You are on page 1of 446

คำนำ

วันหนึ่ง ชายหนุ่มคนหนึ่งซึ่งอยูใ่ นช่วงวัยรุ่ นมาหาผม และบอกว่าพระคัมภีร์เก่าเกินไป และไม่มีความหมายสำหรับยุคปัจจุบนั อีก


ต่อไป ผมสัง่ ให้เขามองดวงอาทิตย์บนท้องฟ้ ายามเช้าที่สดใส “ดวงอาทิตย์ได้สูญเสี ยพลังของมันไปแล้วหรื อ ? มันไม่ส่องแสง
และให้ความอบอุ่นแก่แผ่นดินโลกหรื อ? เราบอกว่าดวงอาทิตย์เย็นเพราะว่ามันเก่าหรื อ?”
2 ทิโมธี 3:16-17 บอกเราว่า “พระคัมภีร์ทุกตอนได้ รับการดลใจจากพระเจ้ า และเป็ นประโยชน์ ในการสอน การตัก
เตือนว่ ากล่ าว การแก้ ไขสิ่ งผิด และการอบรมในความชอบธรรม เพื่อคนของพระเจ้ าจะมีความสามารถและพรั กพร้ อมเพื่อการดี
ทุกอย่ าง” พระคัมภีร์ส่งผลกระทบต่อมนุษย์อย่างมาก เพราะว่าพระคัมภีร์ท้ งั เล่มได้รับลมหายใจจากพระเจ้า จึงเป็ นมากกว่าการ
รวบรวมหลักทางศีลธรรม เป็ นมากกว่าหนังสื อที่ดี เป็ นบันทึกที่ได้รับการดลใจ เป็ นหนังสื อของพระเจ้า ผูเ้ ผยพระวจนะเล่าสิ่ ง
ที่พวกเขาเห็นและได้ยนิ เป็ นภาษามนุษย์ แต่ข่าวสารของพวกเขามาจากพระเจ้าโดยตรง ดังนั้น คุณสามารถทำเครื่ องหมายทุกคำ
ในพระคัมภีร์ของคุณ และดำเนินชีวิตตามนั้น!
ก่อนอื่นและที่สำคัญที่สุด ผมเป็ นผูเ้ ผยแพร่ ข่าวประเสริ ฐ ผูป้ ระกาศนำดวงวิญญาณ พระเจ้าได้ประทานไฟที่ลุกโชนอยู่
ในหัวใจของผม ไฟที่ไม่ยอมมอดดับลง ดังนั้น วิธีที่ผมมองดูชีวิตจึงถูกกรองด้วยไฟนั้นเสมอ ถ้าคุณต้องการให้ไฟแบบเดียวกัน
นี้ลุกโชนในกระดูกของคุณ แสดงว่าคุณมีหนังสื อที่ถูกต้องแล้ว! นี่เป็ นมากกว่าการให้ขอ้ คิดฝ่ ายวิญญาณประจำวันที่อาจทำให้
คุณรู้สึกสดชื่นในตอนเช้า—หนังสื อเล่มนี้ควรจุดประกายความกระตือรื อร้นเพื่อวิญญาณจิตที่หลงหายทุกวันซึ่งจะกระตุน้ คุณ
ตลอดทั้งวันและตลอดชีวิตของคุณ!
ผมและทีมงานจงใจออกแบบหนังสื อเล่มนี้ให้เป็ นการศึกษาประจำวันที่รวดเร็ ว เข้มข้น และเจาะลึก ซึ่งจะช่วยให้คุณ
จดจ่ออยูก่ บั พระเยซูคริ สตเจ้า และเพื่อเตือนสติคุณอย่างต่อเนื่องว่า ในฐานะคริ สเตียน งานอันดับหนึ่งของเราคือการ เข้าถึงผูห้ ลง
หายด้วยข่าวดี! สิ่ งเหล่านี้คือ "เครื่ องกำเนิดพลังงาน" ของพระเจ้า:
 ไม้กางเขนแห่งกลโกธา
 การเป็ นขึ้นมาจากความตายของพระเยซูคริ สต์
 บัพติศมาด้วยพระวิญญาณบริ สุทธิ์

จงคิดถึง “เครื่ องกำเนิดพลังงาน” เหล่านี้ให้บ่อยที่สุดเท่าที่จะทำได้—แม้ในขณะที่ตอ้ งรับมือกับปัญหาในชีวิตประจำ


วัน แล้วคุณจะได้รับการเติมให้เต็มด้วยพระประสงค์ของพระเจ้าสำหรับชีวิตของคุณ และได้รับการหนุนใจให้ท ำพันธกิจที่
พระองค์ได้ประทานให้แก่คุณให้สำเร็ จ
—ไรน์ ฮาร์ ด บอนน์ เก้
เคล็ดลับที่เป็ นประโยชน์

อ่านข้อความประจำวันออกเสี ยง การมองเห็นเช่นเดียวกับการได้ยนิ จะปลูกความจริ งเหล่านี้ให้ลึกลงไปในหัวใจของคุณและให้


วัตถุประสงค์ ฤทธิ์ อำนาจ และแรงจูงใจระหว่างช่วงเวลาเฝ้ าเดี่ยวประจำวันของคุณ
จดบันทึกส่ วนตัวและเน้นข้อความส่ วนที่พดู กับคุณ ขณะที่คุณอ่านข้อความประจำวัน หนึ่งในวิธีที่พระเจ้าสามารถนำ
และและนำทางคุณผ่านทางพระคำของพระองค์ได้จริ ง ๆ คือ การนำอย่างต่อเนื่องให้คุณระลึกถึงข้อความเฉพาะเจาะจงที่ได้พดู
กับคุณ หรื อที่คุณได้จดบันทึกไว้เป็ นการส่ วนตัว “และคุณจะมีพ่ ู [บันทึกส่ วนตัว] ที่คณ
ุ มองดูและระลึกถึง” (กันดารวิถี 15:39)
การอ่านในแต่ละวันมีองค์ประกอบหลักหลายประการ:
 คำอรรถาธิบาย/คำสอนประจำวันจากงานเขียนของไรน์ฮาร์ด บอนน์เก้ เอง
 ข้อพระคัมภีร์วนั นี้ —ข้อพระคัมภีร์ที่เกี่ยวข้องในแต่ละวัน
 ไฟประจำวัน!—ข้อความแห่งความจริ งที่เต็มไปด้วยฤทธิ์ อ ำนาจเพื่อเสริ มกำลังให้แก่คุณ
 แผนการอ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี โดยการปฏิบตั ิตามนี้ อย่างสัตย์ซื่อ คุณจะอ่านพระคัมภีร์ท้ งั เล่มใน 1 ปี และ
อ่านพันธสัญญาใหม่และสดุดี 2 รอบ!
 คู่มือข้ออ้างอิงทำเครื่ องหมายบนพระคำ - สำหรับการศึกษาเพิ่มเติมของคุณ พื้นฐานพระคัมภีร์สำหรับ
ข้อความแต่ละวันสามารถถูกอ่านได้อย่างละเอียดมากขึ้นพร้อมกับข้อความที่เกี่ยวข้อง

ลมแห่งพระวิญญาณบริ สุทธิ์ ไม่ได้ถูกส่ งมาเพื่อทำให้เราเย็นลง


แต่เพื่อประโคมไฟ
การรอคอยพระเจ้าเป็ นแนวคิดของพันธสัญญาเดิม
คนกลุ่มสุ ดท้ายที่รอคือ 120 คนในห้องชั้นบน
ตอนนี้พระเจ้ารอเราอยู่ สี เขียวหมายถึง ไป
เมื่อไฟเปลี่ยนเป็ นสี เขียว คุณไม่จ ำเป็ นต้องมีใบอนุญาต
จากปลัดกระทรวงคมนาคม—คุณก็แค่ไป
เราไม่ควรหมดไฟเพื่อพระเยซู แต่จงร้อนรนต่อไป!
2
เมษายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“ถ้าพวกท่านประพฤติตามที่เราสัง่ ท่านก็จะเป็ นมิตรสหายของเรา เราจะไม่เรี ยกพวกท่านว่าบ่าวอีก เพราะบ่าวไม่ทราบว่านายทำ
อะไร แต่เราเรี ยกท่านว่ามิตรสหาย เพราะว่าทุกสิ่ งที่เราได้ยนิ จากพระบิดา เราสำแดงแก่พวกท่านแล้ว” (ยอห์น 15:14–15)
ไฟประจำวัน!
ขณะที่ผมกำลังเรี ยนรู้เกี่ยวกับพระเจ้าและพระลักษณะของพระองค์มากขึ้น ผมปรารถนาที่จะกลายเป็ นเพื่อนของพระองค์ นัน่ คือ
เป็ นคนที่พระองค์ฟังและต้องการให้ความร่ วมมือ
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
ปฐมกาล 18:1–33; 2 พงศาวดาร 20:7; อิสยาห์ 41:8–10; ยอห์น 15:14–15; ยากอบ 2:23
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
เลวีนิติ 5; สดุดี 3 และ 4
เย็น:
สุ ภาษิต 20; โคโลสี 3
วิธีกลายเป็ นนักอธิษฐานวิงวอนที่แท้ จริง
นักอธิษฐานวิงวอนที่แท้จริ งต้องมีจุดยืนบางอย่างร่ วมกับทั้ง 2 ฝ่ าย นัน่ คือ พระเจ้าและผูห้ ลงหาย เรารู้จกั ผูค้ นแ ต่เรา
ต้องรู้จกั พระเจ้าด้วย! อับราฮัมเป็ นตัวอย่างที่ดีของคนที่รู้จกั พระเจ้า เมืองโสโดมและเมืองโกโมราห์กลายเป็ นเมืองที่ผดิ ศีลธรรม
พระเจ้าเสนอที่จะกำจัดพวกเขา แต่ตรัสว่า “เราจะซ่อนสิ่ งซึ่งเราจะทำนั้นไม่ให้อบั ราฮัมรู้หรื อ?” (ปฐมกาล 18:17) เมื่ออับราฮัม
เรี ยนรู้วา่ เมืองทั้ง 2 นี้อยูใ่ นรายชื่อที่จะถูกทำลาย เขาจึงทูลคดีของพวกเขากับพระเจ้า…และเดินทางไกลเพื่อช่วยชีวิตพวกเขา เขา
มีคุณสมบัติ เพราะว่าเขารู้จกั พระเจ้าและเมืองเหล่านั้นฃ เขาถูกเรี ยกว่า "เพื่อนของพระเจ้า" ทำไม? “อับราฮัมเชื่อพระเจ้า และ
พระองค์ทรงถือว่าเขาชอบธรรม และเขาได้ชื่อว่าเป็ นสหายของพระเจ้า” (ยากอบ 2:23)
ผูเ้ ชื่อที่แท้จริ งคือเพื่อนของพระสหายของกษัตริ ยท์ ี่ศาล คนสนิทของพระองค์ ผูค้ นผูท้ ี่พระองค์ทรงฟังและผูท้ ี่พระองค์
ต้องการร่ วมมือด้วย

แต่ เจ้ า อิสราเอล ผู้รับใช้ ของเรา ยาโคบผู้ซึ่งเราเลือกไว้ เชื อ้ สายของอับราฮัมสหายของเรา เจ้ าผู้ที่เรานำมาจากปลาย
แผ่ นดินโลก และเรี ยกมาจากที่ไกลสุดของโลก แล้วพูดกับเจ้ าว่ า “เจ้ าเป็ นผู้รับใช้ ของเรา เราได้ เลือกเจ้ าและไม่ ปฏิเสธเจ้ า” อย่ า
กลัวเลย เพราะเราอยู่กับเจ้ า อย่ าขยาด เพราะเราเป็ นพระเจ้ าของเจ้ า เราจะเสริ มกำลังเจ้ า เราจะช่ วยเจ้ า เราจะชูเจ้ าด้ วยมือขวาอัน
ชอบธรรมของเรา (อิสยาห์ 41:8-10)
คนเหล่านี้ที่พระองค์ทรงให้เกียรติเป็ นนักอธิษฐานวิงวอนของพระองค์ นัน่ คือสิ่ งที่พระคัมภีร์เรี ยกว่า "เพื่อน" พระเยซู
ตรัสว่า “เราจะไม่ เรี ยกพวกท่ านว่ าบ่ าวอีก เพราะบ่ าวไม่ ทราบว่ านายทำอะไร แต่ เราเรี ยกท่ านว่ ามิตรสหาย เพราะว่ าทุกสิ่ งที่เรา
ได้ ยินจากพระบิดา เราสำแดงแก่ พวกท่ านแล้ ว” (ยอห์น 15:15) นักอธิษฐานวิงวอนที่เป็ นเพื่อนจะมีพระทัยขององค์พระผูเ้ ป็ นเจ้า
ซึ่งไม่ได้บอกเราถึงเรื่ องต่าง ๆ เพียงเพื่อให้เราสนใจ แต่เพื่อให้เราอธิษฐานเกี่ยวกับเรื่ องนี้ ถ้อยคำแห่งความรู้ไม่จ ำเป็ นว่ามีไว้เพื่อ
ประกาศแก่สาธารณะ แต่บ่อยครั้งเพื่อการอธิษฐานส่ วนตัว จงอธิษฐานในวันนี้ —และจุดไฟที่สดใหม่และความปรารถนาภายใน
ที่จะทำตามน้ำพระทัยของพระเจ้าในทุกวิถีทาง!
3
เมษายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“เพราะว่าพระเจ้าทรงซื้อท่านไว้แล้วด้วยราคาสูง ฉะนั้น จงถวายพระเกียรติแด่พระเจ้าด้วยร่ างกายของพวกท่านเถิด” (1 โคริ นธ์
6:20)
ไฟประจำวัน!
ช่างน่าชื่นชมยินดียิง่ นักที่ได้ตะโกนว่า “ฉันเป็ นทรัพย์สินของพระเจ้า!”
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
สดุดี 91:1; สุ ภาษิต 26:2; อิสยาห์ 54:17; 1 โคริ นธ์ 6:20; โคโลสี 3:3; วิวรณ์ 12:11
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
เลวีนิติ 6; สดุดี 5 และ 6
เย็น:
สุ ภาษิต 21; โคโลสี 4
ทรัพย์ สินของพระเจ้ า
มนุษย์เราดูแลและปกป้ องทรัพย์สินของเรา คุณสามารถแน่ใจอย่างยิง่ ว่าพระเจ้าทรงดูแลทรัพย์สินของพระองค์ดว้ ยเช่น
กัน พระองค์ตอ้ งจ่ายราคาเพื่อเรามากเกินกว่าที่พระองค์จะละเลยและสูญเสี ยเราไป เราถูกซื ้อไว้ แล้วด้ วย "ราคาสูง" นัน่ คือด้วย
พระโลหิ ตอันล้ำค่าของพระเยซู (1 โคริ นธ์ 6:20) เมื่อพระเยซูเข้าครอบครอง พระองค์ช่วยเราให้รอดและรักษาเราไว้ ตราบใดที่
เราติดตามพระองค์ พระองค์จะไม่ทรงอนุญาตให้ผโี สโครกเข้าครอบครองทรัพย์สินของพระองค์อีกครั้ ง “ผู้ที่อาศัยอยู่ในที่ก ำบัง
ขององค์ ผ้ สู ูงสุด จะอยู่ในร่ มเงาของผู้ทรงมหิ ทธิ ฤทธิ์ ” (สดุดี91:1) “พวกเขาชนะมารด้ วยพระโลหิ ตของพระเมษโปดก และด้ วย
คำพยานของพวกเขาเอง และพวกเขาไม่ ได้ รักตัวกลัวตาย” (วิวรณ์ 12:11) นี่คือการปกป้ องที่เปี่ ยมไปด้วยพระสิ ริและสมบูรณ์
แบบ ซึ่งองค์พระผูเ้ ป็ นเจ้าประทานแก่ลูก ๆ ของพระองค์โดยไม่คิดเงิน
อาวุธทุกชนิดที่ทำขึน้ เพื่อต่ อสู้เจ้ าจะไม่ ชนะ และเจ้ าจะพิสูจน์ ว่าลิน้ ทุกลิน้ ที่ลกุ ขึน้ ต่ อสู้เจ้ าในการพิพากษานั้นชั่วร้ าย นี่
คือมรดกของบรรดาผู้รับใช้ ของพระยาห์ เวห์ และการให้ ความยุติธรรมต่ อพวกเขานั้นมาจากเรา” พระยาห์ เวห์ ตรั สดังนีแ้ หละ (อิ
สยาห์ 54:17)
ไม่มีค ำสาปแช่งใด ๆ สามารถติดตัวคุณ และไม่มีเวทมนตร์คาถาใดสามารถทำอันตรายคุณได้
นกกระจอกย่ อมโผผินและนกนางแอ่ นย่ อมโบยบินฉั นใด คำแช่ งสาปอย่ างไม่ สมควรย่ อมไม่ เกิดผลฉั นนั้น (สุภาษิต
26:2)
เรารับใช้พระเจ้าผูท้ รงฤทธานุภาพ...ไม่ใช่พระเจ้าที่ดิ้นรนต่อสู้ซ่ ึงบางครั้งอาจพ่ายแพ้การต่อสู้ พระองค์ไม่สามารถถูก
แบล็กเมล์ หรื อถูกบังคับให้ประนีประนอมกับมารได้ พระองค์ไม่สามารถเป็ นหุน้ ส่ วนและแบ่งปันสิ ทธิ์ ในการครอบครองคุณ
กับวิญญาณชัว่ ใด ๆ ได้ จงติดตามพระเยซู และคุณจะเป็ นขององค์พระผูเ้ ป็ นเจ้าอย่างสมบูรณ์ไรน์ฮาร์ด บองเก้ ดำเนินชีวิตด้วย
ความมัน่ ใจนี้ —ผมถูกทำเครื่ องหมายด้วยพระโลหิ ตของพระเยซู และไม่มีใครสามารถดึงผมออกไปจากพระหัตถ์ของพระองค์
ได้ ซาตานไม่สามารถลักพาตัววิญญาณของผมไปได้ มันถูกซ่อนไว้กบั พระคริ สต์ในพระเจ้า ซึ่งเป็ นตูเ้ ซฟในห้องที่แข็งแกร่ งและ
มีตราประทับของพระโลหิ ต คุณเองก็ถูกทำเครื่ องหมายด้วยพระโลหิ ตของพระเยซูเช่นกัน
4
เมษายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“เพราะว่าเรามีชีวิต และไหวตัว และเป็ นอยูใ่ นพระองค์” (กิจการ 17:28)
ไฟประจำวัน!
ฉันเป็ นลูกของพระเจ้า
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
สดุดี 68:6; ลูกา 17:21; ยอห์น 17:22; กิจการ 16:31; 17:28; เอเฟซัส 2:19
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
เลวีนิติ 7; สดุดี 7 และ 8
เย็น:
สุ ภาษิต 22; 1 เธสะโลนิกา 1
ครอบครัว คือ พระประสงค์ ของพระเจ้ า
ในกิจการ 16 เปาโลบอกผูค้ ุมชาวฟี ลิปปี ว่า “จงวางใจในพระเยซู องค์ พระผู้เป็ นเจ้ า แล้ วท่ านและครอบครั วจะได้ ความ
รอด” (กิจการ 16:31) ครอบครัวของเขา คือ อะไร? จะมีจ ำนวนคนใต้ชายคาของเขามากกว่าสถิติในปัจจุบนั ที่ครอบครัวมีลูก 2.3
คน จะมีภรรยาของเขา ลูกชายที่โตแล้วและภรรยาของพวกเขา ลูกสาว คนใช้ ทาส และอาจมีปยู่่ าตายาย ความเชื่อของเขาจะช่วย
วิญญาณจิตของพวกเขาให้รอดได้หรื อไม่? เราอาจจะถามว่ากาแฟของพ่อหนึ่งแก้วจะทำให้ท้ งั ครอบครัวของเขาอิ่มได้หรื อเปล่า!
ครอบครัวสามารถถูกช่วยให้รอดได้ แต่แต่ละคนต้องเชื่อในพระเยซูเจ้า ไม่มีผใู้ ดสามารถถูกช่วยให้รอดมือสองผ่านทางพ่อหรื อ
แม่ได้ พระเจ้าไม่มีหลาน แต่วลีที่วา่ "ท่ านและครอบครั ว" มีความหมายบางอย่าง ไม่มีใครถูกโยนทิ้งไป เบื้องหลัง คือ ความ
เข้าใจของเปาโลเกี่ยวกับพระประสงค์ของพระเจ้าที่เขียนไว้ในพระคัมภีร์ เขารู้วา่ ในพระคัมภีร์ “ครอบครัว” มีพระประสงค์ของ
พระเจ้า ซึ่งมีการกล่าวถึงมากกว่า 300 ครั้งในพระคัมภีร์ และคนทั้งโลกเป็ นเรื่ องของสิ่ งนี้ เปาโลกล่าวถึง “ครัวเรื อน” มากมายใน
จดหมายของท่าน
ครอบครัวคือความคิดของพระเจ้า พระองค์ทรงสร้างครอบครัว “พระเจ้ าทรงให้ คนโดดเดี่ยวมีบ้านอยู่” (สดุดีบทที่
68 ข้อที่6) นัน่ คือพระพรของพระองค์ พระองค์ไม่เคยตั้งใจให้มีการแยกตัว ความโดดเดี่ยว และปัจเจกนิยม ลัทธิปัจเจกบุคคล
สมัยใหม่ไม่ใช่ผลผลิตแห่งคำสอนในพระคัมภีร์ แต่มาจากความคิดทางปรัชญา เราอาจกล่าวได้วา่ รากของชีวิตครอบครัวอยูใ่ น
พระลักษณะของพระเจ้าในฐานะพระบิดา พระบุตร และพระวิญญาณบริ สุทธิ์ ครอบครัวสะท้อนภาพของพระเจ้ามากกว่าชีวิต
ส่วนตัว

ความสมบูรณ์แบบแห่งพระสิ ริของพระเจ้าจำเป็ นต้องมี “ครอบครั วของพระเจ้ า” ทั้งหมด (เอเฟซัส 2:19) พระเจ้าสร้าง


ครอบครัว เพราะว่าความเป็ นหนึ่งเดียวเป็ นสิ่ งที่จ ำเป็ นสำหรับสิ่ งที่ทรงสร้างทั้งหมด ดังนั้นการอธิษฐานเผือ่ ครอบครัวของเราจึง
เข้าหูของพระเจ้า เราถูกสร้างมาเพื่อพึ่งพาอาศัยกัน “เราเป็ นผูด้ ูแลน้องของเรา” (ดูปฐมกาล 4:9) เรามาจากพระองค์ และนัน่ จะ
ไม่มีวนั เปลี่ยนแปลง ทุกสิ่ งล้วนเป็ นหนึ่งเดียวกันตลอดไปในพระองค์เป็ นเรื่ องธรรมดา “เรามีชีวิต และไหวตัว และเป็ นอยู่ใน
พระองค์ ” (กิจการ 17:28) พระเยซูทรงอธิษฐานว่า “เพื่อพวกเขาจะได้ เป็ นอันหนึ่งอันเดียวกัน ดังเช่ นพระองค์ กับข้าพระองค์ ”
(ยอห์น 17:22) เนื่องจากมีการแตกความสามัคคี พระคริ สต์จึงเสด็จมาเพื่อแก้ไขและฟื้ นฟู ความเป็ นหนึ่งเดียวกันที่พระคริ สต์ทรง
อธิษฐานขอนั้นจะไม่เป็ นการแกล้งทำหรื อบีบบังคับ สิ่ งนี้จะคืนความเป็ นหนึ่งที่แท้จริ งสำหรับคุณและผมตามที่ต้ งั ใจไว้

5
เมษายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“แต่บดั นี้ พระคริ สต์ทรงถูกทำให้เป็ นขึ้นมาจากความตายแล้ว และทรงเป็ นผลแรกของพวกที่ล่วงหลับไป เพราะว่าในเมื่อความ
ตายเกิดขึ้นโดยมนุษย์คนหนึ่ง การเป็ นขึ้นจากความตายก็เกิดขึ้นโดยมนุษย์คนหนึ่งเช่นกัน เพราะว่าเช่นเดียวกับที่ทุกคนต้องตาย
โดยเกี่ยวเนื่องกับอาดัม ทุกคนก็จะได้รับชีวิตโดยเกี่ยวเนื่องกับพระคริ สต์” (1 โคริ นธ์ 15:20–22)
ไฟประจำวัน!
ในไม่ชา้ ฉันจะเป็ นเหมือนพระองค์ เพราะว่าฉันจะเห็นพระองค์อย่างที่พระองค์ทรงเป็ น
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
กิจการ 17:31; 1 โคริ นธ์ 15:1–58; 1 ยอห์น 3:1–3; วิวรณ์ 22:20
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
เลวีนิติ 8; สดุดี 9
เย็น:
สุ ภาษิต 23; 1 เธสะโลนิกา 2
วัตถุประสงค์แห่ งการงานของเรา
ชาย 9 คนที่เขียนพระคัมภีร์ของคริ สเตียนในพันธสัญญาใหม่ลว้ นพูดถึงการเสด็จกลับมาของพระคริ สต์ และสำหรับ
พวกเขาแล้วเห็นได้ชดั ว่าความหวังนั้นมีความหมายต่อความเชื่อของพวกเขาและวัตถุประสงค์แห่งการงานของพวกเขา ผู้ เขียน
หลัก เปาโล ลงรายละเอียดมาก นัน่ คือ พระคริ สต์จะทรงปรากฏอย่างไร...พระองค์จะทรงทำอะไร...สภาพของโลกจะเป็ น
อย่างไร เขาเขียนจดหมายที่ยิง่ ใหญ่ของเขามากกว่า 3 หน้าถึงคริ สตจักรในเมืองโคริ นธ์ บทที่ 15 และทำให้การกลับมาของพระ
เยซูเป็ นศิลาหลักแห่งอนาคต นี่คือคำพูดบางส่วนของเขา: พระคริ สต์วายพระชนม์เพราะบาปของเรา ตามที่เขียนไว้ในพระคัมภีร์
... แล้ววันที่สามพระองค์ทรงถูกทำให้เป็ นขึ้นมา ตามที่เขียนไว้ในพระคัมภีร์….เพราะว่าเช่นเดียวกับที่ทุกคนต้องตายโดยเกี่ยว
เนื่องกับอาดัม ทุกคนก็จะได้รับชีวิตโดยเกี่ยวเนื่องกับพระคริ สต์ แต่วา่ จะเป็ นไปตามลำดับ คือพระคริ สต์ทรงเป็ นผลแรก ต่อจาก
นั้นก็คือคนทั้งหลายที่เป็ นของพระคริ สต์ในเวลาที่พระองค์เสด็จกลับมา (1 โคริ นธ์ 15:3-4, 22–23)
เมื่อเขากำลังเทศนากับปัญญาชนในกรุ งเอเธนส์ ซึ่งเป็ นเมืองแห่งการเรี ยนรู้ที่ยิง่ ใหญ่ที่สุดในแผ่นดินโลก เขากล่าวว่า
“[พระเจ้า] ทรงกำหนดวันหนึ่งไว้ แล้ว ในวันนั้นพระองค์ จะทรงพิพากษาโลกตามความชอบธรรมโดยบุคคลที่พระองค์ ทรงกำ
หนดไว้ และพระเจ้ าทรงให้ คนทั้งปวงมีความมัน่ ใจในเรื่ องนีโ้ ดยทรงให้ บคุ คลผู้นั้นเป็ นขึน้ จากตาย” (กิจการ 17:31)

ยอห์นใกล้ชิดพระคริ สต์มากกว่าผูใ้ ด และเขาวางความหวังใจของเขาในการเสด็จกลับมาของพระคริ สต์ เขาเขียนว่า


“ท่ านที่รักทั้งหลาย เดี๋ยวนีเ้ ราเป็ นลูกของพระเจ้ า และเราจะเป็ นอย่ างไรต่ อไปข้ างหน้ านั้นเรายังไม่ ร้ ู แต่ เรารู้ ว่าในเวลาที่พระองค์
จะเสด็จมาปรากฏนั้น เราจะเป็ นเหมือนอย่ างพระองค์ เพราะว่ าเราจะเห็นพระองค์ อย่ างที่พระองค์ ทรงเป็ นอยู่นั้น” (1 ยอห์น 3:2)
นอกจากนี้ ยอห์นยังเขียนพระธรรมวิวรณ์—หรื อ “การเปิ ดเผยล่วงหน้า"—ซึ่งมีค ำเผยพระวจนะ 21 บทที่เกี่ยวข้องกับ
การเสด็จกลับมาของพระคริ สต์ในฐานะจอมเจ้านาย ซึ่งจบลงด้วยพระคำของพระเยซูวา่ “พระองค์ ผ้ ทู รงเป็ นพยานในเหตุการณ์
เหล่ านี ต้ รั สว่ า “เราจะมาในเร็ วๆ นี แ้ น่ นอน” (วิวรณ์ 22:20)
นี่คือพระสัญญาของพระเจ้าที่มีต่อคุณและผม!
6
เมษายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“แต่คนที่ดื่มน้ำที่เราจะให้กบั เขานั้น จะไม่มีวนั กระหายอีกเลย น้ำที่เราจะให้เขานั้นจะกลายเป็ นบ่อน้ำพุในตัวเขาพลุ่งขึ้นถึงชีวิต
นิรันดร์” (ยอห์น 4:14)
ไฟประจำวัน!
ฉันได้รับการอภัยและอยูใ่ นสันติสุขกับพระเจ้า
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
ลูกา 8:11–15; 12:19–20; 23:1–56; 24:1–53; ยอห์น 4:14
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
เลวีนิติ 9; สดุดี 10
เย็น:
สุ ภาษิต 24; 1 เธสะโลนิกา 3
การค้ นหาในความมืด
บางคนมองไม่เห็นความหวังในทิศทางใดเลย น่าเศร้าที่พวกเขายอมแพ้และจมดิ่งสู่ความสิ้ นหวัง คนอื่นพยายามที่จะ
หลบหนีจากทุกสิ่ ง เหมือนที่คนหนึ่งตั้งข้อสังเกตว่า “ผูค้ นไม่สามารถทนต่อความเป็ นจริ งได้มากเกินไป นัน่ คือเหตุผลที่เรามี
ละครน้ำเน่า!”
การโหยหาชีวิตจริ งทำให้บางคนเข้าไปพัวพันกับใยแห่งการทำลายล้าง—มักจะติดกับดักที่เห็นได้ทวั่ ไปและชัดเจน
ที่สุด เช่น ยาเสพติดหรื อการดื่มสุ รา การเสพติดเหล่านี้ไม่เคยแก้ไขได้แม้แต่ปัญหาเดียว...แต่สร้างปัญหานับล้าน ผูท้ ี่ไม่สามารถ
ดำเนินชีวิตอยูไ่ ด้โดยปราศจากยาเสพติดและการดื่มสุ ราก็ไม่สามารถดำเนินชีวิตอยูก่ ับสิ่ งเหล่านั้นได้ สิ่ งเหล่านี้สร้างได้เพียง
ความฝันทางเคมี เป็ นภาพลวงตาในทะเลทรายที่ปราศจากน้ำ: “ที่ตกกลางหนามหมายถึงคนเหล่ านั้นที่ได้ ยินแล้ว และขณะที่ด ำ
เนินชี วิตอยู่ ความกังวล ทรั พย์ สมบัติ และความสนุกสนานของชี วิตนี ้ ก็รัดพวกเขาจนทำให้ ผลไม่ เติบโต” (ลูกา 8:14)

บางคนเสพติดการแสวงหาความสำเร็ จ ไดอารี่ ของพวกเขาเต็มไปด้วยบัญชีธนาคารของพวกเขาที่อว้ นขึ้ น รถของพวก


เขาที่เร็วขึ้น—แต่พวกเขาไม่เคยตามทันความสุ ข เช่นเดียวกับนักปี นเขา ผูค้ นหลายล้านคนแสดงความกล้าหาญอันยิ่งใหญ่ ความ
มุ่งมัน่ และความเฉลียวฉลาดที่จะก้าวไปสู่ จุดสูงสุ ด...แต่พวกเขากลับพบเพียงความว่างเปล่า เมื่อพวกเขาไปถึงที่นนั่ แล้วจะ
บอกกับจิ ตใจของข้าว่ า “จิ ตใจเอ๋ ย เจ้ ามีทรั พย์ สมบัติมากเก็บไว้ พอหลายปี จงอยู่สบาย กิน ดื่ม และรื่ นเริ งเถิด” ’ แต่ พระเจ้ าตรั ส
กับเขาว่ า ‘โอ คนโง่ ในคืนวันนีช้ ี วิตของเจ้ าจะต้ องเรี ยกเอาไปจากเจ้ า แล้ วของที่เจ้ ารวบรวมไว้ นั้นจะเป็ นของใคร?’ (ลูกา 12:19–
20)
ในขณะเดียวกันในซุปเปอร์มาร์เก็ตทางศาสนาในปัจจุบนั ผูค้ นจำนวนมากถูกสะกดจิตด้วยการทำให้ตนเองรอด ชั้น
วางของเต็มไปด้วยผลิตภัณฑ์ของกลุ่มนิวเอจ นัน่ คือพลังของพีระมิด การสะกดจิตบำบัด การทำสมาธิเหนือธรรมชาติ มนต์ขาว
—ทั้งหมดนี้ เป็ นการหลอกลวง และบางอันก็มีอนั ตรายถึงแก่ชีวิต สิ่ งเหล่านี้ไม่มีอะไรที่สามารถเข้าถึงหัวใจของปัญหามนุษย์
"ที่ตกตามหนทางหมายถึงคนเหล่ านั้นที่ได้ ยินแล้ว มารมาชิ งเอาพระวจนะไปจากใจของเขาเพื่อไม่ ให้ เขาเชื่ อและรั บความรอด”
(ลูกา 8:12)
คุณจำเป็ นต้องมีอะไรที่มากกว่าวิธีแก้ปัญหาราคาถูกหรื อการแก้ไขแบบเร่ งด่วน—คุณจำเป็ นต้ องมีสันติสุขกับพระเจ้ า
คุณจำเป็ นต้องให้พระองค์ยกโทษให้แก่คุณ พาคุณกลับบ้าน และนำคุณกลับไปสู่ ความสัมพันธ์ที่พระองค์ตอ้ งการมีกบั คุณมา
โดยตลอด
7
เมษายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“เพราะฉะนั้นถ้าพระบุตรทรงทำให้พวกท่านเป็ นไท ท่านก็เป็ นไทจริ ง ๆ” (ยอห์น 8:36)
ไฟประจำวัน!
วันนี้ฉนั เดินในเสรี ภาพที่ได้รับจากพระเยซูคริ สต์ องค์พระผูเ้ ป็ นเจ้าของฉัน
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
มัทธิว 4:19; ยอห์น 8:31–36; ฟิ ลิปปี 4:13; โคโลสี 1:9–10
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
เลวีนิติ 10; สดุดี 11 และ 12
เย็น:
สุ ภาษิต 25; 1 เธสะโลนิกา 4
ความเชื่อ คือ การผจญภัย
เช้าวันหนึ่ง พระเยซูทรงเดินไปตามขอบหิ นกรวดของทะเลสาบกาลิลีและทรงกวักมือเรี ยกชาวประมง พระองค์กล่าว
ว่า “จงตามเรามา” (มธ.4:19) ในขณะนั้นทุกอย่างเริ่ มต้นขึ้นสำหรับพวกเขา ก่อนหน้านี้ มนั จะเป็ นเพียงเรื่ องของปลา แล้วต่อมา
ก็กลายเป็ นเรื่ องของคน การกระทำ และการเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์โลก ด้วยความเชื่อและผลที่เพิ่มพูนขึ้นเรื่ อย ๆ พระเยซู
ไม่ได้เรี ยกพวกเขา—หรื อคุณ หรื อผม—ให้ปิดรอยยิม้ และสวมผ้ากระสอบ เพื่อเปลี่ยนคนธรรมดาให้กลายเป็ นคนหัวโบราณ
พระองค์เองก็ไม่ท ำตามประเพณี นิยมเลย! เหล่าสาวกสัมผัสได้ถึงวิญญาณที่พลุ่งพล่านของพระองค์ ซึ่งท้าทายระบบที่น่าเบื่อ
พระองค์ทรงสำแดงให้พวกเขาเห็นสิ่ งใหม่—โดยเฉพาะความเชื่อและความรัก—และโดยสิ่ งเหล่านั้น พวกเขาก็พิชิตโลก
พระเจ้า คือ ผูป้ ลดปล่อย ผูป้ ล่อยให้เป็ นอิสระ และพระผูช้ ่วยให้รอด พระองค์ทรงเป็ นพระเจ้า ผูป้ ล่อยให้เป็ นอิสระ
เท่านั้น ความเชื่ อ คือ การผจญภัยที่เปลี่ยนชี วิตให้ เป็ นการผจญภัย ความสงสัยทำให้เราไม่ไปที่ไหนเลย พวกมันเป็ นเชือกผูก
เรื อ การเชื่อพระเจ้าหมายความว่าเราปล่อยเรื อ เหมือนเรื อที่ออกแบบไว้สำหรับล่องทะเลกว้างและไปที่ไหนสักแห่ง ความเชื่อ
เป็ นแรงบันดาลใจ - ความสงสัยทำให้เป็ นอัมพาต ความเชื่อกล่าวว่า “ข้ าพเจ้ าเผชิ ญได้ ทุกอย่ างโดยพระองค์ ผู้ทรงเสริ มกำลัง
ข้ าพเจ้ า” (ฟิ ลิปปี 4:13) ความไม่เชื่อไม่ท ำอะไรเลย ความเชื่อในพระเจ้าเป็ นสิ่ งที่น่าตื่นเต้น—ความไม่เชื่อเป็ นสิ่ งที่น่าหดหู่ใจ
“ถ้ าพวกท่ านยึดมัน่ ในคำสอนของเรา ท่ านก็เป็ นสาวกของเราอย่ างแท้ จริ ง และพวกท่ านจะรู้ จักสัจจะ และสัจจะจะทำ
ให้ ท่านเป็ นไท” (ยอห์น 8:31–32) เรากลายเป็ นสิ่ งที่เราเกิดมาเพื่อเป็ นได้กต็ ่อเมื่อเราบังเกิดใหม่โดยความเชื่อในพระเยซูคริ สต์
“เพราะฉะนั้นถ้ าพระบุตรทรงทำให้ พวกท่ านเป็ นไท ท่ านก็เป็ นไทจริ ง ๆ” (ยอห์น 8:36) หนังสื อเกี่ยวกับเสรี ภาพที่ยิง่ ใหญ่ที่สุด
ในโลก คือ พระคัมภีร์ ความคิดที่ดีของเสรี ภาพเองมาจากพระคัมภีร์ ไม่ใช่จากกรี กหรื อโรม จงอ่านพระคัมภีร์! จงระลึกว่า
พระเจ้าสร้างชนชาติอิสระชาติแรกที่เคยเห็นบนแผ่นดินโลก นัน่ คืออิสราเอล และพระองค์ตอ้ งการใส่ ความรู้สึกแห่งเสรี ภาพใน
วิญญาณจิตของเรา พระเจ้าต่อต้านการปกครองแบบเผด็จการ พระกิตติคุณทำให้เราเป็ นบุตรของพระเจ้าที่บงั เกิดมาอย่างมี
อิสระ
เพราะเหตุนี้ นับตั้งแต่ วันที่เราได้ ยินเรื่ องนี ้ เราก็ไม่ ได้ หยุดอธิ ษฐานและทูลขอเพื่อท่ านทั้งหลาย เพื่อให้ ท่านเต็มเปี่ ยม
ด้ วยความรู้ เรื่ องพระประสงค์ ของพระองค์ โดยสรรพปั ญญาและความเข้าใจฝ่ ายจิ ตวิญญาณ เพื่อพวกท่ านจะดำเนินชี วิตอย่ างสม
ควรต่ อองค์ พระผู้เป็ นเจ้ า และจะเป็ นที่ชอบพระทัยของพระองค์ ทุกประการ คือให้ ท่านเกิดผลในการดีทุกอย่ าง และเจริ ญขึน้ ใน
ความรู้ ถึงเรื่ องพระเจ้ า (โคโลสี 1:9-10)
จงไปและเดินในเสรี ภาพของพระเจ้าในวันนี้ ... ในพระนามของพระเยซู!
8
เมษายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“และท่านก็ท ำตามอย่างของเรา และขององค์พระผูเ้ ป็ นเจ้า โดยที่ท่านได้รับคำสอนนั้นด้วยความยากลำบากมาก แต่ท่านยังมี
ความชื่นชมยินดีซ่ ึงเกิดจากพระวิญญาณบริ สุทธิ์ เพราะเหตุน้ นั ท่านจึงเป็ นแบบอย่างแก่คนที่เชื่อแล้ว ในแคว้นมาซิโดเนียและ
แคว้นอาคายา เพราะว่าคำสอนเรื่ ององค์พระผูเ้ ป็ นเจ้าได้เลื่องลือออกไปจากพวกท่าน ไม่ใช่แต่ในแคว้นมาซิโดเนียและในแคว้น
อาคายาเท่านั้น แต่ความเชื่อของท่านในพระเจ้าได้เลื่องลือไปทุกแห่งหน จนเราไม่จ ำเป็ นต้องพูดอะไรอีก” (1 เธสะโลนิกา 1:6–
8)
ไฟประจำวัน!
ฉันมีความเชื่อ ฉันเปี่ ยมไปด้วยพระวิญญาณ และฉันร้อนรนเพื่อพระเจ้า!
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
1 เธสะโลนิกา 1:6–8
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
เลวีนิติ 11 และ 12; สดุดี 13 และ 14
เย็น:
สุ ภาษิต 26; 1 เธสะโลนิกา 5
แรงจูงใจ
โลกไม่สามารถมองเห็นว่าอะไรที่กระตุน้ ให้คริ สเตียนฉายแสงในสถานที่ที่มืดมิด ด้วยความไม่รู้ พวกเขามองเห็นว่า
คริ สเตียนเป็ นเพียงผูท้ ี่มีความกระตือรื อร้นทางศาสนาเท่านั้น ผูไ้ ม่เชื่อก็เหมือนแกะที่ไม่เข้าใจว่าทำไมมนุษย์จึงฟังเพลง พระ
เยซูบอกเราว่าพระวิญญาณบริ สุทธิ์ ไม่ได้ถูกประทานให้แก่โลก นัน่ ทำให้ผทู้ ี่ไม่เชื่อมีความแตกต่างโดยพื้นฐาน เกือบจะเป็ นคน
ต่างด้าว ราวกับว่าพวกเขามาจากดาวอังคาร
อย่างไรก็ตาม เทียนเล่มหนึ่งถูกจุดจากเทียนอีกเล่มหนึ่ง ไฟ—แสงสว่างของพระเจ้า - ถูกส่ งต่อไปได้ นัน่ คือเหตุผลที่
เราอยูท่ ี่นี่ อัครทูตเปาโลใช้เวลาเพียงไม่กี่วนั แนะนำข่าวประเสริ ฐให้แก่ชาวเมืองเธสะโลนิกา แต่หลังจากนั้นไม่นานในจดหมาย
ที่มาถึงพวกเขา เปาโลแสดงความยินดีกบั ความกระตือรื อร้นของพวกเขา โดยกล่าวว่า “เพราะว่ าคำสอนเรื่ ององค์ พระผู้เป็ นเจ้ า
ได้ เลื่องลือออกไปจากพวกท่ าน” (1 เธสะโลนิกา 1:8) ความเชื่อจุดโคมที่ส่องทาง

บางทีเราอาจเริ่ มต้นด้วยการไม่มีความเชื่อ นัน่ คือติดลบ แต่ที่ไม้กางเขน เปลวไฟของความเชื่อกระโจนเข้าสู่ หวั ใจของ


เรา นำมาซึ่งพระวิญญาณบริ สุทธิ์ ความรอด และการให้อภัย ณ ที่แห่งนั้น การงานอันไม่มีขอบเขตของพระคริ สต์ถูกทำให้สำเร็ จ
และความเชื่อทำให้สิ่งนี้เป็ นของเรา เราเชื่อและได้รับ พระวิญญาณบริ สุทธิ์ แปลทั้งหมดที่พระเยซูทรงทำเพื่อเราให้เป็ น
ประสบการณ์ส่วนตัวของเรา เราเป็ นความสว่างของโลก โลกชอบคิดว่าศาสนากำลังจะตาย แต่ในพื้นที่กว้างใหญ่ของโลก เสี ยง
สัน่ แห่งความตายถูกได้ยนิ ในลำคอของการไม่เชื่อในศาสนา พระคริ สต์น ำไปสู่การเป็ นขึ้นมาจากความตายฉันใด ความไม่มี
พระเจ้าก็นำไปสู่ความตายฉันนั้น ทั้งสองเป็ นคำพ้องความหมาย ผูค้ นไม่ได้ก ำลังมองหาความพึงพอใจในสิ่ งที่รัฐบาลสามารถ
ทำได้ และกำลังหันไปหาสิ่ งต่าง ๆ ของพระวิญญาณบริ สุทธิ์ นัน่ คือสถานการณ์น้ ี จงมีความเชื่อ—จงเปี่ ยมไปด้วยพระวิญญาณ
— และจงร้อนรนเพื่อพระเจ้า! ปล่อยให้เชิงตะเกียงที่มีท่อ 7 ท่อลุกโชน!
ถ้าคุณเชื่อ และฉันเชื่อ
และเราร่ วมกันต่อสู้
พระวิญญาณบริ สุทธิ์ จะเสด็จลงมา
และประชาชาติจะเป็ นขึ้นจากความตาย

9
เมษายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“จงอธิษฐานในพระวิญญาณทุกเวลาโดยการอธิษฐานและการวิงวอนทุกๆ อย่าง เพราะเหตุน้ ี จงเฝ้ าระวังด้วยความเพียรและด้วย
การวิงวอนเผือ่ ธรรมิกชนทุกคนอยูเ่ สมอ” (เอเฟซัส 6:18)
ไฟประจำวัน!
เป็ นสิ ทธิพเิ ศษของฉันในฐานะลูกของพระเจ้าที่จะมาหาพระองค์ทุกวันด้วยความคาดหวังของลูกด้วยหัวใจที่เปิ ดออก โดยรู้ว า่
พระบิดารักฉัน!
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
อพยพ 16:1–5; มัทธิว 6:11; 7:7; กิจการ 6:4; โรม 12:12; เอเฟซัส 6:18; โคโลสี 4:2
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
เลวีนิติ 13; สดุดี 15 และ 16
เย็น:
สุ ภาษิต 27; 2 เธสะโลนิกา 1
อาหารประจำวัน
การอธิษฐานเป็ นหัวข้อที่สำคัญในพระคำของพระเจ้า อัครทูตเปาโลมักจะใช้ค ำที่มีความหมายว่า “ทำต่อไป อดทน
คอยอยู่ แสดงความแข็งแกร่ ง ยึดมัน่ ตื่นตัว!” จงแปลข้อความเหล่านี้ดว้ ยตัวท่านเอง: จงเฝ้ าระวังอธิ ษฐานด้ วยการขอบพระคุณ
(โคโลสี 4:2) จงขะมักเขม้ นอธิ ษฐาน ... (โรม 12:12) เราจะอุทิศตัวในการอธิ ษฐาน (กิจการ 6:4) จงอธิ ษฐานในพระวิญญาณ
ทุกเวลาโดยการอธิ ษฐานและการวิงวอนทุก ๆ อย่ าง (เอเฟซัส 6:18)
วิธีที่พระเยซูพดู ถึงเรื่ องการอธิษฐานนั้นไม่เหมือนที่บางคนคิด พระองค์ตรัสว่า “จงขอแล้ วจะได้ จงหาแล้ วจะพบ จง
เคาะแล้วจะเปิ ดให้ แก่ พวกท่ าน” (มัทธิว 7:7) คำเหล่านี้อยูใ่ นภาษากรี ก กาลปัจจุบนั อินดิคาทีฟ ( indicative) นัน่ คือกำลังขอ
กำลังแสวงหา กำลังเคาะ แต่ที่อื่นพระองค์ทรงใช้กาลที่แตกต่าง (แอริ สต์ aorist) เพื่อบ่งชี้ถึงการกระทำเดียวที่เสร็ จสิ้ น: “ขอประ
ทานอาหารประจำวันแก่ พวกข้าพระองค์ ในวันนี”้ (มัทธิว 6:11) ขอครั้งเดียว แต่ขอทุกวัน “ขอประทาน...ในวันนี”้ —ขอสำหรับ
ความจำเป็ นในแต่ละวันทุกวัน นัน่ คือวิธีที่พระเจ้าชอบ เราไม่มีความเชื่อสำหรับทุกสิ่ งสำหรับตลอดทั้งปี —นัน่ จะเป็ นการเย่อ
หยิง่ ! เรามาหาพระองค์ในฐานะลูกครั้งแล้วครั้งเล่าเพื่อขออาหารแห่งชีวิต—พระวิญญาณบริ สุทธิ์ —ทุกวัน ไม่ใช่ขอครั้งเดียว
เพื่อตลอดไป เราได้รับทุกวันเสมอ!

แนวคิดเรื่ อง “อาหารประจำวัน” ปรากฏครั้งแรกกับชาวอิสราเอลที่เพิง่ ได้รับอิสรภาพในถิ่นทุรกันดาร จากนั้นองค์


พระผูเ้ ป็ นเจ้าตรัสกับโมเสสว่า “นี่ แน่ะ เราจะให้อาหารตกลงมาเหมือนฝนจากท้องฟ้ าสำหรับพวกเจ้า และทุก ๆ วันก็ให้ประชา
ชนออกไปเก็บแต่พอกินเฉพาะวันหนึ่ง ๆ เพื่อเราจะได้ลองใจว่า พวกเขาจะดำเนินตามบัญญัติของเราหรื อไม่?” (อพยพ 16:4)
จากวันนั้นถึงวันนี้ พระเจ้าทรงกำลังทดสอบเราเพื่อดูวา่ เรามีความเชื่อในพระองค์ทุกวันหรื อไม่ การอธิษฐานก็เป็ น
เช่นนั้น—เราต้องซื่อสัตย์ทุกวันในการมีส่วนร่ วมในการอธิษฐานกับพระเจ้า
10
เมษายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“และนี่ เป็ นความมัน่ ใจที่เรามีต่อพระองค์ คือถ้าเราทูลขอสิ่ งใดที่เป็ นพระประสงค์ของพระองค์ พระองค์กท็ รงฟัง และถ้าเรารู้วา่
พระองค์ทรงฟังเมื่อเราทูลขอสิ่ งใด เราก็รู้วา่ เราได้รับสิ่ งที่ทูลขอนั้นจากพระองค์” (1 ยอห์น 5:14–15)
ไฟประจำวัน!
ฉันมีความมัน่ ใจว่าทุกครั้งที่ฉนั เรี ยกหาพระบิดาบนสวรรค์ พระองค์ทรงอยูท่ ี่บา้ นเสมอ พระองค์ทรงฟังฉันเสมอเมื่อฉัน
อธิษฐาน
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
สดุดี 86:7; 91:15; อิสยาห์ 58:9; 65:24; เยเรมีย ์ 33:3; มัทธิว 6:8; 7:8–11; 10:30; 1 ยอห์น 5:14–15
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
เลวีนิติ 14; สดุดี 17
เย็น:
สุ ภาษิต 28; 2 เธสะโลนิกา 2
พระเจ้ าได้ ยนิ คำอธิษฐาน
พระคัมภีร์ป่าวประกาศอย่างสม่ำเสมอว่าคำอธิษฐานจะถูกได้ยนิ เสมอ: สิ่ งไรซึ่ งพวกท่ านจำเป็ น พระบิดาของท่ านทรง
ทราบก่ อนที่ท่านจะทูลขอต่ อพระองค์ ... เพราะว่ าทุกคนที่ขอก็ได้ และทุกคนที่แสวงหาก็พบ ทุกคนที่เคาะก็จะเปิ ดให้ เขา (มัทธิ ว
6:8; 7:8) และนี่เป็ นความมัน่ ใจที่เรามีต่อพระองค์ คือถ้ าเราทูลขอสิ่ งใดที่เป็ นพระประสงค์ ของพระองค์ พระองค์ กท็ รงฟั ง และ
ถ้ าเรารู้ ว่าพระองค์ ทรงฟั งเมื่อเราทูลขอสิ่ งใด เราก็ร้ ู ว่าเราได้ รับสิ่ งที่ทูลขอนั้นจากพระองค์ (1 ยอห์ น 5:14–15)
คุณเคยลองโทรศัพท์หาใครบางคนครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ไม่ติดหรื อไม่? หลังจากนั้นไม่นาน คุณสงสัยว่า ฉั นจดหมาย
เลขโทรศัพท์ ถกู ไหม? แต่พระบิดาในสวรรค์ของเราทรงมีหมายเลขที่ถูกต้องของเรา จนถึงจำนวนเส้นผมบนศีรษะของเรา “ถึง
ผมของท่ านทั้งหลาย ก็ทรงนับไว้ แล้วทุกเส้ น” (มัทธิว 10:30)—และพระองค์ทรงห่วงใยคุณอย่างใกล้ชิด!

ในพวกท่ านมีใครบ้ างที่จะเอาก้ อนหิ นให้ ลกู เมื่อเขาขอขนมปั ง? หรื อให้ งูเมื่อลูกขอปลา? เพราะฉะนั้น ถ้ าพวกท่ าน
เองผู้เป็ นคนบาปยังรู้ จักให้ ของดีแก่ ลกู ของตน ยิ่งกว่ านั้นสักเท่ าใด พระบิดาของท่ านผู้สถิตในสวรรค์ จะประทานสิ่ งดีแก่ พวกที่
ขอต่ อพระองค์ " (มัทธิ ว 7:9–11)
เมื่อคุณเรี ยกหาพระเจ้า คุณจะไม่มีทางได้รับสัญญาณสายไม่วา่ ง หรื อโทรศัพท์ที่ดงั แต่ไม่มีค ำตอบ “ข้ าแต่ พระยาห์ เวห์
ขอเงี่ยพระโสตฟั งคำอธิ ษฐานของข้ าพระองค์ ขอทรงสดับเสี ยงวิงวอนของข้าพระองค์ ในวันที่ข้าพระองค์ ทุกข์ ใจ ข้ าพระองค์
จะร้ องทูลพระองค์ เพราะพระองค์ จะทรงตอบข้าพระองค์ ... เขาจะร้ องทูลเรา แล้วเราจะตอบเขา เราจะอยู่กับเขาในยามลำบาก
เราจะช่ วยกู้เขาและให้ เกียรติเขา” (สดุดี 86:6–7; 91:15) แล้วเมื่อเจ้ าทูล พระยาห์ เวห์ จะทรงตอบ เมื่อเจ้ าร้ องทูล พระองค์ จะตรั ส
ว่ า เราอยู่นี่" (อิสยาห์ 58:9) "จงทูลเรา และเราจะตอบเจ้ า และจะบอกสิ่ งยิ่งใหญ่ ที่ซ่อนอยู่ ซึ่ งเจ้ าไม่ ร้ ู นั้นแก่ เจ้ า" (เยเรมีย์ 33:3)
ผมเชื่อว่าพระเจ้าเองเป็ นผูร้ ิ เริ่ มแนวคิดของการรอสาย “และจะเป็ นดังนี ้ คือก่ อนที่พวกเขาร้ องเรี ยก เราเองจะตอบ ขณะที่เขาทั้ง
หลายยังพูดอยู่ เราเองจะฟั ง” (อิสยาห์ 65:24)
11
เมษายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“เพราะว่าท่านทั้งหลายได้รับความรอดแล้วด้วยพระคุณโดยทางความเชื่อ ความรอดนี้ ไม่ใช่มาจากตัวท่าน แต่เป็ นของประทาน
จากพระเจ้า” (เอเฟซัส 2:8)
ไฟประจำวัน!
วัตถุประสงค์หลักแห่งพระคำของพระเจ้า คือ การนำฉันเข้าสู่สนั ติสุขแห่งการพักผ่อนที่สมบูรณ์แบบในพระเจ้า
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
มัทธิว 8:26; เอเฟซัส 2:2, 8, 10; ยากอบ 4:5
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
เลวีนิติ 15; สดุดี 18
เย็น:
สุ ภาษิต 29; 2 เธสะโลนิกา 3
พระวิญญาณทรงหวงแหน
หลักการแห่งความเชื่อที่สำคัญ คือ พระเยซูคริ สต์ทรงมีชีวิตอยูใ่ นตัวฉัน หลายคนรอให้พระวิญญาณเคลื่อนไหว แต่
พระองค์ตอ้ งเคลื่อนไหวในทิศทางที่พวกเขาต้องการ การเคลื่อนไหวของพระวิญญาณไม่ได้อยูใ่ นความรู้สึกของเราเท่านั้น มี
ข้อความหนึ่งที่แปลกและถูกละเลยในยากอบ นัน่ คือ “พระวิญญาณที่ทรงสถิตในเรานั้นทรงหวงแหนอย่ างยิ่ง” (ยากอบ 4:5)
พระวิญญาณบริ สุทธิ์ ภายในเราขัดแย้งกับความปรารถนาฝ่ ายเนื้ อหนัง ด้วยการกระตุน้ เราให้รับใช้พระองค์
ให้เราดูที่ เอเฟซัส 2:8 ซึ่งกล่าวว่า “เพราะว่ าท่ านทั้งหลายได้ รับความรอดแล้วด้ วยพระคุณโดยทางความเชื่ อ ความรอด
นี ไ้ ม่ ใช่ มาจากตัวท่ าน แต่ เป็ นของประทานจากพระเจ้ า” ความเชื่อเป็ นการกระทำร่ วมกันระหว่างพระเจ้าและผม มีวิญญาณ 2
ดวงที่ขดั แย้งกัน นัน่ คือวิญญาณของมาร และพระวิญญาณของพระเจ้า พวกเขาทั้ง 2 กดดันเรา อันดับแรก เราอ่านเรื่ อง “วิญ
ญาณที่ทำกิจอยู่ในพวกคนที่ไม่ เชื่ อฟั งในเวลานี”้ (เอเฟซัส 2:2) หลังจากนั้นเราอ่านว่า เมื่อเราได้รับความรอด “เราถูก ... สร้ าง
ขึน้ ในพระเยซูคริ สต์ เพื่อให้ ทำการดี” (ข้อ 10) เมื่อเราทำตามน้ำพระทัยของพระองค์ กระทำการดีของพระองค์ ก็โดยพระคุณ
ของพระองค์ เราไม่สามารถเย่อหยิง่ ได้ พระสิ ริท้ งั หมดเป็ นขององค์พระผูเ้ ป็ นเจ้า

บางทีคุณอาจเคยสังเกตว่าพระเยซูไม่เคยชมเชยผู้คน แต่ทรงชมเชยความเชื่ อของพวกเขา ถ้าเรามีความเชื่อน้อย ก็อย่า


กังวล…ทุกคนเริ่ มที่นนั่ —หรื อไม่มีความเชื่อเลย! แม้แต่อคั รทูตก็ยงั ถูกเรี ยกว่า “คนศรั ทธาน้ อย” (มัทธิว 8:26) ถ้าคุณไม่พอใจ
กับตัวเอง พระเจ้าสร้างคุณให้เป็ นอย่างนั้น “พระวิญญาณที่ทรงสถิตในเรานั้นทรงหวงแหนอย่ างยิ่ง” พระองค์วางแผนที่จะ
เสริ มกำลังเรา
ถ้าคุณคิดว่าตัวเองเป็ นผูม้ ีความเชื่อไม่ดี ก็สามารถมีการทะลุทะลวงได้ พระคัมภีร์ท้ งั เล่มเขียนขึ้นเพื่อทำลายความไม่
เชื่อและสร้างป้ อมปราการแห่งการไว้วางใจในพระเจ้าของคุณ นัน่ คือการนำคุณเข้าสู่ สนั ติสุขแห่งการพักผ่อนที่สมบูรณ์แบบใน
พระเจ้า
13
เมษายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“ในพระเยซูน้ นั เราได้รับการไถ่โดยพระโลหิ ตของพระองค์ คือได้รับการยกโทษจากการละเมิดโดยพระคุณอันอุดมของพระ
เจ้า” (เอเฟซัส 1:7)
ไฟประจำวัน!
ฉันรู้วา่ ฉันไม่ได้รับการไถ่ดว้ ยสิ่ งที่เสื่ อมสลายได้ แต่ดว้ ยพระโลหิ ตล้ำค่าของพระคริ สต์
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
ยอห์น 1:29; เอเฟซัส 1:7; 1 เปโตร 1:19
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
เลวีนิติ 17; สดุดี 20 และ 21
เย็น:
สุ ภาษิต 31; 1 ทิโมธี 2
จงใช้ พระโลหิต
ในพระคัมภีร์ท้ งั เล่ม ไม่มีโลหิ ตใดนอกจากพระโลหิ ตของพระเยซูที่ถูกเรี ยกว่าล้ำค่า สัตว์หลายล้านตัวถูกฆ่าเพื่อชดใช้
บาป แต่เลือดของพวกมันก็ไม่ได้มีค่า เครื่ องบูชาของชาวอิสราเอลในพันธสัญญาเดิมถูกเทลงข้าง ๆ แท่นบูชา อย่างไร้ฤทธิ์
อำนาจ
สมมติวา่ คุณมีโต๊ะที่มีรอยเปื้ อนขนาดใหญ่บนพื้นผิว เมื่อมีแขกมา คุณก็เอาผ้าปูโต๊ะปิ ดรอยเปื้ อนเพื่อไม่ให้ผใู้ ดสังเกต
เห็น คราบถูกปกคลุม แต่ไม่ถูกลบออกไป นี่คือความหมายของคำว่า “การชดใช้ ” ในพันธสัญญาเดิม นัน่ คือ“ปกคลุม” กระแส
โลหิ ตของสัตว์ที่เป็ นเครื่ องบูชานับล้านตัวไม่สามารถลบล้างบาปออกไปได้ แต่แค่ปกปิ ดไว้ชวั่ ขณะหนึ่งเท่านั้น นัน่ คือเหตุผลที่
ยอห์น ผูใ้ ห้รับบัพติศมาจึงตื่นเต้นมากเมื่อเห็นพระเยซูเสด็จมาที่แม่น้ำจอร์แดน และร้องว่า “จงดูพระเมษโปดกของพระเจ้ า ผู้
ทรงรั บบาปของโลกไป!” (ยอห์น 1:29)

พระโลหิ ตของพระเยซูไหลอยูใ่ ต้ผา้ ปูโต๊ะและเบื้องหลังลักษณะภายนอกทุกอย่างของเรา พระโลหิ ตจัดการกับรากของ


บาปและปัญหาของทุกคนที่เชื่อในพระเยซูคริ สต์ พระโลหิ ตของพระเมษโปดกของพระเจ้าเท่านั้นที่มีคุณค่าและฤทธิ์ อ ำนาจที่จะ
ช่วยให้รอด การเสี ยสละของพระองค์เพียงพอสำหรับคุณและผม นัน่ คือสำหรับผูช้ าย ผูห้ ญิง เด็กผูช้ าย และเด็กผูห้ ญิงทุกคน ไม่
ว่าพวกเขาจะอายุเท่าไรก็ตาม อัครทูตเปโตรคือผูท้ ี่เรี ยกพระโลหิ ตของพระเยซูวา่ “ล้ำค่ า” “แต่ ด้วยพระโลหิ ตล้ำค่ าของพระ
คริ สต์ ดังเลือดลูกแกะที่ไร้ ต ำหนิ และไร้ จุดด่ างพร้ อย” (1 เปโตร 1:19) เพราะว่าเขาเป็ นพยานเป็ นการส่ วนตัวถึงการถูกตรึ งที่ไม้
กางเขน และการตายของเพื่อนที่ดีที่สุดของเขา เขาเห็นพระโลหิ ตขององค์เจ้านายของเขาไหลออกมาจากร่ างกายของพระองค์
ด้วยตาของเขาเอง เปโตรรู้ถึงคุณค่าที่แท้จริ งของพระโลหิ ตอันล้ำค่าของพระเยซู และนัน่ คือสิ่ งที่คุณและผมต้องเรี ยนรู้ที่จะให้
คุณค่าและให้เกียรติในวันนี้

14
เมษายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“พระเจ้าทรงไม่ใช่มนุษย์ที่จะมุสา และไม่ได้ทรงเป็ นบุตรของมนุษย์ที่จะต้องกลับใจ พระองค์จะไม่ทรงทำตามที่ตรัสไว้แล้ว
หรื อ? พระองค์จะไม่ทรงทำให้สำเร็ จตามที่ทรงลัน่ วาจาไว้แล้วหรื อ?” (กันดารวิถี 23:19)
ไฟประจำวัน!
จงมองเข้าไปในพระคำของพระเจ้าและเห็นพระลักษณะและพระทัยที่สม่ำเสมอของพระองค์
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
ปฐมกาล 20:1–18; กันดารวิถี 23:19; อิสยาห์ 55:6–12
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
เลวีนิติ 18; สดุดี 22
เย็น:
ปัญญาจารย์ 1; 1 ทิโมธี 3
พระทัยทีไ่ ม่ เปลีย่ นแปลงของพระเจ้ า
พระเจ้าทำงานโดยการกระตุน้ ให้อธิษฐาน เมื่อพระเจ้าต้องการทำสิ่ งใดสิ่ งหนึ่ง พระองค์จะทรงดลใจให้อธิษฐานให้
พระองค์ท ำสิ่ งนั้น พระองค์ทรงทำงานด้วยวิธีน้ นั เท่านั้น ในปฐมกาลบทที่ 20 เราอ่านเกี่ยวกับการรักษาโรคครั้งแรกที่บนั ทึกไว้
ในพระคัมภีร์ ซึ่งเป็ นคำอธิษฐานของอับราฮัมที่น ำการให้อภัยและการรักษาโรคมาสู่ครอบครัวทั้งหมดของอาบีเมเลค ซึ่งเป็ นหัว
หน้าชาวฟิ ลิสเตีย อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่ความคิดของอับราฮัม แต่เป็ นความคิดขององค์พระผูเ้ ป็ นเจ้า! พระองค์บอกอาบีเมเลค
ให้ขอให้อบั ราฮัมอธิษฐานขอให้เขาหายเป็ นปกติ พระองค์ดลใจให้อบั ราฮัมอธิษฐาน และดลใจให้อาบีเมเลคคาดหวังให้ค ำ
อธิษฐานของอับราฮัมได้รับคำตอบ ทั้งหมดนี้ มาจากพระเจ้า และโดยการรักษาครอบครัวของคนที่ไม่ได้เชื่อในพระเจ้า พระเจ้า
ก็ได้ทรงอุทิศตัวของพระองค์เอง พระองค์ไม่สามารถแตกต่างไปจากเดิมอีกแล้ว
องค์พระผูเ้ ป็ นเจ้าได้ทรงเปิ ดเผยสิ่ งที่พระองค์เป็ น และพระองค์ไม่สามารถย้อนกลับไปได้ พระเจ้าสำแดงพระองค์เอง
โดยการกระทำของพระองค์ และการกระทำของพระองค์ไม่ได้ขดั แย้งกับธรรมชาติของพระองค์ พระองค์ไม่เคยซ้ำรอย
พระองค์เอง เพราะว่าพระองค์ทรงมีแนวทางและแผนการใหม่ ๆ อย่างไม่จ ำกัด พระองค์ได้ทรงแสดงให้เห็นแล้วว่าการรักษา
โรคเป็ นสิ่ งที่พระองค์ตอ้ งการที่จะทำ

ความน่าเชื่อถือและความน่าไว้วางใจของพระเจ้านั้นไม่มีขอ้ กังขา และสิ่ งที่พระองค์ตรัสกับคนชอบธรรม พระองค์ก็


ตรัสกับคนบาปด้วยว่า จงแสวงหาพระยาห์เวห์ ขณะที่จะพบพระองค์ได้ จงทูลพระองค์ ขณะที่พระองค์ทรงอยูใ่ กล้ ให้คน
อธรรมละทิ้งทางของเขา และคนชัว่ ละทิ้งความคิดของเขา ให้เขากลับมายังพระยาห์เวห์ และพระองค์จะทรงเมตตาเขา และมายัง
พระเจ้าของพวกเรา เพราะพระองค์ทรงมีการอภัยอย่างเหลือล้น...ทำนองเดียวกัน คำของเราที่ออกจากปากของเรา จะไม่กลับมา
สู่เราเปล่า ๆ แต่จะทำให้สิ่งที่เราพอใจนั้นสำเร็จ และให้ส่ิ งที่เราใช้ไปทำนั้นเสร็จสิ้ น (อิสยาห์ 55:6–7, 11)
การกระทำของพระองค์สำแดงให้เห็นถึงพระทัยที่ไม่เปลี่ยนแปลงของพระองค์ ความรักเดียวกัน น้ำพระทัยเดียวกันที่
พระองค์ทรงมีเสมอทำให้แน่ใจว่าการกระทำของพระองค์ไม่สามารถจะละเมิดพระลักษณะของพระองค์ได้
15
เมษายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“เพราะว่าพระเจ้าพอพระทัยที่จะให้ความบริ บูรณ์ท้ งั หมดดำรงอยูใ่ นพระองค์ และโดยพระองค์ พระเจ้าทรงให้ทุกสิ่ งคืนดีกบั
พระองค์เอง ไม่วา่ สิ่ งนั้นจะอยูบ่ นแผ่นดินโลกหรื ออยูบ่ นสวรรค์ โดยทรงทำให้เกิดสันติภาพโดยพระโลหิ ตแห่งกางเขนของพระ
องค์” (โคโลสี 1:19–20)
ไฟประจำวัน!
พระผูไ้ ถ่ของฉัน ผูป้ ลดปล่อยของฉัน พระเยซูคริ สต์ ทรงสถิตอยูใ่ นฉันในวันนี้ !
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
ผูว้ ินิจฉัย 13 ถึง 15:20; โคโลสี 1:19–20
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
เลวีนิติ 19; สดุดี 23 และ 24
เย็น:
ปัญญาจารย์ 2; 1 ทิโมธี 4
แซมสั นและพระคริสต์
ถ้าเราจำเป็ นต้องพาใครสักคนกลับมาในโลกของเราในวันนี้ นัน่ ก็คือพระเยซูคริ สต์! ประชาชาติสามารถพักผ่อน
สันติสุขและความปลอดภัยจะเกิดขึ้นจริ ง นี่คือสิ่ งอัศจรรย์เกี่ยวกับพระคริ สต์ พระองค์ทรงเป็ น “ผูท้ ี่จะเสด็จมา”
พระธรรมผูว้ ินิจฉัยกล่าวถึงอิสราเอลที่ปราศจากกษัตริ ย ์ ซึ่งบอกเราว่าพระเจ้าทรงตั้งผูป้ ลดปล่อย ผูป้ ลดปล่อยคนหนึ่ง
คือแซมสัน…และมีปฏิกิริยาแปลก ๆ ต่อความกล้าหาญของเขา ด้วยความขลาดกลัวที่มีต่อผูท้ ี่กดขี่พวกเขา ผูน้ ำของอิสราเอล
พยายามทรยศแซมสัน และเขาตกอยูใ่ นเงื้อมมือของศัตรู พวกเขาทำให้เขาตาบอดและจับเขาทำงานหนักในคุก ฉากสุ ดท้าย
แซมสันทำลายความเป็ นผูน้ ำของศัตรู โดยสังเวยชีวิตของเขาเอง เขาไม่กลัว ความพยายามสูงสุ ดของเขาทำลายพลังของพวกเขา
นี่เป็ นสัญลักษณ์เปรี ยบเทียบ ผูป้ ลดปล่อยโลก—พระเยซูคริ สต์—เหมือนแซมสัน ถูกทรยศและถูกผูกมัด หลังจากนั้น
โดยการสิ้ นพระชนม์ของพระองค์ พระคริ สต์ทรงนำการปลดปล่อยมา พระองค์ทรงทำลายอำนาจแห่งความชัว่ ร้ายบนไม้
กางเขน ครั้งหนึ่งซึ่งมีผลตลอดไป

ก่อนหน้านี้ แซมสันได้ถูกมัดมือมัดเท้า แต่เมื่อศัตรู มาพบเขา แซมสันก็ลุกขึ้นและเป็ นอิสระ ในทำนองเดียวกัน พระ


คริ สต์ถูกตรึ งด้วยตะปูที่พระบาทของพระองค์ และในที่สุดก็ถูกปิ ดตายในความเงียบงันของอุโมงค์ฝังศพ แต่พระคริ สต์ ผูป้ ลด
ปล่อยเป็ นอิสระ และทรงเป็ นขึ้นมาอย่างมีชยั ชนะกลับไปหาพระเจ้า ผูท้ รงส่ งพระองค์มา!
วันนี้ คุณและผมสามารถระบุตวั ตนกับพระเยซูคริ สต์ ผูป้ ลดปล่อยของเราได้!
16
เมษายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“ขอให้แผ่นดินของพระองค์มาตั้งอยู่ ขอให้เป็ นไปตามพระทัยของพระองค์ ในสวรรค์เป็ นอย่างไรก็ให้เป็ นไปอย่างนั้นในแผ่น
ดินโลก” (มัทธิว 6:10)
ไฟประจำวัน!
ฉันจะเชื่อฟังองค์พระผูเ้ ป็ นเจ้าและทำธุรกิจจนกว่าพระองค์จะเสด็จมา
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
สดุดี 2:12; สุ ภาษิต 11:30; อิสยาห์ 9:6; มัทธิว 6:10; มาระโก 16:15; ลูกา 19:13; 24:46–48; กิจการ 2:14–39; วิวรณ์ 22:20
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
เลวีนิติ 20; สดุดี 25
เย็น:
ปัญญาจารย์ 3; 1 ทิโมธี 5
จุมพิตพระบุตร
อัครทูตเปโตรกล่าวว่า “เพราะฉะนั้น ให้ พงศ์ พันธุ์อิสราเอลทั้งหมดทราบแน่ นอนว่ า พระเจ้ าทรงแต่ งตั้งพระเยซูที่ท่าน
ทั้งหลายตรึ งไว้ บนกางเขนนั้น ให้ เป็ นทั้งองค์ พระผู้เป็ นเจ้ าและพระคริ สต์ ” (กิจการ 2:36) พระเยซูคริ สต์ทรงรับตำแหน่งนั้นเมื่อ
เสด็จขึ้นสู่สวรรค์ เพื่อดำเนินงานนั้น พระองค์ตอ้ งกลับมา สิ่ งนี้สามารถถูกทำให้สำเร็ จได้เฉพาะบนแผ่นดินโลกเท่านั้น นัน่ คือ
พระประสงค์ของพระเจ้าเสมอ
พระเยซูเกิดมาเพื่อตาย พวกสาวกกลัวและอาจเกลียดชังผูน้ ำศาสนาและชาวโรมันที่สงั หารพระเยซู แต่พวกเขาเรี ยนรู้
อย่างรวดเร็ วว่าแม้แต่การสิ้ นพระชนม์ของพระองค์กเ็ ป็ นส่วนหนึ่งของแผนการของพระองค์ ด้วยเหตุน้ี จึงจำเป็ นที่พระคริ สต์จะ
ต้องทนทุกข์และเป็ นขึ้นจากตายในวันที่สาม และจะต้องประกาศทัว่ ทุกประชาชาติในพระนามของพระองค์เรื่ องการกลับใจ
ใหม่ เพื่อการยกบาป โดยเริ่ มต้นที่กรุ งเยรู ซาเล็ม พวกท่านเองก็เป็ นพยานถึงสิ่ งเหล่านี้ (ลูกา 24:46–48)
จากความเข้าใจดังกล่าว พวกเขาเรี ยนรู้ที่จะให้อภัยและการคืนดี แม้กบั คนที่ข่มเหงพวกเขา พวกเขาทำได้ เพราะว่า
พวกเขาเคารพและให้เกียรติความเป็ นกษัตริ ยข์ องพระเยซูคริ สต์ และรับมอบหมายหน้าที่ที่มอบให้แก่พวกเขาว่า “จงออกไปทั่ว
โลก ประกาศข่ าวประเสริ ฐแก่ มนุษย์ ทุกคน” (มาระโก 16:15)
กษัตริ ยน์ ิรันดร์ทรงอยูท่ ี่ธรณี ประตู—“การปกครองจะอยู่บนบ่ าของท่ าน” (อิสยาห์ 9:6) พระองค์จะรับผิดชอบทัว่ โลก
ไม่มีฤทธิ์ อ ำนาจใดในแผ่นดินโลกหรื อในนรกที่จะขัดขวางได้! สดุดี 2:12 เตือนประชาชาติวา่ “จงจุมพิตพระบุตร หาไม่ พระ
องค์ จะกริ ้ว และเจ้ าต้ องพินาศจากทางนั้น เพราะความกริ ้วของพระองค์ จุดให้ ลกุ ได้ รวดเร็ ว” ความสุ ขจงมีแก่ผทู้ ี่ไว้วางใจใน
พระองค์ เมื่อพระองค์เสด็จมา โลกทั้งใบในทุกซอกทุกมุมจะรู้ พระองค์จะทรงขจัดทุกสิ่ งที่ล่วงเกินออกไปจากอาณาจักรของ
พระองค์ การเสด็จมาของพระองค์น้ นั แน่นอนดุจรุ่ งอรุ ณ
คุณและผมรู้ได้อย่างไรว่าพระคริ สต์ก ำลังเสด็จกลับมา? คริ สตชนทุกหนทุกแห่งต่างกำลังอธิษฐานว่า “พระเยซู องค์
พระผู้เป็ นเจ้ า เชิ ญเสด็จมาเถิด” (วิวรณ์ 22:20) “ขอให้แผ่นดินของพระองค์มาตั้งอยู!่ ”…และคำอธิษฐานเหล่านั้นจะได้รับคำ
ตอบในสักวันหนึ่ง! และในขณะที่เรากำลังรอการกลับมาของพระองค์ เราเชื่อฟังคำสัง่ ของพระองค์ที่วา่ “จงทำธุรกิจจนกว่ าเรา
จะกลับมา!” (ลูกา 19:13) เราไม่เพียงแค่นงั่ รอให้พระองค์เสด็จกลับมา แต่ยงั คงทำงานของอาณาจักรต่อไป นัน่ คือการประกาศ
นำดวงวิญญาณ! “ผู้ที่ประกาศนำดวงวิญญาณเป็ นคนฉลาด” (สุ ภาษิต 11:30) วันนี้นนั่ ควรเป็ นอาชีพของคุณและผม!
17
เมษายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“พวกเขาชนะมารด้วยพระโลหิ ตของพระเมษโปดก และด้วยคำพยานของพวกเขาเอง และพวกเขาไม่ได้รักตัวกลัวตาย” (วิวรณ์
12:11)
ไฟประจำวัน!
สิ่ งที่พระเจ้าได้ตรัสไว้จะเกิดขึ้น
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
อิสยาห์ 59:19; วิวรณ์ 12:9–11
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
เลวีนิติ 21; สดุดี 26 และ 27
เย็น:
ปัญญาจารย์ 4; 1 ทิโมธี 6
ประวัติศาสตร์ ล่วงหน้ า
นี่คือเวลาของการสุ กสำหรับการเก็บเกี่ยวครั้งสุ ดท้าย ทั้งข้าวสาลีและข้าวละมานเต็มทุ่งนา ซาตานสามารถเห็นได้วา่
โอกาสของมันกำลังจะหมดไป จะต้องเป็ นตอนนี้ หรื อไม่กไ็ ม่มีโอกาสเลยสำหรับมัน ดังนั้นการสำแดงความอธรรม ความไร้
ระเบียบ และความเสื่ อมทรามที่ยิง่ ใหญ่ที่สุดจึงอยูข่ า้ งหน้า แต่ผเู้ ชื่อมีอะไรให้คิดมากกว่าแค่การเอาชีวิตรอด มีแนวโน้มว่าจะมี
การข่มเหง และไม่ตอ้ งสงสัยเลยว่าจะต้องมีการหลัง่ เลือด อย่างไรก็ตาม ความคิดของเราอยูท่ ี่ชยั ชนะและการพิชิตเพื่อพระเยซู
การก่อตัวของกองกำลังของศัตรู นอ้ ยเกินกว่าที่จะเทียบได้กบั การเพิ่มพูนขึ้นเรื่ อย ๆ ของพระวิญญาณบริ สุทธิ์ ที่ “เมื่อศัตรู มา
เหมือนน้ำท่ วม พระวิญญาณขององค์ พระผู้เป็ นเจ้ าจะยกมาตรฐานต่ อต้ านเขา” (อิสยาห์ 59:19)
การเทลงมาที่ยิง่ ใหญ่ที่สุด การเจิมด้วยฤทธิ์ อ ำนาจของพระเจ้าที่ยิง่ ใหญ่ที่สุดที่เคยมีมา กำลังมาถึงเรา การฟื้ นฟูที่ผา่ น
มาจะดูเหมือนไม่มีอะไรเลยเมื่อเพ็นตาคอสต์เปิ ดออกเหนือคริ สตจักรทั้งหมด เราได้เห็นแวบหนึ่งของสิ่ งนี้แล้ว นัน่ คือการต่อสู้
ของผูไ้ ด้รับการเจิมกับผูต้ ่อต้านการเจิม ตอนนี้ เรารู้ความหมายของ วิวรณ์ 12:11 ซึ่งกล่าวว่า “พวกเขาชนะมารด้ วยพระโลหิ ต
ของพระเมษโปดก และด้ วยคำพยานของพวกเขาเอง และพวกเขาไม่ ได้ รักตัวกลัวตาย” มีการอธิบายการประลองนั้นไว้อย่าง
ครบถ้วนว่า พญานาคใหญ่ตวั นั้นคืองูดึกดำบรรพ์ ที่เขาเรี ยกกันว่ามารและซาตานผูล้ ่อลวงมนุษย์ท้ งั โลก มันถูกโยนลงมาที่แผ่น
ดินโลก และเหล่าบริ วารของมันถูกโยนลงมากับมันด้วย และข้าพเจ้าได้ยนิ เสี ยงดังในสวรรค์กล่าวว่า "บัดนี้ความรอดและฤทธิ์
เดช และอาณาจักรของพระเจ้าของเรา และสิ ทธิ อ ำนาจของพระคริ สต์ของพระองค์มาถึงแล้ว เพราะว่าผูก้ ล่าวหาพี่นอ้ งของเรา
ถูกโยนลงไปแล้ว คือผูท้ ี่กล่าวหาพวกเขาเฉพาะพระพักตร์ พระเจ้าของเราทั้งกลางวันและกลางคืนนั้น” (วิวรณ์ 12:9–10)
คำเผยพระวจนะในพระคัมภีร์เช่นนี้เป็ นประวัติศาสตร์ที่ถูกเขียนไว้ล่วงหน้า! เมื่อมารออกมาเพื่อสร้างปัญหาให้กบั
โลก พระเจ้าก็จะสร้างปัญหาให้กบั มาร พระเจ้าจะทำสิ่ งที่พระองค์ตรัสว่าพระองค์จะทำ แม้กระทัง่ ในรายละเอียดที่เล็กน้อย
ที่สุด ฮาเลลูยา! เราชื่นชมยินดี! เรารู้! อนาคตถูกสถาปนาไว้ล่วงหน้าแล้ว และชัว่ โมงสุ ดท้ายถูกกำหนดไว้แล้ว ด้วยบทสรุ ปที่
เปี่ ยมไปด้วยพระสิ ริอย่างมากมาย และนี่คือช่วงเวลาที่เรากำลังก้าวเข้าไป!

18
เมษายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“และพระเจ้าทรงทำให้เราเป็ นขึ้นมาด้วยกันกับพระคริ สต์ และทรงให้เรานัง่ ด้วยกันกับพระองค์ในสวรรคสถานในพระเยซู
คริ สต์ เพื่อว่าในยุคต่อ ๆ ไป พระองค์จะทรงสำแดงพระคุณอันอุดมเหลือล้นของพระองค์ ด้วยพระกรุ ณาที่มีต่อเราในพระเยซู
คริ สต์” (เอเฟซัส 2:6–7)
ไฟประจำวัน!
พระเยซูยอมทนทุกข์เพื่อนำบุตรมากหลายมาสู่ พระสิ ริ ซึ่งรวมถึงฉันด้วย!
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
เอเฟซัส 2:7; ยอห์น 13:31, 32; ทิตสั 2:13
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
เลวีนิติ 22; สดุดี 28 และ 29
เย็น:
ปัญญาจารย์ 5; 2 ทิโมธี 1
ถูกสร้ างและถูกช่ วยให้ รอดเพือ่ พระสิ ริของพระเจ้ า
เป็ นเรื่ องน่าประหลาดใจที่คิดว่าพระเจ้า ผูส้ ร้างโลกทั้งใบ ทรงสร้างเราแต่ละคนด้วย ยิง่ ไปกว่านั้น พระองค์ไม่ได้สร้าง
เราเพื่อตัวเราเอง เพียงเพื่อให้เราเป็ นสิ่ งมีชีวิตที่มีความสุ ข แต่เพื่อพระองค์เอง เพื่อพระสิ ริของพระองค์เอง ถ้าเราดำเนินชีวิต
เพื่อพระสิ ริของพระเจ้า เราก็ด ำเนินชีวิตสอดคล้องกับพระประสงค์ที่พระเจ้าทรงสร้างเราขึ้นมา นัน่ หมายถึงสันติสุข การดำเนิน
ชีวิตอยูเ่ พื่อเงิน ความพอใจในตนเอง หรื อจุดประสงค์อื่นที่ไม่ใช่พระเจ้า คือ การดำเนินชีวิตด้วยความเครี ยด ต่อสู้กบั ธรรมชาติ
และสวนกับกระแสแห่งน้ำพระทัยของพระเจ้า ถ้าเราแสวงหาพระสิ ริของพระองค์ เราก็เคลื่อนไปพร้อมกับทุกสิ่ งไปสู่ ความยิง่
ใหญ่แห่งพระสิ รินิรันดร์ที่ลิขิตไว้
และเราได้รับความรอด ไม่ใช่เพียงเพื่อผลประโยชน์ของเราเท่านั้น แต่เพื่อพระสิ ริของพระเจ้าด้วย ทำไม? “เพื่อว่ าใน
ยุคต่ อๆ ไป พระองค์ จะทรงสำแดงพระคุณอันอุดมเหลือล้ นของพระองค์ ด้ วยพระกรุ ณาที่มีต่อเราในพระเยซูคริ สต์ ” (เอเฟซัส
2:7) นัน่ คือสาเหตุที่พระเยซูทรงทนทุกข์อย่างมากเพื่อเรา ยอมจ่ายราคาสูง เพื่อนำพระสิ ริมาสู่ พระบิดา

เมื่อพระเยซูเสด็จมาอีกครั้ง พระองค์จะทรงทำให้แผ่นดินโลกทั้งใบเต็มไปด้วยพระสิ ริของพระองค์ นัน่ คือความหวัง


เรากำลังรอคอย “การมาปรากฏของพระสิ ริของพระเจ้ ายิ่งใหญ่ คือ พระเยซูคริ สต์ พระผู้ช่วยให้ รอดของเรา” (ทิตสั 2:13)
พระเจ้ากำลังสำแดงพระสิ ริของพระองค์เอง และเราไม่จ ำเป็ นต้องกังวลว่าความเชื่อของคริ สเตียนจะล้มเหลว หรื อความเชื่อจะ
หายไป พระเจ้าทรงเป็ นสถาปนิกตามพระประสงค์ของพระองค์ ท้ายที่สุดแล้วไม่มีสิ่งใดที่มนุษย์ที่อ่อนแอจะสามารถทำเพื่อที่
จะขัดขวางจักรวาลทั้งมวลจากการถวายเกียรติแด่พระองค์ และเห็นพระสิ ริของพระองค์ได้ เราจะอยูใ่ นพระสิ ริของพระองค์ เป็ น
ส่วนหนึ่งในนั้น แบ่งปันความชื่นชมยินดี และแสงสว่าง และชีวิต และความอัศจรรย์ใจ นัน่ คือบางสิ่ งที่น่ารอคอยจริ งๆ!
19
เมษายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“สาธุการแด่พระเจ้า พระบิดาแห่งพระเยซูคริ สต์ องค์พระผูเ้ ป็ นเจ้าของเรา โดยพระเมตตาล้นเหลือของพระองค์ ทรงโปรดให้เรา
บังเกิดใหม่ เข้าในความหวังที่ยงั่ ยืน โดยการคืนพระชนม์ของพระเยซูคริ สต์” (1 เปโตร 1:3)
ไฟประจำวัน!
ตอนนี้ฉนั มีความหวังที่มีชีวิตผ่านทางการเป็ นขึ้นมาจากความตายของพระเยซูคริ สต์
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
สดุดี 77:14; ฮีบรู 9:24–28; 1 เปโตร 1:3, 5
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
เลวีนิติ 23; สดุดี 30
เย็น:
ปัญญาจารย์ 6; 2 ทิโมธี 2
พระเยซู ที่เป็ นไปไม่ ได้
ผูค้ นพูดถึงความเชื่อของคริ สเตียน แต่ลืมไปว่าหัวใจแห่งความเชื่อของคริ สเตียน คือ ความหวังที่ยิง่ ใหญ่ที่สุด นัน่ คือ
การเสด็จมาครั้งที่ 2 ของพระคริ สต์ เราไม่สามารถหยิบและเลือกสิ่ งที่เราชอบ และยังคงเรี ยกว่าความเชื่อของคริ สเตียน เรารู้วา่
พระองค์ก ำลังเสด็จกลับมา เพราะว่าพระองค์ทรงเป็ นขึ้นมาจากความตาย พระองค์ทรงเป็ นขึ้นมา ดังนั้นพระองค์จะเสด็จมา
เปาโลพูดเช่นนั้นเมื่อเขากำลังเทศนาในกรุ งเอเธนส์แก่ผมู้ ีปัญญา! มันเป็ นตรรกะสัมบูรณ์แบบที่พวกเขาชอบ เปโตรยังกล่าวอีกว่า
พระเจ้าใน “พระเมตตาล้ นเหลือของพระองค์ ทรงโปรดให้ เราบังเกิดใหม่ เข้าในความหวังที่ยงั่ ยืน โดยการคืนพระชนม์ ของพระ
เยซูคริ สต์ ...ให้ เข้ าในความรอด ซึ่ งพร้ อมจะปรากฏในวาระสุดท้ าย” (1 เปโตร 1:3, 5)
พระเยซูทรงทำพระสัญญาที่ยงิ่ ใหญ่มากมายซึ่งพระองค์ทรงรักษา พระองค์ทรงสัญญาว่าจะเป็ นขึ้นมาจากความตาย—
ไม่มีใครสามารทำได้ หรื อจะยอมรับได้ มันเป็ นไปไม่ได้ และพวกเขาไม่คิดว่าพระองค์หมายความตามนั้น แต่พระองค์กท็ รงทำ
และพระองค์เดินออกมาจากอุโมงค์ พระเยซูจดั การกับสิ่ งที่เป็ นไปไม่ได้ “พระองค์ คือ พระเจ้ าผู้ทรงกระทำการอัศจรรย์ ” (สดุดี
77:14) พระองค์ออกมาจากอุโมงค์ฝังศพ ดังนั้นการเสด็จกลับมาจากพระสิ ริจึงไม่ใช่ปัญหา

เพราะว่ าพระคริ สต์ ไม่ ได้ เสด็จเข้ าไปในสถานศักดิ์สิทธิ์ ที่สร้ างขึน้ ด้ วยมือมนุษย์ ซึ่ งถอดแบบจากของจริ ง แต่ พระองค์
เสด็จเข้าไปในสวรรค์ นั้นเอง เพื่อทรงปรากฏตัวต่ อพระพักตร์ พระเจ้ าเพื่อพวกเรา ไม่ ใช่ เพื่อทรงถวายพระองค์ เองซ้ำอีก ไม่
เหมือนมหาปุโรหิ ตที่เข้าไปในสถานศักดิ์สิทธิ์ ทุกปี โดยนำเอาเลือดซึ่ งไม่ ใช่ ของตัวเองเข้ าไปด้ วย เพราะถ้ าเป็ นเช่ นนั้น พระองค์
คงจะต้ องทรงทนทุกข์ หลายครั้ งนับตั้งแต่ สร้ างโลกมา แต่ ความจริ ง พระองค์ ทรงปรากฏครั้ งเดียวเท่ านั้นในปลายยุค เพื่อกำจัด
บาปให้ หมดสิ ้นไปโดยการถวายพระองค์ เองเป็ นเครื่ องบูชา ตามที่มีข้อกำหนดสำหรั บมนุษย์ ไว้ แล้ วว่ าจะตายครั้ งเดียว และหลัง
จากนั้นก็จะมีการพิพากษาฉั นใด พระคริ สต์ กฉ็ ั นนั้น คือพระองค์ ทรงถวายพระองค์ เองเป็ นเครื่ องบูชาครั้ งเดียวเป็ นพอ เพื่อจะได้
ทรงแบกบาปของคนจำนวนมากไว้ แล้ วพระองค์ จะทรงปรากฏเป็ นครั้ งที่สอง ไม่ ใช่ เพื่อกำจัดบาป แต่ เพื่อนำความรอดมาให้
บรรดาผู้ที่รอคอยพระองค์ ด้วยใจจดจ่ อ (ฮี บรู 9:24–28)
พระคริ สต์สิ้นพระชนม์และเสด็จกลับมาจากอุโมงค์ฝังศพ และตอนนี้ พระองค์ทรงพระชนม์! มหัศจรรย์? ใช่ แต่ไม่ใช่
ความเพ้อฝัน นี่เป็ นที่ที่ประวัติศาสตร์ก ำลังดำเนินไป ถ้าไม่เช่นนั้นประวัติศาสตร์กจ็ ะไม่ไปไหนเลย ด้วยความชื่นชมยินดีอย่าง
ยิง่ คุณและผมยึดมัน่ ในพระสัญญาอันยิง่ ใหญ่น้ นั ว่าพระเยซูคริ สต์จะเสด็จมาอีกครั้งเพื่อเรา!
20
เมษายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“ด้วยมีเด็กคนหนึ่งเกิดมาเพื่อเรา มีบุตรชายคนหนึ่งประทานมาให้เรา และการปกครองจะอยูบ่ นบ่าของท่าน และเขาจะขนาน
นามของท่านว่า “ที่ปรึ กษามหัศจรรย์ พระเจ้าผูท้ รงมหิ ทธิ ฤทธิ์ พระบิดานิรันดร์ และองค์สนั ติราช” การเพิ่มพูนขึ้นของการปก
ครองและสันติภาพของท่านจะไม่มีที่สิ้นสุ ด” (อิสยาห์ 9:6–7)
ไฟประจำวัน!
พระเยซูสิ้นพระชนม์แทนฉันเพื่อฉันจะได้มีชีวิตอยู่
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
อิสยาห์ 9:6–7; ลูกา 22:27; ยอห์น 3:16; 4:42; 14:2–3; 2 โคริ นธ์ 9:15; วิวรณ์ 1:7
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
เลวีนิติ 24; สดุดี 31
เย็น:
ปัญญาจารย์ 7; 2 ทิโมธี 3
สิ ทธิที่พระเจ้ าประทานให้ แก่ เรา
เรารู้วา่ พระคริ สต์ก ำลังเสด็จกลับมา เพราะว่าพระองค์ทรงเป็ นของที่นี่ พระองค์ทรงเป็ น “พระเยซูคริ สต์ ผู้ทรงสภาพ
มนุษย์ ” (1 ทิโมธี 2:5) พระองค์ทรงบังเกิดที่นี่…กินที่นี่ และเติบโตที่นี่… หายใจที่นี่ และดำเนินชีวิตอยูท่ ี่นี่…ถูกทดลองเช่นเดียว
กับเรา—แต่ไม่เคยทำบาป พระองค์ถูกกล่าวหาอย่างผิด ๆ ที่นี่…ถูกทดสอบและตัดสิ นว่าผิดที่นี่…ถูกเฆี่ยนตีและประณามที่นี่…
และพระองค์ทรงหลัง่ พระโลหิ ตที่นี่ พระองค์ทรงเป็ นขึ้นมาอีกครั้งในพระกายที่ได้รับการเปลี่ยนแปลงใหม่และเป็ นอมตะ ซึ่งยัง
มีเครื่ องหมายแห่งความตายของพระองค์บนไม้กางเขน บุตรมนุษย์ผกู พันกับโลกของมนุษย์น้ ี ตลอดไปด้วยการเป็ นขึ้นมาจาก
ความตายและชีวิตที่ไม่มีวนั เสื่ อมสลาย!
พระองค์ทรงมีบา้ น 2 หลัง นัน่ คือแผ่นดินโลกและสวรรค์…กับเราและกับพระบิดา พระองค์ไปหาพระเจ้า เพราะว่า
พระองค์มาจากพระเจ้า...พระองค์จะกลับมาที่นี่ เพราะว่าพระองค์มาจากที่นี่
ในพระนิเวศของพระบิดาเรามีที่อยู่มากมาย ถ้ าไม่ มีเราคงบอกท่ านแล้ว เพราะเราไปจัดเตรี ยมที่ไว้ สำหรั บพวกท่ าน
เมื่อเราไปจัดเตรี ยมที่ไว้ สำหรั บท่ านแล้ว เราจะกลับมาอีกและรั บท่ านไปอยู่กับเรา เพื่อว่ าเราอยู่ที่ไหนพวกท่ านจะได้ อยู่ที่นั่นด้ วย
(ยอห์ น 14:2–3)
พระองค์เป็ นของพระเจ้าและเป็ นของเรา เช่นเดียวกับที่พระองค์ทรงรักพระบิดาและไปหาพระองค์ฉนั ใด...เนื่องจาก
พระองค์ทรงรักเรา พระองค์กจ็ ะเสด็จมาหาเราฉันนั้น เมื่อสวรรค์และแผ่นดินโลกใหม่มาถึง พระองค์จะเป็ นของทั้ง 2 สถานที่
สิ ทธิ์ ที่ยงิ่ ใหญ่ที่สุดของเราคือการอ้างสิ ทธิ์ ในพระเยซูคริ สต์วา่ “พระเจ้ าทรงรั กโลกดังนี ้ คือได้ ประทานพระบุตรองค์
เดียวของพระองค์ ” (ยอห์น 3:16) “ของประทานที่เกินความคาดคิดซึ่ งพระองค์ ประทานนั้น” (2 โคริ นธ์ 9:15) เราเป็ นเจ้าของ
พระองค์เช่นเดียวกับที่พระเจ้าเป็ นเจ้าของพระองค์ แผ่นดินโลกเท่ากับสวรรค์ “ด้ วยมีเด็กคนหนึ่งเกิดมาเพื่อเรา มีบตุ รชายคน
หนึ่งประทานมาให้ เรา” (อิสยาห์ 9:6) พระองค์ทรงวางพระองค์เองเป็ นภาระหน้าที่ต่อเราด้วยพระคุณอันเหลือเชื่อของพระองค์
1 ในสิ ทธิ์ ที่พระเจ้าประทานให้แก่เรา คือ การได้เห็นพระองค์บนแผ่นดินโลก นัน่ คือสิ ทธิพิเศษที่ล่วงละเมิดไม่ได้ของเรา “นัยน์
ตาทุกดวงจะเห็นพระองค์ ” (วิวรณ์ 1:7)

21
เมษายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“และนี่ เป็ นความมัน่ ใจที่เรามีต่อพระองค์ คือถ้าเราทูลขอสิ่ งใดที่เป็ นพระประสงค์ของพระองค์ พระองค์กท็ รงฟัง และถ้าเรารู้วา่
พระองค์ทรงฟังเมื่อเราทูลขอสิ่ งใด เราก็รู้วา่ เราได้รับสิ่ งที่ทูลขอนั้นจากพระองค์” (1 ยอห์น 5:14–15)
ไฟประจำวัน!
เป็ นสิ ทธิพเิ ศษของผูเ้ ชื่อที่จะอธิษฐานเผือ่ กันและกัน
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
ยอห์น 16:22–24; 1 ยอห์น 5:14–15
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
เลวีนิติ 25;
สดุดี 32
เย็น:
ปัญญาจารย์ 8; 2 ทิโมธี 4
การอธิษฐานวิงวอนนำมาซึ่งผลลัพธ์
หลังจากการประกาศใหญ่ ผูห้ ญิงคนหนึ่งมาหาผม และบอกผมว่าเธอถูกวิญญาณชัว่ ร้ายลวนลามมาหลายปี อย่างไร
และสิ้ นหวังกับชีวิตของเธอ ผมสะเทือนใจ และองค์พระผูเ้ ป็ นเจ้าทรงบอกให้ผมอดอาหารและอธิษฐานเผือ่ เธอ วันรุ ่ งขึ้น ผม
กำลังอธิษฐานเผือ่ เธออย่างสุ ดหัวใจ พอตอนเที่ยง จู่ๆ ผมก็มีประสบการณ์กบั การทะลุทะลวง พระสิ ริขององค์พระผูเ้ ป็ นเจ้าเต็ม
วิญญาณจิตของผม และพระวิญญาณบริ สุทธิ์ ตรัสกับผมว่า "สำเร็ จแล้ว"
เย็นวันนั้นผมได้พบกับผูห้ ญิงคนนั้นอีกครั้ง ก่อนที่ผมจะได้พดู อะไร เธอรายงานด้วยดวงตาเป็ นประกายว่า “พระเจ้าได้
ทรงทำการอัศจรรย์แล้ว! ตอนเที่ยงของวันนี้ ฉันมีประสบการณ์กบั การบำบัดปลดปล่อยที่ยงิ่ ใหญ่ในบ้านของฉัน” สิ่ งที่พระเจ้า
ได้ท ำในระดับเล็กน้อย พระองค์กจ็ ะทรงทำในส่ วนที่ใหญ่ที่สุดด้วย

โมเสสอาจเป็ นนักอธิษฐานวิงวอนที่ยิง่ ใหญ่ที่สุด (ก่อนพระคริ สต์) หลังจากที่เขานำชาวอิสราเอลออกจากอียปิ ต์—


ความสำเร็ จที่เกิดขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์โดยพระหัตถ์อนั ทรงฤทธิ์ ของพระเจ้า—ลูกหลานของอิสราเอลกล้าบ่นเกี่ยวกับอิสรภาพที่
เพิ่งค้นพบในถิ่นทุรกันดารว่า “เรามีอาหารไม่พอ… เรามีน ้ำไม่พอ… เราอ่อนแอที่นี่… เราต้องการกลับไปที่อียปิ ต์!”
พระเจ้าทรงขู่วา่ จะทำลายพวกเขาและความอกตัญญูของพวกเขา แต่โมเสสมีชยั ต่อพระเจ้าครั้งแล้วครั้งเล่า ไม่เพียงแค่
จะไว้ชีวิตพวกเขาเท่านั้น แต่ยงั จัดเตรี ยมเพื่อพวกเขาอย่างมากมายและน่าอัศจรรย์อีกด้วย การอธิษฐานไม่ได้ถูกทำขึ้นเนื่องจาก
ใครบางคนสมควรได้รับความเมตตาจากพระเจ้า แต่เนื่องจากพระองค์ทรงเมตตา และรัก และเอื้อเฟื้ อเผือ่ แผ่
ในชีวิตของคุณมีความจำเป็ นอะไรบ้างที่คุณจำเป็ นต้องได้รับการอธิษฐานวิงวอนเผือ่ ? ไม่ใช่เรื่ องน่าอายที่จะขอให้
เพื่อนร่ วมความเชื่ออธิษฐานร่ วมกับคุณ นัน่ เป็ นสิ ทธิพิเศษสำหรับคุณทั้งคู่ ซึ่งจะเป็ นพระพรแก่คุณ 2 คน!

22
เมษายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“เราเป็ นผูเ้ ลี้ยงที่ดี เรารู้จกั แกะของเรา...เราสละชีวิตเพื่อฝูงแกะ...เพราะเหตุน้ ีพระบิดาจึงทรงรักเรา เพราะเราสละชีวิตของเราเพื่อ
จะรับชีวิตนั้นคืนมาอีก ไม่มีใครชิงชีวิตไปจากเราได้ แต่เราสละชีวิตตามที่เราตั้งใจเอง เรามีสิทธิ อ ำนาจที่จะสละชีวิตนั้นและมี
สิ ทธิ อ ำนาจที่จะรับคืนมาอีก” (ยอห์น 10:14–15, 17–18)
ไฟประจำวัน!
พระบิดา ขอทรงพาข้าพระองค์ออกจาก “อาณาเขตที่สะดวกสบาย” และวางข้าพระองค์ไว้ในสถานที่ที่หวั ใจแห่งความเมตตา
ของพระองค์เต้นอยูใ่ นตัวของข้าพระองค์เอง ทำให้ขา้ พระองค์เป็ นห่วงเป็ นใยผูห้ ลงหายมากขึ้น
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
อพยพ 32; ยอห์น 10:14–18; 15:13 น
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
เลวีนิติ 26;
สดุดี 33
เย็น:
ปัญญาจารย์ 9;
ทิตสั 1
จงสะเทือนใจด้ วยความรู้ สึกเป็ นห่ วงเป็ นใย
เรื่ องราวใน อพยพ 32 เป็ นตอนที่แปลก แต่สำแดงให้เราเห็นถึงหัวใจของนักอธิษฐานวิงวอนที่แท้จริ ง อิสราเอลได้หนี
ออกจากอียปิ ต์หลังจากการสำแดงที่น่าอัศจรรย์ของฤทธิ์ อำนาจทุกอย่างที่ท ำให้ดูเหมือนกับว่าพระเจ้าทรงอยูใ่ กล้ สูงขึ้นไปมี
ภูเขาซีนายที่สูงตระหง่าน โดยมีเมฆแห่งพระสิ ริของพระเจ้าที่ก ำลังบดบังโมเสสซึ่งขึ้นไปสนทนากับพระเจ้า ประชาชนคิดว่าเขา
ได้ทอดทิ้งพวกเขาแล้ว จิตใจที่เรี ยบง่ายของพวกเขาลุ่มหลงในความเชื่อโชคลางของอียปิ ต์และเทพเจ้าต่างๆ ของอียปิ ต์ ดังนั้น
พวกเขาจึงสร้างลูกวัวทองคำเพื่อนำพวกเขากลับไปยังอียปิ ต์
องค์พระผูเ้ ป็ นเจ้าตรัสว่าพระองค์จะทรงทำลายพวกเขาเนื่องจากการล่วงละเมิดที่น่าเกลียดนี้ และเริ่ มต้นประชาชาติ
ใหม่ผา่ นทางโมเสส ความสงสารของโมเสสเอาชนะความโกรธของเขา และเขาวิงวอนเพื่อชนชาติที่พระเจ้าเรี ยกว่า “หั วแข็ง”
(อพยพ 32:9) โมเสสตอบกลับโดยเรี ยกพวกเขาว่า “ประชากรของพระองค์ ” (ข้อ 11) และเสริ มว่า “อนิจจา ประชากรนีท้ ำบาป
ใหญ่ หลวง ...แต่ บัดนีข้ อพระองค์ โปรดยกโทษบาปของพวกเขา มิฉะนั้น ขอพระองค์ ทรงลบชื่ อของข้าพระองค์ เสี ยจากหนังสื อ
ที่พระองค์ ทรงจดไว้ ” (ข้อ 31–32) ที่นี่ค ำพูดทำให้เขาขาดทุน นัน่ คือพลังแห่งการระเบิดออกของความเห็นอกเห็นใจของเขา เขา
ยอมตายเพื่อชดใช้บาปของอิสราเอล
ข้อเสนอของเขาถูกปฏิเสธ เพราะว่ามีเพียงพระบุตรของพระเจ้าเท่านั้นที่สามารถชดใช้บาปได้ นี่เป็ นการอธิษฐาน
วิงวอนที่แท้จริ ง
โมเสสไม่ได้ถูกผลักเข้าไปในนั้น เขาได้น ำกลุ่มชนเผ่านี้ไปสู่ความเป็ นชาติเหมือนผูห้ ญิงคนหนึ่งที่คลอดเด็กเข้ามาใน
โลก พวกเขาทำให้หวั ใจของเขาแตกสลาย แต่เขายังคงปกป้ องพวกเขาจากหายนะที่หลีกเลี่ยงไม่ได้จากความโง่เขลาของพวกเขา
เอง “ไม่ มีใครมีความรั กยิ่งใหญ่ กว่ านี ้ คือการสละชี วิตเพื่อมิตรสหายของตน” (ยอห์น 15:13) คุณถูกทำให้โกรธโดยเพื่อนหรื อ
ญาติที่ยงั ไม่ได้รับความรอดหรื อไม่? จงอธิษฐานเผือ่ พวกเขา! พวกเขาไม่ได้ตอ้ งการเศษเสี้ ยวแห่งความคิดของคุณ—พวกเขา
ต้องการคำอธิษฐานจากหัวใจของคุณ
23
เมษายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“ถ้าพวกท่านยึดมัน่ ในคำสอนของเรา ท่านก็เป็ นสาวกของเราอย่างแท้จริ ง และพวกท่านจะรู้จกั สัจจะ และสัจจะจะทำให้ท่านเป็ น
ไท” (ยอห์น 8:31–32)
ไฟประจำวัน!
คนชอบธรรมจะดำเนินชีวิตด้วยความเชื่อ
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
อพยพ 32:1–35; ยอห์น 20:29; โรม 1:17, 28
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
เลวีนิติ 27;
สดุดี 34
เย็น:
ปัญญาจารย์ 10; ทิตสั 2
ผู้เชื่อที่ไม่ เห็นสิ่ งมหัศจรรย์
ความคิดที่วา่ พระเจ้าหายไปเป็ นความกลัวเก่าของความไม่เชื่อ อิสราเอลเข้าร่ วมในการอพยพ เห็นพระสิ ริของพระองค์
และรู้วา่ ทั้งหมดเป็ นความจริ ง แต่ภายในไม่กี่เดือน พวกเขาก็ไม่ไว้วางใจ พวกเขาต้องการบางสิ่ งบางอย่างที่เห็นได้ ดังนั้นพวก
เขาจึงสร้างลูกวัวทองคำเพื่อนำพวกเขากลับไปสู่ ความเป็ นทาส! ความไม่เชื่อนำไปสู่การเป็ นทาสเสมอ ความเชื่อหมายถึง
อิสรภาพ
อย่างไรก็ตาม พวกเขาทำพาสปอร์ตและวีซ่าแห่งความเชื่อในพระเจ้าหายหมด และไม่เคยข้ามพรมแดนเข้าสู่แผ่นดิน
แห่งพระสัญญา—โดยมีขอ้ ยกเว้นอยู่ 2 คน นัน่ คือคาเลบและโยชูวาที่ยดึ มัน่ ในความเชื่อและได้เข้าไป ความไม่เชื่อนั้นเก่ามาก
มันไม่ฉลาดหรื อทันสมัย เอวาสงสัย จากช่วงเวลานั้นสำหรับเธอและเรา มันเป็ นเรื่ องไร้สาระและความโง่เขลาของซาตานที่ไม่
เคยทำประโยชน์ให้กบั ผูใ้ ดเลย ถ้าเราจะติดต่อกับพระเจ้า มันจะเป็ นไปได้อย่างไรในแผ่นดินโลกนี้ นอกจากไว้วางใจใน
พระองค์? พระองค์น่าจะมีความไว้วางใจอะไรกับคนที่เย็นชาต่อพระองค์ หรื อแสร้งทำเป็ นว่าพระองค์ไม่มีอยูจ่ ริ ง? พระองค์ไม่
ได้เป็ นหนี้ อะไรเราเลย และถ้าเราต้องการอย่างนั้น พระองค์กจ็ ะปล่อยให้เป็ นอย่างนั้น “และเพราะเขาเห็นว่ าการรู้ จักพระเจ้ าไม่
เป็ นสิ่ งสำคัญ พระองค์ จึงทรงปล่ อยให้ เขามีจิตใจเสื่ อมทรามและประพฤติสิ่งที่ไม่ เหมาะสม” (โรม 1:28)

หลังจากการตายของโยชูวา มีเพียงไม่กี่คนที่ได้เห็นสิ่ งมหัศจรรย์จนกระทัง่ พระคริ สต์เสด็จมา ยกเว้นภายใต้พนั ธกิจ


ของเอลียาห์และเอลีชา ในความเป็ นจริ งมีสิ่งที่เหนือธรรมชาตินอ้ ยมาก ถึงกระนั้นชายหญิงก็แสดงความเชื่ออันน่าทึ่ง พระเยซู
ตรัสถึงพวกเขาและตรัสว่า “คนที่ไม่ เห็นเราแต่ เชื่ อก็เป็ นสุข” (ยอห์น 20:29) พวกเขาอ่านพระคัมภีร์และเชื่อว่าพระเจ้าแห่งอพยพ
ไม่สามารถทำให้พวกเขาผิดหวังได้และจะทำเพื่อพวกเขา พระองค์ท ำ! ยกตัวอย่างเช่น ดาวิดไม่เคยเห็นสิ่ งมหัศจรรย์ และมี
ประสบการณ์เพียงคร่ าวๆ ของสิ่ งเหนือธรรมชาติเท่านั้น แต่เขาก็ยงั เดินหน้าต่อไปด้วยความคาดหวังทั้งหมดจากความช่วยเหลือ
ของพระเจ้า วันนี้ 3,000 ปี ต่อมา ความเชื่อของเขาก็ยงั คงเป็ นแบบอย่างสำหรับเรา จงยืนหยัดในความเชื่อของคุณในวันนี้ !
24
เมษายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“ที่เกิดจากเนื้อหนังก็เป็ นเนื้อหนัง และที่เกิดจากพระวิญญาณก็เป็ นวิญญาณ” (ยอห์น 3:6)
ไฟประจำวัน!
โลกอาจโยกเยกรอบตัวฉัน แต่ฉนั มีศูนย์กลางอยูท่ ี่พระเยซูคริ สต์
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
ปฐมกาล 3:3–4; สุ ภาษิต 14:33–34; ยอห์น 3:1-21; โรม 12:2
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
กันดารวิถี 1; สดุดี 35
เย็น:
ปัญญาจารย์ 11; ทิตสั 3
โลกที่ประหลาด
พระเจ้าเป็ นศูนย์กลางของเรา ไม่ใช่โลกนี้ มีคนบอกว่าเราซึ่งเป็ นคริ สเตียนเป็ นพวกประหลาด วัตถุประหลาดที่โยกเยก
ไปรอบจุดที่อยูน่ อกศูนย์กลาง แต่นนั่ คือสิ่ งที่พระคัมภีร์เรี ยกว่า “โลก”! ไม่ใช่ผเู้ ชื่อ (ผูเ้ ผยแพร่ ข่าวประเสริ ฐ พยาน คริ สเตียน) ที่
ประหลาด แต่โลกต่างหากที่ประหลาด! โลกโยกเยกขณะที่มนั หมุนรอบตัวเอง แต่ผเู้ ชื่อมีศูนย์กลางอยูท่ ี่พระเจ้า
เมื่อผูค้ นในคริ สตจักรพูดถึงการทำให้ข่าวประเสริ ฐเกี่ยวข้องกับผูฟ้ ัง พวกเขามักจะหมายความว่าเราจำเป็ นต้องแสดง
ให้เห็นว่าข่าวประเสริ ฐมีบางอย่างที่เหมือนกับโลกแห่ งอุตสาหกรรม ความบันเทิง หรื อการค้า พวกเขาทำให้มนั กลับตาลปัตร!
คำถามคือว่าโลกเต็มใจที่จะเกี่ยวข้องกับข้อความของไม้กางเขนหรื อไม่ น่าเสี ยดาย ถ้าโลกไม่เต็มใจ เพราะว่ามันจะถูกพิพากษาที่
ไม้กางเขน ถ้าโลกไม่เกี่ยวข้องกับข่าวประเสริ ฐ โลกก็ก ำลังล่องลอยไป นัน่ คือมันไม่มีสมอ “อย่ าลอกเลียนแบบอย่ างคนในยุคนี ้
แต่ จงรั บการเปลี่ยนแปลงจิ ตใจ แล้ วอุปนิสัยของท่ านจึ งจะเปลี่ยนใหม่ เพื่อท่ านจะได้ ทราบพระประสงค์ ของพระเจ้ า จะได้ ร้ ู ว่า
อะไรดี อะไรเป็ นที่ชอบพระทัย และอะไรดียอดเยี่ยม” (โรม 12:2)
ความเชื่อที่ผดิ พลาดที่วา่ คริ สตจักรและรัฐควรแยกออกจากกันไม่ใช่ความคิดใหม่ ศัตรู พยายามทำให้ผคู้ นสำคัญกว่า
พระเจ้าตั้งแต่การเริ่ มต้นของเวลา “งูจึงพูดกับหญิงนั้นว่ า “พวกเจ้ าจะไม่ ตายแน่ เพราะพระเจ้ าทรงทราบอยู่ว่า พวกเจ้ ากินผลจาก
ต้ นไม้ นั้นวันใด ตาของพวกเจ้ าจะสว่ างขึน้ ในวันนั้น แล้ วพวกเจ้ าจะเป็ นเหมือนอย่ างพระเจ้ า คือรู้ ความดีและความชั่ว” (ปฐมกาล
3:4–5) แต่พระคำของพระเจ้าป่ าวประกาศว่า “ปั ญญาอาศัยอยู่ในใจของคนที่มีความเข้าใจ และปั ญญาเป็ นที่ประจักษ์ แม้ ในความ
คิดของคนโง่ ความชอบธรรมย่ อมเชิ ดชูประชาชาติ” (สุ ภาษิต 14:33–34)
อีกสิ่ งหนึ่งที่ผมได้ยนิ ผูค้ นพูดคือ “ผูเ้ ผยแพร่ ข่าวประเสริ ฐตอบคำถามที่โลกไม่ได้ถาม” ขอบคุณพระเจ้าสำหรับสิ่ งนั้น!
เรากำลังเตรี ยมคำตอบไว้แล้ว เมื่อโลกตัดสิ นใจถามคำถามที่ถูกต้อง เพราะว่าโลกกำลังถามคำถามที่ผดิ ทั้งหมด ดังนั้นคำตอบใด
ๆ ก็ลว้ นแต่ผดิ เท่า ๆ กัน จงเตรี ยมหัวใจของคุณให้มีค ำตอบของพระเจ้าสำหรับสถานการณ์ทุกอย่างในชีวิต

25
เมษายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“อย่ากลัวเลย เพราะเราได้ไถ่เจ้าแล้ว เราได้เรี ยกเจ้าตามชื่อ เจ้าเป็ นของเรา เมื่อเจ้าลุยข้ามน้ำ เราจะอยูก่ บั เจ้า และเมื่อข้ามแม่น้ำ
มันจะไม่ท่วมเจ้า เมื่อเจ้าเดินผ่านไฟ เจ้าจะไม่ถูกไหม้ และเปลวเพลิงจะไม่เผาเจ้า เพราะเราคือยาห์เวห์เป็ นพระเจ้าของเจ้า” (อิส
ยาห์ 43:1–3)
ไฟประจำวัน!
ฉันเป็ นของพระคริ สต์ และเป็ นเชื้ อสายของอับราฮัม ดังนั้นฉันจึงเป็ นทายาทตามพระสัญญา (กาลาเทีย 3:29 ถอดความ)
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
อิสยาห์ 43:1–28; กาลาเทีย 3:29
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
กันดารวิถี 2;
สดุดี 36
เย็น:
ปัญญาจารย์ 12; ฟิ เลโมน 1
พระเจ้ าสร้ างครอบครัว
พระเจ้าต้องการให้ครอบครัวได้รับความรอด ความเป็ นหนึ่งในหัวใจของสิ ่ งที่ทรงสร้างทำให้การอธิษฐานเพื่อ
ครอบครัวได้ผล พันธสัญญาเดิมกล่าวถึงการงานแห่งครอบครัวของพระเจ้า นัน่ คือพระองค์ทรงเลือกอิสราเอลตั้งแต่สมัยของอับ
ราฮัมและซาราห์ และเผ่าต่างๆ ของยาโคบ
พวกเขาไม่ได้ท ำตัวเองให้โดดเด่น พวกเขามีแนวโน้มที่จะผสมผสานเข้ากับประเทศเพื่อนบ้านนอกศาสนา ซึ่งจะทำให้
ตัวตนของพวกเขาสูญหายไป แต่ความเฉยเมยของพวกเขาแสดงให้เห็นว่าพระเจ้าตั้งใจทำให้ครอบครัวเติบโต! พระองค์ทรง
ทำให้อิสราเอลมีความโดดเด่นในด้านเชื้อชาติ หลังจาก 4000 ปี อิสราเอลเป็ นครอบครัวเดี่ยวที่โดดเด่นมากที่สุดในแผ่นดินโลก
ไม่มีเผ่าพันธุ์อื่นใดที่ได้รับความเดือดร้อนจากการพยายามฆ่าล้างเผ่าพันธุ์เช่นนี้ เพราะว่าไม่มีเผ่าพันธุ์อื่นใดที่มีความเป็ นส่ วนตัว
สำหรับพระเจ้า จริ งๆแล้ว ดาวนาซีบนเสื้ อผ้าของพวกเขาเป็ นประจักษ์พยานจากศัตรู ของพวกเขาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ใน
ครอบครัวที่ไม่อาจทำให้แตกหักได้ การเป็ นเชลย การสูญเสี ยบ้านเกิด การกระจายตัวของชาวยิว ไม่มีสิ่งใดทำลายอิสราเอลได้
เพราะว่าอิสราเอลเป็ นเครื่ องหมายของพระเจ้าต่อโลกเกี่ยวกับการออกแบบและวัตถุประสงค์ของครอบครัว!

อิสยาห์ช้ ีถึงสิ่ งนี้วา่ :


แต่ บัดนี ้ ยาโคบเอ๋ ย พระยาห์ เวห์ ผ้ ทู รงสร้ างท่ าน อิสราเอลเอ๋ ย พระองค์ ผ้ ทู รงปั้ นท่ านตรั สดังนี ว้ ่ า “อย่ ากลัวเลย เพราะ
เราได้ ไถ่ เจ้ าแล้ ว เราได้ เรี ยกเจ้ าตามชื่ อ เจ้ าเป็ นของเรา...เพราะเราคือยาห์ เวห์ เป็ นพระเจ้ าของเจ้ า องค์ บริ สุทธิ์ ของอิสรา
เอลผู้ช่วยให้ รอดของเจ้ า เราให้ อียิปต์ เป็ นค่ าไถ่ ของเจ้ า ให้ คูชและเสบาเพื่อแลกกับเจ้ า เพราะว่ าเจ้ ามีค่าในสายตาของ
เรา เจ้ าได้ รับเกียรติและเราเองรั กเจ้ า ... อย่ ากลัวเลย เพราะเราอยู่กับเจ้ า เราจะนำลูกหลานของเจ้ ามาจากตะวันออก และ
เราจะรวบรวมเจ้ ามาจากตะวันตก...จงนำบุตรชายของเรามาจากแดนไกล และบุตรสาวของเราจากปลายแผ่ นดินโลก
คือทุกคนที่ถกู ขนานนามตามชื่ อของเรา และผู้ที่เราสร้ างเพื่อพระสิ ริของเรา คือผู้ที่เราปั้ นและทำขึน้ มา” (อิสยาห์ 43:1,
3–7)
เช่นเดียวกับครอบครัวที่ต้ งั ชื่อตามบิดา อิสราเอลก็มีชื่อของพระเจ้าว่า อิสรา-เอล เอลเป็ นภาษาฮีบรู พ้ืนฐานสำหรับ
พระเจ้ า วันนี้ จงสวมชื่อจริ งของคุณ นัน่ คือ “คริ สเตียน” ด้วยความภาคภูมิใจ!

26
เมษายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“ข้าพระองค์จะไปไหนให้พน้ พระวิญญาณของพระองค์ได้? หรื อข้าพระองค์จะหนี ไปไหนให้พน้ จากพระพักตร์ ของพระองค์?
ถ้าข้าพระองค์ข้ ึนไปยังสวรรค์ พระองค์ก็สถิตที่นนั่ ถ้าข้าพระองค์จะทำที่นอนไว้ในแดนคนตาย พระองค์ทรงอยูท่ ี่นนั่ ถ้าข้าพระ
องค์จะบินไปไกลถึงที่ตะวันออก หรื อถ้าข้าพระองค์อาศัยอยูส่ ุ ดขอบทะเลตะวันตก แม้ที่นนั่ พระหัตถ์ของพระองค์จะจูงข้าพระ
องค์ และพระหัตถ์ขวาของพระองค์จะฉวยข้าพระองค์ไว้” (สดุดี 139:7–10)
ไฟประจำวัน!
“พระองค์เองได้ตรัสว่า “เราจะไม่ละท่านหรื อทอดทิ้งท่านเลย” (ฮีบรู 13:5)
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
สดุดี 139:7–10; เอเสเคียล 16:1–14; ฮีบรู 13:5
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
กันดารวิถี 3; สดุดี 37
เย็น:
เพลงซาโลมอน 1; ฮีบรู 1
การดูแลอย่ างเข้ มข้ น
พูดถึงการกำเนิดของเจ้ า ในวันที่เจ้ าเกิดมานั้น เขาไม่ ได้ ตัดสายสะดือของเจ้ า และไม่ ได้ ล้างเจ้ าให้ สะอาดด้ วยน้ำ ไม่ ได้
ถูเจ้ าด้ วยเกลือ และไม่ ได้ พันเจ้ าด้ วยผ้ า ไม่ มีดวงตาใครจะปรานีเจ้ า หรื อจะกรุ ณาเจ้ าจนยอมทำสิ่ งเหล่ านี ใ้ ห้ เจ้ าแม้ เพียง
สิ่ งเดียว เจ้ าถูกโยนทิง้ ในพืน้ ทุ่ง เพราะในวันที่เจ้ าเกิดนั้นเจ้ าเป็ นที่รังเกียจ แต่ เมื่อเราผ่ านเจ้ าไป เราเห็นเจ้ าดิน้ กระแด่ วๆ
อยู่ในกองเลือดของเจ้ า เราก็พูดกับเจ้ าในกองเลือดของเจ้ าว่ า ‘จงมีชีวิตอยู่’ เราทำให้ เจ้ าเหมือนอย่ างพืชในท้ องทุ่ง เจ้ าก็
เติบโตและสูงขึน้ จนเป็ นสาวเต็มตัว ถันของเจ้ าก็ก่อรู ปขึน้ มา และขนของเจ้ าก็งอก แต่ เจ้ าเปลือยเปล่ าและล่ อนจ้ อน (เอ
เสเคียล 16:4–7)

เอเสเคียล 16 เปรี ยบการดูแลที่เข้มข้นของพระเจ้าที่มีต่ออิสราเอลกับการตามหาเด็กแรกเกิดที่ถูกทิ้ง ซึ่งพระองค์ช่วยให้


รอด ดูแล และบำรุ งเลี้ยงจนกลายเป็ นหญิงสาวที่งดงาม คำอุปมานี้ แสดงถึงเจตนาของพระเจ้าต่อมนุษยชาติท้ งั มวล เมื่อพระองค์
ทรงนำโลกและผูอ้ ยูอ่ าศัยในโลกนี้ ให้เกิดขึ้น พระองค์มิได้ทรงจากไปและปล่อยให้เราอยูต่ ามลำพัง แม้ในขณะที่เราจงใจผละ
ออกไป ความผูกพันระหว่างพระผูส้ ร้างและสิ่ งที่ถูกสร้างไม่สามารถถูกลบล้างได้ ไม่วา่ เราจะอยูไ่ กลแค่ไหน การดำรงอยูข่ องเรา
ก็ข้ ึนอยูก่ บั พระองค์ “ถ้ าข้ าพระองค์ จะทำที่นอนไว้ ในแดนคนตาย พระองค์ ทรงอยู่ที่นั่น” (สดุดี 139:8) ความเชื่อมโยงระหว่าง
พระผูส้ ร้างกับสิ่ งที่ถูกสร้างของพระองค์อาจยืดยาวราวกับใยแมงมุม แต่ไม่สามารถขาดได้ พระองค์ยงั รับรู้ถึงเราอยูเ่ สมอ
บ่อยแค่ไหนที่เราคิดว่าเราอยูต่ วั คนเดียวในโลกนี้ และการพยายามค้นหาสถานที่ที่พระเจ้าอาจกำลังซ่อนอยูน่ ้ นั เป็ น
เรื่ องที่ต่อสู้ดิ้นรนเหมือนเข็นครกขึ้นภูเขาเสมอ แต่จงรู้สิ่งนี้วา่ การดูแลอย่างเข้มข้นที่พระเจ้าประทานให้แก่คุณ ไม่วา่ คุณจะ
ตระหนักถึงพระหัตถ์ของพระองค์ที่ก ำลังทำการในชีวิตคุณหรื อไม่กต็ าม พระองค์ประทานให้ เพราะว่าพระองค์ตอ้ งการ ไม่ใช่
เพราะว่าคุณสมควรได้รับ
ความรักที่พระองค์ทรงมีต่อคุณนั้นไม่มีขีดจำกัด และของประทานแห่งความรอดของพระองค์ (ที่ซ่ ึงคุณเหิ นห่างจาก
พระองค์จะถูกลบออกไปและคุณถูกดึงเข้ามาใกล้หวั ใจของพระองค์) ถูกประทานให้เปล่า ๆ
27
เมษายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“แต่เราก็เห็นว่าพระเยซู ผูท้ รงถูกทำให้ต ่ำกว่าพวกทูตสวรรค์เพียงชัว่ ระยะหนึ่งนั้น ทรงได้รับพระสิ ริและพระเกียรติเป็ นมงกุฎ
เพราะพระองค์สิ้นพระชนม์ดว้ ยความทุกข์ทรมาน ทั้งนี้โดยพระคุณของพระเจ้า พระองค์จึงได้วายพระชนม์เพื่อทุกคน” (ฮีบรู
2:9)
ไฟประจำวัน!
ฉันมีคนกลางระหว่างพระเจ้า ผูท้ รงมหิ ทธิฤทธิ์ และตัวฉันเอง นัน่ คือพระเยซูคริ สตเจ้า
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
1 ทิโมธี 2:5; ฮีบรู 2:5–14; 4:15
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
กันดารวิถี 4;
สดุดี 38
เย็น:
เพลงซาโลมอน 2; ฮีบรู 2
พระเยซู : พระเจ้ าและมนุษย์
เรารู้วา่ พระเยซูก ำลังเสด็จกลับมา เพราะว่าพระองค์เป็ นหนึ่งในพวกเรา เช่นเดียวกับคุณและผม! เราอ่านใน ฮีบรู 2:14
ว่า “บุตรทั้งหลายมีเลือดและเนือ้ เช่ นกันอย่ างไร พระองค์ กท็ รงมีส่วนเช่ นนั้นด้ วยอย่ างนั้น เพื่อโดยทางความตายนั้น พระองค์ จะ
ทรงทำลายมารผู้มีอ ำนาจแห่ งความตาย” พระองค์ทรงอยูใ่ นครอบครัวของมนุษย์ และพระองค์จะไม่ทอดทิ้งครอบครัวของ
พระองค์ หรื ออยูห่ ่างไกลตลอดไป
พระเยซูคริ สต์ทรงเป็ นมนุษย์โดยสมบูรณ์ ทรงปฏิสนธ์โดยพระเจ้า แต่บงั เกิดจากผูห้ ญิง เป็ นเจตนาของพระองค์ที่จะ
ดำเนินชีวิตที่สมบูรณ์และพร้อมที่จะระบุตวั ตนกับพวกเรา ถ้าวัตถุประสงค์เดียวของพระองค์คือการเป็ นเครื่ องบูชาไถ่บาปของ
เรา พระองค์อาจถูกตรึ งที่ไม้กางเขนตั้งแต่ยงั เป็ นทารก แต่พระองค์ทรงเลือกที่จะอดทนกับความปวดร้าวใจและความยากลำบาก
ทั้งหมดที่เราเผชิญ เนื่องจากความเห็นใจอันใหญ่หลวงของพระองค์ที่มีต่อเรา “เพราะว่ าเราไม่ ได้ มีมหาปุโรหิ ตที่ไม่ สามารถจะ
เห็นใจในความอ่ อนแอของเรา แต่ ทรงเคยถูกทดลองใจเหมือนเราทุกอย่ าง ถึงกระนั้นพระองค์ กย็ งั ปราศจากบาป” (ฮีบรู 4:15)
พระเยซูทรงเป็ นบุตรมนุษย์และเป็ นพระบุตรของพระเจ้า

แต่ “พระเจ้ ามีองค์ เดียว และคนกลางก็มีแต่ เพียงผู้เดียวระหว่ างพระเจ้ ากับมนุษย์ คือพระเยซูคริ สต์ ผ้ ทู รงสภาพมนุษย์ ”
(1 ทิโมธี 2:5) คนกลางมีการเชื่อมโยงไปยังทั้ง 2 ฝ่ าย พระองค์เป็ นเพียงคนกลาง—เหมือนบันไดของยาโคบ—ที่ต้ งั ไว้ระหว่าง
สวรรค์และแผ่นดินโลก พระเยซูทรงผูกสวรรค์และแผ่นดินโลก พระเจ้าและมนุษย์เข้าด้วยกันในพระองค์ การทรงสถิตของ
พระองค์บนแผ่นดินโลกจะเป็ นสิ่ งที่เป็ นธรรมชาติที่สุดในบรรดาทุกสิ่ ง นี่คือความหวังที่ยิง่ ใหญ่ที่เรายึดไว้!
28
เมษายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“แต่พระเจ้าทรงสำแดงความรักของพระองค์แก่เรา คือขณะที่เรายังเป็ นคนบาปอยูน่ ้ นั พระคริ สต์สิ้นพระชนม์เพื่อเรา” (โรม 5:8)
ไฟประจำวัน!
พระคริ สต์เองได้ทรงรับแบกบาปทั้งหลายของฉันไว้ในพระกายของพระองค์ที่ตน้ ไม้น้ นั เพื่อว่าฉันซึ่งได้ตายต่อบาปอาจดำเนิน
ชีวิตเพื่อความชอบธรรม (1 เปโตร 2:24 ถอดความ)
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
มัทธิว 1:23; 27:27–56; โรม 5:8; 2 โคริ นธ์ 5:21
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
กันดารวิถี 5;
สดุดี 39
เย็น:
เพลงซาโลมอน 3; ฮีบรู 3
พระเยซู ในโลกแห่ งความเป็ นจริง
พระเยซูคือใคร? พระคัมภีร์บอกเราว่าพระองค์คือ “อิมมานูเอล พระเจ้ าสถิตกับเรา” (มัทธิว 1:23) พระเยซูแสดงให้เรา
เห็นว่าพระเจ้าเข้ามามีส่วนร่ วมในโลกแห่งความเป็ นจริ ง พระองค์ท ำให้มือของพระองค์สกปรก! พระองค์ท ำให้มือถูกตรึ งที่ไม้
กางเขน! และพระองค์ทรงทำเช่นนั้นเพื่อให้เราสามารถเป็ นอิสระจากฤทธิ์ อ ำนาจและการทำลายล้างของบาป
เมื่อเชลยชาวโรมันเดินออกไปเพื่อจะถูกตรึ ง พวกเขาแบกไม้คานไว้บนบ่า มัดแขนไว้กบั ขื่อ เดินหลังโก่งไปยังสถานที่
ประหารชีวิต นัน่ คือวิธีที่พระเยซูเดินผ่านกรุ งเยรู ซาเล็มไปยังเนินประหารที่เรี ยกว่ากลโกธา
พวกทหารของเจ้ าเมืองจึ งพาพระเยซูไปไว้ ในกองบัญชาการปรี โทเรี ยม และรวมทหารทั้งกองไว้ เฉพาะพระพักตร์ พระ
องค์ แล้ วเปลือ้ งฉลองพระองค์ ออก เอาเสื ้อคลุมสี แดงเข้มมาสวมให้ พระองค์ เอาหนามสานเป็ นมงกุฎสวมบนพระ
เศียรของพระองค์ แล้ วเอาไม้ อ้อมาให้ พระองค์ ทรงถือไว้ ในพระหั ตถ์ ขวา และคุกเข่าลงเฉพาะพระพักตร์ พระองค์ เยาะ
เย้ ยว่ า “ข้ าแต่ กษัตริ ย์ของพวกยิว ขอทรงพระเจริ ญ” แล้ วก็ถ่มน้ำลายรด และเอาไม้ อ้อนั้นตีพระเศียรพระองค์ เมื่อเยาะ
เย้ ยพระองค์ แล้ว พวกเขาก็ถอดเสื ้อคลุมตัวนั้นออก และเอาฉลองพระองค์ ของพระองค์ มาสวมให้ และนำพระองค์ ออก
ไปเพื่อตรึ งที่กางเขน (มัทธิ ว 27:27–31)
ราวกับว่าพระองค์ก ำลังทรงแบกป้ าย—ป้ ายขนาดใหญ่มาก—ด้วยการป่ าวประกาศถึงความจริ งอันน่าสะพรึ งกลัวด้วย
ภาษาที่คนทั้งโลกสามารถเข้าใจและไม่มีวนั ลืม ไม้คานที่พระเยซูแบกไว้พดู ถึงการติดลบหรื อด้านลบของมนุษย์เรา—ความล้ม
เหลวและความบาปที่อยูใ่ นหัวใจของพวกเราทุกคน
ไม้กางเขนแสดงให้เราเห็นถึงการตอบสนองอย่างเหลือเชื่อของพระเจ้าต่อความทุกข์ทรมานของมนุษย์ พระเจ้าเองเข้า
มาอยูใ่ นความทุกข์ของเรา และรับบาปของเราไว้กบั พระองค์ พระเยซู ถึงแม้วา่ พระองค์จะไม่มีความผิดและปราศจากบาป แต่ถูก
ทำให้เป็ น "บาปเพื่อเรา" (2 โคริ นธ์ 5:21) ดังที่คริ สเตียนยุคแรกคนหนึ่งกล่าวไว้วา่ “ขณะที่เรายังเป็ นคนบาปอยู่นั้น พระคริ สต์
สิ ้นพระชนม์ เพื่อเรา” (โรม 5:8)
บนเนินเขานั้น พระเยซูทรงเอาไม้คานแห่งความบาปและความอธรรมของเราพาดไว้บนไม้ตรง พระองค์ทรงเปลี่ยน
ด้านลบของมนุษย์ให้เป็ นด้านบวกของพระเจ้า พระเยซูทรงปลดปล่อยฤทธิ์อ ำนาจแห่งพระกรุ ณา การให้อภัย และการรักษาของ
พระเจ้าให้กบั ผูใ้ ดก็ตามที่มาหาพระองค์และเพียงแค่ขอ นัน่ หมายถึงผม!

29
เมษายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“ข้าแต่พระเจ้า พระองค์ทรงเป็ นพระเจ้าของข้าพระองค์ ข้าพระองค์จะแสวงหาพระองค์ จิตใจของข้าพระองค์กระหายหาพระ
องค์ เนื้ อหนังของข้าพระองค์กระเสื อกกระสนหาพระองค์ ในดินแดนที่แห้งแล้งและอ่อนระโหย ที่ซ่ ึงไม่มีน้ำ เช่นนั้นแหละ ข้า
พระองค์เคยเห็นพระองค์ในสถานนมัสการ เห็นฤทธานุภาพและพระสิ ริของพระองค์” (สดุดี 63:1–2)
ไฟประจำวัน!
ชื่อของฉันถูกเขียนไว้ในหนังสื อแห่งชีวิตของพระเมษโปดก ฉันจะชื่นชมยินดีและขอบพระคุณ!
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
สดุดี 63:1–11; มาระโก 16:9; ลูกา 19:1–10; กิจการ 9:15; 1 เปโตร 1:3
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
กันดารวิถี 6; สดุดี 40 และ 41
เย็น:
เพลงซาโลมอน 4; ฮีบรู 4
ธรรมิกชนในความสว่ าง
จงมองไปที่พวกเขา! ช่างเป็ นแสงแห่งพระสิ ริที่ส่องประกายระยิบระยับลงมายังสายธารของมนุษยชาติที่ได้รับการทรง
ไถ่อย่างไม่มีที่สิ้นสุ ด! นี่คือหนึ่งในคนแรก มารี ยซ์ ่ ึงครั้งหนึ่งภายในเคยถูกทำลายโดยวิญญาณชัว่ 7 ตน นัง่ อยูใ่ นความรักใกล้กบั
หลุมฝังศพที่วา่ งเปล่าของพระองค์ ในฐานะผูน้ มัสการพระองค์ชวั่ นิรันดร์ “หลังจากพระองค์ ทรงเป็ นขึน้ มาในวันเวลารุ่ งเช้ าวัน
อาทิตย์ พระองค์ ทรงปรากฏแก่ มารี ย์ชาวมักดาลาก่ อน คือมารี ย์คนที่พระองค์ ทรงขับผีออก 7 ตน” (มาระโก 16:9)
นี่คือเปโตร—พระเยซูตอ้ งทำงานหนักเพื่อเขา แต่ตอนนี้เขาเปล่งประกายด้วยแสงจากเบื้องบน “สาธุการแด่ พระเจ้ า
พระบิดาแห่ งพระเยซูคริ สต์ องค์ พระผู้เป็ นเจ้ าของเรา โดยพระเมตตาล้ นเหลือของพระองค์ ทรงโปรดให้ เราบังเกิดใหม่ เข้ าใน
ความหวังที่ยงั่ ยืน โดยการคืนพระชนม์ ของพระเยซูคริ สต์ ” (1 เปโตร 1:3)

และนี่คือเปาโลผูซ้ ่ ึงข่มเหงพระองค์ “องค์ พระผู้เป็ นเจ้ าจึ งตรั สกับท่ านว่ า “จงไปเถิด เพราะว่ าคนนีเ้ ป็ นภาชนะที่เรา
เลือกสรรไว้ เขาจะนำนามของเราไปถึงบรรดาคนต่ างชาติและบรรดากษัตริ ย์ และไปถึงพวกอิสราเอล” (กิจการ 9:15) ขโมยที่
เยาะเย้ยพระองค์ ศักเคียส ซึ่งพระเยซูเจ้าเสด็จมาในบ้านและชีวิตของเขา เส้นทางของความสว่างผ่านลงมายาวนานหลาย
ศตวรรษ ผูร้ ักพระเยซู: ผูท้ ี่ตายเพื่อความเชื่อ อัครทูต ธรรมิกชน ผูค้ นที่สรรเสริ ญพระเจ้าในขณะที่นิ้วของพวกเขาถูกเผาไหม้
เหมือนเทียนไข ผูเ้ ผยแพร่ ข่าวประเสริ ฐ ศิษยาภิบาล มิชชันนารี คนงานที่ถ่อมใจ ผูส้ ตั ย์ซื่อ คุณ และผม
พระองค์ทรงช่วยคนบาปที่น่าสงสารอย่างผมให้รอด! วันหนึ่งเราจะอยูท่ ี่นนั่ พร้อมกับธรรมิกชนในความสว่าง ซึ่งดึงมา
จากทุกเผ่า ทุกคนอาบด้วยพระสิ ริของพระองค์ อดีตผูล้ ่วงประเวณี คนรักร่ วมเพศ ขโมย คนโกหก คนวิปริ ต แม่มด ฆาตกร ผูเ้ สพ
ติด พวกลัทธิซาตาน คนโลภ คนไหว้รูปเคารพ คนไม่สะอาด คนที่ทนั สมัย และคนที่ไม่ทนั สมัย เคียงข้างกัน เรี ยนรู้และจับมือ
กันอย่างเรี ยบง่าย—ทั้งหมดถูกชำระด้วยพระโลหิ ตของพระเยซู! นัน่ คือประชากรแห่งอาณาจักรของพระเจ้า! นี่คือพระสิ ริของ
กษัตริ ย ์ จงชื่นชมยินดีในวันนี้ ที่ชื่อของคุณถูกบันทึกไว้ในหนังสื อแห่งชีวิตของพระเมษโปดก!

30
เมษายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“เพราะว่า เหมือนกับร่ างกายเดียวที่มีหลายๆ อวัยวะ และอวัยวะทั้งหมดของร่ างกายนั้นแม้จะมีหลายส่ วนก็ยงั เป็ นร่ างกายเดียว
พระคริ สต์กท็ รงเป็ นเช่นนั้น...ส่วนท่านทั้งหลายเป็ นกายของพระคริ สต์ และแต่ละอวัยวะก็เป็ นส่วนหนึ่งของกายนั้น” (1 โคริ นธ์
12:12, 27)
ไฟประจำวัน!
ความรักของพระเจ้าจำเป็ นต้องสำแดงเป็ นตัวตนในตัวฉัน
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
กิจการ 10:38; 1 โคริ นธ์ 12:12, 27; โคโลสี 1:18; ฟิ ลิปปี 1:20; 2:5
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
กันดารวิถี 7; สดุดี 42 และ 43
เย็น:
เพลงซาโลมอน 5; ฮีบรู 5
พระมหาบัญชาของพระคริสต์
เป็ นไปไม่ได้ที่จะดำเนินการตามพระมหาบัญชาก่อนวันเพ็นเทคอสต์ พระเยซูได้ทรงบอกให้พวกสาวกรอ แล้วเรื่ องก็
เริ่ มขึ้น! การประกาศข่าวประเสริ ฐที่เกิดขึ้นในวันหนึ่งนั้นก่อให้เกิดคริ สตจักร แต่คริ สตจักรคืออะไร? เราชัดเจนเกี่ยวกับลักษณะ
และวัตถุประสงค์ของคริ สตจักรหรื อไม่? คริ สตจักรเป็ นส่วนขยายแห่งความเห็นใจของพระเยซูเจ้า ของการปลอบประโลมใจ
ของการรักษา ของความดีงามของพระองค์ “...พระเยซูชาวนาซาเร็ ธ...เสด็จไปทำคุณประโยชน์ และรั กษาคนทั้งหลายที่ถกู มาร
เบียดเบียนอย่ างไร เพราะว่ าพระเจ้ าสถิตอยู่กับพระองค์ ” (กิจการ 10:38) นัน่ คือคริ สตจักร และนัน่ คือสิ่ งที่เราควรกำลังทำอยู!่
เราถูกบอกว่าคริ สตจักรคือพระกายของพระองค์ พระเจ้าไม่มีแขน แต่มีแขนของเราที่จะโอบกอดโลกที่น่าสมเพชนี้
ความรักคือคุณลักษณะสูงสุ ดของพระองค์ ผมรู้สึกว่าเราเป็ นเพียงพระกายของพระองค์จนถึงระดับที่เราแสดงหลักฐานให้เห็นถึง
ความเห็นใจของพระองค์ คริ สตจักรที่ปราศจากความรักไม่ใช่คริ สตจักร ความรักของพระเจ้าที่ส ำแดงเป็ นตัวตนในพระเยซู
จำเป็ นต้องอยูใ่ นคริ สตจักร “จงมีจิตใจเช่ นนีใ้ นพวกท่ านเหมือนอย่ างที่มีในพระเยซูคริ สต์ ” (ฟิ ลิปปี 2:5)

คริ สตจักรยังคงดำเนินต่อไปในวันเพ็นเทคอสต์ เมื่อมีการพูดภาษาแปลกๆ การเผยพระวจนะ และไฟ! ถ้าคริ สตจักรไม่


เป็ นเช่นนั้น—ไม่มีไฟ ไม่มีภาษาแปลกๆ ไม่มีการเผยพระวจนะ ไม่มีการประกาศ ไม่มีการเทศนาอย่างกล้าหาญเกี่ยวกับพระ
คริ สต์และการเป็ นขึ้นมาจากความตาย ไม่มีความแน่ใจและสัญญาแห่งชัยชนะ—เราจะสามารถระบุตวั ตนได้อย่างไรว่าเป็ นคริ สต
จักรเดียวกัน?
ถ้าปราศจากฤทธิ์ อำนาจและการสำแดงออกของพระวิญญาณ เราก็เหลือแต่สติปัญญาและพลังงานของมนุษย์ โดยการ
พึ่งพาสิ่ งนี้เท่านั้นพวกเขาก็เหลือแต่คริ สตจักรที่มีเพียงเปลือกที่วา่ งเปล่า คุณไม่จ ำเป็ นต้องเป็ นของคริ สตจักรนั้น แต่จงเป็ นของค
ริ สตจักรที่มีชีวิตของพระคริ สต์! ข่าวประเสริ ฐไม่ใช่ทางเลือก แต่เป็ นคำขาดของพระเจ้า พระคัมภีร์เป็ นรัฐธรรมนูญแห่ง
อาณาจักรของพระเจ้า ความเป็ นหนึ่งเดียวกันไม่ใช่ความเป็ นแบบเดียวกัน
1
พฤษภาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“จงมาหาพระองค์ พระศิลาที่มีชีวิต ที่แม้ถูกมนุษย์ปฏิเสธแล้ว แต่กลับเป็ นศิลาที่ทรงเลือกสรร และล้ำค่าในสายพระเนตรพระเจ้า
และพวกท่านเองเป็ นดังศิลาที่มีชีวิต จงรับการสร้างขึ้นเป็ นพระนิเวศฝ่ ายวิญญาณ เพื่อเป็ นปุโรหิ ตบริ สุทธิ์ เพื่อถวายเครื่ องบูชา
ฝ่ ายวิญญาณ อันเป็ นที่ชอบพระทัยของพระเจ้าโดยทางพระเยซูคริ สต์” (1 เปโตร 2:4–5)
ไฟประจำวัน!
ขอบพระคุณ พระบิดา ที่ได้ทรงสถาปนาข้าพระองค์ให้เป็ นหนึ่งในศิลาที่มีชีวิตของพระองค์ในราชอาณาจักร!
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
1 โคริ นธ์ 12:1–31; 14:1-39; เอเฟซัส 1:23; 4:11; 6:1–24
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
กันดารวิถี 8;
สดุดี 44
เย็น:
เพลงซาโลมอน 6; ฮีบรู 6
ศิลาที่มีชีวติ ของพระเจ้ า
ของประทานทั้ง 5 ที่ระบุไว้ในพระธรรมเอเฟซัส ได้แก่ อัครทูต ผูเ้ ผยพระวจนะ ผูเ้ ผยแพร่ ข่าวประเสริ ฐ ศิษยาภิบาล
และอาจารย์ ถูกประทานให้เพื่อบรรลุเป้ าหมายของการเสริ มสร้างพระกายของพระคริ สต์ วัตถุประสงค์นี้ ถูกทำให้ชดั เจนใน
จดหมายฉบับแรกของเปาโลที่ไปถึงชาวโคริ นธ์ ซึ่งกล่าวว่า “การสำแดงของพระวิญญาณนั้น พระองค์ ประทานแก่ แต่ ละคนเพื่อ
ประโยชน์ ร่วมกัน” (1 โคริ นธ์ 12:7)
เขากล่าวถึงของประทานเดิม 3 อย่างอีกครั้ง ได้แก่ อัครทูต ผูเ้ ผยพระวจนะ และอาจารย์ แต่ในที่ของผูเ้ ผยแพร่ ข่าวประ
เสริ ฐและศิษยาภิบาล เขากล่าวถึงผูท้ ี่ท ำการอัศจรรย์ มีของประทานแห่งการรักษา พูดภาษาแปลกๆ และแปลความหมาย เขา
กล่าวต่อไปว่าคริ สตจักรถูกสร้างขึ้น (เสริ มสร้าง) โดยการเผยพระวจนะและภาษาแปลกๆ ของประทานทั้งหมดนี้ ถูกมอบให้แก่ผู้
เชื่อเพื่อประโยชน์ของเพื่อนร่ วมความเชื่อ เพื่อสร้างความเป็ นหนึ่งของคริ สตจักร ไม่มีศิลาที่ตายแล้ว มีเพียงศิลาที่มีชีวิตเท่านั้นที่
ถูกเตรี ยมให้พร้อมเพื่อที่จะรับใช้

สาระสำคัญทั้งหมดของเอเฟซัสไม่ใช่สิ่งที่เราเป็ น แต่คือสิ่ งที่พระองค์ทรงเป็ น นัน่ คือเราควรสนใจพระคริ สต์ ไม่ใช่ต ำ


แหน่งในคริ สตจักร พระเจ้าทรงทำงานในเราและผ่านทางเรา โดยพระองค์และเพื่อพระองค์ พระองค์ทรงเป็ น “ความบริ บูรณ์
ของพระองค์   ผู้ทรงเติมทุกอย่ างในทุกแห่ งให้ เต็มบริ บูรณ์ ” (เอเฟซัส 1:23) พระองค์ไม่ได้ประกาศข่าวประเสริ ฐ แต่คาดหวังให้
เราทำเช่นนั้นโดยการประทานสิ่ งต่าง ๆให้แก่เรา เมื่อเราเป็ นของพระองค์ เราก็เป็ นเสี ยงของพระองค์ พระหัตถ์และพระบาทของ
พระองค์ พระองค์คือความบริ บูรณ์ที่เติมเราให้เต็ม เติมคริ สตจักรให้เต็ม และทำให้คริ สตจักรเป็ นอย่างที่เป็ นอยู่ เบื้องหลังทุกสิ่ ง
คือของขวัญแห่งพระคุณของพระองค์ เรามีสมบัติที่ล ้ำค่าอะไรเช่นนี้อยูใ่ นตัวเรา—และพร้อมที่จะทำงานมอบหมายของพระองค์
ให้สำเร็ จ!
ต่อมาในเอเฟซัส เปาโลได้ระบุถึงเครื่ องมือที่จ ำเป็ นสำหรับการเป็ นทหารที่มีประสิ ทธิภาพในกองทัพของพระเจ้า ...จาก
นั้นเขาบอกเราว่าแม้แต่ทหารก็ยงั ได้รับการเลื่อนตำแหน่ง "เพราะข่าวประเสริ ฐนี เ้ องทำให้ ข้าพเจ้ าเป็ นทูตที่ติดโซ่ ตรวน และเพื่อ
ว่ าข้าพเจ้ าจะกล้ าพูดตามที่ข้าพเจ้ าควรจะพูดนั้น” (เอเฟซัส 6:20)
การเดินด้วยสิ ทธิอ ำนาจของพระเจ้าเอง การพูดความจริ งอย่างกล้าหาญแก่โลกในพระนามของพระคริ สต์ และด้วย
ความรักของพระองค์คือความรับผิดชอบต่อพระเจ้าของคุณ! จงเดินในสิ ทธิอ ำนาจนั้น
2
พฤษภาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“ขอตรัสเถิด เพราะผูร้ ับใช้ของพระองค์คอยฟังอยู”่ (1 ซามูเอล 3:9)
ไฟประจำวัน!
พระบิดา ข้าพระองค์รู้สึกขอบพระคุณตลอดนิรันดร์ที่พระองค์ได้ทรงเลือกข้าพระองค์ให้เป็ นลูกที่รักของพระองค์
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
1 ซามูเอล 3:1–21; ลูกา 6:12–17
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
กันดารวิถี 9;
สดุดี 45
เย็น:
เพลงซาโลมอน 7; ฮีบรู 7
ยากที่จะเป็ นซู เปอร์ แมน
สาวกทั้ง 12 คนเป็ นอะไรก็ได้นอกจากซูเปอร์แมน พระเยซูทรงเลือกอัครทูตอย่างไร? ในพระกิตติคุณลูกา เราอ่านว่า
ในเวลาต่อมาพระเยซูเสด็จไปที่ภูเขาเพื่อจะอธิษฐาน พระองค์ทรงอธิษฐานต่อพระเจ้าตลอดทั้งคืน พอถึงรุ่ งเช้า พระองค์ทรง
เรี ยกพวกสาวกมา แล้วทรงเลือกสาวก 12 คนผูซ้ ่ ึงพระองค์ทรงให้ชื่อว่าอัครทูต ได้แก่ ซีโมนที่พระองค์ทรงให้ชื่อว่าเปโตร อัน
ดรู วน์ อ้ งชายของเปโตร ยากอบและยอห์น ฟี ลิปและบารโธโลมิว มัทธิวและโธมัส ยากอบบุตรอัลเฟอัส ซีโมนที่เรี ยกกันว่าเศโล
เท ยูดาสบุตรของยากอบ และยูดาส อิสคาริ โอท ผูซ้ ่ ึงต่อมาทรยศพระองค์ แล้วพระองค์กบั อัครทูต 12 คนนั้นก็ลงมายืนอยูบ่ น
ที่ราบแห่งหนึ่ง พร้อมกับสาวกคนอื่นๆ และมหาชนที่มาจากทัว่ แคว้นยูเดีย กรุ งเยรู ซาเล็ม รวมทั้งเมืองไทระและเมืองไซดอนซึ่ง
เป็ นเมืองชายฝั่งทะเล เพื่อจะฟังพระองค์และให้พระองค์ทรงรักษาโรคของเขา (ลูกา 6:12–17)
พระเยซูทรงอธิษฐาน “ตลอดทั้งคืน” ก่อนที่พระองค์จะทรงเลือกเหล่าสาวกของพระองค์ โดยปกติคนจะคิดว่าตลอด
ทั้งคืน พระเจ้าทรงใส่ ชื่ออัครทูตแต่ละคนลงในความคิดขององค์พระผูเ้ ป็ นเจ้าทีละคน—“คุณควรเลือกบารโธโลมิว มัทธิว ธัดเด
อัส”—และองค์พระผูเ้ ป็ นเจ้าทรงสร้างรายชื่อบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อและอนุมตั ิจากสวรรค์ บางทีพระองค์อาจใช้เวลาหนึ่ง
ชัว่ โมงสำหรับแต่ละคนเพื่อพิสูจน์วา่ พระองค์เลือกถูกต้องแล้ว พระองค์อธิษฐานตลอดทั้งคืน—ดังที่ผเู้ ชี่ยวชาญเสนอว่า— 12
ชัว่ โมง หนึ่งชัว่ โมงสำหรับอัครทูตแต่ละคน!
ตอนนี้ฉนั กล้าที่จะถามว่า นัน่ คือสิ่ งที่พระองค์ท ำจริ งๆ หรื อเปล่า—เพื่อขอคำแนะนำในการเลือกผูช้ ายที่มีความ
สามารถและศักยภาพที่เหมาะสม ผูช้ ายที่มีความยิง่ ใหญ่ที่พระเจ้าทรงมองเห็นได้ล่วงหน้า? หรื อที่จริ งพระเยซูก ำลังต่อสู้กบั การ
ทดลองให้เลือกคนฉลาด มีอิทธิพล ผูม้ ีอ ำนาจ? ฉันสามารถจินตนาการได้วา่ มันอาจป็ นอย่างนั้น อาจเป็ นเวลา 12 ชัว่ โมงของการ
อธิษฐานต่อสู้ระหว่างวิถีของโลก (เพื่อวางแผนความสำเร็ จโดยแต่งตั้งผูม้ ีพรสวรรค์)...และวิถีของพระเจ้า ถ้าเป็ นเช่นนั้น คุณคิด
ว่าพระเจ้าจะเลือกคุณหรื อผมไหม? ให้เราเชื่อร่ วมกันว่าเราแต่ละคนมีการทรงเรี ยกจากพระเจ้าที่ฝังอยูใ่ นหัวใจเรา...และให้เราให้
คุณค่าและขอบพระคุณพระองค์สำหรับการทรงเรี ยกนั้นในวันนี้
3
พฤษภาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“ความรอดนั้นมาจากพระยาห์เวห์” (โยนาห์ 2:9)
ไฟประจำวัน!
องค์พระผูเ้ ป็ นเจ้า ขอทรงเสริ มกำลังข้าพระองค์ เพื่อที่พระองค์จ ำนำไปที่ไหน ข้าพระองค์จะตามไป
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
สดุดี 31:1–3; โยนาห์ 1 ถึง 4; ลูกา 11:29–32
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
กันดารวิถี 10; สดุดี 46 และ 47
เย็น:
เพลงซาโลมอน 8; ฮีบรู 8
โยนาห์ —ผู้เผยแพร่ ข่าวประเสริฐที่ไม่ เต็มใจ
เมื่อคุณอ่านตลอดพระคัมภีร์โดยเริ่ มจากพระธรรมปฐมกาล คุณจะพบว่าไม่มีการพูดถึงการประกาศข่าวประเสริ ฐ
จนกว่าคุณจะได้อ่านถึงพระธรรมเล่มเล็กของโยนาห์ ซึ่งเป็ นหนังสื อที่โดดเด่นจากที่เหลือของพระคัมภีร์ มันเกือบจะเป็ นคู่มือ
ของผูเ้ ผยแพร่ ข่าวประเสริ ฐ—คู่มือส่วนตัวสำหรับใช้ประจำวัน
ถึงแม้วา่ คนส่ วนใหญ่จะคุน้ เคยกับโยนาห์ แต่หลายคน (รวมถึงคริ สเตียนบางคน) ไม่เชื่อเรื่ องราวที่น ำเสนอในหนังสื อ
เล่มนี้ พวกเขาคิดว่ามีเรื่ องคาวๆ เกี่ยวกับเรื่ องราวของโยนาห์! อย่างไรก็ตาม พระเยซูและคนร่ วมสมัยของพระองค์ถือว่า
เหตุการณ์น้ ี เป็ นประวัติศาสตร์ ไม่ใช่นิทาน หรื อแม้แต่อุปมา และผูใ้ ดก็ตามที่เขียนเรื่ องราวของโยนาห์กร็ ู้วิธีการเขียน หนังสื อ
เล่มเล็กๆ เล่มนี้สมควรได้รับการเอาใจใส่ อย่างใกล้ชิดจากเรา
คนในยุคนีเ้ ป็ นคนชั่วร้ าย ชอบแสวงหาหมายสำคัญ แต่ จะไม่ โปรดให้ หมายสำคัญแก่ พวกเขาเว้ นแต่ หมายสำคัญของโย
นาห์ เท่ านั้น เพราะว่ าโยนาห์ เคยเป็ นหมายสำคัญให้ กับชาวนีนะเวห์ อย่ างไร บุตรมนุษย์ กจ็ ะเป็ นหมายสำคัญให้ กับคน
ยุคนี อ้ ย่ างนั้น...ชาวนีนะเวห์ จะลุกขึน้ ในวันพิพากษาพร้ อมกับคนยุคนีแ้ ละกล่ าวโทษพวกเขา เพราะว่ าชาวนีนะเวห์
กลับใจใหม่ เพราะการประกาศของโยนาห์ และผู้ที่ใหญ่ กว่ าโยนาห์ กอ็ ยู่ที่นี่ (ลูกา 11:29–30, 32)

ผูเ้ ผยพระวจนะโยนาห์ด ำเนินชีวิตอยูป่ ระมาณ 800 ปี ก่อนคริ สตกาล เขาได้ยนิ การทรงเรี ยกของพระเจ้าให้ไปนีนะเวห์
เมืองหลวงแห่งสุ ดท้ายของอาณาจักรอัสซีเรี ย มันตั้งอยูบ่ นแม่น้ำไทกริ ส 600 ไมล์ขณะที่อีกาบินไปทางทิศตะวันออกจากที่ที่โย
นาห์อาศัยอยู่ แทนที่จะไปนีนะเวห์ โยนาห์จ่ายค่าโดยสารเรื อไปยังเมืองทารชิช ซึ่งก็คือไปทางทิศตะวันตก ในอีกด้านหนึ่ง เขา
หมดหวังที่จะหลีกหนีจากภาระหน้าที่ของเขา… นีนะเวห์เป็ นสถานที่สุดท้ายที่เขาต้องการไป!
คุณเคยอยูใ่ นสถานที่น้ นั ไหม—ที่ซ่ ึงพระเจ้าขอให้คุณทำบางสิ่ งเพื่อพระองค์ ไปที่ไหนสักแห่งเพื่อพระองค์...และคุณ
แค่ไม่อยากทำอย่างนั้น? ผมรู้วา่ ผมมี! ถึงกระนั้น ผมพบว่าทุกครั้งผมก็กา้ วออกไปด้วยความเชื่อเพื่อเชื่อฟังพระองค์ พระเมตตา
ของพระองค์อยูท่ ี่นนั่ เสมอเพื่อนำและนำทางผม “ข้ าแต่ พระยาห์ เวห์ ข้ าพระองค์ ลีภ้ ัยในพระองค์ ...พระองค์ ทรงเป็ นศิลาและ
เป็ นป้ อมปราการของข้าพระองค์ ขอทรงนำทางข้าพระองค์ ด้วยเห็นแก่ พระนามของพระองค์ ” (สดุดี 31:1, 3) ถ้าพระเจ้ากำลังขอ
ให้คุณก้าวออกไปด้วยความเชื่อเพื่อทำบางสิ่ งในวันนี้ ...เพียงแค่พดู ว่า "ได้" และให้พระองค์น ำคุณและนำทางคุณ...ในวันนี้ !

4
พฤษภาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“พระเยซูจึงตรัสกับบิดานั้นว่า “ ‘ถ้าช่วยได้’ น่ะหรื อ? ใครเชื่อก็ท ำให้ได้ทุกสิ่ ง”” (มาระโก 9:23)
ไฟประจำวัน!
ความมัน่ ใจอย่างต่อเนื่องของฉันคือสำหรับพระเจ้าแล้ว ทุกสิ่ งเป็ นไปได้!
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
โยนาห์ 1 ถึง 4; มัทธิว 19:16–26; มาระโก 9:14–29
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
กันดารวิถี 11;
สดุดี 48
เย็น:
อิสยาห์ 1; ฮีบรู 9
กำลังลงไป
เมื่อเราอ่านเกี่ยวกับโยนาห์ จงสังเกตวิธีการบรรยายเกี่ยวกับการเดินทางของเขา โยนาห์บทที่ 1 กล่าวว่าเขาลงไปที่เมือง
ยัฟฟา...แล้วเขาก็ลงไปที่เรื อ...แล้วก็ลงไปที่ที่ก ำบังของเรื อ ต่อมาเมื่อเกิดพายุ พวกกะลาสี กโ็ ยนโยนาห์ลงไปในทะเล และปลา
มหึ มาก็กลืนเขาเข้าไป และเขาลงไปในท้องปลาใหญ่ จากนั้นเขาอธิษฐานทูลพระเจ้าว่า “พระองค์ ทรงเหวี่ยงข้าพระองค์ ลงไปใน
ที่ลึก ... ข้าพระองค์ ลงไปที่รากแห่ งภูเขาทั้งหลาย” (โยนาห์ 2:3, 6) หลังจากที่ปลาสำรอกโยนาห์ลงบนดินแห้งแล้ว องค์พระผู้
เป็ นเจ้าตรัสเป็ นครั้งที่ 2 และเนื้ อความกล่าวว่า “โยนาห์ ลุกขึน้ ” (โยนาห์ 3:3) การไปประกาศเมื่อพระเจ้าส่ งเราไปคือการยก
ระดับ—เราลุกขึ้น!
ให้เราเห็นใจโยนาห์สกั หน่อย: นีนะเวห์มีชื่อเสี ยงที่น่ากลัวจริ งๆ! กษัตริ ยห์ นึ่งหรื อสององค์น้ นั โหดเหี้ ยมอย่างแน่นอน
บางองค์เลวร้ายที่สุดเท่าที่เคยมีมาบนแผ่นดินโลกใบนี้ พวกเขาเพลิดเพลินกับความโหดร้ายและความโหดเหี้ ยมที่เลวร้ายจน
ทำให้เราตกใจจนถึงทุกวันนี้ โยนาห์ไม่ชอบความคิดของการเผชิญหน้ากับคนแบบนั้นอย่างแน่นอน คนต่างชาติจะสามารถหวัง
ว่าจะประกาศต่อต้านพวกเขาและรอดชีวิตออกมาได้อย่างไร?
แน่นอน ในที่สุดเขาก็ไป… และนีนะเวห์กลับใจอย่างสมบูรณ์จากวิถีทางที่อธรรมของมัน คำเทศนาของโยนาห์ได้ผล
แต่โยนาห์ตอ้ งการเห็นการพิพากษาของพระเจ้าตกที่เมืองนีนะเวห์…และใครจะตำหนิเขาได้? เขาได้เตือนเมืองนี้ วา่ พระเจ้ากำลัง
จะทำลายล้างเมืองนี้ ความอธรรมของพวกเขาได้ไปถึงหูของพระเจ้าแล้ว และการพิพากษาก็เป็ นสิ่ งที่พวกเขาสมควรได้รับ แต่
เมืองนั้นกลับใจ และพระเจ้าทรงยับยั้งการพิพากษาของพระองค์ (อย่างน้อยก็ช่วงหนึ่ง—น้อยกว่า 200 ปี ต่อมา นีนะเวห์ถูก
ทำลายอย่างสิ้ นเชิง)
บางครั้งคุณและผมรู้สึกเหมือนกับว่าพระเจ้ากำลังเรี ยกเราให้ท ำสิ่ งที่เป็ นไปไม่ได้—แต่จงมัน่ ใจว่า พระเจ้าทรงเป็ น
พระเจ้าของสิ่ งที่เป็ นไปไม่ได้!
5
พฤษภาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“แต่จงรักศัตรู ของท่านและทำดีต่อเขา จงให้เขายืมโดยไม่หวังที่จะได้คืน แล้วบำเหน็จของท่านทั้งหลายจะมีบริ บูรณ์ แล้วท่านจะ
เป็ นบุตรขององค์ผสู้ ูงสุ ด เพราะว่าพระองค์ทรงพระกรุ ณาทั้งต่อคนอกตัญญูและคนชัว่ ” (ลูกา 6:35)
ไฟประจำวัน!
ในการเชื่อฟังพระบัญชาของพระคริ สต์—“จงขอ!”—วันนี้ฉนั จะใช้เวลาในการอธิษฐาน
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
สดุดี 66:18; มัทธิว 5:23–24; 21:22; มาระโก 11:25; ลูกา 6:35–37;
18:10–14; ยอห์น 14:13; 15:7; 16:23; ยากอบ 1:6–7; 4:3
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
กันดารวิถี 12 และ 13; สดุดี 49
เย็น:
อิสยาห์ 2; ฮีบรู 10
กฎ 7 ข้ อของการอธิษฐาน
1. จงขอพระเจ้ าด้ วยความเชื่อ เราไม่สามารถขอมากเกินไปและระเบิดฟิ วส์ดว้ ยการเรี ยกร้องความช่วยเหลือจากสวรรค์

มากเกินไป จงขอ! นัน่ คือพระบัญชาของพระคริ สต์ ดังนั้นคุณไม่สามารถอยูน่ อกน้ำพระทัยของพระเจ้าด้วยการขอ


ได้ แต่คุณสามารถมัดพระหัตถ์ของพระองค์ได้ถา้ คุณไม่ขอ
2. อย่ าเข้ ามาด้ วยการขอโทษ จงขออยูด่ ีและให้พระเจ้าตัดสิ นใจ
วิธีด ำเนินการ การขอเฉพาะสิ่ งที่พระเจ้าต้องการเป็ นเครื่ องหมายของความเคร่ งศาสนาอย่างมาก ซึ่งขัดแย้งกับที่พระ

เยซูตรัสว่า “สิ่ งใดที่พวกท่านขอในนามของเรา เราจะทำสิ่ งนั้น” (ยอห์น 14:13) พระเจ้าอนุญาตให้ผเู้ ชื่อที่เป็ นผูใ้ หญ่
มีทางเลือกอย่างเสรี ในชีวิตของพวกเขา—และอวยพรสิ่ งที่พวกเขาตัดสิ นใจ
3. จงยกโทษเหมือนที่พระเจ้ าทรงยกโทษให้ แก่คุณ “และเมื่อพวกท่านยืนอธิษฐานอยู่ ถ้าพวกท่านมีเรื่ องกับใคร จงยก
โทษให้คนนั้น เพื่อว่าพระบิดาของพวกท่านผูส้ ถิตในสวรรค์ จะทรงยกโทษความผิดของพวกท่านด้วย” (มาระโก
11:25)

4. อย่ าอธิษฐานเพือ่ ให้ มนุษย์ ได้ ยนิ แต่ดว้ ยความจริ งใจ จงระลึกว่าพระเจ้าทรงเปี่ ยมด้วยพระคุณ
5. จงอธิษฐานในพระนามของพระเยซู เนื่องจากเราอยูใ่ นพระคริ สต์ เป็ นหนึ่งเดียวกับพระองค์ เมื่อเราอธิษฐานในพระ
นามของพระเยซู เรากำลังพูดด้วยคุณความดีของพระคริ สต์ที่ประทานให้แก่เรา จงใช้สามัญสำนึก
6. จงบ่ มพระคำของพระเจ้ า จงสังเกตความสมดุลของประโยคนี้ : “ถ้ า ...ถ้ อยคำของเราติดสนิทอยู่กับท่ านแล้ว ท่ านจะ
ขอสิ่ งใดที่ท่านปรารถนาก็จะได้ สิ่งนั้น” (ยอห์น 15:7) ผูเ้ ขียนสดุดีเขียนว่า “ถ้ าข้ าพเจ้ าได้ บ่มความบาปไว้ ในหั วใจ
องค์ พระผู้เป็ นเจ้ าจะไม่ ทรงฟั ง” (สดุดี 66:18 ฉบับ NIV) จงให้คุณค่ากับพระคำของพระคริ สต์ อย่าบ่มความชัว่ ช้า
7. จงจัดการกับอุปสรรคเพือ่ ให้ คำอธิษฐานได้ รับคำตอบ ยากอบเตือนว่าทำไมหลายครั้งเราจึงไม่ถูกได้ยนิ “คนที่สงสัย
นั้น...จงอย่ าคิดเลยว่ าจะได้ รับสิ่ งใดจากองค์ พระผู้เป็ นเจ้ า...พวกท่ านขอและไม่ ได้ รับเพราะขอผิด หวังจะเอาไป
สนองความปรารถนาชั่วของตนเอง” (ยากอบ 1:6–7, 4:3) สติปัญญาในการอธิษฐานเป็ นสิ่ งที่จ ำเป็ น
จงใช้ค ำแนะนำเหล่านี้กบั ชีวิตการอธิษฐานของคุณ และเห็นด้วยตัวคุณเองว่าการอธิษฐานเปลี่ยนแปลงสิ่ งต่างๆ ได้
อย่างไร!
6
พฤษภาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“เราเป็ นพระเจ้า และไม่มีผอู้ ื่นอีก เราเป็ นพระเจ้า และไม่มีใครเป็ นเหมือนเรา ผูแ้ จ้งตอนจบให้ทราบตั้งแต่เริ่ มต้น และแจ้งสิ่ งที่
ยังไม่ได้ท ำนั้นให้ทราบตั้งแต่อดีตกาล ทั้งกล่าวว่า ‘แผนงานของเราจะยัง่ ยืน และเราจะทำทุกสิ่ งตามความประสงค์ของเรา” (อิส
ยาห์ 46:9–10)
ไฟประจำวัน!
เมื่อใดก็ตามที่ฉนั อธิษฐาน พระเจ้าจะชัง่ น้ำหนักคำขอของฉันเทียบกับแผนการที่ปราศจากเวลาของพระองค์ แล้วพระองค์ทรง
ตอบตามนั้น
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
2 พงศ์กษัตริ ย ์ 20:1–21; 21:1–26; อิสยาห์ 38:1–22; 46:9–10; เยเรมีย ์ 17:10; มัทธิว 1:1–17; ลูกา 22:32
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
กันดารวิถี 14;
สดุดี 50
เย็น:
อิสยาห์ 3 และ 4; ฮีบรู 1
พระปัญญาที่สมบูรณ์ แบบ
พระเยซูทรงอธิษฐานว่า “อย่ าให้ เป็ นไปตามใจข้าพระองค์ แต่ ให้ เป็ นไปตามพระทัยของพระองค์ " (ลูกา 22:42) พวก
เราไม่ฉลาดรอบรู้และไม่ได้ท ำการวิงวอนอย่างสมบูรณ์แบบ ถ้าเรามีฤทธิ์ อ ำนาจอย่างไม่จ ำกัด เราคงทำเรื่ องยุง่ เหยิงในไม่ชา้
อย่างไรก็ตาม พระเจ้าจะไม่ถูกชักจูงให้ท ำสิ่ งที่โง่เขลา—ไม่แม้แต่จะทำให้ใครพอใจ คำตอบของพระองค์ฉลาดกว่าคำอธิษฐาน
ของเรา แม้แต่ค ำว่า “ไม่!” ของพระองค์กต็ าม
เคยมีคนสอนว่าเมื่อกษัตริ ยเ์ ฮเซคียาห์อธิษฐานขอชีวิตที่ยนื ยาวขึ้นและพระเจ้าประทานให้ สิ่ งนี้ขดั กับน้ำพระทัยของ
พระเจ้าจริ งๆ “พระยาห์ เวห์ พระเจ้ าของดาวิดบรรพบุรุษของเจ้ า ตรั สดังนี ว้ ่ า เราได้ ยินคำอธิ ษฐานของเจ้ าแล้ ว เราได้ เห็นน้ำตา
ของเจ้ าแล้ ว ดูสิ เราจะรั กษาเจ้ า” (2 พงศ์กษัตริ ย ์ 20:5) “นี่ แน่ ะ เราจะเพิ่มชี วิตให้ เจ้ าอีก 15 ปี ” (อิสยาห์ 38:5) สิ่ งนี้ถูกสอนเพราะ
ว่าเป็ นช่วงระหว่าง 15 ปี นั้นที่มนัสเสห์ บุตรที่ชวั่ ร้ายของเฮเซคียาห์ประสูติ ต่อมา กว่า 50 ปี ที่มนัสเสห์นำประเทศไปสู่ความ
อธรรม แต่ถา้ เฮเซคียาห์สิ้นพระชนม์โดยปราศจากบุตรชาย เชื้ อสายของดาวิดก็จะสิ้ นสุ ดลงก่อนเวลาอันควร ดังนั้นจึงเป็ นน้ำ
พระทัยของพระเจ้าที่จะให้เวลาเพิ่มอีก 15 ปี

ในแผนผังครอบครัวของพระคริ สต์ มีเจ้าชายและอาชญากร โสเภณี และนักรบ กษัตริ ยแ์ ละผูไ้ หว้รูปเคารพ—และเป็ น


เช่นนั้นในแผนผังของทุกครอบครัว จากรุ่ นสู่รุ่ น พระเจ้ากำลังแสวงหาผูท้ ี่จะหันหัวใจมาหาพระองค์ตลอดเวลา โนอาห์พบความ
โปรดปรานของเขาท่ามกลางความบาป… อับราฮัมหันออกจากพระเทียมเท็จของเมืองเออร์… ราหับหญิงแพศยาช่วยคน
อิสราเอลให้รอด… รู ธละทิ้งรู ปเคารพของโมอับและแต่งงานกับโบอาส เพื่อเป็ นปู่ ย่าตายายของกษัตริ ยด์ าวิด...และอื่นๆ พระเจ้า
เท่านั้นที่รู้: จิตใจก็เป็ นตัวล่อลวงเหนือกว่าสิ่ งใดทั้งหมด มันเสื่ อมทรามอย่างร้ายทีเดียว ใครจะรู้จกั ใจนั้นเล่า? “เราคือพระยาห์
เวห์ตรวจค้นดูจิต และทดสอบดูใจ เพื่อให้แก่ทุกคนตามพฤติการณ์ของเขา ตามผลแห่งการกระทำของเขา” (เยเรมีย ์ 17:9–10
พระเจ้าไม่ท ำสิ่ งใดขัดต่อน้ำพระทัยของพระองค์—แม้แต่น้ำพระทัยระยะยาวของพระองค์—เพราะว่าพระองค์ทรง
ทราบจุดจบตั้งแต่ตน้ และไม่เคยทำผิดพลาด ดังนั้น... คุณสามารถอธิษฐานต่อไปด้วยความมัน่ ใจ เพราะว่าคำอธิษฐานของคุณจะ
ไม่สูญเปล่า!
7
พฤษภาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“จงฝึ กเด็กในทางที่เขาควรจะเดินไป และเมื่อเขาเติบใหญ่ เขาจะไม่พรากจากทางนั้น” (สุ ภาษิต 22:6)
ไฟประจำวัน!
องค์พระผูเ้ ป็ นเจ้า พระองค์ทรงมีถอ้ ยคำแห่งชีวิตนิรันดร์ โปรดช่วยข้าพระองค์ให้ด ำเนินชีวิตตามคำเหล่านั้นและสำแดงให้โลกรู้
ว่าถ้อยคำเหล่านั้นเป็ นความจริ ง
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
1 ซามูเอล 2:12, 17; 8:1–3 สุ ภาษิต 22:6; ยอห์น 6:68; เอเฟซัส 6:10–17
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
กันดารวิถี 15;
สดุดี 51
เย็น:
อิสยาห์ 5; ฮีบรู 12
จงเตรียมครอบครัวของคุณให้ พร้ อม
ความคิดของเด็ก—จริ ง ๆ แล้วของเราทุกคน—จำเป็ นต้องได้รับการคุม้ ครอง ซึ่งเรามียทุ ธภัณฑ์ฝ่ายวิญญาณครบชุด
“จงสวมยุทธภัณฑ์ ทั้งชุดของพระเจ้ าเพื่อจะสามารถต่ อสู้กับอุบายของมารได้ ” (เอเฟซัส 6:11)
นัน่ คือเหตุผลที่บิดาทุกคนในอิสราเอลได้รับบัญชาให้สอนเด็กรอบโต๊ะถึงถ้อยคำแห่งพันธสัญญาของพระเจ้าว่า “และ
จงให้ ถ้อยคำเหล่ านีท้ ี่ข้าพเจ้ าบัญชาท่ านในวันนี อ้ ยู่ในใจของท่ าน และท่ านจงสอนถ้ อยคำเหล่ านั้นแก่ บตุ รหลานของท่ าน และจง
พูดถึงถ้ อยคำเหล่ านั้นเมื่อท่ านนั่งอยู่ในบ้ าน เดินอยู่ตามทาง นอนลงหรื อลุกขึน้ ” (เฉลยธรรมบัญญัติ 6:6–7)

ความจำเป็ นนี้ ถูกขีดเส้นใต้ไว้ในพระคัมภีร์ดว้ ยข้อเท็จจริ งที่น่าเศร้าที่วา่ ไม่ใช่ทุกคนที่ย ำเกรงพระเจ้าจะมีบุตรที่ย ำเกรง


พระเจ้า ซึ่งมักจบลงด้วยโศกนาฏกรรม มหาปุโรหิ ตเอลีและผูเ้ ผยพระวจนะซามูเอลต่างมีบุตรชายที่หกั อกบิดาของตน “บุตรทั้ง
สองของเอลีเป็ นคนอันธพาล ไม่ ร้ ู จักพระยาห์ เวห์ ...ดังนี แ้ หละ บาปของคนหนุ่มทั้งสองนั้นจึ งใหญ่ หลวงนักเฉพาะพระพักตร์
พระยาห์ เวห์ เพราะว่ าคนหนุ่มทั้งสองนั้นได้ ดูหมิ่นเครื่ องถวายบูชาแด่ พระยาห์ เวห์ ...ต่ อมาเมื่อซามูเอลแก่ แล้ ว ท่ านได้ ตั้งพวก
บุตรชายของท่ านให้ วินิจฉั ยอิสราเอล...แต่ พวกบุตรชายของท่ านไม่ ได้ ด ำเนินตามอย่ างชี วิตของท่ าน พวกเขาบิดเบือนไปหาราย
ได้ ที่ผิด รั บสิ นบน และบิดเบือนความยุติธรรม” (1 ซามูเอล 2:12, 17; 8:1, 3) เมื่อลูกหลานของเราไม่ปฏิบตั ิตามวิถีทางของ
พระเจ้า พวกเขาอาจทำให้ท้ งั ประเทศพินาศได้
พระเจ้าได้แต่งตั้งปุโรหิ ตและผูว้ ินิจฉัยให้ปกครองอิสราเอล ประชากรของพระองค์ แต่เมื่อบุตรชายของซามูเอลกลาย
เป็ นคนที่ไม่มีพระเจ้า ผูค้ นก็เริ่ มร้องหาแนวทางการปกครองที่แตกต่างออกไป—ซึ่งท้ายที่สุดก็พาอิสราเอลกลับสู่ ถ่ินทุรกันดาร
แห่งความไร้พระเจ้า การฝึ กฝนลูกของเราให้เดินในทางของพระเจ้า แล้วช่วยให้พวกเขารักษาการเดินเข้าสู่ วยั ผูใ้ หญ่น้ นั สำคัญ
กว่าการทำเพียงเพื่อความพึงพอใจของเราเอง สิ่ งนี้ท ำงานอย่างใกล้ชิดกับแผนการขั้นสูงสุ ดของพระเจ้า นัน่ คือครอบครัวของเรา
จะเป็ นตัวอย่างที่ชดั เจนของการดำเนินชีวิตตามพระเจ้าในโลกที่เต็มไปด้วยความมืดมนและความไร้กฏเกณฑ์

8
พฤษภาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“ให้เรากินและรื่ นเริ ง เพราะว่าลูกของเราคนนี้ ตายแล้วแต่กลับเป็ นขึ้นอีก หายไปแล้วแต่ได้พบกันอีก” (ลูกา 15:23–24)
ไฟประจำวัน!
ชีวิตของฉันเป็ นแบบอย่างแก่ผอู้ ื่นไม่วา่ จะดีหรื อชัว่ !
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
เฉลยธรรมบัญญัติ 30:19; ลูกา 15:11–32; โรม 6:23; 10:9–10
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
กันดารวิถี 16; สดุดี 52 และ 54
เย็น:
อิสยาห์ 6; ฮีบรู 13
รุ่นแรก
พระเจ้าไม่มีหลาน เราสอนลูกของเราให้รู้จกั พระเจ้า ให้เข้าใจพระคำของพระองค์ และให้ด ำเนินในความชอบธรรม
เราเชื่อว่าลูกๆ ที่ได้รับการสอนอย่างดีของเราจะหันมาหาพระเจ้า และเรายังเชื่อในพระสัญญาที่ว า่ ครอบครัวของเราจะรอดผ่าน
การเป็ นพยานของเรา แต่ไม่มีการรับประกันโดยอัตโนมัติวา่ ลูกๆ ของเราจะติดตามพระเจ้า—พ่อแม่ไม่สามารถเลือกทำให้ลูก
ชอบธรรมได้ ในฐานะพ่อแม่ที่นบั ถือพระเจ้า เราต้องฝึ กฝนลูกๆ ของเรา อธิษฐานอย่างกระตือรื อร้นเพื่อความรอดของพวกเขา
และคนที่เรารัก แต่ไม่วา่ พวกเขาจะตัดสิ นใจอย่างไรก็ข้ ึนอยูก่ บั พวกเขา! นัน่ คือเจตจำนงเสรี “ข้ าพเจ้ าตั้งชี วิตและความตาย พระ
พรและคำสาปแช่ งไว้ ต่อหน้ าท่ าน เพราะฉะนั้นท่ านจงเลือกเอาข้างชี วิตเพื่อท่ านและลูกหลานของท่ านจะได้ มีชีวิตอยู่” (เฉลย
ธรรมบัญญัติ 30:19)
พระเจ้าทรงห่วงใยลูกๆของพระองค์มากจนแสวงหาพวกเขาอยูเ่ สมอ เกี้ยวพาพวกเขาด้วยความรัก แต่แม้แต่เด็กที่ได้รับ
การเลี้ยงดูมาอย่างดีที่สุดก็สามารถดื้อรั้นและกบฏ หลงทางไปจากมรดกของพระเจ้า ตัวอย่างที่สมบูรณ์แบบคืออุปมาเรื่ องบุตร
น้อยหลงหาย “ชายคนหนึ่งมีบุตรสองคน บุตรคนเล็กพูดกับบิดาว่า ‘พ่อ ขอแบ่งทรัพย์สินส่ วนที่ตกเป็ นของลูกให้ลูกด้วย’ บิดา
จึงแบ่งสมบัติให้แก่บุตรทั้งสอง ต่อมาไม่กี่วนั บุตรคนเล็กนั้นก็รวบรวมทุกสิ่ งทุกอย่างแล้วเดินทางไปยังเมืองไกล และผลาญ
ทรัพย์สินของตนที่นนั่ ด้วยการใช้ชีวิตแบบฟุ่ มเฟื อย...เมื่อเขาสำนึกตัวได้ จึงพูดว่า ‘...ข้าน่าจะลุกขึ้นไปหาพ่อ และพูดกับท่านว่า
“พ่อ ลูกผิดต่อสวรรค์และผิดต่อท่านด้วย ไม่สมควรจะได้ชื่อว่าเป็ นลูกของพ่ออีกต่อไป ขอโปรดให้ลูกอยูใ่ นฐานะของลูกจ้างคน
หนึ่งของท่านเถิด” ’ แล้วเขาก็ลุกขึ้นไปหาบิดา แต่เมื่อเขายังอยูแ่ ต่ไกล บิดาก็เห็นเขาและมีใจสงสาร จึงวิ่งออกไปกอดคอและจูบ
แก้มของเขา...เพราะว่าลูกของเราคนนี้ ตายแล้วแต่กลับเป็ นขึ้นอีก หายไปแล้วแต่ได้พบกันอีก’” (ลูกา 15:11–13, 17, 18–20, 24)
ฉันไม่รู้วา่ มีพอ่ แม่คริ สเตียนคนไหนที่มีลูกที่ด้ือดึงที่จะไม่ตอบสนองด้วยน้ำตาที่เปี่ ยมไปด้วยความชื่นชมยินดีเมื่อคนที่
พวกเขารักกลับมาหาพระเจ้า! ในฐานะพ่อแม่คริ สเตียน ความรับผิดชอบของเราคือการวางแบบอย่างที่ดีและสม่ำเสมอให้แก่ลูกๆ
ของเรา และหลังจากนั้นก็เชื่อว่าความดึงดูดใจของบาปจะแสดงให้เห็นตามลักษณะที่ชัว่ ร้ายจริ งๆ ของพวกมัน และลูกๆ ของเรา
จะกลับไปมีความสัมพันธ์ส่วนตัวกับพระเจ้าโดยสมัครใจ พระเจ้าได้ทรงเลือกบุตร นัน่ คือพวกเขาทุกคนเป็ นรุ่ นแรก
9
พฤษภาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“ในพระนิเวศของพระบิดาเรามีที่อยูม่ ากมาย ถ้าไม่มีเราคงบอกท่านแล้ว เพราะเราไปจัดเตรี ยมที่ไว้สำหรับพวกท่าน เมื่อเราไป
จัดเตรี ยมที่ไว้สำหรับท่านแล้ว เราจะกลับมาอีกและรับท่านไปอยูก่ บั เรา เพื่อว่าเราอยูท่ ี่ไหนพวกท่านจะได้อยูท่ ี่นนั่ ด้วย และท่าน
รู้จกั ทางที่เราจะไปนั้น” (ยอห์น 14:2–4)
ไฟประจำวัน!
“คนทั้งหลายที่ก ำลังจะพินาศก็เห็นว่าเรื่ องกางเขนเป็ นเรื่ องโง่ แต่เราที่ก ำลังจะรอดเห็นว่าเป็ นฤทธานุภาพของพระเจ้า” (1 โคริ น
ธ์ 1:18)
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
มัทธิว 28:1–20; ยอห์น 14:1–6; 1 โคริ นธ์ 1:18
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
กันดารวิถี 17 และ 18; สดุดี 55
เย็น:
อิสยาห์ 7; ยากอบ 1
โลโก้ แห่ งความรักของพระเจ้ า
เรื่ องราวของพระเยซูไม่ได้จบลงที่การถูกตรึ งที่ไม้กางเขน ถ้าเป็ นเช่นนั้น ไม้กางเขนจะเป็ นสัญลักษณ์ของความพ่ายแพ้
และความสิ้ นหวัง ข่าวประเสริ ฐคือพระเยซูไม่เพียงทำลายฤทธิ์อ ำนาจของความบาปบนไม้กางเขนเท่านั้น พระองค์ยงั ทรงทำลาย
ฤทธิ์อำนาจแห่งความตายด้วย ในวันที่ 3 พระเจ้าทรงทำให้พระองค์เป็ นขึ้นจากความตาย มีชยั ชนะเหนือความมืด ความตาย และ
ซาตาน ทันใดนั้นก็เกิดแผ่นดินไหวอย่างรุ นแรง เพราะมีทูตสวรรค์องค์หนึ่งขององค์พระผูเ้ ป็ นเจ้า ลงมาจากสวรรค์และกลิ้งก้อน
หิ นออกจากปากอุโมงค์แล้วนัง่ อยูบ่ นหิ นนั้น...พวกยามที่เฝ้ าอยูก่ ก็ ลัวทูตสวรรค์องค์น้ นั จนตัวสัน่ และเป็ นเหมือนคนตาย ทูต
สวรรค์องค์น้ นั กล่าวกับผูห้ ญิงเหล่านั้นว่า “อย่ากลัวเลย เรารู้แล้วว่าพวกท่านมาหาพระเยซูที่ถูกตรึ งกางเขน พระองค์ไม่ได้อยูท่ ี่นี่
เพราะทรงเป็ นขึ้นมาแล้วตามที่พระองค์ตรัสไว้น้ นั จงมาดูที่ซ่ ึงเขาวางพระองค์ไว้น้ นั ” (มัทธิว 28:2, 4–6)

พระเยซู ช่างไม้แห่งนาซาเร็ ธได้เปลี่ยนไม้กางเขนให้เป็ นประตูแห่งชีวิต นัน่ คือหัวใจที่ลึกซึ้ งของข่าวประเสริ ฐนี้ นัน่


คือไม้กางเขนมีฤทธิ์ อ ำนาจที่จะเปลี่ยนแปลงเรา ลบกลายเป็ นบวก แง่ลบกลายเป็ นแง่บวก บนไม้กางเขน ความมืดเปลี่ยนเป็ น
ความสว่าง ความตายเปลี่ยนเป็ นชีวิต ความเกลียดชังเปลี่ยนเป็ นความรัก โซ่ตรวนเปลี่ยนเป็ นอิสรภาพ ความกลัวเปลี่ยนเป็ น
ความเชื่อ ความสิ้ นหวังเปลี่ยนเป็ นความชื่นชมยินดี ความแตกสลายเปลี่ยนเป็ นความสมบูรณ์ ...และนรกเปลี่ยนเป็ นสวรรค์!
พระเยซูยงั ทรงพระชนม์อยู!่ วันนี้พระองค์อยูท่ ี่นี่เพื่อกลับคำสาปแช่งและยกเลิกการงานที่ชวั่ ร้ายของซาตาน คนบาป
ได้รับการอภัย คนป่ วยหายดีแล้ว ความสัมพันธ์ที่แตกสลายถูกทำให้กลับสู่ สภาพดี พลังแห่งความชัว่ ร้ายที่ต่อต้านฤทธิ์ อ ำนาจ
ของพระเยซูบนไม้กางเขน จะพ่ายแพ้ในที่สุด! นี่คือเหตุผลที่ไม้กางเขนเป็ นสัญลักษณ์หรื อโลโก้แห่งความเชื่อของคริ สเตียน
เป็ นของพระเยซูแต่เพียงผูเ้ ดียว ไม่มีผกู้ ่อตั้งหรื อผูน้ ำของศาสนาอื่นกล้าใช้โลโก้น้ ี เพราะว่ามันหมายถึงสิ่ งที่พวกเขาไม่เคยทำมา
ก่อน!
ไม่มีผใู้ ดในพวกเขาได้ถูกตรึ งเนื่องจากบาปของโลก ไม่มีผใู้ ดในพวกเขาได้เป็ นขึ้นมาจากความตาย ไม่มีผใู้ ดในพวก
เขาสามารถให้ความช่วยเหลือที่เราต้องการอย่างยิง่ ยวดได้ มีเพียงพระเยซูเท่านั้นที่สามารถช่วยเราให้รอดได้ ดังที่พระองค์ตรัสว่า
“เราเป็ นทางนั้น เป็ นความจริ ง และเป็ นชี วิต ไม่ มีใครมาถึงพระบิดาได้ นอกจากจะมาทางเรา” (ยอห์น 14:6) จงโอบกอดไม้
กางเขนของพระเยซูคริ สต์—ไม่ใช่ในฐานะสัญลักษณ์แห่งความตาย—แต่ในฐานะพระสัญญาของพระเจ้าที่จะเปลี่ยนแง่ลบให้
กลายเป็ นแง่บวก
10
พฤษภาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“พระเจ้าทรงทำพระองค์ผทู้ รงไม่มีบาปให้บาป เพราะเห็นแก่เรา เพื่อเราจะได้เป็ นคนชอบธรรมของพระเจ้าทางพระองค์” (2 โค
ริ นธ์ 5:21)
ไฟประจำวัน!
ข้าพเจ้าต้องการจะรู้จกั พระองค์ และฤทธิ์ เดชแห่งการคืนพระชนม์ของพระองค์ และมีส่วนร่ วมในความทุกข์ของพระองค์
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
มาระโก 15:27–32; 2 โคริ นธ์ 5:21; ฟิ ลิปปี 3:10; ฮีบรู 1:3
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
กันดารวิถี 19; สดุดี 56 และ 57
เย็น:
อิสยาห์ 8–9:7;
ยากอบ 2
ปลดปล่ อยฤทธิ์อำนาจของพระเจ้ า
พระเจ้าที่รักเราอย่างสมบูรณ์กเ็ ป็ นผูก้ มุ ฤทธิ์ อ ำนาจสูงสุ ดในจักรวาลเช่นกัน พระองค์ทรงเป็ นผูส้ ร้างสรรพสิ่ งโดยการ
เพียงแค่เรี ยกให้เกิดขึ้น พระคัมภีร์ยงั บอกเราด้วยว่าพระเยซูในฐานะพระบุตรของพระเจ้าคือความเจิดจ้าแห่งพระสิ ริของพระเจ้า
การแขวนบนไม้กางเขน พระเยซูดูเหมือนไม่มีฤทธิ์ อำนาจใดๆ ถูกหัวเราะเยาะโดยฝูงชน ถูกทรมานโดยทหาร ถูกทอด
ทิ้งโดยเพื่อนของพระองค์ สิ้ นพระชนม์อย่างช้าๆ พระเยซูดูเหมือนหมดหนทาง แต่ที่ไม้กางเขนนั้น ฤทธิ์ อ ำนาจของพระเจ้าได้ถูก
ปลดปล่อยออกมา!
และพวกเขาเอาโจรสองคนมาตรึ งพร้ อมกับพระองค์ ... คนทั้งหลายที่เดินผ่ านไปมานั้นก็พูดหมิ่นประมาทพระองค์
สั่นศีรษะเยาะเย้ ยว่ า “เฮ้ ย เจ้ าเป็ นคนที่จะทำลายพระวิหารแล้วสร้ างขึน้ ภายในสามวันนี่นา จงช่ วยตัวเองให้ รอดเถอะ
แล้ วก็ลงจากกางเขนเสี ยทีสิ” ท่ ามกลางพวกหั วหน้ าปุโรหิ ตกับพวกธรรมาจารย์ กม็ ีการเยาะเย้ ยพระองค์ เหมือนกันว่ า “
เขาช่ วยคนอื่นให้ รอดได้ แต่ ช่วยตัวเองไม่ ได้ ขอเชิ ญพระคริ สต์ กษัตริ ย์แห่ งอิสราเอลลงมาจากกางเขนเดี๋ยวนี เ้ ถอะ พวก
เราจะได้ เห็นและเชื่ อ” และสองคนนั้นที่ถกู ตรึ งพร้ อมกับพระองค์ กก็ ล่ าวคำหยาบช้ าต่ อพระองค์ (มาระโก 15:27, 29–
32)
วิธีหนึ่งในการนึ กภาพคือพลังงานนิวเคลียร์ ในทุก ๆ อะตอม พลังขั้วบวกและลบจะรวมตัวกันอย่างสมดุล แต่เมื่อ
อะตอมถูกแยกออก การแยกขั้วบวกออกจากขั้วลบ และพลังจะถูกปลดปล่อยออกมา ไม่วา่ จะเพื่อการทำลายล้างหรื อเพื่อผล
ประโยชน์กต็ าม สิ่ งนี้เกิดขึ้นบนไม้กางเขน ขณะแขวนอยูท่ ี่นนั่ พระเยซูทรงประสบกับพลังต่อต้าน 2 อย่างในพระองค์เอง นัน่ คือ
พลังลบจากบาปของเรา และพลังบวกจากความรักของพระเจ้า พระเยซูทรงเป็ นพระบุตรของพระเจ้า ผูบ้ ริ สุทธิ์ และสมบูรณ์แบบ
แต่บนไม้กางเขน พระองค์ถูกทำให้เป็ น "บาปเพราะเห็นแก่ เรา" (2 โคริ นธ์ 5:21) ที่นนั่ พระองค์กลายเป็ นศูนย์กลางของจักรวาลที่
ซึ่งความชัว่ ร้ายและความดีมาบรรจบกัน
ในที่สุด พระเยซูทรงเอาชนะความชัว่ ร้ายซึ่งแยกออกไป ปลดปล่อยฤทธิ์อ ำนาจใหม่ของความชอบธรรมและการเป็ น
ขึ้นมาจากความตาย เอาชนะความชัว่ ร้าย ความตาย ความรู้สึกผิด และความกลัว ในขณะที่ฤทธิ์ อำนาจแห่งความรอดแห่งความรัก
ของพระเจ้าถูกปลดปล่อยสำหรับทุกคนที่ขอ ภายใน 3 วัน ฤทธิ์ อำนาจใหม่น้ ีเริ่ มทำงาน เมื่อพระคริ สต์เป็ นขึ้นมาจากความตาย
อย่างเปี่ ยมไปด้วยพระสิ ริ พระเยซูคริ สต์ทรงพระชนม์อยูใ่ นปัจจุบนั นัน่ ไม่ใช่ขา่ วที่ยงิ่ ใหญ่หรื อ! จงออกไปและแบ่งปันข่าวดีกบั
คนที่คุณรักในวันนี้ !
11
พฤษภาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“พวกท่านจะได้รับพระราชทานฤทธานุภาพ เมื่อพระวิญญาณบริ สุทธิ์ เสด็จมาเหนือท่าน” (กิจการ 1:8)
ไฟประจำวัน!
“และ [ใส่ ชื่อของคุณ] ซึ่งเต็มเปี่ ยมด้วยพระคุณและฤทธานุภาพก็ท ำการมหัศจรรย์และหมายสำคัญใหญ่ท่ามกลางประชาชน”
(กิจการ 6:8)
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
กิจการ 1:1–8; 2:1–47; 6:8
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
กันดารวิถี 21; สดุดี 58 และ 59
เย็น:
อิสยาห์ 9:8 และ 10:4; ยากอบ 3
แรงกระตุ้นที่ร้ ู สึกเสี ยว
ผมเป็ นเพียงเด็กเล็ก ๆ เมื่อได้รับบัพติศมาของพระวิญญาณบริ สุทธิ์ แต่ไม่นานหลังจากประสบการณ์เริ่ มแรกนั้น ผมอยู่
ในการประชุมที่พอ่ ของผมเป็ นผูน้ ำในเยอรมันเหนือ ระหว่างการอธิษฐาน ผมเริ่ มรู้สึกประทับใจที่ตอ้ งทำบางอย่างที่รู้วา่ พ่อจะ
ไม่ชอบ แม้วา่ มันจะไม่ผดิ ก็ตาม ผมไม่สามารถหยุดคิดถึงผูห้ ญิงคนหนึ่งที่อยูฝ่ ่ังตรงข้ามของคริ สตจักร ความรู้สึกนี้ รุนแรงขึ้น
ไม่ใช่แค่ในหัวของผมเท่านั้น ดูเหมือนว่าจะอยูท่ วั่ ผมไปหมดแล้ว ผมรู้สึกเสี ยวมากขึ้นเรื่ อย ๆ เหมือนกับแรงดันไฟฟ้ าที่เพิ่มขึ้น
เรื่ อย ๆ ผมพยายามผลักมันออกไป แต่กระแสที่รู้สึกเสี ยวก็แรงขึ้น “ผมจะต้องทำ!” ผมพูดกับตัวเอง “แต่วา่ เธอจะว่าอย่างไร…
แล้วพ่อจะทำอย่างไร?” ผมจึงหมอบลงหลังที่นงั่ ทีละก้าว เคลื่อนไปหาเธอ จากนั้นผมก็กระซิบว่า “ผมต้องการอธิษฐานเผือ่ คุณ”
เธอมองมาที่ผมและตอบว่า “ตกลง อธิษฐานเผือ่ ฉัน!” ผมวางมือลงบนผูห้ ญิงที่โตแล้วคนนี้ ั —และมีบางอย่างเกิดขึ้น
นัน่ คือกระแสในร่ างกายของผมดูเหมือนจะพุง่ เข้าใส่ เธอทันที

เมื่อถึงจุดนั้นพ่อก็อดสังเกตไม่ได้ เขาถามว่า “ไรน์ฮาร์ด ลูกกำลังทำอะไรอยู?่ ”


ผูห้ ญิงคนนั้นตอบแทนผมว่า “ไรน์ฮาร์ดวางมือบนตัวฉัน และฉันรู้สึกว่าฤทธิ์ อำนาจขององค์พระผูเ้ ป็ นเจ้าไหลผ่านตัว
ฉัน…และดูสิ! ฉันสบายดี! ฉันหายดีแล้ว!” ในเวลานั้น ผมไม่รู้จกั หลักการฝ่ ายวิญญาณที่อยูเ่ บื้องหลังการรักษานี้ นัน่ คือถ้าเรา
เชื่อฟัง ก็มีฤทธิ์ อำนาจที่เพียงพอจากพระเจ้า ผมยังต้องเรี ยนรู้บทเรี ยนนั้น และหลายบทเรี ยนแบบนี้
หลายครั้งที่เราได้ยนิ เกี่ยวกับการเยีย่ มเยียนและการเปิ ดเผยสำแดงที่น่ายำเกรงของผูอ้ ื่น สิ่ งเหล่านั้นน่าตื่นเต้น แต่กม็ กั
จะทำให้ผคู้ นรู้สึกหดหู่ใจ เพราะว่าพวกเขาเองไม่มีอะไรแบบนี้ พวกเขาคิดว่าพวกเขาต้องด้อยกว่าคนเหล่านี้ที่พระเจ้าใช้ ผม
ต้องการให้คุณรู้ความจริ งเกี่ยวกับพระวิญญาณบริ สุทธิ์ พระองค์ทรงมีไว้สำหรับคนงานคริ สเตียนทุกคน ไม่เพียงแค่สำหรับผูท้ ี่มี
ช่วงเวลาที่หายากและน่าอัศจรรย์เท่านั้น หลายคนจะเป็ นเหมือนคนใหม่ เมื่อพวกเขาค้นพบความจริ งเหล่านี้—ผมเชื่อว่าสิ่ งนี้เป็ น
ความจริ งสำหรับคุณเช่นกัน

12
พฤษภาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“เพราะว่าพระเจ้าผูต้ รัสว่าให้ความสว่างส่ องออกมาจากความมืด ทรงส่ องสว่างเข้ามาในใจของเรา เพื่อให้เรามีความสว่างแห่ง
ความรู้ถึงพระสิ ริของพระเจ้า ที่ปรากฏบนพระพักตร์ของพระคริ สต์” (2 โคริ นธ์ 4:6)
ไฟประจำวัน!
ความเชื่อของคริ สเตียนคือการกระทำของพระวิญญาณบริ สุทธิ์ ทำให้พระคำของพระเจ้าเกิดขึ้น
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
ยอห์น 14:6; กิจการ 1:5, 8; 2 โคริ นธ์ 4:6
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
กันดารวิถี 21; สดุดี 60 และ 61
เย็น:
อิสยาห์ 10:5; ยากอบ 4
เมื่อพระวิญญาณเสด็จมา
มีพระสัญญาหนึ่งที่เราคุน้ เคยจนเราอาจมองไม่เห็นความอัศจรรย์ที่ยิง่ ใหญ่น้ ี เป็ นความคาดหวังที่เป็ นไปไม่ได้และ
มหัศจรรย์ที่สุดอย่างหนึ่งที่ใครๆ ก็เคยได้รับ นัน่ คือ “พวกท่ านจะรั บบัพติศมาด้ วยพระวิญญาณบริ สุทธิ์ ...แต่ พวกท่ านจะได้ รับ
พระราชทานฤทธานุภาพ เมื่อพระวิญญาณบริ สุทธิ์ เสด็จมาเหนือท่ าน” (กิจการ 1:5, 8) สิ่ งนี้สามารถเกิดขึ้นจริ งในศตวรรษที่ 20
ได้หรื อไม่? มันเกิดขึ้นกับผม ผมไม่สามารถคิดถึงสิ่ งที่มหัศจรรย์สำหรับมนุษย์มากไปกว่านั้น ซึ่งหมายถึงการเต็มเปี่ ยมด้วย
พระเจ้า ไม่ใช่ความสุ ขลมๆ แล้งๆ ไร้แก่นสาร พระวิญญาณบริ สุทธิ์ ไม่ใช่ยากล่อมประสาท แต่การทรงสถิตของพระองค์ท ำให้
หัวใจเต้นแรง พระเจ้าส่ งฤทธิ์อำนาจของพระองค์เข้ามาในสถานการณ์ที่ยากลำบากของชีวิต พระองค์เป็ นพลังชีวิตดั้งเดิมที่มีไว้
สำหรับเราทุกคน ในช่วงหลายปี ที่ผา่ นมา การตระหนักรู้ใหม่ๆ ได้พรั่งพรู เข้ามาเหนือผม มันยอดเยีย่ มมาก! พระเจ้าต้องการให้
ผมแบ่งปันกับคนทั้งโลกในการเทศนาของผม
ความเชื่อของคริ สเตียนเป็ นการสำแดงของฤทธิ์ อ ำนาจของพระเจ้า! ความจริ งของคริ สเตียนมีชีวิต ลมหายใจของ
พระเจ้าทำให้ข่าวประเสริ ฐเคลื่อนไหว มิฉะนั้นก็จะเป็ นความจริ งที่ตายแล้วแทนที่จะเป็ นความจริ งที่มีชีวิต พระเยซูตรัสว่า “เรา
เป็ นทางนั้น เป็ นความจริ ง และเป็ นชี วิต” (ยอห์น 14:6)

ความเชื่อของคริ สเตียนคือการทำงานของพระวิญญาณบริ สุทธิ์ ทำให้พระคำของพระเจ้าเกิดขึ้น ข่าวประเสริ ฐเป็ นสิ่ งที่


อ้างว่าเป็ น เมื่อนักกรี ฑาระดับแชมเปี้ ยนยืนอยูใ่ นสนาม เราไม่จ ำเป็ นต้องโต้เถียงเพื่อพิสูจน์วา่ เขาเป็ นระดับโลก เพียงแค่ยงิ ปื น
เริ่ มต้นเท่านั้น!
ข่าวประเสริ ฐของพระคริ สต์มีชีวิตอยู่ ผมจึงเข้าไปในสนามกีฬา และปล่อยให้ข่าวประเสริ ฐทำหน้าที่เอง ทุกคน
สามารถเห็นได้วา่ มันมีชีวิต เป็ นการงานของพระวิญญาณบริ สุทธิ์ จงเชื่อผมเมื่อผมบอกคุณว่าผมได้เป็ นพยานถึงสิ่ งที่ฤทธิ์ อ ำนาจ
แห่งข่าวประเสริ ฐทำในสนามกีฬาที่เต็มไปด้วยคนนับพัน ฤทธิ์ อ ำนาจแบบเดียวกันนั้นจะทำในหัวใจดวงเดียวที่เต็มไปด้วยความ
ปรารถนาได้รับทุกสิ่ งที่พระเจ้ามีให้!
13
พฤษภาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“พระเจ้าทรงประทานความเชื่อในระดับหนึ่งแก่แต่ละคน” (โรม 12:3)
ไฟประจำวัน!
ความเชื่อเป็ นธรรมชาติ ความสงสัยไม่มีเหตุผล
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
มาระโก 5:36; ลูกา 8:50; โรม 12:3
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
กันดารวิถี 22; สดุดี 62 และ 63
เย็น:
อิสยาห์ 11 และ 12; ยากอบ 5
ความเชื่อที่ลกึ ลับ
มีแนวคิดแปลกๆ เกี่ยวกับความเชื่อ ความเชื่อไม่ใช่การเชื่อในสิ่ งที่คุณรู้วา่ ไม่เป็ นความจริ ง หรื อเชื่อในสิ่ งที่ไม่มีหลัก
ฐาน นัน่ เป็ นเรื่ องโง่เขลา พระคัมภีร์เป็ นหนังสื อเกี่ยวกับความเชื่อ…และความจริ งพื้นฐานก็คือความเชื่อนั้นมีอยูใ่ นตัว เราเกิดมา
เป็ นผูเ้ ชื่อ ถ้าคุณคิดว่าคุณไม่มีความเชื่อ ลองพยายามที่จะไม่เชื่อในสิ่ งใดหรื อผูใ้ ดก็ตาม คู่สมรส แพทย์ ธนาคาร เจ้านาย หรื อนาย
ธนาคารของคุณ ไม่มีการรับประกัน เรามอบชีวิตของเราไว้ในมือของศัลยแพทย์ เราไว้วางใจคนขับรถไฟ รถยนต์ และเครื่ องบิน
เรากินอาหารที่ถูกเตรี ยมโดยคนแปลกหน้าทั้งหมด ทั้งหมดนี้ โดยไม่คิดถึงความเชื่อ แต่นนั่ คือความเชื่อ
ความเชื่อเป็ นระบบภูมิคุม้ กันชนิดหนึ่งที่กรองความกลัวออกไป ซึ่งมิฉะนั้นจะทำให้กิจกรรมทั้งหมดเป็ นอัมพาต เมื่อ
ล้มเหลว เราจะเกิดอาการหวาดกลัวและถูกบังคับ พระเยซูตรัสว่าอย่ากลัว แต่ให้เชื่อ หยุดใช้ความเชื่อแบบนี้ แล้วคุณจะไม่มีวนั
ลุกออกจากเตียงในตอนเช้าหรื อก้าวออกไปข้างนอก ในโลกนี้ ปัญหาล้านขดขดเหมือนงูเห่า
แต่เราดำเนินการต่อไปโดยปกติจะค่อนข้างไม่ค ำนึงถึงปัญหาและมัน่ ใจ พระคัมภีร์กล่าวว่า “พระเจ้ าทรงประทาน
ความเชื่ อในระดับหนึ่งแก่ แต่ ละคน” (โรม 12:3) พระคริ สต์ตรัสว่า “จงเชื่ อเท่ านั้น” (มาระโก 5:36) เพราะว่าเราทำได้

การแต่งงานเป็ นตัวอย่างที่ดีที่สุดของความเชื่อที่ผมรู้ เจ้าสาวหรื อเจ้าบ่าวเคยคิดว่าอีกฝ่ ายสมบูรณ์แบบหรื อไม่? ถึง


กระนั้นพวกเขาก็ผกู พันกันตลอดชีวิตไม่วา่ จะดีหรื อร้าย เจ้าสาวคนหนึ่งปฏิเสธที่จะพูดตามว่า “ฉันรับคุณไม่วา่ จะดีข้ ึนและแย่
ลง” โดยกล่าวว่า “ฉันรับเขาถึงแม้วา่ เขาจะแย่ลงเท่านั้น ฉันรู้วา่ เขาจะไม่มีวนั ดีข้ ึน” เธอก็ยงั คงเดินหน้าอย่างมัน่ ใจ…แต่ไม่ได้
มองโลกในแง่ดี!
ไม่มีความลึกลับเกี่ยวกับความเชื่อ บางทีเด็กน้อยอาจเป็ นผูเ้ ชื่อที่ยิง่ ใหญ่ที่สุด หลายครั้งที่ผมอุม้ เด็กไว้ในอ้อมแขน แต่
ไม่เคยมีใครกรี ดร้องเพราะกลัวตก พระเยซูเองทรงอุม้ เด็กไว้เป็ นตัวอย่างคำเทศนา พระองค์บอกว่าเด็กถือหนังสื อเดินทางไปยัง
ราชอาณาจักรของพระเจ้า ความเชื่อไม่ได้มาจากการฆ่าสามัญสำนึก ไม่ใช่จิตวิทยาเฉพาะที่ได้รับการพัฒนาด้วยความพยายาม
อย่างยิง่ ยวดโดย "ธรรมิกชน" ที่แปลกประหลาดในถ้ำที่ห่างไกลซึ่งดำเนินชีวิตอยูด่ ว้ ยขนมปังและน้ำ มันเป็ นธรรมชาติ ความ
สงสัยเป็ นสิ่ งที่แปลกประหลาด—ในความเป็ นจริ งแล้วไม่มีเหตุผล เป็ นสิ่ งเดียวที่ท ำให้พระเยซูประหลาดใจ
14
พฤษภาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“แต่วิถีของคนชอบธรรมเหมือนแสงอรุ ณ ซึ่งฉายสุ กใสยิง่ ๆ ขึ้นจนสว่างเต็มที่” (สุ ภาษิต 4:18)
ไฟประจำวัน!
ความเชื่อเป็ นสิ่ งธรรมดาสามัญที่ท ำให้เราโดดเด่นในสายตาของพระเจ้า
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
สุ ภาษิต 4:18; ฮีบรู 11:1–40
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
กันดารวิถี 23; สดุดี 64 และ 65
เย็น:
อิสยาห์ 13; 1 เปโตร 1
แบบทดสอบลักษณะนิสัย
ผูค้ นมักสับสนระหว่างความเชื่อและคุณธรรม คุณธรรมได้รับการพัฒนา ผูค้ นพูดถึง "ผูเ้ ชื่อที่ยงิ่ ใหญ่" ราวกับว่าความ
เชื่อนั้นมีขนาดเท่าเสื้ อสูท แต่เราสามารถมีความเชื่อได้ แม้เมื่อเรารู้วา่ เราไม่ได้ดีมาก คนบาปสามารถมีความเชื่อได้ มิฉะนั้นพวก
เขาจะไม่มีวนั ได้รับความรอด! ไม่มีผใู้ ดดี…แต่พระคริ สต์ทรงสอนเราว่าทุกคนสามารถเชื่อได้ พระองค์ชมเชยบางคนสำหรับ
ความเชื่อของพวกเขา—แต่พวกเขาเป็ นคนต่างชาติซ่ ึงค่อนข้างไม่รู้หลักคำสอน พระคัมภีร์ท ำเช่นเดียวกัน ในฮีบรู บทที่ 11 มี
“ม้วนเกียรติยศ” ซึ่งระบุชื่อวีรบุรุษและวีรสตรี ที่มีความเชื่อยิง่ ใหญ่ พวกเขาไม่ได้ถูกจดจำเนื่องจากความกล้าหาญหรื อความ
เมตตา แต่เนื่องจากการพึ่งพาพระเจ้าอย่างเต็มที่ ความเชื่อเป็ นสิ่ งธรรมดาสามัญที่ท ำให้เราโดดเด่นในสายตาของพระเจ้า พระ
คัมภีร์กล่าวว่า “แต่ ถ้าไม่ มีความเชื่ อแล้ว จะไม่ เป็ นที่พอพระทัยเลย” (ฮีบรู 11:6) โดยความเชื่อ เป็ นไปได้ที่จะทำให้พระเจ้าพอ
พระทัย...และทุกคนสามารถมีความเชื่อได้
เราเป็ นสิ่ งที่เราเชื่อ เราควรเฝ้ าดูสิ่งที่เราเชื่อ เราทำการตัดสิ นใจนั้น และในที่สุดก็ท ำให้เราเป็ น บางคนเชื่อในยูเอฟโอ
หรื อเชื่อว่าแผ่นดินโลกมีชีวิต หรื อในเสี ยงจากความตาย มีลา้ นสิ่ งที่สามารถเชื่อได้…แต่พระเจ้าทรงเป็ นผูส้ ูงสุ ด เรามุ่งเน้นไปที่
การเชื่อในพระเจ้า มีผคู้ นที่เชื่อในความเชื่อ การสำรวจแสดงให้เห็นว่าจริ ง ๆ แล้วทุกคนเชื่อในพระเจ้า นัน่ คือพระเจ้าบาง
ประเภท ที่ไหนสักแห่ง คำถามก็คือ ประเภทใด?

ความเชื่อทดสอบเรา พระเจ้าแบบที่เราเชื่อสร้างหน้าต่างสู่วิญญาณจิตของเรา ยกตัวอย่างเช่น การเชื่อในพระคริ สต์


หรื อคาร์ล มาร์กซ์ เป็ นต้น การทำตามความเชื่อที่ตอ้ งการเพียงแค่การอธิษฐานเล็กน้อย—นัน่ บอกอะไรเกี่ยวกับเรา? ศาสนาที่ใช้
ความพยายามน้อยที่สุดสามารถเป็ นที่นิยมได้ นัน่ คือข้อเรี ยกร้องเล็กๆ น้อยๆ ผูต้ ิดตามจำนวนมาก นี่คือความเชื่อราคาถูกสำหรับ
คนที่ได้ขายมรดกของตนเพื่อแลกกับถั่วแดงต้มซักชาม
พระเยซูคริ สต์เรี ยกร้องทุกสิ่ ง นัน่ คือ “ขอใจของเจ้ าให้ ข้าเถอะ” (สุ ภาษิต 23:26) ศาสนาที่กว้างขวางเป็ นหนทางที่ง่าย
แต่จะแคบลงและไม่นำไปสู่ที่ใดเลย จงยึดมัน่ ในความจริ งนี้ วา่ ความเชื่อของคุณในพระคริ สต์เป็ นถนนแคบ ๆ ที่กว้างขึ้ นเรื่ อย ๆ
และนำไปถึงที่ไหนสักแห่ง
15
พฤษภาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“พระเยซูจึงตรัสกับบิดานั้นว่า “ ‘ถ้าช่วยได้’ น่ะหรื อ? ใครเชื่อก็ท ำให้ได้ทุกสิ่ ง” (มาระโก 9:23)
ไฟประจำวัน!
เมื่อฉันเชื่อ ทุกสิ่ งก็เป็ นไปได้
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
มัทธิว 6:30; 17:17; มาระโก 9:23; ยอห์น 11:39–40
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
กันดารวิถี 24; สดุดี 66 และ 67
เย็น:
อิสยาห์ 14; 1 เปโตร 2
การอัศจรรย์ และความสงสั ย
การอัศจรรย์ในวันนี้ เป็ นที่สงสัยอยูเ่ สมอ “ภาษาแปลกๆไม่สามารถเป็ นภาษาแปลกๆเดียวกับในวันเพ็นเทคอสต์” “ทูต
สวรรค์ในตอนนั้นมีจริ ง แต่ตอนนี้เป็ นเพียงภาพหลอน” “การอัศจรรย์ในพระคัมภีร์เป็ นการอัศจรรย์จริ ง ๆ แต่ไม่ใช่ของวันนี้ ”
“มีการฟื้ นฟูจริ งเมื่อ 200 ปี ที่แล้ว แต่คุณภาพนั้นกำลังหายไปในวันนี้ ” นักวิจารณ์คิดว่าผูค้ นไม่แม้แต่จะอธิษฐานอย่างที่เคยทำ
และบรรดาชายหญิงที่ยิง่ ใหญ่ที่สุดของพระเจ้าดำเนินชีวิตอยูเ่ มื่อวานนี้ "ในสมัยนั้นมีคนยักษ์อยูบ่ นแผ่นดินโลก แต่คริ สเตียนใน
ตอนนี้ลว้ นเป็ นคนแคระ" ดังที่พระเยซูตรัสว่า “พวกท่ านช่ างมีความเชื่ อน้ อยจริ งๆ ...เราจะต้ องอดกลัน้ กับพวกท่ านนานเพียง
ไร?” (มัทธิว 16:8; 17:17)
เมื่อพระเยซูเสด็จไปที่หลุมฝังศพของลาซารัสและเริ่ มแสดงว่าพระองค์ก ำลังจะทำอะไร โดยบอกให้พวกเขาเอาหิ นที่
ปิ ดปากอุโมงค์ออก มารธาตกใจและร้องทักขึ้นว่า “องค์ พระผู้เป็ นเจ้ า ศพคงจะมีกลิ่นเหม็นแล้ว เพราะว่ าน้ องตายมา 4 วันแล้ ว”
(ยอห์น 11:39) คำตอบของพระองค์ยงั คงดังก้องไปทัว่ หูของเรา สัน่ คลอนการมองโลกในแง่ร้ายที่ไม่ยอมรับของเราเหมือน
ต้อนรับสายฝนในถิ่นทุรกันดารที่ยากลำบากว่า "ถ้าเธอเชื่อ ก็จะได้เห็นความยิง่ ใหญ่ของพระเจ้า!" (ยอห์น 11:40)

แค่สงสัยเท่านั้นและคุณจะไม่เคลื่อนแม้แต่เนินดิน ไม่ตอ้ งคิดถึงภูเขา วันนั้น พระเจ้าแห่งอดีตได้ทรงกระทำการ


อัศจรรย์ที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา นัน่ คือลาซารัสเดินออกมมจากหลุมฝังศพ
พระเจ้าของโมเสสและเอลียาห์ไม่ได้อยูข่ า้ งหลังคุณ แต่อยูข่ า้ งหน้าคุณ! คุณไม่สามารถอัปเดตพระองค์ได้ พระองค์ได้
ทรงนำยุคแห่งราชอาณาจักรมา นัน่ คือยุคของพระวิญญาณบริ สุทธิ์ ข้อความของพระองค์ที่ส่งถึงคุณและผมนั้นดังและชัดเจนว่า
“ใครเชื่ อก็ทำได้ ทุกสิ่ ง” (มาระโก 9:23)

16
พฤษภาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“ถ้าประชากรของเราผูซ้ ่ ึงเขาเรี ยกกันโดยนามของเรานั้นจะถ่อมตัวลง อธิษฐานและแสวงหาหน้าของเรา ทั้งหันเสี ยจากทางชัว่
ของพวกเขา เราก็จะฟังจากสวรรค์ และจะให้อภัยแก่บาปของเขาและจะรักษาแผ่นดินของเขาให้หาย” (2 พงศาวดาร 7:14)
ไฟประจำวัน!
ข้าแต่องค์พระผูเ้ ป็ นเจ้า ขอทรงช่วยให้ขา้ พระองค์ถ่อมตัวลง อธิษฐาน และแสวงหาหน้าของพระองค์ และหันเสี ยจากทางชัว่ ของ
ข้าพระองค์"
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
2 พงศาวดาร 7:14; กิจการ 7:56
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
กันดารวิถี 25;
สดุดี 68
เย็น:
อิสยาห์ 15; 1 เปโตร 3
การฟื้ นฟูอยู่ที่นี่!
ผูค้ นได้รับการเลี้ยงดูมาในคริ สตจักรคาริ สเมติค แต่ยงั คงอธิษฐานสัปดาห์แล้วสัปดาห์เล่า ปี แล้วปี เล่าว่า “องค์พระผู้
เป็ นเจ้า ขอทรงส่ งฤทธิ์อำนาจในอดีตมา? ส่ งมาหรื อ? พระองค์ได้ส่งมาแล้ว! นัน่ คือความหมายของเพ็นเทคอสต์ นัน่ คือพระ
วิญญาณบริ สุทธิ์ ได้เสด็จมา องค์พระผูเ้ ป็ นเจ้าทรงฉี กฟ้ าสวรรค์—พระเยซูเสด็จมาและฉี กมันออกอีกครั้ งเหมือนม่านในพระ
วิหารเมื่อพระองค์เสด็จกลับขึ้นไปหาพระเจ้า เมื่อสเทเฟน คริ สเตียนที่ถูกฆ่าตายเพื่อความเชื่อคนแรกเห็นนิมิตก่อนที่พวกเขาจะ
ขว้างเขาด้วยก้อนหิ น เขากล่าวว่า “นี่แน่ ะ ข้ าพเจ้ าเห็นท้ องฟ้ าแหวกเป็ นช่ อง และเห็นบุตรมนุษย์ ทรงยืนอยู่เบือ้ งขวาพระหั ตถ์
ของพระเจ้ า” (กิจการ 7:56) สรรเสริ ญพระเจ้าที่ ผ้าม่านขาดแล้ว...และไม่มีวิญญาณชัว่ ตนไหนในนรกที่มีเข็มและด้ายใหญ่พอที่
จะเย็บมันขึ้นมาใหม่ได้!
ข้อความในพระคัมภีร์ที่ถูกอ้างบ่อย ๆ เข้ามาในความคิด:ว่า “ถ้ าประชากรของเราผู้ซึ่งเขาเรี ยกกันโดยนามของเรานั้น
จะถ่ อมตัวลง อธิ ษฐานและแสวงหาหน้ าของเรา ทั้งหั นเสี ยจากทางชั่วของพวกเขา เราก็จะฟั งจากสวรรค์ และจะให้ อภัยแก่ บาป
ของเขาและจะรั กษาแผ่ นดินของเขาให้ หาย” (2 พงศาวดาร 7:14) ลำดับมีความสำคัญ มันให้ทิศทางแก่เราสำหรับการฟื้ นฟู
อันดับแรก พวกเราที่เรี ยกตัวเองว่าคริ สเตียนต้องถ่ อมตัวลง ซึ่งหมายความว่าเราต้องตระหนักว่าถ้าปราศจากพระเจ้าแล้ว เราก็ไม่
สามารถทำอะไรได้เลย อันดับที่ 2 เราต้องอธิ ษฐานและแสวงหาหน้ าของพระองค์ ซึ่งหมายความว่าเราไม่ได้ตะโกนใส่ พระเจ้า
ให้ส่งการฟื้ นฟูมา แต่เพียงแค่นมัสการและยกย่องพระองค์ โดยมองเห็นพระองค์อย่างที่พระองค์ทรงเป็ น ไม่ใช่สิ่งที่พระองค์ทรง
ทำ
อันดับที่ 3 หั นออกจากทางชั่วของพวกเขา นี่อาจเป็ นเรื่ องที่ยากที่สุดในบรรดาทั้งหมด สิ่ งนี้กลับไปที่สิ่งที่เราควรให้
ความสำคัญอันดับแรก นัน่ คือการทำให้พระองค์เป็ นที่หนึ่งในชีวิตของเรา จากนั้นเราอ่านว่า “เราก็จะฟั งจากสวรรค์ ” ซึ่ง
หมายความว่ามีการสนทนาระหว่างเรากับพระเจ้า ในที่สุด พระเจ้าตรัสตอบว่า “เราจะจะให้ อภัยแก่ บาปของเขาและจะรั กษา
แผ่ นดินของเขาให้ หาย” ซึ่งเป็ นการเทลงมาเหนือทั้งคนที่เป็ นคริ สเตียนนานแล้วและผูแ้ สวงหาใหม่ การฟื้ นฟูไม่ควรบรรจุอยู่
ภายในกำแพงคริ สตจักรของเรา
จงนำการฟื้ นฟูไปให้คนที่ตอ้ งการ!
17
พฤษภาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“ดังนั้น พี่นอ้ งทั้งหลาย โดยเห็นแก่ความเมตตากรุ ณาของพระเจ้า ข้าพเจ้าจึงวิงวอนท่านทั้งหลายให้ถวายตัวของท่านแด่พระองค์
เพื่อเป็ นเครื่ องบูชาอันบริ สุทธิ์ ที่มีชีวิต และเป็ นที่พอพระทัยพระเจ้า ซึ่งเป็ นการนมัสการโดยวิญญาณจิตของท่าน” (โรม 12:1)
ไฟประจำวัน!
ฉันอยูใ่ นพระคริ สต์ และฉันจะมุ่งเน้นไปที่การทรงนำของพระวิญญาณบริ สุทธิ์
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
เอเสเคียล 10:6; ยอห์น 16:9–11; กิจการ 1:8; โรม 12:1–2; วิวรณ์ 21:1–7
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
กันดารวิถี 26;
สดุดี 69
เย็น:
อิสยาห์ 16; 1 เปโตร 4
มุ่งเน้ นที่พระเจ้ า
ความเกี่ยวข้องเป็ นเรื่ องของตำแหน่งและการเพ่งความสนใจ คุณและผมเกี่ยวข้องกันก็ต่อเมื่อเราเกี่ยวข้องกับสิ่ งที่พระ
วิญญาณบริ สุทธิ์ กำลังทำอยู่ เรามักได้รับคำบอกเล่าว่าพันธกิจของเราต้องมุ่งเน้นที่ยคุ สมัย นี่เป็ นเรื่ องไร้สาระ! เรามุ่งเน้นที่
พระเจ้า เครื่ องจักรแห่งสวรรค์ก ำลังหมุนอยู่ วงล้ออยูใ่ นวงล้อ
เราจะมอบลูกกุญแจต่ างๆ แห่ งแผ่ นดินสวรรค์ ให้ ไว้ แก่ ท่าน สิ่ งใดที่ท่านกล่ าวห้ ามในโลก สิ่ งนั้นก็จะถูกกล่ าวห้ ามใน
สวรรค์ และสิ่ งใดที่ท่านกล่ าวอนุญาตในโลก สิ่ งนั้นก็จะได้ รับอนุญาตในสวรรค์ (มัทธิว 16:19)
มันเป็ นเครื่ องจักรแห่งสวรรค์—ไม่ใช่ของอุตสาหกรรม—ที่เราต้องคำนึงถึง การมุ่งเน้นที่โลกหมายถึงการเปลี่ยนข่าว
ประเสริ ฐของเราไปสู่ วตั ถุนิยมอีกรู ปแบบหนึ่ง—เป็ นอีกวิธีหนึ่งในการกอบโกยเงินและสิ นค้า สิ ่ งที่ท ำให้เราเกี่ยวข้องไม่ใช่เรื่ อง
ว่าข้อความของเราเข้ากับสถานการณ์หรื อไม่ พระคัมภีร์บอกเราว่า “อย่ าลอกเลียนแบบอย่ างคนในยุคนี”้ (โรม 12:2) แต่ไม่วา่
สถานการณ์จะสอดคล้องกับความจริ งของพระคริ สต์หรื อไม่ อันที่จริ ง โลกก็ไม่มีความสำคัญอะไร ถ้าโลกไม่เกี่ยวข้องกับ
พระเจ้า

โลกที่ให้ความสำคัญกับตนเอง เต็มไปด้วยความบาปนี้ ได้ถูกกำหนดให้ผา่ นพ้นไปแล้ว เพื่อถูกแทนที่ดว้ ยระเบียบอัน


สมบูรณ์แบบของพระเจ้า “และข้าพเจ้ าเห็นฟ้ าสวรรค์ ใหม่ และแผ่ นดินโลกใหม่ เพราะว่ าฟ้ าสวรรค์ เดิมและแผ่ นดินโลกเดิมนั้น
หายไปแล้ว ... การเจ็บปวดจะไม่ มีอีกต่ อไป เพราะยุคเดิมนั้นผ่ านไปแล้ ว” (วิวรณ์ 21:1, 4)
คุณและผมจำเป็ นต้องจัดลำดับความสำคัญของเราให้ถูกต้อง เราอาจเข้าสู่ กระแสหลักของการเปิ ดเผยสำแดง นัน่ คือ
ความรักของพระเจ้าที่มีต่อโลกที่เสี ยหาย หรื อเราล่องลอยไปในน้ำนิ่ งที่เต็มไปด้วยเศษซากของการโต้เถียงทางศาสนศาสตร์และ
การเมืองของคริ สตจักร ลำดับความสำคัญของเราต้องเหมือนกับของพระวิญญาณ
ทำไมพระวิญญาณบริ สุทธิ์ จึงอยูท่ ี่นี่? พระวิญญาณบริ สุทธิ์ ได้ถูกประทานให้เราเพื่อทำให้เราเป็ นพยาน และการงาน
ของพระองค์เองคือการเน้นที่พระราชกิจของพระคริ สต์และเปิ ดใช้งานสิ่ งนี้ในชีวิตของมนุษย์ ถ้าคุณต้องการเคลื่อนไหวในพระ
วิญญาณ คุณจำเป็ นต้องทำกิจกรรมแบบนั้นเพราะว่านัน่ คือสิ่ งที่พระองค์ก ำลังทำอยู่!
18
พฤษภาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“พระเจ้าทรงทำให้ปัญญาฝ่ ายโลกเป็ นความโง่แล้วไม่ใช่หรื อ? เพราะตามที่ทรงกำหนดไว้ตามพระสติปัญญาของพระเจ้า โลกไม่
อาจรู้จกั พระเจ้าได้โดยปัญญาของตน พระเจ้าจึงพอพระทัยจะช่วยพวกที่เชื่อให้รอดโดยคำเทศนาโง่ๆ” (1 โคริ นธ์ 1:20–21)
ไฟประจำวัน!
ฉันกล่าวยอมรับด้วยปากของฉันว่าพระเยซูทรงเป็ นองค์พระผูเ้ ป็ นเจ้าและฉันเชื่อในหัวใจของฉันว่าพระเจ้าได้ทรงชุบพระองค์
ให้เป็ นขึ้นมาจากความตาย ฉันรอดแล้ว!
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
สดุดี 46:1; ยอห์น 20:29; โรม 10:9; 1 โคริ นธ์ 1:21; ฮีบรู 11:6;
ยากอบ 2:19
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
กันดารวิถี 27;
สดุดี 70 และ 71
เย็น:
อิสยาห์ 17 และ 18;
1 เปโตร 5
ความเชื่อปักหมุดความหวัง
การเชื่อไม่ใช่แค่เซลล์สมองที่เคลื่อนไหว—ควรมีการตอบสนอง เราทำในสิ่ งที่เราเชื่อหรื อไม่? ถ้าเราเชื่อในเมล็ดพันธุ์
เราก็ปลูกมัน ผูช้ ายที่เป็ นเจ้าของเครื่ องบิน แต่ไม่ยอมเสี่ ยงที่จะบิน มีนิสยั ที่ขดั แย้ง มันจะไม่ท ำให้เขาไปที่ไหนเลย เราอาจเชื่อใน
มิกกี้เมาส์วา่ เป็ นพระเจ้า ผูท้ รงมหิ ทธิฤทธิ์ เช่นกัน ถ้าเราไม่คาดหวังให้เขาทำสิ่ งใดเลย ในจดหมายฝากสั้นๆ ของยากอบ—พี่ชาย
ต่างมารดาของพระเยซู เป็ นคนเที่ยงธรรมและตรงไปตรงมา—พูดอย่างหนักแน่นว่า “ท่ านเชื่ อว่ าพระเจ้ ามีเพียงองค์ เดียว นั่นก็ดี
แม้ พวกผีกเ็ ชื่ อและกลัวจนตัวสั่น” (ยากอบ 2:19) เขาพูดถึงพวกเขาว่าเป็ นพวกรักเงิน ไม่อดทนต่อพระเจ้า และกล่าวว่าความเชื่อ
ที่ไม่ได้มีการกระทำนั้นไม่ใช่ความเชื่อ พระเจ้าไม่ใช่ร่างของทฤษฎีหรื อประวัติศาสตร์ในอดีต แต่เป็ น “ความช่ วยเหลือที่พร้ อม
อยู่” (สดุดี 46:1)

มีคนพูดว่า “ฉันจะเชื่อเมื่อฉันเห็น” ไม่ พวกเขาจะไม่เชื่อ—พวกเขาไม่สามารถเชื่อได้ คุณสามารถเชื่อหรื อมีความเชื่อ


ในสิ่ งที่คุณไม่เห็นเท่านั้น สิ่ งที่คุณเห็นเป็ นข้อเท็จจริ งและไม่ได้ข้ ึนอยูก่ บั การเชื่อ ถ้าคุณสามารถพิสูจน์ได้ ความเชื่อก็ไม่จ ำเป็ น
ไม่มีใครเชื่อว่า 2 + 2 = 4 พวกเขารู้! แต่พระเจ้าต้องการความเชื่อ! “ถ้ าไม่ มีความเชื่ อแล้ว จะไม่ เป็ นที่พอพระทัยเลย” (ฮีบรู 11:6)
“คนที่ไม่ เห็นเราแต่ เชื่ อก็เป็ นสุข” (ยอห์น 20:29) นัน่ คือวิธีที่จะได้รับพระพรจากพระเจ้า ไม่ใช่โดยการฉลาดมากจนคุณไม่เชื่อ
อะไรเลย เว้นแต่วา่ คุณจะสามารถวัดรอบสิ่ งนั้นได้
นี่คือประเด็นของเปาโลเมื่อเขียนถึงชาวโคริ นธ์ เขาคุน้ เคยกับนักคิดผูย้ งิ่ ใหญ่ของกรี ก พวกเขาได้คน้ พบความแน่นอน
ของคณิ ตศาสตร์ เหตุผลใช้ได้กบั ตัวเลข ดังนั้นพวกเขาจึงคิดว่ามันน่าจะใช้ได้กบั ทุกสิ่ งนัน่ คือความหมายของชีวิต พระเจ้า และ
ธุรกิจทั้งหมดของชีวิต พวกเขานำนักคิดไปสู่ เส้นทางที่ผดิ จนถึงทุกวันนี้ ! เปาโลรู้วา่ เกิดอะไรขึ้น และบอกนักคิดผูร้ อบรู้ของ
เมืองโคริ นธ์วา่ “…โลกไม่ อาจรู้ จักพระเจ้ าได้ โดยปั ญญา” (1 โคริ นธ์ 1:21) ความเชื่อเป็ นความสัมพันธ์ส่วนบุคคล ไม่ใช่ความ
สัมพันธ์ทางคณิ ตศาสตร์ระหว่างตัวเลข คุณอาจรู้วา่ พระเจ้าทำอะไรในอดีต แต่คุณต้องไว้วางใจพระองค์สำหรับวันพรุ่ งนี้ ซึ่ง
ไม่มีหลักประกันอะไร
19
พฤษภาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“สิ่ งที่เราได้เห็นและได้ยนิ นั้น เราก็ประกาศให้พวกท่านรู้ดว้ ย เพื่อท่านจะได้มีสามัคคีธรรมกับเรา และเราก็มีสามัคคีธรรมกับ
พระบิดา และกับพระเยซูคริ สต์พระบุตรของพระองค์” (1 ยอห์น 1:3)
ไฟประจำวัน!
องค์พระผูเ้ ป็ นเจ้า ข้าพระองค์เชื่อว่าพระองค์ทรงเป็ นพระคริ สต์ พระบุตรของพระเจ้า ผูท้ รงพระชนม์
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
ยอห์น 1:14; 11:27; 20:29; โคโลสี 1:15; 1 ทิโมธี 1:17; ฮีบรู 11:27; 1 ยอห์น 1:1, 3
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
กันดารถวิถี 28;
สดุดี 72
เย็น:
อิสยาห์ 19 และ 20;
2 เปโตร 1
ตาทีม่ องสิ่ งทีม่ องไม่ เห็น
ความเชื่อเปรี ยบได้กบั ความรัก มันเป็ นเรื่ องหัวใจ เราไม่ได้ตดั สิ นใจที่จะตกหลุมรักหลังจากชัง่ น้ำหนักถึงข้อดีและข้อ
เสี ยทั้งหมดแล้ว คู่รักแต่งงานกันด้วยความไว้วางใจ ไม่ใช่ดว้ ยหลักฐานทางวิทยาศาสตร์หรื อตรรกะที่สรุ ปได้ ความเชื่อคือตาที่
มองสิ่ งที่มองไม่เห็น ตาทางกายภาพไม่ใช่เครื่ องมือในการมองเห็นพระเจ้า พระองค์ทรงเป็ นพระวิญญาณ ตาของมนุษย์อ ่อนแอ
เกินไปที่จะสังเกต “พระเจ้ า ผู้ไม่ ทรงปรากฏแก่ ตา” (โคโลสี 1:15) “พระมหากษัตริ ย์ ผู้ทรงดำรงอยู่นิรันดร์ ผู้เป็ นองค์ อมตะ
และไม่ ทรงปรากฏแก่ ตา” (1 ทิโมธี 1:17) เราต้องปฏิบตั ิต่อพระองค์อย่างที่พระองค์ทรงเป็ น “ผู้ที่จะมาเฝ้ าพระเจ้ านั้น ต้ องเชื่ อว่ า
พระองค์ ทรงดำรงพระชนม์ อยู่ และพระองค์ ทรงเป็ นผู้ประทานบำเหน็จแก่ คนเหล่ านั้นที่แสวงหาพระองค์ ” (ฮีบรู 11:6)
แต่มีวิธีที่ดีกว่าในการมอง ตาสามารถหลอกเราได้ เพลโต นักปรัชญาชาวกรี กที่ยิง่ ใหญ่ที่สุดกล่าวว่า แท้จริ งแล้ว ไม่มี
อะไรที่ดูเหมือนจริ งสำหรับเรา แต่โมเสส “สู้ทนประหนึ่งได้ เห็นพระองค์ ผ้ ไู ม่ ทรงปรากฏแก่ ตา” (ฮีบรู 11:27) ถ้าเราเชื่อแค่สิ่งที่
เราเห็น คนตาบอดจะเชื่ออะไร? คลื่นวิทยุเต็มห้องของคุณ แต่ผใู้ ดจะรู้ถา้ ปราศจากเครื่ องรับ? พระเจ้าเป็ นพระวิญญาณที่มองไม่
เห็น และไม่มีประโยชน์ที่จะโต้เถียงและคาดหวังให้พระเจ้าเป็ นในสิ่ งที่พระองค์ไม่ได้เป็ น เช่นเดียวกับการคาดหวังให้ดวงจันทร์
ทำจากเนยแข็งสี เขียว “คนที่ไม่ เห็นเราแต่ เชื่ อก็เป็ นสุข” (ยอห์น 20:29)—พวกเขาอยูบ่ นเส้นทางแห่งความจริ ง!
การต้องการพระเจ้าที่พวกเขาสามารถมองเห็นได้ท ำให้ผคู้ นหลงผิดอย่างใหญ่หลวง ผูค้ นได้สร้างพระเจ้าตามรู ปลักษณ์
ของพวกเขาเอง ซึ่งพระเจ้าในพระคัมภีร์ไม่ได้เป็ นอย่างแน่นอน! สิ่ งนี้นำไปสู่รูปเคารพ การสร้างรู ปเคารพ และสัญลักษณ์ต่างๆ
ปัจจุบนั บางคนถือว่าแผ่นดินโลกเป็ นสิ่ งที่มีชีวิตเหมือนพระเจ้า พวกเขามีพระเจ้าที่ค่อนข้างใหญ่…แต่พระเจ้าของแผ่นดินโลก
ทั้งใบค่อนข้างใหญ่กว่า นัน่ คือจุดที่ข่าวประเสริ ฐก้าวเข้ามาในรู ปภาพ—พระเจ้าองค์น้ี ปรากฏให้เห็น พระองค์ “ทรงเกิดเป็ น
มนุษย์ และทรงอยู่ท่ามกลางเรา เราเห็นพระสิ ริของพระองค์ คือ พระสิ ริที่สมกับพระบุตรองค์ เดียวของพระบิดา” (ยอห์น 1:14)
ข้อนั้นมาจากพระกิตติคุณของยอห์นซึ่งเกี่ยวกับการเห็น ในบทแรกเพียงอย่างเดียวมีการอ้างอิงเกี่ยวกับการมองเห็น 18 ครั้ง
ยอห์นเขียนเกี่ยวกับการรู้วา่ เหมือนกับการเห็น เขาเขียนจดหมายขึ้นต้นว่า “...ซึ่ งเราได้ ยิน ได้ เห็นกับตา ...พระวาทะแห่ งชี วิต” (1
ยอห์น 1:1) ยอห์นเห็นพระคริ สต์ในฐานะพระวาทะแห่งชีวิต ให้คนอื่นเห็นพระวาทะนั้นในชีวิตของคุณวันนี้ !

20
พฤษภาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“ในผูอ้ ื่นความรอดไม่มีเลย เพราะว่านามอื่นซึ่งให้เราทั้งหลายรอดได้น้ นั ไม่โปรดให้มีท่ามกลางมนุษย์ทวั่ ใต้ฟ้า” (กิจการ 4:12)
ไฟประจำวัน!
พระบิดา ในพระคริ สต์ พระองค์ได้ทรงอวยพรข้าพระองค์ดว้ ยพระพรฝ่ ายวิญญาณทุกประการ ให้ขา้ พระองค์อวยพรซึ่งกันแล
กันในวันนี้ ในพระนามของพระองค์
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
ยอห์น 14:6; กิจการ 4:10–12; เอเฟซัส 1:3–14
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
กันดารวิถี 29;
สดุดี 73
เย็น:
อิสยาห์ 21; 2 เปโตร 2
ฤทธิ์อำนาจแห่ งการเปลีย่ นแปลง
นับตั้งแต่การเป็ นขึ้นมาจากความตายของพระเยซู คลื่นแห่งฤทธิ์อำนาจฝ่ ายวิญญาณได้ถาโถมเข้ามา นำชีวิตใหม่ของ
พระเจ้ามาสู่ ทุกสิ่ งที่สมั ผัส ฤทธิ์ อำนาจแห่งการให้อภัยของพระเจ้าซึ่งทำให้เราเป็ นอิสระ ฤทธิ์ อ ำนาจที่ท ำให้เราสามารถให้อภัยผู้
ที่ท ำร้ายเรา ฤทธิ์ อำนาจที่จะต่อต้านสิ่ งที่เรารู้วา่ ผิด ฤทธิ์ อ ำนาจแห่งพระวิญญาณของพระเจ้าซึ่งนำชีวิตใหม่ของพระเยซูมาให้แก่
เรา ฤทธิ์ อำนาจแห่งความรักของพระเจ้าซึ่งเติมเราด้วยความรักต่อพระองค์และต่อผูอ้ ื่น
สาธุการแด่ พระเจ้ าพระบิดาของพระเยซูคริ สต์ องค์ พระผู้เป็ นเจ้ าของเรา ผู้ประทานพรฝ่ ายจิ ตวิญญาณทุกอย่ างแก่ เราใน
สวรรคสถานโดยพระคริ สต์ ...ในพระเยซูนั้น เราได้ รับการไถ่ โดยพระโลหิ ตของพระองค์ คือได้ รับการยกโทษจากการ
ละเมิดโดยพระคุณอันอุดมของพระเจ้ า...ในพระองค์ นั้นเราได้ รับมรดก” (เอเฟซัส 1:3, 7, 11)
“พรฝ่ ายจิ ตวิญญาณทุกอย่ าง”—ตอนนี้คุณต้องการให้พระพรฝ่ ายวิญญาณประเภทใดทำงานในชีวิตคุณ ไม่วา่ จะเป็ น
อะไรก็ตาม ขอเพียงแค่ระลึกว่าพระพรของพระเจ้าได้ถูกประทานให้แก่เราเพื่ออวยพรเรา แน่นอนว่าเพื่อให้เราเป็ นพระพรแก่ผู้
อื่นด้วย!

เราจะสามารถรู้จกั ฤทธิ์ อำนาจนี้ ดว้ ยตนเองได้อย่างไร? เราจะสามารถค้นพบความรักของพระเจ้าซึ่งสามารถ


เปลี่ยนแปลงชีวิตของเราได้อย่างไร? มีชายเพียงคนเดียวที่กล้าตอบว่า “เราเป็ นทางนั้น เป็ นความจริ ง และเป็ นชี วิต ไม่ มีใครมา
ถึงพระบิดาได้ นอกจากจะมาทางเรา” (ยอห์น 14:6) พระเยซูเป็ นทางเดียวที่บาปของเราจะได้รับการอภัย และความสัมพันธ์ที่ถูก
ต้องของเรากับพระเจ้าพระบิดาได้รับการสถาปนาขึ้นใหม่ การสิ้ นพระชนม์บนไม้กางเขนเป็ นการเสี ยสละครั้งสุ ดท้ายที่จ ำเป็ น
ไม่มีความจำเป็ นใดๆอีกแล้ว การเป็ นขึ้นมาจากความตายเป็ นเครื่ องพิสูจน์ที่แน่นอนว่าพระองค์เป็ นพระบุตรของพระเจ้า พระ
วิญญาณบริ สุทธิ์ ของพระองค์เป็ นวิธีการของเราในการแตะฤทธิ์ อำนาจแห่งการเปลี่ยนแปลงของพระเจ้า จงดำเนินชีวิตในความ
เต็มล้นของฤทธิ์ อำนาจนั้นในวันนี้ !
21
พฤษภาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“เราบอกสิ่ งเหล่านี้กบั พวกท่านแล้ว เพื่อให้ความยินดีของเราอยูใ่ นท่าน และให้ความยินดีของท่านเต็มเปี่ ยม” (ยอห์น 15:11)
ไฟประจำวัน!
ข้าแต่องค์พระผูเ้ ป็ นเจ้า ข้าพระองค์ปรารถนาจะไม่กล่าวให้ร้ายผูใ้ ด แต่ให้เป็ นคนแห่งสันติสุข สุ ภาพ สำแดงความถ่อมใจต่อ
มนุษย์ทุกคนในความรักของพระคริ สต์
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
โยนาห์ 3:1–5; มัทธิว 23:37; ลูกา 4:22; 15:11; 23:34; ยอห์น 7:46; 14:27; 15:11; ทิตสั 3:2; วิวรณ์ 2:1–29; 3:1–22
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
กันดารวิถี 30;
สดุดี 74
เย็น:
อิสยาห์ 22; 2 เปโตร 3
เสี ยงแห่ งความรัก
ผมสงสัยอยูบ่ ่อยครั้งว่าพระเยซูทรงมีพระสุ รเสี ยงอย่างไรเมื่อพระองค์ตรัส ครั้งหนึ่ง พระเยซูป่าวประกาศวิบตั ิ 7
ประการต่อบางเมือง แต่ผมสงสัยว่าน้ำเสี ยงของพระองค์เป็ นอย่างไร ผมจินตนาการว่าพระเยซูตรัสคำตัดสิ นเหล่านั้นด้วยน้ำเสี ยง
ที่เศร้าโศก ความรักใดที่เต็มพระสุ รเสี ยงของพระองค์ น้ำตาที่คลอพระเนตรของพระองค์ แม้เมื่อพระองค์เสด็จไปเยรู ซาเล็มเพื่อ
ถูกปฏิเสธ! หัวใจของพระองค์จะแสดงออกมาในน้ำเสี ยงของพระองค์ คนที่ได้รับสิ ทธิพเิ ศษเหล่านั้นได้ยินเสี ยงแบบไหน?
พระกิตติคุณของลูกาบันทึกว่าพวกเขา “ประหลาดใจในถ้ อยคำที่ประกอบด้ วยพระคุณซึ่ งพระองค์ ตรั ส” (ลูกา 4:22)
ตำรวจพระวิหารถูกส่ งไปจับพระเยซู—พวกเขากลับมาในสภาพมึนงงและปลดอาวุธ พระเยซูมีเสี ยงอย่างไรเมื่อพระองค์ร้องว่า
“พระบิดาเจ้ าข้า ขอทรงยกโทษพวกเขาเพราะเขาไม่ ร้ ู ว่ากำลังทำอะไร” (ลูกา 23:34)?

ดี. แอล. มูด้ ี ครั้งหนึ่งเคยพูดในลอนดอน ประเทศอังกฤษ ต่อผูฟ้ ังที่ได้รับเชิญซึ่งเป็ นการประชุมของคนประมาณ 1 พัน


ของ "คนที่รักเหตุผล" การประชุมนี้ เป็ นปฏิปักษ์อย่างรุ นแรง แต่มูด้ ีสะอื้นไห้อย่างแท้จริ ง น้ำตาของเขาไหลลงมาตามเครา ขณะ
ที่เขาวิงวอนให้พวกเขาหันกลับมาหาพระคริ สต์ ทันใดนั้นการประชุมก็หยุดลงและหลายร้อยคนหันมาหาพระคริ สต์ คนเหล่านั้น
ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
ผมไม่ได้หมายความว่าข่าวประเสริ ฐควรจะกลายเป็ นเรื่ องร้องไห้ บีบน้ำตา เสี ยงของพระเยซูเป็ นมากกว่าการปลุกเร้า
อารมณ์ของผูค้ น — ปฏิกิริยาของพวกเขาไม่ใช่น้ำตา แต่เป็ นความชื่นชมยินดี พระองค์ตรัสกับเหล่าสาวกของพระองค์วา่
พระองค์ตรัสเพื่อให้พวกเขามีสนั ติสุขและความชื่นชมยินดี อันที่จริ ง ไม่มีสิ่งที่น่าสมเพชในคำพูดหรื อคำสอนของพระเยซู ไม่มี
อะไรที่คนทุกวันนี้ จะเรี ยกว่า "อารมณ์อ่อนไหวเนื่องจากปากหวาน" เสี ยงข่าวประเสริ ฐควรเป็ นเสี ยงแห่งชัยชนะ แน่นอน ด้วย
เสี ยงแห่งความยินดี!
แน่นอนว่านี่ยงั ห่างไกลจาก—และตรงกันข้ามกับ—เสี ยงเตือนของโยนาห์ในเมืองนี นะเวห์ที่ตอ้ งพินาศ แต่พระคุณและ
ความจริ งปรากฏโดยทางพระเยซูคริ สต์ ไม่มีกริ่ งไหนดังเท่าความรัก คุณและผมควรพูดด้วยถ้อยคำแห่งความรักเหมือนพระ
คริ สต์เสมอ
22
พฤษภาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“เพราะว่าค่าจ้างของบาปคือความตาย แต่ของประทานจากพระเจ้าคือชีวิตนิรันดร์ ในพระเยซูคริ สต์องค์พระผูเ้ ป็ นเจ้าของเรา”
(โรม 6:23)
ไฟประจำวัน!
ฉันได้เลือกรับของประทานแห่งความรอด
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
ปฐมกาล 3:1–24; โรม 6:23
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
กันดารวิถี 31; สดุดี 75 และ 76
เย็น:
อิสยาห์ 23; 1 ยอห์น 1
บาปเกิดขึน้ ได้ อย่ างไร
เมื่อพระเจ้าให้อาดัมและเอวาอยูใ่ นสวนเอเดนเป็ นครั้งแรก พวกเขาไม่รู้จกั บาป เมื่อซาตานล่อลวงเอวา และเธอยอม
จำนน เธอมี “ความรู้ถึงความดีและความชัว่ ” (ปฐมกาล 2:17) ซึ่งเปิ ดประตูไปสู่ บาป บาปคือการทำชัว่ ในสายพระเนตรของ
พระเจ้าหรื อแยกตัวออกจากพระเจ้า แต่โอกาสในการทำความดีกม็ ีเช่นกัน อาดัมและเอวาถูกสาปแช่งในสวนเนื่องจากบาป—นัน่
คือเมื่อความตาย ความเจ็บปวด และความเจ็บป่ วยเกิดขึ้น—และพระเจ้าเองตรัสว่า: “ดูสิ มนุษย์กลายเป็ นเหมือนผูห้ นึ่งในพวกเรา
แล้ว โดยที่รู้ความดีและความชัว่ บัดนี้ อย่าปล่อยให้เขายืน่ มือไปหยิบผลจากต้นไม้แห่งชีวิตมากินด้วย แล้วมีอายุยนื ชัว่ นิรันดร์”
เพราะฉะนั้นพระยาห์เวห์พระเจ้าจึงทรงไล่เขาออกไปจากสวนเอเดน (ปฐมกาล 3:22–23)
เพราะว่าตอนนี้มนุษย์อยูใ่ นสภาพบาป เขาไม่สามารถมีชีวิตตลอดไปแบบนั้นได้ ลองจินตนาการถึงชัว่ นิรันดร์อนั น่า
สยดสยองเต็มไปด้วยความบาป! เป็ นการตัดสิ นใจของพระเจ้าที่จะละเว้นมนุษย์จากการแยกจากพระองค์เองอย่างไม่สิ้นสุ ด แต่
พระองค์กท็ รงทราบเช่นกันว่าจะมีราคาที่ตอ้ งจ่ายอย่างสาหัสเพื่อซ่อมแซมช่องว่างนั้น นัน่ คือชีวิตของพระบุตรองค์เดียวของ
พระองค์

มนุษย์ทุกคนถูกสร้างขึ้นตามพระฉายาของพระเจ้า และภายในมนุษย์ทุกคนมีสถานที่ที่ถูกสร้างขึ้ นเพื่อพระเจ้าเท่านั้น


หลายคนใช้เวลาทั้งชีวิตเพื่อพยายามจัดสิ่ งอื่นๆ ให้เข้ากับพื้นที่ที่มีรูปร่ างเหมือนพระเจ้า มีเพียงผูเ้ ดียวที่จะเหมาะสมกับที่นนั่ นัน่
คือพระเยซูคริ สต์ องค์พระผูเ้ ป็ นเจ้าและพระผูช้ ่วยให้รอดของเรา “เพราะว่ าค่ าจ้ างของบาปคือความตาย แต่ ของประทานจาก
พระเจ้ าคือชี วิตนิรันดร์ ในพระเยซูคริ สต์ องค์ พระผู้เป็ นเจ้ าของเรา” (โรม 6:23) ในการยอมรับหรื อปฏิเสธของประทานแห่งความ
รอด—ที่ไม่สามารถถูกตัดสิ นใจได้โดยพ่อแม่ที่รัก หรื อออกกฎหมายโดยคริ สตจักร รัฐบาล หรื อสังคม—จะต้องถูกเลือกและ
ปฏิบตั ิตามเป็ นรายบุคคล
คือว่ าถ้ าท่ านจะยอมรั บด้ วยปากของท่ านว่ าพระเยซูทรงเป็ นองค์ พระผู้เป็ นเจ้ า และเชื่ อในใจว่ า พระเจ้ าได้ ทรงให้ พระ
องค์ เป็ นขึน้ มาจากความตาย ท่ านจะรอด เพราะว่ าการเชื่ อด้ วยใจก็น ำไปสู่ความชอบธรรม และการยอมรั บด้ วยปากก็
นำไปสู่ความรอด (โรม 10:9–10)
คุณสามารถแสดงออกภายนอกถึงสิ่ งที่ดูเหมือนจะเป็ นการดำเนินชีวิตตามแนวทางของพระเจ้า แต่ส่ิ งที่คุณเชื่อในส่ วน
ลึกในหัวใจของคุณต่างหากที่สร้างความแตกต่างทั้งหมด
23
พฤษภาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“ข้าแต่พระยาห์เวห์ ขอทรงสอนพระมรรคาของพระองค์แก่ขา้ พระองค์ เพื่อข้าพระองค์จะดำเนินในความจริ งของพระองค์ ขอ
ทรงรวมใจของข้าพระองค์เป็ นใจเดียว ให้ย ำเกรงพระนามของพระองค์” (สดุดี 86:11)
ไฟประจำวัน!
ครอบครัวของฉันจะทำตามแบบอย่างของฉันมากกว่าคำพูดของฉัน ดังนั้นฉันจะพยายามดำเนินชีวิตด้วยพระคำของพระองค์
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
2 ซามูเอล 18:33; สดุดี 86:1–17
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
กันดารวิถี 32;
สดุดี 77
เย็น:
อิสยาห์ 24; 1 ยอห์น 2
ครอบครัวที่เชื่อพระเจ้ า
ไม่ใช่วา่ ผูช้ ายที่เชื่อพระเจ้าทุกคนในพระคัมภีร์จะมีลูกที่เชื่อพระเจ้า มหาปุโรหิ ตเอลีและผูเ้ ผยพระวจนะซามูเอลเป็ น
ตัวอย่างที่ชดั เจนในเรื่ องนี้ แต่บางทีตวั อย่างที่สำคัญที่สุดของความจริ งที่น่าเศร้านี้ อาจพบได้ในชีวิตของกษัตริ ยด์ าวิด ซึ่งเป็ น
บุคคลในประวัติศาสตร์ที่ยิง่ ใหญ่ที่สุดของอิสราเอล อับซาโลม บุตรชายคนหนึ่งของเขา สังหารอัมโนน พี่ชายของเขา ด้วยข้อหา
ข่มขืนและร่ วมประเวณี ระหว่างพี่นอ้ งกับทามาร์ น้องสาวของเขา จากเหตุการณ์ที่ชวั่ ร้ายนี้ กม็ ีเหตุการณ์ที่ชวั่ ร้ายผุดขึ้นมาอีก อับ
ซาโลมที่เอาแต่ใจพยายามแย่งชิงบัลลังก์จากดาวิด ส่ งผลให้เสี ยชีวิตในสงครามกลางเมืองที่เขาเริ่ มขึ้น กษัตริ ยด์ าวิดทรงทราบ
ข่าวว่ายังมีพระโอรสอีกองค์หนึ่งถูกฆ่าเนื่องจากการพยายามขึ้นครองราชย์อย่างผิดกฎหมาย โศกนาฏกรรมตามมาด้วย
โศกนาฏกรรม… กระนั้น ดาวิดก็เป็ นคนที่ท ำตามหัวใจของพระเจ้า!
เมื่อข่าวไปถึงดาวิดว่าอับซาโลมถูกฆ่าตายแล้ว เขาก็นงั่ ร้องไห้อยูเ่ งียบๆ และร้องเสี ยงดังว่า “โอ อับซาโลมบุตรของเรา
บุตรของเรา อับซาโลมบุตรของเราเอ๋ ย เราเองอยากจะตายแทนเจ้ า โอ อับซาโลมบุตรของเรา บุตรของเรา!” (2 ซามูเอล 18:33)
ดาวิดมองเห็นตัวเองในตัวลูกชาย ตัวเขาเองทรยศ ฆ่าคนที่ซื่อสัตย์และเป็ นคนดี และขโมยภรรยาที่สวยงามและเป็ นรักของเขา
เขาเขียนสดุดีแสดงถึงการกลับใจต่อหน้าสาธารณชน แต่เขาได้วางตัวอย่างที่ไม่ชอบธรรมซึ่งอับซาโลมทำตาม ความน่าสมเพช
ของดาวิดสะท้อนมาจนถึงวันนี้ วา่ “เราเองอยากจะตายแทนเจ้ า” เนื่องจากโทษอยูท่ ี่ตวั เขาเอง ลักษณะนิสยั ที่ซบั ซ้อนของดาวิด
ได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีพลังในทัศนคติของครอบครัว พวกเขาจำเป็ นต้องเปิ ดรับธรรมบัญญัติ พระคำของพระเจ้า ตามที่
พระองค์ทรงบัญชามากขึ้น
การอธิษฐานร่ วมกับครอบครัวของเรานั้นยังไม่เพียงพอ วิธีและวิธีการของพระเจ้าคือการแบ่งปันพระคำของพระเจ้า
มันพูดดังกว่าคำพยาน พระเจ้าทรงอยูฝ่ ่ ายเราเมื่อเราเริ่ มสร้างครอบครัวที่เชื่อพระเจ้า และครอบครัวของครอบครัว เรากำลังช่วย
สร้างครอบครัวของพระเจ้าเพื่อให้แผ่นดินโลกทั้งใบได้รับการอวยพร นี่คือจุดเน้นและแนวทางของพระองค์ ให้เราพยายามทุก
วิถีทางเพื่อสร้างแท่นบูชาของครอบครัวที่ได้ถูกทำลายไปขึ้นมาใหม่ในวันนี้ !

24
พฤษภาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“ข้าพเจ้าคาดหมายและหวังอย่างกระตือรื อร้นว่าจะไม่ได้รับความละอายใดๆ เลย แต่จะมีความกล้าหาญอย่างเพียงพอ พระคริ สต์
จะทรงได้รับการยกย่องสรรเสริ ญในร่ างกายของข้าพเจ้าในเวลานี้ ดงั เช่นที่เคยได้ตลอดมา ไม่วา่ จะโดยชีวิตหรื อความตาย” (ฟิ ลิป
ปี 1:20 ฉบับ niv)
ไฟประจำวัน!
พระเยซูได้เพิ่ม 1 ที่เปี่ ยมไปด้วยพระสิ ริของพระองค์ให้แก่สภาพที่ต ่ำต้อยเป็ น 0 ของฉัน และตอนนี้ เราเป็ น 10 ที่สมบูรณ์แบบ!
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
1 โคริ นธ์ 1:28; ฟิ ลิปปี 1:8
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
กันดารวิถี 33; สดุดี 78:1–37
เย็น:
อิสยาห์ 25; 1 ยอห์น 3
จาก 0 ถึง 10
ตลอดพันธสัญญาเดิม วิธีการของพระเจ้าที่พระเจ้าทรงเลือกผูน้ ำแห่งประชากรของพระองค์ คือ การเลือกคนที่ไม่
สำคัญ ถูกปฏิเสธ “พระเจ้ าได้ ทรงเลือกพวกที่โลกถือว่ าต่ำต้ อยและดูหมิ่น และเห็นว่ าไม่ สำคัญ เพื่อทำลายสิ่ งซึ่ งโลกเห็นว่ าสำ
คัญ” (1 โคริ นธ์ 1:28) พระเยซูทรงอธิษฐาน…และกลับมาเพื่อเลือกคนที่ไม่น่าจะเป็ นอัครทูตมากที่สุด เกือบทุกคน! พระองค์พบ
ชายหนุ่มที่ไม่มีคุณสมบัติใดๆ เลย นอกเหนือไปจากลักษณะนิสยั ของมนุษย์ เช่น เปโตรผูใ้ จร้อน…อันดรู ว ์ น้องชายผูเ้ งียบขรึ ม
ของเขา… ยากอบและยอห์น บุตรชายหัวร้อนของเศเบดี…โธมัสเจ้าเหตุผล… ฟิ ลิปผูเ้ ข้ากับคนง่าย…และหัวขโมยยูดาส
เมื่อพระเจ้าทรงเลือก ไม่สำคัญว่าเราเป็ นอะไร สิ่ งที่สำคัญคือสิ่ งที่พระองค์ทรงสร้างเราให้เป็ น พระองค์เลือกกลุ่มผูช้ าย
ท้องถิ่นที่ไม่น่าเป็ นไปได้ 1 หรื อ 2 คนถูกเลือกเนื่องจากเป็ นญาติกนั นัน่ คือยากอบและยอห์นเป็ นบุตรของซาโลเม ซึ่งเชื่อว่าเป็ น
น้องสาวของมารี ย ์ แม่ของพระเยซู พวกเขารู้จกั พระองค์มาโดยตลอด พระเยซูทรงเดินเล่นไปตามชายหาด ซึ่งชาวประมงพื้นบ้าน
อยูท่ ี่นนั่ และเรี ยกพวกเขา ดูราวกับว่าพระองค์เลือกเด็กหนุ่มแรก ๆ ที่พระองค์พบในเช้าวันนั้น

เมื่อผูค้ นไม่ประสบความสำเร็ จในเยอรมัน ผูท้ ี่ลม้ เหลวอย่างต่อเนื่องในชีวิตประจำวัน เราเรี ยกพวกเขาว่า "ศูนย์" แต่คน
เหล่านี้คือผูท้ ี่พระเจ้าสนใจเป็ นพิเศษ! เมื่อพระเยซูเรี ยกศูนย์ และศูนย์ตอบสนอง อีกไม่นานเขาหรื อเธอจะพบว่าองค์พระผูเ้ ป็ น
เจ้าทรงเป็ นหมายเลข 1 …และเลข 0 อยูห่ ลังเลข 1 เท่ากับ 10! กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ พระเยซูทรงให้คุณค่ากับ 0 ทุกคนตราบเท่าที่
พระองค์ทรงเป็ นหมายเลข 1 ! คนไร้ค่ากลายเป็ นคนมีคุณค่ามาก นี่คือวิธีที่พระเจ้าสร้างราชอาณาจักรของพระองค์สาวกกลุ่ม
แรกก็เป็ นเช่นนั้น...และก็เป็ นเช่นทุกวันนี้ ผมอ้างนี่ในฐาะคำพยานของผมเองเช่นกัน… และคุณก็ควรทำเช่นกัน! จงตรวจสอบ
ให้แน่ใจว่าพระเยซูคริ สต์เป็ นที่ 1 ในชีวิตของคุณวันนี้ !
25
พฤษภาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“พวกเขาทั้งหมดก็เต็มเปี่ ยมด้วยพระวิญญาณบริ สุทธิ์ จึงเริ่ มต้นพูดภาษาอื่นๆ ตามที่พระวิญญาณทรงให้พดู ” (กิจการ 2:4)
ไฟประจำวัน!
องค์พระผูเ้ ป็ นเจ้า ขอทรงโปรดทำให้ขา้ พระองค์กล้าหาญที่จะพูดจากหัวใจของข้าพระองค์ทุกวันถึงสิ่ งที่พระองค์ได้ทรงทำเพื่อ
ข้าพระองค์
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
กิจการ 2:1–32
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
กันดารวิถี 34;
สดุดี 78:38
เย็น:
อิสยาห์ 26; 1 ยอห์น 4
พยานไม่ ใช่ ทนายความ
กลายเป็ นแนวปฏิบตั ิที่นกั เทศน์ควรเสนอคดีเพื่อปกป้ องพระเยซูคริ สต์ มีการกล่าวด้วยว่านักเทศน์เป็ นเหมือน
ทนายความในศาล ผูร้ ับใช้ควรเป็ นเหมือนนักกฎหมายที่พดู คุยกับที่ประชุมประหนึ่งคุยกับคณะลูกขุน โต้เถียงเพื่อให้ได้รับคำ
ตัดสิ นที่เป็ นประโยชน์แก่พระเยซู วิธีการนั้นดูถูกต้อง น่าเชื่อถือ และสมเหตุสมผล แต่มนั ใช่หรื อ? ไม่ ไม่เลย! นัน่ คือวิธีการแบบ
มนุษย์ของเรา โดยการพยายามถ่ายทอดข้อความของข่าวประเสิ รฐด้วยปัญญาแห่งถ้อยคำ
พระเยซูไม่จ ำเป็ นต้องได้รับการปกป้ อง เวลาเมื่อพระเยซูถูกลากไปที่คอกพยานในกรุ งโรมเพื่อให้ปีลาตตัดสิ นได้ผ า่ น
พ้นไปแล้ว วันนี้ ปีลาตยืนอยูท่ ี่คอกพยานแห่งประวัติศาสตร์ และพระเยซูเป็ นผูพ้ ิพากษาของเขา เราไม่ใช่ทนายความ แต่เป็ น
พยาน! โดยปกติแล้วพยานจะอธิบายเฉพาะสิ่ งที่เขาหรื อเธอได้เห็นเท่านั้น อย่างไรก็ตาม บางครั้งพยานก็เป็ นหลักฐานชิ้นหนึ่ง
บางทีชายคนหนึ่งอาจถูกทำร้ายอย่างโหดร้ายและได้รับบาดเจ็บ เขาปรากฏตัวในศาลเพื่อสำแดงตัว ความเสี ยหาย และการบาด
เจ็บ อาการบาดเจ็บของเขาพูดเพื่อตัวเอง ตัวเขาเองเป็ นหลักฐานชิ ้นหนึ่ง

เราผูเ้ ชื่อไม่ใช่ทนายความที่วิงวอนแก้ต่างให้พระเยซู เราเป็ นพยาน พยานไม่โต้เถียง วิงวอน หรื อปราศรัย พวกเขาเพียง


แค่พดู ความจริ งโดยระบุสิ่งที่พวกเขารู้ เมื่อเปโตรเทศนาในวันเพ็นเทคอสต์ เขากล่าวว่า 119 คนที่ยนื อยูก่ บั เขาล้วนเป็ นพยานถึง
การเป็ นขึ้นมาจากความตาย อันที่จริ ง ไม่มีผใู้ ดในพวกเขาที่ได้เห็นการเป็ นขึ้นมาจากความตายของพระคริ สต์จริ งๆ แต่การเป็ น
ขึ้นจากตายนั้นได้เปลี่ยนแปลงพวกเขา พวกเขามีชีวิตด้วยชีวิตแห่งการเป็ นขึ้นมาจากความตาย ซึ่งเต็มไปด้วยไฟของพระเจ้า
พวกเขาเป็ นหลักฐานว่าพระเยซูยงั ทรงพระชนม์อยู!่ ถ้าพระเยซูยงั สิ้ นพระชนม์อยู่ พวกเขาก็คงไม่เป็ นเหมือนอย่างที่ฝงู ชนเห็น
พวกเขา พวกเขาจะเป็ นเหมือนเมื่อก่อนนัน่ คือหดหนี แอบย่องเข้าไปในห้องนิรภัยที่ปิดล็อกด้วยความกลัว ตอนนี้ พวกเขาไม่มี
ความกลัวแล้ว และถึงคราวที่ฝงู ชนจะต้องหวาดกลัว นัน่ คือเต็มไปด้วยความกลัวและความเกรงขาม
จงแน่ใจว่าวันนี้ คุณมีหลักฐานแห่งการเป็ นขึ้นมาจากความตายอยูใ่ นตัวคุณแล้ว!
26
พฤษภาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“เราจะทูลขอพระบิดา และพระองค์จะประทานผูช้ ่วยอีกผูห้ นึ่งให้กบั พวกท่าน เพื่อจะอยูก่ บั ท่านตลอดไป คือพระวิญญาณแห่ง
ความจริ งซึ่งโลกรับไว้ไม่ได้ เพราะมองไม่เห็นและไม่รู้จกั พระองค์ พวกท่านรู้จกั พระองค์เพราะพระองค์สถิตอยูก่ บั ท่าน และจะ
ประทับอยูท่ ่ามกลางท่าน” (ยอห์น 14:16–17)
ไฟประจำวัน!
พระวิญญาณบริ สุทธิ์ คือพระเจ้า และพระองค์ทรงเป็ นผูช้ ่วยของฉัน!
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
ปฐมกาล 1:2; อพยพ 3:14; ยอห์น 14:12, 16–17
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
กันดารวิถี 35;
สดุดี 79
เย็น:
อิสยาห์ 27; 1 ยอห์น 5
ของขวัญ 2 ชิ้น
พระบิดาประทานของขวัญให้แก่เ ราทุกคน 2 ชิ้น อย่างเท่าเทียมกัน ประการแรก พระองค์ประทานพระบุตรของ
พระองค์ให้แก่เรา...และหลังจากนั้นประทานพระวิญญาณของพระองค์ให้แก่เรา พระเยซูทรงจัดอันดับพระวิญญาณควบคู่ไปกับ
พระองค์เอง โดยอธิบายว่าพระองค์เป็ น “ผู้ช่วยอีกผู้หนึ่ง” พระองค์ตรัสว่าเป็ นการที่พระวิญญาณจะเสด็จมาดีกว่าการที่พระองค์
เองจะอยูก่ บั เราในเนื้ อหนัง หน้าที่ของพระวิญญาณบริ สุทธิ์ คือการสานต่องานพันธกิจของพระคริ สต์บนแผ่นดินโลก ยกตัวอย่าง
เช่น พระเยซูทรงรักษาคนป่ วย และพระวิญญาณบริ สุทธิ์ ทรงดำเนินตามแบบแผนของพระคริ สต์
เราบอกความจริ งกับพวกท่ านว่ า คนที่วางใจในเราจะทำกิจการที่เราทำนั้นด้ วย และเขาจะทำกิจที่ยิ่งใหญ่ กว่ านั้นอีก
เพราะว่ าเราจะไปหาพระบิดาของเรา ... เราจะทูลขอพระบิดา และพระองค์ จะประทานผู้ช่วยอีกผู้หนึ่งให้ กับพวกท่ าน
เพื่อจะอยู่กับท่ านตลอดไป คือพระวิญญาณแห่ งความจริ งซึ่ งโลกรั บไว้ ไม่ ได้ เพราะมองไม่ เห็นและไม่ ร้ ู จักพระองค์
พวกท่ านรู้ จักพระองค์ เพราะพระองค์ สถิตอยู่กับท่ าน และจะประทับอยู่ท่ามกลางท่ าน (ยอห์ น 14:12, 16–17)

เราจะรู้ได้อย่างไรว่าพระวิญญาณคือใคร? พระวิญญาณบริ สุทธิ์ คือบุคคลที่ 3 ในตรี เอกานุภาพ เป็ นพระเจ้าผูท้ รงกระทำ


สิ่ งต่างๆ เมื่อใดก็ตามที่มีการดำเนินการเหนื อธรรมชาติ สิ่ งเหล่านั้นจะกระทำโดยพระวิญญาณ การสำแดงของพระเจ้าทั้งหมด
เช่น ของประทาน มาจากพระวิญญาณเสมอ เมื่อพระเจ้าเคลื่อนมาบนโลกในปฐมกาล ก็เป็ นไปโดยพระวิญญาณของพระองค์ น้ำ
พระทัยของพระบิดาถูกพูดโดยพระคำ และกระทำโดยพระวิญญาณ พระองค์ลงมือทำตามน้ำพระทัยของพระเจ้าทั้ง 3 พระภาค
พระวิญญาณองค์เดียวที่พระเยซูสญ ั ญากับเราคือพระวิญญาณที่อศั จรรย์ นัน่ คือพระวิญญาณบริ สุทธิ์ ไม่มีพระวิญญาณ
บริ สุทธิ์ ที่ไม่อศั จรรย์ การอ้างสิ ทธิ์ ครอบครองพระวิญญาณบริ สุทธิ์ และปฏิเสธงานที่ท ำให้พระองค์โดดเด่นมาโดยตลอดมีแต่จะ
ทำให้พระองค์เสี ยพระทัย พระองค์คือผูท้ ี่เริ่ มต้นด้วยการอัศจรรย์ทางกายภาพอันสูงสุ ดของการสร้างโลก พระองค์ไม่ได้เปลี่ยน
ธรรมชาติของพระองค์ สิ่ งที่พระองค์เคยเป็ น พระองค์ทรงเป็ น และจะเป็ นตลอดไป นัน่ คือพระเจ้าผูท้ รงปฏิบตั ิการในแผ่นดิน
โลกนี้ “เราเป็ นผู้ซึ่งเราเป็ น” (อพยพ 3:14) พระวิญญาณบริ สุทธิ์ ผูท้ รงสร้างโลกอย่างเหนือธรรมชาติไม่น่าจะมีปัญหาในการ
ดำเนินการเหนือธรรมชาติต่อไป และพระวิญญาณบริ สุทธิ์ น้ นั เป็ นผูช้ ่วยของคุณในวันนี้ !
27
พฤษภาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“เรามาเพื่อพวกเขาจะได้ชีวิตและจะได้อย่างครบบริ บูรณ์” (ยอห์น 10:10)
ไฟประจำวัน!
พระเยซูคริ สต์ทรงทำให้ฉนั รู้จกั เส้นทางแห่งชีวิตที่แท้จริ ง
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
ปฐมกาล 2:18; สดุดี 16:11; กิจการ 2:28; มาระโก 12:37
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
กันดารวิถี 36;
สดุดี 80
เย็น:
อิสยาห์ 28; 2 ยอห์น 1
เมื่อพระเยซูเสด็จมา
พระเจ้าตรัสว่า “การที่ชายผู้นีจ้ ะอยู่แต่ ล ำพังนั้นไม่ ดี” (ปฐมกาล 2:18) ดังนั้น พระเยซูจึงเสด็จมาเป็ นเพื่อนมนุษย์ที่
เลียนแบบไม่ได้ การเสด็จมาของพระองค์เป็ นเหมือนแสงแห่งรุ่ งอรุ ณในวันแรกแห่งการสร้าง มนุษย์มาและไป แต่พระเยซูคงอยู่
ตลอดไป ดวงดาวนับไม่ถว้ นปรากฏขึ้นบนท้องฟ้ า แต่ดวงอาทิตย์ข้ ึนบดบังดวงดาวทั้งหมด
ชีวิตที่ไม่มีคนอื่น คนที่รัก และเพื่อน ๆ นั้นไม่สมบูรณ์ การครอบครองและความอิ่มเอมใจจะไม่มีทางเพลิดเพลินได้
อย่างเหมาะสม ถ้าปราศจากการคบหาสมาคม แต่แม้แต่เพื่อนที่ดีที่สุดก็เป็ นเพียงภาพสะท้อนของมิตรภาพของพระเจ้าเท่านั้น
“พระองค์ จะทรงให้ ข้าพระองค์ ร้ ู จักทางแห่ งชี วิต แล้วพระองค์ จะทรงให้ ข้าพระองค์ มีความยินดีเต็มเปี่ ยมด้ วยการสถิตของพระ
องค์ ’” (กิจการ 2:28) พระเยซูเสด็จมาในแผ่นดินโลกเพื่อเป็ นของขวัญ เป็ นเพื่อนกับทุกคน “[มหาชน] ต่ างฟั งพระองค์ ด้วย
ความยินดี” (มาระโก 12:37)
การเสด็จมาของพระเยซูไม่เคยถูกลืม แต่การเสด็จออกไปจากโลกนี้ ของพระองค์ฝังลึกอยูใ่ นความทรงจำของโลก
มากกว่าการเสด็จมาของพระองค์ มุมมองสุ ดท้ายเกี่ยวกับพระองค์บนแผ่นดินโลกนี้ คือพระหัตถ์ที่เหยียดออกกว้างบนไม้กางเขน
ราวกับจะโอบเราไว้ในอ้อมกอดของพระองค์ พระเจ้าตรัสกับอิสราเอลว่า “ตลอดทั้งวัน เรายื่นมือต้ อนรั บชนชาติซึ่งไม่ เชื่ อฟั ง
และดือ้ รั้ น” (โรม 10:21 อ้างถึงอิสยาห์ 65:2) และพระเยซูคริ สต์ทรงเป็ นภาพที่มีชีวิตแม้ในขณะที่สิ้นพระชนม์
การตายของพระองค์เป็ นข้อเท็จจริ งเกี่ยวกับเผ่าพันธุ์มนุษย์ นับเป็ นเหตุการณ์ส ำคัญครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ของ
มนุษย์ ไม้กางเขนของพระองค์เป็ นวัตถุที่มนุษย์สร้างขึ้ นอันดับหนึ่งของโลก!
ทั้งหมดนี้ คือเนื้ อหาในข่าวประเสริ ฐ นัน่ คือผูเ้ ป็ นอมตะยอมจำนนต่อความเป็ นมตะ บุตรของพระเจ้าสิ้ นพระชนม์ใน
ฐานะบุตรมนุษย์ และชัยชนะอย่างลับๆ ที่ด ำเนินผ่านเหตุการณ์ท้ งั หมดนี้ ไปสู่ผลสื บเนื่องของความหวังในการเป็ นขึ้นมาจาก
ความตาย ฮาเลลูยา!

28
พฤษภาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“อย่าเข้าไปในวิถีของคนอธรรม และอย่าเดินในทางของคนชัว่ จงหลีกเสี ย อย่าเดินบนนั้น เลี้ยวออกไปเสี ย และจงผ่านไป”
(สุ ภาษิต 4:14–15)
ไฟประจำวัน!
ฉันกลับใจและเชื่อในข่าวประเสริ ฐ พระคริ สต์ในฉัน ความหวังแห่งพระสิ ริ (ดู โคโลสี 1:27)
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
สุ ภาษิต 4:14–15; มาระโก 1:15; โรม 10:13
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
เฉลยธรรมบัญญัติ 1; สดุดี 81 และ 82
เย็น:
อิสยาห์ 29; 3 ยอห์น 1
กลายเป็ นลูกของพระเจ้ า
ถ้าคุณพร้อมที่จะมาที่ไม้กางเขนเพื่อขอความช่วยเหลือที่คุณต้องการ มี 2 ขั้นตอนที่คุณต้องทำตอนนี้ ขั้นตอนเหล่านี้
เรี ยกว่า “กลับใจ” และ "เชื่อ" ดังที่พระเยซูตรัสว่า “จงกลับใจใหม่ และเชื่ อข่าวประเสริ ฐ” (มาระโก 1:15) 2 ขั้นตอนนี้
หมายความว่าอย่างไร ?
กลับใจ: หมายความง่ายๆ ว่า “เปลี่ยนความคิด” ลองนึกภาพว่า คุณกำลังเดินทาง และคุณเลี้ยวผิด คุณกำลังขับรถไกล
ขึ้นเรื่ อยๆ จากที่ที่คุณต้องการไป คุณจำเป็ นต้องหยุด หันหลังกลับอย่างสมบูรณ์ และเริ่ มเดินทางไปในทิศทางที่ถูกต้อง นี่หมาย
ถึงการใช้เวลาสำรวจว่าคุณดำเนินชีวิตอย่างไร คุณจำเป็ นจะต้องขออภัยโทษจากพระเจ้าสำหรับความผิดพลาดทุกสิ่ งในชีวิตของ
คุณ และขอให้พระองค์ช่วยคุณให้รอดและปลดปล่อยคุณให้เป็ นอิสระ การกลับใจหมายความว่าคุณหันออกจากความบาปและ
หันเข้าหาพระเจ้า ถ้าคุณเปลี่ยนตำแหน่งของคุณ พระเยซูจะทรงเปลี่ยนสถานการณ์ของคุณ

เชื่อ: ความเชื่อคือการกระทำ ไม่ใช่ความรู้สึก คุณเท่านั้นที่สามารถตัดสิ นใจเชื่อได้ มีเพียงคุณในฐานะปัจเจกบุคคล


เท่านั้นที่สามารถดึงสายชูชีพแห่งความเชื่อนั้นออกมาได้ ถ้าคุณทำตอนนี้ องค์พระผูเ้ ป็ นเจ้าจะไม่รอช้าโดยการสำรวจคุณค่าของ
คุณหรื ออดีตของคุณ ไม่วา่ คุณจะเป็ นใครหรื ออยูท่ ี่ไหน ทันทีที่คุณกลับใจและเชื่อ ร่ มชูชีพก็เปิ ดออก ด้วยเสี ยงปัง! และคุณก็
ปลอดภัยในพระหัตถ์ของพระองค์
พระเยซูไม่เคยล้มเหลว และพระองค์จะไม่ท ำให้คุณผิดหวังเช่นกัน ที่นี่และตอนนี้ สายชูชีพอยูใ่ นมือคุณตามพระ
สัญญาของพระเจ้า พระคัมภีร์กล่าวไว้อย่างชัดเจนว่า “ผู้ที่ร้องออกพระนามขององค์ พระผู้เป็ นเจ้ าจะรอด” (โรม 10:13) ผูท้ ี่เชื่อ
ร้องเรี ยกด้วยภาษาง่าย ๆ ที่คุณจะใช้ในการเรี ยกหาเพื่อนเพื่อขอความช่วยเหลือ พูดกับพระเยซูคริ สต์เพื่อขอการให้อภัยและความ
รอด คือวิธีที่ร่มชูชีพแห่งความรอดจะเปิ ดออก พระเจ้าเองจะเข้ามาแทรกแซงเพื่อช่วยคุณ พระองค์สญ
ั ญาไว้ ดึงสายชูชีพอย่าง
รวดเร็ ว ไม่วา่ คุณจะอยูท่ ี่ไหนก็ตาม!

29
พฤษภาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“ฉะนั้นขอให้เราเข้ามาถึงพระที่นงั่ แห่งพระคุณด้วยความกล้า เพื่อเราจะได้รับพระเมตตา และจะพบพระคุณที่ช่วยเราในยามต้อง
การ” (ฮีบรู 4:16)
ไฟประจำวัน!
ความสัมพันธ์ของฉันกับพระบิดาในสวรรค์ถูกกำหนดโดยความสัมพันธ์ของฉันกับพระเยซูคริ สต์ พระบุตรของพระองค์เพราะ
ว่าพระองค์เป็ นผูป้ ระทานการใช้พระนามของพระองค์แก่ฉนั เนื่องจากการเสี ยสละของพระองค์บนกลโกธา
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
สดุดี 46:1; 132:1; อิสยาห์ 64:6; ยอห์น 14:12–14; โรม 3:10–23; ฮีบรู 4:16
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
เฉลยธรรมบัญญัติ 2; สดุดี 83 และ 84
เย็น:
อิสยาห์ 30; ยูดา 1
ทางใหม่
คริ สเตียนกลุ่มแรกข้ามภูมิประเทศของพระคัมภีร์ดว้ ยกลิ่นอายของการอธิษฐาน พวกเขามีความสุ ขในการอธิษฐาน
และด้วยเหตุผลที่ดี การอธิษฐานแบบของพวกเขาเป็ นสิ่ งใหม่ นัน่ คือโดยใช้สิทธิอ ำนาจแห่งพระนามของพระเยซู! พันธสัญญา
ใหม่กล่าวถึง “การสามัคคีธรรมของเรากับพระบิดา” (1 ยอห์น 1:3) แต่ชาวอิสราเอลไม่ได้อธิษฐานว่า “พระบิดาของเรา” พวก
เขามีแนวความคิดเกี่ยวกับพระเจ้าที่สูงส่ งจนดูเหมือนพระองค์เข้าถึงไม่ได้ พระเจ้า จอมโยธา ผูท้ รงอำนาจในการต่อสู้ หรื อที่ดี
ที่สุดคือความช่วยเหลือที่พร้อมอยูใ่ นยามยาก มีเพียงวงดนตรี ระดับหัวกะทิเท่านั้นที่เพลิดเพลินกับการอยูก่ บั พระเจ้าและชีวิตการ
อธิษฐานอย่างใกล้ชิดกับพระองค์
คนส่ วนใหญ่รู้จกั พระเจ้าแบบมือสอง ผ่านทางปุโรหิ ตหรื อผูเ้ ผยพระวจนะ ในแง่หนึ่ง ผูค้ นเรี ยกหาองค์พระผูเ้ ป็ นเจ้าใน
นามของพวกเขาเองว่า “ข้ าแต่ พระยาห์ เวห์ ขอทรงระลึกถึงดาวิด!” (สดุดี 132:1) ผูเ้ ขียนสดุดีเขียนโดยหวังจะได้รับความ
โปรดปรานเป็ นส่วนตัว เราสามารถพยายามดึงความสนใจจากพระเจ้าด้วยความดีของเราเอง แต่เราจะพลาดอยูเ่ สมอ: “ข้ าพระ
องค์ ทุกคนกลายเป็ นเหมือนสิ่ งที่เป็ นมลทิน และความชอบธรรมทั้งหมดของพวกข้ าพระองค์ เหมือนเสื ้อผ้ าสกปรก” (อิสยาห์
64:6) “เพราะว่ าทุกคนทำบาป และเสื่ อมจากพระสิ ริของพระเจ้ า” (โรม 3:23) เนื่องจากเราถูกครอบงำด้วยบาป พระเจ้าจึงไม่
สามารถแม้แต่จะมองดูเรา เว้นแต่บาปของเราจะถูกปกคลุมด้วยการชำรล้างของพระโลหิ ตของพระเมษโปดกของพระเจ้า

เราบอกความจริ งกับพวกท่ านว่ า คนที่วางใจในเราจะทำกิจการที่เราทำนั้นด้ วย และเขาจะทำกิจที่ยิ่งใหญ่ กว่ านั้นอีก


เพราะว่ าเราจะไปหาพระบิดาของเรา สิ่ งใดที่พวกท่ านขอในนามของเรา เราจะทำสิ่ งนั้น เพื่อว่ าพระบิดาจะทรงได้ รับเกียรติอัน
ยิ่งใหญ่ ทางพระบุตร สิ่ งใดที่พวกท่ านขอในนามของเรา เราจะทำสิ่ งนั้น (ยอห์ น 14:12–14)
และนัน่ นำเรากลับไปสู่ จุดที่เราเริ่ มต้น นัน่ คือเราอธิษฐานในพระนามของพระเยซู ผูท้ ี่ช่วยให้เราสามารถเข้าใกล้พระ
บัลลังก์ที่ศกั ดิ์สิทธิ์ ของพระเจ้า นัน่ คือสิ ทธิ์ ของคุณและผมที่จะพูด อธิษฐาน และกระทำในพระนามของพระเยซู!
30
พฤษภาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“เหตุฉะนั้นเมื่อเราได้รับอาณาจักรที่ไม่สนั่ สะเทือนแล้ว ก็ให้เรามีใจขอบพระคุณ โดยเหตุน้ ี เราจึงนมัสการอย่างที่ชอบพระทัย
ของพระเจ้า ด้วยความเคารพและด้วยความยำเกรง” (ฮีบรู 12:28)
ไฟประจำวัน!
“มาร่ วมยินดีกบั ข้า เพราะข้าพบแกะของข้าที่หายไปนั้นแล้ว!” (ลูกา 15:6)
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
ปฐมกาล 12:2–3; มัทธิว 25:31–46; ลูกา 15:6; ฮีบรู 11:8–10; 12:28
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
เฉลยธรรมบัญญัติ 3; สดุดี 85
เย็น:
อิสยาห์ 31;
วิวรณ์ 1
ทำไมพระเจ้ าถึงพูด
เมื่อเราอ่านเกี่ยวกับอับราฮัมครั้งแรก เขาอยูใ่ นเมืองเออร์ของชาวเคลเดียกับเทราห์ บิดาของเขา เช่นเดียวกับเมืองอื่น ๆ
เมืองนี้ มีเทพเจ้าอย่างเป็ นทางการ และครอบครัวต่าง ๆ มีศาลสำหรับเทพเจ้าประจำบ้านของตน เช่นเดียวกับในอินเดียในปัจจุบนั
ที่มีเทพเจ้าหลายล้านองค์ อย่างไรก็ตาม มีการยอมรับ "พระเจ้าสูงสุ ด" และอับราฮัมก็ได้ยนิ เสี ยงของพระองค์ นัน่ เป็ นการกระทำ
แห่งอำนาจอธิปไตย ซึ่งมาจากฝ่ ายของพระเจ้า ไม่ใช่ของอับราฮัม นัน่ คือพระเจ้าทรงทะลุทะลวงมา
พระเจ้าได้แสดงความเป็ นห่วงต่อโลก เมื่อไม่มีใครแสวงหาพระองค์ พระองค์กท็ รงแสวงหาพวกเขา อับราฮัมไม่ได้
กำลังแสวงหาพระเจ้า เป็ นไปได้วา่ ไม่มีใครแสวงหาเลย พระองค์ทรงทำให้อบั ราฮัมรู้วา่ พระองค์เป็ นผูใ้ ด จากนั้นจึงตรัสสัง่ ง่ายๆ
ให้ออกจากเออร์ เขาไม่ได้ถูกบอกว่าจะไปที่ไหน แต่เขาออกเดินทาง พระคัมภีร์เน้นว่าอับราฮัมอาศัยอยูใ่ นเต็นท์ ห่างจากบ้าน
และถนน ทำไม? เพื่อให้ลทั ธินอกศาสนา มารยาทในเมือง และขนบธรรมเนียมถูกล้างออกจากระบบของเขา อับราฮัมบังเกิดและ
เติบโตในอารยธรรมที่บูชารู ปเคารพ พระเจ้าจะต้องชำระเขาจากทุกสิ่ งยกเว้นสิ่ งที่พระองค์ทรงสำแดงแก่เขา พระองค์ทรงชี้ลิขิต
ชีวิตที่อยูเ่ หนือความสนใจขอเขาเองและอนาคตของประชาชาติ พระเจ้าตรัสว่า “เราจะให้ เจ้ าเป็ นชนชาติใหญ่ เราจะอวยพรเจ้ า
...บรรดาเผ่ าพันธุ์ทั่วโลกจะได้ พรเพราะเจ้ า” (ปฐมกาล 12:2, 3)

ในสมัยของอับราฮัม ผูค้ นทุกหนทุกแห่งต่างดำเนินชีวิตเพื่อตนเอง โดยมักจะต่อสู้กบั คนอื่นๆ ที่อยูร่ อบข้าง วันหนึ่ง


ประชาชาติจะถูกพิพากษา พระคริ สต์ทรงวาดภาพละครอันกว้างใหญ่บนเวทีของจักรวาลทั้งหมด นัน่ คือการพิพากษาของบรรดา
ประชาชาติ พวกเขาจะต้องรายงานบัญชีของตัวเอง พระเนตรแห่งความเป็ นห่วงของพระเจ้าส่ องไปทัว่ แผ่นดินโลก ทำไมเราถึงมี
ความเชื่อ? เพื่ออวยพรตัวเราเองหรื อ? เพื่อให้มงั่ คัง่ และเจริ ญรุ่ งเรื องหรื อ? ถ้าเรามีความเชื่อเช่นนั้น พระเจ้าก็ประทานให้ แต่
พระองค์ทรงทำให้เรามัง่ คัง่ เพื่อทำให้ผอู้ ื่นมัง่ คัง่ นัน่ คือเพื่อส่ งต่อไป อับราฮัมดำเนินชีวิตอยูใ่ นระดับนั้น ให้พระประสงค์ของ
พระเจ้าเป็ นของคุณ
31
พฤษภาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“เมื่อพระเยซูทรงได้ยนิ แล้วก็ตรัสว่า “คนแข็งแรงไม่ตอ้ งการหมอ แต่คนเจ็บป่ วยต้องการ ท่านจงไปเรี ยนความหมายของคัมภีร์
ข้อนี้ ที่วา่ ‘เราประสงค์ความเมตตา ไม่ประสงค์เครื่ องสัตวบูชา’ ด้วยว่าเราไม่ได้มาเพื่อเรี ยกคนชอบธรรม แต่มาเรี ยกคนบาป”
(มัทธิว 9:12–13)
ไฟประจำวัน!
“ถ้าใครต้องการจะติดตามเรา ให้คนนั้นปฏิเสธตนเอง รับกางเขนของตนแบกและตามเรามา” (มัทธิว 16:24)
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
อิสยาห์ 40:13; มัทธิว 9:12–13; 12:11–12; ยอห์น 5:19–23; 9:4; กิจการ 10:38
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
เฉลยธรรมบัญญัติ 4; สดุดี 86 และ 87
เย็น:
อิสยาห์ 32;
วิวรณ์ 2
พระเจ้ าทำงานอยู่
บางคนที่พดู ถึง “การเคลื่อนไหวในพระวิญญาณ” ดูเหมือนจะคิดและทำราวกับว่าพวกเขาเป็ นผูท้ ี่เคลื่อนพระวิญญาณ
นี่ไม่ได้อยูบ่ นพื้นฐานของพระคัมภีร์ "ใครให้ ค ำแนะนำแก่ พระวิญญาณของพระยาห์ เวห์ หรื อเป็ นที่ปรึ กษาของพระองค์ ผ้ ใู ห้ ค ำ
สอนแก่ พระองค์ ?” (อิสยาห์ 40:13)
พระเยซูมกั ถูกวิพากษ์วิจารณ์จากผูม้ ีสิทธิอ ำนาจและผูน้ ำศาสนา เพราะว่าพระองค์ไม่ได้จ ำกัดพันธกิจของพระองค์ไว้
เฉพาะกลุ่มชนชั้นสูง แต่ทรงใช้เวลาส่ วนใหญ่ของพระองค์กบั คนบาป นัน่ คือโสเภณี อาชญากร คนที่ให้ยมื เงิน ขอทาน คนป่ วย
คนที่ถูกขับไล่ พวกเขาไม่เข้าใจความเห็นอกเห็นใจที่เคลื่อนพระองค์ ถ้า ใครในพวกท่านมีแกะตัวหนึ่ง และแกะตัวนั้นตกบ่อใน
วันสะบาโต คนนั้นก็จะฉุดลากแกะตัวนั้นขึ้นมาไม่ใช่หรื อ? มนุษย์คนหนึ่งย่อมประเสริ ฐยิง่ กว่าแกะมากทีเดียว เพราะฉะนั้นจึง
อนุญาตให้ท ำการดีได้ในวันสะบาโต (มัทธิว 12:11–12)
พระเจ้าไม่ได้เคลื่อนไหวอย่างลับๆ พระองค์ไม่ได้จ่ๆู ก็ยงิ ออกไปและในทิศทางที่คาดไม่ถึงที่มีเพียงสมาชิกไม่กี่คน
ของผูน้ ำฝ่ ายวิญญาณบางคนเท่านั้นที่มองเห็นได้ เรายังคงพบว่าพระเจ้ากำลังทำงานท่ามกลางผูค้ นที่ตกต่ำ นัน่ คือคนบาป คนสิ้ น
หวัง ผูถ้ ูกทอดทิ้ง “ทำตามพระเยซู" เป็ นสำนวนที่ดีกว่า“เคลื่อนไหวในพระวิญญาณ” มาก จงติดตามพระองค์ แล้วคุณจะไปในที่
ที่พระองค์ไป นัน่ คือ “ทำคุณประโยชน์ และรั กษาคนทั้งหลายที่ถกู มารเบียดเบียนอย่ างไร” (กิจการ 10:38) ขอให้ค ำสรรเสริ ญ
เป็ นของพระเจ้า!
พระเยซูเองตรัสว่า “เราจะไม่ท ำสิ่ งใด นอกจากที่ได้เห็นพระบิดาทำ ...เราจะไม่พดู สิ่ งใด นอกจากที่ได้ยนิ พระบิดาพูด
... เราก็แค่เลียนแบบพระบิดาของเรา" (ดู ยอห์น 5:19–21) การมีทศั นคติเหมือนพระคริ สต์ นัน่ คือพระวิญญาณของพระเจ้า
เคลื่อนไหวอยูใ่ นหัวใจของเรา และพระองค์ใช้การตอบสนองของเรา นี่คืออุปกรณ์ที่ดีที่สุดที่เรามีเพื่อเดินในโลกนี้ และทำพระ
ราชกิจของพระองค์ผทู้ รงส่ งเรามา จงตัดสิ นใจให้ตวั เองมียทุ ธภัณฑ์ฝ่ายวิญญาณทุกอย่างในวันนี้ เพื่อที่คุณจึงพร้อมที่จะเข้าสู่
สนามรบ!

พระเจ้าตรัสว่า:
อย่าวางแผนด้วยสิ่ งที่อยูใ่ นกระเป๋ าของคุณ แต่จงวางแผนด้วยสิ่ งที่อยูใ่ นกระเป๋ าของเรา
พระเจ้าตรัสว่า:
ทุกเส้นตาย เราจะโยนเส้นแห่งชีวิตให้แก่คุณ
คริ สตจักรไม่ใช่เรื อสำราญ แต่เป็ นเรื อชูชีพ
ตั้งแต่กปั ตันไปจนถึงคนทำอาหาร ทุกคนต่างร่ วมมือกันเพื่อช่วยวิญญาณจิตให้รอด!
1
มิถุนายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“พระเยซูคริ สต์ทรงเหมือนเดิมทั้งวานนี้ และวันนี้ และตลอดไปเป็ นนิตย์” (ฮีบรู 13:8)
ไฟประจำวัน!
ฉันไม่เห็นพระเจ้า แต่ฉนั รู้วา่ การทรงสถิตของพระองค์อยูใ่ นหัวใจของฉัน และฉันเห็นการงานของพระองค์ในชีวิตของฉัน
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
กิจการ 10:38;
ฮีบรู 13:8
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
เฉลยธรรมบัญญัติ 5; สดุดี 88
เย็น:
อิสยาห์ 33; วิวรณ์ 3
เหตุผลที่เชื่อ?
การไม่เห็นไม่ใช่เหตุผลที่ไม่เชื่อ ไม่มีใครเห็นการแผ่รังสี เราเพียงแค่รอผลจากความร้อนและแสงสว่าง ไม่มีใครมอง
เห็นอากาศ (เว้นแต่วา่ อากาศจะสกปรกมาก) เราเพียงแค่หายใจเข้าและออกเท่านั้น ไม่มีใครมองเห็นพระเจ้า แต่คนนับล้านพบ
ผลกระทบของพระองค์ในชีวิตพวกเขาทุกวัน! สิ่ งต่างๆเกิดขึ้นซึ่งสามารถมาจากพระองค์ เท่านั้น แม้แต่ค ำอธิษฐานหนึ่งครั้งที่ได้
รับคำตอบ—การรักษาหนึ่งครั้ง—การอัศจรรย์หนึ่งครั้ง—การปลดปล่อยจากการเสพติดหนึ่งครั้ง—ก็เป็ นหลักฐานยืนยันถึง
พระองค์ เมื่อ 2000 ปี ก่อน มีรายงานนี้ วา่ “คือเรื่ องที่วา่ พระเจ้าทรงเจิมพระเยซูชาวนาซาเร็ ธด้วยพระวิญญาณบริ สุทธิ์ และด้วยฤท
ธานุภาพอย่างไร และเรื่ องที่วา่ พระเยซูเสด็จไปทำคุณประโยชน์และรักษาคนทั้งหลายที่ถูกมารเบียดเบียนอย่างไร เพราะว่าพระ
เจ้าสถิตอยูก่ บั พระองค์” (กิจการ 10:38) เปโตรเป็ นพยานถึงหลักฐานที่ชดั เจนเกี่ยวกับพระเจ้า!
แต่ไม่ใช่แค่การอธิษฐานครั้งเดียวที่ได้รับคำตอบ หรื อการอัศจรรย์เพียงครั้งเดียวเท่านั้น…และทั้งหมดนี้ ไม่ได้เกิดขึ้น
เมื่อ 2000 ปี ก่อนเท่านั้น ทุกวันนี้ คนนับล้านหายป่ วย คนนับล้านได้รับการปลดปล่อย คำอธิษฐานนับล้านได้รับคำตอบ คนมีนบั
ล้านมีประสบการณ์ที่สามารถนำมาประกอบกับพระเยซูคริ สต์เป็ นขึ้นมาจากความตาย “พระเยซูคริ สต์ทรงเหมือนเดิมทั้งวานนี้
และวันนี้ และตลอดไปเป็ นนิตย์” (ฮีบรู 13:8) เมื่อผมก้าวขึ้นไปบนเวทีในแอฟริ กา หรื ออินเดีย หรื อที่อื่น ๆ บ่อยครั้ง—โดยที่ผม
ไม่ได้สมั ผัสอะไรเลย คนตาบอดเริ่ มมองเห็น คนหูหนวกได้ยิน คนใบ้พดู ได้ คนง่อยเดินได้ และคนบ้าเนื่องจากการเกาะติดของ
วิญญาณชัว่ ได้รับการปลดปล่อย นี่ไม่ใช่จิตวิทยา เพราะว่าทารกได้รับการรักษา แม้อยูใ่ นครรภ์ ผลที่ยิง่ ใหญ่ที่สุดคือการปลด
ปล่อยจากบาปและความรู้สึกผิด และการเปลี่ยนแปลงทัศนคติและบุคลิกภาพของผูค้ น นัน่ คือพระเยซูช่วยให้รอด!
ทำไมเราจึงควรสนใจสิ่ งที่พระเยซูทรงทำเมื่อ 2000 ปี ก่อน เว้นแต่จะมีการเขียนขึ้นเพื่อให้แรงบันดาลใจและความหวัง
แก่เราในสิ่ งที่พระองค์สามารถทำได้และทำในปัจจุบนั ? พระองค์สอนด้วยสติปัญญาและความหยัง่ รู้ที่ดึงดูดความสนใจของ
ปัญญาชนและนักปรัชญาที่อยากเป็ น และหันหัวใจพวกเขาไปหาพระเจ้า พระองค์ท ำพันธกิจแห่งการรักษาด้วยความเห็นอก
เห็นใจและสิ ทธิอ ำนาจ ไม่ใช่กบั คนที่สมควรได้รับการรักษา แต่เพียงเพราะว่าพระองค์ทรงห่วงใยพวกเขามากจนทรงปรารถนา
ที่จะบรรเทาความทุกข์ทรมานของพวกเขา พระองค์ทรงเสี ยสละชีวิตของพระองค์เอง ไม่ใช่เพราะว่าพวกเขาเรี ยกร้องให้
พระองค์สิ้นพระชนม์ แต่เพราะว่าพระองค์ทรงเชื่อฟังพระบิดาของพระองค์ ไม่มีความหน้าซื่อใจคดในพระเยซูเมื่อ 2000 ปี ที่
แล้ว และวันนี้ ไม่มีสิ่งใดนอกจากความจริ งในพระองค์

มิถุนายน
2
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“เพื่อว่าพวกท่านจะเป็ นบุตรของพระบิดาของท่านผูส้ ถิตในสวรรค์ เพราะว่าพระองค์ทรงให้ดวงอาทิตย์ของพระองค์ข้ ึนส่ อง
สว่างแก่คนดีและคนชัว่ เสมอกัน และให้ฝนตกแก่คนชอบธรรมและคนอธรรม” (มัทธิว 5:45)
ไฟประจำวัน!
ฉันสบายใจมากที่รู้วา่ ความเชื่อของฉันในพระเจ้าอยูบ่ นพื้นฐานพระคำของพระองค์
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
สดุดี 97:7;
มัทธิว 5:45
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
เฉลยธรรมบัญญัติ 6; สดุดี 89
เย็น:
อิสยาห์ 34; วิวรณ์ 4
ความเชื่อหรือความโกลาหล?
ไม่มีอะไรมาทดแทนความเชื่อในพระเจ้าได้ ประวัติศาสตร์สัน่ ระฆังเตือน ถ้าปราศจากความรู้ขององค์พระผูเ้ ป็ นเจ้า ก็
ไม่มีสิ่งใดที่สมเหตุสมผล คนสมัยก่อน แม้แต่นกั คิดที่หลักแหลมที่สุดก็ยงั สร้างความคิดที่บา้ ระห่ำที่สุด ความเชื่อโชคลาง และ
การคาดเดา ความลึกลับที่สวมชุดเป็ นธรรมชาติ พวกเขาไม่มนั่ ใจอะไรเลย แม้แต่สภาพอากาศหรื อฤดูกาล เพื่อให้ดวงอาทิตย์ข้ึน
พวกเขานมัสการมัน เพื่อให้ฝนตก พวกเขาถวายการนมัสการแด่เทพเจ้า แม่น้ำต้องถูกชักจูงเพื่อให้ไหลและไม่เหื อดแห้ง ทุกคนมี
พระเจ้าของตัวเอง “ทุกคนที่นมัสการรู ปเคารพ ที่อวดในพระเท็จได้อบั อาย พระทั้งสิ้ นก็กราบลงต่อพระองค์” (สดุดี 97:7)
ดังนั้น เหล่าผูเ้ ผยพระวจนะจึงได้รับการสร้างและได้รับการดลใจด้วยการตระหนักรู้ถึงความเป็ นจริ งของพระเจ้าและ
น้ำพระทัยของพระองค์ แนวคิดของพระเจ้าในฐานะพระบิดาของทุกคนไม่เป็ นที่รู้จกั ความขัดแย้งและความบาดหมางใน
ครอบครัวเกิดขึ้น และสงครามคือศักดิ์ศรี ของมนุษย์ แต่ผเู้ ผยพระวจนะของอิสราเอลสอนผูค้ นของพวกเขาว่าอย่ากลัวหมาย
สำคัญของสวรรค์ ให้ท ำงานและอย่าทำสงคราม พระเจ้าจะทรงดูแลสิ่ งทรงสร้างทั้งหมดของพระองค์อย่างสัตย์ซื่อ พวกเขาไม่
ควรกังวลเกี่ยวกับการเก็บเกี่ยวเหมือนกับคนนอกศาสนาที่อยูล่ อ้ มรอบพวกเขา พระเยซูเองทรงสอนอย่างชัดเจนว่า “เพื่อว่าพวก
ท่านจะเป็ นบุตรของพระบิดาของท่าน ผูส้ ถิตในสวรรค์ เพราะว่าพระองค์ทรงให้ดวงอาทิตย์ของพระองค์ข้ ึนส่ องสว่างแก่คนดี
และคนชัว่ เสมอกัน และให้ฝนตกแก่คนชอบธรรมและคนอธรรม” (มัทธิว 5:45)

มันง่ายที่จะนัง่ ดูทีวี แล้วพูดว่าคุณไม่เชื่อในพระเจ้า แต่ผลที่ตามมานั้นคงอยูช่ วั่ นิรันดร์ ความคิดแบบนี้ ปลูกฝังการ


ทุจริ ต ติดสิ นบน ความรุ นแรง การก่อการร้าย และอาชญากรรม ผูท้ ี่ไม่เชื่อในพระเจ้าอ้างว่าพวกเขาสามารถดำเนินชีวิตที่เหมาะ
สมได้โดยไม่ตอ้ งเชื่อในพระเจ้า แต่พวกเขาลืมไปว่าแนวคิดเรื่ องความเหมาะสมนั้นมาจากความเชื่อของคริ สเตียน ก่อน
คริ สตกาล มันเป็ นเรื่ องที่แตกต่างและเป็ นโลกที่โหดร้ายกว่ามาก อันที่จริ ง เราไม่รู้วา่ อะไรดีหรื อไม่ดี ถ้าปราศจากความเชื่อใน
พระเจ้า โลกที่ไม่เชื่อโดยสิ้ นเชิงจะเป็ นเหมือนโรงพยาบาลบ้าที่ผปู้ ่ วยเข้ายึดครอง ถ้าคุณไม่ไว้วางใจพระเจ้า ในไม่ชา้ คุณก็ไม่ไว้
วางใจผูใ้ ดเลย จงตั้งปณิ ธานในวันนี้ วา่ จะสวมความเชื่อของคุณในพระเจ้าเหมือนเครื่ องหมายบนแขนเสื้ อของคุณ
3
มิถุนายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“องค์พระผูเ้ ป็ นเจ้าทรงมีความสงสารและความเมตตากรุ ณาเพียงไร” (ยากอบ 5:11)
ไฟประจำวัน!
พระเจ้าทรงพระคุณ แม้แต่กบั คนบาปที่เลวร้ายที่สุดในแผ่นดินโลก เพราะว่าพระองค์ทรงช่วยฉันให้รอด
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
สดุดี 116:5; โยนาห์ 4:1–11; ยากอบ 5:11
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
เฉลยธรรมบัญญัติ 7; สดุดี 90
เย็น:
อิสยาห์ 35; วิวรณ์ 5
ความรู้ ที่อศั จรรย์
ประเด็นที่แท้จริ งของเรื่ องราวของโยนาห์ ซึ่งพูดถึงผูเ้ ผยแพร่ ข่าวประเสริ ฐทุกคนที่เคยออกไปทำงานของพระเจ้า ก็คือ
ว่าเขาได้ประกาศการพิพากษา แต่ไม่มีการพิพากษามา นัน่ เป็ นสิ่ งที่เขากลัวว่าจะเกิดขึ้น อันที่จริ ง โยนาห์ไม่เคยต้องการประกาศ
ต่อเมืองนี้ เลย ด้วยเหตุผลที่วา่ ถ้าการเทศนาของเขาประสบความสำเร็ จ พระเจ้าจะเปลี่ยนใจเรื่ องการพิพากษา! หลังจากนั้น เขา
ทักท้วงโดยกล่าวว่า ข้ าแต่ พระยาห์ เวห์ เมื่อข้ าพระองค์ ยงั อยู่ในประเทศของข้ าพระองค์ ข้ าพระองค์ พูดแล้วว่ าจะเป็ นเช่ นนี ไ้ ม่ ใช่
หรื อ? นี่ เป็ นเหตุให้ ข้าพระองค์ รีบหนี ไปเมืองทารชิ ช เพราะข้ าพระองค์ ทราบว่ า พระองค์ ทรงเป็ นพระเจ้ าผู้ทรงเปี่ ยมด้ วยพระคุณ
และพระกรุ ณา กริ ้วช้ า และบริ บูรณ์ ด้วยความรั กมัน่ คง และเปลี่ยนพระทัยไม่ ลงโทษ (โยนาห์ 4:2) โยนาห์เข้าใจอย่างลึกซึ้ งเกี่ยว
กับพระลักษณะของพระเจ้า ในหนังสื อทั้ง 39 เล่มของพันธสัญญาเดิม คำกล่าวของผูเ้ ผยพระวจนะนี้ โดดเด่นเป็ นพิเศษ โยนาห์รู้
ว่าพระเจ้าทรงมีพระทัยดีอย่างหาที่เปรี ยบมิได้ ยิง่ ไปกว่านั้น เขารู้วา่ พระเมตตาขององค์พระผูเ้ ป็ นเจ้าแผ่ขยายออกไปนอก
พรมแดนของอิสราเอลไปสู่ อาณาเขตของศัตรู โอบกอดแม้แต่คนต่างชาติ

ไม่กี่คนในอิสราเอลจะเชื่อว่าสิ่ งนี้สามารถเป็ นจริ งได้ ในยุคแห่งความมืดบอดฝ่ ายวิญญาณนั้น มีเพียงพระวิญญาณ


บริ สุทธิ์เท่านั้นที่สามารถแสดงสิ่ งนี้แก่ผเู้ ผยพระวจนะได้ เขารู้วา่ พระเจ้าสามารถมีพระคุณต่อคนต่างชาติเช่นเดียวกับคน
อิสราเอล แม้กระทัง่ กับคนบาปที่เลวร้ายที่สุดบนแผ่นดินโลก นัน่ คือเหตุผลที่เขาไป—และทำไมเขาถึงไม่ตอ้ งการไป ส่ วนหนึ่ง
ของเขาต้องการให้ประเทศที่ชวั่ ร้ายนี้ ได้รับสิ่ งที่สมควรได้รับจริ งๆ แต่ในขณะเดียวกัน เขาก็รู้วา่ พระเจ้าไม่ได้เป็ นเช่นนั้น โยนาห์
ต้องการแก้แค้น แต่พระเจ้าทรงเป็ นและยังคงเป็ นพระเจ้าแห่งการให้อภัย
คุณและผมอาจมองดูโลกของเราด้วยความหวาดกลัวและรังเกียจต่อหลักฐานของความบาป นัน่ คือความโลภ ความ
เกลียดชัง ความไม่เท่าเทียม แต่เมื่อเราเลือกที่จะมองโลกผ่านสายพระเนตรของพระเจ้า เราจะเห็นวิญญาณจิตที่หลงหายกำลังจะ
ตายโดยปราศจากพระองค์ หัวใจของเราเปี่ ยมล้นด้วยความเห็นอกเห็นใจ จงขอให้พระเจ้าประทานนิมิตใหม่สำหรับวิญญาณจิต
แก่คุณในวันนี้ จงขอให้พระองค์ให้คุณเห็นผูอ้ ื่นอย่างที่พระองค์ทรงเห็น
4
มิถุนายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“พระเยซูทรงสงสารเขาจึงยืน่ พระหัตถ์แตะต้องคนนั้น ตรัสกับเขาว่า “เราพอใจแล้ว จงหายสะอาดเถิด” (มาระโก 1:41)
ไฟประจำวัน!
พระบิดา ขอทรงสอนให้ขา้ พระองค์รักผูห้ ลงหาย
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
โยนาห์ 3:1–10; มาระโก 1:40–45; โรม 5:5
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
เฉลยธรรมบัญญัติ 8; สดุดี 91
เย็น:
อิสยาห์ 36; วิวรณ์ 6
ความจริง และผู้คนที่สะท้ อนความจริง
ผูเ้ ผยพระวจนะและผูเ้ ผยแพร่ ข่าวประเสริ ฐโยนาห์ รู้ถึงความเห็นอกเห็นใจของพระเจ้า แต่เขาเองไม่มีความเห็นอก
เห็นใจ ผูใ้ ดก็ตามที่ยนื ขึ้นเพื่อพูดถึงพระคริ สต์ยอ่ มรู้ดีถึงสิ่ งที่โยนาห์รู้ เป็ นความรู้ทวั่ ไปในหมู่ผทู้ ี่รอดแล้วว่าพระเจ้าทรงรัก ทรง
พระคุณ ทรงกรุ ณา และเห็นอกเห็นใจ แต่ส่วนตัวแล้ว เราเก็บความรู้สึกดังกล่าวไว้เพื่อผูท้ ี่หลงหายหรื อไม่?
โยนาห์ไม่มีเลย เขาประกาสเนื่องจากเป็ นหน้าที่ หรื อจากการเชื่อฟังเท่านั้น ไม่มีขอ้ บกพร่ องที่ร้ายแรงไปกว่านี้แล้ว
สำหรับผูใ้ ดก็ตามที่ประกาศพระคำของพระเจ้า การประกาศไม่ใช่เรื่ องของการแค่การเอ่ยปากถึงความรักเนื่องจากความสงสาร
ของพระเจ้า หรื อการสะกดคำทางศาสนศาสตร์ หัวใจของผูเ้ ผยแพร่ ขา่ วประเสริ ฐควรเต้นอย่างสอดคล้องกับการเต้นของหัวใจ
ของพระเจ้า ซึ่งสำแดงออกถึงความปรารถนาและความเห็นอกเห็นใจจากหัวใจของพระองค์ ความจำเป็ นในการเผยแพร่ ข่าว
ประเสริ ฐมีอยู่ 2 ด้าน นัน่ คือความจริ ง และผูค้ นที่สะท้อนความจริ ง บางคนบอกว่าแค่เทศนาในสิ่ งที่ถูกต้องก็เพียงพอแล้ว มัน
ไม่ใช่! พระวิญญาณบริ สุทธิ์ มีส่วนร่ วมในสิ่ งนี้ โดยการวางองค์ประกอบที่ขาดหายไปไว้ในหัวใจของเรา: “ความรักของพระเจ้า
ได้หลัง่ เข้าสู่จิตใจของเรา โดยทางพระวิญญาณบริ สุทธิ์ ซึ่งพระองค์ได้ประทานให้แก่เราแล้ว” (โรม 5:5) ความรักของพระเจ้าใน
พระคริ สต์เป็ นมากกว่าชิ้นส่ วนหนึ่งของศาสนศาสตร์ระบบ และควรจะมีชีวิตในผูท้ ี่ป่าวประกาศเรื่ องนี้ เราสามารถประกาศด้วย
ลิ้นไฟได้กต็ ่อเมื่อเรามีไฟของพระองค์อยูใ่ นหัวใจ! คุณจะจุดไฟเหล่านั้นได้อย่างไร? จงทำความรู้จกั กับพระคำของพระเจ้าด้วย
ตัวคุณเอง นี่เป็ นพระคำของพระเจ้าที่มาถึงคุณและสำหรับคุณ!

โยนาห์เป็ นนักเทศน์และผูเ้ ผยพระวจนะที่หายาก เพราะว่าเขาไม่ตอ้ งการประสบความสำเร็ จ เขาหวังว่าจะไม่มีผใู้ ดใน


นีนะเวห์สงั เกตเห็นข้อความที่เขาประกาศ ถึงกระนั้นกษัตริ ยท์ ี่อยูบ่ นบัลลังก์กย็ งั ตื่นตระหนกเกี่ยวกับบาปของเขา และตัดสิ นใจที่
จะทำอะไรบางอย่างเกี่ยวกับเรื่ องนี้ ถ้าเรารับเอาพระคำของพระเจ้าไว้ที่ริมฝี ปากของเรา เราควรรู้วา่ เรากำลังทำอะไรอยู่ นี่คือ
อาวุธสำคัญที่ไม่มีใครควรเล่นด้วย! วันนี้จงขอให้พระเจ้าประทานการหลัง่ ออกของความเห็นอกเห็นใจที่สดใหม่ของพระองค์ต่อ
ผูท้ ี่หลงหายให้แก่คุณ
5
มิถุนายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“เราบอกความจริ งกับพวกท่านว่า ถ้าท่านขอสิ่ งใดจากพระบิดาในนามของเรา พระองค์จะประทานสิ่ งนั้นแก่ท่าน จนบัดนี้ พวก
ท่านก็ยงั ไม่ได้ขอสิ่ งใดในนามของเรา จงขอเถิดแล้วจะได้ เพื่อความชื่นชมยินดีของท่านจะมีเต็มเปี่ ยม” (ยอห์น 16:23–24)
ไฟประจำวัน!
กุญแจสู่ ประตูสวรรค์ของฉันคือการอธิษฐานในพระนามของพระเยซู
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
ยอห์น 16:23–24; ฮีบรู 4:14–16; 10:19–20
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
เฉลยธรรมบัญญัติ 9; สดุดี 92 และ 93
เย็น:
อิสยาห์ 37;
วิวรณ์ 7
คุณพ่ อของเรา
เราทุกคนควรพยายามรับรู้ถึงตำแหน่งที่แท้จริ งของพระเจ้า นัน่ คือพระองค์ทรงเหนือกว่าเราอย่างไม่มีสิ้นสุ ด แต่การ
เชื้อเชิญให้เรี ยกพระองค์วา่ “พ่อ” ทำให้พระองค์ใกล้ชิดเรา และทำให้พระองค์เข้าถึงได้ ผูอ้ ่านพระธรรมฮีบรู ซ่ ึงพึ่งออกมาจากยุค
เก่าของธรรมบัญญัติจะต้องถูกจูงมือและนำไปสู่ความสัมพันธ์ใหม่น้ ี พวกเขาถูกบอกว่าเพราะฉะนั้น เมื่อเรามีมหาปุโรหิ ตยิ่ง
ใหญ่ ...คือพระเยซูพระบุตรของพระเจ้ า ...ฉะนั้นขอให้ เราเข้ ามาถึงพระที่นั่งแห่ งพระคุณด้ วยความกล้ า ...เพราะฉะนั้น พี่น้องทั้ง
หลาย เมื่อเรามีใจกล้ าที่จะเข้ าไปในสถานศักดิ์สิทธิ์ โดยพระโลหิ ตของพระเยซู ตามทางใหม่ และเป็ นทางที่มีชีวิต ซึ่ งพระองค์
ทรงเปิ ดให้ เราผ่ านเข้ าไปทางม่านนั้น คือทางพระกายของพระองค์ (ฮี บรู 4:14, 16; 10:19–20) เมื่อพระเยซูทรงสอนเหล่าสาวก
ให้อธิษฐาน นัน่ ทำให้พวกเขากลายเป็ นสายพันธุ์ใหม่...อธิษฐานเสมอและทุกเรื่ อง พระองค์ตรัสกับพวกเขาว่า “สิ่ งใดที่พวกท่าน
ขอในนามของเรา เราจะทำสิ่ งนั้น เพื่อว่าพระบิดาจะทรงได้รับเกียรติอนั ยิง่ ใหญ่ทางพระบุตร สิ่ งใดที่พวกท่านขอในนามของเรา
เราจะทำสิ่ งนั้น” (ยอห์น 14:13–14)
ในทางหนึ่ง การเรี ยกหาพระเจ้าเป็ นสัญชาตญาณ ใครไม่ท ำ โดยเฉพาะเมื่อทุกข์ใจ? มีเรื่ องเล่าเกี่ยวกับผูท้ ี่ไม่เชื่อใน
พระเจ้าซึ่งกำลังตกปลาในทะเลสาบ เมื่อจู่ๆ สัตว์ประหลาดแห่งล็อคเนสก็โผล่ข้ ึนมาจากน้ำและอ้าปากเพื่อกลืนเขา ผูท้ ี่ไม่เชื่อใน
พระเจ้าร้องว่า “โอ้พระเจ้า ช่วยผมด้วย!” จากนั้นเขาก็ได้ยนิ เสี ยงพูดว่า "ตอนนี้เจ้าเชื่อในเราแล้วหรื อ?" ผูท้ ี่ไม่เชื่อในพระเจ้าตอบ
อย่างสิ้ นหวังว่า "ได้โปรด ให้ผมพักก่อน! ผมก็ไม่เชื่อในสัตว์ประหลาดล็อคเนสเช่นกัน จนกระทัง่ เมื่อวินาทีที่แล้ว!”
พระคริ สต์ทรงสอนเราถึงวิธีที่ถูกต้อง นัน่ คืออธิษฐานในพระนามของพระองค์ พระราชกิจอันยิง่ ใหญ่ของพระองค์คือ
หนทางใหม่สู่พระเจ้า พระองค์ได้เปิ ดประตูสวรรค์แล้ว จงเข้าไป! คุณจะได้รับการต้อนรับ! นัน่ คือคำสัญญาสำหรับคุณในวันนี้
6
มิถุนายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“พระวาทะทรงเกิดเป็ นมนุษย์และทรงอยูท่ ่ามกลางเรา เราเห็นพระสิ ริของพระองค์ คือ พระสิ ริที่สมกับพระบุตรองค์เดียวของ
พระบิดา บริ บูรณ์ดว้ ยพระคุณและความจริ ง” (ยอห์น 1:14)
ไฟประจำวัน!
ฉันรับใช้พระเจ้าที่ไม่ปกติที่สุด ผูท้ ำสิ่ งที่เป็ นไปไม่ได้!
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
1 พงศ์กษัตริ ย ์ 10:7; มัทธิว 11:27; ยอห์น 1:14; วิวรณ์ 1:1–20
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
เฉลยธรรมบัญญัติ 10; สดุดี 94
เย็น:
อิสยาห์ 38; วิวรณ์ 8
พระเจ้ าทีไ่ ม่ ปกติ
ในบทแรกของวิวรณ์ พระเจ้าทรงเปิ ดเผยพระลักษณะของพระเยซูคริ สต์ พระบุตรของพระองค์ โดยกล่าวถึงพระองค์ 2
ครั้งใน 3 ช่วงเวลา “ขอให้ท่านทั้งหลายได้รับพระคุณและสันติสุขจากพระองค์ผทู้ รงเป็ นอยู่ ผูท้ รงเคยเป็ นอยู่ และผูท้ ี่จะเสด็จมา”
(วิวรณ์ 1:4) และ “พระเจ้าผูท้ รงเป็ นอยู่ ผูท้ รงเคยเป็ นอยู่ ผูท้ ี่จะเสด็จมา และผูท้ รงฤทธานุภาพสูงสุ ด ตรัสว่า “เราเป็ นอัลฟาและ
โอเมกา” (ข้อ 8) คำเหล่านี้เป็ นคำที่ไม่ธรรมดา เพราะว่าบอกว่า “ผูท้ ี่จะเสด็จมา” ซึ่งเราจะพูดว่า “ผูท้ ี่จะเป็ น” ซึ่งเป็ นคำกริ ยาเดียว
กับ “เป็ น” พระเจ้าใช้ค ำนี้ 2 ครั้งใน “ผูท้ รงเคยเป็ นอยู่ และผูท้ รงเป็ นอยู”่ จากนั้นจึงเปลี่ยนเป็ นคำกริ ยาอื่นคือ “มา” ใครๆ ก็
สามารถมองเห็นว่าเป็ นเรื่ องผิดปกติ ทำไมถึงวางแบบที่แปลกประหลาดนี้ ?
เหตุผลก็คือพระเจ้าที่ไม่ปกติ พระองค์ท ำให้ไวยากรณ์และความสัมพันธ์ในประโยคยุง่ เหยิง และภาษาจะต้องถูกปรับ
แต่งเมื่อเราพูดถึงพระองค์! พระคริ สต์เองทรงเป็ นความลึกลับ “ไม่มีใครรู้จกั พระบิดานอกจากพระบุตร ” (มัทธิว 11:27) และการ
พูดถึงพระองค์ดว้ ยภาษาธรรมดามักจะตัดบางสิ่ งออกไปเสมอ เมื่อพูดถึงองค์พระผูเ้ ป็ นเจ้า ภาษามนุษย์ไม่เคยดีพอ คริ สเตียนยุค
แรกต้องสร้างความหมายใหม่ให้กบั คำหลาย ๆ คำ และแม้กระทัง่ สร้างคำใหม่ ๆ เพราะว่าพระเยซูทรงทำสิ่ งใหม่ ๆ และเป็ นคน
แบบใหม่ พระเจ้าเองไม่ได้สื่อสารเกี่ยวกับพระองค์ดว้ ยคำพูดเพียงอย่างเดียว พระเจ้าเพียงแค่แสดงพระองค์เองด้วยการกระทำ
ของพระองค์ และเพื่ออธิบายถึงพระองค์ เรามักต้องใช้ตวั อักษรที่ใหญ่กว่านี้ มันเหมือนกับเพลงของทูตสวรรค์ที่ตอ้ งการ
เครื่ องหมายใหม่ เมื่อเราพูดถึงพระเจ้า เราสามารถขาดคำพูดและรู้สึกเหมือนราชินีแห่งเชบาเห็นราชสำนักของซาโลมอนว่า “ดูสิ
ที่เขาบอกแก่หม่อมฉันก็ไม่ถึงครึ่ งหนึ่ง” (1 พงศ์กษัตริ ย ์ 10:7)
พระเจ้าไม่เคยใช้เพียงแค่ค ำพูดเพื่อกระตุน้ ความเชื่อของเราในพระองค์ เพื่อแสดงให้เราเห็นว่าพระองค์เป็ นผูใ้ ดและสิ่ ง
ใด พระองค์เสด็จมา! “พระวาทะทรงเกิดเป็ นมนุษย์และทรงอยูท่ ่ามกลางเรา เราเห็นพระสิ ริของพระองค์...บริ บูรณ์ดว้ ยพระคุณ
และความจริ ง” (ยอห์น 1:14) ไม่ใช่สิทธิพเิ ศษที่ยอดเยีย่ มหรื อที่จะสามารถพูดว่า “พระเจ้าของฉันได้มาอยูก่ บั ฉันแล้ว!
7
มิถุนายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“ความรักมัน่ คงของพระยาห์เวห์ไม่เคยหยุดยั้ง และพระกรุ ณาของพระองค์ไม่มีสิ้นสุ ด เป็ นของใหม่ทุกเวลาเช้า ความเที่ยงตรง
ของพระองค์ใหญ่ยงิ่ นัก” (บทเพลงคร่ำครวญ 3:22–23)
ไฟประจำวัน!
ในแต่ละวันเมื่อฉันพบองค์พระผูเ้ ป็ นเจ้าของฉัน พระองค์ยงั เหมือนเดิมและสดชื่นอยูเ่ สมอ
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
บทเพลงคร่ำครวญ 3:21–26; มาลาคี 3:6; มัทธิว 11:3; กิจการ 3:19; วิวรณ์ 1:8
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
เฉลยธรรมบัญญัติ 11; สดุดี 95 และ 96
เย็น:
อิสยาห์ 39;
วิวรณ์ 9
คำสั ญญาที่ต่อเนื่อง
เราเป็ นอัลฟาและโอเมกา ปฐม และอวสาน ... ผูท้ รงเป็ นอยู่ ผูท้ รงเคยเป็ นอยู่ ผูท้ ี่จะเสด็จมา และผูท้ รงฤทธานุภาพสูง
สุ ด” (วิวรณ์ 1:8) ครู สอนไวยากรณ์จะสังเกตเห็นว่าประโยคนี้ นัน่ คือคำสัญญานิรันดร์จากพระเจ้าประกอบด้วยคำกริ ยา 3 คำ นัน่
คือ เป็ นอยู่ เคยเป็ นอยู่ และมา ทำไมพระเจ้าถึงเปลี่ยนกริ ยา? ทำไมพระองค์บอกว่าพระองค์ก ำลังจะมา? หมายความว่าพระองค์
กำลังบุกเข้ามาหาเราตลอดกาล! เราได้รับสิ่ งเดียวกันใน มัทธิว 11:3 ซึ่งเรี ยกพระคริ สต์วา่ “ผูท้ ี่จะมานั้น” พระองค์จะทรงเป็ นเช่น
ไร พระองค์ทรงเป็ นอยูใ่ นขณะนี้ และเคยเป็ นมา นัน่ คือพระองค์ ผูไ้ ม่เปลี่ยนแปลงชัว่ นิรันดร์ พระองค์สมบูรณ์แบบอยูแ่ ล้ว “เรา
คือพระยาห์เวห์ ไม่มีผนั แปร” (มาลาคี 3:6)

ใช่ แต่มนั แตกต่างกันสำหรับเราแต่ละคน เรามักจะพบสิ่ งใหม่ๆ ในพระองค์เสมอ สมมติวา่ คุณยืนอยูใ่ นน้ำที่ริมแม่น้ำ


มิสซิสซิปปี คุณอยูท่ ี่แม่น้ำ…แต่แม่น้ำก็ยงั คงไหลมาหาคุณ และน้ำที่เรายืนอยูใ่ นวันนี้ จะเป็ นแม่น้ำเดียวกับที่คนอื่นอาจยืนอยูใ่ น
วันพรุ่ งนี้ต่อไปตามกระแสน้ำ พระเจ้าเป็ นเช่นนั้น เรามาหาพระองค์... พระองค์อยูท่ ี่นนั่ ...แต่พระองค์ยงั มาหาเราเรื่ อยๆ พระองค์
ไม่ใช่แค่ "เป็ นพระเจ้า" ที่ไหนสักแห่ง—เหมือนสฟิ งซ์ ซึ่งเป็ นเพียงความลึกลับ “เราจะมาหา [ท่าน]” พระเยซูตรัส (ยอห์น 14:23)
และพระองค์ไม่เคยหยุดมา ไม่วา่ ตอนนี้หรื อตลอดไป
ผูเ้ ผยพระวจนะในพันธสัญญาเดิมมองเห็นสิ่ งนี้
ข้ าพเจ้ าหวนคิดเรื่ องนี ข้ ึน้ มาได้ เพราะฉะนั้น ข้ าพเจ้ าจึ งมีความหวังความรั กมัน่ คงของพระยาห์ เวห์ ไม่ เคยหยุดยัง้ และ
พระกรุ ณาของพระองค์ ไม่ มีสิ้นสุด เป็ นของใหม่ ทุกเวลาเช้ า ความเที่ยงตรงของพระองค์ ใหญ่ ยิ่งนัก จิ ตใจข้าพเจ้ าว่ า
“พระยาห์ เวห์ ทรงเป็ นมรดกส่ วนของข้ าพเจ้ า เพราะฉะนั้นข้ าพเจ้ ามีความหวังในพระองค์ ” พระยาห์ เวห์ ทรงดีต่อผู้ที่
คอยพระองค์ และต่ อผู้ที่แสวงหาพระองค์ เป็ นการดีที่จะรออย่ างเงียบๆ คือรอความรอดจากพระยาห์ เวห์ (บทเพลง
คร่ำครวญ 3:21–26)
ต่อมา เปโตรเป็ นพยานถึงการเริ่ มใหม่อย่างต่อเนื่องของการทรงสถิตของพระเจ้าว่า “เพราะฉะนั้นท่านทั้งหลายจงกลับ
ใจและหันมาหาพระเจ้า เพื่อที่วา่ ความผิดบาปของพวกท่านจะได้รับการลบล้าง เพื่อวาระแห่งการฟื้ นชื่นจะได้มาจากพระพักตร์
พระเจ้า” (กิจการ 3:19-20) พระเจ้าของเราไม่เคยหยุดที่จะเป็ นและไม่เคยหยุดที่จะมาทำให้คุณสดชื่น!
8
มิถุนายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“การรบเป็ นของพระยาห์เวห์” (1 ซามูเอล 17:47)
ไฟประจำวัน!
ฉันเป็ นยิง่ กว่าผูพ้ ิชิตโดยพระเยซูเจ้าของฉัน
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
1 ยอห์น 5:4; 1 ยอห์น 2:17
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
เฉลยธรรมบัญญัติ 12; สดุดี 97 และ 98
เย็น:
อิสยาห์ 40; วิวรณ์ 10
คนที่ชนะ
จดหมาย 7 ฉบับถึง 7 คริ สตจักร พร้อมด้วยคำสัญญา 7 ประการจากองค์พระผูเ้ ป็ นเจ้าถึงคนที่ชนะนั้นน่าประทับใจ
อย่างแน่นอน (ดูวิวรณ์ 2–3) เห็นได้ชดั ว่าการชนะนั้นไม่ใช่งานอดิเรกยามว่าง แต่เป็ นสิ่ งที่สมั ผัสหัวใจของชีวิต แล้วเราควรชนะ
อะไรหรื อผูใ้ ด?
เมื่อผมมองเข้าไปในนั้น ผมก็เซ สำหรับผมแล้วดูเหมือนว่าจะเป็ นแนวคิดที่กว้างขวาง สิ่ งหนึ่งที่ผมรู้อยูแ่ ล้วคือทุกสิ่ งที่
เราทำมีค่าเมื่อเราอยูใ่ นพระคริ สต์ เราทำในและผ่านทางพระองค์ ดังนั้นผมจึงตัดสิ นใจยึดเอาชัยชนะของพระองค์เป็ นจุดเริ่ มต้น
เนื่องจากไม่มีชยั ชนะใด ถ้าปราศจากพระองค์
ถ้าเราถามว่าเราชนะอย่างไร คำตอบคือในทุกวิถีทาง ทุกวัน “ความเชื่อของเรานี่ แหละเป็ นชัยชนะที่มีชยั เหนือโลก” (1
ยอห์น 5:4) ทันทีที่เราไว้วางใจพระคริ สต์ และพระองค์เข้าครอบครองในชีวิตเรา เรากำลังดำเนินชีวิตอยูใ่ นชัยชนะ การเอาชนะ
ไม่ได้เป็ นเพียงคำถามของการเอาชนะนิสยั เช่น การกัดเล็บ หรื อการรักษาอารมณ์ของเรา แต่เป็ นการต่อต้านวิถีของโลกซึ่งถูก
กระตุน้ หรื อแม้แต่ถูกครอบงำโดยความรักจอมปลอม เช่น เงิน ฤทธิ์ อำนาจ ความสำเร็ จ และชื่อเสี ยง คริ สเตียนมีแรงผลักดัน
อย่างหนึ่ง นัน่ คือความเชื่อในพระคริ สต์

ชีวิตไม่ใช่การต่อสู้ที่พา่ ยแพ้ซ่ ึงเต็มไปด้วยการต่อสู้ดิ้นรนและความวิตกกังวลอย่างต่อเนื่อง เราดำเนินชีวิตอยูใ่ น


ชัยชนะของพระคริ สต์ แม้เมื่อเรายังเป็ นเด็กเล็กๆ ฝ่ ายวิญญาณ ชัยชนะมีไว้ส ำหรับผูเ้ ริ่ มต้นเช่นเดียวกับผูเ้ ป็ นบิดา ด้วยความเชื่อ
ในพระองค์ ความพ่ายแพ้ของเราร่ วงโรยไปเหมือนใบไม้ร่วงในฤดูใบไม้ร่วง เมื่อเราอนุญาตให้พระเยซูรับภาระหน้าที่ของเรา
"โลกกับสิ่ งยัว่ ยวนของโลกกำลังผ่านพ้นไป” (1 ยอห์น 2:17 ฉบับ niv)
9
มิถุนายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“ดังนั้นอย่าให้เรากล่าวโทษกันและกันอีกเลย แต่จงตัดสิ นใจดีกว่าว่าจะไม่วางสิ่ งซึ่งทำให้พี่นอ้ งสะดุด หรื อสิ่ งกีดขวางทางของ
เขา” (โรม 14:13)
ไฟประจำวัน!
ฉันจะไม่หวัน่ ไหวแคลงใจในพระสัญญาของพระเจ้า แต่มีความเชื่อมัน่ คงยิง่ ขึ้น จึงถวายเกียรติแด่พระเจ้า
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
โรม 4:20; 14:1–13
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
เฉลยธรรมบัญญัติ 13 และ 14; สดุดี 99 ถึง 101
เย็น:
อิสยาห์ 41;
วิวรณ์ 11
ความเชื่อ คือ การตัดสิ นใจ
ดร. เอมิล บรันเนอร์ นักศาสนศาสตร์ชาวสวิส ผูย้ ิง่ ใหญ่ สรุ ปความคิดของเขาด้วยคำ 4 คำ นัน่ คือ ความเชื่อ คือ การ
ตัดสิ นใจ เขาเอามาจากพระเยซูซ่ ึงพูดอย่างนั้นเสมอ พระเยซูสรรเสริ ญผูเ้ ชื่อ…และตำหนิผไู้ ม่เชื่อ เช่นเดียวกับที่เราสามารถเห็น
ได้ยนิ รู้สึก ลิ้มรส ได้กลิ่น เราก็สามารถเชื่อได้เช่นกัน นัน่ คือประสาทสัมผัสหรื อสัมผัสที่ 6 ของเรา ซึ่งเป็ นสายตาฝ่ ายวิญญาณ หู
ที่ได้ยนิ หรื อมือที่จะรับพระพรของพระเจ้า การเชื่อไม่ได้เกินความสามารถของผูใ้ ด พวกเขาแก้ตวั ว่า “ฉันไม่ได้ถูกสร้างมาแบบ
นั้น” แต่เราทุกคนล้วนเป็ นอย่างนั้น บางคนคิดว่าความเชื่อ คือ เงิน นัน่ คือสิ่ งที่ดี ถ้าคุณมีบา้ ง ความเชื่อไม่ใช่สิ่งที่คุณมี แต่สิ่งที่
คุณทำ เราทุกคนสามารถขึ้นสู่ที่สูงได้ ถ้าเราต้องการ
เปาโล อัครทูตผูย้ ิง่ ใหญ่ เข้าใจว่าทุกคนมีความเชื่อ แต่บางคนมีความชำนาญในการใช้มากกว่าคนอื่น
จงต้ อนรั บคนที่ยงั มีความเชื่ อน้ อยอยู่ แต่ ไม่ ใช่ เพื่อให้ โต้ เถียงกันในเรื่ องที่เป็ นความคิดเห็นส่ วนตัว คนหนึ่งถือว่ าจะกิน
อะไรก็ได้ แต่ อีกคนหนึ่งที่มีความเชื่ อน้ อยก็กินแต่ ผกั เท่ านั้น อย่ าให้ คนที่กินนั้นดูหมิ่นคนที่ไม่ กิน และอย่ าให้ คนที่ไม่
กินตัดสิ นคนที่กิน เพราะว่ าพระเจ้ าทรงยอมรั บเขาแล้ ว...ถ้ าเรามีชีวิตอยู่กเ็ พื่อองค์ พระผู้เป็ นเจ้ า และถ้ าเราตายก็เพื่อองค์
พระผู้เป็ นเจ้ า เพราะฉะนั้นไม่ ว่าเรามีชีวิตอยู่หรื อตายไปก็ตาม เราก็เป็ นคนขององค์ พระผู้เป็ นเจ้ า (โรม 14:1–3, 8) ใคร
ต้องการความไม่เชื่อ? มันเป็ นทางตัน เป็ นทางที่ไม่ไปสู่ที่ใดเลย ไม่มีน้ำ ไม่มีความรัก ถ้าต้องการออกจากมันก็ให้หนั
หลังกลับ หรื อในภาษาของพระคัมภีร์ คือ กลับใจ นัน่ คือจงตัดสิ นใจที่จะเชื่อ แทนที่จะไม่เชื่อ ความสงสัยเป็ น
อันตรายถึงชีวิต จงเลือกที่จะมีชีวิตอยู่ “จงกลับใจใหม่ และเชื่อข่าวประเสริ ฐ” (มาระโก 1:15) ความเชื่อทำให้เกิดการ
ทำดี แต่การทำดีไม่ก่อให้เกิดความเชื่อ เช่นเดียวกับที่นมทำให้เกิดเนย แต่เนยไม่ได้ท ำให้เกิดน้ำนม

ความเชื่อ ความเชื่อที่ยิง่ ใหญ่ เห็นพระสัญญา


และมองไปที่น้ นั เพียงอย่างเดียว
หัวเราะให้กบั ความเป็ นไปไม่ได้
และร้องว่า “มันจะสำเร็จ”
—ชาร์ลส์ เวสลีย ์ (1742)

10
มิถุนายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“และเราทุกคนมีของประทานต่างกัน ตามพระคุณที่ประทานแก่เรา คือถ้าของประทานเป็ นการเผยพระวจนะ ก็จงเผยตามกำลัง
ของความเชื่อ” (โรม 12:6)
ไฟประจำวัน!
ถ้าฉันมีความเชื่อเท่าไมโครชิป ฉันก็ยงั สามารถเคลื่อนภูเขาได้!
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
อิสยาห์ 40:31; ลูกา 17:5–6; โรม 12:6
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
เฉลยธรรมบัญญัติ 15; สดุดี 102
เย็น:
อิสยาห์ 42;
วิวรณ์ 12
ขนาดของความเชื่อ
พวกอัครทูตพูดกับองค์พระผูเ้ ป็ นเจ้าว่า “ขอโปรดให้ความเชื่อของพวกข้าพระองค์เพิ่มมากยิง่ ขึ้น” (ลูกา 17:5)
คริ สเตียนต้องการสิ่ งนั้นตั้งแต่น้ นั เป็ นต้นมา นัน่ คือความเชื่อจำนวนมาก! อะไรคือคำตอบของพระเยซู? “ถ้าพวกท่านมีความเชื่อ
เพียงเท่าเมล็ดมัสตาร์ดเมล็ดหนึ่ง ท่านก็จะสัง่ ต้นหม่อนนี้ได้วา่ ‘จงถอนขึ้น ออกไปปักในทะเล’ แล้วมันก็จะเชื่อฟังท่าน” (ลูกา
17:6) นัน่ คงทำให้เหล่าอัครทูตงงงวย พวกเขาต้องการความเชื่อที่ยิง่ ใหญ่ แต่พระองค์พดู ถึงสิ่ งเล็กน้อยที่สุดที่พวกเขารู้ พระองค์
ไม่ได้อา้ งถึงเมล็ดมัสตาร์ดเนื่องจากมันเล็กมาก ประเด็นคือความแตกต่างระหว่างความเชื่อที่มากมายกับเมล็ดที่เล็กแต่มีชีวิต
พระองค์ตอ้ งการสรุ ปว่าความเชื่อไม่ใช่เรื่ องของขนาด ขนาดเป็ นคำที่ไม่ถูกต้อง ความเชื่อไม่มีท้ งั ปริ มาณและน้ำหนัก ความคิดมี
รู ปร่ างอย่างไร? ความเชื่อ คือ สิ่ งที่คุณทำ! มันเป็ นการกระทำ ไม่ใช่วตั ถุ พระคัมภีร์พดู ถึง “ขนาดของความเชื่อ” เป็ นขนาดของ
งานที่ท ำอยู่ เชื่อมโยงกับความจำเป็ น เช่นเดียวกับการวิ่งที่ตอ้ งการอากาศมากขึ้น การบริ โภคของคุณจะเพิ่มขึ้นโดยอัตโนมัติ

ขนาดสูญเสี ยความหมาย แม้ส ำหรับงานเมื่อเป็ นงานแห่งความเชื่อ นกบินข้ามทั้งความสูงของเนินเขา บ้าน และเนินดิน


โดยความเชื่อ เรา “บินขึ้นด้วยปี กเหมือนนกอินทรี ” (อิสยาห์ 40:31) และไม่มีอะไรที่จะฟันฝ่ าไม่ได้ ความเชื่อที่แข็งขันจำเป็ น
สำหรับสิ่ งที่เป็ นไปไม่ได้ ความเชื่อทางศาสนา ความเชื่อในคริ สตจักรเท่านั้นไม่มีความเป็ นไปไม่ได้ที่มากพอ ความเชื่อที่มนั่ คง
เติบโตในอากาศภายนอก หรื อไม่อย่างนั้นพืชก็จะเป็ นโรค
บางทีคุณอาจไม่เคยเห็นเมล็ดมัสตาร์ด? คุณอาจต้องใช้แว่นตาของคุณสักอัน! แต่คนที่พระเยซูพดู ด้วยรู้จกั เมล็ดพืช มัน
เป็ นโลกเกษตรกรรม พระเยซูตรัสภาษาเกษตรกรรมของพวกเขา วันนี้ เราเป็ นสังคมที่มีเทคโนโลยีสูง และการแสดงออกของเรา
ก็เป็ นวิทยาศาสตร์ พระเยซูพดู ภาษาของผูค้ น และทุกวันนี้ การแสดงออกของเรามาจากเทคโนโลยี ไม่ตอ้ งสงสัยเลยว่าวันนี้ พระ
เยซูคงใช้ค ำพูดทัว่ ไปของเรา เมื่อ 2000 ปี ที่แล้ว พระเยซูตรัสเกี่ยวกับ “เมล็ดมัสตาร์ด” ซึ่งเป็ นสิ่ งเล็กๆ แต่มีศกั ยภาพที่ยงิ่ ใหญ่
บางทีวนั นี้ พระองค์อาจจะตรัสเกี่ยวกับไมโครชิพหรื อฟิ วส์เพื่ออธิบายคำสอนของพระองค์วา่ “ถ้าท่านมีความเชื่อเพียงเล็กน้อย
เท่าฟิ วส์ไฟฟ้ า คุณก็สามาถเคลื่อนต้นไม้จากดินไปที่ทะเลได้” เช่นเดียวกับเมล็ดมัสตาร์ด ค่าของฟิ วส์ไม่ได้อยูท่ ี่ความกว้างหรื อ
ความยาว กุญแจสำคัญคือการนำไฟฟ้ า ความเชื่อของคุณถ่ายโอนฤทธิ์ อำนาจของพระเจ้าไปสู่ ทุกที่ที่จ ำเป็ น

11
มิถุนายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“พระเยซูจึงตรัสกับคนเหล่านั้นว่า “อย่าตำหนิ นางเลย ไปกวนใจนางทำไม? นางทำสิ่ งดีสำหรับเรา เพราะว่าพวกท่านมีคนยาก
จนอยูด่ ว้ ยเสมอ และพวกท่านจะทำการดีต่อพวกเขาเมื่อไหร่ กไ็ ด้ แต่พวกท่านจะไม่มีเราอยูด่ ว้ ยเสมอไป” (มาระโก 14:6–7)
ไฟประจำวัน!
การเผยแพร่ ข่าวประเสริ ฐของพระเยซูคริ สต์ไปทัว่ โลกต้องกลายเป็ น
ความสำคัญสูงสุ ดของฉัน
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
โยนาห์ 4:1–11; มาระโก 14:3–9; ยอห์น 10:27–29
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
เฉลยธรรมบัญญัติ 16; สดุดี 103
เย็น:
อิสยาห์ 43; วิวรณ์ 13
ความโกรธที่ชอบธรรมและการจัดลำดับความสำคัญที่ถูกต้ อง
ในเรื่ องราวที่น่าสนใจของโยนาห์ พระเจ้าตรัสกับเขาผ่านทางต้นไม้ที่ข้ ึนเหนือเขาแล้วก็เหี่ ยวเฉา โยนาห์ก ำลังพักอยู่
นอกเมืองครู่ หนึ่ง รอดูวา่ จะเกิดอะไรขึ้น แดดร้อนมาก ดังนั้นโยนาห์จึงหาที่ก ำบัง ต้นไม้ที่พระเจ้าจัดเตรี ยมไว้ได้เติบโตขึ้นเหนือ
โยนาห์เพื่อให้เขาได้รับความคุม้ ครองจากความร้อนมากยิง่ ขึ้น แต่แล้วมันก็เหี่ ยวเฉาในชัว่ ข้ามคืน รากของมันถูกหนอนบางชนิด
ทำลาย

โยนาห์เดือดดาล พระเจ้าตรัสว่า “ที่เจ้าโกรธเพราะต้นไม้น้ นั ดีแล้วหรื อ?” (โยนาห์ 4:9) โยนาห์อา้ งว่าโกรธพอที่จะตาย


ดังนั้นพระเจ้าจึงตรัสถึงกรณี ของพระองค์ ถ้อยคำสุ ดท้ายของหนังสื อโยนาห์ คือ พระคำขององค์พระผูเ้ ป็ นเจ้าว่า เจ้ าหวงต้ นไม้
ซึ่ งเจ้ าไม่ ได้ ลงแรงปลูกและไม่ ได้ ทำให้ มนั เจริ ญ มันงอกเจริ ญขึน้ ในคืนเดียว แล้ วก็ตายไปในคืนเดียว ไม่ สมควรหรื อที่เราจะ
ห่ วงใยนีนะเวห์ นครใหญ่ นั้น ซึ่ งมีพลเมืองมากกว่ า 120,000 คน ผู้ไม่ ทราบว่ าข้างไหนมือขวาข้ างไหนมือซ้ าย และมีสัตว์ เลีย้ งจำ
นวนมากด้ วย?” (โยนาห์ 4:10–11) สำหรับโยนาห์ ต้นไม้น้ นั ดูเหมือนสำคัญกว่าชีวิตผูค้ น สิ่ งนี้มีบทเรี ยนที่จะสอนเราเกี่ยวกับสิ่ ง
ที่สำคัญสำหรับเรา มีเหตุอนั ชอบธรรมมากมายในทุกวันนี้ ยุโรปมีชื่อเสี ยงเป็ นพิเศษในด้านการล็อบบี้ที่ทรงพลังที่ส่งผลต่อ
กฎหมายในประเด็นทางศีลธรรมที่ส ำคัญหลายประการ เช่น ความกังวลต่อสิ่ งแวดล้อม คริ สเตียนบางคนอาจพบว่าตัวเองเข้าไป
พัวพันกับเรื่ องดังกล่าวทั้งทางการเมืองและอาชีพ...แล้วทำไมไม่ล่ะ? คำถามคือ “เรากำลังเลือกที่จะโกรธเรื่ องอะไรมากที่สุด?”
แกะของเราย่ อมฟั งเสี ยงของเรา เรารู้ จักแกะเหล่ านั้น และแกะนั้นก็ตามเรา เราให้ ชีวิตนิรันดร์ แก่ แกะทั้งหลาย แกะ
เหล่ านั้นจะไม่ มีวันพินาศและจะไม่ มีใครแย่ งชิ งแกะนั้นไปจากมือของเราได้ พระบิดาของเราผู้ประทานแกะนั้นให้ แก่
เราทรงเป็ นใหญ่ กว่ าทุกสิ่ ง และไม่ มีใครสามารถชิ งไปจากพระหั ตถ์ ของพระบิดาได้ (ยอห์ น 10:27–29) พระเยซูเอง
ทรงแสดงความโกรธเมื่อผูค้ นทำให้พระนิเวศของพระบิดาเป็ นมลทิน แต่พระองค์กท็ รงฟื้ นฟูสนั ติภาพอย่างรวดเร็ว
เช่นกัน ขอให้นนั่ เป็ นเป้ าหมายของคุณ นัน่ คือเป็ นผูฟ้ ้ื นฟูสนั ติภาพของพระเจ้าให้กบั โลก
12
มิถุนายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“เราเป็ นผูเ้ ลี้ยงที่ดี ผูเ้ ลี้ยงที่ดียอ่ มสละชีวิตของตนเพื่อฝูงแกะ” (ยอห์น 10:11)
ไฟประจำวัน!
ด้วยความรักของพระองค์ พระองค์สิ้นพระชนม์เพื่อฉัน ในความรักของพระองค์ ตอนนี้ ฉนั มีชีวิตอยู่
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
ยอห์น 10:7–18; 1 เปโตร 2:24; 1 ยอห์น 1:7; 3:16
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
เฉลยธรรมบัญญัติ 17; สดุดี 104
เย็น:
อิสยาห์ 44; วิวรณ์ 14
พระคริสต์ เพือ่ เรา
เช่ นนีแ้ หละเราจึ งรู้ จักความรั ก โดยที่พระองค์ ได้ ยอมสละพระชนม์ ของพระองค์ เพื่อเรา (1 ยอห์ น 3:16)
ชีวิตในแผ่นดินโลกของพระคริ สต์น้ นั สั้นมาก พระองค์ถูกตรึ งที่ไม้กางเขนเมื่ออายุได้ 33 ปี และอยูใ่ นสายตาของ
สาธารณชนเพียง 3 ปี ครึ่ งเท่านั้น พระเยซูคริ สต์ทรงเป็ นของขวัญให้แก่มนุษยชาติ ทั้งชีวิตของพระองค์มีไว้เพื่อเราทั้งหมด เรา
เป็ นความห่วงใยแต่เพียงอย่างเดียวของพระองค์ ชีวิตของพระองค์เป็ นแบบอย่างของการอุทิศตนเพื่อมนุษยชาติอย่างไร้ที่ติ
พระองค์ปราศจากผลประโยชน์ส่วนตนโดยสิ้ นเชิง และพระองค์มีพระประสงค์เพียงประการเดียวในการอยูท่ ี่นี่ นัน่ คือเพื่อพวก
เรา ผูค้ น
พระองค์ไม่ได้รับใช้ดว้ ยการเป็ นนักกิจกรรมด้านมนุษยธรรม การเมือง หรื อสังคม พระองค์ไม่เคยให้เงินใครเลยแม้แต่
บาทเดียว เพียงเพราะว่าพระองค์ไม่เคยมีเงินเลย ครั้งหนึ่งเมื่อพระองค์ตอ้ งการเงิน 1 เหรี ยญเพื่อเป็ นภาพประกอบคำเทศนา บาง
คนต้องให้พระองค์ยมื แต่พระองค์ทรงประทานทุกสิ่ งที่ทรงมีแก่ผคู้ น และนัน่ คือพระองค์เอง ซึ่งคือหัวใจของพระองค์ “แต่ถา้
เราเดินอยูใ่ นความสว่าง เหมือนอย่างที่พระองค์สถิตในความสว่าง เราก็มีสามัคคีธรรมซึ่งกันและกัน และพระโลหิ ตของพระเยซู
คริ สต์พระบุตรของพระองค์ ก็ช ำระเราให้ปราศจากบาปทั้งสิ้ น” (1 ยอห์น 1:7)

การรักษาไหลออกมาจากพระหัตถ์ของพระองค์ เมื่อพระองค์ไม่เหลือสิ่ งใดและไม่สามารถให้ได้อีกต่อไป ในที่สุด


พระองค์กท็ รงสละพระโลหิ ตแห่งชีวิตของพระองค์เอง นัน่ คือพระโลหิ ตแห่งการทรงไถ่ ซึ่งเป็ นราคาสำหรับความรอดของเรา
สิ่ งที่พระองค์ทรงมอบให้น้ นั มากเกินกว่าวัตถุหรื อแม้แต่การรักษา พระองค์ทรงประทานพระองค์เอง ในการละทิ้งอย่างสิ้ นเชิง
พระองค์ทรงตอบสนองความจำเป็ นของมนุษยชาติดว้ ยพระองค์เอง “พระองค์เองได้ทรงรับแบกบาปทั้งหลายของเราไว้ในพระ
กายของพระองค์ ที่ตน้ ไม้น้ นั เพื่อว่าเราจะตายต่อบาปได้ และดำเนินชีวิตเพื่อความชอบธรรม ด้วยบาดแผลของพระองค์ พวก
ท่านจึงได้รับการรักษาให้หาย” (1 เปโตร 2:24)
เมื่อพวกเขาไม่มีผเู้ ลี้ยง พระองค์กลายเป็ นผูเ้ ลี้ยงแกะที่ดี เมื่อพวกเขาไม่มีแพทย์ พระองค์กลายกลายเป็ นแพทย์ผยู้ ิง่ ใหญ่
เมื่อพวกเขาไม่มีครู พระองค์กลายเป็ นความจริ ง เมื่อฝูงชนอยูใ่ นความมืด พวกเขาพบว่าพระองค์เป็ นความสว่างของโลก พระเยซู
คริ สต์องค์เดียวกันนี้เมื่อ 2000 ปี ก่อน คือ องค์เดียวกันในวันนี้ สำหรับคุณและผม!
13
มิถุนายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“เพราะว่าพระสัญญานั้นตกแก่ท่านทั้งหลายกับลูกหลานของพวกท่านด้วย และแก่ทุกคนที่อยูไ่ กล คือทุกคนที่องค์พระผูเ้ ป็ นเจ้า
พระเจ้าของเราทรงเรี ยกให้มาเฝ้ า” (กิจการ 2:39)
ไฟประจำวัน!
มีเพียงความเห็นอกเห็นใจของพระคริ สต์เท่านั้นที่สามารถนำเสนอข่าวประเสริ ฐด้วยความรักของพระเจ้า
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
กิจการ 2:17–39
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
เฉลยธรรมบัญญัติ 18; สดุดี 105
เย็น:
อิสยาห์ 45; วิวรณ์ 15
ความรักที่เอาชนะ
ข่าวประเสริ ฐเป็ นข่าวสารแห่งความรัก และความรักไม่ได้ถูกแสดงด้วยเหตุผล แต่แสดงด้วยความรัก ถ้าคุณตกหลุมรัก
และต้องการขอผูห้ ญิงที่น่ารักแต่งงานกับคุณ คุณจะขอให้ทนายความมายืน่ เรื่ องของคุณต่อเธอหรื อไม่? ลองจินตนาการดูสิ! ทำ
แบบนี้ จะชนะใจผูห้ ญิงคนใดได้? การแต่งงานคือความรัก หรื อไม่กไ็ ม่ใช่การแต่งงาน ข่าวประเสริ ฐเป็ นทั้งฤทธิ์อ ำนาจและชีวิต
หรื อไม่กไ็ ม่ใช่ข่าวประเสริ ฐ การเทศนาไม่ใช่การเทศนาแบบ 3 จุด การเทศนาคือมนุษย์คนหนึ่งเร่ าร้อนอยูบ่ นธรรมาสน์เพื่อให้
ทุกคนได้เห็น การเทศนาอาจเป็ นการนำเสนอที่หมุนอย่างประณี ตและได้รับการออกแบบมาอย่างดีเหมือนปลอกกระสุ นเจาะ
เกราะ แต่จ ำเป็ นต้องเติมด้วยการระเบิด มิฉะนั้นจะกระเด็นออกจากจิตใจที่แข็งกระด้างของผูไ้ ม่เชื่อ อคติของพวกเขาเสริ มด้วย
การโต้แย้ง แต่พลังระเบิดในการเทศนาที่เต็มไปด้วยพระวิญญาณบริ สุทธิ์ สามารถทำลายมันได้
เมื่อเปโตรยืนขึ้นเพื่อประกาศในวันนั้นในกรุ งเยรู ซาเล็ม เขาเล่าตัวอย่างจากพระคัมภีร์ศกั ดิ์สิทธิ์ โบราณที่แสดงให้เห็น
สิ่ งที่เกิดขึ้นในปัจจุบนั นอกจากนี้ เขายังชี้ให้เห็นอย่างชัดเจนว่าชาวยิวคนเดียวกับที่เรี ยกร้องให้สิ้นพระชนม์ของพระเยซูก ำลังได้
รับโอกาสให้กลับใจจากความบาปใหญ่ของพวกเขาว่า เพราะฉะนั้น ให้ พงศ์ พันธุ์อิสราเอลทั้งหมดทราบแน่ นอนว่ า พระเจ้ าทรง
แต่ งตั้งพระเยซูที่ท่านทั้งหลายตรึ งไว้ บนกางเขนนั้น ให้ เป็ นทั้งองค์ พระผู้เป็ นเจ้ าและพระคริ สต์ ” เมื่อคนทั้งหลายได้ ยินแล้ วก็ร้ ู
สึ กแปลบปลาบใจ...เปโตรจึ งกล่ าวกับเขาทั้งหลายว่ า “จงกลับใจใหม่ และรั บบัพติศมาในพระนามของพระเยซูคริ สต์ ให้ หมดทุก
คน เพื่อพระเจ้ าจะทรงยกความผิดบาปของท่ านทั้งหลาย แล้ วพวกท่ านจะได้ รับของประทานคือพระวิญญาณบริ สุทธิ์ เพราะว่ า
พระสัญญานั้นตกแก่ ท่านทั้งหลายกับลูกหลานของพวกท่ านด้ วย และแก่ ทุกคนที่อยู่ไกล คือทุกคนที่องค์ พระผู้เป็ นเจ้ าพระเจ้ า
ของเราทรงเรี ยกให้ มาเฝ้ า” (กิจการ 2:36–39) ข่าวประเสริ ฐมักเป็ นการโจมตีอย่างทันทีทนั ใดเสมอ ซึ่งโจมตีผคู้ นจากทิศทางที่
พวกเขาไม่เคยคิดที่จะป้ องกัน พวกเขาพร้อมสำหรับการโต้แย้ง แต่ข่าวประเสริ ฐไม่โต้แย้ง พวกเขาเตรี ยมพร้อมสำหรับความ
รู้สึก แต่ข่าวประเสริ ฐไม่ใช่ความรู้สึก ในวันเพ็นเทคอสต์ พระวิญญาณบริ สุทธิ์ ถูกเทลงมา และนัน่ ทำให้เหล่าสาวกเปลี่ยนไป
โดยสิ้ นเชิง พลังของมนุษย์ถูกเต็มไปด้วยฤทธิ์ อำนาจของพระเจ้า และนัน่ คือความลับของคุณสำหรับชีวิตของคุณ…แม้กระทัง่
ทุกวันนี้

14
มิถุนายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“ของประทานนั้นมีต่างๆ กัน แต่มีพระวิญญาณองค์เดียวกัน การปรนนิ บตั ิมีต่างๆ กัน แต่มีองค์พระผูเ้ ป็ นเจ้าองค์เดียวกัน กิจ
กรรมมีต่างๆ กัน แต่มีพระเจ้าองค์เดียวกันเป็ นต้นเหตุแห่งกิจกรรมทั้งหมดในทุกคน” (1 โคริ นธ์ 12:4–6)
ไฟประจำวัน!
องค์พระผูเ้ ป็ นเจ้า ขอทรงแสดงให้ขา้ พระองค์เห็นวิธีส ำแดงฤทธิ์ อ ำนาจและความรักของพระองค์ต่อโลกที่เจ็บปวด
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
1 โคริ นธ์ 12:1–31
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
เฉลยธรรมบัญญัติ 19; สดุดี 106
เย็น:
อิสยาห์ 46; วิวรณ์ 16
ฤทธิ์อำนาจที่สำแดงให้ เห็น
ฤทธิ์อำนาจแห่งข่าวประเสริ ฐเป็ นฤทธิ์ อำนาจที่สำแดงออก นัน่ คือ “การสำแดงของพระวิญญาณนั้น พระองค์ประทาน
แก่แต่ละคนเพื่อประโยชน์ร่วมกัน” (1 โคริ นธ์ 12:7) ฤทธิ์อำนาจของพระองค์ควรจะถูกเห็นและสำแดงออก ควรมีผลกระทบ—
ทางกายภาพหรื อส่ วนบุคคล—ซึ่งเป็ นผลมาจากฤทธิ์ อ ำนาจของพระเจ้า—ชีวิตของผูค้ นควรได้รับผลกระทบในแบบที่จบั ต้องได้
พระวิญญาณบริ สุทธิ์ ไม่ใช่ทฤษฎี แต่เป็ นการกล่าวถึงสิ่ งที่เกิดขึ้นในโลกอันไกลโพ้น ของสิ่ งซึ่งเราไม่รู้ ฤทธิ์ ของพระองค์ คือ
ฤทธิ์อำนาจที่สำแดงออก
มีฤทธิ์ อำนาจ 2 รู ปแบบ และรู ปแบบหนึ่งที่คริ สเตียนพูดถึงมากที่สุด คือ ดูนามิส เราสามารถชี้ ถึงคำนั้นได้ เพราะว่าเรา
ใช้ค ำนี้ในภาษาอังกฤษมาก นัน่ คือ ไดนาโม ได้นาไมต์ ไดนามิค แต่แท้จริ งแล้วคำเหล่านี้แสดงถึง "ฤทธิ์อ ำนาจภายใต้การห่อ
หุม้ " ไดนาไมต์เป็ นเพียงสสารสี เทา ซึ่งคุณสามารถพกพาใส่ กระเป๋ าเอกสารได้ แต่จงระมัดระวัง! มันคือชุดพลัง เป็ นพลังแฝง
พลังที่สะสมไว้ เปาโลยังใช้อีกคำหนึ่งว่า เอเนร์จีมา (energema) - พลังงาน เมื่อพลังของไดนาไมต์ถูกปล่อยออกมา มันจะกลาย
เป็ นพลังงาน พลังงานคือพลังที่ถูกปลดปล่อย ใน 1 โคริ นธ์ 12 คำเดียวกันนี้ถูกแปลว่า “กิจกรรม” นัน่ คือพลังในการดำเนินการ “
การทำการอัศจรรย์” ที่ถูกใช้กนั ต่อมาเป็ นการรวมทั้ง 2 คำ นัน่ คือ "พลังที่ท ำการในพลังงาน

พูดตามตรงแล้ว ความเชื่อของคริ สเตียนเป็ นสิ่ งเหนือธรรมชาติ หรื อไม่กไ็ ม่เป็ นอะไรเลย เรามีและยังคงมีพระเยซูที่
เหนือธรรมชาติ พร้อมด้วยพันธกิจที่เหนือธรรมชาติ สร้างคริ สตจักรที่เหนือธรรมชาติ พร้อมด้วยข่าวประเสริ ฐที่เหนือธรรมชาติ
และพระคัมภีร์ที่เหนือธรรมชาติ นำสิ่ งอัศจรรย์ออกไป และคุณก็ได้พรากชีวิตของคริ สเตียนออกไป คริ สตจักรกลายเป็ นสังคม
แห่งจริ ยธรรม หรื อชมรมทางสังคม เมื่อเจตนาให้เป็ นระบบขดลวดสำหรับการส่ งฤทธิ์อ ำนาจของพระเจ้าไปสู่ โลกที่ไร้ฤทธิ์
อำนาจนี้ คุณและผมเป็ นผูน้ ำแห่งฤทธิ์อำนาจของพระเจ้าไปสู่ ทวั่ โลก!
15
มิถุนายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“เพราะเหตุน้ ี พระองค์จึงทรงสามารถช่วยคนทั้งหลายที่เข้ามาใกล้พระเจ้าโดยทางพระองค์น้ นั อย่างเต็มที่ เพราะว่าพระองค์ทรง
พระชนม์อยูท่ ุกเวลา เพื่อทูลขอเผือ่ คนเหล่านั้น” (ฮีบรู 7:25)
ไฟประจำวัน!
องค์พระผูเ้ ป็ นเจ้าที่รัก โปรดเตือนข้าพระองค์วา่ ในทุกสิ่ งที่พดู ในทุกสิ่ งที่ขา้ พระองค์ท ำ ข้าพระองค์เป็ นตัวแทนของพระองค์ไป
ยังโลกที่บาป
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
สดุดี 67, 96, 137:3–4; เอเสเคียล 36:23; โยนาห์ 1:1–17; 2:1–10; มัทธิว 12:39; ฮีบรู 7:25
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
เฉลยธรรมบัญญัติ 20; สดุดี 107
เย็น:
อิสยาห์ 47;
วิวรณ์ 17
นิมิตโลก
ในบรรดาผูเ้ ผยพระวจนะในพันธสัญญาเดิม โยนาห์เป็ นคนเดียวที่ออกจากอิสราเอลและเทศนาพระคำขององค์พระผู้
เป็ นเจ้าอย่างเปิ ดเผยตามท้องถนนในต่างแดน มีความเกี่ยวดองระหว่างโยนาห์กบั พระเยซู โยนาห์เป็ นผูเ้ ผยพระวจนะคนเดียวที่
พระเยซูเชื่อมโยงพระองค์เป็ นการส่ วนตัว พระองค์ตรัสว่าเขาเป็ น “หมายสำคัญ [ต่ออิสราเอล] ของโยนาห์ ผูเ้ ผยพระวจนะ”
(มัทธิว 12:39) โยนาห์มีภาระที่พระเจ้ามอบให้ส ำหรับเมืองของคนต่างชาติ คนต่อไปที่จะแบกรับภาระดังกล่าวคือพระเยซูคริ สต์
เอง หัวใจของพระองค์ใหญ่พอที่จะรับคนทั้งอิสราเอลและคนต่างชาติท้ งั โลกไว้ได้!

ไม่มีผเู้ ผยพระวจนะคนใดของอิสราเอลคนใดเคยนำพระคำขององค์พระผูเ้ ป็ นเจ้าไปสู่ โลกภายนอก เว้นแต่เมื่อพวกเขา


ถูกกวาดต้อนไปเป็ นเชลยศึก ในบาบิโลน บางคนยืนยันคำพยานต่อองค์พระผูเ้ ป็ นเจ้า พระเจ้าแห่งอิสราเอล เราอ่านสิ่ งเหล่านี้ใน
หนังสื อของดาเนียลและเอสเธอร์ แต่ชนเผ่าทางเหนือถูกดูดกลืนเข้าไปในอาณาจักรอัสซีเรี ยและสูญหายไป ในพระธรรมสดุดี มี
คนบอกเราว่า “เพราะที่นนั่ ผูท้ ี่จบั เราเป็ นเชลย เรี ยกให้เราร้องเพลง และผูท้ ี่กดขี่เรา ต้องการให้สนุกสนาน กล่าวว่า “จงร้องเพลง
ศิโยนสักบทหนึ่งให้เราฟัง!” เราจะร้องเพลงของพระยาห์เวห์ได้อย่างไร ที่ในแผ่นดินต่างด้าว?” (สดุดี 137:3–4) ช่างน่าเสี ยดาย
เพราะว่าเพลงเหล่านั้นสามารถแนะนำพระเจ้า ผูท้ รงพระชนม์ต่อโลกภายนอกได้
ความห่วงใยของพระเจ้าที่มีต่อสิ่ งทรงสร้างของพระองค์ขยายไปถึงทุกคนเท่าๆ กัน แม้แต่คนทรยศและคนชัว่ ร้ายที่สุด
อย่างไรก็ตาม โยนาห์ไม่ได้รู้สึกแบบเดียวกันเลย และรู้สึกไม่พอใจกับหน้าที่ของเขา เขาพยายามออกห่างจากพระเจ้า แต่พระเจ้า
ทรงตัดสิ นพระทัยให้เขาไป และส่ งพายุมาในทะเลขณะที่โยนาห์พยายามหนี มันเป็ นพายุแห่งการต่อต้านของพระเจ้าต่อทัศนคติ
ของโยนาห์ที่ปราศจากความสงสาร
พระเจ้าทำให้โยนาห์เป็ นข้อยกเว้นที่โดดเด่น พระองค์บงั คับให้เขาทำในสิ่ งที่อิสราเอลควรทำ แต่ไม่เคยทำ พระเจ้าได้
ยกอิสราเอลขึ้นเพื่อให้พระนามขององค์พระผูเ้ ป็ นเจ้าเป็ นที่เลื่องลือไปทัว่ แผ่นดินโลก! แม้แต่คริ สตจักรดั้งเดิมก็เป็ นของชาวยิว
ทั้งหมดมาเป็ นเวลา 20 ปี บางทีโยนาห์อาจเป็ นหนึ่งในผูเ้ ผยพระวจนะที่ยิง่ ใหญ่ที่สุด แม้วา่ จะมีขอ้ บกพร่ อง! วันนี้ จงอนุญาตให้
พระเจ้าตรัสกับหัวใจของคุณเกี่ยวกับความรับผิดชอบของคุณเองต่อโลกที่ก ำลังจะตาย
16
มิถุนายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“ไม่มีใครเป็ นข้าสองเจ้า บ่าวสองนายได้ เพราะว่าเขาจะชังนายข้างหนึ่ง และรักนายอีกข้างหนึ่ง หรื อเขาจะนับถือนายฝ่ ายหนึ่ง
และดูหมิ่นนายอีกฝ่ ายหนึ่ง ท่านทั้งหลายจะรับใช้พระเจ้าและเงินทองพร้อมกันไม่ได้” (มัทธิว 6:24)
ไฟประจำวัน!
ฉันต้องการที่จะ “มัง่ คัง่ ในการทำดี พร้อมที่จะให้ ยินดีที่จะแบ่งปัน สะสมรากฐานที่ดีสำหรับเวลาที่จะมาถึงเพื่อตัวฉันเอง เพื่อ
ฉันจะได้ยดึ ชีวิตนิรันดร์ไว้"
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
โยนาห์ 1:1–17; มัทธิว 6:24; ลูกา 16:13; เอเฟซัส 4:11; 1 ทิโมธี 6:17–19; 2 เปโตร 3:9
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
เฉลยธรรมบัญญัติ 21; สดุดี 108 และ 109
เย็น:
อิสยาห์ 48; วิวรณ์ 18
การประกาศเป็ นความคิดริเริ่มของพระเจ้ า
ความคิดริ เริ่ มที่จะช่วยนีนะเวห์ให้รอดมาจากพระเจ้า ไม่ใช่จากโยนาห์ “องค์พระผูเ้ ป็ นเจ้าไม่...ทรงประสงค์ให้ใคร
พินาศเลย แต่ประสงค์ให้ทุกคนกลับใจใหม่” (2 เปโตร 3:9) ความคิดริ เริ่ มสำหรับการประกาศมาจากพระเจ้า และพระเจ้าทั้งทรง
เรี ยกและเตรี ยมเราให้พร้อมสำหรับงานนี้ พระองค์ให้บางคนเป็ นผูเ้ ผยแพร่ ข่าวประเสริ ฐ ในตอนแรก โยนาห์ท ำตามความคิด
ริ เริ่ มของตนเองและไปในทิศทางตรงกันข้าม นัน่ คือไปยังเมืองทารชิช แทนที่จะไปทางตะวันออก พระเจ้าตอบสนองด้วยการส่ ง
พายุที่รุนแรง! พระเจ้าได้ทรงสัญญาว่าจะอวยพรและสนับสนุนแผนการของพระองค์เอง ไม่มีพระพรของพระเจ้าในแผนการ
ของเราเอง มีในแผนการของพระองค์เท่านั้น
แล้วโยนาห์ก ำลังไปไหน? ทารชิชอยูท่ ี่ไหน? มีผเู้ ชี่ยวชาญต่างๆได้ศึกษาสิ่ งนี้เพื่อพยายามค้นหา คำว่า “ทารชิช” เชื่อม
โยงอย่างใกล้ชิดกับการถลุงแร่ เงิน ทอง และดีบุก เรื อของทารชิชเป็ นเรื อสมบัติ—ขึ้ นชื่อเรื่ องสิ นค้าราคาแพงที่บรรทุกไป เรื อ
เหล่านี้กลายเป็ นสัญลักษณ์ของความมัง่ คัง่ อำนาจ และความภาคภูมิใจ สำหรับโยนาห์ นีนะเวห์เป็ นตัวแทนของการเสี ยสละ
เท่านั้น เป็ นทางเลือกที่ชดั เจน นัน่ คือนีนะเวห์พร้อมกับภัยคุกคามของมัน หรื อทารชิชพร้อมกับเงินของมัน
“ไม่มีผใู้ ดเป็ นข้าสองเจ้าบ่าวสองนายได้ เพราะจะเกลียดชังนายคนหนึ่งและจะรักนายอีกคนหนึ่ง หรื อจะนับถือนายคน
หนึ่งและจะดูหมิ่นนายอีกคนหนึ่ง ท่านจะรับใช้พระเจ้าและเงินทองพร้อมกันไม่ได้” (ลูกา 16:13) เราอยูเ่ พื่อค่าจ้าง นัน่ คือที่ที่
เสนอเงินเดือนมากที่สุดหรื อไม่? เงินเป็ นตัวตัดสิ นในการทรงเรี ยกของเราหรื อไม่? ทรัพย์ศฤงคารและพันธกิจไม่ถูกกัน พระองค์
ทรงให้ประโยชน์แก่ผทู้ ี่ท ำหน้าที่ได้ดีที่สุด ส่วนพวกที่มงั่ คัง่ ในชีวิตนี้ จงกำชับพวกเขาไม่ ให้ เย่ อหยิ่ง หรื อมุ่งหวังในทรั พย์ ที่ไม่
ยัง่ ยืน แต่ ให้ ม่ งุ หวังในพระเจ้ าผู้ประทานทุกสิ่ งแก่ เราอย่ างบริ บูรณ์ เพื่อให้ เราได้ ชื่นชม จงกำชับพวกเขาให้ ทำการดี ให้ ทำการดี
มากๆ ให้ เอือ้ เฟื ้ อเผื่อแผ่ และแบ่ งปั น การทำเช่ นนี เ้ ป็ นการสะสมทรั พย์ ที่เป็ นรากฐานอันดีสำหรั บตนในภายหน้ า เพื่อพวกเขาจะ
ยึดมัน่ ในชี วิต คือชี วิตที่แท้ จริ งนั้น (1 ทิโมธี 6:17–19) ดังนั้นจงตัดสิ นใจวันนี้ …เพื่อรับใช้พระเจ้า…ให้พระองค์มาก่อน…เพื่อให้
พระองค์เป็ นลำดับความสำคัญอันดับที่ 1 ของคุณ แล้วคุณจะเห็นว่าส่วนอื่นๆ ในชีวิตของคุณจะเข้าที่เข้าทาง
17
มิถุนายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“เพราะว่าการเชื่อด้วยใจก็นำไปสู่ความชอบธรรม และการยอมรับด้วยปากก็นำไปสู่ความรอด” (โรม 10:10)
ไฟประจำวัน!
ยิง่ ฉันต้านทานพระคำของพระเจ้าน้อยลง ระดับของฤทธิ์ อำนาจของฉันก็ยงิ่ สูงขึ้น!
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
โรม 10:10; 1 โคริ นธ์ 1:21; 1 ยอห์น 4:19
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
เฉลยธรรมบัญญัติ 22; สดุดี 110 และ 111
เย็น:
อิสยาห์ 49; วิวรณ์ 19
ความต้ านทานต่ำ
ฟิ วส์ท ำจากโลหะ เช่น ลวดเงิน ซึ่งมีความต้านทานกระแสไฟฟ้ าต่ำ ความต้านทานต่ำหมายถึงการนำไฟฟ้ าสูง แปลเป็ น
เรื่ องฝ่ ายวิญญาณ ยิง่ เราต่อต้านพระคำของพระเจ้าน้อยลง ระดับของฤทธิ์ อำนาจก็ยงิ่ สูงขึ้น ยิง่ เราต่อต้านการเชื่อฟังพระคำมาก
ขึ้นเท่าใด ฤทธิ์ อ ำนาจแห่งการปฏิบตั ิการของพระเจ้าก็ยงิ่ ลดลงเท่านั้น ฟิ วส์ที่มีความต้านทานสูงจะไม่จ่ายไฟเลย มิฉะนั้นจะ
ระเบิดในไม่ชา้ เมื่อเราต่อต้านพระคำด้วยความไม่เชื่อ ฤทธิ์ อ ำนาจของพระเจ้าก็ไม่สามารถผ่านเข้ามาได้ ถ้าเราบอกว่าเราเชื่อใน
พระคำ แต่ไม่เชื่อฟัง แสดงว่าเราปฏิเสธความเชื่อของเรา มันทำให้ฟิวส์ขาด ฤทธิ์ อ ำนาจของพระเจ้ามีนอ้ ยเมื่อพระคำของพระเจ้า
มีความหมายเพียงเล็กน้อยสำหรับเรา
ความเชื่อของคริ สเตียนเป็ นศาสนาแห่งฤทธิ์อ ำนาจ หรื อไม่กไ็ ม่เป็ นอะไรเลย พวกเสรี นิยม อาจารย์ของหลักคำสอนที่
ใช้เหตุผล พึ่งพาตรรกะ พวกอัครทูตพึ่งพาฤทธิ์ อำนาจของพระเจ้า นัน่ คือ “เพราะตามที่ทรงกำหนดไว้ตามพระสติปัญญาของ
พระเจ้า โลกไม่อาจรู้จกั พระเจ้าได้โดยปัญญาของตน พระเจ้าจึงพอพระทัยจะช่วยพวกที่เชื่อให้รอดโดยคำเทศนาโง่ๆ” (1 โคริ นธ์
1:21) การใช้เหตุผลเป็ นเครื่ องมือที่ไม่แน่นอนเกินไปสำหรับความสัมพันธ์ส่วนบุคคลที่สำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิง่ กับพระเจ้า เมื่อ
ผูค้ นหันไปหาวิทยาศาสตร์ดว้ ยการหักล้างทางปรัชญาเพื่อพิสูจน์ความเชื่อทางศาสนา นัน่ เป็ นเรื่ องที่ไร้สาระ วิทยาศาสตร์ไม่มี
อุปกรณ์ในการจัดการความสัมพันธ์กบั พระเจ้า

เราจะเชื่อ หรื อไม่เชื่อในผูใ้ ดอย่างไร? โดยคณิ ตศาสตร์หรื อ? คุณเคยรู้สึกว่าคุณไม่สามารถไว้วางใจบางคนได้ แต่คุณ


ไม่สามารถบอกได้วา่ ทำไมไหม? นัน่ เป็ นความรู้สึกบางอย่างในตัวคุณ สัญชาตญาณในตัวเองกำลังทำงานและส่ งสัญญาณเตือน
ภัย แต่เราเชื่อในคนอื่นด้วยเหตุผลเดียวกัน…และนัน่ คืออะไร เราไม่อาจทราบได้ สัญชาตญาณไม่เคยเตือนเราให้ต่อต้านพระเยซู
เมื่อเรา "ฉลาด" กับพระองค์ เราก็อยากเข้าใกล้มากขึ้น การรู้จกั พระองค์มากขึ้นทำให้เราอบอุ่นใจต่อพระองค์ “เรารัก ก็เพราะ
พระองค์ทรงรักเราก่อน” (1 ยอห์น 4:19) สิ่ งที่ผไู้ ม่เชื่อพูดไม่มีความหมายมากไปกว่าสิ่ งที่บารอมิเตอร์พดู วิธีที่เหมาะสม วิธีเดียว
ที่เป็ นไปได้คือไว้วางใจพระองค์ จงระลึกว่าศูนย์กลางของชีวิตที่แท้จริ งที่มีประสิ ทธิภาพ...ชีวิตของคุณ...คือหัวใจของคุณ ไม่ใช่
สมองของคุณ
18
มิถุนายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“...จงทำใจดีๆ ไว้ เพราะข้าพเจ้าเชื่อพระเจ้าว่า เหตุการณ์จะต้องเป็ นไปตามที่พระองค์ทรงกล่าวไว้กบั ข้าพเจ้า” (กิจการ 27:25)
ไฟประจำวัน!
ฉันยืนอยูบ่ นพระคริ สต์ ศิลาอันมัน่ คง
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
กิจการ 27:20–26
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
เฉลยธรรมบัญญัติ 23; สดุดี 112 และ 113
เย็น:
อิสยาห์ 50; วิวรณ์ 20
เชื่อ
ความเชื่อไม่ใช่แค่การเชื่อโดยไม่มีอะไรพิเศษในความคิด แต่เป็ นการเชื่อในบางสิ่ งและเพื่อบางสิ่ ง พระคำของพระเจ้า
ให้ประเด็น ทิศทาง และจุดประสงค์ ถ้าปราศจากพระคัมภีร์ ก็เหมือนกับ “ลูกธนูพงุ่ ขึ้นไปในอากาศซึ่งตกลงสู่ แผ่นดินโลกซึ่งฉัน
ไม่รู้วา่ อยูท่ ี่ไหน” แท้จริ งแล้วเป็ นหนังสื อเล่มเดียวที่ให้ความเชื่อเป็ นเป้ าหมายในเชิงบวก เราสงสัยว่าบางศาสนาเสนอให้ท ำ
อะไรกับคนที่เชื่อ พวกเขากลายเป็ นลู่วิ่งทางศาสนา นัน่ คือเชื่อเพื่อเชื่อ
อัครทูตเปาโลอยูบ่ นเรื อที่ก ำลังจม แต่เขากล่าวว่า “ข้าพเจ้าเชื่อพระเจ้า” มันไม่ใช่ความรู้สึกที่ทา้ ทาย มันเฉพาะเจาะจง:

และเมื่อไม่ เห็นดวงอาทิตย์ หรื อดวงดาวมาหลายวันแล้ ว ทั้งยังเจอพายุใหญ่ อยู่อีก ความหวังที่เราจะรอดนั้นก็หมด


ไป...เปาโลจึ งมายืนอยู่ท่ามกลางเขากล่ าวว่ า... “ข้ าพเจ้ าขอเตือนท่ านให้ ทำใจดีๆ ไว้ เพราะว่ าในท่ ามกลางท่ านทั้งหลาย
จะไม่ มีใครเสี ยชี วิต จะเสี ยก็แต่ เรื อเท่ านั้น เพราะว่ าเมื่อคืนนีเ้ อง ทูตสวรรค์ องค์ หนึ่งของพระเจ้ าผู้ทรงเป็ นเจ้ าของตัว
ข้ าพเจ้ าและเป็ นพระเจ้ าที่ข้าพเจ้ าปรนนิบัติมายืนอยู่ใกล้ ข้าพเจ้ า ทูตนั้นกล่ าวว่ า ‘เปาโลเอ๋ ย อย่ ากลัวเลย และพระเจ้ า
ทรงโปรดเจ้ าโดยให้ คนทั้งหมดที่อยู่ในเรื อกับเจ้ านั้นรอดตาย’ ฉะนั้น ท่ านทั้งหลาย จงทำใจดีๆ ไว้ เพราะข้ าพเจ้ าเชื่ อ
พระเจ้ าว่ า เหตุการณ์ จะต้ องเป็ นไปตามที่พระองค์ ทรงกล่ าวไว้ กับข้ าพเจ้ า แต่ ว่าเราจะต้ องไปเกยเกาะแห่ งหนึ่ง”
(กิจการ 27:20–26) มันค่อนข้างแตกต่าง 0kd ผูช้ ายที่ก ำลังข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกในพายุ กัปตันพยายามทำให้เขา
มัน่ ใจโดยกล่าวว่า “ท่านครับ เราอยูใ่ นพระหัตถ์ของพระเจ้า” ชายคนนั้นตอบว่า “แย่ขนาดนั้นเลยหรื อ?” กรุ ณายึด
ความจริ งนี้ อยูใ่ นหัวใจของคุณในวันนี้ วา่ “เมื่อพระเจ้าประทานคำสัญญาให้แก่คุณ คุณก็สามารถยืนหยัดได้อย่าง
มัน่ คง!

19
มิถุนายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“ถ้าเธอรู้จกั ของที่พระเจ้าประทาน และรู้จกั ผูท้ ี่พดู กับเธอว่า ‘ขอน้ำให้เราดื่มบ้าง’ ก็คงจะขอจากท่านผูน้ ้ นั และผูน้ ้ นั ก็คงจะให้น้ำ
ดำรงชีวิตแก่เธอ” (ยอห์น 4:10)
ไฟประจำวัน!
ของประทานในการพูดภาษาแปลกๆ ทำให้ฉนั สามารถพูดความล้ำลึกต่อพระเจ้าได้
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
ยอห์น 14:1–24; 1 โคริ นธ์ 14:1–5
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
เฉลยธรรมบัญญัติ 24; สดุดี 114 และ 115
เย็น:
อิสยาห์ 51;
วิวรณ์ 21
การดืม่ ครั้งเดียว
พระเยซูตรัสว่าเมื่อผูช้ ่วยมา “พระองค์จะอยูก่ บั ท่านตลอดไป” (ยอห์น 14:16) นี่คือที่ที่เห็นพระพรของการพูดภาษา
แปลกๆ ถูกพบเห็น เราไม่สามารถพูดได้เว้นแต่พระวิญญาณบริ สุทธิ์จะประทานคำพูดให้ ถ้าพระองค์ท ำ แสดงว่าพระองค์อยูท่ ี่
นัน่ โดยหมายสำคัญนั้น เราสามารถออกไปพิชิตได้ เพราะว่าพระองค์ทรงอยูก่ บั เรา ความรู้สึกของเราไม่ใช่ตวั บ่งชี้ที่เชื่อถือได้วา่
ฤทธิ์อำนาจของพระวิญญาณบริ สุทธิ์ อยูภ่ ายในเรา ในศตวรรษที่ 19 ก่อนที่การพูดภาษาแปลกๆจะถูกได้ยินเป็ นเรื่ องธรรมดา
ปัญหาคือการรู้วา่ เมื่อไรที่พระวิญญาณเสด็จมา ผูค้ นจะอธิษฐานเป็ นจำนวนมาก รอ เชื่อว่าฤทธิ์ อ ำนาจสามารถวัดได้จากเวลาที่ใช้
ในการอธิษฐาน ซึ่งเป็ นแนวคิดที่ค่อนข้างแปลกไปจากพระคัมภีร์ ในศตวรรษที่ 20 มีการสอนเป็ นครั้งแรกว่าหมายสำคัญของ
ภาษาแปลกๆเป็ นความมัน่ ใจถึงบัพติศมาในพระวิญญาณ สิ่ งนี้กระตุน้ การเคลื่อนไหวที่ยิง่ ใหญ่ที่สุดของพระวิญญาณบริ สุทธิ์
ตลอดกาลในทันที ความเชื่อของผมเองได้รับพลังจากสัญญาณเริ่ มแรกของภาษาแปลกๆ ซึ่งนำผมมาสู่ พนั ธกิจแห่งการประกาศ
ข่าวประเสริ ฐในปัจจุบนั นี้

เปาโลพูดถึงความสำคัญของการพูดภาษาแปลกๆ แต่ให้มองอย่างถูกต้อง:
จงมุ่งหาความรั ก และขวนขวายของประทานจากพระวิญญาณ โดยเฉพาะอย่ างยิ่งการเผยพระวจนะ เพราะว่ าคนที่พูด
ภาษาแปลกๆ นั้น ไม่ ได้ พูดกับมนุษย์ แต่ ทูลต่ อพระเจ้ า เพราะว่ าไม่ มีใครเข้ าใจได้ เขาพูดเป็ นความล้ำลึกโดยพระ
วิญญาณ แต่ ผ้ ทู ี่เผยพระวจนะนั้น พูดกับมนุษย์ เพื่อให้ เจริ ญขึน้ ให้ มีการชูใจและการปลอบใจ คนที่พูดภาษาแปลกๆ
นั้นก็ทำให้ ตัวเองเจริ ญขึน้ แต่ ผ้ เู ผยพระวจนะนั้นทำให้ คริ สตจักรเจริ ญขึน้ ข้ าพเจ้ าต้ องการให้ พวกท่ านทุกคนพูดภาษา
แปลกๆ แต่ ยิ่งกว่ านั้น ข้ าพเจ้ าต้ องการให้ พวกท่ านเผยพระวจนะ เพราะว่ าคนที่เผยพระวจนะนั้นก็ใหญ่ กว่ าคนที่พูดภา
ษาแปลกๆ นอกจากว่ ามีคนแปลได้ เพื่อคริ สตจักรจะได้ รับความเจริ ญ (1 โคริ นธ์ 14:1–5) เมื่อพระเยซูตรัสกับหญิงที่
บ่อน้ำในสะมาเรี ย พระองค์ตรัสถึง “ทุกคนที่ดื่ม” (ยอห์น 4:13) กาลภาษากรี ก ที่เขาใช้ (แอริ สต์) (aorist) หมายถึงดื่ม
เพียงครั้งเดียว ไม่ได้กลับมาพร้อมหม้อที่วา่ งเปล่า นัน่ คือสิ่ งที่หญิงที่บ่อน้ำที่สิคาร์เข้าใจ เพราะเธอกล่าวว่า “เพื่อดิฉนั
จะได้ไม่กระหายอีก และจะได้ไม่ตอ้ งมาตักที่นี่” (ยอห์น 4:15)
การดื่มเพียงครั้งเดียวทำให้เกิด “บ่อน้ำพุพลุ่งขึ้นถึงชีวิตนิรันดร์” (ยอห์น 4:14) น้ำมักถูกใช้เป็ นสัญลักษณ์ของพระ
วิญญาณบริ สุทธิ์ ในพระคัมภีร์ เช่นเดียวกับที่นี่ โอ้ จงมาที่น ้ำพุน้ นั อีกครั้งในวันนี้ และทุกๆ วัน และดื่มน้ำจากบ่อน้ำที่ไม่มีวนั
เหื อดแห้ง!

20
มิถุนายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“จงไปพลางประกาศพลางว่า ‘แผ่นดินสวรรค์มาใกล้แล้ว’ จงรักษาคนเจ็บป่ วยให้หาย จงทำให้คนตายแล้วเป็ นขึ้น จงทำให้คน
โรคเรื้ อนหายสะอาด และจงขับผีออก ท่านทั้งหลายได้รับเปล่าๆ ก็จงให้เปล่าๆ” (มัทธิว 10:7–8)
ไฟประจำวัน!
แผ่นดินของพระเจ้าถูกระบุตวั ตนด้วยการอัศจรรย์
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
มัทธิว 10:7–8; มาระโก 16:17–18
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
เฉลยธรรมบัญญัติ 25; สดุดี 116
เย็น:
อิสยาห์ 52;
วิวรณ์ 22
ระบุตวั ตนด้ วยการอัศจรรย์
เมื่อผมอยูใ่ นบราซซาวิล เมืองหลวงของประเทศคองโก ในแอฟริ กาตะวันตก พระเจ้าประทานถ้อยคำที่ประกอบด้วย
ความรู้ให้แก่ผมสำหรับสามีภริ ยาคู่หนึ่งซึ่งผมไม่รู้จกั ซึ่งอยูท่ ่ามกลางคนนับหมื่นในการประชุม ภริ ยาอยูใ่ นอาการโคม่ามา 3 วัน
แล้ว และสามีหามเธอเข้ามาในที่ประชุม ด้วยความเชื่อและการเชื่อฟังการกระตุน้ เตือนของพระเจ้า ผมจึงบอกผูฟ้ ังจำนวนมากถึง
สิ่ งที่พระวิญญาณของพระองค์พระผูเ้ ป็ นเจ้าบอกให้ผมรู้ ขณะที่ผมพูด ผูห้ ญิงที่ไม่ได้สติ แม้ไม่ได้ยนิ ก็ออกมาจากอาการโคม่า
และหายเป็ นปกติ อะไรน่ะ? เป็ นไปไม่ได้! ผูป้ ่ วยไม่รู้วา่ เกิดอะไรขึ้นจนกระทัง่ เธอฟื้ นขึ้นมา

มีคนเชื่ อที่ไหนหมายสำคัญเหล่ านี จ้ ะเกิดขึน้ ที่นั้น คือพวกเขาจะขับผีออกโดยนามของเรา พวกเขาจะพูดภาษาแปลกๆ


พวกเขาจะจับงูได้ ด้วยมือเปล่ า ถ้ าพวกเขากินยาพิษใดๆ มันจะไม่ ทำอันตรายแก่ พวกเขา และพวกเขาจะวางมือบนคน
เจ็บคนป่ วย แล้ วคนเหล่ านั้นจะหายโรค (มาระโก 16:17–18) ผูห้ ญิงอีกคนหนึ่งที่อยูท่ ี่นนั่ จำเป็ นต้องได้รับการผ่าตัด
อย่างเร่ งด่วน ทารกที่ยงั ไม่เกิดของเธอเสี ยชีวิตในครรภ์ของเธอ และโรงพยาบาลได้เตรี ยมนำทารกออกในวันรุ่ งขึ้น
เมื่อมีการอธิษฐานเพื่อคนที่ตอ้ งการทุกคนในการประชุม ทารกในครรภ์ของเธอก็ดิ้น เธอรี บวิง่ ไปที่เวทีท้ งั น้ำตาเพื่อ
เป็ นพยาน และทันเวลาพอดี เพราะว่าหลังจากนั้นไม่นานเธอก็เจ็บท้องคลอด! ต่อมาเธอได้ให้ก ำเนิดทารกเพศชายที่
จ้ำม่ำ
จงไปพลางประกาศพลางว่ า ‘แผ่ นดินสวรรค์ มาใกล้ แล้ ว’ จงรั กษาคนเจ็บป่ วยให้ หาย จงทำให้ คนตายแล้ วเป็ นขึน้ จงทำ
ให้ คนโรคเรื ้อนหายสะอาด และจงขับผีออก ท่ านทั้งหลายได้ รับเปล่ าๆ ก็จงให้ เปล่ าๆ (มัทธิ ว 10:7–8) สิ่ งเหล่านี้ไม่ใช่
การอัศจรรย์ที่เกิดขึ้นเท่านั้น สิ่ งเหล่านี้ยงั ทำให้ผมนอนไม่หลับด้วยความตื่นเต้นและความชื่นชมยินดี ที่ส ำคัญที่สุด
เป็ นเวลา 6 วันที่พระวิญญาณบริ สุทธิ์ พดั ผ่านฝูงชนราวกับเขื่อนของสวรรค์ที่แตกออกมา นำชาวคองโกที่แสนล้ำค่าบน
คลื่นแห่งพระพรเข้าสู่แผ่นดินของพระเจ้า! ความชื่นชมยินดีน้ นั เป็ นของคุณแล้ววันนี้ !
21
มิถุนายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“ทั้งประกาศแผ่นดินของพระเจ้าและสัง่ สอนเรื่ องพระเยซูคริ สต์ องค์พระผูเ้ ป็ นเจ้าด้วยความกล้าหาญอย่างยิง่ ” (กิจการ 28:31)
ไฟประจำวัน!
องค์พระผูเ้ ป็ นเจ้า ขอให้บทของข้าพระองค์ในพระธรรมกิจการปัจจุบนั เป็ นบทที่
ถวายเกียรติแด่พระองค์อย่างสมบูรณ์
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
กิจการ 28:1–31
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
เฉลยธรรมบัญญัติ 26; สดุดี 117 และ 118
เย็น:
อิสยาห์ 53;
มัทธิว 1
กิจการในวันนี้
พระธรรมกิจการอ่านดีกว่านวนิยายสมัยใหม่ มีตวั ละครที่ชดั เจนบางตัวเป็ นตัวนำ บางตัวเป็ นตัวสนับสนุน มีท้ งั แอ็
คชัน่ ผจญภัย ชัยชนะ และโศกนาฏกรรม ฉากเปลี่ยนจากกรุ งเยรู ซาเล็มไปยังดามัสกัส ไปยังเมืองอันทิโอก ไปยังกรุ งโรม จาก
ห้องขังไปจนถึงซากเรื ออับปาง แต่สิ่งที่น่าอัศจรรย์เกี่ยวกับเรื่ องนี้ กค็ ือมันเป็ นความจริ งทั้งหมด!
จงดูวา่ ความรักของพระเยซูเข้ามาในชีวิตของเซาโล ผูข้ ่มเหงคริ สเตียนด้วยความโกรธได้อย่างไร และเปลี่ยนเขาให้เป็ น
อัครทูตที่ทรงพลังมากที่สุด นัน่ เป็ นความจริ ง! จงอ่านเกี่ยวกับข้อโต้แย้งระหว่างกลุ่มชาวยิวเท่านั้นและกลุ่มคนต่างชาติดว้ ย นัน่ ก็
เป็ นความจริ งเช่นกัน เพราะว่าคริ สตจักรจำนวนมากยังคงโต้เถียงกันเอง การอัศจรรย์แห่งการรักษา การเติบโตอย่างก้าวกระโดด
ของคริ สตจักรยุคแรก ผูน้ ำรัฐบาลที่งุนงงและผิดหวังกับความกล้าหาญของชาวชนบทที่โง่เขลาเหล่านี้ ทั้งหมดนี้ เชื่อได้และใช้ได้
กับสมัยของเราด้วยซ้ำ
บางครั้งมีคนได้แนะนำว่าชื่อเต็มของกิจการ นัน่ คือกิจการของอัครสาวก ควรเปลี่ยนชื่อเป็ นกิจการของพระวิญญาณ
บริ สุทธิ์ ก็อาจใช่นะ หนังสื อเล่มนี้อธิบายถึงกิจการของอัครทูตตามชื่อที่ระบุไว้ แต่แน่นอนว่าไม่ได้ให้รายละเอียดทั้งหมดเกี่ยว
กับกิจการของพระวิญญาณบริ สุทธิ์ พระองค์ ไม่ได้หยุดทำงานเมื่อสิ้ นสุ ดบทที่ 28! กิจการของอัครทูตดำเนินต่อไปอย่างไม่ขาด
สายในกิจการของคริ สตจักรยุคแรก และต่อด้วยกิจการของประชากรของพระเจ้าในปัจจุบนั พระธรรมกิจการกล่าวถึงวันแห่งสิ่ ง
ที่เล็กน้อย ซึ่งปูทางสำหรับกิจการในวันนี้ เป็ นหนังสื อที่ยงั คงถูกเขียนอยู!่ ผมดำเนินงานที่พวกอัครทูตได้เริ่ มไว้ต่อไปด้วยกันกับ
คุณ เราเป็ นหุน้ ส่ วนและผูร้ ่ วมงานกับพระคริ สต์ในทุ่งแห่งการเก็บเกี่ยวของพระเจ้า ให้เราร่ วมกันสร้างประวัติศาสตร์เพื่อพระ
คริ สต์!
22
มิถุนายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“ไปเปิ ดตาของพวกเขาเพื่อให้พวกเขาหันจากความมืดมาหาความสว่าง จากอำนาจของซาตานมาหาพระเจ้า เพื่อให้พวกเขาได้รับ
การอภัยบาป และมีส่วนอยูท่ ่ามกลางคนที่ได้รับการชำระให้เป็ นธรรมิกชนโดยความเชื่อในตัวเรา” (กิจการ 26:18)
ไฟประจำวัน!
องค์พระผูเ้ ป็ นเจ้า ขอประทานถ้อยคำที่จะโน้มน้าวผูอ้ ื่นให้เปิ ดตา และหันจากความมืดมาหาความสว่าง และจากอำนาจของ
ซาตานมาหาพระเจ้า
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
กิจการ 26:1–32
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
เฉลยธรรมบัญญัติ 27–28:19; สดุดี 119:1–24
เย็น:
อิสยาห์ 54;
มัทธิว 2
พระเจ้ าทำให้ คนเป็ นขึน้ มาจากความตาย
เมื่อเทศนากับกษัตริ ยอ์ ากริ ปปา หนึ่งในผูป้ กครองที่มีวิชาการมากที่สุดในสมัยของเขา เปาโลป่ าวประกาศอย่างกล้า
หาญว่าพระเยซูคริ สต์ถูกตรึ งที่ไม้กางเขนและเป็ นขึ้นมาจากความตาย ซึ่งเป็ นข้อเท็จจริ งที่ยากจะยอมรับโดยกษัตริ ยผ์ รู้ อบรู้
เปาโลถามว่า “ทำไมท่านทั้งหลายจึงคิดว่าการที่พระเจ้าทรงทำให้คนตายเป็ นขึ้นมานั้น เป็ นเรื่ องเชื่อไม่ได้?” (กิจการ 26:8) เขา
กล่าวต่อด้วยคำพยานของเขาว่า ก่อนหน้านี้ เขาได้เคยข่มเหงผูค้ นของเขาเองซึ่งเขาถือว่าเป็ นคนที่ทรยศดูหมิ่นศาสนา แต่ได้รับ
การเปลี่ยนแปลงโดยการนัดหมายจากสวรรค์บนถนนสู่ ดามัสกัส เขาป่ าวประกาศว่าเขาถูกส่ งมาเพื่อไปเปิ ดตาของพวกเขาเพื่อให้
พวกเขาหันจากความมืดมาหาความสว่าง จากอำนาจของซาตานมาหาพระเจ้า เพื่อให้พวกเขาได้รับการอภัยบาป และมีส่วนอยู่
ท่ามกลางคนที่ได้รับการชำระให้เป็ นธรรมิกชนโดยความเชื่อใน [พระคริ สต์] (กิจการ 26:18) ในที่สุด กษัตริ ยต์ รัสตอบว่า “เจ้า
จะชวนเราเป็ นคริ สเตียน” (ข้อ 28) บางคนมองข้ามการเป็ นขึ้นมาจากความตาย พวกเขาบอกว่านี่เป็ นเพียงการอัศจรรย์อนั หนึ่ง
จากยุคที่น่าสงสัยและเชื่อโชคลาง อย่างไรก็ตาม ข่าวของการเป็ นขึ้นมาจากความตายของพระเยซูไม่ได้จางหายและตายไป พยาน
หลายร้อยคนเห็นพระองค์ทรงพระชนม์อยู่! เจ้าหน้าที่ตื่นตระหนก ผูเ้ ชื่อถูกข่มขู่ เฆี่ยนตี และคุมขัง แต่พวกเขาไม่สามารถถูก
ทำให้เงียบได้ พวกเขาโน้มน้าวคนนับพัน แล้วเมื่อคนอื่นเชื่อพวกเขาก็มีประสบการณ์ที่เปี่ ยมไปด้วยพระสิ ริเช่นเดียวกัน มีเพียง
คำอธิบายเดียวสำหรับเรื่ องนี้ นัน่ คือพระเยซูคริ สต์ก ำลังเดินบนแผ่นดินโลกอีกครั้ง และผลที่ตามมาก็คือ ประวัติศาสตร์กเ็ ปลี่ยน
ไป! ทุกวันนี้ สิ่งเหล่านี้ยงั คงเกิดขึ้น หลายพันคนพบว่าพระเยซูยงั ทรงพระชนม์อยู่ พวกเขาเดิมพันวิญญาณจิตของพวกเขาบนสิ่ ง
นี้ สร้างชีวิตของพวกเขาบนสิ่ งนี้ และพวกเขาไม่มีวนั ผิดหวัง ดังนั้นจงระลึกในวันนี้ ที่จะกระตือรื อร้นในการเก็บเกี่ยววิญญาณจิต
แห่งการเป็ นขึ้นมาจากความตายในวาระสุ ดท้ายที่ก ำลังดำเนินอยูน่ ้ ี
23
มิถุนายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“ข้าพเจ้าไม่มีความละอายในเรื่ องข่าวประเสริ ฐ เพราะว่าข่าวประเสริ ฐนั้นเป็ นฤทธานุภาพของพระเจ้า เพื่อให้ทุกคนที่เชื่อได้รับ
ความรอด พวกยิวก่อน แล้วพวกกรี กด้วย” (โรม 1:16)
ไฟประจำวัน!
ในทุกความคิด คำพูด และการกระทำ ข้าแต่องค์พระผูเ้ ป็ นเจ้า ขอให้ขา้ พระองค์เป็ นตัวแทนของพระองค์ให้กบั โลกนี้
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
โยนาห์ 1:1–16; กิจการ 22:14; โรม 1:1–32
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
เฉลยธรรมบัญญัติ 28:20; สดุดี 119:25–48
เย็น:
อิสยาห์ 55;
มัทธิว 3
ไม่ ว่าเราจะวิง่ ไปที่ไหน
บนเรื ออับโชคไปยังทารชิช ลูกเรื อไม่รู้วา่ โยนาห์เป็ นผูเ้ ผยพระวจนะ และไม่รู้จกั พระเจ้าของเขา พวกกะลาสี เป็ นคนที่
ไม่รู้จกั พระเจ้า แต่พวกเขาตำหนิผเู้ ผยพระวจนะของพระเจ้าที่ก ำลังหลับในหน้าที่ “เจ้าหลับทำไม? อะไรกันนี่ ? ลุกขึ้นซิ จงร้อง
ขอต่อพระของเจ้า บางทีพระนั้นจะทรงระลึกถึงพวกเราบ้าง เพื่อเราจะไม่พินาศ” (โยนาห์ 1:6)
ผูค้ นของโลกนี้ คาดหวังให้ผเู้ ผยพระวจนะพูดออกมา ไม่วา่ พวกเขาจะเห็นด้วยกับสิ่ งที่เขาพูดหรื อไม่กต็ าม บางทีพวก
เขาอาจไม่ตอ้ งการรับหลักศีลธรรมของคริ สเตียนหรื อแนวทางขององค์พระผูเ้ ป็ นเจ้าสำหรับตนเอง แต่พวกเขาก็ยงั เชื่อว่าศีล
ธรรมเป็ นสิ่ งที่ดีสำหรับคนอื่นๆ ที่จะปฏิบตั ิ ถ้าเราไม่ประกาศสิ่ งที่พวกเขารู้วา่ เราเชื่อ พวกเขาจะรู้สึกถูกโกงและผิดหวัง คริ สต
จักรต้องไม่พลาดที่จะส่ งเสี ยงที่ชดั เจนว่าอะไรถูกอะไรผิด

เมื่อถูกต้อนจนมุม โยนาห์ยอมรับว่าเขาเป็ นผูใ้ ด สิ่ งนี้ท ำให้ลูกเรื อตกใจและหวาดกลัว คนเหล่านี้เป็ นผูท้ ี่มีศกั ยภาพที่จะ
กลับใจ พวกเขารับรู้ถึงฤทธิ์ อำนาจและสิ ทธิอ ำนาจของพระเจ้าแล้ว แม้วา่ โยนาห์จะมีค ำพยานที่ไม่ค่อยดีนกั แต่พวกเขาก็กลับมา
เชื่อในพระเจ้าของโยนาห์ “คนเหล่านั้นก็เกรงกลัวพระยาห์เวห์ยงิ่ นัก พวกเขาจึงได้ถวายสัตวบูชาแด่พระยาห์เวห์และได้บนบาน
ไว้” (โยนาห์ 1:16) นี่คือชายคนหนึ่งที่รู้ความจริ งอันน่าอัศจรรย์เกี่ยวกับพระเจ้า แต่พวกเขายังต้องถามเขาว่าพระเจ้าของเขาคือผู้
ใด เมื่อโยนาห์อยูบ่ นเรื อของพวกเขา พระเจ้าของเขาเป็ นผูใ้ ดควรจะชัดเจน ตอนนี้ ถามตัวเองด้วยคำถามยากๆ ว่า “ผูค้ นรู้หรื อไม่
ว่าพระเจ้าของฉันคือผูใ้ ด?” ทำไมไม่ตรวจสอบให้แน่ใจว่าพวกเขารู้ล่ะ!
มีชายคนหนึ่งที่พระเจ้ าทรงใช้ มาชื่ อยอห์ น ท่ านมาในฐานะสักขีพยานเพื่อเป็ นพยานให้ แก่ ความสว่ างนั้น เพื่อว่ าทุกคน
จะได้ เชื่ อเพราะท่ าน (ยอห์ น 1:6–7) พระเจ้ าแห่ งบรรพบุรุษของเราทรงเลือกท่ านเพื่อให้ ร้ ู จักพระทัยของพระองค์ ให้
ท่ านเห็นพระองค์ ผ้ ชู อบธรรม และได้ ยินพระสุรเสี ยงจากพระโอษฐ์ ของพระองค์ เพราะว่ าท่ านจะเป็ นสักขีพยานของ
พระองค์ ต่อคนทั้งปวงในสิ่ งที่ท่านได้ เห็นและได้ ยินนั้น (กิจการ 22:14–15) พระเจ้าทรงดีต่อคุณหรื อไม่? คุณเคยเห็น
และได้ยนิ พระราชกิจอันอัศจรรย์ของพระองค์หรื อไม่? จงเป็ นพยานถึงสิ่ งนั้นต่อมนุษย์ทุกคน…และพวกเขาจะรู้วา่
พระเจ้าของคุณคือผูใ้ ด!
24
มิถุนายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“ท่านทั้งหลายเป็ นเกลือแห่งโลก ถ้าเกลือนั้นหมดรสเค็มไปแล้ว จะทำให้กลับเค็มอีกได้อย่างไร? ตั้งแต่น้ นั ไปก็ไม่เป็ นประโยชน์
อะไร มีแต่จะถูกทิ้งเสี ยให้คนเหยียบย่ำ ท่านทั้งหลายเป็ นความสว่างของโลก นครซึ่งอยูบ่ นภูเขาจะถูกปิ ดบังไว้ไม่ได้" (มัทธิว
5:13–14)
ไฟประจำวัน!
ข้าแต่องค์พระผูเ้ ป็ นเจ้า ขอทรงให้ขา้ พระองค์เป็ นจดหมายฝากของพระองค์ ที่ถูกเขียนไว้ในหัวใจมนุษย์ รู้จกั และถูกอ่านโดย
มนุษย์ทุกคนและเป็ นป้ ายบอกทางที่น ำมาถึงพระองค์อย่างชัดเจน
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
โยนาห์ 1:1–3; มัทธิว 5:13–14; 7:22–23; 10:7–26; ยอห์น 15:26; 1 โคริ นธ์ 2:4; 2 โคริ นธ์ 3:2
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
เฉลยธรรมบัญญัติ 29; สดุดี 119:49–72
เย็น:
อิสยาห์ 56;
มัทธิว 4
วิญญาณแห่ งการประกาศที่แท้ จริง
พระเยซูทรงบอกสาวกของพระองค์วา่ พระวิญญาณของพระเจ้าคือพระวิญญาณแห่งการเป็ นพยาน ทุกวันนี้ เรามักจะ
พูดถึง “การประกาศข่าวประเสริ ฐด้วยฤทธิ์ เดช” นัน่ คือหมายสำคัญและการอัศจรรย์เพื่อยืนยันข่าวประเสิ รฐ แต่พระเยซูตรัสว่า
แม้แต่คนอธรรมก็ยงั ทำการอัศจรรย์ ถึงแม้วา่ พระองค์จะไม่เคยรู้จกั พวกเขาก็ตาม เปาโลพูดถึงการสำแดงของพระวิญญาณด้วย
อย่างไรก็ตาม เราอดไม่ได้ที่จะประทับใจในวิธีที่อคั รทูตทรงแสดงความเป็ นจริ งของข่าวประเสริ ฐในชีวิตประจำวัน
เขาบอกชาวโคริ นธ์วา่ ชีวิตของพวกเขาเป็ น “จดหมาย...ให้ทุกคนรู้และอ่าน” (2 โคริ นธ์ 3:2) เมื่อมองมาที่เรา ผูค้ นจะสามารถพูด
ว่า “พระเจ้าของคุณก็เป็ นเช่นนั้น” ได้หรื อไม่?
การประกาศหมายถึงการแนะนำพระเยซู วิธีการประกาศที่พระเยซูทรงสอนคือเราควรแนะนำพระองค์ดว้ ยชีวิตของเรา
เช่นเดียวกับคำพูดของเรา เราควรเป็ นคนของพระเยซู ...หรื อพูดให้ชดั กว่านั้น ก็คือ คนของพระเยซูแห่งข่าวประเสริ ฐ เราเป็ น
“ความสว่างของโลก” (มัทธิว 5:14) ไม่ควรมีทางเลือกอื่นอีก
จงไปพลางประกาศพลางว่ า ‘แผ่ นดินสวรรค์ มาใกล้ แล้ ว’ จงรั กษาคนเจ็บป่ วยให้ หาย จงทำให้ คนตายแล้ วเป็ นขึน้ จงทำ
ให้ คนโรคเรื ้อนหายสะอาด และจงขับผีออก ท่ านทั้งหลายได้ รับเปล่ าๆ ก็จงให้ เปล่ าๆ...และจะมอบพวกท่ านให้ เจ้ า
เมืองและกษัตริ ย์เพราะเรา เพื่อว่ าพวกท่ านจะได้ เป็ นพยานแก่ พวกเขาและแก่ พวกต่ างชาติ แต่ เมื่อพวกเขามอบตัวท่ าน
นั้น อย่ ากังวลว่ าจะพูดอะไรหรื ออย่ างไร เพราะเมื่อถึงเวลานั้น คำที่พวกท่ านจะพูดนั้น พระเจ้ าจะประทานแก่ พวกท่ าน
เพราะว่ าผู้ที่พูดไม่ ใช่ ตวั ท่ านเอง แต่ เป็ นพระวิญญาณแห่ งพระบิดาของพวกท่ านผู้ตรั สผ่ านท่ าน (มัทธิว 10:7–8, 18–
20) โยนาห์หนีจากการทรงสถิตขององค์พระผูเ้ ป็ นเจ้า แต่เขาก็มีแสงสว่างในวิญญาณจิตของเขาที่ส่องผ่านออกมา เขา
ปกปิ ดคำพยานของเขาจากกัปตันและลูกเรื อของเรื อที่เขาขึ้นที่เมืองยัฟฟา แต่โยนาห์รู้จกั พระเจ้า และสิ่ งนี้เกิดขึ้นแม้ใน
ขณะที่เขาพยายามหนีจากพระเจ้า ลูกเรื อของเรื อที่ถูกพายุพดั สัมผัสสิ่ งนี้ได้...และจับนิมิตได้
นี่คือการทรงเรี ยกของพระเจ้าที่มาถึงคุณและผมในวันนี้ นัน่ คือเพื่อรับนิมิตของพระองค์ที่มีต่อโลก และเป็ นเครื่ องมือ
ของพระองค์ในการนำผูท้ ี่หลงหายมาหาพระคริ สต์
25
มิถุนายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“ในทันใดนั้นมีเสี ยงมาจากฟ้ าเหมือนเสี ยงพายุแรงกล้าดังก้องทัว่ ตึกที่เขานัง่ อยูน่ ้ นั และพวกเขาเห็นบางสิ่ งที่คล้ายเปลวไฟ
ลักษณะเหมือนลิ้นแผ่กระจายอยูบ่ นตัวพวกเขาทุกคน พวกเขาทั้งหมดก็เต็มเปี่ ยมด้วยพระวิญญาณบริ สุทธิ์ ” (กิจการ 2:2–4)
ไฟประจำวัน!
ข้าแต่องค์พระผูเ้ ป็ นเจ้า โปรดช่วยข้าพระองค์ให้สำแดงให้ผอู้ ื่นเห็นไม้กางเขนของพระคริ สต์และฤทธิ์ อ ำนาจของพระวิญญาณ
บริ สุทธิ์ ในชีวิตของข้าพระองค์
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
โยเอล 2:28; ลูกา 24:52–53; ยอห์น 16:15; กิจการ 2:17–39; 2 โคริ นธ์ 5:16
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
เฉลยธรรมบัญญัติ 30; สดุดี 119:73–96
เย็น:
อิสยาห์ 57;
มัทธิว 5
การทรงสถิตเป็ นการส่ วนตัว
สิ่ งหนึ่งที่ท ำให้ผมประหลาดใจเสมอ คือ เหล่าสาวกไม่ร้องไห้เมื่อพระคริ สต์จากพวกเขาไป พวกเขาไม่เคยแสดงความ
คิดถึง "วันเก่า ๆ ที่ดี" เลย ลูกาบอกเราว่าหลังจากที่พระองค์เสด็จขึ้นไปให้พน้ สายตาแล้ว พวกเขา “กลับไปที่กรุ งเยรู ซาเล็มด้วย
ความยินดีอย่างยิง่ และอยูใ่ นพระวิหารทุกวัน สรรเสริ ญพระเจ้า” (ลูกา 24:52–53) ทำไมพวกเขาแสดงปฏิกิริยาที่น่าทึ่งเช่นนี้ต่อ
การจากไปของพระเยซู? คำตอบคือการเสด็จมาของพระวิญญาณ! เมื่อพระคริ สต์ทรงสถิตอยูด่ ว้ ยพวกเขาเป็ นเพียงพยานที่เห็น
เหตุการณ์ถึงฤทธิ์ อำนาจของพระองค์ แต่เมื่อวันเพ็นเทคอสต์มาถึง พวกเขาเป็ นมากกว่าผูท้ ี่เห็นเหตุการณ์—พวกเขาเองมีฤทธิ์
อำนาจและมีประสบการณ์กบั การทรงสถิตของพระเจ้าเป็ นการส่ วนตัว มันแตกต่างจากตอนที่พระคริ สต์อยูก่ บั พวกเขา ไม่มี
ที่ไหนเลยที่กล่าวว่าความรู้สึกส่ วนตัวของการทรงสถิตของพระเจ้ามีไว้ส ำหรับเหล่าสาวกเท่านั้น ราวกับว่าพวกเขาเป็ นกลุ่มคน
ชั้นยอด เปโตรกล่าวว่า “เพราะว่าพระสัญญานั้นตกแก่ท่านทั้งหลายกับลูกหลานของพวกท่านด้วย และแก่ทุกคนที่อยูไ่ กล คือทุก
คนที่องค์พระผูเ้ ป็ นเจ้าพระเจ้าของเราทรงเรี ยกให้มาเฝ้ า” (กิจการ 2:39) เขาอ้างคำสัญญาจากผูเ้ ผยพระวจนะโยเอล ซึ่งพระเจ้า
ตรัสว่า “เราจะเทพระวิญญาณของเราบนมนุษย์ท้ งั หมด” (ข้อ 17) เวสลียส์ งั เกตว่าคำสัญญานี้ ไม่ได้มีไว้สำหรับวันเพ็นเทคอสต์
เท่านั้น แต่ยงั อธิบายถึงประสบการณ์ปกติของคริ สเตียน เช่นเดียวกับพระธรรมกิจการทั้งเล่ม

ข้อเท็จจริ งที่น่าสงสัยอีกประการหนึ่งคือ ถึงแม้วา่ พระเยซูทรงบอกให้เหล่าสาวกใช้ขนมปังและเหล้าองุ่นเพื่อระลึกถึง


พระองค์ แต่พวกเขาก็ไม่เคยใช้ภาษาแห่งการระลึกถึง ไม่มีใครระลึกถึงบุคคลในขณะที่เขาหรื อเธอยังมีชีวิตอยู่ พระองค์ทรง
พระชนม์อยูแ่ ละสถิตอยูด่ ว้ ยโดยพระวิญญาณ “เพราะฉะนั้นตั้งแต่น้ ี ไป เราจะไม่พิจารณาใครตามมาตรฐานของโลก แม้วา่ เมื่อ
ก่อนเราเคยพิจารณาพระคริ สต์ตามมาตรฐานของโลกก็จริ ง แต่เดี๋ยวนี้ เราจะไม่พิจารณาพระองค์เช่นนั้นอีกจากนี้ ไป” (2 โคริ นธ์
5:16) การถูกเติมเต็มด้วยพระวิญญาณทำให้เรามีชีวิตอยูก่ บั พระเยซู ซึ่งดีกว่าการมีชีวิตอยูเ่ มื่อพระเยซูอยูบ่ นแผ่นดินโลก โปรด
สังเกตด้วยว่าพระวิญญาณไม่ได้มาเพื่อพูดถึงพระองค์เอง แต่มาเพื่อเปิ ดเผยพระเยซู เปาโลกล่าวว่าเขาประกาศพระคริ สต์ผถู้ ูก
ตรึ งที่ไม้กางเขนด้วยฤทธิ์ อ ำนาจและการสำแดงของพระวิญญาณ ถ้าเราเพียงแต่ประกาศฤทธิ์ อ ำนาจของพระวิญญาณโดย
ปราศจากไม้กางเขน เท่ากับเราลัดวงจรพลังอำนาจที่เรากำลังประกาศถึง ความสนใจหลักของพระวิญญาณอยูใ่ นไม้กางเขน เรา
ไม่ได้ประกาศเรื่ องฤทธิ์ อำนาจ แต่ประกาศข่าวประเสริ ฐเรื่ องไม้กางเขน ซึ่งเป็ นฤทธิ์ อ ำนาจของพระเจ้าโดยพระวิญญาณ
26
มิถุนายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“ลูกทั้งหลายเอ๋ ย ท่านอยูฝ่ ่ ายพระเจ้า และชนะพวกเขาแล้ว เพราะว่าพระองค์ผทู้ รงอยูใ่ นพวกท่านยิง่ ใหญ่กว่าผูท้ ี่อยูใ่ นโลก" (1
ยอห์น 4:4)
ไฟประจำวัน!
ข่าวประเสริ ฐของพระคริ สต์ คือ ฤทธิ์ อำนาจของพระเจ้าเพื่อความรอดสำหรับทุกคนที่เชื่อ!
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
อิสยาห์ 53:11; 1 ยอห์น 4:4
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
เฉลยธรรมบัญญัติ 31; สดุดี 119:97–120
เย็น:
อิสยาห์ 58;
มัทธิว 6
ลัน่ ไกปื นแห่ งการฟื้ นฟู
ตั้งแต่ครั้งแรกที่ผมพยายามเป็ นมิชชันนารี ในแอฟริ กา สิ่ งที่เรากำลังเห็นพระเจ้าทำในวันนี้ ช่างน่าทึ่ง ตามรอยเท้าของ
ยักษ์ใหญ่ เราเก็บเกี่ยวด้วยความชื่นชมยินดีในที่ที่พวกเขาได้หว่านด้วยน้ำตา เรามาถึงบูคาวู ซึ่งมิชชันนารี ซี . ที. สตูดด มาเยีย่ ม
เป็ นครั้งแรก และยังคงอยูใ่ นป่ าดิบชื้นของซาอีร์ ที่นนั่ เราเห็นคน 7 หมื่นคนตอบรับการทรงเรี ยกแห่งความรักของพระเจ้า เดวิด
ลิฟวิงสโตนเผยพระวจนะว่าที่ซ่ ึงเขาแทบจะไม่เห็นผูก้ ลับใจเชื่อเลย ต่อมาจะมีคนหลายพันคนกลับใจเชื่อ ก็เป็ นเช่นนั้น ที่แบลน
ไทร์ มาลาวี ซึ่งตั้งชื่อตามเมืองในสกอตแลนด์ซ่ ึงเป็ นบ้านเกิดของลิฟวิงสโตน ผูค้ นหลายแสนคนตอบรับการทรงเรี ยกแห่งความ
รอด

ทุกวันนี้ คาถาอาคม ลัทธิไสยเวท และความชัว่ ร้ายทำให้ข่าวประเสริ ฐมีความสำคัญเทียบเท่ากับปื นในบ่องู พระเยซู


ทรงปลดปล่อยเชลยให้เป็ นอิสระทุกด้าน ศาสนาคริ สต์ที่เยือกเย็นและไม่เป็ นทางการจะไม่ท ำให้เกิดอะไรขึ้นเลย ประชาชาติต่าง
ๆ ต้องการข่าวสารที่กระตือรื อร้นแห่งไม้กางเขนในขณะนี้ ไม่ใช่ในยามว่างของเรา ก่อนหน้านี้ แรงผลักดันทางเหนือของเราไป
ถึงเกือบถึงทะเลทรายซาฮาราที่วากาดูกู เมืองหลวงของบูร์กินาฟาโซ (เดิมชื่อโวลตาตอนบน) ซึ่งเป็ นประเทศที่ข้ ึนชื่อเรื่ องลัทธิ
ไสยเวท การชุมนุมทั้งหมด 8 แสนคนในการประชุม 6 ครั้ง โดยมีผมู้ าร่ วมสูงสุ ดเกือบ 2 แสน 5 หมื่นคน พวกเขาส่ วนใหญ่
ประกาศตัวว่าเชื่อพระเยซูคริ สต์ รวมทั้งชาวมุสลิมและผูน้ บั ถือผี ในทำนองเดียวกันในเวลาต่อมา ในเมืองคาดูนาของไนจีเรี ย
ผูค้ น 5 แสนคนมารวมตัวกันในการประชุมครั้งเดียว รวมเป็ น 1.67 ล้านคนในการประชุม 6 ครั้ง และเหนือสิ่ งอื่นใดที่การ
ประกาศข่าวประเสริ ฐอันยิง่ ใหญ่แห่งสหัสวรรษของเราในลากอส ไนจีเรี ย ที่ซ่ ึงเราประกาศข่าวประเสริ ฐแก่ดวงวิญญาณที่มีค่า
กว่า 6 ล้านดวง มี 3.4 ล้านคนที่กรอกบัตรการตัดสิ นใจ ในวันสุ ดท้ายของการประกาศครู เสด 6 วัน มีผเู้ ข้าร่ วม 1.6 ล้านคน การ
ตอบสนองต่อข่าวประเสริ ฐที่มีฤทธิ์ อ ำนาจนั้นยอดเยีย่ มมาก!
เป็ นเวลากว่า 20 ปี ที่ผมมีค ำสัญญาจากพระเจ้าในหัวใจว่าเราจะเห็นวิญญาณจิต 1 ล้านคนดวงกลับใจเชื่อในการประชุม
ครั้งเดียว เราซื้ อระบบเสี ยงเพื่อเข้าถึงฝูงชนที่ใหญ่ข้ ึน บางทีอาจมากกว่าที่เคยถูกพูดโดยคน ๆ เดียวหน้าต่อหน้า นี่เป็ นความ
ทะนงตนที่เย่อหยิง่ ใช่ไหม? ถ้าผูท้ ี่ถูกตรึ งกางเขนจะ “เห็นการแบกความบาปผิดทั้งหลายของพวกเขาและจะพึงพอใจ” (อิสยาห์
53:11) เรากล้าคิดในแง่ที่เล็กกว่านี้ไหม? พระองค์จะทรงพึงพอใจกับสิ่ งที่เล็กกว่านี้หรื อ? จงกล้าที่จะมีความเชื่อที่ยิง่ ใหญ่! ใช่ เรา
เห็นดวงวิญญาณ 1 ล้านดวงได้รับการช่วยให้รอดในการประชุมเพียงครั้งเดียวในลากอส คำสัญญาของพระเจ้าได้ถูกทำให้สำเร็ จ
แล้วและเรากำลังก้าวไปข้างหน้าด้วย "การเก็บเกี่ยวร่ วมกัน” ด้วยข่าวประเสริ ฐของพระเจ้าเพื่อรวบรวมดวงวิญญาณจำนวนมาก
มาถวายแก่พระองค์

27
มิถุนายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“ธรรมบัญญัติของพระยาห์เวห์ดีพร้อม และฟื้ นฟูชีวิต พระโอวาทของพระยาห์เวห์น้ นั แน่นอน ทำให้คนรู้นอ้ ยมีปัญญา” (สดุดี
19:7)
ไฟประจำวัน!
ไม่มีสิ่งใด แต่ไม่มีสิ่งใดจะสามารถแยกเราจากความรักของพระเจ้าที่อยูใ่ นพระเยซูคริ สต์ องค์พระผูเ้ ป็ นเจ้าของเรา ได้
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
ปฐมกาล 1:1; สดุดี 19:1–14; โรม 8:39; วิวรณ์ 1:4, 8
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
เฉลยธรรมบัญญัติ 32; สดุดี 119:121–144
เย็น:
อิสยาห์ 59;
มัทธิว 7
พระเจ้ า ผู้ทรงสร้ าง
2 ครั้งในบทแรกของวิวรณ์ พระเจ้าทรงเรี ยกพระองค์เองว่า “พระเจ้า…ผูท้ รงเคยเป็ นอยู”่ (วิวรณ์ 1:4, 8) “พระเจ้าที่เคย
เป็ นอยู”่ คือสิ่ งที่คนครึ่ งโลกนึกถึงพระองค์ นัน่ คือพระองค์ ผูท้ รงสร้างฟ้ าสวรรค์และแผ่นดินโลก…และได้ท ำสิ่ งเล็กๆ น้อยๆ
นับตั้งแต่น้ นั เป็ นต้นมา การถูกจำกัดในความคิดนั้นอาจทำให้ผคู้ นมีความเชื่อในฟาโรห์ตุตนั คามุน พระเจ้าแห่งจินตนาการที่
สร้างสรรค์เช่นนั้นจะยอมลงมาเป็ นพระเจ้าของอดีตเมื่อนานมาแล้ว ในอดีต ประทับบนสวรรค์โดยวางพระหัตถ์บนตักได้หรื อ ?
พระองค์เติมท้องฟ้ าที่วา่ งเปล่าด้วยความงดงามที่ไม่มีใครเทียบ…แล้วหลับไปหรื อ? ถ้าเราไม่เห็นมากไปกว่านั้น เราก็ไม่ได้
เฉลียวฉลาดมาก มีใครบ้างในพวกเราสามารถสร้างบ้านแล้วละทิ ้งมันได้? พระเจ้าจะสามารถละเลยจักรวาลของพระองค์ได้
หรื อ?

“ในปฐมกาล พระเจ้าทรงเนรมิตสร้างฟ้ าและแผ่นดิน” (ปฐมกาล 1:1) แล้วไง? แน่นอนว่าคำถามก็คือ “ทำไมพระเจ้า


ต้องทำสิ่ งนั้นด้วย?” พระองค์ไม่ได้ท ำเพื่อทำให้ผใู้ ดพอใจ ไม่มีผอู้ ื่นเลย นอกจากพระองค์เอง! พระองค์ทรงทำให้พระองค์เอง
พอใจเมื่อกระทำสิ่ งนี้ พระองค์ไม่จ ำเป็ นต้องทำเช่นนั้น พระองค์ไม่ได้ถูกกดดัน สิ่ งที่บางคนทำเนื่องจากพวกเขาต้องการที่จะทำ
แสดงให้เห็นว่าพวกเขาเป็ นอย่างไร ถ้าผมนัง่ ลงในห้องของผม ปิ ดประตู และเล่นออร์แกน นัน่ ก็เพื่อความพึงพอใจของผมเอง
นัน่ จะบอกคนอื่นถึงสิ่ งที่ผมเป็ น นัน่ คือเพราะว่าผมเป็ นนักดนตรี ผมจะทำอย่างนั้น พระเจ้าทรงสร้างดวงดาวระยิบระยับและ
ดาวเคราะห์ต่างๆ ให้เกิดขึ้น เพราะว่านัน่ คือสิ่ งที่พระองค์ตอ้ งการจะทำ “ท้องฟ้ าประกาศพระสิ ริของพระเจ้า และพื้นฟ้ าสำแดง
ผลงานแห่งพระหัตถ์ของพระองค์” (สดุดี 19:1) ดังนั้นสดุดีบทที่ 19 เริ่ มต้นขึ้น และผูเ้ ขียนก็ตื่นเต้น แต่ในแสงออโรร่ าของ
พระเจ้า ไม่ใช่ความงดงามของจักรวาล ที่เขาตื่นเต้น เขาใจลอยจากสิ่ งที่ทรงสร้างด้วยการคิดถึงผูส้ ร้าง!
วิทยาศาสตร์สมัยใหม่แยกทุกอย่างออกจากกัน เช่นแยกไวโอลินออกจากกันเพื่อดูวา่ สิ่ งใดที่ท ำให้เกิดเสี ยง ผมนึกถึง
ภาพว่าพระเจ้าทรงยืนอยูข่ า้ งๆ รำพึง มองดูเราเหมือนเด็กๆ ที่ก ำลังเปิ ดถุงเท้าคริ สต์มาส ในขณะที่พระองค์ก ำลังรอที่จะรักเรา แต่
แล้วพวกพ่อก็มกั จะถูกลืมเนื่องจากของเล่นคริ สต์มาส! พระเจ้าดึงกระดาษเปล่ามาวางบนโต๊ะทำงานของพระองค์ คิด จากนั้นจึง
ออกแบบทุกสิ่ งที่เราเห็นรอบๆ ตัวเรา เนื้ อหาของมันถูกสร้างขึ้นจากความยิง่ ใหญ่ของพระองค์เอง พระองค์เองจะต้องน่าทึ่งอย่าง
ยิง่ ชัว่ นิรันดร์ ! และนี่คือพระเจ้าที่รักคุณ!

28
มิถุนายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“เพราะพระยาห์เวห์ประเสริ ฐ ความรักมัน่ คงของพระองค์ด ำรงเป็ นนิตย์ และความซื่อสัตย์ของพระองค์ด ำรงอยูท่ ุกชัว่ ชาติพนั ธุ์”
(สดุดี 100:5)
ไฟประจำวัน!
พระเจ้าของฉันเป็ นพระเจ้าที่ย ำเกรง ผูป้ กครองด้วยสติปัญญา ฤทธิ์ อ ำนาจ และความรัก
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
ปฐมกาล 1:31; โยบ 38:7; สดุดี 100:3; ยอห์น 3:16; โรม 8:28
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
เฉลยธรรมบัญญัติ 33 และ 34; สดุดี 119:145–176
เย็น:
อิสยาห์ 60;
มัทธิว 8
พระเจ้ าทีด่ ี
พระเจ้าปิ ติยนิ ดีในกิจกรรม สี สนั ความงดงาม การอัศจรรย์ และชีวิต และอื่นๆ อีกมากมาย พระองค์ทรงสร้างเรา
ทำไม? ทำไมเราถึงอยากมีลูก? เป็ นโอกาสสำหรับสัญชาตญาณแห่งความรักของเรา พระเจ้าทรงสร้างเราให้เป็ นอย่างนั้น
พระองค์เองก็เป็ นเช่นนั้น สิ่ งที่พระองค์เป็ นจะต้องออกมาตราบเท่าที่มีพระเจ้าทรงเป็ นอยู่ “พระเจ้ าทอดพระเนตรสิ่ งทั้งปวงที่
พระองค์ ทรงสร้ างไว้ ดูสิ ทรงเห็นว่ าดียิ่งนัก” (ปฐมกาล 1:31) ความคิดของพระองค์เกี่ยวกับสิ่ งที่ดีคือโลกแห่งวัตถุ ไม่ใช่แค่
หลักการฝ่ ายวิญญาณที่เป็ นนามธรรมของความดีงาม พระเจ้าไม่จดั การแบบนามธรรม พระองค์ทรงเป็ นนักปฏิบตั ิ เป็ นพระเจ้า
ของแผ่นดินโลกและทะเล สัตว์ ต้นไม้และนก ปลา...และผูค้ น “เราเป็ นประชากรของพระองค์ ” (สดุดี 100:3) พระองค์ทรงสร้าง
ทั้งหมด และสร้างเรา และมีความสุ ขกับมัน พระองค์รักมัน “พระเจ้ าทรงรั กโลก” (ยอห์น 3:16) พระองค์ป้ ั นลูกโลกที่งดงามนี้
แล้วพูดว่า "ดี! ดี! ดี!" 7 ครั้งในปฐมกาลบทที่ 1 พระองค์ทรงปรบพระหัตถ์ดว้ ยความพึงพอใจ และดวงดาวยามเช้าร้องเพลงด้วย
ความชื่นชมยินดี กระบวนการทั้งหมดมุ่งสู่สิ่งที่ดี ความชัว่ ร้ายต่อสู้กบั มัน แต่จะไม่มีวนั ได้ผล “เหตุการณ์ ทุกอย่ างร่ วมกันก่ อผล
ดีแก่ คนที่รักพระเจ้ า” (โรม 8:28) พระเจ้าดี

เมื่อมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น เราถามว่า “ทำไม?” แน่นอนว่าเราถาม พระเจ้าใส่สิ่งนั้นไว้ในเรา เราเกลียดชังความชัว่ ร้าย


เพราะว่าพระองค์กเ็ กลียดชัง พระเจ้าวางคำว่า “ทำไม?” ในวิญญาณจิตของเรา แม้แต่พระเยซูกถ็ ามว่า “ทำไม?” เมื่อพระองค์ทรง
ประสบกับความเจ็บปวดรวดร้าวที่สุดบนไม้กางเขน พระเจ้าที่ดีคือพระเจ้าแห่งความเชื่อที่แท้จริ ง นัน่ คือพระเจ้าในพระคัมภีร์
นัน่ คือที่มาของแนวคิดจากพระคัมภีร์ คนต่างศาสนาไม่มีความคิดที่กว้างไกลของพระเจ้าที่ดี
“พระเจ้ าตรั สว่ า ‘จงเกิด…และก็เกิดขึน้ ” (ปฐมกาล 1:3) การทรงสร้างเป็ นการอัศจรรย์ครั้งแรกและยิง่ ใหญ่ที่สุด ถ้า
พระเจ้าสามารถขับไล่หิมาลัยและเทือกเขาร็ อกกี้ดว้ ยพระหัตถ์ที่ป้องไว้ และใช้พระหัตถ์คุย้ หาโพรงในมหาสมุทรแปซิฟิกและ
แอตแลนติก และปิ ดเสาด้วยน้ำแข็งหนาหลายไมล์ แล้วจะมีปัญหาอะไรกับการที่พระเจ้ารักษาหูหนวก หรื อตาที่มืดบอด? การ
อัศจรรย์เป็ นไปได้ไหม? คำถามอะไรเนี่ย! เราจะสามารถทื่อได้ขนาดไหน? ความสงสัยทำให้ความคิดของเราทื่อ เป็ นเรื่ องไร้
สาระสำหรับผูใ้ ดก็ตามที่พดู ว่าการอัศจรรย์ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ การรู้สิ่งนี้ เราจะต้องรู้ทุกสิ่ งเกี่ยวกับทุกสิ่ งและเกี่ยวกับพระเจ้า
ไม่มีใครรู้พอที่จะป่ าวประกาศว่าเป็ นไปไม่ได้ คุณสามารถวางใจในความรักที่พระเจ้ามีต่อคุณ
29
มิถุนายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“แล้วพระองค์กบั พวกสาวกก็เดินทางต่อไปที่หมู่บา้ นอีกแห่งหนึ่ง” (ลูกา 9:56)
ไฟประจำวัน!
ข้าแต่องค์พระผูเ้ ป็ นเจ้า ขอทรงสอนข้าพระองค์ให้เคลื่อนไหวด้วยความเห็นอกเห็นใจ เหมือนที่พระองค์ทรงทำเมื่อพระองค์ทอด
พระเนตรเห็นคนที่ขดั สน
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
2 พงศ์กษัตริ ย ์ 1:8–14; สดุดี 18:37–45; โยนาห์ 1:1–3; ลูกา 9:15-62; โรม 9:15–17
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
โยชูวา 1; สดุดี 120, 121 และ 122
เย็น:
อิสยาห์ 61; มัทธิว 9
ปัญหาของโยนาห์
โยนาห์รู้อยูใ่ นกระดูกของเขาว่าพระเจ้าเป็ นอย่างไร นัน่ คือพระองค์ทรงเปี่ ยมด้วยพระคุณ! เขา (โยนาห์) จะสามารถ
ประกาศการพิพากษาต่อเมืองนีนะเวห์ได้อย่างไร ในเมื่อเขารู้ดีวา่ พระเจ้าทรงกรุ ณาและเปี่ ยมด้วยเมตตา? พระองค์จะทรงให้อภัย
ความอธรรมของพวกเขาด้วยการแค่ถอดหมวก…หรื อมากกว่านั้นคือเมื่อมีสญ ั ญาณแรกของการกลับใจ เขาจึงหนีจากการทรง
สถิตขององค์พระผูเ้ ป็ นเจ้า การได้อยูใ่ นที่ที่พระเจ้าทรงอยูน่ ้ นั หมายถึงการแบกเอากลิ่นแห่งพระคุณไปในเสื้ อผ้าของเขา
บรรยากาศเต็มไปด้วยความเห็นอกเห็นใจ และโยนาห์ไม่ตอ้ งการรู้สึกเห็นอกเห็นใจ เขาไม่มีแนวโน้มที่จะยิม้ อย่างมีเมตตาต่อ
สัตว์ประหลาดแบบเจ้าเมืองนีนะเวห์ได้
การประกาศหมายถึงการปลดปล่อยจากการพิพากษา แต่โยนาห์รู้สึกอย่างยิง่ ว่านีนะเวห์สมควรได้รับการพิพากษา ผม
คิดว่าทัศนคติของเขาเป็ นสิ่ งที่เข้าใจได้ ความรู้สึกของโยนาห์มกั จะสะท้อนอยูใ่ นพระธรรมสดุดี

เมื่อพระเยซูก ำลังเดินทางผ่านสะมาเรี ยกับเหล่าสาวก พระองค์ตอ้ งการพักค้างคืนในหมู่บา้ นหนึ่งคืน แต่ชาวเมืองเป็ น


ศัตรู กบั ชาวยิว และไม่ยอมต้อนรับ เหล่าสาวกกำลังเพลิดเพลินกับการใช้ฤทธิ์ อ ำนาจของพระเจ้าในการรักษาโรคโดยผ่านสิ ทธิ
อำนาจที่พระเยซูมอบให้ พวกเขารู้ว า่ เอลียาห์ได้น ำไฟลงมาจากสวรรค์บนกองทหารที่ถูกส่ งไปจับเขา ดังนั้นพวกเขาจึงเสนอที่
จะทำแบบเดียวกันเพื่อกวาดล้างหมู่บา้ นที่ไม่เป็ นมิตรแห่งนี้ ท้ายที่สุดแล้ว พระเจ้าได้กระทำกับเมืองโสโดมและเมืองโกโมราห์
แล้ว! แต่พระเยซูตรัสกับพวกเขาว่า “ท่ านไม่ ร้ ู ว่า ท่ านมีจิตใจทำนองใด เพราะว่ าบุตรมนุษย์ ไม่ ได้ มาเพื่อทำลายชี วิตมนุษย์ แต่ มา
เพื่อช่ วยเขาทั้งหลายให้ รอด” (ลูกา 9:55–56)
ขอให้ความเห็นอกเห็นใจเป็ นคำชี้นำของคุณในวันนี้ เช่นเดียวกับที่พระเยซูทรงมีความเห็นอกเห็นใจต่อคนบาปที่แข็ง
กระด้างที่สุด คุณสามารถมีความเห็นอกเห็นใจต่อผูท้ ี่พระองค์ทรงนำมาสู่ เส้นทางของคุณได้
เพราะพระเจ้ าตรั สกับโมเสสว่ า “เราประสงค์ จะกรุ ณาใคร เราก็จะกรุ ณาคนนั้น และเราจะเมตตาใคร เราก็จะเมตตาคน
นั้น” เพราะฉะนั้น ทุกสิ่ งจึ งไม่ ขึน้ กับความตั้งใจหรื อความมานะของมนุษย์ แต่ ขึน้ อยู่กับพระเมตตาของพระเจ้ า เพราะ
มีข้อพระคัมภีร์ที่กล่ าวแก่ ฟาโรห์ ว่า “เพราะเหตุนีเ้ องเราจึ งได้ ตั้งเจ้ าขึน้ เพื่อเราจะสำแดงฤทธานุภาพของเราให้ ปรากฏ
ทางตัวเจ้ า และเพื่อให้ นามของเราประกาศไปทั่วโลก” (โรม 9:15–17)
30
มิถุนายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“ไม่ใช่ธุระของพวกท่านที่จะรู้เวลาและวาระที่พระบิดาทรงกำหนดไว้โดยสิ ทธิ อ ำนาจของพระองค์ แต่พวกท่านจะได้รับพระราช
ทานฤทธานุภาพ เมื่อพระวิญญาณบริ สุทธิ์ เสด็จมาเหนือท่าน และท่านทั้งหลายจะเป็ นสักขีพยานของเราในกรุ งเยรู ซาเล็ม ทัว่
แคว้นยูเดีย ทัว่ แคว้นสะมาเรี ย และจนถึงที่สุดปลายแผ่นดินโลก” (กิจการ 1:7–8)
ไฟประจำวัน!
ฉันได้รับการเสริ มพลังโดยพระวิญญาณบริ สุทธิ์ เพื่อดำเนินการตามพระมหาบัญชา ไม่วา่ จะใกล้หรื อไกล ใหญ่หรื อเล็ก
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
โยนาห์ 4:1–11; กิจการ 1:3–8
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
โยชูวา 2; สดุดี 123 และ 125
เย็น:
อิสยาห์ 62;
มัทธิว 10
วัตถุประสงค์ สูงสุ ดของเรา
ประเด็นทางสังคม สิ่ งแวดล้อม และศีลธรรมไม่ใช่เรื่ องเล็กที่ควรมองข้าม เราควรจะโกรธเกี่ยวกับสิ่ งที่น่า
สะอิดสะเอียนหลายอย่างที่กระทำโดยสังคมสมัยใหม่ แต่ประเด็นเรื่ องความรอดนิรันดร์ล่ะ? ผูค้ นที่สนับสนุนชีวิตต่อสู้ (อย่างถูก
ต้อง) เพื่อชีวิตของทารกในครรภ์… แต่เรากำลังทำอะไรกับวิญญาณจิตของผูค้ นนับล้านที่เดินตามท้องถนนในเมืองของเรา
เราทุกคนไม่สามารถเป็ นนักเทศน์หรื อผูป้ ระกาศได้ ต้องมีคนที่ท ำงานต่าง ๆ มากมายเพื่อให้สงั คมและคริ สตจักรของ
เราดำเนินต่อไปได้ ถึงกระนั้น ไม่วา่ เราจะกังวลเกี่ยวกับโครงสร้างแห่งชีวิตที่ตอ้ งตายและปัญหาของสังคม การทรงเรี ยกของ
พระคริ สต์ ให้ ประกาศข่ าวประเสริ ฐแก่ มวลมนุษย์ กย็ งั คงเป็ นวัตถุประสงค์ สูงสุดของเรา
กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ เราสามารถเป็ นเหมือนโยนาห์ได้ ซึ่งปัญหาใกล้ตวั ที่เขาคิด คือการสูญเสี ยร่ มเงาที่ได้รับจากต้นไม้
ที่ตอนนี้ตายไปแล้ว เรากังวลใจเกี่ยวกับสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ในแอตแลนติกเหนือมากกว่าอันตรายนิรันดร์ที่ผปู้ ฏิเสธพระคริ สต์ตอ้ ง
รับหรื อไม่?
เมื่อพระเยซูได้เป็ นขึ้นจากความตายและกำลังจะเสด็จขึ้นสู่สวรรค์ พระองค์ได้ประทานคำสอนมากมายเกี่ยวกับ
อาณาจักรของพระเจ้าแก่เหล่าสาวก พวกเขาทูลถามพระองค์วา่ “องค์ พระผู้เป็ นเจ้ า พระองค์ จะทรงตั้งราชอาณาจักรขึน้ ใหม่ ให้
ชนชาติอิสราเอลในครั้ งนี ห้ รื อ?” (กิจการ 1:6) นัน่ ไม่ใช่แค่ล ำดับความสำคัญของพวกเขาเท่านั้น แต่ยงั เป็ นการตีความหมายของ
ราชอาณาจักรของพระเจ้าด้วย ซึ่งเป็ นประเด็นเรื่ องชาตินิยม พวกเขาสนใจเวลาและฤดูกาล พระเยซูตรัสตอบว่า ไม่ใช่ธุระของ
พวกท่านที่จะรู้เวลาและวาระที่พระบิดาทรงกำหนดไว้โดยสิ ทธิ อ ำนาจของพระองค์ แต่พวกท่านจะได้รับพระราชทานฤทธานุ
ภาพ เมื่อพระวิญญาณบริ สุทธิ์ เสด็จมาเหนือท่าน และท่านทั้งหลายจะเป็ นสักขีพยานของเราในกรุ งเยรู ซาเล็ม ทัว่ แคว้นยูเดีย ทัว่
แคว้นสะมาเรี ย และจนถึงที่สุดปลายแผ่นดินโลก (ข้อ 7–8)
นัน่ คือคำพูดสุ ดท้ายของพระเยซูบนแผ่นดินโลก จริ งอยู่ ไม่ใช่ทุกคนที่จะยอมสละเรื อหาปลาเพื่อไปจับคน แต่พระมหา
บัญชายังคงมีความสำคัญสูงสุ ดสำหรับผูเ้ ชื่อทุกคน… รวมทั้งคุณและผมด้วย โปรดยอมรับพระมหาบัญชาในฐานะโอกาสของ
คุณที่จะฉายแสงในโลกที่มืดมนและกำลังจะตายนี้ จงเปล่งประกายเจิดจรัสได้ในวันนี้ !

ความเจ็บป่ วยไม่ใช่ความชัว่ ร้ายที่สุด


ดังนั้นการรักษาโรคจึงไม่ใช่ความดีสูงสุ ด
บาปคือความชัว่ ร้ายที่สุดและความรอดคือความดีสูงสุ ด
อย่างไรก็ดีความรอดและการรักษาโรคดำเนินไปพร้อมกัน

การทำสิ่ งที่เหนือธรรมชาติโดยปราศจากข้อความแห่งกลโกธานั้น
เป็ นอันตรายมาก!

ยอห์นไม่เคยเรี ยกการอัศจรรย์วา่ การอัศจรรย์ เขาเรี ยกว่าหมายสำคัญ


เพราะว่าสิ่ งเหล่านี้ช้ ีไปถึงบางสิ่ งบางอย่าง

1
กรกฎาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“ข่าวประเสริ ฐเรื่ องแผ่นดินของพระเจ้านี้จะถูกประกาศไปทัว่ โลก ให้เป็ นคำพยานแก่บรรดาประชาชาติ แล้วที่สุดปลายจะมาถึง”
(มัทธิว 24:14)
ไฟประจำวัน!
ข้าแต่องค์พระผูเ้ ป็ นเจ้า ขอทรงโปรดประทานความสามารถในการเทศนา และในการสำแดงความเห็นอกเห็นใจและความเมตตา
ให้แก่ขา้ พระองค์ เหมือนที่พระองค์ท ำ
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
มัทธิว 24:14; โรม 16:25–26
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
โยชูวา 3;
สดุดี 126–128
เย็น:
อิสยาห์ 63;
มัทธิว 11
การประกาศในอนาคต
โลกสามารถถูกประกาศข่าวประเสริ ฐได้เร็วกว่าที่คนส่ วนใหญ่เชื่อ แม้วา่ ขณะที่เราได้เริ่ มสหัสวรรษใหม่แล้วก็ตาม มีผู้
เชื่อเพียงไม่กี่พนั คนเมื่อพระเยซูจากโลกนี้ ไป บางทีมีสาวกคริ สเตียน 1 คนต่อคน 2 หมื่นคน ภายในเวลา 300 ปี จักรวรรดิโรมัน
ทั้งหมดก็กลายเป็ นคริ สเตียนอย่างเป็ นทางการ
ทุกวันนี้ มีคริ สเตียนที่บงั เกิดใหม่มากกว่า 600 ล้านคนบนแผ่นดินโลก นัน่ คือ 1 ในทุก ๆ 10 คน! ถ้าเราหันเหความ
สนใจไปที่ประเด็นอื่นและอุทิศเวลา เงิน และพลังงานของเราให้กบั ความห่วงใยทางการเมืองและสังคม การเป็ นพยานเพื่อข่าว
ประเสริ ฐก็จะลดลง มันต้องเพิ่มขึ้น! เราต้องการความพยายามครั้งสุ ดท้ายเพื่อไปให้ถึง 9 ใน 10 ของโลก!
จงถวายพระเกียรติแด่ พระองค์ ผ้ ทู รงสามารถให้ ท่านทั้งหลายตั้งมัน่ คงตามข่าวประเสริ ฐซึ่ งข้าพเจ้ าได้ ประกาศนั้น คือ
เรื่ องเกี่ยวกับพระเยซูคริ สต์ ตามการเปิ ดเผยข้ อล้ำลึก ซึ่ งได้ ปิดบังไว้ ตั้งแต่ โบราณกาล แต่ เดี๋ยวนี ไ้ ด้ เปิ ดเผยให้ ปรากฏ
แล้ ว โดยคำเขียนของบรรดาผู้เผยพระวจนะ ให้ ชนทุกชาติเห็นประจักษ์ ตามซึ่ งพระเจ้ าผู้ทรงดำรงเป็ นนิตย์ ได้ ทรงบัญ
ชาไว้ เพื่อให้ เขาได้ เชื่ อ (โรม 16:25–26) เมื่อข่ าวประเสริ ฐได้ รับการประกาศในโลกทั้งหมดในฐานะคำพยานแก่ บรรดา
ประชาชาติ ที่สุดปลายก็จะมาถึงในที่สุด
ตอนนี้เรามาถึงจุดนั้นเมื่อคุณและผมต้องถามตัวเองว่า “ฉันเป็ นผูเ้ ผยแพร่ ข่าวประเสริ ฐแบบไหน? ฉันต้องการประกาศ
การพิพากษา เหมือนโยนาห์หรื อยอห์น ผูใ้ ห้บพั ติศมา และเห็นพระพิโรธของพระเจ้าต่อคนโลภและชัว่ ร้ายหรื อไม่? ผมกังวล
เกี่ยวกับปัญหาข้างเคียงมากกว่า (เหมือนที่โยนาห์โกรธเรื่ องต้นไม้ที่เหี่ ยวเฉาและตาย) ที่ผมกังวลเกี่ยวกับวิญญาณจิตที่หลงหาย
และกำลังจะตายนับล้านๆ ดวงหรื อเปล่า? ผมมีความสามารถที่จะประกาศความเห็นอกเห็นใจและความเมตตา (เหมือนที่พระเยซู
ทรงทำ) และนำเสนอข่าวดีแก่ผคู้ นหรื อไม่? และผมพร้อมจะทำอะไรเกี่ยวกับการประกาศข่าวประเสริ ฐ?”
คำถามเหล่านี้เป็ นคำถามที่สำคัญ และเป็ นความรับผิดชอบของเราในการค้นหาคำตอบ…แล้วทำให้เป็ นมาตรฐานของ
เรา!
2
กรกฎาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“แต่จงมีใจกรุ ณา ใจสงสาร และใจให้อภัยแก่กนั และกัน เหมือนอย่างที่พระเจ้าทรงให้อภัยพวกท่านในพระคริ สต์" (เอเฟซัส
4:32)
ไฟประจำวัน!
พระบิดา พระองค์ทรงไม่แสดงความลำเอียงในการเลือกข้าพระองค์ ขออย่าให้ขา้ พระองค์แสดงความลำเอียงต่อผูอ้ ื่น
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
มาระโก 16:15; กิจการ 10:34; เอเฟซัส 4:1–32
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
โยชูวา 4; สดุดี 129 และ 131
เย็น:
อิสยาห์ 64;
มัทธิว 12
มนุษย์ สมัยใหม่
อัครทูตเปาโลดำเนินชีวิตแบบคนสมัยใหม่ในสมัยของเขาเอง งานเขียนของเขาเต็มไปด้วยการอ้างอิงและคำที่ให้ภาพที่
เป็ นหลักฐานอย่างชัดเจนถึงความร่ วมสมัยของเขา ดังนั้น ในจดหมายของเขาถึงคริ สตจักรที่เมืองเอเฟซัส เมืองที่ได้รับอิทธิพล
อย่างดีจากอำนาจของโรม เขาจึงสอนหลักธรรมด้วยภาพที่สดใสที่จะดึงดูดและถูกเข้าใจโดยชาวเอเฟซัสอย่างแท้จริ ง แต่ภาพ
ของเขายังคงสร้างแรงบันดาลใจให้กบั ผูค้ นตลอดหลายศตวรรษและแม้กระทัง่ ในปัจจุบนั

เพราะฉะนั้น ข้ าพเจ้ าผู้เป็ นนักโทษโดยเห็นแก่ องค์ พระผู้เป็ นเจ้ า ขอวิงวอนพวกท่ านให้ ด ำเนินชี วิตสมกับการทรงเรี ยก
ที่ท่านได้ รับการทรงเรี ยกมานั้น คือจงถ่ อมใจและมีความสุภาพอ่ อนโยนอยู่เสมอ จงอดทน จงอดกลัน้ ต่ อกันและกัน
ด้ วยความรั ก จงพยายามรั กษาความเป็ นน้ำหนึ่งใจเดียวกันที่มาจากพระวิญญาณนั้น โดยมีสันติภาพเป็ นเครื่ องผูกพัน มี
กายเดียวและมีพระวิญญาณองค์ เดียว เหมือนอย่ างที่ท่านได้ รับการทรงเรี ยกให้ มาถึงความหวังเดียวในการทรงเรี ยก
พวกท่ านนั้น มีองค์ พระผู้เป็ นเจ้ าองค์ เดียว ความเชื่ อเดียว บัพติศมาเดียว พระเจ้ าองค์ เดียวผู้เป็ นพระบิดาของทุกคน
พระองค์ ทรงมีอ ำนาจเหนือสรรพสิ่ ง ทรงทำการผ่ านสรรพสิ่ งและทรงอยู่ในทุกคน แต่ ว่าพระคุณนั้นประทานแก่ เราแต่
ละคนตามขนาดที่พระคริ สต์ ประทาน (เอเฟซัส 4:1–7) ที่นี่ เปาโลกำลังเขียนถึงคริ สเตียนที่เป็ นทาสและเป็ นไท
ต่ำต้ อยและสูงส่ ง ยากจนข้ นแค้ นและมัง่ คั่ง แต่ ละคนได้ รับการปฏิบัติเหมือนกันทุกประการ เนื่องจากไม่ มีความ
ลำเอียงในพระเจ้ า “ข้ าพเจ้ าเห็นจริ งแล้วว่ าพระเจ้ าไม่ ทรงลำเอียง” (กิจการ 10:34) และแต่ ละบุคคลมีหน้ าที่รับผิดชอบ
เหมือนกันในฐานะคริ สเตียนที่จะต้ องทำให้ สำเร็ จ สิ่ งที่เราเรี ยนรู้ จากงานเขียนโบราณของเปาโลในวันนี ้ ก็คือพระเจ้ า
ทรงคาดหวังจากพวกเราแต่ ละคนเหมือนกัน เหมือนกับที่พระองค์ ทรงคาดหวังจากคริ สเตียนเหล่ านั้นที่จะยอมพลีชีพ
เพื่อความเชื่ อของพวกเขา ถูกข่ มเหงเพื่อความเชื่ อของพวกเขา สูญเสี ยทุกสิ่ งที่เป็ นเจ้ าของเพื่อข่ าวประเสริ ฐ ภารกิจ
อันดับหนึ่งที่พวกเขาได้ รับมอบหมายเป็ นงานเดียวกันกับที่มอบให้ กับเหล่ าอัครทูตขณะเฝ้ าดูพระเยซูคริ สตเจ้ าและ
พระผู้ช่วยให้ รอด ผู้เป็ นขึน้ มาจากความตายกำลังเสด็จขึน้ สู่สวรรค์ ว่า “พวกท่ านจงออกไปทั่วโลก ประกาศข่ าวประเส
ริ ฐแก่ มนุษย์ ทุกคน” (มาระโก 16:15)! การมอบหมายเดียวกันนั้นเป็ นของคุณและของผมในวันนี ้!
3
กรกฎาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“ถ้าข้าพระองค์จะกล่าวว่า “ข้าพเจ้าจะไม่อา้ งถึงพระองค์ หรื อกล่าวในพระนามของพระองค์อีก” ก็มีสิ่งในใจของข้าพระองค์
เหมือนไฟไหม้ อัดอยูใ่ นกระดูกของข้าพระองค์ และข้าพระองค์ก็อ่อนเปลี้ยที่ตอ้ งเก็บมันไว้ และข้าพระองค์กเ็ ก็บไว้ไม่ไหว”
(เยเรมีย ์ 20:9)
ไฟประจำวัน!
พระคำของพระเจ้ามีชีวิต เป็ นจริ ง และเปี่ ยมด้วยฤทธิ์ อ ำนาจในหัวใจและชีวิตของฉันในวันนี้
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
อพยพ 3:1–22; 4:1–17; สดุดี 119:89; เยเรมีย ์ 20:9; 2 เปโตร 1:21
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
โยชูวา 5–6:5; สดุดี 132–134
เย็น:
อิสยาห์ 65;
มัทธิว 13
ขีดสุ ดของความเชื่อ
นี่คือพื้นฐานบางอย่างของความเชื่อ:
 ในการเป็ นผูเ้ ชื่อ เราควรรู้วา่ เราเชื่อสิ่ งใดและเชื่อในผูใ้ ด
 บทเรี ยนพื้นฐานที่สุดคือเราต้องยึดเอาพระคำของพระเจ้าตามที่พระคำกล่าว
 ปราศจากการรู้น ้ำพระทัยของพระเจ้า ความเชื่อก็เป็ นไปไม่ได้
 พระคำเป็ นน้ำพระทัยนิรันดร์ของพระเจ้า
 การตั้งคำถามกับพระคัมภีร์คือการตั้งคำถามกับคำแนะนำเดียวที่เรามี...และการตั้งคำถามกับพระเจ้า
 พระคำของพระเจ้าเป็ นคำขาด ไม่ใช่ทางเลือกสำหรับการอภิปราย
 การลงคะแนนเสี ยงหรื อฉันทามติตามระบอบประชาธิปไตยไม่ได้ตดั สิ นความจริ งในพระคัมภีร์ พระคัมภีร์ “ตั้งมัน่ คง
ในสวรรค์ ” (สดุดี 119:89) ตลอดไป

 พระคัมภีร์เป็ นรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรของพระเจ้า และไม่มีรัฐสภาใดในโลกที่มีเสี ยงข้างมาก 2 ใน 3 ที่สามารถ


เปลี่ยนแปลงได้
พระคัมภีร์ไม่ได้พยายามซ่อนเกี่ยวกับเรื่ องนี้ และยืนกรานถึงสิ ทธิอ ำนาจของพระเจ้าเองเป็ นพันครั้ง ยกตัวอย่างเช่น ผูเ้ ผย
พระวจนะที่พดู ไม่ได้เสนอความคิดเห็นทางการเมืองเป็ นการส่ วนตัว แต่ “คำของผู้เผยพระวจนะนั้น ไม่ ได้ มาจากความประสงค์
ของมนุษย์ เลย แต่ มนุษย์ กล่ าวคำซึ่ งมาจากพระเจ้ า ตามที่พระวิญญาณบริ สุทธิ์ ทรงดลใจเขา” (2 เปโตร 1:21) พวกเขาใช้วลีวา่
“องค์พระผูเ้ ป็ นเจ้าตรัสดังนี้ ” ชาวยิวมีแนวคิดว่า พระเจ้าคือพระเจ้าแห่งความบริ สุทธิ์ น่ายำเกรง และพวกเขาก็สนั่ สะท้านต่อ
ความยิง่ ใหญ่ที่น่ายำเกรงของพระองค์
เว้นแต่พวกเขาจะมีความรู้สึกอย่างท่วมท้นว่าพระเจ้าได้ส่งพวกเขาไป ไม่มีผเู้ ผยพระวจนะแห่งอิสราเอลจะกล้าอ้างว่าเป็ นก
ระบอกเสี ยงขององค์ผทู้ รงมหิ ทธิฤทธิ์ นี้ มีเพียงความแน่นอนเท่านั้นที่จะเปิ ดปากของพวกเขาได้ โมเสสโต้เถียงกับพระเจ้าอย่าง
ไม่เต็มใจเมื่อพระองค์สัง่ ให้เขากลับไปอียปิ ต์เพื่อปลดปล่อยประชาชนของเขา เยเรมียป์ ่ าวประกาศว่า “ข้ าพเจ้ าจะไม่ อ้างถึงพระ
องค์ หรื อกล่ าวในพระนามของพระองค์ อีก” ก็มีสิ่งในใจของข้าพระองค์ เหมือนไฟไหม้ อัดอยู่ในกระดูกของข้าพระองค์ และข้า
พระองค์ กอ็ ่ อนเปลีย้ ที่ต้องเก็บมันไว้ และข้ าพระองค์ กเ็ ก็บไว้ ไม่ ไหว” (เยเรมีย ์ 20:9)
พระคำของพระเจ้ามีชีวิต และเป็ นจริ ง และเปี่ ยมด้วยฤทธิ์ อ ำนาจในชีวิตของคุณในวันนี้ !
4
กรกฎาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“จงชื่นชมยินดีที่ชื่อของท่านจดไว้ในสวรรค์” (ลูกา 10:20)
ไฟประจำวัน!
พระบิดา ขอทรงโปรดให้ขา้ พระองค์มีโอกาสสำแดงฤทธิ์ อำนาจของพระองค์ดว้ ยความสว่างที่ขา้ พระองค์ส่อง
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
มัทธิว 17:20; ลูกา 10:20; ยอห์น 11:40
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
โยชูวา 6:6; สดุดี 135 และ 136
เย็น:
อิสยาห์ 66;
มัทธิว 14
ฤทธิ์อำนาจทุกที่
สายไฟขนาดใหญ่ทอดยาวไปทัว่ ทั้งประเทศ กังหันพลังงานขนาดใหญ่ก ำลังจ่ายไฟให้กบั ระบบอันกว้างใหญ่ท้ งั กลางวัน
และกลางคืน ควบคุมพลังงานจากถ่านหิ น น้ำ น้ำมัน หรื อนิวเคลียร์ฟิวชัน ซึ่งตั้งอยูใ่ นอาคารสูงตระหง่าน ทุกที่! จากนั้น ที่บา้ น
เกิดเศษลวดเล็กๆ ขาด และทุกอย่างในบ้านของคุณก็หยุดทำงานโดยปราศจากพลังงาน ความยิง่ ใหญ่ของพระเจ้า…ความยิง่ ใหญ่
แห่งพระราชกิจของพระคริ สต์…ความยิง่ ใหญ่แห่งพระคำของพระเจ้าอยูท่ ี่นนั่ ทั้งหมด แต่ถา้ ปราศจากความเชื่อ ซึ่งมีขนาดเล็ก
เท่าสายฟิ วส์ สิ่ งที่ยงิ่ ใหญ่เหล่านั้นก็ไม่มีประโยชน์อนั ใด วงจรเสี ย สะพานไฟฟ้ าดับ ถ้าฟิ วส์แห่งความเชื่อล้มเหลว พลวัตของ
พระเจ้าก็จะถูกตัด…และจะถูกปฏิเสธโดยผูท้ ี่เราเทศนาด้วย แน่นอน พวกเขาสามารถถูกทำให้สบั สนได้! จงรับพระคำ จงใส่
ฟิ วส์แห่งความเชื่อ...และฤทธิ์อำนาจของพระเจ้าจะผ่านเข้ามา นัน่ คือจะมีแสงสว่าง ความอบอุ่น พลังงาน ความรอด การรักษา
โรค ความเข้มแข็ง และพระพร
ครั้งหนึ่งผมเคยเข้าไปในร้านทำผมที่มีผหู้ ญิง 2 คนทำงานอยู่ และหนึ่งในนั้นก็เริ่ มตัดผมให้ผม ตามปกติของช่างทำผม เธอ
พูดคุยขณะที่เธอทำงานและถามผมว่าผมเป็ นนักธุรกิจหรื อไม่ คำตอบของผมคือ “ผมเป็ นคนของพระเจ้า” มันอาจจะเป็ นการ
กระแทกที่ดี แต่มนั ก็ท ำให้น้ำแข็งแตก และเราก็ถูกเปิ ดตัว ในช่วงเวลาสั้นๆ ผมก็ก ำลังพาผูห้ ญิงทั้ง 2 ไปหาพระคริ สต์ พวกเธอ
คุกเข่าลงบนพื้นขณะที่พวกเธออธิษฐานเพื่อความรอด เมื่อผมออกจากร้าน ผมได้ยนิ คนหนึ่งพูดทั้งน้ำตากับอีกคนว่า “คนของ
พระเจ้าคนนั้นมาตัดผม ช่างเป็ นวันที่เปี่ ยมไปด้วยพระสิ ริจริ งๆ!” ผมออกไปอย่างมีความสุขมาก หลังจากนั้นผมได้พบกับเพื่อน
ร่ วมงานของผม ปี เตอร์ ฟาน เดน เบิร์ก ผมพูดกับเขาว่า “ปี เตอร์ ผมเห็นว่าคุณจำเป็ นต้องตัดผมด้วย ไปตัดผมที่ร้านนั้น ผมได้น ำ
ผูห้ ญิง 2 คนมาหาพระคริ สต์ที่นนั่ จงไปและติดตามผล!"
พระเยซูตรัสตอบว่า “ถ้ าพวกท่ านมีความเชื่ อเท่ าเมล็ดมัสตาร์ ดเมล็ดหนึ่ง” (มัทธิว 17:20) เล็กน้อยมาก! ความเชื่อของเรา
ไม่ใช่ความรู้สึกสูงตระหง่านที่ทุกคนเห็นและอ้าปากค้าง มันคือฟิ วส์ที่ซ่อนอยู่ แต่พลังแห่งสวรรค์ไหลเข้าสู่ โลกผ่านทางมัน
พระเจ้าใช้ฟิวส์ แต่ไม่เคยใช้กลอุบาย ไม่วา่ เราจะอยูท่ ี่ไหน ทัศนคติที่ซ่อนเร้นอยูใ่ นหัวใจของเราคือการเชื่อมโยงที่ขาดหายไป
ของพระเจ้า “ถ้ าคุณเชื่ อ ก็จะได้ เห็นความยิ่งใหญ่ ของพระเจ้ า?” (ยอห์น 11:40) ไม่วา่ คุณจะไปที่ไหนในชีวิต จงนำฤทธิ์อ ำนาจ
ของพระเจ้าติดตัวไปด้วย และเป็ นสื่ อนำของฤทธิ์ อำนาจนั้นเพื่อเปลี่ยนแปลงชีวิต

5
กรกฎาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“เพราะพระคริ สต์ทรงทนทุกข์ครั้งเดียวเป็ นพอเพราะบาป คือพระองค์ผชู้ อบธรรมเพื่อผูไ้ ม่ชอบธรรม เพื่อจะนำพวกท่านไปถึง
พระเจ้า ฝ่ ายกายพระองค์จึงสิ้ นพระชนม์ แต่ฝ่ายจิตวิญญาณทรงคืนพระชนม์” (1 เปโตร 3:18)
ไฟประจำวัน!
ฉันปรารถนาจะเต็มไปด้วยความเห็นอกเห็นใจที่กระตุน้ พระเยซูคริ สต์
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
มาระโก 6:34; 1 เธสะโลนิกา 5:10; 1 เปโตร 2:7; 3:18
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
โยชูวา 7; สดุดี 137 และ 138
เย็น:
เยเรมีย ์ 1; มัทธิว 15
ในคำเดียว: ความเห็นอกเห็นใจ
ของขวัญที่พระคริ สต์มอบให้แก่โลกไม่ใช่ศาสนาใหม่ หรื อทฤษฎีใหม่เกี่ยวกับชีวิต หรื อสูตรใหม่สำหรับสวรรค์ พระองค์
ประทานพระองค์เองเพื่อเรา “พระองค์ ผ้ ชู อบธรรมเพื่อผู้ไม่ ชอบธรรม เพื่อจะนำพวกท่ านไปถึงพระเจ้ า” (1 เปโตร 3:18) ความ
เชื่อของคริ สเตียนไม่ใช่ศาสนา แต่คือพระเยซู! เราสามารถสร้างหลักคำสอนรอบๆ พระองค์ได้ แต่พระเยซูไม่ได้มาเพื่อนำศาสน
ศาสตร์มาให้แก่เรา พระองค์มาเพื่ออยูท่ ี่นี่ ว่างสำหรับเรา ไม่เคยจาก หรื อทอดทิ้งเราไปเป็ นการส่ วนตัว
หนึ่งในพระนามของพระเจ้าในพันธสัญญาเดิมคือ เอล ชัดดัย ซึ่งหมายความว่าพระเจ้าทรงเพียงพอสำหรับทุกสิ่ ง พระเจ้า
องค์น้ นั เสด็จมายังโลกในบุคคลของพระเยซู พระองค์ทรงสละทั้งหมดของพระองค์เอง...และพระองค์ทรงเป็ นทุกสิ่ งที่เรา
ต้องการ! อีกพระนามในพันธสัญญาเดิมคือ ยาเวห์ ชัมมาห์ ซึ่งหมายความว่าองค์พระผูเ้ ป็ นเจ้าทรงอยูท่ ี่นนั่ ถ้าพระองค์ทรงอยูท่ ี่
นัน่ นัน่ คือทั้งหมดที่เราต้องการ เปโตรกล่าวว่า “เพราะฉะนั้น พระองค์ ทรงมีค่ามหาศาลสำหรั บพวกท่ านที่เชื่ อ” (1 เปโตร 2:7)
พระเยซูปฏิเสธที่จะดำรงชี วิตอยู่เพื่อประโยชน์ ของพระองค์ เอง แรงจูงใจของพระองค์ สามารถสรุ ปได้ ในคำว่ า ความเห็นอก
เห็นใจ พระองค์ ถกู ขับเคลื่อนด้ วยความรั ก ไม่ใช่ ด้วยความกลัว สิ่ งที่จะได้ รับ หรื อความนิยม

เมื่อพระเยซูเสด็จขึน้ จากเรื อแล้ วก็ทอดพระเนตรเห็นมหาชน และพระองค์ ทรงสงสารพวกเขา เพราะว่ าพวกเขาเป็ นเหมือน


ฝูงแกะไม่ มีผ้ เู ลีย้ ง พระองค์ จึงทรงเริ่ มสั่งสอนพวกเขาหลายประการ (มาระโก 6:34) พระองค์ ด ำเนินชี วิตอยู่เพื่อเราอย่ าง
แท้ จริ ง เมื่อพระองค์ เสด็จออกจากที่นั่งของช่ างไม้ ในเมืองนาซาเร็ ธ พระองค์ ทรงเผชิ ญกับการล่ อลวงที่รุนแรงในถิ่น
ทุรกันดารเป็ นครั้ งแรก ในทุกกรณี พระองค์ ถกู ล่ อลวงให้ คิดถึงพระองค์ เอง การทดสอบหนึ่งคือเลีย้ งอาหารตนเองด้ วยการ
อัศจรรย์ อีกครั้ งหนึ่งเพื่อรั บราชอาณาจักรทั้งหมดในแผ่ นดินโลกเป็ นของขวัญ อีกครั้ งหนึ่งเพื่อแสดงหมายสำคัญที่น่า
พิศวงที่จะทำให้ ทุกคนยกย่ องพระองค์ ในฐานะพระเมสสิ ยาห์ องค์ พระผู้เป็ นเจ้ าถูกทดลองด้ วยข้ อเสนอแนะหลายอย่ าง
พระองค์ หิว พระองค์ ถกู ตรึ งที่ไม้ กางเขนแทนที่จะได้ รับการสวมมงกุฎ และพระองค์ ถกู ตั้งข้ อหาหมิ่นประมาทถึงแม้
พระองค์ จะเป็ นพระเจ้ า ความรั กของพระเยซูที่มีต่อคุณและผมนั้นช่ างท่ วมท้ นในบางครั้ ง แต่ ความรั กนั้นเป็ นความจริ ง ! จง
ให้ ความรั กนั้นกระตุ้นคุณในวันนี ้ ให้ ความเห็นอกเห็นใจของพระคริ สต์ ขบั เคลื่อนคุณสู่การลงมือทำ!
6
กรกฎาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“ข้าพเจ้าเองไม่มีชีวิตอยูต่ ่อไป แต่พระคริ สต์ต่างหากที่ทรงมีชีวิตอยูใ่ นข้าพเจ้า ชีวิตซึ่งข้าพเจ้าดำเนินอยูใ่ นร่ างกายขณะนี้ ข้าพเจ้า
ดำเนินอยูโ่ ดยความเชื่อในพระบุตรของพระเจ้าผูไ้ ด้ทรงรักข้าพเจ้า และได้ทรงสละพระองค์เองเพื่อข้าพเจ้า” (กาลาเทีย 2:20)
ไฟประจำวัน!
ความสัมพันธ์ที่ฉนั มีในพระเยซูคริ สต์เป็ นสิ่ งที่ให้ชีวิตแก่ฉนั
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
ยอห์น 3:6; 4:3–26; กาลาเทีย 2:20
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
โยชูวา 8; สดุดี 139
เย็น:
เยเรมีย ์ 2; มัทธิว 16
พระคริสต์ ผู้ให้
เมื่อผูค้ นในสมัยพระคริ สต์ปรบมือให้กบั พระองค์ พระองค์กท็ รงร้องไห้เพื่อพวกเขา พวกเขาพยายามบังคับให้พระองค์เป็ น
กษัตริ ย ์ แต่พระองค์ทรงเลือกไม้กางเขน เมื่อกำลังไปสิ้ นพระชนม์ พระองค์บอกให้ผหู้ ญิงในกรุ งเยรู ซาเล็มร้องไห้เพื่อตนเอง
ไม่ใช่เพื่อพระองค์ พวกเขาเป็ นความคิดสุ ดท้ายของพระองค์ พระคริ สต์ไม่ได้คิดถึงพระองค์เองเลย...และแม้วา่ นัน่ หมายถึงความ
ตาย พระองค์กจ็ ะทรงแบกรับไว้เพื่อเรา พระองค์ทรงพร้อมที่จะช่วยเราให้รอดจากนรกโดยเสด็จผ่านนรกแห่งความทรมานนั้น
ด้วยพระองค์เอง
พระเยซูตรั สตอบนางว่ า “ถ้ าเธอรู้ จักของที่พระเจ้ าประทาน และรู้ จักผู้ที่พูดกับเธอว่ า ‘ขอน้ำให้ เราดื่มบ้ าง’ ก็คงจะขอจาก
ท่ านผู้นั้น และผู้นั้นก็คงจะให้ น ้ำดำรงชี วิตแก่ เธอ” (ยอห์ น 4:10) พระองค์ ได้ พบกับผู้หญิงคนหนึ่งที่บ่อน้ำและขอน้ำจาก
เธอ ใน 2-3 ประโยค พระองค์ เริ่ มเป็ นห่ วงเธอ พระเยซูสนใจในการให้ เธอได้ ดื่มน้ำพุแห่ งชี วิตนิรันดร์ มากกว่ าที่จะดับความ
กระหายตามธรรมชาติของพระองค์ เอง แท้ จริ งแล้ วเธอได้ น ำน้ำมาให้ พระองค์ ดื่มหรื อไม่ ? เราไม่เคยอ่ านว่ าเธอให้ ตอนเล็ก
ๆ นั้นให้ ความกระจ่ างแก่ เราว่ าพระเยซูทรงเป็ นอย่ างไร

พระคริ สต์ทรงดำเนินชีวิตอยูเ่ พื่อเราในฐานะหนึ่งในพวกเรา คริ สเตียนคือคนที่เกี่ยวข้องกับพระเจ้า ในครอบครัวของ


พระเจ้า พวกเขาบังเกิดใหม่โดยพระวิญญาณของพระเจ้า ไม่ใช่เรื่ องของการมีประสบการณ์ทางศาสนาในวันหนึ่ง หรื อนิมิต
หรื อรู้สึกดี หรื อมีความสุข แต่เป็ นความสัมพันธ์—ความใกล้ชิด ความผูกผันในครอบครัว พระคริ สต์ด ำเนินชีวิตอยูเ่ พื่อเรา
เพื่อที่จะเป็ นของเรา ถ้าพระคริ สต์เป็ นของผม ผมก็ถูกช่วยให้รอด ถ้าพระองค์เป็ นของคุณ คุณก็ถูกช่วยให้รอด พระคริ สต์
ประทานพระองค์เองเพื่อเรา และประทานพระองค์เองให้เรา ความรอดหมายถึงการเป็ นหนึ่ งเดียวกับพระองค์ พระเยซูไม่
ได้ส่งความรอดมาให้ พระองค์คือความรอด พระองค์ไม่ได้ส่งการให้อภัยมา พระองค์น ำมา พระองค์ให้อภัยเราและอยูก่ บั
เรา นัน่ ทำให้วิญญาณจิตของคุณตื่นเต้นไม่ใช่หรื อที่รู้วา่ วันนี้ ... คุณกำลังดำเนินชีวิตอยูก่ บั พระคริ สต์!
7
กรกฎาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“เราเป็ นชีวิตและการเป็ นขึ้นจากตาย คนที่วางใจในเราจะมีชีวิตอีกแม้วา่ เขาจะตายไป และทุกคนที่มีชีวิตและวางใจในเราจะไม่
ตายเลย เธอเชื่ออย่างนี้ไหม?” (ยอห์น 11:25–26)
ไฟประจำวัน!
ข้าแต่พระเยซูเจ้า ข้าพระองค์เชื่อในการเป็ นขึ้นมาจากความตายของพระองค์ ดังนั้นข้าพระองค์กจ็ ะเป็ นขึ้นมาจากความตายด้วย!
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
ยอห์น 11:1–27; กิจการ 4:32–33
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
โยชูวา 9; สดุดี 140 และ 141
เย็น:
เยเรมีย ์ 3; มัทธิว 17
การเป็ นขึน้ มาจากความตาย คือ เรื่องหลอกลวงที่เป็ นไปไม่ ได้ หรือ?
บางคนคิดว่าการเป็ นขึ้นจากความตายเป็ นไปไม่ได้ แต่พวกเขารู้ได้อย่างไรว่าการเป็ นขึ้นจากความตายเป็ นไปไม่ได้?
ไม่มีใครรู้มากพอที่จะป่ าวประกาศด้วยความมัน่ ใจว่าสิ่ งใดเป็ นไปไม่ได้ เราต้องเป็ นพระเจ้าเพื่อที่จะรู้วา่ พระเจ้าไม่สามารถ
ทำอะไรได้บา้ ง เราจำกัด และสามารถผิดพลาดได้
จงย้อนดูอดีต จนถึงศตวรรษนี้ โทรทัศน์ดูเหมือนเป็ นไปไม่ได้ ถ้าเมื่อ 200 หรื อ 300 ปี ก่อน มีใครพูดว่าคน ๆ หนึ่งจะ
ถูกมองเห็นและได้ยินไปทัว่ โลกในเวลาเดียวกัน คนก็จะคิดว่าเขาบ้าไปแล้ว ดวงจันทร์ถูกมองว่าไม่สามารถไปถึงได้…
มนุษย์ไม่มีวนั บินได้… ไม่มีทางเดินทางเร็ วกว่าม้า… ไม่สามารถอาศัยอยูท่ ี่กน้ มหาสมุทรได้ ทั้งหมดนี้ ถูกเชื่อมัน่ ว่าเป็ นไป
ไม่ได้ แต่ทุกคนคิดผิด ปัจจุบนั โทรทัศน์ เครื่ องบิน และรถเร็ วเป็ นส่ วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน เรารู้ดีวา่ สิ่ งเหล่านี้ไม่ใช่สิ่ง
สมมติในจินตนาการ
พระคริ สต์ได้เป็ นขึ้นมาจากความตายแล้วด้วย ดังนั้นเราจึงรู้วา่ สิ่ งนี้เป็ นไปได้ ตามคำนิยาม พระเจ้าคือผูท้ รงฤทธานุ
ภาพทั้งหมด ดังนั้น ถ้าพระเจ้าทรงเป็ นพระเจ้า การเป็ นขึ้นมาจากความตายก็ไม่ใช่ปัญหา
และด้ วยฤทธานุภาพอันยิ่งใหญ่ บรรดาอัครทูตก็เป็ นพยานถึงการคืนพระชนม์ ของพระเยซูองค์ พระผู้เป็ นเจ้ า และพระ
คุณอันยิ่งใหญ่ อยู่กับพวกเขาทุกคน (กิจการ 4:33) พวกสาวกไม่ ใช่ บคุ คลที่จะเป็ นนักต้ มตุ๋น พวกเขาไม่ ถือว่ าชีวิตเป็ น
เรื่ องตลกมาก เมื่อแรกเห็นพระเยซูผ้ เู ป็ นขึน้ มาจากความตาย พวกเขาหวาดกลัว ต่ อมาพวกเขาทั้งหมดถูกข่ มเหง และ
บางคนถูกฆ่ าตาย เพียงเพราะพวกเขากล่ าวว่ าพระเยซูยงั ทรงพระชนม์ อยู่ ไม่ มีใครตายเพื่อคนหลอกลวง นักต้ มตุ๋นไม่
โกหกจักรพรรดิผ้ โู หดเหี ้ยม นักต้ มตุ๋นไม่ ยอมถูกทรมาน ถูกเผาทั้งเป็ น หรื อถูกสัตว์ ป่าฉี กเป็ นชิ น้ ๆ พวกสาวกแค่ ไม่
สามารถปฏิเสธความจริ งได้ ไม่ ว่าจะเกิดอะไรขึน้ ให้ เราเป็ นผู้บอกความจริ งในวันนีเ้ ช่ นกัน
8
กรกฎาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“ให้คนอ่อนแอพูดว่า “ฉันเข้มแข็ง” (โยเอล 3:10)
ไฟประจำวัน!
พระเยซูคริ สต์ทรงพระชนม์อยูใ่ นตัวฉัน ฉันเข้มแข็งในพระองค์!
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
โยเอล 3:10; ยอห์น 1:12; 2 โคริ นธ์ 5:17; กาลาเทีย 6:14, 18; 1 เปโตร 3:18
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
โยชูวา 9; สดุดี 142 และ 143
เย็น:
เยเรมีย ์ 4; มัทธิว 18
การบังเกิดใหม่ และการเป็ นขึน้ มาจากความตาย
เราได้ยนิ เกี่ยวกับวิวฒั นาการและการปฏิวตั ิ แต่ความเชื่อของคริ สเตียน คือ การบังเกิดใหม่และการเป็ นขึ้นมาจากความ
ตาย คริ สเตียนยุคแรกกล่าวว่าพวกเขาเป็ นคนที่ถูกสร้างใหม่ พระผูส้ ร้างได้เริ่ มทำงานอีกครั้ง ทำสิ่ งที่ยงิ่ ใหญ่กว่าเดิม “ฉะนั้นถ้ า
ใครอยู่ในพระคริ สต์ เขาก็เป็ นคนที่ถกู สร้ างใหม่ แล้ ว สิ่ งสารพัดที่เก่ าๆ ก็ล่วงไป นี่ แน่ ะกลายเป็ นสิ่ งใหม่ ทั้งนั้น” (2 โคริ นธ์ 5:17)
ระเบียบที่สูงกว่าระเบียบทางชีววิทยาของมนุษย์ได้เกิดขึ้นแล้ว เราเป็ นลูกของพระเจ้าที่บงั เกิดจากเบื้องบน “เพราะพระคริ สต์
ทรงทนทุกข์ ครั้ งเดียวเป็ นพอเพราะบาป คือพระองค์ ผ้ ชู อบธรรมเพื่อผู้ไม่ ชอบธรรม เพื่อจะนำพวกท่ านไปถึงพระเจ้ า ฝ่ ายกาย
พระองค์ จึงสิ ้นพระชนม์ แต่ ฝ่ายจิ ตวิญญาณทรงคืนพระชนม์ ” (1 เปโตร 3:18) เมื่อพระเจ้าสร้างอาดัม พระองค์ไม่ได้ขออนุญาต
จากอาดัม ไม่มีผใู้ ดถูกถามว่าต้องการเกิดไหม แต่ข้ ึนอยูก่ บั เราว่าเราต้องการบังเกิดใหม่และเป็ นส่ วนหนึ่งของระเบียบใหม่หรื อ
ไม่ ตอนนี้คือเวลาที่จะเลือก “แต่ ทุกคนที่ยอมรั บพระองค์ คือคนที่เชื่ อในพระนามของพระองค์ นั้น พระองค์ กจ็ ะประทานสิ ทธิ
ให้ เป็ นลูกของพระเจ้ า” (ยอห์น 1:12) ชีวิตที่เป็ นขึ้นมาจากความตาย (ชีวิตนิรันดร์ ) หลัง่ ไหลเข้าสู่ ผทู้ ี่ท ำเช่นนั้น

ข้ าพเจ้ าไม่ ขออวดอะไรนอกจากเรื่ องกางเขนของพระเยซูคริ สต์ องค์ พระผู้เป็ นเจ้ าของเรา ซึ่ งโดยกางเขนนั้นโลกได้
ตายจากข้ าพเจ้ า และข้ าพเจ้ าก็ได้ ตายจากโลก...พี่น้องทั้งหลาย ขอให้ พระคุณของพระเยซูคริ สต์ องค์ พระผู้เป็ นเจ้ าของ
เราจงสถิตอยู่กับจิ ตวิญญาณของท่ านทั้งหลายด้ วยเถิด (กาลาเทีย 6:14, 18) คนใหม่ เหล่ านี ท้ ำให้ โลกของชาวโรมัน
ประหลาดใจ โรมพยายามที่จะทำลายพวกเขา แต่ นโยบายการทำลายล้ างนั้นทำให้ พวกเขาทวีคูณ ชาวโรมันยกย่ องใน
ความเข้มแข็ง คริ สเตียนยกย่ องในความอ่ อนแอของพวกเขา ชาวโรมันเชื่ อในความเกลียดชังและการแก้ แค้ น คริ สเตียน
เชื่ อในความรั กและการให้ อภัย ชาวโรมันเชื่ อในสิ ทธิ อ ำนาจของจักรพรรดิ คริ สเตียนกล่ าวว่ า “พระเยซูคริ สต์ ทรงเป็ น
องค์ พระผู้เป็ นเจ้ า” ชาวโรมันเชื่ อในดาบ คริ สเตียนกล่ าวว่ าพวกเขาจะพิชิตโลกด้ วยความรั ก และสรรเสริ ญพระเจ้ า
พวกเขาทำ…และยังคงทำ! ความเข้ มแข็งแบบนั้นมาจากไหน? จากข้ อเท็จจริ งที่น่าเปี่ ยมด้ วยพระสิ ริที่สุด นั่นคือพระ
เยซูทรงพระชนม์ อยู่! และพระองค์ ทรงพระชนม์ อยู่ในตัวคุณและในตัวผมในวันนี ้!

9
กรกฎาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“เพราะว่าถ้าข้าพเจ้าประกาศข่าวประเสริ ฐ ข้าพเจ้าก็ไม่มีเหตุที่จะอวดได้ เพราะว่าข้าพเจ้าจำต้องทำ และถ้าไม่ประกาศ วิบตั ิจะ
เกิดกับข้าพเจ้า!” (1 โคริ นธ์ 9:16)
ไฟประจำวัน!
ข้าพระองค์วางทุกสิ่ งไว้บนแท่นบูชาของพระองค์ เพื่อพระองค์จะใช้ได้ตามต้องการ
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
2 โคริ นธ์ 4:7; ฟิ ลิปปี 4:13
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
โยชูวา 11;
สดุดี 144
เย็น:
เยเรมีย ์ 5; มัทธิว 19
เข้ าร่ วมวงออร์ เคสตรา!
“ทำไมพระเจ้าจึงต้องการให้เราทำสิ่ งหนึ่งสิ่ งใดในเมื่อพระองค์ทรงมีฤทธิ์ อ ำนาจทั้งหมด?” เพราะว่าพระองค์ทรงรักเรา
และทรงชอบที่จะแบ่งปันความพึงพอใจและความชื่นชมยินดีของพระองค์กบั เรา คุณอาจรู้สึกว่าคุณเป็ นเครื่ องดนตรี ชิ้นเล็กๆ แต่
เราแต่ละคนมีความสำคัญในวงออร์เคสตราเต็มรู ปแบบ องค์พระผูเ้ ป็ นเจ้าแห่งแผ่นดินโลกทั้งใบมีสิ่งที่ใหญ่อยูใ่ นความคิด และ
สิ่ งเหล่านั้นเรี ยกร้องให้มีผชู้ ่วยเหลือนับล้านที่มีของประทานและความสามารถที่หลากหลาย “แต่ เรามีของล้ำค่ านีอ้ ยู่ในภาชนะ
ดิน เพื่อให้ เห็นว่ า ฤทธิ์ เดชอันเลิศนั้นเป็ นของพระเจ้ า ไม่ ได้ มาจากตัวเราเอง” (2 โคริ นธ์ 4:7)
ตั้งแต่ผมเริ่ มเคลื่อนไหวในฤทธิ์ อำนาจของพระวิญญาณบริ สุทธิ์ แม้เมื่อผมยังเด็ก ผมได้เรี ยนรู้วา่ “ข้ าพเจ้ าเผชิ ญได้ ทุก
อย่ างโดยพระองค์ ผ้ ทู รงเสริ มกำลังข้ าพเจ้ า” (ฟี ลิปปี 4:13) ในพระคริ สต์ เรามีทรัพยากรของพระเจ้า เพื่อทำให้พระประสงค์ของ
พระเจ้าสำเร็ จ เราควรคิดว่าเราเองเป็ นช่องทางที่ต ่ำต้อยเพื่อให้พระคำและพระวิญญาณไหลผ่าน ท่อทองแดงไม่สามารถโอ้อวด
ถึงน้ำที่ไหลผ่านไปยังก๊อกในบ้านของเราได้ เราต้องปล่อยให้น้ำแห่งชีวิตไหล และอย่าไปปิ ดกั้นเอาไว้ ไม่วา่ ของประทานหรื อ
พรสวรรค์ใดที่เราวางไว้แทบเท้าพระองค์ องค์เจ้านายสามารถใช้มนั ได้ท้ งั หมด สิ่ งเหล่านี้กลายเป็ นชิ้นส่ วนเสริ ม สร้างท่อที่
พระเจ้าทรงทำสิ่ งที่พระองค์ตอ้ งการ

นี่คือบทเรี ยนที่เราต้องฝังให้ลึกลงไปในหัวใจของเราเพื่อเป็ นรากฐานสำหรับทุกสิ่ งที่เราเรี ยนรู้หรื อทำ พระเจ้าได้


ประทานงานให้แก่ผม มีคนถามผมหลายครั้งว่า “คุณเริ่ มเห็นการอัศจรรย์ในงานรับใช้ของคุณเมื่อใด?” หรื อ “ทำไมหลายคนหัน
มาหาพระคริ สต์เมื่อคุณเทศนา?” คำตอบก็คือ “พระเจ้าประทานฤทธิ์ อำนาจให้แก่เราเพื่อทำตามที่พระองค์สงั่ ” ฤทธิ์ อ ำนาจนั้นมา
ผ่านทางการบัพติศมาด้วยพระวิญญาณบริ สุทธิ์ ผมมีประสบการณ์บพั ติศมาที่อศั จรรย์ และบัพติศมายังคงอยู่ หลัง่ ไหลและพรั่ง
พรู อยูใ่ นตัวผม ผมพูดภาษาแปลกๆ ด้วย และก็เป็ นสิ่ งที่น่าอัศจรรย์สำหรับผมซึ่งผมไม่เคยสงสัยเลยว่าการอัศจรรย์มีไว้สำหรับ
วันนี้ พระคำเองกระตุน้ ความเชื่อของผมอยูเ่ สมอ จากนั้น เมื่อสัญญาของพระวิญญาณถูกทำให้สำเร็ จสำหรับผม และกลายมา
เป็ นการเติมเต็มอย่างต่อเนื่อง ประสบการณ์ท้ งั หมดทำให้ความเชื่อของผมเพิ่มขึ้นเหมือนการเติมพลังให้กบั เครื่ องยนต์ของ
รถยนต์ พระคัมภีร์ยนื ยันถึงสิ่ งที่ก ำลังเกิดขึ้น สิ่ งที่พระเจ้าได้ท ำเพื่อผูอ้ ื่น (บนพื้นฐานแห่งพระคำของพระองค์) พระองค์จะทำ
เพื่อคุณ ถ้าพระเจ้าได้สัง่ ให้คุณทำอะไรบางอย่าง... จงขอฤทธิ์ อ ำนาจจากพระองค์เพื่อช่วยให้คุณทำสิ่ งนั้น!
10
กรกฎาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“และนี่ แหละคือชีวิตนิรันดร์ คือการที่พวกเขารู้จกั พระองค์ ผูท้ รงเป็ นพระเจ้าเที่ยงแท้องค์เดียว และรู้จกั พระเยซูคริ สต์ที่พระองค์
ทรงใช้มา” (ยอห์น 17:3)
ไฟประจำวัน!
ไม่มีผใู้ ดเข้าใจว่าการพบพระเยซูเป็ นอย่างไร จนกว่าพวกเขาจะพบพระองค์
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
ยอห์น 4:5–43; 17:3; กิจการ 9:1–22; โรม 1:28; ฟิ ลิปปี 1:21; 2 ทิโมธี 1:12
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
โยชูวา 12–13;
สดุดี 145
เย็น:
เยเรมีย ์ 6; มัทธิว 20
พระเจ้ าไม่ ใช่ ผู้ที่บางคนคิดว่ าพระองค์ เป็ น
เราไม่สามารถหลีกหนี ไปด้วยความไม่รู้หรื อความไม่เชื่อได้ ทั้ง 2 อย่างนี้มีผลกระทบ ความเชื่อในพระเจ้านำมาซึ่ง
ประโยชน์ที่เห็นได้ชดั นัน่ คือการเปิ ดสวิทไฟให้สว่าง ความไม่เชื่อปลดปล่อยกรดแห่งความเยาะเย้ยถากถาง “และเพราะเขาเห็น
ว่ าการรู้ จักพระเจ้ าไม่ เป็ นสิ่ งสำคัญ พระองค์ จึงทรงปล่ อยให้ เขามีจิตใจเสื่ อมทราม” (โรม 1:28) เราควรเพิกเฉยต่อสิ่ งที่ทรงสร้าง
มากกว่าพระผูส้ ร้าง
อัครทูตเปาโลกล่าวว่า “ข้ าพเจ้ ารู้ จักพระองค์ ที่ข้าพเจ้ าเชื่ อ” (2 ทิโมธี 1:12) ไม่ใช่แค่ผใู้ ดก็ได้ เปาโลเกลียดชังพระ
คริ สต์จนกระทัง่ เขาได้พบพระองค์ ฝูงชนมากมายเป็ นเช่นนั้น ไม่แม้แต่จะมองหาใครสักคนที่จะเชื่อในนั้น แล้วต่อมาก็พบกับ
พระเยซู พวกเขาจะไม่เชื่อในอย่างอื่นมากนัก แต่เมื่อได้พบกับพระองค์แล้ว พวกเขาก็ตอ้ งเชื่อในพระองค์ เป็ นเรื่ องง่ายที่จะไม่
เชื่อในพระเยซูเมื่อคุณไม่รู้จกั พระองค์ ไม่ตอ้ งใช้ความฉลาดใดๆเลย! แต่เมื่อพระคริ สต์เข้ามาใกล้หรื อสัมผัสคุณ การไม่เชื่อก็
แทบจะเป็ นไปไม่ได้เลย ยังไม่มีขอ้ โต้แย้งใดที่คิดค้นขึ้นมาสามารถลบล้างประสบการณ์น้ นั ได้

11
กรกฎาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“แต่เราประกาศเรื่ องพระคริ สต์ทรงถูกตรึ งที่กางเขนนั้น...ว่าพระคริ สต์ทรงเป็ นฤทธานุภาพและพระปัญญาของพระเจ้า เพราะ
ความเขลาของพระเจ้ายังมีปัญญายิง่ กว่าปัญญาของมนุษย์ และความอ่อนแอของพระเจ้าก็ยงั มีก ำลังมากยิง่ กว่ากำลังของมนุษย์”
(1 โคริ นธ์ 1:23–25)
ไฟประจำวัน!
เมื่อเราถล่มโลกด้วยปื นใหญ่แห่งข่าวประเสริ ฐ กระสุ นของเราคือฤทธิ์ อ ำนาจแห่งการระเบิดของพระวิญญาณบริ สุทธิ์
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
1 โคริ นธ์ 1:21–25
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
โยชูวา 14 และ 15; สดุดี 146 และ 147
เย็น:
เยเรมีย ์ 7; มัทธิว 21
กระสุ น!
พระวิญญาณบริ สุทธิ์ ทรงเป็ นพระเจ้าในกิจกรรมทางแผ่นดินโลก เช่นเดียวกับที่พระเยซูได้เป็ น การบัพติศมาในพระ
วิญญาณไม่ได้หมายความถึงเหตุการณ์ทางอารมณ์ครั้งเดียวจบ แต่จะห่อหุม้ ผูเ้ ชื่ออย่างถาวร พระวิญญาณคือสภาพแวดล้อมของ
พวกเขา เป็ นอากาศที่พวกเขาหายใจ หล่อเลี้ยงความเชื่อของคริ สเตียน เมื่อเราถล่มโลกด้วยปื นใหญ่แห่งข่าวประเสริ ฐ กระสุ น
ของเราคือฤทธิ์ อำนาจแห่งการระเบิดของพระวิญญาณบริ สุทธิ์ พระวิญญาณทำให้ผเู้ ชื่อ คำสอนของพวกเขา การเทศนาของพวก
เขา การอธิษฐานของพวกเขา การรับใช้ของพวกเขา และชีวิตของพวกเขามีชีวิต พระวิญญาณเป็ นพลังชีวิตที่มีพลวัตของความ
เชื่อ ถ้าปราศจากชีวิตของพระวิญญาณบริ สุทธิ์ ความเชื่อของคริ สเตียนก็จะเป็ นแค่ระบบศาสนาที่ไร้ชีวิตซึ่งสามารถดำเนินต่อไป
ได้ดว้ ยความพยายามของมนุษย์เท่านั้น แต่ไม่มีสิ่งใดสามารถแข่งขันกับพระวิญญาณบริ สุทธิ์ ได้! เราไม่สามารถแทนที่พระ
วิญญาณบริ สุทธิ์ ด้วยองค์กร คริ สตจักรที่งดงาม หรื อสิ่ งอื่นใดได้

พระเจ้าเองสอนเราเมื่อเราเชื่อฟังพระองค์ พระวิญญาณบริ สุทธิ์ ผูเ้ ป็ นพระเจ้าที่ลงมือกระทำ นำเราไปสู่ การปฏิบตั ิ มี


กิจกรรมที่สูงกว่าการเฉลิมฉลองของคริ สตจักร และการร้องเพลงประสานเสี ยงเพียงอย่างเดียวไม่สามารถช่วยโลกให้รอดได้
เพลงที่ไม่กล่าวถึงพระนามของพระเยซูหรื อไม่มีเนื้ อหาเกี่ยวกับข่าวประเสริ ฐนั้นไม่มีฤทธิ์ อำนาจ ฤทธิ์ อ ำนาจของพระผูเ้ ป็ นเจ้าที่
จะนำไปสู่ความรอดไม่ใช่การสรรเสริ ญ แต่คือข่าวประเสริ ฐ เราต้องไม่ประจบประแจงตัวเองโดยคิดว่าเราสามารถสร้างบัลลังก์
ให้พระเจ้าได้ดว้ ยหนังสื อเพลงเล่มใหม่จ ำนวนมากมาย สัญญาของเรากับพระเจ้ามีขอ้ แม้วา่ “จงประกาศพระวจนะ” “พระเจ้ าจึ ง
พอพระทัยจะช่ วยพวกที่เชื่ อให้ รอดโดยคำเทศนาโง่ ๆ” (1 โคริ นธ์ 1:21) เราควรทำมากกว่าเฉลิมฉลอง เราต้องสื่ อสาร ดังที่นกั
วิชาการชื่อดัง ริ ชาร์ด จอห์น เนอฮอส เคยตั้งข้อสังเกตว่า “เราไม่ได้เฉลิมฉลองหลักทรัพย์และความพึงพอใจของเรา แต่ธุรกิจ
แห่งความรักที่เต็มไปด้วยอันตราย ความรักสูงสุ ดนั้นไม่เคยและไม่หนั หลังกลับจากไม้กางเขน”
ไม่มีผใู้ ดสามารถเข้าใจได้วา่ การพบพระเยซูเป็ นอย่างไรจนกว่าพวกเขาจะพบพระองค์ แล้วพวกเขาก็รู้วา่ เหตุใดคนนับ
ล้านจึงพูดเหมือนที่เปาโลกล่าวว่า “เพราะว่ าสำหรั บข้าพเจ้ า การมีชีวิตอยู่กเ็ พื่อพระคริ สต์ ” (ฟิ ลิปปี 1:21) หรื อดังที่ยอห์นกล่าว
ว่า “และนี่ แหละคือชี วิตนิรันดร์ คือการที่พวกเขารู้ จักพระองค์ ผู้ทรงเป็ นพระเจ้ าเที่ยงแท้ องค์ เดียว และรู้ จักพระเยซูคริ สต์ ”
(ยอห์น 17:3) เป็ นเช่นนี้ต้ งั แต่ครั้งแรกที่พระองค์ปรากฏ หญิงชาวสะมาเรี ยผูเ้ สพติดทางเพศตามที่บรรยายไว้ในยอห์นบทที่ 4 ได้
พบกับพระเยซูเป็ นเวลา 5 นาทีและไม่สามารถปล่อยวางไปได้ เธอปลุกเร้าคนทั้งเมืองด้วยความตื่นเต้น และเมื่อคนเหล่านั้นได้
พบพระองค์ พวกเขาก็รู้สึกเช่นเดียวกัน พวกเขาไม่ได้เป็ นผูเ้ คร่ งศาสนา ที่จริ ง แล้วพวกเขาเลิกเป็ นอย่างนั้น พวกเขากลายเป็ น
สาวกของพระเยซู พระผูช้ ่วยให้รอดของโลก คริ สเตียนสมัยใหม่กเ็ ป็ นเช่นนั้นเช่นกัน พวกเขาพบพระองค์แล้ว พระองค์ผทู้ ี่การ
ทรงสถิตทำให้สวรรค์กลายเป็ นที่อศั จรรย์ นัน่ คือพระเยซูผทู้ รงพระชนม์และสิ้ นพระชนม์เพื่อคุณ
12
กรกฎาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“จงปี ติยนิ ดีในพระยาห์เวห์ และพระองค์จะประทานตามใจปรารถนาของท่าน จงมอบทางของท่านไว้กบั พระยาห์เวห์ จงวางใจ
ในพระองค์ แล้วพระองค์จะทรงช่วยท่าน” (สดุดี 37:4–5)
ไฟประจำวัน!
คำวิงวอนของผูช้ อบธรรมนั้นมีพลังมากและเกิดผล
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
สดุดี 37:4–5; กิจการ 27:29; โรม 1:9; 5:2; ยากอบ 5:16; 3 ยอห์น 2
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
โยชูวา 16 และ 17; สดุดี 148
เย็น:
เยเรมีย ์ 8; มัทธิว 22
มีความสุ ขในการอธิษฐาน
พันธสัญญาใหม่มีการกล่าวถึงคำอธิษฐานมากมาย คำหลักสำหรับ “การอธิ ษฐาน” (ภาษากรี ก: โพรเซอเค
"proseuche") ถูกใช้มากกว่า 120 ครั้ง พระเจ้าประทานหลายสิ่ งหลายอย่างโดยไม่ตอ้ งขอ เช่น ฝน แสงแดด ฤดูหนาว ฤดูร้อน แต่
พระองค์ทรงวางแผนว่าเราควรได้รับสิ่ งอื่นโดยการขอสิ่ งเหล่านั้น รายการนั้นยาว นัน่ คือ ความรอด พระวิญญาณบริ สุทธิ์ การ
ทรงนำ เครื่ องมือสำหรับสงครามฝ่ ายวิญญาณ ของประทานของพระวิญญาณ ฤทธิ์ อ ำนาจในการเป็ นพยาน ความเข้มแข็ง
ประสิ ทธิภาพ ความกล้าหาญ การบรรเทาจากความวิตกกังวล อาหารประจำวันของเรา ราชอาณาจักรที่จะมาถึง น้ำพระทัยของ
พระเจ้าสำเร็ จ การบรรเทาจากการทดลองและการล่อลวง การรักษา และอีกมากมาย เรายังต้องอธิษฐานเผือ่ ศัตรู ของเราด้วย
การสื่ อสารกับพระเจ้าคือความโดดเด่นของคริ สเตียน พระเยซูหา้ ม “พูดพล่ อยๆ ซ้ำซาก” (มัทธิว 6:7) เหล่าสาวกเปิ ด
หัวใจต่อพระเจ้าเกี่ยวกับทุกสิ่ ง รวมถึงความรู้สึกภายในของพวกเขาด้วย พวกเขาเขียนจดหมายที่เปลี่ยนความปรารถนาดีและ
ความรื่ นรมย์ให้เป็ นคำอธิษฐาน เปาโลเขียนถึงคริ สเตียนในกรุ งโรมว่า “ข้ าพเจ้ าระลึกถึงพวกท่ านเสมอ” (โรม 1:9) ถึงผูเ้ ชื่อใน
เมืองโคริ นธ์ กาลาเทีย เอเฟซัส ฟี ลิปปี โคโลสี เธสะโลนิกา และถึงทิโมธี เขาเขียนว่า “ขอพระคุณและสันติสุขซึ่ งมาจากพระเจ้ า
พระบิดาของเราทั้งหลาย และจากพระเยซูคริ สต์ องค์ พระผู้เป็ นเจ้ า จงดำรงอยู่กับพวกท่ านเถิด” (ข้อ 7) จดหมายบางฉบับดู
เหมือนจะเป็ นเพียงคำอธิษฐานที่ยาว
มีค ำกล่าวไว้วา่ “ถ้าความปรารถนา คือ ม้า ขอทานก็จะขี่” แต่คริ สเตียนพวกแรกส่ งความปรารถนาถึงพระบิดาใน
พระนามของพระเยซู และได้รับ! สรรเสริ ญพระเจ้า! ผูไ้ ม่เชื่อปรารถนา แต่ผเู้ ชื่ออธิษฐาน ในพระธรรมกิจการ ทหารและลูกเรื อ
ของเรื อลำหนึ่งกำลังตกอยูใ่ นอันตราย และ “ความหวังที่เราจะรอดนั้นก็หมดไป” (กิจการ 27:20)
เปาโลอธิษฐาน และพวกเขาก็ปลอดภัย! ยากอบอธิษฐานแบบคริ สเตียน “จงอธิ ษฐานเผื่อกันและกัน เพื่อท่ านทั้งหลาย
จะได้ รับการรั กษาโรค” (ยากอบ 5:16) เช่นยอห์นเขียนถึงกายอัสว่า “ข้ าพเจ้ าอธิ ษฐานขอให้ ท่านมีสุขภาพแข็งแรง” (3 ยอห์น 2)
การอธิษฐานคาดหวังคำตอบ ผูไ้ ม่เชื่อถอนหายใจ “ถ้าเพียง…” ผูเ้ ชื่อชื่นชมยินดี “ในความหวังว่าจะได้มีส่วนในพระสิ ริของพระ
เจ้า” (โรม 5:2) วันนี้ จงอธิษฐาน... และคาดหวังให้พระองค์ได้ยนิ และตอบ!

13
กรกฎาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“และมาถึงพระเยซูคนกลางแห่งพันธสัญญาใหม่ และมาถึงพระโลหิ ตประพรมที่กล่าวถึงสิ่ งที่ดีกว่าเสี ยงโลหิ ตของอาเบล” (ฮีบรู
12:24)
ไฟประจำวัน!
พระโลหิ ตที่พระเยซูหลัง่ เพื่อฉันจะไม่มีวนั หมดฤทธิ์ อำนาจ
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
ปฐมกาล 4:10–11; ลูกา 23:34; โคโลสี 1:20; ฮีบรู 12:24
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
โยชูวา 18–19; สดุดี 149 และ 150
เย็น:
เยเรมีย ์ 9; มัทธิว 23
พระโลหิตที่พูด
ผมได้เห็นนิมิตของพระเจ้าเกี่ยวกับแอฟริ กาที่ได้รับการชำระด้วยเลือดซ้ำแล้วซ้ำเล่า ตอนนี้ผมไม่ปรารถนาอะไรมาก
ไปกว่าการได้เห็นสิ่ งนั้นสำเร็ จอย่างเปี่ ยมไปด้วยพระสิ ริ ผมปฏิญาณกับพระเจ้าว่าผมจะประกาศข่าวสารเกี่ยวกับพระโลหิ ตของ
พระเยซูในทุกที่ที่พระองค์ส่งเราไป โดยพระคุณของพระเจ้า เราได้กา้ วหน้าอย่างดีในช่วงหลายปี ที่ผา่ นมา ได้เห็นหลายชาติใน
แอฟริ กาถูกเขย่าโดยฤทธิ์ อำนาจแห่งข่าวประเสริ ฐ และวิญญาณจิตอันล้ำค่าหลายล้านดวงต้อนรับพระเยซูคริ สต์เป็ นพระผูช้ ่วย
ให้รอด
ฮีบรู 12 กล่าวว่าพระโลหิ ตของพระเยซูคริ สต์ “กล่ าวถึงสิ่ งที่ดีกว่ าเสี ยงโลหิ ตของอาเบล” (ฮีบรู 12:24) อะไรที่ดีกว่า?
อาเบลถูกคาอิน พี่ชายของเขาสังหาร โลหิ ตของเขากล่าวว่าอย่างไร...และพระโลหิ ตของพระเยซูคริ สต์กล่าวว่าอย่างไร? “เสี ยง
ของโลหิ ตน้ องของเจ้ าร้ องดังขึน้ มาจากดินถึงเรา บัดนี ้ เจ้ าจึ งถูกสาปจากดินที่อ้าปากรั บโลหิ ตของน้ องจากมือเจ้ า” (ปฐมกาล
4:10–11) โลหิ ตของอาเบลร้องถึงความตายและการฆาตกรรมออกมา และเรี ยกร้องให้มีการแก้แค้น
พระโลหิ ตของพระคริ สต์ตกลงไปที่ดินเช่นเดียวกัน แต่พดู อะไรที่ดีกว่า? พระโลหิ ตพูดถึงชี วิต ไม่ใช่ความตาย! โลหิ ต
ของอาเบล คือ โลหิ ตแห่งความตาย แต่โลหิ ตของพระเยซู คือ โลหิ ตแห่งชีวิต โลหิ ตของอาเบลเรี ยกร้องการแก้แค้น แต่พระ
โลหิ ตของพระเยซูกล่าวถึงการให้ อภัย

คาอินถูกลงโทษเพราะการตายของอาแบล แต่ไม่มีใครทนทุกข์เนื่องจากความตายของพระคริ สต์ พระคริ สต์ยอม


สิ้ นพระชนม์เพื่อเรา การลอบสังหารอาร์คดยุค เฟอร์ดินานด์เริ่ มสงครามโลกครั้งที่ 1 แต่พระคริ สต์ทรงทำให้เกิด “สันติภาพโดย
พระโลหิ ตแห่ งกางเขนของพระองค์ ” (โคโลสี 1:20) เมื่อทหารใช้คอ้ นและตะปูแทงเนื้ อหนังที่มีชีวิตของพระเยซูคริ สต์ไปที่ตะ
แลงแกง พระโลหิ ตของพระองค์กก็ ระเซ็นใส่ พวกเขา พวกเขามีพระโลหิ ตของพระคริ สต์อยูใ่ นมือ แต่พระเยซูทรงอธิษฐานต่อ
ไปว่า “พระบิดาเจ้ าข้า ขอทรงยกโทษพวกเขาเพราะเขาไม่ ร้ ู ว่ากำลังทำอะไร” (ลูกา 23:34) ถ้าพระเจ้าทรงยกโทษบาปให้กบั
ทหารเหล่านั้น ก็เป็ นเพียงเพราะพระโลหิ ตเดียวกันที่พวกเขาทำให้ไหลออกมา “ถ้ าไม่ มีโลหิ ตไหลออกแล้ว ก็จะไม่ มีการยกโทษ
บาปเลย” (ฮีบรู 9:22) และนัน่ เพียงพระโลหิ ตของพระเยซูเท่านั้น คุณได้รับการให้อภัยแล้ว จงชื่นชมยินดีในข้อเท็จจริ งที่ยอด
เยีย่ มในวันนี้ !
14
กรกฎาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“พระบุตรทรงเป็ นรัศมีแห่งพระสิ ริของพระเจ้าและเป็ นตัวแทนแห่งตัวตนของพระองค์อย่างแท้จริ ง” (ฮีบรู 1:3 ฉบับ niv)
ไฟประจำวัน!
ฉันกำลังถูกเปลี่ยนจากพระสิ ริสู่พระสิ ริ เพราะว่าแสงสว่างของพระเยซูส่องเข้ามาในชีวิตของฉัน
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
1 พงศาวดาร 16:29; เฉลยธรรมบัญญัติ 32:3; สดุดี 4:6; ยอห์น 1:14
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
โยชูวา 20 และ 21; กิจการ 1
เย็น:
เยเรมีย ์ 10; มัทธิว 24
เพือ่ พระสิ ริของพระบิดาเจ้ า
ผูใ้ ดก็ตามที่อ่านพระคัมภีร์จะพบว่าเต็มไปด้วยคำว่าพระสิ ริ แท้จริ งแล้วมีเกือบ 600 คำ แต่บางคำเป็ นคำที่มีความสำคัญ
ต่อการเปิ ดเผย คริ สเตียนคุน้ เคยกับข้อความของพระสิ ริมากมาย แต่บางครั้งเรารู้จกั ข้อความเหล่านั้นดีเสี ยจนเราพลาดสิ่ งที่
ข้อความเหล่านี้ก ำลังแสดงให้เราเห็น เหมือนการมองผ่านหน้าต่างและบดบังด้วยลมหายใจของเรา
เมื่อเรารับใช้องค์พระผูเ้ ป็ นเจ้า เราพูดถึงการถวายพระสิ ริแด่พระองค์ ถวาย “พระสิ ริซึ่งควรแก่ พระนามของพระองค์ ”
ให้แก่องค์พระผูเ้ ป็ นเจ้า (1 พงศาวดาร 16:29) ดังที่โมเสสทำในบทเพลงของเขา เมื่อเราร่ วมกันสรรเสริ ญและนมัสการ เราเป็ น
พยานถึงพระสิ ริของพระเจ้า “จงถวายความยิ่งใหญ่ แด่ พระเจ้ าของเรา” (เฉลยธรรมบัญญัติ 32:3) อย่างไรก็ตาม นัน่ คือสิ่ งที่เราทำ
ไม่ใช่สิ่งที่พระองค์ท ำ
ไม่วา่ เราจะถวายพระสิ ริแด่พระเจ้าหรื อไม่ พระสิ ริของพระองค์มีอยูจ่ ริ ง พุม่ ไม้ที่ลุกไหม้ที่โมเสสเห็นในถิ่นทุรกันดาร
คือพระเจ้ากำลังสำแดงแก่นแท้ของพระองค์ ไฟนั้นดับไม่ได้ เพราะว่าพระเจ้าของเราเป็ นไฟนิรันดร์ที่เผาผลาญ แต่พระสิ ริของ
พระเจ้ามีมากกว่ารัศมี เราอาจอธิบายว่าเพื่อนของเราคนหนึ่ง "เต็มไปด้วยชีวิต" หรื อ "เป็ นภาพแห่งสุ ขภาพ" และสิ่ งนี้แสดงให้
เห็นในดวงตาที่สดใสและผิวพรรณที่เปล่งปลัง่ ของเขาหรื อเธอ พระเจ้าทรงเปี่ ยมไปด้วยชีวิต และสิ่ งนี้สำแดงออกให้เห็น! แต่ยงิ่
ไปกว่านั้น พระองค์ทรงเป็ นชีวิตและชีวิตนำความสว่างมาให้ ดังที่เราอ่านใน ยอห์น 1:4 ว่า "พระองค์ ทรงเป็ นแหล่ งชี วิต และ
ชี วิตนั้นเป็ นความสว่ างของมนุษย์ ”

ในพระกิตติคุณ สาวก 3 คนเห็นพระเยซูบนภูเขาแห่งการจำแลงพระกาย เปล่งรัศมีเจิดจ้าอันบริ สุทธิ์ “ขอเงยพระพักตร์


ที่สว่ างของพระองค์ มาเหนือพวกข้ าพระองค์ ” คือคำอธิษฐานของผูเ้ ขียนสดุดี (สดุดี 4:6) เพราะว่าพระสิ ริแห่งพระพักตร์ของ
พระองค์จะทำให้เราเปี่ ยมไปด้วยความชื่นชมยินดี แสงสว่างแห่งชีวิตมีให้ทุกคนเห็นในพระเยซู “พระวาทะทรงเกิดเป็ นมนุษย์
และทรงอยู่ท่ามกลางเรา เราเห็นพระสิ ริของพระองค์ " (ยอห์น 1:14)
นี่คือความจริ งที่ยิง่ ใหญ่ที่สุด กำลังเต้นเป็ นจังหวะอย่างไม่หยุดตลอดประวัติศาสตร์และผ่านทางสิ่ งที่ทรงสร้างทั้งหมด
15
กรกฎาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“พระองค์ตรัสกับเขาทั้งสองว่า “จงตามเรามา และเราจะตั้งท่านให้เป็ นผูห้ าคนดัง่ หาปลา” (มัทธิว 4:19)
ไฟประจำวัน!
ขอบพระคุณองค์พระผูเ้ ป็ นเจ้าที่ได้ทรงเรี ยกข้าพระองค์ให้เป็ นผูห้ าคนดัง่ หาปลา
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
อิสยาห์ 57:20; มัทธิว 4:18–19; ลูกา 21:25
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
โยชูวา 22; กิจการ 2
เย็น:
เยเรมีย ์ 11; มัทธิว 25
ปลาในทะเลแห่ งประชาชาติ
เหล่าสาวกไม่ใช่นกั ตกปลาที่นงั่ อยูท่ ี่ริมฝั่งแม่น้ำอันเงียบสงบเพื่อลองเหยือ่ ปลอมนี้ หรื อเหยือ่ แมลงตัวนั้น พวกเขาเป็ น
ชาวประมงทะเลโดยการใช้อวน กาลิลีเป็ นทะเลของพวกเขา และเป็ นทะเลที่เชื่อถือไม่ได้ ลมพัดลงมาจากเนินเขาและกวาดเอา
ที่นอนของพวกเขาไป พายุในทะเลกาลิลีน่ากลัวแม้กระทัง่ กับนักเดินเรื อที่มีประสบการณ์ ในความคิดของพวกเขา ทะเลเป็ นสิ ่ ง
แปลกปลอมเสมอ นัน่ คือเป็ นเหวลึกที่สตั ว์ประหลาดและปี ศาจแฝงตัวอยู่ ซึ่งเป็ นที่ที่สายลมส่ งเสี ยงร้องคร่ำครวญราวกับดวง
วิญญาณที่หลงหาย ทะเลปลุกความเชื่อโชคลางทุกอย่าง ทะเลถูกกล่าวถึงเกือบ 500 ครั้งในพระคัมภีร์ โดยปกติในฐานะสถานที่
ที่น่ากลัว สดุดีพดู ถึงคนที่ร้องทูลต่อพระเจ้าให้ช่วยพวกเขา ซัดคลื่นสูงและจมดิ่งลงสู่หว้ งลึก ทะเลเป็ นตัวแทนของกองกำลังที่ไม่
ถูกควบคุม เป็ นที่สิงสถิตของธาตุดึกดำบรรพ์ ภูติผปี ี ศาจ สถานที่ของคนตาย อัครทูตชาวประมงไม่เกรงกลัวทะเลกาลิลี แต่มนั
เป็ นการต่อสู้เพื่อแย่งชิงสิ่ งมีชีวิตจากที่ลึก

ในพระคัมภีร์ ทะเลเป็ นตัวแทนของประชาชาติต่างๆ พระเยซูอา้ งถึงทะเลและคลื่นที่ค ำราม ผูค้ นที่โกลาหล อยูใ่ น


สงคราม และอยูใ่ นความทุกข์ยาก ทะเลเป็ นสัญลักษณ์ของมวลชนที่ไม่มีพระเจ้า “คนอธรรมนั้นเหมือนทะเลที่ก ำเริ บ ... น้ำของ
มันก็กวนตมและเลนขึน้ มา” (อิสยาห์ 57:20) ทะเลนั้นน่ากลัวและเป็ นอันตราย รวมทั้งหมดเข้าด้วยกันก็คือ เหล่าอัครทูตถูกส่ ง
ไปหาปลาในประเทศที่เดือดดาล ท่ามกลางอันตรายมหาศาลในน่านน้ำที่ไม่ระบุพิกดั พวกเขาได้จบั ปลาจากทะเลกาลิลีที่โกรธ
เกรี้ ยว แต่ตอนนี้พวกเขาจะเป็ นผูจ้ บั คนจากทะเลที่เกรี้ ยวโกรธของบรรดาประชาชาติ จะมีพายุและวินาศภัย ลมและกระแสของ
โลกจะต่อต้านพวกเขา บางครั้งคลื่นที่ใหญ่เหมือนภูเขาก็ข่วู า่ จะกลืนพวกเขา สิ่ งเหล่านี้ท้ งั หมด แต่พวกเขาก็ยงั คงเป็ นผูจ้ บั คน!
และคุณและผมก็ได้รับมอบหมายจากพระองค์เช่นเดียวกันในวันนี้
16
กรกฎาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“พระองค์ทรงเรี ยกสาวกสิ บสองคนมาพร้อมกัน แล้วทรงให้พวกเขามีฤทธิ์เดชและสิ ทธิ อ ำนาจเหนือผีท้ งั หลาย และรักษาโรค
ต่างๆ ให้หายได้ แล้วพระองค์ทรงใช้เขาทั้งหลายไปประกาศแผ่นดินของพระเจ้าและรักษาคนป่ วยให้หาย” (ลูกา 9:1–2)
ไฟประจำวัน!
ข้าแต่องค์พระผูเ้ ป็ นเจ้า โปรดทำให้ขา้ พระองค์เชื่อฟังพระบัญชาของพระองค์
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
สดุดี 2:1–4, 8; ลูกา 5:4, 9:1–2; กิจการ 1:8
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
โยชูวา 23; กิจการ 3
เย็น:
เยเรมีย ์ 12; มัทธิว 26
องค์พระผู้เป็ นเจ้ าแห่ งทะเลของประชาชาติ
พระเยซูทรงแสดงให้สาวกของพระองค์เห็นว่าพวกเขาสามารถจับปลาได้อย่างอัศจรรย์จากทะเลกาลิลี พระองค์ก ำลัง
สอนพวกเขาว่าพวกเขาสามารถมีการอัศจรรย์แห่งการจับในทะเลแห่งประชาชาติดว้ ยเช่นกัน พวกเขาจะมีปลาจำนวนมาก ถ้า
พวกเขาวางอวนลงตามคำบัญชาของพระคริ สต์ เมื่อพระเยซูตรัสว่า “จงหย่ อนอวนลง” ปลาครึ่ งหนึ่งในกาลิลีรู้สึกว่าอยาก
กระโดดเข้าไป (ดู ลูกา 5:4) เมื่อพระเยซูตรัสว่า “เราจะตั้งท่ านให้ เป็ นผู้หาคนดั่งหาปลา” (มัทธิว 4:19) คนครึ่ งโลกสามารถถูก
จับได้!
บรรดาประชาชาติเป็ นเหมือนทะเลที่ปั่นป่ วน แต่พระเยซูทรงสามารถรับมือกับองค์ประกอบที่เดือดดาลได้ พระองค์
เดินบนน้ำอย่างแท้จริ ง ทะเลอาจเป็ นสัตว์ประหลาด แต่พระเยซูเหยียบมันไว้ใต้ฝ่าเท้า เมื่อองค์ประกอบต่างๆ แตกและเป็ นฟอง
ใส่ พระองค์ ถูกฟาดอย่างบ้าคลัง่ ร้องโหยหวนเหมือนสุ นขั ของนรก อ้าปากกว้างเพื่อกลืนพระองค์ พระองค์กท็ รงขนาบพวกมัน
เหมือนสุ นขั ล่าเนื้ อร้องครวญคราง พวกมันก้มกราบที่ส้นเท้าของพระอาจารย์ อย่าเข้าใจผิด พระเยซูคริ สต์ ทรงเป็ นองค์ พระผู้เป็ น
เจ้ า
เหตุใดบรรดาประชาชาติจึงคิดกบฏ? ทำไมชาวประเทศทั้งหลายคิดลมๆ แล้ งๆ ? บรรดากษัตริ ย์แห่ งแผ่ นดินโลกตั้ง
ตนเองขึน้ และนักปกครองปรึ กษากัน ต่ อสู้พระยาห์ เวห์ กับผู้รับการเจิ มของพระองค์ กล่ าวว่ า “ให้ เราหั กโซ่ ตรวน และ
สลัดเครื่ องจำจองของเขาให้ พ้นจากเราเถิด” พระองค์ ผ้ ปู ระทับในสวรรค์ ทรงพระสรวล องค์ เจ้ านายทรงเย้ ยหยันเขา
เหล่ านั้น...จงขอจากเราเถิด และเราจะมอบบรรดาประชาชาติให้ เป็ นมรดกของเจ้ า ตลอดจนแผ่ นดินโลกให้ เป็ นกรรม
สิ ทธิ์ ของเจ้ า” (สดุดี 2:1–4, 8) พระเยซูเองใช้ ภาษาที่คล้ ายกันในกิจการว่ า “ท่ านทั้งหลายจะเป็ นสักขีพยานของเรา...จน
ถึงที่สุดปลายแผ่ นดินโลก” (กิจการ 1:8) พระองค์ เป็ นเจ้ าแห่ งฟ้ าสวรรค์ และแผ่ นดินโลก ทะเล และท้ องฟ้ า พระองค์
ทรงทำให้ ท้องทะเลเป็ นของพระองค์ เอง และกอบโกยทรั พย์ สมบัติจากสิ่ งเหล่ านี ้ จงออกไปและสอนทุกประชาชาติ
คุณและผมเป็ นส่ วนหนึ่งของความเท่ าเทียมของพระเจ้ า ดังนั้นในฐานะคนงานของพระองค์ โปรดดำเนินการต่ อไป
ด้ วยการลากทะเลแห่ งประชาชาติเพื่อพระเยซูคริ สต์ ในวันนี ้!

17
กรกฎาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“และพยานหลักฐานนั้นก็คือ พระเจ้าประทานชีวิตนิรันดร์ แก่เรา และชีวิตนี้ มีอยูใ่ นพระบุตรของพระองค์” (1 ยอห์น 5:11)
ไฟประจำวัน!
โดยพระคำและพระวิญญาณ ฉันรู้วา่ ฉันเป็ นผูไ้ ด้รับชีวิตนิรันดร์ผา่ นทางพระเยซูคริ สต์
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
เฉลยธรรมบัญญัติ 19:15; มัทธิว 18:16; 2 โคริ นธ์ 13:1; 1 ยอห์น 5:10–13
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
โยชูวา 24; กิจการ 4
เย็น:
เยเรมีย ์ 13; มัทธิว 27
หลักฐานที่น่าสนใจ
ด้วยหลักฐานที่น่าสนใจของของประทานแห่งความรอดที่มอบให้เปล่า ๆ โดยพระเยซูคริ สต์ จึงเป็ นเรื่ องแปลกที่แม้แต่
สมาชิกของคริ สตจักรบางคนก็ยงั ไม่แน่ใจเกี่ยวกับชะตากรรมของพวกเขา พวกเขาไม่คาดหวังที่จะรู้ผลของมันจนกว่าจะถึงวัน
พิพากษาที่ยงิ่ ใหญ่! พวกเขาใช้ค ำว่าบางที และความหวัง พระเจ้าตรัสว่าคนที่เชื่อพระบุตรของพระเจ้าก็มีพยานอยูใ่ นตัว คนที่ไม่
เชื่อพระเจ้าก็ท ำให้พระองค์เป็ นผูต้ รัสมุสา เพราะเขาไม่ได้เชื่อคำพยานที่พระเจ้าทรงเป็ นพยานอ้างถึงพระบุตรของพระองค์ และ
พยานหลักฐานนั้นก็คือ พระเจ้าประทานชีวิตนิรันดร์ แก่เรา และชีวิตนี้ มีอยูใ่ นพระบุตรของพระองค์ คนที่มีพระบุตรก็มีชีวิต คน
ที่ไม่มีพระบุตรก็ไม่มีชีวิต ข้อความเหล่านี้ ขา้ พเจ้าเขียนถึงท่านทั้งหลายที่วางใจในพระนามของพระบุตรของพระเจ้า เพื่อให้ท่าน
รู้วา่ ท่านมีชีวิตนิรันดร์ (1 ยอห์น 5:10–13) จงสังเกตว่าข้อพระคัมภีร์ที่ให้ความมัน่ ใจเหล่านี้ไม่ได้บอกว่าคุณจะมีชีวิตนิรันดร์ แต่
ข้อเหล่านี้บอกว่าคุณมีชีวิตนั้นแล้ ว! นี่เป็ นคำสัญญาอันทรงพลังที่อคั รทูตยอห์นได้รับจากพระวิญญาณบริ สุทธิ์ มีองค์ประกอบ
สำคัญเกี่ยวกับความมัน่ ใจในความรอดว่า เขียน ...วางใจ...พระบุตรของพระเจ้า...รู้...มี...ชีวิตนิรันดร์ องค์ประกอบเหล่านี้ ถูก
ประทานให้ในพระคำของพระเจ้า ซึ่งหมายความว่าคุณต้องอ่านสิ่ งที่เขียนไว้ในพระคำ

หลักการของพระคัมภีร์คือทุกเรื่ องต้องได้รับการสถาปนาไว้โดยคำพยานของ 2 หรื อ 3 คน “ห้ ามพยานปากเดียวกล่ าว


โทษใคร ไม่ ว่าในเรื่ องอาชญากรรมหรื อในเรื่ องความบาปใดๆ ซึ่ งเขาได้ ทำไป แต่ ต้องมีพยานสองหรื อสามปาก คำพยานนั้นจึ ง
จะเป็ นที่เชื่ อถือได้ ” (เฉลยธรรมบัญญัติ 19:15) สิ่ งนี้เป็ นที่รู้จกั กันดีในสมัยพระคัมภีร์ แต่ในโลกของเราทุกวันนี้ หลักฐาน
แวดล้อมไม่สามารถยอมรับได้ มีเพียงหลักฐานยืนยันเท่านั้น นัน่ คือพยาน 2 หรื อ 3 คนระบุขอ้ เท็จจริ งเดียวกันอย่างเป็ นอิสระ
อย่างไรก็ตาม ความมัน่ ใจนั้นสำคัญมากถึงขนาดที่พระเจ้าได้ทรงประทานพยาน 2 ปากที่ไร้ขอ้ ผิดพลาดเป็ นสมอ 2 อันในศิลา
ซึ่งทั้ง 2 เป็ นพยานจากสวรรค์ นัน่ คือพระคำของพระเจ้าและพระวิญญาณของพระเจ้า นัน่ คือพระคำของพระเจ้าสำหรับคุณวันนี้ !
18
กรกฎาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“จงควบคุมตัวเอง จงระวังระไวให้ดี ศัตรู ของพวกท่านคือมาร ดุจสิ งโตคำรามเดินวนเวียนเที่ยวเสาะหาคนที่มนั จะกัดกินได้ จง
ต่อต้านมันด้วยใจมัน่ คงในความเชื่อ โดยรู้วา่ พวกพี่นอ้ งของพวกท่านทัว่ โลก ก็ประสบความทุกข์ล ำบากอย่างเดียวกัน” (1 เปโตร
5:8–9)
ไฟประจำวัน!
ในฐานะสมาชิกแห่งราชวงศ์ของพระเจ้า ฉันถูกทำเครื่ องหมายไว้ภายใน ภายนอก และชัว่ นิรันดร์โดยรอยพระโลหิ ตของพระเยซู
คริ สต์
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
ปฐมกาล 3:15; มัทธิว 10:1; 16:23; 1 เปโตร 5:8
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
ผูว้ ินิจฉัย 1; กิจการ 5
เย็น:
เยเรมีย ์ 14; มัทธิว 28
เครื่องหมายนิรันดร์
รอยพระโลหิ ตของพระเยซูเป็ นนิรันดร์ รอยพระโลหิ ตนั้นลบไม่ออก รอยพระโลหิ ตอยูไ่ ด้นานกว่าเวลา เราจำเป็ นต้อง
ซาบซึ้ งในความรอดของเราและติดตามพระเยซูต่อไป พระโลหิ ตของพระเยซูไม่ใช่ใบอนุญาตให้ท ำบาป แต่พระเจ้าได้ประทาน
ความรอดนิรันดร์ให้แก่เรา และเราเป็ นของพระองค์ตลอดไป ไม่ใช่แค่เมื่อเรารู้สึกดีเท่านั้น ฮาเลลูยา! สวรรค์ท้ งั หมดจะเต็มไป
ด้วยธรรมิกชนที่มีพระโลหิ ตเป็ นเครื่ องหมาย และจะไม่มีใครอยูใ่ นนรก ไม่แม้โดยบังเอิญ
มีคนกล่าวว่าพระโลหิ ตของพระเยซูท ำให้มารลดขนาดลง พระคัมภีร์กล่าวว่าซาตาน “ดุจสิ งโตคำราม” (1 เปโตร 5:8)
มันมาในความมืดและพยายามขู่ลูกๆ ของพระเจ้าด้วยเสี ยงคำรามอันทรงพลังของมัน แต่เมื่อคุณเปิ ดแสงสว่างแห่งพระคำของ
พระเจ้า คุณจะพบว่าไม่มีสิงโต—มีแต่หนูกบั ไมโครโฟน!

จอห์น บันยัน กล่าวว่าสิ งโตที่อยูข่ า้ งทางไม่มีท้ งั เขี้ยวและกรงเล็บ พระคริ สต์ทรงถอนออกไปแล้วที่กลโกธา ที่กลโกธา


เท้าที่มีรอยแผลรู ปตะปูของพระเยซูเหยียบลงบนศีรษะของซาตาน และลดขยี้มนั ตั้งแต่น้ นั เป็ นต้นมา มารได้ทนทุกข์เนื่องจาก
ความเสี ยหายที่สมอง มันไม่สามารถคิดเรื่ องของพระเจ้าได้ ในสวนเอเดน พระเจ้าทรงทราบแล้วว่าพระโลหิ ตของพระบุตร
ผูท้ รงฤทธานุภาพจะทำลายการงานของมาร
คำสัญญาที่พระเยซูให้ไว้กบั เหล่าสาวก (ซึ่งรวมถึงคุณและผมด้วย) ไม่ใช่ค ำสัญญาที่วา่ งเปล่าว่า “พระองค์ ...ประทาน
สิ ทธิ อ ำนาจให้ พวกเขาขับผีโสโครกออกได้ และทรงให้ รักษาโรคและความเจ็บป่ วยทุกอย่ างให้ หายได้ ” (มัทธิว 10:1) พระองค์
สามารถทำเช่นนั้นได้เพราะว่าพระเยซูมีฤทธิ์ อ ำนาจเหนือมาร ฤทธิ์ อำนาจของพระเยซูแตะต้องทุกสิ่ ง ไม่วา่ จะเป็ นร่ างกาย จิตใจ
วิญญาณ หัวใจ สิ่ งนี้เข้าถึงส่วนลึกของตัวตนของเรา พระโลหิ ตของพระองค์เป็ นความลับแห่งชัยชนะ ให้พระเยซูท ำเครื่ องหมาย
คุณทั้งภายใน ภายนอก ชัว่ นิรันดร์ และคุณจะเป็ นลูกของพระเจ้า เป็ นสมาชิกในราชวงศ์ขององค์พระผูเ้ ป็ นเจ้า !
19
กรกฎาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“เราบอกความจริ งกับพวกท่านว่า ถ้าใครสัง่ ภูเขานี้วา่ ‘จงลอยลงทะเลไป’ และใจไม่สงสัย แต่เชื่อว่าจะเป็ นไปตามที่สงั่ นั้น ก็จะ
เป็ นไปตามนั้นจริ งๆ” (มาระโก 11:23)
ไฟประจำวัน!
ฉันเชื่อ ดังนั้นฉันจึงมุ่งมัน่ ต่อพระคริ สต์
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
มาระโก 11:23; ยอห์น 4:46–54
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
ผูว้ ินิจฉัย 2; กิจการ 6
เย็น:
เยเรมีย ์ 15; มาระโก 1
จากความเชื่อสู่ ความเชื่อ
พวกเขากล่าวว่าโฮเมอร์ นักเขียนชาวกรี กผูย้ ิง่ ใหญ่ พเนจรจากเมืองหนึ่งไปยังอีกเมืองหนึ่งเพื่อขอขนมปังของเขา และ
เล่าเรื่ องราวของเขาเกี่ยวกับการปิ ดล้อมเมืองทรอย นักเล่าเรื่ องหาเลี้ยงชีพด้วยวิธีน้ นั ไม่มีโรงละคร ละคร หนังสื อ หรื อโทรทัศน์
และทุกคนชอบเรื่ องราวดีๆ พระคัมภีร์ใช้วิธีน้ นั สอนเรา ไม่ใช่หนังสื อวิชาการทางศาสนศาสตร์ แต่ดว้ ยนักเขียนที่เป็ นพระเจ้า จึง
มีตวั ละครที่เล็กน้อยที่สร้างความเชื่อในพระเจ้า มาดูเหตุการณ์ในพระกิตติคุณกัน
มีขา้ ราชการคนหนึ่งถูกกล่าวถึงใน ยอห์น บทที่ 4 เขาแสดงความเชื่อในฤทธิ์ อ ำนาจของพระคริ สต์โดยเดินทางมาจาก
เมืองคาเปอรนาอุมถึงคานา (เดินทางหนึ่งวัน) เพื่อขอให้พระคริ สต์ไปที่บา้ นของเขาและรักษาลูกชายของเขาที่ก ำลังจะตาย พระ
เยซูตรัสแปลกๆ กับชายที่น่าสงสารนั้นว่า “ถ้ าพวกท่ านไม่ เห็นหมายสำคัญและการอัศจรรย์ ท่ านก็จะไม่ เชื่ อ” (ยอห์น 4:48) เป็ น
เรื่ องแปลกเพราะว่าเขาได้เชื่อมากพอที่จะมาพบพระคริ สต์ แต่พระเยซูมีความเชื่ออีกแบบหนึ่งในความคิด ชายคนนี้ ไม่ได้รู้สึกผิด
หวังกับการต้อนรับที่ "เย็นชา" นี้ เขายังคงเชื่อและพูดว่า "ท่ านครั บ ขอเสด็จไปก่ อนที่ลกู น้ อยของข้ าพเจ้ าจะตาย!" (ยอห์น 4:49)

พระเยซูเพียงตอบชายคนนั้นว่า “กลับไปเถิด ลูกของท่ านจะไม่ ตาย” นี่หมายถึงความเชื่อพิเศษ เขาได้เชื่อว่าพระเยซู


สามารถรักษาลูกชายของเขาได้ ถ้าพระองค์เสด็จมา ตอนนี้ เขาต้องเชื่อว่าพระเยซูยงิ่ ใหญ่กว่านั้น เจ้าหน้าที่คนนั้นจากไปและเรา
อ่านว่า “ชายคนนั้นเชื่ อพระดำรั สที่พระเยซูตรั สกับเขา” (ยอห์น 4:50) วันรุ่ งขึ้นก่อนที่เขาจะไปถึง ตลอดทางนั้น ทุกย่างก้าวและ
ทุกนาที ทั้งหมดที่ชายคนนี้ ได้รับคือถ้อยคำสั้นๆ จากพระเยซู แต่เมื่อเขาค้นพบว่ามีการอัศจรรย์เกิดขึ้น ยอห์นจึงบันทึกว่ามีความ
เชื่อที่แท้จริ งเกิดขึ้น “เขาเองก็เชื่ อพร้ อมทั้งครอบครั วด้ วย” (ยอห์น 4:53) สิ่ งที่พวกเขาเชื่อไม่ใช่การอัศจรรย์ สิ่ งนี้อยูท่ ี่นนั่ เพื่อจะ
มองเห็น ไม่ใช่เพื่อจะเชื่อ พวกเขาเชื่อในแบบที่ยอห์นมักพูดถึงเกี่ยวกับการเชื่อ นัน่ คือมุ่งมัน่ ต่ อพระคริ สต์
คุณอาจมีค ำพูดของพระเยซูเพียงคำเดียวที่จะยึดไว้ แต่ค ำเดียวนั้นมีฤทธิ์ อ ำนาจแห่งการระเบิดออกของการเป็ นขึ้นมา
จากความตายที่คุณต้องการ!
20
กรกฎาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“เรารู้วา่ พระเจ้าไม่ทรงฟังคนบาป แต่ทรงฟังคนที่ย ำเกรงพระองค์และทำตามพระทัยของพระองค์” (ยอห์น 9:31)
ไฟประจำวัน!
ให้นี่คือคำขวัญประจำวันของฉัน "องค์พระผูเ้ ป็ นเจ้า ข้าพระองค์เชื่อ!"
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
ยอห์น 9:1–34
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
ผูว้ ินิจฉัย 3; กิจการ 7
เย็น:
เยเรมีย ์ 16; มาระโก 2
ความเชื่อที่บริบูรณ์
ยอห์นบทที่ 9 เล่าเรื่ องที่แสดงให้เห็นถึงความเชื่อที่ก ำลังพัฒนา พระเยซูทรงรักษาคนตาบอดโดยไม่แม้แต่จะถาม
พระองค์เอาโคลนทาที่ตาและส่ งเขาไปล้าง ชายคนนั้นกลับมาพร้อมสายตาที่ดี เมื่อถูกถาม ชายที่เคยตาบอดตอบว่า “ชายคนหนึ่ง
ชื่ อเยซูทำโคลนทาตาของข้าพเจ้ าและบอกข้าพเจ้ าว่ า ‘จงไปที่สระสิ โลอัมแล้วล้ างโคลนออก’ ข้ าพเจ้ าก็ไปล้ างตาแล้วก็มองเห็น”
(ยอห์น 9:11) พวกเขาจึงถามพระองค์วา่ “เขาอยู่ไหน?” (ข้อ 12) คนที่เคยตาบอดไม่รู้วา่ พระเยซูไปที่ไหน ด้วยความไม่พอใจ เจ้า
หน้าที่จึงตัดสิ นใจว่า “ชายคนนีไ้ ม่ ได้ มาจากพระเจ้ า” (ข้อ 16)
แต่ความเชื่อเริ่ มบังเกิด พวกเขาถามว่า "คนบาปจะทำหมายสำคัญอย่ างนั้นได้ อย่ างไร?” (ข้อ 16) พระเยซูคือใคร? ชาย
ที่หายโรคตอบว่า “ท่ านเป็ นผู้เผยพระวจนะ” (ข้อ 17) แต่เจ้าหน้าที่ได้ตกลงกันแล้วว่าจะขับไล่ผใู้ ดก็ตามที่กล่าวว่าพระเยซูคือ
พระคริ สต์ออกไปจากพระวิหาร เมื่อเผชิญกับข้อเท็จจริ งว่าชายตาบอดแต่ก ำเนิดที่มองเห็นได้ พวกเขาพยายามกระตุน้ ให้เขา
กล่าวว่าพระเยซูเป็ นคนบาป แต่เขาไม่ยอมกลับป่ าวประกาศว่า “เรารู้ ว่าพระเจ้ าไม่ ทรงฟั งคนบาป แต่ ทรงฟั งคนที่ย ำเกรงพระ
องค์ และทำตามพระทัยของพระองค์ ...ถ้ าคนนั้นไม่ ได้ มาจากพระเจ้ า เขาจะไม่ สามารถทำได้ ” (ยอห์น 9:31, 33)
ความเชื่อของเขากำลังพัฒนาขึ้น ด้วยเหตุน้ ี เขาจึงถูกข่มเหง และตกเป็ นเหยือ่ ในฐานะสาวกของพระเยซู จากนั้นพระ
เยซูทรงพบชายคนนั้น เขาได้ถูกโยนออกมาจากพระวิหาร ตามแบบฉบับของโลกที่ปฏิเสธผูท้ ี่เป็ นพยานถึงคุณความดีงามของ
พระเจ้า พระองค์มีค ำถามสำคัญข้อหนึ่งที่จะถามชายคนนั้น ไม่ใช่วา่ เขารู้สึกขอบพระคุณหรื อไม่ หรื อว่าเขาได้เริ่ มทำงานแล้ว
หรื อไม่ แต่ถามว่า “ท่ านวางใจในบุตรมนุษย์ หรื อ?” (ข้อ 35) ชายคนนั้นงุนงง “ท่ านเจ้ าข้า ใครคือบุตรมนุษย์ ที่ข้าพเจ้ าจะวางใจ
ได้ ?” (ข้อ 36) เขามีความเชื่อในพระเยซูมากพอที่จะคลำทางไปสระสิ โลอัมเมื่อตาบอด เพราะว่าพระเยซูบอกให้เขาไป นัน่ ทำให้
ตาของเขามองเห็น แต่ความเชื่ออีกแบบหนึ่งสามารถทำให้เขาได้รับความสว่างที่มากกว่านั้นมาก และความเชื่อของเขายังไม่ถึง
จุดนั้น พระเยซูตรัสตอบว่า “ท่ านเห็นผู้นั้นแล้ว คือผู้ที่ก ำลังพูดอยู่กับท่ าน” (ข้อ 37) ชายคนนั้นมองไปที่พระคริ สต์ และความ
เชื่อของเขาก็พลุ่งพล่าน เขาไม่มีปัญหาในการยอมรับคำป่ าวประกาศของพระคริ สต์ เขาทูลตอบว่า “องค์ พระผู้เป็ นเจ้ า ข้ าพระ
องค์ วางใจ!” แล้วเขาก็กราบไหว้พระองค์” (ข้อ 38) ความเชื่อก็บริ บูรณ์

21
กรกฎาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“พระองค์ทรงเป็ นแหล่งชีวิต และชีวิตนั้นเป็ นความสว่างของมนุษย์” (ยอห์น 1:4)
ไฟประจำวัน!
พระคริ สต์ทรงแสดงให้ฉนั เห็นถึงวิธีการดำเนินชีวิต ฉันอยากเป็ นเหมือนพระเยซูและทำให้พระเจ้าพอพระทัย
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
ยอห์น 1:4, 14; 14:2
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
ผูว้ ินิจฉัย 4; กิจการ 8
เย็น:
เยเรมีย ์ 17; มาระโก 3
พระคริสต์ คือ บ้ านของเรา
พระคริ สต์ “สถิตอยูท่ ่ามกลางเรา” พระองค์ทรงสร้างบ้านของพระองค์อยูก่ บั เรา หรื อยิง่ กว่านั้น พระองค์ทรงสร้างบ้าน
และเมื่อเราเชื่อ เราข้ามบันไดหน้าประตูบา้ นและเดินเข้าไป พระเจ้าทรงเป็ นบ้านที่แท้จริ งของเรา ห่างจากพระองค์ เราก็อยูห่ ่าง
จากบ้าน นัน่ คือเหตุผลที่พระคริ สต์มีชีวิตอยูเ่ พื่อเรา พระองค์ตอ้ งการอยูก่ บั เรา และเราอยูก่ บั พระองค์ ที่บา้ น
พระวาทะทรงเกิดเป็ นมนุษย์ และทรงอยู่ท่ามกลางเรา เราเห็นพระสิ ริของพระองค์ คือ พระสิ ริที่สมกับพระบุตรองค์
เดียวของพระบิดา บริ บูรณ์ ด้วยพระคุณและความจริ ง (ยอห์ น 1:14) พระคัมภีร์เต็มไปด้ วยการอ้ างอิงถึง “บ้ าน” บุตร
น้ อยหลงหายกลับบ้ าน พระเยซูเสด็จเข้ าไปในบ้ านหลายหลัง พระองค์ พูดถึงบ้ านนิรันดร์ ว่า "ในพระนิเวศของพระ
บิดาเรามีที่อยู่มากมาย ถ้ าไม่ มีเราคงบอกท่ านแล้ ว เพราะเราไปจัดเตรี ยมที่ไว้ สำหรั บพวกท่ าน” (ยอห์ น 14:2)
พระคริ สต์ทรงดำเนินชีวิตเพื่อเราเพื่อสำแดงให้เราเห็นถึงวิธีด ำเนินชีวิต พระคัมภีร์กล่าวถึงพระคริ สต์วา่ เป็ นผู้
ปราศจากบาป พระองค์ทรงดำเนินชีวิตที่สมบูรณ์แบบเพื่อเรา ทรงให้แบบอย่างแก่เรา ความสมบูรณ์แบบของพระองค์คืออะไร?
นัน่ เรี ยบง่ายมาก ซึ่งก็คือการเชื่ อฟั งพระเจ้ า พระองค์ไม่ได้ด ำเนินชีวิตด้วยกฎชุดหนึ่งเพื่อควบคุมการกระทำทุกอย่างในชีวิตของ
พระองค์ พระองค์ไม่ใช่สารานุกรมของธรรมบัญญัติที่เดินได้ ซึ่งพระองค์ทรงพิจารณาทุกวินาทีต้ งั แต่ตื่นนอนจนถึงเข้านอนอีก
ครั้งในตอนกลางคืน พระองค์เพียงแต่ท ำสิ่ งที่พระองค์รู้วา่ จะทำให้พระบิดาพอพระทัย

นัน่ คือวิธีที่เราควรดำเนินชีวิต ทุกสิ่ งที่ตอ้ งการคือทำให้พระเจ้าพอพระทัย เราอาจมีปัญหาทางศีลธรรมอย่างมาก และ


เราไม่รู้วา่ อะไรคือสิ่ งที่ถูกต้องที่จะทำ มีเพียงเหตุผลเดียวที่เราควรทำดี นัน่ คือการเป็ นเหมือนพระเยซูและทำให้พระเจ้าพอ
พระทัย! จงเลือกที่จะดำเนินชีวิตเพื่อทำให้พระเจ้าพอพระทัยในวันนี้
22
กรกฎาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“คนที่รักชีวิตตัวเองต้องเสี ยชีวิต และคนที่เกลียดชังชีวิตตัวเองในโลกนี้ จะรักษาชีวิตนั้นไว้นิรันดร์ ถ้าใครจะปรนนิ บตั ิเรา คนนั้น
ต้องตามเรามา และเราอยูท่ ี่ไหน ผูป้ รนนิ บตั ิของเราจะอยูท่ ี่นนั่ ด้วย ถ้าใครปรนนิ บตั ิเรา พระบิดาจะประทานเกียรติแก่ผนู้ ้ นั ”
(ยอห์น 12:25–26)
ไฟประจำวัน!
ฉันปรารถนาที่จะถวายพระสิ ริแด่พระบิดาเสมอ
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
มัทธิว 26:28; ยอห์น 1:14; 2:1–11; 12:23–26; 13:31–32; ฮีบรู 10:10;
วิวรณ์ 5:12
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
ผูว้ ินิจฉัย 5; กิจการ 9
เย็น:
เยเรมีย ์ 18; มาร์ค 4
พระสิ ริของพระเมษโปดก
พระสิ ริของเจ้าชายคือการยกย่องชมเชยในที่สาธารณะและการแสดงทางการทหาร พระสิ ริของมนุษย์คือการพิชิต
เกียรติยศของโลกซึ่งมีพระเทียมเท็จและความปรารถนาจอมปลอม พระสิ ริของพระคริ สต์ไม่ใช่ชยั ชนะเหนือกองทัพที่ถูกเข่นฆ่า
เราอ่านเรื่ องราวของการอัศจรรย์ครั้งแรกที่เมืองคานาในแคว้นกาลิลี พระเยซูทรง “แสดงพระสิ ริของพระองค์ ” (ยอห์น 2:11)
ด้วยเหล้าองุ่นธรรมดา! สิ่ งนี้พดู กับเราผ่านพระดำรัสของพระคริ สต์ในอาหารมื้อสุ ดท้ายว่า “เพราะว่ านี่ เป็ นโลหิ ตของเราอันเป็ น
โลหิ ตแห่ งพันธสัญญาที่หลัง่ ออกเพื่อยกบาปโทษคนจำนวนมาก” (มัทธิว 26:28)
ในบทแรกของพระกิตติคุณ ยอห์นเขียนว่า “เราเห็นพระสิ ริของพระองค์ ” (ยอห์น 1:14) เราซาบซึ้ งว่าพระสิ ริน้้ นคื ั อสิ่ ง
ใดในบทที่ 12 และ 13 ซึ่งไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับแหวนแห่งวีรชนที่โลกยอมรับพระสิ ริของมัน แต่ช้ ีไปที่ความน่าหวาดกลัวของ
ความตายที่น่าเกลียดแต่จ ำเป็ น “ถึงเวลาแล้ วที่บตุ รมนุษย์ จะได้ รับพระเกียรติ...ถ้ าเมล็ดข้าวไม่ ได้ ตกลงดินและตายไป ก็จะคงอยู่
เมล็ดเดียว” (ยอห์น 12:23, 24)

เราอ่านเรื่ องราวของอาหารมื้อสุ ดท้ายต่อไปจนถึงตอนที่ยดู าส อิสคาริ โอทออกไปเพื่อทรยศพระเยซู “เมื่อเขาออกไป


แล้ ว พระเยซูจึงตรั สว่ า “เดี๋ยวนีบ้ ตุ รมนุษย์ ได้ รับเกียรติแล้ ว และพระเจ้ าทรงได้ รับพระเกียรติเพราะบุตรมนุษย์ ถ้ าพระเจ้ าทรงได้
รั บพระเกียรติเพราะบุตรมนุษย์ พระเจ้ าก็จะทรงให้ บตุ รมนุษย์ มีเกียรติในตัวเองและจะทรงให้ มีเกียรติเดี๋ยวนี”้ (ยอห์น 13:31–32)
พระสิ ริน้ นั ของพระเยซูพลุ่งขึ้นที่กลโกธา ซึ่งคือพระสิ ริที่แท้จริ ง พระสิ ริของสวรรค์ได้รับการเปิ ดเผยในสายธารแห่ง
ความเมตตาอันเปี่ ยมล้นเหล่านั้น นัน่ คือน้ำและพระโลหิ ตจากพระทัยของพระองค์ ซึ่งก็คือแม่น้ำ 2 สายแห่งการชำระล้างและ
ความรัก “และโดยพระประสงค์ นั้นเอง เราจึ งได้ รับการชำระให้ บริ สุทธิ์ โดยการถวายพระกายของพระเยซูคริ สต์ ครั้ งเดียวเป็ น
พอ” (ฮีบรู 10:10) “พระเมษโปดกผู้ถกู ปลงพระชนม์ แล้ วนั้นทรงสมควรได้ รับ ฤทธานุภาพ ทรั พย์ สมบัติ พระปั ญญา พระกำลัง
พระเกียรติ พระสิ ริ และคำสดุดี” (วิวรณ์ 5:12) จงให้เกียรติพระเมษโปดกของพระเจ้าในวันนี้ แล้วคุณจะได้เห็นพระสิ ริของ
พระองค์!
23
กรกฎาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“เราต่างได้ยนิ คนเหล่านี้ กล่าวถึงกิจการที่ยงิ่ ใหญ่ของพระเจ้าในภาษาของเราเอง” (กิจการ 2:11)
ไฟประจำวัน!
ฉันโห่ร้องด้วยความชื่นชมยินดีเพราะว่าฉันยืนอยูใ่ นราชอาณาจักรของพระเจ้า!
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
อิสยาห์ 58:11; กิจการ 2:1–13; 3:8; เอเฟซัส 3:16
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
ผูว้ ินิจฉัย 6; กิจการ 10
เย็น:
เยเรมีย ์ 19; มาระโก 5
แม่ น้ำ!
เมื่อพูดถึงพระวิญญาณบริ สุทธิ์ พระคัมภีร์ใช้ค ำว่าแม่น้ำซ้ำ ๆ หลาย ๆ ครั้ง สิ่ งนี้เหมาะสำหรับผูเ้ ชื่อ—แม่น้ำแห่งพระ
วิญญาณบริ สุทธิ์ —คือสิ่ งที่อิสยาห์คาดหวังไว้ “เจ้ าจะเป็ นเหมือน...น้ำพุที่น ้ำของมันจะไม่ ขาด” (อิสยาห์ 58:11) สำหรับคน
จำนวนมากในวัฒนธรรมตะวันตกที่สงบเสงี่ยมของเรา ความอุดมสมบูรณ์เป็ นเรื่ องน่าอาย อย่างไรก็ตาม สำหรับผูท้ ี่ยนื อยูใ่ นราช
อาณาจักรของพระผูเ้ ป็ นเจ้า เรื่ องนี้ ไม่ใช่เรื่ องใหญ่ พวกเขาโห่ร้องด้วยความชื่นชมยินดี !
The Septuagint (พระคัมภีร์เดิมฉบับภาษากรี ก) ใช้ค ำที่น่าประหลาดใจเกี่ยวกับพระวิญญาณของพระเจ้าที่กระทำใน
ชีวิตของแซมสันและเซาโล ซึ่งกล่าวว่า พระวิญญาณ "กระโจน" เหนือพวกเขา คำที่ถูกใช้ไม่บ่อยว่า "อัลโลไม" (allomai) ถูกใช้
2 ครั้งในกิจการ 3 "กระโจนขึ้น" "เอ็กซาโลเมนอส" (exallomenos) และ "กระโจน" “อัลโลเมนอส" (allomenos) จึงไม่น่าแปลก
ใจเมื่อคนที่ไม่ได้อยูใ่ นห้องชั้นบนของเทศกาลเพ็นเทคอสต์เยาะเย้ยคนที่เต็มไปด้วยพระวิญญาณว่าเป็ นผูค้ นที่คลัง่ ไคล้ แม้แต่
พวกอัครทูตก็ยงั ถูกวิจารณ์ ผูด้ ูแลบางคนในกรุ งเยรู ซาเล็ม ซึ่งไม่รู้ขอ้ เท็จจริ งอย่างสิ้ นเชิง คิดว่าพวกอัครทูตเมา

เมื่อวันเทศกาลเพ็นเทคอสต์ มาถึง พวกสาวกรวมตัวอยู่ในสถานที่แห่ งเดียวกัน ในทันใดนั้นมีเสี ยงมาจากฟ้ าเหมือน


เสี ยงพายุแรงกล้ าดังก้ องทั่วตึกที่เขานั่งอยู่นั้น...พวกเขาทั้งหมดก็เต็มเปี่ ยมด้ วยพระวิญญาณบริ สุทธิ์ จึ งเริ่ มต้ นพูดภาษา
อื่นๆ ตามที่พระวิญญาณทรงให้ พูด มีพวกยิวจากทุกประเทศทั่วใต้ ฟ้าซึ่ งเป็ นผู้เกรงกลัวพระเจ้ า มาอยู่ในกรุ งเยรู ซาเล็ม
เมื่อมีเสี ยงอย่ างนั้นเขาทั้งหลายจึ งพากันมา และฉงนสนเท่ ห์เพราะต่ างคนต่ างได้ ยินพวกเขาพูดภาษาของตัว เขาทั้ง
หลายจึ งแปลกใจและอัศจรรย์ ใจพูดว่ า “นี่ แน่ ะ คนทั้งหลายที่พูดอยู่นีเ้ ป็ นชาวกาลิลีทุกคนไม่ ใช่ หรื อ? ทำไมเราทุกคน
ถึงได้ ยินพวกเขาพูดภาษาของบ้ านเกิดเมืองนอนของเรา?... แต่ บางคนเยาะเย้ ยว่ า “พวกเขาเมาเหล้ าองุ่นใหม่ ”
(กิจการ 2:1–2, 4–8, 13) โลกนีจ้ ะผิดพลาดเพียงใดเมื่อพวกเขายืนอยู่ริมฝั่ งแม่ น ้ำเพื่อบรรยายถึงการไหลเวียนที่แท้ จริ ง
ของพระวิญญาณบริ สุทธิ์ ในชี วิตของคุณ จงระลึกว่ าแม่ น ้ำกำลังไหลผ่ านทางคุณ จงไปตามกระแส ให้ แม่ น ้ำนีย้ กคุณ
ขึน้ และแบกภาระของคุณไป โลกอาจอธิ บายแตกต่ างออกไป…แต่ ในไม่ ช้าพวกเขาจะต้ องประหลาดใจเมื่อเห็นว่ า
แม่ น ้ำสายนั้นสามารถทำอะไรในชีวิตของคุณได้
24
กรกฎาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“เรื่ องกางเขนเป็ นเรื่ องโง่...เป็ นฤทธานุภาพของพระเจ้า” (1 โคริ นธ์ 1:18)
ไฟประจำวัน!
ผูเ้ ชื่อเป็ นความสว่างของโลก แต่พวกเขาต้องการพระวิญญาณบริ สุทธิ์ เพื่อเปิ ดสวิทช์พวกเขา
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
ยอห์น 17:4–5
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
ผูว้ ินิจฉัย 7; กิจการ 11
เย็น:
เยเรมีย ์ 20; มาระโก 6
ไม้ กางเขนและการอัศจรรย์ ของราชอาณาจักร
ฤทธิ์อำนาจแห่งราชอาณาจักร พระวิญญาณบริ สุทธิ์ และข่าวประเสริ ฐเรื่ องไม้กางเขนเชื่อมต่อเข้าด้วยกัน งานของพระ
คริ สต์ โดยเฉพาะอย่างยิง่ ในการสิ้ นพระชนม์ของพระองค์ ได้ทลายกำแพงระหว่างโลกนี้กบั โลกอื่นในราชอาณาจักรของพระเจ้า
ตั้งแต่น้ นั มา พระวิญญาณบริ สุทธิ์ ได้ทุ่มเททุกอย่างให้กบั พระคริ สต์ ผูถ้ ูกตรึ งที่ไม้กางเขน พระองค์ทรงทำการอัศจรรย์บนพื้น
ฐานแห่งการทรงไถ่เท่านั้น พระวิญญาณทรงสนับสนุนข่าวประเสริ ฐเท่านั้น ทุกที่และทุกเวลา เราต้องการอะไรอีก? คนเดียวที่
เต็มไปด้วยพระวิญญาณก็ดีกว่าคณะกรรมการ 100 คนที่สงวนรักษาเวลาเป็ นนาทีแต่เสี ยเวลาเป็ นชัว่ โมง เมื่อพระเจ้าทรงรักโลก
มาก พระองค์ไม่ได้ต้ งั คณะกรรมการ พระองค์ทรงส่ งพระบุตรของพระองค์ เมื่อพระราชกิจแห่งการทรงไถ่สำเร็ จ พระบุตรส่ ง
พระวิญญาณ พระคริ สต์ตรัสว่าผูเ้ ชื่อเป็ นความสว่างของโลก แต่พวกเขาต้องการพระวิญญาณบริ สุทธิ์ เพื่อเปิ ดสวิทช์พวกเขา
ไม่ตอ้ งสงสัยเลยว่าหลายคนกระหายการอัศจรรย์ แต่มนั จะช่วยหลายคนจากความท้อแท้ ถ้าพวกเขารู้วา่ การอัศจรรย์
เป็ นของข่าวประเสริ ฐเท่านั้น ไม่ใช่สิ่งอื่น ไม่มีการอัศจรรย์เพื่อการอัศจรรย์ พระเจ้าไม่ได้อยูใ่ นธุรกิจของการจัดหาการอัศจรรย์
เพื่อสร้างชื่อเสี ยงให้กบั คนอวดดี พระวิญญาณบริ สุทธิ์ เป็ นพันธมิตรกับพระคริ สต์ ผูถ้ ูกตรึ งที่ไม้กางเขน มีเป้ าหมายเดียว นัน่ คือ
เอาชนะมารด้วยข่าวประเสริ ฐ ข่าวประเสริ ฐครอบคลุมทั้งหมด ไม่มีที่ใดที่ไม่ถูกแตะต้อง นัน่ คือแผ่นดินโลก นรก หรื อสวรรค์
ในฐานะคริ สเตียน ผมรู้วา่ ไม้กางเขนมีผลฝ่ ายวิญญาณในชีวิตของผม แต่เมื่อผมพูดภาษาแปลกๆ สิ่ งนี้กเ็ ข้าถึงผมใน
ฐานะบุคคลในแผ่นดินโลก พระบิดาในสวรรค์และพระบุตรบนแผ่นดินโลกต่างก็เกี่ยวข้องกับการทรงไถ่ ต่างอยูใ่ นขอบเขตของ
พระองค์เอง ดังที่พระเยซูตรัสว่า “ข้ าพระองค์ ถวายพระเกียรติแด่ พระองค์ ในโลก เพราะข้ าพระองค์ ทำกิจที่พระองค์ ทรงให้ ข้า
พระองค์ ทำนั้นสำเร็ จแล้ว บัดนีข้ ้ าแต่ พระบิดา ขอโปรดให้ ข้าพระองค์ ได้ รับเกียรติต่อพระพักตร์ ของพระองค์ คือเกียรติที่ข้าพระ
องค์ มีร่วมกับพระองค์ ก่อนที่โลกนีม้ ีมา” (ยอห์น 17:4–5)
พระราชกิจของพระคริ สต์บนแผ่นดินโลกส่ งผลกระทบต่อแผ่นดินโลก และพระราชกิจของพระบิดาส่ งผลต่อพระสิ ริ
พระเยซูเสด็จมาที่นี่ เพื่อที่นี่ ถ้าเพียงเพื่อให้เรามีทางเข้าสู่ สวรรค์ พระองค์อาจได้ทรงจัดเตรี ยมสิ่ งนี้ในสวรรค์ แต่ความรอดต้อง
เกิดขึ้นบนแผ่นดินโลกเพื่อจุดประสงค์ของแผ่นดินโลก การบัพติศมาในพระวิญญาณของผมสัมผัสทั้งวิญญาณและร่ างกายของ
ผม ตามแบบฉบับของธรรมชาติที่แท้จริ งของความเชื่อของคริ สเตียน จงเปิ ดหัวใจให้พระวิญญาณในวันนี้ !
25
กรกฎาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“แต่ขา้ เองทราบว่า พระผูไ้ ถ่ของข้าทรงพระชนม์อยู่ และในที่สุดพระองค์จะทรงปรากฏบนแผ่นดินโลก” (โยบ 19:25)
ไฟประจำวัน!
ไม่มีผเู้ ชื่อที่แท้จริ งในพระเยซูคริ สตเจ้าที่กลัวอนาคต แต่เฝ้ ารอการเสด็จมาของพระองค์
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
อิสยาห์ 21:11–12; ลูกา 21:26, 28; โรม 8:38–39
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
ผูว้ ินิจฉัย 8; กิจการ 12
เย็น:
เยเรมีย ์ 21; มาระโก 7
อย่ ากลัวอนาคต
อนาคตของผูใ้ ดก็ตามขึ้นอยูก่ บั ตัวเองเป็ นอย่างมาก เมื่อดูมาห์ร้องถามผูเ้ ผยพระวจนะอิสยาห์วา่ “คนยามเอ๋ ย ดึกเท่ าไร
แล้ ว? ” ผู้เผยพระวจนะตอบว่ า “เช้ ามาถึง กลางคืนก็มาด้ วย” (อิสยาห์ 21:11, 12) สิ่ งนี้ไม่คลุมเครื อ เพียงแต่ช้ ีให้เห็นว่าคำตอบ
นั้นขึ้นอยูก่ บั การตอบสนองของเอโดมที่มีต่อพระเจ้า ถ้าเอโดมหันกลับมาหาพระเจ้า ก็จะเป็ นกลางวัน แต่ถา้ ไม่ ก็จะเป็ นกลางคืน
ในทำนองเดียวกัน พระเยซูตรัสถึงยุคสุ ดท้ายว่า “มนุษย์ จะสลบไสลไปเพราะความกลัว" และบอกเพิ่มว่า "เมื่อเหตุการณ์ เหล่ านี ้
เริ่ มจะเกิดขึน้ นั้น จงลุกขึน้ ยืนและผงกศีรษะขึน้ เพราะว่ าการไถ่ ตัวพวกท่ านใกล้ จะมาถึงแล้ว” (ลูกา 21:26, 28) สำหรับผูท้ ี่ไม่ได้
อยูใ่ นพระหัตถ์ของพระเยซู ภูมิทศั น์ของวันพรุ่ งนี้จะเต็มไปด้วยสถานที่ที่น่าสะพรึ งกลัว แต่สำหรับผูท้ ี่ได้มาหาพระองค์ อนาคต
คืออาณาจักรของพระคริ สต์ ผูม้ ีชยั

เคียวแห่งเวลาของพระบิดาจะตัดวันเวลาของหลายๆ คนให้ส้ ันลง หลายคนเป็ นกังวลเกี่ยวกับอนาคต อีกครั้งสำหรับผู้


ที่รู้จกั องค์พระผูเ้ ป็ นเจ้า “แม้ ความตาย หรื อชี วิต ...หรื อสิ่ งซึ่ งมีอยู่ในปั จจุบันนี ้ หรื อสิ่ งซึ่ งจะมีในภายหน้ า ...จะไม่ สามารถทำให้
เราขาดจากความรั กของพระเจ้ า ซึ่ งมีอยู่ในพระเยซูคริ สต์ องค์ พระผู้เป็ นเจ้ าของเราได้ ” (โรม 8:38–39) ไม่มีคริ สเตียนคนใดที่
บังเกิดใหม่แล้วกลัวอนาคต หลายครั้งที่พระเยซูตรัสว่า “อย่ากลัวเลย” และเนื่องจากพระองค์ตรัสเช่นนั้น เราจึง “ไม่กลัว” อย่าง
แน่นอน มิฉะนั้นแล้วความเชื่อของเราอยูท่ ี่ไหน? เราเฝ้ ารอการเสด็จมาของพระคริ สต์ นี่เป็ นการระบุตวั ตนของผูเ้ ชื่อ การเสด็จมา
ของพระองค์ไม่ใช่วนั โลกาวินาศ เว้นแต่ผทู้ ี่ปฏิเสธพระองค์ เราอ่านเจอว่าเมื่อพระองค์เสด็จมา พวกอธรรมจะพยายามซ่อนตัว
พวกเขาต้องปฏิบตั ิต่อพระองค์อย่างเลวร้ายเพียงใดจึงเกรงกลัวพระองค์! สำหรับผูท้ ี่รู้จกั พระเยซู อนาคตเต็มไปด้วยพระสิ ริของ
พระองค์ เป็ นแสงสว่างแห่งรุ่ งอรุ ณของทุกวันสำหรับผูท้ ี่มีดวงตาที่มองเห็น และคุณมีดวงตาของผูเ้ ชื่อ!

26
กรกฎาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“แต่พวกท่านจะได้รับพระราชทานฤทธานุภาพ เมื่อพระวิญญาณบริ สุทธิ์ เสด็จมาเหนือท่าน” (กิจการ 1:8)
ไฟประจำวัน!
ฤทธานุภาพของพระเจ้าถูกมอบให้เพื่อทำให้ฉนั สามารถเป็ นพยานของพระองค์เท่านั้น
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
กิจการ 1:1–14
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
ผูว้ ินิจฉัย 9; กิจการ 13
เย็น:
เยเรมีย ์ 22; มาระโก 8
เอาตรงๆ นะเด็กๆ!
เมื่อเราอ่านข้อพระคัมภีร์ตอนเริ่ มต้นของพระธรรมกิจการ เราเห็นว่าทำไมพระเยซูจึงทรงเน้น 2 ครั้งถึงการเสด็จมาของ
ฤทธิ์อำนาจของพระวิญญาณบริ สุทธิ์ ในการสนทนาครั้งสุ ดท้ายของพระองค์บนแผ่นดินโลก ซึ่งกล่าวว่า ขณะพระองค์ทรง
พำนักอยูก่ บั พวกอัครทูต ทรงกำชับพวกเขาว่า “อย่าออกไปจากกรุ งเยรู ซาเล็ม แต่ให้รอคอยรับตามพระสัญญาของพระบิดา ซึ่ง
พวกท่านได้ยนิ จากเรา นัน่ ก็คือยอห์นให้รับบัพติศมาด้วยน้ำ แต่อีกไม่นานพวกท่านจะรับบัพติศมาด้วยพระวิญญาณบริ สุทธิ์ ”
เมื่อเขาทั้งหลายประชุมพร้อมกัน พวกเขาจึงทูลถามพระองค์วา่ “องค์พระผูเ้ ป็ นเจ้า พระองค์จะทรงตั้งราชอาณาจักรขึ้นใหม่ ให้
ชนชาติอิสราเอลในครั้งนี้ หรื อ?” พระองค์ตรัสตอบเขาทั้งหลายว่า “ไม่ใช่ธุระของพวกท่านที่จะรู้เวลาและวาระที่พระบิดาทรง
กำหนดไว้โดยสิ ทธิ อ ำนาจของพระองค์ แต่พวกท่านจะได้รับพระราชทานฤทธานุภาพ เมื่อพระวิญญาณบริ สุทธิ์ เสด็จมาเหนือ
ท่าน และท่านทั้งหลายจะเป็ นสักขีพยานของเราในกรุ งเยรู ซาเล็ม ทัว่ แคว้นยูเดีย ทัว่ แคว้นสะมาเรี ย และจนถึงที่สุดปลายแผ่นดิน
โลก” เมื่อพระองค์ตรัสเช่นนั้นแล้ว พระเจ้าทรงรับพระองค์ข้ ึนไปต่อหน้าต่อตาพวกเขา และมีเมฆคลุมพระองค์ให้พน้ สายตา
ของเขา (กิจการ 1:4–9) พระเยซูได้ประทานคำสัง่ สุ ดท้ายแก่บรรดาอัครทูตหลังจากการเป็ นขึ้นมาจากความตายของพระองค์ และ
บอกให้พวกเขารอคำสัญญาของพระวิญญาณบริ สุทธิ์ นัน่ ดูเหมือนจะดี แน่นอนว่าพวกเขาต้องเข้าใจประเด็นและรู้วา่ จะเกิดอะไร
ขึ้น แต่ไม่ใช่! ในข้อ 6 พวกเขาดิ้นรนอีกครั้งในความคิดเดิมที่พระเยซูใช้เวลา 3 ปี ในการพยายามออกจากระบบของพวกเขา นัน่
คือชัยชนะทางการเมืองของอิสราเอลที่ได้รับการนำโดยพระเยซูในฐานะองค์พระผูเ้ ป็ นเจ้า ผูเ้ ป็ นนักรบ พระเยซูตอ้ งแก้ไขพวก
เขา และยืนกรานว่าพวกเขาจะต้องไม่สนใจเรื่ องการฟื้ นฟูอ ำนาจทางการเมืองของอิสราเอล

พวกเขาต้องไปไกลกว่าอิสราเอลและประกาศข่าวประเสริ ฐแก่ทุกประชาชาติ! ฤทธิ์อ ำนาจที่พระองค์จะประทานให้น้ นั


ไม่ใช่เพื่อชัยชนะทางการเมือง แต่เพื่อบรรลุผลลัพธ์ที่สำคัญกว่านั้นมาก นัน่ คือชัยชนะทางศีลธรรมและฝ่ ายวิญญาณของราช
อาณาจักรของพระเจ้า วันนี้ คุณและผมต้องประกาศและป่ าวประกาศข่าวประเสริ ฐต่อประชาชาติต่อไปตามวิธีของเรา
27
กรกฎาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
"แต่เมื่อองค์ผชู้ ่วยเสด็จมา ซึ่งเป็ นผูท้ ี่เราจะใช้จากพระบิดามาหาพวกท่าน คือพระวิญญาณแห่งความจริ งซึ่งมาจากพระบิดานั้น
พระองค์จะทรงเป็ นพยานให้เรา และพวกท่านก็จะเป็ นพยานด้วย" (ยอห์น 15:26-27)
ไฟประจำวัน!
พระเจ้าได้กมอบหมายงานให้แก่ฉนั นัน่ คือเทศนาพระคำของพระองค์ดว้ ยฤทธิ์ อ ำนาจแห่งพระวิญญาณบริ สุทธิ์
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
ยอห์น 5:39; 15:26–27; กิจการ 1:6; 4:31, 33; โรม 1:16; 1 โคริ นธ์ 2:1–4
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
ผูว้ ินิจฉัย 10–11:11; กิจการ 14
เย็น:
เยเรมีย ์ 23; มาระโก 9
พระเยซู แก้ ไขเรา
หลังจากอยูก่ บั พระองค์เป็ นเวลา 3 ปี ของพันธกิจที่อศั จรรย์ สิ่ งที่เหล่าสาวกต้องการที่จะรู้จากพระเยซูในตอนสุ ดท้าย
คือ “องค์ พระผู้เป็ นเจ้ า พระองค์ จะทรงตั้งราชอาณาจักรขึน้ ใหม่ ให้ ชนชาติอิสราเอลในครั้ งนี ห้ รื อ?” (กิจการ 1:6) กล่าวอีกนัย
หนึ่งก็คือ พวกเขากำลังถามว่า “องค์พระผูเ้ ป็ นเจ้า พระองค์ก ำลังจะทำอะไร?” พระเยซูจึงตรัสตอบว่า “เราหรื อ? เรากำลังจะทำ
อะไร? คุณพลาดประเด็นแล้วจริ งๆ! คุณคือคนที่ตอ้ งทำ! คุณจะเป็ นพยานของเรา!”
เราทุกคนกำลังอธิษฐานเพื่อการฟื้ นฟูทวั่ โลก ยิง่ เราเห็นสิ่ งนี้เกิดขึ้น เราก็ยงิ่ ได้รับการหนุนใจที่จะอธิษฐานเผือ่ ต่อไป
แต่เราแค่ก ำลังพูดกับพระเจ้าหรื อว่า “องค์พระผูเ้ ป็ นเจ้า ขอพระองค์ท ำสิ่ งนี้ ขอพระองค์ส่งการฟื้ นฟู องค์พระผูเ้ ป็ นเจ้า ขอ
พระองค์เข้าไปที่พ้ืนที่น้ นั องค์พระผูเ้ ป็ นเจ้า ขอพระองค์เข้าครอบครอง องค์พระผูเ้ ป็ นเจ้า ขอนำราชอาณาจักรเข้ามา”? ขอพระ
เยซูแก้ไขทั้งหมดนั้น พระองค์พดู ว่า “เราให้ฤทธิ์ อำนาจแก่คุณ คุณต้องทำงานต่อไป จงประกาศ! จงสัง่ สอน! จงทำงาน! จงรักษา
โรค! จงทำส่ วนของคุณ” เมื่อคุณและผมผ่านประตูน้ นั เข้าไป เราจะได้เครื่ องมือ อุปกรณ์แห่งฤทธิ์อ ำนาจ พระเจ้าไม่เคยทำงาน
ของเราเพื่อเรา แต่พระองค์ทรงทราบว่าเราต้องการอะไรเพื่อให้เราทำได้

เป็ นอย่างนี้ตลอดพันธสัญญาใหม่:
“เมื่อเขาทั้งหลายอธิ ษฐานแล้ ว ที่ ซึ่งพวกเขาประชุมอยู่นั้นก็หวั่นไหว แล้วพวกเขาเต็มเปี่ ยมด้ วยพระวิญญาณบริ สุทธิ์
และกล่ าวพระวจนะของพระเจ้ าด้ วยใจกล้ าหาญ...และด้ วยฤทธานุภาพอันยิ่งใหญ่ บรรดาอัครทูตก็เป็ นพยานถึงการคืน
พระชนม์ ของพระเยซูองค์ พระผู้เป็ นเจ้ า และพระคุณอันยิ่งใหญ่ อยู่กับพวกเขาทุกคน (กิจการ 4:31, 33) ข้าพเจ้าไม่มี
ความละอายในเรื่ องข่าวประเสริ ฐ เพราะว่าข่าวประเสริ ฐนั้นเป็ นฤทธานุภาพของพระเจ้า เพื่อให้ทุกคนที่เชื่อได้รับ
ความรอด พวกยิวก่อน แล้วพวกกรี กด้วย (โรม 1:16) การประกาศปลดปล่อยฤทธิ์อำนาจของพระเจ้า คุณไม่สามารถ
อธิษฐานขอฤทธิ์ อำนาจ แล้วเก็บไว้ในที่เย็นจัด จงประกาศเถิด และฤทธิ์ อ ำนาจก็จะสำแดงออก! จงรับฤทธิ์ อ ำนาจของ
พระเจ้าในชีวิตของคุณในวันนี้
28
กรกฎาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“เพราะว่าพระองค์ได้ตรัสว่า “เราจะไม่ละท่านหรื อทอดทิ้งท่านเลย” (ฮีบรู 13:5)
ไฟประจำวัน!
ผ่านทางพระโลหิ ตของพระเยซูคริ สต์ ฉันเป็ นลูกบุญธรรมของพระเจ้า
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
1 ซามูเอล 25:29; โรม 5:8; เอเฟซัส 1:10; 2:2, 13; 1 ยอห์น 3:2.
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
ผูว้ ินิจฉัย 11:12;
กิจการ 15
เย็น:
เยเรมีย ์ 24;
มาระโก 10
เราไม่ สามารถหนีได้
การกบฏและความอธรรมของเราไม่เคยเปลี่ยนความคิดของพระเจ้าเกี่ยวกับความรักที่ทรงมีต่อเรา เพราะ “ขณะที่เรา
ยังเป็ นคนบาปอยู่นั้น พระคริ สต์ สิ้นพระชนม์ เพื่อเรา” (โรม 5:8) เป้ าหมายคือ “แต่ บัดนีใ้ นพระเยซูคริ สต์ ท่ านทั้งหลายซึ่ งเมื่อ
ก่ อนอยู่ไกล ได้ เข้ามาใกล้ โดยพระโลหิ ตของพระคริ สต์ ” (เอเฟซัส 2:13) พระบุตรของพระเจ้า พระเยซูคริ สต์ องค์พระผูเ้ ป็ น
เจ้าของเราสามารถแบกรับบาปของเราและสิ้ นพระชนม์เพื่อเราเพียงเพราะการเชื่อมโยงที่มีชีวิตระหว่างผูส้ ร้างและสิ่ งทรงสร้าง
เรา “ผูกมัดอยู่กับความสัมพันธ์ ระหว่ างกลุ่มชี วิตและพระยาห์ เวห์ พระเจ้ าของท่ าน” (1 ซามูเอล 25:29) เราไม่สามารถหนีสิ่งที่
เกิดขึ้นกับพระเจ้าได้ และพระเจ้าไม่สามารถหนีสิ่งที่เกิดขึ้นกับเราได้
พระเยซูกลายเป็ นมนุษย์และเดินบนแผ่นดินโลกนี้ เพื่อฟื้ นฟูความสัมพันธ์ในครอบครัวระหว่างพระเจ้ากับมนุษย์
พระองค์ไม่ได้มาหาเราในฐานะมนุษย์ต่างดาว เผ่าพันธุ์ที่ไม่รู้จกั กำเนิด เพื่อมารับเราเป็ นบุตร พระองค์ให้ก ำเนิดเรามา เราเป็ น
บุตรน้อยหลงหาย นัน่ คือ “บุตรแห่งการไม่เชื่อฟัง” (เอเฟซัส 2:2) บทแรก ๆ ของพระคัมภีร์น ำเสนอเหตุการณ์ที่น่าตกใจที่คาอิน
สังหารอาเบลน้องชายของเขา ปฏิกิริยาของพระเจ้าแสดงให้เห็นว่านัน่ เป็ นการต่อต้านและขัดขวางพระประสงค์พ้ืนฐานของ
พระเจ้า มันทำลายพันธะชีวิตของครอบครัว

นี่เป็ นการเปิ ดเผยความจริ งที่ยิง่ ใหญ่ที่วนั นี้ พระวิญญาณแห่งความเป็ นบุตรกำลังทำงานอยู่ ทำงานอย่างต่อเนื่องเพื่อคน


มากมายไปสู่ พระสิ ริ พระองค์ก ำลังสร้างอีกครั้ง—ไม่ใช่อาดัมอีกคนหนึ่ง—แต่เป็ นคนที่ถูกสร้างใหม่ซ่ ึงจบลงด้วยชีวิตนิรันดร์
เราไม่รู้พระประสงค์สุดท้ายของพระเจ้า แต่สิ่งหนึ่งที่แน่นอนคือ เครื่ องหมายแห่งสวรรค์จะเป็ นอ้อมกอดของบิดานิรันดร์
สำหรับลูกๆ ของพระองค์ แผนการของพระองค์คือ “...เมื่อเวลาครบบริ บูรณ์ แล้ว คือที่จะทรงรวบรวมทุกสิ่ งทั้งที่อยู่ในสวรรค์
และในแผ่ นดินโลกให้ อยู่ในพระคริ สต์ ” (เอเฟซัส 1:10) “เดี๋ยวนี เ้ ราเป็ นลูกของพระเจ้ า และเราจะเป็ นอย่ างไรต่ อไปข้างหน้ านั้น
เรายังไม่ ร้ ู ” (1 ยอห์น 3:2) จงชื่นชมยินดีในสิ่ งนั้นในวันนี้ !
29
กรกฎาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“จงเข้าไปทางประตูแคบ เพราะว่าประตูใหญ่ และทางกว้างนั้นนำไปถึงความพินาศ และคนทั้งหลายที่เข้าไปทางนั้นมีมาก เพราะ
ประตูที่แคบและทางที่ล ำบากนั้นนำไปสู่ชีวิต และพวกที่หาพบก็มีนอ้ ย” (มัทธิว 7:13–14)
ไฟประจำวัน!
ข้าแต่องค์พระผูเ้ ป็ นเจ้า ขอทรงช่วยให้ขา้ พระองค์ซื่อตรงต่อพระคำของพระองค์เสมอและให้เกิดผลดี
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
มัทธิว 7:13–20; ยอห์น 8:31–32
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
ผูว้ ินิจฉัย 12; กิจการ 16
เย็น:
เยเรมีย ์ 25;
มาระโก 11
พันธนาการคือความจริงที่เสี ยหาย
ผูค้ นเยาะเย้ยผูท้ ี่ “ฝังตัวอยูใ่ นศาสนา” แต่ความเชื่อของคริ สเตียนคือพระคริ สต์ และคุณไม่สามารถเรี ยกพระคริ สต์วา่
เป็ นศาสนาได้! พระองค์คือการเป็ นขึ้นมาจากความตายและชีวิต พระคริ สต์ตรัสว่า “ถ้ าพวกท่ านยึดมัน่ ในคำสอนของเรา ท่ านก็
เป็ นสาวกของเราอย่ างแท้ จริ ง และพวกท่ านจะรู้ จักสัจจะ และสัจจะจะทำให้ ท่านเป็ นไท” (ยอห์น 8:31–32) พระองค์ไม่ใช่คน
หลอกลวง ผูค้ นหลายล้านพบว่าตนเองเป็ นอิสระอย่างเปี่ ยมไปด้วยพระสิ ริผา่ นทางข่าวประเสริ ฐ คำพูดของพระองค์ไม่ได้บีบคอ
เราด้วยกฎและบัญญัติ แอกของพระองค์กพ็ อเหมาะและภาระของพระองค์กเ็ บา คำเทศนาบนภูเขาบรรยายถึงสิ่ งที่คริ สเตียนเป็ น
โดยธรรมชาติ สิ่ งที่พวกเขาต้องการทำ ไม่ใช่สิ่งที่ผคู้ นควรจะเป็ น

มีค ำเตือนที่พระคริ สต์ประทานแก่เราซ้ำแล้วซ้ำอีก และคำเตือนที่เกี่ยวข้องมากคือ “จงระวังพวกผู้เผยพระวจนะเทียม


เท็จ” (มัทธิว 7:15) พวกเขาไม่ได้อยูใ่ นลัทธิเทียมเท็จทั้งหมด แม้วา่ จะมีนิกายมากกว่า 5 พันนิกายในสหรัฐอเมริ กา หลายคนเป็ น
ภัยคุกคามต่อแนวคิดเรื่ องเสรี ภาพ ตามคำนิยาม ลัทธิเทียมเท็จหมายถึงการควบคุม “พวกท่ านจะรู้ จักพวกเขาได้ ด้วยผลของพวก
เขา” (มัทธิว 7:16) เมื่อพวกเขายึดคุณไว้ได้ พวกเขาจะควบคุมคุณ ควบคุมเงินของคุณ สิ ่ งที่คุณทำ สถานที่ที่คุณไป สิ่ งที่คุณคิด
และผูใ้ ดเป็ นเพื่อนของคุณ ผลที่ชวั่ ร้ายของพวกเขาคือการทำลายการพึ่งพาตนเองและก่อให้เกิดการพึ่งพา ผูน้ ำของพวกเขาไม่ใช่
ผูเ้ ลี้ยงแกะ พวกเขาเป็ นผูพ้ ิทกั ษ์ ตำรวจทางศาสนา
จงระวังพวกผู้เผยพระวจนะเทียมเท็จ ที่ มาหาท่ านนุ่งห่ มเหมือนแกะ แต่ ภายในนั้นร้ ายกาจเหมือนหมาป่ า พวกท่ านจะรู้
จักพวกเขาได้ ด้วยผลของพวกเขา ผลองุ่นนั้นเก็บได้ จากต้ นไม้ มีหนามหรื อ? และผลมะเดื่อนั้นเก็บได้ จากพืชหนาม
หรื อ? ต้ นไม้ ดีย่อมให้ แต่ ผลดี ต้ นไม้ เลวก็ย่อมให้ ผลเลว ต้ นไม้ ดีจะเกิดผลเลวไม่ ได้ หรื อต้ นไม้ เลวจะเกิดผลดีกไ็ ม่ ได้
ต้ นไม้ ซึ่งไม่ เกิดผลดีย่อมต้ องถูกฟั นลงและทิง้ เสี ยในไฟ เพราะฉะนั้น พวกท่ านจะรู้ จักเขาได้ เพราะผลของพวกเขา (มัท
ธิ ว 7:15–20) บางคนสอนพระคัมภีร์ แต่ เปลี่ยนพระคัมภีร์เป็ นโซ่ ตรวน ยึดความจริ งไว้ บนศีรษะ เหมือนพวกธรรมา
จารย์ และพวกฟาริ สี พวกเขาใช้ ข่าวประเสริ ฐแห่ งการปลดปล่ อยเพื่อผูกมัดผู้กลับใจ โดยปลอมแปลงเจตนารมณ์ และ
จุดประสงค์ ของข่ าวสาร มีวิญญาณจิ ตที่โศกเศร้ าที่ขาดความเชื่ อที่แท้ จริ งและยอมรั บกุญแจมือเพื่อได้ รับความรู้ สึก
ปลอดภัย โปรดรั กษาหั วใจของคุณและอย่ ากลายเป็ นหนึ่งในนั้น

30
กรกฎาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“แต่วาระนั้นใกล้เข้ามาแล้ว และบัดนี้ก็ถึงแล้ว คือเมื่อคนที่นมัสการอย่างแท้จริ งจะนมัสการพระบิดาด้วยจิตวิญญาณและความ
จริ ง เพราะว่าพระบิดาทรงแสวงหาคนเช่นนั้นมานมัสการพระองค์” (ยอห์น 4:23)
ไฟประจำวัน!
ข้าแต่องค์พระผูเ้ ป็ นเจ้า ข้าพระองค์เชื่อว่าพระองค์คือพระคริ สต์ พระผูช้ ่วยให้รอดของโลก
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
ยอห์น 4:1–42
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
ผูว้ ินิจฉัย 13; กิจการ 17
เย็น:
เยเรมีย ์ 26;
มาระโก 12
ก้ าวกระโดดแห่ งความเชื่อ
หญิงชาวสะมาเรี ยใน ยอห์น บทที่ 4 สอนบทเรี ยนที่ทรงพลังเกี่ยวกับความเชื่อ เป็ นตัวอย่างของคนบาปที่กา้ วกระโดด
ด้วยความเชื่อเข้าสู่ สิ่งที่เหนือธรรมชาติ เธอมาเพื่อตักน้ำจากบ่อขณะที่พระเยซูก ำลังพักอยูท่ ี่นนั่ จากการเดินอันร้อนระอุ พระองค์
ขอน้ำดื่มจากเธอซึ่งทำให้เธอประหลาดใจ เธอคิดว่าพระองค์เป็ นชาวยิวแปลก ๆ ที่มีอิสระมาก ด้วยการแหกกฎทั้งหมดด้วยการ
พูดกับชาวสะมาเรี ย ยิง่ กว่านั้นเมื่อพระองค์ตรัสว่าพระองค์สามารถให้น ้ำดื่มแก่เธอซึ่งจะเป็ น "บ่ อน้ำพุในตัวเขาพลุ่งขึน้ ถึงชี วิตนิ
รั นดร์ ” (ยอห์น 4:14) เมื่อถึงจุดนั้น เธอตัดสิ นใจพูดล้อเล่นกับพระองค์ โดยคิดว่าพระองค์ไร้เหตุผลเล็กน้อย เธอพูดติดตลกว่า
“ท่ านเจ้ าคะ ขอน้ำนั้นให้ ดิฉันเถิด เพื่อดิฉันจะได้ ไม่ กระหายอีก และจะได้ ไม่ ต้องมาตักที่นี่” (ข้อ 15) แน่นอนว่าเธอไม่ได้คาด
หวังอะไรแบบนี้ พระเยซูตรัสตอบเพียงว่า “ไปเรี ยกสามีของเธอมาที่นี่” (ข้อ 16) เธอตอบว่าเธอไม่มีสามีดว้ ยท่าทางไร้เดียงสา
จากนั้นพระเยซูกท็ ำให้เธอแตกเป็ นเสี่ ยง ๆ ด้วยการบรรยายถึงชีวิตที่แปดเปื้ อนของเธอ และบันทึกสามีที่เหมือนฮอลลีวดู ของเธอ
หญิงคนนั้นตอบด้วยความตกตะลึงว่า “ดิฉันเห็นจริ งๆ แล้ วว่ าท่ านเป็ นผู้เผยพระวจนะ” (ข้อ 19) เธอก้าวหน้าในการรับรู้และ
ความเชื่อ

ต่อไป พระเยซูทรงเขย่าความคิดของเธอเกี่ยวกับการนมัสการ เธอตอบโต้ดว้ ยข้อโต้แย้งที่มีมา 400 ปี แต่ค ำตอบของ


พระคริ สต์น้ นั ใหม่โดยสิ้ นเชิง การนมัสการไม่เกี่ยวข้องกับสถานที่หรื อเวลา การนมัสการมีอยูท่ ี่ไหนก็ได้ ทุกที่ และตลอดเวลา
พระเจ้าทรงต้องการผูท้ ี่ไม่จ ำกัดการนมัสการอยูเ่ ฉพาะในท้องที่หรื อตามกำหนดเวลาที่แน่นอน เธอรู้สึกหลงทางในความลึกล้ำ
ของศาสนศาสตร์ ดังนั้นเธอจึงพยายามหลีกเลี่ยงโดยกล่าวว่าเรื่ องดังกล่าวจะยุติลงเมื่อพระเมสสิ ยาห์เสด็จมา ผูห้ ญิงกำลังใกล้เข้า
มา พระเยซูจึงทรงเปิ ดเผยว่า “เราผู้ที่พูดกับเธอเป็ นผู้นั้น” (ข้อ 26) ความเชื่อของเธอทะยานขึ้น! เธอมองดูชายผูน้ ้ ี ที่เห็นอดีตของ
เธอเหมือนฟิ ล์มที่บนั ทึกไว้ และกวาดเธอออกจากห้วงลึกด้วยคำสอนอันลึกซึ้ งของพระองค์ เธอตื่นเต้นรี บเข้าไปในเมืองและ
บอกทุกคนเกี่ยวกับพระเยซูวา่ “ท่ านผู้นีจ้ ะเป็ นพระคริ สต์ ได้ ไหม?” (ข้อ 29) หลายคนไปหาชายผูน้ ้ ี ที่มีผลกระทบต่อเธออย่าง
มาก พวกเขาก็ตกอยูใ่ ต้อ ำนาจแม่เหล็กของพระเจ้าเช่นกัน โดยเชื้อเชิญให้พระองค์อยูต่ ่อ พระองค์ทรงอยูใ่ นหมู่พวกเขาเป็ นเวลา
2 วัน พวกเขาจึงป่ าวประกาศว่า “ท่ านผู้นี.้ ..พระผู้ช่วยโลกให้ รอด!” (ข้อ 42) ผูห้ ญิงคนนั้นได้เชื่อ บาปอย่างที่เธอเป็ น และนัน่ คือ
ทั้งหมดที่พระคริ สต์ขอจากคุณและผม นัน่ คือ “จงเชื่ อเถอะ”
31
กรกฎาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“และนี่ แหละคือชีวิตนิรันดร์ คือการที่พวกเขารู้จกั พระองค์ ผูท้ รงเป็ นพระเจ้าเที่ยงแท้องค์เดียว และรู้จกั พระเยซูคริ สต์ที่พระองค์
ทรงใช้มา” (ยอห์น 17:3)
ไฟประจำวัน!
พระเยซูคริ สต์เสด็จมาในแผ่นดินโลกเพื่อรักฉัน
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
ยอห์น 13:1–5; 17:3; 9–12
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
ผูว้ ินิจฉัย 14; กิจการ 18
เย็น:
เยเรมีย ์ 27;
มาระโก 13
โอบกอดความเชื่อ
เรื่ องราวในพระคัมภีร์ของชายตาบอดที่ได้รับการรักษาโดยพระคริ สต์ หญิงชาวสะมาเรี ยผูพ้ บพระองค์ที่บ ่อน้ำ ขุนนาง
ผูเ้ ดินทางไกลเพื่อรับการรักษาสำหรับลูกชายที่ก ำลังจะตาย แต่ละคนแสดงให้เห็นว่าการพัฒนาความเชื่อนั้นรวดเร็ วและมักจบลง
ด้วยคำมัน่ สัญญา ความสัมพันธ์ และการยึดถือพระเยซูเป็ นส่ วนตัว ผูเ้ ชื่อในพระเจ้ามีหนทางอีกยาวไกล แต่ช่องว่างสามารถ
กระโจนข้ามได้ ห่างจากพระเจ้าหนึ่งนาที ถัดไปผูกพันอยูก่ บั พระองค์ชวั่ นิรันดร์ผา่ นทางความเชื่อ “เพื่อเขาจะเป็ นอันหนึ่งอัน
เดียวกันเหมือนอย่ างข้าพระองค์ กับพระองค์ ” (ยอห์น 17:11) ทันใดนั้นเราก็กลายเป็ นเหมือนที่พระองค์ตรัสเกี่ยวกับเหล่าสาวก
ต่อพระบิดาว่า “เขาเป็ นของพระองค์ ทุกคนที่เป็ นของข้ าพระองค์ กเ็ ป็ นของพระองค์ ... และข้าพระองค์ ได้ รับเกียรติในตัวพวก
เขา...และไม่ มีใครในพวกเขาพินาศ” (ยอห์น 17:9–10, 12)
สำนวนภาษากรี กที่ใช้สำหรับความเชื่อในพระคริ สต์หมายถึงการเข้าใกล้พระองค์ดว้ ยความรักที่ไว้วางใจ มันเป็ นอ้อม
กอด อ้อมกอดแห่งความรักระหว่างมนุษย์กบั พระผูส้ ร้างนี้ มาทางพระคริ สต์เท่านั้น พระเยซูคือผูเ้ ป็ นที่รักยิง่ โลกทางศาสนาที่
แห้งแล้งและไร้ความรักของชาวยิวไม่มีประสบการณ์ทางวิญญาณที่สอดคล้องกับความสัมพันธ์แห่งความรักนี้ การโอบกอดอัน
เปี่ ยมด้วยความรักระหว่างสวรรค์และโลกไม่เป็ นที่รู้จกั จนกระทัง่ พระเยซูเสด็จมา พระองค์ทรงเป็ นความรักที่เป็ นตัวเป็ นตน…
และเราคือผูท้ ี่พระองค์ทรงเสด็จมาเพื่อรัก

ผูห้ ญิงคนหนึ่งเทขวดน้ำมันอันประเมินค่ามิได้ลงบนศีรษะของพระคริ สต์ดว้ ยการยกย่องที่ศกั ดิ์สิทธิ์ หญิงข้างถนนคน


หนึ่งล้างพระบาทด้วยน้ำจากตาของเธอและเอาผมของเธอเช็ด คนเก็บภาษีใจแข็งคนหนึ่งชื่นชมยินดีอย่างสุ ดขีดและอยากจะแจก
เงินของเขา เยรู ซาเล็มไม่เคยเห็นอะไรแบบนั้น พวกเขาได้เคยเห็นความบ้าคลัง่ ที่ลุกโชนแบบฆาตกรในสายตาของมนุษย์ แต่
ไม่ใช่เรื่ องการอัศจรรย์ที่น่ายกย่อง แต่แล้วพระองค์กท็ รงเริ่ มด้วยพระองค์เอง เพราะเราอ่านว่า “พระองค์ ทรงรั กบรรดาคนของ
พระองค์ ที่อยู่ในโลกนี ้ พระองค์ ทรงรั กเขาทั้งหลายจนถึงที่สุด ...ทรงทราบ ... ว่ าพระองค์ มาจากพระเจ้ าและจะไปหาพระเจ้ า
พระองค์ ทรงลุกจากการเสวยอาหาร ...ทรงเอาน้ำล้ างเท้ าของพวกสาวก” (ยอห์น 13:1, 3–4, 5) พระเยซูทรงเป็ นองค์พระผูเ้ ป็ นเจ้า
ที่ทุกคนสามารถโอบแขนของเขาหรื อเธอกอดพระองค์ได้ มารี ย ์ แม่ของพระองค์ท ำอย่างนั้น มารี ยช์ าวมักดาลาก็เช่นกัน ดังนั้น
คุณกับผมก็สามารถทำได้เช่นกัน โดยความเชื่อ!

พระเจ้านำการเปลี่ยนแปลงมา แต่พระองค์ไม่เคยเปลี่ยนแปลงตัวเอง
เมื่อพระเยซูตรัสว่า “เราอยูก่ บั ท่านเสมอ” พระองค์ไม่ได้สญ
ั ญา
แต่พระองค์กล่าวข้อเท็จจริ ง!
เปโตรไม่ได้เดินบนน้ำ
เขาเดินบนคำที่พดู ว่า "จงมา!"
1
สิ งหาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“ขอให้ค ำสดุดี พระเกียรติ พระสิ ริและอานุภาพ จงมีแด่พระองค์ผปู้ ระทับบนพระที่นงั่ และแด่พระเมษโปดก ตลอดไปเป็ นนิตย์!”
(วิวรณ์ 5:13)
ไฟประจำวัน!
ความรอด และพระสิ ริ และพระเกียรติ และฤทธิ์ อำนาจเป็ นขององค์พระผูเ้ ป็ นเจ้า พระเจ้าของเรา!
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
เศคาริ ยาห์ 13:6; กิจการ 1:11; วิวรณ์ 13:8; 19:1
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
ผูว้ ินิจฉัย 15; กิจการ 19
เย็น:
เยเรมีย ์ 28;
มาระโก 14
พระเยซู องค์ เดียวกันนี้
พระสิ ริของพระคริ สต์จะถูกเปิ ดเผยอีกครั้งเมื่อพระองค์เสด็จมาอีกครั้ง มันจะไม่ใช่พระสิ ริของพลังที่มีฤทธิ์ อำนาจ
เหนือใคร แต่เป็ นของไม้กางเขนที่มีชยั ชนะทั้งหมด พระองค์มาพร้อมกับเกียรติของพระบิดาที่ลอ้ มรอบหน้าผากที่มีรอยแผลเป็ น
จากหนามของพระองค์ เมื่อพระองค์เสด็จมาอีกครั้ง จะเป็ น “พระเยซูองค์ นี”้ (กิจการ 1:11) ซึ่งเสด็จไปสวรรค์ดว้ ยมือและเท้าที่
ถูกแทง พระคริ สต์คือพระคริ สต์ที่จะเสด็จกลับมา ไม่ใช่ “พระคริ สต์ ที่ได้ รับการรั กษาแล้ ว” ซึ่งการสิ้ นพระชนม์เพื่อคนบาปได้
ถูกลืมไปแล้ว แต่เป็ นพระคริ สต์ผยู้ งั มีเครื่ องหมายแห่งพระคุณที่ลบล้างไม่ได้ สวรรค์และแผ่นดินโลกรู้จกั พระองค์ตลอดกาลใน
ฐานะผูท้ ี่ถูกตรึ งที่ไม้กางเขน “พระเมษโปดกผู้ถกู ปลงพระชนม์ ตั้งแต่ แรกสร้ างโลก” (วิวรณ์ 13:8) พระเมษโปดกบนบัลลังก์จะ
เป็ นราชา!
ใครอีกที่แบกรับบาปของเราด้วยความเจ็บปวดและเลือด? จะมีพระผูช้ ่วยให้รอดอื่นใดได้อีกนอกจากพระองค์ผทู้ รง
แบกรับการล่วงละเมิดของเราและรับโทษสำหรับบาปของเรา? ในที่สุด สิ่ งที่เป็ นเรื่ องโง่เขลาสำหรับชาวกรี กและเป็ นหิ นสะดุด
สำหรับชาวยิว ซึ่งผูค้ นไม่สามารถเข้าใจได้กถ็ ูกเปิ ดเผย เป็ นพระสิ ริที่ยิง่ ใหญ่จริ งๆ!

ถ้าพระสิ ริของพระคริ สต์เป็ นเพียงความสง่างามที่พร่ างพราย พระสิ ริคงถูกท่วมท้นด้วยความมืดของกลโกธา ถ้าเป็ นชื่อ


เสี ยง ความสำเร็ จ ความมัง่ คัง่ หรื อความสำเร็ จ ทุกอย่างจะจบลงด้วยหายนะอันน่าสยดสยองของการตรึ งที่ไม้กางเขน แต่พระสิ ริ
ของพระคริ สต์ไม่มีวนั ตาย วางพระองค์ไว้ในรางหญ้าในถ้ำหิ นปูนท่ามกลางฝูงสัตว์ และบรรดากษัตริ ยก์ ก็ ม้ ลงต่อหน้าพระองค์
ส่ งพระองค์ออกไปในฐานะนักเทศน์พเนจรที่เดินไปตามถนนในหมู่บา้ นที่เต็มไปด้วยฝุ่ นในดินแดนที่แห้งแล้ง และพระสิ ริของ
พระองค์แผ่ซ่านไปถึงทุกคนที่เข้ามาใกล้ เฮโรดเป็ นทุกข์ ผูป้ กครองปรึ กษาหารื อกันเพื่อต่อต้านพระองค์ แต่หมู่ชนทัว่ ไปได้ฟัง
พระองค์กย็ นิ ดีและต้องการตั้งพระองค์เป็ นกษัตริ ย ์ พวกเขาได้เห็นพระสิ ริในตัวนักเทศน์ ผูเ้ ป็ นช่างไม้คนนี้
จงใช้เวลา จงเปิ ดใจ จงมองพระสิ ริของพระองค์ในวันนี้ !
2
สิ งหาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“พี่นอ้ งทั้งหลาย ข้าพเจ้าไม่อาจจะพูดกับท่าน เหมือนพูดกับพวกที่อยูฝ่ ่ ายจิตวิญญาณ แต่ตอ้ งพูดเหมือนพวกที่อยูฝ่ ่ ายเนื้อหนัง
เหมือนกับพวกที่เป็ นทารกในพระคริ สต์ ข้าพเจ้าเลี้ยงพวกท่านด้วยน้ำนม ไม่ใช่ดว้ ยอาหารแข็ง เพราะว่าเมื่อก่อนท่านไม่สามารถ
รับ และเดี๋ยวนี้ ท่านก็ยงั คงไม่สามารถรับได้” (1 โคริ นธ์ 3:1–2)
ไฟประจำวัน!
ข้าแต่องค์พระผูเ้ ป็ นเจ้า โปรดช่วยให้ขา้ พระองค์ยอมรับ และทำหน้าที่รับผิดชอบในฐานะคริ สเตียนที่เป็ นผูใ้ หญ่
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
กิจการ 20:8; 1 โคริ นธ์ 3:1–2; เอเฟซัส 5:8; ฟิ ลิปปี 2:15
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
ผูว้ ินิจฉัย 16; กิจการ 20
เย็น:
เยเรมีย ์ 29;
มาระโก 15
ถึงเวลาโตขึน้ แล้ ว!
พระเยซูไม่ได้เป็ นตำรวจฝ่ ายวิญญาณ พระองค์ไม่ได้ลงวินยั พวกสาวก นัน่ ไม่ใช่ความหมายของคำว่า "สาวก" พระองค์
ไม่เคยสัง่ พวกเขาแบบนั้น พวกเขามาและไปตามที่พวกเขาต้องการ ทั้งหมดนี้ ข้ ึนอยูก่ บั สติปัญญาและดุลยพินิจของพวกเขา นัน่
คือวิธีที่พระคริ สต์ปฏิบตั ิกบั เรา จงให้ชีวิตของเรากับพระเยซู และพระองค์จะทำให้เป็ นชีวิตของเราเอง ถ้าเราเชื่อฟังผูน้ ำคริ สต
จักรอย่างหลับหูหลับตา เราก็ยงั ต้องรับผิดชอบต่อสิ่ งที่เราทำต่อเบื้องพระพักตร์พระเจ้าอยูด่ ี ไม่ควรมีใครที่เหมาะสมที่จะมีสิทธิ
อำนาจเหนือผูอ้ ื่น พระคริ สต์เป็ นเจ้านายของคุณ ความจริ งมาจากพระคำของพระเจ้า ซึ่งทำให้เราเป็ นไท พระเจ้าเป็ นผูป้ ลดปล่อย
ธรรมบัญญัติต่างๆ เช่น วันสะบาโต ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเรา ไม่ใช่สร้างเราไว้สำหรับธรรมบัญญัติ
เหล่าสาวกมาพร้อมกับความแตกต่างทางบุคลิกภาพและทัศนคติต่อชีวิตที่หลากหลาย มีเปโตร: ใจร้อน กล้าหาญ;
มัทธิว: ช่างคิด, ซื่อสัตย์; ยากอบและยอห์น: ชอบแข่งขัน หวงแหน แต่ละคนมีขอ้ บกพร่ องและจุดแข็ง แต่ละคนต้องเรี ยนรู้ที่จะ
เข้าใจและยอมรับพระเมสสิ ยาห์ที่เสด็จมาหาพวกเขาในสมัยของพวกเขา...จากนั้นเรี ยนรู้วิธีสื่อสารความอัศจรรย์ของพระบุตร
พระเจ้าและบุตรมนุษย์ในคนๆ เดียว ซึ่งเป็ นเครื่ องบูชาขั้นสูงสุ ด เราเข้าใจถึงข้อได้เปรี ยบของเราแล้ว ดังนั้นเราจึงคิดโดย
อัตโนมัติวา่ “ใช่ แน่นอน ฉันจะต้องได้ยอมรับว่าพระเยซูเป็ นพระบุตรของพระผูเ้ ป็ นเจ้า และฉันจะซื่อสัตย์จนกว่าชีวิตจะหาไม่”
แต่ลองวางตัวเราอยูใ่ นสภาพแวดล้อมที่เป็ นศัตรู เช่นที่คริ สเตียนยุคแรกประสบในกรุ งเยรู ซาเล็มหรื อโรม และเราจะค้นพบอย่าง
รวดเร็ วว่าลักษณะนิสยั ของเราถูกทดสอบและทดลอง! บ่อยครั้งที่เราหล่นกลับไปที่ตวั หนังสื อของกฎหมายเพื่อปกปิ ดข้อ
บกพร่ องของตนเอง แทนที่จะเปิ ดตนเองต่อการฝึ กวินยั ของพระวิญญาณบริ สุทธิ์ และเติบโตในพระองค์ หรื อเราเกียจคร้านและ
ทิ้งความรับผิดชอบต่อการเจริ ญเติบโตฝ่ ายวิญญาณของเราให้กบั ผูน้ ำคริ สตจักร แม้กระทัง่ พร้อมใจกันมอบการศึกษาแบบ
คริ สเตียนของลูกๆ ของเราเองให้แก่ครู รวี ถึงเวลาแล้วที่คริ สเตียนจะเจริ ญเติบโตขึ้ นและยอมรับหน้าที่เป็ นแสงสว่างที่ส่องสว่าง
ในโลกที่มืดมิด! ให้ ความสว่ างของคุณเปล่ งประกายในวันนี ้!

3
สิ งหาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“พระองค์ตรัสกับพวกเขาว่า “เราบอกความจริ งกับพวกท่านว่า มีบางคนที่ยนื อยูท่ ี่นี่ จะไม่พบกับความตาย จนกว่าจะได้เห็นแผ่น
ดินของพระเจ้ามาด้วยฤทธิ์เดช” (มาระโก 9:1)
ไฟประจำวัน!
ข้าแต่องค์พระผูเ้ ป็ นเจ้า ขอทรงช่วยให้ขา้ พระองค์รู้วา่ ฤทธานุภาพของพระองค์ยงิ่ ใหญ่มากมายเพียงไรสำหรับข้าพระองค์
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
1 โคริ นธ์ 2:1–5; เอเฟซัส 1:15–19; 3:6–7, 20–21
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
ผูว้ ินิจฉัย 17; กิจการ 21
เย็น:
เยเรมีย ์ 30 และ 31; มาระโก 16
จุดแห่ งฤทธิ์อำนาจแบบไดนามิก
ข้ าพเจ้ า...ไม่ ได้ มาด้ วยถ้ อยคำหวานหู หรื อด้ วยความฉลาดปราดเปรื่ องเพื่อประกาศความล้ำลึกของพระเจ้ า...คำพูดและ
คำเทศนาของข้ าพเจ้ าไม่ ใช่ เป็ นการพูดชักชวนด้ วยปั ญญาแต่ เป็ นการสำแดงพระวิญญาณและฤทธานุภาพ...เพื่อความ
เชื่ อของพวกท่ านจะไม่ ขึน้ กับปั ญญาของมนุษย์ แต่ ขึน้ กับฤทธิ์ เดชของพระเจ้ า (1 โคริ นธ์ 2:1, 4–5) พระวิญญาณ
บริ สุทธิ์ และข่ าวประเสริ ฐแห่ งความรั กที่ทรงไถ่ ของพระคริ สต์ นั้นเชื่ อมโยงกันเป็ นชุดแห่ งชี วิตอย่ างแบ่ งแยกไม่ ได้ ถ้ า
คุณต้ องการเห็นฤทธิ์ อ ำนาจของพระเจ้ า ก็จงเพิกเฉยต่ อเทคนิค การปรุ งแต่ ง และคำแนะนำทางจิ ตใจทั้งหมด และเพียง
แค่ ประกาศพระคำ! นั่นคือที่ที่ฤทธิ์ อ ำนาจของพระเจ้ าถูกปลดปล่ อยออกมาในข่ าวประเสริ ฐ ผมไม่ ได้ เอาเพียงสิ่ งเดียว
ออกจากหี บสมบัติของพระเจ้ า ผมป่ าวประกาศข่ าวประเสริ ฐทั้งหมด ซึ่ งบรรจุทุกสิ่ งที่มนุษย์ เราต้ องการเอาไว้ นั่นคือ
ความรอด การรั กษาโรค สันติสุข ความหวัง และการปลดปล่ อย

นั่นก็คือคนต่ างชาติได้ เป็ นผู้ร่วมรั บมรดก เป็ นอวัยวะของกายเดียวกัน และเป็ นผู้มีส่วนร่ วมในพระสัญญาในพระเยซู
คริ สต์ โดยทางข่าวประเสริ ฐ ข้ าพเจ้ ามาเป็ นผู้ปรนนิบัติของข่ าวประเสริ ฐนีต้ ามของประทานแห่ งพระคุณที่พระเจ้ าประ
ทานแก่ ข้าพเจ้ าโดยกิจการที่ทรงฤทธานุภาพของพระองค์ ...ขอให้ พระเกียรติมีแด่ พระองค์ ผ้ ทู รงสามารถทำทุกสิ่ งได้
มากยิ่งกว่ าที่เราทูลขอหรื อคิด โดยฤทธานุภาพที่ทำกิจอยู่ภายในเรา ขอให้ พระเกียรติจงมีแด่ พระองค์ ในคริ สตจักรและ
ในพระเยซูคริ สต์ ตลอดทุกชั่วอายุคนเป็ นนิตย์ อาเมน (เอเฟซัส 3:6–7, 20–21) ข้ อความเหล่ านีเ้ ป็ นเพียง 2 ข้ อความจาก
หลายข้ อความ ซึ่ งใช้ ค ำว่ า ฤทธานุภาพ แต่ ความจริ งแล้ ว พันธสัญญาใหม่ ทั้งเล่ มสามารถแสดงให้ เห็นฤทธานุภาพนั้น
ได้ ซึ่ งก็คือสาระสำคัญของการเป็ นพยานของคริ สเตียน ไม่ ใช่ เครื่ องประดับของข่ าวประเสริ ฐ ไม่ ใช่ กระดิ่งบน
จักรยาน แต่ เป็ นเครื่ องจักรทั้งหมด! ไม่ เคยมีค ำใบ้ แม้ เพียงเล็กน้ อยว่ าสาวกบางคนจะไร้ ฤทธานุภาพ ถ้ าคุณเป็ นผู้เชื่ อ
แล้ ว ฤทธานุภาพก็มีสำหรั บคุณ เปาโลใช้ เวลา 3 ปี ครึ่ งเทศนาคำแนะนำทั้งหมดของพระเจ้ าแก่ ชาวเอเฟซัส แต่ เขาก็ต้อง
เขียนถึงพวกเขาในภายหลังว่ า "ข้าพเจ้ า...กล่ าวถึงท่ านทั้งหลายไม่ หยุดเลยในคำอธิ ษฐานของข้ าพเจ้ า ... ขอให้ ตาใจ
ของพวกท่ านสว่ างขึน้ เพื่อจะได้ ร้ ู ว่า...ฤทธานุภาพของพระองค์ ยิ่งใหญ่ มากมายเพียงไรสำหรั บเราที่เชื่ อนั้น” (เอเฟซัส
1:15–19) พระเจ้ าทรงให้ อ ำนาจแก่ ผ้ ทู ี่พระองค์ ทรงส่ งไป นั่นคือคุณและผม

4
สิ งหาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“ในผูอ้ ื่นความรอดไม่มีเลย เพราะว่านามอื่นซึ่งให้เราทั้งหลายรอดได้น้ นั ไม่โปรดให้มีท่ามกลางมนุษย์ทวั่ ใต้ฟ้า” (กิจการ 4:12)
ไฟประจำวัน!
พระวิญญาณบริ สุทธิ์ เองทรงรับรองว่าฉันเป็ นลูกของพระเจ้า
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
ยอห์น 5:24; กิจการ 4:10–12; โรม 3:24; 8:16; วิวรณ์ 12:10–11
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
ผูว้ ินิจฉัย 18; กิจการ 22
เย็น:
เยเรมีย ์ 32; สดุดี 1 และ 2
พิสูจน์ ความรอด
เรื่ องความรอดเป็ นสิ่ งที่สำคัญสำหรับผม และอยูใ่ นเนื้ อหาของพระคัมภีร์ท้ งั หมด! ผูค้ นที่มีแนวคิดเสรี นิยมในทุกวันนี้
ชอบหาเหตุผลว่าเป็ นไปไม่ได้ที่จะรู้วา่ คุณมีความรอด และเราจะต้องรอจนถึงชีวิตหลังความตาย (บางคนกล่าวว่าถ้าสิ่ งนี้มีจริ ง)
จึงจะค้นพบว่าแท้จริ งแล้วความรอดนั้นให้ชีวิตนิรันดร์ หรื อไม่ แต่พระเยซูท ำให้ชดั เจนว่าเราสามารถรู้ ได้วา่ เราได้รับความรอด
ความมัน่ ใจนั้นสามารถเป็ นแรงบันดาลใจให้เราแบ่งปันความรอดกับผูอ้ ื่น ก็ให้ท่านทั้งหลายกับบรรดาชนอิสราเอลทราบเถิดว่า
โดยพระนามของพระเยซูคริ สต์ชาวนาซาเร็ ธที่พวกท่านตรึ งไว้ที่กางเขน ผูซ้ ่ ึงพระเจ้าทรงให้เป็ นขึ้นจากตาย โดยพระองค์น้ นั
แหละชายคนนี้ ที่ยนื อยูต่ ่อหน้าพวกท่านจึงได้หายเป็ นปกติ พระองค์ทรงเป็ น ศิลา ที่พวกท่านผูเ้ ป็ นช่างก่อสร้างละทิ้ง ซึ่งกลับ
กลายเป็ นศิลามุมเอกแล้ว ในผูอ้ ื่นความรอดไม่มีเลย เพราะว่านามอื่นซึ่งให้เราทั้งหลายรอดได้น้ นั ไม่โปรดให้มีท่ามกลางมนุษย์
ทัว่ ใต้ฟ้า (กิจการ 4:10–12) อย่างไรก็ตาม ซาตานยังคงพยายามบ่อนทำลายความมัน่ ใจในของประทานแห่งความรอดที่พระเยซู
คริ สต์ประทานให้บนไม้กางเขน เราต้องป้ องกันการโกหกและการกล่าวหาของมัน บัดนี้ ความรอดและฤทธิ์เดช และอาณาจักร
ของพระเจ้าของเรา และสิ ทธิ อ ำนาจของพระคริ สต์ของพระองค์มาถึงแล้ว เพราะว่าผูก้ ล่าวหาพี่นอ้ งของเรา ถูกโยนลงไปแล้ว คือ
ผูท้ ี่กล่าวหาพวกเขาเฉพาะพระพักตร์พระเจ้าของเราทั้งกลางวันและกลางคืนนั้น พวกเขาชนะมารด้วยพระโลหิ ตของพระเมษโป
ดก และด้วยคำพยานของพวกเขาเอง และพวกเขาไม่ได้รักตัวกลัวตาย (วิวรณ์ 12:10–11) การได้รับความรอดไม่ใช่ประสบการณ์
ธรรมดาๆ ที่คุณแทบจะไม่สงั เกตเห็น เมื่อคุณกลับใจ เชื่อ และมาหาพระเยซูคริ สต์ องค์พระผูเ้ ป็ นเจ้าและพระผูช้ ่วยให้รอด
พระองค์ทรงต้อนรับคุณ และคุณได้รับการชำระให้บริ สุทธิ์ ในพระโลหิ ตอันล้ำค่าของพระองค์! ความรอดนั้นแน่นอนและ
สมบูรณ์ ไร้สาระจริ ง ๆ ที่คิดว่าพระเยซูจะพบคุณและต้อนรับคุณ แต่ไม่ตอ้ งการให้คุณรู้เรื่ องนี้ ! อันที่จริ ง พระองค์ไม่ได้กีดกัน
สิ่ งนี้ไว้จากคุณ “พระวิญญาณนั้นเป็ นพยานร่ วมกับจิ ตวิญญาณของเราว่ า เราเป็ นลูกของพระเจ้ า” (โรม 8:16) ยังมีสิ่งที่ยงิ่ ใหญ่
กว่านั้น นัน่ คือคุณ “เป็ นผู้ชอบธรรมโดยไม่ คิดมูลค่ าโดยพระคุณของพระองค์ ” (โรม 3:24) ช่างเป็ นพระสัญญาของพระเจ้า
สำหรับคุณที่ควรยึดไว้ในวันนี้ จริ งๆ!
5
สิ งหาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“และพระองค์ท ำให้พวกท่านมีชีวิตขึ้น ซึ่งตายในการละเมิดและความบาป” (เอเฟซัส 2:1)
ไฟประจำวัน!
เราไม่สามารถมีประสบการณ์กบั พระวิญญาณบริ สุทธิ์ และไม่แสดงสัญญาณของประสบการณ์น้ นั ได้
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
กิจการ 26:24; 2 โคริ นธ์ 4:7; เอเฟซัส 2:1; 3:16
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
ผูว้ ินิจฉัย 19; กิจการ 23
เย็น:
เยเรมีย ์ 33; สดุดี 3 และ 4
นักวิจารณ์ ไม่ เข้ าใจ
เมื่อเราเรี ยนรู้มากขึ้นเกี่ยวกับกิจกรรมของพระวิญญาณบริ สุทธิ์ เราไม่ควรวิตกกังวลเมื่อถูกวิจารณ์ ไม่มีงานยิง่ ใหญ่ของ
พระผูเ้ ป็ นเจ้าที่ไม่เคยถูกท้าทายโดยผูท้ ี่คิดว่าพวกเขารู้ดีกว่า นักศาสนศาสตร์ โรนัลด์ เอ. น็อกซ์แสดงความดูถูกจอห์น เวสลีย ์
โดยอธิบายว่าเขาเป็ นแค่ “คนที่กระตือรื อร้ น”—เป็ นคนที่เกินเลยหรื อไม่สมดุล คุณพ่อน็อกซ์อาจเป็ นตัวอย่างของนักวิชาการที่
ยอดเยีย่ ม แต่จากหนังสื อของเขาที่ชื่อว่า Enthusiasm เป็ นที่ชดั เจนว่าเขาไม่ได้อยูก่ บั 120 คนในวันเพ็นเทคอสต์ โจเซฟ บัตเลอร์
(บิชอปปัญญาชนแห่งบริ สตอล) บอกเวสลียว์ า่ เขาถือว่าประสบการณ์แบบคาริ มเมติคนั้นค่อนข้าง "น่ากลัว" โอ. ที. ดอบบิน ออก
มาปกป้ องเวสลียใ์ นปี 1848 ว่า “เรายอมรับว่าเวสลียเ์ ป็ นคนที่กระตือรื อร้น แต่ในระดับที่ชายผูเ้ ปี่ ยมล้นด้วยพระวิญญาณบริ สุทธิ์
มากกว่าปกติควรจะเป็ นผูท้ ี่กระตือรื อร้น” กฎข้อแรกของเวสลียส์ ำหรับผูด้ ูแลของสังคมเมธอดิสต์ โดยอ้างจาก เอเฟซัส 3:16 คือ
“ให้ เข้มแข็งภายในจิ ตใจด้ วยฤทธานุภาพที่มาทางพระวิญญาณในมนุษย์ ภายใน" จอร์จ ไวท์ฟิลด์ ผูเ้ ผยแพร่ ข่าวประเสริ ฐที่ยิง่
ใหญ่ เป็ นชายอีกคนหนึ่งที่เต็มไปด้วยพระวิญญาณบริ สุทธิ์

คำถามที่เราต้องถามคือ ถ้าพระคริ สต์ทรงทำตามที่ทรงสัญญาทุกประการ และให้บพั ติศมาแก่ผคู้ นในพระวิญญาณ


บริ สุทธิ์ และในไฟ พวกเขาจะเป็ นอย่างไร? เย็นหรื อ? ถ้าพวกเขามีกระแสแห่งรัศมีของพระเจ้าไหลผ่านทางพวกเขา พวกเขาจะ
นัง่ ราวกับทำจากหิ นหรื อ? สัญลักษณ์ของพระเจ้าคือไฟ ไม่ใช่หิน อะไรที่น่าขันกว่ากัน ระหว่างผูค้ นที่เต้นรำด้วยความชื่นชม
ยินดีดว้ ยนิมิตของพระเจ้า หรื อผูค้ นที่เคลื่อนไหวไม่ได้อย่างสฟิ งซ์ ซึ่งยังคงไม่ไหวติงแม้วา่ นโปเลียนจะยิงปื นใหญ่ใส่ มนั ก็ตาม?
เราไม่สามารถมีประสบการณ์กบั พระวิญญาณและไม่แสดงสัญญาณของประสบการณ์น้ นั ได้ สิ่ งที่เรามีในภาชนะดินคือ
"ขุมทรัพย์" ซึ่งเปิ ดเผยให้เห็นถึงฤทธิ์ อำนาจที่เหนือกว่าทั้งหมดนี้ มาจากพระเจ้า ฤทธิ์ อ ำนาจนี้ จะดูแปลกไปโดยสิ้ นเชิงสำหรับ
จิตใจที่แปลกแยกไปจากพระเจ้า ดังที่เฟสทัสกล่าวกับเปาโลว่า “เจ้ าคลัง่ ไปเสี ยแล้ว เจ้ าเรี ยนรู้ วิชามากจนทำให้ เจ้ าคลัง่
ไป!” (กิจการ 26:24) ทำไมวันนี้ จึงแตกต่างออกไปเมื่อผูค้ นมีประสบการณ์กบั แบรนด์ด้ งั เดิมของคริ สเตียน แทนที่จะเป็ นรุ่ นที่
เจือจาง? “พระองค์ ท ำให้ พวกท่ านมีชีวิตขึน้ ” เราอ่านในเอเฟซัส 2:1—ไม่ใช่ “พระองค์ท ำให้ท่านแข็งทื่อ!”
6
สิ งหาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“ฤทธิ์ เดชของพระเจ้าได้ให้ทุกสิ่ งแก่เรา ที่จ ำเป็ นต่อชีวิตและต่อการดำเนินตามทางพระเจ้า โดยการรู้จกั พระองค์ ผูไ้ ด้ทรงเรี ยก
เราด้วยพระสิ ริและคุณธรรมของพระองค์เอง” (2 เปโตร 1:3)
ไฟประจำวัน!
ฉันได้รับฤทธานุภาพเมื่อพระวิญญาณบริ สุทธิ์ เสด็จมาเหนือฉัน
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
มัทธิว 7:7; กิจการ 1:8; 2 เปโตร 1:3
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
ผูว้ ินิจฉัย 20; กิจการ 24
เย็น:
เยเรมีย ์ 34; สดุดี 5 และ 6
ความแตกต่ างของพระวิญญาณ
ผูเ้ ผยพระวจนะพยายามอย่างไร้ผลเพื่อนำอิสราเอลกลับมาหาพระเจ้า แต่เมื่อเปโตรที่เปี่ ยมด้วยพระวิญญาณประกาศ
จากนั้นคน 3 พันคนก็ยอมจำนนต่อพระเจ้า ปราศจากพระวิญญาณบริ สุทธิ์ คริ สเตียนก็กลายเป็ นศาสนา พระเยซูตรัสว่า “พวก
ท่ านจะได้ รับพระราชทานฤทธานุภาพ เมื่อพระวิญญาณบริ สุทธิ์ เสด็จมาเหนือท่ าน” (กิจการ 1:8) ปราศจากพลังนั้น เราก็มี
ศาสนาที่มีเหตุผลและไม่เป็ นพิษเป็ นภัย การใคร่ ครวญอย่างลึกลับไม่มีความคล้ายคลึงกับพลวัตในพันธสัญญาใหม่ ความเงียบ
เป็ นของชาวพุทธ ไม่ใช่ของคริ สเตียน
ก่อนที่กลุ่มคาริ สเมติคจะมาถึง มีคนที่ไฟแรงและเต็มไปด้วยพระวิญญาณ หรื อ "เน้นพระวิญญาณ" ไม่วา่ คริ สตจักรจะ
เยือกเย็นขนาดไหน แต่ "ความกระตือรื อร้น" มากเพียงใดก็ไม่ได้รับการอนุมตั ิ และแม้วา่ คริ สเตียนจะเป็ นเพียง "พวกที่ไปคริ สต
จักร" ก็ยงั คงมีบางคนที่เต็มไปด้วยพระวิญญาณและมีชีวิตชีวาอยู่ น้ำพุแห่งน้ำฝ่ ายวิญญาณในศตวรรษนี้ มาจากฝนที่ตกลงมาเมื่อ
หลายศตวรรษก่อน บางคนแกะรอยไปถึงเวสลียแ์ ละคำสอนของเขา ซึ่งเขาเรี ยกว่า "ความรักที่สมบูรณ์แบบ" แต่ไม่วา่ จะถูกเรี ยก
อย่างไร วิสยั ทัศน์และประสบการณ์ของเวสลียม์ าจากชายหญิงยุคก่อนๆ ของพระเจ้า
คำศัพท์ในพระคัมภีร์ท้ งั หมด เช่น "มาเหนือ" "ถูกเติมให้เต็ม" "การดื่ม" และ "การเจิม" บรรยายถึงของประทานของ
พระเจ้าแห่งพระวิญญาณเดียวกัน พระคริ สต์ตรัสว่าเราควร “ขอ…หา…เคาะ” (มัทธิว 7:7) สิ่ งนี้ใช้กบั การรับบัพติศมาของพระ
วิญญาณด้วย “บัพติศมาในพระวิญญาณบริ สุทธิ์ ” เป็ นสำนวนในพันธสัญญาใหม่ที่ใช้โดยทั้งยอห์น ผูใ้ ห้บพั ติศมาและพระเยซู (ดู
มัทธิว 3:11; กิจการ 1:8) ประสบการณ์ส่วนตัวของคนนับล้านสอดคล้องกับคำสัญญาในพันธสัญญาใหม่ ไม่วา่ จะเรี ยกว่าบัพติศ
มาหรื อสิ่ งอื่นใด ถ้ามันดูเหมือนบัพติศมาและดำเนินการเหมือนสิ่ งนั้น แล้วจะมีอะไรอีก? ถ้าคุณทำตามที่พวกอัครทูตทำและได้
ในสิ่ งที่พวกอัครทูตได้รับ ชื่อก็ไม่สำคัญ

7
สิ งหาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“ไม่ใช่ธุระของพวกท่านที่จะรู้เวลาและวาระที่พระบิดาทรงกำหนดไว้โดยสิ ทธิ อ ำนาจของพระองค์ แต่พวกท่านจะได้รับพระราช
ทานฤทธานุภาพ เมื่อพระวิญญาณบริ สุทธิ์ เสด็จมาเหนือท่าน และท่านทั้งหลายจะเป็ นสักขีพยานของเรา...จนถึงที่สุดปลายแผ่น
ดินโลก” (กิจการ 1:7–8)
ไฟประจำวัน!
พระคริ สต์ได้ทรงสัญญาว่า เราจะกลับมาอีกและรับท่านไปอยูก่ บั เรา เพื่อว่าเราอยูท่ ี่ไหนพวกท่านจะได้อยูท่ ี่นนั่ ด้วย
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
สุ ภาษิต 28:1; เยเรมีย ์ 10:2, 16; ยอห์น 14:3; กิจการ 1:7–8
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
ผูว้ ินิจฉัย 21; กิจการ 25
เย็น:
เยเรมีย ์ 35; สดุดี 7 และ 8
ความหวาดกลัวจากวิญญาณชั่ว
ความไม่เชื่อทำให้อนาคตเต็มไปด้วยความกลัวที่ยิง่ ใหญ่ “ข้อผิดพลาดสหัสวรรษ” สร้างความตื่นตระหนกเป็ นวงกว้าง
บางคนถึงกับเตรี ยมที่หลบภัยไว้ใต้ดิน ในการรับเข้า ผูส้ มัครที่ศูนย์พกั พิงแห่งหนึ่งต้องมีปืน 1 กระบอก กระสุ น 1 พันนัด และ
อาหารเพียงพอสำหรับ 1 ปี ความหวาดกลัวแบบนี้ ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากวิญญาณชัว่ !
“คนอธรรมหนี เมื่อไม่ มีใครไล่ ตาม” (สุ ภาษิต 28:1) แต่พระเจ้าทรงกระซิบการรับประกันซึ่งเป็ นความลับแก่ผทู้ ี่รัก
พระองค์ พระองค์มีอนาคตรอเราอยู่ ผูไ้ ม่เชื่ออยูใ่ นเงาถาวรของความไม่แน่นอนและความวิตกกังวล เมื่อเวลาผ่านไป บรรดา
ประชาชาติหวาดกลัวต่อเหตุการณ์ที่เกิดจากดวงดาว แต่เยเรมียก์ ล่าวว่า “อย่ าคร้ ามกลัวเพราะหมายสำคัญของท้ องฟ้ า ตามที่บรร
ดาประชาชาติคร้ ามกลัวนั้น” (เยเรมีย ์ 10:2) “พระเจ้ า ผู้ทรงสร้ างฟ้ าสวรรค์ และแผ่ นดินโลก …” (สดุดี 146:5–6) “พระยาห์ เวห์
จอมทัพคือพระนามของพระองค์ ” (เยเรมีย ์ 10:16) วลีที่วา่ "อย่ากลัว" เป็ นคุณลักษณะพิเศษในพระคัมภีร์ เกิดขึ้น 66 ครั้ง แต่พระ
คัมภีร์จดั การกับความกลัวในเชิงบวกมากกว่า 500 ครั้ง!

สิ่ งหนึ่งที่แน่นอนเกี่ยวกับอนาคตคือการเสด็จมาครั้งที่ 2 ของพระคริ สต์ ผมทราบดีวา่ ความคาดหวังในการเสด็จกลับ


มายังโลกของพระเยซูพุง่ สูงขึ้นในช่วงเวลาต่างๆ กันในอดีต ชาวนิกายเพียวริ ทนั่ ในศตวรรษที่ 17 ซึ่งตั้งถิ่นฐานในอเมริ กาเต็ม
ไปด้วยความคาดหวังว่าพระคริ สต์จะเสด็จมาในไม่ชา้ และบุรุษผูย้ งิ่ ใหญ่อย่างมิลตันและนิวตันก็แบ่งปันความคาดหวังเหล่านี้
อันที่จริ ง มันเป็ นความหวังที่ยงั่ ยืนของคริ สเตียนในยุคแรกสุ ด อย่างไรก็ตาม ความผิดพลาดและคำถามไม่ได้ลดทอนความจริ งที่
ว่าพระองค์ก ำลังเสด็จมาอีกครั้ง หมายสำคัญทั้งหมดเกิดขึ้นแล้ว จงเฝ้ าคอยพระองค์!
8
สิ งหาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“ถ้าเราสารภาพบาปของเรา พระองค์ทรงซื่อสัตย์และเที่ยงธรรม ก็จะทรงโปรดยกบาปของเรา และจะทรงชำระเราให้พน้ จากการ
อธรรมทั้งสิ้ น” (1 ยอห์น 1:9)
ไฟประจำวัน!
ฉันได้กลับใจแล้ว ฉันได้รับพระเยซูแล้ว ดังนั้นฉันจึงมีชีวิตนิรันดร์ !
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
ยอห์น 3:3–6; 5:24; ฮีบรู 10:23; 1 ยอห์น 1:9; 3:2
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
นางรู ธ 1; กิจการ 26
เย็น:
เยเรมีย ์ 36;
สดุดี 9
ความแน่ นอนของความรอด
เพื่อความมัน่ ใจในความรอด คุณไม่จ ำเป็ นต้องแน่ใจในทุกสิ่ ง แต่ตอ้ งแน่ใจในพระเจ้าเท่านั้น ผูท้ รง “ซื่ อสัตย์ และเที่ยง
ธรรม ก็จะทรงโปรดยกบาปของเรา และจะทรงชำระเราให้ พ้นจากการอธรรมทั้งสิ ้น” (1 ยอห์น 1:9) และ “พระองค์ ผ้ ปู ระทาน
พระสัญญานั้นทรงซื่ อสัตย์ ” (ฮีบรู 10:23)
ผมขอใช้ภาพประกอบง่ายๆ ผมคือ ไรน์ฮาร์ด บองเก้ ไม่วา่ ผมจะรู้สึกชอบหรื อไม่กต็ าม ถ้าผมหลับ ผมจะไม่คิดถึงเรื่ อง
นี้ แต่ผมก็ยงั เป็ นไรน์ฮาร์ด บองเก้ แม้วา่ ผมจะต้องทนทุกข์ทรมานจากการสูญเสี ยความทรงจำ แต่ตวั ตนของผมก็ยงั คงเหมือน
เดิม สูติบตั รของผมระบุวา่ ผมเป็ นใคร และนัน่ ทำให้ทุกอย่างลงตัว!
เช่นเดียวกับพระคำของพระเจ้า ถ้าคุณได้รับพระเยซูคริ สต์เป็ นพระผูช้ ่วยให้รอดส่ วนตัวของคุณ แสดงว่าคุณได้บงั เกิด
เข้าสู่ ครอบครัวของพระเจ้าแล้ว คุณได้ "บังเกิดใหม่" พระคัมภีร์คือสูติบตั รของคุณ ถ้าคุณไม่เชื่อ คุณก็จะไม่รู้วา่ คุณเป็ นใคร มัน
ง่ายมาก!

เราบอกความจริ งกับท่ านว่ า ถ้ าคนใดไม่ ได้ เกิดใหม่ คนนั้นไม่ สามารถเห็นแผ่ นดินของพระเจ้ า...ถ้ าใครไม่ ได้ เกิดจาก
น้ำและพระวิญญาณ คนนั้นจะเข้าในแผ่ นดินของพระเจ้ าไม่ ได้ ที่ เกิดจากเนือ้ หนังก็เป็ นเนือ้ หนัง และที่เกิดจากพระวิญ
ญาณก็เป็ นวิญญาณ (ยอห์ น 3:3, 5–6) ยอห์ นกล่ าวว่ า “ท่ านที่รักทั้งหลาย เดี๋ยวนี เ้ ราเป็ นลูกของพระเจ้ า และเราจะเป็ น
อย่ างไรต่ อไปข้างหน้ านั้นเรายังไม่ ร้ ู ...เราจะเป็ นเหมือนอย่ างพระองค์ ” (1 ยอห์ น 3:2) เราจะเป็ นอะไร เรายังไม่ เข้ าใจ
แต่ เรารู้ ว่าเราเป็ นใคร นั่นคือลูกของพระเจ้ า พระเยซูตรั สว่ า “เราบอกความจริ งกับพวกท่ านว่ า ถ้ าใครฟั งคำของเราและ
วางใจผู้ทรงใช้ เรามา คนนั้นก็มีชีวิตนิรันดร์ และไม่ ถกู พิพากษา แต่ ผ่านพ้ นความตายไปสู่ชีวิตแล้ว” (ยอห์ น 5:24)
นัน่ ทรงพลังมาก! ซึ่งบอกว่าถ้าคุณได้กลับใจและได้รับพระเยซูเป็ นพระผูช้ ่วยให้รอดของคุณเอง คุณก็มีชีวิตนิรันดร์
และได้ขา้ มจากความตายไปสู่ชีวิตแล้ว สรรเสริ ญองค์พระผูเ้ ป็ นเจ้า!
9
สิ งหาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“พระคริ สต์วายพระชนม์เพราะบาปของเรา ตามที่เขียนไว้ในพระคัมภีร์” (1 โคริ นธ์ 15:3)
ไฟประจำวัน!
พระคริ สต์วายพระชนม์เพื่อฉัน—ฉันเชื่อสิ่ งนี้—ฉันถูกช่วยให้รอดแล้ว!
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
1 โคริ นธ์ 1:8; 2:2–4; 15:3
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
นางรู ธ 2; กิจการ 27
เย็น:
เยเรมีย ์ 37;
สดุดี 9
เปิ ดสวิตช์ ไฟ!
เมื่ออัครทูตเปาโลเทศนาในเมืองโคริ นธ์ เขาไม่ได้รู้สึกแข็งแกร่ งทางร่ างกายและเต็มไปด้วยพละกำลัง เขาอ่อนแอและ
ตัวสัน่ อันที่จริ งเขายังพูดถึงความสิ้ นหวังในชีวิตในบางครั้ง คำเทศนาของเขาเรี ยบง่ายและตรงไปตรงมา เขาไม่ได้อาศัยคำพูดที่
แพรวพราว แต่เทศนาใน “การสำแดงพระวิญญาณและฤทธานุภาพ” (1 โคริ นธ์ 2:4) ผลกระทบรุ นแรงมาก และหลายคนกลับใจ
และได้รับความรอด เขาเทศนาอะไรถึงมีผลเช่นนั้น? ความลับอยูใ่ นสิ่ งที่เขากล่าวว่า “เพราะข้าพเจ้ าตั้งใจว่ าจะไม่ แสดงความรู้
เรื่ องใดๆ ในหมู่พวกท่ านเลย เว้ นแต่ เรื่ องพระเยซูคริ สต์ และการที่พระองค์ ทรงถูกตรึ งที่กางเขน” (1 โคริ นธ์ 2:2) ความรอดไม่ได้
อยูท่ ี่แค่ค ำพูด แต่ข้ ึนอยูก่ บั สิ่ งที่เกิดขึ้น นัน่ คือ "พระคริ สต์ วายพระชนม์ เพราะบาปของเรา ตามที่เขียนไว้ ในพระคัมภีร์” (1 โคริ น
ธ์ 15:3)
ถ้าคุณต้องการความมัน่ ใจว่าวันนี้พระเจ้ายิม้ ให้คุณ อยูข่ า้ งคุณ และวันหนึ่งคุณจะได้รับการต้อนรับในสวรรค์ นี่คือสิ่ งที่
จะต้องทำ อันดับแรก คุณได้ยนิ หรื ออ่านข่าวประเสริ ฐที่วา่ พระคริ สต์วายพระชนม์เพื่อไถ่บาปของคุณ ต่อจากนั้น คุณเชื่อในข่าว
ประเสริ ฐและกลับใจใหม่ และฤทธิ์ อ ำนาจของพระเจ้าจะนำคุณประโยชน์ของการสิ้ นพระชนม์แห่งการทรงไถ่ของพระคริ สต์มา
ประยุกต์ใช้กบั หัวใจของคุณ จากนั้น บางสิ่ งที่มหัศจรรย์กเ็ กิดขึ้น นัน่ คือพระคำของพระเจ้าชุบชีวิตวิญญาณที่ตายแล้วของคุณ
และคุณมีชีวิตในพระเจ้า ได้รับการชำระให้สะอาดและหายเป็ นปกติ สิ่ งที่พระเยซูท ำเพื่อคุณบนไม้กางเขนนั้น พระวิญญาณ
บริ สุทธิ์ ได้นำเข้ามาในชีวิตของคุณ

ให้ผมอธิบายสิ่ งนี้ นัน่ คือคุณอาจมีไฟฟ้ าในบ้านของคุณ บ้านมีสายและเชื่อมต่อกับโรงไฟฟ้ า ถ้าคุณกลับบ้านตอน


กลางคืน คุณกดสวิตช์ แล้วมีแสงสว่างและความอบอุ่นในทันที การเชื่อว่าพระคริ สต์วายพระชนม์เพื่อคุณก็เหมือนการเปิ ดสวิตช์
ทุกอย่างพร้อมแล้ว ข่าวสารข่าวประเสริ ฐเป็ นเหมือนสายไฟที่เชื่อมต่อกับสถานีไฟฟ้ า นัน่ คือไม้กางเขนของกลโกธา สายแห่ง
ความจริ งได้ถูกวางไว้แล้ว พลังงานรออยูต่ รงนั้น จากนั้นคุณก็เชื่อ ซึ่งเปิ ดสวิตช์ฝ่ายวิญญาณ และพลังแห่งความรอดจะไหลมาหา
คุณ และให้แสงสว่างแก่คุณ คุณได้ ถกู ช่ วยให้ รอดแล้ ว
10
สิ งหาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“จงดูพระเมษโปดกของพระเจ้า ผูท้ รงรับบาปของโลกไป!” (ยอห์น 1:29)
ไฟประจำวัน!
พระโลหิ ตของพระคริ สต์ช ำระฉันจากบาปทั้งหมด!
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
ปฐมกาล 4:11, 21–24; 6:11, 17; 7:11; 9:6; ยอห์น 1:29; 6:54; 1 ยอห์น 1:7
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
นางรู ธ 3 และ 4;
กิจการ 28
เย็น:
เยเรมีย ์ 38; สดุดี 11 และ 12
พระโลหิตแห่ งชีวติ
พระโลหิ ตของพระเยซูท ำให้มีชีวิต พระองค์ตรัสด้วยพระองค์เองว่า “คนที่กินเนือ้ และดื่มโลหิ ตของเราจะมีชีวิตนิรัน
ดร์ และเราจะให้ คนนั้นเป็ นขึน้ มาในวันสุดท้ าย” (ยอห์น 6:54) แน่นอนว่า “การดื่ม” เป็ นอุปมาโวหาร ไม่ได้ตามตัวอักษร เพราะ
ว่าพระเยซูยงั ทรงพระชนม์อยูเ่ มื่อพระองค์ตรัสคำเหล่านี้ หมายถึงการรับการอภัยโทษจากพระเจ้าผ่านทางพระโลหิ ตของพระเยซู
โดยความเชื่อ และนำพระโลหิ ตของพระองค์ไปใช้ตามความจำเป็ นฝ่ ายวิญญาณของเรา ตอนนี้ ความสูงที่แท้จริ งของภูเขาแห่งกล
โกธาทะยานขึ้นต่อหน้าเรา เมื่อหอกเปิ ดเส้นเลือดของพระเยซู พระโลหิ ตและน้ำก็ไหลออกมา เส้นเลือดของพระเจ้าก็เปิ ดด้วย
เมื่อสายธารแห่งชีวิตหลัง่ ไหลบนไม้กางเขน น้ำพุแห่งชีวิตและความเมตตาอันเป็ นนิรันดร์ กเ็ ริ่ มต้นขึ้น
หลังจากการสังหารของอาเบลทำให้พ้ืนดินเป็ นมลทิน การสังหารอีกครั้งโดยลาเมคก็ถูกบันทึกไว้ อาวุธที่ตีข้ ึนโดยทู
บัลคาอิน และการกระทำอันชัว่ ร้ายที่ถูกยกย่องในดนตรี โดยยูบาล กระตุน้ การนองเลือดมากขึ้นเรื่ อยๆ เลือดของอาเบลที่ได้ร้อง
เพียงเสี ยงเดียวจากแผ่นดินโลกได้กลืนเสี ยงประสานอันทรงพลัง ซึ่งพระเจ้าทรงได้ยนิ ในที่สุดเราก็อ่านเจอว่า “คนทั้งโลกเสื่ อม
ทรามไปเฉพาะพระพักตร์ ของพระเจ้ า และแผ่ นดินก็เต็มด้ วยความโหดร้ าย” (ปฐมกาล 6:11) ดังนั้นพระเจ้าจึงป่ าวประกาศว่า
“เพราะดูเถิด เราเองจะเป็ นผู้ทำให้ น ้ำท่ วมแผ่ นดิน” (ข้อ 17) พระเจ้าทรงเรี ยกโนอาห์เข้าไปในเรื อ และ “น้ำพุใต้ บาดาลที่ลึกมาก
ทั้งหมดก็พลุ่งขึน้ มา และช่ องฟ้ าก็เปิ ด” (ปฐมกาล 7:11) น้ำหมุนวนปกคลุมแผ่นดินโลกจนถึงยอดเขา แผ่นดินโลกถูกล้างให้
สะอาดหรื อไม่? แน่นอนว่าไม่ ทันทีหลังน้ำท่วม พระเจ้าตรัสกับโนอาห์วา่ เลือดเท่านั้นที่สามารถชำระบาปได้ พระเจ้ามีสิ่ง
มากมายที่จะสอนมนุษยชาติวา่ “ใครทำให้ มนุษย์ โลหิ ตไหล มนุษย์ จะทำให้ โลหิ ตผู้นั้นไหลเหมือนกัน” (ปฐมกาล 9:6) มีเพียง
ทางเดียวเท่านั้นคือ “จงดูพระเมษโปดกของพระเจ้ า ผู้ทรงรั บบาปของโลกไป!” (ยอห์น 1:29) และ “พระโลหิ ตของพระเยซู
คริ สต์ พระบุตรของพระองค์ ก็ชำระเราให้ ปราศจากบาปทั้งสิ ้น” (1 ยอห์น 1:7) พระโลหิ ตของพระองค์ก ำจัดมันทั้งหมด
บางคนคิดว่าน้ำแห่งบัพติศมาสามารถชำระวิญญาณจิตของพวกเขาได้ ขณะที่พวกเขาผ่านน้ำ พวกเขาจินตนาการว่าพิธี
ทางศาสนาได้เอาความบาปของพวกเขาออกไปแล้ว แต่มนั ก็ไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ ถ้าน้ำแห่งบัพติศมาสามารถขจัดบาปของ
เราได้ พระเยซูคริ สต์คงไม่จ ำเป็ นต้องสิ้ นพระชนม์อย่างโหดร้ายเช่นนี้ แต่ไม่มีทางเลือกอื่น จงเป็ นอิสระในพระคริ สต์ บาปของ
คุณได้รับการอภัยแล้ว และคุณมีชีวิตใหม่ของพระองค์!

11
สิ งหาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“จนกว่าเราทุกคนจะบรรลุถึงความเป็ นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในความเชื่อและในความรู้ถึงพระบุตรของพระเจ้า บรรลุถึงความเป็ นผู้
ใหญ่ คือโตเต็มถึงขนาดความบริ บูรณ์ของพระคริ สต์” (เอเฟซัส 4:13)
ไฟประจำวัน!
น้ำมันแห่งพระวิญญาณบริ สุทธิ์ ที่หลัง่ ไหลเข้ามาในชีวิตทำให้ฉนั สามารถดำเนินชีวิตในความเป็ นน้ำหนึ่งใจเดียวกันกับพี่นอ้ งใน
พระคริ สต์ได้
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
สดุดี 133:1–3; เอเฟซัส 4:3, 13; 4:12–13
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
1 ซามูเอล 1;
โรม 1
เย็น:
เยเรมีย ์ 39; สดุดี 13 และ 14
น้ำมันล้ำค่ า
พระคัมภีร์ใช้ตวั อย่างที่ชดั เจนมากสำหรับหลักการแห่งความเป็ นน้ำหนึ่ งใจเดียวกัน นัน่ คือน้ำมัน! น้ำมันในพระคัมภีร์
แสดงถึงการทำงานของพระวิญญาณบริ สุทธิ์ เสมอ ไม่วา่ จะเป็ นน้ำมันในตะเกียง น้ำมันเจิม น้ำมันเครื่ องสำอาง หรื อน้ำมันหอม
แนวคิดนี้ มาจากเพลงสดุดีที่วา่ “ดูเถิด เป็ นการดีและน่ าชื่ นใจมากสักเท่ าใด ที่ พี่น้องอาศัยอยู่ด้วยกันเป็ นน้ำหนึ่งใจเดียว เหมือน
น้ำมันประเสริ ฐอยู่บนศีรษะ” (สดุดี 133:1–2) นี่หมายถึงพิธีเทน้ำมันหอมพิเศษบนศีรษะของมหาปุโรหิ ตแห่งอิสราเอล
ทำไมความเป็ นน้ำหนึ่งใจเดียวกันเหมือนน้ำมัน? เพราะว่าพระวิญญาณบริ สุทธิ์ ทรงเป็ นน้ำมัน และพระองค์ทรงนำ
ความเป็ นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ความเป็ นน้ำหนึ่งใจเดียวกันโดยน้ำมันของพระวิญญาณที่เทลงบนเรานั้นเหมือนกับน้ำมันที่เทลง
บนศีรษะในสดุดี 133 เหมือนน้ำมันประเสริ ฐอยูบ่ นศีรษะ ไหลลงมาบนหนวดเครา ...ของอาโรน ไหลลงมาบนคอเสื้ อของท่าน
เหมือนน้ำค้างของภูเขาเฮอร์ โมน ซึ่งตกลงบนเทือกเขาศิโยน เพราะว่าพระยาห์เวห์ทรงบัญชาพระพรที่นนั่ คือชีวิตยืนยาวเป็ น
นิตย์!” (สดุดี 133:2–3) สังเกตว่าน้ำมันนี้ถูกเทลงอย่างฟุ่ มเฟื อยไหลลงมาถึงชายเสื้ อคลุมของอาโรน ความเป็ นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน
มีผลกระทบอย่างกว้างขวาง จุดประสงค์ของการเทน้ำมันของพระวิญญาณบริ สุทธิ์ น้ ีคือ “เพื่อเตรี ยมธรรมิกชนสำหรั บการปรน
นิ บัติ...จนกว่ าเราทุกคนจะบรรลุถึงความเป็ นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในความเชื่ อ” (เอเฟซัส 4:12–13) ดังนั้นความเชื่อจึงเข้ามาด้วย
ความเชื่อ พระวิญญาณบริ สุทธิ์ และในความเป็ นน้ำหนึ่งใจเดียวกันล้วนมีบทบาท
ตอนนี้พระคัมภีร์กล่าวว่า “จงพยายามรั กษาความเป็ นน้ำหนึ่งใจเดียวกันที่มาจากพระวิญญาณนั้น โดยมีสันติภาพเป็ น
เครื่ องผูกพัน” (เอเฟซัส 4:3) ความเป็ นน้ำหนึ่งใจเดียวกันมีอยูจ่ ริ ง เราเพียงต้องรักษาไว้ ความเป็ นน้ำหนึ่งใจเดียวกันคือการสถิต
อยูข่ องพระวิญญาณบริ สุทธิ์ ในผูเ้ ชื่อทุกคน คุณเป็ นหนึ่งในพระองค์ทนั ทีที่คุณเชื่อ
12
สิ งหาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“ถ้าเรามีชีวิตอยูโ่ ดยพระวิญญาณ ก็จงดำเนินชีวิตตามพระวิญญาณด้วย” (กาลาเทีย 5:25)
ไฟประจำวัน!
“สองคนจะเดินไปด้วยกันได้หรื อ นอกจากทั้งสองจะได้ตกลงกันไว้ก่อน?” (อาโมส 3:3)
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
อาโมส 3:3; ลูกา 22:42; ยอห์น 10:30; กาลาเทีย 5:25; 6:2; เอเฟซัส 4:4; 6:11
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
1 ซามูเอล 2;
โรม 2
เย็น:
เยเรมีย ์ 40; สดุดี 15 และ 16
ความมุ่งมัน่
ไม่มีใครจะสามารถมีความเป็ นน้ำหนึ่งใจเดียวกันได้ดว้ ยตัวเอง คุณไม่สามารถแต่งงานกับตัวเองได้ ไม่มีสิ่งที่เรี ยกว่าผู้
เชื่ออิสระ คุณไม่สามารถมีความเป็ นน้ำหนึ่งใจเดียวกันโดยที่ไม่อยูท่ ี่ไหนเลย บางคนบอกว่าพวกเขาเป็ นส่ วนหนึ่งของคริ สตจักร
สากล แต่ไม่มีความมุ่งมัน่ เป็ นพิเศษกับที่ไหนเลย นัน่ หมายความว่าไม่มีใครสามารถพึ่งพาคนเหล่านี้ได้ คริ สตจักรไม่สามารถ
สร้างบนทุ่นลอยน้ำได้
ผูเ้ ชื่อที่บงั เกิดใหม่ทุกคนอยู่ “ในพระคริ สต์ ” กับคนอื่นๆ “มีกายเดียวและมีพระวิญญาณองค์ เดียว” (เอเฟซัส 4:4) นัน่
คือพระกายที่ยงิ่ ใหญ่ของผูเ้ ชื่อในสวรรค์และบนแผ่นดินโลก ทุกสิ่ งในพันธสัญญาใหม่ช้ ีให้เห็นถึงความเป็ นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน
เราต้องแบกรับภาระของกันและกัน ยกตัวอย่างเช่น “จงช่ วยรั บภาระของกันและกัน และด้ วยการกระทำเช่ นนี ท้ ่ านทั้งหลายก็ได้
ปฏิบัติตามธรรมบัญญัติของพระคริ สต์ ” (กาลาเทีย 6:2) เราจะทำเช่นนั้นได้อย่างไร ถ้าเราไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคริ สเตียนคนอื่น?

พันธสัญญาใหม่ถือว่าผูเ้ ชื่อทุกคนผูกพันกันในท้องถิ่นเสมอ จดหมายฝากถึงชาวเอเฟซัสเป็ นเรื่ องเกี่ยวกับคริ สตจักร


และทุกสิ่ งที่กล่าวถึงเป็ นของคริ สตจักรทั้งหมด ไม่ใช่สำหรับปัจเจกบุคคล ยกตัวอย่างเช่น คริ สตจักรทั้งมวลต้องมี “ยุทธภัณฑ์
ทั้งชุดของพระเจ้ า” (เอเฟซัส 6:11) เพราะว่าเป็ นกองกำลังต่อสู้ กองทัพ แน่นอนว่ามีคนที่ชอบจินตนาการว่าตัวเองเป็ นกองทัพ
คนเดียว ต่อสู้กบั ศัตรู เพียงลำพัง บุกตะลุยชุมชนและประเทศชาติ โดยมักจะทิ้งเส้นทางแห่งการทำลายล้างไว้เบื้องหลัง แม้
กระทัง่ พระเยซูคริ สต์เองก็ตอ้ งรับผิดชอบต่อพระบิดาในสวรรค์ของพระองค์ “แต่ อย่ างไรก็ดี อย่ าให้ เป็ นไปตามใจข้ าพระองค์
แต่ ให้ เป็ นไปตามพระทัยของพระองค์ ” (ลูกา 22:42) เราซึ่งเป็ นคริ สตจักรในทุกวันนี้ ต่างก็มีความรับผิดชอบต่อกันและกันเช่น
เดียวกันสำหรับการกระทำของเรา นัน่ คือเหตุผลที่เราต้องอยูใ่ นชุมชนของคริ สตจักร
พระวิญญาณบริ สุทธิ์ คือพระวิญญาณแห่งความเป็ นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน พระองค์เป็ นองค์ประกอบพันธะ ความผูกพันนี้
เป็ นผลลัพธ์ที่ยอดเยีย่ มของความเชื่อในพระคริ สต์ มันเป็ นความคิดสร้างสรรค์ มันนำมาซึ่งความเป็ นน้ำหนึ่งใจเดียวกันรู ปแบบ
ใหม่ที่ไม่เป็ นที่รู้จกั แม้แต่ในครอบครัวของแผ่นดินโลกที่ใกล้ชิดที่สุด
13
สิ งหาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“ตาไม่เห็น หูไม่ได้ยนิ และสิ่ งที่ใจมนุษย์คิดไม่ถึง คือสิ่ งที่พระเจ้าทรงจัดเตรี ยมไว้สำหรับคนทั้งหลายที่รักพระองค์” (1 โคริ นธ์
2:9)
ไฟประจำวัน!
ประสบการณ์ของพระคริ สต์อยูน่ อกเหนือไปจากผูท้ ี่ไม่เคยรู้จกั มาก่อน
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
1 โคริ นธ์ 2:9
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
1 ซามูเอล 3;
โรม 3
เย็น:
เยเรมีย ์ 41;
สดุดี 17
พระเจ้ าเท่ านั้นที่สามารถเปิ ดเผยพระเจ้ าได้
เว้นแต่พระเจ้าจะอนุญาต เราไม่สามารถรู้จกั พระองค์ได้ พระเจ้าเท่านั้นที่สามารถเปิ ดเผยพระองค์ได้ นักวิชาการ
ปฏิเสธการอัศจรรย์และการเป็ นขึ้นมาจากความตายของพระองค์ ลดพระเยซูให้อยูใ่ นระดับสายตาของพวกเขาเอง จินตนาการ
ของมนุษย์มีจ ำกัดมาก ไม่สามารถเข้าถึงพระเจ้าได้ แต่คริ สเตียนรู้จกั พระเยซูที่พระพักตร์เป็ นพระสิ ริของพระเจ้า!
ประสบการณ์ของพระคริ สต์อยูน่ อกเหนือไปจากผูท้ ี่ไม่เคยรู้จกั มาก่อน “ตาไม่ เห็น หู ไม่ ได้ ยิน และสิ่ งที่ใจมนุษย์ คิดไม่
ถึง คือสิ่ งที่พระเจ้ าทรงจัดเตรี ยมไว้ สำหรั บคนทั้งหลายที่รักพระองค์ ” (1 โคริ นธ์ 2:9)
อิสยาห์เยาะเย้ยผูท้ ี่พยายามสร้างรู ปเคารพเทพเจ้าของพวกเขา ท่อนไม้ไม่สามารถเป็ นเหมือนผูส้ ร้างสวรรค์และแผ่นดิน
โลกได้ ความพยายามทุกอย่างที่จะพรรณนาถึงพระเจ้าทุกครั้งล้วนเกิดขึ้นเพื่อต่อต้านความเสื่ อมทรามแห่งจิตใจของมนุษย์
เทพเจ้าของชาวกรี กและชาวโรมันมีตณั หาและทรยศ

ความคิดเดียวของเรามาจากพระคัมภีร์ และมีเพียงพระคัมภีร์เท่านั้นที่มีสิทธิ์ บอกเราว่าจะไปสวรรค์ได้อย่างไร หรื อใคร


จะไปสวรรค์ พระคัมภีร์เองอธิบายว่าเป็ นสถานที่ซ่ ึงเฉพาะผูท้ ี่ได้รับการชำระให้สะอาดในพระโลหิ ตของพระเยซูเท่านั้นที่กล้า
เข้าไปได้ ถ้าเราหันไปทางอื่นเพื่อรู้จกั พระเจ้า เราจะรู้สึกหดหู่ใจ งานเขียนอันศักดิ์สิทธิ์ ของอินเดีย จีน หรื ออิสลามนำมาซึ่งความ
หวาดกลัวแต่ก ำลังใจเล็กน้อย
เปิ ดพระคัมภีร์และดูแสงที่น่าอัศจรรย์ไหลออกมา! ยิง่ คุณเข้าใจพระคัมภีร์น้ นั มกาเท่าไร จิตใจของคุณก็ยงิ่ เปิ ดต่อการ
เปิ ดเผยต่างๆ ของพระคัมภีร์มากเท่านั้น เหมือนดอกไม้ที่บานรับแสงตะวัน
ฤทธิ์ อ ำนาจที่เป็ นแรงบันดาลใจ ถูกออกแบบให้ วิญญาณจิ ตของคุณรั บมันไว้
14
สิ งหาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“พระบิดาของท่านผูส้ ถิตในสวรรค์ ...ทรงให้ดวงอาทิตย์ของพระองค์ข้ ึนส่ องสว่างแก่คนดีและคนชัว่ เสมอกัน และให้ฝนตกแก่
คนชอบธรรมและคนอธรรม” (มัทธิว 5:45)
ไฟประจำวัน!
ความจำเป็ นทุกอย่างของฉันถูกครอบคลุมด้วยความเชื่อในพระสัญญาของพระเจ้า
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
ปฐมกาล 1:30; 8:22; 9:10; มัทธิว 5:45; 6:28–29; 7:7–11
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
1 ซามูเอล 4;
โรม 4
เย็น:
เยเรมีย ์ 42;
สดุดี 18
คำสั ญญาของพระเจ้ า
เป็ นธรรมชาติของมนุษย์ที่จะพึ่งพาคำสัญญาของผูค้ นจนกว่าความคิดผิดจะถูกปลดเปลี้องออกไป นักเล่นกลและนัก
ต้มตุ๋นใช้สิ่งนี้ เราไว้วางใจผูค้ นเมื่อพวกเขาให้ค ำพูดแก่เรา เราควรจะสามารถไว้วางใจในพระเจ้าตามที่พระองค์ได้ประทานพระ
คำของพระองค์แก่เรา ร้อยชัว่ อายุคนได้พิสูจน์พระองค์ และพระองค์ได้ให้เหตุผลเดียวกันแก่เราในการพึ่งพาพระองค์ การป่ าว
ประกาศอย่างชัดเจนถึงสิ่ งที่พระองค์จะทำเพื่อเรา บางคนอ่านพระคัมภีร์ท้ งั เล่มแล้วนับ พบคำสัญญา 7,874 ข้อที่พระเจ้าให้ไว้กบั
เรา! คำสัญญาที่แวววาวนั้นครอบคลุมความเข้าใจของเราเกี่ยวกับพระเจ้าและสิ่ งที่เราคาดหวังได้จากพระองค์
นอกคำสัญญาเหล่านี้อาจอยูน่ อกพระคำของพระเจ้า อย่างไรก็ตาม ไม่มีขอบเขตที่ยากสำหรับความกรุ ณาของพระเจ้า
พระองค์ทรงพระคุณ ประสบการณ์แสดงให้เห็นว่าพระองค์อาจอนุญาตมากกว่าขอบเขตแห่งพระคำที่เที่ยงตรงของพระองค์ เมื่อ
เป็ นเช่นนั้นก็ไม่ควรถือเป็ นแบบอย่างสำหรับผูอ้ ื่นที่จะเรี ยกร้องเช่นเดียวกันต่อพระองค์ แต่ขอบเขตของสัญญา 7,874 ข้อควร
กว้างพอสำหรับทุกสถานการณ์ที่ตอ้ งการความช่วยเหลือจากพระเจ้า คำสัญญาหลายอย่างมาในรู ปแบบของพันธสัญญา

พระเจ้าทรงทำสิ่ งต่างๆ มากมายเพื่อเราโดยที่เราไม่ตอ้ งร้องขอ “พระบิดาของท่ านผู้สถิตในสวรรค์ ...ทรงให้ ดวง


อาทิตย์ ของพระองค์ ขึน้ ส่ องสว่ างแก่ คนดีและคนชั่วเสมอกัน และให้ ฝนตกแก่ คนชอบธรรมและคนอธรรม” (มัทธิว 5:45)
พระเจ้าดีและดีต่อทุกคน คนนับล้านไม่ถวายเกียรติต่อพระองค์ แม้วา่ พวกเขาจะตำหนิพระองค์อย่างรวดเร็วเมื่อมีสิ่งเลวร้ายเข้า
มากระทบพวกเขา กระบวนการของธรรมชาติดูเหมือนไม่เปลี่ยนแปลงและสม่ำเสมอ จนถึงทุกวันนี้ ยงั ไม่มีใครแสดงว่าพระเจ้า
ไม่มีส่วนในเรื่ องนี้ พระองค์ทรงรักษาสัญญาที่ให้ไว้กบั “สัตว์ ทั้งหมดบนแผ่ นดิน นกทั้งปวงบนท้ องฟ้ าและสัตว์ เลือ้ ยคลานทั้ง
หมดบนแผ่ นดิน” (ปฐมกาล 1:30) “ตราบที่โลกยังมีอยู่ จะมีฤดูหว่ านกับฤดูเกี่ยว มีเย็นกับร้ อน มีฤดูร้อนกับฤดูหนาว มีวันและ
คืนตลอดไป” (ปฐมกาล 8:22) พระเยซูทรงเพิ่มดอกไม้เข้าไปด้วยและตรัสว่า “จงพิจารณาดูว่าดอกไม้ ในทุ่งนานั้นเติบโตขึน้
อย่ างไร มันไม่ ทำงาน มันไม่ ปั่นด้ าย...แม้ แต่ กษัตริ ย์ซาโลมอนเมื่อทรงบริ บูรณ์ ด้วยศักดิ์ศรี กไ็ ม่ ได้ แต่ งพระองค์ งามเท่ าดอกไม้
เหล่ านี ส้ ักดอกหนึ่ง” (มัทธิว 6:28–29) จงชื่นชมยินดีในความเมตตากรุ ณาและความสัตย์ซื่อที่เอาใจใส่ของพระเจ้า แม้แต่สิ่งที่
ทรงสร้างของพระองค์กป็ ่ าวประกาศถึงการจัดเตรี ยมที่น่าอัศจรรย์ของพระองค์สำหรับคุณ
15
สิ งหาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“บรรดาผูเ้ หน็ดเหนื่อยและแบกภาระหนัก จงมาหาเรา และเราจะให้ท่านทั้งหลายได้หยุดพัก จงเอาแอกของเราแบกไว้ แล้วเรี ยน
จากเรา เพราะว่าเราสุ ภาพอ่อนโยนและใจอ่อนน้อม และจิตใจของพวกท่านจะได้หยุดพัก ด้วยว่าแอกของเราก็พอเหมาะ และ
ภาระของเราก็เบา” (มัทธิว 11:28–30)
ไฟประจำวัน!
การดำเนินชีวิตอยูก่ บั พระเยซูคริ สต์ในหัวใจของฉันให้ความหมายและความหวังแก่ชีวิตของฉัน
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
อิสยาห์ 41:10; มัทธิว 11:28; ลูกา 12:32; ยอห์น 14:5–11
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
1 ซามูเอล 5–6; โรม 5
เย็น:
เยเรมีย ์ 43;
สดุดี 19
ของขวัญทองคำแห่ งความเชื่อ
หนึ่งนาที เราไม่เชื่อ วินาทีต่อมา ความเชื่อก็อยูท่ ี่นนั่ ทันที! บางทีในรู ปแบบที่ไม่หวือหวา เราก้าวข้ามพรมแดน และเรา
เชื่อ เราเพิ่งรู้วา่ พระเยซูคือใคร ไม่ได้อยูใ่ นกรอบของคำที่ถูกต้องเสมอไป หรื ออาจไม่สอดคล้องกับประสบการณ์การกลับใจ
แบบคลาสสิ ก แต่ภายในวิญญาณจิตของเรามีสญ ั ชาตญาณ เราเห็นมัน เรารู้ว า่ พระองค์คือผูท้ ี่จะมา ถ้าโลกนี้ มีความหมายใดๆ
พระองค์คือกุญแจ คำตอบของปริ ศนาแห่งการดำรงอยู่ จุดสนใจ พระเยซูคริ สต์ท ำให้ความคิดของผูค้ นเกี่ยวกับพระเจ้าตกผลึก

ในพันธสัญญาเดิม การเปิ ดเผยเกี่ยวกับพระเจ้ามาถึงผูค้ น แต่ดูเหมือนว่าจะมีเฉพาะกับบุคคลบางคนเท่านั้น เช่น อับรา


ฮัม ยาโคบ และผูเ้ ผยพระวจนะ ผูค้ นจำนวนมากเคลื่อนตัวช้ามาก บ่อยครั้งถอยหลัง พระเจ้าทรงใช้สถานการณ์ต่างๆ เพื่อช่วยให้
พวกเขามีความเชื่อ แต่การเสด็จมาของพระเยซูได้กวาดโลก อย่างใด กลโกธาทำในสิ่ งที่การสำแดงอันน่าเกรงขามของซีนายไม่
สามารถทำได้ พระเยซูคือผูส้ ร้างความเชื่อที่ยิง่ ใหญ่ เมื่อมองย้อนกลับไปในระยะยาว ประวัติศาสตร์โลกแห่งความไม่แน่นอน
และความสงสัยที่ปราศจากความร่ าเริ ง เราสามารถเห็นได้เมื่อมันเปลี่ยน มันมาพร้อมกับข่าวประเสริ ฐ มันปลุกความไว้วางใจ
ยามหลับใหล รุ่ งอรุ ณมาถึงแล้ว “เราเป็ นทางนั้น เป็ นความจริ ง และเป็ นชี วิต ไม่ มีใครมาถึงพระบิดาได้ นอกจากจะมาทาง
เรา...คำซึ่ งเรากล่ าวกับพวกท่ านนั้น เราไม่ ได้ กล่ าวตามใจชอบ แต่ พระบิดาผู้สถิตอยู่ในเราทรงทำพระราชกิจของพระองค์ จงเชื่ อ
เราว่ าเราอยู่ในพระบิดาและพระบิดาทรงอยู่ในเรา” (ยอห์น 14:6, 10–11)
พระเยซูตรัสว่า “ไม่ มีใครมาถึงพระบิดาได้ นอกจากจะมาทางเรา” มันเป็ นความจริ งที่เรี ยบง่ายในทางปฏิบตั ิ มีศาสนา
เพียงพอแล้ว ชี้ถึงทางต่างกันเป็ นพันทาง แต่พระคริ สต์ทรงเป็ นทางนั้น พระองค์ไม่ช้ ีทาง พระองค์ทรงเป็ นประตูและที่เปิ ดฟ้ า
สวรรค์ให้กว้าง “จงมาหาเรา...และจิ ตใจของพวกท่ านจะได้ หยุดพัก” (มัทธิว 11:28, 29) “อย่ ากลัวเลย” (อิสยาห์ 41:10) นี่คือคำ
สัญญาของพระองค์ที่มีต่อมวลมนุษยชาติ!

16
สิ งหาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“พระองค์ผทู้ รงเริ่ มต้นการดีไว้ในพวกท่าน จะทรงทำให้สำเร็ จ” (ฟี ลิปปี 1:6)
ไฟประจำวัน!
ข้าแต่องค์พระผูเ้ ป็ นเจ้า พระคำของพระองค์เป็ นความจริ ง ข้าพระองค์อ่านสิ่ งที่พระองค์ได้ท ำ ดังนั้นข้าพระองค์จึงรู้วา่ พระองค์
จะทำอะไร
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
สดุดี 27:3; ยอห์น 2:17; ฟิ ลิปปี 1:6; 1 ทิโมธี 4:8
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
1 ซามูเอล 7 และ 8; โรม 6
เย็น:
เยเรมีย ์ 44; สดุดี 20 และ 21
ความเชื่อใน 3 เวลา
วันนี้ “เมื่อวาน” มาเคาะประตูหอ้ งเรา บอกเราเกี่ยวกับ “พรุ่ งนี้” สิ่ งที่เราเชื่อว่าจะเป็ นนั้นมาจากสิ่ งที่เคยเป็ นมา เช่น
เดียวกับสภาพอากาศ ชีวิตเป็ นเรื่ องของความน่าจะเป็ น ยกเว้นสิ่ งเดียว นัน่ คือน้ำพระทัยของพระเจ้า พระเจ้าไม่ได้รับผลกระทบ
จากการเปลี่ยนแปลง น้ำพระทัยของพระเจ้าเป็ นกุญแจสำคัญที่จะนำระเบียบออกจากความโกลาหล ธุรกิจแห่งความเชื่อนี้ จ ำเป็ น
สำหรับธุรกิจแห่งชีวิต เราต้องไว้วางใจได้วา่ น้ำจากก๊อกของเราไม่มีสารพิษ หาเงินหรื อทำมาหากินก็เหมือนกัน แต่ความเป็ น
ห่วงของผมคือการดำเนินชีวิต เราสามารถสร้างความวุน่ วายหรื องานที่ดีได้ เราสามารล้มเหลวในการดำเนินชีวิตได้ในขณะที่
ประสบความสำเร็จในการทำมาหากิน “ทางพระเจ้ าก็มีประโยชน์ ทุกด้ าน เพราะมีพระสัญญาสำหรั บชี วิตปั จจุบันและอนาคต”
(1 ทิโมธี 4:8)
ความเชื่อสามารถดึงเราออกจากโพรงเล็ก ๆ ที่อบอุ่นและพาเราไปหาพระเจ้าได้ พระเจ้าประทานงานระดับโลกให้แก่
ผม นัน่ คือจัดพิมพ์และแจกจ่ายหนังสื อข่าวประเสริ ฐชั้นหนึ่งสำหรับทุกบ้านในหลายประเทศ ผมไม่มีเงินสำหรับโครงการที่น่า
อัศจรรย์ แต่ผมมีความเชื่อ ตอนนี้ ผมได้เห็นพระเจ้าตอบสนองความจำเป็ นในหลายประเทศ ด้วยจุลสารที่ชื่อว่า “ลบเป็ นบวก”
ในปัจจุบนั หนังสื อและจุลสารอื่นๆ ของเราได้รับการแปลเป็ นภาษาและภาษาถิ ่นต่างๆ กว่า 142 ภาษา และจนถึงขณะนี้ เราได้
พิมพ์ออกมาแล้วกว่า 152 ล้านเล่ม!

สิ่ งที่พระเจ้าได้ท ำก่อนหน้านี้ บ่งบอกให้ผมรู้วา่ จะเกิดอะไรขึ้นต่อไป ไม่วา่ เราจะติดต่อกับใคร เราไม่รู้วา่ พวกเขาจะเป็ น


อย่างไร เราถือว่าถ้าพวกเขาไว้วางใจได้ในอดีตพวกเขาจะไว้วางใจได้ในขณะนี้ แม้สถานการณ์จะเปลี่ยนไป เราก็ตอ้ งเสี่ ยง ไม่มี
ทางอื่น ความเชื่อคือข้อเท็จจริ งของชีวิต เช่นเดียวกับความจำเป็ นของการหายใจ ผมไว้วางใจพระเจ้าเพราะว่าพระองค์ได้มี
ประวัติที่พิสูจน์แล้วดังที่พวกเขากล่าวว่า พระองค์จดั การเรื่ องต่างๆ ได้ดีเสมอ ดีมากจริ งๆ ในงานของผม
ความเชื่อมี 3 เวลา นัน่ คือ “ข้ าพเจ้ าแน่ ใจอย่ างนีว้ ่ าพระองค์ ผ้ ทู รงเริ่ มต้ นการดีไว้ ในพวกท่ าน จะทรงทำให้ สำเร็จจนถึง
วันแห่ งพระเยซูคริ สต์ ” (ฟี ลิปปี 1:6) ความมัน่ ใจของคริ สเตียนคือสิ่ งที่พระเจ้าเคยเป็ น พระองค์ทรงเป็ น และจะเป็ น “แม้ สง
ครามถาโถมใส่ ข้าพเจ้ า ข้ าพเจ้ ายังวางใจพระเจ้ าอยู่” (สดุดี 27:3) น้ำพระทัยของพระองค์ไม่สามารถถูกท้าทายหรื อเปลี่ยนแปลง
ได้ มันกำหนดอนาคต ในน้ำพระทัยของพระองค์ เราปลอดภัย
17
สิ งหาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“การสำแดงของพระวิญญาณนั้น พระองค์ประทานแก่แต่ละคนเพื่อประโยชน์ร่วมกัน” (1 โคริ นธ์ 12:7)
ไฟประจำวัน!
แหล่งที่มาของน้ำมันในตะเกียงของฉันคือพระวิญญาณบริ สุทธิ์ ของพระเจ้า
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
อพยพ 25:1–40; 35:1–35; 37:1–29; 39:1–43; 1 โคริ นธ์ 12:4–11;
วิวรณ์ 1:10–13; 4:5
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
1 ซามูเอล 9;
โรม 7
เย็น:
เยเรมีย ์ 46;
สดุดี 22
แหล่ งทีม่ าของน้ำมัน
พระวิหารแห่งชาติที่ยงิ่ ใหญ่ในกรุ งเยรู ซาเล็มมีคนั ประทีปทองคำอันเลื่องชื่อ คันประทีปที่มี 7 กิ่งที่บรรยายไว้ในอพยพ
บทที่ 25, 35, 37 และ 39 ชาวโรมันยกมันออกไปเมื่อเข้าปล้นกรุ งเยรู ซาเล็มในปี ค.ศ. 70 และรู ปนี้ ปรากฏอยูบ่ นซุม้ ประตูของทิต ั
สที่นกั ท่องเที่ยวพบเห็นได้ทุกวันในกรุ งโรม คันประทีปเป็ นตราสัญลักษณ์ของอิสราเอลสมัยใหม่ คันประทีปนี้ หรื อตะเกียง
มาตรฐาน ไม่มีขอ้ ต่อหรื อรอยเชื่อมใด ๆ ทำจากทองคำชิ้นเดียว กิ่งแต่กิ่งมีตะเกียง ไส้ตะเกียง และน้ำมันมาจากแหล่งเดียวจาก
ลำต้นส่ วนกลาง ดวงไฟทั้ง 7 ส่ องแสงเป็ นดวงเดียวและไม่มีเงาของตัวมันเอง พระเยซูตรัสเกี่ยวกับน้ำมันในตะเกียงซึ่งเป็ น
สัญลักษณ์ของพระวิญญาณบริ สุทธิ์

ในพระธรรมวิวรณ์ อัครทูตยอห์นบรรยายว่าพระคริ สต์ทรงยืนอยูท่ ่ามกลางคันประทีปทองคำทั้ง 7 ตะเกียงแต่ละอัน


เป็ นตัวแทนของคริ สตจักร พระวิญญาณทรงดลใจข้าพเจ้าในวันขององค์พระผูเ้ ป็ นเจ้า และข้าพเจ้าได้ยนิ พระสุ รเสี ยงดังเหมือน
อย่างเสี ยงแตรมาจากข้างหลังข้าพเจ้า ตรัสว่า “เราคืออัลฟาและโอเมกา เป็ นเบื้องต้นและเบื้องปลาย เป็ นปฐมและอวสาน และสิ่ ง
ที่ท่านเห็นนั้นจงเขียนไว้ในหนังสื อม้วน และส่ งไปให้คริ สตจักรทั้งเจ็ดที่อยูใ่ นเอเชีย" ...แล้วข้าพเจ้าก็หนั กลับมาดูตรงที่พระ
สุ รเสี ยงตรัสกับข้าพเจ้านั้น และเมื่อหันกลับมาแล้วข้าพเจ้าก็เห็นคันประทีปทองคำเจ็ดคัน ในท่ามกลางคันประทีปเหล่านั้นมีผู้
หนึ่งเหมือนบุตรมนุษย์ (วิวรณ์ 1:10–11, 12–13) นอกจากนี้ เขายังพูดว่าหน้าพระที่นงั่ มีตะเกียง 7 ดวงสว่างไสว เหล่านี้คือพระ
วิญญาณทั้ง 7 ของพระเจ้า เปลวไฟทั้งเจ็ดของเชิงเทียนแต่ละดวงมีแหล่งเชื้อเพลิงเพียงแหล่งเดียว นัน่ คือพระวิญญาณของ
พระเจ้าที่จุดไฟดวงเดียว มีพระวิญญาณองค์เดียวขณะที่เราอ่าน แม้วา่ จะปรากฏให้เห็นในของประทาน พันธกิจ และการดำเนิน
งานมากมาย
ถ้าผูเ้ ชื่อส่ องแสงและนำความสว่างเล็กน้อยมาสู่ โลกที่จืดชืดของเรา นัน่ เป็ นเพราะพระวิญญาณบริ สุทธิ์ มิฉะนั้นพวก
เขาก็เป็ นไส้ตะเกียงที่ตายแล้ว ไส้ตะเกียงไม่สามารถเปล่งประกายได้ ถ้าปราศจากเชื้ อเพลิง ไม่วา่ จะพยายามมากแค่ไหนก็ตาม
พระคริ สต์ท ำให้หวั ใจสว่างไสว และเราสามารถติดไฟเพื่อพระเจ้าได้ ไม่มีใครแค่เชื่อ ถ้าคุณเชื่อ คุณก็เปล่งประกาย!
18
สิ งหาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“เพราะว่ามีสองสามคนประชุมกันที่ไหนในนามของเรา เราจะอยูท่ ่ามกลางพวกเขาที่นนั่ ” (มัทธิว 18:20)
ไฟประจำวัน!
พระวจนะของพระองค์เป็ นตะเกียงแก่เท้าของข้าพระองค์ และเป็ นความสว่างแก่ทางของข้าพระองค์ ขณะที่ขา้ พระองค์ไป ข้า
พระองค์สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน!
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
สดุดี 119:105; มาระโก 16:17–18; ยอห์น 14:23
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
1 ซามูเอล 10; โรม 8
เย็น:
เยเรมีย ์ 47; สดุดี 23 และ 24
ไปถึงที่ไหนสั กแห่ ง
ความเชื่อในพระเจ้าดูเหมือนจะเป็ นความรู้สึกที่คลุมเครื อ แต่ในไม่ชา้ ก็กลายเป็ นความเป็ นจริ ง เราสามารถ “ทิ้งตัวเรา
ลงในมหาสมุทรแห่งความไม่รู้” ด้วยความมัน่ ใจที่ยอดเยีย่ ม พระเยซูตรัสว่า “ถ้ าใครรั กเรา คนนั้นจะประพฤติตามคำของเรา
และพระบิดาจะทรงรั กเขา” (ยอห์น 14:23) บทเรี ยนสำคัญที่ผมต้องเรี ยนรู้เป็ นการส่ วนตัวเมื่อมาจากเยอรมัo ถึงแอฟริ กา คือการ
เรี ยนรู้ที่จะไม่ต้ งั คำถามกับพระเจ้า เราตั้งคำถามกับนักการเมือง แต่เชื่อพระเจ้า! ยกตัวอย่างเช่น พระคริ สต์ตรัสว่า “มีคนเชื่ อที่
ไหนหมายสำคัญเหล่ านีจ้ ะเกิดขึน้ ที่นั้น ...พวกเขาจะวางมือบนคนเจ็บคนป่ วย แล้ วคนเหล่ านั้นจะหายโรค” (มาระโก 16:17–18)
ไม่ใช่หน้าที่ของผมที่จะปรึ กษากับปัญญาชนเพื่อขอความเห็นชอบ แต่แค่เชื่อฟังพระคำ ผมทำตามที่พระเจ้าบอก แล้วพระองค์ก็
ทำตามที่พระองค์พดู พระเจ้าทรงเปลี่ยนขั้วหัวใจและวิญญาณของผม และจากนั้นก็เริ่ มใช้ผมเพื่อเขย่าทั้งประเทศ! พระเจ้าทรงใช้
ไม้เท้าของโมเสส ดังนั้น พระองค์จึงทรงใช้เราเมื่อเราปฏิบตั ิตามคำสัง่ ของพระองค์ ผมเห็นฤทธิ์ อ ำนาจของพระองค์ในการ
ทำงานครั้งแล้วครั้งเล่า ฟิ วส์แห่งความเชื่อของผมได้ติด และกระแสแห่งพรได้ไหลผ่านชีวิตของผมไปยังผูค้ นที่ล ้ำค่าหลายล้าน
คนเพื่อไถ่วิญญาณจิตของพวกเขาด้วยพระโลหิ ตของพระเมษโปดก
คุณไม่สามารถผลิตฤทธิ์ อำนาจจากสิ่ งใด ๆ ที่คุณทำได้ เช่น ดนตรี การนมัสการ หรื อบรรยากาศ ทันทีที่ 2 หรื อ 3 คน
มาประชุมกันในนามของพระองค์ พระคริ สต์กท็ รงอยูท่ ี่นนั่ ! ทันใดนั้นพระบัลลังก์ถูกสร้างขึ้น และคุณไม่จ ำเป็ นต้องใช้เวลาสัก
ชัว่ โมงในการนมัสการเพื่อสร้างสิ่ งนี้ข้ ึน เป็ นไปไม่ได้ที่คริ สเตียนจะพบกันในพระนามของพระองค์โดยปราศจากพระคริ สต์อยู่
ที่นนั่ ด้วยฤทธิ์ อำนาจ! ทุกวัน จงเสี ยบเข้ากับฤทธิ์ อำนาจที่เป็ นของคุณในพระเยซูคริ สต์!

19
สิ งหาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“ในวันนั้น รากของเจสซี จะตั้งขึ้นเป็ นสัญญาณแก่ชนชาติท้ งั หลาย และท่านจะเป็ นที่แสวงหาของบรรดาประชาชาติ และที่พ ำ
นักของท่านจะรุ่ งโรจน์” (อิสยาห์ 11:10)
ไฟประจำวัน!
คริ สตจักรเป็ นเรื อชูชีพ ไม่ใช่เรื อสำราญ เพื่อนำข่าวแห่งความรอดไปสู่ ผหู้ ลงหาย
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
อิสยาห์ 6:3; 11:1–2, 9–10; ฮาบากุก 2:14; มาระโก 16:15
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
1 ซามูเอล 11; โรม 9
เย็น:
เยเรมีย ์ 48;
สดุดี 25
น้ำท่ วมเฉียบพลัน!
พระเจ้าตรัสว่า “เพราะว่ าพิภพจะเต็มไปด้ วย ความรู้ ในเรื่ องพระสิ ริของพระยาห์ เวห์ ดังน้ำที่เต็มทะเล” (ฮาบากุก 2:14)
น้ำปกคลุมทะเลอย่างไร? ละเอียดจนไม่มีจุดแห้งแม้แต่จุดเดียวที่กน้ ทะเล! สิ่ งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงแผนการของพระเจ้า
นัน่ คือความรู้เรื่ องพระสิ ริ ฤทธิ์ อำนาจ และความรอดของพระองค์จะกระจายไปทัว่ โลกเหมือนน้ำท่วมฉับพลัน จะไม่มีที่แห้ง
แม้แต่จุดเดียว ไม่มีประเทศ นคร บ้าน หมู่บา้ น ครอบครัว หรื อปัจเจกชนที่ไม่รู้ เสราฟิ มร้องต่อผูเ้ ผยพระวจนะอิสยาห์วา่ “แผ่ น
ดินโลกทั้งสิ ้นเต็มด้ วยพระสิ ริของพระองค์ ” (อิสยาห์ 6:3)
ความรู้เรื่ องพระเจ้านี้ มาผ่านทางพระเยซูคริ สต์ พระบุตรของพระองค์เอง:

จะมีหน่ อหนึ่งแตกออกจากตอของเจสซี และกิ่งหนึ่งที่งอกจากรากของเขานั้นจะเกิดผล และพระวิญญาณของพระยาห์


เวห์ จะทรงอยู่บนท่ าน คือพระวิญญาณแห่ งปั ญญาและความเข้ าใจ พระวิญญาณแห่ งคำปรึ กษาและอานุภาพ พระวิญ
ญาณแห่ งความรู้ และความยำเกรงพระยาห์ เวห์ ...เพราะว่ าแผ่ นดินโลกจะเต็มด้ วยความรู้ ในเรื่ องของพระยาห์ เวห์
เหมือนน้ำปกคลุมทะเลอยู่นั้น (อิสยาห์ 11:1–2, 9) เราต้ องเห็นจุดสูงสุดของการประกาศข่ าวประเสริ ฐและการฟื ้ นฟูทั่ว
โลก การสิ ้นสุดของงานตรากตรำและน้ำตาของคนรุ่ นก่ อน ๆ ที่ได้ รับการเจิมจากพระเจ้ า คริ สตจักรเป็ นเรื อชูชีพ ไม่ ใช่
เรื อสำราญ ความบันเทิงไม่ จ ำเป็ นหรื อต้ องการ ตั้งแต่ กัปตันจนถึงพ่ อครั ว ต้ องใช้ มือทั้งหมดบนดาดฟ้ าเรื อเพื่อช่ วย
วิญญาณจิ ต คริ สตจักรที่ไม่ แสวงหาผู้หลงหายก็หลงทาง บางคนแก้ ตัวโดยบอกว่ าในสังคมพหุนิยมในปั จจุบัน ครึ่ ง
หนึ่งของคริ สเตียนไม่ สามารถเจาะเข้ าไปในอีกครึ่ งหนึ่งได้ แต่ พระเจ้ าทรงคาดหมายสถานการณ์ ของเราไว้ มิใช่ หรื อ ?
มีคนถามว่ า “วันนีพ้ ระเจ้ าตรั สกับคริ สตจักรว่ าอย่ างไร?” ทำไมสิ่ งนีถ้ ึงเป็ นปั ญหา? พระเจ้ าพูดไม่ ได้ ยินอย่ างนั้นหรื อ?
พระองค์ ไม่ ได้ ตรั สอะไรในวันนีท้ ี่ไม่ ได้ อยู่ในพระคำของพระองค์ แล้ ว ผมรู้ สิ่งหนึ่งซึ่ งพระเจ้ ากำลังตรั สอยู่ และถ้ าผู้
เผยพระวจนะของเราจริ ง พวกเขาจะเปล่ งเสี ยงเร่ งด่ วนเช่ นเดียวกับพระเยซูคริ สต์ และสะท้ อนถึงพระมหาบัญชา
เดียวกันว่ า “พวกท่ านจงออกไปทั่วโลก ประกาศข่ าวประเสริ ฐแก่ มนุษย์ ทุกคน” (มาระโก 16:15) นั่นคือคำสั่งของ
พระเจ้ าสำหรั บคุณในวันนี ้

20
สิ งหาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“ทั้งนี้ พระเจ้าก็ทรงเป็ นพยานด้วยโดยหมายสำคัญ การอัศจรรย์ และการอิทธิ ฤทธิ์ต่างๆ นานา และโดยของประทานจากพระวิญ
ญาณบริ สุทธิ์ ตามพระประสงค์ของพระองค์” (ฮีบรู 2:4)
ไฟประจำวัน!
“ข้าแต่พระยาห์เวห์ ผูท้ รงเป็ นกำลังของข้าพระองค์ ข้าพระองค์รักพระองค์”
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
สดุดี 18:1; ดาเนียล 4:34, 37; ลูกา 10:8–9; 1 โคริ นธ์ 13:13; ฮีบรู 2:4
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
1 ซามูเอล 12; โรม 10
เย็น:
เยเรมีย ์ 49; สดุดี 26 และ 27
การอัศจรรย์ เป็ นลักษณะของราชอาณาจักร
การอัศจรรย์เป็ นเรื่ องปกติส ำหรับราชอาณาจักร พระเยซูทรงส่ งเหล่าสาวกออกไปและตรัสว่า “เมื่อพวกท่ านเข้าไปใน
เมืองไหนและมีคนต้ อนรั บท่ าน จงรั บประทานสิ่ งที่เขาจัดให้ และจงรั กษาคนป่ วยในเมืองนั้นให้ หายและแจ้ งกับเขาว่ า ‘แผ่ นดิน
ของพระเจ้ ามาใกล้ พวกท่ านแล้ว’” (ลูกา 10:8–9) ก่อนพระคริ สต์ การอัศจรรย์มีไม่มาก เป็ นการมาเยีย่ มเยียนครั้งประวัติศาสตร์
ของพระเจ้า ไม่มีของประทานในการรักษาคนตาบอด คนพิการ หรื อคนหูหนวก คนที่โดดเด่น เช่น ดาวิด เอสรา เนหะมีย ์ เยเรมีย ์
และเอสเธอร์ ไม่เคยพบเห็นสิ่ งมหัศจรรย์ทางร่ างกายเลยสักครั้ง และบางคนไม่เคยประสบกับสิ่ งเหนือธรรมชาติเลย เอสราไม่
เคยรู้สึกถึงการเคลื่อนไหวของพระวิญญาณ เขาไม่เคยมีนิมิต การเรี ยก พระสุ รเสี ยง หรื อแม้แต่การแต่งตั้งเป็ นผูเ้ ผยพระวจนะ เขา
สามารถไว้วางใจพระคำเพียงอย่างเดียว โดยทัว่ ไปแล้ว หมายสำคัญและการอัศจรรย์บางอย่างที่เห็นนั้นเป็ นการสำแดงเพื่อว่า
กล่าวผูป้ กครอง เช่น เจ้านายที่กดขี่ของอียปิ ต์ บาบิโลน และอิสราเอล การอัศจรรย์เหล่านี้มีจุดประสงค์เพื่อทำให้พวกเขาถ่อมใจ
เช่นเดียวกับที่เคยทำกับเนบูคดั เนสซาร์ เขาถูกบังคับให้ยอมรับว่าพระเจ้า “การปกครองของพระเจ้ าเป็ นการปกครองนิรันดร์
และราชอาณาจักรของพระองค์ ด ำรงอยู่ทุกชั่วอายุ...บัดนีต้ ัวเราคือเนบูคัดเนสซาร์ ขอสรรเสริ ญ ยกย่ องและถวายพระเกียรติแด่
พระมหาราชาแห่ งสวรรค์ ” (ดาเนียล 4:34, 37)

โดยปกติแล้วเหตุการณ์ดงั กล่าวเป็ นการพิพากษา เช่นเดียวกับโรคระบาดในอียปิ ต์ แต่คุณสมบัติที่สูงกว่าของฤทธิ์


อำนาจของราชอาณาจักรคือความกรุ ณาและความเมตตา ยอห์น ผูใ้ ห้บพั ติศมา ผูเ้ ผยพระวจนะคนสุ ดท้ายในพันธสัญญาเดิม คาด
หวังการพิพากษาอย่างรุ นแรงเมื่อพระเมสสิ ยาห์เสด็จมา เขาพูดถึงไฟที่ช ำระและเผาแกลบ แต่เมื่อพระเยซูให้บพั ติศมาด้วยไฟ
แทนที่จะทำลายและพิพากษา ไฟแห่งความรักก็มา พระเยซูทรงรักษาคนป่ วย พระเยซูทรงส่ งข้อความถึงยอห์น ผูใ้ ห้บพั ติศมา
เพื่อแสดงว่าไฟของพระองค์คือความเดือดดาลต่อความชัว่ ร้ายที่มนุษย์ตอ้ งทนทุกข์ พระองค์คือผูท้ ี่จะมา ของประทานแห่งพระ
วิญญาณมีเมตตากรุ ณาและกรุ ณา
“และบัดนี ้ ทั้งสามสิ่ งนี ย้ งั ดำรงอยู่ คือความเชื่ อ ความหวัง และความรั ก แต่ ความรั กนั้นใหญ่ ที่สุดในสามสิ่ งนี”้ (1 โค
ริ นธ์ 13:13) จงเดินอย่างชื่นชมยินดีในความรักของพระเจ้าในวันนี้
21
สิ งหาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“เพราะเหตุน้ ีขา้ พเจ้าจึงต้องทนทุกข์ล ำบากเช่นนี้ แต่ขา้ พเจ้าก็ไม่อบั อาย เพราะว่าข้าพเจ้ารู้จกั พระองค์ที่ขา้ พเจ้าเชื่อ และข้าพเจ้า
เชื่อมัน่ ว่า พระองค์ทรงสามารถรักษาสิ่ งที่พระองค์ทรงมอบไว้กบั ข้าพเจ้า จนถึงวันพิพากษาได้” (2 ทิโมธี 1:12)
ไฟประจำวัน!
“แต่ท่านถูกแทงเพราะความทรยศของเรา ท่านบอบช้ำเพราะความบาปผิดของเรา การตีสอนที่ตกบนท่านนั้นทำให้พวกเรามีสวัส
ดิภาพ และที่ท่านถูกเฆี่ยนตีกท็ ำให้เราได้รับการรักษา” (อิสยาห์ 53:5)
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
อิสยาห์ 53:5; มัทธิว 27:45–56; กาลาเทีย 4:4; 2 ทิโมธี 1:12
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
1 ซามูเอล 13; โรม 11
เย็น:
เยเรมีย ์ 50; สดุดี 28 และ 29
พระราชกิจที่ยงิ่ ใหญ่ ที่สุดของพระองค์
ความรอดเป็ นพระราชกิจที่ยงิ่ ใหญ่ที่สุดของพระวิญญาณบริ สุทธิ์ มันไม่ได้นำมาซึ่งผลลัพธ์เล็กๆ น้อยๆ เช่น การแก้ไข
คุณ ทำให้คุณเคร่ งศาสนา หรื อปรับคุณให้เข้ากับธรรมชาติ การทรงสร้างฟ้ าสวรรค์และแผ่นดินโลกนั้นพระเจ้าใช้เวลาแค่ 6 วัน
แต่พระองค์ใช้เวลาหลายศตวรรษเพื่อจัดเตรี ยมความรอดของมนุษยชาติ พระองค์ท ำงานในสถานที่ต่าง ๆ เช่น อียปิ ต์ อิสราเอล
บาบิโลน โรม ผ่านทางคนดีและคนชัว่ ตลอดประวัติศาสตร์ จนกระทัง่ เมื่อ “ครบกำหนดแล้ ว” พระเยซูเสด็จมา (กาลาเทีย 4:4)
มันส่ งผลกระทบต่อทุกสิ่ งและทุกคนแม้แต่พระเจ้าเอง พระบุตรของพระเจ้าถูกพรากจากข้างพระองค์ พรากความชื่นชมยินดีจาก
ทูตสวรรค์ เผชิญชีวิตจากคอกม้าอันต่ำต้อยในเบธเลเฮม จากนั้นพระองค์กเ็ ผชิญความตายบนที่กลโกธา ทำสงครามกับซาตาน
ในการต่อสู้ครั้งนั้น แผ่นดินโลกสัน่ สะเทือน ก้อนหิ นแตกออก ดวงอาทิตย์ดบั มืดจากท้องฟ้ า

แล้ วก็เกิดความมืดมัวทั่วแผ่ นดิน ตั้งแต่ เวลาเที่ยงวันจนถึงบ่ ายสามโมง...และพระเยซูทรงร้ องเสี ยงดังอีกครั้ งหนึ่ง แล้ ว
สิ ้นพระชนม์ และนี่ แน่ ะ ม่ านในพระวิหารก็ฉีกขาดออกเป็ นสองท่ อนตั้งแต่ บนตลอดล่ าง แผ่ นดินก็ไหว ศิลาก็แตก
ออกจากกัน อุโมงค์ ฝังศพต่ างๆ ก็เปิ ดออก ศพของธรรมิกชนหลายคนที่ล่วงหลับไปแล้ วก็เป็ นขึน้ มา...แต่ นายร้ อยและ
พวกทหารที่เฝ้ าพระเยซูอยู่ด้วยกัน เมื่อเห็นแผ่ นดินไหวและสิ่ งต่ างๆ ที่ เกิดขึน้ นั้น ก็กลัวอย่ างยิ่ง จึ งพูดกันว่ า “ท่ านผู้นี้
เป็ นพระบุตรของพระเจ้ าจริ งๆ!” เนื่องจากตะลึงกับฉากที่น่าพึงกลัวเช่ นนี ้ ศัตรู ของพระองค์ ที่ร้องโหยหวนราวกับ
หมาป่ าเพื่อเลือดของพระองค์ กพ็ ากันวิ่งหนีด้วยความกลัว นรกรู้ สึกถึงผลกระทบ พระเยซูคริ สต์ ทรงแหวกหิ นแกรนิต
ของอุโมงค์ ฝังศพที่ปิดตายออก เปิ ดประตูแห่ งความตาย นำเชลยออกมา และเสด็จขึน้ เหนือสิ ทธิ อ ำนาจทั้งปวงเพื่อ
ถวายบาดแผลของพระองค์ แด่ พระบิดา บาดแผลเพื่อคุณและผม! นี่คือเหตุการณ์ สำคัญที่ท ำให้ ความรอดของคุณและ
ผมเป็ นไปได้ มันเป็ นเรื่ องใหญ่ เกินไปที่คุณจะไม่ ร้ ู ว่าคุณถูกช่ วยให้ รอดแล้ ว ! นี่ไม่ ใช่ แค่ การมีความหวังหรื อมองโลก
ในแง่ ดี พระคำกล่ าวไว้ เช่ นนี ้ จงมีความมัน่ ใจในพระคริ สต์ ว่าคุณได้ รับของประทานที่ยิ่งใหญ่ ที่สุดของพระองค์ แล้ ว
จงขอบพระคุณพระองค์ สำหรั บของขัญนั้น จงเดินในสิ่ งนี ้ จงแบ่ งปั นและเพลิดเพลินกับสิ่ งนี ้ และนำสิ่ งนีไ้ ปใช้ กับ
ความท้ าทายของคุณในวันนี ้
22
สิ งหาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“ลูกทั้งหลายเอ๋ ย ท่านอยูฝ่ ่ ายพระเจ้า และชนะพวกเขาแล้ว เพราะว่าพระองค์ผทู้ รงอยูใ่ นพวกท่านยิง่ ใหญ่กว่าผูท้ ี่อยูใ่ นโลก” (1
ยอห์น 4:4)
ไฟประจำวัน!
ข้าพเจ้าเชื่อมัน่ ว่า พระองค์ทรงสามารถรักษาสิ่ งที่พระองค์ทรงมอบไว้กบั ข้าพเจ้า จนถึงวันแห่งการปรากฏของพระองค์ได้ (ดู 2
ทิโมธี 1:12)
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
มัทธิว 7:16; โรม 8:16; 2 ทิโมธี 1:12; 2:19; 2 เปโตร 1:4; 1 ยอห์น 3:14
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
1 ซามูเอล 14; โรม 12
เย็น:
เยเรมีย ์ 51;
สดุดี 30
ไม่ มีการลอกเลียนแบบ
“แต่ ว่ารากฐานอันแข็งแกร่ งของพระเจ้ าตั้งมัน่ อยู่และปรากฏคำจารึ กดังนี ้ “องค์ พระผู้เป็ นเจ้ าทรงรู้ จักบรรดาคนของ
พระองค์ ” และ “ให้ ทุกคนที่ออกพระนามขององค์ พระผู้เป็ นเจ้ าละทิง้ ความชั่ว”” (2 ทิโมธี 2:19) มีความมัน่ ใจผิดๆ ที่แสดงออก
มาด้วยความเย่อหยิง่ โอ้อวดประสบการณ์ของความรอด ซึ่งไม่สำแดงให้เห็นในอุปนิสยั พฤติกรรม และการดำเนินชีวิตของ
บุคคล “พวกท่ านจะรู้ จักพวกเขาได้ ด้วยผลของพวกเขา” (มัทธิว 7:16) คนเหล่านี้เป็ นคริ สเตียนปลอม “เรารู้ ว่าเราได้ พ้นจาก
ความตายไปสู่ชีวิตแล้ ว ก็เพราะเรารั กพี่น้อง ผู้ที่ไม่ รักก็ยงั อยู่ในความตาย” (1 ยอห์น 3:14) มีอนั ตรายที่แฝงอยู่ ผูค้ นสามารถเลียน
แบบและดำเนินชีวิตเหมือนคริ สเตียนได้ แต่ไม่ได้รับความรอด
บางคนเลี้ยงนกแก้ว นกแก้วเป็ นนักเลียนแบบตั้งแต่เกิด เพื่อนของผมมีแอฟริ กนั เกรย์พนั ธุ์ดีชื่อพอลลี่ ซึ่งสามารถพูดซ้ำ
ในสิ่ งที่คนอื่นพูดได้ โดยดูเหมือนเป็ นเสี ยงของพวกเขาเอง บางครั้ งก็ยากที่จะบอกได้วา่ ใครเป็ นคนพูด นกตัวนั้นพูดราวกับว่า
มันเป็ นหนึ่งในครอบครัวและใช้เสี ยงของมนุษย์ มันพยายามที่จะเข้าร่ วมในการสนทนาค่อนข้างบ่อย แต่อนิจจา พอลลี่ผนู้ ่า
สงสาร แม้วา่ มันจะพูดได้เหมือนมนุษย์ และอาจคิดว่ามันเป็ นมนุษย์คนหนึ่ง แต่มนั ก็ยงั เป็ นแค่นกแก้ว ผูค้ นมากมายดำเนินชีวิต
เหมือนคริ สเตียนด้วยการเลียนแบบ พวกเขาทำในสิ่ งที่คริ สเตียนควรทำ พวกเขาพูดเลียนแบบเหมือนนกแก้วทุกคำ แต่ไม่ใช่เสี ยง
ดนตรี ที่เปี่ ยมไปด้วยพระสิ ริของผูไ้ ด้รับการไถ่ซ่ ึงตอบสนองต่อสวรรค์ ชีวิตของพวกเขาล้วนเป็ นการงานและความพยายาม พวก
เขาอาจจะเลียนแบบได้ค่อนข้างดี บางครั้งทำได้ดีกว่าคริ สเตียนจริ งๆ แต่พวกเขาเป็ นคริ สเตียนหรื อไม่? คริ สเตียนบังเกิดใหม่จาก
เบื้องบน นัน่ คือพระบิดาฝ่ ายวิญญาณที่แท้จริ งของพวกเขาอยูใ่ นสวรรค์ "พระวิญญาณนั้นเป็ นพยานร่ วมกับจิ ตวิญญาณของเรา
ว่ า เราเป็ นลูกของพระเจ้ า” (โรม 8:16) เมื่อคุณเป็ นของพระองค์อย่างแท้จริ ง คุณก็จะรู้
ตอนนี้เราทุกคนจะล้มลง แต่ความรอดยังคงทำงานในตัวเราเพื่อเอาชนะความอ่อนแอของเรา ความปรารถนาของเราที่
จะทำให้องค์พระผูเ้ ป็ นเจ้าพอพระทัยจะต้องเป็ นจริ ง อย่างน้อยก็จนถึงวันที่การทรงไถ่ของเราสมบูรณ์และเราจะได้เห็นพระ
พักตร์ที่งดงามของพระองค์ จนกว่าจะถึงเวลานั้น เราสามารถพูดได้เหมือนที่เปาโลกล่าวไว้วา่ “ข้ าพเจ้ า…เชื่ อมัน่ ว่ า พระองค์ ทรง
สามารถรั กษาสิ่ งที่พระองค์ ทรงมอบไว้ กับข้าพเจ้ า จนถึงวันนั้นได้ ” (2 ทิโมธี 1:12) จงเห็นด้วยกับสิ่ งนี้ในวันนี้ !

23
สิ งหาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“ข้าพเจ้าไม่ขออวดอะไรนอกจากเรื่ องกางเขนของพระเยซูคริ สต์องค์พระผูเ้ ป็ นเจ้าของเรา ซึ่งโดยกางเขนนั้นโลกได้ตายจาก
ข้าพเจ้า และข้าพเจ้าก็ได้ตายจากโลก” (กาลาเทีย 6:14)
ไฟประจำวัน!
ฉันจะโอ้อวดในไม้กางเขนของพระเยซูคริ สตเจ้าของฉันเพื่อพวกเราที่ก ำลังถูกช่วยให้รอด นี่เป็ นฤทธิ์ อ ำนาจของพระเจ้า
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
อิสยาห์ 22:23; ยอห์น 19:1–42; 20:24–39; กาลาเทีย 6:14; 1 โคริ นธ์ 1:18
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
1 ซามูเอล 15; โรม 13
เย็น:
เยเรมีย ์ 52;
สดุดี 31
จงโอ้ อวดในพระคริสต์ เท่ านั้น
ไม่มีใครสามารถเอาพระสิ ริของพระคริ สต์ไปได้ และเวลาก็ไม่อาจลดทอนพระสิ ริได้ มันมีอยูใ่ นตัวของพระองค์เอง
และไม่ได้เกิดจากการเฉลิมฉลองเทียมหรื อสถานการณ์ภายนอก พระองค์ไม่ตอ้ งการการแสดงที่ยอดเยีย่ ม พระสิ ริของพระองค์
ส่ องผ่านฉลองพระองค์ของชาวชนบท ตรึ งพระองค์ไว้บนไม้กางเขน ก็ไม่ท ำลายอะไรไปจากพระองค์ได้ พระองค์เอาชนะมัน
เปลี่ยนสิ่ งที่น่าละอายนี้ให้กลายเป็ นสัญลักษณ์แห่งพระสิ ริที่ยงิ่ ใหญ่ที่สุดในแผ่นดินโลก
พระเยซูคริ สต์ถูกตรึ งบนไม้กางเขนหยาบๆ ซึ่งเป็ นรู ปแบบการประหารชีวิตที่โหดร้ายที่สุดที่มนุษย์ยงั รู้จกั พระองค์ถูก
ถอดเสื้ อผ้าให้ล่อนจ้อน (ไม่เหมือนกับภาพที่แต่งตัวที่เราเคยเห็นทัว่ ไป) ความอ่อนน้อมถ่อมตนที่สุด และถูกแขวนเป็ นเวลา
หลายชัว่ โมงโดยปราศจากการป้ องกันจากสภาพอากาศหรื อความอับอาย

ดังนั้น [โธมัส] ตอบพวกเขาว่า “ถ้าข้าไม่เห็นรอยตะปูที่พระหัตถ์ของพระองค์ และไม่ได้เอานิ้วของข้าแยงเข้าไปที่รอย


ตะปูน้ นั และไม่ได้เอามือของข้าแยงเข้าไปที่สีขา้ งของพระองค์แล้ว ข้าจะไม่เชื่อเลย”...แล้วพระองค์ตรัสกับโธมัสว่า “เอานิ้วของ
ท่านแยงที่นี่ และดูที่มือของเรา ยืน่ มือของท่านออกมาคลำที่สีขา้ งของเรา อย่าสงสัยเลย แต่จงเชื่อ”...คนที่ไม่เห็นเราแต่เชื่อก็
เป็ นสุ ข” (ยอห์น 20:25, 27, 29) เครื่ องมือที่อปั ลักษณ์ที่สุดในการทรมานและความเกลียดชังของมนุษย์ (เหนียวเหนอะหนะด้วย
พระโลหิ ตและความกล้า) ได้รับการเปลี่ยนแปลงอย่างมากจนอดีตศัตรู ตอ้ งร้องว่า “ข้าพเจ้าไม่ขออวดอะไรนอกจากเรื่ องกางเขน
ของพระเยซูคริ สต์องค์พระผูเ้ ป็ นเจ้าของเรา ” (กาลาเทีย 6:14) ไม่มีทางที่จะทำลายพระสิ ริของพระองค์ได้ ยิง่ คุณโจมตีพระองค์
มากเท่าไร ความเมตตา ความเห็นอกเห็นใจ และความอดทนของพระองค์กย็ งิ่ ปรากฏมากขึ้นเท่านั้น ผูท้ ี่เป็ นศัตรู ของพระองค์
เท่านั้นที่ให้โอกาสแก่พระองค์ในการให้อภัย แสวงหา ช่วยให้อรด และสำแดงพระสิ รินิรันดร์แห่งความรักที่ไม่มีวนั ทำลายได้
ของพระองค์ ให้เราตะโกนว่า “ฮาเลลูยา ช่างเป็ นพระผูช้ ่วยให้รอดที่ยอดเยีย่ มจริ งๆ!”

24
สิ งหาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“ขอทรงล้างข้าพระองค์ และข้าพระองค์จะขาวกว่าหิ มะ ขอทรงให้ขา้ พระองค์ได้ยนิ ความปี ติและความยินดี ขอกระดูกซึ่งพระ
องค์ทรงหักนั้นเปรมปรี ด์ ิ ขอซ่อนพระพักตร์ พระองค์จากบาปทั้งหลายของข้าพระองค์ และขอทรงลบความชัว่ ทั้งสิ้ นของข้าพระ
องค์ ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงเนรมิตสร้างใจสะอาดในข้าพระองค์ และขอทรงสร้างจิตใจหนักแน่นขึ้นใหม่ภายในข้าพระองค์”
(สดุดี 51:7–10)
ไฟประจำวัน!
พระเยซูของฉัน พระผูช้ ่วยให้รอดของฉัน ได้ลา้ งบาปของฉันจนหมดสิ้ นแล้ว ตอนนี้ ฉนั สวมความชอบธรรมของพระองค์
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
อิสยาห์ 53:1; ยอห์น 13:1–17; 19:37
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
1 ซามูเอล 16; โรม 14
เย็น:
บทเพลงคร่ำครวญ 1; สดุดี 32
ช่ างเป็ นผู้รับใช้ ที่ดจี ริงๆ!
ใครเป็ นใหญ่ที่สุดในราชอาณาจักรของพระเจ้า? อาจจะเป็ นคนที่ไม่เป็ นที่รู้จกั แต่แน่นอนว่าคือผูท้ ี่รับใช้โดยไม่มีแรง
จูงใจแอบแฝง ไม่ตอ้ งสงสัยเลยว่าผูท้ ี่ยงิ่ ใหญ่ที่สุดคือผูท้ ี่เอาผ้าเช็ดเท้าและล้างเท้าของเหล่าสาวก และเมื่อน้ำไม่ช่วย พระองค์ก็
ทรงหลัง่ พระโลหิ ตแห่งชีวิตของพระองค์เพื่อชำระล้างมนุษยชาติ พระเยซูคริ สต์ ช่างเป็ นผูร้ ับใช้ที่ดีจริ ง ๆ ที่มาล้างหัวใจและเท้า
ของมวลมนุษยชาติ!

พระเยซูทรงทราบว่ าพระบิดาประทานทุกสิ่ งไว้ ในพระหั ตถ์ ของพระองค์ และทรงทราบว่ าพระองค์ มาจากพระเจ้ าและ
จะไปหาพระเจ้ า พระองค์ ทรงลุกจากการเสวยอาหาร ทรงถอดฉลองพระองค์ ออกวางไว้ และทรงเอาผ้ าเช็ดตัวคาดเอว
ของพระองค์ แล้ วทรงเทน้ำลงในอ่ างและทรงเอาน้ำล้ างเท้ าของพวกสาวก และทรงเช็ดด้ วยผ้ าที่ทรงคาดเอวไว้
นั้น...เมื่อพระองค์ ทรงล้ างเท้ าของพวกเขาแล้ ว พระองค์ กท็ รงฉลองพระองค์ แล้ วประทับลงตรั สกับเขาว่ า “พวกท่ าน
เข้าใจสิ่ งที่เราทำกับท่ านหรื อไม่ ? พวกท่ านเรี ยกเราว่ าพระอาจารย์ และองค์ พระผู้เป็ นเจ้ า ท่ านเรี ยกถูกแล้ว เพราะเรา
เป็ นอย่ างนั้น เพราะฉะนั้นถ้ าเราผู้เป็ นองค์ พระผู้เป็ นเจ้ าและพระอาจารย์ ยงั ล้ างเท้ าของพวกท่ าน ท่ านก็ควรจะล้ างเท้ า
ของกันและกันด้ วย (ยอห์ น 13:3–5, 12–14) พระองค์ คือผู้ที่เราจะเห็น “พวกเขาจะมองดูพระองค์ ผ้ ทู ี่เขาแทง” (ยอห์ น
19:37) นั่นคือเอกลักษณ์ พิเศษของพระองค์ นั่นคือพระองค์ ทรงเป็ น “ผู้ถกู แทง” และ “เขาจะเห็นความลำบากแห่ ง
จิ ตใจของเขาและจะพึงพอใจ” (อิสยาห์ 53:11) พระสิ ริของพระองค์ จะเสด็จมาพร้ อมกับธรรมิกชนของพระองค์ ผู้ถกู
ชำระล้ างด้ วยพระโลหิ ต ไม่ใช่ ผ้ เู สี ยชื่ อ ผู้สะสมทรั พย์ สมบัติและรางวัล ถ้ วยและเหรี ยญตรา แต่ เป็ นผู้ที่ได้ รับการไถ่
พระองค์ ทรงไถ่ พวกเขา แสวงหาพวกเขา พบพวกเขา และยกพวกเขาขึน้ สู่พระสิ ริ !
ช่างเป็ นพระสิ ริที่ดีจริ งๆ! พระองค์ทรงทำให้คนที่น่ารังเกียจหอมกรุ่ นไปด้วยพระคุณ บัดนี้ ผแู้ ปดเปื้ อนถูกสวมใส่ความ
ชอบธรรม คนที่ไม่สะอาดได้ถูกล้างมลทินด้วยน้ำตาของพระองค์ อธิษฐานเผือ่ ที่ใต้ตน้ มะกอกของเกทเสมนี ที่ซ่ ึงพระเยซูทรง
หลัง่ เหงื่อพร้อมกับพระโลหิ ต
จงตัดสิ นใจในวันนี้ (ครั้งแล้วครั้งเล่า) ว่าคุณจะไม่ มีวนั ลืมที่จะถวายเกียรติและให้คุณค่ากับพระเยซูคริ สต์ พระเมษ
โปดกของพระเจ้า

25
สิ งหาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“ข้าพเจ้าต้องการจะรู้จกั พระองค์ คือรู้จกั ฤทธิ์เดชแห่งการคืนพระชนม์ของพระองค์” (ฟิ ลิปปี 3:10)
ไฟประจำวัน!
พระบิดา ข้าพระองค์ขออธิษฐานว่าความเชื่อของข้าพระองค์จะไม่ข้ ึนกับปัญญาของมนุษย์ แต่ข้ ึนกับฤทธิ์ เดชของพระเจ้า
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
ยอห์น 1:16; 15:4; 1 โคริ นธ์ 2:5; เอเฟซัส 1:23; ฟี ลิปปี 3:10–11; ยากอบ 1:17
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
1 ซามูเอล 17; โรม 15
เย็น:
บทเพลงคร่ำครวญ 2; สดุดี 33
ตัวนำไฟฟ้ า
ถ้างานของเราคือการผลิตฤทธิ์ อ ำนาจของพระเจ้า เราจะเป็ นเครื่ องกำเนิดพลังงาน แต่พระคริ สต์ ประทานฤทธิ์ อ ำนาจ
ให้ แก่ เรา เราไม่ได้ถูกเรี ยกให้ออกไปทัว่ โลกด้วยโรงไฟฟ้ าเล็กๆ ของเราเอง เพื่อให้คนอื่นคิดว่าเรายอดเยีย่ มแค่ไหน เราสามารถ
เดินเฉลิมฉลองความสามารถพิเศษของเราและทำให้ประกายไฟปลิวว่อนเป็ นเวลาหนึ่งชัว่ โมง แต่ในไม่ชา้ โรงไฟฟ้ าของเราก็จะ
หมดเชื้อเพลิง เราไม่ใช่เครื่ องกำเนิด แต่เป็ นตัวนำไฟฟ้ า “…คริ สตจักรเป็ นพระกายของพระคริ สต์ ซึ่ งเป็ นความบริ บูรณ์ ของพระ
องค์   ผู้ทรงเติมทุกอย่ างในทุกแห่ งให้ เต็มบริ บูรณ์ ” (เอเฟซัส 1:22–23) เราเป็ นช่องทาง ไม่ใช่แหล่งที่มา “แขนงจะออกผลเองไม่
ได้ นอกจากจะติดสนิทอยู่กับเถา พวกท่ านก็เช่ นเดียวกันจะเกิดผลไม่ ได้ นอกจากจะติดสนิทอยู่กับเรา” (ยอห์น 15:4)
พระเจ้าไม่ตอ้ งการไดนาโมพลังงานใดๆ ของเรา พระองค์ทรงมีของพระองค์เอง นัน่ คือไม้กางเขนและอุโมงค์ที่วา่ ง
เปล่าของพระองค์เอง ฤทธิ์ อำนาจไหลออกมาจากแหล่งเหล่านั้นตลอดไป ไม่มีการไหลที่ผนั ผวน “พระผู้สร้ างแห่ งบรรดาดวง
สว่ าง ในพระองค์ ไม่ มีการแปรปรวนหรื อเงาของการเปลี่ยนแปลง” (ยากอบ 1:17)

ข้ าพเจ้ าต้ องการจะรู้ จักพระองค์ คือรู้ จักฤทธิ์ เดชแห่ งการคืนพระชนม์ ของพระองค์ และรู้ จักการมีส่วนร่ วมในความ
ทุกข์ ของพระองค์ และเป็ นเหมือนกับพระองค์ ในความตายนั้น ทั้งมุ่งหวังที่จะได้ เป็ นขึน้ จากความตายด้ วย (ฟิ ลิปปี
3:10–11) นี่คืออุปกรณ์ ทั้งหมดของเรา ฤทธิ์ อ ำนาจฝ่ ายวิญญาณของไม้ กางเขนและการเป็ นขึน้ มาจากความตาย สาย
พลังแห่ งพระคำของพระเจ้ า ฟิ วส์ แห่ งความเชื่ อของเรา การเชื่ อมโยงที่ส ำคัญ สิ่ งเหล่ านีใ้ ห้ ฤทธิ์ อ ำนาจแก่ เราสำหรั บ
ความจำเป็ นทุกอย่ าง เพื่อเปลี่ยนแปลงชี วิต เพื่อทำลายนิสัยชั่วร้ าย เพื่อรั กษาคนป่ วย และส่ องสว่ างบนทางหลวงแห่ ง
ชี วิตที่มืดมนดั่งมรสุม ไม่มีฤทธิ์ อ ำนาจใดที่ถกู สร้ างขึน้ ในแผ่ นดินโลกที่สร้ างขึน้ ในหลอดทดลองหรื อในอุตสาหกรรม
สามารถทำสิ่ งเหล่ านั้นได้ ฤทธิ์ อ ำนาจของพระเจ้ าคือพลังที่ยิ่งใหญ่ บนแผ่ นดินโลกที่จะจัดการกับปั ญหาที่ยากจะเข้ าใจ
ในชี วิต! จงสัมผัสฤทธิ์ อ ำนาจนั้นได้ แล้ วในวันนี !้
26
สิ งหาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“ดูสิ พระเจ้าเป็ นความรอดของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะวางใจและไม่กลัว เพราะพระยาห์เวห์ คือพระยาห์เวห์เองทรงเป็ นกำลังและบท
เพลงของข้าพเจ้า และพระองค์ทรงเป็ นความรอดของข้าพเจ้าแล้ว” (อิสยาห์ 12:2)
ไฟประจำวัน!
ข้าแต่องค์พระผูเ้ ป็ นเจ้า ต่อพระพักตร์พระองค์มีความยินดีเปี่ ยมล้น ข้าพระองค์จะสามารถขออะไรได้อีก ?
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
เนหะมีย ์ 8:10; สดุดี 16:11; อิสยาห์ 12:2
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
1 ซามูเอล 18; โรม 16
เย็น:
บทเพลงคร่ำครวญ 3; สดุดี 34
เสี ยบปลัก๊
ในงานสัมมนาครั้งหนึ่ง ผมได้ยนิ คนหนุ่มสาวบางคนพูดว่า “เราต้องเป็ นเปิ ดสวิตช์เพื่อพระเยซู ทั้งหมดที่ตอ้ งทำก็คือ
การเปิ ดสวิตช์เพื่อพระองค์” ผมหันไปพวกเขา “ใช่ เป็ นการดีที่จะเปิ ดสวิตช์เพื่อพระเยซู แต่ที่สำคัญกว่านั้นต้องเสี ยบปลัก๊ ด้วย
การเปิ ดสวิตช์เพื่อพระเยซูจะไร้ประโยชน์ ถ้าเราไม่ได้เสี ยบปลัก๊ เราต้องเชื่อมต่อก่อน” การเปิ ดสวิตช์ที่ตวั เราไม่ก่อให้เกิด
กระแสไฟฟ้ า
ฤทธิ์อำนาจของพระเจ้าที่มาผ่านทางพระคำมาถึงฟิ วส์แห่งความเชื่อก่อน และนัน่ อาจเป็ นนักเทศน์ สะพานแห่งพลัง
เล็ก ๆ นั้นสามารถเริ่ มอบอุ่นได้ นักเทศน์แห่งพระคำเป็ นคนแรกที่รู้สึกถึงความอบอุ่นนั้น เขาเผาไหม้ดว้ ยประจุ เขามีแนวโน้มที่
จะแสดงมันและเขาควรสำแดงออกมา เขาเป็ นผูส้ ื่ อสาร ไม่ใช่จากความคิดของเขาเอง แต่จากฤทธิ์ อ ำนาจของพระเจ้า เขาควรจะ
เป็ นสายที่มีชีวิต
นักเทศน์คือชายผูม้ ีประสบการณ์กบั พระเจ้าในที่สาธารณะ ถ้าเขากดความเบิกบานของเขาเอาไว้ และเอาความขัดเกลา
ความสง่างาม และความเหมาะสมมาเป็ นอันดับแรก เขาก็ควรระลึกว่าสิ่ งเหล่านี้ไม่ใช่ผลของพระวิญญาณ แต่ความชื่นชมยินดีใช่
“ความชื่ นบานของตนในพระยาห์ เวห์ เป็ นกำลังของท่ าน” (เนหะมีย ์ 8:10) ไม่ใช่ความอ่อนแอของคุณ

ถ้าช่างไฟฟ้ าที่มีประสบการณ์สมั ผัสสายเปลือยแล้วเกิดไฟช็อต เขาอาจพูดว่า “อุย๊ !” แต่ใครก็ตามที่ถูกไฟฟ้ าช็อตเป็ น


ครั้งแรกมักจะแสดงปฏิกิริยาโต้ตอบในรู ปแบบที่น่าทึ่งกว่า "ว้าว!" ฤทธิ์อ ำนาจของพระเจ้าไม่ใช่เรื่ องแต่ง แต่เป็ นข้อเท็จจริ ง มัน
เป็ นความเป็ นจริ งที่ยิง่ ใหญ่ที่สุดที่เรารู้
ถ้าพระเจ้าทรงสำแดงพระองค์เอง เราจะคาดหวังอะไร? สุ สานหรื อการเป็ นขึ้นมาจากความตาย? ชีวิตที่ไม่หยุดนิ่งอาจดู
ไม่สมเหตุสมผลในตอนแรก แต่เมื่อผูค้ นมีประสบการณ์กบั กระแสแห่งพระพรจากพระเจ้า พวกเขาจะรู้สึกซาบซึ้ งว่าทำไมมันถึง
ไม่หยุดนิ่ง ไม่มีใครรู้วา่ การพบพระเยซูคริ สต์เป็ นอย่างไรจนกว่าพวกเขาจะได้พบ นักเทศน์ผรู้ ่ าเริ งคนหนึ่งได้รับการบอกกล่าว
ว่า “โปรดยับยั้งตัวเอง!” เขาตอบว่า "ผมกำลังยับยั้งตัวเองอยู!่ " อย่าปล่อยให้ความกังวลของโลกนี้ รู ปลักษณ์ภายนอก หรื อความ
เย่อหยิง่ ทำให้คุณขาดความชื่นชมยินดีในชีวิตของคุณในพระคริ สต์!
27
สิ งหาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“นี่ แน่ะ เรายืนเคาะอยูท่ ี่ประตู ถ้าใครได้ยนิ เสี ยงของเราและเปิ ดประตู เราจะเข้าไปหาเขาและจะรับประทานอาหารร่ วมกับเขา
และเขาจะรับประทานอาหารร่ วมกับเรา” (วิวรณ์ 3:20)
ไฟประจำวัน!
โดยความเชื่อ ฉันได้ยนิ พระเจ้าเคาะประตูหวั ใจของฉัน และฉันก็เต็มใจเปิ ดหัว
ใจของฉันให้แก่พระองค์
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
มัทธิว 6:10; 8:2; 12:18; โรม 10:21
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
ซามูเอล 19; 1 โคริ นธ์ 1
เย็น:
บทเพลงคร่ำครวญ 4; สดุดี 35
ใบหน้ าที่ต้อนรับของความเชื่อ
คนที่ทุกข์ยากมักถูกคิดว่าเป็ นคนที่ฉลาดน้อย พระคัมภีร์ไม่ได้เป็ นเช่นนั้น ยกตัวอย่างคือคนโรคเรื้ อนที่กล่าวถึงใน
มัทธิว บทที่ 8 เขามีไหวพริ บโดดเด่นและเห็นสิ่ งที่คนอื่นๆ แสดงออกมาน้อยมาก เขาพบพระเยซูและพูดว่า “เพียงแต่ พระองค์
จะโปรด ก็จะทรงบันดาลให้ ข้าพระองค์ หายสะอาดได้ ” (มัทธิว 8:2) หลายคนวางเกวียนไว้ขา้ งหน้าม้าและพูดว่า "ถ้าคุณทำได้
คุณก็จะทำ" นัน่ คือความคิดของมนุษย์ ไม่ใช่การเปิ ดเผยสำแดง และไม่ใช่การพูดคุยในพระคัมภีร์อย่างแน่นอน พระเจ้าทำได้
เสมอ แต่พระองค์จะทำหรื อไม่?
สำหรับคนโรคเรื้ อนนั้น นัน่ เป็ นการเปิ ดเผยสำแดง เขาเห็นว่าทุกอย่างขึ้นอยูก่ บั น้ำพระทัยของพระคริ สต์ ความเชื่อของ
คนโรคเรื้ อนเป็ นสิ่ งที่สมเหตุสมผลว่า “ถ้ าพระองค์ จะโปรด พระองค์ สามารถทำได้ ” พระคัมภีร์ไม่ได้เขียนขึ้นเพื่อบอกเราว่า
พระเจ้าสามารถทำอะไรได้บา้ ง เราทุกคนรู้เรื่ องนั้นดี พระเจ้าทรงมหิ ทธิฤทธิ์ ไม่ง้ นั เราก็จะไม่เรี ยกพระองค์วา่ พระเจ้า พระคัมภีร์
อยูท่ ี่นี่เพื่อบอกเราว่าพระองค์จะทรงทำอะไร นัน่ คือสิ่ งที่เราต้องการทราบ แล้วพระองค์ประสงค์จะทำอะไร? คำตอบก็คือ “พระ
คำของพระองค์คือน้ำพระทัยของพระองค์” คำตอบสั้น ๆ แต่ความจริ งแล้วมาในหนังสื อเล่มยาว 66 เล่ม หนังสื อแต่ละเล่มช่วย
เราเป็ นพิเศษ นัน่ คือทำให้เราเข้าใจของเราเกี่ยวกับพระเจ้าและพระลักษณะของพระองค์ แล้วเราจะรู้วา่ พระองค์จะทำอะไร

พระคริ สต์ทรงสอนให้เราอธิษฐานว่า “ขอให้ แผ่ นดินของพระองค์ มาตั้งอยู่ ขอให้ เป็ นไปตามพระทัยของพระองค์ ใน


สวรรค์ เป็ นอย่ างไรก็ให้ เป็ นไปอย่ างนั้นในแผ่ นดินโลก” (มัทธิว 6:10) น้ำพระทัยของพระเจ้าไม่ได้ถูกกระทำบนแผ่นดินโลกนี้
อย่างแน่นอน ความดีงามของพระเจ้ายังคงดำเนินต่อไป แต่มารได้รับอนุญาตให้เป็ นอิสระในเวลานี้ และทำให้ทุกประเด็นซับ
ซ้อน ถ้านี่เป็ นโลกที่สมบูรณ์แบบ ควาเชื่อก็ไม่จ ำเป็ น เมื่อเราเข้าสู่ พระสิ ริ ความเชื่อก็จะไม่ถูกนำมาใช้ ทุกสิ่ งในสวรรค์จะ
ปลอดภัย นัน่ คือความเชื่อกลายเป็ นสิ่ งที่มองเห็นได้ และความชัว่ ร้ายจะถูกแยกออกไป แต่โลกนี้ไม่สมบูรณ์แบบ บาปและมาร
ก่อให้เกิดความไม่แน่นอน โดยเหตุผลแล้ว ตรรกะไม่สามารถสร้างความหวังได้ ตรรกะไม่สามารถทำนายอีก 5 นาทีขา้ งหน้าได้
จะต้องมีความเชื่อในพระเจ้า
คำสำคัญคือ "เราพอใจแล้ว" พระเจ้าเป็ นพระเจ้าแห่งความปรารถนาดี เมื่อเรามาหาพระองค์ เราพบว่าพระกรของ
พระองค์อา้ ออกต้อนรับด้วยความเต็มใจ “ตลอดทั้งวัน เรายื่นมือของเราออกไป” (โรม 10:21) พระพักตร์ของพระองค์ส่องมา
เหนือคุณ!

28
สิ งหาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“พระหัตถ์ของพระเจ้าของเราอยูก่ บั บรรดาผูท้ ี่แสวงพระองค์ให้เกิดผลดี แต่ฤทธานุภาพและพระพิโรธของพระองค์ต่อสู้คนเหล่า
นั้นที่ละทิ้งพระองค์” (เอสรา 8:22)
ไฟประจำวัน!
ข้าพระองค์ได้เก็บรักษาพระดำรัสของพระองค์ไว้ในใจ เพื่อข้าพระองค์จะไม่ท ำบาปต่อพระองค์
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
ผูว้ ินิจฉัย 6:1–40; 7:1–25; 8:1–35; พระธรรมเอสรา; สดุดี 119:11
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
1 ซามูเอล 20; 1 โคริ นธ์ 2
เย็น:
บทเพลงคร่ำครวญ 5; สดุดี 36
จากพระคำล้ วน ๆ
พระธรรมผูว้ ินิจฉัยบอกเราเกี่ยวกับกิเดโอน ผูซ้ ่ ึงเคยได้ยนิ เกี่ยวกับสิ่ งยิง่ ใหญ่ที่พระเจ้าได้ท ำเมื่อนำประชากรของ
พระองค์ออกจากอียปิ ต์ และต้องการเห็นพระเจ้าองค์เดียวกันทำงานในสมัยของเขา เขาเชื่อว่าพระกรอันทรงพลังเมื่อ 2 ศตวรรษ
ก่อนยังไม่สูญเสี ยพละกำลังไป กิเดโอนถามอย่างถูกต้องว่า “การอัศจรรย์ ทั้งหมดของพระองค์ ซึ่งปู่ ย่ าตายายเคยเล่ าให้ เราฟั งอยู่ที่
ไหน?” (ผูว้ ินิจฉัย 6:13) พระเจ้าทรงสำแดงแก่เขา! เรื่ องราวของกิเดโอนบอกว่าชัยชนะอันยิง่ ใหญ่เกิดขึ้นได้อย่างไรโดย
ปราศจากความกล้าหาญและอำนาจของมนุษย์ พระเจ้าทรงปลดปล่อยอิสราเอลตัวน้อยอีกครั้ง ดังที่พระองค์เคยปลดปล่อยพวก
เขาจากอียปิ ต์มาก่อน โดยทรงเอาชนะกองทัพของชาวทะเลทรายขนาดใหญ่ที่สุดที่เคยรวบรวมได้ในสมัยนั้น จนพวกเขาไม่
สามารถกลับมารุ กรานอิสราเอลได้อีก กิเดโอนรู้จกั แต่พระเจ้าจากอดีตจนถึงตอนนั้นเท่านั้น

หลายปี ต่อมา เราได้อ่านเกี่ยวกับความเชื่อของเอสรา ซึ่งอยูใ่ นชนชั้นปุโรหิ ตของชาวยิว และถูกเลี้ยงดูมาในบาบิโลน


ในฐานะเจ้าหน้าที่พระราชวัง และจักรพรรดิแห่งมีเดีย-เปอร์เซียก็ยกย่องเขามาก เขาพาผูค้ นที่ถูกเนรเทศเกือบ 6 พันคนกลับบ้าน
เดินทางผ่านชนบทที่เต็มไปด้วยชนเผ่านอกกฎหมายที่ไล่ล่านักเดินทางอย่างไร้ความปรานี จักรพรรดิตอ้ งการให้เอสราและคน
ของเขาเดินทางภายใต้การคุม้ ครองของทหารในระหว่างการเดินทาง 5 เดือน แต่เอสราโอ้อวดว่าพระเจ้าผูท้ รงดูแลอิสราเอลเป็ น
เวลา 40 ปี ในถิ่นทุรกันดาร และนำพวกเขาออกจากอียปิ ต์ สามารถดูแลพวกเขาได้เป็ นอย่างดีในเวลา 5 เดือน นัน่ ฟังดูเคร่ งศาสนา
มาก แต่ความจริ งก็คือทั้งเอสราหรื อใครก็ตามในเวลานั้นไม่เคยเห็นนิมิต ไม่เคยได้ยนิ พระสุ รเสี ยงของพระเจ้า ไม่เคยเห็นการ
รักษาหรื อการอัศจรรย์ หรื อมีหมายสำคัญใดๆ จากพระเจ้าเลย เอสราไม่ใช่ผเู้ ผยพระวจนะ เอสราไม่มีอะไรนอกจากพระคัมภีร์
แต่เขาเชื่อพระเจ้าโดยยึดตามพระคัมภีร์ที่ถูกเขียนไว้เท่านั้น เขาทำให้โครงการทั้งหมดดำเนินการภายใต้ปีกขององค์พระผูเ้ ป็ นเจ้า
ความเชื่อดิบๆ แบบนี้ ซึ่งมีพ้ืนฐานบนพระคำของพระเจ้าล้วนๆ มีให้คุณแล้วในวันนี้ !
29
สิ งหาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“ถ้าพระวิญญาณของพระองค์ ผูท้ รงให้พระเยซูเป็ นขึ้นมาจากตายสถิตอยูใ่ นท่านทั้งหลาย พระองค์ผทู้ รงให้พระเยซูคริ สต์เป็ น
ขึ้นมาจากตายแล้วนั้น จะทรงให้ชีวิตแก่กายซึ่งต้องตายของพวกท่าน โดยพระวิญญาณของพระองค์ซ่ ึงสถิตอยูใ่ นท่าน” (โรม
8:11)
ไฟประจำวัน!
พระคำและพระวิญญาณทรงอยูด่ ว้ ยและมีบทบาทในชีวิตของฉัน
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
เอเฟซัส 5:18
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
1 ซามูเอล 21 และ 22; 1 โคริ นธ์ 3
เย็น:
เอเสเคียล 1; สดุดี 37
ได้ รับการกระตุ้นโดยพระวิญญาณ
การได้รับการเติมเต็มด้วยพระวิญญาณนั้นแสดงให้เห็นว่ามีผลที่เป็ นพลวัตและมีพลัง หรื อเรี ยกว่า “พลัง” (ดูนามิส) ใน
พันธสัญญาใหม่ และในชีวิตของผูค้ นนับล้านตั้งแต่น้ นั มา มีพระคัมภีร์นอ้ ยมากที่แนะนำว่าพระวิญญาณบริ สุทธิ์ เสด็จมาเหนือ
มนุษย์เหมือนลมหายใจที่เงียบสงบ สงบเสงี่ยม และไม่มีใครสังเกตเห็น ปกติแล้วจะสังเกตเห็นได้ง่ายมาก การสำแดงของพระ
วิญญาณรวมถึงไฟ ลม เสี ยง การอัศจรรย์ หมายสำคัญภายนอก ฤทธิ์ อำนาจ และผลกระทบที่มองเห็นได้ พระเจ้าไม่ให้ของ
ประทานของพระองค์แก่คนที่ยงั ไม่กลับใจใหม่หรื อพระวิญญาณบริ สุทธิ์ ของพระองค์แก่โลก แต่เมื่อเราบังเกิดใหม่ เราได้รับการ
หนุนใจให้เต็มเปี่ ยมด้วยพระวิญญาณ เช่นเดียวกับที่เปาโลตักเตือนคริ สตจักรต่างๆ
ผมต้องย้ำอีกครั้งว่าเรากำลังดูสิ่งที่พระคัมภีร์กล่าวเกี่ยวกับสิ่ งเหล่านี้ บางคนหันไปหาประวัติศาสตร์คริ สตจักรเพื่อ
พยายามพิสูจน์วา่ ฤทธิ์ อ ำนาจของอัครทูตหมดสิ้ นไปพร้อมกับอัครทูต ประวัติศาสตร์คริ สตจักร ไม่ใช่พระคัมภีร์ วางหลักคำสอน
ของพวกเขา พวกเขาอาจสงสัยว่าเหตุใดจึงสิ้ นอายุขยั เมื่อสิ้ นยุคอัครทูต (แม้วา่ จะไม่ได้หายไปทั้งหมด) แต่ไม่มีเศษหลักฐานใน
พระคัมภีร์แม้แต่ชิ้นเดียวที่บ่งชี้วา่ สิ่ งนี้เกิดขึ้น นักวิชาการที่แท้จริ งต้องการทราบว่าทำไม ถ้าเราได้เรี ยนรู้อะไรจากประวัติศาสตร์
คริ สตจักร เรารู้วา่ ความไม่เชื่อและความเสื่ อมฝ่ ายวิญญาณได้เข้ามา ดังนั้นฤทธิ์อ ำนาจของพระวิญญาณจึงมีแนวโน้มที่จะไม่เป็ น
ที่ประจักษ์อย่างกว้างขวาง

ความเชื่อของคริ สเตียนไม่ได้มุ่งหมายให้เป็ นสิ่ งอื่นใด นอกจากเป็ นการเทออกของพระวิญญาณบริ สุทธิ์ เป็ นพลังงานที่


ฟื้ นฟู กระตุน้ รื้ อฟื้ น การฟื้ นฟูไม่ใช่การงานที่พิเศษและเหนือกว่าความเชื่อของคริ สเตียนทัว่ ไป ความเชื่อของคริ สเตียนคือการ
ฟื้ นฟู พระวิญญาณของพระเจ้าเข้ายึดครองสนามรบนานแล้ว และไม่เคยถอยออกจากสนามรบ! พระองค์ไม่ได้เสด็จ “เยีย่ มเยียน”
เป็ นคราว ๆ ไป พระองค์เสด็จมาประทับเป็ นการถาวร ครั้ นวางพระหัตถ์ไว้ที่คนั ไถแล้วพระองค์กไ็ ม่เคยหันกลับอีกเลย การ
ฟื้ นฟูอยูท่ ี่นนั่ เสมอเมื่อมีการประกาศพระคำ และพระวิญญาณอยูท่ ี่นนั่ จงหมัน่ มองหาผลกระทบขององค์ประกอบเหล่านั้นใน
ชีวิตของคุณเอง!
30
สิ งหาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“งานปรนนิบตั ิที่เขารับไว้ในองค์พระผูเ้ ป็ นเจ้านั้น จงตั้งใจทำให้สำเร็จ” (โคโลสี 4:17)
ไฟประจำวัน!
เพราะว่าพระคริ สต์อธิษฐานวิงวอนเพื่อฉัน ฉันจะอธิษฐานวิงวอนเพื่อผูอ้ ื่น
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
เอเสเคียล 22:30; โรม 8:26–28; โคโลสี 4:17; 1 ทิโมธี 2:1; ฮีบรู 7:26–28; 2 เปโตร 1:4
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
1 ซามูเอล 23; 1 โคริ นธ์ 4
เย็น:
เอเสเคียล 2; สดุดี 38
อธิษฐานวิงวอน
การอธิษฐานวิงวอนเป็ นการอธิษฐานรู ปแบบพิเศษสำหรับผูเ้ ชื่อ แต่มนั เกี่ยวข้องกับอะไรกันแน่ ? ประการแรก เป็ นงาน
มอบหมายพิเศษสำหรับผูเ้ ชื่อ เราถูกเรี ยกให้ท ำงานพิเศษ ไม่ใช่แค่ขอสิ่ งต่างๆ เพื่อตัวเราเอง แต่ให้ยนื ต่อหน้าพระเจ้าเพื่อผูอ้ ื่น นี่
เป็ นลักษณะสำคัญของโครงสร้างส่วนบนของการทรงไถ่ของโลก พระคริ สต์เป็ นนักอธิษฐานวิงวอนที่ยิง่ ใหญ่ และเราถูกเรี ยก
ให้มีบทบาทที่คล้ายกัน งานอธิษฐานวิงวอนของพระคริ สต์อยูใ่ นระดับที่แตกต่างจากของเรา แต่พระองค์กย็ งั คงเป็ นแบบอย่าง
ของเรา มหาปุโรหิ ตเช่นนี้แหละที่เหมาะสำหรับพวกเรา คือเป็ นผูบ้ ริ สุทธิ์ ปราศจากอุบาย ไร้มลทิน แยกจากคนบาปทั้งหลาย
และอยูส่ ูงกว่าฟ้ าสวรรค์ พระเยซูไม่ตอ้ งนำเครื่ องบูชามาทุกๆ วัน (เหมือนอย่างมหาปุโรหิ ตคนอื่นๆ ที่ตอนแรกถวายสำหรับบาป
ของตัวเอง แล้วจึงถวายสำหรับบาปของประชาชน) เพราะพระองค์ทรงถวายเครื่ องบูชาครั้งเดียวเป็ นพอ เมื่อพระองค์ทรงถวาย
พระองค์เอง เพราะว่าธรรมบัญญัติแต่งตั้งมนุษย์ผอู้ ่อนแอให้เป็ นมหาปุโรหิ ต แต่ถอ้ ยคำปฏิญาณซึ่งตรัสภายหลังธรรมบัญญัติน้ นั
แต่งตั้งพระบุตรขึ้น ผูท้ ี่พระเจ้าทำให้เพียบพร้อมชัว่ นิรันดร์ (ฮีบรู 7:26–28) การอธิษฐานวิงวอนต้องการความรู้ของผูท้ ี่เรา
อธิษฐานวิงวอน และผูท้ ี่เราอธิษฐานขอ นี่เป็ นความรู้คู่ พระเยซูทรงรับเอาธรรมชาติของเราไว้ในพระองค์เอง และยังทรงมีพระ
ลักษณะของพระเจ้าในความสมบูรณ์แบบอีกด้วย นัน่ คือพระองค์ทรงเป็ นมนุษย์โดยสมบูรณ์และเป็ นพระเจ้าโดยสมบูรณ์
พระองค์ทรงระบุพระองค์เองกับเราและกับพระเจ้า เราเป็ นมนุษย์แต่ได้รับ "ธรรมชาติของพระเจ้า" เรามีเครื อญาติกบั ทั้งพระเจ้า
และมนุษย์ ดังนั้นเราจึงเหมาะสมกับงานที่พระเจ้าได้ก ำหนดให้เราทำ นัน่ คือ ในทำนองเดียวกัน พระวิญญาณก็ทรงช่วยเมื่อเรา
อ่อนกำลังด้วย เพราะเราไม่รู้วา่ ควรจะอธิษฐานขออะไรอย่างไร แต่พระวิญญาณทรงช่วยขอแทน ด้วยการคร่ำครวญซึ่งไม่อาจ
กล่าวเป็ นถ้อยคำ และพระองค์ผทู้ รงชันสูตรใจมนุษย์ ก็ทรงทราบความหมายของพระวิญญาณ เพราะว่าพระวิญญาณทรงอธิษ
ฐานขอเพื่อธรรมิกชนตามพระประสงค์ของพระเจ้า เรารู้วา่ เหตุการณ์ทุกอย่างร่ วมกันก่อผลดีแก่คนที่รักพระเจ้า คือแก่คนทั้ง
หลายที่พระองค์ทรงเรี ยกตามพระประสงค์ของพระองค์ (โรม 8:26–28) ช่างเป็ นคำสัญญาที่ทรงพลังสำหรับคุณจริ งๆ ลองคิดดูสิ
เพราะว่าคุณรักพระเจ้า ทุกรายละเอียดในชีวิตของคุณจึงถูกปรับแต่งเพื่อประโยชน์สูงสุ ดของคุณ!
31
สิ งหาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“ในทำนองเดียวกัน พระวิญญาณก็ทรงช่วยเมื่อเราอ่อนกำลังด้วย เพราะเราไม่รู้วา่ ควรจะอธิษฐานขออะไรอย่างไร แต่พระวิญ
ญาณทรงช่วยขอแทน ด้วยการคร่ำครวญซึ่งไม่อาจกล่าวเป็ นถ้อยคำ” (โรม 8:26)
ไฟประจำวัน!
ฉันมุ่งมัน่ ที่จะอธิษฐานและอธิษฐานวิงวอนทุกวันเผือ่ ผูเ้ ผยแพร่ ข่าวประเสริ ฐ ไรน์ฮาร์ด บองเก้ และทีมของเขา เพราะว่าฉัน
ต้องการเป็ นหุน้ ส่ วนในการเก็บเกี่ยววิญญาณจิตที่กว้างใหญ่น้ ี !
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
โรม 8:26–28
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
1 ซามูเอล 24; 1 โคริ นธ์ 5
เย็น:
เอเสเคียล 3; สดุดี 39
ความเห็นอกเห็นใจเหมือนพระคริสต์
เราต้องการมากกว่าแค่ความมุ่งมัน่ ที่จะเข้าสู่ การอธิษฐานวิงวอนที่แท้จริ ง พระเยซู (แบบอย่างของเรา) หลัง่ สายธาร
แห่งความเห็นอกเห็นใจออกมา นี่เป็ นแรงกระตุน้ เพียงอย่างเดียวของพระองค์ ฤทธิ์ อำนาจแห่งการอธิษฐานวิงวอนที่มี
ประสิ ทธิผลนั้นมาจากกระแสแห่งความห่วงใยและความรักที่หลัง่ ไหลออกมาเอง พูดกันตามธรรมดาแล้วสิ่ งนี้เป็ นธรรมชาติเพื่อ
ครอบครัวและเพื่อนของเราเอง ตอนนี้ ตอ้ งโอบกอดคนทั้งโลก! แม้วา่ พื้นฐานของการอธิษฐานของคริ สเตียนไม่ได้อยูใ่ นพันธ
สัญญาเดิม แต่เราค้นพบตัวอย่างที่ดีของการอธิษฐานวิงวอนที่นนั่ อับราฮัมอธิษฐานวิงวอนเพื่ออาบีเมเลคและสำหรับเมืองโส
โดมและโกโมราห์ที่ตอ้ งพินาศ โมเสส ซาโลมอน เอลียาห์ เฮเซคียาห์ ดาเนียล เอสรา เอสเธอร์ เยเรมีย ์ และเหล่าผูเ้ ผยพระวจนะ
ทุกคนอธิษฐานวิงวอนเพื่อชนชาติอิสราเอล มีแม้กระทัง่ สดุดีแห่งการอธิษฐานวิงวอน!

ในฐานะผูเ้ ผยแพร่ ข่าวประเสริ ฐ ผมถูกเรี ยกให้ยนื ต่อหน้าฝูงชนจำนวนมาก แต่ผมไม่กล้าเทศนาเว้นแต่ผมจะรู้วา่ ได้มี


การอธิษฐานวิงวอนสำหรับผูค้ นเหล่านั้นแล้ว คนงานออกไปที่พ้ืนที่การประกาศใหญ่ล่วงหน้าและใช้เวลาหลายสัปดาห์ที่นนั่
โดยเฉพาะเพื่อเตรี ยมพื้นที่ผา่ นทางการอธิษฐานวิงวอน คริ สเตียนได้รับคัดเลือกในท้องถิ่นและได้รับคำสัง่ ให้กระหน่ำสวรรค์
ด้วยการวิงวอนเพื่อวิญญาณจิตของชายและหญิง อันที่จริ ง เมื่อทีมผูอ้ ธิษฐานวิงวอนเหล่านี้เคาะประตูสวรรค์ มันก็เพิ่มน้ำหนักให้
กับคำอธิษฐานของผูค้ นนับหมื่นทัว่ โลกขอให้วิญญาณจิตของผูค้ นในฝูงชนได้รับการปลดปล่อยและช่วยให้รอด!
ระหว่างการประกาศข่าวประเสริ ฐของเรา วิญญาณแห่งการอธิษฐานและการอธิษฐานวิงวอนช่วยหล่อเลี้ยงวิญญาณจิต
ของผม บ่อยครั้งทำให้ผมกระโดดออกจากเตียงตอนตี 3 ของเช้าวันใหม่ นักอธิษฐานวิงวอนหลายร้อย—บางครั้งอาจถึงพัน ยกชู
ผมในการอธิษฐานขณะที่ผมกำลังทำพันธกิจบนเวที สิ่ งนี้ท ำให้วิญญาณของผมมี "การยกขึ้น" เหมือนความร้อนที่ทรงพลัง
สำหรับนกอินทรี ผมมองไปยังทะเลแห่งใบหน้าและชื่นชมยินดีที่มือของมารได้ถูกทำให้หลุดออกจากไหล่ของพวกเขา
นี่คือสิ่ งที่สำคัญที่สุดที่คุณสามารถทำได้เพื่อผม นัน่ คืออธิ ษฐานวิงวอนด้ วยการอธิ ษฐาน! ขอบคุณที่เป็ นคู่อธิษฐานของ
ผม !!!

คนรวยต้องจ่ายเงินเพื่อให้คนจนได้ยนิ ข่าวประเสริ ฐ
นัน่ คือความยุติธรรมทางสังคมของพระเจ้า

ฉันไม่ตอ้ งการเป็ นเศรษฐีเงินดอลลาร์ แต่เป็ นเศรษฐีของวิญญาณจิต

ฉันไม่สามารถส่ งเสี ยงฟี้ อย่างแมวในเมื่อคนนับล้านเสี ยชีวิตทุกวัน


ฉันต้องการคำรามเหมือนสิ งโต!

1
กันยายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“แต่ใครสู้ทนถึงที่สุดก็จะได้รับการช่วยให้รอด ข่าวประเสริ ฐเรื่ องแผ่นดินของพระเจ้านี้ จะถูกประกาศไปทัว่ โลก ให้เป็ นคำพยาน
แก่บรรดาประชาชาติ แล้วที่สุดปลายจะมาถึง” (มัทธิว 24:13–14)
ไฟประจำวัน!
ไม่มีสิ่งใดสามารถทำให้ฉนั ขาดจากความรักของพระเจ้า ซึ่งมีอยูใ่ นพระเยซูคริ สต์
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
มัทธิว 24:13–14; โรม 8:35–39; 2 เธสะโลนิกา 1:3–5
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
1 ซามูเอล 25; 1 โคริ นธ์ 6
เย็น:
เอเสเคียล 4; สดุดี 40 และ 41
ความอดทน
ชีวิตที่เปี่ ยมด้วยพระวิญญาณไม่ใช่ประสบการณ์ที่ตอ้ งฝึ กฝนในสภาวะที่พเิ ศษเหมือนการปลูกพืช คริ สเตียนไม่ใช่
ดอกไม้ ในช่วงต้นของการขยายตัวของเมืองอุตสาหกรรมในอังกฤษ ผูร้ ับใช้บางคนไม่สามารถโน้มน้าวใจให้เข้ารับตำแหน่ง
ท่ามกลางกลุ่มคนงานที่ยงั ไม่ได้อาบน้ำ เพราะว่าพวกเขากล่าวว่าสิ่ งนี้อาจทำลาย “ความเป็ นฝ่ ายวิญญาณ” ของพวกเขา พระ
วิญญาณบริ สุทธิ์ ทำให้ผเู้ ชื่อมีตวั อย่างที่แข็งแกร่ งสำหรับทุกสภาวะ พวกเขามีฤดูใบไม้ผลิตลอดไปในวิญญาณจิตของพวกเขา
และ "สามารถผ่านฤดูหนาวได้" เช่นเดียวกับบ้านที่เตรี ยมพร้อมสำหรับสภาพอากาศหนาวเย็น
เหล่าอัครทูตได้คน้ พบความยืดหยุน่ ใหม่ ความแข็งแกร่ งใหม่ภายในตัว ฤทธิ์ อำนาจที่ด ำเนินการในความอ่อนแอของ
พวกเขา และส่ งพวกเขาออกไปยังโลกของคนนอกศาสนาที่โหดร้ายเพื่อทำลายการสร้างรู ปเคารพและเปลี่ยนแปลง
ประวัติศาสตร์ นัน่ คือเครื่ องหมายที่แท้จริ งของชีวิตที่เปี่ ยมด้วยพระวิญญาณ

พี่น้องทั้งหลาย เราต้ องขอบพระคุณพระเจ้ าเพราะท่ านอยู่เสมอ ซึ่ งเป็ นเรื่ องสมควรยิ่งเพราะความเชื่ อของท่ านจำเริ ญ
ขึน้ และความรั กของท่ านทุกคนที่มีต่อกันทวีขึน้ ด้ วยฉะนั้นเราเองจึ งอวดท่ านต่ อบรรดาคริ สตจักรของพระเจ้ า ในเรื่ อง
ความทรหดอดทน และความเชื่ อของท่ านในยามที่ถกู ข่มเหงนานาประการ และที่ท่านอดทนต่ อความยากลำบากนั้น
เรื่ องนีช้ ี ช้ ัดถึงการพิพากษาอันยุติธรรมของพระเจ้ า ซึ่ งจะพิสูจน์ ว่าท่ านเป็ นผู้สมควรกับแผ่ นดินของพระเจ้ า ซึ่ งท่ านทั้ง
หลายกำลังทนทุกข์ อยู่เพราะเห็นแก่ แผ่ นดินนั้น (2 เธสะโลนิกา 1:3–5) สิ่ งเหล่ านี ก้ ำลังเกิดขึน้ ในทุกวันนี ้ การข่ มเหง
ยุคใหม่ ก ำลังทดสอบคริ สตจักรทั่วโลก เราอาจต้ องสละชี วิตฝ่ ายร่ างกายของเรา แต่ เรากำลังพิสูจน์ ว่าบัพติศมาในพระ
วิญญาณทำให้ ผ้ คู นไม่ สามารถเอาชนะได้
แล้ วใครจะให้ เราขาดจากความรั กของพระคริ สต์ ได้ ? จะเป็ นความทุกข์ หรื อความยากลำบาก หรื อการเคี่ยวเข็ญ หรื อ
การกันดารอาหาร หรื อการเปลือยกาย หรื อการถูกโพยภัย หรื อการถูกคมดาบหรื อ? ตามที่เขียนไว้ ในพระคัมภีร์ว่ า
“เพราะเห็นแก่ พระองค์ ข้ าพระองค์ จึงถูกประหารวันยังค่ำ และนับว่ าเป็ นแกะสำหรั บเอาไปฆ่ า” แต่ ว่าในเหตุการณ์ ทั้ง
หมดนี ้ เรามีชัยเหลือล้ นโดยพระองค์ ผ้ ทู รงรั กเราทั้งหลาย (โรม 8:35–37)
2
กันยายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“ข้าพเจ้าให้ท่านรับบัพติศมาด้วยน้ำ แสดงว่ากลับใจใหม่ก็จริ ง แต่พระองค์ผจู้ ะมาภายหลังข้าพเจ้า ทรงยิง่ ใหญ่กว่าข้าพเจ้า ซึ่ง
ข้าพเจ้าไม่คู่ควรแม้แต่จะถือฉลองพระบาทของพระองค์ พระองค์จะทรงให้พวกท่านรับบัพติศมาด้วยพระวิญญาณบริ สุทธิ์ และ
ด้วยไฟ” (มัทธิว 3:11)
ไฟประจำวัน!
ข้าแต่องค์พระผูเ้ ป็ นเจ้าที่รัก ให้ขา้ พระองค์เผาไหม้เพื่อพระองค์
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
อพยพ 3:2; มัทธิว 3:11–12
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
1 ซามูเอล 26; 1 โคริ นธ์ 7
เย็น:
เอเสเคียล 5; สดุดี 42 และ 43
เมื่อการวางเพลิงไม่ ใช่ อาชญากรรม
พระเจ้าจุดไฟเผาไม้ที่ลอยอยู่ ไม้เก่าแห้งสามารถลุกไหม้เพื่อพระเจ้าได้เช่นเดียวกับพุม่ ไม้ของโมเสส “ทูตของพระ
ยาห์ เวห์ กป็ รากฏแก่ โมเสส เป็ นเปลวไฟท่ ามกลางพุ่มไม้ โมเสสมองดู เห็นพุ่มไม้ นั้นมีไฟลุกโชนอยู่ แต่ มิได้ ไหม้ ” (อพยพ 3:2)
ฮาเลลูยา! ผมไม่อธิษฐานว่า "ข้าแต่องค์พระผูเ้ ป็ นเจ้าที่รัก ขอให้ขา้ พระองค์หมดไฟเพื่อพระองค์" ผมไม่ตอ้ งการเป็ นเถ้าธุลี
คุณสมบัติที่น่าทึ่งของพุม่ ไม้คือมันไม่หมดไฟ ผูร้ ับใช้ขององค์พระผูเ้ ป็ นเจ้าจำนวนมากกำลังหมดไฟ ต้นเหตุมาจากไฟอย่างอื่น
แต่ผมพูดว่า "ข้าแต่องค์พระผูเ้ ป็ นเจ้าที่รัก ขอให้ขา้ พระองค์ลุกไหม้ต่อไปเพื่อพระองค์" เปลวไฟของแท่นบูชาไม่ควรดับลง
ปราศจากไฟ ก็ไม่มีข่าวประเสริ ฐ พันธสัญญาใหม่เริ่ มต้นด้วยไฟ สิ่ งแรกที่กล่าวถึงพระคริ สต์โดยพยานคนแรกเกี่ยวกับ
ไฟ ยอห์นผูใ้ ห้บพั ติศมาซึ่งเป็ นผูส้ ่ องสว่างป่ าวประกาศว่า “พระองค์ จะทรงให้ พวกท่ านรั บบัพติศมาด้ วยพระวิญญาณบริ สุทธิ์
และด้ วยไฟ พระองค์ ทรงถือพลัว่ อยู่ในพระหั ตถ์ แล้ว และจะทรงชำระลานข้าวของพระองค์ ให้ ทั่ว พระองค์ จะทรงรวบรวมเมล็ด
ข้ าวของพระองค์ ไว้ ในยุ้งฉาง แต่ พระองค์ จะทรงเผาแกลบด้ วยไฟที่ไม่ มีวันดับ” (มัทธิว 3:11–12)

ยอห์น ผูใ้ ห้บพั ติศมาแนะนำพระเยซู ผูใ้ ห้บพั ติศมา ผูใ้ ห้บพั ติศมาที่แตกต่างอย่างมาก ยอห์นใช้น ้ำซึ่งเป็ นองค์
ประกอบทางกายภาพ แต่พระคริ สต์ทรงใช้องค์ประกอบฝ่ ายวิญญาณ นัน่ คือไฟบริ สุทธิ์ น้ำกับไฟช่างแตกต่างกันเสี ยนี่
กระไร! ไม่ใช่วา่ ยอห์น ผูใ้ ห้บพั ติศมามีศาสนาที่ "เหมือนน้ำ" (แม้วา่ จะมีศาสนานั้นอยูม่ ากมายรอบๆ ตัว และมักรวม
เข้ากับน้ำแข็ง!) ยอห์น ผูใ้ ห้บพั ติศมา ยืนอยูใ่ นน้ำเย็นของจอร์แดนกำลังให้บพั ติศมา แต่พระเยซู ผูใ้ ห้บพั ติศมา ยืนอยู่
ในแม่น้ำที่มีไฟเหลว!
งานเด่นของยอห์นคือบัพติศมา เขาประกาศงานที่โดดเด่นของพระเยซูวา่ เป็ นการบัพติศมาด้วย บัพติศมาเป็ น
งานสำคัญขององค์พระผูเ้ ป็ นเจ้าในปัจจุบนั พระเยซู ผูใ้ ห้บพั ติศมาในพระวิญญาณบริ สุทธิ์ นี่คือประสบการณ์สำคัญ
ของพระคริ สต์สำหรับคุณหลังจากที่คุณกลายเป็ นผูเ้ ชื่อที่บงั เกิดใหม่แล้ว
3
กันยายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“เมื่อข้าพเจ้าประกาศข่าวประเสริ ฐ ข้าพเจ้าก็ไม่มีเหตุที่จะอวดได้ เพราะข้าพเจ้าจำต้องประกาศ วิบตั ิแก่ขา้ พเจ้าหากข้าพเจ้าไม่
ประกาศข่าวประเสริ ฐ! ” (1 โคริ นธ์ 9:16 ฉบับ niv)
ไฟประจำวัน!
พระบิดา ขอให้ความเชื่อของข้าพระองค์บงั เกิดผลและให้ก ำเนิดชีวิต!
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
ยอห์น 20:31;
โรม 10:14
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
1 ซามูเอล 27; 1 โคริ นธ์ 8
เย็น:
เอเสเคียล 6; สดุดี 44
ความเชื่อที่แพร่ เชื้อ
ผูค้ นพูดถึงของประทานแห่งการประกาศข่าวประเสริ ฐและโต้เถียงกันว่าจริ งๆ แล้ว มันหมายความว่าอย่างไร พูดง่ายๆ
ก็คือ ของประทานแห่งการประกาศคือความเชื่อที่แพร่ เชื้อ เพื่อให้ผอู้ ื่นกระตือรื อร้น เราเองต้องถูกทำให้กระตือรื อร้น
มีคนที่เราสามารถบรรยายว่าเป็ น “ผูเ้ ชื่อที่ไม่เชื่อ” พวกเขามีหลักคำสอนที่ดี แต่ปราศจากความไว้วางใจ พวกเขา
ประกาศสิ่ งที่พวกเขาเรี ยกว่าข่าวประเสริ ฐ แต่มนั ไม่มีชีวิตชีวา เมื่อผูช้ ายอธิบายถึงความงดงามของหญิงสาวที่น่ารัก เขาสามารถ
อธิบายได้ค่อนข้างชัดเจน แต่ถา้ เขาตกหลุมรักเธอ เขาก็ท ำให้เธอดูเหมือนเป็ นคนที่มีชีวิตชีวามาก
การประกาศต้องเป็ นการกระทำที่เชื่อโดยพึ่งพระเจ้าอย่างเต็มที่ ความจริ งของพระคริ สต์คือเมล็ดพันธุ์ที่เราต้องหว่าน
แต่ถา้ ปราศจากความเชื่อ เมล็ดพืชก็ไม่เคยได้รับการปฏิสนธิ ข่าวประเสริ ฐจะไม่งอก ผุดขึ้น เบ่งบาน หรื อเกิดผล เว้นแต่จะ
ประกาศด้วยความเชื่อ การมีความเชื่อในความเชื่อที่ได้มอบให้แก่พวกธรรมิกชนครั้งเดียว (ดู ยูดา 3) เป็ นสิ่ งที่สำคัญมาก แต่ยงั
ไม่เพียงพอ ความเชื่อควรเกิดผล สร้างชีวิต โดย “เชื่ อแล้วท่ านก็จะมีชีวิตโดยพระนามของพระองค์ ” (ยอห์น 20:31) เป็ นกระ
บวนการที่มีชีวิตและมีชีวิตชีวา คุณกำลังเชื่อ คุณกำลังรับ คุณกำลังรู้ คุณกำลังเห็น คุณกำลังอยูใ่ นพระองค์

การประกาศเรี ยกร้องให้มีความเชื่อที่กระตือรื อร้นเช่นนั้น คือกำลังเป็ นพยานกำลังให้ค ำพยาน กำลังเห็น กำลังรู้ และ


กำลังทำ ข่าวประเสริ ฐไม่ใช่ความจริ งบนน้ำแข็ง แต่เป็ นความจริ งบนไฟ!
4
กันยายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“สาธุการแด่องค์เจ้านาย ผูท้ รงแบกภาระเพื่อเราอยูท่ ุกวัน พระเจ้าผูท้ รงเป็ นความรอดของเรา เส-ลาห์ พระเจ้าของเราทรงเป็ น
พระเจ้าแห่งความรอด การหลุดพ้นจากความตายนั้นก็อยูท่ ี่พระยาห์เวห์องค์เจ้านาย” (สดุดี 68:19–20)
ไฟประจำวัน!
แต่ส่วนข้าพเจ้าและครอบครัวของข้าพเจ้า เราจะปรนนิบตั ิพระยาห์เวห์
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
1 ซามูเอล 25:29; กิจการ 16:25–34
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
1 ซามูเอล 28; 1 โคริ นธ์ 9
เย็น:
เอเสเคียล 7; สดุดี 45
ความรอดทั้งครัวเรือน
แม้ มีคนลุกขึน้ ไล่ ตามท่ าน และต้ องการฆ่ าท่ าน ชี วิตของเจ้ านายของดิฉันจะผูกมัดอยู่กับความสัมพันธ์ ระหว่ างกลุ่ม
ชี วิตและพระยาห์ เวห์ พระเจ้ าของท่ าน แต่ ชีวิตศัตรู ของท่ านจะถูกเหวี่ยงออกไปดั่งออกไปจากรั งสลิง (1 ซามูเอล
25:29) ถ้ าคุณต้ องการให้ ครอบครั วของคุณอยู่ด้วยกันและรู้ จักองค์ พระผู้เป็ นเจ้ า คุณก็อยู่บนตั๋วที่ชนะ โดยทุกอย่ างจะ
เกิดผลดีต่อคุณ ยกตัวอย่ างเช่ น ดูเหตุการณ์ ที่โด่ งดังนี ้: แต่ ในเวลาประมาณเที่ยงคืน ขณะเปาโลกับสิ ลาสกำลังอธิ ษฐาน
และร้ องเพลงสรรเสริ ญพระเจ้ าและนักโทษทั้งหลายในคุกกำลังฟั งอยู่ทันใดนั้น เกิดแผ่ นดินไหวอย่ างรุ นแรงจนรากคุก
สะเทือนสะท้ านและประตูคุกเปิ ดหมดทุกบาน เครื่ องจำจองก็หลุดจากพวกเขาทุกคนเมื่อนายคุกตื่นขึน้ เห็นประตูคุก
เปิ ดอยู่ คิดว่ าพวกนักโทษหนี ไปหมดแล้ว จึ งชักดาบออกมาเพื่อฆ่ าตัวตาย (กิจการ 16:25–27) อัครทูตเปาโลและสิ ลา
สอยู่ในคุกที่เมืองฟิ ลิปปี เมื่อเกิดแผ่ นดินไหวตอนเที่ยงคืน ประตูคุกเปิ ดออก และผู้คุมคาดว่ าเขาได้ สูญเสี ยนักโทษไป
แล้ ว ผลที่ตามมาจากการลงวินัยนั้นน่ ากลัวมากสำหรั บเขาจนเขากำลังจะฆ่ าตัวตาย อย่ างไรก็ตาม เปาโลร้ องตะโกน
เพื่อให้ ชายที่น่าสงสารคนนั้นมัน่ ใจว่ าพวกเขาทั้งหมดยังอยู่ที่นั่น คำตอบของผู้คุมกลายเป็ นประโยคคลาสสิ กว่ า “ข้ า
แต่ ท่าน ข้ าพเจ้ าต้ องทำอย่ างไรจึ งจะได้ รับความรอด?” (ข้ อ 30)
ตอนนี้ผคู้ ุมเรี ยกพวกเขาว่า “ท่าน” และเปาโลเห็นโอกาสที่จะเล่นคำอย่างมีไหวพริ บ ท่ าน ในภาษากรี กเป็ นคำเดียวกับ
คำว่า องค์ พระผู้เป็ นเจ้ า (กรี ก: kurios) เมื่อผูค้ ุมถามว่า “ข้ าแต่ ท่าน ข้ าพเจ้ าต้ องทำอย่ างไรจึ งจะได้ รับความรอด?” คำตอบของ
เปาโลคือ “จงวางใจในพระเยซูองค์ พระผู้เป็ นเจ้ า แล้ วท่ านและครอบครั วจะได้ รับความรอด” (ข้อ 31) ผูค้ ุมเรี ยกเปาโลและสิ ลาส
ว่าคุริอวั (ซึ่งอาจหมายถึงเจ้านาย) แต่พวกเขาไม่สามารถช่วยเขาให้รอดได้ พระองค์ผเู้ ดียวที่ช่วยให้รอดได้เท่านั้นคือพระเยซูเจ้า
จงระลึกในวันนี้ วา่ ความรอดไม่ได้อยูใ่ นกองทัพของท่านลอร์ด แต่อยูใ่ นองค์พระผูเ้ ป็ นเจ้า จอมโยธา!
5
กันยายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“ความช่วยเหลือของเราอยูใ่ นพระนามของพระยาห์เวห์ ผูท้ รงสร้างฟ้ าสวรรค์และแผ่นดินโลก” (สดุดี 124:8)
ไฟประจำวัน!
เวลาของฉันบนแผ่นดินโลกมีจ ำกัด แต่ชีวิตของฉันกับพระเจ้าเป็ นนิรันดร์
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
อพยพ 15:26; อิสยาห์ 43:2–3; สดุดี 124:1, 5; โรม 8:28; 1 โคริ นธ์ 10:11; ยากอบ 5:17
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
1 ซามูเอล 29 และ 30; 1 โคริ นธ์ 10
เย็น:
เอเสเคียล 8; สดุดี 46 และ 47
ทำตามน้ำพระทัยของพระองค์
เราได้รับเกียรติที่ได้เรี ยนรู้จากประสบการณ์ของผูบ้ ุกเบิกเส้นทางแห่งความเชื่อซึ่งเป็ นผูบ้ ุกเบิก “เหตุการณ์ เหล่ านี.้ ..ได้
เขียนไว้ เพื่อเตือนสติเราผู้ซึ่งมาถึงวาระสุดท้ ายของยุคนีแ้ ล้ ว” (1 โคริ นธ์ 10:11) ผูค้ นในพระคัมภีร์ต่อสู้กบั ความดีงามของพระเจ้า
และปัญหาของความชัว่ ร้าย เรื่ องราวของพวกเขาช่วยเราให้ต่อสู้ดว้ ยความเชื่อได้ดี เราควรระลึกว่าพวกเขามีธรรมชาติของมนุษย์
เหมือนกัน อาศัยอยูใ่ นโลกใบเดียวกัน และมีพระเจ้าองค์เดียวกับเรา ยากอบเตือนเราว่า “เอลียาห์ กเ็ ป็ นมนุษย์ ที่มีสภาพเหมือน
อย่ างเรา” (ยากอบ 5:17) อันที่จริ ง โลกเป็ นสถานที่ที่น่ากลัวและลึกลับสำหรับพวกเขามากกว่าสำหรับพวกเราด้วยความรู้ข้นั สูง
ของเรา แต่พวกเขาเรี ยนรู้ที่จะพึ่งพาพระเจ้า! อิสราเอลเป็ นเผ่าพันธุ์ที่ถูกรังแกและถูกข่มเหงมากที่สุดบนแผ่นดินโลก กระนั้น
อิสราเอลเป็ นผูใ้ ห้ค ำแนะนำที่เปี่ ยมด้วยพระสิ ริที่สุดให้เราไว้วางใจในพระเจ้า “เมื่อเจ้ าลุยข้ ามน้ำ เราจะอยู่กับเจ้ า และเมื่อข้ ามแม่
น้ำ มันจะไม่ ท่วมเจ้ า ...เพราะเราคือยาห์ เวห์ เป็ นพระเจ้ าของเจ้ า องค์ บริ สุทธิ์ ของอิสราเอลผู้ช่วยให้ รอดของเจ้ า” (อิสยาห์ 43:2–3)
หลังจาก 3 พันปี อิสราเอลก็ยงั คงอยู!่

เรื่ องราวของชาวฮีบรู 3 คนที่ถูกโยนเข้าไปในเตาเผาทั้งเป็ นและมีชีวิตออกมา เป็ นภาพของเผ่าพันธุ์ของพวกเขา เป็ น


เวลา 2500 ปี แล้วที่ผคู้ นที่ได้รับเลือกได้ผา่ นเตาแห่งความทุกข์ยาก แต่ได้ปรากฏตัวขึ้นและครอบครองคอลัมน์หนังสื อพิมพ์ทุก
วัน! ไม่น่าแปลกใจที่ผเู้ ขียนสดุดีเขียนว่า “ถ้ าพระยาห์ เวห์ มิได้ ทรงอยู่ฝ่ายเรา...เออ ขอให้ อิสราเอลกล่ าวว่ าแล้ วน้ำที่เดือดดาล จะ
ไหลท่ วมเรา” (สดุดี 124:1, 5)
ข่าวสารแห่งความเชื่อในพระคัมภีร์มาถึงเราจากเบ้าหลอมแห่งความทุกข์ แต่กย็ งั เป็ นหนังสื อที่มีความสุ ขที่สุดเท่าที่เคย
เขียนมา มีขอ้ อ้างอิงถึงความชื่นชมยินดีและความยินดี 653 ข้อ! บางคนสามารถเชื่ออะไรก็ได้ แม้วา่ มันจะเกิดขึ้นเมื่อนานมาแล้ว
หรื อจะเกิดขึ้นในอนาคตที่ไกล พวกเขาสามารถยอมรับคำสัญญาเช่น “ทุกอย่ างร่ วมกันก่ อผลดีแก่ คนที่รักพระเจ้ า” (โรม 8:28)
ซึ่งอาจหมายถึงนิรันดร แต่พวกเขาพบว่ามันยากที่จะเชื่อว่า “เราคือยาห์ เวห์ แพทย์ ของเจ้ า” (อพยพ 15:26) พวกเขาเชื่อในพระเจ้า
ของโมเสสและเอลียาห์ ว่าพระเยซูทรงทำการอัศจรรย์ และว่าพระวิญญาณบริ สุทธิ์ ให้อ ำนาจแก่พวกสาวก แต่นนั่ เป็ นความเชื่อที่
กลวงเปล่า เว้นแต่จะโอนมาถึงวันนี้ โดยเชื่อว่าพระองค์จะทรงสานต่อการงานที่ดี! จงเป็ นผูเ้ ชื่อในยุคปัจจุบนั นี้ !

6
กันยายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“สาธุการแด่พระเจ้าพระบิดาของพระเยซูคริ สต์องค์พระผูเ้ ป็ นเจ้าของเรา ผูป้ ระทานพรฝ่ ายจิตวิญญาณทุกอย่างแก่เราในสวรรค
สถานโดยพระคริ สต์” (เอเฟซัส 1:3)
ไฟประจำวัน!
ฉันต้องการที่จะอยูท่ ่ามกลางการกระทำของพระเจ้า!
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
อพยพ 3:1–22; 4:1–31; 6:1–8; เอเฟซัส 1:3
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
1 ซามูเอล 31; 1 โคริ นธ์ 11
เย็น:
เอเสเคียล 9; สดุดี 48
คำพูดที่เป็ นการกระทำ
ประมาณ 8 ศตวรรษหลังจากอับราฮัม พระเจ้าตรัสว่าพระองค์ไม่เคยลืมพันธสัญญาที่ท ำกับอับราฮัม บิดาของทุกคนที่
เชื่อ พระองค์ตรัสกับโมเสสว่าพระองค์ก ำลังทำอะไรอยู่ ดูที่ค ำพูดที่เป็ นการกระทำเหล่านี้ องค์พระผูเ้ ป็ นเจ้าตรัสว่า… “ดูสิ่งที่เรา
จะทำ….เราปรากฏตัว…เราได้ตั้งพันธสัญญาของเรา….เราได้ ยนิ ด้วย…เราได้ระลึก….เราได้เห็นอย่างแน่นอน…เราได้ลงมา…
เราจะส่ งเจ้าไป…เราจะอยู่กบั เจ้าอย่างแน่นอน…เราจะยืน่ มือของเราออกมา….เราจะช่ วยกู้เจ้าให้พน้ จากพันธนาการของพวกเขา
และเราจะไถ่เจ้าด้วยพระกรที่เหยียดออก….เราจะรับเจ้าเป็ นประชากรของเรา และเราจะเป็ นพระเจ้าของเจ้า …เราสาบานว่าจะ
ให้…และเราจะให้ ” (อพยพ 6:1, 3–5; 3:7–8, 10, 12, 20; 6:6–8) นัน่ เป็ นการวาดอย่างรวดเร็วด้วยปากกาของพระเจ้าในอดีต คน
ๆ หนึ่งสามารถสร้างภาพนั้นผ่านทางพระคัมภีร์เมื่อพระเจ้ากลายเป็ นพระเจ้าของอิสราเอล…ซามูเอล…ดาวิด…อิสยาห์…และ
จากนั้นเป็ น “พระเจ้ า พระบิดาของพระเยซูคริ สต์ องค์ พระผู้เป็ นเจ้ าของเรา” (เอเฟซัส 1:3) นัน่ คือพระเจ้าที่เคยเป็ น อย่างไร
ก็ตาม สำหรับบางคน พระเจ้ายังคงเป็ นพระเจ้าที่เคยเป็ น คนนับล้านไม่ได้ไปต่อแล้ว และพระเจ้าสำหรับพวกเขาอาจอยูใ่ กล้ ๆ
ที่ไหนสักแห่ง แต่โดยทัว่ ไปดูเหมือนว่าพระองค์จะเข้าสู่ วยั เกษียณแล้ว หรื อพวกเขาพูดว่า “พระเยซูทรงทำสิ่ งอัศจรรย์ ถูกตรึ ง
กางเขน ถูกทำให้เป็ นขึ้นมาและถูกรับขึ้นสวรรค์ จบตอน” จบแค่น้ นั พระเจ้าของพวกเขาถูกยึดอย่างมัน่ คงในประวัติศาสตร์ พระ
คริ สต์ไม่เคยมีการกระทำใดๆอีกต่อไป

มีหนังสื อเล่มหนึ่งที่อา้ งว่าพระเจ้าถอนตัวออกจากพระคัมภีร์ แต่ต้ งั แต่พระเยซูเสด็จมา พระเจ้าก็ยงิ่ ชัดเจนมากขึ้นใน


พระคัมภีร์และในโลกจนถึงทุกวันนี้ นักเขียนคนนี้ ใช้เวลา 348 หน้าในการรวบรวมทฤษฎีของเขา แต่การอัศจรรย์เพียงครั้งเดียว
เท่านั้นก็จะทำลายแนวคิดนี้ ! ถ้าผูใ้ ดคิดว่าพระเจ้าได้ลดบทบาทหรื อเล่นกลหายตัวไปแล้ว ขอให้พวกเขามาที่แอฟริ กา ผมได้เห็น
พระองค์ที่นนั่ สำแดงฤทธิ์ อำนาจที่ยงิ่ ใหญ่กว่าที่ใดๆ ในพระคัมภีร์เดิม ขับผี ทำให้คนป่ วยกลับสู่ สภาพดี รักษาคนตาบอด คน
พิการ และคนหูหนวก พระเจ้ากำลังเขย่าเมืองและประชาชาติ บางทีนนั่ อาจเป็ นที่ที่พระเจ้าหายไปอยูท่ ่ามกลางผูค้ นที่เชื่อ
พระองค์! นี่คือข้อเท็จจริ งของความเชื่อของคริ สเตียนของคุณ นัน่ คือพระเจ้าของคุณมีชีวิตอยูแ่ ละเป็ นจริ งในวันนี้ เหมือนกับที่
พระองค์เคยเป็ นมา หรื อจะเป็ น!
7
กันยายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“พระเยซูทอดพระเนตรพวกเขาแล้วตรัสว่า “ส่ วนมนุษย์ก็เหลือกำลังที่จะทำได้ แต่ไม่เหลือกำลังของพระเจ้า เพราะว่าพระเจ้า
ทรงทำให้สำเร็จได้ทุกสิ่ ง” (มาระโก 10:27)
ไฟประจำวัน!
เมื่อพระเจ้าสัง่ ให้ฉนั ทำสิ่ งที่เป็ นไปไม่ได้ ฉันรู้วา่ พระองค์จะเตรี ยมฉันให้พร้อมด้วยฤทธิ์ อ ำนาจและความสามารถในการทำงาน
ให้สำเร็ จ
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
มาระโก 10:23–31
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
2 ซามูเอล 1; 1 โคริ นธ์ 12
เย็น:
เอเสเคียล 10; สดุดี 49
ข้ อพิสูจน์ ของพระเยซู
คริ สตจักรแห่งเพ็นเทคอสต์สำแดงให้เห็นว่าพระเยซูยงั ทรงชีวิตอยู่ ข้อพิสูจน์วา่ พระเยซูทรงพระชนม์อยูค่ วรอยูใ่ นคริ
สตจักรเอง ซึ่งถูกสำแดงจากพลังงาน ความรัก และความมีชีวิตชีวาของคริ สตจักร ผมมีชีวิตอยู่ ผมไม่รู้จกั ใครที่พยายามพิสูจน์วา่
ผมยังมีชีวิตอยู่ มันไม่จ ำเป็ น คนที่มีชีวิตอยูม่ ีแนวโน้มที่จะปรากฎตัวให้เห็น! ทุกสิ่ งที่พระเยซูตอ้ งการคือโอกาสที่จะสำแดงให้
เห็นว่าพระองค์ยงั ทรงพระชนม์อยูใ่ นคริ สตจักร เมื่อคริ สตจักรใช้เวลาพยายามพิสูจน์วา่ พระเยซูทรงเป็ นขึ้นมาจากความตาย ผูค้ น
มักจะคิดว่า “ถ้าพระเยซูยงั ทรงพระชนม์อยู่ ทำไมพวกเขาต้องทุ่มเทความพยายามและเหตุผลมากมายในการพิสูจน์? มันควรจะ
ชัดเจน” ความเห็นอกเห็นใจต่อความทุกข์ยาก และคุณสมบัติอนั หาที่เปรี ยบไม่ได้ของความดีงามแบบพระคริ สต์ที่มีเพียง
พระองค์เท่านั้นที่สามารถมอบให้ได้ตอ้ งอยูท่ ี่นนั่ ต้องมีหลักฐานที่ชดั เจน

พระเยซูตรั สตอบเขาว่ า “เราบอกความจริ งกับท่ านว่ า ใครก็ตามที่สละบ้ าน หรื อพี่น้องชายหญิง หรื อบิดามารดา หรื อ
ลูก หรื อไร่ นา เพราะเห็นแก่ เราและข่าวประเสริ ฐของเราคนนั้นจะได้ รับผลตอบแทนร้ อยเท่ าในยุคนี ค้ ือ บ้ าน พี่น้อง
ชายหญิง มารดา ลูก และไร่ นา พร้ อมการข่ มเหงด้ วย และในยุคหน้ าจะได้ ชีวิตนิรันดร์ ” (มาระโก 10:29–30) เมื่อพระ
เยซูประทานพระมหาบัญชา พระองค์ ก ำลังตรั สกับชาย 12 คนเท่ านั้น ชายธรรมดา 12 คน มันต้ องฟั งดูเป็ นงานที่
อุกอาจ! ไม่มีกษัตริ ย์หรื อทรราชคนใดเคยคาดหวังมากจากน้ อยคนนัก แต่ พระเยซูทรงทำ คุณสามารถรู้ จักพระเยซูที่แท้
จริ งได้ เพราะว่ าพระองค์ ต้องการสิ่ งที่เป็ นไปไม่ ได้ นั่นคือวิธีที่คุณสามารถระบุตวั ตนของพระองค์ ได้ นั่นคือพระเยซู
ทุกครั้ ง บอกให้ คุณทำในสิ่ งที่เกินความสามารถตามธรรมชาติของคุณ ฆ่ าโกลิอัท !…จงเป็ นยักษ์ ใหญ่ ไม่ ใช่ ตั๊กแตน!…
จงเคลื่อนภูเขา!…จงสมบูรณ์ แบบ!…จงเดินบนคลื่น!… จงชำระคนโรคเรื ้อนให้ สะอาด!…จงเรี ยกคนตายให้ ฟื้น!…จง
สอนทุกประชาชาติ!…จงประกาศข่ าวประเสริ ฐแก่ มนุษย์ ทุกคน! ความคิดที่จะเทียมแอกกับพระมหาบัญชาโดย
ปราศจากฤทธิ์ อ ำนาจของเพ็นเทคอสต์ (ในความคิดเห็นของฉั น) นั้นไร้ สาระ เมื่อใดก็ตามที่พระเยซูทรงเรี ยกร้ องสิ่ งที่
เป็ นไปไม่ ได้ พระองค์ จะอยู่ที่นั่น (พระคริ สต์ ผ้ ทู รงพระชนม์ ) เพื่อทำให้ เป็ นไปได้ นั่นคือหลักการของชี วิตกับพระเยซู
ขอให้ พระสิ ริทั้งหมดเป็ นของพระนเจ้ า! ฮาเลลูยา!
8
กันยายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“เพราะฉะนั้น ข้าพเจ้าผูเ้ ป็ นนักโทษโดยเห็นแก่องค์พระผูเ้ ป็ นเจ้า ขอวิงวอนพวกท่านให้ด ำเนินชีวิตสมกับการทรงเรี ยกที่ท่านได้
รับการทรงเรี ยกมานั้นคือจงถ่อมใจและมีความสุ ภาพอ่อนโยนอยูเ่ สมอ จงอดทน จงอดกลั้นต่อกันและกันด้วยความรักจงพยา
ยามรักษาความเป็ นน้ำหนึ่งใจเดียวกันที่มาจากพระวิญญาณนั้น โดยมีสนั ติภาพเป็ นเครื่ องผูกพัน” (เอเฟซัส 4:1–3)
ไฟประจำวัน!
ฉันจะเติบโตในความเชื่อของฉันในพระคริ สต์ และแบ่งปันความเชื่อของฉันกับผูอ้ ื่น
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
เอเฟซัส 3:1–21; 4:1–32
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
2 ซามูเอล 2; 1 โคริ นธ์ 13
เย็น:
เอเสเคียล 11; สดุดี 50
การพิชิตของพระคริสต์
“เมื่อพระองค์ เสด็จขึน้ ไปสู่ที่สูง พระองค์ ทรงนำเชลยกลุ่มใหญ่ ไป  และประทานของประทานแก่ มนุษย์ ” (เอเฟซัส
4:8) ในจดหมายที่เขียนถึงชาวเอเฟซัส เปาโลใช้ภาพพจน์ที่ชาวเอเฟซัสคุน้ เคยกันดี คุน้ ชินกับการครอบงำของโรมันมาช้านาน
เมื่อกองทัพโรมันพิชิตส่วนใหม่ของโลก พวกเขานำเชลยศึกกลับมาและแห่พวกเขาไปตามถนนในกรุ งโรมในขบวนแห่ฉลองชัย
นายพลผูพ้ ิชิตได้รับการเฉลิมฉลองและยกย่องอย่างสูง นักโทษเป็ นของกำนัลของเขา และเขาภูมิใจในการเชลยให้เป็ นของขวัญ
ให้แก่ชาวโรมันที่มีชื่อเสี ยง พวกเขากลายเป็ นเชลยที่เป็ นทาสของชาวโรมัน —“การถูกจองจำถูกทำให้ เป็ นเชลย”—หรื อเชลยมี
นายใหม่ เปาโลคิดว่าตนเองเป็ นหนึ่งในผูพ้ ิชิตของพระคริ สต์ ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็ นทาสของบาป เขาเรี ยกตัวเองว่า “นักโทษของ
พระคริ สต์” และกล่าวเสริ มว่า “พวกท่ านได้ ยินมาแล้ วอย่ างแน่ นอนถึงภารกิจแห่ งของประทานของพระเจ้ าที่ทรงมอบแก่ ข้าพเจ้ า
เพื่อท่ าน...ข้าพเจ้ ามาเป็ นผู้ปรนนิ บัติของข่าวประเสริ ฐนี ต้ ามของประทานแห่ งพระคุณที่พระเจ้ าประทานแก่ ข้าพเจ้ าโดยกิจการที่
ทรงฤทธานุภาพของพระองค์ ” (เอเฟซัส 3:1–2, 7) จงสังเกตว่าเขาพูดว่า “ของประทานของพระเจ้ าที่ทรงมอบแก่ ข้าพเจ้ าเพือ่
ท่ าน” เขาได้ รับของประทานนั้นเพื่อเป็ นของประทาน

ทุกคนที่พระคริ สต์มีชยั ชนะจะได้รับของประทานเพื่อพวกเขาจะได้เป็ นของประทาน ไม่มีใครถูกช่วยให้รอดเพื่อตัว


เขาเองคนเดียว เปาโลกล่าวถึงของประทาน 5 ประการ ได้แก่ อัครทูต ผูเ้ ผยพระวจนะ ครู ผูเ้ ผยแพร่ ขา่ วประเสิ รฐ และศิษยาภิบาล
แต่ผมคิดว่าเราควรจะชัดเจนเกี่ยวกับเรื่ องนี้ นัน่ คือพวกเขาไม่ใช่คนที่มีของประทานเพียงพวกเดียว คนอื่นก็จ ำเป็ นเช่นกัน มันจะ
ชัดเจนขึ้นเมื่อเรารู้วา่ เป้ าหมายคืออะไร เปาโลบรรยายว่า “เพื่อเตรี ยมธรรมิกชนสำหรั บการปรนนิ บัติและการเสริ มสร้ างพระกาย
ของพระคริ สต์ จนกว่ าเราทุกคนจะบรรลุถึงความเป็ นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในความเชื่ อและในความรู้ ถึงพระบุตรของพระเจ้ า บรรลุ
ถึงความเป็ นผู้ใหญ่ คือโตเต็มถึงขนาดความบริ บูรณ์ ของพระคริ สต์ ” (เอเฟซัส 4:12–13) นัน่ คือจุดมุ่งหมาย
ถ้าคุณได้เชื่อว่าการยอมรับของประทานแห่งความรอดจากพระคริ สต์กเ็ หมือนกับการซื้ อกรมธรรม์ประกันภัยจาก
สวรรค์และนัน่ ก็เป็ นเช่นนั้น แสดงว่าคุณถูกศัตรู หลอก ซึ่งต้องการทำให้คุณไร้ฤทธิ์ อ ำนาจและไม่มีประสิ ทธิภาพในราช
อาณาจักรของพระเจ้า การเป็ นคริ สเตียนทำให้เกิดความรับผิดชอบในการแบ่งปันความเชื่อของคุณในพระเยซูคริ สต์ เพื่อเข้าถึงผู้
อื่นด้วยความรักและฤทธิ์ อำนาจที่เปลี่ยนแปลงชีวิตของพระองค์ เพื่อเติบโตในความเชื่อของคุณ โดยใช้ของประทานที่พระเจ้าได้
ทรงวางไว้ในตัวคุณเพื่อพระสิ ริของพระองค์! อาเมน!
9
กันยายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“เราบอกเธอแล้วไม่ใช่หรื อว่า ถ้าเธอเชื่อ ก็จะได้เห็นความยิง่ ใหญ่ของพระเจ้า?”?" (ยอห์น 11:40)
ไฟประจำวัน!
ความเชื่อสำหรับวันนี้ เป็ นความเชื่อที่เต็มไปด้วยฤทธิ์ อ ำนาจ
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
ยอห์น 11:1–57
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
2 ซามูเอล 3; 1 โคริ นธ์ 14
เย็น:
เอเสเคียล 12; สดุดี 51
การอัศจรรย์ท้าทายสู่ ความเชื่อ
การอัศจรรย์สูงสุ ดในพันธสัญญาใหม่คือการทำให้ลาซารัสเป็ นขึ้นมาจากความตาย เรื่ องราวจาก ยอห์นบทที่ 11 นี้ให้
บทเรี ยนคลาสสิ กบางอย่างเกี่ยวกับความเชื่อ เมื่อพระคริ สต์เสด็จมา มารธาพบพระองค์โดยกล่าวว่ า “พระองค์ อยู่ที่นี่ น้ องชาย
ของข้ าพระองค์ กค็ งไม่ ตาย” (ยอห์น 11:21) กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ เธอแสดงความเชื่อที่น่าอัศจรรย์สำหรับเมื่อวานนี ้ นัน่ คือ “ถ้า
พระองค์มาที่นี่เมื่อ 5 วันก่อน ข้าพระองค์เชื่อว่าจะต้องมีการอัศจรรย์” “ถ้ า” คือคำของเธอ ซึ่งเป็ นคำยอดนิยมสำหรับผูเ้ ชื่อที่เชื่อ
สำหรับอดีต เมื่อวานสามารถเกิดอะไรขึ้นก็ได้ “ถ้า” ความเชื่อเก่าเป็ นเหมือนมานาเก่าจากเมื่อวานที่ถูกบรรยายไว้ในพระธรรม
อพยพและกันดารวิถี ถ้าพวกเขาเก็บมานาของเมื่อวานไว้ มันจะเพาะตัวหนอนและส่ งกลิ่นเน่าเหม็น ความเชื่อจะต้องเป็ นความ
เชื่อของวันนี้ พระเยซูตรัสรับรองมารธาว่า “น้ องชายของเจ้ าจะเป็ นขึน้ มาอีก” (ข้อ 23) และมารธาตอบว่า “ข้ าพระองค์ ทราบว่ า
เขาจะเป็ นขึน้ ในวันสุดท้ าย” (ข้อ 24) มารธามีความเชื่อสำหรับวันพรุ่ งนี ้ นัน่ คือในวาระสุ ดท้าย มักจะเป็ นเช่นนั้นว่า “จะมีการ
อัศจรรย์บางครั้ง…ในเวลาที่ดีของพระเจ้า…เมื่อการฟื้ นฟูมาถึง…เมื่อสิ่ งต่าง ๆ ต่างออกไป”

ดังนั้นเมื่อพวกยิวหลายคนที่มาหามารี ย์เห็นการกระทำของพระเยซูกว็ างใจในพระองค์ แต่ บางคนไปหาพวกฟาริ สีเล่ า


เหตุการณ์ ที่พระเยซูทรงทำให้ เขาฟั งฉะนั้นพวกหั วหน้ าปุโรหิ ตและพวกฟาริ สีกเ็ รี ยกประชุมสมาชิ กสภาแล้วพูดกันว่ า
“เราจะทำอย่ างไรกันดี เพราะว่ าชายคนนีท้ ำหมายสำคัญมากมาย?ถ้ าเราปล่ อยให้ เขาทำอย่ างนี ต้ ่ อไป ทุกคนก็จะเชื่ อถือ
เขา แล้วพวกโรมันก็จะมาทำลายทั้งพระวิหารและชาติของเรา” (ยอห์ น 11:45–48) พระคริ สต์ ทรงทำการอัศจรรย์ ตาม
ถนนทั่วไปของหมู่บ้านและเมืองต่ างๆ แต่ ตามที่นักวิชาการในสมัยของพระองค์ กล่ าวว่ ามันเป็ นเวลาที่ไม่ ถกู ต้ อง มัน
จะเกิดขึน้ เมื่อโลกในยุคสุดท้ ายเริ่ มขึน้ เท่ านั้น พวกเขาเชื่ อว่ าวันหนึ่งคนง่ อยจะกระโดดได้ เหมือนกวางและคนตาบอด
จะมองเห็นได้ แต่ ไม่ ใช่ ตอนนี ้ ทหารโรมันกำลังยึดครองเมืองที่บริ สุทธิ์ อยู่! การอัศจรรย์ ที่พวกเขาเห็นในเยรู ซาเล็ม
หรื อกาลิลีนั้นไม่ ใช่ ของจริ ง รั บบีแก่ เหล่ านั้นคิดว่ า “ต้ องเป็ นการทำงานของวิญญาณชั่วแน่ ๆ” วันนี ้ เรายังเต็มไปด้ วย
ความคลางแคลงใจ แต่ เรามีความเชื่ อที่แน่ วแน่ และไม่ สั่นคลอนในพระเยซูคริ สต์ เจ้ าของเรา! ดังนั้นจงสรรเสริ ญ
พระองค์ จากหั วใจของคุณในวันนี ้

10
กันยายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“แต่ถา้ ไม่มีความเชื่อแล้ว จะไม่เป็ นที่พอพระทัยเลย เพราะว่าผูท้ ี่จะมาเฝ้ าพระเจ้านั้น ต้องเชื่อว่าพระองค์ทรงดำรงพระชนม์อยู่
และพระองค์ทรงเป็ นผูป้ ระทานบำเหน็จแก่คนเหล่านั้นที่แสวงหาพระองค์” (ฮีบรู 11:6)
ไฟประจำวัน!
ความเชื่อที่พระเจ้าได้ประทานให้แก่ฉนั มีความสำคัญต่อชีวิตประจำวันของฉัน
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
มัทธิว 6:33; ลูกา 8:14; 12:27; ฮีบรู 11:6; ยากอบ 4:3
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
2 ซามูเอล 4 และ 5; 1 โคริ นธ์ 15
เย็น:
เอเสเคียล 13; สดุดี 52 ถึง 54
การทะลุทะลวงทางความเชื่อ
พระเจ้าทรงวางแผนไม่ให้สิ่งใดธรรมดา พระเยซูทรงชี้ ไปที่ดอกลิลลี่เป็ นตัวอย่างของความงดงามอันยอดเยีย่ ม “จง
พิจารณาดูดอกไม้ ว่ามันเติบโตขึน้ อย่ างไร มันไม่ ทำงาน มันไม่ ปั่นด้ าย แต่ เราบอกพวกท่ านว่ า แม้ แต่ กษัตริ ย์ซาโลมอนเมื่อบริ
บูรณ์ ด้วยศักดิ์ศรี ก็ไม่ ได้ ทรงแต่ งพระองค์ งามเท่ าดอกไม้ เหล่ านี ส้ ักดอกหนึ่ง” (ลูกา 12:27)
ในราชอาณาจักรของพระผูเ้ ป็ นเจ้า สิ่ งพิเศษเป็ นเรื่ องธรรมดามากจนเป็ นเรื่ องปกติ มีเรื่ องเล่าเกี่ยวกับเศรษฐีคนหนึ่งที่
สามารถเกลี้ยกล่อมพระเจ้าให้อนุญาตให้เขานำกระเป๋ าเดินทางที่เต็มไปด้วยทองคำแท่งเมื่อเขาตายและไปสวรรค์ ชายคนนี้ ภูมิใจ
ในความสำเร็ จในแผ่นดินโลกในด้านความมัง่ คัง่ และความร่ำรวย ชายคนนี้ เปิ ดกระเป๋ าเดินทางเมื่อเขามาถึงประตูไข่มุก นักบุญ
เปโตรเกาศีรษะและถามว่า “คุณกำลังนำบาทวิถีมาทำไม?” แม้แต่ถนนในสวรรค์กย็ งั ปูดว้ ยทองคำ!

ที่สำคัญยิง่ กว่านั้น แต่ละคนมีความพิเศษ ผูเ้ ลี้ยงแกะที่มีแกะร้อยตัวออกตามหาตัวหนึ่งที่หลงทาง เด็กชายดาวิด


คนนอกในครอบครัวนักรบของเจสซี ได้รับเลือกให้รับการเจิมเป็ นกษัตริ ยใ์ นอนาคต คริ สเตียนเป็ นศาสนาของผูท้ ี่ไม่เป็ นที่
ต้องการ ความเชื่อคือผืนดินอันอุดมสมบูรณ์ซ่ ึงพระเจ้าทรงปลูกพืชและต้นไม้ของพระองค์ พระองค์ปลูกฝังคุณสมบัติในชาย
หรื อหญิงแห่งความเชื่อซึ่งปัจจุบนั เป็ นที่ชื่นชมในทุกที่ คนที่เล็กน้อยเติบโตขึ้ นโดยความเชื่อในพระคริ สต์ พวกเขามีความสนุก
กำมือในชีวิต และจัดการกับปัญหาต่างๆ ด้วยความมุ่งมัน่ และความมัน่ ใจ เป็ นเรื่ องปกติที่ผเู้ ชื่อจะทำได้เกินความสามารถตาม
ธรรมชาติของพวกเขา พระเยซูตรัสกับชาวประมงที่ไม่มีการศึกษาในแคว้นกาลิลีวา่ “เราจะตั้งท่ านให้ เป็ นผู้หาคนดั่งหาปลา”
(มัทธิว 4:19) พวกเขาเปลี่ยนทิศทาง…และถูกยกระดับด้วย
นัน่ เป็ นสิ่ งที่ดีมาก แต่บางคนพูดว่า “ฉันไม่ใช่คนแห่งความเชื่อ” นี่คือข่าวร้ายและข่าวดี ข่าวร้อวยก็คือ “ถ้ าไม่ มีความ
เชื่ อแล้ว จะไม่ เป็ นที่พอพระทัย [ของพระเจ้ า] เลย” (ฮีบรู 11:6) ข่าวดีกค็ ือเราทุกคนสามารถเป็ น "ผูม้ ีความเชื่อ!" ความเชื่อมี
ความสำคัญอย่างมากที่พระเจ้าประสงค์ให้ไม่มีคนที่ขาดความเชื่อ ถนนแห่งความเชื่อยังเปิ ดกว้างอยู่ คุณสามารถมีความเชื่อได้
แล้ววันนี้ !
11
กันยายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“จงส่ องสว่างแก่คนทั้งปวง เพื่อว่าเมื่อเขาทั้งหลายได้เห็นความดีที่ท่านทำ พวกเขาจะได้สรรเสริ ญพระบิดาของท่านผูส้ ถิตใน
สวรรค์” (มัทธิว 5:16)
ไฟประจำวัน!
พระบิดา โปรดทำให้ขา้ พระองค์เห็นถึงความรักของพระองค์ที่มีต่อผูท้ ี่หลงหาย
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
มัทธิว 5:13–16; โรม 10:13–18; ยากอบ 4:7; 5:16; 1 ยอห์น 3:8
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
2 ซามูเอล 6; 1 โคริ นธ์ 16
เย็น:
เอเสเคียล 14; สดุดี 55
ลำแสงเลเซอร์
ในคริ สตจักรตะวันตก มีผไู้ ม่เชื่อเพียงไม่กี่คนที่กล้าเปิ ดเผยตัวเองต่อการประกาศข่าวประเสริ ฐ โดยปกติแล้วพวกเขาจะ
ถูกนำไปยังที่ประชุมโดยผูท้ ี่แสวงหาพระเจ้าแทนพวกเขา บางทีอาจเป็ นเวลาหลายปี และพื้นดินก็นองไปด้วยน้ำตาและถูกเตรี ยม
พร้อมไว้แล้ว แล้วประชากรจำนวนมากในแอฟริ กา เอเชีย จีน อินเดีย ญี่ปุ่น และอินโดนีเซียล่ะ? มีกี่คนที่เคยได้รับการเสนอชื่อ
เป็ นการส่ วนตัวต่อพระพักตร์องค์พระผูเ้ ป็ นเจ้า? ผูไ้ ม่ได้รับการอธิษฐานเผือ่ จำนวนมากเหล่านี้กเ็ ป็ นมนุษย์ที่ก ำลังดิ้นรนต่อสู้
เหมือนพวกเรา แม้วา่ เราจะคุน้ เคยกับพวกเขาจากระยะไกลก็ตาม ถ้าเราไม่อธิษฐานวิงวอนเพื่อพวกเขา แล้วใครจะทำล่ะ?
ทุกคนที่ร้องเรี ยกว่า "พระเจ้าช่วยด้วย!" ได้รับความช่วยเหลือ แต่ผคู้ นจะขอความช่วยเหลือได้อย่างไร ถ้าพวกเขาไม่รู้
ว่าจะไว้วางใจผูใ้ ดได้? และพวกเขาจะรู้ได้อย่างไรว่าจะไว้วางใจผูใ้ ดได้ ถ้าพวกเขาไม่เคยได้ยนิ เกี่ยวกับผูท้ ี่ไว้วางใจได้? แล้วพวก
เขาจะได้ยนิ ได้อย่างไร ถ้าไม่มีผใู้ ดบอกพวกเขา แล้วจะมีผใู้ ดไปบอกพวกเขาได้อย่างไร เว้นแต่จะมีคนที่ถูกส่ งออกไปให้ท ำสิ่ ง
นั้น? นัน่ คือเหตุผลที่พระคัมภีร์อุทานว่า “เท้ าของคนเหล่ านั้นที่น ำข่ าวดีมา ช่ างงามจริ งๆ หนอ!”  (โรม 10:15)

ในความมืดมิดของโลกที่ชวั่ ร้าย คำอธิษฐานของเราตัดผ่านความมืดเหมือนแสงเลเซอร์ กลายเป็ นช่องทางซึ่งพระพร


ของพระเจ้าอาจส่ งไปถึงแผ่นดินโลก และส่ งกระแสฤทธิ์ อ ำนาจแห่งกลโกธาและการเป็ นขึ้นมาจากความตาย “คำวิงวอนของผู้
ชอบธรรมนั้นมีพลังมากและเกิดผล” (ยากอบ 5:16) การอธิษฐานวิงวอนขัดขวางความยาวคลื่นของมาร “จงต่ อสู้กับมาร แล้ วมัน
จะหนี ท่านไป” (ยากอบ 4:7) แน่นอนว่ามารจะต่อต้าน และโลกจะส่ งเสี ยงคำรามประท้วง การงานของซาตานมีมากมาย แต่สิ่ง
เหล่านั้นต้องออกไป "พระบุตรของพระเจ้ าได้ เสด็จมาปรากฏก็เพราะเหตุนี้ คือเพื่อทำลายกิจการของมาร“ (1 ยอห์น 3:8)”
จงระลึกว่าคำอธิษฐานที่คุณอธิษฐานในวันนี้ จะไม่เพียงช่วยและอวยพรคุณเท่านั้น พระเจ้าจะทรงใช้สิ่งเหล่านี้เพื่อช่วย
รื้ อการงานของมารในแบบที่คุณอาจไม่เคยเห็นด้วยตาของคุณ จงอธิษฐานต่อไป!
12
กันยายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“เพราะฉะนั้นก่อนสิ่ งอื่นใดทั้งหมด ข้าพเจ้าขอร้องพวกท่านให้วิงวอน อธิษฐาน ทูลขอ และขอบพระคุณเพื่อทุกคนเพื่อกษัตริ ย ์
ทั้งหลายและทุกคนที่มีต ำแหน่งสูง เพื่อเราจะได้ด ำเนินชีวิตอย่างสงบและมีสนั ติในทางพระเจ้า และเป็ นที่นบั ถือ” (1 ทิโมธี 2:1–
2)
ไฟประจำวัน!
การอธิษฐานวิงวอนสัมผัสหัวใจของพระเจ้า
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
2 พงศ์กษัตริ ย ์ 4; 2 ซามูเอล 12:20, 23; เอเสเคียล 22:30; 1 ทิโมธี 2:1–2
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
2 ซามูเอล 7; 2 โคริ นธ์ 1
เย็น:
เอเสเคียล 15; สดุดี 56 และ 57
ความแตกต่ างของการอธิษฐานวิงวอน
การอธิษฐานวิงวอนให้เกียรติแก่ผทู้ ี่เราอธิษฐานเผือ่ ดีกว่าการแนะนำพวกเขาสู่ "รายชื่อของผูม้ ีเกียรติ" ใน 2 พงศ์
กษัตริ ย ์ เราอ่านเกี่ยวกับสตรี ชาวชูเนมผูซ้ ่ ึงถูกกำหนดให้เป็ นผูม้ ีชื่อเสี ยง เธอไม่ได้มีชื่อเสี ยงและเธอไม่ตอ้ งการเป็ น เธอให้การ
ต้อนรับผูเ้ ผยพระวจนะเอลีชาอย่างเงียบ ๆ และเพื่อเป็ นการขอบคุณเธอ เขาจึงถามว่า “คุณต้องการให้ฉนั พูดแทนคุณต่อกษัตริ ย ์
หรื อผูบ้ ญั ชาการกองทัพหรื อไม่?” เธอปฏิเสธ แวดวงคนชั้นสูงไม่ได้ดึงดูดเธอ แต่เธอต้องการให้พระเจ้าประทานลูกชายให้แก่
เธอ พระองค์ท ำเช่นนั้น และสิ่ งนี้ได้เริ่ มต้นเรื่ องราวการอัศจรรย์อนั น่าตื่นเต้นของการให้ก ำเนิดลูกชายที่รอคอยมานานของเธอ
การตายอันน่าสลดใจของเขา และในที่สุดเขาก็เป็ นขึ้นมาจากความตาย! เอลีชาอธิษฐานเผือ่ เธอต่อองค์พระผูเ้ ป็ นเจ้า และนำชื่อ
เสี ยงอมตะมาสู่เธอ
การอธิษฐานนำความแตกต่างมาสู่ ตวั เราและผูท้ ี่เราอธิษฐานเผือ่ มันเน้นย้ำพวกเขา และทำให้ “คนที่ไม่มีตวั ตน” กลาย
เป็ น “คนที่สำคัญ” เฉพาะพระพักตร์พระเจ้า พระองค์ทรงหันเหความสนใจไปที่พวกเขา ลองคิดถึงสิ ่ งนี้ดูสิ! “และเราแสวงหา
คนหนึ่งในพวกเขาที่จะสร้ างกำแพง และยืนอยู่ตรงช่ องโหว่ ต่อหน้ าเราเพื่อแผ่ นดินนั้น เพื่อเราจะไม่ ทำลายมันเสี ย แต่ เราก็หาไม่
ได้ สักคนเดียว” (เอเสเคียล 22:30) มีนกั การเมือง นักพูด นักดนตรี แต่ไม่มีผอู้ ธิษฐานวิงอวนแม้แต่คนเดียว ถ้าพระองค์ทรงพบ
ชายคนหนึ่ง ชื่อของเขาก็จะอยูใ่ นหนังสื อนั้น เป็ นอมตะ การอธิษฐานวิงวอนหมายความว่าเราเข้าร่ วมกับบริ ษทั ชั้นยอด

นี่อาจเป็ นเพียงสิ่ งเดียวที่เราสามารถปฏิบตั ิได้ส ำหรับบางคน เอลีชาทำได้เพียงอธิษฐานให้หญิงเจ้าบ้านของเขา การ


ละเว้นการอธิษฐานจากกิจกรรมของเราเป็ นสิ่ งที่ไร้ความรัก และทำให้พระวิญญาณของพระเจ้าเสี ยพระทัย ไม่ใช่เรื่ องยาก
สำหรับเราที่จะนึกถึงบุคคลที่ตอ้ งการคำอธิษฐานของเรา แต่เราไม่ควรลืมฤทธิ์ อ ำนาจที่ยงิ่ ใหญ่ของการอธิษฐานวิงวอนเพื่อ
ประชาชาติ
จงอธิษฐานขอสันติภาพให้เยรู ซาเล็มว่า “ขอบรรดาผู้ที่รักเธอจงจำเริ ญ"(สดุดี 122:6) คำอธิษฐานของคุณทำให้ เกิด
ความแตกต่ าง
13
กันยายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“จงขอแล้วจะได้ จงหาแล้วจะพบ จงเคาะแล้วจะเปิ ดให้แก่พวกท่าน” (มัทธิว 7:7)
ไฟประจำวัน!
การขอด้วยการอธิษฐานเป็ นเครื่ องเตือนใจที่ดีวา่ เราพึ่งพาพระเจ้าและออกแบบมาเพื่อให้เราแสวงหาพระองค์
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
สดุดี 84:11; มัทธิว 7:7–11; ลูกา 11:2–4, 11–13; ยอห์น 16:24; ยากอบ 1:17
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
2 ซามูเอล 8 และ 9; 2 โคริ นธ์ 2
เย็น:
เอเสเคียล 16; สดุดี 58 และ 59
พระเจ้ าและลูกของพระองค์
พระเจ้ามีสิ่งดีมากมายเตรี ยมไว้สำหรับลูกๆของพระองค์ คำสัญญาคือ “จงหาแล้วจะพบ” (มัทธิว 7:7) เพราะว่าสิ่ งเหล่า
นี้จะได้มาโดยการสมัครโดยตรงเท่านั้น อันที่จริ งสิ่ งเหล่านี้ถูกสัญญาไว้และส่ วนใหญ่ถูกระบุไว้ในพระคัมภีร์ “พระองค์ มิได้
ทรงหวงสิ่ งดีอันใดไว้ จากบรรดาผู้ที่ด ำเนินในความซื่ อสัตย์ ” (สดุดี 84:11) เมื่อเรามาถึงจุดสิ้ นสุ ดของการจัดเตรี ยมตาม
ธรรมชาติ พระเยซูตรัสว่า “จงขอแล้ วจะได้ ” (มัทธิว 7:7) “ทุกคนที่ขอก็ได้ ... ถ้ าพวกท่ านเอง ...ยังรู้ จักให้ ของดีแก่ ลกู ของตน ยิ่ง
กว่ านั้นสักเท่ าใด พระบิดาของท่ านผู้สถิตในสวรรค์ จะประทานสิ่ งดีแก่ พวกที่ขอต่ อพระองค์ ” (มัทธิว 7:8, 11) ถ้าเราขอสิ่ งดี
พระองค์จะไม่ส่งสิ่ งที่ชวั่ มาให้ ไม่เคยเลย! “ของประทานที่ดีและเลิศทุกอย่ างนั้นมาจากเบือ้ งบน คือมาจากพระผู้สร้ างแห่ งบรร
ดาดวงสว่ าง ในพระองค์ ไม่ มีการแปรปรวนหรื อเงาของการเปลี่ยนแปลง” (ยากอบ 1:17)
การใช้ความเชื่อในการอธิษฐานเป็ นกิจกรรมที่ดี นกในรังต้องเรี ยนรู้ที่จะบินและรวบรวมสิ่ งที่มีอยู่ การขอเป็ นการ
เตือนใจเราอย่างยอดเยีย่ มถึงการพึ่งพาพระเจ้า และถูกจัดเตรี ยมไว้เพื่อนำเราไปสู่ การแสวงหาพระองค์ สิ่ งนี้ให้ก ำเนิดวิญญาณ
ของความเป็ นเด็ก มองไปที่พระบิดาบนสวรรค์ของเราตลอดเวลา เป็ นการสามัคคีธรรม การสามัคคีธรรมในครอบครัวกับพระ
บิดาของเรา

พระเยซูทรงบรรยายความสัมพันธ์ในครอบครัวนี้ อย่างชัดเจน ท้ายที่สุดแล้ว พระองค์กด็ ำเนินชีวิตอยูใ่ นครอบครัว


มนุษย์ดว้ ยพระองค์เอง! ความคล้ายคลึงกันระหว่างครอบครัวมนุษย์และครอบครัวบนสวรรค์น้ นั ชัดเจน นัน่ คือพระบิดาผูเ้ ลี้ยงดู
ลูก ๆ ที่เพิ่งเรี ยนรู้ที่จะเข้ากันได้ ข้าแต่พระบิดา ขอให้พระนามของพระองค์เป็ นที่เคารพสักการะ ขอให้แผ่นดินของพระองค์มา
ตั้งอยูข่ อประทานอาหารประจำวันแก่พวกข้าพระองค์ทุกๆ วันขอทรงยกโทษบาปผิดของพวกข้าพระองค์ เพราะว่าพวกข้าพระ
องค์ยกโทษให้กบั ทุกคนที่เป็ นหนี้ ขา้ พระองค์น้ นั และขออย่าทรงนำข้าพระองค์เข้าไปในการทดลอง (ลูกา 11:2–4) “จงขอแล้ ว
จะได้ ...ในพวกท่ านมีใครบ้ างที่จะเอาก้ อนหิ นให้ ลกู เมื่อเขาขอขนมปั ง?” (มัทธิว 7:7, 9) เป็ นความปรารถนาของพระบิดาที่ให้
คุณมีความสัมพันธ์ที่ดีกบั พระองค์ และกับคนอื่นๆ ในครอบครัวที่ยิง่ ใหญ่ของพระองค์

14
กันยายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“สิ่ งใดที่พวกท่านขอในนามของเรา เราจะทำสิ่ งนั้น” (ยอห์น 14:14)
ไฟประจำวัน!
ถ้าเราต้องการให้พระเจ้าทำงาน เราต้องทำงานด้วยการอธิษฐานด้วยแรงจูงใจที่ถูกต้อง
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
ปฐมกาล 2:15; ยอห์น 14:13–14; ยากอบ 4:1–3
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
2 ซามูเอล 10; 2 โคริ นธ์ 3
เย็น:
เอเสเคียล 17; สดุดี 60 และ 61
พึง่ พาซึ่งกันและกัน
พระเจ้าสามารถทรงจัดเตรี ยมด้วยการทำทุกอย่างเพื่อเรา แต่เป้ าหมายคือการสอนเด็กให้ยนื ด้วยสองขาของตัวเอง พระ
ประสงค์สูงสุ ดของพระเจ้าคือเราจะไม่เป็ นผูพ้ ่ งึ พิงที่ไร้ประโยชน์ เช่น ทารกที่เต้านม แต่เป็ นผูร้ ่ วมงานของพระองค์ ในปัจจุบนั
การอธิษฐานเป็ นการเข้าถึงแต่เพียงอย่างเดียวของเรา ถ้าเราต้องการเป็ นประโยชน์ต่อพระองค์ มักถูกลืมไปว่าแท้จริ งแล้ว
พระองค์ทรงสร้างโลกแบบที่การอธิษฐานเป็ นสิ่ งที่จ ำเป็ น การอธิษฐานไม่ใช่การคิดในภายหลังเมื่อมารสร้างปัญหากับสิ่ งต่างๆ
แม้แต่พระเยซูกอ็ ธิษฐาน
เพื่อช่วยกิจการต่อเนื่องของราชอาณาจักรของพระเจ้า การอธิษฐานเป็ นสิ่ งที่จ ำเป็ น มีหลายอย่างเกิดขึ้นที่พระเจ้าไม่
ต้องการ แต่เราควรอธิษฐานให้น ้ำพระทัยของพระองค์สำเร็ จ เราขอ แล้วพระองค์ทรงลงมือทำ พระองค์ทรงวางแผนว่าเราควร
ร่ วมมือกันในลักษณะนั้น เช่นเดียวกับที่ทรงให้อาดัม “อาศัยอยู่ในสวนเอเดน ให้ ทำและดูแลสวน” (ปฐมกาล 2:15) นัน่ คือวิธี
อ่านคำสัญญา “สิ่ งใดที่พวกท่ านขอในนามของเรา เราจะทำสิ่ งนั้น” (ยอห์น 14:14) เราขอทุกสิ่ งที่จ ำเป็ นเพื่อทำให้น้ำพระทัยของ
พระเจ้าสำเร็ จบนแผ่นดินโลกนี้ “ถ้ าท่ านขอสิ่ งใดในนามของเรา เราจะทำสิ่ งนั้น” เราเป็ นผูร้ ่ วมงานของพระองค์ โลกและผูค้ น
ในโลกนี้ ตอ้ งการการดูแลเอาใจใส่ และคำสัญญาที่วา่ พระคริ สต์จะทรงกระทำทุกสิ่ งที่เราทูลขอก็เพื่อทำให้จุดประสงค์น้ นั สำเร็ จ
ไม่ใช่เพื่อให้ได้ดวงจันทร์หรื อรถโรลส์รอยซ์ครึ่ งโหล

เห็นได้ชดั ว่าอัครทูตยากอบ (น้องชายต่างมารดาของพระเยซู) เติบโตขึ้นมาในครอบครัวที่เหมือนมนุษย์ โดยการชักเย่อ


ของพี่นอ้ งทั้งหมด คำอธิบายของเขาเกี่ยวกับชีวิตครอบครัวของมนุษย์—และวิธีที่พระเจ้าต้องการให้เราเรี ยนรู้ที่จะมองพระองค์
เป็ นพระบิดาของเรา—ฟังดูเป็ นความจริ งมาก นัน่ คือ อะไรเป็ นสาเหตุของสงคราม และการทะเลาะวิวาทกันในท่านทั้งหลาย?
มันมาจากความปรารถนาชัว่ ของท่านที่ต่อสู้อยูภ่ ายในตัวพวกท่านไม่ใช่หรื อ?ท่านทั้งหลายอยากได้แต่ไม่ได้ ท่านก็ฆ่ากัน พวก
ท่านโลภแต่ไม่ได้ ท่านก็ทะเลาะและทำสงครามกัน ท่านไม่มีเพราะไม่ได้ขอพวกท่านขอและไม่ได้รับเพราะขอผิด หวังจะเอาไป
สนองความปรารถนาชัว่ ของตนเอง (ยากอบ 4:1–3) พระเจ้าจะไม่เป็ นแม่นมเราให้แก่เรา พระองค์ให้อาหารแก่นกกระจอก...แต่
ไม่ได้โยนอาหารเข้าไปในรังของมัน ถ้าคุณต้องการให้พระเจ้าทำงาน คุณต้องทำงานด้วยการอธิษฐานด้วยแรงจูงใจที่ถูกต้อง
15
กันยายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“สิ่ งที่เรากล่าวแก่พวกท่านในที่มืด ท่านจงกล่าวในที่แจ้ง และสิ่ งที่ได้ยนิ จากการกระซิบ จงตะโกนจากดาดฟ้ าหลังคาบ้านอย่า
กลัวผูท้ ี่ฆ่าได้แต่กาย แต่ไม่สามารถฆ่าจิตวิญญาณ แต่จงกลัวพระองค์ผทู้ รงสามารถทำลายทั้งจิตวิญญาณและกายในนรกได้”
(มัทธิว 10:27–28)
ไฟประจำวัน!
ความเจ็บปวดทางร่ างกายคืออะไร เมื่อเทียบกับชีวิตที่ลุกโชนด้วยความชื่นชมยินดีและความสนุกสนานของพระเยซู ?
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
ผูว้ ินิจฉัย 15:1–8; มัทธิว 10:8, 28; ลูกา 10:1; 12:49 น.; 24:32, 49; ยอห์น 15:5
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
2 ซามูเอล 11; 2 โคริ นธ์ 4
เย็น:
เอเสเคียล 18; สดุดี 62 และ 63
ที่จุดไฟ
ข่าวประเสริ ฐเป็ นที่จุดไฟ พระวิญญาณบริ สุทธิ์ ไม่ได้ถูกประทานให้เพียงเพื่อช่วยให้คุณเทศนาได้อย่างมีคารมคมคาย
พระองค์ได้ถูกประทานให้เพื่อจุดไฟในหัวใจของมนุษย์ เว้นแต่พระคริ สต์จะทรงจุดไฟให้คุณ คุณไม่สามารถนำไฟมาสู่แผ่นดิน
โลกได้ “ถ้ าแยกจากเราแล้ วพวกท่ านจะทำสิ่ งใดไม่ ได้ เลย” (ยอห์น 15:5) พระเยซูทรงสัง่ สาวกไม่ให้ท ำอะไรจนกว่าพวกเขาจะ
ได้รับ “ฤทธิ์ เดชจากเบือ้ งบน” (ลูกา 24:49) เมื่อฤทธิ์ เดชนั้นมาถึง พระวิญญาณก็ทรงสำแดงพระองค์เองเหมือนลิ้นเพลิงที่อยูบ่ น
พวกเขาแต่ละคน
ก่อนหน้านี้ พระเยซูได้ส่งเหล่าสาวกออกไปเป็ นคู่ๆ สิ่ งนี้ท ำให้ผมนึกถึงแซมซัน่ ที่ส่งสุ นขั จิ้งจอกออกไปเป็ นคู่ ขณะที่
สัตว์เหล่านั้นนำคบเพลิงเพื่อลอบวางเพลิงไร่ ขา้ วโพดและไร่ องุ่นของศัตรู เหล่าสาวกก็ถูกส่ งออกไปเป็ นคู่ๆ ผูถ้ ือคบเพลิงแห่ง
สวรรค์ ผูจ้ ุดไฟเพื่อพระเจ้า แผดเผาอาณาเขตของมารด้วยไฟแห่งข่าวประเสริ ฐ พวกเขาเป็ นเอลียาห์คนใหม่ที่นำไฟมาจากสวรรค์

จนกว่าไฟจะตกลงมา การประกาศข่าวประเสริ ฐและกิจกรรมของคริ สตจักรอาจเป็ นกิจวัตรและไม่น่าตื่นเต้น เรี ยง


ความบนธรรมาสน์ หรื อเทศนาเกี่ยวกับวิธีที่คุณคิดว่าเศรษฐกิจของประเทศควรจะดำเนินไป ทั้งหมดนี้ เป็ นงานที่ยากเย็นแสน
เข็ญ ไม่มีประกายของพระเจ้าใดทำให้น้ำแข็งลุกเป็ นไฟได้ ไม่มีใครกลับบ้านด้วยการติดไฟ ในทางตรงกันข้าม 2 คนที่ฟังพระ
เยซูที่ถนนเอมมาอูสนัง่ อยูท่ ี่บา้ นและพูดต่อกันว่า “ใจเรารุ่มร้ อนภายในเมื่อพระองค์ ตรั สตามทาง และเมื่อทรงอธิ บายพระคัมภีร์
ให้ เราฟั งไม่ ใช่ หรื อ?” (ลูกา 24:32).
พระเยซูเสด็จมา “เพื่อให้ ไฟเกิดขึน้ ที่แผ่ นดินโลก” (ลูกา 12:49) พันธกิจของพระเยซูไม่ใช่การปิ คนิคในวันหยุด
ซาตานเป็ นผูท้ ำลายล้าง องค์พระผูเ้ ป็ นเจ้าทรงส่ งผูร้ ับใช้ของพระองค์ออกไปพร้อมกับคำเตือนถึงอันตรายทางร่ างกาย “อย่ ากลัว
ผู้ที่ฆ่าได้ แต่ กาย แต่ ไม่ สามารถฆ่ าจิ ตวิญญาณ แต่ จงกลัวพระองค์ ผ้ ทู รงสามารถทำลายทั้งจิ ตวิญญาณและกายในนรกได้ ” (มัทธิว
10:28) ความเจ็บปวดทางร่ างกายคืออะไร เมื่อเทียบกับชีวิตที่ลุกโชนด้วยความชื่นชมยินดีและความสนุกสนานของพระเยซู ?
อันตรายทางกายใดเทียบได้กบั มงกุฎแห่งชีวิตหรื องานอัศจรรย์ที่พระองค์ประทานให้เราทำ? “จงรั กษาคนเจ็บป่ วยให้ หาย จงทำ
ให้ คนตายแล้วเป็ นขึน้ จงทำให้ คนโรคเรื ้อนหายสะอาด และจงขับผีออก ท่ านทั้งหลายได้ รับเปล่ าๆ ก็จงให้ เปล่ าๆ” (มัทธิว 10:8)
จงยอมให้พระวิญญาณบริ สุทธิ์ ดลใจคุณในวันนี้ !
16
กันยายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“ลูกของข้าพเจ้าเอ๋ ย ข้าพเจ้าเขียนข้อความเหล่านี้ถึงท่านทั้งหลายเพื่อท่านจะได้ไม่ท ำบาป และถ้าใครทำบาป เราก็มีผชู้ ่วยทูลขอ
พระบิดาเพื่อเรา คือพระเยซูคริ สต์ผทู้ รงเที่ยงธรรมนั้นและพระองค์ทรงเป็ นเครื่ องบูชาลบบาปของเรา และไม่ใช่แค่บาปของเรา
เท่านั้น แต่ของทั้งโลกด้วย” (1 ยอห์น 2:1–2)
ไฟประจำวัน!
นี่ เป็ นโลหิ ตของเราอันเป็ นโลหิ ตแห่งพันธสัญญาที่หลัง่ ออกเพื่อยกบาปโทษคนจำนวนมาก
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
มัทธิว 26:28; โคโลสี 2:13–14
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
2 ซามูเอล 12; 2 โคริ นธ์ 5
เย็น:
เอเสเคียล 19; สดุดี 64 และ 65
ละคร 2 ห้ องพิจารณาคดี
ช่างน่าโล่งใจที่รู้วา่ พระเยซูคริ สต์ทรงทำหน้าที่เป็ นทนายความของเราในศาลของสวรรค์ นำเรื่ องของเราขึ้นทูลต่อผู้
พิพากษาสูงสุ ดและทรงอำนาจที่สุด นัน่ คือ พระบิดาเจ้า ลองนึกภาพดูสิ ห้องพิจารณาคดีบนสวรรค์ที่มีเจ้าหน้าที่หน้าตาเคร่ งขรึ ม
ตำรวจในเครื่ องแบบ พนักงานอัยการ (ตัวซาตานเอง) และผูพ้ ิพากษา หลังจากตรวจสอบหลักฐานแล้ว เราทุกคนเกิดมาในบาป
ไม่มีผใู้ ดเป็ นคนชอบธรรม อัยการทำการสรุ ปผลและยืน่ คดีของมัน หลังจากช่วงเวลาสั้น ๆ คณะลูกขุนกลับมาพร้อมกับคำตัดสิ น
ว่า "มีความผิดตามที่ถูกตั้งข้อหา" จำเลยยืนอยูใ่ นคอกจำเลยถูกประณาม เขาต้องรับโทษ ชดใช้ราคา ถ้าเขาขอให้ถูกประกาศว่า
ชอบธรรม ศาลเคร่ งขรึ มจะระเบิดเสี ยงหัวเราะอย่างไม่อยากเชื่อ
ตอนนี้ลองนึกภาพอีกฉากหนึ่ง นัน่ คือคนบาปยืนอยูต่ ่อหน้าผูพ้ ิพากษาสูงสุ ด ผูก้ ล่าวหาคือซาตานอยูท่ ี่นนั่ และทูต
สวรรค์ที่ไร้บาปจำนวนมากมองดูอยู่ คนบาปรู้วา่ เขามีความผิด ผูพ้ ิพากษาของทัว่ แผ่นดินโลกต้องทำหน้าที่อย่างยุติธรรม พระ
เยซู ทนายความของคนบาปปรากฏตัวขึ้นและท้าทายผูก้ ล่าวหาว่า “หลักฐานของคุณอยูท่ ี่ไหน?” ที่ท ำเอาฮือฮากันเลยทีเดียว! ผู้
กล่าวหารู้สึกอับอาย เขาไม่สามารถแสดงหลักฐานใด ๆ ได้ ไม่ใช่หลักฐานแม้แต่ชิ้นเดียว เกิดอะไรขึ้นกับมัน?

ผมจะบอกคุณ นัน่ คือหลักฐานแห่งความบาปของเราได้ถูกทำลายแล้ว! พระเยซูคริ สต์ทรงรวบรวมทั้งหมดไว้ใน


พระองค์เองและนำเข้าไปในไฟแห่งการพิพากษาของพระเจ้าที่โหมกระหน่ำทัว่ กลโกธา ในช่วงเวลาอันน่าสยดสยองนั้น บันทึก
ถูกเผาหายไปโดยไม่เหลือร่ องรอยใดๆ โคโลสี 2:13–14 อธิบายว่า ท่าน...พระเจ้าทรงทำให้พวกท่านมีชีวิตร่ วมกับพระคริ สต์
และทรงให้อภัยการละเมิดทั้งหลายของเราพระองค์ทรงฉี กเอกสารหนี้ ที่มีค ำสัง่ ต่างๆ ซึ่งต่อสู้และขัดขวางเรา และทรงขจัดไป
เสี ยโดยตรึ งไว้ที่กางเขน
ความบาปเหล่านั้นซึ่งเป็ นของคุณและผม ไม่ใช่แค่ถูกขีดฆ่าแต่ถูกลบล้างออกไปเนื่องจากพระโลหิ ตของพระเยซู!
17
กันยายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“เพราะฉะนั้นไม่มีการลงโทษคนที่อยูใ่ นพระเยซูคริ สต์” (โรม 8:1)
ไฟประจำวัน!
ฉันเคยหลงทาง แต่ตอนนี้ฉนั ถูกพบแล้ว เคยตาบอด แต่ตอนนี้ฉนั มองเห็นแล้ว
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
ลูกา 15:7; ยอห์น 5:24; กิจการ 13:38–39; โรม 8:1; ฮีบรู 8:12; 10:17
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
2 ซามูเอล 13; 2 โคริ นธ์ 6
เย็น:
เอเสเคียล 20; สดุดี 66 และ 67
ทำให้ ไร้ ความผิด!
ในศาลของสวรรค์ พระเยซู ผูเ้ ป็ นทนาย พระองค์กล่าวอ้างอย่างน่าตื่นเต้นว่า “ไม่มีหลักฐานปรักปรำชายคนนี้ ” จากนั้น
พระที่นงั่ แห่งความยุติธรรมจะกลายเป็ นพระที่นงั่ แห่งพระคุณ ซาตาน ผูก้ ล่าวหา ถอนตัวด้วยความโกรธงุนงง ผูพ้ ิพากษากวักมือ
เรี ยกผูถ้ ูกกล่าวหาและมอบเอกสารที่เรี ยกว่า “พันธสัญญาใหม่” ให้เขา เขาเปิ ดมัน ที่นนั่ เขาเห็นว่ามันบรรจุตราสี แดงของพระ
โลหิ ตที่ประพรมของพระเยซู เป็ นการยกโทษของกษัตริ ยโ์ ดยป่ าวประกาศว่า “ศาลนี้ ไม่พบหลักฐาน ดังนั้นจึงไม่มีคดีกบั คุณ”
“เพราะฉะนั้นไม่ มีการลงโทษคนที่อยู่ในพระเยซูคริ สต์ ” (โรม 8:1) ผูพ้ ิพากษาได้ลงลายมือชื่อไว้โดยกล่าวว่า “เราจะไม่ จดจำ
บาปของพวกเขา และการอธรรมของพวกเขาอีกต่ อไป” (ฮีบรู 10:17)

นักโทษเป็ นอิสระ ถูกทำให้ชอบธรรมโดยพระคุณ จากนั้นทั้งศาลก็ลุกขึ้นและปรบมือ เพราะว่ามีความชื่นชมยินดีใน


สวรรค์เนื่องจากคนบาปคนเดียวที่กลับใจ เมื่อคุณได้ถูกทำให้ชอบธรรมโดยพระคุณ พระเจ้าผูท้ รงพิพากษา ต้องการให้คุณรู้ถึง
สิ่ งนี้ ผูท้ ี่รอวันพิพากษาเพื่อค้นพบว่าตนรอดหรื อถูกสาปไม่เข้าใจความรอดเลย การรู้ค ำสัญญาของพระเยซูวา่ “เราบอกความ
จริ งกับพวกท่ านว่ า ถ้ าใครฟั งคำของเราและวางใจผู้ทรงใช้ เรามา คนนั้นก็มีชีวิตนิรันดร์ และไม่ ถกู พิพากษา แต่ ผ่านพ้ นความตาย
ไปสู่ชีวิตแล้ ว” (ยอห์น 5: 24) เป็ นส่ วนหนึ่งของความรอด พระองค์ยกความกลัวนั้นออกไปจากคุณเมื่อคุณได้รับความรอด คำว่า
“การพิพากษา” ในพระคัมภีร์น้ นั เป็ นคำภาษากรี กของคำว่า คริ ซิส ซึ่งเป็ นที่มาของคำว่าวิกฤตในปัจจุบนั ดังนั้น คุณจึงพูดได้วา่ ผู้
เชื่อที่บงั เกิดใหม่จะไม่มีทางรู้ถึงชัว่ โมงแห่ง "วิกฤต" เช่นนี้ ยืนอยูใ่ นการพิพากษา รอคอยเพื่อดูวา่ เขารอดหรื อหลงทาง เรื่ องนี้ ยตุ ิ
ลงที่กลโกรธาแล้ว
เพราะฉะนั้นพี่น้องทั้งหลาย จงเข้ าใจเถิดว่ า โดยพระองค์ จึ งมีการประกาศการยกโทษบาปแก่ ท่านทั้งหลายและโดย
พระองค์ นีเ้ อง ทุกคนที่เชื่ อจะพ้ นโทษบาปได้ ทุกอย่ างซึ่ งเป็ นสิ่ งที่ทำไม่ ได้ โดยธรรมบัญญัติของโมเสส (กิจการ 13:38–
39)

18
กันยายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“เพื่อพวกเขาจะได้แสวงหาพระเจ้าและมุ่งหวังจะค้นหาและพบพระองค์ ที่จริ งพระองค์ไม่ทรงอยูห่ ่างไกลจากเราทุกคนเลย”
(กิจการ 17:27)
ไฟประจำวัน!
ความสำคัญของครอบครัวในแบบแผนที่ยิง่ ใหญ่ของพระเจ้าไม่เคยถูกประเมินให้ต ่ำไป
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
สดุดี 127:3; 128:1–4; กิจการ 17:25–27; เอเฟซัส 3:15
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
2 ซามูเอล 14; 2 โคริ นธ์ 7
เย็น:
เอเสเคียล 21; สดุดี 68
ความรอดของครอบครัว
เมื่อเราอธิษฐานและวางแผนเพื่อความรอดของครอบครัวเราเอง เรากำลังเคลื่อนไหวในกระแสแห่งกิจกรรมของ
พระเจ้า พระเจ้าต้องการอยูใ่ นครอบครัวของเราเป็ นพิเศษ พระคัมภีร์คาดการณ์ถึง “ทุกครอบครั วในสวรรค์ และแผ่ นดินโลกก็
ดี” (เอเฟซัส 3:15) ครอบครัวไม่ได้เป็ นเพียงความคิดของมนุษย์ที่จะช่วยเสริ มสร้างสังคม คุณค่าของมันเป็ นมากกว่าแค่สงั คม
เป็ นวิธีที่พระเจ้าวางแผนให้โลกดำเนินไป! นี่เป็ นส่วนหนึ่งของพระประสงค์นิรันดร์ของพระองค์
โลกฆราวาสพูดถึงครอบครัวว่าเป็ น "องค์ประกอบหลัก" ของสังคม พวกเขาเป็ น แต่พวกเขาจำเป็ นต้องสร้างขึ้นด้วย
กัน ไม่ใช่ปล่อยให้ต้ งั อยูเ่ ฉยๆ ครอบครัวสามารถจัดโครงสร้างสังคมได้กต็ ่อเมื่อประสานเข้าด้วยกัน มีองค์ประกอบหนึ่งบนแผ่น
ดินโลกที่จะทำเช่นนี้ ไม่ใช่ความรักชาติ แต่คือข่าวประเสริ ฐ นัน่ อธิบายถึงคริ สตจักร ครอบครัวของพระเจ้า พระองค์ทรงสร้าง
มนุษย์ทุกชาติมาจากคนๆ เดียวให้อยูท่ วั่ พิภพโลก และทรงกำหนดเวลาและเขตแดนให้เขาทั้งหลายอยูด่ ว้ ย (กิจการ 17:26) ด้วย
ความจริ งของพระคัมภีร์เช่นนี้หนุนหลังเรา เราจึงสามารถวางแผนเพื่อความรอดของครอบครัวเราได้ เลือดข้นกว่าน้ำ ถ้าเรา
อธิษฐานเป็ นพิเศษเพื่อคนที่เรารัก มันเป็ นเรื่ องธรรมดา เป็ นวิธีที่พระเจ้าตั้งใจให้เป็ นเช่นนั้น และเรามีทุกสิ่ งที่ด ำเนินไปเพื่อเรา
ในกิจการบทที่ 16 เปาโลแสดงให้เห็นว่าถ้าผูค้ ุมได้รับความรอด ทั้งครอบครัวก็อยูใ่ นหนทางสู่ ความรอด

หนึ่งในความเป็ นไปได้และพระพรที่วิเศษของพ่อแม่ที่ย ำเกรงพระเจ้าคือ ลูกๆ จะไม่ท ำให้หวั ใจของพวกเขาแตกสลาย


และทำให้ชีวิตของพวกเขาพังพินาศ คริ สตจักรมักประกอบด้วยครอบครัวหลายชัว่ อายุคน—เป็ นสิ่ งที่มนั่ คงและมัน่ ใจอย่างน่า
อัศจรรย์ เด็กๆ ให้เกียรติบิดามารดาที่ย ำเกรงพระเจ้า
ทุกคนที่ย ำเกรงพระยาห์ เวห์ ก็เป็ นสุข คือผู้ที่เดินในพระมรรคาของพระองค์ ... ท่ านจะเป็ นสุข และท่ านจะเจริ ญภรรยา
ของท่ านจะเป็ นอย่ างเถาองุ่นลูกดก อยู่ภายในบ้ านของท่ าน เด็กๆ ของท่ านจะเป็ นเหมือนหน่ อมะกอก รอบโต๊ ะของ
ท่ าน ... นี่ แน่ ะ บุตรทั้งหลายเป็ นมรดกจากพระยาห์ เวห์ (สดุดี 128:1–3; 127:3) ใช้ เวลาไม่ นานในการสำแดงให้ เห็น
มันอาจจะเป็ นช่ วงวัยรุ่ นเมื่อเด็กสาววัยรุ่ นสนใจเด็กผู้ชายคนหนึ่ง แต่ ถ้าเขาเป็ นลูกของพระเจ้ าที่บังเกิดใหม่ นั่นอาจ
หมายถึงการเริ่ มต้ นของราชวงศ์ ใหม่ แห่ งพระเจ้ าที่จะคงอยู่ไปหลายชั่วอายุคน
19
กันยายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“อย่าเข้าเทียมแอกกับคนที่ไม่เชื่อ เพราะว่าความชอบธรรมจะมีส่วนอะไรกับความอธรรม? และความสว่างจะมีส่วนกับความมืด
ได้อย่างไร?” (2 โคริ นธ์ 6:14)
ไฟประจำวัน!
ข้าแต่องค์พระผูเ้ ป็ นเจ้า ขอให้วิถีของพระองค์ส ำเร็จในชีวิตและครอบครัวของข้าพระองค์ ไม่ใช่วิถีของโลก
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
2 โคริ นธ์ 6:14–18; เอเฟซัส 2:1–3
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
2 ซามูเอล 15; 2 โคริ นธ์ 8
เย็น:
เอเสเคียล 22; สดุดี 69
ไม่ มที างเลือกอืน่
พระคัมภีร์เน้นถึงความสำคัญของเด็กที่ถูกเลี้ยงดูมาด้วยความยำเกรงพระเจ้า ไม่ใช่เข้าเทียมแอกกับผูไ้ ม่เชื่อ สิ่ งนี้เป็ น
มากกว่าหมวดหมู่ทางสังคม เช่น การฝึ กเด็ก ๆ ให้เป็ นเมธอดิสต์ที่ดี แต่เป็ นเรื่ องของเด็ก ๆ ที่เรี ยนรู้ถึงความจำเป็ นอย่างยิง่ ยวดใน
การติดตามพระคริ สต์ การให้พระเจ้ามาก่อนชื่อเสี ยง ไม่มีสิ่งใดในโลกที่สำคัญนอกจากสิ่ งที่เกี่ยวข้องกับข่าวประเสริ ฐ ส่ วนที่
เหลือจะหายไป
ไม่มีทางเลือกอื่น เด็กมีพ้ืนฐานฝ่ ายวิญญาณหรื อไม่มีพ้ืนฐาน มีแสงสว่างนำทางหรื อไม่มีแสงสว่าง โลกซึ่งเป็ น
ภาพลวงตาอันยิง่ ใหญ่จะแข่งขันกันเพื่อแย่งชิงหัวใจของพวกเขา และมันมีเสน่ห์ดึงดูดในทันที แรงกดดันทางโลกกดดันทุกคน
อย่างรุ นแรง และเด็กที่ไม่มีประสบการณ์ควรถูกสำแดงให้เห็นอีกด้านหนึ่ง นัน่ คือความเป็ นจริ งนิรันดร์และฝ่ ายวิญญาณ ควรให้
เวลาและสถานที่มาวัดผลกับสิ่ งต่างๆ ของพระวิญญาณ และความคิดของพวกเขาได้รับการปกป้ องด้วยพระคำของพระเจ้า มัน
ก่อตัวเป็ นกำแพงกั้นน้ำเพื่อกั้นมหาสมุทรที่ยิง่ ใหญ่ที่สุด

ข้อความหนึ่งจากความเชื่อของมารกล่าวว่า "อย่ายัดเยียดศาสนาลงมาที่คอของเรา!" นี่เป็ นคำพูดเหยียดหยาม ต้อง


สนใจ และหน้าซื่อใจคดสิ้ นดี! ความไร้พระเจ้าถูกกดลงคอของเราโดยไม่ตอ้ งขอโทษ ผูค้ นเยาะเย้ยคริ สเตียนอย่างเปิ ดเผยโดย
ไม่มีเจตนาอื่นนอกจากความไร้พระเจ้า คติพจน์ของซาตานอีกข้อหนึ่งคือ “อย่ายัดเยียดอคติทางศาสนาให้กบั เด็กๆ ให้พวกเขา
รู้สึกอิสระที่จะเชื่อด้วยความคิดที่ปราศจากอคติ” เป็ นอิสระหรื อ ? โลกทำให้ไม่มีผใู้ ดเป็ นอิสระและปราศจากอคติ ท่านทั้งหลาย
ตายโดยการละเมิดและการบาปของท่านเมื่อก่อนพวกท่านเคยดำเนินชีวิตในการบาปนั้นตามวิถีของโลกนี้ ตามผูค้ รอบครองที่มี
อำนาจในฟ้ าอากาศ คือวิญญาณที่ท ำกิจอยูใ่ นพวกคนที่ไม่เชื่อฟังในเวลานี้เมื่อก่อนเราทุกคนเคยประพฤติเหมือนพวกเขาตามตัณ
หาของเนื้อหนัง คือทำตามความต้องการของเนื้อหนังและของความคิด (เอเฟซัส 2:1–3) ในแต่ละวันอิทธิพลในเรื่ องของพระเจ้า
แตะต้องเรามากแค่ไหน? ในเมืองฝ่ ายโลกของเรา วันนี้ มกั จะปราศจากอิทธิพลฝ่ ายวิญญาณใดๆ เลย แต่ความกดดันจะเป็ นสภาพ
แวดล้อมของความไม่มีพระเจ้า การดูหมิ่น ความเสื่ อมทราม ความไม่เชื่อ และการเยาะเย้ยถากถาง
จงดำเนินชีวติ อย่ างยำเกรงพระเจ้ าให้ อาหารประจำวันของคุณ!
20
กันยายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“แต่พวกท่านจงแสวงหาแผ่นดินของพระเจ้า และความชอบธรรมของพระองค์ก่อน แล้วพระองค์จะทรงเพิ่มเติมสิ่ งทั้งปวงนี้
ให้“เพราะฉะนั้น อย่ากระวนกระวายถึงวันพรุ่ งนี้ เพราะว่าพรุ่ งนี้ กม็ ีเรื่ องกระวนกระวายของมันเอง แต่ละวันก็มีทุกข์พออยูแ่ ล้ว”
(มัทธิว 6:33–34)
ไฟประจำวัน!
ปราศจากความเชื่อจะไม่มีความร่ำรวย ด้วยความเชื่อเรามีทรัพย์สมบัติในภาชนะดิน
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
สดุดี 135:15–18; มัทธิว 6:33; ลูกา 8:14; 2 โคริ นธ์ 4:7
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
2 ซามูเอล 16; 2 โคริ นธ์ 9
เย็น:
เอเสเคียล 23; สดุดี 70 และ 71
คำเตือนเกีย่ วกับความเชื่อ
สำหรับสิ่ งมหัศจรรย์ท้ งั หมดที่เรารู้เกี่ยวกับความเชื่อ สิ่ งสำคัญคือต้องรู้วา่ ความเชื่อไม่ได้มีไว้สำหรับผูข้ ดุ ทอง พระเจ้า
ผูส้ ร้างความมัง่ คัง่ ทั้งหมดไม่ได้ต่อต้านความมัง่ คัง่ แต่ผทู้ ี่พระเจ้าของเขาเป็ นทองคำไม่สามารถคาดหวังความช่วยเหลือจาก
สวรรค์ได้!
มีการแพร่ ระบาดของผูค้ นที่จงใจใช้ขอ้ ความแห่งความเชื่อในทางที่ผดิ เพื่อปกปิ ดการแสวงหาความมัง่ คัง่ ของพวกเขา
น่าละอายกับพวกเขา! คนเหล่านี้เป็ นผูบ้ ูชารู ปเคารพ วางหลักคำสอนเท็จและสิ่ งอื่นๆ ไว้หน้าความสัมพันธ์ของพวกเขากับ
พระเจ้า และชีวิตของพวกเขาจะต้องพังทลายลง รู ปเคารพของบรรดาประชาชาติเป็ นเงินและทองคำ เป็ นผลงานของมือมนุษย์รูป
เหล่านั้นมีปาก แต่พดู ไม่ได้ มีตา แต่ดูไม่ได้มีหู แต่ฟังไม่ได้ ทั้งไม่มีลมหายใจในปากของรู ปเหล่านั้นผูท้ ี่ท ำรู ปเหล่านั้นจะเป็ น
เหมือนรู ปเหล่านั้น ทุกคนที่วางใจในรู ปเหล่านั้นก็เช่นกัน (สดุดี 135:15–18) จงออกห่างจากคนเหล่านี้ที่ซ่อนความไม่ชอบธรรม
ของตนไว้เบื้องหลังการสอนความเชื่อที่แท้จริ ง!

คำอุปมาเรื่ องผูห้ ว่านของพระเยซูใช้ค ำที่ตกทอดมาในภาษาอังกฤษว่า เฮโดนิซึ่ม (hedonism) (ภาษากรี ก คือ เฮโดนน)


การแสวงหาความปรารถนา “ที่ ตกกลางหนามหมายถึงคนเหล่ านั้นที่ได้ ยินแล้ว และขณะที่ด ำเนินชี วิตอยู่ ความกังวล ทรั พย์ สม
บัติ และความสนุกสนานของชี วิตนี ้ ก็รัดพวกเขาจนทำให้ ผลไม่ เติบโต” (ลูกา 8:14) คำพูดง่ายๆ เดียวกันนี้กล่าวถึงเราใน ยากอบ
4:3 ว่า “พวกท่ านขอและไม่ ได้ รับเพราะขอผิด หวังจะเอาไปสนองความปรารถนาชั่วของตนเอง” ชีวิตที่มุ่งแต่ความร่ำรวยนั้นโง่
เขลา เพราะว่าสุ ดท้ายแล้วเราก็เอามันไปไม่ได้ แต่การทำตามคำแนะนำของพระคริ สต์เป็ นกำไรนิรันดร์ “แต่ พวกท่ านจงแสวงหา
แผ่ นดินของพระเจ้ า และความชอบธรรมของพระองค์ ก่อน แล้ วพระองค์ จะทรงเพิ่มเติมสิ่ งทั้งปวงนีใ้ ห้ ” (มัทธิว 6:33) คุณวาง
ความเชื่อของคุณเข้ากับพระคำที่บริ สุทธิ์ ของพระเจ้า และจะไม่ลม้ เหลว
21
กันยายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“แต่เขาทั้งหลายผูร้ อคอยพระยาห์เวห์จะได้รับกำลังใหม่ เขาจะบินขึ้นด้วยปี กเหมือนนกอินทรี เขาจะวิ่งและไม่อ่อนเปลี้ย เขาจะ
เดินและไม่เหน็ดเหนื่อย” (อิสยาห์ 40:31)
ไฟประจำวัน!
การให้พระเจ้าใช้คือแผนการของพระองค์ส ำหรับฉัน
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
2 ซามูเอล 22:34; สดุดี 18:33; 37:23; อิสยาห์ 40:31; เยเรมีย ์ 10:23;ฮาบากุก 3:19; มัทธิว 10:19–20; กิจการ 2:4; ฟี ลิปปี 2:12–
13;กาลาเทีย 2:20; 2 เปโตร 1:21
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
2 ซามูเอล 17; 2 โคริ นธ์ 10
เย็น:
เอเสเคียล 24; สดุดี 72
หลักการแห่ งการกระทำของพระเจ้ า
หลักการเบื้องต้นของความเชื่อที่แท้จริ ง คือ เมื่อเรากระทำ พระเจ้ากระทำ เราตอบสนองต่อพระองค์ดว้ ยความเชื่อ และ
พระองค์ตอบสนองต่อเราเพื่อความเชื่อ เปาโลพบว่ามันทำงานเหมือนเลือดที่ไหลผ่านเส้นเลือดของเขา “ข้ าพเจ้ าเองไม่ มีชีวิตอยู่
ต่ อไป แต่ พระคริ สต์ ต่างหากที่ทรงมีชีวิตอยู่ในข้ าพเจ้ า ชีวิตซึ่ งข้าพเจ้ าดำเนินอยู่ในร่ างกายขณะนี ้ ข้าพเจ้ าดำเนินอยู่โดยความเชื่ อ
ในพระบุตรของพระเจ้ าผู้ได้ ทรงรั กข้ าพเจ้ า และได้ ทรงสละพระองค์ เองเพื่อข้าพเจ้ า” (กาลาเทีย 2:20)
ต่อไปนี้คือตัวอย่างบางส่ วนจากพระคัมภีร์ “พวกเขาทั้งหมดก็เต็มเปี่ ยมด้ วยพระวิญญาณบริ สุทธิ์ จึ งเริ่ มต้ นพูดภาษา
อื่นๆ ตามที่พระวิญญาณทรงให้ พูด” (กิจการ 2:4) พวกเขาพูดและพระวิญญาณประทานภาษาให้พวกเขา “ท่ านจงอุตส่ าห์ ประ
พฤติอย่ างสมกับความรอดของท่ านทั้งหลาย ด้ วยความเกรงกลัวและตัวสั่น เพราะว่ าพระเจ้ าเป็ นผู้ทรงทำการอยู่ภายในพวกท่ าน
ให้ ท่านมีความประสงค์ และมีความสามารถทำตามชอบพระทัยของพระองค์ ” (ฟิ ลิปปี 2:12–13) มีการเล่นคำ นัน่ คือ "พระเจ้าอยู่
ภายในพวกท่านให้ท ำตามชอบพระทัยของพระองค์" หรื อ "พระองค์วางความปรารถนาไว้ในเราให้ท ำตามความปรารถนาของ
พระองค์" “การถูกนำของพระวิญญาณ” หมายถึง “มนุษย์ กล่ าวคำซึ่ งมาจากพระเจ้ า ตามที่พระวิญญาณบริ สุทธิ์ ทรงดลใจเขา” (2
เปโตร 1:21) พระเยซูตรัสว่า “แต่ เมื่อพวกเขามอบตัวท่ านนั้น อย่ ากังวลว่ าจะพูดอะไรหรื ออย่ างไร เพราะเมื่อถึงเวลานั้น คำที่
พวกท่ านจะพูดนั้น พระเจ้ าจะประทานแก่ พวกท่ านเพราะว่ าผู้ที่พูดไม่ ใช่ ตัวท่ านเอง แต่ เป็ นพระวิญญาณ...ในท่ าน” (มัทธิว
10:19–20) “พระยาห์ เวห์ ทรงนำย่ างเท้ าคนที่ดี” (สดุดี 37:23) เราเดินและพระเจ้าทรงนำเรา “ข้ าแต่ พระยาห์ เวห์ ข้ าพระองค์
ทราบแล้ วว่ าทางของมนุษย์ ไม่ ขึน้ อยู่กับตัวเขา คือไม่ ได้ อยู่ที่มนุษย์ ที่จะดำเนินไป และนำย่ างเท้ าของตนเอง” (เยเรมีย ์ 10:23) เรา
อ่าน 3 ครั้งว่า “พระองค์ ทรงทำให้ เท้ าของข้าพเจ้ าเหมือนอย่ างตีนกวาง” ซึ่งอิสยาห์หมายความว่า “เขาจะวิ่งและไม่ อ่อนเปลีย้
เขาจะเดินและไม่ เหน็ดเหนื่อย” (อิสยาห์ 40:31)
พระเจ้าไม่ตอ้ งการให้คุณเป็ นเหมือนถุงมือคู่หนึ่ง รอหยิบจากชั้นวางอย่างไร้ประโยชน์ ไร้ชีวิตชีวา ผูค้ นอธิษฐานว่า
“ข้าแต่องค์พระผูเ้ ป็ นเจ้า ขอทรงใช้ขา้ พระองค์” แต่ไม่ท ำอะไรเลย มีแนวคิดว่าการถูกพระเจ้าใช้หมายถึงการเป็ นลูเธอร์ เวสลีย ์
หรื อลิฟวิงสตันอีกคนหนึ่ง แต่คุณยังมีชีวิตอยูเ่ พื่อทำงานต่อไปด้วยข้อศอกของคุณ! วันนี้ จงตั้งใจที่จะถูกใช้โดยพระเจ้า

22
กันยายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“มนุษย์ควรอธิษฐานอยูเ่ สมอและไม่อ่อนระอาใจ” (ลูกา 18:1)
ไฟประจำวัน!
พระเจ้าตรัสกับเราทุกเวลาที่พระองค์ตอ้ งการ พระองค์ไม่รอจนกว่าเราจะอธิษฐาน
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
ฮาบากุก 2:1; ลูกา 18:1–8
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
2 ซามูเอล 18; 2 โคริ นธ์ 11
เย็น:
เอเสเคียล 25; สดุดี 73
พระเจ้ าตรัสทุกที่ทุกเวลา
การอธิษฐานเป็ นการพูดกับพระเจ้า ไม่ใช่พระเจ้าพูดกับเรา พระเจ้าตรัสกับเราทุกเวลาเมื่อพระองค์ตอ้ งการ นัน่ คือ
พระองค์ไม่รอจนกว่าเราจะอธิษฐาน อันที่จริ ง ดูเหมือนไม่มีผใู้ ดในพระคัมภีร์ที่ก ำลังอธิษฐานเมื่อพระเจ้าตรัสกับพวกเขา
พระเจ้าอยูใ่ กล้เราและสามารถตรัสได้ตลอดเวลา อาจเป็ นได้วา่ บางครั้งเราไม่สามารถได้ยนิ พระองค์ เพราะว่าเรากำลังเรี ยกร้อง
ให้พระองค์พดู บางอย่างที่แตกต่างออกไป การอธิษฐานโดยทัว่ ไปเป็ นเวลาที่จะระบายความในใจของเราต่อพระองค์ การฟังเป็ น
อีกสิ่ งหนึ่ง เราควรเตรี ยมพร้อมอยูเ่ สมอ เพราะว่าพระองค์ตรัสได้ทุกเมื่อ ไม่มีประโยชน์ที่จะลุกขึ้นจากหัวเข่าของเราและกล่าวว่า
พระองค์ไม่ได้ตรัส เราไม่สามารถเรี ยกร้องให้พระองค์ตรัสในเวลาที่แน่นอน เช่น เปิ ดวิทยุ เราไม่ควรปิ ดสวิทช์ พระองค์อาจ
ขัดจังหวะโปรแกรมของเราด้วยคำสัง่ ส่ วนตัวเฉพาะเมื่อใดก็ได้
อาจดูแปลกสำหรับคริ สเตียนในปัจจุบนั ที่ไม่มีขอ้ ใดในพระคัมภีร์เกี่ยวกับการอธิษฐานเพื่อจะได้ยนิ พระเจ้า ขอคำ
แนะนำ หรื อสิ่ งอื่นใด มีมากมายเกี่ยวกับการได้ยนิ พระสุ รเสี ยงของพระองค์ แต่แทบจะไม่มีอะไรเกี่ยวกับการรอที่จะฟัง ยกเว้น
เมื่อฮาบากุกยืนเฝ้ าดูเพื่อฟังจากพระเจ้า “ข้ าพเจ้ าจะยืนเฝ้ าดูอยู่ ข้ าพเจ้ าจะยืนที่หอคอย และเฝ้ ารอเพื่อจะดูว่า พระองค์ จะตรั ส
อะไรแก่ ข้าพเจ้ า และข้าพเจ้ าจะทูลตอบอย่ างไรในเรื่ องการร้ องทุกข์ ของข้าพเจ้ า” (ฮาบากุก 2:1) ถ้าเราอธิษฐานและรอฟัง เราอาจ
ได้ยนิ แต่ไม่วา่ เสี ยงใดพูด เราจำเป็ นต้องรู้วา่ อันตรายเป็ นสิ่ งที่เห็นได้ชดั มันเป็ นความจริ งตามธรรมชาติของเราที่ความ
ปรารถนาของเราสามารถฟังดูเหมือนคำสัง่ จากพระเจ้า ลองตะโกนให้นานพอเกี่ยวกับสิ่ งที่เราต้องการทำ แล้วเสี ยงสะท้อนจะ
กลับมาไม่ชา้ ก็เร็ ว แต่เป็ นเสี ยงของเราเอง ไม่ใช่เสี ยงของพระเจ้า

ผูค้ นพูดถึงวิธีที่พวกเขาต่อสู้กบั พระเจ้าในเรื่ องการตัดสิ นใจ จงดูกนั ตามตรง นัน่ เป็ นขั้นตอนที่ร้ายกาจ พระเจ้าเป็ นเช่น
นั้นหรื อ? แท้จริ งแล้วพวกเขากำลังต่ อสู้กับเจตจำนงของตนเอง ไม่ใช่ พระเจ้ า พวกเขาต้องการให้พระองค์เห็นด้วย เราคิดว่าเรา
ต้องต่อสู้กบั พระเจ้าเพื่อไขความลับจากพระองค์เกี่ยวกับสิ่ งที่พระองค์ตอ้ งการให้เราทำหรื อ? แน่นอนว่าพระองค์จะทรงบอกเรา
โดยไม่ตอ้ งต่อสู้ดิ้นรน เป็ นเรื่ องไร้สาระที่จะเข้าหาพระเจ้าด้วยวิธีน้ ัน ราวกับว่าพระองค์ไม่เต็มใจที่จะบอกน้ำพระทัยของ
พระองค์แก่เรา ธุรกิจของการขอคำแนะนำจากพระเจ้าแสดงให้เห็นว่าพระองค์ได้ละเลยที่จะนำทางเราดังที่พระองค์ตรัสไว้วา่
พระองค์จะทำ พระเจ้าไม่เคยปิ ดกั้นลูกๆ ของพระองค์ นัน่ หมายความว่าพระองค์จะทรงฟังคุณเสมอ!
23
กันยายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“ข้าพเจ้าขอบพระคุณพระเยซูคริ สต์องค์พระผูเ้ ป็ นเจ้าของเรา ผูท้ รงเสริ มกำลังข้าพเจ้า เพราะพระองค์ทรงเห็นว่าข้าพเจ้าไว้ใจได้
จึงทรงแต่งตั้งข้าพเจ้าให้ท ำพันธกิจของพระองค์” (1 ทิโมธี 1:12)
ไฟประจำวัน!
ฉันเป็ นหุน้ ส่ วนกับพระบิดาในสวรรค์เพื่อทำให้งานของพระองค์สำเร็ จบนแผ่นดินโลก
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
1 ทิโมธี 1:12; ยากอบ 1:22
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
2 ซามูเอล 19; 2 โคริ นธ์ 12
เย็น:
เอเสเคียล 26; สดุดี 74
3 เสาหลักแห่งปั ญญา
พระเจ้าทรงใช้ก ำลังคน มนุษย์ตอ้ งการฤทธิ์ อ ำนาจของพระเจ้า พระเจ้าทรงทำงานเมื่อผูค้ นทำงาน นี่คือ 3 เสาหลักแห่ง
ปัญญา เพื่อเปิ ดเผยหลักการเหล่านี้ ผมจะเริ่ มต้นด้วยพื้นฐาน คำเทศนาหลายล้านคำเทศนาและถูกรับฟังโดยผูค้ นหลายร้อยล้าน
คน แต่ผลที่ได้น้ นั ไม่ดีนกั นักเทศน์บ่นว่า “ผูค้ นไม่ท ำตามที่ฉนั บอก” เป็ นเพราะสาเหตุน้ นั อย่างแน่นอน ในบรรดาคนที่ฟัง มีกี่
คนที่รู้สึกอยากทุ่มเท อุทิศตนเพื่อรับใช้องค์พระผูเ้ ป็ นเจ้า ในขณะที่คนที่เหลือพอใจเพียงร้องเพลง นมัสการ และเพลิดเพลินกับ
คำเทศนาดีๆ? พระเจ้าต้องการให้เราเป็ น “ผู้ประพฤติตามพระวจนะ ไม่ ใช่ เป็ นเพียงผู้ฟังเท่ านั้น” (ยากอบ 1:22) ผมไม่ได้แค่
กำลังถ่ายทอดความรู้ แต่พยายามนำทุกคนเข้าสู่ ฤทธิ์อ ำนาจแห่งพลวัตและพระพรของพระเจ้า
ให้ผมหนุนใจคุณก่อน คุณสามารถมัน่ ใจได้อย่างแน่นอนว่าพระเจ้ามีบางอย่างให้คุณทำในตอนนี้ และเป็ นสถานที่
พิเศษสำหรับคุณ บางทีคุณอาจอยูท่ ี่นนั่ แล้ว แต่แค่ยงั ไม่ได้ตระหนักถึงมัน หลายคนคิดว่าพระเจ้ามีสิ่งยิง่ ใหญ่ให้พวกเขาทำในสัก
วันหนึ่งข้างหน้า บางทีพระองค์อาจมี แต่สิ่งที่คุณกำลังทำอยูต่ อนนี้กส็ ำคัญเช่นกัน ถ้าคุณกำลังเชื่อฟังพระองค์ มีงานที่เหมาะกับ
คุณ และงานที่คุณกำลังถูกเตรี ยมอยู่ ถ้าคุณคิดว่าคุณไม่ได้อยูใ่ นสิ่ งเหล่านี้ นัน่ ไม่จริ ง อย่าลิดรอนสิ ทธิ์ และตำแหน่งที่เหมาะสม
ของคุณในแผนการที่เปี่ ยมไปด้วยพระสิ ริของพระเจ้า

เมื่อคุณเข้าใจประเด็นแรก ว่าพระเจ้าทรงใช้ก ำลังคน คุณก็สามารถเดินหน้าต่อไปได้ ถ้าพระเจ้าต้องการให้คุณทำสิ่ งใด


พระองค์จะประทานความสามารถให้แก่คุณเพื่อทำสิ่ งนั้น เป็ นไปได้มากว่ามันอาจจะยืดคุณเกินกว่าที่คุณเคยทำมาก่อน พระองค์
ต้องการให้คุณเติบโต สิ่ งใดก็ตามที่อยูต่ ่อหน้าคุณ พระเจ้าวางสิ่ งนั้นไว้ที่นนั่ คุณสามารถเคลื่อนภูเขาได้ จงพูดสิ่ งนี้กบั ตัวเอง
“พระเจ้าทรงต้องการให้ฉนั เป็ นมากกว่าที่ฉนั คิดว่าฉันเป็ น” อย่าวัดสิ่ งที่คุณควรทำด้วยของประทานของคุณ จงวัดของประทาน
จากสิ่ งที่คุณควรทำ มันจะเหมาะสมกัน พระเจ้าเชี่ยวชาญในสิ่ งที่เป็ นไปไม่ได้ พระองค์ตอ้ งการให้ขอ้ เท็จจริ งนี้ ปรากฏในชีวิต
ของผูท้ ี่เป็ นของพระองค์ พระองค์ทรงบัญชาสิ่ งที่เป็ นไปไม่ได้ แล้วทรงทำให้เป็ นไปได้ เพื่อพระสิ ริของพระองค์ จุดประสงค์
ของผมคือการเปิ ดเผยให้คุณเห็นถึงหนทางสู่ ฤทธิ์อำนาจของพระองค์
24
กันยายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“มีบางคนที่ยนื อยูท่ ี่นี่ จะไม่พบกับความตาย จนกว่าจะได้เห็นแผ่นดินของพระเจ้ามาด้วยฤทธิ์เดช” (มาระโก 9:1)
ไฟประจำวัน!
ฉันได้รับการย้ายเข้าสู่ อาณาจักรแห่งแสงสว่างและฤทธิ์ อำนาจของพระเจ้า
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
มัทธิว 3:2; 4:17; มาระโก 9:1; ลูกา 11:20
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
2 ซามูเอล 20; 2 โคริ นธ์ 13
เย็น:
เอเสเคียล 27; สดุดี 75 และ 76
ฤทธิ์อำนาจแห่ งระเบียบใหม่
ผมได้เห็นการอัศจรรย์อนั ยิง่ ใหญ่และวิญญาณโสโครกที่ถูกขับออกโดยนิ้วพระหัตถ์ของพระเจ้าอย่างนับไม่ถว้ น พระ
คริ สต์ทรงอธิบายว่า “แต่ ถ้าเราขับผีออกด้ วยนิว้ พระหั ตถ์ ของพระเจ้ า ราชอาณาจักรของพระเจ้ าก็มาถึงพวกท่ านแล้ว” (ลูกา
11:20) เราต้องดูค ำอธิบายนั้นอย่างละเอียด “ราชอาณาจักร” คืออะไร? ถ้าเราต้องการไขความลับที่แท้จริ งของความเชื่อ เราต้อง
เข้าใจราชอาณาจักร พระเยซูตรัสเกี่ยวกับเรื่ องนี้ ตลอดเวลา พระองค์รู้วา่ พระองค์ก ำลังพูดถึงอะไรอยู่ ในขณะที่พวกฟาริ สี
พยายามกล่าวหาพระองค์วา่ เป็ นตัวแทนของอาณาจักรของซาตาน! เราจำเป็ นต้องพิจารณาจากมุมเดียว ณ จุดนี้
เรามียคุ ประวัติศาสตร์ที่แตกต่างกัน นัน่ คือ ยุคหิ น ยุคสำริ ด ยุคมืด และอื่น ๆ ช่วงเวลาเหล่านี้ได้รับชื่อพิเศษเพื่อแสดง
ถึงคุณสมบัติหลัก เรามียคุ คริ สเตียนด้วย เราถึงกับลงทะเบียนปฏิทินและนาฬิกาของเราโดยกำหนดให้เป็ น Anno Domini “ในปี
แห่งองค์พระผูเ้ ป็ นเจ้าของเรา” นี่เป็ นเพียงการแบ่งประวัติศาสตร์อีกอย่างหนึ่งใช่หรื อไม่? ไม่ ยุคนี้ เป็ นเอกลักษณ์ ในช่วงยุค
คริ สเตียน มีอีกยุคหนึ่งเข้ามาด้วย นัน่ คือ “ราชอาณาจักรของพระเจ้ า” พระเยซูเริ่ มเทศนาว่า “จงกลับใจใหม่ เพราะว่ าแผ่ นดิน
สวรรค์ มาใกล้ แล้ ว” (มัทธิว 4:17)

ราชอาณาจักรคืออาณาจักรของพระเจ้าซึ่งฤทธิ์ อ ำนาจของพระเจ้านั้นสูงสุ ด เมื่อพระคริ สต์เสด็จมา พระองค์ทรง


แนะนำกิจกรรมของพระเจ้า (พระวิญญาณบริ สุทธิ์ ) เข้าสู่ เรื่ องทางโลกของเรา เป็ นทรัพยากรใหม่ ไม่ใช่พลังงานทางกายภาพ
เช่น น้ำ ลม หรื อพลังงานนิวเคลียร์ เพราะว่าสิ่ งเหล่านี้ลว้ นเป็ นส่ วนหนึ่งของโลกธรรมชาติ นี่คือฤทธิ์ อำนาจแห่งโลกที่มีกฎอยู่
เหนือกฎแห่งธรรมชาติมากมาย
จงอ่านประโยคนี้ อย่างระมัดระวัง:
ในปฐมกาล พระเจ้ าสร้ างโลกนีด้ ้ วยฤทธิ์อำนาจของอีกโลกหนึ่ง
ในพระเยซูคริ สต์ พระองค์ทรงแนะนำฤทธิ์อ ำนาจของโลกที่สร้างสรรค์น้ นั กลับมาในฉากของแผ่นดินโลก นัน่ คือราช
อาณาจักรของพระเจ้า และนัน่ คือสถานที่ที่คุณและผมอาศัยอยูท่ ุกวันนี้ !
25
กันยายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“บนศิลานี้ เราจะสร้างคริ สตจักรของเราไว้และพลังแห่งความตายจะมีชยั ต่อคริ สตจักรไม่ได้” (มัทธิว 16:18)
ไฟประจำวัน!
หัวใจของฉันปรารถนาที่จะฉายแสงเจิดจ้าที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อพระคริ สต์ตราบเท่าที่ฉนั สามารถทำได้ ให้กบั ผูค้ นได้มากเท่าที่
ฉันสามารถทำได้
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
มัทธิว 5:14–15
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
2 ซามูเอล 21; กาลาเทีย 1
เย็น:
เอเสเคียล 28; สดุดี 77
ความสว่ างของพลังของเทียนนับล้ านเล่ม
เมื่ออัครทูตเปาโลกำลังเทศนาในห้องชั้นบนในเมืองโตรอัส “มีตะเกียงหลายดวง” อยูท่ ี่นนั่ (กจ.20:8) ผูเ้ ขียนพระ
คัมภีร์มีวิธีพดู แบบนั้นโดยถ่ายทอดความจริ งฝ่ ายวิญญาณ ที่นนั่ มีดวงไฟ 2 ชนิด นัน่ คือคือ ตะเกียงน้ำมัน และห้องที่เต็มไปด้วย
คริ สเตียนที่เป็ น “ไฟหลายดวง” อย่างแท้จริ ง นี่คือสิ่ งที่ผเู้ ชื่อเป็ น “เมื่อก่ อนท่ านทั้งหลายเป็ นความมืด แต่ บัดนี ท้ ่ านเป็ นความ
สว่ างในองค์ พระผู้เป็ นเจ้ า” (เอเฟซัส 5:8) ผูเ้ ชื่อคือ ดวงดาว ผูไ้ ม่เชื่อคือหลุมดำที่แสงสว่างไม่เคยเล็ดลอดออกไป ความเชื่อทำให้
“บุตรของพระเจ้ าที่ปราศจากตำหนิ ท่ามกลางชนชาติที่คดโกงและวิปลาส ท่ านปรากฏในหมู่พวกเขาดุจดวงสว่ างต่ างๆ ในโลก”
(ฟี ลิปปี 2:15)
ผูเ้ ชื่อคริ สเตียนนต้องการคริ สตจักร เช่นเดียวกับเทียนต้องการเชิงเทียน และต้นไม้ตอ้ งการดิน ปราศจากเชิงเทียน เทียน
ก็อยูไ่ ม่ได้ ปราศจากดิน ต้นไม้กไ็ ม่สามารถโตได้ คุณก็เช่นกัน ปราศจากการสามัคคีธรรม คริ สเตียนก็ไม่สามารถยืนหยัดหรื อ
เติบโตได้

พระเยซูไม่ได้วางคุณไว้บนหิ้ง พระองค์ทรงมีช่องพิเศษโดยเฉพาะสำหรับเราแต่ละคนในอาคารของพระองค์ พระองค์


ตรัสว่า “ท่ านทั้งหลายเป็ นความสว่ างของโลก” (มัทธิว 5:14) ตะเกียงดวงเดียวและดวงประทีปหลายดวงรวมกันด้วย เป็ น
ตะเกียงดวงเดียวเมื่อพระองค์ตรัสว่าย่อม "ตั้งไว้ บนเชิ งตะเกียง จะได้ ส่องสว่ างแก่ ทุกคนที่อยู่ในบ้ านนั้น” (ข้อ 15) พลังของเทียน
หนึ่งเล่มสำหรับบ้านหนึ่งหลัง แต่พระองค์ตรัสด้วยว่า “ท่ านทั้งหลายเป็ นความสว่ างของโลก นครซึ่ งอยู่บนภูเขาจะถูกปิ ดบังไว้
ไม่ ได้ ” (มัทธิว 5:14) หนึ่งเมืองไม่ได้ใช้หนึ่งพลังแสงเทียน แต่เป็ นล้านพลังแสงเทียน เมื่อพระคริ สต์ตรัสว่า “ท่ านทั้งหลายเป็ น
ความสว่ างของโลก” นัน่ เป็ นพหูพจน์ของคำว่า “ท่ าน” พระองค์นำ "แสงจำนวนมากมาย" มารวมกัน ผูค้ นรวมกัน เปลวไฟ
ปะปนกับเปลวไฟ “นครซึ่ งอยู่บนภูเขา” คือ คริ สตจักร ในเมืองโตรอัสมี “ดวงไฟหลายดวง” รวมกันเพราะว่าเป็ นห้องใหญ่ โลก
เป็ นสถานที่ที่กว้างใหญ่และต้องการแสงสว่างมากมาย เพลงชีวิตคริ สเตียนของเด็กกล่าวว่า "คุณอยูใ่ นมุมเล็ก ๆ ของคุณและฉัน
อยูม่ ุมเล็ก ๆ ของฉัน" แต่มีมากกว่ามุมมืด นัน่ คือมีดาวเคราะห์ที่มืดทั้งหมด ไม่มีแสงสว่างในที่ที่ไม่มีความเชื่อในพระเจ้า ถ้าคุณ
มีความเชื่อที่มีชีวิตในพระเจ้า จงระลึกไว้เสมอว่าโลกทั้งใบต้องการแสงสว่างจากคุณ ให้คนอื่นเห็นแสงสว่างของคุณไม่วา่ คุณจะ
ไปที่ไหนก็ตาม!

26
กันยายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“ให้เขาทั้งหลายขอบพระคุณพระยาห์เวห์เพราะความรักมัน่ คงของพระองค์ เพราะการอัศจรรย์ต่างๆ ของพระองค์ที่มีต่อมนุษย์
ทั้งหลายและให้เขาทั้งหลายถวายเครื่ องบูชาขอบพระคุณ และเล่าพระราชกิจของพระองค์ดว้ ยการร้องเพลงอย่างชื่นบาน” (สดุดี
107:21–22)
ไฟประจำวัน!
ข้าแต่องค์พระผูเ้ ป็ นเจ้า ไม่วา่ งานนั้นจะเล็กน้อยเพียงใด ข้าพระองค์จะทำให้ดีที่สุด
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
ปฐมกาล 1:1–31; สดุดี 46:3; 107:23; 146:9; มัทธิว 16:18; กิจการ 1:8; 5:28; 17:6; 2 โคริ นธ์ 4:6
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
2 ซามูเอล 22; กาลาเทีย 2
เย็น:
เอเสเคียล 29;
สดุดี 78:1–37
กิจการในน้ำที่ยงิ่ ใหญ่
ในฝ่ ายวิญญาณแล้ว โลกทุกวันนี้ กเ็ หมือนกับในปฐมกาล นัน่ คือ “ความมืดอยู่เหนือน้ำ” (ปฐมกาล 1:2) แต่ “พระเจ้ า
ตรั สว่ า “จงเกิดความสว่ าง” ความสว่ างก็เกิดขึน้ ” (ข้อ 3) วันนี้ พระเจ้ายังคงตรัสว่า “จงเกิดความสว่าง!” “พระเจ้ าผู้ตรั สว่ าให้
ความสว่ างส่ องออกมาจากความมืด ทรงส่ องสว่ างเข้ ามาในใจของเรา เพื่อให้ เรามีความสว่ างแห่ งความรู้ ถึงพระสิ ริของพระเจ้ า ที่
ปรากฏบนพระพักตร์ ของพระคริ สต์ ” (2 โคริ นธ์ 4:6)
หลังจากที่พระคริ สต์เป็ นขึ้นจากความตาย เหล่าสาวกเริ่ มทำให้โลกสว่างไสวด้วยแสงสว่างแห่งข่าวประเสริ ฐ เราก็ควร
ทำเช่นเดียวกัน พวกผูน้ ำบ่นว่าพวกเขา "ทำให้ ค ำสอนของพวกเจ้ าแพร่ ไปทั่วกรุ งเยรู ซาเล็ม" (กิจการ 5:28) และหลังจากนั้นไม่
นานก็มีคนกล่าวว่า "พวกที่พลิกโลกก็มาที่นี่ด้วย" (กิจการ 17:6) นัน่ คือสิ่ งที่พระเจ้าตรัสว่าพระองค์จะทรงทำ นัน่ คือ “พระองค์
ทรงพลิกทางของคนอธรรม” (สดุดี 146:9) ทางแห่งความไม่เชื่อกลับหัวกลับหาง แต่พระเจ้าพลิกกลับทำให้ถูกทาง นัน่ คืองาน
ของผมและงานของคุณ เราเป็ นตัวแทนของพระเจ้าในการพลิกโลกที่ยุง่ เหยิงให้กลับมาตรง

เมื่อพระคริ สต์เรี ยกสาวกกลุ่มแรกของพระองค์ พวกเขาไม่เป็ นที่รู้จกั ดำเนินกิจการของตนเองอย่างเงียบๆ ตกปลาใน


ทะเลสาบ แต่พระองค์ทรงส่ งพวกเขาออกไป “จนถึงสุดปลายแผ่ นดินโลก” (กิจการ 1:8) ในพระคัมภีร์ ทะเลเป็ นตัวแทนของ
ประเทศ นัน่ คือคลื่นที่ค ำรามและปั่นป่ วน ครั้งหนึ่งพระคริ สต์ทรงทำให้พายุบนผืนน้ำสงบลง พระองค์ส่งเราไปจับปลาในทุก ๆ
ชาติ แม้วา่ น้ำในโลกจะ “คึกคะนองและฟองฟู” (สดุดี 46:3) องค์พระผูเ้ ป็ นเจ้าตรัสสันติสุขแก่ประชาชาติ
พระเยซูไม่ได้เรี ยกเราเพียงให้นงั่ ในคริ สตจักรและอยูเ่ ฉยๆ ราวกับอยูใ่ นบ้านพักผ่อน เรามีงานต้องทำ ไม่ใช่งานอดิเรก
และงานที่ยงิ่ ใหญ่ที่สุดคือการเปลี่ยนแปลงโลก! เป็ นความพยายามร่ วมกันกับพระคริ สต์ พระองค์ตรัสว่า “เราจะสร้ างคริ สตจักร
ของเรา” (มัทธิว 16:18) ดังนั้นสิ่ งใดก็ตามที่พระองค์สงั่ ให้คุณทำ แม้วา่ มันจะดูเรี ยบง่ายและเล็กน้อยก็ตาม จงทำส่ วนของคุณให้
ดีที่สุดในการสร้างคริ สตจักรของพระองค์ในวันนี้
27
กันยายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“ความเชื่อคือความมัน่ ใจในสิ่ งที่หวังไว้ เป็ นความแน่ใจในสิ่ งที่มองไม่เห็น” (ฮีบรู 11:1)
ไฟประจำวัน!
ผ่านทางความเชื่อในพระคริ สต์ ฉันสามารถทำสิ่ งที่เป็ นไปไม่ได้เพื่อพระสิ ริของพระเจ้า!
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
ปฐมกาล 32:28; ผูว้ ินิจฉัย 7:1–25; 2 พงศาวดาร 20:1–37; ยอห์น 20:25; 21:1–25; โรม 4:11; ฮีบรู 11:34; ยากอบ 2:23
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
2 ซามูเอล 23; กาลาเทีย 3
เย็น:
เอเสเคียล 30;
สดุดี 78:38–72
คุณลักษณะก่ อนและหลังของวีรบุรุษ
นี่คือคุณลักษณะก่อนและหลังของวีรบุรุษแห่งความเชื่อในพระคัมภีร์
อับราฮัม ผูบ้ ุกเบิกคนนี้ มีชื่อเสี ยง เพราะว่า “อับราฮัมเชื่ อพระเจ้ า และพระองค์ ทรงถือว่ าเขาชอบธรรม และเขาได้ ชื่อว่ า
เป็ นสหายของพระเจ้ า” (ยากอบ 2:23) อับรามในเมืองเอร์อยูใ่ นสภาพที่แย่มาก อาจบูชารู ปเคารพ ความเชื่อมาถึงเขาค่อนข้างช้า
ในชีวิต แต่มนั ทำให้เขากลายเป็ นบุคคลที่โดดเด่นที่สุดเท่าที่ตะวันออกกลางเคยรู้จกั ยกเว้นพระคริ สต์
ยาโคบ หลานชายของอับราฮัม ทีแรก ยาโคบไม่ได้อา้ งว่าตนเป็ นของพระเจ้าด้วยซ้ำ แล้วคืนหนึ่งก็มาถึงเมื่อพระเจ้า
ทรงปล้ำสู้กบั เขา และยาโคบก็มีประสบการณ์กบั การทะลุทะลวง มันเปลี่ยนเขามากเสี ยจนพระเจ้าเปลี่ยนชื่อของเขาเป็ น
อิสราเอล
กิเดโอน ลูกชายคนเล็กที่ข้ ีหงุดหงิดของหัวหน้าท้องถิ่น ผูผ้ งาดขึ้นมาเป็ นผูน้ ำประเทศในชัว่ ข้ามคืน เขาเริ่ มต้นด้วย
ความเชื่อที่สนั่ คลอนมาก ถึงกับบ่นเรื่ องพระเจ้า พระเจ้าหล่อเลี้ยงความเชื่อของกิเดโอน เขาเผชิญหน้ากับกองทัพผูบ้ ุกรุ กที่ใหญ่
กว่าเขาถึง 500 เท่า ปราศจากอาวุธ และ “ได้ ตีกองทัพของประเทศอื่นๆ แตกพ่ ายไป” (ฮีบรู 11:34) เป็ นปฏิบตั ิการแห่งความเชื่อ
แบบดั้งเดิม

เยโฮชาฟัท เขาเป็ นกษัตริ ยท์ ี่กระวนกระวาย ไม่เป็ นที่พอพระทัยของพระเจ้าเสมอไป เมื่อเขาและประเทศชาติตกอยูใ่ น


อันตราย พระวิญญาณของพระเจ้าลงมายังชายคนหนึ่งในคำเผยพระวจนะ ทำให้เกิดการทะลุทะลวง ความคาดหวังของเยโฮชา
ฟัทเหิ นขึ้นสูง นำไปสู่เรื่ องราวแห่งชัยชนะในบันทึกของอิสราเอล
โธมัส ฝาแฝด (รู้จกั กันดีในนามของ “โธมัส ผูข้ ้ีสงสัย”) เขากล่าวว่า “ข้ าจะไม่ เชื่อเลย” (ยอห์น 20:25) เขาเป็ นคน
ประเภทที่ชอบใช้งานได้จริ ง เป็ นประเภทที่จ ำเป็ นต้องมีหลักฐานที่หนักแน่น แต่เขาเองก็มีประสบการณ์กบั การทะลุทะลวงทาง
ความเชื่อเมื่อเขาเห็นพระเยซู!
จงกล้าทำในสิ่ งที่เป็ นไปไม่ ได้ โดยทางพระเจ้ าและเพือ่ พระสิ ริของพระองค์ !
28
กันยายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“ข้าพเจ้าอธิษฐานว่าขอพระเจ้าของพระเยซูคริ สต์องค์พระผูเ้ ป็ นเจ้าของเราคือพระบิดาผูท้ รงพระสิ ริ ทรงให้ท่านทั้งหลายมีจิตใจ
ที่ประกอบด้วยปัญญาและการสำแดง เพื่อท่านจะรู้จกั พระองค์ขอให้ตาใจของพวกท่านสว่างขึ้น เพื่อจะได้รู้วา่ พระองค์ประทาน
ความหวังอะไรแก่ท่านในการทรงเรี ยกพวกท่านนั้น และรู้วา่ มรดกที่มีศกั ดิ์ศรี ของพระองค์สำหรับพวกธรรมิกชนนั้นบริ บูรณ์
เพียงไร” (เอเฟซัส 1:16–18)
ไฟประจำวัน!
เด็กเล็กๆไว้วางใจพ่อแม่ของตนฉันใด ข้าพระองค์กไ็ ว้วางใจพระบิดาในสวรรค์ของข้าพระองค์ฉนั นั้น
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
เอเฟซัส 1:16–19
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
2 ซามูเอล 24; กาลาเทีย 4
เย็น:
เอเสเคียล 31; สดุดี 79
คำอธิษฐานเปิ ดตา
ผมหวังว่าผูค้ นจะแม่นยำมากขึ้นเมื่อค้นหาพระคัมภีร์ ดู เอเฟซัส 1:16–19 ซึ่งเปาโลอธิษฐานเผือ่ ผูเ้ ชื่อให้มี
ประสบการณ์กบั การทะละทะลวงว่า ข้าพเจ้าข้าพเจ้าอธิษฐานว่าขอพระเจ้าของพระเยซูคริ สต์องค์พระผูเ้ ป็ นเจ้าของเราคือพระ
บิดาผูท้ รงพระสิ ริ ทรงให้ท่านทั้งหลายมีจิตใจ ที่ประกอบด้วยปัญญาและการสำแดง เพื่อท่านจะรู้จกั พระองค์ขอให้ตาใจของ
พวกท่านสว่างขึ้น เพื่อจะได้รู้วา่ พระองค์ประทานความหวังอะไรแก่ท่านในการทรงเรี ยกพวกท่านนั้น และรู้วา่ มรดกที่มีศกั ดิ์ศรี
ของพระองค์สำหรับพวกธรรมิกชนนั้นบริ บูรณ์เพียงไรและรู้วา่ ฤทธานุภาพของพระองค์ยงิ่ ใหญ่มากมายเพียงไรสำหรับเราที่เชื่อ
นั้น เป็ นฤทธิ์ เดชเดียวกับการทำกิจอันทรงอานุภาพและทรงพลังของพระองค์
ในเรื่ องของฤทธิ์ อำนาจ เปาโลไม่เคยอธิษฐานขอฤทธิ์ อำนาจทั้งที่นี่และที่อื่น พันธสัญญาใหม่ไม่เคยพูดถึงการเติมเต็ม
ใหม่หรื อเพ็นเทคอสต์อีกครั้งหนึ่ง แม้วา่ ผูพ้ ดู ทัว่ ไปจะพูดถึงก็ตาม เขาอธิษฐานขอเพียงให้ “ตาใจแห่ งความเข้ าใจของพวกท่ าน
สว่ างขึน้ ” นัน่ คือขอให้พวกเขาเห็นว่ามีทรัพยากรอะไรอยูใ่ กล้แค่ปลายนิ้ว! เราอธิษฐานขอฤทธิ์ อ ำนาจเมื่อพระคริ สต์ทรงมีฤทธิ์
อำนาจทั้งหมด และนัน่ คือทั้งหมดที่สำคัญ เมื่อเราเชื่อฟังคำสัง่ ของพระองค์ พระองค์จะทรงสนับสนุนเราโดยที่เราไม่ตอ้ งเสี ย
เวลาครึ่ งหนึ่งในการร้องขอพระองค์ให้ท ำเช่นนั้น ฤทธิ์ อ ำนาจแห่งการทะลุทะลวงสำหรับชาวเอเฟซัสเป็ นความเชื่อแห่งการทะลุ
ทะลวงในการตระหนักรู้ถึงสิ่ งที่พวกเขามีอยูแ่ ล้วในพระคริ สต์ เรารับสิ่ งนี้ดว้ ยความเชื่อ ไม่ใช่ผา่ นทางคุณธรรมด้วยการงาน
หนักแห่งการอธิษฐาน
เราพูดถึง “ผูเ้ ชื่อที่ยิง่ ใหญ่” ด้วย “ความเชื่อยิง่ ใหญ่” แต่มีเหตุการณ์บางอย่างหนุนใจพวกเขา พวกเขาฉวยโอกาส
เปลี่ยนทัศนคติของพวกเขา และเชื่อ พระเจ้าให้เกียรติการตัดสิ นใจที่บริ สุทธิ์ ดงั กล่าว พระเยซูชมเชยคนหนึ่งหรื อ 2 คนสำหรับ
“ความเชื่อที่ยงิ่ ใหญ่” ของพวกเขา แต่ไม่มีสกั คนที่ได้มาถึงตำแหน่งที่มีความสุ ขนั้นโดยกระบวนการที่ยาวนานและลำบาก พวก
เขาพบกับพระเยซู เพียงเท่านี้กเ็ พียงพอแล้ว ความเชื่อคือแค่น้ นั นัน่ คือความเชื่อในพระองค์ สิ่ งที่พระเยซูทรงชมเชยคือคุณภาพ
ของความเชื่อ ไม่ใช่ขอบเขต ความเชื่อที่เพิ่มขึ้นเรื่ อย ๆ ไม่ใช่การกระทำแบบห้อยโหน เหมือนเด็กน้อยที่ไว้วางใจใจพ่อแม่มาก
ขึ้นเมื่อโตขึ้น จงเป็ นเหมือนเด็กในความเชื่อ!
29
กันยายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“การที่เราจากไปนั้นก็เพื่อประโยชน์ของท่าน เพราะถ้าเราไม่ไป องค์ผชู้ ่วยก็จะไม่เสด็จมาหาพวกท่าน แต่ถา้ เราไปแล้ว เราก็จะ
ใช้พระองค์มาหาท่าน” (ยอห์น 16:7)
ไฟประจำวัน!
พระวิญญาณบริ สุทธิ์ ถูกประทานให้แก่ฉนั เพื่อให้ฉนั ทำงานที่พระเยซูเริ่ มไว้ต่อไป
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
ยอห์น 16:7; 21:25; กิจการ 2:3
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
1 พงศ์กษัตริ ย ์ 1;
กาลาเทีย 5
เย็น:
เอเสเคียล 32; สดุดี 80
ยุคไฟ
ทำไมพระเยซูจึงได้รับการยกขึ้นไปไว้ที่เบื้องขวาพระหัตถ์ของพระเจ้า? การเสด็จขึ้นสู่สวรรค์ของพระคริ สต์ดูเหมือน
จะเป็ นการศึกษาที่ถูกละเลย มันมีความสำคัญน้อยอย่างนั้นหรื อ? พระเยซูป่าวประกาศว่าการเสด็จขึ้นสู่สวรรค์ของพระองค์น้ นั
เหมาะสมแล้ว พระองค์บอกเราว่าถ้าพระองค์ไม่ไปหาพระบิดา ประสบการณ์ที่ส ำคัญที่สุดจะไม่มีวนั เป็ นของเรา ปราศจากการ
เสด็จขึ้นสู่สวรรค์ขององค์พระผูเ้ ป็ นเจ้า เราก็ไม่สามารถได้รับบัพติศมาเข้าสู่ พระวิญญาณได้ จงมองย้อนกลับไปถึงทุกสิ่ งที่พระ
เยซูทรงทำ ยอห์นเขียนว่าพระราชกิจของพระองค์มีมากมายจนถ้าเขียนทั้งหมด โลกทั้งโลกก็บรรจุหนังสื อเหล่านั้นไว้ไม่ได้ แล้ว
มีอะไรที่พระองค์ไม่ทรงทำเมื่อพระองค์อยูบ่ นแผ่นดินโลก? มีอยูส่ ิ่ งหนึ่ง นัน่ คือสิ่ งที่ยอห์น ผูใ้ ห้บพั ติศมากล่าวว่าพระองค์จะทำ
นัน่ คือบัพติศมาในไฟและในพระวิญญาณบริ สุทธิ์ ! พระองค์ไม่ได้ท ำอย่างนั้นเมื่อพระองค์อยูบ่ นแผ่นดินโลก พระเยซูเสด็จมา
จากสวรรค์และต้องเสด็จกลับไปที่นัน่ โดยทางไม้กางเขนและอุโมงค์ ก่อนที่ภารกิจสุ ดท้ายของพระองค์จะเริ่ มขึ้น

ไม่มีสิ่งใดที่พระเยซูท ำบนแผ่นดินโลกสามารถถูกอธิบายได้วา่ เป็ นการให้บพั ติศมาด้วยพระวิญญาณบริ สุทธิ์ และด้วย


ไฟ ในการงานที่ยิง่ ใหญ่ของพระองค์ การเทศนาของพระองค์ การสอนของพระองค์ การรักษาโรคของพระองค์ หรื อในการ
สิ้ นพระชนม์ของพระองค์ และการเป็ นขึ้นมาจากความตายของพระองค์ไม่ได้ให้บพั ติศมาด้วยพระวิญญาณบริ สุทธิ์ พระเยซูทรง
ทำหลายอย่างเพื่อเหล่าสาวก นัน่ คือพระองค์ประทานสิ ทธิอ ำนาจให้แก่พวกเขาเพื่อทำภารกิจการรักษา แต่พระองค์จากไปโดย
ไม่ได้ให้บพั ติศมาพวกเขาเข้าในพระวิญญาณบริ สุทธิ์ บัพติศมาดังกล่าวจะเกิดขึ้นไม่ได้จนกว่าพระองค์จะเสด็จไปหาพระบิดา
จริ งๆแล้วองค์พระผูเ้ ป็ นเจ้าไม่เพียงแต่ตรัสเท่านั้น แต่ทรงเน้นด้วย พระองค์เข้าสู่ พระสิ ริเพื่อรับตำแหน่งใหม่น้ ี ซึ่งเป็ นตำแหน่ง
ของผูใ้ ห้บพั ติศมาเข้าในพระวิญญาณบริ สุทธิ์ นี่คือเหตุผลที่พระองค์เสด็จขึ้นไปหาพระบิดา! พันธสัญญาเดิมไม่รู้ถึงการบัพติศ
มาแบบนี้ นี่เป็ น “สิ่ งใหม่” ของพระเจ้า พระเยซูน ำพระพรอื่น ๆ มากมายมาให้แก่เราในตอนนี้ อย่างแน่นอน พระองค์ทรงเป็ น
มหาปุโรหิ ตของเรา ทนายของเรา ตัวแทนของเรา แต่พระองค์เองไม่ได้เอ่ยชื่องานเหล่านี้ พระองค์บรรยายถึงการส่ งพระวิญญาณ
เท่านั้น หลังจากที่พระองค์เสด็จขึ้นไปแล้ว ไม่ใช่ก่อนหน้านั้น พระวิญญาณก็เสด็จมาและ “เปลวไฟลักษณะเหมือนลิน้ แผ่ กระ
จายอยู่บนตัวพวกเขาทุกคน” (กิจการ 2:3) หลายปี ก่อน แท่นบูชาของพลับพลาของโมเสสและพระวิหารของซาโลมอนถูกจุด
ด้วยไฟบริ สุทธิ์จากสวรรค์ เปลวไฟในห้องชั้นบนของเทศกาลเพ็นเทคอสต์มาจากแหล่งเดียวกันจากสวรรค์ พระเยซูมีฤทธิ์
อำนาจทั้งหมดตามคำสัง่ ของพระองค์ พระองค์อยูใ่ นห้องควบคุม และคุณอยูใ่ นพระหัตถ์ของพระองค์

30
กันยายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“อย่าให้ใจของพวกท่านเป็ นทุกข์เลย พวกท่านวางใจในพระเจ้า จงวางใจในเราด้วย” (ยอห์น 14:1)
ไฟประจำวัน!
ในฐานะผูร้ ับใช้ของพระเจ้า เราสามารถช่วยคนรุ่ นเดียวให้รอดได้เท่านั้น ให้เราขยันทำงาน!
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
เอเสเคียล 48:35; ยอห์น 14:1, 3; 1 ยอห์น 2:18
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
1 พงศ์กษัตริ ย ์ 2;
กาลาเทีย 6
เย็น:
เอเสเคียล 33; สดุดี 81 และ 82
รวมตัวกันอีกครั้ง
พระคริ สต์ก ำลังเสด็จกลับมาเพื่อนำสวรรค์และแผ่นดิโลกมารวมกัน พระเยซูตรัสว่า “เราจะกลับมาอีก ...เพื่อว่ าเราอยู่
ที่ไหนพวกท่ านจะได้ อยู่ที่นั่นด้ วย” (ยอห์น 14:3) มันไม่ใช่ความคิดเพ้อฝันที่น ำมาจากข้อพระคัมภีร์ 2-3 ข้อ ไม่ใช่เหตุการณ์เล็ก
น้อย แต่เป็ นจุดสุ ดยอดของเวลาทั้งหมดและจุดประสงค์ของการทรงสร้างเอง! พระประสงค์ของพระเจ้าหมุนรอบโลกนี้ พระ
บุตรของพระองค์เสด็จมาที่นี่ ไม่ใช่ที่โลกอื่น แผ่นดินโลกคือสนามรบที่ความชัว่ ร้ายและซาตานจะถูกโค่นล้มต่อหน้าต่อตาผูท้ ี่
มันได้หลอกลวง การทรงเรี ยกของเราไม่เพียงมาจากสวรรค์เท่านั้นแต่ยงั อยูบ่ นแผ่นดินโลกด้วย พระเจ้ารักโลกนี้ พระองค์ไม่เคย
ตรัสว่าพระองค์ทรงรักสวรรค์เหมือนทรงรักโลก แม้วา่ พระองค์ทรงสร้างทั้งสวรรค์และแผ่นดินโลก พระเยซูประสูติบนแผ่นดิน
โลกและกลายเป็ นมนุษย์ที่มีลมหายใจ มีชีวิต และสิ้ นพระชนม์ พระองค์ทรงเป็ นขึ้นมาจากความตายในฐานะมนุษย์อีกครั้ง และ
บัดนี้ ทรงปรากฏในพระสิ ริในฐานะมนุษย์คนแรก บุตรมนุษย์ การกลับมาสู่ โลกนี้ในฐานะมนุษย์คือเรื่ องราวทั้งหมด พระเยซู
ทรงรักผูค้ น ไม่ใช่แค่วิญญาณจิต และมีอนาคตสำหรับโลกเก่านี้ เมื่อสัมผัสได้ถึงการทรงสถิตของพระองค์ในทุกตารางหลา สิ่ งที่
เราเพลิดเพลินในบางครั้งตอนนี้ทุกคนจะได้รับประสบการณ์อย่างเต็มตา การมาของพระองค์คือการเสด็จมาของพระองค์ นัน่ คือ
การทรงสถิตของพระองค์ เอเสเคียลกล่าวว่าในพระวิหาร พระนามขององค์พระผูเ้ ป็ นเจ้าคือชัมมาห์ นัน่ คือ “พระยาห์ เวห์ สถิตที่
นั่น” (เอเสเคียล 48:35) แต่เมื่อพระเยซูเสด็จมาอีกครั้ง สิ่ งนี้จะหมายถึงแผ่นดินโลกทั้งหมด

ภาษากรี กที่แท้จริ งของยอห์นกล่าวว่า “เป็ นชั่วโมงสุดท้ ายแล้ ว” (1 ยอห์น 2:18) ซึ่งเป็ นทัศนคติของพระเจ้า สำหรับ
องค์พระผูเ้ ป็ นเจ้า หนึ่งวันก็เหมือนหนึ่งพันปี และแสดงถึงความอดทนของพระองค์ในขณะที่พระองค์รอคอยให้โลกหันกลับมา
หาพระองค์ ทั้งยอห์นและเปโตรพูดราวกับว่าพวกเขาอยูใ่ นยุคสุ ดท้าย และพวกเขาก็อยู่ เช่นเดียวกับเรา เวลาผ่านไป 2 พันปี เรา
สามารถพูดถึงชัว่ โมงสุ ดท้ายเท่านั้น ถ้าผูใ้ ดคิดว่าการล่าช้าหมายความว่าการเสด็จกลับมาของพระเยซูเป็ นความผิดพลาดทั้งหมด
และเขาหรื อเธอสามารถมีชีวิตอยูต่ ่อไป พวกเขาก็ก ำลังดำเนินชีวิตอยูใ่ นสวรรค์ของคนโง่ ไม่มีคนรุ่ นใดอยูค่ ้ำฟ้ า มีชวั่ โมงสุ ดท้าย
สำหรับทุกชัว่ อายุคน ในฐานะผูร้ ับใช้ของพระเจ้า เราสามารถช่วยคนรุ่ นเดียวให้รอดได้เท่านั้น เราไม่มีสหัสวรรษที่ 3 เพื่อช่วย
โลกให้รอด ผูค้ นส่วนใหญ่ที่มีชีวิตอยูใ่ นปัจจุบนั จะหายไปในไม่ชา้ หลังจากมันเริ่ มต้น “ชัว่ โมงสุ ดท้าย” เป็ นคำที่สื่อถึงกระสวย
อันว่องไวของการดำรงอยูข่ องมนุษย์ จงดำเนินชีวิตอยูใ่ นแต่ละนาที แต่ละวินาที ของชัว่ โมงสุ ดท้ายนี้ ในวันสุ ดท้ายนี้ !

เมื่อคุณแสวงหาคนที่รอดแล้ว คุณจะจัดงานสัมมนา
เมื่อคุณแสวงหาผูส้ ูญหาย คุณจะจัดงานประกาศใหญ่
การประกาศต้องเข้าสู่คริ สตจักรท้องถิ่น
ผูเ้ ผยแพร่ ข่าวประเสริ ฐนำอวนของเขามาและขอยืมเรื อของศิษยาภิบาล
และพวกเขาก็ออกไปด้วยกันและนำวิญญาณจิตที่จบั ได้มา
หลังจากนั้นผูเ้ ผยแพร่ ข่าวประเสริ ฐก็สะบัดปลาทุกตัวเข้าไปในคริ สตจักร
และเคลื่อนต่อไปเพื่อการเก็บเกี่ยวครั้งต่อไป

ฉันต้องการสิ่ งหนึ่ง นัน่ คือนรกว่างเปล่าและสวรรค์เต็ม

1
ตุลาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“เหตุฉะนั้นเมื่อเราได้รับอาณาจักรที่ไม่สนั่ สะเทือนแล้ว ก็ให้เรามีใจขอบพระคุณ โดยเหตุน้ ี เราจึงนมัสการอย่างที่ชอบพระทัย
ของพระเจ้า ด้วยความเคารพและด้วยความยำเกรงเพราะว่าพระเจ้าของเรานั้นทรงเป็ นเพลิงที่เผาผลาญ” (ฮีบรู 12:28–29)
ไฟประจำวัน!
ไฟของพระวิญญาณบริ สุทธิ์ เสริ มกำลังให้เราประกาศข่าวประเสริ ฐ
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
1 พงศ์กษัตริ ย ์ 18:1–46; เยเรมีย ์ 23:29; มัทธิว 3:11; กิจการ 2:3; ฮีบรู 12:29
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
1 พงศ์กษัตริ ย ์ 3;
เอเฟซัส 1
เย็น:
เอเสเคียล 34; สดุดี 83 และ 84
ถูกเผาผลาญด้ วยไฟ
บัพติศมาในพระวิญญาณบริ สุทธิ์ หมายความว่าทุกสิ่ งที่เกี่ยวข้องกับพระองค์และข่าวประเสริ ฐควรมีลกั ษณะเฉพาะด้วย
ไฟ! มันควรจะเผาไหม้ ควรมีไฟในผูท้ ี่เป็ นพยานและทำงาน นัน่ คือไฟในผูท้ ี่เทศนา ไฟในความจริ งที่เราเทศนา “ถ้ อยคำของเรา
เหมือนไฟไม่ ใช่ หรื อ?” (เยเรมีย ์ 23:29) เราเทศนาเรื่ องไฟในองค์พระผูเ้ ป็ นเจ้า “เพราะว่ าพระเจ้ าของเรานั้นทรงเป็ นเพลิงที่เผา
ผลาญ” (ฮีบรู 12:29) ไฟในพระวิญญาณที่เราเทศนา “พระวิญญาณบริ สุทธิ์ และไฟ” (มัทธิว 3:11)!
มีเครื่ องบูชา 2 อย่างบนภูเขาคาร์เมล ครั้งหนึ่งถูกกระทำโดยปุโรหิ ตของพระบาอัล และอีกครั้งหนึ่งทำโดยเอลียาห์
เครื่ องบูชาแด่พระบาอัลไม่เคยถูกเผา นัน่ คือไม่มีไฟ เครื่ องบูชาอยูท่ ี่นนั่ ผูถ้ วายเครื่ องบูชาจริ งจัง พวกเขาอธิษฐานต่อพระบาอัล
ทั้งวัน และพวกเขาใช้มีดกรี ดตัวเองเพื่อแสดงให้เห็นว่าความจริ งใจของพวกเขาสิ้ นหวังเพียงใด พวกเขาทุ่มเททุกอย่างที่มีลงไป
แต่เครื่ องบูชาของพวกเขาไม่ได้นำไฟลงมา ถ้ามารสามารถดึงประกายไฟขึ้นมาจากนรกสักครั้งหรื อ 2 ครั้งเพื่อจุดไฟได้ ซาตานก็
จะทำ แต่แท่นบูชากลับเย็นชา

ไฟไม่ได้ตกลงมาเพียงเพราะว่าเอลียาห์จดั เครื่ องบูชาเช่นกัน แต่มาเมื่อเอลียาห์ อธิ ษฐานและเชื่ อ! เอลียาห์ท ำตามคำ


แนะนำของโมเสสตามตัวอักษร แต่ไม่มีไฟใดที่เป็ นผลมาจากการเชื่อฟังของเขาเท่านั้น ความเชื่อนำมาซึ่งเปลวไฟ พระเจ้าส่ งไฟ
ลงมาบนเครื่ องบูชาเท่านั้น ปราศจากเครื่ องบูชาการส่ งไฟลงมาก็ประโยชน์ คริ สเตียนที่นงั่ สบายๆอยูบ่ นเก้าอี้ไม่ได้รับไฟ ไม่มีสิ่ง
ที่เรี ยกว่า “มันฝรั่งที่นอนเฉย ๆ แล้วได้รับการเจิม” บางครั้งผูค้ นอธิษฐานขอไฟ ทั้งๆ ที่พวกเขาไม่ได้ยอมจำนนต่อพระเจ้าเลย
และหลังจากนั้นก็ท ำอะไรเพียงเล็กน้อยเพื่อพระองค์ พวกเขาสละเวลาหรื อเงินเพียงเล็กน้อย และไม่พยายามเลย ถ้าพวกเขามีไฟ
ของพระเจ้า พวกเขาจะทำอะไรกับมัน? นัง่ ที่บา้ นและแค่เพลิดเพลินกับมันหรื อ? ไฟไม่ได้ช่วยเราให้รอดพ้นจากปัญหาในการ
เอาชนะโลก แต่เป็ นการให้ก ำลังแก่เราในการประกาศข่าวประเสริ ฐ ถึงแม้มีปัญหา จงแตะไฟนั้นในวันนี้ !
2
ตุลาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“ฤทธิ์ เดชขององค์พระผูเ้ ป็ นเจ้าก็อยูก่ บั พระองค์เพื่อที่จะรักษาโรคได้” (ลูกา 5:17)
ไฟประจำวัน!
เมื่อความเชื่อทะลุทะลวง คุณถวายพระสิ ริแด่พระเจ้า และมีฤทธิ์ อำนาจและความกล้าหาญ
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
ลูกา 5:17–26
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
1 พงศ์กษัตริ ย ์ 4 และ 5; เอเฟซัส 2
เย็น:
เอเสเคียล 35; สดุดี 85
ความเชื่อทะลุทะลวง

ชาย 4 คนมีการทะลุทะลวงของความเชื่ออย่างแท้จริ ง
ขณะที่พระองค์ ทรงสั่งสอนอยู่ มีพวกฟาริ สีและพวกอาจารย์ สอนธรรมบัญญัติมานั่งอยู่ด้วย เป็ นคนที่มาจากทั่วทุกหมู่
บ้ านในแคว้ นกาลิลี แคว้ นยูเดีย และกรุ งเยรู ซาเล็ม ฤทธิ์เดชขององค์ พระผู้เป็ นเจ้ าก็อยู่กบั พระองค์ เพือ่ ทีจ่ ะรักษาโรคได้
และนี่ แน่ ะ มีบางคนหามคนง่ อยซึ่ งนอนอยู่บนที่นอนมา พวกเขาพยายามหาทางหามคนง่ อยเข้ ามาวางตรงหน้ าพระ
องค์ แต่ หาทางเข้ ามาไม่ ได้ เพราะมีคนมาก เขาจึ งขึน้ ไปบนหลังคาตึก แล้ วหย่ อนคนง่ อยพร้ อมกับที่นอนลงมาตามช่ อง
กระเบือ้ ง วางตรงหน้ าพระเยซูท่ามกลางฝูงชนเมื่อพระองค์ ทอดพระเนตรเห็นความเชื่ อของพวกเขา พระองค์ จึงตรั สว่ า
“เพื่อนเอ๋ ย บาปต่ างๆ ของท่ านได้ รับการยกโทษแล้ว”พวกธรรมาจารย์ และพวกฟาริ สีจึงคิดในใจว่ า ...พระองค์ จึงตรั ส
สั่งคนง่ อยว่ า “เราสั่งท่ านว่ าจงลุกขึน้ ยกที่นอนแล้วกลับไปที่บ้านของท่ าน” ทันใดนั้นเขาก็ลกุ ขึน้ ต่ อหน้ าทุกคน ยกที่
นอนแล้ วกลับบ้ าน พร้ อมกับถวายพระเกียรติแด่ พระเจ้ าทุกคนก็อัศจรรย์ ใจและได้ ถวายพระเกียรติแด่ พระเจ้ า ต่ างเต็ม
ไปด้ วยความเกรงกลัวและพูดกันว่ า “วันนี เ้ ราได้ เห็นสิ่ งที่เหลือเชื่ อ”!” (ลูกา 5:17–21, 24–26) พระคริ สต์ อยู่ในบ้ านที่
แออัดไปด้ วยผู้คน ทั้งผู้เชื่ อและผู้ไม่ เชื่ อ หลายคนมีปัญหาทางร่ างกาย และ “ฤทธิ ์ เดชขององค์ พระผู้เป็ นเจ้ าก็อยู่กับพระ
องค์ เพื่อที่จะรั กษาโรคได้ ” แต่ ไม่มีผ้ ใู ดในคนที่เคร่ งศาสนาเหล่ านีไ้ ด้ รับการรั กษาเลย จากนั้นชาย 4 คนหามคนเป็ น
อัมพาตคนหนึ่งบนเปลหาม และเนื่องจากพวกเขาไม่ สามารถผ่ านฝูงชนได้ พวกเขาจึ งขึน้ บันไดด้ านนอกของบ้ าน
หลังคาเรี ยบ ดึงกระเบือ้ งออก แล้ วลดชายคนนั้นลงตรงหน้ าพระเยซู เมื่อเห็นความเชื่ อของพวกเขา พระองค์ จึงทรง
รั กษาชายผู้นีใ้ ห้ หายเป็ นปกติ มันเป็ นการทะลุทะลวง 2 ครั้ ง พวกเขา (ฝ่ ายร่ างกาย) พังผ่ านหลังคา และพวกเขา (ฝ่ าย
วิญญาณ) ทะลุผ่านความไม่ เชื่ อของฝูงชน ซึ่ งขัดขวางพวกเขาจากพระคริ สต์ “พวกเขาทั้งหมดประหลาดใจ…และเต็ม
ไปด้ วยความกลัว” ความกลัวเป็ นหนึ่งในกลอุบายยอดนิยมของซาตานในการพยายามบั่นทอนการอัศจรรย์ นอกจากนี ้
ยังเป็ นไปได้ ที่จะสูญเสี ยการรั กษาของคุณ ถ้ าคุณอนุญาตให้ ความไม่ เชื่ อบ่ อนทำลายสิ่ งที่พระเจ้ าได้ ท ำ แต่ เมื่อความเชื่ อ
ทะลุทะลวง มันทำให้ คุณถวายพระสิ ริแด่ พระเจ้ า มันนำมาซึ่ งฤทธิ์ อ ำนาจ ความมัน่ ใจ ความกล้ าหาญที่ท ำให้ คุณ
ต้ านทานความกลัวและความไม่ เชื่ อได้ และเสริ มพลังให้ คุณเป็ นพยานที่แข็งแกร่ งกว่ าที่เคยเป็ นมา
3
ตุลาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“แล้วพระเยซูตรัสตอบนางว่า “หญิงเอ๋ ย ความเชื่อของท่านก็มาก ให้เป็ นไปตามความต้องการของท่านเถิด” แล้วลูกสาวของนาง
ก็หายเป็ นปกติต้ งั แต่เวลานั้น” (มัทธิว 15:28)
ไฟประจำวัน!
ฉันตั้งใจจะเป็ นยักษ์ใหญ่ในหมู่คนแคระ ขี่ให้สูงเหนือความยากจนฝ่ ายวิญญาณของโลก
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
มัทธิว 8:5–13; 9:19–26; 15:28; มาระโก 2:1–12
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
1 พงศ์กษัตริ ย ์ 6;
เอเฟซัส 3
เย็น:
เอเสเคียล 36; สดุดี 86
ยักษ์ ใหญ่ แห่ งความเชื่อ
ทุกครั้งที่บางคนหายโรค มันหักทำลายความไม่เชื่อของโลก ต้องเป็ นแบบนั้น หรื อไม่ง้ นั เราก็จะไม่เคยเข้าใกล้พระเยซู
เลย จงเชื่อพระเจ้า! มันจะทำให้บางคนพอใจและทำให้คนที่เหลือประหลาดใจ พระเยซูจดั การกับระดับความเชื่อที่แตกต่างกัน
ของผูค้ น บางคนพยายามเก็บซ่อนความเชื่อของตนไว้ เช่น หญิงป่ วยที่คลานผ่านฝูงชนเพื่อแตะชายฉลองพระองค์ แต่ไม่ตอ้ งการ
ให้คนอื่นรู้ พระองค์กร็ ักษาเธออยูด่ ี บางคนมีความเชื่อที่ "เสี่ ยง" เช่นเดียวกับเพื่อนทั้ง 4 คนที่ตอ้ งการการรักษาเพื่อนที่เป็ น
อัมพาต (เป็ นความเชื่อของผูใ้ ดที่น ำการรักษามาถึงผูป้ ่ วย ของผูป้ ่ วยเอง หรื อของเหล่าเพื่อนของเขา?) การอัศจรรย์น้ นั ทำให้ผเู้ ชื่อ
มีความยินดี แต่ท ำให้เกิดความกลัวอยูใ่ นหัวใจของผูไ้ ม่เชื่อ หรื อมีความเชื่อบนพื้นฐานของสิ ทธิอ ำนาจ เช่น นายร้อย (อาจเป็ น
คนนอกรี ต) ที่ยงั เชื่อว่าพระเยซูทรงสามารถรักษาโรคได้ดว้ ยคำพูดของพระองค์ และเป็ นผูท้ ี่ได้รับคำชมเชยจากพระเยซูวา่ “เรา
ไม่ เคยพบศรั ทธาที่ไหนมากเท่ านี แ้ ม้ ในอิสราเอล!” ในการรักษาบ่าวของเขา (มัทธิว 8:10)

เราถูกห้อมล้อมด้วยผูท้ ี่สงสัยทุกวัน ความไร้พระเจ้าคือระเบียบของวันนี้ หนังสื อพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์ ทั้งหมดนี้


ยัดเยียดความไร้พระเจ้าลงไปในลำคอของเราเป็ นอาหารเช้า อาหารค่ำ ชา และอาหารเย็น ถ้าเราต้องการความเชื่อ เราควรลองรับ
ประทานอาหารที่แตกต่างจากแกลบที่มีเหตุผลทั้งหมดนี้ จงเลี้ยงตนเองด้วยพระคำ คำอธิษฐาน การหนุนใจของคริ สเตียน และ
การอ่านที่สร้างความเชื่อ จงมาอย่างมีความหวัง ใช้ความเชื่อ (ถึงแม้วา่ จะกระวนกระวายใจ) แล้วคุณจะมีความเชื่อมากขึ้น! ผูเ้ ชื่อ
ถูกกำหนดให้เป็ นยักษ์ใหญ่ เดินยืดอก ขี่สูงเหนือความยากจนฝ่ ายวิญญาณของโลก เป็ นตัวแทนของระเบียบการทรงสร้างที่ยิ ง่
ใหญ่กว่า ความแข็งแกร่ ง และเสาหลัก:
การสู ญเสี ยทรัพย์ เป็ นเรื่องใหญ่
การสู ญเสี ยสุ ขภาพเป็ นเรื่องโต
การสู ญเสี ยความเชื่อ
ทำให้ ไม่ สามารถทำให้ สิ่งใดกลับสู่ สภาพดีได้

จงเป็ นผู้ที่ได้ ชื่อว่ ามีความเชื่อที่ยงิ่ ใหญ่ !

4
ตุลาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“เราบอกความจริ งกับท่านว่า ถ้าคนใดไม่ได้เกิดใหม่ คนนั้นไม่สามารถเห็นแผ่นดินของพระเจ้า” (ยอห์น 3:3)
ไฟประจำวัน!
มีสิ่งมหัศจรรย์ไร้ขีดจำกัดให้เรี ยนรู้และมีประสบการณ์ผา่ นทางพระวิญญาณบริ สุทธิ์
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
ยอห์น 3:3; โรม 1:16; กาลาเทีย 5:16; เอเฟซัส 2:6; ฮีบรู 8:1–13
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
1 พงศ์กษัตริ ย ์ 7;
เอเฟซัส 4
เย็น:
เอเสเคียล 37; สดุดี 87 และ 88
บังเกิดใหม่
เมื่อพระเยซูคริ สต์ทรงเชื่อมช่องว่างระหว่างโลกฝ่ ายธรรมชาติกบั โลกฝ่ ายวิญญาณ ความเป็ นไปได้อย่างหนึ่ งที่พระองค์
เปิ ดให้แก่เราคือ “บังเกิดใหม่” สำนวนภาษากรี กนี้ สามารถแปลได้วา่ “บังเกิดจากเบื้องบน” ชายและหญิงสามารถถูกสร้างใหม่
ได้ (เป็ นคนที่ถูกสร้างใหม่) โดยฤทธิ์ อ ำนาจของสวรรค์ ฤทธิ์ อ ำนาจแห่งราชอาณาจักรของพระเจ้า ดังที่พระคัมภีร์บอกเรา เห็น
ได้ชดั ว่า คนที่ “บังเกิดจากเบื้องบน” จะไม่มีวนั พอใจกับโลกที่มีแต่วตั ถุ พวกเขาจำเป็ นต้องมีการการเชื่อมโยงฝ่ ายวิญญาณเช่น
เดียวกับการเชื่อมโยงฝ่ ายร่ างกาย โลกปัจจุบนั ซึ่งมีกฎทางวิทยาศาสตร์ที่จ ำกัด ไม่ใหญ่พอสำหรับคริ สเตียนที่กลับใจใหม่มากไป
กว่ากรงสำหรับนกอินทรี มันจำเป็ นต้องขยายออกไป และการขยายนั้นไปไกลกว่าโลก 3 มิติของเราเข้าสู่มิติที่ 4 ของพระ
วิญญาณ เรา “ดำเนินชี วิตตามพระวิญญาณ” (กาลาเทีย 5:16) และเรา “นั่งด้ วยกันกับพระองค์ ในสวรรคสถานในพระเยซูคริ สต์ ”
(เอเฟซัส 2:6)
พระธรรมกิจการแสดงให้เห็นว่าเหล่าสาวกใช้ทรัพยากรใหม่ๆ ขณะที่พวกเขาเดินทางไปทัว่ โลกด้วยการอวยพรผูค้ น
ด้วยความรอดและการรักษา ประชากรใหม่ชุดแรกในพระคริ สต์ซ่ ึงเป็ นคนที่ถูกสร้างใหม่แห่งราชอาณาจักรได้ถูกส่ งออกไปเพื่อ
นำผูอ้ ื่นเข้าสู่ ระเบียบราชอาณาจักรเดียวกันด้วยสัญชาตญาณใหม่ ฤทธิ์อ ำนาจใหม่ และกฎใหม่ที่ถูกเขียนไว้ในหัวใจของพวกเขา

หลังจากที่ผมได้รับบัพติศมาในพระวิญญาณและพูดภาษาแปลกๆ ผมใช้เวลาไม่นานในการตระหนักว่าของประทานนี้
เปิ ดความเป็ นไปได้ใหม่ๆ ถ้าผมพูดภาษาแปลกๆ ผ่านทางพระวิญญาณ ก็จะมีสิ่งมหัศจรรย์อื่นๆ ผ่านทางพระวิญญาณได้ ผมได้
เรี ยนรู้ที่จะดำเนินชีวิตในพระวิญญาณ ผมอยูบ่ นพื้นที่ใหม่ที่หมายสำคัญและการอัศจรรย์เกิดขึ้น สรรเสริ ญพระเจ้า! ถ้าไม่ใช่
เพราะสิ่ งนั้น ก็จะไม่มีอะไรเกิดขึ้นอย่างที่เป็ น ฝูงชนจำนวนมากมาที่การประชุมของผม สิ่ งเหล่านี้แสดงถึงความต้องการที่สะสม
อย่างน่ากลัว แต่ผมได้รับบัพติศมาในพระวิญญาณบริ สุทธิ์ ผมรู้จกั ฤทธิ์ อ ำนาจแห่งยุคที่ก ำลังจะมาถึงและวิธีใช้ทรัพยากรเหล่า
นั้น ความเชื่อมัน่ ที่ยงิ่ ใหญ่จบั ตัวผมไว้วา่ พระเจ้ามีบางสิ่ งสำหรับพวกเขา นัน่ ไม่ใช่แค่ความลับของผมเท่านั้น แต่ยงั เป็ นความเชื่อ
มัน่ ของคนหลายร้อยล้านในปัจจุบนั ด้วย ถ้าฉันมี "ความลับ" อื่น ๆ นัน่ ก็คือข้อความนั้นเอง ผมมัน่ ใจในประสิ ทธิภาพของสิ่ งนี้
นัน่ คือ “ฤทธานุภาพของพระเจ้ าที่น ำไปสู่ความรอด” (โรม 1:16) คุณก็สามารถมัน่ ใจในสิ่ งนี้ได้เช่นกัน
5
ตุลาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“พวกสาวกจึงออกไปเทศนาสัง่ สอนทุกแห่งหน และองค์พระผูเ้ ป็ นเจ้าทรงร่ วมงานกับพวกเขาและทรงสนับสนุนคำสอนของ
พวกเขา ด้วยการให้มีหมายสำคัญประกอบคำสอน อาเมน” (มาระโก 16:20)
ไฟประจำวัน!
ข่าวประเสริ ฐไม่ใช่ข่าวดีสำหรับคนที่ไม่ได้ยนิ และข่าวประเสริ ฐที่ไม่ได้ถูกประกาศนั้นไม่ใช่ข่าวประเสริ ฐเลย
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
มาระโก 16:20
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
1 พงศ์กษัตริ ย ์ 8;
เอเฟซัส 5
เย็น:
เอเสเคียล 38; สดุดี 89
ความพยายามในการประกาศข่ าวประเสริฐครั้งแรกของผม
ขณะที่เป็ นมิชชันนารี หนุ่มในแอฟริ กา บางครั้งผมก็เทศนากับคน 5 คน นอกเหนือจากพันธกิจของเราแล้ว ยังมี
วิญญาณจิตอีก 450 ล้านดวงในแอฟริ กา ส่วนใหญ่ไม่รู้เรื่ องความรอดผ่านทางพระเยซูคริ สต์ ใช่ พวกเขาทั้งหมดสามารถถูก
ประกาศข่าวประเสริ ฐได้ดว้ ยวิธีที่เรากำลังใช้อยู่ แต่เพียงถ้าพวกเขามีชีวิตอยูป่ ระมาณ 5 พันปี เท่านั้น! อย่างไรก็ตาม ผูฟ้ ังกลุ่ม
เล็กๆ ไม่ได้ท ำให้เราผิดหวัง หลังจากนั้น การฟื้ นฟูสามารถมาได้และช่วยเราจากปัญหามากมาย! ความหวังนี้ ท ำให้เราอดทนและ
ตาเป็ นประกาย เพราะว่าพวกปู่ ทวดฝ่ ายวิญญาณของเราไม่ได้ฝากความหวังไว้กบั สิ่ งนี้ดว้ ยความเชื่อที่ไร้ขอ้ กังขาหรื อ? ต่อมาผม
รู้สึกว่าข่าวประเสริ ฐไม่ ใช่ ข่าวดีส ำหรั บคนที่ไม่ ได้ ยิน ข่ าวประเสริ ฐที่ไม่ ได้ ถกู ประกาศนั้นไม่ ใช่ ข่าวประเสริ ฐเลย ลำแสงเล็กๆ
อีกดวงส่ องผ่านเข้ามาในหัวใจของผมว่า ในพันธสัญญาใหม่ เราไม่เคยอ่านว่าพระเจ้าเสด็จออกไปด้วยพระองค์เอง แต่อ่านว่า
"พวกสาวกจึ งออกไปเทศนาสั่งสอนทุกแห่ งหน และองค์ พระผู้เป็ นเจ้ าทรงร่ วมงานกับพวกเขา" (มาระโก 16:20) พระเจ้าทรง
กระทำเมื่อพวกเขากระทำ ดังนั้น พระองค์ก ำลังรอเราอยู่ และผมไม่สามารถหนีสิ่งนี้ไปได้ นัน่ รวมถึงผมด้วย!

ผมตั้งหลักสูตรการเรี ยนพระคัมภีร์แบบโต้ตอบ และมีคนลงทะเบียนเรี ยน 5 หมื่นคน มากมายจริ งๆ! เหมือนกล้อง


ปริ ทรรศน์จากเรื อดำน้ำ มันเผยให้เห็นว่าผมจมอยูใ่ นมหาสมุทรแห่งมนุษยชาติที่หิวกระหายความรอด ยิง่ กว่านั้น นิมิตติดตามผม
มา คืนแล้วคืนเล่าผมเห็นทั้งทวีปแอฟริ กาอาบด้วยพระโลหิ ตของพระเยซู ประเทศแล้วประเทศเล่า เราได้รอคอยการฟื้ นฟูอย่าง
ถี่ถว้ นและอดทน ผ่านทางการอธิษฐานอย่างจริ งจังเป็ นเวลากว่าร้อยปี แน่นอนว่าพระเจ้าต้องตอบตอนนี้ ใช่ไหม? ดูเหมือนจะ
เป็ นแรงกระตุน้ ที่รุนแรง (ซึ่งพิสูจน์แล้วว่าเป็ นของพระเจ้า) ผมจองสนามกีฬาหนึ่งหมื่นที่นงั่ สำหรับแคมเปญที่มีสมาชิก 40 คน
ในคริ สตจักร...และมีคนมาหนึ่งหมื่นคน! ข้าวสาลีที่เหลืองอร่ าครั้งแรก! เป็ นครั้งแรกที่ผมได้เป็ นพยานเห็นคนหลายพันคนวิ่งไป
ข้างหน้าเพื่อตอบรับการทรงเรี ยกแห่งความรอด พระเจ้าเปิ ดตาของผมและผมก็เห็นคลื่นแห่งฤทธิ์ อำนาจอันทรงพลังของพระ
วิญญาณบริ สุทธิ์ เข้ามาในสนามกีฬา ซึ่งมองไม่เห็นด้วยสายตาของโลก การบัพติศมาในพระวิญญาณบริ สุทธิ์ หมู่ที่มาพร้อมกับ
การอัศจรรย์แห่งการรักษามากมายเกิดขึ้น ผมร้องไห้เหมือนเด็กผูช้ าย และปฏิญาณต่อองค์พระผูเ้ ป็ นเจ้าด้วยการเชื่อฟังว่า ผมจะ
เดินทางไปทัว่ แอฟริ กาเพื่อทำให้นิมิตนั้นเป็ นจริ ง ผมให้เหตุผลว่าถ้าพระเจ้าสามารถทำเช่นนั้นกับคนหมื่นคนได้ พระองค์ก็
สามารถทำได้ถึง 450 ล้านคน นัน่ คือความเชื่อแบบการประกาศข่าวประเสริ ฐที่กา้ วร้าวซึ่งผมหวังว่าจะถ่ายเทให้กบั คุณในวันนี้
6
ตุลาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“ในปฐมกาลพระวาทะทรงดำรงอยู่ และพระวาทะทรงอยูก่ บั พระเจ้า และพระวาทะทรงเป็ นพระเจ้าในปฐมกาลพระองค์ทรงอยู่
กับพระเจ้าพระเจ้าทรงสร้างสรรพสิ่ งขึ้นมาโดยพระวาทะ ในบรรดาสิ่ งที่เป็ นอยูน่ ้ นั ไม่มีสกั สิ่ งเดียวที่เป็ นอยูน่ อกเหนือพระ
วาทะ” (ยอห์น 1:1–3)
ไฟประจำวัน!
พระองค์ผทู้ รงเป็ นแหล่งกำเนิดของทุกสิ่ ง ทรงสถิตอยูใ่ น Cyo โดยพระวิญญาณของพระองค์
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
มัทธิว 6:10; ยอห์น 1:1–3, 14, 51; 3:13; 6:38; ฮีบรู 10:20
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
1 พงศ์กษัตริ ย ์ 9;
เอเฟซัส 6
เย็น:
เอเสเคียล 39; สดุดี 90
การบุกรุ ก!
โลกของเราได้ถูกบุกรุ ก และสิ ทธิอ ำนาจแห่งราชอาณาจักรของพระเจ้าได้เข้ามาใกล้เราแล้ว เป็ นคำสัง่ อัศจรรย์ที่เหนือ
กว่าซึ่งครอบคุมคำสัง่ ทางธรรมชาติหรื อวิทยาศาสตร์ เช่นเดียวกับที่กฎที่สูงกว่าสามารถลบล้างกฎทางกายภาพได้ฉนั ใด กฏฝ่ าย
วิญญาณก็สามารถลบล้างกฏทางวัตถุได้ สิ่ งนั้นเกิดขึ้นในบัพติศมาของพระวิญญาณบริ สุทธิ์ และเมื่อของประทานของพระองค์
ทำงาน
พระกิตติคุณของยอห์นกล่าวว่าทุกสิ่ งถูกสร้างขึ้นโดยพระวาทะ นัน่ คือโดยพระบุตรของพระเจ้า “พระเจ้ าทรงสร้ าง
สรรพสิ่ งขึน้ มาโดยพระวาทะ ในบรรดาสิ่ งที่เป็ นอยู่นั้น ไม่ มีสักสิ่ งเดียวที่เป็ นอยู่นอกเหนือพระวาทะ” (ยอห์น 1:3) พระองค์
ผูท้ รงเป็ นต้นกำเนิดของทุกสิ่ งที่เราเห็นได้เข้ามาอยูใ่ นการทรงสร้างของพระองค์เอง พระองค์เสด็จมา “ลงมาจากสวรรค์ ”
(ยอห์น 6:38) ข้อความที่สำคัญมากนั้นหมายความว่าพระองค์ทรงเป็ นสะพานที่เข้ามาถึงจากโลกที่สูงกว่าที่มองไม่เห็นไปสู่ โลก
ที่มองเห็นได้ ต่อมาพระเยซูทรงให้ภาพพระองค์เองเป็ นบันไดของยาโคบที่ต้ งั ขึ้นระหว่างสวรรค์และแผ่นดินโลก มี 2 คำสัง่ ที่มี
กำลังหรื อฤทธิ์ อำนาจของตนเอง พระเยซูเป็ นผูเ้ ชื่อมโยงระหว่าง 2 สิ่ งนี้ นัน่ คือคำสัง่ ของสวรรค์และแผ่นดินโลก ฤทธิ์ อ ำนาจ
ของสวรรค์คือฤทธิ์ อำนาจแห่งการสร้างสรรค์ของพระเจ้า ผูท้ รงสร้างแผ่นดินโลก ผ่านทางพระคริ สต์ ผูเ้ ชื่อมโยงกับสวรรค์ สิ่ ง
ต่างๆ เป็ นไปได้บนแผ่นดินโลก ซึ่งเป็ นไปปไม่ได้ก่อนที่พระองค์จะเสด็จมา พระองค์ถูกเรี ยกว่า “ทางใหม่ และทางที่มีชีวิต”
(ฮีบรู 10:20) ผ่านทางพระเยซูคริ สต์และโดยพระวิญญาณบริ สุทธิ์ การค้าขายระหว่างแผ่นดินโลกกับสวรรค์ได้เริ่ มขึ้นแล้ว พวก
ทูตสวรรค์ของพระเจ้ากำลังมาและกำลังไป
เนื่องจากพระคริ สต์ในโลกของเรา พระเจ้าจึงทรงสามารถสำแดงน้ำพระทัยของพระองค์ที่นี่ผา่ นทางการอธิษฐานของ
เรา เป็ นสาเหตุที่พระเจ้าต้องการกำลังคน และเราต้องการฤทธิ์ อ ำนาจของพระเจ้า เพราะว่าพระเยซูทรงสอนเราให้อธิษฐานว่า
"ขอให้ เป็ นไปตามพระทัยของพระองค์ ในสวรรค์ เป็ นอย่ างไรก็ให้ เป็ นไปอย่ างนั้นในแผ่ นดินโลก" (มัทธิว 6:10) พระองค์ไม่ได้
ปิ ดตัวเองจากส่ วนใดส่วนหนึ่งของจักรวาลของพระองค์ พระองค์ทรงเป็ นองค์พระผูเ้ ป็ นเจ้า พระองค์ใช้พลังที่ยิง่ ใหญ่กว่า และ
กฎธรรมชาติกเ็ ชื่อฟังพระวิญญาณของพระเจ้า เราเรี ยกสิ่ งนั้นว่าการอัศจรรย์ พระเจ้ากำลังจัดการกับเราในรู ปแบบใหม่ แน่นอน
ว่ามีจุดประสงค์ที่ยิง่ ใหญ่อยูเ่ บื้องหลังสิ่ งนี้ เป้ าหมายไม่ใช่เพื่อดึงการอัศจรรย์ที่โลดโผนบางอย่าง เหมือน เทคนิคการแสดงบน
เวที แต่เพื่อการทรงไถ่ของโลก คุณสามารถสัมผัสฤทธิ์ อำนาจนั้นได้แล้ววันนี้ !

7
ตุลาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“เมื่อท่านทั้งหลายเห็นเหตุการณ์เหล่านี้ เกิดขึ้น ก็ให้รู้วา่ แผ่นดินของพระเจ้าใกล้จะมาถึงแล้ว” (ลูกา 21:31)
ไฟประจำวัน!
การเชื่อมโยงที่พระเจ้ากำหนดไว้ระหว่างสวรรค์และแผ่นดินโลกนั้นผ่านทางพระเยซูคริ สต์ พระบุตรของพระองค์
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
มาระโก 1:15;
ลูกา 21:31
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
1 พงศ์กษัตริ ย ์ 10; ฟิ ลิปปี 1 เย็น:ฅ
เอเสเคียล 40; สดุดี 91
กฎธรรมชาติและกฏฝ่ ายวิญญาณ
ทุกครั้งที่คุณเคลื่อนไหว คุณนำกฎธรรมชาติมาอยูภ่ ายใต้สิทธิอ ำนาจของคุณ ตามธรรมชาติแล้ว หิ นจะไม่ปลิว แต่
มนุษย์เราแนะนำกฎที่สูงกว่า นัน่ คือเจตจำนงของเรา เราสามารถขว้างก้อนหิ นให้มนั บินได้ เราไม่ใช่ทาสของกฎแห่งธรรมชาติ
พวกเขาเป็ นทาสของเรา เราสามารถใช้กฎทางวิทยาศาสตร์เพื่อออกจากดาวเคราะห์ดวงนี้ โดยสิ้ นเชิง เราสามารถเคลื่อนเข้าสู่
สภาวะไร้น้ำหนักหรื อบินไปถึงดวงจันทร์ได้ ยิง่ ไปกว่านั้น เราสามารถเคลื่อนไหว ลงมือทำ และทำพันธกิจในพระคำของ
พระเจ้าได้!
เมื่อมีคนพูดว่าการอัศจรรย์ขดั ต่อกฎของธรรมชาติ พวกเขาไม่รู้ขอ้ เท็จจริ งว่าที่ใดมีเจตจำนงที่เหนือกว่าและฤทธิ์ อ ำนาจ
ที่เหนือกว่า กฎของธรรมชาติสามารถถูกลบล้างได้ดว้ ยมนุษย์เช่นเดียวกับพระเจ้า ผูท้ รงมีอ ำนาจทุกอย่าง ความยากลำบากเกิดขึ้น
เมื่อผูค้ นไม่เชื่อในพระเจ้า นำพระเจ้าเข้ามา และไม่มีสิ่งใดที่เป็ นไปไม่ได้ และนัน่ คือสิ่ งที่เกิดขึ้น ราชอาณาจักรของพระเจ้าอยู่
ท่ามกลางพวกเรา เหตุฉะนั้น วิญญาณชัว่ จึงถูกขับออก คนป่ วยได้รับการรักษาให้หาย และเราพูดภาษาแปลกๆ

มนุษย์มีท้ งั เลือดเนื้ อและวิญญาณ พระเจ้าเชื่อมโยงเรากับ 2 โลก นัน่ คือแผ่นดินโลกและโลกฝ่ ายวิญญาณ เรารับรู้โลกนี้


ด้วยประสาทสัมผัสทั้ง 5 และโดยวิญญาณของเรา เราสัมผัสได้ถึงโลกที่ไม่ใช่กายภาพ และบางครั้งก็กลัวมัน แต่มีบางอย่างที่ผดิ
พลาด หายนะครั้งใหญ่ได้เกิดขึ้นกับเรา นัน่ คือความบาปเกือบทำลายความเชื่อมโยงระหว่างร่ างกายและวิญญาณ! หลังจากการ
ล้มลงในความบาปของอาดัม มีเพียงแสงวาบของสิ่ งเหนือธรรมชาติเท่านั้นที่มีให้เห็นเป็ นครั้งคราวจนกระทัง่ พระเยซูเสด็จมา มี
เพียงการทะลุทะลวงบางครั้งเท่านั้นที่ถูกบันทึกไว้ในพันธสัญญาเดิม บางครั้งพระเจ้าทรงใช้อ ำนาจอธิปไตยของพระองค์และ
ริ เริ่ มการอัศจรรย์ต่างๆ เช่นเดียวกับที่พระองค์ทรงทำกับโมเสสและพันธกิจของเอลียาห์-เอลีชา ฤทธิ์ อำนาจของพระเจ้าและสิ ทธิ
อำนาจของพระองค์แทบไม่ปรากฏให้เห็นโดยตรง
หลังจากนั้นเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรุ นแรงได้เกิดขึ้น นัน่ คือการเสด็จมาอย่างน่าอัศจรรย์ของพระคริ สต์ (พระเจ้าใน
เนื้อหนัง) เปิ ดแหล่งทรัพยากรแห่งฤทธิ์อ ำนาจแห่งการทรงสร้าง พระองค์ทรงเคยเป็ นและทรงเป็ นองค์พระผูเ้ ป็ นเจ้าของทุกสิ ่ ง
พระองค์ประกาศด้วยพระองค์เองว่า “แผ่ นดินของพระเจ้ าก็มาใกล้ แล้ว” (มาระโก 1:15) นัน่ คือราชอาณาจักรที่คุณและผมอาศัย
อยู!่

8
ตุลาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“ถ้าพวกท่านติดสนิทอยูก่ บั เราและถ้อยคำของเราติดสนิทอยูก่ บั ท่านแล้ว ท่านจะขอสิ่ งใดที่ท่านปรารถนาก็จะได้ส่ิ งนั้นพระบิดา
ของเราทรงได้รับพระเกียรติเพราะเหตุน้ ี คือเมื่อพวกท่านเกิดผลมากและเป็ นสาวกของเรา” (ยอห์น 15:7–8)
ไฟประจำวัน!
จุดมุ่งหมายหลักของการอธิษฐานคือการทำให้น้ำพระทัยที่ได้รับการเปิ ดเผยของพระเจ้าสำเร็ จ
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
มัทธิว 6:10; มาระโก 16:15; ลูกา 2:45–49; ยอห์น 15:7; 1 ยอห์น 5:14
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
1 พงศ์กษัตริ ย ์ 11; ฟิ ลิปปี 2
เย็น:
เอเสเคียล 41; สดุดี 92 และ 93
พระเจ้ ากำลังพูดอะไร
ถ้าพระเจ้ามีสิ่งใดที่จะตรัสกับคริ สตจักรโดยรวม นัน่ คือสิ่ งที่พระคริ สต์ตรัสไว้เมื่อพระองค์จากโลกนี้ ไปว่า “จงออก
ไปทั่วโลก ประกาศข่าวประเสริ ฐแก่ มนุษย์ ทุกคน” (มาระโก 16:15) จนกว่างานที่ได้รับมอบหมายนั้นจะเสร็ จสิ้ น พระเจ้าไม่มี
ความคิดภายหลังหรื อข้อกังวลที่ครอบงำให้เรายุง่ เกี่ยวกับปัญหาข้างเคียง เช่น โครงสร้างและองค์กรของคริ สตจักร
แม้ในขณะที่เป็ นเด็ก พระเยซูทรงมีไฟในหัวใจของพระองค์ที่จะทำให้พนั ธกิจของพระองค์บนแผ่นดินโลกในฐานะ
พระเมสสิ ยาห์สำเร็ จ พระองค์มาเพื่อเอาประกาศนำดวงวิญญาณของผูท้ ี่หลงหาย แม้กระทัง่ เต็มใจยอมตายอย่างโหดร้ายเพื่อเห็น
แก่เรา แต่หลายปี ก่อนหน้านั้น พระองค์ทรงปรารถนาที่จะยุง่ กับพระราชกิจของพระบิดา บัดนี้ เป็ นเช่นนี้เมื่อหาได้สามวันแล้ว ก็
พบพระกุมารนัง่ อยูใ่ นพระวิหารท่ามกลางพวกอาจารย์ กำลังฟังและไต่ถามอาจารย์เหล่านั้นอยูค่ นทั้งหลายที่ได้ยนิ ต่างประหลาด
ใจในสติปัญญาและคำตอบของพระกุมารนั้นส่ วนบิดามารดาเมื่อเห็นแล้วก็ประหลาดใจ มารดากล่าวว่า “ลูกเอ๋ ย ทำไมถึงทำกับ
เราอย่างนี้? ดูซิ พ่อกับแม่เที่ยวตามหาลูกด้วยความทุกข์ใจ”พระเยซูตอบว่า “พ่อกับแม่ตามหาลูกทำไม? พ่อกับแม่ไม่รู้หรื อว่าลูก
ต้องอยูใ่ นพระนิเวศของพระบิดา?” (ลูกา 2:46–49) ตั้งแต่เริ่ มแรก พระเยซูต้ งั ใจที่จะประกาศข่าวประเสริ ฐเรื่ องราชอาณาจักรแก่
โลก! พระองค์ไม่หลงทางแม้แต่ครั้งเดียว

พระเจ้ามีน ้ำพระทัยที่เปิ ดเผย ดังนั้น “ถ้ าเราทูลขอสิ่ งใดที่เป็ นพระประสงค์ ของพระองค์ พระองค์ กท็ รงฟั ง” (1 ยอห์น
5:14) นัน่ คือเหตุผลที่พระคริ สต์ประทานคำวิงวอนให้แก่เรา “ขอให้ เป็ นไปตามพระทัยของพระองค์ ในสวรรค์ เป็ นอย่ างไรก็ให้
เป็ นไปอย่ างนั้นในแผ่ นดินโลก” (มัทธิว 6:10) พระเยซูตรัสอีกครั้งว่า “ถ้ า...ถ้ อยคำของเราติดสนิทอยู่กับท่ านแล้ ว ท่ านจะขอสิ่ ง
ใดที่ท่านปรารถนาก็จะได้ สิ่งนั้น” (ยอห์น 15:7) จุดมุ่งหมายหลักของการอธิษฐานไม่ใช่เพื่อให้เป็ นไปตามความประสงค์ของเรา
แต่เพื่อให้เป็ นไปตามน้ำพระทัยที่เปิ ดเผยของพระเจ้า ไม่ใช่เพื่อโน้มน้าวใจพระเจ้าตามวิธีคิดของเรา หรื อบังคับพระหัตถ์ของ
พระองค์ น้ำพระทัยที่สำแดงออกของพระองค์คือว่าพระเจ้าทรงปรารถนาให้มนุษย์ทุกคนกลับใจใหม่ ทุกสิ่ งในพันธสัญญาใหม่
สะกดไว้อย่างนั้นอย่างชัดเจน ถ้าเราทูลขอตามน้ำพระทัยนั้น พระเจ้าจะทรงรี บตอบ สิ่ งนี้แสดงไว้ในคำอธิษฐานว่า “ขอให้ แผ่ น
ดินของพระองค์ มาตั้งอยู่ ขอให้ เป็ นไปตามพระทัยของพระองค์ ในสวรรค์ เป็ นอย่ างไรก็ให้ เป็ นไปอย่ างนั้นในแผ่ นดินโลก” ข่าว
ประเสริ ฐคือสิ่ งที่จะทำให้สิ่งนี้บรรลุผลสำเร็ จ คุณได้มีส่วนร่ วมในราชอาณาจักรนั้นแล้วในวันนี้ !
9
ตุลาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“แล้วพวกเขาจำได้วา่ พวกเขาเคยอยูก่ บั พระเยซู” (กิจการ 4:13)
ไฟประจำวัน!
เรานำกลิ่นหอมของพระเยซูมาไว้บนตัวเรา
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
สดุดี 45:6–8; มัทธิว 16:16; ยอห์น 12:3; กิจการ 4:13; ฮีบรู 1:8–9
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
1 พงศ์กษัตริ ย ์ 12; ฟิ ลิปปี 3
เย็น:
เอเสเคียล 42; สดุดี 94
กระตุ้นความคิดของพระเจ้ า
การเจิมเป็ นเหมือนน้ำหอม เปาโลอ้างถึงดาวิดว่า
“ข้าแต่ พระเจ้ า พระที่นั่งของพระองค์ ด ำรงอยู่เป็ นนิตย์   พระคทาแห่ งอาณาจักรของพระองค์ กเ็ ป็ นพระคทาเที่ยงธรรม
พระองค์ ทรงรั กความชอบธรรม และทรงเกลียดความอธรรม เพราะเหตุนีพ้ ระเจ้ า ซึ่ งเป็ นพระเจ้ าของพระองค์ ทรงเจิ ม
พระองค์ ไว้   ด้ วยน้ำมันแห่ งความยินดี เหนือบรรดาพระสหายของพระองค์ ”  (ฮี บรู 1:8–9) ฉลองพระองค์ ทั้งหมดของ
พระองค์ [หมายถึงพระคริ สต์ ] ก็หอมฟุ้ งไปด้ วยกลิ่นมดยอบ กฤษณา และว่ านน้ำ (สดุดี 45:8) ว่ านน้ำมาจาก
ตะวันออกไกลอันไกลโพ้ น อิสราเอลอาจได้ รับสิ่ งนีจ้ ากผู้ค้าที่ผ่าน มันให้ กลิ่นหอมที่โดดเด่ นเฉพาะกับที่ประทับของ
พระเจ้ าและปุโรหิ ตเท่ านั้น สิ่ งนีท้ ำให้ นึกถึงพระเจ้ า
พระคัมภีร์เรี ยกพระเยซูวา่ ผูท้ ี่ได้รับการเจิม “ซี โมนเปโตรทูลตอบว่ า “พระองค์ เป็ นพระคริ สต์ [ผูท้ ี่ได้รับการเจิม] พระ
บุตรของพระเจ้ าผู้ทรงพระชนม์ อยู่”” (มัทธิว 16:16) พระเยซูได้รับการเจิมแต่เพียงผูเ้ ดียวในฐานะที่พระองค์ทรงเป็ นพระบุตร
ของพระเจ้าแต่เพียงผูเ้ ดียว “พระคริ สต์” มาจากภาษากรี กว่า คริ สโตส (christos) ซึ่งแปลว่า “เมสสิ ยาห์” ในภาษาฮีบรู ทุกสิ่ งที่
แสดงโดยการเจิมพลับพลาและปุโรหิ ตและกษัตริ ยถ์ ูกทำให้เสำเร็จแล้วในพระเยซู พระคริ สต์ทรงเป็ นกษัตริ ยป์ ุโรหิ ตของเรา
“ฉลองพระองค์ ทั้งหมดของพระองค์ กห็ อมฟุ้ ง” พระองค์ทรงมีความบริ สุทธิ์ และกลิ่นของสวรรค์ ความงดงามอันละเอียดอ่อน
และน่าดึงดูดใจของวิญญาณที่ท ำให้พระองค์ทรงเป็ นผูท้ ี่ได้รับการเจิม แตกต่างจากผูอ้ ื่นทั้งหมด พระองค์ดึงดูดผูค้ น ไม่ใช่แค่
ด้วยฤทธิ์ อ ำนาจหรื อ "ความสามารถพิเศษ" ตามความหมายทัว่ ไป แต่ดว้ ยความรัก เคลื่อนไหวในบรรยากาศแห่งความบริ สุทธิ์
ของพระองค์เองซึ่งผูค้ นไม่เคยหายใจเข้ามาก่อน ถ้าเราพูดอย่างนี้ได้ พระเยซูทรงเป็ น “ขวดน้ำหอม” ของพระเจ้า ซึ่งแตกหักเพื่อ
เราบนไม้กางเขน และตอนนี้ ท ำให้โลกเต็มไปด้วยกลิ่นหอมของพระองค์!
เรามีโอกาสมีส่วนร่ วมในการเจิมของพระคริ สต์ เช่นเดียวกับมารี ย ์ “มารี ย์เอาน้ำมันหอมนารดาบริ สุทธิ์ หนักประมาณ
ครึ่ งกิโลกรั ม ซึ่ งมีราคาแพงมากมาชโลมพระบาทพระเยซู และเอาผมเช็ดพระบาทของพระองค์ เรื อนก็หอมฟุ้ งไปด้ วยกลิ่นน้ำ
มันนั้น” (ยอห์น 12:3) การนมัสการที่ใกล้ชิดที่สุดของเรา โดยที่เราถ่อมตัวลงแทบพระบาทและถวายสิ่ งที่ดีที่สุดแด่พระองค์
ทำให้การเจิมของพระองค์ลน้ เข้ามาในชีวิตเรา เรานำกลิ่นหอมของพระเยซูมาไว้บนตัวเรา “กลิ่น” ของเราเกี่ยวข้องกับที่ประทับ
ของพระเจ้า เป็ นความจริ งที่กลิ่นหอมแบบพระคริ สต์แผ่ขยายออกจากคุณไปทัว่ โลก
10
ตุลาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“พี่นอ้ งทั้งหลาย ความปรารถนาในจิตใจของข้าพเจ้าและคำวิงวอนขอต่อพระเจ้าเพื่อคนอิสราเอลนั้น คือขอให้เขาได้รับความ
รอด” (โรม 10:1)
ไฟประจำวัน!
จุดมุ่งหมายสูงสุ ดของการอธิษฐานวิงวอนคือการประกาศข่าวประเสริ ฐ
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
ปฐมกาล 37:30; ลูกา 22:44; 23:34 น.; ยอห์น 3:16; 8:39–44; 1 ทิโมธี 2:1–4
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
1 พงศ์กษัตริ ย ์ 13; ฟิ ลิปปี 4
เย็น:
เอเสเคียล 43; สดุดี 95 และ 96
ไม่ มีผู้ใดเป็ น "คนที่ไม่ สำคัญ"
สำหรับพระเจ้าแล้ว ไม่มีใครเป็ น "คนที่ไม่สำคัญ" แต่ละคนมีคุณค่าเกินกว่าจะคำนวณได้ คำอธิษฐานของเราควรเป็ น
สัดส่ วนโดยตรงกับความอธรรมที่สิ้นหวังซึ่งผูค้ นต้องการความรอด ยิง่ ความอธรรมเลวร้ายเท่าไร การอธิษฐานวิงวอนก็ยงิ่ มาก
ขึ้นเท่านั้น ไม่มีผใู้ ดควรต้องผ่านชีวิตโดยปราศจากบางคนอธิษฐานเผือ่ เขา (หรื อเธอ)
เพราะฉะนั้นก่ อนสิ่ งอื่นใดทั้งหมด ข้ าพเจ้ าขอร้ องพวกท่ านให้ วิงวอน อธิ ษฐาน ทูลขอ และขอบพระคุณเพื่อทุกคนเพื่อ
กษัตริ ย์ทั้งหลายและทุกคนที่มีต ำแหน่ งสูง เพื่อเราจะได้ ด ำเนินชี วิตอย่ างสงบและมีสันติในทางพระเจ้ า และเป็ นที่
นับถือการกระทำเช่ นนี เ้ ป็ นการดี และเป็ นที่ชอบพระทัยของพระเจ้ าพระผู้ช่วยให้ รอดของเราพระองค์ ทรงประสงค์ ให้
ทุกคนได้ รับความรอดและรู้ ความจริ ง (1 ทิโมธี 2:1–4) ดังนั้น จุดมุ่งหมายสูงสุดของการอธิ ษฐานวิงวอนคือการ
ประกาศข่ าวประเสริ ฐ “พระเจ้ าทรงรั กโลกดังนี ้ คือได้ ประทานพระบุตรองค์ เดียวของพระองค์ เพื่อทุกคนที่วางใจใน
พระบุตรนั้นจะไม่ พินาศ แต่ มีชีวิตนิรันดร์ ” (ยอห์ น 3:16 ) การอธิ ษฐานวิงวอนไม่ ใช่ แค่ การพูดเท่ านั้น แต่ เป็ นการร้ อง
ทูลจากใจ ไม่ ใช่ “ข้ าแต่ องค์ พระผู้เป็ นเจ้ า ขออวยพรข้ าพระองค์ และทุกคนในทุกที่ อาเมน" พระเยซูเจ้ าของเรา
อธิ ษฐานเผื่อเราจนเหงื่อหยดเป็ นเลือด! พระองค์ ยงั ทรงอธิ ษฐานเผื่อทหารที่ตอกตะปูผ่านเนือ้ ที่สั่นเทาของพระองค์
จงอธิษฐานเผือ่ มนุษย์ทุกคน เพราะว่าการปราศจากพระคริ สต์เป็ นสิ่ งที่น่ากลัว มีพระผูช้ ่วยให้รอดเพียงองค์เดียว และ
ถ้าพระองค์ถูกปฏิเสธ ผูค้ นจะทำอะไรได้บา้ ง? เสี ยงร้องของพวกเขาเหมือนกับเสี ยงของรู เบนเมื่อเขาพบว่าโยเซฟไปแล้ว “แล้ ว
ฉั นจะไปที่ไหนเล่ า?” (ปฐมกาล 37:30) ไม่มีที่ไป ดังนั้นผูค้ นจึงล่องลอยไปตามทาง บางทีไปด้วยกัน บางทีคนเดียว มุ่งหน้าไป
ยังนรกโดยไม่รู้ตวั ศาสนาที่ปราศจากพระคริ สต์คือนรกบนแผ่นดินโลก! ผูน้ ำที่เคร่ งศาสนาฆ่าพระคริ สต์ เราเห็นทุกวันนี้ ในการ
ก่อการร้าย การฆาตกรรม และการกดขี่ในพระนามของพระเจ้า พระเยซูตรัสว่า ถ้าพวกท่านเป็ นลูกของอับราฮัมแล้ว ท่านก็จะทำ
ในสิ่ งที่อบั ราฮัมทำแต่เดี๋ยวนี้พวกท่านหาโอกาสฆ่าเรา...อับราฮัมไม่ได้ท ำอย่างนี้ ...พวกท่านมาจากพ่อของท่านคือมาร... มันเป็ น
ฆาตกรตั้งแต่เริ่ มแรก (ยอห์น 8:39–40, 44) การอธิษฐานวิงวอนเป็ นเรื่ องเร่ งด่วน การอธิษฐานวิงวอนนำมาซึ่งการแทรกแซงของ
พระเจ้า เรามีหนึ่งชัว่ อายุคนที่จะช่วยคนรุ่ นหนึ่งให้รอด ไม่ใช่หนึ่งศตวรรษ! นัน่ คือความท้าทายของพระเจ้าสำหรับคุณและผม!
จงทำส่วนของคุณวันนี้ แล้วคุณจะช่วยปูทางให้กบั คนอื่นๆ ที่จะตามมาในไม่ชา้

11
ตุลาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“ท่านผูน้ ้ ี เป็ นพระบุตรของพระเจ้าจริ งๆ!” (มาระโก 15:39)
ไฟประจำวัน!
ความเชื่อในพระเยซูคริ สต์ของฉันรับประกันความรอดอย่างมัน่ คง
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
มัทธิว 27:36; มาระโก 15:29–39
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
1 พงศ์กษัตริ ย ์ 14; โคโลสี 1
เย็น:
เอเสเคียล 44; สดุดี 97 และ 98
จงเห็นและเชื่อ!
บางคนดูเหมือนจะรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับไม้กางเขน พวกเขาสวมไม้กางเขนหรื อถือไม้กางเขน แต่เป็ นเพียงความเชื่อ
โชคลางที่ไม่ได้ท ำประโยชน์อนั ใดให้แก่พวกเขา การรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับโรงไฟฟ้ าอาจทำให้คุณยังหนาวเหน็บและมืดมนได้ คุณ
สามารถสัมผัสกำแพงของโรงไฟฟ้ านิวเคลียร์ แต่ยงั คงเป็ นน้ำแข็งอยู่ ถึงกระนั้นคุณสามารถเสี ยบปลัก๊ เข้าไปในฤทธิ์ อำนาจของ
พระเจ้าได้ เพราะว่าระบบสายสำเร็ จด้วยการประกาศข่าวประเสริ ฐ ซึ่งคือความจริ ง! เมื่อคุณได้ยนิ และเชื่อ คุณกำลังเข้าถึง
ทรัพยากรของพระเจ้าซึ่งไม่มีวนั หมดสิ้ น แล้วคุณก็รู้วา่ คุณได้รับความรอด
จริ งๆแล้วมีคนอยูท่ ี่โคนไม้กางเขนขณะที่พระเยซูถูกแขวนอยูท่ ี่นนั่ ซึ่งไม่รอด พระคัมภีร์บรรยายถึงบางคนที่ “นั่งเฝ้ า
พระองค์ อยู่ที่นั่น” (มัทธิว 27:36) นัน่ คือทั้งหมดที่พวกเขาทำ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ได้รับความรอด วันนี้ ผคู้ นหลายพันคนทำสิ่ ง
เดียวกัน พวกเขาเป็ นเพียงผูเ้ ฝ้ าดู บางทีอาจสงสัย หรื อแม้แต่สงสาร รู้สึกเสี ยใจกับการสิ้ นพระชนม์ของพระคริ สต์ แต่ไม่เคยได้
รับสิ่ งที่พระองค์สิ้นพระชนม์เพื่อประทานให้แก่พวกเขา นัน่ คือหลักประกันถึงการอภัยโทษพระเจ้าและยอมรับพวกเขา

เมื่อความเชื่ อมาถึง ความมัน่ ใจก็จะตามมา คุณไม่สามารถแยก 2 สิ่ งนี้ออกจากกันได้ และบางครั้งในพระคัมภีร์ท้ งั 2 คำ


ก็เหมือนกันทุกประการ ผมต้องการแสดงให้คุณเห็นว่ามันเป็ นไปได้อย่างไร เราอ่านในมาระโก 15:29, 32 ว่า “คนทั้งหลายที่
เดินผ่ านไปมานั้นก็พูดหมิ่นประมาทพระองค์ สั่นศีรษะเยาะเย้ ยว่ า ... “ขอเชิ ญพระคริ สต์ กษัตริ ย์แห่ งอิสราเอลลงมาจากกางเขน
เดี๋ยวนี เ้ ถอะ พวกเราจะได้ เห็นและเชื่ อ” พวกเขาเห็นพระเยซูสิ้นพระชนม์เพื่อพวกเขาจริ งๆ แต่พวกเขาไม่เชื่อและไม่ได้รับความ
รอด จงเห็นและเชื่อ! มาระโกมีค ำตอบสำหรับเรื่ องนี้ เขาเขียนว่าชายคนหนึ่งซึ่งเป็ นนายร้อยของโรมันนั้นแตกต่างออกไป
“ส่ วนนายร้ อยที่ยืนอยู่ตรงพระพักตร์ พระองค์ เมื่อได้ ยินพระองค์ ร้องเสี ยงดัง และเห็นว่ าพระองค์ สิ้นพระชนม์ อย่ างไร จึ งกล่ าว
ว่ า “ท่ านผู้นีเ้ ป็ นพระบุตรของพระเจ้ าจริ งๆ!” (มาระโก 15:39)
ทหารผูน้ ้ ี ได้เห็นสิ่ งทั้งปวงแล้ว และด้วยตาที่เฉี ยบแหลมยิง่ ขึ้น เขาได้เห็นความจริ ง เขาไม่จ ำเป็ นต้องเห็นการอัศจรรย์
เช่น พระคริ สต์เอาตัวเองออกจากตะปู แล้วเดินไปรอบๆ หรื อเอลียาห์มาปล่อยพระเยซูอย่างที่บางคนหวังไว้ เขากำลังเห็นการ
อัศจรรย์ที่แท้จริ ง นัน่ คือความรักของพระเจ้า ความยิง่ ใหญ่ของพระคริ สต์ เขาเห็นพระสิ ริของพระเจ้าในพระพักตร์พระเยซูคริ สต์
จงเห็นและเชื่ อ!

12
ตุลาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“สองคนดีกว่าคนเดียว เพราะว่าเขาทั้งสองได้รับรางวัลดีสำหรับการตรากตรำของพวกเขาเพราะว่าถ้าพวกเขาล้มลง คนหนึ่งจะ
ได้พยุงเพื่อนของตนให้ลุกขึ้น ... ถ้าสองคนนอนอยูด่ ว้ ยกัน พวกเขาก็อบอุ่น แต่ถา้ นอนคนเดียวจะอบอุ่นได้อย่างไร?และถ้าคน
หนึ่งเอาชนะคนคนเดียวได้ คนสองคนย่อมต่อต้านเขาได้แน่ เชือกสามเกลียวจะขาดง่ายก็หามิได้” (ปัญญาจารย์ 4:9–12)
ไฟประจำวัน!
การทำงานเป็ นทีม! นัน่ จะนำมาซึ่งราชอาณาจักรของพระเจ้าเร็วกว่าการเล่นคนเดียว
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
ปัญญาจารย์ 4:9–12; โรม 1:11
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
1 พงศ์กษัตริ ย ์ 15; โคโลสี 2
เย็น:
เอเสเคียล 45; สดุดี 99 ถึง 101
ขวานและวงออเคสตรา
คริ สตจักรคือขวานรบของพระคริ สต์ ขวานทุกเล่มมีดา้ มจับ หัว และคม ด้ามสำหรับคนจับ หัวสำหรับน้ำหนัก และคม
ในการทำงาน ไม่วา่ เราจะทำให้งานของพระเจ้าเป็ นไปได้ดว้ ยงานสนับสนุนที่ตอ้ งทำ ให้น้ำหนักกับงานโดยการสนับสนุนของ
เรา หรื ออยูใ่ นแนวรุ กและคมของการประกาศข่าวประเสริ ฐ เราทุกคนล้วนแต่จ ำเป็ นอย่างยิง่ ! ผม ไรน์ฮาร์ด บองเก้ ไม่มีคริ สต
จักร แต่ผมต้องพึ่งพาคริ สตจักร พวกเขาให้น ้ำหนักกับสิ่ งที่ผมทำ และทีมของผมดูแลเรื่ องที่ไม่รู้จบที่ตอ้ งถูกจัดการ ถึงกระนั้น
เราก็เป็ นเครื่ องมือหนึ่งที่อยูใ่ นมือของพระอาจารย์
คริ สตจักรยังเป็ นวงออเคสตราของพระคริ สต์ดว้ ย ผมไม่เคยพยายามทำสิ่ งใดตามลำพัง ศิลปิ นเดี่ยวจำเป็ นต้องมีดนตรี
คลอเสี ยง บางทีอาจเป็ นวงออร์เคสตราทั้งหมด งานของเราทุกอย่างต้องถูกจัดการ ไม่วา่ จะเป็ น แคมเปญ วรรณกรรม ทีวี
ภาพยนตร์ หนังสื อ หรื อสิ่ งใดก็ตาม มีผเู้ ล่นเบื้องหลังหลายพันคนที่สอดคล้องกับจุดมุ่งหมายของผม ด้วยของประทาน ความ
สามารถพิเศษ หรื อด้วยคำอธิษฐานและของขวัญของพวกเขา และเราทำงานด้วยจุดประสงค์เดียวกัน ท่วงทำนองทุกเพลง
ต้องการการสอดประสานและเสริ มด้วยคุณสมบัติของเครื่ องดนตรี อื่นๆ ผมไม่เคยไปประเทศใดเลย ยกเว้นเมื่อกลุ่มของคริ สต
จักรขอให้ผมไป เราทุกคนต้องทำงานร่ วมกัน

ไม่มีผใู้ ดดูเหมือนมีความเชื่อเข้มแข็งกว่าอัครทูตเปาโล เมื่อเขาได้ยนิ ว่าคริ สเตียนได้ปรากฏตัวที่กรุ งโรม เขาเขียนถึง


พวกเขาว่า “เพราะข้ าพเจ้ าปรารถนาที่จะได้ พบท่ าน เพื่อจะได้ น ำของประทานฝ่ ายจิ ตวิญญาณมาให้ และเพื่อเสริ มกำลังท่ าน
หมายความว่ าจะได้ มีการหนุนใจซึ่ งกันและกัน โดยความเชื่ อของเราทั้งสองฝ่ าย” (โรม 1:11–12) ความเชื่อทั้งสองฝ่ าย เราแต่ละ
คนก็เหมือนกระดาษแผ่นเดียวที่ไม่สามารถยืนอยูไ่ ด้ดว้ ยตัวคนเดียว แต่กระดาษรี มหนึ่งเป็ นบล็อก 500 แผ่น กระดาษทั้งหมด
สามารถวางบนขอบด้วยกันได้อย่างสบายๆ เกื้อหนุนกัน ผูเ้ ชื่อทุกคนต้องการการสนับสนุน โลกจะไม่ช่วย โลกไม่เป็ นมิตรกับ
เพื่อนของพระเยซู ดังนั้น ไม่วา่ คุณจะอยูท่ ี่ไหน ไม่วา่ คุณจะทำอะไร จงมีสามัคคีธรรมกับผูเ้ ชื่อคนอื่นๆ และยืนหยัดเพื่อพระเยซู
13
ตุลาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“พวกท่านบอกว่าอีกสี่ เดือนจะถึงฤดูเกี่ยวข้าวแล้วไม่ใช่หรื อ? ส่วนเราบอกพวกท่านว่า เงยหน้าขึ้นดูนาเถิด ทุ่งนาเหลืองอร่ าม
และถึงเวลาเกี่ยวแล้ว!” (ยอห์น 4:35)
ไฟประจำวัน!
พระคริ สต์ไม่ได้สิ้นพระชนม์เพียงเพื่อให้ผคู้ นมีอาชีพ แต่เพื่อช่วยผูท้ ี่หลงหายให้รอด
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
เอเฟซัส 4:8–16
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
1 พงศ์กษัตริ ย ์ 16; โคโลสี 3
เย็น:
เอเสเคียล 46;
สดุดี 102

ผู้เผยแพร่ ข่าวประเสริฐเป็ นทีต่ ้ องการ!


มีผเู้ ผยแพร่ ข่าวประเสริ ฐหลายพันคนในงานคริ สตจักรที่พระเจ้าไม่เคยเรี ยกพวกเขา ถึงเวลาแล้วที่พระกายของพระ
คริ สต์จะยืนยันตำแหน่งผูเ้ ผยแพร่ ข่าวประเสริ ฐอีกครั้งอย่างกล้าหาญ! ความห่วงใยของพระเจ้าในวันนี้ เช่นเดียวกับที่กลโกธา คือ
ความรอดของวิญญาณจิต และเมื่อพระเยซูคริ สต์เสด็จขึ้ นสู่สวรรค์ พระองค์ทรงสถาปนางานของผูเ้ ผยแพร่ ข่าวประเสริ ฐภายในค
ริ สตจักรเพื่อช่วยให้งานที่ยงิ่ ใหญ่น้ ีสำเร็ จ
อดีตมีโศกนาฏกรรม เมื่อประตูเปิ ดออก พบว่ามีคนงานคริ สเตียนบางคนคอยปกป้ องการผูกขาดของตนอย่างอิจฉา
ริ ษยา ดังที่คนงานเหมืองทองกล่าวอ้าง บางครั้งการแข่งขันก็ท ำลายการฟื้ นฟู การเก็บเกี่ยวจะต้องไม่ถูกเก็บเกี่ยวในขณะที่ผเู้ ก็บ
เกี่ยวทำเพียงปกป้ องฝูงแกะ "ของตัวเอง" พระคริ สต์ไม่ได้สิ้นพระชนม์เพื่อให้ผคู้ นมีอาชีพ แต่เพื่อช่วยผูท้ ี่หลงหายให้รอด ผมไม่
เทศนา "วิธีและวิธีการ” แต่หลักการฝ่ ายวิญญาณ พระเจ้าจะประทานทรัพยากรให้แก่คุณ มีหลายวิธีตามที่พระองค์ทรงนำ เรา
ต้องการวิธีการที่สร้างสรรค์มากกว่าคนที่ท ำสิ่ งต่าง ๆ ด้วยวิธีการถูกทดลองและพิสูจน์แล้ว การทำไปเรื่ อย ๆ ตามกลไกอาจถูก
เรี ยกว่าความสัตย์ซื่อ แต่เป็ นห่วงหลักของเราในการประกาศข่าวประเสริ ฐคือประสิ ทธิผล ไม่ใช่ความสัตย์ซื่อแบบบิดเบี้ยว

ในช่วงหลายปี ที่ผา่ นมาของผมในฐานะผูเ้ ผยแพร่ ข่าวประเสริ ฐและมิชชันนารี ผมได้คน้ พบปัจจัยจำกัดหลายประการที่


ขัดขวางข่าวประเสริ ฐ ผมรู้จากประสบการณ์วา่ วิธีการประกาศข่าวประเสริ ฐแบบดั้งเดิมหลายอย่างยังคงไม่เปลี่ยนแปลงมาหลาย
ชัว่ อายุคน หลักคำสอนอื่นๆ ที่บอกให้เรา “ฝากทั้งหมดไว้กบั พระเจ้า” บางคนยืนกรานว่าวิถีทางของพระเจ้าคือการฟื้ นฟู แต่ใน
ขณะเดียวกันก็ลม้ เหลวในการดำเนินการตามพระมหาบัญชา บางคนคิดว่าถ้าผูค้ นจะรอด พวกเขาก็จะรอดอยูด่ ี ผมรู้วา่ นี่ไม่เป็ น
ความจริ ง และผมไว้วางใจว่าคุณก็จะมาถึงความเข้าใจนี้ เช่นกัน
14
ตุลาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“เพราะฉะนั้นพระเจ้าจึงทรงยกพระองค์ข้ ึนสูงสุ ด และประทานพระนามเหนือนามทั้งหมดแก่พระองค์เพื่อที่วา่ เพราะพระนาม
ของพระเยซูน้ นั ทุกชีวิตในสวรรค์ บนแผ่นดินโลก และใต้พ้ืนแผ่นดินโลก จะคุกเข่าลงกราบพระองค์และเพื่อที่วา่ ทุกลิ้นจะยอม
รับว่าพระเยซูคริ สต์ทรงเป็ นองค์พระผูเ้ ป็ นเจ้า เป็ นการถวายพระเกียรติแด่พระเจ้าพระบิดา” (ฟี ลิปปี 2:9–11)
ไฟประจำวัน!
เราไม่กล้าที่จะละเลยงานแห่งการประกาศข่าวประเสริ ฐ
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
ฟี ลิปปี 2:9–11; 2 ทิโมธี 4:5
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
1 พงศ์กษัตริ ย ์ 17; โคโลสี 4
เย็น:
เอเสเคียล 47; สดุดี 103
ความเด็ดเดีย่ วของหัวใจ
เราไม่กล้าที่จะละเลยงานแห่งการประกาศข่าวประเสริ ฐ ผมยอมใช้วิธีที่มนุษย์ดูแคลนแต่พระเจ้าเห็นชอบ ดีกว่าวิธีที่
มนุษย์เห็นชอบแต่ไม่ได้ผลลัพธ์ ผมไม่ท ำการแก้ตวั สำหรับเรื่ องนี้ ผมปรารถนาที่จะแบ่งปันการเจิมของพระเจ้าให้กบั ทุกคนที่
พร้อมจะก้าวออกไปด้วยความเชื่อ มุมมองของผมร้อนแรง ร้อนมาก เปลวไฟของมันสามารถแผดเผาได้ บางคนที่อ ่านหน้าเหล่า
นี้ควรทำประกันอัคคีภยั เพราะว่าผมรับประกันว่าแนวคิดเก่า ๆ จำนวนมากจะถูกเผาไหม้ไป!
ข้อความของผมมาจากความเด็ดเดี่ยวของหัวใจ ผมตอกไปที่พระมหาบัญชา เพราะว่าผมรู้วา่ มันไม่สามารถถูกเน้นมาก
เกินไปได้ ผมร้องทูลพระเจ้าทั้งกลางวันและกลางคืนเพื่อความสำเร็จที่ยงิ่ ใหญ่กว่าในการประกาศนำดวงวิญญาณรุ่ นของเราเพื่อ
พระองค์ การประกาศข่าวประเสริ ฐด้วยไฟเป็ นทางออกเดียวที่เป็ นไปได้ ผมมองหาชายหญิงผูถ้ ูกเจิมคนอื่นๆ ที่อาจรับความ
ท้าทายนี้ จากพระคำของพระเจ้าเพื่อการประกาศข่าวประเสริ ฐด้วยพระวิญญาณบริ สุทธิ์ ผมเชื่อว่าสิ่ งที่ดีที่สุดยังมาไม่ถึง ใกล้จะ
ถึงเวลาที่คนทั้งโลกจะกึกก้องไปด้วยการสรรเสริ ญพระเจ้าและพระผูช้ ่วยให้รอดของเรา ในทุกชนชาติและทุกภาษา เกือบถึงวัน
ที่ทุกลิ้นจะ “ยอมรั บว่ าพระเยซูคริ สต์ ทรงเป็ นองค์ พระผู้เป็ นเจ้ า เป็ นการถวายพระเกียรติแด่ พระเจ้ าพระบิดา” (ฟิ ลิปปี 2:11)

พระเจ้าได้สอนผมหลายสิ่ งหลายอย่างและได้อนุญาตให้ผมมีประสบการณ์มากมายตลอดหลายปี ที่ผา่ นมา ผมกำลัง


แบ่งปันสิ่ งนี้กบั คุณในวันนี้ ดว้ ยเหตุผลเพียงอย่างเดียว นัน่ คือเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้คุณ "ทำหน้ าที่ของผู้ประกาศข่ าวประเส
ริ ฐ" (2 ทิโมธี 4:5) ผมได้วางหลักการที่จ ำเป็ นสำหรับพันธกิจของพระวิญญาณบริ สุทธิ์ จงอ่านสิ่ งนี้ไม่ใช่เพื่อค้นพบวิธีที่ผม
ดำเนินการในงานประกาศใหญ่ แต่เพื่อค้นพบว่าพระเจ้าทรงดำเนินการอย่างไรผ่านผูใ้ ดก็ตามที่เต็มใจที่จะทำตามแผนของ
พระองค์ และนัน่ หมายถึงคุณ
15
ตุลาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“ด้วยเหตุน้ ีเอง ข่าวประเสริ ฐจึงได้ประกาศแม้แก่คนตาย เพื่อพวกเขาจะมีชีวิตทางจิตวิญญาณตามอย่างพระเจ้า แม้วา่ พวกเขาถูก
พิพากษาเหมือนอย่างมนุษย์ปุถุชน” (1 เปโตร 4:6)
ไฟประจำวัน!
ข่าวประเสริ ฐของพระคริ สต์เป็ นฤทธิ์ อำนาจของพระเจ้าเพื่อความรอดสำหรับทุกคนที่เชื่อ
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
โรม 1:16; 1 เปโตร 4:6
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
1 พงศ์กษัตริ ย ์ 18; 1 เธสะโลนิกา 1
เย็น:
เอเสเคียล 48;
สดุดี 104
สิ่ งที่ไม่ ใช่ ข่าวประเสริฐ
บางครั้งข่าวประเสริ ฐถูกตีความใหม่ในลักษณะที่ถอดหัวใจออกจากข่าวประเสิ รฐและออกจากตัวเรา ความคิดแบบ
เสรี นิยมและเน้นเหตุผลมีพ้ืนฐานบนทรายที่กระจัดกระจายของการวิพากษ์วิจารณ์พระคัมภีร์และปรัชญา ความคิดใหม่น้ ีไม่เคย
นำเสนอพื้นฐานที่แน่นอนสำหรับคนหลายล้านที่ตื่นตระหนก มันเป็ นศาสนศาสตร์ของแกลบสำหรับผูท้ ี่หิวกระหายพระเจ้า มี
นักวิชาการจำนวนมากที่ได้สร้างความจริ งที่ข้ึนอยูก่ บั คำถามที่ไม่สามารถมีค ำตอบที่แน่นอนได้ ซึ่งไม่ได้ท ำให้เกิดสิ่ งใดสำหรับ
ประเทศที่หลงหายและมวลชนที่หวาดกลัวเลย ถ้าพระเจ้าเป็ นพระผูช้ ่วยให้รอดเพียงองค์เดียว พระองค์ไม่สามารถช่วยให้รอด
ด้วยข้อความของ "บางที" หรื อ "ถ้า" หรื อ "นัน่ เป็ นความคิดเห็นของฉัน" โลกต้องการคนที่มีลิงค์ที่มีชีวิตสู่ สวรรค์!
สำหรับทุกคน ไม่วา่ จะมีวฒั นธรรมหรื อดั้งเดิม มีค ำแห่งความจริ งอยูค่ ำหนึ่ง นัน่ คือเรื่ องไม้กางเขนสำหรับผูม้ ีปัญญา
คนป่ าเถื่อน ชาวกรี ก และชาวยิว ข่าวประเสริ ฐคือฤทธิ์ อำนาจของพระเจ้า นักเทศน์ข่าวประเสริ ฐเป็ นทูตที่เรี ยกร้องให้ยอมจำนน
ต่อราชอาณาจักรแห่งสวรรค์ นัน่ เป็ นคำขาดของพระเจ้า พระองค์แสดงให้เราเห็นถึงสิ่ งอย่างที่เป็ นอยู่ ข่าวประเสริ ฐไม่ใช่ท้ งั
ทฤษฎีหรื อสิ่ งที่เป็ นนามธรรม แต่เป็ นความเป็ นจริ งที่อยูเ่ บื้องหลังทุกสิ่ ง เราต้องรับรู้มนั ไว้หรื อไม่กพ็ ินาศ

เมื่อคุณเข้าใจสิ่ งที่ผมกำลังพูดอยูน่ ้ ี คุณก็เข้าร่ วมกองทัพพร้อมกับแกะที่ท ำสงครามแห่งพระคำและไม้กางเขน มันจะ


บดขยี้ฐานที่มนั่ ของมาร มันคือเสี ยงกลองรบอันกึกก้องของกองทัพที่ไร้เทียมทานของพระเจ้าในการเดินทัพ เมื่อพระเจ้าทรงเติม
ผมให้เต็มด้วยพระวิญญาณของพระองค์ และทรงเปิ ดริ มฝี ปากของผมให้พดู ภาษาแปลกๆ ได้ พระองค์ทรงเปิ ดหูของผมให้ได้ยนิ
เสี ยงแตรอย่างมีชยั ที่ป่าวประกาศว่าพระเยซูมีฤทธิ์ อำนาจทั้งหมดในสวรรค์และบนแผ่นดินโลก ช่างเป็ นของขวัญที่ดีจริ งๆ! จง
แน่ใจว่าข่าวประเสริ ฐที่คุณเชื่อเป็ นข่าวประสเริ ฐที่มีชีวิตและฤทธิ์ อ ำนาจ
16
ตุลาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“ข้าพเจ้าจะอธิษฐานด้วยจิตวิญญาณและด้วยความคิด และจะร้องเพลงด้วยจิตวิญญาณและด้วยความคิด” (1 โคริ นธ์ 14:15)
ไฟประจำวัน!
ชีวิตในพระวิญญาณของฉันเต็มไปด้วยผลของพระองค์ นี่นคือ ความรัก ความชื่นชมยินดี สันติสุข
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
สดุดี 144:5; อิสยาห์ 64:1; ยากอบ 5:7
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
1 พงศ์กษัตริ ย ์ 19; 1 เธสะโลนิกา 2
เย็น:
ดาเนียล 1; สดุดี 105
คำสั่ งเดินทัพ
ทั้งดาวิดและอิสยาห์อธิษฐานว่า “ข้ าแต่ พระยาห์ เวห์ ขอทรงโน้ มฟ้ าสวรรค์ และเสด็จลงมา” (สดุดี 144:5) สิ่ งนี้เกิดขึ้น
เมื่อพระเยซูเสด็จมา ดังนั้น ผูเ้ ชื่อในพันธสัญญาใหม่ไม่จ ำเป็ นต้องอธิษฐานอย่างนี้อีก พระคริ สต์ฉีกสวรรค์และลงมาหาเรา จาก
นั้นพระองค์เสด็จกลับผ่านฟ้ าสวรรค์ เพื่อให้แน่ใจว่าสวรรค์ยงั คงเปิ ดอยู่ สวรรค์ที่มีรอยแยกได้เปิ ดออกตลอดกาลและไม่เคยถูก
เย็บปิ ดอีก ผ่านทางสวรรค์ที่เปิ ดนั้น พระวิญญาณบริ สุทธิ์ จึงเริ่ มส่ ง “ฝนปลายฤดู” ลงมา นรกไม่สามารถคว่ำบาตรและปิ ดล้อม
ราชอาณาจักรของพระเจ้า หรื อกีดกันพลเมืองของสวรรค์ได้ ทางใหม่และมีชีวิตถูกสถาปนาขึ้นนอกเหนื อการควบคุมของศัตรู
ในหนังสื อของเขา ซึ่งมีชื่อว่า Joy Unspeakable (ความชื่นชมยินดีสุดพรรณนา) ดี. มาร์ติน ลอยด์โจนส์ ครู ผยู้ ิง่ ใหญ่
สรุ ปว่าการฟื้ นฟูคือการบัพติศมาในพระวิญญาณบริ สุทธิ์ เขาวางข้อพิสูจน์ที่หนักแน่นว่ามีการรับฤทธิ์ อ ำนาจตามพระคัมภีร์หลัง
การกลับใจใหม่ นัน่ คือการบัพติศมาด้วยพระวิญญาณ และนัน่ คือการฟื้ นฟู นับตั้งแต่ปี 1901 เมื่อความจริ งนั้นได้รับการค้นพบ
อีกครั้ง การกลับคืนมาของหมายสำคัญและการอัศจรรย์ในพระคัมภีร์ได้น ำหลายร้อยล้านคนเข้าสู่ ราชอาณาจักรของพระเจ้า

ไม่มีคริ สเตียนในพันธสัญญาใหม่คนใดจำกัดตัวเองอยูแ่ ต่การใคร่ ครวญทางศาสนา ความลึกล้ำมักจะลงเอยด้วยคำสอน


ที่ผดิ พลาด อัครทูตเป็ นนักเคลื่อนไหว สมิธ วิกเกิลสเวิร์ธพูดอย่าถูกต้องว่า “กิจการของอัครทูตเขียนขึ้นเนื่องจากอัครทูตลงมือ”
พวกเขาไม่ได้เยีย่ มชมศาลเจ้าหรื อเก็บอัฐิของคนที่ศกั ดิ์สิทธิ์ พวกเขาติดต่อกับพระเจ้าโดยผ่านทางพระวิญญาณ พวกเขาไปหา
พระองค์โดยตรง ไม่ใช่ผา่ นทางนักบุญและกระดูกของพวกเขา
ชีวิตคริ สเตียนทั้งหมดอยู่ "ในพระวิญญาณ" โดยพระวิญญาณ พระบุตรของพระเจ้าเป็ นผูท้ ี่ได้รับการเจิม สิ่ งนี้ก ำหนด
รู ปแบบ เช่นเดียวกับที่พระองค์เสด็จไปทำความดีตามที่ต่างๆ เพราะว่าพระองค์ได้รับการเจิมด้วยพระวิญญาณ คุณก็ตอ้ งทำเช่น
นั้นเช่นกัน เช่นเดียวกับพระเยซู คุณและผมได้รับคำสัง่ ให้ด ำเนินชีวิตในพระวิญญาณ อธิษฐานในพระวิญญาณ รักในพระ
วิญญาณ ดำเนินชีวิตในพระวิญญาณ เปี่ ยมด้วยพระวิญญาณ ร้องเพลงในพระวิญญาณ และมีผลของพระวิญญาณ
17
ตุลาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“โดยพระวจนะของพระยาห์เวห์ ฟ้ าสวรรค์ก็ถูกสร้างขึ้นมา กับบริ วารทั้งปวง ก็ดว้ ยลมพระโอษฐ์ของพระองค์...ให้แผ่นดินโลก
ทั้งสิ้ นยำเกรงพระยาห์เวห์ ให้ชาวพิภพทั้งปวงเกรงกลัวพระองค์เพราะพระองค์ตรัส โลกก็เกิดขึ้นมา พระองค์ทรงบัญชา มันก็ต้ งั
มัน่ คง” (สดุดี 33:6, 8–9)
ไฟประจำวัน!
ฉันยินดีอยูภ่ ายใต้สิทธิอ ำนาจของพระเยซูคริ สต์ พระบุตรของพระเจ้า
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
สดุดี 33:9; มัทธิว 19:8–9; 24:35 น.; ยอห์น 1:14; 6:68
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
1 พงศ์กษัตริ ย ์ 20; 1 เธสะโลนิกา 3
เย็น:
ดาเนียล 2; สดุดี 106
สิทธิอำนาจของพระคริสต์
พระเจ้าตรัสและสวรรค์และแผ่นดินโลกก็ปรากฏขึ้น "เพราะพระองค์ ตรั ส โลกก็เกิดขึน้ มา พระองค์ ทรงบัญชา มันก็
ตั้งมัน่ คง” (สดุดี 33:9) จากนั้นพระกิตติคุณของยอห์นก็ยนื ยันอย่างหนักแน่นว่า “พระวาทะทรงเกิดเป็ นมนุษย์ ” (ยอห์น 1:14)
พระสุ รเสี ยงเดียวกันซึ่งทรงสร้างสรรพสิ่ งตอนนี้ได้ตรัสกับเราแล้ว สิ่ งที่พระองค์ตรัสมาพร้อมกับสิ ทธิอ ำนาจสูงสุ ด นัน่ คือพระ
คำของพระเจ้า
เมื่อพระคริ สต์ตรัส พระองค์ตรัสว่าสวรรค์และแผ่นดินโลกจะสูญสิ้ นไป แต่ไม่ใช่พระคำของพระองค์ พระองค์ไม่
เหมือนผูเ้ ผยพระวจนะ นัน่ คือพวกเขาพูดแทนองค์พระผูเ้ ป็ นเจ้า แต่พระคริ สต์ตรัสในฐานะองค์พระผูเ้ ป็ นเจ้า ผูเ้ ผยพระวจนะ
กล่าวว่า "องค์ พระผู้เป็ นเจ้ าตรั สดังนี "้ แต่พระคริ สต์ตรัสว่า "เราบอกความจริ งแก่ ท่านทั้งหลาย" ชาวยิวฟังโมเสส แต่พระเยซูไป
ไกลกว่าโมเสส “โมเสสเคยพูด…แต่ เราพูดว่ า” มีบางอย่างที่แตกต่างกัน ผูเ้ ผยพระวจนะถูกส่ งมาพร้ อมกับข่าวสาร แต่พระเยซูคอื
ข่าวสาร ผูเ้ ผยพระวจนะพูดถึงองค์พระผูเ้ ป็ นเจ้า แต่พระเยซูตรัสเกี่ยวกับพระองค์ เอง พระองค์ไม่เพียงนำพระคำของพระเจ้ามา
เท่านั้น แต่พระองค์เป็ นพระคำของพระเจ้าด้วย พระองค์ไม่ได้ทรงชี้ไปทางนั้น พระองค์คือทางนั้น พระเยซูไม่ได้เป็ นหนึ่งใน
เส้นทางที่น ำไปสู่พระเจ้า พระองค์เป็ นที่ที่ถนนนั้นนำไปถึง!

นัน่ คือเหตุผลที่เราไม่มีสิทธิ์ ที่จะสงสัยในพระคำของพระเจ้า ถ้าเราทำเช่นนั้น “องค์ พระผู้เป็ นเจ้ า พวกข้ าพระองค์ จะ


จากไปหาใครได้ ? พระองค์ ทรงมีถ้อยคำแห่ งชี วิตนิรันดร์ ” (ยอห์น 6:68) ตามที่อคั รทูตเปโตรตระหนักถึง เราต้องเชื่อฟังหรื อไม่
ก็ตาย ด้วยการใช้ภาษาเทคโนโลยีของเรา เราทำให้ฟิวส์ขาดและทนทุกข์กบั ปัญหาไฟดับตลอดชีวิต เครื่ องทำความร้อนล้มเหลว
ไฟดับ การสื่ อสารหยุดลง และคืนนิรันดร์ที่เหน็บหนาวก็เข้ามา อาจารย์เสรี นิยมดูถูกคนอย่างเรา พวกเขาบอกว่าเรามีศาสนา
เผด็จการ แต่พวกเขาสอนโดยไม่มีสิทธิอ ำนาจหรื อไม่? การเรี ยนรู้ท้ งั หมดอยูบ่ นพื้นฐานของสิ ทธิอ ำนาจ ไม่วา่ ของพระเจ้าหรื อ
มนุษย์ บางคนไว้วางาใจในสิ ทธิอ ำนาจของนักวิชาการ แต่ไม่มีอะไรที่น่าเชื่อถือน้อยกว่านี้ ข้อโต้แย้งของพวกเขาเป็ นขั้นบันได
ในพื้นทราย นักวิชาการไม่เคยเห็นพ้องต้องกัน จงระลึกว่าพระคำของพระเจ้าเป็ นแสงสว่างมาร้อยชัว่ อายุคนแล้ว และตะเกียงนั้น
ไม่เคยริ บหรี่ เลย
18
ตุลาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“พระเยซูตรัสกับเขาว่า “เราเป็ นทางนั้น เป็ นความจริ ง และเป็ นชีวิต”” (ยอห์น 14:6)
ไฟประจำวัน!
ฉันได้รับบัพติศมาด้วยพระวิญญาณบริ สุทธิ์ และไฟ
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
อิสยาห์ 4:5; ยอห์น 5:35; 14:6; กิจการ 7:38
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
1 พงศ์กษัตริ ย ์ 21; 1 เธสะโลนิกา 4
เย็น:
ดาเนียล 3; สดุดี 107
ไฟมาโดยความเชื่อ
ไฟของพระวิญญาณบริ สุทธิ์ เป็ นสิ่ งที่สำคัญ การวางและตั้งเครื่ องบูชานั้นยังไม่พอ พระเจ้าจะไม่ช่วยวิญญาณจิตให้รอด
และรักษาคนป่ วยจนกว่าเราจะวางทั้งหมดบนแท่นบูชาเพื่อพระองค์ นัน่ คือความจริ ง แต่เครื่ องบูชาของเรานั้นไม่ใช่เหตุผลที่
พระองค์ท ำ พระองค์ทรงสำแดงการอัศจรรย์แห่งความรอดและการรักษาเนื่องจากพระเมตตาและพระคุณของพระองค์ การมี
ชีวิตในทางของพระเจ้าของเอลียาห์ไม่ได้ท ำให้เกิดฟ้ าผ่าที่น่าสะพรึ งกลัวที่แผดเผาทุกอย่างบนแท่นบูชา ไฟไม่ได้มาจากความ
บริ สุทธิ์ ของเขา สิ บลดและเงินถวายของคุณไม่สามารถซื้ อเปลวเทียนเล่มเล็กๆ จากสวรรค์ได้ ไฟของพระเจ้ามา ไม่ใช่เพราะ
เครื่ องบูชาของเรา แต่เนื่องจากการเสี ยสละของพระคริ สต์ ดังนั้น จงขอบพระคุณพระเจ้า ไฟมีไว้ส ำหรับทุกคน! ไฟฟื้ นฟูไม่ใช่
รางวัลสำหรับคนดี แต่เป็ นของขวัญจากพระเจ้า ทำไมต้องต่อสู้ดิ้นรนเพื่อสิ่ งนี้ ? ผูค้ นพูดถึงการ “จ่ายราคา” แต่ไฟมาเพื่อตอบ
สนองต่อความเชื่อ
เราสามารถยืนยันใน "ความจริ ง" แต่อาจเป็ นศพที่เย็นชาได้ พระเยซูไม่เพียงตรัสว่า “เราเป็ นทางนั้น เป็ นความจริ ง”
พระองค์ตรัสว่า “เราเป็ นทางนั้น เป็ นความจริ ง และเป็ นชี วิต” (ยอห์น 14:6) พระเจ้าตรัสว่าพระองค์จะทรงบรรจุ “แสงของ
เปลวเพลิง” ไว้ในศิโยน (อิสยาห์ 4:5) พระเยซูทรงเป็ นพยานว่ายอห์น ผูใ้ ห้บพั ติศมา เป็ น "โคมที่จุดสว่ างไสว” (ยอห์น 5:35) นี่
คือภาพของแสงสว่างและความร้อน ข่าวประเสริ ฐเป็ นข่าวประเสริ ฐที่ร้อน ไม่วา่ โลกที่โง่เขลาจะยิม้ เยาะเย้ยสักเพียงใด ผมไม่รู้วา่
จะประกาศ “โองการที่มีชีวิต” ของพระเจ้าได้อย่างไรโดยไม่มีชีวิตชีวา ข่าวประเสริ ฐเป็ นไฟ การประกาศข่าวประเสริ ฐอย่างเยือก
เย็นและไม่จริ งจังเป็ นเรื่ องที่ไร้สาระ
วันหนึ่งผูห้ ญิงคนหนึ่งบอกผมว่ามีวิญญาณชัว่ นัง่ อยูบ่ นตัวเธอ ถึงแม้วา่ เธอจะเป็ นคริ สเตียนที่บงั เกิดใหม่แล้วก็ตาม ผม
พูดกับเธอว่า "แมลงวันสามารถนัง่ บนเตาที่เย็นเท่านั้น และพวกมันสามารถนัง่ บนเตาเย็นได้นานมาก! จงรับไฟของพระวิญญาณ
บริ สุทธิ์เข้าสู่ชีวิตของคุณ แล้ววิญญาณโสโครกตัวนั้นจะไม่กล้าแตะต้องคุณ ไม่อย่างงั้นมันจะทำให้นิ้วที่สกปรกของมันไหม้”
ข่าวประเสริ ฐให้ฤทธิ์ อ ำนาจที่ร้อนแรงในตัวมันเอง จึงเป็ นธรรมชาติที่นกั เทศน์ที่จะถูกจุดให้ลุกด้วยไฟ และนัน่ ก็ควรจะเป็ น
ธรรมชาติที่คุณจะเดินอยูใ่ นไฟนั้นด้วย!
19
ตุลาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“แผ่นดินโลกก็อ่ิมด้วยผลแห่งพระราชกิจของพระองค์ และเหล้าองุ่น ซึ่งให้ใจมนุษย์ยนิ ดี น้ำมัน เพื่อทำให้หน้าของเขาทอแสง
และอาหาร ซึ่งเสริ มเรี่ ยวแรงแก่ใจมนุษย์” (สดุดี 104:13, 15)
ไฟประจำวัน!
การเจิมของพระวิญญาณบริ สุทธิ์ เป็ นของขวัญของพระเจ้าสำหรับฉัน
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
สดุดี 23:5; 104:15; ลูกา 7:36–50
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
1 พงศ์กษัตริ ย ์ 22; 1 เธสะโลนิกา 5
เย็น:
ดาเนียล 4; สดุดี 108 และ 109
การเจิมตามพระคัมภีร์
บางครั้ง “การเจิม” ถือเป็ นสิ่ งท้ายสุ ดอย่างหนึ่งสำหรับผูท้ ี่แสวงหาการเลื่อนชั้นฝ่ ายวิญญาณ แต่นี่ไม่ใช่เรื่ องใหม่ ใน
พันธสัญญาเดิม ทุกคนที่รับใช้พระเจ้าต้องได้รับการเจิม ในพันธสัญญาใหม่ สิ่ งนี้ถูกแทนที่ดว้ ยการบัพติศมาของพระวิญญาณ
บริ สุทธิ์ สำหรับผูเ้ ชื่อทุกคน จริ ง ๆ แล้วมีการปฏิบตั ิในพันธสัญญาเดิมในการทาน้ำมันที่หวั แกะเพื่อป้ องกันแกะ แต่การเจิมของ
พระวิญญาณหรื อการบัพติศมาด้วยพระวิญญาณนั้นเป็ นมากกว่ามาตรการป้ องกัน สิ่ งนี้หมายถึงการเจิมของพระวิญญาณ หรื อ
การบัพติศมาด้วยพระวิญญาณ
ในบ้านของซีโมนพวกฟาริ สี พระเยซูทรงใช้ภาษาเดียวกันกับในสดุดีบทที่ 23 โดยกล่าวว่า “ท่ านไม่ ได้ เอาน้ำมันมา
ชโลมศีรษะของเรา” (ลูกา 7:46) นี่เป็ นการต้อนรับทางสังคมสำหรับแขกที่จะเจิมพวกเขาด้วยน้ำมันหอมและทักทายด้วยการจูบ
2 ครั้งที่แก้มเช่นเดียวกับที่ยงั คงปฏิบตั ิในทางตะวันออก พระเยซูทรงเปรี ยบเทียบซีโมนกับหญิงนิรนามผูซ้ ่ ึงเทน้ำมันหอมลงบน
พระบาทของพระองค์และจุบพระบาทของพระองค์อย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ซีโมนไม่ได้ท ำอะไรเลย ซีโมนทำตัวสบายๆ เกินไป
ไม่ได้แสดงการให้เกียรติต่อพระเยซู การเจิมทางสังคมต่อแขกนั้นหมายถึงการทำให้แขกมีกลิ่นหอมและช่วยทำให้ใบหน้าของ
พกเขาผ่องใส ซึ่งถือว่าน่าชมเชยในสมัยนั้น พระเยซูทรงยอมรับการเจิมจากสตรี ผนู้ ้ี ซ่ ึงถวายน้ำมันหอมที่ดีที่สุดแก่พระองค์ซ่ ึง
เงินสามารถซื้ อได้

มารี ยช์ าวมักดาลาก็เจิมพระเยซูดว้ ย น้ำมันหอมของเธอคือนารดา ซึ่งเป็ นส่ วนผสมที่หายากและมีค่ามากของนารดาที่


นำมาจากอินเดียตอนเหนือด้วยค่าใช้จ่ายสูง และปรุ งด้วยศาสตร์ลบั ของนักปรุ งน้ำหอม ขายในภาชนะศิลาทรงเรี ยวยาว เก็บรักษา
ไว้นานหลายปี และยังสามารถปรับปรุ งคุณภาพและมูลค่าได้อีกด้วย เมื่อเต็มไปด้วยน้ำมันหอม พวกเขาก็เก็บไว้เป็ นการลงทุน
เป็ นขุมทรัพย์ในครัวเรื อน กลิ่นหอมของน้ำมันของมารี ยอ์ บอวลไปทัว่ บ้าน มันเป็ นการถวายบูชาที่ยิง่ ใหญ่ เป็ นการกระทำแห่ง
ความรักอย่างฟุ่ มเฟื อย สิ่ งนี้กล่าวถึงความรักของพระเจ้าผ่านทางพระเยซูคริ สต์ ซึ่งนำของประทานที่ประเมินค่ามิได้แห่งการเจิม
ของพระวิญญาณบริ สุทธิ์ มาให้แก่เรา นี่ไม่ใช่ประสบการณ์ราคาถูก นี่เป็ นสิ่ งที่ดีที่สุดของพระเจ้า การเจิมพระวิญญาณบริ สุทธิ์
เป็ นของขวัญของพระเจ้าสำหรับคุณ!

20
ตุลาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“และในวันนั้นภาระของเขาจะหลุดจากบ่าของท่านและแอกของเขาจากคอของท่าน และแอกก็ถูกทำลายเนื่องจากน้ำมันเจิม”
(อิสยาห์ 10:27)
ไฟประจำวัน!
ฉันได้รับการเจิมจากพระวิญญาณบริ สุทธิ์
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
อพยพ 30:1–38; เอสเธอร์ 2:12; เพลงโซโลมอน 3:6; มัทธิว 1:17
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
2 พงศ์กษัตริ ย ์ 1; 2 เธสะโลนิกา 1
เย็น:
ดาเนียล 5; สดุดี 110 และ 111
การเจิมที่แท้ จริง
ส่วนผสมที่พบมากที่สุดของน้ำมันสำหรับเครื่ องสำอางคือมดยอบ ซึ่งสกัดจากสารที่เป็ นยางที่มีกลิ่นหอมจากต้น
มดยอบขนาดเล็ก หญิงสาวที่ซาโลมอนรักมีนิ้วที่หยดกลิ่นหอมของมดยอบออกมา ซาโลมอนเองมาจากถิ่นทุรกันดารเต็มไปด้วย
ฝุ่ น “ควันหอมของมดยอบและกำยาน” (เพลงซาโลมอน 3:6) ส่วนหนึ่งของการดูแลความงามของเอสเธอร์เพื่อนำเสนอต่อ
กษัตริ ยเ์ ซอริ ซิส คือ 6 เดือนด้วยน้ำมันมดยอบ คุณค่าแสดงให้เห็นเมื่อพวกโหราจารย์น ำมดยอบมาถวายพระกุมารเยซูเป็ นของ
ขวัญพิเศษ ในทางการแพทย์มดยอบถูกใช้เป็ นยาฝิ่ น พระเยซูปฏิเสธสิ่ งนี้บนไม้กางเขน
น้ำมันเจิมพิเศษที่บรรยายใน อพยพ 30 ถูกใช้สำหรับพลับพลาและปุโรหิ ตขององค์พระผูเ้ ป็ นเจ้าเท่านั้น เพื่อแต่งตั้ง
พวกเขาสำหรับการรับใช้ กษัตริ ยก์ ไ็ ด้รับการเจิมด้วย ความเห็นส่ วนใหญ่กล่าวว่าผูเ้ ผยพระวจนะได้รับการเจิม แต่จากที่ผมเห็น
ในพระคัมภีร์ ไม่เคยมีผใู้ ดในพวกเขาได้รับเลย พวกเขาเป็ นคนของพระเจ้าที่มีอิสระ ไม่ได้รับการแต่งตั้งจากสังคม พระเจ้าทรง
เลือกและประทานการเจิมที่แท้จริ งด้วยพระวิญญาณแก่พวกเขา ไม่มีผใู้ ดตั้งผูเ้ ผยพระวจนะ นัน่ คือพวกเขาเป็ นคนของพระเจ้า
โดยคำสัง่ จากพระเจ้า เอลียาห์ควรได้เจิมเอลีชา แต่พลาดที่จะทำ พระเจ้าเองทรงเจิมเอลีชาด้วยพระวิญญาณ

มันเป็ นนิสยั ที่จะเรี ยกพระวิญญาณของพระเจ้าโดยใช้ชื่อของผูเ้ ผยพระวจนะ เช่น “วิญญาณของโมเสส” หรื อ


“วิญญาณของเอลียาห์” เป็ นความแตกต่างส่ วนบุคคลและหาได้ยาก วิญญาณของโมเสสจะสวมอยูบ่ นพวกผูใ้ หญ่ของอิสราเอล
และเอลีชาต้องการวิญญาณของเอลียาห์ 2 เท่า เมื่อพระเจ้าทรงเจิมผูเ้ ชื่อในวันนี้ ก็ข้ ึนอยูก่ บั “วิญญาณของผู้เผยพระวจนะ” (1 โค
ริ นธ์ 14:32) การเจิมที่แท้จริ งมาจากองค์พระผูเ้ ป็ นเจ้าเสมอ น้ำมัน น้ำมันทา และน้ำมันหอมถูกเทลงบนปุโรหิ ตและกษัตริ ยเ์ ป็ น
เพียงสัญลักษณ์วา่ พระวิญญาณของพระเจ้าได้เลือกที่จะสถิตบนพวกเขา พระเจ้าเป็ นผูร้ ิ เริ ่ ม ดังนั้นคนเหล่านี้จึงถูกเรี ยกว่า “ผูไ้ ด้
รับการเจิมจากองค์พระผูเ้ ป็ นเจ้า” โดยเฉพาะพระคริ สต์ (จาก “เมสสิ ยาห์” หรื อ “ผูไ้ ด้รับการเจิม”) ซึ่งเป็ น “ผูไ้ ด้รับการเจิมจาก
พระเจ้า” ทุกวันนี้ ในหมู่ผเู้ ชื่อ การเจิมเป็ นการกระทำด้วยอำนาจอธิปไตยของพระเจ้า ซึ่งพระองค์ทรงปรารถนาจะประทานแก่
คุณอย่างฟุ่ มเฟื อย
21
ตุลาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“ทุกคนในทุกชนชาติที่เกรงกลัวพระองค์ และประพฤติตามทางชอบธรรมก็เป็ นที่ชอบพระทัยพระองค์” (กิจการ 10:35)
ไฟประจำวัน!
ฉันได้รับการเรี ยก การบัญชา และการส่ งออกไป
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
มัทธิว 7:13; 28:19 น.; กิจการ 10:1–48; ฮีบรู 2:10; วิวรณ์ 7:9
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
2 พงศ์กษัตริ ย ์ 2; 2 เธสะโลนิกา 2
เย็น:
ดาเนียล 6; สดุดี 112 และ 113
นรกใหญ่ แค่ ไหน?
ทูตสวรรค์ที่ปรากฏต่อโครเนลิอสั ใน กิจการบทที่ 10 ไม่ได้รับอนุญาตให้เอ่ยพระนามของพระเยซู หรื อพูดถึงความ
รอดแก่ชายคนนั้น สิ ทธิพเิ ศษที่สูงส่ งและบริ สุทธิ์ นั้นเคย และถูกสงวนไว้สำหรับมนุษย์ นัน่ คือผูค้ นแบบคุณและผม ทูตสวรรค์
ทั้งหมดได้รับอนุญาตให้พดู ว่า “บัดนีจ้ งใช้ คนไปเมืองยัฟฟา เชิ ญซี โมนที่เรี ยกว่ าเปโตรมา” (กิจการ 10:5) เสราฟิ มผูม้ ีอ ำนาจจาก
สวรรค์ตอ้ งคำนับต่อสิ ทธิพิเศษที่สูงกว่าของเปโตร พระเจ้าทรงพอพระทัยเสมอที่จะทรงเรี ยกและส่ งคนแบบเราไป พระเจ้าทรง
ใช้ผเู้ ผยแพร่ ข่าวประเสริ ฐ 4 คน ได้แก่ มัทธิว มาระโก ลูกา และยอห์น เพื่อเขียนเรื่ องราวของข่าวประเสริ ฐของพระเยซูคริ สต์ ใน
ความคิดของผม รู ปแบบดังกล่าวเชื่อมโยงกับชาย 4 คนในสมัยพันธสัญญาเดิมที่เป็ นผูแ้ บกหี บพันธสัญญา ผูน้ ำข่าวประเสริ ฐ
เปลี่ยนจากรุ่ นสู่รุ่ น แต่ข่าวประเสริ ฐยังคงเหมือนเดิม ตอนนี้ เราอยูท่ ี่นี่...และวันนี้ กถ็ ึงคราวของเรา! พระเจ้าได้เรี ยกคุณและผม
ข่าวประเสริ ฐจำเป็ นต้องถูกนำออกไปจนสุ ดปลายแผ่นดินโลก นี่คือพระมหาบัญชาขององค์พระผูเ้ ป็ นเจ้าสำหรับเรา และกิจธุระ
ของกษัตริ ยต์ อ้ งเร่ งรี บ

ผมไม่เชื่อว่าแผนการของพระเจ้าเรี ยกร้องให้นรกใหญ่กว่าสวรรค์ แม้วา่ พระคัมภีร์พดู ถึง “คนจำนวนมาก” ที่ก ำลังมุ่ง


ไปสู่ความพินาศ แต่คนกลุ่มเดียวกันนี้ตอ้ งถูกสกัดกั้น โดยชายและหญิงที่ประกาศข่าวประเสริ ฐดั้งเดิม มีการจัดเตรี ยมการไว้เพื่อ
นำบุตรจำนวนมากไปสู่ศักดิ์ศรี (ฮีบรู 2:10) สรรเสริ ญพระเจ้า! พระธรรมวิวรณ์พดู ถึงบทสรุ ปที่ประสบความสำเร็จ! พระเยซูทรง
บัญชาว่า “จงออกไปและนำชนทุกชาติมาเป็ นสาวกของเรา” (มัทธิว 28:19) ไม่มีแผนสำรองในกรณี ถ้าพระกิตติคุณล้มเหลว
เพราะว่าจะไม่เป็ นอย่างนั้น! ผูค้ นจำนวนมากกำลังได้รับความรอด หายป่ วย และได้รับบัพติศมาเข้าในพระวิญญาณบริ สุทธิ์
มากกว่าที่เคยเป็ นมาในประวัติศาสตร์ของมนุษย์ จังหวะนั้นเพิ่มขึ้นเรื่ อยๆ นำไปสู่ขอ้ สรุ ปเพียงประการเดียว นัน่ คือพระเยซู
กำลังจะเสด็จมาในเร็วๆ นี !้ นัน่ คือความหวังสูงสุ ดของคุณ
22
ตุลาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“เพราะว่าใครต้องการจะเอาชีวิตรอด คนนั้นจะเสี ยชีวิต แต่ใครยอมเสี ยชีวิตเพราะเห็นแก่เรา คนนั้นจะได้ชีวิตรอด” (มัทธิว
16:25)
ไฟประจำวัน!
พระวจนะของพระองค์เป็ นตะเกียงแก่เท้าของข้าพระองค์ และเป็ นความสว่างแก่ทางของข้าพระองค์
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
เลวีนิติ 10:1–2; 1 พงศ์กษัตริ ย ์ 18:24; สดุดี 119:105; อิสยาห์ 55:8–9; มัทธิว 16:23; เอเฟซัส 2:2
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
2 พงศ์กษัตริ ย ์ 3; 2 เธสะโลนิกา 3
เย็น:
ดาเนียล 7; สดุดี 114 และ 115
การระเบิดจำลอง
ไฟคือธงแห่งข่าวประเสริ ฐ เครื่ องหมายของบุตรมนุษย์ เมื่อเราเห็นไฟ นัน่ เป็ นหลักฐานว่าพระเยซูและไม่ใช่ใครอื่น
กำลังทำงานอยู่ นัน่ เป็ นตราสัญลักษณ์ที่บ่งบอกถึงกิจกรรมของพระองค์ การระเบิดที่แท้จริ งของความเชื่อของคริ สเตียน เอลียาห์
ให้ประเด็นเดียวกันว่า “พระองค์ ไหนตอบด้ วยไฟ พระองค์ นั้นแหละเป็ นพระเจ้ าแท้ ” (1 พงศ์กษัตริ ย ์ 18:24)! เทอร์โมมิเตอร์ฝ่าย
วิญญาณของคุณอ่านว่าอย่างไร? มันลงทะเบียนหรื อไม่? มีศาสนศาสตร์และคำสอนที่สามารถกันไฟได้เช่นเดียวกับแร่ ใยหิ น
หนังสื อทางศาสนาที่ให้ความร้อนได้กต็ ่อเมื่อโยนลงไปในกองไฟเท่านั้น สิ่ งของที่ท ำให้สิ้นความเชื่อดังกล่าวไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง
กับพระคริ สต์แห่งเพ็นเทคอสต์ สิ่ งใดก็ตามที่พระองค์สมั ผัสก็ติดไฟ ความพยายามของคริ สตจักรที่จะกระตุน้ ความกระตือรื อร้น
ในฝ่ ายวิญญาณนั้นน่าสมเพชพอๆกับการเอาไม้ 2 อันมาถูกนั
เฉพาะไฟของพระเจ้าเท่านั้นที่ได้รับอนุญาตบนแท่นบูชาของโมเสส ไม่ใช่ไฟที่เกิดจากฝี มือมนุษย์ นาดับและอาบีฮูก่อ
ไฟเองและจุดเครื่ องหอมด้วยไฟ มันถูกตราหน้าว่า “ไฟที่ตอ้ งห้าม” จากนั้นไฟของพระเจ้าก็พงุ่ ออกมาจากพลับพลา กลืนกินไฟ
ที่ผดิ นั้นเข้าไป และนำความตายมาสู่ ปุโรหิ ตที่กบฏ วันนี้ เรามีการถวายไฟที่ตอ้ งห้าม นัน่ คือข่าวประเสริ ฐที่ไม่ใช่ข่าวประเสริ ฐ
เลย แต่ศาสนศาสตร์แห่งความไม่เชื่อ ความคิดของมนุษย์และปรัชญา การวิพากษ์วิจารณ์ และทฤษฎีของพวกเขา พวกเขาไม่มี
ร่ องรอยของความร้อนแห่งพระสิ ริจากสวรรค์ ไม่มีสิ่งใดในสิ่ งเหล่านี้ก่อให้เกิดการเผาไหม้ยกเว้นการโต้เถียง สิ่ งที่อยูเ่ บื้องหลัง
ทั้งหมดนี้ คือสิ่ งที่พระเยซูตรัสว่า “จงไปให้ พ้น เจ้ าซาตาน! เจ้ าเป็ นเครื่ องกีดขวางเราเพราะเจ้ าไม่ ได้ คิดอย่ างพระเจ้ า แต่ เจ้ าคิด
อย่ างมนุษย์ ” (มัทธิว 16:23)
มีความคิดของพระเจ้าและความคิดของมนุษย์ ซาตานคิดเหมือนที่มนุษย์คิด ข้อเท็จจริ งก็คือซาตานไม่สามารถเข้าใจ
ทัศนคติของพระเจ้าได้ เป็ นเรื่ องแปลกเมื่อคุณระลึกได้วา่ เดิมทีมนั คือลูซิเฟอร์ ทูตสวรรค์ของพระเจ้า พระเยซูท ำให้หวั งูฟกช้ำ
และผมคิดว่าพระองค์ทรงทำให้สมองของมารเสี ยหาย! ครั้งหนึ่งซาตานเต็มไปด้วยสติปัญญา แต่วนั นี้ “ผู้ครอบครองที่มีอ ำนาจ
ในฟ้ าอากาศ” (เอเฟซัส 2:2) รู้สึกงุนงงกับสิ่ งที่พระเจ้ากำลังทำ และโดยเฉพาะอย่างยิง่ กับสิ่ งที่องค์พระผูเ้ ป็ นเจ้าทำบนไม้
กางเขน! ความสับสนประเภทนี้ เกิดจากความบาป คุณได้รับ "ความรู้แจ้ง" โดยการเข้ามาของพระคำที่บริ สุทธิ์ ของพระเจ้า
23
ตุลาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“เพื่อการทดสอบความเชื่อของพวกท่าน (อันล้ำค่ายิง่ กว่าทองคำ ที่แม้วา่ จะเสื่ อมสลายไปได้ก็ยงั ถูกทดสอบด้วยไฟ) จะนำไปสู่
การสรรเสริ ญ ศักดิ์ศรี และเกียรติ ในเวลาที่พระเยซูคริ สต์จะเสด็จมาปรากฏ” (1 เปโตร 1:7)
ไฟประจำวัน!
ไฟของพระวิญญาณบริ สุทธิ์ จะต้องไหลผ่านทางคริ สตจักรเหมือนเลือดที่ไหลผ่านเส้นเลือด
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
ลูกา 10:17–24; 1 เปโตร 1:7–9
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
2 พงศ์กษัตริ ย ์ 4;
1 ทิโมธี 1
เย็น:
ดาเนียล 8; สดุดี 116
“ความชื่นชมยินดีแบบบ้ าคลัง่ ”
พวกสาวกบ้าคลัง่ ด้วยความชื่นชมยินดีเมื่อขับผีออก แต่พระเยซูตรัสว่านัน่ ไม่ใช่เรื่ องใหญ่เลย สาวกเจ็ดสิ บสองคนนั้น
กลับมาด้วยความยินดีทูลว่า “องค์พระผูเ้ ป็ นเจ้า แม้แต่พวกผีก็อยูใ่ ต้บงั คับของพวกข้าพระองค์โดยพระนามของพระองค์”พระ
องค์ตรัสกับพวกเขาว่า “เราเห็นซาตานตกจากฟ้ าเหมือนฟ้ าแลบนี่แน่ะ เราให้พวกท่านมีสิทธิ อ ำนาจเหยียบงูร้ายและแมงป่ อง
และให้มีอ ำนาจยิง่ ใหญ่กว่าฤทธานุภาพของศัตรู น้ นั ไม่มีอะไรจะมาทำอันตรายพวกท่านได้เลยแต่วา่ อย่าชื่นชมยินดีในสิ่ งนี้ คือที่
พวกผีอยูใ่ ต้บงั คับของท่าน แต่จงชื่นชมยินดีที่ชื่อของท่านจดไว้ในสวรรค์”ในเวลานั้นเอง พระเยซูทรงเปรมปรี ด์ ิในพระวิญญาณ
บริ สุทธิ์ ตรัสว่า “ข้าแต่พระบิดาผูเ้ ป็ นเจ้าแห่งฟ้ าสวรรค์และโลก ข้าพระองค์สรรเสริ ญพระองค์ที่พระองค์ทรงปิ ดบังสิ่ งเหล่านี้ ไว้
จากคนมีปัญญาและคนฉลาด แต่ทรงสำแดงแก่พวกทารก ถูกแล้ว ข้าแต่พระบิดา พระองค์พอพระทัยเช่นนั้น“พระบิดาของเรา
ทรงมอบสิ่ งสารพัดให้แก่เรา ไม่มีใครรู้วา่ พระบุตรเป็ นใครนอกจากพระบิดา และไม่มีใครรู้วา่ พระบิดาเป็ นใครนอกจากพระบุตร
และผูท้ ี่พระบุตรประสงค์จะสำแดงให้รู้”พระองค์ทรงหันมาหาพวกสาวก ตรัสกับพวกเขาเป็ นการส่ วนตัวว่า “ผูท้ ี่ได้เห็นสิ่ งที่
พวกท่านเห็นก็เป็ นสุ ขเพราะเราบอกพวกท่านว่า ผูเ้ ผยพระวจนะหลายคนและกษัตริ ยห์ ลายองค์ปรารถนาจะเห็นสิ่ งที่ท่านเห็นอยู่
นี้ แต่เขาทั้งหลายไม่เคยเห็น และอยากจะได้ยนิ สิ่ งที่พวกท่านได้ยนิ แต่เขาก็ไม่เคยได้ยนิ ” (ลูกา 10:17–24) เรารู้สึกเป็ นเกียรติ
อย่างยิง่ ที่ได้เห็นและได้ยนิ สิ่ งที่พระเยซูคริ สตเจ้าทรงทำในวันนี้ !
เปโตรได้ยนิ พระคริ สต์ตรัสถ้อยคำเหล่านั้น และเขารับบทเรี ยนนั้น ต่อมาเขาเขียนเรื่ องนี้ เกี่ยวกับผูเ้ ชื่อว่า "พระองค์ ผ้ ทู ี่
พวกท่ านไม่ เคยเห็น แต่ พวกท่ านยังรั กพระองค์ อยู่ แม้ ว่าขณะนีพ้ วกท่ านไม่ เห็นพระองค์ แต่ พวกท่ านยังเชื่ อและชื่ นชมยินดี ด้ วย
ความยินดีเป็ นล้ นพ้ นสุดจะพรรณนาเพราะได้ รับความรอดแห่ งวิญญาณจิ ตอันเป็ นผลจากความเชื่ อของพวกท่ าน” (1 เปโตร 1:8–
9) ชื่นชมยินดีเบาๆหรื อ? นมัสการด้วยเสี ยงกระซิบหรื อ? นัน่ ไม่ใช่ความหมายของคำว่า "ชื่ นชมยินดี " ในพระคัมภีร์น้ ี นี่
หมายความว่า “ดีใจ โห่ร้อง ดีใจเป็ นบ้า” นัน่ คือชื่ นชมยินดีอย่ างบ้ าคลัง่ ! จงลองทำโดยปราศจากอารมณ์ ปราศจากไฟ! ไฟของ
พระวิญญาณบริ สุทธิ์ มีจริ ง จะต้องไหลผ่านทางคริ สตจักรของพระเยซูคริ สต์เหมือนเลือดที่ไหลผ่านทางเส้นเลือด คนของพระเจ้า
ที่ลุกเป็ นไฟ และคริ สตจักรโดยรวมที่ลุกเป็ นไฟ จะประกาศนำดวงวิญญาณในยุคที่หลงหายของเราเพื่อพระองค์ ปล่อยให้การ
ยับยั้งของคุณดำเนินออกไป ปล่อยให้ไฟของพระเจ้าไหลผ่านทางคุณ!

24
ตุลาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“พระเยซูคริ สต์พยานผูซ้ ื่อสัตย์ ซึ่งเป็ นผูแ้ รกที่ทรงเป็ นขึ้นจากตาย และเป็ นผูท้ รงครอบครองเหนือบรรดากษัตริ ยใ์ นโลก” (วิวรณ์
1:5)
ไฟประจำวัน!
การพูดความจริ งเป็ นคุณลักษณะสำคัญของพระเยซูคริ สต์—พระองค์ทรงไว้ใจได้
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
ยอห์น 8:13–14, 18; 14:1; วิวรณ์ 1:1–29
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
2 พงศ์กษัตริ ย ์ 5;
1 ทิโมธี 2
เย็น:
ดาเนียล 9; สดุดี 117 และ 118
การเปิ ดเผยสำแดงในการเปิ ดเผยสำแดง
ชายคนหนึ่งที่ได้รับมอบข้อความแห่งความเชื่อในอดีต ปัจจุบนั และอนาคตคืออัครทูตยอห์น เมื่อเขาต่อต้านอาณาจักร
โรมันทั้งหมด เขาเขียนหนังสื อที่อศั จรรย์และแห่งชัยชนะ เขาเขียนว่า “ข้ าพเจ้ าคือยอห์ น พี่น้องของท่ านทั้งหลาย ผู้มีส่วนร่ วม
ในความยากลำบาก และในอาณาจักร และในความทรหดอดทนในพระเยซู ข้ าพเจ้ ามาอยู่ที่เกาะปั ทมอสเพราะเหตุพระวจนะของ
พระเจ้ าและคำพยานของพระเยซู” (วิวรณ์ 1:9) ยอห์นสนิทกับพระเยซู มันเป็ นมิตรภาพที่เป็ นเอกลัษณ์ เขายอมทนทุกข์เพื่อพระ
คริ สต์ดว้ ย ยอห์นเป็ นคนที่เห็นว่าสิ่ งต่างๆ มีความหมายอย่างไร เขาอ่านหมายสำคัญด้วยความเข้าใจเชิงเผยพระวจนะ สิ่ งที่เขา
เห็นยากที่จะอธิบาย มันใหม่บนแผ่นดินโลก ไม่มีใครนึกถึงมันโดยเฉพาะในประโยคเดียว ดังนั้น ให้เราพิจารณาสิ่ งที่เขาพูด ซึ่ง
กล่าวว่า “ขอให้ ท่านทั้งหลายได้ รับพระคุณและสันติสุขจากพระองค์ ผ้ ทู รงเป็ นอยู่ ผู้ทรงเคยเป็ นอยู่ และผู้ที่จะเสด็จมาและจาก
พระวิญญาณทั้งเจ็ดที่เฝ้ าอยู่หน้ าพระที่นั่งของพระองค์ และจากพระเยซูคริ สต์ พยานผู้ซื่อสัตย์ ซึ่ งเป็ นผู้แรกที่ทรงเป็ นขึน้ จากตาย
และเป็ นผู้ทรงครอบครองเหนือบรรดากษัตริ ย์ในโลก” (ข้อ 4-5)

พระเยซูจะเป็ น “พยานที่ซื่อสัตย์” ได้อย่างไร? เราเป็ นพยานถึงพระคริ สต์ แต่พระคริ สต์เป็ นพยานถึงอะไร? พระคัมภีร์
ข้อนี้กล่าวถึงอีกตอนหนึ่งที่พวกฟาริ สีก ำลังโต้เถียงกันว่า “ท่ านเป็ นพยานให้ ตวั เอง คำพยานของท่ านก็ไม่ จริ ง” (ยอห์น 8:13)
พระเยซูตรัสตอบว่า “ถึงแม้ เราเป็ นพยานให้ ตัวเราเอง คำพยานของเราก็ยงั เป็ นจริ งอยู่ เพราะเรารู้ ว่าเรามาจากไหนและจะไปที่
ไหน ..แต่ พวกท่ านไม่ ร้ ู ว่าเรามาจากไหนและจะไปที่ไหนเราเป็ นพยานให้ ตวั เราเองและพระบิดาผู้ทรงใช้ เรามาก็เป็ นพยานให้ เรา
ด้ วย” (ข้อ 14, 18) พระเยซูทรงเป็ นพยานถึงพระองค์เอง พระองค์ตรัสว่า “พวกท่ านวางใจในพระเจ้ า จงวางใจในเราด้ วย”
(ยอห์น 14:1) ด้วยชีวิตและพระราชกิจอันยิง่ ใหญ่ของพระองค์ พระองค์ได้แสดงให้เราเห็นในสิ่ งที่พระองค์ทรงเป็ น นัน่ คือ
ซื่อสัตย์ต่อสิ่ งที่พระองค์บอกเราว่าพระองค์ทรงเป็ นผูใ้ ด
พระองค์ไม่ท ำให้เราผิดหวัง ถ้าพระองค์ไม่เหมือนเดิม พระองค์กจ็ ะไม่เป็ นพยานที่ซื่อสัตย์ พระองค์สอดคล้องกับสิ่ งที่
พระองค์พดู และทำ ชีวิตของพระเยซูสะกดความหวังสำหรับคนบาปและคนป่ วย และความห่วงใยสำหรับทุกคน พระองค์เขียน
ว่า “พระเยซูคริ สต์ ผูท้ ี่สตั ย์ซื่อของคุณ” พระเยซูเจ้าของเราสัตย์ซื่อต่อคุณและต่อผมเสมอ สรรเสริ ญพระนามของพระองค์!
25
ตุลาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“คือให้ซาบซึ้งในความรักของพระคริ สต์ซ่ ึงเกินความรู้ เพื่อพวกท่านจะได้รับความบริ บูรณ์ของพระเจ้าอย่างเต็มเปี่ ยม” (เอเฟซัส
3:19)
ไฟประจำวัน!
เพราะว่าฉันเชื่อ แม่น้ำแห่งชีวิตจะไหลออกมาจากหัวใจของฉัน
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
อิสยาห์ 58:11; ยอห์น 1:14–16; 3:34; 7:37–38; กิจการ 2:39
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
2 พงศ์กษัตริ ย ์ 6;
1 ทิโมธี 3
เย็น:
ดาเนียล 10;
สดุดี 119:1–24
จงอ่ านอย่ างระมัดระวัง
ในวันสุดท้ ายของงานเทศกาลซึ่ งเป็ นวันยิ่งใหญ่ นั้น พระเยซูทรงยืนขึน้ และทรงประกาศว่ า “ถ้ าใครกระหาย ให้ คนนั้น
มาหาเราและให้ คนที่วางใจในเราดื่ม ตามที่มีค ำเขียนไว้ แล้วว่ า ‘แม่ น ้ำที่มีน ้ำดำรงชี วิตจะไหลออกมาจากภายในคน
นั้น’ ”(ยอห์ น 7:37–38) นั่นคือ แม่ น ้ำที่มีน ้ำดำรงชีวิตจะไหลจากผู้ใดก็ตามที่ “เชื่ อในเรา ดังที่พระคัมภีร์กล่ าวไว้ ”
พระเยซูตรั สว่ าพระคัมภีร์ไม่ ได้ พูดถึงแม่ น ้ำที่มีน ้ำดำรงชีวิต แต่ เป็ นพระองค์ เองและผู้ที่เชื่ อในพระองค์ ผู้คนไม่ ได้ พบ
ว่ าข้ อพระคัมภีร์ใดที่พระเยซูนึกถึงเมื่อพระองค์ ตรั สถึงน้ำ ถึงแม้ว่าเราจะแนะนำอิสยาห์ 58:11 ก็ตาม คำสัญญาของน้ำ
ดำรงชีวิตเริ่ มต้ นจากพระเยซูเอง และขณะที่เปโตรเทศนาว่ า “เพราะว่ าพระสัญญานั้นตกแก่ ท่านทั้งหลายกับลูกหลาน
ของพวกท่ านด้ วย และแก่ ทุกคนที่อยู่ไกล คือทุกคนที่องค์ พระผู้เป็ นเจ้ าพระเจ้ าของเราทรงเรี ยกให้ มาเฝ้ า” (กิจการ
2:39)
เป็ นสิ่ งที่สำคัญที่ตอ้ งดู ยอห์น 3:34 อีกครั้งว่า “เพราะพระองค์ ผ้ ทู ี่พระเจ้ าทรงใช้ มานั้นทรงกล่ าวพระดำรั สของพระเจ้ า
เพราะพระเจ้ าไม่ ได้ ประทานพระวิญญาณอย่ างจำกัด” พระเจ้าประทานพระวิญญาณให้แก่เราทุกคน ดังที่ ยอห์น 1:16 บอกเราว่า
“เราได้ รับจากความบริ บูรณ์ ของพระองค์ ” แท้จริ งแล้วเราเต็มเปี่ ยมอย่างไม่มีขอบเขต

ความบริ บูรณ์อยูใ่ นพระเยซูคริ สต์และไหลออกมาจากพระองค์เพื่อเติมเราให้เต็ม พระองค์คือแหล่งที่มา ตราบเท่าที่


พระคริ สต์ยงั เต็มเปี่ ยม เราจะ "กำลังถูกทำให้เต็มเปี่ ยม" พระองค์ทรง “เปี่ ยมด้ วยพระคุณและความจริ ง” (ยอห์น 1:14) และจาก
พระองค์ เราได้รับ “พระคุณซ้ อนพระคุณ” (ข้อ 16) หรื อพระคุณที่ได้รับการเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง
26
ตุลาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“จงแสวงหาพระยาห์เวห์ ขณะที่จะพบพระองค์ได้ จงทูลพระองค์ ขณะที่พระองค์ทรงอยูใ่ กล้ให้คนอธรรมละทิ้งทางของเขา และ
คนชัว่ ละทิ้งความคิดของเขา ให้เขากลับมายังพระยาห์เวห์ และพระองค์จะทรงเมตตาเขา และมายังพระเจ้าของพวกเรา เพราะ
พระองค์ทรงมีการอภัยอย่างเหลือล้น” (อิสยาห์ 55:6–7)
ไฟประจำวัน!
ความเชื่อคือเนื้อแท้ในสิ่ งที่หวังไว้ เป็ นหลักฐานของสิ่ งที่มองไม่เห็น
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
อิสยาห์ 55:6–7; โยเอล 1:13–14; 2:12–13; ฮีบรู 11:1
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
2 พงศ์กษัตริ ย ์ 7;
1 ทิโมธี 3
เย็น:
ดาเนียล 11;
สดุดี 119:25–48
ความเชื่อที่แท้ จริง
เราอธิษฐานเพื่อการฟื้ นฟูของคริ สเตียนทำไม? เพื่อจะเห็นคริ สตจักรเต็ม ชำระค่าใช้จ่าย แบ่งเบางานประกาศข่าว
ประเสริ ฐ เป็ นหน้าที่ทางศาสนาหรื อ? จงดูความพยายามอันน่าสมเพชของคนที่ปราศจากพระคริ สต์ในการช่วยตัวเองให้รอด
โดยการสร้างพระที่อ่อนแอของพวกเขา ให้เราร้องไห้เพื่อพวกเขา ให้เราร้องหาพระเจ้า ปุโรหิ ตทั้งหลายเอ๋ ย จงคาดผ้ากระสอบ
และโอดครวญ ท่านผูป้ รนนิบตั ิที่แท่นบูชา จงคร่ำครวญ บรรดาผูป้ รนนิบตั ิพระเจ้าของข้าพเจ้า จงเข้ามาค้างคืนโดยสวมผ้ากระ
สอบ เพราะว่าธัญบูชาและเครื่ องดื่มบูชา ได้ขาดไปจากพระนิเวศพระเจ้าของท่านจงจัดพิธีอดอาหาร จงเรี ยกประชุมทำพิธี จง
รวบรวมพวกผูใ้ หญ่ และทุกคนที่อาศัยในแผ่นดิน ให้ไปยังพระนิเวศของพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน และร้องทูลต่อพระยาห์
เวห์...พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้วา่ “ถึงกระนั้นก็ดี บัดนี้ พวกเจ้าจงกลับมาหาเราด้วยสุ ดใจ ด้วยการอดอาหาร การร้องไห้ และการ
โอดครวญ จงฉี กใจของพวกเจ้า ไม่ใช่ฉีกเสื้ อของเจ้า” จงกลับมาหาพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกท่าน เพราะว่าพระองค์ทรงเปี่ ยม
ด้วยพระคุณและพระกรุ ณา พระองค์กริ้ วช้าและบริ บูรณ์ดว้ ยความรักมัน่ คง และเปลี่ยนพระทัยไม่ลงโทษ (โยเอล 1:13–14; 2:12–
13) พระเจ้าเคลื่อนไหวเมื่อหัวใจของเรา (ไม่เพียงแค่ปากเท่านั้น) เคลื่อนไหว

นักอธิษฐานวิงวอนที่แท้จริ งมีความเขื่อ คำอธิษฐานวิงวอนที่ยงิ่ ใหญ่ท้ งั หมดในพระคัมภีร์ได้รับการกระตุน้ ไปที่สวรรค์


จากจรวดแห่งความเชื่อ ความเชื่อคือความมัน่ ใจในพระลักษณะของความดีงามของพระเจ้าที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลง โดยเชื่อว่า
พระองค์สตั ย์ซื่อต่อสิ่ งที่พระองค์ตรัสว่าพระองค์ทรงเป็ น ถ้าคำอธิษฐานขัดแย้งกัน ทุกอย่างก็เป็ นเช่นนั้น ถ้าคำตอบทั้งหมด
สำหรับคำอธิษฐานถูกพิมพ์ออกมา มันจะทำให้มหาสมุทรแอตแลนติกเต็ม
ความเชื่อคือความเชื่อในพระเจ้า ไม่ใช่แค่ในการอัศจรรย์ที่เกิดขึ้น นักอธิษฐานวิงวอนที่ยิง่ ใหญ่ในพระคัมภีร์ไม่ได้เห็น
สิ่ งที่พวกเขาขอเสมอไป พระเจ้าทรงได้ยนิ อับราฮัม แต่ทา้ ยที่สุด เมืองโสโดมและโกโมราห์กถ็ ูกทำลาย จงอธิษฐานต่อไป และ
ฝากเรื่ องต่างๆ ไว้ในพระหัตถ์ของพระเจ้าเพื่อทำทุกสิ่ งที่พระองค์ทรงรู้วา่ ดี
27
ตุลาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“พระเจ้าทรงเจิมพระเยซูชาวนาซาเร็ ธด้วยพระวิญญาณบริ สุทธิ์ และด้วยฤทธานุภาพอย่างไร และเรื่ องที่วา่ พระเยซูเสด็จไปทำคุณ
ประโยชน์และรักษาคนทั้งหลายที่ถูกมารเบียดเบียนอย่างไร เพราะว่าพระเจ้าสถิตอยูก่ บั พระองค์" (กิจการ 10:38)
ไฟประจำวัน!
ฉันต้องการการเจิมของฉันเองจากพระเจ้า ไม่ใช่การเจิมมือสอง
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
มัทธิว 25:7–10; ยอห์น 1:16, 33; กิจการ 4:13; 8:17; 10:38; ยากอบ 5:14
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
2 พงศ์กษัตริ ย ์ 8;
1 ทิโมธี 5
เย็น:
ดาเนียล 12;
สดุดี 119:49–72

การเจิมที่แท้ จริง
สาวกและอัครทูตไม่เคยถูกเจิมด้วยน้ำมัน ในพันธสัญญาใหม่ คริ สเตียนได้รับพระวิญญาณสำหรับการรับใช้ น้ำมันไม่
เคยถูกเทลงบนพระเยซู ยกเว้นโดยผูห้ ญิงคนหนึ่ งสำหรับการฝังศพของพระองค์ ดังที่พระองค์ตรัสไว้ ก่อนวันเพ็นเทคอสต์
ปุโรหิ ตจะได้รับการเจิมและนำกลิ่นน้ำหอมไปกับพวกเขาด้วย แต่ต้ งั แต่วนั เพ็นเทคอสต์ ผูเ้ ชื่อได้แบบเอารัศมีของพระเยซู นัน่ คือ
“พวกเขาจำได้ ว่าพวกเขาเคยอยู่กับพระเยซู” (กิจการ 4:13) การเจิมที่แท้จริ งได้มาแล้ว!
การเจิมด้วยน้ำมันในพันธสัญญาใหม่มีไว้เพื่อรักษาคนป่ วยเท่านั้น การเจิมของเราไหลออกมาจากการเจิมของพระ
คริ สต์ และเราได้รับจากพระองค์เท่านั้น “เราทุกคนได้ รับจากความบริ บูรณ์ ของพระองค์ ” (ยอห์น 1:16) มีการเปิ ดเผยสำแดงต่อ
ยอห์น ผูใ้ ห้บพั ติศมา ว่า “เมื่อเห็นพระวิญญาณเสด็จลงมาสถิตอยู่กับคนใด คนนั้นแหละจะเป็ นคนให้ บัพติศมาด้ วยพระวิญญาณ
บริ สุทธิ์ ” (ข้อ 33) เขาระบุแหล่งที่มา นัน่ คือพระเยซูคริ สต์ ผูใ้ ห้และสิ ทธิอ ำนาจของการให้

พระเจ้ าทรงเจิ มพระเยซูชาวนาซาเร็ ธด้ วยพระวิญญาณบริ สุทธิ์ และด้ วยฤทธานุภาพอย่ างไร และเรื่ องที่ว่าพระเยซูเสด็จ
ไปทำคุณประโยชน์ และรั กษาคนทั้งหลายที่ถกู มารเบียดเบียนอย่ างไร เพราะว่ าพระเจ้ าสถิตอยู่กับพระองค์ (กิจการ
10:38) เราอาจอธิ ษฐานและวางมือบนผู้คนเพื่อรั บบัพติศมาในพระวิญญาณ อย่ างที่พวกอัครทูตทำ แต่ เราต้ องตระหนัก
ว่ ามนุษย์ ไม่สามารถและไม่ จ ำเป็ นต้ องให้ การเจิ มของพระองค์ แก่ คนอื่น สิ่ งนีม้ าจากความไพบูลย์ ของพระคริ สต์ ไม่ ใช่
ความไพบูลย์ ของคนอื่น ผมต้ องการการเจิ มของผมเองจากพระเจ้ า ไม่ ใช่ การเจิ มมือสอง การส่ งมอบการเจิ ม แม้ เป็ น
เพียงผลชั่วคราว ฯลฯ เป็ นเรื่ องแปลกสำหรั บความคิดในพระคัมภีร์ พระเจ้ าผู้เดียวเป็ นผู้ให้ บัพติศมา พระพรของ
พระเจ้ าอาจไหลผ่ านชี วิตของเราได้ หลายทางเหมือนสายน้ำแห่ งชี วิตจากพระคริ สต์ แต่ นั่นแตกต่ างอย่ างมากจากการ
ทำในสิ่ งที่พระเยซูเท่ านั้นที่ท ำได้ นั่นคือการถ่ ายเทพระวิญญาณ หญิงพรหมจารี ปฏิเสธที่จะแบ่ งปั นน้ำมันของพวกเขา
และถือว่ าฉลาด จงเห็นคุณค่ าของการเจิ มที่พระเจ้ าประทานให้ แก่ คุณ นั่นคือเก็บรั กษาไว้ และปล่ อยให้ มนั ช่ วยให้ คุณ
เป็ นพระพรแก่ ผ้ อู ื่น

28
ตุลาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“อย่าแตะต้องผูท้ ี่เราเจิมไว้ อย่าทำอันตรายผูเ้ ผยพระวจนะของเรา”” (สดุดี 105:15)
ไฟประจำวัน!
การเจิมที่ฉนั ได้รับจากพระองค์ด ำรงอยูใ่ นฉัน
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
1 ซามูเอล 16:1–13; สดุดี 105:15; 1 ยอห์น 2:27
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
2 พงศ์กษัตริ ย ์ 9;
1 ทิโมธี 6
เย็น:
โฮเชยา 1;
สดุดี 119:73–96
จอร์ จ เจฟฟรีย์ส และผม
การเจิมได้รับความหมายที่กว้างขึ้นในหมู่ผเู้ ชื่อในทุกวันนี้ โดยเป็ นเครื่ องหมายแสดงถึงพระพรทัว่ ๆ ไป เมื่อมีคนเสนอ
ให้นำการเจิมโดยการวางมือเหนือเรา เราไม่จ ำเป็ นต้องคัดค้าน ตามพระคัมภีร์ ไม่มีสิ่งที่เรี ยกว่า “การเจิมหนึ่ง” มีแต่ “การเจิม
นั้น” แต่เราไม่จ ำเป็ นต้องอวดรู้เกี่ยวกับการใช้ค ำ แน่นอนว่าต้องไม่สื่อถึงศาสนศาสตร์ที่ไม่ดี หรื อไม่มีเจตนาสื่ อถึงความรู้สึก
พิเศษของการให้พระวิญญาณบริ สุทธิ์ แต่เป็ นเพียงคำอธิษฐานขอความช่วยเหลือ กำลัง หรื อความจำเป็ นอื่นใด
ครั้งหนึ่ง โดยการทรงนำจากพระเจ้า ผมพบว่าตัวเองอยูห่ ่างไกลจากจุดที่ควรจะอยู่ จ้องมองไปที่บา้ นหลังหนึ่งในแค
ลปแฮม ลอนดอน ป้ ายข้างนอกอ้างถึง จอร์จ เจฟฟรี ยส์ ซึ่งหลายคนพิจารณษว่าเป็ นนักฟื้ นฟูชาวอังกฤษที่ยิง่ ใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่
จอห์น เวสเลย์ เขามีผฟู้ ังเต็มห้องโถงใหญ่ที่สุด เป็ นหัวหอกในการเผชิญกับการต่อต้านจากทัว่ โลก และป่ าวประกาศข่าวสารที่
เปี่ ยมไปด้วยพระสิ ริของพระเยซูคริ สต์ พระผูช้ ่วยให้รอด ผูร้ ักษาโรค ผูใ้ ห้บพั ติศมา และกษัตริ ยท์ ี่จะเสด็จมา ผมแทบจะไม่อยาก
เชื่อเลย ผมเพิ่งอ่านหนังสื อของชายผูย้ ิง่ ใหญ่คนนี้ ! เขาอยูท่ ี่นนั่ จริ งๆเหรอ? ผมกล้าที่จะไปและถาม เขาได้ยนิ เสี ยงของผมและ
เชิญผมเข้าไป ที่นนั่ เขาอธิษฐานกับผม และราวกับว่าเสื้ อคลุมของเขามาอยูบ่ นตัวผม (ใช้สำนวนของพระคัมภีร์) พระเจ้าได้ยนิ คำ
อธิษฐานของชายผูน้ ้ นั เพื่อผม ผมได้รับบัพติศมาในพระวิญญาณแล้ว ได้รับการเจิม แต่บางครั้งเราก็ขาดภาษาที่จะบรรยายทุกสิ่ ง
ที่พระเจ้าทรงทำ ผมรู้วา่ การติดต่อกับจอร์จ เจฟฟรี ยส์ และได้ยนิ คำอธิษฐานของเขาสำหรับผมเป็ นประสบการณ์พิเศษ ซึ่งทำให้
ผมรู้สึกมีความพร้อมและพร้อมสำหรับการรับใช้ ก่อนวันนั้น ผมได้ออกจากวิทยาลัยพระคัมภีร์ที่สวอนซีเพื่อเริ่ มรับใช้พระเจ้า
เต็มเวลา พระเจ้าได้เรี ยกผมให้ไปทำงานของพระองค์แล้ว และตอนนี้ ประสบการณ์พิเศษนี้ ดูเหมือนจะปกคลุมผม
ดาวิดได้รับการเจิมจากซามูเอลให้เป็ นกษัตริ ย ์ ซึ่งดาวิดถือว่าเขาเป็ น "ผูท้ ี่พระยาห์เวห์ทรงเจิมไว้" (2 ซามูเอล 1:14) ต่อ
มา ผูป้ กครองของอิสราเอลได้เจิมพระองค์ดว้ ยเพื่อรับรองถึงการเรี ยกให้เขาเป็ นกษัตริ ย ์ เราไม่คาดหวังการเจิมทุกครั้งที่เราพบผู้
เผยแพร่ ข่าวประเสริ ฐหรื อครู ที่พิเศษ สำหรับผมแล้ว หลังการทรงเรี ยกของผม ผมพบชายคนหนึ่งที่ได้ท ำงานแบบเดียวกับที่
พระเจ้าทรงต้องการให้ผมทำเพียงครั้งเดียวเท่านั้น เหมือนเอลีชาติดตามเอลียาห์ จงแสวงหาการเจิมจากพระเจ้าสำหรับชีวิตของ
คุณเอง!
29
ตุลาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“จงควบคุมตัวเอง จงระวังระไวให้ดี ศัตรู ของพวกท่านคือมาร ดุจสิ งโตคำรามเดินวนเวียนเที่ยวเสาะหาคนที่มนั จะกัดกินได้” (1
เปโตร 5:8)
ไฟประจำวัน!
มารไม่สามารถเทียบกับความคิดของพระวิญญาณบริ สุทธิ์ ได้
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
1 เปโตร 5:8
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
2 พงศ์กษัตริ ย ์ 10;
2 ทิโมธี 1
เย็น:
โฮเชยา 2;
สดุดี 119:97–120
เกมหมากรุ กของซาตาน
ซาตานคิดเหมือนที่มนุษย์คิด นัน่ หมายความว่ามนุษย์คิดเหมือนที่มารคิด พวกเขาพบว่าเรื่ องไม้กางเขนเป็ นเรื่ องโง่เขลา
เช่นกัน และไม่สามารถเข้าใจเรื่ องของพระเจ้าได้ ดังที่อคั รทูตเปาโลกล่าวไว้ เปาโลเองมองไม่เห็นในตอนแรก ความเดือดดาลที่
มีต่อบรรดาผูเ้ ชื่อได้กดั กินหัวใจของเขา เขาเป็ น "มนุษย์มงั กร" ที่หายใจเอาคำขู่และเข่นฆ่าออกมา เต็มไปด้วยความกระตือรื อร้น
สมองของเขาเต็มไปด้วยความไม่เชื่ออันชาญฉลาด เกล็ดตกลงมาจากดวงตาของเขาเมื่อเขาเชื่อ
ผมสงสัยว่านรกต้องการส่ งสายลับเข้าไปในราชอาณาจักรของพระเจ้าเพื่อดูวา่ มีความลับอะไรบ้าง? พวกวิญญาณชัว่ จะ
ไม่เข้าใจความลับเหล่านี้อยูด่ ี นรกงุนงงไปหมด สำหรับซาตานแล้ว เครื่ องบูชาของพระคริ สต์เป็ นแผนการที่ลึกซึ้ งซึ่งพระเจ้าทรง
วางแผนเพื่อประโยชน์ของพระองค์เอง มารเขมือบคน นัน่ คือธรรมชาติที่ชวั่ ร้ายของมัน ถ้าเราจะต่อสู้กบั มารในระดับความคิด
ของมนุษย์ เราต้องระลึกว่ามันคิดเหมือนที่มนุษย์คิด ซาตานคิดค้นเกมหมากรุ กของมนุษย์ และเล่นเกมนี้ มานับพันปี แล้ว มาร
คอยเดาทุกฝี กา้ วของเรา และมันจะรุ กฆาตเราล่วงหน้า 10 ตา ซาตานมีประสบการณ์ต้ งั แต่สมัยอาดัมเป็ นต้นมา และมันรู้กลอุบาย
ทุกอย่างของมนุษย์บนกระดาน คุณไม่สามารถสร้างความเชื่อได้ดว้ ยปัญญาของถ้อยคำ มารจะมีค ำโต้แย้งสำหรับสิ่ งที่คุณพูด
เสมอ
ข่าวประเสริ ฐไม่ได้ออกมาจากศีรษะของใครบางคน เราต้องเข้าสู่ มิติของพระเจ้าซึ่งเป็ นสถานที่ศตั รู ไม่สามารถติดตาม
เราได้ มารไม่สามารถเทียบกับความคิดของพระวิญญาณบริ สุทธิ์ ได้ ถ้าเราวางแผน ประกาศ เป็ นพยาน และประกาศข่าว
ประเสริ ฐในฐานะมนุษย์ ซาตานจะขัดขวางเรา มันสามารถจัดการกับจิตวิทยาและการโฆษณาชวนเชื่อได้ คำตอบคือ จง
เคลื่อนไหวในพระวิญญาณและประกาศข่าวประเสริ ฐอย่างที่ข่าวประเสริ ฐเป็ น จากนั้นผูเ้ ล่นตัวฉกาจจะสับสนและไม่สามารถ
ตามเกมได้เลย เป็ นสิ่ งที่ดีที่รู้วา่ คุณอยูใ่ นทีมของพระเจ้า
30
ตุลาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“ท่านยังไม่เคยอ่านหรื อว่า ‘พระองค์ทรงทำให้ค ำสรรเสริ ญออกมาจากปากเด็กและทารก ที่ยงั ไม่หย่านม’?” (มัทธิว 21:16)
ไฟประจำวัน!
ไฟของพระเจ้าจุดไฟความกระตือรื อร้นของมนุษย์
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
สดุดี 69:9; มัทธิว 20:17; 21:1–17; มาระโก 10:32
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
2 พงศ์กษัตริ ย ์ 11 และ 12;
2 ทิโมธี 2
เย็น:
โฮเชยา 3 และ 4; สดุดี 119:121–144
ไฟของพระเจ้ าในพระเยซู
ในประสบการณ์ของมนุษย์ ไฟของพระเจ้าแปลเป็ นความรู้สึกที่เร้าร้อน นัน่ คือความรู้สึกที่เร้าร้อนที่เราเห็นในพระเยซู
บางทีพระองค์ไม่เพียงกระตือรื อร้นในถ้อยคำของพระองค์เท่านั้น เมื่อพระเยซูก ำลังเสด็จไปกรุ งเยรู ซาเล็มเป็ นครั้งสุ ดท้าย เรา
อ่านเจอว่าพระองค์ก ำลังนำหน้าเหล่าสาวกของพระองค์ และพวกเขาเห็นว่าพระองค์ทรงเร่ งเร้าพระองค์ไปข้างหน้าอย่างไร
“ขณะที่ก ำลังเดินทางขึน้ ไปยังกรุ งเยรู ซาเล็มนั้น พระเยซูเสด็จนำหน้ าพวกเขา พวกสาวกก็พากันประหลาดใจ และคนที่เดินตาม
มาก็หวาดกลัว” (มาระโก 10:32) ทำไม? ไฟในวิญญาณจิตของพระองค์จึงปรากฏชัดในวิธีที่พระองค์เดิน
เมื่อพวกเขามาถึง พระเยซูทรงเห็นความเสื่ อมโทรมของพระวิหาร จากนั้นเหล่าสาวกก็มีหลักฐานเพิ่มเติมเกี่ยวกับความ
รู้สึกที่เร่ าร้อนของพระองค์ นัน่ คือปฏิกิริยาของพระองค์ท ำให้พระองค์กลายเป็ นคนที่น่าเกรงขาม! เหล่าสาวกระลึกถึงสดุดีที่วา่
“ความร้ อนใจในเรื่ องพระนิเวศของพระองค์ ได้ เผาผลาญข้าพระองค์ ” (สดุดี 69:9) แต่เป็ นความโกรธด้วยความรัก ไม่ใช่ความ
โกรธที่เย็นชา พระเยซูไม่ได้คลัง่ ไคล้บา้ คลัง่ นัน่ คือพระองค์ทรงรักบ้านของพระบิดา นัน่ คือทั้งหมด เป็ นความปรารถนาที่จะ
เห็นผูค้ นในพระวิหารนมัสการด้วยอิสรภาพและความสุข แต่การค้าในพระวิหารทำให้สิ่งเหล่านั้นเสี ยไป และพระทัยของ
พระองค์กพ็ ลุ่งพล่านราวกับภูเขาไฟ ไฟในวิญญาณจิตของพระองค์ท ำให้พระองค์ช ำระพระวิหาร การกระทำของพระองค์น่า
กลัวและหลายคนหนีออกจากที่เกิดเหตุเนื่องจากสิ่ งเหล่านี้

แต่เด็ก คนตาบอด และคนง่อยยังคงอยู่ และพระองค์ทรงรักษาพวกเขา นัน่ คือสิ่ งที่พระองค์ตอ้ งการจะทำอยูแ่ ล้ว และ
นัน่ คือเหตุผลที่พระพิโรธของพระองค์ร้อนระอุ ความขุ่นเคืองของพระองค์มีจุดมุ่งหมายเพื่อความชื่นชมยินดี พระเยซูทรงให้
เด็กๆ ร้องเพลง “โฮซันนา!” นี่เป็ นโอกาสเดียวในพระคัมภีร์ที่ความตื่นเต้นเกี่ยวกับพระเจ้าถูกติเตียน เป็ นครั้งเดียวที่ความเงียบ
ถูกเรี ยกร้องในบริ เวณขององค์พระผูเ้ ป็ นเจ้า พวกฟาริ สีเรี ยกเรี ยกร้องให้เงียบ การสรรเสริ ญขององค์พระผูเ้ ป็ นเจ้ากำลังกลบ
กระแสการค้าของพวกเขา “เพลงทางการเงิน” ถูกทำให้เงียบ! ทั้งหมดนี้ เป็ นส่ วนหนึ่งของภาพไฟขององค์พระผูเ้ ป็ นเจ้า จุด
ประสงค์เพื่อให้ไฟนั้นลุกโชนอยูใ่ นหัวใจของคุณในวันนี้
31
ตุลาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“เราจะทูลขอพระบิดา และพระองค์จะประทานผูช้ ่วยอีกผูห้ นึ่งให้กบั พวกท่าน เพื่อจะอยูก่ บั ท่านตลอดไป” (ยอห์น 14:16)
ไฟประจำวัน!
“บัพติศมาในพระวิญญาณบริ สุทธิ์ ” บรรยายถึงประสบการณ์ในพันธสัญญาใหม่
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
1 ซามูเอล 16:13; มาระโก 16:17; ลูกา 11:13; ยอห์น 14:16–18, 26; 15:26; 16:17; กิจการ 1:4–5; โรม 8:14; ยากอบ 1:27; 1
ยอห์น 2:1
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
2 พงศ์กษัตริ ย ์ 13;
2 ทิโมธี 3
เย็น:
โฮเชยา 5 และ 6; สดุดี 119:145–176
พาราคเลโตส (Parakletos)
ก่อนพระคริ สต์ ไม่มีผใู้ ดเคย “ได้รับบัพติศมาในพระวิญญาณ” คำนี้หมายถึงบางสิ่ งที่แตกต่างจาก "การสถิตอยูด่ ว้ ยของ
พระวิญญาณ" กับชายหญิงในพันธสัญญาเดิม ซามูเอลเอาเขาน้ำมันมาเจิมดาวิด และพระวิญญาณขององค์พระผูเ้ ป็ นเจ้า “ทรง
สวมทับดาวิดตั้งแต่ วันนั้นเป็ นต้ นไป” (1 ซามูเอล 16:13) แต่ประสบการณ์ดงั กล่าวไม่เคยถูกบรรยายว่าเป็ นการบัพติศมา เพราะ
ว่าความสัมพันธ์ของพระวิญญาณบริ สุทธิ์ กับผูเ้ ชื่อที่ถูกล้างชำระด้วยพระโลหิ ตและบังเกิดใหม่น้ นั เป็ นสิ่ งใหม่ “พระวิญญาณ
แห่ งความจริ ง...สถิตอยู่กับท่ าน และจะประทับอยู่ในท่ าน" (ยอห์น 14:17) นัน่ คือเหตุผลที่ใช้ค ำใหม่ได้ถูกใช้ ซึ่งบรรยายถึง
ประสบการณ์แบบใหม่ การปฏิเสธสิ ทธิของคริ สเตียนในการใช้วลี "รับบัพติศมาในพระวิญญาณ" ทำให้จ ำกัดประสบการณ์ของ
พวกเขาให้เป็ นแบบเดียวกับในสมัยพันธสัญญาเดิม
ผูค้ นในพันธสัญญาเดิมไม่รู้เรื่ องการพูดภาษาแปลกๆ การขับผี หรื อการรักษาโดยการวางมือ หมายสำคัญเหล่านี้ถูก
สงวนไว้สำหรับยุคของพระวิญญาณ ราชอาณาจักรใหม่ พันธสัญญาใหม่พร้อมคุณลักษณะใหม่ ข่าวประเสริ ฐใหม่สำหรับ
วิญญาณและร่ างกายบรรยายถึงยุคคริ สเตียน พระเยซูใช้ค ำใหม่สำหรับพระวิญญาณบริ สุทธิ์ นัน่ คือพาราคเลโตส (Parakletos) มี
การใช้ค ำนี้ 4 ครั้งในพระกิตติคุณของยอห์น และถูกแปลว่า "ผูช้ ่วย"

เราจะทูลขอพระบิดา และพระองค์ จะประทานผู้ช่วยอีกผู้หนึ่งให้ กับพวกท่ าน เพื่อจะอยู่กับท่ านตลอดไปคือพระวิญ


ญาณแห่ งความจริ งซึ่ งโลกรั บไว้ ไม่ ได้ เพราะมองไม่ เห็นและไม่ ร้ ู จักพระองค์ พวกท่ านรู้ จักพระองค์ เพราะพระองค์
สถิตอยู่กับท่ าน และจะประทับอยู่ท่ามกลางท่ าน...แต่ องค์ ผ้ ชู ่ วยคือพระวิญญาณบริ สุทธิ์ ซึ่งพระบิดาจะทรงใช้ มาใน
นามของเรานั้นจะทรงสอนพวกท่ านทุกสิ่ ง และจะทำให้ ระลึกถึงทุกสิ่ งที่เรากล่ าวกับท่ านแล้ ว (ยอห์ น 14:16–17, 26)
ลูกของข้าพเจ้าเอ๋ ย ข้าพเจ้าเขียนข้อความเหล่านี้ถึงท่านทั้งหลายเพื่อท่านจะได้ไม่ท ำบาป และถ้าใครทำบาป เราก็มีผู้
ช่วยทูลขอ [ผู้ช่วย] พระบิดาเพื่อเรา คือพระเยซูคริ สต์ผทู้ รงเที่ยงธรรมนั้น (1 ยอห์น 2:1)
วันนีผ้ ู้ช่วยนั้นอยู่ที่นี่เพือ่ ช่ วยคุณ!

คริ สเตียนไม่ควรวิ่งหนีมาร
มารควรจะหนีพวกเขา
คนที่หนั ไปมองที่ขา้ งหลังมีแนวโน้มที่จะหันหลังกลับ
ผูท้ ี่แสวงหาน้ำพระทัยของพระเจ้าตลอดนิรันดร์จะถูกแซงหน้าโดยผูท้ ี่ท ำตามน้ำพระทัยของพระเจ้า

1
พฤศจิกายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“พวกท่านจงรักองค์พระผูเ้ ป็ นเจ้าผูเ้ ป็ นพระเจ้าด้วยสุ ดใจของท่าน ด้วยสุ ดจิตของท่าน ด้วยสุ ดความคิดของท่านและด้วยสุ ดกำลัง
ของท่าน” (มาระโก 12:30)
ไฟประจำวัน!
วันนี้ฉนั จะแผ่ความชื่นชมยินดี ความเห็นอกเห็นใจ และความรักไปยังคนรอบข้าง
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
สดุดี 29:9;
มาระโก 12:30 น
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
2 พงศ์กษัตริ ย ์ 14;
2 ทิโมธี 4
เย็น:
โฮเชยา 7; สดุดี 120 ถึง 122
คริสเตียนทีต่ ายและน่ าเบื่อ
ข้อความอันร้อนแรงและไม่นอ้ ยไปกว่านั้นควรถูกนำเสนอต่อโลก ไม่จ ำเป็ นต้องมีดอกไม้ไฟ ติดไฟไม่จ ำเป็ นต้องเป็ น
คนใจร้อน อย่างไรก็ตาม ทุกสิ่ งทุกอย่างเกี่ยวกับคริ สตจักรควรสะท้อนแสงอันอบอุ่นของพระเจ้าไปยังยอดหอคอยที่สูงที่สุด
ไม่ใช่แค่ผเู้ ผยแพร่ ข่าวประเสริ ฐเท่านั้น แต่พยาน ผูร้ ับใช้ เจ้าหน้าที่คริ สตจักร ผูน้ ำ คนงาน ครู และผูบ้ ริ หารทุกคนควรส่ องแสง
ด้วยพระวิญญาณบริ สุทธิ์ เหมือนคบไฟบนถนนที่เย็น การประชุมทางกิจธุระควรเห็นไฟของพระวิญญาณบริ สุทธิ์ มากพอๆกับ
การประชุมฟื้ นฟู (หรื ออาจจะมากกว่า)
ปลามีอุณหภูมิเท่ากับน้ำที่มนั ว่าย คริ สเตียนจำนวนมากเกินไปเป็ นเหมือนปลา นัน่ คือพวกเขาไม่มีความอบอุ่นฝ่ าย
วิญญาณมากไปกว่าโลกที่เย็นชาและไม่เชื่อรอบตัวพวกเขา มนุษย์เป็ นสิ่ งมีชีวิตเลือดอุ่น นัน่ คือวิธีที่องค์พระผูเ้ ป็ นเจ้าทรงสร้าง
เรา นัน่ ก็เป็ นวิธีที่พระองค์ทรงเลือกให้เราเอาข่าวดีออกไป นัน่ คือด้วยความอบอุ่น! องค์พระผูเ้ ป็ นเจ้าไม่ได้ส่งเราออกไปเพราะ
ว่าเรามีหวั ที่เย็นและมีศกั ดิ์ศรี พระองค์ไม่ได้เลือกเราเพราะว่าความสำรวมในตนเองของเรา พระองค์ส่งเราออกไปพร้อมกับถ่าน
ที่มีชีวิตจากแท่นบูชา เพื่อเป็ นพยานถึงการเป็ นขึ้นมาจากความตาย เพื่อเป็ นพยานว่าเราได้พบพระเจ้าแห่งเพ็นเทคอสต์แล้ว ผม
เคยได้ยนิ คำเทศนาที่เหมือนกับการบรรยายเรื่ องการดองศพคนตาย คำพูดดังกล่าวจะทำให้ทุกคนระลึกถึงพระเยซูผทู้ รงพระชนม์
อยูห่ รื อ? ทั้งพระเยซู เปโตร และเปาโลไม่ได้ออกจากที่ประชุมที่นงั่ เหมือนรู ปปั้ นหิ นอ่อนในพิพิธภัณฑ์
ตรรกะสามารถถูกจุดไฟและยังคงเป็ นตรรกะได้ เช่น ตรรกะของอิสยาห์หรื อเปาโล เป็ นต้น ตรรกะไม่จ ำเป็ นต้องเป็ น
ของยุคน้ำแข็ง ไฟหมายถึงความเร่ าร้อน ไม่ใช่ความไม่รู้ จงเรี ยนรู้โดยทุกวิถีทาง แต่อย่าเรี ยน ถ้ามันทำให้ไฟของคุณดับ จงระลึก
ว่า ความสดใสมาก่อนความเฉลียวฉลาด “พวกท่ านจงรั กองค์ พระผู้เป็ นเจ้ าผู้เป็ นพระเจ้ าด้ วยสุดใจของท่ าน ด้ วยสุดจิ ตของท่ าน
ด้ วยสุดความคิดของท่ านและด้ วยสุดกำลังของท่ าน” (มาระโก 12:30) องค์พระผูเ้ ป็ นเจ้าต้องการให้คุณมีหวั ใจที่เร่ าร้อน และแผ่
ความชื่นชมยินดี ความเห็นอกเห็นใจ และความรัก จงจุดไฟหัวใจของคุณให้เร่ าร้อนในวันนี้ !
2
พฤศจิกายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“เราบอกท่านทั้งหลายว่า ในทำนองเดียวกัน จะมีความชื่นชมยินดีในสวรรค์เรื่ องคนบาปคนเดียวที่กลับใจใหม่ มากกว่าเรื่ องคน
ชอบธรรมเก้าสิ บเก้าคนที่ไม่ยอมกลับใจ” (ลูกา 15:7)
ไฟประจำวัน!
ข้าแต่องค์พระผูเ้ ป็ นเจ้า พระองค์ทรงสิ้ นพระชนม์เพื่อข้าพระองค์ ข้าพระองค์จะชื่นชมยินดีอย่างล้นเหลือในพระองค์
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
ลูกา 19:40
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
2 พงศ์กษัตริ ย ์ 15; ทิตสั 1
เย็น:
โฮเชยา 8; สดุดี 123 ถึง 125
ความสู งแห่ งประสบการณ์ ของมนุษย์
ศักดิ์ศรี ความเป็ นมนุษย์ได้รับความหมายใหม่เมื่อผูค้ นรู้สึกลืมตัวในการสรรเสริ ญพระเจ้า คุณเคยเห็นคน 5 หมื่นคน
ร้องไห้ โบกมือ กระโดด และโห่ร้องด้วยความยินดีต่อพระเจ้าหรื อไม่? คุณจะคาดหวังอะไรอีกเมื่อแม่ยนื อยูบ่ นเวทีของเรา เป็ น
พยานว่าลูกของเธอเพิง่ หายจากอาการตาบอดแต่ก ำเนิด หรื อหูหนวก หรื อแขนขาบิดเบี้ยว? ผมได้เห็นคำพยานเกี่ยวกับการ
อัศจรรย์เหล่านี้บ่อยมาก มันเป็ นฉากที่เปี่ ยมไปด้วยพระสิ ริ เป็ นความสูงแห่งประสบการณ์ของมนุษย์ เราไม่สมควรได้รับเครดิต
เมื่อเราทำตัวสงบนิ่งอย่างสมบูรณ์เมื่อคนง่อยเดินได้หรื อคนตาบอดมองเห็น การสำรวมท่าทีดงั กล่าวนั้นไม่ฉลาด แต่เป็ นเรื่ องโง่
เขลา จงเต้นรำ ตอนนี้เพื่อให้สอดคล้องกับช่วงเวลาดังกล่าวมากขึ้น! เราควรชื่นชมยินดีในการทรงสถิตขององค์พระผูเ้ ป็ นเจ้า!
พระเยซูตรัสว่า ในเวลานั้น แม้แต่กอ้ นหิ นก็ยงั ส่ งเสี ยงร้องออกมา

ผมมองดูชายหญิงที่มีค่า ทั้งผิวดำหรื อผิวขาว หลายคนที่เคยเศร้าโศกมาก่อน ยืนอยูใ่ นที่ประชุม มือประสานกันแน่น


ด้วยอารมณ์หรื อยกขึ้นนมัสการ ดวงตาเป็ นประกายด้วยน้ำตาแห่งความยินดี ใบหน้าหันไปหาพระเจ้า ริ มฝี ปากเคลื่อนไหวด้วย
การขอบพระคุณอย่างประหลาดใจ ผมพูดกับตัวเองว่า “พวกเขาช่างงดงามเหลือเกิน!” ในช่วงเวลาดังกล่าว ผมอยากเป็ นศิลปิ น
เมื่อศักดิ์ศรี มาก่อนความปิ ติยนิ ดีในพระเจ้า มันคือหายนะ! ถ้าพระเจ้าไม่สมั ผัสความรู้สึกของเรา มารจะสัมผัส พระเจ้าจะทำให้
คนสำนึกในความบาป และช่วยให้พวกเขากลับใจได้อย่างไร เว้นแต่พวกเขาจะรู้สึกสะเทือนใจ? พระองค์จะประทานความ
ชื่นชมยินดีแก่พวกเขาจากบาปที่ได้รับการอภัยได้อย่างไร โดยไม่ท ำให้พวกเขามีความรู้สึกใดๆ ในวิญญาณจิตของพวกเขา? ผม
เชื่อว่างานของผูเ้ ผยแพร่ ข่าวประเสริ ฐคือการจุดไฟในวิญญาณของมนุษย์ การช่วยคนให้รอดเป็ นมากกว่าการเขียนชื่อบนเส้น
ประ คริ สเตียนไม่ใช่สโมสรที่พวกเขากำลังเข้าร่ วม ความรอดคือการผ่าตัดฝ่ ายวิญญาณ การให้อภัยที่เราป่ าวประกาศคืออะไร?
พระเยซูทรงให้อภัยแบบใด? เป็ นความเมตตาที่แท้จริ ง การให้อภัยนี้ ท ำให้คนพิการเดินได้อีกครั้ง มันละลายความแข็งกระด้าง
ของหญิงข้างถนน ทำให้เธอต้องล้างเท้าของพระองค์ดว้ ยน้ำตา มันเป็ นการให้อภัยเพื่อให้คนรักมาก มันทำให้พวกเขาทำอะไรที่
ฟุ่ มเฟื อย เช่น จัดงานปาร์ต้ ีเหมือนเลวี การให้อภัยนี้ ท ำให้มารี ยเ์ ปิ ดภาชนะซึ่งมีมูลค่า และศักเคียสถายเงินมากมาย เมื่อคุณระลึก
ถึงสิ่ งที่พระเจ้าได้ท ำเพื่อคุณ คุณจะชื่นชมยินดีอย่างฟุ่ มเฟื อย!
3
พฤศจิกายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“พระองค์ทรงสัง่ ให้เราประกาศกับคนทั้งหลาย และเป็ นพยานว่า พระเจ้าทรงตั้งพระองค์เป็ นผูพ้ ิพากษาทั้งคนเป็ นและคนตาย
บรรดาผูเ้ ผยพระวจนะก็เป็ นพยานถึงพระองค์วา่ ทุกคนที่เชื่อถือในพระองค์น้ นั พระเจ้าจะทรงยกความผิดบาปของพวกเขาโดย
พระนามของพระองค์”ขณะเปโตรยังกล่าวคำเหล่านั้นอยู่ พระวิญญาณบริ สุทธิ์ เสด็จลงมาสถิตกับทุกคนที่ฟังพระวจนะนั้น”
(กิจการ 10:42–44)
ไฟประจำวัน!
ความเชื่อของเราคือชัยชนะที่ชนะโลก
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
กิจการ 1:8; 10:42–44; 1 ยอห์น 5:4
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
2 พงศ์กษัตริ ย ์ 16; ทิตสั 2
เย็น:
โฮเชยา 9; สดุดี 126 ถึง 128
กระสุ นแท้
เมื่อเราเปิ ดการประชุม เพื่อการประกาศข่าวประเสริ ฐต่อพระวิญญาณบริ สุทธิ์ อย่างสมบูรณ์ ผลลัพธ์ที่ได้กน็ ่าตื่นเต้น
ประชาชาติท้ งั หมดถูกท้าทายโดยฤทธิ์ อำนาจที่ยงิ่ ใหญ่ของพระคริ สต์! ที่ซ่ ึงศาสนาเท็จและหลักคำสอนของพวกวิญญาณชัว่ ได้
เคยมีชยั เหนือพวกเขา พวกเขาจะถูกเขย่าและแตกสลาย! ไม่มีนกั เทศน์คนใดสามารถทำเช่นนี้ได้ ไม่วา่ จะมีชื่อเสี ยงหรื อฉลาด
เพียงใด ความสำเร็จดังกล่าวเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อพระเจ้าทำตามวิธีของพระองค์เท่านั้น เมื่อพระองค์เสด็จเข้าสู่สนามก็มีชยั ชนะที่ยงิ่
ใหญ่ พระองค์สามารถ จะ และทำให้สำเร็ จ ทุกครั้งที่เราอนุญาตให้พระองค์ทรงครอบครอง การทะลุทะลวงเหล่านี้เป็ นส่ วนหนึ่ ง
ของพระพรในยุคสุ ดท้ายที่องค์พระผูเ้ ป็ นเจ้าทรงสัญญา วันเพ็นเทคอสต์ยงั คงดำเนินต่อไป ไม่ได้หยุดที่กรุ งเยรู ซาเล็ม แต่มีไว้
เพื่อ "สุดปลายแผ่ นดินโลก" (กิจการ 1:8) ผมเสนอความท้าทายนี้ วา่ ให้ผใู้ ดก็ตามเริ่ มทำงานในระดับของพระวิญญาณบริ สุทธิ์
และดูวา่ เขามีประสบการณ์กบั สิ่ งใดที่นอ้ ยกว่าการช่วยชีวิตและการปลดปล่อยขององค์พระผูเ้ ป็ นเจ้าหรื อไม่ การประกาศข่าว
ประเสริ ฐแบบนี้ จะหักทำลายหลังของซาตานทัว่ โลก และมันจะหนีไป นี่เป็ นไฟบริ สุทธิ์ ที่ไม่สามารถเลียนแบบได้

เมื่อปื นเต็มไปด้วยกระสุ นเทียม เสี ยงปังจะเหมือนกับกระสุ นจริ ง ความแตกต่างสามารถถูกสังเกตเห็นได้จากการใช้


กระสุ นจริ งและกระสุ นเทียม แต่ไม่ใช่ที่เสี ยง กระสุ นเทียมไม่สร้างรอยบนเป้ าหมาย เพราะว่ามันไม่เคยไปถึงเป้ าหมาย กระสุ น
จริ งสามารถเข้าเป้ าได้ เราไม่สนใจเพียงแค่การกระแทกและการถอยกลับ ความตื่นเต้นและการแสดงข่าวประเสริ ฐที่น่าตื่นตาตื่น
ใจ แม้วา่ สิ่ งเหล่านั้นจะดึงดูดผูค้ นหลายแสนคนก็ตาม เราต้องการเห็นบางสิ่ งบางอย่างที่พงุ่ เข้ากลางเป้ าหมาย! ฝูงชนอาจมา แต่
ด้วยความเชื่อ เราต้องปล่อยฤทธิ์อำนาจแนวกว้างที่แท้จริ งของพระวิญญาณบริ สุทธิ์ เพื่อให้บางสิ่ งสำเร็จลุล่วง ฝูงชนจำนวนมาก
บังเกิดใหม่ ชีวิตได้รับการเปลี่ยนแปลงอย่างสิ้ นเชิง คริ สตจักรเต็ม นรกถูกปล้น และสวรรค์เต็มไปด้วยประชากร ฮาเลลูยา!
4
พฤศจิกายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“เพราะฉะนั้น จงเฝ้ าระวังอยู่ เพราะพวกท่านไม่รู้ก ำหนดวันหรื อเวลานั้น” (มัทธิว 25:13)
ไฟประจำวัน!
พระวิญญาณบริ สุทธิ์ ประทานฤทธิ์ อ ำนาจให้แก่ฉนั เพื่อเป็ นพยาน แม้แต่กบั เพื่อนบ้านของฉัน!
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
มาระโก 16:15; 1 โคริ นธ์ 9:16
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
2 พงศ์กษัตริ ย ์ 17; ทิตสั 3
เย็น:
โฮเชยา 10;
สดุดี 129 ถึง 131
จุดประสงค์นิรันดร์
ไฟของพระเจ้าไม่ได้ส่งมาเพียงเพื่อความเพลิดเพลินของประสบการณ์ทางอารมณ์เล็กน้อย แม้ว า่ จะมีผลข้างเคียงที่
เปี่ ยมไปด้วยพระสิ ริน้ นั ก็ตาม ฤทธิ์ อำนาจของพระวิญญาณบริ สุทธิ์ สร้างการประชุมที่มีชีวิตชีวา! แต่การมีความสุ ขเพียงอย่าง
เดียวไม่ได้เป็ นไปตามการออกแบบของพระเจ้า พระวิญญาณบริ สุทธิ์ ทรงทำงานเพื่อจุดประสงค์นิรันดร์ ผมคิดถึงสิ่ งนี้เมื่อผม
เห็นเครื่ องจักรไอน้ำเก่าที่เกือบจะสูญพันธุ์ไปแล้วกำลังพองตัว “ม้าเหล็ก” เหล่านี้เป็ นเหมือนสิ่ งมีชีวิตที่หายใจด้วยไอไฟในท้อง
งานของเจ้าหน้าที่ไฟคือการจุดไฟและทำให้ไอน้ำเต็มหัวรถจักร เมื่อแรงดันไอน้ำสูงขึ้น คนขับสามารถทำสิ่ งใดสิ่ งหนึ่งจาก 2 สิ่ ง
ต่อไปนี้ นัน่ คือเขาสามารถดึงคันโยกนกหวีด หรื อเขาสามารถหมุนคันโยกที่ส่ งกำลังไปยังลูกสูบ เสี ยงหวีดหวิวจะพ่นไอน้ำออก
มาจนไม่เหลือเสี ยงใด ๆ ทำให้ตวั มันเองได้ยนิ ไปไกลหลายไมล์ อย่างไรก็ตาม ถ้ากำลังถูกส่ งไปที่ลูกสูบ ไอน้ำจะหมุนล้อได้โดย
มีความยุง่ ยากน้อยกว่ามาก โดยไม่ดึงความสนใจไปที่ตวั มันเอง จากนั้นรถไฟก็เคลื่อนตัวออกไป บรรทุกสัมภาระไปทัว่ แผ่นดิน
ขอบคุณพระเจ้าสำหรับเสี ยงหวูดของรถไฟ! มันเป็ นสิ่ งสำคัญ แต่ถา้ การเป่ านกหวีดเป็ นสิ่ งที่ไอน้ำสามารถทำได้ การจุดไฟใต้
หม้อต้มแล้วจุดขึ้นก็ไม่คุม้

ไฟแห่งพระวิญญาณบริ สุทธิ์ นำมาซึ่งฤทธิ์ อำนาจ ไม่ตอ้ งกังวลกับเสี ยงอึกทึก นัน่ คือให้เราใช้พลังนี้ เพื่อการ
เคลื่อนไหว! ฟ้ าร้องเป็ นเรื่ องปกติหลังจากฟ้ าผ่า จุดประสงค์ที่เหมาะสมของเพ็นเทคอสต์คือการทำให้วงล้อหันไปหาพระเจ้าใน
ทุกคริ สตจักร ด้วยเหตุน้ ี จึงส่ งข่าวประเสริ ฐไปทัว่ แผ่นดินโลก “พวกท่ านจงออกไปทั่วโลก ประกาศข่ าวประเสริ ฐแก่ มนุษย์ ทุก
คน” (มาระโก 16:15) คริ สตจักรเป็ นคริ สตจักร "ที่ไป" ไม่ใช่คริ สตจักร "ที่นงั่ " จงมองออกไปยังที่ที่องค์พระผูเ้ ป็ นเจ้าของเรา
กำลังเคลื่อนผ่านทวีปต่างๆ บางคนกำลังมองเข้าไปข้างใน ตรวจสอบวิญญาณจิตของตนเองตลอดเวลา ไร้ความสามารถโดยการ
ใคร่ ครวญ พระเยซูก ำลังช่วยคุณให้รอด อย่ากังวล! จงเริ่ มช่วยพระองค์ให้ช่วยผูอ้ ื่นให้รอด! ถ้าพระวิญญาณบริ สุทธิ์ ได้เสด็จมา
จงลุกขึ้นและออกไป พระองค์ท ำงาน ไม่ใช่คุณหรื อผม “ถ้ าไม่ ประกาศ วิบัติจะเกิดกับข้ าพเจ้ า!” (1 โคริ นธ์ 9:16) และวิบตั ิแก่
บรรดาผูท้ ี่เราไม่ได้ประกาศเรื่ องนี้ ให้เรายุง่ เพื่อพระคริ สต์ ไม่ใช่เกียจคร้าน

5
พฤศจิกายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“จงชื่นบานอยูเ่ สมอ จงอธิษฐานอย่างสม่ำเสมอ จงขอบพระคุณในทุกกรณี เพราะนี่แหละเป็ นพระประสงค์ของพระเจ้า สำหรับ
พวกท่านในพระเยซูคริ สต์” (1 เธสะโลนิกา 5:16–18)
ไฟประจำวัน!
ฉันจะชื่นชมยินดี อธิษฐาน และขอบพระคุณพระผูช้ ่วยให้รอดแห่งวิญญาณจิตของฉัน
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
สดุดี 30:1–12; 105:3; มัทธิว 6:9–13; ฟิ ลิปปี 4:6; โคโลสี 2:6–7; 4:2; 1 เธสะโลนิกา 5:16–18
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
2 พงศ์กษัตริ ย ์ 18; ฟี เลโมน
เย็น:
โฮเชยา 11;
สดุดี 132 ถึง 134
การนมัสการและการสรรเสริญ
นักอธิษฐานวิงวอนที่แท้จริ งปิ ติยนิ ดีในการนมัสการและการสรรเสริ ญ ตลอดสดุดีแห่งการอธิษฐานวิงวอน ไม่มีสกั
ตัวอย่างเดียวที่ขาดการถวายเกียรติแด่พระเจ้าในแบบหรื อรู ปแบบบางอย่าง แต่การอธิษฐานวิงวอนขึ้นสู่พระเจ้าด้วยปี กแห่งการ
นมัสการ การร้องขอและการสรรเสริ ญเป็ นคนละด้านของเหรี ยญเดียวกัน
อย่ ากระวนกระวายในสิ่ งใดๆ เลย แต่ จงทูลพระเจ้ าให้ ทรงทราบทุกสิ่ งที่พวกท่ านขอ โดยการอธิ ษฐานและการวิงวอน
พร้ อมกับการขอบพระคุณ (ฟิ ลิปปี 4:6) เพราะฉะนั้น ในเมื่อพวกท่ านรั บพระเยซูคริ สต์ องค์ พระผู้เป็ นเจ้ าไว้ แล้ ว ก็จง
ดำเนินชี วิตในพระองค์ ด้วยจงหยัง่ รากและก่ อร่ างสร้ างขึน้ ในพระองค์ จงมัน่ คงในความเชื่ อตามที่ได้ รับการสอนมา
แล้ ว และจงให้ การขอบพระคุณทวียิ่งขึน้ จงระวังให้ ดี อย่ าให้ ใครทำให้ พวกท่ านตกเป็ นทาสด้ วยหลักปรั ชญา และคำ
หลอกลวงที่เหลวไหลตามตำนานของมนุษย์ ตามพวกภูตผีที่ครอบงำของจักรวาล ไม่ ใช่ ตามพระคริ สต์ (โคโลสี 2:6–
8) จงชื่ นบานอยู่เสมอจงอธิ ษฐานอย่ างสม่ำเสมอจงขอบพระคุณในทุกกรณี เพราะนี่แหละเป็ นพระประสงค์ ของพระ
เจ้ า สำหรั บพวกท่ านในพระเยซูคริ สต์ (1 เธสะโลนิกา 5:16–18) ให้ ใจของบรรดาผู้แสวงหาพระยาห์ เวห์ ยินดี! (สดุดี
105:3) นักอธิษฐานวิงวอนไม่ได้มาหาพระเจ้าเพราะว่าไม่พอใจในสิ่ งที่พระองค์ไม่ได้ท ำ การบ่นไม่ใช่การอธิษฐาน
ภาระของเราสำหรับความจำเป็ นของโลกถูกยกขึ้นเมื่อเราอธิษฐานด้วยความระลึกถึงและขอบพระคุณสำหรับสิ่ งที่
พระองค์ทรงสามารถและจะทำ บ่อยครั้งที่ค ำอธิษฐานของการอธิษฐานวิงวอนของเราอยูบ่ นพื้นฐานของการรู้วา่ สิ่ งที่
พระเจ้าได้ทรงทำเพื่อเรา พระองค์จะทรงทำเพื่อผูอ้ ื่นด้วย ข้าแต่ พระยาห์ เวห์ ข้ าพระองค์ จะยกย่ องพระองค์ เพราะพระ
องค์ ทรงดึงข้ าพระองค์ ขึน้ มา และมิได้ ทรงให้ ศัตรู ของข้าพระองค์ ยินดีเพราะข้ าพระองค์ ข้าแต่ พระยาห์ เวห์ พระเจ้ าของ
ข้ าพระองค์ ข้ าพระองค์ ได้ ทูลขอความช่ วยเหลือจากพระองค์ และพระองค์ ทรงรั กษาข้าพระองค์ ให้ หายข้ าแต่ พระยาห์
เวห์ พระองค์ ทรงนำข้ าพระองค์ ขึน้ มาจากแดนคนตาย ทรงให้ ข้าพระองค์ มีชีวิต จึ งไม่ ต้องลงไปยังหลุมมรณาท่ านผู้
จงรั กภักดีต่อพระยาห์ เวห์ เอ๋ ย จงร้ องเพลงสดุดีพระองค์ ยกย่ องพระนามบริ สุทธิ์ ของพระองค์ ...พระองค์ ได้ ทรงเปลี่ยน
การไว้ ทุกข์ ของข้าพระองค์ เป็ นการเต้ นรำ พระองค์ ทรงถอดเสื ้อผ้ ากระสอบของข้าพระองค์ ออก และทรงคาดเอวข้ า
พระองค์ ด้วยความยินดีเพื่อข้าพระองค์ จะร้ องเพลงสดุดีพระองค์ และไม่ นิ่งเงียบ ข้ าแต่ พระยาห์ เวห์ พระเจ้ าของข้าพระ
องค์ ข้ าพระองค์ จะขอบพระคุณพระองค์ เป็ นนิตย์ (สดุดี 30:1–4, 11–12) คำอธิษฐานขององค์พระผูเ้ ป็ นเจ้าเริ่ มต้นว่า “
ข้ าแต่ พระบิดาของข้าพระองค์ ทั้งหลาย ผู้สถิตในสวรรค์ ขอให้ พระนามของพระองค์ เป็ นที่เคารพสักการะ" นัน่ เป็ นการ
เริ่ มต้นของการอธิษฐานวิงวอนที่แท้จริ งทั้งหมด ... และตอนจบคือ "เหตุว่าราชอำนาจ และฤทธิ์ เดช และพระสิ ริเป็ น
ของพระองค์ สืบ ๆ ไปเป็ นนิตย์ อาเมน" (มัทธิว 6:9–13) จงทำให้สิ่งนี้เป็ นการเริ่ มต้นและตอนจบแห่งคำอธิษฐานของ
คุณในวันนี้ และเห็นชีวิตการอธิษฐานของคุณทะยานขึ้นสู่ระดับใหม่ของประสิ ทธิผล

6
พฤศจิกายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“แต่เดี๋ยวนี้ ความชอบธรรมของพระเจ้านั้นปรากฏ...โดยความเชื่อในพระเยซูคริ สต์แก่ทุกคนที่เชื่อ...พระเจ้าทรงมีพระคุณให้เขา
เป็ นผูช้ อบธรรมโดยไม่คิดมูลค่า โดยที่พระเยซูคริ สต์ทรงไถ่เขา...เพื่อจะสำแดงในปัจจุบนั นี้วา่ พระองค์ทรงเป็ นผูช้ อบธรรม และ
ทรงให้ผทู้ ี่เชื่อในพระเยซูเป็ นผูช้ อบธรรมด้วย” (โรม 3:21–22, 24, 26)
ไฟประจำวัน!
ข้าพเจ้ารู้จกั พระองค์ที่ขา้ พเจ้าเชื่อ และข้าพเจ้าเชื่อมัน่ ว่า พระองค์ทรงสามารถรักษาสิ่ งที่พระองค์ทรงมอบไว้กบั ข้าพเจ้า จนถึง
วันพิพากษาได้
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
โรม 3:21–26; 2 ทิโมธี 1:12
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
2 พงศ์กษัตริ ย ์ 19;
ฮีบรู 1
เย็น:
โฮเชยา 12;
สดุดี 135 และ 136
ความเชื่อและการรู้
ความเชื่อหมายถึงการวางความมัน่ ใจในบางสิ่ ง นัน่ ไม่ได้หมายความว่าเชื่อในสิ่ งใดก็ได้ สิ่ งใดก็ตามที่เราไว้วางใจต้อง
เชื่ อถือได้ ความเชื่อของคริ สเตียนคือความเชื่อในพระคริ สต์ นี่ไม่ใช่เรื่ องที่ไร้เหตุผล “ความเชื่อแบบหลับหูหลับตา” นั้นเลินเล่อ
และขาดความรับผิดชอบ เหมือนกับการเอาเงินของคุณใส่ ในมือของคนที่คุณไม่รู้สิ่งใดเกี่ยวกับเขาเลย พี่นอ้ งคริ สเตียนคนหนึ่ง
รู้สึกสงสารคนที่เคยติดคุก เขาจึงจ้างคนที่เคยติดคุกมาเพื่อให้เขาเริ่ มใหม่ เขาแสดงความมัน่ ใจในชายคนหนึ่งโดยการตั้งให้เขา
เป็ นผูจ้ ดั การทัว่ ไป ชายคนนั้นแอบขโมยของเขาอย่างลับ ๆ และการขโมยของเขาเกือบทำให้ธุรกิจเสี ยหาย ภายหลังเขาทราบว่า
เหตุผลที่พนักงานที่เขาไว้ใจรายนี้ โดนคดีคือการยักยอกทรัพย์! ความเชื่อแบบหลับหูหลับตา!

ผูค้ นทัว่ โลกกำลังวางความเชื่อมัน่ ในความหลากหลายไม่รู้จบของศาสนา ระบบ เทพเจ้า ทฤษฎี ลัทธิ และผูท้ ี่ป่าว
ประกาศตนเองว่าเป็ นพระเมสสิ ยาห์ มีเพียงคนโง่เท่านั้นที่จะไว้วางใจในเทพเจ้าที่ไม่รู้จกั แต่คนโง่เชื่อเมื่อมีการใช้เทคนิคและ
ความกดดันทางอารมณ์ที่รุนแรง เมื่อเร็ว ๆ นี้ พวกเขาฆ่าตัวตายหมู่ดว้ ยความหวังลมๆ แล้งๆ “ความเชื่อ” (หรื อศาสนา) ส่ วน
ใหญ่ท้ งั เก่าและใหม่ ไม่สญ ั ญาสิ่ งใดในด้านนี้ ของนิรันดรกาล แต่ "พาย 1 ชิ้นในท้องฟ้ าเมื่อคุณตาย" อยาตอลเลาะห์ โคไมนี ผู้
ล่วงลับได้ส่งเด็กวัยรุ่ นเข้าสู่ สมรภูมิรบพร้อมกับคำสัญญาที่วา่ ถ้าพวกเขาตายด้วยการฆ่าคนนอกศาสนา พวกเขาจะไปสวรรค์
ทันที การฆ่าคนจะทำให้ใคร ๆ เหมาะสมกับสวรรค์ได้อย่างไร? ใครจะเชื่อล่ะ? แต่นี่เป็ นตัวอย่างของความหลอกลวงของ
อิทธิพลของซาตาน จักรพรรดิสเปนในช่วงเวลาของการสื บสวนรู้สึกกระวนกระวายใจเกี่ยวกับความรอดของตัวเอง เพราะว่าเขา
คิดว่าเขาไม่ได้เผาชาวยิวและคนอื่นๆ ที่ไม่ใช่คาทอลิกมากพอ! “ความเชื่อ” ไม่กี่อย่างที่เป็ นเหมือนประสบการณ์ทวั่ ไปของผูเ้ ชื่อ
คริ สเตียน อันที่จริ งแล้ว ไม่มีประสบการณ์จริ งเกี่ยวกับพระเจ้าเลย ไม่มีการอัศจรรย์ ไม่มีการให้อภัย ไม่มีชยั ชนะเหนือความบาป
ไม่มีความเข้มแข็งในความทุกข์ยาก ไม่มีสนั ติสุขกับพระเจ้า ไม่มีความชื่นชมยินดี บางคนส่ งเสริ มการยอมจำนนต่อโชคชะตาว่า
เป็ นคุณธรรมที่ยิง่ ใหญ่ แต่ผเู้ ชื่อคริ สเตียนเอาชนะโชคชะตาได้ พวกเขาไม่ยอมอ่อนข้อให้กบั สิ่ งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ จงรู้วา่ ความเชื่อ
ของคุณในพระคริ สต์ มีความหมายต่อคุณอย่างไร!
7
พฤศจิกายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“เพราะเหตุน้ ีขา้ พเจ้าจึงต้องทนทุกข์ล ำบากเช่นนี้ แต่ขา้ พเจ้าก็ไม่อบั อาย เพราะว่าข้าพเจ้ารู้จกั พระองค์ที่ขา้ พเจ้าเชื่อ และข้าพเจ้า
เชื่อมัน่ ว่า พระองค์ทรงสามารถรักษาสิ่ งที่พระองค์ทรงมอบไว้กบั ข้าพเจ้า จนถึงวันพิพากษาได้” (2 ทิโมธี 1:12)
ไฟประจำวัน!
ฉันเป็ นลูกของพระเจ้าโดยความเชื่อในพระเยซูคริ สต์
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
ยอห์น 8:39–41,44; 1 โคริ นธ์ 1:21; กาลาเทีย 3:26; 2 ทิโมธี 1:12
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
2 พงศ์กษัตริ ย ์ 20;
ฮีบรู 2
เย็น:
โฮเชยา 13;
สดุดี 137 และ 138
ความเชื่อผิด ๆ
ศาสนาส่ วนใหญ่ก ำหนดกฎ คำอธิษฐานเพื่ออธิษฐาน การปฏิบตั ิเพื่อสังเกต และเสนอ (เป็ นรางวัล) ความหวังใน
อนาคตบางประเภท นี่เป็ นวันแห่งการคลัง่ ไคล้การฆ่าตัวตาย การกล่าวอ้างอย่างรุ นแรง การขู่กรรโชกด้วยเสี ยงกรี ดร้อง และการ
ฆาตกรรม แต่อบั ราฮัม บิดาแห่ง 3 ศาสนาในปัจจุบนั ไม่หลงระเริ งไปกับการเดินขบวนอย่างเพ้อเจ้อ ในสมัยของพระคริ สต์ มีคน
อ้างว่าเป็ นลูกของอับราฮัมซึ่งเต็มไปด้วยความเกลียดชังและต้องการจะฆ่าพระเยซู พระเยซูตรัสกับเขาว่า “ถ้ าพวกท่ านเป็ นลูก
ของอับราฮั มแล้ว ท่ านก็จะทำในสิ่ งที่อับราฮั มทำแต่ เดี๋ยวนีพ้ วกท่ านหาโอกาสฆ่ าเรา ...อับราฮัมไม่ ได้ ทำอย่ างนี ้ พวกท่ านทำสิ่ งที่
พ่ อของท่ าน [มาร] ทำ” ...มันเป็ นฆาตกรตั้งแต่ เริ่ มแรก” (ยอห์น 8:39–41, 44) ผูร้ ู้ความจริ งย่อมไม่เดือดเนื้ อร้อนใจ เมื่อเกิด
กระแสวิจารณ์กป็ ล่อยให้ความจริ งพิสูจน์เอง วิธีการเผยแพร่ ความจริ งของคริ สเตียนแสดงให้เห็นว่าข่าวประเสริ ฐเป็ นแบบใด
นัน่ คือไม่มีการข่มขู่ ไม่ใช้ดาบ หรื อการข่มขู่ “พระเจ้ าจึ งพอพระทัยจะช่ วยพวกที่เชื่ อให้ รอดโดยคำเทศนาโง่ ๆ” (1 โคริ นธ์ 1:21)
คริ สเตียนกลุ่มแรกกล่ าวว่ า “เราจะพิชิตโลกด้ วยความรั ก” และพวกเขาก็ท ำเช่นนั้น

เรามักถูกบอกให้เปิ ดใจให้กว้างเกี่ยวกับศาสนาและอย่าดันทุรัง นัน่ คือมุมมองของเสรี นิยม ถ้าเราเปิ ดใจให้กว้างเกี่ยว


กับเรื่ องนี้ เราก็ปัดทิ้งคำสัญญาอันยอดเยีย่ มทั้งหมดของพระคริ สต์ และไม่ได้เพลิดเพลินกับสิ่ งที่พระองค์สญ ั ญา คริ สเตียนไม่เปิ ด
ใจให้กว้าง นัน่ คือพวกเขาโอบกอดพระพรในแง่บวกของพระคริ สต์! จิตใจของพวกเขาสงบ ไม่ได้เปิ ดให้กว้าง จะมีสกั กี่คนที่จะ
ขึ้นเครื่ องบิน ถ้านักบินเปิ ดใจให้กว้างเกี่ยวกับการบิน จุดหมายปลายทาง และวิธีการไปที่นนั่ ? ผูโ้ ดยสารอยากได้นกั บินที่ดนั ทุรัง
มาก! เขาต้องแน่ใจเป็ นอย่างมากว่าพวกเขาจะไม่จบลงด้วยการตาย! การเปิ ดใจให้กว้างเกี่ยวกับการเดินทางตลอดชีวิตก็อนั ตราย
ไม่แพ้กนั พระคัมภีร์ไม่สนับสนุนให้ใครดันทุรัง แต่ภาษาของพระคัมภีร์มีความหวังที่แน่นอนเสมอ “เรารู้” เป็ นคำที่ใช้ทวั่ ไปใน
พระคัมภีร์ใหม่ ทัศนคติที่เรี ยบง่ายของคริ สเตียนคือการมัน่ ใจในวันพรุ่ งนี้และในพระเจ้า นัน่ คือสิ่ งที่พระองค์ได้เคยทำ พระองค์
จะทำ สิ่ งที่พระองค์ทรงเป็ น พระองค์จะทรงเป็ น “ข้ าพเจ้ ารู้ จักพระองค์ ที่ข้าพเจ้ าเชื่ อ และข้ าพเจ้ าเชื่ อมัน่ ว่ า พระองค์ ทรงสามารถ
รั กษาสิ่ งที่พระองค์ ทรงมอบไว้ กับข้ าพเจ้ า จนถึงวันพิพากษาได้ ” (2 ทิโมธี 1:12) ความแน่ใจแบบนั้นไม่ได้มากเกินไปกว่าที่เรา
จะคาดหวังจากพระเจ้าองค์ใดที่ควรค่าแก่การเรี ยกว่าพระเจ้า คุณสามารถมีความมัน่ ใจได้ในวันนี้
8
พฤศจิกายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“แต่พวกท่านเป็ นพงศ์พนั ธุ์ที่ทรงเลือกสรร เป็ นพวกปุโรหิ ตหลวง เป็ นชนชาติบริ สุทธิ์  เป็ นประชากรอันเป็ นกรรมสิ ทธิ์ ของพระ
เจ้าเพื่อให้พวกท่านประกาศพระเกียรติคุณของพระองค์ ผูไ้ ด้ทรงเรี ยกพวกท่านให้ออกมาจากความมืด เข้าไปสู่ความสว่างอัน
มหัศจรรย์ของพระองค์” (1 เปโตร 2:9)
ไฟประจำวัน!
พระเจ้าได้สร้างฉันและเจิมฉัน!
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
ผูว้ ินิจฉัย 14:6; 1 โคริ นธ์ 12:23–24; 2 โคริ นธ์ 1:21; 1 เปโตร 2:9
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
2 พงศ์กษัตริ ย ์ 21;
ฮีบรู 3
เย็น:
โฮเชยา 14; สดุดี 139
การเจิมและการแต่ งตั้ง
ประสบการณ์บางอย่างซึ่งเราอาจเรี ยกว่า "การเจิม" (เพราะขาดคำที่ดีกว่า) อาจมาจากการรับรองของพระเจ้าต่อการทรง
เรี ยกบางอย่าง เช่นเดียวกับการทรงเรี ยกของบรรพบุรุษของอิสราเอล เช่น ดาวิดและเอลีชา สำหรับบางคน สิ่ งเหล่านี้มาเมื่อกำลัง
ฟังคนของพระเจ้า เมื่อพวกเขารู้วา่ พระเจ้ากำลังผลักดันพวกเขาไปข้างหน้า เป็ นสิ่ งที่เปาโลเรี ยกว่าเป็ นอวัยวะที่ “มีเกียรติ” ยิง่ ขึ้น
ในพระกายของพระคริ สต์ (1 โคริ นธ์ 12:23–24) จอร์จ แคนตี เพื่อนร่ วมงานของผมไม่ชอบวิธีการที่ผเู้ ผยแพร่ ข่าวประเสริ ฐที่
รักษาโรคบางคนใช้และวิพากษ์วิจารณ์กิจกรรมดังกล่าว พระเจ้าได้ก ำลังกดดันเขามาระยะหนึ่งแล้ว และตรัสถามเขาว่า “การ
อัศจรรย์ที่ยิง่ ใหญ่ท้ งั หมดของคุณอยูท่ ี่ไหน?” วันหนึ่งเขานัง่ ฟังผูเ้ ผยแพร่ ข่าวประเสริ ฐที่รักษาโรคพูด ทันทีที่ชายคนนั้นอ้าง
ข้อความของเขา จอร์จรู้สึกถึงการยกระดับฝ่ ายวิญญาณขึ้นไปสู่ระดับใหม่ในทันที เขารู้วา่ เขาจะทำในสิ่ งที่นกั เทศน์คนนั้นได้ท ำ
และรักษาคนป่ วย ความประทับใจนั้นชัดเจนจนเขาต้องมองไปรอบ ๆ เพื่อยืนยันกับตัวเองว่าเป็ นอาคารจริ ง เพราะว่ามันดู
เหมือนเป็ นช่วงเวลาแห่งจินตนาการและเหนือธรรมชาติ เขารู้วา่ เขาแตกต่างไปตั้งแต่ตอนนั้นเป็ นต้นไป
การเจิมและการแต่งตั้งไปด้วยกัน ผูท้ ี่ได้รับการเจิมคือผูท้ ี่ได้รับการเลือกให้ท ำงานเฉพาะบางอย่าง โดยเฉพาะงานของ
ปุโรหิ ตหรื อกษัตริ ย ์ มันไม่ใช่ประสบการณ์เพื่อความเพลิดเพลินทางอารมณ์เพียงอย่างเดียว การเจิมไม่ได้บ่งบอกว่าได้รับความ
บริ สุทธิ์ ในระดับพิเศษ การเจิมมีไว้เพื่อจัดเตรี ยมและปรับสภาพคนธรรมดาให้รับใช้องค์พระผูเ้ ป็ นเจ้าเท่านั้น ไม่มีการเจิมที่แยก
ขาดจากการรับใช้ วันนี้ การเจิมมีไว้สำหรับผูเ้ ชื่อทุกคน เพราะว่าทุกคนต้องรับใช้ เราเป็ น “ปุโรหิ ตหลวง” (1 เปโตร 2:9) จง
สังเกตให้ดีวา่ การเจิมไม่ใช่ความพึงพอใจทางอารมณ์ แต่จะเกิดขึ้นเมื่อเรารับใช้ ดาวิดไม่รู้สึกว่าถูกเจิมในแง่ใดเป็ นพิเศษ แต่เมื่อ
เขาเผชิญหน้ากับโกลิอทั การเจิมของเขาก็ชดั เจน แซมสันแข็งแกร่ งก็ต่อเมื่อเขาลงมือปฏิบตั ิเพื่อพระเจ้าเท่านั้น นัน่ คือเมื่อพระ
วิญญาณของพระเจ้ามาสถิตเหนือเขา คนแข็งแรงไม่รู้สึกถึงกำลังของเขาเมื่อเขากำลังนัง่ ลง แต่เมื่อเขาออกแรงเท่านั้น จงมองหา
ทุกโอกาสที่จะ “รับใช้” องค์พระผูเ้ ป็ นเจ้าในวันนี้ และเฝ้ าดูการเจิมจากพระเจ้าที่เติบใหญ่ในตัวคุณ!

9
พฤศจิกายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“เพราะเมื่อก่อนท่านทั้งหลายเป็ นความมืด แต่บดั นี้ท่านเป็ นความสว่างในองค์พระผูเ้ ป็ นเจ้า จงดำเนินชีวิตอย่างคนของความ
สว่าง” (เอเฟซัส 5:8)
ไฟประจำวัน!
ฉันได้เลิกบรรดากิจการแห่งความมืด และสวมเครื่ องอาวุธแห่งความสว่าง
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
โรม 13:12; 1 โคริ นธ์ 2:12; กาลาเทีย 4:8–11; เอเฟซัส 5:6–11; 6:11–14; 2 ทิโมธี 3:3, 5, 7
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
2 พงศ์กษัตริ ย ์ 22;
ฮีบรู 4
เย็น:
โยเอล 1; สดุดี 140 และ 141
ของประทานเพือ่ การทำสงคราม
ของประทานของพระวิญญาณถูกประทานให้แก่เราเปล่าๆ “เราไม่ ได้ รับวิญญาณของโลก แต่ ได้ รับพระวิญญาณซึ่ งมา
จากพระเจ้ า เพื่อจะได้ ร้ ู ถึงสิ่ งต่ างๆ ที่ พระเจ้ าประทานแก่ เรา” (1 โคริ นธ์ 2:12) มีของเลียนแบบราคาถูกในท้องตลาด นัน่ คือ
นวัตกรรมทางศาสนา, การสัน่ , พลังฝ่ ายวิญญาณ, การบำบัดด้วยแสงตะวัน, ความหอมหวาน และแสงจากแหล่งใดก็ไม่รู้ “แต่ จง
เข้าใจข้ อนีค้ ือ วาระสุดท้ ายนั้นจะเป็ นเวลาที่น่ากลัว...ยึดถือทางพระเจ้ าแต่ เพียงเปลือกนอก แต่ ปฏิเสธฤทธิ์ เดชของทางนั้น จง
อย่ าเกี่ยวข้ องกับคนพวกนั้น!...ร่ำเรี ยนอยู่เสมอ แต่ ไม่ สามารถเข้าใจหลักความจริ งได้ เลย” (2 ทิโมธี 3:1, 5, 7)
ในหลายประเทศ งานของเรารบกวนผูท้ ี่อา้ งว่ามีฤทธิ์ อ ำนาจ การปกป้ องคุม้ ครอง และการรักษาโรค ผมระลึกถึงแม่มด
ที่ทรงพลังเป็ นพิเศษซึ่งถูกนำตัวมาจากอเมริ กาเพื่อสาปแช่งและทำลายสิ่ งที่ผมกำลังเทศนา เธอยืนอยูด่ า้ นหลังของฝูงชนและทำ
พิธีของเธอ ผมสวมยุทธภัณฑ์ท้ งั ชุดของพระเจ้าขณะที่เธอพยายามโจมตีฝ่ายวิญญาณต่อผม เพราะเหตุน้ ีจงรับยุทธภัณฑ์ท้ งั ชุด
ของพระเจ้าไว้ เพื่อท่านจะสามารถต่อสู้ในวันชัว่ ร้ายนั้น และเมื่อทำทุกอย่างแล้วจะยังยืนหยัดอยูไ่ ด้ (เอเฟซัส 6:13) ความ
พยายามของเธอต่อยุทธภัณฑ์น้ นั ไร้ผล!

พระวิญญาณบริ สุทธิ์ รออยูท่ ี่ไม้กางเขน และบรรดาผูท้ ี่คุกเข่าที่แท่นบูชานั้น และที่นนั่ เพียงที่เดียว ได้รับพระพรอันไร้


ขอบเขตของพระองค์ ที่กลโกธา มีผลประโยชน์มากมายเหนือกว่าผลลัพธ์ของมนต์ กระบวนการนิวเอจ และไสยศาสตร์ สิ่ งเหล่า
นี้คือ “องค์ ประกอบที่อ่อนแอและอเนจอนาถ” (กาลาเทีย 4:9) ที่เปาโลบรรยาย
อย่ าให้ ใครล่ อลวงท่ านทั้งหลายด้ วยคำพูดที่เหลวไหล เพราะสิ่ งที่กล่ าวมาทั้งหมดนีพ้ ระพิโรธของพระเจ้ าจึ งมาถึงพวก
ที่ไม่ เชื่ อฟั ง เพราะฉะนั้นอย่ ามีส่วนร่ วมกับเขาทั้งหลาย เพราะเมื่อก่ อนท่ านทั้งหลายเป็ นความมืด แต่ บัดนีท้ ่ านเป็ น
ความสว่ างในองค์ พระผู้เป็ นเจ้ า จงดำเนินชี วิตอย่ างคนของความสว่ าง (เพราะว่ าผลของความสว่ างคือทุกอย่ างที่เป็ น
ความดี ความชอบธรรม และความจริ ง) จงค้ นดูว่าอะไรเป็ นสิ่ งที่พอพระทัยองค์ พระผู้เป็ นเจ้ า และอย่ ามีส่วนในกิจการ
ของความมืดที่ไร้ ผล แต่ จงเปิ ดเผยกิจการนั้นให้ ปรากฏดีกว่ า (เอเฟซัส 5:6–11) จงดำเนินชี วิตในฐานะลูกของพระเจ้ า
ในความสว่ างของพระองค์

10
พฤศจิกายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“พี่นอ้ งทั้งหลาย ข้าพเจ้าไม่ถือว่าข้าพเจ้าฉวยไว้ได้แล้ว แต่ขา้ พเจ้าทำอย่างหนึ่ง คือลืมสิ่ งที่ผา่ นพ้นมา แล้วโน้มตัวไปยังสิ่ งที่อยู่
เบื้องหน้าและข้าพเจ้าบากบัน่ มุ่งไปสู่หลักชัย เพื่อจะได้รับรางวัลคือการทรงเรี ยกแห่งเบื้องบนซึ่งมีในพระเยซูคริ สต์” (ฟี ลิปปี
3:13–14)
ไฟประจำวัน!
“ข้าพเจ้าจะไม่ตาย แต่ขา้ พเจ้าจะเป็ นอยู่ และประกาศพระราชกิจของพระยาห์เวห์” (สดุดี 118:17)
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
สดุดี 118:17; ยากอบ 1:22; 1 ยอห์น 2:18
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
2 พงศ์กษัตริ ย ์ 23;
ฮีบรู 5
เย็น:
โยเอล 2; สดุดี 142
เด็กและคนชราในชั่วโมงสุ ดท้ าย
ผมรู้สึกขอบพระคุณชัว่ นิรันดร์ที่ขณะที่ผมยังเป็ นเด็ก พระเยซูคริ สต์ได้เข้ามาอยูใ่ นหัวใจของผมและทรงเรี ยกผมให้รับ
ใช้พระองค์ ผมรู้วา่ พระองค์ได้เรี ยกผมให้เป็ นผูร้ ับใช้ของพระองค์ และผมไม่เคยเสี ยใจเลยแม้แต่ช่วงเดียว วันเดียวในชีวิตของ
ผมที่ได้รับใช้พระองค์ การตอบสนองต่อของประทานแห่ งความรอดจากพระองค์ และการตอบสนองต่อการทรงเรี ยกให้รับใช้
สิ่ งเหล่านี้เป็ นเหตุการณ์สำคัญในชีวิตของผูเ้ ชื่อทุกคน ไม่วา่ เด็กหรื อคนชรา การตระหนักว่าเรากำลังดำเนินชีวิตอยูใ่ น “ชั่วโมง
สุดท้ าย” (1 ยอห์น 2:18) ยังบีบคั้นหัวใจของเรา กระตุน้ ให้เรา “เป็ นผู้ประพฤติตามพระวจนะ ไม่ ใช่ เป็ นเพียงผู้ฟังเท่ านั้น มิฉะ
นั้นจะเป็ นการหลอกตัวเอง” (ยากอบ 1:22 )
อย่างไรก็ตามเด็กมีสถานะที่แตกต่างกันเล็กน้อยในชัว่ โมงสุ ดท้ายเดียวกัน เมื่อคนชราได้รับความรอด วิญญาณจิตก็ได้
รับความรอด เมื่อเด็กได้รับความรอด ทั้งวิญญาณจิตและชัว่ ชีวิตได้รับความรอด เด็กมี 1 ชัว่ โมงที่อาจเป็ นทั้งชีวิต และช่างเป็ น
ชัว่ โมงที่เปี่ ยมไปด้วยพระสิ ริอะไรเช่นนี้ ! 1 ชัว่ โมงที่เต็มไปด้วยความรัก ความชื่นชมยินดี สันติสุข จุดประสงค์ และความ
ปลอดภัย แม้วา่ ชัว่ โมงสุ ดท้ายจะกินเวลาไปตลอดชีวิตก็ตาม วิธีเดียวที่จะดำเนินชีวิตอยูใ่ นวันพรุ่ งนี้คือดำเนินชีวิตในความเชื่อ
และทำกิจกรรมเพื่อพระเยซูในวันนี้
ครั้งหนึ่งผมอธิษฐานเผือ่ ชายชราที่ก ำลังจะตาย ทันใดนั้น ความคิดแปลกๆ ท้าทายผมว่า “ผมจะอธิษฐานอย่างไร ถ้าผม
อยูใ่ นที่ของเขา?” นักการเมืองชื่อดังคนหนึ่งมีความปรารถนาครั้งสุ ดท้ายคือ “พายหมูอร่ อย 1 ชิ้น!” ใช้เวลาไม่นานก่อนที่ผมจะรู้
คำตอบด้วยตนเองว่า ผมจะขอให้องค์พระผูเ้ ป็ นเจ้าประทานกำลังให้แก่ผมและช่วยผมจัดงานประกาศใหญ่อีก 1 ครั้ง! ผมอยาก
จะยิงเข้าเป้ าอีกครั้งและนำวิญญาณจิต 1 แสนดวงไปที่เชิงกางเขนของพระคริ สต์อีกครั้ง ไม่มีอะไรยิง่ ใหญ่ไปกว่านั้น นัน่ คือไม่มี
วิธีตายใดที่เปี่ ยมไปด้วยพระสิ ริมากกว่าการต่อสู้ในสมรภูมิแห่งชัยชนะ ผมขอแนะนำให้คุณทำให้สิ่งนั้นเป็ นเป้ าหมายของคุณ!
11
พฤศจิกายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“ขโมยนั้นย่อมมาเพื่อจะลัก ฆ่า และทำลาย เรามาเพื่อพวกเขาจะได้ชีวิตและจะได้อย่างครบบริ บูรณ์” (ยอห์น 10:10)
ไฟประจำวัน!
เมื่อเราเดินในการเจิมของพระเจ้า เราก็ได้รับชัยชนะ
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
เลวีนิติ 10:1–2; อิสยาห์ 10:27; ยอห์น 10:10; 1 ยอห์น 3:8; วิวรณ์ 12:11
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
2 พงศ์กษัตริ ย ์ 24;
ฮีบรู 6
เย็น:
โยเอล 3; สดุดี 143
พายุหมุน
ในงานประกาศใหญ่ Great African Gospel ของเรา มีชยั ชนะที่ยิง่ ใหญ่เหนือฤทธิ์ อ ำนาจของซาตานและเวทมนตร์คาถา
กองวัสดุเวทย์มนตร์กองมหึ มาถูกนำมาเผา เจ้าของของสิ่ งเหล่านี้ได้รับการปลดปล่อยจากความกลัวและการกดขี่ของซาตานเมื่อ
พวกเขารับพระเยซูเป็ นองค์พระผูเ้ ป็ นเจ้าและผูช้ ่วยให้รอดของพวกเขา ผมมักจะชี้ ไปที่เปลวไฟและพูดว่า "นัน่ เหมือนกับบ้าน
สุ ดท้ายของมาร นัน่ คือในบึงไฟ!" ซาตานไม่ได้ควบคุมไฟนรก เปลวไฟเหล่านั้นเป็ นการพิพากษาต่อมัน เมื่อ “กิจการของมาร”
เหล่านั้น (1 ยอห์น 3:8) เหลือแต่เถ้าถ่าน เราจะเห็นไฟที่แท้จริ งขององค์พระผูเ้ ป็ นเจ้าตกลงบนฝูงชนจำนวนมาก
การต่อต้านการเจิมเป็ นไฟต้องห้ามแห่งการทำลายล้างและความตาย แต่เปลวไฟจากการทรงสถิตขององค์พระผูเ้ ป็ นเจ้า
จะเผาผลาญมัน เช่นเดียวกับที่เผาผลาญไฟต้องห้ามของนาดับและอาบีฮู หลังจากนั้น การเจิมที่หอมหวานแห่งสันติสุขจะหลัง่
ไหลไปทัว่ คริ สตจักร ตลอดทางลงมาถึงเท้าและชายเสื้ อคลุม ขอให้เราลืมการต่อสู้เก่า ๆ ในหมู่ประชากรของพระเจ้าเกี่ยวกับ
ปัญหาที่ไม่นำไปสู่ความรอดของชายและหญิง ศัตรู ของเราไม่ใช่คณะนิกายอื่นหรื อแม้แต่ลทั ธิ นิกาย ศัตรู ของเราคือมาร และคำ
โกหกมากมายที่มนั หลอกลวงโลก นัน่ คือคำโกหกที่วา่ พระเจ้าตายแล้ว การโกหกที่วา่ พระเจ้าไม่แยแส คำโกหกที่วา่ เราสามารถ
ทำได้โดยไม่มีพระเยซู “พวกเขาชนะมารด้ วยพระโลหิ ตของพระเมษโปดก” (วิวรณ์ 12:11) จงระลึกว่า "มาร" เป็ นเอกพจน์! เรา
มีศตั รู ตวั เดียวคือมาร มีฤทธิ์ อ ำนาจหนึ่งที่จะต่อต้านมัน นัน่ คือพระวิญญาณบริ สุทธิ์ เมื่อเราเดินในการเจิมของพระเจ้า นัน่ คือ
พร้อมสำหรับการรับใช้ เต็มไปด้วยไฟบริ สุทธิ์ จากนั้นเราก็เป็ นพายุหมุนแห่งการทำลายล้างเหนือดินแดนที่ถูกขโมยไปของศัตรู
เราเป็ นอาวุธแห่งจุดประสงค์และความกระตือรื อร้นที่ไม่มีใครหยุดยั้ง ยึดคืนสิ่ งที่ศตั รู ขโมยไป นัน่ คือชีวิตของชายและหญิงทัว่
โลก! ปล่อยให้สิ่งนี้เป็ นจุดประสงค์ของคุณในวันนี้
พฤศจิกายน
12
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“จงถวายพระเกียรติแด่พระองค์ผทู้ รงสามารถให้ท่านทั้งหลายตั้งมัน่ คงตามข่าวประเสริ ฐซึ่งข้าพเจ้าได้ประกาศนั้น คือเรื่ องเกี่ยว
กับพระเยซูคริ สต์ ตามการเปิ ดเผยข้อล้ำลึก ซึ่งได้ปิดบังไว้ต้ งั แต่โบราณกาลแต่เดี๋ยวนี้ ได้เปิ ดเผยให้ปรากฏแล้ว ...ขอพระเกียรติ
จงมีแด่พระเจ้าผูท้ รงสัพพัญญูแต่องค์เดียวสื บๆ ไปเป็ นนิตย์ อาเมน” (โรม 16:25–27)
ไฟประจำวัน!
การเข้ามาของพระวจนะของพระองค์ให้ความสว่าง ทั้งให้ความเข้าใจแก่คนรู้นอ้ ย
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
ปฐมกาล 1:3; 2:12; สดุดี 119:11, 97–98, 105; 130; อิสยาห์ 50:11; มัทธิว 13:14; โรม 10:17
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
2 พงศ์กษัตริ ย ์ 25;
ฮีบรู 7
เย็น:
อาโมส 1; สดุดี 144
พระคำทำให้ เกิดความเชื่อ
พระผูส้ ร้างผูท้ รงห่วงใยมากพอที่จะปล่อยให้เผ่าพันธุ์มนุษย์น้ ี ด ำเนินต่อไป เห็นได้ชดั ว่าไม่ตอ้ งการปล่อยให้เราอยูใ่ น
ความมืดเกี่ยวกับพระองค์เอง พระองค์ทรงเปิ ดเผยพระองค์เอง นัน่ คือวิธีเดียวที่เราจะรู้จกั พระองค์ การให้เหตุผลที่ยากของเรา
เป็ นเหมือนหิ นเหล็กไฟที่ท ำให้เกิดแค่ประกายไฟ ไม่ใช่แสง “นี่แน่ ะ พวกเจ้ าทุกคนที่ก่อไฟ ผู้เอาดุ้นไฟคาดตัวเจ้ าไว้ จงเดินด้ วย
แสงไฟของพวกเจ้ า [แต่] เจ้ าจะต้ องนอนลงในที่ทุกข์ ทรมาน” (อิสยาห์ 50:11) ประกาย แสงกระพริ บทางความคิดไม่ส่องทาง
ชีวิตมากนัก นักปรัชญาหลงทางเหมือนคนอื่นๆ แต่พวกเขาก็พยายามนำทางเรา คนตาบอดนำทางคนตาบอด พระเจ้าตรัสว่า “จง
เกิดความสว่าง!” พระองค์ทรงนำความสว่างมาสู่ อบั ราฮัม โมเสส ดาวิด ผูเ้ ผยพระวจนะ และในที่สุดผ่านทางพระเยซูคริ สต์
“โอ ข้ าพระองค์ รักธรรมบัญญัติของพระองค์ จริ งๆ เป็ นคำภาวนาของข้าพระองค์ เสมอพระบัญญัติของพระองค์ ทำให้
ข้ าพระองค์ ฉลาดกว่ าศัตรู ของข้ าพระองค์ เพราะพระบัญญัตินั้นอยู่กับข้าพระองค์ เป็ นนิตย์ ...พระวจนะของพระองค์ เป็ นตะเกียง
แก่ เท้ าของข้าพระองค์ และเป็ นความสว่ างแก่ ทางของข้าพระองค์ ” (สดุดี 119:97–98, 105) มีคนจำนวนมากเกินไปที่เพิกเฉยต่อ
พระคัมภีร์โดยไม่ตระหนักว่าพวกเขาสร้างความเสี ยหายอะไรบ้างจากการกระทำดังกล่าว พระคัมภีร์เป็ นไดนาไมต์ พระคัมภีร์
เป็ นดินแดนที่ยงั ไม่มีใครค้นพบสำหรับหลาย ๆ คน แม้วา่ “ทองคำที่บริ เวณนั้นเป็ นทองคำเนือ้ ดี” (ปฐมกาล 2:12) ในการปลด
ตะขอของพระคัมภีร์และเด็ดใบไม้แห่งรักษาเหล่านี้ตอ้ งใช้นิ้วแห่งความเชื่อ แต่ “ความเชื่ อเกิดขึน้ ได้ จาก…พระคำของพระเจ้ า”
(โรม 10:17) พระเจ้าประทานความเชื่อแก่เราในการอ่านพระคัมภีร์ เพื่อให้เราสามารถรวบรวมความเชื่อได้ ถ้าเราต้องการ
การได้รับความเชื่อคือการอ่านพระคำ เพียงแค่อ่าน เป็ นการพิสูจน์ในตัวเอง เคมีของมันระเบิดและทำให้เรามีความ
มัน่ ใจเกี่ยวกับตัวมันเอง “ความเชื่ อเกิดขึน้ ได้ กเ็ พราะการได้ ยิน และการได้ ยินเกิดขึน้ ได้ กเ็ พราะพระคำของพระเจ้ า” (โรม 10:17)
และ “เจ้ าจะได้ ยินเมื่อได้ ยิน” (มัทธิว 13:14) อับราฮัมเชื่อพระเจ้าเมื่อพระเจ้าตรัส พระผูส้ ร้างทำให้เรามีฤทธิ์ อ ำนาจที่จะจดจำ
เสี ยงของพระองค์ได้ เช่นเดียวกับที่อบั ราฮัมจำเสี ยงนั้นได้ นัน่ คือสิ่ งที่เราจะทำในตอนนี้ นัน่ คือให้พระคัมภีร์พดู เองเพื่อนำความ
เชื่อมาให้แก่คุณ!

13
พฤศจิกายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“แต่ถา้ ไม่มีความเชื่อแล้ว จะไม่เป็ นที่พอพระทัยเลย” (ฮีบรู 11:6)
ไฟประจำวัน!
พระเจ้าสามารถทำสิ่ งใดก็ได้ แต่พระองค์ไม่ท ำอะไรเลย ถ้าปราศจากผูท้ ี่เชื่อ
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
ฮีบรู 11:6
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
1 พงศาวดาร 1 และ 2; ฮีบรู 8
เย็น:
อาโมส 2; สดุดี 145
ความเชื่อและคำสั ญญา
ความเชื่อคืออะไร? มันไม่ใช่กลีบสมองส่ วนเกินหรื อชิ้นส่ วนที่ติดอยูใ่ นวิญญาณจิตของเรา เราเลือกที่จะเชื่อ ความเชื่อ
คือทัศนคติ ความเชื่อเป็ นพื้นฐานเดียวที่เป็ นไปได้สำหรับความสัมพันธ์ที่ใช้การได้ สำหรับผมแล้ว ดูเหมือนว่าความเชื่อใน
พระเจ้าไม่เพียงดีเท่านั้น แต่ยงั เป็ นสิ่ งที่สมควรทำอีกด้วย เป็ นเรื่ องไร้สาระที่จะคาดหวังการติดต่อกับพระเจ้าบนข้อกำหนดอื่น
พระเจ้าที่มองไม่เห็นจะเกี่ยวข้องกับเราได้อย่างไร ทั้งในปัจจุบนั และอนาคตที่ไม่รู้จกั ? ถ้าเราไปไม่ได้ไกลขนาดนั้น เราจะมีค่า
อะไร? ถ้าเราไม่สามารถไว้วางใจผูท้ รงมีฤทธิ์ อ ำนาจทั้งหมดของสิ่ งที่มีชีวิตทุกอย่างได้ เราคิดว่าเราเป็ นใคร? นี่คือสิ่ งเล็กน้อย
ที่สุดที่พระเจ้าทรงคาด “แต่ ถ้าไม่ มีความเชื่ อแล้ว จะไม่ เป็ นที่พอพระทัยเลย” (ฮีบรู 11:6) ถ้าผูใ้ ดพูดว่า “ฉันไม่ใช่ผเู้ ชื่อที่ยงิ่ ใหญ่”
นัน่ ก็แย่เกินไป เพราะว่าพระเจ้าไม่พอพระทัยพวกเขา! พวกเขา หรื อผูใ้ ดก็ตามจะยินดีหรื อไม่ ถ้าบางคนไม่ไว้วางใจพวกเขา?

ความเชื่อไม่ใช่ความแน่นอน มันเป็ นเรื่ องส่วนตัว บางคนอาจพิสูจน์ตวั เองได้จนถึงตอนนี้ แต่อนาคตเป็ นเพียงคำ


รับรองส่ วนตัวเท่านั้น เราไว้วางใจพวกเขา เพราะว่าเรารู้ จักพวกเขา ถ้าเราคิดว่าพวกเขาจะเปลี่ยน เราจะไม่ไว้ใจพวกเขา เราอ่าน
ในพระคัมภีร์วา่ พระเจ้าคือผูใ้ ด เราอาจได้พิสูจน์พระองค์ดว้ ยตัวเราเองจนถึงขณะนี้ แต่สำหรับอนาคต เราไม่สามารถทำอย่างอื่น
ได้นอกจากไว้วางใจ ไม่จ ำเป็ นต้องมีความเชื่อในการเชื่อว่า 2 + 2 = 4 แต่ชีวิตมีความซับซ้อนมากกว่านั้น สถานการณ์เปลี่ยนไป
เหมือนมหาสมุทร ความกว้างใหญ่ของสิ่ งต่าง ๆ ส่ งผลต่ออนาคต เห็นได้ชดั ว่าสิ่ งที่พระเจ้าอาจทำได้รับผลกระทบ พระองค์ไม่
ตัดข้ามเหตุการณ์ต่างๆราวกับว่าไม่ได้เกิดขึ้น พระองค์อาจไม่ใช้เวทมนตร์ ไม่เปลี่ยนฟักทองให้กลายเป็ นรถม้าทอง แต่พระองค์
ทรงรอบรู้และทรงฤทธิ์ อำนาจทุกอย่าง ถึงขนาดที่เราต้องปล่อยให้พระองค์จดั การ เพราะว่าเราอาจไม่เข้าใจสิ่ งที่พระองค์ก ำลังทำ
มากไปกว่าที่เราจะเข้าใจความโกลาหลของอู่ต่อเรื อที่สร้างเรื อเดินสมุทรหรู หราขนาด 5 หมื่นตัน เรามองไปที่พระองค์ และนัน่
เป็ นสิ่ งที่พระเจ้าคำนึงถึง พระองค์ทรงสร้างโลกให้เป็ นอย่างนั้น การอธิษฐานและความเชื่อจะทำให้พระองค์ท ำในสิ่ งที่พระองค์
ไม่สามารถทำได้ ไม่ตอ้ งสงสัยเลยว่าเป็ นความจริ งที่พระเจ้าสามารถทำทุกอย่างได้ แต่พระองค์จะไม่ท ำอะไรเลย ถ้าปราศจากผูท้ ี่
เชื่อ นัน่ คือการจัดเตรี ยมตามแผนการของพระองค์ คำสัญญาที่ทรงมีต่อคุณ

14
พฤศจิกายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“ขอทรงสอนข้าพระองค์ท้ งั หลายให้นบั วันของตน เพื่อพวกข้าพระองค์จะมีจิตใจที่มีปัญญา” (สดุดี 90:12)
ไฟประจำวัน!
ลูกทั้งหลายเอ๋ ย บัดนี้เป็ นวาระสุ ดท้ายแล้ว!
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
สดุดี 90:12; มัทธิว 24:36; ยอห์น 20:21; โรม 13:11; 1 ยอห์น 2:18
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
1 พงศาวดาร 3 และ 4; ฮีบรู 9
เย็น:
อาโมส 3; สดุดี 146 และ 147
ชั่วโมงสุ ดท้ ายของคุณ
สมมติวา่ นี่เป็ นชัว่ โมงสุ ดท้ายของคุณ คุณจะทำอะไร? ช่างเป็ นการเตรี ยมการที่กระวนกระวายและวุน่ วายเสี ยนี่กระไร!
แต่ให้ผมบอกคุณว่า “ลูกทั้งหลายเอ๋ ย บัดนี เ้ ป็ นวาระสุดท้ ายแล้ว” (1 ยอห์น 2:18) ผมรู้วา่ ดูเหมือนว่า "ชัว่ โมงสุ ดท้าย" นี้กินเวลา
ยาวนานมาก ดังที่ยอห์นเขียนคำเหล่านั้นเมื่อ 2 พันปี ก่อน แต่อย่าให้สิ่งนั้นทำให้คุณสับสน สิ่ งหนึ่งที่เรามัน่ ใจได้กค็ ือ ถ้านัน่ เป็ น
ชัว่ โมงสุ ดท้ายแล้ว แน่นอนว่าตอนนี้กเ็ ป็ น! ถ้ายอห์นกำลังเขียนในวันนี้ เขาอาจจะเขียนว่า “ลูกทั้งหลายเอ๋ ย บัดนี้ เป็ นวินาทีสุด
ท้ายของชัว่ โมงสุ ดท้ายแล้ว” เมื่อยอห์นเขียนข้อนี้ เขากำลังเฝ้ าดูนาฬิกาของพระเจ้า ไม่ใช่นาฬิกาของเรา เข็มของมันยังไม่หยุดนิ่ง
ชัว่ โมงของพระเจ้าจะคงอยูไ่ ด้นานเท่าใด โดยวัดโดยวิธีการรักษาเวลาของแผ่นดินโลก? สิ่ งหนึ่งที่เรารู้คือเราไม่รู้วา่ เราใกล้จะถึง
กาลอวสานเพียงใด พระเยซูตรัสว่า “แต่ ไม่ มีใครรู้ เรื่ องวันหรื อเวลา” (มัทธิว 24:36) อย่างไรก็ตาม เห็นได้ชดั ว่าเราเข้าใกล้จุดจบ
มากขึ้นทุกวัน เปาโลก็เห็นเช่นนั้นด้วย “นอกจากนั้นท่ านควรจะรู้ ว่านี่เป็ นเวลาที่ควรตื่นจากหลับแล้ว เพราะว่ าความรอดได้ เข้า
มาใกล้ กว่ าสมัยที่เราเริ่ มเชื่ อนั้น” (โรม 13:11)

ถ้าผูใ้ ดคิดว่าตัวเองเหลือเวลาอีกเพียง 60 นาที พวกเขาจะไม่ใช้เวลาไปกับสิ่ งเล็กน้อยอย่างแน่นอน เมื่อเวลาไมโคร


วินาทีหมดลงเหมือนทรายละเอียดในนาฬิกาทราย พวกเขาจะดูสิ่ งที่สำคัญจริ งๆ สำหรับพวกเขา พวกเขาจะไม่ไปซื้อหมวก
แฟชัน่ ล่าสุ ด หรื อดูคอลัมน์การเงินเพื่อดูวา่ หุน้ ของพวกเขาเป็ นอย่างไรบ้าง การมุ่งเน้นไปที่จุดจบจะทำให้ชีวิตทั้งหมดมีมุมมองที่
ถูกต้อง มีคนเคยกล่าวไว้วา่ คนส่วนใหญ่ใช้ชีวิตราวกับว่าชีวิตนี้ มีการจัดการที่ถาวร ข่าวสารในพระคัมภีร์คือวันเวลาของเราไม่ได้
ถูก "นับ" โดยไม่มีตวั เลข มีเวลาสำหรับสิ่ งที่สำคัญเท่านั้น ผมกำลังคิดถึงคริ สตจักรของพระเยซูคริ สต์เป็ นพิเศษ ผูค้ นมักชี้ ให้เห็น
ว่าชีวิตประกอบด้วยรายละเอียดนับพัน แต่รายละเอียดปลีกย่อยต้องไม่มีน้ำหนักมากกว่ารายละเอียดหลัก คริ สตจักรจะต้องคำนึง
ถึงตัวเองด้วยเป้ าหมายเดียว นัน่ คือทำสงครามกับซาตานและการรณรงค์เพื่อวิญญาณจิต คุณภาพที่ยิง่ ใหญ่ของพระเยซูคือ
พระองค์เสด็จมาเมื่อพระบิดาส่ งพระองค์มา และคุณภาพที่ยิง่ ใหญ่ของเราควรคือการที่เราไปเมื่อพระเยซูส่งเราไป “พระบิดา
ทรงใช้ เรามาอย่ างไร เราก็ใช้ พวกท่ านไปอย่ างนั้น” (ยอห์น 20:21) คริ สตจักรควรวางแผนที่จะเพิกเฉยต่อสิ่ งใดก็ตามที่รบกวน
การออกไป จงคำนึงถึงจำนวนวันของคุณ
15
พฤศจิกายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
"ขอให้เราละทิ้งทุกอย่างที่ถ่วงอยู่ และบาปที่เกาะแน่น ขอให้เรายังคงวิง่ แข่งด้วยความทรหดอดทนในการแข่งขันที่อยูข่ า้ งหน้า
เรา” (ฮีบรู 12:1)
ไฟประจำวัน!
ข่าวประเสริ ฐเป็ นนิรันดร์ แต่เราไม่มีนิรันดร์ที่จะประกาศข่าวประเสริ ฐ
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
ลูกา 15:11–31; ยอห์น 4:3–5; 10:16; 1 โคริ นธ์ 7:29–31; 1 ยอห์น 2:18
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
1 พงศาวดาร 5 และ 6; ฮีบรู 10
เย็น:
อาโมส 4; สดุดี 148 ถึง 150
ตรรกะของชั่วโมงสุ ดท้ าย
เมื่อพระคัมภีร์ป่าวประกาศว่า “บัดนีเ้ ป็ นชั่วโมงสุดท้ ายแล้ว” (1 ยอห์น 2:18) มันเป็ นเช่นนั้นจริ งๆ สำหรับข่าวสาร
แห่งข่าวประเสริ ฐนั้นจะเป็ นชัว่ โมงสุ ดท้ายเสมอ ถ้าคุณต้องการทราบว่าบุคคล เช่น เปาโล ทำไมจึงทำอะไรได้มาก จงอ่านการ
เปิ ดเผยของเขาในโคริ นธ์ เขาดำเนินชีวิตราวกับว่าจุดจบของทุกสิ่ งอยูใ่ กล้แค่เอื้อม พี่นอ้ งทั้งหลาย ข้าพเจ้าหมายความว่าเวลากำ
หนดก็ส้ นั มากแล้ว ตั้งแต่น้ ีไปให้พวกที่มีภรรยาดำเนินชีวิตเหมือนกับไม่มีภรรยาพวกที่เศร้าโศก เหมือนกับไม่ได้เศร้าโศก พวก
ที่ชื่นชมยินดี เหมือนกับไม่ได้ชื่นชมยินดี บรรดาคนที่ซ้ือ ก็เหมือนกับว่าไม่มีอะไรเลยและพวกที่ใช้ของโลกนี้ ก็เหมือนกับว่าไม่
ได้ใช้อย่างเต็มที่ เพราะระบอบของโลกนี้ ก ำลังล่วงไป (1 โคริ นธ์ 7:29–31) ข่าวประเสริ ฐนั้นเป็ นนิรันดร์ แต่เราไม่มีนิรันดร์ที่จะ
ประกาศข่าวประเสริ ฐ คนจะคิดว่าเรามี เมื่อเราดูการดำเนินงานแบบสบาย ๆ ของคริ สตจักร เรามีเพียงตราบเท่าที่เรามีชีวิตอยูเ่ พื่อ
เข้าถึงผูท้ ี่มีชีวิตอยูต่ ราบเท่าที่เรามีชีวิตอยู่ ทุกวันนี้ วิญญาณจิตมากกว่า 5,000 ล้านดวงยังมีชีวิตอยู่ นัน่ คือมีชีวิตอยูใ่ นโลกปัจจุบนั
ของเรา ไม่ใช่ในยุคอนาคตที่ไม่แน่นอนที่จ ำเป็ นต้องได้รับการประกาศข่าวประเสริ ฐ “บัดนี เ้ ป็ นชั่วโมงสุดท้ ายแล้ ว”

เพื่อให้แน่ใจว่าบุตรน้อยหลงหายได้รับการต้อนรับกลับบ้านอย่างเหมาะสม พ่อจึงวิ่ง! ผมก็อยากวิ่งด้วย เพราะว่าพระ


วิญญาณบริ สุทธิ์ ทรงกำชับผมว่า “บัดนี้ เป็ นชัว่ โมงสุ ดท้ายแล้ว” สายการบินทัว่ โลกมองว่าผมเป็ นลูกค้าที่ดี! คำภาษากรี กคำหนึ่ง
ที่เปาโลชื่นชอบคือ "สพูเด" (spoude) ซึ่งหมายถึง “ยืดคอเหมือนคนวิ่งเพื่อเข้าเส้นชัย” มีความหมายว่า “ศึกษา ขยันหมัน่ เพียร เร่ ง
รี บ กระตือรื อร้น มุ่งไปข้างหน้า” คริ สตจักรหลายแห่งมีความกระตือรื อร้นมาก ในการทำอะไร? การนำข่าวประเสริ ฐไปสู่ โลกที่
กำลังจะตายคือความเกี่ยวข้องที่แท้จริ ง! การให้ความคิดทั้งหมดของเรากับชีวิตฝ่ ายวิญญาณส่ วนตัวของเราเมื่อไฟนรกกำลังโหม
กระหน่ำก็เหมือนกับสมาชิกของกองดับเพลิงที่โกนหนวดก่อนที่จะรับสายดับเพลิง คำสัง่ ให้ประกาศข่าวประเสริ ฐคือทั้งหมดที่
สำคัญ ดึงคนออกจากเปลวไฟแห่งนรกชัว่ นิรันดร์ องค์พระผูเ้ ป็ นเจ้ามิได้ประทานพระบัญชานั้นด้วยพระอารมณ์ชวั่ วูบ พระเจ้า
เองถูกผลักดันโดยอันตรายที่มนุษย์ยนื อยูโ่ ดยปราศจากพระคริ สต์ กลโกธาเป็ นความจำเป็ นของพระองค์! “แกะอื่นที่ไม่ ได้ เป็ น
ของคอกนีเ้ ราก็มีอยู่ แกะพวกนั้นเราก็ต้องพามาด้ วย และแกะพวกนั้นจะฟั งเสี ยงของเราแล้วจะรวมเป็ นฝูงเดียวและมีผ้ เู ลีย้ งเพียง
ผู้เดียว” (ยอห์น 10:16) จงวิ่งเพื่อเป็ นผูป้ ระกาศนำดวงวิญญาณ!
16
พฤศจิกายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“ขอให้ความงดงามขององค์พระผูเ้ ป็ นเจ้าของข้าพระองค์ท้ งั หลายอยูเ่ หนือเหล่าข้าพระองค์ ขอทรงสถาปนาผลงานจากมือของข้า
พระองค์ท้ งั หลายไว้เหนือพวกข้าพระองค์” (สดุดี 90:17)
ไฟประจำวัน!
พระเจ้าทรงกระทำให้สรรพสิ่ งงดงามตามวาระของมัน
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
1 พงศาวดาร 16:29; สดุดี 90:17; 96:9; ปัญญาจารย์ 3:11; 10:1; อิสยาห์ 64:6.
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
1 พงศาวดาร 7 และ 8; ฮีบรู 11
เย็น:
อาโมส 6; ลูกา 1:1–38
ความงดงามจากพระเจ้ า
ความงดงามส่วนบุคคลไม่เคยถูกกล่าวโทษในพระคัมภีร์ ความเย่อหยิง่ การขาดความเหมาะสม การแต่งกายยัว่ ยวน
และเจ้าชูอ้ ย่างหน้าด้านๆ ถูกกล่าวโทษอย่างแน่นอน พระเจ้าสร้างคนให้งดงาม และไม่ได้คาดหวังให้เราเป็ นส่ วนหนึ่งของลัทธิ
แห่งความอัปลักษณ์และทำตัวแย่ที่สุด ผมไม่เชื่อว่าพระเจ้าทรงพอพระทัยในธรรมิกชนในศตวรรษต้นๆ ที่โอ้อวดจำนวน
ประชากรเหาตามเส้นผมและหนวดเคราของพวกเขา พระองค์ไม่ทรงพอพระทัยกับบรรดาแม่ชีที่โอ้อวดว่าน้ำไม่เคยเอาเท้าของ
พวกเธอแตะน้ำ ยกเว้นเมื่อพวกเขาข้ามแม่น้ำ
พระเจ้าไม่ทรงให้เกียรติเป็ นพิเศษแก่ผทู้ ี่แต่งตัวจืดชืดเพื่อให้ได้รับความโปรดปรานจากพระองค์ พระองค์ทรง
สร้างสรรค์สิ่งที่งดงาม ตั้งแต่พระสิ ริของรุ่ งอรุ ณและความยิง่ ใหญ่ของดวงอาทิตย์ตกดิน ไปจนถึงแสงระยิบระยับของดวงดาว
บนท้องฟ้ ายามราตรี ที่ประทับของพระองค์คือแสงแห่งอาทิตย์อสั ดงหลากสี และเปี่ ยมไปด้วยพระสิ ริ ความสามารถของเราใน
การสร้างสรรความงดงามมาจากพระองค์ “พระองค์ ทรงกระทำให้ สรรพสิ่ งงดงามตามวาระของมัน” (ปัญญาจารย์ 3:11) “ขอให้
ความงดงามขององค์ พระผู้เป็ นเจ้ าของข้าพระองค์ ทั้งหลายอยู่เหนือเหล่ าข้ าพระองค์ ” (สดุดี 90:17) การเจิมคือสิ่ งนี้

“ความงดงามในความบริ สุทธิ์ ” (สดุดี 96:9) ห้ามความเย่อหยิง่ ความเย่อหยิง่ คือ “แมลงวันตาย ย่ อมทำให้ น ้ำมันหอม
บูดเหม็นไป และทำให้ มีกลิ่นเหม็น” (ปัญญาจารย์ 10:1) ความพยายามที่เย่อหยิง่ ของเราในการทำให้บริ สุทธิ์ น้ นั ส่ งกลิ่นเหม็น
และไม่สะอาด “ความชอบธรรมทั้งหมดของพวกข้ าพระองค์ เหมือนเสื ้อผ้ าสกปรก” (อิสยาห์ 64:6) นัน่ เป็ นเพราะว่าสิ่ งเหล่านั้น
สร้างทัศนคติเชิงตัดสิ นและกล่าวโทษต่อผูท้ ี่เราคิดว่ามีมาตรฐานต่ำกว่า เราสวมใส่ อากาศฝ่ ายวิญญาณด้วยความถูกต้องที่ไม่น่า
ดึงดูดใจ ชีวิตที่เคร่ งกฏมีโอกาสเกิดผลที่แท้จริ งของพระวิญญาณมากพอๆ กับที่น้ำแข็งอาร์กติกมีโอกาสออกกล้วยไม้ แต่เมื่อเรา
“ถวายพระเกียรติซึ่งควรแก่ พระนามของพระองค์ แด่ พระยาห์ เวห์ จงนำเครื่ องบูชามาเข้าเฝ้ าพระองค์ ” (1 พงศาวดาร 16:29) จาก
นั้นเราจะเชื้อเชิญกลิ่นหอมของพระเจ้าให้ซึมซาบชีวิตของเรา อาจฟังดูแปลกที่ได้ยนิ สิ่ งนี้ แต่ตอนนี้คุณรู้แล้วว่าผมหมายถึงอะไร
เมื่อพูดว่า “จงมีกลิ่นเหมือนพระคริ สต์ในวันนี้ !”

17
พฤศจิกายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“ลืมสิ่ งที่ผา่ นพ้นมา แล้วโน้มตัวไปยังสิ่ งที่อยูเ่ บื้องหน้าและข้าพเจ้าบากบัน่ มุ่งไปสู่หลักชัย เพื่อจะได้รับรางวัลคือการทรงเรี ยก
แห่งเบื้องบนซึ่งมีในพระเยซูคริ สต์” (ฟี ลิปปี 3:13–14)
ไฟประจำวัน!
ฉันจะอุตส่ าห์ถวายตัวท่านเองที่พระเจ้าทรงรับรองแล้วแด่พระองค์ เป็ นคนงานที่ไม่อบั อาย สอนพระวจนะแห่งความจริ งอย่าง
ถูกต้อง
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
มัทธิว 20:1–16; 2 ทิโมธี 2:15; ฟี ลิปปี 3:13–14
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
1 พงศาวดาร 9 และ 10; ฮีบรู 12 เย็น:
อาโมส 6; ลูกา 1:39
จ่ ายเป็ นรายชั่วโมง
หลายปี ก่อนทางตอนเหนื อของเยอรมัน ผมได้รับสิ ทธิพิเศษให้น ำสตรี สูงอายุมาถึงองค์พระผูเ้ ป็ นเจ้า ตลอดชีวิตของ
เธอ เธอเป็ นนักเล่นออร์แกนในคริ สตจักร แต่ไม่เคยรู้จกั พระเยซูในฐานะพระผูช้ ่วยให้รอดของเธอเอง เมื่อเธอได้ยนิ ข่าว
ประเสริ ฐและเปิ ดหัวใจต่อองค์พระผูเ้ ป็ นเจ้า เธอเปี่ ยมล้นไปด้วยความชื่นชมยินดีของพระวิญญาณบริ สุทธิ์ 3 วันต่อมาผมพบเธอ
อีกครั้ง แต่คราวนี้ เธอแตกสลายอย่างสมบูรณ์ ผมถามเธอด้วยความงุนงงว่าทำไมถึงเป็ นเช่นนี้ เธอบอกผมทั้งน้ำตาว่า “ฉันอายุ 70
ปี แล้ว และเพิ่งรับพระเยซูเป็ นพระผูช้ ่วยให้รอด ฉันอาจจะมีชีวิตอยูไ่ ด้อีกสัก 5 หรื อ 10 ปี แต่ฉนั เสี ยเวลาไปตลอด 70 ปี ที่ผา่ น
มา”
แน่นอนว่าสิ่ งนี้ท ำให้ผมประทับใจอย่างมาก จากนั้นผมก็พดู ว่า “ใช่ แต่ผมรู้วา่ จะเกิดอะไรขึ้น วันหนึ่งเราจะยืนอยูห่ น้า
บัลลังก์พิพากษาของพระคริ สต์ แต่พระองค์จะไม่ทรงสนใจมากว่าเราตัดร่ องแห่งชีวิตเพื่อพระองค์ยาวแค่ไหน ลึกเพียงใด 5 หรื อ
10 ปี ทั้งหมดเพื่อพระเยซูน้ นั มีมากกว่าการเป็ นคริ สเตียนที่อุ่นๆ 50 ปี ”

คุณระลึกถึงคนงานในคำอุปมาของพระเยซูได้หรื อไม่? เมื่อถึงเวลา บางคนทำงานเพียงชัว่ โมงเดียว แต่ชาวนาก็


ตอบแทนพวกเขาอย่างเอื้อเฟื้ อ โดยจ่ายให้เท่ากับคนที่ตรากตรำมาทั้งวัน ทำไม ? เพราะว่าพวกเขาทำงานตราบเท่าที่มีโอกาส นี่
คือหลักการของพระเจ้า ถ้าผูใ้ ดกังวลว่าจะไม่ได้อยูเ่ คียงข้างพระเยซูในฤดูเก็บเกี่ยวเมื่อเขาสามารถทำได้ คำตอบคือฝากสิ่ งนั้นไว้
กับองค์พระผูเ้ ป็ นเจ้าแห่งการเก็บเกี่ยว อย่าเสี ยเวลากับน้ำตา จงถวายแด่พระเจ้าอย่างสุ ดใจ ตั้งแต่บดั นี้ เป็ นต้นไป! คำแนะนำของ
อัครทูตเปาโลคือ พี่นอ้ งทั้งหลาย ข้าพเจ้าไม่ถือว่าข้าพเจ้าฉวยไว้ได้แล้ว แต่ขา้ พเจ้าทำอย่างหนึ่ง คือลืมสิ่ งที่ผา่ นพ้นมา แล้วโน้ม
ตัวไปยังสิ่ งที่อยูเ่ บื้องหน้าและข้าพเจ้าบากบัน่ มุ่งไปสู่หลักชัย เพื่อจะได้รับรางวัลคือการทรงเรี ยกแห่งเบื้องบนซึ่งมีในพระเยซู
คริ สต์ (ฟิ ลิปปี 3:13–14) ตราบเท่าที่คุณมีลมหายใจอยูใ่ นตัว คุณก็จะอยูใ่ นชัว่ โมงสุ ดท้าย วันสุ ดท้าย เดือนที่แล้ว หรื อปี ที่แล้ว
คุณยังไม่สายเกินไปสำหรับสิ่ งนั้น
18
พฤศจิกายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“ของประทานที่ดีและเลิศทุกอย่างนั้นมาจากเบื้องบน คือมาจากพระผูส้ ร้างแห่งบรรดาดวงสว่าง ในพระองค์ไม่มีการแปรปรวน
หรื อเงาของการเปลี่ยนแปลง” (ยากอบ 1:17)
ไฟประจำวัน!
ข้าพเจ้าจะดำเนินชีวิตตามพระวิญญาณ และจะไม่สนองความต้องการของเนื้อหนัง
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
เฉลยธรรมบัญญัติ 8:18; สดุดี 107:9; มัทธิว 6:19–21; กาลาเทีย 5:16; ยากอบ 1:17; 4:2–4
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
1 พงศาวดาร 11 และ 12; ฮีบรู 13
เย็น:
อาโมส 7; ลูกา 2
เป้ าหมายของความเชื่อ
ยากอบเป็ นพี่ชายต่างมารดาของพระเยซู และจดหมายฝากของเขาพาเราย้อนกลับไปสู่ ค ำสอนทัว่ ไปของพระเยซูอย่างที่
พระธรรมเล่มอื่นไม่ได้ท ำ “ท่ านไม่ มีเพราะไม่ ได้ ขอพวกท่ านขอและไม่ ได้ รับเพราะขอผิด หวังจะเอาไปสนองความปรารถนา
ชั่วของตนเอง...เพราะฉะนั้น ใครก็ตามที่ต้องการเป็ นมิตรกับโลก ก็ตั้งตัวเป็ นศัตรู กับพระเจ้ า” (ยากอบ 4:2–3, 4) การอภิปรายนี้
เกี่ยวข้องกับการอธิษฐานขอวัตถุสิ่งของ แต่ถา้ เราอธิษฐานแบบพวกวัตถุนิยมของโลก เราจะไม่ได้รับคำตอบ การให้ความรักกับ
ทรัพย์สมบัติ ความมัง่ คัง่ และเกียรติเป็ นวัตถุนิยมและการอยูฝ่ ่ ายโลก และผลักไสพระเจ้าและพระประสงค์ของพระองค์ออกไป

อย่ าสะสมทรั พย์ สมบัติเพื่อตัวพวกท่ านเองไว้ ในโลก ที่ อาจเป็ นสนิมและที่แมลงกินเสี ยได้ และที่ขโมยอาจทะลวงลัก
เอาไปได้ แต่ จงสะสมทรั พย์ สมบัติเพื่อตัวพวกท่ านเองไว้ ในสวรรค์ ที่ ไม่ มีแมลงจะกินและไม่ มีสนิมจะกัด และที่ไม่ มี
ขโมยทะลวงลักเอาไปได้ เพราะว่ าทรั พย์ สมบัติของท่ านอยู่ที่ไหน ใจของท่ านก็อยู่ที่นั่นด้ วย (มัทธิ ว 6:19–21) คำ
อธิ ษฐานอันดับหนึ่งของใครหลายๆ เป็ นเรื่ องเกี่ยวกับเรื่ องอันดับหนึ่ง นั่นคือพวกเขาเอง แต่ เมื่อราชอาณาจักรของ
พระเจ้ าเป็ นอันดับหนึ่ง ก็ไม่ ผิดที่จะทูลขอสิ่ งที่ดีจากพระเจ้ า “ของประทานที่ดีและเลิศทุกอย่ างนั้นมาจากเบือ้ งบน คือ
มาจากพระผู้สร้ างแห่ งบรรดาดวงสว่ าง ในพระองค์ ไม่ มีการแปรปรวนหรื อเงาของการเปลี่ยนแปลง” (ยากอบ 1:17)
ของขวัญทางวัตถุที่อยู่รอบตัวเรานั้นมาจากพระเจ้ าในฐานะของขวัญแก่ ผ้ ทู ี่พระองค์ ทรงสร้ าง “พระองค์ ทรงให้ ผ้ ทู ี่
กระหายได้ อิ่มเอม” (สดุดี 107:9) ไม่ ว่าจะเป็ นรสนิยมใดก็ตาม พระเจ้ าประทานอำนาจให้ เราได้ รับความมัง่ คั่ง แต่ ไม่ มี
สิ่ งใดที่ถกู สร้ างขึน้ มาเพื่อพวกวัตถุนิยมเท่ านั้น ความร่ำรวยไม่ ใช่ เป้ าหมายหลักของความเชื่ อ ความเชื่ อได้ ถกู ประทาน
ให้ เพื่อให้ ได้ ครอบครอง พระเจ้ าไม่ ได้ แสดงความมัง่ คั่งมากมายของพระองค์ ในโลกที่มหั ศจรรย์ ของเราเพียงเพื่อ
เป็ นการทดลองคริ สเตียน ผู้เชื่ อมีสิทธิ์เรี ยกร้ องสิ่ งดีๆ ในชี วิตนีม้ ากพอๆ กับคนอื่นๆ อย่ างไรก็ตาม การมุ่งความสนใจ
ไปที่ความปรารถนาและคำอธิ ษฐานของเรานั้นเป็ นคนละเรื่ องกัน แรงจูงใจของการได้ รับคือการให้ นั่นคือเพื่อบรรเทา
ความหิ วโหยและทุกข์ ใจ และเพื่อให้ พระนามขององค์ พระผู้เป็ นเจ้ าเป็ นที่ร้ ู จัก ความเชื่ อและการอธิ ษฐานเป็ นเรื่ อง
เดียวกัน ขึน้ อยู่กับกันและกัน จงเอาจริ งเอาจังกับทั้งสองนีใ้ นชี วิตของคุณ และเฝ้ าดูทั้งสองนีห้ ลัง่ ไหลออกมาจากคุณ
เป็ นพลังแห่ งพระพรที่ทรงพลัง
19
พฤศจิกายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“แต่พวกท่านได้รับการชโลมจากพระองค์ผบู้ ริ สุทธิ์ แล้ว” (1 ยอห์น 2:20)
ไฟประจำวัน!
คำตอบของพระเจ้าต่อปฏิปักษ์ของพระคริ สต์ คือ การเจิมของพระองค์
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
อิสยาห์ 44:3; โยเอล 2:28, 31; 1 ยอห์น 2:18–27
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
1 พงศาวดาร 13 และ 14; ยากอบ 1
เย็น:
อาโมส 8; ลูกา 3
คลืน่ ของพระเจ้ า
นักวิทยาศาสตร์ทางทะเลกล่าวว่าคลื่นทะเลเคลื่อนตัวเป็ นระยะทางหลายพันไมล์ใต้ผวิ น้ำ ตลอดแนวคลื่นที่สงบนิ่ง
เมื่อใกล้ถึงแผ่นดิน พวกมันพัฒนาวงโคจรอันน่าเกรงขาม งอไหล่ที่ทรงพลัง และสร้างโมเมนตัมและปริ มาตรอย่างรวดเร็ ว เพื่อ
ระเบิดขึ้นฝั่งอย่างงดงามในที่สุด การแผ่ขยายที่เปี่ ยมด้วยพระสิ ริของฤทธิ์ อ ำนาจของพระวิญญาณบริ สุทธิ์ ก ำลังรวบรวมขึ้นอย่าง
ฉับพลันในทุกวันนี้ ทัว่ โลก ราวกับว่ากำลังรี บไปที่ฝั่ง คลื่นที่ยกตัวขึ้นพิสูจน์วา่ ฝั่งอยูไ่ ม่ไกล พระเยซูก ำลังจะมาเร็ ว ๆ นี้ ! นี่เป็ น
ชัว่ โมงสุ ดท้ายแล้ว! การเทออกของพระวิญญาณในวันเพนเทคอสต์ในยุคสุ ดท้ายเริ่ มขึ้นในปี 1901 และความจริ งของ “บัพติศมา
ในพระวิญญาณบริ สุทธิ์ พร้อมด้วยหมายสำคัญ"กำลังกลับคืนมา การฟื้ นฟูที่ทรงพลังที่สุดของการถาโถมทั้งหมดเข้ามาราวกับ
คลื่นจากสวรรค์ นี่เป็ นคลื่นลูกเดียวกับที่เกิดในกรุ งเยรู ซาเล็มเมื่อ 1900 ปี ก่อน ฤทธิ์ อำนาจอันท่วมท้นจากสวรรค์ “น้ำท่ วมบน
ดินแห้ ง” (อิสยาห์ 44:3) ได้อวยพรโลกเป็ นเวลา 200 หรื อ 300 ปี จากนั้นด้วยความไม่เชื่อและการเป็ นฝ่ ายโลกดูเหมือนจะลดลง
คริ สตจักรสอนด้วยซ้ำว่าฤทธิ์ อ ำนาจดังกล่าวมีไว้สำหรับอัครทูตและสาวกยุคแรกเท่านั้น พระวิญญาณบริ สุทธิ์ กลายเป็ นเพียงข้อ
ที่ 3 ของหลักข้อเชื่อ ถูกกักขังและผลักไสไปสู่ อดีต

ด้วยการเทออกของพระวิญญาณของพระองค์ องค์พระผูเ้ ป็ นเจ้าประทานฤทธิ์ อำนาจให้แก่ผเู้ ชื่อเพื่อทำงาน นัน่ คือ


ประกาศข่าวประเสริ ฐและส่ งผูเ้ ผยแพร่ ข่าวประเสริ ฐออกไป ยอห์นเขียนว่า “ตามที่พวกท่ านได้ ยินได้ ฟังมาว่ าศัตรู ของพระคริ สต์
จะมา เดี๋ยวนี ศ้ ัตรู ของพระคริ สต์ จำนวนมากก็มาแล้ว เพราะฉะนั้นเราจึ งรู้ ว่าบัดนีเ้ ป็ นวาระสุดท้ ายแล้ ว ..แต่ พวกท่ านได้ รับการ
ชโลมจากพระองค์ ผ้ บู ริ สุทธิ์ แล้ว และท่ านทุกคนก็มีความรู้ ” (1 ยอห์น 2:18, 20) คริ สตจักรกำลังได้รับการเจิมในชัว่ โมงสุ ดท้าย
วิญญาณของยุคจะเป็ นปฏิปักษ์ของพระคริ สต์หรื อต่อต้านการเจิม คำเตือนของยอห์นเกี่ยวกับยุคสุ ดท้ายกลับมาหาเราในวันนี้
ตอกย้ำด้วยความจริ งอันน่าสะพรึ งกลัวเกี่ยวกับยุคสมัยของเรา วิญญาณของปฏิปักษ์ของพระคริ สต์แทรกซึมอยูใ่ นความคิดของ
มนุษย์และสังคม ทำให้เกิดการล่มสลายทางศีลธรรม องค์ประกอบที่เป็ นปรปักษ์ก ำลังทวีความรุ นแรงขึ้นเรื่ อย ๆ เหมือนกับช่วง
แรก ๆ ของพายุที่รวมตัวกัน คำตอบของพระเจ้า คือ การเจิมของพระองค์ส ำหรับต่อต้านการเจิมในยุคสุ ดท้าย พระองค์จะไม่
อนุญาตให้มารได้เปรี ยบ การเทออกของพระวิญญาณเป็ นการจัดเตรี ยมพิเศษของพระองค์ส ำหรับชัว่ โมงสุ ดท้าย “ต่ อมาภายหลัง
จะเป็ นอย่ างนี ้ คือเราจะเทวิญญาณของเรามาเหนือมนุษย์ ทุกคน ...ก่ อนวันแห่ งพระยาห์ เวห์ จะมาถึง คือวันอันยิ่งใหญ่ และน่ าสยด
สยอง” (โยเอล 2 :28, 31) พระกายทั้งหมดของพระคริ สต์บนแผ่นดินโลกจะถูกระดมและติดอาวุธสำหรับการโจมตีครั้งสุ ดท้าย
ของศัตรู
ข้ อควรจำ: ซาตาน ผู้แพ้ชั่วนิรันดร์ จะพ่ายแพ้อกี ครั้ง
20
พฤศจิกายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“ถ้าพวกท่านรักเรา ท่านก็จะประพฤติตามบัญญัติของเราเราจะทูลขอพระบิดา และพระองค์จะประทานผูช้ ่วยอีกผูห้ นึ่งให้กบั
พวกท่าน เพื่อจะอยูก่ บั ท่านตลอดไป” (ยอห์น 14:15–16)
ไฟประจำวัน!
ฉันได้รับการนำโดยพระวิญญาณของพระเจ้า ดังนั้นฉันจึงเป็ นบุตรของพระเจ้า
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
อิสยาห์ 8:20; ยอห์น 14:15–16; โรม 8:14
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
1 พงศาวดาร 15; ยากอบ 2
เย็น:
อาโมส 9; ลูกา 4
พระสุ รเสี ยงที่แท้ จริงของพระเจ้ า
หลังจากการล่มสลายของกรุ งเยรู ซาเล็ม หลายคนต้องการให้เยเรมีย ์ ถามว่าพวกเขาควรออกจากแผ่นดินนี้หรื อไม่ ใน
หัวใจพวกเขาต้องการไปอียปิ ต์และตั้งใจจะทำเช่นนั้น พวกเขาต้องการแค่ให้เยเรมียเ์ กลี้ยกล่อมพระเจ้าให้เห็นชอบกับแผนการ
ของพวกเขาเท่านั้น เยเรมียถ์ าม และพระเจ้าไม่ทรงเห็นชอบเลย อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็ไปอยูด่ ีโดยบอกว่าเยเรมียไ์ ด้โกหกเกี่ยว
กับสิ่ งที่พระเจ้าได้ตรัส และผลที่ตามมาก็คือปัญหาใหญ่หลวง! พระเจ้าไม่ได้ตรัสอะไรเกี่ยวกับการที่พวกเขาออกไปตั้งแต่แรก
เพราะว่าพระองค์ไม่มีแผนใหม่
มีเครื่ องป้ องกันสำหรับ "พระสุ รเสี ยง" และแรงกระตุน้ ทั้งหมด และนัน่ คือพระคำ "ถ้ าพวกเขาไม่ พูดตามถ้ อยคำนี ้ นั่น
เป็ นเพราะว่ าไม่ มีความสว่ างในพวกเขา" (อิสยาห์ 8:20) พระคำอ้างถึงตัวเองว่าเป็ นสิ ทธิพิเศษในการเป็ นช่องทางที่พระเจ้าตรัส
พระองค์ไม่มีอะไรจะพูดนอกจากตามคำสัง่ สอนของพระคำ พระคำของพระองค์อาจมาถึงเราผ่านทางพันธกิจหรื อคำเผยพระ
วจนะ ซึ่งบ่อยครั้งเราต้องการ แต่ค ำสัง่ ส่ วนตัวไม่เคยผ่านบุคคลที่ 3 พระองค์ไม่บอกคนอื่นว่าคุณควรทำอะไร อาจมีการ
ปลอบโยน การหนุนใจ และการเตือนสติ นัน่ คือแต่เราแต่ละคนได้รับการทรงนำจากพระเจ้า ถ้าเราเป็ นลูกของพระองค์ “เพราะ
ว่ าพระวิญญาณของพระเจ้ าทรงนำใคร คนนั้นก็เป็ นบุตรของพระเจ้ า” (โรม 8:14)
ไม่มีชายหญิงผูย้ ิง่ ใหญ่คนใดในพระคัมภีร์ที่ได้ยนิ พระสุ รเสี ยงของพระเจ้าสำหรับตัวเองกำลังขอและรอคอยสิ่ งนี้
พระเจ้าต้องการที่จะพูดและทำเช่นนั้น มีคนถามว่า “พระเจ้ากำลังพูดอะไรกับคริ สตจักร?” ทำไมพระเจ้าต้องพูดบางอย่างกับคริ
สตจักรเสมอ? พระองค์ทรงปล่อยให้เราทุกคนอยูใ่ นความมืดเกี่ยวกับสิ่ งที่พระองค์ตอ้ งการหรื อ? มีบุคคลที่เหนือกว่าฝ่ าย
วิญญาณที่อา้ งว่ารู้ในสิ่ งที่ไม่มีผใู้ ดรู้ ราวกับว่าพวกเขาเป็ นคนที่พระเจ้าโปรดปรานซึ่งยืนอยูต่ ่อหน้าพระองค์อย่างที่ไม่มีผอู้ ื่นอีก
ตอนนี้วิญญาณของผูเ้ ผยพระวจนะเป็ นพระวิญญาณที่มอบให้กบั ผูเ้ ชื่อทุกคน พระเจ้าทรงเปิ ดเผยความลับของพระองค์ต่อผูเ้ ผย
พระวจนะ และเราทุกคนอยูใ่ นประเภทนั้นในพระคริ สต์ในวันนี้ เมื่อพระเจ้าตรัส นัน่ คือข้อความออกอากาศ ไม่ใช่โทรศัพท์ คุณ
สามารถได้ยนิ พระสุ รเสี ยงของพระองค์พดู ได้อย่างชัดเจน

21
พฤศจิกายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
"ขอให้ [เรา] เจริ ญขึ้นในทุกด้านสู่พระองค์ผเู้ ป็ นศีรษะคือพระคริ สต์เนื่องจากพระองค์น้ ี เอง ร่ างกายทั้งหมดจึงได้รับการเชื่อม
และประสานเข้าด้วยกันโดยทุกๆ ข้อต่อที่ประทานมานั้น และเมื่อแต่ละส่วนทำงานตามหน้าที่แล้ว ก็ท ำให้ร่างกายเจริ ญและ
เสริ มสร้างตนเองขึ้นด้วยความรัก” (เอเฟซัส 4:15–16)
ไฟประจำวัน!
บรรดาผูร้ ู้จกั พระเจ้าจะเข้มแข็ง และยืนหยัดต่อสู้
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
สดุดี 139:15; ดาเนียล 11:32; เอเฟซัส 4:15–16; 1 เปโตร 5:6
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
1 พงศาวดาร 16; ยากอบ 3
เย็น:
โอบาดีห์; ลูกา 5
การทรงเรียกหลายอย่ าง
การประกาศข่าวประเสริ ฐเป็ นการทรงรี ยกของผม มีการทรงเรี ยกอื่น ๆ ที่จะดึงดูดชายและหญิง : อัครทูต ศิษยาภิบาล
ครู ผูเ้ ผยพระวจนะ ผูป้ กครอง นักดนตรี ผูจ้ ดั งาน นักอธิษฐานวิงวอน และคนงานในความสามารถที่แตกต่างกันนับพัน เมื่อ
พระเจ้าวางพระหัตถ์ลงบนเรา พระองค์ท ำ 2 สิ่ ง ประการแรก พระองค์ประทานพันธกิจให้แก่เรา แล้วพระองค์กท็ รงเปิ ดประตูให้
งานรับใช้ เราแต่ละคนมีสถานที่พิเศษและสำคัญยิง่ ในราชอาณาจักรของพระองค์ ผูเ้ ชื่อทุกคนถูกสกัดเป็ นรายบุคคล “ถูกสร้ าง
อย่ างชำนาญ ณ ภายในที่ลึกแห่ งแผ่ นดินโลก” (สดุดี 139:15) บางคนอยูห่ ่างไกลจากการทำงานทัว่ ไป แต่พวกเขาแทบจะไม่ได้
รับการต้อนรับด้วยเสี ยงเชียร์ที่ดี

นิมิตใหม่อาจสร้างความปั่นป่ วนได้ ไม่เพียงแต่กบั ผูท้ ี่ได้รับเท่านั้น แต่ยงั รวมถึงผูท้ ี่ไม่ได้รับด้วย โดยเฉพาะอย่างยิง่ ถ้า
มันทำให้ผชู้ ายอยูใ่ นไฟแก็ซ อาจมีความขุ่นเคือง การวิพากษ์วิจารณ์ หรื อแม้แต่ความอิจฉาริ ษยา บางครั้งเพื่อนสนิทและเพื่อน
ร่ วมงานของชายคนหนึ่งก็ไม่เชื่อว่าพระเจ้าได้ทรงวางการทรงเรี ยกเข้าไปในวิญญาณจิตของเขา แต่ไม่มีแผนกบัญชีสำหรับการ
เลือกของพระเจ้า ดังที่เปาโลชี้ ให้เห็นเกี่ยวกับยาโคบ การทรงเรี ยกเป็ นคำแนะนำของพระเจ้าทั้งหมด ไม่ใช่ของมนุษย์ ถ้าพระเจ้า
ทรงเรี ยก ข้อพิสูจน์ที่ดีที่สุดคือความอดทนของเราเมื่อเราถูกตัดสิ นและวิพากษ์วิจารณ์ในทางที่ผดิ คนที่รู้ว า่ พระเจ้าได้ส่งเขามา
จะพอใจในพระเจ้า และปล่อยให้ผทู้ ี่ไม่ชอบใจหรื อเข้าใจผิดให้องค์พระผูเ้ ป็ นเจ้าจัดการ “เพราะฉะนั้น พวกท่ านจงถ่ อมตัวลง
ภายใต้ พระหั ตถ์ อันทรงฤทธิ์ ของพระเจ้ า เพื่อว่ าพระองค์ จะทรงยกพวกท่ านขึน้ เมื่อถึงเวลาอันควร" (1 เปโตร 5:6) เราต้องระวัง
ไม่ให้จดั การกับคำวิพากษ์วจิ ารณ์ในทางที่ผดิ บางครั้งคุณเห็นหลังหัวของคุณเองผ่านทางสายตาของคนอื่น! สิ่ งที่คนอื่นพูดถึงเรา
นั้นสำคัญ ไม่วา่ จะเป็ นศัตรู หรื อมิตรก็ตาม ผมสรรเสริ ญองค์พระผูเ้ ป็ นเจ้าสำหรับชายและหญิงที่เลือกสรรแล้วซึ่งพระองค์ได้ทรง
แนะนำผมสำหรับการรับรู้และการหยัง่ รู้ของพวกเขา ผมจะเป็ นคนโง่ที่จะไม่ฟังพวกเขา เช่นเดียวกับพันธกรคนอื่นๆ ผูเ้ ผยแพร่
ข่าวประเสริ ฐก็ตอ้ งการคำแนะนำ ผูเ้ ผยแพร่ ข่าวประเสริ ฐไม่สามารถเป็ นกฎหมายสำหรับตัวเขาเอง เขาเป็ นสมาชิกในพระกาย
ของพระคริ สต์ จงค้นหาตำแหน่งที่คุณเหมาะสมกับพระกายและปล่อยให้ตวั เองมีประโยชน์ที่นนั่ !

22
พฤศจิกายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“ข้าแต่พระยาห์เวห์ ขอให้ศตั รู ท้ งั สิ้ นของพระองค์พินาศดังนี้ แต่ขอให้ผทู้ ี่รักพระองค์เป็ นดัง่ ดวงตะวันเมื่อโผล่ข้ ึนด้วยอานุภาพ”
(ผูว้ ินิจฉัย 5:31)
ไฟประจำวัน!
ฉันจะไม่เป็ นคริ สเตียนที่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน!
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
อพยพ 17:15; ผูว้ ินิจฉัย 4:1–24; 5:1–31
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
1 พงศาวดาร 17; ยากอบ 4
เย็น:
โยนาห์ 1; ลูกา 6
ร้ านค้ าเรือของดาน
อิสราเอลมีปัญหามากมาย พวกเขามักถูกกดขี่โดยผูร้ ุ กราน พระเจ้าทรงตั้งผูน้ ำ (ผูว้ ินิจฉัย) ขึ้นมาเพื่อทำให้พวกเขารวม
ตัวกันและช่วยเหลือพวกเขาในการป้ องกันตนเอง ผูว้ ินิจฉัยคนหนึ่งคือเดโบราห์ ผูเ้ ผยพระวจนะหญิง ยาบิน กษัตริ ย ช์ าวคานาอัน
ได้ส่งคนของเขาไปภายใต้สิเสราเพื่อปล้นฆ่าชาวอิสราเอล พระวิญญาณของพระเจ้าทรงปลุกเร้าเดโบราห์เพื่อต่อต้านการโจมตีน้ ี
และด้วยการใช้พลังแห่งการโน้มน้าวใจของเธอ เธอได้สร้างแรงบันดาลใจให้อิสราเอลชุมนุมภายใต้การนำของบาราค แต่ละเผ่า
ได้รับการเรี ยกจากเดโบราห์ให้รวมตัวกัน และทำในสิ่ งที่พวกเขาไม่สามารถทำได้ตามลำพัง นัน่ คือยืนหยัดต่อสู้กบั สิ เสรา น่า
สนใจที่จะเห็นว่าเผ่าต่างๆ มีปฏิกิริยาแตกต่างกันอย่างไร ความจริ งแล้ว เรื่ องเก่าๆ นี้เป็ นเหมือนกระจกเงาที่ส่องหน้าคริ สตจักร
ในปัจจุบนั หลังจากได้รับชัยชนะ เดโบราห์ถามคำถามที่เสี ยดแทงเกี่ยวกับเผ่าดานว่า “แล้ วทำไมดานยังอยู่กับเรื อ?” (วนฉ. 5:17
คนเผ่าดานเดินเรื อเดินเรื อเพื่อขายให้ชาวอิสราเอล โดยนำสิ นค้ามาจากมุมไกล ๆ แล้วจอดเรื อที่ท่าเรื อ เรื อของพวกเขากลายเป็ น
ร้านค้าขายโดยตรงกับประชาชน) นี่คือดานเองที่ร้านค้าของเขา รวบรวมใบเสร็ จด้วยความพึงพอใจ ทันใดนั้น ผูส้ ่ งสารก็มาถึง
พร้อมกับส่ งคนไปหาดานว่า “ดานที่รัก สิ เสรากำลังทำลายล้างอิสราเอล เรากำลังต่อสู้กบั ทุกสิ่ งตามที่เราจัดการ แต่ทุกเผ่าต้อง
รวมกันขับไล่ขา้ ศึก มาช่วยเดี๋ยวนี ้ เพื่อนร่ วมชาติของคุณกำลังเลือดไหลและกำลังจะตาย โปรดตอบสนอง เดโบราห์ (ผูว้ ินิจฉัย
ของอิสราเอล)”

ดาน นักธุรกิจรู้สึกสะเทือนใจ เขามองเข้าไปในแผ่นดินที่ซ่ ึงการสู้รบกำลังดำเนินอยู่ อาจได้ยนิ เสี ยงอาวุธกระทบกัน


และเสี ยงร้องไห้ของพี่นอ้ งที่ก ำลังจะตาย ทันใดนั้นความคิดอื่นก็เกิดขึ้นว่า “ถ้าฉันออกไปต่อสู้ ฉันจะทำให้ธุรกิจที่ก ำลังเฟื่ องฟู
ของฉันเข้าสู่ ความเสี่ ยง ชาวคานาอันคือลูกค้าของฉัน ดังนั้นฉันไม่สามารถทำให้พวกเขาโกรธได้! ฉันต้องวางตัวเป็ นกลาง” เขา
รี บยัดห่อเงินใส่ กระเป๋ าของผูส้ ่ งสารและพูดว่า “น่าเสี ยดายที่ฉนั ไม่สามารถมาด้วยตัวเองได้ แต่นี่คือการบริ จาคของฉัน บอกเด
โบราห์วา่ ฉันอยูก่ บั เธอในวิญญาณ” ดานจึงนับเงินต่อไป ในขณะที่พี่นอ้ งของเขาเดินทัพตามมาตรฐานของเดโบราห์และบาราค
ปล่อยให้คนอื่นตายเพื่ออิสราเอล แต่ดานมีธุรกิจที่จะเข้าร่ วม มีดานอยูใ่ นเรื อแห่งความสนใจในตนเอง การรักตนเอง และความ
โลภของเขา นี่ฟังดูเหมือนโลกของเราทุกวันนี้ ! ไม่วา่ คุณจะทำอะไรก็ตาม อย่าขึ้นเรื อหรื อวิถีชีวิตแบบเดียวกันนี้ แต่ให้ก ำหนด
มาตรฐานที่สูงขึ้นบนพื้นฐานแห่งพระคำของพระเจ้าและน้ำพระทัยของพระองค์ และยืนอยูท่ ี่นนั่ ถัดจากพระเยโฮวาห์นิสซี (องค์
พระผูเ้ ป็ นเจ้าทรงเป็ นธงของฉัน)
23
พฤศจิกายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“ถ้าพระยาห์เวห์มิได้ทรงสร้างบ้าน บรรดาผูท้ ี่สร้างก็เหนื่อยเปล่า” (สดุดี 127:1)
ไฟประจำวัน!
เรามีเพียงรุ่ นเดียวที่จะช่วยคนรุ่ นหนึ่งให้รอด
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
สดุดี 127:1
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
1 พงศาวดาร 18; ยากอบ 5
เย็น:
โยนาห์ 2; ลูกา 7
งานอมตะสำหรับมนุษย์ที่ต้องตาย
การถูกพระเจ้าทรงเรี ยกนั้นไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ เหมือนกับที่พระเจ้าทรงเรี ยก แต่การให้ก ำเนิดการทรงเรี ยกนั้นเป็ นอีก
เรื่ องหนึ่ง! ผมเป็ นมิชชันนารี ที่ท ำงานหนักในเลโซโท แต่ภาพที่สดใสของแอฟริ กาที่ถูกชำระด้วยเลือดกลับหลอกหลอนผม แรง
กดดันจากพระเจ้ามาพร้อมกับนิมิตเสมอ ความปรารถนาอันแรงกล้าผลักดันให้ผมเริ่ มทำภารกิจแรกในการประกาศข่าวประเสริ ฐ
แก่มวลชน ผมยังลังเล สมาชิกในคณะกรรมการมิชชันไม่อนุมตั ิ พวกเขาเป็ นคนดี เป็ นมนุษย์ฝ่ายวิญญาณ แต่ขาดนิมิต “งานมิช
ชันนารี ทวั่ ไปเป็ นแนวทางที่ได้ผลในการช่วยแอฟริ กาให้รอด ไม่ใช่การประกาศข่าวประเสริ ฐข่าวประเสริ ฐแก่มวลชน ถ้านี่คือ
วิธีของพระเจ้า ทำไมคนอื่นไม่ท ำ?” ขณะที่ผเู้ ผยแพร่ ข่าวประเสริ ฐพอใจกับประเพณีของมิชชัน ผมรู้สึกสับสนวุน่ วาย แรงกดดัน
ของพระเจ้าที่มีต่อวิญญาณของผมรุ นแรงขึ้น เพื่อนผูเ้ ผยแพร่ ข่าวประเสริ ฐแบ่งปันประสบการณ์ทวั่ ไปเกี่ยวกับความท้อแท้อย่าง
เป็ นทางการ พวกเขามีไฟแห่งพระวิญญาณที่แผดเผาอยูภ่ ายใน ความท้าทายของความเป็ นไปได้มากมายรอบตัว แต่มีค ำวิพากษ์
วิจารณ์จากภายนอก ผมใช้เวลาหลายชัว่ โมงในการอธิษฐานเพื่อรักษาท่าทางและสันติสุข “ต้องใช้เวลานานแค่ไหนกว่าที่
แอฟริ กาจะถูกชำระด้วยเลือด ถ้าปราศจากงานประกาศข่าวประเสริ ฐใหญ่ที่จริ งจัง? เรามีเพียงหนึ่งชัว่ อายุคนเท่านั้นที่จะช่วยคน
รุ่ นหนึ่งให้รอด” ผมมาถึงจุดวิกฤตและขังตัวเองอยูใ่ นห้องของโรงแรม ตั้งใจว่าจะไม่ปล่อยมือจากพระเจ้าจนกว่าผมจะได้ค ำ
ตอบที่ชดั เจนจากพระองค์ ผมแสดงความรู้สึกต่อองค์พระผูเ้ ป็ นเจ้าอย่างกล้าหาญว่าแรงกระตุน้ อย่างต่อเนื่องในการจัดงาน
ประกาศใหญ่น้ ีน้ ีคือน้ำพระทัยของพระองค์ที่มีต่อผมจริ งๆ หรื อ?

พระเจ้าทรงชี้แจงอย่างชัดเจนแก่ผมว่า “ถ้าเจ้าละทิ้งนิมิตที่เราได้ให้แก่เจ้า เราจะมองหาชายอื่นที่จะยอมรับและทำตาม


ที่เราต้องการ” ผมกลับใจจากความลังเลทันที และตัดสิ นใจตลอดไป จากนั้นพระเจ้าก็เริ่ มยิม้ อยูเ่ หนือผม ส่ งกำลังใจจากพระเจ้า
มา ผมไม่เคยมองย้อนกลับไป เรี ยนรู้วิธีจดั การกับคำวิจารณ์และการวิพากษ์วิจารณ์โดยปล่อยให้พระเจ้าเองเป็ นผูป้ กป้ องผม ให้
พวกเขาเห็นว่าองค์พระผูเ้ ป็ นเจ้าทรงนำผมด้วยผลแห่งพันธกิจของผม ผมได้ฝึกฝนตัวเองให้จดจ่อกับสิ่ งที่พระองค์ตอ้ งการให้ผม
ทำ พันธกิจและผลที่ได้เติบโตขึ้น บางครั้งก็ค่อนข้างมาก จงมุ่งเน้นไปที่น ้ำพระทัยของพระเจ้า และเฝ้ าดูชีวิตของคุณเติบโตด้วย
พระพร จุดประสงค์ และความอิ่มเอมใจที่เพิ่มขึ้น
24
พฤศจิกายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“จงวางใจในพระยาห์เวห์ดว้ ยสุ ดใจของเจ้า และอย่าพึ่งพาความรอบรู้ของตนเองจงยอมรับรู้พระองค์ในทุกทางของเจ้า แล้วพระ
องค์เองจะทรงทำให้วิถีของเจ้าราบรื่ น” (สุ ภาษิต 3:5–6)
ไฟประจำวัน!
ความเชื่อ คือ การกระโจนไปสู่ แสงสว่าง ไม่ใช่ในความมืด
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
สุ ภาษิต 3:5–6; มัทธิว 6:25–30; ฮีบรู 11:1; ยูดา 1:24–25
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
1 พงศาวดาร 19–20; 1 เปโตร 1
เย็น:
โยนาห์ 3; ลูกา 8
การกระโจนเข้ าสู่ แสงสว่ าง
ทุกวันเราใช้ความไว้วางใจในสิ่ งต่างๆ นับไม่ถว้ น ซึ่งมักจะไม่คุน้ เคย ผูค้ น อาหาร เก้าอี้ อุปกรณ์ ทุกอย่าง มันเป็ น
ธรรมชาติ เราไม่ได้ยนื และพูดว่า “ตอนนี้ ฉันมีความเชื่อพอที่จะขึ้นรถบัสคันนี้ หรื อไม่?” หรื อ “ฉันขอนัง่ เงียบๆ ด้วยการไว้างใจ
ในคนขับคนนี้ ได้ไหม?” เราไม่เคยคิดถึงมัน เราแค่ไว้วางใจใจกันไปตลอดทาง การตรวจสอบความรู้สึกของคุณเพื่อดูวา่ คุณมี
ความเชื่อซ่อนอยูใ่ นบางมุมของความคิดหรื อไม่น้ นั ค่อนข้างไร้สาระ “จงวางใจในพระยาห์ เวห์ ด้วยสุดใจของเจ้ า และอย่ าพึ่งพา
ความรอบรู้ ของตนเองจงยอมรั บรู้ พระองค์ ในทุกทางของเจ้ า แล้ วพระองค์ เองจะทรงทำให้ วิถีของเจ้ าราบรื่ น” (สุ ภาษิต 3:5–6)
คุณไม่ “รู้สึก” เชื่ออย่างแท้จริ ง อย่างน้อยความเชื่อกับความรู้สึกก็ไม่ได้ไปด้วยกันเสมอไป คุณเพียงแค่ท ำสิ่ งที่ควรทำเมื่อคุณรู้ดี
ว่าคุณไม่สามารถประสบความสำเร็ จได้เว้นแต่พระเจ้าจะช่วยคุณ “ความเชื่ อคือความมัน่ ใจในสิ่ งที่หวังไว้ เป็ นความแน่ ใจในสิ่ ง
ที่มองไม่ เห็น” (ฮีบรู 11:1)
ความเชื่อคือการกระโจนไปสู่ แสงสว่าง ไม่ใช่ในความมืด เป็ นการออกจากสิ่ งที่ไม่รู้ไปสู่ ส่ิ งที่รู้ ออกจากการไม่รู้จกั
พระเยซูคริ สต์ ไปสู่ การรู้จกั พระองค์ ความเชื่อก็เหมือนเด็กที่ยนื อยูใ่ นที่ที่ไม่ปลอดภัย แต่กป็ ราศจากความกลัว เพราะว่าพ่อของ
เขากำลังคอยจับเขาอยู่ เขาตั้งใจโดดลงมาเพื่อที่จะถูกจับเอาไว้ แด่พระองค์ผทู้ รงสามารถปกป้ องพวกท่านไม่ให้สะดุดล้ม และ
ทรงตั้งพวกท่านอยูเ่ บื้องหน้าพระสิ ริของพระองค์ โดยปราศจากตำหนิ และมีความร่ าเริ งยินดีขอพระเกียรติ ความยิง่ ใหญ่ อานุ
ภาพ และสิ ทธิ อ ำนาจ จงมีแด่พระเจ้าองค์เดียว ผูเ้ ป็ นพระผูช้ ่วยให้รอดของเรา โดยทางพระเยซูคริ สต์องค์พระผูเ้ ป็ นเจ้าของเรา ทั้ง
ในอดีตกาล ปัจจุบนั กาล และในกาลต่อๆ ไปเป็ นนิตย์ อาเมน! (ยูดา 1:24–25) เราแต่ละคนมีความสำคัญต่อพระเจ้า มากกว่า
ดวงดาวในอวกาศทั้งหมด พระองค์ตอ้ งการให้เราไว้วางใจพระองค์โดยปริ ยาย พระองค์สร้างเราและจะเจ็บปวดกับเรา ความเชื่อ
อนุญาตให้พระองค์มองเห็นเราผ่านสิ่ งต่างๆจนกระทัง่ เราพักในพระองค์ เพราะเหตุน้ ี เราบอกท่านทั้งหลายว่า อย่ากระวนกระ
วายถึงชีวิตของตนว่าจะเอาอะไรกิน หรื อจะเอาอะไรดื่ม และอย่ากระวนกระวายถึงร่ างกายของตนว่าจะเอาอะไรนุ่งห่ม ชีวิตสำ
คัญยิง่ กว่าอาหารไม่ใช่หรื อ? และร่ างกายสำคัญยิง่ กว่าเครื่ องนุ่งห่มไม่ใช่หรื อ?..และถ้าพระเจ้าทรงตกแต่งหญ้าที่ทุ่งนาอย่างนั้น
ซึ่งเป็ นอยูว่ นั นี้และรุ่ งขึ้นต้องทิ้งในเตาไฟ โอ พวกมีความเชื่อน้อย พระองค์จะไม่ทรงตกแต่งท่านมากยิง่ กว่านั้นหรื อ? (มัทธิว
6:25, 30) จงมัน่ ใจในการจัดเตรี ยมด้วยความรักของพระเจ้าสำหรับคุณในวันนี้

25
พฤศจิกายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“คนที่วางใจในเราจะทำกิจการที่เราทำนั้นด้วย และเขาจะทำกิจที่ยงิ่ ใหญ่กว่านั้นอีก เพราะว่าเราจะไปหาพระบิดาของเรา”
(ยอห์น 14:12)
ไฟประจำวัน!
เราใช้แขน มือ เท้า และปากของเราในการเผยแพร่ ข่าวประเสริ ฐของพระองค์ แต่สิ่งเหล่านี้กเ็ ป็ นของพระองค์ดว้ ย
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
ยอห์น 14:12; 16:7; โรม 12:4–5; 1 โคริ นธ์ 6:15; 12:12, 18, 27;
เอเฟซัส 5:30
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
1 พงศาวดาร 21; 1 เปโตร 2
เย็น:
โยนาห์ 4; ลูกา 9
ยิง่ ใหญ่ กว่ าพระเยซู หรือ?
เราได้เห็นมุมมองที่น่าทึ่งของราชอาณาจักรนี้ “คนที่วางใจในเราจะทำกิจการที่เราทำนั้นด้ วย และเขาจะทำกิจที่ยิ่งใหญ่
กว่ านั้นอีก เพราะว่ าเราจะไปหาพระบิดาของเรา” (ยอห์น 14:12) คำภาษากรี กที่แปลว่า “ยิ่งใหญ่ กว่ า” (meizona) ไม่ได้ระบุวา่
เป็ นความยิง่ ใหญ่ใด ไม่วา่ จะเป็ นจำนวน คุณภาพ หรื อขนาด นี่เป็ นปัญหาสำหรับนักศึกษาพระคัมภีร์หลายคน แน่นอนว่าไม่มีสิ่ง
ใดเหนือกว่าการอัศจรรย์ของพระเยซูในความสามารถทั้งหมดอย่างแท้จริ ง เช่น การทำให้ลาซารัสเป็ นขึ้นมาจากความตาย! แต่มี
ความรู้สึกว่าบางคนสามารถทำสิ่ งที่ยงิ่ ใหญ่กว่าพระคริ สต์
ประการแรก อาจมีจ ำนวนมากกว่า และประการที่ 2 สิ่ งเหล่านี้สามารถกระจายไปทัว่ พื้นที่ที่กว้างขึ้น ทั้ง 2 นี้เกิดขึ้นเมื่อ
เหล่าสาวกเดินทางออกไปเผยแพร่ ข่าวประเสริ ฐ เห็นได้ชดั ว่ามีงานบางอย่างของพระองค์ที่เราไม่สามารถทำได้เนื่องจาก
พระองค์ทรงเป็ นพระบุตรของพระเจ้า พระองค์เท่านั้นที่เป็ นพระผูไ้ ถ่ พระองค์ผเู้ ดียวสามารถตายเพื่อความบาปของโลกทั้งใบ
กิจที่พระองค์ทรงกล่าวถึงคือกิจแห่งความเมตตา การปลดปล่อย การรักษา และความช่วยเหลือ

เป็ นเวลาหลายศตวรรษแล้ว นับตั้งแต่การประดิษฐ์เครื่ องพิมพ์และเทคโนโลยีสมัยใหม่ การดำเนินงานที่กว้างขวางยิง่


กว่านั้นสามารถให้ผลลัพธ์ที่เป็ นไปไม่ได้แม้แต่กบั พระเยซูเมื่อพระองค์ประทับอยูท่ ี่หมู่บา้ นนี้ หรื อเมืองนั้น พระองค์ถูกจำกัด
ทางร่ างกาย แต่ไม่ได้ถูกจำกัดด้วยฤทธิ์ อ ำนาจ! พระองค์ตอ้ งการมือมากขึ้น เสี ยงมากขึ้น ส่ วนขยายของตัวเองมากขึ้น นัน่ คือ
เหตุผลที่เราเป็ นสมาชิกในพระกายของพระคริ สต์ เราใช้แขนของเรา มือของเรา เท้าของเรา ปากของเราในการเผยแพร่ ข่าว
ประเสริ ฐของพระองค์ แต่สิ่งเหล่านี้กเ็ ป็ นของพระองค์ดว้ ย สิ่ งนี้สามารถเป็ นไปได้โดยฤทธิ์ อ ำนาจของพระวิญญาณเท่านั้น พระ
เยซูย ้ำเรื่ องนี้ อย่างเน้นย้ำว่า เราบอกความจริ งกับพวกท่านว่า คนที่วางใจในเราจะทำกิจการที่เราทำนั้นด้วย และเขาจะทำกิจที่ยงิ่
ใหญ่กว่านั้นอีก เพราะว่าเราจะไปหาพระบิดาของเรา...การที่เราจากไปนั้นก็เพื่อประโยชน์ [ภาษากรี ก ซิมเฟอเร่ sympherei ซึ่ง
หมายถึง เป็ นประโยชน์ ได้เปรี ยบ ] ของท่าน เพราะถ้าเราไม่ไป องค์ผชู้ ่วยก็จะไม่เสด็จมาหาพวกท่าน แต่ถา้ เราไปแล้ว เราก็จะ
ใช้พระองค์มาหาท่าน (ยอห์น 14:12; 16:7) นี่เป็ นพื้นฐานของเราสำหรับของประทานของพระวิญญาณ จงอนุญาตให้พระ
วิญญาณบริ สุทธิ์ ใช้คุณในวันนี้

26
พฤศจิกายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“ความเชื่อคือความมัน่ ใจในสิ่ งที่หวังไว้ เป็ นความแน่ใจในสิ่ งที่มองไม่เห็นโดยความเชื่อนี้เองคนสมัยก่อนจึงได้รับการรับรอง
จากพระเจ้า” (ฮีบรู 11:1–2)
ไฟประจำวัน!
ความเชื่อ คือ เลือดหล่อเลี้ยงชีวิตลูกของพระเจ้า
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
ฮีบรู 11:1–40; 12:1–29
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
1 พงศาวดาร 22; 1 เปโตร 3
เย็น:
มีคาห์ 1; ลูกา 10
ความเชื่อโบราณ
เราได้รับสิ่ งที่เราดำเนินชีวิตอยูเ่ พื่อ แต่เราดำเนินชีวิตอยูโ่ ดยสิ่ งที่เราได้รับหรื อไม่? สภาพนั้นยอดเยีย่ มเมื่อเทียบกับใน
อดีต เรามีเนื้ อหาและความอิ่มเอมใจอย่างน่าอัศจรรย์หรื อไม่? มีคนที่ยอดเยีย่ ม ดื่มด่ำกับการดำรงอยูข่ องมนุษย์เหมือนเหล้าองุ่น
ชั้นเลิศ แม้วา่ เมื่อความไม่รู้จะลึกซึ้ ง เช่น ยักษ์ใหญ่ฝ่ายวิญญาณอย่าง เอโนค อับราฮัม และซามูเอล พวกเขาไม่ได้ท่อง
อินเทอร์เน็ต ท่องโลกกว้างอย่างรอบรู้ แต่จมดิ่งลงสู่เบื้องลึกของความเป็ นจริ ง ความเข้าใจอย่างลึกซึ้ งถูกแผดเผาในดวงตาของ
พวกเขา ถ้าเราพบกับหนึ่งในบุคคลที่ยิง่ ใหญ่เหล่านี้ เราจะรู้สึกด้อยกว่าต่อหน้าความยิง่ ใหญ่
ใครคือผูท้ ี่อยูใ่ น “ม้วนเกียรติยศแห่งความเชื่อ”? อาเบล เอโนค โนอาห์ อับราฮัม ซาราห์ อิสอัค ยาโคบ โยเซฟ โมเสส
โยชูวา ราหับ กิเดโอน บาราค แซมสัน เยฟธาห์ ดาวิด ซามูเอล ผูเ้ ผยพระวจนะทั้งหมด คนเหล่านี้คือคนโบราณ คนที่รู้จกั พระเจ้า
พวกเขาไม่ได้ใช้ค ำว่า "ความเชื่ อ" เป็ นสภาวะของจิตใจ พวกเขาคิดในแง่ปฏิบตั ิเท่านั้น เช่น เดินกับพระเจ้า รับใช้ ยำเกรง เชื่อฟัง
และแนบแน่นกับพระองค์ นัน่ คือความเชื่อ และนัน่ คือสาเหตุที่พระคัมภีร์ตอ้ งเป็ นผูน้ ำทางของเราทุกกระเบียดนิ้ว ทุกวันนี้ ความ
เชื่อถูกมองว่าเป็ นทรัพย์สิน ซึ่งวางซ้อนกันอย่างปลอดภัยในตูจ้ ิตวิทยาของเรา เรานำออกมาปัดฝุ่ นและจัดแสดงตามแต่โอกาส

ความเชื่ อคือความมัน่ ใจในสิ่ งที่หวังไว้ เป็ นความแน่ ใจในสิ่ งที่มองไม่ เห็นโดยความเชื่ อนีเ้ องคนสมัยก่ อนจึ งได้ รับการ
รั บรองจากพระเจ้ าโดยความเชื่ อ เราจึ งเข้าใจว่ า พระเจ้ าได้ ทรงสร้ างจักรวาล ด้ วยพระดำรั สของพระองค์ ดังนั้นสิ่ งที่
มองเห็นจึ งเป็ นสิ่ งที่เกิดจากสิ่ งที่ไม่ ปรากฏให้ เห็น (ฮี บรู 11:1–3) คนสมัยก่ อนจะไม่ ด ำเนินชี วิตประจำวันโดย
ปราศจากความเชื่ อมากไปกว่ าการไม่ สวมเสื ้อผ้ า มันเป็ นบรรยากาศที่พวกเขาหายใจ ไม่ ใช่ แค่ ช่วงเวลาที่สะดวกเท่ านั้น
ปั จจุบันโลกมองว่ าศาสนาเป็ นเพียงเรื่ องหรื อหลักปฏิบัติเป็ นครั้ งคราว วันอาทิตย์ เป็ นวันสำหรั บศาสนา สำหรั บบุรุษผู้
ยิ่งใหญ่ เหล่ านี ้ ความสัมพันธ์ ของพวกเขากับพระเจ้ าคือคุณสมบัติที่ส ำคัญในช่ วงเวลาตื่นนอนของพวกเขา และเป็ นสิ่ ง
ที่คิดไม่ ถึง ถ้ าปราศจากพระองค์ คุณควรมีความเชื่ อแบบนั้น !
27
พฤศจิกายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“เราเป็ นชีวิตและการเป็ นขึ้นจากตาย คนที่วางใจในเราจะมีชีวิตอีกแม้วา่ เขาจะตายไปและทุกคนที่มีชีวิตและวางใจในเราจะไม่
ตายเลย” (ยอห์น 11:25–26)
ไฟประจำวัน!
ฉันมีชีวิต และไหวตัว และเป็ นอยูใ่ นพระองค์
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
เอเสเคียล 18:4; มัทธิว 10:28; ยอห์น 11:25; กิจการ 17:28; 1 เปโตร 1:10–12
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
1 พงศาวดาร 23; 1 เปโตร 4
เย็น:
มีคาห์ 2; ลูกา 11
ความเชื่อชนิดใหม่
โลกในสมัยโบราณเป็ นสถานที่ที่เต็มไปด้วยอันตราย นานาประเทศไม่รู้วา่ จะรับมือกับความเจ็บป่ วย โรคระบาด ความ
แห้งแล้ง และความอดอยากอย่างไร ศัตรู ลอ้ มรอบพวกเขา แต่อิสราเอลเรี ยนรู้วา่ พระเจ้า คือ เอล ชัดดัย นัน่ คือ ผูท้ รงพอเพียงใน
ทุกสิ่ ง ผูป้ กป้ อง ผูป้ ลดปล่อย ผูเ้ ยียวยา ฐานที่มนั่ "โล่และดั้ง" ของพวกเขา (สดุดี 91:4) ประชาชาติอื่น ๆ มองไปที่เทพเจ้าของ
พวกเขา นัน่ คือต่อเทพเจ้าแห่งฝน ถ้าพวกเขาต้องการฝน ต่อเทพเจ้าแห่งความอุดมสมบูรณ์เพื่อการเก็บเกี่ยวของพวกเขา พวกเขา
ถวายเครื่ องบูชาที่ศาลเจ้าเพื่อเป็ นสิ นบนเมื่อพวกเขาต้องการความช่วยเหลือ นัน่ คือทั้งหมดที่เหล่าเทพเจ้าต้องการ มิฉะนั้นผูค้ น
จะลืมพวกเขา คนต่างศาสนาไม่มีความรู้สึกที่ยงั่ ยืนเกี่ยวกับความห่วงใยอย่างต่อเนื่องของพระเจ้า มีเพียงอิสราเอลเท่านั้นที่
เพลิดเพลินกับสิ่ งนี้ ในอิสราเอล พระเจ้าส่ งผูเ้ ผยพระวจนะมาเพื่อให้พวกเขามัน่ ใจในความสัตย์ซื่อของพระองค์ พระองค์ทรง
เป็ นผูเ้ ลี้ยงของพวกเขา และพวกเขาเป็ นแกะแห่งทุ่งหญ้าของพระองค์ นี่เป็ นเรื่ องที่เหนือความคาดหมายของคนนอกศาสนา
แม้แต่พวกนอกรี ตที่ยงิ่ ใหญ่ที่สุด เช่น โสเครติสและอริ สโตเติลก็ไม่มีความตระหนักรู้ถึงพระเจ้า ชาวอิสราเอลเป็ นคนของ
พระเจ้ า ยกตัวอย่างเช่น ในขณะที่ชาวเอเฟซัสยกย่องไดอาน่าแห่งชาวเอเฟซัส (หรื ออาร์ทิมิสตามภาษากรี ก) พวกเขาไม่ใช่คน
ของไดอาน่า พวกเขาเพียงแค่สนับสนุนเธอ

ในพันธสัญญาใหม่ ความไว้วางใจที่ผเู้ ผยพระวจนะในสมัยก่อนสื่ อสารยังคงดำเนินต่อไป แต่ขยายออกไปนอกเหนือ


พันธสัญญาทางกายภาพ ครอบคลุมมากกว่าสิ่ งที่ผเู้ ผยพระวจนะเองเข้าใจ สิ่ งที่พระคริ สตเจ้าทรงแนะนำนั้นครอบคลุมชีวิตที่นี่
และหลังความตาย พระเยซูทรงแสดงให้เราเห็นว่าอันตรายฝ่ ายร่ างกายไม่ใช่สิงที่สำคัญทั้งหมด และความเจริ ญรุ่ งเรื องทางวัตถุ
ของเราก็เช่นกัน สถานะของตัวตนที่แท้จริ งของเรา วิญญาณจิตของเรา เป็ นประเด็นเดียวที่ส ำคัญทั้งหมด ร่ างกายจะตาย แต่ที่แย่
กว่านั้นคือการที่วิญญาณจิตต้องพินาศ อย่ากลัวผูท้ ี่ฆ่าได้แต่กาย แต่ไม่สามารถฆ่าจิตวิญญาณ แต่จงกลัวพระองค์ผทู้ รงสามารถ
ทำลายทั้งจิตวิญญาณและกายในนรกได้ (มัทธิว 10:28)
เอเสเคียลเขียนว่า “ชีวิตใดที่ทำบาปก็จะต้ องตาย” (เอเสเคียล 18:4) แต่พระเยซูตรัสว่าวิญญาณจิตที่ท ำบาปนั้นตายแล้ว
พระองค์มาในฐานะการเป็ นขึ้นมาจากความตายและชีวิต!
28
พฤศจิกายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“พระเจ้าทรงรักโลกดังนี้ คือได้ประทานพระบุตรองค์เดียวของพระองค์ เพื่อทุกคนที่วางใจในพระบุตรนั้นจะไม่พินาศ แต่มีชีวิต
นิรันดร์” (ยอห์น 3:16)
ไฟประจำวัน!
คนชอบธรรมจะดำเนินชีวิตอยูโ่ ดยความเชื่อ
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
ยอห์น 3:2, 16; 11:17–27; กาลาเทีย 3:11; ยากอบ 2:19
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
1 พงศาวดาร 24–25; 1 เปโตร 5
เย็น:
มีคาห์ 3; ลูกา 12
ขั้นที่ 1 ขั้นที่ 2
มีระดับความเชื่อที่หลากหลาย เราอาจเริ่ มต้นด้วยนิมิตที่จ ำกัดของสิ่ งที่จะไว้วางใจพระเจ้า หรื อด้วยการอธิษฐานเพียง
ครั้งเดียวว่า “โอ้ พระเจ้า ช่วยข้าพระองค์ดว้ ย!” ผมต้องการช่วยคุณให้ข้ ึนบันไดทีละขั้น มองหาพระเจ้าสำหรับสถานการณ์ของ
คุณที่กว้างขึ้น ความเชื่อของคุณอาจเป็ นไปตามกระบวนการบางอย่างแบบนี้ ขั้นแรก จงเชื่อว่ าบางสิ่ งเป็ นจริง ยากอบเตือนผูท้ ี่
เชื่อในพระเจ้าองค์เดียวว่าพวกมารก็เชื่อเช่นเดียวกัน ซึ่งไม่ค่อยหนุนใจนัก! มารธาเชื่อในการเป็ นขึ้นมาจากความตายในวัน
สุ ดท้าย แต่พระคริ สต์ทรงต้องการความเชื่อที่กระโจนไปสู่ การเป็ นขึ้นมาจากความตายในที่ต่าง ๆ ในทำนองเดียวกันชาวยิวเชื่อ
ว่าศาสนาของพวกเขาเป็ นความจริ ง แม้วา่ มันจะให้ผลเพียงเล็กน้อยต่อพวกเขาในทางปฏิบตั ิ เพราะว่ามันไม่เคยเกิดขึ้นจริ ง สิ่ งนี้
ยังคงเป็ นจริ งในปัจจุบนั ความเชื่ออาจไม่มีอะไรมากไปกว่าการเห็นพ้องกับคำแถลงแห่งความจริ งหรื อการยอมรับทางสติปัญญา
การเชื่อว่ามีพระเจ้าไม่ใช่ความเชื่อที่ท ำให้รอด ยิง่ กว่าการเชื่อว่ามีดาวเคราะห์ชื่อพลูโต แต่มนั เป็ นจุดเริ่ มต้นที่สำคัญ
ขั้นที่ 2 เชื่อว่ าบุคคลนั้นเป็ นของแท้ นิโคเดมัสกล่าวว่า “ท่านเป็ นครู ที่มาจากพระเจ้า” (ยอห์น 3:2) พระเยซูตอ้ งการ
ความเชื่อที่สูงกว่าการถือว่าเป็ นครู เขาพูดคุยกับนิโคเดมัสเกี่ยวกับการเชื่อในรู ปแบบใหม่ แบบที่นิโคเดมัสไม่เคยคิดมาก่อน
หลายคนเชื่อในพระเยซูเช่นเดียวกับนิโคเดมัส นัน่ คือในฐานะคนดีและแท้ แต่ถา้ พระองค์เป็ นคนดี พระองค์กไ็ ม่ใช่คนโกหก แต่
พระองค์อา้ งว่าเป็ นพระบุตรของพระเจ้า คนดีจะไม่กล่าวอ้างเช่นนั้น เว้นแต่จะเป็ นเรื่ องจริ ง มิฉะนั้น เขาจะเป็ นผูด้ ูหมิ่นศาสนา
ดังนั้น ถ้าพระองค์เป็ นคนดี พระองค์ตอ้ งเป็ นอย่างที่พระองค์ตรัสว่าทรงเป็ น นัน่ คือพระคริ สต์ พระผูช้ ่วยให้รอดของโลก!

29
พฤศจิกายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“อย่าทำงานเพื่อแสวงหาอาหารที่เสื่ อมสูญได้ แต่จงแสวงหาอาหารที่คงทนอยูจ่ นถึงชีวิตนิรันดร์ ซึ่งบุตรมนุษย์จะมอบให้กบั
พวกท่าน เพราะพระเจ้าคือพระบิดาทรงรับรองท่านผูน้ ้ ีแล้ว” (ยอห์น 6:27)
ไฟประจำวัน!
พระคริ สต์ตอ้ งได้รับความไว้วางใจสำหรับทุกสิ่ ง ไม่ใช่แค่การอัศจรรย์ครั้งหรื อ 2 ครั้งเท่านั้น
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
มัทธิว 16:14; 21:11; ยอห์น 2:23–25; 6:36; 1 โคริ นธ์ 3:1–2
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
1 พงศาวดาร 26–27; 2 เปโตร 1
เย็น:
มีคาห์ 4; ลูกา 13
ขั้นที่ 3 ขั้นที่ 4
เมื่อเราเติบโตและก้าวหน้าในเส้นทางแห่งความเชื่อตลอดชีวิต เราก้าวหน้าจากวัยเด็กไปสู่ วยั ผูใ้ หญ่ พี่นอ้ งทั้งหลาย
ข้าพเจ้าไม่อาจจะพูดกับท่าน เหมือนพูดกับพวกที่อยูฝ่ ่ ายจิตวิญญาณ แต่ตอ้ งพูดเหมือนพวกที่อยูฝ่ ่ ายเนื้อหนัง เหมือนกับพวกที่
เป็ นทารกในพระคริ สต์ขา้ พเจ้าเลี้ยงพวกท่านด้วยน้ำนม ไม่ใช่ดว้ ยอาหารแข็ง เพราะว่าเมื่อก่อนท่านไม่สามารถรับ และเดี๋ยวนี้
ท่านก็ยงั คงไม่สามารถรับได้ (1 โคริ นธ์ 3:1–2) ให้เราดูวา่ ความเชื่อของเราเจริ ญเติบโตต่อไปอย่างไร:
ขั้นที่ 3 : เชื่อในพระเยซูในฐานะผู้ได้ รับการดลใจ เหมือนผู้เผยพระวจนะ พวกสาวกบอกพระคริ สต์วา่ ผูค้ นคิดอย่างไร
เกี่ยวกับพระองค์ “บางคนว่ า [คุณเป็ น] เป็ นยอห์ นผู้ให้ บัพติศมา แต่ บางคนว่ าเป็ นเอลียาห์ ส่ วนคนอื่นๆ ว่ าเป็ นเยเรมีย์ หรื อเป็ น
คนหนึ่งในบรรดาผู้เผยพระวจนะ” (มัทธิว 16:14) พระองค์เสด็จเข้ากรุ งเยรู ซาเล็มและ “ฝูงชนก็ตอบว่ า “นี่ คือเยซูผ้ เู ผยพระ
วจนะที่มาจากนาซาเร็ ธแคว้ นกาลิลี”” (มัทธิว 21:11) พวกเขาปรบมือให้พระองค์ แต่พระเยซูทรงร้องไห้เช่นเดียวกับเยเรมีย ์ พวก
เขาไปไกลมากแล้ว แต่ไม่อนุญาตให้พระองค์น ำพวกเขามาอยูใ่ ต้ปีกของพระองค์และช่วยพวกเขาให้รอด เราไม่สามารถพูดได้วา่
พระองค์เป็ นผูเ้ ผยพระวจนะ เช่นเดียวกับที่กล่าวว่าเซอร์ คริ สโตเฟอร์ เวรน เป็ นสถาปนิก ผูเ้ ผยพระวจนะต้องถูกได้ยนิ และการ
จะได้ยนิ พระคริ สต์เป็ นเส้นทางที่ยาวนาน นาน

ขั้นที่ 4: เชื่อในฤทธิ์อำนาจของพระเจ้ า ในเยรู ซาเล็มทุกคนเชื่อในฤทธิ์ อ ำนาจของพระองค์ หลายคนเชื่อในฤทธิ์ อ ำนาจ


ของพระคริ สต์ดว้ ย พวกเขาไม่สงสัยในสิ่ งที่พวกเขาเห็น นัน่ คือพระองค์ทรงมีฤทธิ์ อ ำนาจในการรักษา ว่าพระองค์ทรงเป็ นผู้
ทำการอัศจรรย์ และพวกเขาต้องการตั้งพระองค์ให้เป็ นกษัตริ ยด์ ว้ ยซ้ำ แต่พระคริ สต์ตอ้ งการความเชื่อที่กว้างกว่านั้น พวกเขาเชื่อ
ในฤทธิ์ อำนาจทางกายภาพของพระองค์ แต่ไม่ได้ต้ งั พระองค์ไว้ในตำแหน่งที่ควรจะเป็ น นัน่ คือเป็ นองค์พระผูเ้ ป็ นเจ้าและพระผู้
ช่วยให้รอด พวกเขาทูลขอการอัศจรรย์จากพระองค์ แต่พระองค์มีแนวคิดอื่นนอกเหนื อจากการสนองความรักที่มีต่อสิ่ งเร้าใจ
ความเชื่อของพวกเขาเป็ นเพียงในพระองค์ในฐานะผูร้ ักษา ซึ่งมีค ่ามากกว่าความเชื่อในผูช้ ายคนหนึ่งในฐานะแพทย์ คนขับรถ
หรื อแม้แต่ช่างประปา
เราไว้วางใจหมอในฐานะหมอเท่านั้น ไม่ใช่ในฐานะการช่วยเหลือรายวัน พระคริ สต์ตอ้ งได้รับความไว้วางใจสำหรับ
ทุกสิ่ ง ไม่ใช่แค่การอัศจรรย์ครั้งหรื อ 2 ครั้ง

30
พฤศจิกายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“ให้พระคริ สต์ประทับในใจของท่านโดยทางความเชื่อ ให้ท่านได้หยัง่ รากและตั้งมัน่ อยูใ่ นความรัก...เพื่อพวกท่านจะได้รับความ
บริ บูรณ์ของพระเจ้าอย่างเต็มเปี่ ยม (เอเฟซัส 3:17, 19)
ไฟประจำวัน!
ข้าพเจ้าถูกตรึ งร่ วมกับพระคริ สต์แล้ว ข้าพเจ้าเองไม่มีชีวิตอยูต่ ่อไป แต่พระคริ สต์ต่างหากที่ทรงมีชีวิตอยูใ่ นข้าพเจ้า ชีวิตซึ่งข้าพ
เจ้าดำเนินอยูใ่ นร่ างกายขณะนี้ ข้าพเจ้าดำเนินอยูโ่ ดยความเชื่อในพระบุตรของพระเจ้าผูไ้ ด้ทรงรักข้าพเจ้า และได้ทรงสละพระ
องค์เองเพื่อข้าพเจ้า
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
สดุดี 27:10; 41:9; กาลาเทีย 2:20; เอเฟซัส 4:14–15; 1 เธสะโลนิกา 5:23
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
1 พงศาวดาร 28; 2 เปโตร 2
เย็น:
มีคาห์ 5; ลูกา 14
ขั้นที่ 5 ขั้นที่ 6
อัครทูตเปาโลเป็ นห่วงอย่างมากเกี่ยวกับการทำให้คริ สเตียนใหม่เป็ นผูใ้ หญ่ดว้ ยการมอบคำสอนของเขาให้ เพื่อเราจะ
ไม่เป็ นเด็กอีกต่อไป ถูกซัดไปซัดมาและพัดไปพัดมาด้วยลมคำสัง่ สอนทุกอย่าง ด้วยเล่ห์กลของมนุษย์...แต่ให้เรายึดถือความจริ ง
ด้วยความรัก เพื่อจะเจริ ญขึ้นในทุกด้านสู่พระองค์ผเู้ ป็ นศีรษะคือพระคริ สต์ (เอเฟซัส 4:14–15) ขณะที่คุณเดินต่อไปในเส้นทาง
แห่งความเชื่อตลอดชีวิต คุณจะทำตามขั้นตอนเหล่านี้ ขั้นที่ 5 : เชื่ออย่ างไว้ วางใจ สิ่ งนี้เปลี่ยนความเชื่อเป็ นความสัมพันธ์ส่วนตัว
เราไว้วางใจคนอื่นเช่นพ่อแม่ของเรา พวกเขารู้จกั เรา เรารู้สึกว่าพวกเขาจะไม่ท ำให้เราผิดหวัง นัน่ คือ “ความเชื่อ” ส่ วนตัวที่
พระเจ้าต้องการให้เราวางในพระองค์ ชีวิตของเราเปิ ดกว้างต่อพระองค์ราวกับว่าพระองค์ประทับอยูใ่ นห้องนัง่ เล่นของเรา เรา
อาจสารภาพบาปของเราด้วย พระองค์รู้ถึงสิ่ งเหล่านั้นอยูแ่ ล้ว ถ้าเราติดอยูบ่ นหิ้งผนังบนภูเขาและผูช้ ่วยชีวิตที่เชี่ยวชาญมา เราก็
ต้องฝากชีวิตไว้ในมือของเขา ไม่วา่ เราจะเก่ง รวย แข็งแกร่ ง หรื อโง่เขลาเพียงใด นัน่ คือความเชื่อที่ช่วยให้รอด และพระคริ สต์
ทรงเป็ นผูช้ ่วยชีวิตของเรา

ขั้นที่ 6: เชื่อในพระคริสต์ นี่คือความเชื่อที่แท้จริ ง เราไว้วางใจพระคริ สต์ในแบบที่เราไม่เคยไว้วางใจแม้แต่เพื่อนสนิท


เพื่อนสามารถทำให้เราผิดหวังได้ “แม้ แต่ เพื่อนสนิทผู้ที่ข้าพเจ้ าไว้ วางใจ ผู้รับประทานอาหารของข้าพเจ้ าก็ยกส้ นเท้ าใส่ ข้าพเจ้ า”
(สดุดี 41:9) บรรพบุรุษของเราอาจทำให้เราผิดหวังได้ “แม้ บิดาและมารดาของข้าพระองค์ ทอดทิง้ ข้ าพระองค์ แต่ พระยาห์ เวห์ จะ
ทรงยกข้าพระองค์ ขึน้ ” (สดุดี 27:10) มันหมายถึงการยอมจำนน ปล่อยให้พระองค์เข้ามาครอบครองในทุกด้านของชีวิตเรา ถ้า
พระองค์จะทรงทำให้ศีรษะของคุณอยูเ่ หนือน้ำ พระองค์จะต้องทรงจับคุณไว้อย่างสมบูรณ์
นัน่ คือสิ่ งที่เปาโลต้องการสำหรับผูท้ ี่กลับใจใหม่ “ขอให้ พระเจ้ าแห่ งสันติสุขทรงชำระท่ านทั้งหลายให้ เป็ นคนบริ สุทธิ์
หมดจด และทรงรั กษาทั้งวิญญาณ จิ ตใจ และร่ างกายของท่ านไว้ ให้ ปราศจากการติเตียน จนถึงวันที่พระเยซูคริ สต์ องค์ พระผู้เป็ น
เจ้ าของเราจะเสด็จมา” (1 เธสะโลนิกา 5:23) พระคริ สต์สามารถช่วยเราให้รอดเฉพาะสิ่ งที่เราให้แก่พระองค์เท่านั้น จงมอบทุก
สิ่ งแด่พระองค์ ทั้งแม่กญ ุ แจ สต็อก และถังน้ำมัน นัน่ คือ ร่ างกาย จิตใจ และวิญญาณ เข้าสู่ การดูแลทั้งหมดของพระองค์ตลอด
เวลา แล้วพระองค์จะทำอะไรให้เราได้บา้ ง พระองค์ไม่ตอ้ งการช่วยเราทีละน้อย ซาตานเป็ นเพียงคูแ่ ข่งรายเดียวสำหรับการครอบ
ครองเราในลักษณะนั้น หิ วกระหายเรา ต้องการที่จะ "เขมือบ" เรา แต่เมื่อคุณมี “ความเชื่อที่เต็มเปี่ ยม” คุณก็เป็ นของพระเจ้าเอง

พระโลหิ ตของพระเยซูมีมา 2,000 ปี แล้ว


ถ้ามีฤทธิ์ อำนาจขนาดนั้น ทำไมจึงยังมีคนบาปมากมายอยูใ่ นโลก?
มันเหมือนกับการทำงานในโรงงานทำสบู่ แม้วา่ คุณจะถูกรายล้อมไปด้วยสบู่
แต่คุณไม่ใช่สบู่กบั ร่ างกายของคุณ คุณก็ยงั สกปรกอยูด่ ี
ข่าวประเสริ ฐที่ไม่ได้ถูกประกาศนั้นไม่ใช่ข่าวประเสริ ฐเลย
ความมีเกียรติไม่ใช่ผลของพระวิญญาณ แต่คือความชื่นชมยินดีต่างหาก

1
ธันวาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“เพราะเหตุน้ ี เราจะต้องเอาใจใส่ ในสิ่ งต่างๆ ที่เราได้ยนิ ให้มากขึ้นอีก เพื่อเราจะไม่ห่างไกลไปจากข้อความเหล่านั้น” (ฮีบรู 2:1)
ไฟประจำวัน!
ถ้าเรามี "ความจริ ง" โดยปราศจากความจริ งของพระคริ สต์ เราก็ตายโดยปราศจากความจริ งแห่งการให้อภัย
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
สดุดี 14:1; โรม 10:14; 2 เธสะโลนิกา 2:11–12; ฮีบรู 2:1, 3
อ่านพระคัมภีร์ในหนึ่งปี :
เช้า:
1 พงศาวดาร 29; 2 เปโตร 3
เย็น:
มีคาห์ 6; ลูกา 15
ความไม่ เชื่อเป็ นสิ่ งที่ให้ อภัยได้ เมื่อใด?
การไม่เชื่อในพระเจ้าสามารถได้รับการอภัย ถ้าผูค้ นไม่รู้เกี่ยวกับพระองค์ “พวกที่ยงั ไม่ ได้ ยินถึงพระองค์ จะเชื่ อใน
พระองค์ ได้ อย่ างไร?” (โรม 10:14) แต่ความไม่รู้อาจจำเป็ นต้องได้รับการให้อภัย ในสังคมตะวันตกของเรา การไม่ได้ยนิ ข่าว
ประเสริ ฐถือเป็ นความดื้อรั้นที่ไม่อาจให้อภัยได้ พระเจ้าจะให้อภัยคนที่ไม่ยอมแม้แต่จะฟังหลังจากที่พระบุตรสิ้ นพระชนม์เพราะ
บาปของพวกเขาได้อย่างไร? “เพราะเหตุนี้ เราจะต้ องเอาใจใส่ ในสิ่ งต่ างๆ ที่ เราได้ ยินให้ มากขึน้ อีก เพื่อเราจะไม่ ห่างไกลไปจาก
ข้ อความเหล่ านั้น เราจะรอดพ้ นได้ อย่ างไร? ถ้ าเราละเลยความรอดอันยิ่งใหญ่ เช่ นนี?้ ” (ฮีบรู 2:1, 3) ถ้าเรามี “ความจริ ง” โดย
ปราศจากความจริ งของพระคริ สต์ เราก็ตายโดยปราศจากความจริ งแห่งการให้อภัย

บิชอปคนหนึ่งไปหาช่างตัดผมที่ช่างพูดมากเพื่อตัดผม การจับตัวผูร้ ับใช้พระเจ้านัง่ อยูบ่ นเก้าอี้ของเขาเป็ นเวลา 15 นาที


เขาป่ าวประกาศอย่างแข็งกร้าวว่าเขาเป็ นผูไ้ ม่เชื่อ บิชอปถามช่างตัดผมว่า “คุณอ่านพระคัมภีร์ไหม?”… “ผม อ่านพระคัมภีร์หรื อ?
ไม่อย่างแน่นอน ผมเป็ นคนที่ไม่เชื่อ”…“คุณอ่านหนังสื อศาสนาคริ สต์หรื อเปล่า?”…“คุณคงไม่จบั ได้วา่ ผมอ่านขยะนัน่ ผมเป็ น
คนที่ไม่เชื่อ ผมบอกคุณแล้ว”…“คุณเคยไปคริ สตจักรหรื อฟังทีวีหรื อวิทยุเกี่ยวกับพระเจ้าไหม?”…“พนันได้วา่ ผมไม่ท ำ!”…“คุณ
มีเพื่อนคริ สเตียนคนไหนที่บอกคุณเกี่ยวกับประสบการณ์ทางศาสนาของพวกเขาไหม?”…“ไม่ ขอบคุณ!”…“แล้วใครบางคนมา
จากคริ สตจักรเพื่อคุยกับคุณบ้างไหม?”…“ผูผ้ ลักดันทางศาสนาเหล่านั้นรู้จกั ผม! พวกเขาไม่กล้าแม้แต่จะเคาะที่ประตูของผม 2
ครั้ง!” บิชอปรอด้วยการยิม้ ช่างตัดผมถาม “คุณเข้าใจแล้วใช่ไหม?” บิปชอบตอบว่า “สมบูรณ์แบบ!” “ผมเข้าใจว่าคุณไม่ใช่คนที่
ไม่เชื่อเลย” ช่างตัดผมตอบว่า “ผมบอกแล้วไงว่าผมไม่เชื่ออะไรเลย” บิชอปตอบว่า “คุณไม่สามารถเป็ นผูท้ ี่ไม่เชื่อได้ คุณไม่รู้
ด้วยซ้ำว่าคุณกำลังไม่เชื่ออะไร คุณไม่สามารถไม่เชื่อสิ่ งที่คุณไม่เคยได้ยนิ ได้ ผมจะบอกคุณว่าคุณเป็ นอะไร คุณเป็ นคนโง่เขลา”
ช่างตัดผมพูดว่า “บิชอป ผมแปลกใจที่ได้ยนิ คุณใช้ภาษาแบบนั้น” บิชอปตอบว่า “ผมไม่ได้ก ำลังสาบาน ผมกำลังอ้างอิงพระ
คัมภีร์ ซึ่งบอกว่า "คนโง่ รำพึงในใจตนว่ า “ไม่ มีพระเจ้ า”" (สดุดี 14:1) และ "เพราะเหตุนี้ พระเจ้ าจึ งทรงให้ ความลุ่มหลงมาถึง
พวกเขา ...เพื่อทุกคนที่ไม่ เชื่ อความจริ ง แต่ ยินดีในการอธรรม จะถูกพิพากษา" (2 เธสะโลนิกา 2:11–12) คุณเป็ นคนไม่รู้เกี่ยวกับ
พระเจ้า และเป็ นคนโง่ที่ไม่อยากรู้ ดังนั้นคุณจึงถูกสาปแช่งแล้ว!”
จงรู้ว่าคุณเชื่ออะไร!
2
ธันวาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“มีความชื่นชมยินดีที่เห็นท่านอยูก่ นั อย่างเรี ยบร้อย และเห็นความเชื่อมัน่ คงของพวกท่านในพระคริ สต์เพราะฉะนั้น ในเมื่อพวก
ท่านรับพระเยซูคริ สต์องค์พระผูเ้ ป็ นเจ้าไว้แล้ว ก็จงดำเนินชีวิตในพระองค์ดว้ ยจงหยัง่ รากและก่อร่ างสร้างขึ้นในพระองค์ จงมัน่
คงในความเชื่อตามที่ได้รับการสอนมาแล้ว และจงให้การขอบพระคุณทวียงิ่ ขึ้น” (โคโลสี 2:5–7)
ไฟประจำวัน!
การเจิมที่ฉนั ได้รับจากพระองค์ด ำรงอยูใ่ นฉัน และฉันก็ด ำรงอยูใ่ นพระองค์
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
อพยพ 30:30; 40:15; เลวีนิติ 8:1–13; 2 ซามูเอล 1:21; กิจการ 10:38;
โคโลสี 2:5–7; 1 ยอห์น 2:27
อ่านพระคัมภีร์ในหนึ่งปี :
เช้า:
2 พงศาวดาร 1; 1 ยอห์น 1
เย็น:
มีคาห์ 7; ลูกา 16
การเจิมของพระเจ้ า—การยืนยันของมนุษย์
พระเจ้าไม่เคยเจิมใคร 2 ครั้ง ดาวิดได้รับการเจิมจากองค์พระผูเ้ ป็ นเจ้าผ่านทางซามูเอล ต่อมาผูอ้ าวุโสของอิสราเอลได้
เจิมเขาเป็ นครั้งที่ 2 จึงเป็ นการยืนยันว่าพวกเขายอมรับสิ ทธิอ ำนาจกษัตริ ยแ์ ละการเจิมของพระเจ้า พระเยซูได้รับการเจิมจาก
พระเจ้า หลังจากนั้นผูห้ ญิงก็เทน้ำมันหอมลงบนพระองค์ ซึ่งพระองค์ตรัสว่าเพื่อการฝังพระศพของพระองค์ เป็ นส่วนพิเศษใน
การรับใช้ของพระองค์ต่อพระบิดาและเพื่อมนุษยชาติ “คือเรื่ องที่ว่าพระเจ้ าทรงเจิ มพระเยซูชาวนาซาเร็ ธด้ วยพระวิญญาณบริ สุ
ทธิ์ และด้ วยฤทธานุภาพอย่ างไร และเรื่ องที่ว่าพระเยซูเสด็จไปทำคุณประโยชน์ และรั กษาคนทั้งหลายที่ถกู มารเบียดเบียนอย่ างไร
เพราะว่ าพระเจ้ าสถิตอยู่กับพระองค์ ” (กิจการ 10:38) นอกเหนือจากตัวอย่างเหล่านี้ ปุโรหิ ตหรื อกษัตริ ยไ์ ด้รับการเจิมครั้งแรก
เมื่อเริ่ มต้นอาชีพเท่านั้น
บางคนร้องเพลงเพื่อการเจิมครั้งใหม่และอธิษฐานเพื่อเพ็นเทคอสต์อีกครั้ง แต่แนวคิดทั้งหมดเกี่ยวกับการเจิม "อีกครั้ง"
หรื อ "ใหม่" ราวกับว่าต้นฉบับได้จางหายไปแล้ว เป็ นเรื่ องแปลกสำหรับความคิดในพันธสัญญาใหม่เกี่ยวกับพระวิญญาณนิรัน
ดร์ การเจิมเป็ นการต่ออายุตนเอง นัน่ คือเป็ นการต่ออายุเรา เราไม่ได้ต่ออายุการเจิม พระองค์ทรงเป็ นพระวิญญาณแห่งความใหม่
“การชโลมซึ่ งท่ านได้ รับจากพระองค์ นั้นก็ด ำรงอยู่กับท่ าน” (1 ยอห์น 2:27) ในพระธรรมอพยพ เราอ่านว่า “เจ้ าจงเจิ มพวกเขา...
พวกเขาจะได้ เป็ นปุโรหิ ตปรนนิบัติเรา” (อพยพ 30:30) พระธรรมเล่มที่ 2 ของซามูเอลพูดถึง "โล่ ของวีรบุรุษ" (2 ซามูเอล 1:21)
ซึ่งได้รับการเจิมสำหรับการต่อสู้ และพระธรรมเลวีนิติบอกเราถึงการเจิมสำหรับการรับใช้ที่บริ สุทธิ์ และความบริ สุทธิ์ เรา
สามารถวางมือบนเพื่อนของเราและอธิษฐานเพื่อนำกำลังและพระพรของพระเจ้ามาให้ แต่เราต้องไม่คิดว่าเราสามารถเติมพระ
วิญญาณให้กบั คนๆ หนึ่งได้ทุกครั้ง โดยถือว่าการเติมนั้นได้แห้งไป พระวิญญาณบริ สุทธิ์ ไม่ระเหย! ถ้าเรากำลังทำงานที่พระเจ้า
ได้ทรงเรี ยกเรา การเจิมจะพำนักอยูเ่ หนือเราโดยไม่ลดลง เป็ นรู ปแบบเดียวกันกับ “ชีวิตนิรันดร์” เราได้รับสิ่ งนี้ทุกชัว่ ขณะ
ราวกับน้ำตกที่ไหลมาจากแม่น้ำที่ไหลไม่ขาดสาย สิ่ งที่จ ำเป็ นคือเราปลดปล่อยพลังของพระองค์โดยทำงานในพระนามของ
พระองค์ จงแหวกว่ายดื่มด่ำอย่างเต็มที่ในแม่น้ำแห่งพระเจ้าในวันนี้

3
ธันวาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“พวกท่านจึงไม่ใช่คนนอกและคนต่างด้าวอีกต่อไป แต่เป็ นพลเมืองเดียวกับบรรดาธรรมิกชน และเป็ นครอบครัวของพระเจ้า
ท่านทั้งหลายถูกก่อร่ างสร้างขึ้นบนรากฐานของบรรดาอัครทูตและบรรดาผูเ้ ผยพระวจนะ มีพระเยซูคริ สต์เป็ นศิลาหัวมุม” (เอ
เฟซัส 2:19–20)
ไฟประจำวัน!
ถ้าฉันทำสิ่ งที่พวกอัครทูตทำ ฉันก็จะได้สิ่งที่พวกอัครทูตได้!
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
มัทธิว 76:22; เอเฟซัส 2:12; 19
อ่านพระคัมภีร์ในหนึ่งปี :
เช้า:
2 พงศาวดาร 2; 1 ยอห์น 2
เย็น:
นาฮูม 1; ลูกา 17
ข่ าวประเสริฐแห่ งไม้ กางเขน
ข่าวประเสริ ฐที่เหล่าสาวกประกาศเมื่อพวกเขาออกไปนั้น คือข่าวประเสริ ฐเรื่ องราชอาณาจักรของพระเจ้า นัน่ คือข่าวดี
ที่วา่ ราชอาณาจักรอยูใ่ กล้พวกเขาแล้ว แต่พวกเขาเทศนาด้วยถ้อยคำที่ยอห์นผูถ้ วายบัพติศมาไม่ได้ใช้ และพระเยซูเองใช้เป็ นครั้ง
คราวเท่านั้น ข่าวประเสริ ฐเรื่ องราชอาณาจักรของพวกเขาได้รับการป่ าวประกาศในภาษาของพระคริ สต์ที่ถูกตรึ งกางเขน ไม่ใช่
ข่าวประเสริ ฐอื่น แต่มีขอ้ เท็จจริ งใหม่มากมาย ข้อเท็จจริ งที่สำคัญยิ่งเกี่ยวกับราชอาณาจักรของพระเจ้า นัน่ คือไม้ กางเขน เมื่อพระ
เยซูได้ตรัสเรื่ องนี้ ก่อนหน้านี้ เปโตรพยายามกล่าวห้ามพระองค์ดว้ ยซ้ำ ในตอนแรกสิ่ งที่ดูเหมือนอุกอาจสำหรับเหล่าสาวกคือ
(เมื่อพวกเขาตระหนักในภายหลัง) ความลึกลับที่สำคัญทั้งหมดของราชอาณาจักร นัน่ คือการเสี ยสละตนเองของกษัตริ ยเ์ พื่อราช
อาณาจักร ราชอาณาจักรนี้ ถูกสถาปนาขึ้นโดยการต่อสู้ครั้งยิง่ ใหญ่และชัยชนะของพระคริ สต์ พระโลหิ ตของพระองค์ท ำ
เครื่ องหมายรากฐาน กลโกธาเป็ นที่มาของพลวัตแห่งการทรงไถ่ของพระเจ้า พลังงานนิวเคลียร์แห่งข่าวประเสริ ฐ และของ
ประทานทั้งหมดของพระวิญญาณ

นักศาสนาสมัยใหม่ก ำลังยุง่ อยูก่ บั การสร้างทางเลี่ยงกลโกธา ข่าวประเสริ ฐของพระคัมภีร์ถูกล้อเลียนในฐานะข่าว


ประเสริ ฐของเลือดที่แห้ง ราวกับว่าในโลกของเรา ใคร ๆ ก็สามารถคลื่นไส้เรื่ องเลือดได้! ถนนที่หลีกเลี่ยงกลโกธาพิสูจน์แล้วว่า
ไปไม่ถึงไหน ไม่มีเส้นทางอ้อม ราชอาณาจักรของพระเจ้ามีจุดตรวจและการควบคุมชายแดน และอยูท่ ี่ไม้กางเขน โดยปราศจาก
การไปที่กลโกธา ทุกคนดำเนินชีวิตแบบชั้น 2 ในฐานะผูอ้ พยพผิดกฎหมาย หนังสื อเดินทางและใบอนุญาตเข้าประเทศ คือ การก
ลับใจและความเชื่อในพระเยซูคริ สต์ จากนั้นเราจะเข้าไปด้วยสิ ทธิพเิ ศษอย่างสมบูรณ์ของพลเมือง ไม่ใช่ “คนนอกและคนต่ าง
ด้ าวอีกต่ อไป แต่ เป็ นพลเมืองเดียวกับบรรดาธรรมิกชน และเป็ นครอบครั วของพระเจ้ า” (เอเฟซัส 2:19) “พันธสัญญาแห่ งพระ
สัญญา” (ข้อ 12) เป็ นของเรา เราไม่ใช่ขอทานที่ขอให้วสิ ุ ทธิชนที่ถูกยกขึ้นสู่พระสิ ริส่งเศษเสี้ ยวของความช่วยเหลือมาให้เรา เรา
ไม่จ ำเป็ นต้องเก็บกระดูกของพวกเขา โดยหวังว่าความบริ สุทธิ์ หรื อพระคุณบางอย่างของพวกเขาจะปัดเป่ ามาสู่เราและยืนหยัดใน
เครดิตของเรา ผูเ้ ชื่อไม่ได้เป็ นผูเ้ ก็บกระดูก ถ้าเราทำสิ่ งที่พวกอัครทูตทำ เราก็จะได้สิ่งที่พวกอัครทูตได้รับจากพระบิดาองค์
เดียวกัน โดยพระวิญญาณองค์เดียวกัน บนพื้นฐานแห่งพระคุณอย่างเดียวกัน

4
ธันวาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“เราจึงอดอาหารและวิงวอนพระเจ้าของเราเพื่อเรื่ องนี้ และพระองค์ทรงฟังเสี ยงร้องทูลของเรา” (เอสรา 8:23)
ไฟประจำวัน!
เมื่อท่านเมื่อถืออดอาหาร จงล้างหน้าและเอาน้ำมันชโลมศีรษะ เพื่อคนทั้งหลายจะไม่รู้วา่ ท่านถืออดอาหาร แต่ให้ปรากฏแก่พระ
บิดาของท่าน ผูส้ ถิตในที่ลบั และพระบิดาของท่าน ผูท้ อดพระเนตรเห็นในที่ลบั จะประทานบำเหน็จแก่ท่าน
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
เอสรา 8:23; สดุดี 119:105; มัทธิว 6:16–18; มาระโก 9:25–29; ลูกา 4:18–19; 9:2; 11:13; 24:49
อ่านพระคัมภีร์ในหนึ่งปี :
เช้า:
2 พงศาวดาร 3 และ 4; 1 ยอห์น 3
เย็น:
นาฮูม 2; ลูกา 18
การอดอาหารและความเชื่อ
บางคนบอกว่าพวกเขาจะอดอาหาร ถ้าจำเป็ นจนถึงแก่ความตาย จนกว่าพระเจ้าจะตอบพวกเขา นัน่ น่าประทับใจ แต่สิ่ง
นี้ส่งผลต่อพระเจ้าหรื อไม่? ความอดทนของพวกเขาเป็ นหมายสำคัญที่พระเจ้าจะตรัสหรื อ? หรื อพวกเขากำลังพยายามบังคับ
พระหัตถ์ของพระเจ้าโดยการคุกคามฝ่ ายวิญญาณที่ละเอียดอ่อน? พระเจ้าไม่ทรงยอมจำนนต่อแรงกดดันทางอารมณ์ใดๆ การอด
อาหารเพื่อบิดพระกรของพระเจ้าถือเป็ นข้อผิดพลาด การอดอาหารเป็ นเพียงวิธีการสำแดงความเร่ งรี บของเรา เหมือนการร้อง
เรี ยกพระเจ้าด้วยเสี ยงดังหรื อไม่ลดละ คนต่างศาสนาคิดว่าพวกเขาสามารถนำกำลังบางอย่างมาจากพระของพวกเขาได้โดยการ
ออกแรง การเอาเลือดออก และความพยายามอื่นๆ แต่พระเจ้าไม่เหมือนซุส อพอลโล หรื อ บาอัล พระเจ้าทรงพอพระทัยที่ได้ยนิ
ลูกๆ ของพระองค์ และพวกเขาไม่จ ำเป็ นต้องส่ งเสี ยงดังหรื อทำบางสิ่ งบางอย่าง การอธิษฐานเกิดผลเมื่อเรากำลังมีส่วนร่ วมใน
งานของพระเจ้า โดยเฉพาะงานบางอย่าง

พระเยซูทรงสอนเรื่ องการอดอาหาร โดยเน้นย้ำถึงความจำเป็ นในการปฏิบตั ิตามพระบัญชาของพระเจ้า เนื่องจากพันธ


กิจของสาวกคือ “ประกาศแผ่ นดินของพระเจ้ าและรั กษาคนป่ วยให้ หาย” (ลูกา 9:2) จึงเหมาะสมที่จะอธิบายว่าการอธิษฐานและ
การอดอาหารเป็ นองค์ประกอบที่ส ำคัญยิง่ ต่อการทำพันธกิจ “[พระเยซู] ตรั สห้ ามผีโสโครกนั้นว่ า “เจ้ าผีใบ้ หูหนวก เราสั่งให้ เจ้ า
ออกจากตัวเขา และอย่ ากลับเข้ามาสิ งในตัวเขาอีก!” ผีนั้นจึ งร้ องเสี ยงดังและทำให้ เด็กคนนั้นล้ มชักอย่ างรุ นแรง แล้ วมันก็ออกมา
... [เมื่อ] พวกสาวกก็มาทูลถามพระองค์ เป็ นการส่ วนตัวว่ า “ทำไมพวกข้าพระองค์ ถึงขับผีนั้นออกไม่ ได้ ?” พระองค์ ตรั สตอบ
พวกเขาว่ า “ผีแบบนี จ้ ะขับออกได้ ด้วยการอธิ ษฐานและการอดอาหารเท่ านั้น” (มาระโก 9:25–26, 28–29) เป็ นอีกครั้งที่น้ำ
พระทัยที่ถูกเปิ ดเผยของพระเจ้าถูกกระทำ และการอดอาหารมีส่วนทำให้พวกเขาจดจ่อและมีความสามารถที่จะเชื่อฟัง ไม่ใช่เพื่อ
โน้มน้าวใจพระเจ้า
ในการเชื่อพระเจ้าเมื่อเราขอ เราต้องรู้วา่ เราถูกได้ยนิ และเราขอตามพระคำและน้ำพระทัยที่ถูกเปิ ดเผยของพระองค์
พระเยซูตรัสว่า “พระบิดา ผู้สถิตในสวรรค์ [จะ] ประทานพระวิญญาณบริ สุทธิ์ แก่ พวกที่ขอต่ อพระองค์ ” (ลูกา 11:13) และ “
คอย...จนกว่ าท่ านจะสวมด้ วยฤทธิ์ เดชที่มาจากเบือ้ งบน” (ลูกา 24:49) เราควรขอการรักษา สำหรับของประทานฝ่ ายวิญญาณ เพื่อ
กันและกัน สำหรับผูท้ ี่อยูใ่ นที่ประชุมที่ท ำบาป และสำหรับกษัตริ ยแ์ ละผูว้ า่ ราชการ ทั้งหมดนี้ เป็ นคำขอย่อยที่มุ่งไปสู่พระ
ประสงค์ที่ยงิ่ ใหญ่ที่สุดของพระเจ้า นัน่ คือการทรงไถ่ของโลก จงอธิษฐานตามพระคำเพื่อให้ค ำอธิษฐานของคุณเกิดผล
5
ธันวาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“และเช่นเดียวกับที่เรามีลกั ษณะของมนุษย์ดิน เราก็จะมีลกั ษณะของมนุษย์สวรรค์” (1 โคริ นธ์ 15:49)
ไฟประจำวัน!
การเจิมของพระเจ้าเปลี่ยนแปลงเรา
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
อิสยาห์ 6:5–7; 37:31; 1 โคริ นธ์ 15:49
อ่านพระคัมภีร์ในหนึ่งปี :
เช้า:
2 พงศาวดาร 5 ถึง 6:11; 1 ยอห์น 4
เย็น:
นาฮูม 3; ลูกา 19
ไม่ โดดเด่ น เพียงแค่ เปลีย่ นแปลง
การเจิมไม่ได้ท ำให้เราโดดเด่นเหมือนโยเซฟในเสื้ อคลุมหลากสี ในโฆษณาทางโทรทัศน์ หญิงสาวที่เป็ นไข้หวัดได้สูญ
เสี ยการรับรู้กลิ่น และฉี ดน้ำหอมให้ตวั เองมากขึ้นเรื่ อยๆ เมื่อเธอเปิ ดประตูให้คนที่ชอบเธอ น้ำหอมของเธอครอบงำเขาและทำให้
เขาล้มลง! มนุษย์ตอ้ งการอำนาจครอบงำด้วยผลกระทบที่ทุกคนสามารถรู้สึกได้ ยอห์นผูใ้ ห้บพั ติศมาสวมเสื้ อผ้าหยาบที่โดดด่น
และกินของแปลก สิ่ งนี้บ่งชี้วา่ เขาเป็ นผูเ้ ผยพระวจนะที่บริ สุทธิ์ พระเยซูไม่ท ำอย่างนั้น พระองค์แต่งตัวไม่โดดเด่นและกินทุก
อย่างที่วางไว้ต่อหน้าพระองค์ หลายคนเกรงกลัวต่อพระพักตร์ของพระเยซู แต่มิใช่ดว้ ยการสำแดงออกถึงฤทธิ์ อำนาจอันล้นเหลือ
แต่การสำแดงออกถึงความห่วงใยและความรักที่มีต่อชายและหญิง ด้วยเหตุน้ ี พวกเขาจึงก้มลงนมัสการพระองค์
ผูเ้ ผยพระวจนอิสยาห์ะสอนเราเกี่ยวกับการรับการเจิมของพระเจ้า:

และข้ าพเจ้ ากล่ าวว่ า “วิบัติแก่ ข้าพเจ้ า เพราะว่ าข้ าพเจ้ าพินาศแล้ว เพราะข้าพเจ้ าเป็ นคนริ มฝี ปากไม่ สะอาดและข้าพเจ้ า
อยู่ท่ามกลางชนชาติที่ริมฝี ปากไม่ สะอาด แต่ ดวงตาของข้าพเจ้ าได้ เห็นกษัตริ ย์ คือพระยาห์ เวห์ จอมทัพ” แล้วองค์ หนึ่ง
ในพวกเสราฟิ มบินมาหาข้าพเจ้ า ในมือมีถ่านเพลิงซึ่ งท่ านเอาคีมคีบมาจากแท่ นบูชาและท่ านแตะต้ องปากของข้ าพเจ้ า
พูดว่ า “นี่แน่ ะ สิ่ งนีไ้ ด้ แตะต้ องริ มฝี ปากของเจ้ าแล้ ว ความผิดของเจ้ าก็ถกู ขจัด และบาปของเจ้ าก็ได้ รับการลบล้ าง”
(อิสยาห์ 6:5–7) การเจิ มของพระเจ้ าเปลี่ยนแปลงเรา
ในตัวเราเอง เป็ นคนบาปและถูกจำกัด เราไม่เหมาะที่จะเป็ นวิหารของพระวิญญาณเลย แต่เราถูกสร้างให้พอดี เรา
แปลกใจและนมัสการ เมื่อพระวิญญาณผูท้ รงฤทธิ์ นั้นประทับอยูใ่ นตัวเรา หลังจากนั้นน้ำมัน มือ หรื อสิ่ งอื่นใดที่อยูบ่ นเนื้ อ
ภายนอกของเราก็เป็ นเพียงสัญลักษณ์ของความยิง่ ใหญ่แห่งการทรงสถิตของพระองค์เท่านั้น นอกจากการเจิม ยังมีสญ ั ลักษณ์
อื่นๆ ของพระวิญญาณอีกด้วย การเจิมไม่สามารถเรี ยนรู้เป็ นเพียงแค่ความรู้ในหัว แต่ตอ้ งเข้าไปในหัวใจและถูกสำแดงออกใน
ชีวิต มันจะต้อง “หยัง่ รากลงล่ าง และเกิดผลขึน้ บน” (อิสยาห์ 37:31) จงอนุญาตให้การเจิมของพระเยซูคริ สต์เป็ นพลังชีวิตที่
สำคัญในตัวคุณ!
6
ธันวาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“ถ้าพระวิญญาณของพระองค์ ผูท้ รงให้พระเยซูเป็ นขึ้นมาจากตายสถิตอยูใ่ นท่านทั้งหลาย พระองค์ผทู้ รงให้พระเยซูคริ สต์เป็ น
ขึ้นมาจากตายแล้วนั้น จะทรงทำให้กายซึ่งต้องตายของพวกท่านเป็ นขึ้นมาใหม่ โดยพระวิญญาณของพระองค์ซ่ ึงสถิตอยูใ่ นท่าน”
(โรม 8:11)
ไฟประจำวัน!
ฤทธิ์อำนาจแห่งราชอาณาจักรที่อยูบ่ นพระเยซูคริ สต์มีไว้สำหรับการทำหมายสำคัญและการอัศจรรย์ พระวิญญาณองค์เดียวกัน
ถูกประทานให้แก่ผทู้ ี่อยูใ่ นราชอาณาจักรของพระเจ้า
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
ลูกา 12:32; ยอห์น 1:33–34; 9:3–4; 15:5; โรม 8:11
อ่านพระคัมภีร์ในหนึ่งปี :
เช้า:
2 พงศาวดาร 6:12; 1 ยอห์น 5
เย็น:
ฮาบากุก 1; ลูกา 20
ฤทธิ์อำนาจของราชอาณาจักร
เมื่อพระเยซูทรงพบชายตาบอด พระองค์ตรัสว่า “เราต้ องทำพระราชกิจของผู้ทรงใช้ เรามาเมื่อยังวันอยู่” (ยอห์น 9:4)
ด้วยเหตุน้ ี พระองค์ทรงแสดงให้เห็นว่าการฟื้ นฟูคนตาบอดเป็ นงานของพระบิดา ความเมตตาของราชอาณาจักรยังคงดำเนินต่อ
ไปตราบเท่าที่พระเยซูยงั อยูใ่ นโลก มากยิง่ กว่านั้นสิ่ งเหล่านี้กลับมาหลังจากที่พระองค์ได้จากไป พระเยซูตรัสกับเหล่าสาวกของ
พระองค์วา่ “กลางคืนอันเป็ นเวลาที่ไม่ มีใครทำงานนั้นกำลังใกล้ เข้ามา” พระองค์ทรงหมายความว่าในไม่ชา้ พระองค์จะถูกตรึ ง
กางเขน กลางคืนจะมา และจะไม่มีคนตาบอดคนใดมองเห็นได้ พระองค์ตรัสกับเหล่าสาวกว่า “แยกจากเราแล้วพวกท่ านจะทำ
สิ่ งใดไม่ ได้ เลย” (ยอห์น 15:5) และพวกเขาไม่ได้ท ำอะไรไม่นานนัก หลังจากนั้นพวกเขาก็ได้รับสิ่ งที่พระเยซูได้ทรงสัญญาไว้
นัน่ คือฤทธิ์ อ ำนาจเมื่อพระวิญญาณบริ สุทธิ์ เสด็จมา!
ตอนนี้ถา้ ฤทธิ์ อ ำนาจของราชอาณาจักรคือพระวิญญาณบริ สุทธิ์ ฤทธิ์ อ ำนาจของราชอาณาจักรก็ถูกมอบให้กบั คริ สต
จักรในวันเพ็นเทคอสต์ นี่เป็ นมากกว่าฤทธิ์ อ ำนาจและสิ ทธิอ ำนาจ ในการพูดที่สำคัญ พระคริ สต์ตรัสกับสาวกของพระองค์วา่
“พระบิดาของพวกท่ านชอบพระทัยจะประทานแผ่ นดินนั้นให้ แก่ ท่าน” (ลูกา 12:32) ผูเ้ ชื่อสื บทอดแม่กญ ุ แจ สต็อก และถัง
น้ำมัน ฤทธิ์ อ ำนาจแห่งราชอาณาจักรที่อยูบ่ นพระเยซูคริ สต์มีไว้สำหรับทำหมายสำคัญและการอัศจรรย์ พระวิญญาณองค์
เดียวกันถูกประทานให้แก่ผทู้ ี่อยูใ่ นราชอาณาจักรของพระเจ้าเพื่อจุดประสงค์แห่งราชอาณาจักรเดียวกัน ดังที่ยอห์นผูถ้ วายบัพติศ
มาเปิ ดเผยว่า “เมื่อเห็นพระวิญญาณเสด็จลงมาสถิตอยู่กับคนใด คนนั้นแหละจะเป็ นคนให้ บัพติศมาด้ วยพระวิญญาณบริ สุทธิ์ ”
(ยอห์น 1:33) พระวิญญาณประทานฤทธิ์ อำนาจเดียวกันแก่พระเยซูและคนของพระองค์
มีความแตกต่างระหว่างพระคริ สต์กบั สาวกของพระองค์ และค่อนข้างสังเกตได้! ความแตกต่างอันดับแรกคือพระองค์
เป็ นผูใ้ ด ผูท้ ี่พดู ว่า “พระคำของพระคริ สต์บนริ มฝี ปากของเราก็เหมือนกับบนพระโอษฐ์ของพระคริ สต์” จะต้องระลึกถึงสิ่ งนี้วา่
ไม่ใช่ค ำพูดที่สำคัญ แต่เป็ นบุคคลที่พดู เราอาจเป็ นบุตรบุญธรรมของพระเจ้า แต่พระองค์คือพระบุตรชัว่ นิรันดร์และเพียงองค์
เดียว ข้อแตกต่างที่ 2 คือพระวิญญาณมาจากพระองค์ พระองค์คือแหล่งที่มา เราไม่ใช่แหล่งที่มา แต่เป็ นช่องทาง ลำน้ำซึ่งน้ำแห่ง
ความบริ บูรณ์ของพระองค์ไหลผ่าน จงเปิ ดประตูช่องของคุณให้กว้างเพื่อให้พระองค์เข้าถึงชีวิตของคุณได้อย่างอิสระ

7
ธันวาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“จงถวายสาธุการแด่พระยาห์เวห์ เมื่อพวกผูน้ ำได้นำคนอิสราเอล เมื่อประชาชนอาสาสมัคร!” (ผูว้ ินิจฉัย 5:2)
ไฟประจำวัน!
พระองค์เป็ นจอมเจ้านายและจอมกษัตริ ย ์ และผูท้ ี่อยูก่ บั พระองค์ถูกเรี ยก เลือก และซื่อสัตย์
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
ผูว้ ินิจฉัย 4:1–24; 5:1–31; เยเรมีย ์ 8:20; มัทธิว 6:33; วิวรณ์ 17:14
อ่านพระคัมภีร์ในหนึ่งปี :
เช้า:
2 พงศาวดาร 7; 1 ยอห์น 5
เย็น:
ฮาบากุก 2; ลูกา 21
ผู้หาเงิน หรือผู้สร้ างประวัติศาสตร์ ?
ถ้าเราเปรี ยบเทียบเรื่ องราวของเดโบราห์ในผูว้ ินิจฉัยกับโลกของเรา เผ่าดานเป็ นตัวแทนของใคร? ดานเป็ นคริ สเตียนที่
อยูใ่ นครอบครัวของพระเจ้า รู้ถึงข้อเรี ยกร้องของพระเจ้าเหนือเขา ได้ยนิ การทรงเรี ยกของพระองค์ แต่ไม่ตอบสนอง เขายังคงอยู่
ในร้านค้าเรื อเมื่อพระเจ้าต้องการให้เขา “แสวงหาแผ่ นดินของพระเจ้ าก่ อน” (มัทธิว 6:33) เสี ยงดนตรี ที่ดงั กึกก้อง เสี ยงปรบมือ
ของผูท้ ี่ยงั ไม่กลับใจใหม่ หรื อความคิดเห็นของครอบครัวและเพื่อนฝูงทำให้เขาหูหนวกต่อการทรงเรี ยกของพระเจ้าผูท้ รง
พระชนม์ ดานร้องเพลงเกี่ยวกับ "การลาก่อนที่แสนหวานบนชายฝั่งที่งดงาม" แต่เรื อของเขาจะไปถึงหรื อไม่ หรื อเพียงแค่ดิ้นรน
ในทะเลแห่งชีวิต? สามารถเป็ นอย่างนี้ได้หรื อไม่? ดูซากปรักหักพังของชีวิตที่ผคู้ นเลือกลำดับความสำคัญผิด คนที่เสี ยใจที่สุด
บางคนคือคนที่ไม่ได้เฝ้ ามองพระเจ้า และในที่สุด สิ่ งต่างๆ ก็ผดิ พลาดอย่างมหันต์ ความสำเร็จกลายเป็ นขี้เถ้า ความนิยมกลาย
เป็ นเหม็นเปรี้ ยว พวกเขาเลือกโอกาสของดานจากร้านค้าเรื อ นัน่ คือพวกเขาปล่อยให้คนอื่นติดตามพระคริ สต์ไปยังทุ่งแห่งการ
เก็บเกี่ยว หรื อสนามรบ หรื ออาจจะเป็ นสนามเผยแผ่ของพระองค์ ในท้ายที่สุด พวกเขาเห็นว่าความชื่นชมยินดีและความพอใจ
ของพวกเขากลายเป็ นโศกนาฏกรรม นัน่ คือ “ฤดูเกี่ยวก็ผ่านไป ฤดูแล้ งก็สิ้นสุดแล้ ว และเราทั้งหลายก็ไม่ รอด!” (เยเรมีย ์ 8:20)

นักวิ่งที่มีจดหมายรับสมัครของเดโบราห์หวังว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีเมื่อเขาไปถึงเผ่าเศบูลุนและนัฟทาลี ชาย 2 คน
กำลังทำงานในไร่ นา และเฝ้ ารอเวลาสิ้ นสุ ดของวันและเพื่อความชื่นชมยินดีของภรรยาและลูก ๆ ของพวกเขา พวกเขาเบียดเสี ยด
กันรอบ ๆ นักวิ่งที่ส่งหนังสื อเพื่อฟังและพิจารณาการเรี ยกของเดโบราห์ พวกเขาควรทำอย่างไร? มีเพียงทางเลือกเดียว นัน่ คือ
ไป! พวกเขาตะโกนว่า “สรรเสริ ญองค์พระผูเ้ ป็ นเจ้า” ที่พระเจ้าได้ทรงเจิมบางคนให้น ำเรา ให้เรามายุติการก่อกวนอย่างต่อ
เนื่องจากยาบินและกลุ่มโจรของเขากันเถอะ ขอบคุณพระเจ้าสำหรับเดโบราห์! เราจะสนับสนุนเธอให้ถึงที่สุด บอกเธอว่าเรา
กำลังไป!” เศบูลุนและนัฟทาลีเปลี่ยนขอตัดแต่งกิ่งให้เป็ นหอก เด็ก ๆ ถูกกอด ภรรยาที่ร้องไห้ถูกจูบ และผูช้ ายก็เดินเข้าไปในฝุ่ น
ของสนามรบ “เศบูลนุ เป็ นเผ่ าที่เสี่ ยงตาย ฝ่ ายนัฟทาลีกเ็ ช่ นกัน ณ ที่ สูงของสนามรบ” (ผูว้ ินิจฉัย 5:18) นัน่ คือการสรรเสริ ญอย่าง
สูง คำสรรเสริ ญที่คุณต้องการได้ยนิ จากพระเจ้า
8
ธันวาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“ท่านก็จงเลือกเสี ยในวันนี้ วา่ ท่านจะปรนนิบตั ิใคร” (ยชว.24:15)
ไฟประจำวัน!
คนที่สู้ทนต่อการทดลองใจก็เป็ นสุ ข เพราะเมื่อเขาผ่านการทดสอบแล้ว เขาจะได้รับมงกุฎแห่งชีวิตที่พระเจ้าทรงสัญญาไว้กบั คน
ทั้งหลายที่รักพระองค์
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
ผูว้ ินิจฉัย 4:1–24; 5:1–31; มัทธิว 10:39; ยากอบ 1:12; วิวรณ์ 2:10
อ่านพระคัมภีร์ในหนึ่งปี :
เช้า:
2 พงศาวดาร 8; 3 ยอห์น
เย็น:
ฮาบากุก 3; ลูกา 22
คน 2 ประเภท
เมื่อชนะสงครามระหว่างชาวอิสราเอลกับชาวคานาอัน เดโบราห์ ผูว้ ินิจฉัยมาถึงที่ฝั่งท่าเรื อเพื่อเยีย่ มดาน และถาม
คำถามหนึ่งแก่เขาว่า “ทำไมดานยังอยูบ่ นเรื อ?” ดานนัง่ นิ่ง นิ้วคลำหาเหรี ยญอย่างประหม่า เขาไม่สามารถเงยหน้าขึ้นมองสตรี ผู้
ได้รับการเจิมจากพระวิญญาณบริ สุทธิ์ ผูน้ ้ ี คำถามของเธอตามหลอกหลอนเขาไปตลอดชีวิต และคำถามนั้นจะได้ยนิ อีกครั้งที่
บัลลังก์ของพระเจ้า เมื่อดานและพวกเราที่เหลือทั้งหมดต้องรับผิดชอบชีวิตของเรา ดานจะมองดูองค์พระผูเ้ ป็ นเจ้าหรื อไม่ หรื อ
ละอายใจเกินไป ไม่รู้จะตอบอย่างไร ก้มหน้าลงด้วยความสับสน? เศบูลุนและนัฟทาลีไม่ได้สนใจธุรกิจของดาน ดานทำเงินได้
แต่เศบูลุนและนัฟทาลีสร้างประวัติศาสตร์ในวันนั้น ต่อสู้เพื่อช่วยอิสราเอลในการสู้รบที่ยงั คงเป็ นที่พดู ถึงในปัจจุบนั พวกเขา
เสี่ ยงทุกอย่างแม้แต่ชีวิตตัวเองต่อสู้ในที่สูงของสนาม ดานไม่ได้เดิมพันอะไรเลย เขาไม่เคยเสี่ ยง เมื่อดานเสี ยชีวิต เขาเป็ นคนที่
ร่ำรวยที่สุดในประเทศ จากนั้น ขณะที่วิญญาณจิตของเขาออกจากร่ าง บางทีดานอาจคว้าทองของเขาไว้และอยากจะนำมันไป
ด้วย ทูตแห่งความตายอาจหัวเราะเยาะเขาว่า “คุณได้สร้างกองของคุณแล้ว ตอนนี้ คนอื่นจะใช้มนั !”

ชาวเศบูลุนและนัฟทาลียงั คงได้ยนิ การทรงเรี ยกของพระเจ้าในปัจจุบนั แต่ชาวดานไม่ได้ยนิ คริ สตจักรประกอบด้วย


คนประเภทใดประเภทหนึ่ง ชาวดานคือผูท้ ี่ถือว่าธุรกิจของตนสำคัญกว่างานของพระเจ้า บ้านของพวกเขามีค่ามากกว่าสวรรค์
สำหรับผูท้ ี่หลงหาย และการออมเงินก็สมควรกว่าการช่วยวิญญาณจิตให้รอด ศิษยาภิบาลคนใดก็ตามจะบอกคุณว่าใครคือบุคคล
ที่เป็ นดาน หรื อเศบูลุนและนัฟทาลีในที่ประชุมของเขาว่า “เป็ นคนกลุ่มเดียวกันเสมอที่ตอบสนอง และให้ และทำงาน ถ้าไม่ใช่
เพราะพวกเขา คริ สตจักรแห่งนี้คงปิ ดไป” บางคนเชื่อฟังการทรงเรี ยกของพระเจ้าโดยยอมจ่ายทุกสิ่ ง แต่บางคนก็ไม่ยอมเสี่ ยง
แม้แต่ 5 เซ็นต์เพื่อพระเจ้า เศบูลุนและนัฟทาลีเสี ยชีวิตในสนามรบเพื่อราชอาณาจักรของพระเจ้า พระเยซูตรัสว่า “ผู้ที่เสี ยชี วิต
ของตนเพราะเห็นแก่ เราก็จะได้ ชีวิตรอด” (มัทธิว 10:39) “จงซื่ อสัตย์ จวบจนวันตาย และเราจะมอบมงกุฎแห่ งชี วิตให้ แก่ เจ้ า”
(วิวรณ์ 2:10) การตายแบบนั้นมีเกียรติ และแม้กระทัง่ ในความพร้อมที่จะมอบทุกสิ่ ง ซึ่งตอนนี้ เรายอมรับและยกย่องบนแผ่นดิน
โลกนี้ แต่องค์พระผูเ้ ป็ นเจ้าเองจะทรงรับรู้เมื่อสวมมงกุฎแห่งชีวิตอันแวววาวบนศีรษะโดยพระหัตถ์ของพระคริ สต์เอง ในบรรดา
ชาวดาน พระเยซูตรัสว่า “ผู้ที่จะเอาชี วิตของตนรอด จะกลับเสี ยชี วิต” (มัทธิว 10:39) จงทำการเลือกของคุณในวันนี้ !
9
ธันวาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“ข้าพเจ้าต้องการจะรู้จกั พระองค์ คือรู้จกั ฤทธิ์เดชแห่งการคืนพระชนม์ของพระองค์และรู้จกั การมีส่วนร่ วมในความทุกข์ของพระ
องค์ และเป็ นเหมือนกับพระองค์ในความตายนั้นทั้งมุ่งหวังที่จะได้เป็ นขึ้นจากความตายด้วย” (ฟี ลิปปี 3:10–11)
ไฟประจำวัน!
พระเยซูทรงรักษาคนป่ วยโดยรอยถูกเฆี่ยนตีของพระองค์ ความลับที่น่าพิศวงของการเจิมของพระองค์คือความเห็นอกเห็นใจ
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
อิสยาห์ 53:5; มัทธิว 8:17; 1 โคริ นธ์ 12:26; ฟี ลิปปี 2:5–8; 3:10–11; ฮีบรู 4:15
อ่านพระคัมภีร์ในหนึ่งปี :
เช้า:
2 พงศาวดาร 9; ยูดา
เย็น:
เศฟันยาห์ 1; ลูกา 23
ผู้ให้ ไม่ ใช่ ของประทาน
จำเป็ นอย่างยิง่ ที่จะต้องเรี ยนรู้วา่ พระวิญญาณบริ สุทธิ์ คือ “พระองค์” ไม่ใช่ “มัน” พระวิญญาณไม่ใช่พลังที่ไม่มีตวั ตน
การเจิมของพระเจ้าไม่ได้เป็ นเพียงฤทธิ์ อำนาจหรื อของประทานเท่านั้น แต่คือพระวิญญาณบริ สุทธิ์ เอง เมื่อคนที่พดู ภาษาแปลกๆ
ก้าวเข้าสู่ ประวัติศาสตร์สมัยใหม่ พวกเขาถูกเรี ยกว่า "คนที่พดู ภาษาแปลกๆ" และชื่อที่คล้ายกัน โดยหลายคนไม่เห็นด้วยกับ
ประสบการณ์น้ ี อันที่จริ งความทรงจำของผูค้ นเหล่านั้นยังคงอยูใ่ นหมู่พวกเรา พวกเขาปฏิบตั ิตนตามแนวทางของพระเจ้าที่น่า
ประทับใจ ซึ่งได้รับการกระตุน้ โดยการรับใช้ ไม่ใช่ความรู้สึก แสวงหาผูใ้ ห้ ไม่ใช่ของประทาน พวกเขาต้องการรู้จกั พระเยซูมาก
ขึ้นและเป็ นเหมือนพระคริ สต์ พวกเขาไม่ได้แสวงหาฤทธิ์ อ ำนาจเพื่อเห็นแก่ฤทธิ์อ ำนาจเอง ความปรารถนาประจำวันของพวก
เขาคือ “จงมีจิตใจเช่ นนี ใ้ นพวกท่ านเหมือนอย่ างที่มีในพระเยซูคริ สต์ ...แต่ ทรงสละพระองค์ เองและทรงรั บสภาพทาส ...ทรง
ยอมเชื่ อฟั ง" (ฟิ ลิปปี 2:5, 7, 8 ) หลายคนสละชีวิตเพื่อพระเจ้า

เมื่อพระเยซูทรงรักษาคนป่ วย นัน่ ไม่ใช่แค่พลังงานไฟฟ้ าเท่านั้นที่พระองค์ทรงใช้ มันแสดงให้เห็นฤทธิ์ อำนาจแห่ง


ความรักที่มีชยั ของพระองค์ พระองค์ทรงรักษาคนป่ วยโดยรอยถูกเฆี่ยนตีของพระองค์ นัน่ คือความลับที่น่าพิศวงของการเจิม
ของพระองค์ พระองค์ทรงรักษาแขนที่ลีบให้หาย แม้วา่ จะเป็ นการยัว่ ยุให้มนุษย์วางแผนต่อต้านชีวิตของพระองค์ พระองค์ทรง
ยอมเสี่ ยงทุกอย่างและยอมทำทุกวิถีทาง แม้แต่ไม้กางเขนเพื่อผูท้ ี่ก ำลังทุกข์ระทม ความเจ็บปวดและพันธกิจการรักษามีความ
เชื่อมโยงกันอย่างแปลกประหลาด ถ้าเราเต็มใจที่จะรู้จกั “การมีส่วนร่ วมในความทุกข์ ของพระองค์ ” (ฟี ลิปปี 3:10) เราก็จะรู้สึก
ถึงการเจิมด้วยความรักแบบเดียวกับที่พระเยซูมี ถ้าเรามีความสงสารด้วยใจแตกสลายเดียวกันที่หลงลืมตน และจะเสี ยสละเพื่อผู้
ทุกข์ยากเหมือนที่พระเยซูท ำ เราก็จะระบุตวั ตนกับผูท้ ี่ทนทุกข์ แบ่งปันความทุกข์เพื่อบรรเทาความเจ็บปวดของพวกเขา ถ้าเรา “
แบกความเจ็บไข้ [ของพวกเขา]” (มัทธิว 8:17) เหมือนที่พระเยซูทรงกระทำ และตระหนักว่า “ถ้ าอวัยวะหนึ่งทุกข์ อวัยวะทั้ง
หมดก็ร่วมทุกข์ ด้วย” (1 โคริ นธ์ 12:26) หมายความว่าอย่างไร บางทีอาจมีคนจำนวนน้อยที่จะกลับบ้านโดยไม่ได้รับการรักษา
ผมรู้วา่ ไม่มีสิ่งใดที่หยาบคายมากไปกว่าการรักษาคนป่ วยในพระนามของพระเยซูเพื่อให้ร่ำรวยหรื อสร้างชื่อเสี ยงให้แก่ตวั เอง
หรื อเพื่อความพึงพอใจของการใช้ฤทธิ์ อำนาจ สิ่ งล้ำค่าที่สุดที่เราสามารถครอบครองได้ไม่ใช่ของประทานที่พระเจ้ามอบให้ แต่
คือพระองค์เอง จงแสวงหาผูใ้ ห้ในวันนี้
10
ธันวาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“แต่พวกท่านจะได้รับพระราชทานฤทธานุภาพ เมื่อพระวิญญาณบริ สุทธิ์ เสด็จมาเหนือท่าน และท่านทั้งหลายจะเป็ นสักขีพยาน
ของเราในกรุ งเยรู ซาเล็ม ทัว่ แคว้นยูเดีย ทัว่ แคว้นสะมาเรี ย และจนถึงที่สุดปลายแผ่นดินโลก” (กิจการ 1:8)
ไฟประจำวัน!
คำสัง่ ยังคงเหมือนเดิม นัน่ คือจงเป็ นพยานเพื่อเรา!
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
ดาเนียล 12:3; มัทธิว 5:15; มาระโก 4:21; 16:15 น.; ลูกา 11:33; กิจการ 1:8; 20:8; ฟิ ลิปปี 2:15
อ่านพระคัมภีร์ในหนึ่งปี :
เช้า:
2 พงศาวดาร 10; วิวรณ์ 1
เย็น:
เศฟันยาห์ 2; ลูกา 24
งานที่สำคัญที่สุด
ครั้งหนึ่งมีชนเผ่าที่บูชาดวงจันทร์ พวกเขาอธิบายว่าทำไม พวกเขากล่าวว่าดวงจันทร์ส่องแสงในตอนกลางคืน เมื่อมัน
มืด และเราต้องการแสงสว่าง แต่ดวงอาทิตย์แก่โง่ ๆ ส่ องแสงในตอนกลางวันซึ่งมีแสงสว่างเพียงพอ อะไรจะไร้สาระไปกว่านี้?
แน่นอนว่ามีแสงในระหว่างวันเพราะว่าดวงอาทิตย์ส่องแสง และมีแสงสว่างในอเมริ กา เพราะว่าแสงแห่งข่าวประเสริ ฐส่ องมาที่
นี่ แต่มีหลายแห่งในโลกที่มืดมาก ผมเดาว่าเป็ นเหมือนดวงจันทร์ นัน่ คือพยายามนำแสงสว่างมาสู่ ที่มืดของโลก เมื่อเปาโลเทศนา
ในเมืองโตรอัสทั้งคืนและยุทิกสั หลับไป พระคัมภีร์กล่าวว่า “ในห้ องชั้นบนที่เราประชุมกันนั้นมีตะเกียงหลายดวง” ซึ่งเขากำลัง
พูดอยู่ (กิจการ 20:8) ปัจจุบนั มีตะเกียงส่ องแสงจำนวนมากในอเมริ กา คุณถูกเรี ยก “ท่ ามกลางชนชาติที่คดโกงและวิปลาส ท่ าน
ปรากฏในหมู่พวกเขาดุจดวงสว่ างต่ างๆ ในโลก” (ฟี ลิปปี 2:15) ไม่ใช่เป็ น “ตะเกียง…ใต้ ถงั ” (มัทธิว 5:15)
บางคนฉายแววทางสติปัญญาและพูดเก่ง ผมเป็ นเพียงผูเ้ ผยแพร่ ข่าวประเสริ ฐ ความสว่างในส่ วนของผมจะต้องมาจาก
พระวิญญาณบริ สุทธิ์ และพระคำของพระเจ้า ความหวังของผมคือคำสัญญาที่วา่ “บรรดาผู้ที่ได้ น ำคนเป็ นอันมากมาสู่ความชอบ
ธรรมจะส่ องแสงเหมือนอย่ างดาวเป็ นนิตย์ นิรันดร์ ” (ดาเนียล 12:3) สภาพแวดล้อมทางธรรมชาติของผมคือเวทีในทุ่งในแอฟริ กา
ที่ไหนสักแห่ง ไม่ใช่ที่มหาวิทยาลัย แต่เท่าที่เกี่ยวข้องกับผม งานของผูเ้ ผยแพร่ ข่าวประเสริ ฐมีความสำคัญที่สุดในโลก
มีคนถามว่าพระเจ้ากำลังพูดอะไรกับคริ สตจักร พระองค์ก ำลังตรัสสิ่ งที่พระองค์ได้ตรัสอยูเ่ สมอว่า นัน่ คือ “จงประกาศ
ข่ าวประเสริ ฐแก่ มนุษย์ ทุกคน” (มาระโก 16:15) ถ้าพระเยซูเองต้องมาแทนที่ผมที่นี่ในวาระสุ ดท้ายนี้ ก่อนการพิพากษาครั้ง
สุ ดท้าย พระองค์จะตรัสคำสุ ดท้ายของพระองค์กบั เหล่าสาวกซ้ำว่า “แต่ พวกท่ านจะได้ รับพระราชทานฤทธานุภาพ เมื่อพระวิญ
ญาณบริ สุทธิ์ เสด็จมาเหนือท่ าน และท่ านทั้งหลายจะเป็ นสักขีพยานของเราในกรุ งเยรู ซาเล็ม ทั่วแคว้ นยูเดีย ทั่วแคว้ นสะมาเรี ย
และจนถึงที่สุดปลายแผ่ นดินโลก” (กิจการ 1:8) จนกว่าเราจะทำเช่นนั้น พระองค์ไม่มีค ำแนะนำเพิ่มเติมสำหรับเรา จงฟังไว้ให้ดี

You might also like