You are on page 1of 19

สถิตส

ิ ำหร ับกำรวิจย

รศ.ดร.โยธิน แสวงดี
สถำบันวิจ ัยประชำกรและสังคม
มหำวิทยำลัยมหิดล
สถิตส
ิ ำหร ับกำรวิจยั
• สถิตมิ คี วำมสำคัญคือ เป็ นข ้อมูล แสดงลักษณะกำรดำรงคง
อยูข
่ องสถำนะของข ้อมูล ปรำกกฏกำรณ์ สถำนะภำพ ฯลฯ
• สถิตเิ ชิงพรรณำ ใช ้พรรณำ เช่น แสดงปรำกฎกำรณ์
สถำนะกำรณ์ สถำนะภำพ ทีเป็ ่ นอยู่ หรือ ทีผ่
่ ำนมำในอดีต
เช่น สำนักงำนสถิตแิ ห่งชำตินำเสนอข ้อมูลสถำนะกำรณ์
สถำนะภำพ ปรำกฎกำรณ์ ต่ำงๆ ทำงด ้ำนจำนวนประชำกร
โครงสร ้ำงประชำกรตำมอำยุ และเพศ โครงสร ้ำงครอบคร ัว
่ ครอบคร ัวขยำย บริษท
ครอบคร ัวเดียว ั ห ้ำงหุ ้นส่วนๆ ต่ำงๆ
แสดงผลประกอบกำร จำนวนงบลงทุน จำนวนวัสดุ อุปกรณ์
ควำมสูญเสียฯลฯ
• สถิตเิ ชิงพรรณำ ได ้แก่ Mean Mode Median S.D. เป็ นต ้น
สถิตส
ิ ำหร ับกำรทดสอบสมมุตฐ
ิ ำน
ทำงสถิต ิ
• ใช ้มำกสำหร ับกำรวิจยั เชิงทดลอง
• ่
กำรวิจยั เพือกำรวั ดและประเมินผล
• กำรวิจยั ดำเนิ นงำน
• สำเหตุทต ี่ ้องทำกำรพิสจู น์สมมุตฐิ ำนเพรำะต ้องกำร
ข ้อค ้นพบไปชีน้ ำนโยบำย เนื่ องจำกสำมำรถยืนยันได ้
อย่ำงแท ้จริงว่ำผ่ำนกำรทดลอง (ทีมี ่ กำรควบคุม หรือ

กำรขจัดปัจจัยอืนๆที ่ ยวข
เกี ่ ้องออกๆปแล ้ว)
สมมุตฐิ ำน
• Ho หรือ Null Hypothesis จะนิ ยมตังว่ ้ ำ ไม่แตกต่ำง
• ใช ้สัญลักษณ์ =
• Ha หรือ Alternative Hypothesis หรือ สมมุตฐิ ำนที่
ต ้องกำรพิสจ ู น์
• ใช ้สัญลักษณ์วำ่ แตกต่ำง เช่น ไม่เท่ำกับ > หรือ < เป็ นต ้น
• ส่วนใหญ่จะไม่นิยมเขียน จะทรำบกันโดยนัยะว่ำจะพิสจ ู น์อะไร

แต่งำนวิจยั เชิงทดลองทังสำยวิ ทยำศำสตร ์ และสำย
สังคมศำสตร ์จะต ้องเขียนใว ้
่ ำคัญคือ ตัง้ Ha ใว ้อย่ำงไร ต ้องพิสจ
• สิงส ู น์ ให ้ได ้เป็ นจริง
ตำมนั้น เพรำะเป็ นไปตำมหลักปฏิฐำนนิ ยม ไม่งนจะถื ้ั อว่ำงำน
่ งใว
วิจจั ล ้มเหลว (เพรำะไม่เป็ นไปตำมทีตั ้ ้ในวัตถุประลงค ์ที่
t-test
• ใช ้สำหร ับทดสอบสมมุตฐิ ำน เปรียบเทียบกันสองกลุม ่
เท่ำนั้น
• หน่ วยวัดของสิงที ่ จะเปรี
่ ยบเทียบต ้องเป็ นคะแนน
พฤติกรรม ฤทธิ ์ ส่วนสูง นำหนั ้ ่
ก ฯลฯ เพรำะเน้นทีกำร
เปรียบเทียบค่ำเฉลียมั ่ ชฌิมเลขคณิ ต
• หลักเบืองต ้ ้น จำนวนตัวอย่ำง อย่ำงน้อย 30 ตัวอย่ำงขึน้
ไป
• แบ่งกลุม ่ เปรียบออกเป็ นสองกลุม ่ เช่น กลุม
่ ทดลอง กับ
กลุม่ เปรียบ
• กลุม ่ เพศหญิง กับ กลุม ่ เพศชำย
• กลุม ่ เมือง กับ กลุม ่ ชนบท
• กลุม ่ เข ้ำเรียน กับ กลุม่ ไม่เข ้ำเรียน ฯลฯ
ประเภทของ t-test
• One sample t-test ใช ้สำหร ับทดสอบสมมุตฐิ ำนเมือ ่
เปรียบเทียบกับค่ำมำตรฐำน เช่น คะแนนภำษำอังกฤษ
ของคนไทย เปรียเทียบกับ TOEFL ทดสอบกับค่ำต่ำงๆ ที่
มำตรฐำนทำงสังคมศำสตร ์ หรือ วิทยำศำสตร ์ ฯลฯ
• Independent-Samples t-test ใช ้สำหร ับทดสอบควำม
แตกต่ำงของค่ำเฉลียมั่ ชฌิมเลขคณิ ต ของสองกลุม ่
เปรียบเทียบ เช่น ชำย หญิง เมืองชนบท ทดลอง
ควบคุม ฯลฯ

• Paired-samples t-test ใช ้เปรียบสัมฤทธิผลกำรทดลอง
่ นกิจกรรมดำเนิ นงำน ก่อนและหลัง ทีติ
ทีเป็ ่ ดตำมคู่ นั้นๆ
ตลอด สำมำรถพิสจ ู น์วำ่ กิจกรรมทดลองส่งผลตรงต่อ
F-test (One-Way Analysis of Variance)
• ใช ้ทดสอบควำมแตกต่ำงของค่ำเฉลียมั ่ ชฌิมเลขคณิ ต

ตังแต่ 3 กลุม ้
่ ขึนไป
• เป็ นกลุม่ ทดลอง 3 treatment หรือ ทดลอง 2
treatment กับ กลุม ่ ควบคุม 1 กลุม่ ก็ได ้
• หรือ ในทำงสังคมศำสตร ์และทำงวิทยำศำสตร ์ จะใช ้
เปรียบเทียบควำมแตกต่ำงของค่ำเฉลีย่ ตังแต่ ้ ่ ขึน้
3 กลุม
ไปก็ได ้
• ข ้อดีคอื ค ้นหำควำมแตกต่ำง ในแต่ละกลุม ่
• พฤติกรรมทีจะวั ่ ด ต ้องเป็ นคะแนน หรือมีระดับกำรวัด
แบบอัตรส่วน หรือ แบบช่วง ทังสำยวิ ้ ทย ์ และสำยศิลป์
• ข ้อดี คือ Post-Hoc test ทีใช ่ ้ทดสอบควำมแตกต่ำงรำย
คูเ่ ปรียบเทียบได ้
Multivariate Analysis:
(1) ANCOVA
• หลักำรเดียวกับ ANOVA แต่ใช ้ Univariate เพรำะใช ้
ตัวแปรตำมตัวเดียว

• แต่เปิ ดโอกำสให ้มีกำรขจัดปัจจัยอืนๆที ่
คำดว่ำมีผลต่อ
พฤติกรรม หรือ ฤทธิ ์ หรือ กำรสิงที่ ศึ
่ กษำนั้นๆ
• CO ย่อมำจำก Covariance
• ตัวแปรควบคุม Covariate Variable มักนิ ยมวัดด ้วย
ปัจจัยทีมี่ ระดับกำรวัดแบบอัตรำส่วน แบบช่วง หำก
เป็ นกลุม่ ต ้องจัดเป็ นตัวแปร dummy variable (1,0
ตัวอย่ำงเช่น ในสำยสังคมศำสตร ์ เมือง = 1 ชนบท =
0 เป็ นต ้น แต่สำยวิทยำศำสตร ์ จะนิ ยมใช ้อัตรำส่วน)
(2) MANOVA
• หลักกำรเดียวกันกับ ANOVA แต่ใช ้ Multivariate
• เพรำะมีตวั แปรตำมได ้หลำยตัว แต่ละตัวต ้องมีระดับกำร
วัดแบบอัตรำส่วน หรือ แบบช่วง เพรำะต ้องกำรวัดควำม
แตกต่ำงทีค่่ ำเฉลียมั
่ ชฌิมเลขคณิ ต

• M ย่อมำจำก Multivariate ทีหมำยถึ งมีตวั แปรตำม
มำกกว่ำ 1 ตัว
• หลักคิดคือ ในแต่ละกลุม ่ เปรียบเทียบ สำมำรถ
เปรียบเทียบควำมแตกต่ำงใน พฤติกรรม ฤทธิ ์ ฯลฯ ได ้
หลำยตัวพร ้อมกัน เช่น ในสำยบริหำรธุรกิจ มีกำรขนส่ง
3 แบบ และผลทีต ่ ้องกำรวัดคือ มีควำมแตกต่ำงทัง้
(3) MANCOVA
• เหมือน MANOVA
• แต่เปิ ดโอกำสให ้มีกำรขจัดปัจจัยอืนๆที ่ ่ ผลต่อ
มี
พฤติกรรมทีต ่ ้องกำรวัด
• ข ้อดีคอื ได ้ทรำบผลกำรทดลองทีแน่ ่ ช ัด หรือวัดได ้แน่
ช ัดว่ำ ไม่เพียงมีผลต่อเพียงหนึ่งพฤกรรม แต่ยงั วัดได ้
จำกพฤติกรรมอืนๆ ่ อีก (ฤทธิ ์ อืนๆอี
่ ก)
• มีกำรควบคุม ทีเป็ ่ นกำรขจัดปัจจัยอืนๆได่ ้ด ้วย ระดับ
กำรวัดของปัจจัยควบคุม หรือ ตัวขจัดออกเหมือน
ANCOVA
Chi-squared Test
• ทดสอบสมมุตฐิ ำนเมือเปรี ่ ่ นกลุม
ยบเทียบตัวแปรอิสระทีเป็ ่ กับ
ตัวแปรตำมทีเป็่ นกลุม่
• จุดอ่อนคือจำนวนตัวอย่ำง
• จำนวมกลุม ่ ในตัวแปรตำมและตัวแปรอิสระไม่ควรมำกเกิน 5
กลุม

• ควรเป็ นกลุม ่ ดขึนตำมธรรมชำติ
่ ทีเกิ ้ หรือ ตำมเกณฑ ์ทีมี่ กำร
กำหนดเป็ นมำตรใว ้ และมีกำรอ ้ำงอิงใว ้
• จำนวน n ใน cell ควรมำกว่ำ 5
• วัดควำมแตกต่ำงว่ำ ในตัวแปรอิสระทีมี ่ ระดับกำรวัดเป็ นกลุม ่ ที่
แตกต่ำงกัน จะมีควำมแตกต่ำงกันในตัวแปรตำมทีเป็ ่ นกลุม ่
แตกต่ำงกัน
• หำกจะทดสอบถึงควำมสัมพันธ ์ (Association) ต ้องวัดทีค่ ่ ำ
Pearson Correlation
• ใช ้ทดสอบสหสัมพันธ ์ของตัวแปรสองตัว
• มีระดับกำรวัดแบบอัตรำส่วนและแบบช่วง
• มีคำ่ ระหว่ำง -1 ถึง 1
• จะวัดออกมำเป็ นร ้อยละก็ได ้
• มีกำรตรวจสอบด ้วยว่ำมีสหสัมพันธ ์กันอย่ำงมีนัยสำคัญทำง
สถิตห ิ รือไม่ โดยใช ้ค่ำ t เป็ นตัวยืนยัน
• ใช ้ทดสอบเมือต ่ ้องกำรขจัดปัจจัยอืนๆออกไปด
่ ้วยก็ได ้โดยใช ้
Partial correlation
• ประโยชน์ทส ี่ ำคัญคือใช ้ตรวจสอบ Collinearity และ
Multicollinearity ก่อนเข ้ำ Multiple Regression
• จุดตัด (Cut point 0.5 0.65 0.75)
สถิตส
ิ ำหร ับกำรพยำกรณ์
• สถิตส ิ ำหร ับกำรจัดกลุม

• Factors Analysis, Discriminant Analysis
• Inferential Statistics
• ใช ้สำหร ับกำรพยำกรณ์ กำรประมำณค่ำ
• เน้นกำรใช ้สมกำรถดถอยรูปแบบต่ำงๆ
• ่
กำรพิจำรณำเส ้นทำงควำมสัมพันธ ์เพือเปรียบเทียบ
ผลทำงตรงกับผลทำงอ ้อม ผ่ำนตัวแปรแทรกกลำง
PATH ANALYSIS
• สมกำรโครงสร ้ำง (SEM)
Simple Regression Analysis
• กำรทดถอยเชิงเดียว ่
• ทดสอบ Causal Relationships ต ้องมีหลักกำรทำง
เชิงทฤษดีมำก่อน -Positivism
• Cause----- Consequence
• Cause--- Effect
่ ดขึน้
• ต ้นเหตุ- ผลทีเกิ

• ควำมสัมพันธ ์เชิงเหตุและผล ทีทดสอบด ้วยสมกำร
เศรษฐมิติ (Basic Econometrics)
• ทดสอบอิทธิพล หนึ่ งตัวแปรอิสระ กับหนึ่ งตัวแปรตำม
• จำนวน n ขันต้ ำ่ คือ 30
• ไม่เน้นกำรควบคุม หรือ ขจัดอิทธิพลของปัจจัยอืนๆ ่
แต่ต ้องกำรตรวจำสอบ
• True Direct Real Effect
้ วแปร
• ระดับกำรวัดของข ้อมูล อัตรำส่วน ช่วง ทังตั
ต ้นเหตุ และตัวแปรตำม แต่ ต ้นเหตุสำมำรถเป็ น
dummy variable ได ้
• ภำวะสมกำรสมรูป F, R-squared ยิงเข่ ้ำใกล ้ 1 ยิงดี

Multiple Regression Analysis: MRA
• ข ้อดีใช ้ในกำรค ้นหำปัจจัยตำมกฏ Causal Relationships
• บนฐำนคิดของสมกำรเศรษฐมิต ิ
• สำมำรถพิสจู น์และวิเครำะห ์หลำยตัวแปรอิสระได ้พร ้อมกัน บนฐำน
คิดทีว่่ ำ when everything being equals หรือเมือทุ
่ กสิงทุ
่ กอย่ำง
เท่ำเทียมกัน
• ระดับกำรวัดของข ้อมูล ตัวแปรตำมต ้องเป็ นอัตรำส่วน ช่วง
• ตัวแปรอิสระ หรือตัวต ้นเหตุ ควรเป็ นอัตรำส่วน หรือ ช่วง dummy
variable ได ้
• ต ้องปฏิบต ั ต
ิ ำม Basic assumption อย่ำงเคร่งคร ัด (เรียนรู ้ตอนใช ้
ห ้อง คอมพิวเตอร ์)
• PRF และ SRF
• จำนวนตัวอย่ำงขันต ้ ่ำ 1 ต่อ 30
• ภำวะสมกำรสมรูป
• Constrained Model และ Unconstrained Model (F-Ratio test)
MRA: Method
• Enter
• Forward
• Backward
• Remove
• Stepwise
• ่
เพืออะไร ่
เมือใดใช ้?
• กำรสร ้ำงตำรำงเพืออ่่ ำนและตีควำมหมำยผลกำร
วิเครำะห ์ข ้อมูล
Logistic Regression Analysis
• วิเครำะห ์โอกำสควำมน่ ำจะเป็ นสูงสุด
• Causal Relationship
• ตัวแปรตำมคือ กำรเกิดขึน้ กำรทำ กำรชือ้ กำร
ระบำด กำรใช ้ กำรตัดสินใจ ฯลฯ ต ้องเป็ นตำมกฏ
ธรรมชำติ หรือ ตำมเกณฑ ์มำตรฐำนสำกล
• 1= เกิด 0= ไม่เกิด
• Binomial คือ Bi = สอง nominal คือ กลุม ่
• Dichotomous outcome variable
• ้ ้น
ตัวแปรต ้นเหตุ ต ้องตำมข ้อตกลงเบืองต
• Non-linear probability model
• Linear probability model
• Chi-squared test, Model Chi-squared
• Restricted Model และ Unrestricted Model
• Log likelihood Ratio test: LR test
• Adjusted Proportional Probabilities
• สอนในห ้อง computer กำรอ่ำนและกำรแปรผล
กำรเขียนรำยงำน

You might also like