You are on page 1of 35

เริม

่ ต ้นดี พัฒนาการดี
่ ที่ 1000 วัน แรกของชวี ต
เริม ิ
ศูนย์อนามัยที1
่ 0 อุบลราชธานี
16 พฤศจิกายน 2560 ณ โรงแรมสุนย ี ์ โฮเตล แอนด์
คอนเวนชนั่ เซนเตอร์ อ. เมือง จ. อุบลราชธานี
รองศาสตราจารย ์ แพทย ์หญิง กุสุมา ชู
ศิลป์
ภาควิชากุมารเวชศาสตร ์
คณะแพทย ์ศาสตร ์
มหาวิทยาลัยขอนแก่น

 ปรรสบการณ์เริมแรกของชี
วติ กระทบพัฒนาการ
สมอง
 สุขภาพ คุณภาพชีวต ิ และความสามารถในวัย
ผู ใ้ หญ่ มีจด ่ นจากภาวะแวดล้อมในการเลียง
ุ เริมต้ ้
ดูในวัยเด็กเล็ก
 มาตรการการป้ องกันทีดี ่ และทาได้อยู ่ในช่วงต้น
ของชีวต ิ และได้ผลตอบแทนสู ง (Silburn 2011).
 โรคร ้ายและหลายปั ญหาทีท้ ่ าทายการแก้ไข: โรค
จิตและประสาท โรคอ้วน โรคหัวใจ ปั ญหา
อาชญากรรม และการไม่รู ้หนังสือ (WHO 2009).
่ กต ้องใน
 โภชนาการทีถู 1000 วันแรกมีผลอย่างสูงต่อ
ความสามารถของเด็กในการเจริญเติบโต
 โภชนาการทีดี ่ ขณะตังครรภ
้ ์ช่วยการเจริญเติบโตและ
ภาวะภูมค ิ ุ ้มกันในขวบปี แรก
้ กด ้วยนมแม่ในขวบปี แรกช่วยสร ้างสมอง
 การเลียงลู
 สร ้างสุขนิ สย ่ กต ้องในการร ับประทานอาหารของ
ั ทีถู
เด็กเล็ก โดยเริมต ่ ้นอาหารให ้ถูกชนิ ดและถูกเวลา
First 1000 days of Life
A critical and singular window of opportunity
for Brain Development
การกระตุน ่
้ การเชือมโยงของสมองให้
เร็ว
่ ด
ทีสุ
โภชนาการทีดี่ ทสุ
ี่ ดในขวบปี แรก
การปกป้ องเด็กจาก ความรุนแรง การ
ทารุณกรรม การทอดทิง้ และการได้ร ับ
ประสบการณ์ชวี ต ่
ิ ทีเลวร ้าย

การหลีกเลียงมลพิ ่ าลายสมอง
ษทีท
ความพอเพียงด้านเศรษฐกิจและสังคม

 เริมจากการสร ้างความตระหนักรู ้ให้มารดา

เกียวกับโภขนาการ ในช่วงวิกฤติของชีวต
ิ เด็ก
 ภาวะทุพโภชนาการเรือร ้ ัง และภาวะแกรน มี
อ ันตรายต่อการพัฒนาสมองในระยะยาว และ
กลับคืนสู ่ปกติได้ยาก
น้ าหนักน้อยกว่าเกณฑ ์
ภาวะขาดสารอาหารปริมาณน้อย
ภาวะน้ าหนักเกินและโรคอ้วน

กลุ่มเสียงภาวะทุ พโภชนาการ ได้แก่
- กลุ่มสตรีวย
ั เจริญพันธ ์
- ทารก
- เด็กและวันรุน

ตัวชีว้ ัด อ ัตราร ้อยละ
ทารกเคยได้นมแม่ใน 2 ปี ทีผ่ ่ านมา 97.4
่ นการเลียงลู
ได้เริมต้ ้ กด้วยนมแม่ ใน 1 ชวโมง ่ั 39.9
แรกหลังเกิด

การเลียงลู กด้วยนมแม่อย่างเดียว 6 เดือน 23.1
ให้นมแม่รว่ มกับน้ าก่อนอายุ 6 เดือน 42.1

เด็ก 12-15 เดือน ได้การเลียงลู กด้วยนมแม่ 1 33.3
ปี
เด็ก 20.-23 เดือน ได้การเลียงลู ้ กด้วยนมแม่ 2 15.5
ปี

จานวนเดือนเฉลียการเลี ้
ยงลู กด้วยนมแม่ 7.9
เด็ก 23 เดือน ทีได้ ้
่ การเลียงลู กด้วยนมแม่ 28.0
ตัวชีว้ ัด อ ัตราร ้อยละ

การเริมให้ ้
อาหารเนื อหยาบ ่
อาหารกึงเหลว 84.6
และอาหารเนื อนุ ้ ่ ม ในเด็กอายุ 6-8 เดือน
อ ัตราการให้นมในทารกอาสุ 6-23 เดือน ที่ 92.0
ไม่ได้นมแม่
ทารกอายุ 6-23 เดือน ทีได้ ่ ร ับอาหารเนื อ
้ 84.6
หยาบ อาหารกึงเหลว ่ ้ ่ มอย่าง
และอาหารเนื อนุ

น้อย 1มือในว ่ านมา
ันทีผ่
ทารกอายุ 6-23 เดือน ทีได้ ่ ร ับอาหาร อย่าง 78.0
ึ้
น้อย 4 หมู ่ขนไปในว ่ านมา
ันทีผ่
ทารกอายุน ้อยกว่า 5 ปี หญิงตงครรภ์
ั้ อสี าณ
ภาวะทุพโภชนาการ ร ้อย ภาวะทุ
 พโภชนาการ
2006;15(3):329-34. ร ้อย
ละ ละ
น้ าหนักน้อยกว่าเกณฑ ์ 6.1/ ภาวะพร่องโปรตีนและ 15.1
(ปานกลาง/ รุนแรง)/ 1.5 กาลังงาน (PEM)
รุนแรง BMI <18.5 kg/m2)
ส่วนสู งน้อยกว่าเกณฑ ์ 10.5/ ภาวะขาดธาตุเหล็ก 6.3
(ปานกลาง/ รุนแรง)/ 2.6 (Iron deficiency anemia)
รุนแรง ภาวะขาดวิตามินเอ 3.3
ภาวะผอม (Wasting) 5.4/ (Vitamin A deficiency
(ปานกลาง/ รุนแรง)/ 1.4 No Zinc Deficiency
รุนแรง Asia Pacific J 2006;15(3):329-34.
้ั
ทาไมต้องฝากครรภ ์ครงแรก
ก่อนอายุครรภ ์ 12 สัปดาห ์

 ประเมินและปกป้ องสุขภาพทีดี
ของมารดาและทารกในครรภ ์
 อายุครรภ ์ 0 – 12 สัปดาห ์เป็ นระยะ
วิกฤติของการสร ้างอวัยวะ
 ลดโอกาสเกิดภาวะน้ าหนักแรก
เกิดน้อยกว่าเกณฑ ์
 ลดอ ัตราตายของมารดาขณะ
้ั
ตงครรภ ์และระยะคลอด
ระยะวิกฤติของพัฒนาการในครรภ ์
 สมองทารก
อายุครรภ ์ 3-
16 สัปดาห ์
 หัวใจอายุ
ครรภ ์ 3-6
สัปดาห ์
 ตาอายุครรภ ์
4-8สัปดาห ์
 หู อายุครรภ ์
4-9 สัปดาห ์
การเจริญเติบโตของทารกในครรภ ์
https://www.babycenter.com/fetal-development-week-by-week
https://www.youtube.com

 2 สัปดาห ์หลังปฏิสนธิ เซลล ์ตัว


อ่อนแบ่งตัวและเพิมจ ่ านวนเซลล ์
อย่างรวดเร็ว
 4 สัปดาห ์ เซลล ์แบ่งตัวเป็ นชน ้ั
และสร ้างรก ได้ผลบวกการ

ตังครรภ ์
 5 สัปดาห ์ หัวใจทารกเริมเต้ ่ น
 6 สัปดาห ์ มีรูปจมู ก ดวงตา ปาก
หู ลาไส้ สมอง มารดาแพ้ทอ ้ ง
 7-8 สัปดาห ์ ปรากฏลักษณะ มือ

เท้า และเพิมขนาด สร ้างท่อ
หายใจ
 10 สัปดาห ์พ้นระยะวิกฤติของการ
สร ้างอวัยวะ
 12 สัปดาห ์ มีปฏิก ิรย ิ าเตะ กา
คลายมือ ปรากฏนิ วเท้ ้ าเล็กๆ ใช้
่ ดการเต้นของหัวใจได้
เครืองวั
การเจริญเติบโตของทารกในครรภ ์
https://www.babycenter.com/fetal-development-week-by-week
https://www.youtube.com

้ อช ัดเจน ลาตัวยาว 3 นิ ว
 13 สัปดาห ์ นิ วมื ้
 14 สัปดาห ์ ส่วนละเอียดของร่างกายปรากฏ

ช ัด ใช้กล้ามเนื อหน้ า ไตทางาน
 ่
15 สัปดาห ์ ทารกเริมไวต่ อแสง สร ้างต่อมร ับ

รส จมู กเริมบานออก ่
พร ้อมทีจะเติ บโตอย่าง
รวดเร็ว น้ าหนักตัวเพิมเป็ ่ น 2 เท่า
 ้ หู อยูในทีปกติ
16 สัปดาห ์ รู ้สึกลู กดิน ่ มีหนัง
ตา
 17 สัปดาห ์ การเจริญของโครงสร ้างกระดู ก
กระดู กอ่อนเจริญ เป็ นกระดู กแข็ง รกแข็งแรง
ขึน้
 18 สัปดาห ์ แสดงลักษณะเพศ จากอ ัตรา
ซาวด ์ ขยับข้อ แขนขางอ
 19 สัปดาห ์ ทารกได้ยน ่ ร ับการ
ิ เสียง ได้กลิน
สัมผัส มองเห็นภาพ
การเจริญเติบโตของทารกในครรภ ์
https://www.babycenter.com/fetal-development-week-by-week
https://www.youtube.com

 20 สัปดาห ์คลามดลู กได้ระดับสะดือ


แนะนาให้ทาอ ัลตราซาวด ์ ดู รกและ
เพศ ขนาดทารกเท่าผลกล้วยหอม
ทารกกลืนน้ าคราได้ ่ มากขึน ้ ลาใส้

สร ้างขีเทา และน่ าย่อย
 19-21 สัปดาห ์ เริมรู ่ ้สึกลู กดิน้
"quickening“ ใช้กล้ามเนื อหน้ ้ า

หาว เอานิ วหัวแม่ ใส่ปากและดู ด
 22 สัปดาห ์ เป็ นทารกแรกเกิดตว ั จิว๋

นิ วแยกช ัดเจน
 24 สัปดาห ์ ผิวบางใส ตอบสนองต่อ

เสียง เมือตรวจด้ วยเครือง่ Doppler

โดยเคลือนไหวและหัวใจเต้ น
การเจริญเติบโตของทารกในครรภ ์
https://www.babycenter.com/fetal-development-week-by-week
https://www.youtube.com
้ั
 25-26 สัปดาห ์ ชนไขมั
นผิวหนัง
หนาขึน้ สู ดน้ าครา่ กระตุน้ ปอด

และ เริมหายใจ
 28 สัปดาห ์ หลับและตืน ่ กระพริบตา
 29 สัปดาห ์ ปอดพร ้อมทางาน
 31-32 สัปดาห ์ ไขมันใต้ผวิ หนัง
หนา พลิกศีรษะไปมา น้ าหนักเพิ่
 33 สัปดาห ์ ข่องกระโหลกยังเปิ ด

และศีรษะเปลียนรู ปร่างได้
 34 สัปดาห ์ สมอง ปอด เจริญเต็มที่
 35 สัปดาห ์ ไตทางานเต็มที่
 ่ วง มีไขหุม
37–38 สัปดาห ์ ขนเริมร่ ้
ผิวหนัง ม่านตาสีเข้มขึน ้
การเจริญของสมอง
ของทารกในครรภ ์

การเจริญเติบโตในไตรมาสที1

ทารกเริมเคลื ่
อนไหว
 อายุ 1 6 ว นั หลัง ปฏิ ส นธิ เริ่มสร า
้ งแผ่ น เนื ้ อเยื่ อ
ประสาท แล้ว ค่ อ ยๆม้ว นเป็ นหลอดเพื่ อสร า ้ งเป็ น
สมองและไขสัน หลัง
 อายุ ค รรภ 6 ์ -7 สัป ดาห ห
์ ลอดสมองปิ ด โค้ง แล ะ
นู นขึ ้น เป็ นสมอง3 ส่ ว นได้แ ก่ ส มอง ส่ ว นห น้ า
ส่ ว นกลางและส่ ว นหลัง สุ ด เป็ นไขสัน หลัง พ ร อ ้ ม
กบ ั การสร า ้ งเซลล ป ์ ระสาทนั บ ล้า นๆต วั
 ปลาย 12 สัป ดาห เ์ ริ่มร บ ั ประสาทสัม ผัส

การเจริญเติบโตในไตรมาสที2
่ ดู ด กลืน กระพริบตา ฝั น
ทารกเริม
 อ า ยุ 1 6 สัป ด า ห ์ เ ริ่ม ดู ด แ ล ะ ก ลื น ด ร ง้ั แ ร ก
 อ า ยุ 1 8 สัป ด า ห ์ เ ริ่ม เ ต ะ ข า ไ ด้ ( รู ส
้ ึ ก ลู ก ดิ ้น ) เ นื ้ อ เ ยื่ อ
ป ร ะ ส า ท เ ริ่ม มี แ ผ่ นไ ข มัน
 อ า ยุ 2 1 สัป ด า ห ์ ก ลื น น้ า ค รา่ อ ัตโ น มัต ิ แ ล ะ ร บ ั รู ร
้ ส
 อ า ยุ 2 4 สัป ด า ห ์ มี ป ฏิ ก ริย า ก ร ะ พ ริบ ต า
 ป ล า ยไ ต ร ม า ส ที่ 2 ก้า น ส ม อ ง เ จ ริญ เ กื อ บ เ ต็ ม ที่ เ พื่ อ
ค ว บ คุ ม
- ก า ร ห า ยใ จ ก า ร เ ต้น ข อ ง หัวใ จ แ ล ะ ค ว า ม ดันโ ล หิ ต
- ข ยับ ศี ร ษ ะ เ มื่ อ ต อ บ ส น อ ง ต่ อ เ สี ย ง ภ า ย น อ ก ม ด ลู ก
 อ า ยุ 2 8 สัป ด า ห ์ เ ริ่ม มี ค ลื่ น ส ม อ ง มี ว ง จ ร ก า ร ห ลับ ลึ ก
เ ช่ น เ ดี ย ว กับ ก า ร ฝั น

การเจริญเติบโตในไตรมาสที3

สมองเจริญเติบโต เซลล ์ประสาทเชือมโยง

 สมองโตขึ ้นอย่ า งรวดเร็ ว พร อ ้ มก บ ั ขนาด


ร่ า งกายที่ เพิ่ มขึ ้นอย่ า งรวดเร็ ว เช่ น เดี ย วก น

 สมองส่ ว นหลัง CEREBELLUM ที่ ควบคุ ม การ
เคลื่ อนไหวของร่ า งกาย จริญ รวดเร็ ว กว่ า สมอง
ส่ ว นอื่ นๆ โดยมี พ ื ้นที่ 30 เท่ า ของสมองเมื่ ออายุ
16 สัป ดาห ์
 สมองใหญ่ ส่ ว นบน CEREBRAL CORTEX ที่
เกี่ ยวข้อ งก บ ั การคิ ด การจา และการร บ ั
ความรู ส ้ ึ ก เจริญ เร็ ว และเริ่มทางานเมื่ อเกิ ด ครบ
กาหนด
การฝากครรภ ์คุณภาพ
Impact of Adequate Prenatal Care
 ลดอ ัตราภาวะน้ าหนักแรกเกิดน้อย
 ลดโอกาสการคลอดก่อนกาหนด
 ลดอ ัตราตายปริกาเนิ ด
 ลดปั ญหาสุขภาพทารก
 ส่งเสริมสุขภาพและภาวะโภชนาการของมารดา
 ส่งเสริมการเจริญเติบโตและพัฒนาการของสมอง
่ กต้องในแต่ละ
 ได้ร ับการตรวจและการทดสอบทีถถู
้ั
ช่วงของการตงครรภ ์
อิทธิพลของพันธุกรรม
ต่อการเจริญเติบโตของสมอง

 การแสดงลักษณะพันธุกรรมของ
สมองเจาะจงในแต่ละช่วงอายุ
 ระยะก่อนเกิด: พันธุกรรมควบคุม
ลักษณะโครงสร ้างของสมอง การ
สร ้างเซลล ์ประสาท และศ ักยภาพ
ในการปฏิสม ่
ั พันธ ์กับสิงแวดล้อม
 พัฒนาการของสมองขึนกั ้ บการ
ปฏิสม ั พันธ ์ของพันธุกรรมกับ

สิงแวดล้ อม
โครงสร ้างสมองตามพันธุกรรม

 พันธุกรรมมีอท ิ ธิพลสู งมากต่อความหนาของสมอง


้ั
ชนนอก โดยเฉพาะในสมองใหญ่ดา้ นหน้า
้ านข้างและส่วนกลาง , สมองส่วน
(prefrontal)ทังด้
parietal, และสมองส่วนtemporal
การปฏิสมั พันธ ์

ระหว่างพันธุกรรมกับสิงแวดล ้อม
 ประสบการณ์ของเด็กแต่ละคนสัมพันธ ์กับ
พันธุกรรมของพ่อแม่
 การปฏิสม ั พันธ ์ระหว่างทารกกับ พ่อแม่ หรือ

ผู เ้ ลียงดู ่
เด็ก จะเปลียนแปลงการแสดงออกของ
พันธุกรรมทีควบคุ ่ มความฉลาด
 ประสบการณ์ทได้ ี่ ร ับระยะแรกของชีวติ ถูกฝั ง
ในสมอง เพือสร ่ ่
้างหรือเปลียนแปลงพฤติกรม
ทีติ่ ดต ัวไปยาวนานหรือตลอดชีวต ิ
สาเหตุของการเจริญเติบโตช้าในครรภ ์

 ความผิดปกติของรกเป็ นปั ญหาหลัก


 ปั ญหาสุขภาพของมารดา :
-โรคเบาหวานรุนแรง ความดันโลหิตสู ง

- การติดเชือในครรภ ์ เช่น พัดเยอรมัน
,cytomegalovirus ซิฟิลิส และ toxoplasmosis โรคไต หรือ
โรคปอด
- ภาวะทุโภชนาการ หรือ โลหิตจาง

- การดืมเหล้ า สู บบุหรี่ หรือ ติดยา/ สารเสพติด
 ควาผิดปกติของโครโมโซม
 ครรภ ์แฝด
 น้ าคราในครรภ
่ ์น้อย
ผลของการเติบโตช้าในครรภ ์กับ
การเจริญของสมอง
้ บ
 ผลกระทบของ IUGR ต่อพัฒนาการของสมองขึนกั
่ มมี
อายุครรภ ์ของทารกในครรภ ์ทีเริ ่ การเจริญเติบโตช้า
่ ดเร็วก่อนอายุครรภ ์ 32 สัปดาห ์ยิงมี
 ยิงเกิ ่ ความผิดปกติ
ของสมอง
่ ดกาอนกาหนด และมี IUGR มีป ริมตรเนื อสมอง
 ทารกทีเกิ ้
gray matter น้อยลง โดยเฉพาะสมองส่วน
Hippocampus ทีเกี ่ ยวข้
่ องกับพัฒนาการด้านการเรียนรู ้
 ทารกทีเกิ่ ดก่อนกาหนดและมี IUGR มีระดับเชาว ์ปั ญญา

ตาได้ ้ บการมีปฏิสม
จะมากหรือน้อยขึนกั ั พันธ ์กับ

สิงแวดล้ อมหลังเกิด
่ าเป็ น
การเสริมสารอาหารทีจ
่ องร ับประทานทุกว ัน เพือป้
 สารอาหารทีต้ ่ องก ัน

มารดาไม่ให้ม ี ภาวะโลหิตจาง การติดเชือระยะ
คลอด ทารกไม่มน ี ้ าหนักแรกเกิดน้อยกว่าเกณฑ ์
และเกิดก่อนกาหนด ได้แก่
- ธาตุเหล็ก 30- 60 มก/ว ัน
- กรดโฟลิก 400 ไมโครกร ัม หรือ 0.4 มก/
ว ัน
 ในบางกรณี ถ้าร ับประทานครงเดี ้ั ยว ธาตุเหล็ก
120มก กรดโฟลิก 2800 ไมโครกร ัม
 เสริมธาตุแคลเซียม 1.5-2.0 กร ัม/ว ัน โดยการ
ร ับประทาน
 พิจารณาเสริมวิตามินเอเป็ นรายๆ
การประเมินมารดา (1)
 ตรวจเม็ดเลือดอย่างครบถ้วน
้ั อนอายุครรภ ์ครบ 24
 ตรวจอ ัลคราซาวด ์ 1 ครงก่

สัปดาห ์ (early ultrasound) เพือประเมิ นอายุ
ครรภ ์ วินิจฉัยความพิการของทารกในครรภ ์
ได้เร็วและถู กต้อง วินิจฉัยครรภ ์แฝด ลดการเร่ง
คลอดครรภ ์เกินกาหนด และเสริมประสบการณ์

การตังครรภ ์ให้มารดา
 การตรวจปั สสาวะ และการเพาะเชือปั ้ สสาวะที่
เก็บส่วนกลาง เพือวิ ้ สสาวะ
่ นิจฉัย การติดเชือปั
่ มอ
ทีไม่ ี าการ (Asymptomatic bacteriuria)
การประเมินมารดา (2)

 ภาวะน้ าตาลสู งในเลือด (hyperglycemia) และ



การเป็ นเบาหวานระยะตังครรภ ์ (GDM = Gestational
Diabetes)

 การสัมผัสบุหรี่ เหล้า สารเสพติด


้ เช่น ไวร ัส
 การตรวจการคัดกรองการติดเชือ
ตับอ ัเสบ ซิฟิลิส และHIV
 การได้ร ับความรุนแรงจากคู ค
่ รอง
 การตรวจค้นการติดเชือวั ้ ณโรคอย่างเป็ นระบบ
มาตรการการป้ องกันสุขภาพ

 การได้ร ับวัคซีนป้ องกันบาดทะยัก


ี ะนะ 7 วันร ักษาการติดเชือ้
 การให้ยาปฏิชว
่ มอ
ปั สสาวะทีไม่ ี าการ
่ ากันไม่ได้ดว้ ย
 การร ักษาภาวะหมู ่เลือดทีเข้
Anti-D immunoglobulin ในมารดา ทีมี ่ Rh-

negative ในระหว่างการตังครรภ ์ 28-34
สัปดาห ์
 การให้ยาขับพยาธิ
การประเมินทารกในครรภ ์
้ กวัน
 การนับลู กดินทุ
 การประเมินการเจริญเติบโตทารกใครรภ ์

ด้วยการวัดการสู งขึนของยอดมดลู ก
 การทา Antenatal Cardiotocography เป็ น
ประจา
 การทา early ultrasound ก่อน 24 สัปกาห ์
 การฟั งการเต้นของหัวใจทารกด้วย
Doppler ultrasound examination
การวางแผนป้ องกันและร ักษา
ความพิการแต่กาเนิ ด
 กลุ่มอาการดาวน์
 ภาวะหลอดประสาทไม่ปิด
 ภาวะปากแหว่ง เพดานโหว่
 ความพิการองแขนขา

 ภาวะกล้ามเนื อเสื ่
อมพันธุกรรม (ดู เชน)

You might also like