You are on page 1of 6

หน่ วยการเรียนที่ 1

สุนทรียศาสตร์ และ สุนทรียภาพ

ความหมายของสุนทรียศาสตร์และสุนทรียภาพ
มี ผู้ ใ หู คำำ นิ ย ำมควำมหมำยของสุ น ทรี ศ ำสตร์ ไ วู ห ลำยควำม
หมำยตัวอย่ำงคำำนิยำมที่เขูำใจไดู ง่ำย ๆ มีดังต่อไปนี้
• พจนำนุกรมฉบับรำชบัณฑิตสถำน 2532 ใหูควำมหมำยไวูว่ำ
สุนทรียศำสตร์เป็นปรัชญำสำขำหนึ่ ง ที่ว่ำดูวยควำมงำมและ
สิ่ ง ที่ ง ำ ม ทั ้ ง ใ น ง ำ น ศิ ล ป ะ แ ล ะ ธ ร ร ม ช ำ ติ โ ด ย ศึ ก ษ ำ
ประสบกำรณ์ คุณค่ำควำมงำมและมำตรฐำนในกำรวินิจฉัย
ว่ำ อะไรงำม อะไรไม่งำม
• กี ร ติ บุ ญ เ จื อ (2522: 268) ใ หู ค ว ำ ม ห ม ำ ย ไ วู ว่ ำ
สุนทรียศำสตร์เป็ นวิชำว่ำดูวยสิ่งที่สวยงำมหรือไพเรำะเพรำะ
พริ้ง
• สุชำติ สุทธิ (2542:8) ไดูใหูควำมหมำยไวูว่ำ สุนทรียศำสตร์
มำจำกควำมหมำยดัง้ เดิมสมัยกรีกโบรำณคือ Aisthenathai
ซึ่งหมำยถึงกำรรับรู้อย่ำงหนึ่ งและสิ่งที่รับรู้อีกอย่ำงหนึ่ ง ทัง้
สองอย่ ำ งรวมกั น เป็ นคำำ เดี ย วคื อ Aithetiko หมำยถึ ง สิ่ ง ที่
เกี่ยวกับควำมรู้สึกรับรู้

จะเห็นไดูว่ำควำมหมำยของสุนทรียศำสตร์ทัง้ 3 ควำมหมำยดัง
กล่ำว ลูวนเกี่ยวยขูอ งกั บคุ ณค่ ำทำงกำรรั บรู้ เกี่ ยวกับ ควำมงำมและ
ควำมไพเรำะ คำำว่ำสุนทรียศำสตร์ (Aesthetics) เป็ นคำำนำม หมำยถึง
วิชำว่ ำ ดู ว ยควำม งำ ม ถู ำ ตูองกำ รใชู เ ป็ นคุ ณ ศั พ ท์ จะเขี ย นว่ำ

1
สุ นทรี ยภำพ (Aesthetic) หมำยถึง ควำมรู้สึ กถึ ง คุ ณ ค่ ำ ของสิ่ ง ที่ ง ำม
รวมถึ ง ควำมไพเรำะของเสี ย ง และควำมงดงำมของท่ ำ ทำงกำร
เคลื่อนไหว
สุนทรียศาสตร์กับความเป็ นมนุษย์
มนุษย์และสัตว์มีอวัยวะหมำย ๆ อย่ำงที่เหมือนกัน จนถึงบำง
ครัง้ เรำมักจะเรียกพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ที่มนุษย์แสดงออกมำว่ำ
เป็ นสั ญ ชำติ สั ต ว์ สิ่ ง เดี ย วที่ ส ำมำรถแยกแยะควำมแตกต่ ำ งระหว่ ำ ง
มนุ ษ ย์ กั บ สั ต ว์ ไ ดู ชั ด เจนคื อ มนุ ษ ย์ มี ส มองที่ ส ำมำรถคิ ด สรู ำ งสรรค์
และพัฒนำกำรทำงควำมคิด กำรกระทำำ ใหู เกิ ดเป็ นแบบแผนที่ดี ข้ ึน
ตำมลำำ ดับ มนุษย์รู้จักวำงมำตรฐำนควำมดีและควำมชัว
่ มนุษย์รู้จัก
แยกแยะอะไรงำมอะไรน่ำเกลียด และมนุษย์รู้จักคิดโดยใชูเหตุผล ดัง
นัน
้ ควำมคิดของมนุษย์จึงเป็ นสิ่งที่ควรศึกษำ
มนุษย์กับความคิด
โดยธรรมชำติมนุษย์ทุกคนมีควำมอยำกรู้อยำกเห็น และควำม
สงสัยในควำมเป็นไปของชีวิตและธรรมชำติ ปัญหำต่ำง ๆ ที่มนุษย์ไดู
พยำยำมหำคำำตอบ บำงปั ญหำสำมำรถอธิบำยไดูชัดแจูง แต่ก็ยังมีอีก
หลำยปั ญหำ ที่ไม่สำมำรถหำคำำ ตอบไดู บำงปั ญหำแมูจะตอบไดูแต่ก็
ยั ง มี ขู อ สงสั ย เหลื อ อย่้ โ ดยธรรมชำติ มนุ ษ ย์ ช่ ำ งคิ ด ช่ ำ งสงสั ย เรำ
สำมำรถแยกแยะควำมแตกต่ำ งระหว่ำ งมนุษ ย์กั บสั ตว์ โลกทัว
่ ไปไดู
มนุษ ย์เ ป็ นสัต ว์ที่ รู้จั ก ใชู ค วำมคิ ด และมี สติ ปั ญญำ ควำมคิ ด และสติ
ปั ญญำจะนำ ำ ไปส่้กำรปฏิบัติ กำรสรูำงสรรค์ อันเป็ นพัฒนำกำรสำำ คัญ
ของสังคมที่นำำ มำซึ่งกำรเจริญรุ่งเรืองอย่ำงทุกวันนี้ ควำมสงสัยของ
มนุ ษ ย์ เ กี่ ย วกั บ ชี วิ ต และธรรมชำติ แ วดลู อ ม ก่ อ ใหู เ กิ ด คำำ ถำมว่ ำ
ความจริงคืออะไร

2
ความจริง (The Reality) ในที่นี้หมำยถึงสิ่งที่เป็นนิ รันดร์ ไม่มี
กำรเปลี่ยนแปลง ร่ำงกำยของคนในทัศนะของนั กปรัชญำนั น
้ ร่ำงกำย
ของคนไม่ใชูควำมจริง เพรำะมีกำรเปลี่ยนแปลงตัง้ แต่เด็กจน เติบโต
จนแก่เฒ่ำชรำและตำยไป กำรเปลี่ยนแปลงมีอย่้ตลอดเวลำ ดังนั น
้ ถูำ
จะถำมว่ำ อะไรคือ แก่ นแทู หรื ออะไรคือ ควำมจริง ของชี วิต เรำ อำจ
ตอบไดู 3 ทัศนะคือ
1. จิ ต นิ ยม เชื่ อว่ ำ ควำมจริ ง คื อ จิ ต หรื อ วิ ญ ญำณ ร่ ำ งกำยคน
ประกอบดูวย เนื้ อหนั งและจิตวิญญำณ ร่ำงกำยเนื้ อหนั งจะ
เปลี่ยนแปลงเติบโต พัฒนำและเสื่อมโทรม เมื่อตำยไปก็จะ
สลำยตัวหรือเปลี่ยนแปลงไป ส่วนที่เป็ นอมตะ นิ รันดร์กำล
คื อ จิ ต หรื อ วิ ญ ญำณของมนุ ษ ย์ ดั ง นั ้น สิ่ ง จริ ง แทู ข องชี วิ ต
คือจิต หรือวิญญำณนัน
่ เอง พวกจิตนิยมเชื่อว่ำ พระเจูำมีจริง
พระเจู ำ คื อ จิ ต ดวงใหญ่ ที่ ใ หู กำำ เนิ ด ดวงจิ ต หรื อ ชี วิ ต มนุ ษ ย์
พระเจูำสรูำงมนุษย์ พระเจูำสรูำงโลก พระเจูำสรูำงจักรวำล
2. วัตถุนิยม เชื่อว่ำ ร่ำงกำยของคนคือเซลล์เล็ก ๆ ที่ประกอบ
เป็นเนื้ อหนั งมังสำ เป็นอวัยวะต่ำง ๆ ร่ำงกำยคือ เครื่องจักร
ที่ ส ำมำรถทำำ งำนดู ว ยระบบกลไกของอวั ย วะ ไม่ มี จิ ต
วิญญำณ กำรตำยคือกำรที่เครื่องจักรไม่สำมำรถทำำงำนไดูอีก
ต่ อ ไป เป็ นกำรเน่ ำ สลำยของเนื้ อหนั ง จนกลำยเป็ นธำตุ ธุ ลี
วั ต ถุ ก ลำยเป็ นอะตอมหรื อ พลั ง งำนซึ่ ง คื อ สิ่ ง ที่ เ ป็ นนิ รั น ดร์
ไม่มีกำรเปลี่ยนแปลงอีกต่อไป พวกวัตถุนิยมเชื่อว่ำสิ่งจริง
แทูของชีวิตและจักรวำลลูวนเป็ นวัตถุเพียงอย่ำงเดียว ไม่มี
พระเจูำ ไม่มีสวรรค์ ไม่มีนรก ชีวิตโลกและจักรวำลกำำ เนิ ด
ขึ้นตำมอุบัติกำรณ์ของธรรมชำติ

3
3. ทวิ นิ ยม เป็ นทั ศ นะที่ ป ระนี ประนอมทั ศ นะจิ ต นิ ยมกั บ
วัตถุนิยมไวูดูวยกัน เชื่อว่ำถึงแมูควำมคิดของมนุษย์จะแบ่ง
เป็นสองขัว
้ สองฝ่ ำยก็ตำม แต่ก็ยังสำมำรถประสำนควำมคิด
ทัง้ สองฝ่ ำยไดู ทัศนะนี้ เชื่อว่ำควำมจริงคือทัง้ สองอย่ำง ทัง้
ร่ำงกำยและจิตวิญญำณ ร่ำงกำยและจิตคือสิ่งจริงแทู

คุณค่ำควำมเป็ นมนุษย์
กำรที่มนุษย์ไดูหำคำำ ตอบจำกปั ญหำที่ว่ำ ควำมจริงคืออะไร ไม่
ว่ ำ จะเป็ นทั ศ นะของจิ ต นิ ย มหรื อ วั ต ถุ นิ ย ม ทกคำำ ตอบต่ ำ งก็ มี เ ปำ
หมำยหลั ก อย่้ ที่ ก ำรดำำ รงอย่้ ข องชี วิ ต ซึ่ งเป็ นควำมเชื่ อเบื้ องตู น ที่
กำำหนดบทบำททำงพฤติกรรมและควำมประพฤติของคนเรำใหูอย่้ใน
แนวทำงหรือมำตรฐำนเดียวกัน เช่น คนที่เชื่อว่ำควำมจริงขึ้นอย่้กับ
จิต พระเจูำมีจริง พระเจูำสรูำงมนุษย์ มนุษย์ตูองแสดงควำมเคำรพ
นั บถือต่อพระเจูำก็จะสรูำงวิหำรเพื่อเป็นที่สิงสถิตหรือเป็นที่กรำบไหวู
บ้ ช ำพระเจู ำ เกิ ด พิ ธี ก รรมต่ ำ ง ๆ เกิ ด กำรเริ ง ระบำำ เพื่ อบ้ ช ำถวำย
พระเจูำ เกิดดนตรีเพื่อสวดสรรเสริญพระเจูำ เกิดกำรเสริมแต่งเพื่อใหู
เกิ ด สิ่ ง สวย ๆ งำม ๆ เพื่ อเสริ ม พิ ธี ก รรมใหู ด้ ดี ด้ ข ลั ง และมี ก ำร
กำำหนดมำตรฐำนเกี่ยวกับควำมดีใหูเป็ นร้ปธรรมอย่ำงชัดเจน เพื่อใหู
สอดคลูองกับควำมเชื่อของตน สิ่งเหล่ำนี้คือขูอกำำหนดพฤติกรรมของ
มนุ ษ ย์ มำตรฐำนทำงพฤติ ก รรมที่ ดี ย่ อ มนำ ำ มำซึ่ ง กำรพั ฒ นำสั ง คม
ทำำใหูสังคมอย่้ไดูอย่ำงปกติสุข สำำหรับคนที่เชื่อว่ำควำมจริงขึ้นอย่้กับ
วั ต ถุ จ ะมี ม ำตรฐำนควบคุ ม พฤติ ก รรมของคนโดยใชู ห ลั ก กฎหมำย
และจะใหู ค วำมสำำ คั ญ ต่ อ ควำมเจริ ญ ควำมสมบ้ ร ณ์ พ้ น สุ ข ในโลก

4
ปั จจุ บั น ดูว ยเหตุ นี้ คุ ณ ค่ ำ ของควำมเป็ นมนุ ษ ย์ จึ ง ควรมี ม ำตรฐำน
อย่ำงนู อย 3 ดูำนคือ
1) จริยศำสตร์ (Ethics) เป็ นมำตรฐำนเกี่ยวกับพฤติกรรมของ
มนุ ษ ย์ ท ำง จริ ย ธรรม จริ ย ศำสตร์ เป็ นศำสตร์ ว่ ำ ดู ว ย
มำตรฐำน กำรกำำ หนดพฤติ กรรมของมนุษ ย์ ว่ำ อย่ ำงไรคือ
ควำมดี อย่ำงไรคือควำมชัว
่ คุณค่ำของควำมเป็ นมนุษย์ที่ไดู
รับกำรยกย่องประกำรแรกก็คือ ควำมดี
2) สุนทรียศำสตร์ (Aesthetics) เป็ นมำตรฐำนเกี่ยวกับกำรรับรู้
ควำมงำม เป็ นคุณ ค่ำอี กอย่ำ งหนึ่ ง ซึ่ งแตกต่ำงจำกควำมดี
คุณค่ำทำงควำมงำมเป็ นเรื่องเกี่ยวกับควำมคิดจำกกำรสัมผัส
เช่น เมื่อเรำเห็นภำพดวงอำทิตย์กำำลังจะลับขอบฟู ำระหว่ำง
ขอบนำ้ ำทะเลยำมเย็น เรำจะมองเห็นควำมงำม ควำมงำมจะ
ทำำ ใหู เ รำเกิ ด ควำมพอใจ ควำมยิ น ดี ห รื อ ควำมสุ ข เมื่ อเรำ
สัมผัสกับสิ่งสวยงำมทำำใหูเรำสำมำรถแยกแยะวัตถุที่มีควำม
งำมว่ำมีควำมโดดเด่น หรือแตกต่ำงจำกวัตถุธรรมดำทัว
่ ไป
ไดู ทำำใหูเรำเขูำใจว่ำอะไรทำำใหูเกิดควำมงดงำม เรำก็อำจนำ ำ
ควำมเขูำใจนัน
้ มำเป็ นหลักกำรสรูำงควำมงำมหรือสรูำงสรรค์
ค์งำนศิลปะขึ้นมำ
สิ่งสวยงำมคือคุณค่ำของควำมเป็ นมนุษย์อีกประกำรหนึ่ งที่
เรำะละเลยไม่ ไ ดู ถึ ง แมู ม นุ ษ ย์ จ ะประกอบคุ ณ งำมควำมดี
เพี ย งใด แต่ ถู ำ เป็ นคนที่ มี ร้ ป ร่ ำ งหนู ำตำขี้ ริ้ ว ขี้ เ หร่ เนื้ อตั ว
เสื้ อ ผู ำ สกปรก ก็ ยั ง คงเป็ นที่ รั ง เกี ย จของคนทั ่ว ไป ดั ง นั ้ น
กำรแต่ ง กำย กำรปรุ ง แต่ ง บุ ค ลิ ก หนู ำตำ จึ ง เป็ นปั จจั ย ใน
คุณค่ำที่สำำคัญอีกอย่ำงหนึ่ งในควำมเป็นมนุษย์ พิธีกรรมต่ำง

5
ๆ ทำงศำสนำเป็ นกิจกรรมตูองกำรปรุงแต่งใหูเกิดควำมงำม
วิ ห ำรของเทพเจู ำ ย่ อ มตู อ งกำรควำมงำมกว่ ำ บู ำ นธรรมดำ
เพลงสวดเพื่ อสรรเสริ ญ เทพเจู ำ ต่ ำ ง ๆ ย่ อ มตู อ งมี ค วำม
ไพเรำะเสนำะห้ คุณค่ำทำงดูำนควำมงำมดังกล่ำวนี้ เรำเรียก
ว่ำ สุนทรียภำพ ในทำงปรัชญำเรียกว่ำ สุนทรียศำสตร์
3) ตรรกศำสตร์ (Logics) คือมำตรฐำนทำงคุณค่ำส่วนที่จะเสริม
ใหูมนุษย์มีควำมสมบ้รณ์ข้ ึนเป็ นคุณค่ำทำงปั ญญำ ควำมคิด
กล่ำวคือ นอกเหนื อจำกมำตรฐำนทัง้ 2 ดูำนดังกล่ำวมนุษย์
ยังตูองมีควำมคิดและวิจำรณญำณที่ดี รู้จักใชูเหตุใชูผล ไม่
หลงงมงำม มีสำมัญสำำนึกที่ดี มีโลกทัศน์ที่ดี และมีวิสัยทัศน์
ที่กวูำงไกลศำสตร์วำ่ ดูวยควำมคิด

You might also like