You are on page 1of 82

2102-391 ELECTRICAL ENGINEERING 1

บทที่ 2 วงจรไฟฟ้ากระแสลับเฟสเดียว
2.1 ความหมายและลักษณะของไฟฟ้ากระแสตรงและกระแสสลับ r

2.2 ค่าเฉลี่ยและค่าประสิทธิผลของแรงดันและกระแส
2.3 การแทนค่าแรงดันและกระแสด้วยเฟสเซอร์
2.4 อิมพีแดนซ์
2.5 ความสัมพันธ์ระหว่างแรงดันและกระแสสาหรับตัวต้านทาน ตัวเหนี่ยวนา และ ตัวเก็บประจุ
2.6 กาลังไฟฟ้า กาลังเชิงซ้อน และ ตัวประกอบกาลัง
2.7 วงจร RLC แบบอนุกรมและแบบขนาน
1
2.8 การปรับปรุงค่าตัวประกอบกาลัง
-

* .
up

Ggdownload
\
☐¥t. µ*

\
✗.

Lsortfile
b
น บ
up
"

whdr.pt#s.xxx...x.Mhss&
หื
ผ๋
หํ๋
กั
ถิ่
ฑุ
ฟิ๊
ณิ๊
ฑิ่
ฅิ๊
DCO /

"
yyp
4 Var
,
าจ ง
ACO 4 Var สระ 2

Tlf v Cv า eteady \ ลง นอน

% ± " "" " "


"
"
R csn
µ| phaso §ฑื๊ Farm

④:
p Cw 7
7
impedance ( ราว


*
independent VAR 2

. ..

|
PN CV A)
R v1 ± →

เ น
=

ฯลฯ

2,5 phasor
§
2
P V. ± =
± R =

เ น ป มาณ เ ง นอน
=
ค่
มี
ข์
สิ
หุ่
อิ
มี
กั
ป็
ขิ
ป็
ริ
นํ๊
ม่
ริ
ลื๊
ยํ๋
นพ
JXL
.

|
_

/ (1) หมด
Ryj ×
¥
7
.

= ะ

\
_

jxe

ญื้
? Cv A)
s .

. ท . =
1 =
Htl 2-

f ของ R
watt fา

Lyp fp → real parer


VA Average Powe 8

+
ja G-
Imaginarg Power

Efngrl
VAR
Reactive Power
+ ja


jae
-
-
หึ๋
าใ าไใ ำ
เอา เคส

0
^
" ไฟ า Hzฯลฯ

steadyctate - น 5 o

""

_ว

*
-

| ใน
µµ

steadystate ะ โดย

t

•×
ฒ๊
\
ัว

transi
trauciewtidifferentialfngeceeeenrenne
*
หุ๋
ป่
นี้
ฝื๊
กิ๊
ญุ
ฑุ่
ด้ำ
หั๋
งิ๊
|
DCO -0 ^ย
ti 73
"

v.
% mt
-

ESS ouree
= ESL oad

ฒูำ
ทรง

Fd จ ง AC omplex
gsgourcex ES eood °

จอดไ
=

SP source =
ER oad
น บ การ อ

|

⑦ ① บ
/

อ กรม / ขนาน

าย บ
Mesh /
Loop
-

EP " "
rce + [ Rad ,
น ,
ยุ๊
หุ๊
ยุ๊
นำ
กุกฺฎ
รั
ว่
รี
ต่
กั
ขึ้
ริ
ม่
นุ
หุ๊
ฮุ๋
ข้อตกลงการแทนสัญลักษณ์ของปริมาณทางไฟฟ้า
1) ปริมาณไฟตรง แทนด้วย อักษรตัวพิมพ์ใหญ่ เช่น V, I เค

2) สัญญาณไฟฟ้ากระแสสลับ แทนด้วย อักษรตัวเขียนเล็ก เช่น v(t), i(t), v, i
3) ขนาดของเฟสเซอร์, ค่าประสิทธิผล และ ค่า RMS แทนด้วย อักษรพิมพ์ใหญ่ เช่น
Tetrf
- ้

V, I เช่นเดียวกับปริมาณไฟตรง
4) เฟสเซอร์ของแรงดันและกระแส (ปริมาณเชิงซ้อน) ซึ่งประกอบด้วยขนาดและมุม
แทนด้วย .

หา±
หรือ อักษรตัวพิมพ์ใหญ่ ตรง หนา เช่น V, I หรือ -fา
②V ,I
.

5) อิมพีแดนซ์และกาลังเชิงซ้อน (ไม่ใช่เฟสเซอร์) แทนด้วย -

อ โลม

phascr -

t I
Z=Z = R + jX

Ln ของ
ขนาด และ Z

S = P + jQ = S S ..
2

บอก tะ 0
.

C สm > า
ตี๊
ญิ้
มุ
ถู
ทิ
ที่
ม่
นุ
ณื
ซิ์
กร ② าทาง

vatTtdi.ie!
* แลก

ษ ช ct าะ Io sina.at +6 า

" "

ctteadynt

T-n.ly#nernrFIl fhrms,eFF:c
! N
'

เ ยน

%

µ , ± Ilti
④ ะ 5 นะ ↳i A
ญุ๊
ว่
ค่
ยึ๋
ญู๋
ณื๊
ฑู๋
หื๊
ขี
ณี
ฑุ๊
ษั๊
รุ๋
ฮฺษ๋
ยื๊
2.1 ความหมายและลักษณะของไฟฟ้ากระแสตรงและกระแสสลับnoise
1) ไฟฟ้ากระแสตรง
• รายคาบ
ะ• ไม่เป็นรายคาบ
2) ไฟฟ้ากกระแสสลับ ±
รูป – ไฟฟ้ากระแสตรงที่เป็นแบบรายคาบ
-

• รายคาบ
f
/
สสส
-
แย แกน

• ไม่เป็นรายคาบ harmonice

→ ดเ ยว
สมการสัญญาณรายคาบใดๆ _
ไ /ไ ไ ไ
แรง น เสา
x(t ) = x(t + T )
-

f =
1
( Hz ) T=
1
(sec) รูป – ไฟฟ้ากระแสสลับที่เป็นแบบรายคาบ 3

T f
ปิ
มี
ต๊
พี่
ดี
ดั
รี
ม่
ม่
ข้
ด้
vcty ① Vavg ะ 0
เ า น /สมมาตร

knnr~z-Vn.me แ

ญื๊_,
☐+ .
. .

..

Lsyr
-

มา นา มา
"
# _
ยุ่
ฐื่
ปุ๋
ยุ๊
กั
ท่
Wt → rad
2.1.1 แรงดันและกระแสในรูปสัญญาณ sinusoidal Gv
}/Degree
rad
Grt

°

w

iั ยม

Iฐ

อ •
เคส
นอ
แรง .

••

ฒื้ad งาน

Fn

แรงดันและกระแสในรูปสัญญาณ sinusoidal
b ~ ความ
<
=2 f =
2 rad
v(t ) = V p cos( t + V ) (V ) T sec
i (t ) = I p cos( t + ) ( A) 1
I
f = ( Hz )
"
T ม แป
T
r T=
1
(sec) 4
f
ขนาด Peak แ น
\
ศู๊
นำ
ฃื๋
นิ
ข้
มุ
ทำ
สื้
ก่
ร์
ห์
ขื
2.1.2 มุมเฟส การนาหน้าและล้าหลังของสัญญาณ
x1 (t ) = X p sin( t ) (V )
x2 (t ) = X p sin( t + (V )


2)

x3 (t ) = X p sin( t − 3) (V ) ←

← -

~
¥
~
%
x2 (t ) Lead x1 (t ) = 2 deg ree x3 (t ) Lag x1 (t ) = 3 deg ree
=
x (t ) Lag x (t ) =
1 2 2 deg ree x1 (t ) Lead x3 (t ) = 3 deg ree
5
แ น


.

กยศ

,

§
ะ↳

109in Clooot + 3 d)
yct าะ

V2 (f)
= 15 C ย 5 Cnooot + 6 า
ไ อ เ อ เ ยน Ct น (f) ใน ป
จะ นวณ า
, 2

9in ง ห อ Cos ง
คำ
ว่
ฑุ๋
ก็ต่
คู่
ทั้
รู
ชุ
คู่
ทั้
รี
มื่
ด้
รื
ล่
าง ง

! ¥ ①
± 7
±
นไ

านานไ เลย
เลย

ดารา

4
④ๆ เ า น

ใน
.tt/makih _
1\ แก
อ้
นั้
ค่
บุ๋
อุ่
ญุ๋
ค่
คำ
ผู๋
กั
ฑิ้
ท่
ศ่
ด้
ห่
อิ
ฐื๋
2.2 ค่าเฉลี่ยและค่าประสิทธิผล
vm
} Fncinusoidd
ict า
/
2.2.1 ค่าเฉลี่ย \

9in ces

t0 +T
1
X avg = x(t )dt Xct าะ gincwt + E)
T t0 Xp
กรณีของแรงดันหรือกระแสที่เป็นแบบสัญญาณ sinusoidal จะได้ ค่าเฉลี่ย = 0 เสมอ
(เมื่อไม่พิจารณา Offset ใดๆ) ไม่ว่าจะมีค่าเหล่านี้เท่าไรก็ตาม
"

#
1) ค่ายอด

~
2) ความถี่ หรือ
~ +

2-

อ.
3) มุมเฟสเริ่มต้น
.

%
?
reatofakotnttt
t" 6

EA
ญุ๋
ญิ๋
ไ offset
"

.io
"

ส บาตร รอบ แกน X

=
โดย
ct า
offset

โดย
_
÷ ะะ

VAv9 = Vpc
ญุ๋
มี
ช่
ยื๋
มี
บ่
ยุ๋
ม่
ปุ่
EFF ectire
2.2.2 ค่าประสิทธิผล
ความหมาย: ปริมาณที่ชี้วัดประสิทธิภาพในการส่งผ่านพลังงานของแหล่งจ่ายไฟฟ้า
ที่มีรูปคลื่นเป็นสัญญาณรายคาบไปสู่โหลด
ค่า Effective ของแรงดันไฟฟ้าแบบสัญญาณรายคาบใดๆ มีค่าเท่ากับ ค่าของ
แรงดันไฟฟ้ากระแสตรง ซึ่งเมื่อตกคร่อมตัวต้านทาน (R) แล้วจะให้กาลังงานเฉลี่ย
แก่ตัวต้านทานนั้นเท่ากับแรงดันไฟฟ้าที่เป็นสัญญาณรายคาบ
การคานวณสาหรับแรงดันหรือกระแสที่เป็นสัญญาณรายคาบ x(t) รูปแบบใดๆ

qmath1
'


t0 +T
X eff = X RMS = x 2 (t )dt -

ennn
T t0

physics
7
จน
"

] ☒ n

Pa .

ฑื้☐
ฑื๋.
.
.

-
ศุ๋
อุ่
2.2.3 ค่าประสิทธิผล – ของสัญญาณ Sinusoidal
ในกรณีของแรงดันหรือกระแส ค่าประสิทธิผลจะมีค่าเท่ากับ
Gv )
(เมื่อไม่พิจารณา Offset ใดๆ) Vct า =
Vpsinewtt
Ict าะ E)
เ า Veff = 0.707(V p ) =
1
2
Vp Ipgincwt +

④ I eff = 0.707( I p ) =
1
2
Ip

ทั้งนี้ไม่ว่าสัญญาณนั้นจะมีค่าเหล่านี้เท่าไรก็ตาม
ห อ เ น fn.in/cos ตาม

|
1) ค่ายอด 4า

2) ความถี่ หรือ
8
3) มุมเฟสเริ่มต้น
ก่ำ
ก็
ข้
ป็
รื
2.2.4 ค่าประสิทธิผล – กรณีการคานวณผลรวมของสัญญาณ sinusoidal
ที่มีความถี่ต่างกัน

}
N vit
xT (t ) = X Pk cos( kt + k) EFF ราบ
k =1 ชาย1า 0
ค่า Eff หรือ RMS รวมหาได้จาก

X P2k
(X RMS ) (X eff )2
N N N
2
X effT = X RMST = = =

iii
k =1 2 k =1
k
k =1
k

9
ยุ่
ตย. การคานวณค่าประสิทธิผลของแรงดันของสัญญาณ sinusoidal ที่ความถี่ต่างกัน
v1 (t ) = 80 cos(1000t + 45 ) V
v2 (t ) = 120 cos(500t + 60 ) V ci
609in ( 25 ot -3
v3 (t ) = −60 sin( 250t − 30 ) V
1 )
Sol
-

V
µ
FF =
90 /ร 2 V
&

V2
,
e Ff ะ 120 /52 V

Co /ร 2 V
V3 , e FF

10
ยํ่
2.3 Phasor
สมม า ^ แห ง าย
2.3.1 การแทนค่าแรงดันและกระแสด้วย Phasor →

Phasor คือ ปริมาณของแรงดันและกระแสที่บ่งบอกถึงค่าขนาด และ มุมเฟสเมื่อเทียบ


กับเวลาที่ t = 0 (หรือเวลาอ้างอิงร่วมกัน)
Phasor คือ ปริมาณของแรงดันและกระแสเท่านั้น ในกรณีของค่าอิมพีแดนซ์และกาลัง
เชิงซ้อน ไม่ถือว่าเป็นค่า Phasor
การคานวณ Phasor ต้องคานวณทางเลขเชิงซ้อนสาหรับสัญญาณไซนูซอยด์ (v, i ใดๆ)
ที่มีความถี่เดียวกัน เท่านั้น และ Fnsir cos เ ยว น
,
e- >
Phasor
t ม t = 0

Signal v(t ) = VP cos( t + V ) V =V V V


VP มุมเฟส
11
V = Veff = VRMS = ขนาด
2 → rms
,
eFF
มี
ว่
จ่
ที่
มุ
กั
ดี
ล่
ติ
า แห ง าย
<
9in
☒ 1
Ccs
/ F =

7
rih | นะ
tา

Tt
11
_

Fnain
Fn.cc S

Dz ไ เลย

-
ใ เ ยน
phasov ของ H เ
,

แห ง าย ใน การ ใ ตาม 2. 3. า
สา มา 1
* Cos ใ เ ยบ อย อน
←า
เ อง การ แปลง Fu .
sin
มี
ถ้
ดูอุ่
จ่
กำ
จ่
ทำ
ก่
ขี
รื่
รี
ด้
ห้
ห้
ห้
ล่
มี
ล่
ร้
เฟส ขน
ปลา เ า ไอ
-

ระนาบ
/ →

ตย. การแปลงค่า Phasor และ เขียนเฟสเซอร์ไดอะแกรม


V

v1 (t ) = 10 cos( t + 30 ) → Di = Lt
v2 (t ) = 20 cos( t + )
4
หา 143mi V
÷

=

เ น Fn 9in / ccs
ว หนา

1) .

"

ร ง
2
Cj )

2 า w F เ ยว น

Im

|
,

_
Re

ระนาบ
ไง

อง * 12
หั
กั
ต้
ป็
ข้
ดี
หํ้
ฟื๋
2.3.2 หลักในการเปรียบเทียบมุมต่างเฟสของคู่สญ
ั ญาณใด ๆ / การรวม
สัญญาณ Sinusoidal ที่มีความถี่เดียวกัน

Ftmwmm
1)
r สัญญาณที่จะนามาเปรียบเทียบกัน/รวมกันต้องมีความถี่เท่ากัน
2) สัญญาณที่จะนามาเปรียบเทียบกัน/รวมกันต้องเป็นฟังก์ชั่นเดียวกัน กล่าวคือ เป็น
ฟังก์ชั่นไซน์ทั้งคู่ หรือ ฟังก์ชั่นโคไซน์ทั้งคู่ ถ้าไม่เป็นฟังก์ชั่นเดียวกันต้องแปลงให้เป็น
ฟังก์ชั่นเดียวกัน ดังนี้ sin 𝛼 = 𝑐𝑜𝑠 90° − 𝛼
cos 𝛼 = 𝑠𝑖𝑛 90° − 𝛼
yimaxm − sin 𝛼 = 𝑐𝑜𝑠 −90° − 𝛼
cosx เอง ( ×
cin เ × +1 ะ
±a)
-

y ะ Cosx =
) −𝑐𝑜𝑠 𝛼 = 𝑠𝑖𝑛 −90° − 𝛼

3) พิจารณาเครื่องหมายหน้าฟังก์ชั่นของสัญญาณทั้งสองให้มีเครื่องหมายเดียวกัน
13
4) จากนั้นจึงพิจารณามุมต่างเฟสของสัญญาณ/นามารวมกันได้
ญุ๋
รุ่

=
ตย. จงแปลงเป็นฟังก์ชั่น Sine ทั้งหมด หรือ ฟังก์ชั่น Cosine ทั้งหมด
จากนั้นจงเขียนเฟสเซอร์ หามุมต่างต่างเฟส และ หาฟังก์ชั่นรวมของ

÷

สัญญาณทั้งสาม
v1 (t ) = 20 sin(1000t + 45 )
v2 (t ) = 10 cos(1000t − 120 )
v3 (t ) = −30 cos(1000t + 60 )

แปลงเป็น Fn. Sine ทั้งหมด แปลงเป็น Fn. Cosine ทั้งหมด '

Fncos น + 9 d) fn 9in ส Eos อา -90

ct ) = 2 o Cos Clooot -4าำ

ช2 Ct า = เอ Ccs cnooc f- \ 2 i 1

Cc SC looot -12 d)
ชา (f) =3

14
บุ
กั
กิ
① งหมด
แปลง เ น 9in cj µ Im


.TT#tIRe!Lky/?N3o,J=3osi[nC1owt-3i)
CFn.cos อง + 9อ ) ""

2 osincnrart +4
V
Vi (f) ะ )

V2 Ct 1 ะ 1 ย 9in cnoocrf -3 )

µ µ µ µแ
nm µ µ



,
าง เฟส ระห าง

ญื้
"

" V
<45
¥
V D นะ
[ 3
=
เ ่

,
☒ หา บ C ห
2,437=75
Hg 3 °
fz Ltov leading . "

Cbe, น 3) lug นา ะ 75
-


_
ต่
มุ
ย่
วิ่
ต้
ทั้
กั
ย่
ป็
ว่

☒ หาก iuphase
Hy YHU +4g 2 +
↳it lt V


ะ =
2

ะ 34.743 L-6.ci v

sinc 1 ooot 6. ย ) V
(f) •
-

ะ 34.743. 2
ร้
ชุ
ชู
สู้
สู้
กั
ห่
'

Fn 9in ส Eos o | -90

อf) = 2 o Cos Clooot -4 า

ชาว { า
เขา
f- \ 2 i

cgo
= io Ccscnooc
' แ า
ct าะา occsciooot

wmnaiim%afoipfanc
-


งหมด งหมด
ด vrsrosphasorงคง
กแปล เSห
② Ccs

กวะ ห น ตาม
ใน
phascv ก ภาย ค สน .

.
. .
.
.
.
.
..
.

. "

"
เะ
2 ↳5
htni
"


3 L
3 o / ร2 Lti
ทุ
ทั้
ชุ
ทั้
กั
ว่
ว่
บุ
กั่
ญั้
ที่
ยั
หั
มุ

° AC = phasor
V / phasor I

2.4 อิมพีแดนซ์ (Impedance) / DC


( ะ
Vnc / Inc ค ตท .

)
อิมพีแดนซ์ คือ อัตราส่วนระหว่างแรงดัน (V) ต่อ กระแส (I) ของไฟฟ้ากระแสสลับ
2=171 ☒ 2- G-
Gz Ey
-

V V V
( ) /
-

Z= = V
= V − I ( ) ±
t
I I I I
ะ 2- C-
lz_O-e-oa.at
Z=Z = R + jX ( ) s

Eไ ยม
pf Ccs ④
=
%) Ccs Gz Ccs Es ะ
=

ขนาด

xreoetme
สั ญ ลั ก ษณ์ ความหมาย ความสั ม พั น ธ์ I กั บ V × " "

L
/\
C
R
+jXL
ความต้านทาน
อินดักทีฟรีแอกแทนซ์
I in phase V
I lag V 90 องศา @ Xc =

-jXC En
คาปาซิ ทีฟรีแอกแทนซ์ I lead V 90 องศา
O
} 15
จำ
ฐุ๋
ต้
ณั่
น์
นิ
ม่
20m H 1mF
ตย. เมื่อค่า R = 10 , L = 20 H, C = 100 mF และความถี่ของแหล่งจ่ายมี
0m
~
ค่าต่างๆ ดังนี้ 10 Hz, 50 Hz, 100 Hz และ 1000 Hz จงหาค่า
แรงดันที่ตกคร่อม R, L และ C (ตอบในรูปเฟสเซอร์) า ⑥ าไ

-

กระแสที่ไหลผ่านในวงจร (ตอบในรูปเฟสเซอร์) ⑦
อ า ขนาด e FF RMS
เขียนเฟสเซอร์ไดอะแกรม ,

เ า น
ค่าที่แอมป์มิเตอร์และโวลท์มิเตอร์อ่านได้ .

2 om H
102

1mF


Vrms เออ V
=
16

f-_
5 o Ht ☒
ว่
ที่
ค่
ค่
คื
นั้
ท่
ด้
Fgx VR แ
ปก ใ แห ง าย
เ น Re F
R = แ

ขนาด

3
ใน 0 Ds ม XL = w L ะ 21 ✗ 50 ✗ 2 อ ✗

/j
°

• • ao • = °

1 อก
2 om
µ (L j)+
= 6.2 ยก
+ แยก


3.IE 2
Xe =

Ioov d ↳ _
js เอ. r

5 อ
Hz 1mF fc _
j )

4747.1--2 1
2- ะ 10 +
j [ 6.1 G- 3 เอ ) .
= 10
tj 3. เรา ะ \ อ .

lthti A
:{ ย t ¥
ำำ
|
9.55
%

r DR ะ IR
↳แ
rm =
mjxn
Itj c)
↳ ไอ มะ
l-m.siiv

Dc × 3
ngr
.
r ะ อ .

ไ as.su
า ④ าน ะ

ยาน ออก ไ ะ 59.9 ย U

าไ
/ =3
0 37 V
อ .


จ่
งุ
ผั่
ห้
มีมุ
ทีก็
อ่
ที่
ญิ๊ค่
กำ
หิ
วุ
ว่
ป็
ศ่
ด้
ก่
ห้
ล่
ติ
ผุ่
ญุ๋
ฝู
|
.

ำำ ง
9.55
"
R ะ IR
" % ↳
แ_
.

DL =
ttlj × 2) ะ

59.9 ย 172.2-7 V
" c- a. cg ก
.

×
.

ฐํ๋✗>µ
a

wnlttC_rs.mn I ,
D ก

rfmizinphaset

ฆื๊.tt#?R,?4TtclDc
:#
µ
# % µ
µ→ µ µ

M จบ 24/1 165.
"
หั๋
ญั๋
กั
ทฺ?⃝
ย่
ผู้
ยุ่
ฑิ๋
ภุ๊
มื๋
2.5 ความสัมพันธ์ระหว่างแรงดันและกระแส
สาหรับตัวต้านทาน ตัวเหนี่ยวนา และ ตัวเก็บประจุ

| |
R "
L →
VL Ldi ะ "


Ic
jxc
ie cdv
¥
c- > ะ
.
.
17

ai
กั๋
ห้
ก IR inphase DR
2.5.1 กรณีของตัวต้านทาน
1 2 osincwt
+ า R 4M
ชษ า
Vj

=

pp =
yrct > i Rct ) < นอน
pเ น บP จ ง

A้
+ •
ลา
.

µ
.im
T2
pR
VI
T1
p1 pAverage

[
" " "
Energy Energy Energy Energy
ข .msn.ms
Powgn
Dissipated Dissipated Dissipated Dissipated
.

VI
v

i
t
t1

IR VR

i
¥ ยtำ
18
=
2° ""
sincati 1A
t = o
R =
.net
[, :3
ว่
คำ
รี
กี่
ป็
ริ
|
m \ " นะ "
F- I. IIXI )
ag = Xi = 42

2.5.2 กรณีของตัวเหนี่ยวนา vnnnn

p E. 5
ชนะ osincwt Cs
.

+
.

2 )
ชา IL
PH วะ ^

ง นตภาพ

① Energy
absorbed
p1
Energy
absorbed
Energy
absorbed
Energy
absorbed / P.it า
E.
T2 pL

v
T1 Pavg = 0
i t
t1

Energy Energy Energy Energy


returened returened returened returened

rfi VL

ii. ำ
¥ i. ![
2 อา 0 ะ
IL 19
.ee

39in ewtriao )
กำ
อ่
ยุ๊
จิ
ฐิ๋
ลั
ฐnn,โeI
VAR 0ha "
9C → n P F..
n Xc ะ
4s

2.5.3 กรณีของตัวเก็บประจุ
④ ¥ำ าE
/
Energy Energy Energy Energy
absorbed absorbed absorbed absorbed
T2 pC

v
T1 Pavg = 0
i i
t1 t
÷

y
Energy Energy Energy Energy
returened returened returened returened

p1 IC

9 VC


Ic lead Hc =
9
20
อั
อํ
อุ่
ตํ่
กั
7

DC / คาง จน


"

± = i

Ac นาน
%
F- า ห า

-

_
ค่
ยุ่ตำ
ว๊
ล้
วุ๋
น้
2.6 กาลังไฟฟ้า กาลังเชิงซ้อน และ ตัวประกอบกาลัง
2.6.1 กาลังไฟฟ้าชัว่ ขณะ (Instantaneous Power)
v(t ) = VP cos( t + V ) fvrs Pct ปก
i (t ) = I P cos( t + I) ะ 2F ของ ธ
i
p (t ) = v(t ) i (t )
,

= VP I P cos( t +

=
VP I P
2
V I
V ) cos( t +

cos( V − I ) + P P cos(2 t + V + I )
2
= VEff I Eff cos( V − I ) + VEff I Eff cos(2 t +
I)

/ ②
+
V I)

① Constant 2 times frequency of principal Sinusoidal

ไ า แปร t


.
อ า คง
21
ที่
ค่
คื
มีถ้
ม่
2.6.2 กาลังไฟฟ้าเฉลีย่ (Average Power)

Element Pavg (W)


VEff I Eff
R iinphas ช

=
L wn ✓ 0 i \ ag ช = ao

S xut า × 21
+ าง dt C แ ✓
0
[ + - -

i \ eadriao
Sxzdt RL VEff I Eff cos( − I)
Jxidt +
t0 +T
mm
V
1 1\ RC VEff I Eff cos( V − I)
Pavg = p (t )dt
nn -

T t0 RLC VEff I Eff cos( V − I)


rdrmy \ -

v(t ) = VP cos( t + V )
i (t ) = I P cos( t + I) Y
p (t ) = VEff I Eff cos( V − I) + VEff I Eff cos(2 t + V + I)
Constant 2 times frequency of principal Sinusoidal
t0 +T
1 22
Pavg = p (t )dt = VEff I Eff cos( V − I ) (W)
T t0
2mg .
จำ
รำ
2.6.3 กาลังปรากฏ (Apparent power)
จากกรณีของกาลังเฉลี่ยพบว่า Pavg = VEff I Eff cos( V − I) (W)


ขนาด

ในที่นี้ให้ค่าของ VEff I Eff เรียกว่าก~าลังปรากฏ (Apparent power)


กาลังปรากฏแสดงถึงปริมาณการใช้กระแสและแรงดันของอุปกรณ์
มีหน่วยเป็น VA (Volt-Ampere) แทนด้วย S
Porg
เมื่อเปรียบเทียบกับกาลังเฉลี่ย ทาให้พบว่ากาลังเฉลี่ยจะน้อยกว่าหรือเท่ากับกาลัง
ปรากฏเสมอ (เนื่องจากกาลังเฉลี่ยมีค่า cos( V − I ) คูณอยู่ซึ่งค่า cosine ใดๆ
c มีค่าอยู่ระหว่าง [0,1] เท่านั้น)
Vrmoi Irms 23

Ve F F. Ie FF
5 = V. I
2.6.3 กาลังปรากฏ (Apparent power) (ต่อ)
Ktk 1{ |
มักใช้เป็นค่าที่บอกถึงพิกัดของอุปกรณ์ เช่น
S VLS ไร Hs CR ot e)

หม้อแปลงขนาด 100 MVA 20kV/500kV 50 Hz ซึ่งเป็นการบอกโดยนัยว่า


ILS IHS CR ate )
ทางด้านแรงต่ามีค่ากระแสพิกัด = 5,000 A และ

::
ทางด้านแรงสูงมีค่ากระแสพิกัด = 200 A เป็นต้น

:
เพราะ PF

? Ii

i.
" ยาก

]
" 5mA ก

iii.
. .

า นานา P ใ นก ~

ง า 2อkบ
" " sook V ประเ น 7

2 okv 9 ookv
านาน S
L5
p = v. I. caf . .

. . ..
24
.

rtrate
. . .

.
. . . .
ทำ
ค่
ที่
ยู่
มี
ท่
สู
คำ
ค่
ห้
มิ
P = V.I.CO SCG v GI 7 -

2.6.4 ค่าตัวประกอบกาลัง (Power Factor: PF) S =


V. I ( ขนาด

↳ อง
ระ lagllead กอ

อัตราส่วนระหว่างกาลังเฉลี่ยต่อกาลังปรากฏ เรียกว่า ค่าตัวประกอบกาลัง (จริง) (Power


Factor: PF) Q

mnefh
p Average Power Cห E
PF = = cos( V − I)
=

} Apparent Power
PF = Cos CE v
- E 1) = Cos E = Ccs Gz =
Cc S
Es
Element PF = cos( V- I) Type
R 1 Unity "
L 0 Lagging
C 0 Leading
RL <1 Lagging
RC <1 Leading
RLC <1 Lagging or Leading Depend on
Dominate of L or C 25
Xy Xc
ต้
ฐี้
ศิ
บุ
H เะ =D
loo 2

olggatfr ¥
"" "

า_!fญื่
s

]
โ ะ
"

/ = 2 อ 53

0 '
2
tti เอง msicrn
?อ


PF ะ
หาย .

" " "

↳ ะtิ4


%→ ÷ 2m.ncos.CI
= .
.

① า ←

นะ
"" " ☐ ±
=

jผฺ
-

20 E.
5 A
4-2
=

↳j
ะ ะ -

-2ft
_ 3

CRC )
'

"
lead Hz =
53
lead
-2
3-
¢น
อ 6

.

ะ PF C-
.

ccs
.
- -
_
สั๋
รู้
ว่
หื๊
ฒฺ
หู้
หื้
ญู
หฺ

2.6.5 กาลังเชิงซ้อน (Complex power)

๐ *→
Pavg = VEff I Eff cos(
V = VEff ny
V − I) →

Ipandt
V

I = I Eff I

Pavg = Re VEff( V ) (I Eff I )


*

= Re VEff I Eff ( V − I)

= Re VEff I Eff (cos( V − I)+ j sin( V − I) )


= VEff I Eff cos( V − I)
26
(V Eff V ) (I Eff I ) = VI
* *
= S = P + jQ (VA)
วุ่
1
AC :D
DC V
}

g
phasar
I

}} โต
R ป มาณ เลง

P
-
เ น ไง ไร
ำE้
_
งหมด \

P ะ V. I =
IR =
-

ะ า นก ณ วม น ศ

R
.

s..com#.a!:.x.oi
v.s.c-ti.ua#7Ps:m:

VEv.IE?=V.ILEv+G_E
= H.tt -

↳ =
IGGI

¥
R =

" ""

. ← . ..
.
:

✓ อน ห า
. .

)
V7 ( Ev E
'

Coscev -0 ± * µ 7.9 เขา F)


-

ะ -
-
ทั้
ษื๊
ญิ๋
กั
ร่
ค่
ข้
ก่
ป็
ว้
น้
ริ
2.6.5 กาลังเชิงซ้อน (Complex power) (ต่อ) s =p + jq
S = P + jQ (VA) ะ " lay

P = Re VI* = VEff I Eff cos( V − I) ะp. µ


Q = Im VI* = VEff I Eff sin( V − I) \ ead
math กาย ภาพ

S
กำลังเชิงซ้อน กำลังปรำกฏ VA
(Complex Power) (Apparent Power)

P
กำลังจริง กำลังเฉลี่ย Watt
(Real Power) (Average Power)
Var
Q
กำลังจินตภำพ กำลังเสมือน
(Volt-Ampere
(Imaginary Power) (Reactive Power) Reactive)

อัตราสว่ นระหว่างกาลังเสมือนต่อกาลังปรากฏ เรียกว่า

27
• ค่าตัวประกอบกาลังรีแอกทีฟ (Reactive Factor) RF = sin( V- I)
ญึ๋
นำ
2.6.6 กาลังรีแอกทีฟ (Reactive Power)
กาลังรีแอกทีฟ คือ กาลังที่สะสมอยู่ในอุปกรณ์ไฟฟ้าซึ่งอยู่ในรูปของสนามแม่เหล็ก
(L) หรือ สนามไฟฟ้า (C) ซึ่งจาเป็นต้องมีเพื่อรักษาเสถียรภาพ และ สถานภาพการ
ทางานของอุปกรณ์ไฟฟ้า ให้สามารถทางานอยู่ได้ แม้ว่ากาลังสะสมดังกล่าวจะไม่ได้
ถูกนามาใช้โดยตรง

28
① G-
'

☐ = เออ ↳ Ey -

±
=
53

t{ ne}
R 3 2
11 แ A
i. =
so 45
G. ะ
5 3.


_

µ jxh jar Ij 4 ^

'

Eg = 93
53
8 เ = 3+ j 4 ะ 5
E =3
2. 1

wm → =
ygai , µ ↳ µµ

jlboo VA = อ 6
= 12 oo + .

lag
lag D= 5 า PF ะ cos 3 Cl g) = o. เ
lag
2.2

( ฑํ๋
• 2 VA
น น |หR เออ = เ
2 อ • + jlsoo
ขา
= =
=

v D.
.


-

ษ ( Ij = 2 ooo ↳ VA

G # E) = ำ µ?
3
z =
2 •
2

tj 4) ะ แ ooxj แอบ A
VA
= noookj
ผู่
รึ๋
ญิ๋
ว่
ว่
ญู๋
ว่
ว่
ญึ๋
ว่
บํ่
หํ๋
ทั๋
ltl Et
¥
"

g |¥| lernt ± =
t =
=
-
_

h coscev E) Cos


- =

LEv-nfI.IS/LEShIFccsca-en_)=coSGs
S ะ b. = v. 1

-
ญั้
ญั๋
ณื๋

หา เออ LC

า ! %ะ
=

{
1[ เ
= looli =
2o ↳5 A

a. .
. .
Ij 4

'

53
8 เ = 3+ j 4 ะ 5

" VA
S ไหน y ( เออ li
) ( 2 อ
↳ = 2oo.ES

THedaucei.nl#Fxz-nTSO-
คะ
=
v. .

= 12 oo +
jltoo VA

powertriangleia@aOIi.it.ie
ก Im
ว่
ญึ๋
ยื๋
ว่
กุ๋
2.6.7 สามเหลี่ยมของกาลังและอิมพีแดนซ์ (Power Triangle and
Impedance)

S = P2 + Q2 Z=
V V
= V

= I I I
S

Q VEff I Eff sin( − V


V I) = ( V − I)= Z
tan = = I
Z
P VEff I Eff cos( V − I)
Z =( V − I)= S =
= tan( V − I)

S =( V − I) 29
Q = P tan
* *
าย
#
DC
y I
2.6.8 การรับ-จ่ายกาลังจริงและกาลังรีแอกทีฟของแหล่งจ่าย
าย


+
Circuit Diagram Calculated from EI* -

If P is + : EMF supplies power

If P is - : EMF absorbs power
If Q is + : EMF supplies reactive power
(I lags E)
If Q is - : EMF absorbs reactive power
(I leads E)
② If P is + : EMF absorbs power
If P is - : EMF supplies power
If Q is + : EMF absorbs reactive power
(I lags E)
If Q is - : EMF supplies reactive power
(I leads E)
30
ยื๋
รั
ป่
ว่
จ่
คุ
① 5 ะง
+ าย
/
p

0 บ
- _

า + าย (G)
G-
→ - บ (G)
ญุ๋
จ่
รั
จ่
รั
ญึ๋
อุ่
2.7 วงจร RLC แบบอนุกรมและแบบขนาน
สามารถคานวณโดยใช้หลักการเช่นเดียวกับการคานวณในวงจรไฟฟ้ากระแสตรง เช่น
หลักการวงจรแบบอนุกรมและแบบขนาน หรือ วงจรแบ่งแรงดัน วงจรแบ่งกระแส
วิธี Branch current method, Mesh current method, Node voltage
analysis
Source conversion, etc.

Eq a ) : Z S = Z1 + Z 2 + ... + Z N
1 1 1 1 31
Eq b) : = + + ... +
Z P Z1 Z 2 ZN
I1 4 8 I3
ตย.
+ I2 +
Vs V1 j6 V2 -j4
- -
v S = 33.9411sin( t + 60 ) V

32
Summary

33
DC V AC
¥ } phasor อ ใน
ป นอน
I
nntn
R }} ป มาณ

ห ?
¥
p
S = = 1 = III z

"
R
fg
e-

ER
¥

P ะ
ะ -

" "±
+ " "
⑤ "

แ_
รู
ยุ๊
สื
ขำ
ปู๋
ญุ๋
วุ๋
?⃝
ยู่
ริ
ญึ๋
หุ๊
1-n.! F:!.:it?:: !_Ti:!:÷i :
i. !
L

.. <เ clea d) R -
jxc → 2 Et P Jae
-

s Ee

Tnxc < xc → R -

jxc
\
ณุ๋
รุ่
ญฺ
วํ๋
2.8 การปรับปรุงค่าตัวประกอบกาลัง r

2.8.1 ข้อดีของการปรับปรุงค่า P.F. ของระบบไฟฟ้าให้สูงขึ้น คือ


1) ลดกระแสไฟฟ้าที่ไหลอยู่ในวงจร ตั้งแต่แหล่งจ่ายไฟฟ้าจนถึงตาแหน่งที่
1 I เ ม 1 7 11ไ


ติดตั้งตัวเก็บประจุ 1-

2) ลดกาลังสูญเสียในระบบไฟฟ้าลง

[
3) ลดแรงดันตกในระบบไฟฟ้าลง ทาให้ระดับแรงดันไฟฟ้ามีความมัปาก ่นคงมากขึ้น
rrcsmไร

% # Loss
4) เพิ่มขีดความสามารถในการรับหรือจ่ายกาลังไฟฟ้าของระบบให้สูงขึ้น
5) ลดค่าไฟฟ้าลงได้ ② = kt F. |2 สาย

Iเ น , Loss รมว Loss ให

ค ไาง
VP ropใน สาย ลด ลง
0
= III. R สาย 34
☒ .net#n
ยื๊
ห่
ฬุ๋
ถุ
ดิ
ดิ
ม่
ม่
ดั
ฐื๊
ยุ้
ด้
7

7.
.

±
.
. .

1
.
_
lag

|
PF
R
G- ) น . ย / ag
ccs CE ☐ -
±

รญz~นP
RL → = |

ำ อง /
] [ 1
G ระ เ า เบา , Isn

Y เยอะ PF า
ตำ
ห่ที่
ตั่
ต้
ท้
ทั๋
itfm
ญื๋÷
"
อุ
หั๋
กา ด , ห น กก
R บาง
\

2.8.2 อุปกรณ์ทางไฟฟ้าและค่า PF ของอุปกรณ์


-

เค อง น
อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านเรือนและอุตสาหกรรมส่วนใหญ่เป็นโหลดประเภท RL
หรือ ประเภทตามหลังแทบทั้งสิ้น -
r _
_

r
. .

Ballast RL
-

โหลดประเภท RL
_
LED → | ag
ให้ค่า PF น้อยกว่า 1 และเป็นประเภท Lagging ซึ่งมีการ Consume Q มาก 35
มี
ทำนำรุ่
ม่
รื่
ร์
2.8.2 อุปกรณ์ทางไฟฟ้าและค่า PF ของอุปกรณ์ (ต่อ)

อุปกรณ์ไฟฟ้าเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่แสดงคุณลักษณะค่าความจุไฟฟ้า อันได้แก่ ตัวเก็บ


ประจุ, Synchronous condenser/ (synchronous compensator/synchronous
motor) เ น Syn gen h โรง งาน

# ไ ย

โยกไป
อุปกรณ์ที่มีคุณลักษณะสามารถจ่ายค่ากาลัง reactive

36
น้
ป็
ว้
2.8.3 ตัวอย่างค่าเพาเวอร์แฟกเตอร์ของโรงงานอุตสาหกรรมและอุปกรณ์
IEM.se
"
¢ lag ง
เครื่องใช้ไฟฟ้า
อุตสาหกรรม ค่า P.F. (%) อุตสาหกรรม ค่า P.F. (%)
ชิ้นส่วนรถยนต์ 75 - 80 โรงพยาบาล 75 - 80
ซีเมนต์ 80 - 85 อาคารพาณิชย์ 55 - 65
เสื้อผ้า 35 - 60 สี 55 - 70
เหมือง/ถ่านหิน 65 - 80 ขึ้นรูปโลหะ 65 - 80
หล่อโลหะ 75 - 80 เหล็กกล้า 65 - 75
ชุบเคลือบโลหะด้วย 65 - 70 พลาสติก 60 - 70
ไฟฟ้า

ตารางที่ XX ค่าเพาเวอร์แฟกเตอร์ของโรงงานอุตสาหกรรมบางอย่าง 37
อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า ค่า P.F. (%) อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า ค่า P.F. (%)
คอมเพรสเซอร์ 50 - 80 เครื่องปั๊มโลหะแบบ 60 -70
RL ธรรมดา RL

เครื่องเชื่อมแบบอาร์ก 35 - 60 เครื่องปั๊มโลหะแบบ 45 -60


RL ความเร็วสูง RL

เครื่องเชื่อมแบบความ 40 - 60 หลอดฟลูออเรสเซนต์ 50 - 70
ต้านทาน RL และหลอด HID RL

เครื่องกลึง 40 – 65 เตารีด หม้อหุงข้าว 100


RL กาต้มน้าไฟฟ้า R

ตารางที่ XX ค่าเพาเวอร์แฟกเตอร์ของอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าบางอย่าง
38
2.8.4 การต่อวงจรเพื่อปรับปรุงค่าเพาเวอร์แฟกเตอร์

รูปที่ xx แผนภาพกาลังไฟฟ้า
รูปที่ xx การต่อวงจรเพื่อแก้ตัวประกอบกาลัง ก่อนและหลังการปรับปรุง P.F.

กำหนด เงือ
่ นไขทว่ ั ไป
• P.F.(เดิม) = cos 1 • กำล ังไฟฟ้ำจริงมีคำ่ คงที่
• P.F.(ใหม่ทต
ี่ อ
้ งกำร) = cos 2 • kW(เดิม) = kW(ใหม่) 39

• โดยที่ 2 < 1
""

(C) อ
"
"
โหลด day
ใ Gเ ม เ

j 6 ให
น.
7 +

C- เ ม | C-
o
เ ม =P ให

. .

¥
0 _

jac
I
clead เ

1s ให |
| ระ บ | >
IX. 17 ให 1
☒ 11 เ ม \ >
าย ลด 7 ใน
_


.

pF
1I เ ม1 > 1 u 1 → การ
แห ง ายไ
.

สาย จาก
วื๋
ฎื๋
ปิ
ที่
ข่
จ่
ดิ
ดิ
ดิ
ดิ
ดิ
ด้
ก้
ดั
ส่
ณื
ม่
ม่
ม่
ล่
ม่
ม่
2.8.5 ขั้นตอนการคานวณเพื่อปรับปรุงค่าเพาเวอร์แฟกเตอร์ PF = อ .
6
ยา เ น
[
S 6 *

1) คานวณค่า kVA(เดิม), kW(เดิม), kVAR(เดิม) และ/


q1 ของระบบเดิมก่อนการแก้ตัว
= =
ประกอบกาลัง
PF ให = 0.95 G
2) จากค่าตัวประกอบกาลังใหม่ที่ต้องการหรือที่กาหนดให้ (pfnew), คานวณค่า /q ค่าใหม่
หรือ %
.

q2 จากนั้นจึงคานวณค่า kVAR(ใหม่) โดยการคงค่า kW(ใหม่) ให้เท่ากับค่า kW(


เดิม) หรือ kW(ใหม่ )= kW(เดิม) Clni Phi 5 ให
b
3) จาก kVAR(ใหม่), นามาคานวณค่าขนาดของ kVAR(Cap) ที่ต้องใช้ซึ่งจะมีค่าเท่ากับ
(kVAR(เดิม)– kVAR(ใหม่)) l
~

6
↳ c
=

=
Gt E
↳ sysbol × ยะ
า 40
C
ว่
ข้อิ่
กิ
ม่
ม่
2.8.6 ขนาดของ Cap ที่ใช้ปรับปรุงค่าเพาเวอร์แฟกเตอร์

ขนำดของ kVAR (Cap) ทีต ้ งใช ้ = kVAR(เดิม) - kVAR(ใหม่)


่ อ

โดยที่
➢ kVAR(เดิม) = kW tan 1 →Q(เดิม) = P tan 1

➢ kVAR(ใหม่) = kW tan 2 → Q(ใหม่) = P tan 2

ด ังนน
ั้
ขนำดของ kVAR (Cap) ทีต ้ ง ใช ้ = kW tan
่ อ 1- kW tan 2

= P(tan 1- kW tan 2)
41
ยังไม่ได้
ปรับปรุง

ปรับปรุงพอดี
Unity PF

ปรับปรุง
มากเกินไป
42

รูปที่ xx การปรับปรุงค่าตัวประกอบกาลัง
อน
PF_e
# "


① P 6,5 € เ ม
, ,

เ ม PF เ ม co 6 5
Cap
ะ อ =
E = co
.

'

Gเ ม =
Itan G = kootan ฯ 3 = แ oo VAR

ooolnp VA
_
1
ag S แนะ ootjltoo VA 2
= .

12
9 ⑧
Hy
j 5เ ม| / 1Vเ ม/
( Il เ ม | 20 A
=

1 เอย

iii.
= =

ฐํ๋ ÷ าง
%% !% .

W
P ให =P เ ม = 12 oe

ootcml E. ะ 394.4
P เ ม 12 0W
ให E เ2
°
=
6 pyan =

~น
=
var
ไป

+

Pla 5 ให
=

oow
=
µ
1263.16 VA
12 ออ / อ 95 =

A
.

#ให 1 = l Slusil / 1☒ | = 126s แ ÷ .


ioo = 12 - I. 3 ☒
กั
ก่
ริ่
ฏื๋
ว่ภู๋
ริ่
ว่
ญิ๊
ญู
งํ๊
ห้
หุ
บ่
ห่
ยิ
ดิ
ดิ
ดิ
ดิ
ดิ
ดิ
ดิ
ดิ
ดิ
ฐฺย
ม่
ม่
ม่
ม่
ร่
ฬฺ
ญั๋
ท่
ภั๋
I โหลด เ ม ให mไ ฝา
µ เ ม | A *
= ovos
= 2 •
,

iii.÷ ใน
+ โลด

Hg
G เ ม → 6ให
h
inme ±
!

1 บ =
Plu
loo V

โหลไ เป ยน


6
mnrnn
เห อน เ
_

อ แห ง าย ม
-

ocf
5เ ม nootjuoovt

ะเษนอt ไ
=

= 12 ootjltoo
"Cไ
*
eap
ดี
กุ
ม่
กั
รํ๋ฬุ๋
วฺวฺวู๋
ก่
จ่
ดิ
ดิ
ดิ
ดิ
ดิ
ม่
ม่
มื
ล่
ม่
ลี่
ม่
ม่
หุ้
น็
/ 61 Gเ ม /
③ ขนาด ของ
dcap =
_

16 เ ม -
Qla 1

1205.60 Gc

| 394.4 - 16 อย l =
VAR →


V2 = อ 3 r
Xc
ะ .
=

az

C =
=
อ . 3อ 4 mF
*× c

31/1 / 65 •
จบ .
ท่
หื๊
ม่
ดิ
ดิ
ตย. โรงงานแห่งหนึ่งมีโหลด 800 kW มีค่า P.F. 65% Lagging หากต้องการปรับปรุง
P.F. เป็น 95% Lagging จงคานวณหาขนาดของ Capacitor ที่ต้องใช้
วิธีทา

43
loo V5 °
HX ni
/
/
ตย. โรงงานขนาดเล็กแห่งหนึ่ง มีเครื่องความร้อนขนาด 4 kW มีมอเตอร์เหนี่ยวนาขนาด 24
kW P.F. 80% lagging, Eff. = 75% ถ้าหากต้องการปรับปรุงค่าตัวประกอบกาลังรวมให้มี
ค่าเท่ากับ 95% ตามหลัง จะต้องใช้ตัวเก็บประจุขนาดเท่าไร

ก) ข)

รูปที่ xx แผนภาพสามเหลี่ยมของกาลังไฟฟ้า
44

ก่อนและหลังการปรับปรุง P.F. กรณีโหลดหลายตัว


=

โหลด ① บอก 2 → m sm HM
+7 อน เ น KW
☐ ② โหลด Heoter เค อง ความ
บอก ม

[ | .
.

s =P + j0 ไ เลย
.
_

เ น EFF 24kW อ ย
lay 75 1. EFF
^

③ มอเตอ P
บอก
PF , → .

ม ไฟ 24 kW อ Pout
/
เพลา
หา

, แ P.GS , I G ของ Motar

#
i. แส PF o
ยาก
,

.in/wnnInpwtPin=
PF =3
/ /
ss °

โรง
c-

|
kw
Ekw 3*2
P ม tau
เ ก
= =


+
ม =P ,
"
75
pyr = 32 + j 24 kVA
ช็
ร้
ทำ
ดึ
คื
มุ
มี่
วํ
หั่
ญิ๋
ดั
ป็
ด็
ป็
ศ้
ก้
รื่
ศู่
ร์

Ex เธอ
ian

|
"" +

aเ ม

minh
4kW
-132kW ④เ น 1.
og
naylt.co

5 เ ม ะ 4 + jot 31 + j 24 = 36 + j 24 kA =
43.27 ↳ด
ญี๊
ดิ
ดิ
ป็
ก้
O
cc .
1 .

Pให tan 6

นะ
Glai =
<

36 tano = O VAR

Gcap = | G ให -
G เ ม | =
| อ -24 | = 24kVAR

Xc =
=
=
อ .
417
µ

C = = 7.64 mF
fc •
จบ 31/1/65 .
ร๋
ณู๋
ห่
หื๋
ฐู
ดิ
ม่
ม่
วิธท
ี ำ
ก่อนปร ับปรุงค่ำ P.F.

45
เมือ
่ ต้องกำรปร ับปรุงค่ำ P.F. เป็น 0.95

46

You might also like