ข้อสอบครูผู้ช่วยไฟล์ PDF

หน้า 1
แนวข้อสอบ ภาค ก. สอบครูผู้ช่วย เกณฑ์ใหม่ 2564
ความสามารถทั่วไป
***ห้ามนำไปเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาต***
หน้า 2
เจาะข้อสอบความสามารถด้านตัวเลข ชุดที่ 1
1. 3, 3, 18, 4, 5, 60, 5, 7, .... จงหาตัวเลขในลำดับถัดไป

ก. 120 ข. 130 ค. 140 ง. 150
2. นกเอี้ยงกับควายอยู่กลางทุ่งรวมกัน นับหัวของสัตว์ทั้งสองรวมกันได้ 110 หัว แต่ถ้านับขารวมกันได้
300 ขา อยากทราบว่ามีควายกี่ตัว
ก. 35 ตัว ข. 40 ตัว ค. 45 ตัว ง. 50 ตัว
3. 1, 4, 13, 40, .... จงหาตัวเลขในลำดับถัดไป
ก. 121 ข. 123 ค. 132 ง. 135
4. นาฬิกาเรือนหนึ่งเดินเร็วไปนาทีละวินาทีครึ่ง ถ้าตั้งให้ตรงเวลาจริงในเวลาเที่ยงวัน เมื่อเวลา 17.20 น.
นาฬิกาเรือนนี้จะชี้เวลาเท่าใด
ก. 17.26 ข. 17.28 ค. 17.30 ง. 17.32
5. ควาย 5 ตัว กินหญ้าหมดไป 14 วัน ถ้ามีความเพิ่มอีก 2 ตัว จะกินหญ้าหมดภายในกี่วัน
ก. 8 วัน ข. 9 วัน ค. 10 วัน ง. 11 วัน
6. 6. เขียว ขาว เหลือง อายุในปีนี้รวมกันได้ 30 ปีพอดี อีก 3 ปีข้างหน้าเขียวจะมีอายุ 16 ปี และอายุ
ขาวจะเพิ่มขึ้นจากปีนี้ 30% อยากทราบว่าปีนี้เหลืองอายุเท่าไร
ก. 7 ปี ข. 8 ปี ค. 9 ปี ง. 10 ปี
7. 1, 0, -1, 2, -3, 4 .....จงหาตัวเลขในลำดับถัดไป
ก. -5 ข. -7 ค. 5 ง. 7
8. ก ขับรถไปยังเมือง ข ด้วยอัตราความเร็ว 60 กม./ชม. ขากลับเขาขับด้วยอัตราเร็ว 40 กม./ชม. ถ้า
ระยะทางที่ขับเท่ากับ 240 กม. อยากทราบว่าความเร็วเฉลี่ยทั้งขาไปและขากลับเท่ากับเท่าไร
ก. 45 กม./ชม. ข. 48 กม./ชม. ค. 60 กม./ชม. ง. 64 กม./ชม.
9. บริษัทแห่งหนึ่งถึงวันปีใหม่พนักงานทุกคนจะส่งบัตรอวยพรให้ซึ่งกันและกันครบทุกคน ถ้าปรากฏว่ามี
บัตรอวยพรถึง 1,260 ใบ อยากทราบว่าบริษัทนี้มีพนักงานทั้งหมดกี่คน
ก. 32 คน ข. 36 คน ค. 38 คน ง. 40 คน
10. a, b, c, d เป็นจำนวนที่เรียงจากน้อยไปมาก โดยมีฐานนิยมเท่ากับ 25 มัธยฐานเท่ากับ 26 และ
ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 28 จงหาค่าของ |a - d|
ก. 7 ข. 8 ค. 9 ง. 10
11. กำหนดแบบรูป 3, 5, a, 13, 21, b, 55, 89, 144, c, .... แล้ว a + b + c มีค่าเท่าใด
ก. 245 ข. 255 ค. 265 ง. 275
หน้า 3
12. จงหาขนาดของมุมภายในของรูป 11 เหลี่ยม

ก. 1,440 องศา ข. 1,620 องศา ค. 1,800 องศา ง. 1,980 องศา
13. ถ้า 10B = 3B - 70 แล้ว 2B + 70 เท่ากับเท่าไร
ก. 35 ข. 40 ค. 45 ง. 50
14. กำหนดแบบรูป
ค่า A มีค่าเท่ากับเท่าไร
ก. 128 ข. 130 ค. 132 ง. 134
15. กำหนดให้ A ◊ B = 3A - B จงหา 2 ◊ (3 ◊ 2)
ก. 0 ข. -1 ค. 1 ง. -2
16. 46 49 43 ..... 42 47 43 จงหาตัวเลขที่หายไป
ก. 42 ข. 43 ค. 46 ง. 47
17. จงหาตัวเลขที่หายไป
12 9 6 3 0
? 83 38 11 2
ก. 144 ข. 145 ค. 146 ง. 147

18. กำหนดให้ M เป็นจำนวนเต็มบวกที่น้อยที่สุดที่หาร 48, 120 และ 180 แล้ว MN = 640,800 ค่าของ
M + N มีค่าเท่าใด
ก. 720 ข. 890 ค. 1,610 ง. 1,890
19. ถ้าจำนวนนับ a, b และ c ที่มากกว่า 1 มีผลคูณเป็น a x b x c = 15,867 แล้ว a + b + c มีค่าน้อย
ที่สุดตรงกับข้อใด
ก. 93 ข. 95 ค. 97 ง. 99
20. ถ้า A, B และ C เป็นจำนวนนับที่แตกต่างกัน โดยที่ A + B = 10, B + C = 14 และ A + C = 12
ดังนั้น ค่าของ A + B + C ตรงกับข้อใด
ก. 18 ข. 24 ค. 28 ง. 32
หน้า 4
21. ข้อใดต่อไปนี้มีค่ามากที่สุด
ก. ((2 + 2)2)2 ข. (2 + 2 + 2)2 ค. (2 x 2 x 2)2 ง. (2 + 2)2 + 22
22. ถ้าผลบวกของจำนวนสองจำนวนเท่ากับ 20 และผลคูณของสองจำนวนนั้นเท่ากับ 64 แล้วผลหาร
ของสองจำนวนนั้นที่เป็นจำนวนเต็มเป็นเท่าไร
ก. 4 ข. 6 ค. 16 ง. 64
23. ข้อใดต่อไปนี้เป็นจริง
ก. 21000 < 3600 < 10300 ข. 3600 < 21000 < 10300
ค. 3600 < 10300 < 21000 ง. 10300 < 21000 < 3600
24. มุมภายในของรูปสามเหลี่ยมรูปหนึ่งมีอัตราส่วนเป็น 2 : 3 : 4 มุมที่ใหญ่ที่สุดของสามเหลี่ยมรูปนี้มี
ขนาดกี่องศา
ก. 50 องศา ข. 60 องศา ค. 70 องศา ง. 80 องศา
25.
6 30 - -
- 180 900 -
216 - ? 27,000
ก. 1,800 ข. 3,600 ค. 5,400 ง. 7,200

26. ข้อใดมีค่ามากที่สุด
ก. 90% ของ 10% ของ 80 ข. 80% ของ 20% ของ 80
ค. 30% ของ 70% ของ 80 ง. 40% ของ 60% ของ 80
27. 7 15 47 191 959 .... จงหาตัวเลขในลำดับถัดไป
ก. 4,285 ข. 4,759 ค. 5,285 ง. 5,759
6.25 x 6.25 - 4.25 x 4.25
28. จงหาค่าของ
6.25 + 4.25
ก. 0 ข. 2 ค. 4.25 ง. 6.25
29. ถนนสายหนึ่งยาว 440 เมตร ถ้าปักเสาไฟจากจุดเริ่มต้นไปตลอดถนนให้ห่างกัน ต้นละ 11 เมตร
จะต้องใช้เสากี่ต้น
ก. 40 ต้น ข. 41 ต้น ค. 42 ต้น ง. 43 ต้น
หน้า 5
30. ปรีชากู้เงินจากธนาคาร 1,500,000 บาท เพื่อสร้างบ้าน อัตราดอกเบี้ย 3.65% ต่อปี ปรีชากู้เป็น

ระยะเวลา 1.5 ปี จะต้องจ่ายดอกเบี้ยเท่าไร
ก. 62,000 บาท ข. 72,200 บาท ค. 82,200 บาท ง. 92,000 บาท
31. ถ้า (93)n = 312 แล้ว n มีค่าเท่าไร
ก. 2 ข. 3 ค. 4 ง. 5
32. ประกาศติดราคาสินค้าไว้สูงกว่าทุน 10% ต่อมาปรากฏว่าลดราคาให้ผู้ซื้อ 10% อยากทราบว่ามีกำไร
ขาดทุนเท่าใด
ก. กำไร 1% ข. ขาดทุน 1% ค. กำไร 10% ง. ขาดทุน 10%
33. นักเรียน 30 คน ทุกคนจับมือกันจนครบทุกคน จะมีการจับมือกันทั้งหมดกี่ครั้ง
ก. 900 ครั้ง ข. 870 ครั้ง ค. 450 ครั้ง ง. 435 ครั้ง
34. จงหาผลบวกของเลขคู่ตั้งแต่ 2 – 20
ก. 220 ข. 200 ค. 185 ง. 110
35. ก มีเงินอยู่ 24 บาท ข มีเงินมากกว่าครึ่งหนึ่งของ ก อยู่ 6 บาท อยากทราบว่า ข มีเงินกี่บาท
ก. 18 บาท ข. 17 บาท ค. 16 บาท ง. 15 บาท
36. 1 3 5 81 4 5 6 225 7 8 9 ..... จงหาตัวเลขในลำดับถัดไป
ก. 256 ข. 361 ค. 484 ง. 576
37. 0 5 22 57 116 ..... จงหาตัวเลขในลำดับถัดไป
ก. 189 ข. 195 ค. 205 ง. 214
ก. 32 ข. 49 ค. 64 ง. 125
39. 1 33 83 67 29 ...... จงหาตัวเลขในลำดับถัดไป
ก. 11 ข. 14 ค. 17 ง. 22
40. 10 19 35 60 ..... จงหาตัวเลขในลำดับถัดไป
ก. 69 ข. 72 ค. 84 ง. 96
41. 64 32 16 ..... จงหาตัวเลขในลำดับถัดไป
ก. 5 ข. 8 ค. 10 ง. 12
42. …. 6005 4007 2009
ก. 7006 ข. 7003 ค. 8006 ง. 8003
43. รูปวงกลมซึ่งมีความยาวเส้นรอบวง เท่ากับ 450 เมตร ถ้าให้เด็กไปยืนบนเส้นรอบวงโดยเด็กแต่ละคน
ยืนห่างกัน 10 เมตร จะต้องใช้เด็กจำนวนกี่คน
ก. 40 คน ข. 45 คน ค. 48 คน ง. 50 คน
หน้า 6

ก. 152 ข. 145 ค. 125 ง. 112
45. จงหาตัวที่ผิดแทรกอยู่ในลำดับ 105 85 60 30 0 -45 -90
ก. 85 ข. 30 ค. 0 ง. -45
46. 62564 + 2 x 62564 + 3 x 62564 มีค่าเท่ากับเท่าใด
ก. 62565 ข. 5 + 62567 ค. 6 + 62567 ง. 62567
47. 15 + 17 + 19 + ... + 53 เท่ากับข้อใด

ก. 480 ข. 580 ค. 680 ง. 780
48. ผลบวกของจำนวนคี่ 4 จำนวนเรียงกันจากน้อยไปมาก เท่ากับ 200 ถ้า a เป็นจำนวนคี่ตัวน้อยสุด
และ b เป็นจำนวนคี่ตัวมากสุด แล้ว 2a + 3b เท่ากับข้อใด
ก. 253 ข. 543 ค. 233 ง. 223
3
(52 ) ×5-3
49. เท่ากับเท่าไร
25
1
ก. ข. 5 ค. 25 ง. 125
5
50. จงหาพื้นที่แรเงา
ก. 42 หน่วย ข. 49 หน่วย
7 หน่วย
ค. 144 หน่วย ง. 156 หน่วย
51. ในงานวันเด็กของหมู่บ้านแห่งหนึ่ง มีผู้มาร่วมงานทั้งหมด 72 คน

1
โดย ของผู้มาร่วมงานทั้งหมดเป็นผู้ใหญ่ ส่วนที่เหลือเป็นเด็ก
9
3
ถ้า ของเด็กที่มาร่วมงานเป็นเด็กผู้ชาย แล้วมีเด็กผู้หญิงมาร่วมงานกี่คน
8
ก. 40 คน ข. 42 คน ค. 45 คน ง. 48 คน
3
52. √256 - √64 มีค่าเท่ากับเท่าไร
ก. 9 ข. 12 ค. 15 ง. 18
หน้า 7
7 1
53. 2-
2 × 32 ×5 22 × 32 ×5
มีค่าเท่ากับเท่าไร
ก. 0.1 ข. 0.01 ค. 7 ง. 10
54. นักเรียน 5 คน สอบคณิตศาสตร์ได้คะแนนเฉลี่ย 45 คะแนน ถ้าบวกคะแนน นักเรียนคนที่ 6 เข้าไปจะ
ได้คะแนนเฉลี่ย 50 คะแนน จงหาคะแนนนักเรียนคนที่ 6
ก. 45 ข. 50 ค. 65 ง. 75
7 9 13 21 37
55. ...
3 15 35 63 99
65 69 65 69
ก. ข. ค. ง.
139 139 143 143
56. ประชากรเมือง A มี 6,800 คน ทุกๆ ปีประชากรจะลดลงปีละ 120 คน ประชากรเมือง B มี 4,200
คน ทุกๆ ปีประชากรจะเพิ่มขึ้นปีละ 80 คน อยากทราบว่าอีกกี่ปีประชากรทั้งสองเมืองถึงจะเท่ากัน
ก. 9 ปี ข. 11 ปี ค. 13 ปี ง. 14 ปี
57. มีนักเรียนชายอยู่ 8 คน ส่วนสูงเฉลี่ย 160 เซนติเมตร นักเรียนหญิง 12 คน ส่วนสูงเฉลี่ย 150
เซนติเมตร จงหาส่วนสูงเฉลี่ยของนักเรียนทั้งหมด
ก. 152 เซนติเมตร ข. 154 เซนติเมตร ค. 156 เซนติเมตร ง. 158 เซนติเมตร
58. กล่องใบหนึ่งใส่ลูกบอลสีชมพู 2 ลูก สีเหลือง 4 ลูก และสีเขียว 6 ลูก สุ่มหยิบ 1 ลูก จงหาโอกาสที่จะ
ได้สีชมพูหรือสีเขียว
1 1 2 3
ก. ข. ค. ง.
12 2 3 4
59. ผู้ชาย 8 คน ทำงานชิ้นหนึ่งเสร็จใน 6 วัน ถ้าผู้ชาย 12 คน ทำงานเดียวกัน จะเสร็จในกี่วัน
60. จำนวนนับ 5 จำนวนเรียงกัน บวกกันได้ 485 จงหาจำนวนที่ 3

ก. 95 ข. 96 ค. 97 ง. 98
61. ปรีชาขับรถ 28 กิโลเมตร/ลิตร ถ้าปรีชาเติมน้ำมัน 500 บาท ราคาน้ำมันลิตรละ 25 บาท ปรีชาจะขับ
รถได้กี่กิโลเมตร
ก. 540 กิโลเมตร ข. 560 กิโลเมตร ค. 580 กิโลเมตร ง. 640 กิโลเมตร
62. จำนวนคู่ 3 จำนวนเรียงกันตามลำดับ บวกกันได้ 24 จงหาผลคูณของสองจำนวนหลัง
ก. 48 ข. 60 ค. 80 ง. 100
หน้า 8
63. 2 4 12 ...... 240

ก. 48 ข. 56 ค. 64 ง. 72
64. 1 2 5 10 17 26 37 50 64 จงหาตัวผิดที่แทรกอยู่ในลำดับ
ก. 5 ข. 17 ค. 37 ง. 64
3
65. เป็นกี่เปอร์เซ็นต์ของ 25
10
ก. 120% ข. 12% ค. 1.2% ง. 0.12%
66. 1 6 25 64 81 ...
ก. 144 ข. 100 ค. 64 ง. 32
67. จงหาเลขจำนวนมากที่สุดที่หาร 162 246 และ 282 แล้วเหลือเศษ 6 เท่ากัน
ก. 8 ข. 12 ค. 16 ง. 20
68. เลข 5 จำนวนเรียงกัน รวมกันได้ 175 และมีผลต่างของจำนวนที่ติดกันเท่ากับ 5 จงหาเลขจำนวน
มากที่สุด
ก. 30 ข. 35 ค. 40 ง. 45
69. ค.ร.น. ของเลข 2 จำนวนเป็น 10 เท่าของ ห.ร.ม. ถ้า ห.ร.ม. เท่ากับ 8 และเลขจำนวนน้อย เท่ากับ
16 จงหาเลขจำนวนมาก
ก. 20 ข. 30 ค. 40 ง. 50
70. 1 33 83 67 29 ......
ก. 32 ข. 28 ค. 18 ง. 11
71. 10 19 35 60 ......
ก. 72 ข. 81 ค. 88 ง. 96
72. 144 1 72 2 36 6 18 24 ......
ก. 9 ข. 11 ค. 13 ง. 15
73. 2 30 7 25 12 20 ......
ก. 13 ข. 15 ค. 17 ง. 19
74. 1 3 7 15 ......
ก. 31 ข. 35 ค. 39 ง. 45
หน้า 9
75. ข้อมูลแสดงจำนวนนักศึกษาที่สำเร็จการศึกษาในปี 2563 ของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งจำนวน 1,200

คน อยากทราบว่านักศึกษาที่จบคณะนิติศาสตร์มากกว่านักศึกษาที่จบคณะสังคมศาสตร์กี่ %
ก. 30% ข. 50%
ค. 70% ง. 80%
สังคมศาสตร์
นิติศาสตร์ 20%
30% อื่นๆ
10%
รัฐศาสตร์
40%
76. 2 2 8 20 56 ...
ก. 152 ข. 144 ค. 132 ง. 124
77. ถนนเส้นหนึ่งยาว 8,000 เมตร ถ้ามีเสาไฟฟ้าทุกๆ 100 เมตร อยากทราบว่าถนนแห่งนี้
มีเสาไฟฟ้ากี่ต้น
ก. 80 ต้น ข. 81 ต้น ค. 82 ต้น ง. 83 ต้น
ก. 40 คน ข. 42 คน ค. 44 คน ง. 45 คน
79. ผลต่างของ 5% ของ 270 กับ 10% ของ 91 มีค่าเท่าไร
ก. 4.4 ข. 3.4 ค. 2.4 ง. 1.4
80. ประชากรในหมู่บ้านหนึ่ง เพิ่มจาก 5,000 คน เป็น 11,000 คน ประชากรเพิ่มขึ้นร้อยละเท่าไร
ก. 12% ข. 60% ค. 90% ง. 120%
หน้า 10
เฉลยเจาะข้อสอบความสามารถด้านตัวเลข ชุดที่ 1
1. 3, 3, 18, 4, 5, 60, 5, 7, .... จงหาตัวเลขในลำดับถัดไป

วิธีคิด 3 3 18 4 5 60 5 7 140
(3 x 3) x 2 = 18 (4 x 5) x 3 = 60 (5 x 7) x 4 = 140
ตอบ 140
2. นกเอี้ยงกับควายอยู่กลางทุ่งรวมกัน นับหัวของสัตว์ทั้งสองรวมกันได้ 110 หัว แต่ถ้านับขารวมกันได้
300 ขา อยากทราบว่ามีควายกี่ตัว
วิธีคิด ให้ควาย = x ตัว นกเอี้ยง = y ตัว
นับหัวรวมกัน x + y = 110 .........(1)
นับขารวมกัน 4x + 2y = 300 .........(2)
(2) หาร 2 ; 2x + y = 150 .........(3)
(3) - (1) ; x = 40
ตอบ มีควายอยู่ 40 ตัว
3. 1, 4, 13, 40, .... จงหาตัวเลขในลำดับถัดไป
วิธีคิด +3 +3 +3
1 4 13 40
พิจารณาตัวเพิ่ม คือ 3 9 27 …
อยู่ในระบบ 31 32 33 ...34...
ตัวเพิ่มตัวต่อไป คือ 34 = 81
ดังนั้นตัวต่อไป คือ 40 + 81 = 121
ตอบ 121
4. นาฬิกาเรือนหนึ่งเดินเร็วไปนาทีละวินาทีครึ่ง ถ้าตั้งให้ตรงเวลาจริงในเวลาเที่ยงวัน เมื่อเวลา 17.20 น.
นาฬิกาเรือนนี้จะชี้เวลาเท่าใด
วิธีคิด จากเวลา 12.00 - 17.20 น. ห่างกัน 320 นาที (5 ชม. 20 นาที)
นาฬิกาเดินเร็วไปนาทีละ 1.5 วินาที เดินเร็ว 320 x 1.5 = 480 วินาที
480
นาฬิกาเดินเร็วไป = 8 นาที
60
ดังนั้น เวลา 17.20 น. นาฬิกาจะชี้เวลา 17.28 น.
ตอบ 17.28 น.
หน้า 11
5. ควาย 5 ตัว กินหญ้าหมดไป 14 วัน ถ้ามีความเพิ่มอีก 2 ตัว จะกินหญ้าหมดภายในกี่วัน

วิธีคิด ควาย 5 ตัว กินหญ้าหมดใน 14 วัน
ควาย 1 ตัว กินหญ้าหมดใน 14 x 5 วัน
14 x 5
ควาย 7 ตัว กินหญ้าหมดใน = 10 วัน
7
ตอบ 10 วัน
6. เขียว ขาว เหลือง อายุในปีนี้รวมกันได้ 30 ปีพอดี อีก 3 ปีข้างหน้าเขียวจะมีอายุ 16 ปี และอายุขาวจะ
เพิ่มขึ้นจากปีนี้ 30% อยากทราบว่าปีนี้เหลืองอายุเท่าไร
วิธีคิด เขียว ขาว เหลือง อายุรวมกัน 30 ปี
อีก 3 ปีข้างหน้า เขียวจะมีอายุ 16 ปี
อีก 3 ปีข้างหน้า ขาวจะเพิ่มขึ้น 30 %
3 x 100
อายุของขาว 100% = = 10 ปี
30
นั่นคือ ปีนี้ขาวมีอายุ 10 ปี
ดังนั้น ปีนี้เหลืองอายุ 30 - 10 - (16 - 3) = 7 ปี
ตอบ 7 ปี
7. 1, 0, -1, 2, -3, 4 .....จงหาตัวเลขในลำดับถัดไป
วิธีคิด -2 -2 -2
1 0 -1 2 -3 4 ...-5...
+2 +2
ชุดแรก ลดครั้งละ 2 ชุดหลัง เพิ่มครั้งละ 2
ตัวถัดไปเป็นของชุดแรก คือ -3 – 2 = -5
ตอบ -5
8. ก ขับรถไปยังเมือง ข ด้วยอัตราความเร็ว 60 กม./ชม. ขากลับเขาขับด้วยอัตราเร็ว 40 กม./ชม. ถ้า
ระยะทางที่ขับเท่ากับ 240 กม. อยากทราบว่าความเร็วเฉลี่ยทั้งขาไปและขากลับเท่ากับเท่าไร
240
วิธีคิด ขาไปแล่น 60 กม./ชม. ใช้เวลา = 4 ชม.
60
240
ขากลับแล่น 40 กม./ชม. ใช้เวลา = 6 ชม.
40
ดังนั้นเวลา 4 + 6 = 10 ชั่วโมงแล่นได้ระยะทาง 240 + 240 = 480 กม.
หน้า 12
480
นั่นคือ เวลา 1 ชั่วโมง แล่นได้ระยะทาง = 48 กม.
10
ตอบ 48 กม./ชม.
9. บริษัทแห่งหนึ่งถึงวันปีใหม่พนักงานทุกคนจะส่งบัตรอวยพรให้ซึ่งกันและกันครบทุกคน ถ้าปรากฏว่ามี
บัตรอวยพรถึง 1,260 ใบ อยากทราบว่าบริษัทนี้มีพนักงานทั้งหมดกี่คน
วิธีคิด จำนวนบัตร = n(n - 1)
1,260 = n2 - n
n2 - n - 1,260 = 0
(n + 35)(n - 36) = 0
n = -35, 36
ดังนั้น บริษัทนี้มีพนักงานทั้งหมด 36 คน
10. a, b, c, d เป็นจำนวนที่เรียงจากน้อยไปมาก โดยมีฐานนิยมเท่ากับ 25 มัธยฐานเท่ากับ 26 และ
ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 28 จงหาค่าของ |a - d|
วิธีคิด 25 25 27 d
ฐานนิยมเท่ากับ 25 มัธยฐานเท่ากับ 26
จะได้ a = 25 25 + 27
= 26
b = 25 2
c = 27
จากค่าเฉลี่ย = 28
ผลรวมของข้อมูลทั้งหมด
ค่าเฉลี่ยเลขคณิต =
จำนวนข้อมูล
25 + 25 + 27 + d
28 =
4
28 x 4 = 77 + d
112 = 77 + d
112 - 77 = d
ดังนั้น d = 35
นั่นคือ |a - d| = |25 - 35|
= |-10| = 10
ตอบ 10
หน้า 13
11. กำหนดแบบรูป 3, 5, a, 13, 21, b, 55, 89, 144, c, .... แล้ว a + b + c มีค่าเท่าใด
วิธีคิด 3 + 5 = a 13 + 21 = b 55 + 89 = 144 c
a=3+5=8
b = 13 + 21 = 34 89 + 144
c = 89 + 144 = 233
ดังนั้น a + b + c = 8 + 34 + 233 = 275 ตอบ 275
12. จงหาขนาดของมุมภายในของรูป 11 เหลี่ยม
วิธีคิด ผลรวมของมุมภายในของรูป n เหลี่ยม เท่ากับ 180o x (n - 2)
= 180o x (11 - 2) = 180o x 9 = 1,620o
ดังนั้น มุมภายในของรูป 11 เหลี่ยม มีขนาด 1,620 องศา
ตอบ 1,620 องศา
13. ถ้า 10B = 3B - 70 แล้ว 2B + 70 เท่ากับเท่าไร
วิธีคิด 10B = 3B - 70
10B - 3B = -70
7B = -70
-70
B= = -10
7
ดังนั้น 2B + 70 = 2(-10) + 70 = -20 +70 = 50
ตอบ 50
14. กำหนดแบบรูป
ค่า A มีค่าเท่ากับเท่าไร
วิธีคิด 35 = 5 x (5 + 1 + 1) 91 = 7 x (7 + 3 + 3)
ตอบ 128 60 = 6 x (6 + 2 + 2) A = 8 x (8 + 4 + 4) = 128
หน้า 14
15. กำหนดให้ A ◊ B = 3A - B จงหา 2 ◊ (3 ◊ 2)

วิธีคิด 3 ◊ 2 = 3(3) - 2 = 9 – 2 = 7
ดังนั้น 2 ◊ (3 ◊ 2) = 3(2) – 7 = 6 – 7 = -1
ตอบ -1
16. 46 49 43 ..... 42 47 43 จงหาตัวเลขที่หายไป
46 49 43 ...47... 42 47 43
-6 -5 -4
ตอบ 47
17. จงหาตัวเลขที่หายไป
12 9 6 3 0
? 83 38 11 2
122 + 2 = 146 02 + 2 = 2
92 + 2 = 83 32 + 2 = 11
62 + 2 = 38
ตอบ 146
18. กำหนดให้ M เป็นจำนวนเต็มบวกที่น้อยที่สุดที่หาร 48, 120 และ 180 แล้ว MN = 640,800 ค่าของ
M + N มีค่าเท่าใด
วิธีคิด หา ค.ร.น. ของ 48, 120 และ 180
12 48 120 180
5 4 10 15
2 4 2 3
2 1 3
ค.ร.น. = 12 x 5 x 2 x 2 x 1 x 3 = 720 นั่นคือ M = 720
640,800
จาก MN = 640,800 ; N = = 890
720
หน้า 15
ดังนั้น M + N = 720 + 890 = 1,610

ตอบ 1,610
19. ถ้าจำนวนนับ a, b และ c ที่มากกว่า 1 มีผลคูณเป็น a x b x c = 15,867 แล้ว a + b + c มีค่าน้อย
ที่สุดตรงกับข้อใด
วิธีคิด 15,867 = 3 x 3 x 41 x 43 หรือ 15,867 = 9 x 41 x 43
จะได้ a = 9, b = 41, c = 43
ดังนั้น a + b + c = 9 + 41 + 43 = 93
ตอบ 93
20. ถ้า A, B และ C เป็นจำนวนนับที่แตกต่างกัน โดยที่ A + B = 10, B + C = 14 และ A + C = 12
ดังนั้น ค่าของ A + B + C ตรงกับข้อใด
วิธีคิด จาก A + B = 10, B + C = 14 และ A + C = 12
จะได้ (A + B) + (B + C) + (A + C) = 10 + 14 + 12
2A + 2B + 2C = 36
2A 2B 2C 36
นำ 2 หารตลอด ; + + =
2 2 2 2
ดังนั้น A + B + C = 18
ตอบ 18
ก. ((2 + 2)2)2 (42)2 = (16)2 = 256
ข. (2 + 2 + 2)2 (6)2 = 36
ค. (2 x 2 x 2)2 (8)2 = 64
ง. (2 + 2)2 + 22 (4)2 + 4 = 16 + 4 = 20
ตอบ ((2 + 2)2)2
22. ถ้าผลบวกของจำนวนสองจำนวนเท่ากับ 20 และผลคูณของสองจำนวนนั้นเท่ากับ 64 แล้วผลหาร
ของสองจำนวนนั้นที่เป็นจำนวนเต็มเป็นเท่าไร
วิธีคิด 64
ตรวจสอบ
8 8 4 + 16 = 20
4 x 16 = 64
2 4 2 4 ดังนั้น 16 ÷ 4 = 4
4 16 ตอบ 4
หน้า 16
23. ข้อใดต่อไปนี้เป็นจริง
ก. 21000 < 3600 < 10300 ข. 3600 < 21000 < 10300
ค. 3600 < 10300 < 21000 ง. 10300 < 21000 < 3600
วิธีคิด 21000 (210)100 = 1024100
3600 (36)100 = 729100
10300 (103)100 = 1000100
ตอบ 3600 < 10300 < 21000
24. มุมภายในของรูปสามเหลี่ยมรูปหนึ่งมีอัตราส่วนเป็น 2 : 3 : 4 มุมที่ใหญ่ที่สุดของสามเหลี่ยมรูปนี้มี
ขนาดกี่องศา
วิธีคิด จากมุมภายในรูปสามเหลี่ยม = 180 องศา
อัตราส่วน =2:3:4
มุมภายในรูปสามเหลี่ยม = 2x + 3x + 4x = 9x
จะได้ 9x = 180
180
x=
9
x = 20
ดังนั้น มุมที่ใหญ่ที่สุด = 4x = 4(20) = 80 องศา
ตอบ 80 องศา
25. X5
6 30 X5 - -
- 180 900 -
216 - ? 27,000
X5 X5
ดังนั้น 216 x 5 x 5 = 5,400
ตอบ 5,400
26. ข้อใดมีค่ามากที่สุด
90 10 72
1) 90% ของ 10% ของ 80 x x 80 =
100 100 10
80 20 128
2) 80% ของ 20% ของ 80 x x 80 =
100 100 10
หน้า 17
30 70 168
3) 30% ของ 70% ของ 80 x x 80 =
100 100 10
40 60 192
4) 40% ของ 60% ของ 80 x x 80 =
100 100 10
ตอบ 4) 40% ของ 60% ของ 80
27. 7 15 47 191 959 ..5,759..
7(2) + 1 = 15 959(6) + 5 = 5,759
15(3) + 2 = 47 191(5) + 4 = 959
47(4) + 3 = 191
ตอบ 5,759
6.25 x 6.25 - 4.25 x 4.25
28. จงหาค่าของ
6.25 + 4.25
วิธีคิด
จากสูตร หน้า2 – หลัง2 = (หน้า + หลัง)(หน้า - หลัง)
a2 – b2 = (a + b)(a - b)
ให้ a = 6.25 และ b = 4.25
a2 – b2 (a - b)(a + b)
จะได้ว่า = =a–b
a+b a+b
ดังนั้น a – b = 6.25 – 4.25 = 2

ตอบ 2
29. ถนนสายหนึ่งยาว 440 เมตร ถ้าปักเสาไฟจากจุดเริ่มต้นไปตลอดถนนให้ห่างกัน ต้นละ 11 เมตร
จะต้องใช้เสากี่ต้น
ระยะทางทั้งหมด
วิธีคิด จำนวนเสารั้วที่ฝังเป็นแนวตรง = +1
ระยะทางระหว่างเสา
440
ดังนั้น จำนวนเสาไฟที่ปัก = +1
11
= 40 + 1 = 41 ต้น
ตอบ 41 ต้น
หน้า 18
30. ปรีชากู้เงินจากธนาคาร 1,500,000 บาท เพื่อสร้างบ้าน อัตราดอกเบี้ย 3.65% ต่อปี ปรีชากู้เป็น

ระยะเวลา 1.5 ปี จะต้องจ่ายดอกเบี้ยเท่าไร
เงินต้น x ปี x อัตราดอกเบี้ย
วิธีคิด ดอกเบี้ย =
100
จากระยะเวลาที่กู้ 1.5 ปี คิดเป็น 365 + 183 = 548 วัน
548
1,500,000 x x 3.65
365
ดังนั้น ดอกเบี้ยเงินกู้ = = 82,200 บาท
100
ตอบ 82,200 บาท
31. ถ้า (93)n = 312 แล้ว n มีค่าเท่าไร
วิธีคิด จาก (93)n = 312
93n = 312
(32)3n = 312
36n = 312
จะได้ 6n = 12
12
n=
6
ดังนั้น n = 2
ตอบ 2
32. ประกาศติดราคาสินค้าไว้สูงกว่าทุน 10% ต่อมาปรากฏว่าลดราคาให้ผู้ซื้อ 10% อยากทราบว่ามีกำไร
ขาดทุนเท่าใด
วิธีคิด ทุน 100
สูงกว่าทุน 10% = 110
90 x 110
ลดราคา 10% =
100
ทุน 100 ขาย 99 = ขาดทุน 1%
ตอบ ขาดทุน 1%
33. นักเรียน 30 คน ทุกคนจับมือกันจนครบทุกคน จะมีการจับมือกันทั้งหมดกี่ครั้ง
n(n - 1)
วิธีคิด การสัมผัสมือซึ่งกันและกันทุกคน =
2
30(30 - 1)
จะได้ว่า = = 435 ครั้ง
2
ตอบ 435 ครั้ง
หน้า 19
วิธีคิด 2 + 4 + 6 + 8 + 10 + 12 + 14 + 16 + 18 + 20
= 2 x (1 + 2 + 3 + 4 + 5 + 6 + 7 + 8 + 9 + 10)
n(n + 1) 10(10 + 1)
จะได้ว่า 2 x =2 x = 10 x 11 = 110
2 2
ตอบ 110
35. ก มีเงินอยู่ 24 บาท ข มีเงินมากกว่าครึ่งหนึ่งของ ก อยู่ 6 บาท อยากทราบว่า ข มีเงินกี่บาท
วิธีคิด ข มีเงินมากกว่าครึ่งหนึ่งของ ก อยู่ 6 บาท
24
ดังนั้น ข มีเงิน + 6 = 18 บาท
2
ตอบ 18 บาท
36. 1 3 5 81 4 5 6 225 7 8 9 .....
วิธีคิด 1 3 5 81 4 5 6 225 7 8 9 ...576...
1 + 3 + 5 = 9 4 + 5 + 6 = 15 7 + 8 + 9 = 24
92 = 81 152 = 225 242 = 576
ตอบ 576
37. 0 5 22 57 116 ...
วิธีคิด 0 5 22 57 116 ...205...
+5 +17 +35 +59 +89
+12 +18 +24 +30
+6 +6 +6
ตอบ 205
38. 1 6 25 64 81 ...
วิธีคิด 1 6 25 64 81 ...32…
70 61 52 43 34 25
ตอบ 32
หน้า 20
39. 1 33 83 67 29 ...
วิธีคิด 1 33 83 67 29 ...11…
16+0 25+1 34+2 43+3 52+4 61+5

ตอบ 11
40. 10 19 35 60 ....
วิธีคิด 10 19 35 60 ...96...
+9 +16 +25 +36
32 42 52 62
ตอบ 96
41. 64 32 16 ...
64 32 16 …8...
(64 ÷ 32) = 2 (32 ÷ 16) = 2 (16 ÷ x) = 2
x=8
ตอบ 8
42. …. 6005 4007 2009
…. 6005 4007 2009
x – 6005 = 1998 6005 – 4007 4007 – 2009
x = 1998 + 6005 = 1998 = 1998
= 8003
ตอบ 8003
ระยะทางทั้งหมด 450
วิธีคิด จำนวนเสาที่ล้อมรั้วรอบบริเวณ = = = 45 คน
ระยะทางระหว่างเสา 10
ตอบ 45 คน
หน้า 21
44. 2 2 8 20 56 ...
วิธีคิด (2+8)x2=20 (20+56)x2=152
2 2 8 20 56 ...152…
(2 + 2) x 2 = 8 (8 + 20) x 2 = 56
ตอบ 152
45. จงหาตัวที่ผิดแทรกอยู่ในลำดับ 105 85 60 30 0 -45 -90
วิธีคิด 105 85 60 30 0 -45 -90
-20 -25 -30 -35 -40 -45

ตอบ 0
46. 62564 + 2 x 62564 + 3 x 62564 มีค่าเท่ากับเท่าใด
วิธีคิด 62564 + 2 x 62564 + 3 x 62564
= 62564 x (1 + 2 + 3) am x a n = a m + n m
= 62564 x 6
62564 x 61 = 62564 + 1 = 62565 m
= 62564
ตอบ 62565
47. 15 + 17 + 19 + ... + 53 เท่ากับข้อใด
จำนวนแรก + จำนวนท้าย
วิธีคิด สูตร ผลบวก = ×k
2
จำนวนท้าย - จำนวนแรก
โดย k = +1
2
53 - 15
จะได้ k = + 1 = 20
2
15 + 53
ดังนั้น ผลบวก = × 20 = 34 x 20 = 680
2
ตอบ 680
48. ผลบวกของจำนวนคี่ 4 จำนวนเรียงกันจากน้อยไปมาก เท่ากับ 200 ถ้า a เป็นจำนวนคี่ตัวน้อยสุด
และ b เป็นจำนวนคี่ตัวมากสุด แล้ว 2a + 3b เท่ากับข้อใด
วิธีคิด จำนวนคี่ 4 จำนวนเรียงกัน คือ x, x + 2, x + 4, x + 6
x + x + 2 + x + 4 + x + 6 = 200
หน้า 22
4x + 12 = 200
4x = 188
188
x= = 47
4
จะได้ว่า จำนวนคี่ 4 จำนวน คือ 47, 49, 51, 53
ดังนั้น 2a + 3b = 2(47) + 3(53) = 253
ตอบ 253
3
(52 ) ×5-3
49. เท่ากับเท่าไร
25
3
(52 ) ×5-3 56 × 5-3 56 + (-3)
วิธีคิด = = = 53 – 2 = 5
25 52 52
ตอบ 5
50. จงหาพื้นที่แรเงา
วิธีคิด 1. พื้นที่วงกลม = πr2
22 7 หน่วย
= x7x7
7
= 154 หน่วย
2. พื้นที่สี่เหลี่ยมจัตุรัส = ด้าน x ด้าน
= 14 x 14 = 196 หน่วย
ดังนั้น พื้นที่แรเงา = 196 – 154 = 42 หน่วย
ตอบ 42 หน่วย
51. ในงานวันเด็กของหมู่บ้านแห่งหนึ่ง มีผู้มาร่วมงานทั้งหมด 72 คน
1
โดย ของผู้มาร่วมงานทั้งหมดเป็นผู้ใหญ่ ส่วนที่เหลือเป็นเด็ก
9
3
ถ้า ของเด็กที่มาร่วมงานเป็นเด็กผู้ชาย แล้วมีเด็กผู้หญิงมาร่วมงานกี่คน
8
1
วิธีคิด ผู้ใหญ่ = x 72 = 8 คน
9
เหลือเป็นเด็ก = 64 คน (72 - 8 = 64)
3
เด็กผู้ชาย = x 64 = 24 คน
8
ดังนั้น เด็กผู้หญิง = 64 - 24 = 40 คน
ตอบ 40 คน
หน้า 23
3
52. √256 - √64 มีค่าเท่ากับเท่าไร
3 3
วิธีคิด √256 - √64 = √16 × 16 - √4 × 4 × 4
= 16 – 4 = 12
ตอบ 12
7 1
53. - มีค่าเท่ากับเท่าไร
2 × 32 ×52 22 × 32 ×5
2× 7 1 ×5
วิธีคิด -
2× 2 × 32 × 52 22 × 32 × 5 ×5
14 5
= 2 2 2- 2 2 2
2 ×3 ×5 2 ×3 ×5
32 1
= = = 0.01
4 × 32 × 25 100
ตอบ 0.01
54. นักเรียน 5 คน สอบคณิตศาสตร์ได้คะแนนเฉลี่ย 45 คะแนน ถ้าบวกคะแนน นักเรียนคนที่ 6 เข้าไปจะ
ได้คะแนนเฉลี่ย 50 คะแนน จงหาคะแนนนักเรียนคนที่ 6
x1 + x2 + x3 + x4 + x5
วิธีคิด = 45
5
x1 + x2 + x3 + x4 + x5 = 225
x1 + x2 + x3 + x4 + x5 + x6
จะได้ว่า คะแนนนักเรียนคนที่ 6; = 50
6
225 + x6 = 300
x6 = 300 – 225 = 75
ตอบ 75
7 9 13 21 37
55. ...
3 15 35 63 99
วิธีคิด +2 +4 +8 +16 +32
7 9 13 21 37 69
3 15 35 63 99 143
1x3 3x5 5x7 7x9 9x11 11x13
69
ตอบ
143
หน้า 24
56. ประชากรเมือง A มี 6,800 คน ทุกๆ ปีประชากรจะลดลงปีละ 120 คน ประชากรเมือง B มี 4,200

คน ทุกๆ ปีประชากรจะเพิ่มขึ้นปีละ 80 คน อยากทราบว่าอีกกี่ปีประชากรทั้งสองเมืองถึงจะเท่ากัน
วิธีคิด 6,800 - 120n = 4,200 + 80n
6,800 - 4,200 = 80n + 120n
2,600 = 200n
2,600
n= = 13
200
ตอบ 13
57. มีนักเรียนชายอยู่ 8 คน ส่วนสูงเฉลี่ย 160 เซนติเมตร นักเรียนหญิง 12 คน ส่วนสูงเฉลี่ย 150
เซนติเมตร จงหาส่วนสูงเฉลี่ยของนักเรียนทั้งหมด
ผลรวมความสูงทั้งหมด (8 × 160) + (12 × 150)
วิธีคิด ค่าเฉลี่ย = =
จำนวนคนทั้งหมด 8 + 12
1,280 + 1,800 3,080
= = = 154 เซนติเมตร
20 20
ตอบ 154 เซนติเมตร
58. กล่องใบหนึ่งใส่ลูกบอลสีชมพู 2 ลูก สีเหลือง 4 ลูก และสีเขียว 6 ลูก สุ่มหยิบ 1 ลูก จงหาโอกาสที่จะ
ได้สีชมพูหรือสีเขียว
วิธีคิด เหตุการณ์ที่สุ่มหยิบได้สีชมพูหรือสีเขียว = สีชมพู + สีเขียว = 2 + 6 = 8
ผลลัพธ์ทั้งหมดที่อาจจะเกิดขึ้นจากการสุ่มหยิบ = 2 + 4 + 6 = 12
8 2
ดังนั้น โอกาสที่จะได้สีชมพูหรือสีเขียว = =
12 3
2
ตอบ
3
59. ผู้ชาย 8 คน ทำงานชิ้นหนึ่งเสร็จใน 6 วัน ถ้าผู้ชาย 12 คน ทำงานเดียวกัน จะเสร็จในกี่วัน
วิธีคิด คน1 x เวลา1 = คน2 x เวลา2
8 x 6 = 12 x เวลา2
48
= เวลา2
12
ดังนั้น เวลา2 = 4 วัน
ตอบ 4 วัน
หน้า 25
60. จำนวนนับ 5 จำนวนเรียงกัน บวกกันได้ 485 จงหาจำนวนที่ 3

485
วิธีคิด ตัวกลาง = = 97
5
ตอบ 97
61. ปรีชาขับรถ 28 กิโลเมตร/ลิตร ถ้าปรีชาเติมน้ำมัน 500 บาท ราคาน้ำมันลิตรละ 25 บาท ปรีชาจะขับ
รถได้กี่กิโลเมตร
500
วิธีคิด ได้น้ำมัน = 20 ลิตร
25
ขับรถได้ 20 x 28 = 560 กิโลเมตร
ตอบ 560 กิโลเมตร
62. จำนวนคู่ 3 จำนวนเรียงกันตามลำดับ บวกกันได้ 24 จงหาผลคูณของสองจำนวนหลัง
วิธีคิด (x - 2) + x + (x + 2) = 24
3x = 24
24
x= =8
3
นั่นคือ เลขจำนวนคู่ 3 จำนวน คือ 6, 8, 10
ดังนั้น ผลคูณของสองจำนวนหลัง เท่ากับ 8 x 10 = 80
ตอบ 80
63. 2 4 12 ..?.. 240
วิธ๊คิด 2 4 12 ..48.. 240
2x2 4x3 12x4 48x5

ตอบ 48
64. 1 2 5 10 17 26 37 50 64 จงหาตัวผิดที่แทรกอยู่ในลำดับ
วิธีคิด 1 2 5 10 17 26 37 50 64 ผิด
+1 +3 +5 +7 +9 +11 +13 +15
ตอบ 65
3
65. เป็นกี่เปอร์เซ็นต์ของ 25
10
3
วิธีคิด = (X%)25
10
3 X
= (25)
10 100
หน้า 26
3 X
=
10 4
3 12
X = x 4 = = 1.2%
10 10
ตอบ 1.2%
66. 1 6 25 64 81 ...
วิธีคิด 1 6 25 64 81 …32…
70 61 52 43 34 25
ตอบ 32
67. จงหาเลขจำนวนมากที่สุดที่หาร 162 246 และ 282 แล้วเหลือเศษ 6 เท่ากัน
วิธีคิด อาเศษลบออกจากเลข 3 จำนวน แล้ว ห.ร.ม
162 - 6 = 156 = 2 x 2 x 3 x 13
246 - 6 = 240 = 2 x 2 x 3 x 4 x 5
282 - 6 = 276 = 2 x 2 x 3 x 23
นั่นคือ ห.ร.ม. = 2 x 2 x 3 = 12
ตอบ เลขจำนวนมากที่สุด คือ 12
68. เลข 5 จำนวนเรียงกัน รวมกันได้ 175 และมีผลต่างของจำนวนที่ติดกันเท่ากับ 5 จงหาเลขจำนวน
มากที่สุด
175
วิธีคิด หาเลขจำนวนกลาง = = 35
5
ดังนั้น เลข 5 จำนวนเรียงกัน คือ 25 30 35 40 45
ตอบ 45
69. ค.ร.น. ของเลข 2 จำนวนเป็น 10 เท่าของ ห.ร.ม. ถ้า ห.ร.ม. เท่ากับ 8 และเลขจำนวนน้อย เท่ากับ
16 จงหาเลขจำนวนมาก
วิธีคิด ห.ร.ม. = 8 และ ค.ร.น. = 8 x 10 = 80
ค.ร.น.
จาก เลขจำนวนมาก = ห.ร.ม. x
เลขจำนวนน้อย
80
=8x
16
= 40
ตอบ 40
หน้า 27
70. 1 33 83 67 29 ...
วิธีคิด 1 33 83 67 29 ...11...
16+0 25+1 34+2 43+3 52+4 61+5

ตอบ 11
71. 10 19 35 60 ...
วิธีคิด 10 19 35 60 ...96...
+9 +16 +25 +36

32 42 52 62
ตอบ 96
72. 144 1 72 2 36 6 18 24 ...
วิธีคิด ÷2 ÷2 ÷2 ÷2
144 1 72 2 36 6 18 24 ...9...
x2 x2 x2
ตอบ 9
73. 2 30 7 25 12 20 ...
2 30 7 25 12 20 ...17...
ตอบ 17
74. 1 3 7 15 ...
วิธีคิด อนุกรมชุดนี้อยู่ในระบบ 2n - 1 เมื่อ n = 1, 2, 3, ..
21 - 1 = 1
22 - 1 = 3
23 - 1 = 7
24 - 1 = 15
ดังนั้น ตัวถัดไป คือ 25 - 1 = 31
ตอบ 31
หน้า 28
75. ข้อมูลแสดงจำนวนนักศึกษาที่สำเร็จการศึกษาในปี 2563 ของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งจำนวน 1,200

คน อยากทราบว่านักศึกษาที่จบคณะนิติศาสตร์มากกว่านักศึกษาที่จบคณะสังคมศาสตร์กี่ %
30
วิธีคิด นิติศาสตร์คิดเป็น 30% มีจำนวน 1,200 x = 360 คน
100 สังคมศาสตร์
20 นิติศาสตร์ 20%
สังคมศาสตร์คิดเป็น 20% มีจำนวน 1,200 x = 240 คน 30% อื่นๆ
100
นิติศาสตร์ มากกว่า สังคมศาสตร์ 360 - 240 = 120 คน 10%
รัฐศาสตร์
สังคมศาสตร์ 240 คน นิติศาสตร์มากกว่า 120 คน
40%
120 x 100
สังคมศาสตร์ 100 คน นิติศาสตร์มากกว่า = 50%
240
ตอบ 50%
76. 2 2 8 20 56 ...
วิธีคิด (2+8)x2 = 20 (20+56)x2 = 152
2 2 8 20 56 ...152…
(2+2)x2 = 8 (8+20)x2 = 56
ตอบ 152
77. ถนนเส้นหนึ่งยาว 8,000 เมตร ถ้ามีเสาไฟฟ้าทุกๆ 100 เมตร อยากทราบว่าถนนแห่งนี้
มีเสาไฟฟ้ากี่ต้น
ระยะทาง 8,000
วิธีคิด จำนวนเสา = +1= + 1 = 80 + 1 = 81 ต้น
ระยะห่าง 100
ตอบ 81 ต้น
ระยะทาง 450
วิธีคิด จำนวนเสา = = = 45 คน
ระยะห่าง 10
ตอบ 45 คน
79. ผลต่างของ 5% ของ 270 กับ 10% ของ 91 มีค่าเท่าไร
5 x 270
วิธีคิด 5% ของ 270 = = 13.5
100
10 x 91
10% ของ 91 = = 9.1
100
หน้า 29
ผลต่าง = 13.5 - 9.1 = 4.4

ตอบ 4.4
80. ประชากรในหมู่บ้านหนึ่ง เพิ่มจาก 5,000 คน เป็น 11,000 คน ประชากรเพิ่มขึ้นร้อยละเท่าไร
ประชากรใหม่ - ประชากรเดิม
วิธีคิด ร้อยละ = x 100
ประชากรเดิม
11,000 - 5,000
= x 100
5,000
= 120%
ตอบ 120%
หน้า 30
เจาะข้อสอบความสามารถด้านตัวเลข ชุดที่ 2
1. 1 33 86 67 29 ...
ก. 15 ข. 13 ค. 11 ง. 9
2. 11 10 ... 100 1,001 1,000 100,001
ก. 101 ข. 110 ค. 111 ง. 1,011
3. 15 79 17 76 19 ...
ก. 21 ข. 70 ค. 73 ง. 76
4. 216 235 254 273 ...
ก. 291 ข. 292 ค. 293 ง. 294
5. 185 203 224 250 283 ...
ก. 317 ข. 325 ค. 426 ง. 525
6. 2,408 2,359 2,368 2,304 2,314 …
ก. 2,214 ข. 2,233 ค. 2,304 ง. 2,395
7. 100 51 26 17 ...
ก. 16 ข. 14 ค. 12 ง. 10
8. 5 20 60 120 120 ...
ก. 240 ข. 220 ค. 10 ง. 0
9. 1 6 25 64 81 ...
ก. 100 ข. 104 ค. 32 ง. 27
10. 20 22 25 30 40 ...
ก. 65 ข. 70 ค. 75 ง. 80
11. 12 ?
10
20 24 30
5 6 9 7 8 9 9 10 11
ก. 12 ข. 13 ค. 14 ง. 15
หน้า 31
12. 3 5 3
7 4 9
? 19 26
ก. 21 ข. 20 ค. 19 ง. 18
13. - 6 12 -
6 - - 27
9 12 - -
- 15 21 ?
ก. 28 ข. 30 ค. 32 ง. 33
14. 1 - 7 - 13
20 ? - 11 8
ก. 18 ข. 17 ค. 16 ง. 15
15. 4 ? 7 -
- 4 - -
2 - 5 8
1 2 - 7
ก. 3 ข. 4 ค. 5 ง. 6
16. จงหาผลบวกของเลข 1 – 200
ก. 20,000 ข. 20,002 ค. 20,100 ง. 20,200
ก. 650 ข. 655 ค. 660 ง. 665
18. เลข 5 จำนวนเรียงกันรวมกันได้ 225 จงหาเลขทั้ง 5 จำนวนนั้น
ก. 38 39 40 41 42 ข. 40 41 42 43 44
ค. 43 44 45 46 47 ง. 45 46 47 48 49
หน้า 32
19. ผลบวกของเลข 2 จำนวนเรียงติดกัน มีค่าเท่ากับ 125 อยากทราบว่า เลขจำนวนน้อยมีค่าเท่าไร

ก. 60 ข. 61 ค. 62 ง. 63
20. ร้านค้าคิดราคาขายสินค้าไว้สูงกว่าต้นทุนหนึ่งเท่าตัว และประกาศขายลดราคาให้แก่ผู้ซื้อ 40%
เขายังได้กำไรอีกร้อยละเท่าไร
ก. 20% ข. 25% ค. 30% ง. 35%
21. แบ่งเงิน 7,827 บาท ออกเป็น 3 ส่วน ส่วนแรกเป็น 4 เท่าของส่วนที่ 2 ส่วนที่สองเป็น 3 เท่าของ
ส่วนที่ 3 ส่วนแรกคือข้อใด
ก. 3,954 ข. 4,804 ค. 5,476 ง. 5,904
22. หน่อยมีเงิน 35 บาท นิดมีเงิน a บาท นุ้ยมีเงิน b บาท ถ้านุ้ยมีเงินมากกว่านิด 10 บาท แต่น้อยกว่า
หน่อย 10 บาท อยากทราบว่า นิดและนุ้ยมีเงินรวมกันกี่บาท
23. ปักเสาไฟฟ้าห่างกันต้นละ 25 เมตร ระยะห่างกัน 500 เมตร จะต้องใช้เสากี่ต้น
ก. 20 ต้น ข. 21 ต้น ค. 22 ต้น ง. 23 ต้น
24. ตึกหลังหนึ่งสูง 10 เมตร มีเงายาว 20 เมตร ถ้าตึกหลังนี้ยาว 40 เมตร จะมีเงาเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า
ยาวกี่เมตร
ก. 10 เมตร ข. 20 เมตร ค. 30 เมตร ง. 40 เมตร
25. คนงาน 7 คน ช่วยกันขุดบ่อ 7 บ่อ เสร็จใน 7 วัน ถ้าคน 3 คน ขุดบ่อ 3 บ่อ จะเสร็จในกี่วัน
26. ทหารหมู่หนึ่งยืนเข้าแถวเรียงกันเป็นรูปสามเหลี่ยม โดยให้แถวแรกมีเพียง 1 คน แถวต่อมาเพิ่มขึ้น
ทีละ 1 คน ปรากฏว่าแถวสุดท้ายมี 9 คน อยากทราบว่าทหารที่มายืนแถวทั้งหมดกี่คน
ก. 45 คน ข. 47 คน ค. 49 คน ง. 52 คน
27. 35% ของ 40% ของ 1,200 มีค่าเท่าไร
ก. 138 ข. 144 ค. 156 ง. 168
28. มีนักฟุตบอลอยู่ 10 ทีม แบ่งออกเป็น 2 สายๆ ละ 5 ทีม ถ้าจะแข่งขันกันแต่ละสายแบบพบกันหมด
แล้วนำผู้ชนะเลิศแต่ละสายมาชิงชนะเลิศกัน จะต้องแข่งขันกันทั้งหมดกี่ครั้ง
ก. 20 ครั้ง ข. 21 ครั้ง ค. 22 ครั้ง ง. 23 ครั้ง
29. ถังน้ำมันใบหนึ่งเมื่อหย่อนเชือกถึงก้นถังแล้ว ยังเหลือเชือกยาว 10 นิ้ว ถ้าทบเชือกเส้นนี้เข้าด้วยกัน
แล้วหย่อนลงไปอีก ปรากฏว่ายังขาดอยู่อีก 10 นิ้ว จึงจะถึงขอบถังพอดี ถังใบนี้สูงเท่าไร
ก. 15 นิ้ว ข. 20 นิ้ว ค. 25 นิ้ว ง. 30 นิ้ว
หน้า 33
1
30. ปัจจุบันพี่น้อง 3 คน อายุรวมกันเท่ากับ 126 ปี น้องคนเล็กอายุเป็น ของคนกลาง ส่วนพี่คนโตนั้น
5
เมื่อ 5 ปีก่อน อายุมากกว่าคนกลาง 5 ปี อยากทราบว่าน้องคนเล็กอายุเท่าไร
ก. 10 ปี ข. 11 ปี ค. 12 ปี ง. 13 ปี
31. บริษัทแห่งหนึ่งมีพนักงาน 40 คน ถึงวันขึ้นปีใหม่ทุกคนจะส่งบัตรอวยพรให้ซึ่งกันและกันครบทุกคน
อยากทราบว่าจะมีบัตรอวยพรทั้งหมดกี่ใบ
ก. 870 ใบ ข. 960 ใบ ค. 1,240 ใบ ง. 1,560 ใบ
32. จงหาเลขจำนวนที่มีค่ามากที่สุด
4 7 9 11
ก. ข. ค. ง.
5 8 10 12
33. ธนาคารแห่งหนึ่งให้ดอกเบี้ยเงินฝาก 4% ต่อเงินประเภทฝากประจำ 3 เดือน ถ้าเขาฝากเงินไว้
600 บาท ใน 3 เดือน จะได้ดอกเบี้ยเท่าไร
34. แอลกอฮอล์ 50% จำนวน 5 ลิตร ผสมกับแอลกอฮอล์ 30% จำนวน 15 ลิตร อยากทราบว่า
แอลกอฮอล์ผสมจะมีความเข้มข้นกี่เปอร์เซ็นต์
ก. 30% ข. 35% ค. 40% ง. 45%
35. เลข 2 จำนวน มี ห.ร.ม. เท่ากับ 4 และ ค.ร.น. เท่ากับ 360 ถ้าเลขจำนวนหนึ่งคือ 20 แล้วอีกจำนวน
หนึ่งเท่ากับเท่าไร
ก. 72 ข. 64 ค. 48 ง. 36
36. ถ้า 6*2 = 28
และ 4*7 = 23
แล้ว 5*1 = ?
ก. 20 ข. 23 ค. 26 ง. 31
37. 30% ของ 1 ชั่วโมง ต่างกับ 20% ของ 1 ชั่วโมง กี่นาที
ก. 4 นาที ข. 5 นาที ค. 6 นาที ง. 7 นาที
38. สมชายเดินทางไปสถานที่แห่งหนึ่งขาไป 60 ไมล์ต่อชั่วโมง และขากลับ 40 ไมล์ต่อชั่วโมง ถ้า
ระยะทาง เท่ากับ 20 ไมล์ อยากทราบว่าความเร็วเฉลี่ยเป็นเท่าไร
ก. 45 ไมล์ ข. 48 ไมล์ ค. 52 ไมล์ ง. 55 ไมล์
39. เมื่อเวลา 16.00 น. เข็มยาวและเข็มสั้นของนาฬิกาจะทำมุมกันกี่องศา
ก. 100° ข. 120° ค. 140° ง. 150°
40. จงหาจำนวนมากที่สุดที่หาร 162 246 และ 282 แล้วเหลือเศษ 6 เท่ากัน
ก. 8 ข. 12 8. 16 ง. 20
หน้า 34
41. นกเอี้ยงฝูงหนึ่งบินมาเกาะหลังควาย ถ้าเกาะตัวต่อตัวจะเหลือนกเอี้ยง 1 ตัว แต่ถ้านกเอี้ยง 2 ตัว

เกาะควาย 1 ตัว จะเหลือควาย 1 ตัว อยากทราบว่ามีนกเอี้ยงกี่ตัว
ก. 8 ตัว ข. 6 ตัว ค. 4 ตัว ง. 2 ตัว
42. นับขาไก่ได้เป็น 4 เท่าของขาหมู จำนวนไก่จะเป็นกี่เท่าของหมู
ก. 2 เท่า ข. 4 เท่า ค. 6 เท่า ง. 8 เท่า
43. กำหนดให้ A, B แทน จำนวนนับ
A+B
A ⊕ B แทน –1
5
A-B
A △ B แทน
2
แล้วค่าของ (7 ⊕ 8) △ (1 ⊕ 4) เท่ากับเท่าใด
1 1
ก. 1 ข. ค. ง. 2
2 5
44. ถ้า n(A) = 25, n(B) = 19 และ n(A ∪ B) = 48 จงหาจำนวนสับเซตแท้ของ (A ∩ B)
ก. 15 ข. 16 ค. 31 ง. 32
1 1 1 1 1 1
45. เนื่องจาก = - แล้วค่าของ + + เท่ากับเท่าใด
2x3 2 3 42 56 72
1 1 1 1
ก. ข. ค. ง.
18 24 30 36
46. กำหนดแผนภาพดังรูป
1
3 5
7 9 11
13 15 17 19
ผลรวมของแถวที่ 15 เท่ากับเท่าไร
ก. 3,325 ข. 3,375 ค. 3,600 ง. 3,825
1 2 3 4
47. ค่าของ 11 + 11 + 11 + 11 มีค่าเท่ากับเท่าใด
5 5 5 5
ก. 55 ข. 50 ค. 46 ง. 22
48. ถ้า x2 + y2 = 150 และ x – y = 10 จงหาค่า xy
ก. 15 ข. 25 ค. 50 ง. 125
หน้า 35
49. ในห้องปฏิบัติการเคมีแห่งหนุ่งมีหลอดแก้ว 60 หลอด ที่มีความยาวต่างกันดังตาราง

ความยาวของหลอดแก้ว (ซม.) 8 10 12 14
จำนวนหลอดแก้ว 12 20 15 13
ถ้าสุ่มหยิบหลอดแก้ว 1 หลอด ความน่าจะเป็นที่จะได้หลอดแก้วยาวกว่า 8 เซนติเมตรเท่ากับเท่าไร
1 1 13 4
ก. ข. ค. ง.
5 3 60 5
50. 2,0042 – 1,9992 มีค่าเท่ากับเท่าไร
ก. 20,015 ข. 10,005 ค. 4,003 ง. 25
51. พิจารณาการให้เหตุผลต่อไปนี้
1. เหตุ 1) คนที่มีสุขภาพดีทุกคนเป็นคนที่มีความสุข
2) ปรีชามีความสุข
ผล ปรีชามีสุขภาพดี
2. เหตุ 1) ม้าทุกตัวมีสี่ขา
2) ไม่มีสัตว์ที่มีสี่ขาตัวใดที่บินได้
ผล ไม่มีม้าตัวใดบินได้
ข้อใดถูกต้อง
ก. 1. และ 2. สมเหตุสมผล ข. 1. สมเหตุสมผล และ 2. ไม่สมเหตุสมผล
ค. 1. ไม่สมเหตุสมผล และ 2. สมเหตุสมผล ง. 1. และ 2. ไม่สมเหตุสมผล
52. ขนาดของมุมแต่ละมุมของรูปแปดเหลี่ยมด้านเท่า จะมีขนาดมากกว่าขนาดของมุมรูปห้าเหลี่ยมด้าน
เท่า กี่องศา
ก. 12 องศา ข. 18 องศา ค. 24 องศา ง. 27 องศา
ก. 32110 ข. 64100 ค. 12890 ง. 25680
54. ให้ p q r มีค่าความจริงเป็น จริง เท็จ และเท็จ ตามลำดับแล้ว ข้อใดเป็นเท็จ
ก. ( p ˄ q ) → r ข. ( r ˅ q ) → p
ค. ( p ↔ q ) → r ง. ( p ˅ q ) → r
หน้า 36
55. จากการสำรวจความนิยมอ่านหนังสือพิมพ์ของนักศึกษาจำนวน 200 คน มีผู้นิยมอ่านหนังสือพิมพ์

4 ฉบับ (ดังภาพ)
เดลินิวส์ มีนักศึกษานิยมอ่านหนังสือพิมพ์มติชนเป็นกี่เปอร์เซ็นต์
17% ของไทยรัฐ
ไทยรัฐ ก. 59.52%
ประชาชาติ
ข. 60.57%
16%
ค. 72.59%
มติชน
ง. 79.18%
25%
56. ผลบวกของจำนวนนับตั้งแต่ 1 – 100 ซึ่งหารด้วย 4 ลงตัว เท่ากับเท่าไร

ก. 1,100 ข. 1,200 ค. 1,300 ง. 1,400
57. กำหนดให้ A = 25% ของ 180 และ B = 20% ของ A แล้ว 75% ของ A + B เท่ากับเท่าไร
ก. 60.5 ข. 55.5 ค. 50.5 ง. 40.5
58. ค่าของ 10 + 20 + 30 + ... + 500 ตรงกับข้อใด
ก. 0 ข. 1 ค. 50 ง. 100
59. คำตอบของอสมการ 4x – 3 < 21 ที่เป็นจำนวนนับมีทั้งหมดกี่จำนวน
ก. 4 จำนวน ข. 5 จำนวน ค. 6 จำนวน ง. 7 จำนวน
60. สุ่มหยิบไพ่ 1 ใบ จากไพ่สำรับหนึ่ง ความน่าจะเป็นของเหตุการณ์ที่หยิบได้ไพ่ที่มีหน้าเป็นจำนวนคู่
ไม่เกิน 8 ตรงกับข้อใด
1 2 3 4
ก. ข. ค. ง.
13 13 13 13
61. กำหนดให้ 8*4 = 32
และ 3*5 = 31 จงหาค่าของ 3X + Y มีค่าเท่าไร
ก. 6x ข. y2 ค. 6x + y2 ง. 6x - y2
62. รัศมีวงกลมเพิ่มขึ้น 2 เท่า พื้นที่จะเพิ่มกี่เท่า
ก. 1 เท่า ข. 2 เท่า ค. 4 เท่า ง. 8 เท่า
63. ถ้า  +  +  = 6 แล้ว  x  x  มีค่าเท่าใด
ก. 6 ข. 8 ค. 16 ง. สรุปไม่ได้
หน้า 37
64. ในการวัดสัดส่วนความสูงของนักเรียน 15 คน ปรากฏว่า ความสูงของนักเรียนมากที่สุด คือ 165

เซนติเมตร ความสูงที่อยู่ตรงกลาง คือ 160 เซนติเมตร จงหาความสูงเฉลี่ยของนักเรียนกลุ่มนี้
ก. 155.2 เซนติเมตร ข. 156.2 เซนติเมตร
ค. 157.2 เซนติเมตร ง. 158.2 เซนติเมตร
3 6
65. ถ้า M มีค่ามากกว่า B อยู่ และ M มีค่าเท่ากับ C คือ จงหาค่า B
5 5
3 4 1 2
ก. ข. ค. ง.
5 5 5 5
2 1
66. ของ 45 นาที มากกว่า ของ 1 ชั่วโมง อยู่เท่าไร
3 3
ก. 7 นาที ข. 8 นาที ค. 9 นาที ง. 10 นาที
67. กรุงเทพและเชียงใหม่มีระยะทางห่างกัน 696 กิโลเมตร ขาไปเดินทางด้วยความเร็ว 80 กิโลเมตรต่อ
ชั่วโมง ขากลับเดินทางในเส้นทางเดิมด้วยความเร็ว 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ความเร็วเฉลี่ยในการเดินทาง
ไปกลับเท่ากับเท่าไร
ก. 84 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ข. 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ค. 96 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ง. 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
68. มีการเรียงตัวอักษรในคำว่า BANANA มาเรียงสับเปลี่ยนกันใหม่ได้ทั้งหมดกี่วิธี
ก. 30 วิธี ข. 45 วิธี ค. 60 วิธี ง. 72 วิธี
69. สนามแห่งหนึ่งเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส มีเส้นทแยงมุม 40 เมตร อยากทราบว่าสนามแห่งนี้มีพื้นที่
เท่าใด
ก. 400 ตารางเมตร ข. 800 ตารางเมตร
ค. 1,200 ตารางเมตร ง. 1,600 ตารางเมตร
70. คนงาน 9 คน ช่วยกันขุดบ่อ 9 บ่อ เสร็จใน 9 วัน ถ้าคนงาน 3 คน ขุดบ่อ 3 บ่อ จะเสร็จในกี่วัน
หน้า 38
เฉลยเจาะข้อสอบความสามารถด้านตัวเลข ชุดที่ 2
1. ค. 11 แนวคิด 16+0 25+1 34+2 …

2. ก. 101 แนวคิด 101+1 101 102+1 102 ….
3. ค. 73 แนวคิด อนุกรมมี 2 ชุดสลับกัน ชุดแรกลดลงทีละ 2 ชุดที่สองลดลงทีละ 3
4. ข. 292 แนวคิด หลักร้อยเป็นเลข 2 ตลอด หลักสิบเป็นเลขคี่ เริ่มจาก 1, 3, 5, …
หลักหน่วยลดลงครั้งละ 1 จาก 6 (6, 5, 4, 3, 2)
5. ข. 325 แนวคิด บวกขึ้นด้วย 18, 21, 26, 33, 42 ตามลำดับ
6. ข. 2,233 แนวคิด มี 2 ชุดสลับกัน ชุดแรก ลดลงด้วยกำลัง 2 ชุดที่สอง ลดลงครั้งละ 1
จาก 55, 54
7. ก. 16 แนวคิด ลดลง 72 , 52 , 32 , 12
8. ง. 0 แนวคิด พจน์แรก x 5 พจน์ที่สอง x 4 พจน์ที่สาม x 2 …
9. ค. 32 แนวคิด 70 , 61 , 52 , 43 ...
120 110 100 90
10. ข. 70 แนวคิด ….
6 5 4 3
11. ง. 15 แนวคิด 20 ÷ 10, 24 ÷ 12, …
12. ข. 20 แนวคิด (5 x 4) – 1, (3 x 9) – 1, …
13. ง. 338 แนวคิด แถวที่ 1 บวก 3 จะได้แถวที่ 2, แถวที่ 2 บวก 3 จะได้แถวที่ 3, ...
14. ข. 17 แนวคิด ช่องที่ 5 บวก 3 จะได้ช่องที่ 4, ช่องที่ 4 บวก 3 จะได้ช่องที่ 3, ช่องที่ 3
บวก 3 จะได้ช่องที่ 2, …
15. ค. 5 แนวคิด แถวที่ 4 บวก 1 จะได้แถวที่ 3, แถวที่ 3 บวก 1 จะได้แถวที่ 2, ...
16. ค. 20,100
n(n + 1)
แนวคิด สูตร
2
n(n + 1)
17. ก. 650 แนวคิด สูตร 2 x
2
18. ค. 43 44 45 46 47
แนวคิด บวกตัวเลขในตัวเลือก
ผลบวกของทุกจำนวน
19. ค. 62 แนวคิด สูตร จำนวนกลาง =
จำนวนเทอม
20. ก. 20% แนวคิด คิดราคาสูงกว่าทุน 1 เท่าตัว ทุน 100 บาท คิดราคา 200 บาท
หน้า 39
ขายไป ลด 40% ประกาศไว้ 100 บาท ขายไป 60 บาท ประกาศไว้

200 บาท ขายไป.... เอาค่าที่คำนวณได้ ลบ 100 ก็จะได้คำตอบ
21. ง. 5,904 แนวคิด รวมส่วน 4(3) + 3(1) + 1 = 16 ส่วน แล้วนำไปหาร 7,872 ก็จะได้
ส่วนที่ 3 จากนั้นหาส่วนที่สอง และส่วนแรกตามลำดับ
22. ก. 40 บาท
แนวคิด เขียนสมการได้เป็น b – a = 10 …..(1)
35 – a = 10 …..(2)
แก้สมการหาค่า a และ b แล้วนำค่า a + b
ระยะทางทั้งหมด
23. ข. 21 ต้น แนวคิด จำนวนเสารั้ว = +1
ระยะทางระหว่างเสา
24. ง. 40 เมตร
แนวคิด ตึกยาวเท่าไรเงาก็จะยาวเท่ากับตึก
25. ค. 7 วัน แนวคิด คนงาน 7 คน ขุดบ่อ 7 บ่อ เสร็จใน 7 วัน
คนงาน 1 คน ขุดบ่อ 7 บ่อ เสร็จ..........วัน
ค1 × ว1 ค2 × ว2
หรือใช้สูตร =
ง1 ง2
(ต + ป)
26. ก. 45 คน แนวคิด สูตร × จำนวนเทอม
2
27. ง. 168 แนวคิด เขียน % ให้อยู่ในรูปเศษส่วนก่อนค่อยหาคำตอบ
n(n - 1)
28. ข. 21 ครั้ง แนวคิด สูตร หาจำนวนครั้งในการแข่งขันของทั้งสองสาย
2
แล้วนำมาบวกกัน และ บวกอีก 1 เพราะเอาชนะเลิศแต่ละสายมาชิงกันอีก
x
29. ง. 30 นิ้ว แนวคิด แก้สมการ x – 10 = + 10 จากนั้นนำค่า x ที่ได้ไปลบ 10
2
x
30. ข. 11 ปี แนวคิด แก้สมการ x + + x + 5 = 126 จะได้ค่า x ซึ่งเป็นอายุของคนกลาง
5
จากนั้นนำอายุคนกลางหาร 5 จะได้อายุของคนเล็ก
31. ง. 1,560 ใบ
แนวคิด จำนวนบัตรอวยพร = n(n - 1)
หน้า 40
11
32. ง. แนวคิด ทำให้ส่วนเท่ากันแล้วพิจารณาเศษ
12
เงินต้น x ปี x อัตราดอกเบี้ย
33. ก. 6 บาท แนวคิด สูตร ดอกเบี้ย =
100
(C1 V1 ) + (C2 V2 )
34. ข. 35% แนวคิด สูตร
V1 + V2
= C3 แล้วนำค่า C3 x 100 = …...%
ห.ร.ม. x ค.ร.น.
35. ก. 72 แนวคิด เลขอีกจำนวนหนึ่ง =
จำนวนแรก
36. ค. 26 แนวคิด 62 + 2 = 38, 42 + 7 = 23, …
37. ค. 6 นาที แนวคิด หา 30% ของ 1 ชม. (60 นาที) และหา 20% ของ 1 ชม. (60 นาที)
แล้วนำคำตอบมาลบกัน
2AB
38. ข. 48 ไมล์ แนวคิด ความเร็วเฉลี่ย =
A+B
39. ข. 120° แนวคิด 1 ช่วงชั่วโมง มีค่า 30 องศา 16.00 น. ใช้ 4 ช่วงชั่วโมง มีค่า.....องศา
40. ข. 12 แนวคิด เอาเศษลบออกจากเลข 3 จำนวน แล้วหา ห.ร.ม.
41. ค. 4 ตัว แนวคิด นกเอี้ยงมี x ตัว และควายมี y ตัว เขียนสมการได้ดังนี้
x–y=1 …. (1)
x
y– =1 …. (2)
2
แล้วหาค่า x ก็จะได้คำตอบ
42. ง. 8 เท่า แนวคิด ถ้ามีหมู 1 ตัว (4 ขา) จะต้องมีไก่ 8 ตัว (16 ขา) นั่นคือมีไก่เป็น...เท่าของหมู
43. ก. 1 แนวคิด แทนค่าตามเงื่อนไขที่กำหนดให้
44. ก. 15 แนวคิด จำนวนของสมาชิกของเซตจำกัด 2 เซต
n(A ∪ B) = n(A) + n(B) - n(A ∩ B)
1
45. ก. แนวคิด อนุกรม Telescopic Series
18
บน 1 บน บน
=( )( - )
น้อย - มาก มาก - น้อย น้อย มาก
46. ข. 3,375 แนวคิด แถวที่ 1 ผลรวมของแถว เท่ากับ 13
แถวที่ 2 ผลรวมของแถว เท่ากับ 23 …
b ac + b
47. ค. 46 แนวคิด a =
c c
หน้า 41
48. ข. 25 แนวคิด สูตร หน้า2 – หลัง2 = (หน้า + หลัง)(หน้า - หลัง)

a2 – b2 = (a + b)(a - b)
4
49. ง. แนวคิด เหตุการณ์ที่สุ่มหยิบได้หลอดแก้วยาวกว่า 8 เซนติเมตร
5
เท่ากับ 20 + 15 + 13 = 48 และมีจำนวนหลอดแก้วทั้งหมด เท่ากับ 60 หลอด
50. ก. 20,015
แนวคิด สูตร หน้า2 – หลัง2 = (หน้า + หลัง)(หน้า - หลัง)
a2 – b2 = (a + b)(a - b)
51. ค. 1. ไม่สมเหตุสมผล และ 2. สมเหตุสมผล
แนวคิด หาข้อขัดแย้งของเหตุและผลในแต่ละข้อ ถ้าเหตุและผลไม่ขัดแย้งกัน
แสดงว่าสมเหตุสมผล
52. ง. 27 องศา
แนวคิด ผลรวมของมุมภายในของรูป n เหลี่ยม เท่ากับ 180° x (n - 2)
มุมภายใน
ขนาดของมุมแต่ละมุม =
จำนวนเหลี่ยม
53. ง. 25680 แนวคิด ทำเลขยกกำลังทุกตัวให้เป็นฐาน 2 แล้วเอาเลขยกกำลังมาเทียบกัน
54. ง. ( p ˅ q ) → r
แนวคิด ให้ p เป็น T, q เป็น F และ r เป็น F แล้วแทนค่าในตัวเลือก
55. ก. 59.52%
100 x 50
แนวคิด อ่านมติชน = …. ของไทยรัฐ
84
56. ค. 1,300 แนวคิด จำนวนนับตั้งแต่ 1 – 100 ที่หารด้วย 4 ลงตัว คือ 4, 8, 12,…, 96, 100
57. ง. 40.5 แนวคิด เขียน % ให้อยู่ในรูปเศษส่วนก่อนค่อยหาคำตอบ
58. ค. 50 แนวคิด a0 = 1
59. ข. 5 จำนวน
แนวคิด แก้อสมการตามปกติครับ แล้วมาดูว่าคำตอบที่ได้มีจำนวนนับกี่จำนวน
4 n(E)
60. ง. แนวคิด สูตร P(E) =
13 n(S)
61. ค. 6x + y 2
แนวคิด แทนค่าตามเงื่อนไขที่กำหนดให้
62. ค. 4 เท่า แนวคิด รัศมีเพิ่ม 2 เท่า พื้นที่จะเพิ่ม 4 เท่า
หน้า 42
63. ข. 8 แนวคิด 3 x  = 6 ดังนั้น  = 2

64. ค. 157.2 เซนติเมตร
แนวคิด ฐานนิยม = 3(มัธยฐาน) – 2(ค่าเฉลี่ย)
3 3
65. ก. แนวคิด M – B = ……. (1)
5 5
6
M=C= ……. (2)
5
6
เอา M = แทนใน (1) ก็จะได้ค่า B
5
66. ง. 10 นาที
2 1
แนวคิด นำ ของ 45 นาที ลบ ของ 60 นาที
3 3
67. ค. 96 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
2AB
แนวคิด ความเร็วเฉลี่ย =
A+B
68. ค. 60 วิธี
แนวคิด มีตัวอักษร B ซ้ำ 1 ตัว ตัวอักษร A ซ้ำ 3 ตัว ตัวอักษร N ซ้ำ 2 ตัว
69. ข. 800 ตารางเมตร
(เส้นทแยงมุม)2
แนวคิด พื้นที่สี่เหลี่ยมจัตุรัส =
2
ค1 × ว1 ค2 × ว2
70. ค. 9 วัน แนวคิด ใช้สูตร =
ง1 ง2
หน้า 43
เจาะข้อสอบความสามารถด้านเหตุผล ชุดที่ 1
จากข้อ 1 – 20 จงพิจารณาว่าข้อใดเป็นพวกเดียวกันกับโจทย์ที่กำหนดให้
1. ไก่ ห่าน นก
ก. หมู ข. ควาย ค. เป็ด ง. ม้า
2. เลย ชัยภูมิ อุบลราชธานี
ก. เพชรบูรณ์ ข. บุรีรัมย์ ค. นครสวรรค์ ง. พิษณุโลก
3. ศึกษาธิการ มหาดไทย กลาโหม
ก. ประมง ข. ทางหลวง ค. ชลประทาน ง. แรงงาน
4. ผลัก ดัน เสือก
ก. ลาก ข. ดึง ค. ใส ง. ชัก
5. ฟุตบอล วอลเลย์บอล บาสเกตบอล
ก. มวย ข. เซปักตะกร้อ ค. ยูโด ง. ว่ายน้ำ
6. ปู่ ตา ลุง
ก. ย่า ข. ยาย ค. พ่อ ง. ป้า
7. ภายใน ภายนอก ประชาสัมพันธ์
ก. สั่งการ ข. ประกาศ ค. แถลงการณ์ ง. ข่าว
8. มรณภาพ อาพาธ จำวัด
ก. ตาย ข. ไปถาน ค. ทรงกีฬา ง. สวรรคต
9. สามเณร พระภิกษุ นักพรต
ก. ชี ข. ฤาษี ค. นักสิทธิ์ ง. นักบุญ
10. สร้อย กำไล แหวน
ก. ต่างหู ข. รองเท้า ค. แว่นตา ง. เสื้อ
11. ยา ยาย ป้า
ก. ปู่ ข. ตา ค. แม่ ง. ลุง
12. มติชน ไทยรัฐ เดลินิวส์
ก. บางกอก ข. ข่าวสด ค. สกุลไทย ง. สตรีสาร
13. งู ใส้เดือน กิ้งกือ
ก. นก ข. ปลา ค. ตะขาบ ง. กบ
หน้า 44
14. เกาะ ปะ ติด

ก. เติม ข. แต่ง ค. ต่อ ง. ตัด
15. ส้มโอ มังคุด เงาะ
ก. มะละกอ ข. ขิง ค. ผักบุ้ง ง. ข่า
16. ข่า หอม กระเทียม
ก. กระเจี๊ยบ ข. ตะใคร้ ค. อ้อย ง. ถัว่
17. น้ำตาล น้ำอ้อย น้ำผึ้ง
ก. น้ำส้ม ข. น้ำปลา ค. น้ำเชื่อม ง. น้ำเปล่า
18. ม้า ช้าง ควาย
ก. สุนัข ข. แมว ค. เป็ด ง. อูฐ
19. บรรยาย เทศนา สาธก
ก. พูด ข. อ่าน ค. เขียน ง. อุปมา
20. จำปา มะลิ กุหลาบ
ก. ขุนทอง ข. ปาล์ม ค. ราตรี ง. มะพร้าว
จากขอ 21 - ข้อ 40 จงพิจารณาว่าข้อใดไม่เป็นพวกเดียวกัน
21. ก. เทกวันโด ข. ฟุตบอล ค. ยูโด ง. ว่ายน้ำ
22. ก. ตา ข. จมูก ค. ขา ง. ปาก
23. ก. ตี่จับ ข. มอญซ่อนผ้า ค. ซ่อนหา ง. เปตอง
24. ก. อินโดนีเซีย ข. ฮ่องกง ค. กัมพูชา ง. เวียดนาม
25. ก. ปู่ ข. ตา ค. แม่ ง. ลุง
26. ก. ชัยภูมิ ข. หนองบัวลำภู ค. ยโสธร ง. เพชรบูรณ์
27. ก. สิ้นพระชนม์ ข. มรณภาพ ค. ชาตะ ง. สวรรคต
28. ก. คำสั่ง ข. ประกาศ ค. ข้อบังคับ ง. ระเบียบ
29. ก. แดง ข. ขาว ค. เขียว ง. น้ำเงิน
30. ก. ช้าง ข. ม้า ค. ไก่ ง. เสือ
31. ก. ไทยรัฐ ข. เดลินิวส์ ค. สตรีสาร ง. คม ชัด ลึก
32. ก. ลอนดอน ข. ปิ่นมะนา ค. นิวยอร์ค ง. เวียงจันทน์
33. ก. ทองหยิบ ข. ทองหยอด ค. ข้าวเกรียบ ง. ฝอยทอง
34. ก. อ้อย ข. ข้าว ค. หม่อน ง. มันสำปะหลัง
35. ก. แตงโม ข. มะละกอ ค. มะเฟือง ง. แอปเปิ้ล
36. ก. เสื้อ ข. กางเกง ค. เนคไท ง. รองเท้า
หน้า 45
37. ก. ป้า ข. ม้า ค. น่า ง. ย่า

38. ก. พระอภัยมณี ข. ขุนช้าง ค. ขุนแผน ง. นางวันทอง
39. ก. บทความ ข. ร่าย ค. โคลง ง. ฉันท์
40. ก. จริง ข. สร้าง ค. เศร้า ง. ปลาย
หน้า 46
เฉลยเจาะข้อสอบความสามารถด้านเหตุผล ชุดที่ 1
1. เฉลย ค. เป็ด แนวคิด เป็นสัตว์สองเท้า หรือ สัตว์ปีก

2. เฉลย ข. บุรีรัมย์ แนวคิด เป็นจังหวัดทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย
3. เฉลย ง. แรงงาน แนวคิด เป็นกระทรวง
4. เฉลย ค. ใส แนวคิด การทำให้เคลื่อนไปข้างหน้าโดยบุคคลอยู่ด้านหลังสิ่งของนั้น
5. เฉลย ข. เซปักตะกร้อ แนวคิด เป็นกีฬาที่เล่นเป็นทีม
6. เฉลย ค. พ่อ แนวคิด เป็นเพศชาย
7. เฉลย ก. สั่งการ แนวคิด เป็นประเภทหนังสือราชการ
8. เฉลย ข. ไปถาน (อุจจาระ)
แนวคิด เป็นคำที่ใช้กับภิกษุสงฆ์
9. เฉลย ง. นักบุญ แนวคิด คำลักษณะนาม เป็น รูป
10. เฉลย ก. ต่างหู แนวคิด เป็นเครื่องประดับ
11. เฉลย ค. แม่ แนวคิด เป็นเพศหญิง
12 เฉลย ข. ข่าวสด แนวคิด เป็นชื่อหนังสือพิมพ์รายวัน
13. เฉลย ค. ตะขาบ แนวคิด เป็นสัตว์เลื้อยคลาน
14. เฉลย ค. ต่อ แนวคิด ทำให้ของสองสิ่งต่อกัน
15. เฉลย ก. มะละกอ แนวคิด เป็นชื่อผลไม้
16. เฉลย ข. ตะใคร้ แนวคิด ใช้หัวในการขยายพันธุ์
17. เฉลย ค. น้ำเชื่อม แนวคิด มีรสหวาน
18. เฉลย ง. อูฐ แนวคิด เป็นสัตวพาหนะ
19. เฉลย ง. อุปมา แนวคิด เป็นประเภทโวหาร
20. เฉลย ค. ราตรี แนวคิด เป็นชื่อดอกไม้
21. เฉลย ข. ฟุตบอล แนวคิด ข้ออื่น เป็นกีฬาเล่นคนเดียว
22. เฉลย ค. ขา แนวคิด ข้ออื่นเป็นอวัยวะที่อยู่บนใบหน้า
23. เฉลย ง. เปตอง แนวคิด ข้ออื่นเป็นการละเล่นของไทย
24. เฉลย ข. ฮ่องกง แนวคิด ข้ออื่นเป็นประเทศในกลุ่มอาเซียน
25. เฉลย ค. แม่ แนวคิด ข้ออื่นเป็นเพศชาย
26. เฉลย ง. เพชรบูรณ์ (ภาคเหนือ)
แนวคิด ข้ออื่นเป็นจังหวัดทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย
หน้า 47
27. เฉลย ค. ชาตะ (เกิด)

แนวคิด ขออื่น มีความหมายว่าตาย
28. เฉลย ข. ประกาศ (หนังสือประชาสัมพันธ์)
แนวคิดขออื่นเป็นหนังสือราชการ (สั่งการ)
29. เฉลย ค. เขียว แนวคิด ข้ออื่นเป็นสีของธงชาติไทย
30. เฉลย ค. ไก่ (สัตว์ 2 เท่า)
แนวคิด ข้ออื่น เป็นสัตว์ 4 เท่า
31. เฉลย ค. สตรีสาร (นิตยสาร)
แนวคิด เป็นหนังสือพิมพ์รายวัน
32. เฉลย ค. นิวยอร์ค แนวคิด ข้ออื่นเป็นชื่อของเมืองหลวง
33. เฉลย ค. ข้าวเกรียบ แนวคิด ข้ออื่นเป็นชื่อขนมไทย
34. เฉลย ข. ข้าว แนวคิด ขออื่นขยายพันธุ์โดยการเสียบกิ่ง
35. เฉลย ง. แอปเปิ้ล แนวคิด ข้ออื่นเป็นชื่อผลไม้ไทย
36. เฉลย ค. เนคไท (ผูก)
แนวคิด ขออื่นใช้กริยาว่า สวม
37. เฉลย ข. ม้า (เสียงวรรณยุกต์ตรี)
แนวคิด ข้ออื่นเสียงวรรณยุกต์โท
38. เฉลย ก. พระอภัยมณี (พระอภัยมณี)
แนวคิด ข้ออื่นเป็นชื่อตัวละครในเรื่องเดียวกัน (ขุนช้าง - ขุนแผน)
39. เฉลย ก. บทความ (ร้อยแก้ว)
แนวคิด ข้ออื่นเป็นคำประพันธ์ประเภทร้อยกรอง
40. เฉลย ง. ปลาย (อักษรควบแท้)
แนวคิด ข้ออื่นเป็นอักษรควบไม่แท้
หน้า 48
1. ฝนตกแล้วแดดออก วันนี้แดดไม่ออก
ก. ฝนไม่ตก ข. ฝนอาจตก
ค. ฝนตกแต่แดดไม่ออก ง. สรุปแน่นอนไม่ได้
2. ครูทุกคนรักลูกศิษย์ สุนทรเป็นครู ฉะนั้น
ก. สุนทรรักลูกศิษย์ ข. สุนทรศรัทธาในวิชาชีพครู
ค. ลูกศิษย์ของสุนทรนิสัยดี ง. สรุปแน่นอนไม่ได้
3. พ่อเป็นหมอ แม่เป็นหมอ ฉะนั้น ลูกเป็นอะไร
ก. เป็นหมอ ข. เป็นข้าราชการ
ค. เป็นเด็ก ง. สรุปแน่นอนไม่ได้
4. ชาวอีสานเป็นคนไทย ชาวชัยภูมิเป็นคนชาวอีสาน ฉะนั้น
ก. ชาวชัยภูมิเป็นคนไทย ข. ชาวไทยอยู่ที่ชัยภูมิ
ค. ชาวไทยคือชาวอีสาน ง. สรุปแน่นอนไม่ได้
5. หยุดวันเสาร์ - อาทิตย์ นี้ เขาจะไปชลบุรีหรือไปกรุงเทพฯ แต่เขาไม่ไปกรุงเทพฯ
ก. เขาไปชลบุรี ข. เขาไปโรงเรียน
ค. เขาพักผ่อนอยู่ที่บ้าน ง. สรุปแน่นอนไม่ได้
6. นาย A มาก็ต่อเมื่อนาย B มา นาย B มาก็ต่อเมื่อนาย C ไม่มา ดังนั้น
ก. นาย A มาคนเดียว ข. นาย B มาคนเดียว
ค. นาย C มาคนเดียว ง. สรุปแน่นอนไม่ได้
7. การไม่ออกกำลังกาย ทำให้ อ้วน สมปองอ้วน ฉะนั้น
ก. สมปองไม่ออกกำลังกาย ข. สมปองเป็นคนกินจุ
ค. สมปองกินอาหารประเภทไขมันมาก ง. สรุปแน่นอนไม่ได้
8. แดงเป็นลูกของเหลือง เขียวเป็นลูกเขยของเหลือง ฉะนั้น
ก. แดงเป็นสามีของเขียว ข. แดงกับเขียวเป็นพี่น้องกัน
ค. แดงเป็นผู้หญิง ง. สรุปแน่นอนไม่ได้
9. A สูงกว่า B, B ต่ำกว่า C, C สูงกว่า D และ A ต่ำกว่า D ดังนั้นใครสูงที่สุด
ก. A ข. B
ค. C ง. D
หน้า 49
10. แดงเดินทางมายของดำและขาว ขาวเดินทางชายของดำ ใครเดินกลาง

ก. ขาว ข. ดำ
ค. แดง ง. สรุปแน่นอนไม่ได้
11. สำเริงจะไปทำบุญที่วัด หรือจัดงานเลี้ยง ในวันเกิดของเขา แต่สำเริงไปทำบุญที่วัดฉะนั้น
ก. สำเริงไม่จัดงานเลี้ยง
ข. สำเริงไม่มีเงิน
ค. สำเริงไปทำบุญที่วัดตอนเช้าตอนเย็นจัดงานเลี้ยง
ง. สรุปแน่นอนไม่ได้
12. ความรักทำให้คนตาบอด ตาบอดท่าให้มองไม่เห็น ฉะนั้น
ก. ความรักทำให้มองไม่เห็น ข. คนตาบอด จะมีความรัก
ค. ความรักและคนตาบอดเป็นของคู่กัน ง. สรุปแน่นอนไม่ได้
13. คนไทยจับสัตว์เก่ง สุนทรจับสัตว์ไม่เก่ง
ก. สุนทรเป็นคนลาว ข. สุนทรไม่ใช่เชื้อสายไทย
ค. สุนทรไม่มีเทคนิค ง. สรุปแน่นอนไม่ได้
14. เทพาเป็นคนมีคุณธรรม จีระเป็นครู ฉะนั้น
ก. ครูเป็นคนมีคุณธรรม ข. ครูตองมีคุณธรรม
ค. คนมีคุณธรรม คนหนึ่งเป็นครู ง. สรุปแน่นอนไม่ได้
15. พอจับปลาด้วยสวิง ลูกจับปลาด้วยแห ได้มากมาย ฉะนั้น
ก. บริเวณที่พอกับลูกอยู่มีปลาจำนวนมาก
ข. ในน้ำมีปลาอุดมสมบูรณ์
ค. ปลาถูกจับด้วยแหและสวิง
16. อากาศร้อน เพราะฝนไม่ตก วันนี้ฝนไม่ตก ฉะนั้น
ก. อากาศเย็น ข. อากาศอบอุ่น
ค. อากาศ ง. สรุปแน่นอนไม่ได้
17. ประชาชนในจังหวัดชัยภูมิมีอาชีพเกษตรกรรม ปัจจุบัน จังหวัดชัยภูมิ มีโรงงานอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น
ฉะนั้น
ก. ที่ดินทำการเกษตรลดลง
ข. รายได้ด้านการเกษตรจังหวัดชัยภูมิลดลง
ค. ประชาชนในจังหวัดชัยภูมิเลิกอาชีพการเกษตรกรรมไปทำงานในโรงงาน
หน้า 50
18. ด.ช. ไก่ เป็นคนชอบขโมยของเพื่อนในห้องเสมอ หนังสือ ด.ช. แมว หาย ฉะนั้น

ก. ด.ช. เป็นคนขโมย ข. เพื่อนในห้องเป็นคนขโมย
ค. ด.ช. แมว ทำหาย ง. สรุปแน่นอนไม่ได้
19. นักเรียน 5 คนยืนอยู่บันได 5 ขั้นโดย แดงยืนอยู่ต่ำกว่าดำแต่สูงกว่าเขียว ขาวเท่ากับเหลือง ซึ่งสูงกว่า
แดง ใครอยู่ต่ำสุด
ก. แดง ข. ดำ
ค. เขียว ง. ขาว
20. เด็กฉลาด กินปลา สมพงษ์โง่ ฉะนั้น
ก. สมพงษ์กินเนื้อ ข. สมพงษ์ไม่ชอบกินปลา
ค. สมพงษ์ไม่อา่ นหนังสือ ง. สรุปแน่นอนไม่ได้
21. คนทุกคนต้องตาย นายแดงเป็นคน ฉะนั้น
ก. นายแดงต้องถูกเผาแน่ ๆ ข. นายแดงไม่ใช่คน
ค. นายแดงต้องตาย ง. สรุปแน่นอนไม่ได้
22. บอระเพ็ดมีรสขม ยานี้ขม ฉะนั้น
ก. ยานี้เป็นบอระเพ็ด ข. บอระเพ็ดเป็นยา
ค. ของขมเป็นยา 4. สรุปแน่นอนไม่ได้
23. ถ้าราคาน้ำมันแพง ดำจะเลิกใช้รถยนต์ ดำเลิกใช้รถยนต์ ฉะนั้น
ก. ราคาน้ำมันแพง ข. ดำไม่มีเงินซื้อน้ำมัน
ค. ดำประหยัด ง. สรุปแน่นอนไม่ได้
24. น้ำขุน่ ปลาจะตาย ปลาตาย ฉะนั้น
ก. น้ำขุน่ ข. น้ำขาดออกซิเจน
ค. ปลาเป็นโรค ง. สรุปแน่นอนไม่ได้
25. เขียวประหยัดจึงเป็นเศรษฐี แดงอยากเป็นเศรษฐี ฉะนั้น
ก. แดงต้องประหยัด ข. แดงต้องเป็นพ่อค้า
ค. แดงต้องอยู่อย่างพอเพียง ง. สรุปแน่นอนไม่ได้
หน้า 51
1. ตอบ ก. ฝนไม่ตก
แนวคิด (เป็นการสรุปเหตุผลแบบมีเงื่อนไข)
เงื่อนไข เหตุ (ฝนตก) ผล (แดดออก)
ข้อสรุป ไม่ผล (แดดไม่ออก)
คำตอบต้อง ไม่เหตุ (ฝนไม่ตก )
2. ตอบ ก. สุนทรรักลูกศิษย์
แนวคิด (เป็นการสรุปเหตุผลแบบเหตุบังคับ)
รักลูกศิษย์ แนวคิด (เป็นการสรุปเหตุผลแบบมีเงื่อนไข)

เงื่อนไข เหตุ (ครูทุกคน) ผล (รักลูกศิษย์)
ครู
ข้อสรุป เหตุ (สุนทรเป็นครู)
สุนทร คำตอบต้อง ผล (สุนทรรักลูกศิษย์)
3. ตอบ ง. สรุปแน่นอนไม่ได้
แนวคิด เงื่อนไขแต่ละเงื่อนไข ไม่มีความสัมพันธ์กัน
หมอ
พ่อ แม่
ม่
ลู
ลู
ก
ก
หน้า 52
4. ตอบ ก. ชาวชัยภูมิเป็นคนไทย
แนวคิด (เป็นการสรุปเหตุผลแบบเหตุบังคับ)
คนไทย
อีสาน
ชัยภูมิ
5. ตอบ ก. เขาไปชลบุรี
แนวคิด เป็นการสรุปแบบเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง
6. ตอบ ค. นาย C มาคนเดียว
แนวคิด นาย A กับ นาย B ต้องไปด้วยกันเสมอตามเงื่อนไขที่กำหนด
7. ตอบ ง.สรุปแน่นอนไม่ได้
เงื่อนไข เหตุ (การไม่ออกกำลังกาย) ผล (ทำให้อ้วน )
ข้อสรุป ผล (สมปองอวน)
คำตอบ สรุปไม่ได้
แนวคิด เงื่อนไขแต่ละเงื่อนไข ไม่มีความสัมพันธ์กัน (ข้อมูลไม่เพียงพอ)
9. ตอบ ค. C
แนวคิด เป็นการสรุปเหตุผลแบบเปรียบเทียบ
C
D
A
B
หน้า 53
10. คอบ ก. ขาว

แดง ขาว ดำ
11. ตอบ ก. สำเริงไม่จัดงานเลี้ยง
แนวคิด เป็นการสรุปแบบเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง
14. ตอบ ค. คนมีคุณธรรม คนหนึ่งเป็นครู
แนวคิด
ครู เทพา คุณธรรม
15. ตอบ ค. ปลาถูกจับด้วยแพและสวิง

แนวคิด
แห ปลา สวิง

เงื่อนไข เหตุ (อากาศร้อน) ผล (เพราะฝนไม่ตก)
ข้อสรุป ผล (วันนี้ไม่ฝนตก)
คำตอบ สรุปไม่ได้
หน้า 54

19. ตอบ ค. เขียว
ขาว กับเหลือง ...............ดำ
แดง
เขียว

21. ค. นายแดงต้องตาย
เงื่อนไข เหตุ (คนทุกคน) ผล (ตาย)
ข้อสรุป เหตุ (นายแดงเป็นคน)
คำตอบต้อง ผล (นายแดงต้องตาย)
22 ตอบ ง. สรุปแน่นอนไม่ได้
เงื่อนไข เหตุ (บอระเพ็ด) ผล (รสขม)
ข้อสรุป ผล (ยานี้ขม)
คำตอบต้อง สรุปแน่นอนไม่ได้
เงื่อนไข เหตุ (ราคาน้ำมันแพง) ผล (เลิกใช้รถยนต์)
ข้อสรุป ผล (ดำเลิกใช้รถยนต์)
คำตอบตอง สรุปแน่นอนไม่ได้
เงื่อนไข เหตุ (น้ำขุ่น) ผล (ปลาจะตาย)
ข้อสรุป ผล (ปลาตาย)
หน้า 55

เงื่อนไข เหตุ (ประหยัด) ผล (เป็นเศรษฐี)
ข้อสรุป ผล (อยากเป็นเศรษฐี)
1. เหตุ 1. ถ้าวันนี้ฝนตกแล้วแดงจะไม่ไปดูภาพยนตร์
2. วันนี้ฝนตก
ข้อสรุปใดเป็นจริง
ก. แดงไม่ไปดูภาพยนตร์ ข. แดงทำการบ้านคณิตศาสตร์อยู่ที่บ้าน
ค. แดงไปอาบน้ำฝน ง. แดงออกจากบ้านต้องกางร่ม
2. เหตุ 1. ถ้าปรีชาสอบวิชาคณิตศาสตร์ได้เกรด 4 แล้วบิดาของสมศักดิ์จะให้เงิน 1,000 บาท
2. ปรีชาไม่ได้เงิน 1,000 บาท จากบิดา
ก. ปรีชาสอบวิชาคณิตศาสตร์ตก
ข. ปรีชาสอบวิชาคณิตศาสตร์ได้เกรด 3
ค. ปรีชาสอบวิชาคณิตศาสตร์ไม่ได้เกรด 4
ง. ถูกทุกข้อ
3. เหตุ 1. หมู่ 3 ตำบลคนดี ปลอดยาเสพติด
2. สมชาติเป็นชาวบ้านหมู่ 3 ตำบลคนดี
3. ผู้ที่ไม่ติดยาเสพติดทุกคนจะสุขภาพดี
ก. สมชาติเล่นกีฬาเป็นประจำเพื่อทำงใกลยาเสพติด
ข. สมชาติมีสุขภาพดี
ค. สมชาติเป็นนักฟุตบอลประจำหมู่บ้าน
ง. ยังสรุปไม่ได้
ใช้สถานการณ์ต่อไปนี้ตอบคำถามข้อ 4 - 5
ดำ, แดง, เขียว, ขาว, เหลือง เป็นคน 4 คน ยืนเข้าแถวตอนลึก โดยที่ดำอยู่หัวแถว เขียวอยู่หน้า
ขาวและอยู่ติดกัน แดงและเขียวอยู่หน้าเหลืองและอยู่ติดกัน
หน้า 56
4. ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง
ก. คำอยู่หน้าแคงและอยู่ติดกัน ข. เหลืองอยู่หลังสุด
ค. แคงอยู่หน้าเขียวและอยู่ติดกัน ง. ถูกทุกข้อ
5. ข้อใดเรียงลำดับจากหัวแถวไปหางแถวตามลำดับได้ถูกต้อง
ก. คำ, แดง, เขียว, ขาว, เหลือง ข. ดำ, เขียว, ขาว, แดง, เหลือง
ค. คำ, แดง, ขาว, เขียว, เหลือง ง. ดำ, เขียว, ขาว, แดง, เหลือง
ใช้สถานการณ์ต่อไปนี้ตอบคำถามข้อ 6 - 7
สมชาย สมชาติ และสมส่วน เป็นลูกของ สมศักดิ์
สมส่วน เป็นอาของ สมศรี
สมชาย เป็นลุงของ สมศรี
สมหวัง เป็นปู่ของ สมชาย
6. ข้อใดกล่าวถูกต้อง
ก. สมส่วนเป็นพี่ของสมชาติ ข. สมชาติเป็นพ่อของสมศรี
ค. สมศรีเป็นหลานของสมหวัง ง. ไม่มีข้อใดถูกต้อง
7. ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง
ก. สมหวังเป็นพ่อของสมศักดิ์ ข. สมศักดิ์เป็นปู่ของสมศรี
ค. สมชาติเป็นน้องของสมชาย ง. สมส่วนเป็นพี่ของสมชาติ
8. ถ้า X = Y ≮ Z > W และ N ≮ M > X แล้วข้อใดสรุปไม่ถูกต้อง
ก. N > Y ข. M > Z
ค. N ≥ M ง. N ≤ w
9. ถ้า A ≠ B > C ≮ D > E แล้วข้อใดสรุปถูกต้อง
ก. A > C ข. C > E
ค. A > E ง. ถูกทุกข้อ
10. ถ้า A > B = C ≮ D และ D ≥ X ≱ Y ≯ Z แล้วข้อใดสรุปถูกต้อง
ก. X < A ข. Y > C
ค. Z > C ง. Y < A
11. ให้ B > E, A > B, C > B, C< D และ A > C ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง
ก. A < D ข. A > E
ค. C > E ง. D > E
หน้า 57
12. ถ้า A C, D < A < F ดังนั้นผลจะเป็นเช่นไร
ก. D < B ข. A < C
ค. F < E ง. ถูกทุกข้อ
คำชี้แจง ตั้งแต่ข้อ 13 – 20 จะกำหนดภาพให้ 3 ภาพ ให้พิจารณาเงื่อนไขของภาพที่กำหนดให้แล้วตอบ
ว่าภาพต่อไปจะเป็นแบบใด
13.
14.
15.
หน้า 58
16.
17.
18.
หน้า 59
19.
20.
หน้า 60
1. เฉลยข้อ ก ให้ p แทน วันนี้ฝนตก

q แทน แดงไม่ไปดูภาพยนตร์
เหตุ 1) p + q
2) p
จะได้ผลคือ q คือ แดงไม่ไปดูภาพยนตร์
[(p → q) ⋀ p] → q เป็นสัจนิรันดร์ คือ เป็นประพจน์ที่เป็นจริงทุกกรณี
ข้อสังเกต การอ้างเหตุผลต่อไปนี้สมเหตุสมผลซึ่งควรจำ
1. เหตุ 1) p → q
2) p
ผล q
2. เหตุ 1) p → q
2) ~q
ผล ~p
3. เหตุ 1) p → q
2) q → r
ผล p → r
4. เหตุ p ⋀ q
ผล P
5. เหตุ p ⋀ q
ผล q
6. เหตุ P
ผล p ∨ q
7. เหตุ 1) p v q
2) ~p
ผล q
8. เหตุ 1) p V q
2) ~q
ผล P
หน้า 61
2. เฉลยข้อ ค ให้ p แทน สมศักดิ์สอบวิชาคณิตศาสตร์ได้เกรด 4

q แทน บิดาของสมศักดิ์ให้เงิน 1,000 บาท
เหตุ 1) p → q
2) ~q
ผล ~p คือ สมศักดิ์สอบวิชาคณิตศาสตร์ไม่ได้เกรด 4
3. เฉลยข้อ ข
คนที่ไม่ติดยาเสพติด
ชาวบ้านหมู่ 3 สมชาย
ตำบลคนดี คนสุขภาพดี
จากแผนภาพจะได้ว่าสมชาติมีสุขภาพดีแน่นอน
4. เฉลยข้อ ง ดำ (หัวแถว)
แดง
เขียว
ขาว
เหลือง (หางแถว)
5. เฉลยข้อ ก จากข้อ 4
6. เฉลยข้อ ข
สมหวัง
ลูก
สมศักดิ์
ลูก
(พี่พ่อของสมศรี) สมชาย สมชาติ สมส่วน (น้องพ่อของสมศรี)

หลาน หลาน
สมศรี
จากแผนผังจะสรุปได้ว่า สมชาติ จะเป็นพ่อของ สมศรี
หน้า 62
7. เฉลยข้อ ง จากแผนผังข้อ 6
ข้อ ก สมหวังเป็นพ่อของสมศักดิ์ จะถูกต้อง
ข้อ ข สมศักดิ์เป็นปู่ของสมศรี จะถูกต้อง เนื่องจาก สมศรีเป็นลูกของสมชาติ และสมชาติ
เป็นลูกของสมศักดิ์
ข้อ ค สมชาติเป็นน้องของสมชาย จะถูกต้อง เนื่องจาก สมชาติเป็นลุงของสมศรี
ข้อ ง สมส่วนเป็นพี่ของสมชาติ ไม่ถูกต้อง เนื่องจาก สมส่วนเป็นอาของสมศรี
ดังนั้นจะต้องเป็นน้องของสมชาติ
8. เฉลยข้อ ง เนื่องจาก X = Y ≮ Z > W และ N ≮ M > X
ดังนั้น X = Y ≥ Z > W และ N ≥ M > X
จาก N ≥ M > X
ดังนั้น N > X …. (1)
จาก X = Y ≥ Z > W
X≥Z>W
X>W …. (2)
จาก (1) และ (2) จะได้
N>X>W
ดังนั้น N > W
ดังนั้น N ≤ W จึงไม่ถูกต้อง
ตัวเลือกข้อ ก, ข, ค ถูกต้อง
ตัวเลือกข้อ ก. N > Y ถูกต้อง
เนื่องจาก N ≥ M > X
N>X …. (1)
X=Y … (2)
จาก (1) และ (2) จะได้ N > Y
ตัวเลือกข้อ ข. M > Z ถูกต้อง
เนื่องจาก N ≥ M > X
M>X … (1)
หน้า 63
X≥Z>W
X≥Z … (2)
จาก (1) และ (2) จะได้ M > 2
ตัวเลือกข้อ ค. N ≥ M ถูกต้อง
จาก N ≥ M > X
ดังนั้น N ≥ M
9. เฉลยข้อ ข เนื่องจาก A ≠ B > C < D > E
ดังนั้น A ≠ B > C ≥ D > E
ดังนั้น C ≥ D > E
ดังนั้น C > E ถูกต้อง
A > C ไม่ถูกต้อง
เนื่องจาก A ≠ B > C ≥ D > E
A ≠ B และ B > C
A ≠ B จะได้ว่า A > B หรือ A C จึงไม่ถูกต้อง เนื่องจาก A อาจจะน้อยกว่า B ก็ได้ จึงทำให้
สรุปว่า A > C จึงไม่ถูกต้อง
A > E ไม่ถูกต้อง
เนื่องจาก A ≠ B > C ≥ D > E
A ≠ B และ B > C ≥ D > E
A ≠ B และ จะได้ว่า A > B หรือ A E ไม่ได้
แต่ถ้า A > B จะสรุปว่า A > E ได้
A > B > C ≥ D > E.
ดังนั้น A > E
ดังนั้น ถ้าจะสรุปว่า A > E จึงยังไม่ถูกต้อง
10. เฉลยข้อ ก A > B = C < D และ D ≥ X ≥ Y > Z
ดังนั้น A > B = C ≥ D และ D ≥ X < Y ≤ Z
C ≥ D และ D ≥ X
ดังนั้น C ≥ X … (1)
หน้า 64
A>B=C
ดังนั้น A > C … (2)
จาก (1), (2) จะได้ A > C ≥ X
ดังนั้น A > X
หรือ X < A นั่นเอง (ถูกต้อง)
แต่ Y > C ไม่ถูกต้อง
จาก A > B = C ≥ D และ D ≥ X < Y ≤ Z
D ≥ X < Y และ C ≥ D
ดังนั้น C ≥ D ≥ X
ดังนั้น C ≥ X และ X < Y
ดังนั้น C กับ Y จึงยังสรุปไม่ได้ว่า Y > C หรือ Y < C หรือ Y = C
ถ้าสรุปว่า Y > C จึงไม่ถูกต้อง
แต่ Z > C ไม่ถูกต้อง
จาก A > B = C ≥ D และ D ≥ X < Y ≤ Z
C ≥ D และ D ≥ X
ดังนั้น C ≥ X … (1)
จาก X < Y ≤ Z
ดังนั้น X < Z … (2)
จาก (1) และ (2) Z กับ C ยังสรุปไม่ได้ว่า Z > C
Z อาจจะน้อยกว่า C หรือ Z = C ก็ได้
ในทำนองเดียวกัน จะสรุปว่า Y > A ก็ไม่ถูกต้องเช่นกัน
11. เฉลยข้อ 1 จากสิ่งที่กำหนดให้เขียนเป็นแผนภาพได้ดังรูป
ข้อสังเกต ลูกศรชี้ไปที่ตัวอักษรใดตัวอักษรนั้นจะมีค่ามากกว่า เช่น
D
A A
C แสดงว่า B < A หรือ A > B นั่นเอง

D B
A < D ไม่ถูกต้อง เนื่องจากจากแผนภาพ A > C และ D > C ทั้ง A และ D ต่างก็
C มากกว่า C แต่จะสรุปว่า A < D ไม่ได้
A อาจจะมากกว่า D ก็ได้ เช่น 5 > 2 และ 4 > 2 แต่ 5 > 4
หน้า 65
แต่ A > E ถูกต้อง เนื่องจาก จากแผนภาพ E E นั่นเอง
C > E ถูกต้อง เนื่องจาก จากแผนภาพ E E นั่นเอง
D > E ถูกต้อง เนื่องจาก E 
E นั่นเอง
ดังนั้น จึงเลือกข้อ ก เนื่องจาก เป็นข้อที่ไม่ถูกต้อง
12. เฉลยข้อ ง จากสิ่งที่กำหนดให้เขียนเป็นแผนภาพได้ดังรูป
E D < B ถูกต้อง เนื่องจาก จากแผนภาพ D < F และ F < C และ C < B
ดังนั้น D < B
B C
A < C ถูกต้อง เนื่องจาก จากแผนภาพ A < F และ F < C ดังนั้น A < C
F < E ถูกต้อง เนื่องจาก จากแผนภาพ F < C และ C < B และ B < E
F
A ดังนั้น F < E
D
1
13. เฉลยข้อ ก รูปที่กำหนดให้ 3 รูปมีเงื่อนไขว่า จะเคลื่อนรูปที่อยู่ภายในแต่ละ ของวงกลมคือรูป
4
โดยเคลื่อนไปในทางตามเข็มนาฬิกาทีละ 1 ช่อง
14. เฉลยข้อ ก รูปที่กำหนดให้ 3 รูปมีเงื่อนไขว่า รูปถัดไปจะเพิ่มรูปวงกลมแรเงา ต่อด้วยรูปสี่เหลี่ยม
สลับกันไปโดยเพิ่มทีละ 1 รูป ถ้าเป็นวงกลมจะแรเงา แต่ถ้าเป็นรูปสี่เหลี่ยมจะไม่แรเงา
15. เฉลยข้อ ข รูปที่กำหนดให้ 3 รูปมีเงื่อนไขว่า รูปถัดไปเกิดจากรูปก่อนหน้า จำนวนของเหลี่ยมจะเพิ่ม
ขึน้ ทีละ 1 เหลี่ยม จะมีวงกลมอยู่ที่มุมของรูปเหลี่ยม และจะอยู่ด้านนอก และจะมีวงกลม
เล็กอีก 1 วงอยู่ตรงกลางรูป วงกลมเล็กดังกล่าวจะมีการแรเงาสลับกันกับรูปก่อนหน้า
16. เฉลยข้อ ค รูปที่กำหนดให้ 3 รูปมีเงื่อนไขว่า รูปถัดไปได้จากการหมุนรูปก่อนหน้า โดยใช้จุดกึ่งกลาง
ของส่วนของเส้นตรงเป็นจุดหมุน โดยหมุนทวนเข็มนาฬิกาทีละ 90 องศา และวงกลมเล็ก
จะมีการสลับการแรเงากับรูปแรก
17. เฉลยข้อ ค เงื่อนไขตามแนวนอน จะมีการแรเงาเกิดขึ้นเมื่อหมุนส่วนของเส้นตรงตามเข็มนาฬิกา
ไปทีละ 45 องศา โดยมีจุดศูนย์กลางของวงกลมเป็นจุดหมุน เงื่อนไขตามแนวดิ่งทำนอง
เดียวกันกับแนวนอน แต่ต้องเคลื่อนส่วนของเส้นตรงทวนเข็มนาฬิกา
18. เฉลยข้อ ง รูปที่กำหนดให้มีเงื่อนไขว่า รูปที่ 1 คู่กับรูปที่ 2 โดยที่รูปที่ 2 ได้จากตัดเอาด้านของ
รูปที่ 1 ออกไป เหลือแต่เส้นทแยงมุม
หน้า 66
19. เฉลยข้อ ก รูปที่กำหนดให้มีเงื่อนไขว่า รูปที่ 1 คู่กับรูปที่ 2 โดยที่รูปที่ 2 ได้จากรูปที่ 1 โดยตัด

รูปแถบบนขวาออกเหลือรูปสี่เหลี่ยมเท่ากัน 3 รูป แล้วแรเงารูปในแนวทแยง
20. เฉลยข้อ ข รูปที่กำหนดให้มีเงื่อนไขว่า รูปที่ 1 คู่กับรูปที่ 2 โดยที่รูปที่ 2 ได้จากหมุนส่วนของเส้น
ตรงมาในทิศทางตามเข็มนาฬิกา โดยมีจุดหมุนที่จุดศูนย์กลางของวงกลม หมุนมา 45
องศา และตัดเอาส่วนโค้งของวงกลมที่รองรับมุม 45 องศาออกไป และแรเงาเนื้อที่ที่
เหลือของวงกลม
หน้า 67
1. ดอกไม้ : แมลง → ผู้ชาย : ?

ก. ผู้หญิง ข. กางเกง ค. พายเรือ ง. เนคไท
2. คน : จมูก → ปลา : ?
ก. หาง ข. ปาก ค. ครีบ ง. เหงือก
3. ยักษ์ : ตน → พระสงฆ์ : ?
ก. องค์ ข. รูป ค. คน ง. ถูกทั้งข้อ ก และ ข
4. พยัญชนะ : 44 → สระ : ?
ก. 20 ข. 21 ค. 22 ง. 32
5. คน : เดิน → รถไฟ : ?
ก. วิ่ง ข. ราง ค. แล่น ง. เคลื่อน
6. ต้นไม้ : กิ่ง → ถนน : ?
ก. ซอย ข. แยก ค. สาย ง. ตรอก
7. แมว : หนู → ตำรวจ : ?
ก. ปืน ข. ผู้ราย ค. ห้องขัง ง. กฎหมาย
8. ครู : สอน → พระ : ?
ก. วัด ข. เทศน์ ค. ผ้าเหลือง ง. กุฏิ
9. ช้าง : โขลง → มะพร้าว : ?
ก. ลูก ข. ผล ค. ใบ ง. ทะลาย
10. เรือ : หางเสือ → รถ : ?
ก. ล้อ ข. พวงมาลัย ค. เบรก ง. เกียร์
11. ครู : นักเรียน → หมอ : ?
ก. พยาบาล ข. เข็มฉีดยา ค. คนไข้ ง. ยารักษาโรค
12. พืช : คาร์บอนไดออกไซด์ → คน : ?
ก. ออกซิเจน ข. ไฮโดรเจน ค. ไนโตรเจน ง. ฟอสฟอรัส
13. ค้อน : ตะปู → เข็ม : ?
ก. กระดุม ข. ด้าย ค. เสื้อ ง. กางเกง
หน้า 68
14. ช้าง : เชือก → ชี : ?

ก. คน ข. องค์ ค. รูป ง. ตน
15. รถยนต์ : อู่ → คน : ?
ก. อากาศ ข. อาหาร ค. ยารักษาโรค ง. โรงพยาบาล
16. ไทย : กรุงเทพมหานคร → สหรัฐอเมริกา : ?
ก. นิวยอร์ก ข. วอชิงตัน ค. บุช ง. ยูทาร์
17. 5 ธันวาคม : พระเจ้าอยู่หัว → 2 เมษายน : ?
ก. พระบรมราชินีนาถ ข. สมเด็จพระโอรสาธิราช
ค. สมเด็จพระเทพฯ ง. สมเด็จเจ้าฟ้าจุฬาภรณ์
18. ตุลาการ : ศาล → นิติบัญญัติ : ?
ก. กฎหมาย ข. รัฐสภา
ค. คณะรัฐมนตรี ง. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
19. ป่วย : ยา → หิว : ?
ก. น้ำ ข. อาหาร ค. ท้อง ง. กระเพาะอาหาร
20. วันอาทิตย์ : สีแดง → วันพุธ : ?
ก. สีเหลือง ข. สีชมพู ค. สีแสด ง. สีเขียว
21. เกียรติศักดิ์ : นักฟุตบอล → ประยุทธ์ : ?
ก. นายกรัฐมนตรี ข. หัวหน้าพรรค ค. นักการเมือง ง. นักการศึกษา
22. ข้าว : กิน → น้ำ : ?
ก. แก้ว ข. ดื่ม ค. เย็น ง. ระเหย
23. คี่ : คู่ → หญิง : ?
ก. ชาย ข. ดอกไม้ ค. กระโปรง ง. สร้อย
24. จังหวัด : ผู้ว่าราชการจังหวัด → อบต. : ?
ก. ปลัด อบต. ข. นายก อบต. ค. ประธานสภา อบต. ง. สมาชิกสภา อบต.
25. น้ำ : ไหล → ลม : ?
ก. เย็น ข. พัด ค. ปลิว ง. ดัน
26. ชัยภูมิ : ตะวันออกเฉียงเหนือ → ยะลา : ?
ก. ใด้ ข. อิสลาม
ค. ยาวี ง. สามจังหวัดชายแดนภาคใต้
หน้า 69
27. พระหัตถ์ : มือ → พระปิฐิกัณฐกฐิ : ?

ก. กระดูก ข. กระดูกสันหลัง ค. กระดูกบั้นเอว ง. กระดูกสะโพก
28. ใต้ : ยะลา → กลาง : ?
ก. นครสวรรค์ ข. ลพบุรี ค. ชัยภูมิ ง. เพชรบูรณ์
29. คน : โรงพยาบาล → รถยนต์ : ?
ก. ถนน ข. ล้อ ค. พวงมาลัย ง. อู่
30. ช้าง : เชือก → ไข่ : ?
ก. ฟอง ข. ใบ ค. ลูก ง. ถูกทุกข้อ
31. ทะเล : มหาสมุทร → ? : ?
ก. ลำธาร : น้ำตก ข. คลอง : แม่น้ำ ค. เกาะ : เขา
ง. ทะเลสาบ : บึง จ. น้ำฝน : เขื่อนกั้นน้ำ
32. ไกล : ใกล้ → ? : ?
ก. เลว : ดี ข. ต่ำ : เตี้ย ค. ยาว : สั้น
ง. สูง : ลึก จ. คำ : ขาว
33. การเลือกตั้ง : ประชาธิปไตย → ? : ?
ก. สงคราม : ความสำเร็จ ข. สามัคคี : เสรีภาพ ค. แต่งตั้ง : ทุนนิยม
ง. ปฏิวัติ : เผด็จการ จ. การหาเสียง : การเลือกตั้ง
34. วิสาขบูชา : เดือนหก → ? : ?
ก. ปีใหม่ : เดือนหนึ่ง ข. เข้าพรรษา : เดือนแปด ค. สงกรานต์ : เดือนห้า
ง. มาฆบูชา : เดือนสาม จ. ลอยกระทง : เดือนสิบสอง
35. สัจจะ : ความเชื่อถือ → ? : ?
ก. ยุติธรรม : ความเลื่อมใส ข. เสียสละ : การพัฒนา ค. กล้าหาญ : ความเคารพ
ง. เมตตา : ความอบอุ่น จ. ความรัก : ความผูกพัน
36. บะหมี่ : ข้าวผัด → ? : ?
ก. ลูกชิ้น : ไข่ดาว ข. อาหารว่าง : อาหารหนัก ค. ข้าวต้ม : ข้าวสวย
ง. อาหารชาวจีน : อาหารชาวตะวันตก จ. ขนมจีน : น้ำยา
37. น้ำพริก : ปลาทู → ? : ?
ก. น้ำตก : เนื้อย่าง ข. ไก่อบ : ภูเขาไฟ ค. ปลาดุกฟู : น้ำจิ้ม
ง. ขนมจีน : น้ำเงี้ยว จ. ส้มตำ : น้ำตก
หน้า 70
38. เบื่อ : ทิ้ง → ? : ?

ก. รัก : ชัง ข. ขยัน : สำเร็จ ค. อม : บ้วน
ง. บุญ : บาป จ. สุข : ทุกข์
39. ระบาด : ป้องกัน → ? : ?
ก. สงสัย : ฉลาด ข. ศัตรู : อาฆาต ค. ลำบาก : อุตสาหะ
ง. วิวาท : โต้เถียง จ. เจ้ากรรม : นายเวร
40. การศึกษา : การเรียนรู้ → ? : ?
ก. การเต้นรำ : การร้องเพลง ข. การวิ่ง : การกระโดด ค. การอ่าน : การเขียน
ง. การสำรวจ : การค้นพบ จ. การเล่น : การแสดง
หน้า 71
1. ก. ผู้หญิง 2. ง. เหงือก
3. ง. ถูกทั้งขอ ก และ ข 4. ข. 21
5. ค. แล่น 6. ง. ตรอก
7. ข. ผู้ร้าย 8. ข. เทศน์
9. ง. ทะลาย 10. ข. พวงมาลัย
11. คนไข้ 12. ก. ออกซิเจน
13. ข. ด้าย 14. ก. คน
15. ง. โรงพยาบาล 16. ข. วอชิงตัน
17. ค. สมเด็จพระเทพฯ 18. ข. รัฐสภา
19. ข. อาหาร 20. ง. สีเขียว
21. ค. นักการเมือง 22. ข. ดื่ม
23. ก. ชาย 24. ข. นายก อบต.
25. ข. พัด 26. ก. ใต้
27. ข. กระดูกสันหลัง 28. ข. ลพบุรี
29. ง. อู่ 30. ง. ถูกทุกข้อ
31. ข. คลอง : แม่น้ำ 32. ค. ยาว : สั้น
33. ง. ปฏิวัติ : เผด็จการ 34. ง. มาฆบูชา : เดือนสาม
35. ก. ยุติธรรม : ความเลื่อมใส 36. ง. อาหารชาวจีน : อาหาร
ชาวตะวันตก
37. ค. ปลาดุกฟู : น้ำจิ้ม 38. ข. ขยัน : สำเร็จ
39. ค. ลำบาก : อุตสาหะ 40. ง. การสำรวจ : การค้นพบ
หน้า 72
เจาะข้อสอบความสามารถด้านภาษาไทย
1. เสียงพยัญชนะเสียงใด มีรูปมากที่สุด
ก. ค ข. ท ค. ซ ง. พ
2. ข้อใดมีพยัญชนะต้นที่เป็นควบกล้ำ
ก. ขนมหวาน ข. ฝรั่งดอง ค. ตลาดสด ง. ปรบมือ
3. ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง เกี่ยวกับพยัญชนะ
ก. หน้าที่ของพยัญชนะ คือเป็นพยัญชนะต้น
ข. เสียง ย มีพยัญชนะ 2 รูป
ค. พยัญชนะทำหน้าที่เป็นอักษรนำ เช่น คำว่า พร้อม
ง. คำว่า ฟิล์ม พยัญชนะ ล เป็นตัวการันต์
4. คำว่า ภาษาไทย ตัวพยัญชนะ ภ และ ย แตกต่างกันอย่างไร
ก. พยัญชนะ ภ ทำหน้าที่เป็น พยัญชนะต้น พยัญชนะ ย ทำหน้าที่เป็นตัวสะกด
ข. พยัญชนะ ภ ท้าหน้าที่เป็น พยัญชนะต้น พยัญชนะ ย ทำหน้าที่เป็นอักษรตาม
ค. พยัญชนะ ภ ทำหน้าที่เป็น อักษรนำ พยัญชนะ ย ทำหน้าที่เป็นอักษรตาม
ง. พยัญชนะ ภ ทำหน้าที่เป็น อักษรนำ พยัญชนะ ย ทำหน้าที่เป็นตัวสะกด
5. คำในข้อใด มีอักษรกลาง เป็นพยัญชนะต้นทั้งหมด
ก. กลวิธี ครางครวญ ข. ปรากฏ จวก ค. อารมณ์ ผลผลิต ง. ดาบส มหัศจรรย์
6. คำในข้อใด มีอักษรต่ำเดี่ยว เป็นพยัญชนะต้นทั้งหมด
ก. วัยเยาว์ ชลลัย ข. ครรลอง มลภาวะ ค. นั่งมอง ริษยา ง. ทฤษฎี ธรณี
7. คำในข้อใดมี อักษรต่ำคู่ เป็นพยัญชนะต้นทั้งหมด
ก. ธงชาติ ภาชนะ ข. คชสาร นิมิต ค. โคจร นิทรา ง. ชลเนตร วรรณคดี
8. ข้อความต่อไปนี้ช่อใด ผิด
ก. อักษรที่เกี่ยวมี 10 ตัว อักษรคู่มี 14 ตัว ข. ง ณ น ญ เป็นอักษรต่ำเกี่ยว
ค. อักษรสำคู่มีเสียงคู่กับอักษรกลาง ง. ไตรยางศ์เรียกอีกอย่างหนึ่งว่าอักษรสามหมู่
9. ค่าในข้อใดเป็นสระเสียงสั่นทุกพยางค์
ก. ครั้นคราม ข. สันสกฤต ค. เสวนา ง. แผนภูมิ
10. คำในข้อใดเป็นสระเสียงยาว ทุกพยางค์
ก. เมขลา ข. สัญญาณ ค. อารยธรรม ง. โครงงาน
หน้า 73
11. หากจะผันวรรณยุกต์ในอักษรต่ำ ต้องนำอักษรใดมาผันเข้าคู่กันจึงจะผันได้ครบ 5 เสียง

ก. อักษรกลาง ข. อักษรสูง ค. อักษรนำ ง. อักษรควบกล้ำ
12. “ปกติ” ประกอบไปด้วยพยัญชนะต้นของอักษรหมู่ใดบ้าง
ก. อักษรกลาง อักษรสูง ข. อักษรสูง อักษร
ค. อักษรกลาง ง. อักษรสูง อักษรกลาง อักษรต่ำ
13. “ฟ้าใสใจกระจก" ประกอบไปด้วยพยัญชนะต้นของอักษรหมู่ใดมากที่สุด
ก. อักษรสูง อักษรต่ำ ข. อักษรต่ำ
ค. อักษรสูง ง. อักษรกลาง
15. สระ (เ-อ) ประกอบด้วยรูปสระใดบ้าง
ก. ไม้หน้า + พินทุ์อิ + ฟันหนู + ตัวออ ค. ลากข้าง + พินทุ์อิ + ฟันหนู + ตัวออ
ข. ไม้หน้า + พินทุ์อิ + ฝนทอง + ตัวออ ง. ลากข้าง + พินทุ์อิ + ฝนทอง + ตัวออ
16. ประโยคในข้อใดมีคำที่มีสระประสม
ก. พายุพัดแรงมาก ข. เราควรช่วยเหลือกัน
ค. ท้องฟ้าปลอดโปร่ง ง. ภูมิปัญญาชาวบ้านน่าชื่นชม
17. ประโยคในข้อใดที่มีคำที่มีสระเกิน
ก. กบในกะลาครอบ ข. จับปลาสองมือ
ค. กระต่ายตื่นตูม ง. คงเส้นคงวา
18. ประโยคในข้อใดมีคำที่เป็นสระเดี่ยวทุกคำ
ก. แซงทางโค้ง จะอยู่โยงเส้นทาง
ข. อดีตไม่ขยัน ปัจจุบันไม่ขวนขวาย ไม่ต้องทายอนาคต
ค. มีเงินเรียกน้อง มีทองเรียกพี่
ง. กลัวให้ถูกท่า กล้าให้ถูกที่ ดีให้ถูกทาง
19. ข้อใดกล่าวถึงลักษณะของคำเป็น ไม่ถูกต้อง
ก. เป็นคำที่ประสมตัวสระเสียงสั้นของแม่ ก กา
ข. เป็นคำที่ประสมตัวสระเสียงยาวของแม่ ก กา
ค. เป็นคำที่มีตัวสะกดในแม่กน แม่เกย และแม่เกวอ
ง. เป็นคำที่ประสมด้วยสระ อำ ใ- ไ- เ-า
20. ข้อใดกล่าวถึงลักษณะของ คำตาย ไม่ถูกต้อง
ก. เป็นคำที่ประสมตัวสระเสียงสั้นของแม่ ก กา
ข. เป็นคำที่ประสมตัวสระเสียงยาวของแม่ ก กา
ค. เป็นคำที่มีตัวสะกดในแม่กก แม่กด และแม่กบ
หน้า 74
ง. เป็นคำที่ไม่ประสมด้วยสระ อำ ใ- ไ- เ-า
21. ข้อใดไม่ใช่องค์ประกอบของพื้นเสียง
ก. พยัญชนะ ข. สระ ค. รูปวรรณยุกต์ ง. เสียงวรรณยุกต์
อ่านบทประพันธ์นี้แล้วตอบคำถามข้อ 22-25
" ชนใดไม่มีดนตรีกาล ในสันดานเป็นคนชอบกลนัก
อีกใครฟังดนตรีไม่เห็นเพราะ เขานั้นหมดคิดขบถอัปลักษณ์”
*จาก เวนิสวานิช บทพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 8
22. จากบทประพันธ์ข้างต้นนี้ วรรคใดไม่มีคำตายปรากฏอยู่
ก. วรรคที่ 1 ข. วรรคที่ 2 ค. วรรคที่ 3 ง. วรรคที่ 4
23. จากบทประพันธ์ข้างตนนี้ ในวรรคที่ 1 มีคำเป็นทั้งหมดกี่คำ
ก. 4 คำ ข. 5 คำ ค. 6 คำ ง. 7 คำ
24. จากบทประพันธ์ข้างตนนี้ วรรคใดมีคำเป็นมากที่สุด
อ่านบทประพันธ์นี้แล้วอ่านดำอบคำถามข้อ 25-29
“ปากเป็นเอกเลขเป็นโทโบราณว่า หนังสือตรีมีปัญญาไม่เสียหลาย
ถึงรู้มากไม่มีปากลำบากกาย มีอุบายพูดไม่เป็นเห็นป่วยการ”
*จาก วิวาหพระสมุท บทพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวราชกาลที่ 6
25. จากบทประพันธ์ข้างต้นนี้ วรรคใดเป็น คำเป็น ทั้งหมด
26. จากบทประพันธ์ข้างต้นนี้ วรรคใดมีจำนวนคำตายเท่ากัน
ก. วรรคที่ 1 และ 2 ข. วรรคที่ 2 และ 3
ค. วรรคที่ 3 และ 4 ง. วรรคที่ 1 และ 3
27. จากบทประพันธ์ข้างต้นนี้ วรรคสุดท้ายมีคำตายกี่คำ
ก. 1 คำ ข. 2 คำ ค. 3 คำ ง. 4 คำ
28. ข้อใดมี คำตาย ทุกคำและทุกพยางค์
ก. กฎหมาย เหตุผล ข. ยุติ โอ้อวด ค. ประเภท บังเกิด ง. อนุญาต ปฏิเสธ
29. ข้อใดมี คำเป็น ทุกคำและทุกพยางค์
ก. เศรษฐกิจ โครงการ ข. พอเพียง รายงาน
ค. อาทิตย์ ปฏิบัติ ง. แลกเปลี่ยน ตลาดนัด
30. ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้องเกี่ยวกับพื้นเสียง
ก. อักษรสูง คำเป็น มีพื้นเสียงเป็นเสียงจัตวา
หน้า 75
ข. อักษรกลาง คำเป็น มีพื้นเสียงเป็นเสียงสามัญ

ค. อักษรกลาง คำตาย มีพื้นเสียงเป็นเสียงจัตวา
ง. อักษรต่ำ คำเป็น มีพื้นเสียงเป็นเสียงสามัญ
31. อักษรต่ำ คำตาย สระเสียงสั้น ผันได้ที่เสียง อะไรบ้าง
ก. 3 เสียง ได้แก่ เสียงโท ตรี จัตวา ข. 3 เสียง ได้แก่ เสียง เอก โท ตรี
ค. 34 เสียง ได้แก่ เสียง เอกโท ตรี จัตวา ง. 2 เสียง ได้แก่ เสียงเอก โท
32. ข้อใดกล่าวถูกต้องเกี่ยวกับเสียงวรรณยุกต์ของคำว่า โค้ก
ก. เป็นอักษรต่ำ คำตาย สระเสียงสั้น เสียงวรรณยุกต์ โท
ข. เป็นอักษรต่ำ คำตาย สระเสียงยาว เสียงวรรณยุกต์ ตรี
ค. เป็นอักษรต่ำ คำเป็น สระเสียงสั้น เสียงวรรณยุกต์ โท
ง. เป็นอักษรต่ำ คำเป็น สระเสียงยาว เสียงวรรณยุกต์ ตรี
33. ข้อใดมีเสียงตัวสะกดเดียวกันทุกคำ
ก. อพยพ ธูป กบฏ ข. สมัคร เมฆ สมุทร
ค. พยาธิ มิตร ประเภท ง. เมรุ กาฬ โกรธ
34. สำนวนในข้อใดที่เป็นแม่ ก กา ทุกคำ
ก. หนีเสือปะจระเข้ ข. มือถือสากปากถือศีล
ค. ลูกไก่อยู่ในกำมือ ง. ชักใบให้เรือเสีย
35. ข้อใดมีคำควบไม่แท้
ก. นรชาติวางวาย ข. มลายสิ้นทั้งอินทรีย์
ค. สถิตทั่วแต่ชั่วดี ง. ประดับไว้ในโลกา
36. คำที่ขีดเส้นใต้ในข้อใดที่ไม่ใช่ คำควบกล้ำในภาษาไทย
ก. ควันหลง ข. ไกวเปล ค. เปรมปรีด์ ง. รถแทรกเตอร์
อ่านบทประพันธ์ต่อไปนี้แล้วตอบคำถามข้อ 37-39
มวลมนุษย์ผู้เปรื่อง ปรีชา เชี่ยวแฮ
เพราะใครใฝ่ศึกษา สิ่งรู้
รู้กิจผิดชอบหา เหตุสอด ส่องนา
นี่แหละบุคคลผู้ เพียบด้วยความเจริญ
37. บทประพันธ์นี้มีคำที่มีตัวสะกดในมาตราใดมากที่สุด
ก. แม่กม ข. แม่กด ค. แม่เกอว ง. แม่กบ
38. บทประพันธ์นี้มีคำที่เป็นมาตราตัวสะกด แม่กน กี่คำ
ก. 1 คำ ข. 2 คำ ค. 3 คำ ง. 4 คำ
หน้า 76
39. บทประพันธ์นี้มีคำที่เป็นมาตราตัวสะกด แม่กด กี่คำ

ก. 2 คำ ข. 3 คำ ค. 4 คำ ง. 5 คำ
40. ข้อใด ไม่มี คำอักษรนำ
ก. เราเกิดมาทั้งที่ชีวิตหนึ่ง ข. อย่าหมายพึ่งผู้ใดให้เขาหยัน
ค. ควรคะนึงพึ่งตนทนกัดฟัน ง. คิดบากบั่นตั้งหน้ามานะนำ
41. คำในข้อใดเป็นคำสามานยนาม
ก. เกาะนางยวน ข. ภูพระบาท ค. ดอยอ่างขาง ง. อุทยานแห่งชาติ
42. ข้อใดใช้คำลักษณะนามไม่ถูกต้อง
ก. ช้าง 3 เชือก ข. พระภิกษุ 4 คน ค. นาฬิกา 2 เรือน ง. เกวียน 5 เล่ม
43. ข้อใด ไม่ใช่ สมุหนาม
ก. กองทราย ข. ฝูงปลา ค. ช่อดอกไม้ ง. ห้างสรรพสินค้า
44. เรามักใช้คำสรรพนามประเภทใดในการสนทนา
ก. บุรุษสรรพนาม ข. ปฤจฉาสรรพนาม ค. นิยมสรรพนาม ง. อนิยมสรรพนาม
45. ข้อใด ไม่ใช่ สรรพนามบุรุษที่ 1
ก. อาตมา ข. ดิฉัน ค. โยม ง. ข้าพระพุทธเจ้า
46. คำที่ขีดเส้นใต้ข้อใด ไม่ใช่ กรรมของประโยค
ก. จับปลาสองมือ ข. น้ำนิ่งไหลลึก ค. ขี่ช้างจับตั๊กแตน ง. เข็นครกขึ้นภูเขา
47. ข้อใด ไม่มี คำอุทานเสริมบท
ก. ว่างๆ ไปวัดวาอารามบ้างสิ ข. ในกรุงเทพฯ มีรถราเต็มไปหมด
ค. ตำบลนี้เต็มไปด้วยบ้านเรือน ง. เดินให้เหมือนคนมีกระดูกกระเดี๋ยวบ้างสิ
48. คำสันธานในข้อใดที่ใช้เชื่อมข้อความที่คล้อยตามกัน
ก. เมื่อไปถึงบ้านฝนก็ตกทันที ข. ลุงป้อมยากจนแต่ใจดี
ค. เธอจะร้องเพลงหรือเล่นกีตาร์ ง. เพราะรถติดเขาจึงมาสาย
49. คำในข้อใดมีจำนวนพยางค์แตกต่างจากพวก
ก. ราชสีห์ ข. มฤดี ค. ไมยราพ ง. ไกรสร
50. คำในข้อใดมีจำนวนพยางค์น้อยที่สุด
ก. ทรัพยากร ข. สัญลักษณ์ ค. เศรษฐกิจ ง. สังหรณ์
51. คำที่ขีดเส้นใต้ข้อใดที่มีความหมายเปรียบเทียบหรือความหมายแฝง
ก. พลอยเป็นคาวของโรงเรียน ข. ลิงกินกล้วยอยู่บนต้นไม้
ค. หมูกินร้าอยู่ในเล้า ง. ในทุ่งนามีโคและกระบือ
หน้า 77
52. คำพ้องความหรือคำไวพจน์ในข้อใดมีความหมายเหมือนกันทั้งหมด
ก. สายธาร คงคา พฤกษา ข. ดรุณ กุมาร ตารา
ค. ตะวัน สุริยา ทินกร ง. อรุณ รุ่ง สนธยา
ข้อ 53 - 56 พิจารณาประโยคต่อไปนี้ แล้วบอกว่าเป็นประโยชนิดใด
ก. ประโยคความเดียว
ข. ประโยคความรวม
ค. ประโยคความซ้อน
53. เมื่อชาคริตทานข้าวแล้วเขาก็ไปทำงาน
54. การออกกำลังกายทำให้สุขภาพแข็งแรง
55. น้องเฟรมเป็นนักเรียนที่ได้รับทุนการศึกษาในปีนี้
56. การปิดไฟก่อนออกจากห้องช่วยประหยัดพลังงานได้
57. ข้อใดเป็นคำประสมที่เกิดจากคำกริยารวมกับคำกริยา
ก. ใจร้อน ข. เล่นลิ้น ค. วิ่งเต้น ง. เดินเครื่อง
58. ข้อใดเป็นคำมูล คำประสม และคำซ้อน เรียงตามลำดับได้ถูกต้อง
ก. ขยุกขยิก น่ารัก บ่ายเบี่ยง ข. ตั๋วรถ ขี้เกียจ จุกจิก
ค. กุญแจ มากน้อย บ่ายเบี่ยง ง. กระถาง สับปะรด คลากแคล้ว
59. ข้อใดไม่ใช่ ประโยค
ก. เปียโนร้องเพลง ข. แจ๊สเต้นรำ ค. ปานวาดรูป ง. สาวสุดสวย
60. ครูปรีชาได้ ฟังสุนทรพจน์เรื่อง “สามัคคีธรรม นำไทยให้เป็นสุข" หลังจากฟังแล้ว ตระหนักว่าควร
ปฏิบัติชีวิตให้อยู่ในความสามัคคี ครูปรีชามีความสามารถในการฟังด้านใด
ก. สรุปความ ข. วิเคราะห์ ค. ดีความ ง. ประเมินค่า
61. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงสำราญพระราชหฤทัย คำที่ขีดเส้นใต้หมายถึง
ก. สดชื่น ข. สบายกาย ค. สดใส ง. สบายใจ
62. ข้อใดเป็นภาษาสื่อสารมวลชน
ก. บุคคลหลายฝ่ายให้ความร่วมมือกับโครงการสมานฉันท์
ข. ปีนี้ทบวงมหาวิทยาลัยประกาศผลสอบเร็วกว่ากำหนด
ค. เบื้องหลัง 10 เมษายน ถล่ม “บูรพาพยัคฆ์”
ง. นายกรัฐมนตรีประกาศไม่ยุบสภา
63. ในเทศกาลต่าง ๆ คุณยายไปทำบุญที่วัดบางครั้งก็บังสกุล อุทิศส่วนกุศลให้ญาติที่ล่วงลับและกรวดน้ำ
ทุกครั้ง คำที่ขีดเส้นใต้คำใดที่เขียนผิด
ก. เทศบาล ข. บังสุกุล ค. ส่วนกุศล ง. กรวดน้ำ
หน้า 78
64. เมื่อคนเมืองคับคั่งด้วยคนป่า เมื่อคนดีต้อยค่าเหมือนกรวดหิน

เมื่อสัตว์ป่าสร้างป่าไว้หากิน สัตว์เมืองก็ต้องสิ้นวิสัยเมือง
คำประพันธ์ข้างต้นเป็นโวหารประเภทใด
ก. เทศนาโวหาร ข. บรรยายโวหาร ค. อุปมาโวหาร ง. พรรณนาโวหาร
65. ทักษะที่ใช้ในชีวิตประจำวันข้อใดมีความสำคัญต่อข้าราชการตำรวจมากที่สุด
ก. การฟัง ข. การพูด ค. การอ่าน ง. การเขียน
66. ขอให้มีความรักที่มั่นคง ชื่อตรงดุจนกากับแขไข
รู้จักอ่อน ผ่อนปรน ให้อภัย รักสดใส สุขสันต์ นิรันดร
ใจความสำคัญของข้อความข้างต้นกล่าวถึงเรื่องใด
ก. ความรัก ข. ความซื่อตรง ค. ความเมตตา ง. ความอ่อนโยน
67. “คณะกรรมาธิการจัดให้มีการประชุมเพื่อเสนอแนวทางการแก้ปัญหา” คำที่ขีดเส้นใต้อ่านอย่างไร
จึงถูกต้องตามหลักภาษา
ก. กัน - มา - ทิ – กาน ข. กัน - ทิ - กาน
ค. กำ - มา-ทิ – กาน ง. กำ - ทิ - กาน
68. ขึ้นรถเมล์ไม่เสียเกียรติ แม้เบียดนิดก็ทนหน่อย
เพราะน้ำมันนั้นมีน้อย ควรใช้สอยเมื่อจำเป็น
จุดประสงค์ของผู้เขียนคือสิ่งใด
ก. เพื่อให้ความรู้ ข. เพื่อโน้มน้าวใจ ค. เพื่อจรรโลงใจ ง. เพื่อเตือนใจ
69. ต้องอยู่กันไปอีกนาน ในบ้านหลังนี้ เติบโตมาจนป่านนี้ ก็เพราะมีที่ให้อาศัย บ้านเรามีท้องฟ้า มีสายน้ำ
มีภูเขา มีต้นไม้ แล้วเราจะอยู่อย่างไร ถ้าไม่มีอะไรเหลือเลย ข้อความข้างต้นมุ่งให้เกิดสิ่งใด
ก. รักและสามัคคี ข. บทความเชิงวิเคราะห์
ค. ภาคภูมิใจและหวงแหน ง. บทความเชิงพรรณนา
70. “จากใจรวงใจแรงเป็นล้านล้าน ถึงใจด้านใจดำน้ำใจหิน
ว่าเลือดเล็ดเม็ดข้าวที่เจ้ากิน จงถวิลทุกข์เทวทุเรศร้าว"
บทประพันธ์นี้ผู้แต่งมีวัตถุประสงค์อะไร
ก. เตือนสติ ข. ปลุกจิตสำนึก ค. โน้มน้าวใจ ง. สร้างค่านิยมใหม่
71. บทความชนิดใดใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงได้ดีที่สุด
ก. บทความเชิงวิจารณ์ ข. บทความเชิงวิเคราะห์
ค. บทความเชิงบรรยาย ง. บทความเชิงพรรณนา
72. สำนวนใดที่ไม่เกี่ยวกับการฟัง
ก. ฟังหูไว้หู ข. ฟังความข้างเดียว
หน้า 79
ค. สีซอให้ควายฟัง ง. ฟังไม่ได้ศัพท์จับไปกระเดียด
73. ปีนี้ปีเสือช่างเหลือร้าย ผู้คนล้มตายกันหลายที่
แผ่นดินไหวที่เฮติและชิลี อดอยากทั่วหล้าทั้งแผ่นดิน
แต่ที่นี่มีภัย (ไม่) ธรรมชาติ คนทั้งชาติเบาะแว้งทะเลาะกัน
ความโกรธ ความชัง ความคลัง โลโภ โทสะ โทโส ในประเทศ สมเพทไทย
บทประพันธ์ข้างต้นมุ่งเน้นในเรื่องใด
ก. เตือนสติ ข. เสนอข้อเท็จจริง ค. เสนอข้อคิดเห็น ง. ให้ข้อสังเกต
74. “ถ้าเราอ่อนแอแม้เนินเล็ก ๆ ก็เป็นภูเขาที่สูงใหญ่ แต่ถ้าเราเข้มแข็ง แม้ลมพายุพัดแรงก็เป็นเพียงสาย
ลมแผ่วเบา” ผู้เขียนต้องการสื่อความหมายในเรื่องใด
ก. ชีวิตอย่าสิ้นหวัง ข. ชีวิตต้องสู้ ค. ชีวิตย่อมมีอุปสรรค ง. ชีวิตนี้อย่าท้อแท้
75. “เพื่อหนีจนคนเราเอาทุกอย่าง หาหนทางให้ชีวินี้เป็นสุข
ปล้น ขโมย โกยกิน ปลิ้นปล้อนซุก คดีอุกฉกรรจ์หลากเกิดจากได้ "
จุดประสงค์ของผู้เขียนกล่าวถึงสิ่งใด
ก. เตือนสติคนจนให้ดำเนินชีวิตอย่างถูกต้อง ข. แสดงความเห็นใจคนจน
ค. เรียกร้องให้สังคมช่วยเหลือคนจน ง. ชี้ให้เห็นปัญหาที่เกิดจากความยากจน
76. ข้อใดใช้ราชาศัพท์ถูกต้อง
ก. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯทรงตรัสกับประชาชน
ข. ประชาชนมาถวายการต้อนรับพระบรมราชินีนาถ
ค. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารีเสด็จพระราชดำเนินเยือนสาธารณรัฐ
ประชาชนจีน
ง. สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณะทรงเสด็จไปบรรยายแก่นักศึกษามหิดล
77. คำที่ขีดเส้นใต้คำใดแสดงจำนวนน้อยที่สุด
ก. ฝาแตงโมให้แม่หน่อยซิคะ ข. ดอกจันกะพักร่วงพรู
ค. นักเรียนวิ่งกรูกันออกมาอย่างรวดเร็ว ง. พราหมณ์โปรยดอกไม้ในพิธี
78. คำขวัญข้อใดให้ข้อคิด
ก. ตำรวจอยู่ไหน ประชาอุ่นใจทั่วกัน ข. ขับรถให้เตือนตน ข้ามถนนให้เดือนตา
ค. ยาเสพติดอันตราย ผู้เสพถึงตาย ผู้ขายติดคุก ง. เอดส์ป้องกันได้ ถ้าใช้ถุงยางอนามัย
79. ข้อใดใช้คำฟุ่มเฟือย
ก. สมุนไพรไทยคลายเครียดมีทั้งที่เป็นอาหารและเครื่องดื่ม เช่น ป่าตะไคร้ น้ำชิง ฯลฯ
ข. ผู้คนในหลายประเทศกำลังให้ความสนใจในการใช้สมุนไพรลดความเครียด
ค. ปัญหาสุขภาพจิตเป็นผลมาจากความเครียดทั้งทางร่างกายและจิตใจ
หน้า 80
ง. ความเครียดนับว่าเป็นสาเหตุทำให้เกิดปัญหาสังคมจนถึงขั้นวิกฤติ
80. คำขีดเส้นใต้ข้อใดหมายถึงคำว่าภาพพจน์
“ภาพพจน์ไม่ใช่เพ่งเล็ง ไปที่รูปหรือภาพแต่หมายถึงความรู้สึกนึกคิด ที่เกิดขึ้นในใจ / ในการพูด
เขียนหรือแสดงออกถึงภาพพจน์โดยอาศัยคำที่มีความหมายโดยนัย”
ก. เพ่งเล็ง ข. คำ ค. แสดง ง. ความรู้สึกนึกคิด
81. ข้อใดเรียงลำดับได้ถูกต้อง
1. การเรียนธรรมล้านนา คือ การเขียนภาษาล้านนา
2. ชาวล้านนาที่มีลูกชาย เมื่อมีอายุ 8-9 ปี ก็จะส่งลูกเข้าวัดเพื่อเป็นขะยม
3. เมื่อมีเวลาว่าง หลวงหรือเจ้าอาวาสวัด ก็จะสอนหนังสือให้
4. หน้าที่ของขะยมคือการรับใช้พระและเดินทางพระบิณฑบาต
ก. 2431 ข. 1342 ค. 1324 ง. 1243
82. ข้อใดเป็นสัญลักษณ์ไม่ตรงกับความหมาย
ก. กา เป็นสัญลักษณ์ของคนชั้นต่ำ ข. แมลง เป็นสัญลักษณ์ของการทำลาย
ค. พระอาทิตย์ เป็นสัญลักษณ์ของ แสงสว่าง ง. ฝนเป็นสัญลักษณ์ของความชิ้นชุ่มฉ่ำ
83. “พระสงฆ์สดับปกรณ์” คำว่าสดับปกรณ์ หมายถึง
ก. บังสุกุล ข. ให้พร ค. ฟังพระอภิธรรม ง. ฟังอย่างตั้งใจ
84. เขา..............ออกจากบ้านเพราะได้ข่าวว่าคนงานถูกไฟ............. ควรเติมคำใดในช่องว่าง
ก. ลุกลี้ลุกลน, คลอก ข. ลุกลี้ลุกรน, ครอก
ค. ลุกลี้ลุกลน, ครอก ง. ลุกรี้ลุกรน, คลอก
85. ข้อใดจำเป็นต้องใช้คำทับศัพท์
ก. เขาเป็นสปอนเซอร์ในการแข่งขันกีฬาครั้งนี้
ข. เธอมาซื้อของที่นี่ เธอขึ้นลิฟต์แก้วหรือบันไดเลื่อน
ค. เขาได้เปอร์เซ็นต์จากการขายเครื่องสำอาง
ง. เขาให้ทิปพนักงานทุกคนที่บริการ
86. คำประพันธ์ต่อไปนี้มุ่งหมายถึงเรื่องใด “เป็นคนสุดนิยมเพียงลมปาก จะได้ยากโหยหิวเพราะ
ชิวหา แม้นพูดดีมีคนเขาเมตตา จะพูดจาจงพิเคราะห์ให้เหมาะความ
ก. พูดดีได้ดี ข. พูดดีเป็นศรีแก่ปาก
ค. พูดอย่างมีวิจารณญาณ ง. คนจะนิยมก็อยู่ที่คำพูด
87. ข้อใดใช้คำเปรียบเทียบได้ถูกต้องที่สุด
ก. พูดมากเหลือเกินเหมือนตักน้ำรดหัวสากไม่ยอมหยุด
ข. ตัวเองเป็นตนต่ำต้อยถึงเพียงนี้ยังไม่รู้จัก ดักน้ำใส่กระโหลกชะโงกดูเงาเองอีก
หน้า 81
ค. คนพวกนี้เวลารวมตัวกันแล้วชอบนินทาคนโน้นคนนี้เหมือนที่เขาบอกว่าปากหวานก้นเปรี้ยว
ง. ฟังเรื่องราวแต่นิดเดียว แต่เขาสามารถพูดได้อย่างยึดยาว ช่างพูดปากไม่มีหูรูด
88. “ตีเข่าปับรับโปกสองมือปิด ประจบติดเตะผางหมัดขว้างหวือ” เป็นการละเล่นใด
ก. มวยไทย ข. มวยปล้ำ ค. มวยสากล ง. มวยทะเล
89. ประโยคต่อไปเป็นโวหารชนิดใด
“อันว่าแก้วกระจกรวมอยู่กับสุวรรณ ย่อมได้แสงจับเป็นเลื่อมพรายคล้ายมรกต ผู้ที่โง่เขลา
แม้ได้อยู่ใกล้นักปราชญ์ ก็อาจเป็นคนเฉลียวฉลาด ได้ฉันเดียวกัน”
ก. บรรยายโวหาร ข. สาธกโวหาร ค. อุปมาโวหาร ง. พรรณนาโวหาร
90. “หมอที่เปิดคลินิกทุกวันนี้ เป็นพวกเรียนมาเพื่อหารายได้เยอะๆ เข้ากระเป๋าตนเองโดยไม่คำนึงถึงการ
ดูแลผู้ป่วยที่แท้จริง” จากข้อความดังกล่าวผู้เขียนมีเจตนาอย่างไร
ก. ตำหนิ ข. เตือน ค. สั่งสอน ง. ดูแคลน
91. “ข่าวที่นายกอปศักดิ์ สภาวสุ จะวางมือจากเก้าอี้รองนายกรัฐมนตรี อาจส่งผลให้มีการเปลี่ยนแปลง
ในสภาตามมา” ข้อความที่ขีดเส้นใต้ใช้คำใดแทนได้เหมาะสมที่สุด
ก. วางเก้าอี้ ข. ลาออก ค. ตัดใจ ง. สละสิทธิ์
92. “ดอกรักจะบานในใจ ดอกโศกจะอยู่ในใจเราตลอดไป” ข้อความดังกล่าวไม่ได้กล่าวถึงสิ่งใด
ก. ดอกไม้ ข. ความเศร้า
ค. ความเสียใจ ง. ความทุกข์ทรมานใจ
93. ด้วยความตกใจที่ตำรวจมาขอตรวจค้นบ้านเขาจึง............. บอกไปว่าไม่มีคนอยู่
ก. ละล้าละลัง ข. พะว้าพะวง ค. ละลิกระลี้ ง. ละล่ำละลัก
94. ข้อไหนย้ายที่ค่าแล้วยังมีความหมายเหมือนเดิม
ก. เกลียวกลม-กลมเกลียว ข. ใจแข็ง-แข็งใจ
ค. กินอยู-่ อยู่กิน ง. หนาแน่น-แน่นหนา
95. ข้อใดเขียนผิด
ก. ปกติ ข. ปรกติ ค. จรเข้ ง. จระเข้
96. ข้อใดเขียนผิด
ก. ศรีษะ ข. ระบม ค. เปรอะ ง. ขึ้นฉ่าย
97. ข้อใดเขียนถูก
ก. น้ำมันก๊าซ ข. น้ำมันก๊าด ค. น้ำมันแก๊ส ง. น้ำมันแก๊ด
ก. คลินิค ข. คีลนิก ค. คลีนคิ ง. คลินิก
หน้า 82
ก. มักกะโลนี ข. มักกะโรนี ค. มะกะโลนี ง. มะกะโรนี
ก. อิริยาบท ข. ดุลยพินิจ ค. สัปปะรถ ง. ตะงิด
101. ข้อใดใช้ภาษากระชับที่สุด
ก. เขาเป็นหวัดในทุกครั้งที่ฝนตก ข. ท่านจะได้ซื้อสินค้าซึ่งมีราคาถูก
ค. เขามีความจำเป็นต้องรีบเดินทาง ง. นายแพทย์ตรวจร่างกายคนไข้ทุกวัน
102. สองคนนี้เขารู้จุดอ่อนและเล่ห์เหลี่ยมของกันและกัน เหมือน ... นั่นแหละ
ก. เพชรตัดเพชร ข. คอหอยกับลูกกระเดือก
ค. ขนมผสมนำยา ง. ไก่เห็นตีนงู งูเห็นนมไก่
103. ถ้าท่านจะถวายรถยนต์แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว คำพูดที่ถูกต้องในการถวายรถยนต์ดัง
กล่าวคือ
ก. ทูลเกล้าทูลกระหม่อม ข. ทูนเกล้าเหนือกระหม่อมถวาย
ค. น้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวาย ง. น้อมเหนือเกล้าเหนือกระหม่อมถวาย
104. “กิ่ง ถ้าออกไปข้างนอก ซื้อข้าวมาด้วยได้ไหม” คำพูดของกิ่งในข้อใดที่แสดงเจตนาถามให้ตอบ
ก. ใครจะซื้อให้ ข. จะให้ใครซื้อ
ค. ทำไมจะไม่ได้ ง. ไม่ได้จะทำไม
105. ข้อเขียนนี้ชี้ให้เห็นธรรมชาติของภาษาในเรื่องใด
รัก รัก รัก คำสั้น ๆ ไม้หันอากาศมักลอยหายไปในอากาศ
แทนที่จะรักกลับกลายเป็นรัก รีบร้อนจนลืมสระ อี ลืมสิ่งดี ๆ บางทีต้องรบกัน
ก. ภาษามีการเปลี่ยนรูป ข. ภาษาใช้เสียงสื่อความหมาย
ค. ภาษามีการเปลี่ยนแปลง ง. ภาษาสร้างหน่วยใหม่ได้
106. ข้อใดมีเสียงพยัญชนะประสมมากที่สุด (นับเสียงซ้ำ)
ก. ชาญหาญชาญเชียวเทียวไพร สองขาพาไป บ่มัวบ่เมาเขลาขลาด
ข. ขาเขาคือกงพฤกษชาติ ช่อชูดูดาษ และดกด้วยดอกออกระดะ
ค. ไป่ช้าเป็นผลปนคละ โตโตโอชะ รสาภิรสหมดมวล
ง. โทษหลายกลายแกแปรปรวน เจือจุนคุณควร เพราะเหตุทีเทียวเทียวเดิน
107. พยางค์ในข้อใดมีจำนวนเสียงสันเท่ากับจำนวนเสียงยาว
ก. รักยาวให้บัน ข. เรือลมเมือจอด
ค. น้ำร้อนปลาเป็น ง. จับปลาสองมือ
หน้า 83
108. ข้อใด ไม่มี พยางค์คำตายที่เป็นคำครุ

ก. เภสัชกร ข. สังคมสงเคราะห์ ค. ศิลปศาสตร์ ง. วิทยากร
109. ข้อใดทุกคำมีรูปพยัญชนะไม่ออกเสียง
ก. ทอ ศุกร์ ฉัตรเหตุ ข. โจทย์ อํามาตย์
ค. โทรม ไทย เมีย ง. แสร้ง หลาก กัลป์
110. ข้อใดมีอักษรสูงมากที่สุด (นับตัวซ้ำ)
ก. ฝูงชนกำเนิดคล้ายคลึงกัน ข. ความรู้อาจเรียนทัน กันหมด
ค. ใหญ่ยอมเพศผิวพรรณ แผกบ้าง ง. ยกแต่ชั่วดีกระด้าง อ่อนแกฤาไหว
111. ข้อใดทุกคำเป็นคำมูล
ก. มะพร้าว ทะเลาะ ตะกละ ข. พราน กระเถิบ นักเลง
ค. เฉลย หลอกลวง จระเข้ ง. ตลก กระเป๋า กะลา
112. ข้อใดมีคำซ้ำมากที่สุด
ก. นี่เธอ เธอชวยฉันหยิบถุงออกมาหน่อยนะ ฉันกำลังยุ่งยุ่ง ช่วยช่วยหน่อยละกันนะ
ข. ฉันชอบฟังเพลงเพลงนี้ที่สุดเลย ฟังฟังแล้วเหมือนชีวิตฉัน แถมยังเพราะเพราะยังไงไม่รู้
ค. เธอเห็นเขาไหม อยู่อยู่ก็ลุกหนีไปเลย เพื่อนเพื่อนงงกันเป็นแถวแค่เถียงเถียงกันนิดหน่อย
ง. คุณครูขา ที่ที่คุณพ่อหนูจะพาไปดูนี้ไกล๊ไกลนะคะ ครูจะไปเหรอคะ พ่อบอกว่าอยู่ข้างข้าง
โรงงานด้วยคะ
113. ข้อใดทุกคำเป็นคำสนธิ
ก. นภาลัย จินตนาการ วิทยากร ข. กรกฎาคม ธันวาคม วัฒนธรรม
ค. วิทยาเขต พัฒนาการ วิเทโศบาย ง. ไพรินทร์ คเชนทร์ มหรรณพ
114. ทุกคำในข้อใดมีโครงสร้างการสร้างคำเหมือนกับ “อมยิ้ม”
ก. ลูกกวาด ทองหยอด ข. สามล้อ สองแถว
ค. มวยปล้ำ กระโดดไกล ง. ต้มยำ ห่อหมก
115. ข้อใดเป็นประโยครวม
ก. เธอวิงหนีผู้ชายคนนั้นมา
ข. เธอบอกให้เขาเดินช้าช้า
ค. เธอสวมชุดสายเดียวสีเขียว
ง. คุณแม่ของเธอพูดกับตำรวจข้างบ้านเมื่อวานซืน
หน้า 84
ใช้ข้อความต่อไปนี้ ตอบข้อ 116 – 117

1. ผู้ทีมีปัญญาย่อมไม่กระทำสิ่งเสียหาย
2. พัฒนาของเด็กเป็นประเด็นที่พูดถึงกันมากในปัจจุบัน
3. ข้อความตอนนี้พรรณนาความลำบากของชีวิตนักแสดงได้ดีมาก
4. ปรารถนาชอบทิ้งขยะไม่เป็นที่เป็นทาง
5. วิชานี้สมหญิงเรียนก่อนเดินทางไปต่างประเทศ
116. ข้อใดเป็นประโยคกรรม
ก. ข้อ 2 ข. ข้อ 4 ค. ข้อ 3 ค. ข้อ 5
117. ข้อใดเป็นประโยคความรวม
ก. ข้อ 1 กับ ข้อ 2 ข. ข้อ 3 กับ ข้อ 4
ค. ข้อ 2 กับ ข้อ 3 ง. ข้อ 4 กับ ข้อ 5
118. ข้อใด ไม่ใช่ ประโยค
ก. การอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติที่อำเภอบ่อพลอยสุดฉลุย
ข. การดำเนินงานของมูลนิธิชัยพัฒนาเน้นกิจกรรมที่ไม่ซ้ำซ้อนกบโครงการของรัฐ
ค. ยุทธวิธีฟื้นฟูเศรษฐกิจชุมชนโดยกลุ่มออมทรัพย์ของอำเภอจะนะ
ง. การพัฒนาอาชีพด้านเกษตรอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสภาพป่า
119. คำกริยาในข้อใดเป็นคำกริยาหลักของประโยคต่อไปนี้
ข่าวคราวที่ปรากฏ เป็นประจำทุกปีในช่วงเทศกาลรับน้องใหม่กลายเป็นประเด็นที่คนทั่วไปสนใจกันมาก
ก. ปรากฏ ข. กลายเป็น ค. เป็นประจำ ง. สนใจ
120. ข้อความใดใช้ภาษาเหมาะสมกับการทำรายงานทางวิชาการมากที่สุด
ก. แร้งไม่ใช่นกที่คนชอบเพราะมันชอบกินซากศพของเน่าเปื่อย
ข. ตัวละครเอกประมาทในชีวิต เรื่องจึงลงเอยอยางน่าสะเทือนใจ
ค. ครอบครัวของเราประหยัดขึ้น ไม่ออกไปรับประทานข้าวนอกบ้านอีก
ง. นักวิทยาศาสตร์ไทยจะนําของที่เหลือทิ้งอยางเปลือกกุ้ง กระดองปูมาใช้ประโยชน์
121. ข้อใดใช้ราชาศัพท์ไม่ถูกต้อง
ก. สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร พระราชทานพระราโชวาทแกบัณฑิตทีจบ
จากวิทยาลัยครู
ข. สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถทรงมีพระราชปรารภเกี่ยวกับเรื่องนี้มาช้านานแล้ว
ค. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จประพาสประเทศสหรัฐอเมริกา
ง. หม่อมเจ้าองค์นี้สิ้นชีพิตักษัยมาหลายปีแล้ว
หน้า 85
122. คำว่า “ล้าง” ในข้อใดมีความหมายต่างจากข้ออื่น

ก. เมื่อไหร่มีงานเลียงเขาจะเตรียมล้างท้องรอทันที
ข. ธุรกิจเกี่ยวกับการล้างพิษ ได้รับความนิยมในหมูคนอ้วน
ค. หลังจากทานอาหารคาวเสร็จแล้วบางคนล้างปากด้วยของหวาน
ง. นักกีฬาทีป่ ระสบความสำเร็จในชีวิตแล้วมักจะล้างมือจากวงการ
123. คำในข้อใดเมือเติมในช่องว่างแล้วแสดงว่าผู้พูดแน่ใจ “คุณจะไปทัศนศึกษาพรุ่งนี้ ………….”
ก. ไม่ใช่หรือ ข. ใช่ไหม ค. หรือ ง. ไหม
124. คำที่ขีดเส้นใต้ในข้อใดมีความหมายแฝงในด้านลบอย่างชัดเจนที่สุด
ก. เทือกเถาเหล่ากอของเขาอยู่จังหวัดไหน
ข. ญาติโกโหติกาของเขาไม่เคยมาเยี่ยมเลย
ค. วงศ์วานวานเครือของเขาทำงานอะไร
ง. วงศาคณาญาติของเขาจะยอมรับเธอหรือ
125. ข้อใดใช้คำเชื่อมผิด
ก. คุณจะทำอะไรก็ได้ตามสะดวก
ข. เขาอยู่ใต้อำนาจเงินจนน่าเป็นห่วง
ค. พวกเราอยากทำงานให้สำเร็จด้วยดี
ง. อย่าปลอยให้เด็กเล็ก ๆ อยู่โดยลำพัง
126. ข้อใดใช้สำนวนภาษาได้ถูกต้อง
ก. ผมเป็นครูมานาน ใคร ๆ ก็เรียกผมว่าพ่อพิมพ์ของชาติ
ข. ขณะที่ลูกอยู่ในห้องผ่าตัด แม่กระวนกระวายจนนั่งไม่ติดเก้าอี้
ค. สอบเสร็จแล้ว เรายังเป็นลูกผีลูกคนอยู่เลย ไม่ทราบว่าจะได้หรือตก
ง. ถ้าเราทุกคนรวมมือรวมใจเป็นชายข้าวเปลือกหญิงข้าวสารโบราณว่างานนี้คงสำเร็จลงด้วยดี
127. ประโยคใดไม่มีข้อบกพร่องในการใช้ถ้อยคำ
ก. เราจะใช้วิธีการลงโทษอย่างไรจึงจะสาสมกับความผิดของเขา
ข. ข้าพเจ้ารู้สึกภาคภูมิและยินดีเป็นอย่างยิงที่ ได้มาอภิปรายวันนี้
ค. ทีมแบดมินตันของไทยชนะกราวรูดได้เหรียญทอง 3 เหรียญ
ง. มีผู้กล่าวเปรียบเปรยไว้ว่ารถไฟขบวนนี้ของญี่ปุ่นวิ่งได้เร็วกวากระสุนปืน
128. ข้อใดใช้สำนวนถูกต้อง
ก. นี่คุณ มีอะไรก็พูดกันตรง ๆ ดีกว่า อย่าเสียเวลาเป็นเจ้าถ้อยหมอความอยู่เลย
ข. เด็กคนนี้ซนเหลือเกินเหมือนจับแพะชนแกะ ครูประจำชั้นหนักใจมาก
ค. เรื่องนี้จะโทษใครคนเดียวไม่ได้ ฉันเห็นว่าผิดทั้งสองคน เข้าทำนองขนมพอผสมกับน้ำยา
หน้า 86
ง. ป้าอาศัยลูกที่มีรายได้ไม่มากนัก จึงคอยเก็บเงินได้เล็ก ๆ น้อย ๆ แบบน้ำซึมบ่อทราย

129. ข้อใดใช้ภาษาได้กะทัดรัด
ก. กล้วยสุกนั่นนำมาทำเป็นขนมได้หลายชนิด
ข. ที่ผมเป็นหวังคืออาหารถุงที่ขึ้นราคาจากเดิม 5 บาท ขึ้นไปเป็น 8 บาท
ค. พบศพชายไทยไม่ทราบชื่อถูกยิงตามลำตัวนอนตายอยู่ที่ริมถนนวิภาวดีรังสิต
ง. ศาลพิเคราะห์คำสารภาพของจำเลยแล้วเห็นว่าจำเลยกระทำผิดด้วยความจำเป็นจึงตัดสินให้
จำคุก 4 ปี
130. ข้อใดเรียงลำดับคำได้ถูกต้อง
ก. อาหารไทยเป็นอาหารที่ชาวตางชาตินิยมรับประทานกันมาก
ข. กรุงเทพมหานครกำลังเร่งแก้ไขอย่างรีบด่วนเรื่องปัญหาน้ำท่วมขัง
ค. ชมรมดูนกกำลังรับสมัครสมาชิกใหม่ที่บึงพระรามเป็นจำนวนมาก
ง. มีนักศึกษาหลายคณะเข้ารวมโครงการ “ถนนสีขาว” รวมทั้งชมรมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
131. ข้อใดเรียบเรียงตามลักษณะประโยคภาษาไทย
ก. ผู้บริหารจำเป็นต้องมีเจตคติทีดีตอผู้ใต้บังคับบัญชา
ข. ปัจจุบันการแพรระบาดของโรคเอดส์ได้ขยายตัวเพิ่มขึ้น
ค. เยาวชนเป็นผู้ที่นำมาซึ่งความหวังของสังคม
ง. วัคซีนชนิดนี้แม้ว่าจะมีข้อดี แตกไม่ควรใช้ในผู้ใหญ่วัยชรา
132. ประโยคใดใช้ภาษาฟุ่มเฟือย
ก. ผมจะไม่ตำหนิตำรวจเด็ดขาด ใน กรณีที่เกิดน้ำท่วมกรุงเทพฯเมื่อฝนตกหนัก
ข. อีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดปัญหาสมองไหลก็คือ การไม่ได้รับความยุติธรรมจากเจ้านาย
ค. ปัจจุบันอัตราการเสียชีวิตของประชากรเพราะอุบัติเหตุมีมากกวาอัตราการเสียชีวิตเพราะโรค
ร้ายตายง่ายๆ
ง. เขาให้ความสนใจเรื่องการเล่นกีฬามาก เขาจึงสะสมวารสารต่างประเทศทีเกี่ยวกับกีฬาไว้
มากมาย
133. ข้อใดมีอักษรสูงมากที่สุด (นับตัวซ้ำ)
ก. ฝูงชนกำเนิดคล้ายคลึงกัน
ข. ความรู้อาจเรียนทัน กันหมด
ค. ใหญ่ยอมเพศผิวพรรณ แผกบ้าง
ง. ยกแต่ชั่วดีกระด้าง อ่อนแกฤาไหว
หน้า 87
134. ข้อความในข้อใดไม่ถูกต้อง
ก. ภาษาไทยมาตรฐานคือภาษาราชการ
ข. ภาษาไทยมีการออกเสียงหนักเสียงเบา
ค. ภาษาไทยรับคำจากภาษอื่นในรูปศัพท์เดิมเป็นส่วนใหญ่
ง. คนไทยบางคนออกเสียงพยัญชนะบางเสียงตามเสียงภาษาอังกฤษ
135. เสียงควบกล้ำในข้อใดไม่ปรากฏในระบบเสียงภาษาไทย act group
ก. บรั่นดี ข. นิวเคลียส ค. อิเควเตอร์ ง. เพนกวิน
136. ข้อความต่อไปนี้มีพยางค์ที่ปรากฏเสียงพยัญชนะท้ายกี่พยางค์ “มัวแต่พูดว่า จะ จะ อยู่นั่นเอง ทำไม
ไม่ลงมือเสียที”
ก. 7 พยางค์ ข. 8 พยางค์ ค. 9 พยางค์ ง. 10 พยางค์
137. ข้อใดมีเสียงวรรณยุกต์ครบทั้ง 5 เสียง
ก. ประหยัดวันนี้สบายวันหน้า
ข. สมบัติเมาเซถลาหัวทิ่ม
ค. หมึกแดงแผลงฤทธิ์ให้รสอร่อย
ง. จะพูดจาจงพิเคราะห์ให้เหมาะความ
138. ข้อใดไม่มีคำสมาส
ก. ทหารเป็นผู้มีหน้าที่รบเพื่อปกป้องมาตุภูมิของตนไม่ให้ข้าศึกรุกราน
ข. ประชาชนส่งไปรษณียบัตรทางผลฟุตบอลยูโร 2000 เป็นจำนวนมาก
ค. ประธานในพิธีกล่าวคาถาเชิญเทวดามาชุมนุมเพื่อเป็นมงคล
ง. ชีวเคมีเป็นวิชาวิทยาศาสตร์สาขาหนึ่งที่ศึกษาเกี่ยวกับองค์ประกอบทางเคมีของสิ่งมีชีวิต
139. ข้อใดมีคำซ้อนมากที่สุด
ก. แต่หนาวใจยากแค้นนี้แสนเข็ญ
ข. ออกแออัดผู้คนอยู่ล้นหลาม
ค. ในแหล่งหล้าใครไม่มีเสมอเหมือน
ง. ไม่สมประกอบทรัพย์สินก็ขัดสน
140. ข้อใดไม่มีคำพ้องความหมาย
ก. ไอยรา ราชสีห์ กุญชร
ข. ลำธาร ชลาสินธุ์ มัจฉา
ค. เทเวศร์ อัจฉรา สุรารักษ์
ง. สิงขร เวหาสน์ วนาดร
หน้า 88
141. ข้อใดไม่มีคำประสม
ก. เห็นกิ่งกีดมีดพร้าเข้ารารัน
ข. หลังคาใหญ่พื้นเล็กเป็นโรงผี
ค. ดูเหย้าเรือนหาเหมือนอย่างไทยไม่
ง. ถึงหนามกรานก็ไม่เจ็บเหมือนเหน็บแนม
142. ข้อใดมีคำซ้ำที่แสดงความหมายต่างจากข้ออื่น
ก. แน่นวดแป้งแล้วปั้นเป็นลูกกลมๆ
ข. แยกๆ กันไปกินอาหารจะได้ออกรถเร็วขึ้น
ค. สมพรอยากย้ายบ้านไปอยู่ใกล้ๆที่ทำงาน
ง. อายุเกิน 80 แล้วยังชอบใส่เสื้อผ้าสีสดๆ
143. ข้อใดไม่ใช่สำนวนต่างประเทศ
ก. ประชากรโลกกำลังเผชิญโศกนาฏกรรมเงียบจากโรคร้าย ทั้งเอดส์ มาลาเรีย และวัณโรค
ข. ต่อข้อซักถามของผู้สื่อข่าว ตัวแทนสภากาชาดสากลแถลงว่าสถานการณ์โรคร้ายในปัจจุบัน
กำลังน่าวิตก
ค. สภากาชาดสากลพร้อมด้วยผู้นำจากประเทศในเอเชียแถลงว่าประเทศในทวีปแอฟริกาเป็น
พื้นที่ที่มีโรคเอดส์ระบาดมากที่สุด
ง. รัฐบาลแต่ละประเทศควรสนในปัญหาโรคเอดส์ เพราะปัจจุบันโรคเอดส์เป็นมหันตภัยที่ทำลาย
เศรษฐกิจและสังคม
144. ข้อใดใช้คำภาษาต่างประเทศโดยไม่จำเป็น
ก. เมื่อไฟดับควรตรวจดูว่าเป็นเพราะฟิวส์ขาดหรือปลั๊กหลุด
ข. เด็กๆชอบรับประทานไอศกรีมช็อคโกแลตมากกว่าไอศกรีมกะทิสด
ค. ก่อนเข้าแบงค์ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ต้องถอดหมวกกันน็อกและแว่นตาดำออก
ง. นักกอล์ฟหลายคนอยากเปลี่ยนวงสวิงให้คล้ายกับไทเกอร์วูดส์เพื่อให้ตีลูกได้แม่นและไกล
145. โถ พุทโธ อนิจจัง คุณพระช่วย คำไหนแตกต่าง
ก. โถ ข. พุทโธ ค. อนิจจัง ง. คุณพระช่วย
146. มะละกอ แตงโม ทับทิม จงหาข้อที่ความสัมพันธ์กับโจทย์กำหนด
1. ลิ้นจี่ 2. เสาวรส
3. เงาะ 4. ลำไย
147. ข้อใดใช้คำทับศัพท์เขียนถูกต้อง
1. เฟสบุ๊ค 2. ไลก์
3. คุ๊กกี้ 4. อัพเดท
หน้า 89
148. ข้อใดใช้คำราชาศัพท์ไม่ถูกต้อง
1. ทรงฟัง 2. เสด็จไป
3. ทรงพระกรุณา 4. ทรงมีพระราชดำรัส
149. ข้อใดใช้คำไม่ถูกต้อง
1. แม่เลาะกระดูก 2. พ่อเลาะไม้ไผ่มีหนาม
3. พี่พายเรือเลาะริมตลิ่ง 4. น้องเลาะตะเข็บผ้า
150. ข้อใดใช้วรรณยุกต์ผิด
1. ทำไมไม่ล็อกประตูล่ะยะ 2. เขาได้วิสกี้ขวดนี้มาอย่างฟลุกๆ
3. เรื่องวี้ดว้ายน่ะเธอทำเป็นประจำ 4. คุณเป็นนิสิตโควตามหาวิทยาลัยหรือฮะ
หน้า 90
เฉลยเจาะข้อสอบความสามารถด้านภาษาไทย
1. ข. ท = ท ธ ฑ ฒ ถ ฐ
2. ง. ปรบมือ ปร - เป็นตัวควบกล้ำ ส่วนข้ออื่นเป็นอักษรนำ
3. ค. พยัญชนะ ทำหน้าที่เป็นอักษรนำ เช่นคำว่า พร้อม จริงๆ แล้วเป็นคำควบกล้ำ
4. ก. พยัญชนะ ภ ทำหน้าที่เป็น พยัญชนะต้น พยัญชนะ ย ทำหน้าที่เป็นตัวสะกด
5. ง. ปรากฏ จวัก อักษรกลาง มี 9 ตัว คือ ก จ ฎ ฏ ด ต บ ป อ
6. ค. นั่งมอง ริษยา อักษรต่ำเดี่ยวมี 10 ตัว คือ ง ญ น ย ณ ร ว ม พ ล
7. ก. ธงชาติ ภาชนะ อั ก ษรต่ ำ คู ่ คื อ อั ก ษรต่ ำ ที ่ ม ี เ สี ย งคู ่ ใ กล้ เ คี ย งกั บ อั ก ษรสู ง มี 14 ตั ว
คือ ค ค ฆ ช ซ ฌ ฑ ฒ ท ธ พ ภ ฟ ฮ
8. ค. อักษรต่ำคู่มีเสียงคู่กับอักษรกลาง
9. ข. สันสกฤต ประกอบไปด้วยสระ อะ และ อิ
10. ง. โครงงาน ประกอบไปด้วยสระ โอ และ อา
11. ข. 12. ค. 13. ง. 14. ข.
15. ก. ไม้หน้า + พินทุ์อิ + ฟันหนู + ตัวออ
16. ข. เราควรช่วยเหลือกัน เ-า ประกอบไปด้วย ไม้หน้า และลากข้าง
17. ก. กบในกะลาครอบ สระเกิน คือ สระที่เมื่ออ่านแล้วเหมือนมีเสียงพยัญชนะประสมอยู่มี 8 เสียง
คือ อำ ใอ ไอ เอา ฤ ฤา ฎ ฎา
18. ก. แซงทางโค้ง จะอยู่โยงเส้นทาง สระเดี่ยว มี 18 เสียง ได้แก่ อะ อา อิ อี อี ถือ อุ อู เอะ เอ แอะ
แอ โอะ โอ เอาะ ออ เออะ เออ
19. ก. เป็น คำที่ประสมตัวสระเสี ย งสั้น ของแม่ ก กา ลักษณะของดำเป็น คือ เป็น คำที่ประสมด้ ว ย
สระเสียงยาวของแม่ ก กา เป็นคำที่มีตัวสะกดใน แม่กง แม่กน แม่กม แม่เกยและแม่เกอว เป็นคำ
ที่ประสมด้วยสระ อำ ไ- ใ- เ-า
20. ข. เป็นคำที่ประสมตัวสระเสียงยาวของแม่ ก กา ลักษณะของคำตาย คือ เป็นคำที่ประสมด้วยสระ
เสียงสั้น ของแม่ ก กา เป็น คำที่มีตั ว สะกดใน แม่กก แม่กด แม่กบ เป็น คำที่ประสมด้ ว ยสระ
อำ ไ- ใ- เ-า
21. ค. รูปวรรณยุกต์ เพราะคำบางคำมีเสียงวรรณยุกต์ แต่ไม่มีรูปวรรณยุกต์
22. ก. 7 คำ คือ คำว่า ชน ใด ไม่ มี ดน ตรี กาล
23. ง.
24. ก.
หน้า 91
25. ข.
26. ง. วรรคที่ 1 และ 3 ปากเป็นเอกเลขเป็นโทโบราณว่า คำตาย คือ ปาก เอก เลข ถึงรู้มากไม่มีปาก
ลำบากกาย คำตาย คือ มาก ปาก บาก
27. ข. 2 คำ มีอุบายพูดไม่เป็นเห็นป่วยการ คำตาย คือ อุ พูด
28. ง
29. ข
30. ค. อักษรกลาง คำตาย มีพื้นเสียงเป็นเสียงจัตวา เพราะอักษรกลาง คำตาย มีพื้นเสียงเป็นเสียง เอก
ผันได้ 4 เสียง
31. ก. 3 เสียง ได้แก่ เสียงโท ตรี จัตวา และมีพื้นเสียงเป็นเสียงตรี
32. ข. เป็นอักษรต่ำ คำตาย สระเสียงยาว เสียงวรรณยุกต์ ตรี (อักษรต่ำ คำตาย สระเสียงยาวมีพื้นเสียง
เป็นเสียงโท)
33. ค. พยาธิ มิตร ประเภท ทุกตัวสะกดด้วย แม่กด ประกอบด้วย จ ช ชร ซ ฎ ฏ ฐ ฑ ฒ ด ต ต ตร ถ
รถ ท ทร ธ ธิ ศ ษ ส
34. ก. หนีเสือปะจระเข้ แม่ ก กา คือ คำในภาษาไทยที่ไม่ตัวสะกด
35. ข. รถแทรกเตอร์ มาจากคำว่า tractor
36. ง. มลายสิ้นทั้งอินทรีย์ คำว่า อินทรีย์ เป็นคำควบไม่แท้
37. ข. แม่กด คือ คำว่า มนุษย์ กิจ ผิด เกตุ สอด
38. ค. 3 คำ คือ คำว่า มวล คล เจริญ
39. ง. 5 คำ คือ คำว่า มนุษย์ กิจ ผิด เกตุ สอด
40. ค. ควรคะนึงพึ่งตนทนกัดฟัน
41. ง. อุทยานแห่งชาติ สามานยนาม คือ คำนามทั่วไปที่ใช้เรียกสิ่งต่าง ๆ ที่ไม่เฉพาะเจาะจง เช่น ปลา
ตะกร้า บ้าน ฯลฯ
42. ข. พระภิกษุ 4 คน ลักษณะนามของพระภิกษุ คือ รูป
43. ง. ห้างสรรพสินค้า สมุหนาม คือคำนามที่ใช้เรี ยกชื่อ คน สัตว์ สิ่งของที่อยู่เป็นหมวดหมู่รวมกัน
เช่น หมู่ กลุ่ม กองคณะ ฯลฯ
44. ก. บุรุษสรรพนาม คือ คำนามที่ใช้แทนบุคคลที่เกี่ยวข้องในการสื่อสาร
45. ค. โยม เป็นสรรพนามบุรุษที่ 2
46. ข. น้ำนิ่งไหลลึก คำว่า ลึก เป็นคำวิเศษณ์ขยายกิริยา
47. ค ตำบลนี้เต็มไปด้วยบ้านเรือน
48. ก. เมื่อไปถึงบ้านฝนก็ตกทันที
49. ง. ไกรสร อ่านว่า ไกร - สอน มี 2 พยางค์
หน้า 92
50. ง. อ. สังหรณ์ อ่านว่า สัง – หอน มี 2 พยางค์

51. ก. พลอยเป็นดาวของโรงเรียน ดาวมีความหมายแฝง แปลว่า คนที่โดดเด่น เหมือนดารา
52. ค. ตะวัน สุริยา ทินกร หมายถึง ดวงอาทิตย์ (Sun)
53. ข. ประโยคความรวม คือ ประโยคที่ ประกอบด้ ว ยประโยคความเดี ย ว ตั้งแต่ 2 ประโยคขึ ้ น ไป
มารวมเป็นประโยคเดียวกัน โดยมีคำสันธานเป็นตัวเชื่อม เมื่อแยกประโยคออกจากกันแล้ว จะได้
ประโยคความเดียวที่มีเนื้อความอิสระต่อกัน เรียกว่า ประโยคย่อย
54. ก. ประโยคความเดียว คือ ประโยคที่มีใจความสำคัญเพียงใจความเดียว กล่าวถึงสิ่งใดสิ่งหนึ่งเพียง
สิ่งเดียว
55. ค. ประโยคความซ้อน คือ ประโยคที่ประกอบด้วยประโยคความเดียว 1 ประโยค เป็นประโยคหลักและ
มีประโยคย่อยซึ่งเป็นประโยคความเดี่ยวอื่น ๆ เสริมออกมา อาจทำหน้าที่ขยายประธาน ขยาย
กิริยาหรือขยายกรรม ก็ได้
56. ค. ประโยคความร้อน คือ ประโยคที่ประกอบด้วยประโยคความเดียว 1 ประโยค เป็นประโยคหลักและ
มีประโยคย่อยซึ่งเป็นประโยคความเดี่ยวอื่น ๆ เสริมออกมา อาจทำหน้าที่ขยายประธาน ขยาย
กิริยา หรือขยายกรรม ก็ได้
57. ค. วิ่งเต้น เป็นคำประสมที่เกิดจากคำกริยารวมกับคำกริยา เมื่อประสมแล้วมีความหมายใหม่ว่า
พยายามติดต่ออย่างเต็มที่เพื่อขอความช่วยเหลือในกิจที่ต้องประสงค์
58. ก. ขยุกขยิก น่ารัก บ่ายเบี่ยง
คำมูล คือ คำที่มีมาตั้งแต่เดิมในภาษาไทย คำว่าขยุกขยิก เป็นคำมูลหลายพยางค์
คำประสม คือ คำที่เกิดจากการนำคำมูลตั้งแต่ 2 คำ มารวมกันแล้วเกิดเป็นความหมายใหม่ น่ารัก
เป็นคำวิเศษณ์
คำซ้อน คือ คำที่มีความหมายคล้ายกันรวมกันเป็นคำเดียว
59. ง. สาวสุดสวย เป็นแค่ วลี เนื่องจาก ประโยค คือ การนำคำมาเรียงแล้วเป็นข้อความที่มีใจความ
สมบูรณ์ชัดเจนและต้องประกอบด้วย 2 ส่วน คือ ภาคประธาน และภาคแสดง
60. ง. ความสามารถการฟังด้านประเมินค่า วิธีการฟังมีดังนี้
- ฟังเรื่องราวให้เข้าใจ พยายามจับใจความสำคัญของเรื่องเป็นตอนๆ ว่าเรื่องอะไร ใครทำอะไรที่
ไหน เมื่อไร อย่างไร
- ฟังเรื่องราวที่เป็นใจความสำคัญแล้วหารายละเอียดของเรื่องที่เป็นลักษณะปลีกย่อยของใจความ
สำคัญหรือที่เป็นส่วนขยายใจความสำคัญ
- สรุปความโดยรวบรวมเนื้อหาสาระสำคัญอย่างครบถ้วนครูปรีชาฟังแล้วได้คิดและประเมินค่า สิ่ง
ใดเป็นใจความสำคัญ แยกข้อเท็จจริงออกจากความคิดได้ เพื่อที่จะนำไปปฏิบัติ ใช้ประโยชน์ใน
การดำเนินชีวิตได้จริง
หน้า 93
61. ง. สบายใจ คำว่า “สำราญพระราชหฤทัย, สบายพระราชหฤทัย” มีความหมายว่า “สบายใจ” ใช้แก่

พระมหากษัตริย์ ลงมาจนถึงสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี หากใช้แก่พระบรม
วงศ์ชั้นสมเด็จเจ้าฟ้า ลงมาจนถึงพระอนุวงศ์ชั้นพระองค์เจ้า ใช้ว่า “สำราพระหฤทัย, สบายพระ
หฤทัย” และหากใช้แก่พระอนุวงศ์ชั้นหม่อมเจ้าใช้ว่า “สำราญพระทัง, สบายพระทัย” ทั้งนี้คำว่า
“สำราญพระราชหฤทัย ” “สำราญพระหฤทัย” “สำราญพระทัย ” และ “สบายพระราชหฤทัย”
“สบายพระหฤทัย” “สบายพระทัย” เป็นราชาศัพท์อยู่แล้ว จึงไม่ต้องเติมคำว่า “ทรง” ไว้หน้าคำ
ดังกล่าว
62. ค. เบื้องหลัง 10 เมษายน ถล่ม “บูรพาพยัคฆ์” เป็นภาษาที่ใช้ในการรายงานข่าวทองสื่อมวลชน
63. ข. คำว่า บังสกุล ที่ถูกคือ บังสุกุล (ต้องมีสระอุที่ตัว ส. ด้วย) ในสมัยพุทธกาลภิกษุต้องแสวงหาผ้าที่
เขาทิ้งแล้วจากกองขยะหรือจากป่าช้ามาทำจีวรใช้ผ้าเหล่านั้นส่วนใหญ่จะเปื้อนฝุ่นหรือสกปรก จึง
เรียกว่าบังสุกุล (ดูผ้าป่า) ปัจจุบันมักเขียนหรือพูดผิดเพี้ยนไปว่า บังสกุล ด้วยออกเสียงง่ายกว่า
64. ค. เป็นโวหารประมาท อุปมาโวหาร เพราะเป็นลักษณะการเปรียบเทียบ
อ่านเพิ่มเติม วรรณคดีทั้งร้อยกรองและร้อยแก้ว แบ่งโวหารออกเป็น 5 ประเภท ได้แก่
1. อุปมาโวหาร คือ การใช้ข้อความเปรียบเทียบให้เห็นภาพพจน์โดยใช้คำ
เช่น ดัง เหมือน เช่น ดุจ คล้าย เป็นต้น
2. บรรยายโวหาร คือ การอธิบายเหตุการณ์ตามลำดับอย่างชัดเจน
3. พรรณนาโวหาร คือ การให้รายละเอียดอย่างลึกซึ้งให้เห็นภาพ
4. เทศนาโวหาร คือ การชี้แจงสั่งสอนประกอบด้วยเหตุผลสัจธรรมเพื่อโน้มน้าวใจผู้อ่าน
และ ผู้ฟัง
5. สาธกโวหาร คือ การยกตัวอย่างประกอบ อาจเป็นการกล่าวพาดพิงก็ได้ ด้วยคำที่ยก
มาเป็นหลักธรรมภาษิตคำพังเพยหรือตำนาน นิทานเป็นต้น
65. ก. การฟัง สำคัญมากที่สุด
ทุกตัวเลือกนั้นมีความสำคัญหมดไม่ว่าจะเป็นการฟัง การพูด การอ่าน และการเขียน เป็นสิ่งที่ต้อง
ใช้ในชีวิตประจำวัน มีความสำคัญต่อข้าราชการตำรวจ แต่การฟังจะสำคัญสุดเพราะตำรวจ
จะต้องรับฟังการแจ้งความหรือแจ้งเรื่องร้องทุกข์ต่าง ๆ จากประชาชน และผู้บังคับบัญชา
66. ก. ใจความสำคัญของข้อความนี้คือ ความรัก
67. ค. กรรมาธิการ ที่อ่านถูกต้อง คือ กำ – มา – ทิ - กาน
68. ข. จุดประสงค์ของผู้เขียนคือ เพื่อโน้มน้าวใจ ให้ผู้อ่านจำเป็นต้องอดทนใช้บริการรถเมล์เพื่อช่วยกัน
ประหยัดพลังงาน
69. ค. มุ่งให้เกิดความภาคภูมิใจและหวงแหน ไม่ให้คิดทำลายป่าไม้ และสิ่งดี ๆ ที่ยังมีเหลืออยู่
70. ข. บทประพันธ์นี้ผู้แต่งมีวัตถุประสงค์เพื่อปลูกจิตสำนึก ถึงความทุกข์ยากของชาวนา
หน้า 94
อ่านเพิ่มเติม “จิตสำนึก” คือ ความระลึกรู้ของจิตว่ากำลังทำอะไร เรารู้ว่าเรากำลังแก้ไขสิ่งที่ไม่ดี

ในตัวของเราทำอย่า งไรจึงจะมีจิตสำนึกอย่า งนั้นเกิดขึ้น มาได้ จริง ๆ จิตสำนึก ไม่ได้สร้า งที่
ภายนอก แต่สร้างที่ภายใน เพื่อแก้ไขภายในแล้วออกผลเป็นภายนอกให้เห็น
71. ค. บทความเชิงบรรยาย
อ่า นเพิ่มเติม บทความนั้น มีลักษณะหลากหลายในการเขียน ดังนั้น ในการระบุประเภทของ
บทความย่อมสามารถพิจารณาได้หลายลักษณะ เช่น
- บทความเชิงบรรยาย (Narrative Article) เป็นบทความที่บรรยายประสบการณ์ต่าง ๆ ที่
เกิดขึ้นในลักษณะแปลกใหม่ ต้องบอกแก่ผู้อ่านเท่าที่ตนทราบ โดยบอกได้อย่างถูกต้อง ไม่น่าเบื่อ
- บทความเชิงวิจารณ์ (Critical Article) เป็นบทความที่เ กี่ยวกับวรรณกรรมหรือศิลปกรรม
บทความประเภทนี้มี 2 ลักษณะ ลักษณะแรก เป็นการเขียนแนะนำให้ทราบแม้จะมีการวิจารณ์ก็
ไม่ค่อยจะรุนแรงมาก ส่วนอีกลักษณะเป็นการเขียนวิจารณ์ที่รุแรงเพื่อวินิจฉัยคุณค่าของผลงาน
นั้น ๆ การวิจารณ์อาศัยหลักและกฎเกณฑ์ทั้งทางทฤษฎีและเหตุผลข้อเท็จจริงเป็นหลัก เพื่อการ
ประเมินคุณค่าอย่างเป็นธรรม
- บทความเชิงวิเคราะห์ (Analytical Article) เป็นบทความที่มุ่งเสนอการวิเคราะห์เหตุการณ์
ใด ๆ โดยเน้นประเด็นสำคัญของเรื่อง ๆ ไม่จำเป็นต้องมีการประเมินคุณค่าเสมอไป แต่ควรมีข้อเสนอที่ว่า
สิ่งที่เกิดขณะนั้นจะนำไปสู่เหตุการณ์อะไรในอนาคตได้ บ้าง ซึ่งการวิเคราะห์จะต้องมีความสมเหตุสมผลใน
การเขียน นอกจากนั้นอาจสรุปเป็นแนวคิดแก่ผู้อ่านก็ได้
72. ค. มีซอให้ควายฟัง
อ่านเพิ่มเติม ความหมาย คนเซ่อคนโง่ หรือคนที่ดูฉลาดแต่กลับไม่ฉลาด ดังเช่นควายตัวโตกลาง
ทุ่งนาถึงจะมีคนไปสีซออันแสนไพเราะให้ฟัง แต่ควายก็ได้สนใจฟังไม่ ผู้ที่สีซอก็ไม่ได้รับประโยชน์อะไรจาก
ควายเลยเสียแรงและเสียเวลาไปโดยใช่เหตุ สีซอให้ควายฟังจึงมีความหมายว่ า แนะนำจี้แจงสิ่ง
ต่างๆให้แก่คนโง่ ชี้แจงให้ฟังเท่าไหร่ก็ไม่รู้เรื่องซึ่งไม่มีประโยชน์ที่จะต้องคอยแนะนำ
โอกาสที่ใช้ ใช้เปรียบเทียบกับคนที่ไม่ยอมเชื่อฟังคำสั่งสอนไม่รับรู้ไม่สนใจแม้จะสั่งสอนสัก
เท่าไหร่ ก็ไม่รับฟัง ผู้สอนก็เสียแรงโดยเปล่าประโยชน์เช่นเด็กชายปรีชา เอาการบ้านมาทำฉันก็
สอนไป เหมือนกับสีซอให้ควายฟัง ยังไงยังงั้น แกก็ไม่สนใจฟังเลย
73. ค. บทประพันธ์นี้เน้นในเรื่อง เสนอข้อคิดเห็น เกี่ยวกับเหตุการณ์และปัญหาความขัดแย้งต่างๆที่
เกิดขึ้นในประเทศไทย ปีเสือนี้
74. ข. ผู้เขียนต้องการสื่อว่า ชีวิตนี้ต้องสู้ เพราะถ้าสู้ก็สามารถที่จะเอาชนะปัญหาและสิ่งต่างๆ ได้โดยเห็น
ได้จากประโยชน์ที่ผู้เขียนกล่าวว่า แม้ลมพายุพัดแรงก็ เป็นเพียงสายลมแผ่วเบา แสดงถึงชีวิตนี้เรา
ต้องสู้
หน้า 95
75. ง. จุดประสงค์ของผู้เขียนต้องการชี้ให้เห็นปัญหาที่เกิดจากความยากจน เพราะในบทความของผู้เขียน

กล่าวว่า เพื่อหนีจน และสรุปปิดท้าย คดีอุกฉกรรจ์หลากเกิดจากใด ชี้ให้เห็นถึงปัญหาที่เกิดจาก
ความยากจน
76. ค. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารีเสด็จพระราชดำเนินเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีน
ข้ออื่น ๆ ที่ถูกต้อง คือ
ก. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ตรัสกับประชาชน (ไม่ต้องที่คำว่า...ทรง)
ข. ประชาชนมาเฝ้ารับเสด็จฯ พระบรมราชินีนาถ (เปลี่ยนจาก...ถวายการต้อนรับ เป็น เฝ้ารับ
เสด็จฯ)
ง. สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์เสด็จไปบรรยายแก่นักศึกษามหิดล
(ไม่ต้องมีคำว่า...ทรง)
77. ก. ผ่าแตงโมให้แม่หน่อยซิคะ แสดงจำนวนน้อยที่สุด...ว่ามีแตงโมเพียงลูกเดียว
ส่วนคำตอบในข้ออื่นๆ แสดงให้เห็นถึงจำนวนที่มากกว่า
78. ค. ยาเสพติดอันตราย ผู้เสพถึงตาย ผู้ขายติดคุก
แสดงให้เห็นถึงข้อคิดอันตรายและโทษที่เกิดขึ้นกับยาเสพติด
79. ข. ผู้คนในหลายประเทศกำลังให้ความสนใจในการใช้สมุนไพรลดความเครียด
คำที่ใช้ฟุ่มเฟือย คือ คำว่า ใน …. ตัดคำว่าในออก แก้ใหม่เป็น
ผู้คนหลายประเทศกำลังให้ความสนใจการใช้สมุนไพรลดความเครียด
80. ค. แสดง
81. ง. 1243
(1) การเรียนธรรมล้านนา คือ การเขียนภาษาล้านนา
(2) ชาวล้านนาที่มีลูกชายเมื่อมีอายุ 8-9 ปี ก็จะส่งถูกเข้าวัดเพื่อเป็นขะยม
(3) เมื่อมีเวลาว่าง ตุ๊หลวงหรือ เจ้าอาวาสวัด ก็จะสอนหนังสือให้
(4) หน้าที่ของระยม คือ การรับใช้พระและเดินตามพระบิณฑบาต
82. ข. แมลงไม่ใช่เป็นสัญลักษณ์ของการทำลาย
83. ก. พระสงฆ์สดับปกรณ์ หมายถึง ทำพิธีสวดเนื่องด้วยบังสุกุล
ส่วนบังสุกุล หมายถึง ผ้าที่พระภิกษุชักจากศพหรือที่ทอดไว้หน้าศพหรือทอดไว้บนด้ายสายสิญจน์
หรือผ้าภูษาโยงที่ต่อจากศพ
84. ก. ลุกลี้ลุกลน หมายถึง อาการผลีผลาม ไม่สุภาพเรียบร้อยกระทำไปโดยรีบร้อนไม่เป็นระเบียบ หรือ
โดยกิริยาหลุกหลิก คลอก หมายถึง ถูกไฟไหม้
85. ข. คำทับศัพท์บางคำอนุโลม ให้เป็นคำไทย ได้เพราะไม่สามารถหาคำไทยมาแทนได้ เช่น ลิฟต์
ซอฟต์แวร์ คอมพิวเตอร์ เซ็ค ช็อกโกแลต คลินิก คอนโดมิเนียม อิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น
หน้า 96
86. ค. แปลได้ว่า คนจะนิยมจะตกยากหรือคนจะเมตตา ก็เพราะคำพูด ดังนั้นจะพูดจาอะไรจงคิดก่อน

จึงค่อยพูดเพื่อให้เกิดความเหมาะสม คำประพันธ์นี้จึงมุ่งหมายที่จะเตือนให้คนพูดอย่างมี
วิจารณญาณ
87. ข. ตักน้ำใส่กะโหลก ชะโงกดูเงาเปรียบเทียบได้ถูกต้องเพราะหมายถึง ให้รู้จักฐานะของตนเอง
และรู้จักเจียมตัว
ก. ตักน้ำรดหัวลาก หมายถึง แนะนำพร่ำสอนเท่าไรก็ไม่ได้ผล
ค. ปากหวาน ก้นเปรี้ยว หมายถึง พูดจาอ่อนหวานแต่ไม่จริงใจ
ง. ปากไม่มี หูรูด หมายถึง พูดโดยไม่ยั้งคิด พูดพล่าม ซึ่งใช้บริบท ไม่ถูกต้อง
88. ข. ร้อยกรองนี้ตัดมาจากบทประพันนิราศพระบาทของสุนทรภู่ที่กล่าวถึงมวยปล้ำซึ่งมวยปล้ำจะมี
ลักษณะการกอดรัด ปล้ำต่อสู้กัน คล้ายมวยไทย (คำแปล ดีเข่าอย่างรวดเร็วโดยใช้มือทั้งสองข้าง
ยกขึ้นมาปิดป้องพอได้ระยะประชิดก็เตะและต่อยหมัดสวิง)
89. ค. เป็นอุปมาโวหาร เพราะเป็นโวหารในเชิงเปรียบเทียบ
90. ก. เป็นการดำหนิบุคคลที่เรียนแพทย์ (ซึ่งรัฐต้องลงทุนไปจำนวนมากในการผลิตแพทย์แต่ละคน) แต่
เมื่อจบมาแล้วกลับเปิดคลินิก เพื่อหารายได้เยอะ ๆ เข้ากระเป๋าตนเอง โดยไม่คำนึงถึงการดูแล
ผู้ป่วยที่แท้จริง
91. ข. วางมือในบริบทดังกล่าวหมายถึงการลาออกจากตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี
92. ก. ข้อความดังกล่าวเจตนาให้ข้อคิดเกี่ยวกับความรักและความเศร้า (ความเสียใจ ทุกข์ทรมานใจ) ใน
ลักษณะเปรียบเปรย ไม่มีส่วนใดที่จะแปลได้ว่าผู้เขียนมุ่งจะกล่าวถึงดอกไม้
93. ง. ละล่ำละลัก หมายถึง อาการของการพูดโดยตกใจ
94. ก. เกลียวกลม - กลมเกลียว หมายถึง ที่เข้ากันได้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
95. ค. ปกติ และ ปรกติ เขียนถูกทั้งสองคำ จรเข้ ที่ถูกคือ จระเข้ แต่ถ้าเป็น " จะเข้ (ไม่มี ร เรือ)
นอกเหนือจะหมายถึงเครื่องดนตรีไทยชนิดหนึ่งแต่ก็หมายถึง จระเข้ ด้วย เหมือนกัน
96. ก. ศรีษะ ที่ถูกคือ ศีรษะ ในที่นี้คำว่า เขรอะ กับ เขลอะ และคำว่า ระบม กับ ละบม มีความหมาย
เดียวกัน
97. ข. ก๊าซ หรือ แก๊ส ใช้กับอากาศธาตุต่างๆ แต่ ก๊าด ใช้กับคำว่าน้ำมันก๊าด
98. ง. คลีนิค, คลินิก, คีลนิก ผิด ที่ถูกต้องใช้ คลินิก เป็นสระทั้งหมด และนิกใช้ ก. ไก่
99. ง. ที่ถูกต้องเขียนว่า มะกะโรนี
100. ข. อิริยาบท ที่ถูกคือ อิริยาบถ ตะหงิด ที่ถูกคือ ตงิด สัปปะรถ ที่ถูกคือ สับปะรด ที่ถูกต้องคือ ดุลย
พินิจ หรือเขียนว่า ดุลพินิจ มีความหมายเหมือนกัน ใช้ได้ทั้งสองแบบ ดุลยพินิจ อ่านว่า คุน-ละ-
ยะ-พิ-นิด หรือ ตุน-ยะ-พิ-นิด ส่วน ดุลพินิจ อ่านว่า ดุน-ละ-พิ-นิด
101. ง. นายแพทย์ตรวจร่างกายคนไข้ทุกวัน
หน้า 97
102. ง. ไก่เห็นตีนงู งูเห็นนมไก่

103. ค. น้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวาย
104. ข. จะให้ใครซื้อ
105. ง. สังเกตจาก “รัก เป็น รก” และ “รีบ เป็น รบ”
106. ง. มีพยัญชนะประสม 4 คํา คือ กลาย แปร ปรวน เพราะ
107. ค. น้ำ – เป็น ออกเสียงสั้น ร้อน – ปลา ออกเสียงยาว
108. ค. ส่วนข้ออื่น
ข้อ ก มีคําตายทีเป็นครุ คือ สัช
ข้อ ข มีคําตายทีเป็นครุ คือ ศาสตร์
ข้อ ง มีคําตายทีเป็นครุ คือ วิท
109. ง. แสร้ง “ร” ไม่ออกเสียง หลาก “ห” ไม่ออกเสียง กัลป์ “ป” ไม่ออกเสียง
110. ข. มีอักษรสูง 3 ตัวคือ “ห – ผ – ผ”
111. ง. ตลก กระเป๋า กะลา
ข้อ ก มะพร้าว เป็น คำประสม
ข้อ ข หลอกลวง เป็น คำซ้อน
ข้อ ค นักเลง เป็น คำประสม
112. ค. มีคำซ้ำ 3 คำคือ อยู่อยู่ เพื่อนเพื่อน เคียงเคียง
113. ง. ข้อ ก วิทยากร เป็นคำสมาสทีไม่มีการสนธิ
ข้อ ข วิทยาเขต, พัฒนาการ เป็นคำสมาสที่ไม่มีการสนธิ
ข้อ ค วัฒนธรรม เป็นคำสมาสที่ไม่มีการสนธิ
114. ง. โครงสร้างของคําว่า “อมยิ้ม” คือ “กริยา+กริยา” ซึ่งตรงกับข้อ ง.
115. ก. ข้อ ก วิงหนี มีกริยา 2 ตัว คือ วิง+หนี จึงถือเป็นประโยคความรวม
116. ง. ข้อ 5 เอากรรมคือ “วิชา” ขึ้นประโยค จึงถือเป็นประโยคกรรม
117. ง. ข้อ 4 มีกริยา 2 ตัว คือ ชอบ+ทิ้ง จึงเป็นประโยคความรวม
ข้อ 5 มี 2 ประโยคและเชื่อมด้วย “ก่อน” จึงเป็นประโยคความรวม
118. ค. ข้อ ค ยังขาดกริยาสำคัญของประโยค
119. ค. กริยาหลักคือกริยาสำคัญที่สุดของประโยค
120. ง. ข้อ ก คำว่า “ชอบกิน” ใช้ภาษาไม่วิชาการ
ข้อ ข คำว่า “ลงเอย” ใช้ภาษาไม่วิชาการ
ข้อ ค คำว่า “อีก” ใช้ภาษาไม่วิชาการ
121. ข. เพราะ “ทรงมีพระราชปรารภ” ใช้ผิด ทีถ่ ูกต้องแก้เป็น “มีพระราชปรารภ”
หน้า 98
122. ง. “ล้าง” ในข้อ ง มีความหมายเปรียบเทียบ ข้ออื่น ๆ มีความหมายนัยตรง

123. ก.
124. ก. ความรู้สึกลบแฝงในข้อ ก ชัดเจนที่สุด
125. ง. “โดยลำพัง” ที่ถูกต้องแก้เป็น “ตามลำพัง”
126. ค. ข้อ ก ต้องแก้ “พ่อพิมพ์” เป็น “แม่พิมพ์”
ข้อ ข ต้องแก้ “ไม่นั่งติดเก้าอี้” เป็น “นั่งไม่ติด”
ข้อ ง ต้องแก้ “ชายข้าวเปลือกหญิงข้าวสารโบราณว่า” เป็น “น้ำหนึ่งใจเดียวกัน”
127. ก. ข้อ ข ต้องแก้ “ภาคภูมิ” เป็น “ภูมิใจ”
ข้อ ค ต้องแก้ “ชนะกราวรูด” เป็น “ชนะรวด”
ข้อ ง ต้องแก้ “เปรียบเปรย” เป็น “เปรียบเทียบ”
128. ค. ข้อ ก ต้องแก้ “เจ้าถ้อยหมอความ” เป็น “อ้อมค้อม”
ข้อ ข ต้องแก้ “จับแพะชนแกะ” เป็น “จับปูใสกระด้ง ”
ข้อ ง ต้องแก้ “น้ำซึมบ่อทราย” เป็น “เก็บเบี้ยใต้ถุนร้าน”
129. ง. ข้อ ก ฟุ่มเฟือยตรง “กล้วยสุกนั่น”
ข้อ ข ฟุ่มเฟือยตรง “จากเดิม”
ข้อ ค ฟุ่มเฟือยตรง “ศพ…..นอนตาย”
130. ก. ข้อ ข ต้องแก้เป็น “กำลังแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังอย่างรีบด่วน”
ข้อ ค ต้องแก้เป็น “กำลังรับสมัครสมาชิกจำนวนมากที่บึงพระราม”
ข้อ ง ต้องแก้เป็น “นักศึกษาหลายคณะรวมทั้งชมรมอนุรักษ์สิงแวดล้อมเข้าร่วม
โครงการถนนสีขาว”
131. ก. ข้อ ข มีสำนวนตางประเทศตรง “การแพร่ระบาดของโรคเอดส์”
ข้อ ค มีสำนวนตางประเทศตรง “นำมาซึ่ง”
ข้อ ง มีสำนวนตางประเทศตรง “ไม่ควรใช้ใน……”
132. ง. ฟุ่มเฟือยตรง “ให้ความสนใจ”
133. ข. มีอักษรสูง 3 ตัวคือ “ ห – ผ – ผ”
134. ค. ภาษาไทยรับคำจากภาษอื่นในรูปศัพท์เดิมเป็นส่วนใหญ่
135. ก. บรั่นดี
136. ค. 9 พยางค์
137. ค. หมึกแดงแผลงฤทธิ์ให้รสอร่อย
138. ค. ประธานในพิธีกล่าวคาถาเชิญเทวดามาชุมนุมเพื่อเป็นมงคล
139. ข. ออกแออัดผู้คนอยู่ล้นหลาม
หน้า 99
140. ง. สิงขร เวหาสน์ วนาดร

141. ข. หลังคาใหญ่พื้นเล็กเป็นโรงผี
142. ข. แยกๆ กันไปกินอาหารจะได้ออกรถเร็วขึ้น
143. ง. รัฐบาลแต่ละประเทศควรสนในปัญหาโรคเอดส์ เพราะปัจจุบันโรคเอดส์เป็นมหันตภัยที่ทำลาย
เศรษฐกิจและสังคม
144. ค. ก่อนเข้าแบงค์ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ต้องถอดหมวกกันน็อกและแว่นตาดำออก
145. ง. คุณพระช่วย
146. ข. เสาวรส
147. ข. ไลก์
148. ง. ทรงมีพระราชดำรัส
149. ก. แม่เลาะกระดูก
150. ง. คุณเป็นนิสิตโควตามหาวิทยาลัยหรือฮะ
หน้า 100
ทักษะภาษาอังกฤษ
หน้า 101
เจาะข้อสอบภาษาอังกฤษ ชุดที่ 1
1. You will come as soon as you have finished you dinner, ?

1. aren't you 2. won't you
3. can't you 4. don't you
2. It's no use asking for when all the soup is gone.
1. rmuch 2. most
3. more 4. many
3. My mom is happier now with her new boyfriend.
1. some 2. many
3. very 4. much
4. A : "Are you thirsty?"
B:“ at all”
1. Neither 2. Not
3. No 4. None
5. Newsgroups are discussion forums by people who are interested in a
particular topic and work in a similar way.
1. to subscribe 2. subscribing to
3. subscribed to 4. subscribe to
6. a deep breath, Linda sprang from the board.
1. To be taken 2. To take
3. Taking 4. Take
7. You can't have too of a good thing.
1. much 2. More
3. minus 4. many
8. I heard the noise but I didn't know what it be.
1. was to 2. has to
3. will 4. Could
หน้า 102
9. Her work is not finished yet and she does not have enough time to type it. She is
going to .
1. be typed 2. be typing it
3. have typed it 4. have it typed
10. The employers are planning a big party for Mr. Johnson who the firm
for twenty years next July.
1. will have been managing 2. had managed
3. can have been managing 4. had been managing
11. A number of people at your place last night.
1. is 2. are
3. were 4. was
12. Did you read this chapter thoroughly? Underlined words meaning .
1. routinely 2. regularly
3. completely 4. carefully
13. My father's car when he was sending me to school.
1. turned away 2. ran out off
3. kept off 4. broke down
14. The woman jewelry was stolen made a police report.
1. whose 2. whom
3. who's 4. who
15. You see the sign "No Camera" you tell your friend “ ”
1. Leave your camera with me. 2. Don't take a photograph.
3. Don't enter. 4. Don't buy a camera.
16. You have been invited to the party. Unfortunately, You can't go. You tell the host
“ ”
1. You shouldn't invite me. I won't go
2. No, I'm not interested.
3. Excuse me. I'm busy.
4. Thanks for your invitation but I'm afraid I can't
หน้า 103
17. Can you tell me he left?

1. whose 2. where
3. when 4. what
18. He a big mistake in doing business with such a firm.
1. committed 2. perfumed
3. made 4. Did
19. people in this area are highly literate.
1. Of most 2. Most of
3. Almost 4. Most
20. When you , don't drive.
1. have tired 2. are tiring
3. are tired 4. tire
21. If the bus doesn't come I'll walk home.
1. then 2. soon
3. long 4. before
22. You see a small child crying you say; “ ”
1. Why are you crying? 2. How are you feeling?
3. Why do you cry? 4. What are you crying
23. What is the book about? It's .
1. about twenty baht. 2. on the bookshelf.
3. about sea-shells. 4. belong to Mr. Amor.
24. This is the first time that I his show.
1. have seen 2. had seen
3. saw 4. See
25. A : How time have we got?
B : Only I'm afraid.
1. few, a few 2. a little, a few
3. much, a little 4. many, a few
26. He doesn't usually behave like that. It's completely .
1. out of character 2. out of the way
3. out of rage 4. out of order
หน้า 104
27. Who does not know that this ten days ago.
1. we broadcasting 2. was broadcast
3. was broadcasted 4. had broadcast
28. Our flight has been because of the storm.

1. extreme 2. fascinat ng
3. exciting 4. interesting
29. Could you tell me ?
1. the post office where is 2. the post office is where
3. where the post office is 4. where is the post office
30. Are you listening? I've asked you a question three limes .
1. certainly 2. already
3. quite 4. Yet
หน้า 105
เฉลยเจาะข้อสอบภาษาอังกฤษ ชุดที่ 1
1. ตอบ 2 ให้ตอบส่วนหางเราดูกริยา will ต้องทำเป็นปฏิเสธรูปย่อ คือ wont” และสรรพนาม you

ตัวเดิม แบบนี้เรียกว่าเป็น question-tag
2. ตอบ 3 คำที่ให้เติมคือ more แสดงมากขึ้น เพราะประโยค “ไม่มีประโยชน์ที่จะขอเพิ่มอีก
เมื่อซุปทุกอย่างหมดแล้ว”
3. ตอบ 4 เห็น happier เป็นขั้นกว่า คำที่สามารถนำหน้าขั้นกว่าได้คือ much หรือ far
4. ตอบ 2 บีตอบ ข้างหลังมีคำว่า at all ใช้เต็มกลุ่มก็คือ Not at all หมายถึง ไม่เลย
5. ตอบ 3 เห็น by แสดงถึงประธานอยู่ในโครงสร้างรูปถูกกระทำ จะตามด้วยรูป
verb to be + V3 = subscribed to
6. ตอบ 3 เราเห็นหลังเครื่องหมายคอมม่าเป็น Linda ชื่อคน เป็นผู้กระทำ ฉะนั้นประโยคสามารถ
ขึ้นด้วย Ving แสดงการกระทำของคน (Linda) จึงตอบ Taking
7. ตอบ 4 เห็น too สามารถตามได้เช่น too much, too many เท่านั้น เราใช้ much กับสิ่งที่ฉัน
ไม่ได้ ส่วน many ใช้กับสิ่งที่นับได้พหูพจน์ ส่วนหลังมี of a good thing นับไม่ได้ตอบ
too much
8. ตอบ 1 มีกริยา heard เป็นกริยาช่องที่ 2 ในรูปอดีต ฉะนั้นส่วนหลังก็ตอบในรูปอดีต นั่นคือ
was to + V1
9. ตอบ 4 ใช้โครงสร้างเรียงของ verb to have คือ have + สิ่งของ + V3
10. ตอบ 1 เห็นคำบอกเวลา for twenty years next July แค่เห็น next ก็เป็นอนาคตแล้ว
จึงตอบ will สำหรับข้อนี้แสดงอนาคตที่ทำต่อเนื่อง ใช้ Future Perfect Continuous
Tense
11. ตอบ 3 สูตร ถ้าขึ้นต้นด้วย A number of ตอบกริยาเอกพจน์ ส่วน The number of
ตอบกริยาพหูพจน์ ตอบ were เพราะท้ายโจทย์มีคำบอกเวลา last night เป็นอดีต
จึงตอบ were
12. ตอบ 3 คำศัพท์ thoroughly = completely อย่างสมบูรณ์ ละเอียดลออ
13. ตอบ 4 กลุ่มคำสำนวน โดยใช้กับประธาน car ว่า รถเสีย
turned away = เบือนหน้าหนี ran out of = หมด
keep off = หลีก broke down = เสีย
หน้า 106
14. ตอบ 1 The Woman เป็นคน สามารถตอบ whose, who, whom ได้ แล้วดูคำที่อยู่ข้างหลังคำ
ทีใ่ ห้เติม คือ jewelry เป็นคำนาม จึงตอบ whose + คำนาม ที่แสดงความเป็นเจ้าของ
ส่วน who + Verb
whom + S + V เช่น whom I love
15. ตอบ 2 คุณเห็นป้าย “ห้ามถ่ายภาพ” คุณบอกเพื่อนของคุณ “ ”
ตรงกับความหมายว่า “ห้ามถ่ายรูป”
16. ตอบ 4 คุณได้รับเชิญไปงานเลี้ยง น่าเสียดาย คุณไปไม่ได้ คุณบอกเจ้าบ้าน “ ”
เมื่อมีคนเชิญเรา โดยมารยาทเราต้องแสดงความขอบคุณก่อน นั่นคือ Thanks for......
17. ตอบ 3 wh-question ที่เติมในช่องว่างคือ when เป็นการถามเวลา ว่า เขาออกไปเมื่อไร
18. ตอบ 3 จะเห็นกลุ่มคำที่โจทย์คือ a big mistake กริยาที่อยู่ข้างหน้าคือ make/made a
mistake = เข้าใจผิด
19. ตอบ 3 Most of 4 คำนาม หมายถึง คนส่วนใหญ่
20. ตอบ 1 คุณศัพท์ tired รูป -ed แสดงความรู้สึกเพราะประธาน you เป็นตน แสดงรู้สึกได้ ใช้รูป
verb to be + adj.
21. ตอบ 2 “ถ้ารถเมล์ไม่มา ฉันจะเดินกลับบ้าน” คำบอกเวลาที่ถูกต้องคือ soon = ในไม่ช้า
22. ตอบ 3 คุณเห็นเด็กเล็กคนหนึ่งกำลังร้องไห้ คุณพูดว่า “ ”
“ร้องไห้ทำไม” ตรงกับคำถามว่า Why do you cry?
23. ตอบ 3 ถามว่า “หนังสือเกี่ยวกับอะไร? มัน .
ตอบต่อว่า มันเกี่ยวกับ ใช้คำว่า about + คำนาม
24. ตอบ 1 “นี้เป็นครั้งแรกที่ฉัน การแสดงของเขา”
ผู้พูดแสดงถึงจากอดีตมาถึงปัจจุบันเป็นครั้งแรกที่ได้กระทำ ใช้ Present Perfect
25. ตอบ 3 ขึ้นต้นด้วย How สามารถใช้ How much หรือ How many เท่านั้น แล้วดูคำนามที่ให้
มาคือ time เป็นคำนามนับไม่ได้ใช้ much และปีตามว่า มีเวลาเล็กน้อย ก็คือ a little ก็
ใช้กับนามนับไม่ได้
26. ตอบ 1 “ปกติเขาไม่ได้ทำตัวแบบนั่นนะ มัน อย่างสิ้นเชิง”
คำที่เติมนั้น ให้ความหมายว่า ไม่ตรงกับนิสัย = out of character
27. ตอบ 2 this (สิ่งนี้) ออกอากาศ ใช้คำ was broadcast
28. ตอบ 1 เที่ยวบินของเรา เพราะพายุ
คำที่เติมเป็นคำคุณศัพท์ extreme ตรงความหมายว่า ไกรสุด ห่างที่สุด
หน้า 107
29. ตอบ 3 ประโยคส่วนหน้ายกเป็นรูปคำถามแล้วคือ could อยู่หน้า you เมื่อให้เติมกลางประโยค

โดยใช้ where ซึ่งเป็นอนุประโยคย่อยมาซ้อน ก็ต้องเรียงให้เป็นลักษณะแบบประโยค
บอกเล่าคือ where + S + กริยา = where the post office is
30. ตอบ 2 “คุณกำลังฟังอยู่หรือเปล่า ฉันได้ถามคุณสามครั้ง .
คำที่เติมให้ความหมายเข้ากันคือ already = เรียบร้อยแล้ว
หน้า 108
Choose the best answer

1. I might forget to return your books. Please me when it is due.
1. recall 2. remember
3. remind 4. forgive
2. All TV stations showed the pictures of the destruction after the storm passed.
1. establishment 2. construction
3. installment 4. damage
3. When does she usually get up?
1. She will get up at 6.30. 2. She may get up at 6.30.
3. She has got up at 6.30. 4. She gets up at 6.30.
4. The stronger magnet, the greater the number of lines of magnetic force.
1. the number 2. of
3. is the 4. The
5. A : Did you have a good time with your girlfriend?
B : Yes, we really .
1. enjoyed us 2. are enjoyed
3. myself very enjoyed 4. enjoyed ourselves
6. Motivation is learning English.
1. for essentially 2. essentially for
3. for essential 4. essential for
7. My father is waiting for me. I be late.
1. had better not 2. better have not
3. had not better 4. do not better
8. If Aids virus is cover a larger area, and affect more people.
It will be to control.
1. much more important 2. quite very convenient
3. much more difficult 4. much more easier
หน้า 109
9. A : How about your test yesterday?

B : It was an one.
1. much, more difficult 2. fairly, difficult
3. such, easy 4. so, very difficult
10. The phone while Jane dinner this evening.
1. rang, was making 2. rang, cooked
3. rings, cooks 4. was ringing, was making
11. It's very cold. You wear a coat.
1. had better 2. better
3. should better 4. have better
12. The Bangkok Motor Show I could have spent all day looking new cars.
1. fascinates 2. fascinated
3. was fascinated 4. was fascinating
13. Jane : Do you like action movies?
Mike : Yes, I'm any action movies.
1. love 2. care for
3. feel in love 4. fond of
14. The company is cutting down on the number of employee it hires.
1. adding 2. rising
3. reducing 4. increasing
15. A : Are you interested in anything else?
B : Yes, I'm interested in else.
1. any one 2. nothing
3. something 4. anything
16. You enjoyed traveling by plane ?
1. won't you 2. didn't you
3. you did 4. did you
17. You come and stay with us if you want to.
1. always do 2. always can
3. are always 4. can always
หน้า 110
18. This kind of toy has become a very product.

1. consumers 2. produce
3. promotion 4. fashionable
19. Dale studies the activities of the government.
1. law 2. politics
3. social science 4. Psychology
20. Sue hasn't started my article. She can't decide what to put in it.
1. either 2. already
3. yet 4. still
21. On the weekend, I usually relax on the beach or golf with my wife.
1. will play 2. play
3. to play 4. Playing
22. My father bought me a .
1. nice small Javanese picture flame
2. small picture nice flame Javanese
3. nice Javanese small picture flame
4. small nice Javanese picture flame
23. If the water , it into steam.
1. boils, changes 2. have boiled, would have changed
3. boils, would changes 4. boils, will changes
24. He said, "I may go to see my adviser today."
1. He said that he may go to see this adviser today. ,
2. He said that he went to see his adviser that day. .
3. He said that he might go to see his adviser that day.
4. He said he may go to see his adviser today.
25. James is a good actor and singer that everyone likes him.
1. very 2. so
3. too 4. such
26. Now everything in the military is .
1. a computer 2. operating computer
3. computerized 4. Computers
หน้า 111
27. 5,000 recognized species of insects in Thailand.

1. There will be about 2. There are about
3. There is 4. They have
28. Everybody at the club talked to us. They were very to lift.
1. friends 2. friendly
3. friendship 4 unfriendly
29. I couldn't lift this box. It is that it was time to return.
1. heavy 2. too heavy
3. very heavy 4. so heavy
30. We suddenly that it was time to return.
1. realized 2. are realizing
3. were being realized 4. were realized
หน้า 112
Choose the best answer

1. ตอบ 3 ให้เติมคำกริยา “ฉันอาจจะลืมคืนหนังสือของคุณ กรุณาช่วยเตือนฉันเมื่อถึงเวลา
recall = ระลึกถึง remember = จดจำ
remind = เตือน forgive = pกโทษ ให้อภัย
2. ตอบ 4 “สถานีโทรทัศน์ทุกช่องแสดงให้เห็นภาพความเสียหายหลังจากพายุพัดผ่าน”
Establishment = การจัดตั้ง construction = การก่อสร้าง
installment = การติดตั้ง damage = ความเสียหาย
3. ตอบ 4 คำถามถามว่า “ปกติเธอตื่นกี่โมง ผู้ตอบก็ต้องใช้กริยาเป็น gets คือ V1 แสดงถึง การ
กระทำที่เป็นปกติ (usually) ใช้ Present Simple Tense
4. ตอบ 4 ดูส่วนหลังเป็น the greater the number of แล้วเทียบกับส่วนหน้าก็ขึ้นเป็นขั้นกว่าว่า
the stronger ให้ขนานกันก็ตามด้วย the เฉย ๆ ตามด้วยคำนาม (magnet) ไม่ตอบ
the number ถ้าใช้ตัวนี้ก็ต้องมี of ค่ะ แสดงว่าไม่ต้องมี number ใส่ the อย่างเดียว
5. ตอบ 4 การตอบ we really ตามด้วยคำกริยา คือ enjoyed ที่ใช้เป็นกริยาหลักและมีสรรพนาม
สะท้อนตัวเองจากการใช้ we คือ ourselves
6. ตอบ 4 ที่โจทย์มีกริยา is ตามด้วยคำคุณศัพท์คือ essential for เพราะคุณศัพท์ตามหลัง verb
to be (is, am, are, was, were) หรือ linking verb (look, seem, feel, smell,
taste, remain, become, appear เป็นต้น)
7. ตอบ 1 ดูข้อย รูปที่ถูกต้องคือ had better ตามด้วยกริยาช่องที่ 1 ถ้ามี not ใส่ไว้หลัง had
better เป็น had better not + VI
8. ตอบ 3 “ถ้าไวรัสเอดส์ครอบคลุมไปยังพื้นที่ใหญ่ขึ้น และมีผลกระทบกับผู้คน
มันจะ ควบคุม” ประโยคต้องการคำว่า ยุ่งยาก ก็คือคำว่า difficult
ส่วน convenient สะดวกสบาย
9. ตอบ 3 เมื่อเราเห็น a หรือ an แสดงว่าต้องตอบ such เพราะ such + a/an + คำนาม
ส่วน so + adj.
10. ตอบ 1 คำเชื่อมบอกเวลา while (ในขณะที่) ใช้ Tense ดังนี้
S + V2 + while/as + S + was/were + Ving
Rang was making
หน้า 113
11. ตอบ 1 ดูช้อย กลุ่มที่ใช้หน้า better ได้คือ bad เป็น ad ster-V1 = ควรจะ
12. ตอบ 4 ประธานคือ The Bangkok Motor Show ตามด้วยกริยาที่แสดงอดีต เพราะเราเห็น
could have V3 แสดงการสมมติในอดีต ส่วนหน้าใช้อดีตคือ was แล้วตามคำคุณศัพท์ที่
แสดงบอกลักษณะว่า
น่า เช่น was interesting น่าสนใจ
13. ตอบ 4 ผู้ตอบคือ ไมค์ แสดงถึงว่า ผมชอบ ตามหลัง verb to be (am) คือ fond of
14. ตอบ 3 คำศัพท์เหมือน cutting down คือ ลดลง = reducing
15. ตอบ 3 ผู้ตอบเป็น yes แสดงถึงต้องมีบางสิ่งบางอย่าง และเป็นประโยคบอกเล่า ใช้ something
ส่วน anything, nothing แสดงการปฏิเสธ
16. ตอบ 2 เรื่องส่วนหาง เราเห็นกริยา enjoyed เป็นกริยาช่องที่ 3 ทำส่วนหางใช้ did มาแทนและ
ทำเป็นปฏิเสธรูปย่อคือ didn't และสรรพนามใช้ you ตัวเดิม
17. ตอบ 4 เราดูจากประโยคมีกริยาช่องที่ 1 คือ come แสดงว่ากริยาที่ตามด้วยกริยาช่องที่ 1 ได้คือ
can เท่านั้น และคำวิเศษณ์ always จะวางอยู่หลังกริยาช่วย
18. ตอบ 4 คำที่เติมนั้นต้องการคำคุณศัพท์ เพราะคุณศัพท์ (adj.) ทำหน้าที่ขยายนำหน้าคำนาม
(product) ก็คือ fashionable โดยลงท้าย able เป็น adj. ส่วนคำอื่นเป็นคำนามหรือ
กริยาเท่านั้น
19. ตอบ 2 คำที่ขีดเส้นใต้มีความหมายถึง การกระทำของรัฐบาล นั่นคือเป็นเรื่องการเมือง (politics)
ส่วนคำอื่น law กฎหมาย social science สังคมศาสตร์ psychology จิตวิทยา
20. ตอบ 4 “ซูยังไม่ได้เริ่มต้นทำบทความของฉันเลย เธอ ไม่สามารถตัดสินว่าจะเขียน
อะไร” คำที่ถูกต้องคือ still (ยังคง) ส่วนตัวอื่น either (อย่างใดอย่างหนึ่ง) already
(เรียบร้อยแล้ว) yet (แต่กระนั้น)
21. ตอบ 2 เราดูกริยาข้างหน้าใช้กริยาช่องที่ 1 (relax) แล้วเชื่อมด้วย or ก็ขนานตามกริยาที่อยู่
ข้างหน้าคือ play เป็นกริยาช่องที่ 1
22. ตอบ 4 การวางตำแหน่งคำคุณศัพท์หลายตัวมาขยายหน้าคำนาม จะเรียงลำดับดังนี้
ขนาด ลักษณะ วัย อายุ รูปร่าง สี แหล่งที่มา นามขยาย นามหลัก

small beautiful new blue Portuguese flower vase
big nice square green American picture frame
หน้า 114
23. ตอบ 1 การใช้ if 4 สูตร

1. It + S + V1 , S + V1
2. If + S + VI , S + will V1
3. If + S + V2 , S + would V1
4. If + S + hadV3 , S + would have V3
ข้อนี้ตรงกับสูตรที่ 1 ค่ะเพราะประโยคนี้เป็นจริงทั่วไปว่า ถ้าน้ำเดือด มันก็เปลี่ยนเป็นไอ

น้ำ เราใช้แบบที่ 1 ส่วนแบบที่ 2 แสดงอนาคตที่เป็นไปได้
24. ตอบ 3 เป็นการใช้ Indirect Speech นำคำพูดนี้มาเล่าอีกทีหนึ่ง เรามีกริยา said ตามด้วย
that และเปลี่ยนสรรพนาม I เป็น he ส่วนกริยาเปลี่ยนเป็นกริยาช่องที่ 2 จาก may go
เป็น might go เปลี่ยน my เป็น his และเปลี่ยนใกล้ให้เป็นไกลคือ today (วันนี้) เป็น
that day (วันนั้น)
25. ตอบ 4 such ตามด้วยคำนามเลยคือ a ส่วน 50 จะตามด้วยคุณศัพท์ไม่มี a ตามหลัง
too + adj. + to และ very เป็นส่วนขยาย ที่ตามหลังกริยาทั่วไป
26. ตอบ 3 คำที่เติมนั้นต้องการคำคุณศัพท์เพราะตามหลัง verb to be (is) ก็คือ
Computerized = ซึ่งใช้หรือคำนวณด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์
27. ตอบ 2 คำที่เติมข้างหน้า แสดงถึง “มี” เราใช้ There is/There are จะตอบ is /are เอกพจน์
หรือพหูพจน์ ผันตามคำนามที่อยู่ขวามือคือ 5,000 recognized species of insects
เป็นพหูพจน์ ก็ตอบ There are
28. ตอบ 2 ดูสูตร
S + Verb to be + adv. + adj.
were very friendly (เป็นมิตร)

ตอบ friendly เพราะประโยคข้างหน้าว่า ทุกคนที่ชมรมพูดกับพวกเรา
29. ตอบ 2 เราเห็น to ข้างหลัง แสดงว่าส่วนหน้าใช้ too + adj. (heavy) + to
30. ตอบ 1 กริยา realized (รับรู้ ตระหนัก) ไม่นิยมใช้ ing และใช้เป็นกริยาช่องที่ 1 หรือช่องที่ 2
หน้า 115
Instruction: Choose the best answer

1. Ben in attempting to complete his course this year.
1. surrendering 2. continuing
3. giving up 4. trying
2. Newspapers are published in many cities,
1. composed 2. printed
3. distributed 4. sold
3. Ned was sick yesterday. His nose .
1. sneezes 2. coughed
3. were running 4. was running
4. Jane many albums and will probably make many more.
1. has recorded 2. had recorded
3. will record 4. recorded
5. The study of how to treat illness and injuries is called .
1. dentist 2. medicine
3. nurse 4. doctor
6. Do you the internet with your computer?
1. keep in touch 2. play
3. go in 4. access
7. The company's main policy successful recently.
1. is going to be 2. will have been
3. is being 4. has been
8. Ingredients are the parts that things are made of.
1. alloy metals 2. herbs, vegetable, and meat in cooking
3. the method of cooking 4. elements in a mixture
9. An industrious man always works many long hours, but he .
1. never complains 2. quit complaining
3. complains regularly 4. always complains
หน้า 116
10. A : Where do you live?

B: I live 245 Sukhumwit Road.
1. by 2. on
3. at 4. in
11. According to the constitution, the government is organized into three branches;
the , the , and the .
1. executive, legislative, judicial
2. government, representative, people
3. nation, king, religion
4. Prime Minister, Supreme Judge, The House of Representative
12. That is the newspaper that you prefer, ?
1. isn't it 2. doesn't it
3. aren't you 4. don't you
13. The fuel tank of my car holds 45 liters.
1. The amount of fuel is 45 liters.
2. The quantity of fuel is 45 liters.
3. The fuel reserve is 45 liters. .
4. The capacity of the tank is 45 liters.
14. Lucy giving all necessary signals.
1. drives carefully 2. drives careful
3. careful drives 4. a careful driver
15. Which one is not an organ of the digestive system?
1. the small intestine 2. the stomach
3. the mouth 4. the heart
16. The home team to win easily.
1. will expect 2. is going to expect
3. expect 4. had been expected
17. Jackson has made progress and so is not feeling very pleased.
1. much 2. little
3. lot of 4. Many
หน้า 117
18. What does a farmer do when the plants have grown to their full size?
1. Discard all of them. 2. Prepare the field.
3. Harvest and sell them. 4. Consume them immediately
19. On every roads and highways, there are people who drive the speed limit.
1. quite fast 2. much faster than
3. more than 4. more faster than
20. Parents shouldn't allow their children .
1. who smokes 2. smokes
3. to smoke 4. smoking
21. hold my hand, if I you in the heaven?
1. Will you, saw 2. You would, see
3. Would you, saw 4. Will you, See
22. That kind of milk .
1. is strange smelling 2. is smelling strangely. .
3. smells strangely 4. smells strange
23. Pete doesn't like singing, and .
1. so does Paul 2. neither does Paul
3. doesn't Paul 4. Paul doesn't
24. Janet is my uncle's daughter. She is a .
1. sister of mine 2. cousin of mine
3. mine cousin 4. my sister
25. The fuel gage indicates that the .
1. temperature in the car is cool
2. speed is safe
3. tank is full
4. engine is not getting hot
26. The important points should be by the instructor.
1. ignored 2. disregarded
3. neglected 4. emphasized
27. Jane said she did her assignment herself.
1. with 2. On
หน้า 118
3. to 4. by
28. Beckham is my favorite footballer. He plays .
1. extremely well 2. good extremely
3. extremely good 4. extreme good
29. Sebastian has the habit of talking .
1. to his self 2. to himself
3. with him self 4. by himself
30. My sister has been to Chiang Mai .
1. several years this time 2. this several times year
3. this year several times 4. several times this year
Passage 1
Piranhas live in enormous packs, or shoals. They spend most of their time hunting
for food. Rivers are their primary habitat although, as a result of massive flooding, they
may occasionally find their way into lakes. But it is thought that they are unable to breed
outside of rivers. Piranhas have voracious appetites, and they seek river locations that
have plentiful fish supplies. They are found in any well-stocked river within their natural
habitat.
The piranha hunts with speed and by surprise. The typical way in which the
piranha attacks is by swimming directly into a shoal of fish. The attacked shoal scatters
in all directions, and the piranha quickly overpowers individual fish. Small fish are
swallowed whole. Larger prey have chunks ripped out of them, which the piranha
swallows instantly so it can immediately take another bite.
31. According to the passage, piranhas .
1. search for food in lakes 2. live in large groups
3. breed outside rivers 4. hunt in small pack
32. The word "habitat" (line 2. means a .
1. hunting area 2. habit one develops
3. strange environment 4. living place
33. Piranhas can be found in lakes when .
1. they are unable to breed in rivers
หน้า 119
2. they cannot find enough food in the river

3. the river overflows after a big flood
4. there are too many piranhas in the river
34. “Piranhas have voracious appetites” (line 4. suggests that they are .
1. greedy eaters 2. bad hunters
3. strong fighters 4. active swimmers
35. "Well-stocked river" (line 5) means a river .
1. that flows strongly
2. with a lot of food
3. with a good natural environment
4. which is very clean
36. How do piranhas hunt?
1. They hunt only small fish.
2. They chase individual fish for sport.
3. They attack other fish very fast.
4. They wait for each fish to come near and attack.
37. "The piranhas hunts with speed and by surprise" (line 7) because it hunts .
1. by warning its prey in advance
2. by hoping that it will get its prey
3. very fast and without previous thought.
4. very fast and without warning.
38. The word "them" (line 10) refers to .
1. chunks 2. larger prey
3. small fish 4. piranhas
39. The second paragraph mainly discusses the piranha's .
1. lack of speech 2. favorite prey
3. hunting habits 4. home environment
40. This reading passage intends to .
1. make us laugh 2. shock us
3. argue about piranhas 4. inform us about piranhas
หน้า 120
Passage 2
One afternoon I rushed out of the house; forgetting my keys, and found myself
locked out. There was nothing I could do but wait for my husband to come home, so I
went over to a neighbor who was outside raking leaves.
"You locked yourself out?" he said.
"Yeah, this is the second time since we moved in. After the first time we took
an extra key and put it in a jar, then stuck it in a potted plant on the back deck."
“So what's the problem?”
"I put the plants inside for the winter."
41. What does it mean when the author said she found herself "locked out"?
1. She was caught in her house.
2. She could not get into the house.
. 3. She was outside talking to the neighbor.
. 4. She went out of the house and waited for her husband.
42. "The woman was locked out because .
1. she wanted to get inside the house
2. she didn't know how to get in
3. she was in a hurry to get out
4. she was a careful woman
43. The woman's neighbor was when she went to him.
1. cleaning his yard 2. watering plants
3. cutting grass 4. opening the door
44. Which is true according to the passage?
1. The woman had many things to do while waiting for her husband.
2. The woman had to do a lot of housework, but she couldn't.
3. Her husband was waiting for her anxiously at his office.
4. The woman had nothing to do but go to talk to her neighbor.
45. When did the author get the extra key?
1. When she first moved in.
2. When she forgot the key the first time.
3. When she went out with her neighbor.
หน้า 121
4. When she put the potted plant on the back deck.

46. What is the unexpected event in the story?
1. The woman was always in and out of the house.
2. She went in twice because of friendly neighbor.
3. The neighbor put her potted plant and key inside the house.
4. The woman put an extra key in the potted plant but left it inside.
.47. From reading the passage, we can say that the woman is .
1. very thoughtful 2. quite talkative
3. absent-minded 4. rather emotional
48. This passage is a/an Story.
1. funny 2. sad
3. romantic 4. optimistic
49. The author got the extra key because she .
1. forgot it once before
2. always forgot it inside the house
3. liked to talk to her neighbor and forgot it
4. wanted to have two keys for her house
50. We know from the passage that the woman's husband .
1. was inside the house 2. waited for her outside
3. was not at home 4. laughed at his wife
Passage 3
Whenever my friend's daughter, Anne, practiced the violin up in her bedroom,
their dog always sat at the bottom of the stairs and howled.
One day, Anne's brother, Eric, had a friend over while she was practicing, and the
dog was howling as usual. At the conclusion of the piece, Eric's friend called to Anne,
"Could you please play something the dog doesn't know?"
51. Anne practiced playing the violin on the .
1. roof 2. second floor
3. stairs 4. ground floor
หน้า 122
52. Who is the writer of this story?

1. Anne 2. A friend of the family
3. Eric's friend 4. Eric
53. When Anne practiced, the dog .
1. always ran away 2. usually got hungry
3. became very sleepy 4. liked to sing along
54. The phrase "had a friend over" (line 3. means .
1. invited a friend to come to the house
2. finished studying with his friend
3. was talking to a friend on the phone
4. had a big argument with his friend
55. "The piece" (line 4. refers to the .
1. dog 2. song
3. violin 4. story
Passage 4
A man walked up to a stranger and said, "Excuse me, what time is it?" The stranger
replied, "It's almost midnight." The man said to himself, "I must've gone crazy. All day
long I kept getting different answers."
56. What has the man been doing the whole day?
1. Losing his way 2. Asking people the time
3. Talking to himself 4. Partying with friends
57. The man received different answers when he asked the question because .
1. he asked too many people 2. he was in different places
3. time passed naturally 4. different places had different times
58. We knew that the man .
1. did not have a watch 2. was unconscious
3. was enjoying himself 4. did not want to know the time
59. Where did this story most likely take place?
1. At a funeral 2. In a library
3. In a movie theater 4. On the street
หน้า 123
60. The story may have taken place .

1. after 1 a.m. 2. before midnight
3. late afternoon 4. all day long
Passage 5
Bamboo poles from fish traps dotting the lake may lend a picturesque touch to
Songkhla lake at sunset, but they are also a sign of overfishing, which is destroying the
aquatic mammal population.
The upper part of Thailand's largest lake is having to cope with pollution released
by households and factories, while the lower part faces problems with overfishing.
The fisheries Department, under a national committee overseeing Songkhla lake's
rehabilitation, plans to remove some of the traps to clear the way for boats and to bring
back fish and shellfish to the lower part of the lake.
Average overnight catches as recorded by the department have dropped 40%
over the last 20 years form 1.46 kg to 890 grammes, said Adison Promthep, chief of
National Fishery Policy and Planning group.
61. The fish traps will .
1. pollute water 2. make the sea look more beautiful
3. touch Songkhla lake 4. bring fish to the sea
62. What will happen when there is overfishing?
1. Water will be polluted.
2. Fishermen will be richer.
3. The mammal population will also be killed.
4. The fish traps will make the sea dirty.
63. Which of the following are not part of aquatic mammal population?
1. Dolphins 2. Whales
3. Dugongs 4. Prawns
64. "Thailand's largest lake" refers to lake.
1. the upper 2. Songkhla
3. the lower 4. Sunset
หน้า 124
65. Water released from houses and factories is .

1. clear 2. pure
3. contaminated 4. useful
66. The word “rehabilitation” (line 7) means
1. function 2. relation
3. improvement 4. establishment
67. Because of the obstruction by fish traps, boats the lower part the lake.
1. can get through 2. can't get through
3. can move fast to 4. can't get back to
68. The word "they" (line 2. refers to .
1. boats 2. bamboo rafts
3. water animals 4. fish traps
69. Fish and shellfish are .
1. aquatic animals
2. destroyed by fish traps
3. brought back to the lower part of the lack
4. All are correct
70. The average Overnight catches now are .
1. about 40 % 2. 1,046 kilograms
3. 890 grammes 4. higher than they were 20 years ago
Passage 6
DAVID'S FRIENDS gave him a nasty parrot with an expletive-filled vocabulary for
his birthday. David tried to tame the parrot's bad behavior by playing soft music and
treating it kindly, but nothing would stop the bird from cursing and biting
Finally David could stand it no longer, so he put the rude bird in the freezer. At
first it was quiet, but then it began squawking and begging for its life. Guilt-stricken, David
released the bird. It perched politely on his hand. "I'm sorry 1 offended you," said the
parrot. "Please forgive me. I promise to reform." David was astounded at the bird's quick
change of attitude. Then the parrot said to David, "I've just gotta ask one thing what did
the chicken do wrong?"
หน้า 125
71. David felt that the parrot was .

1. good 2. not polite
3. gentle 4. talkative
72. Where did David get the parrot?
1. From the market 2. From the forest
3. From his friends 4. From his relatives
73. What did David try to do with the bird?
1. He let it fly away
2. He forced it to speak softly.
3. He put it in the refrigerator to eat later.
4. He tried to correct its behavior.
74. How did David tame the parrot at first?
1. He behaved to it nicely. 2. He scolded it very sharply.
3. He let it do whatever it wanted. 4. He listened to soft music.
75. It was for David to tame the parrot.
. 1. successful 2. a waste of time
3. an advantage 4. Unkind
76. The parrot spoke to David.
1. bad words 2. kind words
3. fluently 4. English
77. David punished the parrot by .
1. cursing it 2. playing music to it
3. treating it kindly 4. putting it in the freezer
78. At the end the parrot .
1. still cursed
2. hit David whenever he touched it
3. promised to change its behavior
4. became quiet
79. What did the parrot think about the chicken?
1. It had also been punished.
2. David didn't like the chicken.
หน้า 126
3. The chicken should be good to eat.

4. The chicken had accidentally frozen to death.
80. What taught the parrot a lesson?
1. The freezer 2. The guilt
3. The chicken 4. All are correct
หน้า 127
Instruction: Choose the best answer

1. ตอบ 4 คำศัพท์ attempt = endeavor , try หมายถึง พยายาม
2. ตอบ 2 คำศัพท์ published = printed = ตีพิมพ์ เผยแพร่
3. ตอบ 4 ประโยคใช้กับคำว่า nose (จมูก) เมื่อเราเป็นหวัดมักจะมีน้ำมูกไหล เราเรียกว่า runny
nose หรือ running nose หรือ My nose is running, (ประธานเป็นเอกพจน์ ใช้
were ผิดอยู่แล้วค่ะ) ตอบ was ส่วน coughed หมายถึง ไอ และ sneezed หมายถึง
จาม
4. ตอบ 1 จะเป็นส่วนหลังเป็นรูปอนาคต will make แสดงว่าส่วนหน้าจะเป็นคู่กันได้ก็คือในรูปของ
ปัจจุบัน (Present) ที่จะใช้ได้ ฉะนั้นดูจากตัวเลือกช้อย 2 และ 4 เป็นอดีตจึงผิด และ
ช้อย 3 เป็นอนาคตก็ไม่เข้ากับส่วนหลังที่เป็นอนาคตอยู่แล้ว จึงตอบ has recorded ใน
รูป Present Perfect แสดงเหตุการณ์ที่ได้กระทำการต่อเนื่อง
5. ตอบ 2 จากประโยคกล่าวถึง "การศึกษาถึงวิธีการรักษาความเจ็บป่วยหรือการบาดเจ็บเรียกว่า
" การรักษาทางการแพทย์ก็คือ medicine ส่วนตัวเลือกอื่นหมายถึง คน
เช่น dentist (หมอฟัน) nurse (นางพยาบาล) doctor (หมอ)
6. ตอบ 4 คำศัพท์ที่เติมนั้นต้องการคำกริยาที่หมายถึง เข้าถึงอินเทอร์เน็ต
access หมายถึง การเข้าถึงข้อมูลที่เก็บไว้หรือสื่อ
7. ตอบ 3 มีคำบอกเวลาคือ recently (เร็ว ๆ นี้) ใช้ Present Perfect Tense (S + has/have
+ V3. คำบอกเวลาที่ใช้ Tense นี้ก็มีเช่น for, since, just, already, lately, all day
8. ตอบ 4 คำศัพท์ ingredients = elements in a mixture หมายถึง ส่วนประกอบ
9. ตอบ 1 ประโยคกล่าวว่า “คนที่ขยันขันแข็งมักจะทำงานหลายชั่วโมง แต่เขา ”
คำที่เติมในช่องว่างที่เหมาะสมคือ never complains ไม่เคยบ่นโดยใช้คำกริยาวิเศษณ์
never (ไม่เคย) ส่วนตัวอื่นใช้ quit (เลิก) always (เป็นประจำ เสมอ) regularly (อย่าง
สม่ำเสมอ) ไม่ตรงกับโจทย์
10. ตอบ 3 at ใช้เกี่ยวกับเวลา เช่น at noon, at ten o'clock, at night และใช้กับสถานที่เล็กๆ
ไม่ใหญ่โต เช่น at school, at home แต่ถ้า in ใช้กับสถานที่ใหญ่โต เช่น in Bangkok,
in Asia
11. ตอบ 1 ประโยคพูดถึงรัฐธรรมนูญ คณะรัฐบาลจะประกอบไปด้วย 3 ฝ่ายคือ คำศัพท์ที่เติมนั้น คือ
ฝ่ายบริหาร (executive) ฝ่ายนิติบัญญัติ (legislative) และฝ่ายตุลาการ (judicial)
หน้า 128
12. ตอบ 1 เป็นเรื่องการใช้ tag (ส่วนหาง) โดยดูกริยา is เป็นบอกเล่าทำส่วนหางต้องเป็นปฏิเสธ

รูปย่อคือ isn't และ That เปลี่ยนเป็น it
13. ตอบ 4 คำว่า holds หมายถึง ความจุ = the capacity of the tank
14. ตอบ 1 ประธานคือ Lucy แล้วก็ตามด้วยคำกริยาคือ drives ซึ่งเป็นกริยาแสดงอาการกระทำ
ทั่วไป คำที่จะมาขยายกริยาทั่วไปได้คือคำกริยาวิเศษณ์ (adverb) ในที่นี้คือ carefully
ถูกต้อง หรือดูสูตร
1. S + verb to be + adj.
linking verb
2. S + กริยาทั่วไป + adv.
15. ตอบ 4 ถามว่า ข้อไหนที่ไม่ได้เป็นอวัยวะของระบบการย่อยอาหาร ในตัวเลือกมี 1. ลำไส้เล็ก 2.
กระเพาะอาหาร 3. ปาก 4. หัวใจ ตอบหัวใจไม่ใช่เป็นอวัยวะของระบบการย่อยอาหาร
16. ตอบ 4 ประธานเป็นสิ่งไม่มีชีวิต จะใช้รูปถูกกระทำ Passive Voice ในตัวเลือกมีถูกกระทำช้อย
เดียวคือ had been expected (had been + V3.
17. ตอบ 2 จากความหมายของประโยคว่า not feeling very pleased รู้สึกไม่เป็นที่พอใจ แสดง
ว่าทำได้น้อยค่ะ ในช้อยความหมาย “น้อย” มีอันเดียวคือ little ซึ่ง little ตามด้วยนาม
นับไม่ได้
18. ตอบ 3 ชาวนาทำอะไรเมื่อพืชผลได้เติบโตเต็มที่แล้ว คำตอบก็คือ เก็บเกี่ยวตรงกับคำว่า harvest
และขายมัน
19. ตอบ 2 จากตัวเลือกในการตอบขั้นกว่า ของคำ fast ต้องเป็น faster แล้วคู่กับ than และคำที่
นำหน้าขั้นกว่าได้อีกทีคือ much ตรงกับช้อย 2 ส่วนช้อย 4 ผิดเพราะจะ ใส่ more มา
ซ้อนอีกไม่ได้
20. ตอบ 3 กริยาที่มีกรรมมารับ แล้วตามกริยาช่องที่ 1 มี to คือ
allow, enable, cause, encourage, inspire, intend, permit, choose, force,
order, compel, prompt, warn, pay, train, want, challenge, invite, tell,
teach, help, expect, advise
เช่น Very high temperature can cause you to become exhausted.
21. ตอบ 3 เป็นเรื่อง if ที่ยกไว้กลางประโยค
1. S + will V1 + if + S + V1
2. S + would V1 + if + S + V2
3. S + would have V3 + if + S + hidV3
ข้อนี้ตรงกับสูตรที่ 2 คือ would hold (would V1. คู่กับ V2 คือ saw
หน้า 129
22. ตอบ 4 ดูจากตัวเลือกกริยา smell ไม่ใช้รูป ing ฉะนั้นคงเหลือ smells ช้อย 3 และ 4 แล้วดู
กริยา smell ว่าเป็น linking verb จะต้องตามด้วยคุณศัพท์ (adj.) ก็คือ strange
23. ตอบ 2 ประโยคหน้าที่ยกมาเป็นรูปปฏิเสธ และตามด้วยการปฏิเสธคล้อยตามกันดีย neither
(ไม่ด้วย)
24. ตอบ 2 ประโยคหน้าบอกว่า เจเน็ตเป็นลูกสาวของลุง ฉะนั้นเธอเป็น
ตอบญาติของฉัน คำว่า ญาติ คือ cousin และแสดงความเป็นเจ้าของ ใช้ of คั่น
25. ตอบ 3 มาตรวัดน้ำมันแสดงให้เห็นถึง ตอบว่าถังน้ำมัน น้ำมันเต็มหรือเปล่าแต่ไม่ใช่
วัดอุณหภูมิ (temperature) ความเร็ว (Speed) หรือว่าร้อนหรือไม่
26. ตอบ 4 เพิ่มคำศัพท์ “ประเด็นสำคัญควรจะ โดยครู” คำที่เติมคือ emphasized
หมายถึง เน้นย้ำ ส่วน ignored = เพิกเฉย disregarded ไม่สนใจ neglected = ละเลย
เพิกเฉย
27. ตอบ 4 บุพบาทแสดงแสดงสะท้อนตัวเธอเอง (herself) ข้างหน้าได้คือ by
28. ตอบ 1 ใส่คำกริยาวิเศษณ์ (adv.) ทำหน้าที่ขยายอีกที
1. S + verb to be + adv. + adj.
linking verb
2. S + กริยาทั่วไป + adv. + adv.
ข้อนี้ตรงกับสูตรที่ 2 มีกริยาทั่วไปคือ play จะมีกริยาวิเศษณ์คือ well ทำหน้าที่ขยาย
กริยา play แล้ว adv. อีกตัวมาขยาย well (adv.) อีกทีโดยวางอยู่ข้างหน้า well คือ
extremely ถ้าจะตอบ extremely good กริยาจะต้องเป็น verb to be เช่น He is
extremely good.
29. ตอบ 2 กริยา talk ใช้บุพบท to และพูดกับตัวเองใช้ herself เพศหญิง เพราะ Sebastian
เป็นชื่อเพศหญิง และคำ self ต้องเขียนติดกันเช่น himself, herself, itself เป็นต้น
30. ตอบ 3 คำกริยาวิเศษณ์ที่เรียงจะใช้ยกคำวิเศษณ์ความถี่มาก่อนคือ sever times (หลายครั้ง)
แล้วตามด้วยคำวิเศษณ์ที่บอกเวลาคือ this time
Passage 1
ปลาปิรันยาอาศัยอยู่รวมกันเป็นกลุ่มหรือเป็นฝูง (shoals) จำนวนมาก (enormous) พวกมันใช้
เวลาส่วนใหญ่ของพวกมันกับการล่าเหยื่อเป็นอาหาร แม่น้ำเป็นแหล่งที่อยู่อาศัย (habitat) หลักของพวก
มัน ถึงแม้ว่าบางครั้งพวกมันอาจจะพลัดหลงไปอยู่ในทะเลสาปบ้างเนื่องจากน้ำท่วมใหญ่ (massive
flooding) แต่กระนั้นก็ตามพวกมันไม่สามารถแพร่พันธุ์ (breed) นอกแม่น้ำได้ ปลาปิรันย่าเป็นนักกินที่
ไม่รู้จักอิ่ม (voracious appetites) และพวกมันจะหาแหล่งทำเลแม่น้ำที่มีปลาชุกชุม (plentiful) พวก
หน้า 130
มันถูกพบได้ในแม่น้ำที่อุดมสมบูรณ์ (well-stocked) ทุกแห่งที่เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติของพวก

มัน
ปลาปิรันย่าล่าเหยื่อด้วยความรวดเร็วและจู่โจมไม่ให้เหยื่อรู้ตัว วิธีการทั่วไปที่ปิรันยาใช้จู่โจมคือ
การว่ายตรงเข้าไปในกลุ่มฝูงของปลา ฝูงปลาที่โดนโจมตีจะแตกกระจัดกระจายไปทั่วทุกทิศทาง แล้วมันก็
จะจัดการกับปลาแต่ละตัวอย่างรวดเร็ว ปลาตัวเล็กจะถูกกลืนทั้งตัว ส่วนเหยื่อที่ตัวใหญ่กว่ามีชิ้นหนาก็จะ
ถูกฉีกออกเป็นชิ้นแล้วกลืนกินอย่างรวดเร็ว เพื่อที่มันจะได้กัดกินคำต่อไปอย่างทันที
31. ถาม ตามเนื้อเรื่อง ปลาปิรันยา
ตอบ 2 1. ออกหาอาหารในทะเลสาบ 2. อาศัยอยู่เป็นกลุ่มใหญ่
3. แพร่พันธุ์นอกแม่น้ำ 4. ล่าเหยื่อในกลุ่มเล็ก ๆ
32. ถาม คำว่า “ที่อยู่อาศัย” (บรรทัดที่ 2. หมายถึง
ตอบ 4 1. พื้นที่ล่าเหยื่อ 2. นิสัยที่คนๆ หนึ่งสร้างขึ้น
3. สภาพแวดล้อมที่แปลก 4. สถานที่อยู่อาศัย
33. ถาม ปลาปิรันยาสามารถพบได้ในทะเลเมื่อ
ตอบ 3 1. พวกมันไม่สามารถแพร่พันธุ์ในแม่น้ำได้
2. พวกมันไม่สามารถหาอาหารได้เพียงพอในแม่น้ำ
3. แม่น้ำเอ่อท่วมหลังจากเกิดน้ำท่วมใหญ่ (จากบรรทัดที่ 3-4)
4. มีปลาปิรันยามากเกินไปในแม่น้ำ
34. ถาม “ปลาปิรันยาเป็นนักกินที่ไม่รู้จักอิ่ม” (บรรทัดที่ 4. ชี้ให้เห็นว่าพวกมันเป็น .
ตอบ 1 1. นักกินที่ตะกละ 2. นักล่าที่ไม่เอาไหน
3. นักต่อสู้ที่แข็งแรง 4. นักว่ายน้ำที่ว่องไว
คำว่า voracious หมายถึง ตะกละ กินไม่รู้จักอิ่ม
35. ถาม “Well-stocked river” (บรรทัดที่ 5) หมายถึงแม่น้ำ
ตอบ 2 1. ที่ไหลแรง 2. มีอาหารที่อุดมสมบูรณ์
3. มีสิ่งแวดล้อมธรรมชาติที่ดี 4. ที่สะอาดมาก
36. ถาม ปลาปิรันยาล่าเหยื่อของมันอย่างไร
ตอบ 3 1. พวกมันล่าเฉพาะปลาเล็กเท่านั้น
2. พวกมันไล่ปลาแต่ละตัวเพื่อการละเล่น
3. พวกมันจู่โจมปลาตัวอื่นอย่างรวดเร็ว (จากย่อหน้าที่ 2 บรรทัดที่ 1 คำว่า speed)
4. พวกมันคอยปลาแต่ละตัวเข้ามาใกล้และโจมตี
37. ถาม “ปลาปิรันยาล่าเหยื่อของมันด้วยความรวดเร็วและไม่ให้เหยื่อรู้ตัว" (บรรทัดที่ 7) เพราะ
มันล่าเหยื่อ .
หน้า 131
ตอบ 4 1. ด้วยการเตือนเหยื่อของมันล่วงหน้า 2. ด้วยความหวังว่ามันจะได้เหยื่อของมัน

3. อย่างรวดเร็วและโดยไม่ต้องคิดล่วงหน้า 4. อย่างรวดเร็วโดยไม่มีการเตือน
38. ถาม คำว่า “them” (บรรทัดที่ 10) อ้างอิงถึง
ตอบ 1 1. ก้อนใหญ่ 2. เหยื่อที่ใหญ่กว่า
3. ปลาตัวเล็ก 4. ปลาปิรันยา
39. ถาม ในย่อหน้าที่ 2 อธิบายถึง ปลาปิรันยาเป็นส่วนใหญ่
ตอบ 3 1. การขาดคำพูด 2. เหยื่อที่โปรดปราน
3. นิสัยการล่าเหยื่อ 4. สิ่งแวดล้อมที่อยู่อาศัย
40. ถาม เนื้อเรื่องที่อ่านนี้ตั้งใจที่จะ
ตอบ 4 1. ทำให้เราหัวเราะ 2. ทำให้เรารู้สึกตกใจ
3. โต้แย้งเกี่ยวกับปลาปิรันยา 4. บอกให้เรารู้เกี่ยวกับปลาปิรันยา
Passage 2
บ่ายวันหนึ่ง ฉันรีบร้อนออกจากบ้าน ทำให้ลืมกุญแจ และพบว่าตัวเองเข้า บ้านไม่ได้ ฉันไม่
สามารถทำอะไรได้นอกจากต้องคอยให้สามีของฉันกลับมาบ้าน ดังนั้นฉันจึงเดินไปหาเพื่อนบ้านคนหนึ่งที่
กำลังกวาดใบไม้อยู่นอกบ้าน
“คุณเข้าบ้านไม่ได้เหรอ” เขาพูด
“ใช่ค่ะ นี่เป็นครั้งที่สองแล้วนะตั้งแต่เราย้ายมาอยู่ที่นี้ หลังจากเกิดเหตุการณ์ครั้งแรกที่เราเตรีย ม
กุญแจสำรองไว้หนึ่งคอกแล้วใส่ไว้ในกระปุก แล้วนำไปเสียบติดกับต้นไม้ที่ปลูกไว้ในกระถางที่ระเบียงหลัง
บ้าน”
“เอ้าแล้วมีปัญหาอะไรล่ะ”
“ก็มันหน้าหนาวฉันก็เลยเอาต้นไม้ไปเก็บไว้ในบ้านนะซิ”
41. ถาม มันมีความหมายอย่างไรเมื่อผู้เขียนบอกว่าเธอพวกว่าตัวเอง “เข้าบ้านไม่ได้”
ตอบ 2 1. เธอถูกกักขังไว้ในบ้านของเธอ 2. เธอไม่สามารถเข้าไปในบ้านได้
3. เธออยู่ข้างหน้าพูดคุยกับเพื่อนบ้าน 4. เธอออกจากบ้านและคอยสามีของเธอ
42. ถาม ผู้หญิงนั้นเข้าบ้านไม่ได้ เพราะ
ตอบ 2 1. เธอต้องการเข้าไปในบ้าน 2. เธอไม่รู้ว่าจะเข้าไปข้างในอย่างไร
3. เธอกำลังรีบที่จะออกไปข้างนอก 4. เธอเป็นผู้หญิงที่รอบคอบ
43. ถาม เพื่อนบ้านของผู้หญิง เมื่อเธอไปหาเขา
ตอบ 1 1. กำลังทำความสะอาดสนามหญ้า 2. กำลังรดน้ำต้นไม้
3. กำลังตัดหญ้า 4. กำลังเปิดประตู
หน้า 132
44. ถาม ข้อไหนถูกต้องตามเนื้อเรื่อง

ตอบ 4 1. ผู้หญิงคนนี้มีหลายสิ่งหลายอย่างที่ต้องทำในขณะที่กำลังคอยสามีของเธอ
2. ผู้หญิงต้องทำงานบ้านมากมาย แต่เธอไม่สามารถทำได้
3. สามีของเธอกำลังคอยเธออย่างกระวนกระวายใจที่ทำงานของเขา
4. ผู้หญิงคนนี้ไม่มีอะไรทำนอกจากไปพูดคุยกับเพื่อนบ้านของเธอ
45. ถาม ผู้เขียนเตรียมกุญแจสำรองไว้เมื่อใด
ตอบ 2 1. เมื่อเธอย้ายเข้าไปครั้งแรก 2. เมื่อเธอลืมกุญแจครั้งแรก
3. เมื่อเธอไปข้างนอกกับเพื่อนบ้านของเธอ
4. เมื่อเธอวางกระถางต้นไม้ไว้ที่ระเบียงหลังบ้าน
46. ถาม เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดในเรื่องนี้คืออะไร
ตอบ 4 1. ผู้หญิงคนนี้มักจะเข้าออกบ้านเป็นประจำ
2. เธอเข้าไปข้างในเป็นครั้งที่สองเพราะเพื่อนบ้านเป็นมิตร
3. เพื่อนบ้านวางกระถางต้นไม้และกุญแจไว้ในบ้าน
4. ผู้หญิงคนนี้เก็บกุญแจสำรองไว้ในกระถางต้นไม้แต่ทิ้งมันไว้ข้างในบ้าน
47. ถาม จากเนื้อเรื่องที่อ่าน เราสามารถพูดได้ว่าผู้หญิงคนนี้
ตอบ 3 1. รอบคอบมาก 2. ค่อนข้างพูดเก่ง
3. ขี้หลงขี้ลืม 4. ค่อนข้างมีอารมณ์
48. ถาม เนื้อเรื่องนี้เป็นเรื่อง
ตอบ 1 1. คลกขบขัน 2. โศกเศร้า
3. เกี่ยวกับความรัก 4. มองโลกในแง่ดี
49. ถาม ผู้เขียนเตรียมกุญแจสำรองไว้เพราะเธอ .
ตอบ 1 1. เคยลืมมันครั้งหนึ่งมาแล้ว 2. มักจะลืมมันไว้ในบ้าน
3. ชอบพูดคุยกับเพื่อนบ้านและลืมกุญแจ
4. ต้องการมีกุญแจสองดอกไว้สำหรับบ้านของเธอ
50. ถาม เรารู้จากเนื้อเรื่องว่าสามีของผู้หญิงคนนี้
ตอบ 3 1. อยู่ในบ้าน 2. คอยเธออยู่นอกบ้าน
3. ไม่ได้อยู่บ้าน 4. หัวเราะเยาะภรรยาของเขา
หน้า 133
Passage 3
เมื่อไรก็ตามที่แอน ซึ่งเป็นลูกสาวของเพื่อนฉัน ฝึกซ้อมไวโอลินอยู่บนห้องนอนของเธอ สุนั ขของ
พวกเขาก็มักจะมาที่ใต้บันได้และส่งเสียงเห่าหอนเป็นประจำ
วันหนึ่ง อิริค ซึ่งเป็นน้องชายของแอนพาเพื่อนมาที่บ้านขณะที่เธอกำลังฝึกซ้อม และสุนั ขก็ส่ง
เสียงเห่าหอนตามปกติ เมื่อจบเพลง เพื่อนของอิริคก็ตะโกนพูดกับแอนว่า “กรุณาเล่นเพลงอะไรก็ได้ที่สุนัข
ไม่รู้จักได้ไหม”
51. ถาม แอนฝึกเล่นไวโอลินบน .
ตอบ 2 1. หลังคา 2. ชั้นสอง 3. บันได 4. ชั้นล่าง
52. ถาม ใครเป็นผู้เขียนเรื่องนี้
ตอบ 2 1. แอน 2. เพื่อนคนหนึ่งของครอบครัวนี้
3. เพื่อนของอีริค 4. อิริค
53. ถาม เมื่อแอนฝึกซ้อม สุนัข .
ตอบ 4 1. มักจะวิ่งหนี้ 2. มักจะหิว 3. รู้สึกง่วงนอน 4. ชอบร้องตาม
54. ถาม วลีที่ว่า “had a friend over” (บรรทัดที่ 3. หมายถึง
ตอบ 1 1. ชวนเพื่อนมาที่บ้าน 2. เรียนจบพร้อมกับเพื่อนของเขา
3. กำลังพูดคุยกับเพื่อนคนหนึ่งทางโทรศัพท์
4. มีการโต้เถียงอย่างรุนแรงกับเพื่อนของเขา
55. ถาม “The piece” (บรรทัดที่ 4. อ้างอิงถึง
ตอบ 2 1. สุนัข 2. เพลง 3. ไวโอลิน 4. เรื่องราว
Passage 4
ผู้ชายคนหนึ่งเดินเข้าไปหาคนแปลกหน้าแล้วพูดว่า “ขอโทษครับ ตอนนี้กี่โมงแล้วครับ” คนแปล
หน้าตอบว่า “เกือบจะเที่ยงคืนแล้วครับ” ผู้ชายคนนั้นพูดกับตัวเองว่า “ผมคงเป็นบ้าไปแล้ว ตลอดทั้งวัน
ผมได้รับคำตอบไม่เหมือนกันเลย”
56. ถาม ผู้ชายคนนี้ทำอะไรตลอดทั้งวัน
ตอบ 2 1. หลงทาง 2. ถามเวลาคนอื่น
3. พูดกับตัวเอง 4. ไปงานเลี้ยงกับเพื่อน ๆ
57. ถาม ผู้ชายคนนี้ได้รับคำตอบที่ต่างกันเมื่อเขาถามคำถาม เพราะ
ตอบ 3 1. เขาถามคนหลายคนมากเกินไป 2. เขาอยู่ในสถานที่แตกต่างกัน
3. เวลาผ่านไปตามธรรมชาติ 4. สถานที่ต่างกันก็มีเวลาที่ต่างกัน
หน้า 134
58. ถาม เรารู้ว่าผู้ชายคนนี้

ตอบ 1 1. ไม่มีนาฬิกา 2. อยู่สภาพไม่มีสติ
3. สนุกกับตัวเอง 4. ไม่ต้องการที่จะรู้เวลา
59. ถาม เรื่องนี้น่าจะเกิดขึ้นที่ไหนมากที่สุด
ตอบ 4 1. ที่งานศพ 2. ในห้องสมุด 3. ในโรงภาพยนตร์ 4. บนถนน
60. ถาม เรื่องนี้น่าจะเกิดขึ้น
ตอบ 2 1. หลังที่ 1 2. ก่อนเที่ยงคืน 3. บ่ายแก่ ๆ 4. ตลอดทั้งวัน
Passage 5
หลักไม้ไผ่จากเครื่องมือจับปลาที่ปักเรียงรายอยู่ในทะเลสาบ อาจจะทำให้เกิดความรู้สึกที่สัมผัสได้
ถึงทัศนียภาพของทะเลสาปสงขลาที่งดงามยามพระอาทิตย์ตกดิน แต่เช่นกันมันก็เป็นสัญลักษณ์ของการ
จับปลาเกินขนาด ซึ่งกำลังทำลายประชากรสัตว์น้ำที่เลี้ยงลูกด้วยนม
ส่วนบนของทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทยแห่งนี้ กำลังต้องรับมือกับมลพิษที่ถูกปล่อย
ออกมาจากบ้านเรือนและโรงงาน ในขณะที่ส่วนล่างก็ต้องเผชิญกับปัญหาการจับปลาที่มากเกินขนาด
กรมประมง ภายใต้คณะกรรมการแห่งชาติได้เล็งเห็นถึงการฟื้นฟูทะเลสาบสงขลา ได้วางแผนที่จ ะ
เคลื่อนย้ายเครื่องมือจับปลาเหล่านั้นออกไปบางส่วน เพื่อที่จะเปิดทางสัญจรให้กับเรือและนำปลาและหอย
กลับคืนมายังส่วนล่างของทะเลสาบแห่งนี้
โดยเฉลี่ยปริมาณสัต ว์น้ำ ที่จ ับได้ตอนกลางคืนตามที่ถูกบัน ทึกไว้โดยกรมประมง ลดลง 40%
ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมาก จาก 1.46 กิโลกรัม เหลือเพียง 890 กรัม อดิศร พรหมเทพ หัวหน้ากลุ่มแผนงาน
และนโยบายการประมงแห่งชาติกล่าว
61. ถาม เครื่องมือจับปลาจะ
ตอบ 2 1. ทำให้น้ำเป็นมลพิษ 2. ทำให้ทะเลดูสวยงามมากขึ้น
3. สัมผัสทะเลสาบสงขลา 4. นำปลากับคืนสู่ทะเล
62. ถาม อะไรจะเกิดขึ้นเมื่อมีการจับปลามากเกินไป
ตอบ 3 1. น้ำจะเกิดมลภาวะ 2. ชาวประมงจะร่ำรวยขึ้น
3. ประชากรสัตว์เลี้ยงด้วยนมจะฆ่าไปด้วย
4. เครื่องมือจับปลาจะทำให้ทะเลสกปรก
63. ถาม ข้อไหนต่อไปนี้ไม่ได้อยู่ในประชากรสัตว์น้ำที่เลี้ยงลูกด้วยนม
ตอบ 4 1. ปลาโลมา 2. ปลาวาฬ 3. พะยูน 4. กุ้ง
64. ถาม “ทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดของไทย" อ้างอิงถึงทะเลสาบ
ตอบ 2 1. ส่วนบน 2. สงขลา 3. ส่วนล่าง 4. พระอาทิตย์ตกดิน
หน้า 135
65. ถาม น้ำถูกปล่อยมาจากบ้านเรื่องและโรงงานต่าง ๆ เป็น

ตอบ 3 1. ใสสะอาด 2. บริสุทธิ์ 3. เป็นพิษ 4. มีประโยชน์
66. ถาม คำว่า “การบูรณะฟื้นฟู” (บรรทัดที่ 7) หมายถึง
ตอบ 3 1. หน้าที่ 2. ความสัมพันธ์ 3. การปรับปรุง 4. การก่อตั้ง
67. ถาม เนื่องจากการกีดขวางของเครื่องมือจับปลา เรือ ส่วนล่างของทะเลสาป
ตอบ 2 1. สามารถผ่าน 2. ไม่สามารถผ่าน
3. สามารถเคลื่อนได้อย่างรวดเร็ว 4. ไม่สามารถกลับไป
68. ถาม คำว่า “they” (บรรทัดที่ 2. อ้างอิงถึง
ตอบ 4 1. เรือ 2. แพไม้ไผ่ 3. สัตว์น้ำ 4.เครื่องมือจับปลา
69. ถาม ปลาและหอยเป็น
ตอบ 4 1. เป็นสัตว์น้ำ 2. ถูกทำลายจากเครื่องมือจับปลา
3. ถูกนำกลับมายังส่วนล่างของทะเลสาบ 4. ถูกทุกข้อ
70. ถาม ปัจจุบันปริมาณสัตว์น้ำที่จับได้ในช่วงเวลากลางคืนโดยเฉลี่ยอยู่ที่
ตอบ 3 1. ประมาณ 4096 2. 1,046 กิโลกรัม
3. 890 กรัม 4. สูงกว่าที่เคยจับได้เมื่อ 20 ปีที่แล้ว
Passage 6
เพื่อน ๆ ของเควิคได้มอบนกแก้วหยาบคายตัวหนึ่งที่ชอบพูดคำสบถให้แก่เขาเป็นของขวัญวันเกิด
เดวิดพยายามที่จะปรับปรุงพฤติกรรมที่ไม่ดีของนกแก้วตัวนี้ด้วยการบรรเลงดนตรีจังหวะนุ่ม ๆ ให้ฟัง และ
ปฏิบัติต่อมันอย่างเอ็นดู แต่ไม่มีอะไรที่จะหยุคนกแก้วตัวนี้จากการใช้คำหยาบคายและการชอบกัดจิกได้
ในที่สุดเดวิดไม่สามารถทนมันได้อีกต่อไป ดังนั้นเขาจับเข้านกนิสัยหยาบคายตัวนี้เข้าไปในช่องแช่
แข็ง ตอนแรกมันเงียบ แต่แล้วจู่ มันก็ส่งเสียงร้องดังลั่นและร้องขอชีวิต เควิดกลัวบาปจึงปล่อยนกออกมา
มันบินมาเกาะแขนของเควิตอย่างสุภาพ “ฉันขอโทษที่ทำตัวไม่ดีกับคุณ” นกแก้วพูด “กรุณายกโทษให้ฉัน
ด้วย ฉันสัญญาว่าจะปรับปรุงตัวใหม่” เควิดรู้สึกประหลาดใจกับการเปลี่ยนแปลงท่าทีที่รวดเร็วของเจ้า
นกแก้ว ต่อมานกแก้วก็เอ่ยกับเดวิดขึ้นมาว่า “ฉันแค่อยากจะถามเพียงคำถามเดียว เออ...คือ ไก่ตัวนั้นมัน
ทำคิดอะไรหรือ”
71. ถาม เควิดรู้สึกว่านกแก้ว
ตอบ 2 1. ดี 2. ไม่สุภาพ 3. อ่อนโยน 4. พูดเก่ง
72. ถาม เดวิดได้นกแก้วมาจากไหน
ตอบ 3 1. จากตลาด 2. จากฟ้า 3. จากเพื่อน ๆ ของเขา 4. จากญาติ ๆ
หน้า 136
73. ถาม เควิดพยายามที่จะทำอะไรกับเจ้านกตัวนี้

ตอบ 4 1. เขาปล่อยให้บินหนีไป 2. ชาบังคับ ให้มันพูดอย่างนุ่มนวล
3. เขาเอานกไว้ในตู้เย็นเพื่อที่จะนำมากินภายหลัง 4. เขาพยายามที่คัดพฤติกรรมของมัน
74. ถาม ในตอนแรก เดวิดฝึกให้นกแก้วเชื่อฟังด้วยวิธีการอย่างไร
ตอบ 1 1. เขาปฏิบัติต่อมันอย่างดี 2 เขาด่ามันอย่างเจ็บแสบ
3. เขาปล่อยให้มันทำอะไรก็ได้ที่มันต้องการ 4. เขาฟังเพลงจังหวะนุ่ม ๆ
75. ถาม มันเป็น สำหรับเควิดในการพยายามที่จะทำให้นกแก้วเชื่อฟัง
ตอบ 2 1. ประสบผลสำเร็จ 2. เสียเวลา 3 ได้เปรียบ 4. ใจร้าย
76. ถาม นกแก้วพูด ต่อเควิด
ตอบ 1 1. คำพูดไม่ดี 2. คำที่ไพเราะ 3. อย่างคล่องแคล่ว 4. ภาษาอังกฤษ
77. ถาม เควิดทำโทษนกแก้วโดย
ตอบ 4 1. สาปแช่งใน 2. เล่นดนตรีให้มันฟัง
3. ปฏิบัติต่อมันอย่างดี 4. จับมันใส่ในช่องแช่แข็ง
78. ถาม สุดท้ายนกแก้ว
ตอบ 3 1. ยังคงใช้คำหยาบ 2. ตีเควิดเมื่อไรก็ตามที่เขาแตะต้องมัน
3. สัญญาที่จะเปลี่ยนพฤติกรรมของมัน 4. เงียบ
79. ถาม นกแก้วคิดอย่างไรกับไก่
ตอบ 1 1. มันได้ถูกลงโทษเช่นกัน 2. เควิคไม่ชอบไก่
3. ไก่เหมาะที่จะรับประทาน 4. ไก่โคนแช่แข็งจนตายโดยบังเอิญ
80. ถาม อะไรได้สอนบทเรียนให้กับนกแก้ว
ตอบ 3 1. ห้องแช่แข็ง 2. ความรู้สึกผิด 3. ไก่ 4. ถูกหมด
หน้า 137
1. A : Why don't you wait for her?

B : I'm sorry. I've only hours so I must make of our time.
1. more/the less 2. few/the least
3. a few/the most 4. more/the least
2. she graduated with honors.
1. Because of she worked hard 2. Because she has worked hard
3. Because of her hard work 4. Because her hard work
3. What a girl she is!
1. beauty 2. beautifully
3. beautiful 4. more beautiful
4. “What is she looking for?” Please ask her .
1. what she is looking for 2. for what is she looking
3. what is she looking for 4. she is looking what for
5. The fax machine and the telephone on separate lines.
1. am 2. is
3. are 4. Be
6. I can't remember any summer that was than this.
1. hot 2. hotter
3. hottest 4. more hot
7. There are many large cities Asia.
1. in 2. at
3. on 4. out
8. The meeting was scheduled to begin noon.
1. on 2. to
3. in 4. at
9. This letter was by overnight mail.
1. send 2. been sent
3. sent 4. Sending
หน้า 138
10. I'll show you the report when I you next week.
1. See 2. saw
3. have seen 4. will see
11. Our office is the post office and the bank.
1. among 2. outside
3. between 4. through
12. All the employees at this company an annual bonus.
1. receive 2. receives
3. has received 4. is receiving
13. The oil rig is located Texas.
. 1. over 2. off
3. in 4. beside
14. sales have increased, profits have increased too.
1. Although 2. During
3. Since 4. Until
15. Neither lunch dinner was served at the hotel.
1. or 2. and
3. but 4. nor
16. If you how to use a computer, consult the manual.
1. won't understand 2. don't understand
3. understood 4. not understanding
17. His boss almost never makes him on Saturdays.
1. works 2. work
3. to work 4. working
18. An Australian tourist died in Russia after from swine flu.
1. suffer 2. to suffer
3. suffering 4. was suffered
19. Inter Coast Airlines' flight Seoul has been delayed.
1. to 2. in
3. by 4. To
หน้า 139
20. Ms. Franklin directed a very project.

1. successfully 2. successive
3. Success 4. successful
21. You should register for the seminar you attend.
1. while 2. before
3. nor 4. And
22. By Friday, twenty-five applications had been submitted the position of
desk clerk.
1. at 2. on
3. for 4. by
23. You can see all you need on the screen.
1. information 2. an information
3. the information 4. of information
24. The finance committee will meet again the eighth of May.
1. for 2. to
3. from 4. on
25. If our ship fewer passengers, the crew would not have to share rooms.
1. had 2. have
3. will have 4. would have
26. The purpose of our conference is to help employees our policies.
. 1. Understood 2. understanding
3. understand 4. are understanding
27. If the flight is delayed, me from the airport.
1. calling 2. will call
3. call 4. called
28. The airport taxes are in the ticket price.
1. including 2. include
3. been included 4. included
29. Ms. Najar wants to the costs by tonight.
1. final 2. finalize
3. finally 4. Finality
หน้า 140
30. A computer is than a typewriter.

1. more efficient 2. most efficient
3. the most efficient 4. the more efficient
31. Mr. Flynn is the person orders office supplies.
1. which 2. whose
3. who 4. Whom
32. If Mr. Abhisit and his party had won the latest elections, he prime
minister again.
1. had become 2. will become
3. would be becoming 4. could have become
33. By May 2015, billions of baht to build up the dams along the Chao Praya
River.
1. will have been spent 2. are spent
3. would have been spending 4. would be spending
34. Jane her shoes by her maid before going to the wedding.
1. had – polished 2. has – polished
3. had to polish 4. has – polishing
35. According to the Nation, the unused money in the prepaid calling cards to
be worth more than one billion baht.
1. estimated 2. estimating
3. was estimated 4. was estimating
36. I cooked this meal for you, so I hope you'll like it.
1. with special 2. specially
3. more special 4. special
37. I'm running out of sugar, so I'd like to .
1. borrow yours 2. borrow you
3. lend yours 4. lend you
38. Boss : How many people were at the conference?
Secretary : 300.
1. Moreover 2. Roughly
3. Most of all 4. Sort of
หน้า 141
39. Now that I have met parents, I would like to meet .

1. your, you, mine 2. my, me, yours
3. you, your, yours 4. mine, yours, them
40. She thought they play cards.
1. had better not to 2. had better not
3. not had better 4. had not tetter
41. People sleep on rainy nights.
1. comfort 2. comfortable
3. comfortably 4. comfortability
42. Somsak hurries, the train will leave him.
1. Unless 2. Whether
3. If not 4. If
43. She must get her car .
1. to serviced 2. serviced
3. services 4. service
44. Motivation is learning English.
1. for essentially 2. essentially for
3. for essential 4. essential for
45. The phone while Jane dinner this evening.
1. rang, was making 2. rang, cooliced
3. rings, cooks 4. was ringing, was making
46. James is a good actor and singer that everyone likes him.
1. very 2. so
3. too 4. such
47. 5,000 recognized species of insects in Thailand.
1. There will be about 2. There are about
3. There is 4. They have
48. Everybody at the club talked to us. They were very .
1. friends 2. friendly
3. friendship 4. Unfriendly
หน้า 142
49. I couldn't lift this box. It is to lift.

1. heavy 2. too heavy
3. very heavy 4. so heavy
ภาคคำศัพท์
50. Once I get back from my next business trip, I'm taking a few days off. I'm worn out.
1. deceived 2. impatient
3. in trouble 4. very tired
51. Smith wanted to know in advance when the meeting would be held.
1. later 2. by telephone
3. immediately 4. ahead of time
52. I might forget to return your books. Please me when it is due.
1. recall 2. remember
3. remind 4. Forgive
53. All TV stations showed the pictures of the destruction after the storm passed.
1. establishment 2. construction
3. installment 4. damage
54. Ben is attempting to complete his course this year.
1. surrendering 2. continuing
3. giving up 4. trying
55. Newspapers are published in many cities.
1. composed 2. printed
3. distributed 4. sold
56. Do you the internet with your computer?
1. keep in touch 2. play
3. go in 4. access
57. The fuel tank of my car holds 45 liters.
1. The amount of fuel is 45 liters.
2. The quantity of fuel is 45 liters.
3. The fuel reserve is 45 liters.
4. The capacity of the tank is 45 liters.
หน้า 143
58. The important points should be by the instructor.

1. ignored 2. disregarded
3. neglected 4. emphasized
59. When I realized that I had taken the wrong umbrella, I immediately for
my mistake.
1. concerned 2. regarded
3. apologized 4. sorry
60. A friend me his car while mine was at the mechanic's.
1. borrowed 2. belonged
3. owed 4. lent
หน้า 144
1. ตอบ 2 เหตุผล few / a few นำหน้าคำนามพหูพจน์ แต่ถ้า more แสดงชั้นกว่า ในประโยคมี

hours เป็นคำนามพหูพจน์ ต้องตอบ few / a few จากประโยคที่เอพูดว่าทำไมบีไม่คอย
บีบอกว่ามีเหลือน้อยแสดงในเชิงลบว่าน้อยแทบไม่มี ก็ต้องเป็น few และส่วนหลังเติมคั่น
สุดว่า the least จะต้องทำเวลาที่น้อยที่สุดของเรามาจาก little less least (น้อยที่สุด)
2. ตอบ 3 เหตุผล because of ตามด้วยวลี (คือกลุ่มคำนาม) ส่วน because ตามด้วยประโยคใน
ตัวเลือกที่ถูกต้องคือ because of her hard work เพราะ her hard work เป็นกลุ่มคำ
นามวลี ส่วน because she has worked hard ตามด้วยประโยคถูกหลักโครงสร้างแต่
ว่าผิดหลักการใช้ Tense (กาลเวลา) จากโจทย์มี graduated เป็นอดีตเราจะใช้ has
worked เป็น Present Perfect รูปปัจจุบันไม่ถูกต้อง
3. ตอบ 3 เหตุผล เป็นประโยคอุทานที่ขึ้นต้นด้วย What a + adj. + คำนาม เพราะคำคุณศัพท์ทำ
หน้าที่นำหน้าคำนาม ก็คือ beautiful ดูจาก beautifully ว่าลงท้าย -ly มักเป็น adv.
ตัด -ly ทิ้งเป็นคำคุณศัพท์ (beautiful)
4. ตอบ 1 เหตุผล ประโยคมี Pease ask แล้ว เวลาเรียงต่อก็ให้เรียงเป็นแบบประโยคบอกเล่า
ธรรมดานั้น คือ มี what + S + กริยา = what she is looking for ไม่ต้องยก is ไว้
ข้างหน้าประธาน เพราะมี Please ask her ที่ทำเป็นรูปประโยคธรรมดาหรือดูได้ว่าไม่ได้
มีเครื่องหมายคำถาม? ฉะนั้นการเรียงประโยคก็เป็นบอกเล่าธรรมดา
5. ตอบ 3 เหตุผล ประธาน ในโครงสร้างดังนี้
1. The + คำนาม + and + the +คำนาม + กริยาพหูพจน์
2. The + คำนาม + and + คำนาม + กริยาเอกพจน์
ฉะนั้น มี the 2 ตัว แสดงถึง 2 สิ่ง 2 คน 2 อย่าง ตอบกริยาพหูพจน์ คือ are
6. ตอบ 2 เหตุผล เจอ than คำที่อยู่หน้า than จะเป็นขั้นกว่าเสมอ ฉะนั้นจาก hot เป็น hotter
7. ตอบ 1 เหตุผล ใช้ in นำหน้าชื่อเมือง ชื่อประเทศ ชื่อทวีป เช่น in America, in Africa,
in Asia, in Thailand, in Japan, in New York, in Texas เป็นต้น
8. ตอบ 4 เหตุผล ใช้ at นำหน้าเวลา เช่น at 6 p.m. , at noon, at midnight
9. ตอบ 3 เหตุผล ประธานเป็นสิ่งของ กริยาที่ตามมาในรูปถูกกระทำ (Passive Construction)
หรืออาจจะดูตรง by ก็ได้ว่าเป็น passive ใช้โครงสร้าง verb to be + V3 = was sent
มาจากกริยา send sent sent (ส่ง)
หน้า 145
10. ตอบ 1 เหตุผล เราเห็นกริยาประโยคส่วนหน้า I'll show ย่อมาจาก will show แสดงอนาคต
กาลฉะนั้นดูส่วนในประโยคหลังสามารถใช้คู่กับปัจจุบันในที่นี้คือ Present Simple (S +
V1) = see นั่นคือ ใช้รูปอนาคตคู่กับปัจจุบัน ถ้าเราดูตัวเลือกอื่นเช่นตัวเลือก 2 เป็นอดีต
ตัวเลือก 3 เป็น Present Perfect ตัวเลือก 4 เป็นอนาคต จะไม่เข้าคู่กับส่วนหน้า
11. ตอบ 3 เหตุผล จะเห็นว่าส่วนหลังมี 2 อย่างคือ the post office กับ the bank เราใช้
between (ระหว่าง) ของ 2 อย่าง ส่วน among (ท่ามกลาง) ใช้อยู่ระหว่างของหรือ
สิ่งของหลายอย่าง
12. ตอบ 1 เหตุผล ประธานที่ขึ้นต้นด้วย all, half, Some, none, เลขเศษส่วน กริยาจะผันตาม
คำนาม All + คำนามพหูพจน์ + กริยาพหูพจน์
All + คำนามเอกพจน์ + กริยาเอกพจน์
ฉะนั้นในโจทย์มีคำนามพหูพจน์ the employees ก็ตอบกริยาพหูพจน์คือ receive
13. ตอบ 3 เหตุผล ดูคำอธิบายในข้อ ๆ เพิ่มเติม
14. ตอบ 3 เหตุผล คำเชื่อมที่แสดงเหตุและผลก็คือ since มีความหมายเหมือนกับ because
เพราะว่าเนื่องจาก “เพราะยอดขายเพิ่มขึ้น ผลกำไรได้เพิม่ ขึ้นเช่นกัน” ส่วนคำเชื่อม
although (ถึงแม้ว่า) แสดงความขัดแย้ง ไม่เข้ากับประโยค
15. ตอบ 4 เหตุผล คำเชื่อมที่ใช้คู่กันเสมอ เช่น
Both คู่กับ and = ทั้งสอง
Either คู่กับ or = ไม่ทั้งสองอย่าง
Neither คู่กับ nor = ไม่ทั้งสองอย่าง
Not only คู่กับ but also) = ไม่เพียงแต่………แต่ยังมี........
16. ตอบ 2 เหตุผล การเชื่อมด้วย If โดยทั่วไปมี 3 ลักษณะดังนี้
1. If + S + V1 , S + will V1
2. If + S + V2 , S + would V1
3. If + S + hadv3 , S + would have V3
สำหรับข้อนี้เราดูตรง consult ใช้เป็นกริยาช่องที่ 1 เป็นปัจจุบัน แสดงว่าส่วนหน้าที่ต้อง
เป็นปัจจุบันไปด้วย นั่นคือตอบ don't understand
17. ตอบ 2 เหตุผล กริยา make / made + กรรม + VI ไม่มี to จึงตอบ Work
18. ตอบ 3 เหตุผล ให้เดาว่าถ้าลงท้ายด้วยบุพบท (before, after, to, for, with, by, of, from,
on, up เป็นต้น เช่น กริยา prevent.....from, accuse......of, go on, keep on, give
up, put off, get/be used to, look forward to ตามด้วย Ving
หน้า 146
19. ตอบ 1 เหตุผล คำบุพบทที่ต้องเติมในช่องว่างคือ to แสดงถึงเที่ยวบิน (fight)

บินไปยังเมืองเซอูล
20. ตอบ 4 เหตุผล คำที่ให้เติมนั้นต้องการคำทุณเศัพท์ (adjectives) เพราะคุณศัพท์ทำหน้าที่
นำหน้าคำนามคือ น้ำหน้า project ได้ คือ successful เป็น adj, ส่วน successfully
เป็น adv. และ success เป็นคำนาม
21. ตอบ 2 เหตุผล คำเชื่อมที่เติมในช่องว่าง คือ before (ก่อน)
“คุณเควรลงทะเบียน ก่อนที่จะเข้าฟังการสัมมนา”
คำเชื่อมอื่น เช่น while (ในขณะที่) nor (และไม่) and (และ)
22. ตอบ 3 เหตุผล คำบุพบทที่เติมลงในช่องว่างได้ถูกต้องคือ for the position = สำหรับตำแหน่ง
23. ตอบ 3 เหตุผล ที่โจทย์มีคำบอกปริมาณคือ all ซึ่ง all + (of) the + นามพหูพจน์หรือนามนับ
ไม่ได้ เป็น all the information
24. ตอบ 4 เหตุผล ใช้ in นำหน้าเดือน เช่น in May, in June แต่ถ้ามีวันที่และเดือน
ใช้ on นำหน้า
25. ตอบ 1 เหตุผล เป็นการใช้ If ถ้าเราเห็น Would have ส่วนหน้าตอบกริยาช่อง 2 คือ had
26. ตอบ 3 เหตุผล กริยา help ตามด้วยกรรม + V1 หรือ to V1 ฉะนั้นเทียบค่ะว่า help
employees understand หรือ to understand ก็ได้
27. ตอบ 3 เหตุผล เป็นการใช้ If ในประโยคส่วนหลัง ไม่มีประธาน ใช้กริยา ก็ต้องเป็นกริยาช่องที่ 1
ก็คือ call
28. ตอบ 4 เหตุผล ประธานเป็นสิ่งของว่า ภาษีจะรวมถึง ใช้โครงสร้าง
verb to be + V3 = are included
29. ตอบ 2 เหตุผล กริยา want + to V1 ฉะนั้นตอบกริยาช่องที่ 1 ในที่นี้คือ finalize ลงท้ายด้วย
-ize เป็นคำกริยา ส่วน final (adj.) finally (adv.) finality (n.)
30. ตอบ 1 เหตุผล เจอ than ตอบขั้นกว่าค่ะ จากคุณศัพท์ efficient ต้องใส่ more นำหน้า เป็น
more efficient และไม่มี the นะคะ
31. ตอบ 3 เหตุผล the person เป็นคน สามารถตอบ who, whom, whose ได้แล้วดูส่วนหลังจะ
เห็นมีคำว่า orders เป็นคำกริยา ตอบ who เพราะ who + Verb (กริยา) เสมอ ส่วน
whose ตามด้วยคำนามแสดงความเป็นเจ้าของ และ whom ทำหน้าที่เป็นกรรม whom
+S+V
32. ตอบ 4 เหตุผล เป็นการใช้ If เราเห็นกริยา had won แสดงว่าอีกส่วนคู่กันคือ would/could
have V3 = could have become
หน้า 147
33. ตอบ 1 เหตุผล เป็นการใช้ Tense ที่ขึ้นต้นด้วย by + ช่วงเวลาในอนาคต จะตอบ Future

Perfect Tense (S = will have V3) = will have been spent ใช้ have been V3
อีกทีเพราะประธานอยู่ในรูปถูกกระทำ
34. ตอบ 1 เหตุผล ดูจากตัวเลือกมี had เราใช้ had + สิ่งของ + V3 แสดงถูกกระทำ จึงตอบ had
her shoes polished และตอบ had เพราะโจทย์แสดงอดีตในการเล่าเหตุการณ์ที่ผ่าน
ไปแล้วว่าแจนเอารองเท้าของเธอไปขัดเงา
35. ตอบ 3 เหตุผล ประธานหลักคือ the unused money เป็นสิ่งของ จะต้องถูกประเมิน ใช้รูปถูก
กระทำ คือ verb to be + V3 = was estimated
36. ตอบ 2 เหตุผล ดูจากตัวเลือกคงเหลือเรื่องคุณศัพท์ (special) และกริยาวิเศษณ์ (specially)
แล้วดูกริยาว่าเป็นกริยาประเภทไหน cooked เป็นกริยาทั่วไป ต้องตอบ adv. Specially
เพราะทำหน้าที่ขยายกริยาทั่วไป ถ้าเป็น verb to be, หรือ linking verb เช่น look,
seem, feel, appear, get, become, turn, remain, stay จะตอบคุณศัพท์ special
37. ตอบ 1 เหตุผล ประโยคเริ่มว่า “น้ำตาลของฉันหมดแล้ว ดังนั้นฉันจึงอยากขอยืมของคุณนะ”
ตอบกริยา borrow (ขอยืม) ถ้า lend (ให้ยืมและคำสรรพนามที่แสดงความเป็นเจ้าของ
ที่ไม่มีคำนามตามหลังใช้ yours (มีความหมายเดียวกับ your + คำนาม = your sugar)
แต่ที่ไม่มีคำนามแล้ว จึงตอบ yours
38. ตอบ 2 เหตุผล เจ้านายถามว่า มีกี่คนอยู่ในที่ประชุม เลขาตอบว่า โดยคร่าวๆ 300 คน ใช้คำ
วิเศษณ์ที่มีความหมายโดยคร่าว ๆ ก็คือ roughly ส่วนที่เหลือไม่ตรงความหมาย
39. ตอบ 1 เหตุผล เป็นเรื่องคำสรรพนามที่แสดงความเป็นเจ้าของ และรูปกรรม สรรพนามแสดง
ความเป็นเจ้าของ your, my, his, her, their, our + คำนาม สรรพานามแสดงความ
เป็นเจ้าของ yours, mine, his, hers, theirs, ours ไม่มีคำนามนามหลัง ฉะนั้นดูจาก
ประโยคมี parents เป็นคำนาม แสดงว่าสามารถตอบ your parents (พ่อแม่ของคุณ)
และฉันอยากจะให้คุณ จะเติมรูปกรรมเพราะอยู่หลังกริยา would like นั่นคือ you และ
ส่วนหลังไม่มีด้าน เมตาม ซึ่งมาจากรูปเต็มว่า พบกับพ่อแม่ของฉัน คือ my parents แต่
ไม่ใช้ parents ซ้ำ ก็ตัดคำนามใช้รูป mine แทนนั่นเอง
40. ตอบ 1 เหตุผล กลุ่มคำ had better (ควรจะ) ตามด้วย กริยาช่องที่ 1 และถ้ามี not ให้เอาไว้
หลัง had better เลย เป็น had better not + V1 (play)
41. ตอบ 3 เหตุผล sleep เป็นกริยาทั่วไป ต้องการคำวิเศษณ์มาขยาย ซึ่งในที่นี้ก็คือ comfortably
42. ตอบ 1 เหตุผล คำเชื่อมที่เติมเพื่อให้ได้ใจความที่เหมาะสมคือ Unless (หมายถึง ถ้าไม่) มาจาก
ประโยคว่า If Somsak does not hurry ....... (ถ้าสมศักดิ์ไม่เร่งรีบ รถไฟก็จะทิ้งเขา คือ
ออกโดยสมศักดิ์ขึ้นไม่ทันค่ะ) Unless = If... not = ถ้าไม่
หน้า 148
43. ตอบ 2 เหตุผล กริยา get /got + กรรม (สิ่งของ) + กริยาช่องที่ 3 ก็คือ serviced
44. ตอบ 4 เหตุผล คำที่ตามหลัง verb to be (is) เป็นคำคุณศัพท์ (adj.) คือ essential เป็น
สิ่งจำเป็นสำหรับ ตามด้วย for
45. ตอบ 1 เหตุผล เป็นการใช้ Tense 2 เหตุการณ์ที่เหตุการณ์หนึ่งกำลังดำเนินอยู่ใช้ Present
Continuous Tense (S + was/were + Ving) แล้วมีอีกเหตุการณ์ตามมาใช้ Past
Simple (S + V2) หรือดูสูตร โดยติวเตอร์กุ้งค่ะ
1. S + V2 + while/as + S + was/were + Ving
2. S + was/were Ving + while/as S + was/were + Ving
สำหรับข้อนี้ต้องตอบแบบที่ 1 เพราะเป็นเหตุการณ์ที่ไม่ได้เกิดพร้อมกันค่ะ
46. ตอบ 4 เหตุผล คำเชื่อม such + a + คุณศัพท์ + คำนาม + that
แต่ถ้า S0 + คุณศัพท์ + คำนาม + that
ฉะนั้นจากโจทย์มี a มาแล้ว ก็ตอบ such a ได้เลยค่ะ
47. ตอบ 2 เหตุผล There + กริยาเอกพจน์ + นามเอกพจน์ หมายถึง มี
There + กริยาพหูพจน์ + นามพหูพจน์
จากประโยคมีคำนาม 5,000 recognized species เป็นพหูพจน์ จึงตอบ There are
48. ตอบ 2 เหตุผล จากประโยค They were very ตามการคำคุณศัพท์ตามหลัง เพราะคุณศัพท์
ตามหลัง verb to be และ very (adv.) ทำหน้าที่ขยายคำคุณศัพท์ที่เราจะเติม ในที่นี้
คือ friendly ถึงแม้ลงท้ายด้วย ly แต่คำคุณศัพท์ ที่เป็นที่นิยมตอบ friendly
49. ตอบ 2 เหตุผล คำเชื่อมที่สามารถต่อกับคำว่า to lift ก็คือ too + คุณศัพท์ + to V1
ภาคคำศัพท์
50. โจทย์ เมื่อฉันกลับจากการเดินทางเพื่อทำธุรกิจของฉัน ฉันก็หยุดพัก 2 - 3 วัน
เพราะฉันเหนื่อยมาก
ตอบ 4 1. หลอกลวง 2. ไม่อดทน 3. มีปัญหา 4. เหนื่อยมาก
51. โจทย์ สมิธต้องการรู้ล่วงหน้าว่าการประชุมจะถูกจัดขึ้นเมื่อไร
ตอบ 4 1. ต่อมา 2. ทางโทรศัพท์ 3. ทันทีทันใด 4. ก่อนเวลา
52. โจทย์ ฉันอาจจะลืมคืนหนังสือของคุณ กรุณา ฉันเมื่อถึงกำหนด
ตอบ 3 1. นึกถึง 2. จดจำ 3. เดือน 4. ยกโทษ ให้อภัย
53. โจทย์ สถานีโทรทัศน์ทุกแห่งแสดงภาพของความเสียหายหลังจากพายุได้ผ่านไป
ตอบ 4 1. การก่อตั้ง จัดตั้ง 2. การก่อสร้าง 3. การติดตั้ง 4. ความเสียหาย
54. โจทย์ เบนซ์กำลังพยายามที่จะเรียนให้ครบหลักสูตรของเขาปีนี้
ตอบ 4 1. ยอมแพ้ 2. ดำเนินต่อไป 3. ยกเลิก ยอมแพ้ 4. พยายาม
หน้า 149
55. โจทย์ หนังสือพิมพ์ถูกตีพิมพ์ในหลายเมือง

ตอบ 2 1. ประกอบด้วย 2. ถูกตีพิมพ์ 3. ถูกกระจาย 4. ถูกขาย
56. โจทย์ คุณ อินเทอร์เน็ตด้วยคอมพิวเตอร์ของคุณหรือเปล่า
ตอบ 4 1. ติดต่อ 2. เล่น 3. เข้าไปยัง 4. เข้าถึง
57. โจทย์ ถังน้ำมันรถของฉันจุน้ำมันได้ 45 ลิตร
ตอบ 4 1. จำนวนของน้ำมันคือ 45 ลิตร 2. ปริมาณน้ำมันคือ 45 ลิตร
3. สำรองน้ำมันเป็น 45 ลิตร 4. ความจุของถังน้ำมันเป็น 45 ลิตร
58. โจทย์ จุดสำคัญต่าง ๆ ควรจะถูก โดยผู้สอน
ตอบ 4 1. เฉยเมย 2. ไม่สนใจ 3. ละเลย 4. เน้นย้ำ
59. โจทย์ เมื่อฉันตระหนักว่าฉันได้หยิบร่มมาผิดกัน ฉันก็ สำหรับความผิดพลาดของฉัน
ทันที
ตอบ 3 1. วิตกกังวล 2. พิจารณา คำนึง 3. ขอโทษ 4. เสียใจ
60. โจทย์ เพื่อนคนหนึ่งให้ฉัน รถของเขาขณะนี้รถของฉันอยู่ที่อู่ช่างซ่อมเครื่องยนต์
ตอบ 4 1. ขอยืม 2. เป็นของ 3. เป็นหนี้ 4. ให้ยืม
หน้า 150
ความรู้และลักษณะการเป็นข้าราชการที่ดี
หน้า 151
เจาะข้อสอบพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534
1. พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อใด

ก. 3 สิงหาคม 2534 ข. 3 กันยายน 2534 ค. 4 กันยายน 2534
ง. 5 กันยายน 2534 จ. ไม่มีข้อใดถูก
2. พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 มีผลใช้บังคับเมื่อใด
ก. 3 สิงหาคม 2534 ข. 3 กันยายน 2534 ค. 4 กันยายน 2534
ง. 5 กันยายน 2534 จ. ไม่มีข้อใดถูก
3. เพื่อให้การบริหารราชการแผ่นดินเกิดประสิทธิภาพและประโยชน์แก่ประชาชน พระราชบัญญัติระเบียบ
บริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 ได้กำหนดไว้ในเรื่องใดบ้าง
ก. ความคุ้มค่าในเชิงภารกิจ ข. การลดขั้นตอนการปฏิบัติงาน
ค. การกระจายภารกิจและทรัพยากรให้ท้องถิ่น ง. ถูกทุกข้อ
จ. ไม่มีข้อใดถูก
4. พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 แบ่งการบริหารราชการแผ่นดินอย่างไร
ก. ส่วนกลาง ส่วนจังหวัด ส่วนท้องถิ่น ข. ส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค ส่วนจังหวัด
ค. ส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค ส่วนท้องถิ่น ง. ส่วนกลาง ส่วนจังหวัด ส่วนตำบล
5. ใครเป็นผู้รักษาการตาม พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534
ก. นายกรัฐมนตรี ข. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
ค. คณะรัฐมนตรี ง. ถูกทุกข้อ จ. ไม่มีข้อใดถูก
6. ส่วนราชการใดไม่มีฐานะเป็นนิติบุคคล
ก. สำนักนายกรัฐมนตรี ข. ทบวง ซึ่งสังกัดกระทรวง ค. จังหวัด
ง. อำเภอ จ. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
7. ส่วนราชการในข้อใดที่มีกฎหมายในการจัดระเบียบราชการของตนเอง
ก. กระทรวงกลาโหม ข. กระทรวงมหาดไทย ค. กระทรวงสาธารณสุข
ง. กระทรวงการคลัง จ. ไม่มีข้อใดถูก
8. การจัดตั้ง การรวม หรือการโอนส่วนราชการของกระทรวง ทบวง กรม ต้องตราเป็นกฎหมายใด
ก. พระราชบัญญัติ ข. พระราชกฤษฎีกา ค. กฎกระทรวง
ง. พระราชกำหนด จ. ประกาศกระทรวง
หน้า 152
9. การรวมหรือการโอนส่วนราชการของกระทรวง ทบวง กรม ไม่ว่าจะมีการจัดตั้งส่วนราชการขึ้นใหม่

หรือไม่ ถ้าไม่มีการกำหนดตำแหน่งหรืออัตราของข้าราชการหรือลูกจ้างเพิ่มขึ้นให้กระทำด้วยวิธีการใด
ง. พระราชกำหนด จ. คำสั่งกระทรวง
10. การยุบส่วนราชการทำได้โดยวิธีใด
11. การแบ่งส่วนราชการภายในสำนักงานรัฐมนตรี หรือกรม ต้องทำโดยวิธีการใด
12. ผู้บังคับบัญชาการสูงสุดของข้าราชการสำนักนายกรัฐมนตรีคือผู้ใด
ก. นายกรัฐมนตรี ข. รองนายกรัฐมนตรี ค. ปลั ด สำนั ก นายรั ฐ มนตรี
ง. ถูกทุกข้อ จ. ไม่มีข้อใดถูก
13. “ก.พ.ร.” ตามพระราชบัญญัติร ะเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 และที่แก้ไขเพิ่ มเติ ม
หมายถึงข้อใด
ก. คณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ ข. คณะกรรมการรับเรื่องราวร้องทุกข์
ค. คณะกรรมการข้าราชการพลเรือน ง. คณะกรรมการพิจารณาระบบราชการ
จ. คณะกรรมการธรรมมาภิบาล
14. กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิใน ก.พ.ร. มีจำนวนไม่เกินเท่าใด
ก. 7 คน ข. 9 คน ค. 10 คน ง. 11 คน จ. 12 คน
15. ในกรณีที่มีความจำเป็นเพื่อให้การปฏิบัติงานของ ก.พ.ร. บรรลุผล คณะรัฐมนตรีจะกำหนดให้
กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจำนวนเท่าไร ต้องทำงานเต็มเวลา
ก. ไม่น้อยกว่า 2 คน แต่ไม่เกิน 4 คน ข. ไม่น้อยกว่า 3 คน แต่ไม่เกิน 5 คน
ค. ไม่น้อยกว่า 4 คน แต่ไม่เกิน 6 คน ง. ไม่น้อยกว่า 4 คน แต่ไม่เกิน 7 คน
จ. ผิดทุกข้อ
16. คณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิใน ก.พ.ร. อยู่ในตำแหน่งคราวละกี่ปี
ก. 2 ปี ข. 4 ปี ค. 5 ปี ง. 6 ปี จ. 7 ปี
17. หากจะเปลี่ยนชื่อสำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวง ทบวง กรม ต้องตราเป็นกฎหมายใด
หน้า 153
18. ข้อใดไม่ใช่อำนาจหน้าที่ของนายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้ารัฐบาล
ก. บังคับบัญชาข้าราชการฝ่ายบริหารของกระทรวง ทบวง กรม องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น
ข. แต่งตั้งข้าราชการการเมืองให้ไปปฏิบัติหน้าที่ในสำนักนายกรัฐมนตรี
ค. มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีกำกับการบริหารของกระทรวง
19. ข้อใดเป็นข้าราชการการเมือง
ก. เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ข. รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง
ค. เลขาธิการคณะรัฐมนตรี ง. ถูกทั้งข้อ ก และ ข
จ. ถูกทั้งข้อ ก และ ค
20. ปัจจุบันมีส่วนราชการที่เป็นกระทรวงและเทียบเท่ากระทรวงจำนวนเท่าใด
ก. 17 ข. 18 ค. 19 ง. 20 จ. 21
21. ส่วนราชการใดเป็นส่วนราชการสำนักนายกรัฐมนตรี ที่อยู่ในบังคับบัญชาขึ้นตรงต่อนายกรัฐมนตรี
ก. สำนักข่าวกรองแห่งชาติ ข. สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค
ค. สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ง. สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
จ. ถูกทุกข้อ
22. เปลี่ยนแปลงเขตจังหวัดสุพรรณบุรี ต้องตราเป็นกฎหมายใด
ก. พระราชบัญญัติ ข. พระราชกฤษฎีกา ค. กฎกระทรวงมหาดไทย
ง. พระราชกำหนด จ. คำสั่งกระทรวงมหาดไทย
23. การเปลี่ยนเขตอำเภอธัญบุรี ให้ตราเป็นกฎหมายใด
ก. พระราชบัญญัติ ข. พระราชกฤษฎีกา ค. กฎกระทรวงมหาดไทย
ง. พระราชกำหนด จ. คำสั่งกระทรวงมหาดไทย
24. กรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว สังกัดส่วนราชการใด
ก. กระทรวงแรงงาน ข. กระทรวงการต่างประเทศ ค. กระทรวงสาธารณสุข
ง. กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ. ไม่มีข้อใดถูก
25. ส่วนราชการใดต่อไปนี้ไม่ได้อยู่ในบังคับบัญชาของปลัดกระทรวงยุติธรรม
ก. กรมสอบสวนคดีพิเศษ ข. สำนักงานกิจการยุติธรรม ค. สถาบั น นิ ต ิ ว ิ ท ยาศาสตร์
ง. สำนักงานคณะกรรมการและป้องกันยาเสพติด จ. ไม่มีข้อใดถูก
26. สำนักพระราชวัง เป็นส่วนราชการที่สังกัดหน่วยงานใด
ก. สำนักนายกรัฐมนตรี ข. สำนักราชเลขาธิการ ค. กระทรวงมหาดไทย
ง. กระทรวงการคลัง จ. ผิดทุกข้อ
หน้า 154
27. สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน เป็นส่วนราชการที่สังกัดหน่วยงานใด

ก. กระทรวงการคลัง ข. กระทรวงยุติธรรม ค. สำนักนายกรัฐมนตรี
ง. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จ. ไม่มีข้อใดถูก
28. หน่วยงานใดต่อไปนี้ไม่มีหน้าที่เกี่ยวกับราชการทางการเมือง
ก. สำนักงานรัฐมนตรี ข. สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี
ค. สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ง. ผิดทุกข้อ จ. ถูกทุกข้อ
29. การจัดระเบียบราชการของกระทรวงตามพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน (ฉบับที่ 5)
พ.ศ. 2545 ตำแหน่งใดไม่ได้ถูกกำหนดไว้
ก. ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรี ข. ผู้ช่วยปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี
ค. หัวหน้าสำนักงานรัฐมนตรี ง. ผู้ช่วยปลัดกระทรวง จ. ไม่มีข้อใดถูก
30. ส่วนราชการข้อใดเป็นราชการส่วนภูมิภาค
ก. จังหวัด ข. อำเภอ ค. ตำบล
ง. ถูกทั้ง ก และ ข จ. ถูกทุกข้อ
31. ส่วนราชการใดต่อไปนี้ มีฐานะเป็นนิติบุคคล
ก. จังหวัด ข. อำเภอ ค. กิ่งอำเภอ
ง. ตำบล จ. ไม่มีข้อใดถูก
32. การตั้ง ยุบ หรือเปลี่ยนแปลงเขตจังหวัด กระทำได้โดย
33. คณะที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการจังหวัด ในการบริหารราชการแผ่นดินภายในจังหวัด ได้แก่
ก. คณะกรรมการจังหวัด ข. คณะกรมการจังหวัด
ค. คณะกรรมการสภาจังหวัด ง. คณะกรรมการจัดทำแผนพัฒนาจังหวัด
จ. คณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัด
34. ผู้ใดเป็นประธานคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัด หรือ “ก.ธ.จ.”
ก. ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี ข. ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย
ค. ผู้ว่าราชการจังหวัด ง. รองผู้ว่าราชการจังหวัด
จ. ปลัดจังหวัด
35. การยกเว้น จำกัด หรือตัดทอนอำนาจหน้าที่ของผู้ว่าราชการจังหวัดในการบริหารราชการส่วนจังหวัด
จะกระทำได้โดยการตราเป็นกฎหมายใด
หน้า 155
36. กระทรวงใดมีภารกิจเพิ่มขึ้นและมีความจำเป็นอย่างยิ่งต้องมีรองปลัดกระทรวงมากกว่าที่กำหนดไว้
หน่วยงานใดพิจารณาอนุมัติให้กระทรวงนั้นมีรองปลัดกระทรวงเพิ่มขึ้นเป็นกรณีพิเศษ
ก. คณะกรรมการข้าราชการพลเรือน ข. คณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ
ค. กรมบัญชีกลาง ง. ข้อ ก.และ ข. จ. ข้อ ก. และ ค.
37. บุคคลใดเป็นคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัด
ก. ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี ข. ผู้แทนภาคประชาสังคม
ค. ผู้แทนสมาชิกสภาท้องถิ่นที่ไม่ได้ดำรงตำแหน่งผู้บริหาร
ง. ผู้แทนภาคธุรกิจเอกชน จ. ถูกทุกข้อ
38. ในการบริหารราชการแผ่นดินของจังหวัด ใครมีหน้าที่เป็นที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการจังหวัด
ก. รองผู้ว่าราชการจังหวัด ข. ปลัดจังหวัด ค. ผู้ช่วยผู้ว่าราชการจังหวัด
ง. คณะกรมการจังหวัด จ. นายอำเภอ
39. หัวหน้าสำนักงานจังหวัด ดำรงตำแหน่งอะไรในคณะกรมการจังหวัด
ก. กรมการจังหวัด ข. เลขานุการคณะกรมการจังหวัด
ค. ถูกทั้งข้อ ก. และ ข. ง. ถูกทุกข้อ จ. ไม่มีข้อใดถูก
40. บุคคลใดเป็นผู้ปกครองบังคับบัญชาข้าราชการสำนักงานอำเภอ
ก. นายอำเภอ ข. ปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายบริหารงานปกครอง
ค. ปลัดอำเภอซึ่งได้รับมอบหมาย ง. ปลัดอำเภอหัวหน้ากลุ่มงานบริหารงานปกครอง
จ. ถูกทั้งข้อ ข. และ ง.
41. ผู้ว่าราชการจังหวัดมอบอำนาจให้ผู้ใดปฏิบัติราชการแทนได้
ก. รองผู้ว่าราชการจังหวัด ข. ผู้ช่วยผู้ว่าราชการจังหวัด ค. ปลัดจังหวัด
42. ตำแหน่งใดระเบียบบริหารราชการแผ่นดินมิได้กำหนดไว้
ก. ผู้ช่วยเลขาธิการนายรัฐมนตรี ข. ผู้ช่วยปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี
ค. ผู้ช่วยเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ง. ผู้ช่วยปลัดกระทรวง
43. จังหวัดแบ่งส่วนราชการออกเป็นตามข้อใด
ก. สำนักงานจังหวัด และส่วนราชการประจำจังหวัด
ข. สำนักงานจังหวัด และส่วนราชการประจำจังหวัดและอำเภอ
ค. ที่ทำการปกครองจังหวัด ที่ทำการปกครองอำเภอ ที่ทำการปกครองกิ่งอำเภอ
ง. ส่วนราชการประจำจังหวัด และอำเภอ
หน้า 156
44. การแบ่งส่วนราชการภายในสำนักงานรัฐมนตรี กรม หรือส่วนราชการที่เรียกชื่อย่างอื่นและมีฐานะเป็น

กรมต้องกระทำโดยกฎหมายใด
45. การจัดระเบียบราชการของกระทรวงประกอบด้วย
ก. สำนักงานรัฐมนตรี สำนักงานปลัดกระทรวง และกรม หรือส่วนราชการที่เรียกชื่ออย่างอื่น
ข. สำนักงานเลขาธิการรัฐมนตรี และกรม ค. สำนักงานรัฐมนตรี สำนักงานปลัดกระทรวง
ง. ถูกทั้งข้อ ก และ ค จ. ถูกทุกข้อ
46. “ก.ธ.จ.” ย่อมาจากคำว่าอะไร
ก. คณะกรรมการข้าราชการพลเรือน ค. คณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ
ข. คณะกรรมการธรรมาภิบาล ง. คณะกรรมการองค์กรอิสระ
47. การจัดระเบียบราชการของกระทรวงใดไม่เป็นไปตามพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน
พ.ศ. 2534
ก. กระทรวงพลังงาน ข. กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ค. กระทรวงการต่างประเทศ ง. กระทรวงกลาโหม จ. ไม่มีข้อใดถูก
48. บทบัญญัติว่าด้วยการรักษาราชการแทนตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารแผ่นดินไม่สามารถใช้
บังคับกับข้อใด
ก. ราชการทหาร ข. ราชการตำรวจ ค. ข้าราชการตุลาการ
ง. ข้าราชการพลเรือน จ. ถูกทั้งข้อ ก และ ข
49. เลขาธิการคณะรัฐมนตรี รองเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เป็นข้าราชการประเภทใด
ก. ข้าราชการการเมือง ข. ข้าราชการพลเรือนสามัญ ค. ข้าราชการสามัญ
ง. ข้าราชการส่วนกลาง จ. ไม่มีข้อใดถูก
50. ผู้ใดเป็นเลขานุการคณะกรมการจังหวัด
ก. หัวหน้าสำนักงานจังหวัด ข. รองผู้ว่าราชการจังหวัด
ค. ปลัดจังหวัด ง. ข้าราชการในสำนักงานจังหวัดซึ่งได้รับมอบหมาย
51. สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบข้าราชการสังกัดส่วนราชการใด
ก. กระทรวงการคลัง ข. สำนักงาน ก.พ. ค. สำนักนายกรัฐมนตรี
ง. ไม่สังกัดกระทรวง ทบวง กรมใด จ. เป็นองค์กรอิสระ
หน้า 157
52. กรณีจะจัดตั้งจังหวัดบัวใหญ่ กระทำได้โดยต้องตราเป็นกฎหมายใด

ง. พระราชกำหนด จ. ประชามติ
53. ใครเป็นหัวหน้ากลุ่มของภารกิจกระทรวง
ก. อธิบดีที่มีอาวุโส
ข. อธิบดีที่กระทรวงแต่งตั้ง
ค. ข้าราชการในสำนักงานปลัดกระทรวงที่ปลัดกระทรวงแต่งตั้ง
ง. รองปลัดกระทรวง
จ. ข้าราชการที่ปลัดกระทรวงแต่งตั้ง
54. ตำแหน่งใดมีกำหนดไว้ในกฎหมายระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน
ก. ผู้ช่วยผู้ว่าราชการจังหวัด ข. ผู้ช่วยอธิบดี ค. ผู้ช่วยนายอำเภอ
ง. ผู้ช่วยปลัดกระทรวง จ. ผิดทุกข้อ
55. โดยทั่วไปการจัดตั้งกระทรวงทบวงกรมจะต้องตราเป็นกฎหมายใด
ง. คำสั่งกระทรวง จ. ไม่มีข้อใดถูก
56. โดยหลักการมอบอำนาจปฏิบัติราชการแทน ผู้รับมอบจะมอบอำนาจให้บุคลอื่นไม่ได้ เว้นแต่ข้อใด
ก. ปลัดกระทรวง ข. อธิบดี ค. ผู้ว่าราชการจังหวัด
ง. ถูกทุกข้อ จ. ถูกทั้งข้อ ก. และ ข.
57. บุคคลใดต่อไปนี้ไม่ได้เป็นคณะกรมการจังหวัด
ก. รองผู้ว่าราชการจังหวัด ข. ปลัดจังหวัด ค. อัยการจังหวัด
ง. นายอำเภอ จ. ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด
58. สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการซึ่งเป็นส่วนราชการในสำนักนายกรัฐมนตรีมีการปฏิบัติ
ราชการขึ้นตรงต่อใคร
ก. คณะรัฐมนตรี ข. นายกรัฐมนตรี ค. เลขาธิ ก ารคณะรัฐ มนตรี
ง. ก.พ. จ. ไม่มีข้อใดถูก
59. หากกรมการปกครองจะเปลี่ยนชื่อเป็นกรมส่งเสริมความมั่นคงภายในจะต้องตราเป็นกฎหมายใด
ง. ไม่มีข้อใดถูก จ. คำสั่งกระทรวง
60. ข้อใดเป็นคณะกรรมการจังหวัดโดยตำแหน่ง
ก. พาณิชย์จังหวัด ข. คลังจังหวัด ค. ปศุสัตว์จังหวัด
ง. ผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษา จ. หัวหน้าสำนักงานจังหวัด
หน้า 158
61. กฎหมายระเบียบบริหารราชการแผ่นดินปัจจุบัน บัญญัติให้ บรรดาอำนาจและหน้าที่เกี่ยวกับราชการ

ของกรมการอำเภอหรือนายอำเภอซึ่งกฎหมายกำหนดให้กรมการอำเภอและนายอำเภอมีอยู่ ให้ดำเนินการ
อย่างไร
ก. ให้กรมการอำเภอมอบอำนาจให้นายอำเภอ
ข. ให้คงมีอำนาจหน้าที่ตามเดิม
ค. ให้กระทรวงมหาดไทยกำหนดให้เป็นอำนาจและหน้าที่ของนายอำเภอ
ง. ให้โอนไปเป็นอำนาจและหน้าที่ของนายอำเภอ
จ. ให้ปรับปรุงแก้ไขโดยตราเป็นพระราชกฤษฎีกา
62. ข้อใดเป็นการจัดระเบียบราชการในกรม
ก. สำนักงานเลขานุการกรม ข. สำนัก
ค. กอง หรือส่วนราชการที่มีฐานะเทียบกอง ง. ข้อ ก. และ ข.
จ. ข้อ ก. และ ค.
63. การที่กระทรวงจะแบ่งท้องที่ออกเป็นเขตเพื่อให้มีหัวหน้าส่วนราชการประจำเขตนั้นมีวัตถุประสงค์ใน
การแบ่งอย่างไร
ก. เพื่อปฏิบัติงานตรวจราชการ ข. เพื่อปฏิบัติงานภารกิจพิเศษ
ค. เพื่อปฏิบัติงานทางวิชาการ ง. เพื่อปฏิบัติงานความมั่นคง
จ. ถูกทั้งข้อ ก. และ ข.
64. การมอบอำนาจ ตามมาตรา 34 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534
กำหนดให้ทำเป็นข้อใด
ก. ลายลักษณ์อักษร ข. หนังสือ ค. คำสั่ง
ง. ประกาศ จ. ผิดถูกข้อ
65. สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการซึ่งเป็นส่วนราชการในสำนักนายกรัฐมนตรีมีการปฏิบัติ
ราชการขึ้นตรงต่อใคร
ก. คณะรัฐมนตรี ข. นายกรัฐมนตรี ค. เลขาธิการคณะรัฐมนตรี
ง. กพ. จ. ไม่มีข้อใดถูก
66. หน่วยงานใดมีอำนาจตีความและวินิจฉัยปัญหาที่เกิดขึ้นจากการใช้บังคับตามพระราชบัญญัติระเบียบ
บริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2534
ก. ก.พ.ร. ข. ก.พ. ค. สำนักนายกรัฐมนตรี
ง. นายกรัฐมนตรี จ. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
67. ตำแหน่งใดระเบียบบริหารราชการแผ่นดินมิได้กำหนดไว้
ก. ผู้ช่วยปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ข. ผู้ช่วยปลัดกระทรวง
หน้า 159
ค. ผู้ช่วยเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ง. ผู้ช่วยเลขาธิการคณะรัฐมนตรี
68. คณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) กรณีกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิมีวาระการดำรงตำแหน่ง
อย่างไร
ก. คราวละสี่ปี แต่ไม่เกินสองวาระ
ข. คราวละห้าปี อาจได้รับแต่งตั้งอีกได้แต่ไม่เกินสองวาระติดต่อกัน
ค. คราวละสี่ปี อาจได้รับแต่งตั้งอีกได้แต่ไม่เกินสองวาระติดต่อกัน
ง. คราวละหกปี แต่ไม่เกินสองวาระ
จ. คราวละหกปี อาจได้รับแต่งตั้งอีกได้แต่ไม่เกินสองวาระติดต่อกัน
69. ผู้ว่าราชการจังหวัดมีอำนาจและหน้าที่กำกับดูแลการปฏิบัติราชการอันมิใช่ราชการส่วนภูมิภาคของ
ข้าราชการซึ่งประจำอยู่ในจังหวัดนั้น ยกเว้นข้าราชการใด
ก. ข้าราชการครู
ข. ข้าราชการฝ่ายตุลาการ ข้าราชการฝ่ายอัยการ
ค. ข้าราชการในสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน
ง. ข้าราชการทหาร
70. การยุบ กรมการปกครอง ต้องตราเป็นกฎหมายใด
ก. กฎกระทรวง ข. พระราชกฤษฎีกา ค. ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี
ง. พระราชบัญญัติ จ. ประกาศกระทรวง
หน้า 160
เฉลยเจาะข้อสอบพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534
1. เฉลย : ข้อ ค. 4 กันยายน 2534 : ทั้งนี้ ประกาศราชกิจจานุเบกษา เล่ม 108/ตอนที่ 156/ฉบับ

พิเศษ หน้า 1 วันที่ 4 กันยายน 2534
2. เฉลย : ข้อ ง. 5 กันยายน 2534 : ทั้งนี้ ตามมาตรา 2 พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัด
จากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
3. เฉลย : ข้อ ง. ถูกทุกข้อ : ทั้งนี้ ตามมาตรา 3/1 การบริหารราชการตามพระราชบัญญัตินี้ต้อง
เป็นไปเพื่อประโยชน์สุขของประชาชน เกิดผลสัมฤทธิ์ต่อภารกิจของรัฐ ความมีประสิทธิภาพ ความคุ้มค่า
ในเชิงภารกิจ แห่งรัฐ การลดขั้น ตอนการปฏิบัติงานการลดภารกิจและยุบเลิกหน่วยงานที่ไ ม่ จำเป็น
การกระจายภารกิจและทรัพยากรให้แก่ท้องถิ่น การกระจายอำนาจตัดสินใจการอำนวยความสะดวก และ
การตอบสนองความต้องการของประชาชน ทั้งนี้ โดยมีผู้รับผิดชอบต่อผลของงาน
4. เฉลย : ข้อ ค. ส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค ส่วนท้องถิ่น
5. เฉลย : ข้อ ก. นายกรัฐมนตรี : ทั้งนี้ ตามพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.
2534 มาตรา 6 ให้นายกรัฐมนตรีรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้
6. เฉลย : ข้อ ง. อำเภอ
7. เฉลย : ข้อ ก. กระทรวงกลาโหม
8. เฉลย : ข้อ ก. พระราชบัญญัติ : ทั้งนี้ ตามพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.
2534 มาตรา 8 การจัดตั้ง การรวม หรือการโอนส่วนราชการตามมาตรา 7 ให้ตราเป็นพระราชบัญญัติ
9. เฉลย : ข้อ ข. พระราชกฤษฎีกา : ทั้งนี้ ตามพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.
2534 มาตรา 8 ทวิการรวมหรือการโอนส่วนราชการตามมาตรา 7 ไม่ว่าจะมีผลเป็นการจัดตั้งส่วนราชการ
ขึ้นใหม่หรือไม่ ถ้าไม่มีการกำหนดตำแหน่งหรืออัตราของข้าราชการหรือลูกจ้างเพิ่มขึ้นให้ตราเป็นพระราช
กฤษฎีกา
10. เฉลย : ข้อ ข. พระราชกฤษฎีกา : ทั้งนี้ ตามพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.
2534 มาตรา 8 จัตวา การยุบส่วนราชการตามมาตรา 7 ให้ตราเป็นพระราชกฤษฎีกา
11. เฉลย : ข้อ ค. กฎกระทรวง : ทั้งนี้ ตามพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.
2534 มาตรา 8 ฉ การแบ่งส่วนราชการภายในสำนักงานรัฐมนตรี กรม หรือส่วนราชการที่เรียกชื่ออย่าง
อื่นและมีฐานะเป็นกรม ให้ออกเป็นกฎกระทรวงและให้ระบุอำนาจหน้าที่ของแต่ละส่วนราชการไว้ใน
กฎกระทรวงด้วย
12. เฉลย : ข้ อ ก. นายกรั ฐ มนตรี : ทั ้ ง นี ้ ตามมาตรา 10 วรรคสอง สำนั ก นายกรั ฐ มนตรี มี
นายกรัฐมนตรีเป็นผู้บังคับบัญชาข้าราชการและรับผิดชอบในการกำหนดนโยบาย เป้าหมาย และ
หน้า 161
ผลสัมฤทธิ์ของงานในสำนักนายกรัฐมนตรีให้สอดคล้องกับนโยบายที่คณะรัฐมนตรีแถลงไว้ต่อรัฐสภาหรือที่
คณะรัฐมนตรีกำหนดหรืออนุมัติ โดยจะให้มีรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเป็น
ผู้ช่วยสั่งและปฏิบัติราชการก็ได้
13. เฉลย : ข้อ ก. คณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ : ทั้งนี้ ตามพระราชบัญญัติระเบียบบริหาร
ราชการแผ่นดิน พ.ศ.2534 มาตรา 71/1 ให้มีคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการคณะหนึ่ง เรียกโดยย่อว่า
“ก.พ.ร.” ประกอบด้วยนายกรัฐมนตรีหรือรองนายกรัฐมนตรีที่นายกรัฐมนตรีมอบหมายเป็นประธาน
รัฐมนตรีหนึ่งคนที่นายกรัฐมนตรีกำหนดเป็นรองประธาน ผู้ซึ่งคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่
องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมอบหมายหนึ่งคน และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิไ ม่เกินสิบคน ซึ่งคณะรัฐมนตรี
แต่งตั้งจากผู้มีความรู้ความเชี่ยวชาญในทางด้านนิติศาสตร์ เศรษฐศาสตร์รัฐศาสตร์ การบริหารรัฐกิจ การ
บริหารธุรกิจ การเงินการคลัง จิตวิทยาองค์การ และสังคมวิทยา อย่างน้อยด้านละหนึ่งคน
14. เฉลย : ข้อ ค. 10 คน
15. เฉลย : ข้อ ข. ไม่น้อยกว่า 3 คน แต่ไม่เกิน 5 คน : ทั้งนี้ ตามพระราชบัญญัติระเบียบบริหาร
ราชการแผ่นดิน พ.ศ.2534 มาตรา 71/1 วรรคสอง ในกรณีที่มีความจำเป็นเพื่อให้การปฏิบัติงานบรรลุผล
คณะรัฐมนตรีจะกำหนดให้กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิไม่น้อยกว่าสามคนแต่ไม่เกินห้าคนต้องทำงานเต็มเวลาก็
ได้
16. เฉลย : ข้อ ค. 5 ปี : ทั้งนี้ ตามมาตรา 71/3 วรรคหนึ่ง กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิมีวาระการดำรง
ตำแหน่งคราวละสี่ปี ผู้ซึ่งพ้นจากตำแหน่งแล้ว อาจได้รับแต่งตั้งอีกได้แต่ไม่เกินสองวาระติดต่อกัน
17. เฉลย ข้อ ข. พระราชกฤษฎีกา : ทั้งนี้ ตามพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.
2534 มาตรา 8 ตรีการเปลี่ยนชื่อส่วนราชการตามมาตรา 7 ให้ตราเป็นพระราชกฤษฎีกาและในกรณีที่ชื่อ
ตำแหน่งของข้าราชการในส่วนราชการนั้นเปลี่ยนไปให้ระบุการเปลี่ยนชื่อไว้ในพระราชกฤษฎีกาด้วย
18. เฉลย : ข้อ ก. บังคับบัญชาข้าราชการฝ่ายบริหารของกระทรวง ทบวง กรม องค์การปกครอง
ส่วนท้องถิ่นทั้งนี้ ตามมาตรา 11 นายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้ารัฐบาลมีอำนาจหน้าที่ดังนี้ (3) บังคับ
บัญชาข้าราชการฝ่ายบริหารทุกตำแหน่งซึ่งสังกัดกระทรวง ทบวง กรม และส่วนราชการที่เรียกชื่ออย่าง
อื่นที่มีฐานะเป็นกรม
19. เฉลย : ข้ อ ก. เลขาธิ ก ารนายกรั ฐ มนตรี : ทั ้ ง นี ้ ตามมาตรา 13 วรรคสองให้ เ ลขาธิ ก าร
นายกรัฐมนตรีแ ละรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่า ยการเมือง เป็น ข้า ราชการการเมือง และให้ร อง
เลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายบริหารและผู้ช่วยเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เป็นข้าราชการพลเรือนสามัญ
20. เฉลย : ข้อ ง. 20 : ทั้งนี้ ตามมาตรา 5 พระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ.
2545
21. เฉลย : ข้อ ก. สำนักข่าวกรองแห่งชาติ ทั้งนี้ ตามมาตรา 7 พระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง
ทบวง กรม พ.ศ. 2555 สำนักนายกรัฐมนตรี มีส่วนราชการ ดังต่อไปนี้ (1) สำนักงานปลัดสำนัก
หน้า 162
นายกรัฐมนตรี (2) กรมประชาสัมพันธ์ (3) สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ส่วนราชการที่อยู่ใน

บั ง คั บ บั ญ ชาขึ ้ น ตรงต่ อ นายกรั ฐ มนตรี (4) สำนั ก เลขาธิ ก ารนายกรั ฐ มนตรี (5) สำนั ก เลขาธิ ก าร
คณะรัฐมนตรี (6) สำนักข่าวกรองแห่งชาติ (7) สำนักงบประมาณ (8) สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ
(9) สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีก า (10) สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (11) สำนักงาน
คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (12) สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ
(13) สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน
เฉลย : ก. พระราชบัญญัติ
22. ข้อ เฉลย : ก. พระราชบัญญัติ : ทั้งนี้ ตามพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิ น พ.ศ.
2534 มาตรา 52 วรรคสอง การตั้ง ยุบ และเปลี่ยนแปลงเขตจังหวัด ให้ตราเป็นพระราชบัญญัติ
23. เฉลย : ข. พระราชกฤษฎีกา : ทั้งนี้ ตามพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.
2534 มาตรา 61 วรรคสองการตั้ง ยุบ และเปลี่ยนเขตอำเภอ ให้ตราเป็นพระราชกฤษฎีกา
24. เฉลย : ข้อ ง. กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่น คงของมนุษย์ ทั้งนี้ ตามมาตรา 17
พระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. 2545 กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของ
มนุษย์ มีส่วนราชการ ดังต่อไปนี้ (1) สำนักงานรัฐมนตรี (2) สำนักงานปลัดกระทรวง (3) กรมกิจการเด็ก
และเยาวชน (4) กรมกิจการผู้สูงอายุ (5) กรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว (6) กรมพัฒนาสังคมและ
สวัสดิการ (7) กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ
25. เฉลย : ข้ อ ง. สำนั ก งานคณะกรรมการและป้ อ งกั น ยาเสพติ ด ทั ้ ง นี ้ ตามมาตรา 33
พระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวงทบวง กรม พ.ศ. 2555 ส่วนราชการที่อยู่ในบังคับบัญชาขึ้นตรงต่อ
รัฐมนตรี (11) สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด
26. เฉลย : ข้อ จ. ผิดทุกข้อ : พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการในพระองค์ พ.ศ. 2560 ยกเลิก
มาตรา 46 (1) และ (2) แห่งพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. 2545
27. เฉลย : ข้อ จ. ผิดทุกข้อ : ทั้งนี้ ตามมาตรา 46 ส่วนราชการไม่สังกัดสำนักนายกรัฐ มนตรี
กระทรวงหรือทบวง มีดังต่อไปนี้ (4) สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินมีอำนาจหน้าที่เกี่ยวกับ
การดำเนินการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินตามที่กำหนดไว้ในกฎหมาย
28. เฉลย : ข้อ ข. สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี : ทั้งนี้ ตามพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการ
แผ่น ดิน พ.ศ. 2534 มาตรา 14 สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีมีอำนาจหน้าที่เกี่ยวกับราชการของ
คณะรัฐมนตรี รัฐสภา และราชการในพระองค์ มีเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเป็นผู้บังคับบัญชาข้าราชการ
และรับผิดชอบในการปฏิบัติราชการการขึ้นตรงต่อนายกรัฐมนตรี และให้มีรองเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเป็น
ผู้ช่วยสั่งและปฏิบัติราชการ และจะให้มีผู้ช่วยเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเป็นผู้ช่วยสั่งและปฏิบัติราชการด้วย
ก็ได้
หน้า 163
29. เฉลย : ข้อ ค. หัวหน้าสำนั กงานรัฐมนตรี : ทั้งนี้ มาตรา 29 แก้ไขคำว่า “สำนักงานเลขานุการ

รัฐมนตรี” เป็น “สำนักงานรัฐมนตรี” โดยพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน (ฉบับที่ 5) พ.ศ.
2545 แต่ไม่มีการกำหนดตำแหน่ง “หัวหน้าสำนักงานรัฐมนตรี”
30. เฉลย : ข้อ ง. ถูกทั้ง ก และ ข : ทั้งนี้ ตามพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.
2534 มาตรา 51 ให้จัดระเบียบบริหารราชการส่วนภูมิภาคดังนี้ (1) จังหวัด (2) อำเภอ
31. เฉลย : ข้อ ก. จังหวัด : ทั้งนี้ ตามมาตรา 52 ให้รวมท้องที่หลายๆ อำเภอตั้งขึ้นเป็นจังหวัดมี
ฐานะเป็นนิติบุคคล
32. เฉลย : ข้อ ก. พระราชบัญญัติ ทั้งนี้ ตามพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.
2534 มาตรา 52 วรรคสอง การตั้ง ยุบ และเปลี่ยนแปลงเขตจังหวัด ให้ตราเป็นพระราชบัญญัติ
33. เฉลย : ข้อ ข. คณะกรมการจังหวัด : ทั้งนี้ ตามพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน
พ.ศ. 2534 มาตรา 53 วรรคหนึ่ง ในจังหวัดหนึ่งให้มีคณะกรมการจังหวัด ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาของผู้ว่า
ราชการจังหวัดในการบริหารราชการแผ่นดินในจังหวัดนั้น กับปฏิบัติหน้าที่อื่นตามที่กฎหมายหรือมติของ
คณะรัฐมนตรีกำหนด
34. เฉลย : ข้อ ก. ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี ทั้งนี้ ตามพระราชบัญญั ติระเบียบบริหาร
ราชการแผ่ น ดิ น พ.ศ. 2534 มาตรา 55/1 วรรคสอง ก.ธ.จ. ประกอบด้ ว ยผู ้ ต รวจราชการสำนั ก
นายกรัฐมนตรีซึ่งมีเขตอำนาจในจังหวัดเป็นประธานผู้แทนภาคประชาสังคม ผู้แทนสมาชิกสภาท้องถิ่นที่
ไม่ได้ดำรงตำแหน่งผู้บริหารและผู้แทนภาคธุรกิจเอกชน ทั้งนี้จำนวน วิธีการสรรหา และการปฏิบัติหน้าที่
ของ ก.ธ.จ. ให้เป็นไปตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี
35. เฉลย : ข้อ ก. พระราชบัญญัติ : ทั้งนี้ ตามมาตรา 58 การยกเว้น จำกัด หรือตัดทอน อำนาจ
หน้าที่ของผู้ว่าราชการจังหวัดในการบริหารราชการในจังหวัด หรือให้ข้าราชการของส่วนราชการใดมี
อำนาจหน้าที่ในการบริหารราชการส่วนภูมิภาคเช่นเดียวกับผู้ว่าราชการจังหวัดจะกระทำได้โดยตราเป็น
พระราชบัญญัติ
36. เฉลย : ข้อ ง. ข้อ ก.และ ข. : คณะกรรมการข้าราชการพลเรือนและคณะกรรมการพัฒนาระบบ
ราชการมาตรา 21
37. เฉลย : ข้อ จ. ถูกทุกข้อ ทั้งนี้ ตามพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิ น พ.ศ.2534
มาตรา55/1 กำหนดให้ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรีซึ่งมีเขตอำนาจในจังหวัด , ผู้แทนภาคประชา
สั ง คม, ผู ้ แ ทนสมาชิ ก สภาท้ อ งถิ ่ น ที ่ ไ ม่ ไ ด้ ด ำรงตำแหน่ ง ผู ้ บ ริ ห ารและผู ้ แ ทนภาคธุ ร กิ จ เอกชนเป็ น
คณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัด
38. เฉลย ข้อ ง. คณะกรมการจังหวัด ทั้งนี้ ตามพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.
2534 มาตรา 53 กำหนดให้คณะกรมการจังหวัดทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการจังหวัด
หน้า 164
39. เฉลย ข้อ ค. ถูกทั้งข้อ ก. และ ข. ทั้งนี้ ตามมาตรา 53 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติระเบียบ

บริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2534 กำหนดให้หัวหน้าสำนักงานจังหวัดเป็นกรมการจังหวัดและเป็น
เลขานุการด้วย
40. เฉลย : ข้อ ก. นายอำเภอ : ทั้งนี้ ตามพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2534
มาตรา 66 (1) กำหนดให้นายอำเภอเป็นผู้ปกครองบังคับบัญชาข้าราชการสำนักงานอำเภอ
41. เฉลย : ข้อ ง. ถูกทุกข้อ : ทั้งนี้ ตามพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2534
มาตรา 39 เมื่อมีการมอบอำนาจแล้ว ผู้รับมอบอำนาจมีหน้าที่ต้องรับมอบอำนาจนั้น โดยผู้มอบอำนาจจะ
กำหนดให้ผู้รับมอบอำนาจมอบอำนาจให้ผู้ดำรงตำแหน่งอื่นปฏิ บัติราชการแทนต่อไป โดยจะกำหนด
หลักเกณฑ์หรือเงื่อนไขในการใช้อำนาจนั้นไว้ด้วยหรือไม่ก็ได้ แต่ในกรณีการมอบอำนาจให้ผู้ว่าราชการ
จังหวัด คณะรัฐมนตรีจะกำหนดหลักเกณฑ์ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดต้องมอบอำนาจต่อไปให้รองผู้ว่าราชการ
จังหวัด ปลัดจังหวัดหรือหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในจังหวัดก็ได้
42. เฉลย : ข้อ ง. ผู้ช่วยปลัดกระทรวง
43. เฉลย : ข้อ ก. สำนักงานจังหวัด และส่วนราชการประจำจังหวัด : ทั้งนี้ ตามพระราชบัญญัติ
ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2534 มาตรา 60 ให้แบ่งส่วนราชการของจังหวัดดังนี้ (1) สำนักงาน
จังหวัด มีหน้าที่เกี่ยวกับราชการทั่วไปและการวางแผนพัฒนาจังหวัดของจังหวัดนั้น มีหัวหน้าสำนักงาน
จังหวัดเป็นผู้บังคับบัญชาข้าราชการ และรับผิดชอบในการปฏิบัติราชการของสำนักงานจังหวัด (2) ส่วน
ต่าง ๆ ซึ่งกระทรวง ทบวง กรม ได้ตั้งขึ้น มีหน้าที่เกี่ยวกับราชการของกระทรวง ทบวง กรมนั้น ๆ มี
หัวหน้าส่วนราชการประจำจังหวัดนั้น ๆ เป็นผู้ปกครองบังคับบัญชารับผิดชอบ
44. เฉลย : ข้อ ค. กฎกระทรวง : ทั้งนี้ ตามพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.
2534 มาตรา 8 ฉ วรรคหนึ่ง การแบ่งส่วนราชการภายในสำนักงานรัฐมนตรี กรม หรือส่วนราชการที่
เรียกชื่ออย่างอื่นและมีฐานะเป็นกรม ให้ออกเป็นกฎกระทรวงและให้ระบุอำนาจหน้าที่ของแต่ละส่วน
ราชการไว้ในกฎกระทรวงด้วย
45. เฉลย : ข้อ ก. สำนักงานรัฐมนตรี สำนักงานปลัดกระทรวง และกรม หรือส่วนราชการที่เรียกชื่อ
อย่างอื่น ทั้งนี้ ตามพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 มาตรา 18 ให้จัดระเบียบ
ราชการของกระทรวงดังนี้ (1) สำนักงานรัฐมนตรี (2) สำนักงานปลัดกระทรวง (3) กรม หรือส่วนราชการ
ที่เรียกชื่ออย่างอื่น เว้นแต่บางกระทรวงเห็นว่าไม่มีความจำเป็นจะไม่แยกส่วนราชการตั้งขึ้นเป็นกรมก็ได้
46. เฉลย : ข้อ ข. คณะกรรมการธรรมาภิบาล : ทั้งนี้ ตามมาตรา 55/1
47. เฉลย : ข้อ ง. กระทรวงกลาโหม
48. เฉลย : ข้อ ก. ราชการทหาร
49. เฉลย : ข้อ ข. ข้าราชการพลเรือนสามัญ ทั้งนี้ ตามมาตรา 14
หน้า 165
50. เฉลย : ข้อ ก. หัวหน้าสำนักงานจังหวัด : ทั้งนี้ ตามมาตรา 53 วรรคสอง คณะกรมการจังหวัด

ประกอบด้วย ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนึ่งคนตามที่ผู้ว่าราชการจังหวัด
มอบหมาย ปลัดจังหวัด อัยการจังหวัดซึ่งเป็นหัวหน้าที่ทำการอัยการจังหวัด ผู้บังคับการตำรวจภูธร
จังหวัด และหัวหน้าส่วนราชการประจำจังหวัดจากกระทรวงและทบวงต่างๆ เว้นแต่กระทรวงมหาด ไทย
ซึ่งประจำอยู่ในจังหวัด กระทรวง หรือทบวงละหนึ่งคน เป็นกรมการจังหวัดและหัวหน้าสำนักงานจังหวัด
เป็นกรมการจังหวัดและเลขานุการ
51. เฉลย : ข้อ ค. สำนักนายกรัฐมนตรี
52. เฉลย : ข้อ ก. พระราชบัญญัติ ทั้งนี้ ตามมาตรา 52
53. เฉลย : ข้อ ข. อธิบดีที่กระทรวงแต่งตั้ง
54. เฉลย : ข้อ ก. ผู้ช่วยผู้ว่าราชการจังหวัด
55. เฉลย : ข้อ ก. พระราชบัญญัติ : ทั้งนี้ ตามมาตรา 8 วรรคแรก แห่งพระราชบัญญัติระเบียบ
บริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 กำหนดให้การจัดตั้งกระทรวงทบวงกรมต้องตราเป็นพระราชบัญญัติ
ส่วนกรณีที่มีการรวมหรือโอนกระทรวงทบวงกรมเข้าด้วยกันเป็นส่วนราชการเดียวหรือรวมหรือโอนเพื่อ
จัดตั้งเป็นส่วนราชการใหม่โดยไม่มีการกำหนดตำแหน่งหรืออัตราของข้าราชการหรือลูกจ้างเพิ่มขึ้นนั้นม.
ทวิกำหนดให้ตราเป็นพระราชกฤษฎีกา
56. เฉลย : ข้อ ค. ผู้ว่าราชการจังหวัด : ทั้งนี้ ตามมาตรา 39 เมื่อมีการมอบอำนาจแล้ว ผู้รับมอบ
อำนาจมีหน้าที่ต้องรับมอบอำนาจนั้น โดยผู้มอบอำนาจจะกำหนดให้ผู้รับมอบอำนาจมอบอำนาจให้ผู้ดำรง
ตำแหน่งอื่นปฏิบัติราชการแทนต่อไปโดยจะกำหนดหลักเกณฑ์หรือเงื่อนไขในการใช้อำนาจนั้นไว้ด้วย
หรือไม่ก็ได้ แต่ในกรณีการมอบอำนาจให้ผู้ว่าราชการจังหวัด คณะรัฐมนตรีจะกำหนดหลักเกณฑ์ให้ผู้ ว่า
ราชการจังหวัดต้องมอบอำนาจต่อไปให้รองผู้ว่าราชการจังหวัด ปลัดจังหวัดหรือหัวหน้าส่วนราชการที่
เกี่ยวข้องในจังหวัดก็ได้
57. เฉลย : ข้อ ง. นายอำเภอ : ทั้งนี้ ตามมาตรา 53 วรรคสอง คณะกรมการจังหวัดประกอบด้วย
ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนึ่งคนตามที่ผู้ว่าราชการจังหวัดมอบหมาย ปลัด
จังหวัด อัยการจังหวัดซึ่งเป็นหัวหน้าที่ทำการอัยการจังหวัด ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด และหัวหน้า
ส่วนราชการประจำจังหวัดจากกระทรวงและทบวงต่าง ๆ เว้นแต่กระทรวงมหาดไทยซึ่งประจำอยู่ใน
จังหวัด กระทรวง หรือทบวงละหนึ่งคน เป็น กรมการจังหวัดและหัวหน้าสำนักงานจังหวัดเป็นกรมการ
จังหวัดและเลขานุการ
58. เฉลย : ข้อ ข. นายกรัฐมนตรี ทั้งนี้ ตามพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.
2534 มาตรา 71/9 กำหนดให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการปฏิบัติราชการขึ้นตรงต่อ
นายกรัฐมนตรี
หน้า 166
59. เฉลย : ข้อ ข. พระราชกฤษฎีกา : มาตรา 8 ตรี แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการ

แผ่นดิน พ.ศ. 2534 กำหนดให้การเปลี่ยนชื่อกระทรวงทบวงกรมต้องตราเป็นพระราชกฤษฎีกา
60. เฉลย : ข้อ จ. หัวหน้าสำนักงานจังหวัด ทั้งนี้ตามมาตรา 53 วรรคสอง
61. เฉลย : ข้อ ง. ให้โอนไปเป็นอำนาจและหน้าที่ของนายอำเภอ
62. เฉลย : ข้อ ง. ถูกทั้งข้อ ก. และ ข. ทั้งนี้ ตามมาตรา 31 กำหนดการจัดระเบียบราชการในกรม
เป็น 1. สำนักงานเลขานุการกรม 2. กองหรือส่วนราชการที่มีฐานะเทียบกอง
63. เฉลย : ข้อ ค. เพื่อปฏิบัติงานทางวิชาการ ทั้งนี้ ตามพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการ
แผ่นดิน พ.ศ. 2534 มาตรา 34 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.๒๕๓๔ กำหนด
ว่ากระทรวงทบวงกรมใดมีเหตุพิเศษจะตราพระราชกฤษฎีกาแบ่งท้องที่ออกเป็นเขตเพื่อปฏิบัติงานทาง
วิชาการก็ได้
64. เฉลย : ข้อ ข. หนังสือ
65. เฉลย : ข้อ ข. นายกรัฐมนตรี ทั้งนี้ ตามพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.
2534 มาตรา 71/9 กำหนดให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการปฏิบัติราชการขึ้นตรงต่อ
นายกรัฐมนตรี
66. เฉลย : ข้อ ก. ก.พ.ร. ทั้งนี้ ตามมาตรา 71/10 (8) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการ
แผ่นดินพ.ศ. 2534 กำหนดให้การตีความและวินิจฉัยปัญหาที่เกิดขึ้นจากการใช้บังคับพระราชบัญญัตินี้
เป็นอำนาจของ ก.พ.ร.
67. เฉลย : ข้อ ข. ผู้ช่วยปลัดกระทรวง : ในสำนักนายกรัฐมนตรี กำหนดให้ “และจะให้ผู้ช่วยปลัด
สำนักนายกรัฐมนตรีเป็นผู้ช่วยสั่งและปฏิบัติราชการด้วยก็ได้ ตามมาตรา 16
68. เฉลย : ข้อ ค. คราวละสี่ปี อาจได้ร ับแต่งตั้งอีกได้แต่ไม่เ กิน สองวาระติดต่อกัน ทั้งนี้ ตาม
พระราชบั ญ ญั ต ิ ร ะเบี ย บบริ ห ารราชการแผ่ น ดิ น พ.ศ. 2534 มาตรา 71/3 วรรคหนึ ่ ง กรรมการ
ผู้ทรงคุณวุฒิมีวาระการดำรงตำแหน่งคราวละสี่ปี ผู้ซึ่งพ้นจากตำแหน่งแล้ว อาจได้รับแต่งตั้งอีกได้แต่ไม่
เกินสองวาระติดต่อกัน
69. เฉลย : ข้อ จ. ถูกทุกข้อ ทั้งนี้ ตามพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534
มาตรา 57 (4) ผู้ว่าราชการจังหวัดมีอำนาจและหน้าที่ กำกับดูแลการปฏิบัติราชการอันมิใช่ราชการส่วน
ภู มิภ าคของข้า ราชการซึ่งประจำอยู่ใ นจังหวัดนั้น ยกเว้น ข้า ราชการทหาร ข้า ราชการฝ่า ยตุลาการ
ข้าราชการฝ่ายอัยการ ข้าราชการพลเรือนในมหาวิทยาลัย ข้าราชการในสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินและ
ข้าราชการครู ให้ปฏิบัติราชการให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ หรือคำสั่งของกระทรวง ทบวง
กรม หรือมติข องคณะรั ฐ มนตรี หรือการสั่ง การของนายกรั ฐ มนตรี หรื อ ยั บ ยั ้ งการกระทำใด ๆ ของ
ข้าราชการในจังหวัดที่ขัดต่อกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ หรือคำสั่งของกระทรวง ทบวง กรม มติของ
คณะรัฐมนตรี หรือการสั่งการของนายกรัฐมนตรีไว้ชั่วคราวแล้วรายงานกระทรวง ทบวง กรม ที่เกี่ยวข้อง
หน้า 167
70. เฉลย : ข้อ ข. พระราชกฤษฎีกา มาตรา 8 จัตวา การยุบส่วนราชการตามมาตรา 7 ให้ตราเป็น

พระราชกฤษฎีกา
หน้า 168
เจาะข้อสอบพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์
และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ. 2546
1. พระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ. 2546 มีผลใช้บังคับเมื่อ

ก. 4 ตุลาคม 2546 ข. 10 ตุลาคม 2546 ค. 10 พฤศจิกายน 2546
ง. 19 ตุลาคม 2546 จ. 18 พฤศจิกายน 2546
2. บุคคลใดรักษาการตามพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ.
2546
ก. รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ข. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
ค. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ง. นายกรัฐมนตรี
จ. เลขาธิการ กพร..
3. เครื่องมือสำคัญในการบริหารราชการเพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์ต่อภารกิจของรัฐคือข้อใด
ก. แผนปฏิบัติราชการ ข. แผนนิติบัญญัติ ค. แผนการบริหารราชการแผ่น ดิน
ง. ถูกทั้งข้อ ก. และ ข. จ. ถูกทุกข้อ
4. หน่วยงานหลักซึ่งรับผิดชอบเกี่ยวกับการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการเกี่ยวกับการบริหารกิจการบ้านเมือง
ที่ดีได้แก่
ก. สำนักงานข้าราชการพลเรือน ข. กระทรวงมหาดไทย
ค. สำนักนายกรัฐมนตรี ง. สำนักคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ
5. ข้อใดต่อไปนี้เป็นหลักการทั่วไปของการบริหารราชการแผ่นดินในปัจจุบัน
ก. การบริหารราชการแผ่นดินต้องเป็นไปเพื่อประโยชน์สุขของประชาชน
ข. การบริหารราชการแผ่นดินต้องเกิดผลสัมฤทธิ์ต่อภารกิจของรัฐ
ค. การบริหารราชการแผ่นดินต้องลดขั้นตอนการปฏิบัติงาน การลดภารกิจและยุบเลิกหน่วยงานที่
ไม่จำเป็น
6. พระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ. 2546 ไม่ใช้บังคับกับ
หน่วยงานใดโดยตรง
ก. การไฟฟ้านครหลวง ข. องค์การบริหารส่วนจังหวัด
ค. กระทรวงมหาดไทย ง. ก.พ.ร. จ. ผิดทุกข้อ
หน้า 169
7. การบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดีเป็นการบริหารราชการเพื่อบรรลุเป้าหมายกประการ
ก. 4 ประการ ข. 5 ประการ ค. 6 ประการ
ง. 7 ประการ จ. 9 ประการ
8. การบริหารราชการเพื่อประโยชน์สุขของประชาชน มีการกำหนดภารกิจเพื่อให้บรรลุถึงแนวทางการ
บริหารราชการดังกล่าวตามแนวทางที่ ก.พ.ร. กำหนดอย่างไร
ก. การปฏิบัติภารกิจโดยซื่อสัตย์สุจริต ข. การรับฟังความเห็นก่อนการดำเนินการ
ค. มีการวิเคราะห์ผลดีผลเสีย ง. ถูกทุกข้อ
9. การลดขั้นตอนและระยะเวลาการให้บริการในการบริหารราชการ มีการกำหนดภารกิจเพื่อให้บรรลุถึง
แนวทางการบริหารราชการดังกล่าวตามแนวทางที่ ก.พ.ร. กำหนดอย่างไร
ก. การใช้เทคโนโลยี ข. จัดตั้งศูนย์บริการร่วม
ค. การกระจายอำนาจการตัดสินใจ ง. ถูกทุกข้อ
10. ข้อใดต่อไปนี้ไม่ใช่แนวทางการกำหนดภารกิจการพัฒนาคุณภาพการให้บริการราชการตามแนวทางที่
ก.พ.ร. กำหนด
ก. การกระจายอำนาจการตัดสินใจ ข. การเผยแพร่ขั้นตอนและเวลาดำเนินการ
ค. การปรับปรุงแก้ไข กฎ ระเบียบ ง. การทบทวนกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ
11. การเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับงบประมาณรายจ่ายและการจัดซื้อจัดจ้าง เป็นลักษณะของการบริหาร
กิจการบ้านเมืองที่ดีในเรื่องใด
ค. การอำนวยความสะดวกและการตอบสนองความต้องการของประชาชน
ง. การลดขั้นตอนและระยะเวลาการให้บริการ
12. การบริหารราชการโดยยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง เป็นลักษณะของการบริหารราชการบ้านเมืองที่ดี
ในข้อใด
ก. การบริหารราชการเพื่อให้เกิดประโยชน์สุขของประชาชน
หน้า 170
13. การรับฟังความเห็น และความพึงพอใจของสังคมโดยรวมและประชาชนผู้รับบริการเพื่อปรับปรุงหรือ

เสนอแนะต่อผู้บังคับบัญชาเพื่อให้มีการปรับปรุงวิธีปฏิบัติราชการให้เหมาะสม เป็นลักษณะของการบริหาร
ข. การลดขั้นตอนและระยะเวลาการให้บริการ
ง. การบริหารราชการแผ่นดินต้องเกิดผลสัมฤทธิ์ต่อภารกิจของรัฐ
14. การบริหารราชการแบบบูรณาการ เป็นการบริหารบ้านเมืองที่ดีในเรื่องใด
ก. การลดขั้นตอนและระยะเวลาการให้บริการ
ข. การบริหารราชการเพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์ต่อภารกิจของรัฐ
ง. การบริหารราชการแผ่นดินต้องเป็นไปเพื่อประโยชน์สุขของประชาชน
15. แผนการบริหารราชการแผ่นดินต้องเสนอคณะรัฐมนตรีภายในกำหนดระยะเวลากี่วันนับแต่วันที่
คณะรัฐมนตรีแถลงนโยบายต่อรัฐสภา
ก. 30 วัน ข. 45 วัน ค. 60 วัน ง. 90 วัน จ. 180 วัน
16. หน่วยงานใดที่มีหน้าที่จัดทำแผนการบริหารราชการแผ่นดิน
ก. สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีและสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี
ข. สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ค. สำนักงบประมาณ
ง. ถูกเฉพาะข้อ ข. และ ค.
17. แผนการบริหารราชการแผ่นดิน เป็นแผนที่กำหนดระยะเวลาเท่าไร
ก. แผนประจำปี ข. แผนสามปี ค. แผนสี่ปี
ง. แผนห้าปี จ. แผนแปดปี
18. แผนนิติบัญญัติ เป็นลักษณะของการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดีในเรื่องใด
ข. การบริหารราชการเพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์ต่อภารกิจของรัฐ
หน้า 171
19. หน่วยงานใดมีหน้าที่จัดทำแผนนิติบัญญัติ
ก. สำนักเลขาธิการนายรัฐมนตรี และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ข. สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ค. สำนักงานเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี
20. แผนปฏิบัติราชการ เป็นลักษณะการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดีในเรื่องใด
21. แผนปฏิบัติราชการ เป็นแผนที่กำหนดระยะเวลาเท่าไร
ก. แผนประจำปี ข. แผนสามปี ค. แผนสี่ปี
ง. แผนห้าปี จ. แผนแปดปี
22. เมื่อมีการกำหนดงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามแผนปฏิบัติราชการของส่วนราชการแล้ว การโอน
งบประมาณจากภารกิจหนึ่งตามที่กำหนดในแผนปฏิบัติราชการไปดำเนินการอย่างอื่น ซึ่งมีผลทำให้ภารกิจ
เดิมไม่บรรลุเป้าหมายหรือนำไปใช้ในภารกิจใหม่ที่มิได้กำหนดในแผนปฏิบัติราชการจะกระทำได้ต่อเมื่อ
ได้รับอนุมัติจากผู้ใด
ก. รัฐมนตรีกระทรวงการคลัง ข. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเจ้าสังกัด
ค. นายกรัฐมนตรี ง. คณะรัฐมนตรี
23. ส่วนราชการต้องจัดทำแผนการลดรายจ่ายต่อหน่วยงานของสาธารณะ เสนอหน่วยงานใด
ก. สำนักงบประมาณ ข. กรมบัญชีกลาง ค. ก.พ.ร.
24. หน่วยงานใดเป็นผู้ประเมินความคุ้มค่าในการปฏิบัติภารกิจ
ก. สำนักงบประมาณร่วมกับ ก.พ.ร.
ข. สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติร่วมกับสำนักงบประมาณ
ค. คณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติร่วมกับก.พ.ร
ง. กรมบัญชีกลางร่วมกับสำนักงบประมาณ
หน้า 172
25. การปฏิบัติภารกิจใด หากส่วนราชการจำเป็นต้องได้รับอนุญาต อนุมัติ หรือขอความเห็นชอบจากส่วน

ราชการอื่นส่วนราชการที่มีอำนาจอนุญาต อนุมัติ หรือให้ความเห็นชอบดังกล่าวแจ้งผลการพิจารณาให้
ส่วนราชการที่ยื่นคำขอทราบภายในระยะเวลาเท่าไรนับแต่วันที่ได้รับคำขอ
26. ในกรณีที่เห็นว่าการร้องเรียนหรือเสนอแนะการปฏิบัติ ราชการเกิดจากความเข้าใจผิดหรือความไม่
เข้าใจกฎ ระเบียบ ข้อบังคับ หรือประกาศ ให้ชี้แจ้งผู้เรียกร้องหรือเสนอแนะให้ทราบภายในระยะเวลา
เท่าไร
ก. 7 วัน ข. 15 วัน ค. 30วัน ง. 45 วัน จ. 90 วัน
27. การบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดีได้แก่ การบริหารราชการเพื่อบรรลุเป้าหมายดังต่อไปนี้ ยกเว้นข้อใด
ก. มีประสิทธิภาพและเกิดความคุ้มค่าในเชิงภารกิจของรัฐ
ข. ไม่มีขั้นตอนการปฏิบัติงานเกินความจำเป็น
ค. ส่วนราชการมีความทันสมัยและรักษาไว้ซึ่งความมั่นคงของประเทศ
ง. มีประเมินผลการปฏิบัติราชการอย่างสม่ำเสมอ
28. แผนการบริหารราชการแผ่นดินไม่ผูกพันกับองค์กรใดต่อไปนี้
ก. คณะรัฐมนตรี ข. รัฐมนตรี ค. กรุงเทพมหานคร
29. ข้อใดไม่ใช่ส่วนราชการตามพระราชกฤษฎีกา ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี
พ.ศ. 2556
ก. กระทรวง ข. จังหวัด ค. องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ง. หน่วยงานอื่นของรัฐที่อยู่ในกำกับของฝ่ายบริหาร จ. ไม่มีข้อใดถูก
30. ข้อใดมิใช่แนวทางการบริหารราชการเพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์ต่อภารกิจของรัฐ
ก. การจัดทำแผนปฏิบัติราชการไว้เพื่อเป็นการล่วงหน้า
ข. การปฏิบัติราชการแบบบูรณาการร่วมกัน
ค. การพัฒนาส่วนราชการให้เป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้
ง. การบริหารราชการโดยยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง
31. ข้อใดต่อไปนี้มิใช่หน่วยงานที่มีหน้าที่ร่วมกันจัดทำแผนบริหารราชการแผ่นดินเสนอต่อคณะรัฐมนตรี
ภายใน 90 วันนับแต่วันแถลงนโยบายต่อรัฐสภา
ก. สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี
ข. สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี
ค. สำนักงาน ก.พ.ร.
หน้า 173
ง. สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
32. การจัดทำบัญชีต้นทุนในการบริการสาธารณะ ต้องจัดทำตามหลักเกณฑ์หรือหน่วยงานใด
ก. สำนักงบประมาณ ข. สำนักงาน ก.พ.ร. ค. กระทรวงการคลัง
ง. กรมบัญชีกลาง จ. ถูกทุกข้อ
33. เมื่อส่วนราชการคำนวณรายจ่ายต่อหน่วยของงานบริการสาธารณะที่มีอยู่ในความรับผิดชอบของส่วน
ราชการแล้วเสร็จต้องรายงานให้หน่วยงานใดทราบ
ก. สำนักงบประมาณ ข. สำนักงาน ก.พ.ร. ค. กรมบัญชีกลาง
34. การจัดซื้อจัดจ้างในกรณีใดสามารถกระทำได้ โดยไม่ต้องถือราคาต่ำสุด
ก. การจัดซื้อจัดจ้างเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์
ข. การจัดซื้อจัดจ้างนวัตกรรมใหม่ที่มีผู้ผลิตน้อยราย
ค. การจัดซื้อจัดจ้างสินค้าตามบัญชีมาตรฐานอุตสาหกรรม
ง. การจัดซื้อจัดจ้างที่มีวัตถุประสงค์ในการใช้ที่ต้องคำนึงถึงคุณภาพและการดูแลรักษาเป็นสำคัญ
35. ข้อใดมิใ ช่หลักในการวิน ิจฉัยปัญหาของส่วนราชการในรูปแบบของคณะกรรมการตามพระราช
กฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ. 2546
ก. การตั้งคณะกรรมการวินิจฉัยปัญหาให้ดำเนินการถ้าหัวหน้าส่วนราชการเห็นว่าเป็นการสมควร
ข. เมื่อคณะกรรมการมีมติเป็นประการใดแล้วให้มติของคณะกรรมการผูกพันส่วนราชการ ซึ่งมี
ผู้แทนร่วมเป็นกรรมการอยู่ด้วยแม้ว่าผู้แทนส่วนราชการที่เป็นกรรมการจะมิได้เข้าร่วมการพิจารณา
วินิจฉัยด้วยก็ตาม
ค. มติของคณะกรรมการผูกพันกับส่วนราชการที่มีตัวแทนเป็นกรรมการ ยกเว้นการวินิจฉัยใน
ปัญหาด้านกฎหมาย
ง. ถ้ามีความเห็นแตกต่างกันสองฝ่ายให้บันทึกเหตุผลกรรมการฝ่ายข้างน้อยไว้ให้ปรากฏในเรื่อง
นั้นด้วย
36. การปฏิบัติงานด้านใดที่ส่วนราชการจะต้องจัดทำแผนภูมิขั้นตอนและระยะเวลาการดำเนินการเปิดเผย
ไว้ ณ ที่ทำการของส่วนราชการนั้น
ก. ด้านการบริการประชาชน ข. ด้านการติดต่อประสานงานระหว่างส่วนราชการด้วยกัน
ค. ด้านการจัดซื้อจัดจ้าง ง. ถูกทั้งข้อ ก และ ข
หน้า 174
37. การจัดตั้งศูนย์บริการร่วมกัน เป็นหน้าที่ของใคร

ก. หัวหน้าส่วนราชการ
ข. ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ ปลัดอำเภอผู้เป็นหัวหน้ากิ่งอำเภอ
ค. ปลัดกระทรวง
ง. ถูกทั้งข้อ ข และ ค
38. กรณีส่วนราชการกำหนดระยะเวลาแล้วเสร็จของงานล่าช้าเกินสมควร การกำหนดเวลาแล้วเสร็จของ
งานเพื่อให้ส่วนราชการถือปฏิบัติ เป็นหน้าที่ของใคร
ก. นายกรัฐมนตรี ข. ก.พ.ร. ค. รัฐมนตรี
ง. คณะรัฐมนตรี จ. ไม่มีข้อใดถูก
39. ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจัดทำหลักเกณฑ์การบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี อย่างน้อยต้องมี
หลักเกณฑ์เกี่ยวกับ
ก. การบริหารราชการอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดความคุ้มค่าในเชิงภารกิจแห่งรัฐ
ข. การลดขั้นตอนการปฏิบัติงาน
ค. การอำนวยความสะดวกและตอบสนองความต้องการของประชาชน
ง. ถูกทั้งข้อ ข และ ค
40. เงินเพิ่มพิเศษเป็นบำเหน็จความชอบแก่ส่วนราชการได้มาโดยวิธีการใด
ก. ส่วนราชการให้บริการแก่ประชาชนอย่างมีคุณภาพ
ข. ส่วนราชการให้บริการแก่ประชาชนเป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนด
ค. การบริการของส่วนราชการเป็นที่พึงพอใจแก่ประชาชน
41. พระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ. 2546 มีกี่หมวด กี่
มาตรา
ก. 9 หมวด 53 มาตรา ข. 8 หมวด 52 มาตรา ค. 9 หมวด 54 มาตรา
ง. 8 หมวด 54 มาตรา จ. ไม่มีข้อใดถูก
42. การบริหารราชการอย่างมีประสิทธิภาพมีการกำหนดภารกิจเพื่อให้บรรลุถึงแนวทางการบริ หาร
ราชการดังกล่าวตามแนวทางที่ ก.พ.ร. กำหนดอย่างไร
ก. การรับผิดชอบในการวินิจฉัยปัญหา ข. มีการกำหนดเป้าหมายแผนการทำงาน
ค. การสั่งราชการด้วยวาจาเป็นข้อยกเว้น ง. ถูกทุกข้อ
จ. ไม่มีขอ้ ใดถูก
หน้า 175
43. การบริหารราชการการอำนวยความสะดวกและการตอบสนองความต้องการของประชาชน มีการ

กำหนดภารกิจในการดำเนินการเพื่อให้บรรลุแนวทางการบริหารราชการดังกล่าวอย่างไร
ก. การกำหนดระยะเวลาการปฏิบัติราชการ การชี้แจงและตอบคำถามของประชาชน
ข. การจัดทำระบบเครือข่ายสารสนเทศ การตอบข้อเรียกร้องข้อเสนอแนะความคิดเห็นเกี่ยวกับวิธี
ปฏิบัติราชการ
ค. การเปิดเผยข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับวิธีการปฏิบัติราชการ
44. การศึกษาวิเคราะห์ผลดีและผลเสียในการบริหารราชการเป็นลักษณะของการบริหารกิ จการบ้านเมือง
ที่ดีในข้อใด
45. การสั่งราชการโดยปกติให้กระทำเป็น ลายลักษณ์อักษร การสั่งการด้วยวาจาเป็น ข้อยกเว้น เป็น
ลักษณะของการบริการกิจการบ้านเมืองที่ดีในเรื่องใด
ง. การบริหารราชการอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดความคุ้มค่า
46. ข้อใดต่อไปนี้เป็นเรื่องที่ส่วนราชการจัดให้มีการพัฒนาความรู้ในส่วนราชการเพื่อให้เป็นองค์ก รแห่ง
การเรียนรู้
ก. การรับรู้ข้อมูลข่าวสารและสามารถประมวลความรู้ในด้านต่างๆ เพื่อนำไปประยุกต์ใช้ในการ
ปฏิบัติราชการได้อย่างถูกต้อง รวดเร็วและเหมาะสมกับสถานการณ์
ข. ส่งเสริมและพัฒนาความรู้ความสามารถ สร้างวิสัยทัศน์และปรับเปลี่ยนทัศนคติของข้าราชการ
ในสังกัดให้เป็นบุคคลากรที่มีประสิทธิภาพและมีการเรียนรู้ร่วมกัน
ค. เพื่อให้การปฏิบัติราชการของส่วนราชการสอดคล้องกับการบริหารราชการให้เกิดผลสัมฤทธิ์
หน้า 176
47. การกำหนดเป้าหมาย แผนการทำงาน ระยะเวลาแล้วเสร็จของงานหรือโครงการและงบประมาณที่

จะต้องใช้เป็นลักษณะของการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดีในเรื่องใด
ง. การบริหารราชการอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดความคุ้มค่าในเชิงภารกิจของรัฐ
48. การวัดต้นทุนต่อหน่วย เป็นลักษณะของการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดีในเรื่องใด
ก. การบริหารราชการแผ่นดินต้องเกิดผลสัมฤทธิ์ต่อภารกิจของรัฐ
ข. การบริหารราชการอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดความคุ้มค่าในเชิงภารกิจของรัฐ
ค. การบริหารราชการแผ่นดินต้องเป็นไปเพื่อประโยชน์สุขของประชาชน
ง. การอำนวยความสะดวกและการตอบสนองความต้องการของประชาชน
49. การประเมินความคุ้มค่าในการปฏิบัติภารกิจเป็นลักษณะของการบริหารบ้านเมืองที่ดีในเรื่องใด
ข. การบริหารราชการอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดความคุ้มค่าในเชิงภารกิจของรัฐ
ค. การบริหารราชการแผ่นดินต้องเกิดผลสัมฤทธิ์ต่อภารกิจของรัฐ
ง. การอำนวยความสะดวกและการตอบสนองความต้องการของประชาชน
50. การทบทวนกฎหมาย ระเบียบ เป็นลักษณะของการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดีในเรื่องใด
ก. การอำนวยความสะดวกและการตอบสนองความต้องการของประชาชน
ข. การบริหารราชการอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดความคุ้มค่า
ง. การปรับปรุงภารกิจของส่วนราชการ
51. การจัดระบบเครือข่ายสารสนเทศ เป็นลักษณะของการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดีในเรื่องใด
52. การเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับงบประมาณรายจ่ายและการจัดซื้อ เป็นลักษณะของการบริหารกิจ การ
บ้านเมืองที่ดีในเรื่องใด
หน้า 177
53. การกระจายอำนาจการตัดสินใจและการใช้เทคโนโลยีเป็นลักษณะของการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี
ในเรื่องใด
ก. การบริหารราชการแผ่นดินต้องเกิดผลสัมฤทธิ์ต่อภารกิจของรัฐ
ข. การลดขั้นตอนการปฏิบัติงาน
54. การรับผิดชอบในการวินิจฉัยชี้ขาดปัญหาและการตั้งคณะกรรมการ เป็นลักษณะของการบริหาร
ก. การลดขั้นตอนการปฏิบัติงาน
ข. การบริหารราชการเพื่อให้เกิดประโยชน์สุขของประชาชน
55. การจัดทำความตกลงในการปฏิบัติราชการ เป็นลักษณะของการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดีในเรื่องใด
ข. การลดขั้นตอนและระยะเวลาการให้บริการ
56. การจัดซื้อจัดจ้างอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นลักษณะของการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดีในเรื่องใด
ก. การการลดขั้นตอนการปฏิบัติงาน
ข. การบริหารราชการเพื่อให้เกิดประโยชน์สุขแก่ประชาชน
57. การแจ้งผลการพิจารณาระหว่างส่วนราชการเป็นลักษณะของการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดีในเรื่อง
ใด
ข. การบริหารราชการเพื่อให้เกิดประโยชน์สุขแก่ประชาชน
หน้า 178
58. เครื่องมือสำคัญในการบริหารราชการเพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์ต่อภารกิจของรัฐคือข้อใด
ก. แผนปฏิบัติงาน ข. แผนปฏิบัติราชการ
ค. แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม ง. ไม่มีข้อใดถูก
59. Performance agreement หมายถึงข้อใด
ก. ข้อตกลงว่าด้วยผลงาน ข. บันทึกความตกลง
ค. ข้อตกลงว่าด้วยลักษณะงาน ง. ถูกทุกข้อ
60. ในแต่ละปีงบประมาณ ส่วนราชการต้องจัดทำแผนใดเพื่อให้สำนักงบประมาณใช้เป็นกรอบในการ
พิจารณาจัดสรรงบประมาณ
ก. แผนปฏิบัติราชการ ข. แผนปฏิบัติราชการประจำปี
ค. แผนกงบประมาณรายจ่าย ง. ผิดทุกข้อ
61. การกำหนดหลักเกณฑ์หรือเงื่อนไขต่างๆ ตามพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหาร
กิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ. 2546 เพื่อให้ส่วนราชการปฏิบัติต้องดำเนินการตามข้อใดจึงจะถูกต้องที่สุด
ก. พระราชกฤษฎีกา ข. ก.พ.ร. เสนอต่อคณะรัฐมนตรี
ค. ประกาศกระทรวง ง. ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี
62. ข้อใดไม่ใช่เป้าหมายของการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี
ก. เกิดประโยชน์สุขของประชาชน
ข. เกิดผลสัมฤทธิ์ต่อภารกิจของรัฐ
ค. เกิดการตรวจสอบที่มีประสิทธิภาพ
ง. มีประสิทธิภาพและเกิดความคุ้มค่าในเชิงภารกิจของรัฐ
63. ข้อใดคือความหมายของการบริหารราชการเพื่อประโยชน์สุขของประชาชน
ก. เพื่อให้เกิดความผาสุกและความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชน
ข. เพื่อให้เกิดความสงบและปลอดภัยของสังคมส่วนรวม
ค. เพื่อประโยชน์สูงสุดของประเทศ
64. ข้อใดเป็นผลสืบเนื่องอันเกิดขึ้นมาจากการทำความตกลงในการปฏิบัติราชการ
ก. เป็นข้อมูลประเมินศักยภาพของผู้ดำรงตำแหน่ง
ข. เป็นมาตรฐานในการกำกับการปฏิบัติราชการ
ค. เป็นหลักประกันการปฏิบัติงานตามแผน
หน้า 179
65. ข้อใดเป็นสาระสำคัญที่กำหนดให้ต้องมีในแผนปฏิบัติราชการประจำปีของส่วนราชการ
ก. ประมาณการรายได้และรายจ่ายและทรัพยากรที่จะต้องใช้
ข. นโยบายการปฏิบัติราชการของส่วนราชการ
ค. เป้าหมายและผลสัมฤทธิ์ของงาน
66. ข้อใดไม่ได้เป็นเงื่อนไขให้ ส่วนราชการต้องกำหนด ในการดำเนินการเพื่อให้การปฏิบัติราชการภายใน
ส่วนราชการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
ก. เป้าหมาย แผนการทำงาน
ข. ผู้รับผิดชอบในการดำเนินงาน
ค. ระยะเวลาแล้วเสร็จของงานหรือโครงการ
ง. งบประมาณที่จะต้องใช้ในแต่ละงานหรือโครงการ
67. หน่วยงานตามข้อใดเป็นหน่วยงานที่มีหน้าที่ประเมินความคุ้มค่าในการปฏิบัติภารกิจของรัฐที่ส่วน
ราชการดำเนินการอยู่เพื่อรายงานคณะรัฐมนตรี
ก. สำนักงบประมาณ ข. สำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ค. กรมบัญชีกลาง ง. ถูกทั้งข้อ ก และ ข
68. หน่วยงานตามข้อใดมีหน้ าที่เสนอแนะต่อส่วนราชการเพื่อดำเนินการแก้ไข ปรับปรุง หรือยกเลิก
กฎหมายระเบียบ หรือข้อบังคับ ของส่วนราชการที่ใช้อยู่
ก. สำนักงานอัยการสูงสุด ข. สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ค. สำนักงานคณะกรรมการตุลาการ ง. สำนักงาน ก.พ.ร.
จ. ข้อ ข. และ ง. ร่วมกัน
69. กรณีที่ส่วนราชการได้รับการสอบถามจากประชาชนเกี่ยวกับงานที่อยู่ในหน้าที่ เป็นหน้าที่ของส่วน
ราชการนั้นต้องตอบหรือแจ้งการดำเนินการให้ทราบภายในกี่วัน
70. การปรับปรุงแผนปฏิบัติราชการของส่วนราชการกระทำได้ในกรณีตามข้อใด
ก. ภารกิจที่อาจดำเนินการไม่อาจบรรลุวัตถุประสงค์
ข. การดำเนินการตามภารกิจเสียค่าใช้จ่ายเกินความจำเป็น
ค. ภารกิจที่จะดำเนินการหมดความจำเป็นหรือไม่เกิดประโยชน์
หน้า 180
เฉลยเจาะข้อสอบพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์
และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ. 2546
1. เฉลย : ข้อ ข. 10 ตุลาคม 2546 ทั้งนี้ ตามมาตรา 2 พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัด

จากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป (ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 120 ตอนที่ 100ก
วันที่ 9 ตุลาคม 2546)
2. เฉลย : ข้อ ง. นายกรัฐมนตรี ทั้งนี้ ตามมาตรา 5 ให้นายกรัฐมนตรีรักษาการตามพระราชกฤษฎีกา
นี้
3. เฉลย : ข้อ ก. แผนปฏิบัติราชการ ทั้งนี้ ตามมาตรา 9 กำหนดให้การบริหารราชการเพื่อให้เกิดผล
สัมฤทธิ์ต่อภารกิจของรัฐให้ส่วนราชการปฏิบัติดังต่อไปนี้
(1) ก่อนจะดำเนินการตามภารกิจใดส่วนราชการต้องจัดทำแผนปฏิบัติราชการไว้เป็นการล่วงหน้า
(2) การกำหนดแผนปฏิบัติราชการของส่วนราชการตาม (1) ต้องมีรายละเอียดของขั้นตอนระยะเวลา
และงบประมาณที่จะต้องใช้ในการดำเนินการของแต่ละขั้นตอนเป้าหมายของภารกิจผลสัมฤทธิ์ของภารกิจ
และตัวชี้วัดความสำเร็จของภารกิจ
(3) ส่วนราชการต้องจัดให้มีการติดตามและประเมินผลการปฏิบัต ิตามแผนปฏิบัต ิร าชการตาม
หลักเกณฑ์และวิธีการที่ส่วนราชการกำหนดขึ้นซึ่งต้องสอดคล้องกับมาตรฐานที่ ก.พ.ร. กำหนด
(4) ในกรณีที่การปฏิบัติภารกิจหรือการปฏิบัติตามแผนปฏิบัติราชการเกิด ผลกระทบต่อประชาชนให้
เป็นหน้าที่ของส่วนราชการที่จะต้องดำเนินการแก้ไขหรือบรรเทาผลกระทบนั้นหรือเปลี่ยนแผนปฏิบัติ
ราชการให้เหมาะสม
4. เฉลย : ข้อ ง. สำนักคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.)
5. เฉลย : ข้อ ง. ถูกทุกข้อ
6. เฉลย : ข้อ ข. องค์การบริหารส่วนจังหวัด ทั้งนี้ ตามมาตรา 4กำหนดให้ในพระราชกฤษฎีกานี้
“ส่วนราชการ” หมายความว่าส่วนราชการตามกฎหมายว่าด้วยการปรับปรุงกระทรวงทบวงกรมและ
หน่วยงานอื่นของรัฐที่อยู่ในกำกับของราชการฝ่ายบริหารแต่ไม่รวมถึงองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
7. เฉลย : ข้อ ง. 7 ประการ ทั้งนี้ ตามมาตรา 6
8. เฉลย : ข้อ ง. ถูกทุกข้อ ทั้งนี้ ตามมาตรา 8
9. เฉลย : ข้อ ง. ถูกทุกข้อ ทั้งนี้ ตามหมวดที่ 5 มาตรา 27-32
10. เฉลย : ข้อ ก. การกระจายอำนาจการตัดสินใจ ทั้งนี้ ข้อดังกล่าวกำหนดในหมวด 5 เป็นเรื่องการ
ลดขั้นตอนและระยะเวลาการให้บริการในการบริหารราชการ
หน้า 181
11. เฉลย : ข้อ ค. การอำนวยความสะดวกและการตอบสนองความต้องการของประชาชน ทั้งนี้

ตามมาตรา 44 กำหนดให้ส่วนราชการต้องจัดให้มีการเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับงบประมาณรายจ่ายแต่ละปี
รายการเกี่ยวกับการจัดซื้อหรือจัดจ้างที่จะดำเนินการในปีงบประมาณนั้นและสัญญาใดๆที่ได้มีการอนุมัติ
ให้จัดซื้อหรือจัดจ้างแล้วให้ประชาชนสามารถขอดูหรือตรวจสอบได้ ณสถานที่ทำการของส่วนราชการและ
ระบบเครือข่ายสารสนเทศของส่วนราชการทั้งนี้การเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวต้องไม่ก่อให้เกิดความได้เปรียบ
หรือเสียเปรียบหรือความเสียหายแก่บุคคลใดในการจัดซื้อหรือจัดจ้างในการจัดทำสัญญาจัดซื้อหรือจัดจ้าง
ห้ามมิให้มีข้อความหรือข้อตกลงห้ามมิให้เปิดเผยข้อความหรือข้อตกลงในสัญญาดังกล่าวเว้นแต่ข้อมูล
ดังกล่าวเป็นข้อมูลที่อยู่ภายใต้บังคับกฎหมายกฎระเบียบหรือข้อบังคับที่เกี่ยวกับการคุ้มครองความลับทาง
ราชการหรือในส่วนที่เป็นความลับทางการค้า
12. เฉลย : ข้อ ก. การบริหารราชการเพื่อให้เกิดประโยชน์สุขของประชาชน หมวดที่ 2 การบริหาร
ราชการเพื่อให้เกิดประโยชน์สุขของประชาชน มาตรา 8 กำหนดให้ในการบริหารราชการเพื่อประโยชน์สุข
ของประชาชนส่วนราชการจะต้องดำเนินการโดยถือว่าประชาชนเป็นศูนย์กลางที่จะได้รับการบริก ารจาก
รัฐ
13. เฉลย : ข้อ ก. การบริหารราชการเพื่อให้เกิดประโยชน์สุขของประชาชนทั้งนี้ ตามหมวดที่ยการ
บริหารราชการเพื่อให้เกิดประโยชน์สุขของประชาชนมาตรา4ในการบริหารราชการเพื่อประโยชน์สุขของ
ประชาชนส่วนราชการจะต้องดำเนินการโดยถือว่าประชาชนเป็นศูนย์กลางที่จะได้รับการบริการจากรัฐ
และจะต้องมีแนวทางการบริหารราชการดังต่อไปนี้
(4) ให้เป็นหน้าที่ของข้าราชการที่จะต้องคอยรับฟังความคิดเห็นและความพึงพอใจของสังคมโดยรวม
และประชาชนผู้รับบริการเพื่อปรับปรุงหรือเสนอแนะต่อผู้บังคับบัญชาเพื่อให้มีการปรับปรุงวิธีปฏิบัติ
ราชการให้เหมาะสม
14. เฉลย : ข้อ ข. การบริหารราชการเพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์ต่อภารกิจของรัฐทั้งนี้ ตามหมวดที่ตการบ
ริหารราชการเพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์ต่อภารกิจของรัฐ มาตรา 10 กำหนดให้ในกรณีที่ภารกิจใดมีค วาม
เกี่ยวข้องกับหลายส่วนราชการหรือเป็นภารกิจที่ใกล้เคียงหรือต่อเนื่องกันให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องนั้น
กำหนดแนวทางการปฏิบัติราชการเพื่อให้เกิดการบริหารราชการแบบบูรณาการร่วมกันโดยมุ่งให้เกิดผล
สัมฤทธิ์ต่อภารกิจของรัฐให้ส่วนราชการมีหน้าที่สนับสนุนการปฏิบัติราชการของผู้ว่าราชการจังหวัดหรือ
หัวหน้าคณะผู้แทนในต่างประเทศเพื่อให้การบริหารราชการแบบบูรณาการในจังหวัดหรือในต่างประเทศ
แล้วแต่กรณีสามารถใช้อำนาจตามกฎหมายได้ครบถ้วนตามความจำเป็นและบริหารราชการได้อย่า งมี
ประสิทธิภาพ
15. เฉลย : ข้อ ง. 90 วัน ทั้งนี้ ตามมาตรา 13 วรรคสอง กำหนดให้เมื่อคณะรัฐมนตรีได้แ ถลง
นโยบายต่อ รั ฐ สภาแล้ วให้ สำนัก เลขาธิ การคณะรั ฐ มนตรี สำนัก เลขาธิ การนายกรั ฐ มนตรีส ำนั ก งาน
คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและสำนักงบประมาณร่วมกันจัดทำแผนการบริหาร
หน้า 182
ราชการแผ่นดินเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาภายในเก้าสิบวันนับแต่วันที่คณะรัฐมนตรีแถลงนโยบายต่อ
รัฐสภา
16. เฉลย : ข้อ ง. ถูกทุกข้อ ทั้งนี้ ตามมาตรา 13 วรรคสอง กำหนดให้เมื่อคณะรัฐมนตรีได้แถลง
นโยบายต่อ รั ฐ สภาแล้ วให้ ส ำนัก เลขาธิ การคณะรั ฐ มนตรี สำนัก เลขาธิ การนายกรั ฐ มนตรีส ำนั ก งาน
รัฐสภา
17. เฉลย : ข้อ ค. แผนสี่ปี ทั้งนี้ ตามมาตรา 14 กำหนดให้ในการจัดทำแผนการบริหารราชการ
แผ่นดินตามมาตรา 13 ให้จัดทำเป็นแผนสี่ปีโดยนำนโยบายของรัฐบาลที่แถลงต่อรัฐสภามาพิจารณา
ดำเนินการให้สอดคล้องกับแนวนโยบายพื้นฐานแห่งรัฐตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักร
ไทยและแผนพัฒนาประเทศด้านต่างๆที่ เกี่ยวข้องทั้งนี้อย่างน้อยจะต้องมีสาระสำคัญเกี่ยวกับการกำหนด
เป้าหมายและผลสัมฤทธิ์ของงานส่วนราชการหรือบุคคลที่จะรับผิดชอบในแต่ละภารกิจประมาณการ
รายได้และรายจ่ายและทรัพยากรต่างๆ ที่จะต้องใช้ระยะเวลาการดำเนินการและการติดตามประเมินผล
18. เฉลย : ข้อ ข. การบริหารราชการเพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์ต่อภารกิจของรัฐ ทั้งนี้ ตามหมวดที่ 3
การบริหารราชการเพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์ต่อภารกิจของรัฐ มาตราด้กำหนดให้เมื่อมีการประกาศใช้บังคับ
แผนการบริ ห ารราชการแผ่ น ดิ น แล้ ว ให้ ส ำนั ก งานคณะกรรมการกฤษฎี ก าและสำนั ก เลขาธิ ก าร
นายกรัฐมนตรีร่วมกันพิจารณาจัดทำแผนนิติบัญญัติโดยมีรายละเอียดเกี่ยวกับกฎหมายที่จะต้องจัดให้มีขึ้น
ใหม่หรือกฎหมายที่ต้องมีการแก้ไขเพิ่มเติมหรือยกเลิกให้สอดคล้องกับแผนการบริหารราชการแผ่นดินส่วน
ราชการผู้รับผิดชอบและระยะเวลาที่ต้องดำเนินการแผนนิติบัญญัตินั้นเมื่อคณะรัฐมนตรีเห็นชอบตามที่
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาและสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอแล้วให้มีผลผูกพันส่วนราชการ
ที่เกี่ยวข้องที่จะต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามนั้นในกรณีที่เห็นสมควรสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาอาจ
เสนอต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อกำหนดหลักเกณฑ์การจัดทำแผนนิติบัญญัติเพื่อให้เกิดความร่วมมื อในการ
ปฏิบัติงานก็ได้
19. เฉลย : ข้อ ก. สำนักเลขาธิการนายรัฐมนตรี และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ทั้งนี้ ตาม
หมวดที่ 3 การบริหารราชการเพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์ต่อภารกิจของรัฐ มาตรา 15 วรรคหนึ่ง กำหนดให้เมื่อ
มีการประกาศใช้บังคับแผนการบริหารราชการแผ่นดินแล้วให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาและสำนัก
เลขาธิการนายกรัฐมนตรีร่วมกันพิจารณาจัดทำแผนนิติบัญญัติโดยมีรายละเอียดเกี่ยวกับกฎหมายที่จะต้อง
จัดให้มีขึ้นใหม่หรือกฎหมายที่ต้องมีการแก้ไขเพิ่มเติมหรือยกเลิกให้สอดคล้องกับแผนการบริหารราชการ
แผ่นดินส่วนราชการผู้รับผิดชอบและระยะเวลาที่ต้องดำเนินการ
20. เฉลย : ข้อ ข. การบริหารราชการแผ่นดินต้องเกิดผลสัมฤทธิ์ต่อภารกิจของรัฐ ทั้งนี้ ตามหมวดที่
3 การบริหารราชการเพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์ต่อภารกิจของรัฐมาตรา 16 กำหนดให้ส่วนราชการจัดทำ
หน้า 183
แผนปฏิบัติราชการของส่วนราชการนั้นโดยจัดทำเป็นแผนสี่ปีซึ่งจะต้องสอดคล้องกับแผนการบริหาร
ราชการแผ่นดินตามมาตรา 13 ในแต่ละปีงบประมาณให้ส่วนราชการจัดทำแผนปฏิบัติราชการประจำปี
โดยให้ระบุสาระสำคัญเกี่ยวกับนโยบายการปฏิบัติราชการของส่วนราชการเป้าหมายและผลสัมฤทธิ์ของ
งานรวมทั้งประมาณการรายได้และรายจ่ายและทรัพยากรอื่นที่จะต้องใช้เสนอต่อรัฐมนตรีเพื่อให้ความ
เห็นชอบเมื่อรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบแผนปฏิบัติราชการของส่วนราชการใดตามวรรคสองแล้วให้สำนัก
งบประมาณดำเนินการจัดสรรงบประมาณเพื่อปฏิบัติงานให้บรรลุผลสำเร็จในแต่ละภารกิจตามแผนปฏิบัติ
ราชการดังกล่าวในกรณีที่ส่วนราชการมิได้เสนอแผนปฏิบัติราชการในภารกิจใดหรือภารกิจใดไม่ได้รับ
ความเห็ น ชอบจากรั ฐ มนตรี ม ิ ใ ห้ ส ำนั ก งบประมาณจั ด สรรงบประมาณสำหรั บ ภารกิ จ นั ้ น เมื ่ อ สิ้ น
ปีงบประมาณให้ส่วนราชการจัดทำรายงานแสดงผลสัมฤทธิ์ของแผนปฏิบัติราชการประจำปีเสนอต่อ
คณะรัฐมนตรี
21. เฉลย : ข้อ ค. แผนสี่ปี ทั้งนี้ ตามมาตรา 16 วรรคหนึ่ง กำหนดให้ส่วนราชการจัดทำแผนปฏิบัติ
ราชการของส่วนราชการนั้นโดยจัดทำเป็นแผนสี่ปีซึ่งจะต้องสอดคล้องกับแผนการบริหารราชการแผ่นดิน
ตามมาตรา 13
22. เฉลย : ข้อ ง. คณะรัฐมนตรี ทั้งนี้ ตามมาตรา 18 วรรคหนึ่ง กำหนดให้เ มื่อมีการกำหนด
งบประมาณรายจ่ายประจำปีตามแผนปฏิบัติราชการของส่วนราชการใดแล้วการโอนงบประมาณจาก
ภารกิจหนึ่งตามที่กำหนดในแผนปฏิบัติราชการไปดำเนินการอย่างอื่นซึ่งมีผลทำให้ภารกิจเดิมไม่บรรลุ
เป้าหมายหรือนำไปใช้ในภารกิจใหม่ที่มิได้กำหนดในแผนปฏิบัติราชการจะกระทำได้ต่อเมื่อได้รับอนุมัติจาก
คณะรัฐมนตรีให้ปรับแผนปฏิบัติราชการให้สอดคล้องกันแล้ว
23. เฉลย : ข้อ ง. ถูกทุกข้อ ทั้งนี้ ตามมาตรา 21 วรรคสาม กำหนดให้ในกรณีที่รายจ่ายต่อหน่วย
ของงานบริการสาธารณะใดของส่วนราชการใดสูงกว่ารายจ่ายต่อหน่วยของงานบริการสาธารณะประเภท
และคุณภาพเดียวกันหรือคล้ายคลึงกันของส่วนราชการอื่นให้ส่วนราชการนั้นจัดทำแผนการลดรายจ่ายต่อ
หน่วยของงานบริการสาธารณะดังกล่าวเสนอสำนักงบประมาณกรมบัญชีกลางและ ก.พ.ร. ทราบและถ้า
มิได้มีข้อทักท้วงประการใดภายในสิบห้าวันก็ให้ส่วนราชการดังกล่าวถือปฏิบัติตามแผนการลดรายจ่า ยนั้น
ต่อไปได้
24. เฉลย : ข้อ ข. สำนักงานคณะกรรมการพั ฒนาเศรษฐกิจและสั งคมแห่ง ชาติร ่ ว มกับ สำนั ก
งบประมาณ ทั้งนี้ ตามมาตรา 22 วรรคหนึ่ง กำหนดให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและ
สังคมแห่งชาติและสำนักงบประมาณร่วมกันจัดให้มีการประเมินความคุ้มค่าในการปฏิบัติภารกิจของรัฐที่
ส่วนราชการดำเนินการอยู่เพื่อรายงานคณะรัฐมนตรีสำหรับเป็นแนวทางในการพิจารณาว่าภารกิจใด
สมควรจะได้ดำเนินการต่อไปหรือยุบเลิกและเพื่อประโยชน์ในการจัดตั้งงบประมาณของส่วนราชการในปี
ต่อไป ทั้งนี้ ตามระยะเวลาที่คณะรัฐมนตรีกำหนด
หน้า 184
25. เฉลย : ข้อ ก. 15 วัน ทั้งนี้ ตามมาตรา 24 วรรคหนึ่ง กำหนดให้ในการปฏิบัติภารกิจใดหากส่วน

ราชการจำเป็นต้องได้รับอนุญาตอนุมัติหรือความเห็นชอบจากส่วนราชการอื่นตามที่มีกฎหมายกฎระเบียบ
ข้อบังคับประกาศหรือมติคณะรัฐมนตรีกำหนดให้ส่วนราชการที่มีอำนาจอนุญาตอนุมัติหรือให้ค วาม
เห็นชอบดังกล่าวแจ้งผลการพิ จารณาให้ส่วนราชการที่ยื่นคำขอทราบภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่ได้รับคำ
ขอ
26. เฉลย : ข้อ ข. 15 วัน ทั้งนี้ ตามมาตรา 42 วรรคสอง กำหนดให้ในกรณีที่ได้รับการร้องเรียนหรือ
เสนอแนะจากข้าราชการหรือส่วนราชการอื่นในเรื่องใดให้ส่วนราชการที่ออกกฎระเบียบข้อบังคับหรื อ
ประกาศนั้นพิจารณาโดยทันทีและในกรณีที่เห็นว่าการร้องเรียนหรือเสนอแนะนั้นเกิดจากความเข้าใจผิด
หรือความไม่เข้าใจในกฎระเบียบข้อบังคับหรือประกาศให้ชี้แจงให้ผู้ร้องเรียนหรือเสนอแนะทราบภายใน
สิบห้าวัน
27. เฉลย : ข้อ ค. ส่วนราชการมีความทันสมัยและรักษาไว้ซึ่งความมั่นคงของประเทศ ทั้ งนี้ ตาม
หมวดที่ 1 การบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี มาตรา 6
28. เฉลย : ข้อ ค. กรุงเทพมหานคร
29. เฉลย : ข้อ ค. องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทั้งนี้ ตามมาตรา 4 กำหนดให้ในพระราชกฤษฎีกานี้
“ส่วนราชการ” หมายความว่าส่วนราชการตามกฎหมายว่าด้วยการปรับปรุงกระทรวงทบวงกรมและ
หน่วยงานอื่นของรัฐที่อยู่ในกำกับของราชการฝ่ายบริหารแต่ไม่รวมถึงองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
30. เฉลย : ข้อ ง. การบริหารราชการโดยยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง ข้อนี้กำหนดในหมวด 2 การ
บริหารราชการเพื่อให้เกิดประโยชน์สุขของประชาชนมาตรา 7
31. เฉลย : ข้อ ค. สำนักงาน ก.พ.ร. ทั้งนี้ ตามมาตรา 13 วรรคสอง กำหนดให้เมื่อคณะรัฐมนตรีได้
แถลงนโยบายต่อรัฐสภาแล้วให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี สำนักงาน
รัฐสภา
32. เฉลย : ข้อ ง. กรมบัญชีกลาง ทั้งนี้ ตามมาตรา 21 วรรคหนึ่ง กำหนดให้ส่วนราชการจัดทำบัญชี
ต้นทุนในงานบริการสาธารณะแต่ละประเภทขึ้นตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กรมบัญชีกลางกำหนด
33. เฉลย : ข้อ ง. ถูกทุกข้อ ทั้งนี้ ตามมาตรา 21 วรรคสอง กำหนดให้ส่วนราชการคำนวณรายจ่าย
ต่ อ หน่ ว ยของงานบริ ก ารสาธารณะที ่ อ ยู ่ ใ นความรั บ ผิ ด ชอบของส่ ว นราชการนั ้ น ตามระยะเวลาที่
กรมบัญชีกลางกำหนดและรายงานให้สำนักงบประมาณกรมบัญชีกลางและ ก.พ.ร. ทราบ
34. เฉลย : ข้อ ง. การจัดซื้อจัดจ้างที่มีวัตถุประสงค์ในการใช้ที่ต้องคำนึงถึงคุณภาพและการดูแล
รักษาเป็นสำคัญ ทั้งนี้ตามมาตรา 23 กำหนดให้ในการจัดซื้อหรือจัดจ้าง ให้ส่วนราชการดำเนินการโดย
เปิดเผยและเที่ยงธรรม โดยพิจารณาถึงประโยชน์และผลเสียทางสังคม ภาระต่อประชาชน คุณภาพ
หน้า 185
วัตถุประสงค์ ที่จะใช้ราคา และประโยชน์ร ะยะยาวของส่วนราชการที่จะได้รับประกอบกันในกรณี ที่

วัตถุประสงค์ในการใช้เป็นเหตุให้ต้องคำนึงถึงคุณภาพและการดูแลรักษาเป็นสำคัญให้สามารถกระทำได้
โดยไม่ต้องถือราคาต่ำสุดในการเสนอซื้อหรือจ้างเสมอไปให้ส่วนราชการที่มีหน้าที่ดูแลระเบียบเกี่ยวกับการ
พัสดุปรับปรุงระเบียบที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ส่วนราชการดำเนินการตามวรรคหนึ่งและวรรคสองได้อย่า งมี
ประสิทธิภาพ
35. เฉลย : ข้อ ก. การตั้งคณะกรรมการวินิจฉัยปัญหาให้ดำเนินการถ้าหัวหน้าส่วนราชการเห็นว่า
เป็นการสมควร ทั้งนี้ตามมาตรา 25 กำหนดให้ ในการพิจารณาวินิจฉัยชี้ขาดปัญหาใดๆ ให้เป็นหน้าที่ของ
ส่วนราชการที่รับผิดชอบในปัญหานั้นๆ จะต้องพิจารณาวินิจฉัยชี้ขาดโดยเร็ว การตั้งคณะกรรมการขึ้น
พิจารณาวิน ิจ ฉัย ให้ด ำเนินการได้เ ท่า ที่จำเป็นอันไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ในการพิจารณาเรื่องใดๆ โดย
คณะกรรมการ เมื่อคณะกรรมการมีมติเป็นประการใดแล้ว ให้มติของคณะกรรมการผูกพันส่วนราชการซึ่ง
มีผู้แทนร่วมเป็นกรรมการอยู่ด้วย แม้ว่าในการพิจารณาวินิจฉัยเรื่องนั้นผู้แทนของส่วนราชการที่เ ป็น
กรรมการจะมิได้เข้าร่วมพิจารณาวินิจฉัยก็ตาม ถ้ามีความเห็นแตกต่างกันสองฝ่าย ให้บันทึกความเห็นของ
กรรมการฝ่ายข้างน้อยไว้ให้ปรากฏในเรื่องนั้นด้วยความผูกพันที่กำหนดไว้ในวรรคสอง มิให้ใช้บังคับกับ
การวินิจฉัยในปัญหาด้านกฎหมาย
36. เฉลย : ข้อ ง. ถูกทั้งข้อ ก และ ข ทั้งนี้ ตามมาตรา29กำหนดให้ในการปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องกับ
การบริการประชาชนหรือการติดต่อประสานงานระหว่างส่วนราชการด้วยกันให้ส่วนราชการแต่ละแห่ง
จัดทำแผนภูมิขั้นตอนและระยะดำเนินการรวมทั้งรายละเอียดอื่นๆที่เกี่ยวข้องในแต่ละขั้นตอนเปิดเผยไว้ ณ
ที่ทำการของส่วนราชการและในระบบเครือข่ายสารสนเทศของส่วนราชการเพื่อให้ประชาชนหรือผู้ที่
เกี่ยวข้องเข้าตรวจดูได้
37. เฉลย : ข้อ ง. ถูกทั้งข้อ ข และ ค ทั้งนี้ ตามมาตรา 30 และมาตรา 32
38. เฉลย : ข้อ ข. ก.พ.ร. ทั้งนี้ ตามมาตรา 37 กำหนดให้ในการปฏิบัติราชการที่เกี่ยวข้องกับการ
บริการประชาชนหรือติดต่อประสานงานระหว่างส่วนราชการด้วยกัน ให้ส่วนราชการกำหนดระยะเวลา
แล้วเสร็จของงานแต่ละงานและประกาศให้ประชาชนและข้าราชการทราบเป็นการทั่วไป ส่วนราชการใด
มิได้กำหนดระยะเวลาแล้วเสร็จของงานใด และ ก.พ.ร. พิจารณาเห็นว่างานนั้นมีลักษณะที่สามารถกำหนด
ระยะเวลาแล้วเสร็จได้หรือส่วนราชการได้กำหนดระยะเวลาแล้วเสร็จไว้ แต่ ก.พ.ร. เห็นว่าเป็นระยะเวลาที่
ล่าช้าเกินสมควร ก.พ.ร. จะกำหนดเวลาแล้วเสร็จให้ส่วนราชการนั้นต้องปฏิบัติก็ได้
39. เฉลย : ข้อ ง. ถูกทั้งข้อ ข และ คทั้งนี้ ตามมาตรา 52 กำหนดให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
จัดทำหลักเกณฑ์การบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดีตามแนวทางของพระราชกฤษฎีกานี้โดยอย่างน้อยต้องมี
หลักเกณฑ์เกี่ยวกับการลดขั้นตอนการปฏิบัติงานและการอำนวยความสะดวกและการตอบสนองความ
ต้องการของประชาชนที่สอดคล้องกับบทบัญญัติในหมวด 5 และหมวด 7 ให้เป็นหน้าที่ขของกระทรวง
มหาดไทยดูแลและให้ความช่วยเหลือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการจัดทำหลักเกณฑ์ตามวรรคหนึ่ง
หน้า 186
40. เฉลย : ข้อ ง. ถูกทุกข้อ ทั้ งนี้ ตามมาตรา 48 กำหนดให้ในกรณีที่ส่วนราชการใดดำเนินการ

ให้บริการที่มีคุณภาพและเป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดรวมทั้งเป็นที่พึงพอใจแก่ประชาชนให้ ก.พ.ร.
เสนอคณะรัฐมนตรีจัดสรรเงินเพิ่มพิเศษเป็นบำเหน็จความชอบแก่ส่วนราชการหรือให้ส่วนราชการใช้เงิน
งบประมาณเหลือจ่ายของส่วนราชการนั้นเพื่อนำไปใช้ในการปรับปรุงการปฏิบัติงานของส่วนราชการหรือ
จัดสรรเป็นรางวัลให้ข้าราชการในสังกัดทั้งนี้ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ ก.พ.ร. กำหนดโดยความเห็นชอบ
ของคณะรัฐมนตรี
41. เฉลย : ข้อ ก. 9 หมวด 53 มาตรา
42. เฉลย : ข้อ ง. ถูกทุกข้อ ทั้งนี้ ตามหมวดที่ 4 การบริหารราชการอย่างมีประสิทธิภาพและเกิด
ความคุ้มค่าในเชิงภารกิจของรัฐมาตรา 20-26
43. เฉลย : ข้อ ง. ถูกทุกข้อ ทั้งนี้ ตามหมวดที่ 7 การอำนวยความสะดวกและการตอบสนองความ
ต้องการของประชาชนมาตรา 37-44
44. เฉลย : ข้อ ก. การบริหารราชการเพื่อให้เกิดประโยชน์สุขของประชาชน ทั้งนี้ ตามหมวดที่ 2
การบริหารราชการเพื่อให้เกิดประโยชน์สุขของประชาชนมาตรา 8(3) กำหนดให้ก่อนเริ่มดำเนินการส่วน
ราชการต้องจัดให้มีการศึกษาวิเคราะห์ผลดีและผลเสียให้ครบถ้วนทุกด้านกำหนดขั้นตอนการดำเนินการที่
โปร่งใสมีกลไกตรวจสอบการดำเนินการในแต่ละขั้นตอนในกรณีที่ภารกิ จใดจะมีผลกระทบต่อประชาชน
ส่วนราชการต้องดำเนินการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนหรือชี้แจงทำความเข้าใจเพื่อให้ประชาชนได้
ตระหนักถึงประโยชน์ที่ส่วนรวมจะได้รับจากภารกิจนั้น
45. เฉลย : ข้อ ง. การบริหารราชการอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดความคุ้มค่า ทั้งนี้ ตามหมวดที่4
การบริหารราชการอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดความคุ้มค่าในเชิงภารกิจของรัฐมาตรา 26 กำหนดให้การ
สั่งราชการโดยปกติให้กระทำเป็นลายลักษณ์อักษรเว้นแต่ในกรณีที่ผู้บังคับบัญชามีความจำเป็นที่ไม่อาจสั่ง
เป็นลายลักษณ์อักษรในขณะนั้น จะสั่งราชการด้วยวาจาก็ได้แต่ให้ผู้รับคำสั่งนั้น บันทึกคำสั่งด้วยวาจาไว้
เป็นลายลักษณ์อักษรและเมื่อได้ปฏิบัติราชการตามคำสั่งดังกล่าวแล้วให้บันทึกรายงานให้ผู้สั่งราชการ
ทราบ ในบันทึกให้อ้างอิงคำสั่งด้วยวาจาไว้ด้วย
46. เฉลย : ข้อ ง. ถูกทุกข้อ
47. เฉลย : ข้อ ง. การบริหารราชการอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดความคุ้มค่าในเชิงภารกิจของรัฐ
ทั้งนี้ ตามมาตรา 20 กำหนดให้เพื่อให้การปฏิบัติราชการภายในส่วนราชการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพให้
ส่วนราชการกำหนดเป้าหมายแผนการทำงานระยะเวลาแล้วเสร็จของงานหรือโครงการและงบประมาณที่
จะต้องใช้ในแต่ละงานหรือโครงการและต้องเผยแพร่ให้ข้าราชการและประชาชนทราบทั่วกันด้วย
48. เฉลย : ข้อ ข. การบริหารราชการอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดความคุ้มค่าในเชิงภารกิจของรัฐ
ทั้งนี้ ตามมาตรา 21 วรรคหนึ่ง กำหนดให้ส่วนราชการจัดทำบัญชีต้นทุนในงานบริการสาธารณะแต่ละ
ประเภทขึ้นตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กรมบัญชีกลางกำหนด
หน้า 187
49. เฉลย : ข้อ ข. การบริหารราชการอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดความคุ้มค่าในเชิงภารกิจของรัฐ

ทั้งนี้ ตามมาตรา 22 วรรคหนึ่ง กำหนดให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
และสำนักงบประมาณร่วมกันจัดให้มีการประเมินความคุ้มค่าในการปฏิบัติภารกิจของรัฐที่ส่วนราชการ
ดำเนินการอยู่ เพื่อรายงานคณะรัฐมนตรีสำหรับเป็นแนวทางในการพิจารณาว่าภารกิจใดสมควรจะได้
ดำเนินการต่อไปหรือยุบเลิก และเพื่อประโยชน์ในการจัดตั้งงบประมาณของส่วนราชการในปีต่อไป ทั้งนี้
ตามระยะเวลาที่คณะรัฐมนตรีกำหนด
50. เฉลย : ข้อ ง. การปรับปรุงภารกิจของส่วนราชการ ทั้งนี้ ตามมาตรา 35 กำหนดให้ส่วนราชการ
มีหน้า ที่สำรวจตรวจสอบ และทบทวนกฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ และประกาศ ที่อยู่ ในความ
รับผิดชอบ เพื่อดำเนินการยกเลิกปรับปรุง หรือจัดให้มีกฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ หรือประกาศขึ้น
ใหม่ให้ทันสมัยและเหมาะสมกับสภาวการณ์หรือสอดคล้องกับความจำเป็นทางเศรษฐกิจ สังคม และความ
มั่นคงของประเทศ ทั้งนี้โดยคำนึงถึงความสะดวกรวดเร็วและลดภาระของประชาชนเป็นสำคัญในการ
ดำเนินการตามวรรคหนึ่ง ให้ส่วนราชการนำความคิดเห็นหรือข้อเสนอแนะของประชาชนมาประกอบการ
พิจารณาด้วย
51. เฉลย : ข้อ ก. การอำนวยความสะดวกและการตอบสนองความต้องการของประชาชน ทั้งนี้
ตามมาตรา 39 กำหนดให้ส่วนราชการจัดให้มีระบบเครือข่ายสารสนเทศของส่วนราชการเพื่ออำนวยความ
สะดวกให้แก่ประชาชนที่จะสามารถติดต่อสอบถามหรือขอข้อมูลหรือแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการปฏิบัติ
ราชการของส่วนราชการระบบเครือข่ายสารสนเทศตามวรรคหนึ่ง ต้องจัดทำในระบบเดียวกับที่กระทรวง
เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารจัดให้มีขึ้นตามมาตรา 40
52. เฉลย : ข้อ ก. การอำนวยความสะดวกและการตอบสนองความต้องการของประชาชน ทั้งนี้
ตามมาตรา 44 วรรคหนึ่ง กำหนดให้ส่วนราชการต้องจัดให้มีการเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับงบประมาณ
รายจ่ายแต่ละปี รายการเกี่ยวกับการจัดซื้อหรือจัดจ้างที่จะดำเนินการในปีงบประมาณนั้น และสัญญาใดๆ
ที่ได้มีการอนุมัติให้จัดซื้อหรือจัดจ้างแล้ว ให้ประชาชนสามารถขอดูหรือตรวจสอบได้ ณ สถานที่ทำการ
ของส่วนราชการ และระบบเครือข่ายสารสนเทศของส่วนราชการ ทั้งนี้ การเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวต้องไม่
ก่อให้เกิดความได้เปรียบหรือเสียเปรียบหรือความเสียหายแก่บุคคลใดในการจัดซื้อหรือจัดจ้าง
53. เฉลย : ข้อ ข. การลดขั้นตอนการปฏิบัติงาน ทั้งนี้ ตามมาตรา 27
ทั้งนี้ ตามมาตรา 25 กำหนดให้ในการพิจารณาวินิจฉัยชี้ขาดปัญหาใดๆ ให้เป็นหน้าที่ของส่วนราชการที่
รับผิดชอบในปัญหานั้นๆ จะต้องพิจารณาวินิจฉัยชี้ขาดโดยเร็ว การตั้งคณะกรรมการขึ้นพิจารณาวินจิ ฉัย
ให้ดำเนินการได้เท่าที่จำเป็นอันไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ในการพิจารณาเรื่องใดๆ โดยคณะกรรมการ เมื่อ
คณะกรรมการมีมติเป็นประการใดแล้ว ให้มติของคณะกรรมการผูกพันส่วนราชการซึ่งมีผู้แทนร่วมเป็น
กรรมการอยู่ด้วย แม้ว่าในการพิจารณาวินิจฉัยเรื่องนั้นผู้แทนของส่วนราชการที่เป็นกรรมการจะมิได้เข้า
หน้า 188
ร่วมพิจารณาวินิจฉัยก็ตาม ถ้ามีความเห็นแตกต่างกันสองฝ่าย ให้บันทึกความเห็นของกรรมการฝ่ายข้าง

น้อยไว้ให้ปรากฏในเรื่องนั้นด้วยความผูกพันที่กำหนดไว้ในวรรคสอง มิให้ใช้บังคับกับการวินิจฉัยในปัญหา
ด้านกฎหมาย
55. เฉลย : ข้อ ค. การบริหารราชการแผ่นดินต้องเกิดผลสัมฤทธิ์ต่อภารกิจของรัฐทั้งนี้ ตามมาตรา
12 กำหนดให้เพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติราชการให้เกิดผลสัมฤทธิ์ ก.พ.ร. อาจเสนอต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อ
กำหนดมาตรการกำกับการปฏิบัติราชการโดยวิธีก ารจัดทำความตกลงเป็นลายลักษณ์อักษร หรือโดย
วิธีการอื่นใดเพื่อแสดงความรับผิดชอบในการปฏิบัติราชการ
มาตรา 23 วรรคหนึ่งกำหนดให้ในการจัดซื้อหรือจัดจ้างให้ส่วนราชการดำเนินการโดยเปิ ดเผยและเที่ยง
ธรรมโดยพิจารณาถึงประโยชน์และผลเสียทางสังคมภาระต่อประชาชนคุณภาพวัตถุประสงค์ที่จะใช้ราคา
และประโยชน์ระยะยาวของส่วนราชการที่จะได้รับประกอบกัน
มาตรา 24 วรรคหนึ่งกำหนดให้ในการปฏิบัติภารกิจใดหากส่วนราชการจำเป็นต้องได้รับอนุญาตอนุมัติหรือ
ความเห็นชอบจากส่วนราชการอื่นตามที่มีกฎหมายกฎระเบียบข้อบังคับประกาศหรือมติคณะรัฐมนตรี
กำหนดให้ส่วนราชการที่มีอำนาจอนุญาตอนุมัติหรือให้ความเห็นชอบดังกล่าวแจ้งผลการพิจารณาให้ส่วน
ราชการที่ยนื่ คำขอทราบภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่ได้รับคำขอ
58. เฉลย : ข้อ ข. แผนปฏิบัติราชการ : มาตรา 9(1) กำหนดให้การบริหารราชการเพื่อให้เกิดผล
สัมฤทธิ์ต่อภารกิจของรัฐให้ส่วนราชการปฏิบัติดังต่อไปนี้ก่อนจะดำเนินการตามภารกิจใดส่วนราชการต้อง
จัดทำแผนปฏิบัติราชการไว้เป็นการล่วงหน้า
59. เฉลย : ข้อ ก. ข้อตกลงว่าด้วยผลงาน
60. เฉลย : ข้อ ข. แผนปฏิบัติราชการประจำปี : มาตรา 17 กำหนดให้ในกรณีที่กฎหมายว่าด้วย
วิธีการงบประมาณกำหนดให้ส่วนราชการต้องจัดทำแผนปฏิบัติราชการเพื่อขอรับงบประมาณ ให้สำนัก
งบประมาณและ ก.พ.ร. ร่วมกันกำหนดแนวทางการจัดทำแผนปฏิบั ติราชการตามมาตรา 16 ให้สามารถ
ใช้ได้กับแผนปฏิบัติราชการที่ต้องจัดทำตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณ ทั้งนี้เพื่อมิให้เพิ่มภาระงาน
ในการจัดทำแผนจนเกินสมควร
61. เฉลย : ข้อ ข. ก.พ.ร. เสนอต่อคณะรัฐมนตรี มาตรา 3 กำหนดให้การปฏิบัต ิต ามพระราช
กฤษฎีกานี้ในเรื่องใดสมควรที่ ส่วนราชการใดจะปฏิบัติเมื่อใดและจะต้องมีเงื่อนไขอย่างใดให้เป็นไปตามที่
คณะรัฐมนตรีกำหนดตามข้อเสนอแนะของ ก.พ.ร.
62. เฉลย : ข้อ ค. เกิดการตรวจสอบที่มีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ ตามมาตรา 6 กำหนดให้การบริหาร
กิจการบ้านเมืองที่ดี ได้แก่ การบริหารราชการเพื่อบรรลุเป้าหมายดังต่ อไปนี้ (1) เกิดประโยชน์สุขของ
ประชาชน (2) เกิดผลสัมฤทธิ์ต่อภารกิจของรัฐ (3) มีประสิทธิภาพและเกิดความคุ้มค่าในเชิงภารกิจของรัฐ
หน้า 189
(4) ไม่มีขั้นตอนการปฏิบัติงานเกินความจำเป็น (5) มีการปรับปรุงภารกิจของส่วนราชการให้ทันต่อ

สถานการณ์ (6) ประชาชนได้รับการอำนวยความสะดวกและได้รับการตอบสนองความต้องการ (7) มีการ
ประเมินผลการปฏิบัติราชการอย่างสม่ำเสมอ
63. เฉลย : ข้อ ง. ถูกทุกข้อ ทั้งนี้ ตามมาตรา 7 การบริหารราชการเพื่อประโยชน์สุขของประชาชน
หมายถึง การปฏิบัติราชการที่มีเป้าหมายเพื่อให้เกิดความผาสุกและความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชน ความ
สงบและปลอดภัยของสังคมส่วนรวมตลอดจนประโยชน์สูงสุดของประเทศ
64. เฉลย : ข้อ ง. ถูกทุกข้อ ทั้งนี้ ตามมาตรา 12 เพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติราชการให้เกิดผล
สัมฤทธิ์ ก.พ.ร. อาจเสนอต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อกำหนดมาตรการกำกับการปฏิบัติราชการโดยวิธีการจัดทำ
ความตกลงเป็นลายลักษณ์อักษร หรือโดยวิธีการอื่นใด เพื่อแสดงความรับผิดชอบในการปฏิบัติราชการ
65. เฉลย : ข้อ ง. ถูกทุกข้อ ทั้งนี้ ตามมาตรา 16 วรรคสอง ในแต่ละปีงบประมาณ ให้ส่วนราชการ
จัดทำแผนปฏิบัติราชการประจำปีโดยให้ระบุสาระสำคัญเกี่ยวกับนโยบายการปฏิบัติราชการของส่วน
ราชการ เป้าหมายและผลสัมฤทธิ์ของงานรวมทั้งประมาณการรายได้และรายจ่ายและทรัพยากรอื่นที่
จะต้องใช้เสนอต่อรัฐมนตรีเพื่อให้ความเห็นชอบ
66. เฉลย : ข้อ ข. ผู้รับผิดชอบในการดำเนินงาน ทั้งนี้ ตามมาตรา 20 เพื่อให้การปฏิบัติราชการ
ภายในส่ ว นราชการเป็ น ไปอย่ า งมี ป ระสิ ท ธิ ภ าพให้ ส ่ ว นราชการกำหนดเป้ า หมาย แผนการทำงาน
ระยะเวลาแล้วเสร็จของงานหรือโครงการ และงบประมาณที่จะต้องใช้ในแต่ละงานหรือโครงการ และต้อง
เผยแพร่ให้ข้าราชการและประชาชนทราบทั่วกันด้วย
67. เฉลย : ข้อ ง. ถูกทั้งข้อ ก และ ข ทั้งนี้ ตามมาตรา 22 วรรคหนึ่ง ให้สำนักงานคณะกรรมการ
พัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและสำนักงบประมาณร่วมกันจัดให้มีการประเมินความคุ้มค่าใน
การปฏิบัติภารกิจของรัฐที่ส่วนราชการดำเนินการอยู่ เพื่อรายงานคณะรัฐมนตรีสำหรับเป็นแนวทางในการ
พิจารณาว่าภารกิจใดสมควรจะได้ดำเนินการต่อไปหรือยุบเลิก และเพื่อประโยชน์ในการจัดตั้งงบประมาณ
ของส่วนราชการในปีต่อไป ทั้งนี้ตามระยะเวลาที่คณะรัฐมนตรีกำหนด
68. เฉลย : ข้อ ข. สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ทั้งนี้ ตามมาตรา 36 วรรคหนึ่ง ในกรณีที่
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเห็นว่ากฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ หรือประกาศ ที่อยู่ในความ
รับผิดชอบของส่วนราชการใด ไม่สอดคล้องหรือเหมาะสมกับสถานการณ์ในปัจจุบัน ไม่เอื้ออำนวยต่อการ
พัฒนาประเทศ เป็นอุปสรรคต่อการประกอบกิจการหรือการดำรงชีวิตของประชาชน หรือก่อให้เกิดภาระ
หรือความยุ่งยากต่อประชาชนเกินสมควร ให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอแนะต่อส่วนราชการ
นั้นเพื่อดำเนินการแก้ไข ปรับปรุง หรือยกเลิกโดยเร็วต่อไป
69. เฉลย : ข้อ ข. 15 วัน ทั้งนี้ ตามมาตรา 38 เมื่อส่วนราชการใดได้รับการติดต่อสอบถามเป็น
หนังสือจากประชาชน หรือจากส่วนราชการด้วยกันเกี่ยวกับงานที่อยู่ในอำนาจหน้าที่ของส่วนราชการนั้น
หน้า 190
ให้เป็นหน้าที่ของส่วนราชการนั้นที่จะต้องตอบคำถามหรือแจ้งการดำเนินการให้ทราบภายในสิบห้าวันหรือ
ภายในกำหนดเวลาที่กำหนดไว้ตามมาตรา 37
70. เฉลย : ข้อ ง. ถูกทุกข้อ ทั้งนี้ ตามมาตรา 18 วรรคสอง การปรับแผนปฏิบัติราชการตามวรรค
หนึ่งจะกระทำได้เฉพาะในกรณีที่งานหรือภารกิจใดไม่อาจดำเนินการตามวัตถุประสงค์ต่อไปได้หรือหมด
ความจำเป็นหรือไม่เป็นประโยชน์หรือหากดำเนินการต่อไปจะต้องเสียค่าใช้จ่ายเกินความจำเป็น หรือมี
ความจำเป็นอย่างอื่นอันไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ที่จะต้องเปลี่ยนแปลงสาระสำคัญของแผนปฏิบัติราชการ
หน้า 191
เจาะข้อสอบพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539

และที่แก้ไขเพิ่มเติม
1. พระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ.2539 ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อใด

ก. 14 พฤศจิกายน 2539 ข. 15 พฤศจิกายน 2539 ค. 14 พฤษภาคม 2539
ง. 15 พฤษภาคม 2539 จ. 15 พฤษภาคม 2540
2. พระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ.2539 มิให้ใช้บังคับแก่หน่วยงานใด
ก. สถาบันอุดมศึกษา ข. อำเภอ จังหวัด ค. อบต. เทศบาล
ง. ทหาร จ. รัฐสภาและคณะรัฐมนตรี
3. ข้อใดไม่ใช่ความหมายของ “คำสั่งทางปกครอง” ตามพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง
พ.ศ.2539
ก. การสั่งการ ข. การอนุญาต ค. การอนุมัติ
ง. การออกกฎ จ. การไม่อนุมัติอนุญาต
4. ข้อใดมิได้หมายถึงวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง
ก. การร่างพระราชบัญญัติของคณะรัฐมนตรี
ข. การร่างข้อบัญญัติของสภาองค์การบริหารส่วนตำบล
ค. การดำเนินการของเจ้าหน้าที่เพื่อการยึด อายัด และขายทอดตลาดทรัพย์สินเพื่อนำมาชำระเงิน
ตามคำสั่งทางปกครอง
ง. การดำเนินการของนายทะเบียนเพื่อมีคำสั่งปิดสถานบริการ
5. ข้อใดมิใช่คำสั่งทางปกครอง
ก. การวินิจฉัยอุทธรณ์ ข. การออกข้อบังคับ ค. การออกหนั ง สื อ สั ่ ง การ
ง. การพักใช้ใบอนุญาต จ. การเพิกถอนใบอนุญาต
6. ข้อใดมิใช่กฎตามพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539
ก. คำสั่งทางปกครอง ข. ระเบียบ ค. พระราชกฤษฎีกา
ง. กฎกระทรวง จ. ข้อบัญญัติท้องถิ่น
7. ข้อใดคือการเตรียมการและดำเนินการของเจ้าหน้าที่เพื่อจัดให้มีคำสั่งทางปกครอง หรือ กฎ และการ
ดำเนินการใดๆ ในทางปกครอง
ก. วิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง ข. วิธีปฏิบัติทางปกครอง
ค. การพิจารณาทางปกครอง ง. การดำเนินทางปกครอง
หน้า 192
จ. กระบวนการยุติธรรมทางปกครอง
8. ผู้ใดดำรงตำแหน่งเป็นประธานคณะกรรมการวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง
ก. นายกรัฐมนตรี ข. รองนายกรัฐมนตรีที่นายกรัฐมนตรีมอบหมาย
ค. บุคคลซึ่งคณะกรรมการเลือกกันเองง. ผู้ซึ่งคณะรัฐมนตรีแต่งตั้ง
9. ข้อใดไม่ถูกต้องเกี่ยวกับกรรมการโดยตำแหน่ง ของคณะกรรมการวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง
ก. ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ปลัดกระทรวงมหาดไทย
ข. เลขาธิการคณะรัฐมนตรี
ค. เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน
ง. เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา
จ. ปลัดกระทรวงการคลัง
10. ประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง ให้
คณะรัฐมนตรีแต่งตั้ง ต้องไม่เป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีวาระกี่ปี
ก. คราวละ 1 ปี ข. คราวละ 2 ปี ค. คราวละ 3 ปี
ง. คราวละ 4 ปี จ. คราวละ 5 ปี
11. ข้อใดกล่าวถูกต้องเกี่ยวกับ จำนวนผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง
ก. ไม่น้อยกว่า 3 คน แต่ไม่เกิน 7 คน ข. ไม่น้อยกว่า 5 คน แต่ไม่เกิน 7 คน
ค. ไม่น้อยกว่า 5 คน แต่ไม่เกิน 9 คน ง. ไม่น้อยกว่า 7 คน แต่ไม่เกิน 9 คน
12. พระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ.2539 ใช้บังคับแก่กรณีใด
ก. การดำเนินกิจการขององค์การทางศาสนา
ข. รัฐสภาและคณะรัฐมนตรี
ค. องค์กรที่ใช้อำนาจตามรัฐธรรมนูญ
ง. การดำเนินงานตามกระบวนการยุติธรรมทางอาญา
จ. เทศบาลนคร
13. กรณีที่คำสั่งทางปกครองใดไม่ได้ออกโดยรัฐมนตรี และไม่มีกฎหมายกำหนดขั้นตอนอุทธรณ์ภายใน
ฝ่ายปกครองไว้เป็นการเฉพาะ ให้คู่กรณีอุทธรณ์คำสั่งทางปกครองนั้นโดยยื่นต่อเจ้าหน้าที่ผู้ทำคำสั่งทาง
ปกครองภายในเวลาใด
ก. ภายใน 7 วันนับแต่วันที่ตนได้รับแจ้ง ข. ภายใน 9 วันนับแต่วันที่ตนได้รับแจ้ง
ค. ภายใน 15 วันนับแต่วันที่ตนได้รับแจ้ง ง. ภายใน 30 วันนับแต่วันที่ตนได้รับแจ้ง
จ. ภายใน 45 วันนับแต่วันที่ตนได้รับแจ้ง
หน้า 193
14. คำสั่งทางปกครอง หมายความการใช้อำนาจตามกฎหมายของเจ้าหน้า ที่ที่มีผลเป็นการสร้า งนิติ

สัมพันธ์ขึ้นระหว่างบุคคลในอันที่จะก่อ เปลี่ยนแปลง โอน สงวน ระงับ หรือมีผลกระทบต่อ สถานภาพของ
สิทธิหรือหน้าที่ของบุคคล ไม่ว่าจะเป็นการถาวรหรือชั่วคราว แต่ไม่หมายความ แต่ไม่รวมถึงข้อใด
ก. การรับรอง ข. การรับจดทะเบียน ค. การสั่งการ
ง. การวินิจฉัยอุทธรณ์ จ. การออกกฎ
15. คำสั่งทางปกครองที่กำหนดให้ผู้ใดชำระเงิน ถ้าถึงกำหนดแล้วไม่มีการชำระโดยถูกต้องครบถ้วน ให้
เจ้า หน้า ที่มีหนังสือเตือนให้ผู้น ั้น ชำระภายในระยะเวลาที่กำหนด ถ้า ไม่มีการปฏิบัติตามคำเตือนให้
เจ้าหน้าที่กระทำตามข้อใด
ก. เจ้าหน้าที่ยื่นฟ้องต่อศาลเพื่อบังคับให้ชดใช้เงิน
ข. เจ้าหน้าที่อาจใช้มาตรการบังคับทางปกครองโดยยึดหรืออายัดทรัพย์สินของผู้นั้นและขาย
ทอดตลาดเพื่อชำระเงินให้ครบถ้วน
ค. เจ้าหน้าที่ยื่นฟ้องเป็นบุคคลล้มละลาย
ง. เจ้าหน้าที่แจ้งผู้บังคับบัญชาดำเนินการทางวินัย
จ. ยืน่ คำร้องต่อศาลปกครอง
16. ผู้ใดรักษาการตามพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539
ก. นายกรัฐมนตรี ข. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
ค. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ง. ปลัดกระทรวงมหาดไทย
17. เจ้าหน้าที่จะแจ้งให้ทราบตั้งแต่เริ่มดำเนินการต่อบุคคลจะกระทำโดยวิธีปิดประกาศไว้ ณ ที่ทำการของ
เจ้าหน้าที่
และที่ว่าการอำเภอที่ผู้รับมีภูมิลำเนา ใช้ในกรณีใด
ก. กรณีมีผู้รับทราบเกิน 50 คน ข. กรณีมีผู้รับทราบเกิน 100 คน
ค. กรณีมีผู้รับทราบเกิน 150 คน ง. กรณีมีผู้รับทราบเกิน 500 คน
18. ผู้ใดทำหน้าที่เลขานุการของคณะกรรมการวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง
ก. เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.)
ข. เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา
ค. เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.)
ง. ข้าราชการของสำนักนายกรัฐมนตรีที่เลขาธิการคณะรัฐมนตรีแต่งตั้ง
จ. ข้าราชการของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาที่เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกาแต่งตั้ง
หน้า 194
19. หน่วยงานใดเป็นสำนักงานเลขานุการของคณะกรรมการวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง
ก. กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ข. กรมการปกครอง
ค. สำนักงานรัฐมนตรี ง. สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
จ. สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน
20. ข้อใดไม่ถูกต้องเกี่ยวกับวิธีการแจ้งคำสั่งทางปกครองให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบ
ก. การแจ้งด้วยวาจา ข. การแจ้งเป็นหนังสือ
ค. โดยการสื่อความหมายในรูปแบบอื่น ง. ต้องแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรเท่านั้น
21. ประธานคณะกรรมการมีวาระการดำรงตำแหน่งกี่ปี
ก. คราวละ 1 ปี ข. คราวละ 3 ปี วาระเดียว
ค. คราวละ 3 ปี อาจได้รับการแต่งตั้งอีก จ. คราวละ 4 ปี อาจได้รับการแต่งตั้งอีก
ง. คราวละ 4 ปี ดำรงไม่เกิน 2 วาระ
22. กรณีคู่กรณียื่นอุทธรณ์คำสั่งทางปกครอง ให้เจ้าหน้าที่พิจารณาคำอุทธรณ์และแจ้งผู้อุทธรณ์ต้องไม่
เกินกำหนดเวลาใดวันนับแต่วันที่ได้รับอุทธรณ์
ก. ไม่เกิน 7 วัน ข. ไม่เกิน 9 วัน ค. ไม่เกิน 15 วัน
ง. ไม่เกิน 30 วัน จ. ไม่เกิน 45 วัน
23. ในกรณีมีเหตุจำเป็นเร่งด่วนการแจ้งคำสั่งทางปกครองจะใช้วิธีส่ งทางเครื่องโทรสารได้ ให้ถือว่าผู้รับ
ได้รับแจ้งเมื่อใด
ก. มีผลนับแต่วันที่ส่ง
ข. เมื่อล่วงพ้นระยะเวลา 7 วันนับแต่วันที่ได้แจ้ง
ค. เมื่อล่วงพ้นระยะเวลา 15 วันนับแต่วันที่ได้แจ้ง
ง. ตามวัน เวลาที่ปรากฏในหลักฐานของผู้จัดบริการโทรคมนาคม
จ. เมื่อล่วงพ้นระยะเวลา 3 วันนับแต่วันที่ได้แจ้ง
24. คำสั่งทางปกครองที่กำหนดให้ผู้ใดชำระเงิน ให้เจ้าหน้าที่มีหนังสือเตือนให้ผู้นั้นชำระตามวันเวลาในข้อ
ใด
ก. ไม่น้อยกว่า 7 วัน ข. ไม่น้อยกว่า 15 วัน ค. ไม่น้อยกว่า 30 วัน
ง. ไม่น้อยกว่า 60 วัน จ. ไม่น้อยกว่า 90 วัน
25. ข้อใดมิใช่สิทธิของคู่กรณีในกระบวนการพิจารณาทางปกครอง
ก. สิทธินำทนายความหรือที่ปรึกษาเข้ามาในการพิจารณาทางปกครอง
ข. สิทธิแต่งตั้งบุคคลซึ่งบรรลุนิติภาวะทำการแทนตนในกระบวนการพิจารณาทางปกครอง
ค. สิทธิขอตรวจดูเอกสารที่จำเป็นต้องรู้เพื่อการโต้แย้งหรือชี้แจงหรือป้องกันสิทธิของตน
หน้า 195
ง. สิทธิขอตรวจดูเอกสารอันเป็นต้นร่างคำวินิจฉัยก่อนเจ้าหน้าที่ทำคำสั่งทางปกครอง
26. การแต่งตั้งให้บุคคลใดกระทำการแทนตนในการพิจารณาทางปกครอง หากคู่กรณีตาย การแต่งตั้งให้
กระทำการแทนนั้นจะสิ้นสุดลงเพราะเหตุแห่งความตายของคู่กรณีหรือไม่
ก. ไม่ถือว่าสิ้นสุดลง เว้นแต่คู่กรณีถอนการแต่งตั้งดังกล่าว
ข. ไม่ถือว่าสิ้นสุดลง เว้นแต่ผู้สืบสิทธิตามกฎหมายของคู่กรณีถอนการแต่งตั้งดังกล่าว
ค. ถูกทั้งข้อ ก และ ข
ง. การเป็นตัวแทนสิ้นสุดลง
27. กรณีที่มีคู่กรณีเกิน 50 คน ยื่นคำขอให้มีคำสั่งทางปกครองในเรื่องเดียวกัน โดยไม่การกำหนดให้บุคคล
ใดเป็นตัวแทนร่วมของตน ให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติเช่นไร
ก. แต่งตั้งบุคคลที่คู่กรณีฝ่ายข้างมากเห็นชอบเป็นตัวแทนร่วมของบุคคลดังกล่าว
ข. แต่งตั้งคู่กรณีฝ่ายข้างมากเป็นตัวแทนร่วมของบุคคลดังกล่าว
ค. แต่งตั้งบุคคลที่เป็นตัวแทนร่วมฝ่ายข้างมากของบุคคลดังกล่าวเห็นชอบ
ง. แต่งตั้งบุคคลที่เป็นตัวแทนร่วมฝ่ายข้างมากเห็นชอบ
28. การแจ้งคำสั่งทางปกครอง โดยวิธีส่งทางไปรษณีย์ตอบรับกรณีภายในประเทศ ให้ถือว่าได้รับแจ้งเมื่อ
ครบกำหนดกี่วัน
ก. 3 วันนับแต่วันส่ง ข. 7 วันนับแต่วันส่ง ค. 9 วันนับแต่วันส่ง
ง. 15 วันนับแต่วันส่ง จ. 30 วันนับแต่วันส่ง
29. การแจ้งเป็นหนังสือโดยการประกาศในหนังสือพิมพ์ให้ถือว่าได้รับแจ้งเมื่อใด
ก. เมื่อพ้นระยะเวลา 7 วัน นับแต่วันที่ได้แจ้ง ข. เมื่อพ้นระยะเวลา 15 วัน นับแต่วันที่ได้แจ้ง
ค. เมื่อพ้นระยะเวลา 30 วัน นับแต่วันที่ได้แจ้ง ง. เมื่อพ้นระยะเวลา 60 วัน นับแต่วันที่ได้แจ้ง
จ. เมื่อพ้นระยะเวลา 120 วัน นับแต่วันที่ได้แจ้ง
30. กรณีเจ้าหน้าที่ไม่เห็นด้วยกับคำอุทธรณ์ให้รายงานไปยังผู้มีอำนาจพิจารณาคำอุทธรณ์ ให้ผู้มีอำนาจ
พิจารณาคำอุทธรณ์พิจารณาให้แล้วเสร็จภายในกำหนดเวลาใด และขยายระยะเวลาพิจารณาอุทธรณ์
ออกไปได้อีกเท่าใด
ก. ภายใน 15 วัน และขยายได้ไม่เกิน 15 วัน ข. ภายใน 15 วัน และขยายได้ไม่เกิน 30 วัน
ค. ภายใน 30 วัน และขยายได้ไม่เกิน 30 วัน ง. ภายใน 30 วัน และขยายได้ไม่เกิน 45 วัน
จ. ภายใน 30 วัน และขยายได้ไม่เกิน 60 วัน
หน้า 196
เฉลยเจาะข้อสอบพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539

และที่แก้ไขเพิ่มเติม
1. เฉลย : ก. 14 พฤศจิกายน 2539 : พระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539

มาตรา 2 พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนดหนึ่งร้อยแปดสิบวันนับแต่วันถัดจากวันประกาศใน
ราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป (ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 113/ตอนที่ 60 /หน้า 1/14 พฤศจิกายน 2539)
2. เฉลย : จ. รัฐสภาและคณะรัฐมนตรี : พระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539
มาตรา 4 พระราชบัญญัตินี้มิให้ใช้บังคับแก่
(1) รัฐสภาและคณะรัฐมนตรี
(2) องค์กรที่ใช้อำนาจตามรัฐธรรมนูญโดยเฉพาะ
(3) การพิจารณาของนายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีในงานทางนโยบายโดยตรง
(4) การพิจารณาพิพากษาคดีของศาลและการดำเนินงานของเจ้าหน้าที่ในกระบวนการพิจารณา
คดี การบังคับคดีและการวางทรัพย์
(5) การพิจารณาวิน ิจฉัยเรื่องร้องทุกข์แ ละการสั่งการตามกฎหมายว่า ด้วยคณะกรรมการ
กฤษฎีกา
(6) การดำเนินงานเกี่ยวกับนโยบายการต่างประเทศ
(7) การดำเนินงานเกี่ ยวกับราชการทหารหรือเจ้าหน้าที่ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ทางยุทธการร่วมกับ
ทหารในการป้องกันและรักษาความมั่นคงของราชอาณาจักรจากภัยคุกคามทั้งภายนอกและภายในประเทศ
(8) การดำเนินงานตามกระบวนการยุติธรรมทางอาญา
(9) การดำเนินกิจการขององค์การทางศาสนา
3. เฉลย : ง. การออกกฎ : พระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539 มาตรา 5
“คำสั่งทางปกครอง” หมายความว่า
(1) การใช้อำนาจตามกฎหมายของเจ้าหน้าที่ที่มีผลเป็นการสร้างนิติสัมพันธ์ขึ้นระหว่างบุคคลใน
อันที่จะก่อ เปลี่ยนแปลง โอน สงวน ระงับ หรือมีผลกระทบต่อสถานภาพของสิทธิหรือหน้าที่ของบุคคล ไม่
ว่าจะเป็นการถาวรหรือชั่วคราว เช่น การสั่งการ การอนุญาต การอนุมัติ การวินิจฉัยอุทธรณ์ การรับรอง
และการรับจดทะเบียน แต่ไม่หมายความรวมถึงการออกกฎ
(2) การอื่นที่กำหนดในกฎกระทรวง
4. เฉลย : ก. การร่างพระราชบัญญัติของคณะรัฐมนตรี : พระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทาง
ปกครอง พ.ศ. 2539 มาตรา 5 “วิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง” หมายความว่า การเตรียมการและการ
หน้า 197
ดำเนินการของเจ้าหน้าที่เพื่อจัดให้มีคำสั่งทางปกครองหรือกฎ และรวมถึงการดำเนินการใด ๆ ในทาง

ปกครองตามพระราชบัญญัติ
5. เฉลย : ข. การออกข้อบังคับ : พระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539 มาตรา
5
6. เฉลย : ก. คำสั่งทางปกครอง : พระราชบัญญัติวิธ ีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2534
มาตรา 5 “กฎ” หมายความว่า พระราชกฤษฎีกา กฎกระทรวง ประกาศกระทรวง ข้อบัญญัติท้องถิ่น
ระเบียบ ข้อบังคับ หรือบทบัญญัติอื่นที่มีผลบังคับเป็นการทั่วไป โดยไม่มุ่งหมายให้ใช้บังคับแก่กรณีใดหรือ
บุคคลใดเป็นการเฉพาะ
7. เฉลย : ก. วิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง : พระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ.
2539 มาตรา 5 “วิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง” หมายความว่า การเตรียมการและการดำเนินการของ
เจ้าหน้าที่เพื่อจัดให้มีคำสั่งทางปกครองหรือกฎ และรวมถึงการดำเนินการใด ๆ ในทางปกครองตาม
พระราชบัญญัติ
8. เฉลย : ง. ผู้ซึ่งคณะรัฐมนตรีแต่งตั้ง : พระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539
มาตรา 7 วรรคสอง ให้คณะรัฐมนตรีแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ โดยแต่งตั้งจากผู้
ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในทางนิติศาสตร์ รัฐประศาสนศาสตร์ รัฐศาสตร์ สังคมศาสตร์ หรือการบริหาร
ราชการแผ่นดิน แต่ผู้นั้นต้องไม่เป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
9. เฉลย : จ. ปลัดกระทรวงการคลัง : พระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2534
มาตรา 7 วรรคหนึ่ง ให้มีคณะกรรมการคณะหนึ่งเรียกว่า “คณะกรรมการวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง”
ประกอบด้วยประธานกรรมการคนหนึ่ง ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ปลัดกระทรวงมหาดไทย เลขาธิการ
คณะรัฐมนตรี เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา และ
ผู้ทรงคุณวุฒิอีกไม่น้อยกว่าห้าคนแต่ไม่เกินเก้าคนเป็นกรรมการ
10. เฉลย : ค. คราวละ 3 ปี : พระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539 มาตรา 8
วรรคหนึ่ง ให้กรรมการซึ่งคณะรัฐมนตรีแต่งตั้งมีวาระดำรงตำแหน่งคราวละสามปี กรรมการซึ่งพ้นจาก
ตำแหน่งอาจได้รับแต่งตั้งอีกได้
11. เฉลย : ค. ไม่น้อยกว่า 5 คน แต่ไม่เกิน 4 คน : พระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง
พ.ศ. 2539 มาตรา 7 วรรคหนึ่ง ให้มีคณะกรรมการคณะหนึ่งเรียกว่า “คณะกรรมการวิธีปฏิบัติราชการ
ทางปกครอง” ประกอบด้วยประธานกรรมการคนหนึ่ง ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ปลัดกระทรวงมหาดไทย
เลขาธิการคณะรัฐมนตรี เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา
และผู้ทรงคุณวุฒิอีกไม่น้อยกว่าห้าคนแต่ไม่เกินเก้าคนเป็นกรรมการ
12. เฉลย : จ. เทศบาลนคร : พระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539 มาตรา 5
หน้า 198
13. เฉลย : ค. ภายใน 15 วันนับแต่วันที่ตนได้รับแจ้ง : พระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทาง

ปกครอง พ.ศ. 2539 มาตรา 44 วรรคหนึ่ง ภายใต้บังคับมาตรา 48 ในกรณีที่คำสั่งทางปกครองใดไม่ได้
ออกโดยรัฐมนตรี และไม่มีกฎหมายกำหนดขั้นตอนอุทธรณ์ภายในฝ่ายปกครองไว้เป็นการเฉพาะ ให้คู่กรณี
อุทธรณ์คำสั่งทางปกครองนั้นโดยยื่นต่อเจ้าหน้าที่ผู้ทำคำสั่งทางปกครองภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่ตน
ได้รับแจ้งคำสั่งดังกล่าว
14. เฉลย : จ. การออกกฎ : พระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539 มาตรา 5
15. เฉลย : ข. เจ้าหน้าที่อาจใช้มาตรการบังคับทางปกครองโดยยึดหรืออายัดทรัพย์สินของผู้นั้น
และขายทอดตลาดเพื่อชำระเงินให้ครบถ้วน : พระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539
มาตรา 57 คำสั่งทางปกครองที่กำหนดให้ผู้ใดชำระเงิน ถ้าถึงกำหนดแล้วไม่มีการชำระโดยถูกต้องครบถ้วน
ให้เจ้าหน้าที่มีหนังสือเตือนให้ผู้นั้นชำระภายในระยะเวลาที่กำหนดแต่ต้องไม่น้อยกว่าเจ็ดวัน ถ้าไม่มีการ
ปฏิบัติตามคำเตือน เจ้าหน้าที่อาจใช้มาตรการบังคับทางปกครองโดยยึดหรืออายัดทรัพย์สินของผู้นั้นและ
ขายทอดตลาดเพื่อชำระเงินให้ครบถ้วน
16. เฉลย : ก. นายกรัฐมนตรี : พระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539 มาตรา
6 ให้นายกรัฐมนตรีรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้ และให้มีอำนาจออกกฎกระทรวงและประกาศ เพื่อ
ปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้กฎกระทรวงและประกาศนั้น เมื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว ให้ใช้
บังคับได้
17. เฉลย : ก. มีผู้รับเกิน 50 คน : พระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539
มาตรา 72 ในกรณีที่มีผู้รับเกินห้าสิบคนเจ้าหน้าที่จะแจ้งให้ทราบตั้งแต่เริ่มดำเนินการในเรื่องนั้นว่าการ
แจ้งต่อบุคคลเหล่านั้นจะกระทำโดยวิธีปิดประกาศไว้ ณ ที่ทำการของเจ้าหน้าที่และที่ว่าการอำเภอที่ผู้รับมี
ภูมิลำเนาก็ได้ ในกรณีนี้ให้ถือว่าได้รับแจ้งเมื่อล่วงพ้นระยะเวลาสิบห้าวันนับแต่วันที่ได้แจ้งโดยวิธีดังกล่าว
18. เฉลย : จ. ข้าราชการของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาที่เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา
แต่งตั้ง : พระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539 มาตรา 7 ให้เลขาธิการคณะกรรมการ
กฤษฎีกาแต่งตั้งข้าราชการของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเป็นเลขานุการและผู้ช่วยเลขานุการ
19. เฉลย : ง. สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา : พระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง
พ.ศ. 2539 มาตรา 10 ให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาทำหน้าที่เป็นสำนักงานเลขานุการของ
คณะกรรมการวิธีปฏิบัติราชการทางปกครองรับผิดชอบงานธุรการ งานประชุม การศึกษาหาข้อมูลและ
กิจการต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับงานของคณะกรรมการวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง
20. เฉลย : ง. ต้องแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรเท่านั้น : พระราชบัญญัต ิวิธ ีปฏิบัต ิร าชการทาง
ปกครอง พ.ศ. 2539 มาตรา 34 คำสั่งทางปกครองอาจทำเป็นหนังสือหรือวาจาหรือโดยการสื่อความหมาย
ในรูปแบบอื่นก็ได้ แต่ต้องมีข้อความหรือความหมายที่ชัดเจนเพียงพอที่จะเข้าใจได้
หน้า 199
21. เฉลย : ค. คราวละ 3 ปี อาจได้รับการแต่งตั้งอีก : พระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทาง

ปกครอง พ.ศ. 2539 มาตรา 8 วรรคหนึ่ง ให้กรรมการซึ่งคณะรัฐมนตรีแต่งตั้งมีวาระดำรงตำแหน่งคราว
ละสามปี กรรมการซึ่งพ้นจากตำแหน่งอาจได้รับแต่งตั้งอีกได้
22. เฉลย : ง. ไม่เกิน 30 วัน : พระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2534 มาตรา
45 วรรคหนึ่ง ให้เจ้าหน้าที่ตามมาตรา 44 วรรคหนึ่ง พิจารณาคำอุทธรณ์และแจ้งผู้อุทธรณ์โดยไม่ชักช้า
แต่ต้องไม่เกินสามสิบวันนับแต่วัน ที่ได้รับอุทธรณ์ ในกรณีที่เห็นด้วยกับคำอุทธรณ์ไม่ว่า ทั้งหมดหรื อ
บางส่วนก็ให้ดำเนินการเปลี่ยนแปลงคำสั่ง ทางปกครองตามความเห็นของตนภายในกำหนดเวลาดังกล่าว
ด้วย
23. เฉลย : ง. ตามวัน เวลาที่ปรากฏในหลักฐานของผู้จัดบริการโทรคมนาคม : พระราชบัญญัติวิธี
ปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539 มาตรา 74 ในกรณีมีเหตุจำเป็นเร่งด่วนการแจ้งคำสั่งทางปกครอง
จะใช้วิธีส่งทางเครื่องโทรสารก็ได้ แต่ต้องมีหลักฐานการได้ส่งจากหน่วยงานผู้จัดบริการโทรคมนาคมที่เป็น
สื่อในการส่งโทรสารนั้น และต้องจัดส่งคำสั่งทางปกครองตัวจริงโดยวิธีใดวิธีหนึ่งตามหมวดนี้ให้แก่ผู้รับ
ในทันทีที่อาจกระทำได้ ในกรณีนี้ให้ถือว่าผู้รับได้รับแจ้งคำสั่งทางปกครองเป็นหนังสือตามวัน เวล า ที่
ปรากฏในหลักฐานของหน่วยงานผู้จัดบริการโทรคมนาคมดังกล่าว เว้นแต่จะมีการพิสูจน์ได้ว่าไม่มีการ
ได้รับหรือได้รับก่อนหรือหลังจากนั้น
24. เฉลย : ก. ไม่น้อยกว่า 7 วัน : พระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539
มาตรา 57 วรรคหนึ่ง คำสั่งทางปกครองที่กำหนดให้ผู้ใดชำระเงิน ถ้าถึงกำหนดแล้วไม่มีการชำระโดย
ถูกต้องครบถ้วน ให้เจ้าหน้าที่มีหนังสือเตือนให้ผู้นั้นชำระภายในระยะเวลาที่กำหนดแต่ต้องไม่น้อยกว่าเจ็ด
วัน ถ้าไม่มีการปฏิบัติตามคำเตือน เจ้าหน้าที่อาจใช้มาตรการบังคับทางปกครองโดยยึดหรืออายั ดทรัพย์สิน
ของผู้นั้นและขายทอดตลาดเพื่อชำระเงินให้ครบถ้วน
25. เฉลย : ง. สิทธิขอตรวจดูเอกสารอันเป็นต้นร่างคำวินิจฉัยก่อนเจ้าหน้าที่ทำคำสั่งทางปกครอง
26. เฉลย : ข. ไม่ถือว่าสิ้นสุดลง เว้นแต่ผู้สืบสิทธิตามกฎหมายของคู่กรณีถอนการแต่งตั้งดังกล่าว :
พระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539 มาตรา 24 วรรคสาม การแต่งตั้งให้กระทำการ
แทนไม่ถือว่าสิ้นสุดลงเพราะความตายของคู่กรณีหรือการที่ความสามารถหรือความเป็นผู้แทนของคู่กรณี
เปลี่ยนแปลงไป เว้นแต่ผู้สืบสิทธิตามกฎหมายของคู่กรณีหรือคู่กรณีจะถอนการแต่งตั้งดังกล่าว
27. เฉลย : ก. แต่งตั้งบุคคลที่คู่กรณีฝ่ายข้างมากเห็นชอบเป็นตัวแทนร่วมของบุคคลดังกล่าว :
มาตรา 25 วรรคสอง ในกรณีที่มีคู่กรณีเกินห้าสิบคนยื่นคำขอให้มีคำสั่งทางปกครองในเรื่องเดียวกัน โดย
ไม่มีการกำหนดให้บุคคลใดเป็นตัวแทนร่วมของตนตามวรรคหนึ่ง ให้เจ้าหน้าที่ในเรื่องนั้นแต่งตั้ งบุคคลที่
คู่กรณีฝ่ายข้างมากเห็นชอบเป็นตัวแทนร่วมของบุคคลดังกล่าว ในกรณีนี้ให้นำมาตรา 24 วรรคสอง และ
วรรคสาม มาใช้บังคับโดยอนุโลม
หน้า 200
28. เฉลย : ข. 7 วันนับแต่วันส่ง : พระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539

มาตรา 71 การแจ้งโดยวิธีส่งทางไปรษณีย์ตอบรับให้ ถือว่าได้รับแจ้งเมื่อครบกำหนดเจ็ดวันนับแต่วันส่ง
สำหรับกรณีภายในประเทศ หรือเมื่อครบกำหนดสิบห้าวันนับแต่วันส่งสำหรับกรณีส่งไปยังต่างประเทศ
เว้นแต่จะมีการพิสูจน์ได้ว่าไม่มีการได้รับหรือได้รับก่อนหรือหลังจากวันนั้น
29. เฉลย : ข. เมื่อล่วงพ้นระยะเวลา 15 วัน นับแต่วั นที่ได้แจ้ง : มาตรา 73 ในกรณีที่ไม่รู้ตัวผู้รับ
หรือรู้ตัวแต่ไม่รู้ภูมิลำเนาหรือรู้ตัวและภูมิลำเนาแต่มีผู้รับเกินหนึ่งร้อยคน การแจ้งเป็นหนังสือจะกระทำ
โดยการประกาศในหนังสือพิมพ์ซึ่งแพร่หลายในท้องถิ่นนั้นก็ได้ ในกรณีนี้ให้ถือว่าได้รับแจ้งเมื่อล่วงพ้น
ระยะเวลาสิบห้าวันนับแต่วันที่ได้แจ้งโดยวิธีดังกล่าว
30. เฉลย : ค. ภายใน 30 วัน และขยายได้ไม่เกิน 30 วัน : มาตรา 45 วรรคสอง
หน้า 201
เจาะข้อสอบพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539
1. พระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539 ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อใด

ก. 14 พฤศจิกายน 2535 ข. 15 พฤศจิกายน 2539 ค. 15 ธันวาคม 2539
ง. 15 มกราคม 2540 จ. 14 มกราคม 2540
2. ข้อใดไม่ใช่ “เจ้าหน้าที่” ตามพระราชบัญญัติความผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ.2539
ก. ข้าราชการ ข. พนักงานราชการ ค. ลูกจ้างประจำ
ง. ลูกจ้างเหมาบริการ จ. ไม่มีข้อใดถูก
3. ข้อใดไม่ใช่ “หน่วยงานของรัฐ” ตามพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539
ก. โรงพยาบาลบ้านแพ้ว ข. สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง
ค. สำนักงานศาลปกครอง ง. สำนักงานอัยการสูงสุด
4. ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง ตามพระราชบัญญัติความผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ.2539
ก. การกระทำทีเ่ กิดจากการปฏิบัติหน้าที่โดยตรงเจ้าหน้าที่ไม่ต้องรับผิด
ข. ถ้าความผิดเกิดจากหลายคนร่วมกระทำการละเมิดให้รับผิดชอบเฉพาะส่วนของตนเท่านั้น
ค. หน่วยงานของรัฐมีสิทธิในการเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ชดใช้ความเสียหายอันเกิดจากการกระทำ
การละเมิดได้
ง. ให้นำหลักแห่งเจ้าหนี้ลูกหนี้มาบังคับใช้ในกรณีความผิดทางละเมิดได้
5. คณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงความผิดทางละเมิดที่หัวหน้าส่วนราชการแต่งตั้งมีกี่คน
ก. ไม่น้อยกว่า 5 คน ข. ไม่เกินกว่า 5 คน ค. ไม่น้อยกว่า 7 คน
ง. ไม่เกินกว่า 5 คน จ. ไม่มีข้อใดถูก
6. เมื่อเกิดความเสียหายแก่หน่วยงานของรัฐในส่วนภูมิภาค ในชั้นต้นเจ้าหน้าที่ผู้ที่เกี่ยวข้องต้องรายงาน
ให้ผู้ใดรับทราบโดยไม่ชักช้า
ก. นายกรัฐมนตรี ข. ผู้ว่าราชการจังหวัด ค. ปลั ด กระทรวงมหาดไทย
ง. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย จ. หัวหน้าหน่วยงานของรัฐแห่งนั้น
7. ข้อใดไม่ใช่ความหมายของ “ความเสียหาย” ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยหลักเกณฑ์การ
ปฏิบัติเกี่ยวกับความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ.2539
ก. ความเสียหายจากการกระทำละเมิดโดยจงใจหรือประมาทเลินเล่อ
ข. ความเสียหายจากการงดเว้นการกระทำ
หน้า 202
ค. ความเสียหายจากการละเลยหน้าที่ที่ต้องปฏิบัติ
ง. ความเสียหายจากการออกคำสั่งหรือกฎ
8. วิธีการชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดจากการละเมิดของเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิด
ของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539 ข้อใดถูกต้อง
ก. ชดใช้เป็นเงิน
ข. ซ่อมแซมทรัพย์สินที่เสียหายให้คงสภาพเดียว
ค. ชดใช้เป็นทรัพย์สินที่มีคุณภาพ สภาพและปริมาณอย่างเดียวกัน
9. การฟ้องร้องกรณีที่เกิดละเมิดแก่เอกชน โดยเจ้าหน้าที่ได้ปฏิบัติไปตามหน้าที่ผู้เสียหายจะฟ้องร้องต่อ
ใครเพื่อให้ได้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทน
ก. ฟ้องเจ้าหน้าที่ของรัฐ ข. ฟ้องหน่วยงานของรัฐที่เจ้าหน้าที่สังกัด
ค. ฟ้องกระทรวงการคลังเท่านั้น ง. ไม่สามารถฟ้องได้
10. การฟ้องของบุค คลภายนอกที่ได้ร ับการละเมิดจากเจ้า หน้าที่รัฐที่เกิดจากการปฏิบัต ิหน้า ที่และ
เจ้าหน้าที่รัฐคนนั้นไม่ได้สังกัดหน่วยงานใด บุคคลภายนอกจะฟ้องหน่วยงานใด
ก. ฟ้องเจ้าหน้าที่รัฐคนนั้น ข. ฟ้องหน่วยงานของรัฐ ค. ฟ้องนายกรัฐมนตรี
ง. ฟ้องกระทรวงการคลัง จ. ไม่มีข้อใดถูก
11. กรณีที่เกิดละเมิดขึ้นแก่บุคคลภายนอก โดยเจ้าหน้าที่รัฐกระทำโดยจงใจหรือประมาทเลินเล่ออย่าง
ร้ายแรง ผู้ใดเป็นผู้รับผิดชอบค่าสินไหมทดแทน
ก. เจ้าหน้าที่ของรัฐ ข. หน่วยงานของรัฐ
ค. กระทรวงการคลัง ง. เจ้าหน้าที่ของรัฐและหน่วยงานของรัฐในฐานะเจ้าหนี้ร่วม
12. ผู้ใดเป็นผู้มีอำนาจในการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง หากที่ว่าการอำเภอเกิดไฟไหม้ และมี
เหตุอันควรเชื่อว่าเกิดจากการกระทำของเจ้าหน้าที่
ก. ผู้ว่าราชการจังหวัด ข. อธิบดีกรมการปกครอง
ค. นายอำเภอ ง. ปลัดกระทรวงมหาดไทย
หน้า 203
13. วัตถุประสงค์หลักของพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ.2539 ข้อใดเป็นจริง

ที่สุด
ก. ต้องการคุ้มครองหน่วยงานของรัฐ
ข. ต้องการคุ้มครองหน่วยงานเอกชน
ค. ต้องการคุ้มครองเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างสุจริตรอบคอบ
ง. ต้องการคุ้มครองหน่วยงานของรัฐที่ได้รับผลกระทบจากการฟ้องร้องของเอกชน
14. ถ้าหน่วยงานของรัฐได้ใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่ผู้เสียหาย สิทธิที่จะเรียกให้เจ้าหน้าที่ชุดใช้ค่าสินไหม
ทดแทนภายในอายุความเท่าใด
ก. ภายใน 90 วัน ข. ภายใน 1 ปี ค. ภายใน 2 ปี
ง. ภายใน 5 ปี จ. ไม่มีข้อใดถูก
15. ถ้าผู้เสียหายได้ยื่นคำขอให้หน่วยงานของรัฐพิจารณาชดใช้ค่าสินไหมทดแทน หน่วยงานของรัฐต้อง
พิจารณาให้แล้วเสร็จภายในกี่วัน
ก. 60 วัน ข. 90 วัน ค. 120 วัน ง. 180 วัน จ. ไม่มีข้อใดถูก
16. ในปัจจุบันสิทธิร้องทุกข์ต่อคณะกรรมการวินิจฉัยร้องทุกข์ตามมาตรา 4 11 ให้ถือว่าเป็นสิทธิฟ้องคดี
ต่อที่ใด
ก. ศาลปกครอง ข. ศาลยุติธรรม
ค. ทั้งข้อ ก. หรือ ข. แล้วแต่กรณี ง. สิทธิยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการกฤษฎีกา
17. กรณีที่เจ้าหน้าที่เป็นผู้กระทำละเมิดต่อหน่วยงานของรัฐ ถ้าเป็นการกระทำในการปฏิบัติหน้าที่ สิทธิ
ของหน่วยงานรัฐที่จะเรียกให้เจ้าหน้าผู้รับผิดชอบค่าสินไหมทดแทนมีอายุความกี่ปี
18. ผู้ใดรักษาการตามพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539
ก. นายกรัฐมนตรี ข. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
ค. รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ง. ไม่มีข้อใดถูก
19. กรณีที่เจ้าหน้าที่เป็นผู้กระทำละเมิดต่อหน่ วยงานของรัฐ ถ้าเป็นการกระทำในการปฏิบัติหน้าที่ สิทธิ
ของหน่วยงานรัฐที่จะเรียกให้เจ้าหน้าผู้รับผิดชอบค่าสินไหมทดแทนมีอายุความกี่ปี
หน้า 204
20. ข้อใดไม่ใช่หน่วยงานของรัฐตามพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539

ก. การรถไฟแห่งประเทศไทย ข. องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ
ค. โรงงานยาสูบ ง. การประปาส่วนภูมิภาค
21. ถ้าศาลพิพากษายกฟ้องเพราะเหตุที่หน่วยงานของรัฐหรือเจ้าหน้ าที่ที่ถูกฟ้องมิใช่ผู้ต้องรับผิดให้ขยาย
อายุความฟ้องร้องผู้ที่ต้องรับผิดซึ่งมิได้ถูกเรียกเข้ามาในคดีออกไปอีกเป็นระยะเวลาใดนับแต่วันที่คำ
พิพากษานั้นถึงที่สุด
ก. 60 วัน ข. 6 เดือน ค. ภายใน 1 ปี
ง. ภายใน 2 ปี จ. ภายใน 10 ปี
22. ถ้าหน่วยงานของรัฐหรือเจ้าหน้าที่ได้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่ผู้เสียหาย สิทธิที่จะเรียกให้อีกฝ่ายหนึ่ง
ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่ตนให้มีกำหนดอายุความกี่ปี นับแต่วันที่หน่วยงานของรัฐหรือเจ้าหน้าที่ได้ชดใช้
ค่าสินไหมทดแทนนั้นแก่ผู้เสียหาย
23. กรณีนาย ก. พนักงานขับรถยนต์เก็บขยะของเทศบาลเมืองเก่า ระหว่างเดินทางเก็บขยะได้ขับรถโดย
ประมาทเลินเล่อเฉียวชนผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บ ข้อใดกล่าวถูกต้อง
ก. ต้องฟ้องให้ นาย ก. รับผิด แต่ฟ้องเทศบาลเมืองเก่าไม่ได้
ข. ต้องฟ้องให้ เทศบาลเมืองเก่า รับผิด แต่ฟ้องนาย ก. ไม่ได้
ค. ต้องยื่นฟ้องต่อศาลยุติธรรม
ง. ถูกทั้ง ข้อ ข. และ ค.
จ. ถูกทั้ง ข้อ ก. และ ค.
24. อบต. มหาเทวี ได้หนังสือแจ้งนาย ก. ว่า ที่ดินที่นาย ก. อาศัยอยู่เป็นที่สาธารณประโยชน์อยู่ในความ
ดูแลของอบต. พร้อมทั้งได้สั่งให้นาย ก. รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกไปจากที่ดิน หากไม่ยอมรื้อถอน อบต. จะ
ใช้อำนาจรื้อถอนเองต่อมาวันที่ 20 พฤษภาคม 2563 เจ้าหน้าที่ของ อบต. ได้นำรถขุดดินทำการขุดรื้อ
ถอนสิ่งปลูกสร้างออกไป เสียหายเป็นเงิน 270,000 บาท ข้อใดกล่าวถูกต้อง
ก. การกระทำของเจ้าหน้าที่ อบต. ถือว่าเป็นการทำละเมิดในการปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชบัญญัติ
ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539
ข. ถ้านาย ก. จะฟ้อง ต้องฟ้องหน่วยงานของรัฐ แต่จะฟ้องเจ้าหน้าที่ไม่ได้
ค. นาย ก. ต้องฟ้องที่ศาลปกครอง เพราะเป็นคดีพิพาทเกี่ยวกับการกระทำละเมิดของเจ้าหน้าที่
ของรัฐอันเกิดจากการใช้อำนาจตามกฎหมาย
หน้า 205
ง. นาย ก. จะต้องฟ้องภายในภายในหนึ่งปีนับแต่วันที่รู้หรือควรรู้ถึงเหตุแห่งการฟ้องคดี แต่ไม่เกิน

สิบปีนับแต่วันที่มีเหตุแห่งการฟ้องคดี
25. ข้อใดกล่าวถูกต้อง
ก. กรมทางหลวงได้จ้างผู้รับเหมาก่อสร้างซ่อมแซมถนนในเขตที่รับผิดชอบแล้ว แต่ผู้รับจ้างมิได้
ติดตั้งไฟสัญญาณให้มองเห็นในเวลากลางคืน ผู้ตายขับรถยนต์มาตามปกติถึงบริเวณที่เกิดเหตุ กรมทาง
หลวงไม่ต้องรับผิดในฐานะผู้จ้างทำของจึงไม่ต้องรับผิดตามมาตรา 428
ข. พนักงานสอบสวนมีคำสั่งยึดรถเนื่องจากรถที่สั่งยึดเกิดอุบัติเหตุ แต่นำรถไปจอดอยู่ฝั่งตรงข้าม
สถานีตำรวจ โดยมิได้จัดให้มีผู้ดูแลรักษาตามสมควรเป็นเหตุให้อุปกรณ์ในรถสูญหายไป จึงต้องรับผิด
ค. กรณีตามข้อ ข. สำนักงานตำรวจแห่งชาติต้องรับผิด
ง. ถูกเฉพาะข้อ ข. และ ค.
หน้า 206
เฉลยเจาะข้อสอบพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539
1. เฉลย : ข. 15 พฤศจิกายน 2539 : พระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ.

2539 มาตรา 2 พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ประกาศราชกิจจานุเบกษา เล่ม 113/ตอนที่ 60 ก/หน้า 25/14 พฤศจิกายน 2539
2. เฉลย : ง. ลูกจ้างเหมาบริการ : คณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะพิเศษ) เคยให้ความเห็นในเรื่อง
ดังกล่าวไว้ว่า กรณีลูกจ้างเป็นครั้งคราวเฉพาะงานนั้น ต้องพิจารณาว่าลูกจ้างนั้นมีความสัมพันธ์กับ
หน่วยงานอย่างไร ถ้ามีความสัมพันธ์ในลักษณะการใช้อำนาจบังคับบัญชาก็ถือเป็นลูกจ้างตามนัยมาตรา 4
แห่งกฎหมายนี้ แต่ถ้าเป็นความสัมพันธ์ตามสัญญาจ้า งแรงงานลูกจ้างนั้นก็มิใช่ลูกจ้างตามกฎหมายนี้
อย่างไรก็ดี หากหน่วยงานใดเป็น หน่วยงานของรัฐตามมาตรา 4 แห่งกฎหมายนี้แล้วผู้ปฏิบัติงานใน
หน่วยงานของรัฐแห่งนั้น ไม่ว่าจะเป็นคณะกรรมการ อนุกรรมการ พนักงาน ฯลฯ ย่อมเป็นเจ้าหน้าที่ของ
รัฐตามกฎหมายนี้ ด ้ ว ย สำหรับกรณีหน่ว ยงานของรั ฐ ทำสั ญ ญาจ้ า งเอกชนทำหน้า ที ่บางอย่ า งแทน
หน่วยงานของรัฐ เช่น กรณี กฟภ. ทำสัญญาตั้งองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) หรือประชาชนเพื่อทำ
หน้าที่เก็บค่าไฟฟ้าแทน กฟภ. นั้นคณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะพิเศษ) เห็นว่าเป็นการจ้างทำของ ตาม
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ อบต. และ ประชาชนผู้ได้รับแต่งตั้งให้ทำหน้าที่ดังกล่า วจึง มิใ ช่
เจ้าหน้าที่ตามมาตรา 4 แห่งกฎหมายนี้
3. เฉลย : จ. ไม่มีข้อใดถูก : “หน่วยงานของรัฐ” หมายความว่า กระทรวง ทบวง กรม หรือส่วน
ราชการที่เรียกชื่ออย่างอื่นและมีฐานะเป็นกรม ราชการส่วนภูมิภาค ราชการส่วนท้องถิ่น และรัฐวิสาหกิจที่
ตั้งขึ้นโดยพระราชบัญญัติหรือพระราชกฤษฎีกา และให้หมายความรวมถึงหน่วยงานอื่นของรัฐที่มีพระราช
กฤษฎีกากำหนดให้เป็นหน่วยงานของรัฐตามพระราชบัญญัตินี้ด้วย “หน่วยงานอื่นของรัฐ” จะถูกกำหนด
โดย พรฎ. อาทิ (1) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (2) มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ (3) สถาบันวิจัยระบบ
สาธารณสุข (4) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (5) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
แห่งชาติ (6) องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก (7) สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (8) สำนักงาน
คณะกรรมการกำกั บ หลั ก ทรั พ ย์แ ละตลาดหลั กทรั พย์ (4) สถาบัน พระปกเกล้า (10) มหาวิท ยาลั ย
เทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (11) มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง (12) สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินของ
รัฐสภา (13) สำนักงานศาลปกครอง (14) สำนักงานศาลยุติธรรม (15) สำนักงานปฏิรูปการศึกษา
(องค์การมหาชน) (16) สำนักงานสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (องค์การมหาชน) (17) สถาบันพัฒนา
องค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) (18) โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์(องค์การมหาชน) (19) โรงพยาบาลบ้าน
แพ้ว (องค์การมหาชน) (20) สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน)
(21) สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน) (22) ศูนย์มานุษยวิทยา
หน้า 207
สิรินธร (องค์การมหาชน) (23) กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (24) สถาบันมาตรวิทยาแห่งชาติ (25)

แพทยสภา (26) บรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย (27) สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
(28) สภาเภสัชกรรม (29) สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ ฯลฯ)
4. เฉลย : ง. ให้นำหลักแห่งเจ้าหนี้ลูกหนี้มาบังคับใช้ในกรณีความผิดทางละเมิดได้
5. เฉลย : ข. ไม่เกินกว่า 5 คน : ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยหลักเกณฑ์การปฏิบัติเกี่ยวกับ
ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ.2539 ข้อ 8 คณะกรรมการตามวรรคหนึ่ง ให้มีจำนวนไม่เกินห้า
คน โดยแต่งตั้งจากเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานของรัฐแห่งนั้น หรือหน่วยงานของรัฐอื่นตามที่เห็นสมควร
6. เฉลย : ง. หัวหน้าหน่วยงาน : ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยหลักเกณฑ์การปฏิบัติเกี่ยวกับ
ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ.2539 ข้อ 7 เมื่อเกิดความเสี ยหายแก่หน่วยงานของรัฐ ให้
เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องแจ้งต่อผู้บังคับบัญชาโดยไม่ชักช้าและให้มีการรายงานตามลำดับชั้นถึงหัวหน้า
หน่วยงานของรัฐแห่งนั้น
7. เฉลย : ง. ความเสียหายจากการออกคำสั่ งหรื อกฎ : ระเบียบสำนักนายกรั ฐ มนตรี ว่า ด้ ว ย
หลักเกณฑ์การปฏิบัต ิเกี่ยวกับความรั บผิด ทางละเมิด ของเจ้า หน้า ที่ พ.ศ.2539 ข้อ 4 ความเสียหาย
หมายความว่า ความเสียหายที่เกิดจากการละเมิดอย่างใด ๆ แต่ไม่รวมถึงการออกคำสั่งหรือกฎ
8. เฉลย : ง. ถูกทุกข้อ : ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยหลักเกณฑ์การปฏิบัติเกี่ยวกับความรับ
ผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ.2539 ข้อ 22 และข้อ 23 ในกรณีที่ความเสียหายเกิดแก่เงิน ให้ใช้เป็น
เงินแต่เพียงอย่างเดียว ในกรณีที่ความเสียหายมิได้เกิดแก่เงิน จะดำเนินการดังต่อไปนี้แทนการชำระเงินก็
ได้
(1) ชดใช้เป็นทรัพย์สินอย่างเดียวกันโดยมีสภาพคุณภาพปริมาณ และลักษณะเดียวกันกับทรัพย์สินที่
สูญหายหรือเสียหายและใช้งานแทนได้เช่นเดียวกับทรัพย์สินที่สูญหายหรือเสียหาย โดยทำสัญญายินยอม
ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเป็นทรัพย์สินดังกล่าว
(2) ซ่อมแซมหรือบูรณะทรัพย์สิน ที่ชำรุดเสียหายให้คงสภาพเดิม โดยทำสัญญาว่าจะจัดการให้
ทรัพย์สินคงสภาพเหมือนเดิมภายในเวลาไม่เกินหกเดือน
(3) การชดใช้เป็นทรัพย์สินหรือการซ่อมแซมหรือบูรณะทรัพย์สินที่แตกต่างไปจาก (1) หรือ (2) ต้อง
ได้รับความเห็นชอบจากกระทรวงการคลังก่อน
9. เฉลย : ข. ฟ้องหน่วยงานของรัฐที่เจ้าหน้าที่สังกัด : พระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของ
เจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539 มาตรา 5 วรรคหนึ่ง หน่วยงานของรัฐต้องรับผิดต่อผู้เสียหายในผลแห่งละเมิดที่
เจ้าหน้าที่ของตนได้กระทำในการปฏิบัติหน้าที่ ในกรณีนี้ผู้เสียหายอาจฟ้องหน่วยงานของรัฐดังกล่าวได้
โดยตรง แต่จะฟ้องเจ้าหน้าที่ไม่ได้
หน้า 208
10. เฉลย : ง. ฟ้องกระทรวงการคลัง : พระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ.

2539 มาตรา 5 วรรคสอง ถ้าการละเมิดเกิดจากเจ้าหน้าที่ซึ่งไม่ได้สังกัดหน่วยงานของรัฐแห่งใดให้ถือว่า
กระทรวงการคลังเป็นหน่วยงานของรัฐที่ต้องรับผิดตามวรรคหนึ่ง
11. เฉลย : ก. เจ้าหน้าที่ของรัฐ : พระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539
มาตรา 4 ในกรณีที่หน่วยงานของรัฐต้องรับผิดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่ผู้เสียหายเพื่อการละเมิด ของ
เจ้าหน้าที่ ให้หน่วยงานของรัฐมีสิทธิเรียกให้เจ้าหน้าที่ผู้ทำละเมิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนดังกล่า วแก่
หน่วยงานของรัฐได้ ถ้าเจ้าหน้าที่ได้กระทำการนั้นไปด้วยความจงใจหรือประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง
12. เฉลย : ก. นายอำเภอ : ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยหลักเกณฑ์การปฏิบัติเกี่ยวกับความ
รับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ.2539 ข้อ 8 เมื่อเกิดความเสียหายแก่หน่วยงานของรัฐแห่งใด และ
หัวหน้าหน่วยงานของรัฐแห่งนั้นมีเหตุอันควรเชื่อว่าเกิดจากการกระทำของเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานของรัฐ
แห่งนั้น ให้หัวหน้าหน่วยงานของรัฐดังกล่าวแต่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิด
ขึ้นคณะหนึ่งโดยไม่ชักช้า เพื่อพิจารณาเสนอความเห็นเกี่ยวกับผู้ต้องรับผิดและจำนวนค่าสินไหมทดแทนที่
ผู้นั้นต้องชดใช้
13. เฉลย : ค. ต้องการคุ้มครองเจ้า หน้า ที่ที่ปฏิบัติหน้า ที่อย่า งสุจริตรอบคอบ : หมายเหตุท ้า ย
พระราชบัญญัติ เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ การที่เจ้าหน้าที่ดำเนินกิจการต่าง ๆ
ของหน่วยงานของรัฐนั้น หาได้เป็นไปเพื่อประโยชน์อันเป็นการเฉพาะตัวไม่ การปล่อยให้ความรับผิดทาง
ละเมิด ของเจ้าหน้าที่ ในกรณีที่ปฏิบัติงานในหน้าที่แ ละเกิดความเสียหายแก่เอกชนเป็นไปตามหลัก
กฎหมายเอกชนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์จึงเป็นการไม่เหมาะสมก่อให้เกิดความเข้าใจผิดว่า
เจ้าหน้าที่จะต้องรับผิดในการกระทำต่าง ๆ เป็นการเฉพาะตัวเสมอไป เมื่อการที่ทำไปทำให้หน่วยงานของ
รัฐต้องรับผิดต่อบุคคลภายนอกเพียงใดก็จะมีการฟ้องไล่เบี้ยเอาจากเจ้าหน้าที่เต็มจำนวนนั้น ทั้งที่บางกรณี
เกิดขึ้นโดยความไม่ตั้งใจหรือความผิดพลาดเพียงเล็กน้อยในการปฏิบัติหน้าที่ ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดความเป็น
ธรรมและเพิ่มพูนประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานของรัฐ จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้
14. เฉลย : ข. ภายใน 1 ปี : พระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้า หน้าที่ พ.ศ. 2539
มาตรา 9 ถ้าหน่วยงานของรัฐหรือเจ้าหน้าที่ได้ใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่ผู้ เสียหาย สิทธิที่จะเรียกให้อีกฝ่าย
หนึ่งชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่ตนให้มีกำหนดอายุความหนึ่งปีนับแต่วันที่หน่วยงานของรัฐหรือเจ้าหน้าที่
ได้ใช้ค่าสินไหมทดแทนนั้นแก่ผู้เสียหาย
15. เฉลย : ง. 180 วัน : พระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539 มาตรา
11 ในกรณีที่ผู้เสียหายเห็นว่า หน่วยงานของรัฐต้องรับผิดตามมาตรา 5 ผู้เสียหายจะยื่นคำขอต่อหน่วยงาน
ของรัฐให้พิจารณาชดใช้ค่าสินไหมทดแทนสำหรับความเสียหายที่เกิดแก่ตนก็ได้ ในการนี้หน่วยงานของรัฐ
ต้องออกใบรับคำขอให้ไว้เป็นหลักฐานและพิจารณาคำขอนั้นโดยไม่ชักช้า เมื่อหน่วยงานของรัฐมีคำสั่ง
เช่นใดแล้วหากผู้เสียหายยังไม่พอใจในผลการวินิจฉัยของหน่วยงานของรัฐก็ให้มีสิทธิร้องทุกข์ต่อ
หน้า 209
คณะกรรมการวินิจฉัยร้องทุกข์ตามกฎหมายว่าด้วยคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ภายในเก้าสิบวันนับแต่วันที่
ตนได้รับแจ้งผลการวินิจฉัย วรรคสอง ให้หน่วยงานของรัฐพิจารณาคำขอที่ได้รับตามวรรคหนึ่งให้แล้ว
เสร็จภายในหนึ่งร้อยแปดสิบวัน หากเรื่องใดไม่อาจพิจารณาได้ทันในกำหนดนั้นจะต้องรายงานปัญหาและ
อุปสรรคให้รัฐมนตรีเจ้าสังกัดหรือกำกับหรือควบคุมดูแลหน่วยงานของรัฐแห่งนั้นทราบและขออนุมัติขยาย
ระยะเวลาออกไปได้ แต่รัฐมนตรีดังกล่าวจะพิจารณาอนุมัติให้ขยายระยะเวลาให้อีกได้ไม่เกินหนึ่งร้อยแปด
สิบวัน
16. เฉลย : ก. ศาลปกครอง : พระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539
มาตรา 14 เมื่อได้มีการจัดตั้งศาลปกครองขึ้นแล้ว สิทธิร้องทุกข์ต่อคณะกรรมการวินิจฉัยร้องทุกข์ตาม
มาตรา 11 ให้ถือว่าเป็นสิทธิฟ้องคดีต่อศาลปกครอง
17. เฉลย : ค. ภายใน 2 ปี : พระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539
มาตรา 10 ในกรณีที่เจ้าหน้าที่เป็นผู้กระทำละเมิดต่อหน่วยงานของรัฐไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานของรัฐที่ผู้นั้น
อยู่ในสังกัดหรือไม่ ถ้าเป็นการกระทำในการปฏิบัติหน้าที่การเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนจากเจ้าหน้าที่ให้
นำบทบัญญัติมาตรา 8 มาใช้บังคับโดยอนุโลม แต่ถ้ามิใช่การกระทำในการปฏิบัติหน้าที่ให้บังคับตาม
บทบัญญัติแ ห่ ง ประมวลกฎหมายแพ่ งและพาณิ ชย์ วรรคสอง สิทธิเ รียกร้องค่า สิน ไหมทดแทนจาก
เจ้าหน้าที่ทั้งสองประการตามวรรคหนึ่ง ให้มีกำหนดอายุความสองปีนับแต่วันที่หน่วยงานของรัฐรู้ถึงการ
ละเมิดและรู้ตัวเจ้าหน้าที่ ผู้จะพึ่งต้องใช้ค่าสินไหมทดแทน และกรณีที่หน่วยงานของรัฐเห็นว่าเจ้าหน้าที่ผู้
นั้นไม่ต้องรับผิด แต่กระทรวงการคลังตรวจสอบแล้วเห็นว่าต้องรับผิด ให้สิทธิเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน
นั้นมีกำหนดอายุความหนึ่งปีนับแต่วันที่หน่วยงานของรัฐมีคำสั่งตามความเห็นของกระทรวงการคลัง
18. เฉลย : ก. นายกรัฐมนตรี : พระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539
มาตรา 15 ให้นายกรัฐมนตรีรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้
19. เฉลย : ค. ภายใน 2 ปี : พระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539
มาตรา 4 ในพระราชบัญญัตินี้ “หน่วยงานของรัฐ” หมายความว่า กระทรวง ทบวง กรม หรือส่วนราชการ
ที่เรียกชื่ออย่างอื่นและมีฐานะเป็นกรมราชการส่วนภูมิภาค ราชการส่วนท้องถิ่น และรัฐวิสาหกิจที่ตั้งขึ้น
โดยพระราชบัญญัติหรือพระราชกฤษฎีกา และให้หมายความรวมถึงหน่วยงานอื่นของรัฐที่มีพระราช
กฤษฎีกากำหนดให้เป็นหน่วยงานของรัฐตามพระราชบัญญัตินี้ด้วย
20. เฉลย : ก. โรงงานยาสูบ : พระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2534
มาตรา 4 ในพระราชบัญญัตินี้ “หน่วยงานของรัฐ” หมายความว่า กระทรวง ทบวง กรม หรือส่วนราชการ
ที่เรียกชื่ออย่างอื่นและมีฐานะเป็นกรมราชการส่วนภูมิภาค ราชการส่วนท้องถิ่น และรัฐวิส าหกิจที่ตั้งขึ้น
โดยพระราชบัญญัติหรือพระราชกฤษฎีกา และให้หมายความรวมถึงหน่วยงานอื่นของรัฐที่มีพระราช
กฤษฎี ก ากำหนดให้ เ ป็ น หน่ ว ยงานของรั ฐ ตามพระราชบั ญ ญั ต ิ น ี ้ ด ้ ว ย (รั ฐ วิ ส าหกิ จ รั ฐ ที ่ ต ั ้ ง ขึ ้ น โดย
พระราชบัญญัติหรือพระราชกฤษฎีกา แต่ไม่รวมถึงรัฐวิสาหกิจที่จัดตั้งขึ้นในรูปของบริษัทตามประมวล
หน้า 210
กฎหมายแพ่งและพาณิชย์หรือในรูปของบริษัทมหาชนตามกฎหมายว่าด้วยบริษัทมหาชน และรัฐวิสาหกิจ
ที่จัดตั้งขึ้นตามมติคณะรัฐมนตรีซึ่งไม่มีฐานะเป็นนิติบุคคล เช่นโรงงานยาสูบ เป็นต้น)
21. เฉลย : ข. 6 เดือน : พระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539 มาตรา 7
วรรคสอง ถ้าศาลพิพากษายกฟ้องเพราะเหตุที่หน่วยงานของรัฐหรือเจ้าหน้าที่ที่ถูกฟ้องมิใช่ผู้ต้องรับผิด ให้
ขยายความฟ้องร้องผู้ที่ต้องรับผิดซึ่งมิได้ถูกเรียกเข้ามาในคดีออกไปถึงหกเดือนนับแต่วั นที่คำพิพากษานั้น
ถึงที่สุด
22. เฉลย : ข. ภายใน 1 ปี : พระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้า หน้าที่ พ.ศ. 2539
มาตรา 4 ถ้าหน่วยงานของรัฐหรือเจ้าหน้าที่ได้ใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่ผู้เสียหาย สิทธิที่จะเรียกให้อีกฝ่าย
หนึ่งชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่ตนให้มีกำหนดอายุความหนึ่ งปีนับแต่วันที่หน่วยงานของรัฐหรือเจ้าหน้าที่
ได้ใช้ค่าสินไหมทดแทนนั้นแก่ผู้เสียหาย
23. เฉลย : ง. ถูกทั้ง ข้อ ข. และ ค. : พระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ.
2539 มาตรา 5 และคำสั่งศาลปกครองสูงสุดที่ 278/2549 การฟ้องเรียกค่าเสียหายจากการที่พนักงานขับ
รถยนต์ของสำนักงานเขตยานนาวา ขับรถเก็บขนมูลฝอยชนท้ายรถยนต์ของตัวแทนและผู้เช่ารถยนต์ของ
ผู้ฟ้องคดีได้รับความเสียหาย ผู้ฟ้องคดีได้ติดต่อขอรับเงินค่าเสียหายกับสำนักงานเขตยานนาวา (ผู้ถูกฟ้อง
คดีที่ 1) แต่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 มีหนังสือแจ้งปฏิเสธการชดใช้ค่าเสียหายดังกล่าว ผู้ฟ้องคดีจึงขอให้เพิกถอน
คำสั่งปฏิเสธและให้ศาลสั่งให้ผู้ถูกฟ้องคดีชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่ผู้ฟ้องคดี ศาลปกครองสูงสุด
วินิจฉัยว่า การฟ้องเรียกค่าสินไหมทดแทนอันเกิดจากการกระทำละเมิดของเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ปฏิบัติ
หน้าที่ขับรถเก็บขนมูลฝอย การปฏิบัติห น้าที่ดังกล่าวเป็นการปฏิบัติหน้าที่ธรรมดาทั่วไป มิได้เกิดจากการ
ใช้อำนาจตามกฎหมายของเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือหน่วยงานทางปกครอง จึงไม่อยู่ในบังคับมาตรา 9 วรรค
หนึ่ง (3) แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองฯ คดีนี้จึงอยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลยุติธรรม
24. เฉลย : จ. ถูกทุกข้อ : พระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539 มาตรา
5 และพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542 มาตรา 9 วรรคหนึ่ง (3)
มาตรา 51
25. เฉลย : ง. ถูกเฉพาะข้อ ข. และ ค. : คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5763/2551 พนักงานสอบสวนยึด
รถยนต์ของกลางแล้วไม่ดูแลให้ดี จอดไว้บนในพักหรือบนถนนหน้าโรงพักหรือ ฝั่งตรงข้าม แล้วรถนั้นถูก
งัดแงะลักของในรถไป ถือว่าพนักงานสอบสวนไม่ดูแลรักษารถของกลางให้ดี จะอ้างว่าไม่มีที่จอดไม่ได้
พนักงานสอบสวนจึงต้องรับผิด ดังนั้น แม้รถ ราชการจะเก็บไม่ดี แต่ไม่ได้แปลว่ามีสิทธิเก็บรถของกลางไม่
ดีเหมือนกับรถราชการ เมื่อ รถมันสูญเสียหายต้องรับผิดชอบ คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1506/2516 บริษัท
จำเลยที่ 3 ทำการก่อสร้างถนนโดยได้ทำสัญญารับจ้างกับกรมทางหลวงตามรายการต่อท้ายสัญญาจ้าง
ปรากฏว่าถนนที่ซ่อมและทำใหม่ตามแบบกว้าง 12 เมตร เป็นผิวจราจร 7 เมตรเป็นไหล่ถนนข้างละ 2
เมตรครึ่ง บริษัทจำเลยที่ 3 ต้องซ่อมแซมทั้งผิวจราจรและต้องเอาดินลูกรังถมไหล่ถนนให้สูงขึ้นด้วยและ
หน้า 211
เป็นผู้รับผิดชอบต่อความเสียหายใด ๆ อันเกิดแก่อาคารที่อยู่ใกล้เคียงหรือบุคคลภายนอก เนื่องจากการ

กระทำใดๆ ในงานนี้ต ้องให้การจราจรผ่า นไปมาได้โดยสะดวก และจะต้องทำและติดตั้งป้า ยจราจร
เครื่องหมาย ไม้กั้น และสิ่งประกอบอื่นๆเพื่อความปลอดภัยแก่การจราจรตั้งแต่เริ่มงานก่อสร้างจนกระทั่ง
งานเสร็จ แต่บริษัทจำเลยที่ 3 ไม่ติดตั้งป้ายหรือเครื่องหมายเตือนผู้ขับขี่รถให้ทราบว่ามีการก่อสร้างซ่อม
ถนนอยู่ข้างหน้าไม่รดน้ำไหล่ถนนที่ถมด้วยดินลูกรังซึ่งตนซ่อมแซมอยู่ เป็นเหตุให้เกิดฝุ่นตลบอันเป็นเหตุ
ส่วนหนึ่งที่ทำให้จำเลยที่ 1 ซึ่งขับรถของจำเลยที่ 2 ผู้เป็นนายจ้างสวนทางกับรถโจทก์ในถนนตรงนั้น ขับ
แซงรถคันอื่นเข้าชนรถโจทก์ด้วยความประมาท ทำให้รถโจทก์เสียหาย บริษัทจำเลยที่ 3 ก็ต้องร่วมรับผิด
ในผลแห่งละเมิดที่จำเลยที่ 1 และที่ 2 ได้กระทำต่อโจทก์ด้วย
หน้า 212
เจาะข้อสอบพระราชบัญญัตมิ าตรฐานทางจริยธรรม พ.ศ. 2562
1. พระราชบัญญัติมาตรฐานทางจริยธรรม พ.ศ. 2562 มีวัตถุประสงค์ตามข้อใด

ก. กำหนดมาตรฐานทางจริยธรรมของสังคมไทย
ข. ใช้เป็นหลักสำคัญในการจัดทำประมวลจริยธรรมของหน่วยงานของรัฐ
ค. เป็นกลไกตรวจสอบการรักษามาตรฐานทางจริยธรรม
ง. ป้องกันการทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการ
2. พระราชบัญญัติมาตรฐานทางจริยธรรม พ.ศ. 2562 มีผลใช้บังคับตั้งแต่เมื่อใด
ก. วันที่ 16 เมษายน 2562 ข. วันที่ 17 เมษายน 2562
ค. วันที่ 18 เมษายน 2562 ง. วันที่ 19 เมษายน 2562
3. หน่วยงานของรัฐใดที่ไม่อยู่ภายใต้บังคับพระราชบัญญัติมาตรฐานทางจริยธรรม พ.ศ. 2562
ก. ราชการส่วนท้องถิ่น ข. องค์การมหาชน
ค. หน่วยงานธุรการของรัฐสภา ง. รัฐวิสาหกิจ
4. ผู้รักษาการตามพระราชบัญญัติมาตรฐานทางจริยธรรม พ.ศ. 2562
ก. ประธานกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม ข. ประธานกรรมการข้าราชการพลเรือน
ค. นายกรัฐมนตรี ง. อธิบดีกรมการศาสนา
5. พ.ร.บ.มาตรฐานทางจริยธรรม พ.ศ. 2562 กำหนดให้มาตรฐานทางจริยธรรมจะต้องมีหลักเกณฑ์การ
ประพฤติปฏิบัติอย่างมีคุณธรรมของเจ้าหน้าที่ของรัฐกี่ประการ
ก. 3 ประการ ข. 5 ประการ
ค. 7 ประการ ง. 9 ประการ
6. ข้อใดไม่ใช้มาตรฐานทางจริยธรรม ตาม พ.ร.บ.มาตรฐานทางจริยธรรม พ.ศ. 2562
ก. ซื่อสัตย์สุจริต มีจิตส านึกที่ดี และรับผิดชอบต่อหน้าที
ข. คิดถึงประโยชน์ส่วนตัวมากกว่าประโยชน์ส่วนรวม
ค. มุ่งผลสัมฤทธิ์ของงาน
ง. ดำรงตนเป็นแบบอย่างที่ดีและรักษาภาพลักษณ์ของทางราชการ
7. ข้อใดถูกต้องเกี่ยวกับ เลขาธิการ ก.พ.
ก. เป็นกรรมการและเลขานุการ คณะกรรมการมาตรฐานทางจริยธรรม
ข. เป็นรองประธานกรรมการมาตรฐานทางจริยธรรม
ค. ปฏิบัติงานธุรการของคณะกรรมการมาตรฐานทางจริยธรรม
ง. มีอายุไม่ต่ำกว่าสี่สิบห้าปี
หน้า 213
8. ข้อใดกล่าวผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ. มาตรฐานทางจริยธรรม พ.ศ. 2562

ก. องค์กรกลางบริ หารงานบุ ค คลขององค์ กรอิส ระ ไม่ต้องนำมาตรฐานทางจริ ยธรรมไปใช้
ประกอบการจัดทำประมวลจริยธรรม
ข. หน่วยงานธุรการของศาลมิใช่หน่วยงานของรัฐ
ค. กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการมาตรฐานทางจริยธรรมต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 45 ปี
ง. สภากลาโหมมีหน้าที่จัดทำประมวลจริยธรรมสำหรับข้าราชการทหารและข้าราชการพลเรือน
กลาโหม
9. โดยทั่วไปคณะกรรมการมาตรฐานทางจริยธรรมจะต้องทบทวนมาตรฐานทางจริยธรรมเมื่อใด
ก. ทุก 2 ปี ข. ทุก 3 ปี ค. ทุก 4 ปี ง. ทุก 5 ปี
10. ข้อใดมิใช่กรรมการมาตรฐานทางจริยธรรมโดยตำแหน่ง
ก. ผู้แทนคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน
ข. ผู้แทนคณะกรรมการข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา
ค. ผู้แทนคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
ง. ผู้แทนคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ
11. มาตรฐานทางจริยธรรมคือหลักเกณฑ์การประพฤติปฏิบัติอย่างมีคุณธรรมของเจ้าหน้าที่ของรัฐ ยกเว้น
ข้อใด
ก. กล้ากระทำในสิ่งที่ถูกต้องชอบธรรม ข. แสวงหาความรู้ตลอดเวลา
ค. ดำรงตนเป็นแบบอย่างที่ดี ง. มีจิตสาธารณะ
12. คณะกรรมการมาตรฐานทางจริยธรรมมีหน้าที่และอำนาจตาม พ.ร.บ.มาตรฐานทางจริยธรรม พ.ศ.
2562 ยกเว้นข้อใด
ก. ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับยุทธศาสตร์ด้านมาตรฐานทางจริยธรรมต่อคณะรัฐมนตรี
ข. ปฏิบัติหน้าที่อื่นตามที่คณะรัฐมนตรีมอบหมาย
ค. ตรวจสอบรายงานประจำปีของหน่วยงานของรัฐ
ง. จัดทำประมวลจริยธรรม
13. หน่วยงานของรัฐต้องดำเนินการในเรื่องใด เพื่อเป็นการรักษาจริยธรรมของเจ้าหน้าที่ของรัฐ
ก. กำหนดให้มีผู้รับผิดชอบเกี่ยวกับการรักษาจริยธรรมประจำหน่วยงานของรัฐ
ข. ให้ความรู้แก่ประชาชนอย่างเท่าเทียมและเสมอภาค
ค. จัดทำประมวลจริยธรรมให้สอดคล้องตามยุทธศาสตร์ชาติ
ง. กำกับดูแลการดำเนินกระบวนการรักษาจริยธรรม
หน้า 214
14. การจัด หลักสูต รการฝึกอบรมและเผยแพร่ความเข้า ใจเพื่อให้เ จ้า หน้าที่ของรัฐมีพฤติกรรมทาง

จริยธรรมเป็นแบบอย่างที่ดี เป็นหน้าที่ของผู้ใด
ก. เจ้าหน้าที่ของรัฐ ข. ผู้บังคับบัญชา
ค. หน่วยงานของรัฐ ง. องค์กรกลางบริหารงานบุคคล
15. กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ใน ก.ม.จ. พ้นจากตำแหน่งตามข้อใด
ก. กระทำความผิดโดยประมาทและถูกศาลพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก
ข. เป็นที่ปรึกษาพรรคการเมือง
ค. คณะรัฐมนตรีมีมติให้ออก
ง. ครบวาระการดำรงตำแหน่งสี่ปี
16. การดำเนินการข้อใดถูกต้อง หากปรากฏว่าการจัดทำประมวลจริยธรรมไม่สอดคล้องกับมาตรฐานทาง
จริยธรรม
ก. คณะกรรมการมาตรฐานทางจริยธรรมเสนอรายงานต่อคณะรัฐมนตรี
ข. คณะกรรมการมาตรฐานทางจริยธรรมแจ้งองค์กรกลางบริหารงานบุคคลดำเนินการแก้ไขให้
ถูกต้อง
ค. คณะกรรมการมาตรฐานทางจริยธรรมออกคำสั่งให้มีการแก้ไขให้ถูกต้อง
ง. คณะกรรมการมาตรฐานทางจริยธรรมเสนอรายงานต่อรัฐสภาเพื่อใช้มาตรการด้านงบประมาณ
17. คณะกรรมการมาตรฐานทางจริยธรรมมีหน้าที่กำกับ ติดตามและประเมิน ผลการดำเนิน การตาม
มาตรฐานทางจริยธรรม ที่ถูกที่สุดคือข้อใด
ก. ให้หน่วยงานของรัฐจัดให้มีการประเมินพฤติกรรมทางจริยธรรมสำหรับเจ้าหน้าที่ของรัฐ
ข. จัดทำรายงานประจำปีของหน่วยงานของรัฐ
ค. วินิจฉัยปัญหาที่เกิดจากการใช้บังคับ พ.ร.บ.มาตรฐานทางจริยธรรม พ.ศ. 2562
ง. กำหนดแนวทางการบังคับใช้ประมวลจริยธรรมสำหรับเจ้าหน้าที่ของรัฐ
18. คณะกรรมการมาตรฐานทางจริยธรรม เรียกโดยย่อว่า
ก. กมจ. ข. กม.จ.
ค. ก.ม.จ. ง. ก.มจ.
19. ข้อใดถูกต้องเกี่ยวกับกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการมาตรฐานทางจริยธรรม
ก. คณะรัฐมนตรีแต่งตั้งไม่เกิน 5 คน ข. คณะรัฐมนตรีแต่งตั้งไม่เกิน 7 คน
ค. นายกรัฐมนตรีแต่งตั้งไม่เกิน 5 คน ง. นายกรัฐมนตรีแต่งตั้งไม่เกิน 7 คน
หน้า 215
20. ข้อใดมิใช่กลไกหลักในการขับเคลื่อน พ.ร.บ.มาตรฐานทางจริยธรรม พ.ศ. 2562

ก. มาตรฐานทางจริยธรรมและประมวลจริยธรรม
ข. แนวนโยบายพื้นฐาน
ค. คณะกรรมการมาตรฐานทางจริยธรรม
ง. การรักษาจริยธรรมของเจ้าหน้าที่ของรัฐ
หน้า 216
เฉลยเจาะข้อสอบพระราชบัญญัติมาตรฐานทางจริยธรรม พ.ศ. 2562
1. ตอบ ข. เนื่องจากรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 76 วรรคสาม บัญญัติให้รัฐจัดให้

มีมาตรฐานทางจริยธรรม เพื่อให้หน่วยงานของรัฐใช้เป็นหลักในการกำหนดประมวลจริยธรรมสำหรับ
เจ้าหน้าที่ของรัฐในหน่วยงานนั้นๆ ซึ่งจะต้องไม่ต่ำกว่ามาตรฐานทางจริยธรรมดังกล่าว
2. ตอบ ข. มาตรา 2 บัญญัติให้ พ.ร.บ.นี้ ใช้บังคับตั้งแต่วัน ถัดจากวัน ประกาศในราชกิ จจา
นุเบกษาเป็นต้นไป ซึ่งประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 136/ตอนที่ 50 หน้า 1/16 เมษายน 2562 จึงมี
ผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 17 เมษายน 2562 เป็นต้นไป
3. ตอบ ค. มาตรา 3 ในพระราชบัญญัตินี้
“หน่วยงานของรัฐ” หมายความว่า กระทรวง ทบวง กรม ส่วนราชการที่เรียกชื่ออย่างอื่นและมี
ฐานะเป็นกรม ราชการส่วนท้องถิ่น รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน หรือหน่วยงานอื่นของรัฐในฝ่ายบริหาร
แต่ไม่หมายความรวมถึง หน่วยงานธุรการของรัฐสภา องค์กรอิสระ ศาล และองค์กรอัยการ
4. ตอบ ค. นายกรัฐมนตรี มาตรา 4 ให้นายกรัฐมนตรีรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้
5. ตอบ ค. มาตรา 5 มาตรฐานทางจริยธรรม คือ หลักเกณฑ์การประพฤติปฏิบัติอย่ างมีคุณธรรม
ของเจ้าหน้าที่ของรัฐ ซึ่งจะต้องประกอบด้วย
(1) ยึดมั่นในสถาบันหลักของประเทศ อันได้แก่ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการ
ปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
(2) ซื่อสัตย์สุจริต มีจิตสำนึกที่ดี และรับผิดชอบต่อหน้าที่
(3) กล้าตัดสินใจและกระทำในสิ่งที่ถูกต้องชอบธรรม
(4) คิดถึงประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าประโยชน์ส่วนตัว และมีจิตสาธารณะ
(5) มุ่งผลสัมฤทธิ์ของงาน
(6) ปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นธรรมและไม่เลือกปฏิบัติ
(7) ดำรงตนเป็นแบบอย่างที่ดีและรักษาภาพลักษณ์ของทางราชการ
มาตรฐานทางจริยธรรมตามวรรคหนึ่ง ให้ใช้เป็นหลักสำคัญในการจัดทำประมวลจริยธรรมของ
หน่วยงานของรัฐที่จะกำหนดเป็นหลักเกณฑ์ในการปฏิบัติตนของเจ้าหน้าที่ของรัฐ เกี่ยวกับสภาพคุณงาม
ความดีที่เจ้าหน้าที่ของรัฐต้องยึดถือสำหรับการปฏิบัติงาน การตัดสินความถูกผิด การปฏิบัติที่ควรกระทำ
หรือไม่ควรกระทำ ตลอดจนการดำรงตนในการกระทำความดีและละเว้นความชั่ว
6. ตอบ ข. มาตรา 5 มาตรฐานทางจริยธรรม คือ หลักเกณฑ์การประพฤติปฏิบัติอย่างมีคุณธรรม
หน้า 217

7. ตอบ ก. มาตรา 8 วรรคสอง ให้เลขาธิการ ก.พ. เป็นกรรมการและเลขานุการ และให้เลขาธิการ
ก.พ. แต่งตั้งข้าราชการในสำนักงาน ก.พ. เป็นผู้ช่วยเลขานุการได้ตามความจำเป็น
8. ตอบ ก. มาตรา 7 เพื่อให้การจัดทำประมวลจริยธรรมในภาครัฐมีมาตรฐานทางจริยธรรมใน
ระดับเดียวกัน ในการจัดทำประมวลจริยธรรมขององค์กรกลางบริหารงานบุคคลของศาลหรือองค์กร
อัยการ องค์กรกลางบริหารงานบุคคลของหน่วยงานธุรการของรัฐสภาและองค์กรอิสระ ให้น ำมาตรฐาน
ทางจริยธรรมตามมาตรา 5 ไปใช้ประกอบการพิจารณาจัดทำประมวลจริยธรรมของเจ้าหน้าที่ของรัฐที่อยู่
ในความรับผิดชอบด้วย
9. ตอบ ง. มาตรา 15 ให้ ก.ม.จ. จัดให้มีการทบทวนมาตรฐานทางจริยธรรมตามมาตรา 5 ทุกห้า
ปีหรือในกรณีท ี่ มี ค วามจำเป็น หรื อ สถานการณ์เ ปลี่ ยนแปลงไป ก.ม.จ. จะพิจารณาทบทวนในรอบ
ระยะเวลาที่เร็วกว่านั้นก็ได้ โดยในการดำเนินการดังกล่าวให้เชิญผู้แทนจากองค์กรกลางบริหารงานบุคคล
และองค์กรตามมาตรา 6 วรรคสอง มาหารือร่วมกันด้วย
10. ตอบ ก. มาตรา 8 (2) (2) ผู้แทนคณะกรรมการข้าราชการพลเรือนที่ได้รับมอบหมาย เป็นรอง
ประธานกรรมการ (3) กรรมการโดยตำแหน่ ง จำนวนห้ า คน ได้ แ ก่ ผู ้ แ ทนที ่ ไ ด้ ร ั บ มอบหมายจาก
คณะกรรมการข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา คณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการ
ศึกษา คณะกรรมการข้าราชการตำรวจ คณะกรรมการมาตรฐานการบริหารงานบุคคลส่วนท้องถิ่น และ
สภากลาโหม อย่างละหนึ่งคน
11. ตอบ ข. มาตรา 5 มาตรฐานทางจริยธรรม คือ หลักเกณฑ์การประพฤติปฏิบัติอย่างมีคุณธรรม
หน้า 218
12. ตอบ ง. มาตรา 13 ก.ม.จ. มีหน้าที่และอำนาจ ดังต่อไปนี้
(1) เสนอแนะและให้ค ำปรึกษาเกี่ยวกับนโยบายและยุทธศาสตร์ด ้า นมาตรฐานทาง
จริยธรรมและการส่งเสริมจริยธรรมภาครัฐต่อคณะรัฐมนตรี
(2) กำหนดแนวทางหรื อ มาตรการในการขั บ เคลื่ อ น การดำเนิ น กระบวนการรักษา
จริยธรรมรวมทั้งกลไกและการบังคับใช้ประมวลจริยธรรมสำหรับเจ้าหน้าที่ของรัฐเพื่อให้องค์กรกลาง
บริหารงานบุคคล องค์กรตามมาตรา 6 วรรคสอง หรือผู้บังคับบัญชานำไปใช้ในกระบวนการบริหารงาน
บุคคลอย่างเป็นรูปธรรม
(3) กำหนดแนวทางในการส่งเสริมและพัฒนาเพื่อเสริมสร้างประสิทธิภาพให้เจ้าหน้าที่
ของรัฐมีค วามรู้ค วามเข้า ใจเกี่ยวกับมาตรฐานทางจริยธรรมและยึด ถือแนวทางปฏิบัต ิตามประมวล
จริยธรรม รวมทั้งเสนอแนะมาตรการในการเพิ่มพูนประสิทธิภาพและเสริมสร้างแรงจูงใจในการปฏิบัติตาม
ประมวลจริยธรรมแก่หน่วยงานของรัฐต่อคณะรัฐมนตรี
(4) กำกับ ติดตาม และประเมินผลการดำเนินการตามมาตรฐานทางจริยธรรม โดยอย่าง
น้อยต้องให้หน่วยงานของรัฐจัดให้มีการประเมินความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรฐานทางจริยธรรม และ
ให้มีการประเมินพฤติกรรมทางจริยธรรมสำหรับเจ้าหน้าที่ของรัฐในหน่วยงานนั้น
(5) ตรวจสอบรายงานประจำปีของหน่วยงานของรัฐตามมาตรา 19 (3) และรายงาน
สรุปผลการดำเนินงานดังกล่าวเสนอต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อทราบอย่างน้อยปีละหนึ่งครั้ง
(6) ตีความและวินิจฉัยปัญหาที่เกิดจากการใช้บังคับพระราชบัญญัตินี้
(7) ปฏิบัต ิหน้า ที ่ อื่ น ตามที่ บั ญ ญั ต ิไ ว้ ใ นพระราชบั ญ ญั ติ น ี ้ห รื อ ตามที ่ค ณะรั ฐ มนตรี
มอบหมาย
13. ตอบ ก. มาตรา 19 เพื่อประโยชน์ในการรักษาจริยธรรมของเจ้าหน้าที่ของรัฐ ให้หน่วยงาน
ของรัฐดำเนินการ ดังต่อไปนี้
(1) กำหนดให้มีผู้รับผิดชอบเกี่ยวกับการรักษาจริยธรรมประจำหน่วยงานของรัฐ ในการนี้
อาจมอบหมายให้ ส่ วนงานที่ม ีหน้า ที่แ ละภารกิจ ในด้า นจริ ยธรรม ธรรมาภิบาล หรือที่เ กี่ยวกั บ การ
บริหารงานบุคคล หรือคณะกรรมการและกลุ่มงานจริยธรรมประจำหน่วยงานของรัฐที่มีอยู่แ ล้ วเป็น
ผู้รับผิดชอบก็ได้
(2) ดำเนินกิจกรรมการส่งเสริม สนับสนุน ให้ความรู้ ฝึกอบรม และพัฒนาเจ้าหน้าที่ของ
รัฐในหน่วยงานของรัฐ และจัดให้มีมาตรการและกลไกที่มีประสิทธิภาพเพื่อเสริมสร้างให้มีการปฏิบัติตาม
ประมวลจริยธรรม รวมทั้งกำหนดกลไกในการส่งเสริมให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการตรวจสอบพฤติกรรม
หน้า 219
ของเจ้าหน้าที่ของรัฐ ตลอดจนสร้างเครือข่ายและประสานความร่วมมือระหว่างหน่วยงานของรัฐและ
ภาคเอกชน
(3) ทุกสิ้นปีงบประมาณ ให้จัดทำรายงานประจำปีตามหลักเกณฑ์ที่ ก.ม.จ. กำหนดเสนอ
ต่อ ก.ม.จ. โดยให้หน่วยงานของรัฐเสนอรายงานประจำปีผ่านองค์กรกลางบริหารงานบุคคลหรื อองค์กร
ตามมาตรา 6 วรรคสอง แล้วแต่กรณี เพื่อประเมินผลในภาพรวมของหน่วยงานของรัฐเสนอต่อ ก.ม.จ.
14. ตอบ ง. มาตรา 20 ให้องค์กรกลางบริหารงานบุคคลแต่ละประเภทและองค์กรตามมาตรา 6
วรรคสอง มีหน้าที่ก ำกับดูแลการดำเนินกระบวนการรักษาจริยธรรม และการประเมินผลการปฏิบัติตาม
ประมวลจริยธรรม รวมทั้งให้มีหน้าที่และอำนาจจัดหลักสูตรการฝึกอบรม การเผยแพร่ค วามเข้าใจ
ตลอดจนการกำหนดมาตรการจูงใจเพื่อพัฒนาและส่งเสริมให้เจ้าหน้าที่ของรัฐในหน่วยงานของรั ฐ มี
พฤติกรรมทางจริยธรรมเป็นแบบอย่างที่ดี และมาตรการที่ใช้บังคับแก่เจ้าหน้าที่ของรัฐในหน่วยงานของรัฐ
ซึ่งมีพฤติกรรมที่เป็นการฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมหรือไม่ปฏิบัติตามประมวลจริยธรรม โดยอาจ
กำหนดมาตรการเพื่อใช้ในการบริหารงานบุคคลตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการประเภทนั้น
15. ตอบ ข. มาตรา 9 (6) ไม่เป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหาร
ท้องถิ่น กรรมการหรือผู้ซึ่งดำรงตำแหน่งซึ่งรับผิดชอบการบริหารพรรคการเมือง ที่ปรึกษาพรรคการเมือง
หรือเจ้าหน้าที่พรรคการเมือง
16. ตอบ ข. มาตรา 14 วรรคท้าย ในกรณีที่ปรากฏแก่ ก.ม.จ. ว่า การจัดทำประมวลจริยธรรม
ขององค์กรกลางบริหารงานบุ คคลหรือองค์กรตามมาตรา 6 วรรคสอง หรือข้อกำหนดจริยธรรมของ
หน่วยงานของรัฐแห่งใดไม่สอดคล้องกับมาตรฐานทางจริยธรรมหรือมีการปฏิบัติที่ไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์
ที่ ก.ม.จ. กำหนดตามวรรคหนึ่ง ให้ ก.ม.จ. แจ้งให้องค์กรกลางบริหารงานบุคคล องค์กรตามมาตรา 6
วรรคสอง หรือหน่วยงานของรัฐแห่งนั้นดำเนินการแก้ไขให้ถูกต้อง และให้เป็นหน้าที่ขององค์กรกลาง
บริหารงานบุคคล องค์กรตามมาตรา 6 วรรคสอง หรือหน่วยงานของรัฐที่จะต้องดำเนินการโดยเร็ว
17. ตอบ ก. มาตรา 13 (4) กำกับ ติดตาม และประเมินผลการดำเนินการตามมาตรฐานทาง
จริยธรรม โดยอย่างน้อยต้องให้ห น่วยงานของรัฐจัดให้มีการประเมินความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรฐาน
ทางจริยธรรม และให้มีการประเมินพฤติกรรมทางจริยธรรมสำหรับเจ้าหน้าที่ของรัฐในหน่วยงานนั้น
18. ตอบ ค. มาตรา 8 ให้มีค ณะกรรมการมาตรฐานทางจริยธรรมคณะหนึ่ง เรียกโดยย่อว่า
“ก.ม.จ.” ประกอบด้วย
(1) นายกรัฐมนตรีหรือรองนายกรัฐมนตรีซึ่งนายกรัฐมนตรีมอบหมาย เป็น ประธาน
กรรมการ
(2) ผู้แทนคณะกรรมการข้าราชการพลเรือนที่ได้รับมอบหมาย เป็นรองประธานกรรมการ
(3) กรรมการโดยตำแหน่ ง จำนวนห้ า คน ได้ แ ก่ ผู ้ แ ทนที ่ ไ ด้ ร ั บ มอบหมายจาก
คณะกรรมการข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา คณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการ
หน้า 220
ศึกษาคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ คณะกรรมการมาตรฐานการบริหารงานบุคคลส่วนท้องถิ่น และ

สภากลาโหม อย่างละหนึ่งคน
(4) กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งนายกรัฐมนตรีแต่งตั้งจำนวนไม่เกินห้าคนเป็นกรรมการ
19. ตอบ ค. มาตรา 8 (4) กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งนายกรัฐมนตรีแต่งตั้งจำนวนไม่เกินห้าคนเป็น
กรรมการ
20. ตอบ ข. พ.ร.บ.นี้ จัดหมวดหมู่ออกเป็น 3 หมวด ซึ่งเป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนมาตรฐาน
ทางจริยธรรม

ข้อสอบครูผู้ช่วยไฟล์ PDF

Uploaded by

Document Information

Copyright

Available Formats

Share this document

Share or Embed Document

Sharing Options

Did you find this document useful?

Is this content inappropriate?

Copyright:

Available Formats

ข้อสอบครูผู้ช่วยไฟล์ PDF

Uploaded by

Copyright:

Available Formats

หน้า 1

แนวข้อสอบ ภาค ก. สอบครูผู้ช่วย เกณฑ์ใหม่ 2564

1. 3, 3, 18, 4, 5, 60, 5, 7, .... จงหาตัวเลขในลำดับถัดไป

12. จงหาขนาดของมุมภายในของรูป 11 เหลี่ยม

ก. 144 ข. 145 ค. 146 ง. 147

ก. 1,800 ข. 3,600 ค. 5,400 ง. 7,200

30. ปรีชากู้เงินจากธนาคาร 1,500,000 บาท เพื่อสร้างบ้าน อัตราดอกเบี้ย 3.65% ต่อปี ปรีชากู้เป็น

44. 2 2 8 20 56 ..... จงหาตัวเลขในลำดับถัดไป

47. 15 + 17 + 19 + ... + 53 เท่ากับข้อใด

51. ในงานวันเด็กของหมู่บ้านแห่งหนึ่ง มีผู้มาร่วมงานทั้งหมด 72 คน

60. จำนวนนับ 5 จำนวนเรียงกัน บวกกันได้ 485 จงหาจำนวนที่ 3

63. 2 4 12 ...... 240

75. ข้อมูลแสดงจำนวนนักศึกษาที่สำเร็จการศึกษาในปี 2563 ของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งจำนวน 1,200

1. 3, 3, 18, 4, 5, 60, 5, 7, .... จงหาตัวเลขในลำดับถัดไป

5. ควาย 5 ตัว กินหญ้าหมดไป 14 วัน ถ้ามีความเพิ่มอีก 2 ตัว จะกินหญ้าหมดภายในกี่วัน

ตอบ 128 60 = 6 x (6 + 2 + 2) A = 8 x (8 + 4 + 4) = 128

15. กำหนดให้ A ◊ B = 3A - B จงหา 2 ◊ (3 ◊ 2)

ดังนั้น M + N = 720 + 890 = 1,610

7(2) + 1 = 15 959(6) + 5 = 5,759

15(3) + 2 = 47 191(5) + 4 = 959

ดังนั้น a – b = 6.25 – 4.25 = 2

30. ปรีชากู้เงินจากธนาคาร 1,500,000 บาท เพื่อสร้างบ้าน อัตราดอกเบี้ย 3.65% ต่อปี ปรีชากู้เป็น

16+0 25+1 34+2 43+3 52+4 61+5

-20 -25 -30 -35 -40 -45

56. ประชากรเมือง A มี 6,800 คน ทุกๆ ปีประชากรจะลดลงปีละ 120 คน ประชากรเมือง B มี 4,200

60. จำนวนนับ 5 จำนวนเรียงกัน บวกกันได้ 485 จงหาจำนวนที่ 3

2x2 4x3 12x4 48x5

16+0 25+1 34+2 43+3 52+4 61+5

+9 +16 +25 +36

75. ข้อมูลแสดงจำนวนนักศึกษาที่สำเร็จการศึกษาในปี 2563 ของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งจำนวน 1,200

ผลต่าง = 13.5 - 9.1 = 4.4

19. ผลบวกของเลข 2 จำนวนเรียงติดกัน มีค่าเท่ากับ 125 อยากทราบว่า เลขจำนวนน้อยมีค่าเท่าไร

41. นกเอี้ยงฝูงหนึ่งบินมาเกาะหลังควาย ถ้าเกาะตัวต่อตัวจะเหลือนกเอี้ยง 1 ตัว แต่ถ้านกเอี้ยง 2 ตัว

49. ในห้องปฏิบัติการเคมีแห่งหนุ่งมีหลอดแก้ว 60 หลอด ที่มีความยาวต่างกันดังตาราง

55. จากการสำรวจความนิยมอ่านหนังสือพิมพ์ของนักศึกษาจำนวน 200 คน มีผู้นิยมอ่านหนังสือพิมพ์

56. ผลบวกของจำนวนนับตั้งแต่ 1 – 100 ซึ่งหารด้วย 4 ลงตัว เท่ากับเท่าไร

64. ในการวัดสัดส่วนความสูงของนักเรียน 15 คน ปรากฏว่า ความสูงของนักเรียนมากที่สุด คือ 165

1. ค. 11 แนวคิด 16+0 25+1 34+2 …

ขายไป ลด 40% ประกาศไว้ 100 บาท ขายไป 60 บาท ประกาศไว้

48. ข. 25 แนวคิด สูตร หน้า2 – หลัง2 = (หน้า + หลัง)(หน้า - หลัง)

63. ข. 8 แนวคิด 3 x  = 6 ดังนั้น  = 2

14. เกาะ ปะ ติด

37. ก. ป้า ข. ม้า ค. น่า ง. ย่า

1. เฉลย ค. เป็ด แนวคิด เป็นสัตว์สองเท้า หรือ สัตว์ปีก

27. เฉลย ค. ชาตะ (เกิด)

10. แดงเดินทางมายของดำและขาว ขาวเดินทางชายของดำ ใครเดินกลาง

18. ด.ช. ไก่ เป็นคนชอบขโมยของเพื่อนในห้องเสมอ หนังสือ ด.ช. แมว หาย ฉะนั้น

รักลูกศิษย์ แนวคิด (เป็นการสรุปเหตุผลแบบมีเงื่อนไข)

10. คอบ ก. ขาว

ครู เทพา คุณธรรม

15. ตอบ ค. ปลาถูกจับด้วยแพและสวิง

16. ตอบ ง. สรุปแน่นอนไม่ได้

18. ตอบ ง. สรุปแน่นอนไม่ได้

20. ตอบ ง. สรุปแน่นอนไม่ได้

25. ตอบ ง. สรุปแน่นอนไม่ได้

1. เฉลยข้อ ก ให้ p แทน วันนี้ฝนตก

2. เฉลยข้อ ค ให้ p แทน สมศักดิ์สอบวิชาคณิตศาสตร์ได้เกรด 4

(พี่พ่อของสมศรี) สมชาย สมชาติ สมส่วน (น้องพ่อของสมศรี)

จากแผนผังจะสรุปได้ว่า สมชาติ จะเป็นพ่อของ สมศรี

C แสดงว่า B < A หรือ A > B นั่นเอง

19. เฉลยข้อ ก รูปที่กำหนดให้มีเงื่อนไขว่า รูปที่ 1 คู่กับรูปที่ 2 โดยที่รูปที่ 2 ได้จากรูปที่ 1 โดยตัด

1. ดอกไม้ : แมลง → ผู้ชาย : ?

14. ช้าง : เชือก → ชี : ?

27. พระหัตถ์ : มือ → พระปิฐิกัณฐกฐิ : ?