Professional Documents
Culture Documents
55
การเสนอคดีมีขอ้ พิพาทโต้แย้งสิ ทธิ ต้องมีการโต้แย้งสิ ทธิ หน้าที่เกิดขึ้น ตาม ม.55 เมื่อมีการโต้แย้งสิ ทธิ
ก็จะนำคดีไปฟ้ อง ที่ศาล ดูในเรื่ องเขตศาล และอำนาจศาล ว่าจะฟ้ องได้ที่ศาลไหน ในทางภูมิศาสตร์ ทุน
ทรัพย์
โจทห์ มีหน้าที่ตอ้ งนำส่ง หมายเรี ยกละสำเนาคำฟ้ องให้กบั จำเลย ทำไมต้องส่ ง เพราะไม่ง้ นั จำเลยจะไม่รู้วา่
ตนถูกฟ้ อง และ จะเข้ามาในคดียงั ไง กฎหมายจึงบังคับให้เป็ นหน้าที่โจทก์วา่ ..
เมื่อศาลรับฟ้ องโจทก์แล้ว ม.173 ว.1 เป็ นหน้าที่ของ จ ที่ตอ้ งนำส่ งหมายเรี ยก และสำเนาคำฟ้ องให้แก่
จำเลยเพื่อแก้คดี ภายในกำหนด 7 วัน นับแต่ยนื่ ฟ้ อง ให้โจทก์ร้องขอพนง จนท ให้ส่งหมายเรี ยกให้จำเลยเข้า
มาในคดี และ สำเนาคำฟ้ อง ถ่ายสำเนาให้ จล ไปอ่าน เพื่อเข้ามาในคดีถูก ถ้าโจทก์ไม่ทำหน้าที่ ตาม ม.173
ว 1 ซึ่งเป็ นหน้าที่บงั คับ หากไม่ทำศาลก็จำหน่าคดีไป เพราะ จ ทิง้ ฟ้ อง
ศาลจะมีคำสัง่ ว่าโจทก์ทิ้งฟ้ องตาม 174(1) คำสัง่ ต่อเนื่องมา คือ 176 จำหน้ายคดี ของโจทก์
จล มีหน้าที่ยนื่ คำให้การ 177 ว.1 คือข้อต่อสู้ของ จลที่โจทก์อา้ งว่า จล ทำผิด เป็ นข้อเถียงว่า จล ไม่ได้ทำ
ผิดนะ เช่น จ อ้างว่า จล ทำผิดเช่นนั้นเช่นนี้ เป็ นการอ้างโดยทำเป็ นคำฟ้ อง จล มีสิทธิแก้ขอ้ อ้างของโจทก์
โดยทำเป็ น คำให้การ ยืน่ ต่อศาล ภายใน 15 วัน นับแต่วนั ที่ จล ได้รับหมายเรี ยก และสำเนาคำฟ้ อง ถ้า
ตามม.177 ว.1 ถ้า จ ล ไม่ทำหน้าที่น้ ี จะเกิดผล คือ ถือว่า จล ขาดนัดยืน่ คำให้การ ตาม ม.197
ขาดนัดยืน่ คำให้การ เรื่ องขาดนัด พอ จล ขาดนัด คดี จึงไม่ปรกติ เรี ยกว่า คดี วิสามัญ คือ คดีพิเศษ (คดีสามัญ
คือ คดี ปรกติ ) เพราะ จล ไม่ได้ ทำหน้าที่ตาม 177 ว.1 ส่ งผลให้ จล ขาดนัดยืน่ คำให้การ ตาม ม.197 นี้
คือ กรณี จล ไม่ทำ
พอ จล ทำคำให้การ คำฟ้ องต้องมีหลัก เกณท์ ตาม ม.172 ครบ องค์ประกอบ ศาลจะมีท้ งั คำฟ้ อง และ
ให้การ มาเทียบกัน ศาลก็จะนัดวันแรก ที่ตอ้ งนัด คือ วันชี้ สองสถาน วันที่เอามาเทียบกัน วันชี้สองสถานคือ
อะไร คือ เมื่อ จ ฟ้ องแล้ว ศาลมีคำฟ้ องของ โจทก์อยูใ่ นมือ 1 ฉบับ และมีคำให้การของ จล ศาลก็จะ
เอา 2 อย่างมาเทียบกัน วันชี้สองสถาน คือจะดูวา่ จ ฟ้ องเรื่ องอะไร จล ยอมรับเรื่ องไหน เรื่ องไหนที่ จล
ยอมรับ ก็ถือว่าจบไป เรื่ องที่ไม่ยอมรับ ถึงจะเป็ นประเด็นข้อพิพาทแห่งคดี ศาลก็จะนัดวันชี้สองสถาน ศาล
จะถามว่า จ/จล จะสละข้อไหน จล จะรับประเด็นข้อไหนบ้าง จะรับอย่างไร สถานแรก คือ 1 มีประเด็น
อะไรบ้างในเรื่ องนี้ ทะเลาะกันเรื่ องอะไรบ้าง 2.ใครมีภาระการพิสูจ ภาระการพิสูจ เป็ นเรื่ องของ พยานหลัก
ฐาน ว่า ในประเด็นเรื่ องนี้ ใครต้องพิสูจให้ศาลเห็น หากคนที่มีภาระการพิสูจไม่สามารถแสดงให้ศาลเห็นได้
คนนั้นก็จะแพ้ไปเลย
พอศาลเรี ยก จ/จล มาวันนี้ ก็จะรู ้วา่ มีประเด็นเรื่ องอะไรบ้าง ศาลจะถามว่า จะรับเรื่ องไหนไม่รับเรื่ องไหน
ต่อมา ม.204 จล ขาด จ มา ศาลต้องพิจารณาคดีต่อไปฝ่ ายเดียว ซึ่งเรื่ องนี้ ก้เป็ นการพิจารณา วิสามัญ
เหมือนกัน ขาดนัด มี2 คือ ขาดนัดยืน่ คำให้การ แน่นอนคือ จล หรื ออาจจะเป็ น จ ถูก จล ฟ้ องแย้ง