Professional Documents
Culture Documents
Thai Final Project
Thai Final Project
ิ ตะเลงพ่าย
ิ์
โดย: วรกมล, กษิดเดช, เวณิ กา, กมลชนก
1102
การอ่านและพิ จารณาเนื้อหาและกลวิธีใน
วรรณคดีและวรรณกรรม
เนื้อเรื่องย่อ
เมื่อพระเจ้าหงสาวดีนน ั ทบุเรงทรงทราบว่าสมเด็จพระมหาธรรมราชาเสด็จ
สวรรคต กรุงศรีอยุธยาอาจมีเหตุการ์ณวุ่นวาย จึงคิดฉวยโอกาศสั่งให้พระมหา
อุปราชาผู้เป็นโอรส ยกทัพมารุนรานไทย ในระหว่างนั้น สมเด็จพระนเรศวรมหาราช
ได้เตรียมทัพเข้าโจมตีเขมร แต่เมื่อท่านได้ทราบข่าวศึกพม่าก็จัดเตรียมทัพรับศึก
นอกพระนคร แต่เมื่อได้ยินเสียงกลองศึกขึน ้ ช้างทรงของสมเด็จพระนรศวรและ
สมเด็จพระเอกาทษรถนัน ้ ตกมัน จึงหลงไปอยู่ใจกลางของทัพข้าศึก ทาให้ทัพของ
พระองค์ตามมาไม่ทน ั พระองค์จง ึ แสดงวาทศิลป์กล่าวท้าให้พระมหาอุปราชออกมา
ทายุทธหัตถีกน ั ท้ายที่สุดพระนเรศวรชนะ เช่นเดียวกับพระเอกาทศรถมีชย ั
เหนือมังจาชโร หลังจากนั้นทัพพม่าก็แตกพ่ ายไป
โครงเรื่อง
กษัตริย์ของพม่าเห็นว่ากษัตริย์ไทยกาลังมีการเปลี่ยนเเผ่นดินจึงคิดจะฉวย
โอกาสที่กาลังวุ่นวายส่งคนไปตีเมืองเเต่ด้วยพระปรีชาความสามารถของกษัตริย์
ไทยจึงปกป้องเมืองไว้ได้
ตัวละคร
ฝ่ายไทย ฝ่ายพม่า
- สมเด็จพระนเรศวรมหาราช
(พระองค์ดา) - พระเจ้าหงสาวดี(นันทบุเรง)
- สมเด็จพระเอกาทศรถ - พระมหาอุปราชา
(พระองค์ขาว)
- พระมหาธรรมราชา
ฉากท้องเรื่อง
๑. อยุธยา เมืองหลวงไทย
๒. หงสาวดี เมืองหลวงพม่า
๓. เเม่กษัตริย์ เเม่น้าในจังหวัดกาญจนบุรีที่นายกองเมืองกาญจนบุรี ไปซุ่มเพื่ อ
สอดเเนมศัตรู
๔. กาญจนบุรี ระหว่างไทยกับพม่า หน้าด่านของไทย
๕. ราชบุรี พระนเรศวรให้เจ้าเมืองจักทหารไปทาลายสะพานไม้ไผ่
๖. วิเศษชัยชาญ เมืองที่พม่าส่งกองลาดตระเวนขึ้นม้าหาข่าว
๗. ด่านเจดีย์สามองค์ เขตเเดนระหว่างไทยกับพม่า
๘. หนองสาหร่าง ที่ตั้งทัพกน้าของไทย
๙. โคกเผ้าข้าว สถานที่ที่กองทัพหน้าของไทยปะทะกับพม่า
๑๐. ตระพั งตรุ ที่เกิดสงครามยุทธหัตถี
บทเจรจา/ราพึ งราพั น
มาเดียวเปลี่ยวอกอ้า อายสู
สถิตอยู่เอ้องค์ดู ละห้อย
พิ ศโพ้ นพฤกษ์พบู บานเบิก ใจนา
พลางคะนึงนุชน้อย แน่งเนื้อนวลสงวน
“อ้าจอมจักรพรรดิผู้ เพ็ ญยศ
แม้พระเสียเอารส แก้เสี้ยน
จักเจ็บอุระระทด ทุกข์ใหญ่ หลวงนา
ถนัดดั่งพาหาเหี้ยน หั่นกลิ้งไกลองค์”
แก่นเรื่อง/สารัตถะของเรือ
่ ง
สองโจมสองจูจ่ ว
้ ง บารู
สองขัตติยสองขอชู เชิดด้า
กระลึงกระลอกดู ไวว่อง นักนา
ควาญขับคชแข่งค้า เข่นเขี้ยวในสนาม
เลือกใช้คาให้เหมาะสมกับเรื่องและฐานะของบุคคลในเรื่อง
เบื้องนั้นนฤนาถผู้ สยามินทร์
เบี่ยงพระมาลาผิน ห่อนพ้ อง
ศัสตราวุธอรินทร์ ฤาถูก องค์เอย
เพราะพระหัตถ์หากป้อง ปัดด้วยขอทรง
เลือกใช้คาโดยคานึงถึงเสียง
คาที่เล่นเสียงวรรณยุกต์
ภูบาลอื้นอานวย อวยพระพรเลิศล้น
้
สงครามความเศิกซึง แสนกล
จงพ่ ออย่ายินยล แต่ตื้น
อย่าลองคะนองตน ตามชอบ ทานา
การศึกลึกเล่ห์พื้น ล่อเลี้ยวหลอกหลอน
คาที่เล่นเสียงหนักเบา
ภูธรเมิลอมิตรไท้
ธารง สารแฮ
ครบสิบหกฉัตรทรง เทริดเกล้า
บ่ จวน บ่ จวบองค์ อุปราช แลฤา
พลางเร่งขับคชเต้า แต่ตั้งตาแสวง
โดยแขวงขวาทิศท้าว ทฤษฎี แลนา
บัด ธ เห็นขุนกรี หนึ่งไสร้
เถลิงฉัตรจัตุรพิ รีย์ เรียงคั่ง ขูเฮย
หนแห่งฉายาไม้ ข่อยชี้เฌอนาม
คาพ้ องเสียงและคาซ้า
สายหยุดหยุดกลิ่นฟุ ง
้ ยามสาย
สาย บ่ หยุดเสน่ห์หาย ห่างเศร้า
กี่คืนกี่วันวาย วางเทวษ ราแม่
ถวิลทุกขวบค่าเช้า หยุดได้ฉันใด
การเรียบเรียงคา
เรียงข้อความที่บรรจุสารสาคัญไว้ท้ายสุด
อุรารานร้าวแยก ยลสยบ
เอนพระองค์ลงทบ ท่าวดิน ้
เหนือคอคชซอนซบ สังเวช
วายชิวาตม์สุดสิ้น สู่ฟา้ เสวยสวรรค์
เรียงคา วลี หรือประโยคที่มีความสาคัญเท่าๆกัน เคียงขนานกันไป
หัสดินปิ่นธเรศไท้ โททรง
คือสมิทธิมาตงค์ หนึ่งอ้าง
หนึ่งคือคิริเมขล์มง- คลอาสน์ มารเอย
เศียรส่ายหงายงาคว้าง ไขว่แคว้งแทงโถม
สองโจมสองจู่จ้วง บารู
สองขัตติยสองขอชู เชิดด้า
กระลึงกระลอกดู ไวว่อง นักนา
ควาญขับคชแข่งค้า เข่นเขี้ยวในสนาม
งามสองสุริยราชล้า เลอพิ ศ นาพ่ อ
พ่ างพั ชรินทรไพจิตร ศึกสร้าง
ฤารามเริ่มรณฤทธิ์ รบราพณ์ แลฤา
ทุกเทศทุกทิศอ้าง อื่นไท้ไป่เทียม
ขุนเสียมสามรรถต้าน ขุนตะเลง
ขุนต่อขุนไป่เยง หย่อนห้าว
ยอหัตถ์เทิดลบองเลบง อังกุศ ไกวแฮ
งามเร่งงามโทท้าว ท่านสู้ศึกสาร
การใช้โวหาร
การเปรียบเทียบสิ่งหนึ่งเหมือนกับอีกสิ่งหนึ่ง
หนึ่งคือคิริเมขล์มง- คลอาสน์
มารเอย
เศียรส่ายหงายงาคว้าง
ไขว่แคว้งแทงโถม
ขุนเสียมสามรรถต้าน ขุนตะเลง
ขุนต่อขุนไป่เยง หย่อนห้าว
คุณค่าด ้านต่างๆ
1. คุณค่าด ้านวรรณศิลป์
1. คุณค่าด ้านสังคม