You are on page 1of 25

หน้ า 1 จาก 25

ตัวบทกฎหมายพาณิ ชย์ 3
A. ข้อสอบข้อที่ 1 หน่วยที่ 1-2 เรื่ องค้ำประกัน อาจจะออก A+D หรื อ B+C
มาตรา 680 อันว่าค้ำประกันนั้น คือสัญญาซึ่ งบุคคลภายนอกคนหนึ่ง เรี ยกว่าผูค้ ้ำประกัน
ค้ำประกัน ผูกพันตนต่อเจ้าหนี้คนหนึ่งเพื่อชำระหนี้ในเมื่อลูกหนี้ไม่ชำระหนี้น้ นั
อนึ่งสัญญาค้ำประกันนั้น ถ้ามิได้มีหลักฐานเป็ นหนังสื ออย่างใดอย่างหนึ่งลง
ลายมือชื่อผูค้ ้ำประกันเป็ นสำคัญ ท่านว่าจะฟ้ องร้องให้บงั คับคดีหาได้ไม่
ว.2 หลักฐานเป็ นหนังสื อไม่ ใช่ แบบ ดังนั้นจึ งมีลกั ษณะเป็ นเอกสาร, จดหมาย,หนังสื อ
หรื ออะไรก็ได้ ที่มีข้อความว่ าค้ำประกันกันจริ งและมีลายมือชื่ อผู้ค ้ำประกันเป็ นสำคัญ
แต่ ถ้าไม่ มีหลักฐานเป็ นหนังสื อหรื อลงลายมือชื่ อผู้ค ้ำประกัน ก็ไม่ ได้ ทำให้ สัญญาเป็ น
โมฆะเสี ยเปล่ าแต่ ประการใด เพียงแต่ จะฟ้ องร้ องบังคับคดีไม่ ได้
สัญญาค้ำประกันเป็ นสั ญญาอุปกรณ์
มาตรา 681 อันค้ำประกันนั้นจะมีได้ แต่ เฉพาะเพือ่ หนีอ้ นั สมบูรณ์
ว.1 หนี้น้ นั สมบูรณ์ หนีใ้ นอนาคตหรือหนีท้ มี่ ีเงือ่ นไข จะประกันไว้เพื่อเหตุการณ์ซ่ ึ งหนี้ น้ นั อาจเป็ น
ว.2 หนี้ในอนาคต ผลได้จริ ง ก็ประกันได้
ว.3 หนี้ประธานบกพร่ อง หนีอ้ นั เกิดแต่ สัญญาซึ่งไม่ ผูกพันลูกหนี้ เพราะทำด้วยความสำคัญผิดหรื อเพราะ
เป็ นผูไ้ ร้ความสามารถนั้น ก็อาจจะมีประกันอย่ างสมบูรณ์ ได้ ถ้ าหากว่ าผู้ค้ำประกันรู้ เหตุ
สำคัญผิดหรือไร้ ความสามารถนั้นในขณะที่เข้ าทำสั ญญาผูกพันตน
หนีร้ ะหว่ างเจ้ าหนีก้ ับลูกหนีเ้ ป็ นหนีป้ ระธาน และหนีร้ ะหว่ างเจ้ าหนีก้ ับผู้ค ้ำประกันเป็ น
หนีอ้ ุปกรณ์ ถ้าหนีป้ ระธานไม่ สมบูรณ์ กม็ ีผลทำให้ หนีอ้ ุปกรณ์ เสี ยไปด้ วย
ว.3 ถ้ าไม่ ร้ ู เหตุสำคัญผิด สั ญญาก็ไม่ ผกู พันผู้ค ้ำประกันที่ สำคัญผิดหรื อเป็ นผู้ไร้ ความ
สามารถ
มาตรา 682 ท่านว่าบุคคลจะยอมเข้าเป็ น ผู้รับเรือน คือเป็ นประกันของผูค้ ้ำประกันอีกชั้น
ว.1 ผูร้ ับเรื อน หนึ่ง ก็เป็ นได้
ว.2 ผูค้ ้ำประกันหลายคน ถ้ าบุคคลหลายคนยอมตนเข้ าเป็ นผู้ค้ำประกันในหนีร้ ายเดียวกันไซร้ ท่านว่าผูค้ ้ำ
ประกันเหล่านั้นมีความรับผิดอย่ างลูกหนีร้ ่ วมกัน แม้ถึงว่าจะมิได้เข้ารับค้ำประกันรวม
กัน
ผู้รับเรือน ไม่ ใช่ ผ้ คู ้ำประกันลูกหนี ้ ความรั บผิดชอบของผู้รับเรื อนจึ งมิได้ เกิดขึน้ เมื่อลูก
หนีไ้ ม่ ใช้ หนี ้ แต่ จะเกิดขึน้ เมื่อผู้ค ้ำประกันไม่ ใช้ หนี ้
มาตรา 683 อันค้ำประกันอย่ างไม่ มีจำกัดนั้นย่อมคุม้ ถึงดอกเบี้ย และค่าสิ นไหมทดแทนซึ่ งลูก
หนี้คา้ งชำระ ตลอดจนค่าภาระติดพันอันเป็ นอุปกรณ์แห่งหนี้รายนั้นด้วย
ขอบเขตความรับผิดของผูค้ ้ำประกัน (ถ้าไม่ Limited ก็ใช้มาตรานี้ แต่ถา้ Limited ก็ตาม
ข้อตกลง)
มาตรา 684 ผู้ค้ำประกันย่ อมรับผิดเพือ่ ค่ าฤชาธรรมเนียมความซึ่งลูกหนีจ้ ะต้ องใช้ ให้ แก่ เจ้ าหนี้
ค่าฤชาธรรมเนียมความ แต่ถา้ โจทก์ฟ้องคดีโดยมิได้เรี ยกให้ผคู ้ ้ำประกันชำระหนี้น้ นั ก่อนไซร้ ท่านว่าผูค้ ้ำประกัน
เป็ นค่าใช้จ่ายอุปกรณ์ หาต้องรับผิดเพื่อใช้ค่าฤชาธรรมเนียมเช่นนั้นไม่
ค่ าฤชาธรรมเนียมความเป็ นค่ าใช้ จ่ายอุปกรณ์ อีกอย่ างหนึ่งซึ่ งผู้ค ้ำประกันจะต้ องรั บผิด
หน้ า 2 จาก 25

หมายเหตุ; ถ้ าไม่ ได้ ฟ้องผู้ค ้ำประกันตั้งแต่ เริ่ มฟ้ องคดี จะเรี ยกร้ องค่ าธรรมเนียมจากผู้ค ้ำ
ประกันไม่ ได้
มาตรา 685 ถ้าเมื่อบังคับตามสัญญาค้ำประกันนั้น ผู้ค้ำประกันไม่ ชำระหนีท้ ้ังหมดของลูกหนี้
ผลของการบังคับชำระหนี้ รวมทั้งดอกเบีย้ ค่ าสิ นไหมทดแทน และอุปกรณ์ ด้วยไซร้ หนีย้ งั เหลืออยู่เท่ าใด ท่ านว่ า
เอาแก่ผคู ้ ้ำได้ไม่ครบ ลูกหนีย้ งั คงรับผิดต่ อเจ้ าหนีใ้ นส่ วนทีเ่ หลือนั้น
B. ผลก่อนชำระหนี้
มาตรา 686 ลูกหนีผ้ ดิ นัดลงเมื่อใด ท่ านว่ าเจ้ าหนีช้ อบที่จะเรียกให้ ผู้ค้ำประกันชำระหนีไ้ ด้ แต่
ลูกหนี้ผดิ นัด นั้น
แต่ ไม่ ได้ เรี ยกให้ ผ้ คู ้ำประกันชำระหนีไ้ ด้ ทันที ต้ องไล่ เบีย้ เอาจากลูกหนีถ้ ึงที่ สุดก่ อน
มาตรา 687 ผู้ค้ำประกันไม่ จำต้ องชำระหนีก้ ่ อนถึงเวลากำหนดที่จะชำระ แม้ถึงว่าลูกหนี้จะ
กรณี ที่ลูกหนี้ไม่อาจถือ ไม่อาจถือเอาประโยชน์แห่งเงื่อนเวลาเริ่ มต้นหรื อเวลาสิ้ นสุ ดได้ต่อไปแล้ว
ประโยชน์แห่งเงื่อนเวลา
มาตรา 688 เมื่อเจ้าหนี้ทวงให้ผคู ้ ้ำประกันชำระหนี้ ผูค้ ้ำประกันจะขอให้เรี ยกลูกหนี้ ชำระ
ผูค้ ้ำประกันต้องชำระหนี้ ก่อนก็ได้ เว้นแต่ ลูกหนีจ้ ะถูกศาลพิพากษาให้ เป็ นคนล้ มละลายเสี ยแล้ ว หรือไม่ ปรากฏว่ า
ทันทีมี 2 กรณี ลูกหนีไ้ ปอยู่แห่ งใดในพระราชอาณาเขต
มาตรา 689 ถึงแม้จะได้เรี ยกให้ลูกหนี้ ชำระหนี้ดงั กล่าวมาในมาตราก่อนนั้นแล้วก็ตาม ถ้ าผู้ค้ำ
เจ้าหนี้ตอ้ งบังคับชำระหนี้ ประกันพิสูจน์ ได้ว่า ลูกหนีน้ ้ันมีทางทีจ่ ะชำระหนีไ้ ด้ และการที่จะบังคับให้ ลกู หนีชำ ้ ระ
เอาจากลูกหนี้ก่อน หนีน้ ้ันจะไม่ เป็ นการยากไซร้ ท่านว่าเจ้าหนี้จะต้องบังคับการชำระหนี้รายนั้นเอาจาก
ทรัพย์สินของลูกหนี้ ก่อน
มาตรา 690 ถ้ าเจ้ าหนีม้ ีทรัพย์ ของลูกหนีย้ ดึ ถือไว้เป็ นประกันไซร้ เมื่อผูค้ ้ำประกันร้องขอ
เจ้าหนี้มีทรัพย์สินของลูก ท่านว่าเจ้าหนี้จะต้องให้ชำระหนี้เอาจากทรัพย์ซ่ ึ งเป็ นประกันนั้นก่อน
หนี้อยูใ่ นครอบครอง
มาตรา 691 ถ้าผูค้ ้ำประกันต้องรับผิดร่ วมกันกับลูกหนี้ ท่านว่าผูค้ ้ำประกันย่อมไม่มีสิทธิ ดงั
กรณี ผคู ้ ้ำประกันไม่มีสิทธิ กล่าวไว้ในมาตรา 688,689,690
เบี่ยงบ่าย
ร่ วมกันกับลูกหนี ้ = เป็ นลูกหนีร้ ่ วม ทั้ง 3 มาตราก่ อนหน้ าก็เป็ นหมันใช้ การไม่ ได้
มาตรา 692 อายุความสะดุดหยุดลงเป็ นโทษแก่ลูกหนี้น้ นั ย่อมเป็ นโทษแก่ผคู ้ ้ำประกันด้วย
อายุความสะดุดหยุดลง
อายุความสะดุดหยุดลง เพราะการรั บสภาพหนีซ้ ึ่ งอาจทำโดยลูกหนีทำ ้ หนังสื อรั บสภาพ
หนี ้ หรื อโดยใช้ เงินบางส่ วน หรื อส่ งดอกเบีย้ หรื อให้ ประกัน หรื อ ทำการอย่ างหนึ่งอย่ าง
ใดอันแสดงโดยปริ ยายว่ ารั บสภาพหนี ้
C.ผลภายหลังการชำระหนี้
มาตรา 693 ผู้ค้ำประกันซึ่งได้ ชำระหนีแ้ ล้ ว ย่ อมมีสิทธิทจี่ ะไล่ เบีย้ เอาจากลูกหนี้ เพื่อต้นเงิน
ผูค้ ้ำประกันไล่เบี้ยเอาจาก กับดอกเบี้ยและเพื่อการที่ตอ้ งสู ญหายหรื อเสี ยหายไปอย่างใดๆ เพราะการค้ำประกันนั้น
ลูกหนี้ได้ อนึ่งผู้ค้ำประกันย่ อมเข้ ารับช่ วงสิ ทธิของเจ้ าหนีบ้ รรดามีเหนือลูกหนีด้ ้ วย
มาตรา 694 นอกจากข้อต่อสู ้ซ่ ึ งผูค้ ้ำประกันมีต่อเจ้าหนี้น้ นั ท่านว่าผูค้ ้ำประกันยังอาจยกข้อ
สิ ทธิ ของผูค้ ้ำประกันที่จะ ต่อสู้ท้ งั หลายซึ่ งลูกหนี้ มีต่อเจ้าหนี้ข้ ึนต่อสู ้ได้ดว้ ย
หน้ า 3 จาก 25

ยกข้อต่อสู ้เจ้าหนี้
EX. ถ้ าเจ้ าหนีไ้ ม่ ฟ้องทายาทของลูกหนีภ้ ายใน 1 ปี นับแต่ เจ้ าหนีท้ ราบการตายของลูกหนี ้
หนีจ้ ึงขาดอายุความตามมาตรา 1754 ว. 3 เมื่อเจ้ าหนีฟ้ ้ องผู้ค ้ำประกัน ผู้ค ้ำย่ อมยกอายุ
ความขึน้ ต่ อสู้เจ้ าหนีไ้ ด้ ตามมาตรา 694
มาตรา 695 ผูค้ ้ำประกันซึ่ งละเลยไม่ยกข้อต่อสู ้ของลูกหนี้ข้ ึนต่อสู ้เจ้าหนี้น้ นั ท่านว่าย่อมสิ้ น
ผูค้ ้ำละเลยไม่ยกข้อต่อสู้ สิ ทธิที่จะไล่เบี้ยเอาแก่ลูกหนี้เพียงเท่าที่ไม่ยกขึ้นเป็ นข้อต่อสู ้ เว้นแต่จะพิสูจน์ได้วา่ ตน
ของลูกหนี้ข้ ึนต่อสู้ มิได้รู้วา่ มีขอ้ ต่อสู้เช่นนั้นและที่ไม่รู้น้ นั มิได้เป็ นเพราะความผิดของตนด้วย
มาตรา 696 ผู้ค้ำประกันไม่ มีสิทธิจะไล่ เบีย้ เอาแก่ ลูกหนีไ้ ด้ ถ้ าว่ าตนได้ ชำระหนีแ้ ทนไปโดย
ผูค้ ้ำประกันเสี ยสิ ทธิไล่ มิได้ บอกลูกหนี้ และลูกหนีย้ งั มิร้ ู ความมาชำระหนีซ้ ้ำอีก
เบี้ยเพราะชำระหนี้โดยไม่ ในกรณี เช่นว่านี้ ผูค้ ้ำประกันก็ได้แต่เพียงจะฟ้ องเจ้าหนี้ เพื่อคืนลาภมิควรได้
บอกลูกหนี้ แล้วลูกหนี้ เท่านั้น
ชำระซ้ำ
มาตรา 697 ถ้าเพราะการกระทำอย่างใดอย่างหนึ่งของเจ้าหนี้ เองเป็ นเหตุให้ ผู้ค้ำประกันไม่
เจ้าหนี้ทำให้ผคู ้ ้ำประกัน อาจเข้ ารับช่ วงได้ ท้ังหมดหรือแต่ บางส่ วนในสิ ทธิกด็ ี จำนองก็ดี จำนำก็ดี และบุริมสิ ทธิ
ไม่ อาจเข้ ารับช่ วงสิทธิผคู้ ้ำ อันได้ให้ไว้แก่เจ้าหนี้แต่ก่อนหรื อในขณะทำสัญญาค้ำประกันเพื่อชำระหนี้น้ นั ท่ านว่ าผู้
ประกันหลุดพ้น ค้ำประกันย่อมหลุดพ้ นจากความรับผิดเพียงเท่ าที่ตนต้ องเสี ยหายเพราะการนั้ น
EX. ก.กู้เงิน ข. 5000 บาท โดยจำนำแหวนไว้ หนึ่งวง ราคา 3000 บาทเป็ นประกันไว้ มี
ค.เป็ นผู้ค ้ำประกันหนีเ้ งินกู้ด้วย ถ้ า ข.คืนแหวนที่ จำนำให้ แก่ ก. ค.ย่ อมหลุดพ้ นความรั บ
ผิดที่ตนต้ องเสี ยหาย เพราะเหตุที่จะต้ องเข้ ารั บช่ วงสิ ทธิ บังคับ จำนำแหวนนั้นไม่ ได้ เมื่อ
ก.ผิดนัดไม่ ชำระหนี ้ ข.จะมาเรี ยกร้ องเอาจาก ค.ได้ อีกเพียง 2000 บาทเท่ านั้น
D.ความระงับสิ้ นไปแห่งการค้ำประกัน
มาตรา 698 อันผูค้ ้ำประกันย่อมหลุดพ้นจากความรับผิดในขณะเมื่อหนี้ ของลูกหนี้ระงับสิ้ นไป
เหตุระงับสิ ทธิ ของผูค้ ้ำ ไม่วา่ เพราะเหตุใดๆ
หนีป้ ระธานระงับสิ ้นไป หนีอ้ ุปกรณ์ ย่อมระงับ
สาเหตุที่ทำให้ หนีร้ ะงับ 5 ประการ
1. การชำระหนี ้ ม.321
2. การปลดหนี ้ ม.340
3. การหักกลบลบหนี ้ ม.341
4. แปลงหนีใ้ หม่ ม.349
5. หนีเ้ กลื่อนกลืนกัน ม. 353
มาตรา 699 การค้ำประกันเพื่อกิจการเนื่องกันไปหลายคราวไม่มีจำกัดเวลาเป็ นคุณแก่เจ้าหนี้
ผูค้ ้ำประกันบอกเลิกการ นั้น ท่านว่าผูค้ ้ำอาจเลิกเสี ยเพื่อคราวอันเป็ นอนาคตได้ โดยบอกกล่าวความประสงค์น้ นั
ค้ำประกัน แก่เจ้าหนี้
ในกรณี เช่นนี้ ท่านว่าผูค้ ้ำประกันไม่ตอ้ งรับผิดในกิจการที่ลูกหนี้กระทำลงภาย
หลังคำบอกกล่าวนั้นได้ไปถึงเจ้าหนี้
มาตรา 700 ถ้าค้ำประกันหนี้อนั จะต้องชำระ ณ เวลามีกำหนดแน่ นอน และเจ้ าหนีย้ อมผ่ อน
เจ้าหนี้ผอ่ นเวลาชำระหนี้ เวลาให้ แก่ลูกหนีไ้ ซร้ ท่ านว่ าผู้ค้ำประกันย่ อมหลุดพ้ นจากความรับผิด
หน้ า 4 จาก 25

ให้แก่ลูกหนี้ แต่ถา้ ผูค้ ้ำประกันได้ตกลงด้วยในการผ่อนเวลา ท่ านว่ าผู้ค้ำประกันหาหลุดพ้ น


จากความรับผิดไม่
สาระสำคัญในเรื่ องการผ่ อนเวลาชำระหนีใ้ ห้ แก่ ลกู หนี ้ ที่ จะทำให้ ผ้ คู ้ำประกันหลุดพ้ น
ความรั บผิดตามม. 700 ประกอบด้ วย
1. ต้ องเป็ นหนีท้ ี่ มีกำหนดเวลาชำระแน่ นอน
2. เจ้ าหนีไ้ ด้ ผ่อนเวลาให้ แก่ ลกู หนี ้
3. การผ่ อนเวลานั้นไม่ ได้ รับความยินยอมจากผู้ค ้ำประกัน
มาตรา 701 ผูค้ ้ำประกันจะขอชำระหนี้แก่เจ้าหนี้ต้ งั แต่เมื่อถึงกำหนดชำระก็ได้
เจ้าหนี้ไม่ยอมรับชำระหนี้ ถ้าเจ้าหนี้ไม่ยอมรับชำระหนี้ ผูค้ ้ำประกันก็เป็ นอันหลุดพ้นจากความรับผิด
จากผูค้ ้ำประกัน
ไม่ ยอมรั บชำระหนี=้ โดยมิชอบด้ วยกฎหมาย
แต่ ถ้าเป็ นตัวลูกหนีข้ อชำระหนีแ้ ล้ วเจ้ าหนีป้ ฏิ เสธไม่ ยอมรั บชำระหนีโ้ ดยไม่ มีเหตุจะอ้ าง
กฎหมายได้ มีผลทำให้ เจ้ าหนีต้ กเป็ นผู้ผิดนัด คิดดอกเบีย้ ผิดนัดไม่ ได้ แต่ ไม่ ทำให้ ลกู
หนีห้ ลุดพ้ นจากความรั บผิด
ข้อสอบข้อ 2 หน่วยที่ 4-5 เรื่ องจำนอง
A
มาตรา 702 อันว่าจำนองนั้น คือสัญญาซึ่ งบุคคลหนึ่ง เรี ยกว่าผูจำ ้ นอง เอาทรัพย์สินตราไว้
ความหมายสัญญาจำนอง แก่บุคคลอีกคนหนึ่ง เรี ยกว่าผูร้ ับจำนอง เป็ นประกันการชำระหนี้ โดยไม่ส่งมอบ
ทรัพย์สินนั้นให้แก่ผรู ้ ับจำนอง
ผูร้ ับจำนองชอบที่จะได้รับชำระหนี้จากทรัพย์สินที่จำนองก่อนเจ้าหนี้สามัญ มิ
พักต้องพิเคราะห์วา่ กรรมสิ ทธิ์ ในทรัพย์สินจะได้โอนไปยังบุคคลภายนอกแล้วหรื อหาไม่
ถ้าสังหาริมทรัพย์ จะเรี ยกว่ า จำนำ
แต่ ถ้าอสังหาริมทรั พย์ จะเรี ยกว่ า จำนอง
EX.ว.2 ก.กู้เงิน ข. 20000 บาท โดยเอาที่ ดินจำนองไว้ เป็ นประกัน ต่ อมา ก.ขายที่ ดิน
แปลงนั้นแก่ ค. หรื อยกที่ ดินให้ โดยเสน่ หา ก.ย่ อมมีสิทธิ ทำได้ แต่ ค.ผู้รับโอนจะต้ องรับ
ภาระจำนองมาด้ วย
การชำระหนีต้ ามลำดับดังนี ้
1. จดทะเบียนบุริมสิ ทธิ
2. จำนอง
3. กู้เงิน (เจ้ าหนีส้ ามัญ)
มาตรา 703 อันอสังหาริ มทรัพย์น้ นั อาจจำนองได้ไม่วา่ ประเภทใดๆ
ทรัพย์สินที่จำนองได้ สังหาริ มทรัพย์อนั จะกล่าวต่อไปนี้กอ็ าจจำนองได้ดุจกัน หากว่าได้จดทะเบียนไว้
แล้วตามกฎหมาย คือ
1) เรื อที่มีระวางตั้งแต่ 5 ตันขึ้นไป
2) แพ
3) สัตว์พาหนะ
4) สังหาริ มทรัพย์อื่นใดๆซึ่ งกฎหมายหากบัญญัติไว้ให้จดทะเบียนเฉพาะการ
หน้ า 5 จาก 25

มาตรา 704 สัญญาจำนองต้ องระบุทรัพย์ สินซึ่งจำนอง


ต้องระบุทรัพย์สิน
มาตรา 705 การจำนองทรัพย์ สินนั้น นอกจากผู้เป็ นเจ้ าของในขณะนั้นแล้ ว ท่ านว่ าใครอืน่ จะ
ผูจำ
้ นองต้องเป็ นเจ้าของ จำนองหาได้ไม่
มาตรา 706 บุคคลมีกรรมสิทธิ์ในทรัพย์ สินแต่ ภายในบังคับเงือ่ นไขเช่ นใด จะจำนอง
กรรมสิ ทธิ์ ที่มีเงื่อนไข ทรัพย์สินนั้นได้แต่ภายในบังคับเงื่อนไขเช่นนั้น
มาตรา 707 บทบัญญัติมาตรา 681 ว่าด้วยค้ำประกันนั้น ท่านให้ใช้ได้ในการจำนอง อนุโลม
ตามควร
มาตรา 708 สัญญาจำนองนั้นต้ องมีจำนวนเงินระบุไว้ เป็ นเรือนเงินไทยเป็ นจำนวนแน่ ตรงตัว
ระบุจำนวนเงินไทย หรื อจำนวนขั้นสู งสุ ดที่ได้เอาทรัพย์สินจำนองนั้นตราไว้เป็ นประกัน
แน่นอนหรื อจำนวน
สู งสุ ด
มาตรา 709 บุคคลคนหนึ่งจะจำนองทรัพย์สินของตนไว้เพื่อประกันหนี้อนั บุคคลอื่นจะต้อง
ชำระ ก็ให้ทำได้
มาตรา 710 ทรัพย์สินหลายสิ่ งมีเจ้าของคนเดียวหรื อหลายคนจะจำนองเพื่อเป็ นประกันการ
ทรัพย์หลายสิ่ งเอาจำนอง ชำระหนี้แต่รายหนึ่งรายเดียว ท่านก็ให้ทำได้
เป็ นประกันหนี้รายเดียว และในการนี้คู่สญ ั ญาจะตกลงกันดังต่อไปนี้กไ็ ด้ คือว่า
1) ให้ผรู้ ับจำนองใช้สิทธิ บงั คับเอาแก่ทรัพย์สินซึ่ งจำนองตามลำดับอันระบุไว้
2) ให้ถือเอาทรัพย์สินแต่ละสิ่ งเป็ นประกันหนี้เฉพาะแต่ส่วนหนึ่งส่ วนใดที่ระบุไว้
เช่ น จะบังคับจำนองเอาทรั พย์ สินอันไหนก่ อนเรี ยงตามลำดับ และต้ องระบุมลู ค่ าของ
ทรั พย์ สินที่ จำนองนั้นด้ วย
มาตรา 711 การที่จะตกลงกันไว้ เสี ยแต่ ก่อนเวลาหนีถ้ ึงกำหนดชำระเป็ นข้อความอย่างใดอย่าง
ต้องไม่มีขอ้ ตกลงก่อนหนี้ หนึ่งว่า ถ้าไม่ชำระหนี้ ให้ผรู ้ ับจำนองเข้าเป็ นเจ้าของทรัพย์สินซึ่ งจำนอง หรื อว่าให้
ถึงกำหนดชำระ จัดการแก่ทรัพย์สินนั้นเป็ นประการอื่นอย่างใด นอกจากตามบทบัญญัติท้ งั หลายว่าด้วย
การบังคับจำนองไซร้ ข้ อตกลงเช่ นนั้นท่ านว่ าไม่ สมบูรณ์
เพราะสัญญาจำนองเป็ นทรั พยสิ ทธิ การตกลงเปลี่ยนแปลงต้ องมีการจดทะเบียนเท่ านั้น
ดังนั้นข้ อตกลงล่ วงหน้ าจึ งไม่ มีผลทางกฎหมาย
มาตรา 712 แม้ถึงว่ามีขอ้ สัญญาเป็ นอย่างอื่นก็ตาม ทรัพย์สินซึ่ งจำนองไว้แก่บุคคลคนหนึ่ง
จำนองซ้อน นั้น ท่ านว่าจะเอาไปจำนองแก่ บุคคลอีกคนหนึ่งในระหว่ างเวลาที่สัญญาก่ อนยังมีอายุอยู่
ก็ได้
ขึน้ อยู่กับเจ้ าหนีจ้ ะรั บจำนองต่ อหรื อไม่ แล้ วแต่ มลู ค่ าของทรั พย์ สินนั้น
มาตรา 713 ถ้ามิได้ตกลงกันไว้เป็ นอย่างอื่นในสัญญาจำนอง ท่ านว่ าผู้จำนองจะชำระหนีล้ ้ าง
สิ ทธิชำระหนี้ลา้ งจำนอง จำนองเป็ นงวดๆก็ได้
เป็ นงวดๆ
มาตรา 714 อันสัญญาจำนองนั้น ท่ านว่ าต้ องทำเป็ นหนังสื อและจดทะเบียนต่ อพนักงานเจ้ า
แบบของสัญญาจำนอง หน้ าที่
ถ้าไม่เข้ ามาตรานี้สัญญาก็ตกเป็ นโมฆะ
หน้ า 6 จาก 25

เหตุที่ต้องมีการจดทะเบียนเพราะการจำนองไม่ มีการส่ งมอบทรั พย์ สินที่ จำนอง และจะ


ทำให้ ผ้ รู ั บจำนองสามารถตรวจสอบได้ ว่าทรั พย์ สินนั้นอยู่ภายใต้ จำนอง
B. สิ ทธิจำนองครอบเพียงใด
มาตรา 715 ทรัพย์สินซึ่ งจำนองย่อมเป็ นประกันเพื่อการชำระหนี้กบั ทั้งค่าอุปกรณ์ต่อไปนี้ดว้ ย
ทรัพย์สินจำนองประกัน คือ
ทั้งหนี้ประธานและหนี้ 1) ดอกเบี้ย
อุปกรณ์ 2) ค่าสิ นไหมทดแทนในการไม่ชำระหนี้
3) ค่าฤชาธรรมเนียมในการบังคับจำนอง
มาตรา 716 จำนองย่อมครอบไปถึงบรรดาทรัพย์ สินซึ่งจำนองหมดทุกสิ่ ง แม้จะได้ชำระหนี้
สิ ทธิจำนองครอบทรัพย์ แล้วบางส่ วน
ทุกสิ่ งและทุกส่ วน
EX. ก.เอาที่ดิน 3 แปลงมาจำนองไว้ กับเจ้ าหนีเ้ พื่อประกันเงินกู้ 300,000 บาท โดยผ่ อน
ชำระแล้ ว 200,000 บาท เหลืออีก 100,000 บาทถ้ าไม่ ได้ ตกลงล้ างจำนองเป็ นงวดๆ และ
ปลดเอาที่ดินแปลงใดออกจากจำนอง จำนองย่ อมครอบไปถึงที่ ดินทั้ง 3 แปลงที่ จำนอง
มาตรา 717 แม้วา่ ทรัพย์สินซึ่ งจำนองจะแบ่งออกเป็ นหลายส่ วนก็ตาม ท่านว่าจำนองก็ยงั คง
ว.2 ปลดจำนองเป็ นส่ วนๆ ครอบไปถึงส่ วนเหล่านั้นหมดทุกส่ วนด้วยกันอยูน่ นั่ เอง
ก็ได้แต่ตอ้ งจดทะเบียน ถึงกระนั้นก็ดี ถ้ าผู้รับจำนองยินยอมด้ วย ท่ านว่ าจะโอนทรัพย์ สินส่ วนหนึ่งส่ วน
ใดไปปลอดจากจำนองก็ให้ ทำได้ แต่ ความยินยอมดังว่ านีห้ ากมิได้ จดทะเบียน ท่านว่าจะ
ยกเอาขึ้นเป็ นข้อต่อสู ้กบั บุคคลภายนอกหาได้ไม่
หมายเหตุ; ในวรรค 2 ถ้ าไม่ ได้ จดทะเบียน ข้ อตกลงดังกล่ าวก็ยงั อยู่แต่ จะยกเป็ นข้ อต่ อสู้
กับบุคคลภายนอกไม่ ได้
มาตรา 718 จำนองย่อมครอบไปถึงทรัพย์ ท้ังปวงอันติดพันอยู่กบั ทรัพย์ สินซึ่งจำนอง แต่ ต้อง
ทรัพย์ที่สิทธิ จำนองครอบ อยู่ภายในบังคับซึ่งท่ านจำกัดไว้ ในสามมาตราต่ อไปนี้
ถึง(ส่ วนควบ)
การจำนองย่ อมครอบไปหมดบ้ านและสิ่ งปลูกสร้ างบนที่ ดิน เว้ นแต่ ม.719 ,720 ,721
มาตรา 719 จำนองทีด่ นิ ไม่ ครอบไปถึงโรงเรือนอันผู้จำนองปลูกสร้ างลงในที่ดนิ ภายหลังวัน
โรงเรื อนซึ่ งปลูกสร้างใน จำนอง เว้นแต่จะมีขอ้ ความกล่าวไว้โดยเฉพาะในสัญญาว่าให้ครอบไปถึง
ที่ดินจำนองภายหลัง แต่กระนั้นก็ดี ผูร้ ับจำนองจะให้ขายเรือนโรงนั้นรวมไปกับที่ดิน ด้วยก็ได้แต่ผรู ้ ับ
จำนอง จำนองอาจใช้บุริมสิ ทธิ ของตนได้เพียงแก่ราคาที่ดิน เท่านั้น
เรื อนโรง คือ ส่ วนควบ ผู้รับจำนองไม่ ได้ ประโยชน์ จากการขายโรงเรื อน
มาตรา 720 จำนองโรงเรื อนหรื อสิ่ งปลูกสร้างอย่างอื่น ซึ่ งได้ทำขึ้นไว้บนดินหรื อใต้ดิน ใน
จำนองโรงเรื อนซึ่ งอยูบ่ น ที่ดนิ อันเป็ นของคนอืน่ เขานั้น ย่ อมไม่ ครอบไปถึงที่ดนิ นั้นด้ วย ฉันใดกลับกันก็ฉันนั้น
ที่ดินของผูอ้ ื่น
มาตรา 721 จำนองไม่ ครอบไปถึงดอกผลแห่ งทรัพย์ สินซึ่งจำนอง เว้นแต่ในเมื่อผูร้ ับจำนอง
ดอกผลของทรัพย์ที่ ได้บอกกล่าวแก่ผจำ ู ้ นองหรื อผูร้ ับโอนแล้วว่า ตนจำนงจะบังคับจำนอง
จำนอง
ดอกผลของทรั พย์ ตามมาตรา 148
หน้ า 7 จาก 25

C. สิ ทธิและหน้าที่ของผูร้ ับจำนองและผูจำ ้ นอง


มาตรา 722 ถ้ าทรัพย์สินได้ จำนองแล้ ว และภายหลังที่จดทะเบียนจำนองมีจดทะเบียนภาระ
สิ ทธิ ที่จะขอลบทรัพย จำยอมหรือทรัพยสิ ทธิอย่ างอืน่ โดยผู้รับจำนองมิได้ ยนิ ยอมด้ วยไซร้ ท่ านว่ าสิทธิ
สิ ทธิ ที่จดทะเบียนภาย จำนองย่อมเป็ นใหญ่ กว่ าภาระจำยอมหรื อทรั พยสิทธิอย่ างอื่นนั้น หากว่าเป็ นที่เสื่ อมเสี ย
หลัง แก่สิทธิของผูร้ ับจำนองในเวลาบังคับจำนอง ก็ให้ลบสิ ทธิ ที่กล่าวหลังนั้นเสี ยจาก
ทะเบียน
สิทธิจำนองย่อมเป็ นใหญ่ กว่ า หมายถึง ได้ รับชำระหนีก้ ่ อน
หมายเหตุ; การที่จะขอให้ ลบทรั พยสิ ทธิ ที่จดทะเบียนภายหลังนี ้ ต้ องเป็ นกรณี ที่ผ้ รู ั บ
จำนองมิได้ ยินยอมด้ วย ฉะนั้นถ้ าผู้รับจำนองยินยอมแล้ วก็ไม่ มีสิทธิ ขอให้ ลบได้
EX. ก.กู้เงิน ข. และจำนองที่ ดินไว้ เป็ นประกันต่ อมา ก.จดทะเบียนภาระจำยอมให้ ค.ทำ
ถนนผ่ านที่ดินนั้นได้ โดย ข.ไม่ ยินยอมด้ วย ทำให้ ที่ดินราคาตก ถ้ าขายก็ได้ ราคาต่ำมาก
ไม่ พอชำระหนีจำ ้ นองแน่ เพราะที่ ดินติดภาระจำยอม ข.มีสิทธิ จะให้ ลบภาระจำยอมนั้น
จากทะเบียนได้ แม้ ยงั ไม่ ถึงเวลาที่ จะบังคับจำนองก็ตาม
มาตรา 723 ถ้ าทรัพย์สินซึ่งจำนองบุบสลาย หรือถ้ าทรัพย์ สินซึ่งจำนองแต่ สิ่งใดสิ่ งหนึ่ง
สิ ทธิ ในการบังคับจำนอง สู ญหายหรือบุบสลาย เป็ นเหตุให้ ไม่ เพียงพอแก่ การประกันไซร้ ท่ านว่ าผู้รับจำนองจะ
บังคับจำนองเสียในทันทีกไ็ ด้ เว้นแต่เมื่อเหตุน้ นั มิได้เป็ นเพราะความผิดของผูจำ้ นอง
และผูจำ้ นองก็เสนอจะจำนองทรัพย์สินอื่นแทนให้มีราคาเพียงพอ หรื อเสนอจะรับ
ซ่อมแซมแก้ไขความบุบสลายนั้นภายในเวลาอันสมควรแก่เหตุ
หมายเหตุ; จะต้ องเป็ นการบุบสลายหรื อสู ญหายอันเนื่องมาแต่ ความผิดของผู้จำนอง จึ ง
จะเข้ าข่ ายมาตรา 723 คือไม่ จำเป็ นว่ าผู้จำนองจะต้ องทำให้ บบุ สลายหรื อสู ญหายด้ วย
ตนเองเพียงแต่ เป็ นเพราะความผิดของผู้จำนองก็ใช้ ได้ แล้ ว
มาตรา 724 ผูจำ
้ นองใดได้จำนองทรัพย์สินของตนไว้เพื่อประกันหนี้อนั บุคคลอื่นจะต้องชำระ
สิ ทธิ ไล่เบี้ยลูกหนี้ แล้วและเข้าชำระหนี้เสี ยเองแทนลูกหนี้ เพือ่ จะปัดป้ องมิให้ ต้องบังคับจำนอง ท่านว่าผู ้
จำนองนั้นชอบที่จะได้รับเงินใช้คืนจากลูกหนี้ ตามจำนวนที่ตนได้ชำระไป
ถ้าว่าต้องบังคับจำนอง ท่านว่าผูจำ ้ นองชอบที่จะได้รับเงินใช้คืนจากลูกหนี้ ตาม
จำนวนซึ่ งผูร้ ับจำนองจะได้รับใช้หนี้ จากการบังคับจำนองนั้น
มาตรา 725 เมื่อบุคคล 2 คนหรือกว่ านั้น ต่างได้จำนองทรัพย์สินแห่งตนเพื่อประกันหนี้แต่
ผูจำ
้ นองค้ำประกันหลาย รายหนึ่งรายเดียว อันบุคคลอื่นจะต้องชำระและมิได้ ระบุลำดับไว้ไซร้ ท่านว่าผูจำ ้ นองซึ่ ง
คน(มิได้ระบุลำดับไว้) ได้เป็ นผูชำ้ ระหนี้ หรื อเป็ นเจ้าของทรัพย์สินซึ่ งต้องบังคับจำนองนั้น หามีสิทธิจะไล่ เบีย้
เอาแก่ผู้จำนองอืน่ ๆต่ อไปได้ ไม่
คงมีสิทธิ ไล่ เบีย้ เอาจากลูกหนีต้ ามมาตรา 724 เท่ านั้น
มาตรา 726 เมื่อบุคคลหลายคนต่างได้จำนองทรัพย์สินแห่งตนเพื่อประกันหนี้แต่รายหนึ่งราย
สิ ทธิ ของผูจำ ้ นองคนหลัง เดียว อันบุคคลอื่นจะต้องชำระและได้ระบุลำดับไว้ดว้ ยไซร้ ท่ านว่ าการที่ผู้รับจำนอง
ที่จะหลุดพ้นความรับผิด ยอมปลดหนีใ้ ห้ แก่ ผู้จำนองคนหนึ่งนั้น ย่ อมทำให้ ผู้จำนองคนหลังๆ ได้ หลุดพ้นเพียง
้ นองคนก่อนได้รับ ขนาดที่เขาต้ องรับความเสี ยหายแต่ การนั้น
เมื่อผูจำ
การปลดจำนอง
EX. ก.กู้เงิน ข. 500,000 บาท โดยมี ค.ง.ต่ างจำนองที่ ดินของตนเป็ นประกันหนี ้ และระบุ
หน้ า 8 จาก 25

ลำดับไว้ ว่าต้ องบังคับจำนองที่ ดิน ค.ก่ อนแล้ วจึ งบังคับจำนองที่ ดิน ง.ได้ หาก ข.ปลด
จำนองให้ แก่ ค.ผู้จำนองลำดับแรก ง.ผู้จำนองคนหลังย่ อมหลุดพ้ นความรั บผิดเท่ าที่ ต้อง
เสี ยหายคือ เท่ าราคาที่ ดินของ ค. สมมุติว่าราคาที่ ดินของ ค.มีราคา 300,000 บาท ง.ก็มี
สิ ทธิ หลุดพ้ นความรั บผิด 300,000 บาท คือสามารถหั กหนีก้ ับ ข.ได้ 300,000 บาทคงรั บ
ผิดเพียง 200,000 เท่ านั้น
มาตรา 727 ถ้าบุคคลคนเดียวจำนองทรัพย์สินแห่งตนเพื่อประกันหนี้อนั บุคคลอื่นจะต้อง
สิ ทธิ ของผูจำ
้ นองที่จะ ชำระ ท่านให้ใช้บทบัญญัติมาตรา 697,700 และ 701 ว่าด้วยค้ำประกันนั้นบังคับอนุโลม
หลุดพ้นความรับผิด ตามควร
สิ ทธิหลุดพ้นความรับผิดได้แก่
1. มาตรา 697 ไม่อาจรับช่วงสิ ทธิ
2. มาตรา 700 เมื่อเจ้าหนี้ผอ่ นเวลาให้ลูกหนี้
3. มาตรา 701 เมื่อเจ้าหนี้ไม่ยอมรับชำระหนี้
D. สิ ทธิและหน้าที่ของผูร้ ับโอนทรัพย์สินซึ่ งจำนอง
มาตรา 736 ผู้รับโอนทรัพย์ สินซึ่งจำนองจะไถ่ ถอนจำนองก็ได้ ถ้าหากมิได้เป็ นตัวลูกหนี้ หรื อ
สิ ทธิ ที่จะไถ่ถอนจำนอง ผูค้ ้ำประกัน หรื อเป็ นทายาทของลูกหนี้ หรื อผูค้ ้ำประกัน
มาตรา 737 ผู้รับโอนจะไถ่ถอนจำนองเมื่อใดก็ได้ แต่ ถ้าผู้รับจำนองได้ บอกกล่ าวว่ ามีจำนงจะ
กำหนดเวลาไถ่ถอน บังคับจำนองไซร้ ผูร้ ับโอนต้องไถ่ถอนจำนองภายในเดือนหนึ่งนับแต่วนั รับคำบอก
จำนอง กล่าว
มิฉะนั้นอาจหมดสิ ทธิ ไถ่ ถอนจำนองเอาได้ เพราะผู้รับจำนองก็จะดำเนินการฟ้ องศาล
บังคับจำนองยึดทรั พย์ ขายทอดตลาดต่ อไป
ผู้รับโอน หมายถึง ผู้ที่ซื้อทรั พย์ หรื อได้ มาซึ่ งทรั พย์ ที่ติดจำนองไว้ ในครอบครองของตน
E. การบังคับจำนอง
มาตรา 728 เมื่อจะบังคับจำนองนั้น ผูร้ ับจำนองต้องมีจดหมายบอกกล่าวไปยังลูกหนี้ ก่อนว่า
การขายทอดตลาดทรัพย์ ให้ชำระหนี้ภายในเวลาอันสมควรซึ่ งกำหนดให้ในคำบอกกล่าวนั้น ถ้ าและลูกหนีล้ ะเลย
จำนอง เสียไม่ ปฏิบัติตามคำบอกกล่ าว ผูร้ ับจำนองจะฟ้ องคดีต่อศาลเพื่อให้พิพากษาสัง่ ให้ยดึ
ทรัพย์สินซึ่ งจำนองและให้ขายทอดตลาดก็ได้
วิธีการบังคับจำนอง มี 2 วิธี
1. การขายทอดตลาดทรั พย์ จำนอง
2. การเอาทรั พย์ จำนองหลุดเป็ นกรรมสิ ทธิ์ ของผู้รับจำนอง
หมายเหตุ; ต้ องเป็ นเจ้ าหนีซ้ ึ่ งชนะคดีจึงมีอำนาจบังคับจำนองได้
มาตรา 729 นอกจากทางแก้ดงั บัญญัติไว้ในมาตราก่อนนั้น ผู้รับจำนองยังชอบที่จะเรียกเอา
การเอาทรัพย์จำนองหลุด ทรัพย์ จำนองหลุดได้ ภายในบังคับแห่ งเงือ่ นไขดังจะกล่ าวต่ อไปนี ้
เป็ นกรรมสิ ทธิ์ ของผูร้ ับ 1) ลูกหนี้ได้ขาดส่ งดอกเบี้ยมาแล้วเป็ นเวลา 5 ปี
จำนอง 2) ผูจำ ้ นองมิได้แสดงให้เป็ นที่พอใจแก่ศาลว่าราคาทรัพย์สินนั้นท่วมจำนวนเงินอัน
ค้างชำระและ
3) ไม่มีการจำนองรายอื่น หรื อบุริมสิ ทธิ อื่นได้จดทะเบียนไว้เหนือทรัพย์สินอัน
เดียวกันนี้เอง
หน้ า 9 จาก 25

หมายเหตุ; ต้ องอยู่ในเงื่อนไขครบทั้ง 3 ประการ หากขาดข้ อใดข้ อหนึ่งจะเอาทรั พย์


จำนองหลุดไม่ ได้
มาตรา 730 เมื่อทรัพย์สินอันหนึ่งอันเดียวได้ จำนองแก่ ผู้รับจำนองหลายคนด้ วยกัน ท่านให้
ผลของการจำนองซ้อน ถือลำดับผูร้ ับจำนองเรี ยงตามวันและเวลาจดทะเบียน และผูร้ ับจำนองคนก่อนจักได้รับ
ใช้หนี้ก่อนผูร้ ับจำนองคนหลัง
EX. ก.กู้เงิน ข. 100,000 บาทเอาที่ ดินจำนองเป็ นประกัน ต่ อมา ก.กู้เงิน ค.อีก 50,000
บาท เอาที่ดินแปลงเดิมจำนองซ้ำกับ ค. สุดท้ าย ก.กู้เงิน ง. 30,000 บาท และจำนองที่ ดิน
แปลงเดิมนั้นอีก เมื่อ ก.ไม่ ชำระหนีแ้ ละมีการบังคับจำนองขายทอดตลาดที่ ดินของ ก.ได้
เงินสุทธิ 120,000 บาท ดังนี ้ ข.ผู้รับจำนองคนแรกมีสิทธิ ได้ รับชำระหนีส้ ิ ้นเชิ ง 100,000
บาท ค.ผู้รับจำนองคนที่ 2 ได้ รับเพียง 20,000 บาท ส่ วน ง.ไม่ ได้ รับชำระหนีเ้ ลย
มาตรา 731 อันผูร้ ับจำนองคนหลังจะบังคับตามสิ ทธิ ของตนให้เสี ยหายแก่ผรู ้ ับจำนองคนก่อน
นั้น ท่ านว่าหาอาจทำได้ ไม่
มาตรา 732 ทรัพย์สินซึ่งจำนองขายทอดตลาดได้ เงินเป็ นจำนวนสุ ทธิเท่ าใด ท่านให้จดั ใช้แก่
สิ ทธิ ที่จะได้รับเงินที่เหลือ ผูร้ ับจำนองเรี ยงตามลำดับ และถ้ายังมีเงินเหลืออยูอ่ ีก ก็ให้ส่งมอบแก่ผจำ ู ้ นอง
จากการบังคับจำนอง
มาตรา 733 ถ้ าเอาทรัพย์ จำนองหลุดและราคาทรัพย์ สินนั้นมีประมาณต่ำกว่ าจำนวนเงินที่ค้าง
ลูกหนี้ไม่ตอ้ งรับผิดใน ชำระกันอยู่กด็ ี หรื อถ้าเอาทรัพย์สินซึ่ งจำนองออกขายทอดตลาดใช้หนี้ ได้เงินจำนวน
จำนวนเงินที่ขาดเมื่อขาย สุ ทธินอ้ ยกว่าจำนวนเงินที่คา้ งชำระกันอยูน่ ้ นั ก็ดี เงินยังขาดจำนวนอยู่เท่ าใดลูกหนีไ้ ม่
ทรัพย์ทอดตลาด ต้ องรับผิดในเงินนั้น
มาตรา 737 ผูร้ ับโอนจะไถ่ถอนจำนองเมื่อใดก็ได้ แต่ถา้ ผูร้ ับจำนอง ได้บอกกล่าวว่ามีจำนงจะ
กำหนดเวลาไถ่ถอน บังคับจำนองไซร้ ผูร้ ับโอนต้องไถ่ถอนจำนอง ภายในเดือนหนึ่งนับแต่วนั รับคำบอก
จำนอง กล่าว
มิฉะนั้น อาจหมดสิ ทธิ ไถ่ ถอนจำนองเอาได้ เพราะผู้รับจำนองก็จะดำเนินการฟ้ องศาล
บังคับจำนองยึดทรั พย์ ขายทอดตลาดต่ อไป
มาตรา 744 อันจำนองย่อมระงับสิ้ นไป
สาเหตุที่ทำให้สญ ั ญา 1) เมื่อหนี้ที่ประกันระงับสิ้ นไปด้วยเหตุประการอืน่ ใด มิใช่เหตุอายุความ
จำนองระงับ 2) เมื่อปลดจำนองให้แก่ผจำ ู ้ นองด้วยหนังสื อเป็ นสำคัญ(และจดทะเบียนด้วย)
3) เมื่อผูจำ
้ นองหลุดพ้น
4) เมื่อถอนจำนอง
5) เมื่อขายทอดตลาดทรัพย์สินซึ่ งจำนองตามคำสัง่ ศาลอันเนื่องมาแต่การบังคับ
จำนองหรื อถอนจำนอง
6) เมื่อเอาทรัพย์สินซึ่ งจำนองนั้นหลุด
เหตุประการอื่นใด เช่ น การชำระหนี ้ ปลดหนี ้ หั กกลบลบหนี ้ หนีเ้ กลื่อนกลืนกัน
มาตรา 747 อันว่าจำนำนั้น คือสัญญาซึ่ งบุคคลคนหนึ่งเรี ยกว่า ผูจำ
้ นำส่ งมอบสังหาริ มทรัพย์สิ่ง
ความหมายของสัญญา หนึ่งให้แก่บุคคลอีกคนหนึ่งเรี ยกว่า ผูร้ ับจำนำ เพื่อเป็ นประกันการชำระหนี้
จำนำ
ผู้จำนำต้ องเป็ นเจ้ าของทรั พย์ ดู ม.1336 ประกอบ (จำนำเฉพาะสั งหาริ มทรั พย์ เท่ านั้น)
หน้ า 10 จาก 25

สังหาริ มทรั พย์ = สิ ทธิ อันเกี่ยวกับสั งหาริ มทรั พย์ ด้วยเช่ น ลิขสิ ทธิ์ , สิ ทธิ ใน
เครื่ องหมายการค้ า สิ ทธิ เหล่ านีย้ ่ อมจำนำได้ เหมือนสั งหาริ มทรั พย์ ทั่วไป แต่ สิทธิ การเช่ า
อาคาร ไม่ อาจจำนำได้
มาตรา 748 การจำนำนั้นย่อมเป็ นประกันเพื่อการชำระหนี้ กับ ทั้งค่าอุปกรณ์ต่อไปนี้ดว้ ย คือ
ขอบเขตของสัญญาจำนำ (1) ดอกเบี้ย (ไม่เกินร้อยละ 15 ต่อปี ตามมาตรา 654)
(2) ค่าสิ นไหมทดแทนในการไม่ชำระหนี้
(3) ค่าฤชาธรรมเนียมในการบังคับจำนำ
(4) ค่าใช้จ่ายเพื่อรักษาทรัพย์สินซึ่ งจำนำ
(5) ค่าสิ นไหมทดแทน เพื่อความเสี ยหายอันเกิดแต่ความชำรุ ด บกพร่ องแห่ง
ทรัพย์สินจำนำซึ่ งไม่เห็นประจักษ์
มาตรา 750 ถ้ าทรัพย์สินที่จำนำเป็ นสิ ทธิซึ่งมีตราสาร และมิได้ ส่ งมอบตราสารนั้นให้แก่ผรู ้ ับ
การจำนำสิ ทธิ ซ่ ึ งมีตรา จำนำ ทั้งมิได้บอกกล่าวเป็ นหนังสื อแจ้ง การจำนำแก่ลูกหนี้แห่งสิ ทธิ น้ นั ด้วยไซร้ ท่าน
สารทัว่ ๆไป ว่าการจำนำย่อมเป็ นโมฆะ
สิทธิซึ่งมีตราสาร = ใบประทวนสิ นค้ า, ตั๋วเงิน,ใบหุ้น,ใบหุ้นกู้,พันธบัตร และใบตราส่ ง
มาตรา 751 ถ้ าจำนำตราสารชนิดออกให้ แก่ บุคคลเพือ่ เขาสั่ งท่ าน ห้ามมิให้ยกขึ้นเป็ นข้อต่อสู ้
การจำนำตราสารชนิด บุคคลภายนอก เว้ นแต่ จะได้ สลักหลังไว้ที่ ตราสารให้ ปรากฏการจำนำเช่ นนั้น
ออกให้บุคคลเพื่อเขาสัง่ อนึ่ง ในการนี้ไม่จำเป็ นต้องบอกกล่าวแก่ลูกหนี้แห่งตราสาร
ตราสารชนิดออกให้ แก่ เขาสั่ง = ตั๋วเงินทั้ง 3 ประเภทได้ แก่ ตัว๋ แลกเงิน, ตั๋วสั ญญาใช้
เงิน,และเช็ค
เช่ นเช็คผู้ถือ เพียงแต่ สลักหลังแล้ วส่ งมอบเป็ นอันสมบูรณ์
มาตรา 753 ถ้ าจำนำใบหุ้น หรือใบหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อ ท่านห้ามมิ ให้ยกขึ้นเป็ นข้อต่อสู ้บริ ษทั
การจำนำใบหุน้ หรื อ หรื อบุคคลภายนอก เว้นแต่จะได้จดลง ทะเบียนการจำนำนั้นไว้ในสมุดของบริ ษทั ตาม
ใบหุน้ กูช้ นิดระบุชื่อ บทบัญญัติท้ งั หลาย ในลักษณะ 22 ว่าด้วยการโอนหุน้ หรื อหุน้ กู ้
มาตรา 756 การที่จะตกลงกันไว้ เสี ยแต่ ก่อนเวลาหนีถ้ ึงกำหนด ชำระเป็ นข้ อความอย่ างใดอย่ าง
คู่สญั ญาไม่อาจตกลงกัน หนึ่งว่า ถ้ าไม่ ชำระหนี้ ให้ ผู้รับจำนำ เข้ าเป็ นเจ้ าของทรัพย์ สินจำนำ หรือให้ จดั การแก่
เพื่อบังคับจำนำก่อนหนี้ ทรัพย์สินนั้นเป็ น ประการอืน่ นอกจากตามบทบัญญัติท้ังหลายว่ าด้ วยการบังคับจำนำ นั้น
ถึงกำหนดชำระ ไซร้ ข้ อตกลงเช่ นนั้นท่ านว่ าไม่ สมบูรณ์
EX.ดำกู้เงินแดง 10,000 บาท โดยเอาแหวนเพชรราคา 100,000 บาทมาจำนำไว้ กับแดง
และทำข้ อตกลงกันว่ า ถ้ าถึงกำหนดชำระหนี ้ ดำไม่ ชำระหนี ้ ให้ แหวนเพชรตกเป็ นของ
แดงหรื อให้ แดงนำแหวนเพชรออกขายได้ ทันที ข้ อตกลงดังกล่ าวไม่ สมบูรณ์
หมายเหตุ; ตามมาตรานีใ้ ช้ เฉพาะก่ อนหนีถ้ ึงกำหนดชำระ ถ้ าหนีถ้ ึงกำหนดชำระแล้ วการ
ตกลงดังกล่ าวไม่ ต้องห้ าม คือ เมื่อถึงกำหนดชำระแล้ วไม่ ชำระหนี ้ ผู้จำนำบอกผู้รับจำนำ
ได้ ว่าให้ ยึดทรั พย์ ที่จำนำได้ เลย
มาตรา 758 ผู้รับจำนำชอบทีจ่ ะยึดของจำนำไว้ ได้ ท้ังหมด จนกว่ า จะได้ รับชำระหนีแ้ ละค่ า
สิ ทธิ ยดึ ทรัพย์ที่จำนำ อุปกรณ์ ครบถ้ วน
มาตรา 761 ถ้ามิได้กำหนดไว้เป็ นอย่างอื่นในสัญญา หากมีดอกผล นิตินยั งอกจากทรัพย์สิน
สิ ทธิ ในการจัดการดอกผล นั้นอย่างไร ท่านให้ผรู ้ ับจำนำจัดสรรใช้เป็ นค่า ดอกเบี้ยอันค้างชำระแก่ตน และถ้าไม่มี
หน้ า 11 จาก 25

นิตินยั ชำระหนี้ ดอกเบี้ยค้างชำระ ท่านให้จดั สรรใช้ตน้ เงินแห่งหนี้อนั ได้จำนำทรัพย์สินเป็ นประกันนั้น


ดอกผลนิตินัย เช่ น เงินที่ ได้ จากการที่ ให้ ผ้ อู ื่นเช่ ารถ , เงินปั นผลหุ้น
มาตรา 762 ค่าใช้จ่ายใด ๆ อันควรแก่การบำรุ งรักษาทรัพย์สิน จำนำนั้น ผูจำ ้ นำจำต้องชดใช้
สิ ทธิ และหน้าที่ของผู้ ให้แก่ผรู้ ับจำนำ เว้นแต่จะได้กำหนดไว้ เป็ นอย่างอื่นในสัญญา
จำนำ
มาตรา 763 ท่านห้ามมิให้ฟ้องคดีดงั่ จะกล่าวต่อไปนี้ เมื่อพ้น หกเดือนนับแต่วนั ส่ งคืน หรื อ
อายุความเรี ยกค่าสิ นไหม ขายทอดตลาดทรัพย์สินจำนำ คือ
ทดแทนและค่าใช้จ่าย (1) ฟ้ องเรี ยกสิ นไหมทดแทนเพื่อความบุบสลายอันผูร้ ับจำนำ ก่อให้เกิดแก่
ทรัพย์สินจำนำ
(2) ฟ้ องเรี ยกให้ชดใช้คา่ ใช้จ่ายเพื่อการบำรุ งรักษาทรัพย์สินจำนำ
(3) ฟ้ องเรี ยกค่าสิ นไหมทดแทน เพื่อความเสี ยหายอันเกิดแก่ผรู ้ ับจำนำเพราะ
ความชำรุ ดบกพร่ องในทรัพย์สินจำนำซึ่ งไม่เห็นประจักษ์
มาตรา 764 เมื่อจะบังคับจำนำ ผู้รับจำนำต้ องบอกกล่ าวเป็ น หนังสื อไปยังลูกหนีก้ ่ อนว่ า ให้
วิธีบงั คับจำนำ ชำระหนีแ้ ละอุปกรณ์ ภายในเวลา อันควรซึ่งกำหนดให้ ในคำบอกกล่ าวนั้น
ว.2 การขายทอดตลาด ถ้ าลูกหนีล้ ะเลยไม่ ปฏิบัติตามคำบอกกล่ าว ผู้รับจำนำชอบที่จะเอา ทรัพย์ สินซึ่ง
ทรัพย์จำนำ จำนำออกขายได้ แต่ ต้องขายทอดตลาด
อนึ่ง ผูร้ ับจำนำต้องมีจดหมายบอกกล่าวไปยังผูจำ ้ นำบอกเวลา และสถานที่ซ่ ึ งจะ
ขายทอดตลาดด้วย
การบังคับจำนำ คือ การที่ ผ้ รู ั บจำนำจัดการบังคับชำระหนีเ้ อาจากทรั พย์ สินที่ จำนำนั่นเอง
และการบังคับจำนำไม่ ต้องฟ้ องคดีต่อศาลด้ วย ซึ่งต่ างกับการบังคับจำนอง
หมายเหตุ; ในกรณี ก้ เู งินโดยไม่ ได้ ทำสั ญญากู้เงินไว้ จะฟ้ องคดีบังคับอย่ างหนีส้ ามัญไม่
ได้ ให้ ใช้ สิทธิ บังคับจำนำแทน
มาตรา 765 ถ้ าไม่ สามารถจะบอกกล่ าวก่ อนได้ ผู้รับจำนำจะ เอาทรัพย์ สินจำนำออกขายทอด
กรณี ไม่สามารถบอก ตลาดเสีย ในเมื่อหนีค้ ้ างชำระมาล่ วง เวลาเดือนหนึ่งแล้ วก็ให้ ทำได้ (เมื่อหนี้คา้ งชำระเกิน
กล่าวได้ 1 เดือน)
หมายเหตุ; กรณี ไม่ สามารถบอกกล่ าวได้ เช่ น ลูกหนีห้ ายสาบสู ญไม่ ร้ ู ไปอยู่ที่ไหน แต่
ถ้ าเป็ นกรณี ร้ ู อยู่แต่ เวลาไปส่ งหนังสื อบอกกล่ าวไม่ พบตัวหรื อไม่ ยอมรั บหนังสื อบอก
กล่ าว อย่างนีไ้ ม่ ถือว่ าไม่ สามารถบอกกล่ าวได้ จะงดไม่ บอกกล่ าวก่ อนไม่ ได้ ต้องเปลี่ยน
วิธีส่งหนังสื อบอกกล่ าว เช่ น ส่ งทางไปรษณี ย์ลงทะเบียน หรื อวางหนังสื อบอกกล่ าวไว้
ต่ อหน้ าลูกหนี ้
มาตรา 766 ถ้าจำนำตัว๋ เงิน ท่านให้ผรู ้ ับจำนำเก็บเรี ยกเงิน ตามตัว๋ เงินนั้นในวันถึงกำหนด ไม่
กรณี จำนำตัว๋ เงิน จำเป็ นต้องบอกกล่าวก่อน
ตั๋วเงิน =( ตั๋วแลกเงิน,ตั๋วสั ญญาใช้ เงิน, เช็ค) เมื่อตั๋วเงินถึงกำหนดใช้ เงิน ผู้รับจำนำเรี ยก
เก็บเงินตามตั๋วนั้นได้ ทันที
ข้อสอบข้อ 3 หน่วยที่ 8-15 เรื่ องตัว๋ เงิน
มาตรา 856 อันว่าสัญญาบัญชีเดินสะพัดนั้น คือสัญญาซึ่ งบุคคล สองคนตกลงกันว่าสื บแต่น้ นั
ความหมายของสัญญา ไป หรื อในชัว่ เวลากำหนดอันใดอันหนึ่ง ให้ตดั ทอนบัญชีหนี้ ท้ งั หมดหรื อแต่บางส่ วนอัน
หน้ า 12 จาก 25

บัญชีเดินสะพัด เกิดขึ้นแต่กิจการใน ระหว่างเขาทั้งสองนั้นหักกลบลบกัน และคงชำระแต่ส่วนที่เป็ น


จำนวนคงเหลือโดยดุลภาค
สัญญาบัญชีเดินสะพัด = การแสดงเจตนาตกลงให้ หักทอนบัญชี หนีส้ ิ นระหว่ างกัน เพียง
แต่ ค่ ูสัญญาแสดงเจตนาตกลงทำบัญชี เดินสะพัดกัน ก็เกิดเป็ นสั ญญาที่ มีผลสมบูรณ์
บังคับกันได้ ไม่ ต้องมีหลักฐานเป็ นหนังสื อ และไม่ ต้องมีแบบอย่ างใดทั้งสิ ้น
มาตรา 858 ถ้าคู่สญ
ั ญามิได้กำหนดกันไว้วา่ ให้หกั ทอนบัญชีโดย ระยะเวลาอย่างไรไซร้ ท่าน
ถ้ามิได้กำหนดเวลาไว้ให้ ให้ถือเอาเป็ นกำหนดหกเดือน
ถือว่าระยะเวลาในการหัก
ทอนบัญชีคือ 6 เดือน
มาตรา 859 คู่สัญญาฝ่ ายใดจะบอกเลิกสั ญญาบัญชีเดินสะพัด และให้หกั ทอนบัญชีกนั เสี ยใน
บัญชีเดินสะพัดระงับสิ้ น เวลาใด ๆ ก็ได้ ถ้าไม่มีอะไรปรากฏเป็ นข้ อขัดกับที่กล่าวมานี้
ไปเมื่อคู่สญ
ั ญาฝ่ ายหนึ่ง
บอกเลิกสัญญา
เป็ นข้ อขัด หมายถึง คู่สัญญาไม่ ได้ ตกลงกำหนดอายุของสั ญญาบัญชี เดินสะพัดไว้ นั่นเอง
การบอกเลิก หมายถึง ทำได้ โดยการแสดงเจตนาไปยังอีกฝ่ ายหนึ่งจะด้ วย
วาจา,จดหมาย,โทรศัพท์ กไ็ ด้ และทำได้ โดยแสดงเจตนาเพียงฝ่ ายเดียวไม่ จำเป็ นว่ าอีก
ฝ่ ายต้ องตกลงยินยอมด้ วย
มาตรา 898 อันตัว๋ เงินตามความหมายแห่งประมวลกฎหมายนี้ มีสามประเภท ประเภทหนึ่ง
ประเภทตัว๋ เงิน คือ ตั๋วแลกเงิน ประเภทหนึ่งคือ ตัว๋ สั ญญาใช้ เงิน ประเภทหนึ่ง คือเช็ค
มาตรา 899 ข้อความอันใดซึ่ งมิได้มีบญั ญัติไว้ในประมวลกฎหมายลักษณะนี้ ถ้ าเขียนลงในตั๋ว
เขียนอย่างอื่นลงในตัว๋ เงิน เงิน ท่านว่าข้อความอันนั้นหาเป็ นผลอย่างหนึ่งอย่างใดแก่ตวั๋ เงินนั้นไม่
หมายความว่ า การเขียนข้ อความอย่ างอื่นนอกจากที่ บญ ั ญัติไว้ ใน ปพพ.ลักษณะตั๋วเงิน
แล้ วถือเสมือนว่ าไม่ ได้ เขียนไว้ ในตั๋วเงินนั่นเอง
มาตรา 900 บุคคลผู้ลงลายมือชื่อของตนในตั๋วเงินย่ อมจะต้ องรับผิดตามเนือ้ ความในตัว๋ เงินนั้น
ความรับผิดของผูล้ งชื่อใน ถ้าลงเพียงแต่เครื่ องหมายอย่างหนึ่งอย่างใด เช่นแกงไดหรื อลายพิมพ์นิ้วมืออ้างเอา
ตัว๋ เงิน เป็ นลายมือชื่อในตัว๋ เงินไซร้ แม้ถึงว่าจะมีพยานลงชื่อรับรองก็ตาม ท่ านว่ าหาให้ ผลเป็ น
ลงลายมือชื่อในตั๋วเงินนั้นไม่
มาตรา 901 ถ้ าบุคคลคนใดลงลายมือชื่อของตนในตั๋วเงิน และมิได้ เขียนแถลงว่ ากระทำการ
แทนบุคคลอีกคนหนึ่งไซร้ ท่านว่าบุคคลคนนั้นย่อมเป็ นผูร้ ับผิดตามความในตัว๋ เงินนั้น

มาตรา 902 ถ้ าตั๋วเงินลงลายมือชื่อของบุคคลหลายคน มีท้ งั บุคคลซึ่ งไม่อาจจะเป็ นคู่สญ


ั ญา
ลงลายมือชื่อบุคคลหลาย แห่งตัว๋ เงินนั้นได้เลย หรือเป็ นได้ แต่ ไม่ เต็มผลไซร้ ท่านว่าการนี้ยอ่ มไม่กระทบกระทัง่
คนในเช็ค ถึงความรับผิดของบุคคลอื่นๆ นอกนั้นซึ่ งคงต้องรับผิดตามตัว๋ เงิน
บุคคลซึ่งไม่ อาจเป็ นคู่สัญญาได้ เลย= บุคคลที่ ไม่ อาจทำนิติกรรมให้ มีผลสมบูรณ์ ได้ เลย
เช่ น บุคคลที่ศาลมีคำสั่ งพิทักษ์ ทรั พย์ , บุคคลล้ มละลาย
บุคคลที่เป็ นคู่สัญญาได้ แต่ ไม่ เต็มผล = บุคคลที่ หบ่ อนความสามารถในการทำนิติกรรม
เช่ น ผู้เยาว์ , วิกลจริ ต, คนไร้ ความสามารถ หรื อผู้เสมือนไร้ ความสามารถ
หน้ า 13 จาก 25

EX. ก ข ค.ลงลายมือชื่ อร่ วมกันสั่ งจ่ ายเช็คฉบับหนึ่ง ปรากฏว่ า ก.เป็ นบุคคลล้ มละลาย
ก.จึงไม่ อาจเป็ นคู่สัญญาแห่ งตั๋วเงินได้ เลย ส่ วน ข.เป็ นผู้เยาว์ ลงชื่ อโดยไม่ ได้ รับความ
ยินยอมของผู้แทนโดยชอบธรรมเป็ นโมฆียะ ตาม ม.21 ดังนั้นจึ งไม่ กระทบกระทั่งถึง
ความรั บผิดชอบของ ค.ที่ ต้องใช้ เงินตามเช็ค
มาตรา 903 ในการใช้ เงินตามตั๋วเงินท่ านมิให้ ให้ วนั ผ่ อน
ห้ามผ่อนวันใช้เงิน
มาตรา 904 อันผู้ทรงนั้น หมายความว่าบุคคลผูม้ ีตวั๋ เงินไว้ในครอบครอง โดยฐานเป็ นผูร้ ับเงิน
ผูท้ รงตัว๋ เงิน หรื อเป็ นผูร้ ับสลักหลัง ถ้าและเป็ นตัว๋ เงินสัง่ จ่ายให้แก่ผถู ้ ือ ผูถ้ ือก็นบั ว่าเป็ นผูท้ รงเหมือน
กัน
มาตรา 905 ภายในการบังคับแห่งบทบัญญัติมาตรา 1008 บุคคลผูไ้ ด้ตวั๋ เงินไว้ในครอบครอง
สลักหลังไม่ขาดสาย ถ้าแสดงให้ปรากฏสิ ทธิ ด้ วยการสลักหลังไม่ ขาดสาย แม้ถึงว่าการสลักหลังรายที่สุดจะ
เป็ นสลักหลังลอยก็ตาม ท่ านให้ ถือว่ าเป็ นผู้ทรงโดยชอบด้ วยกฎหมาย เมื่อใดรายการ
สลักหลังลอยมีสลักหลังรายอื่นตามหลังไปอีก ท่านให้ถือว่าบุคคลผูท้ ี่ลงรายมือชื่อในการ
สลักหลังรายที่สุดนั้น เป็ นผูไ้ ด้ไปซึ่ งตัว๋ เงินด้วยการสลักหลังลอย อนึ่งคำสลักหลังเมื่อ
ขีดฆ่ าเสียแล้ว ท่ านให้ ถือเสมือนว่ ามิได้ มีเลย
ถ้ าบุคคลผู้หนึ่งผู้ใดต้ องปราศจากตั๋วเงินไปจากครอบครอง ท่านว่าผูท้ รงซึ่ งแสดง
ให้ปรากฏสิ ทธิของตนในตัว๋ ตามวิธีการดังกล่าวมาในวรรคก่อนนั้น หาจำต้ องสละตั๋ว
เงินไม่ เว้นแต่ จะได้ มาโดยทุจริต หรือได้ มาด้ วยความประมาทเลินเล่ ออย่ างร้ ายแรง
อนึ่งข้อความในวรรคก่อนนี้ ให้ใช้บงั คับตลอดถึงผูท้ รงตัว๋ เงินสัง่ จ่ายให้แก่ผถู ้ ือ
ด้วย
EX. ว.2 ผู้ที่ได้ ตั๋วเงินไว้ ในครอบครองคนปั จจุบัน ซึ่ งแสดงให้ ปรกฎสิ ทธิ ด้วยการสลัก
หลังไม่ ขาดสาย ตาม ม.905 ว.แรกเป็ นผู้ทรงโดยชอบด้ วยกฎหมาย ไม่ จำต้ องสละคืนตั๋ว
เงินให้ แก่ ผ้ ทู รงคนก่ อนๆ ที่ ตั๋วเงินหลุดจากครอบครองไป เว้ นแต่ ผ้ ทู ี่ ได้ ตั๋วเงินไว้ ใน
ครอบครองคนปั จจุบนั (ผู้ทรงคนปั จจุบัน) ได้ ตั๋วเงินมาโดยทุจริ ต หรื อได้ มาด้ วยความ
ประมาทเลินเล่ ออย่ างร้ ายแรง
ม. 1008 การลงลายมือชื่ อต้ องไม่ ปลอมหรื อลงลาบมือชื่ อโดยปราศจากอำนาจอีกด้ วย

มาตรา 908 อันว่าตั๋วแลกเงินนั้น คือหนังสื อตราสารซึ่งบุคคลคนหนึ่ง เรียกว่ า ผู้สั่งจ่ าย สัง่


ตัว๋ แลกเงิน บุคคลอีกคนหนึ่งเรี ยกว่า ผูจ้ ่าย ให้ใช้เงินจำนวนหนึ่งแก่บุคคลคนหนึ่ง หรื อให้ใช้ตาม
คำสัง่ ของบุคคลหนึ่งซึ่ งเรียกว่ าผู้รับเงิน
มาตรา 909 อันตั๋วแลกเงินนั้น ต้ องมีรายการดังกล่ าวต่ อไปนี ้ คือ
รายละเอียดของตัว๋ แลก 1) คำบอกชื่อว่าเป็ นตัว๋ แลกเงิน
เงิน 2) คำสัง่ อันปราศจากเงื่อนไขให้จ่ายเงินเป็ นจำนวนแน่นอน
3) ชื่อ หรื อยีห่ อ้ ผูจ้ ่าย (นายจันทร์)
4) วันถึงกำหนดใช้เงิน (3 เดือนนับแต่วนั นี้ )
5) สถานที่ใช้เงิน (123 สุ ขมุ วิท 61 กทม.)
6) ชื่อ หรื อยีห่ อ้ ผูร้ ับเงิน หรื อคำจดแจ้งว่าให้ใช้เงินแก่ผถู ้ ือ (นายอังคารหรื อตามคำสัง่ )
หน้ า 14 จาก 25

7) วันและสถานที่ออกตัว๋ เงิน ( 1 พ.ค. 2536 กทม.)


8) ลายมือชื่อผูส้ งั่ จ่าย (นายอาทิตย์)

ตั๋วแลกเงิน
สถานที่ออกตั๋ว........กรุ งเทพฯ
วันที่...1..เดือน..พค....พศ....2536
กำหนด....3 เดือน.....นับแต่ วนั นีโ้ ปรดจ่ ายเงินจำนวน .......10,000 บาท
ให้ แก่ ....นาย อังคาร.......หรือตามคำสั่ ง
ถึง.......นาย จันทร์
ที่อยู่.....123 สุ ขุมวิท 61 กทม.
ลงชื่อ.....นาย อาทิตย์
ผู้สั่งจ่ าย
มาตรา 912 อันตั๋วแลกเงินนั้นจะออกคำสั่ งให้ ใช้ เงินตามคำสั่ งของผู้สั่งจ่ ายก็ได้
อนึ่งจะสั่งจ่ ายเอาจากตัวผู้สั่งจ่ ายเอง หรือสั่ งจ่ ายเพือ่ บุคคลภายนอกก็ได้
มาตรา 913 อันวันถึงกำหนดของตัว๋ แลกเงินนั้น ท่านว่าย่อมเป็ นอย่างใดอย่างหนึ่งดังกล่าวต่อ
วันถึงกำหนดของตัว๋ แลก ไปนี้ คือ
เงิน 1) ในวันใดวันหนึ่งที่กำหนดไว้ หรื อ
2) เมื่อสิ้ นระยะเวลาอันกำหนดไว้นบั แต่วนั ที่ลงในตัว๋ นั้น หรื อ
3) เมื่อทวงถาม หรื อเมื่อได้เห็น หรื อ
4) เมื่อสิ้ นระยะเวลาอันกำหนดไว้นบั แต่ได้เห็น
มาตรา 914 บุคคลผูส้ ัง่ จ่ายหรื อสลักหลังตัว๋ แลกเงินย่อมเป็ นอันสัญญาว่า เมื่อตัว๋ นั้นได้นำยืน่
ความรับผิดของผูส้ ัง่ จ่าย โดยชอบแล้วจะมีผรู ้ ับรองและใช้เงินตามเนื้ อความแห่งตัว๋ ถ้ าและตั๋วแลกเงินนั้นเขาไม่
หรื อผูส้ ลักหลังตัว๋ แลก เชื่อถือโดยไม่ ยอมรับรองก็ดหี รือไม่ ยอมจ่ ายเงินก็ดี ผู้สั่งจ่ ายหรือผู้สลักหลังก็จะใช้ เงินแก่
เงิน ผู้ทรง หรือแก่ผู้สลักหลังคนหลังซึ่งต้ องถูกบังคับให้ ใช้ เงินตามตั๋วนั้น ถ้าหากว่าทำได้ทำ
ถูกต้องตามวิธีการในข้อไม่รับรองหรื อไม่จ่ายเงินนั้นแล้ว
มาตรา 916 บุคคลทั้งหลายผูถ้ ูกฟ้ องในมูลตัว๋ แลกเงินหาอาจจะต่อสู ้ผทู ้ รงด้วยข้อต่อสู ้ อัน
ระหว่างทางถ้ามีเหตุ อาศัยความเกี่ยวพันกันเฉพาะบุคคลระหว่างตนกับผูส้ งั่ จ่ายหรื อกับผูท้ รงคนก่อนๆ นั้นได้
ฉ้อฉลเกิดขึ้น ไม่ เว้นแต่ การโอนจะได้ มีขึน้ ด้ วยคบคิดกันฉ้ อฉล
EX. ก.ใช้ ปืนจี ้ ข.ให้ เขียนเช็คสั่ งจ่ ายเงิน 100,000 บาทแก่ ก.ซึ่ งเป็ นการข่ มขู่ สั ญญาเป็ น
โมฆียะ ข.ยกขึน้ เป็ นข้ อต่ อสู้ ก.ได้ แต่ ถ้า ก.เอาเช็คฉบับนีไ้ ปจ่ ายเป็ นค่ าซื ้อรถยนต์ แก่ ค.
ซึ่ งรั บไว้ โดยสุจริ ต ดังนั้น ข.จะยกข้ อสั ญญาเป็ นโมฆียะขึน้ ต่ อสู้ ก.ไม่ ได้ ดังนีเ้ ป็ นต้ น
มาตรา 917 อันตัว๋ แลกเงินทุกฉบับ ถึงแม้วา่ จะมิใช่สงั่ จ่ายให้แก่ บุคคลเพื่อเขาสัง่ ก็ตาม ท่าน
การโอนตัว๋ แลก ว่าย่อมโอนให้กนั ได้ดว้ ยสลักหลังและส่ งมอบ
เมื่อผู้สั่งจ่ ายเขียนลงในด้ านหน้ าแห่ งตัว๋ แลกเงินว่ า "เปลีย่ นมือไม่ ได้ " ดัง่ นีก้ ด็ ี
หรือเขียนคำอืน่ อันได้ ความเป็ นทำนองเช่ นเดียวกันนั้นก็ดี ท่ านว่ าตั๋วเงินนั้นย่ อมจะโอน
ให้ กนั ได้ แต่ โดยรู ปการและด้ วยผลอย่ างการ โอนสามัญ
อนึ่ง ตัว๋ เงินจะสลักหลังให้แก่ผจู ้ ่ายก็ได้ ไม่วา่ ผูจ้ ่ายจะได้รับรองตัว๋ นั้นหรื อไม่
หรื อจะสลักหลังให้แก่ผสู ้ งั่ จ่าย หรื อให้แก่คู่สญ ั ญาฝ่ ายใด แห่งตัว๋ เงินนั้นก็ได้ ส่ วนบุคคล
ทั้งหลายเหล่านี้กย็ อ่ มจะสลักหลังตัว๋ เงิน นั้นต่อไปอีกได้
หน้ า 15 จาก 25

วรรค 2 ถ้ าผู้รับเงินประสงค์ จะโอนหนีต้ ามตั๋วฉบับนี ้ ต้ องทำโดยรู ปการตาม ม.306 คือ


ทำเป็ นหนังสื อลงชื่ อผู้โอนและผู้รับโอน จึ งจะผูกพันผู้จ่ายและผู้สั่งจ่ ายให้ มีหน้ าที่รับผิด
ชอบตามเนือ้ ความในตั๋ว
มาตรา 918 ตัว๋ แลกเงินอันสั่ งให้ ใช้ เงินแก่ ผู้ถือนั้น ท่านว่าย่อมโอนไปเพียงด้ วยส่ งมอบให้ กนั
ตัว๋ แลกเงินสัง่ จ่ายผูถ้ ือ

มาตรา 919 คำสลักหลังนั้นต้องเขียนลงในตัว๋ แลกเงินหรื อใบประจำ ต่อ และต้องลงลายมือ


วิธีสลักหลัง ชื่อผูส้ ลักหลัง
การสลักหลังย่อมสมบูรณ์แม้ท้ งั มิได้ระบุชื่อผูร้ ับประโยชน์ไว้ดว้ ย หรื อแม้ผสู ้ ลัก
หลังจะมิได้กระทำอะไร ยิง่ ไปกว่าลงลายมือชื่อของตนที่ ด้านหลังตัว๋ แลกเงินหรื อที่ใน
ประจำต่อ ก็ยอ่ มฟังเป็ นสมบูรณ์ดุจกันการ สลักหลังเช่นนี้ท่านเรี ยกว่า "สลักหลังลอย”
การสลักหลังลอย หมายถึง การสลักหลังที่ มิได้ ระบุชื่อผู้รับประโยชน์ ไว้ ด้วย และต้ อง
เขียนไว้ ด้านหลังตั๋วแลกเงินหรื อใบประจำต่ อเท่ านั้น
สลักหลังเฉพาะ หมายถึง สลักหลังโดยระบุชื่อผู้รับไว้ เช่ น จ่ าย ก.ลงชื่ อ ข.
มาตรา 920 อันการสลักหลังย่ อมโอนไปซึ่งบรรดาสิ ทธิอนั เกิดแต่ ตวั๋ แลกเงิน
วิธีการสลักหลัง ถ้าสลักหลังลอย ผูท้ รงจะปฏิบตั ิดงั กล่าวต่อไปนี้ ประการหนึ่งประการใดก็ได้ คือ
1) กรอกความลงในที่วา่ งด้วยเขียนชื่อของตนเองหรื อชื่อบุคคลอื่นผูใ้ ดผูห้ นึ่ง
2) สลักหลังตัว๋ เงินต่อไปอีกเป็ นสลักหลังลอย หรื อสลักหลังให้แก่บุคคลอื่นผูใ้ ดผู ้
หนึ่ง
3) โอนตัว๋ เงินนั้นให้แก่บุคคลภายนอกโดยไม่กรอกความลงในที่วา่ ง และไม่สลัก
หลังอย่างหนึ่งอย่างใด
มาตรา 921 การสลักหลังตั๋วแลกเงินซึ่งสั่ งให้ ใช้ เงินแก่ ผู้ถือนั้น ย่ อมเป็ นเพียงประกัน ( อาวัล )
สลักหลังตัว๋ แลกเงินผูถ้ ือ สำหรับผู้สั่งจ่ าย
จะกลายเป็ นการอาวัล
สำหรับผูส้ งั่ จ่าย
มาตรา 922 การสลักหลังนั้นต้องให้เป็ นข้ อความอันปราศจากเงือ่ นไข ถ้าและวางเงื่อนไข
การสลักหลังต้อง บังคับลงไว้อย่างใด ท่ านให้ ถือเสมือนว่ าข้ อเงือ่ นไขนั้นมิได้ เขียนลงไว้ เลย
ปราศจากเงื่อนไข อนึ่งการสลักหลังโอนแต่ บางส่ วน ท่ านว่ าเป็ นโมฆะ
มาตรา 923 ผูส้ ลักหลังคนใดระบุข้อความห้ ามสลักหลังสื บไปลงไว้แล้ว ผูส้ ลักหลังคนนั้น
ห้ามสลักหลังสื บไป ย่อมไม่ตอ้ งรับผิดต่อบุคคลอันเขาสลักหลังตัว๋ แลกเงินนั้นให้ไปในภายหลัง
มาตรา 925 เมื่อใดความที่สลักหลังมีขอ้ กำหนดว่า "ราคาอยูท่ ี่เรี ยก เก็บ" ก็ดี "เพื่อเรี ยกเก็บ"
การสลักหลังตัว๋ แลกเงิน ก็ดี "ในฐานจัดการแทน" ก็ดี หรื อความสำนวน อื่นใดอันเป็ นปริ ยายว่าตัวแทนไซร้ ท่าน
แก่ตวั แทน ว่าผูท้ รงตัว๋ แลกเงินจะใช้สิทธิ ทั้งปวงอันเกิดแต่ตวั๋ นั้นก็ยอ่ มได้ท้ งั สิ้ น แต่ ว่าจะสลักหลัง
ได้เพียงในฐาน เป็ นตัวแทน
ในกรณี เช่นนี้ คู่สญ
ั ญาทั้งหลายซึ่ งต้องรับผิดอาจจะต่อสู ้ผทู ้ รงได้ แต่เพียงด้วยข้อ
ต่อสู้อนั จะพึงใช้ได้ต่อผูส้ ลักหลังเท่านั้น
หน้ า 16 จาก 25

มาตรา 927 อันตั๋วแลกเงินนั้นจะนำไปยืน่ แก่ ผู้จ่าย ณ ที่อยู่ของผู้จ่าย เพื่อให้รับรองเมื่อไรๆ


การรับรอง ก็ได้ จนกว่าจะถึงเวลากำหนดใช้เงิน และผูท้ รงจะเป็ นผูย้ นื่ หรื อเพียงแต่ผทู ้ ี่ได้ตวั๋ นั้นไว้
ในครอบครองจะเป็ นผูนำ ้ ไปยืน่ ก็ได้
ในตัว๋ แลกเงินนั้น ผู้สั่งจ่ ายจะลงข้ อกำหนดไว้วา่ ให้นำยืน่ เพื่อรับรองโดยกำหนด
เวลาจำกัดไว้ให้ยนื่ หรื อไม่กำหนดเวลาก็ได้
ผู้สั่งจ่ ายจะห้ ามการนำตั๋วแลกเงินยืน่ เพือ่ รับรองก็ได้ เว้นแต่ในกรณี ที่เป็ นตัว๋ เงินอัน
ได้ออกคำสัง่ ให้ใช้เงินเฉพาะ ณ สถานที่อื่นใดอันมิใช่ภูมิลำเนาของผูจ้ ่าย หรื อได้ออก
สัง่ ให้ใช้เงินในเวลาใดเวลาหนึ่งนับแต่ได้เห็น
อนึ่งผู้สั่งจ่ ายจะลงข้ อกำหนดไว้ ว่ายังมิให้ นำตัว๋ ยืน่ เพือ่ ให้ รับรองก่อนถึงกำหนดวัน
ใดวันหนึ่งก็ได้
ผูส้ ลักหลังทุกคนจะลงข้อกำหนดไว้วา่ ให้นำตัว๋ เงินยืน่ เพื่อรับรอง โดยกำหนด
เวลาจำกัดไว้ให้ยนื่ หรื อไม่กำหนดเวลาก้อได้ เว้นแต่ผสู ้ งั่ จ่ายจะได้หา้ มการรับรอง
มาตรา 928 ผูท้ รงตัว๋ แลกเงินอันสัง่ ให้ใช้เงินเมื่อสิ้ นระยะเวลากำหนด อย่างใดอย่างหนึ่งนับแต่
ระยะเวลายืน่ ตัว๋ เพื่อให้ ได้เห็นนั้น ต้องนำตัว๋ เงินยืน่ เพือ่ ให้ รับรองภายในหกเดือนนับแต่ วนั ที่ลงในตั๋วเงิน หรื อ
รับรอง ภายในเวลาช้าเร็ วกว่านั้นตามแต่ ผูส้ งั่ จ่ายจะได้ระบุไว้
มาตรา 931 การรับรองนั้นพึงกระทำด้วยเขียนลงไว้ในด้านหน้าแห่งตัว๋ แลกเงินเป็ นถ้อยคำ
การรับรองตัว๋ แลกเงิน สำนวนว่า “รับรองแล้ ว” หรื อความอย่างอื่นทำนองเช่นเดียวกันนั้น และลงลายมือชื่อ
ของผูจ้ ่าย อนึ่งแต่ เพียงลายมือชื่อของผู้จ่ายลงไว้ ในด้ านหน้ าแห่ งตัว๋ แลกเงินท่ านก็จัดว่ า
เป็ นคำรับรองแล้ ว
มาตรา 939 อันการรับอาวัลย่ อมทำให้ กนั ด้ วยเขียนลงในตัว๋ แลก เงินนั้นเอง หรือที่ใบประจำ
วิธีการทำอาวัล ต่ อ
ในการนี้พึงใช้ถอ้ ยคำสำนวนว่า "ใช้ได้เป็ นอาวัล" หรื อสำนวนอื่นใด ทำนอง
เดียวกันนั้น และลงลายมือชื่อผูร้ ับอาวัล
อนึ่ง เพียงแต่ลงลายมือชื่อของผูร้ ับอาวัลในด้านหน้าแห่งตัว๋ เงินท่าน ก็จดั ว่าเป็ น
คำรับอาวัลแล้ว เว้นแต่ในกรณี ที่เป็ นลายมือชื่อของผูจ้ ่าย หรื อผูส้ ัง่ จ่าย
ในคำรับอาวัลต้องระบุวา่ รับประกันผูใ้ ด หากมิได้ระบุ ท่านให้ถือ ว่ารับประกันผู ้
สัง่ จ่าย
ผู้อาวัลนั้นต้ องรั บผิดผูกพันอย่ างเดียวกับบุคคลที่ ตนเข้ าไปอาวัล จึ งมีฐานะเป็ น ลูกหนี้
ขั้นต้ น ที่อาจถูกเรี ยกร้ องให้ รับผิดได้ ทันที
มาตรา 940 ผูร้ ับอาวัลย่อมต้องผูกพันเป็ นอย่างเดียวกันกับบุคคล ซึ่ งตนประกัน
แม้ถึงว่าความรับผิดใช้เงินอันผูร้ ับอาวัลได้ประกันอยูน่ ้ นั จะตกเป็ น ใช้ไม่ได้ดว้ ย
เหตุใด ๆ นอกจากเพราะทำผิดแบบระเบียบ ท่านว่าข้อ ที่สญ ั ญารับอาวัลนั้นก็ยงั คง
สมบูรณ์
เมื่อผูร้ ับอาวัลได้ใช้เงินไปตามตัว๋ แลกเงินแล้ว ย่อมได้สิทธิ ในอัน จะไล่เบี้ยเอาแก่
บุคคลซึ่ งตนได้ประกันไว้ กับทั้งบุคคลทั้งหลายผู้รับ ผิดแทนตัวผู้น้ัน
กับทั้งบุคคลทั้งหลายผู้รับ ผิดแทนตัวผู้นั้น หมายถึงบุคคลที่ เกี่ยวข้ องก่ อนที่ ตนจะอาวัล
มาตรา 941 อันตั๋วแลกเงินนั้น ย่อมจะพึงใช้เงินในวันถึงกำหนด และถึงกำหนดวันใดผูท้ รง
หน้ า 17 จาก 25

การใช้เงินของตัว๋ แลกเงิน ต้องนำตัว๋ เงินไปยืน่ เพื่อให้ใช้เงินในวันนั้น


มาตรา 942 อันจะบังคับให้ ผ้ทู รงตั๋วแลกเงิน รับเงินใช้ ก่อนตั๋วเงินถึงกำหนดนั้นท่ านว่ าหา
รับเงินใช้ก่อนตัว๋ ถึง อาจจะทำได้ไม่
กำหนดไม่ได้ อนึ่งผูจ้ ่ายคนใดใช้เงินไปแต่ก่อนเวลาตัว๋ เงินถึงกำหนด ท่านว่าย่อมทำเช่นนั้น
ด้วยเสี่ ยงเคราะห์ของตนเอง
มาตรา 945 การใช้เงินจะเรี ยกเอาได้ต่อเมื่อ ได้เวนตัว๋ แลกเงินให้ผใู ้ ช้เงินจะให้ผทู ้ รงลง
วิธีการนำตัว๋ แลกเงินไป ลายมือชื่อรับเงินในตัว๋ เงินนั้นก็ได้
ยืน่ ให้ใช้เงิน
มาตรา 946 อันตัว๋ แลกเงินนั้น ถ้ าเขาจะให้ เงินให้ แต่ เพียงบางส่ วน ท่ านว่ าผู้ทรงจะบอกปัด
ถ้าเขาใช้เงินให้แต่เพียง เสียไม่ ยอมรับเอาก็ได้
บางส่ วน ถ้ าและรับเอาเงินที่เขาใช้ แต่ เพียงบางส่ วน ผู้ทรงต้ องบันทึกข้ อความนั้นลงไว้ ใน
ตั๋วเงิน และส่ งมอบใบรับให้ แก่ ผู้ใช่ เงิน
มาตรา 947 ถ้ าตั๋วแลกเงินมิได้ ยนื่ เพือ่ ให้ ใช้ เงินในวันถึงกำหนดไซร้ ท่านว่าผูร้ ับรองจะเปลื้อง
ผลของการไม่นำตัว๋ แลก ตนให้พน้ จากความรับผิด โดยวางจำนวนเงินที่ ค้างชำระตามตัว๋ นั้นไว้กไ็ ด้
เงินไปยืน่ ให้ใช้เงิน
มาตรา 948 ถ้าผูท้ รงตัว๋ แลกเงินยอมผ่ อนเวลาให้แก่ผจู ้ ่ายไซร้ ท่านว่า ผูท้ รงสิ้ นสิ ทธิ ที่จะไล่เบี้ย
ถ้าผูท้ รงยอมผ่อนเวลาให้ เอาแก่ผเู้ ป็ นคู่สญ ั ญาคนก่อน ๆ ซึ่ งมิได้ตกลงใน การผ่อนเวลานั้น
แก่ผจู ้ ่าย
มาตรา 950 ผูส้ งั่ จ่ายหรื อผูส้ ลักหลังจะระบุบุคคลผูห้ นึ่งผูใ้ ดก็ไว้ ก็ได้เป็ นผูจ้ ะรับรอง หรื อใช้
การสอดเข้าแก้หน้า เงินยามประสงค์ ณ สถานที่ใช้เงิน
ภายในเงื่อนบังคับดัง่ จะกล่าวต่อไปข้างหน้า บุคคลผูห้ นึ่งผูใ้ ดจะรับ รองหรื อใช้เงิน
ตามตัว๋ แลกเงิน ในฐานเป็ นผูส้ อดเข้าแก้หน้าบุคคลใด ผูล้ งลายมือชื่อในตัว๋ นั้นก็ได้
ผูส้ อดเข้าแก้หน้านั้นจะเป็ นบุคคลภายนอกก็ได้ แม้จะเป็ นผูจ้ ่าย หรื อบุคคลซึ่ งต้อง
รับผิดโดยตัว๋ เงินนั้นอยูแ่ ล้วก็ได้ ห้ ามแต่ ผู้รับรอง เท่ านั้น
ผูส้ อดเข้าแก้หน้าจำต้องให้คำบอกกล่าวโดยไม่ชกั ช้า เพื่อให้ คู่สญ ั ญาฝ่ ายซึ่ งตนเข้า
แก้หน้านั้นทราบการที่ตนเข้าแก้หน้า
การสอดเข้ าแก้หน้ า หมายถึง การที่ บคุ คลใดคนหนึ่งสอดเข้ ามารั บรองหรื อใช้ เงินตาม
ตั๋วแลกเงิน เมื่อผู้จ่ายปฏิ เสธไม่ ยอมรั บรองหรื อไม่ ยอมใช้ เงิน ทั้งนีเ้ พื่อมิให้ บคุ คลผู้เป็ น
คู่สัญญาตามตั๋วแลกเงินคนใดคนหนึ่งต้ องถูกผู้ทรงใช้ สิทธิ ไล่ เบีย้
มาตรา 959 ผูท้ รงตัว๋ แลกเงินจะให้สิทธิ ไล่เบี้ยเอาแก่บรรดาผูส้ ลักหลัง ผูส้ ัง่ จ่าย และบุคคล
พฤติการณ์ที่ทำให้ผทู้ รง อื่นๆ ซึ่ งต้องรับผิดตามตัว๋ เงินนั้นก็ได้ คือ
เกิดสิ ทธิ ไล่เบี้ย ก) ไล่เบี้ยได้เมื่อตัว๋ เงินถึงกำหนดในกรณี ไม่ใช้เงิน
ข) ไล่เบี้ยได้แม้ท้ งั ตัว๋ เงินยังไม่ถึงกำหนดในกรณี ดงั จะกล่าวต่อไปนี้คือ
1) ถ้าเขาบอกปั ดไม่รับรองตัว๋ เงิน
2) ถ้าผูจ้ ่ายหากจะได้รับรองหรื อไม่กต็ าม ตกเป็ นคนล้มละลายหรื อได้งดเว้น
การใช้หนี้ แม้การงดเว้นใช้หนี้น้ นั จะมิได้มีคำพิพากษาเป็ นหลักฐานก็ตาม
หรื อถ้าผูจ้ ่ายถูกยึดทรัพย์และการยึดทรัพย์น้ นั ไร้ผล
หน้ า 18 จาก 25

3) ถ้าผูส้ งั่ จ่ายตัว๋ เงินชนิดไม่จำเป็ นต้องให้ผใู ้ ดรับรองนั้นตกเป็ นคนล้มละลาย


มาตรา 960 การที่ตวั๋ รับเงินขาดรับรองหรือขาดใช้ เงินนั้น ต้ องทำให้ เป็ นหลักฐานตามแบบ
การทำคำคัดค้าน ระเบียบด้ วยเอกสารฉบับหนึ่ง เรียกว่ าคำคัดค้ าน
คำคัดค้านการไม่ใช้เงินต้องทำในวันซึ่ งจะพึงใช้เงินตามตัว๋ นั้น หรื อวันใดวันหนึ่ง
ภายในสามวันต่ อแต่ น้ันไป
คำคัดค้านการไม่รับรองต้องทำภายในจำกัดเวลาซึ่ งกำหนดไว้เพื่อการยืน่ ตัว๋ เงินให้
เขารับรอง หรื อภายในสามวันต่อแต่น้ นั ไป
เมื่อมีการคัดค้ านการไม่ รับรองขึน้ แล้ วก็เป็ นอันไม่ ต้องยืน่ เพือ่ ให้ ใช้ เงินและไม่ ต้อง
ทำคำคัดค้านการไม่ ใช้ เงิน
ในกรณี ท้ งั หลายซึ่ งกล่าวไว้ในมาตรา ๙๕๙ ข) (๒) นั้น ท่านว่าผูท้ รงยังหาอาจจะ
ใช้สิทธิไล่เบี้ยได้ไม่ จนกว่าจะได้ยนื่ ตัว๋ เงินให้ผจู ้ ่ายใช้เงินและได้ทำคำคัดค้านขึ้นแล้ว
ในกรณี ท้ งั หลายดังกล่าวไว้ในมาตรา ๙๕๙ ข) (๓) นั้น ท่านว่า ถ้าเอาคำพิพากษา
ซึ่ งสัง่ ให้ผสู้ ั่งจ่ายเป็ นคนล้มละลายออกแสดง ก็เป็ นการเพียงพอที่จะทำให้ผทู ้ รงสามารถ
ใช้สิทธิไล่เบี้ยได้
การทำคำคัดค้าน คือ การทำให้ เกิดการขาดความน่ าเชื่ อถือของตั๋วเงินและสามารถใช้
สิ ทธิ ไล่ เบีย้ ได้ คำคัดค้ านต้ องทำต่ อเจ้ าพนักงานหรื อทนายความซึ่ งได้ รับอนุญาตจาก
ทางการโดยเปิ ดเผย
มาตรา 961 คำคัดค้านนั้นให้นายอำเภอ หรื อผูทำ ้ การแทนนายอำเภอ หรื อทนายความผูไ้ ด้รับ
วิธีการและแบบคำคัดค้าน อนุญาตเพื่อการนี้เป็ นผูทำ ้
เสนาบดีกระทรวงยุติธรรมมีอำนาจออกกฎข้อบังคับเพื่อปฏิบตั ิการให้เป็ นไปตาม
บทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายนี้ อันว่าด้วยการออกใบอนุญาตและการทำคำคัดค้าน
รวมทั้งกำหนดอัตราค่าฤชาธรรมเนียมอันเกี่ยวกับการนั้น
มาตรา 962 ในคำคัดค้านนั้นนอกจาก ชื่อ ตำแหน่ง และรายมือชื่อของผูทำ ้ ต้องมีสำเนาตัว๋ เงิน
กับรายการสลักหลังทั้งหมดตรงถ้อยตรงคำกับระบุความดังจะกล่าวต่อไปนี้ คือ
1) ชื่อ หรื อยีห่ อ้ ของบุคคลผูค้ ดั ค้านและผูถ้ ูกคัดค้าน
2) มูล หรื อเหตุที่ตอ้ งทำคำคัดค้านตัว๋ เงิน การทวงถามและคำตอบ ถ้ามี หรื อข้อที่วา่
หาตัวผูจ้ ่ายหรื อผูร้ ับรองไม่พบ
3) ถ้ามีการรับรอง หรื อใช้เงินเพื่อแก้หน้า ให้แถลงลักษณะแห่งการเข้าแก้หน้าทั้งชื่อ
และยีห่ อ้ ของผูร้ ับรองหรื อผูใ้ ช้เงินเพื่อแก้หน้าและชื่อบุคคลซึ่ งเขาเข้าแก้หน้านั้น
ด้วย
4) สถานที่และวันทำคำคัดค้าน
ให้ผทำ ู้ คำคัดค้านส่ งมอบคำคัดค้านผูร้ ้องขอให้ทำ และให้ผทำ ู ้ คำคัดค้านรี บส่ งคำ
บอกกล่าวการคัดค้านนั้นไปยังผูถ้ ูกคัดค้าน ถ้าทราบภูมิลำเนาก็ให้ส่งโดยจดหมายลง
ทะเบียนไปรษณี ย ์ หรื อส่ งมอบไว้ ณ ภูมิลำเนาของผูน้ ้ นั ก็ได้ถา้ ไม่ทราบภูมิลำเนาก็ให้
ปิ ดสำเนาคำคัดค้านไว้ยงั ที่ซ่ ึ งเห็นได้ง่าย ร ที่วา่ การอำเภอประจำท้องที่อนั ผูถ้ ูกคัดค้านมี
ถิ่นที่อยูค่ รั้งหลังที่สุด
มาตรา 963 ผูท้ รงต้องให้คำบอกกล่าวการที่เข้าไม่รับรองตัว๋ แลกเงิน หรื อไม่ใช้เงินนั้นไปยังผู ้
หน้ า 19 จาก 25

การทำคำบอกกล่าว สลักหลังถัดตนขึ้นไปกับทั้งผูส้ งั่ จ่ายด้วยภายในเวลา สี่ วนั ต่อจากวันคัดค้าน หรื อต่อจาก


วันยืน่ ตัว๋ ในกรณี ที่มีขอ้ กำหนดว่า "ไม่ จำต้องมีคำคัดค้าน"
ผูส้ ลักหลังทุก ๆ คนต้องให้คำบอกกล่าวไปยังผูส้ ลักหลังถัดตนขึ้นไป ภายในสอง
วัน ให้ทราบคำบอกกล่าวอันตนได้รับ จดแจ้งให้ทราบชื่อและ สำนักของผูท้ ี่ได้ให้คำบอก
กล่าวมาก่อน ๆ นั้นด้วย ทำเช่นนี้ติดต่อกัน ไปโดยลำดับจนกระทัง่ ถึงผูส้ งั่ จ่าย อนึ่งจำกัด
เวลาซึ่ งกล่าวมานั้น ท่าน นับแต่เมื่อคนหนึ่ง ๆ ได้รับคำบอกกล่าวแต่คนก่อน
ถ้าผูส้ ลักหลังคนหนึ่งคนใดมิได้ระบุสำนักของตนไว้กด็ ี หรื อได้ระบุ แต่อ่านไม่ได้
ความก็ดี ท่านว่าสุ ดแต่คำบอกกล่าวได้ส่งไปยังผูส้ ลักหลัง คนก่อนก็เป็ นอันพอแล้ว
บุคคลผูจ้ ะต้องให้คำบอกกล่าว จะทำคำบอกกล่าวเป็ นรู ปอย่างใด ก็ได้ท้ งั สิ้ น แม้
เพียงแต่ดว้ ยส่ งตัว๋ แลกเงินคืนก็ใช้ได้ อนึ่งต้องพิสูจน์ได้วา่ ได้ส่งคำบอกกล่าวภายในเวลา
กำหนด
ถ้าส่ งคำบอกกล่าวเป็ นหนังสื อจดทะเบียนไปรษณี ย ์ หากว่าหนังสื อ นั้นได้ส่ง
ไปรษณี ยภ์ ายในเวลากำหนดดัง่ กล่าวมานั้นไซร้ ท่านให้ถือว่า คำบอกกล่าวเป็ นอันได้ส่ง
ภายในจำกัดเวลาบังคับแล้ว
บุคคลซึ่ งมิได้ให้คำบอกกล่าวภายในจำกัดเวลาดัง่ ได้วา่ มานั้นหาเสี ย สิ ทธิ ไล่เบี้ย
ไม่ แต่จะต้องรับผิดเพื่อความเสี ยหายอย่างใด ๆ อันเกิดแต่ ความประมาทเลินเล่อของตน
แต่ท่านมิให้คิดค่าสิ นไหมทดแทนเกิน กว่าจำนวนในตัว๋ แลกเงิน
มาตรา 964 ด้วยข้อกำหนดเขียนลงไว้วา่ “ ไม่ จำต้ องมีคำคัดค้ าน ” ก็ดี “ ไม่ มีคดั ค้ าน ” ก็ดี
หรื อสำนวนอื่นใดทำนองนั้นก็ดี ผูส้ งั่ จ่ายหรื อผูส้ ลักหลังจะยอมปลดเปลื้ องผูท้ รงจากการ
ทำคำคัดค้านการไม่รับรองหรื อการไม่ใช้เงินก็ได้ เพื่อตนจะได้ใช้สิทธิ การไล่เบี้ย
ข้อกำหนดอันนี้ ย่อมไม่ปลดผูท้ รงให้พน้ จากหน้าที่นำตัว๋ เงินยืน่ ภายในเวลา
กำหนด หรื อจากหน้าที่ให้คำบอกกล่าวตัว๋ เงินขาดความน่าเชื่อถือแก่ผสู ้ ลักหลังคนก่อน
หรื อผูส้ ัง่ จ่าย อนึ่งหน้าที่นำสื บว่าไม่ปฏิบตั ิให้เป็ นไปตามกำหนดเวลาจำกัดนั้น ย่อมตก
อยูแ่ ก่บุคคลผูแ้ สวงจะใช้ความข้อนั้นเป็ นข้อต่อสู ้ผทู ้ รงตัว๋ แลกเงิน
ข้อกำหนดอันนี้ ถ้าผูส้ งั่ จ่ายเป็ นผูเ้ ขียนลงไปแล้ว ย่อมเป็ นผลตลอดถึงผูส้ ญ ั ญา
ทั้งปวงบรรดาที่ได้ลงลายมือชื่อในตัว๋ เงินนั้น ถ้าและทั้งมีขอ้ กำหนดดังนี้แล้ว ผูท้ รงยัง
ขืนทำคำคัดค้านไซร้ ท่านว่าผูท้ รงย่อมเป็ นผูอ้ อกค่าใช้จ่ายเพื่อการนั้น หากว่าข้อกำหนด
นั้นผูส้ ลักหลังเป็ นผูเ้ ขียนลง และถ้ามีคดั ค้านทำขึ้นไซร้ ท่านว่าค่าใช่จ่ายในการคัดค้าน
นั้นอาจจะเรี ยกเอาใช้ได้จากคู่สญ ั ญาอื่นๆ บรรดาที่ได้ลงชื่อในตัว๋ เงินนั้น
มาตรา 975 อันตัว๋ แลกเงินนั้น นอกจากชนิดที่สัง่ จ่ายแก่ผถู ้ ือแล้ว จะออกไปเป็ นคู่ฉีกความ
ตัว๋ แลกเงินเป็ นสำรับ ต้องกันสองฉบับ หรื อกว่านั้นก็อาจจะออกได้
คู่ฉีกเหล่านี้ตอ้ งมีหมายลำดับลงไว้ในตัวตราสารนั้นเอง มิฉะนั้นคู่ฉีก แต่ละฉบับ
ย่อมใช้ได้เป็ นตัว๋ แลกเงินฉบับหนึ่ง ๆ แยกเป็ นตัว๋ เงินต่าง ฉบับกัน
บุคคลทุกคนซึ่ งเป็ นผูท้ รงตัว๋ เงินอันมิได้ระบุวา่ ได้ออกเป็ นตัว๋ เดี่ยว นั้น จะเรี ยกให้
ส่ งมอบคู่ฉีกสองฉบับหรื อกว่านั้นแก่ตนก็ได้ โดยยอมให้ คิดค่าใช้จ่ายเอาแก่ตน ในการนี้
ผูท้ รงต้องว่ากล่าวไปยังผูส้ ลักหลังคน ถัดตนขึ้นไป และผูส้ ลักหลังคนนั้นก็จำต้องช่วย
ผูท้ รงว่ากล่าวไปยังผูท้ ี่ สลักหลังให้แก่ตนต่อไปอีก สื บเนื่องกันไปเช่นนี้ตลอดสายจน
หน้ า 20 จาก 25

กระทัง่ ถึงผูส้ ัง่ จ่าย อนึ่งผูส้ ลักหลังทั้งหลายจำต้องเขียนคำสลักหลังของ ตนเป็ นความ


เดียวกันลงในฉบับคู่ฉีกใหม่แห่งตัว๋ สำรับนั้นอีกด้วย
ตั๋วแลกเงินเป็ นสำรั บ หมายถึง ตั๋วแลกเงินที่ มีต้นฉบับตั้งแต่ 2 ขึน้ ไป ซึ่ งต้ นฉบับเหล่ านี ้
กฎหมายเรี ยกว่ า “คู่ฉีก”
มาตรา 982 อันว่าตั๋วสัญญาใช้ เงินนั้น คือหนังสื อตราสารซึ่ ง บุคคลคนหนึ่ง เรียกว่ าผู้ออกตั๋ว
ตัว๋ สัญญาใช้เงิน ให้คำมัน่ สัญญาว่าจะใช้เงินจำนวน หนึ่งให้แก่บุคคลอีกคนหนึ่ง หรื อใช้ให้ตามคำสัง่ ของ
บุคคลอีกคนหนึ่ง เรียกว่ าผู้รับเงิน
มีผ้ เู กี่ยวข้ องอยู่ 2 คนคือ ผู้ออกตั๋วกับผู้รับเงิน

มาตรา 983 ตัว๋ สัญญาใช้ เงินนั้น ต้ องมีรายการดังจะกล่ าวต่ อไปนี ้ คือ


รายการของตัว๋ สัญญาใช้ 1) คำบอกชื่อว่าเป็ นตัว๋ สัญญาใช้เงิน
เงิน 2) คำมัน่ สัญญาอันปราศจากเงื่อนไขว่าจะใช้เงินเป็ นจำนวนแน่นอน
3) วันถึงกำหนดใช้เงิน
4) สถานที่ใช้เงิน
5) ชื่อ หรื อยีห่ อ้ ของผูร้ ับเงิน
6) วันและสถานที่ออกตัว๋ สัญญาใช้เงิน
7) ลายมือชื่อผูอ้ อกตัว๋
มาตรา 984 ตราสารอันมีรายการขาดตกบกพร่ องไปจากที่ท่าน ระบุบงั คับไว้ใน มาตรา ก่อนนี้
ถ้ารายการในตัว๋ สัญญาใช้ ย่อมไม่ สมบูรณ์ เป็ นตั๋วสั ญญาใช้ เงิน เว้นแต่ในกรณี ดงั่ จะกล่าวต่อไปนี้ คือ
เงินขาดตกบกพร่ อง ตัว๋ สัญญาใช้ เงินซึ่งไม่ ระบุเวลาใช้ เงิน ท่านให้ถือว่าพึงใช้เงินเมื่อ ได้เห็น
ถ้ าสถานที่ใช้ เงินมิได้ แถลงไว้ ในตัว๋ สัญญาใช้เงิน ท่านให้ถือเอาภูมิลำเนาของผู ้
ออกตราสารนั้นเป็ นสถานที่ใช้เงิน
ถ้ าตั๋วสัญญาใช้ เงินไม่ ระบุสถานที่ออกตั๋ว ท่านให้ถือว่าตัว๋ นั้นได้ ออก ณ ภูมิลำเนา
ของผูอ้ อกตัว๋
ถ้ ามิได้ ลงวันออกตั๋ว ท่านว่าผูท้ รงโดยชอบด้วยกฎหมายคนหนึ่ง คนใดทำการโดย
สุ จริ ตจะจดวันตามที่ถูกต้องแท้จริ งลงก็ได้
มาตรา 988 อันเช็คนั้น ต้ องมีรายการดังกล่ าวต่ อไปนี ้ คือ
รายการในเช็ค 1) คำบอกชื่อว่าเป็ นเช็ค
2) คำสัง่ อันปราศจากเงื่อนไขให้ใช้เงินเป็ นจำนวนแน่นอน
3) ชื่อ หรื อยีห่ อ้ และสำนักของธนาคาร
4) ชื่อ หรื อยีห่ อ้ ของผูร้ ับเงิน หรื อคำจดแจงว่าให้ใช้เงินแก่ผถู ้ ือ
5) สถานที่ใช้เงิน
6) วันและสถานที่ออกเช็ค
7) ลายมือชื่อผูส้ งั่ จ่าย
มาตรา 990 ผู้ทรงเช็คต้องยืน่ เช็คแก่ธนาคารเพื่อให้ใช้เงินคือว่า ถ้ าเป็ นเช็คให้ ใช้ เงินในเมือง
การยืน่ เช็คเพื่อให้ใช้เงิน เดียวกันกับที่ออกเช็คต้องยืน่ ภายในเดือนหนึ่งนับแต่วนั ออกเช็คนั้น ถ้าเป็ นเช็คให้ ใช้ เงิน
ที่อนื่ ต้องยืน่ ภายในสามเดือน ถ้ ามิฉะนั้นท่ านว่ าผู้ทรงสิ้นสิ ทธิที่จะไล่ เบีย้ เอาแก่ ผู้สลัก
หน้ า 21 จาก 25

หลังทั้งปวงทั้งเสียสิ ทธิอนั มีต่อผู้สั่งจ่ ายด้ วยเพียงเท่ าทีจ่ ะเกิดความเสี ยหายอย่ างหนึ่ง


อย่างใดแก่ผู้สั่งจ่ ายเพราะการที่ละเลยเสี ยไม่ ยนื่ เช็คนั้น
อนึ่งผูท้ รงเช็คซึ่ งผูส้ ัง่ จ่ายหลุดพ้นจากความรับผิดไปแล้วนั้น ท่านให้รับช่วงสิ ทธิ
ของ ผูส้ งั่ จ่ายคนนั้นอันมีต่อธนาคาร
มาตรา 991 ธนาคารจำต้องใช้เงินตามเช็คซึ่ งผูเ้ คยค้ากับธนาคาร ได้ออกเบิกเงินแก่ตน เว้นแต่
หน้าที่ของธนาคารในการ ในกรณีดงั กล่าวต่ อไปนี้ คือ
ใช้เงินตามเช็ค 1) ไม่มีเงินในบัญชีของผูเ้ คยค้าคนนั้นเป็ นเจ้าหนี้ พอจะจ่ายตามเช็คนั้น หรื อ
2) เช็คนั้นยืน่ เพื่อให้ใช้เงินเมื่อพ้ นเวลาหกเดือนนับแต่วนั ออกเช็ค หรื อ
3) ได้มีคำบอกกล่าวว่าเช็คนั้นหายหรื อถูกลักไป
มาตรา 992 หน้ าที่และอำนาจของธนาคารซึ่งจะใช้ เงินตามเช็คอันเบิกแก่ ตนนั้น ท่ านว่ าเป็ น
ธนาคารสิ้ นอำนาจหน้าที่ อันสุ ดสิ้นไปเมื่อกรณีเป็ นดังจะกล่ าวต่ อไปนี ้ คือ
ใช้เงินตามเช็ค 1) มีคำบอกห้ามการใช้เงิน (คำบอกของผูส้ งั่ จ่ายมายังธนาคารหรื ออายัดเช็ค)
2) รู้วา่ ผูส้ งั่ จ่ายตาย
3) รู้วา่ ศาลได้มีคำสัง่ รักษาทรัพย์ชวั่ คราว หรื อคำสัง่ ให้ผสู ้ งั่ จ่ายเป็ นคนล้มละลาย
หรื อได้มีประกาศโฆษณาคำสัง่ เช่นนั้น
มาตรา 993 ถ้ าธนาคารเขียนข้ อความลงลายมือชื่ อบนเช็คเช่ นคำว่ า “ใช้ ได้ ” หรือ “ใช้ เงินได้ ”
เช็คที่ธนาคารรับรอง หรือคำใดๆ อันแสดงผลอย่ างเดียวกัน ท่านว่าธนาคารต้องผูกพันในฐานเป็ นลูกหนีช้ ้ัน
ต้ นในอันจะต้องใช้เงินแก่ผทู ้ รงตามเช็คนั้น
ถ้าผูท้ รงเช็คเป็ นผูจ้ ดั การให้ธนาคารลงข้อความรับรองดังว่านั้น ท่านว่าผูส้ งั่ จ่าย
และผูส้ ลักหลังทั้งปวงเป็ นอันหลุดพ้นจากความรับผิดชอบตามเช็คนั้น
ถ้าธนาคารลงข้อความรับรองดังนั้นโดยคำขอร้องของผูส้ ัง่ จ่าย ท่านว่าผูส้ งั่ จ่ายและ
ปวงผูส้ ลักหลังก็หาหลุดพ้นไปไม่
มาตรา 994 ถ้าในเช็คมีเส้นขนานคู่ขีดขวางไว้ขา้ งด้านหน้า กับมี หรื อไม่มีคำว่า "และบริ ษทั "
วิธีขีดคร่ อมเช็ค หรื อคำย่ออย่างใด ๆ แห่งของความนี้อยู่ ในระหว่างเส้นทั้งสองนั้นไซร้ เช็คนั้นชื่อว่ าเป็ น
เช็คขีดคร่ อมทั่วไป และจะใช้เงินตามเช็คนั้นได้แต่เฉพาะให้แก่ธนาคารเท่านั้น
ถ้าในระหว่างเส้นทั้งสองนั้น กรอกชื่อธนาคารอันหนึ่งอันใดลงไว้ โดยเฉพาะ เช็ค
เช่นนั้นชื่อว่าเป็ นเช็คขีดคร่ อมเฉพาะ และจะใช้เงิน ตามเช็คนั้นได้เฉพาะให้แก่ธนาคาร
อันนั้น
มาตรา 995 (1) เช็คไม่มีขีดคร่ อม ผูส้ งั่ จ่ายหรื อผูท้ รงคนใดคนหนึ่ง จะเรี ยกขีดคร่ อมเสี ยก็ได้
ผูข้ ีดคร่ อมเช็ค และจะทำเป็ นขีดคร่ อมทัว่ ไปหรื อขีดคร่ อม เฉพาะก็ได้
(2) เช็คขีดคร่ อมทัว่ ไป ผูท้ รงจะทำให้เป็ นขีดคร่ อมเฉพาะเสี ยก็ได้
(3) เช็คขีดคร่ อมทัว่ ไปก็ดี ขีดคร่ อมเฉพาะก็ดี ผูท้ รงจะเติมคำลงว่า"ห้ามเปลี่ยน
มือ" ก็ได้
(4) เช็คขีดคร่ อมเฉพาะให้แก่ธนาคารใด ธนาคารนั้นจะซ้ำขีดคร่ อม เฉพาะให้ไป
แก่ธนาคารอื่นเพื่อเรี ยกเก็บเงินก็ได้
(5) เช็คไม่มีขีดคร่ อมก็ดี เช็คขีดคร่ อมทัว่ ไปก็ดี ส่ งไปยังธนาคารใด เพื่อให้เรี ยก
เก็บเงิน ธนาคารนั้นจะลงขีดคร่ อมเฉพาะให้แก่ตนเองก็ได้
หน้ า 22 จาก 25

มาตรา 997 เช็คขีดคร่ อมเฉพาะให้แก่ธนาคารกว่าธนาคารหนึ่งขึ้นไป เมื่อนำเบิกเอาแก่


การจ่ายเงินตามเช็คขีด ธนาคารใด ท่านให้ธนาคารนั้นบอกปั ดเสี ยอย่าใช้เงินให้ เว้นแต่ที่ขีดคร่ อมให้แก่ธนาคาร
คร่ อม ในฐานเป็ นตัวแทนเรี ยกเก็บเงิน
ธนาคารใดซึ่ งเขานำเช็คเบิกขืนใช้เงินไปตามเช็คที่ขีดคร่ อมอย่างว่ามา นั้นก็ดี ใช้
เงินตามเช็คอันเขาขีดคร่ อมทัว่ ไปเป็ นประการอื่นนอกจากใช้ให้ แก่ธนาคารอันใดอัน
หนึ่งก็ดี ใช้เงินตามเช็คอันเขาขีดคร่ อมเฉพาะเป็ น ประการอื่นนอกจากใช้ให้แก่ธนาคาร
ซึ่ งเขาเจาะจงขีดคร่ อมให้โดย เฉพาะหรื อแก่ธนาคารตัวแทนเรี ยกเก็บเงินของธนาคารนั้น
ก็ดี ท่านว่า ธนาคารซึ่ งใช้เงินไปดัง่ กล่าวนี้ จะต้องรับผิดต่อผูเ้ ป็ นเจ้าของอันแท้จริ ง แห่ง
เช็คนั้นในการที่เขาต้องเสี ยหายอย่างใด ๆ เพราะการที่ตนใช้เงินไป ตามเช็คดัง่ นั้น
แต่หากเช็คใดเขานำยืน่ เพื่อให้ใช้เงิน และเมื่อยืน่ ไม่ปรากฏว่าเป็ นเช็ค ขีดคร่ อมก็
ดี หรื อไม่ปรากฏว่ามีรอยขีดคร่ อมอันได้ลบล้างหรื อแก้ไข เปลี่ยนแปลงเพิ่มเติมเป็ น
ประการอื่นนอกจากที่อนุญาตไว้โดยกฎหมาย ก็ดี เช็คเช่นนี้ถา้ ธนาคารใดใช้เงินไปโดย
สุ จริ ตและปราศจากประมาท เลินเล่อ ท่านว่าธนาคารนั้นไม่ตอ้ งรับผิดหรื อต้องมีหน้าที่
รับใช้เงิน อย่างใด ๆ
มาตรา 998 ธนาคารใดซึ่ งเขานำเช็คขีดคร่ อมเบิกเงินใช้เงินไปตาม เช็คนั้นโดยสุ จริตและ
การคุม้ ครองธนาคารที่ ปราศจากประมาทเลินเล่ อ กล่าวคือว่าถ้าเป็ นเช็ค ขีดคร่ อมทัว่ ไปก็ใช้เงินให้แก่ธนาคาร
จ่ายเงินโดยชอบ อันใดอันหนึ่ง ถ้าเป็ นเช็คขีดคร่ อม เฉพาะก็ใช้ให้แก่ธนาคารซึ่ งเขาเจาะจงขีดคร่ อมให้โดย
เฉพาะหรื อใช้ให้ แก่ธนาคารตัวแทนเรี ยกเก็บเงินของธนาคารนั้นไซร้ ท่ านว่ าธนาคารซึ่ง
ใช้ เงินไปตามเช็คนั้นฝ่ ายหนึ่ง กับถ้ าเช็คตกไปถึงมือผู้รับเงินแล้ว ผู้สั่งจ่ ายอีกฝ่ ายหนึ่ง
ต่ างมีสิทธิเป็ นอย่างเดียวกัน และเข้ าอยู่ในฐานอัน เดียวกันเสมือนดัง่ ว่ าเช็คนั้นได้ ใช้ เงิน
ให้ แก่ผู้เป็ นเจ้ าของอันแท้ จริงแล้ ว
มาตรา 1000 ธนาคารใดได้ รับเงินไว้เพือ่ ผู้เคยค้ าของตนโดยสุ จริตและปราศจากประมาท
การคุม้ ครองของธนาคาร เลินเล่อ อันเป็ นเงินเขาใช้ ให้ ตามเช็คขีดคร่ อมทัว่ ไปก็ดี ขีดคร่ อมเฉพาะให้ แก่ ตนก็ดี
ที่รับเงินตามเช็คขีดคร่ อม หากปรากฏว่าผูเ้ คยค้านั้นไม่มีสิทธิ หรื อมีสิทธิ เพียงอย่างบกพร่ องในเช็คนั้นไซร้ ท่ านว่ า
เพียงแต่ เหตุที่ได้รับเงินไว้ หาทำให้ ธนาคารนั้นต้ องรับผิดต่ อผู้เป็ นเจ้ าของอันแท้ จริงแห่ ง
เช็คนั้นแต่ อย่างหนึ่งอย่ างใดไม่

มาตรา 1001 ในคดีฟ้องผู้รับรองตัว๋ แลกเงินก็ดี ผู้ออกตั๋วสัญญาใช้เงินก็ดี ท่านห้ามมิให้ฟ้องเมื่อ


อายุความฟ้ องผูร้ ับรอง , ผู้ พ้นเวลาสามปี นับแต่วนั ตัว๋ นั้น ๆ ถึงกำหนดใช้เงิน
ออกตัว๋
มาตรา 1002 ในคดีที่ผู้ทรงตั๋วเงินฟ้ องผู้สลักหลังและผู้สั่งจ่ าย ท่าน ห้ามมิให้ฟ้องเมื่อพ้นเวลาปี
อายุความผูท้ รงตัว๋ ฟ้ อง ผู้ หนึ่งนับแต่วนั ที่ได้ลงในคำคัดค้านซึ่ งได้ทำขึ้น ภายในเวลาอันถูกต้องตามกำหนด หรื อ
สลักหลังและผูส้ ั่งจ่าย นับแต่วนั ตัว๋ เงินถึงกำหนด ในกรณี ที่มีขอ้ กำหนดไว้วา่ "ไม่จำต้องมีคำคัดค้าน"
หน้ า 23 จาก 25

มาตรา 1003 ในคดีผู้สลักหลังทั้งหลายฟ้ องไล่ เบีย้ กันเอง และไล่ เบีย้ เอาแก่ ผู้สั่งจ่ ายแห่งตัว๋ เงิน
อายุความคดีผสู ้ ลักหลัง ท่านห้ามมิให้ฟ้องคดีเมื่อพ้นเวลา หกเดือนนับแต่วนั ที่ผสู ้ ลักหลังเข้าถือเอาตัว๋ เงินและใช้
ฟ้ องไล่เบี้ยกันเองและผู้ เงิน หรื อนับแต่ วันที่ผสู ้ ลักหลังนั้นเองถูกฟ้ อง
สัง่ จ่าย
มาตรา 1005 ถ้าตัว๋ เงินได้ทำขึ้นหรื อได้โอนหรื อสลักหลังไปแล้วในมูลหนี้ อนั หนึ่งอันใด และ
ผลของหนี้เดิมเกี่ยวกับ สิ ทธิตามตัว๋ เงินนั้นมาสู ญสิ้ นไปเพราะอายุความก็ดี หรื อเพราะละเว้นไม่ดำเนินการให้
อายุความตัว๋ เงิน ต้องตามวิธีใดๆ อันจะพึงต้องทำก็ดี ท่านว่าหนี้เดิมนั้นก็ยงั คงมีอยูต่ ามหลักกฎหมายอัน
แพร่ หลายทัว่ ไป เท่าที่ลูกหนี้มิได้ตอ้ งเสี ยหายแต่การนั้น เว้นแต่จะได้ตกลงกันไว้เป็ น
อย่างอื่น
มาตรา 1006 การที่ลายมือชื่ออันหนึ่งในตัว๋ เงินเป็ นลายมือปลอม ย่ อมไม่ กระทบกระทั่งถึง
การลงลายมือชื่อปลอม ความสมบูรณ์ แห่ งลายมือชื่ออืน่ ๆ ในตัว๋ เงินนั้น
ลายมือปลอม = ดำลงชื่ อว่ า “แดง” โดยเจตนาให้ คนอื่นเข้ าใจว่ าเป็ นลายมือชื่ อของแดง
มาตรา 1007 ถ้ าข้ อความในตัว๋ เงินใด หรือในคำรับรองตั๋วเงินรายใด มีผู้แก้ ไขเปลีย่ นแปลงใน
การปลอมตัว๋ เงินโดย ข้ อสำคัญโดยที่ผู้สัญญาทั้งปวงผู้ที่ต้องรับผิดตามตั๋วเงินมิได้ ยนิ ยอมด้ วยหมดทุกคนไซร้
แก้ไขเปลี่ยนแปลง ท่ านว่าตั๋วเงินนั้นก็เป็ นอันเสี ย เว้นแต่ ยงั คงใช้ ได้ ต่อคู่สัญญาซึ่งเป็ นผู้ทำการแก้ ไข
ข้อความในตัว๋ เงิน เปลีย่ นแปลงนั้นหรือได้ ยนิ ยอมด้ วยกับการแก้ ไขเปลีย่ นแปลงนั้น กับทั้งผู้สลักหลังในภาย
หลัง
แต่หากตัว๋ เงินใดได้มีผแู ้ ก้ไขเปลี่ยนแปลงในข้อสำคัญ แต่ความเปลี่ยนแปลงนั้น
ไม่ประจักษ์ และตัว๋ เงินนั้นตกอยูใ่ นมือผูท้ รงชอบด้วยกฎหมายไซร้ ท่านว่าผูท้ รงคนนั้น
จะเอาประโยชน์จากตัว๋ เงินนั้นก็ได้เสมือนดังว่ามิได้มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงเลย และจะ
บังคับการใช้เงินตามเนื้ อความเดิมแห่งตัว๋ นั้นก็ได้
กล่าวโดยเฉพาะ การแก้ไขเปลี่ยนแปลงเช่นจะกล่าวต่อไปนี้ ท่ านถือว่ าเป็ นการ
แก้ไขเปลีย่ นแปลงในข้ อสำคัญ คือ แก้ ไขเปลีย่ นแปลงอย่ างใดๆ แก่ วนั ที่ลง จำนวนเงิน
อันจะพึงใช้ เวลาใช้ เงิน สถานที่ใช้ เงิน กับทั้งเมื่อตัว๋ เงินเขารับรองไว้ทั่วไปไม่ เจาะจง
สถานที่ใช้ เงิน ไปเติมความระบุสถานที่ใช้ เงินเข้ าโดยที่ผู้รับรองมิได้ ยนิ ยอมด้ วย
มาตรา 1008 ภายในบังคับแห่งบทบัญญัติท้ งั หลายในประมวลกฎหมายนี้ เมื่อใดลายมือชื่อใน
การสลักหลังด้วยลายมือ ตั๋วเงินเป็ นลายมือปลอมก็ดี เป็ นลายมือชื่อลงไว้ โดยทีบ่ ุคคลซึ่งอ้ างเอาเป็ นเจ้ าของลายมือ
ชื่อปลอมหรื อสลักหลัง ชื่อนั้นมิได้ มอบอำนาจให้ ลงก็ดี ท่านว่าลายมือชื่อปลอมหรื อลงปราศจากอำนาจเช่นนั้น
โดยเจ้าของลายมือชื่อไม่ เป็ นอันใช้ไม่ได้เลย ใครจะอ้างอิงแสวงหาสิ ทธิ อย่างหนึ่งอย่างใดเพื่อยึดหน่วงตัวเงินไว้ก็
ได้มอบอำนาจให้ ลายมือ ดี เพื่อทำให้ตวั๋ เงินนั้นหลุดพ้นก็ดี หรื อเพื่อบังคับการใช้เงินเอาแก่คู่สญ ั ญาแห่งตัว๋ นั้นคน
ชื่อดังกล่าวเป็ นอันใช้ไม่ ใดคนหนึ่งก็ดี ท่านว่าไม่อาจจะทำได้เป็ นอันขาด เว้ นแต่ คู่สัญญาฝ่ ายซึ่งจะพึงถูกยึด
ได้เลยมีผลทำให้การสลัก หน่ วงหรือถูกบังคับใช้ เงินนั้นจะอยู่ในฐานเป็ นผู้ต้องตัดบทมิให้ ยกข้ อลายมือชื่อปลอม
หลังขาดสาย หรือข้ อลงลายมือชื่อปราศจากอำนาจนั้นขึน้ เป็ นข้ อต่ อสู้
แต่ขอ้ ความใดๆอันกล่าวมาในมาตรานี้ ท่านมิให้กระทบกระทัง่ ถึงการให้สตั ยาบัน
แก่ลายมือชื่อซึ่ งลงไว้โดยปราศจากอำนาจแต่หากไม่ถึงแก่เป็ นลายมือปลอม
EX. อาทิตย์ ออกเช็คสั่ งให้ ธนาคารจ่ ายเงินแก่ จนั ทร์ อังคารขโมยเช็คไปจากจันทร์ แล้ ว
ปลอมลายมือชื่ อจันทร์ สลักหลังโอนให้ พุธ พุธสลักหลังโอนเช็คให้ พฤหัส พฤหั สนำ
หน้ า 24 จาก 25

เช็คยื่นต่ อธนาคารเพื่อให้ ใช้ เงิน แต่ ธนาคารปฏิ เสธการใช้ เงิน เช่ นนี ้ พฤหัสย่ อมมีสิทธิ
เรียกร้ องเงินจำนวนตามเช็คจากพุธผู้สลักหลังเท่ านั้น พุธจะต่ อสู้ ว่าลายมือชื่ อของจันทร์
ที่สลักหลังโอนให้ พธุ เป็ นลายมือชื่ อปลอมเป็ นเหตุปฏิ เสธความรั บผิดตามเช็คไม่ ได้ แต่
พฤหัสไม่ มีสิทธิ ฟ้องให้ อาทิ ตย์ ผ้ สู ั่ งจ่ ายรั บผิดตามความในเช็คนั้น ถึงแม้ ว่าอาทิ ตย์ จะเป็ น
ผู้ลงลายมือชื่ อสั่งจ่ ายก็ตาม เพราะว่ าพฤหัสเป็ นผู้ทรงเช็คสลักหลังขาดสาย เนื่องจาก
ลายมือชื่อสลักหลังของจันทร์ เป็ นลายมือชื่อปลอม
มาตรา 1009 ถ้ ามีผู้นำตั๋วเงินชนิดจะพึงใช้ เงินตามเขาสั่ งเมื่อทวงถามมาเบิกต่ อธนาคารใด และ
การคุม้ ครองธนาคารที่ ธนาคารนั้นได้ ใช้ เงินให้ ไปตามทางค้ าปกติโดยสุ จริตและปราศจากประมาทเลินเล่ อไซร้
จ่ายเงินโดยสุ จริ ต ท่านว่าธนาคารไม่มีหน้าที่จะต้องนำสื บว่าการสลักหลังของผูร้ ับเงิน หรื อการสลักหลัง
ในภายหลังรายใดๆ ได้ทำไปด้วยอาศัยรับมอบอำนาจแต่บุคคลซึ่ งอ้างเอาเป็ นเจ้าของของ
คำสลักหลังนั้น และถึงแม้วา่ รายการสลักหลังนั้นจะเป็ นสลักหลังปลอมหรื อปราศจาก
อำนาจก็ตาม ท่ านให้ ถือว่ าธนาคารได้ ใช้ เงินไปถูกระเบียบ
มาตรา 1010 เมื่อผูท้ รงตัว๋ เงินซึ่ งหายหรื อถูกลักทราบเหตุแล้วในทันใดนั้นต้องบอกกล่าวเป็ น
ตัว๋ เงินหายหรื อถูกลัก หนังสื อไปยังผูอ้ อกตัว๋ เงิน ผูจ้ ่าย ผูส้ มอ้างยามประสงค์ ผูร้ ับรองเพื่อแก้หน้าและผูร้ ับอาวั
ล ตามแต่มีเพื่อให้บอกปั ดไม่ใช้เงินตามตัว๋ เงินนั้น
เพิม่ เติม
มาตรา 911 ผู้สั่งจ่ ายจะเขียนข้ อความกำหนดลงไว้ว่าจำนวนเงินอันจะพึงใช้ น้ันให้ คดิ ดอกเบีย้
ตัว๋ แลกเงินอาจกำหนด ด้ วยก็ได้ และในกรณี เช่นนั้น ถ้ ามิได้ กล่ าวลงไว้ เป็ น อย่ างอืน่ ท่ านว่ าดอกเบีย้ ย่ อมคิด
ดอกเบี้ยลงไปก็ได้ แต่ วนั ที่ลงในตั๋วเงิน

ถ้ ามิได้ กำหนดไว้ ให้ คิดดอกเบีย้ ในอัตราร้ อยละ 7.5 ต่ อปี ตามมาตรา 7


มาตรา 915 ผูส้ งั่ จ่ายตัว๋ แลกเงินและผูส้ ลักหลังคนใด ๆ ก็ดีจะจด ข้อกำหนดซึ่ งจะกล่าวต่อ
ไปนี้ลงไว้ชดั แจ้งในตัว๋ นั้นก็ได้ คือ
(1) ข้อกำหนดลบล้ าง หรือจำกัดความรับผิดของตนเองต่อผู้ทรงตั๋วเงิน
(2) ข้อกำหนดยอมลดละให้แก่ผทู ้ รงตัว๋ เงินซึ่ งหน้าที่ท้ งั หลาย อันผูท้ รงจะพึง
ต้องมีแก่ตนบางอย่างหรื อทั้งหมด
เขียนอะไรบางอย่ างลงไปเป็ นข้ อความลดละความรั บผิดแก่ ผ้ ทู รงว่ า ถ้ าหากผู้จ่ายไม่
ยอมจ่ ายจะไล่ เบีย้ กับผู้โอนไม่ ได้ เป็ นต้ น
มาตรา 924 ถ้าตัว๋ แลกเงินสลักหลังต่อเมื่อสิ้ นเวลาเพื่อคัดค้านการ ไม่รับรอง หรื อการไม่ใช้
เงินนั้นแล้วไซร้ ท่านว่าผูร้ ับสลักหลังย่อมได้ไป ซึ่ งสิ ทธิ แห่งการรับรองตามแต่มีต่อผู ้
จ่าย กับสิ ทธิไล่เบี้ยเอาแก่บรรดา ผูซ้ ่ ึ งสลักหลังตัว๋ เงินนั้นภายหลังที่สิ้นเวลาเช่นนั้น
แต่ถา้ ตัว๋ เงินนั้นได้มีคดั ค้านการไม่รับรอง หรื อการไม่ใช้เงินมาแต่ ก่อนสลักหลัง
แล้วไซร้ ท่านว่าผูร้ ับสลักหลังย่อมได้ไปแต่เพียงสิ ทธิ ของ ผูซ้ ่ ึ งสลักหลังให้แก่ตนอันมี
ต่อผูร้ ับรอง ต่อผูส้ งั่ จ่าย และต่อบรรดาผูท้ ี่ สลักหลังตัว๋ เงินนั้นมาก่อนย้อนขึ้นไปจนถึง
เวลาคัดค้านเท่านั้น
มาตรา 934 ถ้ าผู้จ่ายเขียนคำรับรองลงในตัว๋ แลกเงินแล้ ว แต่ หากกลับขีดฆ่ าเสี ยก่ อนตั๋วเงิน
หน้ า 25 จาก 25

การบอกปั ดไม่รับรอง นั้นหลุดพ้นไปจากมือตนไซร้ ท่ านให้ ถือเป็ นอันว่ าได้ บอกปัดไม่ รับรอง แต่ถา้ ผูจ้ ่ายได้
แจ้งความเป็ นหนังสื อไปยัง ผูท้ รง หรื อคู่สญ ั ญาฝ่ ายอื่นซึ่ งได้ลงนามในตัว๋ เงินว่าตน
รับรองตัว๋ เงิน นั้นก่อนแล้วจึ่งมาขีดฆ่าคำรับรองต่อภายหลังไซร้ ท่ านว่ าผู้จ่ายก็คงต้ อง
ผูกพันอยู่ตามเนือ้ ความที่ตนได้ เขียนรับรองนั้นเอง
มาตรา 987 อันว่าเช็คนั้น คือหนังสื อตราสารซึ่ งบุคคลคนหนึ่ง เรี ยกว่าผู้สั่งจ่ าย สัง่ ธนาคาร
เช็ค ให้ใช้เงินจำนวนหนึ่งเมื่อทวงถามให้แก่ บุคคลอีกคนหนึ่ง หรื อให้ใช้ตามคำสัง่ ของ
บุคคลอีกคนหนึ่งอันเรี ยกว่า ผู้รับเงิน
มีผ้ เู กี่ยวข้ อง 3 คนคือ ผู้สั่งจ่ าย, ธนาคาร , ผู้รับเงิน

You might also like