You are on page 1of 27

PAT 1 (ต.ค.

55) 1
17 Aug 2014

PAT 1 (ต.ค. 55)


รหัสวิชา 71 วิชา ความถนัดทางคณิตศาสตร์ (PAT 1)
วันเสาร์ ที่ 6 ตุลาคม 2555 เวลา 13.00 - 16.00 น.

ตอนที่ 1 ข้ อ 1 - 25 ข้ อละ 5 คะแนน


1. กาหนดให้ เป็ นเอกภพสัมพัทธ์และให้ และ เป็ นสับเซตของ ข้ อใดต่อไปนี ้ถูกต้ อง
1. = 2. =
3. = 4. =

2. กาหนดให้ และ เป็ นประพจน์ ประพจน์ในข้ อใดต่อไปนี ้เป็ นสัจนิรันดร์


1. 2.
3. [ ] 4. [ ]
2 PAT 1 (ต.ค. 55)

3. พิจารณาข้ อความต่อไปนี ้
(ก) ถ้ า และ เป็ นประพจน์โดยที่ มีคา่ ความจริงเป็ นจริ ง
แล้ ว [ ] มีคา่ ความจริ งเป็ นจริ ง
(ข) กาหนดเอกภพสัมพัทธ์คือ { R | } เมื่อ R คือเซตของจานวนจริ ง
แล้ ว [ ] มีคา่ ความจริ งเป็ นจริ ง
ข้ อใดต่อไปนี ้ถูกต้ อง
1. (ก) ถูก และ (ข) ถูก 2. (ก) ถูก แต่ (ข) ผิด
3. (ก) ผิด แต่ (ข) ถูก 4. (ก) ผิด และ (ข) ผิด

4. กาหนดให้ I แทนเซตของจานวนเต็ม
ให้ = { || | } และ = { || | } พิจารณาข้ อความต่อไปนี ้
(ก) จานวนสมาชิกของเซต เท่ากับ 7
(ข) เป็ นเซตว่าง
ข้ อใดต่อไปนี ้ถูกต้ อง
1. (ก) ถูก และ (ข) ถูก 2. (ก) ถูก แต่ (ข) ผิด
3. (ก) ผิด แต่ (ข) ถูก 4. (ก) ผิด และ (ข) ผิด

5. ถ้ า เป็ นเซตคาตอบของอสมการ < เมื่อ >2


แล้ ว เป็ นสับเซตของช่วงในข้ อใดต่อไปนี ้
1. (2, 3) 2. (3.5, 5) 3. (2.5, 4) 4. (4, 7)
PAT 1 (ต.ค. 55) 3

6. กาหนดให้ R แทนเซตของจานวนจริ ง และให้ I แทนเซตของจานวนเต็ม ให้ และ เป็ นฟั งก์ชนั จาก R ไปยัง R
โดยที่ = สาหรับทุกจานวนจริ ง
และ = +4 สาหรับทุกจานวนจริ ง พิจารณาข้ อความต่อไปนี ้
(ก) < 169
(ข) { I | + 5 = 0 } เป็ นเซตว่าง
ข้ อใดต่อไปนี ้ถูกต้ อง
1. (ก) ถูก และ (ข) ถูก 2. (ก) ถูก แต่ (ข) ผิด
3. (ก) ผิด แต่ (ข) ถูก 4. (ก) ผิด และ (ข) ผิด

7. กาหนดให้ = { | } เมื่อ I แทนเซตของจานวนเต็ม


จานวนสมาชิกของเซต เท่ากับข้ อใดต่อไปนี ้
1. 2 2. 4 3. 5 4. 7

8. พิจารณาข้ อความต่อไปนี ้
(ก) =
(ข) =
ข้ อใดต่อไปนี ้ถูกต้ อง
1. (ก) ถูก และ (ข) ถูก 2. (ก) ถูก แต่ (ข) ผิด
3. (ก) ผิด แต่ (ข) ถูก 4. (ก) ผิด และ (ข) ผิด
4 PAT 1 (ต.ค. 55)

9. ข้ อใดต่อไปนี ้ถูกต้ อง
1. = ( √ )
2. =
3. ถ้ า เป็ นจานวนจริ งใดๆแล้ ว =
4. ถ้ า และ เป็ นจานวนจริ งใดๆแล้ ว sin 2 + cos 2 =

10. ถ้ า =
√ √
แล้ ว ( ) เท่ากับข้ อใดต่อไปนี ้
1. 2. 3. 4.

11. แกนเอกของวงรี เป็ นส่วนของเส้ นตรงที่เชื่อมระหว่างจุดตัดของวงกลม = 25 กับวงกลม


= 0 และโฟกัสจุดหนึง่ ของวงรี อยูบ ่ นเส้ นตรง √ =0
สมการของวงรีตรงกับข้ อใดต่อไปนี ้
1. = 0 2. = 0
3. = 0 4. = 0
PAT 1 (ต.ค. 55) 5

12. กาหนดให้ แทนเซตคาตอบของสมการ = 244 แล้ วเซต เป็ นสับเซตของช่วงใดต่อไปนี ้


1. ( 1, 4) 2. ( 2, 0.5) 3. (0, 5) 4. ( 3, 0)

13. กาหนดให้ เป็ นเมทริ กซ์ ที่มมี ิติ 3×3 และ det( ) ≠ 0 พิจารณาข้ อความต่อไปนี ้
(ก) =
(ข) ถ้ า = 2 แล้ ว det( ) = 2
ข้ อใดต่อไปนี ้ถูกต้ อง
1. (ก) ถูก และ (ข) ถูก 2. (ก) ถูก แต่ (ข) ผิด
3. (ก) ผิด แต่ (ข) ถูก 4. (ก) ผิด และ (ข) ผิด

14. กาหนดให้ = เป็ นฟั งก์ชนั จุดประสงค์ โดยมีอสมการข้ อจากัดดังนี ้

0
พิจารณาข้ อความต่อไปนี ้
(ก) มีคา่ มากสุด เท่ากับ 70
(ข) ถ้ าจุด ( , ) ที่ทาให้ มีคา่ ตา่ สุด แล้ ว จุด ( , ) สอดคล้ องกับสมการ = 3
ข้ อใดต่อไปนี ้ถูกต้ อง
1. (ก) ถูก และ (ข) ถูก 2. (ก) ถูก แต่ (ข) ผิด
3. (ก) ผิด แต่ (ข) ถูก 4. (ก) ผิด และ (ข) ผิด
6 PAT 1 (ต.ค. 55)

15. กาหนดให้ ̅, ̅ และ ̅ เป็ นเวกเตอร์ บนระนาบซึง่ ̅ ̅ ̅ =̅, ̅ ̅ =8 และ ̅ ̅=



ถ้ าเวกเตอร์ ̅ ทามุม arcsin

กับเวกเตอร์ ̅ และเวกเตอร์ ̅ ทามุม √
กับเวกเตอร์ ̅
แล้ ว ค่าของ | ̅| | ̅| เท่ากับข้ อใดต่อไปนี ้
1. 6 2. 10 3. 14 4. 18

16. กาหนดให้ ABC เป็ นรูปสามเหลีย่ มใดๆ ถ้ า , และ เป็ นความยาวด้ านของด้ านตรงข้ ามมุม A มุม B และ
มุม C ตามลาดับ โดยที่ = แล้ ว sin C เท่ากับข้ อใดต่อไปนี ้
√ √
1. 2. 3. 4. 1

17. กาหนดให้ และ เป็ นจานวนเชิงซ้ อนที่สอดคล้ องกับสมการ =0


ค่าของ | | | | ( ) เท่ากับข้ อใดต่อไปนี ้
1. 3 2. 4 3. 5 4. 6
PAT 1 (ต.ค. 55) 7

18. กาหนดให้ = ( ) สาหรับ …


และ = ( ) สาหรับ …

ผลบวกของอนุกรม ( ) ( ) … ( ) … เท่ากับข้ อใดต่อไปนี ้


1. 2. 3. 2 4. 2

19. กาหนดให้ = เมื่อ เป็ นจานวนจริ ง


ถ้ า , , เป็ นจานวนจริ งสามจานวนเรี ยงกันแบบลาดับเรขาคณิต และเป็ นคาตอบของสมการ =0
แล้ ว ค่าของ เท่ากับข้ อใดต่อไปนี ้
1. 211 2. 107 3. 101 4. 85

20. กาหนดให้ เป็ นพหุนามกาลังสอง โดยที่ =1 และ = สาหรับ


1
จานวนจริ ง ใดๆ ค่าของ  เท่ากับข้ อใดต่อไปนี ้
2

1. 3 2. 2 3. 4.
8 PAT 1 (ต.ค. 55)

21. ค่าของ lim | √ |


เท่ากับข้ อใดต่อไปนี ้
x 1

1. 12 2. 0 3. 12 4. หาค่าไม่ได้

22. ในการทอดลูกเต๋าสองลูกพร้ อมกัน ความน่าจะเป็ นที่หน้ าลูกเต๋าลูกหนึง่ ขึ ้นแต้ ม และหน้ าลูกเต๋าอีกลูกหนึง่ ขึ ้น


แต้ ม โดยที่ = เท่ากับข้ อใดต่อไปนี ้
1. 2. 3. 4.

23. กาหนดให้ ความสัมพันธ์เชิงฟั งก์ชนั ระหว่างข้ อมูลที่กาหนดให้ ตอ่ ไปนี ้เป็ นเส้ นตรง
1 2 3 4 5
3 4 6 7 10
พิจารณาข้ อความต่อไปนี ้
(ก) ถ้ าสมการของความสัมพันธ์เชิงฟั งก์ชนั ระหว่างข้ อมูล คือ = แล้ ว เท่ากับ 2.6
(ข) ถ้ า = 15 แล้ ว = 26.4
ข้ อใดต่อไปนี ้ถูกต้ อง
1. (ก) ถูก และ (ข) ถูก 2. (ก) ถูก แต่ (ข) ผิด
3. (ก) ผิด แต่ (ข) ถูก 4. (ก) ผิด และ (ข) ผิด
PAT 1 (ต.ค. 55) 9

24. จากการสอบวิชาคณิตศาสตร์ ของนักเรี ยนห้ องหนึง่ ปรากฏว่าคะแนนสอบของนักเรี ยนมีการแจกแจงปกติและกาหนด


พื ้นที่ใต้ เส้ นโค้ งปกติ ระหว่าง 0 ถึง ดังตารางต่อไปนี ้

0.5 1.0 1.5 2.0


พื ้นที่ 0.192 0.341 0.433 0.477

พิจารณาข้ อความต่อไปนี ้
(ก) ถ้ านักเรี ยนคนหนึง่ ในห้ องนี ้สอบได้ คะแนนน้ อยกว่าค่าฐานนิยมอยูส่ องเท่าของส่วนเบีย่ งเบนมาตรฐาน แล้ ว
ค่ามาตรฐานของคะแนนสอบของนักเรี ยนคนนี ้ เท่ากับ 2
(ข) ถ้ าคะแนนสอบวิชาคณิตศาสตร์ ของนักเรียนห้ องนี ้ มีคา่ มัธยฐานเท่ากับ 60 คะแนน และมีนกั เรี ยนในห้ องนี ้
สอบได้ คะแนนน้ อยกว่า 54 คะแนน คิดเป็ นร้ อยละ 15.9 ของนักเรี ยนในห้ องนี ้ แล้ วสัมประสิทธิ์ของการ
แปรผันของคะแนนสอบนี ้เท่ากับ 0.1
ข้ อใดต่อไปนี ้ถูกต้ อง
1. (ก) ถูก และ (ข) ถูก 2. (ก) ถูก แต่ (ข) ผิด
3. (ก) ผิด แต่ (ข) ถูก 4. (ก) ผิด และ (ข) ผิด

25. ให้ เติมจานวน 0, 1, 2, 3 ลงในตาราง 4×4 ต่อไปนี ้ (ช่องละ 1 จานวน)

2 โดยที่ แต่ละแถวต้ องมีจานวนเต็ม 0, 1, 2 และ 3


3 0 แต่ละหลักต้ องมีจานวนเต็ม 0, 1, 2 และ 3
1 พิจารณาข้ อความต่อไปนี ้
2 0 1 3 (ก) ถ้ า แล้ ว (ข) ถ้ า แล้ ว
(ค) ถ้ า แล้ ว (ง) =
ข้ อใดต่อไปนี ้สรุปได้ ถกู ต้ อง
1. (ก) – (ง) ถูกเพียง 1 ข้ อ 2. (ก) – (ง) ถูกเพียง 2 ข้ อ
3. (ก) – (ง) ถูกเพียง 3 ข้ อ 4. (ก) – (ง) ถูกทุกข้ อ
10 PAT 1 (ต.ค. 55)

ตอนที่ 2 ข้ อ 26 - 50 ข้ อละ 7 คะแนน


26. กาหนดให้ เป็ นเอกภพสัมพัทธ์และให้ และ เป็ นสับเซตของ
ถ้ า 20% ของสมาชิกในเซต เป็ นสมาชิกในเซต 25% ของสมาชิกในเซต เป็ นสมาชิกในเซต
และ จานวนสมาชิกของเซต เท่ากับ 112
แล้ ว จานวนสมาชิกของเซต เท่ากับเท่าใด

27. ให้ เป็ นเซตคาตอบของสมการ √ √ √ √ = 14


และให้ เป็ นเซตคาตอบของสมการ √ = 25
ผลบวกของสมาชิกทังหมดในเซต
้ เท่ากับเท่าใด

28. ค่าของ ( ) เท่ากับเท่าใด


PAT 1 (ต.ค. 55) 11

29. ให้ เป็ นจานวนจริ งใดๆ ถ้ า และ เป็ นค่ามากสุดของ และ


ตามลาดับ แล้ ว เท่ากับเท่าใด

30. กาหนดให้ แทนเซตคาตอบของสมการ =


และให้ = { | } ผลบวกของสมาชิกทังหมดในเซต
้ เท่ากับเท่าใด

31. ถ้ าวงกลมวงหนึง่ มีจดุ ศูนย์กลางคือ C( ) อยูบ่ นเส้ นตรง =0 และวงกลมนี ้ผ่านจุด A( 5, 2)


และจุด B( 2, 5) แล้ ว พื ้นที่ของรูปสามเหลีย่ ม ABC เท่ากับเท่าใด
12 PAT 1 (ต.ค. 55)

32. พาราโบลารูปหนึง่ มีจดุ ยอดอยูท่ ี่ A( 3, 2) มีแกนสมมาตรขนานแกน และโฟกัส F อยูบ่ นเส้ นตรง L ซึง่ มีสมการ
เป็ น = 0 ถ้ าพาราโบลานี ้ตัดกับเส้ นตรง L ที่จด
ุ B( , ) โดยที่ > 0
แล้ ว ผลคูณของเวกเตอร์ ⃗⃗⃗⃗⃗ ⃗⃗⃗⃗ เท่ากับเท่าใด

33. กาหนดให้ และ เป็ นเมทริ กซ์มมี ิติ 3×3 โดยที่ ≠ ถ้ า [ ]

และ = 4 แล้ ว เท่ากับเท่าใด

34. สาหรับ … กาหนดให้ … และ = …


ค่าของ nlim

[ ] เท่ากับเท่าใด
PAT 1 (ต.ค. 55) 13

35. กาหนดให้ เป็ นจานวนเชิงซ้ อนที่สอดคล้ องกับสมการ 2| + 1| = | + 4|


ค่าของ | ̅| เท่ากับเท่าใด (เมือ่ ̅ แทนสังยุต (conjugate) ของ )

36. ถ้ าลาดับเลขคณิตชุดหนึง่ มีผลบวก 10 พจน์แรกเท่ากับ 205 และผลบวกอีก 10 พจน์ถดั ไปเท่ากับ 505 แล้ ว
ผลบวก 55 พจน์แรกของลาดับเลขคณิตนี ้เท่ากับเท่าใด

37. กาหนดให้ R แทนเซตของจานวนจริ ง ให้ : R → R และ : R → R เป็ นฟั งก์ชนั โดยที่


1. = สาหรับทุกจานวนจริ ง
2. ฟั งก์ชนั และ มีอนุพนั ธ์ทกุ อันดับสาหรับทุกจานวนจริง
3. ฟั งก์ชนั มีคา่ สูงสุดสัมพัทธ์เท่ากับ 2 ที่ = 1
4. = 2 สาหรับทุกจานวนจริ ง
ฟั งก์ชนั มีคา่ ต่าสุดสัมพัทธ์เท่ากับเท่าใด
14 PAT 1 (ต.ค. 55)

x
38. กาหนดให้ เป็ นพหุนามที่สอดคล้ องกับ = และให้ =
0

ค่าของ lim √ เท่ากับเท่าใด


x2

39. กาหนดให้ เป็ นพหุนามโดยที่ =1 และสอดคล้ องกับ lim


h 0
= 1

ค่าของ เท่ากับเท่าใด

40. ให้ เป็ นเส้ นตรงที่ผา่ นจุด (0, 1) และตังฉากกั


L ้ บเส้ นตรง = 6 พื ้นที่ของบริ เวณในควอดรันต์
(quadrant) ที่ 1 ซึง่ ล้ อมร้ อบด้ วย แกน แกน เส้ นตรง L เส้ นตรง = 6 เท่ากับกี่ตารางหน่วย
PAT 1 (ต.ค. 55) 15

41. กาหนดให้ { … } เมื่อ เป็ นจานวนเต็มบวก และ


ให้ = { | }
ค่าของ เท่ากับเท่าใดที่ทาให้ จานวนสมาชิกของเซต เท่ากับ 714

42. ให้ แทนจานวนสามหลัก และ แทนจานวนสามหลัก โดยที่ { … }


และ แตกต่างกันทังหมด

ถ้ า เป็ นเซตของ ทังหมด
้ โดยที่ มีคา่ มากสุด แล้ ว ผลบวกของสมาชิกในเซต ทังหมดเท่
้ ากับเท่าใด

43. ถ้ า , และ เป็ นจานวนเต็มบวกที่สอดคล้ องกับ = 16 , = และ =


แล้ วผลคูณของ เท่ากับเท่าใด
16 PAT 1 (ต.ค. 55)

44. นักเรี ยนกลุม่ หนึง่ มี 16 คน ซึง่ แต่ละคนเป็ นสมาชิกของชมรมวิชาการ หรื อชมรมกีฬา หรื อชมรมดนตรี อย่างน้ อย 1
ชมรม และพบว่า มี 8 คน เป็ นสมาชิกของชมรมวิชาการ มี 10 คน เป็ นสมาชิกของชมรมกีฬา มี 10 คน เป็ น
สมาชิกของชมรมดนตรี มี 6 คน เป็ นสมาชิกของชมรมดนตรี และชมรมกีฬา มี 5 คน เป็ นสมาชิกของชมรม
วิชาการและชมรมกีฬา และมี 3 คน เป็ นสมาชิกของชมรมวิชาการและชมรมดนตรี ต้ องการเลือกผู้แทน 1 คนของ
แต่ละชมรมโดยที่แต่ละคนต้ องเป็ นสมาชิกเพียงชมรมเดียวเท่านัน้ จานวนวิธีเลือกดังกล่าวมีทงหมดเท่
ั้ า กับเท่าใด

45. กาหนด และ เป็ นเหตุการณ์ใดๆ ในแซมเปิ ลสเปซ และกาหนดให้ แทนความน่าจะเป็ นของเหตุการณ์
ถ้ า = 0.30 , = 0.06 และ ( ) = 0.38
แล้ วค่าของ เท่ากับเท่าใด

46. นาข้ อมูล 3 จานวนที่แตกต่างกัน มารวมกันมีผลรวมเท่ากับ 195


ถ้ าข้ อมูลชุดนี ้มีคา่ มัธยฐานและสัมประสิทธิ์ของพิสยั เท่ากับ 60 และ 0.2 ตามลาดับ
แล้ วความแปรปรวนของข้ อมูลชุดนี ้เท่ากับเท่าใด
PAT 1 (ต.ค. 55) 17

47. ในการสอบวิชาคณิตศาสตร์ ของนักเรี ยนสองห้ อง ปรากฏว่า ค่าเฉลีย่ เลขคณิตของคะแนนสอบเท่ากับ 65 คะแนน


นักเรี ยนห้ องแรกมี 40 คน ห้ องทีส่ องมีนกั เรียน 30 คน ถ้ าคะแนนสอบของนักเรี ยนห้ องแรกมีสมั ประสิทธิ์ของการแปร
ผันเท่ากับ 0.2 นาย ก. เป็ นนักเรียนห้ องแรกสอบได้ 65 คะแนน คิดเป็ นค่ามาตรฐานเท่ากับ 1.5 คะแนนสอบของ
นักเรี ยนห้ องที่สองมีสว่ นเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 12 คะแนน และ นาย ข. เป็ นนักเรี ยนห้ องที่สองสอบได้ คะแนนคิด
เป็ นค่ามาตรฐานเท่ากับ 2 แล้ ว นาย ข. สอบได้ กี่คะแนน

48. ในการสอบวิชาคณิตศาสตร์ ของนักเรี ยนชันมั


้ ธยมศึกษาปี ที่ 6 มีการแจกแจงดังนี ้
คะแนน จานวน (คน) ถ้ าคะแนนเฉลีย่ เลขคณิตของคะแนนสอบนี ้เขียนในรูป
5–9 40 เมื่อ และ เป็ นจานวนเต็มบวก โดยที่ และ
10 – 14 50
15 – 19 30
ห.ร.ม. ของ และ เท่ากับ 1
20 – 24 20 แล้ วค่าของ เท่ากับเท่าใด
18 PAT 1 (ต.ค. 55)

49. สาหรับ … กาหนดให้ = และ =



จงหาจานวนเต็มบวก ที่ทาให้ …
= 1331

50. ถ้ า { … } และสอดคล้ องกับ = 416


แล้ ว เท่ากับเท่าใด
PAT 1 (ต.ค. 55) 19

เฉลย
1. 2 11. 2 21. 3 31. 14.5 41. 106
2. 3 12. 1 22. 4 32. 3 42. 6657
3. 1 13. 4 23. 1 33. 320 43. 108
4. 2 14. 2 24. 1 34. 2.25 44. 6
5. 3 15. - 25. 3 35. 2 45. 0.14
6. 4 16. 3 26. 128 36. 4840 46. 134
7. 2 17. 4 27. 11 37. 2.25 47. 61
8. 3 18. 3 28. 2 38. 3 48. 28
9. 1 19. 2 29. 6 39. 157 49. 36
10. 4 20. 1 30. 10.5 40. 8.2 50. 13

แนวคิด
1. 2
LHS = = = RHS

2. 3
สมมติให้ ข้อ 3 เป็ นเท็จ ได้ เป็ นจริ ง และ เป็ นเท็จ
จาก เป็ นเท็จ ได้ เป็ นจริง เป็ นเท็จ แทนก้ อนหน้ าจะได้ เป็ นเท็จ ขัดแย้ ง

3. 1
(ก) ได้ สองกรณี คือ เป็ นเท็จ กับ และ เป็ นจริ ง ถ้ า เป็ นเท็จ ได้ [ ] ≡ ≡ T
ถ้ า และ เป็ นจริ ง ได้ [ ] ≡ T T ≡ T ดังนัน้ (ก) ถูก
(ข) → → [ ]
→ =0 → =0 → =1 [ ] → (ข) ถูก

4. 2
→ → = { 8, … }
→ ยกกาลังสองทังสองข้
้ าง ไม่ต้องกระจาย ย้ ายข้ างมาลบ เข้ าสูตร น ล ได้ >0
ได้ >0 → {… 4, 3, …}
={ … 2} → 7 ตัว → ก ถูก และ 1 → ข ผิด

5. 3
กรณี 2 < < 3 ได้ > → >0 → ไม่มีคาตอบในช่วง (2, 3)
กรณี = 3 → เป็ น 1 ทังสองข้
้ าง ไม่มีทางจริง
กรณี > 3 ได้ < → <0 → (3, 4)

6. 4
ได้ =
หา ให้ = ได้ = → = → =
ได้ = = 151 → (ก) ผิด
20 PAT 1 (ต.ค. 55)

(ข) ได้ = แทน = ได้ =2


ให้ =2 ได้ =0 ได้ =1 จะได้ =2 ได้ 6 เป็ นคาตอบ → (ข) ผิด

7. 2
= → ต้ องหาร 10 ลงตัว → = 0, ±1, ±2, ±3 → = 8, 3, 0, 1
เหลือ 1, ±2, 3 รวม 4 ตัว

8. 3

(ก) LHS = = = = = → ผิด

(ข) LHS = = = = = RHS → ถูก

9. 1

1) = tan 15 = =

= √ → ถูก
2) LHS = = = √ → ผิด
3) RHS = = → ผิด
4) RHS = → ผิด

10. 4
( ) = = ( )
√ √
( ) ( )
√ √
=
( ) ( )
√ √

tan (

) → วาดสามเหลีย่ ม ได้ ข้ าม = 1, ฉาก = √ → ชิด = 4 → tan (

)=
( )
(

) =
(

)
→ วาดสามเหลีย่ ม ได้ ชิด = 2, ฉาก = √ → ข้ าม = 1

( )
→ ( )= → ( )= =
√ √ ( )

ดังนัน้ ( )=
( )( )
= =

หมายเหตุ : ข้ อนี ้ โจทย์ไม่ถกู ต้ อง เพราะถ้ าใช้ เครื่ องคิดเลขคานวณ √ √


จะได้ เป็ นค่าติดลบ
แต่ arcsec ให้ ผลลัพธ์ได้ ในช่วง [ ) ( ] เท่านัน้ จึงเป็ นลบไม่ได้

11. 2
แก้ หาจุดตัดวงกลม ได้ (±4, 3) → = 0, = 3, =4
จาก = √ ได้ =2 → = 1 → = 0

12. 1
คูณ ตลอด = 0 → = 0
ได้ = , 2
PAT 1 (ต.ค. 55) 21

13. 4
(ก) จากกฎ = = → ผิด
(ข) = → det( ) = 8 , 0 → ผิด

14. 2
หาจุดตัด ได้ (3, 0) → =9
(5, 0) → = 15 =
(10, 10) → = 70 → ก ถูก 2 +3 =6 2 = 10
A
( , ) → = → ข ผิด

15. -
ข้ อนี ้โจทย์ให้ ข้อมูลมาเยอะเกินความจาเป็ น และขัดแย้ งกันเอง โดยคาตอบที่ได้ จะขึ ้นกับว่าคนทาหยิบข้ อมูลไหนมาใช้
จาก ̅ ̅ ̅ = ̅ จะได้ ̅ ̅ = ̅
เอา ̅ ̅ = 8 กับ ̅ ̅ = มาบวกกัน จะได้ ̅ ̅ + ̅ ̅ = 8 + ( 2)
̅ ̅ ̅ = 6
̅ ̅ = 6
| ̅| = 6
̅ = √
และจาก ̅ ทามุม arcsin

กับ ̅ จะได้ ̅ ̅ = | ̅|| ̅| (

)
=√
8 = | ̅|(√ )√ ( )

4 = | ̅|

ถึงตรงนี ้ จะมีวิธีหา | ̅ | สองแบบ ซึง่ แต่ละแบบจะได้ คา่ | ̅ | ไม่เท่ากัน


√ √
แบบแรก ใช้ มมุ √
(เหมือนตอนหา | ̅|) แบบสอง ไม่ใช้ มุม √
√ ̅ ̅ ̅ = ̅
̅ ̅ = | ̅ || ̅| ( )
√ ̅ = ̅ ̅ = ̅ ̅

2 = | ̅ |(√ ) ( ( )) | ̅| = | ̅ ̅|

| ̅| = | ̅| | ̅| ̅ ̅

2 = | ̅ |(√ ) ( √ ( ) ) | ̅| = √ +

| ̅| = √
√ = | ̅|

ดังนัน้ ข้ อมูลที่โจทย์ให้ ขัดแย้ งกันเอง คาตอบขึ ้นกับว่าจะหยิบข้ อมูลไหนมาใช้ ในลักษณะอย่างไร

16. 3

+ = 3
1+ +1+ = 3
=
+ = 1 =

เทียบกับกฎของ cos : = จะได้ cos C = → sin C = (มุม < 180° ได้ sin > 0)
22 PAT 1 (ต.ค. 55)

17. 4
จากสูตรผลบวกผลคูณราก ได้ = 3 และ =4
สปส เป็ น R → กับ เป็ นคอนจูเกตกัน → =| | =| | =4
= ( ) = ( ) = 6

18. 3

คี่ = =2 , คู่ = = 2 , =3

อนุกรม = ( ) ( ) ( ) … → คู่ ยกกาลังคูห


่ มด กลายเป็ นบวก → = = 2

19. 2
ใช้ สตู รผลบวกผลคูณราก ได้ = 26 , = , = 216
ให้ , , = , , แทนใน = 216 ได้ =6 แก้ = 26 ได้ =3,
ได้ รากคือ 2, 6, 18 ได้ = 12 + 36 + 108 = 156 ได้ = = 107

20. 1
จาก =1 ได้ = แทนในอีกสมการ จะได้
=
=
เทียบ สปส ได้ , = ได้ =
อินทิเกรต ได้ ( ) ( )=3

21. 3
| | √ (√ )
=

→ ถ้ า → ในค่าสัมบูรณ์จะติดลบ → =
√ √
=
แทน =1 ได้ 12

22. 4
ไล่แทนเอา ได้ (3, 6), (4, 4), (6, 3) → =

23. 1
ระบบสมการ คือ 30 = กับ 107 = 55 แก้ ได้ = 1.7 , = 0.9 → ก ถูก
̂ = 1.7(15) + 0.9 = 26.4 → ข ถูก

24. 1
̅ ̅
(ก) แจกแจงปกติ Mode = ̅ → ได้ คะแนน = Mode – 2 = ̅ → = = 2 → ก ถูก
(ข) ร้ อยละ 15.9 คือ พื ้นที่ = 0.341 ทางลบ → เปิ ดตาราง ได้ = 1 → แจกแจงปกติ Med = ̅
→ = 1 → = 6 → สปสการแปรผัน = = 0.1 → ข ถูก
PAT 1 (ต.ค. 55) 23

25. 3

2 แถว 2 : เหลือ 1 กับ 2 แต่หลักแรกเป็ น 2 ไม่ได้ 1 2

3 0 เพราะซ ้ากับหลักแรกของแถว 4 1 3 2 0
1 หลัก 2 : คิดเหมือนกัน ได้ ตามรูปขวา 2 1
2 0 1 3 (ก) ได้ = 0, = 3, = 0, = 3 → ก ผิด 2 0 1 3
(ข) ได้ = 3, = 0, = 3, = 0 → ข ถูก
(ค) ได้ = 0, = 3, = 0, = 3 → ค ถูก
(ง) กับ ต้ องมี 0 กับ 3 , กับ ต้ องมี 0 กับ 3 ดังนัน้ = =3 → ง ถูก

26. 128
ให้ = ได้ =5 และ =4 → = 112 → = 16
ได้ = 112 + 16 = 128

27. 11
: ให้ √ → √ √ = 14 → | | | | = 14
แต่ → = 14 → =5 → =8
: ให้ =√ → = 25 → = 0 → =3, 4
→ = → = 1, 4

28. 2
หา tan ง่ายกว่า แล้ วค่อยหา sec จากสูตร =1
( )
( )= = → ( )= = =1 → =2
( ) ( )( )

29. 6
หา : = = → =1
หา : หาร 5 ตลอด = → ถ้ า = จะได้ =
ได้ = + = มากสุด = 1 = → =5

30. 10.5
→ = 0
→ ( ) = 0 → หรื อ
=0 = 2
=0 ได้ =0,2 → 0 ไม่ได้ เพราะทาให้ หลัง log ติดลบ เหลือ 2 ตัวเดียว
= 2 → = → = 0 → =0
→ = ,

ตอบ ( ) ( ) = 10.5
24 PAT 1 (ต.ค. 55)

31. 14.5
C( )=( , ) → =
ตัด สองข้ าง ย้ ายข้ างเข้ าสูตรผลต่างกาลังสอง : =0 ได้ =
ได้ C( ) = ( 7, 3)

หาพื ้นที่จากสูตร | |= = 14.5


B(-2, 5)
C(-7, 3)
หรื อจากสีเ่ หลียมคางหมู – สามเหลีย่ มซ้ ายขวาสองรูป ก็ได้
= = 30 5 = 14.5
A(-5,-2)

32. 3
แกนสมมาตรขนานแกน เป็ นพาราโบลาตะแคง → พิกดั ของ F = พิกดั ของ A = 2 → แทน = 2 ใน L ได้
= 2 → F( 2, 2) → = = 1 → พาราโบลา คือ
แก้ หาจุดตัดกับ L ได้ → =0 → ( , 1), (1, 6)
⃗⃗⃗⃗⃗ ⃗⃗⃗⃗ = [ ] [ ] = 3

33. 320
= = = 4
จะได้ = = 320

34. 2.25
= ( ) = → = = =
= ∑ = ∑ = ∑ = ∑
= ( ) = ( ) =

35. 2
ให้ = i → √ =√
ยกกาลังสอง → = → =4
→ √ = 2 = | | = | ̅|

36. 4840
ผลบวก 10 พจน์แรก = 205 = → 41 =
ผลบวก 20 พจน์แรก = 205 + 505 = → 71 =
แก้ ระบบสมการ ได้ = 3 , = 7 → ผลบวก 55 พจน์ = = 4840
PAT 1 (ต.ค. 55) 25

37. 2.25
จาก 4 ได้ =2 + จาก 3 ได้ =0 และ =2
ดิฟ 1 ได้ = 2 แทน = 1 ได้ +0=2 → = 1
=2 ได้ = แทนใน 1 ได้ =
จาก =2 ได้ =5 → =

หาค่าต่าสุดของ : =0 → = → ตอบ ( ) ( ) = 2.25

38. 3
หา → = → เหลือ =
จะได้ = ดังนัน้ =

= → ตอบ √ ( ) = 3

39. 157
lim = lim =1
h 0 h 0

+ = → แทน =0 ได้ =1
แทน =1 ได้ = = 3( ) 5 → =
( )
ได้ = แทน = 1 ได้ =1 → = = 157

40. 8.2
=6 ชัน ดังนัน้ L ชัน = 2 → L ผ่านจุด (0, 1) ได้ L : = +1 → จุดตัด ( , )
=2 +1
พื ้นที่ = สีเ่ หลีย่ มคางหมูทางซ้ าย + สามเหลีย่ มทางขวา
1 6 = ( )( ) + ( )( ) = + = = 8.2
=6

41. 106
= 2 มี (1, 2) → 1 ตัว
= 3 มี (1, 3), (2, 3) → 2 ตัว
= 4 มี (1, 4), (2, 4), (3, 4) → 3 ตัว

= 8 มี … → 7 ตัว
= 9 มี … → 7 ตัว
จะเห็นว่า = 1 ถึง 7 มี … ตัว ตังแต่
้ 8 ขึ ้นไป มีคา่ ละ 7 ตัว
จะได้ 714 = 21 + 7( ) → = 106
26 PAT 1 (ต.ค. 55)

42. 6657
ต้ องเยอะๆ ต้ องน้ อยๆ ไม่มีผลต่อ
ได้ 981 + 971 + 961 + 951 + 941 + 931 + 921 = 6657

43. 108
จาก = ได้ = แทนใน = 16 ได้ =
→ เป็ นได้ แค่ 1, 2, 3, 4 ไม่งน
ั ้ ติดลบ
เอา = มายกกาลัง สองข้ าง ได้ = แทนได้ =
แทน = 1, 2, 3, 4 ได้ = 4 ถึงจริง → = 9 , =3 → ตอบ (3)(9)(4) = 108

44. 6
ให้ = ได้ 16 = 8 + 10 + 10 – 6 – 5 – 3 + → =2
ว 1 ด
2 3
2
3 4 ได้ (2)(3)(1) = 6 วิธี
1

45. 0.14

= 0.30 – 0.06 = 0.24


0.14 0.06 0.24
= 0.38 – 0.24 = 0.14

46. 134
ให้ ข้อมูลเรี ยงจากน้ อยไปมากเป็ น , 60 ,
สปสพิสยั = = 0.2 → = 54 → ข้ อมูลคือ 54, 60, 81
̅ = = 65 → = = 134

47. 61
̅ ̅
ห้ องแรก : = = = 1.5 → = 10 , ̅ = 50
̅
หา ̅ ห้ องสอง : = 65 → ̅ = 85
ได้ ข = 2 → ข = 61

48. 28
̅= = = = 13 + → 28

49. 36

= = → = … = = 1331

→ = 1332 แทนค่าเอา ได้ = 36
PAT 1 (ต.ค. 55) 27

50. 13
ต้ องไม่เกิน 7 ไม่งนฝั
ั ้ ่ งซ้ ายเกิน
มากสุดได้ แค่ = 72 ดังนัน้ เป็ น 6 ลงไปไม่ได้ ไม่งนไม่
ั ้ ถึง 416
ได้ = 7 : ได้ = 24 → =3, = 3 → 7+3+3 = 13

เครดิต
ขอบคุณ คุณ Theerawat Tansakul ที่ช่วยแก้ ไขจุดบกพร่องในเฉลยข้ อ 7 นะครับ (ผมลืม ±3) และเป็ นคนพบความ
ผิดพลาดของโจทย์ในข้ อ 15

You might also like