Professional Documents
Culture Documents
Political Science: by Bobbyredcar
Political Science: by Bobbyredcar
political science
2
0
1
9
แนวคิดทางการเมือง (Political Concept)
แนวคิดทางการเมือง (Political Concept)
ยุคกรีก -เพลโต, อริสโตเติล, กลุ่มอิพิคิวเรียน, กลุ่มซินนิค, กลุ่มสโตอิค
ยุคโรมัน -ซิเซโร, นักบุญออกัสติน, นักบุญโทมัส อะไควนัส
ยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาการ -แมคเคียวเวลลี, มาร์ติน ลูเธอร์,ฌอง โบแด็ง
ยุคสมัยใหม่ -โทมัส ฮอบส์, จอห์น ลอค
ยุคแห่งความรุ่งโรจน์ -มองเตสกิเออร์, รุสโซ
ยุคการปฏิวัติอุตสาหกรรม -คาร์ล มาร์กซ์
ยุคกรีก
เพลโต (Plato) - เป็นลูกศิษย์ของโสเครตีส (Socrates) แต่โสเครตีสถูกตัดสินประหารชีวิตจากสภาว่ามีความผิดในข้อหาบ่อนทําลายความสงบสุขของประชาชน เขาจึงได้รับโทษโดยการให้ดื่มยาพิษ
ตาย ในการนี้จึงทําให้เพลโต ต่อต้านการปกครองในลักษณะคนหมูม่ ากหรือประชาธิปไตย เพราะเห็นว่าระบอบประชาธิปไตยคือระบอบของคนหมู่มาก ซึ่งคนหมู่มากอาจจะเป็นกลุ่ม
คนที่ไม่มีความรู้กไ็ ด้ เขาสนับสนุนกษัตริย์นักปราชญ์ (philosopher king)
- เขียนหนังสือ The Republic “อุตมรัฐ“หรือรัฐในอุดมคติ คือลักษณะของรัฐที่ดีที่จะทําให้คนมีความสุข ซึ่งเพลโตต้องการให้มีขนึ้ เป็นบทประพันธ์ชิ้นสําคัญของเพลโต (Plato)
ปราชญ์ชาวกรีกผูไ้ ด้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในนักคิดผู้ทรงอิทธิพลตลอดกาลของโลกตะวันตก กล่าวกันว่า รีพับลิก ประพันธ์ขึ้นในช่วงที่ความคิดของเพลโตกําลังผลิบาน โดยมี โสเครติส
(Socrates) เป็นผู้ดําเนินเรื่อง เขียนออกมาในรูปแบบของการสนทนา (dialogue) ครอบคลุมปัญหาทางปรัชญา ทฤษฎีความรู้ จิตวิทยา และการเมือง
- เป็นอาจารย์ของอริสโตเติล เป็นนักเขียน และเป็นผู้ก่อตั้งอาคาเดมีซึ่งเป็นสํานักวิชาในกรุงเอเธนส์ งานหลักเพลโตในอาคาเดมีคือ กล่าวคําบรรยายแก่นักศึกษา ในการบรรยาย
แต่ละครั้ง เพลโตไม่มีต้นฉบับของคําบรรยาย และการบรรยายบางครั้งก็เปิดให้บุคคลภายนอกเข้าฟังได้
- คําว่า “รัฐ” (Polis) เพลโตหมายถึง “นครรัฐ” ของกรีกโบราณอย่างสปาร์ตาและเอเธนส์ การปกครองที่ดีในรัฐการปกครองของเพลโตอยู่ในรัฐที่เพลโตคิดมีอยู่ในรัฐ อุดมคติ
หรือรัฐในความคิดของเพลโต
ระบบการปกครองที่ดีที่สุดตามทรรศนะของเขา
คือ Polity เป็นการผสมผสานระหว่างระบบคณาธิปไตย
และระบบประชาธิปไตย ซึ่งเป็นแนวทางสายกลางระหว่าง
การปกครองโดยคนร่ํารวย(คณาธิปไตย) กับการปกครองโดย
ระบบการปกครองที่เลวที่สุดตามทรรศนะของเขา คือระบบ คณาธิปไตย อริสโตเติลอธิบายว่าเป็นการ คนจน(ประชาธิปไตย) ซึ่งจะให้โอกาสแก่ราษฎรทุกคนได้มี
ปกครองโดยคนกลุ่มน้อยทีป่ กครองเพื่อผลประโยชน์ของพวกพ้องตัวเองลักษณะเด่นที่เห็นได้ชัดของคณาธิปไตย คือ ส่วนร่วม ในการปกครองโดยยุติธรรม โดยยึดรัฐธรรมนูญ
การปกครองอยู่ในมือของกลุ่มคนที่มีอํานาจครอบงําทางเศรษฐกิจ เป็นกลุ่มคนที่มีฐานะมั่งคั่งร่ํารวย เขามีอคติต่อผู้ที่ทํา เป็นหลัก
หน้าที่ปกครองรัฐ ซึ่งมาจากชนชั้นเศรษฐี
กลุ่มอิพิคิวเรียน - มีแนวคิดว่า “การมีส่วนร่วมทางการเมือง มีแต่จะนําความทุกข์ยากมาให้ และทําให้เสียเวลาในการแสวงหาความสุข”
- รัฐปรัชญาของพวกเอพิคิวเรียนส์ เป็นปรัชญาที่อยู่สดุ โต่ง (Extreme) กว่ารัฐปรัชญาของเพลโตและอริสโตเติล
- รัฐปรัชญาของพวกเอพิคิวเรียนส์ จึงเป็นปรัชญาประเภท ปฏิเสธนิยม (Negativism) ที่แนะนํามนุษย์ให้หลีกหนีความทุกข์ยากลําบากมากกว่าที่จะแนะนําให้มนุษย์แก้ปญ
ั หาที่เผชิญหน้า
กลุ่มซินนิค -เป็นพวกกลุ่มคนต่างด้าว
-แนวคิดสําคัญ คือ 1.ต่อต้านการแบ่งชนชั้นและพวกผู้ดี 2.มีแนวคิด อนาธิปไตย คือการไม่มีผู้ปกครอง
-คือกลุ่มที่เน้นความหลุดพ้นจากกิเลสอันเป็นเหตุให้เกิดความสงบทางจิต
ฌ็อง บอแด็ง (Jean Bodin) - นักปรัชญาการเมืองของโลกตะวันตก ชาวฝรั่งเศส ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 16 หรือประมาณ พ.ศ. 2100
- ริเริ่มใช้คําว่า “อานาจอธิปไตย” ในความหมายที่เข้าใจได้ในปัจจุบนั คือ “อํานาจอธิปไตยนั้นเป็นอํานาจสูงสุดในการปกครองประเทศ”
- เสนอปรัชญาเกีย่ วกับทฤษฎีอํานาจอธิปไตยไว้ว่า อํานาจอธิปไตยเป็นเครื่องหมายที่บอกถึงความแตกต่างระหว่างรัฐกับสังคมอื่น ๆ ทีค่ รอบครัวหลายครอบครัวอยูร่ ่วมกัน
พรรณนาว่าครอบครัวเป็นพลเมืองของรัฐ ซึ่งต้องยอมอยู่ภายใต้อํานาจขององค์อธิปัตย์ หรือผู้ปกครองที่มีอํานาจสูงสุด
- ยังอธิบายเกี่ยวกับรัฐไว้ว่า รูปแบบของรัฐบาลจะเป็นรูปใดนั้น จะขึ้นอยู่กับว่าอํานาจอธิปไตยเป็นของใคร หากเป็นของรัฐสมบูรณาญาสิทธิราชย์ อํานาจของรัฐก็จะเป็นของ
กษัตริย์
ยุคสมัยใหม่
Thomas Hobbes - เขียนหนังสือเล่มสําคัญ “Leviathan” ปีค.ศ.1651 ในช่วงที่อังกฤษในยุคนั้นกําลังเผชิญกับสงครามการเมืองที่รุนแรง ประชาชนได้เรียกร้องให้ยุตคิ วามยุ่งเหยิงวุ่นวาย
(1588-1679) ดังกล่าวโดยการเรียกร้องให้มีรัฐบาลกลางที่เข้มแข็งเพื่อยุติและปูองกันไม่ให้เกิดความวุ่นวายและต้องยุติให้ได้
- เสนอว่าเมื่อมนุษย์เป็นผลของการเคลื่อนไหวของส่วนต่างๆของร่างกายและมนุษย์สามารถถูกผลักดันให้เข้าสูส่ ังคมในมิตติ ่างๆได้นนั้ มนุษย์ก็สามารถถูกผลักให้กลายเป็น
ส่วนหนึ่งของรัฐ
- จากหนังสือ Leviathan จึงมองว่าองค์อธิปัตย์(sovereignty)หรืออํานาจอธิปไตยเท่านั้นมีหน้าที่ในการใช้อํานาจในการควบคุมพลเรือน ทหาร ตุลาการ และทางองค์กร
ศาสนา
- จริยศาสตร์ของฮอบส์ อยู่ในแนว “อัตนิยม” (Egoism) การ กระทาของมนุษย์ล้วนเป็นไปเพื่อก่อให้เกิดประโยชน์แก่ตัวเอง ทั้งสิ้น
ยุคแห่งความรุ่งโรจน์
Baron de Montesquieu - นักวิพากษ์สังคมและนักคิดทางการเมืองชาวฝรั่งเศส มีความสนใจหลายด้าน ประวัติศาสตร์ การเมือง กฎหมาย และทรงอิทธิพลมากคนหนึ่งในบรรดานักคิดในยุโรป
(1689 - 1755) - งานเขียนชิ้นสําคัญ คือ The spirit of the laws เผยแพร่ในปีค.ศ.1748 นําเสนอแนวคิดที่เชื่อว่าจะช่วยทําให้ระบบการปกครองแบบเสรีเป็นจริง นั่นคือการแบ่งแยกอานาจ
3ฝุาย คือฝุายบริหาร ตุลาการและนิติบัญญัติ (พื้นฐานของการวางโครงสร้างระบบการปกครองแบบประชาธิปไตย)
- The Spirit of Law มีอิทธิพลต่อการร่างรัฐธรรมนูญของสหรัฐอเมริกาและของฝรั่งเศสในระยะนั้น
- มองเตสกิเออร์ เห็นว่าเสรีภาพคือการที่จะทําในสิ่งที่ต้องการและไม่บังคับให้กระทําในสิ่งที่ไม่ต้องการ จะต้องมีกฎหมายมาเป็นตัวกลางคอยกําหนดว่า ประชาชนควรทํา
หรือไม่ควรทําอะไร เพื่อมิให้เสรีภาพของคนหนึ่งไปรบกวนเสรีภาพของคนอื่นและระบบกฎหมายนี้จะไม่เกิดกับระบอบทรราชที่ใช้กําลังอํานาจทําให้ประชาชนหวาดกลัว
Jean Jacqnes Rousseau - นักเขียน นักทฤษฎีการเมือง นักประพันธ์เพลง นักปรัชญาสังคมชาวสวิสเชื้อสายฝรั่งเศส ผู้มีอิทธิพล French Revolution ใน คศ.1789
(1712-1778 ) - รุสโซเชื่อว่าธรรมชาติของมนุษย์เป็นคนดีแต่สังคมทําให้มนุษย์เป็นคนเลว แปดเปื้อน และมนุษย์ มีเสรีภาพตามธรรมชาติโดยไม่จํากัดแต่เมื่อมนุษย์มารวมกันเป็นสังคม
จึงต้องมีการจํากัดสิทธิเสรีภาพบางส่วนโดยการทํา สัญญาประชาคม (The social Contract ) เพื่อไม่ให้เกิดการลิดรอนสิทธิเสรีภาพของกันและกัน
- “ มนุษย์เกิดมาพร้อมเสรีภาพแต่ทุกหนทุกแห่ง เขาต้องตกอยู่ในเครื่องพันธนาการ”
- สอนให้คนกลับไปหาธรรมชาติ (Back to Nature) เป็นการยกย่องคุณค่าของคนว่า“ธรรมชาติของคนดีอยู่แล้วแต่สังคมทําให้เป็นคนเลว“ และ "เหตุผลมีประโยชน์แต่
มิใช่คําตอบของชีวิต มนุษย์จึงควรต้องพึ่งความรู้สึก สัญชาตญาณและอารมณ์ของตนเองให้มากกว่าเหตุผล"
- เน้นเรื่อง “เจตจํานงร่วมของประชาชน”(General Will) คือ อํานาจสูงสุดในการปกครอง
- มนุษย์เป็นผู้จดั ตั้งรัฐบาล ถ้ารัฐบาลทําผิดสัญญาประชาคม ประชาชนมีสิทธิล้มรัฐบาลได้
ยุคการปฏิวัติอุตสาหกรรม
Karl Marx - เป็นนักปรัชญา นักเศรษฐศาสตร์ นักประวัติศาสตร์ นักทฤษฎีการเมือง นักสังคมวิทยา นักหนังสือพิมพ์และนักสังคมนิยมปฏิวัติชาวเยอรมัน
(1818-1883)
สรุปแนวคิดคาร์ล มาคส์ได้ ดังนี้
- ประวัติศาสตร์ของมนุษย์เป็นการต่อสูร้ ะหว่างชนชั้น โดยนับต้องแต่แรกเริ่มจนถึงปัจจุบัน เช่น ทาสกับนาย ไพร่กับผู้ดี นายจ้างกับลูกจ้าง โดยจะมีคนนึงเป็นผู้ขม่ เหง และ
อีกคนหนึ่งเป็นผู้ถูกข่มเหง
- โลกของนายทุน ในโลกปัจจุบันเกิดชนชั้นใหม่ที่มีบทบาทในสังคมมาก ได้แก่พวกนายทุน นายทุนเอาเปรียบชนชั้นแรงงานทุกวิถีทาง อํานาจของนายทุนคืออํานาจทาง
เศรษฐกิจและการเมือง โดยกษัตริย์และผู้ปกครองก็อยู่ภายใต้อิทธิพลนายทุนด้วย
- พวกนายทุนทั้งหลายมักเรียกร้องเสรีภาพ เช่น การค้าขายอย่างเสรี การแข่งขันเสรี แต่แท้จริงแล้วเป็นการเรียกร้องให้ตัวเองเอาเปรียบผู้อื่น
- นายทุนเป็นพวกไร้ศลี ธรรม มองเห็นความสัมพันธ์ของมนุษย์เป็นเพียงการสะสมเงินทอง ส่วนคุณค่าทางจิตใจ ความเมตตาปรานีหรือมนุษยธรรมแทบจะไม่มีอยู่ในสํานึกของ
นายทุน
- ชนชั้นกรรมาชีพจะชนะนายทุนในที่สุด ในตอนแรกสังคมอาจมีหลายชนชั้น แต่สุดท้ายจะเหลือเพียง นายทุน และ กรรมาชีพ ซึ่งจะถูกนายทุนข่มเหงตลอดเวลา จนต้อง
รวมตัวเป็นสหภาพกรรมกร และกลายมาเป็นพรรคการเมือง จนมีอํานาจเอาชนะนายทุนได้
- ไม่มีทรัพย์สินส่วนตัว ลักษณะที่สําคัญทีส่ ุดของระบอบคอมมิวนิสต์คือ การล้มล้างทรัพย์สินส่วนตัว เพราะสิ่งนี้คือ สัญลักษณ์แห่งความเห็นแก่ตัว ของนายทุน
การปกครองสมัยสุโขทัยตอนต้น ( พ.ศ. 1792 -1841 )
- ปกครองแบบปิตุราชาธิปไตย / ราชาธิปไตย คือพระมหากษัตริย์ทรงมี
ฐานะเป็นผู้ปกครองสูงสุด ทรงเป็นผู้ใช้อํานาจอธิปไตย
- king ในสมั ย สุ โ ขทั ย ตอนต้ น จึ ง มี พ ระนามนํ า หน้ า ว่ า พ่ อ ขุ น
- king ยึดหลักธรรมทางศาสนาในการบริหารบ้านเมือง และทรงชักชวน
ให้ประชาชนปฏิบัติธรรมเพื่อที่จะสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข
-มีก ารปกครองแบบทหารแอบแฝงอยู่ ด้ว ยเนื่ องจากในระยะแรกตั้ ง
สุโขทัยมีอาณาเขตแคบ ๆ ต้องช่วยกันปูองกันประเทศ ช่วงสงครามชาย
กรุงสุโขทัย ฉกรรจ์ทุกคนต้องเป็นทหาร โดยพระมหากษัตริย์เป็นจอมทัพ
ในสมัยนี้จํานวนพลเมืองยังไม่มากและอยู่ในระหว่างการก่อร่างสร้างตัว
เมื่อแรกตั้งยังมีอาณาเขตไม่กว้างขวาง การปกครองในระยะแรกจึงยังเป็น
การปกครองระบบแบบครอบครัว ผู้นําของอาณาจักรทําตัวเหมือนบิดา การปกครองในสมั ย สุ โ ขทั ย ตอนปลาย ( พ.ศ. 1841-1981 )
ของประชาชน มีฐานะเป็นพ่อขุน มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับประชาชน พ่อขุนรามคําแหงสวรรคตในพ.ศ. 1841อาณาจักรสุโขทัยระส่ําระสาย
- พระมหากษัตริย์รัชกาลต่อมาเริ่มอ่อนแอ / ไม่สามารถรักษาความ
หลังสมัยพ่อขุนรามคําแหงสถานการณ์ของบ้านเมืองเปลี่ยนแปลงไป จึงเริ่มใช้การปกครองที่เป็นแบบแผน มั่ น คงของอาณาจั ก ร / เมื อ งหลายเมื อ งแยกตั ว ออกเป็ น อิ ส ระ
มากขึ้น ความสัมพันธ์ระหว่างผู้นาํ กับประชาชนแตกต่างไปจากเดิม ความพยายามที่จะเพิม่ พูนอํานาจของ - สมัยพระยาลิไทย ยกกําลังเข้ายึดเมืองสุโขทัยและปราบศัตรูจนราบ
กษัตริย์ให้สูงทรงมีฐานะเป็นธรรมราชา และทรงใช้หลักธรรมมาเป็นแนวทางในการปกครอง คาบบ้านเมืองจึงสงบลง
- การปกครองแบบธรรมราชา (อาศัยพระพุทธศาสนา) พระมหากษัตริย์
ตั้งมั่นอยู่ในทศพิธราชธรรม
1792 - 1981
- ปกครองแบบ กระจายอํานาจ
1. เมืองหลวง หรือเมืองราชธานี สุโขทัยเป็นราชธานี เป็นศูนย์กลาง
ทางการปกครองพระมหากษัตริย์ปกครองเอง
2.เมืองลูกหลวง หรือเมืองหน้าด่าน คือ ทิศเหนือ-เมืองศรีสัชนาลัย, ทิศ
ตะวันออก-เมืองสองแคว, ทิศใต้-เมืองสระหลวง, ทิศตะวันตก-เมือง
นครชุม
3. เมืองพระยามหานคร หัวเมืองชั้นนอก พระมหากษัตริย์ตั้งขุนนางชั้น
ผู้ใหญ่หรือผู้เหมาะสมไปปกครอง ขึ้นตรงต่อพระมหากษัตริย์
4. เมือ งประเทศราช คื อ เมื อ งที่ อ ยู่น อกอาณาจั ก ร ชาวเมื อ งเป็ น
ชาวต่างชาติต่างภาษา ยามสงครามต้องส่งกองทัพและเสบียงอาหารมา
ช่วย
อยุธยาตอนต้น พ.ศ. 1893 – 1991
อยุธยาตอนกลาง พ.ศ. 1991 – 2072
อยุธยาตอนปลาย พ.ศ. 2072 – 2310
การฟื้นฟูด้านสังคมและวัฒนธรรม
การฟื้นฟูเศรษฐกิจ การดําเนินชีวิตของผู้คน ยังคงคล้ายกับสมัยอยุธยาตอน
ฟื้นตัวในตอนปลายรัชกาลที่ 2 เป็นต้นมา และเจริญรุ่งเรืองอย่างมากในสมัยรัชกาลที่ 3 ผลผลิตทางการเกษตรและการค้าทางเรือสําเภากับ ปลาย โดยพยายามรักษารูปแบบทางวัฒนธรรม ประเพณี
ต่างประเทศขยายตัวขึ้นมาก รายได้ของประเทศในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น มีที่มา 2 ทาง คือรายได้จากการค้ากับต่างประเทศ และรายได้ เดิมในสมัยอยุธยาไว้ ประชาชนส่วนใหญ่ใช้ชีวิตในสังคม
ภายในประเทศ เป็นรายได้ของรัฐที่ได้จากภาษีอากรภายในประเทศและมีมาตั้งแต่สมัยอยุธยา มี 4 ประเภท คือ ชนบท /เป็นสังคมเกษตรกรรม /ยึดระบบอาวุโส
จังกอบ - ภาษีค่าผ่านด่าน เก็บจากพ่อค้าที่นําสินค้าบรรทุกใส่ยานพาหนะเดินทางผ่านด่านที่ตั้งเก็บภาษีทั้งทางบกและทางน้ํา ในอัตรา 10 หยิบ 1 มีการแบ่งชนชั้น เช่นเดียวกับสมัยอยุธยา เรียงตามลําดับ
อากร - ภาษีที่รัฐเรียกเก็บจากราษฎรในการประกอบอาชีพต่างๆ เช่น อากรสวน อากรต้มกลั่น เป็นต้น ได้แก่ พระมหากษัตริย์ เชื้อพระวงศ์ ขุนนาง ไพร่ และทาส
ส่วย - สิ่งของหรือเงินที่ราษฎรนํามาทดแทนแรงงานหรือทดแทนการเข้าเวรรับราชการ ถ้าเป็นสิ่งของได้แก่ ดีบุก พริกไทย มูลค้างคาว ฯลฯ สําหรับพระสงฆ์ถือว่าเป็น ชนชั้นพิเศษ ได้รับการเคารพนับ
ฤชา - ค่าธรรมเนียมที่ทางราชการเรียกเก็บจากราษฎร เป็นค่าบริการที่ทางราชการจัดทําให้ เช่น การออกโฉนดที่ดิน ถือ
สงครามกับพม่า เฉพาะในรัชกาลที่ 1รบกันถึง 7 ครั้ง เนื่องจากพระเจ้าปะดุง กษัตริย์พม่าต้องการทําลายอาณาจักรไทยไม่ให้ฟื้นตัวขึ้นอีก สงครามส่วนใหญ่ จึงปรากฏในลักษณะที่พม่าเป็นฝุายรุกรานไทยครั้ง
สําคัญคือ สงคราม 9 ทัพ พ.ศ. 2328 พม่ายกทัพมาถึง9ทัพ กระจายกําลังเข้ามาตามเส้นทางต่างๆ จากภาคเหนือจนถึงใต้ แต่รัชกาลที่ 1 ทรงเปลี่ยนยุทธวิธีการรบใหม่ โดยไม่ตั้งรับในกรุงเหมือนที่เคยทําให้สมัย
อยุธยา แต่ให้จัดทัพออกไปขับไล่ขา้ ศึกถึงชายแดน พม่าจึงเป็นฝุายปราชัยถูกทัพไทยตีแตก ผลของสงคราม 9 ทัพ ส่งผลทางด้านจิตวิทยาทําให้คนไทยเลิกกลัวพม่า เชื่อมัน่ ในตัวผู้นําและมีความกล้าหาญดังที่เกิดกับ
วีรสตรี 2 ท่าน คือ คุณหญิงจัน(ท้าวเทพกษัตรีย์)และ นางมุก (ท้าวศรีสุนทร) นําไพร่พลต่อสู้กับข้าศึกเพื่อปูองกันเมืองถลาง
สงครามท่าดินแดง พ.ศ. 2329 โดยพระเจ้าปะดุงต้องการแก้ตัวในคราวสงคราม 9 ทัพ มีการเตรียมเสบียงสะสมอาหารอย่างพร้อมมูลและมีไพร่พลมากกว่าครั้งก่อน รัชกาลที่ 1 โปรดฯ ให้ยกกําลังไปขับไล่พม่าที่ท่า
ดินแดง (กาญจนบุรี) พม่าพ่ายแพ้และสูญเสียอย่างยับเยิน ทําให้พม่าไม่คดิ ยกทัพมาตีไทยอีกเลย
รัชกาลที่ 4 ** สนธิสัญญาเบาว์ริงค์
- คบค้ากับชาวตะวันตก เพื่อความอยู่รอดของชาติ เนื่องจากทรง สาระสาคัญ อังกฤษขอตั้งสถานกงสุลในไทย /คนอังกฤษมีสิทธิเช่าที่ดิน /คนอังกฤษสามารถสร้างวัด และเผยแพร่คริสต์
ตระหนักถึงภัยจากลัทธิจักรวรรดินิยม ซึ่งกําลังคุกคามอยู่ในขณะนั้น ศาสนา /เก็บภาษีขาเข้าได้ไม่เกินร้อยละ 3 /ถ้าไทยทําสนธิสญั ญากับประเทศอื่น ๆ ที่มผี ลประโยชน์เหนือประเทศ อังกฤษ จะต้องทํา
- ทําสนธิสัญญาเบาว์ริงค์ กับอังกฤษ ใน พ.ศ. 2398 โดยพระนางเจ้า ให้อังกฤษด้วย /สนธิสญ
ั ญานี้ จะแก้ไขเปลีย่ นแปลงไม่ได้ จนกว่าจะใช้แล้ว 10 ปี และในการแก้ไข ต้องยินยอมด้วยกันทั้งสองฝุาย และ
วิกตอเรีย ได้แต่งตั้งให้ เซอร์ จอห์น เบาริง เป็นราชทูตเข้ามาเจรจา ต้องบอกล่วงหน้า 1 ปี
- เปิดโอกาสให้ราษฎร เข้าเฝูาได้โดยสะดวก ให้ราษฎรเข้าเฝูาถวาย
ข้อดี
ฎีการ้องทุกข์ได้
รอดพ้นจากการเป็นเมืองขึ้นของอังกฤษ
- ตรากฎหมายขึ้นหลายฉบับ เพื่อให้ทันสมัยและเหมาะสมกับสภาพ
การค้าขยายตัวมากขึ้น เปลี่ยนแปลงการค้าเป็นแบบเสรี
บ้านเมือง เช่น กฎหมายเกี่ยวกับมรดก สินสมรส ฯลฯ
อารยธรรมตะวันตก เข้ามาแพร่หลาย สามารถนํามาปรับปรุง
- เปลี่ยนการใช้เงินพดด้วงมาเป็นเงินเหรียญ และขุดคลอง ตัดถนน
บ้านเมือง ให้เจริญก้าวหน้ามาขึ้น
เพิ่มขึ้นหลายสาย
- ตั้งโรงเรียนชายขึ้นที่ตาํ บลสําเหร่ ซึ่งปัจจุบัน คือ โรงเรียนกรุงเทพค ข้อเสีย
ริสเตียนวิทยาลัย ส่วนโรงเรียนสตรีแห่งแรกในไทย คือ โรงเรียนกุล
ไทยเสียสิทธิทางการศาลให้อังกฤษ และคนในบังคับอังกฤษ
สตรีวังหลัง (ปัจจุบัน คือ โรงเรียนวัฒนาวิทยา)
อังกฤษ เป็นชาติที่ได้รับสิทธิพิเศษหลายอย่าง
- ประกาศใช้พระราชบัญญัติ ลักษณะการปกครองสงฆ์เป็นฉบับแรก
อังกฤษ เป็นฝุายได้เปรียบ จึงไม่ยอมทําการแก้ไข
โดยมีสมเด็จพระสังฆราช เป็นผู้ปกครองบังคับบัญชาสูงสุด
- เริ่มมีการก่อสร้างแบบ ตะวันตก เช่น พระราชวังสราญรมย์ พระนคร
คีรีที่เพชรบุรี ด้านจิตรกรรม ได้แก่ ภาพเขียนฝาผนังในพระอุโบสถ
และวิหารวัดบวรนิเวศวิหาร จิตรกรเอกในสมัยนี้ ได้แก่ ขรัวอินโข่ง
การปกครองสมัยรัชกาลที่ 5
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หวั
พระราชกรณียกิจ
เลิกทาสและไพร่ในประเทศไทย/ การปูองกันการเป็นอาณานิคมของจักรวรรดิฝรั่งเศสและจักรวรรดิองั กฤษ /ประกาศให้มีการนับถือศาสนาโดยอิสระในประเทศ/ ใช้ธนบัตรและเหรียญ
บาท /ใช้ระบบเขตการปกครองใหม่ เช่น มณฑลเทศาภิบาล จังหวัด/ มีการสร้างรถไฟ สายแรก คือ กรุงเทพฯ ถึง อยุธยา ลงวันที่ 1 มีนาคม ร.ศ.109 ซึ่งตรงกับ พุทธศักราช 2433/
ก่อตั้งการประปา/ การไฟฟูา/ ไปรษณียโ์ ทรเลข/ โทรศัพท์ /การสื่อสาร/ การรถไฟ/ ขุดคลองหลายแห่ง เช่น คลองประเวศบุรรี มย์ คลองสําโรง คลองแสนแสบ คลองนครเนื่องเขต
คลองรังสิตประยูรศักดิ์ คลองเปรมประชากร และ คลองทวีวัฒนา /ขุดคลองส่งน้ําประปา
การยกเลิกระบบไพร่ โดยให้ไพร่เสียเงินแทนการถูกเกณฑ์ นับเป็นการเกิดระบบทหารอาชีพในประเทศไทย นอกจากนี้ พระองค์ยังทรงเลิกทาสแบบค่อยเป็นค่อยไป เริ่มจากออกกฎหมายให้ลูกทาสอายุครบ 20 ปีเป็นอิสระ
จนกระทั่งออกพระราชบัญญัติเลิกทาส ร.ศ. 124 (พ.ศ. 2448) ซึ่งปล่อยทาสทุกคนให้เป็นอิสระและห้ามมีการซื้อขายทาส
การปฏิรูปการปกครอง
พ.ศ. 2417 ตั้งสภาที่ปรึกษาขึ้นมาสองสภา ได้แก่ สภาที่ปรึกษาราชการแผ่นดิน และสภาที่ปรึกษาในพระองค์
ตั้งขุนนางระดับพระยา 12 นายเป็น "เคาน์ซิลลอร์" ให้มีอํานาจขัดขวางหรือคัดค้านพระราชดําริได้
ตั้งพระราชวงศานุวงศ์ 13 พระองค์ และขุนนางอีก 36 นาย ช่วยถวายความคิดเห็นหรือเป็นกรรมการดําเนินการต่าง ๆ /แต่ สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุรยิ วงศ์ (ช่วง บุนนาค) ขุนนางสกุลบุนนาค
และกรมพระราชวังบวรวิไชยชาญ เห็นว่าสภาที่ปรึกษาเป็นความพยายามดึงพระราชอํานาจของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยูห่ ัว ทําให้เกิดความขัดแย้งที่เรียกว่า วิกฤตการณ์วังหน้า
พ.ศ. 2427 ทรงปรึกษากับพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าปฤษฎางค์ อัครราชทูตไทยประจําอังกฤษ ซึ่งพระองค์เจ้าปฤษฎางค์ พร้อมเจ้านายและข้าราชการ 11 นาย ได้กราบทูลเสนอให้เปลี่ยนแปลงการปกครองเป็น
แบบราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญ แต่พระองค์ทรงเห็นว่ายังไม่พร้อม แต่ก็โปรดให้ทรงศึกษารูปแบบการปกครองแบบประเทศตะวันตก
พ.ศ. 2431 ทรงเริ่มทดลองแบ่งงานการปกครองออกเป็น 12 กรม (เทียบเท่ากระทรวง) /ทรงตั้ง "เสนาบดีสภา" หรือ "ลูกขุน ณ ศาลา" ขึ้นเป็นฝุายบริหาร
พ.ศ. 2435 ได้ตั้งองคมนตรีสภา เดิมเรียกสภาที่ปรึกษาในพระองค์ เพื่อวินิจฉัยและทํางานให้สําเร็จ และรัฐมนตรีสภา หรือ "ลูกขุน ณ ศาลาหลวง" ขึ้นเพื้อปรึกษาราชการแผ่นดินที่เกี่ยวกับกฎหมาย นอกจากนี้ยัง
ทรงจัดให้มี "การชุมนุมเสนาบดี" อันเป็นการประชุมปรึกษาราชการที่มุขกระสัน พระที่นั่งดุสติ มหาปราสาท
การเปลีย่ นแปลงการปกครอง
ระยะเวลาดารงตาแหน่ง
สมัยที่ 1 28 มิถุนายน 2475 - 9 ธันวาคม 2475
สมัยที่ 2 10 ธันวาคม 2475 - 1 เมษายน 2476
สมัยที่ 3 1 เมษายน 476 - 20 มิถุนายน 2476
6.หม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช
ระยะเวลาดารงตาแหน่ง
สมัยที่ 1 17 กันยายน 2488 - 31 มกราคม 2489
สมัยที่ 2 15 กุมภาพันธ์ 2518 - 14 มีนาคม 2518
สมัยที่ 3 21 เมษายน 2519 - 23 กันยายน 2519
สมัยที่ 4 5 ตุลาคม 2519 - 6 ตุลาคม 2519
- ผู้ร่วมก่อตั้งและอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
- มีน้องชายที่มีชื่อเสียงคู่กันคือ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช อดีตนายกรัฐมนตรี
- เป็นพลเรือนคนแรกที่ดํารงตําแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
- เป็นผู้นําฝุายค้านในสภาผู้แทนราษฎรคนแรกอย่างเป็นทางการ
- มีฉายาว่า ฤาษีเลี้ยงลิง
- วันที่ 6 ตุลาคม 2519 คณะปฏิรปู การปกครองแผ่นดินเข้ายึดอํานาจ โดยการนําของ พลเรือเอก สงัด ชลออยู่
- รัฐบาลนี้มีบทบาทอย่างมาก คือได้เจรจาเพื่อทําสัญญายกเลิกสถานการณ์สงครามกับฝุายสัมพันธมิตร (สมัยสงครามโลก)
7. ศาสตราจารย์ ดร.ปรีดี พนมยงค์ (หลวงประดิษฐ์มนูธรรม)
ระยะเวลาดารงตาแหน่ง
สมัยที่ 1 24 มีนาคม 2489 - 8 มิถุนายน 2489
สมัยที่ 2 11 มิถุนายน 2489 - 21 สิงหาคม 2489
- ผู้นําคณะราษฎร สายพลเรือน
- 2477 ได้ก่อตั้งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และการเมืองและดํารงตําแหน่งผู้ประศาสน์การของมหาวิทยาลัยแห่งนี้เป็นคนแรก
- พ.ศ. 2484 ในขณะที่เกิดสงครามมหาเอเชียบูรพา และได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผูส้ ําเร็จราชการ แทนพระองค์
- ได้ก่อตั้งขบวนการเสรีไทยในประเทศ ติดต่อประสานงานกับขบวนการเสรีไทยในประเทศ ติดต่อประสานงานกับขบวนการเสรีไทยภายนอกประเทศ ภายใต้การนําของหม่อม
ราชวงศ์ เสนีย์ ปราโมช พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล จึงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ยกย่องปรีดี พนมยงค์ ไว้ในฐานะ "รัฐบุรุษอาวุโส"
- เป็นผู้ก่อตั้งธนาคารชาติไทย (ปัจจุบัน คือ ธนาคารแห่งประเทศไทย)
- เกิดการรัฐประหาร พ.ศ. 2490 เขาต้องลี้ภัยการเมืองไปยังประเทศจีนและฝรั่งเศสรวมระยะเวลากว่า 30 ปี และไม่ได้กลับสู่ประเทศไทยอีกเลยจนกระทั่งถึงแก่อสัญกรรม
- 2542 ที่ประชุมสมัยสามัญครั้งที่ 30 ขององค์การยูเนสโก ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ได้มีมติประกาศให้ปรีดี พนมยงค์ เป็น "บุคคลสาคัญของโลก"
- ได้รับแต่งตั้งจากสภาผู้แทนราษฎรให้เป็น เลขาธิการคนแรกของสภาผู้แทนราษฎรสยาม
- เป็นผูร้ ิเริม่ ให้สตรีมสี ิทธิ์ในการออกเสียงเลือกตั้งและสมัครรับเลือกตั้งผู้แทนราษฎรได้เช่นเดียวกับเพศชาย
- เป็นผู้นําเอาวิชา "กฎหมายปกครอง" (droit administratif) มาสอนเป็นคนแรก ณ โรงเรียนกฎหมายกระทรวงยุติธรรม
- พ.ศ. 2476 ได้เสนอเค้าโครงการเศรษฐกิจ หรือที่เรียกกันว่า "สมุดปกเหลือง" ต่อรัฐบาลเพื่อใช้เป็นนโยบายเศรษฐกิจของประเทศ ตามหลัก 6 ประการของคณะราษฎร โดยดําเนิน
เศรษฐกิจแบบสหกรณ์ แต่ไม่ทําลายกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินของเอกชน
- ปรีดี พนมยงค์ ในฐานะผู้สาํ เร็จราชการแทนพระองค์ และหัวหน้าขบวนการเสรีไทยในรหัสนามว่า "รู้ธ" (Ruth) ทํางานในสองบทบาทตลอดสงครามมหาเอเชียบูรพา โดยถือความลับ
สุดยอดเป็นหัวใจของการปฏิบตั ิงาน
– เคยดํารงตําแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง, กระทรวงการต่างประเทศ, กระทรวงมหาดไทย
8. ถวัลย์ ธารงนาวาสวัสดิ์
ระยะเวลาดารงตาแหน่ง
สมัยที่ 1 23 สิงหาคม 2489 - 30 พฤษภาคม 2490
สมัยที่ 2 30 พฤษภาคม 2490 - 8 พฤศจิกายน 2490
- จัดตั้ง องค์การสรรพาหาร
- ฉายา "นายกฯลิ้นทอง"
- พ.ศ. 2490 เกิดการรัฐประหาร โดยการนําของจอมพล ผิน ชุณหะวัณ และพันเอกกาจ กาจสงคราม
- เคยดํารงตําแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม, กระทรวงการต่างประเทศ, กระทรวงมหาดไทย, เลขาธิการคณะรัฐมนตรี
- เป็นสมัยที่ไทยเข้าเป็นสมาชิกองค์การสหประชาขาติ
9. พจน์ สารสิน
ระยะเวลาดารงตาแหน่ง สมัยที่ 1 21 กันยายน 2500 - 26 ธันวาคม 2500
เพิ่มเติม ** รถตุ๊กๆ
จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ นายกรัฐมนตรี ได้มีคําสั่งให้ประกาศห้ามใช้รถสามล้อวิ่งในถนนสายต่างๆ โดยการยกเลิกการจดทะเบียนจักรยานสามล้อและจักรยานสามล้อส่วนบุคคลที่ใช้ในจังหวัดพระนครและธนบุรี
ทั้งนี้ก็ด้วยเหตุผลเกีย่ วกับปัญหาการจราจร ปัญหาทางสังคมอันเนื่องมาจากการอพยพของคนต่างจังหวัดเข้ามาประกอบอาชีพนี้ และปัญหาความสะอาดเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง โดยได้นํารถบรรทุก
สามล้อยี่ห้อไดฮัทสุที่นําเข้าจากประเทศญี่ปุนมาดัดแปลงใช้แทนและได้ทดลองใช้เป็นครั้งแรกในย่านเยาวราช
เพิ่มเติม **"ไทมส์"นาเรื่องฉาวโฉ่ของสฤษดิ์พิมพ์แพร่ทั่วโลก”
นิตยสาร "ไทมส์" ของอเมริกา ซึ่งจําหน่ายทั่วโลก นําเรื่องราวของจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ตีพิมพ์แพร่ไปทั่วโลกอย่างกว้างขว้าง เหมือนไฟลามทุ่งมีทั้งเรื่อง และลงภาพประกอบอย่างเต็มภาคภูมิ "สฤษดิ์ ยืนเคียง
ข้างวิจิตรา ระริกระรื่นในยามสุขทีม่ ีชีวิตอยู่” ในหัวเรื่องว่า "อนุภรรยากับกองมรดกมหาศาลของจอมพล" พร้อมกับลงภาพจอมพลสฤษดิ์กับท่านผู้หญิงวิจิตราสมัยเมือ่ ความหลังยังหวานชื่น กําลังชี้ชวนกันให้
ชมกระถางต้นกระบองเพชรอยู่ นักเขียน "ไทมส์" บรรยายเรื่องราวไว้ว่าระหว่างที่นอนเจ็บอยู่ทโี่ รงพยาบาลที่กรุงเทพ นายกรัฐมนตรีสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ของไทยกอดภรรยาคนสวยของเขาไว้ในวงแขน และร้องเพลง
เก่าเพลงหนึ่งกับเธอ เนื้อร้องขึ้นต้นว่า "ร้อยชู้หรือจะสูเ้ มียตน" สฤษดิ์นับเป็นสุภาพ เรียบร้อยด้วยประการทั้งปวง แต่เมื่อถึงอสัญกรรมเมื่อเดือนธันวาคม ศกก่อน ด้วยโรคตับแข็งและโรคอื่น เพราะใช้ชีวิตอย่าง
โชกโชน ซื่อของบรรดาสาวทั้งหลายร้อยกว่าคนยอมรับว่าได้รับความรักจากเขา พร้อมกันนั้นก็ขอส่วนแบ่งจากกองมรดกก็ปรากฎขึ้นตามหนังสือพิมพ์ฉบับต่างๆ ในกรุงเทพ ในจํานวนนี้เป็นเหล่าภรรยาลับวงใน ผู้
ใกล้ชิด 51 คน ซึ่งคนไทย พากันเรียกว่า "อนุภรรยา"
16.พลเอกเปรม ติณสูลานนท์
ระยะเวลาดารงตาแหน่ง
สมัยที่ 1 3 มีนาคม พ.ศ. 2523 - 29 เมษายน พ.ศ. 2526
สมัยที่ 2 30 เมษายน พ.ศ. 2526 - 4 สิงหาคม พ.ศ. 2529
สมัยที่ 3 5 สิงหาคม พ.ศ. 2529 - 3 สิงหาคม พ.ศ. 2531
- อดีตผู้สําเร็จราชการแทนพระองค์ในสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร
- บุคลิกส่วนตัวพลเอกเปรมเป็นคนพูดน้อย ในขณะดํารงตําแหน่งนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย จะให้สัมภาษณ์แก่สื่อมวลชนน้อยมาก จนถูกหนังสือพิมพ์ในขณะนั้นเรียกขานว่า
เตมีย์ใบ้ และได้รับอีกฉายาหนึ่งว่า นักฆ่าแห่งลุ่มน้ําเจ้าพระยา
- พ.ศ. 2531 ได้รับโปรดเกล้าฯ ยกย่องให้เป็นรัฐบุรุษ
- 2541 มีพระบรมราชโองการ โปรดเกล้าฯ ให้เป็นประธานองคมนตรี - นามสกุล "ติณสูลานนท์" พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานให้
- รับตําแหน่งรัฐมนตรีเป็นครั้งแรกในรัฐบาลพลเอกเกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ ในตําแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย
-ดํารงตําแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ,ผู้บัญชาการทหารบก
- นํานโยบายการใช้ "การเมืองนําการทหาร" ตามคําสั่งสํานักนายกรัฐมนตรีที่ 66/2523 เป็นผลให้พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยอ่อนกําลังลงและสลายตัว
17.พลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ
ระยะเวลาดารงตาแหน่ง 4 สิงหาคม พ.ศ. 2531 – 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2534
- เดิมมีชื่อว่า "สมบุญ ชุณหะวัณ" เป็นบุตรของจอมพลผิน ชุณหะวัณ
- ดํารงตําแหน่งรองนายกรัฐมนตรี ,รัฐมนตรีในหลายกระทรวงคือ กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงอุตสาหกรรม และ กระทรวงกลาโหม
- ดํารงตําแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
- เป็นผู้ก่อตั้งพรรคการเมือง 2 พรรค และได้ดํารงตําแหน่งหัวหน้าพรรค คือ พรรคชาติไทย และ พรรคชาติพัฒนา
-นโยบาย "เปลี่ยนสนามรบเป็นสนามการค้า"
- คาดหมายโดยทั่วไปว่าประเทศไทยจะเป็น "เสือตัวที่ 5" ของเอเชีย (Fifth Asian Tiger) ต่อจาก "4 เสือเศรษฐกิจของเอเชีย" คือ เกาหลีใต้ ฮ่องกง สิงคโปร์ และไต้หวัน
- มีชื่อที่เรียกเป็นทีร่ ู้จักทั่วไปว่า "น้าชาติ" มีคําพูดติดปากเมื่อให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า "No Problem" หมายถึง "ไม่มีปญ
ั หา" จนเป็นที่จดจําได้ทั่วไป ซึ่งศิลปินเพลง แอ๊ด คาราบาว
ได้นําไปประพันธ์เป็นเพลงล้อเลียนการเมืองชื่อ "โนพลอมแพลม"
- ถูกโจมตีว่ามีการทุจริต หาผลประโยชน์ในโครงการลงทุนของรัฐ จนมีคํากล่าวโจมตีการทํางานของคณะรัฐมนตรี รัฐบาลพลเอกชาติชายว่าเป็น "บุฟเฟ่ต์คาบิเนต"
- ขณะที่การทํางานของสภาผู้แทนราษฎร ที่มสี ัดส่วน ส.ส. ฝุายรัฐบาล เป็นจํานวนมากก็ถูกโจมตีว่ามีสภาพเป็น "เผด็จการรัฐสภา"
- ถูกยึดอํานาจการปกครองโดย คณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (รสช.) ภายใต้การนําของ พล.อ. สุนทร คงสมพงษ์ พล.อ. สุจินดา คราประยูร พล.อ.อ. เกษตร โรจนนิล และ
พล.อ. อิสระพงศ์ หนุนภักดี ที่ต่อมานําไปสู่เหตุการณ์ พฤษภาทมิฬ ในปี พ.ศ. 2535
20.ชวน หลีกภัย
ระยะเวลาดารงตาแหน่ง สมัยที่ 1 23 กันยายน 2535 - 12 กรกฎาคม 2538
สมัยที่ 2 9 พฤศจิกายน 2540 - 17 พฤศจิกายน 2543
ฉายา มังกรสุพรรณ ,ปลาไหล, มังกรการเมือง, เติ้ง หรือ เติ้งเสี่ยวหาร– เกิดจากสื่อมวลชนขนานนาม เพราะมีนายบรรหารลักษณะคล้าย “เติ้งเสี่ยวผิง” อดีตผู้นําของจีน
- มีสโลแกนหาเสียงว่า “สัจจะนิยม สร้างสังคมให้สมดุล”
22.ชวลิต ยงใจยุทธ
ระยะเวลาดารงตาแหน่ง 25 พฤศจิกายน 2539 – 8 พฤศจิกายน 2540
- อดีตรองนายกรัฐมนตรี , อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม , อดีตผู้บญ ั ชาการทหารบก , อดีตรักษาการผู้
บัญชาการทหารสูงสุด
- ฉายา “ขงเบ้งแห่งกองทัพบก” และ “บิ๊กจิ๋ว” "จิ๋วหวานเจี๊ยบ" จากการมีบุคลิกพูดจาอ่อนนิ่ม นุ่มนวล
- รัฐบาลของพลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ เป็นรัฐบาลที่มสี ่วนรับผิดชอบต่อวิกฤตการณ์ทางการเงิน เมื่อปี พ.ศ. 2540 (ค.ศ. 1997) ที่ทําให้ประเทศไทยล้มละลาย และลุกลามไป
ทั่วโลกและส่งผลต่อสหรัฐอเมริกา
- ประกาศลดค่าเงินบาท
23.ทักษิณ ชินวัตร
ระยะเวลาดารงตาแหน่ง
สมัยที่ 1 17 กุมภาพันธ์ 2544 – 11 มีนาคม 2548
สมัยที่ 2 11 มีนาคม พ.ศ. 2548 - 19 กันยายน พ.ศ. 2549
- 2537 ทักษิณเข้าสู่วงการเมืองสังกัดพรรคพลังธรรม โดยการชักนําของพลตรี จําลอง ศรีเมือง
- ตั้งพรรคไทยรักไทย ในปี 2541
- ริเริ่มระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าเป็นครั้งแรกของประเทศ
- เป็นนายกรัฐมนตรีที่มาจากการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรซึ่งดํารงตําแหน่งจนครบวาระคนแรก
- เป็นผู้สนับสนุนแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.)
- พ.ศ. 2523 ทักษิณ เริม่ ต้นทําธุรกิจส่วนตัวหลายอย่าง ควบคูไ่ ปกับการรับราชการตํารวจ เช่น ค้าขายผ้าไหม กิจการโรงภาพยนตร์ ธุรกิจคอนโดมิเนียม แต่กลับประสบความล้มเหลว
เป็นหนี้สินกว่า 50 ล้านบาท ในระหว่างนั้นจึงได้ลาออกจากราชการ ขณะมียศเป็นพันตํารวจโท
- ดํารงตําแหน่งรองนายกรัฐมนตรี , รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ,กระทรวงการต่างประเทศ
- อดีตเจ้าของและประธานสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ซิตี พ.ศ.2551 , อดีตที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจของรัฐบาลกัมพูชา , เคยรับตําแหน่งหัวหน้าพรรคพลังธรรมแทนพลตรีจําลอง
- ได้รับการยกย่องให้เป็น 1 ในบุคคล 50 คน ซึ่งมีอิทธิพลมากที่สุดในโลก ของ นิตยสารไทม์ (พ.ศ. 2538)
- ผู้ก่อตั้งมูลนิธิไทยคม เพื่อสนับสนุนการศึกษาผ่านดาวเทียม ปัจจุบนั เปลี่ยนรูปแบบมาเป็น สนับสนุนการศึกษาของเยาวชนในหลายรูปแบบ เพื่อเปิดโอกาสให้เด็กชนบทผู้ยากไร้ มี
โอกาสเรียนต่อในท้องถิ่น
24.สุรยุทธ์ จุลานนท์
ระยะเวลาดารงตาแหน่ง 1 ตุลาคม 2549 – 29 มกราคม 2551
- มาจากการแต่งตั้งโดยคณะปฏิรปู การปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.) ภายหลังเหตุการณ์รัฐประหาร 19 กันยายน พ.ศ. 2549
- นํา พ.ร.บ.คุ้มครองเงินฝาก มาใช้ - ห้ามการโฆษณาเครื่องดืม่ แอลกอฮอล์ทุกชนิด แต่สามารถโมษณาได้ในเวลา22.00เป็นต้นไป
- ยกเลิกโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค เปลี่ยนเป็น รักษาฟรีทุกโรค และให้คนไทยห่างไกลจากโรค
- จัดรายการที่ให้ข้อมูลข่าวสารของรัฐบาลให้แก่ประชาชน คือ รายการสายตรงทําเนียบ และรายการ เปิดบ้านพิษณุโลก ออกอากาศทาง สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย
- เนื่องจากรัฐบาลของ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ประกอบไปด้วยรัฐมนตรีที่เป็นผู้สูงอายุ และข้าราชการประจําที่เกษียณอายุแล้วจํานวนมาก สื่อมวลชนจึงตั้งฉายาให้ว่า "รัฐบาลขิงแก่"
แต่ก็มีสื่อมวลชนบางแขนง ตั้งฉายาให้ว่า ยุทธ ยายเที่ยง เนื่องจากมีคดีพัวพันเกี่ยวกับการโกงที่ดินเขายายเที่ยง และโดยที่นายกรัฐมนตรีเองถูกมองว่ามุ่งเน้นการรักษาคุณธรรม
จริยธรรม และในขณะเดียวกันก็ทาํ งานเชื่องช้า ทําให้ได้รับฉายาจากนายธีรยุทธ บุญมี อาจารย์ประจํามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ว่าเป็น "ฤๅษีเลี้ยงเต่า" โดยตั้งล้อกับฉายาของ ม.ร.ว.
เสนีย์ ปราโมช อดีตนายกรัฐมนตรี ที่เคยได้รับฉายาว่า "ฤๅษีเลี้ยงลิง"
- รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ,ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ,ผู้บญ ั ชาการทหารบก
- ฉายา "บิ๊กแอ้ด"
- ยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียงในการบริหารประเทศ
25.สมัคร สุนทรเวช
ระยะเวลาดารงตาแหน่ง 29 มกราคม 2551 – 9 กันยายน. 2551
- รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม , รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย , ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
- หัวหน้าพรรคพลังประชาชน , หัวหน้าพรรคประชากรไทย
- เสนอแนวคิดสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่
- ลดราคาสินค้าหมูเนื้อแดงขายจาก 120 บาท ต่อ กก. เหลือเพียง 98 บาท ต่อ กก.
- เสนอให้มีเปิดการบ่อนกาสิโนอย่างถูกต้องตามกฎหมายในประเทศไทย ซึ่งก็ได้รับทั้งความเห็นชอบและคัดค้านจากหลาย ๆ ฝุายเป็นอย่างมาก
- เป็นนายกรัฐมนตรีคนแรกทีเ่ คยดํารงตําแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ
26.สมชาย วงศ์สวัสดิ์
ระยะเวลาดารงตาแหน่ง 18 กันยายน 2551 – 2 ธันวาคม 2551
- ในขณะที่สมชายดํารงตําแหน่งนายกรัฐมนตรีนั้นเขาไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ในทําเนียบรัฐบาล เพราะพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยยังคงยึดพื้นที่ไว้ตั้งแต่ในสมัยรัฐบาลนายสมัคร
สุนทรเวช โดยใช้สนามบินดอนเมืองเป็นที่ทําการแทน
-อดีตรองนายกรัฐมนตรี ,กระทรวงศึกษาธิการ , กระทรวงกลาโหม อดีตผู้พิพากษา
-อดีตปลัดกระทรวงยุติธรรม , ปลัดกระทรวงแรงงาน
- เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการโครงการหนึ่งตําบลหนึ่งผลิตภัณฑ์
- พ้นจากตําแหน่งนายกฯ เพราะศาลรัฐธรรมนูญตัดสินให้ยุบพรรคการเมืองที่ตนสังกัดอยู่
27.อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
ระยะเวลาดารงตาแหน่ง 17 ธันวาคม 2551 – 5 สิงหาคม 2554
-หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ที่มีวาทศิลป์ในการพูด
-อดีตอาจารย์ประจําโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า และ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
-สมัยนายกอภิสิทธิ์กองทัพไทยปะทะกับกัมพูชาหลายครั้งระหว่าง พ.ศ. 2552−2553 ซึ่งเป็นการสู้รบนองเลือดที่สุดในรอบกว่าสองทศวรรษ
-ถูกตั้งข้อกล่าวหาฆ่าคนจากการสลายการชุมนุมเมื่อ พ.ศ. 2553 ซึ่งทําให้มีผู้เสียชีวิต 90 คน
-จัดทําพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 ซึ่งเป็นพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติฉบับแรกของไทย
28.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
วาระการดารงตาแหน่ง 5 สิงหาคม 2554 – 7 พฤษภาคม 2557
- นายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของไทย
- อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
- พ้นจากตําแหน่งนายกรัฐมนตรีดว้ ยการยุบสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2556 และรักษาการในตําแหน่งนายกรัฐมนตรี จนกระทั่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้พ้นจาก
การรักษาการในวันที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2557
– เผชิญปัญหามหาอุทกภัย ปี 2554
- 23 มกราคม 2558 สภานิติบัญญัติแห่งชาติลงมติถอดถอนยิ่งลักษณ์ออกจากตําแหน่งฐานละเลยต่อหน้าที่ต่อโครงการรับจํานําข้าว เป็นผลให้เธอถูกห้ามเล่นการเมืองห้าปี
นอกจากนี้ ยังถูกแจ้งข้อกล่าวหาทางอาญาต่อโครงการ ซึ่งอาจส่งผลให้ได้รับโทษจําคุกอีกหากพบว่ามีความผิด
29.พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา
วาระการดารงตาแหน่ง 24 สิงหาคม 2557 – ปัจจุบัน
- ทํารัฐประหาร 22 พฤษภาคม 2557
- หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
– อดีตผู้บัญชาการทหารบก
- แต่งเพลง คืนความสุขให้ประเทศไทย, เพราะเธอคือ...ประเทศไทย, ความหวังความศรัทธา, สะพาน, ใจเพชร, สู้เพื่อแผ่นดิน
รัฐธรรมนูญ
ฉบับที่ 1 พระราชบัญญัติธรรมนูญการปกครองแผ่นดินสยามชั่วคราว พุทธศักราช 2475
(39 มาตรา) ถือเป็นรัฐธรรมนูญฉบับแรกแห่งราชอาณาจักรสยาม ประกาศใช้เมือ่ วันที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2475 พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระอักษรกํากับต่อท้ายชื่อพระราชบัญญัตินั้นว่า
"ชั่วคราว" สืบเนื่องมาจากพระองค์ทรงเห็นว่าหลักการประชาธิปไตยของผู้ก่อการฯ ไม่พ้องกันกับพระประสงค์ของพระองค์ แต่พระองค์ก็ทรงลงพระปรมาภิไธยเพราะเหตุการณ์ฉุกเฉินในขณะนั้น
ต่อมาได้ยกเลิก รัฐธรรมนูญฉบับนี้ เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม พ.ศ.2475 เนื่องจากได้ประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับถาวร โดยมีนายกรัฐมนตรีที่บริหารประเทศภายใต้รัฐธรรมนูญนี้ คือ พระยามโนปกรณ์
นิติธาดา โดยมีระยะเวลาบังคับใช้ 5 เดือน 13 วัน