Professional Documents
Culture Documents
ภาพถ่ายหน้าจอ 2564-06-02 เวลา 14.01.15
ภาพถ่ายหน้าจอ 2564-06-02 เวลา 14.01.15
--- ---
รู ป แรงระหว่ าอนุภาคทีม่ ีประจุไฟฟ้ า
+ +
+ ---
เราสามารถหาขนาดประจุไฟฟ้าบนวัตถุใดๆได้จากสมการ
Q = ne
ตัวอย่ างที่ 2 วัตถุ A มีประจุ – 4.8 x 10- 3 ไมโครคูลอมบ์ แสดงว่า วัตถุ A มีการรับอิเล็กตรอนหรื อให้โปรตอนไปกี่
อนุภาค
วิธีทา เพราะวัตถุ A มีประจุลบ แสดงว่าวัตถุA จะต้องรับอิเล็กตรอนมา เนื่องจากประจุลบคืออิเล็กตรอนจะอยูว่ ง
นอกสุดของอะตอม มีมวลน้อย และพลังงานยึดเหนี่ยวน้อย จึงหลุดเป็ นอิสระถ่ายเทได้ง่าย สามารถหาจานวนอิเล็กตรอนที่
รับมาได้จากสมการ
Q = ne
Q
n =
e
4.8x10 -3 x10 -6
n =
1.6x10 -19
n = 3 x 1010 อนุภาค
ตอบ รับอิเล็กตรอน และมีจานวน 3 x 1010 อนุภาค
3
กฎการอนุรักษ์ ประจุไฟฟ้ า ( Conservation of charge )
วัตถุชิ้นหนึ่ งๆ ประกอบด้วย อะตอมจานวนมาก แต่ละอะตอมประกอบด้วยนิ วเคลียสซึ่ งประกอบด้วยอนุ ภาคที่ มี
ประจุบวกเรี ยกว่า โปรตอน และอนุภาคที่เป็ นกลางทางไฟฟ้า เรี ยกว่า นิ วตรอน นอกนิ วเคลียสมีอนุภาคที่มีประจุลบ เรี ยกว่า
อิเล็กตรอน เคลื่อนที่รอบนิวเคลียส ด้วย พลังงานในการเคลื่อนที่ค่าหนึ่ง อะตอมที่มีจานวนโปรตอนและจานวนอิเล็กตรอน
เท่ากันจะไม่แสดงอานาจไฟฟ้า ซึ่งเราเรี ยกว่าอยูใ่ นสภาพเป็ นกลางทางไฟฟ้า ส่ วนวัตถุที่มี จานวนอนุภาคทั้งสองไม่เท่ากันจะ
อยู่ในสภาพวัตถุมีประจุ ไฟฟ้ าและจะแสดงอานาจไฟฟ้ า โดยจะแสดงว่ามี ประจุ บวกถ้ามีจานวนโปรตอนมากกว่าจานวน
อิเล็กตรอนหรื อในทางกลับกันจะแสดงว่ามีประจุลบ ถ้าจานวนอิเล็กตรอนมากกว่าจานวนโปรตอน
อะตอมที่เป็ นกลางทางไฟฟ้านั้นผลรวมระหว่างประจุของโปรตอนและประจุของอิเล็กตรอนในอะตอมมีค่าเป็ นศูนย์
และเนื่ องจากอะตอมที่ เป็ นกลางมี จานวนโปรตอนเท่ ากับจานวนอิ เล็กตรอนแสดงว่าประจุ ของอิ เล็กตรอนกับประจุ ของ
อิเล็กตรอนต้องมีค่าเท่ากัน
จากความรู ้น้ ี เราจะพิจารณาต่อไปได้วา่ การทีอิเล็กตรอนหลุดหลุดจากอะตอมหนึ่ งไปสู่ อีกอะตอมหนึ่ ง ย่อมทาให้
อะตอมที่เสี ยอิเล็กตรอนไปมีประจุลบลดลง ส่ วนอะตอมที่ได้รับอิเล็กตรอนจะมีประจุลบเพิ่มขึ้น นัน่ คือสาหรับอะตอมที่เป็ น
กลางทางไฟฟ้าเมื่อเสี ยอิเล็กตรอนไปจะกลายเป็ นอะตอมที่มีประจุบวก ส่ วนอะตอมที่ ได้รับอิเล็กตรอนเพิ่มขึ้นจะกลายเป็ น
อะตอมมีประจุลบ
ดังนั้นในการนาวัตถุมาถูกนั แล้วมีผลทาให้วตั ถุมีประจุไฟฟ้ าขึ้นนั้น อธิ บายได้ว่าเป็ นเพราะงานหรื อพลังงานกล
เนื่ องจากการถูกถ่ายโอนให้กบั อิเล็กตรอนของอะตอมบริ เวณที่ถูกนั ทาให้พลังงานของอิเล็กตรอนสูงขึ้นจนสามารถหลุดเป็ น
อิสระออกจากอะตอมของวัตถุหนึ่ งไปสู่อะตอมของอีกวัตถุหนึ่ งกล่าวคืออิเล็กตรอนได้ถูกถ่ายเทจากวัตถุหนึ่งไปอีกวัตถุหนึ่ ง
วัตถุที่มีอิเล็กตรอนเพิ่มขึ้นจะมีประจุลบส่ วนวัตถุที่เสี ยอิเล็กตรอนจะมีประจุบวก เราจึงสรุ ปได้วา่ การทาให้วตั ถุมีประจุไฟฟ้า
ไม่ใช่เป็ นการสร้างประจุข้ ึนใหม่ แต่เป็ นเดพียงการย้ายประจุจากที่หนึ่ งไปยังอีกที่หนึ่ งเท่านั้น โดยที่ผลรวมของจานวนประจุ
ทั้งหมดของระบบที่พิจารณายังคงเท่าเดิม ซึ่งข้อสรุ ปนี้ก็คือ กฎมูลฐานทางฟิ สิ กส์ที่มีชื่อว่า กฎการอนุรักษ์ประจุไฟฟ้า นัน่ เอง
ตัวนาและฉนวน ( Conductor and Insulator )
วัตถุใดที่ได้รับการถ่ายเทอิเล็กตรอนแล้วอิเล็กตรอนนั้นยังคงอยู่ ณ บริ เวณเดิมต่อไป เรี ยกว่า ฉนวนไฟฟ้ า หรื อเรี ยก
สั้นๆว่า ฉนวน นัน่ คืออิเล็กตรอนที่ถูกถ่ายเทให้แก่วตั ถุที่เป็ นฉนวนจะไม่เคลื่อนที่จากที่หนึ่งไปสู่อีกที่หนึ่งในเนื้อวัตถุ กล่าวได้
ว่า ในฉนวนประจุไฟฟ้าจะถ่ายเทจากที่หนึ่งไปสู่อีกที่หนึ่งได้ยาก
วัตถุใดได้รับการถ่ายเทอิเล็กตรอนแล้ว อิเล็กตรอนที่ถูกถ่ายเทสามารถเคลื่อนที่กระจายไปได้ตลอดเนื้ อวัตถุโดยง่าย
หรื ออาจกล่าวได้วา่ อิเล็กตรอนมีอิสระในการเคลื่อนที่ในวัตถุน้ นั เรี ยกวัตถุที่มีสมบัติเช่นนั้นว่า ตัวนาไฟฟ้ า หรื อเรี ยกสั้นๆว่า
ตัวนา
รู ปที่ 1 อิเล็กตรอน
e
A B A B
+100 C เป็ นกลาง เส้ นลวดโลหะ
Q รวม = 100 + 0 = 100 C A B
QA = 50 C , QB = 50 C +50 C +50 C
แสดงว่า เมื่อทรงกลมทั้งสองขนาดเท่ากัน เมื่อแยกออกจากกันแล้วจะแบ่งประจุไปอย่างละครึ่ งหนึ่งของประจุไฟฟ้ารวม
อิเล็กตรอน
รู ปที่ 2
e
A B A B
เส้ นลวดโลหะ
+300 C - 400 C
Q รวม = 300 +(-400) = - 100 C
A B
QA = - 50 C , QB = - 50 C
- 50 C - 50 C
แสดงว่า เมื่อทรงกลมทั้งสองขนาดเท่ากัน เมื่อแยกออกจากกันแล้วจะแบ่งประจุไปอย่างละครึ่ งหนึ่งของประจุไฟฟ้ารวม
รู ปที่ 3 อิเล็กตรอน
รัศมี 10 ซม. รัศมี 15 ซม.
e
A B A B
+500 C เป็ นกลาง เส้ นลวดโลหะ
Q รวม = 500 + 0 = 500 C
10
QA = ( 500 C ) = 200 C
25 A B
15
QA = ( 500 C ) = 300 C 200 C 300 C
25
แสดงว่า ทรงกลมที่ขนาดไม่เท่ากันก็จะแบ่งประจุตามสัดส่วนของรัศมีทรงกลมต่อรัศมีรวม
ทรงกลมขนาดใหญ่จะได้รับประจุไฟฟ้าไปมากกว่าทรงกลมขนาดเล็ก
5
-- ลบ กลาง ลบ
-- -- --
3. -- -- -- --
-- A -- B C -- A B C -- A B C
-- -- --
--
ตัวอย่ างที่ 2 ตัวนารู ปทรงกลม A และ B มีรัศมีของทรงกลมเป็ น r และ 2r ตามลาดับ ถ้าตัวนา A มีประจุ Q และตัวนา B มีประจุ
– 2Q เมื่อเอามาแตะกันและแยกออก จงหาประจุของตัวนา A
วิธีทา ทรงกลมที่ขนาดไม่เท่ากันก็จะแบ่งประจุตามสัดส่วนของรัศมีทรงกลมต่อรัศมีรวม
ทรงกลมขนาดใหญ่จะได้รับประจุไฟฟ้าไปมากกว่าทรงกลมขนาดเล็ก ( ดังรู ปที่ 3 )
Q = Q + ( - 2Q ) = -Q
r Q
QA = (-Q) = -
3r 3
Q
ตอบ QA = -
3
3. การเหนี่ยวนา ( Induction )
เป็ นการนาวัตถุที่มีประจุไฟฟ้าเข้ามาใกล้วตั ถุที่เป็ นกลาง มีผลให้อิเล็กตรอนเกิดการ
เปลี่ยนตาแหน่ง แล้วเกิดประจุชนิดตรงข้ามบนผิวที่อยูใ่ กล้ และเกิดประจุชนิดเดียวกันกับประจุบนวัตถุที่นามาจ่อบนผิวที่อยู่
ใกล้ และวัตถุที่มีประจุไฟฟ้าจะดูดวัตถุที่เป็ นกลางเสมอ
เช่น
1. ลูกพิทซึ่งเป็ นกลางแขวนด้วยเส้นด้ายอยูน่ ิ่งๆ แล้วนาวัตถุที่มีประจุ + ( บวก ) มาวางใกล้ๆ
ประจุบนลูกพิทจะถูกเหนี่ยวนาให้แยกออกจากกัน ทาให้เกิดแรงระหว่างประจุที่วตั ถุกบั ลูกพิทกระทาซึ่งกันและกัน แล้วทาให้
ลูกพิทเบนออกจากแนวเดิม ถ้านาเอาแท่งประจุ+ออก ลูกพิทก็จะเป็ นกลาง
+ - +
เป็ นกลาง + - + เป็ นกลาง
+ - +
6
2. อิเล็กโทรสโคปแผ่นโลหะซึ่งเดิมเป็ นกลาง เมื่อนาวัตถุที่มีประจุ + ( บวก ) มาวางใกล้ๆ
จานรับวัตถุจะเกิดการเหนี่ยวนา ดังรู ป ถ้านาเอาแท่งประจุ+ออก อิเล็กโทรสโคปแผ่โลหะก็จะเป็ นกลาง
+
-- -- -- -- + +
+
+ +
เป็ นกลาง + + เป็ นกลาง
+ - + - + --
+ - + - + - ลบ
+ - + - +
ก ข ค
P A P A P A