You are on page 1of 2

เรียนรูอ

้ ย่างมีความสุขไปก ับห้องเรียนครูจ ักจน


่ั
วราภรณ์ เฉิดดิลก
ครู
ร.ร.ราชประชานุเคราะห์ ๒๗ จังหวัดหนองคาย
สำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ
สำนักงานเขตพืน
้ ทีก
่ ารศึกษามัธยมศึกษาที่ 21 จังหวัดหนองคาย
wcherd@hotmail.com
http://krujukjun.wordpress.com

จากการทีไ่ ด ้เข ้าร่วมโครงการพัฒนาศักยภาพบุคลากรและส่งเสริมการใช ้ Social Media ใน


การจัดการเรียนรู ้ ในครัง้ นีร้ ู ้สึกประทับใจมากๆเลย เพราะเป็ นการอบรมทีร่ ู ้สึกว่าลุ ้นมากๆถึงมากทีส ่ ด
ุ (
กลัวว่าจะไม่ได ้เข ้าร่วมอบรมเหมือนคนอืน ่ ) และสุดท ้ายแล ้วก็ได ้เข ้ามาเป็ นส่วนหนึง่ ของครอบครัว
Social Media ซึง่ มีความสุขมากเมือ ่ ได ้มาเจอพี่ ๆ เพือ ่ น ๆ และน ้อง ๆ ในคราวทีม ่ าอบรม/สัมมนาใน
แต่ละครัง้ ทัง้ ๆ ทีพ ่ วกเราไม่เคยรู ้จักกันมาก่อน หลังจากทีไ่ ด ้เข ้ามาร่วมเรียนรู ้ได ้นำความรู ้ทีไ่ ด ้รับมา
จัดกิจกรรมการเรียนการสอนให ้กับเด็กๆทีต ่ ัวเองรับผิดชอบโดยผ่านบล็อกของครูไม่วา่ จะเป็ นการตอบ
คำถาม การแสดงความคิดเห็น แม ้กระทั่งการบันทึกเหตุการณ์ตา่ งๆ ทีเ่ จอในระหว่างเรียน ซ งึ่ เมือ ่ ได ้เครือ
่ งมือออนไลน์นี้ เข ้ามา
มีบทบาทในการจัดการเรียนการสอนของครูรู ้ได ้เลยว่า เด็กๆสนุกสนานกับการเรียนรู ้ ซึง่ สิง่ ทีค ่ รูได ้นำ Social Media หรือ Social
Network เข ้ามามีบทบาทในชัน ้ เรียนไม่วา่ จะเป็ น Facebook , Google Site (ซึง่ ได ้จัดกิจกรรมการเรียนรู ้ในภาคเรียนแรกนัน ้ )
ทำให ้ครูได ้รู ้จักเด็กๆอีกทางหนึง่ ด ้วยหรือเรียกอีกอย่างหนึง่ ว่า “การรู ้จักผู ้เรียนเป็ นรายบุคคล” นั่นเอง
การจัดการเรียนรู ้โดยอาศัย Social Media หรือ Social Network นัน ้ เป็ นเครือ
่ งมือในการจัดการเรียนรู ้ของครูได ้เป็ น
อย่างดีอก ี ทางเลือกหนึง่ โดยครูเพียงแค่เป็ นผู ้ทีค ่ อยชีแ้ นะ ให ้คำแนะนำกับนักเรียน ซึง่ การจัดการเรียนรู ้แบบนีเ้ หมือนกับว่าได ้
นำเอาทฤษฎี “Constructionism” หรือ ”ทฤษฎีการสร ้างความรู ้ด ้วยตนเองโดยการสร ้างสรรค์ชน ิ้ งาน” ซึง่ แนวคิดของทฤษฎีนี้
กล่าวว่า การเรียนรู ้ทีด ่ เี กิดจากการสร ้างพลังความรู ้ในตนเอง ไปสร ้างสรรค์ชน ิ้ งานโดยอาศัยสือ ่ และ
เทคโนโลยีทเี่ หมาะสม จะทำให ้เห็นความคิดนัน ้ เป็ นรูปธรรมทีช่ ดั เจน ซึง่ จะเห็นได ้ว่าหากเรานำ
Social Media หรือ Social Network มาใช ้ให ้เกิดประโยชน์ เห็นคุณค่าและนำมาจัดกิจกรรมการ
เรียนรู ้ให ้กับนักเรียนอย่างถูกต ้องแล ้ว จะทำให ้นักเรียนเกิดการ
สร ้างสรรค์ชน ิ้ งานทีแ ่ ปลกใหม่ตามแนวคิดของนักเรียนเอง อีกทัง้ เมือ ่ จบ
การศึกษาตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขัน ้ พืน
้ ฐาน พุทธศักราช
2551 จะทำให ้นักเรียนบรรลุตามจุดหมายของหลักสูตร และยังช่วยให ้
นักเรียนเกิดสมรรถนะสำคัญทัง้ 5 ประการอีกด ้วย โดยสมรรถนะทีเ่ ห็นเด่นชัดทีส ่ ด
ุ คือ ความสามารถ
ในการสือ ่ สาร ตามด ้วย ความสามารถในการใช ้เทคโนโลยี ความสามารถในการคิด ความสามารถใน
การแก ้ปั ญหาและความสามารถในการใช ้ทักษะชีวต ิ

จะเห็นได ้ว่า Social Media หรือ Social Network เป็ นอีกหนึง่ วิธท ี่ ะทำให ้นักเรียนมีสว่ นร่วมในการเรียนรู ้สูง และ
ี จ
สร ้างโอกาสการเรียนรู ้ทีท ่ ้าทายให ้แก่นักเรียน ซึง่ ครูจะต ้องออกแบบบทเรียนให ้มีกจิ กรรมทีใ่ ห ้นักเรียนอ่านและตีความจาก
แหล่งข ้อมูล เพือ ่ หาคำตอบของประเด็นทีไ่ ด ้รับมอบหมายให ้ศึกษาหรือทีน ่ ักเรียนสนใจศึกษา ดังนัน ้
ครูจงึ ควรเล็งเห็นความสำคัญของการนำ Social Media หรือ Social
Network ทีม ่ อ ่ ล ้วอย่าง Facebook หรือแม ้กระทั่งมาใช ้กับการจัดการ
ี ยูแ
เรียนรู ้ ซึง่ ครูสว่ นมากจะมองว่า Social Media หรือ Social Network
เป็ นสิง่ ทีไ่ ม่มปี ระโยชน์เหมือนกับการทีค ่ รูจัดการเรียนการสอนแบบเดิมๆ
คือการสอนแบบบรรยาย ครูก็สอนบนกระดาน นักเรียนก็จดตามทีค ่ รูสอน
หรือบอกนั่นเอง ส่วน Social Media หรือ Social Network ทีใ่ ช ้จัดการ
เรียนรู ้ให ้กับนักเรียนมีหลากหลาย (ซึง่ ได ้เข ้าร่วมรับความรู ้จากหลายหน่วยงานทีจ ่ ัดขึน
้ เช่น สำนัก
เทคโนโลยีเพือ ่ การเรียนการสอน ,โครงการเทคโนโลยีสารสนเทศตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนฯราชสุดา สยามบรมราช
กุมารี) อาทิ bubbl.us ใช ้ในการสร ้าง Mind Mapping (http://www.bubbl.us) Photopeach ใช ้ในการเล่าเรือ ่ งหรือบรรยาย
่ งราวต่าง ๆ (http://www.photopeach.com) Wikispaces ใช ้ทำงานร่วมกัน (http://www.wikispaces.com) ทีล
เรือ ่ ม
ื ไม่ได ้ก็
คือของดีทเี่ ราทุกคนรู ้อยูแ ่ ล ้วนัน
้ ก็คอื Google Apps (http://www.google.co.th) ซึง่ มีอยูม ่ ากมาย เช่น Google site ,Google
docs เป็ นต ้น
ส่วนปั ญหา/อุปสรรคในการนำ Social Media หรือ Social Network มาใช ้ในการจัดการเรียนรู ้นัน ้ แทบจะไม่มห ี รือมี
น ้อยมากๆ หากว่าทุกโรงเรียนให ้ความสำคัญกับทรัพยากรการเรียนรู ้อย่างคอมพิวเตอร์และระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ ตทีด ่ พ
ี อแค่
นัน
้ เอง ปั ญหาในการจัดการเรียนรู ้ก็พอมีอยูบ
่ ้างเมือ
่ ครูไม่อยูห่ รือเข ้าร่วมประชุม /อบรม/สัมมนา แต่ก็สามารถแก ้ไขได ้โดยการสัง่
งานผ่าน Social Media หรือ Social Network เพือ ่ ให ้นักเรียนได ้สร ้างสรรค์ชนิ้ งานได ้เมือ
่ ครูไม่อยูน
่ ั่นเอง

สุดท ้ายแต่ไม่ท ้ายสุด...อยากฝากบอกเพือ ่ นร่วมวิชาชีพทุกท่านว่า อยากให ้เห็นความสำคัญของการนำ Social Media


หรือ Social Network มาใช ้ เพราะมันมีประโยชน์มากจริง ๆ ใช ้สิง่ ทีพ ่ วกเราคิดว่ามันไม่มป ่ งไร ้สาระมาใช ้ให ้เกิด
ี ระโยชน์เป็ นเรือ
ประโยชน์พลิกวิกฤตให ้เป็ นโอกาสเพือ ่ ลดความเหลือ ่ มล้ำระหว่างโรงเรียนเล็กๆและโรงเรียนขนาดใหญ่
ท ้ายสุด...ฝากถึงผู ้ใหญ่ใจดีทก
ุ หน่วยงานทีเ่ ป็ นหน่วยงานต ้นสังกัด ตัง้ แต่กระทรวงศึกษาธิการ สำนักงานคณะ
กรรมการการศึกษาขัน ้ พืน
้ ฐาน สำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ สำนักงานเขตพืน ้ ทีม
่ ัธยมศึกษาที่ 21 เล็งเห็นความสำคัญ
ของการนำ Social Media หรือ Social Network มาใช ้ในการจัดการเรียนรู ้ รวมถึงอยากให ้จัดหาทรัพยากรการเรียนรู ้ทีสำ ่ คัญ
คือ เครือ
่ งคอมพิวเตอร์และระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ ตทีม ่ ากเพียงพอกับจำนวนนักเรียน หากทุกโรงเรียนมีการนำ Social Media
หรือ Social Network มาใช ้คิดว่าในอนาคตเด็กไทยจะเป็ นคนเก่ง คนดี และอยูร่ ว่ มกับสังคมอย่างมีความสุข

You might also like