Professional Documents
Culture Documents
*นักวิชาการเกษตรชานาญการพิเศษ กลุ่มส่ งเสริ มไม้ดอกและไม้ประดับ สานักส่ งเสริ มและจัดการสิ นค้าเกษตร กรมส่ งเสริ มการเกษตร
ต่อไร่ สูง ต้นหนึ่ งให้ดอกมากกว่า 6-8 ดอก โรค และแมลงรบกวนน้อย และสามารถจาหน่ ายได้ง่าย ตลาดต้องการ
ค่อนข้างสม่ าเสมอ โดยเฉพาะโรงงานอุ ตสาหกรรม ร้ านค้าไม้ดอกไม้ประดับ และการจัดดอกไม้ รวมไปถึ งการ
ส่ งออกต่างประเทศ เป็ นไม้ดอกที่นามาใช้ประโยชน์ในหลายด้าน อาทิ ใช้ประดับตกแต่ง เสริ มในอาหารสัตว์ การ
สกัดสี ส่ วนผสมของเวชภัณฑ์ เครื่ องสาอาง เครื่ องดื่มสุ ขภาพ รวมไปถึงเป็ นสารขับไล่แมลงหรื อกาจัดศัตรู พืช
นอกจากนี้ คนไทยมีความเชื่ อว่า หากปลูกดาวเรื องไว้ริมรั้ ว หรื อในบ้าน จะเป็ นมงคลเสริ มชะตา
ชีวติ ให้รุ่งเรื อง มีความก้าวหน้าในอาชีพ โดยเฉพาะสี เหลืองทองเปรี ยบเหมือนหนุนให้มีเงินทองเต็มบ้าน
ลักษณะทัว่ ไปของดาวเรือง
ดาวเรื องเป็ นพืชล้มลุก อายุประมาณ 4-5 เดือน สู งประมาณ 0.5-4.0 ฟุต ใบเป็ นใบประกอบ มี
ลักษณะเรี ยวยาว รู ปหอก ปลายแหลมขอบหยัก ออกดอกเป็ นช่อกระจุกเดี่ยวที่ปลายยอด ดอกมีลกั ษณะเป็ นแบบดอก
รวม ประกอบด้วยดอกย่อยเล็ก ๆ เป็ นจานวนมาก อัดซ้อนกันแน่นอยูบ่ นฐานรองดอก ดอกมีสีเหลือง ส้ม ครี ม และ
ขาว มีต้ งั แต่ขนาดเล็ก คือประมาณเส้นผ่านศูนย์กลางดอก 1 นิ้ว จนถึงขนาดใหญ่ประมาณ 4 นิ้ว และเมื่อตัดลาต้น กิ่ง
ก้านหรื อใบของดาวเรื อง จะมีกลิ่นเหม็น จึงทาให้แมลง
ไม่ค่อยรบกวน นอกจากนี้ ภายในรากของดาวเรื องมีสารชนิดหนึ่งคือ แอลฟ่ า เทอร์ เธี ยนิล (alfa - terthienyl) ซึ่งเป็ น
สารที่สามารถควบคุมปริ มาณไส้เดือนฝอยในดินได้เป็ นอย่างดี
ประเภทของดาวเรือง
พันธุ์ทเี่ หมาะสาหรับประเทศไทย
การปลูกดาวเรือง
การปลูกดาวเรื องเป็ นขั้นตอนเริ่ มตั้งแต่การเตรี ยมแปลงปลูก การย้ายกล้ามาปลูกในแปลง รวมถึงการปฏิบตั ิดูแล โดย
มีรายละเอียดขั้นตอนดังนี้
1. การเตรียมแปลงปลูก
ดินที่ที่จะใช้ปลูกดาวเรื องควรเป็ นดินที่ระบายน้ าได้ดี เก็บรักษาความชื้นได้สูง และมีค่าความเป็ นกรดเป็ น
ด่างประมาณ 6-5-7.5 ในขณะที่เตรี ยมดินนั้น ควรใส่ ปุ๋ยคอกหรื อปุ๋ ยหมักลงไปด้วย เพื่อเมธาตุอาหารและปรับ
โครงสร้างให้ดินโปร่ ง ควรขุดพลิกหน้าดินไว้ประมาณ 1-2 สัปดาห์ เพื่อทาลายเชื้อโรคและแมลงศัตรู พืช แปลงควรมี
ขนาดกว้างประมาณ 1 เมตร ความยาวตามความเหมาะสมของพื้นที่ จากนั้นจึงย่อยดินให้ละเอียดและปรับหน้าแปลง
ให้เรี ยบ แล้วจึงปลูกดาวเรื องโดยให้แต่ละแถวห่างกัน 30 ซ.ม และระยะระหว่างต้นห่างกัน 30 ซ.ม เช่นกัน ถ้าพื้นที่
ปลูกเป็ นแปลงขนาดใหญ่ ให้เว้นทางเดินระหว่างแปลงประมาณ 80 ซ.ม แต่ถา้ เป็ นที่ลุ่มและยกร่ องปลูกก็ไม่ตอ้ งเว้น
ทางเดินไว้ เพียงแต่เว้นขอบแปลงริ มร่ องน้ าไว้เล็กน้อยเพื่อใช้เป็ นทางเดิน
2. วิธีการปลูก
2.1 การเตรียมหลุมปลูก ขุดหลุมในแปลงโดยให้หลุมห่างกัน 30 เซนติเมตร และแต่ละแถวห่างกัน
30 เซนติเมตร รองก้นหลุมด้วยปุ๋ ยซูเปอร์ ฟอสเฟตหรื อปุ๋ ยสู ตร 15-15-15 อัตราหลุมละ1 ช้อนชา แล้วเกลี่ยดินกลบปุ๋ ย
เพื่อป้ องกันไม่ให้รากดาวเรื องสัมผัสปุ๋ ยโดยตรง
2.2 การย้ายกล้า ควรย้ายกล้าดาวเรื องในตอนเย็น ก่อนย้ายกล้ารดน้ าล่างหน้า 1 วัน หรื อรดน้ าตอน
เช้าแล้วย้ายกล้าตอนเย็น และควรใช้ชอ้ นปลูกขุดต้นกล้า เพื่อให้ดินติดรากต้นกล้ามาด้วย ต้นกล้าจะได้ไม่โทรมและ
ตั้งตัวได้เร็ ว
2.3 การปลูกต้ นกล้ า ปลูกต้นกล้าให้ปลูกหลุมละต้น โดยฝังต้นกล้าลงในหลุมให้โคนต้นอยูร่ ะดับ
ปากหลุมและกลบดินให้เสมอใบเลี้ยง จากนั้นจึงรี บรดน้ าให้ชุ่มตลอดเวลา
3. การปฏิบัติดูแลรักษา
3.1 การรดนา้ ในช่วงแรกคือ ตั้งแต่เริ่ มปลูกถึงอายุ 7 วัน ควรรดน้ าวันละ 2 ครั้ง เช้าและเย็นหลัง
จากนั้นรดน้ าวันละครั้งในตอนเช้าก็พอ และในช่วงที่ดอกเริ่ มบานจะต้องระวังอย่าให้น้ าถูกดอกดาวเรื อง เพราะจะทา
ให้ดอกเสี ยหายและถูกเชื้อโรคเข้าทาลายได้ง่าย
3.2 การใส่ ปุ๋ย เมื่อดาวเรื องมีอายุ 15 และ 25 วัน ควรใส่ ปุ๋ย สู ตร 15-15-15 อัตรา 1 ช้อนชาต่อหลุม
และเมื่อดาวเรื องมีอายุ 35 และ 45 วัน ควรใส่ ปุ๋ยสู ตร15-24-12 อัตรา 1 ช้อนชาต่อหลุม เช่นกัน การใส่ ปุ๋ยควรใส่ ให้
ห่างโคนต้นประมาณ 6 นิ้ว โดยฝังลงในดินประมาณครึ่ งนิ้ว จากนั้นควรพรวนดินรอบ ๆ โคนต้นและกลบโคนต้นไว้
การใส่ ปุ๋ยทุกครั้งจะต้องรดน้ าให้โชกเสมอ
3.3 การปลิดยอด นิยมเรี ยกว่า การเด็ดตุม้ หรื อการแต่งตุม้ ทาเพื่อให้ดาวเรื องแตกพุม่ และจะทาให้
ดอกดาวเรื องมีขนาดใหญ่ การปลิดยอดนี้ควรทาเมื่อดาวเรื องมีอายุ 21-25 วัน ซึ่ งเป็ นระยะที่ดาวเรื องมีใบจริ งขนาด
ใหญ่ประมาณ 4 คู่ และส่ วนยอดมีใบเล็ก ๆ ประมาณ 1-2 คู่ วิธีการปลิดยอดทาได้โดยใช้มือซ้ายจับใบคู่บนสุ ดที่
ต้องการเหลือไว้ แล้วใช้มือขวาดึงส่ วนยอดลงทางด้านข้าง เพื่อให้ยอดหลุดออกมา ไม่ควรเด็ดยอด เพราะจะทาให้
ส่ วนตาของยอดเหลือติดอยู่ ซึ่ งจะเจริ ญเป็ นดอกในภายหลัง ทาให้ดอกไม่เป็ นไปตามกาหนด คือดอกบานไม่พร้อม
กันและมีขนาดเล็ก ปกติดาวเรื องต้นหนึ่งควรไว้ดอก ประมาณ 8 ดอก จึงจะได้ดอกที่มีคุณภาพ
3.4 การปลิดตาข้ าง หลังจากการปลิดตายอดประมาณ 1 สัปดาห์ ตาข้างจะเริ่ มแตกขึ้นใหม่ เมื่อดอก
ที่ยอดมีขนาดประมาณเท่าเมล็ดข้าวโพด ให้ปลิดตาข้างออกให้หมด เพื่อไม่ให้ตาข้างเจริ ญเป็ นดอกต่อไป ซึ่ งจะทาให้
ดอกที่ยอดมีขนาดใหญ่ ก้านดอกยาว และมีขนาดสม่าเสมอ
4. การตัดดอก
ก่อนตัดดอกดาวเรื องเพื่อนาไปจาหน่ายประมาณ 2-3 วัน ควรใช้น้ าตาลทรายจานวน15 ลิตร ฉี ดพ่นใบ
ดาวเรื องทั้งด้านบนและด้านล่าง จะทาให้กา้ นดอกแข็งแรงขึ้น จากนั้นจึงทยอยตัดดอก อายุของดาวเรื องที่สามารถตัด
ดอกขายได้คือประมาณ 55-65 วัน หรื อให้สังเกตจากดอกที่ยงั มีกลีบดอกตรงกลางเป็ นสี เขียว อยูไ่ ด้นานกว่าดอกที่
บานทั้งหมด ในการตัดดอกนั้นควรตัดให้ชิดโคนกิ่งให้มากที่สุด จะทาให้กา้ นดอกที่ติดมามีขนาดยาว
ศัตรู ทสี่ าคัญดาวเรือง
โรค พบว่าโรคที่สาคัญและพบบ่อย ๆ ได้แก่
1. โรคเหี่ยว เป็ นโรคที่เกิดจากเชื้อราไฟทอปทอรา (Phytopthora) มักเกิดกับดาวเรื องที่ดอกกาลังเริ่ มทยอย
บาน ระยะแรกมีอาการคล้ายกับดาวเรื องขาดน้ า กล่าวคือ อาการเหี่ ยวจะแสดงในตอนกลางวันส่ วนกลางคืนอาการจะ
ปกติ หลังจากนั้นประมาณ 3 -4 วัน ดาวเรื องก็จะเหี่ ยวทั้งด้นและตายไปในที่สุด การป้ องกันกาจัด ใช้สารเคมีป้องกัน
และกาจัดเชื้อรา เช่น แมนโคเซ็ป ฉี ดพ่นสลับกับคาร์ เบนดาซิ มประมาณสัปดาห์ละครั้ง และถ้าพบมากต้นที่เป็ นโรค
และตายในแปลงต้องรี บกาจัดทิ้ง
แมลง โดยมีแมลงที่สาคัญดังนี้
1. ปลูกประดับเพือ่ ความสวยงาม
ดาวเรื องเป็ นไม้ดอกที่มีความสวยงาม กลีบดอกสี เหลืองเรี ยงอัดกันแน่น และมีอายุการใช้งานนาน ดังนั้นจึงเหมาะ
สาหรับปลูกเพื่อประดับอาคารบ้านเรื อนและสถานที่ต่าง ๆ เพื่อให้เกิดความเพลิดเพลินตา สบายใจ
3. ปลูกเพือ่ จาหน่ าย
3.2 ใช้ ปักแจกัน เนื่องจากดาวเรื องเป็ นไม้ดอกที่ลกั ษณะกลมเรี ยงตัวกันแน่นเป็ นระเบียบ และมีสีสันสวยงาม
จึงมีคนนิยมนามาปั กแจกันมาก ไม่วา่ จะเป็ นแจกันตั้งตามโต๊ะรับแขกตามหิ้งพระ หรื อแจกันประกอบโต๊ะหมู่บูชา
การตัดดอกดาวเรื องเพื่อนามาปั กแจกันนี้ควรตัดให้มีกา้ นดอกยาวประมาณ 18-20 นิ้ว มัดดอกดาวเรื องเป็ นกา ๆ แล้ว
ใช้กระดาษหนังสื อพิมพ์ห่อเพื่อให้ดอกดาวเรื องคงความสดอยูไ่ ด้นาน ๆ
3.3 การปลูกลงกระถางหรือถุงเพือ่ ประดับอาคารสถานที่ ปัจจุบนั มีการนากระถางหรื อถุงดาวเรื องมาประดับ
อาคารสถานที่มากขึ้น เพาะสามารถใช้ประดับได้เป็ นเวลานาน ไม่วา่ จะเป็ นงานพิธีต่าง ๆ เช่น งานนิทรรศการ
งานพระราชทานปริ ญญาบัตร หรื อแม้แต่งานพิธีตามอาคารบ้านเรื อน การปลูกดาวเรื องเพื่อใช้ประโยชน์ในด้านนี้
เหมือนกับการปลูกดาวเรื องโดยทัว่ ไป เพียงแต่เป็ นการปลูกลงในกระถางหรื อถุง แทนที่จะปลูกลงในแปลง พอดอก
ดาวเรื องเริ่ มบาน ก็นาไปใช้ประโยชน์หรื อจาหน่ายได้
3.4 จาหน่ ายให้ กบั โรงงานผลิตอาหารสั ตว์ เนื่องจากดาวเรื องเป็ นพืชที่สารแซนโธฟิ ล (Xanthophyll) สู ง
จึงสามารถนาไปเป็ นส่ วนผสมอากหารสัตว์ได้ดี โดยเฉพาะอาหารของของไก่ไข่ จะทาให้ไข่แดงมีสีแดงสดใสน่ากิน
ยิง่ ขึ้น
เอกสารอ้างอิง
พัชรี สาโรงเย็น และอภิชาติ ศรี สะอาด. 2555. คู่มือการเพาะปลูกไม้ ดอกพวงมาลัยป้อนตลาด. บริ ษทั นาคา อินเตอร์
มีเดีย จากัด, สมุทรสาคร 136 หน้า.
http://puechkaset.com ดาวเรื อง เข้าถึงวันที่ 1 กรกฎาคม 2559
http://www.mof.or.th/web/agriculture.php?id=50&cat=22 ดาวเรือง เข้าถึงวันที่ 1 กรกฎาคม 2559
ด้านล่างนี้ ไม่เอานะคะ
พิจารณาข้อความใหม่ครับ
ก 5.2 การปฏิบตั ิหลังการเก็บเกี่ยว น�ำาดอกไปผึ่งลมให้แห้ง หรื อถ้ามีความชื้นในอากาศสูงใช้พดั ลมเป่ า อย่าตากแดด และคัดแยก
ดอกตามเกรดที่ก�ำาหนด ส่วนใหญ่แยกเป็ นขนาดใหญ่ กลาง เล็ก แล้วใส่ถุง พลาสติกที่เจาะรู มัดปากถุงให้แน่นแล้วเตรี ยมส่งจ�
ำาหน่าย ใช้กรรไกรตัดดอกให้ติดก้านดอกยาว 5 - 10 เซนติเมตร. ตัดก้านดอกยาวประมาณ 5 - 10 เซนติเมตร. 5. การปฏิบตั ิก่อน
และหลังการเก็บเกี่ยว 5.1 การเก็บเกี่ยว อายุเก็บเกี่ยว 55 - 75 วัน ขึ้นกับพันธุ์ โดยตัดดอกที่บาน 80 - 90 % (กลีบดอกชั้นในตรง
กลางดอกเป็ นสี เขียว เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 0.5- 1 ซม) โดยใช้กรรไกรตัดดอกให้ติดก้านดอกยาวประมาณ 5 - 10 เซนติเมตร
เพื่อให้มีอายุการ เก็บรักษาได้นานขึ้น และหลังเก็บดอกครั้งแรกแล้วยังเก็บเกี่ยวดอกต่อได้อีกประมาณ 30 - 45 วัน 23
สภาพแวดล้อม ความเหมาะสม ข้อจากัด 1. สภาพภูมิอากาศ 1.1 อุณหภูมิที่เหมาะสมต่อการงอกของเมล็ด 1.2 อุณหภูมิที่เหมาะสม
ในการส่งเสริ มการออกดอก 1.3 แสงแดด 1.4 คาร์บอนไดออกไซด์ 1.5 ความเข้มของแสง 1.6 ความชื้นสัมพัทธ์(RH) - 22 - 27
องศาเซลเซียส - กลางวัน 14.5 - 28.6 องศาเซลเซียส กลางคืน 15.5 - 18.3 องศาเซลเซียส - อย่างน้อย 8 ชัว่ โมงต่อวัน - การเพิ่ม
คาร์บอนไดออกไซด์800 - 1,000 ppm ช่วย ส่งเสริ มการเจริ ญเติบโตให้มากขึ้นซึ่งควรเพิ่มอุณหภูมิ ในช่วงกลางวัน 1.11 - 1.66
องศาเซลเซียส ร่ วมด้วย จึงจะได้ผลดี - ความเข้มของแสงเพิ่มเติมที่ส่งเสริ มการเจริ ญเติบโต 450 - 700 แรงเทียน (foot-candle:fc.)
- 50 – 80 % - อุณหภูมิช่วงกลางวันสู ง 26.2 - 36.4 องศาเซลเซี ยส จะยับยั้งการเกิดตาดอก - เป็ นพืชวันสั้น ค่า critical day
length เท่ากับ 12.5 -13.0 ชัว่ โมง ดังนั้นต้องได้รับแสงน้อยกว่า critical day length จึงจะออกดอก ในช่วงวันยาวระหว่างเดือน
เมษายน- สิ งหาคม จะออกดอกช้ากว่าการปลูกในช่วงวันสั้น ระหว่าง เดือนตุลาคม - กุมภาพันธ์และคุณภาพดอกในช่วงวันสั้น จะ
ดีกว่าวันยาว - ความเข้มของแสงน้อยท�ำาให้จ�ำานวนดอกต่อต้นลด ลง ดังนั้นการปลูกในฤดูฝนซึ่งเป็ นช่วงวันยาวและมีความ
เข้ม ของแสงน้อย ท�ำาให้จ�ำานวนดอกต่อต้นน้อยลง 2. สภาพพื้นที่ 2.1 ความสูงเหนือระดับน�ำ้ำาทะเล 2.2 ความลาด
เอียงของพื้นที่ - 0 - 200 เมตร เหนือระดับน�ำ้ำาทะเล ไม่เกิน 0 - 2% - ในช่วงฤดูฝนน�ำ้ำาท่วมขังจะท�ำาให้เกิดโรคได้
ง่าย ข้อมูลสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมต่อการเจริ ญเติบโตและให้ผลผลิตของดาวเรื องตัดดอก 24 ข้
2.2 ระยะปลูก 30 - 40 X 30 - 40 เซนติเมตร แปลงปลูกกว้าง 1 - 1.2 เมตร ปลูกได้ 3 แถวต่อแปลง 2.3 จ�ำานวน
ต้นต่อไร่ ประมาณ 8,700 ต้นต่อไร่ 3. การดูแลรักษา 3.1 การใส่ ปุ๋ย 1) หลังย้ายปลูก 5 - 7 วัน ให้ปุ๋ยสู ตร 15-0-0 อัตรา
1 กิโลกรัมต่อน�ำ้ำา 100 ลิตร (ฤดูฝน) หรื อ ปุ๋ ยยูเรี ย สู ตร 46-0-0 อัตรา 1 กิโลกรัมต่อน�ำ้ำา 100 ลิตร (ฤดู
หนาว) รดไปบนดินบริ เวณโคนต้น โดยให้ปุ๋ยติดต่อกัน 2 ครั้ง โดยครั้งที่ 1 และ 2 ห่างกัน 7-10 วัน 2) ระยะกลบโคน
ต้น เมื่อดาวเรื องมีอายุ 20 - 25 วัน หรื อหลังจากให้ปุ๋ย ครั้งที่ 2 ประมาณ 5 - 10 วัน ใส่ ปุ๋ยสู ตร 15-15-15 หรื อ 13-13-
21 อัตรา 35 - 50 กิโลกรัมต่อไร่ และเมื่อดาวเรื องมีอายุ 35 และ 45 วัน ใส่ ปุ๋ยสู ตร 12-24-12 อัตรา 35 - 50 กิโลกรัมต่อ
ไร่ โรยปุ๋ ยรอบทรงพุม่ พร้อมกับพรวนดิน กลบโคนต้นและกา� จัดวัชพืช 3.2 การให้น�ำ้ำา 1) ช่วงย้ายปลูก
ประมาณ 7 วัน ให้น�ำ้ำาวันละ 2 ครั้ง เช้า- เย็น จนฟื้ นตัว 2) ช่วงการเจริ ญเติบโต ให้น�ำ้ำาประมาณ 7 วันต่อ
ครั้ง ขึ้นกับสภาพแวดล้อม 3) ช่วงเก็บเกี่ยว ควรให้นา �ำ้ ก่อนตัดดอก 2 วัน จะได้ดอกใหญ่ไม่เหี่ ยวง่าย ระหว่าง
ตัดดอกให้น�ำ้ำาทุก ๆ 2 วัน ขึ้นกับสภาพแวดล้อม 4. ศัตรู พืชที่ส�ำาคัญ 4.1 โรค ที่ส�ำาคัญได้แก ำ่ โรค
เหี่ ยวจากเชื้ อรา มักเกิดกับดาวเรื องที่โตเต็มที่ ดอกก�ำาลังจะบาน การป้ องกันก�ำาจัดโดยถอนต้นที่เป็ นโรค
เผาท�ำาลายทิ้ง และใช้สารเคมี ตามค�ำาแนะน�ำา 4.2 แมลง 1) เพลี้ยไฟ ระบาดมากในช่วงฤดูร้อน การ
ป้ องกันก�ำาจัดโดยใช้สารเคมีตาม ค�ำาแนะน�ำา 2) หนอนผีเสื้ อกลางคืน เข้าท�ำาลายในขณะที่ดอก
เริ่ มบาน การป้ องกันก�ำาจัด โดยใช้สารเคมีตามค�ำาแนะน�ำา
5. การปฏิบตั ิก่อนและหลังการเก็บเกี่ยว 5.1 การเก็บเกี่ยว อายุเก็บเกี่ยว 55 - 75 วัน ขึ้นกับพันธุ์ โดยตัดดอกที่บาน 80 -
90 % (กลีบดอกชั้นในตรงกลางดอกเป็ นสี เขียว เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 0.5- 1 ซม) โดยใช้กรรไกรตัดดอกให้ติด
ก้านดอกยาวประมาณ 5 - 10 เซนติเมตร เพื่อให้มีอายุการ เก็บรักษาได้นานขึ้น และหลังเก็บดอกครั้งแรกแล้วยังเก็บ
เกี่ยวดอกต่อได้อีกประมาณ 30 - 45 วัน