Professional Documents
Culture Documents
ความพิเศษ
ความพิเศษ
โดย
พวงแก้ว กิจธรรม
สารบัญ
หน้า
บทนำำ………………………………………………………………………………... 1
ควำมหมำยของ“ออทิสติก“…………………………………………………………. 2
2
ลักษณะสำำคัญที่บอกว่ำอำจเป็นเด็กออทิสติก……………………………………… 2
ระดับควำมรุนแรงของออทิสซึ่ม……………………………………………………... 5
เชำว์ปัญญำของเด็กออทิสติก……………………………………………………….. 5
กำรเกิดออทิสติก…………………………………………………………………….. 6
สำเหตุของออทิสติก…………………………………………………………………. 6
กำรวินิจฉัยเด็กออทิสติก…………………………………………………………….. 7
หัวอกพ่อแม่ของเด็กออทิสติก……………………………………………………….. 7
จุดประสงค์ของกำรบำำบัดรักษำเด็กออทิสติก……………………………………….. 7
กำรบำำบัดรักษำเด็กออทิสติก……………………………………………………….. 8
ปัจจัยสำำคัญที่มีผลต่อกำรบำำบัดรักษำเด็กออทิสติก……………………………….. 9
กำรรับประทำนยำของเด็กออทิสติก…………………………………………………. 10
ออทิสติกกับคนพิกำร………………………………………………………………….. 10
หลักกำรปฏิบัติต่อเด็กออทิสติก………………………………………………………. 11
หลักกำรทำำให้เด็กออทิสติกหยุดพฤติกรรมที่ไม่เหมำะสม…………………………… 14
กำรสร้ำงสมำธิของเด็กออทิสติกให้ยำวนำนขึ้น…………………………………….. 16
กฎเหล็กสำำหรับเด็กออทิสติก……………………………………………………….. 17
กฎเหล็กสำำหรับคนที่อยู่กับเด็กออทิสติก……………………………………………. 17
วิธีสร้ำงแรงจูงใจและแรงเสริมแก่เด็กออทิสติก……….…………………………….. 17
กำรลงโทษเด็กออทิสติก…………………………………………………………….. 18
หลักกำรปรับพฤติกรรมของเด็กออทิสติก…………………..………………………. 18
กำรมองของเด็กออทิสติก…………………………….…………………………….. 19
กำรพัฒนำกำรสื่อสำรของเด็กออทิสติก….………………………………………… 21
คำำทีใ่ ช้สอนเด็กออทิสติกสื่อสำร…………………………………………………… 24
กำรเรียนรู้ภำษำของเด็กออทิสติก………………………………………………….. 25
พูดอะไรกับเด็กออทิสติก……………………………..…………………………….. 25
เด็กออทิสติกกับดนตรี และเพลง ………………………………………………… 26
เด็กออทิสติกกับกำรกิน…………………………………………………………….. 27
สารบัญ (ต่อ)
หน้า
3
เด็กออทิสติกไม่หลับนอน.. …………………………...……………………………. 28
เด็กออทิสติกกับกำรช่วยเหลือตนเอง……………………………………………….. 28
เด็กออทิสติกกับกำรเข้ำสังคม…………………………..………………………….. 29
เด็กออทิสติกกับพี่น้อง………………………………………………………………. 30
เด็กออทิสติกถูกทำำร้ำย……………………..……………………………………….. 30
เด็กออทิสติกไม่กลัวอันตรำย………………….…………………………………….. 30
หลักกำรจัดกิจกรรมให้เด็กออทิสติกฝึกทำำ………………………………………….. 31
กำรใช้อุบำยกับเด็กออทิสติก………………………..………………………………. 32
เด็กออทิสติกกับกำรสร้ำงจินตนำกำร……………………..………………………… 33
กำรจัดกำรศึกษำสำำหรับเด็กออทิสติก…………………………..………………….. 33
เด็กออทิสติกกับกำรไปโรงเรียน…………………………………………………….. 34
กำรเตรียมเด็กออทิสติกเข้ำเรียนร่วม………..……………………………………… 35
กำรให้เด็กออทิสติกอยู่โรงเรียนประจำำ…………………..………………………….. 36
เด็กออทิสติกกับบ้ำนสัมพันธ์รัก……………………….…………………………….. 37
เด็กออทิสติกกับกำรเรียนภำษำอังกฤษ……………………...……………………… 37
กำรประสำนงำนเรื่องเด็กออทิสติก……………..…………………………………… 38
เสน่ห์ของเด็กออทิสติก…………………..………………………………………….. 39
บทส่งท้ำย………………………………..………………………………………….. 40
เอกสำรอ้ำงอิง………………………………………………………………….. 40
……………………………………………………………………………..
4
คำานำา
ขอบคุณ “ ชมรมผู้ปกครองของเด็กออทิสติก “ ที่ชวนผู้เขียนไปเข้ำค่ำยเด็กออทิสติกที่
ปำกช่อง จังหวัดนครรำชสีมำ เมื่อวันที่ 19 - 20 กรกฎำคม 2540 นอกจำกผู้เขียนได้พบปะและ
สังสรรค์กับเด็กออทิสติกหลำยคนแล้ว ผู้เขียนยังได้ตอบคำำถำม และแลกเปลี่ยนควำมคิดเห็นกับผู้
ปกครอง ครู และพี่เลี้ยงของเด็กออทิสติก รวมทั้งผู้รับผิดชอบค่ำยเด็กออทิสติกนี้ คือ คุณสำรี แมท
สัน นับเป็นโอกำสที่ผู้เขียนได้คิด ทบทวน ตลอดจนประมวลความรู้และประสบการณ์ของ
ตนเองเกี่ยวกับเด็กออทิสติกอย่างจริงจัง และกว้างขวาง รวมทั้งได้เรียนรู้ และมีประสพ
การณ์เรื่องเด็กออทิสติกเพิ่มขึ้นด้วย
จริงอยู่ แม้เมื่อครั้งเรียนที่มหำวิทยำลัยฮำวำย ประเทศสหรัฐอเมริกำ ผู้เขียนจบปริญญำโท
ด้ำนควำมผิดปกติทำงกำรพูดและโสตสัมผัสวิทยำ แต่งำนที่ทำำตลอดมำ เกี่ยวกับกำรตรวจ วินิจฉัย
และฟื้นฟูสมรรถภำพกำรได้ยินเป็นส่วนใหญ่ ส่วนงำนพัฒนำภำษำและแก้ไขกำรพูดของเด็กที่
ไม่ใช่เด็กหูตึงหรือเด็กหูหนวกมักทำำเฉพำะรำยที่คนกันเองฝำกมำเท่ำนั้น อย่ำงไรก็ตำมผู้เขียนได้มี
ประสบกำรณ์ด้ำนปรับพฤติกรรม และพัฒนำภำษำของเด็กออทิสติกด้วย
เมื่อกลับจำกค่ำยเด็กออทิสติกครั้งนั้น ในสมองยังวนเวียนคิดถึงเรื่องเด็กออทิสติกอยู่
ผู้เขียนเกรงว่ำแนวคิดและประสพกำรณ์อันทรงคุณค่ำนั้นจะเลือนหำยไปตำมประสำของผู้สูงอำยุ
จึงได้พิมพ์บันทึกไว้เท่ำที่นึกได้ ไม่คำดคิดเลยว่ำจะพิมพ์ได้ถึงเกือบ 30 หน้ำกระดำษ เอ 4 ภำยใน
เวลำ 2 วัน จึงเกิดควำมคิดว่ำน่ำจะเผยแพร่ให้ชำวชมรมผู้ปกครองเด็กออทิสติกได้อ่ำน เผื่อจะเป็น
ประโยชน์บ้ำง ดังนั้นเพื่อให้ข้อเขียนนี้สมบูรณ์ขึ้น ผู้เขียนจึงได้พยำยำมนึกถึงสำระอื่นๆ รวมทั้ง
ควำมรู้พื้นฐำนเกี่ยวกับเด็กออทิสติกอีก และพิมพ์เพิ่มเติมได้รวมประมำณ 40 หน้ำ
นั่นหมำยควำมว่ำในเบื้องต้นนั้น เนื้อหำทั้งหลำยทั้งปวงในหนังสือเล่มนี้พิมพ์จำกควำม
ทรงจำำ ไม่ได้ค้นคว้ำจำกตำำ หรับตำำ รำอื่นหรือแหล่งข้อมูลใดๆ ครั้นเมิ่อเกิดควำมคิดว่ำน่ำจะเผย
แพ่รแทนกำรเก็บไว้เป็นเพียงบันทึกส่วนตัว จึงเกิดควำมกังวลว่ำแนวคิดของผู้เขียนอำจผิดเพี้ยนไป
บ้ำงหรือไม่ จึงได้ตรวจสอบโดยกำรอ่ำนหนังสือเรื่อง “ เด็กออทิสติค :คำำ แนะนำำ สำำ หรับบิดำ
มำรดำ และนักวิชำกำร “ ของ ลอร์นำ วิง ซึ่งแปลและเรียบเรียงโดย รองศำสตรำจำรย์รจนำ ทรร
ทรำนนท์ และหนั ง สื อ เรื่ อ ง “ กำรศึ ก ษำสำำ หรั บ คนพิ ก ำร ในยุ ค โลกาภิ วั ต น์ “ ซึ่ ง เขี ย นโดย
ดร.ดำรณี อุทัยรัตนกิจ และได้นำำ ควำมรู้บำงส่วนจำกหนังสือทั้ง 2 เล่มดังกล่ำวมำพิมพ์เพิ่มเติม
ด้วย
แม้กระนั้น หนังสือเล่มนี้คงเป็นเพียงการเล่าเรื่อง “ เด็กออทิสติก “ อย่างง่ายๆ
เพื่อคนกันเองเท่านั้น
5
คำานำา 2543
ขอขอบคุณ คณะผู้จัดทำาจดหมายข่าวของมูลนิธิเพื่อบุคคลออทิซึม(ประเทศไทย)
ที่นำาเรื่อง “ เด็กออทิสติก ” ไปพิมพ์ในจดหมายข่าว….หวังว่าจะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อ
เด็กออทิสติกไม่มากก็น้อย
โดยที่หาเวลาไม่ค่อยได้นัก ผู้เขียนจึงเพียงเพิ่มสาระในข้อความบางแห่งเพื่อให้
เป็นปัจจุบันขึ้น โดยใช้ลักษณะตัวหนังสือเช่นเดียวกับคำานำานี้
พวงแก้ว กิจธรรม
ตุลาคม 2543
6
เด็กออทิสติก
โดย พวงแก้ว กิจธรรม
………………………………………………………………………………………………………
บทนำา
มี ค นรู้ จั ก คำำ ว่ ำ “ ออทิ ส ติ ก “ น้ อ ยคน เดี๋ ย วนี้ ค นรู้ จั ก คำำ นี้ เ พิ่ ม ขึ้ น
เมื่อก่อน อย่ำงไรก็ตำม ดูเหมือนว่ำในควำมรู้สึกของคนทั่วไป เรื่อง “ ออทิสซึ่ม “
หรือโดยเฉพำะ “ คนที่เป็นออทิสติก “ หรือ “ เด็กออทิสติก “ ยังเป็นเรื่อง
ทีช่ วนพิศวงสงสัย เข้ำใจยำก ไม่กล้ำเข้ำไปสัมผัสทักทำย….คนที่ทำำงำนเกี่ยวข้องกับคนพิกำรเฝ้ำดู
“ เด็ กออทิ ส ติ ก “ อยู่ ห่ำ งๆด้ ว ยควำมห่ ว งใย….พ่ อแม่ผู้ปกครองของ “ เด็ ก ออทิ ส ติ ก “ ยั ง ตื่น
ตระหนก งุนงงและไม่แน่ใจว่ำ “ เด็กออทิสติก “ เป็นคนพิกำรหรือไม่… .มีนักวิชำกำรเพียงไม่กี่คนที่
ยอมทุ่มเท เอำใจใส่เรื่อง “ ออทิสติก “ ….แม้แต่คนที่มีหน้ำที่ทำำงำนเกี่ยวกับ “ เด็กออทิสติก “ ก็
ขยำด ไม่มั่นใจ อยำกเลี่ยงไปทำำงำนอื่นที่รื่นรมย์กว่ำ และ ถ้ำ….ต้องสอนเด็กพิกำรหรือเด็กที่ต่ำง
จำกเด็กปกติ ครู…..มักขอเลือกสอน “ เด็กออทิสติก “ เป็นคนสุดท้ำย
ความหมายของ “ ออทิสติก “
ลักษณะสำาคัญที่บอกว่าอาจเป็นเด็กออทิสติก
ไม่ แ สดงอาการได้ ยิ น เสี ย ง หรื อ ไม่ มี ป ฏิ กิ ริ ย ำตอบต่ อ เสี ย ง ทั้ ง ที่ ค วำม
สำมำรถในกำรได้ยินเป็นปกติ แต่แสดงลักษณะเหมือนคนหูหนวก
ปฏิกิริยาตอบต่อเสียงผิดปกติ โดยทั่วไป มักสนใจฟังเสียงอื่นๆมำกกว่ำ
เสียงพูด บำงคน อำจแสดงอำกำรได้ยินเสียงที่คนอื่นไม่สนใจ เช่น เสียงจิ้งจก
ร้อง เสียงนำฬิกำ เป็นต้น บำงคนสนใจฟังและมีปฏิกิริยำตอบหรือพูดโต้ตอบ
กับเสียงกระซิบมำกกว่ำเสียงที่พูดดังระดับปกติ และบำงคนแสดงอำกำรกลัว
เมื่อได้ยินเสียงบำงเสียง เช่น เสียงฝนตก เสียงรถยนต์ เป็นต้น
ไม่ทำาพฤติกรรมทางสังคม อย่างเด็กทั่วไป เช่น บ๋ำยบำย สวัสดี เล่นจ๊ะเอ๋
เป็นต้น หำกสอน และฝึกให้ทำำ มักเคลื่อนไหวมือไม่เป็นธรรมชำติอย่ำงเด็ก
ปกติ ดูท่ำทำงแข็งพิกล แต่บำงคนดูเหมือนกระปลกกระเปลี้ย เช่น บ๋ำยบำย
เหมือนหุ่นยนต์ และสวัสดีแบบไม่ยกข้อมือตั้งขึ้น เป็นต้น
การเคลื่อนไหวทางร่างกายไม่ปกติ เช่น เดิน หรือวิ่งโดยมีท่ำเฉพำะตัวที่
มองออกว่ำไม่เหมือนเด็กปกติ เดินไม่ตรง กำรทรงตัวไม่ดี กำรใช้มือ และเท้ำ
ไม่คล่องแคล่ว ดูเหมือนงุ่มง่ำมเงอะงะ เวลำทำำ ท่ำ “ ขอ “ แบมือรำบไม่ได้
เพรำะมักหักข้อมือขึ้น ตบมือไม่มีเสียง จับช้อนแบบกำำ แน่น โบกมือโดยตั้ง
ฝ่ำมือขึ้นไม่ได้ หยิบจับของเล็กๆ ไม่ได้ เป็นต้น
ชอบแยกตัวไปอยู่คนเดียว ไม่เล่นกับใคร ไม่เข้ำสังคม ไม่มีเพื่อน ไม่ผูกมิตร
กับใคร ไม่ชอบอยู่ในที่มีคนพลุกพล่ำน ไม่สนใจสิ่งที่อยู่รอบตัว บำงคนชอบซุก
ตัวในซอก หรือที่แคบๆ เป็นต้น
เล่นกับตัวเองซำ้าๆ เช่น เล่นจีบนิว้ เล่นถูนิ้ว จับนิว้ เท้ำเล่น กัดเล็บ ดูดนิ้ว เอำ
มือ ถู ต ำ หรื อ ส่ว นใดส่ วนหนึ่ ง ของร่ ำ งกำย หมุน มื อ ดี ด นิ้ ว แกว่ ง แขน แกะ
สะเก็ดแผล สะบัดมือ และเกำที่ใดที่หนึ่งบ่อยๆ เป็นต้น
ไม่บอกความรู้สึก หรือความต้องการ ไม่รับรู้กำรสัมผัสทำงร่ำงกำย ไม่
แสดงอำกำรร้อน หรือหนำว ไม่ร้องกินอำหำร ไม่ชูมือขอให้อุ้ม ไม่ขออะไร ไม่
ทำำ ท่ำทำงโต้ตอบใคร แม้ใครตีหรือได้รับบำดเจ็บถึงขั้นเป็นแผลและมีเลือด
ออกก็ไม่สนใจ ไม่แสดงควำมเจ็บปวด ไม่ร้องไห้ ไม่แสดงอำกำรอำย ( เดินแก้
ผ้ำต่อหน้ำคนอื่น ฯลฯ ) บำงคนดูเหมือนคนมีควำมรู้สึกล่องลอย ไม่มีจุดหมำย
และไม่มีชีวิตชีวำ เป็นต้น
9
ระดับความรุนแรงของออทิสซึ่ม
11
เด็กออทิสติกแต่ละคนมีระดับควำมรุนแรงของควำมผิดปกติไม่เท่ำกัน ในทำงวิชำกำรจึง
มักแบ่งเด็กออทิสติกเป็น 3 ระดับ คือ เล็กน้อย ปำนกลำง และมำก แต่เกณฑ์ในกำรแบ่งระดับนั้น
ยำกที่จะกำำ หนดได้ชัดเจน เพรำะลักษณะของเด็กออทิสติกหลำกหลำยมำก อย่ำงไรก็ตำม อำจ
แบ่งได้ตำมระดับเชำว์ปัญญำ ควำมสำมำรถสื่อสำร และควำมผิดปกติทำงพฤติกรรม หรือผสม
ผสำนกัน เป็นต้น
เชาว์ปัญญาของเด็กออทิสติก
การเกิดออทิสติก
สาเหตุของออทิสติก
นอกจำกกำรตรวจพบว่ำเด็กออทิสติกมีควำมผิดปกติของคลื่นสมองแล้ว ยังไม่มีกำรค้น
พบชัดเจนว่ำออทิสติก หรือ ออทิสซึ่ม มีสำเหตุจำกอะไร บำงคนเชื่อว่ำ น่ำจะมีหลำยสำเหตุร่วม
กัน และสำเหตุที่เป็นไปได้ คือ กำรถ่ำยทอดตำมสำยเลือด หรือ กรรมพันธ์ การเจ็บป่วยหรือ
การติดเชื้อทางสมอง การบาดเจ็บบริเวณสมอง และความผิดปกติระหว่างตั้งครรภ์หรือ
คลอด เป็นต้น
การวินิจฉัยเด็กออทิสติก
จุดประสงค์ของการบำาบัดรักษาเด็กออทิสติก
หัวอกพ่อแม่ของเด็กออทิสติก
การบำาบัดรักษาเด็กออทิสติก
เมื่อครั้งเด็กออทิสติกถูกวินิจฉัยว่ำมีสำเหตุจำกควำมผิดปกติทำงจิตใจ หรือกำรเลี้ยงดูไม่
ดี กำรรักษำได้มุ่งเน้นไปที่จิตบำำบัด และปรับพฤติกรรมกำรเลี้ยงดูของพ่อแม่ ได้แก่ กำรให้ยำ ให้
ควำมรัก และควำมอบอุ่น ปลอบโยน ชักชวนให้เล่นเพลิดเพลิน และแนะแนวพ่อแม่เรื่องกำรเลี้ยงดู
เป็นต้น
ปัจจุบันกำรบำำ บัดรักษำที่สำำ คั ญ คื อ การสอน เด็กให้มีพฤติกรรมที่ถู กที่ ควรตำม
ลำำดับจำกง่ำยไปยำกอย่ำงเป็นกระบวนกำร โดยกำรกำำหนดเงื่อนไขเพื่อสร้ำงให้เด็กเกิดแรงจูงใจ
มำกที่สุด และให้รำงวัลเพื่อให้เกิดพฤติกรรมนั้นซำ้ำๆ จนเด็กเป็นผู้สำมำรถกระทำำ เอง ในลักษณะ
เป็น พฤติ ก รรมที่ ถ ำวร และพั ฒนำไปในทำงที่ เ หมำะสมยิ่ ง ขึ้ น ให้ เ ร็ ว ที่ สุ ด เท่ ำ ที่ จ ะทำำ ได้ นั่ น
หมำยควำมว่ำ นอกจำกเด็กออทิสติกควรได้รับกำรบำำ บัดอย่ำงมีประสิทธิภำพจำกผู้มีวิชำชีพ
ด้ำนนี้แล้ว เด็กออทิสติกจำาเป็นต้องได้รับการสอน และฝึกอย่างต่อเนื่องที่บ้านโดยพ่อแม่
และทุกคนในครอบครัว จนมีพฤติกรรมที่เหมาะสมอย่างถาวร และพัฒนาไปในทางที่ดี ขึ้น
ตำมลำำดับ
อนึ่ง หากวินิจฉัยพบออทิสติก เร็วเท่าไร และสามารถให้การรักษาได้ตั้งแต่เด็ก
อายุน้อยเท่าไร โอกาสที่เด็กออทิสติกจะมีพัฒนาการ พฤติกรรม และการสื่อสารใกล้เคียง
กับเด็กปกติจะมีมากเท่านั้น
ปัจจัยสำาคัญที่มีผลกระทบต่อการบำาบัด หรือรักษาเด็กออทิสติก
15
การรับประทานยาของเด็กออทิสติก
ออทิสติกกับคนพิการ
หลักการปฏิบัติต่อเด็กออทิสติก
18
หลักการทำาให้เด็กออทิสติกหยุดพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม
การสร้างสมาธิของเด็กออทิสติกให้ยาวนานขึ้น
5.ให้แรงจูงใจ และแรงเสริมแก่เด็กเมื่อเด็กแสดงว่ำมีสมำธิตำมควำมเหมำะ
สม ( ดูหน้ำ 17 )
6.จัดสภาพแวดล้อมให้เด็กอยู่ในบริเวณจำากัด เช่น ให้เด็กทำำกิจกรรมบริเวณ
ตรงมุมห้อง บริเวณแคบๆ บริเวณที่กั้นเป็นเขตไว้ จัดฉำกกั้นรอบตัวเด็ก หรือใช้ห้องที่ไม่กว้ำงนัก
เป็นต้น
7.กำา หนดเวลาการทำา กิจกรรม เพื่อให้เด็กคำดกำรณ์ได้ว่ำจะเสร็จสิ้นเมื่อไร
อำจใช้กิจกรรม หรือนำฬิกำเป็นตัวกำำหนด เช่น ร้อยลูกปัดหมดทุกลูก แล้วเลิก หรือ ระบำยสี 15
นำที แล้วเลิก เป็นต้น ทัง้ นี้ควรเริ่มจำกทำำกิจกรรมเป็นระยะเวลำสั้นๆ แล้วค่อยเพิ่มเวลำให้นำนขึ้น
ตำมควำมสำมำรถ และสมำธิของเด็กแต่ละคน
กฎเหล็กสำาหรับเด็กออทิสติก
กฎเหล็กสำาหรับคนที่อยู่กับเด็กออทิสติก
วิธีการสร้างแรงจูงใจและแรงเสริมสำาหรับเด็กออทิสติก
1. ยิ้ม
2. ยิ้ม และพยักหน้ำ
3. พูดชมเชย เช่น - ถูก แม่ชอบ ดี เก่ง เก่งจริงๆ ฉลำด ฯลฯ
- สวยดี เร็วดี เพรำะดี ชัดดี ฯลฯ
4. พูดชมเชยพร้อมกับตบมือ อำจชวนเด็กตบมือให้ตนเองด้วย
5. พูดชมเชยพร้อมกับชูนิ้วหัวแม่มือให้เด็กดู
6. พูดชมเชยพร้อมกับชวนให้คนอื่นๆ ดู ให้คนอื่นตบมือให้ ยกนิ้วหัวแม่มือให้
หรือให้คนอื่นพูดชมเชยอีก
7. ให้รางวัลที่เด็กพอใจ และเหมำะสมกับสถำนกำรณ์นั้นๆ เช่น ให้ของเล่น ให้
ขนมกิน ให้ดูโทรทัศน์ พำไปเดินเล่น พำไปเที่ยว ฯลฯ ข้อสำำคัญคือ ไม่ควรให้
รางวัลในลักษณะที่เป็นการยกเว้น ไม่ต้องทำาตามกฎระเบียบ หรือข้อ
ตกลง
การลงโทษเด็กออทิสติก
หลักการปรับพฤติกรรมของเด็กออทิสติก
25
วิธีกำรปรับพฤติกรรมของเด็กมีควำมแตกต่ำงกันตำมลักษณะของพฤติกรรม และเด็ก
แต่ละคน หลักกำรที่สำำคัญคือ
1. กำำ หนดในใจว่ำจะมุ่งมั่นปรับพฤติกรรม ให้เด็กออทิสติกมีพฤติกรรมใกล้
เคียงกับเด็กปกติมำกที่สุดเท่ำที่ทำำได้
2. บันทึกพฤติกรรมที่ไม่ปกติ และไม่สมควรปล่อยให้เด็กทำำ ต่อไป โดยเรียง
ลำำดับจำกผิดปกติจำกมำกไปน้อย หรือจำกต้องรีบแก้ก่อนไปที่รอกำรแก้ได้
3. ปรับแก้ทีละพฤติกรรม ไม่ควรปรับแก้ตลอดทั้งวัน หรือตลอดเวลำ หรือปรับ
ทุ ก พฤติ ก รรมพร้ อ มกั น เพรำะจะดู เ หมื อ นจุ ก จิ ก เข้ ม งวด และสร้ ำ ง
ควำมเครียดให้เด็กมำก
4. กำำ หนดพฤติก รรมซึ่ง เป็น เป้ำหมำยที่ จ ะต้ อ งปรั บให้ ห มดไปแบบระยะสั้ น
และระยะยาว พฤติกรรมทีไ่ ม่เกิดบ่อยควรรีบปรับทันทีที่เกิดขึ้นเพื่อให้หมดไป
ส่วนพฤติกรรมที่ทำำซำ้ำๆมำยำวนำนต้องเลือกเน้นปรับเฉพำะบำงเรื่องเป็นหลัก
มำกกว่ำพฤติกรรมอื่นๆ นั่นคือทะยอยแก้ทีละพฤติกรรม แบบค่อยเป็นค่อยไป
ปล่อยพฤติกรรมที่ไม่ค่อยสำำคัญไปก่อน สำาหรับพฤติกรรมหลักที่ต้องการ
แก้ ควรเฝ้าดูตลอดเวลา และป้ องกัน ไม่ใ ห้เกิ ดพฤติกรรมนั้ นๆซำ้า ๆ
หรือ ติดต่อกันทุกวัน จนกว่าจะกำาจัดพฤติกรรมนั้นให้หมดไป แล้วจึง
เฝ้าดู และกำาจัดพฤติกรรมอื่นตามลำาดับ ในขณะเดียวกันเมื่อต้องการ
สร้างพฤติกรรมอะไร ต้องจูงใจ หรือกระตุ้นให้เกิดพฤติกรรมนั้นใน
สถานการณ์ ที่เหมาะสมทุ กครั้ง จนกว่า เด็ก จะทำา ได้เ องจนเป็ น นิ สั ย
ประจำา โดยหลักกำรต้องจัดกำรให้พฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ลดลงๆ และ
พฤติกรรมที่พึงประสงค์เพิ่มขึ้นๆ จนกระทั่งพฤติกรรมทีไ่ ม่พึงประสงค์หมดไป
กำรพยำยำมหยุดทุกพฤติกรรมที่ไม่ปกติพร้อมกัน หรือกำร
สร้ำงทุกพฤติกรรมให้ปกติพร้อมกันตลอดเวลำ เช่น พยำยำมให้เด็กทำำในสิ่งที่
เด็กไม่ต้องกำรพร้อมกัน ได้แก่ แปรงฟัน สบตำ ไม่เล่นมือ ไม่ร้องไห้ ฯลฯ หรือ
พยำยำมให้เด็กพูดเสียงชัดทุกคำำ หรือชัดทุกพยัญชนะตลอดเวลำ มักประสบ
ผลสำำเร็จช้ำกว่ำ ควรมุ่งให้เด็กยอมแปรงฟันโดยไม่สนใจว่ำเด็กจะสบตำ หรือ
เล่นมือ ต่อไปเมื่อเด็กยอมรับ และเคยชินกับกำรแปรงฟันแล้ว จึงมุ่งเน้นให้เด็ก
หยุดเล่นมือขณะแปรงฟัน และมุ่งเน้นปรับแก้ให้เด็กพูดคำำที่สำำ คัญจนชัดเป็น
นิสัยก่อน แล้วจึงแก้เสียงคำำอื่นต่อไป มักช่วยให้เด็กสับสนน้อยลง
5. ให้เด็กทำำกิจกรรมที่เด็กสนใจที่สุด แล้วจึงใช้กิจกรรมที่เด็กสนใจนั้นนำาไปสู่
การทำากิจกรรมอื่น โดยสอดแทรกกิจกรรมใหม่เข้ำไปทีละนิดๆ จนผสมผสำน
26
การมองของเด็กออทิสติก
การพัฒนาการสื่อสารของเด็กออทิสติก
หลักกำรช่วยเด็กออทิสติกให้ติดต่อสื่อสำรกับคนอื่นได้ ต้องเริ่มโดยกำรพัฒนำภำษำก่อน
โดยกำรเลือกภำษำที่เหมำะสมสำำหรับเด็กแต่ละคน ซึ่งอำจแตกต่ำงกัน ดังนี้
1.ภาษาท่าทาง สำำหรับเด็กเล็ก หรือเด็กที่พูดไม่ได้ ควรเริ่มต้นให้สื่อสำรโดยกำรพัฒนำ
ภำษำท่ำทำงง่ำยๆ เช่น ส่ายหน้า แทนกำรพูด “ ไม่เอำ “ “ไม่ทำำ “ “ แม่ไม่ชอบ “ พยักหน้า
แทนกำรพูด “ ได้ “ “ ตกลง “ “ ใช่ “ กอด แทนกำรพูด “ รัก “ “ ดีใจ “ “ ชอบ “ และใช้นิ้วชี้
บอกสิ่งที่ต้องการ เป็นต้น อนึ่งขณะทำำ ท่ำทำงควรแสดงสีหน้าให้สอดคล้องกับความหมาย
ด้วย เพรำะสีหน้ำช่วยบอกเด็กออทิสติกให้เข้ำใจควำมหมำยของท่ำทำงได้ดียิ่งขึ้น
28
ยกเว้นกรณีที่เด็กออทิสติกติดการพูดเลียนแบบมาก ต้องฝึกเด็กให้พูดเลียนแบบ
ตามข้อ 3.4 ก่อน แล้วจึงค่อยๆ ลดการเลียนแบบลง และใช้วิธีการตามข้อ 3.2
ส่วนเด็กที่ไม่เลียนแบบ ควรลองเริ่มจำกฝึกกำรเลียนแบบ ท่ำทำงที่ใช้ในกำรสื่อสำร
ง่ำยๆ ก่อน เช่น บ๋ำยบำย สวัสดี ขอ ยิ้ม เป็นต้น เมื่อเด็กเข้ำใจเรื่องกำรทำำท่ำทำงเลียนแบบแล้ว จึง
ฝึกกำรพูดเลียนแบบคำำง่ำยๆ อนึ่งในกำรฝึกเลียนแบบท่ำทำง เด็กออทิสติกมักแยก ขวำ - ซ้ำย ไม่
ได้ ดังนั้นหำกหันหน้ำเข้ำหำกัน เมื่อผู้ฝึกยกมือขวำ เด็กออทิสติก มักเลียนแบบโดยยกมือซ้ำยเพื่อ
ให้มืออยู่ด้ำนเดียวกับผู้ฝึก ในระยะแรกจึงอำจฝึกโดยให้ผู้ฝึก และเด็กออทิสติกนั่งหันข้ำงเข้ำหำกัน
แต่ถ้ำต้องจูงใจเด็กโดยกำรสบตำ อำจต้องใช้วิธีนั่งหันหน้ำเข้ำหำกัน ทว่ำผู้ฝึกยกมือด้ำนตรงข้ำม
30
คำาที่ใช้สอนเด็กออทิสติกสื่อสาร
ในกำรพูด สอนให้เ ด็ก รู้ควำมหมำยของคำำ แต่ ล ะคำำ ถ้ ำ นำา คำา ที่ ต้องการสอนไว้ ท้ า ย
ประโยค จะช่วยให้เด็กสนใจ จำำ และพูดคำำนั้นได้เร็วขึ้น เพรำะเด็กชอบพูดเลียนแบบคำำที่อยู่ท้ำยๆ
เช่น “ แม่หยิบขวดนม แม่เปิดขวดนม แม่เทนม “ “ แม่กินนม แม่ชอบนม โอมกินนม โอมชอบนม “
เป็นต้น
ควรเลือกคำาที่ใช้สื่อสารบ่อยๆของแต่ละข้อ ( 1 - 18 ) มาสอนก่อน แล้วจึงเลือกคำา
อื่นๆ ที่ใช้น้อยลงของแต่ละข้อมาสอนตามลำาดับ
ทั้งนี้ ควรเริ่มสอนคำำที่มี พยำงค์เดียวก่อน เด็กจะสนใจ จำำ และใช้พูดได้ง่ำย ต่อไปจึงสอน
คำำที่มีพยำงค์เพิ่มมำกขึ้นตำมลำำดับ
เมื่อสอนคำำสำำคัญๆ แล้ว ต่อไปจึงสอนคำำอื่นๆ เพิ่มขึ้น พร้อมทั้งนำำคำำที่สอนแล้วมำรวมกัน
เป็นวลี ประโยคสั้น ประโยคยำว และข้อควำม ตำมลำำดับ
นอกจำกนั้น ควรนำำ คำำ ที่สอนแล้ว หรือคำำ ที่เด็กเข้ำใจควำมหมำยแล้ว รวมทั้งคำำ ที่เด็ก
สำมำรถพูดได้แล้วไปฝึกใช้สื่อสำรและทบทวนบ่อยๆโดยให้เด็กได้มีโอกำสพูดกับคนหลำยๆคน
การเรียนรู้ภาษาของเด็กออทิสติก
32
พูดอะไรกับเด็กออทิสติก
เด็กออทิสติกกับดนตรีและเพลง
เด็ ก ออทิ ส ติ ก บำงคนไม่อ ยู่ นิ่ ง หรื อ ซนผิ ด ปกติ จนแพทย์ ต้ อ งให้ ย ำเพื่ อ ให้ เ ด็ ก สงบลง
อย่ำงไรก็ตำมเคยมีคนศึกษำพบว่ำ กำรเปิดเพลงดนตรีบรรเลงที่ไม่มีเนื้อร้องเลยให้เด็ก
ออทิสติกได้ยินดังๆในขณะที่เด็กทำำกิจกรรมอื่นใดก็ตำมมีส่วนช่วยเด็กให้สงบได้ในระดับหนึ่ง
นอกจำกนั้น สำำหรับเด็กออทิสติกที่เริ่มมีกำรพัฒนำภำษำพูด และมีควำมจำำดีพอสมควร
กำรเปิดเพลงที่มีเนื้อร้องง่ายๆ และมีทำา นองที่เด็กสนใจให้เด็กฟัง หรือกำรสอนร้องเพลง
โดยตรง อำจทำำ ให้เด็กบางคนสามารถจำา เนื้อร้อง และร้องเพลงตามทำา นองได้ แม้เด็กไม่
เข้ำใจเนื้อร้อง และไม่สำมำรถนำำคำำพูดในเนื้อร้องนั้นไปสื่อสำร แต่เด็กชอบร้องเพลงตำมเพรำะเด็ก
ออทิสติกมีธรรมชำติชอบเปล่งเสียง หรือพูดเลียนแบบ อำจเริ่มต้นโดยกำรใช้เพลงของนักเรียน
อนุบำล หรือเพลงเด็กๆ ต่อไปจึงใช้เพลงที่กำำ ลังเป็นที่นิยมของผู้ใหญ่ทั่วไป นอกจำกนั้นอำจฝึก
เด็กทำำท่ำทำงเลียนแบบ หรือตำมแบบ หรือตำมสั่งตำมเนื้อเพลงได้( ดูหน้ำ 28 )
เด็กออทิสติกกับการกิน
สิ่งแรกที่ต้องตรวจสอบเมื่อเด็กออทิสติกไม่กินอาหารคือเด็กมีอาการเจ็บป่วย เช่น
เจ็บคอ เป็นหวัด ปวดฟัน เป็นแผลในปำก หรือไม่ ถ้ำมี ต้องแก้ไขสำเหตุโดยเร็ว ถ้ำไม่มีจึงพิจำรณำ
ว่ำเป็นพฤติกรรมผิดปกติที่ต้องแก้ไขหรือไม่
ขั้นแรกควรแก้ไขปัญหำโดยใช้แรงจูงใจทั้งหมด ( ดูหน้ำ 17 ) รวมทั้งกำรสรรหำอำหำรที่
เด็กเคยชอบมำให้เด็กเลือกกิน หำกไม่ได้ผล ท่ำนผู้รู้หลำยท่ำนแนะนำำว่ำให้ดำำเนินกำรขั้นเด็ดขำด
คือใจแข็ง ไม่ต้องกระตุ้นให้เด็กกินอะไรอีก ปล่อยเวลาผ่านไป จนกว่าเขาจะหิวจัด และ
ตัดสินใจขอกิน หรือหากินเอง
ถ้ำปัญหำนี้ไม่ใช่ปัญหำใหญ่ที่เกิดขึ้นประจำำ แต่ต้องกำรแก้ไข ให้ใช้วิธีจัดหาของที่เด็ก
ชอบกินไว้ในที่ที่เขาจะหยิบกินเองได้ง่าย เมื่อเด็กต้องกำรกินจะได้หยิบกินเอง แต่ถ้ำกำรไม่
ยอมกินอำหำรเป็นปัญหำเกิดจำกเด็กออทิสติกต้องกำรใช้กำรไม่กินอำหำรเป็นกำรประท้วง ต่อรอง
หรื อต่อ ต้ำน และโยงไยให้เ ด็ก แสดงพฤติ กรรมอื่ นๆที่ไม่เ หมำะสม หรื อในขณะเดี ยวกันพ่ อแม่
ต้องกำรใช้กรณีนี้เป็นหลักในกำรปรับพฤติกรรมอื่นๆของเด็ก อำจใช่วิธีเก็บอำหำรทั้งหมด เพื่อไม่
ให้เขำหยิบกินอะไรได้ จนกว่ำเขาจะตัดสินใจยอมรับกฎเกณฑ์ และขอกินเอง สำำหรับวิธีกำร
ให้เด็กดื่มนม หรือกินขนมแทนกินอำหำรไม่สำมำรถปรับพฤติกรรมกำรประท้วงหรือต่อต้ำนโดยไม่
ยอมกินอำหำรของเด็กได้ สิ่งสำาคัญคือไม่ควรกลัวเด็กอดอำหำรและพยำยำมให้เด็กกินอำหำรโดย
ยอมให้เด็กกินของที่เด็กไม่ควรกิน เช่น กำแฟ หรือของที่อำจเป็นอันตรำยกับเด็ก นอกจำกนั้นไม่
ควรยอมให้เด็กทำำในสิ่งที่ไม่ควรทำำ หรือไม่ควรยอมให้เด็กแสดงพฤติกรรมผิดปกติ เพื่อแลกกับกำร
ให้เด็กยอมกินอำหำร
พ่อแม่ควรฝึกเด็กออทิสติกให้กินอาหารทั่วไปสมตามวัยเหมือนเด็กปกติตั้งแต่เด็กเริ่ม
กินอำหำรได้ มิฉะนั้น เด็กออทิสติกอำจมีนิสัยเลือกรับประทำนอำหำรเฉพำะอย่ำง เช่น ไม่ยอมกิน
ข้ำวเลย กินข้ำวคลุกนำ้ำปลำอย่ำงเดียว และไม่กินอำหำรที่ต้องเคี้ยว เป็นต้น
ถ้ำเด็กออทิสติกเลือกกินอำหำรเฉพำะอย่ำง คงต้องยอมจัดหำให้เด็กกิน ดีกว่ำที่เด็กไม่ได้
กินอะไรเลย แต่ต้องระมัดระวังไม่ให้เด็กกินของที่สกปรก หรือเป็นอันตรำย ในขณะเดียวกันต้อง
พยำยำมหำหนทำงให้เด็กหัดกินอำหำรอื่นที่เป็นประโยชน์ โดยชักชวนให้ลองชิม ให้เด็กออทิสติกดู
เด็กคนอื่นกินเป็นตัวอย่ำง จัดอำหำรให้ดูน่ำกิน หรือจัดอำหำรในลักษณะที่เด็กชอบ อำจทำำอำหำร
ให้มีรูปร่ำงแปลกๆ เพื่อดึงดูดให้เด็กสนใจ หำกจำำเป็น อำจต้องใช้วิธียอมให้เด็กเล่นสิ่งที่เด็กชอบ
เพลินๆ และกินอำหำรที่พ่อแม่จัดให้ไปพร้อมกัน เป็นต้น
เด็กออทิสติกบางคนชอบกินของที่ไม่ใช่อาหาร เช่น กระดำษ พลำสติก ยำสีฟัน ต้น
หญ้ำ ฯลฯ พ่อแม่ต้องคอยดูแล ป้องกัน และห้ำมปรำม ตลอดเวลำเพรำะอำจเกิดอันตรำยได้
เด็กออทิสติกชอบบางคนกินตลอดเวลา แต่ควำมที่เด็กออทิสติกไม่ค่อยอยู่นิ่ง จึงไม่
ค่อยพบเด็กออทิสติกมีนำ้ำ หนักเกินมำตรฐำน อย่ำงไรก็ตำมพ่อแม่ควรคอยดูแลควบคุมอำหำร
35
เด็กออทิสติกไม่หลับนอน
เด็กออทิสติกกับการช่วยเหลือตนเอง
เด็กออทิสติกกับการเข้าสังคม
36
เด็กออทิสติกกับพี่น้อง
ถ้ำเด็กออทิสติกเป็นลูกคนแรก พ่อแม่หลำยคนตัดสินใจใช้เวลำดูแลเด็กออทิสติกโดยยัง
ไม่มีลูกอีกจนกว่ำเด็กออทิสติกจะโตพอ และช่วยเหลือตัวเองได้ แต่บำงคนก็รีบมีลูกเพื่อให้เด็กออทิ
สติกมีน้องเป็นเพื่อนและคอยดูแล อย่ำงไรก็ตำมเด็กออทิสติกบำงคนมีพี่ บำงคนมีน้อง และบำง
คนมีทั้งพี่และน้อง
เช่นเดียวกับครอบครัวเด็กปกติทั่วไประหว่ำงพี่น้องมักมีกำรทะเลำะเบำะแว้ง รังแก และ
อิจฉำกัน เด็กออทิสติกมักถูกพี่น้องอิจฉำว่ำพ่อแม่เอำใจใส่ดูแล และตำมใจมำก และเด็กออทิสติ
กก็อิจฉาพี่น้องเป็นเหมือนกัน ดังนั้น พ่อแม่จึงต้องรับภำระหนักในกำรรักษำควำมสมดุลย์ให้
ได้ โดยพยำยำมยึดควำมยุติธรรมเป็นหลัก และส่งเสริมเด็กให้เล่นด้วยกันหรือมีกิจกรรมร่วมกัน
โดยพ่อแม่คอยกำำกับดูแล และสอนกติกำต่ำงๆ เช่น รู้จักแบ่งของกัน ผลัดกันเล่น รู้จักกำรรอ ช่วย
กันเก็บของเล่น และยอมรับกำรแพ้ เป็นต้น
เด็กออทิสติกถูกทำาร้าย
เด็กออทิสติกไม่กลัวอันตราย
หลักการจัดกิจกรรมให้เด็กออทิสติกฝึกทำา
การใช้อุบายกับเด็กออทิสติก
เด็กออทิสติกกับการสร้างจินตนาการ
จำกข้ อ จำำ กั ด ในกำรคิ ด และเรี ย นรู้ ข องเด็ ก ออทิ ส ติ ก ทำำ ให้ เ ด็ ก ออทิ ส ติ ก พั ฒ นำกำรมี
จินตนำกำรช้ำ จึงควรช่วยสอน ฝึก และกระตุ้นด้วย โดยกำรเล่นบทบาทสมมุติ เป็นคนอำชีพ
ต่ำงๆ เป็นสัตว์ เป็นสิ่งของ เป็นต้น เล่นการเดาหรือคาดคะเน เช่น ให้บอกชนิดของสิ่งของโดยไม่
ให้ดูแต่ใช้กำรคลำำ หรือบอกชนิดของเสียงโดยให้ฟังเสียงแต่ไม่ให้เห็นต้นกำำเนิดเสียง และ เล่นเติม
ส่วนที่หาย เช่น ให้เด็กหำรูปสัตว์ หรือสิ่งของที่เห็นเพียงบำงส่วนในภำพ เป็นต้น
การจัดการศึกษาสำาหรับเด็กออทิสติก
เด็กออทิสติกจำำเป็นต้องได้รับกำรศึกษำเช่นเดียวกับเด็กทั่วไป และเด็กพิกำรประเภทอื่นๆ
อุปสรรคในกำรศึกษำของเด็กออทิสติก คือเด็กไม่สำมำรถรับรู้ และสื่อสำรได้เท่ำกับเด็กทั่วไป เด็ก
มักมีสมำธิสั้น และเด็กไม่ชอบเข้ำร่วมกิจกรรมกลุ่ม หรือคบหำเพื่อนเพื่อช่วยเหลือและปรึกษำ
หำรือ เด็กจึงไม่ค่อยเข้ำใจเนื้อหำวิชำที่เรียน เรียนช้ำ และผลกำรสอบไม่ดี
สำำหรับกำรจัดกำรศึกษำให้แก่เด็กออทิสติก มีควำมคิดเห็นแตกเป็น 2 ฝ่ำย คือ 1) เชื่อว่ำ
ควรจัดกำรศึกษำให้เด็กออทิสติกโดยเฉพำะ เหมือนที่รัฐ และองค์กรเอกชนจัดกำรศึกษำเฉพำะให้
เด็กตำบอด เด็กปัญญำอ่อน เด็กพิกำรทำงร่ำงกำย และเด็กหูหนวก เป็นต้น และ 2) เชื่อว่ำกำร
เรียนร่วมเป็นกำรจัดกำรศึกษำที่ดีที่สุดสำำหรับเด็กออทิสติก
จริงอยู่ที่ว่ำ หำกจัดเด็กออทิสติกเรียนร่วมกับเด็กปกติ เด็กจะเลียนแบบพัฒนำกำรของ
เด็กปกติ และเรียนรู้กำรสื่อสำร ตลอดจนกำรเข้ำสังคม ซึ่งช่วยให้กำรปรับพฤติกรรม และกำร
พัฒนำภำษำเป็นไปได้อย่ำงรวดเร็ว แต่นั่นหมำยควำมว่ำ ต้องมีร ะบบกำรบริหำรจัดกำรที่เอื้อ
อำำนวยหรือช่วยเหลือเด็กออทิสติกเป็นพิเศษอย่ำงมีประสิทธิภำพ เช่น ครูที่สอนหรือรับผิดชอบ
ต้องมีควำมรู้เรื่องเด็กออทิสติกอย่ำงดี สำมำรถจัดกำรเรียนกำรสอนให้สอดคล้องกับควำมต้องกำร
ของเด็กแต่ละคน และสอนเสริมให้เด็กมีศักยภำพใกล้เคียงกับเด็กปกติในห้องเดียวกัน ตลอดจน
41
เด็กออทิสติกกับการไปโรงเรียน
ถ้ำเป็น ไปได้ควรให้โ อกำสเด็ ก ออทิ ส ติ กได้ เ ข้ ำ โรงเรี ย นในวั ย เดี ย วกั บเด็ ก ทั่ว ไป แต่ ใน
ปัจจุบัน ส่วนใหญ่มักพบว่ำเด็กออทิสติกปรับพฤติกรรมได้ล่ำช่ำกว่ำเด็กปกติมำก เด็กออทิสติก
จึงต้องเข้ำไปเรียนกับเด็กปกติที่อำยุน้อยกว่ำ และตัวเล็กกว่ำ
พ่อแม่หลำยคนสงสัยว่ำ ควรไปดูแลลูกออทิสติกที่โรงเรียนหรือไม่ โดยหลักกำรแล้วหำก
เด็กพึ่งตนเองได้อย่ำงเป็นอิสระ หรือครูรับว่ำสำมำรถดูแลเด็กได้ พ่อแม่ไม่จำำ เป็นต้องไปดูแลลูก
เลย สิ่งที่ควรทำำคือไปรอรับลูกก่อนเลิกเรียน เมื่อเด็กออทิสติกออกจำกห้องเรียนแล้วพบพ่อแม่มำ
42
การเตรียมเด็กออทิสติกเข้าเรียนร่วม
เด็กออทิสติกกับบ้านสัมพันธ์รัก
เด็กออทิสติกกับการเรียนภาษาอังกฤษ
ลักษณะเด่นที่พบบ่อยประกำรหนึ่งของเด็กออทิสติก คือกำรเปล่งเสียงที่ไม่เป็นภำษำพูด
ปกติ แต่ใช้เป็นภำษำสำำ หรับสื่อสำรของตนเอง เช่น เปล่งเสียง “ บู บู “ ทุกครั้งที่ต้องกำรสื่อว่ำ
ต้องกำร “ นม “ เป็นต้น นอกจำกนั้นเด็กออทิสติกมักมีปฏิกิริยำตอบต่อเสียงอื่นๆ มำกกว่ำเสียงพูด
นัน่ แสดงว่ำ เด็กออทิสติกมักสนใจเสียงอื่นที่ไม่ใช่เสียงภำษำพูดที่ใช้ทั่วไป หรือภำษำไทยนั่นเอง
ดังนั้น จึงมักพบว่ำ เมื่อเด็กออทิสติกได้ยินเสียงพูดภำษำอังกฤษ เด็กมักสนใจฟัง และ
เปล่งเสียงพูดเลียนแบบได้ ครั้นเด็กออทิสติกอยู่ในวัยเรียนซึ่งเด็กปกติในวัยเดียวกันได้เรียนภำษำ
อังกฤษแล้ว พ่อแม่ของเด็กออทิสติกจึงสงสัยว่ำ เด็กออทิสติกควรเรียนภำษำอังกฤษหรือไม่ บำง
46
คนเกรงว่ำกำรเรียนภำษำอังกฤษจะทำำให้ภำษำไทยพัฒนำช้ำลง หรือทำำให้เด็กออทิสติกสับสน
ระหว่ำงทั้ง 2 ภำษำ
จำกประสพกำรณ์ ผู้เขียนพบว่ำ เด็กออทิสติกสนใจภำษำอังกฤษ สำมำรถเรียนรู้คำำศัพท์
เปล่งเสียงพูดและร้องเพลงภำษำอังกฤษได้พร้อมกับกำรเรียนภำษำไทย แต่ควรส่งเสริมเด็กออทิ
สติกเรียนภำษำอังกฤษมำกน้อยแค่ไหนคงต้องมีกำรศึกษำเรื่องนี้ต่อไป
การประสานงานเรื่องเด็กออทิสติก
การมีคนฝ่ายต่างๆมาประสานงานดูแลเด็กออทิสติกมากเท่าไร จะช่วยเด็กออทิ
สติกให้ฟื้นฟูสมรรถภาพได้ใกล้เคียงกับเด็กปกติเร็วเท่านั้น
เสน่ห์ของเด็กออทิสติก
บทส่งท้าย
เด็กออทิสติกแต่ละคนมีเอกลักษณ์ของตนเอง
ไม่ มี ใ คร ไม่ มี บ ทควำมใด และไม่ มี ตำำ รำเล่ ม ไหนที่ บ อกกล่ ำ วเรื่ อ งรำวได้
สอดคล้องต้องกันกับเด็กออทิสติกคนใดคนหนึ่งทุกประกำร
ไม่มี “ สูตรสำาเร็จ “ ในกำรเลี้ยงดู พัฒนำ บำำบัด รักษำ เด็กออทิสติกคนใด
คนที่เลี้ยงดูเด็กออทิสติกแต่ละคนเท่านั้น……..
………ที่รู้จักเด็กออทิสติกของตนเองดีที่สุด
คนที่เลี้ยงดูเด็กออทิสติกแต่ละคนเท่านั้น…….
……..ที่สำมำรถ ค้นหา วิธีเลี้ยงดู พัฒนำ บำำบัด รักษำ
..ที่ดีที่สุด
..ที่เหมาะสมที่สุด และ
..มีประสิทธิภาพมากที่สุด สำาหรับเด็กออทิสติกของตนเอง
ขอเป็นแรงใจให้พ่อแม่ของเด็กออทิส ติก
ทุกคน
จง ค้นหา ..หา ..หา..หา.. หา…หา..เถิด
เขาคือผู้ยิ่งใหญ่
………………………………………………………………………………