Professional Documents
Culture Documents
Screenshot 2565-12-20 at 22.57.05
Screenshot 2565-12-20 at 22.57.05
Sequence / Series
i xEt
asuor Iz) warn or for er =
arrow -acwownoglueuros
usinva
F bi
21 =3+ 4
ex-2:4 + 3; z= a +
-Mr
(z) b 32 12
(บ ี (iv1
–๑ นํามา i
=
+
=
-
(1 4i) (2 8i)
32
6 +
+ +
2,+ zy +
= = -
Er-PEYEYEEorstor
+
exx
0
1 12i
=
x+ 5
ex :s#
-
+
+ 1 0
=
TEOEa ๑๐
x 1
=
IF
i z, +
zn.catoic 3- (4i)E
x
=
บ ี
I
6 + 16i + 32 : -
1
1
=
y =
9 - 16;2o
Imaginary
-atthe
ํานวนเชิง อน
a(FM)
2: 3+ 4%
I
4....... -
⑳
O
·
2
-j
· Real (Re)
ร บบ าํ นวน
ี ก าแล ชงานกัน ดย ัว ป คอ
ร บบ า ว ริง (Real Number; R ) งเราอา
พบว่าสมการบางสมการ ม่มีคําตอบ ีเปน ํานวน ริง
(เพรา าย นราก ีสองมีค่าติดลบ) เช่น x24 0
หรอ x2x 2 0 ล ง ดมีการสมมติ ํานวนแบบ
หม่ข้นมา ชเพิมเติม เพอ ห ุกสมการมีคาํ ตอบเสมอ แล ํานวนแบบ หม่
นีเ้ รียกว่า า ว ิ ต า (Imaginary Number; I m )
าํ นวน ินต าพ กับ ํานวน ริง ปร กอบกันเปนร บบ ํานวน ี ห ่ ีสุด
เรียกว่าร บบ า ว เชิง อ (Complex Number; C ) ง ํานวนปร เ
นี้มีปร ยชนอย่างมาก นการคํานว างวิ วกรรม เช่น วง ร ากร แส
สลับ ดัง ี ดแสดงตัวอย่าง ว นหนาสุด ายของบ นี้
:in Gimidova
=d
at
1 7 1 7
xi4 สมการ x2 x 2 0 ใช้สูตรหาคําตอบจะได้ x i
i
To
N01
2 2 2
19 -
14.j = -
a bi (โดย a, b R ) เรียกว่า า ว เชิง อ (Complex Number; C ) มี a
is i4.i
= 1
=
+ ตัวแปรที่เป็นจํานวนเชิงซ้อนด้วย z
50r(1 + i)
↑
2i
1
=
+
ขอสังเกต
กําลังของ i มีค่าเพียง 4 แบบหมุนเปลี่ยนกัน
เริ่มจาก i 2 1 i3 i i4 1
i5 i i 6 1 i7 i i8 1
9 10 11
i i i 1 i i i 12 1
หมายเหตุ
1. ในระบบจํานวนเชิงซ้อนจะไม่มีการเปรียบเทียบมากกว่า, น้อยกว่า
2. สมการ a b ab จะไม่เป็นจริง หากว่า a, b ติดลบทั้งสองจํานวน
ตอบ z1 z2 (3 2 i) (1 i) i i) +
z=4-
-
z (3 2 i) (1 i) 2 –1-3i i 2
1 2
1 + 3i 2i
·
21
2i
-
= -
3
-
- -
z1z2 (3 2 i) (1 i) 3 3 i 2 i 2 i 2 3 3
3 i +2i i +22 5+i
.I
=
z1
2
si
-
2
3 2i 3 2i 1 i 3 3 i 2 i 2 i5+ i1 5i
-
=
0.5 – 2.5i
z2 1 i 1 i 1 i 1i ii 2
2
HisisCEO
ตัวอย่าง 10.2 ให้หาค่า (1 i)12 a
(1 i)10
72i)5
ิด1 เนื่องจาก + (1iP i)2 1 2 i i 2
No 2i
วิธีค(1
*
=
2i และ (1 i)2 1 2 i i 2 2 i
(1 i)12 (2 i)6 64 i 6
i
a6.Sel(i T
ดังนัน้ 2i ei–2i 2
wozm(1(1 i)
-
10
i) (2 i)5 32 i 5
=
- + -
I =
=
-
i
IT i=-1 2p
Six
=
1 i 1 i 1 i 2i
วิธีคิด2 เนื่องจาก
1 i
iit j
1 i 1 i 2
=
&
-
2i
-
12 10 =-
(1 i) 1 i 2 10 11 3
ดังนัน้ (1 i) (i) (2 i) 2 i 2i –2i
(1 i)10 1 i
บทที่ ๑๐ 356 Math E-Book
Release 2.5
แบบฝึกหัด ๑๐.๑
(1) z1 (2, 3) , z2 (4, 1) , z3 (2, 1) ให้หาค่าของ
(1.1) z1 z2 (1.4) z1z2
(1.2) z1 z3 (1.5) z1z3
(1.3) 2 z1 3 z2 (1.6) z1 (z2 z3)
(3) ให้หาค่าของ
(3.1) (6, 4) (3, 5) (3.4) (3, 2) (5, 4)
(3.2) (3, 2) (4, 2) (3.5) (7, 2) (0, 3)
(3.3) (4, 3) (5, 6) (3.6) (6, 3) (3, 0)
(7) ให้หาค่าของ
X
atai
(7.1) ↑.2 3 i
4 2i
=
s +4itican
-
(7.2)
-
2 i 1 2i
3
3 4 i 3 4 i
(8) ให้หาค่าของ 3 4 i 3 4 i
(9)
I
ให้หาค่าต่อไปนี้ "Is itt
(9.1) i 29
F
= i j
=
(9.3) i 451
(9.2) i 42 -i =
Y* (9.4) i 4, 040
X
(10) ให้หาค่าของ i 135 i 136 i 137 i 138 และ i 135 i 136 i 137 i 138
คณิต มงคลพิทกั ษสุข 357 จํานวนเชิงซอน
kanuay@hotmail.com
(1 i)4
(12) ให้หาอินเวอร์สของ
1i
(13) ให้หาค่าของ
(1 i)16
(13.1) (1 i)12 (13.3)
(1 i)10
(1 i)2 (1 i) 1
(13.2)
1 i
5m m
(14) ให้หาค่า m I ที่น้อยที่สุด ที่ทาํ ให้ 1 i
1 i
1 i 1 i
สมบัติของสังยุคแล ค่าสัมบูร
1. z z ก็ต่อเมื่อ z เป็นจํานวนจริงเท่านั้น และ z z เสมอ
2. (z1) (z)1 และ z1 z 1
3. (zn) (z)n และ zn z n n I
4. z1 z2 z1 z2
5. z1z2 z1z2 และ z1 z2 z1 z2
6. z1z2 z1 z2 และ z1 z2 z1 z2
7. z มีค่ามากกว่าหรือเท่ากับ 0 เสมอ และ z z z 2
8. z z z
บทที่ ๑๐ 358 Math E-Book
Release 2.5
i
วิธีคิด จาก z1z2 z2 i z2(z1 1) i z2
z1 1
i
จากนั้นใส่สงั ยุคทัง้ สองข้างของสมการ เพือ่ ให้ทางซ้ายไม่ตดิ สังยุค จะได้ z2
z1 1
z1 1 2i
และหาอินเวอร์สได้เป็น z21 –2
i i
(2 2 3 i)(3 4 i)3
ตัวอย่าง 10.4 ให้หาค่าของ z เมื่อ z
(2 i)2(1 i)
1/ 2 3
(22 3 i)1/ 2(3 4 i)3 22 3 i 3 4 i (4)1/ 2(5)3
ตอบ 25 2
(2 i)2(1 i) 2i
2
1 i ( 5)2( 2)
12) =
via, a free
แบบฝึกหัด ๑๐.๒
z ava(a + b)=e(a b) -
EEr =
(15.1) z1 z2 (15.4)
.
+i*
z
2
(15.2) z1 z2 (15.5) (z21)
(15.3) z1z2 EEn:Slo-
&
WeE-atbamaginary
bi
1
o
a + + 3 + I -
2(a -
bi) =
+ 2)
as+btssa+zbircere part
(18.1) 3 4 i (18.4) 4 0 i
=
2
3b + 1
=
:50.
(18.2) 5 12 i soit
*
in (18.5) (0, 5)
(18.3) 7 i
12i)
(18.1)(1 4i)
+ (02) 1 =
-
5 +
ENTEE
60
-
542 =
1
r5
B44
cm
:
5
=
:
-
13#
คณิต มงคลพิทกั ษสุข 359 จํานวนเชิงซอน
kanuay@hotmail.com
3
(2i)(32 i)(4 3 i)(5 4 i)
(20) ให้หาค่าของ (12 i)(23 i)(45 i)
1 z
(25) เมื่อ z 1 ให้หาค่า Re
1 z
(27) ข้อใดไม่ใช่กราฟวงกลม
2
ก. z z 1 ค. z z z
ข. z z z ง. 3z i z 3 i
(28) ให้เขียนกราฟของสมการต่อไปนี้
(28.1) z(23 i) 1
(28.2) z 2 3 z2 4 i
(28.3) z 2 i z 2 i 10
หมายเหตุ
โจทย์ข้อนี้อาจเปลี่ยนเป็น “ให้หาค่า z ที่สอดคล้องกับสมการต่อไปนี้” ก็ได้
และคําตอบจะมีได้มากมาย (ทุกๆ จุดในกราฟ) เพราะตัวแปร z นั้น สมการเดียวไม่เพียงพอ
=
E = E1
-
-
-1 (1 + Bi)(( i)(1+ i) - -2 z= z,xz
2 -
- I
=
(r3 -
i + 3i -
ri)(1 + i)
=
(r + 2i +
rs)(1 i) +
Iz) =
(z1x1721
-
- (2r + 2i)(1 + i)
~
-
= (2r -
z+
(2x +
2)i)
(z) 115i1.15.1
-Z
a b : =
GODD -2
(2) =
b2 -
-Mr. MR. TR
- M4. M.r2
(z) = 452
:
Itl-i #
-E = 9-bi I) 5
=
let bi
E:
zee s
a +
I
=1 x(6 bi 12) 5/6 bi- oi)
+ -
=
+
r
1z 4) =
(z s) 9.(96 62) 25(36 166 b3) 64
M50
- -
=
+ + -
+
la + bi -
x) (a
=
+ bi - s -24 + 9b2 =
2500 - 400b + 2xb3
((a -
1) + bi) ((a
=
x)
-
+ bi) O 166"
= - 400 -
2176
eooi0
:Mib2 +
=
+ b3 = b2 -cib - is
is50)
2 :(a - + 5 + (a
=
- x 5 +
O -(b k)(b - -
s)
-say =axn ⑬, 1Y
บทที่ ๑๐ 360 Math E-Book
Release 2.5
๑๐.๓ รูปเชิงขั้ว
z a
=
bi
+
S
a = rCosp การอ้างถึงพิกัด (a, b) ของจํานวนเชิงซ้อน อาจจะกล่าวได้อกี แบบเป็น
โดยที (r, )
่ r แทน “ระยะห่างจากจุดกําเนิด” (modulus) และ แทน “ทิศทาง”
b. ~ SinP
(argument) (มุมวัดทวนเข็มนาฬิกาจากแกน x ) เรียกรูปแบบนี้ว่า รูปเชิงขั้ว
rSinQi
z rcop =
(Polar Form)
+
im
v(Co10 iSino) b z (a,b)
z = +
r
(z) v7un =
= 1
O
a re
Be
re
z, z
+
vv(cx(0,
=
+ 0 + isi(a +
()
isin(01 1
1
ซึ่งความสัมพันธ์ระหว่างสองระบบนี้เป็นดังนี้
=v(e(a
-
0 +
a r cos r a2 b2 z
vY((x(n) isx(nx))
b r sin tan (b/a)
+
z =
หมายเหตุ
1. จาก z r (cos i sin ) บางทีเขียนว่า r Abs (z) และ Arg(z)
2. บางตําราใช้สัญลักษณ์ z r หรือ z r cis เพื่อความสะดวกในการ
เขียนและคํานวณ
z=a bi +
+ (z) =
b2
in
55
=
+
ก. z z Ers)"
=
และ z /z 1 2
(21: = 1 2 (z)
150))
v
4.2((x(60
v
=
110) iSin(60
=
:r 2-
= + +
+
1 2
-
=
St
2 2
z1 2 (2 3) 4
และมีมมุ เท่ากับ 60° (หามุมวิธีเดียวกับเวกเตอร์และตรีโกณฯ)
4 -
Edo
EC
v
&a
=
room a woo
4(1 i)
z
8((((y) isi(2(x)
+
z22000: ( 3)2M 12 2
และมี มมุ เท่ากับ 150°
.
=
③ us O SicD-
:z,.z, = +
1,
ดังนัน้ z1 4(cos 60 i sin 60) หรือเขียนย่อๆ ว่า z1 4 60
:: 0 68=
และ z24(10360
.:
z
2(cos
iSin60)150 i sin 150) หรือเขียนย่อๆ ว่า z2 2 150
=
+ - #
i 0:150%
ข. z24
วิธีคิด จาก z2 2 150 ใช้ทฤษฎีบทของเดอมัวฟ์ ได้เป็น
z24 2 4 (150 4) 16 600 16 240
หรือตอบว่า 16(cos 240 i sin 240) 8 8 3 i
แบบฝึกหัด ๑๐.๓
(29) ให้เขียนจํานวนเชิงซ้อนต่อไปนี้ในรูปเชิงขั้ว
(29.1) 1 3 i NS-2 (29.4) 5
(29.2) (4, 4) 2( E) (29.5)
:. z =
-
-
4i
(29.3) (10, 0) e(cos240+iCois (29.6) 3 i
docp:-1:sivdi-z
=
(30) ถ้า z1 4 (cos 30 i sin 30) และ z2 3 (cos 180 i sin 180)
ให้หาค่าของ z1z2 ในรูป a bi
บทที่ ๑๐ 362 Math E-Book
Release 2.5
(31) ถ้า z1 2 (cos 18 i sin 18) , z2 3 (cos 72 i sin 72)
และ z3 4 (cos 30 i sin 30) ให้หาค่าของ z1z2z3 และ z1z2 ในรูป a bi
z3
(36) ให้หาค่าของ
50
3 i
(36.1)
2 2
8 8
1 3 1 3
(36.2)
2 2
(1 i)30
(36.3)
( 2 2 i)10
z18
(37) ถ้า 2 z3 1 3 i และ a bi เมื่อ a และ b เป็นจํานวนจริง
i z27
ให้หาค่าของ a b
(39) ให้หา
(39.1) รากที่สี่ของ 8 8 3 i
(39.2) รากที่สามของ 8 i ในรูป a bi
(39.3) รากที่สามของ 8 i
(39.4) รากที่สองของ 4 4 3 i
(39.5) รากที่สองของ 2 3 2 i
(39.6) รากที่สองของ 15 8 i
2 2
(41) ถ้าสมการ x2 2 2 3 i มีคําตอบเป็น z1 และ z2 แล้ว ให้หา z1 z2
คณิต มงคลพิทกั ษสุข 363 จํานวนเชิงซอน
kanuay@hotmail.com
๑๐.๔ สมการพหุนาม
เมื่อศึกษาเรื่องจํานวนเชิงซ้อนแล้ว จะทราบว่าสมการพหุนามดีกรี n ใน
รูปแบบ anxn an 1xn 1 an 2xn 2 ... a0 0 มีรากหรือคําตอบ n จํานวนเสมอ
ซึง่ ใน n คําตอบนี้ อาจเป็นจํานวนจริงและจํานวนเชิงซ้อนปนกันอยู่ ในการคํานวณ
เราจะแยกตัวประกอบที่เป็นจํานวนจริงออก จนเหลือเพียงดีกรีสอง แล้วอาศัยสูตร
b b24ac
สําเร็จ x ช่วยในการหาคําตอบทีเ่ ป็นจํานวนเชิงซ้อน
2a
b b24ac
จากการสังเกตสูตร x จะพบว่า ในสมการที่สัมประสิทธิ์
2a
ทั้งหมดเป็นจํานวนจริง ถ้า A B i เป็นคําตอบหนึ่งของสมการแล้ว จะมีสังยุค
A B i เป็นอีกคําตอบด้วยเสมอ
ทฤษฎีบทเศษเหลือ และทฤษฎีบทตัวประกอบ (หารลงตัว) ของพหุนาม ที่
เคยได้ศึกษาในหัวข้อจํานวนจริง ยังคงใช้ได้กับจํานวนเชิงซ้อน และนอกจากนี้การ
หารสังเคราะห์ก็ยังใช้ได้เช่นกัน
หมายเหตุ
หากไม่ตอ้ งการใช้สูตร อาจใช้วิธีจัดกําลังสองสมบูรณ์กไ็ ด้
เช่น x2 4x 7 0 (x2 4x 4) 3 0 (x 2)2 3 0
ดังนั้น x 2 3 i
1 (1)2 4(1)(2) 1 7
ดังนัน้ หาสองคําตอบที่เหลือได้จากสูตร x
2(1) 2
แบบฝึกหัด ๑๐.๔
(42) ให้หาคําตอบของสมการต่อไปนี้
(42.1) x2 16 0
(42.2) 2x2 3x 4 0
(42.3) 2x3 x 1 0
* (44) ให้หาคําตอบของสมการ
(44.1) 2x2 (1 2 i) x 1 8 i
(44.2) 2 i x2 3x 3 i 0
(44.3) x2 2(i 1) x 1 2 i 0
(44.4) x2 (2 3 i) x 1 3 i 0
(แนะนํา สูตรของสมการกําลังสองสามารถจัดรูปใหม่ได้ว่า (2ax b)2 b24ac )
(54) ให้หารากของสมการ
(54.1) x5 x4 x3 x2 x 1 0
(แนะนํา (xn1) (x 1)(xn 1 xn 2 ... x 1) )
(54.2) x5 3x4 2x3 8x2 24x 16 0
(55) ให้หาผลบวกของรากสมการ x6 x5 x4 x2 x 1 0
(56) ให้หาผลบวกของค่าสัมบูรณ์ของรากสมการ
(56.1) z4 z2 2 0
(56.2) x4 2x3 12x2 8x 32 0
* (56.3) x5 3 i x4 4x 12 i 0
เฉลยแบบฝึกหัด (คําตอบ)
(1.1) (2, 4) (13.1) –64 (28.2) กราฟวงกลมรัศมี (39.4) 2 2 60 ,
(1.2) (4, 4) (13.2) 52 21 i 4.5 หน่วย จุด
2 2 240
(1.3) (8, 9) (13.3) 8 i ศูนย์กลาง (2.5, 4.5)
(39.5) 2 105 ,
(1.4) (11, 10) (14) 2 (28.3) กราฟวงรีตาม 2 285
(1.5) (1, 8) (15.1) 5 i แกน y มีศูนย์กลางที่
จุดกําเนิด แกนเอก (39.6) (1 4 i)
(1.6) (12, 18) (15.2) 1 7 i
ยาว 10 หน่วย แกน (40) (2 i)
(2.1) (2, 3),(132 , 133 ) (15.3) 18 i
โทยาว 2 21 หน่วย (41) 8
(2.2) (4, 1),( 174 , 171 ) (15.4) 256 2517 i
(42.1) 4 i
(29.1) 2(cos 240
(2.3) (2, 1),( 52 , 51) (15.5) 5 12 i i sin 240) (42.2) 43 23 i
4
(2.4) (1, 0),(1, 0) (16) 1 i หรือย่อว่า 2 240 (42.3) 1, 21 21 i
(3.1) (3, 1) (17) 2 31 i (29.2) 4 2 315 (43) 2
(3.2) (1, 4) (18.1) 5 (29.3) 10 0 (44.1) 1 2 i , 23 i
(3.3) (9, 9) (18.2) 13
(29.4) 5 180 (44.2) 415 43 i
(3.4) (7/ 41, 22/41) (18.3) 7
(18.4) 4 (29.5) 4 90
(3.5) (2/ 3, 7/ 3) (44.3) 2–i, –i
(18.5) 5 (29.6) 3 270 (44.4) 1 2 i, 1 i
(3.6) (2, 1) (19.1) 16
(4.1) (2, 5) (30) 6 3 6 i (45) ดูในเฉลยวิธีคิด
(19.2) 64/27 (46) 17
(4.2) ( 131 , 13 21)
(19.3) 625/256 (31) 12 12 3 i และ
3 3 3 (47) –2, –18
(4.3) (51 , 57) (19.4) 1/4 i
4 4 (48) 18
(4.4) 2, 3/2 (20) 125 (32) 64 i และ (49) x3 4x2 6x
(5) 12 , 12 (21) 1/ 4 2 8 8 3 i 4 0
(22) 0
หรือ 12 , 12 (23.1) 7 10 i (33) 128128 3 i (50) x4 4x3 32x2
10 (34) 240 Q3 64x 256 0
(6) ( 169 , 24 ) หรือ 10 7 i
169
1
(7.1) 10 5 i 4 (23.2) 2 5 i (35) 1 0 (51) 22 i, 7
(7.2) 145 52 i หรือ 5 2 i และ 210 240 (52) 1 i , 2
(23.3) 6 17 i (36.1) 21 23 i (53) 1 3 i, 2, 3 i
(7.3) 5 i
หรือ 6 8 i (36.2) –1 (54.1) 1, 21 23 i
(8) 25
3
48 i
(24) 6 (36.3) 32 (54.2) 1, 2, 1 3i
(9.1) i 2
(37) 1/2 (1/2) 0
1 z (55) 1
(9.2) –1 (25)
(9.3) –i 1 z
2
(38) 3 i (56.1) 4 4 2
(9.4) 1 (26) 1/2 (39.1) 2 30 ,
(56.2) 4 4 2
(10) 0, –1 (27) ข. 2 120 , 2 210 ,
(11) –1–i (28.1) กราฟวงกลมรัศมี 2 300
(56.3) 3 4 2
(12) 41 41 i 1 หน่วย มีจดุ ศูนย์ (57) 14 i
(39.2) 2 i , i 3
กลางที่ (2, 3) (58) –31
(39.3) 2 90 , (59) 3/4
2 210 , 2 330
(บ ี –๑ นํามา าก R2.2.04 แล ยอยปรับปรุงเน้อหา ีล บ นเปน R2.9 ฉบับสมบูร ครับ)
๑๑
ลําดับแล อนุกรม
บ ี
ขอสังเกต
ลําดับเลขคณิต จะมีพจน์ทั่วไปเป็นแบบ สมการเส้นตรง ที่มีความชัน = d
ส่วนลําดับเรขาคณิต จะมีพจน์ทั่วไปเป็นแบบ สมการเอก พเนนเ ย ที่มี าน = r
นอกจากลําดับเลขคณิตและลําดับเรขาคณิตที่เราจะได้ศึกษาแล้ว ยังมีลําดับ
ที่มีชอื่ เรียกเฉพาะอีกหลายอย่าง เช่น
า ั ส ั (Alternating Sequence) มีเครื่องหมายบวกลบสลับกันไปในแต่ละพจน์
า ั าร มนิก (Harmonic Sequence) ส่วนกลับของแต่ละพจน์เป็นลําดับเลขคณิต
า ั นัก (Fibonacci Sequence) พจน์ที่สามขึ้นไปหาได้จากผลบวกของ 2
พจน์ทอี่ ยู่กอ่ นหน้า
า ั (Cauchy Sequence) ผลต่างของพจน์ตดิ กันมีค่าเข้าใกล้หรือเป็น 0 เมื่อ
ค่า n ยิง่ เพิ่มขึ้น
คณิต มงคลพิทกั ษสุข 377 ลํา ับ ล อนุก ม
kanuay@hotmail.com
แบบฝึกหัด ๑๑.๑
(1) ให้หา 4 พจน์แรก ของลําดับต่อไปนี้
n
1
(1.1) an 2n (1.3) an
2
n
(1.2) an 4 n2 (1.4) an (1)n
(n 1)2
1 1
(5) ให้หาพจน์ที่ 4, 5, 6 และ 20 ของลําดับเรขาคณิตต่อไปนี้ , , 1, ...
4 2
(11) ลําดับเลขคณิต 20, 16, 12, ... มีเลข –96 อยู่หรือไม่ ถ้ามีให้บอกว่าเป็นพจน์ที่เท่าใด
๑๑.๒ ลิมิตของลําดับอนันต
หากต้องการทราบว่า ในลําดับอนันต์ลําดับหนึ่งนั้น ถ้า n ยิ่งมากขึ้นจนเข้า
ใกล้ ( n ) แล้ว ค่าของ an จะเข้าใกล้ค่าใด ( an ? ) เราเรียกว่า การ
หา ิมติ ของ า ั นั่นเอง และค่าที่ได้นี้เรียกว่า ิมิต (limit)
n
ลําดับ an 1 หรือ 1 , 1 , 1 , ... พบว่า เมื่อ n มากขึ้นจนเข้าใกล้
2 2 4 8
แล้ว ค่าของ an จะเข้าใกล้ 0 จึงกล่าวว่า “ลิมติ ของลําดับนี้เท่ากับ 0” และเขียน
แทนด้วยสัญลักษณ์ nlim an 0
คณิต มงคลพิทกั ษสุข 379 ลํา ับ ล อนุก ม
kanuay@hotmail.com
ขอสังเกต
1. า ั เ น หารของพหุนาม
P (n)
lim เ น 0 เมื่อดีกรี P น้อยกว่า Q,
n Q (n)
เป็นสัม สิท ตัิ ว ก า กัน เมื่อดีกรีของ P และ Q เท่ากัน,
าคา ม เมื่อดีกรี P มากกว่า Q
2. า ั เรขา ติ
lim (rn) เมื่อ r เป็นค่าคงที่ จะเป็นไปได้สก
ี่ รณี คือ
n
มมีลิมติ เมื่อ r 1 ,
<
เ น 0 เมื่อ | r | 1 ,
เ น 1 เมื่อ r 1 ,
าคา ม เมื่อ r 1
3. า ั เ ข ิต
ลิมิต าคา ม เ สมอ (ยกเว้นกรณีที่ d 0 )
แบบฝึกหัด ๑๑.๒
(23) ลําดับต่อไปนี้มีค่า nlim an เป็นเท่าใด
(23.1) an 2 n1 (23.3) an sin n
(24) ให้หาลิมิตของลําดับต่อไปนี้
5n2 4
(24.1) an 4n 3 (24.4) an
3n 1 n58
2n2n3 6n2 7
(24.2) an (24.5) an
5n2 1 3n 1
6n 7 n7 4
(24.3) an (24.6) an
5n2 4 n 1
n2n 1 2n5n
(27) ถ้า an และ bn
3n2 1 5n9
แล้ว ลิมิตของลําดับที่มีพจน์ที่ n เป็น anbn anbn มีค่าเท่าใด
1/n n
(28) สําหรับจํานวนเต็มบวก n ใดๆ ให้ Mn และ an det (Mn)
1/n n 1
แล้ว lim an มีค่าเท่าใด
n
1 1 1 1
เช่น ลําดับ an หรือ 1, , , , ... จะเขียนเป็นอนุกรมได้ว่า
n 2 3 4
1 1 1 1
1 ... และมีคา่ เท่ากับ
2 3 4 i1 i
เพิมเติม
เรื่องซิกม่าและสมบัตขิ องซิกม่านีจ้ ะได้ใช้งานอีกครั้งในบทเรียนสถิติ (บทที่ )
แบบฝึกหัด ๑๑.๓
(29) ถ้า f (x) 3x 1 และ u1 3 , u2 2 , u3 1 , u4 5
4
แล้ว ให้หาค่า ui f (ui)
i1
(30) ให้เขียนอนุกรมต่อไปนี้โดยใช้สัญลักษณ์
(30.1) 1 2 2 3 3 4 4 5 ... 50 51
(30.2) 1 1 1 ... 1
2 4 6 2n
(30.3) 1 3 7 15 ... พจน์ที่ n
p p1 p 2
(30.4) ar ar ar ... a rp q
1 1 1
(30.5) ...
4 5 6
บทที่ ๑๑ 382 Math E-Book
Release 2.5
(31) ให้หาค่าของอนุกรมต่อไปนี้
(31.1) 1 2 3 4 ... 50
(31.2) 12 22 32 42 ... 102
(31.3) 13 23 33 43 ... 73
(32) ให้หาค่าของอนุกรมต่อไปนี้
4 6 k 4
(32.1) i2(i 3) (32.3) k 1
i1 k 2
3
(32.2) (n2 3)
n1
30
(33) ถ้า f (x) x 1 แล้ว (f f)(n2) มีค่าเท่าใด
n 10
(34) ให้หาค่าผลบวกต่อไปนี้
หมายเหตุ หากรูปทั่วไปของอนุกรมเป็นแบบ เลข เลข จะคํานวณด้วยสูตรซิกม่า
(34.1) ผลบวก 10 พจน์แรก ของอนุกรม 1 2 2 3 3 4 ... n(n 1)
(34.2) S10 ของอนุกรม 1 4 7 2 5 8 3 6 9 ...
(34.3) S8 ของอนุกรม 1 22 2 32 3 42 ... n(n 1)2
(34.4) S20 ของอนุกรม 1 (12) (12 3) ... (123...n)
n4 1
(35) สําหรับแต่ละจํานวนเต็ม n > 4 ให้หาค่าลิมิตของ
13 23 33 ... n3
(36) ถ้าลําดับเลขคณิต a1, a2 , a3 , ... มีพจน์ที่ 10 และพจน์ที่ 15 เป็น –19 และ –34 ตามลําดับ
20
แล้ว (ai 2 i) มีค่าเท่าใด
i1
1 (n2) a
(37) ให้ a เป็นจํานวนจริง กําหนดพจน์ที่ n ของอนุกรมคือ
1 a
1 38 a
ถ้าพจน์ที่ m คือ แล้ว ผลบวก m พจน์แรกของอนุกรมมีค่าเท่าใด
1 a
2. อนุกรมเรขาคณิต (มีรูปทั่วไปเป็นสมการเอกซ์โพเนนเชียล)
n a1(1 rn)
Sn a1 r(i 1)
1r
i1
a1
S หาค่าได้กเ็ มื่อ | r | 1 เท่านั้น และค่าที่ได้คือ S
1r
1 1
ถ้ารูปทั่วไปของอนุกรมเป็น , เรขา เรขา , หรือ เหล่านี้
เรขา เรขา เรขา
จะยังคงเป็นอนุกรมเรขาคณิตเช่นกัน สามารถแจกแจงแต่ละพจน์ออกมาเพื่อใช้สูตร
ของเรขาคณิต
และถ้ารูปทั่วไปของอนุกรมเป็น เรขา + เรขา ให้แยกคิดทีละส่วนแล้วจึงนํา
ผลลัพธ์ที่ได้มาบวกกัน
หมายเหตุ
ถ้าหาผลต่างของผลต่าง (ลบกันสองชั้น) แล้วเป็นค่าคงที่ แสดงว่าเป็นพหุนามดีกรี
สอง ถ้าหาผลต่างโดยลบกันสามชั้นแล้วเป็นค่าคงที่ แสดงว่าเป็นพหุนามดีกรีสาม
อนุกรมเหล่านี้หารูปทั่วไปได้โดยเขียนรูปทั่วไปของพหุนาม แล้วแก้ระบบสมการเพื่อ
หาสัมประสิทธิ์แต่ละตัว
1
3.2 ถ้ารูปทั่วไปของอนุกรมเป็น จะคํานวณโดยใช้วิธีแยกเป็น
เลข เลข
เศษส่วนย่อยลบกัน แต่ถ้ารูปทั่วไปของอนุกรมเป็น 1 จะเรียกว่าอนุกรม าร์โมนิก
เลข
ซึง่ ไม่ได้ศึกษาในที่นี้
บทที่ ๑๑ 384 Math E-Book
Release 2.5
แบบฝึกหัด ๑๑.๔
(38) ให้หาผลบวกย่อย 18 พจน์แรก ของอนุกรม 2 6 10 ...
1
(39) ให้หาผลบวกย่อย 8 พจน์แรก ของอนุกรม 1 2 ...
2
1 1 1 1
(48) จํานวนเต็มบวก m ซึ่งมากที่สุด ที่ทาํ ให้อนุกรม m 1 m 2 m 3 ...
2m 2 2 2
มีผลบวกมากกว่า 0.01 คือเท่าใด
(50) ให้หาค่าของอนุกรมเรขาคณิตต่อไปนี้
(50.1) 1 1 1 ... 3 ...
2 6 18 2 3n
1 1 1 (1)n 1
(50.2) ... ...
2 4 8 2n
(50.3) 100 10 1 0.1 ... 103 n ...
4 8
(50.4) 3 2 ...
3 9
3 3
(50.5) 6 3 ...
2 4
1 1 1
(50.6) 1 ...
0.9 (0.9)2 (0.9)3
2x 22x 23x
(53) ถ้าอนุกรม 1 x
x2
... มีผลบวกเท่ากับ 9
12 (12 ) (12x)3
แล้ว ให้หาค่าผลบวกของอนุกรม log2 x (log2 x)2 (log2 x)3 (log2 x)4 ...
(56) ให้หาค่าผลบวกต่อไปนี้
1
หมายเหตุ หากรูปทั่วไปของอนุกรมเป็น จะคํานวณโดยแยกเป็นเศษส่วนย่อย
เลข เลข
1 1 1 1
เช่น ( )
35 3 5 2
1 1 1 1
(56.1) ... ...
35 57 7 9 (2n 1)(2n 3)
1 1 1 1
(56.2) S30 ของ ... ...
1 3 35 57 (2n 1)(2n 1)
1 1 1 1
(56.3) ... ...
1 3 5 357 57 9 (2n 1)(2n 1)(2n 3)
1 1 1 1 1
(56.4) S20 ของ ... 3 ...
6 24 60 120 n 3n2 2n
บทที่ ๑๑ 386 Math E-Book
Release 2.5
1 2 3 n
(57) ให้หาผลบวก n พจน์แรกของอนุกรม log log log ... log ...
2 3 4 n 1
5 3
(58) อนุกรม n มีผลบวกเป็นเท่าใด
n1 2 n(n 1)
(59) ให้หาค่าผลบวกต่อไปนี้
หมายเหตุ หากรูปทั่วไปของอนุกรมเป็น เลข เรขา หรือ เลข (เรียกว่า อ ุ รม ม)
เรขา
จะคํานวณโดยนําค่า r ของเรขา คูณตลอดแล้วตั้งสมการลบกัน เพื่อให้ส่วนที่เป็นเลขคณิตหายไป
เหลือแต่เรขาคณิต
ตัวอย่างเช่น หาค่า S 5 8 11 14 ...
2 4 8 16
1 1 5 8 11 14
นํา คูณ จะได้ S ...
2 2 4 8 16 32
1 5 3 3 3 5 3/4
สองสมการลบกัน S ... 4 ดังนั้น S 8
2 2 4 8 16 2 1 1/2
1 3 5 7 2 n 1
(59.1) Sn ของ ... ...
2 4 8 16 2n
3 5 n 1
(59.2) 2 1 ... n 1 ...
2 8 2
1 4 9 16 25 n2
(59.3) ... n ...
2 4 8 16 32 2
(60) ให้เขียนจํานวนต่อไปนี้ในรูปเศษส่วนอย่างต่ํา
(60.1) 0.212121... (60.3) 7.256256...
(60.2) 0.61041041... (60.4) 2.9999...
คณิต มงคลพิทกั ษสุข 387 ลํา ับ ล อนุก ม
kanuay@hotmail.com
เฉลยแบบฝึกหัด (คําตอบ)
(1.1) 2, 4, 8, 16 (22) คนที่ 3 (35) 4
(1.2) 2, 6, 10, 14 (23.1) หาค่าไม่ได้ (36) 10
(1.3) 1/2, 1/4, 1/8, 1/16 (23.2) 0 40 740 a
(1.4) –1/4, 2/9, –3/16, 4/25 (23.3) 0 (37)
1 a
(2.1) (1/2)n 1 (23.4) 1 (38) 648
(2.2) (1/n)2 (24.1) 4/3 (39) 127.5
(24.2) 2/5 (40) 2601
(2.3) 2n 1 3 (24.3) 0 (41) 210
3 (24.4) 0
(2.4) n1
(42) 184
10 (24.5 แล 24.6) หาค่าไม่ได้ (43) 5, –4 หรือ 45, –4/3
(2.5) n(n 1) (25.1) –1/9 (44) 5
(3.1) เลขคณิต, 183 n (25.2) 1 (45) 395
(3.2) เรขาคณิต, 2n (25.3) หาค่าไม่ได้ (46) 18
(3.3) เลขคณิต, x 2 n2 (25.4) 2 (47) 127.5
(25.5) 1/243 (48) 6
(3.4) เลขคณิต, n log 2 (26.1) 2/3
1
n
(26.2) 4/9 (49) 4 10 (10n1)n
9 9
(3.5) เรขาคณิต, (20)
2 (26.3) 9 (50.1) 3/4
(3.6) เลขคณิต, 4 n (27) 1 (50.2) 1/3
(3.7) เป็นทั้งเลขคณิตและ (28) 2 (50.3) 1000/9
เรขาคณิต, an 3 (29) 128 (50.4) 9
50
(4) 4.5, 5, 5.5, 12.5 (30.1) i(i 1) (50.5) 4
(5) 2, 4, 8, 217
i1
(50.6) ลูอ่ อก
n 1 (51) 2.23 และ 2.5
(6) 3n+8 (30.2)
i1 2 i (52) 3/4
(7) 26, 22, 18, 14
(8) 2, 4 (30.3)
n
(2i 1)
(53) หาไม่ได้ (ไดเวอร์เจนต์)
(9) 2, 6, 18, 54 i1 (54) 255
(10) 48 (30.4)
q1
a rp i 1
(55) 1
(11) มี, พจน์ที่ 30 i1 (56.1) 1/6
(12) พจน์ที่ 19 1 (56.2) 30/61
(30.5)
(56.3) 1/12
(13) 54 i1 i 3