Professional Documents
Culture Documents
การที่ ชาย หญิง จะทาการสมรส เป็ น สามี ภริ ยากันนั้น จะมีการหมั้นกันก่อนก็ได้ หรื อ จะไม่หมั้นก็ได้ จะทาการสมรสกัน
ทีเดียวก็ได้ ไม่มี
กฎหมายบังคับว่า จะต้องมีการหมั้นก่อน แล้วจึงจะสมรสกันได้ ดังนั้น กฎหมายจึงได้บญ ั ญัติอายุของชายหญิงที่จะสามารถจะทาการ
หมั้นกันได้
ไว้เท่ากับอายุของชายหญิงที่จะสามารถทาการสมรสเป็ น สามี ภริ ยากัน แต่ถา้ มีการหมั้น ก็ตอ้ งปฏิบตั ิตามบทบัญญัติ แห่งกฎหมายว่าด้วยการ
หมั้น
ขอบเขตหรือเนือ้ หาสาระของการหมั้น
1. ความหมายของการหมั้น
2. คู่สัญญาในการหมั้น
3. เงื่อนไขการหมั้น
4. ผลของสัญญาหมั้น
ความหมายของการหมั้น
มาตรา 1439 เมื่อมีการหมั้นแล้ว ถ้าฝ่ ายใดผิดสัญญาหมั้น อีกฝ่ ายหนึ่ง มีสิทธิเรี ยกให้รับผิด ใช้ค่าทดแทน ใน
กรณี ที่ฝ่ายหญิง เป็ นฝ่ ายที่ผิด สัญญาหมั้น ให้คืนของหมั้น แก่ฝ่ายชายด้วย
2. ทดแทนความเสียหาย เนื่องจากการที่ คู่หมั้น บิดา มารดาหรือบุคคล ผูก้ ระทาการในฐานะเช่น บิดา มารดา ได้ใช้จ่าย หรือต้องตก เป็ นลูกหนี้ เนื่องในการเตรียมการสมรส
โดยสุจริต และตามสมควร
การกาหนดค่าทดแทนเนื่องจากการผิดสั ญญาหมั้น
ในกรณี ที่หญิง เป็ นผูม้ ีสิทธิได้ค่าทดแทน ศาลอาจชี้ขาดว่า ของหมั้น ที่ตกเป็ นสิ ทธิแก่หญิง
นั้น เป็ นค่าทดแทนทั้งหมด หรื อ เป็ นส่ วนหนึ่ง ของค่าทดแทน ที่หญิงพึงได้รับ หรื อ ศาล อาจ
ให้ค่า ทดแทน โดยไม่คานึงถึงของหมั้น ที่ตกเป็ นสิ ทธิ แก่หญิงนั้นก็ได้
ค่าทดแทนอันอาจจะสามารถเรียกได้ เนื่องจากการหมั้น
กรณีดงั กล่าวข้างต้น แม้หญิงจะสมัครใจอยูก่ ินกับชาย ก็เป็ นไปตาม ประเพณี และมีขอ้ ผูกพันตามสัญญาหมั้นว่าจะได้ทาการสมรสกันตามกฎหมาย ต่อไป เมื่อชายผิดสัญญาหมั้น ย่อม
ทาให้หญิง ได้รับความเสียหายต่อกาย
และเรียกค่าทดแทนได้
* คลิกดูตัวอย่าง *
ข้ อสั งเกตอื่น ๆ
ในการพิจารณา เกี่ยวกับค่าทดแทน ตามความใน มาตรา 1440 (1) คือ
เช่นนี้ หญิงย่อมได้รับความเสียหายแก่ชื่อเสียง และเรียกค่าทดแทนในส่วนนี้ได้แต่ หากการที่ชายไม่ยอมสมรส มีเหตุซ่งึ ไม่กระทบกระเทือน ต่อชื่อเสียง ของหญิง ก็ไม่เป็ นเหตุให้
หญิงเรียกค่า ทดแทน ความเสียหายต่อชื่อเสียงได้ เช่น ชายหมั้นหญิง แล้วต่อมาได้อุปสมบท เป็ นพระภิกษุ แล้วเกิดมีจิตศรัทธา ในสมณเพศ ไปตลอดชีวติ จึงปฏิเสธการสมรส ดังนี้ ชายเป็ นผูผ้ ิด
สัญญาหมั้น เมื่อไม่ปรากฎ ว่าชายได้หาอะไรอย่างอื่น ให้กระทบกระเทือน ต่อชื่อเสียง ของหญิง เหตุผลเพียงเท่านี้ไม่ถึงกับทาให้หญิง ได้รับความเสียหายต่อชื่อเสียง
ข . ลาพังแต่เพียงที่ฝ่ายชาย หรือฝ่ ายหญิง ผิดสัญญาหมั้น ไม่เป็ นผล ให้เกิดความเสียหายต่อกาย และชื่อเสียงเสมอไป หมายความว่า เมื่อฝ่ ายใด ฝ่ ายหนึ่ง ผิดสัญญาหมั้น อีกฝ่ ายหนึ่ง
จะต้องได้รับความเสียหายต่อกาย หรือ ชื่อเสียง ต่อการผิดสัญญาหมั้นด้วย จึงจะเรียกค่าทดแทนได้ การอ้างว่า ได้รับความเสียหาย โดยไม่ปรากฏว่าได้รับความเสียหายอย่างไรจึงไม่พอเพียง ที่จะ
ให้อีกฝ่ ายหนึ่ง ใช้ค่าทดแทนให ้้
ค . กฎหมายบัญญัติ ให้เรียกค่าทดแทน ได้เฉพาะความเสียหาย ต่อกายหรือชื่อเสียงเท่านั้น ดังนั้น ความอับอาย ความเสียใจ อันเป็ นความเสียหาย ทางจิตใจ จึงไม่สามารถนามาอ้าง
เพือ่ เรียกค่าทดแทนได้
1. ค่าใช้ จ่ายในการเตรียมการสมรส
หมายถึง ค่าใช้จ่ายอันจาเป็ น เพือ่ เตรียมการที่ ชาย หญิงจะได้ อยูก่ ิน เป็ น สามี ภริยากันโดยตรง เช่น ค่าใช้จ่ายในการซื้อ เครื่องครัวเรือน ที่นอนหมอนมุง้ เป็ นต้น ส่วนค่าใช้จ่ายอย่างอื่น
แม้จะใช้จ่ายไปในการสมรส แต่ถา้ ไม่ใช่สิ่งจาเป็ นเพือ่ การที่ชายหญิง จะอยูก่ ินเป็ นสามีภาริยากันแล้ว ก็ไม่ถือว่าเป็ นค่าใช้จ่ายในการเตรียม การสมรส เช่น ค่าใช้จ่ายในพิธีหมั้น ค่าใช้จ่ายในการ
เลี้ยงดู แขกในงาน เป็ นต้น
* คลิกดูตัวอย่าง *
5. ผู้มีสิทธิเรียกค่าทดแทนตามความมาตรา 1440(2)
นอกจากตัวคู่หมั้นแล้ว ยังรวมถึง บิดา มารดา หรื อ บุคคล ผูก้ ระทาการ ในฐานะเช่น บิดา มารดาด้วย
บุคคลผูก้ ระทาการในฐานะเช่น บิดา มารดา หมายความถึง ผูป้ กครอง หรือบุคคลอื่น ซึ่งกระทาการในฐานะ เช่น บิดา มารดา ในทางพฤตินยั แม้จะไม่ใช่ผปู้ กครองตามกฎหมาย บุคคล
ดังกล่าว เหล่านี้ มีสิทธิที่จะเรียกค่าทดแทน ความเสียหาย ในการเตรียมการสมรส ในมาตรา 1440 (2) นี้ได้ท้งั สิ้น
ก. "ผูใ้ ช้สิทธิเรียกค่าทดแทน ในการเตรียม การสมรส ต้องนาสืบให้ชดั แจ้ง ว่าได้ใช้จ่ายไปอย่างไร อันเป็ นการเตรียม การสมรส " การกล่าวอ้างว่าได้ใช้จ่าย เป็ นจานวน โดยเท่านั้นเท่านี้
โดยไม่ระบุวา่ ใช้จ่ายเป็ นค่าอะไร ย่อมจะบังคับให้อีกฝ่ ายชาระ ค่าทดแทนความเสียหายให้ไม่ได้
ตัวอย่าง
ค่าใช้จ่ายในพิธีแต่งงาน โจทก์ว่าใช้จ่ายไป 1,500 บาท ไม่ปรากฏว่า เป็ นค่าอะไร แม้เป็ นทานองว่า เป็ นค่าเลี้ยงดู
กันก็ไม่เข้า
ลักษณะอันพึงเรี ยกได้ ตามมาตรา 1440 (2) ปัจจุบนั
ข. จัดการอื่นอันเกี่ยวแก่อาชีพหรือทางทามาหาได้ของตน
กรณีน้ แี สดงว่า การจัดการ ตามมาตรา 1440 (3) นี้ ต้องเป็ น การจัดการของตัวคู่หมั้นเอง โดยเฉพาะ ไม่รวมถึงการจัดการ ของบุคคลอื่น แม้จะเป็ น บิดา มารดา หรือผูป้ กครองก็ตาม
การจัดการของคู่หมั้นดังกล่าว มีอยู่ 2 กรณี คือ การจัดทรัพย์สินของตน หรือ การอื่น อันเกี่ยวกับอาชีพ หรือทางทามาหาได้ของตน หมายความว่า ต้องเป็ นทรัพย์สิน , ทางทามาหาได้ หรือ อาชีพ
ของคู่หมั้นด้วย ถ้าคู่หมั้น ไปจัดการทรัพย์สินของ บิดา มารดา หรือผูอ้ ื่น น่าจะไม่เข้าตาม ในมาตรา 1440 (3)
หมายความว่า เพราะเหตุวา่ ที่จะได้มีการสมรสในภายหน้า จึงได้จดั การไปเช่นนั้น ดังนั้น หากรู้อยูแ่ ล้วว่าอีกฝ่ ายหนึ่งจะไม่ทาการสมรสด้วย หรือ ในกรณีที่ ฝ่ ายใด ฝ่ ายหนึ่งจัดการไป
ตามปกติของอาชีพ หรือด้วยเจตนาที่แม้จะไม่มีการสมรส ก็ควรจัดการเช่นนั้น จึงไม่ถือว่า เป็ นการจัดการด้วยความคาดหมาย ว่าจะได้มีการสมรส ไม่สามารถ เรียกค่าทดแทนตามความ ใน
มาตรา 1440 (3) ได้
* คลิกดูตัวอย่าง *
ชายคู่หมั้น อาจเรียกค่าทดแทน จากชายอื่นตามมาตรานี้ โดยมีเงื่อนไข ว่า ชายอื่นต้องรู้ หรือควรรู้วา่ หญิงนั้น ได้หมั้นกับชายคู่หมั้นนั้นแล้ว และสาหรับกรณีข่มขืนนี้ ถือว่ามิได้เกิดจาก
ความสมัครใจ หรือเกิดจากความยินยอม ของหญิงคู่หมั้น และมิใช่ เป็ นการกระทาชัว่ ของหญิงนั้นแต่อย่างใด จึงไม่ใช่ความผิดของหญิง กฎหมายจึงบัญญัติให้ชาย เรียกค่าทดแทนได้โดยไม่ตอ้ ง
มีการบอกเลิกสัญญาหมั้น ซึ่งแตกต่างกับ มาตรา 1445