Professional Documents
Culture Documents
นางอรทัยกล่าวว่า แคบหมูกึ่งสำาเร็จรูปด้วยไมโครเวฟเก็บรักษาได้นาน
โดยหากเก็บที่อุณหภูมิ 0 องศาเซลเซียสสามารถเก็บได้ถึง 159 วัน และ
หากเก็บที่อุณหภูมิ 25 องศาเซลเซียส จะเก็บได้ 83 วัน ในขณะที่แคบหมู
ทั่วไปหากเก็บไว้เกิน 1 สัปดาห์ ก็จะสูญเสียความกรอบเนื่ องจากดูดความชื้น
จากอากาศเข้าไป ทั้งนี้ จากการให้ผู้บริโภคทดลองชิมและตอบแบบสอบถาม
พบว่าผู้บริโภคกว่าร้อยละ 80 ให้การยอมรับและต้องการซื้อผลิตภัณฑ์ ผล
การวิจัยนี้ จึงเป็ นการสร้างทางเลือกให้กับผ้บ
ู ริโภคที่ห่วงใยสุขภาพ และขณะ
เดียวกันยังเป็ นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการด้วย เพราะประหยัดต้นทุนได้มาก
ทั้งค่าเชื้อเพลิง ค่าแรงคนทอดแคบหมู และโดยเฉพาะค่านำ้ามัน ซึ่งไม่ต้องใช้
เลยจากเดิมที่ใช้ 5-10 ลิตร ในการทอดหนังหมู 1 กิโลกรัม
"ผลวิจัยได้จดอนุสิทธิบัตรกับกรมทรัพย์สินทางปั ญญา
กระทรวงพาณิ ชย์แล้ว อยู่ระหว่างหาผู้ทีต่ ้องการลงทุนทางธุรกิจ ซึง ่
ขณะนี้ ทีมวิจัยยังมีแผนทีจ
่ ะนำาองค์ความรู้ทีไ
่ ด้ไปประยุกต์ใช้กับการ
พัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารทอดชนิ ดอื่นๆ เช่น ปาท่องโก๋ ข้าวแต๋น
และข้าวเกรียบ เป็นต้น" นางอรทัยกล่าว
"แคบหมูไมโครเวฟ" ไขมันตำ่าเลีย
่ งมะเร็ง ทางเลือกสำาหรับคนรัก
สุขภาพ
แคบหมูก่อนอบ แคบหมูอบเรียบร้อยแล้ว
นั กวิจัยเมืองเหนื อเอาใจคนมักแคบหมูท่ีรก
ั สุขภาพ คิด “แคบหมู
ไมโครเวฟ” แคบหมูก่ึงสำาเร็จรูปแบบไม่ใช้น้ ำามันทอด เพียงเข้าเตาไมโครเวฟก็
พองตัว ได้แคบหมูใหม่ กรอบ อร่อยใน 2-3 นาที เก็บได้นานไม่เหม็นหืน เตรียม
ให้เอกชนใช้ และขยายผลไปสู่อาหารทอดอื่นๆ ต่อไป
แคบหมูเป็ นผลผลิตจากหนั งหมู เป็ นที่นิยมบริโภคเป็ นอาหารโดยตรงและ
เป็ นเครื่องเคียงกับนำ้าพริกเมืองเหนื อและแกงคัว่ ต่างๆ แต่การทอดแคบหมูมีข้อ
เสียคือ ต้องใช้อุณหภูมิสูง ซึ่งเร่งให้น้ าำ มันที่ใช้ทอดเสื่อมคุณภาพเร็ว นำ้ามันมีกลิ่น
และสีเปลี่ยนไป ทำาให้ต้องเปลี่ยนนำ้ามันบ่อย เป็ นการสิ้นเปลือง ผู้ขายจึงมัก
ประหยัดต้นทุนโดยใช้น้ ำามันทอดซำ้า และเติมนำ้ามันใหม่เข้าไปทดแทนเรื่อยๆ โดย
ไม่ได้นำานำ้ามันเก่าที่ใช้แล้วทิ้งไป ส่งผลให้น้ ำามันขณะทอดเกิดการสลายตัวได้เป็ น
สาร “อะครีลีน” ซึ่งก่อมะเร็ง นอกจากนี้ แคบหมูยังมีอายุการเก็บรักษาสั้น เหม็น
หืนง่าย อีกทั้งแคบหมูท่ีผ่านการทอดถือเป็ นอาหารที่มีปริมาณไขมันและแคลอรี
สูง
คณะนั กวิจัยซึ่งนำาโดยอาจารย์อรทัย บุญทะวงศ์ สาขาวิชาวิทยาศาสตร์และ
เทคโนโลยีการอาหาร คณะวิชาเทคโนโลยีการอาหาร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราช
มงคลล้านนา วิทยาเขตลำาปาง ภายใต้การสนั บสนุ นของสำานั กงานกองทุน
สนั บสนุ นการวิจัย (สกว.) ได้คิดผลิตภัณฑ์แคบหมูก่ึงสำาเร็จรูปบรรจุซองอลูมิเนี ยม
ฟอยล์ ซึ่งเมื่อจะบริโภค ผ้บ
ู ริโภคเพียงแต่ฉีกซอง เทแคบหมูออกใส่จาน นำาเข้าเตา
ไมโครเวฟที่ความร้อน 800-1000 วัตต์ เป็ นเวลา 1-3 นาที ก็จะได้แคบหมูท่ีมี
ลักษณะและคุณภาพไม่ต่างจากแคบหมูท่ีทอดในนำ้ามัน แต่มีปริมาณไขมันเฉลี่ย
เพียง 11.30% ขณะที่แคบหมูท่ีได้จากการทอดทัว่ ไปมีปริมาณไขมัน 20 – 45%
นั บว่าสะดวก ช่วยให้ผู้บริโภคได้รบ
ั ประทานแคบหมูใหม่ทุกครั้ง และยังปลอดภัย
ต่อสุขภาพอีกด้วย
แคบหมูก่ึงสำาเร็จรูปด้วยไมโครเวฟเก็บรักษาได้นาน โดยหากเก็บที่อุณหภูมิ
0 องศาเซลเซียสสามารถเก็บได้ถึง 159 วัน และถ้าเก็บที่อุณหภูมิ 25 องศาเซล
เซียจะเก็บได้ 83 วัน ในขณะที่แคบหมูทัว่ ไปหากเก็บไว้เพียง 1 สัปดาห์ หากเกิน
กว่านั้ นจะสูญเสียความกรอบเนื่ องจากดูดความชื้ นจากอากาศเข้าไป
อาจารย์อรทัย หัวหน้าโครงการวิจัยนี้ กล่าวว่า จากการให้ผู้บริโภคทดลอง
ชิมและตอบแบบสอบถาม พบว่าผู้บริโภคกว่า 80% ให้การยอมรับและต้องการซื้ อ
ผลิตภัณฑ์ ผลการวิจัยนี้ จึงเป็ นการสร้างทางเลือกให้กับผู้บริโภคที่ห่วงใยสุขภาพ
และขณะเดียวกันยังเป็ นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการด้วย เพราะประหยัดต้นทุนได้
มาก ทั้งค่าเชื้ อเพลิง ค่าแรงคนทอดแคบหมู และโดยเฉพาะค่านำ้ามัน ซึ่งไม่ต้องใช้
เลยจากเดิมที่ใช้ 5-10 ลิตรในการทอดหนั งหมู 1 กิโลกรัม “ขณะนี้ ผลวิจัยได้จด
อนุ สิทธิบัตรกับกรมทรัพย์สินทางปั ญญา กระทรวงพาณิ ชย์แล้ว และกำาลังอยู่
ระหว่างหาผ้ท
ู ่ีต้องการลงทุนทางธุรกิจ นอกจากนี้ ทางผู้วิจัยยังมีแผนที่จะนำาองค์
ความรู้ท่ีได้ไปประยุกต์ใช้กับการพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารทอดชนิ ดอื่นๆ ต่อไปอีก
ด้วย เช่น ปาท่องโก๋ ข้าวแต๋น และข้าวเกรียบ เป็ นต้น” หัวหน้าโครงการกล่าว
อนึ่ ง โครงการแคบหมูก่ึงสำาเร็จรูปด้วยไมโครเวฟนี้ ได้รบ
ั คัดเลือกให้เป็ น 1
ใน 8 ผลงานจากกลุ่มงานวิจัยและพัฒนา (R&D) ซึ่งได้รบ
ั คัดเลือกให้เป็ นผลงาน
วิจัยเด่นของ สกว. ประจำาปี 2551