Professional Documents
Culture Documents
À À ¡À À À À À À À À À À À À À À À À À À À À À À À À
À À ¡À À À À À À À À À À À À À À À À À À À À À À À À
- จงคำนวณสนามแม่เหล็กที่ตำแหน่งใดๆ เป็นฟังก์ชันของ 𝑥, 𝑦, 𝑧
- จงพิสูจน์ว่า divergence ของสนามแม่เหล็กมีค่าเป็น 0 (Hint: สนามแม่เหล็กแบ่งเป็น 2 ส่วน เรา
สามารถที่จะคำนวณ divergence ของแต่ละส่วนโดยใช้ coordinate ที่เหมาะสมกับแต่ละส่วนได้ แล้ว
ค่อยนำ divergence ของแต่ละส่วนแล้วนำมารวมกันได้)
Check divergence โดยการแบ่ง 𝐵⃑ เป็น 2 ส่วน เราจะเห็นว่า แต่ละส่วนมี divergence เป็น 0 เพราะฉะนั้น
∇ ∙ ⃑𝐵 = 0
Trick:
π/2 π/2
cos 2 (θ) 1
∫ dθ = ∫ dθ
0 1 + sin2 (θ) 0 sec 2 (θ) + tan2 (θ)
π/2
1
=∫ dtan(θ)
0 sec 2 (θ)(sec 2 (θ) + tan2 (θ))
ให้ 𝑡𝑎𝑛(𝜃) = 𝑥
∞
1
=∫ 2 )(1 + 2𝑥 2 )
𝑑𝑥
0 (1 + 𝑥
∞
2 1
=∫ 2)
− 2)
𝑑𝑥
0 (1 + 2𝑥 (1 + 𝑥
𝜋 𝜋
= √2 −
2 2
𝜋
= (√2 − 1)
2
2) กระแสไฟฟ้า I ไหลในวงจรที่เป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสที่แต่ละด้านยาว 𝐿 ในทิศทางที่กำหนดให้ ดังรูป จง
คำนวณสนามแม่เหล็กที่จุดต่างๆ ที่อยู่บนแกน z
z
y
x
(𝐿/2, −𝐿/2,0) x
(−𝐿/2, −𝐿/2,0)
z
y
x
เรารู้ว่า
𝜇0 𝜆𝑑𝑦 𝑧 (𝑦 − 𝑦𝑠 )
⃑ =
𝑑𝐵 (− 𝑦̂ − 𝑧̂ )
2𝜋√(𝑦 − 𝑦𝑠 )2 + 𝑧 2 √(𝑦 − 𝑦𝑠 )2 + 𝑧 2 √(𝑦 − 𝑦𝑠 )2 + 𝑧 2
เพราะฉะนั้น
∞
𝜇0 𝜆 𝑧 (𝑦 − 𝑦𝑠 )
⃑ =∫
𝐵 (− 𝑦̂ − 𝑧̂ ) 𝑑𝑦
−∞ 2𝜋√(𝑦 − 𝑦𝑠 )2 + 𝑧 2 √(𝑦 − 𝑦𝑠 )2 + 𝑧 2 √(𝑦 − 𝑦𝑠 )2 + 𝑧 2
𝜇0 𝜆 ∞ 𝑧
= ∫ (− ) 𝑑𝑦 𝑦̂
2𝜋 −∞ (𝑦 − 𝑦𝑠 )2 + 𝑧 2
𝜇0 𝜆 ∞ 𝑧
= ∫ (− ) 𝑑𝑦 𝑦̂
2𝜋 −∞ (𝑦 − 𝑦𝑠 )2 + 𝑧 2
ให้ 𝑦 = |𝑧|𝑡𝑎𝑛(𝜃)
𝜋
𝜇0 𝜆 2 𝑧|𝑧|𝑠𝑒𝑐 2 (𝜃)
=− ∫ ( ) 𝑑𝜃 𝑦̂
2𝜋 −𝜋 |𝑧|2 𝑠𝑒𝑐 2 (𝜃)
2
𝜋
𝜇0 𝜆 2 𝑧
=− ∫ 𝑑𝜃 𝑦̂
2𝜋 −𝜋 |𝑧|
2
𝜇0 𝜆 𝑧
=− 𝑦̂
2 |𝑧|
ถ้าใช้กฎของแอมแปร์จะงง่ายกว่ามาก
4) วิธีทำ
𝞺
𝑟
𝜃 ɛ
𝑅 2
= √( ) + 𝜌2 − 𝑅𝜌cos (𝜃)
2
และ 𝑝̂ สามารถคำนวณได้ดังนี้ เรารู้ว่า
𝜌̂ = cos(𝜃) 𝑥̂ + sin(𝜃) 𝑦̂
𝜃̂ = −sin(𝜃) 𝑥̂ + cos(𝜃) 𝑦̂
𝑥̂ = cos(𝜃)𝜌̂ − sin(𝜃)𝜃̂
𝑦̂ = sin(𝜃)𝜌̂ + cos(𝜃)𝜃̂
𝜀̂ = sin(𝜀) 𝑥̂ + cos(𝜀) 𝑦̂
𝜌 sin(𝜃) 1 𝑅
= 𝑥̂ + ( − 𝜌 cos(𝜃)) 𝑦̂
𝑟 𝑟 2
𝜌 sin(𝜃) 1 𝑅
= (cos(𝜃)𝜌̂ − sin(𝜃)𝜃̂) + ( − 𝜌 cos(𝜃)) (sin(𝜃)𝜌̂ + cos(𝜃)𝜃̂)
𝑟 𝑟 2
𝜌 sin(𝜃) 𝑅
=( (cos(𝜃) + − cos (𝜃))) 𝜌̂
𝑟 2𝜌
𝜌 sin2 (𝜃) 𝑅 𝜌 cos 2 (𝜃)
+ (− + cos(𝜃) − ) 𝜃̂
𝑟 2𝑟 𝑟
𝑅 sin(𝜃) 𝑅 𝜌
𝜀̂ = ( ) 𝜌̂ + ( cos(𝜃) − ) 𝜃̂
2𝑟 2𝑟 𝑟
1 𝑅 sin(𝜃) 𝑅 𝜌
⃑ = − 𝜇0 𝜎𝑟 ((
𝐵 ) 𝜌̂ + ( cos(𝜃) − ) 𝜃̂)
2 2𝑟 2𝑟 𝑟
1 𝑅 sin(𝜃) 𝑅
= − 𝜇0 𝜎 (( ) 𝜌̂ + ( cos(𝜃) − 𝜌) 𝜃̂)
2 2 2
เพราะฉะนั้น
1 1 𝑅 sin(𝜃) 𝑅
⃑ 𝑡𝑜𝑡 = − 𝜇0 𝜎𝜌𝜃̂ − 𝜇0 𝜎 ((
𝐵 ) 𝜌̂ + ( cos(𝜃) − 𝜌) 𝜃̂)
2 2 2 2
1 𝑅 sin(𝜃) 𝑅
= − 𝜇0 𝜎 (( ) 𝜌̂ + ( cos(𝜃)) 𝜃̂)
2 2 2
𝑅
= − 𝜇0 𝜎(sin(𝜃) 𝜌̂ + cos(𝜃) 𝜃̂)
4
𝑅
= − 𝜇0 𝜎𝑦̂
4
Check divergence
𝑅 1 𝜕 1 𝜕
⃑ 𝑡𝑜𝑡 = − 𝜇0 𝜎 (
∇∙𝐵 (𝜌sin (𝜃)) + (cos (𝜃)))
4 𝜌 𝜕𝜌 𝜌 𝜕𝜃
𝑅 1 1
= − 𝜇0 𝜎 ( sin(𝜃) + (− sin(𝜃)))
4 𝜌 𝜌
=0
5) แท่งตัวนำที่มีมวล m และความต้านทาน R ถูกพาดไว้ระหว่างรางที่เป็นตัวนำและไม่มีความต้านทาน ราง
ตัวนำนี้วางขนานกันและมีระยะห่างระหว่างกันเป็น L ดังรูป สนามไฟฟ้า 𝐵⃑ มีทิศพุ่งออก ถ้าแท่งตัวนำนั้นใน
ตอนแรกหยุดนิ่ง จงคำนวณความเร็วของแท่งตัวนำว่าขึ้นกับเวลาอย่างไร
แท่งตัวนำ
⃑
∙ ∙ ∙ ∙ ∙ ∙ ∙ 𝐵
ε
∙ ∙ ∙ ∙ ∙ ∙ ∙
∙ ∙ ∙ ∙ ∙ ∙ ∙
∙ ∙ ∙ ∙ ∙ ∙ ∙
วิธีทำ เรารู้ว่าเมื่อเริ่มต้นนั้นวัตถุจะเคลื่อนที่ไปทางซ้าย เราให้ความเร็วของวัตถุที่เวลา 𝑡 เป็น 𝑣[𝑡] เมื่อวัตถุ
เคลื่อนที่จะเกิด motional emf ซึ่งมีขนาดเป็น
𝜀𝑚 = 𝑣𝐵𝐿
เพราะฉะนั้นกระแสไฟฟ้าที่ไหลผ่านตัวนำที่เวลา 𝑡 เป็น
𝜀 − 𝜀𝑚 𝜀 − 𝑣[𝑡]𝐵𝐿
𝐼[𝑡] = =
𝑅 𝑅
เพราะฉะนั้นแรงที่ดึงตัวนำไปทางซ้ายจะเป็น
𝑑𝑣
𝐼[𝑡]𝐿𝐵 = 𝑚
𝑑𝑡
𝜀 − 𝑣𝐵𝐿 𝑑𝑣
𝐿𝐵 = 𝑚
𝑅 𝑑𝑡
𝐿𝐵 𝑑𝑣
𝑑𝑡 =
𝑅𝑚 𝜀 − 𝑣𝐵𝐿
เพราะฉะนั้น
𝑡 𝑣[𝑡]
𝐿𝐵 𝑑𝑣
∫ 𝑑𝑡 = ∫
0 𝑅𝑚 0 𝜀 − 𝑣𝐵𝐿
𝐿𝐵 1 𝜀 − 𝑣[𝑡]𝐵𝐿
𝑡=− 𝑙𝑛 ( )
𝑅𝑚 𝐵𝐿 𝜀
𝜀 − 𝑣[𝑡]𝐵𝐿 (𝐿𝐵)2
𝑙𝑛 ( )=− 𝑡
𝜀 𝑅𝑚
𝜀 − 𝑣[𝑡]𝐵𝐿 (𝐿𝐵)2
= 𝑒 𝑅𝑚 𝑡
−
𝜀
(𝐿𝐵)2
𝑣[𝑡]𝐵𝐿 = 𝜀 (1 − 𝑒 𝑅𝑚 𝑡 )
−
𝜀 (𝐿𝐵)2
𝑣[𝑡] = (1 − 𝑒 𝑅𝑚 𝑡 )
−
𝐵𝐿
6) แท่งตัวนำที่มีมวล m และความต้านทาน R ถูกพาดไว้ระหว่างรางที่เป็นตัวนำและไม่มีความต้านทาน ราง
⃑ มีทิศพุ่ง
ตัวนำนี้วางขนานกันและมีระยะห่างระหว่างกันเป็น L ดังรูป ระบบนี้ถูกวางอยู่บนโต๊ะ สนามไฟฟ้า B
ขึ้น แท่งตัวนำถูกดึงด้วยมวล 𝑀 ผ่านรอกดังรูป ถ้าแท่งตัวนำนั้นในตอนแรกหยุดนิ่ง จงคำนวณความเร็วของ
แท่งตัวนำว่าขึ้นกับเวลาอย่างไร (ถือว่าไม่มีแรงเสียดทานระหว่างรางและแท่งตัวนำ)
⃑
𝐵 แท่งตัวนำ
+Q +q +2Q
X =0 X =L
สถานการณ์จะเปลี่ยนไปอย่างไรถ้าเราเปลี่ยนประจุจาก +q เป็น −𝑞
วิธีทำ เรารู้ว่า
𝑄𝑞 2𝑄𝑞
𝑈(𝑥) = 𝑘 ( + )
𝑥 𝐿−𝑥
เราสามารถหาจุดสมดุลได้จาก
𝜕 1 −1
𝑈(𝑥) = 0 = 𝑘𝑄𝑞 (− 2 + 2(−1) )
𝜕𝑥 𝑥 (𝐿 − 𝑥)2
1 2
= 𝑘𝑄𝑞 (− 2 + )
𝑥 (𝐿 − 𝑥)2
1 2
0 = (− 2 + )
𝑥 (𝐿 − 𝑥)2
1 2
=
𝑥 2 (𝐿 − 𝑥)2
𝐿 − 𝑥 = √2𝑥
𝐿
𝑥𝑒𝑞 =
1 + √2
𝜕2 2 4
𝑈(𝑥) = 𝑘𝑄𝑞 ( + )
𝜕𝑥 2 𝑥 3 (𝐿 − 𝑥)3
ที่ 𝑥𝑒𝑞
𝜕2 𝑘𝑄𝑞 4
2
𝑈(𝑥) = 2
2(1 + √2)3 + 3
𝜕𝑥 𝐿 1
(1 − )
( 1 + √2 )
𝑘𝑄𝑞 4
= 2
2(1 + √2)3 + 3
𝐿 √2
( )
( 1 + √2 )
𝑘𝑄𝑞
= 2
(2(1 + √2)3 + √2(1 + √2)3 )
𝐿
𝑘𝑄𝑞
= 2 √2(1 + √2)4
𝐿
เพราะฉะนั้น
𝑘𝑄𝑞
ω=√ √2(1 + √2)4
𝑚𝐿2
ถ้าเปลี่ยนประจุจาก +𝑞 เป็น −𝑞
𝐿
𝑥𝑒𝑞 =
1 + √2
แต่ที่จุดสมดุลนี้จะไม่ stable
8) ประจุ +Q กระจายตัวอย่างสม่ำเสมอบนฉนวนวงแหวนที่มีรัศมี R ดังรูป วงแหวนนี้วางอยู่ที่พื้น ประจุ +q
มวล m สามารถเคลื่อนที่ได้อิสระตามแนวดิ่ง ภายใต้แรงโน้มถ่วงของโลก ดังรูป จงหาตำแน่งสมดุลของประจุ
+𝑞 และถ้าประจุนี้ถูกรบกวนให้ขยับเล็กน้อยตามแนวดิ่งประจุจะสั่นด้วยความถี่เท่าไหร่
+q,m
วิธีทำ เรารู้ว่า
𝑘𝑄𝑞
𝑈(𝑦) = + 𝑚𝑔𝑦
√𝑅2 + 𝑦 2
เราสามารถหาจุดสมดุลได้จาก
𝜕 𝑦𝑘𝑄𝑞
𝑈(𝑦) = 0 = − 2 + 𝑚𝑔
𝜕𝑦 (𝑅 + 𝑦 2 )3/2
𝑦𝑘𝑄𝑞
3 = 𝑚𝑔
2 2
(𝑅 + 𝑦 )2
ให้ 𝑦𝑒𝑞 เป็นคำตอบของสมการนี้
3 1
𝜕2 (𝑅2 + 𝑦 2 )3/2 𝑘𝑄𝑞 − 𝑦𝑘𝑄𝑞 2𝑦(𝑅2 + 𝑦 2 )2
𝑈(𝑦) = − 2
𝜕𝑦 2 2 2
(𝑅 + 𝑦 ) 3
2 2
(𝑅 + 𝑦 )𝑘𝑄𝑞 − 𝑦𝑘𝑄𝑞3𝑦
=− 5
(𝑅2 + 𝑦 2 )2
𝑅2 − 2𝑦 2
= − 𝑘𝑄𝑞 5
(𝑅2 + 𝑦 2 )2
𝑅
จากตรงนี้เรารู้ว่าจะเป็น stable ถ้า 𝑦𝑒𝑞 >
√2
เพราะฉะนั้นถ้า stable
𝑘𝑄𝑞 2𝑦𝑒𝑞 2 − 𝑅2
ω=√
𝑚 (𝑅2 + 𝑦 2 )5/2
𝑒𝑞
9) วัตถุมวล 𝑚 ผูกติดอยู่กับสปริงที่มีค่าคงที่ของสปริง 𝑘 และมีแรงต้านจากการเคลื่อนที่เป็น – 𝑏𝑣 เมื่อ 𝑣
เป็นความเร็วของวัตถุ ถ้าวัตถุนี้มีแรงภายนอกมากระทำเป็น 𝐹0 sin(𝜔𝑡) 𝑥̂ และมีสมการการเคลื่อนที่เป็น
𝑑2𝑥 𝑑𝑥
𝑚 2 +𝑏 + 𝑘𝑥 = 𝐹0 sin (𝜔𝑡)
𝑑𝑡 𝑑𝑡
จงคำนวณ particular solution ของสมการรวมทั้งหาว่าค่า 𝜔 ต้องเป็นเท่าใดเพื่อให้ amplitude ของ
particular solution มีค่ามากที่สุด