Professional Documents
Culture Documents
6 Corrosion
6 Corrosion
6 Corrosion
ุ สาหกรรม
คณะวิทยาศาสตร ์และเทคโนโลยี
มหาวิทยาลัยราชภัฎ
วิชาวัสดุศาสตร ์
(Material Scince)
มหาวิทยาลัยราชภัฎ
ปร ัชญ
ก ้าวทั
า น
มุ ่ ง ่
มั
น
เทคโนโลยี
ผลิ
ต
สามัคคีคนดีส ่ ู
่
บทเรียนที 6
การกัดกร่อนของโลหะและการ
ป้ องกัน
การกัดกร่อนของโละหและการ 1
การกัดกร่อนของโลหะและ
การป้ องกัน
่
เมือโลหะถู กใช ้งาน
หรือทิงไว้ ้ในอากาศ พืนที้ ่
บริเวณผิวของโลหะจะมี
การทาปฏิก ิรยิ า กับ
ออกซิเจน และความชืน้
ทาให ้โลหะเกิดการผุ
กร่อน
หรือการติดตังให้ ้
โลหะต่างชนิ ดกัน สัมผัส
สาเหตุทก่ ่
ี อให้เกิดการกัด
กร่อ น ้ ้จากหลายสาเหตุ
การกัดกร่อนของโลหะจะเกิดขึนได
่ ปได ้ดังนี ้
ด ้วยกัน ซึงสรุ
1. เกิดจากปฏิก ิรย ิ าทางเคมีโดยตรง เกิดขึนได้ ้
่
2 ลักษณะ คือ การทีโลหะสั มผัสกับ ออกซิเจน และ
ความชืน้ จะทาให ้เหล็กกลายเป็ นเหล็กไฮดรอกไซด ์
หรือสนิ มเหล็ก และเมือน ่ าโลหะไปผสมกับกรดทาให ้
เหล็กกลายเป็ นเหล็กซ ัลเฟตจะมีผลทาให ้เกิดการกัด
กร่อนได ้
2. เกิดจากปฏิก ิรย ิ าไฟฟ้า - เคมี จะมีการไหล
3. เกิดจากการถ่ายเทประจุอเิ ล็กตรอน
ระหว่างโลหะด้วยกัน โลหะแต่ละชนิ ดจะมีคา่ ความ
ต่างศักย ์ไฟฟ้ า ทีแตกต่ ่ างกันโลหะทังสองชนิ้ ่ ความ
ดทีมี
โลหะ ่
ต่างศักย ์ไฟฟ้ าทีแตกต่างกัน จะมีการถ่ายเทประจุ
ค่าความต่างศ ักย ์ทางไฟฟ้า
่ ทองค
อิเล็กตรอนซึงกั นาและกันโดยทีอิ ่ เล็ก1.68 ่
ตรอนจะวิงออกจาก
่ ้
ทองแดง
โลหะทีเป็ น ขัวบวกไปหาโลหะที ่ 0.52 ้
เป็ นขั วลบ ทาให ้เกิด
เงิน 0.80
่ ตะกัว่ เป็
การผุกร่อนทีโลหะที ่ นขัวบวก
้ - 0.13
ดีบุก - 0.14
เหล็ก - 0.44
อะลูมเิ นี ยม 0.67
นิ เกิล - 0.25
โครเมียม่ - 0.56
สังกะสี - 0.76
ไฮโดรเจน 0.00
4. เกิดจากสภาพแวดล้อม สภาวะแวดล ้อมมีผล
ทาให ้เกิดการกัดกร่อนได ้เร็วขึน้
เช่น การนาโลหะไปใช ้งานในพืนที ้ ที
่ ใกล
่ ้ชายทะเลจะทา
่ วขึนหรื
ให ้เกิดการผุกร่อนทีเร็ ้ อการนาเอา โลหะไปใช ้
งานในบริเวณทีอุ ่ ณหภูมสิ งู ก็สง่ ผลทาให ้เกิดการผุ
้ นกัน ตัวอย่างเช่น การนาโลหะไปใช ้ทา
กร่อนเร็วขึนเช่
ท่อไอเสียรถยนต ์ หรือปล่องไฟ เราจะพบว่าชินส่ ้ วน
้ การผุกร่อนทีเร็
เหล่านี จะมี ่ วขึน้
การป้ องกันการกัดกร่อน
ของโลหะ ่
วิธใี นการป้ องกันไม่ให ้เกิดการกัดกร่อนในโลหะเพือ
เป็ นการยืดอายุการใช ้งานของโลหะได ้ดังนี ้
1. กรรมวิธก ี ารเคลือบผิว การเคลือบผิวโลหะจะ
้ วของโลหะ ไปสัมผัสโดยตรง
เป็ นการป้ องกันไม่ให ้พืนผิ
กับความชืน้ หรือนาและอากาศกรรมวิ
้ ธท ี่ ยมนามาใช ้
ี นิ
สาหร ับการเคลือบผิวของโลหะมีอยู่ด ้วยกัน 3 ชนิ ด
ได ้แก่
1.1 การเคลือบผิวโลหะด ้วยสารอินทรีย ์ การเคลือบ
ด ้วยวิธน ้ อนข ้างจะมีราคาถูก และกรรมวิธท
ี ี ค่ ี่
ี ไม่
ซ ับซ ้อน แต่จะขาดคุณสมบัตใิ นการทนต่อความร ้อน
1.3 การเคลือบผิวด ้วย
กรรมวิธท ี างเคมี
่ ยมนามาใช ้ในการ
ทีนิ
เคลือบผิวโลหะมีอยู่ 2 วิธ ี
คือ การรมดาจะเป็ นการ
นาเอาโลหะ ทาด ้วย
้ นเครือง
นามั ่ หรือนามั
้ น
่
ลินสีด แล ้วนาโลหะทีทา
้ นไป เผาที่
ผิวด ้วยนามั
อุณหภูมป ิ ระมาณ 450 ํ
2. กรรมวิธก ี าร
ตกแต่งผิวโลหะ การ
ตกแต่งให ้ผิวของโลหะทีมี ่
ความเงามันเนื่ องจากผิว
่
ทีละเอี ยด เงามัน จะช่วย
้ อ
ไม่ให ้ความชืนหรื
สารเคมีแทรกตัวเข ้าไป
ทาปฏิก ิรยิ ากับโลหะได ้
ยากขึน้ กรรมวิธก ี าร
ตกแต่งผิวโลหะจะมีอยู่ 2
วิธ ี คือ
3. การนาโลหะผสมมา
ใช้งาน โลหะผสมจะมีการเพิม ่
คุณสมบัตด ิ ้วยการเติมธาตุผสม
ต่างๆ ให ้มีคณุ สมบัติ ทีเหมาะ ่
ต่อการใช ้งาน เช่น เหล็กกล ้าไร ้
สนิ ม หรือเหล็กกล ้าสแตนเลส
มีการเติมธาตุโครเมียม ่ ลงไปใน
เหล็กกล ้าชนิ ดนี ้ เมือโครเมี
่ ่
ยม
รวมตัวกับออกซิเจนจะเกิด
่
โครเมียมออกไซด ่
์ ซึงการเกิ ด
่
โครเมียมออกไซด ่ เวณผิว
์ทีบริ
ของเหล็กกล ้า จะมีลก ั ษณะเป็ น
4. การนาเอาวัสดุ
ประเภทอโลหะมาใช้งาน
วัสดุประเภท อโลหะ จะไม่มี
การเกิดปฏิก ิรยิ าไฟฟ้ าเคมี
จึงช่วยลดปัญหาในเรืองการ ่
กัดกร่อนได ้ แต่มข ี ้อเสียใน
่ 5. การเปลียนแปลงสิ่ ่
งแวดล้ อม การ
เรืองของความ แข็งแรง การ
เปลี ่ ่
ทนต่อความร ้อนหรือ้อมจะเป็ นการตัดวงจรการ
ยนแปลงสิ งแวดล
เกิอุดณปฏิ ก ิ ร ย
ิ าเคมี ใ นการกั ดกร่ อ นซึ ่ นอีกวิธก
งเป็ ี ารหนึ ่ง
หภูมส ิ งู
่
ทีจะลดการกั ดกร่อน การเปลียนแปลง ่
่
สิงแวดล ้อมทีนิ ่ ยมนามาใช ้ คือ การลดความเข ้มข ้น
่ ้
1. การกัดกร่อนทีเกิดขึน
สม่าเสมอทัวผิ
่ วหน้า
(General or Uniform Corrosion)
่
2.การเติมธาตุบางตัวทีสามารถรวมตั
วเป็ น
คาร ์ไบด ์ได ้ดี (stabilizer)
7. การกัดกร่อน-สึกกร่อน
(Erosion Corrosion)
การกัดกร่อนประเภทนี ้
่
เริมจากการกั ดกร่อนที่
มีของไหล ไหลผ่าน
โลหะและมักไหลด ้วย
ความเร็วสูง หากของ
ไหลนี มี ้ ฤทธิกั์ ดกร่อน
่
สูง เมือโลหะเริ ่ กจะ
มสึ
การป้ องกัน
การกัดกร่อนแบบการสึกกร่อน
8. การกัดกร่อนเนื่ องจากความ
ล้า
(Fatigue Corrosion)
การกัดกร่อนแบบนี ้
่
เกิดเมือขนาดแรงเค ้น
่ าค่า yield point
ตากว่
และเกิดเมือถู่ กกระทา
ซาแล ้ ้วซาเล่
้ าใน
ช่วงเวลาหนึ่ ง และใน
่
สิงแวดล ่ ฤทธิกั
้อมทีมี ์ ด
การป้ องกัน
การกัดกร่อนแบบการสึกกร่อน
9. การกัดกร่อนแบบถู ครู ด
(Fretting Corrosion)
่ ด
เป็ นการกัดกร่อนทีเกิ
ในสภาวะบรรยากาศ
้ ่
ปกติ บริเวณพืนที
ผิวสัมผัสระหว่างโลหะ
่
เมือโลหะนั ้นกาลังถูก
แรงกระทา
้
ปัจจัยพืนฐานของการ
เกิด F
การป้ องกัน
การกัดกร่อนแบบถู ครู ด
1. ่ ้วยนามั
หล่อลืนด ้ นทีมี
่ ความหนื ดตา่
คุณสมบัตก ิ ารเกาะยึดสูง
่ load เพือลด
2. เพิม ่ slip ระหว่างผิวหน้า
สัมผัส
่ ดซ ับการสันสะเทื
3. ใช ้ปะเก็นเพือดู ่ อน
ป้ องกันออกซิเจน
่
4. เพิมความแข็ งแรงผิวหน้าสัมผัส
10. การกัดกร่อนแบบรู พรุน
เป็ นการกัดกร่อน
เฉพาะที่ ซึงเกิ
่ ดจาก
ผลรวมของความ
เสียหายบนผิวโลหะ
เป็ นแห่งๆ อัน
เนื่ องมาจาก
ฟองอากาศทีมาจั่ บตัว
กันซาแล้ ้วซาเล่
้ า หรือ
การป้ องกัน
การกัดกร่อนแบบการสึกกร่อน
1. ปร ับปรุงการออกแบบ เพือให่ ้มีการ
่
เปลียนแปลงของ hydrodynamic pressure
น้อยทีสุ่ ด
่ งแรงกว่า มีความ
2. เลือกใช ้โลหะทีแข็
ต ้านทานต่อการกัดกร่อนดีกว่า
้ วนบริเวณทีมี
3. ชินส่ ่ โอกาสเกิด
cavitation มาก ให ้แต่งผิวให ้เรียบมาก
11. การกัดกร่อนแบบได้ร ับความ
เค้น
(Stress Corrosion)
เป็ นการกัดกร่อน
เฉพาะที่ ซึงเกิ
่ ดจาก
ผลรวมของความ
เสียหายบนผิวโลหะ
เป็ นแห่งๆ อัน
เนื่ องมาจาก
ฟองอากาศทีมาจั่ บตัว
กันซาแล้ ้วซาเล่
้ า หรือ
การป้ องกัน
การกัดกร่อนแบบได้ร ับความเค้น
12. ้
การกัดกร่อนแบบใต้ชน ั
เคลือบ
(filiform corrosion)
เป็ นการกัดกร่อนที่
้
เกิดขึนภายใต ้ชน้ั
เคลือบ เช่น การทาสี
พลาสติกบนผิว
เหล็กกล ้า หรือ การ
เคลือบแลกเกอร ์บนผิว
แผ่นเหล็กเคลือบดีบุก
จัดเป็ นการกัดกร่อน
การป้ องกัน
้ั ว
การกัดกร่อนแบบไต้ชนผิ
เคลือบ