You are on page 1of 10

1

ข้อสอบ 9 วิชาสามัญ สังคมศึกษา 2555


แบบปรนัย 5 ตัวเลือก เลือก 1 คาตอบที่ถูกที่สุด
จานวน 50 ข้อ ข้อละ 2 คะแนน รวม 100 คะแนน
ข้อ 1. หลักคำสอนของแต่ละศำสนำมีควำมแตกต่ำงกันในเรื่องใด
1. กำรมีควำมอดทน 2. กำรมีควำมรักควำมเมตตำ
3. กำรสงเครำะห์ช่วยเหลือกัน 4. กำรทำควำมดี ละเว้นควำมชั่ว
5. กำรบรรลุเป้ำหมำยของศำสนำ

ข้อ 2. ข้อควำมเกี่ยวกับคัมภีร์พรำหมณ์-ฮินดูข้อใดไม่ถูกต้อง
1. คัมภีร์พรำหมณ์ทุกประเภทสอนเรื่องพรหมและอำตมัน
2. คัมภีร์พระเวทถือว่ำเป็นสิ่งที่ได้ยินได้ฟังมำจำกพระเจ้ำโดยตรง
3. คัมภีร์อุปนิษัทเป็นส่วนสรุปของพระเวทว่ำด้วยกำรค้นคิดทำงปรัชญำ
4. คัมภีร์ภควัทคีตำเน้นเรื่องกำรกระทำที่ปรำศจำกควำมต้องกำรสิ่งตอบแทน
5. คัมภีร์ธรรมศำสตร์เป็นตำรำกฎหมำยวำงระเบียบควำมประพฤติของประชำชนและสังคม

ข้อ 3. ในศำสนำคริสต์ พิธีใดเป็นกำรชำระล้ำงบำปกำเนิด


1. ศีลจุ่ม 2. ศีลกำลัง 3. ศีลแก้บำป 4. ศีลมหำสนิท 5. ศีลเจิมคนไข้ครั้ง
สุดท้ำย

ข้อ 4. พิธีใดถือเป็นภำรกิจที่มุสลิมทุกคนต้องปฏิบัติโดยไม่มีข้อยกเว้น
1. กำรละหมำด 2. กำรถือศีลอด 3. กำรปฏิญำณตน
4. กำรบริจำคซะกำต 5. กำรประกอบพิธีฮัจญ์

ข้อ 5. เหตุใดพระพุทธศำสนำจึงได้ชื่อว่ำมีหลักกำรและวิธีกำรที่เป็นสำกล
1. เพรำะสอนเรื่องกำรพ้นทุกข์ของมนุษย์ 2. เพรำะผู้คนทั่วโลกรู้จักและยอมรับนับถือ
3. เพรำะตอบสนองควำมต้องกำรของคนทั่วไป 4. เพรำะสอนกฎแห่งควำมเป็นจริงตำมธรรมชำติ
5. เพรำะเน้นกำรเอำชนะหรือควบคุมธรรมชำติได้
2

ข้อ 6. ท่ำนอนำคำริก ธรรมปำละ ได้ชื่อว่ำเป็นชำวพุทธตัวอย่ำงด้วยเรื่องใด


1. เป็นผู้ใฝ่รู้ใฝ่เรียน 2. เป็นผู้มีขันติเข้ำใจโลก
3. เป็นผู้พื้นฟูพระพุทธศำสนำในอินเดีย 4. เป็ นผู้ มี สติ ปั ญ ญ ำยอม สล ะชี วิ ต เพื่ อบู ชำ
พระพุทธเจ้ำ
5. เป็นคนใจบุญ อุปถัมภ์พระพุทธศำสนำด้วยศรัทธำมั่นคง

ข้อ 7. กรณีใดตรงกับพุทธศำสนสุภำษิต “วำยเมเถว ปุริโส ยำว อตฺถสฺสนิปฺปทำ”


1. โสภำมีน้ำใจดีจึงเป็นที่รักของทุกคน
2. สมศักดิ์เรียนจบแล้วจึงทำงำนหำเลี้ยงตนเอง
3. สุพจน์ช่วยแม่ขำยของก่อนมำเรียนหนังสือทุกวัน
4. สุรำงค์มีสมำธิในกำรทำงำนจึงประสบควำมสำเร็จ
5. สำวิตรีขยันเรียนเพรำะตั้งใจจะสอบเข้ำแพทย์ให้ได้

ข้อ 8. ศีลอุโบสถหมำยถึงข้อใด
1. ศีล 5 2. ศีล 8 3. ศีล 10 4. ศีล 227 5. ศีล 311

ข้อ 9. ฉลำดเป็นคนฉุนเฉียวง่ำย ชอบอำฆำตมำดร้ำยแต่หำยเร็ว ในเรื่องสติปัฎฐำน พระพุทธเจ้ำทรงเปรียบ


จิตเช่นนี้อยู่ในประเภทใด
1. จิตหดหู่ 2. จิตมีรำคะ 3. จิตมีโทสะ 4. จิตมีโมหะ 5. จิตไม่ใหญ่

ข้อ 10. พระพุทธศำสนำมีคำสอนเครื่องควำมรัก ควำมเมตตำ อยู่ในหลักธรรมใด


1. วุฒิธรรม 4 2. อริยวัฑฒิ 5 3. สังคหวัตถุ 4 4. พรหมวิหำร 4 5. สำรำณียธรรม 6

ข้ อ 11. ควำมในข้ อ แรกของปฏิ ญ ญำสำกลว่ ำด้ วยสิท ธิม นุ ษ ยชนสนั บ สนุ น ให้ ม นุ ษ ย์ป ฏิ บั ติ ต่ อ กัน ตำม
หลักกำรใด
1. หลักนิติธรรม 2. หลักสันติภำพ 3. หลักบูรณภำพ 4. หลักจริยธรรม 5. หลักภรำดรภำพ
3

ข้อ 12. ข้อใดกล่ำวไม่ถูกต้องเกี่ยวกับสัญญำ


1. เป็นนิติกรรมฝ่ำยเดียว สองฝ่ำย หรือหลำยฝ่ำย
2. เป็นกำรตกลงที่สร้ำงควำมผูกพันระหว่ำงบุคคล
3. เป็นกำรแสดงเจตนำเสนอและสนองที่ต้องตรงกัน
4. เป็นกำรตกลงระหว่ำงบุคคลธรรมดำหรือนิติบุคคล
5. เป็นกำรตกลงที่ทำให้เกิดควำมเป็นเจ้ำหนี้และลูกหนี้

ข้อ 13. ผู้สนับสนุนกำรกระทำควำมผิดทำงอำญำต้องได้รับโทษอย่ำงไร


1. ต้องได้รับโทษเท่ำกับผู้ร่วมกระทำควำมผิด 2. ต้องได้รับโทษเท่ำกับผู้ใช้ให้กระทำควำมผิด
3. ต้องได้รับโทษกึ่งหนึ่งของโทษสำหรับตัวกำร 4. ต้องได้รับโทษ 1 ใน 3 ของโทษสำหรับตัวกำร
5. ต้องได้รับโทษ 2 ใน 3 ของโทษสำหรับตัวกำร

ข้อ 14. ข้อใดเป็นบรรทัดฐำนของสังคม


1. ค่ำนิยม 2. สถำบัน 3. ประเพณี 4. สถำนภำพ 5. อุดมกำรณ์

ข้อ 15. ตำมกำรแบ่งประเภทยำเสพติดขององค์กำรอนำมัยโลก ยำบ้ำเป็นยำเสพติดประเภทใด


1. ประเภทฝิ่น 2. ประเภทโคเคน 3. ประเภทบำบิทูเรท 4. ประเภทแอมเฟตำมีน
5. ประเภทหลอนประสำท

ข้อ 16. กำรรับรองอนุสัญญำสหประชำชำติว่ำด้วยกฎหมำยทะเล ค.ศ. 1982 ทำให้รัฐชำยฝั่งมีอำนำจอธิปไตย


เหนือทะเลอำณำเขตในระยะควำมกว้ำงไม่เกินเท่ำใด
1. 12 ไมล์ทะเล 2. 15 ไมล์ทะเล 3. 18 ไมล์ทะเล 4. 20 ไมล์ทะเล 5. 25 ไมล์ทะเล

ข้อ 17. ข้อใดเป็นข้อจำกัดที่สำคัญของกำรจัดกำรปกครองตำมระบอบเผด็จกำร


1. รัฐบำลไม่ได้รับกำรควบคุมตรวจสอบอย่ำงเหมำะสม
2. รัฐบำลมีค่ำใช้จ่ำยสูงในกำรดำเนินกำรบริหำรประเทศ
3. รัฐบำลขำดเอกภำพในกำรดำเนินกำรปกครองประเทศ
4. รัฐบำลไม่สำมำรถตัดสินใจแก้ไขปัญหำได้อย่ำงรวดเร็ว
5. รัฐบำลมีอำนำจจำกัดในกำรบริหำรและปกครองประเทศ
4

ข้อ 18. หลักกำรใดอยู่ในหลัก 6 ประกำรของคณะรำษฎร


1. สำมัคคี 2. สถำบัน 3. เอกภำพ 4. ปลอดภัย 5. สันติภำพ

ข้อ 19. ผู้ที่ได้รับกำรเลือกตั้งและเข้ำรับตำแหน่งสมำชิกสภำผู้แทนรำษฎรต้องยื่นบัญชีแสดงรำยกำรทรัพย์สิน


และหนี้สินต่อใคร
1. ประธำนรัฐสภำ 2. ผู้ตรวจกำรแผ่นดิน
3. คณะกรรมกำรกำรเลือกตั้ง 4. คณะกรรมกำรตรวจเงินแผ่นดิน
5. คณะกรรมกำรป้องกันและปรำบปรำมกำรทุจริตแห่งชำติ

ข้อ 20. กำรประกำศใช้รัฐธรรมนูญแห่งรำชอำณำจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 1) พุทธศักรำช 2554 ทำให้


เกิดกำรเปลี่ยนแปลงในเรื่องใด
1. กำรตรวจสอบกำรใช้อำนำจของรัฐ 2. กำรกระจำยอำนำจปกครองท้องถิ่น
3. กำรลงมติไม่ไว้วำงใจนำยกรัฐมนตรี 4. กำรทำหนังสือสัญญำกับต่ำงประเทศ
5. กำรเลือกตั้งสมำชิกสภำผู้แทนรำษฎร

ข้อ 21. หลังจำกว่ำงงำนมำหลำยเดือน นำยโชคเข้ำทำงำนกับบริษัทร่วมใจซึ่งเสนอเงินเดือน 18,000 บำท แทน


กำรเข้ำทำงำนกับบริษัทแสงอรุณซึ่งเสนอเงินเดือน 16,000 บำท กรณีเช่นนี้ นำยโชคมีต้นทุนค่ำเสียโอกำส
หรือไม่ เพรำะเหตุใด
1. ไม่มี เพรำะว่ำงงำนอยู่ก่อนแล้ว
2. ไม่มี เพรำะเลือกทำงำนกับบริษัทที่จ่ำยเงินเดือนสูงสุด
3. ไม่มี เพรำะได้เงินเดือนสูงกว่ำอีกบริษัทหนึ่ง 2,000 บำท
4. มี เพรำะทำให้ไม่ได้รับเงินเดือน 16,000 บำท
5. มีเพรำะรับเงินเดือนไม่ถึง 34,000 บำท

ข้อ 22. ผู้ใดมีควำมสำคัญมำกที่สุดในกระบวนกำรผลิตสินค้ำและบริกำร


1. แรงงำน เพรำะเป็นบุคคลที่ทำหน้ำที่ผลิตสินค้ำและบริกำรโดยตรง
2. เจ้ำของเงินทุน เพรำะเงินทุนเป็นสิ่งจำเป็นในกำรจัดหำปัจจัยกำรผลิต
3. ผู้บริโภค เพรำะเป็นผู้ชนี้ ำให้เกิดกำรผลิตสนองควำมต้องกำรของผู้บริโภค
4. ผู้ประกอบกำร เพรำะเป็นผู้รวบรวมปัจจัยกำรผลิตและรับภำระเสี่ยงภำยในกำรผลิต
5. เจ้ำของทรัพยำกรธรรมชำติ เพรำะทรัพยำกรธรรมชำติเป็นทั้งวัตถุดิบและเชื้อเพลิง
5

ข้อ 23. กำรเพิ่มขึ้นในข้อใดจะทำให้ปริมำณเงินในประเทศขยำยตัว


1. อัตรำดอกเบี้ยเงินฝำกและบัญชี 2. มูลค่ำกำรนำเข้ำสินค้ำและบริกำร
3. กำรใช้จ่ำยอุปโภคบริโภคและกำรลงทุน 4. กำรชำระคืนเงินกู้และดอกเบี้ยให้ต่ำงประเทศ
5. กำรขำยพันธบัตรออกใหม่ให้ธนำคำรพำณิชย์

ข้อ 24. นำยด ำรง นักเรียนชั้น มัธยมศึ กษำปีที่ 6 หำรำยได้พิ เ ศษด้วยกำรเสิร์ฟ อำหำร บิ ดำมี ที่ดิ นท ำกินไม่
เพียงพอต้องหำรำยได้เสริมด้วยกำรเพำะพันธุ์ปลำขำย มำรดำรับรำชกำรครู นำยดำรงเรียนเรื่องสหกรณ์จึง
ต้องกำรเข้ำเป็นสมำชิก เขำสำมำรถเป็นสมำชิกสหกรณ์ใด
1. สหกรณ์นิคม 2. สหกรณ์ร้ำนค้ำ 3. สหกรณ์บริกำร
4. สหกรณ์ประมง 5. สหกรณ์ออมทรัพย์ครู

ข้อ 25. ข้อใดไม่ใช่กำรดำรงชีวิตตำมแนวเศรษฐกิจพอเพียง


1. พึ่งตนเองเป็นหลักโดยไม่เบียดเบียนตนเองและผู้อื่น
2. ให้ควำมสำคัญต่อคุณค่ำของกำรบริโภคมำกกว่ำมูลค่ำ
3. ต้องทำกำรผลิตขนำดพอกินพอใช้โดยใช้เงินออมของตนเอง
4. ดำเนินทำงสำยกลำงโดยยึดหลักพอประมำณอย่ำงมีเหตุผลและภูมิคุ้มกัน
5. เพิ่มควำมสำคัญต่อกำรลดรำยจ่ำยที่เกินพอดีแทนกำรเพิ่มรำยได้เพียงอย่ำงเดียว

ข้อ 26. ข้อใดกล่ำวถึงควำมสัมพันธ์ระหว่ำงหน่วยเศรษฐกิจในระบบเศรษฐกิจได้ถูกต้อง


1. ผลผลิตไหลจำกหน่วยธุรกิจไปยังหน่วยบริโภค
2. ผลผลิตไหลจำกหน่วยธุรกิจไปยังหน่วยครัวเรือน
3. ผลผลิตไหลจำกหน่วยครัวเรือนไปยังหน่วยบริโภค
4. ปัจจัยกำรผลิตไหลจำกหน่วยผลิตไปยังหน่วยบริโภค
5. ปัจจัยกำรผลิตไหลจำกหน่วยธุรกิจไปยังหน่วยครัวเรือน

ข้อ 27. โครงกำรประกันรำคำข้ำวเหมือนกับโครงกำรรับจำนำข้ำวในเรื่องใด


1. ทำให้อุปทำนของข้ำวเปลือกในตลำดลดลง 2. ทำให้ผู้บริโภคต้องซื้อข้ำวสำรในรำคำสูงขึ้น
3. ทำให้ควำมเสี่ยงด้ำนรำยได้ของชำวนำลดลง 4. ทำให้รัฐบำลต้องทำหน้ำที่เป็นพ่อค้ำคนกลำง
5. ทำให้ชำวนำยังคงได้รับประโยชน์แม้ผลผลิตเสียหำยหมดจำกภัยธรรมชำติ
6

ข้อ 28. กำรที่นักลงทุนในต่ำงประเทศโอนเงินเข้ำมำซื้อหลักทรัพย์ในตลำดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย มูลค่ำซื้อ


หลักทรัพย์นั้นจะบันทึกอยู่ในบัญชีใดของดุลกำรชำระเงินของประเทศไทย
1. บัญชีเงินทุน 2. บัญชีรำยได้ 3. บัญชีกำรค้ำ 4. บัญชีบริกำร 5. บัญชีเงินโอน

ข้อ 29. ใน พ.ศ. 2558 ASEAN จะรวมตัวเป็นประชำคมเศรษฐกิจอำเซียนซึ่งประเทศสมำชิกต้องดำเนินกำรเปิด


เสรีมำกขึ้นในด้ำนต่ำงๆ ยกเว้นด้ำนใด
1. กำรลงทุนขนำดใหญ่ 2. กำรค้ำสินค้ำอุตสำหกรรม
3. กำรใช้ทรัพย์สินทำงปัญญำ 4. กำรเคลื่อนย้ำยแรงงำนมีฝีมือ
5. กำรทำธุรกิจบริกำรขนส่งทำงอำกำศ

ข้อ 30. แผนพัฒนำเศรษฐกิจและสังคมแห่งชำติฉบับที่ 8 – 10 มีจุดเด่นเหมือนกันข้อใด


1. พัฒนำแบบยั่งยืนโดยมุ่งบูรณำกำรทั้งทำงด้ำนเศรษฐกิจ สังคม และควำมมั่นคง
2. พัฒนำโครงสร้ำงพื้นฐำนเศรษฐกิจและระบบบริหำรควำมเสี่ยงเพื่อเป็นภูมิคุ้มกันที่ดี
3. พัฒนำโดยมุ่งให้คนเป็นศูนย์กลำงในกำรพัฒนำแทนมุ่งกำรเติบโตทำงเศรษฐกิจเป็นหลัก
4. พัฒนำแนวใหม่โดยเน้นปรับโครงสร้ำงเศรษฐกิจแบบสมดุลแทนกำรพัฒนำแบบแยกส่วน
5. พัฒนำระบบธรรมำภิบำลในกำรบริหำรจัดกำรประเทศและเพิ่มขีดควำมสำมำรถในกำรแข่งขัน

ข้อ 31. ประเทศใดไม่ได้ใช้เกณฑ์กำรนับพุทธศักรำชโดยเริ่มนับ พ.ศ. 1 ตั้งแต่วันที่พระพุทธเจ้ำเสด็จปรินิพพำน


1. ลำว 2. ไทย 3. พม่ำ 4. กัมพูชำ 5. ศรีลังกำ

ข้อ 32. ข้อใดไม่ใช่เหตุกำรณ์ในประวัติศำสตร์สมัยกลำงของยุโรป


1. กำรทำสงครำมครูเสด 2. กำรก่อตั้งมหำวิทยำลัย
3. กำรเปิดเส้นทำงสำยไหม 4. กำรจัดทำกฎหมำยสิบสองโต๊ะ
5. กำรเดินทำงไปจีนของมำร์โคโปโล

33. เหตุกำรณ์ใดถือว่ำเป็นกำรสิ้นสุดของประวัติศำสตร์ยุโรปสมัยใหม่
1. กำรเข้ำสู่ยุคนิวเคลียร์ 2. กำรยุติของสงครำมเย็น
3. กำรยุติของสงครำมโลกครั้งที่ 1 4. กำรยุติของสงครำมโลกครั้งที่ 2
5. กำรจัดตั้งองค์กำรสหประชำชำติ
7

ข้อ 34. กำรเปิดประเทศของจีนใน ค.ศ. 1992 เน้นแนวทำงด้ำนใดเป็นพิเศษ


1. ปรังปรุงคุณภำพของแรงงำน 2. สร้ำงชนชั้นกลำงให้เพิ่มมำกขึ้น
3. ส่งเสริมกำรลงทุนของนักธุรกิจท้องถิ่น 4. เพิ่มกำรขยำยตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวม
5. ปรับปรุงระบบเศรษฐกิจให้เป็นเสรีมำกขึ้น

ข้อ 35. ข้อใดไม่ใช่หลักกำรขององค์กำรสหประชำชำติ


1. กำรจัดกำรควำมขัดแย้งโดยสันติวิธี 2. กำรเข้ำร่วมบริหำรจัดกำรประเทศสมำชิก
3. ควำมมีเสถียรภำพระหว่ำงประเทศร่วมกัน 4. แต่ละประเทศมีสิทธิออกเสียง 1 เสียงเท่ำนั้น
5. ประเทศมหำอำนำจมีสิทธิยับยั้งมติเกี่ยวกับควำมมั่นคง

ข้อ 36. ศำสตรำจำรย์มีศิลป์ พีระศรี มีผลงำนศิลปะด้ำนใดมำกที่สุด


1. จิตรกรรม 2. มัณฑนศิลป์ 3. ประณีตศิลป์ 4. ประติมำกรรม 5. สถำปัตยกรรม

ข้อ 37. ทำสในสมัยสุโขทัยเป็นทำสประเภทใด


1. ทำสเชลย 2. ทำสสินไถ่ 3. ทำสท่ำนให้ 4. ทำสขัดดอก 5. ทำสในเรือนเบี้ย

ข้อ 38. สมเด็จพระเอกำทศรถทรงส่งคณะรำชฑูตไปเจริญสัมพันธไมตรีทำงกำรค้ำกับชำติใด


1. สเปน 2. อังกฤษ 3. ฝรั่งเศส 4. ฮอลันดำ 5. โปรตุเกส

ข้อ 39. งำนศิลปกรรมใดไม่อยู่ในกลุ่มศิลปะแบบทวำรวดี


1. ใบเสมำ 2. ปรำสำท 3. พระพิมพ์ 4. พระพุทธรูป 5. พระธำตุเจดีย์

ข้อ 40. ข้อใดคือรูปแบบของศิลปกรรมในสมัยสุโขทัย


1. พระพุทธรูปสำริด เจดีย์ทรงลังกำ 2. พระพุทธรูปศิลำทรำย เจดีย์ทรงลังกำ
3. พระพุทธรูปทรงเครื่อง เจดีย์ทรงดอกบัวตูม 4. พระพุทธรูปปูนปั้น เจดีย์ทรงย่อมุมไม้สิบสอง
5. พระพุทธรูปทรงเครื่อง เจดีย์ทรงย่อมุมไม้สิบสอง
8

ข้อ 41. สภำพภูมิศำสตร์ประเทศไทยข้อใดตรงกับควำมเป็นจริง


1. ประเทศไทยตั้งอยู่ในเขตมรสุม ไม่มีเขตเงำฝน ฝนจึงตกชุกทั่วไป
2. ในแต่ละปี ด้ำนตะวันตกของภำคใต้มีฝนตกเฉลี่ยน้อยกว่ำด้ำนตะวันออก
3. ในฤดูร้อนด้ำนใต้ของทิวเขำพนมดงรักมีควำมชื้นสูงเพรำะได้ลมพัดผ่ำนอ่ำวไทย
4. ภำคเหนือมีฝนตกน้อยกว่ำภำคกลำง เพรำะภูมิประเทศสูงจำกระดับน้ำทะเลปำนกลำงมำก
5. ในฤดูหนำว ภำคกลำงได้รับลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือน้อยกว่ำภูมิภำคอื่น อำกำศจึงไม่หนำวเย็น

ข้อ 42. ในกำรศึกษำภูมิอำกำศจังหวัดเชียงใหม่ไม่สำมำรถใช้ข้อมูลจำกข้อใด


1. รูปถ่ำยทำงอำกำศ 1 : 25,000 และบำรอมิเตอร์
2. แผนที่ภูมิประเทศ 1 : 50,000 และเทอร์โมกรำฟ
3. แผนที่ควำมกดอำกำศ 1 : 1,000,000 และไซโครมิเตอร์
4. สถิติภูมิอำกำศประเทศไทยรอบ 30 ปี และสถำนีตรวจอำกำศ
5. ภำพจำกดำวเทียม 1 : 50,000 และสถำนีรับสัญญำลำดกระบัง

ข้อ 43. สำเหตุของวิกฤตกำรณ์ด้ำนสิ่งแวดล้อมโลกข้อใดไม่ถูกต้อง


1. แก๊สเรือนกระจกเป็นสำเหตุใหญ่ของวิกฤตกำรณ์ด้ำนอำกำศ
2. กำรเกษตรและอุตสำหกรรมเป็นสำเหตุใหญ่ของวิกฤตกำรณ์ด้ำนน้ำ
3. กำรปรับสภำพพื้นที่เกษตรเพื่อใช้ที่ดินเป็นสำเหตุใหญ่ของวิกฤตกำรณ์ด้ำนดิน
4. กำรเพิ่มขึ้นของประชำกรเป็นสำเหตุใหญ่ของวิกฤตกำรณ์ด้ำนทรัพยำกรธรรมชำติ
5. สภำพน้ำและอำกำศเสียเป็นสำเหตุใหญ่ของวิกฤตกำรณ์ด้ำนควำมหลำกหลำยทำงชีวภำพ

ข้อ 44. ข้อใดจะทำให้มำตรกำรป้องกันและแก้ไขปัญหำด้ำนสิ่งแวดล้อมโลกบรรลุเป้ำหมำย


1. กำรประชุมร่วมลงนำมของนำนำประเทศ
2. ประเทศมหำอำนำจร่วมกันดำเนินกำรอย่ำงเด็ดขำด
3. กำรลงนำมในอนุสัญญำระหว่ำงประเทศที่ก่อปัญหำ
4. กำรให้แต่ละประเทศจัดทำแผนป้องกันและแก้ไขปัญหำ
5. กำรให้ข้อมูลที่ถูกต้องเกี่ยวกับสำรซีเอฟซีแก่ประชำกรโลก
9

ข้อ 45. ข้อใดกล่ำวไม่ถูกต้องเกี่ยวกับกำรดำเนินกำรขององค์กำรด้ำนสิ่งแวดล้อม


1. กองทุนสัตว์ป่ำแห่งโลกส่งเสริมและสร้ำงสิ่งแวดล้อมให้ทั้งมนุษย์และสัตว์
2. สถำบันสิ่งแวดล้อมไทยเป็นแหล่งข้อมูล ศึกษำและวิจัยเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม
3. กรีนพีชมีหน้ำที่ตรวจสอบและเสนอแนะกำรทำงำนด้ำนสิ่งแวดล้อมของภำครัฐ
4. องค์กำรสิ่งแวดล้อมโลกมีหน้ำที่สำรวจและประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมทั่วไป
5. กรมส่งเสริมคุณภำพสิ่งแวดล้อมมีหน้ำที่ติดตำมและแก้ไขปัญหำสิ่งแวดล้อมไทย

ข้อ 46. กำรจัดกำรทรัพยำกรธรรมชำติไทยข้อใดตรงกับควำมเป็นจริง


1. ชำวนำภำคกลำงมักปลูกข้ำวปีละครั้ง
2. ชำวสวนภำคตะวันออกมักขุดบ่อน้ำในพื้นที่ของตนเอง
3. ชำวสวนภำคใต้มักปลูกต้นมะม่วงหิมพำนต์เป็นอำชีพเสริม
4. ชำวนำภำคตะวันออกเฉียงเหนือมักไม่ปลูกพืชในพื้นที่ดินเค็ม
5. ชำวไร้อ้อยในภำคตะวันตกมักปลูกอ้อยด้ำนตะวันตกของพื้นที่

ข้อ 47. ข้อใดแสดงถึงภูมิปัญญำที่เข้ำใจภูมิศำสตร์กำยภำพของพื้นที่


1. ชำวอยุธยำเก็บเกี่ยวรวงข้ำวเมื่อน้ำลด
2. ชำวนครนำยกปลูกไม้ยืนต้นบนคันนำ
3. ชำวแม่ฮ่องสอนเพำะกล้ำก่อนถอนไปดำในนำข้ำว
4. ชำวสุรินทร์ปลูกหัวหอมแดงหลังกำรเก็บเกี่ยวข้ำว
5. ชำวเพชรบุรีเผำฟำงข้ำวแล้วไถกลบเตรียมพื้นที่ปลูกข้ำว

ข้อ 48. พฤติกรรมของใครไม่สำมำรถอนุรักษ์คุณภำพสิ่งแวดล้อมได้อย่ำงแท้จริง


1. นำยโชติปรับพื้นที่ป่ำเสื่อมโทรมให้เป็นเขตพืชสวน
2. นำยชุบเร่งลงต้นยำงในที่มรดกเพื่อให้ได้ผลผลิตเร็วที่สุด
3. นำยชนะเร่งสร้ำงฝำยน้ำให้เกษตรกรและประชำชนโดยตรง
4. หัวหน้ำอุทยำนปิดบริเวณเขตสวนป่ำช่วงฝนตกหนักและช่วงแล้งจัด
5. หัวหน้ำเขตรักษำพันธุ์สัตว์ป่ำใช้มำตรกำรทำงกฎหมำยลงโทษรุนแรงต่อผู้ลักลอบจับสัตว์
10

ข้อ 49. ข้อใดกล่ำวไม่ถูกต้องเกี่ยวกับกำรใช้ทรัพยำกรเพื่อกำรพัฒนำที่ยั่งยืน


1. กำรพัฒนำที่ยั่งยืนควรรวมด้ำนสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม
2. กำรพัฒนำที่ยั่งยืนมักหมำยถึงกำรใช้ทรัพยำกรธรรมชำติเป็นต้นทุน
3. หน่วยงำนรัฐและหน่วยงำนเอกชนเท่ำนั้นที่ต้องร่วมมือในกำรพัฒนำให้ยั่งยืน
4. กำรใช้ทรัพยำกรธรรมชำติในกำรพัฒนำอย่ำงยั่งยืนต้องมีเป้ำหมำยเพื่อคุณภำพชีวิตที่ดี
5. กำรประชุมด้ำนสิ่งแวดล้อมและกำรพัฒ นำของโลกเริ่มขึ้นเป็นครั้ งแรกใน พ.ศ. 2535 ที่ประเทศ
บรำซิล

ข้อ 50. นักวิชำกำรคนใดเลือกสื่อเพื่อติดตำมข้อมูลไปใช้ในงำนของตนไม่ถูกต้อง


1. วิศวกรสำรวจใช้แผนที่ภูมิประเทศ 1 : 50,000 กำหนดเส้นทำงถนนทั่วประเทศ
2. นักธรณีวิทยำใช้ภำพจำกดำวเทียม 1 : 500,000 ศึกษำแนวรอยเลื่อยของผิวโลก
3. นักศึกษำแพทย์ใช้ข้อมูลระบบสำรนิเทศภูมิศำสตร์ศึกษำกำรระบำดของโรคฉี่หนู
4. นักผังเมืองใช้แผนที่ภำพถ่ำยทำงอำกำศ 1 : 20,000 วำงแผนพัฒนำบริเวณชำนเมือง
5. นักปฐพีวิทยำใช้ภำพจำกดำวเทียม 1 : 2,000,000 ศึกษำสภำพและปัญหำดินของประเทศ

You might also like