You are on page 1of 50

ในช่วงปลายฤดูหนาวและฤดูร้อนกำลังคืบคลานเข้ ามา ใบไม้ เริ่ ม

ร่วงหล่นเหลือแต่กิ่งก้ านสาขาคงไว้ แต่ฝนกลับตกหนักในช่วงบ่ายสองโมง


ทารกเพศหญิงคนหนึง่ เพิ่งจะลืมตามองดูโลกเป็ นครัง้ แรก สิ่งแรกที่เธอเห็น
คือดวงตาคูท่ ี่แสนอ่อนโยนของผู้เป็ นมารดาแต่ไม่ชดั เจนมากนัก “เธอไม่
ร้ องไห้ เลยนะคะ ปกติแล้ วเด็กทารกที่เกิดใหม่จะร้ องไห้ กนั ทุกคน” นาง
พยาบาลรูปร่างผอมสูงผิวขาวเหลืองท่านหนึง่ ซึง่ ยืนอยู่ข้างเธอเอ่ยปาก
ทักทายผู้เป็ นมารดา คำพูดของนางพยาบาลทำให้ รอยยิ ้มของสตรี แม่ลกู
อ่อนจางหายไปทันใด และคิ ้วทังสองข้
้ างของเธอขมวดชนกันอย่างเห็นได้
ชัด “หมายความว่าลูกดิฉนั ไม่ปกติอย่างงันเหรอคะ”
้ เธอถามออกไปโดย
พยายามคุมน้ำเสียงตัวเองให้ เป็ นปกติ
ข้ างนอกโรงพยาบาลยังคงกระหน่ำด้ วยสายฝน พายุและลมแรง
เพียงไม่กี่นาทีตอ่ มา เสียงฟ้าผ่าดังสนัน่ ลัน่ เมืองทำเอาผู้คนทังในโรง

พยาบาล นอกโรงพยาบาล และลามไปทังตำบลต่ ้ างตกใจกันถ้ วนหน้ า
ทารกเพศหญิงที่อยู่ในอ้ อมแขนของผู้เป็ นมารดาตกใจจนแผดเสียงร้ องไห้
จ้ าออกมาสุดเสียง ประสานกับเสียงฟ้าร้ องอย่างไม่ขาดสาย “ไม่ต้องกังวล
ไปนะครับ เธอปกติดีทกุ อย่าง ครบทังสามสิ ้ บสองประการครับคุณอัญชัญ ”
คุณหมอธีรเดชวัยสี่สิบต้ นๆท่าทางใจดีซงึ่ เป็ นผู้ทำคลอดให้ เธอ ซึง่ เขาไม่ได้
บอกกล่าวเธอไว้ ตงแต่ั ้ แรกที่ทารกคลอดออกมา เขาเดินเข้ ามาปลอบใจคุณ
แม่ลกู อ่อนผู้กงั วลพร้ อมกับรอยยิ ้มที่ดอู บอุน่ เธอจึงรู้สกึ โล่งอกโล่งใจขึ ้นมา
ทันใดพร้ อมรอยยิ ้มที่เปี่ ยมไปด้ วยความสุขอันล้ นเหลือปรากฎบนใบหน้ า
ของเธออีกครัง้ “มะลิของแม่ รู้มยว่ ั ้ าแม่ขอให้ หนูเป็ นเด็กโชคดีมาตลอด
ตังแต่
้ แม่ยงั ไม่เห็นหน้ าลูก” น้ำเสียงอันแสนอ่อนโยนของหญิงหม้ ายแม่ลกู
อ่อนพูดคุยกับลูกน้ อยในอ้ อมแขนอย่างสบายใจ ซึง่ ที่จริ งแล้ วเธอตังชื ้ ่อลูก
ของเธอตังแต่
้ ยงั อยู่ในครรถ์เพียงไม่กี่เดือน หลังจากอุลตร้ าซาวด์ก่อนที่
สามีของเธอเสียชีวิตด้ วยอุบตั ิเหตุทางมอเตอร์ ไซด์ เธอจึงรู้สกึ อ้ างว้ างเดียว
ดายแต่เธอต้ องเข้ มแข็งให้ ถึงที่สดุ เพื่อลูกน้ อยของเธอ เพราะลูกคือสิ่งเดียว
ที่เธอมี

15 ปี ผ่ านไป
เสียงเรี ยกเข้ าของไอโฟนด้ วยท่วงทำนองอันไพเราะดังสนัน่ ทัว่ โถง
คุณอัญชัญซึง่ กำลังเพลิดเพลินอยู่กบั สวนดอกไม้ หลังบ้ านก็รีบรี่ ตรงมา
พร้ อมเตรี ยมนิ ้วชี ้สัมผัสหน้ าจอเพื่อกดรับ ก่อนที่นิ ้วชี ้ของเธอจะสัมผัสหน้ า
จอไอโฟนที่อยู่บนโต๊ ะอาหาร ในใจเธอคิดว่าคงจะเป็ นยัยออยเพื่อนสนิท
ของเธอสมัยยังเป็ นนักเรี ยนที่โรงเรี ยนมัธยมด้ วยกันโทรมาหา ซึง่ ปกติแล้ ว
แกจะโทรมาอาทิตย์ละครัง้ หรื อไม่ก็สองอาทิตย์ครัง้ เพื่อชวนออกไปรับ
ประทานอาหารข้ างนอก หรื อไม่ก็ชวนออกไปช้ อปปิ ง้ แกคือเพื่อนสนิทมาก
ที่สดุ ตังแต่
้ ที่ได้ คบกันมา ถึงแม้ เวลาจะผ่านไปเนิ่นนานสักแค่ไหนก็ตามทัง้
สองยังคงติดต่อไปมาหาสูก่ นั อยู่ไม่ขาด แต่เธอก็ต้องประหลาดใจเพราะ
เบอร์ ที่โชว์หน้ าจอไม่ค้ นุ เอาเสียเลย “ใครโทรมาตอนเวลาชันกำลั ้ งเพลินอยู่
นะ เฮ้ อ!” เธอสบถออกมาอย่างอารมณ์เสีย เพราะเธอได้ สญ ู เสียเวลาอัน
เพลิดเพลินและผ่อนคลายอยู่กบั สวนดอกไม้ แสนสวยหลังบ้ านของเธอแล้ ว
ต้ องมารับสายคนแปลกหน้ า แต่เธอจะไม่อารมณ์เสียหากเธอเห็นชื่อ ‘ออย’
ปรากฏบนหน้ าจอไอโฟนของเธอ แต่จะดีใจเสียด้ วยซ้ำ เพราะเธอมัน่ ใจว่า
จะต้ องมีเวลาออกไปเพลิดเพลินและผ่อนคลายกับเพื่อนซี ้อย่างแน่นอน ใน
ขณะที่เธอยกไอโฟนขึ ้นแนบกับหู เพียงไม่กี่วินาทีตอ่ มาเธอแทบจะล้ มทัง้
ยืน มือของเธออ่อนกำลังและเกือบจะทำไอโฟนร่วงหล่นลงจากมือ แต่โชค
ดีที่เธอไม่เกิดอาการชักไปเสียก่อน ใบหน้ าและปากของเธอซีดเผือดอย่าง
เห็นได้ ชดั “คะ ดิฉนั จะรี บออกไปเดี๋ยวนี ้คะ” เธอพยายามควบคุมสติให้ ดี
ที่สดุ ก่อนตอบกลับไปด้ วยน้ำเสียงที่ไม่ส้ ดู ีผ่านริ มฝี ปากที่สนั่ เครื อและอ่อน
กำลังแทบคุมอาการไว้ ไม่อยู่
เส้ นทางสัญจรถนนใหญ่สายหลักในช่วงสายๆยังคงหนาแน่นและ
แออัดซึง่ เพิ่มความตึงเครี ยดให้ กบั เธอมากยิ่งขึ ้น รถมอเตอร์ ไซด์ฮอนด้ า
สีน้ำเงินคันหนึง่ พุง่ ตัวออกมาขวางทางรถยนต์เลนซ้ ายมืออย่างกับขี่ชมวิว
ทิวทัศน์ ซึง่ เคลื่อนไปอย่างช้ าๆนำอยู่หน้ ารถเก๋งสีแดงของเธอแทบหาที่แซง
ไม่ได้ ด้ วยความตึงเครี ยดและเร่งรี บพอเธอมาเจอกับสิ่งนี ้ทำให้ เกิดความ
โทสะขึ ้นมาอย่างมากจนคุมอารมณ์ตนเองไว้ ไม่อยู่ เธอจึงระเบิดโทสะออก
มาดัง่ ภูเขาไฟระเบิดด้ วยการหวีดร้ องเสียงแหลมดังแสบแก้ วหูทวั่ ในรถของ
เธออย่างบ้ าคลัง่ พร้ อมมือขวากระแทกตรงกลางพวงมาลัยเป็ นเสียงแตร
ถี่ๆอยู่หลายครัง้ มอเตอร์ ไซด์เจ้ าปั ญหาขี่หลบชิดซ้ ายไปทันใด เท้ าขวาของ
เธอก็เหยียบคันเร่งแซงส่งขึ ้นไปรวดเร็วอย่างกับรถแข่งเฟอรารี่ F4 30 โดย
ทันที ทางข้ างหน้ าเป็ นสี่แยกไฟเขียวไฟแดง ซึง่ ยังคงปรากฏสัญญาณไฟสี
เขียวอยู่ โดยไม่สามารถคาดเดาได้ วา่ สัญญาณไฟจะเปลี่ยนสีเมื่อไร เท้ า
ขวาของเธอยังคงเหยียบคันเร่งด้ วยความเร็วสูงสม่ำเสมอ และไม่มีทีทา่ จะ
ผ่อนเบาลงเลยแม้ แต่น้อย มือทังสองข้ ้ างจับพวงมาลัยไว้ แน่นและเกรงจน
เห็นเส้ นเลือดปูดบนหลังมืออย่างชัดเจน ริ มฝี ปากเธอเม้ มสนิทจนเป็ นเส้ น
ตรง คิ ้วทังสองข้
้ างขมวดชนกันอย่างเห็นได้ ชดั เธอภาวนาในใจขออย่าให้
ไฟเขียวเปลี่ยนสี อัตราความเร็วรถของเธอตอนนี ้เข็มไมล์ชี ้ไปที่เลข 120 ซึง่
กำลังแข่งกับเวลาของสัญญาณไฟข้ างหน้ าเพียงไม่กี่ร้อยเมตร และแล้ วสิ่ง
ที่เธอภาวนากลับทำให้ เธอต้ องผิดหวัง เพราะสัญญาณไฟเขียวกระพิบเป็ น
สีเหลือง ซึง่ เป็ นสัญญาณไฟเพื่อให้ รถเตรี ยมหยุด แต่เท้ าขวาของเธอกลับ
เหยียบคันเร่งจมมิดสนิทยิ่งกว่าเดิม “ฉิบหาย วันนี ้มันเป็ นเวรกรรมอะไร
ของชัน”้ เธอสบถออกมากับระยะทางเพียงราวๆเกือบร้ อยเมตรซึง่ ข้ างหน้ า
จะพ้ นสี่แยกพอดี อีกไม่กี่วินาทีตอ่ มา สัญญาณไฟแดงก็ปรากฏขึ ้นทันใด
สัญญาณไฟเขียวทางแยกฝั่ งขวามือก็ปรากฏขึ ้นทันที รถมอเตอร์ ไซด์
บิ๊กไบค์ทางฝั่ งขวามือไม่ทนั ได้ สงั เกตรถที่ฝ่าไฟแดง จึงออกตัวมาประจบ
กับเธอ เธอใจหายวาบขึ ้นมาทันใดพร้ อมกับลมหายใจหยุดทำงานไปชัว่
ขณะ เธอเริ่ มทำใจกับการปะทะที่กำลังจะเกิดขึ ้นภายในเศษเสี ้ยววินาทีนี ้
สมองของเธอลืมเรื่ องอื่นไปเสียสนิท แต่จิตสำนึกของเธอกำลังพูดว่า ‘ฉัน
กำลังกระทำความผิดเพราะฝ่ าไฟแดง’ และแล้ ว เสียงแตรลากยาวจากมอ
เตอร์ ไซด์บิ๊กไบค์ทางฝั่ งขวามือของเธอก็ใกล้ เข้ ามา จากนันเธอได้
้ ยินเสียง
ปะทะอย่างแรงระหว่างเหล็กกับเหล็ก แต่……..”โว๊ ยยยยยย!!!!!” เสียง
อุทานซึง่ เปี่ ยมไปด้ วยความโทสะมหาศาลของชายผู้ขี่มอเตอร์ ไซด์บิ๊กไบค์ที่
เกือบจะเข้ ามาปะทะกับเธอ ดังสนัน่ ยิ่งกว่าเสียงเหล็กปะทะที่อยู่ใน
จินตนาการของเธอ โชคดีอย่างมากที่มนั เป็ นเพียงแค่เสียงปะทะใน
จินตนาการของเธอเท่านัน้ เธอตังสติ ้ มองกระจกสะท้ อนไปทางด้ านหลัง
หลังจากขับพ้ นสีแ่ ยกได้ อย่างหวุดหวิด เห็นชายบนมอเตอร์ ไซด์บิ๊กไบค์
หยุดชะงักกลางสี่แยกพร้ อมชูนิ ้วกลางใส่เธอด้ วยใบหน้ าที่แดงก่ำ เธอถอน
หายใจเฮือกใหญ่ “ให้ ตายสิ” เธอสบถออกมาด้ วยน้ำเสียงที่แฝงด้ วยความ
โล่งใจเพราะเกือบได้ รับบทเรี ยนราคาแพงกลางสี่แยกเพียงไม่กี่เศษเสี ้ยว
วินาที
ผู้คนในโรงพยาบาลต่างชุลมุนวุน่ วาย ทังหมอ ้ พยาบาล ภารโรง
เจ้ าหน้ าที่และรวมไปถึงคนไข้ ทันทีที่คณ ุ อัญชัญได้ ก้าวออกจากประตูรถก็
รี บวิ่งตรงไปยังห้ องฉุกเฉินโดยไม่ทนั ระวังจนเกือบวิ่งชนพยาบาลที่กำลัง
เข็ญคนไข้ สงู อายุที่สวนทางมาพอดี แต่เธอก็ยงั วิ่งด้ วยความเร็วเท่าเดิมจน
ไปถึงประตูหน้ าห้ องฉุกเฉิน ในขณะที่เธอกำลังเอื ้อมแขนขวาเพื่อเลื่อน
ประตูห้องฉุกเฉินแต่เจ้ าหน้ าที่เวชกิจหนุ่มคนหนึง่ วิ่งเข้ ามาห้ ามเธอไว้ เสีย
ก่อน “ขอดิฉนั เข้ าไปเยี่ยมลูกสาวสักห้ านาทีได้ มยคะั ้ ขอร้ องเถอะคะ” น้ำ
เสียงอันโศกเศร้ าและสัน่ เครื อของคุณอัญชัญขอร้ องเจ้ าหน้ าที่อย่างวิงวอน
“ไม่ได้ ครับ ตอนนี ้คุณหมอกำลังทำงานอยู่ครับ เชิญคุณผู้หญิงนัง่ รอก่อน
นะครับ” เจ้ าหน้ าที่เวชกิจหนุ่มพูดด้ วยน้ำเสียงสุภาพพร้ อมผายมือไปที่
เก้ าอี ้โซฟาตรงข้ ามหน้ าห้ องฉุกเฉิน แต่ก็ไม่ช่วยทำให้ เธอใจเย็นลงได้ เลย
แม้ น้อยนิด “อีกสักครู่คณ ุ หมอก็จะออกมาแล้ วครับ” เขาพูดปลอบใจเธอ
ด้ วยน้ำเสียงสุภาพ ทังที้ ่ความจริ งแล้ วเขาไม่มีทางรู้ด้วยซ้ำไปว่าคุณหมอ
จะเสร็จภาระกิจเมื่อไร เขาก็แค่ทำหน้ าที่ให้ ดีที่สดุ เท่านัน้ คำพูดของเขา
ทำให้ เธอจำต้ องยอมเดินไปที่เก้ าอี ้โซฟาตรงข้ ามหน้ าห้ องฉุกเฉินอย่างไม่
เต็มใจ ด้ วยสภาพจิตใจที่คอ่ นไปทางด้ านลบอย่างมาก การนัง่ รอเวลาผ่าน
ไปแต่ละนาทีดงั่ รอเวลาผ่านเป็ นชัว่ โมงๆอย่างทรมาน เธอมองเข็มวินาทีบน
ข้ อมือซ้ ายของเธอช้ าลงกว่าที่เคยเพราะความร้ อนรุ่มใจดัง่ ไฟสุมในอกของ
เธอ หน้ าห้ องฉุกเฉินมีแต่หญิงวัยกลางคนอย่างเธอเพียงผู้เดียวที่ดู
กระวนกระวายใจที่สดุ เธอก้ มมองดูนาฬิกาข้ อมือซ้ำแล้ วซ้ำเล่า และลุก
เดินวนไปวนมาแล้ วกลับไปนัง่ ที่เดิมอยู่หลายครัง้ หลายหน จนทำให้ ผ้ อู ื่นที่
อยู่รอบข้ างต้ องส่ายหัวไปตามๆกัน อีกไม่กี่นาทีตอ่ มาประตูห้องฉุกเฉินก็
เลื่อนเปิ ด คุณอัญชัญลุกจากที่นงั่ อย่างรวดเร็วดัง่ นักโทษที่ได้ ยินผู้คมุ ขัง
ขานชื่อเรี ยกแล้ ววิ่งตรงไปยังนายแพทย์โดยไม่รัง้ รอ “อาการลูกสาวของ
ดิฉนั เป็ นยังไงบ้ างคะ” เธอถามออกไปด้ วยน้ำเสียงร้ อนรนแทบคุมอาการไว้
ไม่อยู่ “คุณเป็ นคุณแม่ของนางสาวพิมณัฎฐาใช่มยครั ั ้ บ” นายแพทย์ถาม
ออกไปด้ วยน้ำเสียงที่เปี่ ยมไปด้ วยไมตรี “ใช่คะ ตอนนี ้เธอปลอดภัยดีมยั ้
คะ” เธอถามกลับด้ วยน้ำเสียงร้ อนรนเหมือนเดิม ในใจเธอลุ้นอย่างที่สดุ สิ่ง
ที่เธอต้ องการในวินาทีนี ้คือคำตอบของนายแพทย์ที่ตอบว่า “ครับ ไม่ต้อง
ห่วงครับ ตอนนี ้เธออยู่ในขันปลอดภั
้ ยดี” คำตอบของเขาไม่ทำให้ เธอต้ อง
ผิดหวัง ทันทีที่เธอได้ ยินคำตอบ เธอก็ปล่อยร้ องไห้ โฮออกมาด้ วยความดีใจ
ต่อหน้ านายแพทย์เหมือนดัง่ สวรรค์มาโปรดเธอ เธอรู้สกึ โล่งอกโล่งใจดัง่ ยก
ภูเขาสักสามลูกออกจากอก “เธอโชดดีมากนะครับที่มีคนมาช่วยชีวิตเธอไว้
ทัน ผมดีใจด้ วยนะครับ ตอนนี ้เธอกำลังนอนหลับอยู่ อีกสักครู่เธอก็คงตื่น
ครับ เชิญคุณแม่เข้ าไปเยี่ยมเธอด้ านในได้ เลยนะครับ ” คุณอัญชัญรู้สกึ ดีใจ
ที่สดุ ในชีวิตอย่างไม่เคยรู้สกึ มาก่อน ถึงแม้ วา่ เธอจะเคยรู้สกึ ดีใจมากตอนที่
เธอเคยถูกลอตเตอรี่ รางวัลที่หนึง่ มาแล้ วก็ตาม แต่ความรู้สกึ ดีใจในตอนนัน้
ยังไม่ถึงครึ่งของความรู้สกึ ดีใจเท่าตอนนี ้ เธอกล่าวขอบคุณอย่างนับไม่
ถ้ วนด้ วยน้ำตาแห่งความสุขเอ่อล้ นออกมา ตรงหน้ านายแพทย์ผ้ ชู ่วยชีวิต
มะลิลกู สาวของเธอเอาไว้
เวลาผ่านไปสักครู่ มะลิลมื ตาขึ ้นมาเห็นผู้เป็ นมารดายืนอยู่ข้าง
เตียงเธอพอดี “ตื่นแล้ วเหรอมะลิลกู แม่” คุณอัญชัญทักทายทันทีที่ลกู สาว
อันเป็ นที่รักของเธอลืมตาขึ ้นมาพร้ อมโผเข้ ากอดเธอ “แม่เป็ นห่วงลูกมาก
เลย รู้มยแม่
ั ้ เกือบจะเป็ นบ้ าไปแล้ ว” ผู้เป็ นมารดาพูดด้ วยน้ำเสียงดีใจปน
สะอื ้น “หนูไม่เป็ นไรแล้ วจ้ าแม่” มะลิพดู ออกไปเพื่อให้ คณ ุ แม่ของเธอ
สบายใจ “รู้มยว่ั ้ าสิ่งที่แม่กลัวที่สดุ คืออะไร” ผู้เป็ นมารดาตังคำถาม
้ “หนูร้ ู
คะว่าแม่กลัวจะเสียหนูไปเหมือนพ่อ” ผู้เป็ นมารดาพยักหน้ าพร้ อมคลาย
อ้ อมกอด “มะลิ เล่าให้ แม่ฟังหน่อยสิลกู เรื่ องราวมันเป็ นยังไง” เธอตัง้
คำถามต่อไป “หนูก็แค่เดินเล่นบนขอบสระว่ายน้ำแล้ วไถลลื่นตกลงไปใน
สระเองน่ะแม่” ความจริ งเธอโกหกเพื่อไม่ให้ คณ ุ แม่ของเธอกังวลกับ
เหตุการณ์จริ งที่เกิดขึ ้นกับเธอ “วันหลังอย่าไปเดินเล่นอย่างนันอี
้ กล่ะ ตัว
เองก็วา่ ยน้ำไม่ใช่เป็ น โตเป็ นสาวแล้ วยังจะซนอย่างกับเด็กประถมอีก ถ้ า
ไม่มีใครมาเห็นลูกแล้ วจะช่วยตัวเองยังไง ลูกตายไปแล้ วแม่จะอยู่ยงั ไง….บ
ลาๆๆ” เธอตักเตือนลูกสาวของเธอพร้ อมบ่นใส่เธอเป็ นการใหญ่ “หนู
ขอโทษคะแม่” มะลิกล่าวขอโทษด้ วยน้ำเสียงสำนึกผิดอย่างแนบเนียน แต่
เธอก็ร้ ูสกึ สบายใจที่มารดาของเธอไม่ร้ ูเรื่ องความจริ ง
เช้ าวันถัดมา เด็กนักเรี ยนสาววัยรุ่นไฮโซทังสี ้ ่คนมานัง่ รวมตัวกัน
ที่ข้างสนามฟุตบอลในโรงเรี ยน ซึง่ พวกเธอจะมานัง่ จับกลุม่ กันเป็ นประจำ
เพื่อเหล่ดหู นุ่มๆเตะฟุตบอลนัน่ เอง “นี่ นังโรส แกคิดว่าอีนงั มะลิมนั จะรอด
มัย้ ชันโคตรสะใจในการกระทำของแกเลยว่
้ ะ” เกรซพูดออกมาด้ วยน้ำเสียง
ที่เปี่ ยมไปด้ วยความสะใจ “แหม ก็มนั จมไปซะขนาดนัน้ แล้ วอีกอย่างสระ
น้ำลึกตังสองเมตร
้ ถ้ ามันรอดมาได้ ก็ให้ มนั รู้ไป” โรสตอบกลับด้ วยน้ำเสียง
ที่เปี่ ยมไปด้ วยความสะใจเช่นกัน “เฮ้ ย! แล้ วจะมีใครรู้มยว่ ั ้ าพวกเราหลอก
ล่อให้ นงั มะลิมนั ขึ ้นมาที่สระน้ำบนดาดฟ้า” เอแคลร์ พดู ออกมาด้ วยน้ำเสียง
กังวลเล็กน้ อย “โธ่แก ใครจะไปรู้วะ เวลาออกจะเช้ าซะขนาดนัน้ คนใน
โรงเรี ยนก็มีไม่กี่คน แล้ วอีกอย่าง จดหมายที่ชนเขี ั ้ ยนทิ ้งไว้ ในล็อคเกอร์ ของ
ยัยมะลินนั่ ชันก็ ้ ปลอมลายเซนต์ของพี่โจนาธานลงท้ ายเอาไว้ และที่ส ำคัญ
ไม่มีกล้ องวงจรปิ ดบนดาดฟ้าแม้ แต่อนั เดียว ใครจะรู้ละ่ ว่าเป็ นพวกเรา ฮ่าๆ
ๆ” น้ำเสียงที่แฝงด้ วยความร้ ายกาจของโรสทำเอาทุกคนในแก๊ งพลอย
หัวเราะออกมาด้ วยความสะใจเช่นกัน “เอ้ อพวกเรา ชันว่ ้ าน่าเสียดาย” เคท
พูดขัดจังหวะทำเอาเสียงหัวเราะของแก๊ งขาดหายไป “เสียดายอะไรของแก
วะ” โรสยิงคำถามด้ วยน้ำเสียงผิดหวังระคนความโทสะเพราะคิดว่าเพื่อน
สาวในกลุม่ คิดสงสารมะลิ ซึง่ เป็ นสิ่งที่เธอรับไม่ได้ “ชันเสี
้ ยดายที่ลงุ ภารโลง
มาเจอมันเร็วไป ถ้ าลุงแกมาเจอช้ ากว่านี ้มันจะต้ องตายอย่างน่าอนาถ แล้ ว
ที่สำคัญมันจะไม่มีวนั ฟื น้ ขึ ้นมาเป็ นคูแ่ ข่งแย่งความรักจากพี่โจนาธาน
หวานใจของแกไงล่ะ” คำพูดของเคทเป็ นที่น่าพอใจของโรส “ฮึ ให้ มนั ได้
อย่างนี ้สิ ชันก็
้ นกึ ว่าแกสงสารมันซะอีก” โรสพูดออกมาอย่างพอใจ “แกคิด
ว่าใครในแก๊ งนางฟ้าแสนสวยอย่างพวกเราจะริ สงสารอีนงั นัน่ ยะ” น้ำเสียง
ของเคทประโยคนี ้ร้ ายพอๆกับละครหลังข่าวไม่มีผิด การกระทำอันร้ ายแรง
ต่อชีวิตผู้อื่นในครัง้ นัน้ ซึง่ พวกเธอได้ กระทำลงไปโดยปราศจากคุณธรรม
ทำให้ ปีศาจในตัวของพวกเธอมีกำลังมากยิ่งขึ ้นกว่าเดิม พวกเธอคือแก๊ ง
โฟร์ แองเจิ ้ลที่เป็ นแก๊ งร่วมชันเรี
้ ยนเกรดสิบเอ็ดชันเดี
้ ยวกับมะลิ
ในช่วงวันหยุดเสาร์ อาทิตย์ นักเรี ยนทุกคนต่างดีอกดีใจ บางคน
เลือกจะไปเที่ยวพักผ่อนกับครอบครัว บางคนเลือกที่จะนอนทังวั ้ นอยู่บ้าน
ตื่นสายกี่โมงก็ได้ บางคนเลือกที่จะเล่นเกมส์ทงวั ั ้ น บางคนเลือกที่จะไปเดิน
ช้ อปปิ ง้ อย่างไม่สนใจน้ำหนักกระเป๋ าสตางค์ แต่สำหรับมะลิแล้ ว เธอเลือก
ที่จะอยู่คนเดียวในสวนดอกไม้ หลังบ้ านพร้ อมสีน้ำ พูก่ นั จานสี กระดาษ
วาดภาพ และขาตังวาดรู ้ ป เธอใช้ เวลาทังวั
้ นเพลิดเพลินไปกับการ
จินตนาการแต่งแต้ มสีสนั บนกระดาษซึง่ เปี่ ยมไปด้ วยอารมณ์สนุ ทรี เธอ
พยายามลบเลือนเรื่ องราวอันแสนเลวร้ ายที่เพิ่งเกิดขึ ้นกับเธอเมื่อวันก่อนให้
หมดสิ ้นไปจากใจ แต่บางครัง้ ภาพเก่าๆอันแสนเลวร้ ายยังฉายเข้ ามาให้ เธอ
เห็นเป็ นครัง้ คราว เธอส่ายศีรษะเพื่อสละความคิดถึงอดีตให้ ออกไปจาก
สมอง พร้ อมสูดอากาศบริ สทุ ธิ์ที่ล้อมรอบไปด้ วยดอกไม้ สีสนั สวยงามนานา
ชนิด ในขณะที่เธอกำลังเพลิดเพลินกับการเสพศิลป์อยู่นนั ้ เสียงโทรศัพท์
มือถือซัมซุงของเธอที่วางอยู่บนเก้ าอี ้ข้ างขาตังวาดรู
้ ปก็ดงั เป็ นท่วงทำนอง
อันไพเราะ เธอวางพูก่ นั ลงแล้ วหยิบโทรศัพท์มือถือขึ ้นมาดูหน้ าจอแต่เป็ น
เบอร์ ที่ไม่ค้ นุ เอาซะเลย เธอภาวนาในใจขอให้ เป็ นใครก็ได้ โทรมาหา แต่ขอ
อย่าเป็ นใครสักคนในแก๊ งโฟร์ แองเจิ ้ลเลย เธอยังไม่กล้ ากดรับสายและ
ปล่อยให้ โทรศัพท์มือถือของเธอดังอยู่อย่างนัน้ พร้ อมนึกย้ อนไปยัง
เหตุการณ์อนั แสนเลวร้ ายที่เกิดขึ ้นกับเธอเมื่อวันก่อน เธอนึกถึงเหตุการณ์ที่
เกิดขึ ้นกับเธอบนดาดฟ้าของโรงเรี ยน โรสจิกผมหน้ าของเธอแต่เธอทำอะไร
ไม่ได้ เพราะเคทจับแขนของเธอทังสองข้ ้ างไว้ ด้านหลัง ส่วนเอแคลร์ กบั เกรซ
ช่วยกันจับขาของเธอคนละข้ างไม่ให้ เธอขยับได้ โรสจ้ องหน้ าเธอด้ วย
สายตาอำมหิต “หึหึ แกนี่มนั หลอกง่ายจริ งๆ คิดว่าจะได้ เจอพี่โจนาธานข
องชันบนดาดฟ
้ ้ านี่เร๊ อะ ฝั นไปเถอะ แล้ วแกจะไม่มีวนั ได้ เจอผัวในอนาคต
อันใกล้ ของชันอี ้ ก” โรสตะคอกใส่หน้ าเธอ แต่มือของเธอยังคงจิกผมหน้ า
ของมะลิไว้ แน่น จากนันโรสก็ ้ สงั่ ให้ แก๊ งของเธอช่วยกันลากร่างอันบอบบาง
ของมะลิไปที่ขอบสระว่ายน้ำ เธอดิ ้นจนสุดกำลังแต่ก็ไม่สามารถต้ านแรง
ของคนทังสี ้ ่ได้ เธอทังตะโกนร้
้ องขอความช่วยเหลือด้ วยความกลัวสุดขีดแต่
ไม่มีใครได้ ยินเสียงของเธอเลย เพราะโรสใช้ มืออีกข้ างบีบลำคอเธอเอาไว้
สิ่งที่เธอทำได้ คือพยายามหายใจและดิ ้นรนอย่างที่สดุ ผลก็คือเธอยิ่ง
เหนื่อยและทรมานยิ่งขึ ้นกว่าเดิม ก่อนที่โรสจะเป็ นคนผลักเธอตกลงไปใน
สระน้ำ เธอได้ ยินประโยคที่พดู ออกมาด้ วยน้ำเสียงอำมหิตที่สดุ จากปาก
ของโรส “กูอยากเห็นมึงตายต่อหน้ าต่อตากูแล้ วกูจะมีความสุขที่สดุ อีนงั
มะลิ!!” จากนันร่ ้ างของเธอก็ตกลงไปในเขตน้ำลึกที่สดุ สองเมตร เธอ
พยายามตะเกียกตะกายด้ วยอาการตกใจสุดขีด และฮุบเอาอากาศเหนือ
น้ำโดยสัญชาตญาณของคนว่ายน้ำไม่เป็ น ส่วนพวกแก๊ งโฟร์ แองเจิ ้ลก็พา
กันหนีไปเสียแล้ ว ปล่อยให้ เธอตะเกียกตะกายและสำลักน้ำเข้ าไปเป็ น
จำนวนมาก ในที่สดุ เธอก็หมดเรี่ ยวแรง เธอจำต้ องยอมจำนนให้ กบั ดวง
ชะตาชีวิตของเธอในวินาทีนี ้ ร่างของเธอค่อยๆจมลงเรื่ อยๆ และสุดท้ าย
ของความทรงจำในขณะที่เธอกำลังจมลงไปถึงก้ นสระ เธอเห็นผู้หญิงที่รูป
ร่างหน้ าตาเหมือนกับเธอยืนอยู่บนขอบสระน้ำแล้ วก้ มมองลงมายังร่างของ
เธอ ในขณะที่ร่างของเธอนอนหงายจมอยู่ก้นสระก่อนที่เธอจะหมดสติไป
เสียงโทรศัพท์มือถือของเธอยังคงดังอยู่แต่เธอก็ฝืนใจกดรับสายในที่สดุ “ฮ
ะ ฮัลโหล” เธอรับสายด้ วยน้ำเสียงที่ไม่คอ่ ยสู้ดีนกั “Hello, Mali. How are
you?” น้ำเสียงอันไพเราะของชายคนหนึง่ ทำให้ เธอรู้สกึ โล่งอกโล่งใจ เพราะ
ไม่ใช่ใครสักคนในแก๊ งโฟร์ แองเจิ ้ลเลย เธอไม่แปลกใจที่จะมีชาวต่างชาติ
มารู้จกั เธอ เพราะโรงเรี ยนนานาชาติที่เธอเรี ยนอยู่นนก็ ั ้ มีนกั เรี ยนต่างชาติ
หลายคนที่ร้ ูจกั นักเรี ยนใหม่อย่างเธอ แต่ในขณะเดียวกันเธอรู้สกึ แปลกใจ
ว่าเขาคนนันเป็้ นใคร และได้ เบอร์ โทรของเธอมาได้ อย่างไร ใครเป็ นผู้ให้
เบอร์ โทรแก่เขา หรื อเขาผู้นนแอบไปค้
ั้ นดูประวัติของเธอที่ไหนสักที่หรื อ
เปล่า “Excuse me. Who are you?” เธอถามกลับเขาไปด้ วยน้ำเสียงที่
แปลกใจ “ผมโจนาธานครับ ยูจำผมได้ มยเอ่ ั ้ ย” น้ำเสียงที่เปี่ ยมไปด้ วย
เสน่ห์แถมสำเนียงภาษาไทยไม่คอ่ ยชัดทำเอาหัวใจของมะลิเต้ นแรง และ
แทบจะละลายไปผสมกับสีน้ำที่อยู่ตรงหน้ าของเธอ เธอทังตื ้ ่นเต้ นและดีใจ
จึงเผลอยิ ้มออกมาอย่างคุมอาการไว้ ไม่อยู่ “พี่โจนาธานเองเหรอคะ ตอนนี ้
ไอสบายดีคะ แล้ วยูละ่ สบายดีมยคะ” ั้ เธอตังสติ
้ ก่อนตอบเขาไปโดย
พยายามคุมน้ำเสียงให้ เป็ นปกติ “ผมสบายมากครับและก็ดีใจที่ได้ ยินเสียง
ของยู ผมได้ ข่าวว่ายูจมน้ำก็เลยโทรมาหาครับ” หัวใจของมะลิยงั คงเต้ นแรง
ถี่เหมือนเดิมเพราะความตื่นเต้ นที่ได้ คยุ กับชายผู้ที่เธอแอบมีความรู้สกึ ดีๆ
ให้ เธอรู้สกึ เหมือนโลกกำลังจะหยุดหมุนเพื่อคงเวลาอันแสนสุขนี ้ไว้ ให้ เธอ
เพียงผู้เดียว “ขอบคุณมากนะคะ แล้ วยูได้ เบอร์ โทรของไอมาจากไหนล่ะ
คะ” เธอตังสติ
้ ก่อนพูดขอบคุณและถามคำถามต่อไป “ผมได้ เบอร์ ของยูมา
จากไหนมันไม่สำคัญหรอกครับ แต่สิ่งที่สำคัญที่สดุ สำหรับผมคือชีวิตของ
ยู” เด็กสาววัยรุ่นรู้สกึ ตื ้นตันใจและมีความสุขอย่างไม่เคยรู้สกึ มาก่อนจน
ลืมเรื่ องเลวร้ ายที่เพิ่งเกิดขึ ้นกับเธอเมื่อวันก่อนเสียสนิท ตอนนี ้เหมือนโลก
ทังใบเป็
้ นสีชมพู เธอยิ ้มกว้ างออกมาคนเดียวอย่างไม่สนดินฟ้าอากาศ ทุก
สิ่งทุกอย่างดูสวยงามไปหมดแม้ แต่อากาศแสนจะร้ อนอบอ้ าวแต่ก็ไม่
สามารถทำให้ เธอรู้สกึ ทุกข์ขึ ้นมาได้ เลย หลังจากเธอคุยกับเขาเสร็จ เธอยัง
คงนัง่ อยู่ที่เดิมด้ วยใบหน้ าที่เปี่ ยมไปด้ วยรอยยิ ้ม เธออยากรู้สกึ แบบนี ้ไป
ตลอด ด้ วยความเป็ นวัยรุ่นและยังน้ อยประสบการณ์ชีวิตแถมเธอเพิ่งจะมี
ความรักเป็ นครัง้ แรก จึงทำให้ สมองของเธอเต็มไปด้ วยสารโดพามีน ซึง่ สาร
นี ้จะหลัง่ ออกมาเมื่อมนุษย์มีความสุข ‘สิ่งที่สำคัญที่สดุ สำหรับผมคือชีวิต
ของยู’ ‘สิ่งที่สำคัญที่สดุ สำหรับผมคือชีวิตของยู’ ‘สิ่งที่สำคัญที่สดุ สำหรับ
ผมคือชีวิตของยู’ ประโยคอันแสนซึ ้งของเขาดังก้ องอยู่ในหัวของเธอซ้ำแล้ ว
ซ้ำเล่าตลอดเวลา ไม่วา่ เธอจะเดินไปทางไหนหรื อทำอะไรก็ได้ ยินแต่
ประโยคชวนหลงคารมนี ้อยู่ร่ำไป แม้ ถึงเวลารับประทานอาหารเย็นแต่เธอ
กลับรู้สกึ อิ่มเอมอย่างบอกไม่ถกู “มะลิ ลูกเป็ นอะไรฮึ เห็นยิ ้มน้ อยยิ ้มใหญ่
อยู่คนเดียว แอบมีความรักรึเปล่า บอกแม่มาซะดีๆ” คำถามจากผู้มี
พระคุณทำให้ เธอหน้ าแดงระเรื่ อ “เปล่าจ้ าแม่ หนูก็แค่อา่ นนิยายรัก
โรแมนติคมาก็แค่อินกับมันน่ะแม่” มะลิตอบคุณแม่ของเธอด้ วยน้ำเสียง
อารมณ์ดี “ฮัน่ แน่ๆ จะโกหกแม่ทงที ั ้ ก็ให้ มนั เนียนๆหน่อยสิจ๊ะลูกรัก ” ผู้เป็ น
มารดาพูดด้ วยรอยยิ ้มพลางชี ้นิ ้วมาที่เธอ “แม่ก็ ไปเป็ นนักจับผิดตังแต่ ้
เมื่อไรคะ อย่างนี ้หนูก็เขินแย่สิ” มะลิพดู พร้ อมหัวเราะออกมาด้ วยใบหน้ าที่
แดงระเรื่ อกว่าเดิม “เขินอย่างนี ้แสดงว่าเป็ นเรื่ องจริ งใช่มยั ้ หือ อย่าปฏิเสธ
เชียวนะ” น้ำเสียงใจดีแต่แฝงความจริ งจังเล็กน้ อยของคุณอัญชัญทำให้ ผ้ ู
เป็ นลูกสาวต้ องพูดยอมรับความจริ งซะโดยดี “นัน่ ไง แม่วา่ แล้ วเชียว นี่ ถ้ า
ลูกจะมีความรักน่ะแม่ไม่ห้าม แต่ลกู ต้ องทำใจไว้ ก่อนว่าสุดท้ ายแล้ วยังไง
ลูกก็ต้องผิดหวัง” น้ำเสียงของผู้เป็ นมารดาจริ งจังมากขึ ้นกว่าเดิม “แม่ร้ ูได้
ไงคะว่าหนูจะต้ องผิดหวัง” มะลิถามออกไปด้ วยความสงสัย “คนเราน่ะ
เมื่อมีความรักครัง้ แรกมักผิดหวังเสมอ” ผู้เป็ นมารดาเริ่ มอธิบายแต่มะลิ
กลับเริ่ มใจเสียแต่ยงั คงตังใจฟั
้ งต่อไป “ไม่วา่ ใครจะเริ่ มมีความรักครัง้ แรก
โดยเฉพาะอย่างยิ่งวัยรุ่นอย่างลูก 99% ไม่มีใครสมหวังในรักแรกเลย” “เพร
าะอะไรเหรอคะแม่” มะลิถามแทรกขึ ้นมาโดยที่คณ ุ แม่ของเธอยังพูดไม่ทนั
จบ “ก็เพราะรักครัง้ แรกของคนส่วนใหญ่มกั ไม่สมหวังเพราะความไร้ เดียง
สา ต่างคนต่างหลงเพราะความหล่อความสวย พูดง่ายๆก็คือหลงรูปกาย
ภายนอกนัน่ แหละลูกเอ๋ย และอีกอย่างต่างฝ่ ายต่างมโนเติมแต่ง
จินตนาการว่าคนๆนันดี ้ อย่างนันดี
้ อย่างนี ้ ทังๆที
้ ่ในความเป็ นจริ งแล้ วเขา
หรื อเธอคนนันไม่้ ใช่เป็ นอย่างที่เราคิดเลย คนเราน่ะ กว่าจะรู้แก่นแท้ ของ
กันและกันมันใช้ เวลาหลายปี มีคนจำนวนไม่น้อยเลยนะลูก ที่ต้องจบกัน
แบบน่าเศร้ าเพราะความผิดหวัง บางคนเศร้ าหนักถึงขันฆ่ ้ าตัวตายไปเลยก็
มี แต่นนั่ มันไม่ใช่วิธีแก้ ปัญหาที่ดี” คุณอัญชัญพร่ำสอนอย่างจริ งจังระคน
ความกังวลกับลูกสาวเพราะประสบการณ์อนั ล้ นเหลือของผู้ที่เคยอาบน้ำ
ร้ อนมาก่อน มะลิตงใจฟัั ้ งคุณแม่เหมือนเด็กน้ อยกำลังฟั งนิทาน “ความรักที่
แท้ จริ งน่ะ มันจะเกิดขึ ้นได้ ต้องมีเหตุมีผลหลายๆอย่างจนไม่มีความหลง
และยอมรับได้ ในทุกสิ่งทุกอย่างของอีกฝ่ าย แต่ถ้ารับไม่ได้ ก็ยงั ไม่เจอคนที่
ใช่ ตังแต่
้ สมัยแม่เป็ นวัยรุ่น แม่ยงั ไม่เคยเห็นเพื่อนแม่คนไหนที่สมหวังกับรัก
แรกเลยแม้ แต่ตวั แม่เอง” ผู้เป็ นมารดาอธิบายจบ “แล้ วเวลาแม่อกหักนี่ใช้
เวลาเยียวยานานมัยคะ” ้ มะลิถามออกไปด้ วยความอยากรู้เพราะที่จริ ง
แล้ วในใจเธอก็หวัน่ กลัวการผิดหวังเช่นกัน “แม่นะเหรอ แค่นาทีเดียวก็
หัวเราะร่าได้ แล้ ว” ผู้เป็ นมารดาเห็นลูกสาวตัวเองดูกงั วลเล็กน้ อยซึง่ ที่จริ ง
ตัวเธอเองเป็ นผู้กงั วลเสียมากกว่าจึงพลิกคำตอบชวนหัวเราะ มะลิหวั เราะ
ออกมาอย่างง่ายดาย “แล้ วแม่เคยมีแฟนมาแล้ วกี่คนคะ” “โอ้ มีเป็ นสิบเลย
จ้ าลูก” “โอ้ โห มีแฟนทีเดียวสิบคนเลยเหรอคะแม่” มะลิทำตาโตพร้ อมถาม
ออกไปด้ วยน้ำเสียงตื่นเต้ น “บ้ าน่า แม่ก็คบทีละคนสิลกู ” “เมื่อกี ้หนูล้อเล่น
นะ ฮ่าๆๆ” มะลิพดู แหย่ให้ คณ ุ แม่ของเธอหัวเราะออกมาเช่นกัน “แต่กว่าจะ
มาเจอพ่อของลูกได้ นี่มนั ไม่ง่ายเลย พ่อของลูกน่ะเขาเป็ นคนดีมากเลยนะรู้
มัย”้ ผู้เป็ นมารดาพูดต่อพร้ อมลุกขึ ้นเดินไปเปิ ดลิ ้นชักที่อยู่ตรงข้ ามเธอ มะลิ
เห็นคุณแม่ของเธอค้ นหาอะไรบางอย่างอยู่ชวั่ ครู่แล้ วหยิบรูปถ่ายขึ ้นมา “ดู
นี่สิลกู รัก” มะลิเดินเข้ าไปใกล้ พร้ อมหยิบรับรูปถ่ายจากมือคุณแม่ของเธอ
ในรูปถ่ายเป็ นรูปผู้ชายผมหยิกยาวประบ่า หน้ าตาหล่อเข้ มใส่กางเกงยีนส์
และเสื ้อยีนส์สวมทับเสื ้อยืดคอกลมสีดำด้ านในยืนอยู่ใต้ ต้นไม้ ใหญ่ริมตลิ่ง
“นี่รูปคุณพ่อใช่มยคะ”
ั้ มะลิถามออกไปอย่างมัน่ ใจ “ใช่จ่ะ พ่อของลูกน่ะ
เป็ นนักร้ องและจิตรกร จะว่าไปแล้ วลูกมีอะไรที่เหมือนพ่ออยู่หลายอย่าง” “
อะไรบ้ างเหรอคะ” มะลิตงคำถาม
ั้ “ก็พอ่ ของลูกน่ะรักอิสระ ชอบความ
สันโดษ ชอบศิลปะ และที่สำคัญพ่อของลูกน่ะเป็ นคนสุภาพมากเลย รู้มยั ้
ลูกน่ะเหมือนพ่อทุกอย่างเลย” มะลิยิ ้มออกมาด้ วยความปลื ้มปลิม่ หลังจาก
ฟั งคุณแม่ของเธอพร้ อมดูรูปไปด้ วย แต่ผ้ เู ป็ นมารดาไม่แสดงความโศกเศร้ า
ออกมาให้ ลกู สาวของเธอเห็นเมื่อเธอพูดถึงสามีของเธอ ปกติแล้ วเธอแทบ
จะไม่พดู ถึงสามีของเธอให้ ลกู สาวของเธอฟั งเพราะไม่อยากให้ อาการเศร้ า
กำเริ บขึ ้นมาอีก
ในสวนสาธารณะเต็มไปด้ วยต้ นไม้ ใหญ่ ดอกไม้ สนามเด็กเล่น
และม้ านัง่ มะลิกำลังเดินไปตามทางเดินเพื่อชมธรรมชาติในสวนสาธารณะ
แห่งนี ้ซึง่ ไร้ ผ้ คู น เธอรู้สกึ ผ่อนคลายเย็นสบายและอิสระ ธรรมชาติรอบๆตัว
เธอช่างงดงาม โดยเฉพาะดอกไม้ นานาชนิดที่มีสีสนั สวยงาม เธอหยิบ
โทรศัพท์มือถือขึ ้นมาเพื่อที่จะเซลฟี่ กบั ดอกไม้ และอัพโหลดลงเฟสบุ๊คของ
เธอ ในขณะที่เธอเพลิดเพลินอยู่นนั ้ สายตาของเธอก็เหลือบไปเห็นผู้หญิง
คนหนึง่ ซึง่ รุ่นราวคราวเดียวกับเธอ นัง่ อยู่ที่ม้านัง่ ไม่ไกลจากที่เธอยืนอยู่ ผู้
หญิงที่เธอเห็นนันทำให้ ้ เธอต้ องตกตลึงจนอ้ าปากค้ าง เธอแทบไม่เชื่อใน
สายตาตัวเอง เพราะเธอผู้นนมี ั ้ รูปร่างและหน้ าตารวมไปถึงการแต่งตัวก็
เหมือนกับเธอทุกประการยันศีรษะจรดเท้ า เธอยืนลังเลใจอยู่ชวั่ ครู่ ในใจ
อยากจะเดินเข้ าไปทักทายแต่ไม่ร้ ูจะเริ่ มอย่างไรดี เพราะเธอมี
มนุษยสัมพันธ์คอ่ ยไม่ดีสกั เท่าไร ‘แม่ของฉันคลอดฝาแฝดแล้ วแอบเอาไป
ให้ คนอื่นเลี ้ยงหรื อเปล่า’ เธอคิดอยู่ในใจ ในที่สดุ เธอก็รวบรวมความกล้ า
แล้ วเดินตรงไปยังเธอผู้นนั ้ ในใจเธอคิดว่าเผื่ออาจจะเจอคูแ่ ฝดของตนเข้ า
จริ งๆก็เป็ นไปได้ เพียงไม่กี่ก้าวจะถึงตัวเธอ เธอผู้นนก็ ั ้ หนั มามองและส่งยิ ้ม
ให้ เธอด้ วยรอยยิ ้มที่เปี่ ยมไปด้ วยมิตรภาพ มะลิยิ ้มตอบกลับไปอย่าง
ง่ายดาย “สวัสดีมะลิ ในที่สดุ เธอก็มาเจอฉันจนได้ ” เธอผู้นนเอ่ ั ้ ยปาก
ทักทายเธอด้ วยน้ำเสียงที่อบอุน่ ราวกับน้ำเสียงของเธอ มะลิทงตื ั ้ ่นเต้ นและ
ประหลาดใจว่าเธอผู้นนรู ั ้ ้ จกั ชื่อของเธอได้ อย่างไร “ฉันชื่อมาลีน่า ไม่ต้อง
แปลกใจหรอก ว่าฉันรู้จกั เธอได้ อย่างไร ฉันรู้จกั เธอมากกว่าที่เธอคิดอีก
เยอะ ฉันน่ะคือเงาตามตัวเธอตังแต่ ้ เธอเกิด และตามไปทุกๆที่ตลอดเวลา”
เธอยิ ้มให้ มะลิหลังจากพูดจบแต่มะลิสบั สนงุนงง ดูเหมือนเธอคนนี ้จะอ่าน
ความคิดของเธอออกทุกอย่างทังๆที ้ ่เธอไม่ได้ พดู อะไรออกมาเลยสักคำ
“ฉันรู้ดีวา่ ชีวิตของเธอมันช่างหงอยเหงาเดียวดายเหลือเกิน และตกอยู่ใน
อันตรายบ่อยๆ เหตุการณ์ที่ผ่านมาในตอนนันมั ้ นแสนเลวร้ ายกับเธอ แต่ฉนั
ก็ไม่สามารถช่วยอะไรเธอได้ แต่หลังจากเหตุการณ์นนั่ เกิดขึ ้นกับเธอ มัน
ทำให้ เธอมีโอกาสได้ เห็นฉันเป็ นครัง้ แรก ” มาลีน่าอธิบาย “เธอเองใช่มยที ั้ ่
ยืนดูฉนั อยู่บนขอบสระน้ำตอนที่ฉนั จมอยู่ที่ก้นสระ” มะลิตงคำถาม ั้ มาลี
น่าพยักหน้ าแทนคำตอบพร้ อมมอบรอยยิ ้มให้ เธออีกครัง้ ซึง่ เป็ นรอยยิ ้มที่
เปี่ ยมไปด้ วยความอบอุน่ ดัง่ พี่สาวที่ยิ ้มให้ กบั น้ องสาว “โอ้ พระเจ้ า” มะลิ
อุทานออกมาพร้ อมเอามือปิ ดปากด้ วยความประหลาดใจ และรู้สกึ ดีอย่าง
บอกไม่ถกู อาจเป็ นเพราะชีวิตของเธอมันเปี่ ยมไปด้ วยความเหงาเดียวดาย
มาเนิ่นนาน เมื่อเธอมาเจอกับใครสักคนที่ร้ ู จกั เธอดี ความเหงาของเธอจึง
มลายหายไป เธอรู้สกึ เหมือนกำลังมีพี่สาวฝาแฝดที่ร้ ูใจเธอเสียทุกอย่างเข้ า
มาในชีวิตของเธอ
มะลิลมื ตาตื่นขึ ้นมาในกลางดึก ในความฝั นเหมือนจะเป็ นเรื่ อง
จริ ง แต่เธอรู้สกึ เสียดายที่มนั เป็ นเพียงแค่ความฝั น และไม่อยากตื่นขึ ้นมา
รับรู้โลกแห่งความเป็ นจริ งเลย เธออยากจะนอนหลับยาวฝั นเพลินไปอย่าง
นัน้ ‘มาลีน่า หากเธอมีตวั ตนจริ งก็ดีสินะ’ เธอพูดในใจแล้ วค่อยๆลุกขึ ้นจาก
เตียง แล้ วค่อยๆเดินไปที่หน้ าต่างภายในความมืดอย่างระมัดระวัง และ
แง้ มผ้ าม่านสอดสายตาลอดออกไปในความมืด ท้ องฟ้าเต็มไปด้ วยแสง
ดาวระยิบระยับ แสงจันทร์ สาดฉายส่องเข้ ามาอาบใบหน้ าที่แลดูน่ารักของ
เธอพอดี เสียงจิ ้งหรี ดร้ องประสานกันทัว่ ทิศทาง ภาพความฝั นเมื่อสักครู่ยงั
คงชัดเจนอยู่ในใจของเธอ เธอเหม่อมองออกไปนอกหน้ าต่างเป็ นเวลานาน
ปล่อยให้ จิตใจล่องลอยออกไปอย่างอิสระ ‘สิ่งที่สำคัญที่สดุ สำหรับผมคือ
ชีวิตของยู’ ประโยคอันแสนซึ ้งนี ้ได้ กลับเข้ ามาดังก้ องในหัวของเธออีกครัง้
เธอยิ ้มออกมาอย่างง่ายดาย ภายใต้ แสงจันทร์ ที่ยงั คงสาดฉายส่องเข้ ามาก
ระทบใบหน้ าของเธอ ถึงแม้ วา่ เธอจะไม่ใช่เป็ นเด็กสาววัยรุ่นที่มีหน้ าตาสวย
เด่นจนสะดุดตา แต่ความน่ารักจึงทำให้ หน้ าตาของเธอดูไม่ธรรมดา รอย
ยิ ้มของเธอจึงดูมีเสน่ห์ฉายรังสีออกไปแข่งกับดาวนับล้ านดวงบนท้ องฟ้า
แต่คำพูดประโยคหนึง่ ก็แทรกเข้ ามาดังก้ องในหัวของเธอ ‘สุดท้ ายแล้ วยังไง
ลูกก็ต้องผิดหวัง’ เธอหุบยิ ้มลงทันทีและพยายามไม่ให้ ใจของเธอหมกหมุ่น
อยู่กบั เขามากนัก อีกไม่กี่ชวั่ โมงก็ถึงเวลาตื่นไปโรงเรี ยนในตอนเช้ าแล้ ว เธอ
จึงต้ องรี บกลับไปนอนให้ ทนั เสียงนาฬิกาปลุกก่อนที่จะสายเกินไป
เสียงนาฬิกาปลุกบนขอบหัวเตียงดังขึ ้นในเวลาหกโมงเช้ า มะลิ
เอื ้อมมือกดปิ ดเสียงแล้ วพยายามลุกขึ ้นอย่างงัวเงีย พับผ้ าห่มและดึง
ผ้ าปูที่นอนให้ ตงึ หลังจากเธอทำธุระส่วนตัวเสร็จทุกอย่าง จากนันก็ ้ เดินลง
มายังห้ องครัวแล้ วทำเมนูอาหารเช้ าง่ายๆเพียงแค่ทอดไข่ดาวสักฟอง และ
ปิ ง้ ขนมปั งสักสองแผ่น พร้ อมชงโอวัลตินร้ อนๆสักถ้ วยก็เป็ นอันเสร็จสิ ้น
“ทำไมวันนี ้ต้ องเป็ นวันจันทร์ ด้วยนะ” เธอบ่นคนเดียวในขณะที่เธอกำลัง
วางไข่ดาวบนแผ่นขนมปั งแล้ วบีบซอสมะเขือเทศราดจนทัว่ จากนันก็ ้ เอา
แผ่นขนมปั งอีกแผ่นวางประกบเพื่อทำเป็ นแซนวิช ที่จริ งแล้ วเธอไม่คอ่ ย
รู้สกึ หิวเท่าไรในตอนเช้ าตรู่ แต่เธอต้ องฝื นรับประทานเข้ าไปทุกๆครัง้ เพื่อให้
มีพลังงานในร่างกายบ้ างเท่านันเอง ้ เธอยกเมนูแซนวิชที่เธอทำไปวางบน
โต๊ ะอาหารซึง่ เป็ นโต๊ ะทรงกลมที่มีผ้าคลุมลายดอกไม้ สีชมพูพื ้นหลังเป็ นสี
ขาวคลุมอยู่ และมีแจกันดอกกุหลาบสีแดงสองดอกวางอยู่บนโต๊ ะ ซึง่ เป็ น
ดอกที่คณ ุ แม่ของเธอปลูกไว้ ในสวนหลังบ้ าน ปกติแล้ วคุณแม่ของเธอชอบ
เอาดอกกุหลาบสีแดงมาประดับไว้ บนโต๊ ะอาหาร และตัวเธอเองก็ชอบดอก
กุหลาบสีแดงเช่นเดียวกับคุณแม่ของเธอ และแล้ วสายตาของเธอก็เหลือบ
ไปเห็นกระดาษแผ่นเล็กเท่านามบัตรเสียบอยู่ใต้ แจกันดอกกุหลาบสีแดง
ซึง่ มีข้อความเขียนไว้ อยู่ เธอหยิบขึ ้นมาอ่านอย่างพิจารณา มันเป็ นเพียงข้ อ
ความสันๆ ้ ‘จงระวังตัวทุกๆวัน’ เธอแปลกใจที่สดุ เพราะทุกลายลักษณ์
อักษรเหมือนลายมือเขียนของเธอทุกตัวอักษร และเธอก็มนั่ ใจว่าไม่ใช่เป็ น
ลายมือเขียนของคุณแม่เธออย่างแน่นอน เพียงแค่เธอเห็นข้ อความเป็ นลาง
นี ้ก็ร้ ูสกึ กลัวขึ ้นมา ด้ วยความที่เธอไม่อยากไปโรงเรี ยนอยู่แล้ ว ก็ยิ่งทำให้
เธอไม่อยากออกจากบ้ านไปโรงเรี ยนมากขึ ้นกว่าเดิม เธอกัดแซนวิชด้ วย
ความฝื นใจจนไม่รับรู้รสชาติ พร้ อมครุ่นคิดว่าใครเป็ นเจ้ าของลายลักษณ์
อักษรในกระดาษแผ่นนี ้ ความสับสนมากมายก่อตัวขึ ้นในสมองของเธอจน
สามารถตังประโยคคำถามได้
้ เป็ นโหล แต่ก็ไม่สามารถพบคำตอบใดๆได้
เลยสักข้ อ ‘หรื อว่าเป็ นฝี มือของหญิงในฝั นคนนันหรื ้ อเปล่า มาลีนา่ เธออาจ
มีตวั ตนจริ งๆแล้ วเขียนข้ อความเตือนฉันงันหรื ้ อ’ เธอคิดในใจ ‘ตอนนี ้ฉัน
กำลังฝั นอยู่หรื อเปล่า’ เธอตบหน้ าตัวเองเบาๆเพื่อทดสอบตัวเองว่าเธอแค่
ฝั นไปหรื อนี่จะเป็ นเรื่ องจริ งกันแน่ แต่เธอก็ไม่ได้ ฝันไป กระดาษแผ่นเล็ก
พร้ อมข้ อความสันๆแผ่ ้ นนี ้มันคือความจริ ง หลังจากเธอรับประทานอาหาร
เช้ าเสร็จ เธอก็ฝืนใจตัวเองไปโรงเรี ยนให้ ได้ แม้ วา่ เธอไม่อยากจะก้ าวขาพ้ น
จากประตูบ้านเลยแม้ แต่ก้าวเดียว ความคิดของเธอในตอนนี ้เต็มไปด้ วย
อารมณ์ด้านลบ เพราะเธอกลัวแก๊ งโฟร์ แองเจิ ้ลจะมาทำอะไรให้ เธออีก แต่
ละก้ าวๆที่เดินไปโรงเรี ยนนันช่ ้ างฝื นเหลือเกิน เธอทรมานใจเหมือนกำลัง
เวียนว่ายอยู่ในทะเลสาปแห่งความทุกข์ วนไปวนมาไม่ร้ ูจบสิ ้นโดยหาทาง
เข้ าฝั่ งไม่ได้ แต่ละก้ าวก็ใกล้ จะถึงโรงเรี ยนเข้ ามาทุกที หัวใจของเธอเต้ นแรง
ขึ ้นด้ วยความกังวล จึงทำให้ ร่างกายของเธออ่อนแอไร้ เรี่ ยวแรง ทันทีที่
สายตาของเธอเหลือบไปเห็นหลังคาโรงเรี ยนก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ด้วย
ความกังวล และเบื่อหน่ายอย่างกับเห็นหลังคาสถานที่คมุ ขังนักโทษที่มีแต่
คนพาล ถึงแม้ วา่ ความจริ งแล้ วเธอควรจะดีใจและมีกำลังใจเดินไปเรี ยน
ด้ วยซ้ำ เพราะอย่างน้ อยเธอก็ได้ เจอและได้ คยุ กับโจนาธานชายที่เธอแอบมี
ความรู้สกึ ดีๆให้ แต่นนั่ ก็ไม่สามารถช่วยอะไรเธอได้ เลย เพราะความกลัว
และความกังวลของเธอมีมากกว่าหลายเท่า ก้ าวแรกที่ผ่านประตูโรงเรี ยน
เข้ ามา เธอแทบอยากจะเสกตัวเองให้ หายตัวไป ณ เวลานี ้ สายตานักเรี ยน
หญิงไทยทุกสายตาจับจ้ องมาที่เธอเพียงผู้เดียว ต่างคนต่างซุบซิบนินทา
ต่อหน้ าต่อตาเธออย่างไร้ ความเกรงใจ “อีนงั นี่มนั ก็ดเู รี ยบร้ อยดีนะ แต่ชนั ้
ได้ ยินหลายคนว่ามันโคตรแรดเลย” เสียงนินทาของนักเรี ยนหญิงคนหนึง่
แว่วเข้ ามาผ่านหูของเธอ “ใช่ๆ มันแรดม๊ ากกก!!! อ่อยพี่โจนาธานเก่งจะ
ตาย ชันขอบอก”
้ เสียงนินทาของกะเทยรุ่นพี่คนหนึง่ พูดแสดงความเห็นกับ
นักเรี ยนหญิงคนนัน้ “ถ้ าชันมี้ โอกาสนะ ชันอยากจะตบหน้
้ ามันให้ เสียโฉม
ไปเลยนะแก” นักเรี ยนหญิงอีกคนพูดขึ ้นมา “ไม่สิ จะให้ มนั เสียโฉมทังที ้ เอา
น้ำกรดสาดหน้ ามันเลยดีกว่า” นักเรี ยนหญิงอีกคนแย้ งขึ ้นมา คำพูดนินทา
จากปากกลุม่ นักเรี ยนไทยพวกนันกระทบกระเทื
้ อนจิตใจของเธอยิ่งนัก
แม้ วา่ เธอจะได้ ยินมันอยู่บอ่ ยๆแต่เธอก็ยงั รู้สกึ อ่อนแอจนอยากร้ องไห้ ออก
มาทุกครัง้ แต่ทกุ ๆครัง้ เธอกล้ำกลืนฝื นทนไม่ให้ น้ำตาไหลออกมา เพราะถ้ า
มีใครเห็นน้ำตาเธอก็ยิ่งทำให้ พวกเขาสะใจมากยิ่งขึ ้นเท่านัน้ มะลิรีบวิ่งให้
พ้ นจากสายตาอันไร้ มิตรภาพหลายๆคูเ่ หล่านันที ้ ่จบั จ้ องมาที่เธอ ตอนนี ้เธอ
อยากจะร้ องไห้ ออกมาสุดๆ น้ำตาของเธอกำลังไหลออกมาในขณะที่เธอ
กำลังวิ่งให้ พ้นจากสายตาเหล่านัน้ จู่ๆเธอก็ต้องหยุดชะงักเพราะมีใครบาง
คนวิ่งเข้ ามาขวางเธอไว้ “Hi, Mali. Oh! What happened?” วินาทีที่มะลิ
เห็นโจนาธานมันทำให้ หวั ใจของเธออ่อนแอลงจึงร้ องไห้ โฮออกมาอย่างฝื น
ไว้ ไม่อยู่ เธอพูดอะไรไม่ออกทำได้ เพียงพยายามปาดน้ำตาที่มนั เอ่อล้ นออก
มา และรู้สกึ เขินอายที่น้ำตาเธอไหลออกมาตรงหน้ าชายที่เธอรู้สกึ ดีด้วย
เธอพยายามกลันน้ำตาไม่
้ ให้ ไหลออกมามากไปกว่านี ้แต่ก็กลันไว้้ ไม่อยู่ “ใจ
เย็นๆนะครับ I’m here. You will be ok.” น้ำเสียงที่แสนอบอุน่ ของโจนาธา
นทำให้ น้ำตาของเธอไหลออกมาเต็มที่อย่างที่ควรจะเป็ น พอรู้ตวั อีกทีเธอก็
สัมผัสถึงความห่วงใย และอ้ อมแขนที่แข็งแรงกอดรัดร่างอันบอบบางของ
เธอเอาไว้ ใบหน้ าของเธอซบแนบตรงกลางอกที่ผายของเขาเหมือนเป็ นที่
รองรับน้ำตา ความรู้สกึ ของเธอในตอนนี ้สับสนอย่างบอกไม่ถกู เธอดีใจที่
เขาแสดงความห่วงใย หรื อละอายใจที่เขากอดเธอท่ามกลางสายตาผู้คน
กันแน่ ใจหนึง่ ก็อยากจะหยุดเวลานี ้ไว้ อีกใจหนึง่ ก็ละอายสายตาผู้คน แต่
เธอก็ปล่อยให้ ทกุ สิ่งทุกอย่างจัดการเธอ ทังความรู
้ ้ สกึ ของเธอที่ศิโรราบให้
กับอ้ อมแขนที่แข็งแรงของเขาสวมกอดเธออยู่หลายนาที สายตาผู้คนทัง้
โรงเรี ยนจับจ้ องมายังเขาและเธอ สายตาบางคูท่ ี่จบั จ้ องมานันเป็ ้ นสายตา
แห่งความริ ษยาโดยเฉพาะสายตาของโรส “ใจเย็นๆไว้ นะโรส เดี๋ยวพวกเรา
ค่อยจัดการมันทีหลัง” เคทพูดปลอบใจเมื่อเห็นโรสแสดงสีหน้ าไม่พอใจเป็ น
อย่างมาก เอแคลร์ เอามือแตะไหล่ของโรสด้ วยความเห็นใจ แต่ก็ไม่ช่วย
ทำให้ โรสรู้สกึ ดีขึ ้นมาเลย “ดูสิ คนมองกันทังโรงเรี
้ ยนมันก็ยงั ไม่สะทก
สะท้ าน” เกรซพูดออกมาด้ วยน้ำเสียงหมัน่ ไส้ “ไม่เป็ นไรนะโรส เดี๋ยวทุก
อย่างจะดีเอง เชื่อพวกเรา แก๊ งโฟร์ แองเจิ ้ลซะอย่าง เดี๋ยวพวกเราจะช่วยกัน
จัดการยัยนี่ให้ มนั สาสมทีหลังใช่มยพวกเรา”
ั้ เคทพยายามสร้ างกำลังใจให้
โรส ทุกคนในแก๊ งต่างก็ตอบเป็ นน้ำเสียงเดียวกันว่า “ใช่ๆ!!” ด้ วยน้ำเสียงที่
เปี่ ยมไปด้ วยพลังแต่โรสก็ยงั นิ่งเงียบไม่พดู ไม่จาเหมือนเดิม
ช่วงพักกลางวัน ทังนั
้ กเรี ยนไทยและนักเรี ยนต่างชาติตา่ งจับกลุม่
กัน มะลิไม่มีเพื่อนสนิทแม้ แต่คนเดียว เพราะเธอชอบแยกตัวออกมาอยู่
สันโดษ บางวันเธอจะรู้สกึ ดีเป็ นพิเศษเพราะโจนาธานมานัง่ พูดคุยกับเธอ
บ้ างเป็ นบางครัง้ เธอจำไม่ได้ วา่ ความรู้สกึ ดีๆที่เธอมีให้ เขานันมั
้ นเกิดขึ ้น
เมื่อไร แต่เขาก็ไม่ให้ ความสนิทสนมอะไรเธอมากมาย แต่เมื่อเช้ าเขาทำให้
เธอรู้สกึ ว่าเขาให้ ความสนิทสนมและความหวังเธอมากขึ ้นกว่าเดิม ความ
รู้สกึ ดีที่เธอมีให้ เขานันจึ
้ งทวีมากขึ ้นกว่าเดิมหลายเท่า เนื่องจากอ้ อมกอด
ของเขาแท้ ๆ เธอไม่สามารถยับยังความรู ้ ้ สกึ ของเธอที่มีให้ เขาได้ เลย ซึง่ ต่าง
จากตอนที่เธอยังไม่ได้ สมั ผัสอ้ อมกอดของเขาหลายเท่า ยิ่งเธอคิดถึงเขา
มากเท่าไร ก็ยงิ่ อยากเจอเขามากเท่านัน้ เธอเลือกที่จะนัง่ ที่สงบอยู่คนเดียว
ในโรงเรี ยนคือโต๊ ะหินอ่อนใต้ ต้นไทรที่อยู่ไกลจากสนามฟุตบอล เธอภาวนา
ขอให้ เขามานัง่ คุยกับเธอในวันนี ้ เธอรอแล้ วรออีกแต่เขาก็ยงั ไม่มาพร้ อม
กวาดสายตามองหาเขาเพียงผู้เดียว ปกติแล้ วเธอจะพกหนังสือนิยายมา
อ่านประจำเพื่อแก้ เหงา แต่ตอนนี ้เธอไม่ได้ พกมาด้ วยเพราะหวังจะได้ คยุ
กับเขาอยู่นาน เวลาผ่านไปครึ่งชัว่ โมงเขาก็ยงั ไม่มาปรากฏให้ เธอเห็นแม้ แต่
เงา การนัง่ รอคอยใครสักคนมันช่างทรมานเหลือเกิน จากนันเธอก็ ้ นอนฟุบ
โต๊ ะหินอ่อนใต้ ต้นไทรอยู่เพียงลำพัง แต่สมองของเธอยังคงคิดถึงแต่เขา
และก็เขาอยู่อย่างนัน้ ไม่วา่ เธอจะลืมตาหรื อหลับตา และแล้ วเธอก็ร้ ูสกึ มี
ของแข็งมากระทบศีรษะของเธออย่างแรง เธอรี บผงกศีรษะแล้ วหันไปมอง
โดยสัญชาตญาณ ‘โรส’ เธอตกใจกลัวขึ ้นมาทันทีที่เห็นแววตาอำมหิตของ
โรส มือของโรสกำสมุดไว้ แน่นพร้ อมจะฟาดศีรษะของเธออีกครัง้ ได้ ทกุ เมื่อ
ตอนนี ้รอบตัวเธอล้ อมรอบไปด้ วยแก๊ งโฟร์ แองเจิ ้ล สายตาของแต่ละคนมอง
มาอย่างกับจะกินเลือดกินเนื ้อ หัวใจของเธอเต้ นแรงถี่พร้ อมใบหน้ าซีด
เผือดด้ วยความกลัว เธอทำอะไรไม่ถกู ได้ แต่ภาวนาขออย่าได้ เจ็บตัวอีกเลย
แต่ก็ไม่พ้นจนได้ โรสกระชากผมของเธอจนตกจากเก้ าอี ้ มะลิร้องออกมา
ด้ วยความเจ็บ “โรส เธออย่าทำอะไรชันเลย ้ ขอร้ อง” มะลิวงิ วอนขณะที่ก้น
ของเธอจ้ำเบ้ าอยู่บนพื ้นซีเมนต์ “เมื่อเช้ าแกทำอะไร!!” โรสตะคอกใส่มะลิ
“ฉันขอโทษ ฉันไม่ได้ ตงใจให้ั้ มนั เป็ นแบบ…” เพี๊ยะ!! มะลิพดู ยังไม่ทนั
ขาดคำก็ถกู ตบเข้ าที่แก้ มซ้ ายด้ วยสมุดอย่างแรง “ยังจะกล้ ามาตอแหลอีก
เหรอ ชันเห็ ้ นแกกอดผัวของชันเมื ้ ่อเช้ า เนี่ยเหรอไม่ได้ ตงใจ!!”
ั้ โรสแผดเสียง
ตวาดใส่มะลิ ทำเอานักเรี ยนบางคนที่อยู่ไกลหันมามอง ‘เขาไปเป็ นผัวมึง
ตังแต่
้ เมื่อไรวะ มึงพูดคุยกับเขากูก็ไม่เคยเห็น’ มะลิแอบเถียงโรสในใจด้ วย
ความโทสะพร้ อมเอามือลูบแก้ มซ้ ายด้ วยความเจ็บ “แกนี่ไม่น่ารอดมาได้
เลยเนอะ แกน่าจะขึ ้นอืดลอยในสระน้ำนัน่ ตังนานแล้
้ ว พอรอดมาได้ ความ
ร่านก็ยงั ทำงานเหมือนเดิม คงกะพันจริ งๆ” เกรซพูดเสียดแทงใจมะลิ ‘พวก
มึงนัน่ แหละที่ร่านยิ่งกว่าโสเภณี คิดว่าพวกมึงเลิศเลอประเสริ ฐศรี กนั นักรึ
ไง พวกมึงไม่ร้ ูจกั ศีลธรรมด้ วยซ้ำ’ มะลิแอบด่าแก๊ งโฟร์ แองเจิ ้ลในใจ เธอทัง้
แค้ นทังกลั
้ ว และอยากร้ องไห้ ออกมาแต่เธอก็กลันมั้ นไว้ ได้ “แกมีอะไรในใจ
อีนงั มะลิ มองพวกชันด้ ้ วยสายตาแบบนี ้แกมีปัญหาอะไร” เคทตังคำถาม ้
ด้ วยน้ำเสียงห้ วนๆใส่เธอ “เปล่า” มะลิตอบสันๆด้้ วยน้ำเสียงห้ วนเช่นกัน
“ตอแหลอีกเช่นเคย” เอแคลร์ ดา่ มะลิกบั เขาบ้ าง “ฝากไว้ ก่อนนะแก อย่าคิด
ว่าเรื่ องมันจะจบแค่นี ้ ไปเถอะพวกเรา” โรสพูดข่มขู่ก่อนที่จะชวนแก๊ งของ
เธอเดินจากไป มันเป็ นวินาทีที่โล่งใจที่สดุ มะลิถอนหายใจแล้ วค่อยๆลุกขึ ้น
ยืน และเอามือปั ดฝุ่ นที่ติดกระโปรงนักเรี ยนของเธอแล้ วนัง่ ที่เดิม เธอใช้
เวลาครุ่นคิดนานอยู่พอสมควรว่าเธอควรจะหลบหน้ าโจนาธานหรื ออย่างไร
ดี ความจริ งเธอไม่อยากจะทำเช่นนัน้ เพราะความรู้สกึ ที่เธอมีให้ เขานันมั ้ น
มากมายเสียแล้ ว
วันแล้ ววันเล่า เมื่อถึงเวลาพักกลางวันมะลิก็จะมานัง่ ที่โต๊ ะหิน
อ่อนใต้ ต้นไทรที่เธอนัง่ ประจำ เธอจะนัง่ รอโจนาธานทุกๆวันด้ วยความหวัง
บางครัง้ เขาก็มานัง่ คุยกับเธอเหมือนที่เคย แต่บางครัง้ เธอก็ต้องผิดหวังที่รอ
เก้ ออยู่นาน แล้ วก็ต้องทนเหงาไปตามระเบียบ ถึงแม้ วา่ เธอจะเห็นเขาบ้ าง
ก็ตาม แต่เธอก็ไม่เคยกล้ าที่จะเป็ นฝ่ ายเข้ าไปทักทายเขาก่อน ความเป็ น
กุลสตรี ไทยของเธอมันฉุดความกล้ าของเธอเอาไว้ คุณแม่ของเธอสอนไว้
เสมอว่าเป็ นผู้หญิงต้ องเรี ยบร้ อยและทำตัวให้ ยากเข้ าไว้ เธอจึงวางฟอร์ ม
ด้ วยจิตใจที่ทรมานทุกๆครัง้ ที่เธออยากจะเดินเข้ าไปทักทายเขา และบาง
ครัง้ เธอจะต้ องทนเจ็บปวดใจเพราะเห็นเขาคุยกับนักเรี ยนหญิงคนอื่นใน
โรงเรี ยน ‘เขาคิดอย่างไรกับฉันกันแน่ เขาตังใจให้ ้ ฉนั มีความหวังงันหรื้ อ’
‘เขาโทรหาฉันตอนที่เขารู้ข่าวว่าฉันจมน้ำ เขาเป็ นห่วงฉัน’ ‘เขาพูดดีกบั ฉัน
เขากอดฉัน หรื อว่าเขาก็แค่ปลอบใจฉันเท่านันเอง ้ ฉันคิดไปเองหรื อเปล่า ’
‘ที่จริ งเขาก็ไม่ได้ ร้ ูสกึ อะไรกับฉันซะหน่อย ไม่สิ เขาพูดว่าสิ่งที่สำคัญที่สดุ
สำหรับผมคือชีวิตของยู แสดงว่าเขาสนใจฉัน’ ‘เขาชอบฉันแต่ทำไมบาง
ครัง้ เขาดูเย็นชาเหลือเกิน’ ‘ทำไมเขาคุยกับนักเรี ยนผู้หญิงอื่นในโรงเรี ยน
หลายๆคน หรื อว่าเขาก็แค่มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดีเท่านันเอง’ ้ ‘หรื อว่าเขาอาจ
ไม่ได้ ชอบฉันอย่างที่ฉนั หวังไว้ ก็ได้ หยุดคิดถึงเขาได้ แล้ วมะลิ เขาก็แค่ผ้ ชู าย
หน้ าตาดีมีเสน่ห์คนหนึง่ ที่ใครๆต่างก็อยากครอบครอง’ ‘คนเรี ยบร้ อยพูดไม่
เก่งอย่างฉันจะไปสู้ใครได้ ฉันมันทังเฉิ ้ ่มทังเอาใจใครไม่
้ เป็ น ไม่เหมือนผู้
หญิงที่เขาคุยด้ วยแต่ละคนหรอก พวกนางออกจะเอาอกเอาใจเก่ง พูดคุยก็
เก่ง และน่าสนใจมากกว่าฉันเสียอีก’ มะลิทะเลาะกับกับตัวเองในใจอย่างมี
ความหวังและไร้ ความหวังในเวลาเดียวกัน เธอพยายามไม่คิดถึงเขาแต่ก็
ไม่เคยทำได้ สำเร็จ เธอรู้สกึ สับสนจนไม่คอ่ ยเป็ นอันจะเรี ยนสักเท่าไรเพราะ
ใจของเธอคิดถึงแต่เขาอยู่เพียงผู้เดียว
บ่ายสองโมงเป็ นเวลาเลิกเรี ยน ทังนั้ กเรี ยนไทยและนักเรี ยนต่าง
ชาติตา่ งทยอยแยกย้ ายกันกลับบ้ าน มะลิอยากกลับไปกอดคุณแม่ของเธอ
ที่สดุ แต่เวลานี ้คุณแม่ของเธออยู่ที่ทำงานแล้ ว เธอเป็ นผู้จดั การร้ านอาหา
รอิตาเลี่ยนที่โด่งดังในย่านที่มีชาวต่างชาติมากมาย เธอใช้ เวลาส่วนมาก
ดูแลร้ านอาหารและพนักงานอย่างเต็มที่ กว่าเธอจะกลับมาถึงบ้ านก็เลยสี่
ทุม่ แทบทุกวัน ในตอนกลางวันบางวันเธอจะมีเวลาอยู่กบั สวนดอกไม้ หลัง
บ้ าน แต่เธอไม่คอ่ ยมีเวลาให้ กบั มะลิสกั เท่าไรยกเว้ นวันเสาร์ อาทิตย์ เพราะ
วันธรรมดามะลิจะอยู่โรงเรี ยน พอลูกกลับบ้ านมาเธอก็ต้องออกบ้ านไป
ทำงานเสียแล้ ว เธอภูมิใจที่เห็นว่ามะลิลกู สาวของเธอเป็ นเด็กวัยรุ่นที่ดไู ม่มี
ปั ญหาอะไร เพราะเธอไม่เคยเห็นลูกสาวของเธอออกนอกลูน่ อกทางเลย
แม้ แต่ครัง้ เดียว จึงทำให้ เธอไว้ ใจและวางใจมะลิลกู สาวอันเป็ นที่รักของเธอ
ในระหว่างที่มะลิเดินทางกลับบ้ าน เธอคิดถึงคุณแม่ของเธอและ
อยากระบายเรื่ องราวที่เกิดขึ ้นในโรงเรี ยนให้ คณ ุ แม่เธอฟั งทังหมด
้ แต่เธอก็
จะไม่ทำอย่างนัน้ แม้ วา่ เรื่ องราวทุกเรื่ องหรื อเหตุการณ์ทกุ ตอนจะเลวร้ าย
สักแค่ไหนก็ตาม เธอก็ไม่มีวนั ที่จะเล่าให้ คณ ุ แม่ของเธอฟั งเด็ดขาด เพราะ
เธอต้ องเข้ มแข็งให้ มากที่สดุ เธอสาวเท้ าเดินอย่างว่องไว เพราะอยากกลับ
บ้ านเผื่ออาจได้ เจอคุณแม่ของเธอ เวลานี ้เธอต้ องการใครสักคนมาอยู่เคียง
ข้ างเธอ และแล้ วสายตาของเธอก็เหลือบไปเห็นชายสองคนซ้ อนมอเตอร์
ไซด์ขี่ตรงมายังเธอ เธอรู้สกึ แปลกใจและงุนงง พวกเขาไม่ค้ นุ หน้ าคุ้นตา
เอาซะเลยแถมหน้ าตาก็ดหู น้ ากลัวอีกต่างหาก เธอพยายามสาวเท้ าให้ เร็ว
ขึ ้นกว่าเดิม แต่ชายทังสองก็
้ ขี่มอเตอร์ ไซด์เข้ ามาประกบข้ างเธอ หนทางยัง
อีกไกลกว่าจะถึงบ้ าน สองข้ างทางเป็ นป่ าละเมาะ แถมไม่มีบ้านผู้คนใกล้ ๆ
ละแวกนี ้เลย วินาทีนี ้มันทำให้ เธอนึกถึงข่าวคดีฆา่ ข่มขืนในหนังสือพิมพ์
หน้ าหนึง่ และนึกย้ อนถึงแผ่นกระดาษใบเล็กที่มีข้อความปริ ศนาเขียนเตือน
ไว้ เมื่อหลายวันก่อนขึ ้นมาทันที หัวใจเธอเต้ นแรงถี่ขึ ้นเรื่ อยๆ ชายทังสองยั้ ง
คงขี่ประกบข้ างเธอในขณะที่เธอพยายามเดินหนีอย่างเร็ว “กลัวเหรอจ๊ ะ
น้ องสาว” น้ำเสียงหื่นกามของชายผู้ขี่มอเตอร์ ไซด์ทำให้ สติของเธอเตลิด
เปิ ดเปิ ง มะลิทิ ้งกระเป๋ านักเรี ยนลงข้ างทางแล้ ววิ่งหนีสดุ ชีวิต แต่วงิ่ ได้ เพียง
ไม่กี่ก้าว เธอก็ถกู ชายผู้ซ้อนมอเตอร์ ไซด์ถีบเธอในขณะที่เขายังซ้ อนมอเต
อร์ ไซด์จนเธอเซล้ มลงบนถนนข้ างทาง มะลิพยายามลุกขึ ้นเพื่อที่จะวิ่งหนี
“อย่าลุกหนีไปไหนนะ ไม่งนกู ั ้ ฆา่ มึงแน่” ชายผู้ซ้อนมอเตอร์ ไซด์ข่มขู่เธอ
ด้ วยน้ำเสียงน่ากลัว ก่อนกระโดดลงจากมอเตอร์ ไซด์ที่ยงั ไม่ทนั ได้ จอดสนิท
แล้ ววิ่งตรงมายังเธอ มะลิยกมือไหว้ และร้ องไห้ ออกมาอย่างเสียสติ ชายผู้ขี่
มอเตอร์ ไซด์รีบจอดรถและวิ่งตรงมายังเธอ จากนันชายทั ้ งสองก็
้ รีบช่วยกัน
จับตัวเธอลุกขึ ้น พร้ อมลากตัวเธอเข้ าไปในป่ าละเมาะอย่างรวดเร็ว “ช่วย
ด้ วย ช่วยด้ วย ฮือๆๆๆ” มะลิพยายามร้ องขอความช่วยเหลือจนสุดเสียง
และดิ ้นจนสุดกำลัง แต่ก็ไม่สามรถต้ านแรงของชายทังสองได้ ้ เลยแม้ แต่
น้ อย ชายคนหนึง่ ต่อยหมัดเข้ าที่ท้องของเธออย่างแรงจนเธอจุก เธองอตัว
ด้ วยความเจ็บปวดทรมาน วินาทีนี ้เธอรู้สกึ เหมือนชีวิตของเธอกำลังจะจบ
ภายในไม่กี่นาทีข้างหน้ า หลังจากถูกทารุณโดยการข่มขื่นแล้ วสังหารเพื่อ
ปิ ดปากเธอเป็ นแน่ เมื่อชายทังสองได้
้ ลากตัวเธอเข้ าไปในที่ลบั หูลบั ตาผู้คน
จากนันก็ ้ ผลักเธอนอนลงบนกอหญ้ า น้ำตาเธอไหลพรากด้ วยความกลัว
สุดขีด และเจ็บทรมานสุดๆ เธอไม่กล้ าส่งเสียงร้ องขอความช่วยเหลืออีก
เพราะไม่อยากเจ็บตัวไปมากกว่านี ้ “กูขอก่อน” ชายคนหนึง่ พูดขึ ้นมาพร้ อม
รี บถอดเข็มขัดกางเกง ในขณะที่เขากำลังถอดเข็มขัดกางเกงอยู่ สายตา
ของชายผู้ที่ยืนรอก็เหลือบไปเห็นเด็กสาววัยรุ่นคนหนึง่ สวมชุดนักเรี ยนที่
เหมือนกับเหยื่อที่อยู่ตรงหน้ า ซึง่ ยืนหันหลังเหมือนกำลังเหม่อลอยซึง่ เธอ
ยืนอยู่ไม่ไกลจากที่นี่นกั ชายผู้ยืนรอเกิดกิเลสขึ ้นมาทันใดคิดว่าคงจะได้
เหยื่อมาฟรี อีกหนึง่ คน “เฮ้ ย! ดูนนั่ ดิ มีเด็กสาวอีกคนยืนอยู่ตรงนันด้ ้ วยเว้ ย
สงสัยแอบมาเดินเล่นว่ะ เดี๋ยวเสร็จกูแน่” ชายผู้ยืนรอกระซิบบอกพลางชี ้นิ ้ว
ไปที่นนั่ “เออๆ มึงไปเอาก่อนแล้ วกัน ให้ กเู สร็จนี่แล้ วค่อยมาสลับกัน รี บไป
เลยมึง” ชายผู้ยืนรอรี บเดินไปทันที ในขณะที่เขากำลังเดินตรงไปยังเธอซึง่
ยังคงยืนหันหลังให้ อยู่ เขาพยายามเดินย่องให้ เบาที่สดุ เท่าที่จะทำได้
เหมือนกับเสือที่กำลังย่องไปหาเหยื่อเพื่อที่จะตะครุ บเหยื่อ อีกเพียงไม่กี่
ก้ าวก็จะถึงตัวเธอ ส่วนชายอีกคนถอดกางเกงยีนส์ออกจนสำเร็จและกำลัง
จัดการถอดกระโปรงนักเรี ยนของมะลิ และแล้ วเขาก็ต้องสะดุ้งตกใจเพราะ
เสียงร้ องตกใจอย่างเสียสติของชายผู้ที่ย่องไปที่เด็กสาวผู้นนั ้ ดังลัน่ ทัว่ ป่ า
ละเมาะ เขาวิง่ เตลิดอย่างคนเสียสติ ชายผู้ที่กำลังจะลงมือข่มขืนมะลิก็
ตัดสินใจรี บใส่กางเกงยีนส์แล้ ววิ่งตามชายผู้นนไป ั ้ “เฮ้ ย! ไอ้ วิน เกิดอะไรขึ ้น
วะ” เขาตะโกนและวิ่งไล่ตามแต่ก็ไม่ทนั เสียแล้ ว ชายผู้ตื่นตระหนกได้ วิ่ง
เตลิดอย่างเสียสติจนหายวับเข้ าป่ าไป เขาหยุดวิ่งตามด้ วยความเหนื่อย
และทำได้ เพียงตะโกนขานชื่อชายผู้นนอยู ั ้ ่หลายครัง้ ซ้ำแล้ วซ้ำเล่า แต่ก็ไม่มี
เสียงใดๆขานรับ เขารู้สกึ งุนงงกับสิ่งที่เกิดขึ ้นพร้ อมหันไปมองรอบๆแต่ก็
ไม่มีสิ่งใดที่เป็ นเหตุให้ ต้องวิ่งหนี สักพักรอบๆตัวเขาก็เต็มไปด้ วยต้ นไม้ ใหญ่
ซึง่ เขารู้สกึ เหมือนอยู่ในป่ าดงดิบไม่ร้ ูทิศรู้ทาง เขาพยายามหันไปมองเส้ น
ทางที่เขาเพิ่งวิ่งมาถึงจุดที่เขายืนอยู่ตรงนี ้ แต่ทกุ ทิศทางก็ดสู บั สนไปหมด
สิ่งที่เกิดขึ ้นรอบๆตัวทำให้ เขารู้สกึ งุนงงมากขึ ้นกว่าเดิมและความกลัวก็เข้ า
มาทักทาย “เป็ นไปได้ ไงวะ” เขาอุทานออกมาด้ วยความงุนงง สิ่งรอบตัวที่
เกิดขึ ้นกับเขาเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วโดยไม่ทนั ได้ สงั เกตซึง่ ไวเหมือน
โกหก
มะลิพยายามลุกขึ ้นอย่างช้ าๆ มือซ้ ายกุมท้ องด้ วยความเจ็บปวด
ทรมาน เธอทังกลั ้ วและร้ องไห้ ไม่หยุด พร้ อมมองซ้ ายมองขวากลัวว่าชาย
ทังสองจะกลั
้ บมาอีก จากนันเธอก็
้ รีบหาทางออกจากป่ าละเมาะแห่งนี ้ เธอ
พยายามเดินออกจากป่ าให้ เร็วที่สดุ พอเธอเดินพ้ นออกจากข้ างทางเธอก็
รวบรวมสติเดินไปเก็บกระเป๋ านักเรี ยนที่เธอทิ ้งลงข้ างทางแล้ ววิ่งหนีเมื่อ
หลายนาทีก่อน จากนันเธอก็ ้ รีบสาวเท้ ากลับบ้ านให้ เร็วที่สดุ พร้ อมมือซ้ าย
กุมท้ องด้ วยความเจ็บทรมานตลอดเวลา ใบหน้ าและปากของเธอซีดเผือด
เนื ้อตัวสัน่ ระริ กด้ วยความกลัว ทุกๆวินาทีเธอคิดถึงคุณแม่ของเธอที่สดุ ใน
ระหว่างที่เธอพยายามเดินให้ เร็วที่สดุ เธอก็หนั ไปมองทางด้ านหลังด้ วย
ความระแวงและระวัง หัวใจของเธอยังคงเต้ นแรงตลอดเวลา น้ำตาเธอยัง
ไหลไม่หยุด แต่ละก้ าวๆของเธอที่พยายามไปให้ ถึงบ้ านนันช่ ้ างเต็มไปด้ วย
ความทรมานเพราะความเจ็บปวดและความกลัวอย่างที่สดุ ทันทีที่สายตา
ของเธอเหลือบไปเห็นหลังคาบ้ าน เธอก็ร้ ูสกึ ดีใจดัง่ เห็นสวรรค์กำลังเปิ ด
ประตูต้อนรับเธอให้ พ้นจากอันตรายที่อยู่ด้านหลัง เธอสาวเท้ าก้ าวยาวขึ ้น
กว่าเดิมเพื่อให้ ถึงบ้ านให้ เร็วที่สดุ โดยที่มือซ้ ายของเธอยังคงกุมท้ องไว้ อยู่
ในที่สดุ เธอก็มาหยุดอยู่ตรงหน้ าบ้ านของเธอ สิ่งแรกที่เธอมองหาคือรถเก๋ง
คันสีแดงของคุณแม่ของเธอ เพราะเวลานี ้เธออยากจะอยู่ใกล้ คณ ุ แม่ของ
เธอที่สดุ หลังจากเพิ่งรอดจากเหตุการณ์คอขาดบาดตายมาหมาดๆ แต่เธอ
ก็ต้องผิดหวัง เพราะไม่เห็นรถของคุณแม่ของเธอเพราะแกได้ ออกไปทำงาน
เสียแล้ ว แต่อย่างน้ อยเธอก็ร้ ูสกึ โล่งอกโล่งใจที่รอดมาได้ บ้ านของเธอเป็ น
บ้ านอิฐสองชันดู
้ กะทัดรัด มีหน้ าต่างและบานประตูเป็ นกระจกพร้ อมติดผ้ า
ม่านสีขาว ส่วนขอบหน้ าต่างและขอบประตูเป็ นไม้ ซงึ่ ดูเข้ ากับตัวบ้ านได้
ดิบดี ส่วนหน้ าบ้ านเป็ นระเบียงไม้ ซงึ่ ตกแต่งไปด้ วยกระถางดอกไม้ สีสนั
สวยงามเรี ยงอยู่ข้างขอบระเบียง และมีบอ่ ปลาคาร์ ฟหลากหลายสีทงห้ ั้ า
ตัวอยู่ตรงหน้ าระเบียง ในบ่อปลาตกแต่งไปด้ วยต้ นไม้ น้ำ หินก้ อนใหญ่
และเซรามิก ดูแล้ วสวยงามน่ารักเข้ ากับปลาคาร์ ฟทังห้ ้ าตัว ส่วนบน
ระเบียงบ้ านมีชดุ โต๊ ะไม้ สกั ทรงกลม ซึง่ อยู่ใต้ ต้นไม้ ใหญ่ที่โผล่ตรงกลาง
ระเบียงพอดี รอบๆบ้ านของเธอก็ร่มรื่ นเพราะเต็มไปด้ วยต้ นไม้ ใหญ่และ
ดอกไม้ แม้ วา่ ตอนนี ้มะลิมาถึงบ้ านของเธอที่เต็มไปด้ วยความสงบและ
ร่มรื่ น แต่ใจของเธอยังไม่สงบลงสักเท่าไร แต่ก็ร้ ูสกึ ดีขึ ้นมาก ในใจเธอ
อยากจะเล่าเรื่ องราวทังหมดที
้ ่เธอผจญกับอะไรต่อมิอะไรหลายๆอย่างให้
คุณแม่เธอฟั ง ถึงแม้ วา่ หากคุณแม่ของเธอได้ อยู่ตรงหน้ าเธอในเวลานี ้เธอก็
จะไม่ปล่อยให้ เรื่ องราวที่แสนเลวร้ ายเหล่านันหลุ้ ดออกจากปากเธอให้ คณ ุ
แม่เธอได้ ยินเด็ดขาด เพราะที่จริ งแล้ วคุณแม่ของเธอป่ วยเป็ นโรคหอบชัก
หากเธอเล่าอะไรออกไปให้ แกฟั งแกจะต้ องตกใจอย่างแน่นอนเพราะจะ
ทำให้ เสี่ยงอันตรายต่อการเกิดอาการช็อกและชักตามมา เธอไม่อยากให้
สมองแกต้ องมารับรู้เรื่ องเครี ยดเพราะจะทำให้ เกิดการสะสม และเธอก็กลัว
ว่าความเครี ยดจะส่งผลต่อชีวิตคุณแม่ของเธอ ตอนนันที ้ ่แกทราบข่าวว่า
มะลิจมน้ำและกำลังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยายบาลในห้ องฉุกเฉิน นัน่ ก็มาก
เกินพอแล้ ว เพราะแกก็เกือบจะเกิดอาการชัก เพราะฉะนันเธอจะต้ ้ องระวัง
ไม่ให้ คณุ แม่ของเธอเครี ยดเป็ นอันขาดหากไม่จำเป็ น เธอค่อยๆเดินขึ ้น
บันไดระเบียงบ้ านไปนัง่ ที่ชดุ โต๊ ะไม้ สกั ทรงกลมใต้ ต้นไม้ ใหญ่อย่างช้ าๆ
พร้ อมมือยังกุมท้ องตลอดเวลาด้ วยความเจ็บทรมาน เธอนัง่ เหม่อลอยเป็ น
เวลานานปล่อยให้ จิตใจลอยล่องท่องหวนคืนกลับไปในอดีตกาลอีกครัง้
โดยไม่ร้ ูตวั
ในขณะที่มะลิกำลังนัง่ เรี ยนอยู่ที่หลังสุดริ มหน้ าต่างของห้ องเรี ยน
ชันประถมศึ
้ กษาปี ที่หก จากนันก็ ้ มีกระดาษที่ถกู ขย้ำจนกลมมาปะทะตรง
ขมับของเธอพอดี เสียงหัวเราะเยาะปนความสะใจของกลุม่ เพื่อนในชัน้
เรี ยนก็ดงั ขึ ้นทัว่ ห้ องเรี ยน เธอหันหน้ ามาแล้ วกวาดสายตามองไปรอบๆเพื่อ
มองหาผู้กลัน่ แกล้ ง แต่หารู้ไม่วา่ ครูประจำวิชาสังคมศึกษาคือผู้โยนกระ
ดาษใส่เธอตอนที่เธอเหม่อมองออกไปข้ างนอกหน้ าต่างได้ สกั พัก เสียง
หัวเราะเยาะดังขึ ้นกว่าเดิม จึงทำให้ เธอเกิดความโทสะจนอยากเหวี่ยงโต๊ ะ
กับเก้ าอี ้ใส่พวกที่หวั เราะเยาะใส่เธอจริ งๆ แต่เธอก็ทำอะไรไม่ได้ ทำได้ เพียง
ควบคุมความโทสะของเธอเอาไว้ เท่านัน้ “นี่พมิ ณัฎฐา ชันสอนอยู ้ ่ตงใจ
ั้
เรี ยนบ้ างมัย้ ครัง้ นี ้แกยังโชคดีที่เป็ นกระดาษ แต่ครัง้ หน้ าถ้ ายังไม่ตงใจ
ั้
เรี ยนอีกชันจะเปลี
้ ่ยนเป็ นแปรงลบกระดาน” มะลิตกใจน้ำเสียงของอาจารย์
ศรี สมรผู้เคร่งในการสอนอย่างเอาจริ งเอาจัง “หนูขอโทษคะ” มะลิกล่าว
คำขอโทษด้ วยน้ำเสียงอ่อยพร้ อมเขินอายเพื่อนๆที่หนั มามองแต่เธอเพียงผู้
เดียว
บรรยากาศกลางวันแจ่มใสเจิดจ้ าด้ วยแสงอาทิตย์ แต่ร้อนอบอ้ าว
ด้ วยแสงแดดที่ร้อนจัดสาดส่องอาบหลังคาอาคารเรี ยนอย่างเต็มที่ นักเรี ยน
ส่วนมากหลบร้ อนอยู่ในอาคารเรี ยน มะลิเดินออกจากอาคารเพียงลำพัง
พร้ อมหนังสือนวนิยายฉบับแปลเล่มหนึง่ ติดมือไปด้ วย เธอเดินตรงไปยังใต้
ต้ นไม้ ใหญ่ที่อยู่หา่ งไกลจากตัวอาคารพอสมควร เธอรู้สกึ ถึงความสงบและ
เป็ นส่วนตัว เพราะได้ ซอ่ นตัวให้ พ้นสายตาจากกลุม่ เพื่อนๆที่คอยหาเรื่ อง
เธอไม่เว้ นแต่ละวัน และไม่มีใครมาสนใจหรื อถามหาเธอในช่วงเวลานี ้ หาก
ไม่มีใครบังเอิญมาเจอตัวเธอเสียก่อน เธอนัง่ ลงบนม้ านัง่ อย่างสบายใจและ
เปิ ดหนังสือนิยายอ่านอย่างเพลินใจ บางครัง้ ตัวละครในนิยายก็ทำให้ เธอมี
กำลังใจขึ ้นมาบ้ าง เพราะตัวนางเอกในนิยายนันช่ ้ างเข้ มแข็งเหลือเกิน และ
เธอก็อยากจะเป็ นเช่นนัน้ ความจริ งแล้ วเธอยังอ่อนแอกว่าตัวละครเอกอยู่
หลายเท่า แค่เธออ่านได้ เพียงไม่กี่หน้ า หนังสือที่อยู่ในมือของเธอก็ถกู ดึง
ออกจากมืออย่างแรง เธอแหงนหน้ าขึ ้นมองเห็นสายตาอันไร้ มิตรภาพของ
รุ่นพี่ผ้ หู ญิงที่เรี ยนชันสู
้ งกว่าเธอเพียงหนึง่ ปี ทังสามคน
้ จ้ องมองมายังร่าง
ของเธอที่นิ่งเกรง “นี่แกกล้ าดียงั ไงมานัง่ ที่ของพวกชัน” ้ น้ำเสียงห้ วนของรุ่น
พี่จากหนึง่ ในสามคนทำให้ มะลิหายใจไม่เป็ นจังหวะ “ยังจะมามองหน้ าอีก
ไสหัวไปสิ ที่นี่มนั ถิ่นของพวกชัน” ้ รุ่นพี่คนเดียวกันที่ดงึ หนังสืออกจากมือ
ของเธอตะคอกพร้ อมขว้ างหนังสือนิยายใส่เธอ มะลิรับหนังสือแทบไม่ทนั
เธอค่อยๆลุกขึ ้นยืน แต่รุ่นพี่อีกคนจากหนึง่ ในสามเดินเข้ ามาผลักเธอจนเซ
ล้ มลงกับพื ้น “จำไว้ นะ วันหลังอย่ามาเกะกะแถวนี ้อีก” หัวใจของเธอเต้ น
แรงถี่ และตัวสัน่ ด้ วยความกลัวแทบคุมอาการไว้ ไม่อยู่ เธอพยายาม
รวบรวมสติพร้ อมกัดริ มฝี ปากที่สนั่ เทาไว้ แน่น เพื่อซ่อนความอ่อนแอเอาไว้
และค่อยๆพยุงตัวขึ ้นอีกครัง้ เธอเดินจากไปด้ วยขาที่สนั่ และอ่อนกำลังตาม
ด้ วยเสียงหัวเราะเยาะและคำนินทาทิ ้งไว้ เบื ้องหลัง อีกไม่กี่นาทีตอ่ มาเสียง
กริ่ งโรงเรี ยนก็ดงั ขึ ้น ซึง่ บ่งบอกนักเรี ยนทุกคนว่าถึงเวลาต้ องมาตังแถวหน้
้ า
ชันเรี
้ ยนเพื่อเข้ าชันเรี ้ ยน มะลิคอ่ ยๆเดินอย่างช้ าๆด้ วยจิตใจที่หดหู่ แต่ละ
ก้ าวที่เดินมาตังแถวช่ ้ างอ่อนแอไร้ เรี่ ยวแรงไม่แพ้ กบั สภาพจิตใจของเธอใน
ตอนนี ้เลย เธอไม่อยากเรี ยนวิชาคณิตศาสตร์ เพราะต้ องมาเจอกับอาจารย์
ศรี สมรคนเดิมอีกครัง้ ในหนึง่ วันบางวันเธอจะต้ องเจอกับอาจารย์ศรี สมร
ทังสองวิ
้ ชา คือวิชาคณิตศาสตร์ และสังคมศึกษา ‘ให้ ตายสิ ต้ องมาเจอหน้ า
ครูคนนี ้อีกละ’ มะลิบน่ ในใจและเดินอย่างช้ าๆมาต่อแถวเป็ นคนสุดท้ าย
หน้ าชันเรี ้ ยนประถมศึกษาปี ที่หก “นี่พมิ ณัฎฐา คราวหน้ าต้ องมาเข้ าแถวให้
เร็วกว่านี ้นะ เห็นมัย้ เพื่อนๆทุกคนเสียเวลารอเธอคนเดียวมัวแต่ไปโอ้ เอ้ ทำ
อะไรอยู่!!” น้ำเสียงแหลมปนความโทสะของอาจารย์ศรี สมรรุ่นราวคราว
เดียวกับคุณแม่ของเธอทำเอามะลิตวั ลีบลง เธอรู้สกึ ถึงความร้ อนผ่าวบน
ใบหน้ า และลามไปถึงแผ่นหลังด้ วยความเขินอาย ท่ามกลางสายตาของ
เพื่อนๆที่มองมาที่เธอเพียงผู้เดียว “ตอบชันสิ ้ ชันถามไม่
้ ได้ ยินรึไงว่ามัวแต่
ไปโอ้ เอ้ ทำอะไรอยู่” เสียงตะคอกของอาจารย์ศรี สมรทำให้ อณ ุ หภูมิร่างกาย
ของมะลิสงู ขึ ้นเพราะความเขินอาย และเพิ่มความกดดันให้ เธอมากยิ่งขึ ้น
เธอพยายามนึกคำแก้ ตวั แต่สมองของเธอกลับคิดอะไรไม่ออก ใบหน้ าของ
เธอเป็ นสีแดงอย่างชัดเจนจนลามไปถึงใบหู ยิ่งทำให้ เธอเป็ นที่จ้องมองจาก
สายตาเพื่อนร่วมชันมากยิ้ ่งขึ ้นกว่าเดิม “นี่ หูหนวกรึไง ได้ ยินชันถามมั
้ ยว่
้ า
มัวแต่ไปทำอะไรอยู่ ตอบสิ เอาปากมามัย” ้ น้ำเสียงของอาจารย์ศรี สมร
แข็งกร้ าวดุดนั ยิ่งกว่าเดิม ปากของมะลิเริ่ มสัน่ ด้ วยความกลัวและอยาก
ร้ องไห้ ออกมา แต่เธอก็ต้องกลันมั ้ นไว้ หากเธอมีเวทมนตร์ เธอจะเลือกเสก
ตัวเองให้ หายวับไปจากที่นี่เดี๋ยวนี ้อย่างแน่นอน จะได้ ไม่เป็ นจุดสนใจ
ท่ามกลางสายตาเพื่อนๆ และคนบางคนที่มองมายังเธออย่างสะใจแถวๆนี ้
โดยเฉพาะเรนโบว์เพื่อนเรี ยนร่วมชันที ้ ่ไม่คอ่ ยถูกกับเธอสักเท่าไร “หนูแค่
ท้ องเสียคะ” เธอตอบออกไปด้ วยน้ำเสียงสัน่ เครื อและแผ่วเบาท่ามกลาง
ความเงียบที่ทกุ คนดักรอฟั งคำตอบของเธอ ซึง่ มันเป็ นคำตอบแก้ ตวั ที่ฟัง
ขึ ้นใจได้ ดีที่สดุ แต่ความจริ งเธอพยายามทำใจก่อนที่จะมาเจอหน้ าอาจารย์
คนนี ้อีกครัง้ นานไปเสียหน่อย จากนันเสี ้ ยงหัวเราะเยาะคำตอบของเธอก็ดงั
เข้ ามาแทนที่ความเงียบทันที ยิง่ ทำให้ เธอเขินอายเพิ่มขึ ้นทวีคณ ู “เอาล่ะ
ทุกคนเข้ าชันเรี้ ยนได้ ห้ ามส่งเสียงดัง นัง่ ที่ใครที่มนั ให้ เรี ยบร้ อย” น้ำเสียง
หนักแน่นแฝงด้ วยอำนาจของอาจารย์ศรี สมรสุดเฮียบคุมความประพฤติ
ของนักเรี ยน นักเรี ยนทุกคนเป็ นเด็กเรี ยบร้ อย และตังใจเรี ้ ยนทังวิ ้ ชา
คณิตศาสตร์ และสังคมศึกษาของอาจารย์ศรี สมรผู้เป็ นเจ้ าของวิชาทังสอง ้
นี ้ หลังจากนักเรี ยนทุกคนเดินเข้ าชันเรี
้ ยนและนัง่ ประจำที่ใครที่มนั ต่างคน
ต่างหยิบหนังสือคณิตศาสตร์ และสมุดการบ้ านขึ ้นมาวางบนโต๊ ะอย่างรู้
หน้ าที่ มะลินงั่ ริ มหน้ าต่างด้ านหลังสุดของห้ องเรี ยนเหม่อมองออกไปข้ าง
นอกหน้ าต่างอีกเช่นเคย เธอไม่เคยพร้ อมที่จะเรี ยนกับอาจารย์คนนี ้เลยสัก
ครัง้ จิตใจของเธอลอยลิ่วออกไปซึง่ อยากจะไปที่ไหนสักที่ให้ พ้นจากคุกนี่
เสียที การนัง่ เรี ยนกับอาจารย์คนนี ้เป็ นอะไรที่ทกุ ข์ทรมานใจเหลือเกิน จาก
นันเธอก็
้ สะดุ้งเมื่อได้ ยินเสียงดังกระแทกผนังห้ องเรี ยนอย่างแรง เธอหันไป
มองโดยสัญชาตญาณเห็นแปรงลบกระดานตกอยู่บนพื ้น ซึง่ เต็มไปด้ วยผง
ชอล์กเขียนกระดานกระจายทัว่ บริ เวณรอบๆแปรง จากนันเธอรี ้ บหันไปมอง
หน้ าชันเรี
้ ยนด้ วยหน้ าตาตื่นตกใจ เธอเห็นแววตาดุดนั แฝงความโทสะของ
อาจารย์ศรี สมรจ้ องมองมายังเธอ รวมทังสายตาของเพื
้ ่อนร่วมชันเรี
้ ยนทุก
คนหันมามองเธอเพียงผู้เดียว เธอรู้ตวั ว่าเธอผิดอะไร และเตรี ยมใจที่จะถูก
ด่าอีกครัง้ เธอจึงรี บหยิบสมุดการบ้ านและหนังสือคณิตศาสตร์ ออกจาก
กระเป๋ าอย่างรวดเร็ว สายตาทุกคูย่ งั คงจับจ้ องมาที่เธอ ความรู้สกึ ร้ อนผ่าว
บนใบหน้ ากลับมาอีกครัง้ และค่อยๆปรับเป็ นสีแดงด้ วยความเขินอาย
เหมือนเดิม เธอรอฟั งคำด่าจากปากอาจารย์ศรี สมร แต่ห้องเรี ยนก็ยงั เงียบ
สงัด เธอแอบภาวนาในใจขอให้ ทกุ คนหันหน้ าไปแต่ก็ไม่เป็ นผล “เอาการ
บ้ านมาให้ ดหู น่อย” อาจารย์ศรี สมรสัง่ มะลิหยิบสมุดการบ้ านเดินผ่านสาย
ตาเพื่อนๆมายังหน้ าชันเรี ้ ยนแล้ ววางสมุดการบ้ านบนโต๊ ะตรงหน้ าอาจารย์
ศรี สมรด้ วยหัวใจเต้ นรัว เธอภาวนาในใจขออย่าให้ มีอะไรผิดพลาดกับ
การบ้ านที่เธอทำมา ในระหว่างที่อาจารย์ศรี สมรกำลังตรวจตราหาข้ อผิด
พลาดในการบ้ านของเธอท่ามกลางสายตาเพื่อนร่วมชันอยู ้ ่นนั ้ เธอรู้ดีหาก
มีข้อผิดพลาดใดๆในการบ้ านของเธอ เธอจะต้ องโดนด่าหน้ าชันเรี ้ ยนต่อ
หน้ าเพื่อนร่วมชันทั ้ งห้
้ อง และที่แย่ไปกว่านัน้ เธออาจถูกทำโทษโดยการยืน
ขาเดียวคาบไม้ บรรทัดหน้ าชันเรี ้ ยนก็เป็ นได้ มือของเธอเย็นเฉียบเหมือน
เพิ่งจับน้ำแข็งมาหมาดๆ เพราะเธอทังรู้ ้ สกึ เครี ยดและตื่นเต้ นในเวลา
เดียวกัน หัวใจของเธอเต้ นแรงด้ วยความกดดันที่สดุ ท้ องไส้ เธอเริ่ มปั่ นป่ วน
เข้ าแล้ วจริ งๆ และอยากวิ่งไปเข้ าห้ องน้ำ แต่เธอทำได้ เพียงยืนรอคำ
อนุญาตให้ กลับไปนัง่ ประจำที่ของเธอ หรื อไม่ก็ถกู ทำโทษ “ชันสั ้ ง่ ให้ ทำการ
บ้ านมาอย่างนี ้เหรอ เวลาชันสอนไม่
้ ตงใจเรี
ั ้ ยนใช่มย” ั ้ และแล้ วเธอก็โดนด่า
หน้ าชันเรี
้ ยนจนได้ “แกทำมาผิดหมดเลย ไปทำใหม่มาให้ หมด!!” หลังจาก
อาจารย์ศรี สมรตะคอกใส่เธอแล้ วโยนสมุดการบ้ านลงพื ้นห้ องตรงหน้ าของ
เธอ มะลิรีบหยิบสมุดการบ้ านขึ ้นมาแล้ วเดินกลับไปนัง่ ประจำที่ ผ่าน
สายตาเพื่อนร่วมชันที้ ่มองมายังเธอเพียงผู้เดียว “คิดว่าชันปล่
้ อยให้ กลับไป
นัง่ เรี ยนสบายใจน่ะเหรอพิมณัฎฐา คิดว่าจะไม่โดนทำโทษหรื อไง ออกมา
ยืนขาเดียวแล้ วคาบไม้ บรรทัดเดี๋ยวนี ้เลย” เธอรู้สกึ เหมือนอาจารย์กลัน่
แกล้ งเธอชัดๆ เธอฝื นใจเดินออกไปตรงหน้ าชันเรี ้ ยนพร้ อมไม้ บรรทัด ผ่าน
สายตาเพื่อนร่วมชันทุ ้ กคนที่มองมายังเธออีกครัง้ เธอไม่ร้ ูจะหลบใบหน้ า
ของเธอที่แดงระเรื่ อไปทางไหน เธอยืนคาบไม้ บรรทัดตรงหน้ าชันเรี ้ ยนด้ วย
สองความรู้สกึ ทังเขิ
้ นอายและโกรธ บรรยากาศในชันเรี ้ ยนเต็มไปด้ วย
ความตึงเครี ยด เวลานี ้มะลิร้ ูสกึ โกรธและเกลียดอาจารย์คนนี ้ที่สดุ เพราะ
แกไม่คอ่ ยให้ เกียรติเธอ และทำให้ เธอรู้สกึ เขินอายต่อหน้ าเพื่อนร่วมชันอยู
้ ่
บ่อยๆ และแกก็ปฏิบตั ิเช่นนี ้กับนักเรี ยนบางคนที่ออ่ นในการเรี ยนเช่นเดียว
กับเธอ แกจะลำเอียงเสมอเพราะรักลูกศิษย์ไม่เท่ากัน แต่แกจะรักลูกศิษย์
ที่มีผลการเรี ยนดีในวิชาของแกเท่านัน้
มะลิยงั คงนัง่ ที่ชดุ โต๊ ะไม้ สกั ทรงกลมตรงระเบียงใต้ ต้นไม้ ใหญ่ที่
โผล่ตรงกลางระเบียงอยู่ที่เดิม เธอเพิ่งนึกย้ อนไปยังเรื่ องราวในอดีตกาล
เหล่านันนานพอสมควร
้ พอรู้ตวั อีกทีก็กินเวลาไปเป็ นชัว่ โมงแล้ ว เธอก้ มดู
นาฬิกาข้ อมือสีชมพูเรื อนโปรดของเธอ ซึง่ เป็ นเวลาหกโมงสี่สิบห้ านาที
ตอนนี ้คุณแม่ของเธอกำลังยุ่งวุน่ วายอยู่ที่ร้านอาหารอิตาเลี่ยนชื่อดัง ซึง่
เต็มไปด้ วยลูกค้ าต่างชาติ เชฟในห้ องครัวต่างก็ย่งุ วุน่ วายกับการตระเตรี ยม
อาหารและทำอาหาร ส่วนพนักงานเสิร์ฟต่างคนต่างก็วนุ่ อยู่กบั การบริ การ
ลูกค้ าอย่างไม่หยุดหย่อน เสียงเพลงบรรเลงของเปี ยโนกับไวโอลินอัน
ไพเราะซึง่ เปิ ดตลอดเวลา ชวนลูกค้ าเคลิบเคลิ ้มไปกับท่วงทำนอง คุณอัญ
ชัญซึง่ กำลังตรวจตราหาข้ อบกพร่องการทำงานของพนักงาน แต่ทกุ อย่างก็
ดำเนินไปด้ วยดี
“ไอ้ วิน.....ไอ้ วิน…..มึงอยู่ไหนวะ ตอบกูหน่อยสิโว๊ ย!!” เสียงเรี ยก
ของชายผู้กำลังตามหากระวนกระวายใจที่สดุ เวลานี ้เป็ นเวลาแห่งความ
ทรมานใจและสับสนงุนงง เสียงฝูงนกเจี๊ยวจ๊ าวซึง่ พวกมันกำลังจะเข้ านอน
ยิ่งทำให้ เขารู้สกึ เคว้ งคว้ างมากขึ ้นกว่าเดิมเพราะตกเย็นแล้ ว สีของท้ องฟ้า
เริ่ มเป็ นสีน้ำเงินเข้ มขึ ้นกว่าเดิมเข้ ามาทุกที อาการสีหน้ าของเขาตอนนี ้
แสดงความเครี ยดออกมาอย่างชัดเจน กระสับกระส่ายร้ อนใจอยู่ที่เดิมเป็ น
เวลานาน จนพระอาทิตย์ริบหรี่ มิดลับขอบฟ้าไป เขาพยายามมองหา
ทางออกจากป่ า แต่ละก้ าวที่เขาเดินก็เหมือนจะเข้ าไปในป่ าลึกทุกทีๆ จน
หมดปั ญญาหาทางออกพลางขานชื่อเรี ยกชายผู้ที่วิ่งเตลิดหายวับไป
ร่างกายของเขาแทบจะหมดเรี่ ยวแรง แต่เขายังไม่หยุดตะโกนขานชื่อชายผู้
นัน้ แต่ก็ไม่มีเสียงขานรับใดๆกลับมาเลยสักคำ “ทำไมแค่หาทางออกมัน
ยากเย็นอย่างนี ้วะ เพราะมึงคนเดียวแท้ ๆไอ่วิน ทำให้ กตู ้ องลำบากอย่างนี ้
ไอ้ เวรเอ๊ ย” เขาตะโกนด่าทอออกไปด้ วยความโทสะและทรมานใจ แต่ก็ไม่
ช่วยให้ อะไรดีขึ ้นมา ความรู้สกึ กระหายน้ำเข้ ามาแทนที่ ยิง่ ทำให้ จิตใจของ
เขาตกอยู่ในห้ วงอารมณ์ด้านลบมากขึ ้นกว่าเดิม มือทังสองข้ ้ างของเขากุม
ศีรษะเหมือนคนกำลังสิ ้นหวัง พร้ อมถอนหายใจอยู่หลายครัง้ นับไม่ถ้วน
เสียงนกเริ่ มเงียบลงเพราะพวกมันกำลังทยอยกันนอนหลับ ท้ องฟ้าเปลี่ยน
เป็ นสีน้ำเงินเข้ มขึ ้น อีกไม่กี่นาทีก็จะกลายเป็ นสีดำ เขาพยายามพาร่างอัน
ไร้ เรี่ ยวแรงของเขาเดินหาทางออก และเขาก็ตดั สินใจไม่ตามหาวินอีกแล้ ว
ในขณะที่เขาเดินอยู่นนั ้ ก็มีเสียงฝี เท้ าสะกดเดินตามมาทางด้ านหลัง เขา
หันขวับไปมองโดยสัญชาตญาณ แต่สิ่งที่เขาเห็นคือมีแต่ต้นไม้ ใหญ่ล้อม
รอบเท่านัน้ “ไอ้ วิน มึงอยูแ่ ถวนันรึ ้ เปล่า” ไม่มีเสียงใดขานรับ ความกลัวเริ่ ม
ก่อตัวขึ ้นในใจ เขาตัดสินใจเดินต่อไปเพียงไม่กี่ก้าว เสียงฝี เท้ าก็หลอก
หลอนเขาอีกแล้ ว เขาหันขวับไปมองอีกทีแต่ก็ไม่เห็นมนุษย์ผ้ ใู ดปรากฏกาย
แถวนันเลย้ หัวใจของเขาเต้ นแรงถี่ขึ ้นเรื่ อยๆ “ไอ้ วิน มึงตอบกูมาสิวา่ มึงอยู่
แถวนัน้ อย่าเล่นกับกูอย่างนี ้ดิวะ” น้ำเสียงของเขาสัน่ เครื อด้ วยความกลัว
เพราะจินตนาการถึงสิ่งลี ้ลับ แต่คำตอบที่กลับมาคือความเงียบสงัด ความ
วิเวกวังเวงก่อตัวขึ ้นในใจทำให้ เขาทำอะไรไม่ถกู วินาทีนี ้มันช่างทรมานใจ
เหลือเกิน ความกลัวกำลังอยู่เหนือทุกสิ่ง เขาแทบไม่สามารถควบคุมสติตวั
เองได้ เลย เขาหันไปมองซ้ ายมองขวาทังด้ ้ านหน้ าและด้ านหลังอย่าง
รวดเร็ว เหมือนเหยื่อที่กำลังหลบหนีศตั รู ความกลัวกัดกินหัวใจของเขา
แทบทุกขณะ ทุกทิศทางห้ อมล้ อมไปด้ วยต้ นไม้ ใหญ่เหมือนมีบางสิ่งบาง
อย่างตังใจเนรมิ
้ ตให้ มนั เป็ นเช่นนัน้ เขาหายใจถี่ไม่เป็ นจังหวะกระสับ
กระส่ายอยู่ที่เดิม จากนันเขาก็ ้ พยายามก้ าวขาอันอ่อนเปรี ย้ ไปข้ างหน้ า แต่
ละก้ าวๆนันเต็้ มไปด้ วยความลำบากเพราะอ่อนกำลังเนื่องจากความกลัว
พร้ อมหันไปมองทางด้ านหลังแทบทุกฝี ก้ าว เสียงฝี เท้ าได้ หายไปแล้ ว
บรรยากาศในป่ าเริ่ มมืดสนิท ท้ องฟ้าเริ่ มเห็นกลุม่ ดาว อากาศเริ่ มหนาวเย็น
เวลานี ้เขารู้สกึ เหมือนเป็ นนาทีทองสุดท้ ายที่จะต้ องหาทางออกจากป่ าให้
เร็วที่สดุ ก่อนที่ทกุ สิ่งทุกอย่างจะกลายเป็ นความมืดสนิท ความกดดันก่อ
ตัวขึ ้นในใจยิ่งทำให้ เขาตกอยู่ในห้ วงอารมณ์ด้านลบมากขึ ้นกว่าเดิม เขาทัง้
รู้สกึ กระหายน้ำ ทังกลั ้ ว ทังกั
้ งวล และกดดัน น้ำตาของเขาเริ่ มไหลออกมา
จากที่เขากำลังจะเป็ นฆาตรกรที่โหดเหี ้ยมเพราะตังใจจะฆ่ ้ าข่มขืนมะลิเมื่อ
หลายชัว่ โมงที่ผ่านมา แต่ในนาทีนี ้ เขาได้ กลายเป็ นเหยื่อที่ออ่ นแอที่สดุ โดย
ผู้ลา่ คือสิ่งลี ้ลับที่จบั ต้ องไม่ได้ ร่างกายของเขาสัน่ ระริ กและมือเย็นเฉียบ
ด้ วยความกังวลเป็ นอย่างมาก หนทางทุกทิศทางมืดทัว่ สารทิศจนไม่ร้ ูวา่
เขากำลังก้ าวเดินไปทางทิศไหน นาทีนี ้ทำให้ เขานึกถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อช่วย
คุ้มครองชีวิตเขา ‘จะมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์หน้ าไหนมาคุ้มครองคนอย่างกูวะ’
จิตสำนึกของเขาต่อต้ านเขาในใจ และเขาก็ร้ ูดีวา่ คนอย่างเขามันไม่สมควร
ได้ รับการคุ้มครองใดๆทังสิ ้ ้น แต่เขาไม่อยากทิ ้งชีวิตไว้ ในป่ าแห่งนี ้ เขาไม่ร้ ู
ด้ วยซ้ำว่าเขาจะต้ องทิ ้งชีวิตไว้ ในป่ าแห่งนี ้ หรื อเขาอาจจะโชคดีเห็น
ทางออกก่อนหรื อไม่ เขายังมีความหวังลึกๆในใจ เวลาแห่งความทรมานใจ
นี ้มันทำให้ เขาต้ องเดินสุม่ ทางมัว่ ๆต่อไปแต่ยงั ชำเลืองมองไปทางด้ านหลัง
ด้ วยความระแวงตลอดเวลา เพราะกลัวจะได้ ยินเสียงฝี เท้ านัน่ อีก เขาเดิน
ต่อไปอีกสักระยะก็ร้ ูตวั อีกทีวา่ เหงื่อโชกเต็มตัว แถมน้ำตาไหลอาบหน้ าด้ วย
ความกลัว เขาไม่ร้ ูตวั เลยด้ วยซ้ำว่ามนุษย์อย่างเขาที่แฝงด้ วยจิตใจอันโหด
เหี ้ยมได้ ร้องไห้ กลางป่ าในขณะที่พยายามเดินหาทางออกจากป่ าอย่างเอา
เป็ นเอาตาย ร่างกายของเขาอิดโรยอ่อนกำลังลงเรื่ อยๆจนในที่สดุ เขาก็
หยุดเดินพร้ อมสะอื ้นไห้ ด้วยความเครี ยดและความกลัวที่เอ่อล้ นออกมาจน
สกัดเป็ นน้ำตา เขามองหาทางออกในความมืดอย่างสิ ้นหวัง ท้ องฟ้าเปลี่ยน
เป็ นสีดำและเต็มไปด้ วยแสงดาวระยิบระยับ เสียงจิ ้งหรี ดดังประสานกัน
ก้ องทัว่ ป่ า ทุกสิ่งทุกอย่างรอบๆตัวไม่วา่ จะเป็ นความมืด อากาศที่หนาวเย็น
รวมถึงการจินตนาการในเชิงลบ เขาเห็นตัวเองนอนตายเพราะขาดน้ำขาด
อาหารอยู่ตรงนี ้ หรื อไม่ก็ตายด้ วยพิษงู จินตนาการเชิงลบเหล่านี ้ยิ่งทำให้
เขาแทบจะเสียสติ เขาปล่อยร้ องไห้ โฮออกมาอย่างคุมอาการไว้ ไม่อยู่
เหมือนเด็กน้ อยที่ถกู ทิ ้งอยู่เพียงลำพัง จิตใจของเขาได้ กลับไปตอนเป็ นเด็ก
อีกครัง้ ตอนนี ้จิตใต้ สำนึกของเขากำลังทำงาน จู่ๆเขาก็เห็นภาพตัวเองตอน
ที่เขาอายุเพียงเก้ าขวบ ซึง่ ยืนดูพอ่ กับแม่ของเขาทะเลาะกันต่างฝ่ ายต่าง
ไม่มีใครยอมใคร พ่อของเขาจึงใช้ กำลังโดยการทุบตีคณ ุ แม่ของเขา และ
พูดจาหยาบคายด่าทอต่อหน้ าต่อตาเขาอย่างไม่แคร์ ความรู้สกึ ของเขาเลย
และอีกฉากหนึง่ ของความทรงจำ เขาเห็นคุณแม่ของเขาพาชายแปลกหน้ า
คนหนึง่ เข้ ามาในบ้ านตอนที่คณ ุ พ่อของเขาออกไปทำงาน จากนันคุ ้ ณแม่
ของเขาก็พาชายแปลกหน้ าผู้นนเข้ ั ้ าไปในห้ องนอนโดยไม่มีการแนะนำตัว
ให้ เขารู้จกั เลยแม้ แต่น้อย เขาได้ ยินเสียงล็อคของลูกบิดประตู ซึง่ เหมือน
เป็ นสัญญาณเตือนว่าห้ ามเข้ ามาเด็ดขาด ในเวลานันเขารู ้ ้ สกึ สับสนงุนงง
กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ ้น เพราะเขายังไร้ เดียงสากับเรื่ องพันนัน้ อีกสักครู่ เขา
ก็ได้ ยินเสียงครางของผู้เป็ นมารดาดังเล็ดลอดออกมา หากประตูไม่ถกู ล็อค
เขาจะต้ องเปิ ดเข้ าไปสำรวจดูอย่างแน่นอน เขาเดินเข้ ามาใกล้ ประตูแล้ ว
เอาหูแนบชิดประตูเพื่อฟั งเสียงนันอย่ ้ างพิจารณา มันเป็ นเสียงที่เขาไม่เคย
ได้ ยินมาก่อน และเป็ นเสียงที่เขาอยากรู้คำตอบมากที่สดุ อีกไม่กี่นาทีตอ่
มา เขาก็สะดุ้งตกใจเพราะประตูห้องได้ ถกู เปิ ด สิ่งแรกที่เห็นคือสายตาที่
แฝงไปด้ วยความโทสะของผู้เป็ นมารดามองมายังเขาอย่างเขม็ง “ไอ่โม่ง
มึงมายืนทำอะไรตรงนี ้ หา!!” น้ำเสียงคุณแม่ของเขาเปี่ ยมไปด้ วยความ
โทสะ เขารู้สกึ งุนงงอย่างมากว่าทำไมคุณแม่ถึงได้ โกรธเป็ นฟื นเป็ นไฟใส่
เขาซะขนาดนัน้ ทังที ้ ่เขาไม่ได้ ทำผิดอะไรเลยเพียงแค่ยืนใกล้ ประตูเท่านัน้
เอง “เปล่าครับ” เขาตอบด้ วยน้ำเสียงอ่อย จากนันชายแปลกหน้
้ าผู้นนก็
ั้
เดินออกมา และเดินผ่านเขาไปโดยปราศจากคำทักทายใดๆแล้ วออกจาก
บ้ านไป ทิ ้งให้ เขาเผชิญอารมณ์ที่เปี่ ยมไปด้ วยความโทสะของผู้เป็ นมารดา
ของเขาเพียงลำพัง เขายืนก้ มหน้ าก้ มตา และไม่กล้ าเงยหน้ าขึ ้นมาสบตาผู้
เป็ นมารดา เพียงไม่กี่วินาทีเขาก็ร้องออกมาด้ วยความเจ็บปวด เพราะโดน
บิดหูอย่างแรง “มึงมายืนทำห่าอะไรตรงนี ้ หา ไอ้ ลกู เวร มึงยังเป็ นเด็กเป็ น
เล็กหัดเสือกเรื่ องของผู้ใหญ่แล้ วเหรอ” ผู้เป็ นมารดาตะคอกใส่หน้ าเขา เขา
สะอื ้นไห้ ออกมาด้ วยความกลัวและเจ็บจากการถูกบิดหูอย่างแรง “แล้ วมึง
อย่าเอาเรื่ องนี ้ไปบอกพ่อมึงล่ะ ถ้ ามึงไปฟ้องพ่อเมื่อไรกูจะเอามึงให้ ตายแน่
เข้ าใจมัย”
้ น้ำเสียงข่มขู่จากผู้เป็ นมารดาทำให้ เขาตัวลีบพร้ อมสะอื ้นไห้ ไม่
หยุด “ครับ” เขาพยายามตอบด้ วยน้ำเสียงสัน่ เครื อ “สัญญากับกูสวิ า่ มึงจะ
ไม่ไปฟ้องพ่อ” ผู้เป็ นมารดากำชับ “ผมสัญญาครับ” เขาพยายามพูดออก
มาให้ ชดั เจนที่สดุ ด้ วยความยากเย็นในขณะที่เขาสะอื ้นไห้ เพราะคุมน้ำ
เสียงไม่คอ่ ยอยู่ ตังแต่
้ ตอนนันเป็้ นต้ นมา เขาได้ กลายเป็ นเด็กเงียบ ไม่ร่าเริ ง
เหมือนเด็กทัว่ ไป เรื่ องราวที่เกิดขึ ้นในตอนนันมั
้ นทำให้ เขาสร้ างกำแพงขึ ้น
มาเป็ นเกราะป้องกันตัวเองระหว่างพ่อกับแม่ของเขา จึงทำให้ ความ
สัมพันธ์ระหว่างพ่อแม่ลกู ออกห่างจากกัน และเขาก็ได้ กลายเป็ นเด็กมี
ปั ญหา พอเขาเริ่ มเข้ าสูว่ ยั รุ่นก็เริ่ มคบเพื่อนที่ติดยาเสพติดและอันธพาลไป
ทัว่ เขาได้ ลองเสพยาบ้ าเป็ นครัง้ แรกตอนที่เขาอายุได้ เพียงสิบห้ าปี และหา
รายได้ โดยการลักลอบขาย แต่เขาก็รอดจากการถูกจับทุกๆครัง้ พอเขาอายุ
ได้ สิบหก เขาก็ย้ายออกจากบ้ านมาอยู่สลัม และคบค้ าสมาคมกับเพื่อน
หลายคนที่เสพและขายยาเสพติดรวมทังวิ ้ นเพื่อนสมัยเรี ยนมัธยมด้ วยกัน
พวกเขาล้ วนมีชีวิตที่เต็มไปด้ วยอบายมุข ปั จจุบนั เขาอายุสิบแปดที่ยงั ใช้
ชีวิตพัวพันกับอบายมุขอยู่เหมือนเดิม และเกือบจะเป็ นฆาตรกรฆ่าข่มขืน
มะลิเมื่อหลายชัว่ โมงที่ผา่ นมา ซึง่ ถูกจ้ างฆ่าโดยแก๊ งโฟร์ แองเจิ ้ลเด็กสาววัย
รุ่นแสนแสบสี่คนนัน่ เอง ซึง่ ที่จริ งแล้ วแก๊ งโฟร์ แองเจิ ้ลรู้จกั โม่งกับวินมา
ตังแต่
้ สมัยพวกเธอเรี ยนอยู่ที่โรงเรี ยนเก่าก่อนย้ ายมาเรี ยนด้ วยกันที่
โรงเรี ยนนานาชาติแห่งนี ้ เด็กสาวทังสี ้ ่คนเริ่ มคบกันเป็ นแก๊ งสมัยเรี ยนอยู่
ชันมั
้ ธยมศึกษาปี ที่หนึง่ ที่โรงเรี ยนเก่าของพวกเธอ แต่ละคนเป็ นลูกเศรษฐี ที่
ถูกเลี ้ยงมาโดยไม่ได้ ปลูกฝั งคุณธรรมสักเท่าไร พ่อแม่ของพวกเธอแต่ละคน
เป็ นผู้มีหน้ ามีตาและมีชื่อเสียง แต่น่าเสียดายที่พวกเขากลับไม่ใส่ใจเรื่ อง
คุณงามความดี แต่กลับให้ ความสำคัญกับทรัพย์สินเงินทองของนอกกาย
เป็ นอย่างมาก เมื่อสองวันก่อนหน้ านี ้ พวกแก๊ งโฟร์ แองเจิ ้ลได้ วางแผนพูด
คุยนัดโม่งกับวินเรื่ องจ้ างสังหารมะลิโดยการจ้ างคนละหกหมื่นบาทก่อน
สังหารเธอ และพวกเธอก็ได้ ให้ คำสัญญาโม่งกับวินว่าจะให้ อีกคนละหก
หมื่นบาทหลังจากสังหารมะลิเสร็จเพื่อเป็ นการกระตุ้นกิเลสของชายทังสอง ้
เมื่อมาถึงวันที่ต้องปฏิบตั ิการ พวกแก๊ งโฟร์ แองเจิ ้ลก็มายืนรอโม่งกับวินที่
หลังประตูโรงเรี ยนหลังจากโรงเรี ยนเลิก เพื่อชี ้ตัวมะลิโดยระวังไม่ให้ มะลิ
รู้ตวั เลย พอมะลิเดินออกจากโรงเรี ยนไปได้ ไกลแล้ ว โม่งกับวินก็คอ่ ยๆ
สะกดรอยตามเธอไป “ถ้ าพวกมึงเสร็จภาระกิจเมื่อไรแล้ วพวกกูจะจ่ายให้
อีกคนละหกหมื่นนะ” โรสตะโกนทิ ้งท้ ายเพื่อเป็ นการกำชับให้ โม่งกับวินเกิด
กิเลสต้ องสังหารมะลิให้ ได้ เพื่อที่พวกเขาจะได้ รางวัลเพิ่มอีก ที่แก๊ งโฟร์ แอง
เจิ ้ลจ้ างสองคนก็เพระเพื่อความมัน่ ใจว่ามะลิจะมีโอกาสรอดน้ อยกว่าลุย
คนเดียวอย่างแน่นอน ส่วนเรื่ องจำนวนเงินของพวกเธอที่จ่ายไปนันเป็ ้ นเงิน
ของพวกเธอที่ช่วยกันออกแล้ วรวมกันนัน่ เอง เรื่ องเงินไม่ใช่ปัญหาสำหรับ
พวกเธอเลย พวกเธอมักใช้ มนั อย่างฟุ่ มเฟื อยแม้ จะผิดศีลธรรมมากแค่ไหน
ก็ตาม
โม่งดึงสติกลับมาที่เดิม ที่กลางป่ าตรงที่เขายืนอยู่ตรงนี ้ ความ
กลัวยังคงเท่าเดิม จิตใต้ สำนึกของเขาเพิ่งทำงานไปเมื่อสักครู่ เพราะเขา
ต้ องการใครสักคนมาเป็ นที่พงึ่ ในตอนที่เขาอยู่ที่มืดลำพังเพียงผู้เดียว ก็
เพราะตอนสมัยนัน้ เขาถูกคุณแม่ของเขาทำโทษโดยการขังเดี่ยวอยู่นอก
บ้ านในตอนกลางคืนเพียงลำพัง เพียงเพราะเขาไปแอบยืนฟั งเสียงหน้ า
ประตูห้องนอน ซึง่ คุณแม่ของเขากับชายแปลกหน้ าผู้นนกำลั ั ้ งปฏิบตั ิ
ภารกิจอยู่ข้างใน จึงทำให้ ผ้ เู ป็ นมารดาเกิดบันดาลโทสะอย่างมากมาย
เวลานี ้ความกลัวของเขาทำงานอย่างเต็มที่ เหมือนสมัยนันตอนที ้ ่เขาถูกขัง
เดี่ยวตอนกลางคืนไม่มีผิด และแล้ วสายตาของเขาก็เหลือบไปเห็นเด็กสาว
คนหนึง่ ยืนอยู่ภายใต้ ความมืด ซึง่ หน้ าตาเหมือนมะลิทกุ ประการ ที่เขา
สามารถเห็นได้ นนก็ ั ้ เพราะแสงสาดส่องของพระจันทร์ และแสงไฟฉายจาก
โทรศัพท์มือถือไอโฟนของเขาช่วยเอาไว้ ความรู้สกึ แรกของเขาคือดีใจ
เพราะคิดว่าอย่างน้ อยเขาก็ไม่ได้ หลงป่ าอยู่ตวั คนเดียว เขาคิดว่าเด็กสาว
วัยรุ่นที่เขาเห็นนันคื
้ อเหยื่อคนเดียวกันที่เขากับวินช่วยกันลากเข้ าไปในป่ า
ละเมาะเมื่อหลายชัว่ โมงก่อน เดินหลงป่ ามาเช่นกัน ความรู้สกึ อยากฆ่า
ข่มขืนเพียงแค่หน้ ามืดเพราะก้ อนเงินจากแก๊ งโฟร์ แองเจิ ้ลที่จ้างวานมานัน้
แสนจะมหาศาลสำหรับเขา เพราะอย่างน้ อยเงินก้ อนนี ้ก็ช่วยให้ เขาได้ ซื ้อยา
เสพติดได้ เป็ นกอกเป็ นกำ แต่ตอนนี ้เขากลับไม่อยากทำเช่นนันแล้ ้ ว เพราะ
จากการที่เขาหลงป่ าเป็ นเวลาหลายชัว่ โมง มันทำให้ เขารู้สกึ รักตัวกลัวตาย
ขึ ้นมาทันที หากเขาลงมือสังหารเธอในตอนนี ้ เขาก็จะไม่เหลือใครเป็ น
เพื่อนอยู่ในป่ า อย่างน้ อยเขาอาจมีเธอเป็ นเพื่อนช่วยหาทางออกจากป่ าได้
ซึง่ ชีวิตของเขาในเวลานี ้ก็เหมือนแขวนอยู่บนเส้ นด้ าย เด็กสาวคนนันเดิ ้ น
เข้ ามาหาเขาอย่างไม่กลัวเกร็ง แต่เขาก็ต้องรู้สกึ งงเพราะนัยน์ตาของเธอผู้
นันมี
้ สีแดงผิดมนุษย์มนา ยิ่งเธอเดินใกล้ เข้ ามาเท่าไร ก็ยิ่งเห็นแสงใน
ดวงตาของเธอชัดเจนมากขึ ้น เขารู้สกึ งุนงง และความกลัวก็เริ่ มทวีขึ ้นมา
เขาค่อยๆเดินถอยห่างจากเธอทีละก้ าวๆในขณะที่เธอเดินใกล้ เข้ ามาเรื่ อยๆ
โดยที่มือของเขายังถือโทรศัพท์มือถือไอโฟน ซึง่ ส่องไฟฉายไปยังใบหน้ า
ของเธอ ดวงตาของเธอเป็ นสีแดงดูน่ากลัวและสะท้ อนแสง ขนต่างๆบน
อวัยวะร่างกายทุกส่วนของเขาลุกซูข่ ึ ้นมาทันที หัวใจของเขาเต้ นรัวและกลัว
จนขาขยับไม่ได้ ยิ่งเธอผู้นนเดิ
ั ้ นเข้ ามาใกล้ เขามากเท่าไร ขาของเขาก็ยิ่งสัน่
มากขึ ้นเท่านัน้ พร้ อมเหงื่อโชกเต็มตัวและใบหน้ าซีดเผือด วินาทีนี ้เขา
เหมือนเหยื่อที่จนมุมไม่สามารถวิ่งหนีไปไหนได้ เธอผู้นนเดิ ั ้ นใกล้ เข้ ามา
ใกล้ เข้ ามา และใกล้ เข้ ามา จนเขาทนทรมานกับความกลัวไม่ไหว โทรศัพท์
มือถือไอโฟนที่อยู่ในมือของเขาก็ร่วงหล่นลงพื ้น จากนันเขาก็
้ เป็ นลมล้ มพับ
หมดสติไป

เช้ าวันรุ่งขึ ้น แก๊ งโฟร์ แองเจิ ้ลมานัง่ รวมกลุม่ กันที่ข้างสนาม


ฟุตบอลจนครบทังสี ้ ่คนดัง่ เช่นเคย ต่างคนต่างพูดคุยเรื่ องกระเป๋ าแบ
รนด์เนม โทรศัพท์มือถือรุ่นล่าสุด รองเท้ าแฟชัน่ ราคาแพง เสื ้อผ้ าแบ
รนด์เนม และนาฬิกาข้ อมือยี่ห้อดังแสนแพง พวกเธอมักใช้ เงินได้ ทกุ เมื่อที่
ต้ องการ และเงินก็คือพระเจ้ าของพวกเขา ทุกๆสิ ้นเดือนพวกเธอจะมีความ
สุขที่สดุ เพราะพ่อแม่ของพวกเธอแต่ละคนจะโอนเงินเข้ าบัญชีพวกเธอเป็ น
จำนวนมหาศาล ชีวิตของพวกเธอนันแสนสบาย ้ และไม่เคยรู้จกั คำว่า
ลำบากแม้ แต่น้อย พ่อแม่ของพวกเธอก็เปรี ยบเสมือนดัง่ ตู้เอทีเอม จนลืมไป
ว่าสักวันหนึง่ พวกเธอก็ต้องดิ ้นรนทำมาหากินในที่สดุ ดูเผินๆแล้ วแต่ละคน
ในแก๊ งโฟร์ แองเจิ ้ลดูดีมีเสน่ห์ และมีความมัน่ ใจสูง แต่ไม่คอ่ ยตังใจเรี้ ยนสัก
เท่าไร ทุกคนในโรงเรี ยนทังนั ้ กเรี ยนไทยและนักเรี ยนต่างชาติ ต่างก็ร้ ูจกั ชื่อ
แก๊ งนี ้เป็ นอย่างดี เพราะเป็ นแก๊ งที่โด่งดังที่สดุ ในโรงเรี ยน จุดเด่นของแก๊ งนี ้
จะทำตัวโดดเด่นอยู่เสมอ และที่สำคัญพวกเธอจะใช้ ของเหมือนๆกัน ไม่วา่
จะเป็ นกระเป๋ านักเรี ยน นาฬิกา โทรศัพท์มือถือ ฯลฯ ซึง่ เป็ นจุดสังเกตง่าย
ว่าเป็ นพวกเดียวกัน และที่สำคัญไปกว่านัน้ พวกแก๊ งโฟร์ แองเจิ ้ลจะไม่
สุงสิงกับใครนอกจากสามัคคีรักใคร่กบั พวกเธอกันเอง ไม่วา่ พวกเธอจะเดิน
ไปทางไหนก็จะมีแต่คนมองและซุบซิบนินทา โดยเฉพาะนักเรี ยนหญิงไทย
ด้ วยกัน เช้ านี ้โรสดูสดใสเป็ นพิเศษต่างจากเมื่อสองวันก่อนโดยสิ ้นเชิง “ชัน้
ขอบใจแกทังสามคนมากเลยว่
้ ะ ตอนนี ้อีนงั มะลิมนั คงกลายเป็ นปุ๋ยต้ นไม้
ในป่ าไปแล้ วมัง”้ โรสพูดด้ วยน้ำเสียงสะใจสุดๆ ทุกคนในแก๊ งก็หวั เราะร่า
ออกมาด้ วยความสะใจ“แหมนังโรส เพื่อนก็ต้องช่วยเพื่อนสิยะ” เคทพูด
ออกมาอย่างภูมิใจ ทุกคนในแก๊ งต่างก็ยิ ้มอย่างมีความสุข “ว่าแต่วา่ เมื่อไร
พวกเราจะได้ ข่าวไอ้ โม่งกับไอ้ วินล่ะ” เอแคลร์ ถาม “ตอนนี ้พวกมันคงอิ่ม
กามนอนหลับปุ๋ ยคาศพอีนงั มะลิอยู่มง” ั ้ เกรซพูดด้ วยน้ำเสียงสะใจปน
ทะลึง่ ชวนทุกคนระเบิดหัวเราะร่าออกมาอย่างชอบใจดังทัว่ โรงเรี ยน ทำเอา
นักเรี ยนไทยและนักเรี ยนต่างชาติตา่ งก็หนั มามองพวกเธอด้ วยสายตา
ตำหนิ
เช้ านี ้มะลิตดั สินใจไม่ไปโรงเรี ยนเพราะเจ็บหน้ าท้ องจากการถูก
ชกต่อยเมื่อวาน เธอจึงโกหกคุณแม่ของเธอว่าเธอปวดท้ องประจำเดือน
เพื่อไม่ให้ คณ ุ แม่ของเธอเครี ยดกังวลกับเรื่ องราวที่เกิดขึ ้นกับเธอ อย่างน้ อย
การที่ไม่ได้ ไปเรี ยนเป็ นสิ่งที่ดีสำหรับเธอ เพราะไม่ต้องกังวลว่าแก๊ งโฟร์ แอง
เจิ ้ลจะมาหาเรื่ องเธออีก ในใจเธออยากให้ ทกุ วันเป็ นแบบนี ้ แบบที่ไม่ต้อง
ไปโรงเรี ยนและนอนสบายอยู่แต่ในห้ องนอนของตัวเอง แต่ในใจลึกๆเธอ
แอบเสียดายที่ไม่ได้ เห็นหน้ าโจนาธาน หนุ่มชาวฝรั่งเศสที่เธอแอบมีความ
รู้สกึ ดีๆให้ หากเธอเลือกได้ ระหว่างการได้ ไปโรงเรี ยนเพื่อเจอโจนาธานแล้ ว
มีความสุข แต่ก็ต้องแลกด้ วยการถูกรังแกอย่างหนัก กับการอยู่บ้านแบบ
ไม่มีใครมารังแก แต่ไม่เห็นหน้ าโจนาธาน เธอจะเลือกที่จะอยู่บ้านเสียดี
กว่า เช้ านี ้เธอใช้ เวลาหลายชัว่ โมงหมกตัวอยู่แต่ในห้ องนอนของเธอตังแต่ ้
เธอตื่นเมื่อเวลาเจ็ดโมงเช้ า ที่จริ งแล้ วเธอเพลิดเพลินกับการอ่านนวนิยาย
รักโรแมนติค และจินตนาการว่าตัวเธอเป็ นนางเอกในนิยาย เธอทังยิ ้ ้มทัง้
หัวเราะ และร้ องไห้ อยู่เพียงลำพัง จนลืมเรื่ องราวอันแสนเลวร้ ายที่เกิดขึ ้น
กับเธอไปเมื่อวานเป็ นครัง้ คราว แต่นิยายรักโรแมนติคที่เธออ่านอยู่นี ้มัน
ทำให้ เธอคิดถึงโจนาธานตลอดเวลา เพราะเธอก็จินตนาการว่าเขาเป็ น
พระเอกในนิยายเช่นกัน ถึงแม้ วา่ ความจริ งเขาอาจไม่ได้ คิดถึงเธอสักนิด
เลยก็ตาม เมื่อเวลาผ่านไปสักชัว่ โมง เธอก็หยิบกระดาษขันหนั ้ งสือสอดไว้
ตรงกลางแล้ วปิ ดลง จากนันเธอก็ ้ เดินออกจากประตูห้องนอนแล้ วเดินลง
ขันไดไปที
้ ่สวนดอกไม้ หลังบ้ าน เพื่อทักทายคุณแม่ของเธอ “วันนี ้ไม่ไปเรี ยน
แล้ วใครคนนันเขาไม่
้ คิดถึงหนูเหรอลูก” ผู้เป็ นมารดาพูดแซวลูกสาวตัวเอง
“ใครเหรอคะ” มะลิแสร้ งทำเป็ นไร้ เดียงสา “แหม ก็จะเป็ นใครล่ะ ก็คนที่
ทำให้ หนูยิ ้มน้ อยยิ ้มใหญ่อยู่คนเดียวนะสิ แม่เห็นแอบยิ ้มคนเดียวบ่อยๆนะ
ช่วงนี ้” ผู้เป็ นมารดาพูดจบก็สง่ ยิ ้มให้ เธอ มะลิเขินหน้ าแดงระเรื่ อแต่ปนด้ วย
ความรู้สกึ เศร้ าใจ “คงไม่หรอกมังคะ ้ หนูก็แค่คนธรรมดาที่ไม่มีอะไรโดด
เด่นดึงความสนใจจากใครได้ หรอกคะ ใครจะมามองคนอย่างหนู” มะลิ
เผลอตอบออกไปด้ วยน้ำเสียงน้ อยเนื ้อต่ำใจ ปกติแล้ วเธอค่อนข้ างระวังไม่
ให้ คณ ุ แม่ของเธอจับได้ วา่ เธอมีปัญหาในใจ ผู้เป็ นมารดามองหน้ าเธอเห็น
แววตาลูกสาวตัวเองแลดูเศร้ า โดยที่มะลิไม่ทนั ได้ ระวังไม่ให้ คณ ุ แม่เธอ
สังเกตได้ “นี่มะลิ คนเราน่ะล้ วนมีคณ ุ ค่าในตัวเอง บางคนเกิดมาไม่มียศถา
บรรดาศักดิ์อะไรแต่ชีวิตก็มีความสุขได้ ” ผู้เป็ นมารดาเริ่ มอธิบาย “ชีวิตคน
เรามันไม่ควรเอาไปเปรี ยบกับใครนะลูก ถึงแม้ วา่ บุคลิกของหนูจะดูเป็ นคน
ที่ไม่ชอบทำตัวเด่นอะไร ก็ไม่ได้ หมายความว่าหนูจะแพ้ คนอื่นเขาเสมอไป
นะ” มะลิตงใจฟั
ั ้ งคุณแม่ของเธอ “หนูน่ะมีอะไรดีกว่าคนอื่นตังเยอะ ้ ถ้ าหนู
จะเปรี ยบเทียบกับคนอื่นนะ แม่วา่ หนูควรเอาข้ อดีของหนูที่มีอย่างเรื่ อง
คุณธรรมไปเปรี ยบเสียจะดีกว่านะมะลิ หน้ าตาหนูก็ใช่วา่ จะแพ้ คนอื่นเขา
ซะที่ไหนล่ะ” ผู้เป็ นมารดาปลอบใจลูกสาวของเธอจากใจจริ งพร้ อมส่งยิ ้ม
ให้ เธอ มะลิร้ ูสกึ ดีขึ ้นมาทันใด “ขอบคุณนะคะแม่ อย่างน้ อยหนูก็โชคดีที่หนู
ได้ เกิดมาเป็ นลูกแม่นะคะ” มะลิพดู จากใจจริ ง ผู้เป็ นมารดารู้สกึ ปลื ้มปริ่ ม
จนน้ำตาริ น แต่เธอก็ไม่รับรู้ถึงความรู้สกึ ที่ลกู สาวของเธอซ่อนไว้ ในใจ
ทังหมดได้
้ เพราะมะลิเป็ นนักแสดงที่ดี ที่กลบเกลื่อนความรู้สกึ หดหูไ่ ว้ ในใจ
ไม่ให้ ใครรับรู้ ได้ ดีมาตลอด “เมื่อวานลูกค้ าเยอะเหรอคะแม่ หนูเห็นกลับมา
ซะดึกเลย” มะลิเปลี่ยนเรื่ องคุยเพื่อกลบเกลื่อนความอ่อนแอของตัวเอง
เพราะเธอยังคงคิดถึงโจนาธานตลอดเวลา “เยอะทุกวันแหละลูกเอ๋ย แต่มี
ลูกค้ าประจำอยู่คนหนึง่ นะ เป็ นฝรั่งหน้ าตาดี๊ดี อายุนา่ จะราวๆสิบเจ็ดเนี่ย
แหละ” ผู้เป็ นมารดาเล่าให้ เธอฟั ง “ทำไมเหรอคะแม่” มะลิถาม “ก็แม่เห็น
เขาพาสาวมาเดทแต่ละคนหน้ าตาไม่ซ้ำกันเลยสักวันนะสิ หนุ่มนัน่ ดูเสน่ห์
แรงไม่เบา ท่าทางจะเป็ นเพลบอย คนอะไรควงสาวหน้ าใหม่มาได้ ทกุ วัน ”
คุณแม่ของเธอเล่าจบ “งันเหรอคะแม่
้ ช่างเขาเถอะ” มะลิพดู ทิ ้งท้ ายอย่าง
ไม่ใส่ใจ
โม่งลืมตาขึ ้นในช่วงสายๆท่ามกลางป่ าละเมาะที่เต็มไปด้ วยต้ น
หญ้ าและหนาม เขาค่อยๆลุกขึ ้นมาอย่างสะลึมสะลือและมองไปรอบๆ เขา
รู้สกึ กระหายน้ำที่สดุ รอบๆตัวเขาไม่ใช่ป่าดงดิบแล้ ว มันเป็ นเพียงแค่ป่า
ละเมาะข้ างทางที่ไม่น่าหลงทางได้ เขาสับสนงุนงงกับตัวเอง พร้ อมกับ
คำถามผุดขึ ้นในหัวอยู่หลายคำถาม เขาพยายามนึกทบทวนเหตุการณ์เมื่อ
คืนทังหมดที
้ ่ผ่านมา ความกลัวกัดกินหัวใจเขาทันที พร้ อมมองซ้ ายมอง
ขวากลัวจะเจอกับดวงตาสีแดงคูน่ นอี ั ้ ก เขารี บลุกขึ ้นอย่างรวดเร็วพร้ อม
เดินออกจากป่ าละเมาะทันทีด้วยความกลัว เขาเดินหาทางออกอย่าง
ง่ายดาย และแล้ วเขาก็ได้ ยินเสียงฝี เท้ าย่องเดินตามเขามาทางด้ านหลัง ใน
ขณะที่ขาของเขาเพิ่งจะก้ าวพ้ นออกจากป่ าละเมาะเพียงหนึง่ ก้ าว เขาหัน
ขวับไปมองอย่างรวดเร็วโดยสัญชาตญาณจนคอเกือบเคล็ดพร้ อมขนลุกซู่
“ไอ้ วิน!!” เขาขานชื่อทันทีที่เห็นเพื่อนด้ วยความดีใจ ชายผู้ที่วิ่งหนีเตลิดเปิ ด
เปิ งได้ มาปารกฏตัวแล้ ว “ไอ้ โม่ง” วินขานชื่อกลับด้ วยน้ำเสียงสัน่ เครื อและ
อ่อนกำลังพร้ อมวิ่งไปหาทันที หน้ าตาของวินดูโทรมอย่างกับคนไม่ได้ หลับ
ไม่ได้ นอนมาสองวัน และยังคงดูตื่นตูมอยู่ไม่แพ้ เขาเช่นกัน ชายทังสองหน้ ้ า
ซีดเผือดและกระหายน้ำ “ไอ้ วิน เมื่อคืนมึงหายไปไหนมาวะ กูตามหามึง
แทบตาย” โม่งถามด้ วยน้ำเสียงดีใจที่เห็นวิน และโล่งใจที่เดินออกมาข้ าง
ทางได้ “มึงอย่าเพิ่งถามอะไรกูตอนนี ้เลย ไปไกลจากที่นี่ก่อนแล้ วกูจะเล่า
ให้ ฟัง” น้ำเสียงวินฟั งดูตื่นตระหนกและสัน่ เครื อ เขาไม่กล้ าเล่าตอนนี ้
เพราะสิ่งที่เขาเจอมาก็น่ากลัวเช่นกัน “กูก็มีอะไรจะเล่าให้ มงึ ฟั งเหมือนกัน”
โม่งพูด ชายทังสองพากั
้ นซ้ อนมอเตอร์ ไซด์ไปจากที่นี่อย่างรวดเร็ว
เมื่อชายทังสองมาถึ
้ งสลัมที่พวกเขาอาศัยอยู่ ต่างคนต่างเล่าเรื่ อง
เหตุการณ์อนั น่าสะพรึงกลัวที่พวกเขาเจอไปเมื่อวาน โม่งขนลุกซูใ่ นขณะที่
ฟั งวินเล่าเหตุการณ์ขนหัวลุกที่เขาเจอ ซึง่ วินก็ขนลุกในขณะที่เขากำลังเล่า
ให้ โม่งฟั งเช่นกัน ตอนนันที ้ ่วินกำลังย่องไปที่ตวั เด็กสาววัยรุ่นผู้นนั ้ เพื่อที่จะ
ปิ ดปากและลงมือข่มขืนเธอ เพียงไม่กี่ก้าวจะถึงตัวเธอ เขาก็ตกใจจนสติ
แตก เพียงเพราะเธอผู้นนหั ั ้ นมามองด้ วยดวงตาสีแดงน่าสะพรึงกลัว เขาจึง
ร้ องออกมาด้ วยความตกใจกลัวสุดขีด และวิ่งหนีเตลิดเปิ ดเปิ งหายเข้ าป่ า
ไป เขาวิ่งไปได้ สกั ระยะก็หลงทาง รอบๆตัวเขากลายเป็ นป่ าดงดิบ ซึง่
เหมือนมีบางสิ่งบางอย่างเนรมิตให้ เป็ นเช่นนัน้ เขารู้สกึ สับสนงุนงง และ
กลัวจนแทบไม่สามารถควบคุมสติตวั เองได้ ตัวเขาสัน่ ระริ กตลอดเวลา
พร้ อมมองซ้ ายมองขวา และมองหน้ ามองหลังด้ วยความระแวง อาการกลัว
อย่างทรมานจนแทบเป็ นบ้ านันนานแสนนานหลายชั
้ ว่ โมง เขาไม่สามารถ
นัง่ ลงได้ เลยแม้ วินาทีเดียว เพราะอาการไก่ตื่นตลอดเวลา เขาหายใจถี่ไม่
เป็ นจังหวะนานนับข้ ามคืน และยังคงวิ่งและเดินเรื่ อยๆอย่างเสียสติอยู่
หลายชัว่ โมง หัวใจของเขาทำงานอย่างหนักโดยการเต้ นรัวตลอดเวลา
ท่ามกลางความมืดในป่ าดงดิบ ร่างกายของเขาเต็มไปด้ วยเหงื่อโชกเต็มตัว
เหมือนถูกสาดน้ำ เขาร้ องไห้ ออกมาอย่างไม่ร้ ูตวั ทังมื ้ อ แขน และขาของ
เขาสัน่ ระริ กตลอดเวลา หลังจากนันเขาก็ ้ จำเหตุการณ์ตา่ งๆไม่ได้
เขาลืมตาขึ ้นในช่วงสายของวันรุ่งขึ ้น ซึง่ เขาหมดสติไปเมื่อตอน
ใกล้ รุ่งสาง เขาจำเหตุการณ์ขนหัวลุกไม่ได้ เนื่องจากอาการช็อกสุดขีดจน
สมองตัดภาพนันๆไป ้ ก่อนที่เขาจะเป็ นลมหมดสติไปนัน้ ในขณะที่เขาหยุด
เดินได้ เพียงสักพัก เขาแหงนหน้ าขึ ้นมองด้ านบนโดยไม่ได้ ตงใจั ้ สายตาเขา
ก็เหลือบไปเห็นเด็กสาววัยรุ่นนัง่ ห้ อยขาอยู่บนกิ่งไม้ ใหญ่เหนือศรี ษะของ
เขา ก้ มมองลงมาด้ วยดวงตาสีแดงสะท้ อนแสง จากนันเขาก็ ้ เกิดอาการ
ช็อกตกใจสุดขีดแล้ วเป็ นลมล้ มพับไป ซึง่ ตอนนี ้เขาจำเหตุการณ์นนไม่ ั ้ ได้
เสียแล้ ว เขาลืมตาตื่นขึ ้นมาในช่วงสายของวันรุ่งขึ ้น รอบๆตัวเขาเป็ นป่ า
ละเมาะเหมือนเดิม ไม่ใช่ป่าดงดิบเหมือนเมื่อคืนที่ผ่านมา เขารู้สกึ สับสน
เช่นเดียวกับโม่ง และรี บลุกขึ ้นแล้ วหาทางเดินออกจากป่ าละเมาะให้ เร็ว
ที่สดุ จนในที่สดุ เขาก็เห็นโม่งเดินนำหน้ าเขาออกจากป่ าละเมาะ เขาจึงรี บ
เดินตามทันที
นี่เป็ นเหตุการณ์ที่เกิดขึ ้นกับชายทังสอง้ ซึง่ เหตุการณ์ที่เกิดขึ ้นนัน้
คล้ ายคลึงกัน เหมือนมีบางสิ่งบางอย่างมาสัง่ สอนพวกเขาไม่ให้ กระทำ
ความผิดเช่นนี ้อีก ซึง่ ก็คือมาลีน่าแฝดปี ศาจของมะลิ หรื อด็อพเพอร์ แกง
เกอร์ นนั่ เอง หลังจากชายทังสองประสบกั
้ บเหตุการณ์อนั น่าสะพรึงกลัว
และทนทุกข์ทรมานด้ วยความกลัวนัน้ เขาทังสองจึ ้ งคิดตัดสินใจที่จะ
เปลี่ยนตัวเอง สิ่งแรกที่พวกเขาทำคือคุยกันอย่างตังใจที ้ ่จะคืนเงินทุก
จำนวนให้ แก๊ งโฟร์ แองเจิ ้ล เพราะพวกเขาตัดสินใจจะไม่เห็นแก่เงินอย่างไร้
ศีลธรรมเช่นนี ้อีก แม้ วา่ จำนวนเงินที่พวกเขารับมานันจะมากมายมหาศาล

แค่ไหนก็ตาม เหตุการณ์ที่ผ่านมานันได้ ้ สอนอะไรพวกเขาหลายอย่างโดย
อัตโนมัติ และพวกเขาก็คิดตังใจจะเลิ้ กค้ ายาเสพติด และที่ส ำคัญ พวกเขา
คิดจะพากันไปบำบัดเพื่อที่จะเลิกเสพยาเสพติดให้ ได้
ช่วงพักเที่ยง นักเรี ยนบางกลุม่ ต่างพากันไปนัง่ จับกลุม่ กันที่โรง
อาหาร นักเรี ยนหญิงบางกลุม่ เกาะกลุม่ กันเพื่อติวหนังสือ ส่วนนักเรี ยนชาย
บางกลุม่ พากันไปเตะฟุตบอลที่สนาม โดยมีแก๊ งโฟร์ แองเจิ ้ลคอยนัง่ เชียร์
อยู่ข้างสนามฟุตบอล เสียงกรี๊ ดของโรสดังลัน่ สนามเพราะเอาแต่เชียร์ โจนา
ธานเพียงผู้เดียว เสียงของเธอนันแสดงถึ
้ งความเรี ยกร้ องความสนใจจาก
เขาเป็ นที่สดุ เมื่อไรที่ลกู ฟุตบอลเด้ งมาทางเขา เธอจะกรี๊ ดเสียงดังทุกๆครัง้
อย่างไม่ละอายสายตาชาวบ้ าน หนุ่มๆทุกคนในสนามฟุตบอลต่างคนต่างก็
ใช้ สมาธิในการที่จะเอาชนะอีกฝ่ ายให้ ได้ “กรี๊ ด!!! พี่ซอนบีของชัน้ พี่ซอนบี
กรี๊ ดๆๆๆๆๆๆๆ!!!” เกรซส่งเสียงเชียร์ ดงั ลัน่ ให้ หนุ่มเกาหลีที่เธอแอบปิ๊ ง ซึง่
อยู่ฝ่ายตรงข้ ามกับโจนาธาน และแล้ วซอนบีก็เตะลูกฟุตบอลสุดแรงจนอัด
เข้ าประตูของฝ่ ายตรงข้ ามจนสำเร็จ เกรซลุกขึ ้นยืนกระโดดตบมือรัวๆพร้ อม
กรี๊ ดออกมาดังยิ่งกว่าเสียงกรี๊ ดของโรสด้ วยความดีใจ “นี่นงั เกรซ ฝ่ ายของพี่
ซอนบีของแกเพิ่งจะเตะบอลเข้ าประตูได้ แค่หนึง่ คะแนนเองนะ ให้ มนั น้ อยๆ
หน่อย” โรสหันไปพูดใส่เกรซด้ วยน้ำเสียงกึ่งแซวกึ่งหมัน่ ไส้ “แหม แกก็สง่
เสียงเชียร์ ให้ ดงั กว่าเสียงของชันสิ
้ ยะ พี่โจนาธานของแกจะได้ มีแรงเตะ
ลูกบอลเข้ าประตูได้ ไงล่ะ” เกรซศอกกลับด้ วยน้ำเสียงมีชยั โรสเบะปากใส่
เกรซ
อีกไม่กี่นาทีตอ่ มา เสียงกริ่ งโรงเรี ยนก็ดงั ขึ ้นซึง่ เป็ นสัญญาณบ่ง
บอกว่าหมดเวลาพักเบรกแล้ ว นักเรี ยนทุกคนต่างก็รีบเดินขึ ้นชันเรี ้ ยน
หนุ่มๆที่อยู่ในสนามฟุตบอลต่างพากันจับมือและตบไหล่กนั ก่อนทยอยเดิน
ออกจากสนาม ส่วนแก๊ งโฟร์ แองเจิ ้ลยังคงยืนรอที่ข้างสนามเพื่อดักทักทาย
หนุ่มๆที่ทยอยกันเดินออกมา ทันทีที่โจนาธานเดินออกจากสนาม โรสก็รีบรี่
ตรงไปยังเขาทันที “สวัสดีคะ พี่โจนาธาน ยูเจ๋งมาก ไอชอบตอนที่ยเู ตะ
ฟุตบอลมากเลยคะ My name is Rose.” โรสทักทายเขาด้ วยการดัดเสียง
ให้ เซ็กซี่เล็กน้ อยพร้ อมส่งสายตายัว่ ยวน “Nice to meet you. ขอบคุณนะ
ครับ ผมไม่เจ๋งเหมือนคนอื่นหรอกครับ” โจนาธานตอบด้ วยสีหน้ างุนงงเล็ก
น้ อย “ไอดูยเู ตะฟุตบอลตลอดเวลานะคะ ถึงแม้ วา่ ยูจะเตะไม่เก่งเท่าคนอื่น
แต่ลีลายูเท่ไม่แพ้ ใครเลยนะคะ” โรสสรรหาคำพูดเพื่อที่จะเอาใจเขาให้ ได้
“ขอบคุณอีกครัง้ นะครับ เสียงกรี๊ ดของยูก็ทำให้ ผมมีแรงเตะนะครับ” เขา
พูดหยอดเธอกลับเล็กน้ อย แต่ในใจลึกๆของเขาเริ่ มอยากจะเล่นด้ วยซะ
แล้ ว ดวงตาคูส่ ฟี ้ าของเขาจับจ้ องไปที่ใบหน้ าอันสวยคมของโรส เขาแอบ
สังเกตเห็นจมูกที่โด่งเป็ นสันสวยงาม และริ มฝี ปากเล็กเหมาะเจาะกับ
ใบหน้ าของเธอ เธอมีรูปร่างดีเหมือนนางแบบวัยรุ่นในนิตยสาร เขาเริ่ มคิด
เตลิดไปไกล โรสส่งยิ ้มให้ เขา และแอบสังเกตเห็นดวงตาคูส่ ีฟ้าที่ชวน
หลงใหล ผมหยิกสีทอง รูปร่างเหมือนนักบาสเกตบอล อกผายไหล่ผงึ่ และ
ผิวขาว ‘เขาช่างดูเป็ นผู้ชายที่มีเสน่ห์เหลือเกิน’ เธออุทานในใจพร้ อมหัวใจ
เต้ นแรงเล็กน้ อยด้ วยความประหม่า ที่จริ งเธอจับได้ วา่ เขาก็แอบสังเกตเธอ
เช่นกัน ในใจเธออยากสัมผัสเขาแต่ก็สงวนท่าทีเอาไว้ เธอพยายามลด
ความกระดี๊กระด๊ าลงเล็กน้ อยเมื่อยืนอยู่ตรงหน้ าเขา ซึง่ ก็ดไู ม่ขดั กับบุคลิก
จริ งของเธอสักเท่าไร เธอใช้ มายาหญิงอย่างมีศิลปะในการพูดคุยและแสดง
ท่าทาง รวมทังใบหน้
้ าที่สวยคมของเธอที่เตะตาเขา และรูปร่างสมส่วน
ราวกับนางแบบทำให้ เขาหลงเสน่ห์เธอเข้ าอย่างจังเสียแล้ ว
หลังจากเธอคุยกับเขาเสร็จก็เซกู๊ดบาย พร้ อมโบกมือลาเขาก่อน
เดินขึ ้นชันเรี
้ ยนพร้ อมแก๊ งของเธอ “แหม ดูมีความสุขจังเลยนะแก ชันโคตร ้
อิจฉาแกเลยว่ะ” เอแคลร์ แซวโรสระหว่างเดินขึ ้นชันเรี ้ ยน “แน่นอนสิยะ ชัน้
โคตรมีความสุขเลย รู้มยพี ั ้ ่โจนาธานแอบมองหน้ าอกของชันด้ ้ วยน่ะแก
ฮิๆๆๆ” โรสพูดออกมาด้ วยน้ำเสียงร่าเริ งที่สดุ และหัวเราะออกมาอย่าง
ชอบใจพร้ อมทำท่ากระดี๊กระด๊ า “นี่แหละคือสัญญาณเริ่ มต้ น” เกรซออก
ความเห็น “ยังไงวะ” เคทถาม “อ้ าว ไม่ร้ ูเหรอว่าเวลาผู้ชายแอบมองสัดส่วน
ของผู้หญิงน่ะ เขาคิดอะไรไปไกลแล้ ว” เกรซอธิบายด้ วยน้ำเสียงทะลึง่
พร้ อมเหล่ตามองมาทางโรส โรสหัวเราะออกมาอย่างชอบใจ “อย่างงี ้ก็เข้ า
ทางแกละสิยยั โรส ชันว่ ้ าสักวันเขาจะต้ องชวนแกไปเดทแน่ๆ เชื่อชัน” ้ เอแค
ลร์ พดู อย่างกับรู้เหตุการณ์ลว่ งหน้ า “ชันก็
้ ขอให้ มนั เป็ นแบบนันนะ
้ พลีส
ชวนไอไปเดทกับยูหน่อยเถอะ ไอจะยอมทำทุกอย่างให้ ยเู พียงคนเดียว ยู
จะทำอะไรไอก็ได้ ไอจะไม่ขดั ขืน ไอยอมหมดทุกอย่าง” น้ำเสียงเซ็กซี่
ยัว่ ยวนของโรสทำเอากลุม่ นักเรี ยนหญิงไทยกลุม่ อื่นที่เดินผ่านมาทำหน้ า
สะอิดสะเอียน ยิ่งทำให้ พวกเธอรู้สกึ หมัน่ ไส้ พวกแก๊ งโฟร์ แองเจิ ้ลมากขึ ้น
กว่าเดิม “แหม ทำเป็ นมาพูดตอนที่เขาไม่อยู่ตรงหน้ า เมื่อกี ้แกทำไมไม่พดู
แบบนี ้ต่อหน้ าเขายะ” เกรซแซว โรสทำท่ากระดี๊กระด๊ าอย่างมีความสุข
เหมือนเดิม
ทันทีที่แก๊ งโฟร์ แองเจิ ้ลเดินมาถึงห้ องเรี ยนเกรดสิบเอ็ด พวกเธอก็
มองหน้ ากันอย่างผิดหวัง โดยเฉพาะโรส เธอเกิดอาการหงุดหงิดขึ ้นมาทันที
พวกเธอเพิ่งจะเห็นมะลินงั่ อยู่ในชันเรี ้ ยนในคาบเรี ยนช่วงบ่าย ซึง่ เมื่อเช้ า
มะลิไม่ได้ มาเรี ยน พวกเธอคิดว่ามะลิมีอนั เป็ นไปแล้ ว จากนันพวกเธอก็ ้
เดินเข้ าชันเรี
้ ยนอย่างเงียบๆ นักเรี ยนในชันเรี ้ ยนทุกคนมากันครบแล้ ว แต่
พวกหล่อนเข้ ามาเป็ นกลุม่ สุดท้ าย ทุกคนเห็นมะลินงั่ ก้ มหน้ าก้ มตาไม่ยอม
พูดจากับใคร วันนี ้เธอดูผิดสังเกต พฤติกรรมของเธอช่างดูเย็นชาไร้ ความ
รู้สกึ “Hi! Mali. How are you?” อาจารย์เบลล่าชาวแคนาดาผู้สอนวิชา
เคมีทกั ทายเธอ เธอคิดว่ามะลิอาจจะมีปัญหาอะไรสักอย่างถึงมีพฤติกรรม
เช่นนี ้ แต่มะลิกลับเมินเฉยเหมือนไม่รับรู้ ความเคลื่อนไหวรอบๆตัวอะไรทัง้
สิ ้น และไม่แม้ กระทัง่ เงยหน้ าขึ ้นมามองคูส่ นทนาเลย อาจารย์เบลล่ารู้สกึ
ประหลาดใจในพฤติกรรมของเธอ ปกติแล้ วเธอจะยิ ้มแย้ มเวลามีใครมา
ทักทายเธอเสมอ และเธอเป็ นคนสุภาพด้ วยซ้ำไป แม้ วา่ อาจารย์เบลล่าจะ
เป็ นอาจารย์ที่ใจดี แต่เธอก็อดหงุดหงิดใจไม่ได้ ที่เห็นมะลิเอาแต่ก้มหน้ าก้ ม
ตา และไม่มีทา่ ทีจะเงยหน้ าขึ ้นมาฟั งในขณะที่เธอสอนเลย เธอจำต้ องปลง
กับพฤติกรรมของเธอ “นี่พวกเรา ชันว่ ้ าวันนี ้อีนงั มะลิมนั แปลกๆยังไงไม่ร้ ู
ว่ะ” เคทกระซิบออกความเห็นในแก๊ งของเธอ ขณะที่อาจารย์เบลล่าเผลอ “
ก็มนั โดนไอ้ สองคนนัน่ ซัม่ มันไปเมื่อวานนะสิ มันเลยหงอยๆ” เกรซซุบซิบ
ตอบ “แค่นี ้ชันไม่
้ สะใจหรอก มันยังไม่ตาย ไอ้ สองคนนัน่ ปล่อยให้ มนั รอด
มาได้ แล้ วเงินที่พวกเราอุตส่าห์จ้างก็เสียให้ พวกมันฟรี นะสิ พวกมันทรยศ”
โรสบ่นเบาๆด้ วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้ วยแรงโทสะ และดังพอที่ทำให้ นกั เรี ยน
บางคนที่นงั่ อยู่ใกล้ เธอได้ ยิน แต่ยงั โชคดีที่ไม่มีใครจับใจความได้ “งันหลั ้ ง
เลิกเรี ยนพวกเราก็โทรนัดไอ้ สองคนนัน่ มาคุยให้ ร้ ูแล้ วรู้รอดไปเลยสิ ” เอแค
ลร์ เสนอแก้ ปัญหา ทุกคนพยักหน้ ารับความเห็น
หลังจากหมดคาบเรี ยนสุดท้ าย นักเรี ยนทุกคนต่างเก็บสมุดและ
หนังสือใส่กระเป๋ า โดยที่ทกุ คนไม่ทนั ได้ สงั เกตมะลิ พอหันไปมองที่โต๊ ะ
เรี ยนของเธออีกทีเธอก็หายตัวไปเสียแล้ ว ต่างคนต่างรู้สกึ ประหลาดใจ รวม
ถึงแก๊ งโฟร์ แองเจิ ้ลด้ วย พวกเธอมองหน้ ากันอย่างฉงน “อีมะลิมนั ทันเดิน
ออกจากห้ องเรี ยนไปตังแต่ ้ เมื่อไรวะ” เคทถามอย่างประหลาดใจ “ชันก็ ้ ไม่ร้ ู
เหมือนกันว่ะแก” เอแคลร์ ตอบด้ วยน้ำเสียงประหลาดใจเช่นกัน ทุกคนต่าง
รู้สกึ ประหลาดใจ
ทันทีที่พวกแก๊ งโฟร์ แองเจิ ้ลมาถึงสวนสาธารณะ โรสกับเกรซก็
หยิบบุหรี่ ออกจากกระเป๋ านักเรี ยนขึ ้นมาสูบคนละมวนอย่างสบายใจ “เฮ้ ย!
แกสองคนลืมกฎอะไรรึเปล่าวะ” เอแคลร์ เตือนสติ “กฎอะไรวะ นี่พวกเราไม่
ได้ อยู่ในโรงเรี ยนนะเว้ ย จะมีกฎอะไรมาขัดใจพวกเราอีกล่ะ” โรสแย้ ง “อ้ าว
ก็เวลาอยู่ในที่สาธารณะไม่ควรสูบบุหรี่ ไม่ใช่เหรอ” เอแคลร์ ตอบพลางชี ้นิ ้ว
ไปที่โลโก้ ห้ามสูบบุหรี่ ที่ติดอยู่บนกลางต้ นไม้ “เอ้ อว่ะ จริ งด้ วย” เกรซอุทาน
เธอทังสองคนจึ
้ งรี บดับบุหรี่ ทนั ทีแล้ วทำเป็ นไม่ร้ ูไม่ชี ้ อีกสิบนาทีตอ่ มา โม่ง
กับวินก็มาถึงสวนสาธารณะ “ทำไมพวกมึงมาช้ าจังวะ” โรสทักชายทังสอง ้
เป็ นประโยคแรกด้ วยน้ำเสียงตำหนิ “โธ่ ช้ านิดช้ าหน่อยทำเป็ นมาบ่น ไหนๆ
พวกกูก็มาแล้ วไง” โม่งพูด “นี่ พวกมึงทำงานกันยังไงวะ ทำไมปล่อยให้ อี
มะลิมนั รอดมาได้ ” โรสพูดด้ วยน้ำเสียงไม่พอใจ “ขอโทษนะ พวกกูทำไม่ได้
ว่ะ” วินตอบ “เฮ้ ย มึงพูดง่ายอย่างงี ้เลยเหรอวะ แล้ วเงินที่พวกกูจ่ายให้ พวก
มึงล่ะ” เคทพูดแทรกขึ ้นมาด้ วยน้ำเสียงอยากจะเอาเรื่ อง “นี่ไง พวกกูตดั สิน
ใจจะไม่ทำอะไรที่ผิดศีลธรรมแล้ วว่ะ พวกกูขอโทษด้ วย” โม่งพูดพร้ อมยื่น
เงินทุกจำนวนคืนไปให้ แก๊ งโฟร์ แองเจิ ้ลอย่างง่ายดาย โดยไม่แสดงความ
รู้สกึ เสียดายเลยแม้ แต่น้อย โรสหยิบรับไป พวกเธอรู้สกึ แปลกใจเป็ นอย่าง
มากพร้ อมทำหน้ าฉงน ปกติแล้ วชายทังสองคนนี
้ ้กระหายเงินอย่างที่สดุ
เพราะพวกเขาจะได้ เอาไปซื ้อยาเสพติด “เกิดอะไรขึ ้นกับพวกมึงวะ ทำไม
พวกมึงถึงเปลี่ยนใจได้ เร็วซะขนาดนัน” ้ เกรซถาม ทุกคนในแก๊ งโฟร์ แองเจิ ้ล
ต่างดักรอฟั งคำตอบอย่างตังใจ้ “พวกกูก็แค่อยากกลับใจเป็ นคนดี...เท่านัน้
เอง” โม่งตอบด้ วยประโยคเรี ยบง่าย ซึง่ เป็ นคำตอบที่ฟังดูมีเหตุผลที่สดุ แล้ ว
เขาคิดว่าหากเล่าเรื่ องราวขนหัวลุกที่พวกเขาประสบนัน้ พวกเธออาจไม่
เชื่อก็ได้ และพวกเธอจะหาว่าเขาพูดโกหก ทุกคนในแก๊ งโฟร์ แองเจิ ้ลต่าง
คนต่างไม่อยากจะเชื่อ พร้ อมมองหน้ ากันอย่างฉงน พวกเธอไม่สามารถ
รบเร้ าให้ พวกเขากระทำความผิดได้ อีก แม้ จำนวนเงินที่พวกเธอยอมจ่ายให้
นันจะมากมายมหาศาลแค่
้ ไหนก็ตาม หลังจากที่พวกเขาประสบเหตุการณ์
รักตัวกลัวตาย แม้ วา่ พวกเธอยังคงพยายามเสนอในราคามหาศาลแม้
กระทัง่ เจ็ดหลัก เพื่อพยายามยัว่ กิเลสให้ พวกเขาต้ องกลับไปแลกด้ วยการก
ระทำผิดศีลธรรมอีกครัง้ แต่ก็ไม่สามารถเอาชนะใจพวกเขาได้ อีก เพียงแค่
พวกเขาเจอเหตุการณ์ที่ผ่านมานัน้ ได้ สงั่ สอนพวกเขามากเกินพอแล้ ว

เมื่อถึงเวลาเย็น มะลิยงั อ่านหนังสือนิยายรักโรแมนติคจนกระทัง่


จบไปหนึง่ เล่ม เธอชอบซื ้อหนังสือนิยายมาอ่านเป็ นประจำ จนในห้ องนอน
ของเธอแทบจะกลายเป็ นห้ องสมุด ซึง่ ที่จริ งสามารถเรี ยกได้ วา่ กลายเป็ น
ห้ องสมุดเล็กๆส่วนตัวของเธอก็ได้ ส่วนมากเธอใช้ เวลาไปกับการ
จินตนาการเพื่อให้ ตวั เธอเองรู้สกึ มีความสุข ถึงแม้ วา่ จะเป็ นความสุขจอม
ปลอม บางครัง้ เธอก็ปล่อยตัวเองให้ จมอยู่กบั ความสุขในสมองของเธอ
อย่างงมงาย โดยเฉเพาะช่วงนี ้เธอจะคิดถึงชายหนุ่มรุ่นพี่ฝรั่งเศสผู้นนเป็ั้ น
พิเศษ เธอมักคิดเองเออเองว่าเขาผู้นนก็ ั ้ คิดถึงเธอมากไม่แพ้ เธอเช่นกัน
แม้ วา่ ความคิดของเธอจะดูไร้ สาระ แต่มนั ก็ทำให้ เธอมีความสุขไม่น้อย จน
บางครัง้ เธอเผลอหลงเชื่อความคิดของตัวเองว่าเป็ นความจริ ง พอเธอดึงสติ
แล้ วคิดไตร่ตรองอีกครัง้ มันไม่ใช่อย่างที่เธอคิดไว้ เลย เพราะเธอนึกถึงคำ
พูดของผู้เป็ นมารดา จึงรู้วา่ มันเป็ นเพียงความรักที่ไร้ เดียงสาเท่านัน้ เธอแค่
มโนเอาเองทังนั้ น้ คิดว่าเขาสนใจและห่วงใยเธอจริ งๆ แต่สิ่งที่เขาปฏิบตั ิกบั
เธอมันคลุมเครื อ บางครัง้ เขาก็ดเู ย็นชาเสียเหลือเกิน จนไม่สามารถเดาได้
ว่าเขาแสร้ งทำเพื่อลองใจเธอ หรื อเขาไม่มีความรู้สกึ ใดๆกับเธอจริ งๆ บาง
ครัง้ พฤติกรรมของเขามันทำให้ เธอรู้สกึ เจ็บปวดและเหงา แต่บางครัง้ เขา
แสดงความห่วงใยและสนใจเธอเหมือนจะบริ สทุ ธิ์ใจจริ ง ซึง่ ทำให้ เธอ
ตายใจว่าเขาจะปฏิบตั ิเช่นนี ้กับเธออีก แต่เธอก็ต้องกลับมาผิดหวังและ
น้ อยใจอยู่หลายครัง้ ซ้ำแล้ วซ้ำเล่าเหมือนไม่ยอมเข็ดหลาบ เมื่อพฤติกรรม
ของเขาที่แสดงกับเธอที่ไม่เสมอต้ นเสมอปลายจนกลายเป็ นความเย็นชา
แล้ วเธอก็ต้องกลับมานัง่ คิดมากอยู่เพียงผู้เดียว
วันนี ้เธอไม่ได้ ไปโรงเรี ยน และหวังว่าเขาจะต้ องโทรมาหาเธอเพื่อ
ถามสารทุกข์สขุ ดิบ เธอใช้ เวลาไปกับการนัง่ รอข้ อความในไลน์จากเขาทัง้
วันโดยการเช็คหน้ าจอโทรศัพท์ของเธอหลายครัง้ หลายหน ทังๆที ้ ่ร้ ูวา่ ไม่มี
แม้ แต่รูปสติ๊กเกอร์ โชว์อยู่บนหน้ าจอเลยสักครัง้ เธอจึงพยายามแก้ ปัญหา
ขจัดความทุกข์ในใจของเธอโดยการอ่านนิยาย และจินตนาการถึงเขาอยู่
ทังวั
้ น ถึงแม้ วา่ มันจะเป็ นแค่จินตนาการจอมปลอมที่ไม่มีวนั เป็ นจริ งและไร้
สาระก็ตาม
ก่อนที่จะดึกมากเกินไปเธอเพิ่งเกิดไอเดียเพื่อที่จะเห็นหน้ าเขาขึ ้น
มา อย่างน้ อยก็ขอแค่ได้ เห็นรูปภาพเขาก็พอ เธอจึงหยิบโทรศัพท์มือถือของ
เธอขึ ้นมา เพื่อที่จะท่องอินเตอร์ เน็ตไปในเฟสบุ๊คของเธอ เพราะเธอคิดว่านี่
อาจจะช่วยทำให้ เธอรู้สกึ ดีขึ ้นหากเห็นรู ปเขาก็เป็ นไปได้ ทันทีที่เธอท่อง
เข้ าไปในเฟสบุ๊ค ปลายนิ ้วของเธอก็สมั ผัสที่ตวั อักษร J ในช่องค้ นหาทันที
ซึง่ เป็ นตัวอักษรชื่อตัวแรกของชายที่เธอรู้สกึ ดีด้วยผู้นนั ้ จากนันปลายนิ
้ ้ว
ของเธอก็เลื่อนไปสัมผัสที่ตวั อักษร o,n,a,t,h,a และตัวอักษรสุดท้ ายคือ n
จากนันชื ้ ่อ Jonathan ก็ปรากฏออกมาเป็ นลิสซึง่ มีหลายคนใช้ ชื่อนี ้บนเฟส
บุ๊ค แต่เธอยังไม่ร้ ูจกั นามสกุลของเขา เธอจึงพยายามเลื่อนดูรูปโปรไฟล์
ของแต่ละคนเผื่อว่าจะเห็นรูปประจำโปรไฟล์ของเขา ดวงตาคูส่ วยหวาน
ของเธอโฟกัสหาเพียงแต่รูปเจ้ าของใบหน้ าอันหล่อเหลาบวกกับความน่ารัก
ผู้นนั ้ เธอใช้ เวลานานถึงครึ่งชัว่ โมงแต่ก็ไม่สามารถค้ นหารูปประจำโปรไฟล์
ของเขาเลยสักวินาที เธอจึงใช้ โอกาสพิมพ์ระบายความในใจลงบนสถานะ
ในเฟสบุ๊คของเธอ ‘ความรู้สึกของฉันในตอนนีแ้ สนทรมานเหลือเกิ น ฉันไม่
อยากรู้สึกแบบนีเ้ ลย ทำไมคุณถึงเงียบหายไป คงมีแต่ฉนั สิ นะทีค่ ิ ดถึงเพียง
แต่คณ ุ รู้ไหมคุณทำให้ฉนั มีความหวังมากขึ้น และมากขึ้นทุกๆวัน จน
สมองไม่เหลือพืน้ ทีใ่ ห้คิดถึงสิ่ งอืน่ ใดนอกจาก.....ยูเพียงผูเ้ ดียว’ จากนันเธอ

ก็โพสแชร์ ข้อความอันไม่ได้ เป็ นประโยชน์ตอ่ ส่วนรวมเลยแม้ แต่น้อยลงไป
บนโลกโซเชียลเพื่อเป็ นการระบายความทุกข์ให้ โลกรู้และอยากให้ ใครต่อ
ใครมาสนใจและกดไลค์ให้ เธอ แต่ยงั โชคดีที่เธอไม่เป็ นสมาชิกเพื่อนในเฟส
บุ๊คของแก๊ งโฟร์ แองเจิ ้ลเลยสักคน ไม่อย่างนันเธอจะเจอดี
้ ไม่น้อย หรื อไม่
พวกหล่อนก็จะยิ่งสะใจที่เห็นเธอมีความทุกข์

You might also like