You are on page 1of 6

อุปสงค์ อุปทาน ดุลยภาพ

แบบทดสอบตนเองหลังเรียน ม.1 ให้ใช้ข้อมูลข้างต้น ตอบคาถามข้อ 6-10


1 ข้อใดหมายความถึง "อุปสงค์"
ราคา ปริมาณซื้อ ปริมาณขาย
1. นายแอบเหงาต้องการจะซื้อรถยนต์
(บาท) (ก.ก) (ก.ก)
2. นายแอบเหงาต้องการซื้อรถยนต์และมีรายได้พอเพียงที่จะ
ซือ้ 5 100 40
3. นายแอบเหงาไม่ต้องการซื้อรถยนต์ แม้ว่าจะมีรายได้พอ 10 90 50
4. นายแอบเหงามีรายได้พอที่จะซื้อรถยนต์ 15 80 60
2. การเปลี่ยนแปลงของอุปสงค์ หมายถึงข้อใด 20 70 70
1. การย้ายเส้นอุปสงค์
25 60 80
2. การเคลื่อนไหวภายในเส้นอุปสงค์
3. การที่อุปสงค์เปลี่ยนแปลงเมื่อราคาเปลี่ยนแปลง 30 50 90
4. การที่ปริมาณซื้อเปลี่ยนแปลง เมื่อราคาเปลี่ยนแปลง 35 40 100
3. อุปทาน หมายถึง
6. ราคาและปริมาณดุลยภาพ อยู่ ณ ระดับใด
1. คุณวิทูรขายรถยนต์ให้เพื่อน
1. ราคา 5 บาทและ 35 บาท ปริมาณ 100 กิโลกรัม
2. คุณพ่อประกอบธุรกิจหลายประเภท
2. ราคา 25 บาท ปริมาณ 80 กิโลกรัม
3. คุณแม่เป็นเจ้าของร้านขายของที่ระลึก
3. ราคาและปริมาณ 20 บาท
4. คุณพอใจเปืดร้านขายอาหาร
4. ราคา 20 บาท ปริมาณ 70 กิโลกรัม
4. จากทฏษฏีเศรษฐศาสตร์ ถ้าความต้องการรถยนต์มีมากขึ้น ผลที่
7. ถ้าราคาสินค้าเท่ากับ 10 บาท
จะเกืดขึ้นตืดตามมาคือ
1. ปริมาณซื้อเท่ากับปริมาณขาย
1. ราคารถยนต์จะต่่าลง
2. ปริมาณขายมากกว่าปริมาณซื้อ
2. ราคารถยนต์จะสูงขี้น
3. ปริมาณขายจะน้อยกว่าปริมาณซื้อ
3. ปริมาณการผลิตรถยนต์จะเพิ่มขึ้น
4. การซื้อขายจะไม่เกิดขึ้น
4. ปริมาณการผลิตรถยนต์จะลดลง
8. ณ ระดับราคาไหน ที่สินค้ามีมากกว่าความต้องการ
5. การที่เส้นอุปทานเคลื่อนย้ายไปทางขวาของเส้นเดิม หมายความ
1. ราคา 20 บาท 3. ราคา 30 บาท
ว่าอย่างไร
2. ราคา 15 บาท 4. ไม่มีข้อใดถูก
1. ผู้ผลิตต้องการเสนอขายลดลง
9. ณ ระดับราคาสินค้าเท่ากับ 25 บาท อุปทานส่วนเกิน (Excess
2. ราคาชนืดนั้นสูงขี้น
Supply) มีค่าเท่ากับ
3. ผู้บริโภคมีความต้องการสืนค้าชนิดนั้นลดลง
1. 20 กิโลกรัม 2. 80 กิโลกรัม
4. เทคโนโลยีที่ใช้ในการผลิตราคาถูกลง
2. 60 กิโลกรัม 4. ไม่มีข้อใดถูก
10. รายรับรวม (Total Revenue) ของผู้ขาย ณ ราคาดุลยภาพ
เท่ากับ
1. 4,800 บาท
2. 2,000 บาท
3. 900 บาท
4. 1,400 บาท
ทบทวนวิชาเศรษฐศาสตร์ 7 นายดามีเวลาว่างช่วงเย็นเหลือพอที่จะทางานบ้าน แต่เมื่อเพื่อน
จงเลือกคาตอบที่ถูกที่สุด มาชวนไปเล่นกีฬา เขาจึงเลือกที่จะไปกับเพื่อน จะเกิดอะไรขึ้นถ้า
1.บิดาแห่งวิชาเศรษฐศาสตร์คือใคร คิดในทางเศรษฐศาสตร์
ก. อริสโตเติล ก. ค่าเสียโอกาส
ข. อดัม สมิท ข. ค่าสูญเปล่า
ค. มาร์โค โปโล ค. การใช้ทรัพยากรไม่คุ้มค่า
ง. จอห์น ล็อก ง. การเสียประโยชน์
2 ข้อความใดให้ความหมายของวิชาเศรษฐศาสตร์ถูกต้องที่สุด 8 ข้อความใดตรงกับความหมายของการบริโภคในทาง
ก. วิชาที่เกี่ยวกับการซื้อขายสินค้าและบริการ เศรษฐศาสตร์มากที่สุด
ข. วิชาที่เกี่ยวกับการสนองตอบต่อความต้องการของสมาชิกใน ก. การซื้อสินค้ามาใช้ในครัวเรือน
สังคม ข. การรับประทานอาหารให้เพียงพอกับความต้องการ
ค. วิชาที่เกี่ยวกับเศรษฐกิจและการเมือง ค. การรับฟังข่าวสารผ่านสื่อสิ่งพิมพ์และโทรทัศน์
ง. วิชาที่เกี่ยวกับการจัดสรรทรัพยากรให้เกิดประโยชน์อย่างคุ้มค่า ง. การใช้สินค้าและบริการเพื่อสนองความต้องการของมนุษย์
3 การศึกษาพฤติกรรมของผู้บริโภค พฤติกรรมของผู้ผลิต จัดอยู่ใน 9 ข้อความใดแสดงถึงลักษณะของการบริโภคแบบยั่งยืน
ขอบข่ายสาขาวิชาเศรษฐศาสตร์ในข้อใด ก. เอกใช้ถุงผ้าเวลาไปซื้อของ
ก. เศรษฐศาสตร์ระดับประเทศ ข. ณัฐเปิดไฟไว้รอบบ้านในเวลากลางคืน
ข. เศรษฐศาสตร์ระหว่างประเทศ ค. กรเปิดน้ารดต้นไม้ทุกเช้าเย็นแม้จะมีฝนตก
ค. เศรษฐศาสตร์จุลภาค ง. พัทเปลี่ยนโทรศัพท์มือถือบ่อยๆ เพื่อความทันสมัย
ง. เศรษฐศาสตร์มหภาค 10. ข้อใดไม่ใช่หลักการบริโภคที่ดี
4 ข้อใดไม่ใช่ ทุนตามความหมายของทรัพยากรทางเศรษฐศาสตร์ ก. สุดาซื้ออาหารมารับประทานพออิ่ม
ก. เครื่องจักร ข. ปราณีซื้อเสื้อกันหนาวตัวใหม่ในฤดูหนาวนี้
ข. โรงงาน ค. มณีวัลย์ซื้อโทรศัพท์เคลื่อนที่รุ่นใหม่ที่โฆษณาว่ามีความทันสมัย
ค. เงินตรา สูง
ง. อุปกรณ์การผลิต ง. กรรณิการ์นาข้าวที่เหลือมาทาเป็นข้าวตังไว้รับประทานเป็น
5 ผู้ที่รวบรวมปัจจัยการผลิตคือใคร อาหารว่าง
ก. ผู้ผลิต 11. สุธีชอบใช้นาฬิกายี่ห้อโรเล็กซ์ เพราะเขาเป็นคนมีรสนิยม การ
ข. ผู้ประกอบการ กระทาของสุธีสอดคล้องกับพฤติกรรมการบริโภคในเรื่องใด
ค. ผู้บริโภค ก. ความจาเป็น
ง. ผู้ใช้แรงงาน ข. กระแสสังคม
6 การจัดสรรทรัพยากรที่มีจากัดไม่สอดคล้องกับความต้องการที่ไม่ ค. การประชาสัมพันธ์
จากัดของมนุษย์ จะทาให้เกิดอะไรขึ้น ง. เทคโนโลยีสมัยใหม่
ก. การขาดทุน 12. ข้อใดแสดงความหมายของอุปสงค์ได้ดีที่สุด
ข. ความขาดแคลน ก. แก้วตาต้องการซื้อโทรศัพท์เคลื่อนที่แต่มีเงินไม่พอ
ค. สินค้าล้นตลาด ข. ก้านท่าแจกันที่โชว์อยู่ที่ร้านตกแตก จึงต้องจ่ายค่าเสียหาย
ง. การกักตุนผลผลิต ค. ก้อนมีเงินพอที่จะซื้อนาฬิกาแต่ยังไม่อยากซื้อ
ง. กล้วยนาเงินเก็บไปซื้อคอมพิวเตอร์ที่อยากได้มานานแล้ว
13. จากข้อ 12. พฤติกรรมในข้อใดเป็นการแสดงออกถึงความ 19. ตามกฎของอุปสงค์ ปริมาณซื้อกับราคาของสินค้ามี
ต้องการเท่านั้น ไม่ใช่อุปสงค์ ความสัมพันธ์กันในลักษณะใด
ก. ข้อ ก. ข้อเดียว ก. ตรงกันข้ามกัน
ข. ข้อ ง. ข้อเดียว ข. ทิศทางเดียวกัน
ค. ข้อ ก. และข้อ ข. ค. ใกล้เคียงกัน
ง. ข้อ ค. และข้อ ง. ง. แปรปรวน ไม่แน่นอน
14. การที่ผู้ขายติดป้ายราคาสินค้า ตรงกับความหมายในข้อใด 20. ตามกฎของอุปทาน ปริมาณเสนอขายกับราคาของสินค้ามี
ก. อุปสงค์ ความสัมพันธ์กันในลักษณะใด
ข. อุปทาน ก. ตรงกันข้ามกัน ข. ทิศทางเดียวกัน
ค. ราคาดุลยภาพ ค. ใกล้เคียงกัน ง. แปรปรวน ไม่แน่นอน
ง. ราคาของสินค้าและบริการชนิดนั้นๆ 21. ทรัพย์สินทางปัญญา มีความหมายตรงกับข้อใด
15. ตามกฎของอุปสงค์ ถ้าราคาของมะม่วงชั้นดีในปีนี้ลดลงจาก ก. ผลงานประดิษฐ์คิดค้นของมนุษย์
เดิมกิโลกรัมละ 50 บาท เหลือเพียงกิโลกรัมละ 30 บาท จะเกิดผล ข. ผลงานที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ
อย่างไร ค. ผลงานที่ลอกเลียนแบบมาจากของจริง
ก. อุปสงค์สูงขึ้น ง. ผลงานที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากผลงานของผู้อื่น
ข. อุปสงค์ลดลง 22. ข้อใด ไม่ใช่ ความส่าคัญของทรัพย์สินทางปัญญาที่มีต่อ
ค. อุปทานสูงขึ้น สังคมไทย
ง. อุปทานลดลง ก. ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของมนุษย์ให้ดียิ่งขึ้น
16. เพราะเหตุใดในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ดอกมะลิจึงมีราคาแพง ข. ทาให้ผู้บริโภคได้ซื้อผลิตภัณฑ์ในราคาถูก
กว่าปกติ ค. แสดงให้เห็นถึงความสามารถของคนไทยที่สร้างสรรค์งานเป็น
ก. ชาวสวนลดการปลูกลง ของตนเอง
ข. เป็นดอกไม้หายาก ง. เป็นแรงผลักดันให้มีการค้นคว้าวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ
ค. ความต้องการสินค้าสูง ออกสู่ตลาด
ง. เจริญเติบโตได้ดีในช่วงฤดูร้อน 23. การกระทาของบุคคลใดที่ถือว่าปฏิบัติตามพระราชบัญญัติ
17. ข้อใดเป็นไปตามกฎของอุปทาน ลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537
ก. ผู้ผลิตจะผลิตสินค้าเพิ่มขึ้น ถ้าราคาสินค้าสูงขึ้น ก. นกซื้อแผ่นซีดีเพลงของแท้มาฟัง
ข. ผู้ผลิตจะผลิตสินค้าลดลง ถ้าราคาสินค้าลดลง ข. น้าก็อปปี้ดีวีดีภาพยนตร์และนาไปขายต่อ
ค. ผู้ผลิตจะผลิตสินค้าลดลง ถ้าผู้บริโภคมีความต้องการสูงขึ้น ค. ปาล์มแอบอัดภาพยนตร์ที่กาลังเข้าฉายในโรงภาพยนตร์
ง. ผู้ผลิตจะผลิตสินค้าเพิ่มขึ้น ถ้าราคาปัจจัยการผลิตลดลง ง. แป้งซื้อโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ลอกเลียนแบบของแท้มาใช้ที่
18. ถ้าปีนี้ราคาข้าวต่อกิโลกรัมมีราคาสูง คาดได้ว่าจะมีพฤติกรรม บ้าน
ใดเกิดขึ้น 24. การคุ้มครองลิขสิทธิ์เกิดขึ้นเมื่อใด
ก. ชาวนาปลูกข้าวลดลง ก. หลังจากผู้สร้างสรรค์ถึงแก่ความตาย
ข. ชาวนาปลูกข้าวมากขึ้น ข. เกิดขึ้นหลังจากผู้สร้างสรรค์จดทะเบียนลิขสิทธิ์
ค. ชาวนาปลูกข้าวเท่าเดิม ค. เกิดขึ้นทันทีที่ผู้สร้างสรรค์ได้สร้างสรรค์ผลงาน
ง. พ่อค้าโรงสีรับซื้อข้าวในราคาต่่า ง. หลังจากผู้สร้างสรรค์ถึงแก่ความตายแล้วเป็นเวลา 10 ปี
25. การคุ้มครองสิทธิบัตรการประดิษฐ์มีอายุกี่ปี 31. ธนาคารที่ไม่ให้สินเชื่อแก่ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการเก็งกาไร การ
ก. 10 ปีนับแต่วันขอรับสิทธิบัตร ผูกขาด การผิดศีลธรรม คือธนาคารใด
ข. 20 ปีนับแต่วันขอรับสิทธิบัตร ก. ธนาคารพาณิชย์
ค. 30 ปีนับแต่วันขอรับสิทธิบัตร ข. ธนาคารอาคารสงเคราะห์
ง. 40 ปีนับแต่วันขอรับสิทธิบัตร ค. ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย
26. ทุกข้อเป็นผลดีของการจดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญาต่อผู้ ง. ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร
สร้างสรรค์ผลงาน ยกเว้นข้อใด 32. ข้อใดสอดคล้องกับนิยามของคาว่า “สหกรณ์” มากที่สุด
ก. บอกให้ผู้อื่นทราบว่าใครเป็นผู้ประดิษฐ์เป็นคนแรก ก. การรวมทุน ข. การรวมคน
ข. เป็นการคุ้มครองสิทธิในปัญญาของผู้ประดิษฐ์คิดค้น ค. การรวมอ่านาจ ง. การรวมก่าไร
ค. ท่าให้ผู้ประดิษฐ์คิดค้นได้รับค่าตอบแทนจากงานของตน 33. ธนาคารของคนยาก หมายถึงสถาบันการเงินในข้อใด
ง. ท่าให้ผู้ประดิษฐ์คิดค้นขาดแรงจูงใจในการผลิตผลงานออกมา ก. ธนาคารออมสิน
27. ข้อใดไม่ใช่ลักษณะส่าคัญของสถาบันการเงิน ข. โรงรับจ่าน่า
ก. เป็นตัวกลาง ค. ธนาคารอาคารสงเคราะห์
ข. เป็นผู้รับความเสี่ยงแทน ง. กองทุนประกันสังคม
ค. สร้างสภาพคล่องทางการเงิน 34. ข้อใดไม่ใช่บทบาทหน้าที่ของธนาคารแห่งประเทศไทย
ง. วางแผนเศรษฐกิจของประเทศ ก. จัดพิมพ์ธนบัตรใหม่
28. หากนักเรียนมีเงินเก็บอยู่จ่านวนหนึ่ง จะเลือกท่าสิ่งใดเพื่อให้ ข. ซื้อขายแลกเปลี่ยนหลักทรัพย์
เกิดความคุ้มค่าที่สุด ค. ดูแลการซื้อขายเงินตราระหว่างประเทศ
ก. ลงทุนในธุรกิจ ง. รับฝากเงินจากรัฐบาล หน่วยราชการ และสถาบันการเงินต่างๆ
ข. เล่นแชร์กับเพื่อน 35. ข้อใดอธิบายเกี่ยวกับโรงรับจ่าน่าไม่ถูกต้อง
ค. ฝากไว้กับธนาคาร ก. ผู้กู้ต้องน่าโฉนดตราสารมาค้าประกัน
ง. ให้เพื่อนยืมและคิดดอกเบี้ย ข. เป็นแหล่งเงินกู้ของผู้มีรายได้น้อย
29. ธนาคารพาณิชย์แห่งแรกของคนไทยคือข้อใด ค. ให้สินเชื่อแก่ผู้กู้รายย่อยที่นาสินทรัพย์มาฝากค้่าประกันไว้
ก. ธนาคารออมสิน ง. โรงรับจ่าน่าที่ด่าเนินการโดยเทศบาล เรียกว่า สถานธนานุบาล
ข. ธนาคารฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้ 36. ข้อใด ไม่ใช่ ผลดีจากการแข่งขันทางเศรษฐกิจ
ค. บริษัทเครดิตฟองซิเอร์ ก. ยกระดับฝีมือแรงงานในการผลิต
ง. บริษัทแบงก์สยามกัมมาจล ทุนจากัด ข. เกิดการใช้ทรัพยากรอย่างสิ้นเปลือง
30. ธนาคารออมสินจัดตั้งขึ้นในสมัยใด ค. เกิดการใช้จ่ายหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ
ก. รัชกาลที่ 4 ง. ส่งเสริมการวิจัยและพัฒนาคุณภาพสินค้าให้ดียิ่งขึ้น
ข. รัชกาลที่ 5 37. การน่าเข้าสินค้า เช่น น้่ามันดิบ เครื่องจักรกล จากต่างประเทศ
ค. รัชกาลที่ 6 เข้ามามาก ก่อให้เกิดปัญหาใดตามมา
ง. รัชกาลที่ 7 ก. ปัญหาการขาดดุลการค้า ข. ปัญหาการว่างงาน
ค. ปัญหาความยากจน ง. ปัญหาการกระจายรายได้
38. ปัญหาการว่างงานเกิดจากสาเหตุต่อไปนี้ ยกเว้นข้อใด 45. การกระท่าข้อใดแสดงถึงความพอประมาณตามหลักเศรษฐกิจ
ก. เศรษฐกิจโลกอยู่ในภาวะตกต่่า พอเพียง
ข. ผู้ประกอบการในประเทศลดการผลิตลง ก. อุษาไม่ยอมใช้จ่ายเงินที่หามาได้
ค. ประชากรในวัยทางานเพิ่มจานวนมากขึ้นกว่างาน ข. อุไรยอมอดมื้อกินมื้อเพื่อให้มีเงินเก็บมากๆ
ง. รัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมการสร้างอาชีพให้แก่ประชาชน ค. อุทัยสร้างบ้านในวงเงินที่เขามีอยู่
39. แนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงตรงกับข้อใด ง. อุดมกู้ยืมเงินก้อนใหญ่มาสร้างคอนโดมิเนียม
ก. การไม่ยอมใช้จ่าย 46. ปัญหาในข้อใดที่จัดเป็นปัญหาเศรษฐกิจด้านจุลภาค
ข. การปฏิบัติที่ยึดทางสายกลาง ก. ปัญหาจะผลิตอะไร เพื่อใคร อย่างไร
ค. การพึ่งตนเอง ไม่ยอมพึ่งผู้อื่น ข. ปัญหาเศรษฐกิจหดตัวและการว่างงาน
ง. ความอดทนเป็นอย่างยิ่ง ค. ปัญหาการเงินและการธนาคาร
40. หลักการข้อใดที่มีลักษณะตรงกันข้ามกับปรัชญาเศรษฐกิจ ง. ปัญหาการขาดแคลนทุนสารองระหว่างประเทศ
พอเพียง 47. ภาวะที่สินค้าเปลี่ยนแปลง ขึ้นหรือลง โดยแรงผลักดันของอุป
ก. หลักสันโดษ สงค์ อุปทาน เรียกว่าอะไร
ข. หลักความพอดี ก. ดุลยภาพ
ค. หลักการบริโภคนิยม ข. ระบบเศรษฐกิจ
ง. หลักการพึ่งตนเอง ค. กลไกราคา
41. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานแนวพระราชดาริ ง. ระบบตลาด
เกี่ยวกับเศรษฐกิจพอเพียงเริ่มปรากฏเมื่อไร 48. การแบ่งงานกันทาตามแนวคิดของ Adam Smith มีผลดี
ก. พ.ศ. 2516 อย่างไร
ข. พ.ศ. 2517 ก. ทาให้เกิดความชานาญเฉพาะด้าน
ค. พ.ศ. 2518 ข. ยกระดับผลิตผลของปัจจัยการผลิตให้สูงขึ้น
ง. พ.ศ. 2519 ค. หนุนให้รัฐบาลทาการค้าแบบเกินดุล
42. ทฤษฎีใหม่เป็นแนวปฏิบัติเกี่ยวกับเรื่องใด ง. จากัดผลิตผลให้ลดลง
ก. เกษตรกรรม 49. ข้อใดต่อไปนี้หมายถึงปัจจัยการผลิต
ข. พาณิชยกรรม ก. ทรัพยากรธรรมชาติที่ระบบเศรษฐกิจมีอยู่
ค. อุตสาหกรรม ข. สิ่งต่างๆที่ระบบเศรษฐกิจผลิตขึ้น
ง. การชลประทาน ค. ทรัพยากรต่างๆที่ถูกใช้ไปในรอบ 1 ปี
44. ข้อใดเป็นความพอเพียงระดับบุคคล ง. ปัจจัยที่ใช้ในการผลิตสินค้าและบริการ
ก. สมาคมแม่บ้านการเกษตรเป็นสมาคมที่มีความมั่งคั่ง
ข. ก่านันสุกนาลูกบ้านในต่าบลของตนผลิตสินค้าหนึ่งต่าบล หนึ่ง
ผลิตภัณฑ์
ค. กลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกลาไยสามารถรวมกลุ่มกันทาผลิตภัณฑ์ลาไย
ออกสู่ตลาดจนมีรายได้ดี
ง. แจ่มจันทร์และครอบครัวช่วยกันใช้จ่ายอย่างประหยัด จนมีเงิน
ออมฝากธนาคารทุกเดือน

You might also like