You are on page 1of 6

สารเขาดินวนา

Magazine By
DUSIT ZOO ฉบับที่ ๓๐ เดือนสิงหาคม ปีที่ ๓
THIRTY ISSUE AUGUST 2013

กายวิภาคของนักฆ่า
)หน้า ๑(

”เก็บทุกรายละเอียด “
พงษ์พันธ์ เพียรไธสง ตอนที่ ๒
)หน้า ๒(

แพนด้า...ลาแล้ว ตอนที่ ๑
)หน้า ๔(
บทบรรณาธิการ สารเขาดินวนา
By DUSIT ZOO

บรรณาธิการจ�ำเป็น

ความจ�ำเป็น” “ตามดุลยพินจิ ” “ความเหมาะสม” ค�ำเหล่านี้ผมเชื่อว่าผู้อ่านคงพบเห็นมาจนชินตัง้ แต่เด็กๆในทุกวัฒนธรรม“


ของโลก “Why Mom?” “Because I said so” !!! ลองคิดเล่นๆว่าให้ผู้อ่าน ๑๐๐ คน ( ซึ่งคงมีไม่ถึง ) มานิยามความหมายค�ำเหล่านี้ตาม
สถานการณ์ท่เี หมือนกันผลที่ได้คงพอรู้อยู่ว่าไม่เหมือนกันแน่ๆ ตามความเห็นผมถ้าหากค�ำพวกนี้ไม่ได้ถูกนิยามไว้อย่างชัดเจนก่อนมักจะ
ถูกใช้แบบหลักลอยกล่าวคือไร้มาตรฐาน ภาษาชาวบ้านเรียกว่ามั่วนั่นแหละ ซึ่งเป็นเหตุให้เราหนีไม่พ้นความขัดแย้ง ผมก็สงสัยมานาน
แล้วว่าท�ำไมเราไม่เลี่ยงค�ำแบบนี้ ค�ำตอบที่ได้คือ ก็เราเจออย่างนี้มาตั้งแต่เกิดแล้วนะสิ เด็กๆเจอพ่อแม่ โตมาหน่อยก็เจอครู ตั้งใจสอบ
เข้ามหาลัยได้ก็เจออาจารย์ ฟลุคจบมาท�ำงานก็เจอเจ้านาย ถ้าใครแต่งงานแล้วก็เจอภรรยาหรือสามี (อันนี้ก็แล้วแต่ว่าใครก้าวร้าวกว่า
กัน) พอมีลูกก็เริ่มวงจรใหม่ แล้วก็ถึงบางอ้อ ใครๆ ก็อยากตัดสินใจแบบไม่ต้องอธิบายอะไรนี่เอง มิน่าถึงได้แย่งกันอยู่อย่างนี้ แต่ผมยัง
มองโลกแบบสีเทาๆ ว่า ของพวกนี้น่าจะพอลดลงได้ด้วยการก�ำหนดกรอบของดุลยพินิจ คือให้ใช้ได้ตามกรอบ(แบบที่ตกลงร่วมกัน) เพราะ
ยิ่งใช้คนตัดสินใจน้อยคน กรอบยิ่งควรมีมากเพราะโอกาสพลาดก็มมี ากตามไปด้วย เพื่อลดความมั่วนิ่มตามอัตลักษณ์แบบไท ถ้ากรอบมี
มากขึ้น สุดท้ายก็คงไม่มใี ครต้องมาแย่งกันตัดสินใจ สังคมคงน่าอยู่ข้นึ อีกเยอะ แต่ก็อีกนั่นแหละครับ หนูตัวไหนจะเอากระดิ่งไปแขวนคอ
แมว นอกจากแมวจะคิดได้แล้วแขวนกระดิ่งซะเอง

และเช่นเดิมในเดือนที่ชาวไทยส่วนใหญ่ได้อยู่บ้านระลึกถึงพระคุณแม่ สารเขาดินในฉบับนี้ยังคงมีบทความให้ผู้อ่านได้อ่านอยู่
เช่นเดิม โดยมีบทความแนะน�ำคือ ส่วนบทความเรื่อง “กายวิภาคนักฆ่า” จะเป็นเรื่องราวของการวิวัฒนาการของสัตว์ตระกูลแมว เพื่อ
เป็นนักล่าโดยเฉพาะในส่วนของโครงสร้างร่างกาย และส�ำหรับผู้ตดิ ตามเรื่องราวบทสัมภาษณ์พนักงานเลี้ยงสัตว์ตัวอย่าง มาดูว่าคนชอบ
ท�ำงานเค้าคิดอะไรในบทความเรื่อง “เก็บทุกรายละเอียด พงษ์พันธ์ เพียรไธสง ตอนที่๒” กับบทความสุดท้ายบทความเรื่อง “แพนด้า...ลา
แล้ว ตอนที่ ๑” โดยคุณหมอยงชัย ที่จะมาพูดถึงเรื่องราวของแพนด้าตามกระแสการอ�ำลาของแพนด้าที่ก�ำลังจะกลับบ้าน
บทความน่าอ่าน สารเขาดินวนา
By DUSIT ZOO

กายวิภาคของนักฆ่า โดย ธนวัช แก่นท้าว นักวิทยาศาสตร์สวนสัตว์

เมื่อไม่กี่วันมานี้ ผมได้พบกับผู้เที่ยวชม ”เสือกินอะไร“


ท่ า นหนึ่ ง ที่ ถื อ ถุ ง พลาสติ ก ใบใหญ่ ที่ ม อง ค� ำ ตอบของค� ำ ถามนี้ เ ป็ น ตั ว ที่มีอาวุธสังหารติดอยู่ กระดูกสันหลังมี
ลั ก ษณะแล้ ว พอจะคาดเดาได้ ว ่ า น่ า จะ ก�ำหนดลักษณะที่เราเห็นอยู่ในสัตว์ประเภท กระโดง(spine)ยื่นยาวขึ้นโดยเฉพาะบริเวณ
เป็นเนื้อสัตว์บางอย่าง จากประสบการณ์ แมวใหญ่ทงั้ หลาย เพื่อลงมือคร่าชีวิตเหยื่อ ช่วงอก เพื่อยึดกับกระดูกซี่โครงให้ปอดอยู่
อันน้อยนิดที่ท�ำงานมา ๔ ปี “อ้อ มาขอ เสือต้องมีอะไรบ้าง แน่นอนว่าต้องมีเขี้ยวที่ นิ่งๆ นอกจากนี้กระดูกสันหลังช่วงท้ายยัง
ให้อาหารเสือ” คงเพราะผมเห็นผู้เที่ยว แข็ง ใหญ่และยาวพอที่จะเจาะผิวหนังของ มีระยะห่างมากขึ้นให้สามารถโค้งได้มาก
มาท�ำแบบนี้บ่อยๆ เลยพอจะเดาได้ แต่ เหยื่อให้เลือดเหยื่อไหลออกมามากๆ ซึ่ง เพื่อช่วยดีดตัวเหมือนคันธนูและกระดูกคอ
แล้ ว ผมก็ ตั้ ง ค� ำ ถามกั บ ตั ว เอง(อี ก แล้ ว ) ต้องกัดในบริเวณที่มีเส้นเลือดขนาดใหญ่ ใหญ่ท�ำให้หัวที่มีตาอยู่นิ่งๆ เวลาเคลื่อนที่
ว่า “สัตว์มีตั้งเยอะแยะ ท�ำไมคนมักจะ (เสือ ที่ เ น้ น กั ด เส้ น เลือ ดฝอยคงไม่ น ่ า รอด ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการมองเห็น กระดูก
เอาอาหารมาให้เสือ” เลยเดาๆ เอาแบบ มาได้) มักจะอยู่ที่คอหอย การกัดแบบนี้ ส้ น เท้ า ยืด ยาวขึ้น ไว้ ยึด กล้ า มเนื้อ ขาหลั ง
นักพฤติกรรมสัตว์ว่า เสือตามภาษา ต้องมีความแม่นย�ำมาก เสือจ�ำต้องจับยึด เพิ่มแรงสปริง ทั้งหมดนี้เพื่อความสามารถ
สั ญ ลั ก ษณ์ น ่ า จะเป็ น ตั ว แทนของความ เหยื่อให้อยู่น่งิ ๆ ก่อนด้วยการมีกรงเล็บ ในการกระโจนออกจากที่ซุ่ม เพื่อเข้าหา
แข็งแรง ความเด็ดขาด ความยิ่งใหญ่ หนาดใหญ่และโค้ง โดยที่ข้อมือต้องหมุนได้ เหยื่ออย่างเร็วที่สุด เสือเองมักจะไม่
เหนือสัตว์อื่นๆ (ก็เล่นกินเค้าซะหมดป่า) มาก เพื่อการจับยึดในแบบประกบกัน ซึ่ง ประสบความส�ำเร็จในการล่านักหากต้อง
เชื่อได้ว่าผู้ให้อาหารเสือคือกลุ่มผู้ชื่นชม ต่ า งจากสั ต ว์ นั ก ฆ่ า แบบวิ่ ง ไล่ เ หยื่ อ อย่ า ง วิ่งไล่เหยื่อในระยะไกล เนื่องจากไม่ใช่นัก
ลักษณะดังกล่าว นึกในใจว่า เอามาให้ สุนัขที่หมุนข้อมือไม่ได้(ถ้าไม่เชื่อให้ผู้อ่าน วิ่งที่ดี แม้ในเสือบางชนิดเช่นเสือชีต้าจะวิ่ง
ที่สวนสัตว์ก็คงยังดีกว่าพวกที่เอาออก ลองเล่นกับสุนัขที่บ้านดูนะครับ) นอกจาก เร็วมากๆ แต่วิ่งไกลๆ นี่เลิกคิดไปได้เลย
จากป่ามาแอบเลี้ยงเองที่บ้านเพื่อเสริม นี้แล้วการฆ่าแบบนี้ต้องใช้เวลา
บารมี(น่าสงสารทั้งเสือทั้งคนเลี้ยง) ไม่รู้ ซั ก พั ก ให้ เ หยื่ อ เลื อ ดไหลตาย
เค้ า รู ้ ไ หมว่ า ความสามารถในการฆ่ า ดังนั้นเสือจึงต้องมีกระดูกกราม
เป็นแค่การวิวัฒน์เพื่อการอยู่รอดเท่านั้น ขนาดใหญ่แ ละยืดยาวออกไป
ด้วยสาเหตุนี้แหละผมเลยเอาเรื่องราว ลอดใต้กระดูดโหนกแก้ม เพื่อ
ของการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างร่างกาย ใช้ยึดกับกล้ามเนื้อที่ต่อยาวไป
มาเล่าให้ฟัง ยึ ด กั บ กะโหลกให้ กั ด ทะลุ ไ ด้
ในครั้งเดียวและยึดอยู่ให้นานพอ ในขณะ กระบวนการวิวัฒนาการที่ผมยกมาเล่า
ที่คนเรามีเพียงกรามเล็กๆ กับกล้ามเนื้อ นี่คงไม่ใช่ทั้งหมดของเสือ เพียงแต่ยกบาง
สั้นๆ เนื่องจากเราไม่ต้องกัดเพื่อฆ่าใคร ส่วนที่ส�ำคัญและสืบค้นได้ ซึ่งคงพอท�ำให้
แต่อย่างที่รู้กันว่าเสือเป็นนักฆ่าที่ใช้เวลา ผู้ยึดถือเอาเสือเป็นแบบอย่าง ควรยึดถือ
ปิดบัญชีสั้นซึ่งหมายความว่าต้องใช้เวลา เอากระบวนการแบบเสือมาด้วยก็ท่าจะดี
เข้าถึงตัวเหยื่อสั้นมากๆ ดังนั้นเสือจึงต้อง เนื่องจากเสือล่าเมื่อหิว สู้เมื่อถูกคุกคาม
พรางตัวเพื่อเข้าใกล้เหยื่อให้ได้มากๆ เรา และฆ่าเมื่อจ�ำเป็นเท่านัน้ ไม่ได้ฆ่าทุกชีวิต
จึงเห็นเสือมีลวดลายต่างๆ ตามแหล่งที่อยู่ ที่ขวางทางเหมือนสัตว์ประเสริฐเช่นเรานะ
อาศัย และเพื่อให้การพุ่งตัวเข้าหาเหยื่อเป็น ขอรับ
ไปอย่างรวดเร็วเสือปรับโครงสร้างหลาย
อย่าง ซึ่งได้แก่ กระดูกสะบักใหญ่ขึ้นให้ขา ******************
หน้ า มีก� ำ ลั ง มากในการค�้ำ น�้ำ หนั ก ของหั ว


บทความน่าอ่าน สารเขาดินวนา
By DUSIT ZOO

กห “เก็บทุกรายละเอียด” พงษ์พันธ์ เพียรไธสง ตอนที่ ๒


ณัฐพล สาครนาวิน ลูกจ้างชั่วคราวรายเดือน

ตอนที่แล้วเราได้รู้จักพี่พงษ์พันธ์อย่างคร่าวๆ กันแล้วในเรื่อง
ของการท�ำงานและสัตว์ท่พี ี่เค้าท�ำงานด้วย ซึง่ ตอนนีย้ งั เหลือค�ำถาม
ทีถ่ ามอีก ๒ – ๓ ค�ำถาม ที่น่าจะสื่อความเป็นพี่เค้าได้มากขึ้น มาเริ่ม
กันเลยนะครับ

ตอนที่ค่างห้าสีคลอดเป็นอย่างไรครับ? บ
นอนเฝ้าเวรกันตลอดจึงได้เห็นพฤติกรรมการคลอดลูกของ
ค่างห้าสี เริ่มจากตัวเมียจะกระวนกระวาย เดินไปมาประมาณครึ่ง
ชั่วโมง มีการโก่งตัว และนั่งเบ่งบนกิ่งไม้ โดยส่วนหัวของลูกค่าง
ห้าสีจะออกมาก่อน เมื่อออกมาแล้วมันก็จะใช้มอื รับเอาลูกที่เพิ่ง
คลอดไปอุ้ม โดยที่รกมันจะยังไม่ขาดลูกจะมีรกติดอยู่กับตัวแม่ รก
จะขาดโดยวิธีธรรมชาติของมัน แม่จะกระโดดไปมาตามกิ่งไม้เพื่อ
เอารกไปขัดกิ่งไม้ให้รกขาด เพราะพวกนี้มันจะไม่กัดรก

จากการดูแลสัตว์พี่พงษ์พันธ์ได้เรียนรู้อะไรบ้างครับ? l
ได้เรียนรู้พฤติกรรมของสัตว์แต่ละชนิด เช่น ลิงกับค่าง
การกินก็ไม่เหมือนกัน อย่างค่างก็จะกินของดิบ ใบไม้ อย่างค่างก็
จะกินของดิบ ใบไม้ อย่างพวกลิงก็จะกินของสุกเช่น ผลไม้ พืชสุก
ลิงก็จะมีกระพุ้งแก้มไว้เก็บอาหาร ส่วนค่างจะไม่มี ความแตกต่างที่
ไม่เหมือนกันอีกอย่างคือ ลิงจะมีหางสัน้ ค่างหางยาว ส่วนลิงแสม
หางยาว ส่วนลิงที่น�ำไปฝึกน�ำไปแสดงโชว์ก็จะเป็นพวกลิงกัง เพราะ
พวกนี้ไปฝึกได้ง่าย ไม่ดุร้าย ส่วนลิงเสนจะดุกว่า

งานอดิเรกแรกหลังจากท�ำงานเสร็จแล้ว? ว
ปกติก็จะดูแลต้นไม้รอบเขต แล้วถ้ามีงานระดมก็จะช่วยกัน
ตามเขตอื่นๆ นอกจากงานประจ�ำ

คติประจ�ำใจในการท�ำงาน? น
ท�ำให้สม�่ำเสมอ ใจรักงาน จิตใจโอบอ้อมอารีย์ต่อสัตว์ คิดซะว่าพวกสัตว์เปรียบเป็นส่วนหนึ่งของชีวติ ของเราเอาใจเค้ามาใส่ใจเรา


บทความน่าอ่าน สารเขาดินวนา
By DUSIT ZOO

กห “เก็บทุกรายละเอียด” พงษ์พันธ์ เพียรไธสง ตอนที่ ๒ (ต่อ) z

ฝากถึงผู้สนใจในสัตว์ประเภทลิงค่างและเสือ? อ
ฝากไว้ว่าอย่าส่งเสียงรบกวนสัตว์ควรจะศึกษาดูพฤติกรรมของมันจะดีกว่า แล้วก็ไม่ควรจะน�ำอาหารมาให้สัตว์เพราะมันอาจจะ
ท้องเสียได้ บางคนจะเข้ามาแหย่มาตะโกนเรียก อย่างเช่นพวกเสือ กลางวันเค้าจะนอน อยากให้ดูพฤติกรรมตามธรรมชาติมากกว่า

ภาพที่เห็นพี่แกปีนอยู่บนหลังคาเพื่อหาใบไม้มาเสริมอาหารให้ค่าง เสียงไม้กวาด และล้อรถเข็นที่ดังเวลาเดินผ่านคอกสัตว์ตงั้ แต่


ยังไม่มีแสงแรกของวัน เป็นเรื่องชินหูชนิ ตาส�ำหรับเพื่อนพนักงานมากว่าสิบปี เป็นยังไงบ้างครับ พนักงานเลี้ยงสัตว์ในฝัน ของใครหลายๆ
คน สิ่งที่ผมได้ตลอดช่วงการสัมภาษณ์ครั้งนี้คงไม่ได้มีเพียงข้อมูลการเลี้ยงค่างห้าสี ซึ่งหลายคนคงคิดเหมือนผมว่า พระเจ้าท�ำไมแกตั้งใจ
ท�ำงานได้ขนาดนี้ ทั้งความรู้ที่แน่นหนา ความเข้าใจในเนื้องาน หลักคิดที่ผมเองก็ไม่แน่ใจว่าจะคิดแบบแกได้ซักครึ่งหรือเปล่า บุคลิกที่ดู
เป็นอะไรที่ง่ายๆ ร่าเริง หัวเราะร่วนตลอดการพูดคุย และมีความสุขกับสิ่งที่ท�ำเพราะผมไม่เห็นแกพูดเรื่องตัวเองซักอย่างมีแต่เรื่องงานกับ
ความภาคภูมใิ จในฐานะพนักงานเลี้ยงสัตว์ของสวนสัตว์ดุสติ

**********************************************************


บทความน่าอ่าน สารเขาดินวนา
By DUSIT ZOO

แพนด้า...ลาแล้ว ตอนที่ ๑
น.สพ.ยงชัย อุตระ

กระแสการกลับบ้านของหมีแพนด้าอดีตขวัญใจชาวไทย
ดูจะเงียบเหงากว่าวันที่เค้าเดินย่างกรายเข้ามาในบ้านเราอย่าง
ที่เทียบกันไม่ได้ สืบเนื่องด้วยรัฐบาลจีนได้มอบแพนด้า ๑ คู่ ชื่อ
มิสเตอร์ช่วงช่วง และมิสหลินฮุ่ย ให้ประเทศไทยได้ (ยืม) ชมเป็น
ขวัญตา เป็นเวลา ๑๐ ปี ในฐานะที่ไทยเป็นมิตรประเทศอันใกล้ชดิ
เป็นพิเศษยิ่ง ซึ่งได้ครบก�ำหนดสัญญาแล้วนัน้ องค์การสวนสัตว์
ที่ได้รับมอบหมายให้ดูแลแพนด้าทัง้ สองที่สวนสัตว์เชียงใหม่ ซึ่ง
ผู้คนจะแห่กันไปชมหมีมิตรภาพคู่น้ีอย่างมืดฟ้ามัวดินในพื้นที่ที่เป็น
ศูนย์กลางของภาคเหนือพอดิบพอดี โดยหากมองเรื่องทุนที่ใช้ส่วน
จัดแสดงแพนด้าจะกว้างขวาง แต่ทางสวนสัตว์เชียงใหม่ก็มีผู้เที่ยว
ชมที่ให้ความสนใจมากซึ่งเป็นข้อดีที่ท�ำให้สัตว์ป่าชนิดอื่นๆ ได้รับ
อานิสงไปด้วย และยังช่วยปลุกกระแสเที่ยวสวนสัตว์และอนุรักษ์
สัตว์ขึ้นมาในสังคมไทยเราอย่างน่าชื่นใจ บทความนี้แทนค�ำขอบคุณ
ต่อเพื่อนของเราทั้งสองที่สิ้นสุดภารกิจบนผืนแผ่นดินไทย
วกกลับเข้ามาท�ำความรู้จักกับแพนด้าดีกว่า Giant panda หรือแพนด้ายักษ์เป็นชื่อฝรั่งตั้งให้ แต่เค้ามีชื่อจีนก็คือ “ต้าเซียงมาว” ว
ง“ต้า” นั้นแปลว่าใหญ่ “เซียง”แปลว่าหมี ส่วน “มาว” แปลว่าแมว แต่ต้องขออภัยหากถอดเสียงเป็นอักษรไทยได้ไม่ถูกต้อง
เพราะการออกเสียงภาษาแมนดารินนัน้ ยากที่จะหาค�ำสะกดได้ตรงตัว ดังนั้น “ต้าเซียงมาว” เมื่อรวมความแล้วก็แปลได้ว่า แมวหมีใหญ่
( ภาษาจีนแปลจากหลังมาหน้าแบบภาษาอังกฤษ ) ชื่อก็น่ารักสมตัว เพราะมันโตๆกลมๆเหมือนแมว ตัวก็เท่าๆกับหมี มีชื่อวิทยาศาสตร์
อย่างเป็นทางการซึ่งเป็นภาษาละตินคือ Ailuropoda melanoleuca แปลได้ว่า สัตว์เท้าแมวมีสีขาวและสีด�ำ (ชื่อภาษาละตินนั้นส่วนใหญ่จะ
ระบุถึงลักษณะเด่นๆของสัตว์ชนิดนัน้ หรือน�ำชื่อผู้ค้นพบเป็นชื่อชนิด(สปีชีส์)) ในบันทึกของราชส�ำนักจีนเมื่อ๓๐๐๐ปีก่อนได้มกี ารเอ่ยถึง
แพนด้าว่า เป็นสัตว์ลึกลับและแข็งแรง ในสมัยราชวงศ์ฮั่นซึ่งเริ่มประมาณสองร้อยปีก่อนคริสตกาล จักรพรรดิในสมัยนั้นโปรดจะสะสม
สัตว์แปลกๆเลี้ยงไว้ในอุทยานหลวง ดังนั้นที่เมืองซีอานจึงมีแพนด้ารวมอยู่ด้วยต่อมานสมัยราชวงศ์หมิงได้มกี ารบันทึกการแพทย์ซึ่งเกี่ยว
กับแพนด้าว่า หลังแพนด้าสามารถใช้รักษาเนื้องอกและโรคติดต่อได้ ส่วนฉี่แพนด้าถือเป็นยาบ�ำรุงน�ำ้ เหลือง ในปี ค.ศ. ๑๘๗๐ ชาวตะวัน
ตกคนแรกผู้มโี อกาสได้เห็น(ซาก)แพนด้าชื่อ มิสเตอร์อัลฟองโซ เอ็ดวอท พ่อก็เลยจับผ่าดูเสียเลย และพบว่าซากแพนด้านี้คล้ายแพนด้า
แดง จึงจับตัง้ ตั้งชื่อว่า Giant panda และนับเป็นคนแรกที่เรียกชื่อนี้ (ฝรั่งโยเฉพาะนักชีววิทยารู้สกึ ภูมิใจมากที่ได้ค้นพบสัตว์ชนิดใหม่ๆสัตว์
บางชนิดจึงถูกเรียกตามชื่อผู้ค้นพบเสียลาย) ส่วนผู้ที่เจอตัวจริงเสียงจริงชองแพนด้า คือปิแอร์ อามานด์ เดวิด เป็นพระนิกายเยสุอิต ชาว
ฝรั่งเศสหลวงพี่เดวิดเป็นนักชีววิทยาผู้ส�ำรวจค้นหาสัตว์ และพืชชนิดใหม่ๆ แล้วก็นอกจากแพนด้าแล้ว หลวงพี่ก็ยังอุตส่าห์ดั้นด้นค้นพบ
กวางชนิดใหม่ซ่งึ เป็นกวางของจีน เป็นญาติกับกวางเอลค์ เจ้ากวางนี้ในธรรมชาติได้สูญพันธุ์ไปหมดแล้วเพราะคาดว่าคงถูกคนจีนจับกิน
หมด เหลืออยู่แต่ในเฉพาะอุทยานหลวง หลวงพี่เลยแอบติดสินบนคนดูแลอุทยาน ขอเข้าไปดูเจ้ากวางนี้ แล้วจึงเขียนรายงานกลับไปยัง
ฝรั่งเศส ทางรัฐบาลฝรั่งเศสและเยอรมันนีจึงได้ขอ (แกมบังคับ) เอาเจ้ากวางชนิดนี้กับรัฐบาลจีนสมัยราชวงศ์ชิง ในเวลาต่อมาแผ่นดินจีน
ได้เกิดการจลาจลขึ้น รวมทั้งมีอุทกภัยน�้ำเข้าท่วมในอุทยานหลวงจนเสียหายอย่างมาก พวกสัตว์หนีไปได้บ้างที่หนีไม่ได้ก็จมน�ำ้ ตายไปบ้าง
สรุปว่าเจ้ากวางนี้เลยสูญพันธุ์ไปจากเมืองจีนตั้งแต่บัดนัน้ คงเหลือแต่สวนสัตว์ในยุโรป ซึ่งยังคงแพร่พันธุ์มาจนถึงปัจจุบัน ชื่อของกวางนี้
คือ กวางปิแอร์เดวิดตามชื่อของหลวงพี่นั่นเอง
เอ...แต่ก็ยังงงๆ อยู่เหมือนกันเพราะเขียนถึงแพนด้าอยู่ดๆี ท�ำไมกลายพันธุ์เป็นกวางจีนได้ล่ะเนี่ย เอาเป็นว่าเรื่องของแพนด้ายังมีต่อ
แต่ในฉบับหน้านะครับ
**********************************************************

You might also like