You are on page 1of 3

ข้ อห้ ามของศาสนาอิสลาม 10 ประการ

1. ห้ามกราบไหว้รูปปั้น
2. ห้ามเชื่อโชคลาง
3. ห้ามเล่นการพนัน
4. ห้ามเสพเครื่ องดองของเมา
5. ห้ามผิดประเวณี กบั หญิง ที่มิใช่ภรรยาของตน
6. ห้ามกินหมู สัตว์ที่ตายเอง สัตว์ที่เป็ นโรค และสัตว์ที่นาไปบูชายัญในศาสนาอื่น ๆ
7. ห้ามกระทาการใด ๆ ที่สร้างความเดือดร้อนแก่ตนเอง ต่อผูอ้ ื่นและต่อประเทศชาติ
8. ห้ามแสวงหากาไรจากการกักตุนสิ นค้า
9. ห้ามฆ่าสัตว์ทุกชนิดโดยเจตนาและไม่มีเหตุผล
10. ห้ามกินดอกเบี้ย

ตัวอย่ างส่ วนที่เป็ นข้ อห้ าม (ฮะรอม)


กฎบัญญัติหา้ มในอิสลาม (ฮะรอม) ในซุนนียแ์ ละชีอะหฺ
การตั้งภาคีต่ออัลลอหฺ การทาลายไม่รับผิดชอบสิ่ งที่ได้รับมอบหมาย
การแหนงหน่ายต่อความเมตตาของอัลลอหฺ การขโมยลักทรัพย์
การหมดหวังในความเมตตาต่ออัลลอหฺ การหลอกลวง
การเชื่อว่าสามารถรอดพ้นจากการลงโทษของอัลลอหฺ การรับประทานอาหาร หรื อดื่มเครื่ องดื่มที่ได้มาโดยทุจริ ตวิธี
การสังหารชีวิตผูไ้ ม่มีความผิด การไม่ยอมจ่ายหนี้หรื อเหนี่ยวรั้งทรัพย์สินของผูอ้ ื่น
การเนรคุณต่อมารดาและบิดา การหนีจากสงครามศาสนา
การตัดขาดจากญาติพี่นอ้ ง การกลับคืนสู่ อวิชชาหลังจากได้เรี ยนรู ้สัจธรรมอิสลามแล้ว
การกินทรัพย์สินของลูกกาพร้าโดยอธรรม การฝักใฝ่ กับผูอ้ ธรรม
การกินดอกเบี้ย การไม่ช่วยเหลือผูถ้ ูกอธรรม
การผิดประเวณี การเรี ยนและทาคุณไสย
การรักร่ วมเพศระหว่างชาย ความฟุ่ มเฟื อย
การใส่ ร้ายผูบ้ ริ สุทธิ์ วา่ ทาผิดประเวณี หรื อรักร่ วมเพศ ความเย่อหยิง่ ทรนง
การดื่มสุ ราเมรัยหรื อทาการใดที่เกี่ยวข้องกับสุ ราเมรัย การต่อสู ้กบั ศรัทธาชน
เล่นการพนัน รับประทานซากสัตว์ เลือด เนื้อสุ กร และสัตว์ที่ไม่ได้ถูกเชือด
การอยูก่ บั การละเล่นบันเทิง ตามหลักศาสนา
การฟังหรื อขับร้องเพลงและเล่นดนตรี การละทิ้งการนมาซ
การพูดเท็จ การไม่จ่ายซะกาต
การสาบานเท็จ การไม่ใยดีต่อการทาฮัจญ์
การเป็ นพยานเท็จ การละทิ้งกฎบัญญัติศาสนา เช่น การถือศีลอด ญิฮาด การสั่งทา
การไม่ยอมให้การหรื อเป็ นพยาน ความดี การห้ามทาความชัว่ การภักดีต่อบรรดาอิมาม การผละ
การผิดสัญญา ตนออกจากศัตรู บรรดาอิมาม
การทาบาปเล็กบาปน้อยจนเป็ นกิจวัตร การทาสงครามในเดือนต้องห้ามทั้งสี่ คือ ซุลกออิดะหฺ ซุล
การนินทากาเล ฮิจญะหฺ มุฮรั รอม และรอญับ นอกจากจะเป็ นฝ่ ายถูกรุ กราน
การยุยงให้ผคู ้ นแตกแยกกัน การล่วงละเมิดสิ ทธิ ของศรัทธาชนด้วยการล้อเล่น ลบหลู่ ดูหมิ่น
การวางแผนหลอกลวงผูอ้ ื่น เหยียดหยาม ด่าทอ
อิจฉาริ ษยา การหักห้ามกีดกันผูอ้ ื่นเข้าสู่ สัจธรรม
การกักตุนสิ นค้าจนทาให้ขา้ วยากหมากแพง การเนรคุณต่อคุณงามความดีของอัลลอหฺ
การตั้งตัวเป็ นศัตรู ต่อศรัทธาชน การก่อเหตุวนุ่ วายในสังคม
การรักร่ วมเพศระหว่างหญิง การขายอาวุธแก่ที่ก่อความไม่สงบสุ ข
การเป็ นแมงดาหรื อแม่เล้าติดต่อให้แก่โสเภณี การยินยอมให้ การใส่ ร้ายผูอ้ ื่น
ภรรยาและบุตรี ผดิ ประเวณี การไม่ให้ความเคารพต่ออัลลอหฺ
การสาเร็ จความใคร่ ดว้ ยตัวเอง การลบหลู่ดูหมิ่นต่อกะอฺ บะหฺ
การทาการอุตริ ในศาสนา การลบหลู่ดูหมิ่นต่อมัสยิด
การพิพากษาคดีดว้ ยความฉ้อฉล การที่บุรุษสวมใส่ ผา้ ไหมและผ้าแพร
การใช้ภาชนะทาด้วยทองคาและเงิน

ข้ อห้ ามในอิสลามซึ่งพอสรุ ปได้ คือ


1.ห้ามตั้งภาคี (ชิริก) ต่อพระผูเ้ ป็ นเจ้า ทั้งทางกาย วาจา ใจ จากข้อนี้มุสลิมจึงต้องปฏิบตั ิสิ่งต่าง ๆ อยูใ่ นขอบเขตคือ
- ห้ามกราบบุคคลทุกคนไม่วา่ จะเป็ นพ่อแม่ เจ้านาย ฯลฯ จะกราบได้เฉพาะพระเจ้าพระองค์เดียวเท่านั้น
- ห้ามทานายหรื อไปให้ทานายโชคชะตา และเรื่ องไสยศาสตร์ท้ งั มวล ฉะนั้นอาชีพโหร หมอดู หมอเวทมนต์
คาถา ฯลฯ จึงเป็ นที่ตอ้ งห้ามในอิสลาม รวมทั้งการตรวจสอบดวงชะตาของตน เช่น ดูหมอ ผูกดวง
- ไม่มีการทาบุญสเดาะเคราะห์ ต่ออายุ ฯลฯ ในอิสลาม
- ไม่เคารพบูชารู ปถ่าย รู ปปั้น เหรี ยญหรื อเครื่ องลางของขลังต่าง ๆ ฯลฯ ทั้งเพื่อสักการะบูชาหรื อเพื่อให้เกิด
ความอบอุ่น เพื่อกันภยันตราย เพื่อให้เกิดความเมตตาเพือ่ เรี ยกคนเข้าร้านค้า เพื่อให้คนหลงรัก ฯลฯ เช่น รู ปนางกวัก ไซ
ฯลฯ
- ห้ามทาเสน่ห์ ลงคาถาอาคม ฯลฯ ทั้งในฐานะผูป้ ฏิบตั ิหรื อรับการปฏิบตั ิ
- ห้ามกราบไหว้บูชาธรรมชาติ เช่น ภูเขา ต้นไม้ ดวงดาว ดวงจันทร์ ดวงอาทิตย์ เทวดา นางไม้ เจ้าที่ ฯลฯ หรื อ
สิ่ งปรากฏที่แปลกออกไป เช่น มะพร้าว 7 ยอด ปลีออกกลางต้นกล้วย ฯลฯ
- ห้ามเอาอารมณ์มาเป็ นใหญ่ คือใช้อารมณ์เหนือความศรัทธา เหนือเหตุผล ให้อารมณ์มาเป็ นใหญ่ในชีวิต

2.ห้ามชาย-หญิง ที่อยูใ่ นภาวจะแต่งงานกันได้ มีความสัมพันธ์กนั เกินขอบเขตจะด้วยการยินยอมหรื อไม่กต็ ามรวมทั้งการ


เที่ยวผูห้ ญิง
3.ห้ามบริ โภค ขาย และบริ การอาหารและเครื่ องดื่มที่ผดิ ศาสนบัญญัติ เช่น หมู เหล้า เบียร์ เลือด สัตว์ที่ตายเอง ฯลฯ
4.ห้ามในเรื่ องของดอกเบี้ย ทั้งเป็ นผูร้ ับและผูใ้ ห้
5.ห้ามเสี่ ยงโชคและการพนันทุกชนิด เช่น ม้า ล็อตเตอรี่ หวยใต้ดินบนดิน ไพ่ ไฮโล ฯลฯ
6.ห้ามประกอบอาชีพที่ไม่สุจริ ตและผิดหลักศาสนาเช่น ผลิตและขายเหล้า บริ การอาบ อบ นวด สถานเริ งรมย์ ต่าง ๆ บาร์
ไนท์คลับ การเป็ นหญิงบริ การ เป็ นคนคุมซ่อง ปล่อยเงินกู้ ฯลฯ
7.ห้ามใส่ ผมของผูอ้ ื่น (ใส่ วิก)
8.ห้ามคุมกาเนิดโดยไม่มีความจาเป็ นต่อสุ ขภาพมารดา
9.ห้ามฆ่าตัวเอง ฆ่าลูกในท้อง
10.ห้ามฆ่าผูอ้ ื่น หรื อสัตว์โดยเจตนาอย่างไร้เหตุผล
11.ห้ามแต่งกายโดยเปิ ดเผยสิ่ งที่พึงสงวน หรื อแต่งกายผิดเพศ ผูช้ ายห้ามสวมใส่ ผา้ ไหมและใช้ทองเป็ นเครื่ องประดับ
ส่ วนหญิงเสื้ อผ้าต้องไม่บางและต้องปกคลุมให้มิดชิด
12.เมื่อมุสลิมตายแล้ว ห้ามนาไปผ่า หรื อรักษาสภาพไว้โดยไม่นาไปฝัง และห้ามนาไปเผาหรื อไปเผาผูอ้ ื่น ฯลฯ

ศาสนวินยั
มุสลิมที่เพิ่งเข้ารับนับถือศาสนาอิสลามใหม่ จะต้องขริ บปลายหนังองคชาติเพื่อรักษาความสะอาด เรี ยกว่าทาสุ นตั

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
กฎหมายอิสลาม
กฎหมายอิสลามเป็ นรากฐานความเชื่อมัน่ และเป็ นส่ วนหนึ่งของการปฎิบตั ิศาสนกิจที่มุสลิมทุกคนจะละเลย
มิได้ กฎหมายอิสลามปรากฎอยูใ่ นพระคัมภีร์อลั กุรอาน ดังรายละเอียด ประวัติ แหล่งกาเนิด
แหล่งกาเนิดและประวัติกฎหมายอิสลาม กฎหมายเริ่ มใช้ครั้งแรกที่นครเมกกะห์ ประเทศซาอุดิอาระเบีย ใน
สมัยของท่านนบีมุฮามัด ผูป้ ระกาศศาสนาและปกครองประเทศเมื่อประมาณ 1,400 ปี มาแล้ว ต่อมาจึงได้แพร่ หลายไป
ยังประเทศมุสลิมต่าง ๆ โดยประเทศเหล่านั้นได้ถือกฎหมายอิสลามเป็ นหลัก ในการพิจารณากระบวนการยุติธรรม บาง
ประเทศก็ใช้อย่างครบถ้วน บางประเทศก็ใช้เฉพาะเรื่ องครอบครัวและมรดก
กฎหมายอิสลามมาจากหลักฐานทางศาสนา 4 ประการคือ พระคัมภีร์อลั กุรอาน ฮะดิต (หรื อซุนนะห์) อิจญ์มะอ์
และกิยาส
คัมภีร์กรุ อาน เป็ นข้อบัญญัติจากอัลเลาะห์ แก่ท่านนบีมุฮามัด ต่างกรรมต่างวาระที่ทรงเห็นสมควร ท่านนบี
ได้ถ่ายทอดจากความจาให้แก่บรรดาสาวกจดบันทึกไว้ และได้รวบรวมเป็ นเล่มสมัยคอลีฟะห์อบูบกั ร์ ครองราชย์มี
ทั้งหมด 6,666 ข้อ บัญญัติ (อายะห์) จัดแบ่งเป็ น 30 ส่ วน (ยูซุอ)์ และ 114 บท (ซูเราะห์)
ฮะดิต (ซุนนะห์) คือ ข้อบัญญัติที่มาจากการกระทา หรื อปฎิบตั ิการต่าง ๆ และจากคาสอน ตลอดถึงวินิจฉัย
ปัญหากฎหมายบางเรื่ อง รวมทั้งการดาเนินตามวิถีทางความเป็ นอยูท่ ุกอิริยาบทของท่านศาสดามูฮมั มัด ซึ่งได้บนั ทึกและ
จดจาโดยผูใ้ กล้ชิด แล้วเก็บรักษาไว้เป็ นหลักการทางศาสนา และปฎิบตั ิตามกันมาโดยตลอด
อิจญ์มะอ์ คือ ความเห็นอันเกี่ยวกับปัญหากฎหมายอิสลามที่สอดคล้องต้องกันของนักนิติศาสตร์ ซึ่งเป็ นสาวก
ของท่านนบี หรื อยุคถัดมาความเห็นเหล่านี้เอง ปรากฎในกุรอานและฮะดิส (หรื อซุนนะห์) ให้ถือความเห็นและการ
พิจารณาอันสอดคล้องต้องกัน ในหมู่สาวกผูใ้ กล้ชิดว่าเป็ นการแนะแนวที่ดีที่สุดเช่นกัน
กิยาส คือ การเปรี ยบเทียบโดยอาศัยเหตุผลที่มาจากกฎหมายอิสลามทั้ง 3 ประการ ที่กล่าวแล้วนั้น ทั้งนี้ เพราะ
หลักการที่มีอยูย่ งั ไม่เพียงพอ แก่ความต้องการของสังคม ที่เปลี่ยนแปลงไป จึงต้องอาศัยการเปรี ยบเทียบจากกฎหมายอื่น
ๆ ที่ใกล้เคียง แต่ไม่ขดั ต่อหลักฐานทั้ง 3 ที่กล่าวแล้วข้างต้น

You might also like