หน่ วยการเรียนรู ้

ที่ 2

การสร ้างองค ์ความรู ้ใหม่ทาง

การสร ้างองค ์ความรู ้ใหม่ทาง
ประวัตศ
ิ าสตร ์สากล
• วิธก
ี ารทางประวัตศ
ิ าสตร ์
• หลักฐานทางประวัตศ ิ าสตร ์
สากล
ความสาคัญและประโยชน์ของ
วิธก
ี ารทางประวัตศ
ิ าสตร ์

• ทาใหส้ ามารถอธิบายเหตุการณ์ทเกิ ี่ ดขึนในอดี

้ ตไดอ้ ย่างมี
ระบบ
• ทาให ม้ ีหลักเกณฑ ์และมีการกลั่นกรองความคิด อย่ า งเป็ น
้
ขันตอน
• ่
ทาใหเ้ รืองราวที ่ าเสนอมีน้าหนักและน่ าเชือถื
น ่ อ เพราะสิงที่ ่
สืบคน ่
้ จะนั บไดว้ ่าเป็ นความรู ้ ไม่ ใช่ข่าวลือหรือเรืองเล่ าต่อ
กันมา
 ้
ขันตอนของวิ ธก ี ารทาง
ประวัตศ
ิ าสตร ์
่
1. การกาหนดหัวเรืองที ่
จะศึกษา
่
• เริมจากความสงสั ย อยากรู ้ หรือไม่พอใจคาอธิบายทีมี ่ แต่
เดิม
• การกาหนดประเด็นควรกาหนดกว ้างๆ ในตอนแรก แล ้ว
่
กาหนดให ้แคบลงเพือความชัดเจนในภายหลั ง
่
• การกาหนดหัวเรืองอาจเกี ่
ยวกั บเหตุการณ์ บุคคลสาคัญใน
ช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ ง ทีผู
่ ศ้ ก ึ ษาเห็นว่าสาคัญ เหมาะสม
2. การรวบรวมหลักฐาน
• รวบรวมหลักฐานเกียวกั ่ ่ กษา
บหัวข ้อทีจะศึ
• หลักฐานมีทงที ้ั เป็
่ นลายลักษณ์อก ั ษร และไม่เป็ น
ลายลักษณ์อก ั ษร
• หลักฐานแบ่งออกเป็ นหลักฐานชนต ้ั ้นและ
้
หลักฐานชันรอง
้ั
• หลักฐานชนรองช่ วยให ้เข ้าใจหลักฐานชนต้ั ้นได ้
ง่ายขึน้
3. การประเมินคุณค่า
ของหลักฐาน

• การวิพากษ ์วิธ ี • การวิพากษ ์วิธ ี

ภายนอก ภายใน
้
เป็ นขันตอนพิ จารณา เป็ นการประเมิน
่
เริมแรก ว่าหลักฐานที่ คุณค่า
ได ้มานั้นเป็ นของจริงหรือ หลักฐานว่าให ้ข ้อมูลอะไร
ของปลอม หรือหลักฐาน แก่
่ าวกันว่าบุคคลนั้น
ทีกล่ ผูค้ ้นคว ้าบ ้าง ข ้อมูลนั้นๆ
เขียนหรือทาขึน้ แท ้จริง มีความน่ าเชือถื ่ อมาก
แล ้วเป็ นเช่นนั้นหรือไม่ น้อยเพียงใด เป็ นการ
ตรวจสอบองค ์ประกอบ
ของหลักฐานเกียวกั ่ บ
เวลา สถานที่
4. การวิเคราะห ์ สังเคราะห ์และจัดหมวดหมู ่
ข้อมู ล
• ผูศ้ ก ึ ษาต ้องวิเคราะห ์ข ้อมูลในหลักฐานนั้นว่า
- ให ้ข ้อมูลทางประวัตศ ิ าสตร ์อะไรบ ้าง
- ข ้อมูลนั้นมีความสมบูรณ์เพียงใด
- ข ้อมูลนั้นมีจด ้ ้นอย่างไร
ุ หมายเบืองต
• จากนั้นนาข ้อมูลทังหลายมาจั
้ ดหมวดหมู่
• ผูศ้ ก
ึ ษาควรมีความรอบคอบ รอบรู ้
และวางตัวเป็ นกลางในการศึกษาข ้อมูล
5. การเรียบเรียงหรือการนาเสนอ
่ าเสนอเหตุการณ์ทางประวัตศ
• เพือน ิ าสตร ์ที่
ศึกษา
่
• ควรใช ้ศิลปะในการใช ้ภาษาเพืออธิ บาย
เหตุการณ์อย่างมีระบบ
• มีการโต ้แย ้งหรือสนับสนุ นผลการศึกษาแต่เดิม
้
โดยมีข ้อมูลสนับสนุ นอย่างมีนาหนั กและ
เป็ นกลาง
• สรุปผลการศึกษาว่า
สามารถให ้คาตอบต่อ
ข ้อสงสัยได ้เพียงใด
 ้ั นหรือ
หลักฐานชนต้
หลักฐานปฐมภู ม ิ

้
• เกิดขึนในช่ ่ ้องการจะ
วงทีต
ศึกษา และเขียนขึนโดยบุ ้ คคล
่ ่รว่ มในเหตุการณ์
ทีอยู
้ั เป็
• มีทงที ่ นลายลักษณ์อก ั ษร
และทีไม่่ เป็ นลายลักษณ์อก ั ษร
• หลักฐานชันต ้ ้นทีเป็
่ นลาย
ลักษณ์อก ั ษร เป็ นหลักฐานที่ โดมใหญ่แห่งโบสถ ์เมืองฟลอเรนซ ์
จัดเป็ นหลักฐานชนต ้ั ้นทีไม่
่ เป็ นลาย
ได ้ร ับความเชือถื่ อมาก
ลักษณ์อก ่ ้ความรู ้เกียวกั
ั ษร ทีให ่ บ
ศิลปะสมัยเรเนอซองซ ์
 ้ั
หลักฐานชนรองหรื อ
หลักฐานทุตย ิ ภู ม ิ
• เป็ นหลักฐานทีท่ าขึนภายหลั
้ งจากเหตุการณ์
้
• หลักฐานชันรองมี ้ั เป็
ทงที ่ นลายลักษณ์อก ั ษร และไม่เป็ นลายลักษณ์
อักษร
• การระบุวา่ หลักฐานทีมี ่ อยู่เป็ นหลักฐานชันต ้ ้นหรือชันรองนั
้ ้น ให ้
คานึ งว่าหลักฐานนั้นผลิตขึนหรื ้ อมีอยู่รว่ มสมัยกับเหตุการณ์ที่
ต ้องการศึกษาหรือไม่ และไม่มก ้
ี ารเรียบเรียงขึนมาใหม่

่ การรวบรวมข ้อมูลและตีพม
หนังสือทีมี ้ั
ิ พ ์ภายหลัง จัดเป็ นหลักฐานชนรองที ่ น
เป็
ลายลักษณ์อก ั ษร
ตวั อย่างหลักฐานทาง
ประวัตศ ิ าสตร ์สากล

สมัยโบราณ
• ผลงานสาคัญในสมัยนี ้ คือ สงคราม
เปอร ์เซีย ของเฮโรโดตุส
• วิธก
ี ารเขียนประวัตศ ิ าสตร ์ของเฮโรโด
ตุส ได ้ถูกใช ้เป็ นมาตรฐานการเขียน
ประวัตศิ าสตร ์ในสมัยต่อมา

เฮโรโดตุส
สมัยกลาง
1. ประวัตศ ิ าสตร ์ของพวกแฟรงก ์ เขียนโดย
่
บาทหลวงเกรเกอรีแห่งเมืองตูร ์ อธิบายความเปลียนแปลง
ของพวกแฟรงก ์ จากการเป็ นอนารยชนมาเป็ นการตัง้
อาณาจักรให ้เป็ นเอกภาพ

2. แมกนา คาร ์ตา เป็ นกฎบัตรเพือจ ่ ากัด

พระราชอานาจ
้ นการประกันสิทธิและเสรีภาพ
ของกษัตริย ์ อีกทังเป็
ของประชาชนไม่ให ้ถูกเจ ้าหน้าทีร่ ัฐรังแก
แมกนา คาร ์ตา หลักฐานทาง
ประวัตศ
ิ าสตร ์
่
เกียวกั
บการเมืองการปกครอง
สมัยใหม่
1. คาประกาศอิสรภาพของสหร ัฐอเมริกา เป็ นหลักฐาน
ทางประวัตศ ่ าคัญมาก เพราะเป็ นการ
ิ าสตร ์ทีส
ื้
ประกาศสิทธิพนฐานของมนุ ษยชน

2. ร ัฐธรรมนู ญแห่งสหร ัฐอเมริกา มี

ความสาคัญ
ต่อรูปแบบการปกครองระบอบประชาธิปไตย
ในประเทศต่างๆ ร่างคาประกาศ
อิสรภาพของ
่ สหร ัฐอเมริกา
3. ประวัตศ ิ าสตร ์ความเสือมและ
้ ดของจักรวรรดิโรมัน โดยเอ็ด
การสินสุ
ร ัฐธรรมนู ญแห่ง
วาร ์ด กิบบอน ได ้สรุปปัจจัยสาคัญทีท ่ าให ้
สหร ัฐอเมริกา
่
จักรวรรดิโรมันเสือมและสิ ้ ด คือ การ
นสุ
สมัยปั จจุบน
ั
1. อารยธรรมและทุนนิ ยม คริสต ์ศตวรรษที่ 15-18
่ั
โดย เฟอร ์นานด ์ โบรเดล ชาวฝรงเศส เห็นว่าวิธก
ี ารเขียน
ประวัตศ ่ คือ ความพยายามเข ้าใจสังคมในภาพรวมและระบบ
ิ าสตร ์ทีดี
ความสัมพันธ ์ต่อกัน

2. ศึกษาประวัตศ
ิ าสตร ์ โดย อาร ์
โนลด ์ ทอยน์บี
ชาวอังกฤษ เป็ นการศึกษาความรุง่ เรือง และ
่
ความเสือมโทรมของสั งคมในอดีตจานวนมาก

่
3. หลักฐานเกียวกับยุ ค ปกหนังสือศึกษาประวัตศิ าสตร ์
จักรวรรดินิยม มีอยู่ใน (A Study of History) ของอาร ์
หนังสือประวัตศ
ิ าสตร ์สากลสมัยใหม่ หรือ โนลด ์ ทอยน์บี
ในหนังสือประวัตศิ าสตร ์อารยธรรมโลก