You are on page 1of 57

PROjectile การ นอนที่ ริ ร ัก

Uะ °
U 5 ะ

ที่ เสมอ
m 3 -0

%←อ# ได้ 1. ความ เร้ว แดง


รุ ้ ศื ๊ 3
แกน

li
_ \
rau s ไม่ คงที่

ฟิ๊
ความ รอ แกน
=

ห๋5-
☒ y
- -
.
-
- - - - .

a-
u
.
. อ
°

% ◦
☒ 5-
- - -
- - - - - -

rrrrrrrxrrrrr

เวลา คิ ด ก_ynบh_รื น
ความ เร็ ว ตก ้
ความ แดง ที่ ความ % ไป คง ที่

→ น.

)
wr-vrytdrv.FI
.

(a- o ) และ โยน


- =
v. . ( ci 70 ↓ 1
ธิ
ความ เร็ ว ตกกระทบ น
ญู ้

|
.
% 5
ะส sirtgt เครื่ อง หม ย
sivt T2
Eg-

÷
-

Tr (¥ ) t

5 =

5.
v2 ะห้× 2g S

viugt

hy ะ 0

7s
I
0--0--7
ii
มา his
\

20

l
ยา
ยุ Ui 75

× I
6
1- Sx ตอน

น_งY
1
แกนา แก
_

siutt at 2 ให้ ทิ ศใด ทิ ศ ห นั่ ง เป็น t คนไหน ก็ ได้


V.
¥ รู ้ Sy ↓
}
=
=
20

[
↓ e. ให้ ↑ณ
hy
2

¥ 70↓ otzfwdt
D= ① 9

-

yig -20 =

? 2
T =
-2 อ = -

sf

② แทนใน
7 4 =
ft

Si 2s ET -

2

30=5 ญ
X-map

& B000*
browidlfur By thin"
VGuasn 19x 01-0 S:Ust
=

bidvabboery Woogie toured; ViLvy


·
Vai= vs + " "ecrid"
"

tano
UIri@=tan" (E) "names"
O =

& Biff Levocesiel des


· ctsarin of
tossa: Using & truan:Lusino

③ Sy Visin' S=visinc
:

radiator
sy: T tano

8 ovbarcode outag
Projectiles"
&
-
3
X-MAP
--
GESSMr.OLCHWOSFSVN)(Uy
+
0) =

Sy, My
Nw
O-friend"
by
--... poy -g
On Demand

esfaisososa My
. to 3) My O

or---say in

dy fg0 dy 92030
· =

-> i o8: 16885-007)


~ ax 0 0ar= gsino
บทที่ 7 การเคลื่อนทีแ่ นวโค้ง

โดย
รศ.ดร.ศุภรัตน์ ทัศน์เจริญ
สาขาวิชาวิทยาศาสตร์และฟิ สิกส์ คณะวิทยาศาสตร์และ
เทคโนโลยี
มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม
จุดประสงค์การเรียนรู้
1. ทดลองการเคลื่อนทีแ่ บบโพรเจคไทล์เพือ่ หาความสัมพันธ์ระหว่างการกระจัดในแนวระดับ
กับการกระจัดในแนวดิง่
2. อธิบายหลักการของการเคลื่อนทีแ่ บบโพรเจคไทล์
3. นาหลักการของการเคลื่อนทีแ่ บบโพรเจกไทล์ไปคานวณปริมาณต่างๆ ทีเ่ กีย่ วข้องกับการ
เคลื่อนทีแ่ บบโพรเจกไทล์
7.1 การเคลื่อนทีแ่ บบโพรเจกไทล์

M -
การทดลองการเคลือ่ นทีแ่ บบโพรเจกไทล์

I -


-

- -

# =
9.8M/s' =
I I
UDSH S:Ut

I I I -

Baoints- 5 sto
a

(213)

=
tsailz -
↑26620d/loebwofes
จากการเปรียบเทียบการเคลือ่ นทีข่ องวัตถุทงั้ สองจากรู ป พบว่า
1. วัตถุท่ีตกในแนวดิ่งมีการกระจัดในแนวดิ่งเพียงแนวเดียว วัตถุท่ีถูกดีดมีการ
กระจัดทัง้ ในแนวดิง่ และแนวระดับ
2. ในช่วงเวลาเดียวกัน วัตถุทงั้ สองมีการกระจัดในแนวดิง่ เท่ากัน เพราะตกถึงพืน้
พร้อมกัน
3. วัตถุทงั้ สองถูกแรงดึงดูดของโลกกระทาเพียงแรงเดียว (โดยไม่คานึงถึงแรงต้าน
อากาศ) มีความเร่งในแนวดิง่ เท่ากันคือ g
4. วัตถุที่ตกในแนวดิ่งเคลื่อนที่เป็ นเส้นตรง วัตถุที่ถูกดีดเคลื่อนที่เป็ นทางโค้งใน
ระนาบดิง่ แบบพาราโบลาเรียก การเคลือ่ นทีแ่ บบโพรเจกไทล์
เงือ่ นไขของการเคลือ่ นทีแ่ บบโพรเจกไทล์ e
Veit-or
การเคลื่อนที่แบบโพรเจกไทล์ ประกอบด้วยการเคลื่อนที่ 2 แนวพร้อมกัน คือ
แนวระดับ และแนวดิ่ง ซึ่งพบว่าความเร็วเริ่มต้นทางแนวระดับ ไม่มีผลต่อการ
เคลื่อนทีใ่ นแนวดิง่ โดยดูจากการตกของวัตถุที่ปล่อยและวัตถุที่ถูกดีด ถ้าดีดแรง
ตกไกล ดีดค่อยตกใกล้ แต่จะตกถึงพืน้ พร้อมกับวัตถุท่ปี ล่อยให้ตกในแนวดิ่ง ณ
จุดเริ่มต้นเดียวกัน แสดงว่า การเคลื่อนที่ในแนวระดับไม่มีผลต่อการเคลื่อนทีใ่ น
แนวดิง่ ดังนั้นจึงแยกคิดการเคลือ่ นทีเ่ ป็ นอิสระต่อกัน 2 แนว
9 3.8m/g"
=
O
·: U V =

6 = I
A -or * Yt; Sx: Uxt
=

A is
t

A -

VyorVyiorybi
สมการทีใ่ ช้ในการคานวณสาหรับการเคลือ่ นทีแ่ บบโพรเจกไทล์

SFVxt
~S:Uxt - Sovx asd)a 0 =

S 3
S
↑ DNG1265S ig=9.8mrs
17:9.5m/s
=

= Vyt Edyt
-
=
15 5.5m/s'

ViSinG
↑-
ViC038
-

-- bomgopowowesoddsm

3:ut +
hat" -0

~O
=
15% hased
-a
nossson, odorford
0-45 drosda
-

Misrsedrosor,
-
↓ maximum

I asmaximum:

-
saowidrowdl8 0 =450
A

Ex 1. ดีดยางลบออกจากขอบโต๊ะสูง 1.0 เมตร พบว่ายางลบกระเด็นตกไปไกล 2.0 เมตร เมื่อ


วัดในแนวระดับดังรูป
our
sit
จงหา ก) เวลาทีย่ างลบใช้ในการเคลื่อนทีใ่ นอากาศ
ข) อัตราเร็วทีย่ างลบถูกดีดออกจากขอบโต๊ะ · In L


YoSys- 7

วิธีทา ก) หาเวลาทีย่ างลบใช้ในการเคลื่อนที่ I


eM I

จากสมการ
Sy
=

Uyt+tayt
·I O+
11-cost
=

~ If I in

แทนค่า t = 0.45
SA

ตอบ ยางลบใช้เวลาในการเคลื่อนทีถ่ งึ พืน้ เท่ากับ 0.45 วินาที


Ex 1. ดีดยางลบออกจากขอบโต๊ะสูง 1.0 เมตร พบว่ายางลบกระเด็นตกไปไกล 2.0 เมตร เมื่อ
วัดในแนวระดับดังรูป -U=U,
จงหา ก) เวลาทีย่ างลบใช้ในการเคลื่อนทีใ่ นอากาศ 7--

ข) อัตราเร็วทีย่ างลบถูกดีดออกจากขอบโต๊ะ

วิธีทา ข) หาอัตราเร็วทีย่ างลบถูกดีดออก


assim Sino -

I
eM
L

จากสมการ S:Uxt
&=Ux10.45)

#x 4.44 MISA
=

แทนค่า

ตอบ อัตราเร็วทีย่ างลบถูกดีดออกไป เท่ากับ 4.4 เมตรต่อวินาที


Ex 2. ปื นใหญ่กระบอกหนึ่งยิงกระสุนออกไปด้วยความเร็วต้น 49.0 เมตรต่อวินาที ทามุม 30
องศา กับแนวระดับไปตกพืน้ ดังรูป
จงหา ก) เวลาทีก่ ระสุนใช้ในการเคลื่อนที่
ข) ระยะทีก่ ระสุนเคลื่อนทีข่ นึ้ ไปได้สูงสุด
ค) ตาแหน่งทีก่ ระสุนตกอยู่หา่ งจากตาแหน่งทีย่ งิ
วิธีทา ก) หาเวลาทีก่ ระสุนใช้ในการเคลื่อนที่
จากสมการ rusing -
O
-
= csmrs th
g
-UK UC050
L

จะได้
t
R: IBTCEHOLTi
or st
=272.17
: Ut
แทนค่า 212.19=
43xVt-ot =53A
Ex 2. ปื นใหญ่กระบอกหนึ่งยิงกระสุนออกไปด้วยความเร็วต้น 49.0 เมตรต่อวินาที ทามุม 30
องศา กับแนวระดับไปตกพืน้ ดังรูป
จงหา ก) เวลาทีก่ ระสุนใช้ในการเคลื่อนที่
ข) ระยะทีก่ ระสุนเคลื่อนทีข่ นึ้ ไปได้สูงสุด
ค) ตาแหน่งทีก่ ระสุนตกอยู่หา่ งจากตาแหน่งทีย่ งิ
วิธีทา ข) หาความสูงทีข่ นึ้ ไปได้สูงสุด
จากสมการ
จะได้
b
es int

45"()"
2 19.8)
&
30.625MA
=

แทนค่า
Ex 2. ปื นใหญ่กระบอกหนึ่งยิงกระสุนออกไปด้วยความเร็วต้น 49.0 เมตรต่อวินาที ทามุม 30
องศา กับแนวระดับไปตกพืน้ ดังรูป
จงหา ก) เวลาทีก่ ระสุนใช้ในการเคลื่อนที่
ข) ระยะทีก่ ระสุนเคลื่อนทีข่ นึ้ ไปได้สูงสุด
ค) ตาแหน่งทีก่ ระสุนตกอยู่หา่ งจากตาแหน่งทีย่ งิ
วิธีทา ค) หาตาแหน่งทีก่ ระสุนตกอยู่หา่ งจากตาแหน่งทีย่ งิ
จากสมการ
จะได้ isine
R:

49v
-

แทนค่า
9. 8
-
212.77 MA

ตอบ ตาแหน่งทีก่ ระสุนตกอยู่หา่ งจากตาแหน่งทีย่ งิ เท่ากับ 212 เมตร


A
Ex 3. ท่อนไม้ไถลลงมาจากหลังคาบ้านทีม่ ีมุมลาดเอียง 30 องศา เมื่อวัดเทียบกับแนวระดับ
ปลายหลั ง คาอยู่ สู ง จากพื้น 8.0 เมตร ดั ง รู ป เมื่ อ ท่ อ นไม้ ห ลุ ด จากปลายหลั ง คา ท่ อ นไม้ มี
อัตราเร็ว 6.0 เมตรต่อวินาที
one-uco,in
จงหา ก) ท่อนไม้ใช้เวลาในการเคลื่อนทีใ่ นอากาศนานเท่าใด
ข) ท่อนไม้ตกห่างจากหลังคาเมือ่ วัดในแนวระดับทีพ
he
log
่ นื้ เท่ากับเท่าใด
วิธีทา ก) หาเวลาทีท่ อ่ นไม้ใช้ในการเคลื่อนทีใ่ นอากาศ
จากสมการ
จะได้

แทนค่า
หาค่า t โดยใช้วิธีการหาคาตอบของสมการกาลังสอง จะได้
Ex 3. ท่อนไม้ไถลลงมาจากหลังคาบ้านทีม่ ีมุมลาดเอียง 30 องศา เมื่อวัดเทียบกับแนวระดับ
ปลายหลั ง คาอยู่ สู ง จากพื้น 8.0 เมตร ดั ง รู ป เมื่ อ ท่ อ นไม้ ห ลุ ด จากปลายหลั ง คา ท่ อ นไม้ มี
อัตราเร็ว 6.0 เมตรต่อวินาที Ur U00s
=

จงหา ก) ท่อนไม้ใช้เวลาในการเคลื่อนทีใ่ นอากาศนานเท่าใด 6 U12 )


=

U 6.328
=

ข) ท่อนไม้ตกห่างจากหลังคาเมือ่ วัดในแนวระดับทีพ ่ นื้ เท่ากับเท่าใด


วิธีทา หาเวลาทีท่ อ่ นไม้ใช้ในการเคลื่อนทีใ่ นอากาศ Sy: Ryt + at
- 8:-Usin30 +
จะได้ 11-5.5t'
-
= -

6.52811-4.Sts
-5 =
=

3,464-4.gt"
ตอบ ท่อนไม้ใช้เวลาในการเคลื่อนทีใ่ นอากาศเท่ากับ 1.0 วินาที
-
4.536 = -4.gth
+ 0.925
=

= 0.962SA
Ex 3. ท่อนไม้ไถลลงมาจากหลังคาบ้านทีม่ ีมุมลาดเอียง 30 องศา เมื่อวัดเทียบกับแนวระดับ
ปลายหลั ง คาอยู่ สู ง จากพื้น 8.0 เมตร ดั ง รู ป เมื่ อ ท่ อ นไม้ ห ลุ ด จากปลายหลั ง คา ท่ อ นไม้ มี
อัตราเร็ว 6.0 เมตรต่อวินาที
จงหา ก) ท่อนไม้ใช้เวลาในการเคลื่อนทีใ่ นอากาศนานเท่าใด
ข) ท่อนไม้ตกห่างจากหลังคาเมือ่ วัดในแนวระดับทีพ ่ นื้ เท่ากับเท่าใด
วิธีทา ข) หาระยะทีต่ กในแนวระดับ
จากสมการ
จะได้
แทนค่า

= 5.25 m

ตอบ ท่อนไม้ตกไกลจากขอบหลังคาเมือ่ วัดในแนวระดับ เท่ากับ 5.3 เมตร


rotege
Ex 4. นักเรียนคนหนึ่งต้องการโยนลูกบาสเกตบอลจากความสูง 2.0 เมตร ให้ลงห่วงสูง 3.0
เมตร จากระยะห่าง 3.0 เมตร โดยโยนทามุม 60 องศากับแนวระดับดังรู ป นักเรียนคนนีจ้ ะต้อง
โยนลูกบาสเกตบอลด้วยอัตราเร็วเท่าใด
A

uy: Using
s
&

~
I so·

Ur =
UCOSO
3M
-

3M Sx
-

176.4 4.196
Sy 3-2 1M-8
U/t+15-sst" org: Yet
=

=
=
1 =

UCOSOt ue
*
Sy:Ut+1gt-Q IEALP)-4.3)i
=
=
4.1962)
but 196.4
=
3:
=
Ut+1gt-8 = =
353-4.9116 t =

t
u =
42.04
35
=> usingot
+119t3 1 176.4 & 6.48 M/S#
= -
=

1 =
UIUt +11-sst 176.4 = 353-12
ue
-U Four
1.) 2.) b
My

= Ur #=ucostos of nosed
Uy=8 uy: Usin5-01 a o cdavonic

3)
Vy
PoU
~
ry

·
Vyddddd:Vy= uygti Vtrpitance:
t
V =

y Using-gt
=

a tan"
ly
=

ux 200m/s
=

8) -cooom
SYEONGGWOO8
addedses

St

3 =

Uyt+gati Sx: uxt Vy= Uy-gt v 200m/s


=

- 2000 = 0-4.8t" =
200 x 20.41 =
0-3.8120) v= x1961" +208"
= 20.413 =
4000mA Vi =-196 M/S v= 78476
v-280 M/S-#
Ex.6 aeindi to come correiser antivewedwdosnirorida osal
e. adobooderstralcamno-goddwod --
mur t 10mrs
0.) nOTNOFONSEIMOYNwor or a love m/s

carUorcso - -
- - -

A
-
sim
-

B
18 M
=
Sx*18M, byF-5, Uy70,

So. 7.) Y

I
A

Vy= Gy + at S=Uxt

3
=

Ut+ate 78: Uyx


10 M/S#
#
:

-
5=
0-5t"
t 1 =

8u Ve 70 M/s =v=
v" +vy>
=

Vy= Uy-gt - 184 + 704


- 200

Vy
=
0-1011) ~ = lOVe M/S #
~ a 14.14 M/s

Vy
= -

18
7.2 การเคลื่อนทีแ่ บบวงกลม

i
"

ปกติเราจะนึกถึงแรงคล้ายกับการ
จุดประสงค์การเรียนรู้
4. ทดลองการเคลื่อนทีแ่ บบวงกลมเพือ่ ศึกษาความสัมพันธ์เกี่ยวกับคาบ แรงสู่ศูนย์กลาง และ
รัศมีของการเคลื่อนทีแ่ บบวงกลม
5. อธิบายหลักการของการเคลื่อนทีแ่ บบวงกลม
ะ หาแรงลัพธ์ทท่ี าหน้าทีเ่ ป็ นแรงสู่ศูนย์กลางซึง่ ทาให้เกิดการเคลื่อนทีแ่ บบวงกลม
6. .

7. น าหลั ก การของการเคลื่ อ นที่ แ บบวงกลมไปค านวณปริ ม าณต่ า งๆ ที่เ กี่ ย วข้ อ งกั บ การ
เคลื่อนทีแ่ บบวงกลม
8. น าหลั ก การของการเคลื่ อ นที่ แ บบวงกลมไปค านวณปริ ม าณต่ า งๆ ที่ เ กี่ ย วข้ อ งกั บ การ
เคลื่อนทีข่ องรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์บนถนนโค้ง
9.ประยุกต์ใช้ความรู้การเคลื่อนทีแ่ บบวงกลมในการอธิบายและคานวณการโคจรของดาวเทียม
7.2 การเคลื่อนทีแ่ บบวงกลม

การเคลื่อนที่แ บบวงกลมซ้าแนวการเคลื่อนที่เดิม ช่ว งเวลาที่วัตถุ ใช้ ในการเคลื่อนที่ครบ


1 รอบ เรียกว่า คาบ (period) แทนด้วยสัญลักษณ์ T (มีหน่วยในระบบเอสไอเป็ น วินาที)
จานวนรอบที่วัตถุเคลื่อนที่ได้ใน 1 หน่ วยเวลา เรียกว่า ความถี่ (frequency) แทนด้วย
สัญลักษณ์ f (มีหน่วยเป็ นรอบต่อวินาที ซึง่ ในระบบเอสไอ มีหน่วยเป็ น เฮิรตซ์ : Hz)
7.2 การเคลื่อนทีแ่ บบวงกลม

C)บน สวนท์ไ
คาบ

สาร
ช่ อง เวลา ที่ ว้ตาก

0
กี่
ลาม /
ท้อตากโอน พ้ สาว
จํานวน รอบ
7.2.1 การเคลื่อนทีแ่ บบวงกลมสม่าเสมอ


0 ⑦ -

ใน คน
ข้าง

สาหรับบทนีจ้ ะเน้นศึกษาเฉพาะในกรณีทไี่ ม่มแี รงกระทาต่อวัตถุในแนวสัมผัส


หรือ at = 0 กล่าวคือ จะพิจารณาเฉพาะการเคลือ่ นทีแ่ บบวงกลมทีม่ อี ัตราเร็วคง
ตัว ซึง่ เรียกว่า การเคลือ่ นทีแ่ บบวงกลมสม่าเสมอ (uniform circular motion)
แนว สู่ จุ ด ศู นย์กลาง
EE mqf
7.2.1 การเคลื่อนทีแ่ บบวงกลมสม่าเสมอ
ความเร่งสู่ศูนย์กลาง
10
โา 0

ในแนวแกน x

7
โดย ax คือความเร่งในแนวสัมผัสวงกลมที่จุด P ในกรณีท่ีวัตถุเคลื่อนที่เป็ นวงกลมด้วย
อัตราเร็วคงตัว ทาให้ vx = ux ดังนั้น ax = 0 แสดงว่าความเร่งทีจ่ ุด P อยู่ในแนวแกน y หรือใน
แนวรัศมี
o
7.2.1 การเคลื่อนทีแ่ บบวงกลมสม่าเสมอ
ความเร่งสู่ศูนย์กลาง

7-
ในแนวแกน y

เนื่องจากวัตถุมอี ัตราเร็วคงตัว ทาให้ v = u ดังนั้น


7.2.1 การเคลื่อนทีแ่ บบวงกลมสม่าเสมอ
ความเร่งสู่ศูนย์กลาง
ช่วงเวลาทีใ่ ช้ในการเคลื่อนทีบ่ นส่วนโค้งของวงกลมด้วยอัตราเร็วคงตัว หาได้จากระยะทาง
d ต่อ อัตราเร็ว v นั่นคือ

จะได้
<

หา ความ ร
รั ↓

a. -
-
-

¥
เครื่องหมายลบ (-) แสดงว่า ความเร่งทีจ่ ุด P มีทศิ ทางเข้าสู่ศูนย์กลางของการเคลื่อนที่
เรียกความเร่งนีว้ ่า ความเร่งสู่ศูนย์กลาง (centripetal acceleration)
V0 ก ทิ ศ
7.2.1 การเคลื่อนทีแ่ บบวงกลมสม่าเสมอ
ความเร่งสู่ศูนย์กลาง

จาก
จะได้
จาก

จะได้
หา แรง ก็ บอก
ให้ 1- =
t
Vi 20

ยัง ฐ mk
40
9 _

_
_ ะ 100

T

¥¥
Ex 5. แท่งไม้มวล 0.3 กิโลกรัม ถูกผูกด้วยเชือกแล้วทาให้เคลื่อนทีเ่ ป็ นวงกลมบนโต๊ะลื่น ด้วย
ขนาดของความเร็วคงตัว 1.60 เมตรต่อวินาที เชือกมีความยาว 0.60 เมตร ดังรู ป จงหาขนาด
-
-
ของแรงดึงเชือก
-

วิธีทา เมือ่ พิจารณาแรงสู่ศูนย์กลาง จากสมการ

จะได้

แทนค่า
T = 1.28 N
ตอบ แรงดึงเชือกเมือ่ แท่งไม้เคลื่อนทีเ่ ป็ นวงกลม เท่ากับ 1.3 นิวตัน
7.2.1 การเคลื่อนทีแ่ บบวงกลมสม่าเสมอ
อัตราเร็วเชิงมุม

อัตราเร็วที่ใช้ในการพิจารณาการเคลื่อนที่แบบวงกลมที่ผ่านมาจะพิจารณาจาก
อัตราเร็ว (v) ของวัตถุตามแนวเส้นทางการเคลื่อนทีร่ อบวงกลม ซึ่งคือ ระยะทาง
ทีว่ ัตถุเคลื่อนที่ได้ใน 1 หน่วยเวลา อัตราเร็วนีเ้ รียกว่า อัตราเร็วเชิงเส้น (linear

ญึ้)
ฐโL
speed)
ระยะ ทาง ราก

ก่
'

B → 3 >A →

"
ไg
ก่ อ
~
นุ
=

¥
2 ก
, ญํ๋าั
V.กะ 2
_
-

.nl
> VA
( t เท่ า ก ัน0 ,
ex.ie
I
i
y
ee
อุ

- -
-
E ! i
i
_ _
E- ir
หุ ๋i
ee
ฮุ
E !
- -
-

i
- -
E- -
t

7.2.1 การเคลื่อนทีแ่ บบวงกลมสม่าเสมอ



กู
อัตราเร็วเชิงมุม

รื่ น
ญL i
°

17 1 80
36อํ

Ly ,ยโ
2M
,

°
โอเมก้า

"
¥÷
-

วาง w
.

.
7.2.1 การเคลื่อนทีแ่ บบวงกลมสม่าเสมอ
-

อัตราเร็วเชิงเส้น อัตราเร็วเชิงมุม

ก็
"

~
%
mญ
"

0 -

-
F.im
ผ้ .
-

Fimac →
a.
=
¥
¥
☐÷

¥ ษF
2
w
.

.
= -

⊖ -
-
ก 03

ปิ๋น
Vi -
f
V

(d) ao E
ac
¥ / E- ทE
-

ก .
) โรค เบา v.-2
ญิ ๋
_
_
T -

-
T =

ร๗eง
2
(
%)
nr Ti 0.6285

v. ) f-ความ กั่ ] f.
¥ f
µ
vs
f--1,572 Hz
ให้
ค . ในอัตรา แรม สัน 0 u =
2 _
V = 20 ทํา/s
.ge

ง ) W viwr W ะ
radf
¥
w w
-


-

.
, ,

%ฝี้
a) ac
§ ¥ iwt 102 [2) /5
200
ai m
=
.
.
→ a.

น 7 E-
2
mai Fc %จะ me
E. o
N
¥
-
-

=
.
Ex 6. วัตถุก้อนหนึ่ง มวล 0.20 กิโลกรัม แขวนไว้ด้วยเชือกเบายาว
-
0cL 1.0 เมตร ถูกแกว่งให้
เคลื่อนที่เป็ นวงกลมในระนาบระดับ จนมีอัตราเร็วคงตัว ขณะนั้นวัดมุมเอียงของเส้นเชือกกับ
แนวดิง่ ได้ 30 องศา จงหา ก) แรงดึงเชือก ข) อัตราเร็วของการเคลื่อนทีแ่ บบวงกลม ค) ความถี่
ของการเคลื่อนทีแ่ บบวงกลม
าอั

0
°

" °"
°

cet
วิธีทา ก) หาแรงดึงเชือก
Fcos } อํ
.mg
-

ง 3◦
เมือ่ พิจารณาในแนวดิง่ พบว่าไม่มกี ารเคลื่อนทีท่ ต่ี งั้ ฉากกับ
°

↓ 30

• 2kg อ .

ระนาบวงกลม
จะได้ (1)
EF y

Tws 3 อั T
¥ย
=

ดังนั้น mg
=

7.8m /ร้
"
i 0 เ 2

E-
T N
ะ 2.26

T = 2.26 N
ตอบ แรงดึงเชือกมีขนาดเท่ากับ 2.3 นิวตัน
o
Ex 6. วัตถุก้อนหนึ่ง มวล 0.20 กิโลกรัม แขวนไว้ด้วยเชือกเบายาว 1.0 เมตร ถูกแกว่งให้
เคลื่อนที่เป็ นวงกลมในระนาบระดับ จนมีอัตราเร็วคงตัว ขณะนั้นวัดมุมเอียงของเส้นเชือกกับ
แนวดิง่ ได้ 30 องศา จงหา ก) แรงดึงเชือก ต
ข) อัตราเร็วของการเคลื่อนทีแ่ บบวงกลม ค) ความถี่
ของการเคลื่อนทีแ่ บบวงกลม
?
v.
-

วิธีทา ข) หาอัตราเร็วของการเคลื่อนที่ F

พิจารณาแรงสู่ศูนย์กลาง จากสมการ Tcosp


±
mg
C.

แทนค่า (2)
นาสมการ (1) หารด้วย (2) จะได้
① ÷ ด
Ic ะท
÷
Tsino =

ฬู ้

โาง
.
.

w =
% •
÷÷ ฬื ๋
tana
÷
-

rtano ะข้
กก
Ex 6. วัตถุก้อนหนึ่ง มวล 0.20 กิโลกรัม แขวนไว้ด้วยเชือกเบายาว 1.0 เมตร ถูกแกว่งให้
เคลื่อนที่เป็ นวงกลมในระนาบระดับ จนมีอัตราเร็วคงตัว ขณะนั้นวัดมุมเอียงของเส้นเชือกกับ
แนวดิง่ ได้ 30 องศา จงหา ก) แรงดึงเชือก ข) อัตราเร็วของการเคลื่อนทีแ่ บบวงกลม ค) ความถี่
ของการเคลื่อนทีแ่ บบวงกลม

ฐZ รฺ
%
.

r -
-
โ sin A
วิธีทา ข) หาอัตราเร็วของการเคลื่อนที่
/ อ
"
÷
ˢ

0 .
.

ดังนั้น ..
.

fsin R

÷
\\การ
-

แทนค่า ะ

v = 1.68 m/s

ตอบ อัตราเร็วของการเคลื่อนทีแ่ บบวงกลม เท่ากับ 1.7 เมตรต่อวินาที


Ex 6. วัตถุก้อนหนึ่ง มวล 0.20 กิโลกรัม แขวนไว้ด้วยเชือกเบายาว 1.0 เมตร ถูกแกว่งให้
เคลื่อนที่เป็ นวงกลมในระนาบระดับ จนมีอัตราเร็วคงตัว ขณะนั้นวัดมุมเอียงของเส้นเชือกกับ
แนวดิง่ ได้ 30 องศา จงหา ก) แรงดึงเชือก ข) อัตราเร็วของการเคลื่อนทีแ่ บบวงกลม ค) ความถี่
ของการเคลื่อนทีแ่ บบวงกลม
วิธีทา ค) หาความถีข่ องการเคลื่อนที่
จาก
บน
_
=
f

=
2T 3. เวร C 1)<อ 5)
.

f ะ
7
0.53
:[

แทนค่า

f = 0.53 s-1
ตอบ ความถีข่ องการเคลื่อนทีน่ ี้ เท่ากับ 0.53 เฮิรตซ์
7.2.2 การเคลื่อนทีข่ องดาวเทียม

โดยที่ FG คือ ขนาดแรงทีว่ ัตถุทงั้ สองก้อนดึงดูดกัน


G คือ ค่าคงตัวโน้มถ่วงสากลเท่ากับ 6.672 × 10-11 Nm2/kg2
m1, m2 คือ มวลของวัตถุ
R คือ ระยะห่างระหว่างวัตถุทงั้ สอง
Ex 7. ดาวเที ย มสื่ อ สารดวงหนึ่ ง โคจรรอบโลกโดยอยู่ เ หนื อ ผิ ว โลกขึ้น ไปที่ ต าแหน่ ง เดิ ม
ตลอดเวลา (ดาวเทียมค้างฟ้ า) จงหา
ก) อัตราเร็วเชิงมุมของดาวเทียมสื่อสาร
ข) รัศมีโคจรดาวเทียม และระยะทีอ่ ยู่สูงจากโลก
ถ้ า ก าหนดให้ มวลของโลกเท่ า กั บ 5.972×1024 กิ โ ลกรั ม รั ศ มี ข องโลกมี ค่ า เท่ า กั บ 6,371
กิโลเมตร และโลกหมุนรอบตัวเองครบ 1 รอบ ใช้เวลาเท่ากับ 24 ชั่วโมง
วิธีทา ก) หาอัตราเร็วเชิงมุมของดาวเทียมสื่อสาร
จากสมการ

แทนค่า

ตอบ อัตราเร็วเชิงมุมของดาวเทียมเท่ากับ 7.27×10-5 เรเดียนต่อวินาที


Ex 7. ดาวเที ย มสื่ อ สารดวงหนึ่ ง โคจรรอบโลกโดยอยู่ เ หนื อ ผิ ว โลกขึ้น ไปที่ ต าแหน่ ง เดิ ม
ตลอดเวลา (ดาวเทียมค้างฟ้ า) จงหา
ก) อัตราเร็วเชิงมุมของดาวเทียมสื่อสาร
ข) รัศมีโคจรดาวเทียม และระยะทีอ่ ยู่สูงจากโลก
ถ้ า ก าหนดให้ มวลของโลกเท่ า กั บ 5.972×1024 กิ โ ลกรั ม รั ศ มี ข องโลกมี ค่ า เท่ า กั บ 6,371
กิโลเมตร และโลกหมุนรอบตัวเองครบ 1 รอบ ใช้เวลาเท่ากับ 24 ชั่วโมง
วิธีทา ข) หารัศมีโคจรดาวเทียมและระยะทีส่ ูงจากโลก
จากสมการแรงดึงดูดระหว่างมวล
ของโลกและดาวเทียม
จากสมการแรงสู่ศูนย์กลาง

โดยที่ แรงสู่ศูนย์กลาง = แรงดึงดูดระหว่างโลกและดาวเทียม

จะได้
เมือ่ V = r จะได้

แทนค่า

หรือ
ดังนั้น ความสูงของดาวเทียมจากผิวโลก = รัศมีวงโคจรของดาวเทียม – รัศมีของโลก

= 42,246 km – 6,371 km

= 35,875 km

ตอบ ดาวเทียมอยู่สูงจากผิวโลก 35,875 km


7.2.2 การเคลื่อนทีข่ องรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์บนถนนโค้ง

การเคลื่อนที่ของรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์บนถนนหรือทางโค้งในระนาบระดับ
จะมีแรงเสียดทานที่พนื้ กระทาต่อรถไม่ให้รถไถลออกนอกถนน โดยแรงเสียดทาน
จะทาหน้าทีเ่ ป้ นแรงเข้าสู่ศูนย์กลางทาให้รถเคลือ่ นทีบ่ นถนนได้
7.2.2 การเคลื่อนทีข่ องรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์บนถนนโค้ง

ในกรณี รถจั กรยานยนต์เคลื่อนที่บนถนนโค้งในระนาบจะมีแรงเสียดทานที่พืน้


กระทากับล้อ (f) แรงแนวฉากทีพ ่ นื้ กระทากับรถ (N) และนา้ หนักของรถ (mg) ถ้าไม่
มีการเอียงรถจักรยานยนต์ ทิศทางแรงลัพธ์ (R) ของแรงแนวฉาก (N) กับแรงเสียด
ทาน (f) จะไม่ผ่านศูนย์กลางมวลของรถและผู้ขับขี่ ทาให้เกิดโมเมนตร์ของแรงลัพธ์
กระทกับรถจักรยานยนต์ทาให้รถจักรยานยนต์ล้มได้ เพือ่ หลีกเลี่ยงการล้มดังกล่าว
ผู้ขับขีจ่ งึ จาเป็ นจะต้องเอียงรถเพือ่ ให้แรงลัพธ์ (R) ผ่านศูนย์กลางมวลของรถและผู้
ขับขี่ โมเมนต์รวมเป็ นศูนย์ ผู้ขับขีจ่ งึ สามารถเลีย้ วรถได้โดยไม่พลิกคว่า
Ex 8. รถยนต์คันหนึ่งกาลังแล่นเข้าโค้งถนนในแนวระดับโดยมีรัศมีความโค้งเท่ากับ 200 เมตร
และพืน้ มีสัมประสิทธิ์ความเสียดทานสถิตระหว่ างพืน้ ถนนกับยางรถยนต์เท่ากับ 0.20 ถ้าที่
รถยนต์คันนีต้ ้องการเลีย้ วโค้งได้อย่างปลอดภัยจะต้องมีอัตราเร็วไม่เกินเท่าใด

วิธีทา จากสมการ

จะได้

ในกรณีนี้ รถยนต์ไม่ไถล แรงเสียดทานสถิตทีเ่ กิดขึน้ มีค่าน้อยกว่าหรือเท่ากับแรงเสียดทาน


สถิตสูงสุด fs  sN และ N = mg

ดังนั้น
Ex 8. รถยนต์คันหนึ่งกาลังแล่นเข้าโค้งถนนในแนวระดับโดยมีรัศมีความโค้งเท่ากับ 200 เมตร
และพืน้ มีสัมประสิทธิ์ความเสียดทานสถิตระหว่ างพืน้ ถนนกับยางรถยนต์เท่ากับ 0.20 ถ้าที่
รถยนต์คันนีต้ ้องการเลีย้ วโค้งได้อย่างปลอดภัยจะต้องมีอัตราเร็วไม่เกินเท่าใด

จะได้
แทนค่า

จะได้ V  19.80 m/s

ตอบ รถยนต์ต้องมีอัตราเร็วไม่เกิน 19.80 เมตรต่อวินาที จึงจะทาให้รถยนต์สามารถเลีย้ ว


เข้าโค้งได้อย่างปลอดภัย
Ex 9. ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์คนหนึ่งเคลื่อนทีไ่ ปบนถนนโค้งทีม่ ีรัศมีความโค้ง 80 เมตร น้าหนัก
ของเขาและรถรวมกันได้ 250 กิโลกรัม ถ้าเขาเลีย้ วโค้งด้วยอัตราเร็ว 72 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
เขาและรถจะต้องเอียงทามุมเท่าไรกับแนวดิง่ จึงจะไม่ล้ม
วิธีทา พิจารณาในแนวดิง่ พบว่า ไม่มกี ารเคลื่อนทีใ่ นแนวทีต่ งั้
ฉากกับระนาบวงกลม
จะได้
แทนค่า

พิจารณาในแนวระดับ จะได้แรงเสียดทาน fs เป็ นแรงเข้าสู่ศูนย์กลาง


ดังนั้น

แทนค่า
Ex 9. ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์คนหนึ่งเคลื่อนทีไ่ ปบนถนนโค้งทีม่ ีรัศมีความโค้ง 80 เมตร น้าหนัก
ของเขาและรถรวมกันได้ 250 กิโลกรัม ถ้าเขาเลีย้ วโค้งด้วยอัตราเร็ว 72 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
เขาและรถจะต้องเอียงทามุมเท่าไรกับแนวดิง่ จึงจะไม่ล้ม
วิธีทา พิจารณาในแนวดิง่ พบว่า ไม่มกี ารเคลื่อนทีใ่ นแนวทีต่ งั้ ฉากกับระนาบวงกลม

่ นื้ กระทากับรถ N รวมกันต้องผ่านศูนย์กลางมวล


แรงเสียดทาน fs และแรงทีพ

จะได้

แทนค่า

ตอบ คนขับรถจักรยานยนต์และรถต้องเอียงทามุมเท่ากับ 22.20 องศา กับแนวดิง่ จึงจะไม่


ล้ม
7.2.2 การเคลื่อนทีข่ องรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์บนถนนโค้ง

You might also like