Professional Documents
Culture Documents
11 กฎหมายอาญา ภาคทั่วไป
11 กฎหมายอาญา ภาคทั่วไป
กฎหมายอาญา
อ.ชไมพร ไทยดำรงเดช
สำขำวิชำนิติศำสตร์ มหำวิทยำลัยนครพนม
ควำมหมำยและลักษณะของกฎหมำยอำญำ
ควำมผิดอำญำ ควำมผิดต่ อ
แผ่ นดิน ส่ วนตัว
ความผิดอาญาแผ่ นดิน
• หมายถึง ความผิดที่นอกจากผูเ้ สี ยหายจะได้รับผลร้ายจากการกระทา
นั้นแล้ว รัฐหรื อสังคมส่ วนรวมยังได้รับผลร้ายจากการกระทานั้นด้วย
เช่น ความผิดฐานฆ่าคนตาย ลักทรัพย์ ทาร้ายร่ างกาย ก่อการร้าย เจ้า
พนักงานปฏิบตั ิหน้าที่โดยมิชอบ เป็ นต้น
• ความผิดอาญาประเภทนี้ผมู ้ ีสิทธิฟ้องคดีมี ๒ ประเภท ได้แก่ ผูเ้ สี ยหาย
และพนักงานอัยการ อีกทั้งผูเ้ สี ยหายไม่สามารถยอมความเพื่อระงับคดี
ได้
ความผิดต่ อส่ วนตัว
บุคคลจะต้อง
2. กำรกระทำนั้นไม่ มกี ฎหมำยยกเว้ นควำมผิด รับผิดทาง
(อำนำจกระทำกำร หรื อ หลักควำมผิด) อาญาก็
ต่อเมื่อ
3. กำรกระทำนั้นไม่ มกี ฎหมำยยกเว้ นโทษ
(ควำมชั่ว)
1. กำรกระทำครบองค์ ประกอบที่กฎหมำย
บัญญัติ
1. การกระทาครบองค์ประกอบภายนอกของ
ความผิด
2. การกระทาครบองค์ประกอบภายในของความผิด
3. ผลของการกระทาสัมพันธ์กบั การกระทา
กำรกระทำ (action)
• หมายถึง การเคลื่อนไหวร่ างกายหรื อการไม่เคลื่อนไหวร่ างกายโดยรู ้สานึก กล่าวคือ อยู่
ใต้บงั คับของจิตใจ ซึ่งหมายความว่า จะต้องมีการคิด ตกลงใจ และกระทาไปตามที่ตก
ลงใจอันสื บเนื่องมาจากความคิดนั้น เช่น แดงโกรธดาจึงใช้ปืนยิงดาถึงแก่ความตาย
เช่นนี้ถือว่าแดงมีการกระทาแล้ว เพราะแดงคิดจะยิงดา แดงตกลงใจที่จะยิงดาตามที่คิด
ไว้ และแดงก็ได้ยงิ ดาตามที่ตกลงใจ
• ดังนั้น การเคลื่อนไหวหรื อการไม่เคลื่อนไหวร่ างกายของเด็กไร้เดียงสา คนวิกลจริ ต
หรื อคนเมาถึงขนาดไม่รู้สภาพหรื อสาระสาคัญในการกระทาของตน คนละเมอ คนเป็ น
ลมบ้าหมู คนที่ร่างกายกระตุกโดยไม่รู้ตวั คนที่ถูกสะกดจิต คนที่ถูกผลักถูกชนหรื อถูก
จับมือให้กระทาในขณะเผลอ คนที่ร่างกายเคลื่อนไหวเพราะแรงธรรมชาติ เช่น แรงลม
พายุ ถือว่าไม่เป็ นการกระทาตามกฎหมายอาญา
กำรกระทำครบองค์ ประกอบภำยนอกของควำมผิด
• องค์ประกอบภายนอกของความผิดแทบทุกฐานแบ่งได้
เป็ น ๓ ส่ วน คือ
• (๑) ผูก้ ระทา
• (๒) การกระทา และ
• (๓) วัตถุแห่งการกระทา
• ตัวอย่ ำง ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๓๔ บัญญัติวา่ “ผูใ้ ดเอา
ทรัพย์ของผูอ้ ื่น หรื อที่ผอู ้ ื่นเป็ นเจ้าของรวมอยูด่ ว้ ยไปโดยทุจริ ต ผูน้ ้ นั
กระทาความผิดฐานลักทรัพย์ ต้องระวางโทษ...” องค์ประกอบ
ภายนอกของความผิดฐานนี้คือ
• ๑) ผูก้ ระทา ได้แก่ ผูใ้ ด
• ๒) การกระทา ได้แก่ เอาไป
• ๓) วัตถุแห่งการกระทา ได้แก่ ทรัพย์ของผูอ้ ื่นหรื อที่ผอู ้ ื่นเป็ นเจ้าของ
รวมอยูด่ ว้ ย
กำรกระทำครบองค์ ประกอบภำยในของควำมผิด
• แต่ละฐานความผิดอาจอาศัยองค์ประกอบภายในที่แตกต่างกัน กล่าวคือ ความผิด
ส่ วนใหญ่ผกู ้ ระทาต้ องมีเจตนำจึงจะเป็ นความผิด เช่น ความผิดฐานฆ่าผูอ้ ื่น
ความผิดฐานลักทรัพย์ เป็ นต้น
• แต่บางฐานความผิดแม้ผกู ้ ระทาไม่มีเจตนาหากแต่กระทาไปโดยประมำท
กฎหมายก็ยงั บัญญัติให้เป็ นความผิด เช่น ความผิดฐานประมาทเป็ นเหตุให้ผอู ้ ื่น
ถึงแก่ความตาย ความผิดฐานประมาทเป็ นเหตุให้ผอู ้ ื่นได้รับอันตรายสาหัส เป็ น
ต้น
• นอกจากนี้ บางฐานความผิดแม้ผกู ้ ระทาไม่ ได้ เจตนำและไม่ ได้ กระทำโดย
ประมำท กฎหมายก็ยงั บัญญัติให้เป็ นความผิด
• ดังนั้น องค์ประกอบภายในของความผิดจึงแบ่งออกเป็ น ๓ กรณี คือ
(๑) เจตนา (๒) ประมาท และ (๓) ไม่มีท้ งั เจตนาและประมาท
๑) เจตนำ
•จะต้องมีองค์ประกอบ ๒ ประการ คือ
1. ผูก้ ระทาต้อง “รู ้” ข้อเท็จจริ งอันเป็ น
องค์ประกอบภายนอกของความผิด
2. ผูก้ ระทาต้อง “ประสงค์ต่อผล” หรื อ “ย่อม
เล็งเห็นผล” ของการกระทาของตน
ผู้กระทำต้ อง “รู้ ” ข้ อเท็จจริงอันเป็ นองค์ ประกอบ
ของควำมผิด
• ความผิดฐานฆ่าผูอ้ ื่นโดยเจตนาตามมาตรา ๒๘๘ องค์ประกอบภายนอกคือ (๑) ผูใ้ ด (๒)
ฆ่า (๓) ผูอ้ ื่น องค์ประกอบภายในคือ เจตนา การที่จะถือว่าผูก้ ระทามีเจตนามาตรา ๒๘๘
ผูก้ ระทาต้องรู ้ขอ้ เท็จจริ งที่วา่ การกระทาของตนเป็ นการ “ฆ่า” และรู ้ดว้ ยว่าวัตถุแห่งการ
กระทาเป็ น “ผูอ้ ื่น” หากผูก้ ระทาเข้าใจไปว่าวัตถุแห่งการกระทาไม่ใช่ “ผูอ้ ื่น” เช่น เข้าใจผิด
ไปว่าเป็ นสัตว์หรื อศพ ก็ไม่ถือว่ามีเจตนาฆ่าผูอ้ ื่นอันเป็ นความผิดมาตรา ๒๘๘
• ความผิดฐานลักทรัพย์ตามมาตรา ๓๓๔ องค์ประกอบภายนอกคือ (๑) ผูใ้ ด (๒) เอาไป
(๓) ทรัพย์ของผูอ้ ื่นหรื อที่ผอู ้ ื่นเป็ นเจ้าของรวมอยูด่ ว้ ย องค์ประกอบภายในคือ เจตนา การที่
จะถือว่าผูก้ ระทามีเจตนามาตรา ๓๓๔ ผูก้ ระทาต้องรู ้ขอ้ เท็จจริ งที่วา่ การกระทาของตนเป็ น
การ “เอาไป” และรู ้ดว้ ยว่าวัตถุแห่งการกระทาเป็ น “ทรัพย์ของผูอ้ ื่นหรื อที่ผอู ้ ื่นเป็ นเจ้าของ
รวมอยูด่ ว้ ย” หากผูก้ ระทาเข้าใจว่าวัตถุแห่งการกระทาเป็ นทรัพย์ของตนเองไม่ใช่ทรัพย์ของ
ผูอ้ ื่นก็ไม่ถือว่ามีเจตนาลักทรัพย์ตามมาตรา ๓๓๔
ผู้กระทำต้ อง “ประสงค์ ต่อผล” หรื อ “ย่ อมเล็งเห็น
ผล” ของกำรกระทำของตน
• เจตนำประสงค์ ต่อผล หมายถึง ความประสงค์ที่จะให้เกิดผลขึ้นตามที่
ตั้งใจนั้นโดยตรง กล่าวคือ ผูก้ ระทาได้กระทาโดยมุ่งหมายหรื อมีความ
ต้องการที่จะให้ความผิดเกิดขึ้น
• แดงต้องการฆ่าดาจึงใช้ปืนยิงดาถึงแก่ความตาย การกระทาดังกล่าวจึง
เป็ นการกระทาโดยเจตนาประสงค์ต่อผล หรื อ แดงต้องต้องการขโมย
โทรศัพท์มือถือของดา จึงแอบหยิบโทรศัพท์มือถือของดาที่วางอยูบ่ น
โต๊ะ
ผู้กระทำต้ อง “ประสงค์ ต่อผล” หรื อ “ย่ อมเล็งเห็น
ผล” ของกำรกระทำของตน
• เจตนำย่ อมเล็งเห็นผล หมายถึง ผูก้ ระทาไม่ประสงค์ให้ผลเกิดโดยตรง
หากแต่โดยลักษณะของการกระทาผูก้ ระทาย่อมเล็งเห็นได้วา่ จะก่อให้เกิด
ผลขึ้น
• แดงใช้ปืนลูกซองยิงไปที่ขวดเหล้าซึ่งมีดานัง่ อยูท่ ี่โต๊ะใกล้ขวดเหล้า แดง
ย่อมเลกเห็นผลได้วา่ กระสุ นปื นที่จาเลยยิงย่อมจะต้องถูกดาด้วย การกระทา
ดังกล่าวจึงเป็ นการกระทาโดยเจตนาประสงค์ต่อผลต่อขวดเหล้าและเจตนา
ย่อมเล็งเห็นผลต่อดา หรื อแดงขับรถด้วยความเร็ วสู งไปตามถนนที่มีคนเดิน
พลุกพล่าน ทั้ง ๆ ที่แดงเล็งเห็นได้วา่ อาจชนคนได้ แต่แดงก็ไม่ลดความเร็ ว
ลงแต่อย่างใด แดงจึงชนดาบาดเจ็บสาหัส
ประมำท
• โดยหลักแล้วบุคคลจะต้องรับผิดในทางอาญาก็ต่อเมื่อได้
กระทาโดยเจตนาเท่านั้น ผูก้ ระทาจะมีความผิดฐานกระทาโดย
ประมาทก็ต่อเมื่อมีกฎหมายบัญญัติไว้เฉพาะเท่านั้น การ
กระทาโดยประมาทที่กฎหมายบัญญัติให้ตอ้ งรับผิด
• เช่น ความผิดฐานทาให้เกิดเพลิงไหม้โดยประมาท ทาให้คน
ตายโดยประมาท ทาให้ผอู ้ ื่นได้รับอันตรายแก่กายโดยประมาท
ประมำท
• กำระทำโดยประมำท หมำยถึง กำรกระทำโดยไม่ เจตนำแต่ กระทำโดย
ปรำศจำกควำมระมัดระวัง ซึ่งบุคคลทัว่ ไปในภำวะเช่ นนั้นจะต้ องใช้
ควำมระมัดระวัง เช่น ฟ้าเป็ นหญิงขับรถคนเดียวในเวลากลางดึก
ระหว่างติดไฟแดงอยูไ่ ด้มีโจรเข้ามาในรถและใช้ปืนจี้ศีรษะฟ้า ฟ้า
ตกใจกลัวจึงขับรถไปข้างหน้าด้วยความเร็ วสู งจนชนเด็กที่กาลังข้าม
ถนนถึงแก่ความตาย ดังนี้ การกระทาของฟ้าไม่เป็ นการกระทาโดย
ประมาท เพราะบุคคลทัว่ ไปที่เป็ นหญิงและถูกปื นจี้กลางดึก
เช่นเดียวกับฟ้า ย่อมตกใจกลัวและขาดสติในการขับรถ
2.กำรกระทำไม่ มีกฎหมำยยกเว้ นควำมผิด
• การกระทาที่ครบองค์ประกอบที่กฎหมายบัญญัติตามโครงสร้าง
ที่ ๑ และไม่มีกฎหมายยกเว้นความผิดตามโครงสร้างที่ ๒ แต่ถา้
มีกฎหมายยกเว้นโทษสาหรับการกระทานั้น ผูก้ ระทาจะมี
ควำมผิดแต่ไม่ ต้องรับโทษ (เพราะ ผูก้ ระทาปราศจากความชัว่ )
• เหตุยกเว้นโทษมีอยูห่ ลายกรณี ดว้ ยกัน
กำรกระทำโดยจำเป็ น
• การกระทาโดยจาเป็ นสามารถแบ่งได้เป็ น ๒ กรณี
1. การกระทาโดยจาเป็ นเพราะอยูใ่ นที่บงั คับหรื อภายใต้อานาจ
2. การกระทาโดยจาเป็ นเพื่อให้ตนเองหรื อผูอ้ ื่นพ้นภยันตราย
ตัวอย่ ำง การกระทาโดยจาเป็ น
• ตัวอย่ ำงที่ ๑ แดงเอาปื นจ่อหัวดาและขู่ดาว่าจะยิงดาเสี ยหากดาไม่ยงิ เขียวให้ตาย
ดากลัวตายจึงยิงเขียวจนถึงแก่ความตาย ดังนี้ ดามีความผิดฐานฆ่าผูอ้ ื่น แต่ดาไม่
ต้องรับโทษ เนื่องจากเป็ นการกระทาโดยจาเป็ นเพราะถูกบังคับ
• ตัวอย่ ำงที่ ๒ แดงและพวกวิ่งไล่ตีดา ดาไม่มีทางเลือกจึงปี นรั้วบ้านของเขียว
และทาให้ร้ ัวบ้านของเขียว ดังนี้ ดามีความผิดฐานบุกรุ กและทาให้เสี ยทรัพย์ แต่
ดาไม่ตอ้ งรับโทษ เนื่องจากเป็ นการกระทาโดยจาเป็ นเพื่อให้ตนเองพ้น
ภยันตราย
• ตัวอย่ ำงที่ ๓ แดงโดนหมาของเขียวไล่กดั จึงได้ใช้ไม้ฟาดหมาจนหมาบาดเจ็บ
การกระทาความผิดของเด็กอายุไม่เกินสิ บห้าปี
• มาตรา 73 เด็กอายุไม่เกิน สิ บปี กระทาการอันกฎหมายบัญญัติเป็ น
ความผิด เด็กนั้นไม่ตอ้ งรับโทษ
• มาตรา74 เด็กอายุกว่าสิ บปี แต่ยงั ไม่เกินสิ บห้าปี กระทาการอัน
กฎหมายบัญญัติเป็ นความผิด เด็กนั้นไม่ตอ้ งรับโทษ แต่ให้ศาลมี
อานาจดาเนินการ เช่น ว่ากล่าวตักเตือนเด็กหรื อบิดามารดาของเด็ก
วางข้อกาหนดให้บิดามารดาระวังไม่ให้เด็กก่อเหตุร้ายตลอดเวลาที่
ศาลกาหนด หรื อส่ งตัวเด็กไปยังโรงเรี ยนหรื อสถานฝึ กและอบรมเพื่อ
ฝึ กและอบรมเด็ก เป็ นต้น
กำรกระทำควำมผิดของคนวิกลจริต
• ผูท้ ี่จะได้รับการยกเว้นโทษเพราะวิกลจริ ต ได้แก่ ผูท้ ี่กระทาความผิด
ในขณะทีไ่ ม่สามารถรู ้ผดิ ชอบ หรื อไม่สามารถบังคับตนเองได้
เพราะเหตุใดเหตุหนึ่งดังต่อไปนี้
• จิตบกพร่ อง ได้แก่ บุคคลที่สมองไม่เจริ ญเติบโตตามวัยหรื อ
บกพร่ องมาแต่กาเนิด
• โรคจิต ได้แก่ บุคคลที่มีความบกพร่ องแห่งจิตที่เกิดจากโรค
• จิตฟั่นเฟื อน ได้แก่ บุคคลที่มีความหลงผิด ประสาทหลอนและแปร
ผิด
กำรกระทำควำมผิดของผู้มนึ เมำ
• ผูท้ ี่จะได้รับการยกเว้นโทษเพราะความมึนเมา ได้แก่ ผูท้ ี่
กระทาความผิดในขณะที่ไม่สามารถรู ้ผดิ ชอบ หรื อไม่สามารถ
บังคับตนเองได้ เพราะความมึนเมา และความมึนเมานั้นได้
เกิดขึ้นโดยเหตุใดเหตุหนึ่งดังต่อไปนี้
1. ผู้กระทำควำมผิดเสพย์ โดยไม่ รู้ ว่ำสิ่ งนั้นจะทำให้ มึนเมำ
2. ผู้กระทำควำมผิดถูกขืนใจให้ เสพย์
กำรกระทำควำมผิดเกีย่ วกับทรัพย์ ในบำงควำมผิด
ระหว่ ำงสำมีภรรยำ
• กฎหมายได้ยกเว้นโทษให้กบั การกระทาความผิดที่สามีกระทาต่อภรรยา
หรื อภรรยากระทาต่อสามีเฉพำะควำมผิดเกีย่ วกับทรัพย์ ๘ ฐำนควำมผิด
คือ การลักทรัพย์ วิ่งราวทรัพย์ ฉ้อโกง โกงเจ้าหนี้ ยักยอก รับของโจร ทา
ให้เสี ยทรัพย์ และการบุกรุ ก
• ดังนั้น หากสามีกระทาความผิดต่อภรรยา หรื อภรรยากระทาความผิดต่อ
สามีนอกเหนือจาก ๘ ฐานความผิดข้างต้น สามีหรื อภรรยาที่กระทา
ความผิดก็ตอ้ งรับโทษตามกฎหมาย เช่น สามีทุบตีภรรยาจนบาดเจ็บ สามี
มีความผิดฐานทาร้ายร่ างกายและต้องรับโทษตามกฎหมาย
เหตุลดโทษ