Professional Documents
Culture Documents
Excel 2016 Quick
Excel 2016 Quick
b. IF + AND + OR + NOT 11
c. IFS (2016) 13
d. IFERROR 13
f. SUMIF/ SUMIFS 14
g. AVERAGEIF/ AVERAGEIFS 15
i. VLOOKUP (HLOOKUP) 16
j. MATCH 17
k. INDEX 17
a. Goal Seek 33
b. Data Table 34
a. Sampling 36
b. Independent T-Test 38
c. Correlation Matrix 40
d. Linear Regression 43
copy แล้ว paste หรือให้เราไปที่แท๊บ Data > Get External Data > From
หน้าต่างข้างล่างขึ้นมา ให้เราเลือกดังนี้
• ถ้าแถวที่หนึ่งของข้อมูลเราเป็นชื่อตัวแปรในแต่ละคอลั่ม ให้เราติก
๊ ช่อง My
1
หน้าถัดมา ด้านซ้ายบนของหน้าต่างจะมี Delimiters ให้เราเลือกได้ 5 แบบ วิธีการ
Excel จะถามต่อว่าเราจะเอาข้อมูลไป
วางไว้ตรงไหน สามารถเลือกวางได้ที่
กด OK ได้เลยครับ
2
Chapter 2 การจัดเรียง กรองข้อมูล และกรองข้อมูลขั้นสู ง (sort & filter)
พร้ อมกัน) ให้ เรากดที่ไ อคอน custom sort ได้เ ลยครั บ Excel จะป๊อ ปอั พ
หน้าต่างใหม่ขึ้นมา และ Excel จะไฮไลท์ข้อมู ลทั้งหมดของเราโดยอั ตโนมัติ ถ้าแถว
ที่หนึ่ งเป็นชื่อตั วแปร (ซึ่ งส่ วนใหญ่เป็ นแบบนั้ นอยู่ แล้ว) ให้เ ราติ๊ก เลือ ก My data
has headers ด้วยนะครับ
3
• กดปุ่ม Add Level เพื่ อเพิ่ มเลเยอร์ในการจัดเรียงข้อมูล โดย Level
บนสุ ดจะสาคัญมากที่สุดและถูกเรียงก่อน
เราก็สามารถเรียงค่าจากมากไปน้อย หรือจากน้อยไปมากได้เช่นกัน
4
มาลองดู Advanced Filter กันบ้างฮะ
6
Well Done!
7
Chapter 3 การปรับแต่ง number format
8
Chapter 4 การตั้งชื่อ cell และใช้ชื่อในสู ตรต่างๆ (define names)
9
ข้อดีของการใช้ Name ในการเขียนสู ตรคือเวลาเราอ่าน มันจะเข้าใจง่ายมากๆเลย
แทนที่จะเขียนสู ตรปกติแบบนี้ =A2+A2*$D$2 แทนค่า $D$2 ด้วย
“Increase2018” จะ make sense กว่าเยอะเลย
10
Chapter 5 ใช้งานอย่างโปร กับ 10 Functions โคตรมีประโยชน์
ถ้าเรากดปุ่ม F4 หลายๆครั้ง
• 1 ครั้ง เราจะได้ $A$1 แบบนี้เรียก Absolute คือล็อคเซลล์ A1 ค้างไว้เลย
ในสู ตร (ล็อคทั้งคอลั่ม A และล็อคแถวที่ 1)
• 2 ครั้ง เราจะได้ A$1 แบบนี้คือการล็อคแถวที่ 1 แต่คอลั่มเปลี่ยนได้
• 3 ครั้ง เราจะได้ $A1 แบบนี้คือการล็อคคอลั่ม A แต่แถวเปลี่ยนได้
• 4 ครั้ง เราจะกลับไปสู่ ค่าปกติ A1 เฉยๆ ไม่มีการล็อคเซลล์ใดๆ
1. IF
ฟังชั่นที่น่าจะใช้เยอะสุ ดแล้วครับ ใน Excel เราใช้ IF เพื่ อสร้างเงื่อนไข โดย syntax
ของ IF เป็นแบบนี้ฮะ =IF(condition, if TRUE, if FALSE)
11
ในตัวอย่างเมื่อตะกี้ เราเขียนสู ตรในช่อง E2 ว่า =IF(D2>30, TRUE, FALSE) ถ้า
เกิดอายุของตัวละคนมากกว่า 30 ปีขึ้นไป ให้ Excel รีเทินค่า TRUE กลับมา แต่ถ้า
เงื่อนไขไม่เป็นจริง (หรืออายุต่ากว่าหรือเท่ากับ 30 ปี) ให้รีเทินค่า FALSE แทน
12
2. IFS (2016)
ถ้าเราอยากจะเขียน IF ซ้อน IF ต้องทายังไงดี? ถ้าเราต้องมีหลาย IF ในสู ตรเดียว
แบบนี้เรียกว่า Nested IFs ครับ ซึ่ง Excel เวอร์ชั่น 2016 มีฟง
ั ชั่นใหม่ IFS ที่
ช่วยให้การเขียน Nested IFs สะดวกขึ้นมาก ตัวอย่างด้านล่างเลยครับ พิ มพ์ สูตร
ในช่อง E2 ว่า =IFS(Age<=30, “Young”, Age<=40, “Old”, Age<=50,
“Mature”) เราเพิ่ งเขียนสู ตรที่มีทั้งหมด 3 เงื่อนไขด้วยฟังชั่น IFS ง่ายๆเลยฮะ
3. IFERROR
เคยพิ มพ์ สูตรใน Excel แล้วเจอข้อความ Error หรือเปล่าครับ? เชื่อว่าทุกคนต้อง
เคยเจอมาเหมือนกัน ถ้าเราใช้ IFERROR ไปครอบสู ตรที่ขึ้น Error นั้น เราสามารถ
ซ่อนค่า Error หรือแก้ไขข้อความนั้นได้ไม่ยากเลย ดูตัวอย่างด้านล่างฮะ สมมติเรา
พิ มพ์ สูตรแล้วขึ้น Error ว่า #DIV/0! เราสามารถพิ มพ์ สูตร IFERROR() ทับลงไป
ได้เลยแบบนี้ครับ =IFERROR( เซลล์ที่ขึ้น error, “”) เพื่ อแทนที่ข้อความ error
เหล่านั้นด้วย blank cell หรือจะเป็นข้อความว่า “it’s error” แบบนี้ก็ได้ครับ
13
4. COUNTA + COUNTIF + COUNTIFS
ถ้าอยากนับ cell ที่มีข้อมูลทั้งหมดให้เราใช้ COUNTA แต่ถ้าอยากนับค่าแบบมี
เงื่อนไข เช่น คอลั่ม C มี Super Hero กี่คน? ให้เราใช้ COUNTIF แต่ถ้าอยากจะ
นับหลายๆคอลั่มพร้อมกัน เช่น ในประเทศอังกฤษมีนักฟุ ตบอลกีค
่ น? ให้เราใช้
COUNTIFS (มี S ต่อท้ายด้วย)
G1 = 13 นับจานวนเซลล์ที่มีข้อมูลทั้งหมดในคอลั่ม B
G2 = 4 นับจานวน Super Hero ทั้งหมดในคอลั่ม C
G3 = 2 นับจานวนนัก Football ทั้งหมดที่อยู่ในประเทศ United Kingdom
5. SUMIF + SUMIFS
ถ้าทุกคนใช้ COUNTIF / COUNTIFS เป็นแล้ว การใช้ SUMIF (SUMIFS) ก็เป็น
เรื่องง่ายๆแล้วฮะ โดย syntax ของ SUMIF คล้ายๆกับของ COUNIFS เลย แต่
เพิ่ มมาอีกหนี่ง argument คือคอลั่มที่อยากให้มันหาผลรวมให้เรา ตัวอย่างครับ
14
6. AVERAGEIF + AVERAGEIFS
ใช้เหมือนกับ SUMIF / SUMIFS ทุกอย่างเลยแต่เปลี่ยนจากการหาผลรวมเป็นการ
หาค่าเฉลี่ยแทนครับ ตัวอย่างด้านล่างเลย ในเซลล์ G8 และ G9 ตามลาดับ
15
8. VLOOKUP + HLOOKUP
VLOOKUP เป็นฟังชั่นที่ใช้เยอะรองจาก IF เลยก็ได้ครับ ใช้ในการ lookup ค่าที่เรา
ต้องการจากตารางหรือฐานข้อมูลอื่นๆ โดยที่ VLOOKUP จะไปดึงค่าจาก column
ที่เราต้องการครับ (เพราะว่า V ย่อมาจาก Vertical หรือแนวตั้งนั่นเอง) ลองดู
ตัวอย่างการใช้งานด้านล่างครับ เราจะให้ Excel ไปตามหา Yaiba ให้เรา แล้วดึง
ค่า Country, Occupation และ Age ของไยบะ ออกมาให้เราครับ
16
มาถึงสองฟังชั่นสุดท้ายแล้ว อันนี้ Advanced ขึ้นมาหน่อย
ต่อยอดมาจากฟังชั่น VLOOKUP เรามาเรียนการใช้งาน MATCH คู่กับ INDEX
เพื่ อดึงค่าทุกอย่างที่เราต้องการกันดีกว่า สองสู ตรนี้ยืดหยุ่นกว่าการใช้
VLOOKUP มาก เพราะว่าข้อจากัดของ VLOOKUP คือการดึงค่าในตารางที่มี
คอลั่มอยู่ทางขวามือของ Lookup Value เท่านั้น แต่จะทายังไงถ้าเกิดค่าที่เรา
อยากดึงออกมาอยู่ทางซ้ายมือของ Lookup Value? ลองดูวิธีทาข้างล่างเลยฮะ
9. MATCH
เราใช้ MATCH เพื่ อระบุตาแหน่งของ Lookup Value ใน column (หรือ row
นัน
้ ๆ) ดูตัวอย่างการใช้ในรูปด้านล่างได้เลยครับ ตัวอย่างนี้เราจะหาตาแหน่งของ
Yaiba และ Iron Man ในเซลล์ B2:B13
10. INDEX
ส่ วน INDEX ใช้เพื่ อดึงค่าหลังจากเรารูต
้ าแหน่งของข้อมูลที่เราอยากจะดึงแล้ว
สมมติเราอยากจะดึง ID (ในคอลั่ม A) ของทั้ง Yaiba และ Iron Man
17
กรณีนี้คือเราจะดึง ID ของตัวละครที่อยู่ในคอลั่ม A ทางซ้ายมือของชื่อตัวละคร
VLOOKUP จะไม่สามารถใช้ได้ในกรณีนี้ครับ ต้องเปลี่ยนมาใช้ MATCH + INDEX
แทน ผลลัพธ์อยู่ในรูปด้านบนแล้วครับ
18
Chapter 6 ไฮไลท์ข้อมูลด้วย conditional formatting
บางทีการที่มีข้อมูลตัวเลขเยอะๆมันก็ดูยาก วิธีที่จะช่วยให้เรานาเสนอข้อมูลได้ดีขึ้ น
คือการปรับแต่ง Cells ด้วยการใส่ สี ใส่ ไอคอน ทา heat map ฯลฯ เราต้องทางาน
art ใน Excel บ้าง และเครื่องมือที่เหมาะสาหรับงานนี้คือ Conditional
Formatting นั่นเองฮะ ไปที่แท๊บ Data > Conditional Formatting จะเห็นว่า
เราสามารถไฮไลท์เซลล์ได้หลายวิธีเลย มาลองใส่ สี ในเซลล์ C2:C20 ด้วย
Top/Bottom Rules > Above Average กันดีกว่าครับ ในรูปตัวอย่างด้านล่าง
ดังแสดงในรูปด้านซ้ายมือครับ ถ้าอยากจะ
19
Excel จะป๊อปอัพหน้าต่างใหม่ขึ้นมาให้เรากด Edit Rule ได้เลยครับ โดยเรา
สามารถเปลี่ยนเงื่อนไขได้หลายอย่าง รวมถึงเปลี่ยนสี Format ต่างๆได้ ตัวอย่าง
ด้านล่างเราเลือกใหม่เป็น “Use a formula to determine which cells to
format” แล้วพิ มพ์ C2<30 ลงไปในช่องสู ตร แล้วฟอแมทสี ใหม่ให้เป็นสี ฟา้ อ่อน
กด OK เพื่ อ apply ฟอแมทใหม่ในเซลล์ C1:C20 จะได้ผลตามรูปขวามือด้านล่าง
20
Chapter 7 การเปลี่ยน themes, colors, fonts ของ workbook
21
Chapter 8 การลบข้อมูลซ้า (Remove Duplicates)
การตรวจสอบข้อมูลว่ามีข้อมูลซ้าหรือเปล่า ก็เป็นเรื่องที่เราควรเช็คทุกครัง
้ เลย
Excel สามารถเช็คให้เราได้ง่ายมากๆ โดยลากคลุมข้อมูลของเรา (หรือ column
ที่เราจะตรวจสอบ duplicates) ไปที่ Conditional Formatting > Highlight
Cells Rules > Duplicate Values แล้วกด OK ได้เลย
22
Chapter 9 การใช้งาน group + ungroup + subtotal
“ Subtotal ไม่สามารถใช้ได้กบ
ั ข้อมูลที่เราเก็บในรูปของ Table และ
ก่อนใช้งาน Subtotal เราต้อง Sort เรียงข้อมูลก่อน
23
เรียงข้อมูลก่อนทา Subtotal นะครับ
ตอนนี้เรา Sort ข้อมูลใน Column C เรียบร้อยแล้วครับ เรียงตามชื่ออาชีพแบบ
Descending (เรียงจากตัวอักษร Z ขึ้นก่อน) เสร็จแล้วไปที่ Data > Subtotal
จะมีหน้าต่างใหม่โผล่ขึ้นมาดังรูปด้านล่าง
ให้เราตั้งค่าตามนี้ได้เลยครับ
▪ At each change in ตั้งค่าเป็น Occupation
▪ Use function ใช้เป็นค่าเฉลี่ย (Average)
▪ Add subtotal to ติ๊กช่องอายุ (Age)
▪ เสร็จแล้วกด OK ได้เลยครับ จะได้ผลลัพธ์ตามรูปด้านล่าง
24
Chapter 10 การสร้างตาราง (insert table)
25
• ข้อดีของการใช้ Table คือเราสามารถพิ มพ์ สูตรโดยอ้างอิงชือ
่ คอลั่มใน
อยู่ในเครื่องหมาย [ ]
ฟอแมทให้เราอัตโนมัติเลย
ทั้งหมดเป็นไปอย่างอัตโนมัติ ไม่ต้องกลัวว่าตารางหรือชาร์ทของเราจะไม่
อัพเดทข้อมูล
26
Chapter 11 การใช้งาน PivotTable เบื้องต้น
• Filters เลือกตัวแปรมาเป็นฟิลเตอร์
• Columns เลือกตัวแปรมาเป็นหัวตาราง
• Rows เลือกตัวแปรมาเป็น row ข้างๆ
• Values ช่องนี้ห้ามว่าง ต้องดึงตัวแปร
มาใส่ เสมอ เพื่ อบอก Excel ว่าเราจะหาค่า
อะไร?
27
“ จริงๆแล้ว PivotTable คือการสร้างตาราง Crosstabs นั่นเอง เอา
ตัวแปรสองตัวมาครอสกัน Column x Row
ลองเลือกตัวแปรไปใส่ในช่องต่างดังนี้ ครับ
▪ Filter = Country
▪ Columns = Occupation
▪ Row = Name
▪ Values = Count of Age (เอาเม้าส์ ไปคลิ๊กที่ตัวแปรนี้ในช่อง Value แล้ว
เลือก Value Field Settings แล้วเปลี่ยนจาก Sum ให้เป็น Count ได้เลย)
28
Chapter 12 การใช้งาน PivotChart เบื้องต้น
29
ทีเด็ดอยู่ตรงนี้ครับ เราสามารถสร้าง Filter รูปแบบใหม่ที่เรียกว่า Slicer เพื่ อ
กรองข้อมูลแบบเร็วๆได้เลย ให้เราเอาเม้าส์ คลิ๊กที่ชาร์ทของเรา แล้วเลือกแท๊บ
Analyze ด้านบน แล้วเลือก Insert Slicer ได้เลยครับ
30
Chapter 13 เทคนิคการสร้าง basic dashboard ขั้นเริ่มต้น
เทคนิคการสร้าง Dashboard
1. คิดก่อนว่าเราอยากนาเสนอข้อมูลอะไรบ้าง Template ควรเป็นแบบไหน
2. เมื่อคิดเสร็จแล้ว ก็เริ่มที่สร้าง PivotTable
3. แล้วสร้าง PivotChart
4. เรียกใช้งาน Slicer เพื่ อกรองข้อมูล
5. ย้าย Chart ของเราไปอยู่ที่หน้า Dashboard ที่เราต้องการ
6. ถ้าอยากสร้าง Chart ใหม่ ให้ทาวนลูปข้อ 2-5 อีกครั้ง
7. เชื่อมทุกตารางและชาร์ทเข้าด้วยกันด้วย Report Connection
31
Chapter 14 การกาหนดกฏเพื่ อป้องกันการใส่ข้อมูลผิด (data Validation)
อย่าลืมติก
๊ ช่อง In-cell dropdown ด้วยนะครับ คราวนี้มาลองดูผลที่ได้กันครับ
ในช่อง D2 จะเห็นว่ามีปุ่มลูกศรให้เรากด
ได้ พอเอาเม้าส์ ไปคลิก
๊ จะเห็นว่ามี List ให้
เราเลือกใช้ได้ตามที่เรากาหนดไว้นั้นเอง
32
Chapter 15 คานวณค่าที่เราต้องการด้วย what-if analysis
33
ใช้ Data Table เพื่ อปรับเปลี่ยน parameter ในสูตรของเรา
$15,909.83 10 15 20 25
5.00% $ 15,910 $ 11,862 $ 9,899 $ 8,769
5.50% $ 16,279 $ 12,256 $ 10,318 $ 9,211
6.00% $ 16,653 $ 12,658 $ 10,746 $ 9,665
6.50% $ 17,032 $ 13,067 $ 11,184 $ 10,128
34
Chapter 16 วิเคราะห์ผลสถิติด้วย Analysis ToolPak
35
คู่มือนี้จะสอนใช้งานตัวหลักๆ ได้แก่
ตัวอย่างให้เราได้ ตามจานวนที่เราต้องการ
สมมติเรามีข้อมูลคะแนนสอบของนักเรียน 20 คน เป็น
36
• ช่อง Input Range ให้เราเลือกเฉพาะคอลั่ม A ที่เป็น case identifier
หนึ่งเป็นชื่อคอลั่ม
38
• Hypothesized Mean Difference: ใส่ ค่า 0 ลงไปได้เลยครับ ช่องนี้คือ
เรามีสมมติฐานว่าคะแนนสอบของนักเรียนชายและนักเรียนหญิงไม่ต่างกัน
หญิงเก่งพอกัน
ซิก (เด๋วเรากาลังจะได้อ่านผลตรงนี้ด้วยกันฮะ)
สมมติฐานนี้ดี (เวลาเรียนสถิติเราจะไม่ใช้คาว่ายอมรับสมมติฐานนะครับ)
39
ให้เราดูที่ช่อง F13 คือค่า p-value ในทางสถิตินั่นเอง โดยหลักการทางสถิติคือ
(0.05) เราจึงสรุปผลว่า
เฉลี่ยของนักเรียนชายและหญิงแตกต่างกันอย่างไม่มีนัยสาคัญทางสถิติ
ชายและหญิงเก่งพอๆกันก็ได้ (เพราะคะแนนต่างกันแบบไม่ซิก)
40
• Input Range: เลือกตัวแปรใส่ ลงไปทั้งหมด ลากคลุมเซลล์ B1:G399
correlation หรือตัวย่อสั้ นๆใช้ตัว “r” ที่บอกความสั มพั นธ์ระหว่าง MPG กับ CYL
41
เรื่องสนุกๆของค่า Correlation
50
45
40
35
30
MPG
25
20
15
10
5
0
0 50 100 150 200 250
HP
42
จบ correlation แล้วฮะ เรามาต่อกันที่โมเดลสุ ดท้าย Regression ที่ใช้กันเยอะ
43
โมเดลแรกที่เราจะลองรันกันเรียกว่า Simple Linear Regression คือมีตัวแปร
เหมือนรูปด้านล่างนะครับ มาลองอ่านผลด้วยกันฮะ
ใช้ดูว่าโมเดลเราทางานได้ดีขนาดไหนในภาพรวม ภาษาบ้านๆคือโมเดลของเรา
44
ตัวถัดมาที่ต้องอยู่ในช่อง F12 คือค่า p-value ของโมเดล โดยเราอยากเห็นค่า p-
และสุ ดท้ายให้เราดูค่า coefficient ในช่อง B17 และ B18 ครับ เพื่ อเอามาเขียน
50
45
40
35
30
MPG
25
20
15
10
5 y = -0.1529x + 39.592
0
0 50 100 150 200 250
HP
45
และนี่คือการรัน Simple Linear Regression เพื่ อใช้สร้างโมเดลเบื้องต้นครับ
น้องกันครับ และเราสามารถหยิบสถิติสองตัวนี้มาใช้คู่กน
ั ได้เสมอๆ โดยที่
การเปลี่ยนแปลงของค่า y ที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของค่า x
เข้าถึงและใส่ รหัสเพื่อปกป้องข้อมูลสาคัญในไฟล์งานของเรา
46
Chapter 17 การสร้าง form ด้วย developer tools
47
เราสามารถสร้าง Check Box หน้าตาเหมือนในช่อง A2:A4 ได้ง่ายๆเลย ให้เข้าไป
ที่แท๊บ Developer > Insert > Check Box (Form Control) ไอคอนที่สามจาก
ซ้ายมือแถวบนสุ ด แล้วกดสร้างบนชี้ตงานของเราได้เลย
48
Chapter 18 การปกป้อง worksheet ของเราด้วยพาสเวิด
ไปที่แท๊บ Review > Protect Sheet เพื่ อล็อคชี้ตของเรา โดย Excel จะ pop-
49
แต่ถ้าเราไปที่ Review > Protect
Workbook อันนี้จะเป็นการล๊อคโครงสร้างของ
ไฟล์งานเราทั้งหมดเลยครับ พอกดเข้าไปปุ๊ป
ไม่ได้เลย)
50
จบแล้วครับ เราหวังว่าเพื่ อนๆทุกคนจะได้ประโยชน์จาก Quick Reference เล่มนี้
ขอบคุณมากๆครับ! จุ๊บ
Voltaire
About Me
สวัสดีครัช แอดมินเอง เรียกทอยก็ได้ เราชอบทางานด้าน data งานหลัก
51