Professional Documents
Culture Documents
Sympetalae 3
Sympetalae 3
ชื่อ-สกุล.........................................................................................................รหั ส............................................
ปฏิบัติการ Sympetalae III
โรสแมรี่ กระท่อม ลูกพุด ปัญจขันธ์ ยอบ้าน ตดหมูตดหมา กระดอม
มะระขี้นก หล่อฮังก๊วย ตาลึง หนาด สีเสียดเทศ โด่ไม่รู้ล้ม ขลู่
หญ้าดอกขาว เก็กฮวย สาบเสือ กะเม็ง หญ้าหวาน คาฝอย ตานหม่อน
ว่านมหากาฬ พิมเสนต้น ลาเวนเดอร์ กาแฟ โกฐจุฬาลัมพา
ข้อที่ ข้อมูลประกอบ คาตอบ
ไม้ยืนต้น พบมากทางภาคใต้ มีหลายพันธุ์ คือพันธุ์ก้านแดง แตงกวา และ
-
ro
ชื่อพืช.............................................................
ยักษ์ใหญ่ ส่วนที่ใช้เป็นยาคือใบ นิยมใช้ใบของพันธุ์ก้านแดง ใช้เป็นยาแก้บิด
หูใบแบบใด ............................................……
Interpetiolar stipule
แก้ปวดท้อง แก้ท้องร่วง ระงับประสาท การเคี้ยวใบจะทาให้คอไม่แห้ง รู้สึก
กระชุ่มกระชวยและทนงานหนักได้นานขึ้นโดยไม่รู้สึกปวดเมื่อย พืชนี้มีสาร
indole alkaloids ที่สาคัญคือ mitragynine มีฤทธิ์แก้ปวด กระตุ้นระบบ
1 ประสาทส่วนกลาง เวลารับประทานใบกระท่อมจะรูดเส้นกลางใบและเส้นใบ
ใหญ่ๆ ออก และไม่ควรกลืนกาก เพราะอาจจะทาให้เกิด “ถุงท่อม” ที่มี
ลักษณะเป็นก้อนแข็งอยู่ในท้องซึ่งจะทาให้ปวดท้องได้ ในปัจจุบันยกเลิกพืช
กระท่อมจากการเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 ซึ่งมีผลใช้บังคับตั้งแต่
วันที่ 24 สิงหาคม 2564 เป็นต้นไป ทาให้สามารถใช้กระท่อมได้อย่างอิสระ
มากขึ้น
boy
พืชนี้มีหลากพันธุ์หลายชนิด แต่ที่รู้จักกันโดยทั่วไปจะมีอยู่ 4 พันธุ์ คือ MTCII
ชื่อพืช..............……………….……...................
1. อราบิก้า (Arabica)
เป็นส่วนใดของพืช......................................
2. โรบัสต้า (Robusta)
3. เอ็กซ์เซลซ่า (Excelsa)
4. ลิเบอริก้า (Liberica)
แต่พันธุ์ลิเบอริก้าและเอ็กซ์เซลซ่า ไม่นิยมปลูกเพื่อการค้าเนื่องจากรสชาติไม่
ค่อยดีนัก ส่วนพันธุ์ที่นิยมปลูกเพื่อการค้าและมีขายกันโดยทั่วไปมีอยู่ 2 พันธุ์
คือ อราบิก้า และโรบัสต้า เมล็ดมีสาร caffeine กระตุ้นระบบประสาท
2
ส่วนกลาง
พันธุ์อราบิก้าเป็นที่นิยมปลูกและบริโภคกันมาสุดเนื่องจากให้กลิ่นและ
รสชาติที่ดีที่สุด รูปทรงของเมล็ดค่อนข้างเรียวผอม รอยผ่าไส้กลางมีลักษณะ
คล้ายตัว S เมื่อผ่านกระบวนการผลิตแล้ว พันธุ์นี้จะมีกลิ่นหอมหวานอบอวล
ซับซ้อน รสชาตินุ่มละมุน มีปริมาณคาเฟอีน ประมาณ 1.1-1.7 เปอร์เซ็นต์
หรือประมาณครึ่งหนึ่งของพันธุ์โรบัสต้าในสัดส่วนเท่ากัน เป็นกาแฟที่ชอบ
ขึ้นในสภาพภูมิอากาศเย็น ส่วนใหญ่จะปลูกทางตอนเหนือของประเทศ เช่น
เชียงใหม่ เชียงราย ตาก น่าน แม่ฮ่องสอน ลาปาง
ข้อที่ ข้อมูลประกอบ คาตอบ
พันธุ์โรบัสต้าเป็นพันธุ์ที่ปลูกได้ในที่ที่มีความชื้นสูง ปลูกง่ายให้ปริมาณ
ผลผลิตมาก นิยมปลูกกันมากในทวีปอัฟริกาและเอเชีย สาหรับประเทศไทย
นิยมปลูกกันทางภาคใต้ เช่น จังหวัดชุมพร, สุราษฏร์ธานี, นครศรีธรรมราช
2
เมล็ดจะอวบอ้วน ด้านหลังมีลักษณะนูนเป็นหลังเต่า รอยผ่าไส้กลางเมล็ดจะ
(ต่อ)
เป็นเส้นค่อนข้างตรง สายพันธุ์นี้ กลิ่นไม่หอมหวานอบอวล ไม่ซับซ้อน
รสชาติฝาดกว่าพันธุ์อราบิก้า และมีปริมาณคาเฟอีนสูงกว่า 1-2 เท่าตัวหรือ
ประมาณ 2-4.5 เปอร์เซ็นต์
3 สีของผล......................เวลาต้
1189
มน้าเก็กฮวยจะใส่ผลนี้ลงไปด้วย เพื่อให้สี grwa/
ชื่อเครื่องยา.................................................
เหลืองของน้าเก็กฮวยชัดเจนขึ้น
สารสกัดใบและกิ่ง ของพืชที่มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Uncaria gambir ด้วยน้า s mind
ชื่อเครื่องยา...............................................
(ต้มให้เดือดแล้วเคี่ยว) นามากรอง แล้วนามาระเหยแห้ง เครื่องยานี้มีสาร /
4
กลุ่มแทนนินมากมีฤทธิ์ฝาดสมาน แก้ท้องเสีย แก้บิดมูกเลือด ใช้สมานแผล
เน่าเปื่อย
5 รากเป็นยาระบายแก้ไข้ ผลเป็นอาหาร และเป็นยาขับระดู coco
ชื่อพืช.........................................................
แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ ขับลม แก้จุกเสียด นิยมใช้รับประทานเป็นผักสดแกล้ม mater
ชื่อพืช...........................................................
an mus
6 กับน้าพริก ลาบขม ก้อย ชาวใต้นิยมนาไปหั่นฝอย ผสมปรุงข้าวยา (ดมกลิ่น
เมื่อขยี้ใบ มีกลิ่นเฉพาะตัว สังเกตหูใบ)
ไมเถา ลาตนเปนรองและมีมือพัน ผิวใบสากคายทั้งสองดาน ผลรสขม ใช้เป็น
ชื่อพืช...........................................................
=0
ยาเจริญอาหาร บารุงน้าดีและเป็นยาช่วยย่อย S
เป็นส่วนใดของพืช.......................................
W
vorstr
ชื่อพืช..........................................................
เท่านั้น ผลที่สุกและแก่แล้ว จะนาไปต้มดื่มได้ ส่วนผลที่ยังไม่สุกจะมีสีเขียว
อ่อนลักษณะคล้ายลูกมะนาว และจะมีสีเขียวเข้มขึ้นไปเรื่อยๆ จนกระทั่งแก่
9 จัดเป็นสีน้าตาลอ่อนจึงจะเก็บมาบริโภคได้ นาไปต้มแล้วได้รสหอมหวาน
เนื้อในผล มีรสหวาน ทาให้ชุ่มคอ แก้ไข้ แก้ไอ และขับเสมหะ (ชิมรสชาติ
เนื้อในผล) เนื้อในผลมีสาร mogroside ให้ความหวานแทนน้าตาลจาก
ธรรมชาติที่ให้ความหวานกว่าน้าตาล 150-200 เท่า โดยปราศจากแคลอรี่
เป็นไม้ล้มลุกที่มีเถาเลื้อยและมีมือจับ ในต้นเดียวกันอาจมีทั้งดอกตัวผู้และ
ดอกตัวเมียอยู่ด้วยกัน แต่ส่วนใหญ่จะแยกเพศกันอยู่คนละต้น ดอกมีสีขาว ones
ชื่อพืช.........................................................
โตประมาณครึ่งนิ้ว มีกลีบดอก 5 กลีบ ดอกตัวผู้ มีเกสรตัวผู้ 3 อัน และดอก
10 ตัวเมีย มีก้านดอกเป็นที่อยู่ของรังไข่ซึ่งพองออกเห็นได้ชัด ยาว 1 เซนติเมตร
ผลเป็นผลกลมยาว โตประมาณ 2 เซนติเมตร ยาว 3-4 เซนติเมตร ผลอ่อนมี
สีเขียวประจุดสีขาว รูปร่างคล้ายแตงกวาผลเล็ก ๆ รากแก้พิษไข้ ใบและยอด
อ่อนใช้เป็นอาหาร
เป็นยาขับลม ขับเหงื่อและขับเสมหะ ใช้ร่วมกับสมุนไพรอื่น (บัวบก ใบเปล้า
ชื่อพืช.........................................................
sen
ใบมะนาว) สูบแก้ริดสีดวงจมูก ใบพืชนี้ชนิดเดี่ยว ๆ สูบแก้หอบหืดได้ ใบ
หนาดมีน้ามันหอมระเหยที่มีการบูรและพิมเสนเป็นองค์ประกอบอยู่มาก
11
(0.1-1.9%) ประเทศจีนมีการปลูกใบหนาดเพื่อสกัดการบูรและพิมเสนจาก
ธรรมชาติ (ใบมีกลิ่นเฉพาะตัว มีใบเล็กๆ ที่ก้านใบ) นิยมปลูกไว้หน้าบ้าน
เพราะเชื่อว่าหนาดไล่ผีและป้องกันผีไม่ให้มาหลอกได้
เป็นไม้เถาล้มลุกอายุหลายปี คนจีนเรียกเจียวกู่หลานหรือเซียนเฉ่า พืชนี้สาย
พันธุ์ของจีนมีสารสาคัญ gypenosides เป็นสารกลุ่ม triterpenoid Kratos
ชื่อพืช........................................................
saponins สูงกว่าพันธุ์ของไทย ทั้งต้น ต้านอนุมูลอิสระ กระตุ้นภูมิคุ้มกัน ลด
ระดับน้าตาลในเลือด แก้ความดันโลหิตสูง รสชาติของเครื่องยา
12 ............................ มีการใช้ยาต้มของเครื่องยานี้ขนาด 30 กรัมต่อวัน นาน 3
สัปดาห์เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้กับผู้ป่วยมะเร็งที่ได้รับการผ่าตัดและได้รับ
เคมีบาบัดรวมทั้งการฉายแสง ทาให้มีการแบ่งตัวของ lymphocytes
เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสาคัญ และในผู้ป่วยมะเร็งปอดที่รักษาด้วยการฉายรังสีและ
เคมีบาบัดมีการกระจายของเซลล์มะเร็งช้ากว่าและมีอายุยืนกว่า
ส่วนเหนือดินในระยะออกดอก ใช้แก้ไข้เจรียง (ไข้จับวันเว้นวัน) ไข้เจรี่ยง (ไข้
ที่มีเม็ดผื่นขึ้นตามตัว เช่น เหือดหัด สุกใส รากสด เป็นต้น) แก้ไข้เพื่อเสมหะ
Eggwum
ชื่อพืช.........................................................
13
ข้อที่ ข้อมูลประกอบ คาตอบ
แก้หืด แก้ไอ ยาขับเหงื่อ เป็นยาเจริญอาหาร เป็นยาระบาย เป็น
องค์ประกอบในยาหอมและยาแผนไทยหลายชนิด
พืชที่มีชื่อวิทยาศาสตร์ 4 ชนิดหลัก ๆ ต่อไปนี้จะหมายถึงพืชที่มี
ชื่อไทยข้อนี้ ได้แก่ Artemisia annua, A. vularis var. indica, A.
pallens และ A. argyi (ชนิดนี้จะใช้สาหรับการรักษาด้วยวิธีรมยา
13 (moxibusion) เป็นการเรียกชื่อไทยของพืชนี้ที่ผิดควรเรียกชื่อจีนว่าอ้ายเย่)
(ต่อ) ซึ่งเป็นพืชคนละชนิดกัน แต่จากงานวิจัยของอุทัย โสธนะพันธุ์และคณะสรุป
ได้ว่าสมุนไพรที่มีชื่อไทยของคาตอบในข้อนี้ที่ขายเป็นเครื่องยาตามท้องตลาด
ที่ใช้ใส่ในตารับยารับประทาน คือพืชที่มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า A. pallens ที่
นาเข้าจากอินเดียจะมีกลิ่นหอมแบบแขก ๆ ส่วน A. valgaris จะหอมสดชื่น
ส่วนพันธุ์ที่ใช้ต้มน้าอาบและการรมยาจะเป็น A. argyi
ไม้พุ่มขนาดต้นสูง 0.5-2 เมตร มีใบเขียวตลอดปี เป็นยาขับปัสสาวะ เปลือก
14
ใช้มวนสูบแก้ริดสีดวงจมูก ชื่อพืช.............................................
an
W
S