You are on page 1of 58

www.kalyanamitra.

org
f^rHTTJ

พระทาวนาฮิริยคุณ (เพค็จ ทคุฅชิโว)


รองเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย จ.ปกชธานี

ขอมอบเป็นธรรมบรรณาการ

แด่

จาก.

www.kalyanamitra.org
น000ย่า0บทฒิ ทาปีฒ่นัทลู้
ของ พระภาวนาวิริยคุณ (เผด็จ ทตฺตชืโว)
รองเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย จ.ปทุมธานึ

จัดพิมพ์และพิมพ์โดย

๑๐^:/๑๙-๒๑ ถนนนเรศ แฃวงลี่พระยา เฃตบางรัก


กรงเทพมหานคร ©odroo โทร.๒๓๓๐๓๐๒-4: โทรสาร ๒๓๑'(ร:๙<r<S:

จัดจำหน่ายโดย

บริบท บเอ็นเด บดส์ จำ กัด


03๖ ถนนลี่พระยา แขวงมหาพฤฒาราม เขตบางรัก
กรุงเทพมหานคร ๑๐(ร:๐๐ โทร.๒๓(ร:๐๓cr๐-๑ โทรสาร ๒๓๑'(ร:๐๑'(ร:
ธนาณัติสั่งจ่าย "นางศิริอร งามจริยางกูร' ป.ณ.กลาง

ลิฃสิทธิ้เป็นของมูลนิธิธรรมกาย
ISBN 974-89319-9-4

ราคา B
019- I-U0v5bs3u00

www.kalyanamitra.org
คำ นำ

เมื่อวันจันทร์ที่ ๒๒ ธันวาคม ๒๕๓๓ในพิธีแสดงมุทิตาสักการะ


เนื่องในวาระวันคล้ายวันเกิดของพระภาวนาวิริยคุณ (หลวงพ่อทัดตชีโว)
รองเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายท่านได้กรุณาแสดงปาฐกถาธรรมแก่พระภิกษุ
สามเณร ณ วัดพระธรรมกาย ในหัวข้อธรรมเรื่อง "ข้อคิดนักสร้างบารมี"

ในโอกาสนั้น พระเดชพระคุณ หลวงพ่อได้ปรารภถึงสาเหตุที่


ท่าให้ท่านสามารถสร้างบุญสร้างบารมีมาได้อย่างต่อเนื่องยาวนาน แม้จะมี
ขวากหนามรอบด้าน ก็ไม่เคยคิดท้อถอย ได้แต่เดินหน้าเรื่อยไป

ข้อคิดที่พระเดชพระคุณ หลวงพ่อให้ไว้นั้น มิได้ใช้ได้ดิเฉพาะ


กับพระภิกษุสามเณรเท่านั้น แต่ยังเป็นประโยชน์อย่างสูงสำหรับทุกท่านที่

www.kalyanamitra.org
ปรารถนาจะแกฝนอบรมตนเองทั้งในด้านการดำเนินชีวิต การตัดสินใจ
การมองและแก้ไขปัญหา และการประพฤติธรรมให้ยิ่งๆ ขึ้นไป และเพื่อ
ความเหมาะสมและชัดเจน ทางบริษัท บี เอ็น เค อินเตอร์เนชั่นแนล จำ กัด
จึงได้กราบเรียนขออนุญาตต่อพระเดชพระดุณหลวงพ่อ ตั้งซื่อหนังสือเป็น
"มองอย่างนักคิด ทำอย่างนักส้"

บริษัท บี เอ็น เด อินเตอร์เนขั่นแนล จำ กัด ขอกราบขอบ


พระคุณ พระเดชพระคุณพระภาวนาวิริยคุณ ที่ได้อนุญาตให้นำโอวาทตัง
กล่าว มาจัดพิมพ์เป็นหนังสือเล่มนี้

บริษัท บี เอ็น เค อินเตอร์เนซื่'นแนล จำ กัด

www.kalyanamitra.org
สารบัญ
บทนำ

เรื่องที่ การตัดสินและการตัดสินใจ

เรื่องที่ ๒. ความอดทน
m

เรื่องที่ ๓. กิจวัตรที่ควรประทฤดิปฏิป้ดิ
m

www.kalyanamitra.org
■ . 4

T vl i"-' I ••ะ .

ร่ฒ®'-

«• •••

www.kalyanamitra.org
Vflนา

ปาฐกถาธรรมของหลวงพ่อท'ตตชีโว แสดงแก่พระภิกษุ
สามเณร ว้ดพระธรรมกาย เมื่อวันจันทร์ที่ ๒๒ ธันวาคม ๒๔๓๓ เนื่องใน
วาระวันคล้ายวันเกิด ๒๑ ธันวาคม ๒๔๓๓ เรื่อง "ข้อคิดนักสร้างบารมี"

หลวงพ่อขอบใจมาก ที่พวกท่านทั้งพระภิกษุและสามเณร
ได้ปรารภถึงวันคล้ายวันเกิดของหลวงพ่อ แล้วจัดพิธีแสดงมุทิตาสักการะ
ขึ้นในวันนี้ โดยอ้างถึงอานิสงส์แห่งพระปาฎิโมกข์มาเป็นบุญกิริยาถวาย
หลวงพ่อ

พระปาฎิโมกข์หรือศีล ๒๒๗ ข้อ ที่พระสัมมาส้มพุทธเจ้า


ทรงบัญญ้ติไว้ ให้พระภิกษุถือเป็นข้อปฎิบ้ตินั้นสำคัญมาก ถ้าหย่อนยาน
หรือไม่ถือปฏิบ้ติกันมากข้อเข้า กิจะเกิดความไม่งามขึ้นในสังฆมณฑล

www.kalyanamitra.org

ของเรา สำ หรับในว้ดพระธรรมกาย หลวงพ่อตั้งความหวังไว้ว่าทุกรูปที่


บวชมาแล้ว ต้องรู้วักศีลหมดตั้ง ๒๒๗ ข้อ และต้องระวังไม่ให้ขาดตก
บกพร่อง ที่ดีที่สุดคือสามารถท่องพระปาฏิโมกข์ไต้ และออกมาท่องต่อ
หน้าที่ประชุมสงฆ์ อย่างน้อยสัก ๑ ครั้ง หากรูปใดสามารถทำไต้ครบครัน
อย่างที่หลวงพ่อตั้งความหวังไว้ ชาตินี้แม้ไม่ไต้เป็นพระอรหันต์ก็ไม่ตกดร
พรรษานี้ก็ชื่นใจว่ามีท่องพระปาฏิโมกข์กันไต้หลายรูป
อย่างไรก็ดี เนื่องจากพวกเราทุกรูปที่นั่งอยู่นี่ ยังไม่มีใครหมด
กิเลส แต่ละท่านเป็นผู้ที่ยังต้องศึกษาอยู่ จึงเป็นธรรมดาที่ต้องมีข้อบก-
พร่องกันคนละมากบ้างน้อยบ้าง โอกาสทำผิดทำพลาดก็ยังมีอยู่ ประมาท
ไม่ไต้ แต่ถึงกระนันก็ขอให้เป็นเพียงความผิดความพลาดเถอะนะ อย่าให้
ถึงกับชั่วถึงกับเลวเลย เพราะความผิดความพลาดนั้น เกิดจากความรู้เท่า
ไม่ถึงการณ์บ้าง เผลอสติบ้าง แต่ไม่ไต้ตั้งใจให้เสียหาย
ผิด เกิดจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เพราะปัญญามันหย่อน
พลาด เกิดจากความเผลอสติ เพราะสติมันหย่อนไป

แต่ทีถึงขั้นชั่วขั้นเลวนั้น เพราะรู้ว่าผิด รู้ว่าจะเกิดความเสียหายแล้วยังขืน


ทำ ทำ ผิดตั้งรู้เรียกว่าทำชั่ว ทำ เลว
ผู้ที่จะเจริญงอกงามในพระพุทธศาสนาได้ ด้องมีลักษณะ
อย่างหนึงคือ เป็นคนประเภทที่ไม่ยอมท่าความชั่ว ไม่ยอมเป็นคนเลว
ผิดก็ยอมรับว่าผิด พลาดก็ยอมรับว่าพลาด แต่ว่าเมื่อผิดเมื่อพลาด
แล้วครั้งหนื่ง จะไม่ยอมให้ผิดซํ้าพลาดซํ้าอีก เพราะรู้ว่าจะกลายเป็นชั่ว
เป็นเลว

www.kalyanamitra.org

ถ้าพระภิกษุสามเณรรูปใดสำนึกในเรื่องนี้อยู่เสมอ ความใฝ่ใจในการศึกษา
พระธรรมวินัยจะมีมาก ใจจะยกสูงขึ้นตามลำดับ ความบริสุทธ กาย วาจาใจ
ก็จะเพิ่มขึ้นเป็นเงาตามดัว มีกำ ลังใจที่จะสร้างบุญสร้างบารมีแบบเอาชีวิต
เป็นเดิมพันทีเดียว

หลวงพ่อเองเมื่อถึงคราวครบรอบวันคล้ายวันเกิตของดัวเอง
ในแต่ละปี ก็ชอบที่จะนึกทบทวนถึงความหลัง รำ พึงถึงดัวเอง ถามดัวเอง
ว่าทำไมเราจึงได้สร้างบุญสร้างบารมีมาได้ยืตเยื้อถึงวันนี้ ทั้งๆ ที่มีอุปสรรค
ขวากหนามรอบด้านขนาตนั้น โตยเฉพาะงานสร้างวัตสร้างธุตงคสถานนี่
เป็นงานใหญ่มาก ลูกเอ๋ย อุปสรรคทำไมจะไม่รู้ว่ามาก แต่หลวงพ่อก็ไม่
เคยคิตท้อถอย เดินหน้าเรื่อยไป
ถามว่าไม่รู้มาก่อนหรือไงว่างานจะหนักจะยากอย่างนี้
ก่อนที่จะดัตสินใจชื้อที่ดินสร้างธุตงคสถานก็รู้อยู่เดีมอกว่า
ถ้าชื้อที่ดินผืนนี้ด้องเจอศึกหนักแน่นอน เพราะชาวนาอย่างนี้เขาไม่ทำนา
แต่เขาจะถึอสิทธิ้อยู่โตยเอาฐานะชาวนาบังหน้า กรรมสิทธิ้ในที่ดินจะเป็น
ของใครก็ช่าง ฉันเคยอยู่มากับป่กับพ่อ ก็จะขอดื้ออยู่ไปเรื่อย ๆ ยิ่งมีพวก
นายหน้าหาประโยชน์มาช่วยดีตลูกคิตรางแก้วด้วยแล้ว ยิ่ งมีกำลังสร้าง
ม๊อบใหญ่โต กว่าศาลสถิตยุติธรรมจะมาดัตสินก็อีฑนาน เขาสามารถฺหา
ประโยชน์ฟรี ๆ บนที่ดินผืนนี้ใด้อีกมาก เขาจะเอาเงิน เราจะเอาบุญ
ผลประโยชน์ขัตกันก็รู้อยู่ แต่ว่าก็ไม่กลัว คิดอย่างเดียวว่าอย่างมากก็แค่ตาย
ตั้งแต่ลาพ่อลาแม่ออกจากบ้านมาบวชแล้ว ใจมันคิดแต่ว่าจะเป็นจะดาย
ยังไงก็ไม่ห่วงเพราะถวายชีวิดแก่พระพุทธศาสนาแล้ว ทางใดที่จะทำไท้

www.kalyanamitra.org
พระพุทธศาสนาเจริญรุ่งเรือง ทางใดที่จะทำให้ตัวเองพันนรก จะเหนื่อย
ยากแสนเข็ญยังไงก็จะทำละ!

แด'เมื่อเหลียวดูเพื่อนที่กอดคอสร้างวัดกันมาแต่ต้น เอ..มัน
ชักจะหมดไปแล้วนะ เข้าวัดรุ่นเดียวกันก็ไปแล้ว บวชพรรษาเดียวกัน จบ
มาจากมหาวิทยาลัยเกษดรต้วยกันก็ไปแล้ว รุ่นน้องก็ร่อยหรอไป ที่ยังอยู่
บางรูป บางคนก็สุขภาพไม่ดี ที่ท้อแท้เหนื่อยหน่ายไปก็มาก แต่เราทำไม
จึงอยู่ยืดเยื้อมาไต้จนป่านนี้ ถามว่าอาการท้อแท้เหนื่อยหน่ายมีไหม ก็มี
เหมือนกันแฮะดอนก่อนบวช ก็ตัวเราไม่ไต้ทำด้วยเหล็กต้วยหินนื่นะ
บางครั้งมันก็ไม่ไหวเหมือนกัน บางทีดามความคิดของครูบาอาจารย์ไม่ทัน
ใจมันก็ปฏิเสธ แต่จำได้ว่ามือาการแบบนี้ไม่บ่อยและไม่นาน พอบวช
แล้วก็ไม่เคยคิดท้อแท้ท้อถอยอีกเลย

ก็นึกถามตัวเองทุกปีว่า อยู่สร้างบารมีมาจนถึงวันนี้!ต้อย่างไร
ซึงแต่ละปีก็ไต้คำดอบเป็นเหตุเป็นผลชัดเจนขึ้นเป็นลำดับ ๆ ดอบตัวเองไต้
แล้ว ก็นำ มาแจกแจงให้ลูกศิษย์ลูกหาพระเณรฟังทุกป็ จะไต้อยู่สร้าง
บารมีกันยืดเยื้อไปนาน ๆ ไงล่ะ ล้าไม่บอกก็รู้สึกว่าจะไม่วักกันจริง
ทีนี้ป็นี้ เมื่อหลวงพ่อมานึกดรึกดราว่า ทำ ไมหนอเราจึง
สร้างบารมีไต้ยืดเยื้อมาจนป่านนี้ ไม่คิดถอยหลังอย่างบางคนหรือล้ามันจะ
เกิดคิดถอยขึ้นมาก็ไม่เกิน ๑ นาที เดี๋ยวมันก็สลัดความคิดนี้ทิ้งไปเสียไต้
ทำ ไม เมื่อไดร่ดรองรอบคอบแล้วก็สรุปไต้ว่า คงเป็นเพราะหลวงพ่อไต้
ผ่านการแกในเรื่องสำคัญ ๓ เรื่องมาดามลำดับ ตั้งแต่เล็กมาจนถึงวันบวช
บางเรื่องทำจนคุ้นจนติดเป็นลันดาน เรื่องทั้ง ๓ นั้นคือ

www.kalyanamitra.org

๑. เรื่องการตัดสินและการตัดสินใจ
๒. เรื่องความอดทน
๓. เรื่องกิจวัดรที่ควรประพฤติปฎิบ้ด
หลวงพ่อขออธิบายขยายความเรื่องทั้ง ๓ นี้ตามลำดับๆ
เมื่อเข้าใจแล้วขอให้พิจารณาเทียบเคียงกับความรู้สึกนึกคิดของท่านขณะนี้
และย้อนหลังใปทบทวนสิ่งที่ได้ประพฤติปฏิบ้ติผ่านมาแล้วให้ดี เราจะได้
เดินไปบนเส้นทางสร้างบารมีสายนี้!ปพร้อม ๆ กัน อย่างสบายอกสบายใจ

www.kalyanamitra.org
mm คือ ชี้ทดพา
อะไรฒิ อะไรถูก

๒^.,

www.kalyanamitra.org J
1รองทg

การตัดสินและ
ก!รตัดสิทใจ

หลวงพ่อพูดมาแต่ต้นแล้วว่า คนเราเมื่อยังไม่หมดกิเลสมันก็
มีโอกาสทำผิดทำพลาดกันไต้ทั้งนั้น ทํนี้ใครก็ตามทื่อยากสกัดกั้นตัวเอง ให้
หยุดอยู่แค่ผิดกับพลาด ไม่ให้ถลำไปถึงซ'วถึงเลว และสามารถลดความ
ผิดพลาดให้น้อยลงตามลำตับไต้นั้น เขาต้องทำอย่างไร ตอบว่า เขาจำเป็น
ต้องtเกนิสัยอย่างหนึ่งขึ้นมา นิสัยนี้ ท้าไม่tเกไว้แต่ต้นต่อไปจะกลายเป็น
คนเรื่อยเฉื่อย อะไรไม่ขอบมาพากลฝานมาใกท้ตัว ก็จะคิดแต่ว่าช่างมัน ๆ
คนอื่นผิดมังงี้ ชั่วยังงี้ก็มีถมไป แล้วความคิดที่จะแท้ไขตัวเองก็หมดไป ทำ
ผิดแล้วยังทำซํ้ากลายเป็นคนเลว พระเลว เณรเลว ทำความเดือดร้อนไห้
แก่สังคมมากมาย นิสัยที่ว่านี้คือ "นิสัยกล้าตัดสินและตัดสินใจ"

www.kalyanamitra.org

ตัดสิน คือ ชี้ขาดได้ว่า อะไรผิด อะไรถูก อะไรคื อะไรชั่ว


อะไรควร อะไรไม่ควร

ตัดสินไจ คือ ลงมือทำตามที่คืด

กล้าตัดสิน คือ ไม่ว่าอะไรจะผ่านเข้าผาเกี่ยวข้องกับตัวเรา


เราด้องตัดสิน ส่วนจะตัดสินผิดหรือถูกยังไม่คำนึงถึง ซึ่งแน่นอนเนื่องจาก
เรายังไม่หมดกิเลส แรกๆ กิอาจตัดสินผิดไปบ้าง ข้าไปบ้างกิไม่เป็นไร
แด่ด้องตัดสิน เพราะล้าไม่ตัดสินจะกลายเป็นคนเรื่อยเฉื่อย ทำงานกับคน
อื่นไม่ได้ กล้าตัดสินทุกเรื่องปอยๆเข้าจะชำนาญไปเอง และตัดสินได้ถูก
มากกว่าผิด

ที่หลวงพ่อประพฤติพรหมจรรย์ติดตามคุณยายและหลวงพ่อ
ธัมมชโยมาจนถึงบัดนี้ได้ กิเพราะได้รับการ'ผิกมาจากที่บ้านตั้งแต่เล็ก
แล้วว่า อะไรที่เกี่ยวข้องกับตัวเองด้องตัดสินได้ แรก ๆ บางอย่างกิตัด
สินได้เร็ว บางอย่างกิด้องคิดนานกว่าจะตัดสินได้ ตอนเด็ก ๆ เวลาถูกแก
กิไม่รู้ตัวหรอก มาคิดเหตุผลได้กิตอนแก่นื่ละ วิธีการของที่บ้านดูเผิน ๆ กิ
เป็นเรื่องด็ลูกเพื่อลงโทษธรรมดา ๆ แต่ที่บ้านเทคนิควิธีด็ลูกขายของโยมพ่อ
ไม่เหมือนใคร ซาวบ้านส่วนใหญ่เขาตีลูกให้รู้จักเข็ด แต่โยมพ่อของหลวง
พ่อนื่ตีลูกให้รู้จักคิด ท่านทำยังไง ท่านให้คิดตั้งแต่แรกเลยคือให้ไปหาไม้
เรียวมาเอง กว่าจะได้ไม้เรียวเหมาะ ๆ ไม่เจ็บมาก ไม่หักง่าย นื่ด้องเรียน
รู้เรื่องขนิดของไม้นานเอาเรื่องเหมือนกัน ขณะที่ท่านลงมือเฆี่ยนหลวงพ่อ
จำความรู้สึกของตัวเองได้แม่นยำมาจนบัดนี้ว่า มันช่างนานแสนนาน
เหลือเกิน เพราะอะไรเพราะก่อนจะเฆี่ยนทกขวับท่านจะถามว่า ที่พ่อเฆี่ยนนี่

www.kalyanamitra.org

เพราะลูกทำความผิดอะไร ถ้าตอบไม่ถูกไม่รู้ว่าอย่างไรผิด ท่านจะอธิบายแล้ว


เราต้องพูดทบทวนให้ได้เหมือนที่ท่านบอก ต้องตอบให้เสียงดังฟังชัดด้วย
ถ้ามัวร้องไห้สะอึกสะอื้น ขบวนการก็ยิ่งยืดเยื้อ เพราะฉะนั้นหลวงพ่อ จึงรู้
เพิ่มมาดามลำดับว่าควรทำอย่างไร และอย่างไรผิด อย่างไรถูก ติดนิสัย
วิเคราะห์ว่าอะไรผิด อะไรถูก ในทุกเหตุการณ์ที่ผ่านมาในชีวิตตั้งแต่เด็ก
เพราะวิธีของโยมพ่อนั้นแหละ เมื่อมาอยู่ในทางธรรม ไต้เข้าใจความถูกต้อง
ความแท้จริงของชีวิตแล้ว ก็ดัดสินว่าอะไรผิดอะไรถูกไต้ถูกต้องรวดเร็ว
ขึ้น ด้วยเหตุนี้เองเมื่อไต้รับมอบหมายงานอะไรมา หลวงพ่อจึงดัดสินใจไต้
เฉียบขาด รวดเร็ว สมใจคุณยายและหลวงพ่อธัมมชโยเรื่อยมา พวกท่าน
คงเห็นนะว่าหลวงพ่อท่าอะไรไม่เคยชักข้าสังเลเลย

คราวนี้ถามว่า ชีวิดคนเรานี้มือะไรให้ต้องดัดสินใจกันมากนัก
หรือ ตอบว่ามืมากด้วย คนเราทุกคนมืเรื่องที่จะต้องให้ดัดสินใจทุกวัน
ทุกลมหายใจก็ว่าไต้ หลวงพ่อจะยกดัวอย่างให้ฟังว่ามือะไรบ้างที่เราจะต้อง
ดัดสินและดัดสินใจกัน เอาง่ายๆ ทุกวันพอพลิกฟ้นตื่นขึ้นมา จะเพราะด้วย
เหตุอะไรก็ดาม ถามว่าต้องดัดสินใจไหม ต้องซิใซ่ไหม เราต้องดัดสินว่าลุก
หรือไม่ลุกจากที่นอนดี ถ้าเสียงระฆังดังขึ้นแล้วยังไม่ลุก นอนคิดว่าลุกหรือ
ไม่ลุกดีหนอ เมื่อคืนเราเข้านอนดีกถ้าลุกตอนนี้รวมเวลานอนก็ไต้ไม่กี่ชั่ว-
โมงจะเสียสุขภาพ ไปนั้งสมาธิถวายข้าวพระจะไปนั้งสัปหงกอายญาติโยม
คิดแล้วก็ดัดสินใจไม่ลุก นอนต่อไปดื้อ ๆ อย่างนี้ดัดสินผิด ลงมือปฏิบ้ติคือ
ดัดสินใจก็ผิดด้วย ใข้ไม่ไต้

แต่ว่าถ้าพอได้ปีนระฆังลุกพรวดเลย ด้างหน้าด้างตา ไม่กังวลุ

www.kalyanamitra.org
๑๐

ว่าเพิงเข้านอนหรือไม่ ตัดสินว่าลุกจากที่นอนดี แล้วลุกขึ้นโดยอัดโนฟ้ต


ไม่ดีดลังเลเลย อย่างนี้ดี คนทีทำได้ง่าย ๆ เพราะ!!กตัวแบบนี้มานาน
จะตื่นนอนก็ต้องตัดสิน ถึงเวลากินจะเติมข้าวอีกหรือไม่เติม
ก็ต้องตัดสิน มนต้องตัดสินไปเสียทังนันแหละ เพราะฉะนั้น!เกทันเถอะนะ
ท่านนะ !เกจนชำนาญแล้วจะตัดสินใจทุกเรื่องไต้เฉียบขาดและรวดเร็ว มี
ผลดีอยู่ทางโลกคนกล้าตัดสินและตัดสินใจจะทำงานไต้ผลดีและเร็วกว่าคนอื่น
ถ้าอยู่ทางธรรม จะตัดสินไต้ว่าอะไรดี อะไรชั่ว แล้วก็ตัดสินใจไต้ อย่าง
เฉียบขาด ทุกวันนี้สิ่งที่หลวงพ่อเห็น ซึ่งเป็นผลของการตัดสินและกล้าตัด
สินใจ มีอยู่ ๒ อย่างคือ
(๑) เห็นตัวเองว่า ที่ก้าวหน้ามาถึงจุดนี้มีวันมานั่งสร้างบารมี
ร่วมทับพวกทำนอย่างผาสุก ก็เพราะตัดสินไต้ และตัดสินใจ ถูกมากกว่าผิด
(๒) เห็นพวกเราหลายรูปทั้งพระภิกษุและสามเณร ตัดสินใจ
ไต้เดีดขาดและรวดเร็ว เหมีอนหลวงพ่อ ซึ่งแด่ละรูปเหล่านั้นก็ไต้มาเป็น
กำ ลังสำคัญของวัด ไต้มาเป็นหัวหน้างาน ท่านเหล่านี้พอมีอะไรผ่านมาก็
ตัดสินใจไต้ฉับ ๆ แม้อายุพรรษาจะน้อยก็มีความสามารถมาก
ในเวลาเดียวทัน ก็เห็นบางรูปไม่ค่อยชอบตัดสินใจ อยากทำ
ก็ทำ ไม่อ^'ากทำก็ปล่อยไว้ก่อน แม้พรรษามากแต่ดูไปแล้ว อย่าว่าแด่จะ
ทำ ประโยชน้ให้แก่ส่วนรวมเลย แม้ประโยชน์ส่วนตนของท่านก็ดูจะทำให้
สำเร็จไต้น้อยเหลือเกิน กว่าหลวงพ่อจะเห็นอย่างนี้ จะดูออกอย่างนี้
เวลาก็ผ่านมาจนถึงอายุ ๔๑ ปี ปีก่อนยุงมองไม่เห็นไต้เท่านี้ ปีที่แล้วจำ
ไต้ว่าหลวงพ่อบอกพวกเราว่า "นักสร้างบารมีต้องไม่มีข้อแม้" นั่นเป็นการ

. ■ท^

www.kalyanamitra.org
(ร)®

มองที่ผล ยังไม่รู้สาเหตุว่าทำไมจึงไม่มีข้อแม้ เพิ่งมารู้สาเหตุในปีนี้เองว่า


สาเหตุหนึ่งที่ทำให้เราไม่มีข้อแม้ ไม่ลังเล เพราะเราแกเรื่องการตัดสินใจ
มาตั้งแต่ยังเด็กยังเล็กนั่นเอง นึ่เรื่องง่ายๆ แท้ ๆ เพิ่งมารู้เหตุเมื่อเวลาผ่าน
ไปตั้งปี ที่เป็นเช่นนี้เพราะบางอย่างเรามองไม่ออก บางอย่างมองออกแล้ว
ยังไม่ทำบางอย่างทำแล้วอธิบายไม่ได้ บางอย่างอธิบายได้แล้วก็ยังไม่รู้วิธี
ปีกให้คนอื่น ยังถ่ายทอดให้ไม่เป็นก็มี

การที่หลวงพ่อคุ้นกับการตัดสินใจเร็วนึ่เอง ทำ ให้ไม่ว่าจะ
ย่างก้าวไปที่ไหน มันเห็นสิ่งที่ด้องแก้ไขทั้งตัวเองและสิ่งรอบข้างไปเสียทั้ง
นั้น ถามว่าแล้วไม่เหนื่อยหรือ เหนื่อยซิแต่มันไม่ท้อ เพราะยิ่งทำมากเข้า
ปีกมากเข้า ทั้งเนี้อทั้งตัวเรามันกลายเป็นเครื่องวัดไปโดยอัตโนมัติเหมือน
คนที่รู้ว่าตัวเองสูงเท่าไร เพราะฉะนั้นเวลาเดินผ่านอะไรก็รู้ว่าสิ่งนั้นสูงเท่า
ไร หรือคนที่รู้ว่าคืบของตัวเองยาวเท่าไร เห็นอะไรก็รู้ว่ายาวเท่าไร โดยไม่
ด้องใช้ไม้บรรทัดไปวัด คนที่รู้จักตัวเอง ผ่านไปทางไหน ไม่ด้องไปอาศัย
ไข้เครื่องมีอซั่งดวงวัดก็สามารถคาดคะเนได้อย่างใกล้เคืยงว่าสิ่งของรอบตัว
หนักเบายาวสั้นกี่กิโลกี่นี้วกี่ฟุต
อยู่ในทางธรรม ทุกอย่างที่เกี่ยวข้อง ไม่ด้องคิดก็รู้ทันทีว่า
ควรจะทำหรือไม่ทำอะไร
หลวงพ่ออยากให้ทุกท่านมีคุณสมบ้ตข้อนี้ ใครมีอยู่แล้วก็ให้
มียิ่งๆ ขึ้นไป เวลานั่งสมาธิจะได้ตัดเครื่องกังวลใจได้ฉับๆ เหมือนเจ้าชาย
สิทธัดถะ พอตัดสินใจบวชก็ไปเลยไม่ด้องบอก..."ฉันนะไปหากลดให้
หน่อยนะ" หรือ "ฉันนะ ไปห่อข้าวสารห่อโต ๆ มานะ" ท่านตัตใจไปเลย

www.kalyanamitra.org
๑๒

ลูกเมียก็ไมตองลา คนที่แกเรื่องการตัดสินใจมาตลอดชีวิต จะไม่ห่วงหน้า


V

พะวงหลังอย่างน

www.kalyanamitra.org
เรื่องที

หลวงพ่อแกเรื่องการตัดสินมาแต่เด็ก ๆ คนอื่นเขาก็คงแก
มาเหมือนกัน แต่เขาตัดสินใจไปจากวัด ขณะที่หลวงพ่อตัดสินใจอยู่ ทำ ไม
หลวงพ่อจึงตัดสินใจอยู่และอยู่ได้เพราะอะไร เมื่อมานึกตรึกตราดูก็ตอบตัา
เองว่า เพราะขันติ ความอดทนทีเรามือยู่ แต่ขันติที่รู้จักปีที่แล้วกับปีนื๊!มื
เหมือนกัน

ปีทีแล้วด็ใจว่ารู้จักขันติ แต่ปีนี้ดีใจว่ารู้จักขันติดีกว่าปีที่แล้ว
มากมาย ที่รู้เมื่อปีที่แล้วเป็นแค่อนุบาล ไม่รู้เหมือนกันว่าปีหน้าจะเห็นขันติ
ของปีนีกระจอกงอกง่อยไปหรือเปล่า แต่หลวงพ่อก็ติดว่า คนเราถ้าตํ้งแต่
เล็กมืพ่อแม่อบรมมาบ้าง ความอดทนต่อตินฟ้าอๆกาคความลำบาก ดรากตรำ
คงด้องมีกันอยู่บ้าง ถ้าไม่มืคงมาไม่ถึงวัดพระธรรมกายและอยู่ไปได้เกิน ๗

www.kalyanamitra.org
%

www.kalyanamitra.org
6)(l

วันเพราะเราใช้กลดใช้ศีล ๘ กลั่นกรองคนมาแล้ว ถ้าไม่ยอมทนต่อความ


ลำ บากก็คงไม่ยอมมุดเช้ากลด คงหนีกลับไปนอนบ้านแล้ว แต่คนที่ทนอยู่
ได้นี่ก็ยังถือว่า อดทนในระดับอนุบาลนะ พวกเราที่นั่งอยู่นี่มีความอดทน
มากกว่านั้น เลยชั้นประถมไปอีก

ความอดทนระดับประถม คือ ทนต่อทุกขเวทนาความเจ็บไข้


ได้ป่วย พวกเราทุกคนที่ได้บวชล้วนเป็นพวกแม้เจ็บไข้ได้ป่วยก็ยังโงหัวขึ้น
มาทำงาน มีธาตุทรหดอยู่ในตัวกันคนละมาก ๆ ไม่เช่นนั้น คงทน
นอนกลดอยู่ไม่ได้เป็นปี ๆ แต่สำหรับหลาย ๆ รูปที่เช้ามาบวชแล้วสึกไป
ทั้ง ๆ ที่ตั้งใจมาแต่ด้นว่าจะไม่สึกนั้น ที่ลังเกดเห็นได้ชัดคือ เขาไม่อดทน
ต่อความกระทบกระทั่งของเพื่อนฝูง ของหมู่คณะ บางรูปไม่อดทนต่อหมู่
คณะใหญ่ ๆ ของวัดพระธรรมกาย ไม่ชอบอยู่ร่วมกับคนจำนวนมาก ๆ ก็
ขอออกไปอยู่ที่วัดอื่นที่มีพระน้อยๆ ที่ๆ เขาไม่เข้มงวดเรื่องระเบียบวินัย
บางรูปไปแล้วไม่นานก็สึกเพราะไม่มีที่ไหนที่จะไม่มีการกระทบกระทั่งกันเลย
ความอดทนต่อการกระทบกระทั่งเปรียบเป็น ความอดทนระดับ ๓ คือ
ระดับมัธยม

แต่มีเหมีอนกันนะ บางรูปอดทนต่อการกระทบกระทั่งดี แต่ไป ๆ


ก็อยู่ไม่ได้ ทำ ไมล่ะ มารมันมาล่อ ชวนสึกไปจนได้ ว่าก็ว่าเถอะ อยากไป
มีเมีย หรีอจริง ๆ แล้วไม่อยากจะไปมีเมียหรอก แต่อยากอยู่ให้สบาย กว่านี้
บ้ดโธ่เอ๋ย จะเอาอะไรอีก พระเราทุกวันนี้บ้านก็ไม่ด้องเช่า
ข้าวก็ไม่ด้องหุง ถึงเวลาเขาก็เอามาประเคนให้ จะให้สบายยิ่งกว่านี้อีกหริอ
พระที่วัดอื่นเช้าพรุ่งนี้ออกบิณฑบาต จะมีใครมาตักบาตรหริอเปล่าก็ไม่รู้

www.kalyanamitra.org
ร)^

แต่พระวัดพระธรรมกายถึงไม่บิณฑบาตก็มีฉัน ที่พูดนี่ไม่ได้หมายความว่า
หลวงพ่ออนุญาตให้ท่านงดบิณฑบาต การบิณฑบาตมีประโยชน์เดี๋ยวจะ
เล่าให้ฟัง

บ้านก็ไม่ด้องเช่า มีกุฏิอยู่ฟรี ข้าวก็ไม่ด้องซื้อ จีวรห่มยังไม่


ทันเก่าโยมเอามาถวายไห้เปลี่ยนใหม่แล้ว เจ็บป่วยก็มีโรงพยาบาล มีหมอ
มารักษาให้ถ้ายังอยู่ไม่ได้ก็แสดงว่าไม่อดทนต่อความยั่วยวนซึ่งเป็นความ
อดทนระดับ ๔ เทียบได้กับระดับมหาวิทยาลัย สิ่งที่มายั่วยวนนั้นไม่ได้
เอาเฉพาะสตรี พวกความสุขสบายทางโลกก็เป็นสิ่งยั่วยวนสำหรับพระด้วย
แต่หลาย ๆ รูปเขาก็มีความอดทนทั้ง ๔ ระดับนี้แล้ว
ทนต่อความสำบากตรากตรำมาไม่น้อยกว่าหลวงพ่อ ทนต่อทุกขเวทนา
มาเคียงปาไหล่กัน ความอดทนต่อการกระทบกระทั้ง ความยั่วเย้า เย้ายวน
ก็มีไม่น้อยกว่าหลวงพ่อ แต่เขาก็ไปแล้ว

ก็มาคีดว่าทำไม ทำ ไมเขาจึงไป แด่เรายังอยู่ ก็คีดได้ว่า


ความอดทนทั้ง ๔ อย่างนี้ ถ้าไม่มีโยนิโสมนสิการหรือการใคร่ครวญไตร่
ตรองแล้ว เขาจะยกระดับของความอดทนทั้ง ๔ อย่างนี้ให้สูงขึ้นไม่ได้เลย
หลวงพ่อก็มานึกถามดัวเองต่อว่า ทำ ไมเรายกขึ้น แต่เพื่อน
ที่ไปแล้วเขายกไม่ขึ้นก็ได้คำตอบว่า มันมีขั้นตอนที่ด้องปรับ จะเอาอะไร
มาเป็นดัวปรับดัวหนุนให้ระดับเพดานความอตทนสูงขึ้นได้นั้น ข้อนี้ด้อง
ไตร่ตรองเป็น หลวงพ่อก็มานึกย้อนอดีตเริ่มตั้งแต่เมื่อคิดจะสร้างวัต
ตอนนั้นเรามีเงินกันอยู่เพียง ๓,๒๐๐ บาท คุณยายอาจารย์บอกว่า เราจะ

www.kalyanamitra.org
๑๗

สร้างวัดกันนะ วัดใหญ่ขนาดนี้ ถามว่านึกออกไหม นึกไม่ออก แล้วทำไม


เราจึงสร้างวัดเต็มพื้นที่ ๑๙๖ ไร่มาได้ ตอนนันเราคิดยังไง

ดู ๆ ไปแล้วความหวังอย่างอื่นเราก็ไม่มี นอกจากความ
เคารพครูบาอาจารย์ หลวงพ่อเคารพหลวงพ่อธัมมชโยมาก ตอนนั้นภูมิธรรม
ท่านสูงแค่ไหนเราก็ไม่มีปัญญาไปหยังรู้ แต่เคารพในภูมิปัญญาของท่าน การ
เล่นเกมส์ที่อาศัยภูมิปัญญา สมัยที่เรายังเป็นนิสิตกันอยู่ ก็มีเพียงหมากรุก
หมากฮอส ท่านเล่นชนะหมด ก็ขืนชมท่าน ต่อมาจึงเคารพในความบริสุทธิ
ใจที่ท่านมีต่อพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ต่อพระศาสนา ทัง ๆ ทีท่าน
ยังมีภาระเรื่องการเรียนวิชาทางโลกอยู่ แต่เมื่อสอบภูมิรู้ในพระไตรป็ฎก
กันแล้ว ขนาดหลวงพ่อเป็ดตำราถามด้อน ยังต้อนท่านไม่จน แล้วยังไม่
โกรธด้วยทั้งๆ รู้ว่าถูกต้อน หลวงพ่อก็เลยเคารพท่านเป็นอาจารย ให้นอน
ที่สูงกว่าตั้งแต่ครั้งนั้น
นอกจากเคารพบูชาหลวงพ่อธัมมชโยแล้ว หลวงพ่อยัง
เคารพคุณยายอาจารย์ เคารพหลวงพ่อวัตปากนำภาษีเจริญ (พระมงคล-
เทพมุนิ ; สด จันทสโร) อาจารย์ของท่าน โดยเฉพาะคุณยายอาจารย์นัน
หลวงพ่อเห็นคุณธรรมของท่านมามากจนเลิกคิดจับผิดท่าน
ขอให้ระวังการใช้คำว่าความเคารพให้ดี ความเคารพไม่ใช่
แค่กราบไหว้ แต่หมายถึงการด้นหาความดีในตัวท่านแล้วเอามาปฏิบัติตาม
เพราะฉะนั้นเมื่อเคารพท่านแล้ว ความบกพร่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ของท่าน
เราต้องตัดทิงได้ ช้อนึขอให้ระวังให้จงหนัก เนึองจากคนเราทุกคนเมีอยัง

www.kalyanamitra.org
ร)ad

ไม่หมดกิเลสเป็นพระอรห้นต์ กิต้องมีความผิดความพลาดด้วยก้นทั้งนั้น
ถามว่า หลวงพ่อธัมมชโยมีข้อบกพร่องไหม มี คุณยายอาจารย์มีข้อบกพร่อง
ไหม มี แต่ว่าเมื่อมีความเคารพท่านเสียแล้ว กิขี้เกียจจะไปสนใจความ
บกพร่องของท่าน

หลวงพ่อเคารพในตัวจริงเนื้อแท้ของหลวงพ่อธัมมชโยและ
คุณยายอาจารย์ จึงตะเกียกตะกายสร้างวัดจนเสร็จ ลุยมาทุกรูปแบบตั้งแต่
วันที่ท่านบอกว่าจะสร้างวัด ไม่เคยคิดโต้แย้งเลย ทั้ง ๆ ที่ยังมองไม่เห็นทาง
สำเร็จ ความสำเร็จในการสร้างวัดพระธรรมกายครั้งนั้น ต้องเรียกว่าสำเร็จ
เพราะอานุภาพของความเคารพแท้ ๆ
ทีนี พอจะสร้างธุดงคสถาน กิไม่เคยคิดตั้งแง่ว่าเสร็จ แล้วจะ
ชืออะไร หรีอเปลียนชือกิครัง ท่านว่าทีตังชือเป็นภาษายังกฤษขึ้นมานั้น
นอกจากมีเจตนารมณ์ให้วิชชาธรรมกายขยายไปทั่วโลกให้เป็นสาทลแล้ๆ
เหตุผลอกข้อหนึงคือ ตังชือเป็น ธุดงคสถาน ตังมาไต้ไม่นานก็มีคนตังชือ
เอาอย่างบ้าง ตัง ๆทีวัตถุประสงค์และวิธีบริหารองค์กรไม่เหมือนกัน เหมือน
ตอนตังซือศูนย์พุทธตักรปฏิบ้คิธรรมกิมีคนตังชือสำนักของเขาเอาอย่างบ้าง
พอไปขอร้องเขาว่าอย่ามาตั้งชื่อชํ้ากันเลย เขากิเปลี่ยนเป็นศูนย์ธรรมตักร
ปฏิบ้ติธรรม แล้วชื่อธรรมทายาทกิเหมือนกัน มีการเลียนแบบเป็นพุทธ-
ทายาทกิมี จุดประสงค์เพื่ออะไรก็รู้ ๆ กันอยู่...จะชื่อเลียงเรียงนามอะไร
หลวงพ่อไม่เคยข้ดคอท่าน ถ้าไม่ค่อยขอบกิเลียบเคียงถาม ท่านวันหยัง
ตอนท่านมาหารีอจะสร้างธุดงคสถาน ๒,๐๐0 ไร่ ถามตรงๆ ว่าตอนแรก
นั้นในใจคิดอยากสร้างไหม ไม่อยากเลย โธ๋เอย สร้างแค' ๑๙๖ ไร่กิเหนื่อย

V-L

www.kalyanamitra.org
๑๙

จะแย่แล้ว ท่านมาพูดก็ปล่อยให้พูดไป ในใจเราก็คิดไม่เอาด้วย สำ หรับคุณ


ยายอาจารย์ ท่านไม่ได้มาพูดเรื่องนี้ด้วย เพราะท่านก็ซักแก่แล้ว
แต่หลวงพ่อธัมมชโยท่านมีวิธีพูดสร้างกำลังใจที่ได้ผลชะงัด
ทำไปทำมาหลวงพ่อเองกลับหลวมตัวไปอาสาสร้างให้ท่านเสียนี่ ท่านพูดว่า
ยังไง ท่านก็คุยเรื่องนั้นเรื่องนี้ของท่านไปเรื่อย ๆ ลักครู่ท่านก็หยั่งเสียง
"หลวงพ่อทัดตะ คิดว่าวัดเนี้อที่ ๑๙๖ ไร่นี่ ถ้าดีขึ้นแล้วจะเป็นยังไง"
หลวงพ่อก็ตอบท่านไปเนือย ๆ เพราะพอรู้เลา ๆ ว่าท่านจะพูดเรื่องอะไร
"จะเป็นยังไง ก็มีคนมาปฎิบ้ติธรรมมากขึ้น มีคนมาบวชมาก
ขึ้น" ท่านก็ถามต่อ
"คิดว่าวัดเรา ๑๙๖ ไร่นี่ จะรับพระได้ลักเท่าไหร่"
"โธ่หลวงพ่อ วัดในกรุงเทพฯ เขามีที่กันนิดเดียว วัดปากนํ้า
มีที่แค่ ๑๐ ไร่ ยังรับพระได้ตั้ง ๔๐๐-๔๐๐ รูป"
"หลวงพ่อทัดตะ จะเอาพระตั้ง ๔๐๐-๔๐๐ รูปมาไว้ในวัดเรา
เชียวหรือ"

"มันก็แน่นไปหน่อย ก็มีที่แค่นี้จะทำยังไง"
"แล้วถ้ามีโอกาสมีได้มากกว่านี้ล่ะ จะเอาไหม"
นั่นประไรค่อย ๆ แหย่เข้ามาแล้ว เรามันก็เลือดนักสู้เหมีอน
กัน โดนท้าโดนแหย่ไม่ค่อยได้เหมีอนจิ้งหรืด เหมีอนไอ้โด้ง พอได้ยินเสียง
ซันท้าขึ้นมามันซักจะอยู่นี่งไม่ได้ ก็ตอบท่านไป
"ก็ถ้ามันมีโอกาสก็เอา" นั่นตอบว่าเอาเข้าไปแล้ว แค่เสียง

www.kalyanamitra.org
๒๐

มันยังอ่อย ๆ ก็มันยังไม่หายเหนื่อย
ท่านทำยังไงต่อ ท่านก็ขยายด้านข้างวัดออกมาอีกหน่อย
เราก็ไปช่วยท่านทำ พอลงมือทำมันก็เริ่มติด พอติดเราก็บ่น เพราะจะปลูก
จะสร้างอะไรมันรี ๆ ขวาง ๆ ไปหมด ไม่ได้สัดไม่ได้ส่วน

"เอ้อมืที่มากกว่านี้อีกสักหน่อยก็จะดี" ท่านยิ้มเฉยปล่อยไห้
เราง่นง่านสักพักจึงพูดขึ้น
"ถ้ามันมืได้ถึง ๒,000 ไร่ล่ะจะเอาไหม" แหม ตั้ง ๒,๐00 ไร่
แค่ ๑๙๖ ไร่ ยังเหนื่อยแทบดาย เราจึงเฉยเสียไม่พูดต่อความยาว ท่านเห็น
เราเฉยท่านก็พูดไปเริ่องอื่น แต่มันเป็นสักษณะอุปมาอุปมัย
"หลวงพ่อทัดตะ ถ้านํ้ามันท่วมจนพวกเราต้องไปลอยคออยู่
แล้วมีคนเอาเรือไหญ่มารับเรา และพรรคพวกเราขึ้นเรือแล้วเขายังตาม
เก็บคนที่ลอยคออยู่ว่ายนํ้าด่อไปอีก เราก็ช่วยเขาพายเรือไป พอไปสักระยะ
หนื่งเราซักเหนื่อย ถ้าเราจะโวยวายกับคนที่อยู่ไนเรือว่าเอ้ย ไล้เรือลำนี้
เมื่อไรมันจะหยุตซักทีวะ เรามืสิทธโวยวายไหม ไนเมื่อเรือลำนี้คนอยู่มา
ก่อนเขาถ่อเขาพายกันมาแล้วเป็นปี ๆ ช่วยคนมาตลอดทาง เรามาช่วย
เขาพายได้กระจี้ตเดียวก็โวยวายว่าเหนื่อย จะหยุดพายหยุดไม่หยุดคนเดียว
ชวนคนอื่นหยุดด้วยเรามีสิทธิ๋ไหม"
"ไม่มีครับ"
"แล้วคนที่หยุดพายเปีนยังไง"
"ก็ใช้ไม่ได้ซิครับ แย่มาก"

www.kalyanamitra.org
๒๑

"ถ้าเป็นผม ผมไม่หยุดพายหรอก"
ท่านบอกว่าท่านไม่หยุดพาย เอ๊ะ แล้วเราจะปล่อยให้ท่าน
พายเหนื่อยไปคนเดียวหรือไง ท่านพายเรือไปหิ้วเราขึ้นมาจากนํ้ากว่าเรา
จะรอดตายท่านเหนื่อยแทบขาดใจ เอาก็เอา หลวมตัวเข้าไปแล้ว ๒,๐๐๐ ไร
สร้างธุดงคสถานนี้หลวมตัวเพราะความกตัญฒูรู้คุณท่านนื่เอง ไม่ได้ท่าน
เราจะไปอยู่นรกขุมไหนก็ไม่รู้ ก่อนเข้าวัดนื่เราลุยมาเสียโซก บาร์ คลับ ใน
กรุงเทพฯ กี่ แห่ง ๆ ไม่มีเลยที่จะไม่รู้จัก อะไรที่ท่านผู้ใหญ่ห้ามไว้พ่อไปลอง
มาเรืยบ เมีองไทยเมืองเทศไปลองมาหมด นื่ถ้าไม่ได้ท่านหิ้วเราขึ้นมาจะ
เจอนรกกี่ขุมไม่รู้
มาบัดนี้ท่านตั้งใจจะสร้างบุญบารมีให้ยิ่ง ๆ ขึ้นไป เราจะหิ้ง
ท่านให้เหนื่อยอยู่ลำพังๆ ยังไง เอาก็เอาพอตัดสินใจว่าเอา มันลืมเรื่องความ
เหนื่อยความยากหมดทุกอย่าง ลุยเลย คว้ากระดาษ ดินสอ เขียนแผนฉับ ๆ
ถ้าจะเอา ๒,๐๐๐ ไร่ ไอ้โน่นมันควรจะด้องท่าอย่างงี้ ไอ้นื่มันควรจะด้องท่า
ยังงั้น มองเห็นเป็นทางไปเลย
พอท่านเห็นเราลงมือท่า ท่านยิ้ม "หลวงพ่อทัดตะคิดให้ดีก็
แล้วกัน"แล้วท่านก็ลุกไป หน้าที่เราด้องคิดต่อซิทีนี้ท่านให้ไอเดียแล้วท่านก็ไป
วันดีคืนดีก็เอาไอเดียมาปัอนให้อีก มันน่าจะยังงํ้น ๆ เอ้า... เราก็ท่าไป ก็
ความคิดท่านเข้าท่ามันน่าท่าไปเสียทั้งนั้น

"ลูกเอ๊ย หลวงพ่อนั้นถ้าจะว่าไป มาถึงวันนี้ ยกเพดานความ


อดทนมาได้สูงถึงระดับนี้ เพราะความเคารพครูบาอาจารย์แท้ๆ ยังมองไม่
เห็นอะไรข้างหน้าเลยยังท่ามาได้ขนาดนี้ แด่มาครั้งที่ ๒ นี้ เจองานข้าง

www.kalyanamitra.org
แต่หมพถึง ทารฒ้หาคพดํ

เพาะฉะนัน เปีอเคารสท่านแพ้

www.kalyanamitra.org
๒๓

สร้างธุดงคสถาน ๒,๐๐๐ ไร่ นี่งานช้าง รู้เลยว่างวดนี้เสี่ยงดาย แต่หลวง


พ่อก็ทำ คราวนี้ไม่ได้ทำเพราะความเคารพครูบาอาจารย์อย่างเดียว ทำ
ด้วยอำนาจแห่งความกตัญฌูด้วย นึกถึงพระคุณของทำนที่เหนี่อยยากปัน
เราขึ้นมา"
หลวงพ่อโชคดีที่มีคุณยายอาจารย์เป็นกัลยาณมิตร เพราะ
ตามธรรมดาคนเราถ้ามิแต่ความเคารพอย่างเดียว เมื่องานมันมากขึ้น ๆ
เพดานความอดทน มันยกตามขึ้นไปไม่ได้ มันชักเรื่อย ๆ เฉื่อย ๆ ไม่
กระดีอรือร้น เร่งก็ไม่ขึ้น คุณยายอาจารย์ท่านรู้วาระจิตของคน ท่านรู้ว่า
ลูกศิษย์คนนี้ชักไม่ไหว ชักล้าเสียแล้ว ท่านเตือนเลยเตือนให้เราเกิด
ความกตัญฌูกตเวทีขึ้นมา แต่ท่านไม่พูดตรง ๆ ใช้วิธีพูดอ้อม ๆ เอาเรื่อง
เก่า ๆ มาเล่าใหม่ พอได้จังหวะท่านวกปับเลย
"โอ๊ย...หลวงพ่อหัตดะน่ะเหรอ กว่าจะเอาตัวมาได้ยายเหนี่อย
แทบดาย" ท่านพูดแค่นี้ใจเรากระตุกวูบเลย นึกถึงวันเก่าๆที่ท่านทุ่มเทให้
กับลูกศิษย์ เวลาที่ท่านทุ่มเทให้กับหลวงพ่อธัมมชโยเรื่องอื่นท่านไม่เอา
เลย เวลานั้นถ้าใครเอาโลกทั้งโลกมาตั้งต่อหน้า แล้วบอกขอแลกเอาหลวง
พ่อธัมมชโยไป รู้ได้เลยว่าท่านจะเขี่ยสมปัดทั้งโลกทิ้ง มาถึงคราวหลวงพ่อ
เองก็เหมือนกัน รู้ได้เลยว่าทั้งหลวงพ่อธัมมชโยและคุณยายจะด้องพูดเป็น
«1 <1 ^ 1 OMK ะ T vrtVI I 0/ «|T w vs. ร
เสยงเดยวกนว่ายกสมบดหังเลกไหกใม่เอา จะเอาหัดดะชเว เดรูเดเหนนำ
ใจท่านมานาน ซํ้าเจอคำพูดของคุณยายประโยคนี้เข้าอีก ที่เรื่อยๆ เฉื่อยๆ
มันเฉื่อยไม่ได้แล้ว
เพราะนึกออกเป็นฉาก ๆ ว่าท่านทุ่มเทให้เรามาตั้งเท่าไหร่
ทั้งมารหยาบมารละเอียดที่ตามมาผจญหลวงพ่อไม่รู้กี่ฝูง ๆ ท่านปัดกระเดีน

www.kalyanamitra.org
๒๔

หมด สิ่งเหล่านี้เองถ้าพวกท่านสังเกตจะเห็นว่าตลอดเวลาหลวงพ่อไม่ได้
หยุดนิ่งเลย มีแรงท่างานหยาบได้ก็ทำ ถ้าท่างานหยาบไม่ไหวก็ขอพักท่า
ภาวนาสักพัก พอภาวนาจนใจละเอียดเข้าแล้ว ก็ลุกมาลุยงานต่อ
ที่พูดมานิ่ไม่ใช่มายกตัวเองว่าวิเศษ แต่กำสังจะบอกว่าคน
เรานั้นเมื่อมันยังมีกิเลสใจมันก็มีขึ้นมีลง เมื่อมีขึ้นมีลงก็ด้องมีหสักยึดว่า
เมื่อขึ้นไปแล้วก็ต้องพยายามไม่ให้มันลง ถ้ามันขืนลงมาจนได้ก็ต้องหาทาง
ยึดให้มันหยุดแค่นั้น ไม่ให้ตกตาไปกว่านั้นอีก แล้วหาทางเหนี่ยวนำให้มัน
ก้าวไปข้างหน้าต่อไปอีก แต่เนิ่องจากไม่สามารถหาวัตถุมาเหนี่ยวนำได้
จึงต้องอาศัยคุณธรรม คุณธรรมในตัวเองเท่าที่พบก็มีเป็นลำตับ ๆ อย่าง
ที่ว่ามาแล้ว

ถ้าไปดูในมงคล ๓๘ ท่านก็จะได้เห็นอย่างที่หลวงพ่อเห็น
คารโว จ มีความเคารพ
นิวาโต จ มีความถ่อมตน
สนฺตุฏฐี จ มีความสันโดษ
กตฌฺฌุตา มีความกตัญฌู
กาเลน ธมฺมสฺสวนํ ฟังธรรมดามกาล
เอตมฺมํคลมุตตม' ทั้งหลายนี้เป็นมงคลอย่างยิ่ง
มีความเคารพแล้วก็มีความกตัญฌู ๒ ตัวนี้เมื่อก่อนหลวงพ่อ
มองไม่ออก แต่เมื่อมาเจอเข้ากับตัวเองแล้วมันก็มองออก แต่กสัวว่าพวก
เราจะมองกันไม่ออกเลยต้องยกขึ้นมา เผื่อว่าในเวลาภายภาคหน้าขณะที่
พวกเรากำสังบำเพ็ญบารมีอยู่ดี ๆ เกิดมีการกระทบกระทั้งกันขึ้น จะได้อด ๆ

www.kalyanamitra.org
๒๔

ทนๆ กันไป อย่าปล่อยให้มีความท้อทอยเกิดขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งชีวิต


ของนักปฎิบ้ติธรรมอย่างพวกเรานี้ สิ่งที่น่ากลัวที่สุตไม่ต้องให้ถึงขนาดมี
การยั่วเย้าเย้ายวนอย่างคนที่อยู่ในทางโลก แค่ติดสุขอยากให้มีความสะดวก
สบายให้ยิ่ง ๆ ขึ้นไปถึแย่แล้ว
คนเราพอติดสุขติดสบายเข้าไปแล้วมันมักมีความรู้สึกว่า
ความสุขความสบายที่ไต้นี้ยังน้อยกว่าที่คนอื่นไต้ มันน่าจะไต้มากกว่านี้
แด่พอลำบากเข้าลักหน่อยกลับมีดวามรู้สึกว่า เราลำบากที่สุดในโลก เพราะ
ฉะนั้นจึงต้องแกความอดทนของเราให้ดี และวิธีแกก็ไม่มีอะไรดีเท่าการนั่ง
สมาธิเมื่อตอนเริ่มสร้างวัดใหม่ๆพอคุณยายสังเกตเห็นว่าพวกเราซักเหนื่อยจัด
ซักจะมีความเห็นไม่ตรงกันขึ้นมา ท่านจะไล่ให้ไปนั่งสมาธิกันทั้งกลุ่ม จะ
มานั่งประชุมออกความเห็นอะไรกันไม่ไต้ทั้งนั้น พอออกจากสมาธิ เออ...
ไอ้ที่ชุ่นๆ ขวางๆ กัน ไม่รู้มันหายไปไหนหมด ออมขอมกันได้ คดอยาก
จะสร้างวัดให้เสร็จแล้วก็ให้ดีที่สุดเท่านั้น
เดี๋ยวนี้หลวงพ่อธัมมชโยก็ยังนำวิธีของคุณยายมาใช้กับพวกเรา
จะเห็นเสมอว่าหลวงพ่อเองมักเคี่ยวเข็ญให้ท่านหมั่นนั่งสมาธิกัน จริง ๆ
แล้วเคยตั้งเป็นกติกากันในวัดเลยว่า ภาคเช้าเป็นเวลาของการนั่งสมาธิ
ฉันเพลแล้วภาพม่ายถึงคร ใครมีหน้าที่อะไร มีงานอะไร ค่อยไปดูไปทำกัน
หลวงพ่ออยากให้ทุกคนในวัดของเรารักษาธรรมเนียมนี้!ว้ให้ดีๆ
พอนั่งสมาธิจนใจมันยกขึ้นมาพอสมควรแล้ว ต้องรีบยกระดับ
ความเคารพให้สูงขึ้นอีก ไตร่ตรองคุณงามความดีของท่านให้ถ้วนถี่ ดีดให้
เป็นด้วย หลวงพ่อมีวิธีดีดอย่างไรจึงอย่สร้างบารมี และอดทนแกคนมาได้

www.kalyanamitra.org
๒๖

จนถึงทุกวันนี้
หลวงพ่อคิดว่า พระพุทธศาสนานี่กว่าจะมาถึงเรา เขา
เหนี่อยกันมาไม่รู้เท่าไหร่แล้ว เปรียบเหมือนเรือใหญ่ที่พายรับคนจะจมนี้า
ล้าคนที่อยู่บนเรือมาก่อนคิดว่า โฮ้ยเหนี่อยแล้วโว้ย ไอ้เรือลำนี้ หยุดเสียที
เถอะ ไม่พายแล้ว ล้าเรือหยุดเสียก่อนที่จะมาถึงเรา เรามิจมนํ้าตายไปแล้ว
หรือ ล้าก่อนที่หลวงพ่อจะเข้าวัดคุณยายอาจารย์มืดวามรู้สีกว่าไม่เอาแล้ว
ฉันแก่แล้วไม่สอนใครละ หลวงพ่อก็เป็นลูกหมาดกนํ้าตายไปแล้ว
แต่นี่ คุณยายท่านเคารพครูบาอาจารย์ของท่าน คือ หลวงพ่อ
วัดปากนํ้าฯ ตั้งใจแทนคุณเต็มที่เราจึงมีวันนี้ หลวงพ่อวัดปากนํ้าฯ ท่านสั่ง
ให้คุณยายเผยแผ่วิชชาธรรมกายเพื่อช่วยคนทั้งโลก ท่านก็ทำดามชนิดเอา
ชีวิดเข้าแลก ถ่ายทอดวิชชาให้หลวงพ่อธัมมชโย ให้หลวงพ่อเทำนั้นยังไม่
พอ ดามมาช่วยสร้างวัดพระธรรมกายให้อีก หวังให้เป็นที่สร้างบุญสร้าง
บารมีด้วยการเผยแผ่พระพุทธคาสนา ให้มนุษย์มีความสุขกันทั้งโลก นี่เป็น
เพราะท่านคิดแทนคุณท่านจึงสร้างบุญสร้างบารมีได้มากเป็นพิเศษ
คิดได้อย่างนี้แล้ว ก็ไม่ต้องมานั่งตรองแล้วว่า หลวงพ่อธัมมชโย
คุณยายอาจารย์ มีคุณธรรมอะไรเราจึงเคารพท่าน มันเกินที่จะเอามาดรอง
เพราะมันเป็นสันดานเสียแล้ว เห็นอะไรที่มันเป็นความดี เป็นประโยชน์ แก่วัด
แก่พระพุทธคาสนา รีบทำเลยเพราะรู้ว่าจะถูกใจครูบาอาจารย์
พวกเราทำงานอะไรเหนื่อยหน่อยก็อย่าปนเลย คุณยายทำน
แก่แล้ว ท่านยังคิดช่วยแล้ทุกข์ชาวบ้านได้ทุกวี่ทุกวัน นั่ง'!บแขกสอนธรรมะ
ช่วยพูดปลอบใจคน ชี้ทางถูกให้คนนี่เมื่อยปากเมื่อยตัวไม่หยอกนะ

www.kalyanamitra.org
๒๗

สมองก็ต้องหาคำพูดดี ๆ มาอธิบายให้เขาเข้าใจ คนต่างถิ่นต่างฐาน ร้อย


พ่อพันแม่ จะให้ถูกใจพอใจทุกคนนี่ยากมาก เคารพท่าน จะแทนคุณท่านก็
ต้องทำภาวนาให้มาก แกปฏิบ้ติ เรียนปริย้ติให้แตกฉาน สร้างคุณธรรม
ความอดทนให้ฝังเป็นสันดาน รับรองถูกใจคุณยายถูกใจหลวงพ่อแน่ อยู่เรีอ
ลำ เดียวกันไต้สบายๆ
นี่คือวิธีคิดเพื่อยกระดับเพดานความอดทนของหลวงพ่อให้
สูงขึ้นมาเป็นลำดับ ส่วนต่อไปจะมีวิธียกยังไงยังดอบไม่ไต้ เรื่องที่หลวงพ่อ
ต้องอดทนมันดาหน้ากันมาไม่ซํ้าแบบหรอก แต่รูอยู่บัดนี้ว่า ดัวของข้าพเจ้า
ไต้ทำดามพระโอวาทของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ให้ไว้ในโอวาทปาฏิโมกข์
ข้อแรกที่ว่า"ขันดี ปะระมัง ดะโป ดีดิกขา ะความอดทนคือความทนทาน
เป็นดบะอย่างยิ่ง" แล้ว
ส่วนที่ ๒ "นิพพานัง ปะระมัง วะทันดิ พุทธา ะ ท่านผู้ร้ทั้ง
หลายย่อมกล่าวพระนิพพานว่าเป็นเยี่ยม" หรีอพูดง่าย ๆ ว่าต้องไปนิพพาน
ให้ไต้ เพราะเป็นเป้าหมายอันสูงสุดทุกอย่างนั้น เอาเถอะ ดอนนี้ยังไปไม่ไต้
ยังนั่งอยู่กับพวกเราดรงนี้ แต่วันหนี่งต้องไปให้ไต้ เรื่องเปลี่ยนใจนั้นไม่ต้อง
พูดกัน
ลำ หรับข้อ ๓ "นะหิ ปัพพะชิโด ปะรูปะฆาดี สมโณ โหดิ ปะรัง
วิเหฐะยันโด ะ บรรพชิดผู้ฆ่าสัดว์อี่น เบียดเบียนสัดว์อื่น ไม่ชื่อว่าสมณะ"
จำ ไต้ว่าตั้งแต่บวชมานี่ไต้เปลี่ยนพฤติกรรมมาหมด ก่อนหน้านี้ฆ่าสัดว์
มานักต่อนัก เพราะเรียนเกษดรทางสัดวบาล จบแล้วยังมีอาชีพขายยาฆ่า
แมลงอีก แต่เมื่อมาบวชแล้วก็เลิกเด็ดขาด แม้ถูกปองร้ายหมายชีวิด ก็ไม่คิด
ย้อนไปทำร้ายใคร หลวงพ่อนี่ดอนยังไม่บวชไม่มีค่าหัวนะ แต่พอบวชแล้ว

www.kalyanamitra.org
ต้าจะว่าน}jwmuunmดพ
คท}}อดทนบๆได้สูงถึงระฒันี้
เพทะคพเคารพครูบาอาจๆรถึแท้1
ยัง}าองใ}ง่เห็พะไรข้างหท้าเลอยัง
ว่ามาได้พาฒื แฒ่าทรงหึ b
เจองามช้าง... แท่หลวงพ่อถึทำ
คราวมี้ไม่ได้ทำเพราะความเทารพ
ครูบาอาจารยัออ่างเท่อวทำด้วยอำมาจ
แห่งความทสัm นึทถึงพระคุข
ของห่าม ที่เหมื่อยยาทยัมเราขึ้มมา

•it'

-slfmr.-

www.kalyanamitra.org
๒๙

มีค่าหัว ทางฝ่ายปกครอง ฝ่ายทหารเขามากราบแจ้งให้ทราบ


"ท่าน ท่านมีค่าหัวแล้วนะ"

"อ้าว เหรอมีก็มี"

"ท่านอย่าประมาทนะ"

"ก็ไม่ประมาทหรอก แต่ว่าจะให้ไปซื้อเกราะมาใส่หรือยังไง"
"ถึงยังงั้นท่านก็ต้องระวัง รถท่านนี่ ท่านไม่ควรจะนี่'งซํ้าคัน
นะครับ" แล้วกันจะให้หลวงพ่อไปเหมารถมานั่งหรือไง เขาก็แนะอย่างโน้น
อย่างนี้ต้วยความหวังดี ก็ขอบใจเขา แล้วตอบเขาไปว่า
"ผู้การฯ ถ้าอาตมาปอดแหกถึงขนาดนั้น ลูกศิษย์วัดเขาจะ
นึกยังไง เฮอะ...หลวงพ่อปอดแหกยังงี้ เรากลับไปนอนบ้านดีกว่า ขืนอยู่
เดี๋ยวถูกลูกหลงดายก่อน อีกอย่างซีวิดหลวงพ่อนี้ยกให้พระพุทธเจ้าไปแล้ว
เป็นดายยังไงก็เพื่อพระพุทธเจ้าไม่ไต้เสียดมเสียดายอะไรหรอก"
เขาส่ายหน้าแล้วพูดอะไรต่อรู้ไหม...เขาพูดว่า
"ผมเห็นคนดื้อมาก็มากแล้ว พอแก้ไต้ แต่พระดื้อนี่ไม่รู้จะทำ
ยังไง..."
ดูซิเขามาแหย่เรา แต่แหย่เรื่องอย่างนี้หลวงพ่อไม่สะดุ้งสะเทือน
หรอก ก็ตั้งหน้าปรับปรุงพื้นที่สร้างธุดงสถานเรื่อยไป ดอนนี้ชาวบ้านที่อยู่
ในเขดพื้นที่ของวัด ก็ยอมรื้อบ้านออกไปหมดแล้ว พวกเดินขบวนจะมาเผา
วัดก็เงียบไป แต่วันข้างหน้าจะมีอุปสรรคหนักหนายังไง ยังไม่รู้ รู้อย่างเดียว
ว่าเมื่อตั้งใจจะทำความดีแล้ว ดราบใดที่ยังไม่ถึงเบ้า จะไม่ยอมเลิกเด็ด
ขาด ที่ตั้งใจมั่นคงอย่างนี้เพราะอย่างน้อยก็ไต้เห็นผลของความตั้งใจจริง
มาแล้ว ดอนนั้นถ้าใจไม่มั่นคงว่าจะแทนคุณหลวงพ่อธัมมชโย ปฏิเสธ

www.kalyanamitra.org
๓๐

ท่านเรืองสร้างธุดงคสถาน อ้างว่าเหนื่อยมามากขออยู่เงียบ ๆ หรือขอไปอยู่


ทีว้ดทีบ้านเกิดเมืองกาญจน์ ถ้าคิดอย่างนี้ หรือตอบท่านไปอย่างนี้เมื่อครั้ง
นัน โดยไม่คิดถึงเรื่องบุญคุณที่ท่านบ้นหลวงพ่อขึ้นมาละก็ พวกเราที่นั่งกัน
อยู่ทีนีคงไม่มืโอกาสได้มาเจอกัน ไครจะไปอยู่ขุมไหน ชั้นไหนก็ไม่รู้กันละ
หลวงพ่อทบทวนดูชีวิตของตัวเองมาอย่างนี้ทุกปี ลูกของ
หลวงพ่อทุกคนใครยังไม่เคยทำ ไปทำเสียนะ ผลของของความอดทนที่พวก
เรารักษากันมาดลอด ๒๐ ปี ของการสร้างวัดพระธรรมกายน่ะ เป็นบุญ
เป็นบารมืมากจนประมาณไม่ได้เชียวละ วัดทั้งหลายในประเทศไทยที่เขา
สร้างกันมา ๙๐ ปีบ้าง ๑๐๐ ปี ๒๐๐-๓๐๐ ปีก็มื วัดที่ว่าใหญ่ ๆ ปรากฏว่า
ในพรรษาหนื่ง ๆ เขามืพระอย่างมากก็ ๔๐๐ ไม่เกิน ๙๐๐ รูป อันตับหนื่ง
อันตับสองทีชีงกันอยู่ก็มืวัดมหาธาตุฯ กับวัดปากนํ้าภาษีเจริญ บางปีวัด
ปากนำฯ กิมืพระมากที่สุดในประเทศไทย บางปีก็เป็นวัดมหาธาตุฯ ส่วน
วัดพระธรรมกายของเราเพิ่งสร้างมาได้ ๒๐ ปี ก็มืพระอยู่จำพรรษามาก
เป็นอันตับที่ ๓ ของประเทศแล้ว ถึอว่าไม่ใช่ธรรมดานะนื่ ได้เห็นหน้า
พวกเราตั้งใจ ประพฤติปฏิบ้ติธรรมกันในช่วงเข้าพรรษานี้ทั้งพระทั้งเณรก็
๔๓๓ รูป ตอนช่วงอบรมธรรมทายาท เดือนเมษายนอีกเกือบ ๑,๐๐๐ รูป
คิดเป็นตัวเลขแล้วมันครึ้มใจ ดีเหมือนกัน
มืพระมาก มีพื้นที่มาก จัดให้ดื ๆ ก็มืประชาชนอยากมา
ปฏิบัติธรรม ตอนนี้เข้าใจว่าวัดเราจะเป็นวัดที่มืคนฟังเทศน์มาปฏิบัติ
ธรรมมากที่สุดในประเทศไทยดือวันอาทิตย์ธรรมดาก็ ๑,000-๒,๐๐๐ คน
วันอาทิตย์ด้นเดือนนี่ ๙,๐๐๐-๖,๐๐๐ คน เดยมืบางเดือนถึง ๑๐,๐๐๐ คน
ส่วนงานใหญ่ ดือ วันมาฆบูชา วิสาฃบูชา และวันทอดกฐินนั้น อย่างน้อยก็

www.kalyanamitra.org
๓๑

๔๐,000-๔0,000 คน เมื่อธุดงค์ราชบูชา ๔ ธันวาคม ๒๔๓๐ เกือบ ๑


แสนคน เฉพาะพระทีมาร่วมอยู่ธุดงค์ ๗ วัน กืเกือบหมื่นรูปเข้าไปแล้ว นี่
ขนาดยังสร้างธุดงคสถาน ไม่เสร็จตามโครงการนะ
ผลของความอดทนผลแห่งความมีขันติของเราโดยอาคัยความ
เคารพครูบาอาจารย์ด้วยความกตัญฌูกตเวทีด้วย ทำ ให้เรามีโอกาสสร้างบุญ
สร้างบารมีได้เต็มที่อย่างนี้ นับเป็นวาสนาใหญ่ของเรา นึกอย่างนี้กืชื่นใจ
ชื่นใจแล้วกือดไม่ได้ที่จะนำมาเล่าให้ได้รับร้กันไว้ จะได้มีกำลังใจสร้างขันติ
บารมีให้ยิ่ง ๆ ขึ้นไป ต่อไปในวันข้างหน้า พวกทำนจะมีโอกาสสร้างบารมี
ได้ง่ายกว่าหลวงพ่อ เพราะได้รู้ขั้นตอนเหลี่ยมคูของพวกมารผลาญความดี
มาบ้างแล้วสมัยที่หลวงพ่ออายุเทำพวกท่านขณะนี้!ม่เคยมีใครมาฎฐิบๅยให้ห้ง
ทุกอย่างด้องคิตด้น ตัตสินถูกผิต ทำ ไม'ทำเอาเอง กว่าจะได้บวชอายุก็ปา
เข้าไปตั้ง ๓๑ ปี กว่าจะอธิบายถ่ายทอตเหตุผลให้พวกท่านได้เป็นขั้นเป็น
ตอนอย่างนี้ ก็ลุยมาโขกจนอายุขึ้นเลข ๔ พวกท่านตอนนี้อายุเท่าไหร่
สามเณรน้อยนั่นอายุเท่าไหร่...๑๒ ปี
อายุ ๑๒ ปี ก็ได้ยินเรื่องอย่างนี้แล้ว โซคดีกว่าหลวงพ่อเยอะ
หลวงพ่อเพิงมาคิตเหตุผลได้เมื่ออายุ ๔๐ ปีบริบูรณ์ ท่านสมบุญล่ะอายุเท่า
ไหร่แล้ว... ๓๐ ป ...โอ้โฮ อายุ ๓๐ นึได้ยินได้ฟังเรืองเหล่านี้แล้ว นับว่า
เป็นบุญของท่าน หลวงพ่อเมื่อตอนอายุ ๓๐ ก็ไม่เคยมีใครมาเล่าให้ฟัง
เรื่องแบบนี้ ก็เรื่องมันยังไม่เกิตยังไม่เท่านั้นนะ อายุ ๓๐ ท่านสมบุญได้
เป็นเจ้าอาวาสแล้ว กำ ลังวังชาก็ยังดี มีโอกาสลุยงานพระศาสนา ท่าความ
เจริญร่มเยนให้ชาวโลกได้อีกนาน รักษาความมีโชคเอาไว้ให้ดี แล้วตั้งหน้า
ประพฤติปฎิบ้ติธรรมของท่านเรื่อยไป

www.kalyanamitra.org
ท่านจะฒ้งรู้ฒ่ไปท.. ควร
ประหฤติปฏิป้ตตนด่อไปdฒ่ไร
กฒฒื่ท่านต้dmmวเป็ง
เ^ IH
ให้ได้ท่ฒท.. ฒี่านวชคมั้นี้
ตั้งใจจะมาhmบรนปนนิสัยดัวเรง Vt ill

ให้นพยิ่งพึ้ ๆ ไป ท่าคานอย่างที่
V เ 0 vts/

www.kalyanamitra.org
เพงที

กิจวัตรทืคว่ร
lit คิมติ

หลวงพ่อบอกให้พวกท่านตังหน้าตังตาประพฤติปฎิบตรรรม
เรื่อยไป แบบนี้ท่านจะต้องทำอะไรบ้างล่ะ
เรื่องแรก ก็ที่หลวงพ่อพูดให้ฟังว่า ทีหลวงพ่อมีสติบ้ญญา มี
ความรู้ความสามารถมาได้ในระตับนี้ เพราะอาศัยได้!!กตัวให้เป็นคนกล้า
ตัดสินว่าอะไรถูก อะไรผิด อะไรดี อะไรชั่ว อะไรควร อะไรไม่ควรมาตั้ง
แต่เล็ก รวมทั้ง!!กให้กล้าตัดสินใจว่าจะทำหรือไม่ทำอะไรด้วย พวกท่านก็
ต้อง!!กเรื่องนี้เหมีอนกัน อย่าปล่อยให้ตัวเองเป็นคนเรือยเฉือย ทำ ตามคำ
ผู้ อื่ นโดยไม่คิดถึงเหตุผลและ!!กคิดสร้างสรรค์งานพี่เป็นประใย'^'น์
แก่ส่วนรวมและพระศาสนาด้วย

www.kalyanamitra.org
๓๔

เรืองที ๒ เรืองการปรับปรุงต้วเองให้มี"ข้นติ ความอดทน


หลวงพ่อมีหลักในการยกระดับเพดานความอดทนนต่ละอย่ๅงให้สูงขึ้น0ย่ๅงใร
ก็เล่าให้ฟังแล้ว

คราวนี้เรืองที ๓ ก็เป็นเรืองทีท่านจะต้องรู้ต่อไปว่า แท้ที่


จริงท่านควรจะประพฤติปฏิบ้ติตนต่อไปอย่างไร

ก่อนอืนท่านต้องตอบดัวเองให้ไต้ท่อนว่า ท่านมาบวชทำไม
ถ้าตอบว่าบวชจะไปนิพพาน นิถูกดังเลย แต่เป็นคำตอบแบบกำปันทุบติน
แล้วถ้าตอบว่ามาบวชเพือสร้างบารมีให้ทํนพระพุทฐเ,จ้าหรืออุะตามระ
พุทธเจ้าเข้าพระนิพพานนี่ก็ถูกอีก แต่คำตอบอย่างนี้ในเซิงปฎิบ้ติแล้วยัง
ส่องทางไม่ค่อยชัด ไม่รู้ว่าจะต้องทำอะไรบ้าง ถ้าตอบให้คนฟังนึกออท
เหนชัตกว่านกต้องตอบว่า ทีมาบวชครังนี้ดังใจจะมาแกหัดอบรมบ่มนิลัยดัๆ
เองให้มันดียิ่ง ๆ ขึ้นไป อะไรที่มันเป็นความผิด ความชั่ว ความเลว ความ
ไม่ดในดัวจะแก้ไขให้มันหมดสินไป แล้วอะไรทีเป็นคุณงามความดีที่ยังไม่
เคยทำ ก็จะทำ ที่เคยทำแล้วก็จะทำให้ดียิ่ง ๆ ขึ้นไปถีงที่สุด ทำ ต'1มอย่าง
ที่พระสัมมาลัมพุทธเจ้าทำนทำ ตอบอย่างนี้จีงจะส่องทางในเซิงปฏิบัติไต้
มากขึ้น
แต่ถ้าจะตอบให้ชัดขึ้นไปกว่านี้ ชนิดทีเอามาตีแผ่ลันออกไป
เลย ก็ต้องตอบว่า ทีมาบวชครังนี้ ก็เพือจะมาอบรมปมนิสัยดัวเองในเรื่อง
๓ เรือง คือ

เรืองที ๑ การศึกษาภาคปรืย้ติ ตํ้งใจจะมาศึกษาภาคปรืย้ติ


ให้พร้อมเพื่อจะไต้มีความรู้เรื่องหลักธรรมของพระพุทฐศาสนา รู้วิธีปฏิบ้ติ

www.kalyanamitra.org
๓๙

ขัดเกลานิสัยตามวิธีการที่พระสัมมาส้มพุทธเจ้าทรงสอนไว้
เพราะฉะนั้นใครก็ตาม มาบวชอยู่วัตพระธรรมกายแล้วไม่
เรียนไม่ได้.หลวงพ่อต้องขอเคี่ยวเข็ญท่านเรื่องนี้นะโตยเฉพาะสามเณรนี่
ต้องไห้เรียนเต็มที่เลย สำ หรับพระภิกษุก็พยายามแบ่งเวลาผสัตเปลี่ยนกัน
ไปเรียน แต่เนี่องจากวัตเราเป็นวัตไหญ่จะไปเรียนพร้อม ๆ กันทั้งหมดก็
ไม่ไต้ หลวงพ่อกวาดวัตคนเดียวไม่ไหว ก็ต้องแบ่งหน้าที่ไห้ไปช่วยกันทำ
สาธุชนเขามาปฎิบ้ตธรรมกันมาก นํ้า ไพ่ ข้าวปลาอาหาร ก็ต้องไปช่วย
กันดูแล ไปช่วยกันเทศน์กันสอน ก็เพราะต้องเทศน์ต้องสอนต้วยนี่ละ
ความรู้ภาคปริย้ต็จึงต้องแน่น

อย่างไรก็ดี การเรียนภาคปรีย้ดนี่มี ๒ อย่างนะ อย่างหนี่งคือ


เข้าห้องเรียน เรียนทั้งบาลี เรียนทั้งนักธรรม เรียนกันเข้าไปไห้มากๆ นั้น
เป็นการเรียนภาคปริย้ต็ไนห้องเรียน แต่ยังมีภาคปรีย้ดนอกห้องเรียนอีกนะ
สำ คัญมากด้วย ท่านต้องทำกันไห้ได้ทุกรูป ปรีย้ตนอกห้องเรียนเป็นยังไง
ลูกเอ๊ย หนังลีอที่สำคัญมากของพระพุทธศาสนาคือ พระไตรป็ฎก ไนหสัก
สูตรนักธรรม หสักสูตรบาลี เขาไม่ได้สอนไห้อ่านพระไตรปีฎกหรอก
แต่ท่านต้องบังคับตัวเองให้อ่าน ไปอ่านให้จบนะ หลวงพ่อน่ะอ่านพระไตร-
ปีฎกจบตั้งแต่ยังไม่ได้บวช บวชแล้วก็ยังไปอ่านทบทวนอีก เพราะฉะนั้น
จึงรู้ว่าในนั้นมีอะไรดี ๆ มากมายเลย ท่านไตไม่ว่าจะได้เรียนปรีย้ติในห้อง
เรียนหรีอไม่ได้เรียนก็ตาม ขอให้หาเวลาไปอ่านพระไตรปีฎกไห้ได้ อย่า
บอกว่าไม่มีเวลา ถ้าท่านไม่อ่าน ท่านจะไม่เจอตัวจริงของพระพุทธศาสนา
จะเจอแต่ขี้ปากชาวบ้าน ซึ่งท่านจะมั่นใจได้ยังไงว่า ที่เขาเอามาพูด ๆ กัน

www.kalyanamitra.org
๓๖

นั้น ผิดหรือถูก ไปหาโอกาสอ่านกันนะ ไม่ได้มาก วันละหน้าวันละบทก็ยัง


ดีอ่านทุกวัน ๆ ผ่านไปสักพรรษาสองพรรษาเดี๋ยวก็เห็นหน้าเห็นหลัง
อีกประ๓ทหนึ่งถือเป็นการศึกษานอกห้องเรียนที่ผีประโยชน์
มากคือการฟังเทศน์ ผู้ฃึ้นเทศน์จะเป็นหลวงพ่อหรือหลวงพี่รูปไดรูปหนึ่งก็
ตาม ท่านต้องหาโอกาสไปฟัง บางรูปท่านอาจจะเทศน์ตะกุกตะกักไปบ้าง
ก็ฟังเถอะ เพราะกว่าท่านจะขึ้นเทศน์ท่านต้องต้นคว้ามาไม่น้อย ไปสรุปไป
จับประเด็นดีๆ คัตเลือกเอามาแต้ว ฟังท่าน ๒-๓ ชั่วโมงก็เท่ากับย่นเวลา
ต้นคว้าของเราไปไต้ตั้งหลายวัน

ถ้าท่านไม่ฟังเทศน์ไม่อ่านพระไตรปีฎก บวชไปก็ได้แต่เปลือก
ไม่เจอแก่นพระพุทธศาสนาเหมือนคนไทยทุงข้าวแต้วเทนํ้าทิ้ง บ้ทโธ่...
ส่วนที่มืตุณค่าที่สุดของข้าวที่หุงกินนั้นน่ะ นํ้าข้าวไม่ไซ่ข้าวสุก กลับไม่กิน
เทนํ้าข้าวไห้ไอ้ตูบกิน ตัวเองกินกากข้าว ของดี ๆ ไห้สุนัขกิน มันกินเข้า
ไปก็ยิ่งโตวันโตคืน ฉลาดวันฉลาดคืน นี่ถ้ามันไม่ติดคราบสุนัขมันจะฉลาด
แซงหน้าคนเอานะ เกือบเสียท่ามันแล้วไหมล่ะ กว่าจะรณรงค์ให้นึ่งข้าว
กินหรือให้หุงข้าวแบบไม่เช็ดนํ้าได้นึ่ เสียเวลาไปเป็นสิบๆ ปีเช็ยวท่านเอ๊ย
ถ้าท่านไม่ฟังเทศน์อุปมาเหมือนอย่างที่หลวงพ่อว่านั้นละ ไม่เห็นคุณค่า
สิ่งใกล้ตัว ไกล้เกลือกินต่าง สาธุชนเขาดั้นด้นมาแต่ไหนๆ ทั่วประเทศ มา
ฟังเทศน์ที่วัดพระธรรมกาย แต่พระ-เณรที่วัดพระธรรมกายไม่ได้ฟัง ไปทำ
อะไรเสียก็ไม่รู้ ถึงเวลาจะไข้ก็ด้องมาด้นเอง แล้วก็ผลัดวันประกันพรุ่งไม่
ได้ด้นอีก เลยโง่กว่าโยมหนักเข้าไปอีก ไปพิจารณาตัวเองกันไห้ดีนะ
เดี๋ยวจะว่าไม่เตือน

www.kalyanamitra.org
๓๗

"จำคำหลวงพ่อไว้ วันอาทิตย์ถ้าไม่ปางตายจริง ๆ อย่าไปไหน


มาฟังเทศน์กันให้ได้ ถ้าปางตายจริง ๆ ให้เขาหามมานอนฟังที่อาศรม
บัญฑิตก็เข้าท่านะ หลวงพ่อจะไห้เขาตามหมอมาฟังเสียด้วยกันเลย สาม
เณรก็เหมือนกัน ช่วยไปฟังหน่อยเถอะ หลับมั่งตื่นมั่งก็ยังดี อย่าไห้หลับ
หัวที่มตกลงมาก็แล้วกันนะ เณรนะ"

ไม่รู้เป็นยังไงหม่นี้ ญาติโยมมาปนให้ฟังเรื่อยว่า พระเณรวัด


พระธรรมกายพอฉันเสร็จ มั่งให้พรโงกเงก ๆบางองค์ลัปงกแต่ปากก็ไม่หยุด
ให้พร ถ้าถามก็คงได้คำตอบว่านอนดึก งานหนัก ไปจัดแจงปรับปรุงตัว
กันให้ดีนะท่านนะ รักษาสง่าราศีของหมู่สงฆ์กันหน่อย
เรื่องที่ ๒ หาเวลาศีกษทภาคปริย้ตทั้งในห้องเรียนและนอก
ห้องเรียนได้แล้ว ท่านต้องหาเวลามั่งสมาธิให้ได้ด้วย ท่านต้องมั่งสมาธิทุก
วัน จะมากจะน้อยยังไงก็ด้องมั่ง ถ้าไม่มั่งสมาธิทุกวันใจท่านจะหยาบ แล้วท่าน
ก็จะทนต่อการกระทบกระทั่งไม่ได้ ทนต่อความทะยานอยากในสุขที่ยิ่ง ๆ
ขึ้นไปไม่ได้ แล้วก็จะมือาการอย่างที่ผู้ใหญ่ท่านพูดว่า ร้อนผ้าเหลือง ซึ่ง
ไม่ข้าท่านก็ด้องจากหมู่คณะไป อยากอยู่สร้างบารมืร่วมกันนาน ๆ ท่านต้อง
มั่งสมาธิทุกวันนะ
เรื่องที่ ๓ กิจวัตรของท่านต้องไม่บกพร่อง กิจวัตรพระ ๑๐
อย่าง มือะไรบ้าง เรื่มตั้งแต่บิณฑบาต กวาดวัต ปลงอาบิติ ฯลฯ ไล่เรื่อย
ไปเชียว ท่านต้องทำ ถ้าท่านไม่ทำสิ่งเหล่านี้ ท่านไปไม่รอดเพราะแท้ที่จริง
แล้วกิจวัตรพระเป็นเรื่องของการtเกให้ท่านมืความรับผิดชอบต่อหมู่คณะ
ต่อล่วนรวม และต่อตัวของท่านเองด้วย

www.kalyanamitra.org
๓๘

เรืองบิณฑบาตก็นี่ท่านต้องทำถึงแม้ว่าเราจะมีอาหารพร้อม
ทีวัดไม่ต้องออกเดินบิณฑบาตก็ไต้ แต่หลวงพ่ออยากให้ทุกรูปหาโอกาส
ออกบิณฑบาต ผลัดเปลี่ยนกันไปก็ไต้ อย่างน้อยที่สุดไห้ไต้เดือนละครั้ง จะ
บิณฑบาตไนเขตรอบ ๆ วัด หรือจะไปไห้ไกลถึงไหนก็ตามไจ การบิณฑบาต
มีประโยชน์มีอานิสงส์มากมาย อย่างน้อยที่สุดก็ไต้ ๒ อย่างคือ
( ๑ ) ไต้ไปดูสภาพบ้านเมีอง สภาพลังคมของชาวบ้านชาว
เมีอง ว่าเดืยวนี้เขาเป็นกังไงกันบ้าง ญาดิโยมมาปรับทุกข์เอาพระเป็นที่พึ่ง
จะไต้พูดกันรู้เรื่องง่ายขึ้นเรืยกว่า พูดจาภาษาเดืยวกัน
( ๒ ) ไต้ไปเดินยืดเส้นยืดสาย ออกกำลังกายกันบ้าง เช้า ๆ
ดอนอรุณขึ้นนี่อากาศดืมากเลย
แต่ว่าถ้าวันไดไม่ไต้ออกบิณฑบาตท่านก็ต้องออทมาฉันกับ
หมู่คณะนะ ที่วัดพระธรรมกายนี่ถ้าไม่เจ็บไช้ไต้ป่วยจริง ๆ ไม่มีไครไปส่ง
อาหารไห้ท่านฉันที่กุฏิหรอก แค่ปวดหัวตัวร้อนเดินไต้ช่วยเดินออกมาฉัน
ที่เดืยวกับพระทั้งวัดหน่อยเถอะ
เกี่ยวกับเรื่องนี้ หลวงพ่อเคารพท่านฐิดิสุทโธอยู่ประการหนี่ง
องค์นี้อายุอ่อนกว่าหลวงพ่อ แต่พรรษาแอ่กว่านิดหน่อยเพราะบวชก่อน
ท่านสุขภาพไม่ค่อยดืเพราะอุบิดิเหตุรถควรซี่โครงกังต่อกันไม่ค่อยดืนัท ไห
ปลาร้ากังไส่เหล็กดามอยู่ ก่อนหน้านี้ทุกเช้า ไม่ว่าท่านจะหิวหรือไม่หิว จะ
ฉันหรือไม่ฉัน ท่านต้องออกมานังทีวงอาหาร บางวันหลวงพ่อเหินท่านนั่ง
เฉย ๆ ไม่ฉัน ก็ถามว่าทำไมไม่ฉัน ท่านตอบว่า "วันนี้!ม่หิว"
"อ้าว ไม่หิวแส้วออกมาทำไม" ท่านก็ตอบยั่วหลวงพ่อ

www.kalyanamitra.org
๓๙

"อยากจะมาดูว่าหลวงพ่อทัดดะดายไปแล้วหรือยัง ล้าดายไป
แล้วก็จะไล้จัดงานศพให้สมเกียรติ ส่วนองค์อื่น ๆ ก็อยากจะเว่าเขาเจ็บ
ไฃ้ไล้ป่วยไหม หรือว่าจะมีข่าวสารอะไรไห้รูกันบ้าง ไม่อยากดกข่าว"
ท่านตอบชัด เคารพรักท่านก็ตรงนี้ ไม่หิวไม่ฉันก็ออกมาทุก
เช้า เพราะกลัวจะตกข่าว ท่านถือว่าคนเราอยู่ด้วยกันเป็นหมู่คณะต้องมีความ
รับผิดชอบร่วมกัน หมู่คณะเขามีเรื่องราวอะไร ตัวเองไม่รูโม่ได้ นี่คือหนึ่ง
ในทีมงานสร้างวัดพระธรรมกาย นักรับผิดชอบที่ท่าไห้เงิน ๓,๒๐๐ บาท
กลายเป็นฝันที่เป็นจริง เดี๋ยวนี้หลวงพ่อก็ไม่ทราบหรอกว่ามีใครที่มีคุณธรรม
อย่างนี้บ้าง ล้าไม่มี ก็ขอให้รับทราบไว้นะว่า เขามีจิดใจกันอย่างนี้จึงใช้
เงิน ๓,๒๐๐ บาท สร้างวัดใหญ่ในเนี้อที่ ๑๙๖ ไร่ ให้ท่านอาศัยสร้างบารมี
มาได้ จนถึงทุกวันนี้
ใครที่ภายในเดือนหนึ่งยังไม่ได้ไปบิณฑบาต ไปเสีย14ะ จะกี่ครั้ง
ก็ดามใจ แล้วท่านจะได้เหินความเปลี่ยนแปลงของโลก เหินความวุ่นวายของ
ชีวิตผู้ครองเรือน ในเวลาเดียวกันท่านจะได้รับทราบถึงความทรหด ความ
แข็งแกร่งของลังขารของท่านว่าตอนนี้เป็นอย่างที่ท่านหวังไหม คงมีบาง
รูปหรอกน่ะที่ต้องอุทานในใจว่า "เอ้ย อะไรนี่ เดินบิณฑบาตมาได้ไม่กี่กิโล
หอบขนาดนี้แล้วเรอะเรา" จะได้รู้ตัวไม่ประมาท
อีกอย่างหนึ่ง อันนี้ขอให้รับทราบกันไว้ เป็นความรู้เกี่ยวกับ
สุขภาพ หลวงพ่อได้ช่วยชีวิตพระไว้หลายรูป ญาติโยมอีกหลายคนให้พ้น
จากโรคอัมพาต อัมพริกคือหลวงพ่อได้พบพระบางรูป ไม่ใช่ทุกรูป เป็น
ประเภทผอมแห้งแรงน้อย เดินกระย่องกระแย่ง ทำ ทำจะไม่ไหว จะเป็นอัม

www.kalyanamitra.org
๕๐

พาดอัมพรึกเอา กินยาอะไรก็ไม่หาย ผอมแต่ไม่ได้เป็นวัณโรค เป็นวันละ


โรคหรือวันละหลาย ๆ โรคมากกว่า เดี๋ยวเป็นไอ้นั่นเคี้ยวเป็นไอ้นี่ ในกุฏิ
มีแต่ยา หลวงพ่อเองเมื่อก่อนก็มียาเต็มกุฏิเหมือนกัน แต่เดี๋ยวนั่1ม่ด้องใช้
แล้ว

หลวงพ่อทำยังไงถึงไม่ต้องใช้ยา หลวงพ่อหันมาใช้วิธีกาย
บริหารบ้างดัดตนบ้าง บางครั้งเส้นสายดึงมากๆ ก็ให้เต็กวัดมาช่วยนวด
ช่วยดึงให้บ้าง อาการจีงดึขึ้นมาก ต่อ ๆ มาวัดขยายใหญ่ขึ้น หลวงพ่อเลย
ต้องเดินดรวจวัดทุกเช้า บางวันก็ใช้โอกาสนี้พาลูกศิษย์เดินชมวัด เดินกัน
ดั้งแด่อรุณขึ้นเลย ไม่ไต้พาไปเดินช่วยกันชมว่าวัดเราสวยหรอกนะ ไปเดิน
ดรวจลูความบกพร่องของเสียของชำรุด จะไต้ซ่อมแซมเสียแต่เนี่นๆไม่ให้
บานปลายใหญ่โด อันไหนที่มันดึมันทนก็ให้หลักการเขาไป จะไต้ใช้เป็นแบบ
อย่างการก่อสร้างในวันช้างหน้า ระหว่างนั่นก็ลังเกดดูสุขภาพดัวเอง เออ
เดินเหินก็คล่องดึ เส้นสายไม่ค่อยยึดเหมือนแด่ก่อน ไอ้เดึก ๆ ที่เดินดาม
เมื่อก่อนเหินกระยึดกระยาด เดี๋ยวนี้กระฉับกระเฉงขึ้นมาก การเดินนี้มื
ประโยชน์ต่อสุขภาพแน่ ๆ
ก็เอาหลักการนี้มาพิจารณาพวกผอมแห้งแรงน้อย พวกที่ไป
หาหมอกี่หมอๆ ก็หาสาเหตุไม่เจอ หมอบอกไม่เหินท่านเป็นอะไร บ้ดโธ่
หมดแรงจะตายเอายังบอกไม่เป็นอะไร ก็โกรธหมอละนะ แต่หมอเขาก็ไม่
ได้ตรวจชุ่ย ๆ หรอก ประเภทนี้เป็นลักษณะเส้นยึด เพราะเครืยต เพราะ
เกร็งด้วยสาเหตุหลายๆ อย่าง เครื่องมือแพทย์ธรรมดาตรวจไม่เจอแน่ วิธี
แก้ไม่ยาก ได้เดินบิณฑบาตรับอรุณวันละกิโลสองกิโล โดยเฉพาะเดินยรไป
บนก้อนกรวดก้อนหิน ที่มันเป็นดะป่มดะป่า ก้อนหินก้อนกรวดเหล่านั้น

www.kalyanamitra.org
(ร^(ร)

มันจะนวดฝ่าเท้าให้เอง วิธีนี้เส้iเมันจะคลายตั้งแต่เท้ายันศีรษะเลย แล้วอาการ


ป่วยทั้งหลายมันจะค่อย ๆ ดีขึ้น
หลวงพ่อเคยทดลองรักษาพระที่ป่วยเป็นอัมพาตเพิ่งหาย ยัง
ต้องไซ้ไม้เท้าเดินกระย่องกระแย่ง ดูท่ากว่าจะเดินไต้คล่องคงอีกนาน หลวง
พ่อก็ถามท่านว่าอยากจะหายเร็ว ๆ ไหม จะให้คาถา ท่านก็รับเพราะ
อยากจะหายเดิมทีแล้ว หลวงพ่อก็ให้คาถาท่านไป คาถาก็ไม่มีอะไรพิสดาร
ก็บท "สัมมา อะระหัง" ของหลวงพ่อวัดปากนํ้าภาษีเจริญนั่นแหละ แต่ใส่
กรรมวิธีเซ้าไปด้วยว่าต้องเสกยังงํ้น ต้องเป่ายังงี้ ยักย้ายถ่ายเทว่าเรื่อยไป
ก็รู้อยู่ว่าท่านชอบขสัง แต่กำกับบทสำคัญไว้บทหนึ่งว่าท่านต้องออก
บิณฑบาตเอาบุญจากการบิณฑบาตเซ้าช่วยด้วย โดยเฉพาะเส้นทาง
บิณฑบาตเส้นไหนที่ขรุขระทุรกันดารมาก ๆ ให้ท่านหมั่นเดินไปเส้นทางนั้น
จะไต้บุญมากเป็นพิเศษ ส่งให้ท่านหายจากอัมพาตเร็วขึ้น ก้อนหิน
ก้อนกรวดตะป่มดะป่า อย่าไปเลี่ยงยรลงไปเลย แล้วอย่าลืมท่อง "สัมมา
อะระหัง" ไว้เรื่อย ๆ ทั้งวันทั้งคืน
ความจริงท่านก็คงไม่อยากจะเชื่อหรอก แต่ว่าจนใจไม่รู้จะ
รักษายังไงแล้วก็เลยต้องเชื่อ ไต้คาถาไต้วิธีเสกกำกับไปด้วยหน่อยค่อยใจ
ขึ้น แล้วท่านก็ไปทำอย่างที่หลวงพ่อบอก

๒-๓ เดิอนต่อมาท่านกสับมาหาหลวงพ่อ ยิ้มแปันหน้าใสมา


เชียว เดินเหินคล่องไม่ถือไม้เท้ามาด้วย แล้วท่านก็เล่าให้ฟัง
"แหมท่าน ๗ วันแรกนึ่ผมบิณฑบาตไปก็ด่าแม่ท่านไป"
"อ้าว แล้วกัน...ทำไมล่ะ"

www.kalyanamitra.org
๔๒

"โธ่ท่าน มันเจ็บเหมือนกับเอาเข็มไซเข้าไป"

มันเจ็บเพราะเส้นมันขอดอยู่ใต้ฝ่าเท้าพอโดนอะไรตะปุมตะ
ปาทิมเข้าหน่อย มันก็ต้องเจ็บเป็นธรรมดาก็ทิแรกท่านจะเอาขกัง บอกเรื่อง
จริงเดี๋ยวก็จะไม่เชื่อ ก็เราไม่ใช่แพทย์ไม่ใช่หมอปริญญา
"ที่เหยียบไปบนหิน มันเจ็บแปล๊บแล่นถึงกลางกะโหลกเลยนะ
ท่าน ผมน่ะด่าเลย" เฮอะ วาสนาเรา แนะให้เขาจะเอาบุญกกับถูกด่า ไม่
เป็นไรไม่ว่ากัน "แด่ว่าพอเลย ๗ วันแล้ว เส้นมันคงเริ่มคลาย รู้สึกเลยว่า
เส้นมันคลาย ผมก็เลยหายวันหายคืน ไม้เท้าน่ะโยนทิ้งไปแล้ว พอเดิน
คล่องก็มาเยี่ยมท่านทันที สงสัยว่าไอ้ความตะปมตะป่าของก้อนกรวดก้อนหิน
มันคงช่วยนวดเส้นใต้เท้าผมใช่ไหมครับ"
เหินท่านหายก็ดีใจกับท่าน ก็หสักการนี้แหละที่ญี่ป่นบ้าง
จีนบ้าง เขาทำรองเท้าตะป่มตะป่ามาขายพวกเรา แพงต้วยใช่ไหม ท่านเอ๊ย
ไม่ต้องไปซื้อมาหรอกนะ เดินถอดรองเท้าบิณฑบาตเข้าทุกเข้า ไห้ก้อน
อิฐก้อนหินมันช่วยที่มฝ่าเท้าให้ปอย ๆ เส้นคลายแล้วโรคมันก็หายเอง ไม่
ต้องไปเสียสตางค์ซื้อรองเท้าให้โง่ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า สมเด็จพ่อ
บรมครูของเราท่านให้วิธีไว้แล้ว เอามาไข้กันเสียนะ

มืโยมอีกคนหนึ่งเป็นอัมพาตเหมือนกันลูกๆพามาหาหลวงพ่อ
อาการก็อย่างที่ว่ามาแล้ว เวลาไปไหนเดินไต้ ๒-๓ ก้าว ก็ต้องเกาะต้องให้
ประคองกันไป รายนี้เขามีฐานะค่อนข้างดี หลวงพ่อก็เลยทำหินเสกให้เขา
ต้องเสกเหมือนกัน วันดีคืนดีกับคนบางคนก็ต้องเอาขสังเข้าช่วย หลวงพ่อ
ก็นักเสกหนังเหนียวเก่า ถึงจะเผาตำราไปแล้วท่าก็ยังให้ หลวงพ่อให้เขา

www.kalyanamitra.org
๔๓

ขุดเป็นลำรางกว้าง ๔๐ ชม. ยาวประมาณ ๔ วา ลึก ๓ นิ้ว แล้วให้เอาเม็ด


กรวดจากแม่นํ้าหรือทะเล ที่เป็นก้อนกลม ๆ ไม่ใช่กรวดอย่างที่ทำถนนนะ
ให้เอากรวดมาเทใส่ลงใปให้เต็ม แล้วทำราวจับข้างหนึ่ง สั่งให้โยมคนนิ้เดิน
บนกรวดทุกวัน เวลาประมาณ ๘-๙ โมงเข้า หรือ ๔ โมงเย็น กะเอาเวลา
แดดอ่อนๆ หรือแดดร่มลมดกก็แล้วกัน ก็จะให้กรวดที่มฝ่าเท้าช่วยนวดเส้น
นั่นแหละ แต่เราใม่บอกเขาดรงๆ ก็เขาจะเอาขลังน่ะก็ต้องให้อย่างขลัง
เสกนั่นเป่านึ่ให้ถูกใจ
พอเวลาผ่านไปใต้ประมาณ ๑ เดือนเขาก็มาหา ดืใจเดินยิ้ม
ร่ามาเชียว เพราะหายดีแล้ว

"โอ้โฮ หินเสกของหลวงพ่อนึ่ดืจริง"

เอ้าดืก็ดื หลวงพ่อแนะนำอย่างนิ้โปหลายราย ดอนหลัง ๆ นึ่


หลวงพ่อไม่เสกไม่เป่าให้ใครแล้ว ไม่อยากให้ถูกลือว่าเป็นเซียน เดี๋ยวจะดัง
จัด ใข้วิธีบอกเหตุผลไปตรงๆ เลย เชื่อก็เอาไปทำ ไม่เชื่อก็ตามใจ
พวกท่านนะ ใครที่รู้สึกว่าสุขภาพไม่ค่อยดี ลุกขึ้นไปบิณฑบาตเสีย การไต้
เดินยืดเส้นยืดสายช่วยเราไต้หลายอย่าง พวกที่ท้องผูก ฉันไม่ค่อยไต้ ถ่าย
ไม่ค่อยคล่อง ไปบิณฑบาตเข้าบ่อย ๆ เถอะรับรองงวดนิ้ถ่ายคล่องแน่ ขืน
เอาแค่ฉันแล้วก็นั่ง ๆ อายุท่านจะไม่ยืน
อีกเรื่องหนึ่งเป็นกิจวัตรที่บางรูปอาจจะเซีงไปบ้าง แค่ท่าน
ต้องทำคือเรื่องการไปให้กำลังใจญาดิโยม บางครั้งพ่อแม่เขาตาย เขา
มาบอกหรือม็คนมาล่งช่าวท่านต้องไปงานศพเขาบ้าง คนเราเวลาพ่อแม่
ดายก็เศร้าโศกต้วยกันทั้งนั้น ใจคอพะว้าพะวัง ไม่รู้จะทำอะไรถูก คำ เทศน์

www.kalyanamitra.org
๔๔

คำ สอนเคยฟังมาเท่าไรลืมหมด จับต้นซนปลายไม่ติดหรอก ดอนนั้นเขา


ต้องการที่พึ่ง ถ้าไต้เห็นพระที่เคยคุ้น พระที่เคยตักบาตรไห้ประจำ เคย
ถวายภัดตาหารบำรุงท่านมาเอง หรือพ่อแม่ที่ตายไปเคยบำรุงท่าน
แล้วท่านอุตส่าห์มาในงานศพ ใจมันชื้นขึ้นมาเชียวแหละ ใจชื้นตั้งแต่นึก
ว่าหลวงพ่อหลวงพึ่ ไม่ทิ้งเรา วันนี้พระมาฟังสวดพระอภิธรรม ยังไงเสีย
พ่อแม่ที่ละโลกไปแล้วคงไต้บุญมากคงไปดี
เอาเถอะจะไปดีหรือไม่ดีอย่างน้อยเจ้าภาพก็ไจดีชื้นบ้างละ
เขาสบายใจเราสบายใจเดี๋ยวบุญเป็นสายโยงมาถึงวัด ไม่ต้องออกปากชวน
ก็มาเอง จะเทศน์จะสอนอะไรก็ง่าย ดีหนักชื้นไปอีกเพราะเขายึดธรรมะ
เป็นที่พึ่งแล้ว เพราะฉะนั้นเรื่องรักษาศรัทธาญาติโยมนี่ท่านต้องทำ ถือว่า
เป็นกิจวัตรอย่างหนี่งของพวกเรา
นอกจากบิณฑบาต กวาดวัด ปลงอาบ้ติ สวดมนต์ทำวัตรทั้ง
เช้าทั้งเย็น พร้อมทั้งลงปาฏิโมกข์ไม่ยอมขาดและไปงานศพอย่างที่ว่าแล้ว
เห็นมีงานอะไรเป็นส่วนรวม อย่าดูดาย ลูกเอ๋ย การบริหารสมบิดพระศาสนา
นี่ดูดายไม่ไต้เลย พระพุทธเจ้าท่านทรงเตือนไว้แล้ว จำ ไต้ไหม
๑. ของหายต้องหา ทางที่ดีปัองกันไม่ให้มันหายต้วย ทำ
บัญชีไว้ให้ดี เก็บให้เป็นที่ แล้วกำหนดตัวบุคคลผู้ดูแลไว้ให้ชัดเจน ของจะ
ไต้ไม่หาย

๒. ของเสียต้องซ่อม ของอะไรชำรุดเสียหายนิด ๆ หน่อย


แล้วไม่ซ่อมขืนใช้ไปไม่ช้าก็เสียมาก เสียเงินเสียทองหนักเช้าไปอีก ของ
เสียแล้วยังไม่พอ ญาติโยมก็เสียศรัทธาไปต้วย ที่ร้ายคือสันดานคนก็เสีย

www.kalyanamitra.org
กลายเป็นคนมักง่าย ดูดายชอบเกี่ยงงาน เห็นแก่ตัวมากขึ้นๆ คนแบบนี้!ม่
มีทางเจริญในพระศาสนาแน่นอน
๓. ใช้ของต้องรูจักประมาณ นั่งสมาธิมาก ๆ สติดี ๆ รู้จัก
ตัวเองให้ไต้ มันก็ประเมินงาน ประมาณตนได้อย่างที่ว่ามาแล้ว
๔. ไม่ตั้งคนพาลเป็นหัวหน้างาน ต้องไม่เอาคนพาลมาเป็น
เจ้าหน้าที่ แล้วคนพาลประเภทที่น่ากลัว คือ พวกพาลซึมลึก ส่วนคนพาล
ประเภทพาลโฉ่งฉางไม่ค่อยน่ากลัวเท่าไหร่ เพราะดูออก จะจัดการแก้ไข
หรือจะไล่ส่งก็ตัดสินได้เร็ว แต่พวกพาลซึมลึกนี่ดูยาก คือเป็นพวกไม่ค่อย
ปรับปรุงตัวเอง เรื่อย ๆ เฉื่อย ๆ สอนก็ดื้อ ๆ ด้าน ๆ แนะนำอะไร ก็ไม่ค่อย
ตัดสินใจที่จะทำ เห็นอะไรไม่ชอบมาพากลก็ปล่อยเลยตามเลยใครมาปรึกษา
หารึอถามความเห็นอะไรก็ว่า ดี ๆไม่ดูไม่แลไม่เกี่ยง เป็นประเภท "หลวงปู
ดีเน๊าะ" เห็นอะไรเสียอะไรหายก็ว่าช่างมันเถอะ เดี๋ยวมันก็ดีเอง
"หลวงปู ผมจะฉันข้าวเย็นละนะ ไม่งั้นไม่ไหว หิวเหลึอเกิน
นอนไม่หลับ"
"เออ..ดีเน๊าะ"

"หลวงปู เวลาเรึยนผมง่วงจัง ต้องสูบบุหรื่มันถึงจะแก้ง่วงได้"


"เออ..ดีเนำะ"

แบบนี้นิมนต์ไปข้างหน้าก่อนเถอะ เกิดกี่ชาติๆ อย่ามาอยู่ร่วม


กันเลยเพราะดูไม่ออกว่าขึ้เกียจหรึอปลงตกไม่อยากเสียเวลาไปวิเคราะห์ท่าน
คนบางประเภท "ขยันแต่ไม่ชอบตัดสินใจ" ไม่ชอบการปรับ
ปรุงเปลี่ยนแปลง พวกนี้ก็ไม่น่าเอามาใช้เหมีอนกัน เพราะจริง ๆ แล้วเป็น

www.kalyanamitra.org
๔๖

คนประเภท "ขยันแต่โง่" ใช้ไม่ได้ เป็นพระก็ไม่เจริญก้าวหน้าในพระธรรม


วินัย เป็นเด็กวัดก็ไว้วางใจให้ทำงานสำคัญไม่ได้ หนักแรงหนักใจหัวหน้า
งานเปล่า ๆ เพราะไม่รู้จักเปรียบเทียบ ไม่รู้จักปรับปรุง ไม่รู้จักตัดสิน
ตัดสินใจอะไรก็ไม่เป็นข้อสำคัญมาอยู่ด้วยกันนาน ๆ เรานั่นแหละจะสันดาน
ไม่ดี กลายเป็นคนปากร้าย ใจร้อน เพราะคิดแก้ลำคัดนิสัยคนพวกนี้อยู่
เรื่อยๆ
ท่านเอาหสักเกณฑ์ที่หลวงพ่อว่า ไปคัดเลือกคนมาใช้งานให้
ดีนะ พวกเฉื่อย ๆ แฉะ ๆ อยู่ในครัวเห็นมดขึ้นข้าวสารก็ว่า ไม่เป็นไร มด
มันไม่มีไร่ไม่มีนาทำกิน มากินข้าวของเราหน่อยจะเป็นไร..มดขึ้นกุฏิเร๊อะ
ไม่เป็นไร ก็มันไม่มีที่อยู่จะไล่ให้มันไปอยู่ที่ไหนล่ะ..ไอ้คนพวกนี้เวลาถูกยุง
กัด ไม่เห็นมันบอกว่าไม่เป็นไร ยุงมันไม่มีไร่ไม่มีนาทำกิน ให้มันกินเลือด
บ้างพอกันตาย ไม่เห็นมันพูดอย่างนั้น เห็นตบยุงแผละ เอามันถึงตายทุกที
คนประเภทนี้มาเป็นอุบาสกอุบาสิกาอยู่ที่วัดไม่ได้ เป็นผู้ชายก็อย่าชวน
มาบวช เพราะต้องไข้บทแกมาก กำ สังอย่างเราเอาไม่ไหวหรอก ให้ทำน
วัดอื่นที่เก่งๆ เอาบุญก้อนนี้ไปก่อน ชองเราขอเลือกที่มีแววดีๆ ถ้าทำอย่าง
นี้ทำ นจะสบาย หลวงพ่อก็สบายด้วย ถ้าทำนไม่รู้จักคัดเลือกคนมาบวช
มาเป็นเจ้าหน้าที่วัด อีกหน่อยท่านก็กลายเป็นพระปากจัด ต่าเช้าต่าเย็น
ให้หลวงพ่อได้ยิน
กิจวัตรที่หลวงพ่อยกเอามาแจกแจงอยู่นี้ เป็นเพียงส่วนหนึ่ง
ในกิจวัตรพระ ๑๐ ประการขยายความเพื่อส่องทางเชิงปฏิบ้ติ ให้พวกท่าน
เห็นง่าย ๆ ส่วนข้ออื่น ๆ จะหาโอกาสขยายความให้อีกในวันข้างหน้า
สำ หรับคราวนี้ยกขึ้นมา เพื่อยํ้าให้พวกท่านมั่นใจว่า สิ่งเหล่านี้

www.kalyanamitra.org
๔๗

แหละคือหน้าที่ที่แท้จริงของพระนักสร้างบารมี คือเมื่อท่านทำแล้ว บารมี


ทั้ง ๓๐ ทัศจะมาเอง ตั้งแต่ทานบารมี อุปทานบารมี ปรมัตถ์ทานบารมี
ฯลฯ ทุกอย่างทุกชั้นกลั่นกันมาเลย ทั้งหล่อหลอม ทั้งขัดเกลาท่านให้เข้า
ไปในเส้นทางที่ประกอบไปด้วยมรรคมีองค์ ๘ โดยปริยาย แล้วแน่นอน
วันหนึ่งท่านด้องเข้าถึงธรรมกาย ยังไงก็ด้องเข้า มันเป็นอัดโนฟ้ติ แม้ไม่
ทันตั้งใจตั้งท่าก็เข้าได้ ผิดกับบางพวก ตั้งใจจะให้เข้าเสียเหลือเกิน หน้าที่
การงานทิ้งหมด ตื่นนอนแทนที่จะเก็บที่นอนให้ดี อื้อ...เสียเวลานงสมาธิ
หมู่คณะ เขาทำงานกัน ไม่เอาละเดี๋ยวมันจะแย่งเวลาศึกษาธรรมะของเราไป
พวกนี้อย่าหวังเลยว่าจะเข้าถึงธรรมกาย เข้าอะไรก็ไม่ได้ทั้งนั้น ไปไม่รอด
แต่ว่าล้าถึงเวลาศึกษาภาคปริย้ติ ก็รีบไปศึกษา ถึงเวลาฟังเทคน์
ก็ไปฟัง ถึงเวลานั่งสมาธิก็นั่งตัวตั้งเลย นั่งมันเข้าไป ถึงเวลากวาดวัด กวาด
เข้าไปกวาดให้ด้ามไม้กวาดคอดไปทีซิน่า อยากจะเห็นเหมือนกัน ทำ หน้าที่
ให้ครบให้ดีที่สุดเรื่อยไป เดี๋ยวดีเอง ทุกอย่างที่อยู่ใกล้ตัวจะเรียบร้อยไป
หมดทุกอย่าง กิเลสในตัวก็หสุดหมด มันทานอยู่ไม่ได้หรอก
สำ หรับวาระวันคล้ายวันเกิดของหลวงพ่อปีนี้ หลวงพ่อก็ขอ
สรุปข้อคิดความเห็นอันเกิดจากการประพฤติปฏิบ้ติธรรมของหลวงพ่อเอง
ที่ได้รับความก้าวหน้ามาดามสำตับ ๆ เท่าที่เห็นว่าจะเป็นประโยชน์ สำ หรับ
นักสร้างบารมีไว้เป็นเรื่องหลักใหญ่ ๓ เรื่องคือ
๑. ขอให้ท่าน!!กเป็นคนรู้จักตัดสินและตัดสินใจ รู้จักเปรียบ
เทียบ เพราะจะทำให้ท่านเป็นคนว่องไว ตัดสินใจฉับพลันในทุกเรื่อง สามารถ
แก้ไขปรับปรงตัวเองได้โดยง่าย

www.kalyanamitra.org
(ร!<ei

๒. ให้ท่านพยายามยกระดับของความอดทน ซึ่งเป็นพื้น
ฐานในการสร้างบารมีให้สูงขึ้นเรื่อย ๆ ส่วนวิธีการนั้นถ้าจะตามอย่างหลวงพ่อ
ก็ต้องแกในเรื่อง ๒ เรื่องคือ
๒.๑ timวเองให้มากด้วยความเคารพ
๒.๒ ^เกตัวเองให้มากด้วยความกต้ญญร้คุณและการตอบแทน
ร yy ,

ถ้าทำ ๒ อย่างนใด้ ทำ นจะสามารถยกระดับความอดทนขึ้นไปได้ไม่รู้จบ


๓. ท่านต้องร้ว่าการบวชของท่านนี้ บวชมาเพื่อแกหัดอบรม
ดนให้ดีขึ้น ในการธีเกหัดอบรมตนให้ดีขึ้นนั้น ท่านมีความจำเป็นจะต้องทำ
๓ เรองคอ

๓.๑ ศึกษาภาคปริย่ติให้เต็มที่
๓.๒ ตั้งใจนั่งสมาธิกันอย่าง ไม่ลดละ
๓.๓ กิจวัดรต่าง ๆ ของทำน ทำ นจะด้องหมั่นปรับปรุงให้
เหมาะสม ทั้งกิจวัดรที่เป็นส่วนดัวและกิจวัดรที่เป็นส่วนรวมของคณะสงฆ์
ทั้งหมด
ถ้าท่านไต้ประพฤติปฏิบ้ติอย่างที่หลวงพ่อแนะนำ การเข้า
ถึงธรรมกายก็ไม่ใช่เรื่องยาก ยากนํะยากอยู่หรอกลูกเอ๋ย แต่ไม่ยากจนเกินไป
มีหนทางที่จะเป็นไปไต้และที่แน่นอน ถ้าไต้ทำตามที่หลวงพ่อว่ายังไง ๆ
เสียเราคงจะไต้ฝากผีฝากไข้กันไปจนตลอดชีวิต คงไม่สิกขาลาเพศหรือตก
หลุมตกร่องเสียกลางทาง แล้วเมื่อถึงวันที่เราเข้าถึงธรรมกายไต้พร้อมกัน
หมดทุกคน เราจะไต้ชื่นใจหาย เหนื่อยกันเสียที มันคงไม่ข้าเกินไปนะลูกนะ
ลำหรับวาระนี้หลวงพ่อขอฝากข้อคิดไว้เพียงเท่านี้
ด้วยอำนาจบารมีธรรมแท่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพทธ-

www.kalyanamitra.org
๔๙

เจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า พระอรหันดเจ้าทั้งหลาย อำ นาจบารมีธรรมที่


หลวงพ่อได้สร้างสมอบรมมาตีแล้ว นับด้วยร้อยชาตีพันชาติ หมื่นชาติ
แสนชาติก็ตี ในปัจจุบันชาติก็ตี และที่จะบำเพ็ญให้ยิ่งๆ ขึ้นใปในภาย
ภาคหน้าอีกด้วย รวมทั้งความปรารถนาตีที่พวกเราทุกๆ คนมีต่อหลวงพ่อ
อยากให้หลวงพ่อมีอายุยีนยาว สุขภาพพลานามัยแข็งแรง ใด้สร้าง
บุญสร้างบารมีใด้เตีมที่เป็นอาทิ ขออำนาจบารมีธรรมทั้งหลายเหล่านั้น
จงประมวลรวมเข้าด้วยกันเป็นตบะ เป็นเดชะ เป็นพลวปัจจัยส่งผลดลบันดาล
อภิบาลด้มครองปกป้องและรักษา ให้ลูกๆ ของหลวงพ่อทุกรูป ทุกคน มี
ความอดทนที่จะสร้างบารมีเป็นเลิศ สามารถยกระดับแห่งความอดทน นั้น
ให้สูงยิ่งๆ ขึ้นใปใม่มีขอบเขด ให้ลูกๆ ของหลวงพ่อทุกคนบำเพ็ญบารมี
ใปใด้ดลอดรอดฝัง ปร้บปรุงกาย วาจา ใจของดนเองให้ผ่องใส ให้สะอาด
ให้บริสุทธ ใม่มีตำหนิใดๆ ทั้งสิ้น ให้สามารถประดับประคองดัวเองและหมู่
คณะ ให้พ้นจากภัยพ็บํดต่างๆ เตินใปดามเล้นทางอันประเสริฐ ซึ่งประกอบ
ด้วยมรรคมีองค์ ๘ ของพระสัมมาส้มพุทธเจ้าใปใด้อย่างง่ายดาย ทุกภพ
ทุกขาติดราบเห่าเข้าถึงพระนิพพาน เทอญฯ

\ I /

www.kalyanamitra.org
www.kalyanamitra.org
^านํ้าท่วมจนพวกเราต้องไปลอยคออยู่
แล้วมีคนเอาเรือใหญ่มารับเราและพรรคพวกเราขึ้นเรือ
แล้วเขายังตามเก็บคนที่ลอยคออยู่ว่ายนํ้าต่อไปอีก
เราก็ช่วยเขาพายเรือไป
พอไปสักระยะหนึ่งเราชักเหนึ่อย
ล้าเราจะโวยวายกับคนทีอยู่ในเรือว่า
เฮ้ย ไล้เรือลำนี้เมื่อไรมันจะหยุดซักทีวะ
เรามีสิทธึ๋โวยวายไหม
ในเมื่อเรือลำนี้คนอยู่มาก่อน
เขาก่อเขาพายกันมาแล้วเป็นปีๆ ช่วยคนมาตลอดทาง
เรามาช่วยเขาพายไต้กระจี๊ดเดียวก็โวยวายว่าเหนึ่อย
จะหยุดพาย หยุดไม่หยุดคนเดียว
ขวนคนอื่นหยุดต้วย เรามีสิทธิ๋ไหม

www.kalyanamitra.org

You might also like