You are on page 1of 156

การสังหารหมู่ที่กรุงเทพฯ :

ข้อเรียกร้องต่อการแสดงความรับผิดชอบภายใต้พันธกรณีระหว่าง
ประเทศ
ที่ประเทศไทยมีภาระหน้าที่ในการนําตัวฆาตกรเข้าสู่กระบวนการ
ยุติธรรม

สมุดปกขาวโดยสํานักกฎหมาย Amsterdam & Peroff


บทคัดย่อ

เป็นเวลากว่า 4 ปีทป ่ี ระชาชนชาวไทยตกเป็นเหยือ ่ ของการละเมิดสิทธิ


ขัน
้ พืน
้ ฐานอย่างต่อเนือ ่ งและเป็นระบบ สิทธิดังกล่าวคือสิทธิในการ
กําหนดทางเลือกของตนผ่านการเลือกตั้งอย่างแท้จริงที่ดํารงอยู่บน
ฐานของเจตจํานงของประชาชน การโจมตีระบอบประชาธิปไตยเริม ่
ขึ้นด้วยการวางแผนและได้รับการลงมือโดยการทํารัฐประหารโดย
ทหารเมือ ่ ปี 2549 เป็นความร่วมมือของสมาชิกของคณะองคมนตรี ผู้
บัญชาการทหารของไทยในการล้มล้างรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง
ตามระบอบประชาธิปไตยของนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร หัวหน้า
พรรคไทยรักไทย ซึ่งชนะการเลือกตั้งมาถึง 3 สมัยติดต่อกัน ทั้งในปี
2544, 2548 และ 2549 การรัฐประหารในปี 2549 ถือเป็นการเริ่มต้น
ในการพยายามที่จะฟื้นฟูอํานาจในการชี้นําของกลุ่มทุนเก่า นาย
ทหารระดับสูง ข้าราชการระดับสูง และกลุม ่ องคมนตรี (“กลุม่ อํานาจ
เก่า”) โดยทําลายล้างพลังจากการเลือกตั้งซึ่งได้กลายเป็นสิ่งท้าทาย
อํานาจของพวกเขาอย่างสําคัญและเป็นประวัตก ิ ารณ์ ระบอบทีก่ าร
รัฐประหารตั้งขึ้นได้เข้าควบคุมหน่วยงานต่างๆของรัฐบาล ยุบพรรค
ไทยรักไทย และตัดสิทธิทางการเมืองของแกนนําพรรคเป็นเวลา 5 ปี
เมื่อพรรคที่สืบทอดจากพรรคไทยรักไทยชนะการเลือกตั้งใน
ปลายปี พ.ศ. 2550 ก็กลับถูกศาลเฉพาะกิจ (ad hoc court) อัน
ประกอบไปด้วยผู้พิพากษาที่แต่งตั้งโดยผู้ทําการรัฐประหารตัดสินให้
ยุบพรรคนั้นอีก และเปิดทางให้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ขึ้นสู่ตําแหน่ง
นายกรัฐมนตรี หลังจากนั้น รัฐบาลอภิสิทธิ์ก็ถูกกดดันให้ต้องใช้
มาตรการกดขี่เพื่อรักษาฐานอํานาจอันไม่ชอบธรรมและปราบการ
เคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยที่ก่อตัวขึ้นเพื่อตอบโต้การรัฐประหาร
โดยทหารเมื่อปี 2549 และการรัฐประหารโดยศาลในปี 2551 หนึ่งใน
วิธก
ี ารกดขีก่ ค
็ อ
ื การทีร่ ฐ
ั บาลได้บล็อกเวปไซท์ประมาณ 50,000 เวป
ปิดสถานีโทรทัศน์ดาวเทียมของฝ่ายต่อต้านรัฐบาล และกักขังคน
จํานวนหนึ่งภายใต้กฎหมายหมิ่นพระบรมราชานุภาพอันเลื่องชื่อของ
ไทย และภายใต้พ.ร.บ.การกระทําผิดทางคอมพิวเตอร์ที่โหดร้ายพอๆ
กัน เมือ
่ เผชิญกับการชุมนุมประท้วงโดยมวลชนทีท ่ า้ ทายอํานาจของ
รัฐบาล รัฐบาลก็ได้เชื้อเชิญให้กองทัพเข้ามาจัดการ และได้ระงับ
เสรีภาพตามรัฐธรรมนูญโดยการนําพ.ร.บ.ความมัน ่ คงในราช
อาณาจักร พร้อมทั้งพระราชกําหนดการบริหารราชการใน
สถานการณ์ฉุกเฉินซึ่งเข้มงวดยิ่งกว่ามาใช้ ตัง้ แต่วน ั ที่ 7 เมษายน
2553 เป็นต้นมา รัฐบาลทหารชุดใหม่ของประเทศในนามของศูนย์
อํานวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ได้เข้ามาปกครอง
ประเทศโดยไม่มีมาตรการตรวจสอบความรับผิดใดๆ ภายใต้การ
ประกาศ “สถานการณ์ฉุกเฉิน” ที่ถูกประกาศอย่างไม่เหมาะสม ถูก
นํามาบังคับใช้อย่างไม่สอดคล้องกับความรุนแรงของสถานการณ์
และใช้อย่างต่อเนือ ่ งไม่มก ี า
ํ หนดเพือ
่ ปิดปากการคัดค้านใดๆ ทีม ่ ต
ี อ

รัฐบาลที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง นีเ่ ป็นอีกครัง้ ทีก
่ ลุม ่ อํานาจเก่าไม่
อาจปฏิเสธข้อเรียกร้องเพื่อการปกครองตนเองของประชาชนชาว
ไทยได้โดยไม่ต้องหันไปหาระบอบเผด็จการทหาร

ในเดือนมีนาคม 2553 เกิดการประท้วงต่อต้านรัฐบาลครั้งใหญ่


ในกรุงเทพฯ โดยกลุ่มคนเสื้อแดง หรือที่เรียกว่า “แนวร่วม
ประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ” (นปช.) การชุมนุมของคน
เสื้อแดงดําเนินมาจนถึงวันที่ 66 ในวันที่ 19 พฤษภาคม เมื่อรถหุ้ม
เกราะบดขยี้แนวกั้นที่ทําขึ้นชั่วคราวรอบสี่แยกราชประสงค์ใน
กรุงเทพฯ และทะลวงค่ายประท้วงของคนเสือ ้ แดง หลายสัปดาห์กอ ่ น
หน้านั้น เมือ
่ วันที่ 10 เมษายน กองกําลังทหารพยายามสลายการ
ชุมนุมของกลุม ่ เสือ
้ แดงทีส
่ ะพานผ่านฟ้าแต่ลม้ เหลว ยังผลให้มีผู้เสีย
ชีวติ 27 ราย และในการสลายการชุมนุมที่แยกราชประสงค์ระหว่าง
วันที่ 13 -19 พฤษภาคม มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 55 ราย นับถึงเวลาที่
บริเวณที่ชุมนุมได้ถูกเคลียร์เรียบร้อย อาคารพาณิชย์สําคัญๆ สอง
สามแห่งยังคงมีควันกรุ่น มีผู้เสียชีวิตไปมากกว่า 80 คน และผู้ที่ถูก
กล่าวหาว่าเป็นแกนนําการชุมนุมมากกว่า 50 คนอาจเผชิญกับโทษ
ประหารชีวต ิ จากข้อหา “ก่อการร้าย” ผู้ชุมนุมหลายร้อยคนยังคงถูก
ควบคุมตัวข้อหาฝ่าฝืนพ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณา
จักรและพ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ซึ่งรัฐไทย
นํามาใช้เป็นเครือ ่ งมือในการทําให้การชุมนุมทางการเมืองทีช ่ อบ
ธรรมเป็นเรื่องผิดกฎหมาย

ประเทศไทยมีพันธกรณีตามกฎหมายระหว่างประเทศ และ
พันธกรณีตามกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิ
ทางการเมือง (International Covenant on Civil and Political Rights -
ICCPR) ในการสืบสวนการละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นร้ายแรงทั้งหลาย
ที่เกิดขึ้นระหว่างการชุมนุมของคนเสื้อแดง รวมถึงต้องดําเนินคดีกับ
เจ้าหน้าทีท ่ หารและพลเรือนซึง่ อยูภ
่ ายใต้สายการบังคับบัญชาสําหรับ
อาชญากรรมอย่างการสังหารพลเรือนกว่า 80 รายโดยพลการและ
ตามอําเภอใจในกรุงเทพฯ ในช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคม 2553
ด้วย ข้อเท็จจริงต่างๆ ปรากฏอย่างชัดเจนว่ามีการละเมิดกฎหมาย
ระหว่างประเทศด้วยการใช้กองกําลังทหารอย่างเกินความจําเป็น มี
การกักขังโดยพลการต่อเนื่องเป็นเวลานาน และการทําให้หาย
สาบสูญ และยังมีระบบการประหัตประหารทางการเมืองที่ปฏิเสธ
เสรีภาพในการมีส่วนร่วมทางการเมืองและในการแสดงออกของ
พลเมือง รวมถึงกลุ่มคนเสื้อแดง มีหลักฐานว่ามีการละเมิดสิทธิ
มนุษยชนอย่างร้ายแรงเพียงพอที่จะดําเนินการสืบสวนข้อเท็จจริง
อย่างเป็นอิสระและเป็นกลาง เพื่อที่ผู้ที่กระทําความผิดกฎหมาย
อาญาระหว่างประเทศจะถูกนําตัวเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม

นอกจากนี้ การใช้กองกําลังทหารในการปราบปรามกลุ่มคน
เสือ
้ แดงในเดือนเมษายน-พฤษภาคม 2553 ยังจัดเป็นการประทุษร้าย
ประชาชนพลเรือนอย่างเป็นระบบและเป็นวงกว้าง ซึง่ อาจเข้าข่าย
อาชญากรรมต่อมนุษยชาติตามธรรมนูญกรุงโรมว่าด้วยศาลอาญา
ระหว่างประเทศซึ่งกําหนดให้จัดตั้งศาลอาญาระหว่างประเทศในกรุง
เฮกอีกด้วย แม้ว่าประเทศไทยจะไม่ได้ให้สัตยาบันต่อธรรมนูญกรุง
โรมฯ แต่การโจมตีเช่นนี้ก็อาจจะเป็นเหตุเพียงพอให้ได้รับการ
พิจารณาให้เข้าสู่การพิจารณาของศาลอาญาระหว่างประเทศได้หาก
เป็นการดําเนินการโดยรู้ถึงการกระทํานั้นภายใต้นโยบายที่ยอมให้
เกิดหรือสนับสนุนให้เกิดความสูญเสียแก่ชีวิตโดยไม่จําเป็น หรือเป็น
นโยบายทีอ ่ อกแบบมาเพือ ่ โจมตีกลุม่ ทางการเมืองทีเ่ ฉพาะเจาะจง
กลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง มีหลักฐานมากมายทีช ่ ว
้ี า
่ แผนต่อต้านคนเสือ้ แดงที่
ดําเนินมาเป็นระยะเวลา 4 ปีนน ้ั กําลังดําเนินการอยูใ่ นปัจจุบน
ั ภายใต้
นโยบายที่รับรองโดยรัฐบาลอภิสิทธิ์ และการสังหารหมู่คนเสื้อแดงที่
เพิ่งผ่านมาก็เป็นเพียงการปฏิบัติตามนโยบายนโยบายดังกล่าวครั้ง
ล่าสุดเท่านัน

ท้ายที่สุด การสืบสวนเหตุการณ์สังหารหมู่คนเสื้อแดงในเดือน
เมษายน- พฤษภาคมทีร่ ฐ ั บาลตัง้ ใจจะทํานัน
้ ปรากฏแล้วว่าทัง้ ไม่เป็น
อิสระและไม่เป็นกลางตามที่ตามกฎหมายระหว่างประเทศกําหนดไว้
ในขณะที่ประเทศไทยอาจมีความผิดเพิ่มเติมกรณีการละเมิดกติกา
ระหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิการเมือง (ICCPR) และ
กฎหมายจารีตประเพณีระหว่างประเทศ จากที่ไม่ดูแลให้มีการสืบสวน
การสังหารหมู่อย่างเป็นธรรมและสมบูรณ์ การกดดันจากนานาชาติ
จึงเป็นสิ่งจําเป็นเพื่อให้มีการปฏิบัติตามกฎหมายระหว่างประเทศ
และเพื่อป้องกันความพยายามในการฟอกตัวเองจากเหตุการณ์ดัง
กล่าวที่กําลังดําเนินอยู่ของรัฐบาล

ความจริงที่ไม่มีใครโต้แย้งได้ก็คือประเทศไทยควรจะก้าวให้พ้น
ความรุนแรง และจะต้องดําเนินการเพื่อให้เกิดความสมานฉันท์ แต่
ทว่าความสมานฉันท์นั้นจําเป็นต้องเริ่มด้วยการคืนสิทธิขั้นพื้นฐาน
ของประชาชนในการปกครองตนเอง ยิ่งไปกว่านั้นการที่จะทําให้มี
การสมานฉันท์ จะต้องมีการดําเนินการตามกฎหมายเพื่อให้ผู้ที่สั่ง
การให้มีการละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นร้ายแรงที่กระทําไปเพื่อยับยั้ง
สิทธิในการปกครองตนเองนั้นต้องรับผิด กฎหมายระหว่างประเทศ
กําหนดไว้ว่าไม่อาจยอมรับสิ่งที่น้อยไปกว่านี้ได้
สารบัญ

บทนํา
………………………………………………………………………
……………7
เส้นทางไปสู่การปกครองระบอบประชาธิปไตย
ตามรัฐธรรมนูญของประเทศไทย
……………………………………………………16
การขึ้นสู่อํานาจของพรรคไทยรักไทย
……………………………………………….20
ถนนสู่การปฏิวัติ 2549
…………………………………………………………..........27
การฟื้นฟูระบอบอํามาตยาธิปไตยอย่างผิด
กฎหมาย............................................33
5.1 การยึดอํานาจโดยทหาร
……………………………………………………………..34
5.2 ระเบียบรัฐธรรมนูญใหม่
……………………………………………………………..37
5.3 การยุบพรรคไทยรักไทย
………………………………………………………………
40
5.4 การรัฐประหารทางศาลและเหตุการณ์ความวุ่นวายที่ถูกจัด
ตั้งขึ้น …………………..42
ฤดูร้อนสีดําของประเทศไทย: การสังหารหมู่คนเสื้อ
แดง………………………………52
6.1 คนเสื้อแดงต้องการอะไร
……………………………………………………………...52
6.2 มาตรการอันผิดกฎหมายของการรณรงค์ประหัตประหาร
และความรุนแรง ………….56
6.3 บดขยีค้ นเสือ ้ แดง
………………………………………………………………
……..61
6.4 มาตรฐานสากลว่าด้วยการใช้กําลัง
…………………………………………………..66
ฤดูกาลใหม่ของการปกครองโดย
ทหาร………………………………………………..70
7.1 พระราชบัญญัติความมั่นคงภายใน
…………………………………………………..71
7.2 การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน
……………………………………………………...73
7.3 การควบคุมข้อมูลข่าวสาร
…………………………………………………………….75
7.4 เสื้อแดงนะหรือคือผู้ก่อการร้าย
……………………………………………………….76
ข้อเรียกร้องหาความ
ยุติธรรม……………………………………………………………
84
8.1 หน้าที่ในการสืบสวนและหาผู้กระทําความผิดของ
ประเทศไทย ………………………84
8.2 การสังหารโดยพลการและตามอําเภอใจ: การละเมิดสิทธิ
มนุษยชนที่ร้ายแรงอื่นๆ …..87
8.3 การประหัตประหารทางการเมือง
……………………………………………………...90
8.4 อาชญากรรมต่อมนุษยชาติ
……………………………………………………………94
8.5 หลักฐานเรื่องการพยายามปกปิด
……………………………………………………..99
8.6 ความเป็นธรรมสําหรับผู้ถูกกล่าวหา
…………………………………………………..104
บทสรุป : หนทางเดียวสู่ความปรองดอง
………………………………………………….106
บทนํา

ในปีพ.ศ. 2541 ผมก่อตั้งพรรคไทยรักไทยภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับ


แรกของประเทศไทยที่เป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง รัฐธรรมนูญ
ฉบับที่เรียกกันว่ารัฐธรรมนูญฉบับประชาชนนี้มอบการเป็นตัวแทน
อย่างแท้จริงในกระบวนการเลือกตั้งแก่พี่น้องชาวไทยเป็นครั้งแรก
ในฐานะนายกรัฐมนตรี ผมพยายามดําเนินนโยบายสาธารณะต่างๆ
ที่ได้เสนอไว้ในช่วงหาเสียงเลือกตั้ง และผมเชือ
่ ว่าคนไทยส่วนใหญ่ก็
เห็นด้วยกับข้อเท็จจริงทีว
่ า
่ เสียงของพวกเขาได้รับการสดับรับฟัง นี่
เป็นเหตุผลที่ทําให้พรรคไทยรักไทยได้รับความนิยมและแข็งแกร่ง

ในปี 2549 การรัฐประหารได้ช่วงชิงสิทธิในการเลือกตั้งของพี่


น้องประชาชนไป ซึง่ ทําให้คนไทยส่วนใหญ่ของประเทศไม่พอใจ และ
ทําให้พน
่ี อ
้ งประชาชนจํานวนมากลุกขึน้ มาต่อต้าน แต่แทนทีจ ่ ะ
ยอมรับฟังข้อเรียกร้องของพวกเขา กลุม ่ อํานาจเก่าทีน
่ ย
ิ มระบอบ
เผด็จการกลับพยายามที่จะกําจัดพี่น้องประชาชนคนไทย ความ
ทะยานอยากของคนกลุ่มนี้เป็นอันตรายยิ่ง อีกทั้งยังรุกล้ําจิตวิญญาณ
ของความเป็นมนุษย์

ผมได้ขอให้สํานักกฎหมาย อัมสเตอร์ดัม แอนด์ เปรอฟ เข้ามา


ทําการศึกษากรณีของการประท้วงของกลุ่มคนเสื้อแดงเมื่อวันที่ 10
เมษายน และ 19 พฤษภาคม 2553 ว่าเป็นการชุมนุมทางการเมืองเพื่อ
เรียกร้องประชาธิปไตยตามมาตรฐานกฎหมายระหว่างประเทศหรือ
ไม่ ผมยังได้ขอให้สํานักกฎหมายดังกล่าวศึกษากระบวนการทําลาย
ระบอบประชาธิปไตยทีม ่ งุ่ เป้ามาทีก
่ ลุม
่ คนเสือ
้ แดง และศึกษานัยยะ
ของเหตุการณ์เหล่านั้นภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ โลกควรจะ
ได้เข้าใจว่าในประเทศไทยประชาธิปไตยที่แท้จริงกําลังถูกทําร้าย

ผมเชือ่ ว่าการเลือกตัง้ จะเกิดขึน


้ ในไม่ชา
้ อย่างไรก็ตามหากการ
เลือกตั้งหมายถึงการก้าวไปสู่ความสมานฉันท์ การเลือกตั้งเช่นนั้นจะ
ต้องตอบข้อกังวลพื้นฐานที่เกี่ยวกับการเสริมสร้างอํานาจประชาชน
และการฟื้นฟูประเทศไทยให้เป็นรัฐประชาธิปไตยแบบที่ไม่กีดกันคน
กลุ่มใดกลุ่มหนึ่งและในขณะเดียวกัน เราต้องปฏิเสธการใช้ความ
รุนแรงเพื่อเป็นเป็นเครื่องมือเพื่อบรรลุเป้าหมายทางการเมือง
สันติสุขที่แท้จริงจะมีได้ก็ต่อเมื่อทุกฝ่ายสามารถมีส่วนร่วมในทางการ
เมืองได้อย่างแท้จริง

ดร. ทักษิณ ชินวัตร


การสังหารหมู่ที่กรุงเทพฯ :
ข้อเรียกร้องต่อการแสดงความรับผิดชอบภายใต้พันธกรณีระหว่าง
ประเทศ
ที่ประเทศไทยมีภาระหน้าที่ในการนําตัวฆาตกรเข้าสู่กระบวนการ
ยุติธรรม

สมุดปกขาวโดยสํานักกฎหมาย Amsterdam & Peroff


1. บทนํา

เป็นเวลากว่า 4 ปีทป ่ี ระชาชนชาวไทยตกเป็นเหยือ ่ ของการ


ละเมิดสิทธิขน ้ั พืน
้ ฐานอย่างต่อเนือ่ งและเป็นระบบ สิทธิดังกล่าวคือ
สิทธิในการกําหนดทางเลือกของตนโดยผ่านการเลือกตั้งอย่าง
แท้จริงทีด
่ า
ํ รงอยูบ ่ นฐานของเจตจํานงของประชาชน การโจมตี
ระบอบประชาธิปไตยเริ่มขึ้นด้วยการวางแผนและลงมือกระทําการ
รัฐประหารโดยทหารเมื่อปี 2549 ด้วยความร่วมมือกับสมาชิก
องคมนตรี ผู้บัญชาการทหาร ของไทยล้มล้างรัฐบาลที่มาจากการ
เลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยของนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร
หัวหน้าพรรคไทยรักไทย ซึ่งชนะการเลือกตั้งมาถึง 3 สมัยติดต่อกัน
ทั้งในปี 2544, 2548 และ 2549 ระบอบที่การรัฐประหารตั้งขึ้นได้เข้า
ควบคุมหน่วยงานต่างๆของรัฐบาล ยุบพรรคไทยรักไทย และตัดสิทธิ
ทางการเมืองของแกนนําพรรคเป็นเวลา 5 ปี การที่อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
ได้เป็นนายกรัฐมนตรีก็ด้วยเหตุผลเดียวนั่นก็คือเพราะ
พรรคการเมืองต่างๆ ทีช ่ นะการเลือกตัง้ ตามระบอบประชาธิปไตย
ตลอดการเลือกตั้งสี่ครั้งที่ผ่านมาถูกยุบไป

การรัฐประหารในปี 2549 ถือเป็นการเริ่มต้นในการพยายามที่


จะฟืน
้ ฟูอาํ นาจนําของกลุม
่ ทุนเก่า นายทหารระดับสูง ข้าราชการ
ระดับสูง และกลุม ่ องคมนตรี ซึง่ จะขอรวมเรียกว่าเป็น “กลุม
่ อํานาจ
เก่า” ซึ่งการฟื้นฟูระบอบที่กลุ่มอํานาจเก่าต้องการนั้นจะสําเร็จได้ก็
ต้องทําลายพรรคไทยรักไทยเป็นอันดับแรก เพราะพรรคไทยรักไทย
เป็นพลังทางการเลือกตั้งที่ได้กลายเป็นสิ่งท้าทายอํานาจของกลุ่ม
อํานาจเก่าอย่างสําคัญและเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ และหลัง
จากนั้นกลุ่มอํานาจเก่าก็ไม่อาจหยุดยั้งการกวาดล้างขบวนการเรียก
ร้องประชาธิปไตยทีเ่ กิดขึน
้ ตามมา

พรรคไทยรักไทยเป็นพรรคการเมืองแรกในประวัติศาสตร์ไทย
ที่ได้รับความนิยมสูงสุดให้มาปกครองประเทศ อันเป็นการไปขัดขวาง
ธรรมเนียมปฏิบต ั อ
ิ น
ั ยาวนานทีร่ ฐ ั บาลผสมทีอ ่ อ
่ นแอจะได้เข้ามารับใช้
ตามอําเภอใจของกลุม ่ อํานาจเก่า ด้วยการเสริมอํานาจของฐานเสียง
ทีถ
่ ก
ู เบียดขับไปอยูช ่ ายขอบของชีวต ิ ทางการเมืองของประเทศมา
ยาวนาน พรรคไทยรักไทยได้รับการสนับสนุนจากประชาชนในระดับ
ที่ไม่เคยมีมาก่อน ทําให้พรรคฯ รูส ้ ก
ึ ว่าไม่จา
ํ เป็นต้องสยบยอมมอบ
อํานาจใดๆ ที่รัฐธรรมนูญได้มีให้รัฐบาลจากการเลือกตั้งแก่พวกกลุ่ม
อํานาจเก่า การบริหารจัดการของพรรคฯ จึงเป็นไปเพื่อยืนยันการ
ควบคุมกระบวนการกําหนดนโยบาย การให้ทหารอยู่ภายใต้การ
ควบคุมของพลเรือน และการทําลายเครือข่ายระบบอุปถัมภ์ทส ่ี มาชิก
อันทรงอํานาจของคณะองคมนตรีได้ใช้อท ิ ธิพลของตนเหนือ
ข้าราชการ ระบบตุลาการ และกองกําลังทหาร ทั้งสองด้านของ
นโยบายเศรษฐกิจแบบคูข ่ นาน (dual track) ที่รัฐบาลไทยรักไทยได้
ดําเนินการอย่างรวดเร็วเนื่องจากมีเสียงข้างมากในสภานั้น ยิ่งทําให้
บรรดานักธุรกิจชั้นนําในกรุงเทพฯ ถอนการสนับสนุนทักษิณ ในขณะ
ที่นโยบายเปิดตลาดเสรีของพรรคไทยรักไทยได้ทําให้กลุ่มธุรกิจ
ขนาดใหญ่ที่อิงกลุ่มอํานาจเก่าต้องมีการแข่งขันมากขึ้น ความนิยมที่
มีต่อโครงการต่างๆ ทีต ่ อบสนองต่อความจําเป็นของเกษตรกรในต่าง
จังหวัดและคนจนเมืองก็ทา ํ ให้รฐ
ั บาลยืนหยัดต่อแรงกดดันทีม ่ าจาก
กลุม
่ ตัวละครหลักๆ ของกลุม
่ อํานาจเก่าไว้ได้

เมือ
่ ไม่สามารถจะขจัดหรือบัน
่ ทอนรัฐบาลทีม
่ าจากการเลือกตัง้
ได้ด้วยวิธีใดๆ ทหารจึงใช้ยุทธวิธีในการยกขบวนรถถังและกอง
กําลังพิเศษเข้ามาทวงประเทศคืนจากตัวแทนของประชาชน

หลังจากการรัฐประหารเป็นต้นมา พวกกลุ่มอํานาจเก่าก็ได้
พยายามที่จะรวบรวมอํานาจทางการเมืองของตน ในขณะเดียวกันก็
ถอยไปซ่อนตัวอยูห ่ ลังฉากทีส
่ ร้างภาพว่าเป็นประชาธิปไตยแบบมี
รัฐธรรมนูญ กลุ่มอํานาจเก่าได้ใช้การรณรงค์อย่างไม่หยุดหย่อนเพื่อ
กําจัดพรรคไทยรักไทยออกจากพื้นที่ทางการเมืองไทย เพือ ่ ให้มน
่ั ใจ
ได้วา ่ จะกลับไปสูก
่ ารมีรฐั บาลอ่อนแอทีย ่ อมรับใช้ผลประโยชน์ของ
กลุม่ อํานาจเก่า เมื่อแผนนี้ไม่สําเร็จ กลุ่มอํานาจเก่าจึงต้องหันไปพึ่ง
ฝ่ายตุลาการที่ถูกทําให้เข้ามามีส่วนพัวพันทางการเมืองอย่างมาก
และได้รบ ั อํานาจตามรัฐธรรมนูญฉบับปีพ.ศ. 2550 ให้สามารถล้มผล
การเลือกตั้งที่ดําเนินอย่างเสรีได้ เพียงเพื่อทําให้การกําจัดรัฐบาล
ที่มาจากการเลือกตั้งนั้นดูเป็นสิ่งที่ถูกต้องตามกฎหมาย

ด้วยการครอบงําศาล และด้วยความสําเร็จบางส่วนในการ
ทําให้ฝ่ายนิติบัญญัติในรัฐบาลผสมของทักษิณอ่อนแอลง และด้วย
ความวุ่นวายที่ก่อโดยกลุ่มการเมืองนอกรัฐสภาอย่างพันธมิตร
ประชาชนเพือ ่ ประชาธิปไตย (พธม.) กลุ่มอํานาจเก่าก็สามารถทําให้
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีได้ ทว่าหลังจากนัน

รัฐบาลอภิสิทธิ์ก็ถูกกดดันให้ต้องใช้มาตรการกดขี่เพื่อรักษาฐาน
อํานาจอันไม่ชอบธรรมและปราบปรามการเคลือ ่ นไหวเพือ่
ประชาธิปไตยที่ก่อตัวขึ้นเพื่อตอบโต้การรัฐประหารโดยทหารเมื่อปี
2549 และการรัฐประหารโดยศาลในปี 2551 หนึ่งในวิธีการกดขี่ก็คือ
การทีร่ ฐ
ั บาลได้บล็อกเวปไซท์ประมาณ 50,000 เวป ปิดสถานีโทรทัศน์
ดาวเทียมของฝ่ายต่อต้านรัฐบาล และกักขังคนจํานวนหนึ่งภายใต้
กฎหมายหมิ่นพระบรมราชานุภาพอันเลื่องชื่อของไทย และภายใต้
พ.ร.บ.การกระทําผิดทางคอมพิวเตอร์ที่โหดร้ายพอๆ กัน เมือ ่ เผชิญ
กับการชุมนุมประท้วงโดยมวลชนทีท ่ า
้ ทายอํานาจของรัฐบาล รัฐบาล
ก็ได้เชือ
้ เชิญให้กองทัพเข้ามาจัดการ และได้ระงับเสรีภาพตาม
รัฐธรรมนูญโดยการนําพ.ร.บ.ความมัน ่ คงในราชอาณาจักร พร้อมทั้ง
พระราชกําหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินซึ่งเข้มงวด
ยิ่งกว่ามาใช้ ตัง้ แต่วน ั ที่ 7 เมษายน 2553 เป็นต้นมา รัฐบาลทหารชุด
ใหม่ของประเทศในนามของศูนย์อํานวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน
(ศอฉ.) ได้เข้ามาปกครองประเทศโดยไม่มีมาตรการตรวจสอบความ
รับผิดใดๆ ภายใต้การประกาศ “สถานการณ์ฉุกเฉิน” ที่ถูกประกาศ
อย่างไม่เหมาะสม ถูกนํามาบังคับใช้อย่างไม่สอดคล้องกับความ
รุนแรงของสถานการณ์ และใช้อย่างต่อเนือ ่ งอย่างไม่มกี า
ํ หนดเพือ
่ ที่
จะปิดปากการคัดค้านใดๆ ที่มีต่อรัฐบาลที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง
นี่เป็นอีกครั้งที่กลุ่มอํานาจเก่าไม่อาจปฏิเสธข้อเรียกร้องเพื่อการ
ปกครองตนเองของประชาชนชาวไทยได้โดยไม่ตอ ้ งหันไปหาระบอบ
เผด็จการทหาร

ในเดือนมีนาคม 2553 เกิดการประท้วงต่อต้านรัฐบาลครั้งใหญ่


ในกรุงเทพฯ โดยกลุ่มคนเสื้อแดง หรือที่เรียกว่า “แนวร่วม
ประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ” (นปช.) การชุมนุมของคน
เสื้อแดงดําเนินมาจนถึงวันที่ 66 ในวันที่ 19 พฤษภาคม เมื่อรถหุ้ม
เกราะบดขยี้แนวกั้นที่ทําขึ้นชั่วคราวรอบสี่แยกราชประสงค์ใน
กรุงเทพฯ และทะลวงค่ายประท้วงของคนเสือ ้ แดง หลายสัปดาห์กอ ่ น
หน้านั้น เมือ
่ วันที่ 10 เมษายน กองกําลังทหารพยายามสลายการ
ชุมนุมของกลุม ่ เสือ้ แดงทีส
่ ะพานผ่านฟ้าแต่ลม้ เหลว ยังผลให้มีผู้เสีย
ชีวติ 27 ราย และในการสลายการชุมนุมที่แยกราชประสงค์ระหว่าง
วันที่ 13 -19 พฤษภาคม มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 55 ราย เมือ ่ ต้อง
เผชิญกับความพ่ายแพ้ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แกนนํานปช. ได้ประกาศยุติ
การชุมนุมและยอมมอบตัวกับตํารวจ
พยานนับร้อยๆ คน และวิดโี อคลิปพันๆ คลิป ได้บันทึกการใช้
กระสุนจริงอย่างเป็นระบบโดยกองกําลังฝ่ายความมั่นคงของไทยต่อ
พลเรือนที่ไร้อาวุธ รวมถึงนักข่าวและเจ้าหน้าที่หน่วยแพทย์ฉุกเฉินใน
เดือนเมษายนและพฤษภาคม นับถึงเวลาทีบ ่ ริเวณทีช
่ ม
ุ นุมได้ถก

เคลียร์เรียบร้อย อาคารพาณิชย์สําคัญๆ สองสามแห่งยังคงมีควัน
กรุ่น มีผู้เสียชีวิตไปมากกว่า 80 คน และผูท้ ถ
่ี กู กล่าวหาว่าเป็นแกนนํา
การชุมนุมมากกว่า 50 คนอาจเผชิญกับโทษประหารชีวต ิ จากข้อหา
“ก่อการร้าย” ผู้ชุมนุมหลายร้อยคนยังคงถูกควบคุมตัวข้อหาฝ่า
ฝืนพ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรและพ.ร.ก.การ
บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ซึง่ รัฐบาลไทยนํามาใช้เป็น
เครื่องมือในการทําให้การชุมนุมทางการเมืองที่ชอบธรรมกลับกลาย
เป็นเรื่องผิดกฎหมาย นอกจากนี้ยังมีการออกหมายจับจํานวนสูงถึง
แปดร้อยหมาย และทางการยังได้สั่งแช่แข็งบัญชีธนาคารของผู้ที่ถูก
กล่าวหาว่าร่วมขบวนการและอาจเป็นผู้สนับสนุนทางการเงินแก่น
ปช.อีกอย่างน้อย 83 ราย ทีน ่ า
่ สลดใจก็คอ
ื แกนนําคนเสื้อแดงในท้อง
ถิ่นต่างๆ ได้ถูกลอบสังหารในชลบุรี นครราชสีมา และปทุมธานี

ท่ามกลางเหตุการณ์ที่น่าสลดอันเป็นจุดสูงสุดของโครงการสี่ปี
ในการโค่นเจตนารมย์ของประชาชนเพือ ่ ให้เป็นไปตามความต้องการ
ของกลุม
่ อํานาจเก่า สมุดปกขาวเล่มนี้มีวัตถุประสงค์ดังนี้

วัตถุประสงค์ข้อแรก คือ เพื่อเน้นถึงพันธกรณีของประไทยตาม


กฎหมายระหว่างประเทศ และพันธกรณีตามกติการะหว่างประเทศว่า
ด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (International Covenant on
Civil and Political Rights - ICCPR) ในการสืบสวนการละเมิดสิทธิ
มนุษยชนขั้นร้ายแรงทั้งหลายที่เกิดขึ้นระหว่างการชุมนุมของคนเสื้อ
แดง รวมถึงต้องดําเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ทหารและพลเรือนซึ่งอยู่ภาย
ใต้สายการบังคับบัญชาสําหรับอาชญากรรมอย่างการสังหาร
พลเรือนกว่า 80 รายโดยพลการและตามอําเภอใจในกรุงเทพฯ ใน
ช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคมด้วย ข้อเท็จจริงต่างๆ ปรากฏอย่าง
ชัดเจนว่ามีการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศด้วยการใช้กองกําลัง
ทหารอย่างเกินความจําเป็น การกักขังโดยพลการต่อเนื่องเป็นเวลา
นาน และการทําให้ประชาชนบางส่วนหายสาบสูญ และยังมีระบบการ
ประหัตประหารทางการเมืองที่ปฏิเสธเสรีภาพในการมีส่วนร่วม
ทางการเมืองและในการแสดงออกของพลเมืองของกลุ่มคนเสื้อแดง
มีหลักฐานว่ามีการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรงเพียงพอที่จะ
ดําเนินการสืบสวนข้อเท็จจริงอย่างเป็นอิสระและเป็นกลาง เพื่อที่ผู้ที่
กระทําความผิดกฎหมายอาญาระหว่างประเทศจะถูกนําตัวเข้าสู่
กระบวนการยุติธรรม จากประวัตศ ิ าสตร์ความเป็นปรปักษ์ตอ ่ การ
เคลือ
่ นไหวของกลุม
่ คนเสือ
้ แดง ทําให้เป็นการสมเหตุสมผลที่จะ
ยืนยันให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงต่างๆ อย่างเหมาะสม ด้วยหน่วย
งานที่เป็นกลางและเป็นอิสระ เพื่อให้ผู้ที่รับผิดชอบต้องการละเมิด
กฎหมายและสิทธิมนุษยชนดังกล่าวจะต้องรับผิดตามที่กําหนดโดย
กฎหมายระหว่างประเทศ

เป้าหมายประการที่สอง เกี่ยวข้องกับพันธกรณีของประเทศไทย
ในการสืบสวนการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่อาจเกิดขึ้นในด้านสิทธิ
ทางการเมือง หลังจากการรัฐประหารในปี 2549 และในระหว่างที่
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ดํารงแหน่งนายกรัฐมนตรี รัฐบาลที่มีทหาร
หนุนหลังพยายามที่จะรวบรวมอํานาจของตนโดยการกดขี่ปราบ
ปรามการคัดค้านทางการเมืองของกลุ่มคนเสื้อแดง มาตรการ
ประการหนึ่งก็คือ การปราบปรามขบวนการเคลื่อนไหวนั้นโดยมีการ
ประทุษร้ายประชาชนพลเรือนทีไ่ ร้อาวุธอย่างเป็นระบบและอย่างเป็น
วงกว้าง ซึง่ อาจเข้าข่ายอาชญากรรมต่อมนุษยชาติตามธรรมนูญกรุง
โรมว่าด้วยศาลอาญาระหว่างประเทศซึง่ กําหนดให้จด ั ตัง้ ศาลอาญา
ระหว่างประเทศในกรุงเฮกอีกด้วย แม้วา ่ ประเทศไทยจะไม่ได้ให้
สัตยาบันต่อธรรมนูญกรุงโรมฯ แต่การกระทําผิดต่อกลุ่มคนเสื้อแดง
อย่างร้ายแรงนี้ก็อาจจะเป็นเหตุเพียงพอให้ได้รับการพิจารณาให้เข้า
สู่การพิจารณาของศาลอาญาระหว่างประเทศได้หากเป็นการดําเนิน
การโดยรู้ถึงการกระทํานั้นภายใต้นโยบายที่ยอมให้เกิดหรือ
สนับสนุนให้เกิดความสูญเสียแก่ชีวิตโดยไม่จําเป็น หรือเป็นนโยบาย
ที่มีเป้าหมายเพื่อโจมตีกลุ่มทางการเมืองกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งโดยเฉพาะ
เจาะจง มีหลักฐานมากมายทีช ่ ว
้ี า
่ แผนต่อต้านคนเสือ้ แดงทีด
่ า
ํ เนินมา
เป็นระยะเวลา 4 ปีและทีก ่ า
ํ ลังดําเนินการอยูใ่ นปัจจุบน ั ภายใต้
นโยบายที่รับรองโดยรัฐบาลอภิสิทธิ์ และการสังหารหมู่คนเสื้อแดงที่
เพิ่งผ่านมาก็เป็นเพียงการปฏิบัติตามนโยบายดังกล่าวครั้งล่าสุด
เท่านั้น

สมุดปกขาวเล่มนี้ศึกษาการเกิดขึ้นของความรุนแรงใน
ประเทศไทย รวมถึงการปฏิบัติการทางทหารในเดือนเมษายนและ
เดือนพฤษภาคม 2553 รวมทัง้ การปราบปรามในเดือนเมษายนปี
2552 ทีม
่ ป
ี ระชาชนเสียชีวต
ิ อย่างน้อย 2 คน จากแง่มม
ุ ของหลัก
ประกันตามกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิ
ทางการเมือง หลักฐานต่างๆ นั้นเพียงพอต่อการสืบสวนโดยหน่วย
งานที่เป็นอิสระและเป็นกลางถึงนัยยะทางอาญาของการประหัต
ประหารทางการเมืองเช่นนี้ตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ

วัตถุประสงค์ประการที่สามของสมุดปกขาวเล่มนี้คือเพื่อยืนยัน
ถึงสิทธิตามกฎหมายระหว่างประเทศของสมาชิกนปช.หลายร้อยคน
ทีก
่ า
ํ ลังเผชิญข้อกล่าวหาทางอาญาจากการเข้าร่วมการชุมนุมของ
กลุ่มคนเสื้อแดง กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิ
ทางการเมืองรับรองสิทธิในการต่อสู้ดคีอย่างยุติธรรม รวมถึงสิทธิที่
จะเลือกทนายของตนเอง เพื่อเตรียมการต่อสู้คดีโดยมีเวลาและสิ่ง
อํานวยความสะดวกอย่างเพียงพอ และสิทธิในการสามารถเข้าถึง
หลักฐานได้อย่างเท่าเทียม ผู้ถูกกล่าวหามีสิทธิในการตรวจสอบหลัก
ฐานอย่างอิสระผ่านทางผู้เชี่ยวชาญหรือทนายของตนเอง ภายใต้
เงื่อนไขเดียวกันกับรัฐบาล และมีสิทธิในการเรียกพยานหลักฐานฝ่าย
ตนเพื่อแก้ต่างให้ตนเองได้

เพือ
่ เป็นการตอบสนองต่อข้อประท้วงของนานาชาติเกีย ่ วกับ
ความรุนแรงในเดือนเมษายนและพฤษภาคม นายอภิสิทธิ์ได้ประกาศ
โร้ดแมปเพื่อการปรองดองและได้ตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง
ขึ้นมาอย่างเป็นทางการ สิ่งที่หายไปจากโร้ดแมปของอภิสิทธิ์ก็คือ
ความเป็นอิสระและความเป็นกลางอย่างแท้จริงในกระบวนการตรวจ
สอบตัวเอง นายคณิต ณ นคร อดีตอัยการสูงสุด ที่ได้รบแต่งตั้งให้นํา
คณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง ได้บอกกับสือ ่ มวลชนในเกือบจะใน
ทันทีทันใดว่าเขาสนใจในการ “ส่งเสริมการให้อภัย” มากกว่าการ
เรียนรู้ข้อเท็จจริง การละเลยเช่นนีอ
้ าจจะสอดคล้องกับแนวความคิด
เรื่องการปรองดองแบบเดิมๆ ของไทย ที่ให้นิรโทษกรรมแก่ผู้ที่
สังหารผู้ชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตยในปี 2516, 2519 และ 2535
หลายร้อยคน แต่ไม่ทําอะไรกับการสืบหาข้อเท็จจริงหรือส่งเสริมการ
สมานฉันท์ที่แท้จริงเลย

ปัจจัยหลายอย่างได้ชใ้ี ห้เห็นว่าจําเป็นทีจ ่ ะต้องมีการเข้ามา


เกี่ยวข้องจากประชาคมโลก เพื่อรักษาการสืบสวนการละเมิดสิทธิ
มนุษยชนที่เกิดขึ้นทุกกรณีอย่างเป็นอิสระและเป็นกลาง ประการแรก
รัฐบาลไม่มีทีท่าจะยอมอ่อนข้อในการยึดอํานาจทางการเมือง โดย
การให้ผู้นําทหารและพลเรือนถูกดําเนินคดีอาชญากรรมระหว่าง
ประเทศ ประการที่สอง การกักขังที่ยาวนานและการไม่สนใจที่จะ
ดําเนินคดีอย่างเป็นธรรมต่อคนเสื้อแดงหลายร้อยคนที่ถูกรัฐบาล
ตัดสินไปล่วงหน้าแล้วว่าเป็น “ผู้ก่อการร้าย” นั้นทําให้เกิดการตั้ง
คําถามถึงความเป็นธรรมของการสอบข้อเท็จจริงในกรณีนี้ ประการ
ที่สาม คณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงของอภิสิทธิ์ทํางานรับใช้ความ
ต้องการของนายกรัฐมนตรี และไม่มห ี น้าทีท
่ ช
่ี ดั เจนในการสืบสวน
หรือดําเนินคดีกบั รัฐบาล ส่วนความสามารถในการค้นหาข้อเท็จจริง
ของคณะกรรมการก็ถูกขัดขวางโดยกฎระเบียบต่างๆ ที่ออกภายใต้
การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ที่ถูกเหมือนจะยังคงมีผลในช่วงเวลา
ส่วนใหญ่ของการดําเนินการของคณะกรรมการ ประการสุดท้าย
การวิเคราะห์หลักฐานของรัฐบาลไทยนั้นมีแนวโน้มจะโอนเอียงและ
เชื่อถือไม่ได้เช่นที่มักจะเป็นในทุกครั้งที่รัฐบาลต้องทําการตรวจสอบ
การกระทําผิดของตัวเอง การที่รัฐบาลยึดมั่นกับผู้สืบสวนที่เลือกมา
จากฐานของการถือข้างมากกว่าจากฐานของความเชี่ยวชาญทําให้
กระบวนการไต่สวนทั้งหมดมีมลทิน การสืบสวนข้อเท็จจริงทีม ่ อ
ี คติ
ไม่เป็นกลาง และตอบสนองผลประโยชน์ของรัฐบาลทหารนั้นก็เท่ากับ
ไม่มีการสืบสวนเลย

ทุกคนย่อมยอมรับความจริงทีว ่ า
่ ประเทศไทยควรจะก้าวให้พน

ความรุนแรง และดําเนินการให้เกิดความปรองดอง ทว่าความ
ปรองดองนั้นจําเป็นต้องเริ่มด้วยการฟื้นคืนสิทธิขั้นพื้นฐานของ
ประชาชนในการปกครองตนเอง ยิ่งไปกว่านั้นความปรองดองนี้ยัง
ต้องการความรับผิดอย่างเต็มที่ต่อการละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นร้าย
แรงที่กระทําไปเพื่อยับยั้งสิทธิในการปกครองตนเองนั้น กฎหมาย
ระหว่างประเทศกําหนดไว้ว่าไม่อาจยอมรับสิ่งที่น้อยไปกว่านี้ได้
2. เส้นทางไปสู่การปกครองระบอบประชาธิปไตย
ตามรัฐธรรมนูญของประเทศไทย

ประเทศไทยปกครองด้วยระบอบ “ประชาธิปไตย” มาตั้งแต่การ


เปลีย
่ นแปลงระบอบการปกครองจากสมบูรณาญาสิทธิราชย์มาเป็น
ระบอบภายใต้รัฐธรรมนูญเมื่อปีพ.ศ. 2475 ในรัชสมัยของพระบาท
สมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยูห ่ ว
ั ในความจริง นอกจากช่วงเวลาทีเ่ ป็น
เผด็จการทหารอย่างรุนแรงในระหว่างปี พ.ศ. 2501- 2512 แล้ว
ประเทศไทยมีการเลือกตั้งฝ่ายนิติบัญญัติเป็นประจํามาตั้งแต่
เปลีย่ นแปลงการปกครอง ทว่า อํานาจมักจะถูกเปลีย ่ นมือด้วยการ
รัฐประหารโดยทหารมากกว่าด้วยกระบวนการตามรัฐธรรมนูญที่ว่า
ด้วยการเปลีย่ นแปลงรัฐบาล และจะมีการนํารัฐธรรมนูญฉบับที่
สนับสนุนโดยทหารและรัฐบาลที่แต่งตั้งโดยทหารเข้ามาบังคับใช้
แทนที่รัฐธรรมนูญและรัฐบาลของช่วงเวลานั้น รัฐธรรมนูญในช่วง
หลังมักจะถูกร่างขึ้นเพื่อรักษาการควบคุมของกลุ่มที่ก่อการ
รัฐประหาร ไม่ว่าผู้ก่อการจะตั้งใจใช้อํานาจโดยตรงหรือโดยอ้อมผ่าน
ทางการให้ตว ั แทนหรือการเข้าควบคุมจัดการรัฐบาลพลเรือนที่
อ่อนแอ การจัดการเช่นนีจ ้ ะยังคงมีผลบังคับใช้ไปจนกว่าจะมีกลุม

ทหารกลุ่มอื่นทํารัฐประหารครั้งใหม่ และนํารัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่
ออกแบบมาเพือ ่ ทําให้สมดุลย์อา
ํ นาจใหม่ได้รบ
ั การรับรองใน
กฎหมายขึ้นมาใช้ วิธป
ี ฏิบต
ั เิ ช่นนีด
้ า
ํ เนินเรือ
่ ยมา ผ่านทางการ
รัฐประหารโดยทหารที่สําเร็จ 11 ครั้ง รัฐธรรมนูญ 14 ฉบับ และ
แผนการและปฏิบัติการล้มล้างรัฐบาลที่ไม่สําเร็จอีกหลายครั้ง ตัง้ แต่
เดือนมิถุนายน 2475 มาจนถึงเดือนพฤษภาคม 2535

ตลอดช่วงเวลาเหล่านี้ ประเทศไทยมีชว ่ ง “ประชาธิปไตย” สั้นๆ


เพียงสามครั้งที่หยั่งรากอยู่ในเสรีภาพในการแสดงความเห็นและ
การแข่งขันในการเลือกตั้งอย่างแท้จริง โดยครั้งแรกคือหลังจากการ
ใช้รัฐธรรมนูญฉบับพ.ศ. 2507 และครั้งที่สองคือหลังจากการประท้วง
ใหญ่ในปี 2516 ครั้งที่สามคือหลังการเลือกตั้งที่ได้พลเอกชาติชาย
ชุณหะวัณ เป็นนายกรัฐมนตรี เมือ ่ ปี 2531 ในทั้งสามครั้งนี้รัฐบาลที่มา
จากการเลือกตั้งถูกล้มล้างด้วยกระบอกปืนของกองกําลังทหาร และ
ถูกแทนทีด่ ว
้ ยระบอบทีเ่ หมาะสมกับการคุม ้ ครองอํานาจของกลุม ่
อํานาจเก่าและผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจขนาดใหญ่ของพวกเขา
มากกว่า

นอกจากช่วงเวลาสั้นๆ เหล่านัน ้ แล้ว ประเทศไทยตัง้ แต่ปี 2547


เป็นต้นมาถูกปกครองโดยระบอบที่มีส่วนผสมของประชาธิปไตยและ
เผด็จการแตกต่างกันไป สิ่งที่ทุกระบอบมีเหมือนกันก็คือ เครือข่าย
ของเจ้าหน้าที่รัฐในราชการพลเรือนและทหาร หรือที่เรียกว่ากลุ่ม
อํามาตย์ ทีท ่ าํ หน้าทีเ่ ป็นศูนย์กลางของอํานาจทางการเมืองทีแ ่ ท้จริง
ไม่ใช่ผู้ที่ได้รับการเลือกตั้งจากประชาชนขึ้นมา ผูแ ้ ทนของประชาชน
มีอิสรภาพระดับหนึ่ง และมีมากขึ้นในช่วงสามทศวรรษที่ผ่านมา แต่
ภายใต้ระบบอํามาตยาธิปไตย (คําที่ใช้เรียกระบบรัฐบาลที่ถูก
ควบคุมโดยกลุม ่ อํามาตย์ มักจะใช้ในทางตรงข้ามกับ
“ประชาธิปไตย”) รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งไม่เคยได้รับสิทธิใน
การกําหนดให้ทหารอยู่ภายใต้การควบคุมของพลเรือน และเข้า
ควบคุมกระบวนการกําหนดนโยบายทางทหารได้ ทีจ ่ ริงแล้ว แนวคิด
เรื่อง “ประชาธิปไตยแบบไทยๆ” ได้ถูกจัดขึ้นโดยรัฐไทยตั้งแต่ช่วง
ต้นทศวรรษที่ 2500 เป็นต้นมา โดยหมายถึงรูปแบบรัฐบาลที่มีการ
เลือกตั้งเกิดขึ้น แต่มีการกําหนดข้อจํากัดเข้มงวดเรื่องเสรีภาพของ
พลเมือง และเรือ ่ งขอบเขตอํานาจทีเ่ จ้าหน้าทีท่ ม
่ี าจากการเลือกตัง้
สามารถใช้ได้ ระบบรัฐบาลแบบนี้ที่อยู่บนฐานของการยินยอมอย่าง
ไม่ใยดีของประชากรไทยส่วนใหญ่ ได้รก ั ษาอํานาจของทหาร
ข้าราชการ นายทุนขนาดใหญ่ และกลุม ่ องคมนตรี (หรือเรียกรวมๆว่า
“กลุม
่ อํานาจเก่า”) ในการกําหนดนโยบายระดับชาติส่วนใหญ่เอาไว้

เหตุการณ์ต่างๆ หลังจากการยึดอํานาจจากนายกรัฐมนตรีพล
เอกชาติชาย ชุณหะวัณ โดยกองทัพที่นําโดยพลเอกสุจินดา ครา
ประยูร เมือ ่ ปีพ.ศ. 2533 ถือเป็นจุดเปลีย
่ นสําคัญในเรือ
่ งอํานาจนําของ
กลุ่มอํานาจเก่าที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งเหนือระบบการเมืองไทย
การประท้วงโดยประชาชนจํานวนมากที่ต่อต้านการขึ้นมาเป็นนายก
รัฐมนตรีของพลเอกสุจินดา หลังจากที่มีการเลือกตั้งที่มีเปลือกนอก
ว่าเป็น “ประชาธิปไตย” ในเดือนมีนาคม 2535 ได้นําไปสู่การปะทะ
รุนแรงเป็นประวัติการณ์ระหว่างพลเรือนกับทหารในช่วงวันที่ 17-20
พฤษภาคม ผู้ประท้วงหลายสิบคนที่เรียกร้องให้พลเอกสุจินดาลา
ออกและนําประเทศกลับสู่ระบอบประชาธิปไตยถูกสังหารโดยโหด
ร้ายโดยทหารในช่วงระหว่างเหตุการณ์ "พฤษภาทมิฬ” ปี 2535 ใน
ท้ายที่สุด พลเอกสุจินดา ได้ลาออกหลังจากทีพ ่ ระบาทสมเด็จ
พระเจ้าอยู่หัวได้ปรากฏพระองค์ต่อสาธารณะ และนําไปสู่การเลือก
ตั้งครั้งใหม่ในเดือนกันยายน 2535

โศกนาฏกรรมพฤษภาทมิฬทําให้ประเทศเดินเข้าสู่หนทางการ
เป็น “ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข” อย่าง
แท้จริง และมีกระบวนการปฏิรป ู เป็นเวลานานห้าปี อันสิ้นสุดลงด้วย
การประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2540 ด้วย
การมีส่วนร่วมอย่างสูงในกระบวนการที่นําไปสู่การออกรัฐธรรมนูญ
รวมถึงการที่มีเนื้อหาเป็นประชาธิปไตยอย่างไม่กํากวม รัฐธรรมนูญ
ฉบับพ.ศ. 2540 นี้จึงเป็นที่รู้จักกันในนาม “รัฐธรรมนูญฉบับ
ประชาชน”

รัฐธรรมนูญฉบับพ.ศ. 2540 นํามาซึ่งยุคใหม่แห่งการเมืองที่ไม่มี


การกีดกันในไทย เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ไทยที่ผู้แทนของ
ประชาชนเป็นผู้ร่างและรับรองรัฐธรรมนูญ ไม่ใช่เป็นการกําหนดมา
จากกลุม ่ อํานาจเก่าอย่างแต่เดิม นําไปสูย่ ค
ุ แห่งประชาธิปไตยทีแ ่ ท้
จริง ความโปร่งใส และการรับผิดตรวจสอบได้ รัฐธรรมนูญฉบับนี้
รับรองสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพของพลเมือง ซึง่ ฉบับก่อนหน้านีไ้ ม่
ได้รองรับ และยังกําหนดกลไกอีกบางประการ รวมถึงเรื่องการเลือก
ตั้งสภาทั้งสอง ระบบการเลือกตัง้ แบบปาร์ตล ้ี ส
ิ ต์เพือ
่ มาใช้พร้อมกับ
ระบบแบ่งเขตแบบเดิม และตั้งคณะกรรมการการเลือกตั้งที่ออกแบบ
มาเพือ่ รับประกันว่าจะมีรฐั บาลตัวแทนอย่างเต็มที่ และเพื่อสร้าง
สนามเลือกตั้งที่เท่าเทียมกันสําหรับผู้สมัครรับเลือกตั้ง ในขณะที่ยัง
รักษาความเป็นธรรมและความซือ ่ สัตย์เอาไว้ให้ได้ ทีส ่ า
ํ คัญก็คอ
ื รัฐ
ธรรมนูญพ.ศ. 2540 นี้ยังห้ามการใช้สิทธิหรือเสรีภาพในการล้มล้าง
การปกครองแบบประชาธิปไตย และยังห้ามความพยายามใดๆ ใน
การ “ให้ได้มาซึ่งอํานาจในการปกครองประเทศโดยวิธีการซึ่งมิได้
เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญฉบับนี้” และยังห้าม
ทําการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญยกเว้นแต่เป็นไปตามหลักการและ
วิธีการที่บัญญัติไว้

รัฐธรรมนูญพ.ศ. 2540 ยังได้สร้างเสถียรภาพทางการเมือง


อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน รัฐธรรมนูญฉบับนี้ได้รับการรับรองใน
ช่วงที่มีวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจและทางการเงินอย่างหนักใน
ประเทศ การส่งออกลดลงและความกังวลเรื่องสถานการณ์ของภาค
การเงินทําให้เกิดการไหลออกของทุนขนาดใหญ่อย่างทันที จนเกิด
วิกฤตอัตราแลกเปลีย ่ นในช่วงปลายปีพ.ศ. 2540 ในสถานการณ์ที่
ประชาชนต่างไม่พอใจรัฐบาลที่ไม่สามารกู้วิกฤติเศรษฐกิจของปะเทศ
ได้ จึงเป็นที่คาดกันว่าอาจจะเกิดการรัฐประหารครั้งที่ 12 อย่าง
แน่นอน แต่ถึงกระนั้นวิกฤติเศรษฐกิจในปี 2540 ก็ไม่ได้นําไปสู่วิกฤต
ทางการเมือง ข้อผูกพันมุ่งมั่นของประเทศที่จะเป็นประชาธิปไตยภาย
ใต้รัฐธรรมนูญอย่างแท้จริงดูเหมือนจะยังคงถูกรักษาไว้ได้ในที่สุด

รัฐธรรมนูญ 2540 ยังกําหนดยุทธศาสตร์ทางการเมืองแบบใหม่


ก่อนหน้านี้พรรคการเมืองที่อ่อนแอและแตกแยกต้องขึ้นอยู่กับผู้มี
อิทธิพลในท้องถิ่นและเครือข่ายเส้นสายของระบบอุปถัมภ์ ในการ
ระดมพลังสนับสนุนในพื้นที่การเลือกตั้งส่วนใหญ่ของประเทศ
เนื่องจากพรรคเหล่านั้นมีเนื้อหาเชิงโครงการน้อยมาก และมีภาพ
ลักษณ์ของพรรคไม่ชด ั เจน ด้วยระบบตรวจสอบและถ่วงดุลย์ การ
ป้องกันการคอร์รัปชั่น และด้วยบทบัญญัตใิ หม่ๆ ทีเ่ สริมอํานาจของ
ฝ่ายบริหารโดยการทําให้นายกรัฐมนตรีที่มาจากการเลือกตั้งมีความ
เปราะบางต่อการแปรพรรคน้อยลง รัฐธรรมนูญพ.ศ. 2540 ได้เปิด
ช่องทางให้เกิดการเติบโตของผู้นําทางการเมืองใหม่ๆ ทีพ ่ ยายามจะ
สร้างพรรคการเมืองระดับชาติที่เข้มแข็งที่อยู่บนฐานของวาระ
นโยบายเชิงโครงการที่ชัดเจน ทีอ ่ าจจะเป็นทีส
่ นใจของผูม ้ สี ท
ิ ธิเลือก
ตัง้ ทัว
่ ประเทศ นีเ่ ป็นบริบททีท่ า
ํ ให้ทก
ั ษิณ ชินวัตร ตั้งพรรค
ไทยรักไทยและนําพรรคไปสู่ประสบความสําเร็จในการเลือกตั้งในปี
2544 และ 2548 อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทําให้จน ิ ตนารของคน
นับล้านๆเป็นจริง และได้มอบปากเสียงให้แก่พลังทางการเมืองที่
ปัจจุบน ั นีค
้ ด
ั ค้านการบริหารปกครองของอภิสท ิ ธิ์ เวชชาชีวะ อย่าง
มั่นคง
3. การขึ้นสู่อํานาจของพรรคไทยรักไทย

ทักษิณ ชินวัตร เกิดเมือ


่ ปีพ.ศ. 2492 เป็นคนจังหวัดเชียงใหม่ จบการ
ศึกษาจากโรงเรียนนายร้อยตํารวจในปีพ.ศ. 2516 และรับราชการเป็น
เวลา 14 ปี จนมียศพันตํารวจโท ซึ่งในระหว่างนั้นเขาได้ลาไปศึกษา
ต่อขัน
้ ปริญญาโทและปริญญาเอกในสาขาอาชญาวิทยาที่
มหาวิทยาลัย Eastern Kentucky และมหาวิทยาลัย Sam Houston ใน
เท็กซัส

ในปีพ.ศ. 2526 ขณะรับราชการตํารวจอยู่นั้น ทักษิณก่อตั้ง


บริษทั ชินวัตร คอมพิวเตอร์แอนด์คอมมิวนิเคชัน ่ ส์กรุป ๊ กับภรรยาและ
พี่ชายภรรยา หลังจากออกจากราชการตํารวจในปี 2530 และทุม ่ เท
ความสนใจทั้งหมดให้กับธุรกิจ บริษท ั ของเขาก็เติบโตเป็นบริษท ั ชิน
คอร์ป ในช่วงทศวรรษ 1990s (2533-2542) บริษท ั นีเ้ ป็นผูบ
้ ก
ุ เบิก
ธุรกิจโทรคมนาคมโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่กําลังเริ่มต้นในประเทศไทย ใน
ปี 2537 อันเป็นปีที่เขาเข้าสู่วงการการเมือง นิตยสาร Forbes ประเมิน
ว่าเขามีทรัพย์สินประมาณ 1.6 พันล้านเหรียญ

ทักษิณเข้าสู่การเมืองโดยเข้าร่วมในรัฐบาลชวน หลีกภัย ในปี


2537 เมื่อเขาได้รับแต่งตั้งให้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่าง
ประเทศ ในฐานะสมาชิกพรรคพลังธรรมของพลตรีจําลองศรีเมือง
จากนั้นเขาก็เป็นรองนายกรัฐมนตรีในช่วงเวลาสั้นๆ ในรัฐบาล
บรรหาร ศิลปอาชา (2538-2539) และรัฐบาลชวลิต ยงใจยุทธ (2540)
ในวันที่ 14 กรกฏคม 2541 เขาก่อตั้งพรรคไทยรักไทยอย่างเป็น
ทางการร่วมกับสมาชิกพรรครุ่นก่อตั้ง 22 คน ภายใต้การนําของ
ทักษิณ ไม่นานพรรคก็ประสบความสําเร็จอย่างที่ไม่เคยมี
พรรคการเมืองใดทําได้มาก่อนเลยในประเทศไทย

ในความพยายามที่จะแก้ปัญหาวิกฤตการเงินในปี 2540 รัฐบาล


ไทยได้ขอความช่วยเหลือจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF)
เงินกู้จํานวน 1.7 หมื่นล้านเหรียญนั้นต้องแลกมาด้วยกับการยอมรับ
เงื่อนไขของ IMF ที่จะต้องมีการปฏิรูประบบการเงิน การแปรรูป
รัฐวิสาหกิจ และมาตรการอื่นๆ เพื่อดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติ
(foreign direct investment) ในช่วงแรก การปฏิรูปเหล่านี้ก่อให้เกิด
ภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรง ค่าจ้างตกต่า ํ ลง อัตราว่าง
งานเพิ่มขึ้น ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อสภาพความเป็นอยู่ของ
เกษตรกรและแรงงาน บรรดานักธุรกิจชั้นนําในกรุงเทพฯ ที่ได้รับ
ผลกระทบอย่างรุนแรงได้เข้าร่วมขบวนการชาตินิยมที่กําลังขยายตัว
ต่อต้าน IMF และพรรคประชาธิปต ั ย์ทเ่ี ป็นรัฐบาลขณะนัน
้ นายกฯ
ชวน หลีกภัยถูกโจมตีจากหลายด้าน ทั้งภาคธุรกิจขนาดใหญ่ นัก
วิชาการ องค์กรประชาสังคมก่นประนามเขาว่าทําลายเศรษฐกิจ รับ
นโยบายจากต่างประเทศ ปล่อยให้ตา ่ งชาติเข้ามาฮุบทรัพย์สน ิ ของ
ไทยในราคาถูก

ในระหว่างการหาเสียงเลือกตั้งในเดือนมกราคม 2544 พรรค


ไทยรักไทยของทักษิณปราศรัยถึงประเด็นเหล่านี้อย่างดุเดือด พรรค
มีนโยบายให้ความสําคัญกับเศรษฐกิจ สาธารณสุข การศึกษา และ
พลังงาน ในขณะเดียวกันนโยบายสวัสดิการสังคมของไทยรักไทย
และการพัฒนาชนบทก็ได้รับความนิยมอย่างมากจากชนชั้นแรงงาน
ในเมืองและเกษตรกรในต่างจังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติ
เศรษฐกิจมากที่สุด

ด้วยมาตรฐานของประเทศที่คุ้นชินกับการมีรัฐบาลผสมที่เคย
ประกอบด้วยพรรคการเมืองมากถึง 16 พรรค พรรคไทยรักไทยชนะ
การเลือกตัง้ ทัว
่ ไปในปี 2544 ซึ่งเป็นการเลือกตั้งครั้งแรกภายใต้
รัฐธรรมนูญปี 2540 อย่างถล่มทลาย ได้ที่นั่งในสภาถึง 248 ที่นั่งจาก
ทั้งหมด 500 และเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ไทย ที่พรรคการเมือง
หนึ่งเกือบจะได้เสียงข้างมากในสภา และผลจากการเลือกตั้ง ทักษิณ
ชินวัตรก็ได้รับเลือกให้เป็นนายกฯ คนที่ 23 ของไทย

ชัยชนะของพรรคไทยรักไทยที่หีบเลือกตั้งและการเพิ่มจํา
นวนสส.จากการรวมกับพรรคอื่นในภายหลังนําไปสู่สภาพการณ์ชนิด
ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน กลุม
่ อํานาจเก่าของไทย ซึง่ ก็คอ
ื องคมนตรี
ผู้นํากองทัพ ข้าราชการระดับสูง ศาลระดับสูง ผู้นําทางธุรกิจ ที่ได้
สะสมความมั่งคั่งในระบบการเมืองก่อนที่จะมีทักษิณ ก็สนับสนุนการ
การขึ้นมาของทักษิณอย่างกระตือลือล้นในช่วงแรก แต่เมือ ่ ความชอบ
ธรรมจากการกุมเสียงส่วนใหญ่ในสภาทําให้นายกฯ อยู่ในฐานะที่
สามารถผลักดันนโยบายของพรรคไทยรักไทยได้โดยไม่จําเป็นต้อง
ต่อรองหรือขอความเห็นชอบจากกลุม ่ อํานาจเก่า ความเข้มแข็งทีไ่ ด้
มาด้วยความนิยมชมชอบของประชาชนในการเลือกตัง้ คุกคาม
อํานาจในการกําหนดนโยบายประเทศที่พวกอมาตย์ยึดกุมมาตลอด
ตัง้ แต่ประเทศไทยดูคล้ายจะเป็นประชาธิปไตยมา

ก่อนหน้านีก
้ ลุม
่ อํานาจเก่ากุมอํานาจเหนือระบบการเมืองของ
ประเทศและนักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้ง โดยอาศัยยุทธวิธีแบ่ง
แยกและปกครอง ภาวะเบี้ยหัวแตกของระบบพรรคการเมืองของไทย
ได้ป้องกันการรวมตัวเป็นกลุ่มก้อนที่มีฐานจากการเลือกตั้งที่จะ
สามารถท้าทายอํานาจนอกรัฐธรรมนูญของกลุ่มอํานาจเก่า การ
เลือกตัง้ ปี 2544 ทําให้ทักษิณมีฐานมวลชนสนับสนุนอย่างไม่เคย
ปรากฎมาก่อน ซึ่งเขาใช้ฐานสนับสนุนนั้นในการทําสิ่งที่เขาได้สัญญา
ไว้ ในช่วง 1 ปีแรก เขาดําเนินนโยบายตามที่ได้เสนอไว้ในการหา
เสียง ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์การเมืองไทย
ทักษิณยังกลายเป็นนายกรัฐมนตรีคนแรกในประวัติศาสตร์ไทยที่
ทํางานครบวาระ พรรคไทยรักไทยหาเสียงในการเลือกตั้งปี 2548
ด้วยนโยบายต่อเนื่องภายใต้สโลแกน สีป ่ ซ
ี อ
่ ม สี่ปีสร้าง และผลการ
เลือกตั้งในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2548 ก็เป็นชัยชนะที่ถล่มทลายยิ่งกว่า
เดิม หลังจากการเลือกตั้งปี 2548 พรรคไทยรักไทยกุมเสียงข้างมาก
ถึง 75 เปอร์เซ็นต์ของที่นั่งในสภา พรรคฝ่ายค้านที่ใหญ่ที่สุดคือ
ประชาธิปัตย์สูญเสียที่นั่งกว่าหนึ่งในสี่ เหลือไม่ถึง 20 เปอร์เซ็นต์ของ
ที่นั่งในสภา และถือเป็นครั้งแรกอีกเช่นเดียวกันที่ทักษิณได้รับเลือก
ตั้งให้เป็นนายกฯ อีกครั้ง

ในขณะทีห ่ ลายคนในกลุม ่ อํานาจเก่าของไทยเคยมองทักษิณว่า


เป็นคนที่อาจสามารถช่วยกอบกู้ให้พ้นจากวิกฤตเศรษฐกิจเอเชีย ที่
ทําลายความมัง่ คัง่ ของพวกเขาไปไม่นอ ้ ย พอเริ่มต้นวาระที่สอง
ทักษิณก็ได้กลายเป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อผลประโยชน์ทาง
เศรษฐกิจและอํานาจทางการเมืองของกลุม ่ อํานาจเก่า มาถึงปี 2548
นี้ ทักษิณไม่เพียงแต่ยึดกุมสนามการเลือกตั้งในประเทศไทยได้
เท่านั้น การที่เขาได้รับความนิยมจากประชาชนอย่างไม่เคยปรากฏ
มาก่อนยังทําให้เขามีโอกาสขับเคลื่อนในทิศทางที่ดึงอํานาจตามรัฐ
ธรรมออกมาจากกลุม ่ อํานาจเก่า ชนิดที่ไม่มีนายกฯ พลเรือนคนไหน
เคยทําได้มาก่อน ทั้งที่โดยข้อเท็จจริงแล้วรัฐธรรมนูญของ
ประเทศไทยส่วนใหญ่ก็มอบอํานาจดังกล่าวไว้แก่รัฐบาลที่มาจากการ
เลือกตัง้ อยูแ
่ ล้ว

รัฐบาลทักษิณมีลกั ษณะเป็นภัยคุกคามหลายประการต่อกลุม ่
หลักๆ 4 กลุม
่ ทีป
่ ระกอบเป็นกลุม
่ อํานาจเก่าของไทยอันได้แก่ 1) กลุม

ธุรกิจการเงินในกรุงเทพฯ 2) ผู้นําทางทหาร 3) ข้าราชการพลเรือน
ชั้นสูง 4) กลุ่มองคมนตรี

พวกนักธุรกิจชั้นนําในกรุงเทพฯ ที่ทักษิณเคยทอดสะพานให้
ครั้งเขาลงชิงตําแหน่งนายกฯ ครั้งแรก กลับหันมาต่อต้านรัฐบาล
พรรคไทยรักไทยเพราะดําเนินนโยบายทางเศรษฐกิจที่มุ่งเน้นไปที่
เกษตรกรและคนจนในเมือง ตลอดจนการเปิดเสรีทางการค้า โดยผู้
ต่อต้านนัน
้ พูดอย่างชัดเจนว่า “เป้าประสงค์นั้นคือการต่อต้าน
นโยบายแบบทักษิโนมิคส์”

น่าขําที่ทักษิณมักถูกโจมตีเรื่อง “ประชานิยม” (เมื่อเร็วๆนี้ พวก


เสื้อแดงก็ถูกเรียกว่าเป็นพวก “มาร์กซิสต์”) การสนับสนุนการค้าเสรี
ของเขานั่นเองที่สร้างความระคายเคืองแก่คนรวยมากที่สุด นัก
ประวัติศาสตร์เศรษฐกิจ Suehiro Akira อธิบายเศรษฐกิจประเทศไทย
ยุคหลังสงครามว่าถูกครอบงําโดยครอบครัวที่เป็น “client capitalist” ไม่กี่
สิบครอบครัว ที่ยึดกุมและรักษาการผูกขาดเกือบโดยสิ้นเชิงเหนือ
ภาคส่วนทางเศรษฐกิจขนาดใหญ่จํานวนมาก ซึ่งเป็นผลจากเส้นสาย
ความสัมพันธ์ที่พวกเขามีกับเจ้าหน้าที่รัฐที่ทรงอิทธิพล ในการแลก
เปลีย่ นเพือ
่ ความมัง่ คัง่ ส่วนตัว เจ้าหน้าที่รัฐที่มีอํานาจในฝ่ายพลเรือน
หรือนายทหารระดับสูงจะคอยดูแลให้กลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ภายใน
ประเทศต้องได้รับผลประโยชน์จากนโยบายต่างๆ ความอ่อนแอของ
กลุ่มผู้ใช้แรงงาน และการป้องกันการแข่งกันจากภายในและ
ภายนอกประเทศของรัฐ

วิกฤติการเงินเอเชียทําให้หลายครอบครัวในกลุ่มนี้ต้องมีหนี้สิน
ทําให้พวกเขาต้องยอมขายกิจการให้กับต่างชาติ รัฐบาลไทยได้เข้า
มาช่วยเหลือธุรกิจขนาดใหญ่เมือ ่ ต้นปี 2544 โดยการจัดตั้งบรรษัท
บริหารสินทรัพย์แห่งชาติ เพื่อซื้อหนี้เงินกู้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (non-
performing loans)มูลค่า 1.2 พันล้านเหรียญทั้งที่เกิดจากภาครัฐและ
เอกชน ซึ่งหนี้เงินกู้เหล่านี้หลายตัวก็ยังคงไม่ก่อรายได้
(underperforming)อยูจ ่ นถึงปี 2548 และบริษัทที่กู้เงินก็ยังมีหนี้ค้าง
ชําระกับธนาคารจํานวนมาก ภายใต้การบริหารงานของทักษิณ
บรรดานักธุรกิจชั้นนําของกรุงเทพ ผู้ซึ่งแต่ไหนแต่ไรมาเคยอาศัย
อิทธิพลทางการเมืองในการปกป้องผลประโยชน์ทางธุรกิจของตน
เริ่มที่จะเสี่ยงต่อการสูญเสียอิทธิพลที่มีต่อรัฐบาลและสถาบันอื่นๆ
ของรัฐ ทําให้พวกเขาตกอยู่ในฐานะที่อ่อนแอในการต่อรองกับ
ธนาคารเกี่ยวกับหนี้ที่ยังค้างชําระ นอกจากนี้ การที่นโยบาย
เศรษฐกิจของไทยรักไทยมุ่งเน้นสนับสนุนการค้าเสรีก็คุกคามกลุ่ม
ธุรกิจภายในประเทศให้ต้องเผชิญกับการแข่งขันจริงๆ อีกด้วย ซึง่
เป็นสิ่งที่พวกเขาไม่คุ้นที่จะต้องเผชิญ ครอบครัวทีค ่ วบคุมอาณาจักร
เศรษฐกิจขนาดใหญ่อย่าง ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกสิกรไทย ไทย
เบเวอเรจ เจริญโภคภัณฑ์กรุ๊ป และทีพไี อ โพลีน กลายมาเป็นปฏิปก ั ษ์
ตัวฉกาจของทักษิณ

นอกจาก client capitalists เหล่านีแ


้ ล้ว นโยบายของทักษิณได้
คุกคามเครือข่ายราชการ (หรืออํามาตยา) ทีไ่ ด้คอยดูแลให้ครอบครัว
เหล่านีม้ อ
ี า
ํ นาจครอบงําเศรษฐกิจไทยมาโดยตลอด ในด้านหนึ่ง การ
ทีท
่ ก
ั ษิณพยายามลดทอนอํานาจของทหาร ข้าราชการ และองคมนตรี
ในการกําหนดนโยบายประเทศนั้นยังได้ไปบ่อนเซาะเกราะคุ้มกันจาก
การแข่งขันที่พวกนักธุรกิจชั้นนําเคยได้รับเสมอมาจากระบบอมาตยา
อีกด้วย และในอีกทางหนึ่ง ความมุง่ มัน ่ ของทักษิณทีจ
่ ะลดบทบาทของ
สถาบันที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งให้เหลือเพียงบทบาทที่ไม่เกี่ยวกับ
การเมืองตามที่กําหนดไว้ในรัฐธรรมนูญนั้น ก็เป็นภัยคุกคามต่อ
อิทธิพลและรายได้ของของกลุม ่ อมาตย์

ข้าราชการอาชีพอาจเป็นกลุม ่ หันมาต่อต้านรัฐบาลทักษิณเร็ว
ที่สุด ตั้งแต่แรกทีเดียว ทักษิณได้กาํ หนดตนเองเป็นตัวเปรียบเทียบ
กับคนที่อยู่ในระบบราชการและนักการเมืองอาชีพ ทันทีทเ่ี ข้ามาเป็น
รัฐบาล การดําเนินนโยบายของไทยรักไทยทําให้รัฐบาลต้องเข้ามา
ดูแลกระบวนการกําหนดนโยบายโดยตรง ซึ่งแต่ไหนแต่ไรมาอยู่ใน
มือของข้าราชการที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง ในการพยายามที่จะ
ทําให้รฐ
ั บาลมีอา
ํ นาจควบคุมการออกแบบและดําเนินการนโยบาย
ใหม่ๆ ทักษิณได้ทา ํ ให้ขา้ ราชการระดับสูงมีบทบาทลดน้อยถอยลง ทั้ง
โดยการให้อํานาจแก่ฝ่ายการเมืองและการปฏิรูประบบราชการที่
ทําให้เกิดกระทรวงใหม่ขึ้นมาหกกระทรวงเพื่อให้ระบบราชการ
ทํางานได้คล่องแคล่วขึน ้ เพิ่มประสิทธิภาพและการสนองตอบต่อ
รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง

ทักษิณพยายามอย่างหนักที่จะได้รับการสนับสนุนจากกองทัพ
ในช่วงเวลาทีท ่ ก
ั ษิณเข้ารับตําแหน่ง กองทัพยังคงมีภาพพจน์ที่ไม่ดีที่
ผู้นํากองทัพกระทําไว้จากเหตุการณ์พฤษภาทมิฬในปี 2535 อย่างไร
ก็ตาม ด้วยประวัติศาสตร์ของไทย บรรดานายพลก็ยังคงเป็นกลุ่ม
อํานาจที่รัฐบาลจากการเลือกตั้งไม่สามารถจะมองข้ามได้ งบ
ประมาณของกองทัพที่ถูกหั่นลงอย่างมากหลังวิกฤติทางการเงิน
เอเชีย ค่อยๆ เพิ่มขึ้นในช่วงสมัยแรกของทักษิณ จาก 71.3 พันล้าน
บาทในปี 2543 เพิม ่ ขึน
้ เป็น 86.7 ในปี 2549 ทว่าในเวลาเดียวกัน
ทักษิณก็พยายามที่จะทําให้กองทัพอยู่ภายใต้การควบคุมของ
พลเรือนมากขึ้น ในทางหนึ่งเขาปฏิเสธที่จะเพิ่มค่าใช้จ่ายของกองทัพ
ตามทีข ่ อมา (ที่กองทัพต้องการนั้นดูได้จากงบประมาณทหารที่เพิ่มขึ้น
มา 35 เปอร์เซ็นต์ตามทีค ่ ณะมนตรีความมัน ่ คงแห่งชาติอนุมต ั ห
ิ ลัง
การรัฐประหาร) ในอีกทางหนึ่ง ทักษิณใช้การโยกย้ายตําแหน่งเพื่อ
สร้างความพอใจให้กบ ั ผูท
้ ภ
่ี ก
ั ดีตอ่ รัฐบาลและตัวเขาเอง ซึง่ ทําให้นาย
ทหารชัน ้ สูงหลายคนไม่พอใจทีถ ่ ก
ู ข้ามหัวหรือเห็นอนาคตตีบตัน

การต่อต้านของเครือข่ายที่ปรึกษาของราชสํานักที่นําโดย
ประธานองคมนตรี พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ อาจเป็นปัจจัยสําคัญ
ที่สุดในการถูกถอดจากตําแหน่งของทักษิณ สําหรับพลเอกเปรมและ
พันธมิตรแล้ว ประเด็นขัดแย้งคือการบ่อนเซาะอํานาจทางการเมืองที่
เป็นผลมาจากความพยายามอย่างเป็นระบบของทักษิณทีจ ่ ะขจัดระบบ
อุปถัมภ์อนั เป็นช่องทางทีบ ่ รรดาผูแ
้ วดล้อมราชสํานักใช้อา
ํ นาจ
อิทธิพลในการบริหารราชการแผ่นดินแทบทุกแง่มุม การที่ทักษิณ
พยายามทําให้กองทัพและราชการพลเรือนอยู่ภายใต้อํานาจของ
รัฐบาล ตลอดจนลดอิทธิพลของพล.อ.เปรมทีม ่ ต
ี อ
่ ศาลและองค์กร
อิสระ เป็นปัจจัยหลักทีท
่ าํ ให้เกิดการต่อต้านจากองคมนตรี ในปี
2549 หลังจากประสบความสําเร็จในการผลักดันให้พลเอกสนธิ บุญย
รัตกลิน ได้ขึ้นมาเป็นผู้นํากองทัพ พลเอกเปรมก็เริ่มวางแผนการ
รัฐประหารอยู่หลังฉากและทําการรณรงค์ต่อต้านรัฐบาลอย่างที่ไม่
เคยปรากฏมาก่อน โดยมุ่งหมายบ่อนทําลายความภักดีของกองทัพที่
มีต่อรัฐบาลจากการเลือกตั้งเป็นการเฉพาะ

กฎสําคัญข้อหนึ่งที่ไม่เป็นลายลักษณ์อักษรของการเมืองไทย
หลังสงครามโลกครั้งที่สองเป็นต้นมาก็คือ รัฐบาลพลเรือนจะเป็นทีอ ่ ด
รนทนได้ตราบใดทีเ่ ป็นรัฐบาลทีอ ่ อ
่ นแอ แตกแยกภายใน ต้องคล้อย
ตามระบบอมาตยาในกองทัพ ราชการ และองคมนตรี และรับใช้ผล
ประโยชน์ของนักธุรกิจชั้นนําในกรุงเทพฯ รัฐบาลใดทีพ ่ ยายามจะทํา
ในสิ่งที่แตกต่าง ก็จะถูกบ่อนทําลายอย่างเป็นระบบ และหากบ่อน
ทําลายไม่สําเร็จ ก็จะถูกขจัดออกไปโดยกองทัพ ทักษิณไม่เพียงแต่
ละเมิดกฎอันไม่เป็นทางการข้อนี้ด้วยการทุ่มเทบริหารประเทศอย่าง
ไม่บันยะบันยัง การอยู่ในตําแหน่งนายกฯ จนครบวาระและชัยชนะ
อย่างถล่มทลายในการเลือกตั้งสองครั้งซ้อนอันเนื่องมาจากการ
สนับสนุนอย่างล้นหลามจากมวลชนที่พึงพอใจในนโยบาย เป็นการ
คุกคามทีจ ่ ะเปลีย
่ นทิวทัศน์ทางการเมืองของไทยโดยขจัดอํานาจนอก
รัฐธรรมนูญที่มีมาอย่างยาวนานของกลุ่มอํานาจเก่าที่ไม่ได้มาจาก
การเลือกตั้ง ด้วยสังขารที่ร่วงโรยของผู้นําที่มีบารมีสูงสุดบางคน
ของอมาตย์ กลุม ่ อํานาจเดิมก็ตดั สินใจว่าจําเป็นต้องลงมืออย่าง
รวดเร็วและเด็ดขาดเพื่อทําลายล้างพรรคไทยรักไทยและการท้าทาย
อํานาจอย่างใหญ่หลวงทีส
่ ด
ุ ทีพ
่ วกเขาเคยประสบในรอบหลาย
ทศวรรษที่ผ่านมา
4. ถนนสู่การปฏิวัติ 2549

เพื่อเป็นการตอบโต้การยืนยันการคุมอํานาจของพรรคไทยรักไทย
เหนือระบบการเมืองของประเทศ กลุ่มก้อนต่างๆ ในกลุม ่ อํานาจเก่า
ของไทยได้ออกมาตรการหลากหลายเพื่อกู้บทบาทของตนคืนมาก่อน
ที่มันจะสายเกินไป พวกเขาให้การสนับสนุนการชุมนุมประท้วงที่ถูก
ออกแบบมาเพือ ่ สร้างบรรยากาศสับสนอลหม่านทีจ ่ ะสร้างความชอบ
ธรรมในการนําการปกครองโดยทหารกลับมาในประเทศอีกครั้ง
พวกเขายังบ่มสร้างข้อกล่าวหาเรื่องการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพมา
ใช้ เมื่อยุทธศาสตร์เหล่านี้ล้มเหลวพวกเขาก็อาศัยวิธีการเดิมๆ อย่าง
การรัฐประหาร

แผนการที่จะขับไล่ทักษิณและพรรคไทยรักไทยเริ่มต้นมาตั้งแต่
หลังการเลือกตั้งทั่วไปในปี 2548 หนึ่งในแกนนําคนสําคัญที่ต่อต้าน
ทักษิณคือสนธิ ลิม
้ ทองกุล เจ้าพ่อธุรกิจสื่อผู้ล้มเหลวซึ่งครั้งหนึ่งเคย
เป็นผู้สนับสนุนที่สําคัญของทักษิณ สนธิกล่าวหาว่ารัฐบาลทักษิณนั้น
เป็นเผด็จการและมีการใช้อา ํ นาจในทางทีผ ่ ด
ิ อย่างเป็นระบบ สนธิให้
เหตุผลสนับสนุนข้อเรียกร้องให้ทักษิณลาออกว่าเพราะเป็นสิ่งจําเป็น
สําหรับการคุ้มครองพระมหากษัตริย์จากแผนการลับของทักษิณที่
ต้องการให้ประเทศปกครองด้วยระบบประธานาธิบดี
ในกฎหมายและสังคมไทย พระมหากษัตริย์เป็นดั่งสมมติเทพ
และได้รบ ั ความเคารพนับถืออย่างสูงสุดจากประชาชน รัฐธรรมนูญ
ฉบับล่าสุดบัญญัตไิ ว้วา ่ “องค์พระมหากษัตริย์ทรงดํารงอยู่ในฐานะ
อันเป็นที่เคารพสักการะ” การไม่แสดงความเคารพนับถือพระมหา
กษัตริย์โดยทางอ้อมนั้นอาจจะถูกดําเนินคดีข้อหาหมิ่นพระบรม
เดชานุภาพ ซึง่ มีโทษจําคุกระหว่าง 3-15 ปีสําหรับแต่ละกรรมได้
ที่ร้ายไปกว่านั้น ข้อกล่าวหาที่ว่านายรัฐมนตรีนั้นเป็นภัยใกล้ตัว
ต่อเกียรติยศของสถาบันกษัตริย์ หรือตัวองค์พระมหากษัตริย์เอง นั้น
ดูคล้ายจะเป็นข้ออ้างทีน ่ า
ํ ไปสูก ่ ารกําจัดและเนรเทศอดีตนายก
รัฐมนตรีที่มีชื่อเสียงหลายคนมาแล้ว ข้อกล่าวหาผิดๆ ว่าลอบปลง
พระชนม์และเหยียดหยามพระมหากษัตริย์นั้นเป็นฐานของการ
ทําลายชื่อเสียงและการที่ต้องลี้ภัยอยู่ต่างประเทศอย่างถาวะของนาย
ปรีดี พนมยงค์ หนึ่งในแกนนําของการปฏิวัติในปี 2475 และเป็น
วีรบุรุษของขบวนการใต้ดินเสรีไทยที่ต่อต้านญี่ปุ่นในช่วงสงครามโลก
ครั้งที่สอง พลตํารวจเอกเผ่า สียานนท์ อดีตอธิบดีกรมตํารวจ และ
จอมพล ป. พิบูลสงคราม ก็ถูกโค่นจากอํานาจและเนรเทศออกจาก
ประเทศโดยหนึ่งในสมาชิกสามทรราชย์ในยุคเผด็จการจอมพล
สฤษดิ์ ธนะรัชต์ ด้วยข้อหาทีว ่ า่ พวกเขาเป็นอันตรายต่อการอยูร่ อด
ของสถาบันฯ ในปี 2534 ก็มข ี อ ้ กล่าวหาคล้ายๆ กันต่อพลเอกชาติ
ชาย ชุณหะวัน นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ทีว ่ า่ พลเอกชาติชายได้
พยายามที่จะสร้าง “เผด็จการรัฐสภา” อย่างถาวร อันเป็นสิ่ง
อันตรายยิ่งที่ทําให้นายพลต่างๆ ของคณะรักษาความสงบเรียบร้อย
แห่งชาติ (รสช.) ต้องก่อการรัฐประหาร ในประเทศไทยข้อกล่าวหาว่า
ไม่จงรักภักดีต่อระบอบกษัตริย์เป็นเรื่องที่มักจะถูกนํามาใช้ในการ
พยายามทําลายชื่อเสียง กักขัง เนรเทศ และสังหาร ผูท ้ ม
่ี แ
ี นวคิด
ทางการเมืองทีเ่ ป็นภัยคุกคามต่ออํานาจทีถ ่ อื มัน
่ อยู่

ครัง้ แล้วครัง้ เล่า อย่างน้อยตั้งแต่การรัฐประหารของจอมพล


สฤษดิเ์ มือ
่ ปี 2500 ข้อกล่าวหาว่าด้วยการเป็นภัยต่อสถาบันกษัตริย์
นั้นมักถูกใช้เป็นข้ออ้างให้ความชอบธรรมแก่การทําการรัฐประหาร
โดยทหาร และการปกครองประเทศโดยทหารเป็นเวลานาน นีเ่ ป็น
ฐานของการ “ปฏิวต ั ”ิ ปี 2501 ของจอมพลสฤษดิ์ การรัฐประหาร
ตนเองของจอมพลถนอม กิตติขจร เมือ ่ ปีพ.ศ. 2514 เหตุการณ์การ
สังหารอยู่ของเผด็จการในปี 2516 และการขับไล่พลเอกชาติชายให้
ออกจากตําแห่งเมือ ่ ปี 2534 ตัง้ แต่การเข้ามามีอา ํ นาจในปีพ.ศ. 2500
หรือ 25 ปีหลังจากที่ระบบการปกครองโดยสมบูรณาญาสิทธิราชย์ได้
สิ้นสุดลง จอมพลสฤษดิ์เป็นเผด็จการทหารคนแรกที่อ้างเหตุผลส่วน
ตนบนฐานของความชอบธรรมทางการเมืองในความจําเป็นทีจ ่ ะต้อง
ปกป้องสถาบันกษัตริย์ และบนการอุทิศตนให้แก่การฟื้นเกียรติ การ
ไม่อาจละเมิดได้ และความเคารพศรัทธาของสาธารณะต่อสถาบันฯ
อีกด้วย ตัง้ แต่นน้ั เป็นต้นมา กลุม ่ อํามาตย์ได้เปลีย ่ นรูปความจําเป็นที่
จะต้องปกป้องสถาบันกษัตริย์ทั้งจากภัยคุกคามที่เป็นจริงและที่เป็น
จินตนาการไปสู่ข้อโต้แย้งที่ไม่สามารถเถียงได้ ซึ่งถูกสร้างขึ้นมาเพื่อ
ให้ความชอบธรรมแก่การใช้อํานาจที่ไม่เคยมีรัฐธรรมนูญใดให้ไว้
เพื่อเป้าหมายที่แทบไม่เกี่ยวข้องกับการปกป้องสถาบันจริงๆ เลย
หลังจากนัน ้ เป็นต้นมา ใครก็ตามที่ปฏิเสธอํานาจนอกรัฐธรรมนูญของ
กลุ่มอํามาตย์ก็ถูกตีตราเป็นสัตว์ร้ายและป้ายสีว่าเป็นศัตรูของ
สถาบันกษัตริย์

ในเดือนเมษายน 2548 หลังจากได้รับเลือกตั้งอีกครั้ง ทักษิณ


เป็นประธานในพิธีทําบุญที่จัดขึ้นในวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ซึง่ ปกติ
แล้วจะเป็นพระมหากษัตริยท ์ เ่ี ป็นองค์ประธาน (แต่ไม่ได้จา
ํ กัดไว้วา

ต้องเป็นพระมหากษัตริย์เท่านั้น) เหตุการณ์นี้ทําให้เกิดความกราด
เกรี้ยวในประเทศไทย ถึงแม้ทักษิณจะไม่ได้ถูกกล่าวหาอย่างเป็น
ทางการ แต่เรื่องนี้ก็ช่วยให้พวกกลุ่มอํานาจเก่าได้เสนอว่าตนเป็นผู้
ทักษ์พระมหากษัตริย์ขึ้นอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม หตุการณ์ที่กระตุ้นการต่อต้านทักษิณและพรรค
ไทยรักไทยมากที่สุดคือการขายหุ้นบริษัทชิน คอร์ปอเรชัน ่ ในวันที่ 3
มกราคม 2549 ก่อนหน้านัน ้ ทักษิณได้โอนหุน ้ ในบริษท
ั ชินคอร์ปของ
เขาไปแล้วก่อนจะเข้ามาเล่นการเมืองตามที่กําหนดไว้โดยกฎหมาย
โดยการโอนการถือหุ้นของตนไปให้ลูกคนโตสองคน เพื่อเป็นการ
ตอบกับข้อกล่าวหาเรือ ่ งผลประโยชน์ทบ ั ซ้อน ครอบครัวของทักษิณ
ตัดสินใจขายหุ้น 49.6 เปอร์เซ็นต์ในบริษัทให้แก่กองทุนเทมาเส็ก โฮ
ลดิง้ ของสิงคโปร์ หลังจากการขายหุ้น ผู้ที่วิพากษ์วิจารณ์ทักษิณร้อง
เรียนว่าทักษิณได้ขายสมบัตส ิ า
ํ คัญของชาติให้แก่ตา ่ งชาติ และยังมี
ข้อกล่าวหาด้วยว่าลูกๆ ของเขานัน ้ ใช้ประโยชน์จากช่องโหว่ของ
กฎหมายภาษีของไทยโดยการขายหุ้นผ่านทางบัญชีซื้อขายหลัก
ทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์ต่างประเทศเพื่อจะได้ไม่ต้องเสียภาษี ข้อ
กล่าวหาว่า “ขายชาติ” และหลบเลีย ่ งภาษีกลายมาเป็นเหตุแห่ง
สงครามที่ฝ่ายตรงข้ามหยิบยกมาใช้

ช่วงเวลาทีข ่ ายหุน
้ บริษทั ชินคอร์ปนัน
้ บังเอิญตรงกับช่วงทีส ่ อด
รับกับเป้าหมายของฝายตรงข้าม นัน ่ คือเกิดขึน ้ ก่อนการเดินขบวนต่อ
ต้านทักษิณที่มีการกําหนดไว้ในวันที่ 4-5 กุมภาพันธ์ 2549 ณ ท้อง
สนามหลวง ประเด็นนี้ทําให้กลุ่มผู้จัดการประท้วงได้พลังสนับสนุน
เป้าหมาย และพลังงานสําหรับการประท้วง ทีส ่ า
ํ คัญกว่านัน
้ คือ มัน
ทําให้ฝา ่ ยทีต
่ อ
่ ต้านทักษิณทัง้ ปัญญาชน นักพัฒนาองค์กรเอกชน นัก
ธุรกิจชั้นนํา ชนชั้นกลางระดับสูง ข้าราชการ ลูกจ้างรัฐวิสาหกิจ นัก
เคลือ ่ นไหวพรรคประชาธิปต ั ย์ และผู้สนับสนุนนักระดมมวลชนอย่าง
สนธิ ลิม ้ ทองกุล และพลตรีจา ํ ลอง ศรีเมือง อดีตทีป ่ รึกษาของทักษิณ
เริม่ ก่อตัวชัดขึน ้ ในนามพันธมิตรประชาชนเพือ ่ ประชาธิปไตยซึง่ จัดตัง้
ขึ้นไม่กี่วันหลังจากนั้น ผู้ประท้วงกว่าห้าหมื่นคนนําโดยสนธิและ
จําลองเรียกร้องให้ทักษิณลาออกในวันที่ 4-5 กุมภาพันธ์ 2549 สนธิ
ลิม้ ทองกุล ได้ถวายฎีกาผ่านทางองคมนตรีพลเอกเปรม ติณสูนานนท์
ให้พระมหากษัตริย์ใช้อํานาจผ่านทางมาตรา 7 ของรัฐธรรมนูญปี
2540 ในการถอดถอนทักษิณและแต่งตั้งนากยกรัฐมนตรีขึ้นมาใหม่
วิธีการของสนธิซึ่งตั้งอยู่บนการอ่านรัฐธรรมนูญที่ค่อนข้างจะน่า
สงสัยนั้นได้เลี่ยงวิธีการตามรัฐธรรมนูญประชาธิปไตยที่ให้มีการ
เลือกตั้งรัฐสภาเพื่อให้มีการเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่
ทักษิณตอบโต้การประท้วงที่ขยายตัวขึ้นด้วยการประกาศยุบ
สภาไม่นานหลังการเดินขบวนประท้วงที่สนามหลวง และกําหนดให้มี
การเลือกตั้งใหม่ในวันที่ 2 เมษายน 2549 พรรคการเมืองฝ่ายค้าน
หลักๆ ทั้งหมดคว่ําบาตรการเลือกตั้งครั้งนี้ ทําให้พรรคไทยรักไทย
ชนะการเลือกตั้งอย่างง่ายดายตามอย่างที่คาดการณ์ และได้ที่นั่งใน
สภามากกว่าร้อยละ 90 ฝ่ายค้านออกมาบอกว่าการเลือกตั้งที่ผ่าน
ไปมีความผิดปกติในทันที ในหลายเขตของกรุงเทพฯ และในภาคใต้
ของประเทศ ผู้สมัครพรรคไทยรักไทยได้รับเลือกมาด้วยคะแนนเสียง
ที่น้อยกว่าเสียง “ไม่ลงคะแนน” ในบางพื้นที่ภาคใต้ ผู้สมัครพรรค
ไทยรักไทยที่ลงสมัครโดยไม่มีคู่แข่งสอบตกการเลือกตั้งเนื่องจากได้
รับคะแนนเสียงไม่ถึงร้อยละ 20 ของผู้มีสิทธิเลือกตั้งตามที่กําหนดไว้
ทําให้ผลกรเลือกตั้งในพื้นที่นั้นเป็นโมฆะ กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อ
ประชาธิปไตยยื่นฟ้องต่อศาลปกครองเรียกร้องให้การเลือกตั้งเป็น
โมฆะทั้งหมด พธม. กล่าวโทษคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าละเมิด
ความเป็นส่วนตัวของผู้ลงคะแนนเสียง และกล่าวหาว่าพรรค
ไทยรักไทยทุจริตการเลือกตั้ง สองวันหลังจากการเลือกตั้ง ทักษิณ
ประกาศลาออกและดํารงตําแหน่งรักษาการนายกรัฐมนตรี

ในวันที่ 26 เมษายน 2549 พระบาทสมเด็จพระอยู่หัวฯ มีพระ


ราชดํารัสต่อสาธารณะเกี่ยวกับการเลือกตั้ง โดยได้ตรัสต่อศาล
ปกครองโดยตรงว่า
ให้การเลือกตั้งนี้เป็นโมฆะหรือเป็นอะไร ซึง่ ท่านจะมีสทิ ธิทจ
่ี ะ
บอกว่า อะไรที่ควร ที่ไม่ควร ไม่ได้บอกว่ารัฐบาลไม่ดี แต่วา ่ เท่าทีฟ่ งั ดู
มันเป็นไปไม่ได้ คือการเลือกตัง้ แบบประชาธิปไตย เลือกตั้งพรรค
เดียว คนเดียว ไม่ใช่ทว่ั ไป แต่ในแห่งหนึ่งมีคนที่สมัครเลือกตั้งคน
เดียว มันเป็นไปไม่ได้ ไม่ใช่เรื่องของประชาธิปไตย เมือ่ ไม่เป็น
ประชาธิปไตย ท่านก็พูดกันเองว่า ท่านต้องดูเกี่ยวข้องกับเรื่องของ
การปกครองให้ดี อย่างดีที่สุดถ้าเกิดท่านจะทําได้ ท่านลาออก ท่าน
เอง ไม่ใช่รฐ ั บาลลาออก ท่านเองต้องลาออก ถ้าทําไม่ได้ รับหน้าที่ไม่
ได้ ตะกีท
้ ป
่ี ฏิญาณไป ดูดีๆ จะเป็นการไม่ได้ทาํ ตามทีป
่ ฏิญาณ

ไม่นานหลังจากนั้น ศาลปกครองยกเลิกการเลือกตั้งใหม่ที่
กําหนดเป็นการเลือกตัง้ ซ่อมในเขตทีม่ ผ
ี ลการเลือกตังค์แบบตัดสินไม่
ได้ ในวันที่ 8 พฤษภาคม 2549 ศาลรัฐธรรมนูญมีคําพิพากษาว่าการ
เลือกตั้งในเดือนเมษายนเป็นโมฆะทั้งหมดและประกาศให้มีการเลือก
ตัง้ ใหม่ในเดือนตุลาคม ผู้พิพากษาศาลรัฐธรรมนูญได้เรียกร้องต่อ
สาธารณะให้คณะกรรมการการเลือกตั้งลาออก เมื่อคณะกรรมการ
การเลือกตั้งปฏิเสธที่จะลาออก ศาลอาญามีคา ํ พิพากษาให้จาํ คุกพวก
เขา 4 ปี ในข้อหาผิดวินัยร้ายแรง ทําให้พวกเขาไม่มีสิทธิในการลง
คะแนนเลือกตัง้ และต้องออกจากตําแหน่ง

หลังจากพระราชดํารัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เกี่ยว
กับการเลือกตั้งในเดือนเมษายน ศูนย์กลางของผู้ที่ต่อต้านทักษิณได้
ย้ายจากกลุ่มพธม. ไปสู่พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี
ผู้ทรงอํานาจ พลเอกเปรมเกิดเมือ ่ ปีพ.ศ. 2463 เขาเป็นบุคคลทีโ่ ดด
เด่นที่สุดคนหนึ่งประวัติศาสตร์สมัยใหม่ของไทย จุดเริ่มต้นของการ
ก้าวขึ้นมาสู่ตําแหน่งที่มีอิทธิพลทางการเมืองอย่างไม่อาจเปรียบได้
ของเขาสามารถย้อนกลับไปได้ถึงปี 2484 ในขณะที่ยังเป็นทหาร
สังกัดเหล่าทหารม้า เปรมได้ร่วมรบต่อต้านสัมพันธมิตรเคียงข้าง
กองทัพญี่ปุ่นภายใต้อนาคตจอมเผด็จการสฤษดิ์ ธนะรัชต์ การขึ้นมา
มีอาํ นาจของเปรมในเวลาต่อมานัน ้ เชือ
่ มโยงอย่างใกล้ชด
ิ กับสฤษดิ์
ซึ่งเป็นที่รู้กันอย่างกว้างขวางว่าเขาเป็นคนที่โหดร้ายและเป็นนาย
ทหารที่ทุจริตที่สุดคนหนึ่งในประเทศไทย จอมพลสฤษดิเ์ ลือ ่ นยศให้
เปรมให้ขน ้ึ เป็นพันเอก และแต่งตั้งให้เป็นสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ
ทีค่ วบคุมโดยทหารในปี 2502 เปรมยังมีความเกี่ยวพันใกล้ชิด
จอมพลถนอม กิตติขจรและจอมพลประภาส จารุเสถียร ผู้นําทหารที่
ชื่อเสียงชั่วร้ายผู้เลื่อนยศให้เขาเป็นพลตรีในปี 2514 และเขายังเป็น
เพื่อนสนิทกับพลตรีสุดสาย หัสดิน ผู้นํากองกําลังกระทิงแดงที่เป็น
ผู้รับผิดชอบสําหรับการสังหารหมู่ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ในปี
2519 อีกด้วย

ในเดือนกันยายน ปี 2521 เปรมได้รับการแต่งตั้งให้เป็น


รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (2520-2522) และเป็นผู้
บัญชาการกองทัพบก ไม่นานหลังจากนัน ้ ในเดือนมีนาคม 2522 สภา
ผู้แทนราษฎรได้แต่งตั้งให้เขาเป็นนายกรัฐมนตรี แม้วา ่ เปรมจะไม่
เคยลงสมัครรับเลือกตั้งเลย แต่ก็ได้เป็นนายกรัฐมนตรีของ
ประเทศไทยในช่วงระหว่างปี 2522-2531 ซึง่ ในช่วงเวลานัน ้ เขา
รอดพ้นจากความพยายามที่จะก่อการรัฐประหารโดยทหารถึงสอง
ครั้ง (คือในปี 2524 และ 2528) และได้รับการรับรองในสภาฯ ถึงสอง
ครั้งหลังการเลือกตั้งในปี 2526 และ 2528 บางทีจด ุ สูงสุดของอํานาจ
ของเปรมคือหลังจากทีเ่ ขาลาออกจากการเป็นนายกรัฐมนตรีเมือ ่ เขา
ได้รับการโปรดเกล้าฯ ให้เป็นองคมนตรี และเป็นประธานองคมนตรี
ตัง้ แต่ปี 2541 กว่า 70 ปีในหน้าที่การงาน เปรมสร้างเครือข่าย
อิทธิพลและอํานาจแผ่ขยายลึกสูท ่ หาร ข้าราชการ และตุลาการ รวม
ถึงกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ของประเทศไทย นอกจากนั้นพลเอกเปรมยัง
เป็นประธานกรรมการของธนาคารกรุงเทพ และดํารงตําแหน่ง
ประธานที่ปรึกษาของกลุ่มบริษัทซีพีซึ่งเป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนหลัก
ของพรรคประชาธิปัตย์จนกระทั่งไม่นานมานี้

หลังจากทีศ
่ าลมีคา
ํ ตัดสินว่าผลของการเลือกตัง้ เมือ
่ เดือน
เมษายนเป็นโมฆะ พลเอกเปรมได้กล่าวบรรยายเป็นการวิพากษ์
วิจารณ์การทํางานของทักษิณหลายครั้ง ด้วยสถานะและอํานาจของ
พลเอกเปรม การรณรงค์ต่อสาธารณะของเขาส่อให้เห็นถึงการขจัด
ทักษิณออกจากอํานาจ มีการแข่งขันกันควบคุมกองทัพและรัฐ และมี
รายงานสาธารณะถึงความเป็นไปได้ที่จะมีการรัฐประหารปรากฏขึ้น
เมือ
่ วันที่ 29 มิถุนายน ในการกล่าวกับข้าราชการกลุ่มหนึ่ง ทักษิณได้
อ้างอิงถึงพลเอกเปรม และกล่าว่าตนปฏิเสธความพยายามที่กําลัง
ดําเนินอยู่โดย “ผู้มีบารมีเหนือรัฐธรรมนูญ” และการไม่ “เคารพหลัก
นิติธรรม” เพือ ่ บัน
่ ทอนรัฐบาล นักวิจารณ์สังคมที่มีชื่อเสียงต่างๆ
กล่าวหาทักษิณโดยทันทีว่าล่วงละเมิดพระมหากษัตริย์ พลเอกเปรม
พร้อมด้วยองคมนตรีและพลเอกสุรยุทธ์ จุลนานนท์ อดีตผูบ ้ ญ
ั ชาการ
กองทัพบก ได้ปรึกษากับนายทหารผูใ้ หญ่หลายคนและเดินทางเข้า
เยี่ยมหน่วยทหารต่างๆ ในวันที่ 14 กรกฎาคม เขาได้กล่าวเตือน
บรรดาเจ้าหน้าที่ทั้งหลายว่าความจงรักภักดีนั้นไม่ควรมีให้กับรัฐบาล
ที่มาจากการเลือกตั้ง แต่ต้องมีต่อพระมหากษัตริย์

โพลสํารวจความคิดเห็นหลายโพลที่ทําในช่วงก่อนจะมีการ
เลือกตัง้ ในเดือนตุลาคมชีว ้ า
่ ทักษิณจะชนะการเลือกตัง้ อีกครัง้ โดย
เสียงส่วนมาก เหตุการณ์ตึงเครียดสูงสุดในเดือนสิงหาคม 2549 เมือ ่
มีรถยนต์บรรจุระเบิดหนัก 70 กิโลกรัมถูกพบไม่ไกลไปจากที่พักของ
ทักษิณ เจ้าหน้าทีท ่ หาร 5 นายถูกจับแต่กไ็ ด้รบ ั การปล่อยตัวออกมา
ในไม่ช้าเพราะขาดพยานหลักฐาน ผูท ้ ว
่ี พิ ากษ์วจ
ิ ารณ์รฐ
ั บาลทักษิณ
รีบออกมาให้ขา ่ วว่าคาร์บอมบ์นเ้ี ป็นฝีมอ ื ของรัฐบาลเองทีม ่ เี ป้าหมาย
เพื่อทําลายชื่อเสียงของฝ่ายตรงข้ามและเพื่อระดมการสนับสนุน
รัฐบาล
5. การฟื้นฟูระบอบอํามาตยาธิปไตยอย่างผิดกฎหมาย

การขึ้นดํารงตําแหน่งนายกรัฐมนตรีของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (เมือ ่


ปี 2549 อภิสิทธิ์เป็นผู้นําพรรคระดับภูมิภาคขนาดใหญ่ซึ่งมีนั่งน้อย
กว่า 20 เปอร์เซ็นต์ของจํานวนที่นั่งในสภาทั้งหมด) มีชอ ่ งทางเดียวคือ
การรัฐประหารเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 และการล้มล้าง
รัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตยซึ่งประกาศใช้เมื่อ พ.ศ. 2540 หลัง
จากรัฐประหาร รัฐบาลทหารดําเนินการอย่างเป็นระบบเพื่อทําลาย
ล้าง “ระบอบ” ทักษิณ กระบวนการทําลายล้างนั้นรวมความถึงการ
ยุบพรรคไทยรักไทยผ่านการบังคับใช้กฎหมายรัฐธรรมนูญฉบับใหม่
ย้อนหลัง การตัดสิทธิเลือกตั้งของนักการเมืองที่โดดเด่น การกําหนด
โทษในรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และการฟ้องร้องทักษิณ ชินวัตรเป็นคดี
อาญาจํานวนมาก แต่แม้จะใช้มาตรการเหล่านีแ ้ ล้ว ก็ยังไม่สามารถ
ขัดขวางประชาชนจากการลงคะแนนให้กับพรรคที่สืบทอดจากพรรค
ไทยรักไทยในการเลือกตั้งปลายปี 2547 ที่สําคัญไปกว่านั้น
ขบวนการเคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตยของคนรากหญ้ายังได้
ถือกําเนิดขึน
้ เนือ
่ งจากการทําลายเจตจํานงของประชาชนซ้า ํ ๆ ทําลาย
สถาบันตัวแทนของประเทศไทย รวมถึงการปราบปรามทางการเมือง
ที่เปิดฉากโดยการรัฐประหารปี 2549 ขบวนการเคลือ ่ นไหวเพือ ่
ประชาธิปไตยนีค้ อ
่ ยๆ เข้มข้นขึ้นเป็นผลมาจากการที่ฝ่ายอํามาตย์
คว่ําผลการเลือกตั้งในปี 2550 ส่งผลให้อภิสิทธิ์ได้ดํารงตําแหน่ง
นายกรัฐมนตรีในปลายปี 2551

5.1 การยึดอํานาจโดยทหาร

หลังทศวรรษแห่งการปกครองตามระบอบประชาธิปไตยซึง่ มี
การเลือกตั้งที่เป็นอิสระและเปิดเผย 3 ครั้งภายใต้รัฐธรรมนูญ พ.ศ.
2540 ประเทศไทยก็ถูกยึดครองโดยการใช้กําลังทหารในวันที่ 19
กันยายน 2549 ขณะทีท ่ ก
ั ษิณเข้าร่วมการประชุมทัว ่ ไปขององค์การ
สหประชาชาติในกรุงนิวยอร์ก ทหารเข้ายึดครองเมืองหลวง การ
รัฐประหารนําโดยพลเอกสนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก
โดยได้รับความร่วมมือของผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้บัญชาการ
กองทัพเรือ ผู้บัญชาการทหารอากาศ ผู้บัญชาการสํานักงานตํารวจ
แห่งชาติ และเลขาธิการสภาความมัน ่ คงแห่งชาติ คณะรัฐบาลทหาร
มีชอ
่ื ว่า “คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระ
มหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข” ซึง่ ต่อมาภายหลังเปลีย ่ นชือ
่ ภาษา
อังกฤษเหลือเพียง “คณะปฏิรป ู การปกครองระบอบ
ประชาธิปไตย” (คปค.) เพื่อป้องกันการ “เข้าใจผิด” เกี่ยวกับ
“บทบาทของสถาบันกษัตริย”์

เหตุผลที่ใช้กล่าวอ้างในการทํารัฐประหารนั้น คปค. ประกาศว่า


(1) รัฐบาลทักษิณนําไปสู่ “ปัญหาความแตกแยกและบ่อนเซาะความ
สามัคคีในหมู่คนไทย (2) คนไทยส่วนใหญ่มีข้อกังขาต่อรัฐบาลทักษิณ
ว่ามี “สัญญาณของการคอร์รัปชั่นและทุจริตอย่างรุนแรง และ (3)
องค์กรอิสระถูก “แทรกแซง” ซึ่งนําไปสู่ “ปัญหาและอุปสรรคในการ
จัดการกับพฤติกรรมทางการเมือง คปค.ระบุวา ่ แม้จะมีความ
พยายามอย่างต่อเนื่องที่จะ “ประนีประนอม คลี่คลายสถานการณ์มา
โดยต่อเนือ่ งแล้ว แต่ยังไม่สามารถที่จะทําให้สถานการณ์ความขัด
แย้งยุติลงได้” ดังนั้นพลเอกสนธิจึง “มีความจําเป็นต้องยึดอํานาจ
การปกครองแผ่นดิน”

แม้ว่าพลเอกสนธิ จะให้คา ํ มัน


่ ต่อสาธารณะในเดือนมีนาคม พ.ศ.
2549 ว่า “กองทัพจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับความขัดแย้งทางการเมือง” เพราะ
“การรัฐประหารโดยทหารนั้นเป็นเรื่องในอดีต” แต่ พล.อ.สพรั่ง
กัลยาณมิตรได้ยอมรับในเวลาต่อมาว่าการรัฐประหารนั้นถูกเตรียม
การตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ พลเอกสนธิซึ่งทําหน้าที่อย่างเต็ม
ประสิทธิภาพในฐานะหัวหน้า คปค. ควบคุมรัฐบาลแบบเบ็ดเสร็จและ
รวดเร็ว และวางรากฐานสําหรับการฟื้นฟูบทบาททางการเมือง
ของกองทัพในระยะยาวและและหาทางสืบทอดอํานาจในอนาคต

พลเอกสนธิประกาศใช้กฎอัยการศึกทั่วประเทศไทย โดยหวัง
ควบคุมการเคลือ ่ นไหวของกองทัพและตํารวจอย่างเต็มที่ เขายกเลิก
รัฐธรรมนูญพ.ศ. 2540 ยกเลิกวุฒิสภา สภาผู้แทนราษฎร คณะ
รัฐมนตรี และศาลรัฐธรรมนูญ เขาทําหน้าที่ของนายกรัฐมนตรีในนาม
ของหัวหน้า คปค. (ทั้งโดยผ่านตัวเขาเอง) หรือผ่านผู้ที่เขาแต่งตั้ง
พร้อมทั้งทําหน้าที่ในส่วนที่ต้องผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภาทั้งใน
ระดับสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา ยิ่งไปกว่านั้น เขาประกาศว่า
ศาลทัง้ หลาย นอกจากศาลรัฐธรรมนูญคงมีอํานาจในการพิจารณา
พิพากษาอัตถคดี “ตามบทกฎหมายและตามประกาศคณะปฏิรป ู การ
ปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็น
ประมุข” ที่น่าสังเกตคือ พลเอกสนธิประกาศว่าองคมนตรี “คงดํารง
ตําแหน่งและปฏิบต ั ห
ิ น้าทีต
่ อ
่ ไป”

คปค.กําหนดมาตรการเพื่อควบคุมกระบวนการทางการเมือง
ทัง้ หมดของประเทศทันที พลเอกสนธิประกาศว่าการเลือกตั้งทั่วไปที่
จะมีขน
้ึ ในวันที่ 26 ตุลาคม 2549 จะถูกเลื่อนไปอีก 1 ปี แสดงให้เห็น
ชัดเจนว่าการเลือกตั้งใดๆ ทีจ่ ะมีขน
้ึ ในอนาคตนัน
้ เป็นไปตามที่
คปค.กําหนดเท่านั้น

คณะกรรมการการเลือกซึ่งตั้งขึ้นตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2540


เพื่อจัดการปัญหาการซื้อเสียงที่มีมาอย่างยาวนานนั้นมีหน้าที่จัดการ
และวางระเบียบการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสมาชิก
รวมถึงมีหน้าที่ในการไต่สวนการทุจริตเลือกตั้ง ความเป็นอิสระของ
คณะกรรมการการเลือกตั้งมีหลักประกันอยู่ที่การกําหนดวาระการ
ดํารงตําแหน่งของกรรมการการเลือกตั้งวาระละ 7 ปี และห้ามดํารง
ตําแหน่งซ้า ํ หลังจากหมดวาระ หลังการรัฐประหาร พลเอกสนธิแต่ง
ตั้งคณะกรรมการการเลือกตั้งซึ่งเพิ่งได้รับคัดเลือกจากวุฒิสภา และ
เพือ่ ให้แน่ใจว่าการเลือกตัง้ ทีจ
่ ะเกิดขึน
้ ในอนาคตนัน้ เป็นไปโดย
“กระบวนการและการจัดการที่เป็นธรรมและเป็นกลาง” พลเอกสนธิ
ให้อํานาจคณะกรรมการการเลือกตั้งชุดใหม่สามารถเพิกถอนสิทธิ
เลือกตั้งของผู้ที่ได้รับการเลือกตั้งหากเชื่อได้ว่าบุคคลผู้นั้นได้กระทํา
การทุจริตหรือละเมิดกฎหมายในการเลือกตั้ง

คปค. ยังประกาศห้ามการชุมนุมทางการเมืองเกินกว่า 5 คน
โดยมีโทษจําคุกไม่เกิน 6 เดือน และ/หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท ทั้ง
ห้ามพรรคการเมืองจัดการประชุมหรือดําเนินกิจกรรมอื่นใดทางการ
เมือง และระงับการจัดตั้งหรือจดทะเบียนพรรคการเมือง ที่สําคัญ
ที่สุดอาจได้แก่การที่ คปค.เขียนกฎหมายตัดสิทธิคณะกรรมการ
บริหารพรรคการเมืองที่ถูกยุบพรรคในการมีส่วนร่วมกับกิจกรรม
ทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี แม้ว่าการกระทําที่ถูกกล่าวหานั้นจะได้
กระทําลงก่อนการรัฐประหารก็ตาม

5.2 ระเบียบรัฐธรรมนูญใหม่
ในวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2549 คณะมนตรีความมัน ่ คงแห่งชาติ
(คมช.) ซึง่ เป็นชือ่ ใหม่ของคณะรัฐบาลทหาร เริ่มใช้ธรรมนูญชั่วคราว
และแต่งตั้งสุรยุทธ์ จุลานนท์ อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุดและ
องคมนตรี ขึ้นดํารงตําแหน่งนายกรัฐมนตรี การประกาศใช้ธรรมนูญ
ชั่วคราวนั้นได้ฟื้นฟูรูปแบบของการแก้รัฐธรรมนูญที่ยอมรับผู้นําการ
รัฐประหารโดยทําให้การยึดอํานาจโดยทหารเป็นสิ่งที่โดยชอบด้วย
กฎหมาย ตัวอย่างเช่น ธรรมนูญชั่วคราวถือว่าประกาศหรือคําสั่งของ
คมช.ที่ประกาศใช้หลังการรัฐประหารมี “ความชอบธรรมและ
สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญ” ธรรมนูญชั่วคราวยังกําหนดให้ผู้นํา คมช.
และบุคคลทีเ่ กีย ่ วข้อง “ไม่ต้องถูกลงโทษจากความรับผิดและการลง
โทษใดๆ” แม้จะพบในภายหลังว่าในการยึดอํานาจนั้นเป็นการกระทํา
ที่ผิดกฎหมายก็ตาม

ธรรมนูญชั่วคราวกําหนดตั้งสภานิติบัญญัติแห่งชาติซึ่งสมาชิก
มาจากการแต่งตั้งโดย คมช. เพื่อทําหน้าที่สภาผู้แทนราษฎรและ
วุฒิสภาเดิม โดยสภานิติบัญญัติแห่งชาติทําหน้าที่เกี่ยวกับ
กระบวนการออกกฎหมายทั้งหมด.

ธรรมนูญชั่วคราวยังกําหนดให้มีการร่างรัฐธรรมนูญฉบับถาวร
ขึน
้ ใหม่ เริ่มจากการตั้งสมัชชาแห่งชาติขึ้นโดยมีสมาชิกสมัชชา
จํานวน 2,000 คนซึ่งได้รับการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งจากพระมหา
กษัตริย์ หัวหน้าคมช. เป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการแต่งตั้ง
สมาชิกสมัชชาฯ โดยหัวหน้าคมช. นัน ้ เองเป็นผูจ ้ ด
ั เตรียมรายชือ
่ และ
ควบคุมการเสนอชือ ่ บุคคลเข้าดํารงตําแหน่งสมาชิกสมัชชาฯ จากนั้น
สมัชชาแห่งชาติให้ความเห็นชอบรายชือ ่ ทีถ
่ ก
ู คัดเหลือ 200 คนเป็นผู้
ชิงตําแหน่งสภาร่างรัฐธรรมนูญเพื่อทําการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่
รายชื่อนั้นถูกนําเสนอต่อ คมช. ซึง่ จะทําการตัดลงให้เหลือ 100 คน
เพือ่ ทูลเกล้าฯ และรับสนองพระบรมราชโองการโดยคมช. คมช. คัด
สมาชิกจากจํานวน 100 คนเหลือ 25 คน จากนั้นแต่งตั้ง “ผูเ้ ชีย ่ วชาญ
ด้านกฎหมาย” อีก 10 คน ที่สุดแล้วจะได้สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ
จํานวน 35 คน โดยกระบวนการเช่นนี้ คมช. สามารถใช้อา ํ นาจ
ควบคุมการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้โดยตรง

ขณะที่ร่างรัฐธรรมนูญกําลังจะเสร็จสมบูรณ์ สภาร่าง
รัฐธรรมนูญ (สสร.) เริ่มโหมประชาสัมพันธ์ต่อสาธารณะเพื่อสร้าง
ความเชื่อมั่นว่าร่างรัฐธรรมนูญนั้นจะผ่านการลงประชามติ สสร.ใช้งบ
ประมาณราว 30 ล้านบาทเพื่อการรณรงค์ซึ่งรวมถึงการรณรงค์ผ่าน
สถานีโทรทัศน์ เคเบิลทีวี วิทยุ เว็บไซต์ สื่อสิ่งพิมพ์ หน่วยงานรัฐ
สถาบันการศึกษาและแม้แต่ปา ้ ยโฆษณา และแม้วา ่ จะมีการจัด
อภิปรายเกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญแต่ก็กลับถูกถ่ายทอดผ่านทางช่อง
เคเบิลทีวเี ท่านัน
้ ไม่สามารถที่จะถ่ายทอดการผ่านสถานีฟรีทีวีที่
รัฐบาลเป็นเจ้าของคลืน ่ รัฐบาลได้ดําเนินการอย่างเป็นทางการให้มี
การรณรงค์แบบเคาะประตูบ้านเพื่อผลักดันให้ผ่านร่างรัฐธรรมนูญ
สสร.จัดตั้งให้มีการรณรงค์ทั่วประเทศในช่วงใกล้การลงประชามติ
และผูท้ จ
่ี ะไปลงประชามติได้เดินทางฟรี ซึ่งเป็นพฤติการณ์ที่มีความ
ผิดทางอาญาฐานละเมิดกฎหมายเลือกตั้ง

เครื่องมือที่ทรงประสิทธิภาพประการหนึ่งที่รัฐบาลทหารใช้เพื่อ
สร้างความมั่นคงให้กับการลงคะแนนเสียงเห็นชอบรัฐธรรมนูญฉบับ
พ.ศ. 2550 ก็คือการนําเสนอว่ากระบวนการลงประชามตินั้นเป็นสิ่ง
จําเป็นจะนําไปสู่การเลือกตั้ง การประชาสัมพันธ์ของรัฐบาลทหารก็
คือสร้างความเชื่อมั่นว่าการยอมรับร่างรัฐธรรมนูญจะเป็นขั้นตอนที่
จําเป็นสําหรับการจัดการเลือกตั้ง ผูล
้ งประชามติจา ํ นวนมากเลือก
“รับ”ด้วยความมุ่งหวังที่จะกลับไปสู่ระบอบรัฐสภา ไม่ใช่เพราะพวก
เขาเข้าใจความแตกต่างระหว่างรัฐธรรมนูญปี 2550 กับรัฐธรรมนูญปี
2540 ยิ่งไปกว่านั้น รัฐบาลทหารถือสิทธิ์ที่จะนําเอารัฐธรรมนูญเก่า
ฉบับอืน่ ๆ ซึ่งบางฉบับมีลักษณะเสรีนิยมมาก มาใช้แทน (และปรับแก้
ตามสมควร) หากว่าประชาชนลงประชามติไม่ผ่านร่างรัฐธรรมนูญ
ฉบับนี้

สมัชชาแห่งชาติผา่ นพระราชบัญญัตป ิ ระชามติโดยกําหนดบท


ลงโทษที่รุนแรงสําหรับการแสดงความเห็นในทางสาธารณะที่มี
ลักษณะต่อต้านร่างรัฐธรรมนูญ พรรคการเมืองถูกปิดกั้นไม่ให้โน้ม
น้าวผู้ลงประชามติให้เห็นชอบหรือไม่เห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญโดย
กําหนดโทษจําคุก 10 ปี ผู้ใด “ขัดขวาง” การลงประชามติจะถูก
ดําเนินคดีอาญา และหากผู้นั้นเป็นผู้บริหารพรรคการเมืองก็จะถูกตัด
สิทธิทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี กฎอัยการศึกยังคงมีผลบังคับ ผู้ที่ต่อ
ต้านร่างรัฐธรรมนูญถูกข่มขู่และเอกสารที่ต่อต้านร่างรัฐธรรมนูญนั้น
ถูกยึดจากบ้านและที่ทําการไปรษณีย์ ผู้ประท้วงต่อต้านการ
รัฐประหาร 2549 ถูกจับกุมด้วยความผิดอาญา คณะกรรมการสิทธิ
มนุษยชนแห่งเอเชียประณามว่าพระราชบัญญัตป ิ ระชามตินน้ั เป็น
ความพยายามทีช ่ ด
ั เจนว่ามุง่ “ข่มขูแ
่ ละปิดปากบุคคลทีไ่ ม่เห็นด้วยกับ
ทางการ” ซึ่งแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับกระบวนการรับร่างรัฐธรรมนูญ
พ.ศ. 2540

วันที่ 19 สิงหาคม 2550 รัฐธรรมนูญพ.ศ. 2550 ผ่านการลง


ประชามติดว ้ ยจํานวนผูล ้ งคะแนนทีต ่ า
ํ่ เป็นประวัตกิ ารณ์ รัฐธรรมนูญ
ฉบับใหม่ถูกประกาศใช้ในวันที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2550 รัฐธรรมนูญ
พ.ศ. 2550 นั้นมีความแตกต่างอย่างสําคัญจากหลักที่รัฐธรรมนูญ
2540 ให้ความคุม ้ ครองไว้ ตัวอย่างคือ รัฐธรรมนูญ 2550 นั้นกลับไปสู่
ระบบก่อนรัฐธรรมนูญ 2540 นัน ่ คือการเลือกตัง้ แบบหลายเขต ซึง่ เป็น
ให้โอกาสแก่พรรคการเมืองขนาดเล็กมากขึ้น ซึง่ จะทําให้เกิดรัฐบาล
ผสมที่ไม่มีเสถียรภาพ ขณะทีย ่ งั คงระบบบัญชีรายชือ ่ ไว้ แต่กล
็ ด
สัดส่วนปาร์ตี้ลิสต์จาก100 คน เหลือ 80 คน ยิ่งไปกว่านั้น ฐานคะแนน
ของระบบปาร์ตล ้ี สิ ต์จากเดิมทีก
่ า ํ หนดให้ทว ่ั ประเทศเป็นหนึง่ เขตเลือก
ตั้ง ก็ถูกเปลี่ยนเป็นฐานคะแนนตามภูมิภาค การแบ่งเขตเลือกตั้ง
อย่างไม่ยุติธรรมและค่อนข้างเทอะทะนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อลดแรง
สนับสนุนของผู้ที่จงรักภักดีต่อทักษิณ ระบบเลือกตั้งวุฒิสมาชิกตาม
รัฐธรรมนูญ 2540 ถูกเปลี่ยนเป็นกําหนดให้มีวุฒิสมาชิกจํานวน 150
คน โดย 76 คนมาจากการเลือกตั้ง และอีก 75 คนมาจากการแต่งตั้ง
โดยผ่านคณะกรรมการคัดเลือกซึ่งมีที่มาจากผู้พิพากษาและ
ข้าราชการระดับสูง การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ถูกดําเนินการอย่าง
รอบคอบเพือ่ ป้องกันอํานาจจากการเลือกตัง้ ทีโ่ ดดเด่นแบบทีเ่ คยเกิด
กับพรรคไทยรักไทย

5.3 การยุบพรรคไทยรักไทย

คมช. ซึง่ เข้าสูอ


่ า
ํ นาจด้วยการใช้กาํ ลังบังคับ ทําลายพรรค
ไทยรักไทยและทําลายความนิยมของพรรค ในเดือนมกราคม 2550
รัฐบาลทหารจัดสรรงบประมาณลับจํานวน 12 ล้านบาท สําหรับการ
รณรงค์เพือ ่ ทําลายความน่าเชือ ่ ถือและนโยบายของรัฐบาลทักษิณ
ตามรายงานกล่าวว่ารัฐบาลทหารอนุมัติให้มีการโฆษณารณรงค์โดย
ใช้เงินภาษีจากประชาชน-ดําเนินการโดยบริษัทโฆษณาซึ่งมีญาติของ
รองเลขาธิการ คมช.- พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร เป็นเจ้าของกิจการ -
ทั้งยังก่อให้เกิดผลประโยชน์ต่อสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์คนสําคัญ
รวมถึงกรณ์ จาติกวณิช และกอบศักดิ์ สภาวสุ

ดังทีก่ ล่าวไปแล้ว ศาลรัฐธรรมนูญถูกยกเลิกไปทันทีเมื่อมีการ


รัฐประหาร ธรรมนูญชั่วคราวแต่งตั้งองค์คณะตุลาการรัฐธรรมนูญ
จํานวน 9 คน โดยองค์คณะทั้งหมดเป็นผู้พิพากษาที่ได้รับการแต่งตั้ง
โดย คมช. ในวันที่ 30 พฤษภาคม 2550 องค์คณะตุลาการที่ได้รับการ
แต่งตั้งขึ้นทําการวินิจฉัยยุบพรรคไทยรักไทย ชัดเจนว่าการตัดสินคดี
นั้นวางอยู่บนการวินิจฉัยว่าพรรคไทยรักไทยติดสินบน
พรรคการเมืองฝ่ายค้านพรรคเล็กๆ ให้เข้าร่วมการเลือกตั้งในเดือน
เมษายน 2549 พรรคประชาธิปัตย์ (คู่ต่อสู้สําคัญของไทยรักไทยใน
สภา) ถูกกล่าวหาด้วยข้อกล่าวหาอย่างเดียวกัน แต่ศาลตัดสินให้พ้น
ผิด นอกจากการตัดสินยุบพรรคที่เคยเป็นพรรครัฐบาลแล้ว ศาลยัง
ตัดสิทธิทางการเมืองกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยจํานวน 111
คนเป็นเวลา 5 ปีโดยอาศัยความตามประกาศ คมช.ฉบับที่ 27 ที่
กําหนดให้บทลงโทษมีผลย้อนหลัง นีเ่ ป็นการทําให้แน่ใจว่าเมือ

พรรคการเมืองถูกยุบ แกนนําพรรคจะไม่อาจลงเลือกตั้งได้อีกในนาม
ของพรรคการเมืองอื่น ทั้งที่ความเป็นจริงนั้นการกระทําผิดตามข้อ
กล่าวหานัน ้ เกิดขึ้นหลายเดือนก่อนการประกาศใช้ประกาศ คมช.
ฉบับที่ 27 แกนนําพรรคไทยรักไทยส่วนใหญ่ไม่ได้รับโอกาสในการ
แก้ต่างในศาล

คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งเอเชียกล่าวถึงการตัดสินของศาล
รัฐธรรมนูญว่า
“ด้วยเหตุน้ี เราได้เห็นปรากฏการณ์พิเศษที่คณะผู้พิพากษาซึ่งได้รับ
การแต่งตั้งโดยรัฐบาลทหารที่ไม่ผ่านการเลือกตั้งและต่อต้าน
ประชาธิปไตยดําเนินการตัดสินการกระทําของพรรคการเมืองที่ได้รับ
การเลือกตั้งซึ่งถูกกล่าวหาว่าบ่อนทําลายกระบวนการ
ประชาธิปไตย”

ในระบอบใหม่น้ี การเลือกตั้งเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อพรรคไทยรักไทยถูก
ยุบ แกนนําพรรคถูกตัดสิทธิเลือกตั้ง ภาพลักษณ์ของพวกเขาเสื่อม
เสีย และพรรคที่ครั้งหนึ่งไม่มีใครเอาชนะได้แตกสลายเป็นเสี่ยงๆ

5.4 การรัฐประหารทางศาลและเหตุการณ์ความวุ่นวายที่ถูก
จัดตั้งขึ้น
ในเดือนสิงหาคม 2550 อดีตสมาชิกพรรคไทยรักไทยรวมตัวกัน
อีกครั้งอย่างไม่สะทกสะท้านต่อผลการยุบพรรคไทยรักไทย โดยใช้
ชื่อพรรค “พลังประชาชน” ผู้นําพรรคคือนายสมัคร สุนทรเวช นักการ
เมืองชาวกรุงเทพฯ ผู้แก่พรรษา เพียงไม่นานหลังจากที่พรรคพลัง
ประชาชนก่อตัง้ ขึน ้ คมช.ก็มีคําสั่งห้ามกิจกรรมทางการเมืองของ
พรรค ทําให้พรรคร้องทุกข์กล่าวโทษ คมช. ต่อคณะกรรมการการ
เลือกตั้ง อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการการเลือกตั้งเพิกเฉยต่อคําร้อง
ทุกข์ดงั กล่าวซึง่ กล่าวหาว่า คมช. มีความผิดจากการสร้างภูมิคุ้มกัน
ให้ตัวเองโดยการประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่แทนรัฐธรรมนูญ
พ.ศ.

วันที่ 23 ธันวาคม 2550 ประเทศไทยมีการเลือกตั้งครั้งแรกนับ


จากมีรัฐประหาร แม้ คมช.จะต่อต้านและใช้กลยุทธ์ในการปราบปราม
อย่างหนัก แต่พรรคพลังประชาชนก็ได้ที่นั่งในสภาผู้แทนจํานวนมาก
โดยชนะการเลือกตั้ง 233 ที่นั่งจากทั้งหมด 480 ที่นั่ง แม้วา
่ คณะกรม
การการเลือกตั้งตัดสิทธินักการเมืองคนสําคัญที่ลงเลือกตั้งในนาม
พรรคพลังประชาชนไปจํานวนมากแล้วก็ตาม พรรคจัดตั้งรัฐบาลผสม
ได้ โดยนายสมัคร สุนทรเวชขึ้นดํารงตําแหน่งนายกรัฐมนตรีในวันที่
29 มกราคม 2551 ถือเป็นอีกครั้งที่การเลือกตั้งแสดงให้เห็นถึงระดับ
ความมุ่งมั่นของคนไทยในการกําหนดใจตนเองผ่านการเลือกตั้งขณะ
ที่เผชิญกับการประหัตประหารกันทางการเมือง เมื่อต้องเผชิญกับการ
เลือกตั้งที่ส่งผลให้ได้รัฐบาลที่เป็นปฏิปักษ์ต่อผลประโยชน์ของตนเอง
อํามาตย์กใ็ ช้แนวทางใหม่ แทนที่จะยึดอํานาจโดยการใช้กองกําลังอีก
ครั้ง อํามาตย์เลือกทําลายรัฐบาลโดยอาศัยการประท้วงทีใ่ ช้ความ
รุนแรงบนท้องถนนและการขัดขวางบริการสาธารณะที่สําคัญ

พันธมิตรประชาชนเพือ ่ ประชาธิปไตยกลับมาปรากฏตัวบนท้อง
ถนนของกรุงเทพฯ อีกครั้งในเดือนพฤษภาคม 2551 ซึง่ เป็นเวลา
เพียง 5 เดือนหลังรู้ผลการเลือกตั้ง และเมื่อการประท้วงที่ยืดเยื้อกว่า
สามเดือนบนถนนราชดําเนินไม่ประสบความสําเร็จในการสร้างแรง
เสียดทานใดๆ ในปลายเดือนสิงหาคมผู้ชุมนุมของพันธมิตรฯ ทีต ่ ด

อาวุธก็บุกเข้าไปในสถานีโทรทัศน์ในกรุงเทพฯ บุกกระทรวงหลาย
กระทรวงและยึดทําเนียบรัฐบาลไว้เพื่อกีดกันไม่ให้รัฐบาลสามารถ
ทํางานได้ ในช่วงเวลาเดียวกัน ก็ยึดสนามบินในจังหวัดภูเก็ต กระบี่
และหาดใหญ่ ปิดกั้นถนนสายหลักและทางด่วน สหภาพรัฐวิสาหกิจ
ขัดขวางการเดินรถไฟทั่วประเทศและขู่ว่าจะตัดน้ําตัดไฟ สนธิ ลิม
้ ทอง
กุล ผู้นําของพันธมิตรฯ มีโอกาสถอนเงินจํานวนมหาศาลจากบัญชี
ธนาคารซึ่งได้มาจากผู้สนับสนุนพันธมิตรฯ ที่ร่ํารวย

พันธมิตรฯ เรียกร้องให้ “รัฐบาลหุน่ เชิด” ของนายสมัคร ลงจาก


ตําแหน่ง แต่น่าสังเกตว่าไม่ได้เรียกร้องให้มีการเลือกตั้งใหม่เพื่อหา
รัฐบาลมาทําหน้าทีแ ่ ทน แต่กลับเรียกหาการรัฐประหารอีกครั้งหนึ่ง
ดังที่นิตยสาร ดิ อิโคโนมิสต์ ระบุวา
่ “พันธมิตรฯ อ้างว่า ไม่ว่าอย่างไร
รัฐบาล (สมัคร) ก็ไม่ชอบธรรม เพราะเชือ ่ ว่าคนจนไม่สมควรจะมีสท ิ ธิ
ลงคะแนนเสียงเนื่องจากพวกเขาโง่เกินไป”

เมื่อครั้งที่พันธมิตรฯ พยายามขับไล่รฐ ั บาลทักษิณในปี 2549


นั้น กลุ่มพันธมิตรฯ อภิปรายว่าประเทศไทยกําลังก้าวสู่ระบอบ
เผด็จการภายใต้การนําของทักษิณ และพันธมิตรฯ ร้องหาการ
แทรกแซงจากพระมหากษัตริยโ์ ดยอ้างว่าเป็นความจําเป็นของ
ประเทศเพื่อเป็นหนทางไปสู่การเป็น “ประชาธิปไตย” ที่สมบูรณ์
แนวทางในการรณรงค์ที่เล่นโวหารเรื่องประชาธิปไตยของพันธมิตรฯ
อาจเป็นเหตุผลว่าทําไมพันธมิตรฯ จึงสามารถเรียกร้องความเห็นอก
เห็นใจจากคนทั่วไปจํานวนมากในกรุงเทพฯ และทีอ ่ น
่ื ๆ อย่างไรก็ตาม
ผู้ที่นิยมและให้การสนับสนุนพันธมิตรฯ ส่วนใหญ่ค่อยๆ ลดลง ขณะที่
พันธมิตรฯยังคงกิจกรรมอย่างต่อเนื่องในปี 2551 จากการต้องเผชิญ
กับการชุมนุมทีม ่ ผี เู้ ข้าร่วมจํานวนน้อยและความล้มเหลวของการ
รัฐประหาร กติกาใหม่จึงถูกกําหนดตามมา การล่าแม่มดเกิดขึ้นอีก
ครั้งเพื่อต่อต้านเศษซากที่เหลืออยู่ของพรรคไทยรักไทยเพื่อให้
รัฐบาลเอือ ้ ประโยชน์ตอ่ อํามาตย์มากขึน้ ยุทธศาสตร์ของพันธมิตรฯ
นั้นรุนแรงขึ้นและมีลักษณะสุดโต่ง ประการแรก พันธมิตรฯ เพิ่ม
แนวทางที่รุนแรงมากขึ้น ประการที่ 2 แกนนําอภิปราย ต่อต้าน
ประชาธิปไตยในประเทศไทย โดยตําหนิว่าผู้มีสิทธิเลือกตั้งในต่าง
จังหวัดและชนชั้นล่างจํานวนมากยังคงถูกหลอกได้ง่าย ไม่มีการ
ศึกษา และถูกครอบงําจากความต้องการทําให้ไม่อาจลงคะแนนอย่าง
มีเหตุผล สิ่งที่พันธมิตรฯ เสนอให้นา ํ มาใช้แทนก็คอ
ื การลดจํานวน
นักการเมืองในสภาลงให้เหลือ 30 เปอร์เซ็นต์จากที่นั่งในสภาทั้งหมด
และปล้นอํานาจในการกําหนดนโยบายของประเทศจากนักการเมือง
เหล่านัน ้

แม้ว่าประวัติศาสตร์ประชาธิปไตยของไทยจะมีลักษณะผกผัน
แต่ก็ไม่ใช่เรื่องปกติที่จะได้ยินกลุ่มจัดตั้งประกาศต่อสาธารณะว่าต่อ
ต้านประชาธิปไตยด้วยท่าทีที่ถืออภิสิทธิ์และแข็งกร้าว แต่กระนั้น สิ่ง
ที่โลกได้เห็นจากพันธมิตรฯ ก็คืออุดมการณ์อย่างเป็นทางการของ
ประเทศซึ่งฝังลึก นั่นคือการแยกแยะความแตกต่างอย่างเด่นชัดทาง
จารีตระหว่างชนชั้นปกครองจํานวนน้อยกับผู้อยู่ใต้การปกครอง ใน
ความเป็นจริง ดูเหมือนว่าสิ่งที่ทําให้พันธมิตรฯ หวาดกลัวไม่ใช่การ
คาดการณ์วา ่ ทักษิณ “คอร์รปั ชัน
่ ” หรือ เป็น “เผด็จการ” การที่พัน
ธมิตรฯ ต้องการให้กองทัพซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นองค์กรที่มีการคอร์รัปชั่
นมากที่สุดของประเทศเข้าแทรกแซงทางการเมืองโดยไม่เอ่ยถึงการ
ละเมิดสิทธิมนุษยชนอันเลวร้ายขององค์กรนี้เลยนั้น เป็นตัวอย่างอันดี
ที่แสดงให้เห็นว่าพันธมิตรฯ ไม่ใส่ใจต่อประชาธิปไตยและนิติรัฐ สิ่งที่
เป็นปัญหาที่สุดของพันธมิตรฯ ก็คอ ื ความนิยมทีท ่ กั ษิณได้รบ
ั อันเนือ
่ ง
มาจากนโยบายและการทีท ่ ก
ั ษิณปลูกฝังและให้อา ํ นาจแก่กลุม ่ คนที่
ครั้งหนึ่งเคยมีบทบาทในการเมืองไทยในฐานะผู้ถูกกระทํา ดังที่นัก
วิชาการผู้หนึ่งกล่าวว่า “อาชญากรรมที่แท้จริง” ของทักษิณก็คอ ื เขา
“ไม่จําเป็นต้องชนะการเลือกด้วยการซื้อเสียงอีกต่อไป”
กลุ่มพันธมิตรฯ ซึ่งโดยแก่นแท้แล้วเป็นองค์กร “รากหญ้า
เทียม” นั้นมีสมาชิกส่วนใหญ่เป็นคนรวยในกรุงเทพฯ ได้รับเงินทุน
จากกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ และเป็นหนีต ้ อ
่ เหล่าอิทธิพลทีห
่ นุนหลังผูม
้ ี
อํานาจในกองทัพ สภาองคมนตรี และพรรคประชาธิปต ั ย์ เช่นเคย
พันธมิตรฯและผู้หนุนหลังรู้สึกว่าการคุกคามจากพรรคไทยรักไทย
และพรรคทีส ่ บ
ื ทอดนัน
้ ทบทวี

ในด้านหนึ่ง ทักษิณได้ให้สิทธิพิเศษกับกลุ่มอํานาจในกรุงเทพฯ
ซึ่งเคยได้ประโยชน์จากงบประมาณของรัฐ ในเรื่องนี้ คาร์ล ดี. แจค
สัน นักวิชาการจากมหาวิทยาลัยจอห์น ฮ็อสกินส์อภิปรายว่า “ปัญหา
พื้นฐานของระบบการเมืองไทยก็คือเงินกระจุกอยู่ในกรุงเทพฯจํานวน
มาก ขณะที่ผู้มีสิทธิคะแนนเสียงส่วนใหญ่นั้นอยู่นอกกรุงเทพฯ” สิ่ง
ทีศ่ .แจ็คสันละเลยไม่ได้กล่าวถึงก็คือ แม้วา
่ จุดศูนย์รวมความมัง่ คัง่
ของประเทศอยู่ในเมืองหลวงที่มีลักษณะพิเศษอย่างยิ่ง แต่ว่าบรรดาผู้
มีฐานะในกรุงเทพฯ กลับยังไม่ยอมรับแนวคิดว่าประเทศควรจะ
ปกครองด้วยตัวแทนที่ได้รับการคัดเลือกจากเสียงส่วนใหญ่ซึ่งเป็นผู้
มีสิทธิเลือกตั้งในต่างจังหวัด

ในอีกด้านหนึ่ง ข้อเท็จจริงอันบริสท
ุ ธิก
์ ค
็ อ
ื กลุม
่ พลเมืองทีต
่ น
่ื ตัว
และรวมกลุ่มกันลงคะแนนให้กับพรรคการเมืองเดียวนั้นเป็นการ
คุกคามและลดทอนความสําคัญของสถาบันทีไ่ ม่ผา ่ นการเลือกตัง้ และ
นักการเมืองในพรรคประชาธิปัตย์ซึ่งมองเห็นแล้วว่าความแข็งแกร่ง
ในการเลือกตั้งลดลงอย่างต่อเนื่อง นักการเมืองคนสําคัญของพรรค
อย่างสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ และสําราญ รอดเพ็ชร ยังมีสถานะเป็น
แกนนําพันธมิตรฯ อีกด้วย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
คนปัจจุบน ั ,กษิต ภิรมย์ ก็ปรากฏตัวในการชุมนุมของพันธมิตรฯ บ่อย
ครั้งในช่วงที่พันธมิตรฯ ยึดสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิอย่างผิด
กฎหมาย รัฐมนตรีกว่าการกระทรวงการคลังคนปัจจุบัน กรณ์ จาติก
วณิช กล่าวอย่างภาคภูมิใจว่าเขาสนับสนุนกลุ่มพันธมิตรฯ แม้ใน
ที่สุดแล้วจะมีการก่อความรุนแรงอย่างน่ารังเกียจ และมีลก
ั ษณะของ
การต่อต้านประชาธิปไตยอย่างรุนแรง แต่กรณ์ได้เขียนอธิบายผ่าน
บทความในบางกอกโพสต์ ซึ่งใช้สัญลักษณ์แสดงความสัมพันธ์
ระหว่างพันธมิตรฯ กับพรรคประชาธิปต ั ย์วา
่ :

“เป็นข้อเท็จจริงที่รู้กันดีว่าแกนนําคนหนึ่งของพันธมิตรเป็น
ส.ส. ของพรรคประชาธิปัตย์ แม้วา ่ เขาจะเข้าร่วมกับพันธมิตรในนาม
ส่วนตัวก็ตาม

“ผู้ปราศรัยจํานวนมากก็เป็นผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งในสมัยที่
ผ่านมา มากกว่าหมืน ่ คนทีเ่ ข้าร่วมการชุมนุมเป็นผูท
้ ล
่ี งคะแนนให้กบ

พรรคประชาธิปัตย์ ที่สําคัญที่สุด พันธมิตรฯ และผู้สนับสนุนพัน
ธมิตรฯ มีขอ้ คิดเห็นเช่นเดียวกันกับเราว่ารัฐบาลนัน้ ไม่มค ี วามชอบ
ธรรมทั้งในทางกฎหมายและในทางจริยธรรม”

เขาเสริมว่า:
“ผมเชือ่ ด้วยว่า ไม่วา
่ จะชอบหรือไม่กต ็ าม พรรคประชาธิปัตย์โดยตัว
เองแล้วไม่สามารถจะต้านทานพรรคพลังประชาชนหรือรัฐบาลจาก
การใช้อา ํ นาจในทางทีผ ่ ด
ิ ในช่วงเวลา 7 เดือนทีป
่ กครองประเทศ ผม
คิดว่าหากปราศจากความพยายามของเราที่เคียงข้างกันมา ก็เหมือน
ว่ารัฐธรรมนูญนั้นได้รับการแก้ไขและให้ความคุ้มครองเฉพาะทักษิณ
และพรรคพลังประชาชนเท่านัน ้ ”

ด้วยการกระทําอย่างเดียวกันนั้น ผู้ที่สนับสนุนคนเสื้อแดงถูก
ฟ้องร้องในข้อหากบฏและแกนนําเสื้อแดงถูกกล่าวหาในความผิด
ฐานก่อการร้ายซึ่งอาจมีโทษประหารชีวิต แต่คนอย่างกรณ์และกษิต
ได้รับรางวัลเป็นตําแหน่งรัฐมนตรี

วันที่ 9 กันยายน 2550 ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินให้นายกรัฐมนตรี


สมัครพ้นจากตําแหน่งตามคําฟ้องของนักการเมืองฝ่ายค้านและคณะ
กรรมการการเลือกตั้ง ด้วยความผิดจากการดําเนินรายการสอนทํา
อาหารผ่านรายการโทรทัศน์ ซึ่งถือเป็นการกระทําต้องห้าม ทีห ่ า
้ ม
รัฐมนตรีรบั ค่าตอบแทนจากนายจ้างอืน ่ นายสมัครโต้แย้งว่าเขาไม่ได้
ถูกว่าจ้างโดยสถานีโทรทัศน์และแม้ว่ารายการจะออกอากาศใน
ระหว่างที่เขาดํารงตําแหน่ง แต่การบันทึกเทปนัน ้ ทําก่อนทีจ
่ ะเข้าสู่
ตําแหน่งนายกรัฐมนตรี อย่างไรก็ตาม ข้อโต้แย้งเหล่านัน ้ ศาล
รัฐธรรมนูญพิจารณาว่าฟังไม่ขึ้นและลงมติเป็นเอกฉันท์ให้เขาพ้นจาก
ตําแหน่งนายกรัฐมนตรี เรื่องที่น่าตลกก็คือว่าตุลาการศาล
รัฐธรรมนูญรายหนึ่งคือ นายจรัญ ภักดีธนากุลเองก็รับเชิญไปออก
รายการวิทยุและได้รับค่าตอบแทนจากการสอนกฎหมายใน
มหาวิทยาลัยเอกชนเป็นประจําขณะทีก ่ า
ํ ลังดํารงตําแหน่งตุลาการ
ศาลรัฐธรรมนูญด้วย วันที่ 18 กันยายน 2550 สมชาย วงษ์สวัสดิ์ น้อง
เขยของทักษิณขึ้นดํารงตําแหน่งนายกรัฐมนตรีแทนนายสมัคร กลุม ่
พันธมิตรฯ ซึ่งยึดทําเนียบรัฐบาลอยู่ปฏิเสธที่จะสลายการชุมนุม

บางที จุดเปลีย
่ นอาจจะอยูท ่ ว
่ี นั ที่ 7 สิงหาคม เมือ
่ เกิดความ
รุนแรงระหว่างที่เจ้าหน้าที่ตํารวจและพันธมิตรฯ ราวๆ สองถึงสามพัน
คนที่หน้าสภาผู้แทนราษฎร โดยฝ่ายพันธมิตรฯ พยายามปิดกั้นทาง
เข้ารัฐสภา มีประชาชนบาดเจ็บหลายร้อยคนจากเหตุชล ุ มุน การ์ด
พันธมิตรยิงปืนและขว้างระเบิดปิงปองเข้าใส่เจ้าหน้าทีต ่ าํ รวจ ขณะที่
เจ้าหน้าทีต
่ า
ํ รวจตอบโต้ดว ้ ยแก๊สน้า ํ ตาและไม้กระบอง สมาชิกของ
กลุ่มพันธมิตรฯ เสียชีวต ิ ไป 2 คน รายหนึ่งเป็นหญิงสาวซึ่งเสียชีวิต
เพราะถูกแก๊สน้ําตาที่ผลิตจากประเทศจีนยิงเข้าใส่โดยตรง อีกราย
หนึ่งเป็นการ์ดซึ่งไม่ได้เสียชีวิตจากการปะทะ แต่เสียชีวิตขณะที่รถ
ของเขาระเบิดหน้าที่ทําการพรรคชาติไทย พระราชินีเสด็จไปในการ
พระราชทานเพลิงศพ น.ส. อังคณา ระดับปัญญาวุฒิ หญิงสาวที่เสีย
ชีวิตหน้าสภาผู้แทนราษฎร ส่วนอดีตนายกรัฐมนตรีอานันท์ ปันยาร
ชุน และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีในเวลาต่อมาก็ได้
แสดงการสนับสนุนพันธมิตรฯ ด้วยการไปร่วมงานศพของนายเมธี
ชาติมนตรี ซึ่งเป็นไปได้ว่าเสียชีวิตจากเหตุก่อการร้ายด้วยระเบิดของ
เขาเอง
ในเวลานัน
้ อภิสิทธิ์ได้แสดงความเห็นอย่างต่อเนื่องซึ่งขัดแย้งอย่าง
รุนแรงกับสิ่งที่เขาทําในการสังหารประชาชนภายใต้การกํากับดูแล
ของเขาเอง ยิ่งไปกว่านั้นเขายังแถลงข่าวอย่างเกรี้ยวกราดประกาศ
ท่าทีของพรรคต่อกรณีการปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่ตํารวจกับพัน
ธมิตรฯ ว่า:

“ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเรื่องที่นายกฯ ปฏิเสธความรับผิด
ชอบไม่ได้วา ่ เป็นผูท้ ล
่ี ะเว้นการปฏิบต
ั ห
ิ น้าที่ หรือมิเช่นนั้นก็
จงใจให้เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้น แต่ว่าที่เลวร้ายกว่าการ
โยนความผิดหรือความพยายามปัดความรับผิดชอบไปให้
เจ้าหน้าทีก ่ ค
็ อื ว่า วันนี้พัฒนาไปสู่กระบวนการใส่ร้าย
ประชาชน ผมไม่นึกไม่ฝันว่าเรามีรัฐที่ได้ทําร้ายประชาชนถึง
ขั้นเสียชีวิต บาดเจ็บสาหัสแล้ว เรายังมีรัฐที่พยายาม
ยัดเยียดความผิดกลับไปให้ประชาชนอีก เป็นพฤติกรรมที่
รับไม่ได้ครับ ผมเคยได้ยินคนในฝ่ายรัฐบาลชอบถามคนนั้น
คนนีว ้ า
่ เป็นคนไทยหรือเปล่า แต่พฤติกรรมที่ท่านแสดงอยู่
นั้น ไม่ใช่เป็นคนไทยหรือเปล่า แต่เป็นคนหรือเปล่า

วันนี้ในทางการเมืองความชอบธรรม(ของรัฐบาลสมชาย)
มันหมดไปแล้วครับ เราเรียกร้องความรับผิดชอบจากท่าน
(นายกรัฐมนตรี) ท่านจะลาออก หรือถ้าท่านกลัวว่าถ้าท่าน
ลาออกแล้วจะเป็นเรือ่ งทีฝ
่ า
่ ยพรรคประชาธิปต
ั ย์จะไปมี
อํานาจท่านก็ยุบสภาเถิดครับ แต่ท่านเพิกเฉยไม่ได้ เพราะ
ถ้าท่านเพิกเฉยแล้ว ท่านทําร้ายบ้านเมืองและท่านกําลัง
ทําร้ายระบบการเมือง
“ไม่มีที่ไหนในโลกที่ประชาชน ถูกทําร้ายจากภาครัฐแล้ว
รัฐบาลทีม ่ าจากประชาชนไม่แสดงความรับผิดชอบ”

บันทึกเหตุการณ์ถัดจากนี้ แสดงให้เห็นว่าอภิสิทธิ์ในฐานะ
หัวหน้าพรรคฝ่ายค้านได้ฝ่าฟันการเปลี่ยนแปลงครั้งสําคัญบนเส้น
ทางที่นําพาเขาสู่ตําแหน่งนายกรัฐมนตรี

วันที่ 25 พฤษภาคม 2551 ม็อบพันธมิตรฯ บุกยึดสนามบิน


นานาชาติสุวรรณภูมิ ซึ่งเป็นศูนย์กลางการบินของภูมิภาค ทําให้มี
นักท่องเทีย ่ วตกค้างเป็นจํานวนหลายแสนคน พร้อมกันนั้น พัน
ธมิตรฯ ยังทําการยึดสนามบินนานาชาติดอนเมืองเพือ ่ ขัดขวางความ
พยายามของรัฐบาลที่จะจัดเส้นทางการบินเข้าออกใหม่ ผู้สนับสนุน
พันธมิตรฯ หลายพันคนใช้โล่มนุษย์ป้องกันการเข้าสลายการชุมนุม
ของเจ้าหน้าทีต ่ า
ํ รวจ มีรายงานข่าวด้วยว่าพันธมิตรฯ หลอกใช้เด็ก
โดยการจ้างพ่อแม่ของเด็กเพื่ออนุญาตให้เด็กเข้าร่วมการชุมนุม ขณะ
เดียวกันการ์ดพันธมิตรฯ ซึ่งสามารถเอาชนะตํารวจได้ทําการตั้งด่าน
ปิดกั้นทางเข้าสนามบินสุวรรณ รัฐบาลประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน
และเรียกให้ทหารเข้ามาทําหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อย แต่
อย่างไรก็ตาม กองทัพปฏิเสธที่จะทําตาม ในทางตรงกันข้าม ผู้
บัญชาการทหารสูงสุด พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา กลับเรียกร้องผ่าน
ทางสาธารณะให้รัฐบาลลาออก ความพยายามของรัฐบาลในการขับ
ไล่ผช
ู้ ม
ุ นุมไม่ประสบความสําเร็จ เศรษฐกิจเสียหายจากการยึดสนาม
บินราวหนึ่งหมื่นสองพันล้านเหรียญสหรัฐ

ในวันที่ 2 ธันวาคม เป็นอีกครั้งหนึ่งที่กระบวนการยุติธรรมที่ถูก


การเมืองครอบงําเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แสดงความจํานนให้เห็น เมือ ่ ศาล
รัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรคพลังประชาชนและพรรคร่วมรัฐบาล
ได้แก่ พรรคชาติไทย และพรรคมัชฌิมาธิปไตย และตัดสิทธิทางการ
เมืองกรรมการบริหารพรรคการเมืองทั้ง 3 พรรคเป็นเวลา 5 ปี ใน
บรรดานักการเมืองที่ถูกตัดสิทธินั้น นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ต้องพ้น
จากตําแหน่งนายกรัฐมนตรีโดยทันที ภายในไม่กี่ชั่วโมงต่อมา สนธิ
ลิม
้ ทองกุลจัดแถลงข่าวและประกาศว่าพันธมิตรฯ จะยุติการยึด
สนามบิน เขาไม่ลม ื ทีจ
่ ะประกาศด้วยว่าพันธมิตรฯ จะกลับมาต่อสูอ ้ ก

หากหุน ่ เชิดของทักษิณกลับมามีอา ํ นาจ ตรงกันข้ามกับแกนนํา นปช.
ซึง่ ถูกทหารควบคุมตัวเมือ ่ วันที่ 19 พฤษภาคม ไม่มีแกนนําคนไหน
ของพันธมิตรฯ ที่ต้องนอนค้างคืนในคุกด้วยความผิดฐานฝ่าฝืนกฎ
อัยการศึก ยึดสนามบิน ทําลายสิ่งก่อสร้างในทําเนียบรัฐบาล หรือยิง
ประชาชนและเจ้าหน้าทีต ่ าํ รวจ

เป็นที่น่าสังเกตว่าข้อกําหนดเรื่องการยุบพรรคซึ่งศาล
รัฐธรรมนูญใช้เป็นฐานในการตัดสินคดีนั้นอยู่ในกฎหมาย
รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2550 ตามที่คณะรัฐบาลทหารเรียกร้อง มองเผินๆ
แล้วก็เหมือนมีเป้าหมายทีจ ่ ะเพิม
่ ความเข้มแข็งให้กบ ั ฝ่ายตุลาการ
ต่อสู้กับการคอร์รัปชั่น รัฐธรรมนูญกําหนดให้ศาลรัฐธรรมนูญที่ได้รับ
การแต่งตั้งโดยคณะทหารใช้อํานาจอย่างกว้างขวางในการล้มล้าง
อํานาจผูท ้ ป
่ี ระชาชนเลือกมา ด้วยลักษณะที่คล้ายกันมากกับธรรมนูญ
ชั่วคราวซึ่งถูกนํามาใช้ภายหลังการรัฐประหาร รัฐธรรมนูญ 2550 ให้
ทางเลือกแก่ศาลในการยุบพรรคการเมืองใดๆ ก็ตามทีค ่ ณะ
กรรมการการเลือกตั้งพบว่าคณะกรรมการบริหารพรรคหรือผู้สมัคร
ของพรรคแม้เพียงรายเดียวทุจริตการเลือกตั้ง เมื่อมีการตัดสินยุบ
พรรคการเมือง ศาลรัฐธรรมนูญอาจตัดสิทธิเลือกตั้งของคณะ
กรรมการบริหารพรรคทั้งหมดเป็นเวลา 5 ปี คดีตว ั อย่างเช่น ศาล
รัฐธรรมนูญยุบพรรคไทยรักไทยและตัดสิทธิคณะกรรมการบริหาร
พรรคโดยอาศัยฐานการกระทําความผิดของยงยุทธ ติยะไพรัช อดีต
โฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี ซึ่งถูกตัดสินว่ามีความผิดฐาน
ทุจริตการเลือกตั้งครั้งล่าสุด แม้ว่าจะมีการฟ้องร้องพรรค
ประชาธิปัตย์ในกรณีเดียวกัน แต่กลับพบว่าศาลเลีย ่ งทีจ่ ะสัง่ ให้มก
ี าร
ยุบพรรค
มันเป็นเพียงควันหลงจากการปะทะที่ชอกช้ําระหว่างรัฐบาลกับ
พันธมิตรฯ สนามบินถูกยึด ผลคําตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญทําให้
พรรคประชาธิปัตย์สามารถจัดตั้งรัฐบาลผสมและส่งผลให้อภิสิทธิ์
เวชชาชีวะเป็นนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 18 ธันวาคม 2551 รัฐบาลผสม
นั้นเป็นหนี้บุญคุณมุ้งการเมืองที่สําคัญในพรรคไทยรักไทยซึ่งหัวหน้า
มุ้งก็คือนายเนวิน ชิดชอบผู้ถูกตัดสิทธิทางการเมือง และอดีตพรรค
ร่วมรัฐบาลพลังประชาชนอย่างเช่นพรรคชาติไทยพัฒนาซึ่งตั้งขึ้น
โดยอดีตนายกรัฐมนตรีบรรหาร ศิลปอาชา ผู้เคยเป็นพันธมิตรกับ
ทักษิณมาก่อน ข้อตกลงบรรลุในวันที่ 6 ธันวาคมทีบ ่ า
้ นของผู้
บัญชาการทหารบก พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา มีรายงานข่าวว่าในการ
ประชุมครั้งนั้น พล.อ.อนุพงษ์กล่าวเตือนผู้ร่วมการประชุมว่า เขาพูด
แทน “ชายเจ้าของถ้อยคําทีไ่ ม่อาจปฏิเสธได้”

แม้ว่าในการเลือกตั้งในปี 2544, 2548, 2549 และ 2550 ซึง่


ประชาชนไทยได้แสดงความนิยมต่อพรรคที่เชื่อมโยงกับทักษิณด้วย
เสียงข้างมาก ซึ่งครองเสียงข้างมากทั้งโดยพรรคเดียวและหลาย
พรรครวมกันในการเลือกตั้งแต่ละครั้ง อํามาตยาธิปไตยฟื้นฟูได้ด้วย
รัฐประหารโดยทหาร 15 เดือนแห่งการปราบปราม ฟ้องร้อง ทําลาย
ความน่าเชื่อถือของนักการเมืองที่ได้รับการเลือกตั้งจากประชาชน
การยึดทําเนียบรัฐบาลและสนามบินหลักของชาติอย่างผิดกฎหมาย
และคําพิพากษาตามอําเภอใจทีม ่ อ
ี อกมาเป็นลําดับเพือ
่ ยุบ
พรรคการเมืองใหญ่ 4 พรรค ยุบรัฐบาล 3 รัฐบาล และปรับเปลีย ่ น
ระบบกฎหมายของประเทศให้เป็นไปตามความพอใจและผล
ประโยชน์ของอํามาตย์

กระนั้นก็ตาม การที่ ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์เข้าร่วมการ


ชุมนุมของพันธมิตรฯ บทบาทพันธมิตรฯ ในฐานะเครื่องมือที่ผลักดัน
อภิสิทธิ์สู่ตําแหน่งนายกรัฐมนตรี และการที่พรรคประชาธิปัตย์ให้
คํามั่นต่อพันธมิตรฯ ว่าจะไม่ถูกลงโทษภายใต้รัฐบาลประชาธิปัตย์
ทําให้ความสัมพันธ์ของกลุ่มการเมืองทั้งสองอยู่ในสภาวะน่าวิตก
แกนนําพันธมิตรฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สนธิ ลิม ้ ทองกุลตําหนิ
การเมืองแบบเก่าของพรรคประชาธิปัตย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณี
การต่อรองทางการเมืองซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ถูกบังคับให้ต้องเกี่ยว
ดองกับนักการเมืองที่ฉาวโฉ่เรื่องการทุจริตเนื่องจากความพยายาม
ตั้งรัฐบาลผสมและประคับประคองไปด้วยกัน

ยิ่งกว่านั้น พันธมิตรฯ หวนกลับมาวิพากษ์วจ ิ ารณ์จดุ อ่อนอัน


เป็นที่รับรู้รวมถึงความไม่แน่วแน่ของของรัฐบาลอภิสิทธิ์ ซึ่งนั่นก็เป็น
เหตุผลที่พันธมิตรฯ ตั้งพรรคการเมืองของตัวเอง “พรรคการเมือง
ใหม่” ตั้งแต่เดือนแรกๆ ที่อภิสิทธิ์ขึ้นดํารงตําแหน่ง โดยมีนโยบาย
ปกป้องสถาบันกษัตริย์และทําความสะอาดการเมืองไทย อันเป็น
ภารกิจที่รัฐบาลอภิสิทธิ์ไม่สามารถตอบสนองความต้องการให้พวก
เขาได้ดพ ี อ สนธิ ลิ้มทองกุลวิพากษ์ว่าอภิสิทธิ์ไม่มีศักยภาพที่จะนําพา
ประเทศไปข้างหน้า และเรียกร้องให้ “คืนอํานาจรัฐสภาให้พระมหา
กษัตริย์” และเสนอแนะว่ากองทัพควรจะทําการรัฐประหารหาก
อภิสิทธิ์ไม่สามารถที่จะสร้าง “ธรรมาธิปไตย” ทีห ่ า ่ งไกลจากระบบ
รัฐสภาซึ่งเขาเรียกว่าเป็น “ทีอ ่ ยูข
่ องเหล่าอสูร”
ตามความเป็นจริง ความสัมพันธ์อันกลมกลืมระหว่างพันธมิตรฯ และ
ประชาธิปัตย์และการดํารงอยู่ร่วมกันที่น่าอึดอัดนั้น อาจอธิบายได้วา ่
ทั้งพรรคประชาธิปัตย์และพันธมิตรฯ เป็นเสมือนปีกสองข้างของ
โครงสร้างหลวมๆ ของกลุม ่ อํานาจเก่าในประเทศไทย พันธมิตรฯ
เป็นปีกนอกกลไกรัฐสภาซึ่งทําให้มีการปฏิบัติการบนท้องถนนได้เมื่อ
ต้องการ ขณะที่ประชาธิปัตย์เป็นปีกภายใต้กลไกรัฐสภาซึ่งมีหน้าที่
แสดงบทบาทรัฐบาลที่ถูกครอบงําโดยกองทัพ ที่ปรึกษาของกษัตริย์
และผู้นําทางธุรกิจ สําหรับทั้งสององค์กร สิ่งที่เกี่ยวข้องกับผล
ประโยชน์ของฝ่ายอํามาตย์ถือเป็นประเด็นสําคัญทั้งในแง่อุดมการณ์
และความจําเป็น อย่างน้อยที่สุดทั้งสองกลุ่มนี้ไม่อาจที่จะบรรลุถึง
อํานาจทีต
่ นถือครองอยูใ่ นปัจจุบน
ั หากไม่ได้รบ
ั การหนุนหลังจาก
กองทัพ การอุปถัมภ์จากคนในราชสํานักที่ทรงอิทธิพล และการเกื้อ
หนุนจากครอบครัวที่มั่งคั่งในกรุงเทพฯ

การที่กลุ่มอํานาจเก่าสนับสนุนพันธมิตรฯ และพรรค
ประชาธิปต ั ย์สง่ ผลต่อความวุน
่ วายทีไ่ ปไกลกว่าความขัดแย้งภายใน
ประเทศ พันธมิตรฯ และพรรคประชาธิปัตย์เป็นผู้ก่อให้เกิดข้อถก
เถียงในประเด็นปราสาทเขาพระวิหาร นําพาประเทศไปสู่ความเสี่ยง
ที่จะก่อสงครามกับประเทศกัมพูชาในพื้นที่พิพาทซึ่งถูกศาลระหว่าง
ประเทศตัดสินไปแล้วตัง้ แต่ปี 2505 (โดยสร้างความพึงพอใจแก่คู่
กรณีทั้งสองประเทศ) แต่ในปี 2551 นายสมัครและพรรคพลัง
ประชาชนซึง่ เป็นแกนนํารัฐบาลลงนามยินยอมให้รฐ ั บาลกัมพูชานํา
เขาพระวิหารขอขึ้นทะเบียนต่อคณะกรรมการมรดกโลกขององค์การ
การศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก)
พันธมิตรฯ และบรรดาผู้สนับสนุนปั้นแต่งว่านี่เป็นหลักฐานว่า “นอมินี
ของทักษิณ” มีเจตนาทีจ ่ ะยกเขตแดนไทยให้กม ั พูชา รัฐมนตรีว่าการ
กระทรวงการต่างประเทศ นายนพดล ปัทมะ ซึ่งเป็นผู้ลงนามใน
แถลงการณ์ร่วม ไทย-กัมพูชาถูกกดดันให้ลาออก ในเดือนกรกฎาคม
2551 กลุม่ ชาตินย ิ มพยายามปักธงชาติไทยในพืน ้ ทีท
่ บ
ั ซ้อนบริเวณ
ใกล้เขาพระวิหาร ซึ่งเป็นการกระทําที่ส่งผลให้เกิดการปะทะกัน
ระหว่างกองกําลังทหารไทยกับทหารกัมพูชา ช่วงเวลาทีเ่ วทีพน ั
ธมิตรฯ เรียกร้องทุกคืนให้ “คืนเขาพระวิหารให้กับประเทศไทย” และ
กษิต ภิรมย์ ซึ่งต่อมาได้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
ประกาศบนเวทีพันธมิตรฯ ขณะที่ยึดสนามบินสุวรรณภูมิอยู่ว่าจะเอา
เลือดสมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชามาล้างเท้า นับแต่นน ้ั มา
กําลังทหารของทั้งฝ่ายไทยและกัมพูชายิงตอบโต้กันในพื้นที่ใกล้
ปราสาทเขาพระวิหารหลายครั้ง ความผันผวนของภูมิภาคที่ถูกจุดขึ้น
โดยการกระทําของพันธมิตรฯ และพรรคประชาธิปัตย์สร้างความตื่น
ตระหนกให้กับคู่ค้ารายใหญ่ของไทย ประเทศไทยค่อยๆไหลลื่นไปสู่
การปกครองแบบเผด็จการทหาร และทําลายศักยภาพของภูมิภาค
อาเซียนด้วยระบบทีโ่ หดร้ายในระดับเดียวกับรัฐบาลทหารพม่า ความ
มืดบอดด้วยความเกลียดชังทีพ ่ วกเขามีตอ
่ ทักษิณ อํามาตย์และหมู่
มิตรในพันธมิตรฯ และพรรคประชาธิปัตย์จึงไม่เคยยับยั้งการกระทํา
ของตัวเองแม้ว่าจะเกิดผลกระทบระหว่างประเทศร้ายแรงตามมา
6. ฤดูร้อนสีดําของประเทศไทย : การสังหารหมู่คนเสื้อ
แดง

ด้วยความโกรธและคับข้องใจทีถ ่ ก
ู ทําลายเจตจํานงของตนซ้าํ แล้วซ้า

เล่า ตลอดจนการปราบปรามการแสดงความเห็นทางการเมืองอย่าง
เป็นระบบต่อ สมาชิกและผูท ้ เ่ี ห็นอกเห็นใจกลุม่ แนวร่วมประชาธิปไตย
ขับไล่เผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือที่รู้จักกันในนาม “คนเสื้อแดง”
หลายแสนคนจากทุกจังหวัดทั่วประเทศจึงเริ่มเคลื่อนสู่กรุงเทพฯ ใน
วันที่ 12 มีนาคม 2553 โดยประกาศว่าจะไม่เลิกชุมนุมจนกว่านาย
อภิสิทธิ์จะยุบสภาและมีการเลือกตั้งใหม่ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่กลุ่มคน
เสื้อแดงออกมาเรียกร้องบนท้องถนนของเมืองหลวง กรณีที่รับรู้กันดี
คือการชุมนุมครัง้ ใหญ่ทเ่ี มือ่ เดือนเมษายน 2552 อย่างไรก็ตาม การ
ชุมนุมครัง้ ใหม่นถ้ี กู อธิบายว่าเป็น “สงครามต้านเผด็จการครั้ง
สุดท้าย” สองเดือนให้หลัง กลุ่มคนเสื้อแดงยังคงปักหลักอยู่หลังแนว
ป้องกัน ซึง่ สร้างขึน้ รอบจุดยุทธศาสตร์และจุดทีม ่ ค
ี วามหมายเชิง
สัญลักษณ์

6.1 คนเสื้อแดงต้องการอะไร
สําหรับ นปช. แล้ว การแสดงพลังครั้งนี้คือผลจากการทํางาน
ด้วยความอุตสาหะตลอดหลายปี เป็นก่อตัวขึ้นหลังการรัฐประหาร
โดยกลุ่มผู้สนับสนุนทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีที่ถูกโค่นอํานาจ
กลุ่มคนเสื้อแดงกลายมาเป็นพลังกดดันเพื่อการเปลี่ยนแปลงสู่
ประชาธิปไตยในช่วงเวลาหลายปีทถ ่ี ก
ู แทรกแซง ขอบคุณความ
พยายามอย่างไม่รู้เหนื่อยที่สร้างความตระหนักรู้ ระดมกําลัง
สนับสนุน และสร้างองค์กรทีซ ่ บ
ั ซ้อนขยายไปทัว ่ พืน
้ ทีข
่ องประเทศ ถือ
เป็นขบวนการทางสังคมที่กว้างขวางที่สุดเท่าที่เคยปรากฎขึ้นใน
ประวัติศาสตร์ไทย จนอาจบอกได้วา่ ในขณะนี้ นปช. ก่อให้เกิด
ขบวนการประชาธิปไตยทีใ่ หญ่ทส ่ี ด
ุ ในเอเชีย

เนื่องจากกลุ่มคนเสื้อแดงได้รับแรงสนับสนุนจํานวนมากจาก
ภาคเหนือของไทย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่ยากแค้น ชนชัน ้ ล่างใน
เมือง กลุ่มคนที่สนับสนุนและนักวิจารณ์จึงมักอธิบายไปในทาง
เดียวกันว่าการต่อสู้ของพวกเขาเป็น “การต่อสู้ทางชนชั้น” แม้วา่
ชนชั้นจะเป็นตัวชี้วัดที่สําคัญอย่างยิ่งต่อวิกฤตทางการเมืองของไทย
แต่กลุ่มคนเสื้อแดงไม่ได้ต่อสู้ใน “สงครามชนชั้น” ระหว่างคนจนกับ
คนรวย

นปช.ไม่ได้มจ
ี ด
ุ มุง่ หมายทีจ
่ ะขจัดความแตกต่างทางชนชัน ้ หรือ
แก้ไขโครงสร้างพื้นฐานทางสังคมของประเทศ อันที่จริง แม้ว่าการ
เรียกร้องมาตรการความยุติธรรมทางสังคมและโอกาสทางเศรษฐกิจ
จะเป็นองค์ประกอบหลัก แต่กลุม ่ คนเสือ้ แดงให้ความสําคัญกับ
แนวคิดเรือ
่ ง “โอกาสที่เท่าเทียม” และ “ความเสมอภาค” แบบเดียว
กับการเคลื่อนไหวกระแสหลักที่ต่อสู้เพื่อสิทธิพลเมืองและสิทธิ
ทางการเมืองมากกว่าความคิดเรื่องความเสมอภาคทางเศรษฐกิจ
ตามแบบฉบับของลัทธิมาร์กซ

โดยแท้จริงแล้ว การเคลื่อนไหวของเสื้อแดงเป็นเรื่องของ
เศรษฐกิจน้อยกว่าเรื่องของการเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การต่อสู้
เพื่อการถูกนับรวมและสิทธิในการออกเสียงทางการเมืองอย่าง
สมบูรณ์ นปช.ได้สรุปประเด็นทางการเมืองของพวกเขาไว้ในหลัก 6
ประการ เพื่อเน้นให้เห็นถึงมิติการต่อสู้ทางการเมืองของพวกเขา
ที่มากกว่าความไม่พอใจทางเศรษฐกิจ:

1) เพื่อบรรลุจุดมุ่งหมายทางการเมืองการปกครองคือระบอบ
ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริยเ์ ป็นประมุข ทีอ ่ าํ นาจอธิปไตยเป็น
ของประชาชนไทยอย่างแท้จริง เราปฎิเสธความพยายามใดๆ ทั้งใน
อดีตและอนาคต ในการใช้สถาบันกษัตริย์เป็นเครื่องมือเพื่อปิดปาก
ความเห็นต่างหรือเพือ ่ ขับเคลือ
่ นประเด็นโดยจําเพาะเจาะจง
2) ยกเลิกรัฐธรรมนูญ 2550 นํารัฐธรรมนูญ 2540 กลับมาใช้
และปรับปรุงแก้ไขด้วยขั้นตอนที่โปร่งใส ผ่านการปรึกษาหารือและ
เป็นประชาธิปไตย
3) ผสานคนไทยเข้าด้วยกันเพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาการเมือง
และเศรษฐกิจสังคม โดยใช้พลังของประชาชนเอง
4) ทําให้เกิดนิติรัฐ กระบวนการยุติธรรม และระบบความ
ยุติธรรมที่เท่าเทียม ปราศจากการขัดขวางหรือสองมาตรฐาน
5) รวบรวมคนไทยผู้รักประชาธิปไตย ความเท่าเทียม และความ
ยุติธรรมโดยเสมอหน้าทุกภาคส่วนของสังคม เพือ ่ รือ
้ ถอนและก้าวให้
พ้นระบอบอํามาตยาธิปไตย
6) ใช้สนั ติวธ
ิ เี พือ
่ บรรลุเป้าหมายข้างต้น

เช่นเดียวกับขบวนการทางสังคมที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อก่อให้เกิด
การเปลี่ยนแปลงทางสังคม คนเสื้อแดงได้ใช้เป้าหมายอย่างกว้างๆ
เพือ
่ ดึงดูดความสนใจจากผูม ้ ส
ี ท
ิ ธิเ์ ลือกตัง้ ทีม
่ ค
ี วามหลากหลายซึง่ อาจ
ไม่จําเป็นต้องมีอุดมการณ์ใดร่วมกันโดยเฉพาะ อย่างไรก็ตาม โดย
แก่นแล้ว ขบวนการคนเสื้อแดงก็สู้เพื่อประเทศไทยที่เป็น
ประชาธิปไตย กลุ่มคนเสื้อแดงต้องการที่จะเปลี่ยนผ่านประเทศไทย
ไปสู่ประเทศที่ให้ความสําคัญกับการเลือกตั้ง รัฐบาลจากการเลือกตั้ง
มีอาํ นาจปกครองอย่างแท้จริง และพลเมืองทุกคนได้รับการประกัน
สิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมืองขั้นพื้นฐาน ที่สําคัญที่สุด ผู้
สนับสนุน นปช. ก็คือผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งซึ่งมีสิทธิ์เป็นผู้มีส่วนร่วมอย่าง
เต็มทีแ่ ละเท่าเทียม แต่ไม่เคยเป็นทีย ่ อมรับ เนื่องมาจากระดับรายได้
ของพวกเขา รวมถึงสถานะทางสังคม การศึกษา ถิ่นฐานบ้านเกิด
และภูมห ิ ลังชาติพน
ั ธุ์ สําหรับพวกเขาแล้ว การต่อสู้ของคนเสื้อแดงใน
ประเด็นเรื่องชนชั้นนั้น สําคัญน้อยการต่อสู้เพื่อการยืนยันว่า พวกเขา
มีความเสมอภาคเทียบเท่ากลุ่มอํานาจเก่าในกรุงเทพฯ จํานวนน้อย
ซึ่งผูกขาดอํานาจทางการเมืองมาอย่างยาวนานโดยอ้างว่าเสียงข้าง
มากโง่เขลา ไร้การศึกษา และซือ ้ ได้งา
่ ย เกินกว่าจะวางใจให้เลือกผู้
ปกครองประเทศ

แน่นอนว่า ทักษิณ ชินวัตร ได้จุดประกายการเคลื่อนไหวนี้ด้วย


การเพาะความรู้สึกมีอํานาจทางการเมืองให้กับผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งที่ไม่
ถูกให้ความสําคัญมาเนิ่นนาน ด้วยการสนับสนุนให้ตระหนักถึงสิทธิ
ของพวกตนเอง และด้วยการกระตุ้นให้เกิดความมั่นใจอย่างที่ไม่เคย
เป็นมาก่อนในพลังของตนที่จะก่อร่างอนาคตของประเทศ ความ
เปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคมหลายทศวรรษคือรากฐานที่
ทําให้ประชาชนไทยตืน ่ ตัว ระบบการปกครองที่วางอยู่บนการยอมรับ
เสียงส่วนใหญ่ปราศจากความมั่นคงในระยะยาวจากหลายสาเหตุ
ซึ่งกระบวนการทําให้ประเทศก้าวสู้ความเป็นสมัยใหม่เป็นสาเหตุที่
สําคัญที่สุด เมื่อคํานึงว่าผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งจํานวนมากใน
ประเทศกําลังเปลีย ่ นเป็นพลังทีซ ่ บ
ั ซ้อน ทะเยอะทะยาน และทันสมัย
ประเด็นก็มีอยู่ว่าใครจะเป็นผู้ลงมือช่วงชิงกรสนับสนุนจากคนกลุ่มนี้
ผ่านกระบวนการที่ทําให้มวลชนมีบทบาทที่ได้สัดส่วนกับพลัง ปริมาณ
และความปรารถนาทีพ ่ วกเขามีอย่างมหาศาล ทักษิณเข้าใจปรากฎ
การณ์นี้และใช้ประโยชน์จากมัน แต่เขาไม่ได้สร้างมันขึ้นมา และแม้
คนเสื้อแดงจํานวนมากอยากเห็นทักษิณกลับสู่ตําแหน่งที่เคยได้รับ
เลือกอีกครั้ง แต่ขบวนการคนเสือ้ แดงก็กา ้ วข้ามทักษิณไปแล้ว
ในการปราศรัยกับผู้ชุมนุมเมื่อปี 2551 แกนนํา นปช. และอดีต
โฆษกรัฐบาล นายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ ผูป ้ ราศรัยทีม่ ว
ี าทศิลป์ทส
่ี ด
ุ คน
หนึ่งในขบวนการคนเสื้อแดงบอกเล่าถึงการต่อสู้ของพวกเขาเพื่อ
อนาคตทีพ่ วกเขาจะมีสว่ นร่วมและมีความเป็นประชาธิปไตยมากขึน ้ :

เราเกิดบนผืนแผ่นดิน เราโตบนผืนแผ่นดิน เราก้าวเดินบน


ผืนแผ่นดิน เมือ ่ เรายืนอยูบ
่ น ดิน เราจึงห่างไกลเหลือเกินกับ
ท้องฟ้า พี่น้องครับ
เมือ่ เรายืนอยูบ่ นดิน ต้องแหงนคอตัง้ บ่า แล้วเราก็รว ู้ า
่ ฟ้าอยู่
ไกล
เมือ
่ เราอยูบ่ นดิน แล้วก้มหน้าลงมา เราจึงรู้ว่า เรามีคา ่ เพียง
ดิน
แต่ผมแน่ใจว่า ด้วยพลังของคนเสื้อแดง ทีม ่ น
ั จะมากขึน ้ ทุก
วัน ทุกวัน ขยายตัวเพิ่มขึ้น ทุกนาที ทุกนาที แม้เรายืนอยูบ ่ น
ผืนดิน แม้เราพูดอยู่บนผืนดิน แต่จะได้ยินถึงท้องฟ้า แน่นอน
เสียงไชโยโห่ร้องของเราในยามนี้ จากคนที่มีค่าเพียงดิน
จากคนที่เกิดและเติบโตบนผืนแผ่นดิน จะได้ยินถึงท้องฟ้า
แน่นอน
คนเสื้อแดง จะบอกดิน บอกฟ้าว่า คนอย่างข้าก็มห ี ว
ั ใจ
คนเสื้อแดง จะบอกดิน บอกฟ้าว่า ข้าก็คอ ื คนไทย
คนเสื้อแดง จะถามดิน ถามฟ้าว่า ถ้าไม่มีที่ยืนที่สมคุณค่า จะ
ถามดิน ถามฟ้าว่า จะให้ข้าหาที่ยืนเองหรืออย่างไร
คนเสื้อแดงไม่ได้สู้เพื่อทักษิณ แต่พวกเขาสู้เพื่อตัวพวกเขาเอง

6.2 มาตรการอันผิดกฎหมายของการรณรงค์ประหัตประหาร
และความรุนแรง
ก่อนที่ นปช.จะเริม่ ประท้วงต่อต้านการช่วงชิงเจตจํานงของ
ประชาชนครัง้ ล่าสุด รัฐบาลอภิสิทธิ์พยายามปิดปากผู้ที่เห็นต่างด้วย
การใช้กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพและพ.ร.บ.การกระทําผิด
เกีย่ วกับคอมพิวเตอร์ เฉพาะในปี 2552 มีรายงานว่าศาลรับฟ้องคดี
หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ (การกระทําความผิดต่อมาตรา 112 ของ
ประมวลกฎหมายอาญาของไทย) จํานวน 164 คดี มากกว่าสถิติของปี
2550 ซึ่งเป็นช่วงหลังรัฐประหารที่มีอยู่ 126 คดี และมากกว่าสองเท่า
ของคดีในปี 2551 ซึ่งอยู่ภายใต้การบริหารของพรรคพลังประชาชน
(77 คดี) ควรจะต้องตั้งข้อสังเกตด้วยว่าจํานวนคดีสูงสุดก่อนการ
รัฐประหารที่บันทึกไว้ในปี 2548 มีการรับฟ้อง 33 คดี และผลจาก
ความเข้มงวดของกฎหมายและความไม่เต็มใจของสือ ่ กระแสหลักใน
การเปิดพื้นที่เพื่อถกเถียงในเรื่องซึ่งอาจทําลายภาพลักษณ์ของ
สถาบันกษัตริย์ ทําให้คดีจํานวนมากหายไปจากการนําเสนอของสื่อ
ในระดับชาติและนานาชาติ
นอกจากนี้ ปี 2552 ยังเป็นปีแห่งการฟ้องร้องอย่างต่อเนื่องอีกด้วย
บางคดีมีการตัดสินและลงโทษอย่างรุนแรงต่อนักกิจกรรมเสื้อแดงซึ่ง
ถูกกล่าวหาด้วยความผิดฐานหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ หนึ่งปีก่อน
หน้า เมื่อครั้งที่ นปช.ตัง้ เวทีขนาดเล็กต่อต้านการชุมนุมทีย ่ ด ื เยือ
้ ของ
พันธมิตรประชาชนเพือ ่ ประชาธิปไตย สิง่ ทีร่ บกวนจิตใจทีส ่ ด ุ คือคดี
ของดารณี ชาญเชิงศิลปกุล (ดา ตอร์ปิโด) ซึง่ พิพากษาคดีไปเมือ ่ วันที่
28 สิงหาคม ให้จา ํ คุก 18 ปี สําหรับความผิดฐานหมิ่นพระบรม
เดชานุภาพ 3 กระทง (หนึ่งกระทงต่อหนึ่งการกระทําผิด) จากการ
ปราศรัยของเธอ เมื่อเดือนกรกฎาคม 2551 การพิจารณาคดีของเธอ
เป็นไปอย่างปิดลับด้วยเหตุผลเรือ ่ ง “ความมัน ่ คงของชาติ” ดา
ตอร์ปิโดต่างจากผู้ต้องหาส่วนใหญ่ที่ถูกตั้งข้อหาคล้ายคลึงกันและถูก
ปฏิเสธหลักการตามกระบวนการยุติธรรม เธอปฏิเสธทีจ ่ ะยอมรับข้อ
กล่าวหา สิ่งที่เธอได้รับกลับมาไม่ใช่เพียงโทษร้ายแรงเป็นพิเศษ
เท่านั้น ทันทีที่มีการพิพากษา เธอก็ถก ู ขังเดีย่ วและให้เปลีย ่ นป้ายชือ ่
ซึ่งระบุถึงฐานความผิดของเธอ ซึ่งทําให้เธอเป็นเป้าในการถูกคุกคาม
การใช้ พ.ร.บ.การกระทําความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ในทางที่ผิดมี
ส่วนทําให้การฟ้องร้องด้วยกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ
สมบูรณ์ขึ้น พันตํารวจเอกสุชาติ วงศ์อนันต์ชย ั ผู้ตรวจราชการ
กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ออกมายอมรับเมือ ่
เร็วๆ นีว
้ า
่ ได้ปิดกั้นเว็บไซต์ที่กระทําผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ไปแล้วก
ว่า 50,000 เว็บไซต์

การดําเนินคดีในข้อหาการกระทําผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ท่ี
สาธารณะให้ความสนใจมากที่สุด 2 คดี ได้แก่ คดีของสุวช ิ า ท่าค้อ
และจีรนุช เปรมชัยพร สุวช ิ า ท่าค้อ ถูกจับกุมเมือ
่ เดือนมกราคม 2552
เนื่องจากโพสต์ภาพซึ่งอาจเข้าข่ายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ เขาถูก
พิพากษาในเวลาต่อมาด้วยโทษจําคุก 20 ปีจากความผิดตาม
พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์และกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพของไทย
แต่เนื่องจากให้การรับสารภาพจึงได้รับการลดโทษเหลือ 10 ปี และ
เมื่อถูกจําคุกอยู่ 1 ปี 6 เดือน ในที่สุด สุวิชาก็ได้รับพระราชทาน
อภัยโทษเมือ ่ วันที่ 28 มิถุนายน 2553

จีรนุช เปรมชัยพร ผูด ้ แ


ู ลเว็บไซต์ขา
่ วอิสระประชาไท ถูกจับกุม
ในเดือนมีนาคม 2552 และถูกตัง้ ข้อกล่าวหา 10 กระทงจากการ
ละเมิด พรบ. การกระทําความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ฯ เธอถูกตั้ง
ข้อหาเนือ ่ งจากไม่สามารถลบความเห็นในเว็บบอร์ดประชาไททีท ่ าง
การมองว่าเป็นการให้ร้ายระบอบกษัตริย์ได้ทันท่วงที ต่อมา กระทรวง
เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารได้ขอให้ลบความเห็นเหล่านี้
ออก ในการไต่สวนคดีซึ่งจะเริ่มขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ 2554 เธออาจ
ถูกตัดสินจําคุก 50 ปี ในขณะเดียวกันเว็บไซต์ประชาไทก็ถูกทางการ
ปิดกั้นอยู่เรื่อยๆ ตั้งแต่มีการชุมนุมครั้งล่าสุดของคนเสื้อแดง จาก
กรณีดงั กล่าวทําให้มก ี ารตัดสินใจปิดเว็บบอร์ดในปลายเดือน
กรกฎาคม 2553
การจับกุมด้วยข้อหาละเมิด พรบ. คอมพิวเตอร์ฯ รายอื่นๆ รวม
ถึง ณัฐ สัตยาภรณ์พิสุทธิ์ (จากการเผยแพร่ซ้ําวิดีโอที่ต่อต้านสถาบัน
กษัตริย์) ธันย์ฐวุฒิ ทวีวโรดมกุล (จากการโพสท์ข้อความต่อต้าน
สถาบันกษัตริย์) วิภาส รักสกุลไทย (จากการโพสท์ข้อความหมิ่น
ในเฟซบุค ๊ ) และอีก 4 รายที่ถูกกล่าวหาว่า เผยแพร่ "ข่าวลือ" เกี่ยวกับ
พระอาการประชวร ในจํานวนนี้มีอย่างน้อย 2 รายทีเ่ พียงแค่แปลข่าว
ในประเด็นนี้จากสํานักข่าวบลูมเบิร์กเท่านั้น

การใช้อํานาจอย่างเป็นระบบในการจัดการกับผู้กระทําผิด
ทางการเมืองทําให้รัฐบาลอภิสิทธิ์ถูกประณามจากคณะกรรมการ
คุ้มครองผู้สื่อข่าว และองค์การผู้สื่อข่าวไร้พรมแดน จากการที่รัฐบาล
มีการฟ้องร้องดําเนินคดีและคุกคามคู่แข่งทางการเมือง ในเดือน
มกราคม 2553 ฮิวแมนไรท์วอทช์ องค์กรเฝ้าระวังด้านสิทธิมนุษยชน
แสดงความเสียใจกับ "การถดถอยอย่างร้ายแรง" ของสิทธิมนุษยชน
ในไทย จากการสังเกตการณ์นับตั้งแต่อภิสิทธิ์ขึ้นเป็นรัฐบาล ตาม
รายงาน การไล่ล่าคู่แข่งทางการเมืองจะยังดําเนินต่อไปตราบเท่าที่
รัฐบาลชุดนีย้ งั อยูใ่ นอํานาจ จุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีกระทรวง
เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารคนใหม่ ให้คา ํ มัน
่ ว่าจะมีการ
ปราบปรามต่อไปด้วยเหตุผลว่า "รัฐบาลให้เสรีภาพแก่ประชาชนมาก
เกินไป" โดยสอดคล้องกัน ในเดือนมิถุนายน คณะรัฐมนตรีได้แต่ง
ตั้งหน่วยงานใหม่คือ สํานักงานป้องกันและปราบปรามการ
อาชญากรรมคอมพิวเตอร์ เพือ ่ กําจัดเนือ
้ หาในอินเทอร์เน็ตทีว ่ พ
ิ ากษ์
วิจารณ์สถาบันกษัตริย์ ขณะเดียวกันนายกรัฐมนตรีก็จัดตั้งโครงการ
"ลูกเสือไซเบอร์" เพื่อแนะนําให้ประชาชนใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่อย่าง
อินเทอร์เน็ตอย่าง "ถูกต้อง" ซึ่งในวันถัดมานั่นเอง มีผต ู้ อ
้ งหาคดี
ข่มขืนเด็กได้รับการประกันตัวและอนุญาตให้ออกนอกประเทศ กรม
สอบสวนคดีพเิ ศษ (ดีเอสไอ) ประกาศว่าพวกเขาได้จด ั ตัง้ เจ้าหน้าที่
300 นาย เพื่อตรวจสอบผู้ที่มีความเห็นหรือพฤติกรรม "เป็นภัยหรือ
ไม่ประสงค์ดี" ต่อสถาบันกษัตริย์ รักษาการผู้อํานวยการกรม
สอบสวนคดีพเิ ศษ พล.ต.เสกสรรค์ ศรีตุลาการ รายงานต่อสภาว่ามีผู้
ต้องสงสัยคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพราว 2,000 รายที่กําลังอยู่ภาย
ใต้การสืบสวน เขากล่าวอีกว่าการกดดันจากภายนอกอย่างต่อเนื่อง
ทําให้ดีเอสไอเริ่มกลายเป็น "เครื่องมือทางการเมือง"

ทัง้ หมดทัง้ มวลแล้วรัฐบาลอภิสท ิ ธิไ์ ด้ดา


ํ เนินนโยบายทีม
่ ค
ี วาม
รุนแรงอย่างฉกรรจ์ต่อกลุ่มคนเสื้อแดง ก่อนหน้าการสังหารหมู่ครั้ง
ล่าสุด กรณีใกล้เคียงกันที่เป็นที่รับรู้คือ การใช้กองกําลังทหารปราบ
ปรามการชุมนุมของคนเสื้อแดงที่ปะทุขึ้นในช่วงเทศกาลสงกรานต์ใน
เดือนเมษายน 2552 ซึ่งเกิดขึ้นในระดับที่เล็กกว่า

ในวันที่ 11 เมษายน 2552 ผูช


้ ม
ุ นุมเสือ
้ แดงหลายร้อยคนใช้
ความรุนแรงทําให้การประชุมสุดยอดผู้นําอาเซียนที่พัทยาต้องยกเลิก
โดยการบุกเข้าไปในโรงแรมที่มีการประชุมอยู่ ภายหลังปฏิบัติการที่
ประสบความสําเร็จอย่างไม่ได้คาดหมาย จุดสนใจของการชุมนุมเริ่ม
เคลื่อนไปที่กรุงเทพฯ โดยกลุ่มคนเสื้อแดงได้ปิดถนนและเกิดการ
ชุมนุมที่ไร้การนําขึ้นรอบเมือง

สําหรับรัฐบาล ซึง่ ก่อนหน้านีใ้ ช้กลุม


่ "เสื้อน้ําเงิน" ของเนวิน ชิด
ชอบโจมตีเสือ ้ แดงทีพ
่ ท
ั ยา หันมาประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินใน
กรุงเทพฯ และ 5 จังหวัดโดยรอบ เพื่อเตรียมการปราบปรามอย่าง
เด็ดขาด เช้ามืดของวันที่ 13 เมษายน กองทัพส่งกําลังเข้ามาสลาย
การชุมนุมเสื้อแดง ซึ่งทําให้เสื้อแดงแตกระจายกันไปตามจุดต่างๆ
ทัว
่ กทม. การปราบปรามทําให้แกนนํานปช. ยอมจํานนและยุตก ิ ารปิด
ล้อมทําเนียบรัฐบาลเพือ ่ หลีกเลีย
่ งการปะทะนองเลือด อีกเช่นเคยที่
รัฐบาลอ้างว่ากองทัพปฏิบัติตามมาตรฐานสากล โดยการยิงปืนขึ้น
ฟ้าเพือ
่ เตือน และใช้กระสุนยางเพื่อป้องกันตัว ซึ่งข้ออ้างนี้ถูกปัดตก
ไปด้วยภาพถ่ายและวิดีโอของพยานผู้เห็นเหตุการณ์ ต่อมาคณะ
กรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีสลายการชุมนุมม็อบเสื้อแดงสรุป
ว่าไม่มีคนเสื้อแดงเสียชีวิตจากการปะทะดังกล่าว มีผบู้ าดเจ็ด 123
ราย ขณะที่ฝ่ายผู้ชุมนุมระบุว่าคนเสื้อแดงอย่างน้อย 6 ราย ซึง่ บาด
เจ็บจากการถูกยิง ถูกลําเลียงขึ้นรถบรรทุกทหารไปอย่างรวดเร็วและ
ไม่พบเห็นอีกเลย หลายวันหลังจากการปราบปรามผู้ชุมนุมมีการพบ
ศพของการ์ดนปช. 2 รายในแม่น้ําเจ้าพระยา ซึ่งมีร่องรอยของการ
ซ้อมทรมาน

ในรายงานประจําปี 2553 ขององค์การฮิวแมนไรท์วอทช์ระบุถึง


มาตรการที่รัฐบาลใช้กับผู้ชุมนุมในช่วงต้นปี 2552 ซึ่งแสดงให้เห็น
การปฏิบัติอย่างไม่เท่าเทียมระหว่างกลุ่มคนเสื้อแดงที่ต่อต้านกลุ่ม
อํานาจเก่ากับกลุม
่ เสือ
้ เหลืองทีส
่ นับสนุนกลุม
่ อํานาจเก่า ในข้อกล่าว
หาเดียวกัน

- การใช้สองมาตรฐานในการบังคับใช้กฏหมายของรัฐบาล
ทําให้ความตึงเครียดทางการเมืองยิ่งทวีขึ้น และการแบ่งฝักแบ่งฝ่าย
หยั่งลึกมากขึ้น แกนนําและสมาชิก นปช. ถูกจับกุม กักขัง และตัง้ ข้อ
กล่าวหาทางอาญาหลังการชุมนุมยุติ แต่รฐ ั บาลกลับเพิกเฉยต่อข้อ
เรียกร้องของสาธารณะที่เรียกร้องให้มีการสืบสวนเหตุการณ์อย่างไม่
แบ่งแยกฝ่าย ซึ่งรวมถึงกรณีความรุนแรงซึ่งมีแรงจูงใจทางการเมือง
และการละเมิดสิทธิมนุษยชนของกลุม ่ พันธมิตรประชาชนเพือ ่
ประชาธิปไตย หรือกลุม ่ คนเสือ
้ เหลือง ในช่วงที่มีการชุมนุมยึด
ทําเนียบรัฐบาลและสนามบินสุวรรณภูมเิ มือ ่ ปี 2551 ซึ่งเปิดโอกาสให้
อภิสิทธิ์ได้ขึ้นสู่อํานาจ การยืดเวลาดําเนินคดีกับกลุ่มพันธมิตรฯ ยิ่ง
ทําให้สาธารณชนเข้าใจว่า พันธมิตรฯ ไม่จา ํ เป็นต้องรับผิดชอบทา
งกฏหมาย

รัฐบาลทหารของไทยอุปโลกน์ให้คนเสื้อแดงจํานวนมากมีแนว
โน้มว่าเป็น "ผู้ก่อการร้าย" ขณะเดียวกันยังมีความพยายามอย่าง
เป็นระบบในการทําลายความน่าเชือ ่ ถือของขบวนการคนเสือ
้ แดง
ด้วยการสั่งดําเนินคดี การคุกคาม และการใช้อา ํ นาจศาลพิเศษ ซึง่
รัฐบาลอภิสิทธิ์นํามาใช้กับกลุ่ม นปช. และศัตรูทางการเมืองของตน
อย่างไม่หยุดหย่อน นับตัง้ แต่ขน้ึ สูอ
่ า
ํ นาจในเดือนธันวาคม 2551โดย
กลไกของกองทัพ องคมนตรี ศาล และกลุ่มพันธมิตรฯ

6.3 บดขยี้เสื้อแดง

ในวันที่ 8 มีนาคม 2553 ณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ ประกาศว่าเสือ ้ แดงจะ


ชุมนุมใหญ่ท่ี กทม. เริ่มจากวันที่ 14 มีนาคม เขากล่าวย้า
ํ ว่าการชุมนุม
จะเป็นไปอย่างสงบสันติ โดยระบุว่าเสื้อแดงจะดําเนินการตาม
แนวทางประชาธิปไตย และพวกเขาไม่ต้องการให้เกิดความวุ่นวายใน
ชาติ วันถัดมาอภิสิทธิ์ก็ประกาศใช้ พรบ. ความมัน ่ คงฯ

เมื่อเสื้อแดงเข้ามาที่กรุงเทพฯ พวกเขาเริม ่ ปักหลักชุมนุมที่


สะพานผ่านฟ้าฯ บนถนนราชดําเนิน การเลือกพื้นที่ชุมนุมมีนัยเชิง
สัญลักษณ์อย่างยิ่งเพราะทําให้เห็นได้ว่าการเคลื่อนไหวครั้งนี้เป็นการ
สืบทอดมรดกจากผู้ที่ออกมาเคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตยในปี
2516 และ 2535 ซึ่งใช้พื้นที่เดียวกัน แม้จา ํ นวนผูช
้ ม
ุ นุมต่าํ กว่าทีเ่ คยลัน่
วาจาไว้วา ่ คนเสือ ้ แดงเข้ามาชุมนุมกรุงเทพจํานวนล้านคน แต่การ
ชุมนุมทีถ
่ กู จัดตัง้ มาอย่างดีครัง้ นีอ
้ าจจะเป็นการชุมนุมทีใ่ หญ่ทส ่ี ดุ เท่า
ที่เคยเกิดขึ้นในประเทศไทย และแน่นอนว่าใหญ่ทส ่ี ด
ุ ในรอบ 35 ปีท่ี
ผ่านมา ข้อเรียกร้องของพวกเขาก็ง่ายๆ เพียงแค่ให้อภิสิทธิ์ลาออก
"คืนอํานาจให้ประชาชน" และจัดการเลือกตัง้ ใหม่

การตอบรับที่คนเสื้อแดงได้รับในกรุงเทพฯ มีหลากหลาย มี
รายงานว่าจริง ๆ แล้วผู้ชุมนุมเสื้อแดงส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ
นปช. ได้รบั การสนับสนุนเป็นพิเศษจากประชาชนหลายล้านคนจาก
ภาคเหนือและภาคอีสานที่ย้ายเข้ามากรุงเทพฯ ทัง้ แบบถาวรและการ
ย้ายถิ่นฐานตามฤดูกาล มีประชาชนจํานวนมากพอๆ กับเจ้าหน้าทีใ่ น
หน่วยงานความมั่นคงที่คอยให้กําลังใจพวกเขา เวลาทีพ ่ วกเขา
เคลือ
่ นขบวนไปทัว ่ เมืองตลอดหลายสัปดาห์ในช่วงต้นของการชุมนุม
เป็นไปได้ว่าชาวกรุงเทพฯยังไม่ได้ตัดสินใจใดๆ บางส่วนรู้สึกว่าการ
ดําเนินชีวต
ิ ไม่ได้รบ ั ความสะดวกอันเนือ
่ งมาจากการชุมนุมซ้าํ แล้วซ้า

เล่าของกลุม ่ "เสื้อสี" ขณะทีห่ ลายคนอาจไม่แน่ใจว่าการชุมนุมจะก่อ
ให้เกิดผลอะไร

อย่างไรก็ตาม ภาพของโครงสร้างสังคมไทย คนเสื้อแดงถูก


เกลียดชังและดูถูกโดยสื่อในกรุงเทพฯ และชนชัน ้ กลางระดับบน
จํานวนมากที่สนับสนุนเสื้อเหลือง โดยมากแล้ว สื่อที่ถูกรัฐบาล
ควบคุมต่างเพิกเฉยต่อข้อเรียกร้องและความคับแค้นของพวกเขา แต่
กลับนําเสนอซ้า ํ ๆ อย่างเป็นระบบว่าผูช ้ ม
ุ นุมเป็นกลุม ่ คนทีท
่ กั ษิณว่า
จ้างมา ถูกซื้อ หรือถูกล้างสมองเพื่อเข้าร่วมชุมนุมโดยมีเป้าหมาย
เพียงต้องการคืนคน ๆ หนึ่งสู่อํานาจ นําความมัง่ คัง่ ของเขากลับมา
และนิรโทษกรรมให้เขา ในวันที่ 13 มีนาคม เมือ ่ คนมารวมตัวกันที่
เมืองหลวง หน้าแรกของหนังสือพิมพ์บางกอกโพสท์ก็พาดหัวว่า
“นปช. บ้านนอกแห่เข้ากรุง” การเรียกร้องให้มีการปราบปรามยิ่ง
ทําให้การชุมนุมต่อต้านและด่าทอรัฐบาลมากขึน ้ เรือ
่ ยๆ ที่สําคัญมาก
ทีส
่ ด
ุ คือ การที่เสื้อแดงเข้ายึดพื้นที่ชุมนุมที่แยกราชประสงค์ ใจกลาง
ย่านการค้าระดับสูงในกรุงเทพฯ ซึง่ เป็นสัญลักษณ์ของความร่า ํ รวย
และสิทธิพเิ ศษ ทั้งยังเป็นพื้นที่ที่มีความสําคัญด้านการค้า เดาได้ไม่
ยากว่ากลุ่มพันธมิตรฯ จะออกมาโจมตีอย่างแข็งกร้าวและเรียกร้อง
ให้รฐ ั บาลปราบปรามผูช ้ ม
ุ นุมอย่างเด็ดขาด

แม้วา
่ ในช่วง 4 สัปดาห์แรกของการชุมนุมจะเป็นไปอย่างสงบ
สันติ จนแทบจะกลายเป็นงานรื่นเริง แต่เมือ่ มาถึงสัปดาห์ท่ี 2 ของ
เดือนเมษายน รัฐบาลก็ตัดสินใจขับไล่ผู้ชุมนุมออกไปจากถนน
กรุงเทพฯ ในปฏิบัติการสลายการชุมนุมในวันที่ 10 เมษายน รัฐบาล
ออกประกาศสั่งห้ามชุมนุมในพื้นที่ ในวันที่ 7 เมษายน อภิสิทธิ์
ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินและตั้งศูนย์อํานวยการแก้ไขสถานการณ์
ฉุกเฉิน (ศอฉ.) นําโดยรองนายกรัฐมนตรีสุเทพ เทือกสุบรรณ ในวันที่
8 เมษายน ทหารบล็อกสัญญาณดาวเทียมสถานีโทรทัศน์พีเพิล
แชนแนล แต่เมื่อผู้ชุมนุมพากันไปชุมนุมที่สถานีโทรทัศน์ไทยคม
จังหวัดปทุมธานี ก็สามารถทําให้พีทีวีกลับมาออกอากาศได้ระยะหนึ่ง
รัฐบาลก็ตัดสัญญาณพีทีวีอีก
คนจํานวนมากถูกสังหารในช่วงที่เกิดเหตุรุนแรงวันที่ 10
เมษายน ขณะทีเ่ สือ ้ แดงใช้กอ ้ นหิน ประทัด ระเบิดขวด และอาวุธที่
ประกอบขึ้นเองอย่างง่ายๆ ตอบโต้กับกองกําลังทหารที่ติดอาวุธหนัก
เมื่อรัฐบาลยอมหยุดยิง มีผู้เสียชีวิต 27 คน ประกอบด้วยสมาชิก
นปช. 21 ราย และเจ้าหน้าที่ทหารอีกจํานวนหนึ่งซึ่งถูกสังหารโดย
กลุม่ คนลึกลับทีเ่ รียกว่า "ชายชุดดํา" ซึ่งยังไม่ชัดเจนเรื่องแรงจูงใจ
และไม่ทราบว่าอยูฝ ่ า
่ ยใด ปฏิบต ั ก
ิ ารสลายการชุมนุมทีล ่ ม
้ เหลวทําให้
การเผชิญหน้าตึงเครียดขึ้น ฝ่ายรัฐบาลรวมตัวกันอีกครั้งเพื่อหาวิธี
การอื่นๆ แก้วิกฤติ ด้านกลุม ่ เสือ
้ แดงหันมาปักหลักชุมนุมต่อทีร่ าช
ประสงค์
3 พฤษภาคม นายกรัฐมนตรีประกาศแผนการปรองดอง ซึ่งในนั้นมี
ข้อเสนอจะจัดการเลือกตั้งอย่างเร็วที่สุดในเดือนพฤศจิกายนนี้ด้วย
โดยแลกกับการให้เสื้อแดงยอมยุติการชุมนุม ไม่มีหลักประกันใดว่า
อภิสิทธิ์จะยุบสภาตามที่เสนอ รัฐบาลไม่ได้ทําอะไรที่เป็นการส่ง
สัญญาณว่า จะผ่อนปรนมาตรการปิดกั้นสื่อที่ดําเนินมาอย่างเข้มข้น
ในช่วงที่มีการชุมนุมลงก่อนการเลือกตั้ง รวมถึงไม่มีการให้คํามั่นว่า
จะดําเนินสอบสวนที่เป็นอิสระในกรณีเหตุรุนแรงที่เกิดขึ้นในวันที่ 10
เมษายน เสื้อแดงยอมรับข้อเสนอปรองดองของรัฐบาลแต่ก็ปฏิเสธข้อ
เสนอที่ปราศจากหลักประกันเหล่านั้น และหากมองย้อนกลับมาที่
ปัจจุบน ั การที่คนเสื้อแดงเคลือบแคลงในคําสัญญาของอภิสิทธิ์นั้น
เป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้ว

13 พฤษภาคม หนึ่งวันหลังจากที่รัฐบาลถอนข้อเสนอให้มีการ
เลือกตั้ง พล.อ. ขัตติยะ สวัสดิผล ทหารนอกแถวที่รู้จักกันในนาม
เสธ.แดง ผู้ที่ถูกมองว่าเป็นแกนนําสายฮาร์ดคอร์ ถูกยิงเข้าที่ศีรษะ
ด้วยสไนเปอร์ขณะยืนอยู่หน้าไมโครโฟนและกล้องและต่อหน้าต่อตา
ผู้สื่อข่าวตะวันตก ที่มุมหนึ่งของสวนลุมพินี กระสุนทีป ่ ลิดชีวต
ิ ของ
เสธ.แดง (เขาเสียชีวิตไม่กี่วันหลังจากนั้น) เป็นเพียงกระสุนนําทาง
ก่อนให้กับกระสุนอีกหลายพันนัดซึ่งทหารยิงใส่ผู้ชุมนุมที่ไม่มีอาวุธ ผู้
บริสุทธิ์ที่สัญจรไปมา เจ้าหน้าที่อาสาสมัครและผู้สื่อข่าวในสัปดาห์ถัด
มา ขณะทีท ่ างเสือ้ แดงพยายามติดต่อเรียกร้องความช่วยเหลือจาก
ต่างชาติเพือ ่ เปิดทางสูก
่ ารเจรจาซึง่ จะนําไปสูก
่ ารแก้ปญ
ั หาด้วยวิธี
ทางการเมือง แต่รัฐบาลก็ยังเลือกบดขยี้พวกเขาด้วยกําลังทหาร มี
การลําเลียงกองกําลังทหารหลายพันนายด้วยรถหุ้มเกราะสู่ท้องถนน
ของกรุงเทพฯ

หลายวันหลังการลอบสังหารเสธ.แดง รัฐบาลปฏิเสธว่าไม่มี
ส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ต่อเหตุการณ์ดังกล่าว แม้วา ่ ก่อนหน้านีพ
้ วกเขา
ยืนยันว่าจะยิง "ผู้ก่อการร้าย" และก่อนหน้านี้ก็เคยระบุว่าเสธ.แดง
เป็น “ผู้ก่อการร้าย” การสังหารหมู่เกิดขึ้นทางทิศเหนือและทิศใต้ของ
พื้นที่การชุมนุมที่ราชประสงค์ รวมถึงพื้นที่แถวดินแดงและลุมพินี

ทหารประกาศให้พื้นที่บางแห่งเช่น ซอยรางน้ําซึ่งอยู่ทางทิศ
เหนือของพื้นที่ชุมนุมและถนนพระราม 4 ซึ่งอยู่ทางทิศใต้ เป็น "เขตใช้
กระสุนจริง" ทีน่ น ่ั ทหารได้รบั อนุญาตให้ยงิ ผูช้ ม
ุ นุมทุกคนทีพ ่ บซึง่ แทบ
ทัง้ หมดไม่มอ
ี าวุธ ผู้เห็นเหตุการณ์ที่ได้บันทึกในส่วนนี้ไว้อย่าง
ละเอียด คือ ผูส
้ อ่ื ข่าวทีช
่ อ
่ื นิค นอสติตซ์ ไม่วา่ จะโดยอุบต ั เิ หตุหรือ
ด้วยยี่ห้อของทหารไทยที่ไม่เคยไยดีชีวิตคนก็ตาม มีผู้สัญจรไปมา
จํานวนหนึง่ ได้รบ ั บาดเจ็บและถูกทหารยิงเสียชีวต ิ หนึ่งในคนเหล่านั้น
มีเด็กอายุ 10 ปีถูกยิงที่ท้องใกล้กับสถานีแอร์พอร์ทลิงค์มักกะสัน ใน
เวลาต่อมาโรงพยาบาลก็แถลงว่าเขาเสียชีวต ิ มีสิ่งที่ส่อให้เห็นว่าผู้สื่อ
ข่าวตกเป็นเป้าหมายด้วยเช่นกัน พยานผู้เห็นเหตุการณ์คนหนึ่งใน
แนวหลังทหารที่ถนนพระราม 4 ได้ยน
ิ ทหารถามผูบ
้ งั คับบัญชาว่า "ยิง
ชาวต่างชาติกบ
ั นักข่าวได้ไหม?"

ทีน ่ า
่ อับอายทีส ่ ดุ คือการทีท ่ หารปิด "พื้นที่สีแดง" ไม่ให้อาสา
สมัครหน่วยแพทย์พยาบาลฉุกเฉินเข้าไปในพื้นที่ รวมถึงระดมยิงใส่
เจ้าหน้าทีอ ่ าสาฯ ขณะทีพ ่ วกเขากําลังช่วยเหลือผูช ้ ม
ุ นุมทีไ่ ด้รบ
ั บาด
เจ็บ และกําลังทําหน้าทีก ่ ช
ู้ ว
ี ต
ิ ผูป
้ ระท้วงทีม
่ บ
ี าดแผลอีกเป็นจํานวน
มาก
การปะทะทีด ่ เุ ดือดและอันตรายถึงชีวต ิ ผ่านไปหลายวันทําให้
การป้องกันของเสื้อแดงอ่อนลงอย่างมาก ส่วนใหญ่แล้วพวกเขา
ป้องกันตนเองด้วยการเผายางอันเป็นความพยายามที่ไร้ประโยชน์ใน
การจะสกัดกั้นการรุกคืบของกองทัพสมัยใหม่ แม้กระทั่งความ
พยายามเจรจาต่อรองในครั้งสุดท้ายซึ่งยังคงค้างคาอยู่ในวันที่ 18
พฤษภาคม ก็ถูกรัฐบาลอภิสิทธิ์ปัดทิ้ง จนกระทั่งในวันที่ 19
พฤษภาคม ทหารก็ทะลวงผ่านแนวกั้นของเสื้อแดงได้ หลังจากนั้นไม่
นานนัก แกนนําเสื้อแดงที่ราชประสงค์ประกาศยุติการชุมนุมและยอม
มอบตัวกับตํารวจเพือ ่ ป้องกันไม่ให้เกิดการนองเลือดมากกว่านี้ ขณะ
ทีว
่ น
ั ที่ 19 พฤษภาคม 2553 กลายเป็นวันที่มืดมนที่สุดวันหนึ่งใน
ประวัติศาสตร์ไทย เพราะมีการสังหารหมู่ผู้ชุมนุมเรียกร้อง
ประชาธิปไตยครั้งเลวร้ายที่สุดของประเทศ จํานวนผูเ้ สียชีวต ิ อาจจะ
เพิ่มอีกมากกว่านี้หากแกนนํานปช.ไม่ประกาศยุติการชุมนุมภายใน
เวลาทีเ่ กือบจะสายเกินไป

อย่างไรก็ตาม การยอมแพ้ของแกนนําเสื้อแดงก็ยังไม่ทําให้
การเข่นฆ่าจบลง หลายชั่วโมงหลังจากที่เสื้อแดงถูกสลายการชุมนุม
ประชาชนอีก 6 รายเสียชีวิตจากการโจมตีที่วัดปทุมวนาราม ซึ่งถูก
กําหนดให้เป็นเขตอภัยทานของผูช ้ ม
ุ นุมเสือ
้ แดงทีต่ อ
้ งการหลบซ่อน
จากการใช้ความรุนแรง ผูส้ อ
่ื ข่าวต่างชาติทไ่ี ด้รบ
ั บาดเจ็บในพืน
้ ที่
อธิบายว่ามีสไนเปอร์ยิงจากมาจากบนรางรถไฟฟ้าเข้าใส่กลุ่มคนที่
ไม่มอ
ี าวุธในเขตอภัยทานของวัด ป็นส่วนหนึ่งของพลเรือนที่ถูกยิง
เสียชีวิตมีพยาบาลอาสานอกเครื่องแบบอยู่หนึ่งราย

จากตัวเลขอย่างเป็นทางการ มีประชาชนเสียชีวต ิ 55 รายใน


ช่วงทีม่ ก
ี ารปราบปรามนานนับสัปดาห์จนทําให้เสือ ้ แดงสลายการ
ชุมนุมไปในวันที่ 19 พฤษภาคม แม้จะมีการกล่าวหาเรือ ่ ง "การ
ก่อการร้าย" ซ้าํ ๆ แต่ก็ไม่รายงานเจ้าหน้าที่เสียชีวิตเลยในช่วงที่มี
ปฏิบัติการ ขณะที่ผู้ที่ถูกเจ้าหน้าที่ยิงไม่มีใครเลยที่ได้รับการพิสูจน์ว่า
มีอาวุธ ฝ่ายรัฐบาลก็ยังคงปฏิเสธความรับผิดชอบต่อความรุนแรงที่
เกิดขึ้น พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ซึง่ กําลังจะปลดเกษียณปฏิเสธเมือ ่ ไม่
นานมานี้ว่าทหารไม่ได้ยิงใส่ผู้ชุมนุมที่ไม่มีอาวุธ เขาบอกว่าทหาร "ไม่
เคยตัง้ ใจทําร้ายประชาชน" การดําเนินการสลายการชุมนุมนั้น
กระทําตามหลัก "มาตรฐานสากล"

6.4 มาตรการสากลว่าด้วยการใช้กําลัง

ประเทศไทยเป็นรัฐภาคีของกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิ
พลเมืองและสิทธิทางการเมือง (ICCPR) ซึ่งคณะกรรมาธิการสิทธิ
มนุษยชนแห่งสหประชาชาติซง่ึ มีหน้าทีด ่ แ
ู ลและเป็นผูต้ ค
ี วาม โดย
คณะกรรมาธิการด้านสิทธิมนุษยชนประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญ 18 คน
ตัง้ ขึน
้ โดยข้อบัญญัตข
ิ อง ICCPR เพือ่ ดูแลการบังคับใช้ ICCPR ใน
ความเห็นทั่วไปเรื่องสิทธิในการมีชีวิตอยู่ซึ่งได้รับการประกันไว้ใน
มาตรา 6 ของ ICCPR นั้น คณะกรรมการระบุว่า:

รัฐภาคีควรมีมาตรการ...ในการป้องกันไม่ให้เกิดการใช้อํานาจ
สั่งการสังหารประชาชนของตนเอง การที่ผู้มีอํานาจในรัฐปล่อย
ให้เกิดการสูญเสียชีวิตเป็นเรื่องที่สร้างแรงกดดันอย่างมาก
เพราะฉะนัน้ กฏหมายควรจะควบคุมอย่างเข้มงวดและจํากัด
สถานการณ์ที่จะนําไปสู่การสูญเสียในชีวิตจากการใช้อํานาจรัฐ
อย่างน้อยที่สุด หากจะให้เป็นไปตามพันธกรณีที่ระบุไว้ใน
ICCPR แล้ว รัฐต้องปฏิบัติตามหลักการพื้นฐานของสหประชาติ ใน
เรื่องการใช้กําลังและอาวุธของเจ้าหน้าที่ผู้บังคับใช้กฏหมาย (ตาม
"หลักการพื้นฐานของสหประชาชาติ") หลักการนี้มีไว้เพื่อช่วยให้
ประเทศสมาชิกของสหประชาชาติเช่นไทยรับรองและสนับสนุนให้
เกิดการปฏิบต ั อ
ิ ย่างเป็นระบบขัน
้ ตอนของเจ้าหน้าทีผ ่ บ
ู้ งั คับใช้กฏ
หมาย หลักการเหล่านี้จะต้องได้รับการพิจารณาและต้องคํานึงถึง
ในกฏหมายส่วนท้องถิ่น รวมถึงระเบียบปฏิบต ั ข
ิ องประเทศสมาชิ
กอื่นๆ หลักการเหล่านี้เกี่ยวข้องกับประเทศไทยและการสังหารหมู่
เสื้อแดงอย่างยิ่ง โดยควรได้รับการคํานึงถึงขอบเขตที่เหมาะสมใน
การใช้กําลังในสถานการณ์ที่มีการชุมนุม รวมถึงกรณีเกิดการชุมนุม
ที่ไม่ถูกกฎหมายหรือเสี่ยงที่จะเกิดความรุนแรงด้วย

หลักการพื้นฐานของสหประชาชาติเป็นหลักการที่ตั้งขึ้นโดยมี
ลดการใช้อาวุธร้ายแรงต่อพลเรือนให้น้อยที่สุด ดังนั้นหลักการของ
สหประชาชาติจงึ จําเป็นสําหรับผูบ
้ งั คับใช้กฎหมายทัง้ หมด :

หลักการข้อที่ 3 การพัฒนาหรือการวางกําลังอาวุธยับยั้งที่ไม่
อยู่ในขั้นร้ายแรง ควรกระทําอย่างระมัดระวังเพื่อที่จะลดความ
เสี่ยงในการทําอันตรายต่อผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องและการใช้อาวุธนั้น
ควรมีการควบคุมอย่างดี

หลักการข้อที่ 4 การบังคับใช้กฎหมายโดยเจ้าหน้าทีซ ่ ง่ึ ปฏิบต


ั ิ
หน้าที่หากเป็นไปได้ควรใช้วิธีการปลอดความรุนแรงให้ถึงที่สุด
ก่อนพิจารณาการใช้กําลังหรืออาวุธ พวกเขาใช้กา ํ ลังอาวุธ
เพียงแค่ในกรณีที่วิธีการอื่น ๆ ไม่สามารถใช้ได้แล้ว หรือไม่มี
สิง่ ใดทีบ
่ ง่ บอกว่าจะทําให้เกิดผลตรงตามเป้าหมายแล้วเท่านัน ้

หลักการข้อที่ 5 เมือ
่ ใดก็ตามทีจ
่ า
ํ เป็นต้องใช้กา
ํ ลังและอาวุธ
อย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ เจ้าหน้าทีบ ่ งั คับใช้กฎหมายควร
a) ปฏิบัติอย่างอดกลั้นในการใช้กําลังและปฏิบัติตามสัดส่วน
ความร้ายแรงของสถานการณ์ และเป็นไปตามวัตถุประสงค์ทาง
กฎหมาย
b) ทําให้เกิดความเสียหาย การบาดเจ็บให้นอ ้ ยทีส
่ ด
ุ รวมถึง
ควรเคารพและรักษาชีวต ิ มนุษย์
c) ทําให้แน่ใจว่าการช่วยเหลือและการรักษาพยาบาลสามารถ
เข้าถึงผู้ได้รับบาดเจ็บหรือคนที่ได้รับผลกระทบ โดยด่วนที่สุดเท่าที่จะ
เป็นไปได้

หลักการพื้นฐานของสหประชาชาติในเรื่องการสลายการชุมนุมมี
ดังนี้ :
หลักการข้อ 12 เมือ ่ ทุกคนได้รบั อนุญาตให้เข้าร่วมในการชุมนุม
ที่สงบและถูกกฎหมาย ตามหลักการของประกาศสิทธิมนุษยชน
และสนธิสัญญานานาชาติด้านสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการ
เมือง รัฐบาลและหน่วยงานทีบ ่ งั คับใช้กฎหมายและเจ้าหน้าที่
ควรรับรูว้ า
่ กําลังและอาวุธจะใช้ได้กต ็ อ
่ เมือ
่ มีการปฏิบต
ั ต
ิ าม
หลักการข้อ 13 และ 14

หลักการข้อ 13 ในการสลายการชุมนุมที่ไม่เป็นไปตาม
กฎหมาย แต่ไม่ได้มีความรุนแรง เจ้าหน้าทีบ
่ งั คับกฎหมายควร
หลีกเลี่ยงการใช้กําลัง หรือหากไม่สามารถกระทําได้ ก็ควรใช้
กําลังให้นอ
้ ยทีส
่ ด
ุ เท่าทีจ
่ า
ํ เป็น

หลักการข้อ 14 ในการสลายการชุมนุมที่มีความรุนแรง เจ้า


หน้าทีบ ่ งั คับกฎหมายอาจใช้อาวุธได้กต ็ อ
่ เมือ
่ วิธกี ารอืน
่ ๆ ที่
อันตรายน้อยกว่าไม่สามารถใช้ได้ และควรใช้กา ํ ลังให้นอ้ ยทีส
่ ด

เท่าทีจ
่ าํ เป็น เจ้าหน้าทีบ
่ งั คับกฎหมายไม่ควรใช้อาวุธสงคราม
ในกรณีนี้ เว้นแต่สภาพการเป็นไปตามเงื่อนไขของหลักการข้อ
9
หลักการข้อที่ 9 ระบุวา
่ :
หลักการข้อที่ 9 เจ้าหน้าที่ผู้บังคับใช้กฎหมายไม่สามารถใช้
อาวุธปืนกับบุคคลได้ ยกเว้นเพื่อป้องกันตนเอง หรือปกป้อง
บุคคลอืน ่ จากอันตรายถึงชีวต ิ หรือการบาดเจ็บขัน ้ ร้ายแรง
เฉพาะหน้า เพื่อป้องกันการก่ออาชญากรรมร้ายแรงที่
อันตรายถึงชีวิต เพือ ่ จับกุมบุคคลซึง่ กําลังกระทําอันตราย
และตอบโต้เจ้าหน้าที่ หรือเพือ ่ ไม่ให้บค
ุ คลดังกล่าวหลบหนี
การจับกุม และในกรณีที่ไม่มีวิธีการใดที่มีประสิทธิภาพที่จะ
ให้ได้มาซึ่งวัตถุประสงค์ดังกล่าว อย่างไรก็ตาม การใช้อาวุธ
สังหารโดยตั้งใจสามารถกระทําได้ ต่อเมือ ่ เผชิญ
สถานการณ์คบ ั ขันและหลีกเลีย ่ งไม่ได้เพือ
่ ปกป้องชีวต ิ
เท่านั้น

ในเดือนเมษายน-พฤษภาคม 2553 รัฐบาลอภิสิทธิ์ และกองทัพ


ไทยดูเหมือน จะไม่สนใจการควบคุมฝูงชนด้วยหลักการดังที่กล่าวมา
แต่รฐั บาลกลับใช้วธ ิ ก
ี ารสลายการชุมนุมทีข ่ ด
ั กับ “มาตรฐาน
นานาชาติ” ด้วยการใช้ “อาวุธทีไ่ ม่เป็นอันตรายถึงชีวต ิ ” เพียงจํานวน
น้อย ไม่ได้แสดงความห่วงใยในการ “ลดความเสีย ่ งทีจ
่ ะเกิดขึน
้ กับ
บุคคลทีไ่ ม่เกีย ่ วข้องให้นอ้ ยทีส
่ ด
ุ ” และเพือ
่ “รักษาชีวต ิ คนไว้”
นโยบายยิงเพื่อสังหารที่พวกเขานํามาใช้กับผู้ชุมนุมที่เผายางและจุด
ประทัด ก็ไม่ได้อยู่ในหลักการของการโต้ตอบ “ในสัดส่วนเดียวกับ
ความร้ายแรงของการจู่โจม” การโจมตีใส่หน่วยแพทย์อาสา เป็นคํา
สั่งที่ไม่ได้เกิดประโยชน์ต่อการรับรองว่า “การช่วยเหลือและการ
รักษาพยาบาลควรทําให้สามารถเข้าถึงผู้ได้รับบาดเจ็บและผู้ได้รับ
ผลกระทบอย่างรวดเร็วที่สุดเท่าที่จะทําได้” แม้วา ่ การชุมนุมของเสือ ้
แดงอาจถูกตราว่าเป็นการชุมนุมที่ “รุนแรง” และ “ผิดกฎหมาย” แม้
หากว่า พรก.ฉุกเฉินฯ จะทําให้พวกเขาผิดกฎหมาย แต่พยานที่อยู่ใน
เหตุการณ์การใช้อาวุธกระสุนจริงของรัฐบาลก็กล่าวยืนยันหนักแน่น
ว่า การใช้กําลังนั้นไม่จํากัดอยู่แค่ “การใช้ให้น้อยที่สุดเท่าที่
จําเป็น” (ในหลักการข้อ 13) นอกจากนีแ ้ ล้ว ผู้ที่เสียชีวิตไม่มีใครเลยที่
พบเห็นว่ามีอาวุธร้ายแรง ทําให้การ “จงใจใช้อาวุธร้ายแรง” ของ
รัฐบาลนั้น ไม่สอดคล้องตามกรณี “ไม่สามารถหลีกเลี่ยงผ่อนปรนได้
ในการจําเป็นต้องใช้เพือ ่ รักษาชีวต
ิ ” (ในหลักการข้อ 9)

แทนทีจ่ ะปฎิบตั ต
ิ ามหลักสากลในสลายการชุมนุม รัฐบาลกลับ
ใช้กองกําลังที่ได้รับการฝึกฝนอาวุธสงครามเพื่อสู้รบกับกองทัพของ
ต่างชาติเข้าไปสลายการชุมนุมเสื้อแดง กล่าวอย่างเรียบๆ คือ มัน
เป็นสิ่งที่กองทัพไทยทํามาตลอดเมื่อเจอกับการชุมนุมใหญ่ที่เรียกร้อง
ท้าทายอํานาจการควบคุมระบอบการเมืองของไทย พวกเขาละเลย
มาตรฐานสากลและใช้กําลังทหารกับผู้ชุมนุม
7. ฤดูกาลใหม่ของการปกครองโดยทหาร

ประชาชน 90 รายถูกสังหาร และอีกประมาณ 1,800 รายได้รับบาด


เจ็บในช่วง 6 สัปดาห์ก่อนถึงการบุกสลายชุมนุมในวันที่ 19
พฤษภาคม ชีวิตที่สูญเสียเพิ่มมากขึ้นในเหตุการณ์ความขัดแย้งแสดง
ให้เห็นถึงความเสแสร้งของ “กฎเกณฑ์ประชาธิปไตย” และ “ความ
เคารพในหลักนิติธรรม” ซึง่ รัฐบาลอภิสท ิ ธิพ
์ ยายามปกป้องมาตลอด
การดํารงตําแหน่ง เมือ ่ ความชอบธรรมของรัฐบาลถูกท้าทายจาก
กลุ่มคนจํานวนมากที่มีการจัดตั้งมาอย่างดีและส่วนใหญ่ก็มาโดย
สันติแล้ว อภิสิทธิ์แสดงให้เห็นถึงการไร้ความสามารถในการ
ปกครอง และไม่สามารถปกป้องแม้แต่สิ่งที่รัฐธรรมนูญฉบับปี 2007
หลังรัฐประหารได้ให้การคุ้มครองแก่ประชาชนไทย แม้กระทั่งก่อน
การชุมนุมจะเริ่มต้น รัฐบาลได้ระงับการคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญโดย
การประกาศใช้ พรบ.ความมัน ่ คง เพื่อพยายามจํากัดกิจกรรมของเสื้อ
แดง ก่อนหน้าการปราบปรามการชุมนุมครั้งแรกไม่กี่วัน รัฐบาลก็ยัง
ได้ใช้อา
ํ นาจเผด็จการ ประกาศใช้ พรก.ฉุกเฉิน อีก 3 เดือนถัดมา
พรก.ฉุกเฉินก็ยังคงมีผลบังคับใช้ต่อไปอย่างไม่มีกําหนด

กองทัพกลับมาควบคุมประเทศนีอ
้ ก
ี ครัง้ โดยต่างจากช่วงหลัง
รัฐประหารในปี 2006 การปกครองครั้งใหม่นี้ดําเนินการโดยใช้หลัก
กฎหมายมาบดบัง กล่าวอย่างเจาะจงคือ มาจากการใช้อา ํ นาจโดยมิ
ชอบผ่านร่างกฎหมายที่กดทับสิทธิ ทําให้เผด็จการทหารใหม่
สามารถเข้าสู่อํานาจได้โดยอยู่เหนือการตรวจสอบใดๆ ทั้งปวง และ
ลิดรอนสิทธิเสรีภาพตามที่รัฐธรรมนูญรับรอง รวมถึงการคัดเลือก
กฎหมายมาบังคับใช้ให้ตรงกับความต้องการและผลประโยชน์ของ
ตนเท่านั้น การทีร่ ฐ
ั บาลปัจจุบน ั นํา พรก.ฉุกเฉิน มาใช้โดยมิชอบ ถือ
เป็นการลดทอนหลักนิตธ ิ รรมแทบทัง้ หมด ขาดก็แต่การประกาศ
รัฐประหารอย่างเป็นทางการเท่านั้น อย่างไรก็ตาม การเสแสร้งว่ามี
ความชอบธรรมทางกฎหมายของรัฐบาลนี้เป็นสิ่งที่ไม่ควรประเมินผิด
พลาด การบังคับใช้ พรก.ฉุกเฉิน และการขยายเวลาบังคับใช้ออกไป
อย่างไม่มีกําหนดถือเป็นการรัฐประหารเงียบ (ทั้งยังถือว่ารุนแรง
อย่างไม่อาจยอมรับได้) ในส่วนของคณะรัฐบาลอภิสิทธิ์และทหารที่
หนุนหลัง ในตอนนีม ้ น
ั ชัดเจนแล้วว่า พรก.ฉุกเฉินซึ่งยังคงถูกบังคับใช้
ต่อไป ไม่ใช่เพื่อเผชิญหน้ากับสถานการณ์ฉุกเฉิน แต่เพือ ่ ให้อา
ํ นาจ
เผด็จการแก่รัฐบาลตามที่ต้องการ และเพือ ่ กําจัดคูแ
่ ข่งทางการเมือง
และเพื่อดํารงอํานาจทางการเมืองที่ได้มาโดยไม่ถูกต้องต่อไป

พรก. ฉุกเฉิน จึงเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ละเมิด ICCPR ในมาตราที่ 4 ที่


ระบุว่าการระงับสิทธิ์บางประการของ ICCPR เป็นการชัว ่ คราว เช่น
ระงับสิทธิในการชุมนุมนั้น จะกระทําได้ก็ต่อเมื่อ “เป็นการใช้โดย
ขยายขอบเขตอย่างเคร่งครัดตามความฉุกเฉินของสถานการณ์”

7.1 พระราชบัญญัติความมั่นคงภายใน

พรบ. ความมัน ่ คงฯ ออกมาในปี 2008 โดยมีการให้นิยาม “การ


รักษาความมั่นคงภายใน” อย่างกว้างครอบคลุมทุกทิศ โดยรวมถึง
“ปฏิบัติการเพื่อป้องกัน, ควบคุม, แก้ไข และฟืน
้ ฟู เหตุใด ๆ ก็ตามที่
อาจก่อให้เกิดอันตรายโดยมาจากบุคคลหรือกลุม ่ คนทีส
่ ร้างความ
วุน
่ วาย สร้างความเสียหายต่อชีวิตหรือทรัพย์สิน หรือทําให้เกิดการ
เสียเลือดเนือ
้ ของประชาชน รวมถึงความสูญเสียต่อชาติ อย่างไร
ก็ตาม พรบ. นี้อนุญาตให้ใช้มาตรการพิเศษ ข้อบังคับพิเศษ เพียงเพื่อ
“ให้เกิดการฟื้นฟูสถานการณ์สู่สภาพปกติ ในนามของความสงบเป็น
ระเบียบเรียบร้อยของประชาชน หรือต่อความมัน ่ คงในชาติ

กฏหมายฉบับนี้ดํารงอยู่ภายใต้อํานาจการดําเนินงานของ
สํานักนายกรัฐมนตรี ภายใต้กฏหมายฉบับนี้ระบุว่า “ในเหตุการณ์ที่
ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงภายใน แต่ยงั ไม่จา ํ เป็นต้องประกาศ
สถานการณ์ฉุกเฉิน รัฐมนตรี คณะรัฐบาลจะลงมติให้ กองอํานวยการ
รักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) รับผิดชอบด้านการป้องกัน,
ปราบปราม และขจัดหรือบรรเทาเหตุการณ์ซง่ึ กระทบต่อความมัน ่ คง
ภายใน ภายในพืน ้ ทีแ
่ ละเวลาทีก
่ า
ํ หนด” กอ.รมน. เป็นหน่วยงาน
สาขาหนึ่งของกองทัพ ซึง่ มีหน้าทีป ่ กป้องความมัน่ คงในชาติจากภัย
ภายในประเทศโดยดําเนินงานภายใต้คําสั่งโดยตรงจากนายก
รัฐมนตรี ผู้ที่ตามพรบ. ระบุวา่ เป็น “ผู้อํานวยการความมั่นคงภายใน”

เมือ
่ มีการลงมติดงั กล่าวแล้ว รัฐบาลของประเทศจะไม่ใช่
รัฐสภา, คณะรัฐมนตรี, ศาลอีกต่อไป แต่จะมีนายกรัฐมนตรีเป็นผู้
อํานวยการ, มีผู้บัญชาการทหารสูงสุดเป็นรักษาการผู้อํานวยการ
และเสนาธิการเหล่าทัพเป็นเลขาธิการ สิ่งที่พอจะทําหน้าที่แทรกแซง
ระหว่างสองขัว ้ อํานาจได้คอื คณะรัฐบาล แต่อท
ิ ธิพลนัน
้ ต่า
ํ มาก
เนื่องจากถูกจํากัดโดยการรับรองการพิจารณาผ่านนายกรัฐมนตรีผู้
มีอาํ นาจในการ “อนุมต ั ม
ิ ติดงั ต่อไปนี้”

1. ให้เจ้าหน้าที่รัฐผู้เกี่ยวข้องกระทําการ หรืองดเว้นกระทําการ
ใด ๆ
2. ห้ามการเข้า-ออก อาคาร สถานที่ หรือพื้นที่ที่กําหนดในช่วงที่
มีการปฏิบัติการ เว้นแต่จะมีการอนุญาตจากเจ้าหน้าทีผ ่ ม
ู้ ค
ี ณ
ุ สมบัติ
หรือเป็นผู้ที่ได้รับการงดเว้น
3. ห้ามการออกจากอาคารที่พักอาศัยภายในเวลาที่กําหนดไว้
4. ห้ามการพกพาอาวุธภายนอกเขตอาคารที่พักอาศัย
5. ห้ามการใช้เส้นทางหรือยานพาหนะ หรือกําหนดสภาพการ
ใช้เส้นทางหรือยานภาหนะ
6. เพื่อสั่งการให้บุคคลกระทําหรือยับยั้งการกระทํา ๆ ที่
เกี่ยวข้องกับอุปกรณ์ไฟฟ้า เพื่อเป็นการป้องกันอันตรายต่อชีวิต,
เลือดเนือ้ หรือทรัพย์สินของประชาชน

ข้อที่ 2 - 6 มีไว้เพียงเพือ
่ เพิม
่ ความชัดเจน เพราะขอบเขตอํานาจ
ของนายกรัฐมนตรีถูกระบุไว้หมดแล้วในข้อที่ 1 คืออํานาจในการ “ให้
เจ้าหน้าที่รัฐผู้เกี่ยวข้องกระทําการ หรืองดเว้นกระทําการใด ๆ” นีค ่ อ

การใช้อา ํ นาจจากการอนุมต ั ิ “มติ” ของนายกรัฐมนตรี โดยไม่ต้อง
ผ่านสภา ไม่ผ่านการตรวจสอบโดยวิถีทางประชาธิปไตย ไม่มีการ
พิจารณาของรัฐสภา มีเพียงนายกรัฐมนตรี, คณะรัฐบาล และกองทัพ
เท่านัน
้ ทีม่ อ
ี า
ํ นาจปกครอง นี่คือสถานภาพความเป็นนิติรัฐของ
ประเทศไทย ตัง้ แต่ 11 มีนาคม 2010 เป็นต้นมา

7.2 การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน

แม้วา่ จะมีการประกาศใช้ พรบ. ความมัน ่ คงและความพยายาม


กําจัดการเคลือ ่ นไหวของพวกเขา แต่ก็ไม่สามารถขัดขวางกลุ่มเสื้อ
แดงได้ กลุ่มเสื้อแดงหลายพันคนจากทุกชนชั้นของสังคมพากันเข้า
มาในกรุงเทพฯ เพือ ่ ประท้วงรัฐบาลปัจจุบน ั และเรียกร้องให้มก
ี าร
เลือกตั้ง เพือ
่ เป็นการตอบโต้ผท ู้ แ
่ี ห่แหนมาต่อต้านรัฐบาล นายก
รัฐมนตรีอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และครอบครัวพากันหนีออกจากที่พักใน
กรุงเทพฯ ไปยังค่ายทหาร ซึ่งบ่งชี้ให้เห็นถึงการที่อภิสิทธิ์ต้องอาศัย
ความช่วยเหลือจากเหล่านายพล ในวันที่ 7 เมษายน หลังจาก
ไตร่ตรองมาหลายสัปดาห์แล้ว รัฐบาลได้เพิม
่ อํานาจของ พรบ.ความ
มั่นคงขึ้นอีกโดยการประกาศ พรก.ฉุกเฉิน ในกรุงเทพฯ และในเขต 5
จังหวัดใกล้เคียง

ตามมาตราที่ 9 ของพระราชกําหนดการบริหารงานใน
สถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ค.ศ. 2005) รัฐบาลมีการสั่งห้ามไม่
ให้มี “การชุมนุมหรือรวมตัวร่วมกันกระทําการตั้งแต่ 5 คนขึน
้ ไป”
รวมถึง “การกระทําใด ๆ ที่ยั่วยุให้เกิดความไม่สงบ” ภายใต้ความ
หมายดังนี้

การกีดขวางทางจราจรในลักษณะที่ทําให้การคมนาคมตาม
ปกติมอิ าจกระทําได้
การปิดกั้นทางเข้า-ออก อาคารหรือสถานที่ในทางที่จะเป็นการ
กีดขวางการขนส่ง การทําธุรกรรม หรือการดําเนินชีวต
ิ ประจํา
วันของประชาชนทัว ่ ไป

การโจมตีหรือใช้กําลังในทางที่จะสร้างความเสียหาย ความ
หวาดกลัว ความวุน ่ วาย และความวิตกกังวลต่อความปลอดภัยใน
ชีวต
ิ เลือดเนือ
้ และทรัพย์สิน ของประชาชน

การไม่ปฏิบัติตามคําสั่งของเจ้าหน้าที่ผู้มีคุณสมบัติเกี่ยวข้องกับ
การชุมนุม ผู้มีเป้าหมายเพื่อรักษาความสงบและป้องกันไม่ให้เกิด
ความวุน
่ วายต่อชีวต ิ ประจําวันของประชาชน

การลงโทษผู้ที่ฝ่าฝืนประกอบด้วย “การจําคุกไม่เกิน 2 ปี หรือ


ปรับไม่เกิน 4,000 บาท นอกจากนีแ ้ ล้ว รัฐบาลยังสั่งห้าม “การเผย
แพร่ข่าวสาร การผลิตซ้ํา หรือแพร่กระจาย ข่าวสาร สิ่งพิมพ์ หรือการ
สื่อสารด้วยช่องทางใด ๆ ทีม ่ เี นือ
้ หาสร้างความหวาดกลัวต่อ
ประชาชน หรือมีการจงใจบิดเบือนข้อมูลข่าวสารทีก ่ อ่ ให้เกิดความ
เข้าใจผิดในสถานการณ์ฉุกเฉิน จนกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือ
ความสงบเรียบร้อย หรือจริยธรรมอันดีของประชาชนในราช
อาณาจักร”

ตามมาตรา 11 ของ พรก.ฉุกเฉิน รัฐบาลได้มีมติจากการประชุม


ฝ่ายบริหารโดยให้มีการขยายอํานาจพิเศษอย่างไร้ข้อจํากัด นอกจาก
นีแ
้ ล้ว รัฐบาลยังได้มีอํานาจในการ “จับกุมและกักขังบุคคลทีต ่ อ
้ ง
สงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการยุยงปลุกปั่นสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือ
บุคคลทีโ่ ฆษณา หรือสนับสนุนการกระทําดังกล่าว” “เรียกตัว
ปัจเจกบุคคลเพือ ่ รายงานตัวกับเจ้าหน้าที่ ให้ขอ
้ มูล เอกสาร หรือหลัก
ฐานที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ฉุกเฉิน” และ “สั่งห้ามหรือสั่งให้
กระทําการใด ๆ ทีจ ่ า
ํ เป็นต่อความมัน
่ คงของชาติหรือความปลอดภัย
ของประชาชน”

พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินให้อํานาจ
รัฐบาลในการสถาปนาอํานาจทางกฎหมายจอมปลอม ซึง่ เป็นผลให้
เกิดการสลายการชุมนุมที่ผิดพลาด อย่างเช่นกรณีสลายการชุมนุม
คนเสือ้ แดงเมือ่ 10 เม.ย. ในวันที่ 13 พ.ค. วันที่ เสธ.แดง ถูกลอบ
สังหาร มีการขยาย พ.ร.ก.ฉุกเฉินไปยัง 15 จังหวัดในภาคกลาง ภาค
เหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในวันที่มีการสลายการชุมนุมคน
เสือ
้ แดงเมือ
่ วันที่ 19 พ.ค. มีการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินกินพื้นที่กว่า 24
จังหวัด จาก 76 จังหวัดของประเทศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินยังคงมีผลบังคับใช้
แม้รัฐบาลจะยกเลิกประกาศห้ามออกนอกเคหะสถาน (เคอร์ฟิวส์)
ล่าสุด พ.ร.ก.ฉุกเฉินยังคงมีผลบังคับใช้ใน 19 จังหวัดจนถึงต้นเดือน
ตุลาคมโดยไม่มท ี ท่ี า
่ ว่าจะยกเลิก (หมายเหตุจากผูแ ้ ปลเอง มติ ครม.
21 ก.ค. มีการยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน 3 จังหวัด ส่วนอีก 16 จังหวัดที่ยัง
คง พ.ร.ก.ฉุกเฉินประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร จ.นนทบุรี
จ.พระนครศรีอยุธยา จ.ปทุมธานี จ.เชียงใหม่ จ.เชียงราย
จ.อุบลราชธานี จ.มหาสารคาม จ.หนองบัวลําภู จ.มุกดาหาร
จ.อุดรธานี จ.นครราชสีมา จ.ชัยภูม,ิ จ.ขอนแก่น จ.ชลบุรี และ
จ.สมุทรปราการ)

นี่เป็นเพียงการแทนที่หลักนิติรัฐด้วยความคิดเพ้อฝันของพวก
เขาเอง ด้วยวิธีนี้ ทําให้เสรีภาพของพลเมืองและสิทธิทางการเมือง
ของชาวไทยซึ่งมีหลักประกันคือรัฐธรรมนูญปี 2550 ถูกระงับชั่วคราว
รัฐธรรมนูญฉบับนี้เองที่นายกรัฐมนตรีและกองทัพผู้หนุนหลังหวังว่า
จะนํามาใช้หยุดยั้งการท้าทายต่ออํานาจการปกครองอันไม่ชอบธรรม
ของพวกเขา บรรดาผู้ท้าทายเหล่านี้ยังคงต่อต้านโดยมีราคาที่ต้อง
จ่ายคือชีวต ิ อวัยวะ หรือเสรีภาพของพวกเขา
ควรบันทึกด้วยว่า วิธีการที่ พ.ร.ก.ฉุกเฉินบังคับใช้หลังการ
สลายการชุมนุมคนเสื้อแดงนั้น พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ได้สร้างวิธีปฏิบัติของ
รัฐบาลเป็นสองมาตรฐาน นอกจากที่แกนนําหลักของ นปช. ยังคงถูก
ควบคุมตัวและมีความเป็นไปได้ทจ ่ี ะถูกตัดสินประหารชีวติ จากข้อหา
ก่อการร้ายแล้วนั้น และเมือ ่ 10 มิ.ย. มีรายงานว่ารัฐบาลได้จับผู้ที่
เกีย
่ วข้องกับคนเสือ ้ แดงแล้ว 417 คน ส่วนใหญ่ถูกตั้งข้อกล่าวหา
ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในจํานวนนี้มีหลายรายที่ถูกสอบสวนและตัดสิน
โทษภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมงหลังจากถูกจับ และเมือ ่ 26 มิ.ย. นาย
สมบัติ บุญงามอนงค์ นักกิจกรรมถูกควบคุมตัวและตั้งข้อหาฝ่าฝืน
พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ขณะที่เขาผูกริบบิ้นสีแดงที่สี่แยกราชประสงค์เพื่อ
รําลึกถึงผู้ที่ถูกสังหารโดยรัฐซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเดือนก่อน
หน้า

การทีร่ ฐ
ั บาลควบคุมบังคับคนเสือ้ แดงอย่างสุดขัว
้ นัน
้ ขัดแย้ง
อย่างยิ่งกับการผ่อนปรนให้กับการฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินทีม ่ รี ป
ู แบบ
ใกล้เคียงกันของผู้ชุมนุมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย/กลุม ่
คนเสื้อหลากสี และองค์กรของพวกเขาที่กระทําในช่วงเวลาเดียวกัน
ไม่มีใครถูกจับระหว่างที่นักกิจกรรมฝ่ายสนับสนุนรัฐบาลนับพัน
ชุมนุมทีล่ านพระบรมรูปทรงม้าและ ถ.สีลม ในการฝ่าฝืน
พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่ห้ามการรวมกลุ่มทางการเมืองใดๆ ในขณะทีค ่ นเสือ

แดงชุมนุมที่ราชประสงค์นั้น เมือ ่ 22 เม.ย. กลุม ่ “เสื้อหลากสี” ถูก
ตํารวจไล่ตามหลังจากผูช ้ ม
ุ นุมเหล่านีโ้ จมตีทช
่ี มุ นุมของคนเสือ
้ แดงซ้า

แล้วซ้าํ เล่า แต่คนเสื้อหลากสีนี้ก็ได้รับการอารักขาอยู่หลังแนวทหาร
บันทึกวิดโี อได้แสดงให้เห็นว่าเจ้าหน้าทีท ่ หารเล็งปืนมายังศีรษะของ
เจ้าหน้าที่ตํารวจซึ่งอยู่ระหว่างไล่จับกองกําลังของฝ่ายสนับสนุน
รัฐบาล

7.3 การควบคุมข้อมูลข่าวสาร

ในช่วงเวลาของการดํารงตําแหน่ง รัฐบาลอภิสิทธิ์ได้พยายาม
ควบคุมการแพร่กระจายข้อเท็จจริงและความคิดเห็นทีม ่ ตี อ ่ เหตุการณ์
ที่เป็นไปในทางตรงกันข้ามกับรัฐบาลด้วยการใช้ พ.ร.บ.การกระ
ทําความผิดเกีย ่ วกับคอมพิวเตอร์ หรือ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ อย่างเข้ม
ข้น โดยสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ที่แต่งตั้งโดยทหารผ่านกฎหมายนี้
ออกมา เมือ ่ 10 มิ.ย. 2550 โดยสิ่งที่แทรกอยู่ในเนื้อหาของ
พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ คือ บทบัญญัติที่เกี่ยวกับการระบุความผิดเกี่ยว
กับการเผยแพร่ข้อความในคอมพิวเตอร์ “ทีอ ่ าจกระทบกระเทือนต่อ
ความมัน ่ คงแห่งราชอาณาจักร … หรือ [] มีลก ั ษณะขัดต่อความสงบ
เรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน ซึง่ บทบัญญัตท ิ ค่ี ลุมเครือนี้
ต้องตีความโดยอัตวิสัยอย่างยิ่ง และด้วยความดกดื่นของการสื่อสาร
ด้วยอินเทอร์เน็ตซึ่งมีเครื่องมือทลายการปิดกั้นอย่างทรงพลัง ทําให้
รัฐบาลพบว่ามีความจําเป็นต้องใช้กฎหมายที่มีเนื้อหากีดกันเสรีภาพ
นี้ในทางตรงข้ามกับสิ่งที่กฎหมายบัญญัติ ในช่วงทีม ่ ก
ี ารชุมนุมรอบ
ล่าสุด เว็บไซต์ส่วนใหญ่ที่ตกเป็นเป้าหมายของรัฐบาลจึงถูกสั่งปิดกั้น
(บล็อก) โดยไม่มีการยื่นเรื่องร้องขอต่อศาล

เมือ
่ ไม่นานมานี้ ศูนย์อํานวยการรักษาความสงบเรียบร้อย
(ศอ.รส.) ซึ่งตั้งตาม พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราช
อาณาจักร และ ศูนย์อํานวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ซึง่
ตั้งหลังจากประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ได้เพิ่มมาตรการยับยั้งการเผย
แพร่ข้อเท็จจริงที่รัฐบาลไม่ต้องการให้เปิดเผย และข้อมูลทีร่ ฐ ั บาลไม่
พอใจ ผ่านการบังคับใช้กฎหมายโดยอ้างตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน โดยทั้ง
ศอ.รส. และ ศอฉ. ได้ปิดกั้นเว็บไซต์โดยอ้างตามประกาศสถานการณ์
ฉุกเฉิน ในขณะทีเ่ ว็บไซต์ทถ ่ี ก
ู ปิดนีม
้ ก
ั เกีย
่ วข้องกับการชุมนุมต่อต้าน
รัฐบาล เว็บข่าวอิสระ และเว็บไซต์ทเ่ี ปิดให้แสดงความคิดเห็นรวมอยู่
ด้วย ทั้งนี้ ตามทีโ่ ฆษกรัฐบาลแถลงชีแ ้ จง เว็บไซต์ทถ
่ี ก
ู ปิดเนือ
่ งจาก
เผยแพร่ข้อมูลที่ “เป็นเท็จ” อย่างเช่น “อภิสิทธิ์อนุญาตให้ใช้กําลัง
จัดการผู้ชุมนุม

ในเวลาเดียวกัน รัฐบาลได้ปิดสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม
PTV นิตยสาร 5 ฉบับ สถานีวิทยุชุมชนซึ่งดําเนินการโดยผู้ชุมนุมเสื้อ
แดง ทั้งนี้โดยอ้างตามประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และการปิดกัน ้ ถือเป็น
เรื่องจําเป็นอีกครั้งหนึ่ง โดยนายอภิสิทธิ์ระบุว่า “เพื่อฟื้นฟูสันติภาพ
และความสงบเรียบร้อยและเพื่อหยุดการเผยแพร่ข้อมูลที่ผิดไปยัง
สาธารณชนชาวไทย”

7.4 เสื้อแดงนะหรือคือผู้ก่อการร้าย

พระราชกําหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.
2548 อ้างถึงสถานการณ์ที่รัฐบาลอาจจะระงับสิทธิตามรัฐธรรมนูญ
ของประชาชนได้หลายทาง ซึง่ ก่อให้เกิดคําถามต่อความเหมาะสม
ของการประกาศใช้และการยืดอายุ พ.ร.ก.ออกไปอย่างไม่มีกําหนด
โดยอ้างตาม พ.ร.ก. ในมาตรา 11 ของ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ซึง่ ให้อา ํ นาจ
รัฐบาลอย่างกว้างขวางที่สุด เป็นตัวอย่าง "ในกรณีที่สถานการณ์
ฉุกเฉินมีการก่อการร้าย การใช้กาํ ลังประทุษร้ายต่อชีวติ ร่างกาย
หรือทรัพย์สิน หรือมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่ามีการกระทําที่มีความรุนแรง
กระทบต่อความมั่นคงของรัฐ ความปลอดภัยในชีวต ิ หรือทรัพย์สน

ของรัฐหรือบุคคล" ข้ออ้างในการใช้อํานาจอย่างเผด็จการทําให้
รัฐบาลต้องทําการรณรงค์ผ่านสื่อโดยมีเป้าหมายที่จะอธิบายภาพ
ของคนเสือ้ แดงว่าเป็นขบวนการเคลือ
่ นไหวทีใ่ ช้ความรุนแรงอันเป็น
ภัยต่อความเป็นเอกภาพและความมัน ่ คงของชาติไทย

รัฐบาลยังคงยืนยันเหตุผลในการบังคับใช้ พรก.ฉุกเฉินฯ ต่อไป


โดยกล่าวอ้างถึงความเคลื่อนไหวต่างๆ ที่เกิดขึ้นภายใต้การจัดการ
ของ นปช. (และความเคลือ ่ นไหวในขอบเขตทีก ่ ว้างกว่าในนามของคน
เสื้อแดง) รวมถึงข้อกล้าวหาว่าคนเสือ
้ แดงกําลังเคลือ
่ นไหวเพือ
่ ให้
บรรลุเป้าหมายทางการเมือง

ตั้งแต่การชุมนุมเริ่มขึ้น แม้วา ่ รัฐบาลจะพยายามทําให้ประชาชน


รู้สึกว่าผู้ชุมนุมเสื้อแดงถูกจ้างหรือล้างสมองให้เข้าร่วมการชุมนุม แต่
รัฐบาลยังใส่ใจ/ระวัง ทีจ ่ ะย้า ํ ว่า อย่างน้อยที่สุด ความคับข้องใจทาง
เศรษฐกิจของมวลชนเสื้อแดงเป็นเรื่องชอบธรรมตามกฎหมาย สิ่งที่
เรียกกันว่า “แผนปรองดอง” ซึ่งนายกรัฐมนตรีประกาศเมื่อเดือน
พฤษภาคม มีคา ํ มัน
่ สัญญาว่านโยบายทางสังคมใหม่จะแก้ปญ ั หา
ความไม่เท่าเทียมทางสังคมทีข ่ ยายไปทัว่ ประเทศได้ ขณะเดียวกัน
รัฐบาลได้ละเลยวาระทางการเมืองของ นปช. เรือ ่ งความเป็น
ประชาธิปไตยทีแ ่ ท้จริง ในด้านหนึ่ง รัฐบาลอภิสิทธิ์ปฏิเสธข้อกล่าวหา
เรือ่ งความไม่ชอบธรรม และโต้เถียงว่า เขาได้ขึ้นสู่อํานาจผ่าน
กระบวนการที่เป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ขณะทีอ ่ ก
ี ด้านรัฐบาล
ทําให้ข้อเรียกร้องของคนเสื้อแดงที่ต้องการให้มี “การทําให้
ประเทศไทยเป็นประชาธิปไตย” กลายเป็นสิ่งที่ไม่มีความหมายอะไร
มากไปกว่าการกระทําทีต ่ ง้ั ใจจะปกปิดเป้าหมายบางอย่างเอาไว้เบือ ้ ง
หลัง

ข้อกล่าวหาทีถ
่ ก
ู นํามาใช้กบ
ั คนเสือ
้ แดงมากทีส
่ ด
ุ คือการบอกว่า
วัตถุประสงค์ที่แท้จริงของพวกเขาคือการสร้าง “รัฐไทยใหม่” ซึง่ จะ
ทําให้ปราศจากสถาบันกษัตริย์ซึ่งเป็นที่เคารพสักการะ และแทนที่
ด้วยระบอบสาธารณรัฐที่ปกครองโดยประธานาธิบดี ซึ่งอย่างน้อยใน
ช่วงเริ่มต้น สันนิษฐานกันว่าจะนําโดยทักษิณ ชินวัตร ข้อกล่าวหานีม ้ ี
ความเป็นมาอย่างยาวนาน ดังทีไ่ ด้กล่าวไปแล้วว่า ฝ่ายตรงข้ามของ
ทักษิณอ้างเหตุผลเรื่องความจําเป็นในการปกป้องสถาบันกษัตริย์ใน
การต่อสู้เพื่อกําจัดเขาออกจากตําแหน่ง ข้อกล่าวหานีต ้ ด ิ ต่อมาถึง
กลุ่มคนเสื้อแดง แม้วา ่ แกนนําจะปฎิเสธเรือ
่ งนีซ
้ า
ํ้ แล้วซ้า
ํ เล่า

หลังจากประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน รัฐบาลได้แถลงข่าวต่อ


สือ
่ มวลชนถึงการค้นพบเครือข่ายซึง่ มีความสลับซับซ้อนและเกีย ่ วพัน
กับแนวร่วมที่สมรู้ร่วมคิดกันโค่นล้มสถาบันกษัตริย์ หลักฐานเพียง
อย่างเดียวที่ ศอฉ. แสดงก็คือแผนผังที่ยุ่งเหยิงซึ่งโยงรายชื่อหลาย
สิบชือ
่ ของแกนนําคนเสือ ้ แดง นักการเมืองฝ่ายตรงข้าม นักเขียน/
บรรณาธิการสื่อที่เห็นต่าง อาจารย์มหาวิทยาลัย และนักธุรกิจจากคน
หนึ่งไปสู่อีกคนหนึ่ง อภิสิทธิ์ใช้ “การค้นพบ” นี้เป็นข้ออ้างในการคง
พ.ร.ก.ฉุกเฉิน โดยอ้างว่า อํานาจทีเ่ พิม
่ ขึน
้ มานีจ
้ ะช่วยให้ ศอฉ. ได้มอง
ทะลุถึงแผนการและดําเนินการอย่างเด็ดขาดยิ่งขึ้นเพื่อปกป้อง
สถาบันกษัตริย์

ในการแถลงของรัฐบาลต่อสาธารณะหลายครั้งนั้น จากเดิมที่
คนเสื้อแดงถูกกล่าวหาว่าเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติได้ถูกขยาย
จนกลายเป็น “ผู้ก่อการร้าย” คนเสื้อแดงถูกกล่าวหาว่ายั่วยุหรือ
กระทําการเพื่อให้เกิดความรุนแรง หลังสลายการชุมนุม รัฐบาลยื่น
ฟ้องข้อหาก่อการร้ายกับแกนนํา นปช.หลายสิบคนรวมถึงทักษิณ ชิน
วัตร ซึ่งถูกกล่าวหาโดยปราศจากหลักฐานว่า เกี่ยวข้องโดยตรงกับ
การกระทําการก่อการร้ายและเป็นผู้สนับสนุนทางการเงินแก่การ
ชุมนุม
อินเตอร์เนชัน
่ แนลไครซิสกรุป
๊ กลุ่มแก้ปัญหาวิกฤติระหว่าง
ประเทศ (International Crisis Group) ลงความเห็นว่า “เป็นเรื่องยาก
ทีจ
่ ะอธิบายว่า บทบาทของทักษิณต่อเหตุการณ์ความรุนแรงเมือ ่ เร็วๆ
นี้ เข้าข่ายคําจํากัดความของการก่อการร้าย แบบทีแ ่ พร่หลายใน
ระหว่างประเทศ” แกนนําคนเสื้อแดง 10 คนไม่ได้รบ ั อนุญาตให้
ประกันตัว ตัง้ แต่หลังการปราบปรามเป็นต้นมา

แม้วา่ จะมีการใช้คารมที่เผ็ดร้อนของผู้ปราศรัยบางราย แต่


แทบจะไม่มห ี ลักฐานใดเลยทีเ่ ชือ
่ มโยง นปช.และแกนนําหลักเข้ากับ
เหตุการณ์ความรุนแรงที่พวกเขาถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ลงมือกระทํา

ประการแรก รัฐบาลล้มเหลวในการหาข้อมูลทีเ่ ชือ ่ ถือได้ทจ ่ี ะโยง


แกนนําคนเสื้อแดงเข้ากับเหตุระเบิดหลายสิบครั้งที่เกิดขึ้นกับ
ธนาคาร กรมทหาร สถานที่ราชการ ที่ทําการพรรค บ้านพักส่วนตัว
ของนายบรรหาร ศิลปอาชา นักการเมืองพรรคร่วมรัฐบาล ในช่วงเริ่ม
ต้นการชุมนุม ถึงแม้จะมีผู้สังเกตการณ์บางรายมองว่า มีกลุ่มอื่นๆ
นอกเหนือจากคนเสื้อแดงที่ได้ประโยชน์กว่ามากจากการสร้าง
บรรยากาศความกลัวที่เกิดจากเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องนี้
แต่รฐ
ั บาลกลับกล่าวหาคนเสือ ้ แดงโดยอัตโนมัติ เหตุระเบิดก่อนการ
ชุมนุมจะเริม ่ ไม่นานนัน้ เป็นเครือ่ งมือเพือ่ ให้รฐั บาลประกาศใช้
พ.ร.บ.ความมัน ่ คง ขณะทีเ่ หตุระเบิดทีเ่ กิดขึน
้ หลังจากนัน้ มีความ
สําคัญในการใช้เป็นเหตุผลในการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน อีก
ด้านหนึ่ง กรมสอบสวนคดีพิเศษประกาศโครมๆ ว่า เมือ ่ วันที่ 20
มีนาคม คนเสื้อแดงวางแผนโจมตีวัดพระแก้ว ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานที่
ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดของไทย ด้วยเครื่องยิงจรวดอาร์พีจี แต่ลม ้ เหลว โดย
อ้างอิงจาก “คํารับสารภาพ” ของชายคนหนึง่ ซึง่ ระบุวา ่ ได้รับเงินจาก
นักการเมืองคนหนึ่งให้ปฎิบัติการระเบิดครั้งนี้ นับตัง้ แต่รฐ ั บาลออก
มากล่าวอ้างถึงแผนการดังกล่าว ก็ไม่มีอะไรให้รับรู้อีกหลังจากนั้น
ประการที่สอง ขณะที่ยังไม่ทราบว่า “ชายชุดดํา” ซึง่ ดูเหมือนว่า
จะเป็นผู้สังหารเจ้าหน้าที่ทหารระหว่างการปะทะกันเมื่อวันที่ 10
เมษายน เป็นใคร หน่วยรบพิเศษนีถ ้ ก
ู มองว่าเป็นเจ้าหน้าทีท ่ หารทีไ่ ด้
รับการฝึกฝนมาอย่างดี ไม่วา ่ จะเกษียณแล้วหรือยังปฎิบต ั ริ าชการอยู่
ก็ตาม แม้วา ่ รัฐบาลจะอ้างว่าคนเหล่านีท ้ า
ํ งานให้กบั คนเสือ ้ แดง โด
ยอาจปฎิบต ั ติ ามคําสัง่ ของพล.อ.ขัตติยะ สวัสดิผล (เสธ.แดง) แต่
รัฐบาลก็ไม่เคยมีหลักฐานเพื่อสนับสนุนการกล่าวอ้างนั้น ใน
หนังสือพิมพ์เดอะเนชั่น ซึ่งเป็นสื่อที่สนับสนุนกลุ่มอํานาจเก่า อาวุธ
ปานะนันท์ คอลัมนิสต์หว ั อนุรกั ษ์คาดการณ์เมือ ่ เร็วๆ นีว
้ า
่ การสังหาร
พล.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรมน่าจะมีเกี่ยวข้องกับการที่กลุ่มทหารเสือราชินี
และ “บูรพาพยัคฆ์ ครองอํานาจในกองทัพ

ประการที่สาม รัฐบาลโทษว่าเป็นฝีมอ ื ของ นปช. โดยทันที หลัง


มีการโจมตีดว ้ ยระเบิดเอ็ม 79 ที่สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานี
ศาลาแดง ระหว่างการเผชิญหน้ากันของกลุ่มคนเสื้อแดงและกลุ่ม
“เสื้อหลากสี” ซึ่งเป็นฝ่ายสนับสนุนรัฐบาล เมือ ่ วันที่ 22 เมษายน อัน
เป็นเหตุให้มผ
ี เู้ สียชีวต
ิ 1 ราย ขณะที่ผู้ต้องสงสัยซึ่งถูกจับได้ในตอน
แรกกลับถูกปล่อยตัวอย่างรวดเร็ว ขัดกับการลงความเห็น ศอฉ. ทีว ่ า

ระเบิดถูกยิงมาจากพื้นที่ชุมนุมคนเสื้อแดงใกล้กับอนุสาวรีย์รัชกาลที่
6 มีประจักษ์พยานซึ่งอยู่ในกลุ่มผู้ชุมนุมฝั่งสนับสนุนรัฐบาลอ้างว่า
ระเบิดถูกยิงมาจากโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียง

ประการที่สี่ รัฐบาลเตือนประชาชนหลายครัง้ ว่า กลุ่มคนเสื้อ


แดงมีอาวุธร้ายแรงและมีคลังอาวุธขนาดใหญ่อยูใ่ นทีช
่ ม
ุ นุม

หลายวันหลังเหตุสังหารหมู่ 13-19 พฤษภาคม ศอฉ.โชว์อาวุธ


ซึง่ ออกจะน้อยกว่าทีค
่ าด โดยอ้างว่าถูกพบที่สี่แยกราชประสงค์ใน
ระหว่างปฏิบัติการเคลียร์พื้นที่ต่อผู้สื่อข่าวและทูตานุทูตต่างประเทศ
ด้วยคลังอาวุธที่ไม่มากมายนัก เทียบกับตัวเลขผูป ้ ระสบภัยทีไ่ ม่ได้ดล

กันในการสลายการชุมนุมเผยให้เห็นว่าการมีอาวุธร้ายแรงในหมู่คน
เสื้อแดงนั้นเป็นเรื่องไม่สลักสําคัญ จากการรายงานจนถึงวันที่ 19
พฤษภาคม คนเสือ ้ แดงตอบโต้ทหารด้วยอาวุธทีท ่ า
ํ ขึน
้ เองหรืออาวุธ
โบราณขนาดเล็ก ขณะที่มีผู้ชุมนุมน้อยกว่าหยิบมือที่ถูกพบจริงๆ ว่า
ใช้ปนื และระเบิด

ท้ายที่สุด รัฐบาลก็คงยืนยันว่าเหตุเพลิงไหม้ที่เกิดขึ้นทั่ว
กรุงเทพฯ จํานวน 39 แห่งนั้นเกิดขึ้นจาก “การวางแผนและการเตรี
ยมการอย่างเป็นระบบ” อย่างไรก็ตาม ศอฉ. ไม่สามารถอ้างหลัก
ฐานที่น่าเชื่อถือว่ามีการสมรู้ร่วมคิด แกนนําเสื้อแดงส่วนใหญ่ถูก
ควบคุมตัวแล้วในช่วงทีม ่ ก
ี ารวางเพลิงและได้ประกาศให้ผช ู้ มุ นุม
สลายการชุมนุมไปแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น คําถามที่สําคัญยังคงเป็นเรื่อง
ของเวลาที่เกิดเหตุที่หน้าห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ และความเสีย
หายจากการกระทําของกองทัพซึ่งส่งผลต่อความรวดเร็วในการเดิน
ทางไปยังทีเ่ กิดเหตุของเจ้าหน้าทีด ่ บั เพลิงเพือ
่ ดับไฟ ที่เลวร้ายที่สุดก็
คือมีหลักฐานบ่งชีว ้ า
่ เพลิงนัน
้ ถูกจุดขึน้ ด้วยความขุน ่ ข้องหมองใจของ
ผู้สนับสนุนฝ่ายเสื้อแดงในสภาพไร้การนํา ผู้ที่ได้รู้เห็นช่วงเวลาแห่ง
การสังหารหมู่ ซึง่ ทหารได้คร่าชีวต ิ คนในครอบครัว เพื่อน และเพือ ่ น
ร่วมอุดมการณ์ของพวกเขา แต่แม้ในบริบทเช่นนัน ้ ก็ตาม การทําลาย
อาคารพาณิชย์ที่ทําประกันภัยไว้อยู่แล้วถือเป็นเรื่องที่อภัยให้ไม่ได้
ขณะที่โศกนาฏกรรมของมนุษย์ที่ได้เปิดเผยตัวก่อนจะเกิดเหตุการณ์
การวางเพลิงที่คนเสื้อแดงถูกหาว่าเป็นผู้ก่อขึ้น กลับเป็นเรือ ่ งทีไ่ ม่
ยากเกินกว่าจะเข้าใจได้

แม้จะขาดแคลนพยานหลักฐานทีน ่ า่ เชือ
่ ถือ แต่การวาดภาพคน
เสื้อแดงในฐานะ “ผู้ก่อการร้าย” ก็สร้างเหตุผลสนับสนุนให้ฝ่าย
รัฐบาลใช้อาํ นาจเผด็จการและอ้างเป็นความจําเป็นในการสลายการ
ชุมนุมด้วยความรุนแรงอย่างทีเ่ คยทําเมือ่ วันที่ 10 เมษายนอีกครั้ง
และนําไปสู่การสลายไปของการประท้วงในวันที่ 19 พฤษภาคม
มันมีคา่ ควรแก่การหมายเหตุไว้ดว ้ ยว่า การวาดภาพปีศาจ
อย่างเป็นระบบให้กบ ั ผูช้ ม
ุ นุมซึง่ เป็นฝ่ายนิยมประชาธิปไตย เพื่อสร้าง
การสนับสนุนจากสาธารณะให้แก่ฉากต่อเนื่องของความรุนแรงโดย
รัฐ เป็นเทคนิคที่ถูกใช้มาอย่างยาวนานในประเทศไทย ในเหตุการณ์
เมื่อไม่นานนี้ก็เช่นกัน ในเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ 2535 ผู้ประท้วงถูก
วาดภาพว่าเป็น “นักปฏิวัติ” หัวรุนแรง ดังนัน ้ แล้ว รัฐบาลทหารจึงทํา
เช่นเดียวกับทีท่ า
ํ อยูข
่ ณะนีค ้ อ
ื กล่าวหาผูป ้ ระท้วงว่าต้องการจะล้มล้าง
ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และเช่น
เดียวกับทีท
่ า
ํ อยูข่ ณะนี้ รัฐบาลทหารประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินและ
ประกาศว่าปฏิบัติการที่รุนแรงจะถูกนํามาใช้เพื่อจัดการกับ “ผู้ก่อ
จลาจล” เช่นเดียวกับทีท
่ า
ํ อยูข
่ ณะนีร้ ฐ
ั บาลทหารอ้างว่าทหารยิงปืน
เพียงเพื่อป้องกันตัว

ความแตกต่างทีส่ า
ํ คัญระหว่างเหตุการณ์ปจ
ั จุบน
ั กับเหตุการณ์
ก่อนหน้านั้นก็คือ ในปี 2535 ผู้คนในกรุงเทพฯ แสดงท่าทีรังเกียจต่อ
การสังหารหมู่และความพยายามปกปิดการกระทําของทหาร ขณะที่
ครั้งนี้คนชั้นกลางระดับบนในกรุงเทพฯ ปรบมือให้กับการสังหารหมู่
ซึ่งรัฐบาลทหารดําเนินการด้วยแรงจูงใจที่จะหลีกเลี่ยงการเลือกตั้งซึ่ง
ดูเหมือนว่าพรรคที่สนับสนุนต่อผลประโยชน์ของกลุ่มอํานาจเก่าจะ
ต้องพ่ายแพ้

การวาดภาพคนเสื้อแดงอย่างเป็นระบบโดยคณะทหารใน
ปัจจุบันยิ่งเป็นการย้ําเตือนอย่างเด่นชัดถึงวิธีการที่กองทัพใช้อ้างต่อ
สาธารณะในการฆาตกรรมนักศึกษาผู้นิยมประชาธิปไตยหลายสิบ
ชีวต
ิ ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ในวันที่ 6 ตุลาคม 2519 โดยมีบาง
รายถูกข่มขืน ทรมาน ทําให้พิการ เผาทั้งเป็น คล้ายกันกับคนเสื้อแดง
นักศึกษาในธรรมศาสตร์ถูกกล่าวหาด้วยความเท็จว่ามีคลังแสง
ขนาดใหญ่อยูใ่ นหอประชุมของมหาวิทยาลัย คล้ายกันกับคนเสื้อแดง
นักศึกษาเหล่านั้นถูกลดทอนความเป็นมนุษย์ผ่านภาษาของการฆ่า
ล้างเผ่าพันธุ์โดยการกล่าวถึงพวกเขาในฐานะสัตว์ชั้นต่ํา ไม่ใช่คน
ไทย และด้วยเพลง “หนักแผ่นดิน” ซึง่ เป็นเพลงปลุกใจทีม ่ ช
ี อ
่ื เสียง
มากในทศวรรษ 2520 (ถูกนํามาปัดฝุ่นครั้งล่าสุดโดยพันธมิตรฯ) และ
ที่เหมือนกันอย่างมากระหว่างคนเสื้อแดงและนักศึกษาในยุคนั้นก็คือ
พวกเขาถูกกล่าวหาว่ากระทําการคุกคามสถาบันกษัตริย์ ถูก
แทรกซึมโดยต่างชาติ และเผยแพร่แนวคิดหัวรุนแรง ในปี 2519
นักศึกษาถูกป้ายสีว่าเป็น “คอมมิวนิสต์” วันนี้รัฐบาลได้พัฒนาศัพท์
ใหม่เพือ่ ให้เข้ากับบริบทภูมริ ฐ
ั ศาสตร์ทเ่ี ปลีย
่ นไปและปักป้ายให้กบ ั
คนเสือ้ แดงว่าเป็น “ผู้ก่อการร้าย”

วิธีที่กองทัพจัดการกับคนเสื้อแดงนั้นชวนรําลึกไปถึงเหตุการณ์
การปราบปรามนักศึกษาที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เมื่อ 34 ปีทแ ่ี ล้ว
ในปี 2519 กองทัพอาศัยกองกําลังของกลุ่มฝ่ายขวาราชานิยมสุดโต่ง
ซึง่ ทําตัวเป็นศาลเตีย ้ เช่นลูกเสือชาวบ้าน และกลุ่มกระทิงแดงในการ
สังหารหมู่นักศึกษา การใช้ความรุนแรงในครั้งนั้นเป็นสิ่งที่ผสาน
สอดคล้องไปกับข้ออ้างในการทํารัฐประหาร เช่นเดียวกัน ในปลาย
เดือนเมษายน 2553 รัฐบาลก็อาศัยกลุ่มศาลเตี้ยซึ่งเป็นกองกําลังฝ่าย
ขวาราชานิยมซึง่ ส่วนใหญ่กค ็ อ
ื มวลชนของพันธมิตรฯ ทีห ่ น
ั มาสวม
“เสื้อหลากสี” ทําการยั่วยุให้เกิดการเผชิญหน้าที่มีแนวโน้มของความ
รุนแรงในพืน ้ ทีส
่ ล
ี มก็เหมือนกับทีร่ ฐ
ั บาลทหารชุดปัจจุบน ั เป็นอยู่ ยิ่งไป
กว่านั้น รัฐบาลที่ถูกแต่งตั้งโดยทหารในปี 2519 (นําโดยนายธานินทร์
กรัยวิเชียร ซึง่ ปัจจุบน ั ดํารงตําแหน่งองคมนตรี) อยู่ในฐานะที่ต้องรับ
ผิดชอบอย่างเต็มที่ต่อเหยื่อของการสังหารหมู่ นีจ ่ งึ เป็นเหตุให้เกิด
การสร้างระบอบการปิดกั้นอย่างเข้มงวด สรุปอย่างรวบรัดชัดเจน ผู้ที่
ฆาตกรรมนักศึกษาซึ่งไม่มีการกระทําผิดใดๆ ไล่ล่าฝ่ายต่อต้านอย่าง
ไม่ลดราวาศอก กดดันผูค ้ นจํานวนหลายพันคนให้หลบหนีออกนอก
ประเทศหรือเข้าร่วมกับพรรคคอมมิวนิสต์ในภาคเหนือและอีสาน เป็น
ที่น่าสังเกตว่าในปี 2519 และปี 2553 นั้น การทีร่ ฐ ั บาลวาดภาพปีศาจ
อย่างเป็นระบบให้กับผู้ชุมนุมเรียกร้องนั้นดูจะประสบความสําเร็จใน
การสร้างความหวาดกลัวให้กับชนชั้นกลางระดับบนในกรุงเทพฯ
หรืออย่างน้อยก็รู้สึกมั่นคงกับการไม่แยแสของตัวเอง ยิ่งไปกว่านั้น
สิ่งที่แตกต่างจากเหตุการณ์ความรุนแรงของรัฐในปี 2516 และ 2535
คือ การสังหารหมู่ในปี 2519 และ 2553 ไม่ได้ส่งผลให้พระมหา
กษัตริย์เข้ามาแทรกแซง
เส้นขนานทางประวัติศาสตร์ชี้ให้เห็นข้อเท็จจริงว่ากระแสการ
ชุมนุมและความรุนแรงระลอกล่าสุดนั้นมาจากต้นร่างเดียวกัน อันส่ง
ผลให้เกิดเหตุการณ์ 2516, 2519 และ 2535 จากกรณีทั้งหมดที่เกิดขึ้น
คนเสื้อแดงเรียกร้อง “ประชาธิปไตย” กลับถูกอธิบายโดยรัฐบาลว่า
เป็นเพียงฉากหน้าของอุดมการณ์ที่คุกคามความมั่นคงแห่งรัฐไทย
จากกรณีทั้งหมดที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ คนเสื้อแดงมีส่วนร่วมในการก่อ
ความรุนแรงบางประการ ปล้นสะดม และทําลายทรัพย์สิน ส่วนมาก
ในสถานการณ์เมื่อพวกเขาถูกโจมตี แต่พวกเขาไม่ใช่ “ผู้ก่อการร้าย”
ติดอาวุธ หรือ “นักปฏิวัติมาร์กซิสม์” ดังที่รัฐบาลอุปโลกน์ให้พวกเขา
เป็น อย่างไรก็ตาม จากกรณีทั้งหมดที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ ข้อกล่าวหา
เรื่องอุดมการณ์แบบสุดโต่งและมีแนวโน้มจะก่อความรุนแรงเป็น
เครื่องมือสําคัญที่กองทัพสร้างขึ้นเพื่อสร้างความชอบธรรมในการ
กําหนดมาตรการปราบปรามพิเศษ และยิงผูช ้ ม
ุ นุมทีป
่ ราศจากอาวุธ
จํานวนมากได้ โดยได้รับการยกเว้นโทษอย่างเต็มพิกัด และอย่างที่
เคยเป็นมา กลุ่มอํานาจเก่าของไทยตอบรับการเรียกร้อง
ประชาธิปไตยด้วยการทําลายความเป็นมนุษย์ของฝ่ายตรงข้าม ล้ม
ล้างหลักนิติรัฐ และการละเมิดสิทธิมนุษยชนในระดับที่กว้างขวาง
8. ข้อเรียกร้องหาความยุติธรรม

ประเทศไทยมีพันธกรณีหลายระดับภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ
ที่จะต้องนําผู้ละเมิดสิทธิมนุษยชนเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม จะต้อง
ทําการสืบสวนและดําเนินคดี(หากเป็นไปได้)ในทุกกรณีทม ่ี เี หตุอน
ั เชือ

ได้ว่ามีการละเมิดสิทธิมนุษยชนร้ายแรงเกิดขึ้น เช่น การสังหาร
พลเรือนอย่างรวบรัดหรือตามอําเภอใจ (summary or arbitrary
execution) โดยเฉพาะในกรณีที่เป็นการกระทําของเจ้าหน้าที่รัฐ การ
สืบสวนจะต้องมีความเป็นธรรม ครบถ้วน และดําเนินการโดยคณะที่
เป็นอิสระและเป็นกลางอย่างแท้จริง นี่คือมาตรฐานที่ระบอบอภิสิทธิ์
ต้องปฏิบต ั ิ ในการตรวจสอบว่ามีทหารหรือผู้นําพลเรือนคนใดหรือไม่
ทีต
่ อ
้ งรับผิดชอบกับ 90 ชีวิตที่สูญเสียไป กับคนนับพันทีไ่ ด้รบ ั บาดเจ็บ
และคนนับร้อยที่ถูกจับกุมคุมขังตามอําเภอใจอยู่ในสภาพที่ยาก
ลําบาก ในกรณีร้ายแรงอย่างการสังหารอย่างรวบรัดตัดตอนหรือ
ตามอําเภอใจนัน ้ การปกปิดของรัฐบาลเท่ากับเป็นการละเมิด
กฎหมายระหว่างประเทศ

8.1 หน้าที่ในการสืบสวนและหาผู้กระทําความผิดของ
ประเทศไทย

ประเทศไทยมีข้อผูกพันภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศทั้งที่
เป็นลายลักษณ์อักษรและกฎหมายจารีตประเพณีที่จะต้องสืบสวนทุก
กรณีที่มีเหตุอันควรให้เชื่อได้ว่ามีการละเมิดสิทธิมนุษยชนร้ายแรง
และการกระทําผิดอื่นๆ ภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศเกิดขึ้น และ
ดําเนินคดี(ในกรณีที่ทําได้)กับผู้กระทําการละเมิด หน้าที่นี้เกี่ยวพัน
โดยตรงกับการใช้กําลังเกินกว่าเหตุของทหารในการปราบปราม
พลเรือนในช่วงเดือนเมษายน – พฤษภาคม 2553 ตลอดจนการละเมิด
สิทธิมนุษยชนร้ายแรงอื่นๆ ที่เกิดขึ้นในระหว่างมีการชุมนุมและหลัง
การชุมนุม นัน ่ คือ การสูญหาย การคุมขังตามอําเภอใจโดยไม่มี
กําหนดในสภาพความเป็นอยู่ที่ยากลําบาก และการกระทําอื่นๆ ที่
โหดร้ายและไร้มนุษยธรรม ข้อเท็จจริงต่างๆ บ่งชีม ้ ล
ู ความผิดจํานวน
มากที่ต้องมีการดําเนินคดีต่อทหารในกองทัพไทย รัฐไทยจึงมีหน้าที่
ต้องจัดให้มกี ารสืบสวนโดยคณะทีม ่ ค
ี วามเป็นอิสระและเป็นกลาง

ประเทศไทยมีหน้าที่ที่ต้องดําเนินการสืบสวนตามหลักการ aut
dedere aut judicare (หน้าที่ที่ต้องดําเนินคดีและส่งผู้ร้ายข้ามแดน) ที่
ปรากฏในสนธิสัญญาระหว่างประเทศหลายฉบับที่ประเทศไทยเป็น
ภาคี เช่น มาตราร่วมของอนุสญ ั ญาเจนีวาทัง้ สีฉ
่ บับ พ.ศ. 2492
อนุสัญญาต่อต้านการทรมานฯ พ.ศ. 2527 อนุสัญญาการก่อการร้าย
แห่งยุโรป พ.ศ. 2520 อนุสัญญาการจับตัวประกัน พ.ศ. 2522 และ
อนุสัญญานิวยอร์กว่าด้วยอาชญากรรมต่อบุคคลที่ได้รับการคุ้มครอง
โดยสากล พ.ศ. 2516

หน้าที่ที่ต้องดําเนินการสืบสวนการละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นร้าย
แรงปรากฏอยู่ทั่วไปในกฎหมายสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ จน
อาจกล่าวได้ว่าเป็นกฎข้อหนึ่งของกฎหมายระหว่างประเทศที่เป็น
จารีตประเพณี สนธิสัญญาสิทธิมนุษยชนต่างๆ ทัง้ ระดับภูมภ ิ าคและ
ระดับโลกล้วนยอมรับในหน้าที่นี้ ในกรณีของประเทศไทย มีหน้าทีน่ ้ี
โดยตรงภายใต้กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิ
ทางการเมือง (ICCPR) คณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชนแห่ง
สหประชาชาติซง่ึ มีหน้าทีด
่ แ
ู ลและเป็นผูต
้ ค
ี วาม ICCPR ระบุวา

พันกรณีเชิงบวกของรัฐภาคีในการดูแลให้มีสิทธิตามกติ
กาฯ จะถือปฏิบต ั ส
ิ มบูรณ์ได้เพียงต่อเมือ
่ ปัจเจกบุคคลได้รบ

การคุ้มครองโดยรัฐ.......จากการละเมิดสิทธิในกติกาฯโดย
เจ้าหน้าที่รัฐ.... อาจจะมีสถานการณ์ที่การไม่สามารถรับ
ประกันสิทธิตามกติกาฯ ดังที่กําหนดไว้ในข้อ 2 จะทําให้เกิด
การละเมิดสิทธิเหล่านั้นโดยรัฐภาคี อันเป็นผลจากการที่รัฐ
ภาคีอนุญาตให้มี หรือไม่สามารถที่จะดําเนินมาตรการที่
เหมาะสม หรือไม่ได้ดําเนินการอย่างแข็งขันเพื่อป้องกัน
ลงโทษ สืบสวน หรือเยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้นโดย
การกระทําเช่นนั้น รัฐได้รับคําเตือนให้ระลึกถึงความ
สัมพันธ์เชื่อมโยงระหว่างพันธกรณีเชิงบวกที่กําหนดไว้ใน
ข้อ 2 และความจําเป็นทีจ ่ ะต้องจัดให้มก
ี ารเยียวยาทีม่ ี
ประสิทธิภาพเมื่อเกิดการละเมิดสิทธิตามข้อ 2 วรรค 3

พึงสังเกตว่า ICCPR ระบุให้รัฐภาคีต้องดําเนินการสืบสวนอย่างครบ


ถ้วนและเป็นธรรม และดําเนินคดีตอ่ เจ้าหน้าทีร่ ฐ
ั ทีร่ บ
ั ผิดชอบ:

จะต้องมีกลไกทางการปกครองต่างๆ เพื่อทําให้พันกรณี
ทั่วไปในการสืบสวนข้อกล่าวหาว่ามีการละเมิดเกิดขึ้นโดย
ทันการ รอบด้าน และมีประสิทธิภาพ ด้วยหน่วยงานที่เป็น
อิสระและเป็นกลาง

และพึงสังเกตด้วยว่า ความล้มเหลวของรัฐภาคีในการนําผู้กระทําผิด
เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมยังจะเป็นการละเมิดสนธิสัญญาอีกด้วย
โดยเฉพาะในกรณีที่เกี่ยวกับอาชญากรรมร้ายแรง เช่น การฆ่าตาม
อําเภอใจ:

เมื่อการสืบสวนตามที่กล่าวไว้ในย่อหน้า 15 พบว่ามีการ
ละเมิดสิทธิตามกติกาฯ บางประการ รัฐภาคีจะต้องดูแลให้ผู้
ที่รับผิดชอบต้องถูกนําตัวสู่กระบวนการยุติธรรม เช่นเดียว
กับในกรณีความล้มเหลวทีจ ่ ะสืบสวน ความล้มเหลวใน
การนําตัวผู้กระทําการละเมิดเช่นนั้นสู่กระบวนการยุติธรรม
จะทําให้เกิดการละเมิดกติกาฯ เป็นกรรมแยกต่างหากไปอีก
ในตัวของมันเอง พันธกรณีเหล่านี้เกิดขึ้นกับการละเมิดที่ถูก
ถือว่าเป็นอาชญากรรมตามกฎหมายในประเทศหรือ
กฎหมายระหว่างประเทศ เช่น การทรมานและการปฏิบัติที่
โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม และย่ํายีศักดิ์ศรี (ข้อ 7) [และ] การ
ฆ่าโดยพลการและตามอําเภอใจ (ข้อ 6)..... ดังนั้น ในกรณีที่
เจ้าหน้าที่รัฐหรือหน่วยงานรัฐได้กระทําการละเมิดสิทธิตา
มกติกาฯ ที่กล่าวถึงไว้ในย่อหน้านี้ รัฐภาคีที่เกี่ยวข้องจะต้อง
ไม่ปล่อยให้ผก ู้ ระทําการละเมิดหลุดพ้นจากความรับผิดชอบ
ส่วนตนไปได้

ประเทศไทยจึงมีข้อผูกมัดภายใต้สนธิสัญญาระหว่างประเทศที่
จะต้องจัดให้มีการดําเนินการสืบสวนที่ครบถ้วนและเป็นธรรมโดย
“คณะทีเ่ ป็นอิสระและเป็นกลาง” ไม่เพียงแต่มีเหตุอันเชื่อได้ว่ามีการ
ละเมิดสิทธิมนุษยชนร้ายแรงโดยเจ้าหน้าที่รัฐเท่านั้น ยังมีหลักฐาน
หนักแน่นชี้ว่าการละเมิดสิทธิมนุษยชนเหล่านั้นเกิดขึ้นภายใต้การ
ชีน
้ า
ํ ของรัฐบาล การใช้กระบวนการยุติธรรมที่มีความลําเอียง
ทางการเมืองของไทยหรือคณะกรรมการสืบสวนที่ไม่มีความโปร่งใส
ที่ควบคุมโดยระบอบอภิสิทธิ์นั้นไม่เป็นไปตามมาตรฐานกฎหมาย
ระหว่างประเทศว่าด้วยความอิสระและความเป็นกลาง อันที่จริง การ
ล้มเหลวในการดําเนินการสืบสวนควรได้รับการพิจารณาว่าอาจเข้า
ข่ายเป็นการละเมิดพันธกรณีที่ไทยมีต่อ ICCPR อีกคดีหนึ่งด้วย
8.2 การสังหารโดยพลการและตามอําเภอใจ: การละเมิดสิทธิ
มนุษยชน
ที่ร้ายแรงอื่นๆ

ICCPR ระบุว่าต้องไม่มีใครถูกพรากชีวิตไปโดยอําเภอใจ และ


ยังรับรองสิทธิที่จะปลอดพ้นจากการถูกทรมาน การปฏิบัติที่โหดร้าย
หรือย่ํายีศักดิ์ศรี และการถูกคุมขังตามอําเภอใจ นอกจากการเสีย
ชีวต
ิ ของคนจํานวนมากแล้ว ยังมีสมาชิกนปช.จํานวนมากที่ถูกคุมขัง
โดยไม่ได้รับการประกันตัวด้วยข้อหาละเมิดพระราชกําหนด
สถานการณ์ฉุกเฉินฯ และ/หรือพระราชบัญญัติความมั่นคงภายใน ที่
ประกาศใช้และคงไว้โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย สิทธิในการเข้าสู่
กระบวนการยุติธรรมที่เป็นธรรมของบรรดาผู้ถูกกล่าวหาก็เป็น
ประเด็นที่ต้องมีการตรวจสอบภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศด้วย

ต่อให้ประเทศไทยไม่ได้เป็นภาคีของ ICCPR ก็ยังต้องมีหน้าที่


ภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศที่ต้องดําเนินการสืบสวนอย่างครบ
ถ้วนและเป็นกลางต่อกรณีการวิสามัญฆาตกรรม การสังหารอย่าง
รวบรัดหรือตามอําเภอใจ พันธกรณีนี้ได้รับการตอกย้ําซ้ําแล้วซ้ําเล่า
โดยสมัชชาสหประชาชาติ ล่าสุดในปี 2552 ทีป ่ ระชุมสมัชชาฯ
“ประณามอย่างรุนแรง” ต่อการวิสามัญฆาตกรรม การสังหารอย่าง
รวบรัดหรือตามอําเภอใจ “เรียกร้อง” ให้ภาคีทุกประเทศดําเนินการ
ให้การกระทําเช่นนี้ยุติลง และย้ําเตือนถึง “พันธกรณีที่ทุกรัฐภาคีต้อง
ดําเนินการสืบสวนอย่างครบถ้วนและเป็นกลางในทุกกรณีที่น่า
สงสัย” ว่ามีการสังหารเช่นนั้น
ไม่ใช่เพียงแต่สืบสวนเท่านั้น ยังต้องมีการดําเนินคดีตามความ
เหมาะสมอีกด้วย ทีป ่ ระชุมสมัชชาสหประชาชาติยา ํ้ เตือนพันธกรณีน้ี
ของทุกรัฐ ในกรณีที่สงสัยว่าเป็นการวิสามัญฆาตกรรม การสังหาร
อย่างรวบรัดหรือตามอําเภอใจ “ต้องหาตัวผู้กระทําผิดและนําเข้าสู่
กระบวนการยุติธรรม […] และใช้มาตรการทุกอย่างทีจ ่ า
ํ เป็น รวมทั้ง
มาตรการทางกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม เพื่อยุติภาวะการ
รอดพ้นจากการรับผิด และป้องกันไม่ให้การกระทําดังกล่าวเกิดขึ้น
อีก”

พันธกรณีเหล่านี้เกี่ยวเนื่องอย่างยิ่งโดยเฉพาะในกรณีอย่างที่
เกิดในประเทศไทย ทีอ ่ าจมีการหมายหัวหรือใช้กา ํ ลังเกินกว่าเหตุตอ

ผู้ชุมนุม นักข่าวและนักปกป้องสิทธิมนุษยชน (อย่างเช่น เจ้าหน้าที่
ทางการแพทย์) ที่ประชุมสมัชชาประชาชาติเรียกร้องเป็นการเฉพาะ
ต่อทุกรัฐภาคี “ให้ทําการสืบสวนโดยทันท่วงทีและรอบด้านต่อกรณี
การฆ่าฟันทั้งหมด รวมทัง้ การฆ่าอย่างเจาะจงกลุม ่ บุคคลเฉพาะ อย่าง
เช่น ... การสังหารบุคคลด้วยเหตุที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมของพวกเขา
เหล่านั้นในฐานะนักปกป้องสิทธิมนุษยชน นักกฎหมาย นักข่าว หรือผู้
ชุมนุมประท้วง […] และนําตัวผู้กระทําผิดเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม”

เช่นเดียวกับการสืบสวน การดําเนินคดีก็ต้องเกิดขึ้นต่อหน้า
คณะตุลาการที่ “เป็นอิสระและเป็นกลาง” เมือ
่ ศาลในประเทศขาด
ความเป็นอิสระและความเป็นกลาง คดีต่างๆ ควรถูกนําขึ้นศาล
ระหว่างประเทศตามที่เหมาะสม ทีป ่ ระชุมสมัชชาสหประชาชาติระบุ
ว่า การแสวงหาความยุติธรรมจะต้องกระทํา:

ต่อหน้าคณะตุลาการทีเ่ ป็นอิสระและเป็นกลางในระดับประเทศ
หรือระหว่างประเทศ (หากเหมาะสม) และต้องมีการดูแลไม่ให้มี
การแทรกแซงจากเจ้าหน้าที่รัฐในคดีการสังหารที่กระทําโดย
กองกําลังความมั่นคง ตํารวจและเจ้าหน้าทีบ
่ งั คับใช้กฎหมาย
กลุ่มติดอาวุธหรือกองกําลังเอกชน หรือมีการไม่เอาผิดกับการ
สังหารเหล่านั้น
กรณีประเทศไทยเกี่ยวข้องกับพันธกรณีเหล่านี้ทั้งหมด
เนือ่ งจากมีเหตุอน
ั เชือ่ ได้วา
่ กองกําลังฝ่ายความมัน ่ คงหรือเจ้าหน้าที่
อื่นของรัฐได้กระทําการวิสามัญฆาตกรรม การสังหารอย่างรวบรัด
หรือตามอําเภอใจ ตามกฎหมายระหว่างประเทศแล้ว ไม่จา ํ เป็นต้อง
ระบุว่าการสังหารอย่างผิดกฎหมายเข้าข่ายใดในสามกรณีดังกล่าว
(วิสามัญฆาตกรรม ฆ่าอย่างรวบรัด หรือตามอําเภอใจ) ผู้รายงาน
พิเศษแห่งสหประชาชาติว่าด้วยการวิสามัญฆาตกรรม การสังหาร
อย่างรวบรัดตัดตอนหรือตามอําเภอใจ กล่าวไว้วา ่ “คําเหล่านีเ้ คยมี
บทบาทสําคัญในพัฒนาการทางประวัติศาสตร์ของภารกิจของผู้ราย
งานพิเศษฯ นี้ แต่ปจ ั จุบน
ั มันแทบไม่มค ี วามหมายอะไรเลยเกีย ่ วกับ
ลักษณะทีเ่ ป็นอยูจ่ ริงของเรือ ่ งเหล่านี้” สิ่งสําคัญคือกองกําลังความ
มั่นคงอาจจะฆ่าเฉพาะในกรณีที่สอดคล้องกับหลักการสากลว่าด้วย
ความจําเป็นและความเหมาะสมได้สด ั ส่วน (principles of necessity
and proportionality)

การฆ่าผู้ชุมนุมโดยกองกําลังความมั่นคงของไทยนั้นไม่ปรากฏ
ว่าสอดคล้องกับหลักการเหล่านี้ ผู้รายงานพิเศษฯ บอกว่า หลักการ
เหล่านี้ได้สร้าง “มาตรฐานทางกฎหมายที่ชัดเจนว่าด้วยการใช้กําลัง
ที่รุนแรงถึงชีวิต” ซึง่ “ระบุวา
่ ตํารวจ(หรือเจ้าหน้าทีค่ วามมัน
่ คงส่วนอืน ่
ทีป
่ ราบปรามการชุมนุม)จะสามารถยิงเพื่อสังหารได้ก็ต่อเมื่อเห็นได้
ชัดว่าบุคคลใดกําลังจะฆ่าใครอืน ่ (ทําให้การใช้กําลังรุนแรงถึงชีวิตมี
ความเหมาะสม) และไม่มห ี นทางอืน ่ ใดแล้วทีจ
่ ะทําการควบคุมตัว
บุคคลผู้ต้องสงสัยนั้นไว้(ทําให้การใช้กําลังรุนแรงถึงชีวิตมีความ
จําเป็น)”

ไม่มเี หตุผลอันใดเลยทีจ ่ ะเชือ


่ ได้วา
่ ได้มก
ี ารปฏิบต
ั ต
ิ าม
มาตรฐานดังกล่าวในประเทศไทย ผู้ชุมนุมส่วนใหญ่(หรืออาจ
ทั้งหมด)ที่ถูกฆ่าไม่ได้กําลังจะฆ่าใครอื่น และไม่มค ี วามพยายามใด
เลยที่จะหลีกเลี่ยงการคุกคามดังว่านั้นด้วยวิธีการอื่นนอกเหนือจาก
การใช้กําลังรุนแรงถึงชีวิต ในทางตรงกันข้าม การประกาศของ
ทหารไทยว่าบางพื้นที่เป็น “เขตกระสุนจริง (live fire zones)”เป็นหลัก
ฐานสําคัญว่าไม่ได้มกี ารปฏิบตั ติ ามหลักการความจําเป็นและความ
เหมาะสมซึ่งเป็นหลักการสําคัญที่ทําให้การสังหารนั้นถูกกฎหมาย
ดังที่ผู้รายงานพิเศษฯ ได้เน้นย้ํา นโยบาย “การยิงเพื่อฆ่า” เป็น
“สํานวนทางการที่อันตราย ที่แทนที่มาตรฐานทางกฎหมายที่ชัดเจน
ด้วยการใช้กําลังที่รุนแรงถึงชีวิต”

กองทัพไทยควรปฏิบัติตามหลักการพื้นฐานของสหประชาชาติ
ว่าด้วยการใช้กําลัง (ตามที่สรุปไว้ก่อนหน้านี้) อย่างเข้มงวด ความ
สําคัญของหลักการนี้ได้รับการเน้นย้ําโดยผู้รายงานพิเศษฯ ที่ทําการ
ศึกษาและสรุปว่า “สิทธิในชีวิตตกอยู่ในความเสี่ยงอย่างรุนแรงในรัฐ
ที่แนวปฏิบัติเรื่องการใช้กําลังไม่สอดคล้องกับกฎเหล่านี้”

แน่นอนว่าเราไม่ควรด่วนพิพากษาเพียงจากข้อมูลทีจ ่ า
ํ กัดทีม
่ ี
ปรากฏอยู่ในสาธารณะเกี่ยวกับการปฏิบัติของกองกําลังฝ่ายความ
มั่นคงของไทย และเกีย่ วกับความจําเป็นและสัดส่วนทีเ่ หมาะสมใน
การวิสามัญฆาตกรรม การสังหารอย่างรวบรัดตัดตอนหรือตาม
อําเภอใจทีพ
่ วกเขาอาจกระทํา สิง่ ทีจ
่ า
ํ เป็นและเป็นไปตามทีก่ า
ํ หนดไว้
โดยทั้ง ICCPR และกฎหมายระหว่างประเทศแบบจารีตประเพณีกค ็ อ

ต้องมีการสืบสวนการสังหารเหล่านี้อย่างครบถ้วน เป็นอิสระและ
เป็นกลาง

8.3 การประหัตประหารทางการเมือง

ครั้นเมื่อกลุ่มเสื้อแดงเริ่มปักหลักชุมนุมในกรุงเทพฯ ในวันที่ 12
มีนาคม 2553 นั้น กระบวนการตามล่าล้างทางการเมืองต่อฝ่ายตรง
ข้ามรัฐบาลปัจจุบน ั ได้ดา
ํ เนินมาเป็นเวลาหลายปีแล้ว โดยเริ่มจากการ
รัฐประหารปี 2549 ที่นายพลไทยยึดอํานาจรัฐและฉีกรัฐธรรมนูญเพื่อ
เป้าหมายประการเดียวคือทําลายล้างพรรคการเมืองที่เป็นรัฐบาลใน
ขณะนัน้ จัดการยุบพรรคไทยรักไทยด้วยการใช้กฎหมายย้อนหลัง
ตัดสิทธิทางการเมืองของนักการเมืองพรรคไทยรักไทย ดําเนินคดี
อาญาอย่างเลือกปฏิบัติต่อผู้นําพรรค ครอบงําศาล ยึดทรัพย์สินของ
ทักษิณ ชินวัตร และแก้กฎกติกาต่างๆ เพื่อสกัดการหวนกลับคืนสู่
อํานาจอีกครั้งของพรรคไทยรักไทย ตลอดช่วงเวลาทีน ่ ายพลเหล่านี้
กุมอํานาจ (กันยายน 2549 – ธันวาคม 2550) พวกเขาทุ่มเทกับการ
ถอนรากถอนโคนผู้สนับสนุนทักษิณโดยอาศัยการไล่ล่าทางการเมือง
ทุกรูปแบบ ทําลายหลักนิติรัฐ ลิดรอนสิทธิเสรีภาพของพลเมืองใน
การแสดงความคิดเห็นและชุมนุม ตัดสิทธิทางการเมือง ลิดรอน
เสรีภาพในการรวมตัว กลั่นแกล้งทางกฎหมาย ยึดทรัพย์ และใช้
กฎหมายเพือ ่ เล่นงานตัวบุคคล ตามถ้อยแถลงของเหล่านายพลใน
เวลานัน้ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าความพยายามที่จะขจัดพรรคไทยรักไทย
ทํากันเป็นขบวนการที่มุ่งเลือกปฏิบัติบนฐานของฝักฝ่ายทางการ
เมือง

กระบวนการทําลายล้างนี้ยังคงดําเนินไปในช่วงรัฐบาลสมัคร
สุนทรเวช และสมชาย วงศ์สวัสดิ์ (มกราคม 2551 – ธันวาคม 2551)
แม้วา่ จะเปลีย่ นรูปแบบไปก็ตาม ดังที่บันทึกไว้ในเอกสารฉบับนี้
รัฐธรรมนูญ 2550 ให้สิทธิแก่ศาลที่จะแทรกแซงการเมืองด้วยจุด
ประสงค์ในการพลิกผลการเลือกตั้ง เปลี่ยนองค์ประกอบของสภาผู้
แทนราษฎร สั่งยุบพรรคการเมือง และตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรค
(ไม่เว้นกระทั่งผู้ที่ไม่ได้กระทําผิด)ไม่ให้ดํารงตําแหน่งทางการเมือง
กฎกติกาต่างๆ เหล่านีล ้ ะเมิดสิทธิของปัจเจกบุคคลหลายประการดัง
ที่ระบุไว้ใน ICCPR เช่น สิทธิในการ“มีส่วนร่วมในการดําเนินกิจการ
รัฐ ทั้งโดยตรงหรือผ่านตัวแทนที่ได้รับการคัดเลือกอย่างเสรี” (ข้อ
25) และสิทธิทจ ่ี ะมี“เสรีภาพในการรวมตัวกับผู้อื่น” (ข้อ 22) มันแทบ
ไม่มีความหมายอะไรเลยที่คณะรัฐประหารอุตส่าห์เขียนเนื้อหาเหล่านี้
ไว้ในรัฐธรรมนูญ กฎกติกาเหล่านี้ขัดโดยตรงกับพันธกรณีตาม
กติการะหว่างประเทศฯ ที่ประเทศไทยได้เข้าเป็นภาคีโดยสมัครใจ
แม้วา
่ อํานาจพิเศษของศาลไม่จา ํ เป็นว่าจะต้องนําไปสูก
่ ารทําลายล้าง
ทางการเมือง แต่การบังคับใช้กฎกติกาอย่างเลือกเป้าและเป็นระบบ
ต่อบรรดาผู้ที่ถูกมองว่าภักดีต่อทักษิณ ผู้ที่คัดค้านการรัฐประหาร
และผู้ที่เรียกร้องให้มีการลดอํานาจนอกรัฐธรรมนูญของอํามาตย์นั้น
เป็นการเลือกปฏิบัติบนฐานของฝักฝ่ายทางการเมือง

บางทีหลักฐานที่ชัดเจนที่สุดของการตามทําลายล้างทางการ
เมืองคือการลิดรอนเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น ทั้งใน
สถานการณ์ฉุกเฉินและไม่ฉุกเฉิน ด้วยการปิดกั้นการแสดงความคิด
เห็น (censorship)ทีเ่ ข้มงวดทีส
่ ด
ุ เท่าทีเ่ คยมีมาในประเทศไทยในรอบ
สามสิบปี ตลอดจนการดําเนินคดีตอ ่ คนจํานวนมากอย่างไม่เคย
ปรากฏมาก่อนในข้อหาอาชญากรรมทางความคิด

และเช่นกัน มันไม่สําคัญเลยว่าการปิดกั้นการแสดงความคิด
เห็นและการคุมขังนักโทษทางการเมืองจะได้รับการรับรองใน
กฎหมายอย่างพระราชบัญญัติการกระทําผิดทางคอมพิวเตอร์และ
กฎหมายอาญามาตรา 122 กฎหมายเหล่านี้โดยตัวของมันเอง
เป็นการละเมิดสิทธิของประชาชนไทยที่จะมีเสรีภาพในการแสดง
ความคิดเห็นและเสรีภาพในการ “แสวงหา รับ และเผยแพร่ขอ ้ มูล
ข่าวสารและความคิดทุกประเภท” ในขณะที่เจ้าหน้าที่รัฐมักจะอ้าง
ความชอบธรรมสําหรับการลิดรอนดังกล่าวว่าจําเป็นในการรักษา
ความมัน ่ คงของชาติ (ซึ่งเป็นสิ่งที่ ICCPR ยินยอม) แต่ก็ยังไม่เป็น
เหตุเป็นผลเพียงพอทีจ ่ ะอ้างว่าความเห็นหนึง่ ในเฟซบุคจะคุกคาม
ความมัน ่ คงของชาติได้ หรือการปราศรัยทีม ่ ข
ี อ
้ ความวิพากษ์วจ ิ ารณ์
สถาบันกษัตริย์ส่งผลต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของ
สาธารณชนเหมือนการฆ่าคนตาย (และสมควรติดคุกสิบแปดปี) นีค ่ อื
การแสดงความคิดเห็นที่ ICCPR มุ่งคุ้มครอง นั่นก็คือเสรีภาพในการ
วิพากษ์วิจารณ์สถาบันต่างๆ ของรัฐ นอกจากนี้ การเซ็นเซอร์สื่อ
ต่างๆ ทีอ่ าจวิพากษ์วจิ ารณ์ “สถาบันกษัตริย์ ชาติ หรือศาสนา” ก็ฟัง
ไม่ขึ้นแม้กระทั่งในสถานการณ์ฉุกเฉิน เนื่องจาก ICCPR ระบุว่าสิทธิ
ในการมีความคิดเห็นทางการเมืองและแลกเปลีย ่ นกับบุคคลอืน
่ นัน
้ ไม่
อาจลิดรอนได้ (ข้อ 4(2)) กล่าวโดยสรุปก็คือ อาชญากรรมของ “การ
ไล่ล่าประหัตประหารทางการเมือง” เป็นผลมาจากการใช้กฎหมาย
กดขีเ่ หล่านีต
้ อ
่ กลุม
่ คนทีค
่ ด
ั ค้านรัฐบาล

สิทธิอื่นๆ ของประชาชนในการเรียกร้องประชาธิปไตยกลับคืน
มาได้ถูกละเมิดอย่างเป็นระบบด้วยกระบวนการไล่ล่าประหัตประหาร
ทางการเมืองของรัฐบาลอภิสิทธิ์ อาจกล่าวได้วา ่ พระราชบัญญัติ
ความมั่นคงภายในและพระราชกําหนดสถานการณ์ฉุกเฉินฯ ถูก
บัญญัติ ประกาศใช้ และคงไว้เพื่อลิดรอนสิทธิการชุมนุมตาม
รัฐธรรมนูญของประชาชนไทย ทีเ่ ห็นได้ชด ั เจนคือการดําเนินคดี การ
คุมขังโดยไม่มีกําหนดและการปฏิเสธที่จะดําเนินการตามครรลอง
กระบวนการยุติธรรมต่อผู้ชุมนุมต่อต้านรัฐบาลที่ถูกกล่าวหาว่า
ละเมิดพระราชกําหนดสถานการณ์ฉุกเฉินฯ (ในขณะทีผ ่ ช
ู้ ม
ุ นุมที่
สนับสนุนรัฐบาลที่กระทําการละเมิดแบบเดียวกันกลับไม่ต้องรับผิด
ชอบใดๆ) นั้นเป็นสองมาตรฐานที่ไม่อาจยอมรับได้ ที่สําคัญที่สุด
กระบวนการไล่ล่าที่เกิดขึ้นหลังการชุมนุม (คล้ายกับการไล่ลา ่ หลัง
เหตุการณ์สังหารหมู่ปี 2519) เป็นหลักฐานทีช ่ ด
ั เจนว่ารัฐบาลต้องการ
บดขยีป ้ ฏิปก
ั ษ์ดว
้ ยการจับกุมคุมขังตามอําเภอใจ (ละเมิดข้อ 9 ของ
ICCPR) ละเมิดสิทธิของพวกเขาที่จะได้รับการไต่สวนอย่างเป็นธรรม
(ข้อ 14) และการได้รับการคุ้มครองอย่างเสมอภาคในแง่กฎหมาย
(ข้อ 26)

พึงสังเกตว่าการไล่ล่าประหัตประหารทางการเมืองในบางรูป
แบบนัน้ เทียบเท่ากับอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ มาตรา 7(1)(ซ) และ
7(2)(ช) ของธรรมนูญกรุงโรมว่าด้วยศาลอาญาระหว่างประเทศ
(Rome Statute of the International Criminal Court) นิยาม
อาชญากรรมต่อมนุษยชาติดว ้ ย “การไล่ล่าประหัตประหาร
(persecution)” ว่าเป็น “การลิดรอนสิทธิขั้นพื้นฐานอย่างร้ายแรงและ
จงใจอันขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศด้วยเหตุทางอัตลักษณ์ของ
กลุ่มหรือการรวมตัว” รวมถึงการไล่ล่าประหัตประหารด้วยเหตุผล
ทางการเมือง เมื่อกระทําโดยเชื่อมโยงกับอาชญากรรมอื่นภายใต้
บทบัญญัติของธรรมนูญกรุงโรมว่าด้วยศาลอาญาระหว่างประเทศ
อย่างเช่นการฆาตกรรม ดังทีก ่ ล่าวมาแล้วในบทข้างต้น มีเหตุอน
ั เชือ

ได้ว่าการสืบสวนที่เป็นอิสระและเป็นกลางจะสรุปได้ว่ามีการ
ฆาตกรรมโดยกองกําลังฝ่ายความมั่นคงภายใต้รัฐบาลอภิสิทธิ์ และ
ยังเห็นได้ชด
ั เจนว่าการปราบปรามคนเสือ ้ แดงนัน้ เป็นไปบนฐานความ
เชื่อทางการเมืองของพวกเขา

ปัญหาข้อกฎหมายอีกเพียงหนึ่งประการก็คือ การปฏิบัติต่างๆ
เช่น การคุมขังโดยไม่มีกําหนด การตั้งข้อหาเกินจริงและการ
พิพากษาลงโทษเกินกว่าเหตุสําหรับการแสดงความคิดเห็นนั้น เป็น
“การละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐานอย่างร้ายแรง” หรือไม่? มีกรณีตัวอย่าง
มากมายที่สนับสนุนว่าการใช้ระบบยุติธรรมเพื่อทําร้าย และการไล่ลา ่
ประหัตประหารในรูปแบบอืน ่ ๆ ที่ไม่ใช่เป็นการทําร้ายทางกายภาพ
สามารถถือเป็นการไล่ล่าประหัตประหารที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อประกอบ
อาชญากรรมต่อมนุษยชาติได้ คณะตุลาการระหว่างประเทศสําหรับ
อดีตยูโกสลาเวีย (ICTY) ได้ยอมรับว่าองค์ประกอบของอาชญากรรม
(actus reus) นั้นรวมถึงการกระทําที่ไม่ได้ระบุไว้ในธรรมนูญกรุงโรมฯ
ด้วย ศาล Kupreškić อธิบายเรื่องนี้ในแง่มุมกฎหมายจารีตประเพณี
ระหว่างประเทศและคําตัดสินของศาลระดับประเทศ และนิยามการไล่
ล่าประหัตประหารว่าเป็น “การปฏิเสธสิทธิขั้นพื้นฐานอย่างรุนแรง
หรืออย่างชัดแจ้ง โดยมีการเลือกปฏิบัติ ตามที่ระบุในกฎหมาย
ระหว่างประเทศทั้งที่เป็นกฎหมายจารีตประเพณีหรือเป็นกฎหมาย
สนธิสัญญา ซึ่งมีความรุนแรงเท่ากับการกระทําอื่นที่ห้ามไว้ในข้อ 5”
คณะตุลาการระหว่างประเทศคณะต่างๆ ถือว่าการจงใจในการไล่ล่า
ประหัตประหารนัน ้ มีโทษสูงกว่าอาชญากรรมต่อมนุษยชาติแบบอืน ่ ๆ
เนื่องจากว่ามีความจงใจเลือกปฏิบัติด้วยเหตุแห่งการเลือกฝักฝ่าย
ทางการเมือง

ศาล Kupreškić สรุปว่า “การคุมขังอย่างเป็นกระบวนการ” นั้น


อาจเป็นการไล่ลา ่ ประหัตประหารได้ มุมมองนี้อาจสามารถใช้ได้กับ
การคุมขังผู้ชุมนุมเสื้อแดงโดยไม่มีกําหนดของรัฐบาลอภิสิทธิ์ได้

กระทั่งความเสียหายทางเศรษฐกิจก็สามารถถือเป็นการถูก
ลิดรอนสิทธิขั้นพื้นฐานได้ ศาล Kupreškić ระบุวา
่ แม้ว่าการยึด
ทรัพย์สินอุตสาหกรรมไม่ถือว่าเป็นการไล่ล่าประหัตประหารในคดี
Flick และ Krauch ที่พิจารณาโดยคณะตุลาการนูเร็มเบิร์ก กรณี Flick
ก็ทําให้เกิดคําถามว่าการยึดทรัพย์สินส่วนบุคคลนั้นเป็นการไล่ล่า
ประหัตประหารหรือไม่ ศาลดังกล่าวระบุว่าการปฏิเสธสิทธิทาง
เศรษฐกิจต่อชาวยิวและการยึดทรัพย์สินชาวยิวนั้นถือเป็นส่วนหนึ่ง
ของการไล่ล่าประหัตประหารตามคําพิพากษาของคณะตุลาการทหาร
ระหว่างประเทศ และยังกล่าวด้วยว่าการใช้ระบบกฎหมายในการ
ดําเนินการดังกล่าวถือเป็นส่วนหนึ่งของข้อกล่าวหาว่ามีการไล่ล่า
ประหัตประหารในคดี Justices ศาลดังกล่าวยังระบุด้วยว่า “การ
ทําลายบ้านเรือนและทรัพย์สิน” ของพลเรือนมุสลิมถือเป็นการไล่ล่า
ประหัตประหารหากการทําลายนั้นมี “ผลกระทบร้ายแรงต่อเหยื่อ”
อย่างเช่น “การทําลายสภาพชีวิตความเป็นอยู่ของประชากรกลุ่ม
หนึ่ง” ศาลตั้งข้อสังเกตว่า แม้วา่ จะมีคดี Flick และ Krauch ก็ตาม
คณะตุลาการทหารระหว่างประเทศก็ตด ั สินลงโทษบุคคลในข้อหา
เลือกปฏิบต
ั ท
ิ างเศรษฐกิจ รวมถึงเกอร์ริงที่การกระทําการไล่ล่า
ประหัตประหารที่มุ่งเน้นไปที่ “การยึดทรัพย์สินของชาวยิวและการ
บังคับพวกเขาออกจากระบบเศรษฐกิจยุโรป”
กล่าวโดยสรุป หากพิจารณาตามเงื่อนไขต่างๆว่าด้วย
อาชญากรรมต่อมนุษยชาติแล้ว (ดูบทถัดไป) ก็เชือ ่ ได้วา
่ เจ้าหน้าทีไ่ ทย
ได้ทําการเลือกปฏิบัติทางการเมืองที่ลิดรอนสิทธิพื้นฐานภายใต้
กฎหมายระหว่างประเทศของผู้ชุมนุมเสื้อแดงอย่างร้ายแรงและโดย
ตัง้ ใจ โดยเกี่ยวเนื่องกับการสังหารผู้ชุมนุมบางส่วน การลิดรอนสิทธิ
โดยเลือกปฏิบต ั ด
ิ งั กล่าวอาจถือได้วา
่ เป็นอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ
โดยการไล่ล่าประหัตประหาร

8.4 อาชญากรรมต่อมนุษยชาติ

นอกจากการละเมิด ICCPR และกฎหมายจารีตประเพณี


ระหว่างประเทศแล้ว การสังหารอย่างกว้างขวางและเป็นระบบโดย
กองกําลังฝ่ายความมั่นคงในกรุงเทพฯ ในช่วงเมษายน – พฤษภาคม
2553 และการไล่ล่าประหัตประหารทางการเมืองต่อคนเสื้อแดงที่
เกี่ยวข้องกันนั้นคงชัดเจนเพียงพอแล้วที่จะเรียกว่าเป็นอาชญากรรม
ต่อมนุษยชาติภายใต้ธรรมนูญกรุงโรมฯ ทีก ่ อ
่ ตัง้ ศาลอาญาระหว่าง
ประเทศขึน ้ มา

นับแต่คณะตุลาการนูเร็มเบิรก ์ กฎหมายอาญาระหว่างประเทศ
ได้ยอมรับว่าการฆาตกรรมเป็นรูปแบบหนึง่ ของอาชญากรรมต่อ
มนุษยชาติ ซึง่ ทําให้บค
ุ คลต้องมีความรับผิดชอบในอาชญากรรมภาย
ใต้กฎหมายระหว่างประเทศ

ธรรมนูญกรุงโรมฯ นิยามการฆาตกรรมว่าคือการที่ “ผู้กระทํา


ลงมือฆ่าบุคคลหนึง่ คนขึน้ ไป” ส่วนจะเข้าข่ายอาชญากรรมต่อ
มนุษยชาติหรือไม่นน ้ั การฆ่านั้นจะต้อง (1) มุ่งไปที่ “ประชากร
พลเรือน” (2) เป็นส่วนหนึ่งของ “การโจมตีอย่างกว้างขวางและเป็น
ระบบ” (3) เป็นไปตามหรือโดยการผลักดันของ “นโยบายรัฐหรือ
องค์กรที่จะดําเนินการโจมตีนั้น” (4) มีการรับรู้ถึงการโจมตีดังกล่าว
เงือ
่ นไขแต่ละข้อดังกล่าวดูจะมีครบถ้วนในการเข่นฆ่าพลเรือนกว่า 80
รายโดยกองทัพไทยในช่วงเมษายน – พฤษภาคม 2553

“ประชากรพลเรือน(civilian population)”
ตามคําพิพากษาของศาลอาญาระหว่างประเทศ การโจมตีนั้นจะ
ต้องกระทําต่อ “ประชากรพลเรือน” ซึง่ นิยามว่าเป็นกลุม
่ คนที่ “มี
ลักษณะเด่นชัดในแง่สญ ั ชาติ ชนชาติ หรือลักษณะเด่นอืน ่ ใด”
นอกจากนี้ การโจมตียังจะต้องกระทําต่อประชากรพลเรือนทั้งหมด
ไม่ใช่เลือกสุม ่ ต่อปัจเจกบุคคล และประชากรพลเรือนนัน ้ ต้องเป็นเป้า
หลักในการโจมตีและไม่ใช่เป็นเหยื่อที่โดนลูกหลงที่ไม่ได้ตั้งใจ
แม้วา ่ รัฐบาลจะอ้างว่าได้ใช้กาํ ลังรุนแรงถึงขัน
้ เอาชีวติ ต่อฝ่ายที่
ใช้ความรุนแรงในกลุ่มคนเสื้อแดง แต่จนถึงทุกวันนี้รัฐบาลก็ยังไม่
สามารถแสดงให้เห็นได้ว่าผู้ที่ถูกฆ่าเมื่อวันที่ 10 เมษายน และวันที่
13-19 พฤษภาคม นั้นเป็นภัยคุกคามต่อฝ่ายรักษาความมั่นคง ที่จริง
แล้ว มีวดิ โี อคลิปหลายสิบชิน ้ ภาพถ่าย และปากคําจากพยาน ทีช ่ ว
้ี า
่ ผู้
ที่ถูกฆ่านั้นไม่ได้กระทําการอันตรายใดๆ เลย แต่กลับถูกยิงกระสุน
ทะลุศีรษะในขณะที่กําลังถือหนังสะติ๊ก ธง กล้อง หรืออุปกรณ์ทางการ
แพทย์ รัฐบาลพยายามอธิบายถึงอันตรายของแต่ละบุคคลทีถ ่ ก
ู ฆ่า
หรือได้รบ ั บาดเจ็บจากปฏิบต ั ก
ิ ารของทหารในภาพรวมๆ ไม่ได้
อธิบายเป็นรายๆ ไป โดยอธิบายอยู่บนฐานว่าเหยื่อเข้าร่วมใน
กิจกรรมของกลุ่มที่รัฐบาลเรียกว่าเป็นองค์กร “ผู้ก่อการร้าย” ด้วย
เหตุน้ี ผู้ที่ถูกฆ่าจึงตกเป็นเป้าของเจ้าหน้าที่รัฐบนฐานของ “ลักษณะ
เฉพาะ” ที่ระบุตัวพวกเขาว่าเป็นสมาชิกของกลุ่มพลเรือนเฉพาะกลุ่ม
หนึ่ง เช่น การใส่เสื้อสีแดง และการแสดงจุดยืนต่อต้านรัฐบาลต่อหน้า
สาธารณะ ไม่ว่าคนแต่ละคนนั้นจะกระทําการรุนแรงหรือข่มขู่คุกคาม
กองกําลังฝ่ายความมั่นคงหรือไม่ก็ตาม

“อย่างกว้างขวาง” หรือ “อย่างเป็นระบบ”


การที่จะเรียกได้ว่าเป็นอาชญากรรมต่อมนุษยชาติหรือไม่นั้น
การโจมตีจะต้องเป็นไป “อย่างกว้างขวาง” หรือ “อย่างเป็นระบบ” แต่
ไม่จําเป็นว่าต้องเป็นทั้งสองอย่าง “อย่างกว้างขวาง” หมายถึง
“ลักษณะการโจมตีขนานใหญ่และมีผลเป็นเหยือ ่ จํานวนมาก” ส่วน
“อย่างเป็นระบบ” นั้นหมายถึง “ลักษณะการกระทําความรุนแรงอย่าง
มีการจัดตั้งจัดการ และความเป็นไปไม่ได้วา ่ จะเกิดขึน
้ อย่างสุม
่ ”

ในกรุงเทพฯ ขนาดและระยะเวลาของการฆ่า รวมถึงลักษณะ


การฆ่า ชีใ้ ห้เห็นว่าเป็นไปตามเกณฑ์ทง้ั สองข้อ ในด้านหนึ่ง การที่มี
จํานวนผู้เสียชีวิตเป็นพลเรือนอย่างน้อย 80 คน และมีผไู้ ด้รบ ั บาดเจ็บ
ประมาณสองพันคน ในช่วงระหว่างเวลา 40 วัน ก็เป็นการยืนยัน
ลักษณะการเป็นไป “อย่างกว้างขวาง” ของการโจมตีแล้ว ในขณะ
เดียวกัน การเกิดเหตุการณ์คล้ายๆ กันขึ้นซ้ําๆ ตลอดระยะเวลาและ
พื้นที่หนึ่งๆ ชี้ให้เห็นถึงการละเมิด “อย่างเป็นระบบ” ที่ไม่ใช่การสุ่ม
ปฏิบัติการ

“นโยบายรัฐหรือองค์กร”
ธรรมนูญกรุงโรมฯ ไม่ได้นิยามคําว่า “นโยบาย” หรือ “รัฐหรือ
องค์กร” แต่ศาลอาญาระหว่างประเทศได้ระบุวา ่ เงือ
่ นไขข้อนีห
้ มาย
ถึง :

[...] การโจมตี หรือหากเป็นการดําเนินการครอบคลุมพื้นที่


ทางภูมิศาสตร์ที่กว้างขวางหรือมุ่งเป้าไปที่เหยื่อจํานวนมาก
ยังจะต้องเป็นการกระทําที่มีการจัดตั้งอย่างดี และเป็นไป
ตามแบบแผนประจําแบบใดแบบหนึง่ การโจมตีนั้นยังจะ
ต้องเป็นปฏิบัติการเพื่อเสริมนโยบายหนึ่งๆ ที่เกี่ยวกับ
ทรัพยากรของสาธารณะหรือของเอกชน นโยบายเช่นนั้น
อาจจะถูกกําหนดขึน ้ โดยกลุม
่ บุคคลทีค
่ วบคุมดินแดนบริเวณ
หนึ่ง หรืออาจจะโดยองค์กรที่มีศักยภาพในการก่อการโจมตี
อย่างกว้างขวางหรืออย่างเป็นระบบต่อประชากรพลเรือน
นโยบายนั้นไม่จําเป็นที่จะต้องเป็นนโยบายที่กําหนดโดย
กลุ่มองค์กรอย่างชัดเจนก็ได้ ทีจ่ ริงแล้ว การโจมตีใดๆ ทีม
่ ี
การวางแผน มีเป้าหมายเฉพาะ หรือมีการจัดตัง้ เป็นระบบ
ซึ่งต่างไปจากการกระทําความรุนแรงที่เกิดขึ้นโดยไม่ได้
วางแผนหรือไม่เกี่ยวเนื่องกัน ก็ถือว่าเข้าข่ายตามเกณฑ์นี้
แล้ว

ในคดีทด
่ี า
ํ เนินกับ Tihomir Blaskic คณะตุลาการระหว่าง
ประเทศสําหรับอดีตยูโกสลาเวีย (ICTY) ได้ตด ั สินอย่างชัดเจนว่า
แผนการที่จะก่อการโจมตี “ไม่จา ํ เป็นจะต้องมีการประกาศออกมา
หรือมีการระบุอย่างชัดเจนและอย่างตรงตัว” และระบุว่าสามารถ
ตัดสินจากปัจจัยแวดล้อมต่างๆ ได้ เช่น:

สภาพแวดล้อมทางประวัติศาสตร์โ ดยทั่วไป และพื้นฐานทางการ


เมืองโดยรวม ของการกระทําอาชญากรรมนั้น
การโฆษณาชวนเชือ ่ ของสือ ่
การระดมกองกําลังฝ่ายความมั่นคง
การปฏิบัติการทางทหารที่มีการประสานงานอย่างดี และเกิดขึน ้ ซ้า
ํ ๆ
ในช่วงระยะเวลาหนึ่งและภายในภูมิประเทศหนึ่งๆ
ความเชื่อมโยงระหว่ างโครงสร้ างลํ าดับชั้น ของทหาร ( m i l i t a r y
hierarchy)และโครงสร้างทางการเมือง(political structure) และ
โครงการทางการเมืองของทหาร(political programme)
การเปลี่ย นแปลงที่ เ กิ ดกั บองค์ ประกอบทาง “ ชาติ พั น ธุ ์ ” ของ
ประชากร
มาตรการที่เป็นการเลือกปฏิบัติ ไม่ว่าจะเป็นในการบริหารปกครอง
หรืออื่นๆ (เช่น การจํากัดการทําธุรกรรมทางการเงิน การออกใบ
อนุญาตต่างๆ...)
ขนาดของการกระทําความรุนแรง โดยเฉพาะการฆ่าและการกระ
ทําความรุนแรงทางกายอื่นๆ การข่มขืน การกักขังตามอําเภอใจ การ
เนรเทศออกนอกประเทศ และการขับไล่หรือการทําลายทรัพย์สินที่
ไม่ใช่ทรัพย์สินทางการทหาร โดยเฉพาะการทําลายสถานที่ศักดิ์สิทธิ์

การก่ออาชญากรรมคล้ายๆ กันขึ้นซ้ําๆ (เช่น ในระหว่างการ


โจมตีประชากรพลเรือนอย่างต่อเนื่อง) โดยตัวของมันเองก็เป็นการ
แสดงออกถึงนโยบายแล้ว ส่วนในเรื่องคํานิยามของคําว่า “รัฐหรือ
องค์กร” องค์คณะศาลอาญาระหว่างประเทศทีพ ่ จ
ิ ารณาคดีของเคนยา
ได้ระบุวา
่ ในขณะทีค
่ า
ํ ว่า “รัฐ” นัน
้ มีความหมายชัดเจนในตัวเองอยู่
แล้ว นโยบายอาจจะไม่จา ํ เป็นจะต้องออกโดย “กลไกรัฐระดับสูงสุด”
ก็ได้

การสังหารในเดือนเมษายน-พฤษภาคม 2553 นั้นไม่ได้เป็นเหตุ


การณ์โดดๆ หรือเป็นเหตุทเ่ี กิดขึน ้ แบบประปราย แต่เป็นผลของ
แผนการที่มีการประสานร่วมมือเพื่อตอบโต้กับการชุมนุมประท้วงของ
คนเสื้อแดง มีการระดมกองกําลังติดอาวุธซ้ําๆ และมีการออกคําสั่ง
ไปตามสายการบังคับบัญชา รวมถึงเครือข่ายพลเรือนภายในรัฐบาล
อภิสิทธิ์ ตัวอย่างเช่น ไม่นานก่อนการปฏิบัติการปราบปรามโดย
ทหารเมือ ่ วันที่ 10 เมษายน รัฐบาลได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน
เป็นการเปิดโอกาสให้แก่สิ่งที่องค์กรนักข่าวไร้พรมแดนเรียกว่า “ใบ
อนุญาตฆ่า” ให้แก่กองทัพ นั่นคือการให้อิสระแก่การใช้กําลังใดๆ ที่
พิจารณาเห็นว่าเหมาะสมเพื่อเคลียร์พื้นที่ ดังนั้น จึงเป็นทีช
่ ด
ั เจนว่า ผู้
ที่อยู่ในระดับสูงสุดของระบอบอภิสิทธิ์นั้นรู้หรืออนุมัติโดยนัยให้แก่
การปฏิบัติการนั้น โดยที่ไม่ได้คํานึงถึงผลที่อาจจะเกิดขึ้นว่าจะทําให้
เกิดการสูญเสียชีวิตคนโดยไม่จําเป็น

ความรับรู้ (knowledge)
อาชญากรรมทุกประเภทจะต้องมี mens rea หรือเจตนาทีจ
่ ะก่อ
อาชญากรรม ในบริบทของการฆาตกรรมที่เป็นอาชญากรรมต่อ
มนุษยชาตินน ้ั เจตนาของผู้กระทํา “เพื่อก่อความเสียหายรุนแรงแก่
เหยื่อโดยไม่สนใจชีวิตของมนุษย์” ก็เพียงพอแล้วทีจ ่ ะเข้าข่าย
อาชญากรรมต่อมนุษยชาติ องค์คณะอุทธรณ์ของคณะตุลาการอาญา
ระหว่างประเทศสําหรับอดีตยูโกสลาเวีย ในคดี Tadic เมือ ่ ปี 2542
ระบุวา่ ผู้กระทําผิดจะต้องรู้ว่าการโจมตีเกิดต่อขึ้นประชากรพลเรือน
และรู้ว่าการกระทําของตนนั้นเป็นส่วนหนึ่งของการโจมตีนี้ และ
ตระหนักถึงความเสี่ยงที่เกิดจากการกระทําของตนแต่ยังเต็มใจที่จะ
รับผลความเสี่ยงนี้ อย่างไรก็ตาม ไม่จําเป็นว่าผู้กระทําผิดจะต้องรู้ถึง
รายละเอียดของการโจมตีทั้งหมด

แม้ว่ารัฐบาลจะปฏิเสธว่าทหารไม่ได้ตั้งใจทําร้ายพลเรือน แต่
พยานที่อยู่ทั้งสองฝั่งของแนวทหารได้อ้างว่าเห็นทั้งเจตนาของฝ่าย
กองกําลังความมั่นคงของไทยที่จะก่อความเสียหายรุนแรง และการ
ไม่ใส่ใจต่อชีวต ิ มนุษย์และศักดิศ
์ รีความเป็นมนุษย์ การปราบปราม
การชุมนุมเมื่อเดือนพฤษภาคมยาวนานถึงหนึ่งสัปดาห์เต็ม และเกิด
ขึ้นในลักษณะทํานองเดียวกันในหลายๆ ส่วนของกรุงเทพฯ ที่อยู่ภาย
ใต้การดูแลของหน่วยต่างๆ ของทหาร แบบแผนเช่นนีด ้ เู หมือนจะชีว
้ า

ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการปราบปรามการชุมนุมดําเนินการภายใต้แนวทาง
การปฏิบัติการที่มีการกําหนดชัดเจน

เมื่อประสบกับรายงานต่างๆ เรื่องการละเมิดอย่างกว้างขวาง
และเป็นระบบที่กระทําโดยกองกําลังฝ่ายความมั่นคง ผู้นําทางทหาร
และพลเรือนไม่ได้หยุดปฏิบต ั ก
ิ ารหรือปรับเปลีย ่ นปฏิบต ั ก
ิ ารให้
สอดคล้องกับมาตรฐานสากล ทีจ ่ ริงแล้ว เมือ่ วันที่ 17 พฤษภาคม
หนังสือพิมพ์มติชนได้รายงานว่า เจ้าหน้าที่ “วอร์รูม” ที่พรรค
ประชาธิปต ั ย์ตง้ั ขึน
้ นัน
้ พอใจกับข้อเท็จจริงทีว่ า่ มีคนเสียชีวต ิ ณ เวลา
นั้น “เพียง” 35 คน ซึ่งต่ํากว่าจํานวนผู้เสียชีวิต 200-500 คนตามทีต ่ น
ได้คาดการณ์ไว้มาก จํานวนที่กล่าวถึงนั้นสอดคล้องกับรายงาน
ภายในของรัฐบาลที่อ้างว่ารั่วไหลออกมา และนายจตุพร พรหมพันธ์
แกนนํานปช. ได้เปิดเผยต่อสือ ่ เมือ
่ วันที่ 19 เมษายน ซึง่ ระบุวา
่ ทหาร
ได้วางแผนจะปราบปรามการชุมนุมเป็นเวลานานหนึง่ สัปดาห์ และได้
กําหนดจํานวนผูเ้ สียชีวต
ิ ทีเ่ ป็นทีย่ อมรับได้ไว้ทห ่ี า
้ ร้อยคน ในวันก่อน
การสลายการชุมนุม รัฐบาลได้เตือนว่ารัฐบาลจะยิง “ผู้ก่อการร้ายที่
ติดอาวุธ” และโดยที่ไม่ได้กล่าวถึงเอกสารที่รั่วไหลออกมา โฆษก
รัฐบาลได้ประมาณการณ์ว่ามี “กลุ่มผู้ติดอาวุธ” ห้าร้อยคนแฝงตัวอยู่
ในกลุ่มคนเสื้อแดง

8.5 หลักฐานเรื่องการพยายามปกปิด

รัฐบาลไทยได้ยอมรับต่อสาธารณะว่ามีความจําเป็นทีจ ่ ะต้อง
สืบสวนกรณีการละเมิด แต่ประวัติของรัฐบาลหรือมาตรการขั้นตอน
ต่างๆ ที่รัฐบาลได้ดําเนินการหลังจากการสลายการชุมนุมของกลุ่ม
คนเสื้อแดงนั้นไม่ได้ชี้เลยว่าจะมีการไต่สวนอย่างจริงจังและอย่างเป็น
อิสระเกิดขึ้น รัฐบาลอภิสิทธิ์กลับดําเนินมาตรการต่างๆ ทีช ่ ไ้ี ปใน
ทางการปิดบังข้อมูลมากกว่า ผู้สังเกตการณ์ที่เป็นอิสระต่างสงสัยว่า
จะมีการสืบสวนอย่างเต็มรูปแบบเกิดขึ้นได้อย่างไรในขณะที่ยังคงมี
การประกาศใช้พระราชกําหนดสถานการณ์ฉุกเฉินฯ อยู่ อันทําให้
รัฐบาลกําราบข้อมูลทีเ่ ห็นว่าเป็นผลเสีย และกักขังทุกคนทีเ่ ห็นว่าเป็น
ภัยต่อ “ความมัน ่ คงของชาติ” เนื่องจากรัฐบาลนี้มีประวัติของการนํา
เรื่อง “ความมัน ่ คงของชาติ” มาปนกับความมั่นคงในการรักษา
ตําแหน่งของตน ก็มีเหตุผลให้เราตั้งข้อสงสัยกับเจตนาของรัฐบาลได้
หลังจากการสลายการชุมนุมของคนเสื้อแดงที่แยกราชประสงค์
รัฐบาลอภิสิทธิ์ได้ตกลงที่จะตั้งคณะกรรมการ “สอบข้อเท็จจริง” ที่
มีหน้าที่สืบสวนกรณีความรุนแรง คณะกรรมการฯ นั้นนําโดยนาย
คณิต ณ นคร อดีตอัยการสูงสุด ในขณะทีค ่ ณิตได้เสนอชือ่ ของ “ผู้
เชีย่ วชาญ” ทางกฎหมายเพียงสิบคนที่จะเข้าร่วมในการสืบสวนไป
เมือ ่ วันที่ 7 กรกฎาคม คณะกรรมการฯก็ได้ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่าง
หนักเนือ ่ งจากขาดความเป็นอิสระและมีภารกิจทีค ่ ลุมเครือ ตัวคณิต
เองได้ชว ้ี า
่ “คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง” นั่นไม่สนใจในเรื่อง
“การค้นหาความจริงหรือการชี้ว่าใครเป็นฝ่ายถูกใครเป็นฝ่ายผิด”
เท่ากับเรื่อง “การส่งเสริมการให้อภัย” ผลที่เกิดขึ้นก็คือ การสืบสวน
ครั้งนี้ก็จะเหมือนกับคณะกรรมการชุดคล้ายๆ กันทีค ่ ณิตเป็นประธาน
หลังจากการรัฐประหารที่สอบข้อเท็จจริงเรื่อง “สงครามต่อต้านยา
เสพติด” เมือ ่ ปี 2546 ที่จะไม่ได้นําไปสู่การดําเนินคดีใดๆ หรือทําให้
เกิดข้อกล่าวหาที่ชัดเจนต่อการกระทําผิดของเจ้าหน้าที่ทหารระดับสูง
ได้ ยิ่งไปกว่านั้น คณิตเองยังได้รับการแต่งตั้งโดยนายกรัฐมนตรี ซึง่
เป็นผู้ถูกกล่าวหาว่าละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างรุนแรงเสียเอง ไม่เป็น
ทีน
่ า่ ประหลาดใจเลย ที่คณะกรรมการชุดนี้จะเต็มไปด้วยคนที่จงรัก
ภักดีต่อกลุ่มอํานาจเก่าของไทย เช่น สมชาย หอมละออ ผู้สนับสนุน
กลุม่ พันธมิตรประชาชนเพือ ่ ประชาธิปไตย

การเลือกผู้ที่จะมาเป็นประธานของคณะกรรมการชุดอื่นๆ ที่
รัฐบาลตั้งขึ้นหลังจากการปราบปรามการชุมนุมนั้นก็เป็นไปในทาง
เดียวกัน นายอานันท์ ปันยารชุน จะเป็นประธาน “คณะกรรมการ
ปฏิรปู ประเทศ” อานันท์เคยดํารงตําแหน่งนายกรัฐมนตรีหลังการ
รัฐประหารปี 2534 และปัจจุบันเป็นประธานกรรมการธนาคารไทย
พาณิชย์ ซึ่งควบคุมโดยสํานักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์
ส่วนคณะกรรมการ “สมัชชาปฏิรป ู ประเทศ” ซึง่ มีหน้าทีศ
่ ก
ึ ษาประเด็น
การมีส่วนร่วมของสาธารณะและความเป็นธรรมทางสังคม นั้น
มีศ.ประเวศ วะสี เป็นประธาน ศ.ประเวศเป็นผู้สนับสนุนหลักของ
แนวคิดเรือ่ ง “ประชาสังคมชนชัน ้ นํา” และคณะกรรมการพิจารณา
แนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่มีสมาชิก 19 คน ก็เต็มไปด้วยผู้
สนับสนุน พธม. สมาชิกคนหนึง่ คืออ.บรรเจิด สิงคะเนติ ซึง่ เคยกล่าว
ว่า ทักษิณ ชินวัตรนั้น “แย่กว่าฮิตเล่อร์”

ควรกล่าวด้วยว่ารัฐบาลปัจจุบน
ั มีประวัตท
ิ เ่ี ลวร้ายอย่างยิง่ ใน
เรื่อง “การสืบสวนที่เป็นอิสระ” การสืบสวนที่ผ่านๆ มาเกี่ยวกับการ
ละเมิดสิทธิมนุษยชนที่รัฐบาลเป็นผู้ถูกกล่าวหาในช่วงสิบเก้าเดือนที่
ครองอํานาจก็บอกได้แล้วว่าจะคาดหวังอะไรได้จากการสืบสวนกรณี
ความรุนแรงช่วงเดือนเมษายนและพฤษภาคม 2553

สิ่งที่บรรยายได้ดีเป็นพิเศษถึงแนวทางการสืบสวนตัวเองของ
รัฐบาลนี้ก็คือประวัติการทํางานของพญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์
ผู้อํานวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ผู้โด่งดัง ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ
กรณีออ ้ื ฉาวมาแทบทัง้ หมด การที่รัฐบาลพึ่งพาอาศัยคุณหญิงพร
ทิพย์อย่างมากมายอย่างนี้ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเป็นเพราะว่าคุณหญิง
ผู้มีสีสันฉูดฉาดรายนี้เป็นคนดังของประเทศ การสํารวจเมื่อเร็วๆ นี้
ของนิตยสารรีดเดอร์สไดเจสต์ก็พบว่าเธอคือคนที่ได้รับความเชื่อถือ
มากที่สุด ที่เยี่ยมกว่านั้นอีกคือ ในบรรดาผู้เชี่ยวชาญที่รัฐบาลมัก
เรียกใช้บริการเมื่อเกิดกรณีอื้อฉาวใดๆ ขึน ้ มา คุณหญิงพรทิพย์เป็นที่
พึ่งพาได้เสมอในอันที่จะได้ข้อสรุปที่เกื้อหนุนทฤษฎีของฝ่ายรัฐบาล
และพันธมิตร

กระทั่งก่อนที่อภิสิทธิ์จะเป็นนายกฯ คุณหญิงพรทิพย์ก็มีบทบาท
สําคัญในการทําลายความน่าเชือ ่ ถือของรัฐบาลพลังประชาชนในกรณี
การปะทะระหว่างพันธมิตรและตํารวจบริเวณหน้ารัฐสภาเมื่อวันที่ 7
ตุลาคม 2551 โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กรณีที่สมาชิกพันธมิตร
นส.อังคณา ระดับปัญญาวุฒเิ ป็นทีร่ า ํ่ ลือว่าเสียชีวต
ิ จากการระเบิดของ
ระเบิดปิงปองที่พันธมิตรนํามาเอง คุณหญิงพรทิพย์สรุปว่าการเสีย
ชีวิตเป็นผลมาจากกระบอกแก๊สน้ําตาผลิตจากจีนที่ตํารวจยิงใส่ผู้ชุ
มนุมตรงๆ คําอ้างนี้ถูกปฏิเสธในภายหลังด้วยการสืบสวนของ
ตํารวจ ซึ่งพบร่องรอยคราบซีโฟร์บนเสื้อผ้าของอังคณา คุณหญิงให้
คําอธิบายว่า “ทีมของเราใช้เครือ ่ งตรวจวัตถุระเบิด GT-200 และไม่
พบสารที่ใช้ในการทําระเบิด เราได้ตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ
ร่างกายและเสือ
้ ผ้าของผูไ้ ด้รบ
ั บาดเจ็บแล้ว”
ทว่าเครือ ่ งตรวจวัตถุระเบิด GT-200 ได้รับการพิสูจน์เมื่อไม่นาน
มานีว ้ า่ เป็นแค่กล่องพลาสติกไม่มอ ี ป
ุ กรณ์อเิ ล็คโทรนิค หลังจากทีพ ่ บ
ว่ามันทํางานไม่ได้โดยสิ้นเชิง รัฐบาลอังกฤษได้สั่งห้ามการส่งออก
เครือ
่ งมือทีค ่ ล้ายกันคือ ADE-651 และจับกุมกรรมการผู้จัดการของ
บริษท ั ผูผ้ ลิตด้วยข้อหาหลอกลวง เร็วๆ นี้ สํานักงานของบริษัทผู้ผลิต
สามรายรวมทั้งบริษัทโกลบอลเทคนิคคัลก็ถูกเจ้าหน้าที่อังกฤษบุก
ตรวจค้น ทั้งๆ ที่มีข้อพิสูจน์หนักแน่นขนาดนี้ที่แสดงถึงความไร้
ประโยชน์ของ GT-200 คุณหญิงพรทิพย์ก็ยังแก้ต่างและยืนยันให้ใช้
งานมันต่อไปในบทสัมภาษณ์หลายชิน ้ เมือ
่ ต้นปีน้ี ความไร้
ประสิทธิผลของเครือ ่ งมือนีก
้ อ
่ ให้เกิดคําถามต่อความน่าเชือ ่ ถือของ
การสืบสวนต่างๆ ที่ได้นําไปสู่การพิพากษาลงโทษคนจํานวนนับร้อย
(รวมถึงชาวมุสลิมที่ถูกกล่าวหาว่าเป็น “ผู้ก่อความไม่สงบ” ในภาค
ใต้) มิพักต้องพูดถึงชีวิตทหารระดับล่างที่ต้องพึ่งพาเครื่องมือนี้ใน
การตรวจหาระเบิดในพื้นที่ที่ตนลาดตระเวน ยิ่งกว่านั้น ก็ยังมีคําถาม
ว่าเหตุใดหน่วยงานรัฐบาลจึงจ่ายเงินหลายหมื่นเหรียญสําหรับเครื่อง
มือที่ไม่ทํางานนี้ นอกไปจากการทุจริตในการจัดซื้อกล่องพลาสติก
เปล่าๆ ในราคาเกือบล้านบาท หน่วยงานของคุณหญิงพรทิพย์เองก็มี
รายงานว่าได้ซื้อเครื่องมือนี้มาหกเครื่อง ในราคาเครื่องละ 1,100,000
บาท ซึ่งแพงกว่าที่กรมศุลกากรจ่ายไปถึงสามเท่า

ในประเทศใดๆ ทีย ่ ด
ึ ถือคุณค่าของความซือ
่ สัตย์และ
ประสิทธิภาพมากกว่าความภักดีทางอุดมการณ์ การสิ้นเปลืองเงิน
ภาษีและการดึงดันใช้งานเครื่องมือหลอกลวงนี้ต่อไปของคุณหญิงพร
ทิพย์คงจะทําให้เธอสูญเสียความน่าเชื่อถือที่จะทําการสืบสวนเรื่อง
สําคัญใดๆ ได้อก ี แล้ว แต่วา่ ในเมืองไทย คนอย่างคุณหญิงพรทิพย์
พิสูจน์ว่าเป็นประโยชน์แก่รัฐบาลอภิสิทธิ์เสมอ

ขณะกําลังเป็นเรือ
่ งอือ
้ ฉาวในเดือนมกราคม 2552 เมือ
่ มีการเปิด
เผยว่ากองทัพไทยได้ปฏิบัติอย่างทารุณต่อผู้อพยพชาวโรฮิงยาหลาย
ร้อยคนที่มาขึ้นฝั่งไทย ด้วยการลากเรือของพวกเขาออกสู่ทะเลและ
ปล่อยให้พวกเขาตายด้วยความหิวโหยและการขาดน้า ํ บนเรือที่
ปราศจากเครื่องยนต์ คุณหญิงพรทิพย์ก็ให้ความชอบธรรมแก่ปฏิบัติ
การโหดต่อชาวโรฮิงยาในฐานะเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ เธอ
แถลงว่าพบร่องรอยคราบระเบิดบนเรือเหล่านัน ้ ไม่ปรากฏชัดเจนว่า
มีการใช้ GT-200 ในคราวนี้ด้วยหรือไม่

ทํานองเดียวกัน ในช่วงการชุมนุมของคนเสื้อแดงที่ผ่านมา คุณ


หญิงพรทิพย์ก็สืบพบอะไรหลายอย่างที่เข้าทางรัฐบาลอภิสิทธิ์ ผล
การสืบสวนการปาระเบิดที่ศาลาแดงของเธอก็ชวนสับสน คือ บอกว่า
มีความเป็นไปได้ทร่ี ะเบิดบางลูกอาจถูกยิงออกมาจากโรงพยาบาล
จุฬาลงกรณ์ แต่ก็ไม่ยอมปฏิเสธการด่วนสรุปของรัฐบาลที่มีตั้งแต่คืน
ที่เกิดเหตุ ในการสืบสวนกรณีทหารนายหนึ่งที่ถูกยิงในระหว่างที่คน
เสือ้ แดงกําลังเคลือ
่ นขบวนไปตามถนนวิภาวดีรงั สิตเมือ่ วันที่ 28
เมษายน ซึ่งในคลิปวิดิโอพบว่าเป็นการยิงจากทหารด้วยกันเอง เธอก็
สรุปว่ากระสุนนัดนั้นถูกยิงมาจากอาคารที่อยู่ใกล้เคียง ซึง่ บังเอิญอยู่
ในบริเวณที่สื่อต่างชาติได้เคยเผยแพร่ภาพผู้ชุมนุมเสื้อแดงรายหนึ่ง
ถือปืนพก ส่วนการสืบสวนกรณีการลอบสังหารเสธแดงยังไม่ปรากฏ
ผลออกมาในขณะนี้ และการสืบสวนของเธอในกรณีการสังหารผู้
เข้าไปหลบอยูภ ่ ายในวัดปทุมวนารามถึงหกศพเมือ ่ วันที่ 19
พฤษภาคม ก็บอกว่า เป็นไปได้ว่าผู้เสียชีวิตถูกยิงในระยะประชิด ซึง่
ตรงข้ามกับคําบอกเล่าของประจักษ์พยานที่รวมถึงนักข่าวต่างชาติ
มาร์ค แม็คคินนอนและแอนดรูว์ บันคอมบ์ ที่ไม่สงสัยเลยว่ากระสุน
นั้นถูกยิงมาจากภายนอกวัด พวกเขาระบุว่าคนยิงคือทหาร

คุณหญิงพรทิพย์ได้รับแต่งตั้งให้เข้าไปอยู่ในศูนย์อํานวยการ
แก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ในวันที่ 20 เมษายน และมีแนวโน้ม
ที่จะยังคงมีบทบาทสําคัญต่อไปในการสืบสวนกรณีต่างๆ ที่ทําให้มีผู้
เสียชีวิตเกือบร้อยรายในช่วงเดือนเมษายนและพฤษภาคม ตราบใด
ที่การสืบสวนของรัฐบาลยังคงพึ่งพา “ผูเ้ ชีย
่ วชาญ” ทีไ่ ร้ความน่าเชือ

ถือและเอียงข้างเช่นคุณหญิงพรทิพย์แล้ว ก็แทบจะคาดหวังผลทีจ ่ ะ
ออกมาเป็นอะไรอย่างอื่นไม่ได้เลยนอกจากถ้อยแถลงทางการเมือง
และเครือ ่ งมือการโฆษณาชวนเชือ่

8.6 ความเป็นธรรมสําหรับผู้ถูกกล่าวหา

ในขณะเดียวกัน รัฐบาลก็เริ่มเดินหน้าดําเนินคดีผู้นํานปช. ซึ่งก็มี


ประเด็นเรือ่ งความเป็นธรรมและการเปิดเผยข้อมูล แม้วา ่ รัฐบาล
ประสงค์จะทําอะไรต่อคนเหล่านีก ้ ต
็ าม ICCPR รับรองการไต่สวนที่
เป็นธรรมในประเทศไทย ซึ่งรวมถึงสิทธิในการเลือกทนาย การเตรี
ยมการแก้ข้อกล่าวหาโดยมีระยะเวลาและเครื่องมือที่เหมาะสม และ
การสามารถเข้าถึงพยานหลักฐานได้โดยเท่าเทียม ผู้ถูกกล่าวหามี
สิทธิที่จะตรวจสอบหลักฐานอย่างเป็นอิสระ โดยใช้ผเู้ ชีย่ วชาญและ
ทนายของตัวเองภายใต้เงื่อนไขเดียวกันกับฝ่ายรัฐบาล และมีสท ิ ธิ
รวบรวมหลักฐานเพือ ่ แก้ขอ
้ กล่าวหา

ในการดําเนินคดีผู้นํานปช. รัฐบาลอ้างว่าพวกเขาเป็นผู้บงการให้
เกิดการฆ่าฟันที่สะพานผ่านฟ้าและแยกราชประสงค์ โดย “คนชุดดํา”
ทีค
่ วบคุมโดยนปช. ด้วยข้อกล่าวหาเหล่านี้ การระบุตัวตนที่แท้จริง
ของมือปืนและมือยิงระเบิดทุกคนเป็นประเด็นพืน ้ ฐานสําคัญในแต่ละ
กรณี ภายใต้ ICCPR ทีมทนายจําเลยมีสท ิ ธิทจ
่ี ะรวบรวมหลักฐาน
อย่างเช่น วิถีกระสุนและหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์อื่นๆ ดีเอ็นเอ
บันทึกวิดิโอ คําสั่งในสายการบังคับบัญชาของทหารและอื่นๆ เพือ ่ หา
สาเหตุทเ่ี ป็นไปได้แบบอืน
่ เช่น ความเป็นไปได้ทก ่ี ระสุนอาจมาจากปืน
ไรเฟิลของกองทัพไทย หรือว่า “คนชุดดํา” กระทําการอย่างเป็นอิสระ
จากนปช.
ผู้ถูกกล่าวหามีสิทธิที่จะตรวจสอบข้อสรุปของผู้เชี่ยวชาญฝ่าย
รัฐบาลอย่างคุณหญิงพรทิพย์และคนอื่นๆ ตลอดจนหลักฐานทีพ ่ วก
เขาอ้างถึง ผู้ถูกกล่าวหามีสิทธิที่จะใช้ผู้เชี่ยวชาญนิติวิทยาศาสตร์
ของตนเองในการจําลองสภาพที่เกิดเหตุ วิเคราะห์ดเี อ็นเอ ตรวจสอบ
ภาพวิดิโอ และหลักฐานอืน ่ ทัง้ หมดทีอ
่ ยูใ่ นมือของรัฐบาล (โดย
สามารถเข้าถึงได้เท่าเทียมกับรัฐบาล) และใช้หลักฐานนัน ้ แก้ขอ้ กล่าว
หา ความเป็นธรรมและการเปิดเผยข้อมูลสําหรับผู้ถูกกล่าวหามี
ความสําคัญอย่างยิ่งยวด มีแต่การสืบสวนที่ดําเนินการโดยคณะที่
เป็นอิสระและเป็นกลางเท่านั้นที่สามารถรับรองได้ว่าสิทธิของผู้ถูก
กล่าวหาจะได้รับการคุ้มครอง ได้มีการยื่นหนังสือเรียกร้องอย่างเป็น
ทางการในนามผู้ถูกกล่าวหาไปแล้ว โดยยืนยันสิทธิของพวกเขาภาย
ใต้กฎหมายระหว่างประเทศในการสงวนรักษาและเข้าถึงหลักฐาน
ทั้งหมด รวมทั้งหลักฐานนิติวิทยาศาสตร์ทั้งทางกายภาพและอื่นๆ วิดิ
โอ เอกสารและรายงานของผู้เชี่ยวชาญ และยังได้มีการนําเรื่องนี้ไป
ร้องเรียนกับคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติซึ่งทํา
หน้าทีด่ แู ลการปฏิบต
ั ต
ิ าม ICCPR อีกด้วย
9. บทสรุป : หนทางเดียวสู่การปรองดอง

กระทั่งก่อนที่คนเสื้อแดงอีก 55 คนจะถูกสังหารด้วยน้ํามือของกอง
ทัพไทยเสียด้วยซ้ําที่นายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะได้ให้คา ํ มัน
่ ว่า
ตนเองและรัฐบาลของตนจะสร้างความ “สมานฉันท์” และโดยเฉพาะ
ยิ่งหลังจากมีการสังหารหมู่ผู้เรียกร้องประชาธิปไตยครั้งเลวร้ายที่สุด
ในประวัติศาสตร์ของประเทศ ประเทศไทยก็ยิ่งต้องการการ
สมานฉันท์กว่าที่เคยเป็นมา แต่นา ่ เศร้าใจทีเ่ ห็นได้ชด
ั ว่าผูม
้ อ
ี า
ํ นาจที่
ปกครองอยู่ในขณะนี้ไม่มีความสามารถหรือมีความตั้งใจแรงกล้า
เพียงพอที่จะส่งเสริมการสมานฉันท์อย่างแท้จริง

อีกทั้งมาตรการที่เข้มงวดและการโหมไล่ล่าในช่วง 6 สัปดาห์ท่ี
ผ่านมา (เห็นได้จากการต่ออายุ พ.ร.ก. การบริหารราชการใน
สถานการณ์ฉุกเฉิน การจับกุมคุมขังผู้ที่สนับสนุนคนเสื้อแดงจํานวน
หลายร้อยคน การกักขังแกนนํา นปช.ไว้ในค่ายทหาร การปราบและ
ปิดกั้นสื่อทางเลือกทั้งหมด) การแต่งตั้งคณะกรรมการหลากหลาย
คณะเพื่อแสร้งให้เห็นว่าประเทศกําลังเดินหน้าไปสู่หนทางแห่งการ
“สมานฉันท์” ซึง่ ในข้อเท็จจริงแล้วเป็นเพียง “การสร้างความเห็นพ้อง
ทางอุดมการณ์” โดยการใช้อา ํ นาจบังคับผ่านการโฆษณาชวนเชือ ่ และ
การปราบปราม

นายกรัฐมนตรีและคณะนายทหารซึ่งกําลังชักใยอยู่เบื้องหลัง
รัฐบาลนั้น เลือกที่จะเพิกเฉยต่อข้อเท็จจริงพื้นฐานสองประการที่คน
ทัง้ โลกเข้าใจแล้ว ประการแรกคือ การสมานฉันท์ไม่อาจเกิดขึ้นได้
โดยปราศจากความจริง ประการที่ 2 การปราบปรามไม่ใช่หนทางทีจ ่ ะ
นําไปสู่ความจริงและการสมานฉันท์ เผด็จการนั้นมีแต่จะสร้างความ
เกลียดชังและการหลอกลวงเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น

การทบทวนเหตุการณ์ชี้ให้เห็นว่ารัฐบาลอภิสิทธิ์และกองทัพ
ไทยต้องรับผิดชอบต่อการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่กระทําอย่างต่อ
เนื่อง อาชญากรรมต่อมนุษยชาติ และการกลั่นแกล้ง ไล่ล่าทางการ
เมืองอย่างเป็นระบบ ขณะที่รัฐบาลไทยมีหน้าที่ตามหลักกฎหมาย
ระหว่างประเทศที่ต้องดําเนินการสืบสวนสอบสวนการกระทําละเมิด
ของตน และต้องนําตัวผู้รับผิดเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ประชาคม
นานาชาติกม ็ ค
ี วามรับผิดชอบด้านศีลธรรมทีจ ่ ะทําให้มน
่ั ใจว่าการก่อ
อาชญากรรมของรัฐจะไม่ถูกปกปิด อันที่จริง ขณะนีเ้ ห็นได้ชด ั เจนว่า
มีแต่แรงกดดันจากนานาชาติและการเข้ามามีสว ่ นร่วมของนานาชาติ
เท่านั้นที่จะสร้างความมั่นใจได้ว่าการสืบสวนสอบสวนเหตุการณ์
สังหารหมู่ในกรุงเทพฯ ที่รัฐบาลเป็นเจ้าภาพนั้นจะไม่เป็นเพียงการ
สร้างความยุ่งเหยิง ที่นําไปสู่การฟอกตัวเองจากกระบวนการ
ยุติธรรมเพื่อซ่อนผู้ที่ต้องรับผิดชอบต่อความรุนแรงโดยรัฐอย่างที่
เป็นมาตลอดทุกครั้งในประวัติศาสตร์ไทย ไม่ต้องสงสัยเลยว่า
ประวัติศาสตร์จะเป็นผู้ตัดสินความผิดของผู้ที่ต้องรับผิดชอบต่อกรณี
การสังหารหมู่ที่เพิ่งเกิดขึ้น เฉกเช่นเดียวกับการสังหารหมู่ผู้เรียกร้อง
ประชาธิปไตยจํานวนมาก เมือ ่ ปี 2516, 2519 และ 2535 อย่างไรก็ตาม
สําหรับครั้งนี้ ผูท
้ ต
่ี อ
้ งรับผิดชอบจะต้องเผชิญกับความรับผิดจาก
การกระทําของตนเองในศาลยุติธรรมที่แท้จริงซึ่งไม่ใช่ศาลที่พรั่ง
พร้อมไปด้วยมิตรสหาย หรือคนในการอุปถัมภ์ หรือผู้ที่ถูกแต่งตั้ง
จากพวกเขากันเอง

“การสมานฉันท์” ยังต้องอาศัยการยอมรับว่าความวุ่นวาย
ทางการเมืองในปัจจุบน ั เป็นผลมาจากการทําลายและปฏิเสธ
เจตจํานงของประชาชนครัง้ แล้วครัง้ เล่า ดังนัน ้ แล้ว การแก้ไขจะทําได้
ก็ด้วยการยินยอมให้ประชาชนไทยได้พูดด้วยตัวเองในการเลือกตั้ง
เท่านั้น แน่นอนว่าเพียงการจัดการเลือกตั้งนั้นยังไม่เพียงพอ
ประเทศไทยต้องการการเลือกตั้งในบริบทที่ไม่มีฝ่ายใดได้เปรียบอัน
ไม่สมควรจากการปิดกั้นฝ่ายตรงข้าม จากการหนุนหลังจากกลไกรัฐ
จากความโน้มเอียงของศาลทีจ ่ ะบิดเบือนผลการเลือกตัง้ จากโอกาส
ทีก่ ลุม
่ อํานาจเก่าจะบ่อนทําลายรัฐบาลทีม ่ าจากการเลือกตัง้ ของ
ประชาชนซ้า ํ อีก หรือความหวาดกลัวว่าการรัฐประหารโดยกองทัพจะ
เกิดขึ้นอีก ประเทศไทยจึงต้องการการเลือกตั้งที่มีการแข่งขันของทุก
ฝ่ายภายใต้กฎกติกาที่เคารพในสิทธิของประชาชนที่จะลงสมัครรับ
เลือกตั้ง ลงคะแนนเสียงให้กับผู้สมัครที่พวกเขาเลือกได้ด้วยตัวเอง
และมีรัฐบาลจากพรรคการเมืองที่พวกเขาได้เลือกมา รัฐธร
รมนูญพ.ศ. 2550 ที่ประกาศใช้ภายใต้การควบคุมของรัฐบาลทหารซึ่ง
ให้อํานาจศาลในการยุบพรรคการเมืองและตัดสิทธิทางการเมืองของ
ผู้นําพรรคนั้นสอบตกด้านความชอบธรรม ตราบเท่าที่อภิสิทธิ์ยังมี
ความจริงใจต่อความเชือ ่ ของตัวเองว่าเขามีความชอบธรรมทีจ ่ ะ
ปกครองประเทศ เขาก็ควรยินดีกับโอกาสที่จะได้แสดงว่าตนเองมี
ความชอบธรรมผ่านสนามเลือกตั้งที่สู้กันอย่างเท่าเทียม ตราบเท่าที่
เขาหวาดกลัวการตัดสินจากประชาชน เขาย่อมไม่ที่อยู่ที่ยืนในรัฐบาล
กิตติกรรมประกาศ

เราขอขอบคุณผูร้ ว่ มงานและมิตรสหายทัง้ เก่าและใหม่ ผู้ให้


เกียรติร่วมจัดทําสมุดปกขาวเล่มนี้ ซึง่ เราซาบซึง้ ในความร่วมมือและ
การตระหนักในความเท่าเทียมอย่างแท้จริงของประชาชนไทย
Amsterdam และ Peroff LLP
กรกฎาคม 2553

กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (ICCPR) ข้อ


14 วรรค 3(ข) และ 3(จ)
ICCPR ข้อ 14 วรรค 3(จ)
“Deaths Probe ‘Won’t Cast Blame’,” Bangkok Post, 12 มิถุนายน 2553
HYPERLINK "http://www.bangkokpost.com/news/local/38619/deaths-
probe-won-t-cast-blame" http://www.bangkokpost.com/news/local/38619/
deaths-probe-won-t-cast-blame
Pinai Nanakorn, “Re-Making of the Constitution in Thailand,” Singapore
Journal of International & Comparative Law, 6(2002): 90-115, p. 93.
เพิง่ อ้าง, หน้า 107-09.
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2540 (จากนีเ้ รียก รัฐธรรมนูญฉบับ
2540), ข้อ 63
เพิง่ อ้าง, ข้อ 313.
st
Pansak Vinyaratn, 21 Century Thailand, Facing the Challenge, Economic
Policy & Strategy (Hong Kong: CLSA Books, 2004), p. 1.
Chaturon Chaisang, Thai Democracy In Crisis: 27 Truths (Bangkok: A.R.
Information & Publication Co. Ltd., 2009), p.37.
Pasuk Phongpaichit and Chris Baker, Thailand’s Crisis (Chiang Mai:
Silkworm, 2000).
Kevin Hewinson, “Thailand: Class Matters,” in East Asian Capitalism:
Conflicts, Growth and Crisis, Annali della Fondazione Giangiacomo
Feltrinelli, no. XXXVI, ed. L. Tomba (Milan: Feltrinelli, 2002), 287-321.
Pasuk Phongpaichit and Chris Baker, Thailand’s Boom and Bust (Chiang
Mai: Silkworm, 1998), Ch. 12.
Chaturon, อ้างแล้ว, fn. 12, p.17.
เพิง่ อ้าง, หน้า 3.
"New Parties Sprouting Already," The Nation, May 17, 2006.
HYPERLINK "http://nationmultimedia.com/2006/05/17/headlines/
headlines_30004216.php"http://nationmultimedia.com/2006/05/17/
headlines/headlines_30004216.php
Suehiro Akira, Capital Accumulation in Thailand, 1855-1985 (Chiang
Mai: Silkworm Books, 1996), p. 170.
ดู Cynthia Pornavalai, “Thailand: Thai Asset Management Corporation,”
Mondaq Banking and Financial, March 6, 2002.
HYPERLINK "http://www.mondaq.com/article.asp?articleid=15878"http://
www.mondaq.com/article.asp?articleid=15878
ดู Pachorn Vichyanond, “Crucial Transitions in Thailand’s Financial
System After the 1997 Crisis,” Brookings Institution Asian Economic Panel
2007.
George Wehrfritz, “All Politics Isn't Local: The Real Enemy of
Demonstrators Threatening to Shut Down the Country is Globalization,”
Newsweek, September 6, 2008.
HYPERLINK "http://www.newsweek.com/2008/09/05/all-politics-isn-t-
local.html"http://www.newsweek.com/2008/09/05/all-politics-isn-t-
local.html
Pasuk Phongpaichit and Chris Baker, Thaksin (Chiangmai: Silkworm,
2009), pp. 184-188.
เพิง่ อ้าง, หน้า 176-184.
SIPRI, “The SIPRI Military Expenditure Database 2010.”
HYPERLINK "http://milexdata.sipri.org/result.php4"http://
milexdata.sipri.org/result.php4
“Junta at Risk of a Backlash over Lucrative Benefits,” The Nation, April 5,
2007.
HYPERLINK "http://nationmultimedia.com/2007/04/05/politics/
politics_30031147.php"http://nationmultimedia.com/2007/04/05/politics/
politics_30031147.php.
Pasuk and Baker, op. cit., fn. 23, p. 183.
ดู Duncan McCargo, “Network Monarchy and Legitimacy Crises in
Thailand,” Pacific Review, 18(2005): 499-519.
“Military ‘Must Back King’,” The Nation, July 15, 2006.
Oliver Pye and Wolfram Schaffar, “The 2006 Anti-Thaksin Movement in
Thailand: An Analysis,” Journal of Contemporary Asia, 38(2008): pp.
38-61.
Simon Montlake, “Election Further Clouds Thai Leader’s Future,” The
Christian Science Monitor, April 4, 2006. HYPERLINK "http://
www.csmonitor.com/2006/0404/p06s02-woap.html"http://
www.csmonitor.com/2006/0404/p06s02-woap.html
“His Majesty the King’s April 26 Speeches,” The Nation, April 27, 2006,
HYPERLINK "http://www.nationmultimedia.com/2006/04/27/headlines/
headlines_30002592.php"http://www.nationmultimedia.com/2006/04/27/
headlines/headlines_30002592.php
James Vander Meer, “Thaksin in the Dock,” Asia Sentinel, August 9, 2006.
HYPERLINK "http://www.asiasentinel.com/index.php?
option=com_content&task=view&id=82&Itemid=31"http://
www.asiasentinel.com/index.php?
option=com_content&task=view&id=82&Itemid=31
Paul Chambers, “The Challenges for Thailand’s Arch-Royalist Military,”
New Mandala, June 9, 2010.
HYPERLINK "http://asiapacific.anu.edu.au/newmandala/2010/06/09/the-
challenges-for-thailand's-arch-royalist-military/" http://
asiapacific.anu.edu.au/newmandala/2010/06/09/the-challenges-for-
thailand’s-arch-royalist-military/
ดูกา
ํ หนดการได้ในเวปไซท์ของพลเอกเปรมเอง ที่ HYPERLINK "http://
www.generalprem.com/news.html"http://www.generalprem.com/news.html.
“LEGAL WARNING: Thaksin Is `Violating the Constitution’,” The
Nation, July 5, 2006.
HYPERLINK "http://www.nationmultimedia.com/option/print.php?
newsid=30008036" http://www.nationmultimedia.com/option/print.php?
newsid=30008036
Prem Tinsulanonda, “A Special Lecture to CRMA Cadets at
Chulachomklao Royal Military Academy,” July 14, 2006. HYPERLINK
"http://www.crma.ac.th/speech/speech.html"http://www.crma.ac.th/speech/
speech.html
“CDRM Now Calls Itself as CDR,” The Nation, September 28, 2006.
HYPERLINK "http://nationmultimedia.com/breakingnews/read.php?
newsid=30014778"http://nationmultimedia.com/breakingnews/read.php?
newsid=30014778
Announcement on the Appointment of the Leader of the Council for
Democratic Reform, dated September 20, 2006, HYPERLINK "http://
www.mfa.go.th/web/2455.php?id=740"http://www.mfa.go.th/web/
2455.php?id=740 .
อ้างแล้ว.
“Thaksin Refuses to Resign Despite Protests in Bangkok,” International
Herald Tribune, March 6, 2006. HYPERLINK "http://www.iht.com/
articles/2006/03/06/news/thai/php"http://www.iht.com/articles/2006/03/06/
news/thai/php.
Chang Noi, “The Persistent Myth of the `Good’ Coup,” The Nation,
October 2, 2006. HYPERLINK "http://www.nationmultimedia.com/
2006/10/02/opinion/opinion_30015127.php"http://
www.nationmultimedia.com/2006/10/02/opinion/opinion_30015127.php
Announcement by the Council for Democratic Reform No. 11:
Appointment of Key Members of the Council for Democratic Reform,
dated September 20, 2006, HYPERLINK "http://www.mfa.go.th/web/
2455.php?id=740"http://www.mfa.go.th/web/2455.php?id=740.
Announcement by the Council for Democratic Reform No. 1, dated
September 19, 2006, HYPERLINK "http://www.mfa.go.th/web/2455.php?
id=740"http://www.mfa.go.th/web/2455.php?id=740.
Announcement by the Council for Democratic Reform No. 2: Prohibition
on the Movement of Military and Police Forces, dated September 19, 2006,
HYPERLINK "http://www.mfa.go.th/web/2455.php?id=740"http://
www.mfa.go.th/web/2455.php?id=740.
Announcement by the Council for Democratic Reform No. 4: Executive
Power, dated September 19, 2006, HYPERLINK "http://www.mfa.go.th/
web/2455.php?id=740"http://www.mfa.go.th/web/2455.php?id=740.
Announcement by the Council for Democratic Reform No. 16: Leader of
the Council for Democratic Reform to act for the National Assembly, the
House of Representatives and the Senate, dated September 21, 2006,
HYPERLINK "http://www.mfa.go.th/web/2455.php?id=740"http://
www.mfa.go.th/web/2455.php?id=740
เพิง่ อ้าง.
Announcement by the Council for Democratic Reform No. 3, dated
September 19, 2006, HYPERLINK "http://www.mfa.go.th/web/2455.php?
id=740"http://www.mfa.go.th/web/2455.php?id=740.
HYPERLINK "http://www.msnbc.msn.com/id/14916631/"http://
www.msnbc.msn.com/id/14916631/
Pinai, op. cit., fn. 5, p. 109.
Announcement by the Council for Democratic Reform No. 13: Selected
Organic Laws shall continue to be in effect, dated September 20, 2006,
HYPERLINK "http://www.mfa.go.th/web/2455.php?id=740"http://
www.mfa.go.th/web/2455.php?id=740.
Announcement by the Council for Democratic Reform No. 32: Authority
and Duties of the Election Commission regarding Local Administrative
Council Members and Local Administrator Elections, dated September 30,
2006, HYPERLINK "http://www.mfa.go.th/web/2455.php?id=740"http://
www.mfa.go.th/web/2455.php?id=740.
Announcement by the Council for Democratic Reform No. 7: Ban on
Political Gatherings, dated September 20, 2006, HYPERLINK "http://
www.mfa.go.th/web/2455.php?id=740"http://www.mfa.go.th/web/
2455.php?id=740.
Announcement by the Council for Democratic Reform No. 15: Ban on
Meetings and other Political Activities by Political Parties, dated September
21, 2006, HYPERLINK "http://www.mfa.go.th/web/2455.php?
id=740"http://www.mfa.go.th/web/2455.php?id=740.
Announcement by the Council for Democratic Reform No. 27:
Amendment of Announcement by the Council for Democratic Reform No.
15 dated 21 September B.E. 2549 (2006), dated September 30, 2006,
HYPERLINK "http://www.mfa.go.th/web/2455.php?id=740"http://
www.mfa.go.th/web/2455.php?id=740.
An unofficial translation of the Interim Constitution is available at
HYPERLINK "http://www.nationmultimedia.com/2006/10/02/headlines/
headlines_30015101.php"http://www.nationmultimedia.com/2006/10/02/
headlines/headlines_30015101.php.
Interim Constitution dated October 1, 2006, at Art. 36.
Interim Constitution dated October 1, 2006, at Art. 37.
Interim Constitution dated October 1, 2006, at Art. 5.
Interim Constitution dated October 1, 2006, at Art. 20.
Interim Constitution dated October 1, 2006, at Art. 22.
Interim Constitution dated October 1, 2006, at Art. 23.
“No Dictatation [sic.] on the Charter: CNS Chief,” The Nation, December
20, 2006, HYPERLINK "http://nationmultimedia.com/2006/12/20/
headlines/headlines_30022102.php"http://nationmultimedia.com/
2006/12/20/headlines/headlines_30022102.php
“Publicity Blitz to Counter Moves to Reject New Charter,” The Nation,
July 11, 2007, HYPERLINK "http://www.nationmultimedia.com/
2007/07/11/politics/politics_30040282.php"http://
www.nationmultimedia.com/2007/07/11/politics/politics_30040282.php
Duncan McCargo, “Thailand: State of Anxiety,” in Southeast Asian Affairs
2008, ed. Daljit Singh and Tin Maung Maung Than (Singapore: ISEAS,
2008), 333-356, p. 337.

Somroutai Sapsomboon and Supalak Khundee, “Referendum Law or


Penalty Law?,” The Nation, July 6, 2007.
HYPERLINK "http://www.nationmultimedia.com/2007/07/06/politics/
politics_30039559.php"http://www.nationmultimedia.com/2007/07/06/
politics/politics_30039559.php
Asian Human Rights Commission, “THAILAND: A Referendum Comes; a
Coup is Completed,” July 6, 2007.
HYPERLINK "http://www.ahrchk.net/statements/mainfile.php/
2006statements/1110/"http://www.ahrchk.net/statements/mainfile.php/
2006statements/1110/.
อ้างแล้ว.
Asian Human Rights Commission, “THAILAND: A Long Road Back to
Human Rights and the Rule of Law,” August 20, 2007.
HYPERLINK "http://www.ahrchk.net/statements/mainfile.php/
2006statements/1156/"http://www.ahrchk.net/statements/mainfile.php/
2006statements/1156/.
รัฐธรรมนูญ 2550, มาตรา 95-98.
รัฐธรรมนูญ 2550, มาตรา 111-112.
McCargo, op. cit., fn. 66, p. 337.
“CNS’s Anti-Thaksin Campaign,” Bangkok Post, April 8, 2007.
HYPERLINK "http://pages.citebite.com/i1t5f0u5a3yao"http://
pages.citebite.com/i1t5f0u5a3yao
“Saprang's Cousin Given PR Work 'Because of Experience',” The Nation,
April 11, 2007.
HYPERLINK "http://www.nationmultimedia.com/2007/04/11/politics/
politics_30031650.php"http://www.nationmultimedia.com/2007/04/11/
politics/politics_30031650.php
“Nine Constitution Tribunal Members,” The Nation, October 7, 2006.
HYPERLINK "http://nationmultimedia.com/breakingnews/read.php?
newsid=30015571"http://nationmultimedia.com/breakingnews/read.php?
newsid=30015571;
ดูเพิม
่ “Thailand’s Struggle for Constitutional Survival,” Article 2 of the
International Covenant on Civil and Political Rights (Special Edition), 6
(2007), น. 4.

ดู Christian Schafferer, “The Parliamentary Election in Thailand,


December 2007,” Electoral Studies 27(2009): 167-170, p.167.
น.167.
วรเจตน์ ภาคีรตั น์และคณะ, “คําตัดสินของตุลาการการศาลรัฐธรรมนูญยุบ
พรรคการไทยรักไทย-บทวิเคราะห์ทางกฎหมาย,” คณะนิติศาสตร์,
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.
Asian Human Rights Commission, “THAILAND: The Judiciary is the Real
Loser,” May 31, 2007.HYPERLINK "http://www.ahrchk.net/statements/
mainfile.php/2007statements/1041/"http://www.ahrchk.net/statements/
mainfile.php/2007statements/1041/
“Junta ‘Never Harmed PPP’,” Bangkok Post, December 13, 2007.
HYPERLINK "http://thailandpost.blogspot.com/2007/12/junta-never-
harmed-ppp.html"http://thailandpost.blogspot.com/2007/12/junta-never-
harmed-ppp.html
“Thai Election Agency Disqualifies More Winning Candidates,” People’s
Daily, January 7, 2008. People’s Daily
HYPERLINK "http://english.people.com.cn/
90001/90777/90851/6333842.html"http://english.people.com.cn/
90001/90777/90851/6333842.html
Nirmal Ghosh, “I Won’t Quit: Samak,” The Straits Times, August 31,
2008. HYPERLINK "http://www.straitstimes.com/Breaking%2BNews/SE
%2BAsia/Story/STIStory_273817.html"http://www.straitstimes.com/
Breaking%2BNews/SE%2BAsia/Story/STIStory_273817.html.
David Pallister, “Thai PM’s Compound Stormed as Anti-Government
Protests Grow,” The Guardian, August 26, 2008.
HYPERLINK "http://www.guardian.co.uk/world/2008/aug/26/
thailand"http://www.guardian.co.uk/world/2008/aug/26/thailand.
“Worse than a Coup,” The Economist, September 4, 2008 HYPERLINK
"http://www.economist.com/opinion/displaystory.cfm?
story_id=12070465"http://www.economist.com/opinion/displaystory.cfm?
story_id=12070465.
George Wehrfritz “Crackdown,” Newsweek, September 2, 2008.
HYPERLINK "http://www.newsweek.com/2008/09/01/crackdown.html"
http://www.newsweek.com/2008/09/01/crackdown.html
Federico Ferrara, Thailand Unhinged: Unraveling the Myth of a Thai-Style
Democracy (Singapore: Equinox Publishing, 2010), p. 87.

Richard Bernstein, “The Failure of Thailand’s Democracy,” New York


Times, May 25, 2010.
HYPERLINK "http://www.nytimes.com/2010/05/26/world/asia/26iht-
letter.html"http://www.nytimes.com/2010/05/26/world/asia/26iht-letter.html
Korn Chatikavanij, “The Last Whistle and the PAD’s ‘Final Battle’,”
Bangkok Post, September 9, 2008.
HYPERLINK "http://www.korndemocrat.com/th/issues/bangkok_post/
BangkokPost090908.htm" http://www.korndemocrat.com/th/issues/
bangkok_post/BangkokPost090908.htm
Leo Lewis, “Thai Prime Minister Samak Sundaravej Forced Out over TV
Chef Role,” The Times, September 10, 2008.HYPERLINK "http://
www.timesonline.co.uk/tol/news/world/asia/article4716195.ece"http://
www.timesonline.co.uk/tol/news/world/asia/article4716195.ece.
ดู, ตัวอย่าง, “PM: Dissolution is Not the Answer,” Bangkok Post, April 25,
2010.
HYPERLINK "http://www.bangkokpost.com/breakingnews/175728/pm-
dissolution-is-not-the-answer" http://www.bangkokpost.com/breakingnews/
175728/pm-dissolution-is-not-the-answer
“Abhisit vs. Abhisit,” Prachatai, April 23, 2010.
HYPERLINK "http://www.prachatai.com/english/node/1760"
www.prachatai.com/english/node/1760
Matt Bachl, “Parents ‘Giving Up Kids for Cash in Thai protest’,” Nine
News, November 30, 2008. HYPERLINK "http://news.ninemsn.com.au/
article.aspx?id=676153"http://news.ninemsn.com.au/article.aspx?
id=676153.
Ed Cropley, “Assault on Police Shows Thai Protesters’ Ugly Side,”
Reuters, November 29, 2010.
HYPERLINK "http://www.forbes.com/feeds/afx/2008/11/29/
afx5755965.html" http://www.forbes.com/feeds/afx/2008/11/29/
afx5755965.html
“Airport Siege Cost $12.2,” The Straits Times, January 7, 2009.
HYPERLINK "http://www.straitstimes.com/Breaking%2BNews/SE
%2BAsia/Story/STIStory_323020.html" http://www.straitstimes.com/
Breaking%2BNews/SE%2BAsia/Story/STIStory_323020.html
“Thai Premier Banned from Politics, Ruling Party Dissolved: Court,”
Agence France-Press, December 1, 2008.
HYPERLINK "http://www.google.com/hostednews/afp/article/
ALeqM5hfJ-lAMzPxNPjyXUtOzsYlEvJeow"http://www.google.com/
hostednews/afp/article/ALeqM5hfJ-lAMzPxNPjyXUtOzsYlEvJeow
“PAD Cease All Anti-Government Protests,” The Nation, December 2,
2008, HYPERLINK "http://www.nationmultimedia.com/2008/12/02/
headlines/headlines_30090031.php"http://www.nationmultimedia.com/
2008/12/02/headlines/headlines_30090031.php
“Democrat Govt a Shotgun Wedding?,” The Nation, December 10, 2008.
HYPERLINK "http://www.nationmultimedia.com/search/read.php?
newsid=30090626"http://www.nationmultimedia.com/search/read.php?
newsid=30090626
“Suthep, Sondhi War of Words Widens,” Bangkok Post, March 11, 2009.
HYPERLINK "http://www.bangkokpost.com/news/local/137304/suthep-
sondhi-war-of-words-widens"http://www.bangkokpost.com/news/local/
137304/suthep-sondhi-war-of-words-widens
“PAD Names Somsak as Party Head,” Bangkok Post, June 2, 2009.
HYPERLINK "http://www.bangkokpost.com/news/politics/144914/pad-
names-new-political-party"http://www.bangkokpost.com/news/politics/
144914/pad-names-new-political-party
“สนธิ” สาวไส้เน่า ตร.“เทพประทาน” ตัวทําลาย-แนะ รบ.คืนพระราชอํานาจ,
ASTV-Manager, May 28, 2010.
HYPERLINK "http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?
NewsID=9530000073858"http://www.manager.co.th/Politics/
ViewNews.aspx?NewsID=9530000073858
'สนธิ' ลาออกหัวหน้าพรรค ต้านประชาธิปไตย หนุนธรรมาธิปไตย จี้ทหาร
ปฏิวตั ถ
ิ า
้ 'มาร์ค' ทําไม่ได้' , Prachatai, May 14, 2010.
HYPERLINK "http://www.prachatai3.info/journal/2010/05/29465"http://
www.prachatai3.info/journal/2010/05/29465
“Thai Troops ‘Cross into Cambodia’,” BBC News, July 15, 2008.
HYPERLINK "http://news.bbc.co.uk/1/hi/world/asia-pacific/7506872.stm"
http://news.bbc.co.uk/1/hi/world/asia-pacific/7506872.stm
Apinya Wipatayotin, “The Real Victim at Preah Vihar,” Bangkok Post,
July 20, 2008.
HYPERLINK "http://www.bangkokpost.com/200708_News/
20Jul2008_news002.php" http://www.bangkokpost.com/200708_News/
20Jul2008_news002.php
May Adadol Ingawanij, “The Speech that Wasn’t Televised,” New
Mandala, April 27, 2010.
HYPERLINK "http://asiapacific.anu.edu.au/newmandala/2010/04/27/the-
speech-that-wasn't-televised/"http://asiapacific.anu.edu.au/newmandala/
2010/04/27/the-speech-that-wasn’t-televised/
Marwaan Macan-Markar, “Thailand: Lese Majeste Cases Rise but Public in
the Dark,” Inter Press Service, May 14, 2010.
HYPERLINK "http://ipsnews.net/login.asp?redir=news.asp?
idnews=51434"http://ipsnews.net/login.asp?redir=news.asp?idnews=51434
“Corrections Dept Asked to Explain Da Torpedo’s Solitary Confinement,”
Prachatai, September 14, 2552.
HYPERLINK "http://www.prachatai.org/english/node/1400"http://
www.prachatai.org/english/node/1400
“50,000 Websites Shut Down, MICT Inspector Says,” Prachatai, May 7,
2553.
HYPERLINK "http://www.prachatai.org/english/node/1795"http://
www.prachatai.org/english/node/1795
“EDITORIAL: Criminals or Scapegoats?,” Bangkok Post, November 3,
2009.
HYPERLINK "http://www.bangkokpost.com/opinion/opinion/26746/
criminals-or-scapegoats" http://www.bangkokpost.com/opinion/opinion/
26746/criminals-or-scapegoats

Committee to Protect Journalists, “Attacks on the Press 2009: Thailand,”


February 2010.
HYPERLINK "http://cpj.org/2010/02/attacks-on-the-press-2009-
thailand.php"http://cpj.org/2010/02/attacks-on-the-press-2009-thailand.php
Reporters Without Borders, “Government Uses State of Emergency to
Escalate Censorship,” April 8, 2009.
HYPERLINK "http://en.rsf.org/thailand-government-uses-state-of-
emergency-08-04-2010,36968.html"http://en.rsf.org/thailand-government-
uses-state-of-emergency-08-04-2010,36968.html
Human Rights Watch, “Thailand: Serious Backsliding on Human Rights,”
January 20, 2010.
HYPERLINK "http://www.hrw.org/en/news/2010/01/20/thailand-serious-
backsliding-human-rights"http://www.hrw.org/en/news/2010/01/20/
thailand-serious-backsliding-human-rights
“MICT to Curb Violations of Computer Act,” National News Bureau of
Thailand Public Relations Department, June 15, 2010.
HYPERLINK "http://thainews.prd.go.th/en/news.php?
id=255306150051"http://thainews.prd.go.th/en/news.php?id=255306150051
“Thailand Sets Up Unit to Tackle Websites Insulting Royals,” Agence
France Press, June 15, 2010.
นายกฯ เปิดโครงการ 'ลูกเสือบนเครือข่ายอินเตอร์เน็ต' (Cyber Scout),
Prachatai, July 1, 2010.
“Russian Maestro Leaves Thailand for Moscow,” Bangkok Post, July 8,
2010.
HYPERLINK "http://www.bangkokpost.com/news/crimes/185701/russian-
maestro-leaves-thailand-for-moscow" http://www.bangkokpost.com/news/
crimes/185701/russian-maestro-leaves-thailand-for-moscow
“DSI Sets Up Large Lese Majeste Force,” The Nation, July 9, 2010.
HYPERLINK "http://www.nationmultimedia.com/home/2010/07/09/
politics/DSI-sets-up-large-lese-majeste-force-30133403.html" http://
www.nationmultimedia.com/home/2010/07/09/politics/DSI-sets-up-large-
lese-majeste-force-30133403.html
รองอธิบดีดีเอสไอยอมรับมี "การเมือง" แทรกแซงถูกใช้เป็นเครือ
่ งมือเผยอ
ยากให้องค์กรเป็นอิสระเหมือน ป.ป.ช., Matichon, 12 July 2010.

“No Death Inflicted by Crowd Control during Songkran Mayhem,” The


Nation, September 11, 2009.
HYPERLINK "http://www.nationmultimedia.com/2009/09/11/politics/
politics_30112037.php"http://www.nationmultimedia.com/2009/09/11/
politics/politics_30112037.php
“2 Bodies of UDD Supporters Found in Chao Phraya River,” National
New Bureau of Thailand Public Relations Department, April 15, 2009.
HYPERLINK "http://thainews.prd.go.th/en/news.php?
id=255204160028"http://thainews.prd.go.th/en/news.php?id=255204160028

Human Rights Watch, op. อ้างแล้ว, fn. 140.

สุเทพได้รับการแต่งตั้ง โดยเขาได้ลาออกจากตําแหน่งสมาชิกสภาผูแ ้ ทน
ราษฎร ตั้งแต่ปี 2552 หลังจากมีข่าวอื้อฉาวเรื่องการทุจริตเรื่องที่ดิน ดู “Suthep
Resigns as MP,” Bangkok Post, July 17, 2010.
HYPERLINK "http://www.bangkokpost.com/news/politics/149293/suthep-
resigns-as-mp" http://www.bangkokpost.com/news/politics/149293/suthep-
resigns-as-mp

เสธ.แดงถูกยิงที่ศีรษะต่อหน้าโทมัส ฟูลเลอร์ แห่งนิวยอร์คไทมส์ ดู Thomas


Fuller and Seth Mydans, “Thai General Shot; Army Moves to Face
Protesters, New York Times, May 13, 2010.
HYPERLINK "http://www.nytimes.com/2010/05/14/world/asia/
14thai.html" http://www.nytimes.com/2010/05/14/world/asia/14thai.html

“Bangkok Gears Up for Protest Siege,” Associated Press, May 13, 2010.
HYPERLINK "http://asiancorrespondent.com/breakingnews/bangkok-gears-
up-for-protest-siege.htm"http://asiancorrespondent.com/breakingnews/
bangkok-gears-up-for-protest-siege.htm
“Khattiya Sawatdiphol (Seh Daeng),“ New York Times, May 17, 2010.
HYPERLINK "http://topics.nytimes.com/top/reference/timestopics/people/
k/khattiya_sawatdiphol/index.html"http://topics.nytimes.com/top/reference/
timestopics/people/k/khattiya_sawatdiphol/index.html
Nick Nostitz, “Nick Nostitz in the Killing Zone,” New Mandala, May 16,
2010.
HYPERLINK "http://asiapacific.anu.edu.au/newmandala/2010/05/16/nick-
nostitz-in-the-killing-zone/"http://asiapacific.anu.edu.au/newmandala/
2010/05/16/nick-nostitz-in-the-killing-zone/
สําหรับความคืบหน้าชะตากรรมของผู้ชุมนุมเสื้อแดงในรายงาน ดู “Daughter
of a Slain Red Shirt Hears Story of Father from Nick Nostitz,” Prachatai,
June 21, 2010.
HYPERLINK "http://www.prachatai.com/english/node/1899"http://
www.prachatai.com/english/node/1899
“3 Injured as Van Trying to Clash through Security Checkpoint at
Makkasan,” The Nation, May 15, 2010.
HYPERLINK "http://www.nationmultimedia.com/home/3-injured-as-van-
trying-to-clash-through-security--30129399.html"http://
www.nationmultimedia.com/home/3-injured-as-van-trying-to-clash-
through-security--30129399.html
Jack Picone, “'Is it OK to Shoot Foreigners and Journalists?',” Sydney
Morning Herald, May 22, 2010.
HYPERLINK "http://www.smh.com.au/world/is-it-ok-to-shoot-foreigners-
and-journalists-20100521-w1ur.html"http://www.smh.com.au/world/is-it-
ok-to-shoot-foreigners-and-journalists-20100521-w1ur.html
“Medics Banned from Entering 'Red Zones',” The Nation, May 16, 2010.
HYPERLINK "http://www.nationmultimedia.com/home/2010/05/16/
national/Medics-banned-from-entering-red-zones-30129456.html"http://
www.nationmultimedia.com/home/2010/05/16/national/Medics-banned-
from-entering-red-zones-30129456.html
Bill Schiller, “Why Did So Many Civilians Die in Bangkok Violence?,”
The Star, May 23, 2010.
HYPERLINK "http://www.thestar.com/news/world/article/813547--why-
did-so-many-civilians-die-in-bangkok-violence"http://www.thestar.com/
news/world/article/813547--why-did-so-many-civilians-die-in-bangkok-
violence
วันที่ 18 พ.ค. หนึ่งวันก่อนการใช้ความรุนแรงในการสลายการชุมนุมครั้ง
สุดท้าย ส.ว.กลุ่มหนึ่งได้รับการตอบรับจากคนเสื้อแดง ในการเป็นตัวกลางไกล่
เกลี่ยครั้งสุดท้าย แต่รฐั บาลปฎิเสธ นําไปสูก
่ ารโจมตีแบบนองเลือดในเช้าวัน
ต่อมา

Andrew Buncombe, “Eyewitness: Under Fire in Thailand,” The


Independent, May 20, 2010.
HYPERLINK "http://www.independent.co.uk/news/world/asia/eyewitness-
under-fire-in-thailand-1977647.html"http://www.independent.co.uk/news/
world/asia/eyewitness-under-fire-in-thailand-1977647.html
See also: Bangkok Pundit (pseud.), “What Happened at Wat Pathum
Wanaram?,” Bangkok Pundit, May 31, 2010.
HYPERLINK "http://asiancorrespondent.com/bangkok-pundit-blog/what-
happened-at-wat-pathum-wanaram"http://asiancorrespondent.com/bangkok-
pundit-blog/what-happened-at-wat-pathum-wanaram
“Anupong: Soldiers Not Involved in Temple Killings,” Bangkok Post, June
3, 2010.
HYPERLINK "http://www.bangkokpost.com/news/local/179998/anupong-
soldiers-not-involved-in-killing-at-temple/page-2/"http://
www.bangkokpost.com/news/local/179998/anupong-soldiers-not-involved-
in-killing-at-temple/page-2/

General Comment 6, par. 3, April 30, 1982.

United Nations Basic Principles on the Use of Force and Fire Arms by Law
Enforcement Officials of 1990.

Ibid., Principles 3, 5.

Ibid., Principles 12-14 (emphasis added).

Internal Security Act, B.E. 2551 (2008), s. 3.


Ibid., s. 3.
For a brief account of ISOC’s disturbing human rights record, see Paul
Busbarat, “Thailand, International Human Rights and ISOC,” New
Mandala, January 27, 2009.
HYPERLINK "http://asiapacific.anu.edu.au/newmandala/2009/01/27/
thailand-international-human-rights-and-isoc/" http://asiapacific.anu.edu.au/
newmandala/2009/01/27/thailand-international-human-rights-and-isoc/
Ibid., ss. 4-5.
Ibid., s. 5.
Ibid., s. 18.
Announcement of the Centre for the Resolution of the Emergency
Situation Re: Prohibition of Assembly or Gathering to Conspire, April 8
B.E. 2553 (2010).
Regulation pursuant to Section 9 of the Emergency Decree on Public
Administration on Emergency Situation, B.E. 2548 (2005).
Announcement pursuant to Section 9 of the Emergency Decree on Public
Administration on Emergency, Situation B.E. 2548 (2005).
A translation of the Computer Crimes Act B.E. 2550 (2007) is available at
HYPERLINK "http://www.iclrc.org/thailand_laws/thailand_cc.pdf"http://
www.iclrc.org/thailand_laws/thailand_cc.pdf.
Computer Crime Act, Sections 3 (defining “Computer Data” to include
“statements”) and 20.
Statement by the Asian Human Rights Commission, “THAILAND:
Censorship and Policing Public Morality,” April 9, 2010, HYPERLINK
"http://www.ahrchk.net/statements/mainfile.php/2010statements/
2498/"http://www.ahrchk.net/statements/mainfile.php/2010statements/2498/.
“Thailand Government Shuts Down Protesters’ TV Station,” The
Guardian, April 8, 2010, HYPERLINK "http://www.guardian.co.uk/world/
2010/apr/08/thailand-bangkok-protests"http://www.guardian.co.uk/world/
2010/apr/08/thailand-bangkok-protests
“Thai Protesters Demand Government Reopen TV Station,” CNN World,
April 8, 2010, HYPERLINK "http://www.cnn.com/2010/WORLD/asiapcf/
04/08/thailand.protests/index.html"http://www.cnn.com/2010/WORLD/
asiapcf/04/08/thailand.protests/index.html.
“Govt Claims Plot Targets King,” Bangkok Post, April 27, 2010.
HYPERLINK "http://www.bangkokpost.com/news/local/175917/govt-
claims-plot-targets-king"http://www.bangkokpost.com/news/local/175917/
govt-claims-plot-targets-king
International Crisis Group, “Bridging Thailand’s Deep Divide,” ICG Asia
Report 192, July 5, 2010, p. 18.
HYPERLINK "http://www.crisisgroup.org/~/media/Files/asia/south-east-
asia/thailand/192_Bridging%20Thailands%20Deep%20Divide.ashx" http://
www.crisisgroup.org/~/media/Files/asia/south-east-asia/thailand/
192_Bridging%20Thailands%20Deep%20Divide.ashx
“Ex-policeman Held in RPG Case,” The Nation, May 1, 2010.
HYPERLINK "http://www.nationmultimedia.com/home/2010/05/01/
national/Ex-policeman-held-in-RPG-case-30128366.html" http://
www.nationmultimedia.com/home/2010/05/01/national/Ex-policeman-held-
in-RPG-case-30128366.html
Avudh Panananda, “Anti-Riot Squad Cut Up by Soldiers in Black,” The
Nation, April 13, 2010.
HYPERLINK "http://www.nationmultimedia.com/home/2010/04/13/
politics/Anti-riot-squad-cut-up-by-soldiers-in-black-30127131.html"http://
www.nationmultimedia.com/home/2010/04/13/politics/Anti-riot-squad-cut-
up-by-soldiers-in-black-30127131.html
Avudh Panananda, “Is Prayuth the Best Choice amid Signs of Army
Rivalry?,” The Nation, June 8, 2010.
HYPERLINK "http://www.nationmultimedia.com/home/2010/06/08/
politics/Is-Prayuth-the-best-choice-amid-signs-of-Army-
riva-30131079.html"http://www.nationmultimedia.com/home/2010/06/08/
politics/Is-Prayuth-the-best-choice-amid-signs-of-Army-
riva-30131079.html
See also International Crisis Group, op. cit., fn. 133, p. 10.
HYPERLINK "http://www.crisisgroup.org/~/media/Files/asia/south-east-
asia/thailand/192_Bridging%20Thailands%20Deep%20Divide.ashx" http://
www.crisisgroup.org/~/media/Files/asia/south-east-asia/thailand/
192_Bridging%20Thailands%20Deep%20Divide.ashx
คนเลวบึม ้ เอ็ม79บีทเี อสศาลาแดงเจ็บ75ดับ1-พยานอ้างยิงจาก รพ.จุฬาฯ,
ASTV-Manager, April 23, 2010.
HYPERLINK "http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?
NewsID=9530000055677"http://www.manager.co.th/Crime/
ViewNews.aspx?NewsID=9530000055677
“More Red Arsenal on Show,” The Straits Times, May 23, 2010.
HYPERLINK "http://www.straitstimes.com/BreakingNews/SEAsia/Story/
STIStory_530261.html"http://www.straitstimes.com/BreakingNews/
SEAsia/Story/STIStory_530261.html
Jocelyn Gecker, “Thai Troops Open Fire on Red Shirt Protesters in
Bangkok,” Associated Press, May 20, 2010.
HYPERLINK "http://www.adelaidenow.com.au/thai-troops-open-fire-on-
red-shirt-protesters-in-bangkok/story-e6frea6u-1225868598260" http://
www.adelaidenow.com.au/thai-troops-open-fire-on-red-shirt-protesters-in-
bangkok/story-e6frea6u-1225868598260
Tan Lian Choo, “Clashes Provoked by Group Bent on Revolt: Suchinda,”
The Straits Times, May 20, 1992..
“‘Drastic Action’ to Quell Protest,” Bangkok Post, May 18, 1992.
“Shootings Were in Self-Defence, Says Spokesman,” The Nation, May 20,
1992.
Thongchai Winichakul, “Remembering/Silencing the Traumatic Past: The
Ambivalence Narratives of the October 6, 1976 Massacre in Bangkok,” in
Cultural Crisis and Social Memory: Modernity and Identity in Thailand and
Laos, eds. Charles F. Keyes and Shigeharu Tanabe (London: Routledge/
Curzon, 2002), 243-283.

Edward M. Wise, “Aut Dedere Aut Judicare: The Duty to Prosecute or


Extradite,” in International Criminal Law, 2nd Edition, ed. M. Cherif
Bassiouni (New York: Transnational Publishers, 1998), pp. 18-19.
ดู ICCPR ข้อ (6)(1) ประกันการคุม ้ ครองจากการฆ่าตามอําเภอใจ
ประเทศไทยเข้าเป็นภาคี ICCPR เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2539
ความเห็นทั่วไปของคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ลําดับที่
13, ลักษณะของพันธกรณีตามกฎหมายทัว ่ ไปทีม
่ ต
ี อ
่ รัฐภาคีของกติกาฯ, ออก
เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2547 (ความเห็นลําดับที่ 31), ย่อหน้า 8 (ตัวเน้นเป็นของผู้
เขียน)
ความเห็นลําดับที่ 31, ย่อหน้า 15 (ตัวเน้นเป็นของผู้เขียน)
ความเห็นลําดับที่ 31, ย่อหน้า 18 (ตัวเน้นเป็นของผู้เขียน)
ICCPR, ข้อ (6)(1)
ICCPR, ข้อ 7
ICCPR, ข้อ 9 (1)
UNGA Res. 63/182, 16 March 2009, pars. 1-3.
เพิง่ อ้าง, ย่อหน้า 3.
เพิง่ อ้าง, ย่อหน้า 6(b).
เพิง่ อ้าง, ย่อหน้า 6(b).
รายงานของผู้รายงานพิเศษแห่งสหประชาชาติว่าด้วยการวิสามัญฆาตกรรม
การสังหารอย่างรวบรัดตัดตอนหรือตามอําเภอใจ, UN Doc. E/CN.4/2005/7,
22 ธันวาคม 2547, ย่อหน้า 6.
รายงานของผู้รายงานพิเศษแห่งสหประชาชาติว่าด้วยการวิสามัญฆาตกรรม
การสังหารอย่างรวบรัดตัดตอนหรือตามอําเภอใจ, UN Doc. A/HRC/14/24,
20 พฤษภาคม 2553, ย่อหน้า 34 (ตัวเน้นเป็นของผู้เขียน).
เพิง่ อ้าง, ย่อหน้า 35.
เพิง่ อ้าง.
เพิง่ อ้าง, ย่อหน้า 34.
ดู Prosecutor v. Tadic, คดีหมายเลข IT-94-1-T, ความเห็นและคําตัดสินเมือ ่
วันที่ 7 พฤษภาคม 2540 (องค์คณะตุลาการ), ¶ 710 (องค์ประกอบของ
อาชญากรรมรวมถึง “สิง่ ทีเ่ ป็นทางกายภาพ เศรษฐกิจ หรือทางตุลาการ ที่
ละเมิดสิทธิของปัจเจกบุคคลในการมีสท ิ ธิพน ้ื ฐานของตนอย่างเท่าเทียม
เป็นต้น)”) (ตัวเน้นที่สองเป็นของผู้เขียน).
Kupreškić, ¶ 621.
เพิง่ อ้าง, ¶ 636.
เพิง่ อ้าง, ¶¶ 630-31.
เพิง่ อ้าง, ¶ 619, n. 897.
เพิง่ อ้าง, ¶¶ 611-12.
เพิง่ อ้าง, ¶¶ 630-31.
กฎบัตรของคณะตุลาการทหารระหว่างประเทศ (The Charter of the
International Military Tribunal), ข้อ 6 (ค), บัญญัตว ิ า
่ อาชญากรรมต่อ
มนุษยชาติคือ “การฆาตกรรม การทําให้สน ้ิ ชีวต ิ การทําให้เป็นทาส การ
เนรเทศ และการกระทําที่ไร้มนุษยธรรมอื่นๆ ทีก ่ ระทําต่อประชากรพลเรือน ...
โดยกฎหมายหรือโดยสืบเนื่องกับอาชญากรรมใดๆ ภายใต้ขอบเขตอํานาจ
พิจารณาความของคณะตุลาการนี”้ (ตัวเน้นเป็นของผู้เขียน).
ธรรมนูญกรุงโรมฯ, ข้อ 7(1).
ธรรมนูญกรุงโรมฯ, ข้อ 7(1), 7(2)(ก).
“Pre-Trial Chamber II,” Situation in the Republic of Kenya,
ICC-01/09-19, para. 81.
เพิง่ อ้าง, ย่อหน้า 82.
เพิง่ อ้าง, ย่อหน้า 94-96.
เพิง่ อ้าง, ย่อหน้า 84 (ตัวเน้นเป็นของผู้เขียน), อ้างถึง Pre-Trial Chamber I,
Decision on the confirmation of charges, ICC-01/04-01/07-717, ย่อหน้า
396.
ICTY, Prosecutor v. Blaskic, คดีหมายเลข IT-95-14-T, คําพิพากษาเมือ ่ วัน
ที่ 3 มีนาคม 2543, ย่อหน้า 204.
Antonio Cassese, International Criminal Law, Second Edition (Oxford:
Oxford University Press, 2008), pp. 98-99.
ดู Pre-Trial Chamber II, Situation in the Republic of Kenya,
ICC-01/09-19, para. 89, อ้างถึง ICTY, Prosecutor v. Blaskic,คดีหมายเลข
IT-95-14-T, คําพิพากษาเมือ ่ วันที่ 3 มีนาคม 2543, ย่อหน้า 205.
Reporters Without Borders, “Thailand: Licence to Kill,” July 2010.
HYPERLINK "http://en.rsf.org/IMG/pdf/
REPORT_RSF_THAILAND_Eng.pdf" http://en.rsf.org/IMG/pdf/
REPORT_RSF_THAILAND_Eng.pdf
Prosecutor v. Akayesu, ICTR TC, 2 September 1998, Case No.
ICTR-96-4-T, at 589-590; ดูเพิม ่ เติม Cassese, o.c., p. 109.
Prosecutor v. Blaskic, ICTY TC, 3 March 2000, Case No. IT-95-14-T, at
247, 251.
Prosecutor v. Kunarac and others, ICTY TC, 22 February 2001, Case No.
IT-96-23-T, at 434.
"บรรหาร-เนวิน" ขวางพรรคร่วมถอนตัว คาด "อภิสท ิ ธิ"์ ลาออกหลังลุยม็อบ
แดงจบ อาจยืดเยือ ้ อีก 1 สัปดาห์,” Matichon, May 17, 2010.
HYPERLINK "http://www.matichon.co.th/news_detail.php?
newsid=1274104360&catid=01" http://www.matichon.co.th/
news_detail.php?newsid=1274104360&catid=01
"จตุพร"ปูดทหารแตงโมแฉแผน"อนุพงษ์" สัง่ 9ข้อ4ขั้นจัดการแดงให้จบใน 7
วัน ห้ามพลาด อ้างสูญเสีย500ก็ยอม, Matichon, April 20, 2010.
HYPERLINK "http://www.matichon.co.th/news_detail.php?
newsid=1271686129&grpid=10&catid=01" http://www.matichon.co.th/
news_detail.php?newsid=1271686129&grpid=10&catid=01
“Sansern: 500 Terrorists Infiltrating Reds,” Bangkok Post, May 14, 2010.
HYPERLINK "http://www.bangkokpost.com/breakingnews/177896/500-
terrorists-blending-with-reds-sansern" http://www.bangkokpost.com/
breakingnews/177896/500-terrorists-blending-with-reds-sansern
Pokpong Lawansiri, “Thai Fact-Finding Committee Falls Short,” The
Irrawaddy, June 28, 2010.
HYPERLINK "http://www.irrawaddy.org/opinion_story.php?
art_id=18817&page=2"http://www.irrawaddy.org/opinion_story.php?
art_id=18817&page=2
“Kanit Soon to Pass on List of Independent Committee to PM,” National
New Bureau of Thailand Public Relations Department, June 28, 2010.
HYPERLINK "http://thainews.prd.go.th/en/news.php?
id=255306280033"http://thainews.prd.go.th/en/news.php?id=255306280033
Atiya Achakulwisut, “Reconciliation Will Have Its Price,” Bangkok Post,
June 15, 2010.
HYPERLINK "http://www.bangkokpost.com/opinion/opinion/38778/
reconciliation-will-have-its-price"http://www.bangkokpost.com/opinion/
opinion/38778/reconciliation-will-have-its-price
Achara Ashayagachat, “Mixed Reactions to Kanit Panel,” Bangkok Post,
July 8, 2010.
HYPERLINK "http://www.bangkokpost.com/news/politics/185193/mixed-
reactions-on-kanit-panel" http://www.bangkokpost.com/news/politics/
185193/mixed-reactions-on-kanit-panel
Nirmal Ghosh, “Ex-PM, Scholar to Mediate in Thailand,” The Straits
Times, June 19, 2010.
HYPERLINK "http://www.asianewsnet.net/news.php?
id=12601&sec=1"http://www.asianewsnet.net/news.php?id=12601&sec=1
Somchai Phatharathananunth, Civil Society and Democratization
(Copenhagen: NIAS Press, 2006).
For an overview, see Bangkok Pundit (pseud.), “Thailand: Road Map for
Reconciliation UPDATE,” Bangkok Pundit, June 22, 2010.
HYPERLINK "http://us.asiancorrespondent.com/bangkok-pundit-blog/road-
map-for-reconciliation"http://us.asiancorrespondent.com/bangkok-pundit-
blog/road-map-for-reconciliation
Wannapa Khaopa, “Pornthip Named Most Trustworthy Person in the
Country,” The Nation, February 26, 2010.
HYPERLINK "http://www.nationmultimedia.com/home/2010/02/26/
national/Pornthip-named-most-trustworthy-person-in-the-
coun-30123440.html"http://www.nationmultimedia.com/home/2010/02/26/
national/Pornthip-named-most-trustworthy-person-in-the-
coun-30123440.html
“Police: Residual C4 Chemical Found on Oct 7 Victim,” National New
Bureau of Thailand Public Relations Department, February 25, 2009.
HYPERLINK "http://thainews.prd.go.th/en/news.php?
id=255202250025"http://thainews.prd.go.th/en/news.php?id=255202250025
Piyanuch Thamnukasetchai, “No Explosive Residue: Pornthip,” The
Nation, October 11, 2008.
HYPERLINK "http://www.nationmultimedia.com/2008/10/11/national/
national_30085759.php"http://www.nationmultimedia.com/2008/10/11/
national/national_30085759.php
“Explosives Expert Tests 'Black Box' of 'Bomb Detector',” BBC News,
January 27, 2010.
HYPERLINK "http://news.bbc.co.uk/2/hi/programmes/newsnight/
8483200.stm"http://news.bbc.co.uk/2/hi/programmes/newsnight/
8483200.stm
Simon de Bruxelles, “Head of ATSC 'Bomb Detector' Company Arrested
on Suspicion of Fraud,” The Times, January 22, 2010.
HYPERLINK "http://www.timesonline.co.uk/tol/news/uk/
article6997859.ece" http://www.timesonline.co.uk/tol/news/uk/
article6997859.ece
Michael Peel and Sylvia Pfeifer, “Police Conduct Raids in Bomb Detector
Probe,” Financial Times, June 8, 2010.
HYPERLINK "http://www.ft.com/cms/s/0/
ba30e518-72f5-11df-9161-00144feabdc0.html" http://www.ft.com/cms/s/0/
ba30e518-72f5-11df-9161-00144feabdc0.html
Supalak Ganjanakhundee, “Money Wasted on So-Called Bomb Detectors,”
The Nation, January 29, 2010.
HYPERLINK "http://www.nationmultimedia.com/search/read.php?
newsid=30121417&keyword=gt200"http://www.nationmultimedia.com/
search/read.php?newsid=30121417&keyword=gt200
Bangkok Pundit (pseud.), “How Did Dr. Pornthip Detect Explosive
Residue on the Rohingya Boat?,” Bangkok Pundit, February 10, 2010.
HYPERLINK "http://us.asiancorrespondent.com/bangkok-pundit-blog/so-
how-did-dr.-pornthip-detect-the-explosive-residue-on-the-rohingya-
boat"http://us.asiancorrespondent.com/bangkok-pundit-blog/so-how-did-dr.-
pornthip-detect-the-explosive-residue-on-the-rohingya-boat
“Porntip Takes Chula Flak over Grenade Attack Theory,” Bangkok Post,
June 5, 2010.
HYPERLINK "http://www.bangkokpost.com/news/politics/36864/porntip-
takes-chula-flak-over-grenade-attack-theory"http://www.bangkokpost.com/
news/politics/36864/porntip-takes-chula-flak-over-grenade-attack-theory
“Porntip: Troop Killed in Don Muang Clash Not Killed by Friendly Fire,”
The Nation, May 4, 2010.
HYPERLINK "http://www.nationmultimedia.com/home/Porntip-Troop-
killed-in-Don-Muang-clash-not-killed-30128559.html"http://
www.nationmultimedia.com/home/Porntip-Troop-killed-in-Don-Muang-
clash-not-killed-30128559.html
“Khunying Pornthip to Gather Evidence on Seh Daeng’s Assassination
Attempt,” National New Bureau of Thailand Public Relations Department,
May 14, 2010.
HYPERLINK "http://thainews.prd.go.th/en/news.php?
id=255305140044"http://thainews.prd.go.th/en/news.php?id=255305140044
“Six Bodies Found in Safe-Zone Temple Show Signs of Execution,”
National New Bureau of Thailand Public Relations Department, May 21,
2010.
HYPERLINK "http://thainews.prd.go.th/en/news.php?
id=255305210020"http://thainews.prd.go.th/en/news.php?id=255305210020
Andrew Buncombe, “Eyewitness: Under Fire in Thailand,” The
Independent, May 20, 2010.
HYPERLINK "http://www.independent.co.uk/news/world/asia/eyewitness-
under-fire-in-thailand-1977647.html"http://www.independent.co.uk/news/
world/asia/eyewitness-under-fire-in-thailand-1977647.html
“DSI to Deliberate 153 UDD Cases,” Bangkok Post, June 14, 2010.
HYPERLINK "http://www.bangkokpost.com/breakingnews/181227/dsi-to-
deliberate-on-153-udd-cases"http://www.bangkokpost.com/breakingnews/
181227/dsi-to-deliberate-on-153-udd-cases
ICCPR, Article14, including sections3(b) and 3(e).
ICCPR, Art. 14, Sec. 3(e).
A copy of our letter to the Thai authorities can be downloaded here:
HYPERLINK "http://robertamsterdam.com/thailand/wp-content/uploads/
2010/06/Letter-to-Thai-Authorities-Demanding-Investigation-and-Access-
to-Evidence-June-29-2010-_Final-Corrected__.pdf" http://
robertamsterdam.com/thailand/wp-content/uploads/2010/06/Letter-to-Thai-
Authorities-Demanding-Investigation-and-Access-to-Evidence-
June-29-2010-_Final-Corrected__.pdf.

PAGE

PAGE 5

You might also like