You are on page 1of 15

Page 1 of 15

สรุ ปตัวบทกฎหมายแพ่ง 2

การไม่ ชาระหนี้

มาตรา 203 ถ้ าเวลาอันพึงจะชาระหนีน้ ั้นมิได้ กาหนดลงไว้ หรื อจะอนุมานจากพฤติการณ์ ทั้งปวงก็ไม่ ได้


หนีท้ ี่ไม่ ได้ ไซร้ ท่ านว่ าเจ้ าหนี้ย่อมจะเรียกให้ ชะระหนี้ได้ โดยพลัน และฝ่ ายลูกหนี้กย็ ่ อมจะชาระหนี้ของตนได้
กาหนดเวลา โดยพลันดุจกัน
ไว้ ถ้ าได้ กาหนดเวลาไว้ แต่ หากกรณีเป็ นทีส่ งสัย ท่ านให้ สันนิษฐานไว้ ก่อนว่ า เจ้ าหนี้จะเรียกให้
ชาระหนี้ก่อนถึงเวลานั้นหาได้ ไม่ แต่ ฝ่ายลูกหนี้จะชาระหนี้ก่อนกาหนดนั้นก็ได้
กรณี เป็ นที่สงสั ย หมายถึง เจ้ าหนีจ้ ะเรี ยกให้ ชาระหนีน้ ั้นก่ อนกาหนดได้ หรื อไม่
มาตรา 204 ถ้ าหนี้ถงึ กาหนดชาระแล้ ว และภายหลังแต่ นั้นเจ้ าหนี้ได้ ให้ คาเตือนลูกหนี้แล้ ว ลูกหนีย้ งั ไม่
ลูกหนีผ้ ิดนัด ชาระหนีไ้ ซร้ ลูกหนี้ได้ ชื่อว่ าผิดนัดเพราะเขาเตือนแล้ ว
โดยต้ องเตือน
ถ้ าได้ กาหนดเวลาชาระหนี้ไว้ ตามวันแห่ งปฏิทนิ และลูกหนีม้ ิได้ ชาระหนีต้ ามกาหนดไซร้ ท่ าน
ก่ อน
ว่ าลูกหนี้ตกเป็ นผู้ผดิ นัดโดยมิพกั ต้ องเตือนเลย วิธีเดียวกันนีท้ ่ านให้ ใช้ บังคับแก่ กรณี ที่ต้องบอก
กล่ าวล่ วงหน้ าก่ อนการชาระหนี ้ ซึ่ งได้ กาหนดเวลาลงไว้ อาจคานวณนับได้ โดยปฏิ ทินนับแต่ วันที่ได้
บอกกล่ าว
204 วรรคแรก; กาหนดเวลาชาระหนี้มิใช่ ตามวันแห่ งปี ปฏิ ทินเช่ น ยืมเงินไปและกาหนดว่ าจะใช้ คืน
เมื่อขายข้ าวได้ แล้ ว หรื อยืมเรื อไปใช้ กาหนดจะส่ งคื นเมื่อสิ ้นฤดูนา้ เป็ นต้ น
มาตรา 205 ตราบใดการชาระหนีน้ ั้นยังมิได้ กระทาลงเพราะพฤติการณ์ อนั ใดอันหนึ่งซึ่ งลูกหนีไ้ ม่ ต้อง
เหตุที่ลกู หนีย้ งั รั บผิดชอบ ตราบนั้นลูกหนี้ยงั หาได้ ชื่อว่ าผิดนัดไม่
ไม่ ผิดนัด
EX. ถึงกาหนดคื นรถยนต์ ที่ยืมมาแล้ ว แต่ นา้ ท่ วมจนถนนขาดเลยทาให้ ไม่ สามารถคื นรถได้ ถือว่ ายัง
ไม่ ได้ ผดิ นัด
พฤติการณ์ อนั ใดอันหนึ่ง อาจมาจาก 3 สาเหตุดังนี ้
1. เป็ นเหตุที่เกิดจากเจ้ าหนีเ้ อง
2. เหตุเกิดจากบุคคลภายนอก
3. เหตุเกิดจากภัยธรรมชาติ
มาตรา 206 ในกรณี หนีอ้ ันเกิดแต่ มูลละเมิด ลูกหนี้ได้ ชื่อว่ าผิดนัดมาแต่ เวลาทีท่ าละเมิด
หนีล้ ะเมิด
Page 2 of 15

มาตรา 207 ถ้ าลูกหนีข้ อปฏิ บัติการชาระหนี ้ และเจ้ าหนี ไ้ ม่ รับชาระหนี้นั้นโดยปราศจากมูลเหตุอนั จะอ้ าง


เจ้ าหนีผ้ ิดนัด กฎหมายได้ ไซร้ ท่ านว่ าเจ้ าหนี้ตกเป็ นผู้ผดิ นัด
EX. เมื่อเจ้ าหนีผ้ ิดนัดจะเรี ยกดอกเบีย้ ผิดนัดจากลูกหนีไ้ ม่ ได้ อีกต่ อไป(ม.224 ดอกเบีย้ ผิดนัด 7.5ต่ อปี )
เจ้ าหนีไ้ ม่ ยอมรั บชาระหนีเ้ พราะจะกินดอกเบีย้ ไปเรื่ อยๆ
มาตรา 212 ถ้ ามิได้ กาหนดเวลาชาระหนีไ้ ว้ กด็ ี หรื อถ้ าลูกหนีม้ ีสิทธิ ที่จะชาระหนีไ้ ด้ ก่อนเวลากาหนดก็ดี
เหตุขดั ข้ อง การที่เจ้ าหนีม้ ีเหตุขดั ข้ องชั่วคราวไม่ อาจรับชาระหนี้ที่เขาขอปฏิ บัติแก่ ตนได้ นั้น หาทาให้ เจ้ าหนี้ตก
ชั่วคราวเจ้ าหนี ้ เป็ นผู้ผดิ นัดไม่ เว้ นแต่ ลูกหนีจ้ ะได้ บอกกล่ าวการชาระหนีไ้ ว้ ล่วงหน้ าโดยเวลาอันสมควร
ไม่ ผิดนัด
EX. เหตุขดั ข้ องชั่วคราว เช่ น ลูกหนีน้ าเงินมาชาระเจ้ าหนีจ้ านวน 5,000,000 บาท ปรากฎว่ าวันนั้น
ธนาคารปิ ดทาการ เจ้ าหนีจ้ ึ งขอให้ ลูกหนีม้ าชาระในวันอื่น ถือเป็ นเหตุขดั ข้ องชั่วคราวได้ แต่ ถ้า
ลูกหนีน้ าเงินมาชาระเพียง 100,000 บาท เจ้ าหนีจ้ ะอ้ างเหตุขดั ข้ องชั่วคราวเพื่อไม่ รับชาระหนีห้ าได้
ไม่
มาตรา 213 ถ้ าลูกหนี้ละเลยเสียไม่ ชาระหนี้ของตน เจ้ าหนีจ้ ะร้ องขอต่ อศาลให้ สั่งบังคับชาระหนีก้ ไ็ ด้ เว้ น
การบังคับ แต่ สภาพแห่ งหนีจ้ ะไม่ เปิ ดช่ องให้ ทาเช่ นนั้นได้
ชาระหนี ้ เมือ่ สภาพแห่ งหนี้ไม่ เปิ ดช่ องให้ บังคับชาระหนีไ้ ด้ ถ้ าวัตถุแห่ งหนีเ้ ป็ นอันให้ กระทาการ
อันหนึ่งอันใด เจ้ าหนี้จะร้ องขอต่ อศาลให้ สั่งบังคับให้ บุคคลภายนอกกระทาการอันนั้นโดยให้
ลูกหนี้เสียค่ าใช้ จ่ายให้ กไ็ ด้ แต่ ถ้าวัตถุแห่ งหนีเ้ ป็ นอันให้ กระทานิติกรรมอย่ างใดอย่ างหนึ่งไซร้
ศาลจะสั่ งให้ ถือเอาตามคาพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของลูกหนีก้ ไ็ ด้
ส่ วนหนีซ้ ึ่ งมีวัตถุเป็ นอันจะให้ งดเว้ นการอันใด เจ้ าหนีจ้ ะเรี ยกร้ องให้ รื้อถอนการที่ได้ กระทา
ลงแล้ วนั้นโดยให้ ลูกหนีเ้ สี ยค่ าใช้ จ่าย และให้ จัดการอันควรเพื่อกาลภายหน้ าด้ วยก็ได้
อนึ่ง บทบัญญัติในวรรคทั้งหลายที่กล่ าวมาก่ อนนี ้ หากระทบกระทั่งถึงสิ ทธิ ที่จะเรี ยกเอา
ค่ าเสี ยหายไม่
การบังคับชาระหนี้นั้น จะไม่ บังคับเอากับเนือ้ ตัวร่ างกายของลูกหนี ้ จะบังคับได้ แต่ เฉพาะในทาง
ทรั พย์ สินของลูกหนีเ้ ท่ านั้น
มาตรา 215 เมือ่ ลูกหนี้ไม่ ชาระหนี้ให้ ต้องตามความประสงค์ อันแท้ จริ งแห่ งมูลหนีไ้ ซร้ เจ้ าหนี้จะเรียกเอาค่ า
การเรี ยกค่ า สินไหมทดแทนเพือ่ ความเสียหายอันเกิดแต่ การนั้นได้
สิ นไหม
ทดแทน
EX. ให้ ต้องตามความประสงค์ เช่ น กาชาระหนีข้ าดตกบกพร่ อง, ผิดเวลา, ผิดสถานที่ ,ผิดวัตถุที่ควร
ใช้ ในการชาระหนี ้
Page 3 of 15

มาตรา 216 ถ้ าโดยเหตุผดิ นัด การชาระหนี้กลายเป็ นอันไร้ ประโยชน์ แก่ เจ้ าหนี ้ เจ้ าหนี้จะบอกปัดไม่ รับ
การชาระหนี ้ ชาระหนี้ และจะเรียกเอาค่ าสินไหมทดแทนเพือ่ การไม่ ชาระหนี้กไ็ ด้
เป็ นอันไร้
ประโยชน์
เพราะเหตุผิด
นัด
EX. การชาระหนีก้ ลายเป็ นอันไร้ ประโยชน์ เช่ น จ้ างตัดชุดแต่ งงานและให้ ส่งมอบวันที่ 12 สค. แต่
ตัดเสร็ จและส่ งมอบวันที่ 13 สค. ถือเป็ นเหตุผิดนัดและกลายเป็ นอันไร้ ประโยชน์ แต่ ถ้าเป็ น ชุด
ราตรี ส่งมอบหลังวันนัด อาจจะไม่ ถือว่ ากลายเป็ นอันไร้ ประโยชน์ เพราะสามารถใส่ ในงานวันอื่น
ได้ อีก
มาตรา 217 ลูกหนีจ้ ะต้ องรั บผิดชอบในความเสียหายบรรดาทีเ่ กิดแต่ ความประมาทเลินเล่ อในระหว่ างเวลา
ลูกหนีผ้ ิดนัด ที่ตนผิดนัด ทั้งจะต้ องรั บผิดชอบในการที่จะชาระหนีก้ ลายเป็ น พ้นวิสัยเพราะอุบัติเหตุอันเกิดขึน้ ใน
การชาระหนี ้ ระหว่ างเวลาทีผ่ ดิ นัดนั้นด้ วย เว้ นแต่ ความเสี ยหายนั้น ถึงแม้ ว่าตนจะได้ ชาระหนีท้ ันเวลากาหนดก็
พ้ นวิสัย คงจะต้ องเกิดมีอยู่นั่นเอง
ต้ องชาระหนี ้
EX. ลูกหนีต้ ้ องผิดนัดก่ อนเท่ านั้นถึงจะต้ องรั บผิดชอบตามมาตรานี ้ ตามนัย ม.204 ว.2
เช่ น ยืมรถมาใช้ คันหนึ่งไว้ ใช้ ในงานแต่ งงาน แต่ ก่อนที่จะถึงเวลางาน เจ้ าของรถทวงคื นก่ อน
กาหนดเวลา ผู้ยืมไม่ จาเป็ นต้ องคื นรถ พอหลังจากงานแต่ งเสร็ จแล้ วเจ้ าของไม่ ทวงคื นถือว่ าลูกหนี ้
ยังไม่ ผิดนัด(ม.204ว.1) และถ้ ารถเสี ยหาย ผู้ยืมรถก็ไม่ ต้องรั บผิดชอบในความเสี ยหายนั้น เพราะยัง
ไม่ ได้ ผิดนัดเพราะเจ้ าหนีย้ งั ไม่ ได้ เตือนนั่นเอง
มาตรา 218 ถ้ าการชาระหนีก้ ลายเป็ นพ้ นวิสัยจะทาได้ เพราะพฤติการณ์ อันใดอันหนึ่งซึ่ งลูกหนีต้ ้ อง
การชาระหนี ้ รั บผิดชอบไซร้ ท่ านว่ าลูกหนีจ้ ะต้ องใช้ ค่าสิ นไหมทดแทนให้ แก่ เจ้ าหนีเ้ พื่อค่ าเสี ยหายอย่ างใดๆ อัน
พ้ นวิสัย เกิดแต่ การไม่ ชาระหนีน้ ั้น
ลูกหนีต้ ้ อง ในกรณี ที่การชาระหนี้กลายเป็ นพ้นวิสัยแต่ เพียงบางส่ วน ถ้ าหากว่ าส่ วนที่ยงั เป็ นวิสัยจะทาได้
รั บผิดชอบ นั้นจะเป็ นอันไร้ ประโยชน์ แก่เจ้ าหนี้แล้ ว เจ้ าหนีจ้ ะไม่ ยอมรั บชาระหนีส้ ่ วนที่ยงั เป็ นวิสัยจะทาได้ นั้น
แล้ วและเรี ยกค่ าสิ นไหมทดแทนเพื่อการไม่ ชาระหนีเ้ สี ยทั้งหมดทีเดียวก็ได้
EX. ตัวอย่ าง ว.2 เช่ น ตกลงเช่ าม้ า 2 ตัวสี ขาวเพื่อมาเข้ าฉากถ่ ายหนัง แต่ ก่อนที่จะได้ รับการส่ งมอบ
ม้ านั้น เจ้ าของม้ าได้ ใช้ งานหนักจนม้ าตัวหนึ่งขาหั ก แต่ ม้าอีกตัวหนึ่งใช้ การได้ เจ้ าหนีห้ รื อผู้เช่ า
สามารถปฏิ เสธการเช่ าทั้งหมดได้ ตามนัย ม. 218 ว. 2
Page 4 of 15

มาตรา 219 ถ้ าการชาระหนี้กลายเป็ นพ้นวิสัยเพราะพฤติการณ์ อันใดอันหนึ่งซึ่ งเกิดขึน้ ภายหลังที่ได้ ก่อหนี ้


ลูกหนีย้ งั ไม่ ได้ และซึ่ งลูกหนี้ไม่ ต้องรับผิดชอบนั้นไซร้ ท่ านว่ าลูกหนี้เป็ นอันหลุดพ้นจากการชาระหนี้นั้น
ผิดนัด
ถ้ าภายหลังที่ได้ ก่อหนีข้ ึน้ แล้ วนั้น ลูกหนี้กลายเป็ นคนไม่ สามารถจะชาระหนี้ ได้ ไซร้ ท่ านให้ ถือ
การชาระหนี ้
เสมือนว่ าเป็ นพฤติการณ์ ที่ทาให้ การชาระหนี้ตกเป็ นอันพ้นวิสัยฉะนั้น
พ้ นวิสัย
ไม่ ต้องชาระ
หนี ้
EX. ลูกหนีย้ งั ไม่ ได้ ผิดนัดตามนัย ม. 204 ว. 1 หรื อหนีถ้ ึงกาหนดชาระแล้ วแต่ เจ้ าหนีย้ งั ไม่ ได้ เตือน
ลูกหนี ้ หรื อหนีท้ ี่ยงั ไม่ ถึงกาหนดเวลาชาระหนี ้ และเกิดเหตุสุดวิสัยทาให้ ชาระหนีไ้ ม่ ได้ ลูกหนีไ้ ม่
ต้ องรั บผิดชอบในหนีน้ ั้น
มาตรา 221 หนีเ้ งินอันต้ องเสี ยดอกเบีย้ นั้น ท่ านว่ า จะคิดดอกเบี้ยในระหว่ างทีเ่ จ้ าหนี้ผดิ นัดหาได้ ไม่
เจ้ าหนีผ้ ิดนัด
คิ ดดอกไม่ ได้
มาตรา 224 หนีเ้ งินนั้น ท่ านให้ คิดดอกเบีย้ ในระหว่ างเวลาผิดนัดร้ อยละเจ็ดครึ่ งต่ อปี ถ้ าเจ้ าหนีอ้ าจจะเรี ยก
ดอกเบีย้ ผิด ดอกเบีย้ ได้ สูงกว่ านั้น โดยอาศัยเหตุอย่ างอื่นอันชอบด้ วยกฎหมาย ก็ให้ คงส่ งดอกเบีย้ ต่ อไปตามนั้น
นัด ท่ านห้ ามมิให้ คิดดอกเบีย้ ซ้ อนดอกเบีย้ ในระหว่ างผิดนัด
การพิสูจน์ ค่าเสี ยหายอย่ างอื่นนอกกว่ านั้น ท่ านอนุญาตให้ พิสูจน์ ได้
EX. ทาสั ญญาเงินกู้โดยมิได้ กาหนดระยะเวลาใช้ คืน และมิได้ กาหนดอัตราดอกเบีย้ ไว้ แต่ เมื่อเจ้ าหนี ้
ทวงถามเมื่อไร ถือว่ าลูกหนีผ้ ิดนัดตั้งแต่ เวลานั้นและเจ้ าหนีส้ ามารถคิ ดดอกเบี ้ยผิดนัดนับแต่ เวลานั้น
ได้ เป็ นต้ นมา ร้ อยละ 7.5ต่ อปี
ดอกเบีย้ เงินกู้ยืมไม่ เกินร้ อยละ 15/ปี ม.654
มาตรา 226 บุคคลผู้รับช่ วงสิ ทธิของเจ้ าหนี้ ชอบที่ จะใช้ สิทธิทั้งหลายบรรดาที่เจ้ าหนีม้ ีอยู่โดยมูลหนี ้
รั บช่ วงสิ ทธิ รวมทั้งประกันแห่ งหนีน้ ั้นได้ ในนามของตนเอง
ช่ วงทรั พย์ ได้ แก่ เอาทรั พย์ สินอันหนึ่งเข้ าแทนที่ทรั พย์ สินอีกอันหนึ่งในฐานะนิตินัยอย่ าง
เดียวกันกับทรั พย์ สินอันก่ อน
Page 5 of 15

มาตรา 227 เมื่อเจ้ าหนีไ้ ด้ รับค่ าสิ นไหมทดแทนความเสี ยหายเต็มราคาทรั พย์ หรื อสิ ทธิ ซึ่งเป็ นวัตถุแห่ งหนี ้
ลูกหนีร้ ั บช่ วง นั้นแล้ ว ท่ านว่ าลูกหนีย้ ่ อมเข้ าสู่ ฐานะเป็ นผู้รับช่ วงสิทธิของเจ้ าหนี้อันเกี่ยวกับทรั พย์ หรื อสิ ทธิ นั้นๆ
สิ ทธิ ในการ
ด้ วยอานาจกฎหมาย
เรี ยกค่ าสิ นไหม
ทดแทนได้
EX. รถยนต์ ของนาย ก ทาประกันภัยไว้ และนาย ก ได้ จอดรถไว้ ข้างทาง ปรากฎว่ ามีรถยนต์ ของ
นาย ข วิ่งมาชนเกิดความเสี ยหาย บริ ษัท ประกันภัยรถยนต์ ของนาย ก ได้ ชดใช้ ค่าสิ นไหมทดแทน
ให้ นาย ก แต่ ชอบที่จะเรี ยก (รั บช่ วงสิ ทธิ ) ค่ าเสี ยหายนั้นจากนาย ข ได้ ตามนัย ม. 227
มาตรา 229 การรั บช่ วงสิ ทธิ ย่อมมีขึน้ ด้ วยอานาจกฎหมายและย่ อมสาเร็ จเป็ นประโยชน์ แก่ บุคคลดังจะกล่ าว
รั บช่ วงสิ ทธิ มี ต่ อไปนี ้ คื อ
ขึน้ ด้ วย 1). บุคคลซึ่ งเป็ นเจ้ าหนีอ้ ยู่เอง และมาใช้ หนีใ้ ห้ แก่ เจ้ าหนีอ้ ีกคนหนึ่งผู้มีสิทธิ จะได้ รับใช้ หนีก้ ่ อน
กฎหมาย ตน เพราะเขามีบุริมสิ ทธิ หรื อมีสิทธิ จานาจานอง
2). บุคคลผู้ได้ ไปซึ่ งอสั งหาริ มทรั พย์ ใด และเอาเงินราคาค่ าซื ้อ ใช้ ให้ แก่ ผ้ รู ั บจานองทรั พย์ นั้น
เสร็ จไป
3). บุคคลผู้มีความผูกพันร่ วมกับผู้อื่น หรื อเพื่อผู้อื่นในอันจะต้ องใช้ หนี ้ มีส่วนได้ เสี ยด้ วยใน
การใช้ หนีน้ ั้น และเข้ าใช้ หนีน้ ั้น
มาตรา 230 ถ้ าในการที่เจ้ าหนีน้ าบังคับยึดทรั พย์ อันหนึ่งอันใดของลูกหนีน้ ั้น บุคคลผู้ใดจะต้ องเสี่ ยงภัยเสี ย
บุคคลใช้ หนี ้ สิ ทธิ ในทรั พย์ อันนั้นเพราะการบังคับยึดทรั พย์ ไซร้ ท่ านว่ าบุคคลผู้นั้นมีสิทธิ จะเข้ าใช้ หนีเ้ สี ยแทนได้
แทนเจ้ าหนี ้ อนึ่งผู้ครอบทรั พย์ อันหนึ่งอันใด ถ้ าจะต้ องเสี่ ยงภัยเสี ยสิ ทธิ ครองทรั พย์ นั้นไปเพราะการบังคับยึด
ทรั พย์ ก็ย่อมมีสิทธิ จะทาได้ เช่ นเดียวกับที่ว่ามานั้น
ถ้ าบุคคลภายนอกผู้ใดมาใช้ หนีแ้ ทนจนเป็ นที่พอใจของเจ้ าหนีแ้ ล้ ว บุคคลผู้นั้นย่ อมเข้ ารั บช่ วง
สิ ทธิ เรี ยกร้ องของเจ้ าหนี ้ แต่ สิทธิ เรี ยกร้ องอันนีจ้ ะบังคับให้ เป็ นที่เสื่ อมเสี ยแก่ เจ้ าหนีห้ าได้ ไม่
มาตรา 233 ถ้ าลูกหนี้ขดั ขืนไม่ ยอมให้ ใช้ สิทธิเรียกร้ อง หรื อเพิกเฉยเสี ยไม่ ใช้ สิทธิ เรี ยกร้ อง เป็ นเหตุให้
การใช้ สิทธิ เจ้ าหนี้ต้องเสียประโยชน์ ไซร้ ท่ านว่ าเจ้ าหนีจ้ ะใช้ สิทธิ เรี ยกร้ องนั้นในนามของตนเองแทนลูกหนี ้
เรี ยกร้ องของ เพื่อป้ องกันสิ ทธิ ของตนในมูลหนีน้ ั้นก็ได้ เว้ นแต่ ในข้ อทีเ่ ป็ นการของลูกหนี้ส่วนตัวโดยแท้
ลูกหนี ้
EX. ลูกหนีส้ ่ วนตัวโดยแท้ เช่ น หนีล้ ะเมิด, หนีอ้ ุปการะ(เจ้ าหนีไ้ ม่ สามารถเรี ยกให้ ชาระหนีไ้ ด้ )
Page 6 of 15

มาตรา 234 เจ้ าหนีผ้ ้ ใู ช้ สิทธิ เรี ยกร้ องของลูกหนีน้ ั้น จะต้ องขอหมายเรียกลูกหนี้มาในคดีนั้นด้ วย
เจ้ าหนีใ้ ช้ สิทธิ
เรี ยกร้ องของ
ลูกหนี ้
มาตรา 235 เจ้ าหนีจ้ ะใช้ สิทธิ เรี ยกร้ องของลูกหนีเ้ รี ยกเงินเต็มจานวนที่ยงั ค้ างชาระแก่ เจ้ าหนี ้ โดยไม่ ต้อง
เรี ยกเงินเต็ม คานึงถึงจานวนที่ค้างชาระแก่ ตนก็ได้ ถ้ าจาเลยยอมใช้ เงิน เพียงเท่ าจานวนที่ลูกหนีเ้ ดิมค้ างชาระแก่
จานวนที่ค้าง เจ้ าหนีน้ ั้น คดีกเ็ ป็ นเสร็ จกันไป แต่ ถ้าลูกหนีเ้ ดิมได้ เข้ าชื่ อเป็ นโจทก์ ด้วย ลูกหนีเ้ ดิมจะขอให้ ศาล
ชาระ พิจารณาพิพากษาต่ อไปในส่ วนจานวนเงินที่ยงั เหลือติดค้ างอยู่กไ็ ด้
แต่ อย่ างไรก็ดี ท่ านมิให้ เจ้ าหนีไ้ ด้ รับมากไปกว่ าจานวนที่ค้างชาระแก่ ตนนั้นเลย
มาตรา 237 เจ้ าหนี้ชอบทีจ่ ะร้ องให้ ศาลเพิกถอนเสียได้ ซึ่งนิติกรรมใดๆ อันลูกหนีไ้ ด้ กระทาลงทั้งรู้ อยู่ว่าจะ
เพิกถอนการ เป็ นทางให้ เจ้ าหนี้เสียเปรียบ แต่ ความข้ อนีท้ ่ านมิให้ ใช้ บังคับ ถ้ าปรากฎว่ าในขณะทานิติกรรมนั้น
ฉ้ อฉล บุคคลซึ่ งเป็ นผู้ได้ ลาภงอกแต่ การนั้นมิได้ ร้ ูเท่ าถึงข้ อความจริงอันเป็ นทางให้ เจ้ าหนี้ต้องเสียเปรียบ
นั้นด้ วย แต่ หากกรณีเป็ นการทาให้ โดยเสน่ หา ท่ านว่ าเพียงแต่ ลูกหนีเ้ ป็ นผู้ร้ ู ฝ่ายเดียวเท่ านั้นก็พอแล้ ว
ที่จะขอเพิกถอนได้
บทบัญญัติดังกล่ าวมาในวรรคก่ อนนี ้ ท่ านมิให้ ใช้ บังคับแก่นิติกรรมใดอันมิได้ มวี ตั ถุป็นสิทธิใน
ทรัพย์ สิน
ผู้ได้ ลาภงอก หมายถึง นิติกรรมซึ่ งลูกหนีไ้ ด้ ทาขึน้ กับอีกบุคคลหนึ่ง
มาตรา 238 การเพิกถอนดังกล่ าวมาในบทมาตราก่ อนนั้น ไม่ อาจกระทบกระทั่งถึงสิ ทธิ ของบุคคลภายนอก
เพิกถอนการฉ้ อ อันได้ มาโดยสุ จริ ตก่ อนเริ่ มฟ้ องคดีขอเพิกถอน
ฉลไม่ กระทบ อนึ่งความที่กล่ าวมาในวรรคก่ อนนี ้ ท่ านมิให้ ใช้ บังคับ ถ้ าสิ ทธิ นั้นได้ มาโดยเสน่ หา
บุคคลภายนอก

มาตรา 240 การเรียกร้ องขอเพิกถอนนั้น ท่ านห้ ามมิให้ ฟ้องร้ องเมื่อพ้น 1 ปี นับแต่ เวลาที่เจ้ าหนีไ้ ด้ ร้ ู ต้นเหตุ
ระยะเวลาการ อันเป็ นมูลให้ เพิกถอนหรื อพ้น 10 ปี นับแต่ ได้ ทานิติกรรมนั้น
เพิกถอนการฉ้ อ
ฉล
Page 7 of 15

มาตรา 241 ผู้ใดเป็ นผู้ครอบครองทรั พย์ สินของผู้อื่น และมีหนี้อนั เป็ นคุณประโยชน์ แก่ ตนเกี่ยวด้ วย
สิ ทธิ ยึดหน่ วง ทรั พย์ สินซึ่ งครองนั้นไซร้ ท่ านว่ าผู้นั้นจะยึดหน่ วงทรัพย์ สินนั้นไว้ จนกว่ าจะได้ ชาระหนี้กไ็ ด้ แต่
ความที่กล่ าวนี ้ ท่ านมิให้ ใช้ บังคับเมื่อหนีน้ ั้นยังไม่ ถึงกาหนด
สิ ทธิ ยึดหน่ วงจะใช้ ได้ เฉพาะทรั พย์ สินของผู้อื่นเท่ านั้น จะยึดหน่ วงตัวบุคคลไม่ ได้
หนีอ้ ันเป็ นคุณประโยชน์ = หนีท้ ี่เกิดจากทรั พย์ ที่ยึดหน่ วงนั้น เช่ น หนีค้ ่ าซ่ อมรถ
ลูกหนี้และเจ้ าหนี้หลายคน
มาตรา 290 ถ้ าการชาระหนี้เป็ นการอันจะแบ่ งกันชาระได้ และมีบุคคลหลายคนเป็ นลูกหนี้กด็ ี มีบุคคล
หนีท้ ี่แบ่ ง หลายคนเป็ นเจ้ าหนี้กด็ ี เมือ่ กรณีเป็ นทีส่ งสัย ท่ านว่ าลูกหนี้แต่ ละคนจะต้ องรับผิดเพียงส่ วนเท่ าๆกัน
ชาระได้ และเจ้ าหนี้แต่ ละคนก็ชอบทีจ่ ะได้ รับแต่ เพียงเป็ นส่ วนเท่ าๆกัน

กรณี เป็ นที่สงสั ย= สงสั ยว่ าจะเป็ นเจ้ าหนีร้ ่ วมหรื อลูกหนีร้ ่ วม
หนีท้ ี่แบ่ งชาระได้ =หนีท้ ี่สามารถแบ่ งชาระได้ เป็ นสั ดส่ วน โดยในที่สุดเมื่อรวมกันเข้ าแล้ วก็จะเป็ น
การใช้ หนีค้ รบถ้ วนบริ บูรณ์
หนีท้ ี่แบ่ งชาระไม่ ได้ =หนีท้ ี่ไม่ สามารถแยกชาระเป็ นสั ดส่ วนได้ โดยพิจารณาจากสภาพแห่ งหนีน้ ั้น ,
โดยบทบัญญัติแห่ งกฎหมาย,หรื อโดยเจตนาของคู่กรณี
มาตรา 291 ถ้ าบุคคลหลายคนจะต้ องทาการชาระหนีโ้ ดยทานองซึ่ งแต่ ละคนจาต้ องชาระหนีส้ ิ ้นเชิ งไซร้
ลูกหนีร้ ่ วม แม้ ถึงว่ าเจ้ าหนีช้ อบที่จะได้ รับชาระหนีส้ ิ ้นเชิ งได้ แต่ เพียงครั้ งเดียว (กล่ าวคือลูกหนี้ร่วมกัน ) ก็ดี
เจ้ าหนี้จะเรียกชาระหนี้จากลูกหนี้แต่ คนใดคนหนึ่งสิ้นเชิง หรือแต่ โดยส่ วนก็ได้ ตามแต่ จะเลือก แต่
ลูกหนี้ทงั้ ปวงก็ยงั คงต้ องผูกพันอยู่ทวั่ ทุกคนจนกว่ าหนี้นั้นจะได้ ชาระเสร็จสิ้นเชิง
เจ้ าหนีส้ ามารถบังคับให้ ลูกหนีค้ นใดคนหนึ่งชาระหนีท้ ั้งหมดคนเดียวก็ได้ หรื อจะเลือกให้ ชาระตาม
ส่ วนแล้ วแต่ จะเลือก
EX. ก ข ค เป็ นลูกหนีข้ อง ง.เมื่อ ง. เรี ยกให้ ก ข.ชาระหนีท้ ั้งหมดตามม.291 ก็สามารถทาได้ และ
หลังจากที่ ก ข.ชาระหนีใ้ ห้ กับ ง. หมดแล้ วก็สามารถไปไล่ เบีย้ เอากับ ค. ได้ อีก
มาตรา 292 การที่ลูกหนีร้ ่ วมกันคนหนึ่งชาระหนีน้ ั้น ย่ อมได้ เป็ นประโยชน์ แก่ ลูกหนีค้ นอื่นๆด้ วย วิธี
ลูกหนีร้ ่ วม เดียวกันนีท้ ่ านให้ ใช้ บังคับแก่ การใดๆ อันพึงกระทาแทนการชาระหนี ้ วางทรั พย์ สินแทนชาระหนี ้
คนหนึ่งชาระ และหั กกลบลบหนีด้ ้ วย
หนี ้ ลูกหนี้ร่วมกันคนหนึ่งมีสิทธิเรียกร้ องอย่ างไร ลูกหนี้คนอืน่ ๆจะเอาสิทธิอนั นั้นไปใช้ หักกลบลบ
หนี้หาได้ ไม่
Page 8 of 15

มาตรา 293 การปลดหนี้ให้ แก่ลกู หนี้ร่วมกันคนหนึ่งนั้น ย่ อมเป็ นไปเพือ่ ประโยชน์ แก่ลกู หนี้คนอืน่ ๆ เพียง
ลูกหนีไ้ ด้ รับ เท่ าส่ วนของลูกหนี้ทไี่ ด้ ปลดให้ เว้ นแต่ จะได้ ตกลงกันเป็ นอย่ างอืน่
ปลดหนี ้
มาตรา 294 การทีเ่ จ้ าหนี้ผดิ นัดต่ อลูกหนี้ร่วมกันคนหนึ่งนั้น ย่ อมได้ เป็ นคุณประโยชน์ แก่ลกู หนี้คนอืน่ ๆ
ผลของเจ้ าหนี ้ ด้ วย
ผิดนัด
มาตรา 295 ข้ อความจริ งอื่นใด นอกจากที่ระบุไว้ ในมาตรา 292-294นั้น เมื่อเป็ นเรื่ องเท้ าถึงตัวลูกหนี ้
เป็ นเรื่ อง ร่ วมกันคนใด ก็ย่อมเป็ นไปเพื่อคุณและโทษแต่ เฉพาะแก่ ลูกหนีค้ นนั้น เว้ นแต่ จะปรากฎว่ าขัดกับ
เฉพาะตัว จะ สภาพแห่ งหนีน้ ั้นเอง
ไม่ มีผลกับ ความทีว่ ่ ามานี้ เมือ่ จะกล่ าวโดยเฉพาะก็คอื ว่ าให้ ใช้ แก่การให้ คาบอกกล่ าว การผิดนัด การที่
ลูกหนีร้ ่ วม หยิบยกอ้ างความผิด การชาระหนี้อนั เป็ นพ้นวิสัยแก่ฝ่ายลูกหนี้ร่วมกันคนหนึ่ง กาหนดอายุความ
คนอื่นๆด้ วย หรือการทีอ่ ายุความสะดุดหยุดลง และการทีส่ ิทธิเรียกร้ องเกลือ่ นกลืนกันไปกับหนี้สิน
มาตรา 296 ในระหว่ างลูกหนี้ร่วมกันทัง้ หลายนั้น ท่ านว่ าต่ างคนต่ างต้ องรับผิดเป็ นส่ วนเท่ าๆกัน เว้ นแต่ จะ
ความรั บผิด ได้ กาหนดไว้ เป็ นอย่ างอื่น ถ้ าส่ วนที่ลูกหนีร้ ่ วมกันคนใดคนหนึ่งจะพึงชาระนั้น เป็ นอันจะเรี ยกเอา
ระหว่ าง จากตนนั้นไม่ ได้ ไซร้ ยังขาดจานวนอยู่เท่ าไร ลูกหนีค้ นอื่นๆ ซึ่ งจาต้ องออกส่ วนด้ วยนั้นก็ต้องรั บ
ลูกหนีร้ ่ วม ใช้ แต่ ถ้าลูกหนี้ร่วมกันคนใด เจ้ าหนี้ได้ ปลดหนี้ให้ หลุดพ้นจากหนี้อนั ร่ วมกันนั้นแล้ ว ส่ วนทีล่ กู หนี้
(ใช้ ในกรณี คนนั้นจะพึงต้ องชาระหนี้กต็ กพับแก่เจ้ าหนี้ไป
ไล่ เบีย้ กันเอง)
EX. ก ข ค ร่ วมกันกู้เงิน ง. เป็ นจานวน 300,000 บาท ต่ อมา ง.ปลดหนีใ้ ห้ ก.จานวน 100,000 บาท
ถือได้ ว่า ก.หลุดพ้ นจากหนีร้ ่ วมกันนั้นแล้ ว หาก ง.จะเรี ยกให้ ข ค.ชาระหนีก้ ส็ ามารถเรี ยกได้ เพียง
200,000 บาทเท่ านั้น และไม่ สามารถเรี ยกให้ ก.ชาระหนีไ้ ด้ อีก
มาตรา 297 ถ้ าในสัญญาอันหนึ่งอันใดมีบุคคลหลายคนร่ วมกันผูกพันตนในอันจะทาการชาระหนี้ไซร้ หาก
ลูกหนีร้ ่ วม กรณีเป็ นทีส่ งสัย ท่ านว่ าบุคคลเหล่ านั้นจะต้ องรับผิดเช่ นอย่ างเป็ นลูกหนี้ร่วมกัน แม้ ถึงว่ าเป็ นการ
โดยสั ญญา อันจะแบ่ งกันชาระหนีไ้ ด้
มาตรา 298 ถ้ าบุคคลหลายคนมีสิทธิ เรี ยกร้ องการชาระหนีโ้ ดยทานองซึ่ งแต่ ละคนอาจจะเรี ยกให้ ชาระหนี ้
เจ้ าหนีร้ ่ วม สิ ้นเชิ งได้ ไซร้ แม้ ถึงว่ าลูกหนีจ้ าต้ องชาระหนีส้ ิ ้นเชิ งแต่ เพียงครั้ งเดียว (กล่ าวคือเจ้ าหนี้ร่วมกัน) ก็ดี
โดย ท่ านว่ าลูกหนี้จะชาระหนี้ให้ แก่เจ้ าหนี้แต่ คนใดคนหนึ่งก็ได้ ตามแต่ จะเลือก ความในข้ อนี้ให้ ใช้ บังคับ
บทบัญญัติ ได้ แม้ ทงั้ ทีเ่ จ้ าหนี้คนหนึ่งจะได้ ยนื่ ฟ้ องเรียกชาระหนี้ไว้ แล้ ว
ของกฎหมาย
Page 9 of 15

มาตรา 301 ถ้ าบุคคลหลายคนเป็ นหนี้อนั จะแบ่ งชาระมิได้ ท่ านว่ าบุคคลเหล่ านั้นต้ องรับผิดเช่ นอย่ างลูกหนี้
หนีแ้ บ่ งชาระ ร่ วมกัน
มิได้
โอนสิทธิเรียกร้ อง
มาตรา 303 สิทธิเรียกร้ องนั้น ท่ านว่ าจะพึงโอนกันได้ เว้ นไว้ แต่ สภาพแห่ งสิทธินั้นเองจะไม่ เปิ ดช่ องให้
โอนสิ ทธิ โอนกันได้
เรี ยกร้ อง ความทีก่ ล่ าวมานี้ย่อมไม่ ใช้ บังคับ หากคู่กรณีได้ แสดงเจตนาเป็ นอย่ างอืน่ การแสดงเจตนาเช่ น
ไม่ ได้ ว่ านี้ ท่ านห้ ามมิให้ ยกขึน้ เป็ นข้ อต่ อสู้ บุคคลภายนอกผู้กระทาการโดยสุ จริต
สิ ทธิ ที่สามารถโอนได้ = สิ ทธิ ที่สามารถตีเป็ นตัวเงินได้
สิ ทธิ ที่ไม่ เปิ ดช่ องให้ โอนกัน = ความอับอาย, ค่ าอุปการะบิดามารดา บุตร สามีภรรยา
อธิ บาย วรรค 2 ; เช่ นถ้ าได้ มีการตกลงกันระหว่ างคู่กรณี ว่าห้ ามมิให้ มีการโอนหนีไ้ ปให้ ผ้ อู ื่น แต่
เจ้ าหนีแ้ อบไปโอนหนีใ้ ห้ กับบุคคลที่สามหรื อผู้รับโอน โดยที่ผ้ รู ั บโอนหนีน้ ั้นมิได้ ร้ ู ถึงข้ อตกลงว่ า
ห้ ามโอนหนี ้ จะถือได้ ว่าการโอนหนีค้ รั้ งนีส้ มบูรณ์ เพราะผู้รับโอนเป็ นบุคคลภายนอกผู้ กระทาการ
โดยสุ จริ ต
มาตรา 305 เมือ่ โอนสิทธิเรียกร้ องไป สิ ทธิ จานองหรื อจานาที่มีอยู่เกี่ยวพันกับสิ ทธิ เรี ยกร้ องนั้นก็ดี สิทธิอนั
การโอนสิ ทธิ เกิดขึน้ แต่ การคา้ ประกันทีใ่ ห้ ไว้ เพือ่ สิทธิเรียกร้ องนั้นก็ดี ย่ อมตกไปได้ แก่ผ้ รู ับโอนด้ วย
เรี ยกร้ อง อนึ่งผู้รับโอนจะใช้ บุริมสิ ทธิ ใดๆ ที่ตนมีอยู่เกี่ยวกัยสิ ทธิ เรี ยกร้ องในกรณี บังคับยึดทรั พย์ หรื อ
ล้ มละลายนั้นก็ได้
หนีป้ ระธานเมื่อถูกโอนไปแล้ ว หนีอ้ ุปกรณ์ หรื อการคา้ ประกัน ย่ อมตกเป็ นของผู้รับโอนด้ วย
Page 10 of 15

มาตรา 306 การโอนหนี้อนั จะพึงต้ องชาระแก่เจ้ าหนี้คนหนึ่งโดยเฉพาะเจาะจงนั้น ถ้ าไม่ ทาเป็ นหนังสือ


การโอนหนี ้ ท่ านว่ าไม่ สมบูรณ์ อนึ่งการโอนหนี น้ ั้นท่ านว่ า จะยกเป็ นข้ อต่ อสู้ ลูกหนีห้ รื อบุคคลภายนอกได้ แต่
แก่ เจ้ าหนีโ้ ดย เมือ่ ได้ บอกกล่ าวการโอนไปยังลูกหนี้ หรื อลูกหนีจ้ ะได้ ยินยอมด้ วยในการโอนนั้น คาบอกกล่ าวหรือ
เฉพาะเจาะจง ความยินยอมเช่ นว่ านี้ท่านว่ าต้ องทาเป็ นหนังสือ
ถ้ าลูกหนี้ทาให้ พอแก่ใจผู้โอนด้ วยการใช้ เงิน หรือด้ วยประการอืน่ เสียแต่ ก่อนได้ รับบอกกล่ าว
หรือก่อนได้ ตกลงให้ โอนไซร้ ลูกหนี้นั้นก็เป็ นอันหลุดพ้นจากหนี้
การบอกกล่ าวการโอนไปยังลูกหนีน้ ั้นจะบอกกล่ าวกันทางโทรศัพท์ ไม่ ได้ ต้ องทาเป็ นหนังสื อ
เท่ านั้น ส่ วนเมื่อบอกกล่ าวการโอนแล้ ว ลูกหนีจ้ ะยินยอมหรื อไม่ ไม่ สาคัญ ถือว่ ามีการโอนหนี ้
สมบูรณ์ แล้ ว
อธิ บายมาตรา 306 วรรค 2 ถ้ าลูกหนีไ้ ด้ ทาการชาระหนีแ้ ก่ เจ้ าหนีค้ นแรก(ผู้โอน) ก่ อนที่จะทราบว่ า
หนีน้ ั้นได้ มีการโอนหนีแ้ ล้ ว(ทาเป็ นหนังสื อ) ย่ อมถือได้ ว่าลูกหนีห้ ลุดพ้ นจากหนีน้ ั้นแล้ ว
หมายเหตุ; ถ้ าได้ โอนหนีแ้ ล้ วไม่ ได้ บอกกล่ าวให้ ลูกหนีท้ ราบหรื อให้ ความยินยอม โดยทาเป็ น
หนังสื อ ก็ไม่ ได้ หมายความว่ าจะไม่ สมบูรณ์ คื อจะสมบูรณ์ แต่ ไม่ สามารถยกขึน้ เป็ นข้ อต่ อสู้ ในศาล
ได้ เท่ านั้น
มาตรา 308 ถ้ าลูกหนี้ได้ ให้ ความยินยอมดังกล่ าวมาในมาตรา 306 โดยมิได้ อดิ เอือ้ น ท่ านว่ าจะยกข้ อต่ อสู้ ที่
ผลการโอน มีต่อผู้โอนขึน้ ต่ อสู้ ผ้ รู ับโอนนั้นหาได้ ไม่ แต่ ถ้าเพื่อจะระงับหนีน้ ั้นลูกหนีไ้ ด้ ใช้ เงินให้ แก่ ผ้ โู อนไป
หนีแ้ ก่ เจ้ าหนี ้ ไซร้ ลูกหนีจ้ ะเรี ยกคื นเงินนั้นก็ได้
โดย ถ้ าลูกหนี้เป็ นแต่ ได้ รับคาบอกกล่ าวการโอน ท่ านว่ าลูกหนี้มขี ้ อต่ อสู้ ผ้ ูโอนก่อนเวลาทีไ่ ด้ รับคา
เฉพาะเจาะจง บอกกล่ าวนั้นฉันใด ก็จะยกขึน้ เป็ นข้ อต่ อสู้ แก่ผ้ รู ับโอนได้ ฉันนั้น
มาตรา 309 การโอนหนี้อนั พึงต้ องชาระตามเขาสั่งนั้น ท่ านว่ าจะยกขึน้ เป็ นข้ อต่ อสู้ ลกู หนี้หรือ
โอนหนี้อนั พึง บุคคลภายนอกคนอืน่ ได้ แต่ เฉพาะเมือ่ การโอนนั้นได้ สลักหลังไว้ ในตราสาร และตัวตราสารนั้นได้ ส่ง
ต้ องชาระตาม มอบให้ แก่ผ้ รู ับโอนไปด้ วย
เขาสั่ง
ตั๋วเงิน, ตั๋วแลกเงิน, เช็ค, กรมธรรม์ ประกันภัย, ใบประทวนสิ นค้ า, ใบตราส่ ง,สั ญญาประกันชี วิต
มาตรา 320 อันจะบังคับให้ เจ้ าหนี้รับชาระหนี้แต่ เพียงบางส่ วน หรือให้ รับชาระหนี้เป็ นอย่ างอืน่ ผิดไปจาก
บังคับชาระ ทีจ่ ะต้ องชาระแก่เจ้ าหนี้นั้น ท่ านว่ าหาอาจจะบังคับได้ ไม่
หนีบ้ างส่ วน
Page 11 of 15

มาตรา 321 ถ้ าเจ้ าหนี้ยอมรับการชาระหนี้อย่ างอืน่ แทนการชาระหนี้ทไี่ ด้ ตกลงกันไว้ ท่ านว่ าหนี้นั้นก็เป็ นอัน
เจ้ าหนี้ ระงับสิ้นไป
ยอมรับการ ถ้ าเพื่อที่จะทาให้ พอใจแก่ เจ้ าหนีน้ ั้น ลูกหนีร้ ั บภาระเป็ นหนีอ้ ย่ างใดอย่ างหนึ่งขึน้ ใหม่ ต่อเจ้ าหนี ้
ชาระหนี้อย่ าง ไซร้ เมื่อกรณี ที่เป็ นที่สงสั ย ท่ านมิให้ สันนิษฐานว่ าลูกหนีไ้ ด้ ก่อหนีน้ ั้นขึน้ แทนการชาระหนี ้
อืน่ ถ้ าการชาระหนีด้ ้ วยออก ด้ วยโอน หรื อด้ วยสลักหลังตั๋วเงิน หรื อประทวนสิ นค้ า ท่ านว่ าหนี ้
นั้นจะระงับสิ ้นไปต่ อเมื่อตั๋วเงินหรื อประทวนสิ นค้ านั้นได้ ใช้ เงินแล้ ว (การชาระหนีด้ ้ วยตั๋วเงิน ว.3)
EX. เช่ นเป็ นหนีเ้ งินอยู่ 25000 บาท แต่ เอาสร้ อยทองคาหนัก 1 บาทมาชาระหนีแ้ ทน ถ้ าเจ้ าหนี ้
ยอมรั บการชาระหนี ้ หนีน้ ั้นก็เป็ นอันระงับสิ ้นไป
มาตรา 406 บุคคลใดได้ มาซึ่งทรัพย์ สิ่งใดเพราะการทีบ่ ุคคลอีกคนหนึ่งกระทาเพือ่ ชาระหนี้กด็ ี หรือได้ มา
ลาภมิควรได้ ด้ วยประการอืน่ ก็ดี โดยปราศจากมูลอันจะอ้ างกฎหมายได้ และเป็ นทางให้ บุคคลอีกคนหนึ่งนั้น
เสียเปรียบไซร้ ท่ านว่ าบุคคลนั้นจาต้ องคืนทรัพย์ ให้ แก่เขา อนึ่งการรั บสภาพหนีส้ ิ นว่ ามีอยู่หรื อหา
ไม่ นั้น ท่ านก็ให้ ถือว่ าเป็ นการกระทาเพื่อชาระหนีด้ ้ วย
บทบัญญัติอันนีท้ ่ านให้ ใช้ บังคับตลอดถึงกรณี ที่ได้ ทรั พย์ มาเพราะเหตุอย่ างใดอย่ างหนึ่งซึ่ งมิได้
มีได้ เป็ นขึน้ หรื อเป็ นเหตุที่ได้ สิ้นสุ ดไปเสี ยก่ อนแล้ วนั้นด้ วย
มาตรา 413 เมือ่ ทรัพย์ สินอันจะต้ องคืนนั้นเป็ นอย่ างอืน่ นอกจากจานวนเงิน และบุคคลได้ รับไว้ โดยสุ จริต
การคื นทรั พย์ ท่ านว่ าบุคคลเช่ นนั้นจาต้ องคืนทรัพย์ สินเพียงตามสภาพทีเ่ ป็ นอยู่ และมิต้องรับผิดชอบในการที่
ลาภมิควรได้ ทรัพย์ นั้นสู ญหายหรือบุบสลาย แต่ ถ้าได้ อะไรมาเป็ นค่ าสินไหมทดแทนเพือ่ การสู ญหายหรือบุบ
สลายเช่ นนั้นก็ต้องให้ ไปด้ วย
ถ้ าบุคคลได้ รับทรัพย์ สินไว้ โดยทุจริต ท่ านว่ าจะต้ องรับผิดชอบในการสู ญหายหรือบุบสลายนั้น
เต็มภูมิ แม้ กระทัง่ การสู ญหายหรือบุบสลายจะเกิดเพราะเหตุสุดวิสัย เว้ นแต่ จะพิสูจน์ ได้ ว่าถึง
อย่ างไรทรัพย์ สินนั้นก็คงต้ องสู ญหายหรือบุบสลายอยู่นั่นเอง
ถ้ าลักทรั พย์ มาโดยรู้ ว่าเป็ นของผู้อื่น แสดงว่ ารั บไว้ โดยทุจริ ต ต้ องชดใช้ ค่าสิ นไหมทดแทนทุกกรณี
ความรับผิดเพือ่ ละเมิด
มาตรา 420 ผู้ใดจงใจหรือประมาทเลินเล่ อ ทาต่ อบุคคลอื่นโดยผิดกฎหมายให้ เขาเสี ยหายถึงแก่ ชีวิตก็ดี แก่
ละเมิดโดย ร่ างกายก็ดี อนามัยก็ดี เสรี ภาพก็ดี ทรั พย์ สินหรื อหรื อสิ ทธิ อย่ างหนึ่งอย่ างใดก็ดี ท่ านว่ าผู้นั้นทา
ประมาท ละเมิด จาต้ องใช้ ค่าสินไหมทดแทนเพือ่ การนั้น
เลินเล่ อ
Page 12 of 15

มาตรา 425 นายจ้ างต้ องร่ วมกันรับผิดกับลูกจ้ าง ในผลแห่ งละเมิดซึ่งลูกจ้ างได้ กระทาไปในทางการทีจ่ ้ าง
นายจ้ างร่ วมรั บ นั้น
ผิดกับลูกจ้ าง
นายจ้ างถือเป็ นลูกหนีร้ ่ วมโดยผลของกฎหมาย
มาตรา 426 นายจ้ างซึ่งได้ ใช้ ค่าสินไหมทดแทนให้ แก่บุคคลภายนอกเพือ่ ละเมิดอันลูกจ้ างได้ ทานั้น ชอบที่
นายจ้ างซึ่งได้ จะได้ ชดใช้ จากลูกจ้ างนั้น
ใช้ ค่าสินไหม
ทดแทนให้ แก่
บุคคลภายนอก

มาตรา 427 บทบัญญัติในมาตราทั้ง 2 ก่ อนนั้น ท่ านให้ ใช้ บังคับแก่ตัวการและตัวแทนด้ วย โดยอนุโลม


ตัวการ
ตัวแทน
ตัวการ= ผู้มอบอานาจให้ ผ้ อู ื่นกระทาการแทนตน
ตัวแทน= ผู้รับมอบอานาจให้ กระทาการแทน
มาตรา 428 ผู้ว่าจ้ างทาของไม่ ต้องรับผิดเพือ่ ความเสียหาย อันผู้รับจ้ างได้ ก่อขึน้ แก่บุคคลภายนอก ใน
ความ ระหว่ างทาการงานทีว่ ่ าจ้ าง เว้ นแต่ ผ้ วู ่ าจ้ างจะเป็ นผู้ผิดในส่ วนการงานที่สั่งให้ ทา หรื อในคาสั่ งที่ตน
รับผิดของผู้ ให้ ไว้ หรื อในการเลือกหาผู้รับจ้ าง
ว่ าจ้ างทาของ
EX. นั่ง TAXI ถือได้ ว่าเป็ นการรั บจ้ างทาของ หากเกิดอุบัติเหตุเกิดความเสี ยหายเกิดขึน้ ผู้ว่าจ้ างไม่
ต้ องรั บผิดร่ วมกับคนขับรถ TAXI ในฐานละเมิด
มาตรา 429 บุคคลใดแม้ ไร้ ความสามารถเพราะเหตุเป็ นผู้เยาว์ หรือวิกลจริต ก็ยงั ต้ องรับผิดในผลทีต่ นทา
บิดามารดา ผู้ ละเมิด บิดามารดาหรือผู้อนุบาลของบุคคลเช่ นว่ านี้ย่อมต้ องรับผิดร่ วมกับเขาด้ วย เว้ นแต่ จะพิสูจน์
อนุบาลร่ วม ได้ ว่าตนได้ ใช้ ความระมัดระวังตามสมควรแก่ หน้ าที่ดูแลซึ่ งทาอยู่นั้น
รั บผิดในการ
ละเมิดด้ วย
ผู้เยาว์ ผู้ไร้ ความสามารถ กระทาผิดในนิติเหตุ จะยกเอาโมฆี ยะมาใช้ ไม่ ได้
มาตรา 430 ครูบาอาจารย์ นายจ้ าง หรือบุคคลอืน่ ซึ่งรับดูแลบุคคลผู้ไร้ ความสามารถอยู่เป็ นนิตย์ กด็ ี ชั่ว
ครั้งคราวก็ดี จาต้ องรับผิดร่ วมกับ ผู้ไร้ ความสามารถในการละเมิด ซึ่งเขาได้ กระทาลงในระหว่ างที่
อยู่ในความดูแลของตน ถ้ าหากพิสูจน์ ได้ ว่าบุคคลนั้นๆ มิได้ ใช้ ความระมัดระวังตามสมควร
Page 13 of 15

มาตรา 432 ถ้ าบุคคลหลายคนก่อให้ เกิดเสียหายแก่บุคคลอืน่ โดยร่ วมกันทาละเมิด ท่ านว่ าบุคคลเหล่ านั้น


บุคคลหลาย จะต้ องร่ วมกันรับผิดใช้ ค่าสินไหมทดแทนเพือ่ ความเสียหายนั้น ความข้ อนีท้ ่ านให้ ใช้ ตลอดถึงกรณี
คนร่ วมกันทา ที่ไม่ สามารถสื บรู้ ตัวได้ แน่ ว่าในจาพวกที่ทาละเมิดร่ วมกันนั้น คนไหนเป็ นผู้ก่อให้ เกิดเสี ยหายนั้น
ละเมิด ด้ วย
อนึ่งบุคคลผู้ยยุ งส่ งเสริมหรือช่ วยเหลือ ในการทาละเมิด ท่ านก็ให้ ถอื ว่ าเป็ นผู้กระทาละเมิด
ร่ วมกันด้ วย
ในระหว่ างบุคคลทั้งหลายซึ่ งต้ องรั บผิดร่ วมกันใช้ ค่าสิ นไหมทดแทนนั้น ท่ านว่ าต้ องรั บผิด
เป็ นส่ วนเท่ าๆกัน เว้ นแต่ โดยพฤติการณ์ ศาลจะวินิจฉั ยเป็ นประการอื่น
หมายเหตุ ; การทาละเมิดตามมาตรานีจ้ ะต้ องเข้ าหลักเกณฑ์ ดังนี ้
1. มีเจตนาร่ วมกัน
2. มีการกระทาร่ วมกัน
ถ้ าต่ างคนต่ างทาหรื อต่ างคนต่ างมีเจตนา ก็จะไม่ เข้ ามาตรานี ้
มาตรา 433 ถ้ าความเสี ยหายเกิดขึน้ เพราะสั ตว์ ท่ านว่ าเจ้ าของสัตว์ หรือบุคคลผู้รับเลีย้ งรับรักษาไว้ แทน
บุคคลซึ่ งต้ อง เจ้ าของ จาต้ องใช้ ค่าสินไหมทดแทนให้ แก่ฝ่ายทีต่ ้ องเสียหายเพือ่ ความเสียหายอย่ างใดๆ อันเกิดแต่
รั บผิดชอบใน สั ตว์ นั้น เว้ นแต่ จะพิสูจน์ ได้ ว่าตนได้ ใช้ ความระมัดระวังอันสมควรแก่ การเลีย้ งการรั กษาตามชนิด
การกระทาให้ และวิสัยของสั ตว์ หรื อตามพฤติการณ์ อย่ างอื่นหรื อพิสูจน์ ได้ ว่าความเสี ยหายนั้นย่ อมจะต้ องเกิดมี
เกิดความ ขึน้ ทั้งที่ได้ ใช้ ความระมัดระวังถึงเพียงนั้น
เสี ยหายจาก อนึ่งบุคคลผู้ต้องรั บผิดชอบดังกล่ าวมาในวรรคต้ นนั้น จะใช้ สิทธิ ไล่ เบีย้ เอาแก่ บุคคลผู้ที่เร้ าหรื อ
สั ตว์ มีเจ้ าของ ยัว่ สั ตว์ นั้นโดยละเมิด หรื อเอาแก่ เจ้ าของสั ตว์ อื่นอันมาเร้ าหรื อยัว่ สั ตว์ นั้นๆ ก็ได้
มาตรา 436 บุคคลผู้อยู่ในโรงเรื อนต้ องรั บผิดชอบในความเสี ยหายอันเกิดเพราะของตกหล่ นจากโรงเรื อน
ของตกหล่ น นั้น หรื อเพราะทิง้ ขว้ างของไปตกในที่อันมิควร
จากโรงเรื อน
Page 14 of 15

มาตรา 437 บุคคลใดครอบครองหรื อควบคุมดูแลยานพาหนะอย่ างใดๆ อันเดินด้ วยกาลังเครื่ องจักรกล


ความเสี ยหาย บุคคลนั้นจะต้ องรั บผิดชอบเพื่อการเสี ยหายอันเกิดแต่ ยานพาหนะนั้น เว้ น แต่ จะพิสูจน์ ได้ ว่าการ
อันเกิดจาก เสี ยหายนั้นเกิดแต่ เหตุสุดวิสัย หรื อเกิดเพราะความผิดของผู้ต้องเสี ยหายนั้นเอง
ยานพาหนะ,
ความข้ อนีใ้ ห้ ใช้ บังคับได้ ตลอดถึงบุคคลผู้มีไว้ ในครอบครองของตนซึ่ งทรัพย์ อนั เป็ นของเกิด
เครื่ องจักรกล ,
หรื อทรั พย์อัน อันตรายได้ โดยสภาพ หรื อโดยความมุ่งหมายที่จะใช้ หรื อโดยอาการกลไกของทรั พย์ นั้นด้ วย
เป็ นอันตราย
โดยสภาพ
ทรั พย์ อันเกิดอันตรายได้ โดยสภาพ= ถังแก๊ ส
ถ้ าประมาทเลินเล่ อต้ องรั บผิดชอบ แต่ ถ้าพิสูจน์ ได้ ว่าเกิดจากเหตุสุดวิสัยถึงจะไม่ ต้องรั บผิด
มาตรา 449 บุคคลใดเมือ่ กระทาการป้ องกันโดยชอบด้ วยกฎหมายก็ดี กระทาตามคาสั่งอันชอบด้ วย
ป้ องกันโดย กฎหมายก็ดี หากก่อให้ เกิดเสียหายแก่ผ้ อู นื่ ไซร้ ท่ านว่ าบุคคลนั้นหาต้ องรับผิดใช้ ค่าสินไหมทดแทน
ชอบด้ วย ไม่
กฎหมาย
มาตรา 451 บุคคลใช้ กาลังเพือ่ ป้ องกันสิทธิของตน ถ้ าตามพฤติการณ์ จะขอให้ ศาลหรือเจ้ าหน้ าทีช่ ่ วยเหลือ
การทาละเมิด ให้ ทนั ท่ วงทีไม่ ได้ และถ้ ามิได้ ทาในทันใด ภัยมีอยู่ด้วยการที่ตนจะได้ สมดังสิ ทธิ นั้นจะต้ องประวิงไป
จากการ มากหรื อถึงแก่ สาบสู ญได้ ไซร้ ท่ านว่ าบุคคลนั้นหาต้ องรับผิดชดใช้ ค่าสินไหมทดแทนไม่
ป้ องกันสิ ทธิ
ของตน
EX. เมื่อมีคนนารถมาจอดบนทางสาธารณะและปิ ดบังทางเข้ าบ้ านของเรา เมื่อเราจะนารถเข้ าบ้ าน
เราสามารถดันรถคันดังกล่ าวเพื่อให้ พ้นทางและเข้ าบ้ านได้ การทาละเมิดนีไ้ ม่ ต้องตามมาตรา 420
เพราะเป็ นการนิรโทษกรรมจากการทาละเมิดได้
มาตรา 452 ผู้ครองอสังหาริมทรัพย์ ชอบทีจ่ ะจับสัตว์ ของผู้อนื่ อันเข้ ามาทาความเสียหายในอสังหาริม
สิ ทธิ ในการ ทรัพย์ นั้น และยึดไว้ เป็ นประกันค่ าสินไหมทดแทนอันจะพึงต้ องใช้ แก่ตนได้ และถ้ าเป็ นการจาเป็ น
จับสั ตว์ ที่เข้ า โดยพฤติการณ์ แม้ จะฆ่ าสั ตว์ นั้นเสี ยก็ชอบที่จะทาได้
มาทาความ แต่ ว่าผู้นั้นต้ องบอกกล่ าวแก่ เจ้ าของสั ตว์ โดยไม่ ชักช้ า ถ้ าและหาตัวเจ้ าของสั ตว์ ไม่ พบ ผู้ที่จับ
เสี ยหายใน สั ตว์ ไว้ ต้องจัดการตามสมควรเพื่อสื บหาตัวเจ้ าของ
อสั งหาริ มทรั
พย์ ได้
Page 15 of 15

มูลหนีน้ ้ นั เกิดได้โดยเหตุ 2 ประการคือ โดยนิติกรรม และโดยนิติเหตุ


หมายเหตุ; นิติเหตุ คือ เหตุในทางกฎหมาย ซึ่ งอาจเกิดจากเหตุการณ์ตามธรรมชาติ หรื ออาจเกิดจากการกระทาของ
บุคคล ซึ่ งได้กระทาลงโดยมิได้มุ่งจะให้เกิดผลทางกฎหมาย ได้แก่
1. ละเมิด (มาตรา 420)
2. จัดการงานนอกสั่ง (มาตรา 395)
3. ลาภมิควรได้ (มาตรา 406)
4. ค่าอุปการะเลี้ยงดู (มาตรา 1563),ค่าจัดการมรดก, หนี้ภาษีอากร
ชนิดของวัตถุแห่ งหนี้ มี 3 ประการคือ
1. การกระทาการ (มาตรา 213 วรรค 2 “ถ้าวัตถุแห่ งหนี้เป็ นการให้ กระทาการอันหนึ่งอันใดเจ้าหนี้จะร้องขอ
ต่อศาลให้สั่งบังคับให้บุคคลภายนอกกระทาการ อันนั้น โดยให้ลูกหนี้เสี ยค่าใช้จ่ายให้ก็ได้ แต่ถา้ วัตถุแห่ ง
หนี้เป็ นอันให้กระทานิติกรรม อย่างใดอย่างหนึ่งไซร้ ศาลจะสั่งให้ถือเอาตามคาพิพากษาแทนการแสดง
เจตนาของลูกหนี้ก็ได้”
2. การงดเว้ นกระทาการ (มาตรา 194 ประกอบกับมาตรา 213 วรรค 3 “ส่ วนหนี้ซ่ ึ งมีวตั ถุเป็ นอันจะให้งดเว้น
การอันใด เจ้าหนี้จะเรี ยกร้องให้ร้ื อถอนการที่ได้กระทาลงแล้วนั้น โดยให้ลูกหนี้เสี ยค่าใช้จ่ายและให้
จัดการอันควรเพื่อการภายหน้าด้วยก็ได้”
3. การโอนหรือการส่ งมอบทรัพย์ สิน (มาตรา 313 วรรคแรก “ ถ้าลูกหนี้ละเลยเสี ยม่ชาระหนี้ของตน เจ้าหนี้
จะร้องขอต่อศาลให้สงั่ บังคับชาระหนี้ก็ได้ เว้นแต่สภาพแห่ งหนี้จะไม่เปิ ดช่องให้ทาเช่นนั้นได้”
หนีท้ เี่ จ้ าหนีไ้ ม่ อาจเรียกให้ ลกู หนีช้ าระได้ 3 ประเภทคือ (หนี้ขาดกาลังบังคับ)
1. หนี้ที่ขาดอายุความ (มาตรา 193/9)
2. หนี้ที่ขาดหลักฐาน คือหนี้ที่กฎหมายบัญญัติให้ตอ้ งทาหลักฐานเป็ นหนังสื อลงลายมือชื่อผูร้ ับผิด มิฉะนั้น
จะฟ้ องบังคับคดีไม่ได้ เช่น มาตรา 538 สัญญาเช่าอสังหาริ มทรัพย์ , มาตรา 653 สัญญากูย้ มื เงินเกินกว่า
2000 บาท , มาตรา 680 สัญญาค้ าประกัน
3. หนี้ที่กลายเป็ นพ้นวิสัยที่จะชาระ (มาตรา 219 วรรคแรก)

You might also like