Biology of cells

B1.2 Biology of cells

B1.2.1 Cell components
B1.2.2 Cytoskeleton, including cell movement and intracellular transport
B1.2.3 Signal transduction: second messenger systems – voltage- and ligand-gated channels and receptors
B1.2.4 Secretion and exocytosis, endocytosis, transcytosis
B1.2.5 Cell cycle, mitosis, meiosis, structure and regulation of spindle apparatus, control points
B1.2.6 Epithelial cells, including surface specialization, intercellular junctions, gap junctions, and desmosomes
B1.2.7 Fibroblasts, endothelial cells, and mesenchymal cells: basement membrane, extracellular matrix,
proteoglycans, fibronectins, adhesion molecules, annexins
B1.2.8 Muscle cells, including cardiac, smooth, skeletal: structure and regulation of contractile elements,
excitation-contraction coupling
B1.2.9 Adaptive cell response to injury (eg, hypertrophy and metaplasia)
B1.2.10 Mechanisms of cell injury and necrosis, including free radical mediated cell injury
B1.2.11 Apoptosis
 Biology of cells
1. ข้อใดไม่ใช่องค์ประกอบที่ ำคัญของ cell membrane
a. Cholesterols d. Intrinsic protein
b. Phospholipids e. Transmembrane proteins
c. Triacylglycerols

ตอบ c. Triacylglycerol
Cell membrane ประกอบด้ ย cholesterols (~ 50%), phospholipids (~ 50%), sphingolipids, glycolipids และ
proteins
Triglyceride รือ Triacylglycerol จะถูกเก็บไ ้ใน cytoplasm มีค ำม ำคัญ คือเป็น lipid ที่เก็บ ะ มในร่ำงกำยมี 2
แ ล่งที่มำ คือ
- อาหาร ถูกดูดซึมในรูปของ diacylglycerol (DAG) และ ่งไปที่ตับ form เป็น chylomicron
- ตับ ร้ำงขึ้นมำเป็น Triglyceride ่งไปที่ Adipose tissue เพื่อเก็บ ะ มอยู่ในรูปของ very low density lipoprotein
(VLDL)
ถ้ำคนไข้กินข้ำ ขำ มูมำ 2 ชั่ โมง เจำะเลือดพบ serum ขำ ขุ่น (lipemia) serum ขุ่นเพรำะtriglyceride ที่อยู่ในรูป
ของ chylomicron จะพบได้ในระยะ Feeding state (หลังกินข้าว)
แต่ถ้ำอดอำ ำรมำ 8-12 ชั่ โมง เจำะเลือดพบ serum ขำ ขุ่น (lipemia) serum ขุ่นเพรำะ triglyceride ที่อยู่ในรูป
ของ VLDL จะพบได้ในระยะ fasting state

2. ทำรกชำย ได้รับกำร ินิจฉัย ่ำเป็น DiGeorge syndrome ร่ มกับมี thymic hypoplasia ผู้ป่ ยรำยนี้จะพบมีเซลล์ที่บริเ ณใดลดลง
a. Red pulp of spleen
b. Periarteriolar sheaths of the spleen
c. Paratrabecular area of bone marrow
d. Follicular area of lymph node
e. Sinus area of lymph node

ตอบ b. Periarteriolar sheaths of the spleen

DiGeorge syndrome เป็นปัญ ำของ brachial pouch ที่ 3, 4 ทำใ ้มีปัญ ำของต่อม thymus และ parathyroid แต่ในโจทย์
ถำมถึงค ำมผิดปกติของ thymus ทำใ เ้ ซลล์ใดลดลงโดย thymus เป็นที่เจริญของ T-cell
Periarteriolar sheaths of the spleen (or periarterial lymphatic sheaths, or PALS), Thymus T-cell
Red pulp of spleen Red blood cell
Sinus area of lymph node histiocyte
Follicular area of lymph node B-cell :: ถ้ำเป็นโรคของ B-cell บริเ ณตรงนี้ก็จะ ำยไป
Paratrabecular area of bone marrow myeloid

3. ผู้ป่ ยได้รับยำ prednisolone ในกำรรัก ำโรค SLE ยำดังกล่ำ จะออกฤทธิ์ผ่ำน receptor ที่ organelle ใด
a. SER d. Cell membrane
b. Mitochondria e. Cytoplasm
c. Nucleus
ตอบ c. Nucleus
Prednisolone เป็น steroid ซึ่ง steroid receptor อยู่ที่นิ เคลีย
protein, peptide membrane receptor
steroid hormone เช่น cortisol, mineralocorticoid, sex hormone รือยำ steroid nuclear receptor
เช่น ถ้ำถำม ่ำ estrogen จับที่ใด ต้องตอบ ่ำ nucleus เพรำะเป็น steroid ยกเ ้นอยู่นิด น่อย เช่น thyroid hormone
เป็นโปรตีน () แต่จับกับ receptor ที่นิ เคลีย

4. ต่อมชนิดใดที่มีกำร ลั่ง ำรแบบ exocytosis

a. Pancreatic exocrine glands d. Intestinal glands
b. Sebaceous glands e. Sweat glands
c. Mammary glands

ตอบ a. Pancreatic exocrine glands

คำ ่ำ “ ลั่ง ำรแบบ exocytosis” คือมีกำร ลั่ง ำรทำง exocrine gland โดย ลั่งเข้ำ ู่ท่อ
- Sebaceous glands เป็น apocrine gland :: ลั่งแบบ apocrine ซึ่งจะมีกำร ูญเ ีย cytoplasm ออกไปด้ ย
- Sweat glands เป็นทั้ง exocrine gland และ apocrine gland
- Mammary glands เป็น modified apocrine sweat glands
- Intestinal glands ไม่เกี่ย เพรำะไม่มีท่อ

5. จำกภำพที่เ ็นตรงกับระยะใดในขบ นกำร mitosis

a. Interphase d. Anaphase
b. Prophase e. Telophase
c. Metaphase
ตอบ d. Anaphase
Metaphase โครโมโซมมำเรียงตั อยู่ตรงกลำง
Anaphase โครโมโซมกำลังแยกออกจำกกัน

Ref: http://team6cell.pbworks.com/f/mitosis.jpg

6. จำกภำพ bronchus ที่เ ็น ข้อใดเป็นขบ นกำรที่ ำคัญที่ ุดในกำรเกิดพยำธิ ภำพชนิดนี้

a. Regeneration d. Pre-cancerous change

b. Irreversible injury e. Reprogramming of cell
c. Degenerative change

ตอบ d. Pre-cancerous change

ปกติ epithelium ของ bronchus เป็น pseudo stratified ciliated columnar epithelium ในภำพจะเ ็น ่ำ cilia ำยไป และ
กลำยเป็น squamous โดยปกติถ้ำเป็น mature squamous พ ก mitotic cell จะอยู่ด้ำนล่ำง ในรูปจะเ ็น ่ำนิ เคลีย ชั้นบนๆ จะใ ญ่มี
mitosis เยอะแยะไป มด บ่งบอก ่ำมี dysplasia เกิดขึ้น ปกติถ้ำเปลี่ยนจำก columnar เป็น squamous จะเรียก ่ำ metaplasia ในคนไข้
รำยนี้มีทั้ง metaplasia และ dysplasia เมื่อมี dysplasia คำตอบก็จะเป็น pre-cancerous lesion

7. เ ลำทำงำนกลำงแดด ชำ นำมักใ ่เ ื้อแขนยำ และใ ่งอบ ทั้งนี้เพื่อป้องกันเซลล์จำกอันตรำยในข้อต่อไปนี้ ยกเว้น

a. Lesion in DNA d. Lipid peroxidation of membrane
b. Hyperplasia of melanocytes e. Decreased oxidative phosphorylation
c. Protein-protein cross-linkages
ตอบ e. Decreased oxidative phosphorylation
แ งแดดมี UV ่งผลอันตรำยต่อเซลล์ คือมี free radical injury ทำใ ้เกิดกำรทำลำย 2 อย่ำงคือ
DNA damage เกิดจำกกำรที่มี Protein-protein cross-linkages
Lipid peroxidation ของ membrane
ถ้ำโดน UV นำนๆ อำจไปกระตุ้น melanocyte ทำใ ้เกิด melanocytes hyperplasia (ทำใ ้ดำนั่นเอง)
*** Decreased oxidative phosphorylation เกิดจำกภำ ะ hypoxia รือ Ischemia

8. เซลล์ A เป็นเซลล์ที่มีกำรเปลี่ยนแปลงรูปร่ำง (differentiation) ไปเป็นเซลล์พิเ ที่ทำ น้ำที่เฉพำะ ทำใ ้เซลล์ชนิดนี้ไม่ ำมำรถแบ่งตั ได้
อีก ข้อใดเป็นลัก ณะของเซลล์ A
a. เซลล์อยู่ในระยะ G0 ของ ัฏจักรของเซลล์
b. เซลล์กล้ำมเนื้อชนิดเดีย ที่เป็นเซลล์ประเภทนี้คือ กล้ำมเนื้อเรียบ
c. ำมำรถปรับตั ได้ทั้งแบบ hypertrophy และ hyperplasia
d. ถ้ำ ำกเกิดกำรตำยของเซลล์ในกลุ่มนี้กระบ นกำร ำยจะเป็นแบบ resolution
e. ร่ำงกำยมีเซลล์ตั้งต้น (stem cells) ใน bone marrow ที่ ำมำรถเจริญกลำยเป็นเซลล์เ ล่ำนี้ได้

ตอบ a. เซลล์อยูใ่ นระยะ G0 ของวัฏจักรของเซลล์ เนื่องจำกจะไม่มีกำรแบ่งตั ได้อีก

b. ผิด เนื่องจำกเซลล์กล้ำมเนื้อที่เป็นเซลล์ประเภทนี้คือ กล้ำมเนื้อเรียบ และกล้ำมเนื้อ ั ใจ
c. ผิด เนื่องจำกเซลล์ประเภทนี้จะ ำมำรถปรับตั ได้เฉพำะ hypertrophy

9. ชำย 70 ปีพบมีก้อนมะเร็งชนิด นึ่งจำกกำรตร จ ำรพันธุกรรมพบ ่ำเซลล์มะเร็งมีกำรผ่ำเ ล่ำของยีนตั นึ่ง ่งผลใ ้ยีนตั นั้นมีกำรทำงำน
เพิ่มขึ้น และทำใ ้ ฏั จักรของเซลล์เ ียกำรค บคุมที่ G1/S checkpoint ผลิตภัณฑ์ของยีนดังกล่ำ คือข้อใด
a. Retinoblastoma d. Bcl-2
b. CDK inhibitors e. p53
c. CyclinD1

ตอบ a. Retinoblastoma
เนื่องจำกในระยะ G1/S checkpoint นั้น มี gene ที่ทำงำนค บคุม คือ Retinoblastoma (Rb), p53 แต่ p53 ทำ น้ำที่ induce
apoptosis ซึ่งถ้ำเป็นเช่นนั้นเซลล์มะเร็งจะตำยเยอะ เพรำะโจทย์บอก ่ำ ทำงำนมำกขึ้น

10. ชำยไทยเ ียชี ิตเนื่องจำกได้รบั Cyanide กลไกกำรออกฤทธิ์ของ ำรนี้คือข้อใด

A. ยับยั้งกำรลำเลียงก๊ำซออกซิเจน โดยร มตั กับ Hb
B. ยับยั้งกำรลำเลียงก๊ำซออกซิเจน โดยร มตั กับเยื่อ มุ้ เซลล์เม็ดเลือดแดง
C. ยับยั้งกำรทำงำนของเอ็นไซม์ในระบบลำเลียงอิเล็กตรอน
D. ยับยั้งกำรลำเลียงก๊ำซออกซิเจนในเม็ดเลือดแดงและระบบลำเลียงอิเล็กตรอน
E. ยับยั้งกำรแลกเปลี่ยนก๊ำซออกซิเจนในถุงลมปอด

ตอบ C. ยับยั้งการทางานของเอ็นไซม์ในระบบลาเลียงอิเล็กตรอน
Cyanide ออกฤทธิ์ยับยั้ง enzyme พ ก cytochrome oxidase ใน electron transport chain
 Cyanide poisoning เกิดจำกกำรรับประทำนมัน ำปะ ลังดิบ รืออีกกรณีคือกำรใช้ยำ Sodium nitroprusside เป็นยำลดค ำม
ดันที่ใ ้ทำง ลอดเลือด เป็นยำไ ต่อแ งมำก เ ลำใ ้ต้องใ ้กระดำ ฟอยล์ ่อ ำยน้ำเกลือไม่ใ ้ถูกแ ง มีข้อ ้ำมใช้ในผู้ป่ ยที่ไตไม่ดี เพรำะ
metabolism ของยำจะเป็น cyanide ทำใ ้เกิดพิ ได้

11. ค ำมผิดปกติของ Fibrillin gene ในผู้ป่ ย Marfan syndrome มีผลกระทบโดยตรงกับข้อใดมำกที่ ุด

A. Collagen fiber
B. Reticular fiber
C. Elastic fiber
D. Argyrophilic fiber
E. Muscle fiber

ตอบ C. Elastic fiber

Marfan syndrome มี ำเ ตุมำจำกค ำมผิดปกติเกีย่ กับยีน เรียก ่ำ fibrillin-1 ซึ่งเป็น ่ น ำคัญในกำร ร้ำงค ำมแข็งแรง
ใ ้กับเนื้อเยื่อ ่ นต่ำงๆใ ้กับร่ำงกำย ถ้ำมีค ำมผิดปกติของยีนชนิดนี้จะทำใ ้กระดูกยำ ก ่ำปกติและทำใ ้ผู้ที่เป็นโรคนี้ ูง มีแขนยาว ขายาว
ตั ผอมๆ ูง ภำ ะแทรกซ้อนที่อำจเกิดขึ้น
• ลิ้น ั ใจรั่
• ลอดเลือดแดงโป่งพอง
• โรค ั ใจล้มเ ล
• มีปัญ ำเกี่ย กับกำรมองเ ็น
• กระดูก ัน ลังคด

12. An 18-year-old male takes an employment physical examination that is remarkable for a systolic murmur preceded
by a distinct click on auscultation. The patient has unique body features, with unusually long legs and long, tapering
fingers. An ocular examination reveals dislocation of the lens. An abnormality of which of the following gene products is
thought to underlie this condition?
A. Collagen
B. Dystrophin
C. Elastin
D. Fibrillin
E. Myosin b-chain

เฉลย D. Fibrillin*
นึกถึงโรค Marfan’s syndrome เกิดจำก fibrillin gene mutation