You are on page 1of 9

คัมภีร์วิถีกุฏฐโรค

นายสิทธิศักดิ์ หลักทอง
แพทย์แผนไทยชานาญการ
คัมภีร์วิถีกุฏฐโรค : ว่าด้วยลักษณะ

กุฏฐโรค 7 ชนิด โรคเรื้อน 9 ชนิด

เกิดในกระดูก เกิดในชิ้นเนื้อ

รักษายาก อาการตัด รักษายาก อาการไม่ตัด

อาสาทิยโรค = รักษายาก
อติสัยโรค = รักษายาไม่หาย แต่มีโอกาสหาย
คัมภีร์วิถีกุฏฐโรค : กุฏฐโรค 7 ชนิด
ดิน น้า ลม ไฟ + พันธ์ ผสม เกิดเอง
การจา
แรดสาก เนื้อเสียว แข็งชา เมื่อยไข้ กรรมพันธุ์ ประเวณี อุปปาติกะ

เกิดแต่กอง อาการ จา
เมื่อจะบังเกิด กระทาให้เมื่อยในข้อกระดูก และในเส้นเอ็นน้อยใหญ่ ให้ผิวเนื้อสากชา แล้วขึ้นใบหูก่อน เนื้อสาก
1.ปถวี เป็น ดุจดังมดตะนอยต่อย แล้วลามไปบวมที่หน้า แล้วจึงไปบวมทั่วตัว ดุจดังหนังแรด ถ้ารักษาไม่หาย บวมดุจหนัง
นานเข้าทาให้นิ้วมือนิ้วเท้าบวม แล้วแตกเป็นน้าเหลืองเน่ากินกุดเข้าไป ถ้ารักษาจะได้ 1 ส่วน ไม่ได้ 3 แรด
ส่วน
เมื่อจะบังเกิดนั้น โลหิตแลน้าเหลืองซึ่งกาเริบ หย่อน พิการ ระคนกันเข้า กระทาโทษมีประการต่างๆ
บางทีให้เสียวไปในชิ้นเนื้อและผิวหนัง ให้เขม่นไปในเส้นเอ็นและผิวหนัง ถ้าจะตั้งขึ้นในที่สุดให้เขม่นริกๆ เสียวเนื้อ
2. อาโป ไปในที่นั้นก่อนแล้วจึงตั้งขึ้นมาเท่าเมล็ดถั่วเมล็ดงา ดุจดังเกลื้อนแล้วค่อยเจริญขึ้นไปเท่าใบมะขาม ใบ เนื้อชา
(เรื้อนน้าเต้า) ส้มป่อย ใบพุทรา กระทาให้ผิวเนื้อนั้นมึนชาหยิกไม่เจ็บ ให้เป็นเหน็บและชาไป ให้ผิวเนื้อนวลดุจผิว ผิวนวล
น้าเต้า ซึ่งโรคนี้ชาวโลกสมมุติว่า “เรื้อนน้าเต้า” ถ้านานเข้ามากไป จะให้เมื่อยแล้วให้บวมนิ้วมือนิ้วเท้า หน้ามะกรูด
และบวมทุกข้อทุกกระดูกต่อกัน แล้วก็เปื่อยออกมาเป็นน้าเหลืองกินกุดเข้าไปทั้งนิ้วเท้า และใบหูทั้งสอง
ข้างก็หนาขึ้น ผิวหน้าเหมือนผิวมะกรูด ผิวขาวแต่ไม่แดง เป็นอสาทิยโรค รักษายากนัก
คัมภีร์วิถีกุฏฐโรค : กุฏฐโรค 7 ชนิด

เกิดแต่กอง อาการ จา
เมื่อจะเกิดวาโยธาตุอาจกาเริบ หย่อน พิการ พัดซ่านไปตามผิวเนื้อ
วาโย และผิวหนัง ทาให้เนื้อแข็งเป็นข้อขอด เป็นเม็ดเท่าผลพุทรา มะกรูด เนื้อแข็ง
(เรื้อนมะกรูด) หรือมะนาว หนังและเนื้อเป็นเหน็บชา หยิกไม่เจ็บ ต่อมาแตกออกเป็น แตกเป็นขุมๆ
ขุมๆ เปื่อยเน่าเหม็นดุจซากศพ กินจนกระดูกผุด้วน เรียก
“เรื้อนมะกรูด” รักษายาก เป็น ๑๐ ส่วน รักษาได้ ๑ ส่วน
เมื่อจะบังเกิดขึ้น กระทาให้เมื่อยทั้งสรรพางค์กาย ให้สะบัดร้อนสะท้าน
หนาวดุจเป็นไข้ แล้วจึงผุดแดงขึ้นมาเป็นเม็ด สัณฐานดุจดังประดง
เตโช เพลิง เป็นๆหายๆ อยู่ 2-3 ครั้ง แล้วจึงขึ้นจับที่หูก่อน ให้ใบหูหนาและ เป็นไข้
ผุดแดงขึ้นมาเป็นผื่นดุจมดตะนอยกัด แล้วลามขึ้นแก้มและหน้าผาก ตัวพอง
และลามไปทั่วตัวแดงดุจดังเพลิง ถ้านานเข้าจะกระทาให้ตัวพองไปดุจ
เพลิงไหม้ แล้วจึงป่วยบวม กระดูกคุด รักษายาก
คัมภีร์วิถีกุฏฐโรค : กุฏฐโรค 7 ชนิด

เกิดแต่กอง อาการ จา
ลักษณะกุฏฐโรคบังเกิดเนื่องกันมาแต่สัมพันธ์ตระกูลนั้น อาจเป็น
3.สัมพันธ์ตระกูล ชนิดไหนก็ได้ สุดแล้วแต่ พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย ของบุคคลนั้นๆ พูด กรรมพันธุ์
ง่ายๆก็คือเป็นด้วยกรรมพันธุ์นั่นเอง
โรคนี้อาจเป็นชนิดไหนก็ได้สุดแล้วแต่คู่สามัคคีรสจะเป็นโรคอะไร
4.สามัคคีรส ผู้ร่วมสามัคคีรส คือ กิน อยู่ หลับนอน ด้วยกัน ก็ย่อมมีโอกาสเป็น ร่วมประเวณี
โรคนั้นๆได้
ลักษณะกุฏฐโรคอันบังเกิดเป็นอุปปาติกะ คือ อยู่ดีๆ ก็เกิดขึ้นเอง อยู่ๆ
5.อุปปาติกะ โดยหาสาเหตุไม่ได้ ทัง้ ๆ ที่ธาตุทั้งปวง ก็มิได้วิปริตแปรปรวน ก็เป็นเอง
คัมภีร์วิถีกุฏฐโรค : โรคเรื้อน 9 ชนิด
กวางลา ปลาไฟ หมากนก หูดหิด บอน
เกิดแต่กอง อาการ จา
กวาง เมื่อจะบังเกิดนัน้ เกิดตามข้อมือข้อเท้า และ กาด้นต้นคอ ทาให้เป็นน้าเหลือง ต้องยาก็แห้ง
ลามออกไป ครัน้ ต้องยาเข้าก็แห้ง บางทีก็หายขาด บางทีก็ไม่หาย แต่ไม่ตาย
เป็นเพียงลาบาก
วิมาลา ผุดขึ้นทีห่ ูและกาด้นต้นคอ แล้วเปื่อยพุพอง คัน มีสัณฐานดุจมะเร็งไร ยิง่ เกายิ่ง วางยา
คัน ครั้นวางยาแล้วทาให้แสบร้อนตามที่เกา ลักษณะรักษาหายมากกว่าไม่หาย แล้วแสบ

เกิดแต่กอง อาการ จา
เกล็ดปลา มักเริ่มขึ้นที่หน้าก่อน แล้วลามถึงต้นคอ ทรวงอก ลามเป็นเกล็ดทั่วตัว เกล็ดดา
สัณฐานผิวดา
มะไฟ เริ่มเกิดเป็นเกล็ดแดง ขอบขาวใหญ่เท่าผลมะไฟ มักกระทาให้ร้อนดุจดังเพลิง เกล็ดแดง
แล้วให้พองๆขึ้นมา
คัมภีร์วิถีกุฏฐโรค : โรคเรื้อน 9 ชนิด

กวางลา ปลาไฟ หมากนก หูดหิด บอน


เกิดแต่กอง อาการ จา

ดอกหมาก มักเริ่มผุดตามตัวเป็นสีขาว ๆ คล้ายดอกหมาก จะคันมากเมื่อเหงื่อ ดอกหมาก


ออก ต้องเกาจนน้าเหลืองซึม จึงหายคัน

ผุดขึ้นเป็นแว่น เป็นวงตามผิวหนังเล็กก็มีใหญ่ก็มี สีขาวนุงๆ ขอบนูน


มูลนก สัณฐานดังกลากพรรนัย ทาให้คัน ถ้านานเข้าจะลามไปทั้งตัว รักษา ขาวนุง
หายบ้างไม่หายบ้าง
คัมภีร์วิถีกุฏฐโรค : โรคเรื้อน 9 ชนิด

กวางลา ปลาไฟ หมากนก หูดหิด บอน


เกิดแต่กอง อาการ จา
ผุดเป็นตุ่มทั่วตัว เท่าเมล็ดพริกไทย เมล็ดถั่วดา ผลตะขบไทย ผลมะนาว มะกรูดก็มี ให้เมื่อยมึน
หูด ไปทั้งตัว ดุจเป็นคนดี ท่านว่าเป็นพยาธิกามโรค รักษาไม่หาย แต่ไม่ตายในปัจจุบนั ก็หามิได้ อยู่ ดุจเป็นคนดี
ไปจนถึงกาลมรณะ เมื่อจะถึงกาลอายุแล้ว กระทาให้พยาธินั้นแตกออกมาทุกยอด แล้วเปื่อยเน่า
เหม็นดุจซากศพ จึงถึงกาลอวสานของชีวิต
หิด มักขึ้นทั่วทั้งตัว แล้วลามไปดุจบุคคลเป็นกลาก ดุจเป็นกลาก

เกิดแต่กอง อาการ จา
บอน แรกผุดขึ้นมานั้น เป็นรูปรุไป มองไม่ค่อยเห็น ถึงแม้จะเห็นก็เห็นแต่ขาวๆแดงๆอยู่ในเนื้อราไร เป็นรู ปรุ
มิได้เห็นถนัด

You might also like