You are on page 1of 67

๗ วิธีตายอย่างสบายใจ

คำ�นำ�สำ�นักพิมพ์
ดังตฤณ เขียน
คนในโลกโดยมากคิดแต่เรื่องการ
พญ.ณัฐชญา ไมตรีเวช อำ�นวยการผลิต ใช้ชีวิตเพื่ออยู่ดีกินดี น้อยนักที่ไม่ประมาท
เกสรา เติมสินวาณิช บรรณาธิการ คำ�นึงถึงการใช้ชีวิตเพื่อความสบายใจก่อน
อลิสา ฉัตรานนท์ บรรณาธิการ ตายไปด้วย
ศรันย์ ไมตรีเวช ปกและรูปเล่ม นี่คือหนังสือเล่มเล็กของคุณดังตฤณ
สำ�นักพิมพ์ฮาวฟาร์ ผู้ผลิตและจำ�หน่าย ตุลาคม ๒๕๕๕ ที่ออกแบบมาให้ผู้ป่วยระยะสุดท้ายได้อ่าน
เอง หรือรับฟังจากญาติ เพื่อความสบายใจ
ครั้งสำ�คัญที่สุดในชีวิต
http://howfarbooks.com

สำ�นักพิมพ์ฮาวฟาร์
สารบัญ
๗ วิธีตายอย่างสบายใจ 6
บุญแค่ไหนถึงได้ไปสวรรค์แน่? 44
มาฝึกยอมรับความจริงกันเถอะ!59
คิดไม่ดี ไม่ได้แปลว่าเป็นคนไม่ดี74
คนทำ�ชั่วจะกลัวที่นอน 84
เหลือใจที่ถูกไว้ดวงหนึ่ง 91
ใช้ชีวิตให้คุ้ม 104
ทำ�บุญครั้งสุดท้าย 115
9

๗ วิธีตายอย่างสบายใจ เด็กที่ผ่านบทเรียนตามสูตรได้สำ�เร็จ
จะเป็นผู้ใหญ่ที่ฉลาด
ผู้ใหญ่ที่ผ่านทุกบทเรียนในชีวิตได้โดยดี
จะเป็นคนตายที่สบายใจ

๗ วิธีต่อไปนี้ ใช้ได้กับคนที่เหลือ
เวลาในชีวิตไม่ต่ำ�กว่า ๑ วันกับ ๑ คืนขึ้น
ไป หากเหลือเวลาน้อยกว่านั้นคงอ่านไม่ทัน
หรือทำ�ความเข้าใจไม่ถูก หรือมีแก่ใจซักซ้อม
ให้พร้อมไม่ได้
๗ วิธีต่อไปนี้ ไม่ได้มีไว้ให้คนที่รู้ตัว
ว่ากำ�ลังจะตายเท่านั้น แต่ยัง เหมาะสำ�หรับ
คนที่ไม่คิดว่ากำ�ลังจะตายเร็วๆนี้ด้วย
๗ วิธีต่อไปนี้ เหมาะแม้สำ�หรับ

howfarbooks.com
10 11

คนที่กำ�ลังคิดจะฆ่าตัวตาย และอยาก คุณทำ�ได้ ก็พอเชื่อว่าคุณจะสบายใจในขณะ


เตรียมใจพร้อมรับความตายโดยปราศจาก เผชิ ญ หน้ า กั บ ความตาย และหากทำ � ได้
ความกระวนกระวาย เพราะทั้ง ๗ วิธีไม่มี มากกว่าหนึ่งข้อ ก็เป็นประกันได้ว่าไม่ใช่แค่
คำ�ขอร้องให้ใครอยู่ต่อ มีแต่การนำ�เสนอ สบายใจอย่างเดียว แต่ความตายของคุณจะ
ข้ อ เท็ จ จริ ง ไว้ ใ ห้ สำ � หรั บ เตรี ย มใจก่ อ นตาย ฝากรอยยิ้มไว้ให้โลกดูด้วยความประทับใจ
สถานเดียว อีกด้วย!
๗ วิธีต่อไปนี้ ยืนพื้นอยู่บนความ
สามารถทำ�ได้จริง ไม่ว่าคุณจะเชื่อเกี่ยวกับ
ชีวิตหลังความตายอย่างไร เราจะหยุดกันแค่

เข้าใจให้ชัดว่าความสบายใจเกิดขึ้นได้อย่างไร
ที่การได้ตายอย่างสบายใจ อันควรเป็นยอด
ปรารถนาสุดท้ายของชีวิต ส่วนความจริงที่
ปรากฏภายหลังความตายจะตรงหรือไม่ตรง แม้มีเวลามากมายเหลือเฟือในชีวิต
กับความเชื่อของใคร อันนั้นก็ค่อยปล่อยให้รู้ ที่มนุษย์จะฝึกทำ�ความสบายใจ ก็ยากนักที่
เฉพาะตน เราจะเห็นใครเก่งพอจะบรรลุการฝึก ยากนัก
๗ วิธีต่อไปนี้ เพียงข้อใดข้อหนึ่งที่ ที่ เราจะเห็ น ใครสามารถทำ � ใจให้ ส บายได้

howfarbooks.com
12 13

ตามต้องการ ซึ่งนั่นก็หมายความว่า ขณะ ‘เรื่องน่าห่วง’ กับ ‘อาการเป็นห่วง’ มิใช่สิ่ง


จวนอยู่จวนไปใกล้ตายเต็มทน เวลา เดียวกัน เป็นต่างหากจากกัน แม้ยังมีเรื่อง
เพี ย งน้ อ ยนิ ด ย่ อ มไม่ พ อสำ � หรั บ การ น่าห่วงก็ไม่จำ�เป็นต้องไปห่วงมัน โดยเฉพาะ
ทำ�ใจให้สบายได้ทันการณ์เป็นแน่ ขณะกำ�ลังหน้าสิ่วหน้าขวาน ต้องการความ
ความสบายใจไม่ ไ ด้ เ กิ ด จากการ สบายใจเป็นที่หนึ่ง
แกล้งทำ�เนื้อทำ�ตัวให้สบาย ความสบายใจไม่ คุ ณ ต้ อ ง ต ร ะ ห นั ก ใ น โ ท ษ ข อ ง
ได้เกิดจากอำ�นาจสั่งการของใคร ‘อาการห่วง’ ให้ดีว่า มันทำ�เอาเราไม่สบายใจ
แท้ที่จริงแล้ว ความสบายใจเกิดจาก ไปเปล่าๆ การตระหนักจะทำ�ให้เกิดความ
การไม่มีเรื่องให้ห่วง แต่ปัญหาคือชีวิตมนุษย์ ฉลาดเลือก และแน่นอนว่าจิตที่ฉลาดย่อม
เต็มไปด้วยเรื่องน่าห่วง โดยเฉพาะในยาม เลือกความสบายใจมากกว่าอาการห่วงกังวล
ใกล้ตาย ไหนจะญาติมิตรและสมบัติข้างหลัง อาจฟังง่ายเหมือนเอากำ�ปั้นทุบดิน แต่ก็ได้
ไหนจะหวังให้ชีวิตยืดยาวต่อไปข้างหน้า ผลจริง คือดินยุบลงไปจริงๆ
เมื่อมองออกเช่นนั้น ก็จะเข้าใจว่า ที่ ผ่ า นมาจิ ต ของคุ ณ มั ว แต่ พุ่ ง ออก
วิธีง่ายๆที่จะหายห่วงก็คือ แยกให้ออกว่า ไปจดจ่อกับบุคคลหรือวัตถุนอกตัวอันเป็นที่
ตั้งของความกังวล ซึ่งก็เท่ากับเลือกรักษา
howfarbooks.com
14 15


อาการกังวลเอาไว้ ทีนี้ถ้าหวนย้อนกลับเข้า
มาข้างใน เห็นความกังวลเป็นของแปลก
ปลอมที่เข้ามารบกวนความสบายใจ พอเห็น
บ่อยเข้า ใจคุณก็ถอนตัวออกมาจากอาการ ระลึกถึงความดีที่ทำ�มา
กังวลได้เอง เพราะไม่มีใจใครอยากยึดอยาก
หวงของเสียๆอยู่แล้ว ขอบอกไว้ล่วงหน้าเลย ว่าสิ่งที่คุณ
ลองดูแล้วจะรู้ กล่าวโดยสรุปย่นย่อ จะเห็นขณะที่จิตยกขึ้นสู่วิถีแห่งมรณะ คือ
คือ มองให้เห็นตัวความกังวลในใจ เห็นเป็น นิมิตการกระทำ�ที่ผ่านมา อย่างใดอย่างหนึ่ง
ของแปลกปลอมรบกวนจิต เห็นโทษของมัน หรือมากหลาย ทุกคนคงเคยมีประสบการณ์
แล้วมันจะหายไปเอง เมื่อใดความกังวลหาย ใกล้หมดสติ และพบว่าเรื่องราวตั้งนมนาน
ไป เมื่อนั้นความสบายใจก็ปรากฏว่ามีอยู่ ผ่านแวบเข้ามาในหัวได้อีก ทั้งที่ปกติหลงลืม
แล้วโดยเดิมตามธรรมชาติ ไปอย่างสนิทแล้ว แม้เหตุการณ์ช่วงเพิ่งลืมตา
ดูโลกไม่นานก็เอาหมด หวนกลับมาฉาย
ภาพซ้ำ�ได้หมด
ฉะนั้น แทนการให้จิตซึ่งใกล้หมด

howfarbooks.com
16 17

สติ เป็นผู้สุ่มเลือกการกระทำ�แต่หนหลังขึ้น ทุ ก คนเคยทำ � ชั่ ว เคยนึ ก ผิ ด คิ ด


มาแสดง ซึ่งอาจมีทั้งดีทั้งร้ายคละกัน คุณก็ พลาดแน่นอน แต่อย่าไปเสียเวลานึกถึงมัน
ชิงนึกถึงแต่ตอนที่คุณยังมีสติดีๆ มีความ ถ้าอดนึกไม่ได้ก็ขอให้เป็นการสำ�นึกผิดครั้ง
สามารถเลือกตัดสินใจดีๆได้ไว้ก่อน โดย สุดท้าย แล้วหันเหไปกลบทับเสียด้วยการ
เลื อ กเอาเฉพาะที่ คุ ณ เคยตั ด สิ น ใจปฏิ เ สธ ระลึ ก ถึ ง คุ ณ งามความดี อั น เป็ น คู่ ต รงข้ า ม
เครื่องยั่วใจให้ผิดศีลผิดธรรม ตัดสินใจอภัย กับทั้งถามตัวเองอีกด้วยว่า ในความดีหนึ่งๆ
แทนที่จะแก้แค้น ตัดสินใจช่วยเหลือผู้คน ซึ่งเคยทำ�ไว้ ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ คุณจะดี
แทนที่จะทอดทิ้งพวกเขา กว่าที่เคยสักแค่ไหน ยิ่งจินตนาการได้ชัด ใจ
การหมั่นระลึกถึงกรรมดีในอดีต จะ คุณจะยิ่งดำ�ดิ่งลงไปในน้ำ�ทิพย์แห่งความดี
ช่วยให้เกิดความเคยชินกับอารมณ์ดีๆ พอถึง ชนิดนั้นๆ บังเกิดความปีติปรีดาทวีขึ้นกว่าที่
เวลาใกล้จิตดับ อำ�นาจความเคยชินนั้นจะดึง เคยได้
เอาความทรงจำ�ด้านดีออกมาจากคลังกรรม หากนึกไม่ออก หรือลำ�บากมากนัก
ซึ่งสะสมมาทั้งชีวิตมากมาย เรียงรายเป็นคิว ก็อาจใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ในปัจจุบันนั้นเอง พูด
ยาวเหยียด ชนิดที่คุณนึกไม่ถึงทีเดียวว่าตน ให้ใครก็ได้รู้สึกดี หรือทำ�อะไรก็ได้ให้ใครสัก
เคยดีมาได้ขนาดนั้น คนรับประโยชน์จากชีวิตอันเหลือน้อยของ

howfarbooks.com
18 19

คุณ คราวนี้คุณจะได้ไม่ต้องเค้นระลึกถึงอดีต ความจริงเป็นสิ่งที่น่ายอมรับที่สุด


ฝังลืมต่างๆอีกต่อไป เอากรรมดีที่เกิดขึ้น เพราะอย่างไรมันก็ต้องเป็นของมันอยู่อย่าง
สดๆนั่ น แหละเป็ น ใบเบิ ก ทางสู่ ธ งชั ย แห่ ง นั้น แต่สิ่งที่น่ายอมรับที่สุดนั่นแหละ ที่
ความสว่าง มนุษย์มักปฏิเสธยิ่งกว่าอะไรอื่น ราวกับจิตใจ
ด้วยข้อวิธีนี้ คุณจะพบกับความจริง ห่ อ หุ้ ม ไปด้ ว ยเมฆหมอกแห่ ง การหลอกตั ว
ด้วยความเต็มตื้นว่า เพียงด้วยการระลึกถึง เองหนาทึบ ยากจะปัดเป่าให้เบาบางลง
ความดีให้ออก ยิ่งบ่อยเท่าไร ความสบายใจ เมื่อไม่มีอาการแข็งขืน เมื่อไม่มี
ก็จะยิ่งทวีขึ้นเท่านั้น และนั่นก็เพราะ ค่าของ ความอยากให้เป็นอื่น การยอมรับตามจริง
คนอยู่ที่ผลของการทำ�ดีไว้กับโลกนั่นเอง จะเกิ ด ขึ้ น และนั่ น เองคื อ ที่ ม าของสติ ที่

๓ บริสุทธิ์ สามารถรับรู้ทุกสิ่งได้ตรงกับที่มัน
เป็น
เคยได้ ยิ น ไหมว่ า คนใกล้ ต ายไม่
ยอมรับความจริง
โกหก? รู้ไหมเพราะอะไร? เพราะจิตของคน
ใกล้ตายต้องการสติสัมปชัญญะเหนือสิ่งอื่น
ใด การคิดปั้นน้ำ�เป็นตัวให้จิตเพี้ยนในขณะ
howfarbooks.com
20 21

ใกล้ตายจึงไม่ใช่วิสัยปกติ ผลแรงทันใจ ควรเริ่มกันที่ ‘การบอกความ


คนใกล้ตายเห็นสัจธรรมบางอย่าง จริง’ ในทางที่ดี ที่เป็นประโยชน์ โดยเฉพาะ
นั่นคือ ชีวิตทั้งหมดเป็นเรื่องโกหกอยู่ กับคนข้างหลัง
แล้ว พวกเราถูกหลอกว่ามี พวกเราถูกหลอก ลองตั้งต้นจากคนที่เข้ามาหาคุณใน
ว่าเป็น ทั้งที่ไม่เคยมีและไม่เคยเป็นอะไร ช่วงท้ายๆ เริ่มคิดถึงสิ่งที่คุณหลอกเขาไว้
จริงๆสักอย่าง ทุกอย่างผ่านมาให้ดู เพื่อ หรือสิ่งที่คุณยังกำ�เป็นความลับที่ทำ�ให้เขา
ผ่านไปให้เสียดาย หรือไม่ก็ผ่านไปให้โล่งใจ เสียประโยชน์ แล้วพูดความจริงให้เขาฟัง จะ
เล่นแป๊บๆเท่านั้น พบว่าคำ�จริงที่หลุดจากปากคุณแต่ละครั้ง คือ
วั น แห่ ง ความตายคื อ วั น แห่ ง การ การสลายม่านหมอกแห่งความลวงออกทีละ
เปิดเผยความจริง ทุกสิ่งจะหลุดจากกำ�มือ น้อยจากใจคุณเอง
ของเราไป ประโยชน์อะไรกับการพยายาม ยิ่งยอมรับผิดมากขึ้นเท่าไร ใจคุณ
พูดโกหก ปั้นเรื่องเท็จซ้อนเข้าไปในเรื่องเท็จ จะยิ่ ง เห็ น ความจริ ง ที่ ถู ก ต้ อ งปรากฏชั ด ขึ้ น
กันอีก เท่านั้น
การฝึกยอมรับความจริงที่ดีที่สุด ได้ คุณจะพบว่าความจริงสำ�คัญสูงสุดที่

howfarbooks.com
22 23

ควรรู้ ควรตระหนัก ไม่มีอะไรยิ่งไปกว่าความ ตาย


จริงที่คุณต้องทิ้งทุกสิ่งไว้ในโลก และมนุษย์ ระหว่ า งมี ชี วิ ต ไม่ ว่ า คุ ณ จะเคย
ทุกคนต้องตาย ทำ�ความจริงให้บิดเบี้ยวไปเพียงใดก็ช่าง ขอ
คุณจะเห็นข้าวของรอบตัวถนัดชัด เพียงใช้เวลาช่วงสุดท้ายดัดมันให้กลับตรง
ตาขึ้น ทุกสิ่งเก่าลง แล้วจะต้องปรวนแปรไป มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้เถิด ผลจะเกิด
กว่านั้นอีก หากคุณไม่เคยยอมรับความจริง เป็นจิตที่สบายของคุณเองอย่างไม่ต้องสงสัย
เหล่านั้นได้ ก็จะพบว่าง่ายขึ้นหลังจากทยอย
‘พูดความจริงดีๆ’ ออกไปเรื่อยๆกระทั่งเกิด
พลังสัจจะ ย้อนกลับมาช่วยเป็นแสงสว่างให้

คุณเห็นอะไรๆกระจ่างขึ้น เผื่อใจให้กับการมีอยู่ของปรโลก
การยอมรับความจริงย่อมทำ�ให้ใจ
คุณสบายกว่าตอนไม่ยอมรับ ความจริงไม่ การอยู่กับฉากต้นๆและฉากกลางๆ
เคยน่าหวาดกลัวสำ�หรับนักยอมรับ ความ ของละครชีวิต จะไม่ช่วยให้คุณนึกถึงละคร
จริ ง เป็ น แค่ สิ่ ง ที่ เ กิ ด ขึ้ น เป็ น ธรรมดาอยู่ ทุ ก เรื่องใหม่ ต่อเมื่อคุณอยู่กับฉากท้ายๆใกล้จบ
เมื่อเชื่อวัน ไม่ว่าก่อนคุณเกิดหรือหลังคุณ นั่นแหละความรู้สึกเกี่ยวกับการเล่นและการ
howfarbooks.com
24 25

ชมละครเรื่องใหม่ จึงค่อยๆผุดชัดในใจ แม้ ขนหัวลุก ส่วนใจที่ครึ่งๆกลางๆ เดี๋ยวสงบ


ยังไม่อาจคาดเดาว่าเรื่องใหม่จะเป็นอย่างไร เดี๋ยวกระสับกระส่ายจะไม่ชวนให้คุณมั่นใจ
แต่อย่างน้อยคุณก็เลิกสำ�คัญเสียที ว่าโรง นักว่ากำ�ลังจะต้องเผชิญกับอะไรกันแน่
ละครโรงใหญ่แห่งนี้มีแต่เรื่องเดิมได้แค่เรื่อง ขณะยังมีชีวิตช่วงต้นและช่วงกลาง
เดียว ถ้าไม่รู้ก็ถือว่าไม่ผิด ถ้าไม่คิดถึงโลกหน้าก็
ขณะใกล้ตายเป็นช่วงแห่งสังหรณ์ อ้างได้ว่าต้องเอาเวลาไปทำ�ประโยชน์อย่าง
โดยเฉพาะสังหรณ์เกี่ยวกับภพข้างหน้า คุณ อื่น แต่สำ�หรับช่วงท้ายๆ การไม่คิดถือว่า
จะเห็ น ว่ า ความรู้ สึ ก ที่ เ กิ ด เป็ น ปกติ อ ยู่ ใ น ประมาท เวลาที่เหลือของคนใกล้ตายจะเป็น
ปัจจุบันนี่เอง คือลางบอกเหตุ ชีวิตที่เหลือ ประโยชน์อะไรได้มากไปกว่าเตรียมตัวพบ
อยู่น้อยนี้เองคือรากของอนาคตอันจะมีขึ้น กับอนาคตเล่า?
อีกมาก ขอให้คิดถึงการเดินทางไกล หาก
ยกตัวอย่างเช่น ใจที่สงบจะชวนให้ ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับหนทางข้างหน้าเสียเลย ก็
คุ ณ นึ ก ถึ ง แสงสว่ า งและสภาพแวดล้ อ มน่ า อาจถือได้ว่าเป็นความผิดใหญ่หลวง
รื่นรมย์ ใจที่กระสับกระส่ายจะชวนให้คุณ ยามใกล้ตายคนทั่วไปไม่มีใครกล้า
นึกถึงม่านมืด ตลอดจนสภาพแวดล้อมชวน
howfarbooks.com
26 27

อวดดื้อถือดี สั่งให้ตนเองเชื่อว่าตายแล้ว ตายคือการยุติ หรือว่าคือการเริ่มละครเรื่อง


ตายเลย ทุกคนจะหมดความทะนงหลงมั่นใจ ใหม่กันแน่ ต่อให้เป็นพวกมิจฉาทิฏฐิ ที่เคย
ในความเชื่อของตัวเองไปพร้อมกับเรี่ยวแรงที่ ตะล่อมหลอก เที่ยวบอกให้ใครต่อใครเชื่อว่า
ถดถอย ในเมื่ อ ร่ า งกายที่ เ คยบั ญ ชาให้ เกิดหนเดียวตายหนเดียว ก็จะเกิดความไม่
เคลื่อนไหวตามใจนึกได้ ก็กลายเป็นบัญชา สบายใจ กระวนกระวายเป็นอันมาก เมื่อถึง
ไม่ได้อีกต่อไป นับประสาอะไรกับดวงจิตที่ เวลาได้ พิ สู จ น์ ค วามจริ ง กั บ ตนเอง นั่ น
ปรวนแปรไปมา ควบคุมไม่ได้อยู่แล้วขณะมี เพราะความจริงหลังตายไม่สนใจวาทะใคร มี
ชีวิตเป็นปกติ พอใกล้ตายที่ภาวะต่างๆผิด อะไรต้องแสดงก็แสดงออกมาหมดตามที่ควร
ปกติ ใครเล่าจะควบคุมให้จิตใจหยุดเดินทาง มีควรเป็น
ไปตามแรงขับเคลื่อนของกรรมได้? อย่ า งน้ อ ยการเผื่ อ ใจเชื่ อ เรื่ อ ง
ความเชื่อเรื่องตายแล้วสูญ นับเป็น หลังความตาย จะลดแรงต้านลงได้มาก การ
ศรัทธามืดอันเกิดจากความไม่รู้จริง ไม่เคย ลดแรงต้านลงก็คือการไม่ต้องออกกำ�ลังต่อสู้
ตายจริง ผู้มีศรัทธามืดได้ชื่อว่าเป็นผู้ปิดใจ กับความไม่รู้ มันช่วยผ่อนคลายจิตใจให้
การปิดใจจะทำ�ให้รู้สึกคับแคบ ไม่อาจสบาย สบายขึ้นได้จริง เลิกเถียงกับตัวเองเกี่ยวกับ
และไม่อาจหายสงสัยว่าเรื่องจริงหลังความ การมีหรือไม่มีชีวิตหลังความตาย อะไรจะ

howfarbooks.com
28 29

เกิดก็ต้องเกิดให้เห็นในไม่ช้าอยู่แล้ว ความ อันนี้ก็ขอให้เลิกคิด แล้วทำ�อะไรสัก


เชื่อที่ขัดกับความจริงจะถูกทิ้งไว้ข้างหลังโดย อย่าง ถ้าสมัครใจเชื่อพระเจ้า ก็สวดวิงวอนให้
ไม่มีใครนำ�ไปใช้ต่อสู้กับสัจธรรมได้เลย รู้สึกอุ่นใจเลย แต่ถ้าสมัครใจเชื่อกรรม ก็อาจ
อีกทางหนึ่ง เมื่อเผื่อใจให้กับการมี สวดมนต์เพื่อให้เกิดความสุขทางใจ หรือเพื่อ
อยู่ของชีวิตหลังความตาย คุณอาจฟุ้งซ่านต่อ ให้เห็นว่าคุณมี ‘มโนกรรม’ ในช่วงท้ายๆ
เช่น ชีวิตหลังความตายจะมีอะไรเป็นตัว เป็นการผูกใจไว้กับการสรรเสริญสิ่งศักดิ์สิทธิ์
กำ � หนด มี อำ � นาจชนิ ด ใดมาบงการหรื อ ถ้าไม่เคยทราบก็ขอให้ทราบว่าบทสวดเช่น
วางแผนให้เป็นอย่างนั้นอย่างนี้ ‘อิติปิโส’ คือการพรรณนาคุณงามความดีของ
พระพุ ท ธ พระธรรม และพระสงฆ์
แน่ น อนว่ า ความฟุ้ ง ซ่ า นดั ง กล่ า ว ผู้สรรเสริญสิ่งที่สว่างอยู่ด้วยปากกับใจ ปาก
อาจทำ�ให้กระสับกระส่ายไม่เป็นสุข โดย กับใจย่อมสว่างตาม ความสว่างนั้นเองจะ
เฉพาะอย่างยิ่งเมื่อสำ�รวจเข้าไปไม่เห็นความ เป็นที่มาของความสบายใจ หายฟุ้งซ่านเสีย
ปักใจเชื่อเป็นเด็ดเป็นขาดเลยสักอย่าง กรรม ได้
ก็ไม่รู้จะเชื่ออย่างไร พระเจ้าก็ไม่รู้จะเชื่อแบบ
ไหน

howfarbooks.com
30 31


เรื่องเอาราวกับใครอีก เพราะในไม่ช้าก็จะ
ต้องอยู่คนละโลกกันแล้ว เอื้อมมาแตะต้อง
กันไม่ได้อีกแล้ว การตายของคนคนหนึ่งคือ
อภัยโลก การปิ ด เกมแห่ ง การเบี ย ดเบี ย น เปรี ย บ
เหมือนนักมวยที่แขวนนวม เลิกใช้ชื่อเดิมขึ้น
เวทีอย่างเด็ดขาดแล้ว
โลกนี้โกลาหลวุ่นวายอยู่เป็นนิตย์ ก็
ด้วยความกระทบกระทั่งนานา และในเมื่อ อย่ า งไรก็ ต าม ความพยาบาท
ทุกคนอาศัยอยู่ในโลก ก็ย่อมต้องถูกโลก อาฆาตอาจทำ�ให้ ‘เรื่องปกติ’ กลายเป็นสิ่ง
กระทบ­กระทั่งเป็นธรรมดา หลีกเลี่ยงไม่ได้ ผิดปกติไป หลายคนยังผูกใจเจ็บ ยังนึกไปใน
ทางเคียดแค้นอยากเอาคืน เสียดายไม่อยาก
แล้ ว โลกก็ เ ต็ ม ไปด้ ว ยไอร้ อ นของ ตายตอนนี้ เพราะยั ง ไม่ ทันได้ เอาคืน ให้
ควันไฟอันเกิดจากใจแค้นเคือง ไม่ค่อยมี หนำ�ใจ หรือกระทั่งคิดเลยเถิดถึงขั้นประกาศ
ที่ไหนฉ่ำ�เย็นด้วยกระแสน้ำ�แห่งการให้อภัย ศักดาชัด ว่าคอยดู เดี๋ยวกูเป็นผีก็จะมาเอามึง
เท่าใดนัก คืนแน่นอน!
ปกติคนใกล้ตายจะไม่นึกอยากเอา เรื่องพรรค์นี้เกิดขึ้นแล้วจริงๆ แถม
howfarbooks.com
32 33

ไม่ ใช่ ข องหายากเสี ย ด้ ว ย เพราะคน วิญญาณอาฆาตลงได้ด้วยความคิดให้อภัย


จำ � นวนมากปล่ อ ยให้ ค วามแค้ น เป็ น ใหญ่ และเมื่อเชื้อแห่งทุกข์ร้อนดับลงแล้ว หลังตาย
ครอบงำ�จิตใจตัวเอง ไม่ให้ความสำ�คัญกับ ก็ไม่น่าหลงเหลือวิญญาณอาฆาตอยู่ ณ ที่ใด
ความสุขความสบายใจมากเท่าการได้ชำ�ระ อีก
แค้นกัน ค่อยๆนึกถึงใครก็ได้ที่คุณผูกใจเจ็บ
ก่อนกายนี้สิ้นลม เรารู้ว่า ‘วิญญาณ อยู่ และที่ผ่านมาไม่เคยนึกอยากให้อภัย
อาฆาต’ มีจริงด้วยความคิดฝังใจไม่อภัยศัตรู แม้ว่าเขาหรือเธอจะเป็นอดีตที่ฝังลืมไปแล้ว
สิ่งที่ไม่รู้ก็คือ หลังกายนี้สิ้นลม ‘วิญญาณ ปัจจุบันคุณไม่นึกถึงอีกแล้ว ก็ขอให้ขุดเขา
อาฆาต’ นั้น ยังมีจริงต่อไปไหม นี่แหละ! คน และเธอขึ้นมาระลึกถึง นึกให้ออกทีละคน
เราทนทุกข์ทนร้อนด้วยไฟโกรธขณะมีชีวิตไม่ หากโทร.ได้ทันก็โทร.ไปขออภัย ขออโหสิต่อ
พอ แม้ธรรมชาติให้โอกาสจบทุกข์จบร้อน กันยิ่งดี
ด้วยความตาย ก็ยังอุตส่าห์อยากเติมเชื้อไฟ คุ ณ จะพบว่ า ใครต่ อ ใครในชี วิ ต ที่
ต่ออายุให้มันเข้าไปอีก ผ่านมา รวมตัวกันประกอบขึ้นเป็นโลกในใจ
สิ่งเดียวที่ประกันความรู้ได้แน่นอน คุณ ยิ่งคิดอโหสิได้มากคนขึ้นเท่าไร โลกใน
ก็คือ ระหว่างยังไม่ตายนี้ คุณสามารถดับ ใจของคุณจะยิ่งปลอดโปร่งโล่งเบาขึ้นเท่านั้น
howfarbooks.com
34 35

และนั่ น ย่ อ มจะยิ่ ง ทำ � ให้ ทิ้ ง ร่ า งนี้ ไ ปด้ ว ยใจ ตายอย่างคนหมดตัว ตายอย่างคน


อภัยโลกเต็มดวงขึ้นด้วย ไร้ญาติ ไม่เลวร้ายเท่าตายอย่างคนขาดสติ!
สิ่ ง ที่ คุ ณ จะรั บ รู้ ก่ อ นตายหลั ง อภั ย หากหมอบอกว่าคุณเหลือเวลาอีก
โลกได้ ก็คือใจที่สบายหายห่วง แต่ละครั้งที่ ไม่มาก นั่นก็คือคุณไม่มีทางพยากรณ์ ว่าการ
คุณพูดกับปาก หรือเพียงนึกด้วยใจบริสุทธิ์ หลับครั้งใดจะเป็นการหลับครั้งสุดท้าย ไม่มี
แท้ว่า เลิกแล้วต่อกันนะ ไม่มีภัยเวร ไม่มีเส้น สิ่ ง ใดเป็ นหลั กประกั นว่ าหลั บ ลงครั้ ง ต่อไป
สายมืดดำ�โยงใยระหว่างใจกันอีกแล้วนะ คุณ คุณจะได้ตื่นขึ้นมาอีกหรือเปล่า
จะชื่นมื่น เห็นความเป็นโมฆะแห่งภัยเวรมาก แม้สำ�หรับคนที่บอกตัวเองว่ายังอยู่
ขึ้นเรื่อยๆ จนสว่างจ้าออกมาจากกลางใจ ได้อีกนาน เขาก็ยังหลับทั้งคิดว่าจะต้องตื่น
ชัดเจนทีเดียว แต่ ล งเอยตอนเช้ า ก็ ทิ้ ง ร่ า งที่ ป ราศจาก
๖ วิญญาณ เป็นภาระให้คนข้างหลังช่วยกัน
แบกลงจากเตียงไปเข้าโลงกัน สำ�หาอะไรกับ
คนที่หมอรับรองว่าใกล้ตายเข้าไปทุกทีเล่า?
ฝึกสติก่อนหลับ
แต่ละวันมีการตายโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว

howfarbooks.com
36 37

ทั่วโลกเป็นจำ�นวนมาก ใช่ว่าแค่สิบคน ใช่ว่า รู้สึกถึงความไม่เที่ยงของสิ่งใด ก็จะค่อยๆรู้


แค่ร้อยคน ใช่ว่าแค่พันคน แต่นับได้เป็น ชัดขึ้นทุกทีว่าสิ่งนั้นเป็นสมบัติของความตาย
แสน! ไม่ใช่สมบัติของตัวตน
ฉะนั้น การฝึกสติไว้เสียตั้งแต่ยังมี ก่อนสติใกล้ดับ ไม่ว่าดับเป็นหรือ
สติให้ฝึก จึงเป็นนโยบายที่ดีที่สุด นับว่า ดับตาย สิ่งที่เหลือให้ระลึกได้ชัดไม่มีอะไร
รอบคอบที่สุด เกิ น ไปกว่ า ลมหายใจอี ก แล้ ว ด้ ว ยเหตุ นี้
การหมดสติเพื่อหลับ กับการหมด พระพุ ท ธเจ้ า จึ ง ทรงให้ ร ะลึ ก ถึ ง ลมหายใจ
สติเพื่อตาย มีความเหมือนกันอยู่อย่างหนึ่ง บ่อยๆ เป็นการสร้างความคุ้นชินไว้กับสิ่งที่
คือ ‘หมดสติ’ ฉะนั้น ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อแห่ง จะเป็นสรณะได้ทั้งยามอยู่และยามไป
การใกล้หมดสติ หากฝึกตั้งสติไปจนถึงเสี้ยว หากระลึกนึกถึงลมหายใจ ว่าเฮือก
วินาทีสุดท้าย ย่อมเป็นกำ�ไร ย่อมเป็นการ นี้อาจเป็นเฮือกสุดท้ายที่คุณจะรู้ กับทั้งระลึก
กลั่นค่าของชีวิตมาใช้จนถึงที่สุด ว่าคุณอาจไม่รู้สึกถึงลมหายใจไหนๆอีก นั่น
สติ ที่ ย อดเยี่ ย มทางพุ ท ธ คื อ สติ เท่ า กั บ เป็ น การซั ก ซ้ อ มเตรี ย มตายได้
ระลึกรู้ความไม่เที่ยงของสิ่งต่างๆ เมื่อกำ�ลัง ใกล้เคียงของจริง ขอให้สังเกตดูเถิด หากมี
สติรู้สึกถึงลมหายใจเข้าออกได้อย่างสบาย
howfarbooks.com
38 39


แม้ก้าวลงสู่ความหลับในบัดนั้น ก็เหมือน
ครึ่ ง หนึ่ ง ของสติ ยั ง ไม่ ข าดสายหายไปไหน
แม้ ต้ อ งเกิ ด นิ มิ ต ฝั น ก็ เ ป็ น นิ มิ ต ฝั น อั น
สวยงาม หรือหากจะต้องเป็นนิมิตฝันน่า ปล่อยวางทุกสิ่ง
เกลียดน่ากลัว ก็เหมือนสติจะยังอยู่ช่วยให้ไม่
กลัวลานเกินไป และหากจะไม่เกิดนิมิตฝัน
เลย ก็จะเหลือแต่ความว่างอันแสนสบายของ สภาพที่เหมือนยังอยู่ได้อีกนาน จะ
จิตอันสว่างรุ่งโรจน์อยู่ นี่ก็เป็นอานิสงส์ของ ชวนให้ ห ลงนึ ก ว่ า ทุ ก สิ่ ง เป็ น จริ ง ไปหมด
เศษแห่งสติ อะไรๆเป็นของคุณไปหมด คุณจะไม่มีสัก
แวบที่เอะใจคิดว่า เวลาในชีวิตเหลือน้อยลง
ถ้ า ยั ง มี โ อกาสหลายคื น ก่ อ นตาย ทุกวินาที ทีละคืบ ทีละคลาน
แล้วคุณใช้ทุกคืนให้คุ้ม ไม่ทิ้งขว้าง ก็จะทราบ
ว่าในนาทีเข้าด้ายเข้าเข็ม จวนเจียนสิ้นเลือด กระทั่งเวลาในชีวิตที่เหลืออยู่ นับ
สิ้นเนื้อนั่นเองว่า ไม่มีอะไรในโลกเป็น ได้เป็นวัน หรือนับได้เป็นชั่วโมง เมื่อนั้น
ที่พึ่งได้ดีกว่าสติ ผู้มีสติก้าวลงสู่ความตาย สภาพใกล้ตายจะฟ้องชัดว่ากายใจในชาตินี้
คือผู้สบายใจว่าตนมีที่พึ่งให้ตัวเองแน่ หาใช่สมบัติที่แท้จริงของคุณไม่

howfarbooks.com
40 41

ก็แม้ชีวิตยังไม่ใช่ของคุณ แล้ว ถ้ า กวาดตามองเกมยุ ติ ธ รรมที่


อะไรในชีวิต ที่ควรอ้างว่าเป็นของคุณได้ มนุษย์คิดขึ้นเล่นกันเอง จะเห็นว่าทุกเกมให้
เล่า? โอกาสเลือกแต่แรกว่าจะเล่นหรือไม่เล่น ทว่า
ควา มเกิ ด และค ว า มต า ยแห่ ง เกมแห่งการเกิดตายนั้นไม่ใช่ จู่ๆก็ให้ลง
สรรพสิ่งเริ่มต้นมาจากไหนก็ไม่รู้ จักรวาลนี้ สนามเลย ลงมาเสร็จค่อยรู้ว่าต้องเล่นเกม
เกิดมาได้อย่างไร และจะตายไปด้วยท่าไหน โหดหรือเกมฮา
ก็ ยั ง เป็ น ที่ ถ กเถี ย งกั น อยู่ ใ นระหว่ า งหมู่ หากมองการเกิดการตายเป็นเกมที่
นักวิทยาศาสตร์ไม่รู้จบ คิดไปคิดมาก็น่า ต้องเล่นไปเรื่อยๆไม่มีที่สิ้นสุด คุณจะเห็น
ฉุกคิดว่า ‘ความไม่รู้’ นั่นแหละ อาจก่อให้มี ทางเดียวที่จะไม่ต้องตาย ก็คือ ต้องไม่เกิด!
การเกิดการตายขึ้นมา เพราะเกิ ด ขึ้ น แล้ ว อย่ า งไรก็ ห ลี ก หนี ค วาม
ถ้ า รู้ ว่ า จะแก้ ไขอย่ า งไรไม่ ใ ห้ ต าย ตายไปไม่พ้น ต่อให้อาศัยเทคโนโลยีแช่แข็ง
เศรษฐีที่กำ�ลังได้ดีมีสุขคงรีบทำ� และในทาง ต่อให้อาศัยเทคโนโลยีปลูกถ่ายอวัยวะ หรือ
กลับกันเป็นตรงข้าม ถ้ารู้ว่าแก้ไขอย่างไรไม่ ต่อให้อาศัยเทคนิคทางสมาธิชั้นสูงเพื่อชะลอ
ให้เกิด ยาจกที่กำ�ลังยากเข็ญเป็นทุกข์คงไม่ ความแก่แบบใดๆ สุดท้ายก็ต้องตายอยู่ดี
รอช้าจนสายเกินไป หรือถึงไม่ตาย ก็คงไม่มีใครอยากทนจำ�เจอยู่

howfarbooks.com
42 43

กับความเป็นอมตะอย่างไร้ญาติมิตร หรือ ทำ�ใจควรครอบคลุมให้ทั่วทั้งหมด ไม่ใช่ทำ�ใจ


ปราศจากจุ ด หมายปลายทางของการเป็ น ได้เฉพาะส่วนของตัวเอง แต่ต้องทำ�ใจให้หาย
อมตะอย่างโดดเดี่ยวเดียวดายอยู่ดี ห่วงได้กับการอยู่และการสิ้นไปของคนอื่น
ธรรมชาติคือธรรมชาติ ถือกำ�เนิด ด้วยเช่นกัน
เกิ ด ขึ้ น ด้ ว ยเหตุ ปั จ จั ย ประกอบประชุ ม กั น แค่เอาตัวเองเป็นตัวตั้ง คุณก็คิดต่อ
เกิ ด แล้ ว ไม่ ช้ า ก็ เร็ ว ต้ อ งดั บ ลงเป็ น ธรรมดา ได้แล้วว่า ตัวเราเป็นอย่างไร คนอื่นก็อย่าง
ธรรมชาติแห่งความมีชีวิตก็ไม่ต่างไป ชีวิตหา นั้น ในเมื่อคุณต้องตาย นึกหรือว่าคนอื่นจะ
ใช่ดำ�รงอยู่เพื่อการเป็นอมตะไม่ อยู่ ร อดปลอดภั ย พ้ น จากเงื้ อ มมื อ ของ
แท้จริงแล้ว ชีวิตดำ�รงอยู่ด้วยพลัง มัจจุราชไปได้? อย่างไรวันหนึ่งพวกเขาก็ต้อง
ของเหตุผล เมื่อหมดเหตุผลที่จะดำ�รงอยู่ ก็ ตายตามคุ ณ หายไปจากโลกนี้ ด้ ว ยกั น
ต้องเสื่อมสลายไปสู่ความเป็นอื่นในที่สุด ทั้งหมดทั้งสิ้น ไม่เหลือใครไว้ห่วงใครเลย
สักคน
บางคนทำ�ใจได้กับการตายจากไป
ของตัวเอง แต่กลับทำ�ใจไม่ได้กับการมีชีวิต แม้ ค วามมี ค วามเป็ น ในอนาคต
อยู่ของคนข้างหลัง นั่นเป็นเครื่องชี้ว่าการ หลังความตายก็เช่นกัน ถ้ายังมีเกิดอีก ก็แปล
ว่ายังต้องมีตายอีก จึงควรรู้ให้ได้ก่อนสิ้นลม
howfarbooks.com
44 45

ว่า ที่ต้องเกิดก็เพราะไม่รู้ หลงนึกว่ามี ต้องเข้าไปประชุมกับรูปกายใหม่ร่ำ�ไป เพื่อ


เราตัวหนึ่งเคยเกิดมา หลงนึกว่ามีเรา ชดใช้ความไม่รู้และความสำ�คัญผิดไม่เลิกรา
ตัวนั้นกำ�ลังจะตายไป และหลงนึกว่ามี
เราตัวอื่นไปเกิดใหม่ ความสบายใจที่เกิดจากการปล่อย
วางได้ทุกสิ่ง ด้วยการกำ�จัดอวิชชา ด้วยการ
หากกลับความเห็นเสียได้ทันตาย เปลี่ยนความไม่รู้เป็นความรู้แจ้ง นับเป็น
ทำ�ความรู้สึกเข้ามาที่กายอันกำ�ลังปรากฏอยู่ ความสบายใจขั้นสูงสุด เหมือนคุณได้ลิ้มอีก
ในอิริยาบถปัจจุบันนี้ แล้วเปลี่ยนจากความ รสหนึ่งที่ประหลาดและแตกต่างไปกว่าเคย
ไม่รู้มาเป็นความรู้ว่า ที่ผ่านมาไม่เคยมีตัว ขอเพียงรู้จักรสนั้นครั้งเดียว ก็แปลว่าคุ้มทั้ง
คุณเกิด มีแต่กายใจชุดหนึ่งประชุมกันเกิด ชีวิตคุณแน่แท้แล้ว คุณจะไม่เสียดายแม้ต้อง
และที่กำ�ลังจะต้องเผชิญก็หาใช่ความตายของ ตายไปเดี๋ยวนี้
คุณไม่ มีแต่กายใจชุดหนึ่งแยกตัวกันสู่ความ
ดับ เมื่อนั้นจิตย่อมเป็นอิสระที่จะดับลง โดย
ไม่ ต้ อ งมี จิ ต ดวงใหม่ อุ บั ติ ขึ้ น เพื่ อ สื บ สาย
ความเข้าใจผิดกันต่อ
ตราบใดยังมีจิตดวงใหม่อุบัติขึ้น ก็

howfarbooks.com
46 47

บุญแค่ไหนถึงได้ไป สวรรค์และนรก
คือสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นระหว่างมีชีวิต
สวรรค์แน่? และไปพบผลงานของตัวเอง
หลังจากสิ้นชีวิตลง!

พระพุ ท ธเจ้ า ตรั ส ว่ า ผู้ เ ที่ ย งที่ จ ะถึ ง


สวรรค์ ได้แก่ อริยบุคคลนับแต่โสดาบันขึ้น
ไป เมื่อเป็นโสดาบันบุคคลแล้วเป็นอันปิด
อบายถาวร
อันว่าโสดาบันบุคคลนั้น ต่อให้
ปรารถนาจะมาบำ � เพ็ ญ บารมี ต่ อ ในโลก
มนุษย์ อย่างน้อยตายไปก็ได้พักบนสวรรค์
ก่อนอย่างแน่นอน
จิตของโสดาบันบุคคลมีดีอย่างไรจึง

howfarbooks.com
48 49

ปิดอบายได้? มีดีตรงที่ไม่มีแนวโน้มจะเป็น เห็นความจริงอันประเสริฐ นั่นคือ กายใจนี้


สหายแห่งสัตว์นรก สัตว์เดรัจฉาน เปรต ไม่เที่ยง จนรู้สึกชัดว่าไม่มีตัวตน มีแต่ตัวรูป
หรืออสุรกายใดๆ เพราะธรรมฝ่ายมืดอันจะ ธรรมเช่นกาย มีตัวนามธรรมเช่นจิต ปรุงกัน
นำ � ไปสู่ อ บายภู มิ ข าดสิ้ น แล้ ว กล่ า วคื อ ไปปรุงกันมาชั่วคราว ที่รู้สึกว่าเป็นเราๆอยู่นี้
นอกจากจะไม่ก่อบาปด้วยกายและวาจา ยัง ก็แค่อุปาทาน อาการสำ�คัญผิดไปเป็นขณะๆ
เป็นผู้ไม่ละเมิดศีล ๕ ด้วยใจอีกด้วย จึงมี ของจิตเท่านั้น
ความผ่องแผ้วอยู่ หมดความผูกพันกับอบาย ที่ จ ะรู้ ชัด ซึ่ ง ความจริ ง อั นประเสริฐ
มีแ ต่ ความสั มพั น ธ์อัน ดีกับสรวงสวรรค์กับ ถึงขนาดที่เกิดปรากฏการณ์บรรลุธรรม จิต
มนุษยโลกเท่านั้น สว่างล้างความเห็นผิดได้นั้น คนๆหนึ่งต้อง
ผู้ เ ที่ ยงที่ จะถึงสวรรค์เช่น โสดาบัน เจริญสตินานพอจะมีสมาธิ จิตตั้งมั่นอยู่ใน
บุคคลเขาทำ�กันอย่างไร จึงได้บรรดาศักดิ์ อาการรู้เห็นความจริงในกายใจได้เป็นปกติ
ประกันความปลอดภัยเช่นนั้นมา? คำ�ตอบ ไม่ ใช่ ทำ � สมาธิ แช่ นิ่ ง หรื อ เดิ น ไปเดิ น มาใน
คือ ต้องมีน้ำ�ใจให้ทาน มีจิตอันงามสะอาด ลู่ ท า ง จ ง ก ร ม แ ค่ ป ร ะ เ ดี๋ ย ว ป ร ะ ด๋ า ว
สมศั ก ดิ์ ศ รี ผู้ ท รงศี ล และสำ � คั ญ ที่ สุ ด คื อ พระพุทธเจ้าถึงตรัสบอกว่า การบรรลุให้ถึง
ต่อยอดจิตดีๆที่มีอยู่แล้วนั้น เจริญสติกระทั่ง ซึ่งมรรคผลนิพพานมิใช่ของง่าย ไม่ใช่อาศัย

howfarbooks.com
50 51

ความเพียรเพียงเล็กน้อยก็สำ�เร็จกัน อย่างไร ภาวะที่รอรับเราอยู่ก็เป็นอย่างนั้น


คำ�ถามคือ ถ้ายังเจริญสติไม่ได้ถึง เอาจุดที่ยั่วโมโหได้ที่สุด เราหลุด
ความเป็นโสดาบันบุคคล กัลยาณชนทั้ง หรือเรายังอยู่กับสติได้?
หลายควรมีดีแค่ไหน จึงเป็นอันตัดสินได้ว่า ยกตัวอย่างเช่น ถ้าใจดีตอนหิว
จะปิดอบายอย่างน้อยสักชาติหนึ่ง? ถ้าไม่แอบด่าตอนโกรธ ก็พยากรณ์ได้ว่า
พระพุ ท ธเจ้า ตรัสว่า ผู้มีที่พึ่งให้ คุณจะไม่ฝันร้าย ตายไปไม่มีทางเจอ
ตนเองได้ คือผู้ที่มีจิตตั้งมั่นแล้วในศรัทธา นรก!
ตั้งมั่นแล้วในทาน และตั้งมั่นแล้วในศีล สิ่งที่คงเป็นคำ�ถามขึ้นมาในใจทันที
ถ้าศรัทธาตั้งมั่น ทานตั้งมั่น และ คือ ‘มันยากนะ’ จะให้ใจดีตอนหิว จะให้ไม่
ศีลตั้งมั่น ก็เปรียบเหมือนผู้ที่ตั้งมั่นอยู่ใน แอบด่าตอนโกรธ
เส้นทางสู่สุคติภูมิหรือนิพพานนั่นเอง ก็ ย ากน่ ะ สิ ค รั บ ! ถ้ า ง่ า ยก็ ค งไป
เพื่อย่นย่อให้เห็นภาพง่าย ดูกันแค่ สวรรค์กันหมดแล้ว ของดีในโลกหายาก พอ
ว่าในความเป็นเรานี้ ‘จิตมีปกติเป็นดีหรือ ตายไปจะรู้ว่าของดีนอกโลกยิ่งหายากกว่า
เป็นร้าย’ ก็ได้ นั่นเพราะปกติของจิตเป็น นั่นก็เพราะ ‘ต้นเหตุดีๆไม่ได้มีกันบ่อยๆ’

howfarbooks.com
52 53

นั่นเอง อะไรเป็นจุดหมายปลายทางในการใช้ชีวิตดี
จริงไหม?
ทางที่ถูก คือ ควรเอากรรมอันทำ�ได้
ยากมาเป็นเครื่องหมายของความดี เพื่อจะ สวรรค์ เริ่ ม ปรากฏรำ � ไรให้ รู้ สึ ก ได้
ได้เกิดแรงบันดาลใจ อยากพยายามไปให้ถึง ด้วยความใจเย็น เป็นธรรม สัมผัสได้ด้วย
ตนเองว่า แม้ใจยังถูกล้อมกรอบด้วยไอร้อน
การมีเป้าสูงๆไว้ให้เล็งนั้น แม้ปีน ของเหล่าคนกิเลสหนา ก็เหมือนใจของเรา
ขึ้ น ไปไม่ ถึ ง อย่ า งน้ อ ยเท้ า เราก็ พ้ น จาก ถอยห่างออกมามากแล้ว
ทรายดูดขึ้นมาสักนิดหนึ่ง
คำ�ถามคือ จะทำ�อย่างไรให้จิตเย็น
การมองขึ้นฟ้า แม้ดูเป็นไปไม่ได้ใน และมีสติอยู่ได้ ในขณะเจอเสียงต่อว่าอัน
วาระแรกที่ยังคิดวิธีบินไม่ออก อย่างน้อยก็ดี ประกอบด้วยเหตุผลก็ตาม หรือเสียงด่าทอที่
กว่ามองดินโคลน และคิดแต่จะย่ำ�ไปย่ำ�มา ไร้เหตุผลก็ตาม?
อยู่แถวนั้น
คำ�ตอบคือ ยอมรับไปว่าจิตร้อน
การคิดถึงสวรรค์ แม้ไม่ทราบว่า และอาศัยจิตร้อนๆในแต่ละครั้งนั่นเอง เป็น
สวรรค์มีจริงหรือเปล่า อย่างน้อยก็มีแก่ใจใช้ แบบฝึกหัด โดยทำ�ความเข้าใจไว้ให้ดีว่า เมื่อ
ชีวิตเพื่อสร้างทางสวรรค์ มิฉะนั้นก็ไม่รู้จะเอา
howfarbooks.com
54 55

ใดที่ใจมีสติ เมื่อนั้นความเย็นจะเกิดขึ้น ความไม่เที่ยงของสิ่งใด จิตจะเห็นสิ่งนั้น


ไม่น่าเอา ไม่น่าหวง ไม่น่าเกาะเกี่ยวไว้
ก็แล้ว ‘สติ’ มาจากไหน? สติคือ ความรู้สึกจากภายในจะเหมือนกับว่าใจ
ความสามารถในการระลึกรู้ได้ถึงสิ่งที่กำ�ลังมี ถอนตัวออกมา หรืออย่างน้อยถอยห่าง
อยู่เป็นอยู่ ฉะนั้น แม้เมื่อความร้อนกาย ออกมาจากสิ่งนั้น
ร้อนใจเกิดขึ้นยามโกรธ ขอเพียงคุณ
ยอมรับความจริงว่ากำ�ลังร้อน เพียง นับว่าน่าเสียดาย คนส่วนใหญ่ใน
เท่านั้นก็นับได้ว่าสติเกิดขึ้นแล้ว และ โลกโชคไม่ดี ที่ไม่รู้เคล็ดลับตรงนี้กัน ยาม
อาการเย็นลงจะตามมาเองเป็นเงาตาม โกรธจึงมีทางเลือกเพียงสองทาง หนึ่งคือ กด
ตัวแน่แล้ว ข่มอารมณ์โกรธเอาไว้ดื้อๆ จนเกิดความ
อึ ด อั ด คั ด แน่ น เข้ า ไปใหญ่ สองคื อ
ความเย็นลงแม้เพียงนิดน้อย คือ กระโจนทะยานตามอารมณ์โกรธ ฟาดงวง
ความสามารถ คือโอกาสที่คุณจะเห็นว่า ฟาดงาให้พังกันไปข้าง
ความโกรธเป็นของลดระดับได้ ความโกรธ
แสดงความไม่เที่ยงได้ ต่อเมื่อมีวาสนาพอ เป็นชาวพุทธที่รู้
เคล็ ด วิ ช าถอนจิ ต จากความโกรธ ซึ่ ง
ธรรมชาติของจิตนั้น เมื่อรู้สึกถึง พระพุทธเจ้าสอนไว้นานแล้ว โกรธเมื่อไรให้
howfarbooks.com
56 57

ยอมรับว่าโกรธ โกรธแล้วร้อนอย่างไรให้รู้ว่า จะดับไฟในอก ก็อาจฝึกเปลี่ยน ‘เสียงด่า’ ให้


ร้อนอย่างนั้น สติก็จะนำ�ความเย็นมาแทนที่ เป็น ‘เสียงแห่งความเห็นใจ’ ขึ้นมาในหัว
ความร้อนได้ครั้งหนึ่ง ยิ่งทำ�ได้มากครั้งเท่าไร เช่น คิดว่าเขาโตมาอย่างนั้น ถ้าจะเปลี่ยนเขา
ก็ยิ่งสะสมความเย็นเป็นเมตตาเพิ่มมากขึ้น ต้องเปลี่ยนเส้นทางชีวิตทั้งหมด และเปลี่ยน
เท่านั้น ตั้งแต่ก่อนเกิดมาอยู่กับพ่อแม่คู่นี้ทีเดียว ซึ่ง
ขอเพียงจิตมีความเป็นเมตตาตั้งมั่น มันเป็นไปไม่ได้ เพราะกรรมเก่าเป็นตัวการ
และยังมีสติอยู่ได้ในขณะถูกด่าทอ ก็จะเกิด ผูกมัดเขาไว้กับความเป็นอย่างนี้ สิ่งที่เรา
ความ ‘ขี้เกียจด่าตอบ’ คร้านที่จะเอาจิตไป เปลี่ยนได้คือมุมมองและความคิดของตนเอง
จมอยู่กับความสกปรกทางภาษาไปเอง ให้ เ ป็ น ไปในทางที่ จ ะเห็ น ใจเขาอยู่ อ ย่ า งนี้
แหละ
ถ้าใครขี้เกียจด่าแม้ในใจได้เรื่อยๆ
ทุกครั้ง ก็แปลได้สถานเดียวว่าเรา ‘ฝึกจิต’ หากไม่ เ ปลี่ ย นเสี ย งด่ า ให้ เ ป็ น อื่ น
จนกระทั่ งตั้ งมั่ นอยู่บนทางสวรรค์นิพพาน เราก็จะเคยชินไปเรื่อยกับการ ‘เริ่มด่าแล้ว
อย่างชัดเจนประจักษ์ใจ หยุดยาก’ คือ ด่าซ้ำ�ซาก ด่าเพิ่มเติม ด่าได้
ทุกเรื่อง ตลอดจนกระทั่งด่าไม่ต้องมีเหตุผล
ช่วงแรกๆที่ฝึก หากเมตตายังไม่พอ ในครั้งต่อไปที่เจอหน้า

howfarbooks.com
58 59

การสั่งสมเสียงด่าไว้ในหัว เท่ากับ ด้วยใจของเรา ซึ่งนั่นก็เหมารวมศีลไว้ครบ


สั่งสมไฟร้อนไว้ในจิตวิญญาณ ก็ขอให้ลอง ทุกข้อ คือ ไม่อยากฆ่าสัตว์ ไม่อยากลักทรัพย์
คิดดูเอาเองว่าจิตวิญญาณที่มีไฟลุกท่วมอยู่ ไม่อยากผิดกาม ไม่อยากพูดร้าย ตลอดจน
นั้น เหมาะสมกับคำ�ว่าอะไร ระหว่าง ‘นรก’ ไม่อยากให้ใครตกอยู่ในความเสี่ยงกับการ
กับ ‘สวรรค์’ เป็นคนขี้เหล้าเมายาขาดสติของเรา
ถ้าฝึกแล้วเสียงด่ามันกึกก้องอยู่ข้าง กระแสความเมตตาที่เอ่อขึ้นอิ่มแล้ว
ในก็อย่าเพิ่งท้อ ให้ยอมรับตามจริงไปก่อน มาพร้อมกับความสบายใจเสมอ รัศมีความ
ว่า ‘เรายังมีเสียงเพรียกจากอบายในหัวอยู่’ สบายใจที่กระจายออกไปให้ผู้อื่นรู้สึกได้ คือ
บอกตัวเองอย่างนี้บ่อยๆ บอกไปเรื่อยๆ จุดเริ่มต้นของการแผ่เมตตา
รับรองจะหายท้อ มีแก่ใจอยากฝึกต่อขึ้นมา หากนึ ก ไม่ อ อกว่ า แผ่ เ มตตามี
เอง ลักษณะอย่างไร ขอให้เอาความสบายใจของ
ผลพวงที่เกิดจากการเป็นคนใจดี มี คุณเองเป็นตัวตั้ง แล้วพูดอะไรก็ได้ด้วยความ
เมตตา ไม่มักโกรธ คือมีแก่ใจใคร่รักษา ปรารถนาให้คนอื่นสบายใจตามคุณ คุณจะ
สันติธรรม ไม่อยากเบียดเบียนสัตว์ให้เป็น รู้สึกถึงน้ำ�เสียง สีหน้า ความฉลาดเลือกคำ�
เดือดเป็นร้อนด้วยกาย ด้วยวาจา และแม้ ตลอดจนรั ศ มี สุ ข ที่ ก ระจายออกไปเป็ น วง
howfarbooks.com
60 61

กว้าง เหล่านั้นแหละคือ ‘เมตตาที่แผ่ออกไป’


มาฝึกยอมรับความจริง
การฝึกแผ่เมตตาให้เป็นสมาธิ ก็แค่
ต่ อ ยอดรั ก ษาความสุ ข นั้ น ให้ ค งเส้ น คงวา กันเถอะ!
หรือแผ่กว้างออกไปอีก ยิ่งรู้สึกนุ่มนวลขึ้น
เท่าไร กว้างขวางขึ้นแค่ไหน ก็ยิ่งเป็นสมาธิ
มั่นคงขึ้นประมาณนั้น
ผู้มีจิตเป็นเมตตา ไม่คิดเบียดเบียน
สิ่งมีชีวิตอื่น ย่อมเป็นผู้มีปกติอยู่เย็น และ
พร้อมจะไปเย็น สามารถประกันภพภูมิให้ตัว
เองได้ด้วยความรู้สึกในชีวิตเย็นๆนั่นเองว่า
ไม่มีทางตายร้อน ต่อให้ต้องตายด้วยความ
ทรมานทางกายมากมายเพียงใดก็ตาม

howfarbooks.com
62 63

ฝึกยอมรับความจริงไว้แต่เนิ่นๆ ปลุกเราตอนเช้าด้วยข่าวดี เช่น บอกว่า


เพราะยิ่งเวลาผ่านไป คนตายฟื้นคืน สัตว์เลี้ยงกลับมา ชีวิตดีกว่า
คุณจะยิ่งต้องยอมรับความจริง เดิมด้วยปาฏิหาริย์แห่งสวรรค์
ที่ไม่น่ายอมรับมากขึ้นทุกที! เมื่ออยากฟังแต่เสียงลวงในใจ ไม่ใช่
ความจริงที่ชีวิตพยายามบอก ก็เท่ากับสร้าง
ชี วิ ต บอกอะไรหลายอย่ า ง ผ่ า น อันตรายทางใจให้เกิดขึ้นแล้ว เพราะยิ่งแก่
เหตุการณ์ต่างๆในแต่ละวัน ที่เป็นความจริง ตั ว ลงเท่ า ไร เราก็ ยิ่ ง เจอแต่ เรื่ อ ง
และมีสาระสำ�คัญให้กับเราเสมอ เช่น ถึงเวลา ไม่ น่ า ยอมรั บ มากขึ้ น เรื่ อ ยๆ นั บ แต่
ที่คนที่เรารักต้องจากไป สัตว์เลี้ยงแสนรัก ความจริ ง เกี่ ย วกั บ กายใจของตนเอง
ด่วนตายก่อนวัยอันควร หรือความรุ่งเรืองใน ตลอดไปจนกระทั่ ง อะไรๆรอบตั ว
ชีวิตกลับตกต่ำ�ลงโดยไม่คาดฝัน ทั้งหมดเลยทีเดียว
แต่สิ่งที่เราเลือกฟัง หาใช่ความจริง คนที่ไม่เคยฝึกยอมรับอะไรๆไว้ ฝึก
ที่กระซิบผ่านเหตุการณ์ดีร้ายไม่ แต่เป็นสิ่งที่ แต่สะสมการไม่ยอมรับไปมากๆ ในที่สุดจะ
เราอยากได้ยิน อันได้แก่ฝันลมๆแล้งๆที่เรา ถึงจุดๆหนึ่งในชีวิตที่จะต้องเสียใจไปอีกแบบ
อยากให้เกิดขึ้น อยากให้ใครมาตะโกนดังๆ
howfarbooks.com
64 65

เสียใจที่ยอมรับความจริงอะไร ‘ส่วนใหญ่’ จะทำ�ๆอยู่ ได้แก่ สั่งตัวเองให้


ไม่ได้สักอย่าง! แข็งทื่อเหมือนหุ่นยนต์ที่ต้องตอบสนอง
คำ�สั่ง ‘จงดูสิ่งที่อยู่ข้างหน้า’
ชีวิตบีบให้เราหลอกตัวเอง หรือ
ปลอบใจตัวเองไปวันๆมาตลอด ฉะนั้น หาก ด้วยวิธีนี้ คุณจะไม่ได้อะไรมากไป
คิดจะฝึกยอมรับความจริง ก็ต้องตระหนักไว้ กว่าความรู้สึกแข็งขืน ฝืนแกล้ง แสร้งยอมรับ
แต่เนิ่นๆว่าไม่ใช่ของง่าย อย่าคิดว่าใช้ความ ด้วยความคิด แต่จิตยังติดค้างอยู่กับเรื่องที่ไม่
รู้สึกชนิดที่ ‘รู้ๆกันอยู่’ แล้วจะผ่าน อยากยอมรับไม่เลิกรา
ดังเช่นที่หลายคน ‘คิดว่า’ ตนฝึก อีกแนวคือ ปลอบตัวเองเหมือน
ยอมรับความจริงมาตลอด แต่พอเจอความ ครูสอนเด็กให้เข้าใจอะไรๆตามที่ควร
จริงที่เจ็บปวดเข้า ใจก็ดิ้นพราดๆ อึดอัด จะเป็น
สับสน อยากร้องไห้ และขาดสติ อย่างนั้นก็ ด้ ว ยวิ ธี นี้ คุ ณ อาจรู้ สึ ก เหมื อ น
ขอให้เร่งเข้าใจโดยด่วนว่ายังฝึกมาไม่ถูกทาง ‘ทำ�ใจ’ ได้ชั่วคราว แต่ในที่สุดก็จะตระหนัก
ลองมาดูวิธีฝึกยอมรับความจริงของ ซ้ำ�แล้วซ้ำ�เล่าว่าใจเป็นสิ่งที่แสร้งทำ�กันไม่ได้
คนทั่วไปกันดู ที่ยกมานี้อาจไม่ใช่ทั้งหมด แต่ คำ�ปลอบอาจช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวด แต่

howfarbooks.com
66 67

ไม่ได้ รั ก ษากั นที่ ต้น เหตุของความเจ็บปวด ขาดความสามารถในการรับความจริง คุณ


เมื่อใดรู้สึกเจ็บปวดขึ้นมาอีก ก็ต้องสรรหา ต้อง ‘พูด’ และ ‘คิด’ ดังนี้
คำ�ปลอบใหม่ๆมาใช้กันอีก เพราะเกิดอาการ ประการที่หนึ่ง อย่าให้จิตบิดเบี้ยว
‘ดื้อยา’ กับคำ�ปลอบเก่าๆเสียแล้ว ด้วยคำ�โกหก หรือสร้างคำ�ขอร้องที่รู้แก่ใจว่า
สรุปคือ ถ้าใช้วิธีไหนแล้วผลจริงๆ ไม่มีใครให้กับคุณได้
แค่หลอกตัวเอง หรือทำ�ให้รู้สึกดีขึ้นชั่วคราว คำ�พูดมีอิทธิพลสำ�คัญกับจิต ใคร
เหล่านั้นยังห่างไกลจากการยอมรับความจริง พูดบิดความจริงให้เบี้ยว สภาพของจิตก็จะ
อยู่หลายขุม เบี้ยวบิดไปด้วย ขอให้ดูเถิดว่าคนโกหกเก่ง
สาระสำ � คั ญ ของความสามารถ ที่ไหนยอมรับความจริงได้บ้าง วันๆเอาแต่
ยอมรับความจริง คือ ใจที่สงบนิ่ง ไม่กลับ ปั้นแต่งเรื่องที่ตนไม่ชอบใจไปในทางที่ชอบ
ดิ้นรนพยายามปรับเปลี่ยนความจริงให้ และเสริ ม เติ ม เรื่ อ งที่ ต นชอบใจให้ เ กิ น จริ ง
เป็นเท็จ เพื่อสนองความอยากได้เรื่อง ออกไปอีก แล้วเมื่อไรใจจะเสมอกันกับความ
เท็จขึ้นมาอีก จริงได้?
เพื่อเปลี่ยนจิตจากเบี้ยวบิดผิดเพี้ยน ประการที่ ส อง ฝึ ก ยอมรั บ

howfarbooks.com
68 69

ความจริงง่ายๆต่อหน้าต่อตา จนเกิดการ ความจริงที่ว่า ลมหายใจสั้นบ้าง


ปรับจิตให้ตรง แล้วเขยิบความสามารถใน ยาวบ้าง ไม่เท่ากันเสมอไป จัดเป็นเรื่องที่ไม่
การยอมรับความจริงที่ยากขึ้นเรื่อยๆ น่ายินดี แล้วก็ไม่น่ายินร้าย ใจจะเฉยๆเสมอ
ข้อนี้เป็นเรื่องที่ต้องฝึกกันเรื่อยๆทั้ง เมื่อรับรู้ความจริงนั้น
วัน เพราะตอนที่ใจไม่อยากยอมรับความจริง แต่ ก ารรั บ รู้ ค วามจริ ง นั้ น เรื่ อ ยๆ
นั้น จะเกิดอาการคิดบิดเบือนความจริงกัน นั่ น เอง กลั บ ทรงคุ ณ ค่ า อย่ า งใหญ่ ห ลวง
ทั้งวัน ดังนั้น ถ้าจะให้อาการนั้นหยุดลง ก็ เพราะการรู้ความจริงเรื่อยๆ แปลว่าสติเกิด
ต้องฝึกทั้งวันถึงค่อยเป็นอันสมน้ำ�สมเนื้อ อยู่เรื่อยๆ และเมื่อสติเกิดด้วยความไม่ยินดี
ตามหลั ก การฝึ ก ของพระพุ ท ธเจ้ า ยินร้ายอยู่เรื่อยๆ สภาพจิตก็ถูกดัดให้ตรง ไม่
นั้น ท่านให้เริ่มจากการยอมรับเรื่องที่ทุกคน เบี้ยวบิดผิดเพี้ยน เห็นได้ง่ายๆว่าเมื่อจิตตรง
ยอมรับได้ง่ายที่สุด นั่นคือ ลมหายใจเข้าออก ดีแล้ว ย่อมเกิดความรู้สึกทำ�นอง ‘จะฝืน
ความจริงให้เหนื่อยเปล่าไปทำ�ไม’ ขึ้นมา
ความจริงที่ว่า ลมหายใจกำ�ลังเข้า แทนความทุรนทุราย อยากได้ในสิ่งที่มีไม่ได้
หรือออกอยู่ ไม่ใช่เรื่องโก้เก๋ แล้วก็ไม่ใช่เรื่อง
น่าอับอาย โลกนี้ก็ไม่มีอะไรน่ายอมรับเท่ากับ
ลมหายใจเข้าออก โลกนี้ไม่มีอะไรฟรีเท่ากับ
howfarbooks.com
70 71

ลมหายใจเข้าออก โลกนี้ไม่มีอะไรติดตัวเรา ลมหายใจที่ ม าพร้ อ มกั บ ความ


ตลอดเวลาเท่ากับลมหายใจเข้าออก เรามี อึดอัด เมื่อถูกยอมรับตามจริง จะกลายเป็น
โอกาสฝึ ก ยอมรั บ ลมหายใจตามจริ ง ไป ลมหายใจที่สบายขึ้น และนั่นก็อาจเป็นจุด
จนกว่าชีวิตจะหาไม่ ตั้งต้นในการสังเกตได้ถูกว่า ลมหายใจที่มา
หายใจออกรู้ หายใจเข้ารู้ หายใจ พร้อมกับ ‘ความอยากสบาย’ ก็อาจกลาย
ยาวรู้ หายใจสั้นรู้ เมื่อรู้ได้เรื่อยๆ ก็จะเก่งใน เป็นลมหายใจที่อึดอัดไป
การอยู่กับปัจจุบันขึ้นเรื่อยๆ ถึงจุดหนึ่ง คุณ คุณจะเริ่มสังเกตออกว่ายิ่งอยากให้
จะค่ อ ยๆสามารถขยายขอบเขตไปยอมรั บ อะไรๆเป็ น ตรงข้ า มกั บ ความจริ ง มากขึ้ น
ความจริงที่รู้ยากขึ้น เช่น กำ�ลังอึดอัดหรือ เท่าใด ความอึดอัดเป็นทุกข์ก็จะยิ่งทวีขึ้นเป็น
สบายอยู่ ขณะมีลมหายใจนี้เลี้ยงชีวิตอยู่ เงาตามตัว
การยอมรั บ ว่ า กำ � ลั ง อึ ด อั ด หรื อ ในทางกลับกัน ยิ่งความอยากหาย
สบาย ไม่ใช่เรื่องน่าปฏิเสธ ไม่จำ�เป็นต้องมี ไปเท่าใด ยอมรับความจริงโดยดุษณีได้แค่
กลไกปกป้องตัวเอง อึดอัดก็รับไปง่ายๆว่า ไหน ใจก็ยิ่งสงบเย็น สบายเนื้อสบายตัวมาก
อึดอัด สบายก็รับไปเฉยๆว่าสบาย ไม่มีการ ขึ้นเท่านั้น
ได้หน้าหรือเสียหน้ากับตนเองแต่อย่างใด
howfarbooks.com
72 73

ความสามารถในการยอมรับตาม ความอยากหายฟุ้งซ่านจะไม่เกิด อาการ


จริ ง ของคุ ณ จะพั ฒ นาขึ้ น ไปอี ก คราวนี้ อยากควบคุมความคิดจะไม่มี
สามารถรับได้ว่าจิตกำ�ลังสงบหรือฟุ้งซ่าน คุ ณ จะเริ่ ม มี ค วามสุ ข กั บ การเห็ น
ปกติคนเราจะไม่อยากยอมรับความ ความจริงว่า เมื่อใดฟุ้งซ่านแล้วยอมรับอย่าง
ฟุ้งซ่าน เพราะความฟุ้งซ่านเป็นเรื่องน่า มีสติว่า ‘กำ�ลังฟุ้งซ่านที่ลมหายใจนี้’ ภายใน
รำ�คาญ แสดงถึงความไม่เอาไหน ลมหายใจต่อมานั่นเอง สภาพความฟุ้งซ่าน
จำ � ไว้ เ ป็ น ข้ อ สั ง เกตว่ า อาการ จะเบาบางลงให้เห็นอย่างถนัด
ปฏิเสธว่าคุณกำ�ลังฟุ้งซ่าน จะมาพร้อม แม้เมื่อความฟุ้งซ่านหวนกลับมาอีก
กั บ ความอยากหายฟุ้ ง ซ่ า น อยาก ในลมหายใจต่อมา คุณก็จะไม่อนาทรร้อนใจ
ควบคุมความคิดตัวเองให้ได้ ไม่ เร่ ง รั ด ให้ ค วามฟุ้ ง ซ่ า นหายไป สั ก แต่
ต่อเมื่อสั่งสมความสามารถในการ ยอมรับตามจริงอีก และอีก
ยอมรับความจริงมาเพียงพอ คุณจะรู้สึกว่า ถึ ง ตรงนี้ แ หละ คุ ณ จะสามารถ
ความฟุ้ ง ซ่ า นเกิ ด ขึ้ น ได้ ใ นลมหายใจใด ยอมรับความจริงที่ซับซ้อนกว่านั้นได้ แถม
ลมหายใจหนึ่ง เป็นเรื่องธรรมดา นั่นเอง ง่ายดายอย่างน่าแปลกใจ

howfarbooks.com
74 75

นอกจากเอาชนะความฟุ้ ง ซ่ า นได้ ยอมรับตามจริง ก็คือความสามารถเห็น


สำ�เร็จ คุณจะพบความสามารถเอาชนะความ อนิจจัง ยิ่งยอมรับได้มากขึ้นเท่าใด ก็ยิ่ง
หดหู่ได้เช่นกัน กล่าวคือ เมื่อใจเกิดความ มีพลังในการเห็นอนิจจังมากขึ้นเท่านั้น
หดหู่ คุณจะเห็นว่าความรู้สึกหดหู่มันสร้าง
มโนภาพบางอย่างขึ้นมาในใจ คล้ายเด็ก
น้อยหน้าตาซึม ท่าทางจ๋อย ต่อให้ร่างกาย
ใหญ่โตก็เหมือนหดลงเหลือตัวเล็กนิดเดียว
พอฝึ ก ยอมรั บ ความจริ ง เกี่ ย วกั บ
อาการจิตหดและมโนภาพเล็กจ้อยที่เกิดขึ้น
ในใจได้ บ่ อ ยๆ จะเกิ ด อาการพลิ ก กลั บ
เหมือนเหรียญเปลี่ยนจากก้อยเป็นหัว เมื่อ
หดหู่ถึงที่สุด ก็กลับตาลปัตรกลายเป็นความ
กระตื อ รื อ ร้ น ในการเริ่ ม ทำ � สิ่ ง ที่ น่ า ยอมรั บ
มากกว่ากัน
ทำ�ได้ทั้งหมดนี้ จะเห็นว่า การ
howfarbooks.com
76 77

คิดไม่ดีไม่ได้แปลว่า ข้อแตกต่างระหว่างคนดีกับคนชั่ว
ไม่ใช่คนดีไม่คิดชั่ว
เป็นคนไม่ดี แต่คนดี
ห้ามใจไม่ทำ�ตามความคิดชั่วๆได้!

ข้ า งต้ น คื อ นิ ย ามความเป็ น คนดี


ที่มาจากการรักษาศีล ๕ สำ�เร็จนะครับ
ศีล คือ ข้อห้าม หรือกรอบจำ�กัด
ความประพฤติทาง ‘กาย’ และทาง ‘วาจา’
ไม่ได้รวมไปถึง ‘ใจ’
หมายความว่า ต่อให้น้ำ�ลายหก
อยากปล้ำ�หญิงมีเจ้าของเพียงใด ถ้าไม่ตั้งใจ
เอาจริง ก็ยังไม่นับเป็นผู้ละเมิดศีลเลย ไม่
แม้แต่จะมีศีลด่างพร้อยด้วยซ้ำ�

howfarbooks.com
78 79

แต่ ห ากเริ่ ม สะกดใจไม่ อ ยู่ คิ ด ย่องถึงห้องเธอแล้ว แต่เหมือนโจรกลับใจ ใจ


วางแผนชั่ ว ร้ า ย หมายจะเอาเขามาทำ � สั่งตัวให้กลับหลังหัน เลิกล้มแผนร้ายเสีย
มิ ดี มิ ร้ า ยจริ ง จั ง กั บ ทั้ ง ย่ อ งไปหาหวั ง จะ ก่อน นี่ก็ยังถือว่า ‘มีศีล’ อยู่ ศีลยังไม่ขาด แม้
ประพฤติชั่วตามแผน อันนั้นเริ่มเปลี่ยนจาก จะด่างพร้อย หน้าคล้ำ�ดำ�หมองไปบ้าง ก็ยัง
ไม่เลวเป็นเลวแล้ว จิตเปื้อนมลทินบาปแล้ว ไม่ได้สร้างเวร และไม่ต้องมานั่งด่าตัวเองใน
ศีลมีอันต้องด่างพร้อยแล้ว ภายหลังไปทั้งชีวิต
หากกระทำ�การโฉดสำ�เร็จ หญิงที่มี ด้วยตัวอย่างประมาณนี้ ทำ�ให้เห็น
เจ้าของตกเป็นทาสบำ�เรอกาม แม้เพียงด้วย ได้ชัดว่า การตั้งใจรักษาศีลเป็นจุดเริ่มต้น
การล่วงล้ำ�อวัยวะเพศด้วยอวัยวะเพศ ก็เรียก ของความเป็นคนดี แม้คิดชั่ว แต่ไม่ทำ�ชั่ว
ว่าศีลขาดทะลุเต็มขั้น บาปสำ�เร็จครบวงจร ก็ไม่มีใครเดือดร้อนจากความชั่วนั้น
ชนิดที่ต้องได้ชดใช้กรรมในภายหลังแน่นอน สำ�คัญเหนือสิ่งอื่นใด การรักษาศีล
จะเร็วหรือช้าเท่านั้น สำ�เร็จอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นเครื่องวัดได้ว่าดี
พูดให้ฟังง่ายนะครับ แม้ใจจะคิด จริง เพราะการเอาชนะ ‘ปีศาจในตน’ ได้
อยากทำ�ผิด แต่ตราบใดยังห้ามกายห้ามใจไว้ เสมอนั้น ก็คือการสร้าง ‘เทวดาประจำ�ตัว’
ได้อยู่ ก็เรียกว่ารักษาศีล ๕ ได้ เช่น เกือบจะ ขึ้นมาคุ้มครองชีวิต เป็นแสงมงคลประดับ
howfarbooks.com
80 81

ชีวิตอย่างถาวรนั่นเอง ถ้าเคยชั่วแล้วละอาย นึกอยากใช้


คนพาลส่ ว นใหญ่ แ ม้ ขึ้ น ชื่ อ ว่ า เลว ชีวิตที่เหลือทำ�ดีชดใช้ความผิด อย่างนี้ก็เรียก
ถู ก ด่ า ทอว่ า ประพฤติ ตั ว ชั่ ว ช้ า หน้ า ด้ า น ว่า ‘ชั่วปลอมๆ’ แต่ ‘ดีจริงๆ’
หน้าทน แท้จริงก็ยังกลุ้มใจกับความชั่วของ ถ้าตายอย่างคนดีจริงๆ ความชั่วที่
ตน หรือมีความสำ�นึกผิดใหญ่หลวงที่แอบ เคยทำ�ไว้ก็จะตามไปส่งผลแบบหลอกๆ คือ
ซ่อนไว้ไม่ให้ใครรู้ เพราะกลัวเสียหน้า เปิด ให้ผลไม่รุนแรงนัก หรือถึงรุนแรงก็ไม่ยืดเยื้อ
เผยออกไปจะโดนหาว่าไม่แน่จริง ไม่เจ๋งพอที่ เกินทน
จะอยู่บนถนนของ ‘คนใจถึง’ ได้อย่างเต็ม คำ�ถามคือ ทำ�อย่างไรจะปลุกสำ�นึก
ภาคภูมิ ผิดชอบชั่วดีให้เกิดขึ้นได้ตลอดชีวิตที่เหลือ
แท้จริงแล้ว ความรู้สึกผิดและความ เพื่อเป็นคนดีที่ละอายเกินกว่าจะทำ�ชั่ว?
ละอาย เป็นเครื่องหมายของความดี หรือ อันที่จริงแล้ว ความดีซึ่งมาในรูป
อย่างน้อยเป็นสัญญาณบอกว่า ‘เชื้อ’ แห่ง ของความรู้ สึ ก ละอายต่ อ การทำ � ชั่ ว นั้ น
ความดียังมีอยู่ หาใช่เลวล้วนๆเกินจะหวังกู่ อย่างไรก็จะไม่หายไปจากชีวิตมนุษย์ เพราะ
เรียกความดีกลับมาได้ ที่ถือกำ�เนิดเกิดเป็นมนุษย์กันได้ ก็ด้วยธรรม

howfarbooks.com
82 83

อันนำ�มาสู่ความเป็นมนุษย์ อย่างที่เรียกว่า วงศ์วานว่าน­เครือก็ไม่เว้น


‘มนุษยธรรม’ นั่นเอง ต่อเมื่อเข้ากลางชีวิต ท่านเกิดความ
มนุษยธรรมอันเป็นของติดตัว คือ เบื่อหน่ายกลิ่นอายการฆ่าฟัน ยิ่งเมื่อได้พบ
คำ�ตอบว่าเหตุใดหลายความชั่วร้ายที่ทำ�ไป ผู้ทรงคุณในพุทธศาสนาจุดประกายไฟแห่ง
จึงกลายเป็นความรู้สึกเสียใจในภายหลัง สำ�นึกผิดชอบชั่วดีให้ลุกโพลงขึ้น ท่านก็หัน
ความเสียใจ หรือความสำ�นึกผิด ถ้า มาขวนขวายทำ�นุบำ�รุงพระศาสนา เปลี่ยน
ไม่เกิดขึ้นบ้าง ก็อาจขาดแรงขับดันให้อยาก แผ่ น ดิ น เพลิ ง ให้ ก ลายเป็ น แผ่ น ดิ น ทอง
ทำ�ดีมากๆ หรืออยากทำ�ดีทั้งชีวิต เพื่อให้ทั้ง เรืองรองด้วยคุณงามความดีไปแทน
ชีวิตดีๆเหมือนน้ำ�ใส ชะล้างคราบสกปรก เป็นที่ทราบกันว่า ถ้าพระเจ้าอโศก
และกลิ่นเหม็นในอดีตจนเกลี้ยงที่สุดเท่าที่จะ มหาราชไม่ ท รงดำ � ริ จ ะเผยแผ่ พ ระพุ ท ธ
เกลี้ยงได้ ศาสนาให้กว้างไกลออกไปตลอดโลก วันนี้ก็
อย่างเช่นพระเจ้าอโศกมหาราช ต้น อาจไม่เหลือพระพุทธศาสนาตกทอดมาถึง
ชีวิตของท่านหมกมุ่นอยู่กับการฆ่าฟัน ทั้ง รุ่ น เรา เพราะช่ ว งนั้ น พุ ท ธศาสนาเจริ ญ
อริ ร­ าชศั ต รู หรื อ แม้ ก ระทั่ ง ญาติ พี่ น้ อ ง รุ่งเรืองอยู่แต่ในประเทศอินเดีย และต่อมาก็
เกื อ บจะสิ้ น สู ญ ไปจากอิ น เดี ย ด้ ว ยการ
howfarbooks.com
84 85

เหยี ย บย่ำ � รุ ก รานจากศาสนาอื่ น หาก คนชั่ว ตราบเท่าที่ไม่ยอมให้ปากกับมือเท้า


ปราศจากขบวนการเผยแผ่ธรรมอย่างเป็น เป็นเครื่องมือของความคิดชั่วๆ
ทางการจากพระ­มหาจักรพรรดิ ส่วนอื่นที่ และต่อให้พลาดทำ�ชั่วไปแล้ว ก็ยัง
เหลื อ ของโลกก็ ค งไม่ มี โ อกาสรั บ แสงสว่ า ง ตัดสินไม่ได้ว่าเป็นคนชั่วขนานแท้ ตราบเท่า
ทางพุทธเป็นแน่ ที่ยังไม่ตายอย่างคนชั่วกันจริงๆ
เมื่อเป็นดังนี้ โลกก็จำ�แต่คุณธรรม ไม่ ว่ า จะเคยคิ ด ร้ า ยมาเพี ย งใด
เด่ น ของท่ า น เมื่ อ พู ด ถึ ง พระเจ้ า อโศก ตราบเท่าที่ยังไม่ตาย ก็ยังมีโอกาสตายเยี่ยง
มหาราช ก็ จ ะพู ด ถึ ง ความเป็ น อั ค ร คนตั้งใจทำ�ดีกันได้ ถ้าชีวิตที่เหลือคือชีวิตที่
ศาสนูปถัมภกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในพุทธศาสนา ตัดสินใจหันหลังให้กับความคิดร้ายๆ ใน
ไม่ ค่ อ ยมี ค นพู ด ถึ ง ความโหดเหี้ ย มในครั้ ง ที่สุดก็จะลงเอยเป็นความสบายใจหายห่วง
ตะลุยปราบโลกเพื่อขยายพระราชอาณาจักร เวลาได้ยินใครพูดถึงสวรรค์กัน ก็มั่นใจว่าตัว
กัน หรือแม้จะพูดบ้าง ก็พูดว่าถ้าท่านไม่ เองจะเป็นหนึ่งในผู้ที่ได้ไปแน่ๆ ไม่สงสัยเลย
ปราบโลก โลกก็คงไม่ยอมเปิดทางให้ท่าน
เผยแผ่พระศาสนาโดยดี
สรุปคือ แม้คิดชั่ว ก็ไม่ใช่จะต้องเป็น
howfarbooks.com
86 87

คนทำ�ชั่วจะกลัวที่นอน เตียงนอนในบางคืน
ก็เป็นแท่นตัดสินลงโทษหรือตกรางวัล
ให้กับความดีความชั่ว
ในช่วงวันที่ผ่านมาได้เท่าสวรรค์และนรก

บางคนทำ�ชั่วมากๆแล้วกลัวที่นอน
นอนทีไรฝันร้ายทุกที หรืออย่างเบาก็นอนไม่
หลับต่อเนื่องกันเนิ่นนาน
เมื่อเป็นเช่นนี้ ก็ไม่ควรกล่าวว่า
ความฝันเป็นเรื่อง ‘เหลวไหล’ ตรงข้าม ควร
ให้ค่าว่าเป็นเรื่องจริงจัง เป็น ‘หลักฐานอัน
หนักแน่น’ ของผลแห่งกรรม เป็นภพภูมิ
อายุ สั้ น ในชั่ ว ข้ า มคื น ซึ่ ง แสดงให้ เราดู
ตั้งแต่ยังมีชีวิตอยู่ ไม่ต้องตายดับไปเสียก่อน

howfarbooks.com
88 89

อาจกล่าวว่า ฝันร้ายๆเป็นตัวอย่าง ขอให้คิดง่ายๆว่า กรรมทางการคิด


ของชาติหน้าร้ายๆ เหมือนหนังสั้นที่ฉายให้ กรรมทางการพู ด ตลอดจนกรรม
ดูว่าหนังยาวมีอารมณ์ประมาณไหน ทางการกระทำ�อันใด สามารถจะไขจิตให้
ถ้าใครฝันร้ายบ่อยๆ มันแปลว่าจิต สว่าง รู้สึกว่าโลกเปิด รู้สึกว่าสบายใจ ก็กรรม
ติดพันอยู่กับวิธีปรุงแต่งความคิดแบบร้ายๆ เหล่านั้นแหละ คือคำ�ตอบ
มองอย่ า งคนไม่ รู้ จั ก ศาสนาจะถามว่ า ต้ อ ง กรรมอันจะยังจิตให้เกิดความสุก­
แก้ฝันร้ายด้วยการกินอะไร ออกกำ�ลังท่า สว่าง สดชื่นเป็นกุศลนั้น มีอยู่มากหลาย
ไหน หรือกระทั่งไล่ผีด้วยพิธีกรรมประมาณ ชวนให้ขี้เกียจจดจำ� แต่ก็มีวิธีลัดๆ คือ
ใด แต่หากมองอย่างคนรู้จักวิธีการในพุทธ เรียนรู้เข้ามาที่จิตของตนเองตรงๆ สังเกต
ศาสนา จะตั้งโจทย์ที่ตรงเป้า คือ ต้องแก้ฝัน ง่ายๆว่าตัด­สินใจทำ�อะไร เลือกคำ�พูดใดใน
ร้ายด้วยกรรมใด สถานการณ์ไหน หรือกระทั่งกำ�ลังคิดถึงใคร
ถ้าฝันร้ายเปรียบเหมือนความมืด ก็ ด้วยอาการแค้นเคืองหรืออาการไม่อยากเอา
ต้องถามว่า กรรมใดเปรียบเสมือนความ เรื่อง แล้วมีความบรรเจิด โปร่งโล่งออกมา
สว่างที่จะมาขับไล่ความมืด? จากกลางใจ ก็นั่นแหละที่จะต้องจดจำ�ไว้เป็น
ตัวอย่าง

howfarbooks.com
90 91

เช่นว่า เมื่อพบหน้าศัตรูคู่อาฆาต มี คันคะยิกขึ้นกลางอกกลางใจแล้ว คุณมีกรรม


ใบหน้ากระตุ้นคำ�ด่าให้ผุดขึ้นในหัวของคุณ ทางความคิดเกิดขึ้นใหม่ คือ เห็นตามจริงว่า
คุ ณ จะเกิ ด ความรู้ สึ ก เหมื อ นหมอกควั น ค ว า ม มื ด ท า ง วิ ญ ญ า ณ เ ป็ น ข อ ง ไ ม่ ดี
มืด­คลุ้มก่อตัวขึ้นในตน ถ้าเพียงปล่อยเวลา เป็นต้นเหตุของฝันร้าย เป็นความอึดอัด
ให้ผ่านไปโดยไม่ทำ�อะไรกับสิ่งที่เกิดขึ้นใน คัดแน่นที่สูญเปล่า หาสาระมิได้ แล้วเกิด
หัว ความมืดคลุ้มดังกล่าวจะทวีตัวขึ้นหนา อาการตาสว่าง เห็นโทษเห็นภัยของอกุศลจิต
แน่น กลายเป็นความอึดอัดคัดอก ความคิด ที่ปรากฏอยู่ต่อหน้าต่อตา แล้วละอกุศลนั้น
วกวนอยู่แต่กับเรื่องของการจิกกัด ด่าทอ เสียได้ ความคุมแค้นแน่นอกหายไป กลาย
หรือหาวิธีทำ�ร้ายกันต่างๆนานา เป็นสบายใจ โปร่งโล่ง บันดาลแต่ความคิด
ความมืดชนิดนั้นแหละ เกิดจาก ด้านดีขึ้นมาแทน
กรรมทางความคิด ที่สั่งสมแล้วกลายเป็น อาการตาสว่างนั้นแหละ คือผลของ
ปัจจัยให้เกิดฝันร้ายได้บ่อยๆ มโนกรรมในทางที่เป็นกุศล ในทางที่ก่อให้
แต่หากในสถานการณ์เดียวกัน เมื่อ เกิดสติ หลังจากสั่งสมมากครั้งเพียงพอแล้ว
พบศัตรูคู่อาฆาตแล้ว กระตุ้นให้เกิดคำ�ด่าใน ก็จะเป็นปัจจัยให้เกิดฝันดีขึ้นมาได้
หั ว ของคุ ณ แล้ ว หรื อ กระทั่ ง เกิ ด อาการ ผู้ที่สะสมมโนกรรมอันสว่าง สดใส
howfarbooks.com
92 93

มีฤทธิ์ในการชะล้าง สะสางความป่วยทางจิต
ยามตื่น ย่อมเอนกายลงนอนอย่างผู้มีความ เหลือใจที่ถูกไว้ดวง
เบาตัวเบาใจ สุขสบายหายห่วง ไม่คิดฟุ้งซ่าน
จับจดไปถึงเรื่องอื่นๆ หนึ่ง
เพียงถ้าน้ำ�หนักแห่งความสุขมาก
พอจะปักหลักอยู่กับที่ ไม่เลือนหายไปเร็วนัก
คุ ณ จะพบประสบการณ์ ก ารนอนอย่ า ง
สบายใจ พยากรณ์ตนเองได้ว่าอีกไม่กี่อึดใจ
ข้างหน้าหลังจากหลับสนิท จะต้องเกิดการ
ปรุงแต่งจิตในทางที่แช่มชื่น น่าชอบใจเป็น
แน่
แ ล้ ว คุ ณ จ ะ รู้ ด้ ว ย ต น เ อ ง อ ย่ า ง
ประจักษ์แจ้งว่า คนทำ�ดีไม่ใช่แค่ไม่กลัว
ที่นอนเท่านั้น แม้แต่โลงศพก็ไม่พรั่น
เลย!!
howfarbooks.com
94 95

ในวันที่ทุกสิ่งดูผิดพลาดไปหมด คุณแบบไม่ยอมให้พักหายใจ
ขอเพียงเหลือใจที่ถูกต้องไว้ดวงเดียว ในห้วงเวลาแห่งความงงงัน เหมือน
ใจดวงนั้น โลกทั้งใบผิดหมด และไม่เหลือทางเดินที่ถูก
จะพาทุกอย่างกลับเข้าที่เข้าทางไปเอง ไว้ให้เดินเลย คุณจะไปหาความถูกต้องมา
จากไหนได้?
มีอยู่จริงครับ ช่วงที่ชีวิตเหมือนหล่น เมื่อตกไปอยู่ในห้องมืดโดยไม่รู้เนื้อ
ร่วงดำ�ดิ่งลงสู่ที่ต่ำ� ทุกอย่างฉุดกระชากลากถู รู้ตัว โอกาสเดียวที่คุณจะได้แสงสว่างมา คือ
กันลงเหว ไม่มีแรงลากขึ้นสูงเลย คุณต้องพกไฟฉายติดตัวไว้ก่อน ไม่ใช่ไปงม
อย่างเช่น การตัดสินใจที่เคยถูกมา หาเอาจากห้องมืดที่ทุกอย่างวางผิดที่ผิดทาง
ตลอด ก็กลายเป็นผิดพลาดไปทั้งหมด หรือ ไปหมด
หนักกว่านั้น คือบุคคลรอบตัว แทนที่จะยื่น แสงสว่างที่ว่านี้ ก็คือธรรมะซึ่งคุณ
มื อ มาช่ ว ยก็ เ หมื อ นกระหน่ำ � ซ้ำ � เติ ม จนคุ ณ ศรัทธาแน่แล้ว บอกกับตัวเองไว้เป็นมั่น
รู้สึกเหมือนเละไม่มีชิ้นดี โดยพวกเขาอาจ เหมาะแล้วว่า จะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม คุณจะยัง
จงใจ หรือบางคนก็รู้เท่าไม่ถึงการณ์ แต่สรุป คงรักษาไว้กับตัวไปจนตาย
คือทั้งคนทั้งเหตุการณ์คล้ายรวมหัวเล่นงาน
howfarbooks.com
96 97

ธรรมะแท้ ๆ หาใช่ ค วามรู้ ใ น แม้ เ มื่ อ เศร้าได้ ธรรมะในใจก็จะ


กระดาษหรือความจำ�ในสมองไม่ แต่เป็น ส่องให้เห็นว่าเดี๋ยวก็คลายเศร้าได้ เมื่อโกรธ
หนทางเดินที่ถูก เป็นกรรมที่คุณจะถือปฏิบัติ ได้ ธรรมะในใจก็จะส่องให้เห็นว่าเดี๋ยวก็หาย
เสมอ ไม่ว่าต้องตกไปอยู่ในสถานการณ์เลว โกรธได้
ร้าย ได้เปรียบหรือเสียเปรียบขนาดไหน ธรรมะที่แท้ มีหน้าที่ฉายความจริง
ธรรมะอันเป็นประสบการณ์ภายใน ให้รู้ว่า มืดได้ก็สว่างได้ ตกได้ก็ขึ้นได้ แม้ใน
คือ ความรู้สึกทางใจที่ไสวสว่าง ความรู้สึกว่า ความรู้สึกเหมือนไม่เหลืออะไรเลย ธรรมะก็
ใช่ ความรู้สึกปลอดโปร่งสบายใจ ความรู้สึก อยู่เป็นเพื่อน และบอกกับคุณว่า คุณยังมี
เต็มตื่นอยู่ด้วยสติ ไม่พลัดหลงเข้าสู่ถ้ำ�แห่ง สิทธิ์เหลือจิตที่ประกอบด้วยสติ
ความโง่อันมืดทึบ คุณจะพบว่าสติเป็นของสูงในชีวิต
หมายความว่า ถ้าเหตุการณ์เลวร้าย ตราบใดยังไม่ขาดสติ ตราบนั้นยังไม่ใช่เวลา
ลงถึงที่สุดแล้วคุณยังมีธรรมะ ก็จะไม่รู้สึก ตกต่ำ�จริงๆจังๆแต่อย่างใด
มืดมน หรือถึงมืดมนลงบ้าง ก็เหมือนไขแสง คนยังมีสติ ยังประคองตัวเองไม่ให้
เองได้ในไม่ช้า ตกต่ำ�ถึงที่สุด จะไม่ทำ�ผิด ไม่พูดพลาด และ

howfarbooks.com
98 99

ไม่คิดประชดชีวิตให้ชีวิตร่วงหล่นถลำ�ลึกลง จากภายนอก
ไปกว่านั้นอีก ต้องเห็นใจ ที่ชีวิตบางคนเจอแต่
เมื่อธรรมะช่วยประคองไม่ให้ทำ�ผิด อะไรแย่ๆ เกิดมายากจน พ่อแม่แตกแยก
คิดพลาดได้ ไม่ช้าไม่นานต่อมา คุณจะพบว่า หรือกระทั่งไม่มีคนดูแล ไม่มีใครสนใจว่าจะ
ตัวเองค่อยๆอยู่ท่ามกลางทางออกของปัญหา เป็นตายร้ายดีอยู่ที่ไหน จึงโตขึ้นมาแบบไม่
ซึ่ ง แต่ เ ดิ ม อาจมองไม่ เ ห็ น เลยสั ก ทางเดี ย ว ทราบว่าจะยึดสิ่งใดเป็นสรณะดี
เพราะจิตมัวแต่หม่นมืดด้วยเมฆหมอกแห่ง คนที่ชีวิตเป็นทุกข์มากกว่าเป็นสุข
ความโง่เขลา ต่อเมื่อความโง่เ­ขลาถูกชำ�แรก จะรู้ สึ ก ถึ ง ความอึ ด อั ด ที่ ค้ า งแน่ น อยู่ ใ นอก
แทรกแทนด้วยแสงกุศล อะไรๆรอบตัวจึง ความอึดอัดนั้นกดดันให้อยากหาทางระบาย
ปรากฏตามสภาพแท้จริงของมันอย่างชัดเจน ออก และวิธีพยายามระบายออกของคนส่วน
คือ อาจไม่มีอะไรแย่เท่าที่คิด มีแต่ความ ใหญ่ ก็คือการหาแพะรับบาป ส่วนลึกหวังจะ
คิดว่าแย่เกินจะรับ ลากคนผิดสักคนมาลงโทษ ด้วยข้อหาที่ว่าทำ�
ชี วิ ต จะแย่ จ ริ ง ๆก็ ต่ อ เมื่ อ คุ ณ ยอม ชีวิตฉันให้มีอันต้องทุกข์ทรมานปานนั้น
เลื่อน­ไหลตามความคิดเลวๆ ไม่ว่าความคิด แพะรับบาปหลักๆจะหนีไม่พ้นพ่อ
เลวๆนั้นจะผุดจากภายใน หรือโดนกระทบ
howfarbooks.com
100 101

และแม่ที่ทำ�ให้เกิดมา แต่เลี้ยงแบบทิ้งๆ จำ�นวนมากให้ไหลไปสู่หุบเหวนรก


ขว้างๆ หรือหนักกว่านั้นคือหายหน้าไปไหน แนวคิ ด ในการจั ด การกั บ บรรดา
ก็ไม่ทราบ ไม่เคยได้เจอกันเลยตั้งแต่เกิด แพะรับบาป คือ ‘ปล่อยไว้ไม่ได้ ต้องด่า!’
ถัดจากพ่อแม่ ก็เป็นครูบาอาจารย์ที่ เมื่อรู้จักและเข้าใจพระพุทธศาสนา
สอนไม่ดี หรือไม่ก็เพื่อนพ้องน้องพี่ คนรัก เราจะไม่อยากด่าใคร ไม่อยากหาแพะมา
คนใคร่ ที่ไม่เอาใจใส่กัน บูชายัญ ในเมื่อความจริงถูกเปิดเผยโดย
โลกยุคปัจจุบันที่เต็มไปด้วยการปั่น พระพุทธเจ้าแล้วว่า ที่แต่ละคนอยู่สบายหรือ
กระแสเรี ย กร้ อ งนี้ ยั ง มี ใ ครต่ อ ใครอี ก เดือดเนื้อร้อนใจ ได้ดีหรือตกยาก มีชีวิตที่
มากมายให้หมายหัว เช่น นักการเมืองที่ หยาบหรือประณีต ก็เป็นไปตามกรรมที่ทำ�
เสนอตัวเข้ามาช่วยชาติ แต่เอาเข้าจริงกลับ มาทั้งสิ้น จะเป็นกรรมเก่าในชาติก่อน หรือ
มาปล้นแผ่นดิน หรืออย่างดารา นักร้อง เป็นกรรมใหม่ในชาตินี้ก็ตาม
ตลอดจนคนดั ง ทั้ ง หลาย ที่ เ ป็ น บุ ค คล คนอื่ น ๆทั่ ว ทั้ ง โลก เป็ น เพี ย ง
สาธารณะ สมควรทำ�ตนเป็นแบบอย่าง แต่ ‘เครื่องกระทบ’ ให้เราสะดุ้งสะเทือน หรือไม่
กลับประพฤติตนเป็นหลุมดำ� ดึงดูดแสงแห่ง ก็เป็น ‘แรงกดดัน’ ให้เราทนไม่ไหว ต้องลุก
ความดีของปวงชน สร้างคลื่นยักษ์ซัดพาคน
howfarbooks.com
102 103

ขึ้นก่อกรรมโต้ตอบโลกกัน คนในโลกมีโอกาสระบายความอึดอัดอย่าง
โลกมีพลังสะเทือนให้เรารู้สึกอยาก เสรี พอพบกระทู้ที่ยกเอานักการเมืองหรือ
ร้ายหรืออยากดี ส่วนการตัดสินใจว่าจะดี คนดังขึ้นมาเป็นเป้าล่อ ก็จะรีบเข้าไป ‘ระบาย
หรือร้ายนั้น ขึ้นอยู่กับตัวเราว่าอยากยืนอยู่ ของเสีย’ กันด้วยคำ�ด่ายกใหญ่ ราวกับใคร
ข้างไหน ฝ่ายธรรมะหรือฝ่ายอธรรม คนนั้นเป็นผู้ทำ�ให้ชีวิตข้าพเจ้าพังพินาศมา
ก่อน พอได้ทีจึงต้องขอเอาคืนบ้าง
พระพุทธเจ้าตรัสว่า กรรมคือเจตนา
เจตนาคือกรรม การตัดสินใจดีร้ายนั่นเอง เรื่องของเรื่อง ถ้ามีใครพลาดไปมี
คือกรรมที่เราทำ�ไว้เป็นเงาตามตัวสืบไป ภาพเสียๆหายๆ หรือถูกสื่อมวลชนวาดภาพ
เป็นพญามาร ภาพนั้นจะไปกระตุ้นต่อม
คนส่วนใหญ่โดยมาก จะทำ�ตาม ‘อยากเห็นแพะโดนประชาทัณฑ์’ ขึ้นมา ซึ่ง
สัญชาตญาณ ใครมาดีก็ดีตอบ ใครมาร้ายก็ ถ้ามีการร่วมกระทืบ ด่าทอสาดเสียเทเสียกัน
ร้ายคืน กรรมของคนส่วนใหญ่จึงเป็น ‘กรรม อย่างคึกคัก ก็จะรู้สึกครึกครื้นสมใจ สะใจ
ตามใบสั่งของกิเลส’ ไม่ใช่ ‘กรรมอันเกิดจาก เหมื อ นได้ แ ก้ แ ค้ น ทั้ ง ที่ ไ ม่ เ คยรู้ จั ก หรื อ
ธรรมะบันดาลใจ’ ทำ�ความเจ็บใจให้แก่กันมาก่อนเลยในชาตินี้
ขอให้ดูจากยุคอินเตอร์เน็ตนี้ ที่ สังคมยุค ‘ด่ากันง่ายๆได้โดยอิสระ’
howfarbooks.com
104 105

ของพวกเรานับว่าน่ากลัว เพราะเป็นยุคที่ไม่ ตาย และเอาจิตที่ไม่ผิดไปเกิดใหม่ ก็ต้อง


ชวนให้ มี แ ก่ ใจเหลื อ อะไรที่ ถู ก ต้ อ งไว้ เ ป็ น เลือกก่อกรรมที่ถูก ที่ทำ�ให้สบายใจไว้ตั้งแต่
สมบัติประจำ�ตัวเลยสักอย่าง เดิมทีชีวิตแย่อยู่ ยังมีชีวิต ไม่มีใครสร้างความสบายใจกันขึ้น
แล้ว ก็ยิ่งไปก่อกรรมแย่ๆซ้ำ�เติมให้ตนเอง มาได้ด้วยความปรารถนาก่อนตาย
เข้าไปอีก ในโลกที่ผิด ให้เหลือจิตที่ถูกไว้
ยุคที่คนได้ยินเสียงก่นด่ามากกว่า ดวงหนึ่ง คุณอาจต้องอยู่อย่างลำ�บาก
เสียง­ชมเชย ยุคที่คนอารมณ์เสียมีปริมาณ เป็นบางครั้ง แต่เชื่อมั่นว่าจะเป็นหนึ่ง
มากกว่าคนอารมณ์ดี ยุคที่ความอยุติธรรมมี ในผู้ไปสบายในทุกกรณี
อำ�นาจเหนือความยุติธรรม บีบให้เรารู้สึกว่า
โลกทั้งใบ ‘ผิดหมด’ นี้ ถ้าเพียงเผลอปล่อย
จิตปล่อยใจแบบเลยตามเลย เราจะก่อกรรม
ผิดๆตามเขา และจบชีวิตไปกับความรู้สึกผิด
พลาด ไม่อาจสบายใจได้ว่ามีทิศทางที่ถูกที่
ชอบให้ตัวเองก้าวไปหา
บอกตัวเองว่า เพื่อจะเอาจิตที่ถูกไป
howfarbooks.com
106 107

ใช้ชีวิตให้คุ้ม จุดเริ่มต้นของการใช้ชีวิตให้คุ้ม
คือทุ่มเทกับการ ‘ใช้ชีวิตในขณะนี้’
ไม่ใช่ ‘ใช้ชีวิตซ้ำ�อยู่ในหัว’
และไม่ใช่ ‘ใช้ชีวิตล่วงหน้าอยู่ในฝัน’

วันไหนคุณใช้เวลานอน ๖ ชั่วโมง ก็
แปลว่าวันนั้นคุณเหลือเวลา ๑๘ ชั่วโมงใน
การลืมตาตื่น คิดเป็นหนึ่งในสี่ของวัน
หากนอนวันละ ๖ ชั่วโมงไปทั้งชีวิต
ก็แปลว่า มีอายุทั้งหมดเท่าไร ให้หักออก
หนึ่งในสี่ เช่น สมมุติว่าอายุขัยของคุณคือ
๘๐ เอาเข้าจริงคุณก็มีเวลาทำ�อะไรเท่าที่หนึ่ง
สมองสองมือจะทำ�ได้เพียง ๖๐ ปีเท่านั้น
นี่คือความจริงนะครับ ชีวิตเราถูก

howfarbooks.com
108 109

หักอายุไปตามธรรมชาติความจำ�เป็นที่ต้อง ไม่รู้จะได้ทำ�หรือเปล่า
หลับต้องนอน คนตายอายุ ๘๐ ไม่ใช่แปลว่า คนทั่วไปถ้านอน ๖ ชั่วโมง หมกมุ่น
‘ได้ใช้ชีวิต’ ๘๐ ปี ต่อให้เป็นพวกบ้างาน ครุ่นคิดถึงอดีตกับอนาคตอีก ๖ ชั่วโมง รวม
ทำ�งานหัวหูดับทั้งวันทั้งคืนตลอดศกก็เถอะ เป็น ๑๒ ชั่วโมง ครึ่งหนึ่งของวัน จึงเหลือ
ยังครับ... ไม่ใช่แค่นั้น เวลาจริงๆไว้ใช้ชีวิตเพียงครึ่งหนึ่งของอายุขัย
ถ้าแต่ละวันคุณเอาแต่เฝ้าเสียดาย ถ้านึกว่าตัวเลขนี้เกินจริง ก็ลองเฝ้า
อดีตเป็นเวลาสัก ๓ ชั่วโมง แล้วใช้เวลาอีก สังเกตกันเอาเอง นับดูว่าเฉลี่ยแล้วคุณนอนกี่
ร่วม ๓ ชั่วโมงในการฟุ้งซ่านถึงอนาคต สิริ ชั่ ว โมง แล้ ว หานาฬิ ก ามาจั บ เวลาว่ า คุ ณ
รวมแล้วคุณปล่อยให้อีก ๖ ชั่วโมงหายไป ‘อยากปล่อยใจ’ ให้เหม่อลอยไปหาอดีตกับ
เปล่าๆโดยไม่มีการ ‘ใช้ชีวิต’ แต่อย่างใด อนาคตรอบละกี่นาที กว่าที่จะดึงสติมาอยู่กับ
เพราะการใช้ชีวิต คือการเอา เนื้อตัวตรงนี้ หรือการงานตรงหน้า
ปัจจุบันไปทำ�อะไรเพิ่ม ไม่ใช่การนึกถึง คุณอาจคิดว่าไม่เห็นจะเสียดาย ใน
สิ่งที่เคยทำ�ไว้แล้ว แก้ไขไม่ได้แล้ว และ เมื่ อ ได้ ใช้ ชีวิ ต สบายๆเรื่ อยเปื่ อยตามความ
ยิ่ ง ไม่ ใช่ ก ารนึ ก ถึ ง สิ่ ง ที่ ยั ง ไม่ มี สิ ท ธิ์ ทำ � พอใจเสียอย่าง

howfarbooks.com
110 111

ตอนยั ง มี โ อกาสคิ ด สบายๆเรื่ อ ย เปลี่ยนบ้าง!


เปื่อยก็น่าจะอย่างนั้นแหละครับ แต่พอถึง อีกอย่าง คือการตกลงกับตัวเองว่า
เวลาโดน ‘เช็คบิลตอนจบ’ ขึ้นมา ที่เคยรู้สึก จะไม่กังวลเกี่ยวกับพรุ่งนี้หรือวันหน้า แต่จะ
ไม่เสียดายนั้น ก็เชื่อเถอะว่าจะกลายเป็น ขยันทำ�ทุกอย่างในวันนี้เพื่อให้สบายใจ
แสนเสียดายจับจิตจับใจ ว่าได้ทำ�รากของวันพรุ่งนี้ไว้ดีที่สุดแล้ว
นโยบายที่เหมาะสำ�หรับการ ‘เริ่ม ถ้ า จะต้ อ งเอาวั น นี้ ไ ปเกี่ ย วข้ อ งกั บ
ต้นใช้ชีวิตให้คุ้ม’ ควรออกตัวจากการตกลง วันหน้า ก็คือคิดอ่านวางแผน ไม่ใช่ให้ถูก
กับตนเองชัดๆว่า เราจะ ‘สูญเสียปัจจุบัน’ ให้ พรุ่งนี้ปล้นด้วยอาการกลุ้มเปล่า
กั บ อดี ต และอนาคตน้ อ ยที่ สุ ด เท่ า ที่ จ ะ
เป็นไปได้ หลังจากตกลงใจได้ว่าจะเอาแต่วัน
นี้ เมื่อวานไม่เอา พรุ่งนี้ไม่เอา คุณจะพบ
จี้ลงไปให้ชัดๆ พอรู้ตัวว่าบ่นอะไร ว่าการหลงใช้ชีวิตแบบ ‘สมมุติว่า’ หายไป
เช่น ‘สมมุติว่าย้อนเวลากลับไปได้นะ...’ ต้อง กลายเป็นใช้ชีวิตแบบ ‘มีอะไรต้องทำ�’ เสียได้
รีบแก้ใหม่ สั่งตัวเองทันที อย่ามัวสมมุติว่า
ย้อนเวลาได้จะแก้อะไรดี แต่สมมุติว่า หากคุณตกลงใจแล้ว แต่ยังคงติด
ถ้าสำ�นึกได้เดี๋ยวนี้ มีความคิดไหนให้ อยู่ในอดีต และถูกดูดไปหาอนาคต ก็ต้อง

howfarbooks.com
112 113

สำ�รวจดูว่าเพราะอะไรจึงเป็นเช่นนั้น ถ้าเป็นเช่นนี้ ก็ต้องสังเกตดูตาม


สำ�รวจความคิดตัวเอง จับให้ได้ ความเป็ นจริ ง เอาของจริ ง ในหั ว มาตีแ ผ่
ไล่ให้ทันว่าถ้ารวมความคิดทั้งหมดเป็นกลุ่ม จนกว่าจะเข้าใจว่าเสียงจากอดีต ความกังวล
ก้อน และกรองให้เหลือคำ�ๆเดียว มันคือคำ� เกี่ยวกับอนาคตใดๆ ที่ยับยั้งคุณไว้จากการ
ว่าอะไร ลงมือใช้ปัจจุบันให้คุ้ม ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่ง
สูญเปล่า ยิ่งให้ค่ามันมากขึ้นเท่าไร ก็ยิ่งลด
ยกตัวอย่างเช่น ถ้ารู้ตัวว่ากำ�ลังโดน ค่าชีวิตลงเท่านั้น
บั่นทอนกำ�ลังใจ ลองหาคำ�สำ�คัญจากในหัว
ของตัวเองดู คุณจะพบว่ามีคำ�บางคำ�ผุดขึ้น อาการตาสว่างที่เกิดขึ้น จะช่วยให้
มาบ่อยกว่าคำ�อื่น เช่น ‘เป็นไปไม่ได้หรอก’ คุณรู้ชัดว่า เสียงใครบั่นทอนกำ�ลังใจเรา
ก็ ไ ม่ เ ท่ า เสี ย งในหั ว บั่ น ทอนกำ � ลั ง ใจ
คำ�ๆนี้อาจเป็นเสียงออกมาจากปาก ตัวเอง
ของคนอื่น แต่เวลาที่มันแปรเป็นความคิด
ของคุณเอง ก็มักมีการเสริมเติมคำ�ใหม่ๆ หลังจากตาสว่างมากพอ คุณจะพบ
เข้าไป เช่น ‘ทำ�ไม่ได้หรอก ไม่ต้องพยายาม ว่าตัวเองใช้ชีวิตได้คุ้มขึ้น และตระหนักว่า
หรอก’ ชีวิตที่คุ้มที่สุด คือชีวิตที่มีแต่ปัจจุบันดีๆอยู่
ในใจมากที่สุด ไม่ปล่อยให้ใจกำ�อดีตเน่าๆ
howfarbooks.com
114 115

ตลอดจนอนาคตเสียๆไว้อย่างสูญเปล่า ผู้มีปัญญา แน่วแน่พิจารณาธรรม มี


แม้เมื่อตาสว่างแล้ว จะเหลือเวลา ชี วิ ต อยู่ วั น เดี ย วประเสริ ฐ กว่ า คนไร้ ปั ญ ญา
อีกเพียงหนึ่งวันในชีวิตนี้ ก็จะเป็นเวลาหนึ่ง จิตใจไม่มั่นคง ที่มีชีวิตอยู่ตั้งร้อยปี
วันจริงๆ กลั่นเอาประโยชน์จากทุกนาทีให้ ผู้ตั้งใจประกอบความเพียร มีชีวิต
มากที่สุด ไม่หยุดชีวิตอยู่กับการห่วงไปข้าง อยู่วันเดียว ประเสริฐกว่าคนเกียจคร้าน ที่มี
หลังหรือแม้กระทั่งหวังไปข้างหน้า ชีวิตอยู่ตั้งร้อยปี
หนึ่งวันอันทรงคุณค่า อาจเทียบ ผู้ พิ จ ารณาเห็ น ความเกิ ด ขึ้ น และ
ได้กับหนึ่งปี หรือหนึ่งร้อยปีที่สูญเปล่า เสื่อมไป มีชีวิตอยู่วันเดียวประเสริฐกว่าคน
ของคนอื่น ไม่พิจารณาเห็นความเกิดขึ้น และความเสื่อม
พระพุทธเจ้าเคยตรัสเปรียบเทียบ ไป ที่มีชีวิตอยู่ตั้งร้อยปี
คุณค่าของอายุไว้อย่างน่าจดจำ� ดังนี้ ผู้พิจารณาเห็นทางดับทุกข์ได้ถาวร
ผู้มีความเด็ดเดี่ยวในการรักษาศีล มี ชี วิ ต อยู่ วั น เดี ย ว ประเสริ ฐ กว่ า คนไม่
มีชีวิตอยู่วันเดียว ประเสริฐกว่าคนทุศีล จิตใจ พิจารณาเห็นทางดับทุกข์ได้ถาวร ที่มีชีวิตอยู่
ไม่มั่นคง ที่มีชีวิตอยู่ตั้งร้อยปี ตั้งร้อยปี

howfarbooks.com
116 117

ผู้พิจารณาเห็นธรรมขั้นสูงสุด มี
ชีวิตอยู่วันเดียวประเสริฐกว่าคนไม่พิจารณา ทำ�บุญครั้งสุดท้าย
เห็นธรรมขั้นสูงสุด ที่มีชีวิตอยู่ตั้งร้อยปี

howfarbooks.com
118 119

ขณะตายที่กำ�ลังจะต้องทิ้งโลกทั้งใบไป แห่ ง การตระหนั ก ว่ า ชี วิ ต ที่ ผ่ า นมาคื อ ของ


เป็นช่วงเวลาค้นพบความจริง หลอก เพราะจะไม่เหลืออะไรให้จับต้องได้อีก
ว่าทุกสิ่งที่เคยมีคือของหลอก ของจริงที่เหลืออยู่ คือจิตที่ควบคุม
แต่กรรมทุกอย่างที่ทำ�มาคือของจริง! บัญชาตัวเองไม่ได้ ความทรงจำ�แต่หนหลัง
รวมพลกันประดังเข้ามาในหัวไม่หยุด
ของหลอก หรือของปลอม คือสิ่งที่ บาปที่เคยทำ� อยากลืม แต่ก็ลืมไม่
ไม่เป็นอย่างที่เห็นจริงๆ ต้องเลอะเลือน ลง ในเมื่อมันยังตามมาเป็นตัวป่วน รบกวน
ปรวนแปร หรือปฏิรูปไปเป็นอื่น จิตใจให้ซัดส่ายไม่เลิก
ส่วนของจริง คือสิ่งที่เที่ยงแท้ถาวร บุญที่เคยทำ� อยากจำ� แต่ก็นึกให้
ไม่เปลี่ยนแปลงไปเป็นอื่น เป็นอย่างไรก็เป็น ออกยากหน่อย ในเมื่อร่างกายกำ�ลังเรรวน
อย่างนั้นชั่วนิรันดร์ ชวนแต่จะคิดถึงความรุ่มร้อน ที่ทำ�ให้ใจคอ
ของจริงในธรรมชาติมีอยู่ เช่น กฎ ไม่ค่อยดี
แห่งกรรม และนิพพาน ไม่ มี ใ ครรู้ ว่ า จะได้ ทำ � บุ ญ ครั้ ง
ทุกชาติเมื่อถึงเวลาตาย คือขณะ สุดท้ายวันไหน มีแต่คนรู้ในวันสุดท้าย

howfarbooks.com
120 121

ว่าทำ�บุญมาพอจะสบายใจ มีสิทธิ์ไปดี หากเกิดปัญหาน่ากลุ้ม คุณกลุ้ม


หรือยัง แล้วแก้ได้ด้วยปัญญา แก้ได้ด้วยวิธีที่เป็น
อันที่จริงแล้ว สิ่งที่เป็นเครื่องหมาย กุศล ทำ�ได้เช่นนั้นเป็นเดือนเป็นปี ก็บอก
บอกว่ า เราทำ � มาดี พ อ ก็ วั ด ได้ จ ากชี วิ ต ที่ ตัวเองเลยครับว่า นั่นแหละ ทำ�บุญมาพอจะ
ประสบอยู่ ทุ ก เมื่ อ เชื่ อ วั น นี่ แ หละ ถ้ า เกิ ด สบายใจ และมีสิทธิ์ไปดีแน่นอนแล้ว
ปัญหา เกิดเรื่องยุ่งยาก เกิดเหตุให้น่าฟุ้งซ่าน ถ้ า แค่ ตั้ ง ใจทำ � บุ ญ ทำ � กุ ศ ลง่ า ยๆ
รำ�คาญใจ ชวนให้คิดอกุศล แล้วคุณคิดร้าย อยากใส่บาตร อยากช่วยเด็กและคนแก่ แต่
หรือคิดดี อยากเอากุศลหรืออกุศล อยาก พอถึงเวลาจริงกลับชักช้า โยกโย้พิร่ำ�พิไร
กลับไปสู่สภาพจิตใจที่ปลอดโปร่งสบายหาย เต็มไปด้วยข้ออ้างที่จะชะลอการบุญไว้ก่อน
ห่วง หรืออยากหมกมุ่นอยู่กับสภาพจิตแย่ๆ แบบนี้ก็ต้องบอกตัวเองว่า ‘ยังไม่แน่ว่าบุญ
ที่เพิ่งปรากฏ พอ’ ครับ
ความรู้สึกนึกคิดที่เกิดขึ้นเป็นปกติ หรื อ หากใครรู้ สึ ก ครึ่ ง ๆกลางๆ
ในปัญหาชีวิตประจำ�วัน เป็นสิ่งที่แกล้งทำ�ให้ เหมือนพยายามทำ�บุญทำ�กุศลมานาน แต่ไม่
เกิดไม่ได้ มันวัดความเป็นตัวจริงบนเส้นทาง เคยตอบตัวเองได้อย่างมั่นใจว่าจะไปดี ก็ต้อง
เตรียมตัวตายของคุณได้อย่างดี เร่งสำ�รวจตัวเองครับว่าทำ�ไมเป็นอย่างนั้น
howfarbooks.com
122 123

นโยบายที่ดีที่สุด คือ สำ�รวจตัวเอง วิ ธี เจริ ญ สติ ไ ด้ จ นถึ ง นาที สุ ด ท้ า ย


ผ่านการเจริญสติทุกวัน เพราะการเจริญสติ ได้แก่ การฝึกรู้สึกถึงลมหายใจเข้าออกโดย
เป็นบุญขั้นสูงสุด เมื่อไหร่ที่มีสติเป็นปกติ ความเป็นธาตุลม ไม่ใช่หญิงชาย ไม่ใช่บุคคล
เมื่อนั้นคุณได้ชื่อว่าทำ�บุญอยู่ตลอดเวลา ไม่ใช่ตัวตนเราเขา
แม้แต่อกุศลจิตเกิดขึ้น สติก็รู้เท่า หายใจเข้ารู้ หายใจออกรู้
ทัน หรืออีกนัยหนึ่งคือเกิดกุศลจิตแทนที่ ทำ�แค่นี้ก่อน ถ้ารู้อย่างถูกต้องจะ
อกุศลจิต เห็นภาวะมืดมนหายไป กลายเป็น สบาย ถ้าบังคับตัวเองจะอึดอัด
ผ่องใสสว่างขึ้นมาแทน
จากนั้น สังเกตว่าที่หายใจเข้าและ
สรุปคือ การจะทำ�บุญจนบุญติดจิต หายใจออกอยู่นั้น จัดว่ายาวหรือสั้น
ติดใจ ก็คือการเจริญสติจนสติเจริญขึ้นจริง
กลมกลืนเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับใจที่สบาย รู้ได้แค่ไหน เอาแค่นั้น หากเห็น
จนวาระสุดท้าย นั่นแหละ จะได้รู้ในวัน ความจริงเกี่ยวกับลมหายใจที่ปรากฏได้ตรง
สุดท้ายว่า ‘ไม่เสียชาติเกิดใต้ร่มพุทธ’ เป็น ตามจริง ให้ถือว่าทำ�ถูก
อย่างไร เมื่อทำ�ถูกสักแค่เพียงสองสามนาที

howfarbooks.com
124 125

ใจจะเหมือนถอนความรู้สึกว่า ‘เรากำ�ลัง สิ่งที่จะหายไป คือลมหายใจที่ออก


หายใจ’ เสียได้ กลายเป็น ‘เรากำ�ลังดู ไปแล้้วไม่กลับเข้ามาอีก
ธรรมชาติอันมีภาวะพัดไหวอยู่’ เดี๋ยวเข้ามา สิ่งที่จะแตกดับ คือรูปกาย ไม่ใช่เรา
เดี๋ยวออกไป เดี๋ยวก็ยาว เดี๋ยวก็สั้น ที่เป็นความรู้สึกนึกคิดอันปรวนแปรตลอด
ตัวของจิตผู้รู้นั้นแหละ ที่เราต้องการ เวลาอยู่แล้ว
ก่อนตาย หากเห็นลมหายใจไม่เที่ยงได้ ก็ การไม่ยึดอะไรๆที่จะหายไป หรือที่
สามารถเห็นความอึดอัดและสบายได้ ไม่ว่า จะแตกดับ โดยความเป็นตัวเรา นั่นแหละ
จิตหรือกายกระสับกระส่ายเพียงใด ก็รู้สึกว่า ยอดสุดแห่งการไปดี ไปถูก ไปชอบ เพราะ
สั ก แต่ เ ป็ น สภาพความไม่ เ ที่ ย งอย่ า งหนึ่ ง ก่อนตายมีสติดี เห็นถูกต้องตามจริง ตาม
ปรากฏให้รู้ ปรากฏให้ดูอยู่ โดยไม่มีความ ความชอบธรรม
น่าครอบครอง
ขอให้ จำ � ไว้ แ ม่ น ๆเลยครั บ ว่ า
ที่รู้สึกว่าไม่น่าครอบครอง เพราะ บุ ญ ใหญ่ ที่ จ ะทำ � ได้ เ ป็ น ครั้ ง สุ ด ท้ า ย
จิตเริ่มฉลาดในการเห็นความจริง จึงยอมรับ ไม่ใช่ให้ทาน ไม่ใช่รักษาศีล แต่เป็นการ
ความจริ ง ได้ ง่ า ย ไม่ มี สิ่ ง ใดเป็ น ของเรา เจริญสติ
สักหน่อย
howfarbooks.com
126 127

ผู้ที่ฝึกเจริญสติมาดี ย่อมหายห่วง
รู้แน่แก่ตัวด้วยความอุ่นใจ ว่าตนมีเครื่องมือ
ทำ � บุ ญ ก่ อ นตายอั น หาได้ ย ากในคนตาย
ทั่วไปแล้ว ชนิดที่ไม่ต้องสงสัย ไม่ต้องหาใคร
มาช่วยประกันนาทีสุดท้ายให้อีกเลย

howfarbooks.com
๗ วิธีตายอย่างสบายใจ เสียดาย... คนตายไม่ได้อ่าน
หนั ง สื อ ที่ อ อกแบบมาให้ ผู้ ป่ ว ยระยะ แก่นความจริง อันเป็นคำ�ตอบที่มีให้กับ
สุดท้ายได้อ่านเอง หรือรับฟังจากญาติ ๓ คำ�ถามสำ�คัญของมนุษย์ที่ว่า เกิดมา
เพื่อความสบายใจครั้งสำ�คัญที่สุดในชีวิต เป็นอย่างนี้ได้อย่างไร? ตายแล้วไปไหน
ได้บ้าง? และยังอยู่จะให้ทำ�เช่นใดจึงคุ้ม?
ผิดที่ไม่รู้
มีชีวิตที่คิดไม่ถึง
แค่ไม่รู้ว่าผิด ก็นับว่าผิดแล้วที่ไม่รู้ โดย
เฉพาะกฎแห่งการเวียนว่ายตายเกิด อัน ตี แ ผ่ ก ฎแห่ ง ธรรมชาติ ด้ ว ยมุ ม มองว่ า
หมายถึงกติกาการตัดสินชะตาในแต่ละ ทั้งหมดเป็นเกมกรรม ทุกรายละเอียด
ชาติด้วยอดีตกรรมที่เคยทำ�ไว้กับคนอื่น ต้นทุนชีวิตเป็นคะแนนเก่า และกรรมที่
ต่อเมื่อรู้แล้ว จึงค่อยนับเป็นผู้มีโอกาส กำ�ลังทำ�อยู่เป็นคะแนนใหม่ เพื่อตัดสิน
สร้างวาสนาดีๆให้ตนเองขึ้นมาได้ ว่าขณะนี้ คะแนนของคุณกำ�ลังเป็นบวก
หรือติดลบ ควรทำ�คะแนนต่อท่าไหน
๑๐๐ เล่ม ๒,๙๐๐ บาท
๓๐๐ เล่ม ๘,๔๐๐ บาท เตรียมเสบียงไว้เลี้ยงตัว ฉบับ
อยู่สบาย ไปสบาย
๕๐๐ เล่ม ๑๓,๕๐๐ บาท
๑,๐๐๐ เล่ม ๒๖,๐๐๐ บาท รวมคำ � ถามและคำ � ตอบ ตลอดจน
บทความสำ�คัญที่คนอ่านช่วยกันโหวตว่า
ดีที่สุดของดังตฤณ เพื่อช่วยให้ตกลงกับ
เตรียมเสบียงไว้เลี้ยงตัว ฉบับ คัดสรร ตัวเองง่ายขึ้น ว่าเส้นทางชีวิตแบบใด
รวมคำ�ถามและคำ�ตอบเกี่ยวกับกรรมวิบากที่คัด สบายใจทั้งยามอยู่ และยามจากโลกนี้ไป
แล้วว่าคนในยุคไอทีอยากรู้เป็นที่สุด
๑๐๐ เล่ม ๓,๙๐๐ บาท ๑๐๐ เล่ม ๕,๙๐๐ บาท
๓๐๐ เล่ม ๑๑,๔๐๐ บาท ๓๐๐ เล่ม ๑๗,๔๐๐ บาท
๕๐๐ เล่ม ๑๘,๕๐๐ บาท ๕๐๐ เล่ม ๒๘,๕๐๐ บาท
๑,๐๐๐ เล่ม ๓๖,๐๐๐ บาท ๑,๐๐๐ เล่ม ๕๖,๐๐๐ บาท
สั่งเร่งด่วนเพื่อแจกให้ทันวันเผาได้ที่
http://howfarbooks.com
เปลี่ยนปกใหม่ตามที่ส่งมา บวกเพิ่มเล่มละ ๑๕ บาท
เพิ่มรูปหรือเนื้อหาด้านใน ๑๐ หน้า บวกเพิ่มเล่มละ ๑๐ บาท
สั่งออกแบบปกตามแนวคิดที่ต้องการ บวกเพิ่ม ๒๐,๐๐๐ บาท
ราคาที่แจ้งอาจเปลี่ยนแปลงตามค่ากระดาษ ณ เวลาสั่งซื้อ
และยังไม่รวมค่าขนส่ง
โดยจะคำ�นวณตามน้ำ�หนักและปลายทาง

ส่งไฟล์ปกและเนื้อหาที่ต้องการ
หรือสอบถามยืนยันราคาได้ที่
howfarbooks@gmail.com
(081) 545-1949

You might also like