Professional Documents
Culture Documents
Fmea
Fmea
ทีนเี้ มือ
่ มีลก
ั ษณะข ้อบกพร่องเกิดขึน ้ แล ้ว ข ้อบกพร่องนี้
ย่อมทำให ้เกิด ปั ญหาขึน ้ กับลูกค ้า หรือ สง่ ผลกระทบต่อ
ลูกค ้ามากบ ้าง น ้อยบ ้าง ภาษาอังกฤษใชคำว่ ้ า Effects
สงิ่ ทีก
่ ล่าวมาข ้างต ้น เมือ ่ เราใสเ่ ทคนิคเพือ ่ ทำการ
วิเคราะห์หรือ Analysis เข ้าไป เราจะเขียนรวมกันได ้เป็ น
Failure Mode and Effects Analysis เขียนย่อ ๆ เป็ น FMEA
1) สาเหตุ (Cause)
สาเหตุหนึง่ ๆ ในทีน ่ ห
ี้ มายถึง องค์ประกอบจำเพาะแบบหนึง่ ๆ
(Specific element) ทีเ่ ป็ นผลมาจาก การออกแบบ หรือ กระบวนการ มี
ข ้อบกพร่อง ที่กล่าวอย่างนี้กเ็ พราะว่า ถ้าออกแบบผิด มันย่อมก่อให้เกิดข้อบกพร่ องขึ้น
มาแน่ ๆ เมื่อมองในมุมกลับ การออกแบบถูกต้องแล้ว ถ้ากระบวนการผลิตไม่เป็ นไปที่ได้
ออกแบบไว้ ก็เกิดข้อบกพร่ องขึ้นมาเช่นกัน ดังนั้น เมื่อเกิดข้อบกพร่ องขึ้นมาแล้ว (ซึ่ งก็คือผล)
มันย่อมมาจากต้นเหตุ หรื อ สาเหตุแน่ ๆ
2) คุณสมบัตวิ ก ิ ฤต (Critical Characteristics)
คุณสมบัตวิ ก ิ ฤต คือ คุณสมบัตพ ิ เิ ศษ (Special characteristic) ของ
ผลิตภัณฑ์ทถ ี่ ก ู กำหนดโดยพิจารณาจากผลกระทบกับลูกค ้า
ในแง่ของความปลดอดภัย และ/หรือ สามารถสง่ ผลให ้ เกิดการ
ไม่สอดคล ้องกับข ้อกำหนดแห่งรัฐ (non-compliance with government regul
ations) ดังนัน้ มันจึงต ้องการการควบคุมเป็ นพิเศษ เพือ ่ มั่นใจได ้
ว่า ผลิตภัณฑ์นัน ้ ๆ เป็ นไปตามข ้อกำหนดทีกำ ่ หนดไว ้
Sanmin-SCI Systems Thailand 12
นิยาม (2)
3) วิกฤต (Criticality)
อัตราวิกฤต (Critical rating) คือ ผลคูณของอัตราของความรุนแรง
ของผล กระทบ (Severity rating,S) กับ อัตราของโอกาสทีจ ่ ะเกิด
สาเหตุททำ ี่ ให ้ เกิดข ้อบกพร่อง (Occurrence ratings,O) หรือ เขียนได ้
เป็ น Criticality = (S) x (O) ตัวเลขนี้ ใชแสดง ้ ถึงลำดับความสำคัญ
ของหัวข ้อต่าง ๆ และถูก นำมาใชช้ ว่ ยในการวางแผนคุณภาพ
4) การควบคุมในปั จจุบน ั (Current Controls)
การควบคุมในปั จจุบน ั (ทัง้ การออกแบบ และ กระบวนการผลิต)
เป็ น กลไกในการ ป้ องกันสาเหตุททำ ี่ ให ้เกิดลักษณะข ้อ
บกพร่อง(Failure Mode)ไม่ให ้เกิดขึน ้
้ หรือ ใชในการตรวจจั บ (detect)
ข ้อบกพร่องทีเ่ กิดขึน ้ แล ้ว ไม่ให ้หลุดไปถึงมือลูกค ้า
5) ลูกค ้า (Customer)
ลูกค ้าหมายถึง หน่วยงาน บุคคล หรือ กระบวนการ (ไม่วา่ จะเป็ น
ภายใน หรือ ภายนอกองค์กรก็ตาม) ทีไ่ ด ้รับผลกระทบ เมือ ่
ผลิตภัณฑ์ทใี่ ชเกิ ้ ด ลักษณะข ้อบกพร่
Sanmin-SCI Systems องขึน
Thailand ้ 13
นิยาม (3)
6) การตรวจจับ (Detection)
การตรวจจับ คือ การประเมิน (assessment)แบบหนึง่ ทีแ ่ สดง
ให ้เห็นว่า การควบคุมในปั จจุบน ั (การออกแบบ หรือ
กระบวนการ) จะตรวจจับสาเหตุททำ ี่ ให ้เกิดลักษณะ
บกพร่อง หรือ ลักษณะบกพร่องทีเ่ กิดขึน ้ แล ้ว เพือ ่
เป็ นการป้ องกัน ไม่ให ้สงิ่ เหล่านีห
้ ลุดไปถึงมือลูกค ้า
7) ผลกระทบ (Effect)
ผลกระทบอย่างหนึง่ หมายถึง ประสบการณ์ทล ี่ ก
ู ค ้าได ้
รับในเวลาต่อมา (หลังจากลูกค ้าใชส้ น ิ ค ้าแล ้ว) ลูกค ้าอาจ
หมายถึง สถานีการทำงานถัดไป สถานีการทำงาน ย่อย
หรือ ผู ้ใชส้ น
ิ ค ้าปลายทาง (end user)
Sanmin-SCI Systems Thailand 14
นิยาม (4)
• Rating Criteria
• 5 (9-10) มีความเสี่ ยงด้านความปลอดภัยหรื อมีปัญหาด้านกฎเกณฑ์ต่าง ๆ สูง เช่น มี
แนวโน้มเกิดอันตรายถึงชีวติ หรื อ ลูกค้าไม่พึงพอใจมากที่สุด
4 (7-8) มีแนวโน้มที่ลูกค้าไม่พึงพอใจสูง เช่น มีแนวโน้มได้รับบาดเจ็บสาหัส หรื อ
การใช้งานตามฟังก์ชนั หลักหยุดชะงักหรื อใช้ไม่ได้
3 (5-6) มีแนวโน้มลูกค้าไม่พึงพอใจปานกลาง เช่น มีแนวโน้มได้รับบาดเจ็บเล็ก
น้อย การใช้งานไม่สะดวกสบายหรื อเกิดการล่าช้า
2 (3-4) ลูกค้าสังเกตุเห็นแนวโน้มที่อาจเกิดข้อบกพร่ องและอาจไม่พึงพอใจเล็กน้อย
เช่น หงุดหงิด รำคาญใจ เป็ นต้น
1 (1-2) ลูกค้าอาจมองไม่เห็นข้อบกพร่ อง เช่น ตรวจจับไม่ได้ (ลูกค้าไม่รู้วา่ มีขอ้
บกพร่ อง)
Sanmin-SCI Systems Thailand 23
• 8. Critical? (วิกฤติ)
• ช่องนี้เอาไว้ให้ทำการระบุ potentially critical failures ซึ่งต้องการชี้ให้เห็นอย่าง
รวดเร็ ว (เช่น เรื่ องความปลอดภัย เรื่ องการขาย เป็ นต้น)
• 9. Potential Cause / Mechanisms of Failure (แนวโน้ มของสาเหตุ/กลไกของข้ อ
บกพร่ อง)
• แต่ละลักษณะข้อบกพร่ อง จะต้องหาสาเหตุที่แท้จริ ง (root cause) ดังนั้นทีมต้องใช้
เวลาในการหาแนวโน้มของสาเหตุที่แท้จริ งต่าง ๆ หรื อ กลไกที่ทำให้เกิดข้อ
บกพร่ อง โดยการถามคำถามต่าง ๆ เช่น ' what is the likely cause of the failure
mode? ' Possible causes could include: Wrong tolerances, poor alignment,
operator error, component missing, fatigue, defective components, maintenance
required, environment etc.
หัวข ้อทีผ
่ า่ นมาเราได ้ทำความเข ้าใจเกีย
่ วกับ ความ
หมายและคำศพ ั ท์ของ FMEA ไปบ ้างแล ้ว ลองมาไปถึง
ประเภทของ FMEA โดยทัว่ ไปแบ่งได ้เป็ น:
1) Concept FMEA (มองในเชิงแนวความคิด)
2) System FMEA (มองในเชิงฟังก์ชัน)
2) Design FMEA (มองในเชิงอุปกรณ์ )
3) Process FMEA (มองในเชิงกระบวนการผลิต)
4) Machinery FMEA (มองในเชิงเครื่องจักรทีใ่ ช้ ผลิต)
5) Supplier FMEA (มองในเชิงผู้ป้อนวัตถุดบิ ให้ เรานำมาใช่ ผลิต)
6) Service FMEA (มองในเชิงการให้ บริการหลักการขาย)
Sanmin-SCI Systems Thailand 32
FMEA ของ Ford Motor Company
Machine
FMEA System
Component
System
Concept FMEA
Assembly Sub-System
Component
Process FMEA
Specification System
to FORD
Manufacturing Sub-System
Component
1) เริม
่ จากระดมความคิด เพือ ่ ทำความเข ้าใจ
ผลิตภัณฑ์เสย ี ก่อน การนำเสนอ ควรจะอยูใ่ นรูปแบบ
ของ ฟั งก์ชน ั ของชน ิ้ สว่ นนัน ้ ๆ ตามทีไ่ ด ้ออกแบบไว ้
จากนัน ้ ให ้บ่งชฟ ี้ ั งก์ชน ั (Identify Function ซงึ่ หมายถึง สงิ่
ทีเ่ ราสนใจทีจ ่ ะทำ การวิเคราะห์ในตัวผลิตภัณฑ์) ให ้
ชด ั เจนมากขึน ้ ควรให ้อยูใ่ นเทอม หรือ รูปแบบทาง
วิศวกรรม
จากตัวอย่างนี้ สงิ่ ทีบ ่ ริษัทนีเ้ สนอก็คอ ื ขอแขวนเสอ ื้
แบบยึดผนัง โดยใชสกรู ้ สองตัวยึดทีแ ่ ขวนเสอื้ ให ้
แนบกับผนัง ทำให ้มีความแข็งแรง
ฟังก์ชนั หลักของผลิตภัณฑ์กค็ ือ แขวนเสื้ อ (รับน้ำหนักได้)
Sanmin-SCI Systems Thailand 40
2) Identify Potential Failure Modes
2) จากนัน ้ ทำการบ่งชล ี้ ก
ั ษณะข ้อบกพร่อง ซงึ่ หมายถึง ทำการ
แยกแยะการเกิด ลักษณะข ้อบกพร่องขึน ั ข ้างต ้น
้ ในฟั งก์ชน
แนวโน ้มทีจ ่ ะทำให ้เกิดลักษณะ ข ้อบกพร่อง ควรอธิบายให ้อยู่
ในรูปแบบทีผ ่ ลิตภัณฑ์ หรือ กระบวนการซงึ่ ผิด ปกติออกไป
จากฟั งก์ชน ั ทีต่ ้องการ (ซงึ่ ก็คอื สงิ่ ทีอ่ อกแบบไว ้ หรือ ประสท ิ ธิ
ภาพทีต ่ ้องการไม่เป็ นไปตามความต ้องการ) อันได ้แก่ สงิ่ ที่
ลูกค ้าต ้องการ สงิ่ ที่ อยากได ้ สงิ่ ทีค ่ าดหวัง ทัง้ ลูกค ้าทัง้
ภายนอกและภายใน (คำว่าลูกค ้าในทีน ่ ี้ หมายถึง การประกอบ
ย่อย หรือ กระบวนการย่อย หรือ ผู ้ใชที ้ ต่ ้องเกีย
่ วพันใน ขัน ้ ตอน
ต่อไป รวมถึงลูกค ้าท ้ายสุดทีนำ ่ ผลิตภัณฑ์ไปใช)้
จากตัวอย่างนี้ แนวโน ้มลักษณะข ้อบกพร่องทีเ่ ป็ นไปได ้ก็คอ ื ที่
แขวนเสอ ื้ หลุด ออกมาจากผนัง (Comes off wall)
จะสังเกตว่า เราจะไม่พิจารณาในเชิงขอแขวนหัก
(ในข ้อ 4 นัน
้ เป็ นการมองในหลาย ๆ ประเด็น แล ้วนำมาเลือก
ั เจนในข ้อ 5 อีกครัง้ หนึง่ )
ให ้ชด
ี้ นวทางการควบคุมการออกแบบ หรือ
8) บ่งชแ
กระบวนการ หรือทีเ่ รียกว่า current control นั่นเอง
ในทีน ่ ี้
(ในกรณีทส ี่ กรูเล็กเกินไป) มีคำแนะนำให ้ใชสกรู ้ ให ้ถูก
ต ้อง (Advise fitter of screw size) ในเอกสารการจัดซื้ อ
(ในกรณีทใี่ สส ่ กรูตวั เดียว) ให ้ลูกค ้าตรวจสอบงานทีต ่ ด
ิ
ตัง้ (Customer checks work) ในคู่มือ
้
9) หาอัตราการตรวจจับ โดยใชตาราง Detection Rating
หมายถึง หาความสามารถในการตรวจจับ ทีม ่ อ
ี ยูใ่ น
ปั จจุบน
ั สามารถตรวจจับสาเหตุทอ ี่ าจก่อให ้เกิด
ลักษณะข ้อบกพร่องทีอ่ าจเกิดขึน
้ ก่อนถึงมือ ลูกค ้าได ้
หรือไม่