Professional Documents
Culture Documents
จะเห็น ได ้ว่า Social Media หรือ Social Network เป็ นอีกหนึง่ วิธ ท ี จ ี่ ะทำให ้นักเรีย นมีสว่ นร่วมในการเรียนรู ้สูง และ
สร ้างโอกาสการเรียนรู ้ทีท ่ ้าทายให ้แก่นักเรียน ซ งึ่ ครูจะต ้องออกแบบบทเรียนให ้มีกจิ กรรมทีใ่ ห ้นักเรียนอ่านและตีความจาก
แหล่งข ้อมูล เพือ ่ หาคำตอบของประเด็นทีไ่ ด ้รับมอบหมายให ้ศึกษาหรือทีน ่ ักเรียนสนใจศึกษา ดังนัน ้ ครูจงึ ควรเล็งเห็น ความ
สำคัญของการนำ Social Media หรือ Social Network ทีม ่ อ ่ ล ้วอย่าง Facebook หรือแม ้กระทั่งมาใช ้กับการจัดการเรียนรู ้ ซึง่
ี ยูแ
ครูสว่ นมากจะมองว่า Social Media หรือ Social Network เป็ นสิง่ ทีไ่ ม่มป ี ระโยชน์เหมือนกับการทีค ่ รูจัดการเรียนการสอนแบบ
เดิมๆ คือการสอนแบบบรรยาย ครูก็สอนบนกระดาน นักเรียนก็จดตามทีค ่ รูสอนหรือบอกนั่นเอง ส่วน Social Media หรือ Social
Network ทีใ่ ช ้จัดการเรีย นรู ้ให ้กับ นัก เรีย นมีห ลากหลาย (ซ งึ่ ได ้เข ้าร่ว มรับ ความรู ้จากหลายหน่ว ยงานทีจ ่ ัด ขึน
้ เช น่ สำนัก
เทคโนโลยีเพือ ่ การเรียนการสอน ,โครงการเทคโนโลยีสารสนเทศตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนฯราชสุดา สยามบรมราช
กุมารี) อาทิ bubbl.us ใช ้ในการสร ้าง Mind Mapping (http://www.bubbl.us) Photopeach ใช ้ในการเล่าเรือ ่ งหรือบรรยาย
่ งราวต่าง ๆ (http://www.photopeach.com) Wikispaces ใช ้ทำงานร่วมกัน (http://www.wikispaces.com) ทีล
เรือ ่ ม
ื ไม่ได ้ก็
คือของดีทเี่ ราทุกคนรู ้อยูแ
่ ล ้วนัน ื Google Apps (http://www.google.co.th) ซึง่ มีอยูม
้ ก็คอ ่ ากมาย เช่น Google site ,Google
docs เป็ นต ้น
ส่วนปั ญหา/อุปสรรคในการนำ Social Media หรือ Social Network มาใช ้ในการจัดการเรียนรู ้นัน ้ แทบจะไม่มห ี รือมี
น ้อยมากๆ หากว่าทุกโรงเรียนให ้ความสำคัญกับทรัพยากรการเรียนรู ้อย่างคอมพิวเตอร์และระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ ตทีด ่ พ
ี อแค่
นัน
้ เอง ปั ญหาในการจัดการเรียนรู ้ก็พอมีอยูบ ่ ้างเมือ
่ ครูไม่อยูห่ รือเข ้าร่วมประชุม /อบรม/สัมมนา แต่ก็สามารถแก ้ไขได ้โดยการสัง่
งานผ่าน Social Media หรือ Social Network เพือ ่ ให ้นักเรียนได ้สร ้างสรรค์ชน ิ้ งานได ้เมือ
่ ครูไม่อยูน
่ ั่นเอง