You are on page 1of 15

การค้นคว้าหาความรู ้ทาง

อินเทอร ์เน็ ต
จัดทำโดย

่ ที่ ๒
กลุม
๑). นำย อรรถวิทย ์ โรจน์ทวีนิธ ิ
๒). นำย กฤติน โชตินพร ัตน์ภท ั ร
๓). นำย จิรพล วรกิจกำรวศิน
๔). นำงสำว ญำณิ กำ ศรีสน ุ ทร
๕). นำงสำว ลลิตพรรณ ไทยเดช
การค้นคว้าหาความรู ้ทางอินเทอร ์เน็ ต

• กำรค ้นคว ้ำหำควำมรู ้ทำงอินเทอร ์เน็ ตเป็ นกำรสืบค ้นสำรสนเทศในลักษณะต่ำงๆ ที่


มีให ้บริกำรบนอินเทอร ์เน็ ต เช่น บทควำม รูปภำพ เพลง
• ่ บ
แหล่งข ้อมูลควำมรู ้ในอินเทอร ์เน็ ต หรือเว็บไซต ์ (Web site) คือ แหล่งทีเก็
รวบรวมภำพ ข ้อมูลเอกสำรหรือสือประสมต่่ ำงๆ
่ บไซต ์จะมีทงหมด
โดยทีเว็ ้ั 2 ประเภท
๑. เว็บไซต ์ของบุคคล
๒. เว็บไซต ์ของหน่ วยงำน
การค้นคว้าหาความรู ้ทางอินเทอร ์เน็ ต
่ ประโยชน์ต่อกำรศึกษำ
• ตัวอย่ำงเว็บไซต ์ควำมรู ้ทีมี
เด็กดี
ยูทปู
วิกพ
ิ เี ดีย
• กำรจะค ้นคว ้ำหำควำมรู ้ทำงอินเตอร ์เน็ ต สามารถหาได้จากการสืบค ้นข ้อมูล
่ ้บริกำรในกำรค ้นหำ เช่น
จำกกำรใช ้บริกำรของเว็บไซต ์ ทีให
- Google
- Yahoo
ทาอย่างไรจึงจะค้นคว้าข้อมู ลให้ได้
ตรงตามความต้องการ
• หำกไม่ทรำบว่ำข ้อมูลทีต ่ ้องกำรหำอยู่ในเว็บไซต ์ใด เรำสำมำรถใช ้บริกำรของ
่ ้ค ้นหำเว็บไซต ์ในอินเทอร ์เน็ ตได ้เช่น www.google.com หรือ www.
เว็บไซต ์ทีใช
yahoo.com เป็ นต ้น
หลักการใช้อน
ิ เทอร ์เน็ ต

• ่ รำยละเอียดดังนี ้
หลักกำรใช ้อินเทอร ์เน็ ตโดยใช ้หลัก SMART ซึงมี
(S) Safety ควำมปลอดภัย
(M) Manners ควำมมีมำรยำท
(A) Advertising and Privacy Protection กำรร ักษำสิทธิ ส่วนบุคคลในกำร

เลือกร ับสือโฆษณำ
(R) Research ควำมสำมำรถในกำรค ้นคว ้ำข ้อมูลทีเป็่ นประโยชน์
่ จ่ ำเป็ นต ้องรู ้บน
(T) Technology ควำมเข ้ำใจเทคโนโลยีของอินเทอร ์เน็ ต สิงที
อินเทอร ์เน็ ต
การใช้งานอินเทอร ์เน็ ต
• อินเทอร ์เน็ ตมีบทบำทต่อ
๑. กำรศึกษำ
๒. ธุรกิจ

๓. กำรสือสำรของมนุ ษย ์ในปัจจุบน ั
• กำรใช ้งำนทีนิ ่ ยม
ิ ใช ้กันได ้แก่
๑. กำรค ้นหำข ้อมูล
๒. ไปรษณี ย ์อิเล็กทรอนิ กส ์
๓. พำณิ ชย ์อิเล็กทรอนิ กส ์
๔. กำรสนทนำออนไลน์
๕. กำรขนถ่ำยไฟล ์ (download)

เทคนิ คทีควรรู ้ในการค้นหาข้อมู ล
• เลือกรูปแบบกำรค ้นหำให ้
่ คุ
ตรงกับสิงที ่ ณต ้องกำร

ใช ้คำเจำะจงชีเฉพำะ

หลีกเลียงกำรใช ่
้คำเดียว
และข ้อควำมภำษำพูด
การค้นคว้าด้วยการใช้ search engine
่ ้องกำรหำอยู่ในเว็บไซต ์อะไร เรำสำมำรถค ้นหำได ้ทันที
• ถ ้ำเรำรู ้ว่ำข ้อมูลทีต
แต่หำกไม่ทรำบว่ำข ้อมูลทีต ่ ้องกำรหำอยู่ในเว็บไซต ์ใด เรำสำมำรถใช ้ search engine
เช่น www.google.com หรือ www.yahoo.com เป็ นต ้น
• ่
Search engine มีหน้ำทีรวบรวมรำยชื ่ บไซต ์ต่ำงๆโดยจัดแยกเป็ นหมวดหมู่
อเว็
- ประเภทของ search engine ได ้แก่ ๑. Keyword Index
๒. Subject Directories
๓. Metasearch Engines
การสืบค้นข้อมู ลแบบใช้คย
ี ์เวิร ์ด

• ่ี ้องกำรค ้นข ้อมูลโดยใช ้คำทีมี


ใช ้ในกรณี ทต ่ ควำมหมำยตรงกับควำมต ้องกำร

วิธ ี :
๑. เปิ ดเว็ปเพจทีให ่ ้บริกำรในกำรสืบค ้นข ้อมูล โดยพิมพ ์ช่องเว็ปทีช่
่ อง Address
๒. ทีช่่ อง “ค ้นหำ” พิมพ ์ข ้อควำมทีต่ ้องกำรค ้นหำ
๓. กดปุ่ มค ้น
๔. รำยชือเว็
่ บทีมี่ ข ้อมูลจะปรำกฏ
๕. คลิกเว็บทีจะเรี
่ ยกดูข ้อมูล
่ อของแหล่งข้อมู ล
ความน่ าเชือถื
• เรำจะต ้องพิจำรณำว่ำเป็ นสำรสนเทศทีมี ่ ควำมน่ ำเชือถื
่ อหรือไม่ น่ ำเชือถื
่ อเพียงไร

ซึงกำรประเมิ นควำมน่ ำเชือถื ่ อ ได ้แก่
ประเมินควำมน่ ำเชือถื ่ อของแหล่งสำรสนเทศโดยพิจำรณำว่ำสำรสนเทศนั้นได ้มำจำก
แหล่งสำรสนเทศใด โดยส่วนใหญ่ แหล่งสำรสนเทศทีน่่ ำเชือถื ่ อนั้นจะเป็ นแหล่ง
สำรสนเทศสถำบัน เช่น ห ้องสมุด ส่วนแหล่งสำรสนเทศอินเทอร ์เน็ ต จะมีควำมน่ ำเชือถื ่ อ
น้อยกว่ำหรือไม่มค ี วำมน่ ำเชือ่ เรำจึงต ้องใช ้วิจำรณญำณในกำรกลันกรองเนื
่ ้
อหำเอง
นอกจำกนี เรำยั ้ งต ้องประเมินควำมน่ ำเชือถื ่ อของ ผูเ้ ขียน ผูจ้ ดั ทำ โดยพิจำรณำว่ำ
ผูเ้ ขียนมีคณ ุ วุฒิ ควำมรู ้ ควำมสำมำรถและประสบกำรณ์ ตรงหรือสอดคล ้องกับเรืองที ่ ่

เขียนหรือไม่ รวม ทังควำมน่ ่ อผูจ้ ด
ำเชือถื ั ทำ
่ อของแหล่งข้อมู ล
ความน่ าเชือถื
• ่
ข ้อทีควรรู ่ ดงั นี ้
้ในกำรพิจำรณำควำมน่ ำเชือมี
๑). ข ้อมูลทีจั่ ดทำโดยหน่ วยงำนทีเกี
่ ยวข
่ ่ ้นๆ โดยตรง มักเป็ นข ้อมูลที่
้องกับเรืองนั
่ อ
ถูกต ้องน่ ำเชือถื
๒). เปรียบเทียบข ้อมูลจำกหลำยๆ แหล่ง
๓). ตรวจสอบควำมทันสมัยของข ้อมูล
การประยุกต ์ใช้ขอ
้ มู ล
• ่
กำรนำควำมรู ้เกียวกั บอินเทอร ์เน็ ต มำใช ้ใน กำรศึกษำหำควำมรู ้ ได ้แก่ กำรหำ
ข ้อมูลทำงอินเทอร ์เน็ ตโดย จะสำมำรถแบ่งเนื อหำ้ ออกเป็ น ๓ ระดับดังนี ้
๑. กำรสืบค ้นข ้อมูลทำงอินเทอร ์เน็ ต
๒. กำรนำข ้อมูลจำกอินเทอร ์เน็ ตมำใช ้งำน
๓. กำรสร ้ำงแหล่งข ้อมูลด ้วยตนเอง
อินเทอร ์เน็ ตกับการเรียนการสอน
• ่ อหำ
1.Standalone course-เป็ นลักษณะทีเนื ้

ทังหมดถู กนำเสนอบนอินเตอร ์เน็ ต
• ้
2.Web supported course-ใช ้เนื อหำจำก
อินเตอร ์เน็ ตในกำรสอนแบบปกติแบบ
เผชิญหน้ำระหว่ำงผูเ้ รียนกับผู ้สอน
• 3.Collaborative learning-ลักษณะกำรเรียนกำร

สอนแบบร่วมมือโดยใช ้เนื อหำจำก
อินเตอร ์เน็ ต
• 4.Web pedagogical resources-กำรสอนโดยนำ
ขอบคุณครับ/
ค่ะ

You might also like