You are on page 1of 11

lls

สังคมศึกษา ป.6

วิชาสั งคมศึกษา ป.6 (ชุดที่ 1)

คาสั่ ง ให้ นักเรียนเลือกคาตอบที่ถูกต้ องที่สุด


1) คำกล่ำวที่ว่ำ “พระพุทธศำสนำเป็ นศูนย์รวมจิตใจของพุทธศำสนิกชน” มีควำมหมำยอย่ำงไร
ก. พระมหำกษัตริ ยไ์ ทยทุกพระองค์นบั ถือพระพุทธศำสนำ
ข. คนไทยส่วนใหญ่นบั ถือพระพุทธศำสนำ
ค. ชีวิตคนไทยผูกพันกับพระพุทธศำสนำตั้งแต่เกิดจนตำย
ง. ถูกต้องทุกข้อ
2) ใครเป็ นผูท้ ูลถำมพระพุทธองค์ถึงกำรเสด็จสู่ปริ นิพพำน
ก. องคุลีมำล ค. พญำวัสวดี
ข. พระอำนนท์ ง. พระเจ้ำพิมพิสำร
3) เจ้ำชำยสิ ทธัตถะสัมพันธ์กบั ข้อใดในฐำนะผูใ้ ห้กำเนิด
ก. พระเจ้ำสุ ทโธทนะ - พระนำงสิ ริมหำมำยำ ค. พระเจ้ำอโศกมหำรำช - พระนำงหัตถำ
ข. พระเจ้ำพิมพิสำร - พระนำงโกศลเทวี ง. พระเจ้ำรำมำ - พระนำงปิ ยำ
4) มูลเหตุในข้อใดที่ทำให้เจ้ำชำยสิ ทธัตถะตัดสิ นพระทัยออกผนวช
ก. รู ้คำทำนำยของพรำหมณ์ 108 คน
ข. เบื่อหน่ำยชีวิตในพระรำชวัง
ค. ทอดพระเนตรเห็นเทวทูต 4
ง. ปรำรถนำที่จะหำทำงช่วยให้มวลมนุษย์ทุกคนพ้นทุกข์
5) หลังจำกออกผนวลแล้วทรงศึกษำหำทำงพ้นทุกข์อย่ำงไรจึงสำเร็ จ
ก. บำเพ็ญเพียรทำงจิตแน่วแน่จนรู ้เรื่ อง ค. บำเพ็ญทุกรกิริยำ (ทรมำนร่ ำงกำย)
ข. ศึกษำอยูใ่ นสำนักของดำบส ง. ศึกษำจำกอำจำย์สำนักต่ำง ๆ
6) ธรรมอันประเสริ ฐที่พระพุทธเจ้ำตรัสรู ้ คือข้อใด
ก. อกุศลมูล ค. อริ ยมรรค
ข. อริ ยสัจ 4 ง. อิทธิบำท 4
7) ข้อใดไม่ ได้ หมำยถึงพุทธบริ ษทั ในพระพุทธศำสนำ
ก. อุบำสก ค. ภิกษุณี
ข. ภิกษุ ง. พุทธสำวก
8) “พระรำธะ” ได้รับกำรยกย่องจำกพระพุทธเจ้ำว่ำมีควำมเป็ นเลิศในทำงใด
ก. มีปัญญำเป็ นเลิศ ค. เป็ นผูท้ ี่ว่ำง่ำย และมีปฏิภำณ
ข. เป็ นผูแ้ ก่เรี ยน ง. เป็ นผูม้ ีกำลังมำก
lls
สังคมศึกษา ป.6

9) “พ่อขุนรำมคำแหง” มีพระรำชกรณี ยกิจที่สำคัญทำงด้ำนพระพุทธศำสนำอย่ำงไร


ก. เป็ นผูท้ ี่อุปถัมภ์กำรสังคำยนำพระไตรปิ ฎกครั้งแรกในประเทศไทย
ข. เป็ นผูท้ ี่มีควำมแตกฉำนในกำรอ่ำนภำษำบำลีและสันสกฤต
ค. เป็ นผูอ้ นั เชิญพระพุทธศำสนมำประดิษฐำนที่สุโขทัยครั้งแรก
ง. เป็ นกษัตริ ยท์ ี่ออกผนวชครั้งแรกในพระพุทธศำสนำ
10) “สัพพทำฐิชำดก” กล่ำวถึงสัตว์ประเภทใดที่รอบรู ้ปฐพีวิชยั มนต์
ก. เสื อ ค. สิ งโต
ข. สุ นขั จิ้งจอก ง. กวำง
11) “ทีฆีติโกสลชำดก” กล่ำวถึงกำรฆ่ำบิดำมำรดำของทีฆำวุกุมำรโดยใคร
ก. พระเจ้ำพรหมทัต ค. พระเจ้ำอโศกมหำรำช
ข. พระเจ้ำพิมพิสำร ง. พระเจ้ำสุ ทโทธนะ
12) ขั้นมรรคในหลักธรรมเรื่ องอริ ยสัจ 4 เกี่ยวข้องกับเรื่ องใด
ก. ควำมทุกข์ ค. ควำมดับทุกข์
ข. เหตุแห่งควำมทุกข์ ง. หนทำงแห่งกำรดับทุกข์
13) “กำรพูดจำไพเรำะอ่อนหวำน” ถือเป็ นกุศลกรรม หรื อทำงแห่งควำมดีทำงด้ำนใด
ก. กุศลกรรมทำงร่ ำงกำย ค. กุศลกรรมทำงใจ
ข. กุศลกรรมทำงวำจำ ง. กุศลกรรมทำงวิญญำณ
14) หลักธรรมเรื่ องโอวำท 3 เป็ นคำสอนทีไม่เกี่ยวข้องกับเรื่ องใด
ก. กำรไม่ทำดีท้งั ปวง ค. กำรทำกุศลให้ถึงพร้อม
ข. กำรไม่ทำบบำปทั้งปวง ง. ทำทำจิตของตนให้ผอ่ งใส
15) “หนทำงแห่งควำมเสื่ อม” หรื ออบำยมุข 6 ไม่มีควำมสัมพันธ์กบั ข้อใด
ก. ติดสุ รำและของมึนเมำ ค. เป็ นนักกำรเมือง
ข. ชอบเที่ยวกลำงคืน ง. คบคนชัว่ เป็ นมิตร
16) กำรแก้ปัญหำควำมยำกจนตำมหลักเบญจธรรมคือข้อใด
ก. เมตตำกรุ ณำ ค. กำมสังำร
ข. สัมมำอำชีวะ ง. สัจจะ
17) “อโมหะ” ในกุศลมูล 3 หมำยถึงสิ่ งใด
ก. ไม่อยำกทำชัว่ ทำงใจ ค. ควำมไม่หลง
ข. ไม่คิดประทุษร้ำยผูอ้ ื่น ง. ควำมไม่อยำกได้
18) ปัญญำที่เกิดจำกกำรฟัง ถือเป็ นกำรเจริ ญปัญญำประเภทใด
ก. สุ ตมยปัญญำ ค. จินตำมยปัญญำ
ข. โสตมยปัญญำ ง. ภำวนำมยปัญญำ
19) กำรส่งควำมปรำรถนำดีต่อผูอ้ ื่นสำมำรถแสดงออกได้โดยวิธีกำรใด
ก. กำรกรวดน้ ำ ค. กำรอธิษฐำนจิต
ข. กำรแผ่เมตตำ ง. กำรนัง่ สมำธิ
lls
สังคมศึกษา ป.6

20) “ควำมจริ งอันประเสริ ฐ” หมำยถึงหลักธรรมในข้อใด


ก. พรหมวิหำร 4 ค. สังคหวัตถุ 4
ข. โอวำท 3 ง. อริ ยสัจ 4
21) กำรประกอบพิธีใดเป็ นกำรยืนยันถึงกำรยอมรับนับถือในศำสนำคริ สต์
ก. ศีลจุ่ม ค. ศีลมหำสนิท
ข. ศีลกำลัง ง. ศีลแก้บำป
22) กำรละหมำดของชำวมุสลิมจะปฏิบตั ิวนั ละกี่ครั้ง
ก. 3 ครั้ง ค. 5 ครั้ง
ข. 4 ครั้ง ง. 6 ครั้ง
23) “พิธีศรำทธ์” เป็ นกำรทำพิธีกรรมให้แก่ดวงวิญญำณของบรรพบุรุษของศำสนำใด
ก. พุทธ ค. อิสลำม
ข. คริ สต์ ง. ฮินดู
24) กำรอำรำธนำศีล มีจุดมุ่งหมำยสำคัญอย่ำงไร
ก. กำรขอพรจำกผูใ้ หญ่ ค. กำรขอศีลจำกสำมเณร
ข. กำรขอศีลจำกภิกษุ ง. กำรขอศีลจำกภิกษุณี
25) “กำรแสดงตนเป็ นพุทธมำมกะ” ต้องยึดสิ่ งใดเป็ นที่พ่ งึ
ก. พระพุทธ ค. พระสงฆ์
ข. พระธรรม ง. พระรัตนตรัย
26) ยำเสพติดให้โทษประเภทที่ 3 ได้แก่สิ่งใด
ก. เฮโรอีน ค. ยำแก้ไอน้ ำเชื่อม
ข. กัญชำ ง. อำเซติลคลอไรด์
27) เมื่อมีคนย้ำยที่อยูอ่ อกจำกบ้ำน เจ้ำบ้ำนจะต้องปฏิบตั ิอย่ำงไร
ก. แจ้งกำนันภำยใน 10 วัน ค. แจ้งอำเภอหรื อเขตภำยใน 15 วัน
ข. แจ้งผูใ้ หญ่บำ้ นภำยใน 15 วัน ง. แจ้งต่อเจ้ำหน้ำที่ตำรวนภำยใน 15 วัน
28) เอกสำรทำงรำชกำรที่สำคัญที่ผขู ้ บั ขี่รถทุกชนิดจะต้องมีคือสิ่ งใด
ก. ใบขับขี่ ค. บัตรประจำตัวประชำชนฃ
ข. ทะเบียนสมรส ง. บัตรประจำตัวข้ำรำชกำร
29) ข้อใดไม่ ใช่ รูปแบบองค์กรปกครองส่วนภูมิภำค
ก. เทศบำล ค. หมู่บำ้ น
ข. ตำบล ง. อำเภอ
30) ตำบลที่มี 5 หมู่บำ้ นจะมีสมำชิกองค์กำรบริ หำรส่วนตำบลได้กี่คน
ก. 4 คน ค. 8 คน
ข. 6 คน ง. 10 คน
lls
สังคมศึกษา ป.6

31) ข้อใดคือควำมหมำยของคำว่ำ “วัฒนธรรม”


ก. วัฒนธรรมที่แสดงออกถึงควำมโดดเด่นของมนุษย์
ข. สิ่ งที่แสดงถึงควำมเจริ ญงอกงำมของมนุษย์ท้งั ด้ำนวัตถุและจิตใจ
ค. วัฒนธรรมแสดงออกถึงรู ปแบบกำรดำเนินชีวิตของมนุษย์
ง. วัฒนธรรมเป็ นระเบียบแบบแผน ขนบธรรมเนียมประเพณี ของชีวิต
32) ข้อใดคือวัฒนธรรมของภำคใต้
ก. กำรแข่งเรื อ ค. กำรแสดงหมอลำ
ข. กำรแสดงมโนรำห์ ง. กำรฟ้อนเล็บ
33) วัฒนธรรมประเพณี ขอ้ ใดเกี่ยวข้องกับพระพุทธศำสนำ
ก. ประเพณี แข่งเรื อ ค. ประเพณี ลอยกระทง
ข. ประเพณี สำรทเดือน 10 ง. ประเพณี สงกรำนต์
34) ข้อใดคือ “วัฒนธรรมประเภทวัตถุ”
ก. ภำษำท้องถิ่น ค. เกวียน
ข. จำรี ตประเพณี ง. ศำสนำ ภำษำ
35) “แกงเหลือง แกงไตปลำ” เป็ นวัฒนธรรมทำงด้ำนอำหำรของประชำชนในภำคใด
ก. ภำคใต้ ค. ภำคตะวันออกเฉียงเหนือ
ข. ภำคเหนือ ง. ภำคกลำง
36) มำรยำทในกำรแสดงควำมเคำรพด้วยกำรกรำบเรี ยนว่ำอะไร
ก. อัญชลี ค. อภิวำท
ข. วันทำ ง. นอบน้อม
37) กำรกรำบแบบเบญจำงคประดิษฐ์ อวัยวะที่สัมผัสพื้นมีกี่ส่วน
ก. 3 ส่วน ค. 5 ส่วน
ข. 4 ส่วน ง. 6 ส่วน
38) มำรยำทในกำรเดินผ่ำนผูใ้ หญ่ที่ดี ควรมีลกั ษณะอย่ำงไร
ก. เดินตัวตรงห่ำงจำกผูใ้ หญ่
ข. เดินค้อมตัวเล็กน้อย อยูห่ ่ ำงจำกผูใ้ หญ่พอสมควร ไม่เสี ยงดัง
ค. เดินอ้อมผ่ำนด้ำนหลังของผูใ้ หญ่
ง. เดินค้อมตัวอย่ำงนอบน้อมและแสดงควำมสนิทสนม
39) กำรประเคนของแด่พระสงฆ์โดยมือทั้งสองอยู่ห่ำงจำกพระสงฆ์ในระยะหัตถบำส เป็ นกำรถวำยของให้กบั พระสงฆ์
ของบุคคลใด
ก. ภิกษุณี ค. ผูช้ ำย
ข. สำมเณร ง. ผูห้ ญิง
40) มำรยำทในกำรทักทำยของคนไทยที่เหมำะสมมีลกั ษณะอย่ำงไร
ก. กำรยกมือไหว้อย่ำงสุ ภำพ ค. กำรกรำบด้วยควำมสุ ภำพ
ข. กำรโค้งคำนับด้วยควำมสุ ภำพ ง. กำรโค้งคำนับ และสัมผัสมืออย่ำงสุ ภำพ
lls
สังคมศึกษา ป.6

41) กำรปกครองส่วนท้องถิ่นจัดเป็ นกำรปกครองในลักษณะใด


ก. กำรกระจำยอำนำจ ค. กำรแบ่งอำนำจ
ข. กำรรวมอำนำจ ง. กำรให้อำนำจ
42) กำรจัดกำรปกครองส่วนท้องถิ่นแบบพิเศษเป็ นรู ปแบบกำรปกครองของข้อใด
ก. กรุ งเทพมหำนคร ค. นครรำชสี มำ
ข. เชียงใหม่ ง. สงขลำ
43) องค์กำรบริ หำรส่วนท้องถิ่นรู ปแบบใดที่มีควำมใกล้ชิดกับประชำชน
ก. องค์กำรบริ หำรส่วนหมู่บำ้ น ค. องค์กำรบริ หำรส่วนอำเภอ
ข. องค์กำรบริ หำรส่วนตำบล ง. องค์กำรบริ หำรส่วนจังหวัด
44) ประชำชนสำมำรถเข้ำไปมีส่วนร่ วมในกำรร่ ำงพระรำชบัญญัติได้โดยวิธีใด
ก. กำรชุมนุมหน้ำรัฐสภำ
ข. ประชำชน 10,000 คน ที่มีสิทธิเลือกตั้งเข้ำชื่อร้องต่อประธำนรัฐสภำ
ค. ประชำชน 10,000 คน ที่มีสิทธิ์เลือกตั้งเข้ำชื่อร้องต่อประธำนวุฒิสภำ
ง. กำรเลือกตั้งตัวแทนเข้ำไปร่ วมร่ ำงพระรำชบัญญัติ
45) กำรปกครองระบอบประชำธิปไตย ใครเป็ นผูท้ ี่มีสิทธิเลือกตั้ง
ก. ภิกษุ – สำมเณร ค. ผูว้ ิกลจริ ต
ข. ผูท้ ี่มีอำยุ 18 ปี บริ บูรณ์ข้ นึ ไป ง. ผูท้ ี่อยูร่ ะหว่ำงกำรถูกเพิกถอนสิ ทธิเลือกตั้ง
46) ผูผ้ ลิตที่ดีควรมีกำรใช้ทรัพยำกรในกำรผลิตในลักษณะใด
ก. ใช้ทรัพยำกรกำรผลิตที่นำเข้ำจำกต่ำงประเทศ ค. ใช้ทรัพยำกรอย่ำงประหยัดที่สุด
ข. เป็ นทรัพยำกรที่มีคุณภำพดีรำคำถูก ง. ใช้ทรัพยำกรที่มีคุณภำพดี รำคำแพง
47) ใครที่ถือเป็ นผูผ้ ลิตที่มีควำมรับผิดชอบต่อสิ่ งแวดล้อมมำกที่สุด
ก. ผูผ้ ลิตสิ นค้ำใช้วตั ถุดิบในท้องถิ่น ค. ผูผ้ ลิตสิ นค้ำที่เป็ นมิตรต่อสิ่ งแวดล้อม
ข. ผูผ้ ลิตสิ นค้ำที่มีตน้ ทุนต่ำ ง. ผูผ้ ลิตสิ นค้ำที่มีคุณภำพดี
48) กำรผลิตสิ นค้ำที่เป็ นมิตรกับสิ่ งแวดล้อมมีลกั ษณะสำคัญอย่ำงไร
ก. กำรผลิตสิ นค้ำที่หีบห่อใหญ่ ค. กำรผลิตสิ นค้ำที่ปล่อยควันพิษขึ้นสู่อำกำศ
ข. กำรผลิตสิ นค้ำที่ทำให้เกิดน้ ำเสี ย ง. กำรผลิตสิ นค้ำที่ไม่ก่อให้เกิดมลพิษ
49) สิ่ งจำเป็ นพื้นฐำนที่นำมำใช้ผลิตสิ นค้ำและบริ กำร เรี ยกว่ำอะไร
ก. ปัจจัยกำรผลิต ค. ผลผลิต
ข. กระบวนกำรผลิต ง. ลำดับขั้นตอนกำรผลิต
50) ผูบ้ ริ โภคที่ดีควรปฏิบตั ิอย่ำงไรในกำรเลือกซื้อสิ นค้ำ
ก. กำรสอบถำมรำคำจำกผูข้ ำย ค. กำรตรวจสอบที่มำของสิ นค้ำและบริ กำร
ข. กำรตรวจดูฉลำกของสิ นค้ำอย่ำงละเอียด ง. กำรตรวจดูหีบห่อ
51) พฤติกรรมใดของผูบ้ ริ โภคที่มีส่วนสำคัญทำให้ไทยขำดดุลกำรค้ำกับต่ำงประเทศมำกที่สุด
ก. นิยมใช้สินค้ำที่ผลิตในประเทศ ค. นิยมใช้สินค้ำที่ไร้มลพิษ
ข. นิยมใช้สินค้ำที่ผลิตจำกต่ำงประเทศ ง. นิยมใช้สินค้ำที่หำยำก
lls
สังคมศึกษา ป.6

52) สิ นค้ำและบริ กำรประเภทใดที่มีส่วนในกำรทำลำยสิ่ งแวดล้อมซึ่งผูบ้ ริ โภคควรหลีกเลี่ยงมำกที่สุด


ก. กำรท่องเที่ยว ค. อุตสำหกรรมในครัวเรื อน
ข. กำรซื้อไม้แปรรู ป ง. สิ นค้ำโอทอป
53) ทรัพยำกรมีควำมสำคัญต่อกำรดำรงชีวิตของมนุษย์ในด้ำนใดมำกที่สุด
ก. เป็ นปัจจัยพื้นฐำนในกำรดำรงชีวิตของมนุษย์ ค. เป็ นแหล่งกำเนิดเกี่ยวกับควำมเชื่อของมนุษย์
ข. เป็ นสถำนที่พกั ผ่อนหย่อนใจของมนุษย์ ง. เป็ นที่อยูข่ องเทพยดำ
54) ประเทศที่จะสำมำรถพัฒนำประเทศให้มีควำมเจริ ญรุ่ งเรื องอย่ำงรวดเร็ ว ควรมีลกั ษณะเป็ นอย่ำงไร
ก. มีขนำดพื้นที่มำก ค. มีทรัพยำกรอุดมสมบรณ์
ข. พื้นที่เล็กง่ำยต่อกำรพัฒนำ ง. มีเส้นทำงคมนำคมสะดวกสบำย
55) ข้อใดคือผลตอบแทนของผูป้ ระกอบกำร
ก. กำไร ค. ดอกเบี้ย
ข. ค่ำจ้ำง ง. ค่ำเช่ำ
56) ข้อใดคือกำรใช้ปัจจัยกำรผลิตอย่ำงมีประสิ ทธิภำพ
ก. ใช้ให้เกิดควำมพึงพอใจมำกที่สุด
ข. ใช้ให้เกิดกำรสู ญเสี ยน้อยที่สุด แต่สร้ำงประโยชน์มำกที่สุด
ค. ใช้ให้คมุ้ ค่ำกับจำนวน เวลำ และกำรลงทุน
ง. ใช้ให้เกิดควำมพึงพอใจให้มำกที่สุด
57) ควำมต้องกำรบริ โภคสิ นค้ำและบริ กำรของประชำชนมีลกั ษณะใด
ก. มีควำมต้องกำรจำกัด
ข. มีควำมต้องกำรไม่จำกัด
ค. มีควำมต้องกำรเฉพำะสิ นค้ำและบริ กำรที่จำเป็ น
ง. มีควำมต้องกำรเฉพำะสิ นค้ำทีนำเข้ำจำกต่ำงประเทศ
58) กำรออมของประชำชนจะมีมำกขึ้นเมื่อมีเหตุกำรณ์ใด
ก. ประชำชนมีรำยได้เพิ่มขึ้น ค. ประชำชนมีรำยได้นอ้ ยลง
ข. ประชำชนมีรำยได้เท่ำเดิม ง. ประชำชนมีหนี้สินลดลง
59) หน่วยครัวเรื อนในทำงเศรษฐศำสตร์มีลกั ษณะเป็ นอย่ำงไร
ก. เป็ นหน่วยเศรษฐกิจที่มีควำมสำคัญมำกที่สุด
ข. เป็ นหน่วยธุรกิจที่มีขนำดใหญ่มำกที่สุด
ค. เป็ นหน่วยเศรษฐกิจที่มีขนำดเล็กมำกที่สุด
ง. เป็ นหน่วยเศรษฐกิจที่ทำหน้ำที่ผลิตสิ นค้ำและบริ กำรอย่ำงเดียว
60) หน่วยธุรกิจในทำงเศรษฐศำสตร์มุ่งหวังอะไรเป็ นสิ่ งตอบแทนมำกที่สุด
ก. รำงวัล ค. ควำมเป็ นอยูท่ ี่ดีของประชำชน
ข. กำไร ง. ควำมยุติธรรม
lls
สังคมศึกษา ป.6

61) กำรจัดเก็บภำษีในลักษณะใดที่จดั เป็ นภำษำทำงตรงที่มีควำมสำคัญมำกที่สุด


ก. ภำษีมรดก ค. ภำษีมูลค่ำเพิ่ม
ข. ภำษีเงินได้ ง. ภำษีสรรพสำมิต
62) หน่วยงำนในกำรจัดเก็บภำษีที่มีควำมสำคัญมำกที่สุดคือหน่วยงำนใด
ก. กรมสรรพำกร ค. กรมศุลกำกร
ข. กรมสรรพสำมิต ง. กรมกำรค้ำภำยใจ
63) “ภำษีรถยนต์” เป็ นภำษีที่จดั เก็บโดยหน่วยงำนใด
ก. กระทรวงมหำดไทย ค. กระทรวงพำณิ ชย์
ข. กระทรวงคมนำคม ง. กระทรวงกำรคลัง
64) กฎหมำยแรงงำนของไทยได้ห้ำมไม่ให้นำยข้ำงจ้ำงบุคคลใดทำงำน
ก. ผูเ้ ป็ นเอดส์ ค. เด็กที่มีอำยุต่ำกว่ำ 15 ปี
ข. ผูพ้ ิกำร ง. สตรี ต้งั ครรภ์
65) กฎหมำยแรงงำนของไทยห้ำมเด็กและสตรี ทำงำนในช่วงเวลำใด
ก. 06.00 – 12.00 น. ค. 17.00 – 22.00 น.
ข. 12.00 – 16.00 น. ง. 22.00 – 06.00 น.
66) วิธีกำรทำงประวัติศำสตร์ หมำยถึงข้อใด
ก. กำรศึกษำโดยอำศัยกำรทำนำยของโหร ค. กำรศึกษำโดยไม่ตอ้ งหำหลักฐำนใด ๆ
ข. กำรรวบรวมหลักฐำนอย่ำงรอบคอบ ง. กำรศึกษำโดยผูเ้ ชี่ยวชำญเท่ำนั้น
67) ขั้นตอนแรกของวิธีกำรทำงประวัติศำสตร์ คือข้อใด
ก. กำรศึกษำข้อมูล ค. ปรึ กษำผูร้ ู ้
ข. กำรกำหนดหัวข้อ ง. กำรรวบรวมหลักฐำน
68) กำรเลิกทำสของไทยเกิดขึ้นในรัชกำลใดของกรุ งรัตนโกสิ นทร์
ก. รัชกำลที่ 3 ค. รัชกำลที่ 5
ข. รัชกำลที่ 4 ง. รัชกำลที่ 6
69) กรุ งเทพมหำนครมีอำยุครบ 200 ปี ใน พ.ศ. ใด
ก. 2325 ค. 2475
ข. 2425 ง. 2525
70) “กฎหมำยตรำสำมดวง” ที่ประกำศใช้ในกรุ งรัตนโกสิ นทร์ ตรงกับสมัยของรัชกำลใด
ก. รัชกำลที่ 1 ค. รัชกำลที่ 3
ข. รัชกำลที่ 2 ง. รัชกำลที่ 4
71) ตรำพระรำชสี ห์ในกฎหมำยตรำสำมดวงเป็ นตรำประจำตำแหน่งของใคร
ก. สมุหนำยก ค. พระยำพระคลัง
ข. สมุหกลำโหม ง. กรมวัง
lls
สังคมศึกษา ป.6

72) หลักฐำนชั้นต้นทำงประวัติศำสตร์ หมำยถึงข้อใด


ก. หลักฐำนที่เกดขึ้นในยุคเดียวกับเหตุกำรณ์น้ นั ค. หลักฐำนที่เกิดภำยหลักเหตุกำรณ์น้ นั
ข. หลักฐำนที่กล่ำวถึงเหตุกำรณ์น้ นั ง. หลักฐำนที่เกิดในยุคใกล้เคียงกับเหตุกำรณ์น้ นั
73) วัฒนธรรมของจีนที่มีอิทธิพลต่อประชำชนในภูมิภำคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มำกที่สุด คือด้ำนใด
ก. ศำสนำ ค. กำรค้ำ
ข. กำรเมืองกำรปกครอง ง. กำรทหำร
74) พระรำชวังเดิมสมัยธนุบรี ตั้งอยูร่ ะหว่ำงวัดใด
ก. วัดอรุ ณรำชวรำรำมกับวัดกัลยำณี
ข. วัดอรุ ณรำชวรำรำมกับวัดพระเชตุพนฯ
ค. วัดอรุ ณรำชวรำรำมกับวัดโมลีโลกฯ
ง. วัดอรุ ณรำชวรำรำมกับวัดพระศรี รัตนศำสดำรำม
75) กฎหมำยที่ใช้ในกำรปกครองประเทศ สมัยรัตนโกสิ นทร์ตอนต้น เรี ยกว่ำอะไร
ก. กฎหมำยตรำสำมดวง ค. กฎหมำยจตุสดมภ์
ข. กฎหมำยรัฐธรรมนูญ ง. กฎหมำยนิติบญั ญัติ
76) สมำคมประชำชำติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีจุดมุ่งหมำยสำคัญเพื่อร่ วมมือกันพัฒนำในด้ำนใดมำกที่สุด
ก. เศรษฐกิจ ค. กำรศึกษำ
ข. วัฒนธรรม ง. วิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี
77) พระมหำกษัตริ ยพ์ ระองค์ใดเป็ นผูส้ ถำปนำกรุ งรัตนโกสิ นทร์
ก. พระบำทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้ำจุฬำโลกมหำรำช
ข. พระบำทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้ำสภำลัย
ค. พระบำทสมเด็จพระจอมเกล้ำเจ้ำอยูห่ วั
ง. พระบำทสมเด็จพระจุลจอมเกล้ำเจ้ำอยูห่ วั
78) หัวเมืองที่อยูห่ ่ำงรำชธำนีออไปโดยแบ่งชั้น เอก โท ตรี ตำมขนำดและควำมสำคัญ คือหัวเมืองใด
ก. หัวเมืองชั้นใน ค. หัวเมืองลูกหลวง
ข. หัวเมืองชั้นนอก ง. หัวเมืองประเทศรำช
79) “วรรณกรรมเรื่ องไกลบ้ำน” เป็ นพระรำชนิพนธ์ในพระมหำกษัตริ ยพ์ ระองค์ใดของกรุ งรัตนโกสิ นทร์
ก. รัชกำลที่ 2 ค. รัชกำลที่ 4
ข. รัชกำลที่ 3 ง. รัชกำลที่ 5
80) วัดสำคัญวัดที่สร้ำงคู่บำ้ นคู่เมืองของกรุ งรัตนโกสิ นทร์
ก. วัดพระศรี รัตนศำสดำรำม ค. วัดเบญจมบพิตร
ข. วัดรำชนัดดำ ง. วัดสุ ทศั นเทพวรำรำม
81) หำกเรำต้องกำรทรำบพิกดั ทำงภูมิศำสตร์จะต้องสังเกตจำกสิ่ งใด
ก. เส้นละติจูดและเส้นโครงแผนที่ตดั กัน ค. เส้นศูนย์สูตรและเส้นละติจูดตัดกัน
ข. เส้นลองจิจูดและเส้นศูนย์สูตรตัดกัน ง. เส้นละติจูดและเส้นลองจิจูดตัดกัน
lls
สังคมศึกษา ป.6

82) “ภำพถ่ำยทำงอำกำศ” เป็ นภำพ่ำยที่ได้รับมำจำกกำรใช้พำหนะใดในกำรถ่ำยภำพ


ก. จรวด ค. เครื่ องบินสำรวจ
ข. เครื่ องบินโดยสำร ง. บอลลูน
83) กำรแสดงรำยละเอียดต่ำง ๆ บนพื้นผิวโลก จะแสดงด้วยอะไร
ก. สัญลักษณ์ ค. ทิศทำง
ข. มำตรำส่วน ง. พิกดั ทำงภูมิศำสตร์
84) สิ่ งใดไม่ ใช่ องค์ประกอบของแผนที่
ก. ชื่อของแผนที่ ค. ทิศทำงของแผนที่
ข. ขอบระวำงของแผนที่ ง. ขนำดของแผนที่
85) กำรทำงำนของดำวเทียมมีควำมเกี่ยวข้องกับสิ่ งใด
ก. คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ำ ค. ชั้นโอโซนในชั้นบรรยำกำศ
ข. สภำพภูมิอำกำศ ง. แสงของดวงอำทิตย์
86) ปัญหำกำรเกิดอุทกภัยด้วยอิทธิพลของลมมรสุ มตะวันตกเฉียงใต้เป้นปัญหำในพื้นที่ใดของประเทศไทยมำกที่สุด
ก. ภำคใต้ฝั่งตะวันออก ค. ภำคเหนือ
ข. ภำคใต้ฝั่งตะวันตก ง. ภำคกลำง
87) ลักษณะดินตะกอนอันอุดมสมบูรณ์ซ่ ึงเป็ นเขตเกษตรกรรมที่สำคัญพบในภำคใด
ก. ภำคตะวันออก ค. ภำคตะวันออกเฉียงเหนือ
ข. ภำคกลำง ง. ภำคใต้
88) เพรำะเหตุใดภำคเหนือจึงมีป่ำไม้อุดมสมบูรณ์มำกกว่ำภำคอื่น
ก. มีฝนตกชุกตลอดปี ค. มีประชำกรน้อย
ข. เป็ นพื้นที่ป่ำอนุรักษ์ตน้ น้ ำลำธำร ง. พื้นที่ส่วนใหญ่เป็ นภูเขำสู ง
89) ข้อใดเป็ นสำเหตุของกำรเกิดน้ ำท่วม
ก. กำรตัดไม้ทำลำยป่ ำ ค. กำรสร้ำงคันกั้นน้ ำ
ข. กำรปลูกป่ ำทดแทน ง. กำรขุดร่ องน้ ำคู่ขนำนลำน้ ำ
90) อำหำรของประชำชนในภำคใต้มีลกั ษณะที่สัมพันธ์กบั คำตอบในข้อใด
ก. เป็ นอำหำรที่มีไขมันสู ง ค. เป็ นอำหำรที่มีส่วนประกอบของผักมำก
ข. เป็ นอำหำรประเภทแกงรสจัด ง. เป็ นอำหำรที่มีรสชำติจืด
91) พื้นที่ในภำคเหนือและภำคตะวันออกเฉียงเหนือจะได้รับผลกระทบจำกปัญหำวำตภัยที่เกิดจำกลมชนิดใด
ก. พำยุใต้ฝนุ่ ค. พำยุโซนร้อน
ข. พำยุฤดูร้อน ง. พำยุดีเปรสชัน
92) ภูมิประเทศแบบใดที่เหมำะสมสำหรับสร้ำงเขื่อนเพื่อกักน้ ำไว้ทำพลังงำนไฟฟ้ำ
ก. ที่รำบลุ่ม ค. ที่รำบระหว่ำงภูเขำ
ข. ที่รำบ ง. ยอดเขำ
lls
สังคมศึกษา ป.6

93) ข้อใดจัดเป็ นลักษณะของเครื่ องมือเครื่ องใช้ในกำรดำเนินชีวิตประจำวันของประชำชนในภำคใต้


ก. เครื่ องมือแกะสลักไม้ ค. เครื่ องมือประมงน้ ำเค็ม
ข. เครื่ องมือประมงน้ ำจืด ง. เครื่ องทำป่ ำไม้
94) ลักษณะกำรสร้ำงบ้ำนเรื อนที่มีกำแลเป็ นของภำคใด
ก. ภำคเหรื อ ค. ภำคใต้
ข. ภำคกลำง ง. ภำคตะวันตก
95) สภำพแวดล้อมทำงธรรมชำติที่สำคัญของภำคกลำงมีลกั ษณะอย่ำงไร
ก. เป็ นที่รำบลุ่มที่ดินขำดควำมอุดมสมบูรณ์ ค. เป็ นที่รำบลุ่ม่แม่น้ ำที่อุดมสมบูรณ์
ข. เป็ นที่รำบลุ่มระหว่ำงเชิงเขำที่แห้งแล้ง ง. เป็ นที่รำบลูกฟูกที่อุดมสมบูรณ์
96) ข้อใดเป็ นสิ่ งแวดล้อมทำงสังคม
ก. แม่น้ ำ ค. อำกำศ
ข. ป่ ำไม้ ง. กฎหมำย
97) กำรเปลี่ยนแปลงสภำพธรรมชำติของไทยส่วนใหญ่เกิดมำจำกกำรกระทำของสิ่ งใด
ก. เกิดจำกไฟป่ ำ ค. เกิดจำกฝน
ข. เกิดจำแรงลม ง. เกิดจำกมนุษย์
98) กำรอนุรักษ์ทรัพยำกรในชุมชนจะประสบผลสำเร็ จหำกได้รับควำมร่ วมมือจำกใคร
ก. หน่วยงำนรำชกำร ค. ประชำชนในท้องถิ่น
ข. นักกำรเมืองในท้องถิ่น ง. องคกำรบริ หำรส่วนท้องถิ่น
99) “ภำวะเรื อนกระจก” เป็ นภำวะที่อุณหภูมิของโลกเพิ่มสู งขึ้นอย่ำงรวดเร็ ว ใครที่จะได้รับผลกระทบมำกที่สุด
ก. คนทำงำนกลำงแดด ค. แรงงำนในโรงงำน
ข. เกษตรกรที่ทำงำนในไร่ นำ ง. ประชำชนทุกคน
100) กำรใช้ทรัพยำกรอย่ำงรู ้คุณค่ำสำมำรถทำได้โดยวิธีใดจึงจะมีควำมเหมำะสมมำกที่สุด
ก. กำรใช้ทรัพยำกรที่หำได้ในท้องถิ่น ค. กำรใช้ทรัพยำกรอย่ำงมีประสิ ทธิภำพสู งสุ ด
ข. กำรใช้ทรัพยำกรที่นำเข้ำจำกต่ำงประเทศ ง. กำรใช้ทรัพยำกรตำมควำมต้องกำร
lls
สังคมศึกษา ป.6

เฉลย

1) ง 11) ก 21) ข 31) ข 41) ก 51) ข 61) ข 71) ก 81) ง 91) ข


2) ข 12) ง 22) ค 32) ข 42) ก 52) ข 62) ก 72) ก 82) ค 92) ค
3) ก 13) ข 23) ง 33) ข 43) ข 53) ก 63) ข 73) ค 83) ก 93) ค
4) ง 14) ก 24) ข 34) ค 44) ข 54) ค 64) ค 74) ค 84) ง 94) ก
5) ก 15) ง 25) ง 35) ก 45) ข 55) ก 65) ง 75) ก 85) ก 95) ค
6) ข 16) ข 26) ค 36) ค 46) ค 56) ข 66) ข 76) ก 86) ข 96) ง
7) ง 17) ค 27) ค 37) ค 47) ค 57) ข 67) ข 77) ก 87) ข 97) ง
8) ค 18) ก 28) ก 38) ข 48) ง 58) ก 68) ค 78) ข 88) ข 98) ค
9) ค 19) ข 29) ก 39) ค 49) ก 59) ค 69) ง 79) ง 89) ก 99) ง
10) ข 20) ง 30) ง 40) ก 50) ข 60) ข 70) ก 80) ก 90) ข 100) ค

You might also like