแบบเนนคุณคา หรือ Value
Investing ที่ประสบความสําเร็จและเปนแบบอยางในการลงทุนที่ดี เชื่อวา
นักลงทุนเลื่องชื่อระดับโลกอยาง วอรเรน บัฟเฟตต และ จอหน เนฟฟ หรือ
นักลงทุนที่มีชื่อเสียงของไทยอยาง ดร.นิเวศน เหมวชิรวรากร และ คุณเทพ
รุงธนาภิรมย คงจะเปนไอดอลอันดับหนึ่งในใจใครตอใครหลายคน เพราะ
บุคคลเหลานีล้ ว นมีแนวคิดการลงทุนทีน่ า สนใจ และเปนแบบอยางการลงทุนทีด่ ี
ที่นักลงทุนสามารถนํามาประยุกตใชในการลงทุนของตนเองได
ตลาดหลักทรัพยแหงประเทศไทย จึงไดจัดทําหนังสือ “ตามรอยวิถี
เซียนลงทุน” เลมนี้ขึ้น เพื่อรวบรวมแนวคิดและหลักการลงทุนแบบเนนคุณคา
ของกูรูทั้งระดับโลกและระดับประเทศ ใหสมาชิกในโครงการ “ออมไวในหุน
by TSI” มั่งคั่งดวยหุน ลงทุนอยางคุณภาพ ไดเรียนรูและเกิดแรงบันดาลใจ
ในการลงทุนในหุนและกาวสูเสนทางการเปนนักลงทุนแบบเนนคุณคาที่ประสบ
ความสําเร็จในอนาคต
ฝายพัฒนาความรูผูลงทุน
ศูนยสงเสริมการพัฒนาความรูตลาดทุน
ตลาดหลักทรัพยแหงประเทศไทย
สารบัญ
คํานํา 5
ตามรอยวิถีเซียนลงทุน :
การลงทุนแบบเนนคุณคาของ วอเร็น บัฟเฟตต 8
ประวัติโดยสังเขป 11
ปรัชญาหลักในการลงทุนของ วอเร็น บัฟเฟตต 19
ตามรอยวิถีเซียนลงทุน :
การลงทุนหุนคุณคา แบบเนน P/E ตํ่าของ จอหน เนฟฟ 30
ประวัติโดยสังเขป 33
เริ่มชีวิตการบริหารกองทุน 35
หลักปรัชญาการลงทุน 7 ประการของ จอหน เนฟฟ 37
เทคนิคการคนหาหุนดี ราคาถูก 46
เทคนิคในการบริหารพอรตหุนที่มี P/E ตํ่า 49
ตามรอยวิถีเซียนลงทุน :
การลงทุนแบบดันโด 54
ประวัติโดยสังเขป 56
ลักษณะเดนของวิถีแหงดันโด 57
กลยุทธการลงทุนแบบดันโด 61
ศิลปะการขายหุน : การตีฝาออกจากจักรพยุหะ 67
ตามรอยวิถีเซียนลงทุน :
การลงทุนแบบเซียน VI ของ ดร.นิเวศน เหมวชิรวรากร 70
ประวัติโดยสังเขป 72
เริ่มตนชีวิตการลงทุนดวยการ “ตีแตก” 75
เรียนรูหลักการ “ตีแตก” 76
เรียนรูตัวอยางพอรต “ตีแตก” ของ ดร.นิเวศน 78
ตีแตกสูความสําเร็จ 80
สไตลการลงทุน 82
เทคนิคการคนหาหุน VI ของ ดร.นิเวศน 84
ตะแกรงรอนหุน VI จากปจจัยทางดานคุณภาพ 86
ตะแกรงรอนหุน VI จากปจจัยดานราคา 89
เทคนิคการขายหุน VI (เมื่อถึงเวลา) 94
ประเด็นเพิ่มเติมเกี่ยวกับการลงทุนแบบ VI 95
ตามรอยวิถีเซียนลงทุน :
การลงทุนหุนหานทองคําของ คุณเทพ รุงธนาภิรมย 100
ประวัติโดยสังเขป 102
รูจักธรรมชาติของตลาดหุน 103
รูจักกลยุทธการลงทุนในตลาดหุน 104
ลักษณะสําคัญของหุนหานทองคํา 107
เขาใจตัวเลขทางการเงินเพื่อคนหาหุนหานทองคํา 108
รูจักดัชนีวัดความสามารถในการทํากําไร 111
การเชื่อมโยงของดัชนีวัดความสามารถในการทํากําไร 113
ดูการเติบโตของกําไร 114
ยุทธศาสตรหุนหานทองคํา 114
แนวคิดในการสรางความมั่งคั่งในระยะยาว 118
แผนการลงทุนแบบระยะยาวดวยหุนหานทองคํา 120
กลยุทธการลดตนทุนหุนในพอรตหุนหานทองคํา 121
8
ตามรอยวิถีเซียนลงทุน
9
การลงทุนแบบเนนคุณคาของ วอเร็น บัฟเฟตต
ตามรอยวิถีเซียนลงทุน :
การลงทุนแบบเนนคุณคา
ของ วอเร็น บัฟเฟตต
10
ตามรอยวิถีเซียนลงทุน
ประวัติโดยสังเขป
ความมั่งคั่งไมจําเปนตองมาจากชาติตระกูล
วอเร็น บัฟเฟตต ไมไดเกิดมารํา่ รวย แตสงิ่ ทีเ่ ขามีคอื สติปญ ญา ซึง่ ก็ไมได
มีมาทั้งหมดตั้งแตเกิด แตเขาเพิ่มพูนมันภายหลังดวยความตั้งใจและอดทน
เรียกวา เขามีทั้งพรสวรรคและพรแสวง แตที่สําคัญที่สุดก็คือแรงบันดาลใจ
(Inspiration) และความหลงใหล (Passion) ในเรื่องการลงทุน ทําใหเขาใช
เวลาพัฒนาสติปญ ญาเพือ่ เรือ่ งการลงทุนนีม้ ากทีส่ ดุ วอเร็น บัฟเฟตต ใชแนวคิด
เรียบงายเหมือนกับคนที่ประสบความสําเร็จอื่นๆ คือ เริ่มดวยการศึกษาอยาง
ไมยอ ทอในเรือ่ งใดเรือ่ งหนึง่ เพือ่ ทีจ่ ะเปนคนเกงทีส่ ดุ เขาเรียนรูจ ากผูเ ชีย่ วชาญ
ลงมือปฏิบัติอยางแทจริง หาหลักการแหงความสําเร็จ เมื่อคนพบและทํามันอีก
ซํ้าแลวซํ้าเลา จนกลายเปนวิธีการลงทุนชนิดหนึ่งที่เปนที่ยอมรับ
“วอเร็น เอ็ดเวิรด บัฟเฟตต” (Warren Edward Buffett) เกิดเมื่อวันที่
30 สิงหาคม 1930 ที่เมืองโอมาฮา รัฐเนบราสกา สหรัฐอเมริกา เปนบุตรชาย
ของ โฮเวิรด และ ไลลา บัฟเฟตต ตระกูลของเขาเปนพอคา คุณทวดและคุณปู
ของวอเร็นมีรานขายของชําชื่อ Buffett and Son ในเมืองโอมาฮา ขณะที่เขาเกิด
คุณพอของเขาประกอบอาชีพเปนผูบริหารของบริษัทนายหนาขายหลักทรัพย
(Broker) ซึง่ เปนชวงเวลาพอดีกบั เกิดการตกตํา่ ครัง้ ใหญในตลาดหุน ของสหรัฐฯ
และทั้งโลก
อาชีพที่เกี่ยวของกับการลงทุน :
เมื่อหลงใหล ก็ลงมือทําเลย
วอเร็น บัฟเฟตต เริ่มตนทํางานเปนนายหนาคาหลักทรัพย ที่บริษัท
บัฟเฟตต แอนด ฟอลค ที่คุณพอของเขาเปนหุนสวน และเริ่มสอนหนังสือ
ภาคคํ่าในวิชาหลักการลงทุนของมหาวิทยาลัยโอมาฮา เมื่ออายุเพียง 21 ป ในป
1952 เขาแตงงานกับซูซี่ ทอมปสัน เพื่อนรวมหองในมหาวิทยาลัยของนองสาว
ของเขา วากันวาระหวางไปฮันนีมูน เขายังนําหนังสือการวิเคราะหหลักทรัพย
ของ เบนจามิน เกรแฮม ไปอานดวย
ในป 1954 เบนจามิน เกรแฮมไดโทรศัพทไปหาวอเร็นและชวนเขากลับมา
ทํางานในฐานะหุนสวนของบริษัท เกรแฮม นิวแมน ที่นิวยอรค มีรายได 12,000
ดอลลารตอป ในชวง 2 ปที่เขาไดอยูกับบริษัทนี้ เขาไดฝกฝนตัวเองอยางหนัก
จนพรอมทีจ่ ะออกไปจัดตัง้ ธุรกิจหุน สวนการลงทุนของตนเองในบานเกิด ซึง่ เวลา
นัน้ มาถึงเมือ่ วอเร็นอายุ 26 ป เกรแฮมถอนหุน สวนออก วอเร็นจึงกลับไปทีโ่ อมาฮา
เขาเริ่มลงทุนดวยเงินของตนเอง 100 ดอลลาร และอีก 105,000 ดอลลาร จาก
ครอบครัวและเพื่อนๆ เขาเริ่มลงทุนโดยทํางานอยูกับบาน ไมมีสํานักงาน ไมมี
เลขานุการ ตลอด 13 ป นับจากนัน้ กองทุนบัฟเฟตตทาํ กําไรโดยไมเคยลดลงเลย
โดยอัตราผลตอบแทนเฉลี่ยปละ 29.5%
15
การลงทุนแบบเนนคุณคาของ วอเร็น บัฟเฟตต
กองทุนบัฟเฟตต :
เมื่อโอกาสมาถึง แสดงฝมือออกมาใหเต็มที่
หลังจากจัดตัง้ กองทุนเล็กๆ ดวยเงินเริม่ ตน 105,000 ดอลลารในป 1956
นั้น วอเร็นก็ไดความรูและประสบการณที่ไดสั่งสมมาลงทุนในตลาดหลักทรัพย
หุน ทุกตัวทีเ่ ขาลงทุนผานการอานเอกสารสิง่ พิมพเกีย่ วกับธุรกิจนัน้ อยางละเอียด
เรียกวาเขาทําวิจัยอยางรอบคอบเพื่อคนหาของดีราคาถูก อยางไรก็ตาม วอเร็น
ก็มักจะไมลงทุนในหุนตัวใดตัวหนึ่งเกินกวา 10% ของความมั่งคั่งของเขา เพื่อ
กระจายความเสี่ยง แนวคิดนี้ถูกยึดถือมาตลอด โดยในชวงเริ่มตน เขาไดซื้อ
บานหลังใหมในป 1957 เมื่อภรรยาคลอดบุตรคนที่ 3 เพื่อขยับขยายครอบครัว
บานที่เขาซื้อและอยูจนถึงปจจุบันมีราคาในขณะนั้น 31,500 ดอลลาร หรือ
ประมาณ 10% ของความมัง่ คัง่ ของวอเร็นในตอนนัน้ ซึง่ แนวคิดนีต้ า งจากคนทัว่ ไป
ซึง่ ใชเงินเก็บของตนเองเกือบทัง้ หมดไปดาวนบา นประมาณ 20% ของราคาบาน
และเปนหนีร้ ะยะยาวทีต่ อ งผอนในยอดเงินตนอีก 80% เปนเวลา 30 ป แนวคิดนี้
ของวอเร็นไมเหมือนคนอื่นตรงที่หาเงินมาใหไดครบกอน จึงคอยมีบาน เขาจะ
ไมกูเลยและการซื้อบานก็ใชเงินแค 10% ของที่มีทั้งหมด ทําใหชีวิตมีสวนเหลือ
ของความปลอดภัยอยูอีกมาก ภาษาลงทุนเรียกวา “สวนเผื่อความปลอดภัย”
(Margin of Safety) การทําเชนนี้ไดบงบอกวาวอเร็นมีปรัชญาการประหยัด
เปนหลักดวย
ในป 1962 วอเร็นมีอายุ 32 ป กองทุนของเขาทีเ่ ริม่ ตนดวยเงิน 105,000
ดอลลาร เติบโตเปน 7.2 ลานดอลลาร ในตอนนั้นเขามีสํานักงานแลวหางจาก
ทีพ่ กั ออกไปเพียง 20 ชวงตึกเทานัน้ เขาไดบรรลุเปาหมายการเปนเศรษฐีเงินลาน
เมื่ออายุ 30 ป ตามที่ไดตั้งปณิธานเอาไวตั้งแตอายุ 13 ปแลว ในการบริหาร
กิจการหุนสวนลงทุนนั้น วอเร็น บัฟเฟตต รับประกันผลตอบแทนใหหุนสวน
ปละ 6% โดยที่เขาจะไดรับสวนแบง 25% ของสวนที่เกิน 6% นั้น
16
ตามรอยวิถีเซียนลงทุน
บริษัทเบิรกไชร ฮาธาเวย
ธุรกิจลงทุนแบบมืออาชีพของ วอเร็น บัฟเฟตต
ชวงตนทศวรรษ 1960 วอเร็น บัฟเฟตตไดคน พบบริษทั เบิรก ไชร ฮาธาเวย
ซึ่งเปนบริษัทสิ่งทอที่ตั้งอยูที่เมืองนิวเบดฟอรด รัฐแมสซาชูเซตส ขณะนั้น
เขายังทําธุรกิจหุนสวนลงทุนอยู โดยผานการวิเคราะหอยางละเอียดรอบคอบ
เขาเริ่มซื้อหุนนี้ในราคา 7 ดอลลารตอหุน ในขณะที่มูลคาทางบัญชีเทากับ 17
ดอลลารตอหุน และหนี้สินของบริษัทมีนอยมาก ในป 1963 กองทุนของ วอเร็น
บัฟเฟตต กลายเปนผูถือหุนใหญของบริษัทแหงนี้ วอเร็นคนหาหุนตามสไตล
ของเขาเขาพอรตโฟลิโอหุนสามัญของกองทุนอยางตอเนื่อง หุนของ GEICO
และ DISNEY เปนอีกบางตัวอยางของหุนเนนคุณคาที่เขาไปวิเคราะหและเลือก
เขามาในพอรต
ในป 1969 เปนจุดเปลีย่ นสําคัญเมือ่ วอเร็น บัฟเฟตต ปดกองทุนเดิมจาก
ธุรกิจหุน สวนลงทุน โดยขายหุน ทัง้ หมดทีม่ อี ยูใ นพอรต จํานวน 100 ลานดอลลาร
ยกเวนแตหนุ ของเบิรก ไชรฯ ทีต่ กเปนของวอเร็น อยูท ี่ 25 ลานดอลลาร ทําใหเขา
ถือหุน ในเบิรก ไชรฯ ไดเกือบครึง่ หนึง่ ขณะนัน้ ตัวเขาอายุได 39 ป และเบิรก ไชร
ฮาธาเวยกก็ ลายเปนเครือ่ งจักรลงทุนทีส่ รางผลตอบแทนใหแกวอเร็นและผูถ อื หุน
คนอื่นๆ ไดอยางไมรูจักเหน็ดเหนื่อย
แมวาในขณะนั้น เบิรกไชร ฮาธาเวย จะยังคงดําเนินธุรกิจสิ่งทอตอไป
แตกาํ ไรจากธุรกิจสิง่ ทอในป 1969 มีเพียง 45,000 ดอลลาร ในขณะทีก่ าํ ไรจาก
การลงทุนดวยฝมือของวอเร็นทําไดถึง 4.7 ลานดอลลาร หรือสูงกวา 10 เทาตัว
วอเร็นใชกลยุทธซื้อของดีราคาถูก และขายออกไปเมื่อมีกําไร และนําเงินที่ได
ไปซื้อกิจการอื่นตอไปอีก ซึ่งเปนการสรางวงจรในการสรางความมั่นคงแบบ
ไมรจู บ พนป 1985 วอเร็นปดโรงงานผลิตสิง่ ทอ ซึง่ เปนธุรกิจดัง้ เดิมของ เบิรก ไชร
ฮาธาเวย เนือ่ งจากแรงงานตางชาติมรี าคาถูกกวาและมีคแู ขงจากตางชาติเขามา
มากขึ้น แตหนวยธุรกิจดานการลงทุนยังคงอยูตอไป
17
การลงทุนแบบเนนคุณคาของ วอเร็น บัฟเฟตต
บทเรียนที่ไดจากอัตชีวประวัติ
ของ วอเร็น บัฟเฟตต
1. คุณควรคนหาวาเราถนัดอะไรมากที่สุด ลงมือศึกษาสิ่งนั้นใหดีที่สุด
เพื่อที่จะเปนคนเกงที่สุดในการลงทุนนั้น วอเร็น บัฟเฟตต เกงที่สุดในการสราง
ความมัง่ คัง่ โดยการลงทุนในธุรกิจของผูอ นื่ เราไมไดคดิ วานักลงทุนทุกคนจะเกง
เทาวอเร็น หรืออาจมีวิธีการลงทุนที่ดีหลายวิธี แตการศึกษาและทําความเขาใจ
เกีย่ วกับวิธขี อง วอเร็น บัฟเฟตต นาจะเปนประโยชนอยางยิง่ ตอการลงทุนของเรา
2. ในโลกของลัทธิทุนนิยม ความมั่งคั่งเกิดขึ้นจากการเปนเจาของ
ธุรกิจ แตวอเร็นไปไกลกวานั้น เขานําเงินเขาไปลงทุนกับนักธุรกิจที่เนนคุณคา
แลวไมหยุดแคนนั้ แตนาํ กําไรทีไ่ ดไปซือ้ กิจการอืน่ เพิม่ เพือ่ สรางกําไรทีจ่ ะนําไป
ลงทุนตอไป เปนวงจรเรื่อยไป ซึ่งคุณก็ควรทําเชนนั้น
3. เนื่องจากเวลา งบประมาณ พลังงานทั้งหมด เปนขอจํากัดของทุกคน
ในชีวติ ไมวา จะทําอะไร แมแตการลงทุน การทีจ่ ะเปนนักลงทุนทีป่ ระสบความสําเร็จ
ตองทุม เทพรสวรรค เวลา และพลังงานทัง้ หมดในเรือ่ งนี้ กลาวไดวา วอเร็นไดอทุ ศิ
ตัวเองเพื่อการนี้ ดึงพรสวรรคของตัวเองในการคนหาธุรกิจที่ดี และผูบริหารที่ดี
เพื่อจะลงทุน โดยไมจําเปนตองคิดคนสิทธิบัตรหรือกอตั้งธุรกิจอะไรเลย
4. คัดเลือกตนแบบอยางรอบคอบ วอเร็นไมไดมีแตโชคดีที่มีครอบครัว
ที่เปนพอคาชวยเปนตนแบบ แตเขาลงมือทํามัน เขาหาตนแบบ เชน อาจารย
ที่ดีอยาง เบนจามิน เกรแฮม เขาใฝรู มีแรงบันดาลใจ มีความหลงใหลในเรื่องที่
เกี่ยวกับการลงทุน และมีเปาหมายที่ชัดเจนในชีวิต
5. มีพฤติกรรมการดํารงชีวิตสวนตัวและชีวิตการลงทุนที่ดี เชน
■ เริ่มลงทุน และสรางความมั่งคั่งโดยเร็ว
■ เก็บสะสม ลงทุน และใชชีวิตตํ่ากวาระดับรายได
■ อานและศึกษาธุรกิจในอดีต หลายทศวรรษกอนที่จะลงทุน
■ เขาใจระบบบัญชี และวิธีการดําเนินธุรกิจ
19
การลงทุนแบบเนนคุณคาของ วอเร็น บัฟเฟตต
ปรัชญาหลักในการลงทุน
ของ วอเร็น บัฟเฟตต
หลักปรัชญาในการลงทุน (ซึง่ จะสงผลไปยังวิธใี นการลงทุน) ของ วอเร็น
บัฟเฟตต อาจหาอานไดในหนังสือการลงทุนตามสไตลของ วอเร็น บัฟเฟตต
ซึ่งมีมากมาย แตในฐานะผูตีความคนหนึ่ง ผมขอสรุปไวสั้นๆ 3 ขอหลัก ดังนี้
1 ลงทุนในธุรกิจที่คุณเขาใจ
วอเร็น บัฟเฟตต แนะนําวาการจะลงทุนในหุนของธุรกิจอะไรสักอยาง
เราควรจะรูจ กั สิง่ ทีเ่ รากําลังจะเปนเจาของอยางแทจริง นอกจากเขาใจแลวจะตอง
ทําวิจยั กอนตัดสินใจซือ้ ดวย ในการลงทุนในหุน เราอาจลองใชแนวคิดเหมือนกับ
เรากําลังจะลงทุนในธุรกิจนัน้ ๆ ถาเราจะเปดรานอาหาร เราก็คงตองตอบคําถาม
หลายอยาง เชน
■ เรากําลังจะขายอะไร
■ สินคาและบริการคืออะไร
■ ลูกคาของเราคือใคร
■ เขามีความตองการอยางไร
■ วิธีการผลิตและบริการเปนอยางไร
■ คูแขงเปนอยางไร
■ ความพรอมและความสามารถของผูบ ริหารและพนักงานเปนอยางไร
■ ราคา ตนทุน และกําไรเปนอยางไร
■ ตองลงทุนเทาไร
■ ฯลฯ
20
ตามรอยวิถีเซียนลงทุน
จะเขาใจในธุรกิจไดตองทําอยางไรบาง
วอเร็นใหกําลังใจวา นักลงทุนรายยอยก็สามารถศึกษาวิจัยธุรกิจได
ไมตองกลัววาเปนศาสตรขั้นสูง ตองเปนนักวิเคราะห นักวิชาการเทานั้นที่ทําได
วิธีการศึกษาธุรกิจ ซึ่งตองเปนไปตลอดชวงเวลาการลงทุน (ซื้อ, ถือ และ
ขายออก) พอสรุปไดดังนี้
■ อาน วิเคราะห ขอมูลทีเ่ กีย
่ วของกับการดําเนินธุรกิจ เชน ประวัตกิ จิ การ
สินคาและบริการ ตลาด คูแขง ฐานะการเงิน และผลการดําเนินงาน
เปนตน
■ เขาใจหลักการพื้นฐานของบัญชี การวิเคราะหงบการเงินของบริษัท
เพราะบัญชีเปนภาษาของธุรกิจ ภาพความสําเร็จหรือไมสําเร็จทาง
ธุรกิจจะสะทอนออกมาที่งบการเงิน
■ ไปเยี่ยม สํารวจ และสัมภาษณกิจการ
■ เขารวมประชุมประจําป รูจักผูบริหารของบริษัท
■ ฯลฯ
22
ตามรอยวิถีเซียนลงทุน
2 ลงทุนในตลาดสินคาและบริการ
ไมใชตลาดหุน
วอรเร็น บัฟเฟตต ใชคําเปรียบเทียบใหเห็นภาพวา เวลาเลือกลงทุน
ใหคดิ วากําลังลงทุนในเมนสตรีท (Main Street) ไมใช วอลลสตรีท (Wall Street)
คําวา “เมนสตรีท” (Main Street) คือ ธุรกิจทีม่ กี ารดําเนินงานอยูแ ลวและ
เติบโตอยางตอเนื่อง ทําธุรกิจแบบยั่งยืนไมใชธุรกิจตามกระแส สวนการลงทุน
ใน “วอลลสตรีท” (Wall Street) เปนการเปรียบเปรยวาเปนการดําเนินธุรกิจ
ในโลกที่จับตองไมได เปนแคสัญญาณการซื้อขาย สัญญาณราคาจับตองไมได
วอรเร็นใหความเห็นวาการทีเ่ รารูจ กั สิง่ ทีเ่ ราเปนเจาของ ทําใหเราสามารถ
เนนการลงทุนไปที่ถนนสายหลัก (Main Street) หรือตัวธุรกิจ แมวาเราจะซื้อ
มันจากตลาดหุน (Wall Street) แตเราก็จะไมตกใจงายๆ กับการเคลื่อนไหว
ของราคาหุน เพราะทุกครัง้ เราจะกลับไปดูทตี่ วั ธุรกิจวามันยังดีอยูไ หม แนวคิดนี้
จึงเปนการยํา้ ใหนกั ลงทุนแบบเนนคุณคาเห็นวา “ความมัง่ คัง่ … เกิดจากเมนสตรีท
มากกวาวอลลสตรีท”
23
การลงทุนแบบเนนคุณคาของ วอเร็น บัฟเฟตต
คนหาธุรกิจดีบนเมนสตรีท
เวลาเราคนหาธุรกิจดีที่นาสนใจจะลงทุน วิธีหนึ่งที่ควรทําก็คือเดินไปใน
ยานเศรษฐกิจของเมือง สอดสายสายตาคอยดูวาประชาชนทั่วไปจับจายใชสอย
อะไร รานคาบางราน บริษทั บางแหง ทําไมจึงขายดี ทําเลทีต่ งั้ ดี หรือเพราะสินคา
บริการถูกใจลูกคา หรือเราอาจเดินเขาไปในรานสะดวกซือ้ หรือซุปเปอรมารเก็ต
เขาไปซื้อนํ้าผลไมยี่หอที่เราโปรดปราน แลวอาจจะฉุกใจคิดวา จะมีคนอีกเทาไร
ทีม่ รี สนิยมแบบเรา ขนาดตลาดของนํา้ ผลไมแบบนีม้ อี ยูเ ทาใด และเปนสวนแบง
การตลาดของนํ้าผลไมยี่หอนี้อยูเทาใด นี่คือตัวอยางของการเขาไปหาธุรกิจที่ดี
บนเมนสตรีท ซึ่งแนวคิดการลงทุนแบบนี้ใหคิดเสมือนวาเรากําลังจะทําธุรกิจ
แบบนี้ดวยตัวของเราเอง
สวนประเด็นตอมา ถาบริษัทที่เราสนใจนั้นเปนบริษัทที่จดทะเบียนอยู
ในตลาดหลักทรัพยดวย อยางนี้ถือวาอยูในวอลลสตรีท ซึ่งถือวาเปนโชคดีที่จะ
สามารถขอเขาไปลงทุนรวมไดงาย โดยเขาไปซื้อหุนเก็บไวผาน “วอลลสตรีท”
แตเราจะสบายใจมากกวาเดิม เพราะผานการวิเคราะหบน “เมนสตรีท” มาเลว
การลงทุนในเมนสตรีท เปนการลงทุนระยะยาว
วอรเร็น บัฟเฟตต ใชคาํ พูดทีโ่ ดนใจมาก เมือ่ ถูกถามวา “ทําอยางไรจึงจะ
รวยเร็ว” เขาตอบวา “ตลาดหุน (วอลลสตรีท) เปนสถานที่เพียงแหงเดียวที่
คนขับรถโรลสรอยซไดรบั คําแนะนําจากคนนัง่ รถไฟฟาใตดนิ ” ซึง่ ตีความหมาย
ไดวา คนนัง่ รถไฟฟาใตดนิ ก็คอื ประชาชนทัว่ ไปนัน่ เอง เขาใชชวี ติ อยางไร บริโภค
อะไร วอรเร็นจึงลงทุนในบริษัทที่ผลิตอิฐ สีทาอาคาร ฉนวนกันความรอน พรม
เครื่องดูดฝุน เครื่องประดับอัญมณี เฟอรนิเจอร เครื่องใชในครัวเรือน เปนตน
หลายบริษัทที่วอรเร็นเขาไปลงทุน เขาเริ่มจากการเปนเจาของกิจการบางสวน
โดยซื้อขายผานตลาดหลักทรัพย ไปสูการซื้อเพื่อเปนเจาของทั้งกิจการ โดย
ซื้อเพิ่มเรื่อยๆ ถือหุนไวในระยะยาว ถาบริษัทมั่นคงดีกําไรสูง มูลคาหุนก็สูงขึ้น
ดวย กลยุทธการลงทุนแบบนี้มีผลทําใหในระยะยาวมูลคาพอรตการลงทุนของ
วอรเร็นก็เปลี่ยนไปดวย
24
ตามรอยวิถีเซียนลงทุน
3 ซื้อเพื่อถือระยะยาว ซื้อจํานวนมาก
และของจํานวนนอย
เคล็ดลับของวอรเร็นอยูตรงที่วา ถาหุนบริษัทนั้นถูกพิสูจนตลอดเวลาวา
เปนของดี เราก็ควรจะ
■ ซื้อเพื่อถือระยะยาว
■ ถาเรามีกําลังซื้อสูง เราควรซื้อมากๆ (ซื้อจํานวนมาก)
■ ของดีจริงๆ มีจํานวนนอย ควรซื้อแบบเจาะลึกกับบริษัทเพียง 2-3
บริษัทเทานั้น (ของจํานวนนอย)
26
ตามรอยวิถีเซียนลงทุน
วิธีการดังกลาวนี้ตรงขามกับการซื้อหุนเพื่อขายเมื่อมีกําไร วอรเร็น
เห็นวา “ถาซื้อของดี คุณไมจําเปนตองรีบขาย อยาซื้อเพื่อถือไวเพียง 10 นาที”
ถาเราลงทุนเพื่อถือระยะยาว เราจะคิดถึงหุนนี้ตางจากพวกนักเก็งกําไรและ
นักคาหลักทรัพย เราจะนึกถึงสิ่งที่จะปกปองธุรกิจ ความสุข และความภักดีของ
พนักงาน ผูบริหาร ลูกคา ถาผูคนเหลานี้ยังคงพอใจและทําธุรกิจเติบโตตอไปได
มันจะทําใหมูลคาในระยะยาวของธุรกิจสูงขึ้น และราคาหุนก็จะสูงขึ้นดวย
ขอมูลการซื้อหุนจํานวนมากในบริษัทดีๆ เพียงไมกี่แหงของวอรเร็น
บัฟเฟตต สรุปไดดังนี้
การถือหุนสามัญของเบิรกไชร ฮาธาเวย ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2002
บริษัท ตนทุน มูลคาตลาด % ของ
(ลานดอลลาร) (ลานดอลลาร) พอรตโฟลิโอ
โคคา-โคลา 1,299 8,768 31
อเมริกันเอ็กซเพรส 1,470 5,359 19
ยิลเลตต 600 2,915 10
เวลลฟารโก 306 2,497 9
วอชิงตันโพสต 11 1,275 4
อื่นๆ 5,478 7,549 27
หุนสามัญทั้งหมด 9,164 28,363 100
ขอมูลการถือหุนแบบระยะยาวของ วอรเร็น บัฟเฟตต สรุปดังนี้
น ระยะเวลาการเ นเ าของ
วอ ง นโพส 30
โคคา-โค า 14
ลเลต 14
เวล ฟา โก 13
อเม นเ ก เพรส 12
ระยะเวลาการถือครองเฉลี่ย 17
27
การลงทุนแบบเนนคุณคาของ วอเร็น บัฟเฟตต
โดยทั่วไปนักลงทุนที่เขาไปในตลาดวอลลสตรีทเชื่อวา พอรตโฟลิโอ
ทีล่ งทุนในหุน จํานวนนอยบริษทั หรือแบบเขมขนนัน้ มีความเสีย่ งมากเกินไป ดังนัน้
จึงตองซือ้ และขายหุน จํานวนมาก ซึง่ เปนการ “ซือ้ เพือ่ ถือและขายเปนครัง้ คราว”
หรือ “ซื้อและถือจนกวาแนวโนมของตลาดจะเปลี่ยนแปลง” แตวอรเร็นเห็นวา
“ควรตัดสินใจนอยครั้งกวา แตดีกวา” เราควรซื้อแตสิ่งที่ดีจนไมจําเปนตองขาย
หรือจะขายเฉพาะเมือ่ ปจจัยพืน้ ฐานบางอยางของธุรกิจนัน้ มีการเปลีย่ นเเปลงหรือ
เมื่อมีการลงทุนอื่นที่มีคุณภาพดีกวาเกิดขึ้นเทานั้น วอรเร็นสรุปดวยวา เราแทบ
จะไมเคยพบเลยวามีคนรํ่ารวยมหาศาลจากการนําเงินจํานวนนอยไปลงทุนและ
ซื้อๆ ขายๆ หุนของกิจการหลายแหงทุกวันหรือทุก 6-12 เดือน
ขอมูลที่แสดงวาวอรเร็นซื้อหุนจํานวนมากในบริษัทจํานวนนอย สรุปได
จากรายงานประจําป 2002 ของบริษัท เบิรกไชร ฮาธาเวย ดังนี้
ชื่อหุน สัดสวนการเปนเจาของ
วอชิงตันโพสต 18%
อเมริกันเอ็กซเพรส 11%
ยิลเลตต 9%
โคคา-โคลา 8%
สัดสวนการเปนเจาของโดยเฉลี่ย 11.5%
ความสําคัญของการซื้อเพื่อถือระยะยาวในแบบของ วอรเร็น บัฟเฟตต
ก็คอื การตองตรวจสอบตลอดเวลาวาหุน หรือบริษทั จดทะเบียนเหลานีย้ งั คงดีอยู
สมควรอยูในพอรตโฟลิโอของเราตอไปหรือไม เราจะรูไดอยางไรวาบริษัทนั้น
ยังคงดีอยู วอรเร็นแนะนําใหใชแบบจําลองที่เรียกวา “Circle of Competence”
ซึ่งแสดงไดดวยรูปดังนี้
28
ตามรอยวิถีเซียนลงทุน
Circle of Competence
Outstanding Top-notch
Businesses Managers จากรูป เราอาจเรียก Circle of
Competence นี้วา การกําหนดขอบเขต
ความสามารถของบริษัท (ที่เราสามารถ
เขาใจได) บริษทั ทีด่ คี วรจะมีองคประกอบ
Attractive พรอมเพรียงทั้ง 3 ดาน (สวนสีทึบที่
Prices
วงกลม 3 วงทับซอนกัน)
Outstanding Businesses หมายถึง ความโดดเดนทางธุรกิจ ไดแก
■ ธุรกิจเรียบงาย เขาใจได
■ มีงบดุล (ฐานะการเงิน) ที่เขมแข็ง
■ มีภาวะเศรษฐกิจที่ดี (เชน กระแสเงินสดดีมีแนวโนมเพิ่มขึ้น
ผลตอบแทนตอสวนของผูถือหุนสูง)
■ มีความไดเปรียบในการแขงขัน
สิง่ ทีเ่ ราควรทําก็คอื การคนหาบริษทั ทีด่ มี ากๆ ซึง่ อาจมีอยูไ มมากในพืน้ ที่
สีทึบขางตน ซึ่งในกระบวนการวิเคราะห ตองใชทั้งขอมูลเชิงปริมาณ (วัดได)
และขอมูลเชิงคุณภาพ (วัดไมได) ประกอบกัน
29
การลงทุนแบบเนนคุณคาของ วอเร็น บัฟเฟตต
ตามรอยวิถีเซียนลงทุน :
การลงทุนหุนคุณคาแบบเนน P/E ตํ่า
ของ จอหน เนฟฟ
32
ตามรอยวิถีเซียนลงทุน
ประวัติโดยสังเขป
“จอหน เนฟฟ” (John Neff) เกิดในป 1931 เปนบุตรของจอหน
เอฟ เนฟฟ และบารบารา บราวน บิดามารดาของจอหน เนฟฟ หยารางกันตัง้ แต
เขาอายุได 4 ขวบ โดยมารดาของเขาไดยายมาอยูกับคุณตาคุณยายของเขา
ในเมืองแกรนดแรพพิด รัฐมิชิแกน ที่ซึ่งเขาเติบโตและไดรับการศึกษาจนจบ
เกรด 5 หลังจากนั้นในป 1941 มารดาไดแตงงานใหม และยายไปอยูที่
รัฐเทกซัส จนเขาเรียนจบชั้นมัธยม จึงเดินทางกลับมาที่เมืองแกรนดแรพพิด
อีกครัง้ เพือ่ หางานทําเปนพนักงานขายเครือ่ งดนตรี ตอมาบิดาของเขาชวนใหไป
ทํางานในบริษัทของครอบครัวชื่อ Neff Equipment ซึ่งจําหนายอุปกรณหลอลื่น
ไมนานนักเขาก็ลาออกไปเปนพนักงานขายรถยนต และตอมา จอหน เนฟฟ
ก็ถูกเกณฑไปเปนทหารเรือ
หลังปลดประจําการ จอหน เนฟฟ สมัครเขาเรียนที่ University of Toledo
และทํางานเปนพนักงานขายรองเทาในรานขายเครื่องแตงกายดวย ระหวาง
เรียนในมหาวิทยาลัย จอหน เนฟฟ สนใจในวิชาดานการลงทุนมาก โดยอาจารย
ผูจุดประกายใหเขา คือ ดร.ซิดนีย รอบบินส ที่ยายมาจาก Columbia University
ซึ่งเปนลูกศิษยของเบนจามิน เกรแฮม และเดวิด ดอดจ ปรมาจารยที่สอนดาน
การวิเคราะหหลักทรัพย
จอห น เนฟฟ ได ซึ ม ซั บ ความรู ด า นการวิ เ คราะห ห ลั ก ทรั พ ย จ าก
ดร.รอบบินส แมวาเขาจะเรียนวิชาเอกดานการบริหารอุตสาหกรรมก็ตาม เขาได
เรียนรูเกี่ยวกับพื้นฐานการลงทุน เริ่มรูจักกับยอดขาย กําไรจากการดําเนินงาน
กระแสเงินสด นอกจากนี้ ยังไดเขารวมกับชมรมนักลงทุนมืออาชีพ แมวาเขา
จะลงทะเบียนเรียนวิชาดานการเงินและการลงทุนเพียง 2 วิชา แตผลการเรียน
ก็โดดเดนมากจนไดรับรางวัลนักเรียนดีเดนในวิชาการเงิน และเปนจุดตั้งตน
นําพาเขาไปสูเสนทางของวิชาชีพดานการลงทุนตอไป
34
ตามรอยวิถีเซียนลงทุน
เริ่มชีวิตการบริหารกองทุน
ตอนที่เขาเริ่มงานกับกองทุน Wellington Equity Fund (ตอมาภายหลัง
เปลี่ยนชื่อเปน “กองทุน Windsor”) ผลประกอบการไมดีนัก กองทุน Windsor
ในตอนนัน้ จัดตัง้ มาแลว 6 ป ผลงานในป 1962 ลดลงจากเดิมถึง 25% นักลงทุน
เริ่มขายกองทุนออกถึง 75 ลานดอลลาร จากมูลคากองทุน 2,000 ลานดอลลาร
สงผลทางลบตอชื่อเสียงของ Wellington Management ซึ่งเปนบริษัทบริหาร
การลงทุนชั้นนําและจดทะเบียนกับตลาดหลักทรัพย จอหน เนฟฟ ไดวิเคราะห
วา ความเสียหายของกองทุน Windsor ในขณะนั้น มาจากการลงทุนในบริษัท
ขนาดเล็กที่คิดวาจะเติบโตดีเปนจํานวนมาก โดยไมไดวิเคราะหใหดีเกี่ยวกับ
ระยะเวลาหรือความยั่งยืนในการเติบโต ผลดังกลาวนี้กระทบตอเนื่องมายัง
ป 1963 โดยดัชนี S&P 500 เพิม่ ขึน้ 22.8% ในขณะทีผ่ ลตอบแทนของ Windsor
ลดลงกวา 10% บรรดาตัวแทนจําหนายก็พากันเรียกรองใหหาวิธีการบริหาร
กองทุนใหดีขึ้น ตามมาดวยผูถือหุนของ Wellington Management ฟองรอง
ทีมบริหารและการเปลี่ยนชื่อเปน “กองทุน Windsor” ก็เกิดขึ้นในป 1963 นี้
จอหน เนฟฟ เริม่ ตนการทํางานกับกองทุน Windsor ในฐานะนักวิเคราะห
หลักทรัพย เขาพบวาพอรตการลงทุนของ Windsor เต็มไปดวยหุนหวือหวา
ที่นิยมซื้อขายกันในระยะสั้นๆ ซึ่งหุนจํานวนมากกลายเปนขยะในตลาด เชน
ถาอุตสาหกรรมไบโอเทคโนโลยีอยูใ นกระแส ก็นยิ มซือ้ หุน กลุม นี้ เมือ่ ราคานํา้ มัน
สดใส ก็หันมาซื้อหุนนํ้ามัน จอหน เนฟฟ จึงไดนําเสนอวิธี “วิเคราะหภาพรวม”
ทําใหเห็นวา
■ กองทุน Windsor ในขณะนั้น ลงทุนในหุนอุตสาหกรรม 41 บริษัท
แตมีเพียง 8 บริษัทเทานั้นที่ประสบความสําเร็จ
■ คาดการณกําไรสูงเกินไป จากการประมาณการเติบโตที่มากเกินไป
■ ไมมว ี ธิ ปี อ งกันหรือลดการขาดทุนจากการขายหลักทรัพยไดในราคา
ไมดี
36
ตามรอยวิถีเซียนลงทุน
เขาไดแนะนําใหกรรมการกองทุนมีความเขมงวดในการคัดเลือกหุน และ
เลือกอุตสาหกรรมทีส่ ามารถคาดการณผลประกอบการได วิธกี ารดังกลาวทําให
การวิเคราะหมีความลึกซึ้งขึ้น มีคุณภาพมากขึ้น มองหาหุนของบริษัทที่มีความ
ยั่งยืนตามความสามารถในการทํากําไร แมยามที่เกิดภาวะผันผวนในระยะสั้น
ผลประกอบการของกองทุน Windsor ก็ไมไดเปลี่ยนแปลงอยางมีนัยสําคัญ
แตมองเห็นแนวทางและสถานการณของกองทุนชัดเจนขึ้น ภายใน 11 เดือน
ตอมา จอหน เนฟฟ ไดรบั การแตงตัง้ ใหเปนผูจ ดั การกองทุนคนแรกของ Windsor
ที่ทํางานคนเดียว โดยเขาขอใหมีนักวิเคราะหหลักทรัพย 1 คนที่คอยสนับสนุน
จอหน เนฟฟ เริ่มบริหารกองทุน โดยแบงการลงทุนตามหลัก “ทําใหงาย
เขาไว” เปนหุน 2 กลุม คือ
■ หุนเติบโต (Growth Stocks) เปนหุนของบริษัทที่มั่นคง และมีอัตรา
การเจริญเติบโตในระดับสูง ธุรกิจเหลานี้มักใหผลตอบแทนสูงกวา
คาเฉลีย่ ผลประกอบการและเงินปนผลมีแนวโนมจะเติบโตไดยาวนาน
■ หุน อุตสาหกรรมพืน้ ฐาน (Basic Industry Stocks) เปนหุน ของบริษทั
ที่มีสวนสําคัญในการเติบโตระยะยาวของเศรษฐกิจประเทศ ถาเลือก
ลงทุนในเวลาที่เหมาะสม อาจไดรับผลตอบแทนที่ดี
ในการแบงเงินลงทุนในหุนแตละกลุม เขานําเสนอวิธีการที่เรียกวา
“Measured Participation” โดยวิเคราะหผลตอบแทน ความเสีย่ ง กระจายนํา้ หนัก
และใช ก ลยุ ท ธ ที่ เ น น การลงทุ น ในหุ น ที่ มี อ นาคตมากกว า หุ น ที่ มี ป ระวั ติ ดี
ดวยเทคนิคดังกลาว ผลตอบแทนปแรกที่เขาบริหาร ทําไดถึง 29% สูงกวาดัชนี
S&P 500 ถึง 17%
จนถึงป 1967 อัตราผลตอบแทนของกองทุน Windsor เทากับ 31.5%
เทียบกับดัชนี S&P 500 ซึง่ ทําได 23.9% ในขณะนัน้ สินทรัพยภายใตการบริหาร
ของเขาสูงกวา 100 ลานดอลลาร โดยลงทุนในหุนเพียง 77 ตัว จอหน เนฟฟ
เริ่มมีบทบาทมากขึ้นเรื่อยๆ และแนวคิดของเขาในการบริหารกองทุน Windsor
ก็เริ่มเปนที่ยอมรับ เขาอยูในแวดวงการบริหารพอรตการลงทุนจนเกษียณอายุ
ในป 1995
37
การลงทุนหุนคุณคาแบบเนน P/E ต่ํา ของ จอหน เนฟฟ
หลักปรัชญาการลงทุน 7 ประการ
ของ จอหน เนฟฟ
กองทุน Windsor ยึดมั่นหลักปรัชญาการลงทุน 7 ประการของ จอหน
เนฟฟ เปนรูปแบบในการลงทุน ไมวา ตลาดจะขึน้ จะลง หรือทรงตัว โดยหลักการ
ลงทุนดังกลาวจะคนหาและเลือกลงทุนในหุนที่มีลักษณะดังนี้
คุณลักษณะที่ เปนหุนที่มีอัตราสวน
1 ราคาตอกําไรตํ่า (P/E ตํ่า)
จอหน เนฟฟ บอกวาเขาชอบสมญานามที่คนอื่นตั้งใหเขา คือ เปน
“Low Price-Earning Investor” (นักลงทุนที่ชอบซื้อหุนที่มี P/E ตํ่าๆ) ซึ่ง P/E
เปนอัตราสวนที่มาจากราคาตลาดของหุนหารดวยกําไรตอหุน
คุณลักษณะที่ เปนหุนที่มีอัตราการเติบโต
2 ของกําไรอยางสมํ่าเสมอ
แมวา จอหน เนฟฟ จะตั้งตนคัดเลือกหุนที่มี P/E ตํ่า แตก็ตองคอยดู
ปจจัยพืน้ ฐานวาแข็งแกรงหรือไม ตัวแปรหนึง่ ก็คอื “ผลการดําเนินงานของธุรกิจ”
ผานตัว “กําไร” วาเติบโตดีหรือไม เพราะกําไรที่เพิ่มขึ้น จะทําใหตลาดสนใจ
และทําให P/E สูงขึ้น จอหน เนฟฟ แนะนําใหดูขอมูลกําไร ทั้งในอดีต ปจจุบัน
และอนาคต ซึ่งผมขอสรุปเปนภาพดังนี้
ۺ۸ʝھ$
L .,=5ࣱ=
ࡾۺ8$6ः ۺĽ=6=ٳ
Historical Earnings Forecasted Earnings
Trailing
Earnings
คุณลักษณะที่ เปนหุนที่มีอัตราผลตอบแทน
3 จากเงินปนผลคงที่
อัตราผลตอบแทนจากการปนผล = เงินปนผลจาย
(Dividend Yield) ราคาตลาดของหุนปจจุบัน
เปนการประมาณโดยคราวๆ วา ถาลงทุนซื้อหุนในขณะนั้นแลวถือไว
เมื่อไดรับเงินปนผลมา จะคิดเปนอัตราผลตอบแทนเทาไร ถาเราซื้อและถือหุน
ไวเปนระยะเวลานานๆ Dividend Yield จะมีความสําคัญมาก เพราะจะทําใหเรา
เห็นกระแสเงินสดรับจากการถือหุน (เงินปนผล) ซึ่งเปนสวนแบงที่เราจะไดรับ
อยางสมํ่าเสมอจากผลการดําเนินงานของบริษัท การมีบริษัทที่ดีอยูในพอรต
โฟลิโอและไดรบั เงินปนผลดีอยางตอเนือ่ ง จะทําใหอตั ราผลตอบแทนของพอรต
อยูในระดับที่ดสี มํ่าเสมอ ไมตองตื่นเตนตกใจกับการขึ้นลงของราคาหุน เพราะ
ตราบใดที่ยังไมขายออก กําไร/ขาดทุนจากสวนตางของราคาก็ยังไมเกิดขึ้น
เนื่องจากกลยุทธการลงทุนของจอหน เนฟฟ เนนที่หุน P/E ตํ่า ซึ่งราคา
ตลาดมักจะมีราคาถูก จึงทําใหโดยเปรียบเทียบแลว เมือ่ ไดรบั เงินปนผลตอบแทน
กลับมา Dividend Yield จะมีอตั ราสูง (เพราะราคาเปนตัวหาร) สําหรับคนทีล่ งทุน
แลว รอที่จะขายโดยมีความหวังวาจะไดกําไรจากสวนตางราคาซื้อกับราคาขาย
นั้น Dividend Yield จะมีความสําคัญมาก โดยเปรียบเปรยไววา “Yield ที่ดีกวา
อยางนอยก็ทําใหคุณมีออรเดิรฟ (เงินปนผล) ไวรับประทานเลนระหวางรอ
อาหารจานหลัก (กําไรจากการขาย)”
อยางไรก็ตาม ในภาวะตลาดขาขึ้น และราคาตลาดของหุนสูงขึ้นเรื่อยๆ
เปนการยากที่ Dividend Yield จะสูงขึ้นเรื่อยๆ เพราะตองทําให Dividend หรือ
เงินปนผลมีอัตราที่โตกวาการเพิ่มขึ้นของราคา คนที่เขาซื้อหุนนี้ทีหลังก็มักจะมี
ตนทุนสูงกวา คนทีซ่ อื้ คนแรก ผมจึงคิดวา จอหน เนฟฟ พยายามบอกเราเมือ่ มา
ถึงตรงนีว้ า ใหเราหาของถูก (หุน P/E ตํา่ ) พืน้ ฐานดี (กําไรดี อัตราผลตอบแทน
จากเงินปนผลดี) Dividend Yield ที่ขยับสูงตอไปไมไดหรือเริ่มลดลง อาจเปน
สัญญานเตือนใหปรับพอรต และเริ่มขายออกก็ได
43
การลงทุนหุนคุณคาแบบเนน P/E ต่ํา ของ จอหน เนฟฟ
คุณลักษณะที่ เปนหุนที่มีความสัมพันธที่ดี
4 ของอัตราผลตอบแทนโดยรวม
กับคา P/E ที่ซื้อ
อัตราผลตอบแทนโดยรวม (Total Return) ในที่นี้ คํานวณไดจาก
อัตราการเติบโตของกําไรสุทธิ +
Total Return = อัตราผลตอบแทนจากเงินปนผล
อัตราสวนราคาตอกําไร
คุณลักษณะที่ เปนหุนที่มีความผันผวน
5 ตามวัฏจักรเศรษฐกิจ
ซึ่งจะถูกชดเชยดวย P/E
หุน P/E ตํ่าที่กองทุน Windsor เลือกมามีหลายประเภท แมหุนที่เรียกวา
“หุนวัฏจักร” (Cyclical Stocks) จอหน เนฟฟ ก็ลงทุนดวย โดยในบางขณะ
กองทุน Windsor มีหุนวัฏจักรถึง 1 ใน 3 หรือมากกวานั้นในพอรตการลงทุน
ซึ่งหุนวัฏจักรที่ จอหน เนฟฟ ลงทุน ไดแก หุนของบริษัทผลิตรถยนต เคมีภัณฑ
และอลูมเิ นียม หุน เหลานีม้ กั มีราคาผันผวนขึน้ ลงตามวัฏจักรเศรษฐกิจและธุรกิจ
ในชวงทีว่ ฏั จักรรุง เรือง ราคาจะสูงขึน้ มากอยางรวดเร็ว แตชว งหลังจากจบวงจร
ราคาหุนก็ลดลงอยางมาก ดังนั้น จังหวะในการเขาซื้อควรจะเปนชวงหลังจาก
จบวงจร ซึ่งราคาหุนลดลงอยางมาก (P/E จึงตํ่า ทําใหชดเชยความเสี่ยง
ดานราคาไปไดมาก) และเมื่อถึงชวงรุงเรือง กําไรของธุรกิจเพิ่มขึ้นกวาเดิม
ราคาหุนพุงสูงขึ้น มีความตองการซื้อหุนกลุมนี้มากขึ้น กองทุน Windsor
จะถือวาเปนจังหวะที่จะขายหุนกลุมนี้
จอหน เนฟฟ ยํ้าวา ชวงจังหวะเวลาเปนเรื่องสําคัญ นักลงทุนทุกคน
ลวนอยากซื้อเมื่อถึงจุดตํ่าสุด และขายเมื่อวัฏจักรถึงจุดสูงสุด ซึ่งยากที่จะ
คาดการณไดอยางแมนยํา ดังนัน้ การซือ้ หุน ที่ P/E ตํา่ ไวกอ น จะทําใหปลอดภัย
เพราะมีตนทุนตํ่ากวา นอกจากนี้ ถาเรามีการติดตามสภาวะและแนวโนมของ
กําไรจากการดําเนินงานอยางสมํา่ เสมอระหวางการลงทุน เราจะสามารถชวงชิง
จังหวะการขายออก เพื่อทํากําไรไดดีกวานักลงทุนทั่วไป และโปรดจําไววา
อยาลงทุนเมื่อบริษัทมีกําไรสูงสุด (เพราะราคาจะขึ้นไปสูง ทําให P/E มีคาสูง
เกินไป)
45
การลงทุนหุนคุณคาแบบเนน P/E ต่ํา ของ จอหน เนฟฟ
คุณลักษณะที่ เปนหุนของบริษัทที่มั่นคง
6 แข็งแกรงในอุตสาหกรรม
ที่กําลังเติบโต
หุนที่กองทุน Windsor สนใจ
■ เปนบริษัทที่มีตําแหนงการตลาดที่เขมแข็ง มีศักยภาพในการเติบโต
ซึ่งมีคา P/E ตํ่า
■ อาจเปนหุนเติบโต (Growth Stock) ที่มีปจจัยพื้นฐานดี แตไมมีคน
สนใจ (ราคาจึงถูกอยู)
■ หรืออาจเปนหุน บริษทั ขนาดใหญชนั้ แนวหนา แตเผชิญขาวราย ทัง้ ที่
มีปจจัยพื้นฐานดี (ราคาจึงยังถูก)
■ วงจรธุรกิจของบริษัทเหลานี้ กําลังจะกลับมารุงเรือง ซึ่งอาจเกิดจาก
ทัง้ ปจจัยภายนอก และ/หรือ การดําเนินกลยุทธภายในของบริษทั เอง
■ เจาะดูฐานะการเงิน และการทํากําไรตองดี
คุณลักษณะที่
7 เปนหุนที่มีปจจัยพื้นฐานดี
ในขอนี้ผมคิดวา จอหน เนฟฟ คงจะอธิบายประเด็นดานปจจัยพื้นฐาน
เพิม่ เติมนอกเหนือจากทีอ่ ธิบายในคุณลักษณะที่ 6 โดยสิง่ ทีค่ วรพิจารณาหุน ของ
บริษัทเปาหมายเพิ่มเติม ไดแก
■ ตรวจสอบความสัมพันธระหวางยอดขายที่เปน “จํานวนเงิน” และ
“จํานวนหนวย” ถายอดขายทีเ่ พิม่ ขึน้ มาจากทัง้ ราคาและปริมาณ จะ
สะทอนใหเห็นถึงความสําเร็จของธุรกิจ
■ ตรวจสอบการสงมอบสินคาใหแกลูกคา ทําไดตามกําหนดหรือไม
ถาไมทัน อาจจะกระทบตอยอดขาย กําไร และราคาหุนใหลดลงได
46
ตามรอยวิถีเซียนลงทุน
กําไรสุทธิ
ROE =
สวนของผูถือหุน
เทคนิคการคนหาหุนดี ราคาถูก
ติดตามหุนที่ราคาลดลงทุกวัน
จอหน เนฟฟแนะนําวาใหคอยจับตาดูราคาหุนในชวงที่ตลาดขาลง
ลองดูวา มีหนุ ตัวไหนทีท่ าํ สถิตริ าคาตํา่ กวาทีเ่ คย (New Low) ลงมา 2-3 วัน และ
มีราคาใกลเคียงกับราคาตํา่ สุดในรอบ 52 สัปดาห โดยเราอาจจะตัง้ เกณฑเอาไว
47
การลงทุนหุนคุณคาแบบเนน P/E ต่ํา ของ จอหน เนฟฟ
คนหาบริษัทที่มีคุณภาพ
ในยามภาวะเศรษฐกิจหรือธุรกิจคับขัน
บริษทั จดทะเบียนตางๆ ตองตอสูใ นโลกธุรกิจกันอยางไมหยุดหยอน ไมวา
ในภาวะเศรษฐกิจรุงเรืองหรือตกตํ่า ความสําเร็จของธุรกิจอาจมาจากการใช
จุดแข็ง แกไขจุดออนภายในกิจการ การใชโอกาสและลดอุปสรรคจากปจจัย
ภายนอก ในชวงเศรษฐกิจรุงเรือง บริษัทจดทะเบียนจํานวนมากไดอานิสงสจาก
ผลบวกของปจจัยภายนอก การทําธุรกิจจึงไมคอยลําบากมากนัก แตในชวงที่
เศรษฐกิจตกตํ่า หลายๆ บริษัท (ที่ยามปกติมีปจจัยพื้นฐานดี) ก็ตองพยายาม
ขวนขวายเอาตัวรอด ตองแกปญหาเฉพาะหนาตางๆ มากมาย ซึ่งตองใชเวลา
พิสูจนวาจะผานวิกฤติไปไดหรือไม แตนักลงทุนอาจไมมั่นใจกับภาวะการณ
หรือไมทันสังเกตจุดที่นาสนใจของบริษัทนั้นๆ จึงแหขายหุนออก จนทําใหราคา
หุนตกไปอยางมาก
จอหน เนฟฟ เลาประสบการณจากกรณีบริษัท Owens Corning ซึ่งเปน
ผูผ ลิตไฟเบอรกลาสรายใหญในชวงทศวรรษ 1980 โดยในป 1986 บริษทั แหงนี้
ปองกันตนเองจากการถูกซื้อกิจการ โดยกูเงินจํานวนมากเพื่อซื้อหุนคืนจาก
ผูถ อื หุน และออก Stub Shares เพือ่ แทนสัดสวนของผูถ อื หุน เดิม การปรับโครงสราง
ใหมนี้ทําใหสวนของผูถือหุนในงบดุลติดลบ มูลคาตามบัญชีตํ่ากวาศูนย ทําให
นักลงทุนสวนใหญไมมั่นใจ เทขายออกมา จนทําให P/E ตํ่า เหลือประมาณ
5.5 เทา แตกองทุน Windsor คาดวาอุตสาหกรรมไฟเบอรกลาสยงั ไปไดดี รายได
และกําไรในอนาคต นาจะชวยลดภาระหนี้ได แมจะยังไมสามารถจายปนผลได
ในปจจุบัน แตถาระดับสวนของผูถือหุนที่จะเพิ่มขึ้นในภายหลัง จะทําใหกลับมา
จายเงินปนผลไดผลที่เกิดจริงหลังจากนั้น คือ บริษัทเริ่มมีกําไรในป 1991 และ
กองทุน Windsor ขายหุน Owens Corning ไปในราคา 2 เทาของราคาทุนในป
1993
48
ตามรอยวิถีเซียนลงทุน
คนหาบริษัทดีที่ถูกจําแนกผิดประเภท
บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย จะถูกจําแนกเขาอยูในหมวด
อุตสาหกรรม (Industry) ใดอุตสาหกรรมหนึง่ เพือ่ ใหงา ยตอการเลือกลงทุน การ
กําหนดประเภทของอุตสาหกรรมทีบ่ ริษทั จะเขาไปอยู อาจพิจารณาจากลักษณะ
ของผลิตภัณฑ ธุรกิจ และขอจํากัดที่อาจไมสามารถเปดกลุมอุตสาหกรรมใหม
ที่เหมาะสมกวาได เราอาจใชจุดนี้ในการคนหาหุนดีที่ถูกจําแนกผิดประเภทได
จอหน เนฟฟ มีประสบการณจากการลงทุนในหุน Bayer AG ในชวงปลาย
ป 1990 ซึ่งขณะนั้น หุน Bayer ถูกจัดใหอยูในอุตสาหกรรมเคมีภัณฑ ทั้งๆ ที่
รายได 1 ใน 3 มาจากผลิตภัณฑยาและผลิตภัณฑดูแลสุขภาพ ในขณะที่ 8%
มาจากเคมีเกษตร และ 13% มาจากเคมีภัณฑเกี่ยวกับการถายภาพ ซึ่งสรุป
โดยรวมวา รายไดประมาณครึ่งหนึ่งของ Bayer ไมไดขึ้นอยูกับภาวะเศรษฐกิจ
โดยตรง ตอมาภาวะเศรษฐกิจที่ตกตํ่า สงผลใหหมวดอุตสาหกรรมเคมีภัณฑ
มีราคาหุนตกตํ่าดวย ราคาหุน Bayer ลดลงถึง 35% ตอนที่กองทุน Windsor
เขาไปซื้อหุน Bayer P/E ของ Bayer มีคาประมาณ 6 เทา จากการที่โครงสราง
รายไดของ Bayer ไมผนั ผวนมากตามวงจรเศรษฐกิจ เมือ่ เศรษฐกิจกลับมารุง เรือง
ผลประกอบการที่กลับมาดี สงผลใหราคาหุนกลับมาเพิ่มในป 1993 กองทุน
Windsor ไดกําไรจากการขายหุน Bayer สูงกวาตลาด
มองหาบริษัทที่จะลงทุนจากเพื่อนบาน
โอกาสหาหุนดีๆ มีอยูสมํ่าเสมอ จอหน เนฟฟ แนะนําวิธีหาบริษัท
จดทะเบียนดีๆ ทีม่ ผี ลิตภัณฑวางขายอยูใ นศูนยการคา หรือจะพูดคุยกับพอคาปลีก
แถวบาน หรือฟงความเห็นของวัยรุน จึงจะรูวาตลาดนิยมบริโภคอะไร ของใคร
ตัวอยางการลงทุนกรณีของ Windsor คือ เฝาติดตามหุนของ Pier One Imports
ซึ่งเปนผูคาปลีกอุปกรณตกแตงบานและสินคาเกี่ยวกับบานชั้นนําของสหรัฐฯ
เชน เฟอรนิเจอร ตะกรา หมอน วัสดุปูพื้น เปนตน แต P/E ของหุนนี้ ในขณะนั้น
สูงเกินไป แมวาจะมั่นใจในธุรกิจก็ตาม กองทุน Windsor รอคอยจนกระทั่งเกิด
49
การลงทุนหุนคุณคาแบบเนน P/E ต่ํา ของ จอหน เนฟฟ
พัฒนาความคิดเห็นใหเปนลําดับขั้น
จอหน เนฟฟ เห็นวาการลงทุนไมใชธุรกิจซับซอน แตคนทําใหซับซอน
เอง เราควรเรียนรูโ ดยการพัฒนาความคิดเห็นใหเปนลําดับขัน้ ตอน (Curbstone
Opinions) โดยตัง้ ขอสังเกตทีเ่ ปนประโยชนจากขอมูลทัว่ ไปของบริษทั อุตสาห-
กรรม และภาวะเศรษฐกิจทีม่ ผี ลตอบริษทั ทีเ่ ราสนใจอยู ซึง่ อาจจะตัง้ คําถามและ
หาคําตอบใหกับคําถามเหลานี้ เชน
■ อะไรที่ทําใหบริษัทมีชื่อเสียง (และจะทําชื่อเสียงไดตอไป)?
■ ธุรกิจมีแนวโนมเติบโตหรือไม?
■ บริษัทเปนผูนําในอุตสาหกรรมหรือไม?
■ แนวโนมของการเติบโตของอุตสาหกรรมเปนอยางไร?
■ ผูบริหารมีภาวะผูนําในเชิงกลยุทธหรือไม?
เทคนิคในการบริหาร
พอรตหุนที่มี P/E ตํ่า
แมเราจะไดเรียนรูคุณลักษณะของหุน P/E ตํ่าในแบบของ จอหน เนฟฟ
ซึ่งมีประโยชนในการคัดเลือกหุนเขาพอรตโฟลิโอมาแลว แตการบริหารพอรต
โฟลิโอไมไดมเี ฉพาะการคัดเลือกหุน เทานัน้ แตยงั รวมถึงการติดตาม ปรับพอรต
เอาหุนเดิมที่ไมเปนไปตามคุณสมบัติออกไป เอาหุนใหมที่เหมาะสมกวาเขามา
โดย จอหน เนฟฟ ไดแนะนําเทคนิคในการบริหารพอรตเพิ่มเติมไวดังนี้
50
ตามรอยวิถีเซียนลงทุน
เทคนิคการจัดกลุมหุน
แบบ Measured Participation
จอหน เนฟฟ ไดเสนอมิติการแบงกลุมหุนโดยไมสนใจประเภทอุตสาห-
กรรม แตแบงตามการเติบโตของกําไร โดยแบงหุนออกเปน 4 กลุม ดังนี้
■ กลุมที่มีอัตราการเติบโตและเปนที่นิยม
(Highly Recognized Growth : HRG)
■ กลุมที่มีอัตราการเติบโต แตไมคอยไดรับความนิยม
(Less Recognized Growth : LRG)
■ กลุมที่มีอัตราการเติบโตปานกลาง (Moderate Growth : MG)
■ กลุมที่มีการเติบโตตามภาวะเศรษฐกิจ หรือ หุนวัฏจักร
(Cyclical Growth : CG)
จอหน เนฟฟ แนะนําวา “หุนกลุม HRG” มักมาจากบริษัทที่มีชื่อเสียง
ผูบ ริโภครูจ กั และจําชือ่ สินคาของบริษทั เหลานีไ้ ดดี บริษทั มีอตั ราการเติบโตของ
ผลประกอบการและกําไรสูง มีความมัน่ คง มักเปนผูน าํ ตลาด นักลงทุนสวนใหญ
ตางตองการเปนเจาของหุน HRG เกือบทั้งนั้น ความนิยมทําใหราคาหุนกลุมนี้
มักอยูในกลุมดัชนีหุนชั้นนําของตลาด และราคาก็มักสูง (ทําให P/E สูงดวย)
นักวิเคราะหหลักทรัพยใหฉายาหุน HRG วา “One-decision Stock” คือ ใหซื้อ
และถือตลอดไป โดยมีสมมติฐานวา บริษัท HRG เหลานี้มีการเติบโตของกําไร
อยางไมจาํ กัด ในขณะทีจ่ าํ นวนหุน มีจาํ กัด นักลงทุนสวนใหญจงึ เชือ่ วา ราคาคงจะ
เพิ่มไปอยางตอเนื่อง ซึ่งจะเกิดอยางนี้ไดตองมีนักลงทุนหนาใหมที่เชื่อคนงาย
เขามาในตลาดเพิ่มขึ้นโดยไมมีขีดจํากัดเชนกัน จอหน เนฟฟ ยกตัวอยางหุนใน
ดัชนี Nifty Fifty ซึ่งมี P/E สูงขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่หุน P/E ตํ่า ไมมีใครสนใจเลย
จนกวาจะเกิดความตกตํ่าในตลาดหุน ผูคนที่บาดเจ็บจากหุน HRG จึงจะหันมา
สนใจหุน P/E ตํา่ ทีม่ กี ารเติบโตของกําไรดี แตไมมใี ครสนใจ (LRG) อยางไรก็ดี
กองทุน Windsor ก็ลงทุนในกลุม HRG บาง โดยมีสัดสวนประมาณ 8-9%
ของมูลคาการลงทุน
51
การลงทุนหุนคุณคาแบบเนน P/E ต่ํา ของ จอหน เนฟฟ
เทคนิคการกําหนดจํานวนหุนในพอรต
ในขณะที่กองทุน Windsor บริหารเงินทุน 11 พันลานเหรียญ กองทุนนี้
ลงทุนในหุนเพียง 60 บริษัท และ 40% ของเงินกองทุน ลงทุนในหุนเพียง 10
บริษทั เทานัน้ และเมือ่ เจาะลึกลงไป 25% ของมูลคาเงินลงทุน ลงในบริษทั นํา้ มัน
เพียง 3 แหงเทานัน้ ดังนัน้ จึงไมจาํ เปนทีจ่ ะตองใหพอรตมีจาํ นวนหุน มากเกินไป
52
ตามรอยวิถีเซียนลงทุน
เทคนิคการวิเคราะหหุน
นักลงทุนมักจะสับสนวา ควรเลือกใชวิธี Top-down คือ วิเคราะหปจจัย
พื้นฐานจากเศรษฐกิจ อุตสาหกรรม ลงไปหาตัวบริษัท หรือจะใชวิธี Bottom-up
คือ วิเคราะหที่บริษัทกอน แลวคอยดูวาบริษัทที่ดีเหลานี้มีปจจัยแวดลอมดาน
อุตสาหกรรม เศรษฐกิจ สนับสนุนหรือไม จอหน เนฟฟ ใหความเห็นวาจะใชวิธี
อะไรก็ได จะดูอะไรกอนหลังกอนก็ได แตตองดูควบคูกันไป
เทคนิคการสรางฐานขอมูล
เพื่อติดตามและตัดสินใจ
ในการสรางและบริหารพอรต P/E ตํ่า จอหน เนฟฟ สราง Fact Sheet
เพื่อชวยวิเคราะหและติดตามหุนอยางเปนระบบ ขอมูลที่เขาสนใจ ไดแก
จํานวนหุนที่ลงทุน ตนทุนเฉลี่ย ราคาปจจุบัน กําไรตอหุน และประมาณการ
อัตราการเติบโตทั้งในอดีตและที่คาดการณ P/E ในอดีตและที่คาดการณ
ผลตอบแทนจากเงินปนผล (Yield) ผลตอบแทนตอสวนของผูถือหุน (ROE)
ราคาเปาหมายบนพืน้ ฐานของกําไรทีค่ าดการณ P/E เปาหมาย ตลอดจนโอกาส
และศักยภาพทีร่ าคาจะปรับตัวสูงขึน้ ซึง่ ขอมูลหลายตัวขางตน เปนขอมูลทีห่ าได
งาย เพราะมีการเปดเผยตอสาธารณะอยูแลว
เทคนิคการขายหุนจากพอรต
จอหน เนฟฟ กําหนดลักษณะของการขายหุนออกจากพอรต ดังนี้
■ ปจจัยพื้นฐานแยลง
■ ราคาเทากับราคาเปาหมายที่กําหนด
53
การลงทุนหุนคุณคาแบบเนน P/E ต่ํา ของ จอหน เนฟฟ
การลดลงหรือแยลงของปจจัยพื้นฐานจะพิจารณาจากเกณฑ 2 ประการ
คือ “กําไรที่คาดการณ” และ “อัตราการเติบโต 5 ป” หากเราไมมั่นใจในปจจัย
พื้นฐานเหลานี้ ใหขายหุนออกทันที อยางไรก็ดี ถึงแมวาปจจัยพื้นฐานยังดี
แตถาราคาหุนสูงขึ้นไปเทากับราคาเปาหมายที่ตั้งไว ก็สามารถขายหุนจาก
พอรต เพื่อนํารายไดและกําไรมาลงทุนกับหุนตัวใหมตามเกณฑที่กําหนดตอไป
(Reinvestment) โดยเฉลี่ยแลวถาปจจัยพื้นฐานของหุนยังดี กองทุน Windsor
สามารถถือหุน ไปนานถึง 3 - 5 ป โดยอาจแบงขายทํากําไรบางระหวางชวงเวลา
ลงทุน จอหน เนฟฟ เตือนวาการถือหุน นานเกินไป ก็อาจเปนปญหาได เพราะอาจ
เกิดสถานการณ “ตกหลุมรัก” หุน ในพอรตจนลืมจังหวะการขายออก เพือ่ ทํากําไร
ในชวงเวลาที่เหมาะสม จงจําไววา “หุนทุกตัวที่เราเปนเจาของ มีไวเพื่อขาย
ทั้งสิ้น” และ “ไมจําเปนตองซื้อและถือหุนตลอดไป”
ฝากทิ้งทายไวสักนิดวา การลงทุนในหุนแบบ P/E ตํ่า เปนกลยุทธการ
ลงทุนชนิดหนึ่ง ซึ่งมีลักษณะคอนขางอนุรักษนิยม ไมหวือหวา จอหน เนฟฟ
เองก็เห็นวาหลักการดังกลาวนี้เปนการกระทําซํ้าๆ คงเสนคงวา สิ่งที่เหมือน
กับการวิเคราะหหลักทรัพยในกลยุทธอื่นๆ ก็คือ “การคนหาหุนที่มีปจจัย
พื้นฐานดี” แตสิ่งที่ตางจากคนอื่นก็คือ “พยายามคนหาของดี ราคาถูก” และ
“เปนของทีค่ าดการณแลววาจะมีการเติบโตของกําไรทีด่ อี ยางตอเนือ่ ง” จนสงผล
ในทางบวกตอผลตอบแทนจากการลงทุนในอนาคต หากทานนักลงทุนอานแลว
คิดวาชอบสไตลการลงทุนแบบนี้ ลองนําหลักการไปสรางและบริหารพอรตลงทุน
ดวยตนเองไดเลยครับ ขอใหทุกทานโชคดีครับ
54
ตามรอยวิถีเซียนลงทุน
55
การลงทุนแบบดันโด
ตามรอยวิถีเซียนลงทุน :
การลงทุนแบบ ดันโด
56
ตามรอยวิถีเซียนลงทุน
ประวัติโดยสังเขป
“โมนิช พาไบร” (Mohnish Pabrai) เปนนักธุรกิจและนักลงทุนชาวอเมริกนั
เชื้อสายอินเดีย ซึ่งคลุกคลีกับธุรกิจดาน IT มากอน เขากอตั้ง Transtech Inc.
ซึ่งเปนบริษัทใหคําปรึกษาเกี่ยวกับระบบ IT ขึ้นในป 1991 ดวยเงินลงทุน
ตนเองเพียง 30,000 ดอลลารและจากหนี้บัตรเครดิต 70,000 ดอลลาร
เขาพัฒนาธุรกิจของบริษัทจนเติบโตและขายบริษัทออกไปในป 2000 ใหแก
Kurt Salmon Associates ในราคาประมาณ 20 ลานดอลลาร ปจจุบันเขาเปน
หุนสวนผูจัดการของ Pabrai Investment Funds ซึ่งเปนธุรกิจดานการลงทุน
ที่ไดกอตั้งมาตั้งแตป 1999 ดวยความที่เปนคนเชื้อสายอินเดียซึ่งเกงกาจ
ดานการทําธุรกิจไมแพใคร โมนิช พาไบร ไดสังเกตและรวบรวมเคล็ดลับของ
นักธุรกิจเชื้อสายอินเดียที่มาตั้งรกรากในสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะกลุมตระกูล
“พาเทล” ซึง่ มาจากรัฐกุจราช ประเทศอินเดีย ทีค่ รอบครองธุรกิจโมเต็ลกวาครึง่
ในสหรัฐฯ ในปจจุบนั ทัง้ ๆ ทีก่ ลุม คนเหลานีเ้ พิง่ อพยพเขามาตัง้ รกรากในสหรัฐฯ
เมื่อทศวรรษ 1970 ที่ผานมานี้เอง โมนิช พาไบร ไดสังเกตแนวคิดและเคล็ดลับ
การทําธุรกิจจนประสบความสําเร็จของคนกลุม นี้ ซึง่ สามารถประยุกตใชกบั การ
ลงทุนในหุนได โดยตั้งชื่อวา “การลงทุนแบบดันโด”
57
การลงทุนแบบดันโด
ลักษณะเดนของวิถีแหงดันโด
โมนิช พาไบร หยิบยกเอากรณีศึกษาของ “ปาปา พาเทล” (Papa Patel)
ผูอพยพเชื้อสายอินเดียที่พาครอบครัวหนีตายมาจากยูกันดาของจอมเผด็จการ
อีดี้ อามิน ในชวงทศวรรษ 1970 และตองดิ้นรนทํางานอยางหนักในการเปน
ลูกจางรานขายของชําเพื่อใหครอบครัวอยูรอด ในทศวรรษ 1970 นี้เอง เกิด
วิกฤตราคานํ้ามันที่สูงขึ้นหรือเรียกวา “Oil Shock” ครั้งแรกของโลก สงผลให
เกิดเศรษฐกิจตกตํ่าทั่วโลกรวมทั้งสหรัฐฯ ดวย ผลดังกลาวกระทบตอธุรกิจ
โมเต็ลที่จัดอยูในกลุมการใชจายที่ไมจําเปน แมผูคนจะจําเปนตองเดินทาง
แตความตองการทีจ่ ะเขาพักก็ลดลงไปอยางมาก สิง่ ทีต่ ามมาก็คอื ปญหาหนีเ้ สีย
ในธุรกิจโมเต็ลของธนาคารพาณิชยเริ่มสูงขึ้น ธนาคารบางแหงยึดโมเต็ลมา
ประกาศขายทอดตลาดในราคาถูก ปาปา พาเทล เห็นโอกาสนี้เขาเขาซื้อโมเต็ล
เล็กๆ ขนาด 20 หอง โดยรวบรวมเงินของตนเองและญาติๆ มาไดเพียง 5,000
ดอลลารและขอกูโ ดยคํา้ ประกันสวนตัวในอัตราสูงถึงประมาณ 90% ของราคาขาย
ซึ่งธนาคารก็ตองยอม เพราะไมเชนนั้นก็ตองแบกภาระหนี้เสียตอไป เขาและ
ครอบครัวบริหารและพักอาศัยอยูในโมเต็ลนี้ดวย ทําใหประหยัดคาใชจายไปได
นอกจากนี้ จุดเดนของการควบคุมตนทุนใหตาํ่ ทีส่ ดุ โดยทํางานเองทุกอยาง รวมทัง้
ลดราคาหองพักใหตาํ่ ลงมาใหไดมากทีส่ ดุ ทําใหโมเต็ลของ ปาปา พาเทล สามารถ
อยูรอดมาไดภายใตภาวะเศรษฐกิจที่ตกตํ่า
ตอนที่ ปาปา พาเทล ตัดสินใจวาจะลงทุนในโมเต็ลนี้ สังเกตไดวาเขา
กําหนดหลักการสําคัญๆ ไวดังนี้
58
ตามรอยวิถีเซียนลงทุน
กลยุทธการลงทุนแบบดันโด
โมนิช พาไบร สรุปแนวคิดแบบดันโดเอาไวดังนี้
■ ลงทุนในธุรกิจที่มีการดําเนินงานอยูแลว
■ ลงทุนในธุรกิจที่เรียบงาย
■ ลงทุนในธุรกิจทีม
่ ปี ญ
หาในอุตสาหกรรมซึง่ กําลังอยูใ นภาวะยากลําบาก
■ ลงทุนในธุรกิจที่มีความไดเปรียบเชิงแขงขันอันยั่งยืน
■ เดิมพันนอยอยาง เดิมพันหนักๆ ไมเดิมพันบอย
■ มองหาโอกาสทําอารบิทราจ (ซื้อถูก ขายแพง)
■ มีสวนเผื่อความปลอดภัยเสมอ (Margin of Safety)
■ ลงทุนในธุรกิจที่มีความเสี่ยงตํ่า แตมีความไมแนนอนสูง
■ ลงทุนในพวกเลียนแบบ ไมใชพวกสรางสรรคสิ่งใหมๆ
ลงทุนในธุรกิจซึ่งมีการดําเนินงานอยูแลว
หุนสามัญของบริษัทจดทะเบียนมีจํานวนมากมายใหเลือก ทุกบริษัทก็มี
การดําเนินงานอยูแลว แตการลงทุนแบบดันโดตีความเอาไววา เราควรเลือก
หุนที่บริษัทมีโมเดลทางธุรกิจที่ชัดเจน มีประวัติการดําเนินงานยาวนาน จนเรา
สามารถวิเคราะหปจ จัยทีแ่ วดลอมทัง้ ภายในและภายนอกธุรกิจได เชนเดียวกับที่
ปาปา พาเทล เริ่มตนเขาซื้อโรงแรมที่เปดดําเนินงานอยูแลว
ลงทุนในธุรกิจที่เรียบงาย
วิถแี หงดันโดแนะนําใหเราเลือกหุน ของบริษทั ทีม่ ลี กั ษณะเรียบงาย มีการ
เปลี่ยนแปลงในระยะยาวนอย มีประวัติการสรางรายได กระแสเงินสด ผลกําไร
มายาวนาน จนเราวิเคราะหไดและคาดการณกระแสเงินสดในอนาคตไดงาย
ปาปา พาเทล มองเห็นความเรียบงายของธุรกิจโมเต็ล เพราะตราบใดทีผ่ คู นยังคง
62
ตามรอยวิถีเซียนลงทุน
ลงทุนในธุรกิจที่มีปญหาในอุตสาหกรรม
ที่กําลังอยูในภาวะยากลําบาก
ในสถานการณวกิ ฤตทีเ่ กีย่ วของกับเศรษฐกิจ เชน ราคานํา้ มันสูง เศรษฐกิจ
ถดถอย ผูคนลดรายจายที่ไมจําเปนจะสงผลกระทบตออุตสาหกรรมหลายชนิด
ดวยความรุนแรงตางกัน แตสิ่งที่เหมือนกัน คือ การตื่นกลัวของนักลงทุน ทําให
เทขายหุนของบริษัทตางๆ ออกมาในราคาถูก ซึ่งในนี้มี “ของดี ราคาถูก” อยู
ดวยเสมอ เชน ปาปา พาเทล เขาซื้อธุรกิจโมเต็ลในชวง Oil Shock หรือ มณีลาล
ชอธุรี เขาสูธุรกิจโรงแรมหลังเหตุการณ 911 หรือลักษมี มิตทาล เขาซื้อธุรกิจ
เหล็กในภาวะอุตสาหกรรมทีก่ าํ ลังแย โดย โมนิช พาไบร ยกคํากลาวของวอรเรน
บัฟเฟตตที่วา “จงกลัวในขณะที่คนอื่นๆ กําลังโลภ และจงโลภเมื่อใครๆ ตางพา
กันกลัว” พาไบรยังเปรียบเปรยเรื่องการตื่นกลัวของนักลงทุนนี้วา เปนเรื่อง
จิตวิทยาธรรมดาๆ นี่เอง คลายกับไปเจอราชสีหที่คํารามและสมองก็สั่งโดย
อัตโนมัติวา “โกยเถอะเรา” จึงตองตั้งสติในเรื่องนี้ใหดี
ลงทุนในธุรกิจที่มีความไดเปรียบ
เชิงแขงขันอันยั่งยืน
ธุรกิจทีม่ กี ารบริหารทีด่ จี นทําใหเกิดความไดเปรียบในการแขงขัน จะนํามา
ซึง่ การมีผลการดําเนินงานทีด่ แี ละยัง่ ยืน มีรากฐานแข็งแกรงแมจะพบกับวัฏจักร
เศรษฐกิจที่ไมดีก็ตาม ความไดเปรียบของ ปาปา พาเทล, มณีลาล ชอธุรี และ
ลักษมี มิตทาล มาจากการมีตนทุนตํ่าสุด สวนของ ริชารด แบรนสัน มาจาก
แบรนด นวัตกรรม และทีท่ กุ คนมีเหมือนกันคือ การลงมือปฏิบตั อิ ยางยอดเยีย่ ม
อยางไรก็ดี พึงระวังไววา ความไดเปรียบเชิงแขงขันแบบถาวรไมมอี ยูจ ริง เพราะ
63
การลงทุนแบบดันโด
เดิมพันนอยอยาง
เดิมพันหนักๆ ไมเดิมพันบอย
นักลงทุนสวนใหญมักจะมีเงินจํานวนจํากัด คําถามก็คือวา เราจะกลานํา
เงินลงทุนจํานวนเทาไรดีเปนเดิมพัน โมนิช พาไบร แนะนําใหใช Kelly Formula
ของ จอหน ลารรี เคลลี จูเนียร ในการคํานวณหาจํานวนเงินที่เหมาะสมที่สุดที่
จะนํามาลงทุน ซึ่งคํานวณไดดังนี้
Edge
Kelly Formula =
Odds
(ผลรวมของความนาจะเปน
X ผลตอบแทนหรือผลขาดทุน)
=
ผลตอบแทนสูงสุดที่จะไดรับ
จากการชนะเดิมพัน
มองหาโอกาสการทําอารบิทราจ
การทําอารบิทราจ (Arbitrage) คือ ความพยายามหาผลกําไรจากราคา
ที่แตกตางกันของสิ่งของแบบเดียวกันหรือคลายกัน แตผมขอปรับใชในภาษา
งายๆ วา “ซือ้ ถูก ขายแพง” สําหรับของทีซ่ อื้ ขาย ไมวา จะอยูใ นตลาด (สถานที)่
เดียวกันหรือตางกัน หรือในเวลาเดียวกันหรือตางกันก็ตาม การซื้อถูกขายแพง
จะไดสวนตางราคา ซึ่งคนที่ทําคนแรกๆ ก็จะไดสวนตางราคามาก คนที่เขามา
ทีหลังก็จะไดนอ ยลงไปเรือ่ ยๆ การทําอารบทิ ราจจะจบสิน้ ลงเมือ่ สวนตางราคานี้
หมดไป
65
การลงทุนแบบดันโด
มีสวนเผื่อความปลอดภัยเสมอ
สวนเผื่อความปลอดภัย (Margin of Safety) หมายถึง สวนที่เราสํารอง
เอาไวระดับหนึ่งเพื่อใหสบายใจวาเกิดอะไรขึ้นมาเราจะยังไมเปนไร มนุษย
สวนใหญจะชอบถามีสวนนี้ ตัวอยางเชน การออมเพื่อกันไววาอาจมีเหตุฉุกเฉิน
ซึ่งถาเหตุนั้นเกิดขึ้น เราก็จะดึงเงินออมนั้นออกมาใช ยิ่งระดับเงินออมนั้นสูงขึ้น
เราก็จะยิ่งสบายใจ
ในการทํ า ธุ ร กิ จ หรื อ ลงทุ น ในหุ น วิ ถี แ ห ง ดั น โดก็ ส อนให มี ส ว นเผื่ อ
ความปลอดภัยเสมอ แลวเราจะทําไดอยางไร? การลงทุนแบบดันโดแนะนําวาให
“ซือ้ ธุรกิจในราคาทีต่ าํ่ กวามูลคาทีแ่ ทจริงอยางมาก” เมือ่ ใดมีโอกาสใหทาํ แบบนี้
เพราะการเขาซื้อในราคาตํ่า ทําใหเรากลัวนอยลงเวลาราคาลดลงกวาเดิม และ
ที่จริงแลวเรากําลังควบคุมความเสี่ยงได เนื่องจากโอกาสที่ราคาจะลดลงกวานี้
มันมีนอยลงแลว (เพราะวาราคาลดลงมามากแลว) และถาโอกาสที่ราคาจะขึ้น
มีมากกวา ก็แปลวาเรามีโอกาสไดรับผลตอบแทนสูงมีมากขึ้น
66
ตามรอยวิถีเซียนลงทุน
ลงทุนในธุรกิจที่มีความเสี่ยงตํ่า
แตมีความไมแนนอนสูง
โมนิช พาไบร อธิบายวาการซื้อโมเต็ลของปาปา พาเทล ไมไดมีความ
เสี่ยงมากมายอะไรเลย ในขณะที่ผลลัพธที่จะเกิดขึ้นมีความไมแนนอนสูงมาก
ถาราคานํ้ามันอยูในระดับสูงอยางตอเนื่องหรือภาวะเศรษฐกิจถดถอยไมจบลง
เสียที ถาวิเคราะหดูไมวากรณีไหน ปาปา พาเทล ก็จะยังคงมีตนทุนตํ่าตอให
สถานการณมืดมนเขาก็ยังอยูได แตถาเศรษฐกิจรุงเรือง และราคานํ้ามันไมแพง
ไปตลอด เขาก็จะไดรบั ผลตอบแทนอยางงาม นีแ่ หละแนวคิดของนักลงทุนดันโด
ที่วา “ออกหัว ผมไดเงิน ออกกอย ผมเสียเงินนิดหนอย”
ลงทุนในพวกลอกเลียนแบบ
ไมใชพวกสรางสรรคสิ่งใหมๆ
การลงทุนแบบดันโดไมไดบอกวาธุรกิจสรางสรรคสิ่งใหมๆ ไมดี แต
พวกเขาไมสนใจมัน พวกเขาสนใจธุรกิจที่มีอยูแลวและพัฒนาความคิดตอยอด
ออกไป (ที่จริงผมมองวาเปนการสรางสรรคชนิดหนึ่ง แตวิถีแหงดันโดเรียกวา
“การลอกเลียนแบบ”) การทําเชนนีม้ คี วามเสีย่ งตํา่ กวาและใหผลตอบแทนดีกวา
67
การลงทุนแบบดันโด
ศิลปะการขายหุน :
การตีฝาออกจากจักรพยุหะ
วิถแี หงดันโดไมไดสอนเฉพาะกลยุทธการเขาซือ้ หุน 9 อยางตามทีอ่ ธิบาย
มาในบทความ 2 ตอนที่แลว แตแนะนําดวยวาตอนขายหุนออกก็เปนศิลปะดวย
โมนิ ช พาไบร ยกตั ว อย า งจากวรรณกรรมคลาสสิ ค ของอิ น เดี ย
“มหาภารตะยุทธ” ซึง่ เปนการสูร บของ 2 ตระกูล ระหวางตระกูลเการพและตระกูล
ปาณฑพ ฝายเการพไดคิดกลศึกที่เรียกวา “จักรพยุหะ” ขึ้น โดยกองทัพจะจัด
รูปแบบเปนวงกลมซอนกันเปนชั้นๆ เหมือนกงจักร ทําลายไดยาก และสราง
ความเสียหายแกตระกูลปาณฑพเปนอยางมาก มีแมทพั ฝายปาณฑพคนหนึง่ ชือ่
อภิมนั ยุ อาสายกทัพเขาไปตีจกั รพยุหะนี้ เพราะรูว ธิ ฝี า เขาไป ซึง่ เรือ่ งนีต้ อ งยอน
หลังไป 16 ป ระหวางที่อภิมันยุยังอยูในครรภมารดา เจาหญิงสุภัทรานองสาว
ของพระกฤษณะ เคยฟงพระกฤษณะเลาเรื่องจักรพยุหะใหแกมารดาของตน
68
ตามรอยวิถีเซียนลงทุน
โดยเลาถึงวิธีตีเขาไปในพยุหะ แตเมื่อพระกฤษณะจะเลาตอถึงวิธีตีออกมาจาก
พยุหะ มารดาของอภิมนั ยุเกิดงวงนอน อภิมนั ยุจงึ ไดฟง เฉพาะวิธตี เี ขา เมือ่ เผชิญ
กับจักรพยุหะจริงๆ และเปนความคับขันของตระกูลปาณฑพ อภิมันยุจึงอาสา
ตีฝาเขาไปซึ่งก็ทําไดดี แตเนื่องจากไมรูวิธีตีออก อภิมันยุจึงตองตอสูกับนักรบ
ฝายตรงขามอีก 9 คนจนบาดเจ็บและเสียชีวิตในที่สุด
เรือ่ งนีค้ ลายกับการตัดสินใจของนักลงทุน การตัดสินใจฝาเขา เดินทะลุ และ
ออกจากพยุหะก็เหมือนการตัดสินใจซือ้ ถือ และขายหุน นัน่ เอง เรือ่ งของอภิมนั ยุ
ใหบทเรียนวา กอนจะซื้อหุนเราตองมีแผนการขายหุนอันชัดเจน ซึ่งนักลงทุน
สวนใหญมักจะตัดสินใจคลายกัน กลาวคือ เขาซื้อหุนในราคา 100 บาท เวลา
ตกลงไปเหลือ 80 บาท พวกเขาจะรูสึกไมสบายใจ รีบขายหุนออกไป ซึ่งขาดทุน
และมองหาหุนตัวใหม เปรียบเสมือนเขาไปในจักรพยุหะ เพราะอยากไดรางวัล
ตรงใจกลาง แตตองจบชีวิตลงในที่สุด
แผนการขายของดันโดก็คือ
■ ไมควรรีบขาย วิถีแหงดันโดเสนอใหถือหุนอยางนอย 2-3 ป เหตุผล
เพราะธุรกิจมีการเปลีย่ นแปลงขึน้ ลง เปนวัฏจักร แมระยะสัน้ จะไดรบั
ผลกระทบทางลบ แตเราควรใหเวลาธุรกิจปรับตัวตอการเปลีย่ นแปลง
ระยะหนึ่ง
■ เราสามารถหามูลคาที่แทจริงในปจจุบันและในอีก 2-3 ป ของหุน
ตัวนี้ไดอยางมั่นใจ
■ ราคาเสนอซื้อ (หรือ ราคาขายของเรา) ตองสูงกวามูลคาที่แทจริงที่
เราคํานวณได หรือเราไมควรขายขาดทุนถาไมจําเปน
แผนการขายนี้สอดคลองกับกฎเหล็ก 2 ขอ ของวอรเรน บัฟเฟตต คือ
กฎขอ 1 : อยาขาดทุน
กฎขอ 2 : อยาลืมกฎขอ 1
69
การลงทุนแบบดันโด
ตามรอยวิถีเซียนลงทุน :
การลงทุนแบบเซียน VI
ของ ดร.นิเวศน
เหมวชิรวรากร
72
ตามรอยวิถีเซียนลงทุน
ประวัติโดยสังเขป
“ดร.นิเวศน เหมวชิรวรากร” เกิดเมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2496 เปน
ลูกชาวจีนโพนทะเลทีอ่ พยพเขามาในประเทศไทย ตัง้ รกรากอยูแ ถวตรอกจันทร
กรุงเทพฯ คุณพอประกอบอาชีพเปนชางไม ฐานะทางบานในขณะนั้นถือวา
“ยากจน” ดร.นิเวศน เปนลูกคนสุดทองในบรรดาพี่นอง 3 คน ในวัยเด็กเพื่อ
ชวยเหลือทางบาน ดร.นิเวศน เริม่ รูจ กั หารายไดดว ยตนเองตัง้ แตอายุ 8-9 ขวบ
ดวยการลงทุน 7.50 บาท ไปซือ้ หมากฝรัง่ และแบงขายปลีกแกเพือ่ นๆ ไดเงินมา
12 บาท จากนัน้ จึงเริม่ ขายขนมประเภทตางๆ รวมทัง้ รับจางทํางานพิเศษเพือ่ หา
รายได การรูจ กั หารายไดดว ยตนเองตัง้ แตเล็กๆ ทําให ดร.นิเวศน รูจ กั “คุณคา”
73
การลงทุนแบบเซียน VI ของ ดร.นิเวศน เหมวชิรวรากร
เริ่มตนชีวิตการลงทุนดวยการ “ตีแตก”
ชวงป พ.ศ. 2540 ซึ่งเกิดวิกฤตการเงิน “ตมยํากุง” ภาวะเศรษฐกิจไทย
ตกตํ่าอยางมาก รัฐบาลประกาศลดคาเงินและนําประเทศเขาโครงการ IMF
ดัชนีราคาหุนที่เคยสูงถึง 1,354 จุด ตอนตนป 2539 ไดลดลงเหลือ 373 จุด
เมื่อสิ้นป 2540 นักลงทุนเจ็บหนักกันถวนหนา ไมวาจะเปนนักลงทุนระยะสั้น
หรือระยะยาว ไมวาจะเปนนักเก็งกําไร หรือ Value Investor โดยภายในเวลา
2 ปนนั้ มูลคาหุน ทัง้ ตลาดหายไปถึง 73% หุน จํานวนมากกลายเปนเศษกระดาษ
ที่ไรคา
ขณะที่ตกงานในชวงเวลานั้น ดร.นิเวศน มีเงินทุนตั้งตน 10 ลานบาท
ถานําไปฝากธนาคารไดดอกเบีย้ 3% ตอป คิดเปนรายไดดอกเบีย้ ปละ 3 แสนบาท
หรือประมาณ 3 หมืน่ บาทตอเดือน ในขณะทีต่ อ งเลีย้ งดูครอบครัวและสงลูกเรียน
ดวยรายไดขนาดนี้ถือวาคอนขางลําบาก
ดร.นิเวศน จึงตัดสินใจ “ตีแตก” ดวยการนําเงินสะสมกอนเดียวในชีวิต
ขณะนั้น 10 ลานบาท เขาไปซื้อหุนที่วิเคราะหไวอยางดีแลววามีความปลอดภัย
ใหผลตอบแทนสูง คุมคาในการลงทุน ทั้งๆ ที่คนอื่นๆ มองวาตลาดหุนไทยไมมี
ความปลอดภัย แต ดร.นิเวศน เชื่อวายังมีหุนที่อยูรอดปลอดภัยและตองดีขึ้น
ในอนาคต มีกําไร และจายเงินปนผลดีขึ้น
ในชวงวิกฤตตมยํากุงป 2540 ดร.นิเวศนมองเห็นโอกาส คือ ไปพบวา
หุนบางตัวมีราคาลดลงมาเยอะมาก แตไมคอยไดรับผลกระทบทางเศรษฐกิจ
โดยกําไรและเงินปนผลไมไดลดลง ดร.นิเวศน จึงหาหลักเกณฑในการเลือกซื้อ
หุนในขณะนั้น โดยเลือกหุนที่
■ รายไดไมลด
■ กําไรไมลด
■ หนี้ไมมี
■ ความเสี่ยงที่จะเกิดจากความตองการสินคานอยลงมีนอยมาก
■ ราคาตํ่า แตจายเงินปนผลสูง
76
ตามรอยวิถีเซียนลงทุน
เรียนรูหลักการ “ตีแตก”
ในหนังสือ “ตีแตก : กลยุทธการเลนหุนในภาวะวิกฤต” ดร.นิเวศน
นําหลักการของการเลนไพตีแตก มาใชกับสถานการณชีวิตในขณะนั้นที่พบกับ
วิกฤตและมีเงินทุนกอนเดียวกอนสุดทาย นี่ก็อีกเหมือนกันที่ตองชี้แจงใหผูอาน
อยาไดเขาใจผิดวาทําไมเราจึงยกตัวอยางการเลนไพตแี ตกมาอธิบาย ซึง่ หลายคน
เห็นวาการเลนไพเปนอบายมุขชนิดหนึ่ง ผมอยากใหเรามองเฉพาะหลักหรือ
77
การลงทุนแบบเซียน VI ของ ดร.นิเวศน เหมวชิรวรากร
เรียนรูตัวอยางพอรต “ตีแตก”
ของ ดร.นิเวศน
ในชวงวิกฤตเศรษฐกิจป พ.ศ. 2540 เปนโอกาสที่ ดร.นิเวศน เขาซื้อ
กิจการดีๆ ในราคาที่ตํ่ามาก เชน
79
การลงทุนแบบเซียน VI ของ ดร.นิเวศน เหมวชิรวรากร
หุน STANLY
หรือ บริษัท ไทยสแตนเลยการไฟฟา จํากัด (มหาชน)
ผูผ ลิตและจําหนายหลอดไฟและอุปกรณสอ งสวางสําหรับรถยนต ซึง่ ในชวง
เศรษฐกิจตกตํ่าในขณะนั้นยอดขายรถยนตเหลือแสนกวาคัน เมื่อเปรียบเทียบ
กับกอนวิกฤต รถยนตมียอดขาย 6-7 แสนคัน ราคาหุนจึงตกไปมาก เมื่อดู
ฐานะการเงินยังแข็งแกรงและแผงไฟหนาจําเปนกับรถทุกคัน ถาเศรษฐกิจฟน ตัว
จะกลับมาขายไดมากขึ้นเหมือนเดิม ซึ่งก็เปนความจริง ยอดขายกลับมา แถมมี
การสงออกเพิ่มมากขึ้นหลังจากเศรษฐกิจดีขึ้น ดร.นิเวศน จึงสามารถทํากําไร
ตอหุนจากหุนตัวนี้ไดหลายสิบเทา
หุน ตัวอืน่ ของพอรตตัง้ ตนของ ดร.นิเวศน ยังมีอกี หลายตัว เชน WACOAL,
APRINT เปนตน โดย ดร.นิเวศน กระจายการลงทุน 7-10 ตัว แตละตัวมีความ
แข็งแกรงมาก ทําใหความเสีย่ งมีการกระจายตัว ถาพลาดก็คงไมทาํ ใหเกิดความ
เสี่ยงมาก รับเงินปนผลก็นาจะพอทําใหอยูได
ตีแตกสูความสําเร็จ
เมื่อกลายมาเปนนักลงทุนมืออาชีพ ในฐานะผูแปลหนังสือ “คิดใหญ
ไมคิดเล็ก” ดร.นิเวศน ไดตั้งเปาหมายการลงทุน คือ ทําใหพอรตเงินลงทุน
งอกเงยเปน 1,000 ลานบาท เมื่ออายุ 80 ป โดยใชกลยุทธการลงทุนแบบ
Value Investment แตในความเปนจริง คือ ดร.นิเวศนสามารถบรรลุเปาหมายนี้
ไดตอนอายุ 50 ปเศษๆ ซึ่งเร็วกวาที่ตั้งเปาหมายไวถึง 20 กวาป
สถิติอัตราผลตอบแทนเฉลี่ยตอปจากพอรตตีแตกของ ดร.นิเวศน ที่เริ่ม
ในป 2540 จนถึงป 2553 เฉลี่ย 14 ป ไดอัตราผลตอบแทนประมาณ 46.5%
ตอป ขณะที่อัตราผลตอบแทนของตลาดหลักทรัพยฯ ไดประมาณ 10.9% ตอป
โดยตัวอยางพอรตการลงทุนในป 2545 และป 2554 เปนดังนี้
81
การลงทุนแบบเซียน VI ของ ดร.นิเวศน เหมวชิรวรากร
ป 2545
านวน ราคา ตราผล
Symbol น ลา ตอบแทน เ น นผล บ
เ น นผล
PR 100,000 81.00 8,100,000.00 6.05 605,000.00
SSC 200,000 21.40 4,280,000.00 0.90 180,000.00
STANLY 250,000 68.50 17,125,000.00 2.10 525,000.00
WACOAL 71,750 18.20 1,305,850.00 0.90 64,575.00
30,810,850.00 1,374,575.00
ป 2554
ตราผล
Symbol านวน น ราคา ลา ตอบแทน เ น นผล บ
เ น นผล
AS 2,000,000 10.80 21,600,000.00 0.84 1,684,000.00
BAFS 4,000,000 10.80 43,200,000.00 0.54 2,160,000.00
CPALL 22,500,000 43.75 984,375,000.00 1.40 31,500,000.00
HMPRO 34,801,428 8.65 301,032,352.20 0.37 12,911,329.79
IRC 5,400,000 11.40 61,500,000.00 0.50 2,700,000.00
IT 11,000,000 8.30 91,300,000.00 0.60 6,600,000.00
JMART 7,000,000 3.12 21,840,000.00 0.24 1,680,000.00
KTC 2,000,000 18.60 37,200,000.00 0.45 900,000.00
MBK 1,000,000 97.00 97,000,000.00 4.75 4,750,000.00
METCO 120,000 243.00 28,080,000.00 7.26 2,040,000.00
SVOA 8,000,000 1.18 9,440,000.00 5.25 496,000.00
1,696,627,352.20 67,421,329.79
82
ตามรอยวิถีเซียนลงทุน
สไตลการลงทุน
กอนที่จะอธิบายถึงรายละเอียดของหุนที่มีลักษณะแบบ VI ตามแนวคิด
ของ ดร.นิเวศน จะขอเริ่มตนอธิบายจากสไตลการลงทุน ซึ่งมีลักษณะการลงทุน
แบบ VI กอนจะเจาะเขาไปถึงเคล็ดลับการคนหาหุนแบบ VI ตามสไตลของ
ดร.นิเวศน
สไตล คือ แบบแผนของการกระทํา ซึง่ ถาทําซํา้ ๆ กันหรือกลาวไดวา ชอบมี
พฤติกรรมแบบนี้ เราอาจเรียกวา “สไตล” ซึ่งในการลงทุนนั้น นักลงทุนที่มี
ประสบการณนอ ยหรือเรียนรูห ลักการลงทุนมานอย มักจะลงทุนโดยไมมวี ธิ กี าร
ทีช่ ดั เจน เชน เลนเก็งกําไรตามขาวลือ ลงทุนเพราะตลาดกําลังบูม เปนตน อยางนี้
อาจกลาวไดวา ลงทุนแบบไมมีสไตล หรือเลนหุนแบบมวยวัด
แตนักลงทุนที่มีประสบการณมากๆ มักจะคุนเคยหรือชื่นชอบวิธีการ
บางอยางเปนพิเศษ เพราะคิดวาเปนวิธกี ารลงทุนทีไ่ ดผล ไดกาํ ไรเปนประจํา หรือ
ไมก็ดีกวาวิธีการอื่นที่เคยใชมา อยางนี้เรียกวา เริ่มมีสไตลการลงทุน
โดย ดร.นิเวศน สรุปสไตลการลงทุนออกเปน 3 แนวทางใหญๆ ดังนี้
ตะแกรงรอนหุน VI
จากปจจัยทางดานคุณภาพ
รูปแบบการทําธุรกิจ
รูปแบบการทําธุรกิจ (Business Model) หมายถึง กระบวนการทําธุรกิจ
ทุกอยาง ตั้งแตเรื่องของผลิตภัณฑ การตลาด การจัดจําหนาย การบริการ
หลังการขาย การบริหารบุคลากร เปนตน การเขาใจในรูปแบบดังกลาวจะทําให
เห็นรายละเอียดวาผลิตภัณฑจะเปนอยางไร คุณภาพระดับไหน ราคาเทาไร
ชองทางการจัดจําหนายเปนอยางไร กระบวนการผลิตเปนอยางไร นักลงทุน
สามารถคนหาขอมูลดังกลาวจาก “รายงานประจําป” (Annual Report)
หรือ “แบบฟอรม 56-1” ที่บริษัทตองจัดทําและสงใหแกตลาดหลักทรัพยแหง
ประเทศไทย
ความไดเปรียบทางการแขงขันที่ยั่งยืน
หรือ Durable Competitive Advantage ที่นักลงทุน VI เรียกยอๆ วา
“DCA” ซึ่งบริษัทที่จะมี DCA จะตองมีคุณสมบัติขอใดขอหนึ่งดังตอไปนี้
■ บริษัทอาจมีสินทรัพยที่จับตองไมได แตมีความโดดเดน หรือ กีดกัน
คูแขงขัน เชน ยื่หอ ลิขสิทธิ์ สัมปทาน เปนตน
■ สินคาหรือบริการของบริษัทอาจมีลักษณะที่ทําใหลูกคามีความยาก
ลําบากที่จะเลิกใชหรือเปลี่ยนผูขายหรือใหบริการ
■ บริษัทมีเครือขายลูกคาที่ใหญกวาคูแขงมาก
■ บริษท ั มีขอ ไดเปรียบทางดานตนทุนการผลิต ซึง่ อาจมาจากทําเลทีต่ งั้
ขนาดของธุรกิจหรือเนื่องมาจากทรัพยสินเฉพาะอยาง
87
การลงทุนแบบเซียน VI ของ ดร.นิเวศน เหมวชิรวรากร
ผลการดําเนินงานหรือกําไรของบริษัท
กําไรเปนปจจัยที่สะทอนถึงผลการดําเนินงานได นอกจากกําไรที่เปน
เม็ดเงินหรือกําไรตอหุนแลว เราอาจดูผาน “กําไรปกติ” (Profit Margin) ซึ่งนํา
กําไรไปเทียบกับยอดขาย ยิ่งอัตราสูง ก็แสดงใหเห็นถึงผลการดําเนินงานที่ดี
หลังหักคาใชจายออก อยางไรก็ตาม กิจการที่มีคุณภาพดี มีกําไรสมํ่าเสมอ
และเปนกําไรปกติ (หมายถึง กําไรทีจ่ ะเกิดขึน้ ตอเนือ่ งไปในระยะยาวได) ความ
แนนอนของกําไรหรือการเติบโตของกําไร อาจมองยอนกลับไปประมาณ 5 ป
ผลตอบแทนตอสวนของผูถือหุน
หรือ Return on Equity (ROE) ซึ่งคํานวณมาจาก (กําไรสุทธิ/สวนของ
ผูถ อื หุน ) x 100 ยิง่ อัตราสวนนีม้ คี า สูง ยิง่ แสดงวาเงิน 1 บาทของผูถ อื หุน กอใหเกิด
กําไรยิง่ มาก แสดงถึงคุณภาพของบริษทั ยิง่ ดี ผูถ อื หุน มีโอกาสจะไดผลตอบแทน
เปนเงินปนผลก็สงู ขึน้ หรือเงินทุนจากกําไรถานําไปลงทุนตอก็มโี อกาสสรางกําไร
ในอนาคตตอ ชวยเพิม่ โอกาสการไดรบั Capital Gain ในอนาคตตอไป ดร.นิเวศน
แนะนําวาบริษัทที่นาสนใจควรมี ROE ประมาณ 15% ขึ้นไป
88
ตามรอยวิถีเซียนลงทุน
ฐานะการเงินหรือหนี้สิน
ดร.นิเวศน เสนอแนะวา VI ชอบบริษัทที่มีหนี้นอย และกลัวบริษัทที่มี
หนี้มาก โดยเฉพาะถาเปนบริษัทที่มีผลกําไรไมคอยแนนอน และพยายามโตเร็ว
โดยการกอหนี้ แมวาถาสําเร็จจะไดกําไรมาโดยไมตองเพิ่มทุน ทําให ROE สูง
แตถา เกิดการผิดพลาด ภาระหนีท้ สี่ งู ตองจายทัง้ ดอกเบีย้ และเงินตนจํานวนมาก
ถาผลการดําเนินงานไมดี จะสงผลกระทบทางลบตอฐานะการเงิน บางกรณี
อาจลมละลายได ดร.นิเวศน ใหเราลองสมมติวาเปนเจาของ ถาตองรับภาระหนี้
สูงมากๆ เราคงรับไมไดและไมมีความสุข บริษัทที่มีหนี้มากจึงไมนาสนใจ
ความสามารถในการสรางกระแสเงินสด
กระแสเงินสดที่ดีมาจากการมี “กําไรเปนเงินสดสูง” มักขายสินคาเปน
เงินสด ขณะที่ซื้อวัตถุดิบเปนเงินเชื่อ มักไมคอยลงทุนมากในการที่จะรักษา
ยอดขายหรือขยายกิจการตอไป หุน ของบริษทั ทีม่ เี งินสดมากและมีกระแสเงินสด
ที่ดี มักจะจายปนผลไดในอัตราที่สูง และมักปลอดหนี้เงินกูจ ากสถาบันการเงิน
ทําใหความเสี่ยงของบริษัทลดลงมาก
ผูบริหาร
นักลงทุน VI ควรติดตามขอมูลและวิเคราะหขอ มูลทีเ่ กีย่ วของกับบรรษัท-
ภิบาลของผูบ ริหารดวย เพราะเปนเครือ่ งชีว้ ดั คุณภาพของกิจการอยางหนึง่ เชน
มีประวัตเิ สียหาย ทุจริต ผิดจริยธรรม เอาเปรียบนักลงทุนรายยอย มีการฟอกเงิน
ออกจากกิจการ อยางนี้นักลงทุน VI ควรหลีกเลี่ยงแมวาผลประกอบการจะดี
เพียงใดก็ตาม เพราะในระยะยาวกิจการยากที่จะดีไปได
89
การลงทุนแบบเซียน VI ของ ดร.นิเวศน เหมวชิรวรากร
ตะแกรงรอนหุน VI จากปจจัยดานราคา
การคัดเลือกหุน ดวยปจจัยทางดานคุณภาพตามทีไ่ ดกลาวถึงในบทความ
ตอนที่แลว ดร.นิเวศน เห็นวาจําเปนตองชวยคัดกรองใหไดหุนคุณภาพดี
มาจํานวนหนึง่ แตในขัน้ ตอนตอไปก็คอื “การนําปจจัยทางดานราคา” มาวิเคราะห
วาหุนนั้นมีราคาถูกหรือแพง โดยใชปจจัยราคาหลายๆ ตัว ไดแก
ราคาหุน
P/E Ratio =
กําไรตอหุน
เชน หุน A มีกําไรตอหุน 25 บาทตอหุน หุน B มีกําไรตอหุน 0.50 บาท
ตอหุน
250 = 10 เทา
ดังนั้น P/E Ratio ของหุน A = 25
P/E
PEG = G
91
การลงทุนแบบเซียน VI ของ ดร.นิเวศน เหมวชิรวรากร
อัตราสวนราคาหุนตอมูลคา = ราคาหุน P
=
ทางบัญชี (P/B Ratio) มูลคาทางบัญชี B
ตัวอยางเชน
■ หุน A ราคา 200 บาท มีจํานวนหุนทั้งหมด 10 ลานหุน
Market Cap หุน A = 2,000 ลานบาท
■ หุน B ราคา 10 บาท มีจํานวนหุนทั้งหมด 1,000 ลานหุน
Market Cap หุน B = 10,000 ลานบาท
อยางนี้เรียกวา หุน B มีขนาดใหญกวาหุน A
ดร.นิเวศน แบงขนาดของหุนตาม Market Cap ออกเปน 4 พวก ไดแก
■ หุนขนาดจิ๋ว มี Market Cap ไมเกิน 1,000 ลานบาท
■ หุนขนาดเล็ก มี Market Cap ไมเกิน 1,000–8,000 ลานบาท
■ หุนขนาดกลาง มี Market Cap ไมเกิน 8,000–40,000 ลานบาท
■ หุนขนาดใหญ มี Market Cap ตั้งแต 40,000 ลานบาทขึ้นไป
เทคนิคการขายหุน VI (เมื่อถึงเวลา)
ดร.นิเวศน อธิบายวา ในตอนขายหุน VI ก็เหมือนกับตอนซือ้ คือ ไมไดองิ กับ
ภาวะเศรษฐกิจหรือตลาดหุน และนักลงทุน VI มักจะถือหุน เปนเวลาคอนขางยาว
(เชน 3-4 ป) ซึง่ แตละคนก็อาจแตกตางกัน เวลาขายหุน ของ VI จึงไมไดกาํ หนด
ชัดๆ วาเมื่อใด แตกําหนดหลักการกวางๆ วาจะขายหุน VI ในกรณีดังตอไปนี้
■ พบวากิจการของหุนที่ซื้อมานั้น เราวิเคราะหผิดพลาดเอง เนื่องจาก
มีขอมูลใหมที่เราไมทราบ และไมไดนํามาวิเคราะห
■ พื้นฐานของกิจการเปลี่ยนไป เคยเปนหุน VI ที่ดี ตอนนี้ไมใชแลว
แตในขอนี้ ดร.นิเวศน บอกวาถาของดีจริง พืน้ ฐานไมใชจะเปลีย่ นงาย
■ ราคาหุนขึ้นไปเกินมูลคาพื้นฐานแลว หลักสําคัญจะอยูที่การประเมิน
มูลคาพืน้ ฐานของกิจการ ในสถานการณปกติ ยังขายของได ยังผลิตได
ยังทํากําไรอยู ราคาทีเ่ คยซือ้ ไวในราคาทีถ่ กู เมือ่ นักลงทุนทัว่ ไปทราบ
ก็จะทําใหราคาสูงขึน้ เขามาหาสภาพปจจัยพืน้ ฐาน แตตอ งระวังดวยวา
มูลคาพืน้ ฐานของบริษทั ก็อาจเปลีย่ นแปลงได จึงตองประเมินเทียบกับ
ราคาตลาดเปนระยะๆ
■ มี หุ น ตั ว อื่ น ที่ น า สนใจและมี Margin of Safety สู ง กว า มาก และ
ในตอนนั้นเราไมมีเงินสดเหลือ จึงตองขายหุนตัวเดิม และไปซื้อหุน
VI ตัวใหม
95
การลงทุนแบบเซียน VI ของ ดร.นิเวศน เหมวชิรวรากร
ประเด็นเพิ่มเติมเกี่ยวกับ
การลงทุนแบบ VI
VI ตองมี EQ หรืออารมณที่มั่นคง
ดร.นิเวศน ใหความสําคัญในเรื่องนี้มากวา VI จะตองมีสติ ใจเย็น
ไมถูกชักนํา โดยจิตวิทยาสังคมหรือสภาวะของตลาดหลักทรัพยฯ และให
ขอคิดวา “เราตองกลาในยามทีค่ นสวนใหญในตลาดกําลังกลัว และกลัวในยามที่
นักลงทุนสวนใหญกําลังฮึกเหิม” ดร.นิเวศน อธิบายวา นักลงทุน VI ควรมองวา
ตลาดหุนเปนเสมือนคนที่มีอารมณแปรปรวน และทําการซื้อขายหุนในราคา
ที่บอยครั้งมีลักษณะไมมีเหตุผล ตอนอารมณดีก็เสนอขายราคาสูงลิ่วเกินกวา
พื้นฐานไปมาก ตอนอารมณหดหูก็เสนอราคาตํ่าติดดินทั้งที่เปนกิจการเดียวกัน
เราตองไมไปตามตลาดแตคอยดูวาตอนไหนที่เราจะเอาเปรียบตลาดได เชน
ซื้อตอนราคาตํ่าๆ ขายตอนราคาสูงๆ หลักนาจะมีแคนี้ จะมีอารมณมั่นคง
ไมหวั่นไหวไปตามตลาด จึงเปนคุณสมบัติหนึ่งที่สําคัญของนักลงทุนแบบ VI
96
ตามรอยวิถีเซียนลงทุน
VI ตองรูหลักในการควบคุมความเสี่ยง
ใหอยูในระดับที่เหมาะสม
ดร.นิเวศน เห็นวาความเสี่ยงสําหรับ VI ไมใชความผันผวนของราคาหุน
ในพอรต แตเปนเรื่องความเสี่ยงของราคาหุนที่ซื้อเอาไวจะ “ลดลงอยางถาวร”
หรือไม ถาซื้อไปแลวราคาหุนลดลงระยะสั้น อยางนี้ไมใชความเสี่ยง ถาเรา
วิเคราะหแลวพบวามูลคาพืน้ ฐานยังอยูเ หมือนเดิม กลับตองคิดวาเปนโอกาสทีจ่ ะ
ซื้อเพิ่มขึ้น เพราะความเสี่ยงที่จะซื้อหุนนั้นกลับลดลง เพราะราคาหุนที่ลดทําให
Margin of Safety สูงขึ้น
หลักในการควบคุมความเสี่ยง VI สรุปไดดังนี้
■ รูจักธุรกิจที่ลงทุนเปนอยางดี แนใจวาไดหุนของกิจการที่มีคุณภาพดี
■ ลงทุนในสิ่งที่มี Margin of Safety สูง “ของดี ราคาถูก”
■ หลีกเลี่ยงการเก็งกําไร
■ กระจายความเสีย ่ งของการถือครองทรัพยสนิ อยางเหมาะสม สําหรับ
หุนควรกระจายการถือครอง 5-6 ตัวขึ้นไป ในหลายอุตสาหกรรม
บัญญัติ 10 ประการของการเลนหุนแบบ VI
หัวขอนี้ผมชอบมากครับ เพราะสรุปแกนแทกลยุทธการลงทุนในหุน
แบบ VI ซึ่ง ดร.นิเวศน สรุปไวแบบคั้นหัวกะทิเอาไวใหนักลงทุน VI ทุกคน
■ ศึกษาขอมูลหุน ใหดกี อ นตัดสินใจซือ้ หุน เนนวาอยาซือ้ โดยใชอารมณ
อยาโลภ อยารีบดวนตัดสินใจซื้อเพราะหุนกําลังวิ่ง เพราะเราไมใช
นักเลนหุนรายวัน เราตองรอจังหวะเวลาที่พบแลววา ราคาอยูตํ่ากวา
มูลคาพื้นฐานมากๆ เทานั้น
■ อยาสนใจขาวลือหรือ “หุน เด็ด” ขาวลือ ถาเราไดยนิ คนอืน่ ก็คงไดยนิ
ขาวแบบนี้ไมมีความหมายอะไร มีแตทําใหเสียเงิน
97
การลงทุนแบบเซียน VI ของ ดร.นิเวศน เหมวชิรวรากร
■ ใหความสําคัญกับตัวกิจการหรือตัวหุนมากกวาสภาพตลาดหรือ
เศรษฐกิจโดยทัว่ ไป เพราะแมสภาวะเศรษฐกิจไมดี แตตวั กิจการของ
บริษัทอาจจะดีก็ได หรือแมกิจการอาจมีสภาวะไมดีนัก แตราคาหุน
ก็ยังตํ่ากวาพื้นฐานมากก็ยังลงทุนได อยาใหภาพของสภาวะตลาด
มาหันเหการตัดสินใจซื้อหุนของเรา
■ หุนนั้นมักจะดูแยกวาที่คิดเวลาที่ตลาดตกตํ่ามากที่สุดของตลาดหมี
และมักจะดูดีกวาที่คิดในชวงตลาดขาขึ้นสูงสุดของตลาดกระทิง
นักลงทุน VI ควรยึดหลักที่วา “มีความกลาหาญที่จะซื้อเมื่อทุกอยาง
ดูเลวรายและขายเมื่อทุกอยางดูดีจนไมนาเชื่อ”
■ จงจําไววา มันเปนเรือ่ งยากทีเ่ ราจะสามารถซือ้ หุน ในราคาพืน้ ฐานและ
ขายหุนไดที่จุดสูงสุด ในชวงตลาดตกตํ่า ราคาหุนอาจลงไปตํ่ากวา
มูลคาพื้นฐานไดมาก และในยามที่ตลาดมีความรุงเรือง ราคาหุน
ก็อาจสูงเกินกวามูลคาพืน้ ฐานได ซึง่ ภาวะตลาดเปลีย่ นแปลงไดตลอด
ดังนั้น ตองไมคาดหวังวาเมื่อซื้อหุนแลวราคาตองขึ้นทันที แมเรา
จะมั่นใจกับการวิเคราะหมูลคาพื้นฐานของเรา ไมควรฝากความหวัง
ไวกับภาวะตลาด แตควรดูวาในระยะยาวพื้นฐานที่ดีและดีเพิ่มขึ้น
ของกิจการจะเปนตัวดึงใหราคาหุนสูงขึ้นตามพื้นฐาน
■ อยาขายเพียงเพราะวาราคาหุน อาจจะดูวา สูงเกินไปหรือหุน วิง่ ขึน้ มา
เร็วเกินไปหรือชัว่ คราว เพราะถาเราพลาด อาจไมสามารถซือ้ กลับมา
ทําใหพลาดโอกาสทีจ่ ะไดรบั ผลตอบแทนทีด่ เี ยีย่ มมากกวาในอนาคต
■ อยา “หลงรักหุน” จนตาบอด ถาหุนดี ก็ขอใหวิเคราะหและมอง
อยางเปนกลาง รักไดแตอยาหลง เพราะตองประเมินและตรวจสอบ
ความคุมคาอยูตลอดเวลา ซึ่งถาไมไหวก็ตอง “ตัดรัก” เปนหุน VI
ของวันกอน มาถึงวันนี้อาจจะเปลี่ยนคุณสมบัติไปแลวก็ได
■ อยาสนใจวาหุนเคยอยูที่จุดไหนมากอน จงสนใจวาหุนจะไปอยูที่
จุดไหน กิจการอาจเคยมีผลประกอบการดี ราคาหุนก็สูงตามไปดวย
แตเมื่อสถานการณเปลี่ยนไปกําไรลดลง ราคาหุนตกและวิเคราะห
แลววาผลการดําเนินงานลดลงแบบหวนกลับไปเปนเหมือนเดิมไดยาก
อยางนี้ตองลืมตัวเลขเกา ตัวเลขใหมคือของจริง ตองมองไปขางหนา
วามูลคาหุนจริงๆ เปนเทาใดกันแน ราคาอาจตกลงไปกวาเดิมอีก
ก็เปนได
98
ตามรอยวิถีเซียนลงทุน
■ เนนการลงทุนในหุนคุณภาพสูง การลงทุนในหุนที่มีโอกาสทํากําไร
หวือหวา โดยไมสนใจวาคุณภาพของหุนจะเปนอยางไรในบางครั้ง
อาจจะใหผลตอบแทนที่ดีและเร็ว ทําใหนักลงทุนเกิดความตื่นเตน
แตโอกาสที่จะประสบผลสําเร็จในระยะยาวจะเปนไปไดยาก และ
ทําบอยเขาก็จะติดเปนนิสัย ซึ่งเปนคนละขั้วกับนักลงทุน VI ที่เลือก
เฉพาะหุนคุณภาพดีเทานั้น พอรตของหุนที่มีคุณภาพดีนั้นจะทําให
เรารวยไดอยางยั่งยืนและดวยความเสี่ยงที่ตํ่ากวามาก
■ ใช เ วลากั บ การลงทุ น ตรวจสอบกิ จ การและหุ น อย า งสมํ่ า เสมอ
ทุกอยางมีการเปลี่ยนแปลงอยูตลอดเวลา หุน VI ที่เคยเขมแข็ง
เมื่อออนแอลงเราก็ตองตัดออกจากพอรต และหาซื้อตัวใหมใสเขาไป
แตการเปลี่ยนแปลงพื้นฐานของกิจการมักไมไดเกิดขึ้นแบบรายวัน
ตองใชระยะเวลา ถาเราซือ้ หุน แตอยูไ มถงึ ป คําถามคือกิจการไดแสดง
ความสามารถในการทําธุรกิจใหเราเห็นการเปลี่ยนแปลงไดชัดเจน
แลวหรือ คุณภาพที่สูงขึ้นของหุนตองใชเวลาพอสมควร ซึ่งเราตอง
ทําหนาที่วิเคราะหและตรวจสอบกิจการอยูเปนระยะๆ
ผมคิดวาการลงทุนแบบ VI ของ ดร.นิเวศน นั้น นาจะเปนการชวยฝก
ความอดทนไดเปนอยางดี ใครทีม่ นี สิ ยั ใจรอน ลองมาลงทุนตามสไตลนดี้ ู อาจจะ
พอเปลี่ยนอุปนิสัยไดบาง ทั้งนี้ เนื่องจาก ดร.นิเวศน อธิบายวาสไตลการลงทุน
แบบ VI เปรียบไดกับ “เตา” คือ ชา แข็งแกรง อดทน และอายุยืนนาน มีจิตใจ
หนักแนนมั่นคง สามารถเดินทางไปไดทุกภูมิประเทศ และทุกความผันแปรของ
สภาพแวดลอม ซึ่งตรงขามกับ “กระตาย” ที่เปรียบไดกับนักลงทุนที่ใจรอน
อาจจะวิ่งในบางชวงแตขาดเกราะปองกันตัว จึงมีโอกาสถูกสัตวอื่นจับกินไดงาย
แถมทายอีกนิดหนึง่ เรือ่ งการกูเ งินมาลงทุนหรือเรียกวา “การใชมารจนิ้ ”
ดร.นิเวศน เห็นวา VI มักจะไมกูเงินมาลงทุน แมวาถาหุนขึ้น โอกาสไดกําไร
มีมากและเร็ว แตถา พลาดก็อาจเสียหายรุนแรงได อยางไรก็ตาม หากเราพบวามี
หุน VI ทีด่ แี ละราคาตํา่ ลง หรือถูกอยางไมนา เชือ่ แตเราไมมเี งินสดเลย ประกอบกับ
ไมอยากขายหุนตัวอื่นจากพอรต ซึ่งเปนของดีและขณะนั้นหุนในพอรตก็มี
ราคาตํ่าไปเหมือนกัน ดร.นิเวศน ใหหลักการกูเงินซื้อหุนไวดังนี้
99
การลงทุนแบบเซียน VI ของ ดร.นิเวศน เหมวชิรวรากร
ตามรอยวิถีเซียนลงทุน :
การลงทุนหุนหานทองคํา
ของ คุณเทพ
รุงธนาภิรมย
102
ตามรอยวิถีเซียนลงทุน
ประวัติโดยสังเขป
“คุณเทพ รุงธนาภิรมย” จบการศึกษาบัญชีบัณฑิต (เกียรตินิยมดี) และ
พาณิชยศาสตรบัณฑิต (เกียรตินิยมดี) จากคณะพาณิชยศาสตรและการบัญชี
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร และจบ MBA จากมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย ประเทศ
สหรัฐอเมริกา ประวัตกิ ารทํางานเคยเปนรองกรรมการผูจ ดั การ ธนาคารกสิกรไทย
จํากัด (มหาชน) และกรรมการของบริษัทจดทะเบียนที่สําคัญอีกหลายแหง
ปจจุบันถึงแมคุณเทพจะเกษียณอายุจากการทํางานประจําแลว แตก็ยังใช
ประสบการณความรูค วามสามารถในการเปนกรรมการและกรรมการตรวจสอบ
ใหกับบริษัทจดทะเบียนหลายแหง รวมถึงเปนที่ปรึกษาใหกับสมาคมสงเสริม
ผูลงทุนไทยดวย
นอกจากการเปนนักลงทุนมืออาชีพที่มีสไตลการลงทุนเปนของตนเอง
แลว คุณเทพยังถายทอดความรูผานการบรรยายและการเขียนบทความและ
พ็อคเก็ตบุคสอยางสมํา่ เสมอ โดยมีปรัชญาชีวติ วา “ตองการเห็นทุกคนในสังคม
มีชีวิตที่ดีขึ้น ผาสุกขึ้น” เชื่อวากลยุทธหุนหานทองคําจะสามารถทําใหนักลงทุน
รายยอยมี “ความเปนไททางการเงินอยางยัง่ ยืน” ทีจ่ ริงแลวคุณเทพเขียนหนังสือ
และบทความเกีย่ วกับการลงทุนเปนจํานวนมาก ซึง่ ผูส นใจไปตอยอดหาความรูก นั
103
การลงทุนหุนหานทองคําของ คุณเทพ รุงธนาภิรมย
รูจักธรรมชาติของตลาดหุน
มือใหมหัดลงทุนเวลามองกระดานหุนที่มีสีเขียวๆ แดงๆ ราคาหุนตางๆ
เปลี่ยนแปลงขึ้นลงไปมา มักจะมองอยางกลาๆ กลัวๆ หลายคนคิดวาตนเอง
ไมมีความรูดีพอ กลัวจะเปนแมงเมาที่ถูกไฟเผา ตกเปนเหยื่อของนักลงทุนที่มี
ประสบการณมากกวา คุณเทพเริ่มตนโดยอยากใหมองวา ในตลาดหุนจะมี
การเคลื่อนไหวเพียง 3 อยาง คือ ขึ้น ลง หรืออยูนิ่งๆ
■ ราคาหุน สวนใหญจะวิง่ ขึน้ เมือ่ มีผสู นใจซือ้ มากกวา ผูท ตี่ อ งการจะขาย
ซึ่งเราเรียกภาวะเชนนี้วา “ภาวะกระทิง” (Bull Market)
■ ราคาหุน สวนใหญจะตกลง เมือ่ มีผตู อ งการจะขาย มากกวา ผูส นใจซือ้
ซึ่งเราเรียกภาวะเชนนี้วา “ภาวะหมี” (Bear Market)
■ ราคาหุ น ส ว นใหญ อ ยู นิ่ ง ๆ หรื อ เคลื่ อ นไหวในช ว งแคบๆ เรี ย กว า
“ภาวะ Sideway” ซึ่งเปนชวงที่ทั้งหมีและกระทิงสูกันจนเหนื่อย
ตองมีการพัก
ในภาวะกระทิง ราคาหุนสวนใหญวิ่งขึ้น นักลงทุนบางคนรูสึกคึกคัก
พากันซื้อมากขึ้น และคิดวาคนอื่นก็จะเขามาซื้ออีก (ในระยะสั้น) ทําใหราคาสูง
ขึน้ อีก ดังนัน้ จึงเขาใจวาการทํากําไรจากตลาดหลักทรัพยฯ เปนเรือ่ งงายจนอาจ
นํามาเปนคากับขาว (จากตลาดหลักทรัพยฯ) ไดแทบทุกวัน
พอตลาดอยูนิ่งๆ (เพราะกระทิงวิ่งจนหมดแรง) นักลงทุนก็จะเกิดความ
อึดอัด เพราะเริ่มหาคากับขาวไดยากขึ้น และพอมีขาวรายขึ้นมา ราคาหุน
ก็เริ่มลด นักลงทุนเริ่มเทขาย ราคาหุนก็ตกลงไปอีก ภาวะคุณหมีก็จะปรากฏ
ชัดเจนขึ้น ใน 3 ชวงดังกลาวดูเหมือนวานักลงทุนจะมีความสุขในการ “ซื้อถูก
ขายแพง” ในชวงตลาดขาขึ้นเทานั้น
104
ตามรอยวิถีเซียนลงทุน
แตคุณเทพมองโอกาสและวิธีการลงทุนในตลาดหลักทรัพยฯ ในแตละ
ชวงตางกันออกไป
■ ในชวงตลาดขาขึ้น ราคาหุนสวนใหญจะสูงขึ้น การเขาไปซื้อในชวงนี้
ตนทุนจะสูงขึ้นและอัตราผลตอบแทนจะลดลง เชน หุนที่เคยมีราคา
20 บาท จายปนผล 2 บาท คิดเปน Dividend Yield จะได 10%
แตถาราคาขึ้นไป 40 บาท และเงินปนผลเทาเดิม Yield จะเหลือเพียง
5% คุณเทพคิดวาในชวงกระทิงนี้ควร เขาไปขาย มากกวา เพียงแต
คุณเทพยังมีเทคนิคคอยๆ ทยอยขาย เพื่อใหตนทุนลดลง และ Yield
สูงขึ้นเรื่อยๆ
■ ในชวงตลาดนิง่ ๆ คุณเทพมองวาควรเปนชวงใชเวลาไปศึกษาคนหาวา
หุนที่มีปจจัยพื้นฐานดีอยูที่ไหนบาง คัดเลือกไวในใจ รอคอยจังหวะที่
ตลาดหมีจะมาเยือน
■ ในชวงตลาดหมี คุณเทพมองวานักลงทุนมักจะกลัวและเทขายออก
มาอยางมากมาย จนทําใหมีของดี ราคาถูกออกมาขายปนอยูดวยใน
ตลาด ซึ่งควรจะเปนโอกาสทองในการ เขาไปซื้อ เหมือนไปชอปปง
ในหางตอนมีการกระหนํ่า Summer Sales
รูจักกลยุทธการลงทุนในตลาดหุน
การลงทุนในตลาดหลักทรัพยฯ นั้น คุณเทพเห็นวามีกลยุทธเพียง 5 วิธี
เทานั้น โดยสรางคําใหคลองจองจํางายๆ ดังนี้
■ เลนกับไฟ
■ ไขทองคํา
■ กําไวแนน
■ แผนรังนก
■ ชกผานสิงห
105
การลงทุนหุนหานทองคําของ คุณเทพ รุงธนาภิรมย
กลยุทธ “เลนกับไฟ”
เปนการลงทุนแบบซื้อหุนตัวที่คาดวาราคาจะขึ้น โดยอาจจะไดขอมูลมา
หรือวิเคราะหเองมาอยางดีก็ตาม ซึ่งผมเองตีความวา ก็ไมแปลกเพราะตรง
กับ “สัญชาติญาณของนักลงทุน” ที่ตองการ “ซื้อถูก ขายแพง” เพียงแตคนที่
ลงทุนแบบเลนกับไฟนี้ เมื่อราคาหุนขึ้นมามากบาง นอยบางก็ขายเอากําไร
ไมตองการถือยาว แตบอยครั้งที่ราคาหุนกลับตกลง ไมขึ้นตามที่คิด ก็ตองยอม
ตัดขาดทุนขายทิ้ง ที่เรียกวา “Cut Loss” คนที่ชอบแบบนี้ซึ่งมีมากก็เพราะเปน
วิธที งี่ า ย ใครๆ ก็ทาํ กัน แตคณ
ุ เทพมองวา นีแ่ หละคือ “แมงเมา” ทีช่ อบเลนกับไฟ
ซึ่งบอยครั้งก็ถูกไฟเผาได
กลยุทธ “ไขทองคํา”
เปนกลยุทธที่คุณเทพใชอยูในการลงทุน วิธีการนี้จะคนหาหุนที่ดี ราคา
สมเหตุสมผล จายปนผลสมํ่าเสมอ และคุมสติไมใหโลภมาก ปรับพอรตบาง
(คุณเทพใชคําวา ตกแตงสวน) โดยทยอยขายเมื่อราคาขึ้น เคล็ดลับจึงอยูที่
การคนหาหุน หานทองคําทีจ่ ะสามารถออกไขทองคําสมํา่ เสมอ และเมือ่ หานทองคํา
ในฟารมของเราโตขึน้ ก็ตอ งแบงขายออกไปบาง นักลงทุนทีช่ อบสไตลการลงทุน
แบบนี้ตองเรียนรูดานการเงิน มีเวลาติดตามบาง แตมีขอดี คือ ไมตองตื่นเตน
คอยติดจอหุนตลอดเวลา
กลยุทธ “กําไวแนน”
กลยุทธนี้คุณเทพมองวาเปนญาติสนิทกับกลยุทธ “ไขทองคํา” ตัวอยาง
ที่สําคัญไดแก การลงทุนแบบ Value Investor ของ วอรเร็น บัฟเฟตต วิธีการ
นี้จะคนหาหุนหานทองคําที่ไขทองคําไดเหมือนกัน แตจะถือไวนานมาก และ
รอคอยจนหานทองคําโตเต็มที่และขายออกไปภายหลัง วิธีการลงแบบนี้จึงตอง
มีสายปานยาวและเปนเงินเย็น
106
ตามรอยวิถีเซียนลงทุน
กลยุทธ “แผนรังนก”
กลยุทธแบบนี้คุณเทพมองวาเหมาะสมกับนักลงทุนมือใหม ซึ่งมีเงิน
ลงทุนนอย คอยๆ หาหุนดี สะสมเขาพอรตตามกําลังที่มี เขากับตําราที่วา
“นกนอยทํารังแตพอตัว” รอคอยจนกวารังนกนัน้ จะใหญขนึ้ เรือ่ ยๆ ผมตีความวา
กลยุทธนี้ก็เปนญาติสนิทของ “ไขทองคํา” และ “กําไวแนน” เชนกัน เพราะการ
หาหุนดีเขารังนกก็ควรเปนหุนหานทองคํานั่นแหละ แตก็ไมไดมีวิธีเดียวนะครับ
เพราะของที่ใหเลือกอาจมีหุนในลักษณะอื่นอีก เชน หานเนื้อ (หุนของบริษัท
ทีโ่ ตเร็ว) หานวัยรุน (หุน ของบริษทั ทีเ่ ริม่ เขามาในตลาด) หานบาดเจ็บ (หุน ทีอ่ าจ
ฟนตัวในภายหลัง) เปนตน
กลยุทธ “ชกผานสิงห”
วิธีการนี้คือการลงทุนผานกองทุนรวม ซึ่งเปรียบเสมือนสิงโต ซึ่งเปน
เจาปาเปนที่พึ่งพิงของนักลงทุนตัวเล็กๆ อยางเราซึ่งมีอีกจํานวนมาก ถาเรามี
เงินลงทุนไมมากและขาดความรูค วามเขาใจทางการเงิน รวมทัง้ ไมมเี วลาติดตาม
จึงตองอาศัยสิงโตเปนผูคุมครองและลงมือลงทุนแทนเรา เพราะกองทุนรวม
จะมีทีมงานผูเชี่ยวชาญที่จะคัดเลือก วิเคราะหติดตามหุน ตรวจเยี่ยมกิจการ
ของหุน ซือ้ ขายหุน เพือ่ ใหไดกาํ ไร เปนตน อยางไรก็ตาม กองทุนรวมมีหลากหลาย
ซึ่งอาจใหลงทุนในหานชนิดตางๆ กันไป ซึ่งเราก็ตองเลือกใหเขากับสไตล
การลงทุนของเราดวย
ผมตีความเพิ่มเติมวาในชีวิตจริงของการลงทุน เราอาจเลือกสไตล
หรือกลยุทธการลงทุนแบบใดแบบหนึ่งตามที่เราชอบ บางคนอาจเริ่มตนแบบ
“แผนรังนก” แลวโตขึ้นเปนแบบ “ไขทองคํา” บางคนอาจเปนแผน “กําไวแนน”
ตลอด บางคนแบงเงินลงทุนเปน 2 สวน สวนหนึ่งใชกลยุทธแบบ “ไขทองคํา”
อีกสวนหนึ่ง “ชกผานสิงห” บางคนเริ่มตนแบบ “ไขทองคํา” และเมื่อทํากําไรได
อาจนํากําไรบางสวนมาทํากลยุทธ “เลนกับไฟ” ก็ได
107
การลงทุนหุนหานทองคําของ คุณเทพ รุงธนาภิรมย
ลักษณะสําคัญของหุนหานทองคํา
คุณเทพบอกวาถาเราหาหุนหานทองคํามาได เปรียบเสมือนกับเราได
เครื่องจักรทํากําไรไวในมือ ซึ่งหุนหานทองคําพันธุแท ควรจะมีลักษณะเดนๆ
9 ประการ ดังนี้
■ มีกําไรอยางตอเนื่อง
■ เปนกําไรที่มีคุณภาพ
■ กําไรสะสมเปนบวก
■ เงินสดมีเหลือเฟอ
■ หนี้สินตํ่ามาก
■ ลงทุนขยายงานไมหยุด
■ ปนผลเพิ่มอยางสมํ่าเสมอ
■ ยอดขายก็เติบโต
■ ไมรบกวนผูถือหุนเรื่องเพิ่มทุน
เขาใจตัวเลขทางการเงิน
เพื่อคนหาหุนหานทองคํา
ผมชอบรูปทีค่ ณ
ุ เทพอธิบายไวเกีย่ วกับงบการเงินใหเขาใจมากในรูปเดียว
ดังนี้ครับ
รูจักดัชนีวัดความสามารถ
ในการทํากําไร
ในความรูสึกทั่วไป การคนหาหุนของบริษัทที่ดีนั้น “บริษัทที่มีกําไร”
คงเปนปจจัยสําคัญประการหนึ่งที่เราตองมอง แตคุณเทพสอนเราเพิ่มเติมอีกวา
การมอง “กําไร” ไมควรจะมองจากเม็ดเงินเทานั้น แตควรจะมองในลักษณะ
เปรียบเทียบกับอะไรสักอยาง จึงจะสามารถวิเคราะหไดวา กําไรนัน้ มีความสวยงาม
(มีคุณภาพ) เพียงใด โดยนําเสนอดัชนี หรือ Ratio พื้นฐานซึ่งนักการเงินทั่วไป
รูจักดี ไดแก
■ Net Profit Margin เปนการมองคุณภาพกําไรในการหารายได
■ Return On Asset (ROA) เปนการมองคุณภาพกําไรในดานการใช
ทรัพยสิน
■ Return On Equity (ROE) เปนการมองคุณภาพกําไรในดานการใช
เงินของผูถือหุน
ในดาน Net Profit Margin วิธีคํานวณทําไดดังนี้
กําไรสุทธิ
Net Profit Margin = X 100
รายได
112
ตามรอยวิถีเซียนลงทุน
โดยสรุปแลวถาอยากรูวา บริษัทใดมีคุณภาพของกําไรวาดีหรือไม
ลองติดตามดูคา Net Profit Margin, ROA และ ROE ซึ่งยิ่งมีคาสูงก็ยิ่งดี
การเชื่อมโยงของดัชนี
วัดความสามารถในการทํากําไร
ถาเรานําดัชนี ROE มาตั้งตนแลวเริ่มกระจายใหม จะไดวา
กําไรสุทธิ รายได สินทรัพย
ROE = X X
รายได สินทรัพย สวนของผูถือหุน
จะสามารถเจาะลึกเพิ่มเติมใหเห็นเลยวา การที่บริษัทจะมี ROE สูงๆ
ขึ้นอยูกับวา
■ มีกา ํ ไรสุทธิ/รายได หรือ Net Profit Margin สูงหรือไม คานีส้ งู แสดงวา
บริษัทดําเนินงานอยางดี มีการควบคุมคาใชจาย ทําใหธุรกิจมีกําไร
■ องค ป ระกอบที่ ส อง คื อ รายได / สิ น ทรั พ ย ซึ่ ง เราเรี ย กว า Asset
Turnover คือ ดูการหมุนของสินทรัพยเพื่อใหเกิดยอดขาย ยิ่งมากยิ่ง
สะทอนประสิทธิภาพของสินทรัพยของกิจการในการสรางรายได
■ องค ป ระกอบที่ ส าม คื อ สิ น ทรั พ ย / ส ว นของผู ถื อ หุ น ตามหลั ก
คณิตศาสตรแลว ยิ่งอัตราสวนนี้มีคามากก็ยิ่งทําให ROE มาก เพราะ
สูตรเปนผลคูณกันอยู อัตราสวนนีเ้ รียกวา Equity Turnover ซึง่ อธิบาย
ไดวาเงินที่ลงทุนในสินทรัพยตองพึ่งเงินจากผูถือหุนแคไหน ถาคา
ของ Equity Turnover สูง แสดงวาพึ่งเงินจากผูถือหุนนอย (โดยนัย
คือ ไปพึ่งเงินทุนจากเจาหนี้) การดําเนินงานที่ไมตองพึ่งเงินจาก
เจาของไมตองเพิ่มทุนบอยๆ เปนความสามารถชนิดหนึ่ง เพราะ
เอาเงินจากภายนอกมาทําธุรกิจเมื่อหักคืนเงินตนและดอกเบี้ยแลว
จะทําใหยงั เหลือกําไรแบงมาใหผถู อื หุน โดยไมตอ งลงทุนอีก คา ROE
ก็จะสูงขึน้ อยางไรก็ดี ตองคอยดูแลไมใหเงินจากเจาหนีส้ งู มากเกินไป
เพราะแมจะดีตอ ROE แตอาจทําใหความเสี่ยงทางการเงินสูงเกินไป
จากการมีภาระหนี้สินสูงมากก็เปนได
114
ตามรอยวิถีเซียนลงทุน
ดูการเติบโตของกําไร
นอกจากการดูดัชนีวัดความสามารถในการทํากําไรแลว คุณเทพยัง
แนะนําใหดูในประเด็น “การเติบโตของกําไร” ดวย เวลาเราพูดถึงอัตราการ
เติบโต (Growth Rate) จากชวงเวลาหนึ่งไปยังอีกชวงเวลาหนึ่ง ลักษณะเชนนี้
ไดสะทอนถึงประสิทธิภาพในการดําเนินงานอีกดวย เราจะหยิบขอมูลสําคัญ เชน
สินทรัพย ยอดขาย สวนของผูถือหุน กําไรสุทธิและกําไรสุทธิตอหุน มาดูอัตรา
การเติบโตหลายๆ ป
แมวาเราจะสนใจอัตราการเติบโตของกําไรสุทธิตอหุน (Earnings Per
Share : EPS) แตเราสามารถวิจารณไดวา กําไรที่เพิ่มขึ้นมาจากอะไร มาจาก
การเติบโตของยอดขายทีเ่ ร็วมากในชวงนี้ ขณะทีก่ ารเติบโตของสินทรัพยชา กวา
เปนตัวอยางแสดงถึงฝมือในการบริหารแบบหนึ่ง เปนตน
บริษัทที่มีลักษณะการดําเนินงานที่แข็งแกรง มี EPS เติบโตตอเนื่อง และ
ถาวิเคราะหไปขางหนาดวยวาจะดีอยางนี้ตอไป ราคาหุนในอนาคตก็มีโอกาส
จะเพิม่ ขึน้ ใครทีเ่ ห็นหุน ลักษณะนีแ้ ตเนิน่ ๆ ก็มโี อกาสสรางกําไรไดดใี นระยะยาว
ยุทธศาสตรหุนหานทองคํา
บริ ษั ท จดทะเบี ย นที่ ส ามารถจะเป น หุ น ห า นทองคํ า ได น อกจากจะมี
คุณสมบัติ 9 ประการ ตามที่ไดเคยกลาวถึงไปแลวนั้น คุณเทพใหความสําคัญ
แก CEO ผูเปนแมทัพของบริษัทเปนอยางมาก ในการดําเนินธุรกิจเขาสูสมรภูมิ
การคา ในตอนนีจ้ ะไดสรุปและตีความจากหนังสือ “ยุทธศาสตรหนุ หานทองคํา”
กันในประเด็นนี้
115
การลงทุนหุนหานทองคําของ คุณเทพ รุงธนาภิรมย
รูจักสภาสงครามหุน
คุณเทพเปรียบเปรยไววาการลงทุนในหุนเปรียบเหมือนเขาสูสงคราม
ซึง่ จะมีสนามรบ 2 สนาม ไดแก “สนามรบบนกระดานหุน ” ทีช่ ว งชิงกันซือ้ ขายหุน
จนราคาขึ้นๆ ลงๆ อยางที่เห็น กับ “สนามรบทางการคาของบริษัทเจาของหุน”
ซึ่งตองไปสูรบเพื่อขายสินคา และ/หรือ บริการ ของตนเองใหชนะกับคูแขง
คุณเทพมองวา มูลคาหรือราคาของหุนจะขึ้นอยูกับสนามรบการคาเปนหลัก
ซึง่ ในระยะยาวก็จะไปสงผลตอราคาบนกระดานหุน ดวย สวนสนามรบบนกระดาน
หุน ราคาถูกกระทบตลอดเวลาทัง้ ในระยะสัน้ และระยะยาว คุณเทพแนะนําใหเรา
ใหความสําคัญกับ “ผลบนสนามรบทางการคา” มากกวาการดู “ผลบนกระดาน
หุน” โดยใหมองวาหุนแตละตัวเปรียบเสมือนกองทัพๆ หนึ่ง ซึ่งมีหนาที่หลัก
ในการยึดและขยายดินแดนทางการตลาด
ทัง้ นี้ ตัว CEO คือ แมทพั ใหญ ทีม่ หี นาทีต่ อ งรายงานผลตอคณะกรรมการ
บริษทั ซึง่ เปรียบเหมือนเปนสภาสงคราม และผูถ อื หุน ก็คอื ผูม สี ทิ ธิเลือกสมาชิก
สภาสงคราม โดยที่สภาสงครามตองรวมรับผิดชอบกับแมทัพใหญดวย เชน
คณะกรรมการตรวจสอบ (Audit Committee) ทําหนาทีค่ มุ กฎไมใหมกี ารนําเงิน
กองทัพไปใชสวนตัว คณะกรรมการบริหาร (Executive Committee) ทําหนาที่
กําหนดแนวทางและวิธกี ารในการทําสงคราม ทางบริษทั มีการตัง้ คณะกรรมการ
สรรหาและกําหนดคาตอบแทน (Nominating & Compensation Committee)
เพือ่ ชวยกันหาคนเกงๆ มาเสริมทัพ และกําหนดหลักเกณฑปนู บําเหน็จ นักลงทุน
ตองคอยวิเคราะหวา หุน ตัวไหนทีม่ สี ภาสงครามดี มีแมทพั เกง เราจะมัน่ ใจมากขึน้
ที่จะเขาไปซื้อ โดยเฉพาะตอนที่ราคาถูกๆ กวามูลคาจริงๆ ของบริษัท
รูจักหนาที่หลักของ CEO
เนื่องจาก CEO และทีมบริหารมีความสําคัญมากในการนําทัพออกรบ
ถารบสําเร็จมูลคาของหุนก็จะเพิ่มสูงขึ้น คุณเทพเห็นวา CEO ที่ดีควรจะรูวงจร
กระบวนการสรางมูลคาหุน ซึ่งสรุปไดดังนี้
116
ตามรอยวิถีเซียนลงทุน
ৰ$"࣍)ࢅ
.=-LՖ ؈$
ĞL.
■ เขาใจถึงหลักการสรางมูลคากิจการ
■ มีวิสัยทัศน
■ เกงในเรื่องการเลือกใชคน และมอบหมายงาน
■ เขาใจความตองการที่เปลี่ยนไปของตลาดและลูกคา
■ ทํางานอยางมุงมั่น ทําในสิ่งที่รูวามีจุดแข็ง
■ สนใจการเพิ่มประสิทธิภาพ และการลดตนทุน
แนวคิด
ในการสรางความมั่งคั่งในระยะยาว
คุณเทพเสนอแนะวาการที่จะทําใหเกิดความมั่งคั่งในระยะยาว มนุษย
ทุกคนไมวา จะเปนมนุษยเงินเดือนหรือผูป ระกอบการ จะรูห ลักการซึง่ อธิบายได
ดวยรูปงายๆ ซึ่งคุณเทพเรียกวา แบบจําลองสรางความมั่งคั่ง ดังนี้
ެH34 Hŀ%88,
8 '0 0؈$
คุณเทพแนะนําใหแตละคนลองคิดวา เรามีความสามารถพิเศษอะไร
เพิ่มเติมที่จะหารายไดอีกหรือไม คนเรามีเวลา 24 ชั่วโมงเทากัน แตบางคน
ใชเวลาวางในการหารายไดพเิ ศษเพิม่ เติมไดอกี เชน ทํางานอดิเรกเพือ่ หารายได
การสอนพิเศษ ซึ่งเปนการใชเวลาวางใหเปนประโยชน และยังชวยผูอื่นไดดวย
รายไดพิเศษสวนนี้ สามารถนําไปสะสมใหยอดเงินออมสูงขึ้นได
จากการเก็บออม คุณเทพยังแนะนําเพิม่ เติมวา เราตองรูจ กั วิธที จี่ ะใหเงิน
ไปหาเงิน ดวยการนําไปลงทุนในสินทรัพยการเงินชนิดตางๆ เพื่อใหดอกผล
กลับมาอยางสมํ่าเสมอ ในหนังสือ “ยุทธศาสตรหุนหานทองคํา” ฉบับป 2550
หนา 220 คุณเทพอธิบายวา “ดอกผลทีไ่ ดรบั เปนผลตอบแทนจากการลงทุนเปน
รายไดสาํ คัญในระยะยาว เพราะเปนรายไดทไี่ ดมาโดยไมตอ งใชเวลาและแรงงาน
คําถามคือ รายไดนี้ควรจะเอามาใชจายหรือไม คําตอบคือ ได ถามีความจําเปน
แตถาไมตองใชนํากลับไปเก็บออม เงินที่นําไปลงทุนก็มีเพิ่มมากขึ้น ที่วิเศษ
กวานัน้ ก็คอื รายไดดอกผลก็เพิม่ พูนขึน้ อยางไมหยุดยัง้ เพราะกลไกของเงินทําเงิน
เริ่มทํางานอยางมีประสิทธิภาพสูงขึ้น”
วิธีการเหลานี้ถาเราทําได เรียกวา เรารูวิธีการ ทําเงิน และสุดยอดของ
การทําเงินที่ประสบความสําเร็จ ก็คือ
8 '0 K̒ʝ=-
แผนการลงทุนแบบระยะยาว
ดวยหุนหานทองคํา
สําหรับการสรางความมัง่ คัง่ ในระยะยาวดวยหุน หานทองคํา คุณเทพสราง
แบบจําลองใหเรา ดังนี้
88,Hɶ$ 0؈$
1 3
กลยุทธการลดตนทุนหุน
ในพอรตหุนหานทองคํา
กลยุทธนี้ในหนังสืออีกเลมของคุณเทพ คือ “กลยุทธหุนหานทองคํา”
เรียกวา “การตกแตงสวน” ซึง่ ผมคิดวาก็เขาทาดี ผมนึกถึงพอรตการลงทุนตัง้ ตน
ในหุนหานทองคํา เหมือนกับเราปลูกสวนดอกไม พอเวลาผานไปสวนดอกไม
บานสะพรั่งทั้งสวน ซึ่งเปรียบไดกับราคาหุนที่สูงขึ้น เราอาจตัดดอกไมทั้งสวน
ไปขายก็ได (เคลียรพอรต) แตคณ ุ เทพแนะนําใหตดั ดอกไมบางสวน และเก็บไว
บางสวน สวนที่เก็บตนทุนจะลดลง ผมลองคิดเปนตัวอยางดังนี้ครับ
สมมติวาเราเคยซื้อหุนหานทองคําตัวหนึ่งมา 100 หุน ในราคาหุนละ
10 บาท ตนทุนเปน 1,000 บาท ตอมาราคาหุนตัวนี้สูงขึ้น 30% จาก 10 บาท
เปน 13 บาทตอหุน มูลคาพอรตของเราก็จะกลายเปน 1,300 บาท ถาเรานําหุน นี้
ออกขายครึ่งหนึ่ง คือ 50 หุน คําถามคือ หุนที่เหลือนี้ตนทุนเทาไหร แมตนทุน
ที่ซื้อมาเทากับ 500 บาท แตตนทุนที่แทจริง =( 500-150) / 50 = 350 / 50
เทากับ 7 บาทตอหุน เพราะ 50 หุนที่ขายไปแลว ไดเงิน 650 บาท แบงเปน
เงินตน 500 บาท และกําไรสวนเกิน 150 บาท กําไรสวนเกินนี้ สามารถนําไป
ลดตนทุนหุนที่เหลืออยู ไดตนทุนหุนที่เหลือ 7 บาทตอหุน ทําใหชองวางของ
ราคาตลาด 13 บาทตอหุน กับตนทุน 7 บาทตอหุน มีสวนเผื่อความปลอดภัย
(Margin of Safety) 6 บาทตอหุน จึงถือวามีเบาะรองรับไมตองตกใจมากเวลา
หุนมีราคาตกลง โอกาสที่จะขาดทุนก็นอยกวาคนอื่น แตถาหุนหานทองคํานี้
122
ตามรอยวิถีเซียนลงทุน