Professional Documents
Culture Documents
51) 1
A-NET 51
รหัสวิชา 14 วิชา คณิตศาสตร์
วันเสาร์ ที 8 มีนาคม 2551 เวลา 12.00 - 14.00 น.
ข้ อ 1 - 25 ข้ อละ 3 คะแนน
1. พิจารณาข้ อความต่อไปนี +
ก. ถ้ า
∨
→ และ →
→ ต่างมีคา่ ความจริ งเป็ นเท็จ
แล้ ว
∨
→ ∨
มีคา่ ความจริงเป็ นจริง
ข. การอ้ างเหตุผลข้ างล่างนี +สมเหตุสมผล
เหตุ 1) ~
→ ~ ∨
2) ∧ 3) ~
ผล →
ข้ อใดต่อไปนี +ถูก
1. ก. ถูก และ ข. ถูก 2. ก. ถูก และ ข. ผิด
3. ก. ผิด และ ข. ถูก 4. ก. ผิด และ ข. ผิด
= ∫ − 1
สําหรับ ∈ 0, ∞
a
2. กําหนดให้
−a
ประโยคในข้ อใดต่อไปนี +มีคา่ ความจริ งเป็ นจริ ง เมือเอกภพสัมพัทธ์คือช่วง 0, ∞
1. ∀!
> 0# 2. ∀!
= 0
→ = 0
#
3. ∃! > 2
∧
< 0
# 4. ∃! ≠ 0
∧
= 0
#
2 A-NET (มี.ค. 51)
4. กําหนดให้ 7 เป็ นจํานวนเต็มทีมคี า่ มากทีสดุ ซึง มีสมบัตวิ า่ 7 หาร 551 และ 731 เหลือเศษ เท่ากัน หาร 1093
เหลือเศษ + 2 แล้ ว :;<
=
มีคา่ เท่ากับข้ อใดต่อไปนี +
< <
1. <> 2. <? 3. <@< 4. A<
5. ถ้ า B เป็ นจํานวนเชิงซ้ อนทีสอดคล้ องกับสมการ B|B| + 2B + i = 0 แล้ ว ส่วนจินตภาพของ B มีคา่ เท่ากับข้ อใด
ต่อไปนี +
1. −1 2. √2 3. √2 − 1 4. 1 − √2
A-NET (มี.ค. 51) 3
FG< 4
6. ถ้ า B< , B เป็ นคําตอบทีไม่ใช่จํานวนจริ งของสมการ E
F;<
H = 8 แล้ ว B< B มีคา่ เท่ากับข้ อใดต่อไปนี +
4 4
1. 3 2. >
3. −3 4. −
>
9. กําหนดให้ = SL, T U − 2
T − 1
= 1V
และ = SL, T U T = T + 1
V
เซตในข้ อใดต่อไปนี +ไม่เป็ นสับเซตของ R : ∩ R Y
1. L−∞, − 1 2. E−2, − <H 3. <
E , 2H
4. L1, ∞
12. ให้ E เป็ นวงรี ทีมีแกนเอกขนานกับแกน X, มีจดุ ศูนย์กลางที L−2, 1, สัมผัสเส้ นตรง = 1 และ T = 3 โดยมี
F< และ F เป็ นจุดโฟกัสของ E ให้ C เป็ นวงกลมทีมี F< F เป็ นเส้ นผ่านศูนย์กลาง
ถ้ าวงรี E ตัดวงกลม C ทีจดุ P, Q, R และ S แล้ ว พื +นทีรูปสีเ หลีย ม PQRS มีคา่ เท่ากับข้ อใดต่อไปนี +
1. < 5
ตารางหน่วย 2. 3 5
ตารางหน่วย
3. 4d 5
ตารางหน่วย 4. 3? 5
ตารางหน่วย
<
13. ผลบวกของรากทังหมดของสมการ
+ log 4 L3</i + 27 = log 4 4 + 1 + i เท่ากับข้ อใดต่อไปนี +
1. 0 2. < 3. 43 4. 1
14. ให้ (, . และ Z เป็ นเวกเตอร์ ซึง U(U = 3, U.U = 2 และ UZU = 1
ถ้ า ( + . + 4Z = 0 แล้ ว ( ∙ . + . ∙ Z + Z ∙ ( มีคา่ เท่ากับข้ อใดต่อไปนี +
1. − 5 2. −1 3. 0 4. <
6 A-NET (มี.ค. 51)
15. กําหนดทรงสีเ หลีย มหน้ าขนาน มีจดุ ยอดอยูท่ ีจดุ OL0, 0, 0, AL1, 5, 7, BL2, − 1, − 1 และ
C , 31, 2
โดยที และ 1 เป็ นจํานวนเต็ม ถ้ า OA lllllm ตังฉากกั
+ lllllm และ OC
บฐานทีประกอบด้ วย nB lllllm
และ o เป็ นมุมระหว่าง nB lllllm และ OC
lllllm แล้ ว ข้ อใดต่อไปนี +ถูก
1. sin o = 4√5>
lllllmU UnC
2. UnB lllllmU = √21
18. กล่องใบหนึง มีหลอดไฟอยู่ 10 หลอด เป็ นหลอดดี 8 หลอด และหลอดเสีย 2 หลอด สุม่ หยิบหลอดไฟขึ +นมาครัง+ ละ 1
หลอด 3 ครัง+ โดยทีในการหยิบแต่ละครัง+ ให้ ใส่คืนหลอดไฟลงไปในกล่องก่อนทีจะหยิบครัง+ ต่อไป แล้ ว ความน่าจะเป็ น
ทีจะได้ หลอดเสีย 2 ครัง+ มีคา่ เท่ากับข้ อใดต่อไปนี +
4 d < <d
1. <5 2. <5 3. <5 4. <5
19. กําหนดให้ J เป็ นฟั งก์ชนั ทีนิยามบนช่วง L0, ∞ โดยที J 2
= 2J 1
และ J }
= 27 − i<P
ถ้ า L เป็ นเส้ นสัมผัสกราฟของ T = J
ทีจดุ E1, J 1
H แล้ ว จุดในข้ อใดต่อไปนี +อยูบ่ น L
1. L2, 64 2. L2, 66 3. L3, 94 4. L3, 96
8 A-NET (มี.ค. 51)
20. กําหนดให้ J เป็ นฟั งก์ชนั พหุนามกําลังสาม ซึง นิยามบนช่วง −2, 2 โดยที J 0
= 1, J 1
= 0 และ J มีคา่
ตําสุดที = 1, มีคา่ สูงสุดที = −1 พิจารณาข้ อความต่อไปนี +
ก. J −2
≤ J
ทุก ∈ −2, 2
ข. J 2
≥ J
ทุก ∈ −2, 2
ข้ อใดต่อไปนี +ถูก
1. ก. ถูก และ ข. ถูก 2. ก. ถูก และ ข. ผิด
3. ก. ผิด และ ข. ถูก 4. ก. ผิด และ ข. ผิด
23. นักเรี ยนห้ องหนึง เป็ นนักเรี ยนหญิง 20 คน นักเรี ยนชาย 30 คน มีคา่ เฉลีย ของนํ +าหนักของนักเรี ยนห้ องนี +เท่ากับ 24.6
กิโลกรัม สมศรี เป็ นนักเรียนหญิงทีมีนํ +าหนัก กิโลกรัม คิดเป็ นค่ามาตรฐานของนํ +าหนักในกลุม่ นักเรียนหญิงเท่ากับ 1
สมชายเป็ นนักเรียนชายทีมีนํ +าหนัก กิโลกรัม คิดเป็ นค่ามาตรฐานของนํ +าหนักในกลุม่ นักเรี ยนชายท่ากับ 1
ถ้ า สัมประสิทธิFของการแปรผันเฉพาะกลุม่ นักเรียนหญิง เท่ากับ 0.125
สัมประสิทธิFของการแปรผันเฉพาะกลุม่ นักเรียนชาย เท่ากับ 0.16
ส่วนเบียงเบนมาตรฐานเฉพาะกลุม่ นักเรี ยนชาย เท่ากับ 4 แล้ ว
ข้ อใดต่อไปนี +ถูก
1. = 22, 1 = −1.1 2. = 22, 1 = −1
3. = 21, 1 = −1.1 4. = 21, 1 = −1
10 A-NET (มี.ค. 51)
i =1 i =1 i =1
ข้ อ 1 - 5 ข้ อละ 2 คะแนน
1. กําหนดให้ ( = S U + 2 − 3 < 0V และ . = S U + 1 ≥ 2||V
ถ้ า ( − . = L, 1 แล้ ว 3| + 1| มีคา่ เท่าใด
2 1
4. กําหนดเมทริ กซ์ ( = −1 0 1 โดยที เป็ นจํานวนจริ ง
1 − 2 2
ถ้ า C (
= 14 แล้ ว det adj (
มีคา่ เท่าใด
ข้ อ 6 - 10 ข้ อละ 3 คะแนน
6. ให้ o เป็ นจํานวนจริง ซึง สอดคล้ องกับสมการ <P + <P + <P + <P = 7 แล้ ว
tan 2o มีคา่ เท่าใด
A-NET (มี.ค. 51) 13
= พจน์
8. กําหนดให้ = = =< 1 + 2 + 2
+ 3 + 3 + 3
+ ⋯ + 7 +
⋯+
7
โดยที M เป็ นค่าคงตัวทีท
ําให้
lim = = , > 0 แล้ ว 6 + M
มีคา่ เท่าใด
n→∞
14 A-NET (มี.ค. 51)
4 + 1 เมือ < 0
} 1
<
ถ้ า J = 4 แล้ ว J ∘ J
E− H มีคา่ เท่าใด
√
เฉลย
1. 3 8. 1 15. 4 22. 2 4. 36
2. 4 9. 3 16. 1 23. 4 5. 2.5
3. 3 10. 4 17. 1 24. 3 6. 8
4. 2 11. 1 18. 3 25. 2 7. 18
5. 4 12. 4 19. 2 1. 10 8. 20
6. 2 13. 3 20. 1 2. 922 9. 1.5
7. 2 14. 1 21. 1 3 0.2 10. 3
แนวคิด
ตอนที 1
13. 3
<
log 4 L3</i + 27 = log 4 4 + 1 +
i
3 L4 = 3 3G<GP
/ G>
3 L4 = 3 3 ∙ 3< ∙ 3P
/ G>
3</i + 27 = 4 ∙ 3< ∙ 3P
ให้ 3P = ( ดังนัน+ 3 = ( : ( + 27 = 4 ∙ 3< ∙ (
( − 12( + 27 = 0
( − 9
( − 3
= 0
( = 9 , 3
< < <
ดังนัน+ 3 P = 9, 3 →
i
=2, 1 → =3,
→ ผลบวกคําตอบ = <3 + < 4
=3
ตอนที 2
6. 8
จาก sin o + cos o = 1 ได้ sin3 o + cos 3 o = 1 − 2 sin o cos o
¢ ¢ P P P P P
จะได้ LHS = G G G
P P
; 3;
= P P = P = 7
แก้ สมการ ได้ sin 2o = ?@ ได้ cos 2o = <@ → tan 2o = 8