Professional Documents
Culture Documents
- คู่สญ
ั ญาในสัญญาคําประกันคือ “เจ ้าหนี กับ บุคคลภายนอก (ผูค้ ําประกัน)”
- “ตกลงในการชําระหนี ในเมือลูกหนี ไม่ชาํ ระหนี นัน” ☞ ผูค้ ําประกัน จึงทําสัญญาคําประกันกับลูกหนี ไม่ได ้
- การตกลงคําประกันทีไม่ได ้ทํากับเจ ้าหนี เรียกว่า “สัญญาทีไม่มช
ี อ”
ื ไม่ใช่ สัญญาคําประกัน
- การรบั สภาพทีทีไม่เคยมีหนี อยู่จริง ใช ้บังคับไม่ได ้ คือ การรบั สภาพหนี ต ้องมีหนี อยู่กอ
่ น แล ้วยอมรบั ว่าตนมีหนี อยู่จริง
- ถ ้าลูกหนี กับผูค้ ําประกันตกลงกันเองแล ้วมีการทําเป็ นเอกสาร จะเป็ นเอกสารท ้ายสัญญา หากเจ ้าหนี รู ้ภายหลังและไดเ้ อกสารนัน
ไป เจ ้าหนี สามารถนํ ามาใช ้เป็ นหลักฐานคําประกันได ้ แต่ไม่ใช่การรบั สภาพหนี เพราะผูค้ าประกั
ํ นไม่ได ้มีหนี อยู่กบ
ั เจ ้าหนี มาก่อน
- สัญญาคําประกัน เป็ นสัญญาทีไม่มแี บบ แต่ตอ้ งมีหลักฐานเป็ นหนังสือจึงจะฟ้ องร ้องบังคับคดีกน
ั ได ้ (ม.680 ว.2)
- หนี ทีอาจคําประกันได ้ (ม.681) ไดแ้ ก่ หนี อันสมบูรณ์ (ดูหนี ประธานเป็ นหลัก)
- หนี อันสมบูรณ์ เช่น สัญญากู ้ยืมเงินจะสมบูรณ์ต่อเมือมีการส่งมอบเงิน สัญญาเช่าซือทีดินต ้องทําเป็ นหนังสือและจดทะเบียน ทํา
สัญญากู ้ยืมเงิน 100,000 บาท ด ้วยวาจา
- กรณีนิตก
ิ รรม “โมฆียะ” สัญญาสมบูรณ์จนกว่าจะบอกลา้ ง
- กรณีสญ
ั ญาคําประกันทีทําด ้วยวาจา ต ้องระบุรายละเอียดตาม ม.681 ว.1 + ว.3 คือข ้อความ “...เพือชําระหนี ในเมือลูกหนี ไม่ชาํ ระ
หนี ตามสัญญา...... (ระบุตาม ว.3)” ไม่จําเป็ นตอ้ งระบุจํานวนเงินสูงสุดทีคําประกัน
- ตัวอย่าง นาย ก ผูเ้ ยาว ์ กู ้ยืมเงิน นาย ข 100000 บาท โดยมีนาย ค เข ้ามาคําประกันหนี ดังกล่าว ขณะทําสัญญาคําประกัน นาย
ค ทราบว่านาย ก เป็ นผูเ้ ยาว ์และไม่ได ้รบั ความยินยอมจากผูแ้ ทนโดยธรรม เช่นนี ภายหลังสัญญาเงินกู ้ถูกบอกลา้ ง แต่นาย ก ไม่
คืนเงิน นาย ค ต ้องผูกพันในการคืนเงินแก่ นาย ข
- หากผูค้ ําประกันรู ้เหตุแห่งการทีหนี ประธานตกเป็ นโมฆียะ เช่น ข่มขู่ กลฉ้อฉล ฯลฯ เช่น ก ทํานิ ตก
ิ รรมเพราะถูก ข ข่มขู่ และมี ค
เข ้ามาคําประกันหนี โดย ค รู ้ ว่านิ ตก
ิ รรมนัน ก ทําเพราะถูกข่มขู่ เมือนิตก
ิ รรมหนี ประธานถูกบอกลา้ ง สัญญาคําประกัน มีผล
โมฆะ ตามสัญญาประธาน จะนํ า ม.681 ว.4 มาใช ้ไม่ได ้
- ต ้องชัดเจนในการทําสัญญาหนี ทัวไป ว่าเป็ นการคําประกันในหนี อะไร มูลละเมิดอะไร หรือคําประกันหนี ตามสัญญาอะไร
- ถ ้าเขียนว่า “คําประกันหนี สินตามสัญญาระหว่างลู กหนี กับเจ้าหนี ทุกสัญญา” .... เป็ นการระบุไม่ชดั แจ ้งตาม ม.681 ว.3
ตกเป็ น “โมฆะ”
- สัญญากู ้ยืมเงิน โดยตอนทา้ ยของสัญญากู ้ยืมเงิน มีข ้อความว่า “ผู ค
้ าประกั
ํ นตกลงร ับผิดตามสัญญากูย
้ ม
ื เงินฉบับนี หาก
ลู กหนี ผิดนัดไม่ชา
ํ ระหนี ตามสัญญากูย
้ ม
ื เงินฉบับนี “ การคําประกันมีความชด
ั แจ้ง
การฟ้องร ้องผู ค
้ าประกั
ํ น
➡ กฎหมายทีแก ้ไขใหม่ บังคับแก่สญ
ั ญาคําประกันทีทําขึนก่อนวันที 11 กพ. 2558 ดว้ ย ถ ้าลูกหนี ผิดนัดตังแต่วน
ั ที 11 กพ.
2558 เป็ นต ้นมา เจา้ หนี ต ้องปฏิบต
ั ต
ิ าม ม.686 ทีแก ้ไขใหม่ คือ ต ้องส่งหนังสือบอกกล่าวภายใน 60 วัน นับแต่วน
ั ทีลูกหนี ผิดนัด
หลัก คือ ดูวน
ั ทีทีลู กหนี ผิดนัดเป็ นสําคัญ
- หากลูกหนี ไม่อาจถือเอาประโยชน์แห่งเงือนเวลาได ้ แม้หนี ยังไม่ถงึ กําหนดชําระ เจ ้าหนี ก็อาจฟ้ องลูกหนี ได ้ มาตรา 193 มีดงั นี
1. ลูกหนี ถูกศาลมีคําสังพิทก
ั ษ ์ทรพ
ั ย ์เด็ดขาด
2. ลูกหนี ไม่ใหป้ ระกัน ในเมือจําต ้องให ้
3. ลูกหนี ได ้ทําลาย หรือทําให้ลดน้อยลงซึงหลักประกันอันไดใ้ ห้ไว ้
4. ลูกหนี นํ าทรพ
ั ย ์สินของบุคคลอืนมาเป็ นหลักประกันโดยเจ ้าของไม่ยน
ิ ยอม
แต่จะฟ้ องผูค้ ําประกันก่อนหนี ถึงกําหนดชําระไม่ได ้ ตาม ม.687 +193
- ผูค้ ําประกันร่วม จะตกลงใหร้ บั ผิดในสัญญาคําประกันใหร้ บั ผิดแยกจากกันได ้ ในลักษณะลูกหนี หลายคน ม.290
- นาย ก กู ้ยืมเงินนาย ข 100000 บาท โดยมีนาย ค ตกลงเข ้ามาคําประกันในวันที 1 มค. 2563 และนาย ง ตกลงเข ้ามาคําประกัน
ในวันที 2 มค. 2564 และในวันที 11 เมย 2564 นาย ก ถูกฟ้ องศาลเป็ นคดีลม้ ละลาย ภายหลังนาย ก ผิดนัดชําระหนี เจ ้าหนี จึง
มาฟ้ องโดยชอบด ้วยกฎหมาย *** ใหน้ าย ง รบั ผิดเพียงผูเ้ ดียว (“เจา้ หนี จึงมาฟ้ องโดยชอบด ้วยกฎหมาย” หมายความว่า เจา้ หนี
ได ้ดําเนินการบอกกล่าวตามวิธท
ี ี กม. กําหนดไวแ้ ล ้ว)
คําถาม
1. นาย ง ใช ้สิทธิตาม ม.688 ใหเ้ จา้ หนี ไปเรียกร ้องเอากับ นาย ค ก่อนได ้หรือไม่
ใช ้สิทธิเกียงให ้ ผูค้ ําประกัน ชําระหนี ก่อนไม่ได ้
2. นาย ง ใช ้สิทธิตาม ม. 688 ให้เจ ้าหนี ไปเรียกร ้องเอากับ นาย ก ก่อนได ้หรือไม่
ทําได ้ เพราะเป็ นการเกียงโดยชอบฯ ตาม ม.688
*** นาย ก ถูกฟ้ องล ้มละลาย ไม่มผ
ี ลอะไร เพราะไม่ใช่ข ้อยกเว ้น
ผู ค
้ าประกั
ํ นสิทธิไล่เบีย ม.694, 695
ถ ้าผูค้ ําฯ ไม่ยกข ้อต่อสูของตนเองต่
้ อเจ ้าหนี แล ้วชําระหนี ไล่เบียได ้ เพราะไม่ได ้ทําใหล้ ูกหนี เสียเปรียบ ตาม ม.693
ถ ้าผูค้ ําฯ ไม่ยกข ้อต่อสูข
้ องลูกหนี ขึนต่อเจ ้าหนี ผูค้ ําฯ สินสิทธิไล่เบียเท่าทีลูกหนี เสียหาย ตาม ม.694, 695
ม.697 การปลดหนี
นาย ก กู ้ยืมเงินนาย ข และนาย ก จํานองทีดินของตนประกันหนี ดังกล่าว ภายหลังนาจ ค เข ้ามาคําประกันหนี ดังกล่าวด ้วย
ต่อมาเจ ้าหนี ปลดจํานอง ทําให้นาย ค เสียหาย เช่นนี ตาม ม.697 นาย ค หลุดพ้นตามราคารทีปรากฏในสัญญาจํานองทีได ้ถูกปลด
จํานอง
นาย ก กู ้ยืมเงินนาย ข และนาย ก จํานองบา้ งของตนประกันหนี ดังกล่าว ภายหลังนาย ค เข ้ามาคําประกันหนี ดังกล่าวด ้วย
ต่อมาบา้ นถูกไฟไหมเ้ สียหายทังหมด เพราะไฟป่ า เช่นนี นาย ค ไม่หลุดพ้นตามราคาทีปรากฏในสัญญาจํานอง
การระงับสินไปแห่งสัญญาคําประกัน
หนี ประธานระงับสินไป
ผูค้ ําประกันบอกเลิกการคําประกัน (ตอ้ งได ้รบั ความยินยอมจากเจ ้าหนี ด ้วย)
เจา้ หนี ผ่อนเวลาชําระหนี ให้แก่ลูกหนี
เจา้ หนี ไม่ยอมรบั ชําระหนี จากผู ้คําประกัน
เหตุอน
ื ๆ ทีทําให้สญ
ั ญาคําประกันระงับสินไป
การจํานอง
- เจา้ หนี อาศัยสิทธิยด
ึ หน่ วง เพราะลูกหนี จะนํ าทรพ
ั ย ์จํานองไป
จํานองรายอืนอีกกีรายก็ได ้ เพือเป็ นหลักประกัน เจ ้าหนี จึงยึดหน่ วง
โฉนดทีดินไว ้
- เจา้ หนี ผูร้ บั จํานอง เป็ นเจ ้าหนี บุรมิ ทรพ
ั ย์
- สัญญาจํานองต ้องทําเป็ นหนังสือและจดทะเบียนต่อเจา้ พนักงาน
เจา้ หน้าที แตกต่างกับสัญญาคําประกันทีว่า สัญญาคําประกันอาศัย
หลักฐานเป็ นหนังสือเท่านัน
- ในสัญญาจํานองต ้องมีลายมีอชือผูจ้ ํานอง และผูร้ บั จํานอง
- พยานมีความจําเป็ นในทางสืบพยาน ไม่ได ้มีสาระสําคัญในการ
ทําสัญญาจํานอง
- ทรพ
ั ย ์ทีจํานองได ้ (ม.703) คือ อสังหาริมทรพ
ั ย ์ สังหาริมทรพ
ั ย ์พิเศษ แพ สัตว ์พาหนะ
- ผูจ้ ํานองต ้องเป็ นเจ ้าของทรพ
ั ย ์ทีจํานอง (ม.705)
- หนี ทีจํานองได ้ (ม.681) คือ หนี สมบูรณ์ หนี ทีสมบูรณ์แมไ้ ม่มห
ี ลักฐานในการฟ้ องร ้อง หนี ในอนาคตหรือหนี มีเงือนไข
ข้อความในสัญญาจํานองทีมีผลบังคบ
ั
ม.707 บทบัญญัตม
ิ าตรา ๖๘๑ ว่าด ้วยคําประกันนัน ท่านใหใ้ ช ้ไดใ้ นการจํานอง อนุโลมตามควร
ม.704 สัญญาจํานองต ้องระบุทร ัพย ์สินซึงจํานอง
ม.708 สัญญาจํานองนันต ้องมีจํานวนเงินระบุไว้เป็ นเรือนเงินไทยเป็ นจํานวนแน่ ตรงต ัว หรือจํานวนขันสู งสุดทีได้เอา
ทร ัพย ์สินจํานองนันตราไว้เป็ นประกัน
สัญญาจํานองระบุว่าไดจ้ ํานองตึกแถวพร ้อมทีดิน มีรายละเอียดของทรพ
ั ย ์สิน เพือประกันหนี ตามสัญญากู ้ในวงเงิน 1 ล ้าน
บาท เป็ นไปตาม ม.704, 708, 707 แต่จะนํ าสืบพยานบุคคลการแก ้ไขเอกสารสัญญาจํานองไม่ได ้ต ้องห้ามตาม ปวิพ ม.94
ข้อความในสัญญาจํานองทีไม่มผ
ี ลบังคบ
ั
ม.711 การทีจะตกลงกันไว ้เสียแต่กอ
่ นเวลาหนี ถึงกําหนดชําระเป็ นขอ้ ความอย่างใดอย่างหนึ งว่า ถ ้าไม่ชาํ ระหนี ให ้ผูร้ บั จํานองเขา้ เป็ น
เจา้ ของทรพ
ั ย ์สินซึงจํานอง หรือว่าให้จด
ั การแก่ทรพ
ั ย ์สินนันเป็ นประการอืนอย่างใด นอกจากตามบทบัญญัตท
ิ งหลายว่
ั าด ้วยการบังคับ
จํานองนันไซร ้ ข ้อตกลงเช่นนันท่านว่าไม่สมบู รณ์
☞ สอดคล ้องกับ ม.702 ทีว่า “การจํานองเป็ นการตราทรพ
ั ย ์” ผูจ้ ํานองยังคงเป็ นเจ ้าของกรรมสิทธิ
☞ การทีให้ทรพ
ั ย ์ทีจํานองตกเป็ นของเจ ้าหนี ตอ้ งผ่านกระบวนการ ม.729 และทรพ
ั ย ์ทีจํานองต ้องมีมูลค่าน้อยกว่ามูลหนี
ประธาน
ขอบเขตของสิทธิจํานอง
ม.715 ทรพ
ั ย ์สินซึงจํานองย่อมเป็ นประกันเพือการชําระหนี กับทังค่าอุปกรณ์ต่อไปนี ด ้วย คือ
(๑) ดอกเบีย
(๒) ค่าสินไหมทดแทนในการไม่ชาํ ระหนี
(๓) ค่าฤชาธรรมเนียมในการบังคับจํานอง
นาย ก กู ้ยืมเงินนาย ข โดยมีการจํานองทีดินกับเรือ โดยนาย ค และ ง ตามลําดับ นาย ก ชําระหนี ไปครึงหนึ งแล ้ว อีก
ครึงหนึ งยังคงเป็ นผลใหท้ รพ
ั ย ์ทีจํานองยังคงไม่ปลอดจํานอง เพราะตาม ม.716 จํานองย่อมครอบไปถึงบรรดทรพ
ั ย ์สินซึงจํานองหมดทุก
สิง แม้จะได ้ชําระหนี แล ้วบางส่วน
ม.717 แม้ว่าทรพ
ั ย ์สินซึงจํานองจะแบ่งออกเป็ นหลายส่วนก็ตาม ท่านว่าจํานองก็ยงั คงครอบไปถึงส่วนเหล่านันหมดทุกส่วนด ้วยกันอยู่
นันเอง
ถึงกระนันก็ดี ถา้ ผูร้ ับจํานองยินยอมด ้วย ท่านว่าจะโอนทรพ
ั ย ์สินส่วนหนึ งส่วนใดไปปลอดจากจํานองก็ใหท้ ําได ้ แต่ความ
ยินยอมดังว่านี หากมิได ้จดทะเบียน ท่านว่าจะยกเอาขึนเป็ นข ้อต่อสูแ้ ก่บุคคลภายนอกหาได ้ไม่
ผู จ
้ ํานองมีสท
ิ ธิลา้ งจํานองเป็ นงวด ๆได้
ม.713 ถ ้ามิได ้ตกลงกันไว ้เป็ นอย่างอืนในสัญญาจํานอง ท่านว่าผูจ้ ํานองจะชําระหนี ล ้างจํานองเป็ นงวด ๆ ก็ได ้
**** ถ ้าไม่มข
ี ้อตกลงไว ้เป็ นพิเศษ ถ ้าจะล ้างจํานอง ผูจ้ ํานองจะล ้างเป็ นงวด ๆ ไม่ได ้ ต ้องชําระหนี ทังหมดในคราวเดียว ***
การฟ้องให้ยด
ึ ทร ัพย ์ทีจํานองออกขายทอดตลาด
สรุปภาพรวมเมือจะฟ้ องบังคับจํานอง (728)
1. เจา้ หนี ต ้องส่งหนังสือบอกกล่าวไปยังลูกหนี ตาม 728 ว.1 และ
2. ส่งหนังสือบอกกล่าวใหผ้ จ
ู ้ ํานองตาม 728 ว.2
ถ ้าเจ ้าหนี ไม่ส่งหนังสือบอกกล่าวไปยังลูกหนี ตาม 728 ว.1 จะไม่มส
ี ท
ิ ธิฟ้องบังคับจํานอง
ถ ้าเจ ้าหนี ส่งหนังสือบอกกล่าวไปยังลูกหนี ตาม 728 ว.1 แต่ไม่ส่งหนังสือบอกกล่าวไปยังผูจ้ ํานองตาม 728 ว.2 ผลคือ ผูร้ บั จํานองฟ้ อง
บังคับจํานองได ้ แต่ไม่มส
ี ท
ิ ธิไดร้ บั ดอกเบียและค่าอุปกรณ์แห่งหนี บรรดาทีเกิดขึนนับแต่วน
ั ทีพ้นกําหนด 15 วัน
ม.728 ว.2
ถ ้าจะบังคับจํานองตามสัญญาจํานองแก่บุคคลทีสามต ้อง
1. มีหนังสือบอกกล่าวไปยังลูกหนี ตาม 728 ว.1
2. ส่งหนังสือบอกกล่าวใหผ้ จ
ู ้ ํานองทราบภายในระยะเวลา 15 วันนับแต่วน
ั ส่งหนังสือแจง้ ลูกหนี
ดังนัน
☞ ถ ้าผูร้ บั จํานองไม่ดําเนิ นการตาม 1. ผลคือ ไม่มส
ี ท
ิ ธิในการฟ้ องบังคับจํานอง
☞ ถ ้าผูร้ บั จํานองดําเนิ นการตาม 1. แต่ไม่ดําเนิ นการให้ถูกต ้องตาม 2. ผลคือ ความรบั ผิดในดอกเบีย ภาระติดพันของผูจ้ ํานอง
เป็ นอันหลุดพ้น
ตัวเงิน
- เป็ นเอกเทศสัญญาภายใต ้ ปพพ
- เกิดจากมีการแปลงเอกสารให้เป็ นตราสาร แล ้วส่งมอบตราสารเพือชําระหนี
- ตราสาร หมายถึง หนังสือสําคัญซึงเป็ นเอกสารแสดงสิทธิต่าง ๆ เช่น โฉนด
- เอกสารทีจะเป็ นตราสารตามลักษณะของกฎหมายตัวเงินได ้ จะต ้องมีรายการหน้าตัวครบถ ้วนตามทีกฎหมายกําหนด
- ผูท้ เกี
ี ยวข ้อง 3 ฝ่ ายได ้แก่ ผูร้ บั เงิน (เจา้ หนี ) ผูส้ งจ่
ั าย (ลูกหนี ) ผูจ้ ่าย (ลูกหนี ของผูส้ งจ่
ั าย)
- เมือเจ ้าหนี ได ้รบั ตัวแลกเงิน เจ ้าหนี สามารถขึนเงินกับผูจ้ ่ายไดต้ ามวันและเวลาทีกําหนดภายใต ้กฎหมาย
- ผูส้ งจ่
ั าย และผูจ้ ่ายอาจเป็ นคน ๆ เดียวกันก็ได ้
เช็ค (ม.987-1000)
- เป็ นตราสาร มีผเู ้ กียวข ้อง 3 ฝ่ าย คือ ผูส้ งจ่
ั าย ธนาคาร (ผูจ้ ่าย) ผูร้ บั เงิน
- ม.989 ใหย้ ม
ื ตัวแลกเงินมาใช ้
บทเบ็ดเสร็จทัวไป
- ม.899 ถ ้าเขียนข ้อความนอกเหนื อจาก ม.909 ข ้อความนันไม่มผ
ี ลบังคับใช ้แต่อย่างใด
- ฎ.4207/2554
- ม.900 ใครก็ตามทีลงลายมือชือต ้องรบั ผิด จะรับผิดในฐานะอะไร ดูตามบทบัญญัติ
***บุคคลร ับผิดตามตวเงิ
ั นมีใครบ้าง***
ตัวเงินทัง 3 ประเภท
ตัวแลกเงิน ตัวสัญญาใช้เงิน เช็ค
บุคคลเกียวข้อง บุคคลเกียวข้อง บุคคลเกียวข้อง
1. ผูสั้ งจ่าย 1. ผูอ้ อกตัว 1. ผูส้ งจ่
ั าย
2. ผูจ่้ าย (บุคคลธรรมดา, นิ ตบ
ิ ุคคล, 2. ผูร้ บั เงิน 2. ธนาคาร
ธนาคาร) 3. ผูร้ บั เงิน
3. ผูรั้ บเงิน
ชนิ ด ชนิ ด ชนิ ด
1. ระบุชอื 1. ระบุชอื 1. ระบุชอื
2. ผูถื้ อ 2. ผูถ้ อ
ื
ข้อความที กม. บังค ับให้ม ี ข้อความที กม. บังคับให้ม ี ข้อความที กม. บังคับให้ม ี
ม.909 ม.983 ม.988
คู่สญ
ั ญาแห่งตวเงิ
ั น
เจ้าหนี ลู กหนี
ผูร้ บั เงิน ผูส้ งจ่
ั าย (914)
ผูร้ บั สลักหลัง ผูท้ รง (904, 905) ผูส้ ลักหลัง (914)
ผูถ้ อื ผูอ้ อกตัวสัญญาใช ้เงิน (928, 986)
ผูส้ บ
ื สิทธิของผูท้ รง ได ้แก่ ทายาท ผูร้ บั รอง (937)
ลูกหนี ตามตัวซึงได ้ใช ้เงินแก่ผท
ู ้ รงไป ผูร้ บั อาวัล (940)
ผูส้ อดเขา้ แก ้หน้า (953)
ธนาคารซึงจดรบั รู ้ในเช็ค (993)
ผู ต
้ อ
้ งร ับผิดตามเนื อความในตวเงิ
ั น
ม.900 ผูล้ งลายมือชือ ต ้องรบั ผิดตามเนื อความในตัวเงิน
ลูกหนี ในตัวเงิน (ผูล้ งลายมือชือ)
ม.901 - ลงลายมือชือในฐานะตัวแทน โดยไม่ระบุใหช
้ ดั เจนว่ากระทําแทน ตอ้ งร ับผิดตามตัวเงิน
ม.914 - ผูส้ งจ่
ั ายตัวแลกเงิน
- ผูอ้ อกตัวสัญญาใช ้เงิน มีมล
ี ายมือชือในตัวเงินจึงต ้องเป็ นผูร้ บั ผิดตาม
- ผูส้ งจ่
ั ายเช็ค เนื อความในตัวเงิน ตาม ม.900
- ผูส้ ลักหลัง
ม.937 - ผูร้ บั รอง ➡ ผูจ้ ่ายในตัวแลกเงินทีได ้รบั รอง โดยลงลายมือชือไว ้ด ้านหน้าของตัวเงิน
ม.940 - ผูอ้ าวัล ➡ คนทีประกันหนี ว่าบุคคลทีตนอาวัลไว ้ ไม่ยอมใช ้เงินตนจะใช ้เงินแทนให้
ม.993 - ธนาคารผูร้ บั รองเช็ค
ม.953 - ผูส้ อดเข ้าแก ้หน้า
✿ มีลายมือชือในตัวเงิน แต่ไม่มฐี านะตามที กม. กําหนดไว ้ ก็ต ้องรบั ผิดตามเนื อความในตัวเงิน เช่นเดียวกับผูส้ งจ่
ั าย ตาม ม.900 ✿
กรณี ทลงลายมื
ี อชือแต่อาจไม่ตอ
้ งร ับผิดได้ ถา้
- ตัวเงินนันไม่มข
ี ้อความที กม. บังคับใหม้ ี (ม.909 ตัวแลกเงิน, ม.983 ตัวสัญญาใช ้เงิน, ม.988 เช็ค)
- ลายมือชือของผูแ้ ทนนิ ตบ
ิ ุคคลทีทําภายในขอบวัตถุประสงค ์ของนิ ตบ
ิ ุคคลและภายในขอบอํานาจ
- เป็ นลายมือชือของบุคคลได ้เขียนแถลงลงในตัวเงินแล ้วว่า กระทําการแทนบุคคลอีกคนหนึ ง (ม.901)
- เป็ นลายมือชือของบุคคลซึงไม่อาจจะเป็ นคู่สญ
ั ญาแห่งตัวเงินนันได ้เลย หรือเป็ นไดแ้ ต่ไม่เต็มผล (ม.902) เช่น คนไร ้ความสามารถ
คนวิกลจริต ผูเ้ ยาว ์
ผู ท
้ รงโดยชอบด้วยกฎหมาย คือ เจ ้าหนี ในตัวเงิน มีหน้าทีต ้องพิสูจน์ใหไ้ ด ้ 4 ประการ คือ
1. ตนมีตวเงิ
ั นอยู่ในครอบครองในฐานะผูถ้ อ
ื ตาม ม.904
- ยึดถือโดยมีเจตนายึดถือเพือตนเอง ในฐานะผูร้ บั เงิน หรือในฐานะผูร้ บั สลักหลัง
2. ถ ้าได ้ความว่า
☞ เป็ นตัวเงินชนิ ดระบุชอื ต ้องพิสูจน์ ตาม ม.905 ว.1 คือ
➪ มีการสลักหลังและส่งมอบทีไม่ขาดสาย และ
➪ ผูส้ ลักหลังได ้ต ้องเป็ นผูท้ รงตัว
☞ เป็ นตัวเงินชนิ ดผูถ้ อ
ื
➪ ไม่ต ้องสลักหลัง (หากสลักหลังจะเป็ น “อาวัลการสังจ่าย”)
➪ โอนด ้วยการส่งมอบ
3. มีมูลหนี เดิมทีชอบด ้วย กม. ออกตัวเงินเพือชําระหนี แทนเงิน
4. ได ้รบั ตัวเงินมาโดยสุจริต
⚠ ถ้าขาดอย่างใดอย่างหนึ งใน 4 ประการนี ไม่ใช่ผูท ั นทีชอบด้วย กม. จะเรียกให้ลูกหนี ร ับผิดไม่ได้ ⚠
้ รงตวเงิ
กรณี ตวเงิ
ั นชนิ ดชนิดระบุ
ข
ผู ้จ่าย
สลักหลัง+ สลักหลัง+
ก ค ส่งมอบ
ง จ
ส่งมอบ
ผูส้ งจ่
ั าย ผูร้ บั เงิน ผูร้ บั สลักหลัง ผูร้ บั สลักหลัง
กรณี ตวเงิ
ั นชนิ ดชนิดผู ถ
้ อ
ื
ข
ผู ้จ่าย
ส่งมอบ ส่งมอบ
ก ค หรือผูถ้ อื ง จ
ผูส้ งจ่
ั าย
ผู ้จ่าย
ลงชือของตน
ด ้านหลังของตัว ส่งมอบ สลักหลัง หลักหลัง
ก ค ง จ ฉ ช
และส่งมอบ +ส่งมอบ +ส่งมอบ
ผูส้ งจ่
ั าย ผูร้ บั เงิน
บุคคลผู ้ทีลงลายมือชือในการสลักหลังรายทีสุดนัน เป็ นผูไ้ ด ้ไปซึงตัวเงินด ้วยการ
สลักหลังลอย กล่าวคือ ผู ท
้ สลั
ี กหลังตัวเงินคนแรกต่อจากการสลักหลังลอย
( ง ไม่มล
ี ายมือชือ ไม่ต ้องรบั ผิดตาม ม.900)
(จ มีลายมือชือ ต ้องรบั ผิด และถือว่ารับโอนโดยตรงจาก ค)
(กรณ๊นีการสลักหลังไม่ขาดสาย ช จึงเป็ นผูท้ รงโดยชอบ)
การสลักหลังในตวเงิ
ั นชนิ ดระบุชอ
ื ม.917
☆ ผูล้ งลายมือชือสลักหลังต ้องรบั ผิดตามเนื อความในตัวเงินในฐานเป็ นผูส้ ลักหลัง ☆
1. สลักหลังเฉพาะ ม.919 ว.1 ☞ ต ้องเขียนในตัวเงินหรือใบประจําต่อ และลงลายมือชือของผูส้ ลักหลัง
2. หลักหลังลอย ม.919 ว.2 ☞ ผูสลั
้ กหลังลงลายมือชือของตนไว ้ด ้านหลังของตัวเงิน
ม.920
ผู ้จ่าย
ลงชือของตนานหลังตัว
+ส่งมอบ ต ้องการโอนตัว
ก ค ง จ ม.920
(สลักหลังลอย) แลกเงินต่อไป
ผูส้ งจ่
ั าย ผูร้ บั เงิน ผูร้ บั สลักหลัง
ด ้านหลังของตัวเงิน ด ้านหลังของตัวเงิน
ง กรอกใน
ทีว่าง โอนให ้ ง
ลงชือ ค
ม.905 ว.2 ได ้มีการพิสูจน์แลว้ ว่ามีการสลักหลังไม่ขาดสาย ตาม ม.905 ว.1 ไม่ต ้องคืนตัวเงิน ยกเว้นแต่ได ้มาโดยไม่สุจริต / ได ้มา
ด ้วยความประมาทเลินเล่ออย่างร ้ายแรง
ข เรียกตัวเงินคืน
ผู ้จ่าย
ลงชือของตน
ด ้านหลังของตัว ทําตัวเงินหาย หลักหลัง
ก ค ง ฉ ช
และส่งมอบ +ส่งมอบ
ผูส้ งจ่
ั าย ผูร้ บั เงิน
สุจริตและไม่ได ้ประมาท
โม่ง เลินเล่ออย่างร ้ายแรง
- ต ้องพิสูจน์ว่าเป็ นผูทรงตาม
้ ม.
904
- ต ้องพิสูจน์ว่าตนได ้มาโดย
สุจริต และมีการสลักหลังโดยไม่
ขาดสาย ตาม ม.905 ว.1
ข เรียกตัวเงินคืน
ผู ้จ่าย
ผูส้ งจ่
ั าย
สุจริตและไม่ได ้ประมาท
โม่ง เลินเล่ออย่างร ้ายแรง
- ต ้องพิสูจน์ว่าเป็ นผูทรงตาม
้ ม.
904
- ต ้องพิสูจน์ว่าตนได ้มาโดย
สุจริต และมีการสลักหลังโดยไม่
ขาดสาย ตาม ม.905 ว.1
ผู ท
้ รงโดยชอบด้วยกฎหมาย
ตัวเงินชนิ ดระบุชอ ื ตัวเงินชนิดผู ถ ้ อ
ื
1) เป็ นบุคคลผูม้ ตี วเงิ
ั นไว ้ในครอบครองโดยฐานเป็ นผูร้ บั เงิน 1) เป็ นบุคคลผูม้ ต
ี วเงิ
ั นไว ้ในครอบครองโดยฐานเป็ นผูถื้ อ ตาม
หรือผูร้ บั สลักหลัง ตาม ม.904 ม.904
2) ต ้องแสดงใหป้ รากฏสิทธิด ้วยการสลักหลังไม่ขาดสาย ตาม 2) ต ้องสุจริตและไม่ประมาทเลินเล่ออย่างร ้ายแรง ตาม ม.905
ม.905 ว.1 ว.2+ว.3
3) ต ้องสุจริตและไม่ประมาทเลินเล่ออย่างร ้ายแรง ตาม ม.905 3) มูลหนี ระหว่างผูท้ รงกับผูโ้ อนต ้องสมบูรณ์และชอบด ้วย
ว.2 กฎหมาย ตาม ม.194
4) มูลหนี ระหว่างผูท้ รงกับผูโ้ อนต ้องสมบูรณ์และชอบด ้วย
กฎหมาย ตาม ม.194
วน
ั ถึงกําหนดใช้เงิน (ม.913)
(1) วันทีกําหนดไว ้
(2) สินระยะเวลาทีกําหนดไวน ้ ับแต่วน
ั ทีลงในตัว เช่น “ถึงกําหนดใช ้เงิน 10 วันนับแต่วน ั ออกตัวฯ
(3) เมือทวงถาม หรือเมือได ้เห็น จะต ้องนํ าตัวฯ ไปยืนใหผ้ จ
ู ้ ่ายได ้เห็นตัวภายใน 6 เดือนนับแต่วน
ั
ออกตัวฯ (ม.928)
ถ ้ายืนเลยกําหนด 6 เดือน ผูท้ รงสินสิทธิไล่เบียผูจ้ ่าย
แต่ไม่สนสิ
ิ ทธิไล่เบียนผูร้ ับรอง
(4) สินระยะเวลาอันกําหนดไว ้นับแต่ไดเ้ ห็น เช่น “10 วันนับแต่ได ้เห็น” (ม.928)
ความร ับผิดของผู ส
้ งจ่
ั าย & ผู ส
้ ลักหลัง (ม.914)
ผู ้จ่าย
สลักหลัง+ สลักหลัง+
ก ค ส่งมอบ
ง จ
ส่งมอบ
ผูส้ งจ่
ั าย ผูร้ บั เงิน ผูร้ บั สลักหลัง ผูท้ รงโดยชอบ
ผูส้ งจ่
ั าย “ไล่เบียข ้าพเจ ้าไม่ได”้ ผูร้ บั สลักหลัง ผูท้ รงโดยชอบ
ผู ้จ่าย
สลักหลัง+ สลักหลัง+
ก ค ส่งมอบ
ง จ
ส่งมอบ
มีผลตลอดสาย
สลักหลัง+ สลักหลัง+
ก ค ส่งมอบ
ง จ
ส่งมอบ
ห้ามยกข้อต่อสูผ
้ ูท
้ รง (ม.916) ผูร้ บั โอนมีสท
ิ ธิดก
ี ว่าผูโ้ อน
ผูถ้ ูกฟ้ องในมูลตัวแลกเงิน คือ ผูล้ งลายมือชือในตัวแลกเงิน
ข้อต่อสู้อนั อาศัยความเกียวพันเฉพาะบุคคล
ก ค ง
ข ผู ้มีลายมือชือในตัว คือ ก ค ง
มูลหนี ยาบ ้า
ผู ้จ่าย
100,000