Professional Documents
Culture Documents
ตัวบทกฎหมายพาณิ ชย์ 3
A. ข้อสอบข้อที่ 1 หน่วยที่ 1-2 เรื่ องค้ำประกัน อาจจะออก A+D หรื อ B+C
มาตรา 680 อันว่าค้ำประกันนั้น คือสัญญาซึ่ งบุคคลภายนอกคนหนึ่ง เรี ยกว่าผูค้ ้ำประกัน
ค้ำประกัน ผูกพันตนต่อเจ้าหนี้คนหนึ่งเพื่อชำระหนี้ในเมื่อลูกหนี้ไม่ชำระหนี้น้ นั
อนึ่งสัญญาค้ำประกันนั้น ถ้ามิได้มีหลักฐานเป็ นหนังสื ออย่างใดอย่างหนึ่งลง
ลายมือชื่อผูค้ ้ำประกันเป็ นสำคัญ ท่านว่าจะฟ้ องร้องให้บงั คับคดีหาได้ไม่
ว.2 หลักฐานเป็ นหนังสื อไม่ ใช่ แบบ ดังนั้นจึ งมีลกั ษณะเป็ นเอกสาร, จดหมาย,หนังสื อ
หรื ออะไรก็ได้ ที่มีข้อความว่ าค้ำประกันกันจริ งและมีลายมือชื่ อผู้ค ้ำประกันเป็ นสำคัญ
แต่ ถ้าไม่ มีหลักฐานเป็ นหนังสื อหรื อลงลายมือชื่ อผู้ค ้ำประกัน ก็ไม่ ได้ ทำให้ สัญญาเป็ น
โมฆะเสี ยเปล่ าแต่ ประการใด เพียงแต่ จะฟ้ องร้ องบังคับคดีไม่ ได้
สัญญาค้ำประกันเป็ นสั ญญาอุปกรณ์
มาตรา 681 อันค้ำประกันนั้นจะมีได้ แต่ เฉพาะเพือ่ หนีอ้ นั สมบูรณ์
ว.1 หนี้น้ นั สมบูรณ์ หนีใ้ นอนาคตหรือหนีท้ มี่ ีเงือ่ นไข จะประกันไว้เพื่อเหตุการณ์ซ่ ึ งหนี้ น้ นั อาจเป็ น
ว.2 หนี้ในอนาคต ผลได้จริ ง ก็ประกันได้
ว.3 หนี้ประธานบกพร่ อง หนีอ้ นั เกิดแต่ สัญญาซึ่งไม่ ผูกพันลูกหนี้ เพราะทำด้วยความสำคัญผิดหรื อเพราะ
เป็ นผูไ้ ร้ความสามารถนั้น ก็อาจจะมีประกันอย่ างสมบูรณ์ ได้ ถ้ าหากว่ าผู้ค้ำประกันรู้ เหตุ
สำคัญผิดหรือไร้ ความสามารถนั้นในขณะที่เข้ าทำสั ญญาผูกพันตน
หนีร้ ะหว่ างเจ้ าหนีก้ ับลูกหนีเ้ ป็ นหนีป้ ระธาน และหนีร้ ะหว่ างเจ้ าหนีก้ ับผู้ค ้ำประกันเป็ น
หนีอ้ ุปกรณ์ ถ้าหนีป้ ระธานไม่ สมบูรณ์ กม็ ีผลทำให้ หนีอ้ ุปกรณ์ เสี ยไปด้ วย
ว.3 ถ้ าไม่ ร้ ู เหตุสำคัญผิด สั ญญาก็ไม่ ผกู พันผู้ค ้ำประกันที่ สำคัญผิดหรื อเป็ นผู้ไร้ ความ
สามารถ
มาตรา 682 ท่านว่าบุคคลจะยอมเข้าเป็ น ผู้รับเรือน คือเป็ นประกันของผูค้ ้ำประกันอีกชั้น
ว.1 ผูร้ ับเรื อน หนึ่ง ก็เป็ นได้
ว.2 ผูค้ ้ำประกันหลายคน ถ้ าบุคคลหลายคนยอมตนเข้ าเป็ นผู้ค้ำประกันในหนีร้ ายเดียวกันไซร้ ท่านว่าผูค้ ้ำ
ประกันเหล่านั้นมีความรับผิดอย่ างลูกหนีร้ ่ วมกัน แม้ถึงว่าจะมิได้เข้ารับค้ำประกันรวม
กัน
ผู้รับเรือน ไม่ ใช่ ผ้ คู ้ำประกันลูกหนี ้ ความรั บผิดชอบของผู้รับเรื อนจึ งมิได้ เกิดขึน้ เมื่อลูก
หนีไ้ ม่ ใช้ หนี ้ แต่ จะเกิดขึน้ เมื่อผู้ค ้ำประกันไม่ ใช้ หนี ้
มาตรา 683 อันค้ำประกันอย่ างไม่ มีจำกัดนั้นย่อมคุม้ ถึงดอกเบี้ย และค่าสิ นไหมทดแทนซึ่ งลูก
หนี้คา้ งชำระ ตลอดจนค่าภาระติดพันอันเป็ นอุปกรณ์แห่งหนี้รายนั้นด้วย
ขอบเขตความรับผิดของผูค้ ้ำประกัน (ถ้าไม่ Limited ก็ใช้มาตรานี้ แต่ถา้ Limited ก็ตาม
ข้อตกลง)
มาตรา 684 ผู้ค้ำประกันย่ อมรับผิดเพือ่ ค่ าฤชาธรรมเนียมความซึ่งลูกหนีจ้ ะต้ องใช้ ให้ แก่ เจ้ าหนี้
ค่าฤชาธรรมเนียมความ แต่ถา้ โจทก์ฟ้องคดีโดยมิได้เรี ยกให้ผคู ้ ้ำประกันชำระหนี้น้ นั ก่อนไซร้ ท่านว่าผูค้ ้ำประกัน
เป็ นค่าใช้จ่ายอุปกรณ์ หาต้องรับผิดเพื่อใช้ค่าฤชาธรรมเนียมเช่นนั้นไม่
ค่ าฤชาธรรมเนียมความเป็ นค่ าใช้ จ่ายอุปกรณ์ อีกอย่ างหนึ่งซึ่ งผู้ค ้ำประกันจะต้ องรั บผิด
หน้ า 2 จาก 25
หมายเหตุ; ถ้ าไม่ ได้ ฟ้องผู้ค ้ำประกันตั้งแต่ เริ่ มฟ้ องคดี จะเรี ยกร้ องค่ าธรรมเนียมจากผู้ค ้ำ
ประกันไม่ ได้
มาตรา 685 ถ้าเมื่อบังคับตามสัญญาค้ำประกันนั้น ผู้ค้ำประกันไม่ ชำระหนีท้ ้ังหมดของลูกหนี้
ผลของการบังคับชำระหนี้ รวมทั้งดอกเบีย้ ค่ าสิ นไหมทดแทน และอุปกรณ์ ด้วยไซร้ หนีย้ งั เหลืออยู่เท่ าใด ท่ านว่ า
เอาแก่ผคู ้ ้ำได้ไม่ครบ ลูกหนีย้ งั คงรับผิดต่ อเจ้ าหนีใ้ นส่ วนทีเ่ หลือนั้น
B. ผลก่อนชำระหนี้
มาตรา 686 ลูกหนีผ้ ดิ นัดลงเมื่อใด ท่ านว่ าเจ้ าหนีช้ อบที่จะเรียกให้ ผู้ค้ำประกันชำระหนีไ้ ด้ แต่
ลูกหนี้ผดิ นัด นั้น
แต่ ไม่ ได้ เรี ยกให้ ผ้ คู ้ำประกันชำระหนีไ้ ด้ ทันที ต้ องไล่ เบีย้ เอาจากลูกหนีถ้ ึงที่ สุดก่ อน
มาตรา 687 ผู้ค้ำประกันไม่ จำต้ องชำระหนีก้ ่ อนถึงเวลากำหนดที่จะชำระ แม้ถึงว่าลูกหนี้จะ
กรณี ที่ลูกหนี้ไม่อาจถือ ไม่อาจถือเอาประโยชน์แห่งเงื่อนเวลาเริ่ มต้นหรื อเวลาสิ้ นสุ ดได้ต่อไปแล้ว
ประโยชน์แห่งเงื่อนเวลา
มาตรา 688 เมื่อเจ้าหนี้ทวงให้ผคู ้ ้ำประกันชำระหนี้ ผูค้ ้ำประกันจะขอให้เรี ยกลูกหนี้ ชำระ
ผูค้ ้ำประกันต้องชำระหนี้ ก่อนก็ได้ เว้นแต่ ลูกหนีจ้ ะถูกศาลพิพากษาให้ เป็ นคนล้ มละลายเสี ยแล้ ว หรือไม่ ปรากฏว่ า
ทันทีมี 2 กรณี ลูกหนีไ้ ปอยู่แห่ งใดในพระราชอาณาเขต
มาตรา 689 ถึงแม้จะได้เรี ยกให้ลูกหนี้ ชำระหนี้ดงั กล่าวมาในมาตราก่อนนั้นแล้วก็ตาม ถ้ าผู้ค้ำ
เจ้าหนี้ตอ้ งบังคับชำระหนี้ ประกันพิสูจน์ ได้ว่า ลูกหนีน้ ้ันมีทางทีจ่ ะชำระหนีไ้ ด้ และการที่จะบังคับให้ ลกู หนีชำ ้ ระ
เอาจากลูกหนี้ก่อน หนีน้ ้ันจะไม่ เป็ นการยากไซร้ ท่านว่าเจ้าหนี้จะต้องบังคับการชำระหนี้รายนั้นเอาจาก
ทรัพย์สินของลูกหนี้ ก่อน
มาตรา 690 ถ้ าเจ้ าหนีม้ ีทรัพย์ ของลูกหนีย้ ดึ ถือไว้เป็ นประกันไซร้ เมื่อผูค้ ้ำประกันร้องขอ
เจ้าหนี้มีทรัพย์สินของลูก ท่านว่าเจ้าหนี้จะต้องให้ชำระหนี้เอาจากทรัพย์ซ่ ึ งเป็ นประกันนั้นก่อน
หนี้อยูใ่ นครอบครอง
มาตรา 691 ถ้าผูค้ ้ำประกันต้องรับผิดร่ วมกันกับลูกหนี้ ท่านว่าผูค้ ้ำประกันย่อมไม่มีสิทธิ ดงั
กรณี ผคู ้ ้ำประกันไม่มีสิทธิ กล่าวไว้ในมาตรา 688,689,690
เบี่ยงบ่าย
ร่ วมกันกับลูกหนี ้ = เป็ นลูกหนีร้ ่ วม ทั้ง 3 มาตราก่ อนหน้ าก็เป็ นหมันใช้ การไม่ ได้
มาตรา 692 อายุความสะดุดหยุดลงเป็ นโทษแก่ลูกหนี้น้ นั ย่อมเป็ นโทษแก่ผคู ้ ้ำประกันด้วย
อายุความสะดุดหยุดลง
อายุความสะดุดหยุดลง เพราะการรั บสภาพหนีซ้ ึ่ งอาจทำโดยลูกหนีทำ ้ หนังสื อรั บสภาพ
หนี ้ หรื อโดยใช้ เงินบางส่ วน หรื อส่ งดอกเบีย้ หรื อให้ ประกัน หรื อ ทำการอย่ างหนึ่งอย่ าง
ใดอันแสดงโดยปริ ยายว่ ารั บสภาพหนี ้
C.ผลภายหลังการชำระหนี้
มาตรา 693 ผู้ค้ำประกันซึ่งได้ ชำระหนีแ้ ล้ ว ย่ อมมีสิทธิทจี่ ะไล่ เบีย้ เอาจากลูกหนี้ เพื่อต้นเงิน
ผูค้ ้ำประกันไล่เบี้ยเอาจาก กับดอกเบี้ยและเพื่อการที่ตอ้ งสู ญหายหรื อเสี ยหายไปอย่างใดๆ เพราะการค้ำประกันนั้น
ลูกหนี้ได้ อนึ่งผู้ค้ำประกันย่ อมเข้ ารับช่ วงสิ ทธิของเจ้ าหนีบ้ รรดามีเหนือลูกหนีด้ ้ วย
มาตรา 694 นอกจากข้อต่อสู ้ซ่ ึ งผูค้ ้ำประกันมีต่อเจ้าหนี้น้ นั ท่านว่าผูค้ ้ำประกันยังอาจยกข้อ
สิ ทธิ ของผูค้ ้ำประกันที่จะ ต่อสู้ท้ งั หลายซึ่ งลูกหนี้ มีต่อเจ้าหนี้ข้ ึนต่อสู ้ได้ดว้ ย
หน้ า 3 จาก 25
ยกข้อต่อสู ้เจ้าหนี้
EX. ถ้ าเจ้ าหนีไ้ ม่ ฟ้องทายาทของลูกหนีภ้ ายใน 1 ปี นับแต่ เจ้ าหนีท้ ราบการตายของลูกหนี ้
หนีจ้ ึงขาดอายุความตามมาตรา 1754 ว. 3 เมื่อเจ้ าหนีฟ้ ้ องผู้ค ้ำประกัน ผู้ค ้ำย่ อมยกอายุ
ความขึน้ ต่ อสู้เจ้ าหนีไ้ ด้ ตามมาตรา 694
มาตรา 695 ผูค้ ้ำประกันซึ่ งละเลยไม่ยกข้อต่อสู ้ของลูกหนี้ข้ ึนต่อสู ้เจ้าหนี้น้ นั ท่านว่าย่อมสิ้ น
ผูค้ ้ำละเลยไม่ยกข้อต่อสู้ สิ ทธิที่จะไล่เบี้ยเอาแก่ลูกหนี้เพียงเท่าที่ไม่ยกขึ้นเป็ นข้อต่อสู ้ เว้นแต่จะพิสูจน์ได้วา่ ตน
ของลูกหนี้ข้ ึนต่อสู้ มิได้รู้วา่ มีขอ้ ต่อสู้เช่นนั้นและที่ไม่รู้น้ นั มิได้เป็ นเพราะความผิดของตนด้วย
มาตรา 696 ผู้ค้ำประกันไม่ มีสิทธิจะไล่ เบีย้ เอาแก่ ลูกหนีไ้ ด้ ถ้ าว่ าตนได้ ชำระหนีแ้ ทนไปโดย
ผูค้ ้ำประกันเสี ยสิ ทธิไล่ มิได้ บอกลูกหนี้ และลูกหนีย้ งั มิร้ ู ความมาชำระหนีซ้ ้ำอีก
เบี้ยเพราะชำระหนี้โดยไม่ ในกรณี เช่นว่านี้ ผูค้ ้ำประกันก็ได้แต่เพียงจะฟ้ องเจ้าหนี้ เพื่อคืนลาภมิควรได้
บอกลูกหนี้ แล้วลูกหนี้ เท่านั้น
ชำระซ้ำ
มาตรา 697 ถ้าเพราะการกระทำอย่างใดอย่างหนึ่งของเจ้าหนี้ เองเป็ นเหตุให้ ผู้ค้ำประกันไม่
เจ้าหนี้ทำให้ผคู ้ ้ำประกัน อาจเข้ ารับช่ วงได้ ท้ังหมดหรือแต่ บางส่ วนในสิ ทธิกด็ ี จำนองก็ดี จำนำก็ดี และบุริมสิ ทธิ
ไม่ อาจเข้ ารับช่ วงสิทธิผคู้ ้ำ อันได้ให้ไว้แก่เจ้าหนี้แต่ก่อนหรื อในขณะทำสัญญาค้ำประกันเพื่อชำระหนี้น้ นั ท่ านว่ าผู้
ประกันหลุดพ้น ค้ำประกันย่อมหลุดพ้ นจากความรับผิดเพียงเท่ าที่ตนต้ องเสี ยหายเพราะการนั้ น
EX. ก.กู้เงิน ข. 5000 บาท โดยจำนำแหวนไว้ หนึ่งวง ราคา 3000 บาทเป็ นประกันไว้ มี
ค.เป็ นผู้ค ้ำประกันหนีเ้ งินกู้ด้วย ถ้ า ข.คืนแหวนที่ จำนำให้ แก่ ก. ค.ย่ อมหลุดพ้ นความรั บ
ผิดที่ตนต้ องเสี ยหาย เพราะเหตุที่จะต้ องเข้ ารั บช่ วงสิ ทธิ บังคับ จำนำแหวนนั้นไม่ ได้ เมื่อ
ก.ผิดนัดไม่ ชำระหนี ้ ข.จะมาเรี ยกร้ องเอาจาก ค.ได้ อีกเพียง 2000 บาทเท่ านั้น
D.ความระงับสิ้ นไปแห่งการค้ำประกัน
มาตรา 698 อันผูค้ ้ำประกันย่อมหลุดพ้นจากความรับผิดในขณะเมื่อหนี้ ของลูกหนี้ระงับสิ้ นไป
เหตุระงับสิ ทธิ ของผูค้ ้ำ ไม่วา่ เพราะเหตุใดๆ
หนีป้ ระธานระงับสิ ้นไป หนีอ้ ุปกรณ์ ย่อมระงับ
สาเหตุที่ทำให้ หนีร้ ะงับ 5 ประการ
1. การชำระหนี ้ ม.321
2. การปลดหนี ้ ม.340
3. การหักกลบลบหนี ้ ม.341
4. แปลงหนีใ้ หม่ ม.349
5. หนีเ้ กลื่อนกลืนกัน ม. 353
มาตรา 699 การค้ำประกันเพื่อกิจการเนื่องกันไปหลายคราวไม่มีจำกัดเวลาเป็ นคุณแก่เจ้าหนี้
ผูค้ ้ำประกันบอกเลิกการ นั้น ท่านว่าผูค้ ้ำอาจเลิกเสี ยเพื่อคราวอันเป็ นอนาคตได้ โดยบอกกล่าวความประสงค์น้ นั
ค้ำประกัน แก่เจ้าหนี้
ในกรณี เช่นนี้ ท่านว่าผูค้ ้ำประกันไม่ตอ้ งรับผิดในกิจการที่ลูกหนี้กระทำลงภาย
หลังคำบอกกล่าวนั้นได้ไปถึงเจ้าหนี้
มาตรา 700 ถ้าค้ำประกันหนี้อนั จะต้องชำระ ณ เวลามีกำหนดแน่ นอน และเจ้ าหนีย้ อมผ่ อน
เจ้าหนี้ผอ่ นเวลาชำระหนี้ เวลาให้ แก่ลูกหนีไ้ ซร้ ท่ านว่ าผู้ค้ำประกันย่ อมหลุดพ้ นจากความรับผิด
หน้ า 4 จาก 25
ลำดับไว้ ว่าต้ องบังคับจำนองที่ ดิน ค.ก่ อนแล้ วจึ งบังคับจำนองที่ ดิน ง.ได้ หาก ข.ปลด
จำนองให้ แก่ ค.ผู้จำนองลำดับแรก ง.ผู้จำนองคนหลังย่ อมหลุดพ้ นความรั บผิดเท่ าที่ ต้อง
เสี ยหายคือ เท่ าราคาที่ ดินของ ค. สมมุติว่าราคาที่ ดินของ ค.มีราคา 300,000 บาท ง.ก็มี
สิ ทธิ หลุดพ้ นความรั บผิด 300,000 บาท คือสามารถหั กหนีก้ ับ ข.ได้ 300,000 บาทคงรั บ
ผิดเพียง 200,000 เท่ านั้น
มาตรา 727 ถ้าบุคคลคนเดียวจำนองทรัพย์สินแห่งตนเพื่อประกันหนี้อนั บุคคลอื่นจะต้อง
สิ ทธิ ของผูจำ
้ นองที่จะ ชำระ ท่านให้ใช้บทบัญญัติมาตรา 697,700 และ 701 ว่าด้วยค้ำประกันนั้นบังคับอนุโลม
หลุดพ้นความรับผิด ตามควร
สิ ทธิหลุดพ้นความรับผิดได้แก่
1. มาตรา 697 ไม่อาจรับช่วงสิ ทธิ
2. มาตรา 700 เมื่อเจ้าหนี้ผอ่ นเวลาให้ลูกหนี้
3. มาตรา 701 เมื่อเจ้าหนี้ไม่ยอมรับชำระหนี้
D. สิ ทธิและหน้าที่ของผูร้ ับโอนทรัพย์สินซึ่ งจำนอง
มาตรา 736 ผู้รับโอนทรัพย์ สินซึ่งจำนองจะไถ่ ถอนจำนองก็ได้ ถ้าหากมิได้เป็ นตัวลูกหนี้ หรื อ
สิ ทธิ ที่จะไถ่ถอนจำนอง ผูค้ ้ำประกัน หรื อเป็ นทายาทของลูกหนี้ หรื อผูค้ ้ำประกัน
มาตรา 737 ผู้รับโอนจะไถ่ถอนจำนองเมื่อใดก็ได้ แต่ ถ้าผู้รับจำนองได้ บอกกล่ าวว่ ามีจำนงจะ
กำหนดเวลาไถ่ถอน บังคับจำนองไซร้ ผูร้ ับโอนต้องไถ่ถอนจำนองภายในเดือนหนึ่งนับแต่วนั รับคำบอก
จำนอง กล่าว
มิฉะนั้นอาจหมดสิ ทธิ ไถ่ ถอนจำนองเอาได้ เพราะผู้รับจำนองก็จะดำเนินการฟ้ องศาล
บังคับจำนองยึดทรั พย์ ขายทอดตลาดต่ อไป
ผู้รับโอน หมายถึง ผู้ที่ซื้อทรั พย์ หรื อได้ มาซึ่ งทรั พย์ ที่ติดจำนองไว้ ในครอบครองของตน
E. การบังคับจำนอง
มาตรา 728 เมื่อจะบังคับจำนองนั้น ผูร้ ับจำนองต้องมีจดหมายบอกกล่าวไปยังลูกหนี้ ก่อนว่า
การขายทอดตลาดทรัพย์ ให้ชำระหนี้ภายในเวลาอันสมควรซึ่ งกำหนดให้ในคำบอกกล่าวนั้น ถ้ าและลูกหนีล้ ะเลย
จำนอง เสียไม่ ปฏิบัติตามคำบอกกล่ าว ผูร้ ับจำนองจะฟ้ องคดีต่อศาลเพื่อให้พิพากษาสัง่ ให้ยดึ
ทรัพย์สินซึ่ งจำนองและให้ขายทอดตลาดก็ได้
วิธีการบังคับจำนอง มี 2 วิธี
1. การขายทอดตลาดทรั พย์ จำนอง
2. การเอาทรั พย์ จำนองหลุดเป็ นกรรมสิ ทธิ์ ของผู้รับจำนอง
หมายเหตุ; ต้ องเป็ นเจ้ าหนีซ้ ึ่ งชนะคดีจึงมีอำนาจบังคับจำนองได้
มาตรา 729 นอกจากทางแก้ดงั บัญญัติไว้ในมาตราก่อนนั้น ผู้รับจำนองยังชอบที่จะเรียกเอา
การเอาทรัพย์จำนองหลุด ทรัพย์ จำนองหลุดได้ ภายในบังคับแห่ งเงือ่ นไขดังจะกล่ าวต่ อไปนี ้
เป็ นกรรมสิ ทธิ์ ของผูร้ ับ 1) ลูกหนี้ได้ขาดส่ งดอกเบี้ยมาแล้วเป็ นเวลา 5 ปี
จำนอง 2) ผูจำ ้ นองมิได้แสดงให้เป็ นที่พอใจแก่ศาลว่าราคาทรัพย์สินนั้นท่วมจำนวนเงินอัน
ค้างชำระและ
3) ไม่มีการจำนองรายอื่น หรื อบุริมสิ ทธิ อื่นได้จดทะเบียนไว้เหนือทรัพย์สินอัน
เดียวกันนี้เอง
หน้ า 9 จาก 25
สังหาริ มทรั พย์ = สิ ทธิ อันเกี่ยวกับสั งหาริ มทรั พย์ ด้วยเช่ น ลิขสิ ทธิ์ , สิ ทธิ ใน
เครื่ องหมายการค้ า สิ ทธิ เหล่ านีย้ ่ อมจำนำได้ เหมือนสั งหาริ มทรั พย์ ทั่วไป แต่ สิทธิ การเช่ า
อาคาร ไม่ อาจจำนำได้
มาตรา 748 การจำนำนั้นย่อมเป็ นประกันเพื่อการชำระหนี้ กับ ทั้งค่าอุปกรณ์ต่อไปนี้ดว้ ย คือ
ขอบเขตของสัญญาจำนำ (1) ดอกเบี้ย (ไม่เกินร้อยละ 15 ต่อปี ตามมาตรา 654)
(2) ค่าสิ นไหมทดแทนในการไม่ชำระหนี้
(3) ค่าฤชาธรรมเนียมในการบังคับจำนำ
(4) ค่าใช้จ่ายเพื่อรักษาทรัพย์สินซึ่ งจำนำ
(5) ค่าสิ นไหมทดแทน เพื่อความเสี ยหายอันเกิดแต่ความชำรุ ด บกพร่ องแห่ง
ทรัพย์สินจำนำซึ่ งไม่เห็นประจักษ์
มาตรา 750 ถ้ าทรัพย์สินที่จำนำเป็ นสิ ทธิซึ่งมีตราสาร และมิได้ ส่ งมอบตราสารนั้นให้แก่ผรู ้ ับ
การจำนำสิ ทธิ ซ่ ึ งมีตรา จำนำ ทั้งมิได้บอกกล่าวเป็ นหนังสื อแจ้ง การจำนำแก่ลูกหนี้แห่งสิ ทธิ น้ นั ด้วยไซร้ ท่าน
สารทัว่ ๆไป ว่าการจำนำย่อมเป็ นโมฆะ
สิทธิซึ่งมีตราสาร = ใบประทวนสิ นค้ า, ตั๋วเงิน,ใบหุ้น,ใบหุ้นกู้,พันธบัตร และใบตราส่ ง
มาตรา 751 ถ้ าจำนำตราสารชนิดออกให้ แก่ บุคคลเพือ่ เขาสั่ งท่ าน ห้ามมิให้ยกขึ้นเป็ นข้อต่อสู ้
การจำนำตราสารชนิด บุคคลภายนอก เว้ นแต่ จะได้ สลักหลังไว้ที่ ตราสารให้ ปรากฏการจำนำเช่ นนั้น
ออกให้บุคคลเพื่อเขาสัง่ อนึ่ง ในการนี้ไม่จำเป็ นต้องบอกกล่าวแก่ลูกหนี้แห่งตราสาร
ตราสารชนิดออกให้ แก่ เขาสั่ง = ตั๋วเงินทั้ง 3 ประเภทได้ แก่ ตัว๋ แลกเงิน, ตั๋วสั ญญาใช้
เงิน,และเช็ค
เช่ นเช็คผู้ถือ เพียงแต่ สลักหลังแล้ วส่ งมอบเป็ นอันสมบูรณ์
มาตรา 753 ถ้ าจำนำใบหุ้น หรือใบหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อ ท่านห้ามมิ ให้ยกขึ้นเป็ นข้อต่อสู ้บริ ษทั
การจำนำใบหุน้ หรื อ หรื อบุคคลภายนอก เว้นแต่จะได้จดลง ทะเบียนการจำนำนั้นไว้ในสมุดของบริ ษทั ตาม
ใบหุน้ กูช้ นิดระบุชื่อ บทบัญญัติท้ งั หลาย ในลักษณะ 22 ว่าด้วยการโอนหุน้ หรื อหุน้ กู ้
มาตรา 756 การที่จะตกลงกันไว้ เสี ยแต่ ก่อนเวลาหนีถ้ ึงกำหนด ชำระเป็ นข้ อความอย่ างใดอย่ าง
คู่สญั ญาไม่อาจตกลงกัน หนึ่งว่า ถ้ าไม่ ชำระหนี้ ให้ ผู้รับจำนำ เข้ าเป็ นเจ้ าของทรัพย์ สินจำนำ หรือให้ จดั การแก่
เพื่อบังคับจำนำก่อนหนี้ ทรัพย์สินนั้นเป็ น ประการอืน่ นอกจากตามบทบัญญัติท้ังหลายว่ าด้ วยการบังคับจำนำ นั้น
ถึงกำหนดชำระ ไซร้ ข้ อตกลงเช่ นนั้นท่ านว่ าไม่ สมบูรณ์
EX.ดำกู้เงินแดง 10,000 บาท โดยเอาแหวนเพชรราคา 100,000 บาทมาจำนำไว้ กับแดง
และทำข้ อตกลงกันว่ า ถ้ าถึงกำหนดชำระหนี ้ ดำไม่ ชำระหนี ้ ให้ แหวนเพชรตกเป็ นของ
แดงหรื อให้ แดงนำแหวนเพชรออกขายได้ ทันที ข้ อตกลงดังกล่ าวไม่ สมบูรณ์
หมายเหตุ; ตามมาตรานีใ้ ช้ เฉพาะก่ อนหนีถ้ ึงกำหนดชำระ ถ้ าหนีถ้ ึงกำหนดชำระแล้ วการ
ตกลงดังกล่ าวไม่ ต้องห้ าม คือ เมื่อถึงกำหนดชำระแล้ วไม่ ชำระหนี ้ ผู้จำนำบอกผู้รับจำนำ
ได้ ว่าให้ ยึดทรั พย์ ที่จำนำได้ เลย
มาตรา 758 ผู้รับจำนำชอบทีจ่ ะยึดของจำนำไว้ ได้ ท้ังหมด จนกว่ า จะได้ รับชำระหนีแ้ ละค่ า
สิ ทธิ ยดึ ทรัพย์ที่จำนำ อุปกรณ์ ครบถ้ วน
มาตรา 761 ถ้ามิได้กำหนดไว้เป็ นอย่างอื่นในสัญญา หากมีดอกผล นิตินยั งอกจากทรัพย์สิน
สิ ทธิ ในการจัดการดอกผล นั้นอย่างไร ท่านให้ผรู ้ ับจำนำจัดสรรใช้เป็ นค่า ดอกเบี้ยอันค้างชำระแก่ตน และถ้าไม่มี
หน้ า 11 จาก 25
EX. ก ข ค.ลงลายมือชื่ อร่ วมกันสั่ งจ่ ายเช็คฉบับหนึ่ง ปรากฏว่ า ก.เป็ นบุคคลล้ มละลาย
ก.จึงไม่ อาจเป็ นคู่สัญญาแห่ งตั๋วเงินได้ เลย ส่ วน ข.เป็ นผู้เยาว์ ลงชื่ อโดยไม่ ได้ รับความ
ยินยอมของผู้แทนโดยชอบธรรมเป็ นโมฆียะ ตาม ม.21 ดังนั้นจึ งไม่ กระทบกระทั่งถึง
ความรั บผิดชอบของ ค.ที่ ต้องใช้ เงินตามเช็ค
มาตรา 903 ในการใช้ เงินตามตั๋วเงินท่ านมิให้ ให้ วนั ผ่ อน
ห้ามผ่อนวันใช้เงิน
มาตรา 904 อันผู้ทรงนั้น หมายความว่าบุคคลผูม้ ีตวั๋ เงินไว้ในครอบครอง โดยฐานเป็ นผูร้ ับเงิน
ผูท้ รงตัว๋ เงิน หรื อเป็ นผูร้ ับสลักหลัง ถ้าและเป็ นตัว๋ เงินสัง่ จ่ายให้แก่ผถู ้ ือ ผูถ้ ือก็นบั ว่าเป็ นผูท้ รงเหมือน
กัน
มาตรา 905 ภายในการบังคับแห่งบทบัญญัติมาตรา 1008 บุคคลผูไ้ ด้ตวั๋ เงินไว้ในครอบครอง
สลักหลังไม่ขาดสาย ถ้าแสดงให้ปรากฏสิ ทธิ ด้ วยการสลักหลังไม่ ขาดสาย แม้ถึงว่าการสลักหลังรายที่สุดจะ
เป็ นสลักหลังลอยก็ตาม ท่ านให้ ถือว่ าเป็ นผู้ทรงโดยชอบด้ วยกฎหมาย เมื่อใดรายการ
สลักหลังลอยมีสลักหลังรายอื่นตามหลังไปอีก ท่านให้ถือว่าบุคคลผูท้ ี่ลงรายมือชื่อในการ
สลักหลังรายที่สุดนั้น เป็ นผูไ้ ด้ไปซึ่ งตัว๋ เงินด้วยการสลักหลังลอย อนึ่งคำสลักหลังเมื่อ
ขีดฆ่ าเสียแล้ว ท่ านให้ ถือเสมือนว่ ามิได้ มีเลย
ถ้ าบุคคลผู้หนึ่งผู้ใดต้ องปราศจากตั๋วเงินไปจากครอบครอง ท่านว่าผูท้ รงซึ่ งแสดง
ให้ปรากฏสิ ทธิของตนในตัว๋ ตามวิธีการดังกล่าวมาในวรรคก่อนนั้น หาจำต้ องสละตั๋ว
เงินไม่ เว้นแต่ จะได้ มาโดยทุจริต หรือได้ มาด้ วยความประมาทเลินเล่ ออย่ างร้ ายแรง
อนึ่งข้อความในวรรคก่อนนี้ ให้ใช้บงั คับตลอดถึงผูท้ รงตัว๋ เงินสัง่ จ่ายให้แก่ผถู ้ ือ
ด้วย
EX. ว.2 ผู้ที่ได้ ตั๋วเงินไว้ ในครอบครองคนปั จจุบัน ซึ่ งแสดงให้ ปรกฎสิ ทธิ ด้วยการสลัก
หลังไม่ ขาดสาย ตาม ม.905 ว.แรกเป็ นผู้ทรงโดยชอบด้ วยกฎหมาย ไม่ จำต้ องสละคืนตั๋ว
เงินให้ แก่ ผ้ ทู รงคนก่ อนๆ ที่ ตั๋วเงินหลุดจากครอบครองไป เว้ นแต่ ผ้ ทู ี่ ได้ ตั๋วเงินไว้ ใน
ครอบครองคนปั จจุบนั (ผู้ทรงคนปั จจุบัน) ได้ ตั๋วเงินมาโดยทุจริ ต หรื อได้ มาด้ วยความ
ประมาทเลินเล่ ออย่ างร้ ายแรง
ม. 1008 การลงลายมือชื่ อต้ องไม่ ปลอมหรื อลงลาบมือชื่ อโดยปราศจากอำนาจอีกด้ วย
ตั๋วแลกเงิน
สถานที่ออกตั๋ว........กรุ งเทพฯ
วันที่...1..เดือน..พค....พศ....2536
กำหนด....3 เดือน.....นับแต่ วนั นีโ้ ปรดจ่ ายเงินจำนวน .......10,000 บาท
ให้ แก่ ....นาย อังคาร.......หรือตามคำสั่ ง
ถึง.......นาย จันทร์
ที่อยู่.....123 สุ ขุมวิท 61 กทม.
ลงชื่อ.....นาย อาทิตย์
ผู้สั่งจ่ าย
มาตรา 912 อันตั๋วแลกเงินนั้นจะออกคำสั่ งให้ ใช้ เงินตามคำสั่ งของผู้สั่งจ่ ายก็ได้
อนึ่งจะสั่งจ่ ายเอาจากตัวผู้สั่งจ่ ายเอง หรือสั่ งจ่ ายเพือ่ บุคคลภายนอกก็ได้
มาตรา 913 อันวันถึงกำหนดของตัว๋ แลกเงินนั้น ท่านว่าย่อมเป็ นอย่างใดอย่างหนึ่งดังกล่าวต่อ
วันถึงกำหนดของตัว๋ แลก ไปนี้ คือ
เงิน 1) ในวันใดวันหนึ่งที่กำหนดไว้ หรื อ
2) เมื่อสิ้ นระยะเวลาอันกำหนดไว้นบั แต่วนั ที่ลงในตัว๋ นั้น หรื อ
3) เมื่อทวงถาม หรื อเมื่อได้เห็น หรื อ
4) เมื่อสิ้ นระยะเวลาอันกำหนดไว้นบั แต่ได้เห็น
มาตรา 914 บุคคลผูส้ ัง่ จ่ายหรื อสลักหลังตัว๋ แลกเงินย่อมเป็ นอันสัญญาว่า เมื่อตัว๋ นั้นได้นำยืน่
ความรับผิดของผูส้ ัง่ จ่าย โดยชอบแล้วจะมีผรู ้ ับรองและใช้เงินตามเนื้ อความแห่งตัว๋ ถ้ าและตั๋วแลกเงินนั้นเขาไม่
หรื อผูส้ ลักหลังตัว๋ แลก เชื่อถือโดยไม่ ยอมรับรองก็ดหี รือไม่ ยอมจ่ ายเงินก็ดี ผู้สั่งจ่ ายหรือผู้สลักหลังก็จะใช้ เงินแก่
เงิน ผู้ทรง หรือแก่ผู้สลักหลังคนหลังซึ่งต้ องถูกบังคับให้ ใช้ เงินตามตั๋วนั้น ถ้าหากว่าทำได้ทำ
ถูกต้องตามวิธีการในข้อไม่รับรองหรื อไม่จ่ายเงินนั้นแล้ว
มาตรา 916 บุคคลทั้งหลายผูถ้ ูกฟ้ องในมูลตัว๋ แลกเงินหาอาจจะต่อสู ้ผทู ้ รงด้วยข้อต่อสู ้ อัน
ระหว่างทางถ้ามีเหตุ อาศัยความเกี่ยวพันกันเฉพาะบุคคลระหว่างตนกับผูส้ งั่ จ่ายหรื อกับผูท้ รงคนก่อนๆ นั้นได้
ฉ้อฉลเกิดขึ้น ไม่ เว้นแต่ การโอนจะได้ มีขึน้ ด้ วยคบคิดกันฉ้ อฉล
EX. ก.ใช้ ปืนจี ้ ข.ให้ เขียนเช็คสั่ งจ่ ายเงิน 100,000 บาทแก่ ก.ซึ่ งเป็ นการข่ มขู่ สั ญญาเป็ น
โมฆียะ ข.ยกขึน้ เป็ นข้ อต่ อสู้ ก.ได้ แต่ ถ้า ก.เอาเช็คฉบับนีไ้ ปจ่ ายเป็ นค่ าซื ้อรถยนต์ แก่ ค.
ซึ่ งรั บไว้ โดยสุจริ ต ดังนั้น ข.จะยกข้ อสั ญญาเป็ นโมฆียะขึน้ ต่ อสู้ ก.ไม่ ได้ ดังนีเ้ ป็ นต้ น
มาตรา 917 อันตัว๋ แลกเงินทุกฉบับ ถึงแม้วา่ จะมิใช่สงั่ จ่ายให้แก่ บุคคลเพื่อเขาสัง่ ก็ตาม ท่าน
การโอนตัว๋ แลก ว่าย่อมโอนให้กนั ได้ดว้ ยสลักหลังและส่ งมอบ
เมื่อผู้สั่งจ่ ายเขียนลงในด้ านหน้ าแห่ งตัว๋ แลกเงินว่ า "เปลีย่ นมือไม่ ได้ " ดัง่ นีก้ ด็ ี
หรือเขียนคำอืน่ อันได้ ความเป็ นทำนองเช่ นเดียวกันนั้นก็ดี ท่ านว่ าตั๋วเงินนั้นย่ อมจะโอน
ให้ กนั ได้ แต่ โดยรู ปการและด้ วยผลอย่ างการ โอนสามัญ
อนึ่ง ตัว๋ เงินจะสลักหลังให้แก่ผจู ้ ่ายก็ได้ ไม่วา่ ผูจ้ ่ายจะได้รับรองตัว๋ นั้นหรื อไม่
หรื อจะสลักหลังให้แก่ผสู ้ งั่ จ่าย หรื อให้แก่คู่สญ ั ญาฝ่ ายใด แห่งตัว๋ เงินนั้นก็ได้ ส่ วนบุคคล
ทั้งหลายเหล่านี้กย็ อ่ มจะสลักหลังตัว๋ เงิน นั้นต่อไปอีกได้
หน้ า 15 จาก 25
มาตรา 1003 ในคดีผู้สลักหลังทั้งหลายฟ้ องไล่ เบีย้ กันเอง และไล่ เบีย้ เอาแก่ ผู้สั่งจ่ ายแห่งตัว๋ เงิน
อายุความคดีผสู ้ ลักหลัง ท่านห้ามมิให้ฟ้องคดีเมื่อพ้นเวลา หกเดือนนับแต่วนั ที่ผสู ้ ลักหลังเข้าถือเอาตัว๋ เงินและใช้
ฟ้ องไล่เบี้ยกันเองและผู้ เงิน หรื อนับแต่ วันที่ผสู ้ ลักหลังนั้นเองถูกฟ้ อง
สัง่ จ่าย
มาตรา 1005 ถ้าตัว๋ เงินได้ทำขึ้นหรื อได้โอนหรื อสลักหลังไปแล้วในมูลหนี้ อนั หนึ่งอันใด และ
ผลของหนี้เดิมเกี่ยวกับ สิ ทธิตามตัว๋ เงินนั้นมาสู ญสิ้ นไปเพราะอายุความก็ดี หรื อเพราะละเว้นไม่ดำเนินการให้
อายุความตัว๋ เงิน ต้องตามวิธีใดๆ อันจะพึงต้องทำก็ดี ท่านว่าหนี้เดิมนั้นก็ยงั คงมีอยูต่ ามหลักกฎหมายอัน
แพร่ หลายทัว่ ไป เท่าที่ลูกหนี้มิได้ตอ้ งเสี ยหายแต่การนั้น เว้นแต่จะได้ตกลงกันไว้เป็ น
อย่างอื่น
มาตรา 1006 การที่ลายมือชื่ออันหนึ่งในตัว๋ เงินเป็ นลายมือปลอม ย่ อมไม่ กระทบกระทั่งถึง
การลงลายมือชื่อปลอม ความสมบูรณ์ แห่ งลายมือชื่ออืน่ ๆ ในตัว๋ เงินนั้น
ลายมือปลอม = ดำลงชื่ อว่ า “แดง” โดยเจตนาให้ คนอื่นเข้ าใจว่ าเป็ นลายมือชื่ อของแดง
มาตรา 1007 ถ้ าข้ อความในตัว๋ เงินใด หรือในคำรับรองตั๋วเงินรายใด มีผู้แก้ ไขเปลีย่ นแปลงใน
การปลอมตัว๋ เงินโดย ข้ อสำคัญโดยที่ผู้สัญญาทั้งปวงผู้ที่ต้องรับผิดตามตั๋วเงินมิได้ ยนิ ยอมด้ วยหมดทุกคนไซร้
แก้ไขเปลี่ยนแปลง ท่ านว่าตั๋วเงินนั้นก็เป็ นอันเสี ย เว้นแต่ ยงั คงใช้ ได้ ต่อคู่สัญญาซึ่งเป็ นผู้ทำการแก้ ไข
ข้อความในตัว๋ เงิน เปลีย่ นแปลงนั้นหรือได้ ยนิ ยอมด้ วยกับการแก้ ไขเปลีย่ นแปลงนั้น กับทั้งผู้สลักหลังในภาย
หลัง
แต่หากตัว๋ เงินใดได้มีผแู ้ ก้ไขเปลี่ยนแปลงในข้อสำคัญ แต่ความเปลี่ยนแปลงนั้น
ไม่ประจักษ์ และตัว๋ เงินนั้นตกอยูใ่ นมือผูท้ รงชอบด้วยกฎหมายไซร้ ท่านว่าผูท้ รงคนนั้น
จะเอาประโยชน์จากตัว๋ เงินนั้นก็ได้เสมือนดังว่ามิได้มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงเลย และจะ
บังคับการใช้เงินตามเนื้ อความเดิมแห่งตัว๋ นั้นก็ได้
กล่าวโดยเฉพาะ การแก้ไขเปลี่ยนแปลงเช่นจะกล่าวต่อไปนี้ ท่ านถือว่ าเป็ นการ
แก้ไขเปลีย่ นแปลงในข้ อสำคัญ คือ แก้ ไขเปลีย่ นแปลงอย่ างใดๆ แก่ วนั ที่ลง จำนวนเงิน
อันจะพึงใช้ เวลาใช้ เงิน สถานที่ใช้ เงิน กับทั้งเมื่อตัว๋ เงินเขารับรองไว้ทั่วไปไม่ เจาะจง
สถานที่ใช้ เงิน ไปเติมความระบุสถานที่ใช้ เงินเข้ าโดยที่ผู้รับรองมิได้ ยนิ ยอมด้ วย
มาตรา 1008 ภายในบังคับแห่งบทบัญญัติท้ งั หลายในประมวลกฎหมายนี้ เมื่อใดลายมือชื่อใน
การสลักหลังด้วยลายมือ ตั๋วเงินเป็ นลายมือปลอมก็ดี เป็ นลายมือชื่อลงไว้ โดยทีบ่ ุคคลซึ่งอ้ างเอาเป็ นเจ้ าของลายมือ
ชื่อปลอมหรื อสลักหลัง ชื่อนั้นมิได้ มอบอำนาจให้ ลงก็ดี ท่านว่าลายมือชื่อปลอมหรื อลงปราศจากอำนาจเช่นนั้น
โดยเจ้าของลายมือชื่อไม่ เป็ นอันใช้ไม่ได้เลย ใครจะอ้างอิงแสวงหาสิ ทธิ อย่างหนึ่งอย่างใดเพื่อยึดหน่วงตัวเงินไว้ก็
ได้มอบอำนาจให้ ลายมือ ดี เพื่อทำให้ตวั๋ เงินนั้นหลุดพ้นก็ดี หรื อเพื่อบังคับการใช้เงินเอาแก่คู่สญ ั ญาแห่งตัว๋ นั้นคน
ชื่อดังกล่าวเป็ นอันใช้ไม่ ใดคนหนึ่งก็ดี ท่านว่าไม่อาจจะทำได้เป็ นอันขาด เว้ นแต่ คู่สัญญาฝ่ ายซึ่งจะพึงถูกยึด
ได้เลยมีผลทำให้การสลัก หน่ วงหรือถูกบังคับใช้ เงินนั้นจะอยู่ในฐานเป็ นผู้ต้องตัดบทมิให้ ยกข้ อลายมือชื่อปลอม
หลังขาดสาย หรือข้ อลงลายมือชื่อปราศจากอำนาจนั้นขึน้ เป็ นข้ อต่ อสู้
แต่ขอ้ ความใดๆอันกล่าวมาในมาตรานี้ ท่านมิให้กระทบกระทัง่ ถึงการให้สตั ยาบัน
แก่ลายมือชื่อซึ่ งลงไว้โดยปราศจากอำนาจแต่หากไม่ถึงแก่เป็ นลายมือปลอม
EX. อาทิตย์ ออกเช็คสั่ งให้ ธนาคารจ่ ายเงินแก่ จนั ทร์ อังคารขโมยเช็คไปจากจันทร์ แล้ ว
ปลอมลายมือชื่ อจันทร์ สลักหลังโอนให้ พุธ พุธสลักหลังโอนเช็คให้ พฤหัส พฤหั สนำ
หน้ า 24 จาก 25
เช็คยื่นต่ อธนาคารเพื่อให้ ใช้ เงิน แต่ ธนาคารปฏิ เสธการใช้ เงิน เช่ นนี ้ พฤหัสย่ อมมีสิทธิ
เรียกร้ องเงินจำนวนตามเช็คจากพุธผู้สลักหลังเท่ านั้น พุธจะต่ อสู้ ว่าลายมือชื่ อของจันทร์
ที่สลักหลังโอนให้ พธุ เป็ นลายมือชื่ อปลอมเป็ นเหตุปฏิ เสธความรั บผิดตามเช็คไม่ ได้ แต่
พฤหัสไม่ มีสิทธิ ฟ้องให้ อาทิ ตย์ ผ้ สู ั่ งจ่ ายรั บผิดตามความในเช็คนั้น ถึงแม้ ว่าอาทิ ตย์ จะเป็ น
ผู้ลงลายมือชื่ อสั่งจ่ ายก็ตาม เพราะว่ าพฤหัสเป็ นผู้ทรงเช็คสลักหลังขาดสาย เนื่องจาก
ลายมือชื่อสลักหลังของจันทร์ เป็ นลายมือชื่อปลอม
มาตรา 1009 ถ้ ามีผู้นำตั๋วเงินชนิดจะพึงใช้ เงินตามเขาสั่ งเมื่อทวงถามมาเบิกต่ อธนาคารใด และ
การคุม้ ครองธนาคารที่ ธนาคารนั้นได้ ใช้ เงินให้ ไปตามทางค้ าปกติโดยสุ จริตและปราศจากประมาทเลินเล่ อไซร้
จ่ายเงินโดยสุ จริ ต ท่านว่าธนาคารไม่มีหน้าที่จะต้องนำสื บว่าการสลักหลังของผูร้ ับเงิน หรื อการสลักหลัง
ในภายหลังรายใดๆ ได้ทำไปด้วยอาศัยรับมอบอำนาจแต่บุคคลซึ่ งอ้างเอาเป็ นเจ้าของของ
คำสลักหลังนั้น และถึงแม้วา่ รายการสลักหลังนั้นจะเป็ นสลักหลังปลอมหรื อปราศจาก
อำนาจก็ตาม ท่ านให้ ถือว่ าธนาคารได้ ใช้ เงินไปถูกระเบียบ
มาตรา 1010 เมื่อผูท้ รงตัว๋ เงินซึ่ งหายหรื อถูกลักทราบเหตุแล้วในทันใดนั้นต้องบอกกล่าวเป็ น
ตัว๋ เงินหายหรื อถูกลัก หนังสื อไปยังผูอ้ อกตัว๋ เงิน ผูจ้ ่าย ผูส้ มอ้างยามประสงค์ ผูร้ ับรองเพื่อแก้หน้าและผูร้ ับอาวั
ล ตามแต่มีเพื่อให้บอกปั ดไม่ใช้เงินตามตัว๋ เงินนั้น
เพิม่ เติม
มาตรา 911 ผู้สั่งจ่ ายจะเขียนข้ อความกำหนดลงไว้ว่าจำนวนเงินอันจะพึงใช้ น้ันให้ คดิ ดอกเบีย้
ตัว๋ แลกเงินอาจกำหนด ด้ วยก็ได้ และในกรณี เช่นนั้น ถ้ ามิได้ กล่ าวลงไว้ เป็ น อย่ างอืน่ ท่ านว่ าดอกเบีย้ ย่ อมคิด
ดอกเบี้ยลงไปก็ได้ แต่ วนั ที่ลงในตั๋วเงิน
การบอกปั ดไม่รับรอง นั้นหลุดพ้นไปจากมือตนไซร้ ท่ านให้ ถือเป็ นอันว่ าได้ บอกปัดไม่ รับรอง แต่ถา้ ผูจ้ ่ายได้
แจ้งความเป็ นหนังสื อไปยัง ผูท้ รง หรื อคู่สญ ั ญาฝ่ ายอื่นซึ่ งได้ลงนามในตัว๋ เงินว่าตน
รับรองตัว๋ เงิน นั้นก่อนแล้วจึ่งมาขีดฆ่าคำรับรองต่อภายหลังไซร้ ท่ านว่ าผู้จ่ายก็คงต้ อง
ผูกพันอยู่ตามเนือ้ ความที่ตนได้ เขียนรับรองนั้นเอง
มาตรา 987 อันว่าเช็คนั้น คือหนังสื อตราสารซึ่ งบุคคลคนหนึ่ง เรี ยกว่าผู้สั่งจ่ าย สัง่ ธนาคาร
เช็ค ให้ใช้เงินจำนวนหนึ่งเมื่อทวงถามให้แก่ บุคคลอีกคนหนึ่ง หรื อให้ใช้ตามคำสัง่ ของ
บุคคลอีกคนหนึ่งอันเรี ยกว่า ผู้รับเงิน
มีผ้ เู กี่ยวข้ อง 3 คนคือ ผู้สั่งจ่ าย, ธนาคาร , ผู้รับเงิน