Professional Documents
Culture Documents
หนังสือเฝ้าเดี่ยวไฟประจำวัน 17 มิย
หนังสือเฝ้าเดี่ยวไฟประจำวัน 17 มิย
แต่ เจ้ า อิสราเอล ผู้รับใช้ ของเรา ยาโคบผู้ซึ่งเราเลือกไว้ เชื อ้ สายของอับราฮัมสหายของเรา เจ้ าผู้ที่เรานำมาจากปลาย
แผ่ นดินโลก และเรี ยกมาจากที่ไกลสุดของโลก แล้วพูดกับเจ้ าว่ า “เจ้ าเป็ นผู้รับใช้ ของเรา เราได้ เลือกเจ้ าและไม่ ปฏิเสธเจ้ า” อย่ า
กลัวเลย เพราะเราอยู่กับเจ้ า อย่ าขยาด เพราะเราเป็ นพระเจ้ าของเจ้ า เราจะเสริ มกำลังเจ้ า เราจะช่ วยเจ้ า เราจะชูเจ้ าด้ วยมือขวาอัน
ชอบธรรมของเรา (อิสยาห์ 41:8-10)
คนเหล่านี้ที่พระองค์ทรงให้เกียรติเป็ นนักอธิษฐานวิงวอนของพระองค์ นัน่ คือสิ่ งที่พระคัมภีร์เรี ยกว่า "เพื่อน" พระเยซู
ตรัสว่า “เราจะไม่ เรี ยกพวกท่ านว่ าบ่ าวอีก เพราะบ่ าวไม่ ทราบว่ านายทำอะไร แต่ เราเรี ยกท่ านว่ ามิตรสหาย เพราะว่ าทุกสิ่ งที่เรา
ได้ ยินจากพระบิดา เราสำแดงแก่ พวกท่ านแล้ ว” (ยอห์น 15:15) นักอธิษฐานวิงวอนที่เป็ นเพื่อนจะมีพระทัยขององค์พระผูเ้ ป็ นเจ้า
ซึ่งไม่ได้บอกเราถึงเรื่ องต่าง ๆ เพียงเพื่อให้เราสนใจ แต่เพื่อให้เราอธิษฐานเกี่ยวกับเรื่ องนี้ ถ้อยคำแห่งความรู้ไม่จ ำเป็ นว่ามีไว้เพื่อ
ประกาศแก่สาธารณะ แต่บ่อยครั้งเพื่อการอธิษฐานส่ วนตัว จงอธิษฐานในวันนี้ —และจุดไฟที่สดใหม่และความปรารถนาภายใน
ที่จะทำตามน้ำพระทัยของพระเจ้าในทุกวิถีทาง!
3
เมษายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“เพราะว่าพระเจ้าทรงซื้อท่านไว้แล้วด้วยราคาสูง ฉะนั้น จงถวายพระเกียรติแด่พระเจ้าด้วยร่ างกายของพวกท่านเถิด” (1 โคริ นธ์
6:20)
ไฟประจำวัน!
ช่างน่าชื่นชมยินดียิง่ นักที่ได้ตะโกนว่า “ฉันเป็ นทรัพย์สินของพระเจ้า!”
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
สดุดี 91:1; สุ ภาษิต 26:2; อิสยาห์ 54:17; 1 โคริ นธ์ 6:20; โคโลสี 3:3; วิวรณ์ 12:11
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
เลวีนิติ 6; สดุดี 5 และ 6
เย็น:
สุ ภาษิต 21; โคโลสี 4
ทรัพย์ สินของพระเจ้ า
มนุษย์เราดูแลและปกป้ องทรัพย์สินของเรา คุณสามารถแน่ใจอย่างยิง่ ว่าพระเจ้าทรงดูแลทรัพย์สินของพระองค์ดว้ ยเช่น
กัน พระองค์ตอ้ งจ่ายราคาเพื่อเรามากเกินกว่าที่พระองค์จะละเลยและสูญเสี ยเราไป เราถูกซื ้อไว้ แล้วด้ วย "ราคาสูง" นัน่ คือด้วย
พระโลหิ ตอันล้ำค่าของพระเยซู (1 โคริ นธ์ 6:20) เมื่อพระเยซูเข้าครอบครอง พระองค์ช่วยเราให้รอดและรักษาเราไว้ ตราบใดที่
เราติดตามพระองค์ พระองค์จะไม่ทรงอนุญาตให้ผโี สโครกเข้าครอบครองทรัพย์สินของพระองค์อีกครั้ ง “ผู้ที่อาศัยอยู่ในที่ก ำบัง
ขององค์ ผ้ สู ูงสุด จะอยู่ในร่ มเงาของผู้ทรงมหิ ทธิ ฤทธิ์ ” (สดุดี91:1) “พวกเขาชนะมารด้ วยพระโลหิ ตของพระเมษโปดก และด้ วย
คำพยานของพวกเขาเอง และพวกเขาไม่ ได้ รักตัวกลัวตาย” (วิวรณ์ 12:11) นี่คือการปกป้ องที่เปี่ ยมไปด้วยพระสิ ริและสมบูรณ์
แบบ ซึ่งองค์พระผูเ้ ป็ นเจ้าประทานแก่ลูก ๆ ของพระองค์โดยไม่คิดเงิน
อาวุธทุกชนิดที่ทำขึน้ เพื่อต่ อสู้เจ้ าจะไม่ ชนะ และเจ้ าจะพิสูจน์ ว่าลิน้ ทุกลิน้ ที่ลกุ ขึน้ ต่ อสู้เจ้ าในการพิพากษานั้นชั่วร้ าย นี่
คือมรดกของบรรดาผู้รับใช้ ของพระยาห์ เวห์ และการให้ ความยุติธรรมต่ อพวกเขานั้นมาจากเรา” พระยาห์ เวห์ ตรั สดังนีแ้ หละ (อิ
สยาห์ 54:17)
ไม่มีค ำสาปแช่งใด ๆ สามารถติดตัวคุณ และไม่มีเวทมนตร์คาถาใดสามารถทำอันตรายคุณได้
นกกระจอกย่ อมโผผินและนกนางแอ่ นย่ อมโบยบินฉั นใด คำแช่ งสาปอย่ างไม่ สมควรย่ อมไม่ เกิดผลฉั นนั้น (สุภาษิต
26:2)
เรารับใช้พระเจ้าผูท้ รงฤทธานุภาพ...ไม่ใช่พระเจ้าที่ดิ้นรนต่อสู้ซ่ ึงบางครั้งอาจพ่ายแพ้การต่อสู้ พระองค์ไม่สามารถถูก
แบล็กเมล์ หรื อถูกบังคับให้ประนีประนอมกับมารได้ พระองค์ไม่สามารถเป็ นหุน้ ส่ วนและแบ่งปันสิ ทธิ์ ในการครอบครองคุณ
กับวิญญาณชัว่ ใด ๆ ได้ จงติดตามพระเยซู และคุณจะเป็ นขององค์พระผูเ้ ป็ นเจ้าอย่างสมบูรณ์ไรน์ฮาร์ด บองเก้ ดำเนินชีวิตด้วย
ความมัน่ ใจนี้ —ผมถูกทำเครื่ องหมายด้วยพระโลหิ ตของพระเยซู และไม่มีใครสามารถดึงผมออกไปจากพระหัตถ์ของพระองค์
ได้ ซาตานไม่สามารถลักพาตัววิญญาณของผมไปได้ มันถูกซ่อนไว้กบั พระคริ สต์ในพระเจ้า ซึ่งเป็ นตูเ้ ซฟในห้องที่แข็งแกร่ งและ
มีตราประทับของพระโลหิ ต คุณเองก็ถูกทำเครื่ องหมายด้วยพระโลหิ ตของพระเยซูเช่นกัน
4
เมษายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“เพราะว่าเรามีชีวิต และไหวตัว และเป็ นอยูใ่ นพระองค์” (กิจการ 17:28)
ไฟประจำวัน!
ฉันเป็ นลูกของพระเจ้า
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
สดุดี 68:6; ลูกา 17:21; ยอห์น 17:22; กิจการ 16:31; 17:28; เอเฟซัส 2:19
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
เลวีนิติ 7; สดุดี 7 และ 8
เย็น:
สุ ภาษิต 22; 1 เธสะโลนิกา 1
ครอบครัว คือ พระประสงค์ ของพระเจ้ า
ในกิจการ 16 เปาโลบอกผูค้ ุมชาวฟี ลิปปี ว่า “จงวางใจในพระเยซู องค์ พระผู้เป็ นเจ้ า แล้ วท่ านและครอบครั วจะได้ ความ
รอด” (กิจการ 16:31) ครอบครัวของเขา คือ อะไร? จะมีจ ำนวนคนใต้ชายคาของเขามากกว่าสถิติในปัจจุบนั ที่ครอบครัวมีลูก 2.3
คน จะมีภรรยาของเขา ลูกชายที่โตแล้วและภรรยาของพวกเขา ลูกสาว คนใช้ ทาส และอาจมีปยู่่ าตายาย ความเชื่อของเขาจะช่วย
วิญญาณจิตของพวกเขาให้รอดได้หรื อไม่? เราอาจจะถามว่ากาแฟของพ่อหนึ่งแก้วจะทำให้ท้ งั ครอบครัวของเขาอิ่มได้หรื อเปล่า!
ครอบครัวสามารถถูกช่วยให้รอดได้ แต่แต่ละคนต้องเชื่อในพระเยซูเจ้า ไม่มีผใู้ ดสามารถถูกช่วยให้รอดมือสองผ่านทางพ่อหรื อ
แม่ได้ พระเจ้าไม่มีหลาน แต่วลีที่วา่ "ท่ านและครอบครั ว" มีความหมายบางอย่าง ไม่มีใครถูกโยนทิ้งไป เบื้องหลัง คือ ความ
เข้าใจของเปาโลเกี่ยวกับพระประสงค์ของพระเจ้าที่เขียนไว้ในพระคัมภีร์ เขารู้วา่ ในพระคัมภีร์ “ครอบครัว” มีพระประสงค์ของ
พระเจ้า ซึ่งมีการกล่าวถึงมากกว่า 300 ครั้งในพระคัมภีร์ และคนทั้งโลกเป็ นเรื่ องของสิ่ งนี้ เปาโลกล่าวถึง “ครัวเรื อน” มากมายใน
จดหมายของท่าน
ครอบครัวคือความคิดของพระเจ้า พระองค์ทรงสร้างครอบครัว “พระเจ้ าทรงให้ คนโดดเดี่ยวมีบ้านอยู่” (สดุดีบทที่
68 ข้อที่6) นัน่ คือพระพรของพระองค์ พระองค์ไม่เคยตั้งใจให้มีการแยกตัว ความโดดเดี่ยว และปัจเจกนิยม ลัทธิปัจเจกบุคคล
สมัยใหม่ไม่ใช่ผลผลิตแห่งคำสอนในพระคัมภีร์ แต่มาจากความคิดทางปรัชญา เราอาจกล่าวได้วา่ รากของชีวิตครอบครัวอยูใ่ น
พระลักษณะของพระเจ้าในฐานะพระบิดา พระบุตร และพระวิญญาณบริ สุทธิ์ ครอบครัวสะท้อนภาพของพระเจ้ามากกว่าชีวิต
ส่วนตัว
5
เมษายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“แต่บดั นี้ พระคริ สต์ทรงถูกทำให้เป็ นขึ้นมาจากความตายแล้ว และทรงเป็ นผลแรกของพวกที่ล่วงหลับไป เพราะว่าในเมื่อความ
ตายเกิดขึ้นโดยมนุษย์คนหนึ่ง การเป็ นขึ้นจากความตายก็เกิดขึ้นโดยมนุษย์คนหนึ่งเช่นกัน เพราะว่าเช่นเดียวกับที่ทุกคนต้องตาย
โดยเกี่ยวเนื่องกับอาดัม ทุกคนก็จะได้รับชีวิตโดยเกี่ยวเนื่องกับพระคริ สต์” (1 โคริ นธ์ 15:20–22)
ไฟประจำวัน!
ในไม่ชา้ ฉันจะเป็ นเหมือนพระองค์ เพราะว่าฉันจะเห็นพระองค์อย่างที่พระองค์ทรงเป็ น
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
กิจการ 17:31; 1 โคริ นธ์ 15:1–58; 1 ยอห์น 3:1–3; วิวรณ์ 22:20
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
เลวีนิติ 8; สดุดี 9
เย็น:
สุ ภาษิต 23; 1 เธสะโลนิกา 2
วัตถุประสงค์แห่ งการงานของเรา
ชาย 9 คนที่เขียนพระคัมภีร์ของคริ สเตียนในพันธสัญญาใหม่ลว้ นพูดถึงการเสด็จกลับมาของพระคริ สต์ และสำหรับ
พวกเขาแล้วเห็นได้ชดั ว่าความหวังนั้นมีความหมายต่อความเชื่อของพวกเขาและวัตถุประสงค์แห่งการงานของพวกเขา ผู้ เขียน
หลัก เปาโล ลงรายละเอียดมาก นัน่ คือ พระคริ สต์จะทรงปรากฏอย่างไร...พระองค์จะทรงทำอะไร...สภาพของโลกจะเป็ น
อย่างไร เขาเขียนจดหมายที่ยิง่ ใหญ่ของเขามากกว่า 3 หน้าถึงคริ สตจักรในเมืองโคริ นธ์ บทที่ 15 และทำให้การกลับมาของพระ
เยซูเป็ นศิลาหลักแห่งอนาคต นี่คือคำพูดบางส่วนของเขา: พระคริ สต์วายพระชนม์เพราะบาปของเรา ตามที่เขียนไว้ในพระคัมภีร์
... แล้ววันที่สามพระองค์ทรงถูกทำให้เป็ นขึ้นมา ตามที่เขียนไว้ในพระคัมภีร์….เพราะว่าเช่นเดียวกับที่ทุกคนต้องตายโดยเกี่ยว
เนื่องกับอาดัม ทุกคนก็จะได้รับชีวิตโดยเกี่ยวเนื่องกับพระคริ สต์ แต่วา่ จะเป็ นไปตามลำดับ คือพระคริ สต์ทรงเป็ นผลแรก ต่อจาก
นั้นก็คือคนทั้งหลายที่เป็ นของพระคริ สต์ในเวลาที่พระองค์เสด็จกลับมา (1 โคริ นธ์ 15:3-4, 22–23)
เมื่อเขากำลังเทศนากับปัญญาชนในกรุ งเอเธนส์ ซึ่งเป็ นเมืองแห่งการเรี ยนรู้ที่ยิง่ ใหญ่ที่สุดในแผ่นดินโลก เขากล่าวว่า
“[พระเจ้า] ทรงกำหนดวันหนึ่งไว้ แล้ว ในวันนั้นพระองค์ จะทรงพิพากษาโลกตามความชอบธรรมโดยบุคคลที่พระองค์ ทรงกำ
หนดไว้ และพระเจ้ าทรงให้ คนทั้งปวงมีความมัน่ ใจในเรื่ องนีโ้ ดยทรงให้ บคุ คลผู้นั้นเป็ นขึน้ จากตาย” (กิจการ 17:31)
9
เมษายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“จงอธิษฐานในพระวิญญาณทุกเวลาโดยการอธิษฐานและการวิงวอนทุกๆ อย่าง เพราะเหตุน้ ี จงเฝ้ าระวังด้วยความเพียรและด้วย
การวิงวอนเผือ่ ธรรมิกชนทุกคนอยูเ่ สมอ” (เอเฟซัส 6:18)
ไฟประจำวัน!
เป็ นสิ ทธิพเิ ศษของฉันในฐานะลูกของพระเจ้าที่จะมาหาพระองค์ทุกวันด้วยความคาดหวังของลูกด้วยหัวใจที่เปิ ดออก โดยรู้ว า่
พระบิดารักฉัน!
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
อพยพ 16:1–5; มัทธิว 6:11; 7:7; กิจการ 6:4; โรม 12:12; เอเฟซัส 6:18; โคโลสี 4:2
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
เลวีนิติ 13; สดุดี 15 และ 16
เย็น:
สุ ภาษิต 27; 2 เธสะโลนิกา 1
อาหารประจำวัน
การอธิษฐานเป็ นหัวข้อที่สำคัญในพระคำของพระเจ้า อัครทูตเปาโลมักจะใช้ค ำที่มีความหมายว่า “ทำต่อไป อดทน
คอยอยู่ แสดงความแข็งแกร่ ง ยึดมัน่ ตื่นตัว!” จงแปลข้อความเหล่านี้ดว้ ยตัวท่านเอง: จงเฝ้ าระวังอธิ ษฐานด้ วยการขอบพระคุณ
(โคโลสี 4:2) จงขะมักเขม้ นอธิ ษฐาน ... (โรม 12:12) เราจะอุทิศตัวในการอธิ ษฐาน (กิจการ 6:4) จงอธิ ษฐานในพระวิญญาณ
ทุกเวลาโดยการอธิ ษฐานและการวิงวอนทุก ๆ อย่ าง (เอเฟซัส 6:18)
วิธีที่พระเยซูพดู ถึงเรื่ องการอธิษฐานนั้นไม่เหมือนที่บางคนคิด พระองค์ตรัสว่า “จงขอแล้ วจะได้ จงหาแล้ วจะพบ จง
เคาะแล้วจะเปิ ดให้ แก่ พวกท่ าน” (มัทธิว 7:7) คำเหล่านี้อยูใ่ นภาษากรี ก กาลปัจจุบนั อินดิคาทีฟ ( indicative) นัน่ คือกำลังขอ
กำลังแสวงหา กำลังเคาะ แต่ที่อื่นพระองค์ทรงใช้กาลที่แตกต่าง (แอริ สต์ aorist) เพื่อบ่งชี้ถึงการกระทำเดียวที่เสร็ จสิ้ น: “ขอประ
ทานอาหารประจำวันแก่ พวกข้าพระองค์ ในวันนี”้ (มัทธิว 6:11) ขอครั้งเดียว แต่ขอทุกวัน “ขอประทาน...ในวันนี”้ —ขอสำหรับ
ความจำเป็ นในแต่ละวันทุกวัน นัน่ คือวิธีที่พระเจ้าชอบ เราไม่มีความเชื่อสำหรับทุกสิ่ งสำหรับตลอดทั้งปี —นัน่ จะเป็ นการเย่อ
หยิง่ ! เรามาหาพระองค์ในฐานะลูกครั้งแล้วครั้งเล่าเพื่อขออาหารแห่งชีวิต—พระวิญญาณบริ สุทธิ์ —ทุกวัน ไม่ใช่ขอครั้งเดียว
เพื่อตลอดไป เราได้รับทุกวันเสมอ!
ในพวกท่ านมีใครบ้ างที่จะเอาก้ อนหิ นให้ ลกู เมื่อเขาขอขนมปั ง? หรื อให้ งูเมื่อลูกขอปลา? เพราะฉะนั้น ถ้ าพวกท่ าน
เองผู้เป็ นคนบาปยังรู้ จักให้ ของดีแก่ ลกู ของตน ยิ่งกว่ านั้นสักเท่ าใด พระบิดาของท่ านผู้สถิตในสวรรค์ จะประทานสิ่ งดีแก่ พวกที่
ขอต่ อพระองค์ " (มัทธิ ว 7:9–11)
เมื่อคุณเรี ยกหาพระเจ้า คุณจะไม่มีทางได้รับสัญญาณสายไม่วา่ ง หรื อโทรศัพท์ที่ดงั แต่ไม่มีค ำตอบ “ข้ าแต่ พระยาห์ เวห์
ขอเงี่ยพระโสตฟั งคำอธิ ษฐานของข้ าพระองค์ ขอทรงสดับเสี ยงวิงวอนของข้าพระองค์ ในวันที่ข้าพระองค์ ทุกข์ ใจ ข้ าพระองค์
จะร้ องทูลพระองค์ เพราะพระองค์ จะทรงตอบข้าพระองค์ ... เขาจะร้ องทูลเรา แล้วเราจะตอบเขา เราจะอยู่กับเขาในยามลำบาก
เราจะช่ วยกู้เขาและให้ เกียรติเขา” (สดุดี 86:6–7; 91:15) แล้วเมื่อเจ้ าทูล พระยาห์ เวห์ จะทรงตอบ เมื่อเจ้ าร้ องทูล พระองค์ จะตรั ส
ว่ า เราอยู่นี่" (อิสยาห์ 58:9) "จงทูลเรา และเราจะตอบเจ้ า และจะบอกสิ่ งยิ่งใหญ่ ที่ซ่อนอยู่ ซึ่ งเจ้ าไม่ ร้ ู นั้นแก่ เจ้ า" (เยเรมีย์ 33:3)
ผมเชื่อว่าพระเจ้าเองเป็ นผูร้ ิ เริ่ มแนวคิดของการรอสาย “และจะเป็ นดังนี ้ คือก่ อนที่พวกเขาร้ องเรี ยก เราเองจะตอบ ขณะที่เขาทั้ง
หลายยังพูดอยู่ เราเองจะฟั ง” (อิสยาห์ 65:24)
11
เมษายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“เพราะว่าท่านทั้งหลายได้รับความรอดแล้วด้วยพระคุณโดยทางความเชื่อ ความรอดนี้ ไม่ใช่มาจากตัวท่าน แต่เป็ นของประทาน
จากพระเจ้า” (เอเฟซัส 2:8)
ไฟประจำวัน!
วัตถุประสงค์หลักแห่งพระคำของพระเจ้า คือ การนำฉันเข้าสู่สนั ติสุขแห่งการพักผ่อนที่สมบูรณ์แบบในพระเจ้า
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
มัทธิว 8:26; เอเฟซัส 2:2, 8, 10; ยากอบ 4:5
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
เลวีนิติ 15; สดุดี 18
เย็น:
สุ ภาษิต 29; 2 เธสะโลนิกา 3
พระวิญญาณทรงหวงแหน
หลักการแห่งความเชื่อที่สำคัญ คือ พระเยซูคริ สต์ทรงมีชีวิตอยูใ่ นตัวฉัน หลายคนรอให้พระวิญญาณเคลื่อนไหว แต่
พระองค์ตอ้ งเคลื่อนไหวในทิศทางที่พวกเขาต้องการ การเคลื่อนไหวของพระวิญญาณไม่ได้อยูใ่ นความรู้สึกของเราเท่านั้น มี
ข้อความหนึ่งที่แปลกและถูกละเลยในยากอบ นัน่ คือ “พระวิญญาณที่ทรงสถิตในเรานั้นทรงหวงแหนอย่ างยิ่ง” (ยากอบ 4:5)
พระวิญญาณบริ สุทธิ์ ภายในเราขัดแย้งกับความปรารถนาฝ่ ายเนื้ อหนัง ด้วยการกระตุน้ เราให้รับใช้พระองค์
ให้เราดูที่ เอเฟซัส 2:8 ซึ่งกล่าวว่า “เพราะว่ าท่ านทั้งหลายได้ รับความรอดแล้วด้ วยพระคุณโดยทางความเชื่ อ ความรอด
นี ไ้ ม่ ใช่ มาจากตัวท่ าน แต่ เป็ นของประทานจากพระเจ้ า” ความเชื่อเป็ นการกระทำร่ วมกันระหว่างพระเจ้าและผม มีวิญญาณ 2
ดวงที่ขดั แย้งกัน นัน่ คือวิญญาณของมาร และพระวิญญาณของพระเจ้า พวกเขาทั้ง 2 กดดันเรา อันดับแรก เราอ่านเรื่ อง “วิญ
ญาณที่ทำกิจอยู่ในพวกคนที่ไม่ เชื่ อฟั งในเวลานี”้ (เอเฟซัส 2:2) หลังจากนั้นเราอ่านว่า เมื่อเราได้รับความรอด “เราถูก ... สร้ าง
ขึน้ ในพระเยซูคริ สต์ เพื่อให้ ทำการดี” (ข้อ 10) เมื่อเราทำตามน้ำพระทัยของพระองค์ กระทำการดีของพระองค์ ก็โดยพระคุณ
ของพระองค์ เราไม่สามารถเย่อหยิง่ ได้ พระสิ ริท้ งั หมดเป็ นขององค์พระผูเ้ ป็ นเจ้า
14
เมษายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“พระเจ้าทรงไม่ใช่มนุษย์ที่จะมุสา และไม่ได้ทรงเป็ นบุตรของมนุษย์ที่จะต้องกลับใจ พระองค์จะไม่ทรงทำตามที่ตรัสไว้แล้ว
หรื อ? พระองค์จะไม่ทรงทำให้สำเร็ จตามที่ทรงลัน่ วาจาไว้แล้วหรื อ?” (กันดารวิถี 23:19)
ไฟประจำวัน!
จงมองเข้าไปในพระคำของพระเจ้าและเห็นพระลักษณะและพระทัยที่สม่ำเสมอของพระองค์
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
ปฐมกาล 20:1–18; กันดารวิถี 23:19; อิสยาห์ 55:6–12
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
เลวีนิติ 18; สดุดี 22
เย็น:
ปัญญาจารย์ 1; 1 ทิโมธี 3
พระทัยทีไ่ ม่ เปลีย่ นแปลงของพระเจ้ า
พระเจ้าทำงานโดยการกระตุน้ ให้อธิษฐาน เมื่อพระเจ้าต้องการทำสิ่ งใดสิ่ งหนึ่ง พระองค์จะทรงดลใจให้อธิษฐานให้
พระองค์ท ำสิ่ งนั้น พระองค์ทรงทำงานด้วยวิธีน้ นั เท่านั้น ในปฐมกาลบทที่ 20 เราอ่านเกี่ยวกับการรักษาโรคครั้งแรกที่บนั ทึกไว้
ในพระคัมภีร์ ซึ่งเป็ นคำอธิษฐานของอับราฮัมที่น ำการให้อภัยและการรักษาโรคมาสู่ครอบครัวทั้งหมดของอาบีเมเลค ซึ่งเป็ นหัว
หน้าชาวฟิ ลิสเตีย อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่ความคิดของอับราฮัม แต่เป็ นความคิดขององค์พระผูเ้ ป็ นเจ้า! พระองค์บอกอาบีเมเลค
ให้ขอให้อบั ราฮัมอธิษฐานขอให้เขาหายเป็ นปกติ พระองค์ดลใจให้อบั ราฮัมอธิษฐาน และดลใจให้อาบีเมเลคคาดหวังให้ค ำ
อธิษฐานของอับราฮัมได้รับคำตอบ ทั้งหมดนี้ มาจากพระเจ้า และโดยการรักษาครอบครัวของคนที่ไม่ได้เชื่อในพระเจ้า พระเจ้า
ก็ได้ทรงอุทิศตัวของพระองค์เอง พระองค์ไม่สามารถแตกต่างไปจากเดิมอีกแล้ว
องค์พระผูเ้ ป็ นเจ้าได้ทรงเปิ ดเผยสิ่ งที่พระองค์เป็ น และพระองค์ไม่สามารถย้อนกลับไปได้ พระเจ้าสำแดงพระองค์เอง
โดยการกระทำของพระองค์ และการกระทำของพระองค์ไม่ได้ขดั แย้งกับธรรมชาติของพระองค์ พระองค์ไม่เคยซ้ำรอย
พระองค์เอง เพราะว่าพระองค์ทรงมีแนวทางและแผนการใหม่ ๆ อย่างไม่จ ำกัด พระองค์ได้ทรงแสดงให้เห็นแล้วว่าการรักษา
โรคเป็ นสิ่ งที่พระองค์ตอ้ งการที่จะทำ
18
เมษายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“และพระเจ้าทรงทำให้เราเป็ นขึ้นมาด้วยกันกับพระคริ สต์ และทรงให้เรานัง่ ด้วยกันกับพระองค์ในสวรรคสถานในพระเยซู
คริ สต์ เพื่อว่าในยุคต่อ ๆ ไป พระองค์จะทรงสำแดงพระคุณอันอุดมเหลือล้นของพระองค์ ด้วยพระกรุ ณาที่มีต่อเราในพระเยซู
คริ สต์” (เอเฟซัส 2:6–7)
ไฟประจำวัน!
พระเยซูยอมทนทุกข์เพื่อนำบุตรมากหลายมาสู่ พระสิ ริ ซึ่งรวมถึงฉันด้วย!
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
เอเฟซัส 2:7; ยอห์น 13:31, 32; ทิตสั 2:13
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
เลวีนิติ 22; สดุดี 28 และ 29
เย็น:
ปัญญาจารย์ 5; 2 ทิโมธี 1
ถูกสร้ างและถูกช่ วยให้ รอดเพือ่ พระสิ ริของพระเจ้ า
เป็ นเรื่ องน่าประหลาดใจที่คิดว่าพระเจ้า ผูส้ ร้างโลกทั้งใบ ทรงสร้างเราแต่ละคนด้วย ยิง่ ไปกว่านั้น พระองค์ไม่ได้สร้าง
เราเพื่อตัวเราเอง เพียงเพื่อให้เราเป็ นสิ่ งมีชีวิตที่มีความสุ ข แต่เพื่อพระองค์เอง เพื่อพระสิ ริของพระองค์เอง ถ้าเราดำเนินชีวิต
เพื่อพระสิ ริของพระเจ้า เราก็ด ำเนินชีวิตสอดคล้องกับพระประสงค์ที่พระเจ้าทรงสร้างเราขึ้นมา นัน่ หมายถึงสันติสุข การดำเนิน
ชีวิตอยูเ่ พื่อเงิน ความพอใจในตนเอง หรื อจุดประสงค์อื่นที่ไม่ใช่พระเจ้า คือ การดำเนินชีวิตด้วยความเครี ยด ต่อสู้กบั ธรรมชาติ
และสวนกับกระแสแห่งน้ำพระทัยของพระเจ้า ถ้าเราแสวงหาพระสิ ริของพระองค์ เราก็เคลื่อนไปพร้อมกับทุกสิ่ งไปสู่ ความยิง่
ใหญ่แห่งพระสิ รินิรันดร์ที่ลิขิตไว้
และเราได้รับความรอด ไม่ใช่เพียงเพื่อผลประโยชน์ของเราเท่านั้น แต่เพื่อพระสิ ริของพระเจ้าด้วย ทำไม? “เพื่อว่ าใน
ยุคต่ อๆ ไป พระองค์ จะทรงสำแดงพระคุณอันอุดมเหลือล้ นของพระองค์ ด้ วยพระกรุ ณาที่มีต่อเราในพระเยซูคริ สต์ ” (เอเฟซัส
2:7) นัน่ คือสาเหตุที่พระเยซูทรงทนทุกข์อย่างมากเพื่อเรา ยอมจ่ายราคาสูง เพื่อนำพระสิ ริมาสู่ พระบิดา
เพราะว่ าพระคริ สต์ ไม่ ได้ เสด็จเข้ าไปในสถานศักดิ์สิทธิ์ ที่สร้ างขึน้ ด้ วยมือมนุษย์ ซึ่ งถอดแบบจากของจริ ง แต่ พระองค์
เสด็จเข้าไปในสวรรค์ นั้นเอง เพื่อทรงปรากฏตัวต่ อพระพักตร์ พระเจ้ าเพื่อพวกเรา ไม่ ใช่ เพื่อทรงถวายพระองค์ เองซ้ำอีก ไม่
เหมือนมหาปุโรหิ ตที่เข้าไปในสถานศักดิ์สิทธิ์ ทุกปี โดยนำเอาเลือดซึ่ งไม่ ใช่ ของตัวเองเข้ าไปด้ วย เพราะถ้ าเป็ นเช่ นนั้น พระองค์
คงจะต้ องทรงทนทุกข์ หลายครั้ งนับตั้งแต่ สร้ างโลกมา แต่ ความจริ ง พระองค์ ทรงปรากฏครั้ งเดียวเท่ านั้นในปลายยุค เพื่อกำจัด
บาปให้ หมดสิ ้นไปโดยการถวายพระองค์ เองเป็ นเครื่ องบูชา ตามที่มีข้อกำหนดสำหรั บมนุษย์ ไว้ แล้ วว่ าจะตายครั้ งเดียว และหลัง
จากนั้นก็จะมีการพิพากษาฉั นใด พระคริ สต์ กฉ็ ั นนั้น คือพระองค์ ทรงถวายพระองค์ เองเป็ นเครื่ องบูชาครั้ งเดียวเป็ นพอ เพื่อจะได้
ทรงแบกบาปของคนจำนวนมากไว้ แล้ วพระองค์ จะทรงปรากฏเป็ นครั้ งที่สอง ไม่ ใช่ เพื่อกำจัดบาป แต่ เพื่อนำความรอดมาให้
บรรดาผู้ที่รอคอยพระองค์ ด้วยใจจดจ่ อ (ฮี บรู 9:24–28)
พระคริ สต์สิ้นพระชนม์และเสด็จกลับมาจากอุโมงค์ฝังศพ และตอนนี้ พระองค์ทรงพระชนม์! มหัศจรรย์? ใช่ แต่ไม่ใช่
ความเพ้อฝัน นี่เป็ นที่ที่ประวัติศาสตร์ก ำลังดำเนินไป ถ้าไม่เช่นนั้นประวัติศาสตร์กจ็ ะไม่ไปไหนเลย ด้วยความชื่นชมยินดีอย่าง
ยิง่ คุณและผมยึดมัน่ ในพระสัญญาอันยิง่ ใหญ่น้ นั ว่าพระเยซูคริ สต์จะเสด็จมาอีกครั้งเพื่อเรา!
20
เมษายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“ด้วยมีเด็กคนหนึ่งเกิดมาเพื่อเรา มีบุตรชายคนหนึ่งประทานมาให้เรา และการปกครองจะอยูบ่ นบ่าของท่าน และเขาจะขนาน
นามของท่านว่า “ที่ปรึ กษามหัศจรรย์ พระเจ้าผูท้ รงมหิ ทธิ ฤทธิ์ พระบิดานิรันดร์ และองค์สนั ติราช” การเพิ่มพูนขึ้นของการปก
ครองและสันติภาพของท่านจะไม่มีที่สิ้นสุ ด” (อิสยาห์ 9:6–7)
ไฟประจำวัน!
พระเยซูสิ้นพระชนม์แทนฉันเพื่อฉันจะได้มีชีวิตอยู่
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
อิสยาห์ 9:6–7; ลูกา 22:27; ยอห์น 3:16; 4:42; 14:2–3; 2 โคริ นธ์ 9:15; วิวรณ์ 1:7
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
เลวีนิติ 24; สดุดี 31
เย็น:
ปัญญาจารย์ 7; 2 ทิโมธี 3
สิ ทธิที่พระเจ้ าประทานให้ แก่ เรา
เรารู้วา่ พระคริ สต์ก ำลังเสด็จกลับมา เพราะว่าพระองค์ทรงเป็ นของที่นี่ พระองค์ทรงเป็ น “พระเยซูคริ สต์ ผู้ทรงสภาพ
มนุษย์ ” (1 ทิโมธี 2:5) พระองค์ทรงบังเกิดที่นี่…กินที่นี่ และเติบโตที่นี่… หายใจที่นี่ และดำเนินชีวิตอยูท่ ี่นี่…ถูกทดลองเช่นเดียว
กับเรา—แต่ไม่เคยทำบาป พระองค์ถูกกล่าวหาอย่างผิด ๆ ที่นี่…ถูกทดสอบและตัดสิ นว่าผิดที่นี่…ถูกเฆี่ยนตีและประณามที่นี่…
และพระองค์ทรงหลัง่ พระโลหิ ตที่นี่ พระองค์ทรงเป็ นขึ้นมาอีกครั้งในพระกายที่ได้รับการเปลี่ยนแปลงใหม่และเป็ นอมตะ ซึ่งยัง
มีเครื่ องหมายแห่งความตายของพระองค์บนไม้กางเขน บุตรมนุษย์ผกู พันกับโลกของมนุษย์น้ ี ตลอดไปด้วยการเป็ นขึ้นมาจาก
ความตายและชีวิตที่ไม่มีวนั เสื่ อมสลาย!
พระองค์ทรงมีบา้ น 2 หลัง นัน่ คือแผ่นดินโลกและสวรรค์…กับเราและกับพระบิดา พระองค์ไปหาพระเจ้า เพราะว่า
พระองค์มาจากพระเจ้า...พระองค์จะกลับมาที่นี่ เพราะว่าพระองค์มาจากที่นี่
ในพระนิเวศของพระบิดาเรามีที่อยู่มากมาย ถ้ าไม่ มีเราคงบอกท่ านแล้ว เพราะเราไปจัดเตรี ยมที่ไว้ สำหรั บพวกท่ าน
เมื่อเราไปจัดเตรี ยมที่ไว้ สำหรั บท่ านแล้ว เราจะกลับมาอีกและรั บท่ านไปอยู่กับเรา เพื่อว่ าเราอยู่ที่ไหนพวกท่ านจะได้ อยู่ที่นั่นด้ วย
(ยอห์ น 14:2–3)
พระองค์เป็ นของพระเจ้าและเป็ นของเรา เช่นเดียวกับที่พระองค์ทรงรักพระบิดาและไปหาพระองค์ฉนั ใด...เนื่องจาก
พระองค์ทรงรักเรา พระองค์กจ็ ะเสด็จมาหาเราฉันนั้น เมื่อสวรรค์และแผ่นดินโลกใหม่มาถึง พระองค์จะเป็ นของทั้ง 2 สถานที่
สิ ทธิ์ ที่ยงิ่ ใหญ่ที่สุดของเราคือการอ้างสิ ทธิ์ ในพระเยซูคริ สต์วา่ “พระเจ้ าทรงรั กโลกดังนี ้ คือได้ ประทานพระบุตรองค์
เดียวของพระองค์ ” (ยอห์น 3:16) “ของประทานที่เกินความคาดคิดซึ่ งพระองค์ ประทานนั้น” (2 โคริ นธ์ 9:15) เราเป็ นเจ้าของ
พระองค์เช่นเดียวกับที่พระเจ้าเป็ นเจ้าของพระองค์ แผ่นดินโลกเท่ากับสวรรค์ “ด้ วยมีเด็กคนหนึ่งเกิดมาเพื่อเรา มีบตุ รชายคน
หนึ่งประทานมาให้ เรา” (อิสยาห์ 9:6) พระองค์ทรงวางพระองค์เองเป็ นภาระหน้าที่ต่อเราด้วยพระคุณอันเหลือเชื่อของพระองค์
1 ในสิ ทธิ์ ที่พระเจ้าประทานให้แก่เรา คือ การได้เห็นพระองค์บนแผ่นดินโลก นัน่ คือสิ ทธิพิเศษที่ล่วงละเมิดไม่ได้ของเรา “นัยน์
ตาทุกดวงจะเห็นพระองค์ ” (วิวรณ์ 1:7)
21
เมษายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“และนี่ เป็ นความมัน่ ใจที่เรามีต่อพระองค์ คือถ้าเราทูลขอสิ่ งใดที่เป็ นพระประสงค์ของพระองค์ พระองค์กท็ รงฟัง และถ้าเรารู้วา่
พระองค์ทรงฟังเมื่อเราทูลขอสิ่ งใด เราก็รู้วา่ เราได้รับสิ่ งที่ทูลขอนั้นจากพระองค์” (1 ยอห์น 5:14–15)
ไฟประจำวัน!
เป็ นสิ ทธิพเิ ศษของผูเ้ ชื่อที่จะอธิษฐานเผือ่ กันและกัน
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
ยอห์น 16:22–24; 1 ยอห์น 5:14–15
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
เลวีนิติ 25;
สดุดี 32
เย็น:
ปัญญาจารย์ 8; 2 ทิโมธี 4
การอธิษฐานวิงวอนนำมาซึ่งผลลัพธ์
หลังจากการประกาศใหญ่ ผูห้ ญิงคนหนึ่งมาหาผม และบอกผมว่าเธอถูกวิญญาณชัว่ ร้ายลวนลามมาหลายปี อย่างไร
และสิ้ นหวังกับชีวิตของเธอ ผมสะเทือนใจ และองค์พระผูเ้ ป็ นเจ้าทรงบอกให้ผมอดอาหารและอธิษฐานเผือ่ เธอ วันรุ ่ งขึ้น ผม
กำลังอธิษฐานเผือ่ เธออย่างสุ ดหัวใจ พอตอนเที่ยง จู่ๆ ผมก็มีประสบการณ์กบั การทะลุทะลวง พระสิ ริขององค์พระผูเ้ ป็ นเจ้าเต็ม
วิญญาณจิตของผม และพระวิญญาณบริ สุทธิ์ ตรัสกับผมว่า "สำเร็ จแล้ว"
เย็นวันนั้นผมได้พบกับผูห้ ญิงคนนั้นอีกครั้ง ก่อนที่ผมจะได้พดู อะไร เธอรายงานด้วยดวงตาเป็ นประกายว่า “พระเจ้าได้
ทรงทำการอัศจรรย์แล้ว! ตอนเที่ยงของวันนี้ ฉันมีประสบการณ์กบั การบำบัดปลดปล่อยที่ยงิ่ ใหญ่ในบ้านของฉัน” สิ่ งที่พระเจ้า
ได้ท ำในระดับเล็กน้อย พระองค์กจ็ ะทรงทำในส่ วนที่ใหญ่ที่สุดด้วย
22
เมษายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“เราเป็ นผูเ้ ลี้ยงที่ดี เรารู้จกั แกะของเรา...เราสละชีวิตเพื่อฝูงแกะ...เพราะเหตุน้ ีพระบิดาจึงทรงรักเรา เพราะเราสละชีวิตของเราเพื่อ
จะรับชีวิตนั้นคืนมาอีก ไม่มีใครชิงชีวิตไปจากเราได้ แต่เราสละชีวิตตามที่เราตั้งใจเอง เรามีสิทธิ อ ำนาจที่จะสละชีวิตนั้นและมี
สิ ทธิ อ ำนาจที่จะรับคืนมาอีก” (ยอห์น 10:14–15, 17–18)
ไฟประจำวัน!
พระบิดา ขอทรงพาข้าพระองค์ออกจาก “อาณาเขตที่สะดวกสบาย” และวางข้าพระองค์ไว้ในสถานที่ที่หวั ใจแห่งความเมตตา
ของพระองค์เต้นอยูใ่ นตัวของข้าพระองค์เอง ทำให้ขา้ พระองค์เป็ นห่วงเป็ นใยผูห้ ลงหายมากขึ้น
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
อพยพ 32; ยอห์น 10:14–18; 15:13 น
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
เลวีนิติ 26;
สดุดี 33
เย็น:
ปัญญาจารย์ 9;
ทิตสั 1
จงสะเทือนใจด้ วยความรู้ สึกเป็ นห่ วงเป็ นใย
เรื่ องราวใน อพยพ 32 เป็ นตอนที่แปลก แต่สำแดงให้เราเห็นถึงหัวใจของนักอธิษฐานวิงวอนที่แท้จริ ง อิสราเอลได้หนี
ออกจากอียปิ ต์หลังจากการสำแดงที่น่าอัศจรรย์ของฤทธิ์ อำนาจทุกอย่างที่ท ำให้ดูเหมือนกับว่าพระเจ้าทรงอยูใ่ กล้ สูงขึ้นไปมี
ภูเขาซีนายที่สูงตระหง่าน โดยมีเมฆแห่งพระสิ ริของพระเจ้าที่ก ำลังบดบังโมเสสซึ่งขึ้นไปสนทนากับพระเจ้า ประชาชนคิดว่าเขา
ได้ทอดทิ้งพวกเขาแล้ว จิตใจที่เรี ยบง่ายของพวกเขาลุ่มหลงในความเชื่อโชคลางของอียปิ ต์และเทพเจ้าต่างๆ ของอียปิ ต์ ดังนั้น
พวกเขาจึงสร้างลูกวัวทองคำเพื่อนำพวกเขากลับไปยังอียปิ ต์
องค์พระผูเ้ ป็ นเจ้าตรัสว่าพระองค์จะทรงทำลายพวกเขาเนื่องจากการล่วงละเมิดที่น่าเกลียดนี้ และเริ่ มต้นประชาชาติ
ใหม่ผา่ นทางโมเสส ความสงสารของโมเสสเอาชนะความโกรธของเขา และเขาวิงวอนเพื่อชนชาติที่พระเจ้าเรี ยกว่า “หั วแข็ง”
(อพยพ 32:9) โมเสสตอบกลับโดยเรี ยกพวกเขาว่า “ประชากรของพระองค์ ” (ข้อ 11) และเสริ มว่า “อนิจจา ประชากรนีท้ ำบาป
ใหญ่ หลวง ...แต่ บัดนีข้ อพระองค์ โปรดยกโทษบาปของพวกเขา มิฉะนั้น ขอพระองค์ ทรงลบชื่ อของข้าพระองค์ เสี ยจากหนังสื อ
ที่พระองค์ ทรงจดไว้ ” (ข้อ 31–32) ที่นี่ค ำพูดทำให้เขาขาดทุน นัน่ คือพลังแห่งการระเบิดออกของความเห็นอกเห็นใจของเขา เขา
ยอมตายเพื่อชดใช้บาปของอิสราเอล
ข้อเสนอของเขาถูกปฏิเสธ เพราะว่ามีเพียงพระบุตรของพระเจ้าเท่านั้นที่สามารถชดใช้บาปได้ นี่เป็ นการอธิษฐาน
วิงวอนที่แท้จริ ง
โมเสสไม่ได้ถูกผลักเข้าไปในนั้น เขาได้น ำกลุ่มชนเผ่านี้ไปสู่ความเป็ นชาติเหมือนผูห้ ญิงคนหนึ่งที่คลอดเด็กเข้ามาใน
โลก พวกเขาทำให้หวั ใจของเขาแตกสลาย แต่เขายังคงปกป้ องพวกเขาจากหายนะที่หลีกเลี่ยงไม่ได้จากความโง่เขลาของพวกเขา
เอง “ไม่ มีใครมีความรั กยิ่งใหญ่ กว่ านี ้ คือการสละชี วิตเพื่อมิตรสหายของตน” (ยอห์น 15:13) คุณถูกทำให้โกรธโดยเพื่อนหรื อ
ญาติที่ยงั ไม่ได้รับความรอดหรื อไม่? จงอธิษฐานเผือ่ พวกเขา! พวกเขาไม่ได้ตอ้ งการเศษเสี้ ยวแห่งความคิดของคุณ—พวกเขา
ต้องการคำอธิษฐานจากหัวใจของคุณ
23
เมษายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“ถ้าพวกท่านยึดมัน่ ในคำสอนของเรา ท่านก็เป็ นสาวกของเราอย่างแท้จริ ง และพวกท่านจะรู้จกั สัจจะ และสัจจะจะทำให้ท่านเป็ น
ไท” (ยอห์น 8:31–32)
ไฟประจำวัน!
คนชอบธรรมจะดำเนินชีวิตด้วยความเชื่อ
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
อพยพ 32:1–35; ยอห์น 20:29; โรม 1:17, 28
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
เลวีนิติ 27;
สดุดี 34
เย็น:
ปัญญาจารย์ 10; ทิตสั 2
ผู้เชื่อที่ไม่ เห็นสิ่ งมหัศจรรย์
ความคิดที่วา่ พระเจ้าหายไปเป็ นความกลัวเก่าของความไม่เชื่อ อิสราเอลเข้าร่ วมในการอพยพ เห็นพระสิ ริของพระองค์
และรู้วา่ ทั้งหมดเป็ นความจริ ง แต่ภายในไม่กี่เดือน พวกเขาก็ไม่ไว้วางใจ พวกเขาต้องการบางสิ่ งบางอย่างที่เห็นได้ ดังนั้นพวก
เขาจึงสร้างลูกวัวทองคำเพื่อนำพวกเขากลับไปสู่ ความเป็ นทาส! ความไม่เชื่อนำไปสู่การเป็ นทาสเสมอ ความเชื่อหมายถึง
อิสรภาพ
อย่างไรก็ตาม พวกเขาทำพาสปอร์ตและวีซ่าแห่งความเชื่อในพระเจ้าหายหมด และไม่เคยข้ามพรมแดนเข้าสู่แผ่นดิน
แห่งพระสัญญา—โดยมีขอ้ ยกเว้นอยู่ 2 คน นัน่ คือคาเลบและโยชูวาที่ยดึ มัน่ ในความเชื่อและได้เข้าไป ความไม่เชื่อนั้นเก่ามาก
มันไม่ฉลาดหรื อทันสมัย เอวาสงสัย จากช่วงเวลานั้นสำหรับเธอและเรา มันเป็ นเรื่ องไร้สาระและความโง่เขลาของซาตานที่ไม่
เคยทำประโยชน์ให้กบั ผูใ้ ดเลย ถ้าเราจะติดต่อกับพระเจ้า มันจะเป็ นไปได้อย่างไรในแผ่นดินโลกนี้ นอกจากไว้วางใจใน
พระองค์? พระองค์น่าจะมีความไว้วางใจอะไรกับคนที่เย็นชาต่อพระองค์ หรื อแสร้งทำเป็ นว่าพระองค์ไม่มีอยูจ่ ริ ง? พระองค์ไม่
ได้เป็ นหนี้ อะไรเราเลย และถ้าเราต้องการอย่างนั้น พระองค์กจ็ ะปล่อยให้เป็ นอย่างนั้น “และเพราะเขาเห็นว่ าการรู้ จักพระเจ้ าไม่
เป็ นสิ่ งสำคัญ พระองค์ จึงทรงปล่ อยให้ เขามีจิตใจเสื่ อมทรามและประพฤติสิ่งที่ไม่ เหมาะสม” (โรม 1:28)
25
เมษายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“อย่ากลัวเลย เพราะเราได้ไถ่เจ้าแล้ว เราได้เรี ยกเจ้าตามชื่อ เจ้าเป็ นของเรา เมื่อเจ้าลุยข้ามน้ำ เราจะอยูก่ บั เจ้า และเมื่อข้ามแม่น้ำ
มันจะไม่ท่วมเจ้า เมื่อเจ้าเดินผ่านไฟ เจ้าจะไม่ถูกไหม้ และเปลวเพลิงจะไม่เผาเจ้า เพราะเราคือยาห์เวห์เป็ นพระเจ้าของเจ้า” (อิส
ยาห์ 43:1–3)
ไฟประจำวัน!
ฉันเป็ นของพระคริ สต์ และเป็ นเชื้ อสายของอับราฮัม ดังนั้นฉันจึงเป็ นทายาทตามพระสัญญา (กาลาเทีย 3:29 ถอดความ)
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
อิสยาห์ 43:1–28; กาลาเทีย 3:29
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
กันดารวิถี 2;
สดุดี 36
เย็น:
ปัญญาจารย์ 12; ฟิ เลโมน 1
พระเจ้ าสร้ างครอบครัว
พระเจ้าต้องการให้ครอบครัวได้รับความรอด ความเป็ นหนึ่งในหัวใจของสิ ่ งที่ทรงสร้างทำให้การอธิษฐานเพื่อ
ครอบครัวได้ผล พันธสัญญาเดิมกล่าวถึงการงานแห่งครอบครัวของพระเจ้า นัน่ คือพระองค์ทรงเลือกอิสราเอลตั้งแต่สมัยของอับ
ราฮัมและซาราห์ และเผ่าต่างๆ ของยาโคบ
พวกเขาไม่ได้ท ำตัวเองให้โดดเด่น พวกเขามีแนวโน้มที่จะผสมผสานเข้ากับประเทศเพื่อนบ้านนอกศาสนา ซึ่งจะทำให้
ตัวตนของพวกเขาสูญหายไป แต่ความเฉยเมยของพวกเขาแสดงให้เห็นว่าพระเจ้าตั้งใจทำให้ครอบครัวเติบโต! พระองค์ทรง
ทำให้อิสราเอลมีความโดดเด่นในด้านเชื้อชาติ หลังจาก 4000 ปี อิสราเอลเป็ นครอบครัวเดี่ยวที่โดดเด่นมากที่สุดในแผ่นดินโลก
ไม่มีเผ่าพันธุ์อื่นใดที่ได้รับความเดือดร้อนจากการพยายามฆ่าล้างเผ่าพันธุ์เช่นนี้ เพราะว่าไม่มีเผ่าพันธุ์อื่นใดที่มีความเป็ นส่ วนตัว
สำหรับพระเจ้า จริ งๆแล้ว ดาวนาซีบนเสื้ อผ้าของพวกเขาเป็ นประจักษ์พยานจากศัตรู ของพวกเขาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ใน
ครอบครัวที่ไม่อาจทำให้แตกหักได้ การเป็ นเชลย การสูญเสี ยบ้านเกิด การกระจายตัวของชาวยิว ไม่มีสิ่งใดทำลายอิสราเอลได้
เพราะว่าอิสราเอลเป็ นเครื่ องหมายของพระเจ้าต่อโลกเกี่ยวกับการออกแบบและวัตถุประสงค์ของครอบครัว!
26
เมษายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“ข้าพระองค์จะไปไหนให้พน้ พระวิญญาณของพระองค์ได้? หรื อข้าพระองค์จะหนี ไปไหนให้พน้ จากพระพักตร์ ของพระองค์?
ถ้าข้าพระองค์ข้ ึนไปยังสวรรค์ พระองค์ก็สถิตที่นนั่ ถ้าข้าพระองค์จะทำที่นอนไว้ในแดนคนตาย พระองค์ทรงอยูท่ ี่นนั่ ถ้าข้าพระ
องค์จะบินไปไกลถึงที่ตะวันออก หรื อถ้าข้าพระองค์อาศัยอยูส่ ุ ดขอบทะเลตะวันตก แม้ที่นนั่ พระหัตถ์ของพระองค์จะจูงข้าพระ
องค์ และพระหัตถ์ขวาของพระองค์จะฉวยข้าพระองค์ไว้” (สดุดี 139:7–10)
ไฟประจำวัน!
“พระองค์เองได้ตรัสว่า “เราจะไม่ละท่านหรื อทอดทิ้งท่านเลย” (ฮีบรู 13:5)
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
สดุดี 139:7–10; เอเสเคียล 16:1–14; ฮีบรู 13:5
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
กันดารวิถี 3; สดุดี 37
เย็น:
เพลงซาโลมอน 1; ฮีบรู 1
การดูแลอย่ างเข้ มข้ น
พูดถึงการกำเนิดของเจ้ า ในวันที่เจ้ าเกิดมานั้น เขาไม่ ได้ ตัดสายสะดือของเจ้ า และไม่ ได้ ล้างเจ้ าให้ สะอาดด้ วยน้ำ ไม่ ได้
ถูเจ้ าด้ วยเกลือ และไม่ ได้ พันเจ้ าด้ วยผ้ า ไม่ มีดวงตาใครจะปรานีเจ้ า หรื อจะกรุ ณาเจ้ าจนยอมทำสิ่ งเหล่ านี ใ้ ห้ เจ้ าแม้ เพียง
สิ่ งเดียว เจ้ าถูกโยนทิง้ ในพืน้ ทุ่ง เพราะในวันที่เจ้ าเกิดนั้นเจ้ าเป็ นที่รังเกียจ แต่ เมื่อเราผ่ านเจ้ าไป เราเห็นเจ้ าดิน้ กระแด่ วๆ
อยู่ในกองเลือดของเจ้ า เราก็พูดกับเจ้ าในกองเลือดของเจ้ าว่ า ‘จงมีชีวิตอยู่’ เราทำให้ เจ้ าเหมือนอย่ างพืชในท้ องทุ่ง เจ้ าก็
เติบโตและสูงขึน้ จนเป็ นสาวเต็มตัว ถันของเจ้ าก็ก่อรู ปขึน้ มา และขนของเจ้ าก็งอก แต่ เจ้ าเปลือยเปล่ าและล่ อนจ้ อน (เอ
เสเคียล 16:4–7)
แต่ “พระเจ้ ามีองค์ เดียว และคนกลางก็มีแต่ เพียงผู้เดียวระหว่ างพระเจ้ ากับมนุษย์ คือพระเยซูคริ สต์ ผ้ ทู รงสภาพมนุษย์ ”
(1 ทิโมธี 2:5) คนกลางมีการเชื่อมโยงไปยังทั้ง 2 ฝ่ าย พระองค์เป็ นเพียงคนกลาง—เหมือนบันไดของยาโคบ—ที่ต้ งั ไว้ระหว่าง
สวรรค์และแผ่นดินโลก พระเยซูทรงผูกสวรรค์และแผ่นดินโลก พระเจ้าและมนุษย์เข้าด้วยกันในพระองค์ การทรงสถิตของ
พระองค์บนแผ่นดินโลกจะเป็ นสิ่ งที่เป็ นธรรมชาติที่สุดในบรรดาทุกสิ่ ง นี่คือความหวังที่ยิง่ ใหญ่ที่เรายึดไว้!
28
เมษายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“แต่พระเจ้าทรงสำแดงความรักของพระองค์แก่เรา คือขณะที่เรายังเป็ นคนบาปอยูน่ ้ นั พระคริ สต์สิ้นพระชนม์เพื่อเรา” (โรม 5:8)
ไฟประจำวัน!
พระคริ สต์เองได้ทรงรับแบกบาปทั้งหลายของฉันไว้ในพระกายของพระองค์ที่ตน้ ไม้น้ นั เพื่อว่าฉันซึ่งได้ตายต่อบาปอาจดำเนิน
ชีวิตเพื่อความชอบธรรม (1 เปโตร 2:24 ถอดความ)
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
มัทธิว 1:23; 27:27–56; โรม 5:8; 2 โคริ นธ์ 5:21
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
กันดารวิถี 5;
สดุดี 39
เย็น:
เพลงซาโลมอน 3; ฮีบรู 3
พระเยซู ในโลกแห่ งความเป็ นจริง
พระเยซูคือใคร? พระคัมภีร์บอกเราว่าพระองค์คือ “อิมมานูเอล พระเจ้ าสถิตกับเรา” (มัทธิว 1:23) พระเยซูแสดงให้เรา
เห็นว่าพระเจ้าเข้ามามีส่วนร่ วมในโลกแห่งความเป็ นจริ ง พระองค์ท ำให้มือของพระองค์สกปรก! พระองค์ท ำให้มือถูกตรึ งที่ไม้
กางเขน! และพระองค์ทรงทำเช่นนั้นเพื่อให้เราสามารถเป็ นอิสระจากฤทธิ์ อ ำนาจและการทำลายล้างของบาป
เมื่อเชลยชาวโรมันเดินออกไปเพื่อจะถูกตรึ ง พวกเขาแบกไม้คานไว้บนบ่า มัดแขนไว้กบั ขื่อ เดินหลังโก่งไปยังสถานที่
ประหารชีวิต นัน่ คือวิธีที่พระเยซูเดินผ่านกรุ งเยรู ซาเล็มไปยังเนินประหารที่เรี ยกว่ากลโกธา
พวกทหารของเจ้ าเมืองจึ งพาพระเยซูไปไว้ ในกองบัญชาการปรี โทเรี ยม และรวมทหารทั้งกองไว้ เฉพาะพระพักตร์ พระ
องค์ แล้ วเปลือ้ งฉลองพระองค์ ออก เอาเสื ้อคลุมสี แดงเข้มมาสวมให้ พระองค์ เอาหนามสานเป็ นมงกุฎสวมบนพระ
เศียรของพระองค์ แล้ วเอาไม้ อ้อมาให้ พระองค์ ทรงถือไว้ ในพระหั ตถ์ ขวา และคุกเข่าลงเฉพาะพระพักตร์ พระองค์ เยาะ
เย้ ยว่ า “ข้ าแต่ กษัตริ ย์ของพวกยิว ขอทรงพระเจริ ญ” แล้ วก็ถ่มน้ำลายรด และเอาไม้ อ้อนั้นตีพระเศียรพระองค์ เมื่อเยาะ
เย้ ยพระองค์ แล้ว พวกเขาก็ถอดเสื ้อคลุมตัวนั้นออก และเอาฉลองพระองค์ ของพระองค์ มาสวมให้ และนำพระองค์ ออก
ไปเพื่อตรึ งที่กางเขน (มัทธิ ว 27:27–31)
ราวกับว่าพระองค์ก ำลังทรงแบกป้ าย—ป้ ายขนาดใหญ่มาก—ด้วยการป่ าวประกาศถึงความจริ งอันน่าสะพรึ งกลัวด้วย
ภาษาที่คนทั้งโลกสามารถเข้าใจและไม่มีวนั ลืม ไม้คานที่พระเยซูแบกไว้พดู ถึงการติดลบหรื อด้านลบของมนุษย์เรา—ความล้ม
เหลวและความบาปที่อยูใ่ นหัวใจของพวกเราทุกคน
ไม้กางเขนแสดงให้เราเห็นถึงการตอบสนองอย่างเหลือเชื่อของพระเจ้าต่อความทุกข์ทรมานของมนุษย์ พระเจ้าเองเข้า
มาอยูใ่ นความทุกข์ของเรา และรับบาปของเราไว้กบั พระองค์ พระเยซู ถึงแม้วา่ พระองค์จะไม่มีความผิดและปราศจากบาป แต่ถูก
ทำให้เป็ น "บาปเพื่อเรา" (2 โคริ นธ์ 5:21) ดังที่คริ สเตียนยุคแรกคนหนึ่งกล่าวไว้วา่ “ขณะที่เรายังเป็ นคนบาปอยู่นั้น พระคริ สต์
สิ ้นพระชนม์ เพื่อเรา” (โรม 5:8)
บนเนินเขานั้น พระเยซูทรงเอาไม้คานแห่งความบาปและความอธรรมของเราพาดไว้บนไม้ตรง พระองค์ทรงเปลี่ยน
ด้านลบของมนุษย์ให้เป็ นด้านบวกของพระเจ้า พระเยซูทรงปลดปล่อยฤทธิ์อ ำนาจแห่งพระกรุ ณา การให้อภัย และการรักษาของ
พระเจ้าให้กบั ผูใ้ ดก็ตามที่มาหาพระองค์และเพียงแค่ขอ นัน่ หมายถึงผม!
29
เมษายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“ข้าแต่พระเจ้า พระองค์ทรงเป็ นพระเจ้าของข้าพระองค์ ข้าพระองค์จะแสวงหาพระองค์ จิตใจของข้าพระองค์กระหายหาพระ
องค์ เนื้ อหนังของข้าพระองค์กระเสื อกกระสนหาพระองค์ ในดินแดนที่แห้งแล้งและอ่อนระโหย ที่ซ่ ึงไม่มีน้ำ เช่นนั้นแหละ ข้า
พระองค์เคยเห็นพระองค์ในสถานนมัสการ เห็นฤทธานุภาพและพระสิ ริของพระองค์” (สดุดี 63:1–2)
ไฟประจำวัน!
ชื่อของฉันถูกเขียนไว้ในหนังสื อแห่งชีวิตของพระเมษโปดก ฉันจะชื่นชมยินดีและขอบพระคุณ!
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
สดุดี 63:1–11; มาระโก 16:9; ลูกา 19:1–10; กิจการ 9:15; 1 เปโตร 1:3
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
กันดารวิถี 6; สดุดี 40 และ 41
เย็น:
เพลงซาโลมอน 4; ฮีบรู 4
ธรรมิกชนในความสว่ าง
จงมองไปที่พวกเขา! ช่างเป็ นแสงแห่งพระสิ ริที่ส่องประกายระยิบระยับลงมายังสายธารของมนุษยชาติที่ได้รับการทรง
ไถ่อย่างไม่มีที่สิ้นสุ ด! นี่คือหนึ่งในคนแรก มารี ยซ์ ่ ึงครั้งหนึ่งภายในเคยถูกทำลายโดยวิญญาณชัว่ 7 ตน นัง่ อยูใ่ นความรักใกล้กบั
หลุมฝังศพที่วา่ งเปล่าของพระองค์ ในฐานะผูน้ มัสการพระองค์ชวั่ นิรันดร์ “หลังจากพระองค์ ทรงเป็ นขึน้ มาในวันเวลารุ่ งเช้ าวัน
อาทิตย์ พระองค์ ทรงปรากฏแก่ มารี ย์ชาวมักดาลาก่ อน คือมารี ย์คนที่พระองค์ ทรงขับผีออก 7 ตน” (มาระโก 16:9)
นี่คือเปโตร—พระเยซูตอ้ งทำงานหนักเพื่อเขา แต่ตอนนี้เขาเปล่งประกายด้วยแสงจากเบื้องบน “สาธุการแด่ พระเจ้ า
พระบิดาแห่ งพระเยซูคริ สต์ องค์ พระผู้เป็ นเจ้ าของเรา โดยพระเมตตาล้ นเหลือของพระองค์ ทรงโปรดให้ เราบังเกิดใหม่ เข้ าใน
ความหวังที่ยงั่ ยืน โดยการคืนพระชนม์ ของพระเยซูคริ สต์ ” (1 เปโตร 1:3)
และนี่คือเปาโลผูซ้ ่ ึงข่มเหงพระองค์ “องค์ พระผู้เป็ นเจ้ าจึ งตรั สกับท่ านว่ า “จงไปเถิด เพราะว่ าคนนีเ้ ป็ นภาชนะที่เรา
เลือกสรรไว้ เขาจะนำนามของเราไปถึงบรรดาคนต่ างชาติและบรรดากษัตริ ย์ และไปถึงพวกอิสราเอล” (กิจการ 9:15) ขโมยที่
เยาะเย้ยพระองค์ ศักเคียส ซึ่งพระเยซูเจ้าเสด็จมาในบ้านและชีวิตของเขา เส้นทางของความสว่างผ่านลงมายาวนานหลาย
ศตวรรษ ผูร้ ักพระเยซู: ผูท้ ี่ตายเพื่อความเชื่อ อัครทูต ธรรมิกชน ผูค้ นที่สรรเสริ ญพระเจ้าในขณะที่นิ้วของพวกเขาถูกเผาไหม้
เหมือนเทียนไข ผูเ้ ผยแพร่ ข่าวประเสริ ฐ ศิษยาภิบาล มิชชันนารี คนงานที่ถ่อมใจ ผูส้ ตั ย์ซื่อ คุณ และผม
พระองค์ทรงช่วยคนบาปที่น่าสงสารอย่างผมให้รอด! วันหนึ่งเราจะอยูท่ ี่นนั่ พร้อมกับธรรมิกชนในความสว่าง ซึ่งดึงมา
จากทุกเผ่า ทุกคนอาบด้วยพระสิ ริของพระองค์ อดีตผูล้ ่วงประเวณี คนรักร่ วมเพศ ขโมย คนโกหก คนวิปริ ต แม่มด ฆาตกร ผูเ้ สพ
ติด พวกลัทธิซาตาน คนโลภ คนไหว้รูปเคารพ คนไม่สะอาด คนที่ทนั สมัย และคนที่ไม่ทนั สมัย เคียงข้างกัน เรี ยนรู้และจับมือ
กันอย่างเรี ยบง่าย—ทั้งหมดถูกชำระด้วยพระโลหิ ตของพระเยซู! นัน่ คือประชากรแห่งอาณาจักรของพระเจ้า! นี่คือพระสิ ริของ
กษัตริ ย ์ จงชื่นชมยินดีในวันนี้ ที่ชื่อของคุณถูกบันทึกไว้ในหนังสื อแห่งชีวิตของพระเมษโปดก!
30
เมษายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“เพราะว่า เหมือนกับร่ างกายเดียวที่มีหลายๆ อวัยวะ และอวัยวะทั้งหมดของร่ างกายนั้นแม้จะมีหลายส่ วนก็ยงั เป็ นร่ างกายเดียว
พระคริ สต์กท็ รงเป็ นเช่นนั้น...ส่วนท่านทั้งหลายเป็ นกายของพระคริ สต์ และแต่ละอวัยวะก็เป็ นส่วนหนึ่งของกายนั้น” (1 โคริ นธ์
12:12, 27)
ไฟประจำวัน!
ความรักของพระเจ้าจำเป็ นต้องสำแดงเป็ นตัวตนในตัวฉัน
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
กิจการ 10:38; 1 โคริ นธ์ 12:12, 27; โคโลสี 1:18; ฟิ ลิปปี 1:20; 2:5
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
กันดารวิถี 7; สดุดี 42 และ 43
เย็น:
เพลงซาโลมอน 5; ฮีบรู 5
พระมหาบัญชาของพระคริสต์
เป็ นไปไม่ได้ที่จะดำเนินการตามพระมหาบัญชาก่อนวันเพ็นเทคอสต์ พระเยซูได้ทรงบอกให้พวกสาวกรอ แล้วเรื่ องก็
เริ่ มขึ้น! การประกาศข่าวประเสริ ฐที่เกิดขึ้นในวันหนึ่งนั้นก่อให้เกิดคริ สตจักร แต่คริ สตจักรคืออะไร? เราชัดเจนเกี่ยวกับลักษณะ
และวัตถุประสงค์ของคริ สตจักรหรื อไม่? คริ สตจักรเป็ นส่วนขยายแห่งความเห็นใจของพระเยซูเจ้า ของการปลอบประโลมใจ
ของการรักษา ของความดีงามของพระองค์ “...พระเยซูชาวนาซาเร็ ธ...เสด็จไปทำคุณประโยชน์ และรั กษาคนทั้งหลายที่ถกู มาร
เบียดเบียนอย่ างไร เพราะว่ าพระเจ้ าสถิตอยู่กับพระองค์ ” (กิจการ 10:38) นัน่ คือคริ สตจักร และนัน่ คือสิ่ งที่เราควรกำลังทำอยู!่
เราถูกบอกว่าคริ สตจักรคือพระกายของพระองค์ พระเจ้าไม่มีแขน แต่มีแขนของเราที่จะโอบกอดโลกที่น่าสมเพชนี้
ความรักคือคุณลักษณะสูงสุ ดของพระองค์ ผมรู้สึกว่าเราเป็ นเพียงพระกายของพระองค์จนถึงระดับที่เราแสดงหลักฐานให้เห็นถึง
ความเห็นใจของพระองค์ คริ สตจักรที่ปราศจากความรักไม่ใช่คริ สตจักร ความรักของพระเจ้าที่ส ำแดงเป็ นตัวตนในพระเยซู
จำเป็ นต้องอยูใ่ นคริ สตจักร “จงมีจิตใจเช่ นนีใ้ นพวกท่ านเหมือนอย่ างที่มีในพระเยซูคริ สต์ ” (ฟิ ลิปปี 2:5)
ผูเ้ ผยพระวจนะโยนาห์ด ำเนินชีวิตอยูป่ ระมาณ 800 ปี ก่อนคริ สตกาล เขาได้ยนิ การทรงเรี ยกของพระเจ้าให้ไปนีนะเวห์
เมืองหลวงแห่งสุ ดท้ายของอาณาจักรอัสซีเรี ย มันตั้งอยูบ่ นแม่น้ำไทกริ ส 600 ไมล์ขณะที่อีกาบินไปทางทิศตะวันออกจากที่ที่โย
นาห์อาศัยอยู่ แทนที่จะไปนีนะเวห์ โยนาห์จ่ายค่าโดยสารเรื อไปยังเมืองทารชิช ซึ่งก็คือไปทางทิศตะวันตก ในอีกด้านหนึ่ง เขา
หมดหวังที่จะหลีกหนีจากภาระหน้าที่ของเขา… นีนะเวห์เป็ นสถานที่สุดท้ายที่เขาต้องการไป!
คุณเคยอยูใ่ นสถานที่น้ นั ไหม—ที่ซ่ ึงพระเจ้าขอให้คุณทำบางสิ่ งเพื่อพระองค์ ไปที่ไหนสักแห่งเพื่อพระองค์...และคุณ
แค่ไม่อยากทำอย่างนั้น? ผมรู้วา่ ผมมี! ถึงกระนั้น ผมพบว่าทุกครั้งผมก็กา้ วออกไปด้วยความเชื่อเพื่อเชื่อฟังพระองค์ พระเมตตา
ของพระองค์อยูท่ ี่นนั่ เสมอเพื่อนำและนำทางผม “ข้ าแต่ พระยาห์ เวห์ ข้ าพระองค์ ลีภ้ ัยในพระองค์ ...พระองค์ ทรงเป็ นศิลาและ
เป็ นป้ อมปราการของข้าพระองค์ ขอทรงนำทางข้าพระองค์ ด้วยเห็นแก่ พระนามของพระองค์ ” (สดุดี 31:1, 3) ถ้าพระเจ้ากำลังขอ
ให้คุณก้าวออกไปด้วยความเชื่อเพื่อทำบางสิ่ งในวันนี้ ...เพียงแค่พดู ว่า "ได้" และให้พระองค์น ำคุณและนำทางคุณ...ในวันนี้ !
4
พฤษภาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“พระเยซูจึงตรัสกับบิดานั้นว่า “ ‘ถ้าช่วยได้’ น่ะหรื อ? ใครเชื่อก็ท ำให้ได้ทุกสิ่ ง”” (มาระโก 9:23)
ไฟประจำวัน!
ความมัน่ ใจอย่างต่อเนื่องของฉันคือสำหรับพระเจ้าแล้ว ทุกสิ่ งเป็ นไปได้!
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
โยนาห์ 1 ถึง 4; มัทธิว 19:16–26; มาระโก 9:14–29
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
กันดารวิถี 11;
สดุดี 48
เย็น:
อิสยาห์ 1; ฮีบรู 9
กำลังลงไป
เมื่อเราอ่านเกี่ยวกับโยนาห์ จงสังเกตวิธีการบรรยายเกี่ยวกับการเดินทางของเขา โยนาห์บทที่ 1 กล่าวว่าเขาลงไปที่เมือง
ยัฟฟา...แล้วเขาก็ลงไปที่เรื อ...แล้วก็ลงไปที่ที่ก ำบังของเรื อ ต่อมาเมื่อเกิดพายุ พวกกะลาสี กโ็ ยนโยนาห์ลงไปในทะเล และปลา
มหึ มาก็กลืนเขาเข้าไป และเขาลงไปในท้องปลาใหญ่ จากนั้นเขาอธิษฐานทูลพระเจ้าว่า “พระองค์ ทรงเหวี่ยงข้าพระองค์ ลงไปใน
ที่ลึก ... ข้าพระองค์ ลงไปที่รากแห่ งภูเขาทั้งหลาย” (โยนาห์ 2:3, 6) หลังจากที่ปลาสำรอกโยนาห์ลงบนดินแห้งแล้ว องค์พระผู้
เป็ นเจ้าตรัสเป็ นครั้งที่ 2 และเนื้ อความกล่าวว่า “โยนาห์ ลุกขึน้ ” (โยนาห์ 3:3) การไปประกาศเมื่อพระเจ้าส่ งเราไปคือการยก
ระดับ—เราลุกขึ้น!
ให้เราเห็นใจโยนาห์สกั หน่อย: นีนะเวห์มีชื่อเสี ยงที่น่ากลัวจริ งๆ! กษัตริ ยห์ นึ่งหรื อสององค์น้ นั โหดเหี้ ยมอย่างแน่นอน
บางองค์เลวร้ายที่สุดเท่าที่เคยมีมาบนแผ่นดินโลกใบนี้ พวกเขาเพลิดเพลินกับความโหดร้ายและความโหดเหี้ ยมที่เลวร้ายจน
ทำให้เราตกใจจนถึงทุกวันนี้ โยนาห์ไม่ชอบความคิดของการเผชิญหน้ากับคนแบบนั้นอย่างแน่นอน คนต่างชาติจะสามารถหวัง
ว่าจะประกาศต่อต้านพวกเขาและรอดชีวิตออกมาได้อย่างไร?
แน่นอน ในที่สุดเขาก็ไป… และนีนะเวห์กลับใจอย่างสมบูรณ์จากวิถีทางที่อธรรมของมัน คำเทศนาของโยนาห์ได้ผล
แต่โยนาห์ตอ้ งการเห็นการพิพากษาของพระเจ้าตกที่เมืองนีนะเวห์…และใครจะตำหนิเขาได้? เขาได้เตือนเมืองนี้ วา่ พระเจ้ากำลัง
จะทำลายล้างเมืองนี้ ความอธรรมของพวกเขาได้ไปถึงหูของพระเจ้าแล้ว และการพิพากษาก็เป็ นสิ่ งที่พวกเขาสมควรได้รับ แต่
เมืองนั้นกลับใจ และพระเจ้าทรงยับยั้งการพิพากษาของพระองค์ (อย่างน้อยก็ช่วงหนึ่ง—น้อยกว่า 200 ปี ต่อมา นีนะเวห์ถูก
ทำลายอย่างสิ้ นเชิง)
บางครั้งคุณและผมรู้สึกเหมือนกับว่าพระเจ้ากำลังเรี ยกเราให้ท ำสิ่ งที่เป็ นไปไม่ได้—แต่จงมัน่ ใจว่า พระเจ้าทรงเป็ น
พระเจ้าของสิ่ งที่เป็ นไปไม่ได้!
5
พฤษภาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“แต่จงรักศัตรู ของท่านและทำดีต่อเขา จงให้เขายืมโดยไม่หวังที่จะได้คืน แล้วบำเหน็จของท่านทั้งหลายจะมีบริ บูรณ์ แล้วท่านจะ
เป็ นบุตรขององค์ผสู้ ูงสุ ด เพราะว่าพระองค์ทรงพระกรุ ณาทั้งต่อคนอกตัญญูและคนชัว่ ” (ลูกา 6:35)
ไฟประจำวัน!
ในการเชื่อฟังพระบัญชาของพระคริ สต์—“จงขอ!”—วันนี้ฉนั จะใช้เวลาในการอธิษฐาน
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
สดุดี 66:18; มัทธิว 5:23–24; 21:22; มาระโก 11:25; ลูกา 6:35–37;
18:10–14; ยอห์น 14:13; 15:7; 16:23; ยากอบ 1:6–7; 4:3
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
กันดารวิถี 12 และ 13; สดุดี 49
เย็น:
อิสยาห์ 2; ฮีบรู 10
กฎ 7 ข้ อของการอธิษฐาน
1. จงขอพระเจ้ าด้ วยความเชื่อ เราไม่สามารถขอมากเกินไปและระเบิดฟิ วส์ดว้ ยการเรี ยกร้องความช่วยเหลือจากสวรรค์
เยซูตรัสว่า “สิ่ งใดที่พวกท่านขอในนามของเรา เราจะทำสิ่ งนั้น” (ยอห์น 14:13) พระเจ้าอนุญาตให้ผเู้ ชื่อที่เป็ นผูใ้ หญ่
มีทางเลือกอย่างเสรี ในชีวิตของพวกเขา—และอวยพรสิ่ งที่พวกเขาตัดสิ นใจ
3. จงยกโทษเหมือนที่พระเจ้ าทรงยกโทษให้ แก่คุณ “และเมื่อพวกท่านยืนอธิษฐานอยู่ ถ้าพวกท่านมีเรื่ องกับใคร จงยก
โทษให้คนนั้น เพื่อว่าพระบิดาของพวกท่านผูส้ ถิตในสวรรค์ จะทรงยกโทษความผิดของพวกท่านด้วย” (มาระโก
11:25)
4. อย่ าอธิษฐานเพือ่ ให้ มนุษย์ ได้ ยนิ แต่ดว้ ยความจริ งใจ จงระลึกว่าพระเจ้าทรงเปี่ ยมด้วยพระคุณ
5. จงอธิษฐานในพระนามของพระเยซู เนื่องจากเราอยูใ่ นพระคริ สต์ เป็ นหนึ่งเดียวกับพระองค์ เมื่อเราอธิษฐานในพระ
นามของพระเยซู เรากำลังพูดด้วยคุณความดีของพระคริ สต์ที่ประทานให้แก่เรา จงใช้สามัญสำนึก
6. จงบ่ มพระคำของพระเจ้ า จงสังเกตความสมดุลของประโยคนี้ : “ถ้ า ...ถ้ อยคำของเราติดสนิทอยู่กับท่ านแล้ว ท่ านจะ
ขอสิ่ งใดที่ท่านปรารถนาก็จะได้ สิ่งนั้น” (ยอห์น 15:7) ผูเ้ ขียนสดุดีเขียนว่า “ถ้ าข้ าพเจ้ าได้ บ่มความบาปไว้ ในหั วใจ
องค์ พระผู้เป็ นเจ้ าจะไม่ ทรงฟั ง” (สดุดี 66:18 ฉบับ NIV) จงให้คุณค่ากับพระคำของพระคริ สต์ อย่าบ่มความชัว่ ช้า
7. จงจัดการกับอุปสรรคเพือ่ ให้ คำอธิษฐานได้ รับคำตอบ ยากอบเตือนว่าทำไมหลายครั้งเราจึงไม่ถูกได้ยนิ “คนที่สงสัย
นั้น...จงอย่ าคิดเลยว่ าจะได้ รับสิ่ งใดจากองค์ พระผู้เป็ นเจ้ า...พวกท่ านขอและไม่ ได้ รับเพราะขอผิด หวังจะเอาไป
สนองความปรารถนาชั่วของตนเอง” (ยากอบ 1:6–7, 4:3) สติปัญญาในการอธิษฐานเป็ นสิ่ งที่จ ำเป็ น
จงใช้ค ำแนะนำเหล่านี้กบั ชีวิตการอธิษฐานของคุณ และเห็นด้วยตัวคุณเองว่าการอธิษฐานเปลี่ยนแปลงสิ่ งต่างๆ ได้
อย่างไร!
6
พฤษภาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“เราเป็ นพระเจ้า และไม่มีผอู้ ื่นอีก เราเป็ นพระเจ้า และไม่มีใครเป็ นเหมือนเรา ผูแ้ จ้งตอนจบให้ทราบตั้งแต่เริ่ มต้น และแจ้งสิ่ งที่
ยังไม่ได้ท ำนั้นให้ทราบตั้งแต่อดีตกาล ทั้งกล่าวว่า ‘แผนงานของเราจะยัง่ ยืน และเราจะทำทุกสิ่ งตามความประสงค์ของเรา” (อิส
ยาห์ 46:9–10)
ไฟประจำวัน!
เมื่อใดก็ตามที่ฉนั อธิษฐาน พระเจ้าจะชัง่ น้ำหนักคำขอของฉันเทียบกับแผนการที่ปราศจากเวลาของพระองค์ แล้วพระองค์ทรง
ตอบตามนั้น
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
2 พงศ์กษัตริ ย ์ 20:1–21; 21:1–26; อิสยาห์ 38:1–22; 46:9–10; เยเรมีย ์ 17:10; มัทธิว 1:1–17; ลูกา 22:32
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
กันดารวิถี 14;
สดุดี 50
เย็น:
อิสยาห์ 3 และ 4; ฮีบรู 1
พระปัญญาที่สมบูรณ์ แบบ
พระเยซูทรงอธิษฐานว่า “อย่ าให้ เป็ นไปตามใจข้าพระองค์ แต่ ให้ เป็ นไปตามพระทัยของพระองค์ " (ลูกา 22:42) พวก
เราไม่ฉลาดรอบรู้และไม่ได้ท ำการวิงวอนอย่างสมบูรณ์แบบ ถ้าเรามีฤทธิ์ อ ำนาจอย่างไม่จ ำกัด เราคงทำเรื่ องยุง่ เหยิงในไม่ชา้
อย่างไรก็ตาม พระเจ้าจะไม่ถูกชักจูงให้ท ำสิ่ งที่โง่เขลา—ไม่แม้แต่จะทำให้ใครพอใจ คำตอบของพระองค์ฉลาดกว่าคำอธิษฐาน
ของเรา แม้แต่ค ำว่า “ไม่!” ของพระองค์กต็ าม
เคยมีคนสอนว่าเมื่อกษัตริ ยเ์ ฮเซคียาห์อธิษฐานขอชีวิตที่ยนื ยาวขึ้นและพระเจ้าประทานให้ สิ่ งนี้ขดั กับน้ำพระทัยของ
พระเจ้าจริ งๆ “พระยาห์ เวห์ พระเจ้ าของดาวิดบรรพบุรุษของเจ้ า ตรั สดังนี ว้ ่ า เราได้ ยินคำอธิ ษฐานของเจ้ าแล้ ว เราได้ เห็นน้ำตา
ของเจ้ าแล้ ว ดูสิ เราจะรั กษาเจ้ า” (2 พงศ์กษัตริ ย ์ 20:5) “นี่ แน่ ะ เราจะเพิ่มชี วิตให้ เจ้ าอีก 15 ปี ” (อิสยาห์ 38:5) สิ่ งนี้ถูกสอนเพราะ
ว่าเป็ นช่วงระหว่าง 15 ปี นั้นที่มนัสเสห์ บุตรที่ชวั่ ร้ายของเฮเซคียาห์ประสูติ ต่อมา กว่า 50 ปี ที่มนัสเสห์นำประเทศไปสู่ความ
อธรรม แต่ถา้ เฮเซคียาห์สิ้นพระชนม์โดยปราศจากบุตรชาย เชื้ อสายของดาวิดก็จะสิ้ นสุ ดลงก่อนเวลาอันควร ดังนั้นจึงเป็ นน้ำ
พระทัยของพระเจ้าที่จะให้เวลาเพิ่มอีก 15 ปี
8
พฤษภาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“ให้เรากินและรื่ นเริ ง เพราะว่าลูกของเราคนนี้ ตายแล้วแต่กลับเป็ นขึ้นอีก หายไปแล้วแต่ได้พบกันอีก” (ลูกา 15:23–24)
ไฟประจำวัน!
ชีวิตของฉันเป็ นแบบอย่างแก่ผอู้ ื่นไม่วา่ จะดีหรื อชัว่ !
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
เฉลยธรรมบัญญัติ 30:19; ลูกา 15:11–32; โรม 6:23; 10:9–10
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
กันดารวิถี 16; สดุดี 52 และ 54
เย็น:
อิสยาห์ 6; ฮีบรู 13
รุ่นแรก
พระเจ้าไม่มีหลาน เราสอนลูกของเราให้รู้จกั พระเจ้า ให้เข้าใจพระคำของพระองค์ และให้ด ำเนินในความชอบธรรม
เราเชื่อว่าลูกๆ ที่ได้รับการสอนอย่างดีของเราจะหันมาหาพระเจ้า และเรายังเชื่อในพระสัญญาที่ว า่ ครอบครัวของเราจะรอดผ่าน
การเป็ นพยานของเรา แต่ไม่มีการรับประกันโดยอัตโนมัติวา่ ลูกๆ ของเราจะติดตามพระเจ้า—พ่อแม่ไม่สามารถเลือกทำให้ลูก
ชอบธรรมได้ ในฐานะพ่อแม่ที่นบั ถือพระเจ้า เราต้องฝึ กฝนลูกๆ ของเรา อธิษฐานอย่างกระตือรื อร้นเพื่อความรอดของพวกเขา
และคนที่เรารัก แต่ไม่วา่ พวกเขาจะตัดสิ นใจอย่างไรก็ข้ ึนอยูก่ บั พวกเขา! นัน่ คือเจตจำนงเสรี “ข้ าพเจ้ าตั้งชี วิตและความตาย พระ
พรและคำสาปแช่ งไว้ ต่อหน้ าท่ าน เพราะฉะนั้นท่ านจงเลือกเอาข้างชี วิตเพื่อท่ านและลูกหลานของท่ านจะได้ มีชีวิตอยู่” (เฉลย
ธรรมบัญญัติ 30:19)
พระเจ้าทรงห่วงใยลูกๆของพระองค์มากจนแสวงหาพวกเขาอยูเ่ สมอ เกี้ยวพาพวกเขาด้วยความรัก แต่แม้แต่เด็กที่ได้รับ
การเลี้ยงดูมาอย่างดีที่สุดก็สามารถดื้อรั้นและกบฏ หลงทางไปจากมรดกของพระเจ้า ตัวอย่างที่สมบูรณ์แบบคืออุปมาเรื่ องบุตร
น้อยหลงหาย “ชายคนหนึ่งมีบุตรสองคน บุตรคนเล็กพูดกับบิดาว่า ‘พ่อ ขอแบ่งทรัพย์สินส่ วนที่ตกเป็ นของลูกให้ลูกด้วย’ บิดา
จึงแบ่งสมบัติให้แก่บุตรทั้งสอง ต่อมาไม่กี่วนั บุตรคนเล็กนั้นก็รวบรวมทุกสิ่ งทุกอย่างแล้วเดินทางไปยังเมืองไกล และผลาญ
ทรัพย์สินของตนที่นนั่ ด้วยการใช้ชีวิตแบบฟุ่ มเฟื อย...เมื่อเขาสำนึกตัวได้ จึงพูดว่า ‘...ข้าน่าจะลุกขึ้นไปหาพ่อ และพูดกับท่านว่า
“พ่อ ลูกผิดต่อสวรรค์และผิดต่อท่านด้วย ไม่สมควรจะได้ชื่อว่าเป็ นลูกของพ่ออีกต่อไป ขอโปรดให้ลูกอยูใ่ นฐานะของลูกจ้างคน
หนึ่งของท่านเถิด” ’ แล้วเขาก็ลุกขึ้นไปหาบิดา แต่เมื่อเขายังอยูแ่ ต่ไกล บิดาก็เห็นเขาและมีใจสงสาร จึงวิ่งออกไปกอดคอและจูบ
แก้มของเขา...เพราะว่าลูกของเราคนนี้ ตายแล้วแต่กลับเป็ นขึ้นอีก หายไปแล้วแต่ได้พบกันอีก’” (ลูกา 15:11–13, 17, 18–20, 24)
ฉันไม่รู้วา่ มีพอ่ แม่คริ สเตียนคนไหนที่มีลูกที่ด้ือดึงที่จะไม่ตอบสนองด้วยน้ำตาที่เปี่ ยมไปด้วยความชื่นชมยินดีเมื่อคนที่
พวกเขารักกลับมาหาพระเจ้า! ในฐานะพ่อแม่คริ สเตียน ความรับผิดชอบของเราคือการวางแบบอย่างที่ดีและสม่ำเสมอให้แก่ลูกๆ
ของเรา และหลังจากนั้นก็เชื่อว่าความดึงดูดใจของบาปจะแสดงให้เห็นตามลักษณะที่ชัว่ ร้ายจริ งๆ ของพวกมัน และลูกๆ ของเรา
จะกลับไปมีความสัมพันธ์ส่วนตัวกับพระเจ้าโดยสมัครใจ พระเจ้าได้ทรงเลือกบุตร นัน่ คือพวกเขาทุกคนเป็ นรุ่ นแรก
9
พฤษภาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“ในพระนิเวศของพระบิดาเรามีที่อยูม่ ากมาย ถ้าไม่มีเราคงบอกท่านแล้ว เพราะเราไปจัดเตรี ยมที่ไว้สำหรับพวกท่าน เมื่อเราไป
จัดเตรี ยมที่ไว้สำหรับท่านแล้ว เราจะกลับมาอีกและรับท่านไปอยูก่ บั เรา เพื่อว่าเราอยูท่ ี่ไหนพวกท่านจะได้อยูท่ ี่นนั่ ด้วย และท่าน
รู้จกั ทางที่เราจะไปนั้น” (ยอห์น 14:2–4)
ไฟประจำวัน!
“คนทั้งหลายที่ก ำลังจะพินาศก็เห็นว่าเรื่ องกางเขนเป็ นเรื่ องโง่ แต่เราที่ก ำลังจะรอดเห็นว่าเป็ นฤทธานุภาพของพระเจ้า” (1 โคริ น
ธ์ 1:18)
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
มัทธิว 28:1–20; ยอห์น 14:1–6; 1 โคริ นธ์ 1:18
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
กันดารวิถี 17 และ 18; สดุดี 55
เย็น:
อิสยาห์ 7; ยากอบ 1
โลโก้ แห่ งความรักของพระเจ้ า
เรื่ องราวของพระเยซูไม่ได้จบลงที่การถูกตรึ งที่ไม้กางเขน ถ้าเป็ นเช่นนั้น ไม้กางเขนจะเป็ นสัญลักษณ์ของความพ่ายแพ้
และความสิ้ นหวัง ข่าวประเสริ ฐคือพระเยซูไม่เพียงทำลายฤทธิ์อ ำนาจของความบาปบนไม้กางเขนเท่านั้น พระองค์ยงั ทรงทำลาย
ฤทธิ์อำนาจแห่งความตายด้วย ในวันที่ 3 พระเจ้าทรงทำให้พระองค์เป็ นขึ้นจากความตาย มีชยั ชนะเหนือความมืด ความตาย และ
ซาตาน ทันใดนั้นก็เกิดแผ่นดินไหวอย่างรุ นแรง เพราะมีทูตสวรรค์องค์หนึ่งขององค์พระผูเ้ ป็ นเจ้า ลงมาจากสวรรค์และกลิ้งก้อน
หิ นออกจากปากอุโมงค์แล้วนัง่ อยูบ่ นหิ นนั้น...พวกยามที่เฝ้ าอยูก่ ก็ ลัวทูตสวรรค์องค์น้ นั จนตัวสัน่ และเป็ นเหมือนคนตาย ทูต
สวรรค์องค์น้ นั กล่าวกับผูห้ ญิงเหล่านั้นว่า “อย่ากลัวเลย เรารู้แล้วว่าพวกท่านมาหาพระเยซูที่ถูกตรึ งกางเขน พระองค์ไม่ได้อยูท่ ี่นี่
เพราะทรงเป็ นขึ้นมาแล้วตามที่พระองค์ตรัสไว้น้ นั จงมาดูที่ซ่ ึงเขาวางพระองค์ไว้น้ นั ” (มัทธิว 28:2, 4–6)
12
พฤษภาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“เพราะว่าพระเจ้าผูต้ รัสว่าให้ความสว่างส่ องออกมาจากความมืด ทรงส่ องสว่างเข้ามาในใจของเรา เพื่อให้เรามีความสว่างแห่ง
ความรู้ถึงพระสิ ริของพระเจ้า ที่ปรากฏบนพระพักตร์ของพระคริ สต์” (2 โคริ นธ์ 4:6)
ไฟประจำวัน!
ความเชื่อของคริ สเตียนคือการกระทำของพระวิญญาณบริ สุทธิ์ ทำให้พระคำของพระเจ้าเกิดขึ้น
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
ยอห์น 14:6; กิจการ 1:5, 8; 2 โคริ นธ์ 4:6
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
กันดารวิถี 21; สดุดี 60 และ 61
เย็น:
อิสยาห์ 10:5; ยากอบ 4
เมื่อพระวิญญาณเสด็จมา
มีพระสัญญาหนึ่งที่เราคุน้ เคยจนเราอาจมองไม่เห็นความอัศจรรย์ที่ยิง่ ใหญ่น้ ี เป็ นความคาดหวังที่เป็ นไปไม่ได้และ
มหัศจรรย์ที่สุดอย่างหนึ่งที่ใครๆ ก็เคยได้รับ นัน่ คือ “พวกท่ านจะรั บบัพติศมาด้ วยพระวิญญาณบริ สุทธิ์ ...แต่ พวกท่ านจะได้ รับ
พระราชทานฤทธานุภาพ เมื่อพระวิญญาณบริ สุทธิ์ เสด็จมาเหนือท่ าน” (กิจการ 1:5, 8) สิ่ งนี้สามารถเกิดขึ้นจริ งในศตวรรษที่ 20
ได้หรื อไม่? มันเกิดขึ้นกับผม ผมไม่สามารถคิดถึงสิ่ งที่มหัศจรรย์สำหรับมนุษย์มากไปกว่านั้น ซึ่งหมายถึงการเต็มเปี่ ยมด้วย
พระเจ้า ไม่ใช่ความสุ ขลมๆ แล้งๆ ไร้แก่นสาร พระวิญญาณบริ สุทธิ์ ไม่ใช่ยากล่อมประสาท แต่การทรงสถิตของพระองค์ท ำให้
หัวใจเต้นแรง พระเจ้าส่ งฤทธิ์อำนาจของพระองค์เข้ามาในสถานการณ์ที่ยากลำบากของชีวิต พระองค์เป็ นพลังชีวิตดั้งเดิมที่มีไว้
สำหรับเราทุกคน ในช่วงหลายปี ที่ผา่ นมา การตระหนักรู้ใหม่ๆ ได้พรั่งพรู เข้ามาเหนือผม มันยอดเยีย่ มมาก! พระเจ้าต้องการให้
ผมแบ่งปันกับคนทั้งโลกในการเทศนาของผม
ความเชื่อของคริ สเตียนเป็ นการสำแดงของฤทธิ์ อ ำนาจของพระเจ้า! ความจริ งของคริ สเตียนมีชีวิต ลมหายใจของ
พระเจ้าทำให้ข่าวประเสริ ฐเคลื่อนไหว มิฉะนั้นก็จะเป็ นความจริ งที่ตายแล้วแทนที่จะเป็ นความจริ งที่มีชีวิต พระเยซูตรัสว่า “เรา
เป็ นทางนั้น เป็ นความจริ ง และเป็ นชี วิต” (ยอห์น 14:6)
16
พฤษภาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“ถ้าประชากรของเราผูซ้ ่ ึงเขาเรี ยกกันโดยนามของเรานั้นจะถ่อมตัวลง อธิษฐานและแสวงหาหน้าของเรา ทั้งหันเสี ยจากทางชัว่
ของพวกเขา เราก็จะฟังจากสวรรค์ และจะให้อภัยแก่บาปของเขาและจะรักษาแผ่นดินของเขาให้หาย” (2 พงศาวดาร 7:14)
ไฟประจำวัน!
ข้าแต่องค์พระผูเ้ ป็ นเจ้า ขอทรงช่วยให้ขา้ พระองค์ถ่อมตัวลง อธิษฐาน และแสวงหาหน้าของพระองค์ และหันเสี ยจากทางชัว่ ของ
ข้าพระองค์"
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
2 พงศาวดาร 7:14; กิจการ 7:56
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
กันดารวิถี 25;
สดุดี 68
เย็น:
อิสยาห์ 15; 1 เปโตร 3
การฟื้ นฟูอยู่ที่นี่!
ผูค้ นได้รับการเลี้ยงดูมาในคริ สตจักรคาริ สเมติค แต่ยงั คงอธิษฐานสัปดาห์แล้วสัปดาห์เล่า ปี แล้วปี เล่าว่า “องค์พระผู้
เป็ นเจ้า ขอทรงส่ งฤทธิ์อำนาจในอดีตมา? ส่ งมาหรื อ? พระองค์ได้ส่งมาแล้ว! นัน่ คือความหมายของเพ็นเทคอสต์ นัน่ คือพระ
วิญญาณบริ สุทธิ์ ได้เสด็จมา องค์พระผูเ้ ป็ นเจ้าทรงฉี กฟ้ าสวรรค์—พระเยซูเสด็จมาและฉี กมันออกอีกครั้ งเหมือนม่านในพระ
วิหารเมื่อพระองค์เสด็จกลับขึ้นไปหาพระเจ้า เมื่อสเทเฟน คริ สเตียนที่ถูกฆ่าตายเพื่อความเชื่อคนแรกเห็นนิมิตก่อนที่พวกเขาจะ
ขว้างเขาด้วยก้อนหิ น เขากล่าวว่า “นี่แน่ ะ ข้ าพเจ้ าเห็นท้ องฟ้ าแหวกเป็ นช่ อง และเห็นบุตรมนุษย์ ทรงยืนอยู่เบือ้ งขวาพระหั ตถ์
ของพระเจ้ า” (กิจการ 7:56) สรรเสริ ญพระเจ้าที่ ผ้าม่านขาดแล้ว...และไม่มีวิญญาณชัว่ ตนไหนในนรกที่มีเข็มและด้ายใหญ่พอที่
จะเย็บมันขึ้นมาใหม่ได้!
ข้อความในพระคัมภีร์ที่ถูกอ้างบ่อย ๆ เข้ามาในความคิด:ว่า “ถ้ าประชากรของเราผู้ซึ่งเขาเรี ยกกันโดยนามของเรานั้น
จะถ่ อมตัวลง อธิ ษฐานและแสวงหาหน้ าของเรา ทั้งหั นเสี ยจากทางชั่วของพวกเขา เราก็จะฟั งจากสวรรค์ และจะให้ อภัยแก่ บาป
ของเขาและจะรั กษาแผ่ นดินของเขาให้ หาย” (2 พงศาวดาร 7:14) ลำดับมีความสำคัญ มันให้ทิศทางแก่เราสำหรับการฟื้ นฟู
อันดับแรก พวกเราที่เรี ยกตัวเองว่าคริ สเตียนต้องถ่ อมตัวลง ซึ่งหมายความว่าเราต้องตระหนักว่าถ้าปราศจากพระเจ้าแล้ว เราก็ไม่
สามารถทำอะไรได้เลย อันดับที่ 2 เราต้องอธิ ษฐานและแสวงหาหน้ าของพระองค์ ซึ่งหมายความว่าเราไม่ได้ตะโกนใส่ พระเจ้า
ให้ส่งการฟื้ นฟูมา แต่เพียงแค่นมัสการและยกย่องพระองค์ โดยมองเห็นพระองค์อย่างที่พระองค์ทรงเป็ น ไม่ใช่สิ่งที่พระองค์ทรง
ทำ
อันดับที่ 3 หั นออกจากทางชั่วของพวกเขา นี่อาจเป็ นเรื่ องที่ยากที่สุดในบรรดาทั้งหมด สิ่ งนี้กลับไปที่สิ่งที่เราควรให้
ความสำคัญอันดับแรก นัน่ คือการทำให้พระองค์เป็ นที่หนึ่งในชีวิตของเรา จากนั้นเราอ่านว่า “เราก็จะฟั งจากสวรรค์ ” ซึ่ง
หมายความว่ามีการสนทนาระหว่างเรากับพระเจ้า ในที่สุด พระเจ้าตรัสตอบว่า “เราจะจะให้ อภัยแก่ บาปของเขาและจะรั กษา
แผ่ นดินของเขาให้ หาย” ซึ่งเป็ นการเทลงมาเหนือทั้งคนที่เป็ นคริ สเตียนนานแล้วและผูแ้ สวงหาใหม่ การฟื้ นฟูไม่ควรบรรจุอยู่
ภายในกำแพงคริ สตจักรของเรา
จงนำการฟื้ นฟูไปให้คนที่ตอ้ งการ!
17
พฤษภาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“ดังนั้น พี่นอ้ งทั้งหลาย โดยเห็นแก่ความเมตตากรุ ณาของพระเจ้า ข้าพเจ้าจึงวิงวอนท่านทั้งหลายให้ถวายตัวของท่านแด่พระองค์
เพื่อเป็ นเครื่ องบูชาอันบริ สุทธิ์ ที่มีชีวิต และเป็ นที่พอพระทัยพระเจ้า ซึ่งเป็ นการนมัสการโดยวิญญาณจิตของท่าน” (โรม 12:1)
ไฟประจำวัน!
ฉันอยูใ่ นพระคริ สต์ และฉันจะมุ่งเน้นไปที่การทรงนำของพระวิญญาณบริ สุทธิ์
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
เอเสเคียล 10:6; ยอห์น 16:9–11; กิจการ 1:8; โรม 12:1–2; วิวรณ์ 21:1–7
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
กันดารวิถี 26;
สดุดี 69
เย็น:
อิสยาห์ 16; 1 เปโตร 4
มุ่งเน้ นที่พระเจ้ า
ความเกี่ยวข้องเป็ นเรื่ องของตำแหน่งและการเพ่งความสนใจ คุณและผมเกี่ยวข้องกันก็ต่อเมื่อเราเกี่ยวข้องกับสิ่ งที่พระ
วิญญาณบริ สุทธิ์ กำลังทำอยู่ เรามักได้รับคำบอกเล่าว่าพันธกิจของเราต้องมุ่งเน้นที่ยคุ สมัย นี่เป็ นเรื่ องไร้สาระ! เรามุ่งเน้นที่
พระเจ้า เครื่ องจักรแห่งสวรรค์ก ำลังหมุนอยู่ วงล้ออยูใ่ นวงล้อ
เราจะมอบลูกกุญแจต่ างๆ แห่ งแผ่ นดินสวรรค์ ให้ ไว้ แก่ ท่าน สิ่ งใดที่ท่านกล่ าวห้ ามในโลก สิ่ งนั้นก็จะถูกกล่ าวห้ ามใน
สวรรค์ และสิ่ งใดที่ท่านกล่ าวอนุญาตในโลก สิ่ งนั้นก็จะได้ รับอนุญาตในสวรรค์ (มัทธิว 16:19)
มันเป็ นเครื่ องจักรแห่งสวรรค์—ไม่ใช่ของอุตสาหกรรม—ที่เราต้องคำนึงถึง การมุ่งเน้นที่โลกหมายถึงการเปลี่ยนข่าว
ประเสริ ฐของเราไปสู่ วตั ถุนิยมอีกรู ปแบบหนึ่ง—เป็ นอีกวิธีหนึ่งในการกอบโกยเงินและสิ นค้า สิ ่ งที่ท ำให้เราเกี่ยวข้องไม่ใช่เรื่ อง
ว่าข้อความของเราเข้ากับสถานการณ์หรื อไม่ พระคัมภีร์บอกเราว่า “อย่ าลอกเลียนแบบอย่ างคนในยุคนี”้ (โรม 12:2) แต่ไม่วา่
สถานการณ์จะสอดคล้องกับความจริ งของพระคริ สต์หรื อไม่ อันที่จริ ง โลกก็ไม่มีความสำคัญอะไร ถ้าโลกไม่เกี่ยวข้องกับ
พระเจ้า
20
พฤษภาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“ในผูอ้ ื่นความรอดไม่มีเลย เพราะว่านามอื่นซึ่งให้เราทั้งหลายรอดได้น้ นั ไม่โปรดให้มีท่ามกลางมนุษย์ทวั่ ใต้ฟ้า” (กิจการ 4:12)
ไฟประจำวัน!
พระบิดา ในพระคริ สต์ พระองค์ได้ทรงอวยพรข้าพระองค์ดว้ ยพระพรฝ่ ายวิญญาณทุกประการ ให้ขา้ พระองค์อวยพรซึ่งกันแล
กันในวันนี้ ในพระนามของพระองค์
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
ยอห์น 14:6; กิจการ 4:10–12; เอเฟซัส 1:3–14
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
กันดารวิถี 29;
สดุดี 73
เย็น:
อิสยาห์ 21; 2 เปโตร 2
ฤทธิ์อำนาจแห่ งการเปลีย่ นแปลง
นับตั้งแต่การเป็ นขึ้นมาจากความตายของพระเยซู คลื่นแห่งฤทธิ์อำนาจฝ่ ายวิญญาณได้ถาโถมเข้ามา นำชีวิตใหม่ของ
พระเจ้ามาสู่ ทุกสิ่ งที่สมั ผัส ฤทธิ์ อำนาจแห่งการให้อภัยของพระเจ้าซึ่งทำให้เราเป็ นอิสระ ฤทธิ์ อ ำนาจที่ท ำให้เราสามารถให้อภัยผู้
ที่ท ำร้ายเรา ฤทธิ์ อำนาจที่จะต่อต้านสิ่ งที่เรารู้วา่ ผิด ฤทธิ์ อ ำนาจแห่งพระวิญญาณของพระเจ้าซึ่งนำชีวิตใหม่ของพระเยซูมาให้แก่
เรา ฤทธิ์ อำนาจแห่งความรักของพระเจ้าซึ่งเติมเราด้วยความรักต่อพระองค์และต่อผูอ้ ื่น
สาธุการแด่ พระเจ้ าพระบิดาของพระเยซูคริ สต์ องค์ พระผู้เป็ นเจ้ าของเรา ผู้ประทานพรฝ่ ายจิ ตวิญญาณทุกอย่ างแก่ เราใน
สวรรคสถานโดยพระคริ สต์ ...ในพระเยซูนั้น เราได้ รับการไถ่ โดยพระโลหิ ตของพระองค์ คือได้ รับการยกโทษจากการ
ละเมิดโดยพระคุณอันอุดมของพระเจ้ า...ในพระองค์ นั้นเราได้ รับมรดก” (เอเฟซัส 1:3, 7, 11)
“พรฝ่ ายจิ ตวิญญาณทุกอย่ าง”—ตอนนี้คุณต้องการให้พระพรฝ่ ายวิญญาณประเภทใดทำงานในชีวิตคุณ ไม่วา่ จะเป็ น
อะไรก็ตาม ขอเพียงแค่ระลึกว่าพระพรของพระเจ้าได้ถูกประทานให้แก่เราเพื่ออวยพรเรา แน่นอนว่าเพื่อให้เราเป็ นพระพรแก่ผู้
อื่นด้วย!
24
พฤษภาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“ข้าพเจ้าคาดหมายและหวังอย่างกระตือรื อร้นว่าจะไม่ได้รับความละอายใดๆ เลย แต่จะมีความกล้าหาญอย่างเพียงพอ พระคริ สต์
จะทรงได้รับการยกย่องสรรเสริ ญในร่ างกายของข้าพเจ้าในเวลานี้ ดงั เช่นที่เคยได้ตลอดมา ไม่วา่ จะโดยชีวิตหรื อความตาย” (ฟิ ลิป
ปี 1:20 ฉบับ niv)
ไฟประจำวัน!
พระเยซูได้เพิ่ม 1 ที่เปี่ ยมไปด้วยพระสิ ริของพระองค์ให้แก่สภาพที่ต ่ำต้อยเป็ น 0 ของฉัน และตอนนี้ เราเป็ น 10 ที่สมบูรณ์แบบ!
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
1 โคริ นธ์ 1:28; ฟิ ลิปปี 1:8
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
กันดารวิถี 33; สดุดี 78:1–37
เย็น:
อิสยาห์ 25; 1 ยอห์น 3
จาก 0 ถึง 10
ตลอดพันธสัญญาเดิม วิธีการของพระเจ้าที่พระเจ้าทรงเลือกผูน้ ำแห่งประชากรของพระองค์ คือ การเลือกคนที่ไม่
สำคัญ ถูกปฏิเสธ “พระเจ้ าได้ ทรงเลือกพวกที่โลกถือว่ าต่ำต้ อยและดูหมิ่น และเห็นว่ าไม่ สำคัญ เพื่อทำลายสิ่ งซึ่ งโลกเห็นว่ าสำ
คัญ” (1 โคริ นธ์ 1:28) พระเยซูทรงอธิษฐาน…และกลับมาเพื่อเลือกคนที่ไม่น่าจะเป็ นอัครทูตมากที่สุด เกือบทุกคน! พระองค์พบ
ชายหนุ่มที่ไม่มีคุณสมบัติใดๆ เลย นอกเหนือไปจากลักษณะนิสยั ของมนุษย์ เช่น เปโตรผูใ้ จร้อน…อันดรู ว ์ น้องชายผูเ้ งียบขรึ ม
ของเขา… ยากอบและยอห์น บุตรชายหัวร้อนของเศเบดี…โธมัสเจ้าเหตุผล… ฟิ ลิปผูเ้ ข้ากับคนง่าย…และหัวขโมยยูดาส
เมื่อพระเจ้าทรงเลือก ไม่สำคัญว่าเราเป็ นอะไร สิ่ งที่สำคัญคือสิ่ งที่พระองค์ทรงสร้างเราให้เป็ น พระองค์เลือกกลุ่มผูช้ าย
ท้องถิ่นที่ไม่น่าเป็ นไปได้ 1 หรื อ 2 คนถูกเลือกเนื่องจากเป็ นญาติกนั นัน่ คือยากอบและยอห์นเป็ นบุตรของซาโลเม ซึ่งเชื่อว่าเป็ น
น้องสาวของมารี ย ์ แม่ของพระเยซู พวกเขารู้จกั พระองค์มาโดยตลอด พระเยซูทรงเดินเล่นไปตามชายหาด ซึ่งชาวประมงพื้นบ้าน
อยูท่ ี่นนั่ และเรี ยกพวกเขา ดูราวกับว่าพระองค์เลือกเด็กหนุ่มแรก ๆ ที่พระองค์พบในเช้าวันนั้น
เมื่อผูค้ นไม่ประสบความสำเร็ จในเยอรมัน ผูท้ ี่ลม้ เหลวอย่างต่อเนื่องในชีวิตประจำวัน เราเรี ยกพวกเขาว่า "ศูนย์" แต่คน
เหล่านี้คือผูท้ ี่พระเจ้าสนใจเป็ นพิเศษ! เมื่อพระเยซูเรี ยกศูนย์ และศูนย์ตอบสนอง อีกไม่นานเขาหรื อเธอจะพบว่าองค์พระผูเ้ ป็ น
เจ้าทรงเป็ นหมายเลข 1 …และเลข 0 อยูห่ ลังเลข 1 เท่ากับ 10! กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ พระเยซูทรงให้คุณค่ากับ 0 ทุกคนตราบเท่าที่
พระองค์ทรงเป็ นหมายเลข 1 ! คนไร้ค่ากลายเป็ นคนมีคุณค่ามาก นี่คือวิธีที่พระเจ้าสร้างราชอาณาจักรของพระองค์สาวกกลุ่ม
แรกก็เป็ นเช่นนั้น...และก็เป็ นเช่นทุกวันนี้ ผมอ้างนี่ในฐาะคำพยานของผมเองเช่นกัน… และคุณก็ควรทำเช่นกัน! จงตรวจสอบ
ให้แน่ใจว่าพระเยซูคริ สต์เป็ นที่ 1 ในชีวิตของคุณวันนี้ !
25
พฤษภาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“พวกเขาทั้งหมดก็เต็มเปี่ ยมด้วยพระวิญญาณบริ สุทธิ์ จึงเริ่ มต้นพูดภาษาอื่นๆ ตามที่พระวิญญาณทรงให้พดู ” (กิจการ 2:4)
ไฟประจำวัน!
องค์พระผูเ้ ป็ นเจ้า ขอทรงโปรดทำให้ขา้ พระองค์กล้าหาญที่จะพูดจากหัวใจของข้าพระองค์ทุกวันถึงสิ่ งที่พระองค์ได้ทรงทำเพื่อ
ข้าพระองค์
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
กิจการ 2:1–32
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
กันดารวิถี 34;
สดุดี 78:38
เย็น:
อิสยาห์ 26; 1 ยอห์น 4
พยานไม่ ใช่ ทนายความ
กลายเป็ นแนวปฏิบตั ิที่นกั เทศน์ควรเสนอคดีเพื่อปกป้ องพระเยซูคริ สต์ มีการกล่าวด้วยว่านักเทศน์เป็ นเหมือน
ทนายความในศาล ผูร้ ับใช้ควรเป็ นเหมือนนักกฎหมายที่พดู คุยกับที่ประชุมประหนึ่งคุยกับคณะลูกขุน โต้เถียงเพื่อให้ได้รับคำ
ตัดสิ นที่เป็ นประโยชน์แก่พระเยซู วิธีการนั้นดูถูกต้อง น่าเชื่อถือ และสมเหตุสมผล แต่มนั ใช่หรื อ? ไม่ ไม่เลย! นัน่ คือวิธีการแบบ
มนุษย์ของเรา โดยการพยายามถ่ายทอดข้อความของข่าวประเสิ รฐด้วยปัญญาแห่งถ้อยคำ
พระเยซูไม่จ ำเป็ นต้องได้รับการปกป้ อง เวลาเมื่อพระเยซูถูกลากไปที่คอกพยานในกรุ งโรมเพื่อให้ปีลาตตัดสิ นได้ผ า่ น
พ้นไปแล้ว วันนี้ ปีลาตยืนอยูท่ ี่คอกพยานแห่งประวัติศาสตร์ และพระเยซูเป็ นผูพ้ ิพากษาของเขา เราไม่ใช่ทนายความ แต่เป็ น
พยาน! โดยปกติแล้วพยานจะอธิบายเฉพาะสิ่ งที่เขาหรื อเธอได้เห็นเท่านั้น อย่างไรก็ตาม บางครั้งพยานก็เป็ นหลักฐานชิ้นหนึ่ง
บางทีชายคนหนึ่งอาจถูกทำร้ายอย่างโหดร้ายและได้รับบาดเจ็บ เขาปรากฏตัวในศาลเพื่อสำแดงตัว ความเสี ยหาย และการบาด
เจ็บ อาการบาดเจ็บของเขาพูดเพื่อตัวเอง ตัวเขาเองเป็ นหลักฐานชิ ้นหนึ่ง
28
พฤษภาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“อย่าเข้าไปในวิถีของคนอธรรม และอย่าเดินในทางของคนชัว่ จงหลีกเสี ย อย่าเดินบนนั้น เลี้ยวออกไปเสี ย และจงผ่านไป”
(สุ ภาษิต 4:14–15)
ไฟประจำวัน!
ฉันกลับใจและเชื่อในข่าวประเสริ ฐ พระคริ สต์ในฉัน ความหวังแห่งพระสิ ริ (ดู โคโลสี 1:27)
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
สุ ภาษิต 4:14–15; มาระโก 1:15; โรม 10:13
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
เฉลยธรรมบัญญัติ 1; สดุดี 81 และ 82
เย็น:
อิสยาห์ 29; 3 ยอห์น 1
กลายเป็ นลูกของพระเจ้ า
ถ้าคุณพร้อมที่จะมาที่ไม้กางเขนเพื่อขอความช่วยเหลือที่คุณต้องการ มี 2 ขั้นตอนที่คุณต้องทำตอนนี้ ขั้นตอนเหล่านี้
เรี ยกว่า “กลับใจ” และ "เชื่อ" ดังที่พระเยซูตรัสว่า “จงกลับใจใหม่ และเชื่ อข่าวประเสริ ฐ” (มาระโก 1:15) 2 ขั้นตอนนี้
หมายความว่าอย่างไร ?
กลับใจ: หมายความง่ายๆ ว่า “เปลี่ยนความคิด” ลองนึกภาพว่า คุณกำลังเดินทาง และคุณเลี้ยวผิด คุณกำลังขับรถไกล
ขึ้นเรื่ อยๆ จากที่ที่คุณต้องการไป คุณจำเป็ นต้องหยุด หันหลังกลับอย่างสมบูรณ์ และเริ่ มเดินทางไปในทิศทางที่ถูกต้อง นี่หมาย
ถึงการใช้เวลาสำรวจว่าคุณดำเนินชีวิตอย่างไร คุณจำเป็ นจะต้องขออภัยโทษจากพระเจ้าสำหรับความผิดพลาดทุกสิ่ งในชีวิตของ
คุณ และขอให้พระองค์ช่วยคุณให้รอดและปลดปล่อยคุณให้เป็ นอิสระ การกลับใจหมายความว่าคุณหันออกจากความบาปและ
หันเข้าหาพระเจ้า ถ้าคุณเปลี่ยนตำแหน่งของคุณ พระเยซูจะทรงเปลี่ยนสถานการณ์ของคุณ
29
พฤษภาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“ฉะนั้นขอให้เราเข้ามาถึงพระที่นงั่ แห่งพระคุณด้วยความกล้า เพื่อเราจะได้รับพระเมตตา และจะพบพระคุณที่ช่วยเราในยามต้อง
การ” (ฮีบรู 4:16)
ไฟประจำวัน!
ความสัมพันธ์ของฉันกับพระบิดาในสวรรค์ถูกกำหนดโดยความสัมพันธ์ของฉันกับพระเยซูคริ สต์ พระบุตรของพระองค์เพราะ
ว่าพระองค์เป็ นผูป้ ระทานการใช้พระนามของพระองค์แก่ฉนั เนื่องจากการเสี ยสละของพระองค์บนกลโกธา
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
สดุดี 46:1; 132:1; อิสยาห์ 64:6; ยอห์น 14:12–14; โรม 3:10–23; ฮีบรู 4:16
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
เฉลยธรรมบัญญัติ 2; สดุดี 83 และ 84
เย็น:
อิสยาห์ 30; ยูดา 1
ทางใหม่
คริ สเตียนกลุ่มแรกข้ามภูมิประเทศของพระคัมภีร์ดว้ ยกลิ่นอายของการอธิษฐาน พวกเขามีความสุ ขในการอธิษฐาน
และด้วยเหตุผลที่ดี การอธิษฐานแบบของพวกเขาเป็ นสิ่ งใหม่ นัน่ คือโดยใช้สิทธิอ ำนาจแห่งพระนามของพระเยซู! พันธสัญญา
ใหม่กล่าวถึง “การสามัคคีธรรมของเรากับพระบิดา” (1 ยอห์น 1:3) แต่ชาวอิสราเอลไม่ได้อธิษฐานว่า “พระบิดาของเรา” พวก
เขามีแนวความคิดเกี่ยวกับพระเจ้าที่สูงส่ งจนดูเหมือนพระองค์เข้าถึงไม่ได้ พระเจ้า จอมโยธา ผูท้ รงอำนาจในการต่อสู้ หรื อที่ดี
ที่สุดคือความช่วยเหลือที่พร้อมอยูใ่ นยามยาก มีเพียงวงดนตรี ระดับหัวกะทิเท่านั้นที่เพลิดเพลินกับการอยูก่ บั พระเจ้าและชีวิตการ
อธิษฐานอย่างใกล้ชิดกับพระองค์
คนส่ วนใหญ่รู้จกั พระเจ้าแบบมือสอง ผ่านทางปุโรหิ ตหรื อผูเ้ ผยพระวจนะ ในแง่หนึ่ง ผูค้ นเรี ยกหาองค์พระผูเ้ ป็ นเจ้าใน
นามของพวกเขาเองว่า “ข้ าแต่ พระยาห์ เวห์ ขอทรงระลึกถึงดาวิด!” (สดุดี 132:1) ผูเ้ ขียนสดุดีเขียนโดยหวังจะได้รับความ
โปรดปรานเป็ นส่วนตัว เราสามารถพยายามดึงความสนใจจากพระเจ้าด้วยความดีของเราเอง แต่เราจะพลาดอยูเ่ สมอ: “ข้ าพระ
องค์ ทุกคนกลายเป็ นเหมือนสิ่ งที่เป็ นมลทิน และความชอบธรรมทั้งหมดของพวกข้ าพระองค์ เหมือนเสื ้อผ้ าสกปรก” (อิสยาห์
64:6) “เพราะว่ าทุกคนทำบาป และเสื่ อมจากพระสิ ริของพระเจ้ า” (โรม 3:23) เนื่องจากเราถูกครอบงำด้วยบาป พระเจ้าจึงไม่
สามารถแม้แต่จะมองดูเรา เว้นแต่บาปของเราจะถูกปกคลุมด้วยการชำรล้างของพระโลหิ ตของพระเมษโปดกของพระเจ้า
พระเจ้าตรัสว่า:
อย่าวางแผนด้วยสิ่ งที่อยูใ่ นกระเป๋ าของคุณ แต่จงวางแผนด้วยสิ่ งที่อยูใ่ นกระเป๋ าของเรา
พระเจ้าตรัสว่า:
ทุกเส้นตาย เราจะโยนเส้นแห่งชีวิตให้แก่คุณ
คริ สตจักรไม่ใช่เรื อสำราญ แต่เป็ นเรื อชูชีพ
ตั้งแต่กปั ตันไปจนถึงคนทำอาหาร ทุกคนต่างร่ วมมือกันเพื่อช่วยวิญญาณจิตให้รอด!
1
มิถุนายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“พระเยซูคริ สต์ทรงเหมือนเดิมทั้งวานนี้ และวันนี้ และตลอดไปเป็ นนิตย์” (ฮีบรู 13:8)
ไฟประจำวัน!
ฉันไม่เห็นพระเจ้า แต่ฉนั รู้วา่ การทรงสถิตของพระองค์อยูใ่ นหัวใจของฉัน และฉันเห็นการงานของพระองค์ในชีวิตของฉัน
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
กิจการ 10:38;
ฮีบรู 13:8
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
เฉลยธรรมบัญญัติ 5; สดุดี 88
เย็น:
อิสยาห์ 33; วิวรณ์ 3
เหตุผลที่เชื่อ?
การไม่เห็นไม่ใช่เหตุผลที่ไม่เชื่อ ไม่มีใครเห็นการแผ่รังสี เราเพียงแค่รอผลจากความร้อนและแสงสว่าง ไม่มีใครมอง
เห็นอากาศ (เว้นแต่วา่ อากาศจะสกปรกมาก) เราเพียงแค่หายใจเข้าและออกเท่านั้น ไม่มีใครมองเห็นพระเจ้า แต่คนนับล้านพบ
ผลกระทบของพระองค์ในชีวิตพวกเขาทุกวัน! สิ่ งต่างๆเกิดขึ้นซึ่งสามารถมาจากพระองค์ เท่านั้น แม้แต่ค ำอธิษฐานหนึ่งครั้งที่ได้
รับคำตอบ—การรักษาหนึ่งครั้ง—การอัศจรรย์หนึ่งครั้ง—การปลดปล่อยจากการเสพติดหนึ่งครั้ง—ก็เป็ นหลักฐานยืนยันถึง
พระองค์ เมื่อ 2000 ปี ก่อน มีรายงานนี้ วา่ “คือเรื่ องที่วา่ พระเจ้าทรงเจิมพระเยซูชาวนาซาเร็ ธด้วยพระวิญญาณบริ สุทธิ์ และด้วยฤท
ธานุภาพอย่างไร และเรื่ องที่วา่ พระเยซูเสด็จไปทำคุณประโยชน์และรักษาคนทั้งหลายที่ถูกมารเบียดเบียนอย่างไร เพราะว่าพระ
เจ้าสถิตอยูก่ บั พระองค์” (กิจการ 10:38) เปโตรเป็ นพยานถึงหลักฐานที่ชดั เจนเกี่ยวกับพระเจ้า!
แต่ไม่ใช่แค่การอธิษฐานครั้งเดียวที่ได้รับคำตอบ หรื อการอัศจรรย์เพียงครั้งเดียวเท่านั้น…และทั้งหมดนี้ ไม่ได้เกิดขึ้น
เมื่อ 2000 ปี ก่อนเท่านั้น ทุกวันนี้ คนนับล้านหายป่ วย คนนับล้านได้รับการปลดปล่อย คำอธิษฐานนับล้านได้รับคำตอบ คนมีนบั
ล้านมีประสบการณ์ที่สามารถนำมาประกอบกับพระเยซูคริ สต์เป็ นขึ้นมาจากความตาย “พระเยซูคริ สต์ทรงเหมือนเดิมทั้งวานนี้
และวันนี้ และตลอดไปเป็ นนิตย์” (ฮีบรู 13:8) เมื่อผมก้าวขึ้นไปบนเวทีในแอฟริ กา หรื ออินเดีย หรื อที่อื่น ๆ บ่อยครั้ง—โดยที่ผม
ไม่ได้สมั ผัสอะไรเลย คนตาบอดเริ่ มมองเห็น คนหูหนวกได้ยิน คนใบ้พดู ได้ คนง่อยเดินได้ และคนบ้าเนื่องจากการเกาะติดของ
วิญญาณชัว่ ได้รับการปลดปล่อย นี่ไม่ใช่จิตวิทยา เพราะว่าทารกได้รับการรักษา แม้อยูใ่ นครรภ์ ผลที่ยิง่ ใหญ่ที่สุดคือการปลด
ปล่อยจากบาปและความรู้สึกผิด และการเปลี่ยนแปลงทัศนคติและบุคลิกภาพของผูค้ น นัน่ คือพระเยซูช่วยให้รอด!
ทำไมเราจึงควรสนใจสิ่ งที่พระเยซูทรงทำเมื่อ 2000 ปี ก่อน เว้นแต่จะมีการเขียนขึ้นเพื่อให้แรงบันดาลใจและความหวัง
แก่เราในสิ่ งที่พระองค์สามารถทำได้และทำในปัจจุบนั ? พระองค์สอนด้วยสติปัญญาและความหยัง่ รู้ที่ดึงดูดความสนใจของ
ปัญญาชนและนักปรัชญาที่อยากเป็ น และหันหัวใจพวกเขาไปหาพระเจ้า พระองค์ท ำพันธกิจแห่งการรักษาด้วยความเห็นอก
เห็นใจและสิ ทธิอ ำนาจ ไม่ใช่กบั คนที่สมควรได้รับการรักษา แต่เพียงเพราะว่าพระองค์ทรงห่วงใยพวกเขามากจนทรงปรารถนา
ที่จะบรรเทาความทุกข์ทรมานของพวกเขา พระองค์ทรงเสี ยสละชีวิตของพระองค์เอง ไม่ใช่เพราะว่าพวกเขาเรี ยกร้องให้
พระองค์สิ้นพระชนม์ แต่เพราะว่าพระองค์ทรงเชื่อฟังพระบิดาของพระองค์ ไม่มีความหน้าซื่อใจคดในพระเยซูเมื่อ 2000 ปี ที่
แล้ว และวันนี้ ไม่มีสิ่งใดนอกจากความจริ งในพระองค์
มิถุนายน
2
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“เพื่อว่าพวกท่านจะเป็ นบุตรของพระบิดาของท่านผูส้ ถิตในสวรรค์ เพราะว่าพระองค์ทรงให้ดวงอาทิตย์ของพระองค์ข้ ึนส่ อง
สว่างแก่คนดีและคนชัว่ เสมอกัน และให้ฝนตกแก่คนชอบธรรมและคนอธรรม” (มัทธิว 5:45)
ไฟประจำวัน!
ฉันสบายใจมากที่รู้วา่ ความเชื่อของฉันในพระเจ้าอยูบ่ นพื้นฐานพระคำของพระองค์
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
สดุดี 97:7;
มัทธิว 5:45
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
เฉลยธรรมบัญญัติ 6; สดุดี 89
เย็น:
อิสยาห์ 34; วิวรณ์ 4
ความเชื่อหรือความโกลาหล?
ไม่มีอะไรมาทดแทนความเชื่อในพระเจ้าได้ ประวัติศาสตร์สัน่ ระฆังเตือน ถ้าปราศจากความรู้ขององค์พระผูเ้ ป็ นเจ้า ก็
ไม่มีสิ่งใดที่สมเหตุสมผล คนสมัยก่อน แม้แต่นกั คิดที่หลักแหลมที่สุดก็ยงั สร้างความคิดที่บา้ ระห่ำที่สุด ความเชื่อโชคลาง และ
การคาดเดา ความลึกลับที่สวมชุดเป็ นธรรมชาติ พวกเขาไม่มนั่ ใจอะไรเลย แม้แต่สภาพอากาศหรื อฤดูกาล เพื่อให้ดวงอาทิตย์ข้ึน
พวกเขานมัสการมัน เพื่อให้ฝนตก พวกเขาถวายการนมัสการแด่เทพเจ้า แม่น้ำต้องถูกชักจูงเพื่อให้ไหลและไม่เหื อดแห้ง ทุกคนมี
พระเจ้าของตัวเอง “ทุกคนที่นมัสการรู ปเคารพ ที่อวดในพระเท็จได้อบั อาย พระทั้งสิ้ นก็กราบลงต่อพระองค์” (สดุดี 97:7)
ดังนั้น เหล่าผูเ้ ผยพระวจนะจึงได้รับการสร้างและได้รับการดลใจด้วยการตระหนักรู้ถึงความเป็ นจริ งของพระเจ้าและ
น้ำพระทัยของพระองค์ แนวคิดของพระเจ้าในฐานะพระบิดาของทุกคนไม่เป็ นที่รู้จกั ความขัดแย้งและความบาดหมางใน
ครอบครัวเกิดขึ้น และสงครามคือศักดิ์ศรี ของมนุษย์ แต่ผเู้ ผยพระวจนะของอิสราเอลสอนผูค้ นของพวกเขาว่าอย่ากลัวหมาย
สำคัญของสวรรค์ ให้ท ำงานและอย่าทำสงคราม พระเจ้าจะทรงดูแลสิ่ งทรงสร้างทั้งหมดของพระองค์อย่างสัตย์ซื่อ พวกเขาไม่
ควรกังวลเกี่ยวกับการเก็บเกี่ยวเหมือนกับคนนอกศาสนาที่อยูล่ อ้ มรอบพวกเขา พระเยซูเองทรงสอนอย่างชัดเจนว่า “เพื่อว่าพวก
ท่านจะเป็ นบุตรของพระบิดาของท่าน ผูส้ ถิตในสวรรค์ เพราะว่าพระองค์ทรงให้ดวงอาทิตย์ของพระองค์ข้ ึนส่ องสว่างแก่คนดี
และคนชัว่ เสมอกัน และให้ฝนตกแก่คนชอบธรรมและคนอธรรม” (มัทธิว 5:45)
10
มิถุนายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“และเราทุกคนมีของประทานต่างกัน ตามพระคุณที่ประทานแก่เรา คือถ้าของประทานเป็ นการเผยพระวจนะ ก็จงเผยตามกำลัง
ของความเชื่อ” (โรม 12:6)
ไฟประจำวัน!
ถ้าฉันมีความเชื่อเท่าไมโครชิป ฉันก็ยงั สามารถเคลื่อนภูเขาได้!
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
อิสยาห์ 40:31; ลูกา 17:5–6; โรม 12:6
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
เฉลยธรรมบัญญัติ 15; สดุดี 102
เย็น:
อิสยาห์ 42;
วิวรณ์ 12
ขนาดของความเชื่อ
พวกอัครทูตพูดกับองค์พระผูเ้ ป็ นเจ้าว่า “ขอโปรดให้ความเชื่อของพวกข้าพระองค์เพิ่มมากยิง่ ขึ้น” (ลูกา 17:5)
คริ สเตียนต้องการสิ่ งนั้นตั้งแต่น้ นั เป็ นต้นมา นัน่ คือความเชื่อจำนวนมาก! อะไรคือคำตอบของพระเยซู? “ถ้าพวกท่านมีความเชื่อ
เพียงเท่าเมล็ดมัสตาร์ดเมล็ดหนึ่ง ท่านก็จะสัง่ ต้นหม่อนนี้ได้วา่ ‘จงถอนขึ้น ออกไปปักในทะเล’ แล้วมันก็จะเชื่อฟังท่าน” (ลูกา
17:6) นัน่ คงทำให้เหล่าอัครทูตงงงวย พวกเขาต้องการความเชื่อที่ยิง่ ใหญ่ แต่พระองค์พดู ถึงสิ่ งเล็กน้อยที่สุดที่พวกเขารู้ พระองค์
ไม่ได้อา้ งถึงเมล็ดมัสตาร์ดเนื่องจากมันเล็กมาก ประเด็นคือความแตกต่างระหว่างความเชื่อที่มากมายกับเมล็ดที่เล็กแต่มีชีวิต
พระองค์ตอ้ งการสรุ ปว่าความเชื่อไม่ใช่เรื่ องของขนาด ขนาดเป็ นคำที่ไม่ถูกต้อง ความเชื่อไม่มีท้ งั ปริ มาณและน้ำหนัก ความคิดมี
รู ปร่ างอย่างไร? ความเชื่อ คือ สิ่ งที่คุณทำ! มันเป็ นการกระทำ ไม่ใช่วตั ถุ พระคัมภีร์พดู ถึง “ขนาดของความเชื่อ” เป็ นขนาดของ
งานที่ท ำอยู่ เชื่อมโยงกับความจำเป็ น เช่นเดียวกับการวิ่งที่ตอ้ งการอากาศมากขึ้น การบริ โภคของคุณจะเพิ่มขึ้นโดยอัตโนมัติ
11
มิถุนายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“พระเยซูจึงตรัสกับคนเหล่านั้นว่า “อย่าตำหนิ นางเลย ไปกวนใจนางทำไม? นางทำสิ่ งดีสำหรับเรา เพราะว่าพวกท่านมีคนยาก
จนอยูด่ ว้ ยเสมอ และพวกท่านจะทำการดีต่อพวกเขาเมื่อไหร่ กไ็ ด้ แต่พวกท่านจะไม่มีเราอยูด่ ว้ ยเสมอไป” (มาระโก 14:6–7)
ไฟประจำวัน!
การเผยแพร่ ข่าวประเสริ ฐของพระเยซูคริ สต์ไปทัว่ โลกต้องกลายเป็ น
ความสำคัญสูงสุ ดของฉัน
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
โยนาห์ 4:1–11; มาระโก 14:3–9; ยอห์น 10:27–29
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
เฉลยธรรมบัญญัติ 16; สดุดี 103
เย็น:
อิสยาห์ 43; วิวรณ์ 13
ความโกรธที่ชอบธรรมและการจัดลำดับความสำคัญที่ถูกต้ อง
ในเรื่ องราวที่น่าสนใจของโยนาห์ พระเจ้าตรัสกับเขาผ่านทางต้นไม้ที่ข้ ึนเหนือเขาแล้วก็เหี่ ยวเฉา โยนาห์ก ำลังพักอยู่
นอกเมืองครู่ หนึ่ง รอดูวา่ จะเกิดอะไรขึ้น แดดร้อนมาก ดังนั้นโยนาห์จึงหาที่ก ำบัง ต้นไม้ที่พระเจ้าจัดเตรี ยมไว้ได้เติบโตขึ้นเหนือ
โยนาห์เพื่อให้เขาได้รับความคุม้ ครองจากความร้อนมากยิง่ ขึ้น แต่แล้วมันก็เหี่ ยวเฉาในชัว่ ข้ามคืน รากของมันถูกหนอนบางชนิด
ทำลาย
14
มิถุนายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“ของประทานนั้นมีต่างๆ กัน แต่มีพระวิญญาณองค์เดียวกัน การปรนนิ บตั ิมีต่างๆ กัน แต่มีองค์พระผูเ้ ป็ นเจ้าองค์เดียวกัน กิจ
กรรมมีต่างๆ กัน แต่มีพระเจ้าองค์เดียวกันเป็ นต้นเหตุแห่งกิจกรรมทั้งหมดในทุกคน” (1 โคริ นธ์ 12:4–6)
ไฟประจำวัน!
องค์พระผูเ้ ป็ นเจ้า ขอทรงแสดงให้ขา้ พระองค์เห็นวิธีส ำแดงฤทธิ์ อ ำนาจและความรักของพระองค์ต่อโลกที่เจ็บปวด
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
1 โคริ นธ์ 12:1–31
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
เฉลยธรรมบัญญัติ 19; สดุดี 106
เย็น:
อิสยาห์ 46; วิวรณ์ 16
ฤทธิ์อำนาจที่สำแดงให้ เห็น
ฤทธิ์อำนาจแห่งข่าวประเสริ ฐเป็ นฤทธิ์ อำนาจที่สำแดงออก นัน่ คือ “การสำแดงของพระวิญญาณนั้น พระองค์ประทาน
แก่แต่ละคนเพื่อประโยชน์ร่วมกัน” (1 โคริ นธ์ 12:7) ฤทธิ์อำนาจของพระองค์ควรจะถูกเห็นและสำแดงออก ควรมีผลกระทบ—
ทางกายภาพหรื อส่ วนบุคคล—ซึ่งเป็ นผลมาจากฤทธิ์ อ ำนาจของพระเจ้า—ชีวิตของผูค้ นควรได้รับผลกระทบในแบบที่จบั ต้องได้
พระวิญญาณบริ สุทธิ์ ไม่ใช่ทฤษฎี แต่เป็ นการกล่าวถึงสิ่ งที่เกิดขึ้นในโลกอันไกลโพ้น ของสิ่ งซึ่งเราไม่รู้ ฤทธิ์ ของพระองค์ คือ
ฤทธิ์อำนาจที่สำแดงออก
มีฤทธิ์ อำนาจ 2 รู ปแบบ และรู ปแบบหนึ่งที่คริ สเตียนพูดถึงมากที่สุด คือ ดูนามิส เราสามารถชี้ ถึงคำนั้นได้ เพราะว่าเรา
ใช้ค ำนี้ในภาษาอังกฤษมาก นัน่ คือ ไดนาโม ได้นาไมต์ ไดนามิค แต่แท้จริ งแล้วคำเหล่านี้แสดงถึง "ฤทธิ์อ ำนาจภายใต้การห่อ
หุม้ " ไดนาไมต์เป็ นเพียงสสารสี เทา ซึ่งคุณสามารถพกพาใส่ กระเป๋ าเอกสารได้ แต่จงระมัดระวัง! มันคือชุดพลัง เป็ นพลังแฝง
พลังที่สะสมไว้ เปาโลยังใช้อีกคำหนึ่งว่า เอเนร์จีมา (energema) - พลังงาน เมื่อพลังของไดนาไมต์ถูกปล่อยออกมา มันจะกลาย
เป็ นพลังงาน พลังงานคือพลังที่ถูกปลดปล่อย ใน 1 โคริ นธ์ 12 คำเดียวกันนี้ถูกแปลว่า “กิจกรรม” นัน่ คือพลังในการดำเนินการ “
การทำการอัศจรรย์” ที่ถูกใช้กนั ต่อมาเป็ นการรวมทั้ง 2 คำ นัน่ คือ "พลังที่ท ำการในพลังงาน
พูดตามตรงแล้ว ความเชื่อของคริ สเตียนเป็ นสิ่ งเหนือธรรมชาติ หรื อไม่กไ็ ม่เป็ นอะไรเลย เรามีและยังคงมีพระเยซูที่
เหนือธรรมชาติ พร้อมด้วยพันธกิจที่เหนือธรรมชาติ สร้างคริ สตจักรที่เหนือธรรมชาติ พร้อมด้วยข่าวประเสริ ฐที่เหนือธรรมชาติ
และพระคัมภีร์ที่เหนือธรรมชาติ นำสิ่ งอัศจรรย์ออกไป และคุณก็ได้พรากชีวิตของคริ สเตียนออกไป คริ สตจักรกลายเป็ นสังคม
แห่งจริ ยธรรม หรื อชมรมทางสังคม เมื่อเจตนาให้เป็ นระบบขดลวดสำหรับการส่ งฤทธิ์อ ำนาจของพระเจ้าไปสู่ โลกที่ไร้ฤทธิ์
อำนาจนี้ คุณและผมเป็ นผูน้ ำแห่งฤทธิ์อำนาจของพระเจ้าไปสู่ ทวั่ โลก!
15
มิถุนายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“เพราะเหตุน้ ี พระองค์จึงทรงสามารถช่วยคนทั้งหลายที่เข้ามาใกล้พระเจ้าโดยทางพระองค์น้ นั อย่างเต็มที่ เพราะว่าพระองค์ทรง
พระชนม์อยูท่ ุกเวลา เพื่อทูลขอเผือ่ คนเหล่านั้น” (ฮีบรู 7:25)
ไฟประจำวัน!
องค์พระผูเ้ ป็ นเจ้าที่รัก โปรดเตือนข้าพระองค์วา่ ในทุกสิ่ งที่พดู ในทุกสิ่ งที่ขา้ พระองค์ท ำ ข้าพระองค์เป็ นตัวแทนของพระองค์ไป
ยังโลกที่บาป
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
สดุดี 67, 96, 137:3–4; เอเสเคียล 36:23; โยนาห์ 1:1–17; 2:1–10; มัทธิว 12:39; ฮีบรู 7:25
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
เฉลยธรรมบัญญัติ 20; สดุดี 107
เย็น:
อิสยาห์ 47;
วิวรณ์ 17
นิมิตโลก
ในบรรดาผูเ้ ผยพระวจนะในพันธสัญญาเดิม โยนาห์เป็ นคนเดียวที่ออกจากอิสราเอลและเทศนาพระคำขององค์พระผู้
เป็ นเจ้าอย่างเปิ ดเผยตามท้องถนนในต่างแดน มีความเกี่ยวดองระหว่างโยนาห์กบั พระเยซู โยนาห์เป็ นผูเ้ ผยพระวจนะคนเดียวที่
พระเยซูเชื่อมโยงพระองค์เป็ นการส่ วนตัว พระองค์ตรัสว่าเขาเป็ น “หมายสำคัญ [ต่ออิสราเอล] ของโยนาห์ ผูเ้ ผยพระวจนะ”
(มัทธิว 12:39) โยนาห์มีภาระที่พระเจ้ามอบให้ส ำหรับเมืองของคนต่างชาติ คนต่อไปที่จะแบกรับภาระดังกล่าวคือพระเยซูคริ สต์
เอง หัวใจของพระองค์ใหญ่พอที่จะรับคนทั้งอิสราเอลและคนต่างชาติท้ งั โลกไว้ได้!
19
มิถุนายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“ถ้าเธอรู้จกั ของที่พระเจ้าประทาน และรู้จกั ผูท้ ี่พดู กับเธอว่า ‘ขอน้ำให้เราดื่มบ้าง’ ก็คงจะขอจากท่านผูน้ ้ นั และผูน้ ้ นั ก็คงจะให้น้ำ
ดำรงชีวิตแก่เธอ” (ยอห์น 4:10)
ไฟประจำวัน!
ของประทานในการพูดภาษาแปลกๆ ทำให้ฉนั สามารถพูดความล้ำลึกต่อพระเจ้าได้
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
ยอห์น 14:1–24; 1 โคริ นธ์ 14:1–5
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
เฉลยธรรมบัญญัติ 24; สดุดี 114 และ 115
เย็น:
อิสยาห์ 51;
วิวรณ์ 21
การดืม่ ครั้งเดียว
พระเยซูตรัสว่าเมื่อผูช้ ่วยมา “พระองค์จะอยูก่ บั ท่านตลอดไป” (ยอห์น 14:16) นี่คือที่ที่เห็นพระพรของการพูดภาษา
แปลกๆ ถูกพบเห็น เราไม่สามารถพูดได้เว้นแต่พระวิญญาณบริ สุทธิ์จะประทานคำพูดให้ ถ้าพระองค์ท ำ แสดงว่าพระองค์อยูท่ ี่
นัน่ โดยหมายสำคัญนั้น เราสามารถออกไปพิชิตได้ เพราะว่าพระองค์ทรงอยูก่ บั เรา ความรู้สึกของเราไม่ใช่ตวั บ่งชี้ที่เชื่อถือได้วา่
ฤทธิ์อำนาจของพระวิญญาณบริ สุทธิ์ อยูภ่ ายในเรา ในศตวรรษที่ 19 ก่อนที่การพูดภาษาแปลกๆจะถูกได้ยินเป็ นเรื่ องธรรมดา
ปัญหาคือการรู้วา่ เมื่อไรที่พระวิญญาณเสด็จมา ผูค้ นจะอธิษฐานเป็ นจำนวนมาก รอ เชื่อว่าฤทธิ์ อ ำนาจสามารถวัดได้จากเวลาที่ใช้
ในการอธิษฐาน ซึ่งเป็ นแนวคิดที่ค่อนข้างแปลกไปจากพระคัมภีร์ ในศตวรรษที่ 20 มีการสอนเป็ นครั้งแรกว่าหมายสำคัญของ
ภาษาแปลกๆเป็ นความมัน่ ใจถึงบัพติศมาในพระวิญญาณ สิ่ งนี้กระตุน้ การเคลื่อนไหวที่ยิง่ ใหญ่ที่สุดของพระวิญญาณบริ สุทธิ์
ตลอดกาลในทันที ความเชื่อของผมเองได้รับพลังจากสัญญาณเริ่ มแรกของภาษาแปลกๆ ซึ่งนำผมมาสู่ พนั ธกิจแห่งการประกาศ
ข่าวประเสริ ฐในปัจจุบนั นี้
เปาโลพูดถึงความสำคัญของการพูดภาษาแปลกๆ แต่ให้มองอย่างถูกต้อง:
จงมุ่งหาความรั ก และขวนขวายของประทานจากพระวิญญาณ โดยเฉพาะอย่ างยิ่งการเผยพระวจนะ เพราะว่ าคนที่พูด
ภาษาแปลกๆ นั้น ไม่ ได้ พูดกับมนุษย์ แต่ ทูลต่ อพระเจ้ า เพราะว่ าไม่ มีใครเข้ าใจได้ เขาพูดเป็ นความล้ำลึกโดยพระ
วิญญาณ แต่ ผ้ ทู ี่เผยพระวจนะนั้น พูดกับมนุษย์ เพื่อให้ เจริ ญขึน้ ให้ มีการชูใจและการปลอบใจ คนที่พูดภาษาแปลกๆ
นั้นก็ทำให้ ตัวเองเจริ ญขึน้ แต่ ผ้ เู ผยพระวจนะนั้นทำให้ คริ สตจักรเจริ ญขึน้ ข้ าพเจ้ าต้ องการให้ พวกท่ านทุกคนพูดภาษา
แปลกๆ แต่ ยิ่งกว่ านั้น ข้ าพเจ้ าต้ องการให้ พวกท่ านเผยพระวจนะ เพราะว่ าคนที่เผยพระวจนะนั้นก็ใหญ่ กว่ าคนที่พูดภา
ษาแปลกๆ นอกจากว่ ามีคนแปลได้ เพื่อคริ สตจักรจะได้ รับความเจริ ญ (1 โคริ นธ์ 14:1–5) เมื่อพระเยซูตรัสกับหญิงที่
บ่อน้ำในสะมาเรี ย พระองค์ตรัสถึง “ทุกคนที่ดื่ม” (ยอห์น 4:13) กาลภาษากรี ก ที่เขาใช้ (แอริ สต์) (aorist) หมายถึงดื่ม
เพียงครั้งเดียว ไม่ได้กลับมาพร้อมหม้อที่วา่ งเปล่า นัน่ คือสิ่ งที่หญิงที่บ่อน้ำที่สิคาร์เข้าใจ เพราะเธอกล่าวว่า “เพื่อดิฉนั
จะได้ไม่กระหายอีก และจะได้ไม่ตอ้ งมาตักที่นี่” (ยอห์น 4:15)
การดื่มเพียงครั้งเดียวทำให้เกิด “บ่อน้ำพุพลุ่งขึ้นถึงชีวิตนิรันดร์” (ยอห์น 4:14) น้ำมักถูกใช้เป็ นสัญลักษณ์ของพระ
วิญญาณบริ สุทธิ์ ในพระคัมภีร์ เช่นเดียวกับที่นี่ โอ้ จงมาที่น ้ำพุน้ นั อีกครั้งในวันนี้ และทุกๆ วัน และดื่มน้ำจากบ่อน้ำที่ไม่มีวนั
เหื อดแห้ง!
20
มิถุนายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“จงไปพลางประกาศพลางว่า ‘แผ่นดินสวรรค์มาใกล้แล้ว’ จงรักษาคนเจ็บป่ วยให้หาย จงทำให้คนตายแล้วเป็ นขึ้น จงทำให้คน
โรคเรื้ อนหายสะอาด และจงขับผีออก ท่านทั้งหลายได้รับเปล่าๆ ก็จงให้เปล่าๆ” (มัทธิว 10:7–8)
ไฟประจำวัน!
แผ่นดินของพระเจ้าถูกระบุตวั ตนด้วยการอัศจรรย์
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
มัทธิว 10:7–8; มาระโก 16:17–18
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
เฉลยธรรมบัญญัติ 25; สดุดี 116
เย็น:
อิสยาห์ 52;
วิวรณ์ 22
ระบุตวั ตนด้ วยการอัศจรรย์
เมื่อผมอยูใ่ นบราซซาวิล เมืองหลวงของประเทศคองโก ในแอฟริ กาตะวันตก พระเจ้าประทานถ้อยคำที่ประกอบด้วย
ความรู้ให้แก่ผมสำหรับสามีภริ ยาคู่หนึ่งซึ่งผมไม่รู้จกั ซึ่งอยูท่ ่ามกลางคนนับหมื่นในการประชุม ภริ ยาอยูใ่ นอาการโคม่ามา 3 วัน
แล้ว และสามีหามเธอเข้ามาในที่ประชุม ด้วยความเชื่อและการเชื่อฟังการกระตุน้ เตือนของพระเจ้า ผมจึงบอกผูฟ้ ังจำนวนมากถึง
สิ่ งที่พระวิญญาณของพระองค์พระผูเ้ ป็ นเจ้าบอกให้ผมรู้ ขณะที่ผมพูด ผูห้ ญิงที่ไม่ได้สติ แม้ไม่ได้ยนิ ก็ออกมาจากอาการโคม่า
และหายเป็ นปกติ อะไรน่ะ? เป็ นไปไม่ได้! ผูป้ ่ วยไม่รู้วา่ เกิดอะไรขึ้นจนกระทัง่ เธอฟื้ นขึ้นมา
เมื่อถูกต้อนจนมุม โยนาห์ยอมรับว่าเขาเป็ นผูใ้ ด สิ่ งนี้ท ำให้ลูกเรื อตกใจและหวาดกลัว คนเหล่านี้เป็ นผูท้ ี่มีศกั ยภาพที่จะ
กลับใจ พวกเขารับรู้ถึงฤทธิ์ อำนาจและสิ ทธิอ ำนาจของพระเจ้าแล้ว แม้วา่ โยนาห์จะมีค ำพยานที่ไม่ค่อยดีนกั แต่พวกเขาก็กลับมา
เชื่อในพระเจ้าของโยนาห์ “คนเหล่านั้นก็เกรงกลัวพระยาห์เวห์ยงิ่ นัก พวกเขาจึงได้ถวายสัตวบูชาแด่พระยาห์เวห์และได้บนบาน
ไว้” (โยนาห์ 1:16) นี่คือชายคนหนึ่งที่รู้ความจริ งอันน่าอัศจรรย์เกี่ยวกับพระเจ้า แต่พวกเขายังต้องถามเขาว่าพระเจ้าของเขาคือผู้
ใด เมื่อโยนาห์อยูบ่ นเรื อของพวกเขา พระเจ้าของเขาเป็ นผูใ้ ดควรจะชัดเจน ตอนนี้ ถามตัวเองด้วยคำถามยากๆ ว่า “ผูค้ นรู้หรื อไม่
ว่าพระเจ้าของฉันคือผูใ้ ด?” ทำไมไม่ตรวจสอบให้แน่ใจว่าพวกเขารู้ล่ะ!
มีชายคนหนึ่งที่พระเจ้ าทรงใช้ มาชื่ อยอห์ น ท่ านมาในฐานะสักขีพยานเพื่อเป็ นพยานให้ แก่ ความสว่ างนั้น เพื่อว่ าทุกคน
จะได้ เชื่ อเพราะท่ าน (ยอห์ น 1:6–7) พระเจ้ าแห่ งบรรพบุรุษของเราทรงเลือกท่ านเพื่อให้ ร้ ู จักพระทัยของพระองค์ ให้
ท่ านเห็นพระองค์ ผ้ ชู อบธรรม และได้ ยินพระสุรเสี ยงจากพระโอษฐ์ ของพระองค์ เพราะว่ าท่ านจะเป็ นสักขีพยานของ
พระองค์ ต่อคนทั้งปวงในสิ่ งที่ท่านได้ เห็นและได้ ยินนั้น (กิจการ 22:14–15) พระเจ้าทรงดีต่อคุณหรื อไม่? คุณเคยเห็น
และได้ยนิ พระราชกิจอันอัศจรรย์ของพระองค์หรื อไม่? จงเป็ นพยานถึงสิ่ งนั้นต่อมนุษย์ทุกคน…และพวกเขาจะรู้วา่
พระเจ้าของคุณคือผูใ้ ด!
24
มิถุนายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“ท่านทั้งหลายเป็ นเกลือแห่งโลก ถ้าเกลือนั้นหมดรสเค็มไปแล้ว จะทำให้กลับเค็มอีกได้อย่างไร? ตั้งแต่น้ นั ไปก็ไม่เป็ นประโยชน์
อะไร มีแต่จะถูกทิ้งเสี ยให้คนเหยียบย่ำ ท่านทั้งหลายเป็ นความสว่างของโลก นครซึ่งอยูบ่ นภูเขาจะถูกปิ ดบังไว้ไม่ได้" (มัทธิว
5:13–14)
ไฟประจำวัน!
ข้าแต่องค์พระผูเ้ ป็ นเจ้า ขอทรงให้ขา้ พระองค์เป็ นจดหมายฝากของพระองค์ ที่ถูกเขียนไว้ในหัวใจมนุษย์ รู้จกั และถูกอ่านโดย
มนุษย์ทุกคนและเป็ นป้ ายบอกทางที่น ำมาถึงพระองค์อย่างชัดเจน
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
โยนาห์ 1:1–3; มัทธิว 5:13–14; 7:22–23; 10:7–26; ยอห์น 15:26; 1 โคริ นธ์ 2:4; 2 โคริ นธ์ 3:2
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
เฉลยธรรมบัญญัติ 29; สดุดี 119:49–72
เย็น:
อิสยาห์ 56;
มัทธิว 4
วิญญาณแห่ งการประกาศที่แท้ จริง
พระเยซูทรงบอกสาวกของพระองค์วา่ พระวิญญาณของพระเจ้าคือพระวิญญาณแห่งการเป็ นพยาน ทุกวันนี้ เรามักจะ
พูดถึง “การประกาศข่าวประเสริ ฐด้วยฤทธิ์ เดช” นัน่ คือหมายสำคัญและการอัศจรรย์เพื่อยืนยันข่าวประเสิ รฐ แต่พระเยซูตรัสว่า
แม้แต่คนอธรรมก็ยงั ทำการอัศจรรย์ ถึงแม้วา่ พระองค์จะไม่เคยรู้จกั พวกเขาก็ตาม เปาโลพูดถึงการสำแดงของพระวิญญาณด้วย
อย่างไรก็ตาม เราอดไม่ได้ที่จะประทับใจในวิธีที่อคั รทูตทรงแสดงความเป็ นจริ งของข่าวประเสริ ฐในชีวิตประจำวัน
เขาบอกชาวโคริ นธ์วา่ ชีวิตของพวกเขาเป็ น “จดหมาย...ให้ทุกคนรู้และอ่าน” (2 โคริ นธ์ 3:2) เมื่อมองมาที่เรา ผูค้ นจะสามารถพูด
ว่า “พระเจ้าของคุณก็เป็ นเช่นนั้น” ได้หรื อไม่?
การประกาศหมายถึงการแนะนำพระเยซู วิธีการประกาศที่พระเยซูทรงสอนคือเราควรแนะนำพระองค์ดว้ ยชีวิตของเรา
เช่นเดียวกับคำพูดของเรา เราควรเป็ นคนของพระเยซู ...หรื อพูดให้ชดั กว่านั้น ก็คือ คนของพระเยซูแห่งข่าวประเสริ ฐ เราเป็ น
“ความสว่างของโลก” (มัทธิว 5:14) ไม่ควรมีทางเลือกอื่นอีก
จงไปพลางประกาศพลางว่ า ‘แผ่ นดินสวรรค์ มาใกล้ แล้ ว’ จงรั กษาคนเจ็บป่ วยให้ หาย จงทำให้ คนตายแล้ วเป็ นขึน้ จงทำ
ให้ คนโรคเรื ้อนหายสะอาด และจงขับผีออก ท่ านทั้งหลายได้ รับเปล่ าๆ ก็จงให้ เปล่ าๆ...และจะมอบพวกท่ านให้ เจ้ า
เมืองและกษัตริ ย์เพราะเรา เพื่อว่ าพวกท่ านจะได้ เป็ นพยานแก่ พวกเขาและแก่ พวกต่ างชาติ แต่ เมื่อพวกเขามอบตัวท่ าน
นั้น อย่ ากังวลว่ าจะพูดอะไรหรื ออย่ างไร เพราะเมื่อถึงเวลานั้น คำที่พวกท่ านจะพูดนั้น พระเจ้ าจะประทานแก่ พวกท่ าน
เพราะว่ าผู้ที่พูดไม่ ใช่ ตวั ท่ านเอง แต่ เป็ นพระวิญญาณแห่ งพระบิดาของพวกท่ านผู้ตรั สผ่ านท่ าน (มัทธิว 10:7–8, 18–
20) โยนาห์หนีจากการทรงสถิตขององค์พระผูเ้ ป็ นเจ้า แต่เขาก็มีแสงสว่างในวิญญาณจิตของเขาที่ส่องผ่านออกมา เขา
ปกปิ ดคำพยานของเขาจากกัปตันและลูกเรื อของเรื อที่เขาขึ้นที่เมืองยัฟฟา แต่โยนาห์รู้จกั พระเจ้า และสิ่ งนี้เกิดขึ้นแม้ใน
ขณะที่เขาพยายามหนีจากพระเจ้า ลูกเรื อของเรื อที่ถูกพายุพดั สัมผัสสิ่ งนี้ได้...และจับนิมิตได้
นี่คือการทรงเรี ยกของพระเจ้าที่มาถึงคุณและผมในวันนี้ นัน่ คือเพื่อรับนิมิตของพระองค์ที่มีต่อโลก และเป็ นเครื่ องมือ
ของพระองค์ในการนำผูท้ ี่หลงหายมาหาพระคริ สต์
25
มิถุนายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“ในทันใดนั้นมีเสี ยงมาจากฟ้ าเหมือนเสี ยงพายุแรงกล้าดังก้องทัว่ ตึกที่เขานัง่ อยูน่ ้ นั และพวกเขาเห็นบางสิ่ งที่คล้ายเปลวไฟ
ลักษณะเหมือนลิ้นแผ่กระจายอยูบ่ นตัวพวกเขาทุกคน พวกเขาทั้งหมดก็เต็มเปี่ ยมด้วยพระวิญญาณบริ สุทธิ์ ” (กิจการ 2:2–4)
ไฟประจำวัน!
ข้าแต่องค์พระผูเ้ ป็ นเจ้า โปรดช่วยข้าพระองค์ให้สำแดงให้ผอู้ ื่นเห็นไม้กางเขนของพระคริ สต์และฤทธิ์ อ ำนาจของพระวิญญาณ
บริ สุทธิ์ ในชีวิตของข้าพระองค์
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
โยเอล 2:28; ลูกา 24:52–53; ยอห์น 16:15; กิจการ 2:17–39; 2 โคริ นธ์ 5:16
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
เฉลยธรรมบัญญัติ 30; สดุดี 119:73–96
เย็น:
อิสยาห์ 57;
มัทธิว 5
การทรงสถิตเป็ นการส่ วนตัว
สิ่ งหนึ่งที่ท ำให้ผมประหลาดใจเสมอ คือ เหล่าสาวกไม่ร้องไห้เมื่อพระคริ สต์จากพวกเขาไป พวกเขาไม่เคยแสดงความ
คิดถึง "วันเก่า ๆ ที่ดี" เลย ลูกาบอกเราว่าหลังจากที่พระองค์เสด็จขึ้นไปให้พน้ สายตาแล้ว พวกเขา “กลับไปที่กรุ งเยรู ซาเล็มด้วย
ความยินดีอย่างยิง่ และอยูใ่ นพระวิหารทุกวัน สรรเสริ ญพระเจ้า” (ลูกา 24:52–53) ทำไมพวกเขาแสดงปฏิกิริยาที่น่าทึ่งเช่นนี้ต่อ
การจากไปของพระเยซู? คำตอบคือการเสด็จมาของพระวิญญาณ! เมื่อพระคริ สต์ทรงสถิตอยูด่ ว้ ยพวกเขาเป็ นเพียงพยานที่เห็น
เหตุการณ์ถึงฤทธิ์ อำนาจของพระองค์ แต่เมื่อวันเพ็นเทคอสต์มาถึง พวกเขาเป็ นมากกว่าผูท้ ี่เห็นเหตุการณ์—พวกเขาเองมีฤทธิ์
อำนาจและมีประสบการณ์กบั การทรงสถิตของพระเจ้าเป็ นการส่ วนตัว มันแตกต่างจากตอนที่พระคริ สต์อยูก่ บั พวกเขา ไม่มี
ที่ไหนเลยที่กล่าวว่าความรู้สึกส่ วนตัวของการทรงสถิตของพระเจ้ามีไว้ส ำหรับเหล่าสาวกเท่านั้น ราวกับว่าพวกเขาเป็ นกลุ่มคน
ชั้นยอด เปโตรกล่าวว่า “เพราะว่าพระสัญญานั้นตกแก่ท่านทั้งหลายกับลูกหลานของพวกท่านด้วย และแก่ทุกคนที่อยูไ่ กล คือทุก
คนที่องค์พระผูเ้ ป็ นเจ้าพระเจ้าของเราทรงเรี ยกให้มาเฝ้ า” (กิจการ 2:39) เขาอ้างคำสัญญาจากผูเ้ ผยพระวจนะโยเอล ซึ่งพระเจ้า
ตรัสว่า “เราจะเทพระวิญญาณของเราบนมนุษย์ท้ งั หมด” (ข้อ 17) เวสลียส์ งั เกตว่าคำสัญญานี้ ไม่ได้มีไว้สำหรับวันเพ็นเทคอสต์
เท่านั้น แต่ยงั อธิบายถึงประสบการณ์ปกติของคริ สเตียน เช่นเดียวกับพระธรรมกิจการทั้งเล่ม
27
มิถุนายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“ธรรมบัญญัติของพระยาห์เวห์ดีพร้อม และฟื้ นฟูชีวิต พระโอวาทของพระยาห์เวห์น้ นั แน่นอน ทำให้คนรู้นอ้ ยมีปัญญา” (สดุดี
19:7)
ไฟประจำวัน!
ไม่มีสิ่งใด แต่ไม่มีสิ่งใดจะสามารถแยกเราจากความรักของพระเจ้าที่อยูใ่ นพระเยซูคริ สต์ องค์พระผูเ้ ป็ นเจ้าของเรา ได้
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
ปฐมกาล 1:1; สดุดี 19:1–14; โรม 8:39; วิวรณ์ 1:4, 8
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
เฉลยธรรมบัญญัติ 32; สดุดี 119:121–144
เย็น:
อิสยาห์ 59;
มัทธิว 7
พระเจ้ า ผู้ทรงสร้ าง
2 ครั้งในบทแรกของวิวรณ์ พระเจ้าทรงเรี ยกพระองค์เองว่า “พระเจ้า…ผูท้ รงเคยเป็ นอยู”่ (วิวรณ์ 1:4, 8) “พระเจ้าที่เคย
เป็ นอยู”่ คือสิ่ งที่คนครึ่ งโลกนึกถึงพระองค์ นัน่ คือพระองค์ ผูท้ รงสร้างฟ้ าสวรรค์และแผ่นดินโลก…และได้ท ำสิ่ งเล็กๆ น้อยๆ
นับตั้งแต่น้ นั เป็ นต้นมา การถูกจำกัดในความคิดนั้นอาจทำให้ผคู้ นมีความเชื่อในฟาโรห์ตุตนั คามุน พระเจ้าแห่งจินตนาการที่
สร้างสรรค์เช่นนั้นจะยอมลงมาเป็ นพระเจ้าของอดีตเมื่อนานมาแล้ว ในอดีต ประทับบนสวรรค์โดยวางพระหัตถ์บนตักได้หรื อ ?
พระองค์เติมท้องฟ้ าที่วา่ งเปล่าด้วยความงดงามที่ไม่มีใครเทียบ…แล้วหลับไปหรื อ? ถ้าเราไม่เห็นมากไปกว่านั้น เราก็ไม่ได้
เฉลียวฉลาดมาก มีใครบ้างในพวกเราสามารถสร้างบ้านแล้วละทิ ้งมันได้? พระเจ้าจะสามารถละเลยจักรวาลของพระองค์ได้
หรื อ?
28
มิถุนายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“เพราะพระยาห์เวห์ประเสริ ฐ ความรักมัน่ คงของพระองค์ด ำรงเป็ นนิตย์ และความซื่อสัตย์ของพระองค์ด ำรงอยูท่ ุกชัว่ ชาติพนั ธุ์”
(สดุดี 100:5)
ไฟประจำวัน!
พระเจ้าของฉันเป็ นพระเจ้าที่ย ำเกรง ผูป้ กครองด้วยสติปัญญา ฤทธิ์ อ ำนาจ และความรัก
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
ปฐมกาล 1:31; โยบ 38:7; สดุดี 100:3; ยอห์น 3:16; โรม 8:28
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
เฉลยธรรมบัญญัติ 33 และ 34; สดุดี 119:145–176
เย็น:
อิสยาห์ 60;
มัทธิว 8
พระเจ้ าทีด่ ี
พระเจ้าปิ ติยนิ ดีในกิจกรรม สี สนั ความงดงาม การอัศจรรย์ และชีวิต และอื่นๆ อีกมากมาย พระองค์ทรงสร้างเรา
ทำไม? ทำไมเราถึงอยากมีลูก? เป็ นโอกาสสำหรับสัญชาตญาณแห่งความรักของเรา พระเจ้าทรงสร้างเราให้เป็ นอย่างนั้น
พระองค์เองก็เป็ นเช่นนั้น สิ่ งที่พระองค์เป็ นจะต้องออกมาตราบเท่าที่มีพระเจ้าทรงเป็ นอยู่ “พระเจ้ าทอดพระเนตรสิ่ งทั้งปวงที่
พระองค์ ทรงสร้ างไว้ ดูสิ ทรงเห็นว่ าดียิ่งนัก” (ปฐมกาล 1:31) ความคิดของพระองค์เกี่ยวกับสิ่ งที่ดีคือโลกแห่งวัตถุ ไม่ใช่แค่
หลักการฝ่ ายวิญญาณที่เป็ นนามธรรมของความดีงาม พระเจ้าไม่จดั การแบบนามธรรม พระองค์ทรงเป็ นนักปฏิบตั ิ เป็ นพระเจ้า
ของแผ่นดินโลกและทะเล สัตว์ ต้นไม้และนก ปลา...และผูค้ น “เราเป็ นประชากรของพระองค์ ” (สดุดี 100:3) พระองค์ทรงสร้าง
ทั้งหมด และสร้างเรา และมีความสุ ขกับมัน พระองค์รักมัน “พระเจ้ าทรงรั กโลก” (ยอห์น 3:16) พระองค์ป้ ั นลูกโลกที่งดงามนี้
แล้วพูดว่า "ดี! ดี! ดี!" 7 ครั้งในปฐมกาลบทที่ 1 พระองค์ทรงปรบพระหัตถ์ดว้ ยความพึงพอใจ และดวงดาวยามเช้าร้องเพลงด้วย
ความชื่นชมยินดี กระบวนการทั้งหมดมุ่งสู่สิ่งที่ดี ความชัว่ ร้ายต่อสู้กบั มัน แต่จะไม่มีวนั ได้ผล “เหตุการณ์ ทุกอย่ างร่ วมกันก่ อผล
ดีแก่ คนที่รักพระเจ้ า” (โรม 8:28) พระเจ้าดี
การทำสิ่ งที่เหนือธรรมชาติโดยปราศจากข้อความแห่งกลโกธานั้น
เป็ นอันตรายมาก!
1
กรกฎาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“ข่าวประเสริ ฐเรื่ องแผ่นดินของพระเจ้านี้จะถูกประกาศไปทัว่ โลก ให้เป็ นคำพยานแก่บรรดาประชาชาติ แล้วที่สุดปลายจะมาถึง”
(มัทธิว 24:14)
ไฟประจำวัน!
ข้าแต่องค์พระผูเ้ ป็ นเจ้า ขอทรงโปรดประทานความสามารถในการเทศนา และในการสำแดงความเห็นอกเห็นใจและความเมตตา
ให้แก่ขา้ พระองค์ เหมือนที่พระองค์ท ำ
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
มัทธิว 24:14; โรม 16:25–26
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
โยชูวา 3;
สดุดี 126–128
เย็น:
อิสยาห์ 63;
มัทธิว 11
การประกาศในอนาคต
โลกสามารถถูกประกาศข่าวประเสริ ฐได้เร็วกว่าที่คนส่ วนใหญ่เชื่อ แม้วา่ ขณะที่เราได้เริ่ มสหัสวรรษใหม่แล้วก็ตาม มีผู้
เชื่อเพียงไม่กี่พนั คนเมื่อพระเยซูจากโลกนี้ ไป บางทีมีสาวกคริ สเตียน 1 คนต่อคน 2 หมื่นคน ภายในเวลา 300 ปี จักรวรรดิโรมัน
ทั้งหมดก็กลายเป็ นคริ สเตียนอย่างเป็ นทางการ
ทุกวันนี้ มีคริ สเตียนที่บงั เกิดใหม่มากกว่า 600 ล้านคนบนแผ่นดินโลก นัน่ คือ 1 ในทุก ๆ 10 คน! ถ้าเราหันเหความ
สนใจไปที่ประเด็นอื่นและอุทิศเวลา เงิน และพลังงานของเราให้กบั ความห่วงใยทางการเมืองและสังคม การเป็ นพยานเพื่อข่าว
ประเสริ ฐก็จะลดลง มันต้องเพิ่มขึ้น! เราต้องการความพยายามครั้งสุ ดท้ายเพื่อไปให้ถึง 9 ใน 10 ของโลก!
จงถวายพระเกียรติแด่ พระองค์ ผ้ ทู รงสามารถให้ ท่านทั้งหลายตั้งมัน่ คงตามข่าวประเสริ ฐซึ่ งข้าพเจ้ าได้ ประกาศนั้น คือ
เรื่ องเกี่ยวกับพระเยซูคริ สต์ ตามการเปิ ดเผยข้ อล้ำลึก ซึ่ งได้ ปิดบังไว้ ตั้งแต่ โบราณกาล แต่ เดี๋ยวนี ไ้ ด้ เปิ ดเผยให้ ปรากฏ
แล้ ว โดยคำเขียนของบรรดาผู้เผยพระวจนะ ให้ ชนทุกชาติเห็นประจักษ์ ตามซึ่ งพระเจ้ าผู้ทรงดำรงเป็ นนิตย์ ได้ ทรงบัญ
ชาไว้ เพื่อให้ เขาได้ เชื่ อ (โรม 16:25–26) เมื่อข่ าวประเสริ ฐได้ รับการประกาศในโลกทั้งหมดในฐานะคำพยานแก่ บรรดา
ประชาชาติ ที่สุดปลายก็จะมาถึงในที่สุด
ตอนนี้เรามาถึงจุดนั้นเมื่อคุณและผมต้องถามตัวเองว่า “ฉันเป็ นผูเ้ ผยแพร่ ข่าวประเสริ ฐแบบไหน? ฉันต้องการประกาศ
การพิพากษา เหมือนโยนาห์หรื อยอห์น ผูใ้ ห้บพั ติศมา และเห็นพระพิโรธของพระเจ้าต่อคนโลภและชัว่ ร้ายหรื อไม่? ผมกังวล
เกี่ยวกับปัญหาข้างเคียงมากกว่า (เหมือนที่โยนาห์โกรธเรื่ องต้นไม้ที่เหี่ ยวเฉาและตาย) ที่ผมกังวลเกี่ยวกับวิญญาณจิตที่หลงหาย
และกำลังจะตายนับล้านๆ ดวงหรื อเปล่า? ผมมีความสามารถที่จะประกาศความเห็นอกเห็นใจและความเมตตา (เหมือนที่พระเยซู
ทรงทำ) และนำเสนอข่าวดีแก่ผคู้ นหรื อไม่? และผมพร้อมจะทำอะไรเกี่ยวกับการประกาศข่าวประเสริ ฐ?”
คำถามเหล่านี้เป็ นคำถามที่สำคัญ และเป็ นความรับผิดชอบของเราในการค้นหาคำตอบ…แล้วทำให้เป็ นมาตรฐานของ
เรา!
2
กรกฎาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“แต่จงมีใจกรุ ณา ใจสงสาร และใจให้อภัยแก่กนั และกัน เหมือนอย่างที่พระเจ้าทรงให้อภัยพวกท่านในพระคริ สต์" (เอเฟซัส
4:32)
ไฟประจำวัน!
พระบิดา พระองค์ทรงไม่แสดงความลำเอียงในการเลือกข้าพระองค์ ขออย่าให้ขา้ พระองค์แสดงความลำเอียงต่อผูอ้ ื่น
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
มาระโก 16:15; กิจการ 10:34; เอเฟซัส 4:1–32
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
โยชูวา 4; สดุดี 129 และ 131
เย็น:
อิสยาห์ 64;
มัทธิว 12
มนุษย์ สมัยใหม่
อัครทูตเปาโลดำเนินชีวิตแบบคนสมัยใหม่ในสมัยของเขาเอง งานเขียนของเขาเต็มไปด้วยการอ้างอิงและคำที่ให้ภาพที่
เป็ นหลักฐานอย่างชัดเจนถึงความร่ วมสมัยของเขา ดังนั้น ในจดหมายของเขาถึงคริ สตจักรที่เมืองเอเฟซัส เมืองที่ได้รับอิทธิพล
อย่างดีจากอำนาจของโรม เขาจึงสอนหลักธรรมด้วยภาพที่สดใสที่จะดึงดูดและถูกเข้าใจโดยชาวเอเฟซัสอย่างแท้จริ ง แต่ภาพ
ของเขายังคงสร้างแรงบันดาลใจให้กบั ผูค้ นตลอดหลายศตวรรษและแม้กระทัง่ ในปัจจุบนั
เพราะฉะนั้น ข้ าพเจ้ าผู้เป็ นนักโทษโดยเห็นแก่ องค์ พระผู้เป็ นเจ้ า ขอวิงวอนพวกท่ านให้ ด ำเนินชี วิตสมกับการทรงเรี ยก
ที่ท่านได้ รับการทรงเรี ยกมานั้น คือจงถ่ อมใจและมีความสุภาพอ่ อนโยนอยู่เสมอ จงอดทน จงอดกลัน้ ต่ อกันและกัน
ด้ วยความรั ก จงพยายามรั กษาความเป็ นน้ำหนึ่งใจเดียวกันที่มาจากพระวิญญาณนั้น โดยมีสันติภาพเป็ นเครื่ องผูกพัน มี
กายเดียวและมีพระวิญญาณองค์ เดียว เหมือนอย่ างที่ท่านได้ รับการทรงเรี ยกให้ มาถึงความหวังเดียวในการทรงเรี ยก
พวกท่ านนั้น มีองค์ พระผู้เป็ นเจ้ าองค์ เดียว ความเชื่ อเดียว บัพติศมาเดียว พระเจ้ าองค์ เดียวผู้เป็ นพระบิดาของทุกคน
พระองค์ ทรงมีอ ำนาจเหนือสรรพสิ่ ง ทรงทำการผ่ านสรรพสิ่ งและทรงอยู่ในทุกคน แต่ ว่าพระคุณนั้นประทานแก่ เราแต่
ละคนตามขนาดที่พระคริ สต์ ประทาน (เอเฟซัส 4:1–7) ที่นี่ เปาโลกำลังเขียนถึงคริ สเตียนที่เป็ นทาสและเป็ นไท
ต่ำต้ อยและสูงส่ ง ยากจนข้ นแค้ นและมัง่ คั่ง แต่ ละคนได้ รับการปฏิบัติเหมือนกันทุกประการ เนื่องจากไม่ มีความ
ลำเอียงในพระเจ้ า “ข้ าพเจ้ าเห็นจริ งแล้วว่ าพระเจ้ าไม่ ทรงลำเอียง” (กิจการ 10:34) และแต่ ละบุคคลมีหน้ าที่รับผิดชอบ
เหมือนกันในฐานะคริ สเตียนที่จะต้ องทำให้ สำเร็ จ สิ่ งที่เราเรี ยนรู้ จากงานเขียนโบราณของเปาโลในวันนี ้ ก็คือพระเจ้ า
ทรงคาดหวังจากพวกเราแต่ ละคนเหมือนกัน เหมือนกับที่พระองค์ ทรงคาดหวังจากคริ สเตียนเหล่ านั้นที่จะยอมพลีชีพ
เพื่อความเชื่ อของพวกเขา ถูกข่ มเหงเพื่อความเชื่ อของพวกเขา สูญเสี ยทุกสิ่ งที่เป็ นเจ้ าของเพื่อข่ าวประเสริ ฐ ภารกิจ
อันดับหนึ่งที่พวกเขาได้ รับมอบหมายเป็ นงานเดียวกันกับที่มอบให้ กับเหล่ าอัครทูตขณะเฝ้ าดูพระเยซูคริ สตเจ้ าและ
พระผู้ช่วยให้ รอด ผู้เป็ นขึน้ มาจากความตายกำลังเสด็จขึน้ สู่สวรรค์ ว่า “พวกท่ านจงออกไปทั่วโลก ประกาศข่ าวประเส
ริ ฐแก่ มนุษย์ ทุกคน” (มาระโก 16:15)! การมอบหมายเดียวกันนั้นเป็ นของคุณและของผมในวันนี ้!
3
กรกฎาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“ถ้าข้าพระองค์จะกล่าวว่า “ข้าพเจ้าจะไม่อา้ งถึงพระองค์ หรื อกล่าวในพระนามของพระองค์อีก” ก็มีสิ่งในใจของข้าพระองค์
เหมือนไฟไหม้ อัดอยูใ่ นกระดูกของข้าพระองค์ และข้าพระองค์ก็อ่อนเปลี้ยที่ตอ้ งเก็บมันไว้ และข้าพระองค์กเ็ ก็บไว้ไม่ไหว”
(เยเรมีย ์ 20:9)
ไฟประจำวัน!
พระคำของพระเจ้ามีชีวิต เป็ นจริ ง และเปี่ ยมด้วยฤทธิ์ อ ำนาจในหัวใจและชีวิตของฉันในวันนี้
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
อพยพ 3:1–22; 4:1–17; สดุดี 119:89; เยเรมีย ์ 20:9; 2 เปโตร 1:21
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
โยชูวา 5–6:5; สดุดี 132–134
เย็น:
อิสยาห์ 65;
มัทธิว 13
ขีดสุ ดของความเชื่อ
นี่คือพื้นฐานบางอย่างของความเชื่อ:
ในการเป็ นผูเ้ ชื่อ เราควรรู้วา่ เราเชื่อสิ่ งใดและเชื่อในผูใ้ ด
บทเรี ยนพื้นฐานที่สุดคือเราต้องยึดเอาพระคำของพระเจ้าตามที่พระคำกล่าว
ปราศจากการรู้น ้ำพระทัยของพระเจ้า ความเชื่อก็เป็ นไปไม่ได้
พระคำเป็ นน้ำพระทัยนิรันดร์ของพระเจ้า
การตั้งคำถามกับพระคัมภีร์คือการตั้งคำถามกับคำแนะนำเดียวที่เรามี...และการตั้งคำถามกับพระเจ้า
พระคำของพระเจ้าเป็ นคำขาด ไม่ใช่ทางเลือกสำหรับการอภิปราย
การลงคะแนนเสี ยงหรื อฉันทามติตามระบอบประชาธิปไตยไม่ได้ตดั สิ นความจริ งในพระคัมภีร์ พระคัมภีร์ “ตั้งมัน่ คง
ในสวรรค์ ” (สดุดี 119:89) ตลอดไป
5
กรกฎาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“เพราะพระคริ สต์ทรงทนทุกข์ครั้งเดียวเป็ นพอเพราะบาป คือพระองค์ผชู้ อบธรรมเพื่อผูไ้ ม่ชอบธรรม เพื่อจะนำพวกท่านไปถึง
พระเจ้า ฝ่ ายกายพระองค์จึงสิ้ นพระชนม์ แต่ฝ่ายจิตวิญญาณทรงคืนพระชนม์” (1 เปโตร 3:18)
ไฟประจำวัน!
ฉันปรารถนาจะเต็มไปด้วยความเห็นอกเห็นใจที่กระตุน้ พระเยซูคริ สต์
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
มาระโก 6:34; 1 เธสะโลนิกา 5:10; 1 เปโตร 2:7; 3:18
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
โยชูวา 7; สดุดี 137 และ 138
เย็น:
เยเรมีย ์ 1; มัทธิว 15
ในคำเดียว: ความเห็นอกเห็นใจ
ของขวัญที่พระคริ สต์มอบให้แก่โลกไม่ใช่ศาสนาใหม่ หรื อทฤษฎีใหม่เกี่ยวกับชีวิต หรื อสูตรใหม่สำหรับสวรรค์ พระองค์
ประทานพระองค์เองเพื่อเรา “พระองค์ ผ้ ชู อบธรรมเพื่อผู้ไม่ ชอบธรรม เพื่อจะนำพวกท่ านไปถึงพระเจ้ า” (1 เปโตร 3:18) ความ
เชื่อของคริ สเตียนไม่ใช่ศาสนา แต่คือพระเยซู! เราสามารถสร้างหลักคำสอนรอบๆ พระองค์ได้ แต่พระเยซูไม่ได้มาเพื่อนำศาสน
ศาสตร์มาให้แก่เรา พระองค์มาเพื่ออยูท่ ี่นี่ ว่างสำหรับเรา ไม่เคยจาก หรื อทอดทิ้งเราไปเป็ นการส่ วนตัว
หนึ่งในพระนามของพระเจ้าในพันธสัญญาเดิมคือ เอล ชัดดัย ซึ่งหมายความว่าพระเจ้าทรงเพียงพอสำหรับทุกสิ่ ง พระเจ้า
องค์น้ นั เสด็จมายังโลกในบุคคลของพระเยซู พระองค์ทรงสละทั้งหมดของพระองค์เอง...และพระองค์ทรงเป็ นทุกสิ่ งที่เรา
ต้องการ! อีกพระนามในพันธสัญญาเดิมคือ ยาเวห์ ชัมมาห์ ซึ่งหมายความว่าองค์พระผูเ้ ป็ นเจ้าทรงอยูท่ ี่นนั่ ถ้าพระองค์ทรงอยูท่ ี่
นัน่ นัน่ คือทั้งหมดที่เราต้องการ เปโตรกล่าวว่า “เพราะฉะนั้น พระองค์ ทรงมีค่ามหาศาลสำหรั บพวกท่ านที่เชื่ อ” (1 เปโตร 2:7)
พระเยซูปฏิเสธที่จะดำรงชี วิตอยู่เพื่อประโยชน์ ของพระองค์ เอง แรงจูงใจของพระองค์ สามารถสรุ ปได้ ในคำว่ า ความเห็นอก
เห็นใจ พระองค์ ถกู ขับเคลื่อนด้ วยความรั ก ไม่ใช่ ด้วยความกลัว สิ่ งที่จะได้ รับ หรื อความนิยม
ข้ าพเจ้ าไม่ ขออวดอะไรนอกจากเรื่ องกางเขนของพระเยซูคริ สต์ องค์ พระผู้เป็ นเจ้ าของเรา ซึ่ งโดยกางเขนนั้นโลกได้
ตายจากข้ าพเจ้ า และข้ าพเจ้ าก็ได้ ตายจากโลก...พี่น้องทั้งหลาย ขอให้ พระคุณของพระเยซูคริ สต์ องค์ พระผู้เป็ นเจ้ าของ
เราจงสถิตอยู่กับจิ ตวิญญาณของท่ านทั้งหลายด้ วยเถิด (กาลาเทีย 6:14, 18) คนใหม่ เหล่ านี ท้ ำให้ โลกของชาวโรมัน
ประหลาดใจ โรมพยายามที่จะทำลายพวกเขา แต่ นโยบายการทำลายล้ างนั้นทำให้ พวกเขาทวีคูณ ชาวโรมันยกย่ องใน
ความเข้มแข็ง คริ สเตียนยกย่ องในความอ่ อนแอของพวกเขา ชาวโรมันเชื่ อในความเกลียดชังและการแก้ แค้ น คริ สเตียน
เชื่ อในความรั กและการให้ อภัย ชาวโรมันเชื่ อในสิ ทธิ อ ำนาจของจักรพรรดิ คริ สเตียนกล่ าวว่ า “พระเยซูคริ สต์ ทรงเป็ น
องค์ พระผู้เป็ นเจ้ า” ชาวโรมันเชื่ อในดาบ คริ สเตียนกล่ าวว่ าพวกเขาจะพิชิตโลกด้ วยความรั ก และสรรเสริ ญพระเจ้ า
พวกเขาทำ…และยังคงทำ! ความเข้ มแข็งแบบนั้นมาจากไหน? จากข้ อเท็จจริ งที่น่าเปี่ ยมด้ วยพระสิ ริที่สุด นั่นคือพระ
เยซูทรงพระชนม์ อยู่! และพระองค์ ทรงพระชนม์ อยู่ในตัวคุณและในตัวผมในวันนี ้!
9
กรกฎาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“เพราะว่าถ้าข้าพเจ้าประกาศข่าวประเสริ ฐ ข้าพเจ้าก็ไม่มีเหตุที่จะอวดได้ เพราะว่าข้าพเจ้าจำต้องทำ และถ้าไม่ประกาศ วิบตั ิจะ
เกิดกับข้าพเจ้า!” (1 โคริ นธ์ 9:16)
ไฟประจำวัน!
ข้าพระองค์วางทุกสิ่ งไว้บนแท่นบูชาของพระองค์ เพื่อพระองค์จะใช้ได้ตามต้องการ
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
2 โคริ นธ์ 4:7; ฟิ ลิปปี 4:13
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
โยชูวา 11;
สดุดี 144
เย็น:
เยเรมีย ์ 5; มัทธิว 19
เข้ าร่ วมวงออร์ เคสตรา!
“ทำไมพระเจ้าจึงต้องการให้เราทำสิ่ งหนึ่งสิ่ งใดในเมื่อพระองค์ทรงมีฤทธิ์ อ ำนาจทั้งหมด?” เพราะว่าพระองค์ทรงรักเรา
และทรงชอบที่จะแบ่งปันความพึงพอใจและความชื่นชมยินดีของพระองค์กบั เรา คุณอาจรู้สึกว่าคุณเป็ นเครื่ องดนตรี ชิ้นเล็กๆ แต่
เราแต่ละคนมีความสำคัญในวงออร์เคสตราเต็มรู ปแบบ องค์พระผูเ้ ป็ นเจ้าแห่งแผ่นดินโลกทั้งใบมีสิ่งที่ใหญ่อยูใ่ นความคิด และ
สิ่ งเหล่านั้นเรี ยกร้องให้มีผชู้ ่วยเหลือนับล้านที่มีของประทานและความสามารถที่หลากหลาย “แต่ เรามีของล้ำค่ านีอ้ ยู่ในภาชนะ
ดิน เพื่อให้ เห็นว่ า ฤทธิ์ เดชอันเลิศนั้นเป็ นของพระเจ้ า ไม่ ได้ มาจากตัวเราเอง” (2 โคริ นธ์ 4:7)
ตั้งแต่ผมเริ่ มเคลื่อนไหวในฤทธิ์ อำนาจของพระวิญญาณบริ สุทธิ์ แม้เมื่อผมยังเด็ก ผมได้เรี ยนรู้วา่ “ข้ าพเจ้ าเผชิ ญได้ ทุก
อย่ างโดยพระองค์ ผ้ ทู รงเสริ มกำลังข้ าพเจ้ า” (ฟี ลิปปี 4:13) ในพระคริ สต์ เรามีทรัพยากรของพระเจ้า เพื่อทำให้พระประสงค์ของ
พระเจ้าสำเร็ จ เราควรคิดว่าเราเองเป็ นช่องทางที่ต ่ำต้อยเพื่อให้พระคำและพระวิญญาณไหลผ่าน ท่อทองแดงไม่สามารถโอ้อวด
ถึงน้ำที่ไหลผ่านไปยังก๊อกในบ้านของเราได้ เราต้องปล่อยให้น้ำแห่งชีวิตไหล และอย่าไปปิ ดกั้นเอาไว้ ไม่วา่ ของประทานหรื อ
พรสวรรค์ใดที่เราวางไว้แทบเท้าพระองค์ องค์เจ้านายสามารถใช้มนั ได้ท้ งั หมด สิ่ งเหล่านี้กลายเป็ นชิ้นส่ วนเสริ ม สร้างท่อที่
พระเจ้าทรงทำสิ่ งที่พระองค์ตอ้ งการ
11
กรกฎาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“แต่เราประกาศเรื่ องพระคริ สต์ทรงถูกตรึ งที่กางเขนนั้น...ว่าพระคริ สต์ทรงเป็ นฤทธานุภาพและพระปัญญาของพระเจ้า เพราะ
ความเขลาของพระเจ้ายังมีปัญญายิง่ กว่าปัญญาของมนุษย์ และความอ่อนแอของพระเจ้าก็ยงั มีก ำลังมากยิง่ กว่ากำลังของมนุษย์”
(1 โคริ นธ์ 1:23–25)
ไฟประจำวัน!
เมื่อเราถล่มโลกด้วยปื นใหญ่แห่งข่าวประเสริ ฐ กระสุ นของเราคือฤทธิ์ อ ำนาจแห่งการระเบิดของพระวิญญาณบริ สุทธิ์
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
1 โคริ นธ์ 1:21–25
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
โยชูวา 14 และ 15; สดุดี 146 และ 147
เย็น:
เยเรมีย ์ 7; มัทธิว 21
กระสุ น!
พระวิญญาณบริ สุทธิ์ ทรงเป็ นพระเจ้าในกิจกรรมทางแผ่นดินโลก เช่นเดียวกับที่พระเยซูได้เป็ น การบัพติศมาในพระ
วิญญาณไม่ได้หมายความถึงเหตุการณ์ทางอารมณ์ครั้งเดียวจบ แต่จะห่อหุม้ ผูเ้ ชื่ออย่างถาวร พระวิญญาณคือสภาพแวดล้อมของ
พวกเขา เป็ นอากาศที่พวกเขาหายใจ หล่อเลี้ยงความเชื่อของคริ สเตียน เมื่อเราถล่มโลกด้วยปื นใหญ่แห่งข่าวประเสริ ฐ กระสุ น
ของเราคือฤทธิ์ อำนาจแห่งการระเบิดของพระวิญญาณบริ สุทธิ์ พระวิญญาณทำให้ผเู้ ชื่อ คำสอนของพวกเขา การเทศนาของพวก
เขา การอธิษฐานของพวกเขา การรับใช้ของพวกเขา และชีวิตของพวกเขามีชีวิต พระวิญญาณเป็ นพลังชีวิตที่มีพลวัตของความ
เชื่อ ถ้าปราศจากชีวิตของพระวิญญาณบริ สุทธิ์ ความเชื่อของคริ สเตียนก็จะเป็ นแค่ระบบศาสนาที่ไร้ชีวิตซึ่งสามารถดำเนินต่อไป
ได้ดว้ ยความพยายามของมนุษย์เท่านั้น แต่ไม่มีสิ่งใดสามารถแข่งขันกับพระวิญญาณบริ สุทธิ์ ได้! เราไม่สามารถแทนที่พระ
วิญญาณบริ สุทธิ์ ด้วยองค์กร คริ สตจักรที่งดงาม หรื อสิ่ งอื่นใดได้
13
กรกฎาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“และมาถึงพระเยซูคนกลางแห่งพันธสัญญาใหม่ และมาถึงพระโลหิ ตประพรมที่กล่าวถึงสิ่ งที่ดีกว่าเสี ยงโลหิ ตของอาเบล” (ฮีบรู
12:24)
ไฟประจำวัน!
พระโลหิ ตที่พระเยซูหลัง่ เพื่อฉันจะไม่มีวนั หมดฤทธิ์ อำนาจ
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
ปฐมกาล 4:10–11; ลูกา 23:34; โคโลสี 1:20; ฮีบรู 12:24
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
โยชูวา 18–19; สดุดี 149 และ 150
เย็น:
เยเรมีย ์ 9; มัทธิว 23
พระโลหิตที่พูด
ผมได้เห็นนิมิตของพระเจ้าเกี่ยวกับแอฟริ กาที่ได้รับการชำระด้วยเลือดซ้ำแล้วซ้ำเล่า ตอนนี้ผมไม่ปรารถนาอะไรมาก
ไปกว่าการได้เห็นสิ่ งนั้นสำเร็ จอย่างเปี่ ยมไปด้วยพระสิ ริ ผมปฏิญาณกับพระเจ้าว่าผมจะประกาศข่าวสารเกี่ยวกับพระโลหิ ตของ
พระเยซูในทุกที่ที่พระองค์ส่งเราไป โดยพระคุณของพระเจ้า เราได้กา้ วหน้าอย่างดีในช่วงหลายปี ที่ผา่ นมา ได้เห็นหลายชาติใน
แอฟริ กาถูกเขย่าโดยฤทธิ์ อำนาจแห่งข่าวประเสริ ฐ และวิญญาณจิตอันล้ำค่าหลายล้านดวงต้อนรับพระเยซูคริ สต์เป็ นพระผูช้ ่วย
ให้รอด
ฮีบรู 12 กล่าวว่าพระโลหิ ตของพระเยซูคริ สต์ “กล่ าวถึงสิ่ งที่ดีกว่ าเสี ยงโลหิ ตของอาเบล” (ฮีบรู 12:24) อะไรที่ดีกว่า?
อาเบลถูกคาอิน พี่ชายของเขาสังหาร โลหิ ตของเขากล่าวว่าอย่างไร...และพระโลหิ ตของพระเยซูคริ สต์กล่าวว่าอย่างไร? “เสี ยง
ของโลหิ ตน้ องของเจ้ าร้ องดังขึน้ มาจากดินถึงเรา บัดนี ้ เจ้ าจึ งถูกสาปจากดินที่อ้าปากรั บโลหิ ตของน้ องจากมือเจ้ า” (ปฐมกาล
4:10–11) โลหิ ตของอาเบลร้องถึงความตายและการฆาตกรรมออกมา และเรี ยกร้องให้มีการแก้แค้น
พระโลหิ ตของพระคริ สต์ตกลงไปที่ดินเช่นเดียวกัน แต่พดู อะไรที่ดีกว่า? พระโลหิ ตพูดถึงชี วิต ไม่ใช่ความตาย! โลหิ ต
ของอาเบล คือ โลหิ ตแห่งความตาย แต่โลหิ ตของพระเยซู คือ โลหิ ตแห่งชีวิต โลหิ ตของอาเบลเรี ยกร้องการแก้แค้น แต่พระ
โลหิ ตของพระเยซูกล่าวถึงการให้ อภัย
17
กรกฎาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“และพยานหลักฐานนั้นก็คือ พระเจ้าประทานชีวิตนิรันดร์ แก่เรา และชีวิตนี้ มีอยูใ่ นพระบุตรของพระองค์” (1 ยอห์น 5:11)
ไฟประจำวัน!
โดยพระคำและพระวิญญาณ ฉันรู้วา่ ฉันเป็ นผูไ้ ด้รับชีวิตนิรันดร์ผา่ นทางพระเยซูคริ สต์
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
เฉลยธรรมบัญญัติ 19:15; มัทธิว 18:16; 2 โคริ นธ์ 13:1; 1 ยอห์น 5:10–13
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
โยชูวา 24; กิจการ 4
เย็น:
เยเรมีย ์ 13; มัทธิว 27
หลักฐานที่น่าสนใจ
ด้วยหลักฐานที่น่าสนใจของของประทานแห่งความรอดที่มอบให้เปล่า ๆ โดยพระเยซูคริ สต์ จึงเป็ นเรื่ องแปลกที่แม้แต่
สมาชิกของคริ สตจักรบางคนก็ยงั ไม่แน่ใจเกี่ยวกับชะตากรรมของพวกเขา พวกเขาไม่คาดหวังที่จะรู้ผลของมันจนกว่าจะถึงวัน
พิพากษาที่ยงิ่ ใหญ่! พวกเขาใช้ค ำว่าบางที และความหวัง พระเจ้าตรัสว่าคนที่เชื่อพระบุตรของพระเจ้าก็มีพยานอยูใ่ นตัว คนที่ไม่
เชื่อพระเจ้าก็ท ำให้พระองค์เป็ นผูต้ รัสมุสา เพราะเขาไม่ได้เชื่อคำพยานที่พระเจ้าทรงเป็ นพยานอ้างถึงพระบุตรของพระองค์ และ
พยานหลักฐานนั้นก็คือ พระเจ้าประทานชีวิตนิรันดร์ แก่เรา และชีวิตนี้ มีอยูใ่ นพระบุตรของพระองค์ คนที่มีพระบุตรก็มีชีวิต คน
ที่ไม่มีพระบุตรก็ไม่มีชีวิต ข้อความเหล่านี้ ขา้ พเจ้าเขียนถึงท่านทั้งหลายที่วางใจในพระนามของพระบุตรของพระเจ้า เพื่อให้ท่าน
รู้วา่ ท่านมีชีวิตนิรันดร์ (1 ยอห์น 5:10–13) จงสังเกตว่าข้อพระคัมภีร์ที่ให้ความมัน่ ใจเหล่านี้ไม่ได้บอกว่าคุณจะมีชีวิตนิรันดร์ แต่
ข้อเหล่านี้บอกว่าคุณมีชีวิตนั้นแล้ ว! นี่เป็ นคำสัญญาอันทรงพลังที่อคั รทูตยอห์นได้รับจากพระวิญญาณบริ สุทธิ์ มีองค์ประกอบ
สำคัญเกี่ยวกับความมัน่ ใจในความรอดว่า เขียน ...วางใจ...พระบุตรของพระเจ้า...รู้...มี...ชีวิตนิรันดร์ องค์ประกอบเหล่านี้ ถูก
ประทานให้ในพระคำของพระเจ้า ซึ่งหมายความว่าคุณต้องอ่านสิ่ งที่เขียนไว้ในพระคำ
21
กรกฎาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“พระองค์ทรงเป็ นแหล่งชีวิต และชีวิตนั้นเป็ นความสว่างของมนุษย์” (ยอห์น 1:4)
ไฟประจำวัน!
พระคริ สต์ทรงแสดงให้ฉนั เห็นถึงวิธีการดำเนินชีวิต ฉันอยากเป็ นเหมือนพระเยซูและทำให้พระเจ้าพอพระทัย
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
ยอห์น 1:4, 14; 14:2
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
ผูว้ ินิจฉัย 4; กิจการ 8
เย็น:
เยเรมีย ์ 17; มาระโก 3
พระคริสต์ คือ บ้ านของเรา
พระคริ สต์ “สถิตอยูท่ ่ามกลางเรา” พระองค์ทรงสร้างบ้านของพระองค์อยูก่ บั เรา หรื อยิง่ กว่านั้น พระองค์ทรงสร้างบ้าน
และเมื่อเราเชื่อ เราข้ามบันไดหน้าประตูบา้ นและเดินเข้าไป พระเจ้าทรงเป็ นบ้านที่แท้จริ งของเรา ห่างจากพระองค์ เราก็อยูห่ ่าง
จากบ้าน นัน่ คือเหตุผลที่พระคริ สต์มีชีวิตอยูเ่ พื่อเรา พระองค์ตอ้ งการอยูก่ บั เรา และเราอยูก่ บั พระองค์ ที่บา้ น
พระวาทะทรงเกิดเป็ นมนุษย์ และทรงอยู่ท่ามกลางเรา เราเห็นพระสิ ริของพระองค์ คือ พระสิ ริที่สมกับพระบุตรองค์
เดียวของพระบิดา บริ บูรณ์ ด้วยพระคุณและความจริ ง (ยอห์ น 1:14) พระคัมภีร์เต็มไปด้ วยการอ้ างอิงถึง “บ้ าน” บุตร
น้ อยหลงหายกลับบ้ าน พระเยซูเสด็จเข้ าไปในบ้ านหลายหลัง พระองค์ พูดถึงบ้ านนิรันดร์ ว่า "ในพระนิเวศของพระ
บิดาเรามีที่อยู่มากมาย ถ้ าไม่ มีเราคงบอกท่ านแล้ ว เพราะเราไปจัดเตรี ยมที่ไว้ สำหรั บพวกท่ าน” (ยอห์ น 14:2)
พระคริ สต์ทรงดำเนินชีวิตเพื่อเราเพื่อสำแดงให้เราเห็นถึงวิธีด ำเนินชีวิต พระคัมภีร์กล่าวถึงพระคริ สต์วา่ เป็ นผู้
ปราศจากบาป พระองค์ทรงดำเนินชีวิตที่สมบูรณ์แบบเพื่อเรา ทรงให้แบบอย่างแก่เรา ความสมบูรณ์แบบของพระองค์คืออะไร?
นัน่ เรี ยบง่ายมาก ซึ่งก็คือการเชื่ อฟั งพระเจ้ า พระองค์ไม่ได้ด ำเนินชีวิตด้วยกฎชุดหนึ่งเพื่อควบคุมการกระทำทุกอย่างในชีวิตของ
พระองค์ พระองค์ไม่ใช่สารานุกรมของธรรมบัญญัติที่เดินได้ ซึ่งพระองค์ทรงพิจารณาทุกวินาทีต้ งั แต่ตื่นนอนจนถึงเข้านอนอีก
ครั้งในตอนกลางคืน พระองค์เพียงแต่ท ำสิ่ งที่พระองค์รู้วา่ จะทำให้พระบิดาพอพระทัย
26
กรกฎาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“แต่พวกท่านจะได้รับพระราชทานฤทธานุภาพ เมื่อพระวิญญาณบริ สุทธิ์ เสด็จมาเหนือท่าน” (กิจการ 1:8)
ไฟประจำวัน!
ฤทธานุภาพของพระเจ้าถูกมอบให้เพื่อทำให้ฉนั สามารถเป็ นพยานของพระองค์เท่านั้น
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
กิจการ 1:1–14
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
ผูว้ ินิจฉัย 9; กิจการ 13
เย็น:
เยเรมีย ์ 22; มาระโก 8
เอาตรงๆ นะเด็กๆ!
เมื่อเราอ่านข้อพระคัมภีร์ตอนเริ่ มต้นของพระธรรมกิจการ เราเห็นว่าทำไมพระเยซูจึงทรงเน้น 2 ครั้งถึงการเสด็จมาของ
ฤทธิ์อำนาจของพระวิญญาณบริ สุทธิ์ ในการสนทนาครั้งสุ ดท้ายของพระองค์บนแผ่นดินโลก ซึ่งกล่าวว่า ขณะพระองค์ทรง
พำนักอยูก่ บั พวกอัครทูต ทรงกำชับพวกเขาว่า “อย่าออกไปจากกรุ งเยรู ซาเล็ม แต่ให้รอคอยรับตามพระสัญญาของพระบิดา ซึ่ง
พวกท่านได้ยนิ จากเรา นัน่ ก็คือยอห์นให้รับบัพติศมาด้วยน้ำ แต่อีกไม่นานพวกท่านจะรับบัพติศมาด้วยพระวิญญาณบริ สุทธิ์ ”
เมื่อเขาทั้งหลายประชุมพร้อมกัน พวกเขาจึงทูลถามพระองค์วา่ “องค์พระผูเ้ ป็ นเจ้า พระองค์จะทรงตั้งราชอาณาจักรขึ้นใหม่ ให้
ชนชาติอิสราเอลในครั้งนี้ หรื อ?” พระองค์ตรัสตอบเขาทั้งหลายว่า “ไม่ใช่ธุระของพวกท่านที่จะรู้เวลาและวาระที่พระบิดาทรง
กำหนดไว้โดยสิ ทธิ อ ำนาจของพระองค์ แต่พวกท่านจะได้รับพระราชทานฤทธานุภาพ เมื่อพระวิญญาณบริ สุทธิ์ เสด็จมาเหนือ
ท่าน และท่านทั้งหลายจะเป็ นสักขีพยานของเราในกรุ งเยรู ซาเล็ม ทัว่ แคว้นยูเดีย ทัว่ แคว้นสะมาเรี ย และจนถึงที่สุดปลายแผ่นดิน
โลก” เมื่อพระองค์ตรัสเช่นนั้นแล้ว พระเจ้าทรงรับพระองค์ข้ ึนไปต่อหน้าต่อตาพวกเขา และมีเมฆคลุมพระองค์ให้พน้ สายตา
ของเขา (กิจการ 1:4–9) พระเยซูได้ประทานคำสัง่ สุ ดท้ายแก่บรรดาอัครทูตหลังจากการเป็ นขึ้นมาจากความตายของพระองค์ และ
บอกให้พวกเขารอคำสัญญาของพระวิญญาณบริ สุทธิ์ นัน่ ดูเหมือนจะดี แน่นอนว่าพวกเขาต้องเข้าใจประเด็นและรู้วา่ จะเกิดอะไร
ขึ้น แต่ไม่ใช่! ในข้อ 6 พวกเขาดิ้นรนอีกครั้งในความคิดเดิมที่พระเยซูใช้เวลา 3 ปี ในการพยายามออกจากระบบของพวกเขา นัน่
คือชัยชนะทางการเมืองของอิสราเอลที่ได้รับการนำโดยพระเยซูในฐานะองค์พระผูเ้ ป็ นเจ้า ผูเ้ ป็ นนักรบ พระเยซูตอ้ งแก้ไขพวก
เขา และยืนกรานว่าพวกเขาจะต้องไม่สนใจเรื่ องการฟื้ นฟูอ ำนาจทางการเมืองของอิสราเอล
เป็ นอย่างนี้ตลอดพันธสัญญาใหม่:
“เมื่อเขาทั้งหลายอธิ ษฐานแล้ ว ที่ ซึ่งพวกเขาประชุมอยู่นั้นก็หวั่นไหว แล้วพวกเขาเต็มเปี่ ยมด้ วยพระวิญญาณบริ สุทธิ์
และกล่ าวพระวจนะของพระเจ้ าด้ วยใจกล้ าหาญ...และด้ วยฤทธานุภาพอันยิ่งใหญ่ บรรดาอัครทูตก็เป็ นพยานถึงการคืน
พระชนม์ ของพระเยซูองค์ พระผู้เป็ นเจ้ า และพระคุณอันยิ่งใหญ่ อยู่กับพวกเขาทุกคน (กิจการ 4:31, 33) ข้าพเจ้าไม่มี
ความละอายในเรื่ องข่าวประเสริ ฐ เพราะว่าข่าวประเสริ ฐนั้นเป็ นฤทธานุภาพของพระเจ้า เพื่อให้ทุกคนที่เชื่อได้รับ
ความรอด พวกยิวก่อน แล้วพวกกรี กด้วย (โรม 1:16) การประกาศปลดปล่อยฤทธิ์อำนาจของพระเจ้า คุณไม่สามารถ
อธิษฐานขอฤทธิ์ อำนาจ แล้วเก็บไว้ในที่เย็นจัด จงประกาศเถิด และฤทธิ์ อ ำนาจก็จะสำแดงออก! จงรับฤทธิ์ อ ำนาจของ
พระเจ้าในชีวิตของคุณในวันนี้
28
กรกฎาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“เพราะว่าพระองค์ได้ตรัสว่า “เราจะไม่ละท่านหรื อทอดทิ้งท่านเลย” (ฮีบรู 13:5)
ไฟประจำวัน!
ผ่านทางพระโลหิ ตของพระเยซูคริ สต์ ฉันเป็ นลูกบุญธรรมของพระเจ้า
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
1 ซามูเอล 25:29; โรม 5:8; เอเฟซัส 1:10; 2:2, 13; 1 ยอห์น 3:2.
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
ผูว้ ินิจฉัย 11:12;
กิจการ 15
เย็น:
เยเรมีย ์ 24;
มาระโก 10
เราไม่ สามารถหนีได้
การกบฏและความอธรรมของเราไม่เคยเปลี่ยนความคิดของพระเจ้าเกี่ยวกับความรักที่ทรงมีต่อเรา เพราะ “ขณะที่เรา
ยังเป็ นคนบาปอยู่นั้น พระคริ สต์ สิ้นพระชนม์ เพื่อเรา” (โรม 5:8) เป้ าหมายคือ “แต่ บัดนีใ้ นพระเยซูคริ สต์ ท่ านทั้งหลายซึ่ งเมื่อ
ก่ อนอยู่ไกล ได้ เข้ามาใกล้ โดยพระโลหิ ตของพระคริ สต์ ” (เอเฟซัส 2:13) พระบุตรของพระเจ้า พระเยซูคริ สต์ องค์พระผูเ้ ป็ น
เจ้าของเราสามารถแบกรับบาปของเราและสิ้ นพระชนม์เพื่อเราเพียงเพราะการเชื่อมโยงที่มีชีวิตระหว่างผูส้ ร้างและสิ่ งทรงสร้าง
เรา “ผูกมัดอยู่กับความสัมพันธ์ ระหว่ างกลุ่มชี วิตและพระยาห์ เวห์ พระเจ้ าของท่ าน” (1 ซามูเอล 25:29) เราไม่สามารถหนีสิ่งที่
เกิดขึ้นกับพระเจ้าได้ และพระเจ้าไม่สามารถหนีสิ่งที่เกิดขึ้นกับเราได้
พระเยซูกลายเป็ นมนุษย์และเดินบนแผ่นดินโลกนี้ เพื่อฟื้ นฟูความสัมพันธ์ในครอบครัวระหว่างพระเจ้ากับมนุษย์
พระองค์ไม่ได้มาหาเราในฐานะมนุษย์ต่างดาว เผ่าพันธุ์ที่ไม่รู้จกั กำเนิด เพื่อมารับเราเป็ นบุตร พระองค์ให้ก ำเนิดเรามา เราเป็ น
บุตรน้อยหลงหาย นัน่ คือ “บุตรแห่งการไม่เชื่อฟัง” (เอเฟซัส 2:2) บทแรก ๆ ของพระคัมภีร์น ำเสนอเหตุการณ์ที่น่าตกใจที่คาอิน
สังหารอาเบลน้องชายของเขา ปฏิกิริยาของพระเจ้าแสดงให้เห็นว่านัน่ เป็ นการต่อต้านและขัดขวางพระประสงค์พ้ืนฐานของ
พระเจ้า มันทำลายพันธะชีวิตของครอบครัว
30
กรกฎาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“แต่วาระนั้นใกล้เข้ามาแล้ว และบัดนี้ก็ถึงแล้ว คือเมื่อคนที่นมัสการอย่างแท้จริ งจะนมัสการพระบิดาด้วยจิตวิญญาณและความ
จริ ง เพราะว่าพระบิดาทรงแสวงหาคนเช่นนั้นมานมัสการพระองค์” (ยอห์น 4:23)
ไฟประจำวัน!
ข้าแต่องค์พระผูเ้ ป็ นเจ้า ข้าพระองค์เชื่อว่าพระองค์คือพระคริ สต์ พระผูช้ ่วยให้รอดของโลก
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
ยอห์น 4:1–42
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
ผูว้ ินิจฉัย 13; กิจการ 17
เย็น:
เยเรมีย ์ 26;
มาระโก 12
ก้ าวกระโดดแห่ งความเชื่อ
หญิงชาวสะมาเรี ยใน ยอห์น บทที่ 4 สอนบทเรี ยนที่ทรงพลังเกี่ยวกับความเชื่อ เป็ นตัวอย่างของคนบาปที่กา้ วกระโดด
ด้วยความเชื่อเข้าสู่ สิ่งที่เหนือธรรมชาติ เธอมาเพื่อตักน้ำจากบ่อขณะที่พระเยซูก ำลังพักอยูท่ ี่นนั่ จากการเดินอันร้อนระอุ พระองค์
ขอน้ำดื่มจากเธอซึ่งทำให้เธอประหลาดใจ เธอคิดว่าพระองค์เป็ นชาวยิวแปลก ๆ ที่มีอิสระมาก ด้วยการแหกกฎทั้งหมดด้วยการ
พูดกับชาวสะมาเรี ย ยิง่ กว่านั้นเมื่อพระองค์ตรัสว่าพระองค์สามารถให้น ้ำดื่มแก่เธอซึ่งจะเป็ น "บ่ อน้ำพุในตัวเขาพลุ่งขึน้ ถึงชี วิตนิ
รั นดร์ ” (ยอห์น 4:14) เมื่อถึงจุดนั้น เธอตัดสิ นใจพูดล้อเล่นกับพระองค์ โดยคิดว่าพระองค์ไร้เหตุผลเล็กน้อย เธอพูดติดตลกว่า
“ท่ านเจ้ าคะ ขอน้ำนั้นให้ ดิฉันเถิด เพื่อดิฉันจะได้ ไม่ กระหายอีก และจะได้ ไม่ ต้องมาตักที่นี่” (ข้อ 15) แน่นอนว่าเธอไม่ได้คาด
หวังอะไรแบบนี้ พระเยซูตรัสตอบเพียงว่า “ไปเรี ยกสามีของเธอมาที่นี่” (ข้อ 16) เธอตอบว่าเธอไม่มีสามีดว้ ยท่าทางไร้เดียงสา
จากนั้นพระเยซูกท็ ำให้เธอแตกเป็ นเสี่ ยง ๆ ด้วยการบรรยายถึงชีวิตที่แปดเปื้ อนของเธอ และบันทึกสามีที่เหมือนฮอลลีวดู ของเธอ
หญิงคนนั้นตอบด้วยความตกตะลึงว่า “ดิฉันเห็นจริ งๆ แล้ วว่ าท่ านเป็ นผู้เผยพระวจนะ” (ข้อ 19) เธอก้าวหน้าในการรับรู้และ
ความเชื่อ
พระเจ้านำการเปลี่ยนแปลงมา แต่พระองค์ไม่เคยเปลี่ยนแปลงตัวเอง
เมื่อพระเยซูตรัสว่า “เราอยูก่ บั ท่านเสมอ” พระองค์ไม่ได้สญ
ั ญา
แต่พระองค์กล่าวข้อเท็จจริ ง!
เปโตรไม่ได้เดินบนน้ำ
เขาเดินบนคำที่พดู ว่า "จงมา!"
1
สิ งหาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“ขอให้ค ำสดุดี พระเกียรติ พระสิ ริและอานุภาพ จงมีแด่พระองค์ผปู้ ระทับบนพระที่นงั่ และแด่พระเมษโปดก ตลอดไปเป็ นนิตย์!”
(วิวรณ์ 5:13)
ไฟประจำวัน!
ความรอด และพระสิ ริ และพระเกียรติ และฤทธิ์ อำนาจเป็ นขององค์พระผูเ้ ป็ นเจ้า พระเจ้าของเรา!
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
เศคาริ ยาห์ 13:6; กิจการ 1:11; วิวรณ์ 13:8; 19:1
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
ผูว้ ินิจฉัย 15; กิจการ 19
เย็น:
เยเรมีย ์ 28;
มาระโก 14
พระเยซู องค์ เดียวกันนี้
พระสิ ริของพระคริ สต์จะถูกเปิ ดเผยอีกครั้งเมื่อพระองค์เสด็จมาอีกครั้ง มันจะไม่ใช่พระสิ ริของพลังที่มีฤทธิ์ อำนาจ
เหนือใคร แต่เป็ นของไม้กางเขนที่มีชยั ชนะทั้งหมด พระองค์มาพร้อมกับเกียรติของพระบิดาที่ลอ้ มรอบหน้าผากที่มีรอยแผลเป็ น
จากหนามของพระองค์ เมื่อพระองค์เสด็จมาอีกครั้ง จะเป็ น “พระเยซูองค์ นี”้ (กิจการ 1:11) ซึ่งเสด็จไปสวรรค์ดว้ ยมือและเท้าที่
ถูกแทง พระคริ สต์คือพระคริ สต์ที่จะเสด็จกลับมา ไม่ใช่ “พระคริ สต์ ที่ได้ รับการรั กษาแล้ ว” ซึ่งการสิ้ นพระชนม์เพื่อคนบาปได้
ถูกลืมไปแล้ว แต่เป็ นพระคริ สต์ผยู้ งั มีเครื่ องหมายแห่งพระคุณที่ลบล้างไม่ได้ สวรรค์และแผ่นดินโลกรู้จกั พระองค์ตลอดกาลใน
ฐานะผูท้ ี่ถูกตรึ งที่ไม้กางเขน “พระเมษโปดกผู้ถกู ปลงพระชนม์ ตั้งแต่ แรกสร้ างโลก” (วิวรณ์ 13:8) พระเมษโปดกบนบัลลังก์จะ
เป็ นราชา!
ใครอีกที่แบกรับบาปของเราด้วยความเจ็บปวดและเลือด? จะมีพระผูช้ ่วยให้รอดอื่นใดได้อีกนอกจากพระองค์ผทู้ รง
แบกรับการล่วงละเมิดของเราและรับโทษสำหรับบาปของเรา? ในที่สุด สิ่ งที่เป็ นเรื่ องโง่เขลาสำหรับชาวกรี กและเป็ นหิ นสะดุด
สำหรับชาวยิว ซึ่งผูค้ นไม่สามารถเข้าใจได้กถ็ ูกเปิ ดเผย เป็ นพระสิ ริที่ยิง่ ใหญ่จริ งๆ!
3
สิ งหาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“พระองค์ตรัสกับพวกเขาว่า “เราบอกความจริ งกับพวกท่านว่า มีบางคนที่ยนื อยูท่ ี่นี่ จะไม่พบกับความตาย จนกว่าจะได้เห็นแผ่น
ดินของพระเจ้ามาด้วยฤทธิ์เดช” (มาระโก 9:1)
ไฟประจำวัน!
ข้าแต่องค์พระผูเ้ ป็ นเจ้า ขอทรงช่วยให้ขา้ พระองค์รู้วา่ ฤทธานุภาพของพระองค์ยงิ่ ใหญ่มากมายเพียงไรสำหรับข้าพระองค์
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
1 โคริ นธ์ 2:1–5; เอเฟซัส 1:15–19; 3:6–7, 20–21
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
ผูว้ ินิจฉัย 17; กิจการ 21
เย็น:
เยเรมีย ์ 30 และ 31; มาระโก 16
จุดแห่ งฤทธิ์อำนาจแบบไดนามิก
ข้ าพเจ้ า...ไม่ ได้ มาด้ วยถ้ อยคำหวานหู หรื อด้ วยความฉลาดปราดเปรื่ องเพื่อประกาศความล้ำลึกของพระเจ้ า...คำพูดและ
คำเทศนาของข้ าพเจ้ าไม่ ใช่ เป็ นการพูดชักชวนด้ วยปั ญญาแต่ เป็ นการสำแดงพระวิญญาณและฤทธานุภาพ...เพื่อความ
เชื่ อของพวกท่ านจะไม่ ขึน้ กับปั ญญาของมนุษย์ แต่ ขึน้ กับฤทธิ์ เดชของพระเจ้ า (1 โคริ นธ์ 2:1, 4–5) พระวิญญาณ
บริ สุทธิ์ และข่ าวประเสริ ฐแห่ งความรั กที่ทรงไถ่ ของพระคริ สต์ นั้นเชื่ อมโยงกันเป็ นชุดแห่ งชี วิตอย่ างแบ่ งแยกไม่ ได้ ถ้ า
คุณต้ องการเห็นฤทธิ์ อ ำนาจของพระเจ้ า ก็จงเพิกเฉยต่ อเทคนิค การปรุ งแต่ ง และคำแนะนำทางจิ ตใจทั้งหมด และเพียง
แค่ ประกาศพระคำ! นั่นคือที่ที่ฤทธิ์ อ ำนาจของพระเจ้ าถูกปลดปล่ อยออกมาในข่ าวประเสริ ฐ ผมไม่ ได้ เอาเพียงสิ่ งเดียว
ออกจากหี บสมบัติของพระเจ้ า ผมป่ าวประกาศข่ าวประเสริ ฐทั้งหมด ซึ่ งบรรจุทุกสิ่ งที่มนุษย์ เราต้ องการเอาไว้ นั่นคือ
ความรอด การรั กษาโรค สันติสุข ความหวัง และการปลดปล่ อย
นั่นก็คือคนต่ างชาติได้ เป็ นผู้ร่วมรั บมรดก เป็ นอวัยวะของกายเดียวกัน และเป็ นผู้มีส่วนร่ วมในพระสัญญาในพระเยซู
คริ สต์ โดยทางข่าวประเสริ ฐ ข้ าพเจ้ ามาเป็ นผู้ปรนนิบัติของข่ าวประเสริ ฐนีต้ ามของประทานแห่ งพระคุณที่พระเจ้ าประ
ทานแก่ ข้าพเจ้ าโดยกิจการที่ทรงฤทธานุภาพของพระองค์ ...ขอให้ พระเกียรติมีแด่ พระองค์ ผ้ ทู รงสามารถทำทุกสิ่ งได้
มากยิ่งกว่ าที่เราทูลขอหรื อคิด โดยฤทธานุภาพที่ทำกิจอยู่ภายในเรา ขอให้ พระเกียรติจงมีแด่ พระองค์ ในคริ สตจักรและ
ในพระเยซูคริ สต์ ตลอดทุกชั่วอายุคนเป็ นนิตย์ อาเมน (เอเฟซัส 3:6–7, 20–21) ข้ อความเหล่ านีเ้ ป็ นเพียง 2 ข้ อความจาก
หลายข้ อความ ซึ่ งใช้ ค ำว่ า ฤทธานุภาพ แต่ ความจริ งแล้ ว พันธสัญญาใหม่ ทั้งเล่ มสามารถแสดงให้ เห็นฤทธานุภาพนั้น
ได้ ซึ่ งก็คือสาระสำคัญของการเป็ นพยานของคริ สเตียน ไม่ ใช่ เครื่ องประดับของข่ าวประเสริ ฐ ไม่ ใช่ กระดิ่งบน
จักรยาน แต่ เป็ นเครื่ องจักรทั้งหมด! ไม่ เคยมีค ำใบ้ แม้ เพียงเล็กน้ อยว่ าสาวกบางคนจะไร้ ฤทธานุภาพ ถ้ าคุณเป็ นผู้เชื่ อ
แล้ ว ฤทธานุภาพก็มีสำหรั บคุณ เปาโลใช้ เวลา 3 ปี ครึ่ งเทศนาคำแนะนำทั้งหมดของพระเจ้ าแก่ ชาวเอเฟซัส แต่ เขาก็ต้อง
เขียนถึงพวกเขาในภายหลังว่ า "ข้าพเจ้ า...กล่ าวถึงท่ านทั้งหลายไม่ หยุดเลยในคำอธิ ษฐานของข้ าพเจ้ า ... ขอให้ ตาใจ
ของพวกท่ านสว่ างขึน้ เพื่อจะได้ ร้ ู ว่า...ฤทธานุภาพของพระองค์ ยิ่งใหญ่ มากมายเพียงไรสำหรั บเราที่เชื่ อนั้น” (เอเฟซัส
1:15–19) พระเจ้ าทรงให้ อ ำนาจแก่ ผ้ ทู ี่พระองค์ ทรงส่ งไป นั่นคือคุณและผม
4
สิ งหาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“ในผูอ้ ื่นความรอดไม่มีเลย เพราะว่านามอื่นซึ่งให้เราทั้งหลายรอดได้น้ นั ไม่โปรดให้มีท่ามกลางมนุษย์ทวั่ ใต้ฟ้า” (กิจการ 4:12)
ไฟประจำวัน!
พระวิญญาณบริ สุทธิ์ เองทรงรับรองว่าฉันเป็ นลูกของพระเจ้า
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
ยอห์น 5:24; กิจการ 4:10–12; โรม 3:24; 8:16; วิวรณ์ 12:10–11
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
ผูว้ ินิจฉัย 18; กิจการ 22
เย็น:
เยเรมีย ์ 32; สดุดี 1 และ 2
พิสูจน์ ความรอด
เรื่ องความรอดเป็ นสิ่ งที่สำคัญสำหรับผม และอยูใ่ นเนื้ อหาของพระคัมภีร์ท้ งั หมด! ผูค้ นที่มีแนวคิดเสรี นิยมในทุกวันนี้
ชอบหาเหตุผลว่าเป็ นไปไม่ได้ที่จะรู้วา่ คุณมีความรอด และเราจะต้องรอจนถึงชีวิตหลังความตาย (บางคนกล่าวว่าถ้าสิ่ งนี้มีจริ ง)
จึงจะค้นพบว่าแท้จริ งแล้วความรอดนั้นให้ชีวิตนิรันดร์ หรื อไม่ แต่พระเยซูท ำให้ชดั เจนว่าเราสามารถรู้ ได้วา่ เราได้รับความรอด
ความมัน่ ใจนั้นสามารถเป็ นแรงบันดาลใจให้เราแบ่งปันความรอดกับผูอ้ ื่น ก็ให้ท่านทั้งหลายกับบรรดาชนอิสราเอลทราบเถิดว่า
โดยพระนามของพระเยซูคริ สต์ชาวนาซาเร็ ธที่พวกท่านตรึ งไว้ที่กางเขน ผูซ้ ่ ึงพระเจ้าทรงให้เป็ นขึ้นจากตาย โดยพระองค์น้ นั
แหละชายคนนี้ ที่ยนื อยูต่ ่อหน้าพวกท่านจึงได้หายเป็ นปกติ พระองค์ทรงเป็ น ศิลา ที่พวกท่านผูเ้ ป็ นช่างก่อสร้างละทิ้ง ซึ่งกลับ
กลายเป็ นศิลามุมเอกแล้ว ในผูอ้ ื่นความรอดไม่มีเลย เพราะว่านามอื่นซึ่งให้เราทั้งหลายรอดได้น้ นั ไม่โปรดให้มีท่ามกลางมนุษย์
ทัว่ ใต้ฟ้า (กิจการ 4:10–12) อย่างไรก็ตาม ซาตานยังคงพยายามบ่อนทำลายความมัน่ ใจในของประทานแห่งความรอดที่พระเยซู
คริ สต์ประทานให้บนไม้กางเขน เราต้องป้ องกันการโกหกและการกล่าวหาของมัน บัดนี้ ความรอดและฤทธิ์เดช และอาณาจักร
ของพระเจ้าของเรา และสิ ทธิ อ ำนาจของพระคริ สต์ของพระองค์มาถึงแล้ว เพราะว่าผูก้ ล่าวหาพี่นอ้ งของเรา ถูกโยนลงไปแล้ว คือ
ผูท้ ี่กล่าวหาพวกเขาเฉพาะพระพักตร์พระเจ้าของเราทั้งกลางวันและกลางคืนนั้น พวกเขาชนะมารด้วยพระโลหิ ตของพระเมษโป
ดก และด้วยคำพยานของพวกเขาเอง และพวกเขาไม่ได้รักตัวกลัวตาย (วิวรณ์ 12:10–11) การได้รับความรอดไม่ใช่ประสบการณ์
ธรรมดาๆ ที่คุณแทบจะไม่สงั เกตเห็น เมื่อคุณกลับใจ เชื่อ และมาหาพระเยซูคริ สต์ องค์พระผูเ้ ป็ นเจ้าและพระผูช้ ่วยให้รอด
พระองค์ทรงต้อนรับคุณ และคุณได้รับการชำระให้บริ สุทธิ์ ในพระโลหิ ตอันล้ำค่าของพระองค์! ความรอดนั้นแน่นอนและ
สมบูรณ์ ไร้สาระจริ ง ๆ ที่คิดว่าพระเยซูจะพบคุณและต้อนรับคุณ แต่ไม่ตอ้ งการให้คุณรู้เรื่ องนี้ ! อันที่จริ ง พระองค์ไม่ได้กีดกัน
สิ่ งนี้ไว้จากคุณ “พระวิญญาณนั้นเป็ นพยานร่ วมกับจิ ตวิญญาณของเราว่ า เราเป็ นลูกของพระเจ้ า” (โรม 8:16) ยังมีสิ่งที่ยงิ่ ใหญ่
กว่านั้น นัน่ คือคุณ “เป็ นผู้ชอบธรรมโดยไม่ คิดมูลค่ าโดยพระคุณของพระองค์ ” (โรม 3:24) ช่างเป็ นพระสัญญาของพระเจ้า
สำหรับคุณที่ควรยึดไว้ในวันนี้ จริ งๆ!
5
สิ งหาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“และพระองค์ท ำให้พวกท่านมีชีวิตขึ้น ซึ่งตายในการละเมิดและความบาป” (เอเฟซัส 2:1)
ไฟประจำวัน!
เราไม่สามารถมีประสบการณ์กบั พระวิญญาณบริ สุทธิ์ และไม่แสดงสัญญาณของประสบการณ์น้ นั ได้
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
กิจการ 26:24; 2 โคริ นธ์ 4:7; เอเฟซัส 2:1; 3:16
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
ผูว้ ินิจฉัย 19; กิจการ 23
เย็น:
เยเรมีย ์ 33; สดุดี 3 และ 4
นักวิจารณ์ ไม่ เข้ าใจ
เมื่อเราเรี ยนรู้มากขึ้นเกี่ยวกับกิจกรรมของพระวิญญาณบริ สุทธิ์ เราไม่ควรวิตกกังวลเมื่อถูกวิจารณ์ ไม่มีงานยิง่ ใหญ่ของ
พระผูเ้ ป็ นเจ้าที่ไม่เคยถูกท้าทายโดยผูท้ ี่คิดว่าพวกเขารู้ดีกว่า นักศาสนศาสตร์ โรนัลด์ เอ. น็อกซ์แสดงความดูถูกจอห์น เวสลีย ์
โดยอธิบายว่าเขาเป็ นแค่ “คนที่กระตือรื อร้ น”—เป็ นคนที่เกินเลยหรื อไม่สมดุล คุณพ่อน็อกซ์อาจเป็ นตัวอย่างของนักวิชาการที่
ยอดเยีย่ ม แต่จากหนังสื อของเขาที่ชื่อว่า Enthusiasm เป็ นที่ชดั เจนว่าเขาไม่ได้อยูก่ บั 120 คนในวันเพ็นเทคอสต์ โจเซฟ บัตเลอร์
(บิชอปปัญญาชนแห่งบริ สตอล) บอกเวสลียว์ า่ เขาถือว่าประสบการณ์แบบคาริ มเมติคนั้นค่อนข้าง "น่ากลัว" โอ. ที. ดอบบิน ออก
มาปกป้ องเวสลียใ์ นปี 1848 ว่า “เรายอมรับว่าเวสลียเ์ ป็ นคนที่กระตือรื อร้น แต่ในระดับที่ชายผูเ้ ปี่ ยมล้นด้วยพระวิญญาณบริ สุทธิ์
มากกว่าปกติควรจะเป็ นผูท้ ี่กระตือรื อร้น” กฎข้อแรกของเวสลียส์ ำหรับผูด้ ูแลของสังคมเมธอดิสต์ โดยอ้างจาก เอเฟซัส 3:16 คือ
“ให้ เข้มแข็งภายในจิ ตใจด้ วยฤทธานุภาพที่มาทางพระวิญญาณในมนุษย์ ภายใน" จอร์จ ไวท์ฟิลด์ ผูเ้ ผยแพร่ ข่าวประเสริ ฐที่ยิง่
ใหญ่ เป็ นชายอีกคนหนึ่งที่เต็มไปด้วยพระวิญญาณบริ สุทธิ์
7
สิ งหาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“ไม่ใช่ธุระของพวกท่านที่จะรู้เวลาและวาระที่พระบิดาทรงกำหนดไว้โดยสิ ทธิ อ ำนาจของพระองค์ แต่พวกท่านจะได้รับพระราช
ทานฤทธานุภาพ เมื่อพระวิญญาณบริ สุทธิ์ เสด็จมาเหนือท่าน และท่านทั้งหลายจะเป็ นสักขีพยานของเรา...จนถึงที่สุดปลายแผ่น
ดินโลก” (กิจการ 1:7–8)
ไฟประจำวัน!
พระคริ สต์ได้ทรงสัญญาว่า เราจะกลับมาอีกและรับท่านไปอยูก่ บั เรา เพื่อว่าเราอยูท่ ี่ไหนพวกท่านจะได้อยูท่ ี่นนั่ ด้วย
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
สุ ภาษิต 28:1; เยเรมีย ์ 10:2, 16; ยอห์น 14:3; กิจการ 1:7–8
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
ผูว้ ินิจฉัย 21; กิจการ 25
เย็น:
เยเรมีย ์ 35; สดุดี 7 และ 8
ความหวาดกลัวจากวิญญาณชั่ว
ความไม่เชื่อทำให้อนาคตเต็มไปด้วยความกลัวที่ยิง่ ใหญ่ “ข้อผิดพลาดสหัสวรรษ” สร้างความตื่นตระหนกเป็ นวงกว้าง
บางคนถึงกับเตรี ยมที่หลบภัยไว้ใต้ดิน ในการรับเข้า ผูส้ มัครที่ศูนย์พกั พิงแห่งหนึ่งต้องมีปืน 1 กระบอก กระสุ น 1 พันนัด และ
อาหารเพียงพอสำหรับ 1 ปี ความหวาดกลัวแบบนี้ ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากวิญญาณชัว่ !
“คนอธรรมหนี เมื่อไม่ มีใครไล่ ตาม” (สุ ภาษิต 28:1) แต่พระเจ้าทรงกระซิบการรับประกันซึ่งเป็ นความลับแก่ผทู้ ี่รัก
พระองค์ พระองค์มีอนาคตรอเราอยู่ ผูไ้ ม่เชื่ออยูใ่ นเงาถาวรของความไม่แน่นอนและความวิตกกังวล เมื่อเวลาผ่านไป บรรดา
ประชาชาติหวาดกลัวต่อเหตุการณ์ที่เกิดจากดวงดาว แต่เยเรมียก์ ล่าวว่า “อย่ าคร้ ามกลัวเพราะหมายสำคัญของท้ องฟ้ า ตามที่บรร
ดาประชาชาติคร้ ามกลัวนั้น” (เยเรมีย ์ 10:2) “พระเจ้ า ผู้ทรงสร้ างฟ้ าสวรรค์ และแผ่ นดินโลก …” (สดุดี 146:5–6) “พระยาห์ เวห์
จอมทัพคือพระนามของพระองค์ ” (เยเรมีย ์ 10:16) วลีที่วา่ "อย่ากลัว" เป็ นคุณลักษณะพิเศษในพระคัมภีร์ เกิดขึ้น 66 ครั้ง แต่พระ
คัมภีร์จดั การกับความกลัวในเชิงบวกมากกว่า 500 ครั้ง!
เราบอกความจริ งกับท่ านว่ า ถ้ าคนใดไม่ ได้ เกิดใหม่ คนนั้นไม่ สามารถเห็นแผ่ นดินของพระเจ้ า...ถ้ าใครไม่ ได้ เกิดจาก
น้ำและพระวิญญาณ คนนั้นจะเข้าในแผ่ นดินของพระเจ้ าไม่ ได้ ที่ เกิดจากเนือ้ หนังก็เป็ นเนือ้ หนัง และที่เกิดจากพระวิญ
ญาณก็เป็ นวิญญาณ (ยอห์ น 3:3, 5–6) ยอห์ นกล่ าวว่ า “ท่ านที่รักทั้งหลาย เดี๋ยวนี เ้ ราเป็ นลูกของพระเจ้ า และเราจะเป็ น
อย่ างไรต่ อไปข้างหน้ านั้นเรายังไม่ ร้ ู ...เราจะเป็ นเหมือนอย่ างพระองค์ ” (1 ยอห์ น 3:2) เราจะเป็ นอะไร เรายังไม่ เข้ าใจ
แต่ เรารู้ ว่าเราเป็ นใคร นั่นคือลูกของพระเจ้ า พระเยซูตรั สว่ า “เราบอกความจริ งกับพวกท่ านว่ า ถ้ าใครฟั งคำของเราและ
วางใจผู้ทรงใช้ เรามา คนนั้นก็มีชีวิตนิรันดร์ และไม่ ถกู พิพากษา แต่ ผ่านพ้ นความตายไปสู่ชีวิตแล้ว” (ยอห์ น 5:24)
นัน่ ทรงพลังมาก! ซึ่งบอกว่าถ้าคุณได้กลับใจและได้รับพระเยซูเป็ นพระผูช้ ่วยให้รอดของคุณเอง คุณก็มีชีวิตนิรันดร์
และได้ขา้ มจากความตายไปสู่ชีวิตแล้ว สรรเสริ ญองค์พระผูเ้ ป็ นเจ้า!
9
สิ งหาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“พระคริ สต์วายพระชนม์เพราะบาปของเรา ตามที่เขียนไว้ในพระคัมภีร์” (1 โคริ นธ์ 15:3)
ไฟประจำวัน!
พระคริ สต์วายพระชนม์เพื่อฉัน—ฉันเชื่อสิ่ งนี้—ฉันถูกช่วยให้รอดแล้ว!
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
1 โคริ นธ์ 1:8; 2:2–4; 15:3
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
นางรู ธ 2; กิจการ 27
เย็น:
เยเรมีย ์ 37;
สดุดี 9
เปิ ดสวิตช์ ไฟ!
เมื่ออัครทูตเปาโลเทศนาในเมืองโคริ นธ์ เขาไม่ได้รู้สึกแข็งแกร่ งทางร่ างกายและเต็มไปด้วยพละกำลัง เขาอ่อนแอและ
ตัวสัน่ อันที่จริ งเขายังพูดถึงความสิ้ นหวังในชีวิตในบางครั้ง คำเทศนาของเขาเรี ยบง่ายและตรงไปตรงมา เขาไม่ได้อาศัยคำพูดที่
แพรวพราว แต่เทศนาใน “การสำแดงพระวิญญาณและฤทธานุภาพ” (1 โคริ นธ์ 2:4) ผลกระทบรุ นแรงมาก และหลายคนกลับใจ
และได้รับความรอด เขาเทศนาอะไรถึงมีผลเช่นนั้น? ความลับอยูใ่ นสิ่ งที่เขากล่าวว่า “เพราะข้าพเจ้ าตั้งใจว่ าจะไม่ แสดงความรู้
เรื่ องใดๆ ในหมู่พวกท่ านเลย เว้ นแต่ เรื่ องพระเยซูคริ สต์ และการที่พระองค์ ทรงถูกตรึ งที่กางเขน” (1 โคริ นธ์ 2:2) ความรอดไม่ได้
อยูท่ ี่แค่ค ำพูด แต่ข้ ึนอยูก่ บั สิ่ งที่เกิดขึ้น นัน่ คือ "พระคริ สต์ วายพระชนม์ เพราะบาปของเรา ตามที่เขียนไว้ ในพระคัมภีร์” (1 โคริ น
ธ์ 15:3)
ถ้าคุณต้องการความมัน่ ใจว่าวันนี้พระเจ้ายิม้ ให้คุณ อยูข่ า้ งคุณ และวันหนึ่งคุณจะได้รับการต้อนรับในสวรรค์ นี่คือสิ่ งที่
จะต้องทำ อันดับแรก คุณได้ยนิ หรื ออ่านข่าวประเสริ ฐที่วา่ พระคริ สต์วายพระชนม์เพื่อไถ่บาปของคุณ ต่อจากนั้น คุณเชื่อในข่าว
ประเสริ ฐและกลับใจใหม่ และฤทธิ์ อ ำนาจของพระเจ้าจะนำคุณประโยชน์ของการสิ้ นพระชนม์แห่งการทรงไถ่ของพระคริ สต์มา
ประยุกต์ใช้กบั หัวใจของคุณ จากนั้น บางสิ่ งที่มหัศจรรย์กเ็ กิดขึ้น นัน่ คือพระคำของพระเจ้าชุบชีวิตวิญญาณที่ตายแล้วของคุณ
และคุณมีชีวิตในพระเจ้า ได้รับการชำระให้สะอาดและหายเป็ นปกติ สิ่ งที่พระเยซูท ำเพื่อคุณบนไม้กางเขนนั้น พระวิญญาณ
บริ สุทธิ์ ได้นำเข้ามาในชีวิตของคุณ
11
สิ งหาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“จนกว่าเราทุกคนจะบรรลุถึงความเป็ นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในความเชื่อและในความรู้ถึงพระบุตรของพระเจ้า บรรลุถึงความเป็ นผู้
ใหญ่ คือโตเต็มถึงขนาดความบริ บูรณ์ของพระคริ สต์” (เอเฟซัส 4:13)
ไฟประจำวัน!
น้ำมันแห่งพระวิญญาณบริ สุทธิ์ ที่หลัง่ ไหลเข้ามาในชีวิตทำให้ฉนั สามารถดำเนินชีวิตในความเป็ นน้ำหนึ่งใจเดียวกันกับพี่นอ้ งใน
พระคริ สต์ได้
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
สดุดี 133:1–3; เอเฟซัส 4:3, 13; 4:12–13
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
1 ซามูเอล 1;
โรม 1
เย็น:
เยเรมีย ์ 39; สดุดี 13 และ 14
น้ำมันล้ำค่ า
พระคัมภีร์ใช้ตวั อย่างที่ชดั เจนมากสำหรับหลักการแห่งความเป็ นน้ำหนึ่ งใจเดียวกัน นัน่ คือน้ำมัน! น้ำมันในพระคัมภีร์
แสดงถึงการทำงานของพระวิญญาณบริ สุทธิ์ เสมอ ไม่วา่ จะเป็ นน้ำมันในตะเกียง น้ำมันเจิม น้ำมันเครื่ องสำอาง หรื อน้ำมันหอม
แนวคิดนี้ มาจากเพลงสดุดีที่วา่ “ดูเถิด เป็ นการดีและน่ าชื่ นใจมากสักเท่ าใด ที่ พี่น้องอาศัยอยู่ด้วยกันเป็ นน้ำหนึ่งใจเดียว เหมือน
น้ำมันประเสริ ฐอยู่บนศีรษะ” (สดุดี 133:1–2) นี่หมายถึงพิธีเทน้ำมันหอมพิเศษบนศีรษะของมหาปุโรหิ ตแห่งอิสราเอล
ทำไมความเป็ นน้ำหนึ่งใจเดียวกันเหมือนน้ำมัน? เพราะว่าพระวิญญาณบริ สุทธิ์ ทรงเป็ นน้ำมัน และพระองค์ทรงนำ
ความเป็ นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ความเป็ นน้ำหนึ่งใจเดียวกันโดยน้ำมันของพระวิญญาณที่เทลงบนเรานั้นเหมือนกับน้ำมันที่เทลง
บนศีรษะในสดุดี 133 เหมือนน้ำมันประเสริ ฐอยูบ่ นศีรษะ ไหลลงมาบนหนวดเครา ...ของอาโรน ไหลลงมาบนคอเสื้ อของท่าน
เหมือนน้ำค้างของภูเขาเฮอร์ โมน ซึ่งตกลงบนเทือกเขาศิโยน เพราะว่าพระยาห์เวห์ทรงบัญชาพระพรที่นนั่ คือชีวิตยืนยาวเป็ น
นิตย์!” (สดุดี 133:2–3) สังเกตว่าน้ำมันนี้ถูกเทลงอย่างฟุ่ มเฟื อยไหลลงมาถึงชายเสื้ อคลุมของอาโรน ความเป็ นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน
มีผลกระทบอย่างกว้างขวาง จุดประสงค์ของการเทน้ำมันของพระวิญญาณบริ สุทธิ์ น้ ีคือ “เพื่อเตรี ยมธรรมิกชนสำหรั บการปรน
นิ บัติ...จนกว่ าเราทุกคนจะบรรลุถึงความเป็ นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในความเชื่ อ” (เอเฟซัส 4:12–13) ดังนั้นความเชื่อจึงเข้ามาด้วย
ความเชื่อ พระวิญญาณบริ สุทธิ์ และในความเป็ นน้ำหนึ่งใจเดียวกันล้วนมีบทบาท
ตอนนี้พระคัมภีร์กล่าวว่า “จงพยายามรั กษาความเป็ นน้ำหนึ่งใจเดียวกันที่มาจากพระวิญญาณนั้น โดยมีสันติภาพเป็ น
เครื่ องผูกพัน” (เอเฟซัส 4:3) ความเป็ นน้ำหนึ่งใจเดียวกันมีอยูจ่ ริ ง เราเพียงต้องรักษาไว้ ความเป็ นน้ำหนึ่งใจเดียวกันคือการสถิต
อยูข่ องพระวิญญาณบริ สุทธิ์ ในผูเ้ ชื่อทุกคน คุณเป็ นหนึ่งในพระองค์ทนั ทีที่คุณเชื่อ
12
สิ งหาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“ถ้าเรามีชีวิตอยูโ่ ดยพระวิญญาณ ก็จงดำเนินชีวิตตามพระวิญญาณด้วย” (กาลาเทีย 5:25)
ไฟประจำวัน!
“สองคนจะเดินไปด้วยกันได้หรื อ นอกจากทั้งสองจะได้ตกลงกันไว้ก่อน?” (อาโมส 3:3)
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
อาโมส 3:3; ลูกา 22:42; ยอห์น 10:30; กาลาเทีย 5:25; 6:2; เอเฟซัส 4:4; 6:11
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
1 ซามูเอล 2;
โรม 2
เย็น:
เยเรมีย ์ 40; สดุดี 15 และ 16
ความมุ่งมัน่
ไม่มีใครจะสามารถมีความเป็ นน้ำหนึ่งใจเดียวกันได้ดว้ ยตัวเอง คุณไม่สามารถแต่งงานกับตัวเองได้ ไม่มีสิ่งที่เรี ยกว่าผู้
เชื่ออิสระ คุณไม่สามารถมีความเป็ นน้ำหนึ่งใจเดียวกันโดยที่ไม่อยูท่ ี่ไหนเลย บางคนบอกว่าพวกเขาเป็ นส่ วนหนึ่งของคริ สตจักร
สากล แต่ไม่มีความมุ่งมัน่ เป็ นพิเศษกับที่ไหนเลย นัน่ หมายความว่าไม่มีใครสามารถพึ่งพาคนเหล่านี้ได้ คริ สตจักรไม่สามารถ
สร้างบนทุ่นลอยน้ำได้
ผูเ้ ชื่อที่บงั เกิดใหม่ทุกคนอยู่ “ในพระคริ สต์ ” กับคนอื่นๆ “มีกายเดียวและมีพระวิญญาณองค์ เดียว” (เอเฟซัส 4:4) นัน่
คือพระกายที่ยงิ่ ใหญ่ของผูเ้ ชื่อในสวรรค์และบนแผ่นดินโลก ทุกสิ่ งในพันธสัญญาใหม่ช้ ีให้เห็นถึงความเป็ นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน
เราต้องแบกรับภาระของกันและกัน ยกตัวอย่างเช่น “จงช่ วยรั บภาระของกันและกัน และด้ วยการกระทำเช่ นนี ท้ ่ านทั้งหลายก็ได้
ปฏิบัติตามธรรมบัญญัติของพระคริ สต์ ” (กาลาเทีย 6:2) เราจะทำเช่นนั้นได้อย่างไร ถ้าเราไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคริ สเตียนคนอื่น?
16
สิ งหาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“พระองค์ผทู้ รงเริ่ มต้นการดีไว้ในพวกท่าน จะทรงทำให้สำเร็ จ” (ฟี ลิปปี 1:6)
ไฟประจำวัน!
ข้าแต่องค์พระผูเ้ ป็ นเจ้า พระคำของพระองค์เป็ นความจริ ง ข้าพระองค์อ่านสิ่ งที่พระองค์ได้ท ำ ดังนั้นข้าพระองค์จึงรู้วา่ พระองค์
จะทำอะไร
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
สดุดี 27:3; ยอห์น 2:17; ฟิ ลิปปี 1:6; 1 ทิโมธี 4:8
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
1 ซามูเอล 7 และ 8; โรม 6
เย็น:
เยเรมีย ์ 44; สดุดี 20 และ 21
ความเชื่อใน 3 เวลา
วันนี้ “เมื่อวาน” มาเคาะประตูหอ้ งเรา บอกเราเกี่ยวกับ “พรุ่ งนี้” สิ่ งที่เราเชื่อว่าจะเป็ นนั้นมาจากสิ่ งที่เคยเป็ นมา เช่น
เดียวกับสภาพอากาศ ชีวิตเป็ นเรื่ องของความน่าจะเป็ น ยกเว้นสิ่ งเดียว นัน่ คือน้ำพระทัยของพระเจ้า พระเจ้าไม่ได้รับผลกระทบ
จากการเปลี่ยนแปลง น้ำพระทัยของพระเจ้าเป็ นกุญแจสำคัญที่จะนำระเบียบออกจากความโกลาหล ธุรกิจแห่งความเชื่อนี้ จ ำเป็ น
สำหรับธุรกิจแห่งชีวิต เราต้องไว้วางใจได้วา่ น้ำจากก๊อกของเราไม่มีสารพิษ หาเงินหรื อทำมาหากินก็เหมือนกัน แต่ความเป็ น
ห่วงของผมคือการดำเนินชีวิต เราสามารถสร้างความวุน่ วายหรื องานที่ดีได้ เราสามารล้มเหลวในการดำเนินชีวิตได้ในขณะที่
ประสบความสำเร็จในการทำมาหากิน “ทางพระเจ้ าก็มีประโยชน์ ทุกด้ าน เพราะมีพระสัญญาสำหรั บชี วิตปั จจุบันและอนาคต”
(1 ทิโมธี 4:8)
ความเชื่อสามารถดึงเราออกจากโพรงเล็ก ๆ ที่อบอุ่นและพาเราไปหาพระเจ้าได้ พระเจ้าประทานงานระดับโลกให้แก่
ผม นัน่ คือจัดพิมพ์และแจกจ่ายหนังสื อข่าวประเสริ ฐชั้นหนึ่งสำหรับทุกบ้านในหลายประเทศ ผมไม่มีเงินสำหรับโครงการที่น่า
อัศจรรย์ แต่ผมมีความเชื่อ ตอนนี้ ผมได้เห็นพระเจ้าตอบสนองความจำเป็ นในหลายประเทศ ด้วยจุลสารที่ชื่อว่า “ลบเป็ นบวก”
ในปัจจุบนั หนังสื อและจุลสารอื่นๆ ของเราได้รับการแปลเป็ นภาษาและภาษาถิ ่นต่างๆ กว่า 142 ภาษา และจนถึงขณะนี้ เราได้
พิมพ์ออกมาแล้วกว่า 152 ล้านเล่ม!
19
สิ งหาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“ในวันนั้น รากของเจสซี จะตั้งขึ้นเป็ นสัญญาณแก่ชนชาติท้ งั หลาย และท่านจะเป็ นที่แสวงหาของบรรดาประชาชาติ และที่พ ำ
นักของท่านจะรุ่ งโรจน์” (อิสยาห์ 11:10)
ไฟประจำวัน!
คริ สตจักรเป็ นเรื อชูชีพ ไม่ใช่เรื อสำราญ เพื่อนำข่าวแห่งความรอดไปสู่ ผหู้ ลงหาย
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
อิสยาห์ 6:3; 11:1–2, 9–10; ฮาบากุก 2:14; มาระโก 16:15
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
1 ซามูเอล 11; โรม 9
เย็น:
เยเรมีย ์ 48;
สดุดี 25
น้ำท่ วมเฉียบพลัน!
พระเจ้าตรัสว่า “เพราะว่ าพิภพจะเต็มไปด้ วย ความรู้ ในเรื่ องพระสิ ริของพระยาห์ เวห์ ดังน้ำที่เต็มทะเล” (ฮาบากุก 2:14)
น้ำปกคลุมทะเลอย่างไร? ละเอียดจนไม่มีจุดแห้งแม้แต่จุดเดียวที่กน้ ทะเล! สิ่ งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงแผนการของพระเจ้า
นัน่ คือความรู้เรื่ องพระสิ ริ ฤทธิ์ อำนาจ และความรอดของพระองค์จะกระจายไปทัว่ โลกเหมือนน้ำท่วมฉับพลัน จะไม่มีที่แห้ง
แม้แต่จุดเดียว ไม่มีประเทศ นคร บ้าน หมู่บา้ น ครอบครัว หรื อปัจเจกชนที่ไม่รู้ เสราฟิ มร้องต่อผูเ้ ผยพระวจนะอิสยาห์วา่ “แผ่ น
ดินโลกทั้งสิ ้นเต็มด้ วยพระสิ ริของพระองค์ ” (อิสยาห์ 6:3)
ความรู้เรื่ องพระเจ้านี้ มาผ่านทางพระเยซูคริ สต์ พระบุตรของพระองค์เอง:
20
สิ งหาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“ทั้งนี้ พระเจ้าก็ทรงเป็ นพยานด้วยโดยหมายสำคัญ การอัศจรรย์ และการอิทธิ ฤทธิ์ต่างๆ นานา และโดยของประทานจากพระวิญ
ญาณบริ สุทธิ์ ตามพระประสงค์ของพระองค์” (ฮีบรู 2:4)
ไฟประจำวัน!
“ข้าแต่พระยาห์เวห์ ผูท้ รงเป็ นกำลังของข้าพระองค์ ข้าพระองค์รักพระองค์”
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
สดุดี 18:1; ดาเนียล 4:34, 37; ลูกา 10:8–9; 1 โคริ นธ์ 13:13; ฮีบรู 2:4
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
1 ซามูเอล 12; โรม 10
เย็น:
เยเรมีย ์ 49; สดุดี 26 และ 27
การอัศจรรย์ เป็ นลักษณะของราชอาณาจักร
การอัศจรรย์เป็ นเรื่ องปกติส ำหรับราชอาณาจักร พระเยซูทรงส่ งเหล่าสาวกออกไปและตรัสว่า “เมื่อพวกท่ านเข้าไปใน
เมืองไหนและมีคนต้ อนรั บท่ าน จงรั บประทานสิ่ งที่เขาจัดให้ และจงรั กษาคนป่ วยในเมืองนั้นให้ หายและแจ้ งกับเขาว่ า ‘แผ่ นดิน
ของพระเจ้ ามาใกล้ พวกท่ านแล้ว’” (ลูกา 10:8–9) ก่อนพระคริ สต์ การอัศจรรย์มีไม่มาก เป็ นการมาเยีย่ มเยียนครั้งประวัติศาสตร์
ของพระเจ้า ไม่มีของประทานในการรักษาคนตาบอด คนพิการ หรื อคนหูหนวก คนที่โดดเด่น เช่น ดาวิด เอสรา เนหะมีย ์ เยเรมีย ์
และเอสเธอร์ ไม่เคยพบเห็นสิ่ งมหัศจรรย์ทางร่ างกายเลยสักครั้ง และบางคนไม่เคยประสบกับสิ่ งเหนือธรรมชาติเลย เอสราไม่
เคยรู้สึกถึงการเคลื่อนไหวของพระวิญญาณ เขาไม่เคยมีนิมิต การเรี ยก พระสุ รเสี ยง หรื อแม้แต่การแต่งตั้งเป็ นผูเ้ ผยพระวจนะ เขา
สามารถไว้วางใจพระคำเพียงอย่างเดียว โดยทัว่ ไปแล้ว หมายสำคัญและการอัศจรรย์บางอย่างที่เห็นนั้นเป็ นการสำแดงเพื่อว่า
กล่าวผูป้ กครอง เช่น เจ้านายที่กดขี่ของอียปิ ต์ บาบิโลน และอิสราเอล การอัศจรรย์เหล่านี้มีจุดประสงค์เพื่อทำให้พวกเขาถ่อมใจ
เช่นเดียวกับที่เคยทำกับเนบูคดั เนสซาร์ เขาถูกบังคับให้ยอมรับว่าพระเจ้า “การปกครองของพระเจ้ าเป็ นการปกครองนิรันดร์
และราชอาณาจักรของพระองค์ ด ำรงอยู่ทุกชั่วอายุ...บัดนีต้ ัวเราคือเนบูคัดเนสซาร์ ขอสรรเสริ ญ ยกย่ องและถวายพระเกียรติแด่
พระมหาราชาแห่ งสวรรค์ ” (ดาเนียล 4:34, 37)
แล้ วก็เกิดความมืดมัวทั่วแผ่ นดิน ตั้งแต่ เวลาเที่ยงวันจนถึงบ่ ายสามโมง...และพระเยซูทรงร้ องเสี ยงดังอีกครั้ งหนึ่ง แล้ ว
สิ ้นพระชนม์ และนี่ แน่ ะ ม่ านในพระวิหารก็ฉีกขาดออกเป็ นสองท่ อนตั้งแต่ บนตลอดล่ าง แผ่ นดินก็ไหว ศิลาก็แตก
ออกจากกัน อุโมงค์ ฝังศพต่ างๆ ก็เปิ ดออก ศพของธรรมิกชนหลายคนที่ล่วงหลับไปแล้ วก็เป็ นขึน้ มา...แต่ นายร้ อยและ
พวกทหารที่เฝ้ าพระเยซูอยู่ด้วยกัน เมื่อเห็นแผ่ นดินไหวและสิ่ งต่ างๆ ที่ เกิดขึน้ นั้น ก็กลัวอย่ างยิ่ง จึ งพูดกันว่ า “ท่ านผู้นี้
เป็ นพระบุตรของพระเจ้ าจริ งๆ!” เนื่องจากตะลึงกับฉากที่น่าพึงกลัวเช่ นนี ้ ศัตรู ของพระองค์ ที่ร้องโหยหวนราวกับ
หมาป่ าเพื่อเลือดของพระองค์ กพ็ ากันวิ่งหนีด้วยความกลัว นรกรู้ สึกถึงผลกระทบ พระเยซูคริ สต์ ทรงแหวกหิ นแกรนิต
ของอุโมงค์ ฝังศพที่ปิดตายออก เปิ ดประตูแห่ งความตาย นำเชลยออกมา และเสด็จขึน้ เหนือสิ ทธิ อ ำนาจทั้งปวงเพื่อ
ถวายบาดแผลของพระองค์ แด่ พระบิดา บาดแผลเพื่อคุณและผม! นี่คือเหตุการณ์ สำคัญที่ท ำให้ ความรอดของคุณและ
ผมเป็ นไปได้ มันเป็ นเรื่ องใหญ่ เกินไปที่คุณจะไม่ ร้ ู ว่าคุณถูกช่ วยให้ รอดแล้ ว ! นี่ไม่ ใช่ แค่ การมีความหวังหรื อมองโลก
ในแง่ ดี พระคำกล่ าวไว้ เช่ นนี ้ จงมีความมัน่ ใจในพระคริ สต์ ว่าคุณได้ รับของประทานที่ยิ่งใหญ่ ที่สุดของพระองค์ แล้ ว
จงขอบพระคุณพระองค์ สำหรั บของขัญนั้น จงเดินในสิ่ งนี ้ จงแบ่ งปั นและเพลิดเพลินกับสิ่ งนี ้ และนำสิ่ งนีไ้ ปใช้ กับ
ความท้ าทายของคุณในวันนี ้
22
สิ งหาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“ลูกทั้งหลายเอ๋ ย ท่านอยูฝ่ ่ ายพระเจ้า และชนะพวกเขาแล้ว เพราะว่าพระองค์ผทู้ รงอยูใ่ นพวกท่านยิง่ ใหญ่กว่าผูท้ ี่อยูใ่ นโลก” (1
ยอห์น 4:4)
ไฟประจำวัน!
ข้าพเจ้าเชื่อมัน่ ว่า พระองค์ทรงสามารถรักษาสิ่ งที่พระองค์ทรงมอบไว้กบั ข้าพเจ้า จนถึงวันแห่งการปรากฏของพระองค์ได้ (ดู 2
ทิโมธี 1:12)
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
มัทธิว 7:16; โรม 8:16; 2 ทิโมธี 1:12; 2:19; 2 เปโตร 1:4; 1 ยอห์น 3:14
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
1 ซามูเอล 14; โรม 12
เย็น:
เยเรมีย ์ 51;
สดุดี 30
ไม่ มีการลอกเลียนแบบ
“แต่ ว่ารากฐานอันแข็งแกร่ งของพระเจ้ าตั้งมัน่ อยู่และปรากฏคำจารึ กดังนี ้ “องค์ พระผู้เป็ นเจ้ าทรงรู้ จักบรรดาคนของ
พระองค์ ” และ “ให้ ทุกคนที่ออกพระนามขององค์ พระผู้เป็ นเจ้ าละทิง้ ความชั่ว”” (2 ทิโมธี 2:19) มีความมัน่ ใจผิดๆ ที่แสดงออก
มาด้วยความเย่อหยิง่ โอ้อวดประสบการณ์ของความรอด ซึ่งไม่สำแดงให้เห็นในอุปนิสยั พฤติกรรม และการดำเนินชีวิตของ
บุคคล “พวกท่ านจะรู้ จักพวกเขาได้ ด้วยผลของพวกเขา” (มัทธิว 7:16) คนเหล่านี้เป็ นคริ สเตียนปลอม “เรารู้ ว่าเราได้ พ้นจาก
ความตายไปสู่ชีวิตแล้ ว ก็เพราะเรารั กพี่น้อง ผู้ที่ไม่ รักก็ยงั อยู่ในความตาย” (1 ยอห์น 3:14) มีอนั ตรายที่แฝงอยู่ ผูค้ นสามารถเลียน
แบบและดำเนินชีวิตเหมือนคริ สเตียนได้ แต่ไม่ได้รับความรอด
บางคนเลี้ยงนกแก้ว นกแก้วเป็ นนักเลียนแบบตั้งแต่เกิด เพื่อนของผมมีแอฟริ กนั เกรย์พนั ธุ์ดีชื่อพอลลี่ ซึ่งสามารถพูดซ้ำ
ในสิ่ งที่คนอื่นพูดได้ โดยดูเหมือนเป็ นเสี ยงของพวกเขาเอง บางครั้ งก็ยากที่จะบอกได้วา่ ใครเป็ นคนพูด นกตัวนั้นพูดราวกับว่า
มันเป็ นหนึ่งในครอบครัวและใช้เสี ยงของมนุษย์ มันพยายามที่จะเข้าร่ วมในการสนทนาค่อนข้างบ่อย แต่อนิจจา พอลลี่ผนู้ ่า
สงสาร แม้วา่ มันจะพูดได้เหมือนมนุษย์ และอาจคิดว่ามันเป็ นมนุษย์คนหนึ่ง แต่มนั ก็ยงั เป็ นแค่นกแก้ว ผูค้ นมากมายดำเนินชีวิต
เหมือนคริ สเตียนด้วยการเลียนแบบ พวกเขาทำในสิ่ งที่คริ สเตียนควรทำ พวกเขาพูดเลียนแบบเหมือนนกแก้วทุกคำ แต่ไม่ใช่เสี ยง
ดนตรี ที่เปี่ ยมไปด้วยพระสิ ริของผูไ้ ด้รับการไถ่ซ่ ึงตอบสนองต่อสวรรค์ ชีวิตของพวกเขาล้วนเป็ นการงานและความพยายาม พวก
เขาอาจจะเลียนแบบได้ค่อนข้างดี บางครั้งทำได้ดีกว่าคริ สเตียนจริ งๆ แต่พวกเขาเป็ นคริ สเตียนหรื อไม่? คริ สเตียนบังเกิดใหม่จาก
เบื้องบน นัน่ คือพระบิดาฝ่ ายวิญญาณที่แท้จริ งของพวกเขาอยูใ่ นสวรรค์ "พระวิญญาณนั้นเป็ นพยานร่ วมกับจิ ตวิญญาณของเรา
ว่ า เราเป็ นลูกของพระเจ้ า” (โรม 8:16) เมื่อคุณเป็ นของพระองค์อย่างแท้จริ ง คุณก็จะรู้
ตอนนี้เราทุกคนจะล้มลง แต่ความรอดยังคงทำงานในตัวเราเพื่อเอาชนะความอ่อนแอของเรา ความปรารถนาของเราที่
จะทำให้องค์พระผูเ้ ป็ นเจ้าพอพระทัยจะต้องเป็ นจริ ง อย่างน้อยก็จนถึงวันที่การทรงไถ่ของเราสมบูรณ์และเราจะได้เห็นพระ
พักตร์ที่งดงามของพระองค์ จนกว่าจะถึงเวลานั้น เราสามารถพูดได้เหมือนที่เปาโลกล่าวไว้วา่ “ข้ าพเจ้ า…เชื่ อมัน่ ว่ า พระองค์ ทรง
สามารถรั กษาสิ่ งที่พระองค์ ทรงมอบไว้ กับข้าพเจ้ า จนถึงวันนั้นได้ ” (2 ทิโมธี 1:12) จงเห็นด้วยกับสิ่ งนี้ในวันนี้ !
23
สิ งหาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“ข้าพเจ้าไม่ขออวดอะไรนอกจากเรื่ องกางเขนของพระเยซูคริ สต์องค์พระผูเ้ ป็ นเจ้าของเรา ซึ่งโดยกางเขนนั้นโลกได้ตายจาก
ข้าพเจ้า และข้าพเจ้าก็ได้ตายจากโลก” (กาลาเทีย 6:14)
ไฟประจำวัน!
ฉันจะโอ้อวดในไม้กางเขนของพระเยซูคริ สตเจ้าของฉันเพื่อพวกเราที่ก ำลังถูกช่วยให้รอด นี่เป็ นฤทธิ์ อ ำนาจของพระเจ้า
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
อิสยาห์ 22:23; ยอห์น 19:1–42; 20:24–39; กาลาเทีย 6:14; 1 โคริ นธ์ 1:18
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
1 ซามูเอล 15; โรม 13
เย็น:
เยเรมีย ์ 52;
สดุดี 31
จงโอ้ อวดในพระคริสต์ เท่ านั้น
ไม่มีใครสามารถเอาพระสิ ริของพระคริ สต์ไปได้ และเวลาก็ไม่อาจลดทอนพระสิ ริได้ มันมีอยูใ่ นตัวของพระองค์เอง
และไม่ได้เกิดจากการเฉลิมฉลองเทียมหรื อสถานการณ์ภายนอก พระองค์ไม่ตอ้ งการการแสดงที่ยอดเยีย่ ม พระสิ ริของพระองค์
ส่ องผ่านฉลองพระองค์ของชาวชนบท ตรึ งพระองค์ไว้บนไม้กางเขน ก็ไม่ท ำลายอะไรไปจากพระองค์ได้ พระองค์เอาชนะมัน
เปลี่ยนสิ่ งที่น่าละอายนี้ให้กลายเป็ นสัญลักษณ์แห่งพระสิ ริที่ยงิ่ ใหญ่ที่สุดในแผ่นดินโลก
พระเยซูคริ สต์ถูกตรึ งบนไม้กางเขนหยาบๆ ซึ่งเป็ นรู ปแบบการประหารชีวิตที่โหดร้ายที่สุดที่มนุษย์ยงั รู้จกั พระองค์ถูก
ถอดเสื้ อผ้าให้ล่อนจ้อน (ไม่เหมือนกับภาพที่แต่งตัวที่เราเคยเห็นทัว่ ไป) ความอ่อนน้อมถ่อมตนที่สุด และถูกแขวนเป็ นเวลา
หลายชัว่ โมงโดยปราศจากการป้ องกันจากสภาพอากาศหรื อความอับอาย
24
สิ งหาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“ขอทรงล้างข้าพระองค์ และข้าพระองค์จะขาวกว่าหิ มะ ขอทรงให้ขา้ พระองค์ได้ยนิ ความปี ติและความยินดี ขอกระดูกซึ่งพระ
องค์ทรงหักนั้นเปรมปรี ด์ ิ ขอซ่อนพระพักตร์ พระองค์จากบาปทั้งหลายของข้าพระองค์ และขอทรงลบความชัว่ ทั้งสิ้ นของข้าพระ
องค์ ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงเนรมิตสร้างใจสะอาดในข้าพระองค์ และขอทรงสร้างจิตใจหนักแน่นขึ้นใหม่ภายในข้าพระองค์”
(สดุดี 51:7–10)
ไฟประจำวัน!
พระเยซูของฉัน พระผูช้ ่วยให้รอดของฉัน ได้ลา้ งบาปของฉันจนหมดสิ้ นแล้ว ตอนนี้ ฉนั สวมความชอบธรรมของพระองค์
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
อิสยาห์ 53:1; ยอห์น 13:1–17; 19:37
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
1 ซามูเอล 16; โรม 14
เย็น:
บทเพลงคร่ำครวญ 1; สดุดี 32
ช่ างเป็ นผู้รับใช้ ที่ดจี ริงๆ!
ใครเป็ นใหญ่ที่สุดในราชอาณาจักรของพระเจ้า? อาจจะเป็ นคนที่ไม่เป็ นที่รู้จกั แต่แน่นอนว่าคือผูท้ ี่รับใช้โดยไม่มีแรง
จูงใจแอบแฝง ไม่ตอ้ งสงสัยเลยว่าผูท้ ี่ยงิ่ ใหญ่ที่สุดคือผูท้ ี่เอาผ้าเช็ดเท้าและล้างเท้าของเหล่าสาวก และเมื่อน้ำไม่ช่วย พระองค์ก็
ทรงหลัง่ พระโลหิ ตแห่งชีวิตของพระองค์เพื่อชำระล้างมนุษยชาติ พระเยซูคริ สต์ ช่างเป็ นผูร้ ับใช้ที่ดีจริ ง ๆ ที่มาล้างหัวใจและเท้า
ของมวลมนุษยชาติ!
พระเยซูทรงทราบว่ าพระบิดาประทานทุกสิ่ งไว้ ในพระหั ตถ์ ของพระองค์ และทรงทราบว่ าพระองค์ มาจากพระเจ้ าและ
จะไปหาพระเจ้ า พระองค์ ทรงลุกจากการเสวยอาหาร ทรงถอดฉลองพระองค์ ออกวางไว้ และทรงเอาผ้ าเช็ดตัวคาดเอว
ของพระองค์ แล้ วทรงเทน้ำลงในอ่ างและทรงเอาน้ำล้ างเท้ าของพวกสาวก และทรงเช็ดด้ วยผ้ าที่ทรงคาดเอวไว้
นั้น...เมื่อพระองค์ ทรงล้ างเท้ าของพวกเขาแล้ ว พระองค์ กท็ รงฉลองพระองค์ แล้ วประทับลงตรั สกับเขาว่ า “พวกท่ าน
เข้าใจสิ่ งที่เราทำกับท่ านหรื อไม่ ? พวกท่ านเรี ยกเราว่ าพระอาจารย์ และองค์ พระผู้เป็ นเจ้ า ท่ านเรี ยกถูกแล้ว เพราะเรา
เป็ นอย่ างนั้น เพราะฉะนั้นถ้ าเราผู้เป็ นองค์ พระผู้เป็ นเจ้ าและพระอาจารย์ ยงั ล้ างเท้ าของพวกท่ าน ท่ านก็ควรจะล้ างเท้ า
ของกันและกันด้ วย (ยอห์ น 13:3–5, 12–14) พระองค์ คือผู้ที่เราจะเห็น “พวกเขาจะมองดูพระองค์ ผ้ ทู ี่เขาแทง” (ยอห์ น
19:37) นั่นคือเอกลักษณ์ พิเศษของพระองค์ นั่นคือพระองค์ ทรงเป็ น “ผู้ถกู แทง” และ “เขาจะเห็นความลำบากแห่ ง
จิ ตใจของเขาและจะพึงพอใจ” (อิสยาห์ 53:11) พระสิ ริของพระองค์ จะเสด็จมาพร้ อมกับธรรมิกชนของพระองค์ ผู้ถกู
ชำระล้ างด้ วยพระโลหิ ต ไม่ใช่ ผ้ เู สี ยชื่ อ ผู้สะสมทรั พย์ สมบัติและรางวัล ถ้ วยและเหรี ยญตรา แต่ เป็ นผู้ที่ได้ รับการไถ่
พระองค์ ทรงไถ่ พวกเขา แสวงหาพวกเขา พบพวกเขา และยกพวกเขาขึน้ สู่พระสิ ริ !
ช่างเป็ นพระสิ ริที่ดีจริ งๆ! พระองค์ทรงทำให้คนที่น่ารังเกียจหอมกรุ่ นไปด้วยพระคุณ บัดนี้ ผแู้ ปดเปื้ อนถูกสวมใส่ความ
ชอบธรรม คนที่ไม่สะอาดได้ถูกล้างมลทินด้วยน้ำตาของพระองค์ อธิษฐานเผือ่ ที่ใต้ตน้ มะกอกของเกทเสมนี ที่ซ่ ึงพระเยซูทรง
หลัง่ เหงื่อพร้อมกับพระโลหิ ต
จงตัดสิ นใจในวันนี้ (ครั้งแล้วครั้งเล่า) ว่าคุณจะไม่ มีวนั ลืมที่จะถวายเกียรติและให้คุณค่ากับพระเยซูคริ สต์ พระเมษ
โปดกของพระเจ้า
25
สิ งหาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“ข้าพเจ้าต้องการจะรู้จกั พระองค์ คือรู้จกั ฤทธิ์เดชแห่งการคืนพระชนม์ของพระองค์” (ฟิ ลิปปี 3:10)
ไฟประจำวัน!
พระบิดา ข้าพระองค์ขออธิษฐานว่าความเชื่อของข้าพระองค์จะไม่ข้ ึนกับปัญญาของมนุษย์ แต่ข้ ึนกับฤทธิ์ เดชของพระเจ้า
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
ยอห์น 1:16; 15:4; 1 โคริ นธ์ 2:5; เอเฟซัส 1:23; ฟี ลิปปี 3:10–11; ยากอบ 1:17
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
1 ซามูเอล 17; โรม 15
เย็น:
บทเพลงคร่ำครวญ 2; สดุดี 33
ตัวนำไฟฟ้ า
ถ้างานของเราคือการผลิตฤทธิ์ อ ำนาจของพระเจ้า เราจะเป็ นเครื่ องกำเนิดพลังงาน แต่พระคริ สต์ ประทานฤทธิ์ อ ำนาจ
ให้ แก่ เรา เราไม่ได้ถูกเรี ยกให้ออกไปทัว่ โลกด้วยโรงไฟฟ้ าเล็กๆ ของเราเอง เพื่อให้คนอื่นคิดว่าเรายอดเยีย่ มแค่ไหน เราสามารถ
เดินเฉลิมฉลองความสามารถพิเศษของเราและทำให้ประกายไฟปลิวว่อนเป็ นเวลาหนึ่งชัว่ โมง แต่ในไม่ชา้ โรงไฟฟ้ าของเราก็จะ
หมดเชื้อเพลิง เราไม่ใช่เครื่ องกำเนิด แต่เป็ นตัวนำไฟฟ้ า “…คริ สตจักรเป็ นพระกายของพระคริ สต์ ซึ่ งเป็ นความบริ บูรณ์ ของพระ
องค์ ผู้ทรงเติมทุกอย่ างในทุกแห่ งให้ เต็มบริ บูรณ์ ” (เอเฟซัส 1:22–23) เราเป็ นช่องทาง ไม่ใช่แหล่งที่มา “แขนงจะออกผลเองไม่
ได้ นอกจากจะติดสนิทอยู่กับเถา พวกท่ านก็เช่ นเดียวกันจะเกิดผลไม่ ได้ นอกจากจะติดสนิทอยู่กับเรา” (ยอห์น 15:4)
พระเจ้าไม่ตอ้ งการไดนาโมพลังงานใดๆ ของเรา พระองค์ทรงมีของพระองค์เอง นัน่ คือไม้กางเขนและอุโมงค์ที่วา่ ง
เปล่าของพระองค์เอง ฤทธิ์ อำนาจไหลออกมาจากแหล่งเหล่านั้นตลอดไป ไม่มีการไหลที่ผนั ผวน “พระผู้สร้ างแห่ งบรรดาดวง
สว่ าง ในพระองค์ ไม่ มีการแปรปรวนหรื อเงาของการเปลี่ยนแปลง” (ยากอบ 1:17)
ข้ าพเจ้ าต้ องการจะรู้ จักพระองค์ คือรู้ จักฤทธิ์ เดชแห่ งการคืนพระชนม์ ของพระองค์ และรู้ จักการมีส่วนร่ วมในความ
ทุกข์ ของพระองค์ และเป็ นเหมือนกับพระองค์ ในความตายนั้น ทั้งมุ่งหวังที่จะได้ เป็ นขึน้ จากความตายด้ วย (ฟิ ลิปปี
3:10–11) นี่คืออุปกรณ์ ทั้งหมดของเรา ฤทธิ์ อ ำนาจฝ่ ายวิญญาณของไม้ กางเขนและการเป็ นขึน้ มาจากความตาย สาย
พลังแห่ งพระคำของพระเจ้ า ฟิ วส์ แห่ งความเชื่ อของเรา การเชื่ อมโยงที่ส ำคัญ สิ่ งเหล่ านีใ้ ห้ ฤทธิ์ อ ำนาจแก่ เราสำหรั บ
ความจำเป็ นทุกอย่ าง เพื่อเปลี่ยนแปลงชี วิต เพื่อทำลายนิสัยชั่วร้ าย เพื่อรั กษาคนป่ วย และส่ องสว่ างบนทางหลวงแห่ ง
ชี วิตที่มืดมนดั่งมรสุม ไม่มีฤทธิ์ อ ำนาจใดที่ถกู สร้ างขึน้ ในแผ่ นดินโลกที่สร้ างขึน้ ในหลอดทดลองหรื อในอุตสาหกรรม
สามารถทำสิ่ งเหล่ านั้นได้ ฤทธิ์ อ ำนาจของพระเจ้ าคือพลังที่ยิ่งใหญ่ บนแผ่ นดินโลกที่จะจัดการกับปั ญหาที่ยากจะเข้ าใจ
ในชี วิต! จงสัมผัสฤทธิ์ อ ำนาจนั้นได้ แล้ วในวันนี !้
26
สิ งหาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“ดูสิ พระเจ้าเป็ นความรอดของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะวางใจและไม่กลัว เพราะพระยาห์เวห์ คือพระยาห์เวห์เองทรงเป็ นกำลังและบท
เพลงของข้าพเจ้า และพระองค์ทรงเป็ นความรอดของข้าพเจ้าแล้ว” (อิสยาห์ 12:2)
ไฟประจำวัน!
ข้าแต่องค์พระผูเ้ ป็ นเจ้า ต่อพระพักตร์พระองค์มีความยินดีเปี่ ยมล้น ข้าพระองค์จะสามารถขออะไรได้อีก ?
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
เนหะมีย ์ 8:10; สดุดี 16:11; อิสยาห์ 12:2
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
1 ซามูเอล 18; โรม 16
เย็น:
บทเพลงคร่ำครวญ 3; สดุดี 34
เสี ยบปลัก๊
ในงานสัมมนาครั้งหนึ่ง ผมได้ยนิ คนหนุ่มสาวบางคนพูดว่า “เราต้องเป็ นเปิ ดสวิตช์เพื่อพระเยซู ทั้งหมดที่ตอ้ งทำก็คือ
การเปิ ดสวิตช์เพื่อพระองค์” ผมหันไปพวกเขา “ใช่ เป็ นการดีที่จะเปิ ดสวิตช์เพื่อพระเยซู แต่ที่สำคัญกว่านั้นต้องเสี ยบปลัก๊ ด้วย
การเปิ ดสวิตช์เพื่อพระเยซูจะไร้ประโยชน์ ถ้าเราไม่ได้เสี ยบปลัก๊ เราต้องเชื่อมต่อก่อน” การเปิ ดสวิตช์ที่ตวั เราไม่ก่อให้เกิด
กระแสไฟฟ้ า
ฤทธิ์อำนาจของพระเจ้าที่มาผ่านทางพระคำมาถึงฟิ วส์แห่งความเชื่อก่อน และนัน่ อาจเป็ นนักเทศน์ สะพานแห่งพลัง
เล็ก ๆ นั้นสามารถเริ่ มอบอุ่นได้ นักเทศน์แห่งพระคำเป็ นคนแรกที่รู้สึกถึงความอบอุ่นนั้น เขาเผาไหม้ดว้ ยประจุ เขามีแนวโน้มที่
จะแสดงมันและเขาควรสำแดงออกมา เขาเป็ นผูส้ ื่ อสาร ไม่ใช่จากความคิดของเขาเอง แต่จากฤทธิ์ อ ำนาจของพระเจ้า เขาควรจะ
เป็ นสายที่มีชีวิต
นักเทศน์คือชายผูม้ ีประสบการณ์กบั พระเจ้าในที่สาธารณะ ถ้าเขากดความเบิกบานของเขาเอาไว้ และเอาความขัดเกลา
ความสง่างาม และความเหมาะสมมาเป็ นอันดับแรก เขาก็ควรระลึกว่าสิ่ งเหล่านี้ไม่ใช่ผลของพระวิญญาณ แต่ความชื่นชมยินดีใช่
“ความชื่ นบานของตนในพระยาห์ เวห์ เป็ นกำลังของท่ าน” (เนหะมีย ์ 8:10) ไม่ใช่ความอ่อนแอของคุณ
28
สิ งหาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“พระหัตถ์ของพระเจ้าของเราอยูก่ บั บรรดาผูท้ ี่แสวงพระองค์ให้เกิดผลดี แต่ฤทธานุภาพและพระพิโรธของพระองค์ต่อสู้คนเหล่า
นั้นที่ละทิ้งพระองค์” (เอสรา 8:22)
ไฟประจำวัน!
ข้าพระองค์ได้เก็บรักษาพระดำรัสของพระองค์ไว้ในใจ เพื่อข้าพระองค์จะไม่ท ำบาปต่อพระองค์
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
ผูว้ ินิจฉัย 6:1–40; 7:1–25; 8:1–35; พระธรรมเอสรา; สดุดี 119:11
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
1 ซามูเอล 20; 1 โคริ นธ์ 2
เย็น:
บทเพลงคร่ำครวญ 5; สดุดี 36
จากพระคำล้ วน ๆ
พระธรรมผูว้ ินิจฉัยบอกเราเกี่ยวกับกิเดโอน ผูซ้ ่ ึงเคยได้ยนิ เกี่ยวกับสิ่ งยิง่ ใหญ่ที่พระเจ้าได้ท ำเมื่อนำประชากรของ
พระองค์ออกจากอียปิ ต์ และต้องการเห็นพระเจ้าองค์เดียวกันทำงานในสมัยของเขา เขาเชื่อว่าพระกรอันทรงพลังเมื่อ 2 ศตวรรษ
ก่อนยังไม่สูญเสี ยพละกำลังไป กิเดโอนถามอย่างถูกต้องว่า “การอัศจรรย์ ทั้งหมดของพระองค์ ซึ่งปู่ ย่ าตายายเคยเล่ าให้ เราฟั งอยู่ที่
ไหน?” (ผูว้ ินิจฉัย 6:13) พระเจ้าทรงสำแดงแก่เขา! เรื่ องราวของกิเดโอนบอกว่าชัยชนะอันยิง่ ใหญ่เกิดขึ้นได้อย่างไรโดย
ปราศจากความกล้าหาญและอำนาจของมนุษย์ พระเจ้าทรงปลดปล่อยอิสราเอลตัวน้อยอีกครั้ง ดังที่พระองค์เคยปลดปล่อยพวก
เขาจากอียปิ ต์มาก่อน โดยทรงเอาชนะกองทัพของชาวทะเลทรายขนาดใหญ่ที่สุดที่เคยรวบรวมได้ในสมัยนั้น จนพวกเขาไม่
สามารถกลับมารุ กรานอิสราเอลได้อีก กิเดโอนรู้จกั แต่พระเจ้าจากอดีตจนถึงตอนนั้นเท่านั้น
คนรวยต้องจ่ายเงินเพื่อให้คนจนได้ยนิ ข่าวประเสริ ฐ
นัน่ คือความยุติธรรมทางสังคมของพระเจ้า
1
กันยายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“แต่ใครสู้ทนถึงที่สุดก็จะได้รับการช่วยให้รอด ข่าวประเสริ ฐเรื่ องแผ่นดินของพระเจ้านี้ จะถูกประกาศไปทัว่ โลก ให้เป็ นคำพยาน
แก่บรรดาประชาชาติ แล้วที่สุดปลายจะมาถึง” (มัทธิว 24:13–14)
ไฟประจำวัน!
ไม่มีสิ่งใดสามารถทำให้ฉนั ขาดจากความรักของพระเจ้า ซึ่งมีอยูใ่ นพระเยซูคริ สต์
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
มัทธิว 24:13–14; โรม 8:35–39; 2 เธสะโลนิกา 1:3–5
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
1 ซามูเอล 25; 1 โคริ นธ์ 6
เย็น:
เอเสเคียล 4; สดุดี 40 และ 41
ความอดทน
ชีวิตที่เปี่ ยมด้วยพระวิญญาณไม่ใช่ประสบการณ์ที่ตอ้ งฝึ กฝนในสภาวะที่พเิ ศษเหมือนการปลูกพืช คริ สเตียนไม่ใช่
ดอกไม้ ในช่วงต้นของการขยายตัวของเมืองอุตสาหกรรมในอังกฤษ ผูร้ ับใช้บางคนไม่สามารถโน้มน้าวใจให้เข้ารับตำแหน่ง
ท่ามกลางกลุ่มคนงานที่ยงั ไม่ได้อาบน้ำ เพราะว่าพวกเขากล่าวว่าสิ่ งนี้อาจทำลาย “ความเป็ นฝ่ ายวิญญาณ” ของพวกเขา พระ
วิญญาณบริ สุทธิ์ ทำให้ผเู้ ชื่อมีตวั อย่างที่แข็งแกร่ งสำหรับทุกสภาวะ พวกเขามีฤดูใบไม้ผลิตลอดไปในวิญญาณจิตของพวกเขา
และ "สามารถผ่านฤดูหนาวได้" เช่นเดียวกับบ้านที่เตรี ยมพร้อมสำหรับสภาพอากาศหนาวเย็น
เหล่าอัครทูตได้คน้ พบความยืดหยุน่ ใหม่ ความแข็งแกร่ งใหม่ภายในตัว ฤทธิ์ อำนาจที่ด ำเนินการในความอ่อนแอของ
พวกเขา และส่ งพวกเขาออกไปยังโลกของคนนอกศาสนาที่โหดร้ายเพื่อทำลายการสร้างรู ปเคารพและเปลี่ยนแปลง
ประวัติศาสตร์ นัน่ คือเครื่ องหมายที่แท้จริ งของชีวิตที่เปี่ ยมด้วยพระวิญญาณ
พี่น้องทั้งหลาย เราต้ องขอบพระคุณพระเจ้ าเพราะท่ านอยู่เสมอ ซึ่ งเป็ นเรื่ องสมควรยิ่งเพราะความเชื่ อของท่ านจำเริ ญ
ขึน้ และความรั กของท่ านทุกคนที่มีต่อกันทวีขึน้ ด้ วยฉะนั้นเราเองจึ งอวดท่ านต่ อบรรดาคริ สตจักรของพระเจ้ า ในเรื่ อง
ความทรหดอดทน และความเชื่ อของท่ านในยามที่ถกู ข่มเหงนานาประการ และที่ท่านอดทนต่ อความยากลำบากนั้น
เรื่ องนีช้ ี ช้ ัดถึงการพิพากษาอันยุติธรรมของพระเจ้ า ซึ่ งจะพิสูจน์ ว่าท่ านเป็ นผู้สมควรกับแผ่ นดินของพระเจ้ า ซึ่ งท่ านทั้ง
หลายกำลังทนทุกข์ อยู่เพราะเห็นแก่ แผ่ นดินนั้น (2 เธสะโลนิกา 1:3–5) สิ่ งเหล่ านี ก้ ำลังเกิดขึน้ ในทุกวันนี ้ การข่ มเหง
ยุคใหม่ ก ำลังทดสอบคริ สตจักรทั่วโลก เราอาจต้ องสละชี วิตฝ่ ายร่ างกายของเรา แต่ เรากำลังพิสูจน์ ว่าบัพติศมาในพระ
วิญญาณทำให้ ผ้ คู นไม่ สามารถเอาชนะได้
แล้ วใครจะให้ เราขาดจากความรั กของพระคริ สต์ ได้ ? จะเป็ นความทุกข์ หรื อความยากลำบาก หรื อการเคี่ยวเข็ญ หรื อ
การกันดารอาหาร หรื อการเปลือยกาย หรื อการถูกโพยภัย หรื อการถูกคมดาบหรื อ? ตามที่เขียนไว้ ในพระคัมภีร์ว่ า
“เพราะเห็นแก่ พระองค์ ข้ าพระองค์ จึงถูกประหารวันยังค่ำ และนับว่ าเป็ นแกะสำหรั บเอาไปฆ่ า” แต่ ว่าในเหตุการณ์ ทั้ง
หมดนี ้ เรามีชัยเหลือล้ นโดยพระองค์ ผ้ ทู รงรั กเราทั้งหลาย (โรม 8:35–37)
2
กันยายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“ข้าพเจ้าให้ท่านรับบัพติศมาด้วยน้ำ แสดงว่ากลับใจใหม่ก็จริ ง แต่พระองค์ผจู้ ะมาภายหลังข้าพเจ้า ทรงยิง่ ใหญ่กว่าข้าพเจ้า ซึ่ง
ข้าพเจ้าไม่คู่ควรแม้แต่จะถือฉลองพระบาทของพระองค์ พระองค์จะทรงให้พวกท่านรับบัพติศมาด้วยพระวิญญาณบริ สุทธิ์ และ
ด้วยไฟ” (มัทธิว 3:11)
ไฟประจำวัน!
ข้าแต่องค์พระผูเ้ ป็ นเจ้าที่รัก ให้ขา้ พระองค์เผาไหม้เพื่อพระองค์
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
อพยพ 3:2; มัทธิว 3:11–12
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
1 ซามูเอล 26; 1 โคริ นธ์ 7
เย็น:
เอเสเคียล 5; สดุดี 42 และ 43
เมื่อการวางเพลิงไม่ ใช่ อาชญากรรม
พระเจ้าจุดไฟเผาไม้ที่ลอยอยู่ ไม้เก่าแห้งสามารถลุกไหม้เพื่อพระเจ้าได้เช่นเดียวกับพุม่ ไม้ของโมเสส “ทูตของพระ
ยาห์ เวห์ กป็ รากฏแก่ โมเสส เป็ นเปลวไฟท่ ามกลางพุ่มไม้ โมเสสมองดู เห็นพุ่มไม้ นั้นมีไฟลุกโชนอยู่ แต่ มิได้ ไหม้ ” (อพยพ 3:2)
ฮาเลลูยา! ผมไม่อธิษฐานว่า "ข้าแต่องค์พระผูเ้ ป็ นเจ้าที่รัก ขอให้ขา้ พระองค์หมดไฟเพื่อพระองค์" ผมไม่ตอ้ งการเป็ นเถ้าธุลี
คุณสมบัติที่น่าทึ่งของพุม่ ไม้คือมันไม่หมดไฟ ผูร้ ับใช้ขององค์พระผูเ้ ป็ นเจ้าจำนวนมากกำลังหมดไฟ ต้นเหตุมาจากไฟอย่างอื่น
แต่ผมพูดว่า "ข้าแต่องค์พระผูเ้ ป็ นเจ้าที่รัก ขอให้ขา้ พระองค์ลุกไหม้ต่อไปเพื่อพระองค์" เปลวไฟของแท่นบูชาไม่ควรดับลง
ปราศจากไฟ ก็ไม่มีข่าวประเสริ ฐ พันธสัญญาใหม่เริ่ มต้นด้วยไฟ สิ่ งแรกที่กล่าวถึงพระคริ สต์โดยพยานคนแรกเกี่ยวกับ
ไฟ ยอห์นผูใ้ ห้บพั ติศมาซึ่งเป็ นผูส้ ่ องสว่างป่ าวประกาศว่า “พระองค์ จะทรงให้ พวกท่ านรั บบัพติศมาด้ วยพระวิญญาณบริ สุทธิ์
และด้ วยไฟ พระองค์ ทรงถือพลัว่ อยู่ในพระหั ตถ์ แล้ว และจะทรงชำระลานข้าวของพระองค์ ให้ ทั่ว พระองค์ จะทรงรวบรวมเมล็ด
ข้ าวของพระองค์ ไว้ ในยุ้งฉาง แต่ พระองค์ จะทรงเผาแกลบด้ วยไฟที่ไม่ มีวันดับ” (มัทธิว 3:11–12)
ยอห์น ผูใ้ ห้บพั ติศมาแนะนำพระเยซู ผูใ้ ห้บพั ติศมา ผูใ้ ห้บพั ติศมาที่แตกต่างอย่างมาก ยอห์นใช้น ้ำซึ่งเป็ นองค์
ประกอบทางกายภาพ แต่พระคริ สต์ทรงใช้องค์ประกอบฝ่ ายวิญญาณ นัน่ คือไฟบริ สุทธิ์ น้ำกับไฟช่างแตกต่างกันเสี ยนี่
กระไร! ไม่ใช่วา่ ยอห์น ผูใ้ ห้บพั ติศมามีศาสนาที่ "เหมือนน้ำ" (แม้วา่ จะมีศาสนานั้นอยูม่ ากมายรอบๆ ตัว และมักรวม
เข้ากับน้ำแข็ง!) ยอห์น ผูใ้ ห้บพั ติศมา ยืนอยูใ่ นน้ำเย็นของจอร์แดนกำลังให้บพั ติศมา แต่พระเยซู ผูใ้ ห้บพั ติศมา ยืนอยู่
ในแม่น้ำที่มีไฟเหลว!
งานเด่นของยอห์นคือบัพติศมา เขาประกาศงานที่โดดเด่นของพระเยซูวา่ เป็ นการบัพติศมาด้วย บัพติศมาเป็ น
งานสำคัญขององค์พระผูเ้ ป็ นเจ้าในปัจจุบนั พระเยซู ผูใ้ ห้บพั ติศมาในพระวิญญาณบริ สุทธิ์ นี่คือประสบการณ์สำคัญ
ของพระคริ สต์สำหรับคุณหลังจากที่คุณกลายเป็ นผูเ้ ชื่อที่บงั เกิดใหม่แล้ว
3
กันยายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“เมื่อข้าพเจ้าประกาศข่าวประเสริ ฐ ข้าพเจ้าก็ไม่มีเหตุที่จะอวดได้ เพราะข้าพเจ้าจำต้องประกาศ วิบตั ิแก่ขา้ พเจ้าหากข้าพเจ้าไม่
ประกาศข่าวประเสริ ฐ! ” (1 โคริ นธ์ 9:16 ฉบับ niv)
ไฟประจำวัน!
พระบิดา ขอให้ความเชื่อของข้าพระองค์บงั เกิดผลและให้ก ำเนิดชีวิต!
ทำเครื่ องหมายบนพระคำของฉัน:
ยอห์น 20:31;
โรม 10:14
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
1 ซามูเอล 27; 1 โคริ นธ์ 8
เย็น:
เอเสเคียล 6; สดุดี 44
ความเชื่อที่แพร่ เชื้อ
ผูค้ นพูดถึงของประทานแห่งการประกาศข่าวประเสริ ฐและโต้เถียงกันว่าจริ งๆ แล้ว มันหมายความว่าอย่างไร พูดง่ายๆ
ก็คือ ของประทานแห่งการประกาศคือความเชื่อที่แพร่ เชื้อ เพื่อให้ผอู้ ื่นกระตือรื อร้น เราเองต้องถูกทำให้กระตือรื อร้น
มีคนที่เราสามารถบรรยายว่าเป็ น “ผูเ้ ชื่อที่ไม่เชื่อ” พวกเขามีหลักคำสอนที่ดี แต่ปราศจากความไว้วางใจ พวกเขา
ประกาศสิ่ งที่พวกเขาเรี ยกว่าข่าวประเสริ ฐ แต่มนั ไม่มีชีวิตชีวา เมื่อผูช้ ายอธิบายถึงความงดงามของหญิงสาวที่น่ารัก เขาสามารถ
อธิบายได้ค่อนข้างชัดเจน แต่ถา้ เขาตกหลุมรักเธอ เขาก็ท ำให้เธอดูเหมือนเป็ นคนที่มีชีวิตชีวามาก
การประกาศต้องเป็ นการกระทำที่เชื่อโดยพึ่งพระเจ้าอย่างเต็มที่ ความจริ งของพระคริ สต์คือเมล็ดพันธุ์ที่เราต้องหว่าน
แต่ถา้ ปราศจากความเชื่อ เมล็ดพืชก็ไม่เคยได้รับการปฏิสนธิ ข่าวประเสริ ฐจะไม่งอก ผุดขึ้น เบ่งบาน หรื อเกิดผล เว้นแต่จะ
ประกาศด้วยความเชื่อ การมีความเชื่อในความเชื่อที่ได้มอบให้แก่พวกธรรมิกชนครั้งเดียว (ดู ยูดา 3) เป็ นสิ่ งที่สำคัญมาก แต่ยงั
ไม่เพียงพอ ความเชื่อควรเกิดผล สร้างชีวิต โดย “เชื่ อแล้วท่ านก็จะมีชีวิตโดยพระนามของพระองค์ ” (ยอห์น 20:31) เป็ นกระ
บวนการที่มีชีวิตและมีชีวิตชีวา คุณกำลังเชื่อ คุณกำลังรับ คุณกำลังรู้ คุณกำลังเห็น คุณกำลังอยูใ่ นพระองค์
6
กันยายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“สาธุการแด่พระเจ้าพระบิดาของพระเยซูคริ สต์องค์พระผูเ้ ป็ นเจ้าของเรา ผูป้ ระทานพรฝ่ ายจิตวิญญาณทุกอย่างแก่เราในสวรรค
สถานโดยพระคริ สต์” (เอเฟซัส 1:3)
ไฟประจำวัน!
ฉันต้องการที่จะอยูท่ ่ามกลางการกระทำของพระเจ้า!
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
อพยพ 3:1–22; 4:1–31; 6:1–8; เอเฟซัส 1:3
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
1 ซามูเอล 31; 1 โคริ นธ์ 11
เย็น:
เอเสเคียล 9; สดุดี 48
คำพูดที่เป็ นการกระทำ
ประมาณ 8 ศตวรรษหลังจากอับราฮัม พระเจ้าตรัสว่าพระองค์ไม่เคยลืมพันธสัญญาที่ท ำกับอับราฮัม บิดาของทุกคนที่
เชื่อ พระองค์ตรัสกับโมเสสว่าพระองค์ก ำลังทำอะไรอยู่ ดูที่ค ำพูดที่เป็ นการกระทำเหล่านี้ องค์พระผูเ้ ป็ นเจ้าตรัสว่า… “ดูสิ่งที่เรา
จะทำ….เราปรากฏตัว…เราได้ตั้งพันธสัญญาของเรา….เราได้ ยนิ ด้วย…เราได้ระลึก….เราได้เห็นอย่างแน่นอน…เราได้ลงมา…
เราจะส่ งเจ้าไป…เราจะอยู่กบั เจ้าอย่างแน่นอน…เราจะยืน่ มือของเราออกมา….เราจะช่ วยกู้เจ้าให้พน้ จากพันธนาการของพวกเขา
และเราจะไถ่เจ้าด้วยพระกรที่เหยียดออก….เราจะรับเจ้าเป็ นประชากรของเรา และเราจะเป็ นพระเจ้าของเจ้า …เราสาบานว่าจะ
ให้…และเราจะให้ ” (อพยพ 6:1, 3–5; 3:7–8, 10, 12, 20; 6:6–8) นัน่ เป็ นการวาดอย่างรวดเร็วด้วยปากกาของพระเจ้าในอดีต คน
ๆ หนึ่งสามารถสร้างภาพนั้นผ่านทางพระคัมภีร์เมื่อพระเจ้ากลายเป็ นพระเจ้าของอิสราเอล…ซามูเอล…ดาวิด…อิสยาห์…และ
จากนั้นเป็ น “พระเจ้ า พระบิดาของพระเยซูคริ สต์ องค์ พระผู้เป็ นเจ้ าของเรา” (เอเฟซัส 1:3) นัน่ คือพระเจ้าที่เคยเป็ น อย่างไร
ก็ตาม สำหรับบางคน พระเจ้ายังคงเป็ นพระเจ้าที่เคยเป็ น คนนับล้านไม่ได้ไปต่อแล้ว และพระเจ้าสำหรับพวกเขาอาจอยูใ่ กล้ ๆ
ที่ไหนสักแห่ง แต่โดยทัว่ ไปดูเหมือนว่าพระองค์จะเข้าสู่ วยั เกษียณแล้ว หรื อพวกเขาพูดว่า “พระเยซูทรงทำสิ่ งอัศจรรย์ ถูกตรึ ง
กางเขน ถูกทำให้เป็ นขึ้นมาและถูกรับขึ้นสวรรค์ จบตอน” จบแค่น้ นั พระเจ้าของพวกเขาถูกยึดอย่างมัน่ คงในประวัติศาสตร์ พระ
คริ สต์ไม่เคยมีการกระทำใดๆอีกต่อไป
พระเยซูตรั สตอบเขาว่ า “เราบอกความจริ งกับท่ านว่ า ใครก็ตามที่สละบ้ าน หรื อพี่น้องชายหญิง หรื อบิดามารดา หรื อ
ลูก หรื อไร่ นา เพราะเห็นแก่ เราและข่าวประเสริ ฐของเราคนนั้นจะได้ รับผลตอบแทนร้ อยเท่ าในยุคนี ค้ ือ บ้ าน พี่น้อง
ชายหญิง มารดา ลูก และไร่ นา พร้ อมการข่ มเหงด้ วย และในยุคหน้ าจะได้ ชีวิตนิรันดร์ ” (มาระโก 10:29–30) เมื่อพระ
เยซูประทานพระมหาบัญชา พระองค์ ก ำลังตรั สกับชาย 12 คนเท่ านั้น ชายธรรมดา 12 คน มันต้ องฟั งดูเป็ นงานที่
อุกอาจ! ไม่มีกษัตริ ย์หรื อทรราชคนใดเคยคาดหวังมากจากน้ อยคนนัก แต่ พระเยซูทรงทำ คุณสามารถรู้ จักพระเยซูที่แท้
จริ งได้ เพราะว่ าพระองค์ ต้องการสิ่ งที่เป็ นไปไม่ ได้ นั่นคือวิธีที่คุณสามารถระบุตวั ตนของพระองค์ ได้ นั่นคือพระเยซู
ทุกครั้ ง บอกให้ คุณทำในสิ่ งที่เกินความสามารถตามธรรมชาติของคุณ ฆ่ าโกลิอัท !…จงเป็ นยักษ์ ใหญ่ ไม่ ใช่ ตั๊กแตน!…
จงเคลื่อนภูเขา!…จงสมบูรณ์ แบบ!…จงเดินบนคลื่น!… จงชำระคนโรคเรื ้อนให้ สะอาด!…จงเรี ยกคนตายให้ ฟื้น!…จง
สอนทุกประชาชาติ!…จงประกาศข่ าวประเสริ ฐแก่ มนุษย์ ทุกคน! ความคิดที่จะเทียมแอกกับพระมหาบัญชาโดย
ปราศจากฤทธิ์ อ ำนาจของเพ็นเทคอสต์ (ในความคิดเห็นของฉั น) นั้นไร้ สาระ เมื่อใดก็ตามที่พระเยซูทรงเรี ยกร้ องสิ่ งที่
เป็ นไปไม่ ได้ พระองค์ จะอยู่ที่นั่น (พระคริ สต์ ผ้ ทู รงพระชนม์ ) เพื่อทำให้ เป็ นไปได้ นั่นคือหลักการของชี วิตกับพระเยซู
ขอให้ พระสิ ริทั้งหมดเป็ นของพระนเจ้ า! ฮาเลลูยา!
8
กันยายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“เพราะฉะนั้น ข้าพเจ้าผูเ้ ป็ นนักโทษโดยเห็นแก่องค์พระผูเ้ ป็ นเจ้า ขอวิงวอนพวกท่านให้ด ำเนินชีวิตสมกับการทรงเรี ยกที่ท่านได้
รับการทรงเรี ยกมานั้นคือจงถ่อมใจและมีความสุ ภาพอ่อนโยนอยูเ่ สมอ จงอดทน จงอดกลั้นต่อกันและกันด้วยความรักจงพยา
ยามรักษาความเป็ นน้ำหนึ่งใจเดียวกันที่มาจากพระวิญญาณนั้น โดยมีสนั ติภาพเป็ นเครื่ องผูกพัน” (เอเฟซัส 4:1–3)
ไฟประจำวัน!
ฉันจะเติบโตในความเชื่อของฉันในพระคริ สต์ และแบ่งปันความเชื่อของฉันกับผูอ้ ื่น
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
เอเฟซัส 3:1–21; 4:1–32
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
2 ซามูเอล 2; 1 โคริ นธ์ 13
เย็น:
เอเสเคียล 11; สดุดี 50
การพิชิตของพระคริสต์
“เมื่อพระองค์ เสด็จขึน้ ไปสู่ที่สูง พระองค์ ทรงนำเชลยกลุ่มใหญ่ ไป และประทานของประทานแก่ มนุษย์ ” (เอเฟซัส
4:8) ในจดหมายที่เขียนถึงชาวเอเฟซัส เปาโลใช้ภาพพจน์ที่ชาวเอเฟซัสคุน้ เคยกันดี คุน้ ชินกับการครอบงำของโรมันมาช้านาน
เมื่อกองทัพโรมันพิชิตส่วนใหม่ของโลก พวกเขานำเชลยศึกกลับมาและแห่พวกเขาไปตามถนนในกรุ งโรมในขบวนแห่ฉลองชัย
นายพลผูพ้ ิชิตได้รับการเฉลิมฉลองและยกย่องอย่างสูง นักโทษเป็ นของกำนัลของเขา และเขาภูมิใจในการเชลยให้เป็ นของขวัญ
ให้แก่ชาวโรมันที่มีชื่อเสี ยง พวกเขากลายเป็ นเชลยที่เป็ นทาสของชาวโรมัน —“การถูกจองจำถูกทำให้ เป็ นเชลย”—หรื อเชลยมี
นายใหม่ เปาโลคิดว่าตนเองเป็ นหนึ่งในผูพ้ ิชิตของพระคริ สต์ ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็ นทาสของบาป เขาเรี ยกตัวเองว่า “นักโทษของ
พระคริ สต์” และกล่าวเสริ มว่า “พวกท่ านได้ ยินมาแล้ วอย่ างแน่ นอนถึงภารกิจแห่ งของประทานของพระเจ้ าที่ทรงมอบแก่ ข้าพเจ้ า
เพื่อท่ าน...ข้าพเจ้ ามาเป็ นผู้ปรนนิ บัติของข่าวประเสริ ฐนี ต้ ามของประทานแห่ งพระคุณที่พระเจ้ าประทานแก่ ข้าพเจ้ าโดยกิจการที่
ทรงฤทธานุภาพของพระองค์ ” (เอเฟซัส 3:1–2, 7) จงสังเกตว่าเขาพูดว่า “ของประทานของพระเจ้ าที่ทรงมอบแก่ ข้าพเจ้ าเพือ่
ท่ าน” เขาได้ รับของประทานนั้นเพื่อเป็ นของประทาน
10
กันยายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“แต่ถา้ ไม่มีความเชื่อแล้ว จะไม่เป็ นที่พอพระทัยเลย เพราะว่าผูท้ ี่จะมาเฝ้ าพระเจ้านั้น ต้องเชื่อว่าพระองค์ทรงดำรงพระชนม์อยู่
และพระองค์ทรงเป็ นผูป้ ระทานบำเหน็จแก่คนเหล่านั้นที่แสวงหาพระองค์” (ฮีบรู 11:6)
ไฟประจำวัน!
ความเชื่อที่พระเจ้าได้ประทานให้แก่ฉนั มีความสำคัญต่อชีวิตประจำวันของฉัน
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
มัทธิว 6:33; ลูกา 8:14; 12:27; ฮีบรู 11:6; ยากอบ 4:3
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
2 ซามูเอล 4 และ 5; 1 โคริ นธ์ 15
เย็น:
เอเสเคียล 13; สดุดี 52 ถึง 54
การทะลุทะลวงทางความเชื่อ
พระเจ้าทรงวางแผนไม่ให้สิ่งใดธรรมดา พระเยซูทรงชี้ ไปที่ดอกลิลลี่เป็ นตัวอย่างของความงดงามอันยอดเยีย่ ม “จง
พิจารณาดูดอกไม้ ว่ามันเติบโตขึน้ อย่ างไร มันไม่ ทำงาน มันไม่ ปั่นด้ าย แต่ เราบอกพวกท่ านว่ า แม้ แต่ กษัตริ ย์ซาโลมอนเมื่อบริ
บูรณ์ ด้วยศักดิ์ศรี ก็ไม่ ได้ ทรงแต่ งพระองค์ งามเท่ าดอกไม้ เหล่ านี ส้ ักดอกหนึ่ง” (ลูกา 12:27)
ในราชอาณาจักรของพระผูเ้ ป็ นเจ้า สิ่ งพิเศษเป็ นเรื่ องธรรมดามากจนเป็ นเรื่ องปกติ มีเรื่ องเล่าเกี่ยวกับเศรษฐีคนหนึ่งที่
สามารถเกลี้ยกล่อมพระเจ้าให้อนุญาตให้เขานำกระเป๋ าเดินทางที่เต็มไปด้วยทองคำแท่งเมื่อเขาตายและไปสวรรค์ ชายคนนี้ ภูมิใจ
ในความสำเร็ จในแผ่นดินโลกในด้านความมัง่ คัง่ และความร่ำรวย ชายคนนี้ เปิ ดกระเป๋ าเดินทางเมื่อเขามาถึงประตูไข่มุก นักบุญ
เปโตรเกาศีรษะและถามว่า “คุณกำลังนำบาทวิถีมาทำไม?” แม้แต่ถนนในสวรรค์กย็ งั ปูดว้ ยทองคำ!
14
กันยายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“สิ่ งใดที่พวกท่านขอในนามของเรา เราจะทำสิ่ งนั้น” (ยอห์น 14:14)
ไฟประจำวัน!
ถ้าเราต้องการให้พระเจ้าทำงาน เราต้องทำงานด้วยการอธิษฐานด้วยแรงจูงใจที่ถูกต้อง
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
ปฐมกาล 2:15; ยอห์น 14:13–14; ยากอบ 4:1–3
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
2 ซามูเอล 10; 2 โคริ นธ์ 3
เย็น:
เอเสเคียล 17; สดุดี 60 และ 61
พึง่ พาซึ่งกันและกัน
พระเจ้าสามารถทรงจัดเตรี ยมด้วยการทำทุกอย่างเพื่อเรา แต่เป้ าหมายคือการสอนเด็กให้ยนื ด้วยสองขาของตัวเอง พระ
ประสงค์สูงสุ ดของพระเจ้าคือเราจะไม่เป็ นผูพ้ ่ งึ พิงที่ไร้ประโยชน์ เช่น ทารกที่เต้านม แต่เป็ นผูร้ ่ วมงานของพระองค์ ในปัจจุบนั
การอธิษฐานเป็ นการเข้าถึงแต่เพียงอย่างเดียวของเรา ถ้าเราต้องการเป็ นประโยชน์ต่อพระองค์ มักถูกลืมไปว่าแท้จริ งแล้ว
พระองค์ทรงสร้างโลกแบบที่การอธิษฐานเป็ นสิ่ งที่จ ำเป็ น การอธิษฐานไม่ใช่การคิดในภายหลังเมื่อมารสร้างปัญหากับสิ่ งต่างๆ
แม้แต่พระเยซูกอ็ ธิษฐาน
เพื่อช่วยกิจการต่อเนื่องของราชอาณาจักรของพระเจ้า การอธิษฐานเป็ นสิ่ งที่จ ำเป็ น มีหลายอย่างเกิดขึ้นที่พระเจ้าไม่
ต้องการ แต่เราควรอธิษฐานให้น ้ำพระทัยของพระองค์สำเร็ จ เราขอ แล้วพระองค์ทรงลงมือทำ พระองค์ทรงวางแผนว่าเราควร
ร่ วมมือกันในลักษณะนั้น เช่นเดียวกับที่ทรงให้อาดัม “อาศัยอยู่ในสวนเอเดน ให้ ทำและดูแลสวน” (ปฐมกาล 2:15) นัน่ คือวิธี
อ่านคำสัญญา “สิ่ งใดที่พวกท่ านขอในนามของเรา เราจะทำสิ่ งนั้น” (ยอห์น 14:14) เราขอทุกสิ่ งที่จ ำเป็ นเพื่อทำให้น้ำพระทัยของ
พระเจ้าสำเร็ จบนแผ่นดินโลกนี้ “ถ้ าท่ านขอสิ่ งใดในนามของเรา เราจะทำสิ่ งนั้น” เราเป็ นผูร้ ่ วมงานของพระองค์ โลกและผูค้ น
ในโลกนี้ ตอ้ งการการดูแลเอาใจใส่ และคำสัญญาที่วา่ พระคริ สต์จะทรงกระทำทุกสิ่ งที่เราทูลขอก็เพื่อทำให้จุดประสงค์น้ นั สำเร็ จ
ไม่ใช่เพื่อให้ได้ดวงจันทร์หรื อรถโรลส์รอยซ์ครึ่ งโหล
18
กันยายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“เพื่อพวกเขาจะได้แสวงหาพระเจ้าและมุ่งหวังจะค้นหาและพบพระองค์ ที่จริ งพระองค์ไม่ทรงอยูห่ ่างไกลจากเราทุกคนเลย”
(กิจการ 17:27)
ไฟประจำวัน!
ความสำคัญของครอบครัวในแบบแผนที่ยิง่ ใหญ่ของพระเจ้าไม่เคยถูกประเมินให้ต ่ำไป
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
สดุดี 127:3; 128:1–4; กิจการ 17:25–27; เอเฟซัส 3:15
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
2 ซามูเอล 14; 2 โคริ นธ์ 7
เย็น:
เอเสเคียล 21; สดุดี 68
ความรอดของครอบครัว
เมื่อเราอธิษฐานและวางแผนเพื่อความรอดของครอบครัวเราเอง เรากำลังเคลื่อนไหวในกระแสแห่งกิจกรรมของ
พระเจ้า พระเจ้าต้องการอยูใ่ นครอบครัวของเราเป็ นพิเศษ พระคัมภีร์คาดการณ์ถึง “ทุกครอบครั วในสวรรค์ และแผ่ นดินโลกก็
ดี” (เอเฟซัส 3:15) ครอบครัวไม่ได้เป็ นเพียงความคิดของมนุษย์ที่จะช่วยเสริ มสร้างสังคม คุณค่าของมันเป็ นมากกว่าแค่สงั คม
เป็ นวิธีที่พระเจ้าวางแผนให้โลกดำเนินไป! นี่เป็ นส่วนหนึ่งของพระประสงค์นิรันดร์ของพระองค์
โลกฆราวาสพูดถึงครอบครัวว่าเป็ น "องค์ประกอบหลัก" ของสังคม พวกเขาเป็ น แต่พวกเขาจำเป็ นต้องสร้างขึ้นด้วย
กัน ไม่ใช่ปล่อยให้ต้ งั อยูเ่ ฉยๆ ครอบครัวสามารถจัดโครงสร้างสังคมได้กต็ ่อเมื่อประสานเข้าด้วยกัน มีองค์ประกอบหนึ่งบนแผ่น
ดินโลกที่จะทำเช่นนี้ ไม่ใช่ความรักชาติ แต่คือข่าวประเสริ ฐ นัน่ อธิบายถึงคริ สตจักร ครอบครัวของพระเจ้า พระองค์ทรงสร้าง
มนุษย์ทุกชาติมาจากคนๆ เดียวให้อยูท่ วั่ พิภพโลก และทรงกำหนดเวลาและเขตแดนให้เขาทั้งหลายอยูด่ ว้ ย (กิจการ 17:26) ด้วย
ความจริ งของพระคัมภีร์เช่นนี้หนุนหลังเรา เราจึงสามารถวางแผนเพื่อความรอดของครอบครัวเราได้ เลือดข้นกว่าน้ำ ถ้าเรา
อธิษฐานเป็ นพิเศษเพื่อคนที่เรารัก มันเป็ นเรื่ องธรรมดา เป็ นวิธีที่พระเจ้าตั้งใจให้เป็ นเช่นนั้น และเรามีทุกสิ่ งที่ด ำเนินไปเพื่อเรา
ในกิจการบทที่ 16 เปาโลแสดงให้เห็นว่าถ้าผูค้ ุมได้รับความรอด ทั้งครอบครัวก็อยูใ่ นหนทางสู่ ความรอด
22
กันยายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“มนุษย์ควรอธิษฐานอยูเ่ สมอและไม่อ่อนระอาใจ” (ลูกา 18:1)
ไฟประจำวัน!
พระเจ้าตรัสกับเราทุกเวลาที่พระองค์ตอ้ งการ พระองค์ไม่รอจนกว่าเราจะอธิษฐาน
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
ฮาบากุก 2:1; ลูกา 18:1–8
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
2 ซามูเอล 18; 2 โคริ นธ์ 11
เย็น:
เอเสเคียล 25; สดุดี 73
พระเจ้ าตรัสทุกที่ทุกเวลา
การอธิษฐานเป็ นการพูดกับพระเจ้า ไม่ใช่พระเจ้าพูดกับเรา พระเจ้าตรัสกับเราทุกเวลาเมื่อพระองค์ตอ้ งการ นัน่ คือ
พระองค์ไม่รอจนกว่าเราจะอธิษฐาน อันที่จริ ง ดูเหมือนไม่มีผใู้ ดในพระคัมภีร์ที่ก ำลังอธิษฐานเมื่อพระเจ้าตรัสกับพวกเขา
พระเจ้าอยูใ่ กล้เราและสามารถตรัสได้ตลอดเวลา อาจเป็ นได้วา่ บางครั้งเราไม่สามารถได้ยนิ พระองค์ เพราะว่าเรากำลังเรี ยกร้อง
ให้พระองค์พดู บางอย่างที่แตกต่างออกไป การอธิษฐานโดยทัว่ ไปเป็ นเวลาที่จะระบายความในใจของเราต่อพระองค์ การฟังเป็ น
อีกสิ่ งหนึ่ง เราควรเตรี ยมพร้อมอยูเ่ สมอ เพราะว่าพระองค์ตรัสได้ทุกเมื่อ ไม่มีประโยชน์ที่จะลุกขึ้นจากหัวเข่าของเราและกล่าวว่า
พระองค์ไม่ได้ตรัส เราไม่สามารถเรี ยกร้องให้พระองค์ตรัสในเวลาที่แน่นอน เช่น เปิ ดวิทยุ เราไม่ควรปิ ดสวิทช์ พระองค์อาจ
ขัดจังหวะโปรแกรมของเราด้วยคำสัง่ ส่ วนตัวเฉพาะเมื่อใดก็ได้
อาจดูแปลกสำหรับคริ สเตียนในปัจจุบนั ที่ไม่มีขอ้ ใดในพระคัมภีร์เกี่ยวกับการอธิษฐานเพื่อจะได้ยนิ พระเจ้า ขอคำ
แนะนำ หรื อสิ่ งอื่นใด มีมากมายเกี่ยวกับการได้ยนิ พระสุ รเสี ยงของพระองค์ แต่แทบจะไม่มีอะไรเกี่ยวกับการรอที่จะฟัง ยกเว้น
เมื่อฮาบากุกยืนเฝ้ าดูเพื่อฟังจากพระเจ้า “ข้ าพเจ้ าจะยืนเฝ้ าดูอยู่ ข้ าพเจ้ าจะยืนที่หอคอย และเฝ้ ารอเพื่อจะดูว่า พระองค์ จะตรั ส
อะไรแก่ ข้าพเจ้ า และข้าพเจ้ าจะทูลตอบอย่ างไรในเรื่ องการร้ องทุกข์ ของข้าพเจ้ า” (ฮาบากุก 2:1) ถ้าเราอธิษฐานและรอฟัง เราอาจ
ได้ยนิ แต่ไม่วา่ เสี ยงใดพูด เราจำเป็ นต้องรู้วา่ อันตรายเป็ นสิ่ งที่เห็นได้ชดั มันเป็ นความจริ งตามธรรมชาติของเราที่ความ
ปรารถนาของเราสามารถฟังดูเหมือนคำสัง่ จากพระเจ้า ลองตะโกนให้นานพอเกี่ยวกับสิ่ งที่เราต้องการทำ แล้วเสี ยงสะท้อนจะ
กลับมาไม่ชา้ ก็เร็ ว แต่เป็ นเสี ยงของเราเอง ไม่ใช่เสี ยงของพระเจ้า
ผูค้ นพูดถึงวิธีที่พวกเขาต่อสู้กบั พระเจ้าในเรื่ องการตัดสิ นใจ จงดูกนั ตามตรง นัน่ เป็ นขั้นตอนที่ร้ายกาจ พระเจ้าเป็ นเช่น
นั้นหรื อ? แท้จริ งแล้วพวกเขากำลังต่ อสู้กับเจตจำนงของตนเอง ไม่ใช่ พระเจ้ า พวกเขาต้องการให้พระองค์เห็นด้วย เราคิดว่าเรา
ต้องต่อสู้กบั พระเจ้าเพื่อไขความลับจากพระองค์เกี่ยวกับสิ่ งที่พระองค์ตอ้ งการให้เราทำหรื อ? แน่นอนว่าพระองค์จะทรงบอกเรา
โดยไม่ตอ้ งต่อสู้ดิ้นรน เป็ นเรื่ องไร้สาระที่จะเข้าหาพระเจ้าด้วยวิธีน้ ัน ราวกับว่าพระองค์ไม่เต็มใจที่จะบอกน้ำพระทัยของ
พระองค์แก่เรา ธุรกิจของการขอคำแนะนำจากพระเจ้าแสดงให้เห็นว่าพระองค์ได้ละเลยที่จะนำทางเราดังที่พระองค์ตรัสไว้วา่
พระองค์จะทำ พระเจ้าไม่เคยปิ ดกั้นลูกๆ ของพระองค์ นัน่ หมายความว่าพระองค์จะทรงฟังคุณเสมอ!
23
กันยายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“ข้าพเจ้าขอบพระคุณพระเยซูคริ สต์องค์พระผูเ้ ป็ นเจ้าของเรา ผูท้ รงเสริ มกำลังข้าพเจ้า เพราะพระองค์ทรงเห็นว่าข้าพเจ้าไว้ใจได้
จึงทรงแต่งตั้งข้าพเจ้าให้ท ำพันธกิจของพระองค์” (1 ทิโมธี 1:12)
ไฟประจำวัน!
ฉันเป็ นหุน้ ส่ วนกับพระบิดาในสวรรค์เพื่อทำให้งานของพระองค์สำเร็ จบนแผ่นดินโลก
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
1 ทิโมธี 1:12; ยากอบ 1:22
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
2 ซามูเอล 19; 2 โคริ นธ์ 12
เย็น:
เอเสเคียล 26; สดุดี 74
3 เสาหลักแห่งปั ญญา
พระเจ้าทรงใช้ก ำลังคน มนุษย์ตอ้ งการฤทธิ์ อ ำนาจของพระเจ้า พระเจ้าทรงทำงานเมื่อผูค้ นทำงาน นี่คือ 3 เสาหลักแห่ง
ปัญญา เพื่อเปิ ดเผยหลักการเหล่านี้ ผมจะเริ่ มต้นด้วยพื้นฐาน คำเทศนาหลายล้านคำเทศนาและถูกรับฟังโดยผูค้ นหลายร้อยล้าน
คน แต่ผลที่ได้น้ นั ไม่ดีนกั นักเทศน์บ่นว่า “ผูค้ นไม่ท ำตามที่ฉนั บอก” เป็ นเพราะสาเหตุน้ นั อย่างแน่นอน ในบรรดาคนที่ฟัง มีกี่
คนที่รู้สึกอยากทุ่มเท อุทิศตนเพื่อรับใช้องค์พระผูเ้ ป็ นเจ้า ในขณะที่คนที่เหลือพอใจเพียงร้องเพลง นมัสการ และเพลิดเพลินกับ
คำเทศนาดีๆ? พระเจ้าต้องการให้เราเป็ น “ผู้ประพฤติตามพระวจนะ ไม่ ใช่ เป็ นเพียงผู้ฟังเท่ านั้น” (ยากอบ 1:22) ผมไม่ได้แค่
กำลังถ่ายทอดความรู้ แต่พยายามนำทุกคนเข้าสู่ ฤทธิ์อ ำนาจแห่งพลวัตและพระพรของพระเจ้า
ให้ผมหนุนใจคุณก่อน คุณสามารถมัน่ ใจได้อย่างแน่นอนว่าพระเจ้ามีบางอย่างให้คุณทำในตอนนี้ และเป็ นสถานที่
พิเศษสำหรับคุณ บางทีคุณอาจอยูท่ ี่นนั่ แล้ว แต่แค่ยงั ไม่ได้ตระหนักถึงมัน หลายคนคิดว่าพระเจ้ามีสิ่งยิง่ ใหญ่ให้พวกเขาทำในสัก
วันหนึ่งข้างหน้า บางทีพระองค์อาจมี แต่สิ่งที่คุณกำลังทำอยูต่ อนนี้กส็ ำคัญเช่นกัน ถ้าคุณกำลังเชื่อฟังพระองค์ มีงานที่เหมาะกับ
คุณ และงานที่คุณกำลังถูกเตรี ยมอยู่ ถ้าคุณคิดว่าคุณไม่ได้อยูใ่ นสิ่ งเหล่านี้ นัน่ ไม่จริ ง อย่าลิดรอนสิ ทธิ์ และตำแหน่งที่เหมาะสม
ของคุณในแผนการที่เปี่ ยมไปด้วยพระสิ ริของพระเจ้า
26
กันยายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“ให้เขาทั้งหลายขอบพระคุณพระยาห์เวห์เพราะความรักมัน่ คงของพระองค์ เพราะการอัศจรรย์ต่างๆ ของพระองค์ที่มีต่อมนุษย์
ทั้งหลายและให้เขาทั้งหลายถวายเครื่ องบูชาขอบพระคุณ และเล่าพระราชกิจของพระองค์ดว้ ยการร้องเพลงอย่างชื่นบาน” (สดุดี
107:21–22)
ไฟประจำวัน!
ข้าแต่องค์พระผูเ้ ป็ นเจ้า ไม่วา่ งานนั้นจะเล็กน้อยเพียงใด ข้าพระองค์จะทำให้ดีที่สุด
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
ปฐมกาล 1:1–31; สดุดี 46:3; 107:23; 146:9; มัทธิว 16:18; กิจการ 1:8; 5:28; 17:6; 2 โคริ นธ์ 4:6
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
2 ซามูเอล 22; กาลาเทีย 2
เย็น:
เอเสเคียล 29;
สดุดี 78:1–37
กิจการในน้ำที่ยงิ่ ใหญ่
ในฝ่ ายวิญญาณแล้ว โลกทุกวันนี้ กเ็ หมือนกับในปฐมกาล นัน่ คือ “ความมืดอยู่เหนือน้ำ” (ปฐมกาล 1:2) แต่ “พระเจ้ า
ตรั สว่ า “จงเกิดความสว่ าง” ความสว่ างก็เกิดขึน้ ” (ข้อ 3) วันนี้ พระเจ้ายังคงตรัสว่า “จงเกิดความสว่าง!” “พระเจ้ าผู้ตรั สว่ าให้
ความสว่ างส่ องออกมาจากความมืด ทรงส่ องสว่ างเข้ ามาในใจของเรา เพื่อให้ เรามีความสว่ างแห่ งความรู้ ถึงพระสิ ริของพระเจ้ า ที่
ปรากฏบนพระพักตร์ ของพระคริ สต์ ” (2 โคริ นธ์ 4:6)
หลังจากที่พระคริ สต์เป็ นขึ้นจากความตาย เหล่าสาวกเริ่ มทำให้โลกสว่างไสวด้วยแสงสว่างแห่งข่าวประเสริ ฐ เราก็ควร
ทำเช่นเดียวกัน พวกผูน้ ำบ่นว่าพวกเขา "ทำให้ ค ำสอนของพวกเจ้ าแพร่ ไปทั่วกรุ งเยรู ซาเล็ม" (กิจการ 5:28) และหลังจากนั้นไม่
นานก็มีคนกล่าวว่า "พวกที่พลิกโลกก็มาที่นี่ด้วย" (กิจการ 17:6) นัน่ คือสิ่ งที่พระเจ้าตรัสว่าพระองค์จะทรงทำ นัน่ คือ “พระองค์
ทรงพลิกทางของคนอธรรม” (สดุดี 146:9) ทางแห่งความไม่เชื่อกลับหัวกลับหาง แต่พระเจ้าพลิกกลับทำให้ถูกทาง นัน่ คืองาน
ของผมและงานของคุณ เราเป็ นตัวแทนของพระเจ้าในการพลิกโลกที่ยุง่ เหยิงให้กลับมาตรง
30
กันยายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“อย่าให้ใจของพวกท่านเป็ นทุกข์เลย พวกท่านวางใจในพระเจ้า จงวางใจในเราด้วย” (ยอห์น 14:1)
ไฟประจำวัน!
ในฐานะผูร้ ับใช้ของพระเจ้า เราสามารถช่วยคนรุ่ นเดียวให้รอดได้เท่านั้น ให้เราขยันทำงาน!
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
เอเสเคียล 48:35; ยอห์น 14:1, 3; 1 ยอห์น 2:18
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
1 พงศ์กษัตริ ย ์ 2;
กาลาเทีย 6
เย็น:
เอเสเคียล 33; สดุดี 81 และ 82
รวมตัวกันอีกครั้ง
พระคริ สต์ก ำลังเสด็จกลับมาเพื่อนำสวรรค์และแผ่นดิโลกมารวมกัน พระเยซูตรัสว่า “เราจะกลับมาอีก ...เพื่อว่ าเราอยู่
ที่ไหนพวกท่ านจะได้ อยู่ที่นั่นด้ วย” (ยอห์น 14:3) มันไม่ใช่ความคิดเพ้อฝันที่น ำมาจากข้อพระคัมภีร์ 2-3 ข้อ ไม่ใช่เหตุการณ์เล็ก
น้อย แต่เป็ นจุดสุ ดยอดของเวลาทั้งหมดและจุดประสงค์ของการทรงสร้างเอง! พระประสงค์ของพระเจ้าหมุนรอบโลกนี้ พระ
บุตรของพระองค์เสด็จมาที่นี่ ไม่ใช่ที่โลกอื่น แผ่นดินโลกคือสนามรบที่ความชัว่ ร้ายและซาตานจะถูกโค่นล้มต่อหน้าต่อตาผูท้ ี่
มันได้หลอกลวง การทรงเรี ยกของเราไม่เพียงมาจากสวรรค์เท่านั้นแต่ยงั อยูบ่ นแผ่นดินโลกด้วย พระเจ้ารักโลกนี้ พระองค์ไม่เคย
ตรัสว่าพระองค์ทรงรักสวรรค์เหมือนทรงรักโลก แม้วา่ พระองค์ทรงสร้างทั้งสวรรค์และแผ่นดินโลก พระเยซูประสูติบนแผ่นดิน
โลกและกลายเป็ นมนุษย์ที่มีลมหายใจ มีชีวิต และสิ้ นพระชนม์ พระองค์ทรงเป็ นขึ้นมาจากความตายในฐานะมนุษย์อีกครั้ง และ
บัดนี้ ทรงปรากฏในพระสิ ริในฐานะมนุษย์คนแรก บุตรมนุษย์ การกลับมาสู่ โลกนี้ในฐานะมนุษย์คือเรื่ องราวทั้งหมด พระเยซู
ทรงรักผูค้ น ไม่ใช่แค่วิญญาณจิต และมีอนาคตสำหรับโลกเก่านี้ เมื่อสัมผัสได้ถึงการทรงสถิตของพระองค์ในทุกตารางหลา สิ่ งที่
เราเพลิดเพลินในบางครั้งตอนนี้ทุกคนจะได้รับประสบการณ์อย่างเต็มตา การมาของพระองค์คือการเสด็จมาของพระองค์ นัน่ คือ
การทรงสถิตของพระองค์ เอเสเคียลกล่าวว่าในพระวิหาร พระนามขององค์พระผูเ้ ป็ นเจ้าคือชัมมาห์ นัน่ คือ “พระยาห์ เวห์ สถิตที่
นั่น” (เอเสเคียล 48:35) แต่เมื่อพระเยซูเสด็จมาอีกครั้ง สิ่ งนี้จะหมายถึงแผ่นดินโลกทั้งหมด
ภาษากรี กที่แท้จริ งของยอห์นกล่าวว่า “เป็ นชั่วโมงสุดท้ ายแล้ ว” (1 ยอห์น 2:18) ซึ่งเป็ นทัศนคติของพระเจ้า สำหรับ
องค์พระผูเ้ ป็ นเจ้า หนึ่งวันก็เหมือนหนึ่งพันปี และแสดงถึงความอดทนของพระองค์ในขณะที่พระองค์รอคอยให้โลกหันกลับมา
หาพระองค์ ทั้งยอห์นและเปโตรพูดราวกับว่าพวกเขาอยูใ่ นยุคสุ ดท้าย และพวกเขาก็อยู่ เช่นเดียวกับเรา เวลาผ่านไป 2 พันปี เรา
สามารถพูดถึงชัว่ โมงสุ ดท้ายเท่านั้น ถ้าผูใ้ ดคิดว่าการล่าช้าหมายความว่าการเสด็จกลับมาของพระเยซูเป็ นความผิดพลาดทั้งหมด
และเขาหรื อเธอสามารถมีชีวิตอยูต่ ่อไป พวกเขาก็ก ำลังดำเนินชีวิตอยูใ่ นสวรรค์ของคนโง่ ไม่มีคนรุ่ นใดอยูค่ ้ำฟ้ า มีชวั่ โมงสุ ดท้าย
สำหรับทุกชัว่ อายุคน ในฐานะผูร้ ับใช้ของพระเจ้า เราสามารถช่วยคนรุ่ นเดียวให้รอดได้เท่านั้น เราไม่มีสหัสวรรษที่ 3 เพื่อช่วย
โลกให้รอด ผูค้ นส่วนใหญ่ที่มีชีวิตอยูใ่ นปัจจุบนั จะหายไปในไม่ชา้ หลังจากมันเริ่ มต้น “ชัว่ โมงสุ ดท้าย” เป็ นคำที่สื่อถึงกระสวย
อันว่องไวของการดำรงอยูข่ องมนุษย์ จงดำเนินชีวิตอยูใ่ นแต่ละนาที แต่ละวินาที ของชัว่ โมงสุ ดท้ายนี้ ในวันสุ ดท้ายนี้ !
เมื่อคุณแสวงหาคนที่รอดแล้ว คุณจะจัดงานสัมมนา
เมื่อคุณแสวงหาผูส้ ูญหาย คุณจะจัดงานประกาศใหญ่
การประกาศต้องเข้าสู่คริ สตจักรท้องถิ่น
ผูเ้ ผยแพร่ ข่าวประเสริ ฐนำอวนของเขามาและขอยืมเรื อของศิษยาภิบาล
และพวกเขาก็ออกไปด้วยกันและนำวิญญาณจิตที่จบั ได้มา
หลังจากนั้นผูเ้ ผยแพร่ ข่าวประเสริ ฐก็สะบัดปลาทุกตัวเข้าไปในคริ สตจักร
และเคลื่อนต่อไปเพื่อการเก็บเกี่ยวครั้งต่อไป
1
ตุลาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“เหตุฉะนั้นเมื่อเราได้รับอาณาจักรที่ไม่สนั่ สะเทือนแล้ว ก็ให้เรามีใจขอบพระคุณ โดยเหตุน้ ี เราจึงนมัสการอย่างที่ชอบพระทัย
ของพระเจ้า ด้วยความเคารพและด้วยความยำเกรงเพราะว่าพระเจ้าของเรานั้นทรงเป็ นเพลิงที่เผาผลาญ” (ฮีบรู 12:28–29)
ไฟประจำวัน!
ไฟของพระวิญญาณบริ สุทธิ์ เสริ มกำลังให้เราประกาศข่าวประเสริ ฐ
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
1 พงศ์กษัตริ ย ์ 18:1–46; เยเรมีย ์ 23:29; มัทธิว 3:11; กิจการ 2:3; ฮีบรู 12:29
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
1 พงศ์กษัตริ ย ์ 3;
เอเฟซัส 1
เย็น:
เอเสเคียล 34; สดุดี 83 และ 84
ถูกเผาผลาญด้ วยไฟ
บัพติศมาในพระวิญญาณบริ สุทธิ์ หมายความว่าทุกสิ่ งที่เกี่ยวข้องกับพระองค์และข่าวประเสริ ฐควรมีลกั ษณะเฉพาะด้วย
ไฟ! มันควรจะเผาไหม้ ควรมีไฟในผูท้ ี่เป็ นพยานและทำงาน นัน่ คือไฟในผูท้ ี่เทศนา ไฟในความจริ งที่เราเทศนา “ถ้ อยคำของเรา
เหมือนไฟไม่ ใช่ หรื อ?” (เยเรมีย ์ 23:29) เราเทศนาเรื่ องไฟในองค์พระผูเ้ ป็ นเจ้า “เพราะว่ าพระเจ้ าของเรานั้นทรงเป็ นเพลิงที่เผา
ผลาญ” (ฮีบรู 12:29) ไฟในพระวิญญาณที่เราเทศนา “พระวิญญาณบริ สุทธิ์ และไฟ” (มัทธิว 3:11)!
มีเครื่ องบูชา 2 อย่างบนภูเขาคาร์เมล ครั้งหนึ่งถูกกระทำโดยปุโรหิ ตของพระบาอัล และอีกครั้งหนึ่งทำโดยเอลียาห์
เครื่ องบูชาแด่พระบาอัลไม่เคยถูกเผา นัน่ คือไม่มีไฟ เครื่ องบูชาอยูท่ ี่นนั่ ผูถ้ วายเครื่ องบูชาจริ งจัง พวกเขาอธิษฐานต่อพระบาอัล
ทั้งวัน และพวกเขาใช้มีดกรี ดตัวเองเพื่อแสดงให้เห็นว่าความจริ งใจของพวกเขาสิ้ นหวังเพียงใด พวกเขาทุ่มเททุกอย่างที่มีลงไป
แต่เครื่ องบูชาของพวกเขาไม่ได้นำไฟลงมา ถ้ามารสามารถดึงประกายไฟขึ้นมาจากนรกสักครั้งหรื อ 2 ครั้งเพื่อจุดไฟได้ ซาตานก็
จะทำ แต่แท่นบูชากลับเย็นชา
ชาย 4 คนมีการทะลุทะลวงของความเชื่ออย่างแท้จริ ง
ขณะที่พระองค์ ทรงสั่งสอนอยู่ มีพวกฟาริ สีและพวกอาจารย์ สอนธรรมบัญญัติมานั่งอยู่ด้วย เป็ นคนที่มาจากทั่วทุกหมู่
บ้ านในแคว้ นกาลิลี แคว้ นยูเดีย และกรุ งเยรู ซาเล็ม ฤทธิ์เดชขององค์ พระผู้เป็ นเจ้ าก็อยู่กบั พระองค์ เพือ่ ทีจ่ ะรักษาโรคได้
และนี่ แน่ ะ มีบางคนหามคนง่ อยซึ่ งนอนอยู่บนที่นอนมา พวกเขาพยายามหาทางหามคนง่ อยเข้ ามาวางตรงหน้ าพระ
องค์ แต่ หาทางเข้ ามาไม่ ได้ เพราะมีคนมาก เขาจึ งขึน้ ไปบนหลังคาตึก แล้ วหย่ อนคนง่ อยพร้ อมกับที่นอนลงมาตามช่ อง
กระเบือ้ ง วางตรงหน้ าพระเยซูท่ามกลางฝูงชนเมื่อพระองค์ ทอดพระเนตรเห็นความเชื่ อของพวกเขา พระองค์ จึงตรั สว่ า
“เพื่อนเอ๋ ย บาปต่ างๆ ของท่ านได้ รับการยกโทษแล้ว”พวกธรรมาจารย์ และพวกฟาริ สีจึงคิดในใจว่ า ...พระองค์ จึงตรั ส
สั่งคนง่ อยว่ า “เราสั่งท่ านว่ าจงลุกขึน้ ยกที่นอนแล้วกลับไปที่บ้านของท่ าน” ทันใดนั้นเขาก็ลกุ ขึน้ ต่ อหน้ าทุกคน ยกที่
นอนแล้ วกลับบ้ าน พร้ อมกับถวายพระเกียรติแด่ พระเจ้ าทุกคนก็อัศจรรย์ ใจและได้ ถวายพระเกียรติแด่ พระเจ้ า ต่ างเต็ม
ไปด้ วยความเกรงกลัวและพูดกันว่ า “วันนี เ้ ราได้ เห็นสิ่ งที่เหลือเชื่ อ”!” (ลูกา 5:17–21, 24–26) พระคริ สต์ อยู่ในบ้ านที่
แออัดไปด้ วยผู้คน ทั้งผู้เชื่ อและผู้ไม่ เชื่ อ หลายคนมีปัญหาทางร่ างกาย และ “ฤทธิ ์ เดชขององค์ พระผู้เป็ นเจ้ าก็อยู่กับพระ
องค์ เพื่อที่จะรั กษาโรคได้ ” แต่ ไม่มีผ้ ใู ดในคนที่เคร่ งศาสนาเหล่ านีไ้ ด้ รับการรั กษาเลย จากนั้นชาย 4 คนหามคนเป็ น
อัมพาตคนหนึ่งบนเปลหาม และเนื่องจากพวกเขาไม่ สามารถผ่ านฝูงชนได้ พวกเขาจึ งขึน้ บันไดด้ านนอกของบ้ าน
หลังคาเรี ยบ ดึงกระเบือ้ งออก แล้ วลดชายคนนั้นลงตรงหน้ าพระเยซู เมื่อเห็นความเชื่ อของพวกเขา พระองค์ จึงทรง
รั กษาชายผู้นีใ้ ห้ หายเป็ นปกติ มันเป็ นการทะลุทะลวง 2 ครั้ ง พวกเขา (ฝ่ ายร่ างกาย) พังผ่ านหลังคา และพวกเขา (ฝ่ าย
วิญญาณ) ทะลุผ่านความไม่ เชื่ อของฝูงชน ซึ่ งขัดขวางพวกเขาจากพระคริ สต์ “พวกเขาทั้งหมดประหลาดใจ…และเต็ม
ไปด้ วยความกลัว” ความกลัวเป็ นหนึ่งในกลอุบายยอดนิยมของซาตานในการพยายามบั่นทอนการอัศจรรย์ นอกจากนี ้
ยังเป็ นไปได้ ที่จะสูญเสี ยการรั กษาของคุณ ถ้ าคุณอนุญาตให้ ความไม่ เชื่ อบ่ อนทำลายสิ่ งที่พระเจ้ าได้ ท ำ แต่ เมื่อความเชื่ อ
ทะลุทะลวง มันทำให้ คุณถวายพระสิ ริแด่ พระเจ้ า มันนำมาซึ่ งฤทธิ์ อ ำนาจ ความมัน่ ใจ ความกล้ าหาญที่ท ำให้ คุณ
ต้ านทานความกลัวและความไม่ เชื่ อได้ และเสริ มพลังให้ คุณเป็ นพยานที่แข็งแกร่ งกว่ าที่เคยเป็ นมา
3
ตุลาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“แล้วพระเยซูตรัสตอบนางว่า “หญิงเอ๋ ย ความเชื่อของท่านก็มาก ให้เป็ นไปตามความต้องการของท่านเถิด” แล้วลูกสาวของนาง
ก็หายเป็ นปกติต้ งั แต่เวลานั้น” (มัทธิว 15:28)
ไฟประจำวัน!
ฉันตั้งใจจะเป็ นยักษ์ใหญ่ในหมู่คนแคระ ขี่ให้สูงเหนือความยากจนฝ่ ายวิญญาณของโลก
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
มัทธิว 8:5–13; 9:19–26; 15:28; มาระโก 2:1–12
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
1 พงศ์กษัตริ ย ์ 6;
เอเฟซัส 3
เย็น:
เอเสเคียล 36; สดุดี 86
ยักษ์ ใหญ่ แห่ งความเชื่อ
ทุกครั้งที่บางคนหายโรค มันหักทำลายความไม่เชื่อของโลก ต้องเป็ นแบบนั้น หรื อไม่ง้ นั เราก็จะไม่เคยเข้าใกล้พระเยซู
เลย จงเชื่อพระเจ้า! มันจะทำให้บางคนพอใจและทำให้คนที่เหลือประหลาดใจ พระเยซูจดั การกับระดับความเชื่อที่แตกต่างกัน
ของผูค้ น บางคนพยายามเก็บซ่อนความเชื่อของตนไว้ เช่น หญิงป่ วยที่คลานผ่านฝูงชนเพื่อแตะชายฉลองพระองค์ แต่ไม่ตอ้ งการ
ให้คนอื่นรู้ พระองค์กร็ ักษาเธออยูด่ ี บางคนมีความเชื่อที่ "เสี่ ยง" เช่นเดียวกับเพื่อนทั้ง 4 คนที่ตอ้ งการการรักษาเพื่อนที่เป็ น
อัมพาต (เป็ นความเชื่อของผูใ้ ดที่น ำการรักษามาถึงผูป้ ่ วย ของผูป้ ่ วยเอง หรื อของเหล่าเพื่อนของเขา?) การอัศจรรย์น้ นั ทำให้ผเู้ ชื่อ
มีความยินดี แต่ท ำให้เกิดความกลัวอยูใ่ นหัวใจของผูไ้ ม่เชื่อ หรื อมีความเชื่อบนพื้นฐานของสิ ทธิอ ำนาจ เช่น นายร้อย (อาจเป็ น
คนนอกรี ต) ที่ยงั เชื่อว่าพระเยซูทรงสามารถรักษาโรคได้ดว้ ยคำพูดของพระองค์ และเป็ นผูท้ ี่ได้รับคำชมเชยจากพระเยซูวา่ “เรา
ไม่ เคยพบศรั ทธาที่ไหนมากเท่ านี แ้ ม้ ในอิสราเอล!” ในการรักษาบ่าวของเขา (มัทธิว 8:10)
4
ตุลาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“เราบอกความจริ งกับท่านว่า ถ้าคนใดไม่ได้เกิดใหม่ คนนั้นไม่สามารถเห็นแผ่นดินของพระเจ้า” (ยอห์น 3:3)
ไฟประจำวัน!
มีสิ่งมหัศจรรย์ไร้ขีดจำกัดให้เรี ยนรู้และมีประสบการณ์ผา่ นทางพระวิญญาณบริ สุทธิ์
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
ยอห์น 3:3; โรม 1:16; กาลาเทีย 5:16; เอเฟซัส 2:6; ฮีบรู 8:1–13
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
1 พงศ์กษัตริ ย ์ 7;
เอเฟซัส 4
เย็น:
เอเสเคียล 37; สดุดี 87 และ 88
บังเกิดใหม่
เมื่อพระเยซูคริ สต์ทรงเชื่อมช่องว่างระหว่างโลกฝ่ ายธรรมชาติกบั โลกฝ่ ายวิญญาณ ความเป็ นไปได้อย่างหนึ่ งที่พระองค์
เปิ ดให้แก่เราคือ “บังเกิดใหม่” สำนวนภาษากรี กนี้ สามารถแปลได้วา่ “บังเกิดจากเบื้องบน” ชายและหญิงสามารถถูกสร้างใหม่
ได้ (เป็ นคนที่ถูกสร้างใหม่) โดยฤทธิ์ อ ำนาจของสวรรค์ ฤทธิ์ อ ำนาจแห่งราชอาณาจักรของพระเจ้า ดังที่พระคัมภีร์บอกเรา เห็น
ได้ชดั ว่า คนที่ “บังเกิดจากเบื้องบน” จะไม่มีวนั พอใจกับโลกที่มีแต่วตั ถุ พวกเขาจำเป็ นต้องมีการการเชื่อมโยงฝ่ ายวิญญาณเช่น
เดียวกับการเชื่อมโยงฝ่ ายร่ างกาย โลกปัจจุบนั ซึ่งมีกฎทางวิทยาศาสตร์ที่จ ำกัด ไม่ใหญ่พอสำหรับคริ สเตียนที่กลับใจใหม่มากไป
กว่ากรงสำหรับนกอินทรี มันจำเป็ นต้องขยายออกไป และการขยายนั้นไปไกลกว่าโลก 3 มิติของเราเข้าสู่มิติที่ 4 ของพระ
วิญญาณ เรา “ดำเนินชี วิตตามพระวิญญาณ” (กาลาเทีย 5:16) และเรา “นั่งด้ วยกันกับพระองค์ ในสวรรคสถานในพระเยซูคริ สต์ ”
(เอเฟซัส 2:6)
พระธรรมกิจการแสดงให้เห็นว่าเหล่าสาวกใช้ทรัพยากรใหม่ๆ ขณะที่พวกเขาเดินทางไปทัว่ โลกด้วยการอวยพรผูค้ น
ด้วยความรอดและการรักษา ประชากรใหม่ชุดแรกในพระคริ สต์ซ่ ึงเป็ นคนที่ถูกสร้างใหม่แห่งราชอาณาจักรได้ถูกส่ งออกไปเพื่อ
นำผูอ้ ื่นเข้าสู่ ระเบียบราชอาณาจักรเดียวกันด้วยสัญชาตญาณใหม่ ฤทธิ์อ ำนาจใหม่ และกฎใหม่ที่ถูกเขียนไว้ในหัวใจของพวกเขา
หลังจากที่ผมได้รับบัพติศมาในพระวิญญาณและพูดภาษาแปลกๆ ผมใช้เวลาไม่นานในการตระหนักว่าของประทานนี้
เปิ ดความเป็ นไปได้ใหม่ๆ ถ้าผมพูดภาษาแปลกๆ ผ่านทางพระวิญญาณ ก็จะมีสิ่งมหัศจรรย์อื่นๆ ผ่านทางพระวิญญาณได้ ผมได้
เรี ยนรู้ที่จะดำเนินชีวิตในพระวิญญาณ ผมอยูบ่ นพื้นที่ใหม่ที่หมายสำคัญและการอัศจรรย์เกิดขึ้น สรรเสริ ญพระเจ้า! ถ้าไม่ใช่
เพราะสิ่ งนั้น ก็จะไม่มีอะไรเกิดขึ้นอย่างที่เป็ น ฝูงชนจำนวนมากมาที่การประชุมของผม สิ่ งเหล่านี้แสดงถึงความต้องการที่สะสม
อย่างน่ากลัว แต่ผมได้รับบัพติศมาในพระวิญญาณบริ สุทธิ์ ผมรู้จกั ฤทธิ์ อ ำนาจแห่งยุคที่ก ำลังจะมาถึงและวิธีใช้ทรัพยากรเหล่า
นั้น ความเชื่อมัน่ ที่ยงิ่ ใหญ่จบั ตัวผมไว้วา่ พระเจ้ามีบางสิ่ งสำหรับพวกเขา นัน่ ไม่ใช่แค่ความลับของผมเท่านั้น แต่ยงั เป็ นความเชื่อ
มัน่ ของคนหลายร้อยล้านในปัจจุบนั ด้วย ถ้าฉันมี "ความลับ" อื่น ๆ นัน่ ก็คือข้อความนั้นเอง ผมมัน่ ใจในประสิ ทธิภาพของสิ่ งนี้
นัน่ คือ “ฤทธานุภาพของพระเจ้ าที่น ำไปสู่ความรอด” (โรม 1:16) คุณก็สามารถมัน่ ใจในสิ่ งนี้ได้เช่นกัน
5
ตุลาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“พวกสาวกจึงออกไปเทศนาสัง่ สอนทุกแห่งหน และองค์พระผูเ้ ป็ นเจ้าทรงร่ วมงานกับพวกเขาและทรงสนับสนุนคำสอนของ
พวกเขา ด้วยการให้มีหมายสำคัญประกอบคำสอน อาเมน” (มาระโก 16:20)
ไฟประจำวัน!
ข่าวประเสริ ฐไม่ใช่ข่าวดีสำหรับคนที่ไม่ได้ยนิ และข่าวประเสริ ฐที่ไม่ได้ถูกประกาศนั้นไม่ใช่ข่าวประเสริ ฐเลย
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
มาระโก 16:20
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
1 พงศ์กษัตริ ย ์ 8;
เอเฟซัส 5
เย็น:
เอเสเคียล 38; สดุดี 89
ความพยายามในการประกาศข่ าวประเสริฐครั้งแรกของผม
ขณะที่เป็ นมิชชันนารี หนุ่มในแอฟริ กา บางครั้งผมก็เทศนากับคน 5 คน นอกเหนือจากพันธกิจของเราแล้ว ยังมี
วิญญาณจิตอีก 450 ล้านดวงในแอฟริ กา ส่วนใหญ่ไม่รู้เรื่ องความรอดผ่านทางพระเยซูคริ สต์ ใช่ พวกเขาทั้งหมดสามารถถูก
ประกาศข่าวประเสริ ฐได้ดว้ ยวิธีที่เรากำลังใช้อยู่ แต่เพียงถ้าพวกเขามีชีวิตอยูป่ ระมาณ 5 พันปี เท่านั้น! อย่างไรก็ตาม ผูฟ้ ังกลุ่ม
เล็กๆ ไม่ได้ท ำให้เราผิดหวัง หลังจากนั้น การฟื้ นฟูสามารถมาได้และช่วยเราจากปัญหามากมาย! ความหวังนี้ ท ำให้เราอดทนและ
ตาเป็ นประกาย เพราะว่าพวกปู่ ทวดฝ่ ายวิญญาณของเราไม่ได้ฝากความหวังไว้กบั สิ่ งนี้ดว้ ยความเชื่อที่ไร้ขอ้ กังขาหรื อ? ต่อมาผม
รู้สึกว่าข่าวประเสริ ฐไม่ ใช่ ข่าวดีส ำหรั บคนที่ไม่ ได้ ยิน ข่ าวประเสริ ฐที่ไม่ ได้ ถกู ประกาศนั้นไม่ ใช่ ข่าวประเสริ ฐเลย ลำแสงเล็กๆ
อีกดวงส่ องผ่านเข้ามาในหัวใจของผมว่า ในพันธสัญญาใหม่ เราไม่เคยอ่านว่าพระเจ้าเสด็จออกไปด้วยพระองค์เอง แต่อ่านว่า
"พวกสาวกจึ งออกไปเทศนาสั่งสอนทุกแห่ งหน และองค์ พระผู้เป็ นเจ้ าทรงร่ วมงานกับพวกเขา" (มาระโก 16:20) พระเจ้าทรง
กระทำเมื่อพวกเขากระทำ ดังนั้น พระองค์ก ำลังรอเราอยู่ และผมไม่สามารถหนีสิ่งนี้ไปได้ นัน่ รวมถึงผมด้วย!
7
ตุลาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“เมื่อท่านทั้งหลายเห็นเหตุการณ์เหล่านี้ เกิดขึ้น ก็ให้รู้วา่ แผ่นดินของพระเจ้าใกล้จะมาถึงแล้ว” (ลูกา 21:31)
ไฟประจำวัน!
การเชื่อมโยงที่พระเจ้ากำหนดไว้ระหว่างสวรรค์และแผ่นดินโลกนั้นผ่านทางพระเยซูคริ สต์ พระบุตรของพระองค์
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
มาระโก 1:15;
ลูกา 21:31
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
1 พงศ์กษัตริ ย ์ 10; ฟิ ลิปปี 1 เย็น:ฅ
เอเสเคียล 40; สดุดี 91
กฎธรรมชาติและกฏฝ่ ายวิญญาณ
ทุกครั้งที่คุณเคลื่อนไหว คุณนำกฎธรรมชาติมาอยูภ่ ายใต้สิทธิอ ำนาจของคุณ ตามธรรมชาติแล้ว หิ นจะไม่ปลิว แต่
มนุษย์เราแนะนำกฎที่สูงกว่า นัน่ คือเจตจำนงของเรา เราสามารถขว้างก้อนหิ นให้มนั บินได้ เราไม่ใช่ทาสของกฎแห่งธรรมชาติ
พวกเขาเป็ นทาสของเรา เราสามารถใช้กฎทางวิทยาศาสตร์เพื่อออกจากดาวเคราะห์ดวงนี้ โดยสิ้ นเชิง เราสามารถเคลื่อนเข้าสู่
สภาวะไร้น้ำหนักหรื อบินไปถึงดวงจันทร์ได้ ยิง่ ไปกว่านั้น เราสามารถเคลื่อนไหว ลงมือทำ และทำพันธกิจในพระคำของ
พระเจ้าได้!
เมื่อมีคนพูดว่าการอัศจรรย์ขดั ต่อกฎของธรรมชาติ พวกเขาไม่รู้ขอ้ เท็จจริ งว่าที่ใดมีเจตจำนงที่เหนือกว่าและฤทธิ์ อ ำนาจ
ที่เหนือกว่า กฎของธรรมชาติสามารถถูกลบล้างได้ดว้ ยมนุษย์เช่นเดียวกับพระเจ้า ผูท้ รงมีอ ำนาจทุกอย่าง ความยากลำบากเกิดขึ้น
เมื่อผูค้ นไม่เชื่อในพระเจ้า นำพระเจ้าเข้ามา และไม่มีสิ่งใดที่เป็ นไปไม่ได้ และนัน่ คือสิ่ งที่เกิดขึ้น ราชอาณาจักรของพระเจ้าอยู่
ท่ามกลางพวกเรา เหตุฉะนั้น วิญญาณชัว่ จึงถูกขับออก คนป่ วยได้รับการรักษาให้หาย และเราพูดภาษาแปลกๆ
8
ตุลาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“ถ้าพวกท่านติดสนิทอยูก่ บั เราและถ้อยคำของเราติดสนิทอยูก่ บั ท่านแล้ว ท่านจะขอสิ่ งใดที่ท่านปรารถนาก็จะได้ส่ิ งนั้นพระบิดา
ของเราทรงได้รับพระเกียรติเพราะเหตุน้ ี คือเมื่อพวกท่านเกิดผลมากและเป็ นสาวกของเรา” (ยอห์น 15:7–8)
ไฟประจำวัน!
จุดมุ่งหมายหลักของการอธิษฐานคือการทำให้น้ำพระทัยที่ได้รับการเปิ ดเผยของพระเจ้าสำเร็ จ
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
มัทธิว 6:10; มาระโก 16:15; ลูกา 2:45–49; ยอห์น 15:7; 1 ยอห์น 5:14
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
1 พงศ์กษัตริ ย ์ 11; ฟิ ลิปปี 2
เย็น:
เอเสเคียล 41; สดุดี 92 และ 93
พระเจ้ ากำลังพูดอะไร
ถ้าพระเจ้ามีสิ่งใดที่จะตรัสกับคริ สตจักรโดยรวม นัน่ คือสิ่ งที่พระคริ สต์ตรัสไว้เมื่อพระองค์จากโลกนี้ ไปว่า “จงออก
ไปทั่วโลก ประกาศข่าวประเสริ ฐแก่ มนุษย์ ทุกคน” (มาระโก 16:15) จนกว่างานที่ได้รับมอบหมายนั้นจะเสร็ จสิ้ น พระเจ้าไม่มี
ความคิดภายหลังหรื อข้อกังวลที่ครอบงำให้เรายุง่ เกี่ยวกับปัญหาข้างเคียง เช่น โครงสร้างและองค์กรของคริ สตจักร
แม้ในขณะที่เป็ นเด็ก พระเยซูทรงมีไฟในหัวใจของพระองค์ที่จะทำให้พนั ธกิจของพระองค์บนแผ่นดินโลกในฐานะ
พระเมสสิ ยาห์สำเร็ จ พระองค์มาเพื่อเอาประกาศนำดวงวิญญาณของผูท้ ี่หลงหาย แม้กระทัง่ เต็มใจยอมตายอย่างโหดร้ายเพื่อเห็น
แก่เรา แต่หลายปี ก่อนหน้านั้น พระองค์ทรงปรารถนาที่จะยุง่ กับพระราชกิจของพระบิดา บัดนี้ เป็ นเช่นนี้เมื่อหาได้สามวันแล้ว ก็
พบพระกุมารนัง่ อยูใ่ นพระวิหารท่ามกลางพวกอาจารย์ กำลังฟังและไต่ถามอาจารย์เหล่านั้นอยูค่ นทั้งหลายที่ได้ยนิ ต่างประหลาด
ใจในสติปัญญาและคำตอบของพระกุมารนั้นส่ วนบิดามารดาเมื่อเห็นแล้วก็ประหลาดใจ มารดากล่าวว่า “ลูกเอ๋ ย ทำไมถึงทำกับ
เราอย่างนี้? ดูซิ พ่อกับแม่เที่ยวตามหาลูกด้วยความทุกข์ใจ”พระเยซูตอบว่า “พ่อกับแม่ตามหาลูกทำไม? พ่อกับแม่ไม่รู้หรื อว่าลูก
ต้องอยูใ่ นพระนิเวศของพระบิดา?” (ลูกา 2:46–49) ตั้งแต่เริ่ มแรก พระเยซูต้ งั ใจที่จะประกาศข่าวประเสริ ฐเรื่ องราชอาณาจักรแก่
โลก! พระองค์ไม่หลงทางแม้แต่ครั้งเดียว
พระเจ้ามีน ้ำพระทัยที่เปิ ดเผย ดังนั้น “ถ้ าเราทูลขอสิ่ งใดที่เป็ นพระประสงค์ ของพระองค์ พระองค์ กท็ รงฟั ง” (1 ยอห์น
5:14) นัน่ คือเหตุผลที่พระคริ สต์ประทานคำวิงวอนให้แก่เรา “ขอให้ เป็ นไปตามพระทัยของพระองค์ ในสวรรค์ เป็ นอย่ างไรก็ให้
เป็ นไปอย่ างนั้นในแผ่ นดินโลก” (มัทธิว 6:10) พระเยซูตรัสอีกครั้งว่า “ถ้ า...ถ้ อยคำของเราติดสนิทอยู่กับท่ านแล้ ว ท่ านจะขอสิ่ ง
ใดที่ท่านปรารถนาก็จะได้ สิ่งนั้น” (ยอห์น 15:7) จุดมุ่งหมายหลักของการอธิษฐานไม่ใช่เพื่อให้เป็ นไปตามความประสงค์ของเรา
แต่เพื่อให้เป็ นไปตามน้ำพระทัยที่เปิ ดเผยของพระเจ้า ไม่ใช่เพื่อโน้มน้าวใจพระเจ้าตามวิธีคิดของเรา หรื อบังคับพระหัตถ์ของ
พระองค์ น้ำพระทัยที่สำแดงออกของพระองค์คือว่าพระเจ้าทรงปรารถนาให้มนุษย์ทุกคนกลับใจใหม่ ทุกสิ่ งในพันธสัญญาใหม่
สะกดไว้อย่างนั้นอย่างชัดเจน ถ้าเราทูลขอตามน้ำพระทัยนั้น พระเจ้าจะทรงรี บตอบ สิ่ งนี้แสดงไว้ในคำอธิษฐานว่า “ขอให้ แผ่ น
ดินของพระองค์ มาตั้งอยู่ ขอให้ เป็ นไปตามพระทัยของพระองค์ ในสวรรค์ เป็ นอย่ างไรก็ให้ เป็ นไปอย่ างนั้นในแผ่ นดินโลก” ข่าว
ประเสริ ฐคือสิ่ งที่จะทำให้สิ่งนี้บรรลุผลสำเร็ จ คุณได้มีส่วนร่ วมในราชอาณาจักรนั้นแล้วในวันนี้ !
9
ตุลาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“แล้วพวกเขาจำได้วา่ พวกเขาเคยอยูก่ บั พระเยซู” (กิจการ 4:13)
ไฟประจำวัน!
เรานำกลิ่นหอมของพระเยซูมาไว้บนตัวเรา
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
สดุดี 45:6–8; มัทธิว 16:16; ยอห์น 12:3; กิจการ 4:13; ฮีบรู 1:8–9
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
1 พงศ์กษัตริ ย ์ 12; ฟิ ลิปปี 3
เย็น:
เอเสเคียล 42; สดุดี 94
กระตุ้นความคิดของพระเจ้ า
การเจิมเป็ นเหมือนน้ำหอม เปาโลอ้างถึงดาวิดว่า
“ข้าแต่ พระเจ้ า พระที่นั่งของพระองค์ ด ำรงอยู่เป็ นนิตย์ พระคทาแห่ งอาณาจักรของพระองค์ กเ็ ป็ นพระคทาเที่ยงธรรม
พระองค์ ทรงรั กความชอบธรรม และทรงเกลียดความอธรรม เพราะเหตุนีพ้ ระเจ้ า ซึ่ งเป็ นพระเจ้ าของพระองค์ ทรงเจิ ม
พระองค์ ไว้ ด้ วยน้ำมันแห่ งความยินดี เหนือบรรดาพระสหายของพระองค์ ” (ฮี บรู 1:8–9) ฉลองพระองค์ ทั้งหมดของ
พระองค์ [หมายถึงพระคริ สต์ ] ก็หอมฟุ้ งไปด้ วยกลิ่นมดยอบ กฤษณา และว่ านน้ำ (สดุดี 45:8) ว่ านน้ำมาจาก
ตะวันออกไกลอันไกลโพ้ น อิสราเอลอาจได้ รับสิ่ งนีจ้ ากผู้ค้าที่ผ่าน มันให้ กลิ่นหอมที่โดดเด่ นเฉพาะกับที่ประทับของ
พระเจ้ าและปุโรหิ ตเท่ านั้น สิ่ งนีท้ ำให้ นึกถึงพระเจ้ า
พระคัมภีร์เรี ยกพระเยซูวา่ ผูท้ ี่ได้รับการเจิม “ซี โมนเปโตรทูลตอบว่ า “พระองค์ เป็ นพระคริ สต์ [ผูท้ ี่ได้รับการเจิม] พระ
บุตรของพระเจ้ าผู้ทรงพระชนม์ อยู่”” (มัทธิว 16:16) พระเยซูได้รับการเจิมแต่เพียงผูเ้ ดียวในฐานะที่พระองค์ทรงเป็ นพระบุตร
ของพระเจ้าแต่เพียงผูเ้ ดียว “พระคริ สต์” มาจากภาษากรี กว่า คริ สโตส (christos) ซึ่งแปลว่า “เมสสิ ยาห์” ในภาษาฮีบรู ทุกสิ่ งที่
แสดงโดยการเจิมพลับพลาและปุโรหิ ตและกษัตริ ยถ์ ูกทำให้เสำเร็จแล้วในพระเยซู พระคริ สต์ทรงเป็ นกษัตริ ยป์ ุโรหิ ตของเรา
“ฉลองพระองค์ ทั้งหมดของพระองค์ กห็ อมฟุ้ ง” พระองค์ทรงมีความบริ สุทธิ์ และกลิ่นของสวรรค์ ความงดงามอันละเอียดอ่อน
และน่าดึงดูดใจของวิญญาณที่ท ำให้พระองค์ทรงเป็ นผูท้ ี่ได้รับการเจิม แตกต่างจากผูอ้ ื่นทั้งหมด พระองค์ดึงดูดผูค้ น ไม่ใช่แค่
ด้วยฤทธิ์ อ ำนาจหรื อ "ความสามารถพิเศษ" ตามความหมายทัว่ ไป แต่ดว้ ยความรัก เคลื่อนไหวในบรรยากาศแห่งความบริ สุทธิ์
ของพระองค์เองซึ่งผูค้ นไม่เคยหายใจเข้ามาก่อน ถ้าเราพูดอย่างนี้ได้ พระเยซูทรงเป็ น “ขวดน้ำหอม” ของพระเจ้า ซึ่งแตกหักเพื่อ
เราบนไม้กางเขน และตอนนี้ ท ำให้โลกเต็มไปด้วยกลิ่นหอมของพระองค์!
เรามีโอกาสมีส่วนร่ วมในการเจิมของพระคริ สต์ เช่นเดียวกับมารี ย ์ “มารี ย์เอาน้ำมันหอมนารดาบริ สุทธิ์ หนักประมาณ
ครึ่ งกิโลกรั ม ซึ่ งมีราคาแพงมากมาชโลมพระบาทพระเยซู และเอาผมเช็ดพระบาทของพระองค์ เรื อนก็หอมฟุ้ งไปด้ วยกลิ่นน้ำ
มันนั้น” (ยอห์น 12:3) การนมัสการที่ใกล้ชิดที่สุดของเรา โดยที่เราถ่อมตัวลงแทบพระบาทและถวายสิ่ งที่ดีที่สุดแด่พระองค์
ทำให้การเจิมของพระองค์ลน้ เข้ามาในชีวิตเรา เรานำกลิ่นหอมของพระเยซูมาไว้บนตัวเรา “กลิ่น” ของเราเกี่ยวข้องกับที่ประทับ
ของพระเจ้า เป็ นความจริ งที่กลิ่นหอมแบบพระคริ สต์แผ่ขยายออกจากคุณไปทัว่ โลก
10
ตุลาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“พี่นอ้ งทั้งหลาย ความปรารถนาในจิตใจของข้าพเจ้าและคำวิงวอนขอต่อพระเจ้าเพื่อคนอิสราเอลนั้น คือขอให้เขาได้รับความ
รอด” (โรม 10:1)
ไฟประจำวัน!
จุดมุ่งหมายสูงสุ ดของการอธิษฐานวิงวอนคือการประกาศข่าวประเสริ ฐ
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
ปฐมกาล 37:30; ลูกา 22:44; 23:34 น.; ยอห์น 3:16; 8:39–44; 1 ทิโมธี 2:1–4
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
1 พงศ์กษัตริ ย ์ 13; ฟิ ลิปปี 4
เย็น:
เอเสเคียล 43; สดุดี 95 และ 96
ไม่ มีผู้ใดเป็ น "คนที่ไม่ สำคัญ"
สำหรับพระเจ้าแล้ว ไม่มีใครเป็ น "คนที่ไม่สำคัญ" แต่ละคนมีคุณค่าเกินกว่าจะคำนวณได้ คำอธิษฐานของเราควรเป็ น
สัดส่ วนโดยตรงกับความอธรรมที่สิ้นหวังซึ่งผูค้ นต้องการความรอด ยิง่ ความอธรรมเลวร้ายเท่าไร การอธิษฐานวิงวอนก็ยงิ่ มาก
ขึ้นเท่านั้น ไม่มีผใู้ ดควรต้องผ่านชีวิตโดยปราศจากบางคนอธิษฐานเผือ่ เขา (หรื อเธอ)
เพราะฉะนั้นก่ อนสิ่ งอื่นใดทั้งหมด ข้ าพเจ้ าขอร้ องพวกท่ านให้ วิงวอน อธิ ษฐาน ทูลขอ และขอบพระคุณเพื่อทุกคนเพื่อ
กษัตริ ย์ทั้งหลายและทุกคนที่มีต ำแหน่ งสูง เพื่อเราจะได้ ด ำเนินชี วิตอย่ างสงบและมีสันติในทางพระเจ้ า และเป็ นที่
นับถือการกระทำเช่ นนี เ้ ป็ นการดี และเป็ นที่ชอบพระทัยของพระเจ้ าพระผู้ช่วยให้ รอดของเราพระองค์ ทรงประสงค์ ให้
ทุกคนได้ รับความรอดและรู้ ความจริ ง (1 ทิโมธี 2:1–4) ดังนั้น จุดมุ่งหมายสูงสุดของการอธิ ษฐานวิงวอนคือการ
ประกาศข่ าวประเสริ ฐ “พระเจ้ าทรงรั กโลกดังนี ้ คือได้ ประทานพระบุตรองค์ เดียวของพระองค์ เพื่อทุกคนที่วางใจใน
พระบุตรนั้นจะไม่ พินาศ แต่ มีชีวิตนิรันดร์ ” (ยอห์ น 3:16 ) การอธิ ษฐานวิงวอนไม่ ใช่ แค่ การพูดเท่ านั้น แต่ เป็ นการร้ อง
ทูลจากใจ ไม่ ใช่ “ข้ าแต่ องค์ พระผู้เป็ นเจ้ า ขออวยพรข้ าพระองค์ และทุกคนในทุกที่ อาเมน" พระเยซูเจ้ าของเรา
อธิ ษฐานเผื่อเราจนเหงื่อหยดเป็ นเลือด! พระองค์ ยงั ทรงอธิ ษฐานเผื่อทหารที่ตอกตะปูผ่านเนือ้ ที่สั่นเทาของพระองค์
จงอธิษฐานเผือ่ มนุษย์ทุกคน เพราะว่าการปราศจากพระคริ สต์เป็ นสิ่ งที่น่ากลัว มีพระผูช้ ่วยให้รอดเพียงองค์เดียว และ
ถ้าพระองค์ถูกปฏิเสธ ผูค้ นจะทำอะไรได้บา้ ง? เสี ยงร้องของพวกเขาเหมือนกับเสี ยงของรู เบนเมื่อเขาพบว่าโยเซฟไปแล้ว “แล้ ว
ฉั นจะไปที่ไหนเล่ า?” (ปฐมกาล 37:30) ไม่มีที่ไป ดังนั้นผูค้ นจึงล่องลอยไปตามทาง บางทีไปด้วยกัน บางทีคนเดียว มุ่งหน้าไป
ยังนรกโดยไม่รู้ตวั ศาสนาที่ปราศจากพระคริ สต์คือนรกบนแผ่นดินโลก! ผูน้ ำที่เคร่ งศาสนาฆ่าพระคริ สต์ เราเห็นทุกวันนี้ ในการ
ก่อการร้าย การฆาตกรรม และการกดขี่ในพระนามของพระเจ้า พระเยซูตรัสว่า ถ้าพวกท่านเป็ นลูกของอับราฮัมแล้ว ท่านก็จะทำ
ในสิ่ งที่อบั ราฮัมทำแต่เดี๋ยวนี้พวกท่านหาโอกาสฆ่าเรา...อับราฮัมไม่ได้ท ำอย่างนี้ ...พวกท่านมาจากพ่อของท่านคือมาร... มันเป็ น
ฆาตกรตั้งแต่เริ่ มแรก (ยอห์น 8:39–40, 44) การอธิษฐานวิงวอนเป็ นเรื่ องเร่ งด่วน การอธิษฐานวิงวอนนำมาซึ่งการแทรกแซงของ
พระเจ้า เรามีหนึ่งชัว่ อายุคนที่จะช่วยคนรุ่ นหนึ่งให้รอด ไม่ใช่หนึ่งศตวรรษ! นัน่ คือความท้าทายของพระเจ้าสำหรับคุณและผม!
จงทำส่วนของคุณวันนี้ แล้วคุณจะช่วยปูทางให้กบั คนอื่นๆ ที่จะตามมาในไม่ชา้
11
ตุลาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“ท่านผูน้ ้ ี เป็ นพระบุตรของพระเจ้าจริ งๆ!” (มาระโก 15:39)
ไฟประจำวัน!
ความเชื่อในพระเยซูคริ สต์ของฉันรับประกันความรอดอย่างมัน่ คง
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
มัทธิว 27:36; มาระโก 15:29–39
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
1 พงศ์กษัตริ ย ์ 14; โคโลสี 1
เย็น:
เอเสเคียล 44; สดุดี 97 และ 98
จงเห็นและเชื่อ!
บางคนดูเหมือนจะรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับไม้กางเขน พวกเขาสวมไม้กางเขนหรื อถือไม้กางเขน แต่เป็ นเพียงความเชื่อ
โชคลางที่ไม่ได้ท ำประโยชน์อนั ใดให้แก่พวกเขา การรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับโรงไฟฟ้ าอาจทำให้คุณยังหนาวเหน็บและมืดมนได้ คุณ
สามารถสัมผัสกำแพงของโรงไฟฟ้ านิวเคลียร์ แต่ยงั คงเป็ นน้ำแข็งอยู่ ถึงกระนั้นคุณสามารถเสี ยบปลัก๊ เข้าไปในฤทธิ์ อำนาจของ
พระเจ้าได้ เพราะว่าระบบสายสำเร็ จด้วยการประกาศข่าวประเสริ ฐ ซึ่งคือความจริ ง! เมื่อคุณได้ยนิ และเชื่อ คุณกำลังเข้าถึง
ทรัพยากรของพระเจ้าซึ่งไม่มีวนั หมดสิ้ น แล้วคุณก็รู้วา่ คุณได้รับความรอด
จริ งๆแล้วมีคนอยูท่ ี่โคนไม้กางเขนขณะที่พระเยซูถูกแขวนอยูท่ ี่นนั่ ซึ่งไม่รอด พระคัมภีร์บรรยายถึงบางคนที่ “นั่งเฝ้ า
พระองค์ อยู่ที่นั่น” (มัทธิว 27:36) นัน่ คือทั้งหมดที่พวกเขาทำ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ได้รับความรอด วันนี้ ผคู้ นหลายพันคนทำสิ่ ง
เดียวกัน พวกเขาเป็ นเพียงผูเ้ ฝ้ าดู บางทีอาจสงสัย หรื อแม้แต่สงสาร รู้สึกเสี ยใจกับการสิ้ นพระชนม์ของพระคริ สต์ แต่ไม่เคยได้
รับสิ่ งที่พระองค์สิ้นพระชนม์เพื่อประทานให้แก่พวกเขา นัน่ คือหลักประกันถึงการอภัยโทษพระเจ้าและยอมรับพวกเขา
12
ตุลาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“สองคนดีกว่าคนเดียว เพราะว่าเขาทั้งสองได้รับรางวัลดีสำหรับการตรากตรำของพวกเขาเพราะว่าถ้าพวกเขาล้มลง คนหนึ่งจะ
ได้พยุงเพื่อนของตนให้ลุกขึ้น ... ถ้าสองคนนอนอยูด่ ว้ ยกัน พวกเขาก็อบอุ่น แต่ถา้ นอนคนเดียวจะอบอุ่นได้อย่างไร?และถ้าคน
หนึ่งเอาชนะคนคนเดียวได้ คนสองคนย่อมต่อต้านเขาได้แน่ เชือกสามเกลียวจะขาดง่ายก็หามิได้” (ปัญญาจารย์ 4:9–12)
ไฟประจำวัน!
การทำงานเป็ นทีม! นัน่ จะนำมาซึ่งราชอาณาจักรของพระเจ้าเร็วกว่าการเล่นคนเดียว
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
ปัญญาจารย์ 4:9–12; โรม 1:11
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
1 พงศ์กษัตริ ย ์ 15; โคโลสี 2
เย็น:
เอเสเคียล 45; สดุดี 99 ถึง 101
ขวานและวงออเคสตรา
คริ สตจักรคือขวานรบของพระคริ สต์ ขวานทุกเล่มมีดา้ มจับ หัว และคม ด้ามสำหรับคนจับ หัวสำหรับน้ำหนัก และคม
ในการทำงาน ไม่วา่ เราจะทำให้งานของพระเจ้าเป็ นไปได้ดว้ ยงานสนับสนุนที่ตอ้ งทำ ให้น้ำหนักกับงานโดยการสนับสนุนของ
เรา หรื ออยูใ่ นแนวรุ กและคมของการประกาศข่าวประเสริ ฐ เราทุกคนล้วนแต่จ ำเป็ นอย่างยิง่ ! ผม ไรน์ฮาร์ด บองเก้ ไม่มีคริ สต
จักร แต่ผมต้องพึ่งพาคริ สตจักร พวกเขาให้น ้ำหนักกับสิ่ งที่ผมทำ และทีมของผมดูแลเรื่ องที่ไม่รู้จบที่ตอ้ งถูกจัดการ ถึงกระนั้น
เราก็เป็ นเครื่ องมือหนึ่งที่อยูใ่ นมือของพระอาจารย์
คริ สตจักรยังเป็ นวงออเคสตราของพระคริ สต์ดว้ ย ผมไม่เคยพยายามทำสิ่ งใดตามลำพัง ศิลปิ นเดี่ยวจำเป็ นต้องมีดนตรี
คลอเสี ยง บางทีอาจเป็ นวงออร์เคสตราทั้งหมด งานของเราทุกอย่างต้องถูกจัดการ ไม่วา่ จะเป็ น แคมเปญ วรรณกรรม ทีวี
ภาพยนตร์ หนังสื อ หรื อสิ่ งใดก็ตาม มีผเู้ ล่นเบื้องหลังหลายพันคนที่สอดคล้องกับจุดมุ่งหมายของผม ด้วยของประทาน ความ
สามารถพิเศษ หรื อด้วยคำอธิษฐานและของขวัญของพวกเขา และเราทำงานด้วยจุดประสงค์เดียวกัน ท่วงทำนองทุกเพลง
ต้องการการสอดประสานและเสริ มด้วยคุณสมบัติของเครื่ องดนตรี อื่นๆ ผมไม่เคยไปประเทศใดเลย ยกเว้นเมื่อกลุ่มของคริ สต
จักรขอให้ผมไป เราทุกคนต้องทำงานร่ วมกัน
20
ตุลาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“และในวันนั้นภาระของเขาจะหลุดจากบ่าของท่านและแอกของเขาจากคอของท่าน และแอกก็ถูกทำลายเนื่องจากน้ำมันเจิม”
(อิสยาห์ 10:27)
ไฟประจำวัน!
ฉันได้รับการเจิมจากพระวิญญาณบริ สุทธิ์
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
อพยพ 30:1–38; เอสเธอร์ 2:12; เพลงโซโลมอน 3:6; มัทธิว 1:17
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
2 พงศ์กษัตริ ย ์ 1; 2 เธสะโลนิกา 1
เย็น:
ดาเนียล 5; สดุดี 110 และ 111
การเจิมที่แท้ จริง
ส่วนผสมที่พบมากที่สุดของน้ำมันสำหรับเครื่ องสำอางคือมดยอบ ซึ่งสกัดจากสารที่เป็ นยางที่มีกลิ่นหอมจากต้น
มดยอบขนาดเล็ก หญิงสาวที่ซาโลมอนรักมีนิ้วที่หยดกลิ่นหอมของมดยอบออกมา ซาโลมอนเองมาจากถิ่นทุรกันดารเต็มไปด้วย
ฝุ่ น “ควันหอมของมดยอบและกำยาน” (เพลงซาโลมอน 3:6) ส่วนหนึ่งของการดูแลความงามของเอสเธอร์เพื่อนำเสนอต่อ
กษัตริ ยเ์ ซอริ ซิส คือ 6 เดือนด้วยน้ำมันมดยอบ คุณค่าแสดงให้เห็นเมื่อพวกโหราจารย์น ำมดยอบมาถวายพระกุมารเยซูเป็ นของ
ขวัญพิเศษ ในทางการแพทย์มดยอบถูกใช้เป็ นยาฝิ่ น พระเยซูปฏิเสธสิ่ งนี้บนไม้กางเขน
น้ำมันเจิมพิเศษที่บรรยายใน อพยพ 30 ถูกใช้สำหรับพลับพลาและปุโรหิ ตขององค์พระผูเ้ ป็ นเจ้าเท่านั้น เพื่อแต่งตั้ง
พวกเขาสำหรับการรับใช้ กษัตริ ยก์ ไ็ ด้รับการเจิมด้วย ความเห็นส่ วนใหญ่กล่าวว่าผูเ้ ผยพระวจนะได้รับการเจิม แต่จากที่ผมเห็น
ในพระคัมภีร์ ไม่เคยมีผใู้ ดในพวกเขาได้รับเลย พวกเขาเป็ นคนของพระเจ้าที่มีอิสระ ไม่ได้รับการแต่งตั้งจากสังคม พระเจ้าทรง
เลือกและประทานการเจิมที่แท้จริ งด้วยพระวิญญาณแก่พวกเขา ไม่มีผใู้ ดตั้งผูเ้ ผยพระวจนะ นัน่ คือพวกเขาเป็ นคนของพระเจ้า
โดยคำสัง่ จากพระเจ้า เอลียาห์ควรได้เจิมเอลีชา แต่พลาดที่จะทำ พระเจ้าเองทรงเจิมเอลีชาด้วยพระวิญญาณ
24
ตุลาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“พระเยซูคริ สต์พยานผูซ้ ื่อสัตย์ ซึ่งเป็ นผูแ้ รกที่ทรงเป็ นขึ้นจากตาย และเป็ นผูท้ รงครอบครองเหนือบรรดากษัตริ ยใ์ นโลก” (วิวรณ์
1:5)
ไฟประจำวัน!
การพูดความจริ งเป็ นคุณลักษณะสำคัญของพระเยซูคริ สต์—พระองค์ทรงไว้ใจได้
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
ยอห์น 8:13–14, 18; 14:1; วิวรณ์ 1:1–29
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
2 พงศ์กษัตริ ย ์ 5;
1 ทิโมธี 2
เย็น:
ดาเนียล 9; สดุดี 117 และ 118
การเปิ ดเผยสำแดงในการเปิ ดเผยสำแดง
ชายคนหนึ่งที่ได้รับมอบข้อความแห่งความเชื่อในอดีต ปัจจุบนั และอนาคตคืออัครทูตยอห์น เมื่อเขาต่อต้านอาณาจักร
โรมันทั้งหมด เขาเขียนหนังสื อที่อศั จรรย์และแห่งชัยชนะ เขาเขียนว่า “ข้ าพเจ้ าคือยอห์ น พี่น้องของท่ านทั้งหลาย ผู้มีส่วนร่ วม
ในความยากลำบาก และในอาณาจักร และในความทรหดอดทนในพระเยซู ข้ าพเจ้ ามาอยู่ที่เกาะปั ทมอสเพราะเหตุพระวจนะของ
พระเจ้ าและคำพยานของพระเยซู” (วิวรณ์ 1:9) ยอห์นสนิทกับพระเยซู มันเป็ นมิตรภาพที่เป็ นเอกลัษณ์ เขายอมทนทุกข์เพื่อพระ
คริ สต์ดว้ ย ยอห์นเป็ นคนที่เห็นว่าสิ่ งต่างๆ มีความหมายอย่างไร เขาอ่านหมายสำคัญด้วยความเข้าใจเชิงเผยพระวจนะ สิ่ งที่เขา
เห็นยากที่จะอธิบาย มันใหม่บนแผ่นดินโลก ไม่มีใครนึกถึงมันโดยเฉพาะในประโยคเดียว ดังนั้น ให้เราพิจารณาสิ่ งที่เขาพูด ซึ่ง
กล่าวว่า “ขอให้ ท่านทั้งหลายได้ รับพระคุณและสันติสุขจากพระองค์ ผ้ ทู รงเป็ นอยู่ ผู้ทรงเคยเป็ นอยู่ และผู้ที่จะเสด็จมาและจาก
พระวิญญาณทั้งเจ็ดที่เฝ้ าอยู่หน้ าพระที่นั่งของพระองค์ และจากพระเยซูคริ สต์ พยานผู้ซื่อสัตย์ ซึ่ งเป็ นผู้แรกที่ทรงเป็ นขึน้ จากตาย
และเป็ นผู้ทรงครอบครองเหนือบรรดากษัตริ ย์ในโลก” (ข้อ 4-5)
พระเยซูจะเป็ น “พยานที่ซื่อสัตย์” ได้อย่างไร? เราเป็ นพยานถึงพระคริ สต์ แต่พระคริ สต์เป็ นพยานถึงอะไร? พระคัมภีร์
ข้อนี้กล่าวถึงอีกตอนหนึ่งที่พวกฟาริ สีก ำลังโต้เถียงกันว่า “ท่ านเป็ นพยานให้ ตวั เอง คำพยานของท่ านก็ไม่ จริ ง” (ยอห์น 8:13)
พระเยซูตรัสตอบว่า “ถึงแม้ เราเป็ นพยานให้ ตัวเราเอง คำพยานของเราก็ยงั เป็ นจริ งอยู่ เพราะเรารู้ ว่าเรามาจากไหนและจะไปที่
ไหน ..แต่ พวกท่ านไม่ ร้ ู ว่าเรามาจากไหนและจะไปที่ไหนเราเป็ นพยานให้ ตวั เราเองและพระบิดาผู้ทรงใช้ เรามาก็เป็ นพยานให้ เรา
ด้ วย” (ข้อ 14, 18) พระเยซูทรงเป็ นพยานถึงพระองค์เอง พระองค์ตรัสว่า “พวกท่ านวางใจในพระเจ้ า จงวางใจในเราด้ วย”
(ยอห์น 14:1) ด้วยชีวิตและพระราชกิจอันยิง่ ใหญ่ของพระองค์ พระองค์ได้แสดงให้เราเห็นในสิ่ งที่พระองค์ทรงเป็ น นัน่ คือ
ซื่อสัตย์ต่อสิ่ งที่พระองค์บอกเราว่าพระองค์ทรงเป็ นผูใ้ ด
พระองค์ไม่ท ำให้เราผิดหวัง ถ้าพระองค์ไม่เหมือนเดิม พระองค์กจ็ ะไม่เป็ นพยานที่ซื่อสัตย์ พระองค์สอดคล้องกับสิ่ งที่
พระองค์พดู และทำ ชีวิตของพระเยซูสะกดความหวังสำหรับคนบาปและคนป่ วย และความห่วงใยสำหรับทุกคน พระองค์เขียน
ว่า “พระเยซูคริ สต์ ผูท้ ี่สตั ย์ซื่อของคุณ” พระเยซูเจ้าของเราสัตย์ซื่อต่อคุณและต่อผมเสมอ สรรเสริ ญพระนามของพระองค์!
25
ตุลาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“คือให้ซาบซึ้งในความรักของพระคริ สต์ซ่ ึงเกินความรู้ เพื่อพวกท่านจะได้รับความบริ บูรณ์ของพระเจ้าอย่างเต็มเปี่ ยม” (เอเฟซัส
3:19)
ไฟประจำวัน!
เพราะว่าฉันเชื่อ แม่น้ำแห่งชีวิตจะไหลออกมาจากหัวใจของฉัน
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
อิสยาห์ 58:11; ยอห์น 1:14–16; 3:34; 7:37–38; กิจการ 2:39
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
2 พงศ์กษัตริ ย ์ 6;
1 ทิโมธี 3
เย็น:
ดาเนียล 10;
สดุดี 119:1–24
จงอ่ านอย่ างระมัดระวัง
ในวันสุดท้ ายของงานเทศกาลซึ่ งเป็ นวันยิ่งใหญ่ นั้น พระเยซูทรงยืนขึน้ และทรงประกาศว่ า “ถ้ าใครกระหาย ให้ คนนั้น
มาหาเราและให้ คนที่วางใจในเราดื่ม ตามที่มีค ำเขียนไว้ แล้วว่ า ‘แม่ น ้ำที่มีน ้ำดำรงชี วิตจะไหลออกมาจากภายในคน
นั้น’ ”(ยอห์ น 7:37–38) นั่นคือ แม่ น ้ำที่มีน ้ำดำรงชีวิตจะไหลจากผู้ใดก็ตามที่ “เชื่ อในเรา ดังที่พระคัมภีร์กล่ าวไว้ ”
พระเยซูตรั สว่ าพระคัมภีร์ไม่ ได้ พูดถึงแม่ น ้ำที่มีน ้ำดำรงชีวิต แต่ เป็ นพระองค์ เองและผู้ที่เชื่ อในพระองค์ ผู้คนไม่ ได้ พบ
ว่ าข้ อพระคัมภีร์ใดที่พระเยซูนึกถึงเมื่อพระองค์ ตรั สถึงน้ำ ถึงแม้ว่าเราจะแนะนำอิสยาห์ 58:11 ก็ตาม คำสัญญาของน้ำ
ดำรงชีวิตเริ่ มต้ นจากพระเยซูเอง และขณะที่เปโตรเทศนาว่ า “เพราะว่ าพระสัญญานั้นตกแก่ ท่านทั้งหลายกับลูกหลาน
ของพวกท่ านด้ วย และแก่ ทุกคนที่อยู่ไกล คือทุกคนที่องค์ พระผู้เป็ นเจ้ าพระเจ้ าของเราทรงเรี ยกให้ มาเฝ้ า” (กิจการ
2:39)
เป็ นสิ่ งที่สำคัญที่ตอ้ งดู ยอห์น 3:34 อีกครั้งว่า “เพราะพระองค์ ผ้ ทู ี่พระเจ้ าทรงใช้ มานั้นทรงกล่ าวพระดำรั สของพระเจ้ า
เพราะพระเจ้ าไม่ ได้ ประทานพระวิญญาณอย่ างจำกัด” พระเจ้าประทานพระวิญญาณให้แก่เราทุกคน ดังที่ ยอห์น 1:16 บอกเราว่า
“เราได้ รับจากความบริ บูรณ์ ของพระองค์ ” แท้จริ งแล้วเราเต็มเปี่ ยมอย่างไม่มีขอบเขต
การเจิมที่แท้ จริง
สาวกและอัครทูตไม่เคยถูกเจิมด้วยน้ำมัน ในพันธสัญญาใหม่ คริ สเตียนได้รับพระวิญญาณสำหรับการรับใช้ น้ำมันไม่
เคยถูกเทลงบนพระเยซู ยกเว้นโดยผูห้ ญิงคนหนึ่ งสำหรับการฝังศพของพระองค์ ดังที่พระองค์ตรัสไว้ ก่อนวันเพ็นเทคอสต์
ปุโรหิ ตจะได้รับการเจิมและนำกลิ่นน้ำหอมไปกับพวกเขาด้วย แต่ต้ งั แต่วนั เพ็นเทคอสต์ ผูเ้ ชื่อได้แบบเอารัศมีของพระเยซู นัน่ คือ
“พวกเขาจำได้ ว่าพวกเขาเคยอยู่กับพระเยซู” (กิจการ 4:13) การเจิมที่แท้จริ งได้มาแล้ว!
การเจิมด้วยน้ำมันในพันธสัญญาใหม่มีไว้เพื่อรักษาคนป่ วยเท่านั้น การเจิมของเราไหลออกมาจากการเจิมของพระ
คริ สต์ และเราได้รับจากพระองค์เท่านั้น “เราทุกคนได้ รับจากความบริ บูรณ์ ของพระองค์ ” (ยอห์น 1:16) มีการเปิ ดเผยสำแดงต่อ
ยอห์น ผูใ้ ห้บพั ติศมา ว่า “เมื่อเห็นพระวิญญาณเสด็จลงมาสถิตอยู่กับคนใด คนนั้นแหละจะเป็ นคนให้ บัพติศมาด้ วยพระวิญญาณ
บริ สุทธิ์ ” (ข้อ 33) เขาระบุแหล่งที่มา นัน่ คือพระเยซูคริ สต์ ผูใ้ ห้และสิ ทธิอ ำนาจของการให้
พระเจ้ าทรงเจิ มพระเยซูชาวนาซาเร็ ธด้ วยพระวิญญาณบริ สุทธิ์ และด้ วยฤทธานุภาพอย่ างไร และเรื่ องที่ว่าพระเยซูเสด็จ
ไปทำคุณประโยชน์ และรั กษาคนทั้งหลายที่ถกู มารเบียดเบียนอย่ างไร เพราะว่ าพระเจ้ าสถิตอยู่กับพระองค์ (กิจการ
10:38) เราอาจอธิ ษฐานและวางมือบนผู้คนเพื่อรั บบัพติศมาในพระวิญญาณ อย่ างที่พวกอัครทูตทำ แต่ เราต้ องตระหนัก
ว่ ามนุษย์ ไม่สามารถและไม่ จ ำเป็ นต้ องให้ การเจิ มของพระองค์ แก่ คนอื่น สิ่ งนีม้ าจากความไพบูลย์ ของพระคริ สต์ ไม่ ใช่
ความไพบูลย์ ของคนอื่น ผมต้ องการการเจิ มของผมเองจากพระเจ้ า ไม่ ใช่ การเจิ มมือสอง การส่ งมอบการเจิ ม แม้ เป็ น
เพียงผลชั่วคราว ฯลฯ เป็ นเรื่ องแปลกสำหรั บความคิดในพระคัมภีร์ พระเจ้ าผู้เดียวเป็ นผู้ให้ บัพติศมา พระพรของ
พระเจ้ าอาจไหลผ่ านชี วิตของเราได้ หลายทางเหมือนสายน้ำแห่ งชี วิตจากพระคริ สต์ แต่ นั่นแตกต่ างอย่ างมากจากการ
ทำในสิ่ งที่พระเยซูเท่ านั้นที่ท ำได้ นั่นคือการถ่ ายเทพระวิญญาณ หญิงพรหมจารี ปฏิเสธที่จะแบ่ งปั นน้ำมันของพวกเขา
และถือว่ าฉลาด จงเห็นคุณค่ าของการเจิ มที่พระเจ้ าประทานให้ แก่ คุณ นั่นคือเก็บรั กษาไว้ และปล่ อยให้ มนั ช่ วยให้ คุณ
เป็ นพระพรแก่ ผ้ อู ื่น
28
ตุลาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“อย่าแตะต้องผูท้ ี่เราเจิมไว้ อย่าทำอันตรายผูเ้ ผยพระวจนะของเรา”” (สดุดี 105:15)
ไฟประจำวัน!
การเจิมที่ฉนั ได้รับจากพระองค์ด ำรงอยูใ่ นฉัน
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
1 ซามูเอล 16:1–13; สดุดี 105:15; 1 ยอห์น 2:27
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
2 พงศ์กษัตริ ย ์ 9;
1 ทิโมธี 6
เย็น:
โฮเชยา 1;
สดุดี 119:73–96
จอร์ จ เจฟฟรีย์ส และผม
การเจิมได้รับความหมายที่กว้างขึ้นในหมู่ผเู้ ชื่อในทุกวันนี้ โดยเป็ นเครื่ องหมายแสดงถึงพระพรทัว่ ๆ ไป เมื่อมีคนเสนอ
ให้นำการเจิมโดยการวางมือเหนือเรา เราไม่จ ำเป็ นต้องคัดค้าน ตามพระคัมภีร์ ไม่มีสิ่งที่เรี ยกว่า “การเจิมหนึ่ง” มีแต่ “การเจิม
นั้น” แต่เราไม่จ ำเป็ นต้องอวดรู้เกี่ยวกับการใช้ค ำ แน่นอนว่าต้องไม่สื่อถึงศาสนศาสตร์ที่ไม่ดี หรื อไม่มีเจตนาสื่ อถึงความรู้สึก
พิเศษของการให้พระวิญญาณบริ สุทธิ์ แต่เป็ นเพียงคำอธิษฐานขอความช่วยเหลือ กำลัง หรื อความจำเป็ นอื่นใด
ครั้งหนึ่ง โดยการทรงนำจากพระเจ้า ผมพบว่าตัวเองอยูห่ ่างไกลจากจุดที่ควรจะอยู่ จ้องมองไปที่บา้ นหลังหนึ่งในแค
ลปแฮม ลอนดอน ป้ ายข้างนอกอ้างถึง จอร์จ เจฟฟรี ยส์ ซึ่งหลายคนพิจารณษว่าเป็ นนักฟื้ นฟูชาวอังกฤษที่ยิง่ ใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่
จอห์น เวสเลย์ เขามีผฟู้ ังเต็มห้องโถงใหญ่ที่สุด เป็ นหัวหอกในการเผชิญกับการต่อต้านจากทัว่ โลก และป่ าวประกาศข่าวสารที่
เปี่ ยมไปด้วยพระสิ ริของพระเยซูคริ สต์ พระผูช้ ่วยให้รอด ผูร้ ักษาโรค ผูใ้ ห้บพั ติศมา และกษัตริ ยท์ ี่จะเสด็จมา ผมแทบจะไม่อยาก
เชื่อเลย ผมเพิ่งอ่านหนังสื อของชายผูย้ ิง่ ใหญ่คนนี้ ! เขาอยูท่ ี่นนั่ จริ งๆเหรอ? ผมกล้าที่จะไปและถาม เขาได้ยนิ เสี ยงของผมและ
เชิญผมเข้าไป ที่นนั่ เขาอธิษฐานกับผม และราวกับว่าเสื้ อคลุมของเขามาอยูบ่ นตัวผม (ใช้สำนวนของพระคัมภีร์) พระเจ้าได้ยนิ คำ
อธิษฐานของชายผูน้ ้ นั เพื่อผม ผมได้รับบัพติศมาในพระวิญญาณแล้ว ได้รับการเจิม แต่บางครั้งเราก็ขาดภาษาที่จะบรรยายทุกสิ่ ง
ที่พระเจ้าทรงทำ ผมรู้วา่ การติดต่อกับจอร์จ เจฟฟรี ยส์ และได้ยนิ คำอธิษฐานของเขาสำหรับผมเป็ นประสบการณ์พิเศษ ซึ่งทำให้
ผมรู้สึกมีความพร้อมและพร้อมสำหรับการรับใช้ ก่อนวันนั้น ผมได้ออกจากวิทยาลัยพระคัมภีร์ที่สวอนซีเพื่อเริ่ มรับใช้พระเจ้า
เต็มเวลา พระเจ้าได้เรี ยกผมให้ไปทำงานของพระองค์แล้ว และตอนนี้ ประสบการณ์พิเศษนี้ ดูเหมือนจะปกคลุมผม
ดาวิดได้รับการเจิมจากซามูเอลให้เป็ นกษัตริ ย ์ ซึ่งดาวิดถือว่าเขาเป็ น "ผูท้ ี่พระยาห์เวห์ทรงเจิมไว้" (2 ซามูเอล 1:14) ต่อ
มา ผูป้ กครองของอิสราเอลได้เจิมพระองค์ดว้ ยเพื่อรับรองถึงการเรี ยกให้เขาเป็ นกษัตริ ย ์ เราไม่คาดหวังการเจิมทุกครั้งที่เราพบผู้
เผยแพร่ ข่าวประเสริ ฐหรื อครู ที่พิเศษ สำหรับผมแล้ว หลังการทรงเรี ยกของผม ผมพบชายคนหนึ่งที่ได้ท ำงานแบบเดียวกับที่
พระเจ้าทรงต้องการให้ผมทำเพียงครั้งเดียวเท่านั้น เหมือนเอลีชาติดตามเอลียาห์ จงแสวงหาการเจิมจากพระเจ้าสำหรับชีวิตของ
คุณเอง!
29
ตุลาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“จงควบคุมตัวเอง จงระวังระไวให้ดี ศัตรู ของพวกท่านคือมาร ดุจสิ งโตคำรามเดินวนเวียนเที่ยวเสาะหาคนที่มนั จะกัดกินได้” (1
เปโตร 5:8)
ไฟประจำวัน!
มารไม่สามารถเทียบกับความคิดของพระวิญญาณบริ สุทธิ์ ได้
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
1 เปโตร 5:8
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
2 พงศ์กษัตริ ย ์ 10;
2 ทิโมธี 1
เย็น:
โฮเชยา 2;
สดุดี 119:97–120
เกมหมากรุ กของซาตาน
ซาตานคิดเหมือนที่มนุษย์คิด นัน่ หมายความว่ามนุษย์คิดเหมือนที่มารคิด พวกเขาพบว่าเรื่ องไม้กางเขนเป็ นเรื่ องโง่เขลา
เช่นกัน และไม่สามารถเข้าใจเรื่ องของพระเจ้าได้ ดังที่อคั รทูตเปาโลกล่าวไว้ เปาโลเองมองไม่เห็นในตอนแรก ความเดือดดาลที่
มีต่อบรรดาผูเ้ ชื่อได้กดั กินหัวใจของเขา เขาเป็ น "มนุษย์มงั กร" ที่หายใจเอาคำขู่และเข่นฆ่าออกมา เต็มไปด้วยความกระตือรื อร้น
สมองของเขาเต็มไปด้วยความไม่เชื่ออันชาญฉลาด เกล็ดตกลงมาจากดวงตาของเขาเมื่อเขาเชื่อ
ผมสงสัยว่านรกต้องการส่ งสายลับเข้าไปในราชอาณาจักรของพระเจ้าเพื่อดูวา่ มีความลับอะไรบ้าง? พวกวิญญาณชัว่ จะ
ไม่เข้าใจความลับเหล่านี้อยูด่ ี นรกงุนงงไปหมด สำหรับซาตานแล้ว เครื่ องบูชาของพระคริ สต์เป็ นแผนการที่ลึกซึ้ งซึ่งพระเจ้าทรง
วางแผนเพื่อประโยชน์ของพระองค์เอง มารเขมือบคน นัน่ คือธรรมชาติที่ชวั่ ร้ายของมัน ถ้าเราจะต่อสู้กบั มารในระดับความคิด
ของมนุษย์ เราต้องระลึกว่ามันคิดเหมือนที่มนุษย์คิด ซาตานคิดค้นเกมหมากรุ กของมนุษย์ และเล่นเกมนี้ มานับพันปี แล้ว มาร
คอยเดาทุกฝี กา้ วของเรา และมันจะรุ กฆาตเราล่วงหน้า 10 ตา ซาตานมีประสบการณ์ต้ งั แต่สมัยอาดัมเป็ นต้นมา และมันรู้กลอุบาย
ทุกอย่างของมนุษย์บนกระดาน คุณไม่สามารถสร้างความเชื่อได้ดว้ ยปัญญาของถ้อยคำ มารจะมีค ำโต้แย้งสำหรับสิ่ งที่คุณพูด
เสมอ
ข่าวประเสริ ฐไม่ได้ออกมาจากศีรษะของใครบางคน เราต้องเข้าสู่ มิติของพระเจ้าซึ่งเป็ นสถานที่ศตั รู ไม่สามารถติดตาม
เราได้ มารไม่สามารถเทียบกับความคิดของพระวิญญาณบริ สุทธิ์ ได้ ถ้าเราวางแผน ประกาศ เป็ นพยาน และประกาศข่าว
ประเสริ ฐในฐานะมนุษย์ ซาตานจะขัดขวางเรา มันสามารถจัดการกับจิตวิทยาและการโฆษณาชวนเชื่อได้ คำตอบคือ จง
เคลื่อนไหวในพระวิญญาณและประกาศข่าวประเสริ ฐอย่างที่ข่าวประเสริ ฐเป็ น จากนั้นผูเ้ ล่นตัวฉกาจจะสับสนและไม่สามารถ
ตามเกมได้เลย เป็ นสิ่ งที่ดีที่รู้วา่ คุณอยูใ่ นทีมของพระเจ้า
30
ตุลาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“ท่านยังไม่เคยอ่านหรื อว่า ‘พระองค์ทรงทำให้ค ำสรรเสริ ญออกมาจากปากเด็กและทารก ที่ยงั ไม่หย่านม’?” (มัทธิว 21:16)
ไฟประจำวัน!
ไฟของพระเจ้าจุดไฟความกระตือรื อร้นของมนุษย์
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
สดุดี 69:9; มัทธิว 20:17; 21:1–17; มาระโก 10:32
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
2 พงศ์กษัตริ ย ์ 11 และ 12;
2 ทิโมธี 2
เย็น:
โฮเชยา 3 และ 4; สดุดี 119:121–144
ไฟของพระเจ้ าในพระเยซู
ในประสบการณ์ของมนุษย์ ไฟของพระเจ้าแปลเป็ นความรู้สึกที่เร้าร้อน นัน่ คือความรู้สึกที่เร้าร้อนที่เราเห็นในพระเยซู
บางทีพระองค์ไม่เพียงกระตือรื อร้นในถ้อยคำของพระองค์เท่านั้น เมื่อพระเยซูก ำลังเสด็จไปกรุ งเยรู ซาเล็มเป็ นครั้งสุ ดท้าย เรา
อ่านเจอว่าพระองค์ก ำลังนำหน้าเหล่าสาวกของพระองค์ และพวกเขาเห็นว่าพระองค์ทรงเร่ งเร้าพระองค์ไปข้างหน้าอย่างไร
“ขณะที่ก ำลังเดินทางขึน้ ไปยังกรุ งเยรู ซาเล็มนั้น พระเยซูเสด็จนำหน้ าพวกเขา พวกสาวกก็พากันประหลาดใจ และคนที่เดินตาม
มาก็หวาดกลัว” (มาระโก 10:32) ทำไม? ไฟในวิญญาณจิตของพระองค์จึงปรากฏชัดในวิธีที่พระองค์เดิน
เมื่อพวกเขามาถึง พระเยซูทรงเห็นความเสื่ อมโทรมของพระวิหาร จากนั้นเหล่าสาวกก็มีหลักฐานเพิ่มเติมเกี่ยวกับความ
รู้สึกที่เร่ าร้อนของพระองค์ นัน่ คือปฏิกิริยาของพระองค์ท ำให้พระองค์กลายเป็ นคนที่น่าเกรงขาม! เหล่าสาวกระลึกถึงสดุดีที่วา่
“ความร้ อนใจในเรื่ องพระนิเวศของพระองค์ ได้ เผาผลาญข้าพระองค์ ” (สดุดี 69:9) แต่เป็ นความโกรธด้วยความรัก ไม่ใช่ความ
โกรธที่เย็นชา พระเยซูไม่ได้คลัง่ ไคล้บา้ คลัง่ นัน่ คือพระองค์ทรงรักบ้านของพระบิดา นัน่ คือทั้งหมด เป็ นความปรารถนาที่จะ
เห็นผูค้ นในพระวิหารนมัสการด้วยอิสรภาพและความสุข แต่การค้าในพระวิหารทำให้สิ่งเหล่านั้นเสี ยไป และพระทัยของ
พระองค์กพ็ ลุ่งพล่านราวกับภูเขาไฟ ไฟในวิญญาณจิตของพระองค์ท ำให้พระองค์ช ำระพระวิหาร การกระทำของพระองค์น่า
กลัวและหลายคนหนีออกจากที่เกิดเหตุเนื่องจากสิ่ งเหล่านี้
แต่เด็ก คนตาบอด และคนง่อยยังคงอยู่ และพระองค์ทรงรักษาพวกเขา นัน่ คือสิ่ งที่พระองค์ตอ้ งการจะทำอยูแ่ ล้ว และ
นัน่ คือเหตุผลที่พระพิโรธของพระองค์ร้อนระอุ ความขุ่นเคืองของพระองค์มีจุดมุ่งหมายเพื่อความชื่นชมยินดี พระเยซูทรงให้
เด็กๆ ร้องเพลง “โฮซันนา!” นี่เป็ นโอกาสเดียวในพระคัมภีร์ที่ความตื่นเต้นเกี่ยวกับพระเจ้าถูกติเตียน เป็ นครั้งเดียวที่ความเงียบ
ถูกเรี ยกร้องในบริ เวณขององค์พระผูเ้ ป็ นเจ้า พวกฟาริ สีเรี ยกเรี ยกร้องให้เงียบ การสรรเสริ ญขององค์พระผูเ้ ป็ นเจ้ากำลังกลบ
กระแสการค้าของพวกเขา “เพลงทางการเงิน” ถูกทำให้เงียบ! ทั้งหมดนี้ เป็ นส่ วนหนึ่งของภาพไฟขององค์พระผูเ้ ป็ นเจ้า จุด
ประสงค์เพื่อให้ไฟนั้นลุกโชนอยูใ่ นหัวใจของคุณในวันนี้
31
ตุลาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“เราจะทูลขอพระบิดา และพระองค์จะประทานผูช้ ่วยอีกผูห้ นึ่งให้กบั พวกท่าน เพื่อจะอยูก่ บั ท่านตลอดไป” (ยอห์น 14:16)
ไฟประจำวัน!
“บัพติศมาในพระวิญญาณบริ สุทธิ์ ” บรรยายถึงประสบการณ์ในพันธสัญญาใหม่
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
1 ซามูเอล 16:13; มาระโก 16:17; ลูกา 11:13; ยอห์น 14:16–18, 26; 15:26; 16:17; กิจการ 1:4–5; โรม 8:14; ยากอบ 1:27; 1
ยอห์น 2:1
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
2 พงศ์กษัตริ ย ์ 13;
2 ทิโมธี 3
เย็น:
โฮเชยา 5 และ 6; สดุดี 119:145–176
พาราคเลโตส (Parakletos)
ก่อนพระคริ สต์ ไม่มีผใู้ ดเคย “ได้รับบัพติศมาในพระวิญญาณ” คำนี้หมายถึงบางสิ่ งที่แตกต่างจาก "การสถิตอยูด่ ว้ ยของ
พระวิญญาณ" กับชายหญิงในพันธสัญญาเดิม ซามูเอลเอาเขาน้ำมันมาเจิมดาวิด และพระวิญญาณขององค์พระผูเ้ ป็ นเจ้า “ทรง
สวมทับดาวิดตั้งแต่ วันนั้นเป็ นต้ นไป” (1 ซามูเอล 16:13) แต่ประสบการณ์ดงั กล่าวไม่เคยถูกบรรยายว่าเป็ นการบัพติศมา เพราะ
ว่าความสัมพันธ์ของพระวิญญาณบริ สุทธิ์ กับผูเ้ ชื่อที่ถูกล้างชำระด้วยพระโลหิ ตและบังเกิดใหม่น้ นั เป็ นสิ่ งใหม่ “พระวิญญาณ
แห่ งความจริ ง...สถิตอยู่กับท่ าน และจะประทับอยู่ในท่ าน" (ยอห์น 14:17) นัน่ คือเหตุผลที่ใช้ค ำใหม่ได้ถูกใช้ ซึ่งบรรยายถึง
ประสบการณ์แบบใหม่ การปฏิเสธสิ ทธิของคริ สเตียนในการใช้วลี "รับบัพติศมาในพระวิญญาณ" ทำให้จ ำกัดประสบการณ์ของ
พวกเขาให้เป็ นแบบเดียวกับในสมัยพันธสัญญาเดิม
ผูค้ นในพันธสัญญาเดิมไม่รู้เรื่ องการพูดภาษาแปลกๆ การขับผี หรื อการรักษาโดยการวางมือ หมายสำคัญเหล่านี้ถูก
สงวนไว้สำหรับยุคของพระวิญญาณ ราชอาณาจักรใหม่ พันธสัญญาใหม่พร้อมคุณลักษณะใหม่ ข่าวประเสริ ฐใหม่สำหรับ
วิญญาณและร่ างกายบรรยายถึงยุคคริ สเตียน พระเยซูใช้ค ำใหม่สำหรับพระวิญญาณบริ สุทธิ์ นัน่ คือพาราคเลโตส (Parakletos) มี
การใช้ค ำนี้ 4 ครั้งในพระกิตติคุณของยอห์น และถูกแปลว่า "ผูช้ ่วย"
คริ สเตียนไม่ควรวิ่งหนีมาร
มารควรจะหนีพวกเขา
คนที่หนั ไปมองที่ขา้ งหลังมีแนวโน้มที่จะหันหลังกลับ
ผูท้ ี่แสวงหาน้ำพระทัยของพระเจ้าตลอดนิรันดร์จะถูกแซงหน้าโดยผูท้ ี่ท ำตามน้ำพระทัยของพระเจ้า
1
พฤศจิกายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“พวกท่านจงรักองค์พระผูเ้ ป็ นเจ้าผูเ้ ป็ นพระเจ้าด้วยสุ ดใจของท่าน ด้วยสุ ดจิตของท่าน ด้วยสุ ดความคิดของท่านและด้วยสุ ดกำลัง
ของท่าน” (มาระโก 12:30)
ไฟประจำวัน!
วันนี้ฉนั จะแผ่ความชื่นชมยินดี ความเห็นอกเห็นใจ และความรักไปยังคนรอบข้าง
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
สดุดี 29:9;
มาระโก 12:30 น
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
2 พงศ์กษัตริ ย ์ 14;
2 ทิโมธี 4
เย็น:
โฮเชยา 7; สดุดี 120 ถึง 122
คริสเตียนทีต่ ายและน่ าเบื่อ
ข้อความอันร้อนแรงและไม่นอ้ ยไปกว่านั้นควรถูกนำเสนอต่อโลก ไม่จ ำเป็ นต้องมีดอกไม้ไฟ ติดไฟไม่จ ำเป็ นต้องเป็ น
คนใจร้อน อย่างไรก็ตาม ทุกสิ่ งทุกอย่างเกี่ยวกับคริ สตจักรควรสะท้อนแสงอันอบอุ่นของพระเจ้าไปยังยอดหอคอยที่สูงที่สุด
ไม่ใช่แค่ผเู้ ผยแพร่ ข่าวประเสริ ฐเท่านั้น แต่พยาน ผูร้ ับใช้ เจ้าหน้าที่คริ สตจักร ผูน้ ำ คนงาน ครู และผูบ้ ริ หารทุกคนควรส่ องแสง
ด้วยพระวิญญาณบริ สุทธิ์ เหมือนคบไฟบนถนนที่เย็น การประชุมทางกิจธุระควรเห็นไฟของพระวิญญาณบริ สุทธิ์ มากพอๆกับ
การประชุมฟื้ นฟู (หรื ออาจจะมากกว่า)
ปลามีอุณหภูมิเท่ากับน้ำที่มนั ว่าย คริ สเตียนจำนวนมากเกินไปเป็ นเหมือนปลา นัน่ คือพวกเขาไม่มีความอบอุ่นฝ่ าย
วิญญาณมากไปกว่าโลกที่เย็นชาและไม่เชื่อรอบตัวพวกเขา มนุษย์เป็ นสิ่ งมีชีวิตเลือดอุ่น นัน่ คือวิธีที่องค์พระผูเ้ ป็ นเจ้าทรงสร้าง
เรา นัน่ ก็เป็ นวิธีที่พระองค์ทรงเลือกให้เราเอาข่าวดีออกไป นัน่ คือด้วยความอบอุ่น! องค์พระผูเ้ ป็ นเจ้าไม่ได้ส่งเราออกไปเพราะ
ว่าเรามีหวั ที่เย็นและมีศกั ดิ์ศรี พระองค์ไม่ได้เลือกเราเพราะว่าความสำรวมในตนเองของเรา พระองค์ส่งเราออกไปพร้อมกับถ่าน
ที่มีชีวิตจากแท่นบูชา เพื่อเป็ นพยานถึงการเป็ นขึ้นมาจากความตาย เพื่อเป็ นพยานว่าเราได้พบพระเจ้าแห่งเพ็นเทคอสต์แล้ว ผม
เคยได้ยนิ คำเทศนาที่เหมือนกับการบรรยายเรื่ องการดองศพคนตาย คำพูดดังกล่าวจะทำให้ทุกคนระลึกถึงพระเยซูผทู้ รงพระชนม์
อยูห่ รื อ? ทั้งพระเยซู เปโตร และเปาโลไม่ได้ออกจากที่ประชุมที่นงั่ เหมือนรู ปปั้ นหิ นอ่อนในพิพิธภัณฑ์
ตรรกะสามารถถูกจุดไฟและยังคงเป็ นตรรกะได้ เช่น ตรรกะของอิสยาห์หรื อเปาโล เป็ นต้น ตรรกะไม่จ ำเป็ นต้องเป็ น
ของยุคน้ำแข็ง ไฟหมายถึงความเร่ าร้อน ไม่ใช่ความไม่รู้ จงเรี ยนรู้โดยทุกวิถีทาง แต่อย่าเรี ยน ถ้ามันทำให้ไฟของคุณดับ จงระลึก
ว่า ความสดใสมาก่อนความเฉลียวฉลาด “พวกท่ านจงรั กองค์ พระผู้เป็ นเจ้ าผู้เป็ นพระเจ้ าด้ วยสุดใจของท่ าน ด้ วยสุดจิ ตของท่ าน
ด้ วยสุดความคิดของท่ านและด้ วยสุดกำลังของท่ าน” (มาระโก 12:30) องค์พระผูเ้ ป็ นเจ้าต้องการให้คุณมีหวั ใจที่เร่ าร้อน และแผ่
ความชื่นชมยินดี ความเห็นอกเห็นใจ และความรัก จงจุดไฟหัวใจของคุณให้เร่ าร้อนในวันนี้ !
2
พฤศจิกายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“เราบอกท่านทั้งหลายว่า ในทำนองเดียวกัน จะมีความชื่นชมยินดีในสวรรค์เรื่ องคนบาปคนเดียวที่กลับใจใหม่ มากกว่าเรื่ องคน
ชอบธรรมเก้าสิ บเก้าคนที่ไม่ยอมกลับใจ” (ลูกา 15:7)
ไฟประจำวัน!
ข้าแต่องค์พระผูเ้ ป็ นเจ้า พระองค์ทรงสิ้ นพระชนม์เพื่อข้าพระองค์ ข้าพระองค์จะชื่นชมยินดีอย่างล้นเหลือในพระองค์
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
ลูกา 19:40
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
2 พงศ์กษัตริ ย ์ 15; ทิตสั 1
เย็น:
โฮเชยา 8; สดุดี 123 ถึง 125
ความสู งแห่ งประสบการณ์ ของมนุษย์
ศักดิ์ศรี ความเป็ นมนุษย์ได้รับความหมายใหม่เมื่อผูค้ นรู้สึกลืมตัวในการสรรเสริ ญพระเจ้า คุณเคยเห็นคน 5 หมื่นคน
ร้องไห้ โบกมือ กระโดด และโห่ร้องด้วยความยินดีต่อพระเจ้าหรื อไม่? คุณจะคาดหวังอะไรอีกเมื่อแม่ยนื อยูบ่ นเวทีของเรา เป็ น
พยานว่าลูกของเธอเพิง่ หายจากอาการตาบอดแต่ก ำเนิด หรื อหูหนวก หรื อแขนขาบิดเบี้ยว? ผมได้เห็นคำพยานเกี่ยวกับการ
อัศจรรย์เหล่านี้บ่อยมาก มันเป็ นฉากที่เปี่ ยมไปด้วยพระสิ ริ เป็ นความสูงแห่งประสบการณ์ของมนุษย์ เราไม่สมควรได้รับเครดิต
เมื่อเราทำตัวสงบนิ่งอย่างสมบูรณ์เมื่อคนง่อยเดินได้หรื อคนตาบอดมองเห็น การสำรวมท่าทีดงั กล่าวนั้นไม่ฉลาด แต่เป็ นเรื่ องโง่
เขลา จงเต้นรำ ตอนนี้เพื่อให้สอดคล้องกับช่วงเวลาดังกล่าวมากขึ้น! เราควรชื่นชมยินดีในการทรงสถิตขององค์พระผูเ้ ป็ นเจ้า!
พระเยซูตรัสว่า ในเวลานั้น แม้แต่กอ้ นหิ นก็ยงั ส่ งเสี ยงร้องออกมา
ไฟแห่งพระวิญญาณบริ สุทธิ์ นำมาซึ่งฤทธิ์ อำนาจ ไม่ตอ้ งกังวลกับเสี ยงอึกทึก นัน่ คือให้เราใช้พลังนี้ เพื่อการ
เคลื่อนไหว! ฟ้ าร้องเป็ นเรื่ องปกติหลังจากฟ้ าผ่า จุดประสงค์ที่เหมาะสมของเพ็นเทคอสต์คือการทำให้วงล้อหันไปหาพระเจ้าใน
ทุกคริ สตจักร ด้วยเหตุน้ ี จึงส่ งข่าวประเสริ ฐไปทัว่ แผ่นดินโลก “พวกท่ านจงออกไปทั่วโลก ประกาศข่ าวประเสริ ฐแก่ มนุษย์ ทุก
คน” (มาระโก 16:15) คริ สตจักรเป็ นคริ สตจักร "ที่ไป" ไม่ใช่คริ สตจักร "ที่นงั่ " จงมองออกไปยังที่ที่องค์พระผูเ้ ป็ นเจ้าของเรา
กำลังเคลื่อนผ่านทวีปต่างๆ บางคนกำลังมองเข้าไปข้างใน ตรวจสอบวิญญาณจิตของตนเองตลอดเวลา ไร้ความสามารถโดยการ
ใคร่ ครวญ พระเยซูก ำลังช่วยคุณให้รอด อย่ากังวล! จงเริ่ มช่วยพระองค์ให้ช่วยผูอ้ ื่นให้รอด! ถ้าพระวิญญาณบริ สุทธิ์ ได้เสด็จมา
จงลุกขึ้นและออกไป พระองค์ท ำงาน ไม่ใช่คุณหรื อผม “ถ้ าไม่ ประกาศ วิบัติจะเกิดกับข้ าพเจ้ า!” (1 โคริ นธ์ 9:16) และวิบตั ิแก่
บรรดาผูท้ ี่เราไม่ได้ประกาศเรื่ องนี้ ให้เรายุง่ เพื่อพระคริ สต์ ไม่ใช่เกียจคร้าน
5
พฤศจิกายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“จงชื่นบานอยูเ่ สมอ จงอธิษฐานอย่างสม่ำเสมอ จงขอบพระคุณในทุกกรณี เพราะนี่แหละเป็ นพระประสงค์ของพระเจ้า สำหรับ
พวกท่านในพระเยซูคริ สต์” (1 เธสะโลนิกา 5:16–18)
ไฟประจำวัน!
ฉันจะชื่นชมยินดี อธิษฐาน และขอบพระคุณพระผูช้ ่วยให้รอดแห่งวิญญาณจิตของฉัน
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
สดุดี 30:1–12; 105:3; มัทธิว 6:9–13; ฟิ ลิปปี 4:6; โคโลสี 2:6–7; 4:2; 1 เธสะโลนิกา 5:16–18
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
2 พงศ์กษัตริ ย ์ 18; ฟี เลโมน
เย็น:
โฮเชยา 11;
สดุดี 132 ถึง 134
การนมัสการและการสรรเสริญ
นักอธิษฐานวิงวอนที่แท้จริ งปิ ติยนิ ดีในการนมัสการและการสรรเสริ ญ ตลอดสดุดีแห่งการอธิษฐานวิงวอน ไม่มีสกั
ตัวอย่างเดียวที่ขาดการถวายเกียรติแด่พระเจ้าในแบบหรื อรู ปแบบบางอย่าง แต่การอธิษฐานวิงวอนขึ้นสู่พระเจ้าด้วยปี กแห่งการ
นมัสการ การร้องขอและการสรรเสริ ญเป็ นคนละด้านของเหรี ยญเดียวกัน
อย่ ากระวนกระวายในสิ่ งใดๆ เลย แต่ จงทูลพระเจ้ าให้ ทรงทราบทุกสิ่ งที่พวกท่ านขอ โดยการอธิ ษฐานและการวิงวอน
พร้ อมกับการขอบพระคุณ (ฟิ ลิปปี 4:6) เพราะฉะนั้น ในเมื่อพวกท่ านรั บพระเยซูคริ สต์ องค์ พระผู้เป็ นเจ้ าไว้ แล้ ว ก็จง
ดำเนินชี วิตในพระองค์ ด้วยจงหยัง่ รากและก่ อร่ างสร้ างขึน้ ในพระองค์ จงมัน่ คงในความเชื่ อตามที่ได้ รับการสอนมา
แล้ ว และจงให้ การขอบพระคุณทวียิ่งขึน้ จงระวังให้ ดี อย่ าให้ ใครทำให้ พวกท่ านตกเป็ นทาสด้ วยหลักปรั ชญา และคำ
หลอกลวงที่เหลวไหลตามตำนานของมนุษย์ ตามพวกภูตผีที่ครอบงำของจักรวาล ไม่ ใช่ ตามพระคริ สต์ (โคโลสี 2:6–
8) จงชื่ นบานอยู่เสมอจงอธิ ษฐานอย่ างสม่ำเสมอจงขอบพระคุณในทุกกรณี เพราะนี่แหละเป็ นพระประสงค์ ของพระ
เจ้ า สำหรั บพวกท่ านในพระเยซูคริ สต์ (1 เธสะโลนิกา 5:16–18) ให้ ใจของบรรดาผู้แสวงหาพระยาห์ เวห์ ยินดี! (สดุดี
105:3) นักอธิษฐานวิงวอนไม่ได้มาหาพระเจ้าเพราะว่าไม่พอใจในสิ่ งที่พระองค์ไม่ได้ท ำ การบ่นไม่ใช่การอธิษฐาน
ภาระของเราสำหรับความจำเป็ นของโลกถูกยกขึ้นเมื่อเราอธิษฐานด้วยความระลึกถึงและขอบพระคุณสำหรับสิ่ งที่
พระองค์ทรงสามารถและจะทำ บ่อยครั้งที่ค ำอธิษฐานของการอธิษฐานวิงวอนของเราอยูบ่ นพื้นฐานของการรู้วา่ สิ่ งที่
พระเจ้าได้ทรงทำเพื่อเรา พระองค์จะทรงทำเพื่อผูอ้ ื่นด้วย ข้าแต่ พระยาห์ เวห์ ข้ าพระองค์ จะยกย่ องพระองค์ เพราะพระ
องค์ ทรงดึงข้ าพระองค์ ขึน้ มา และมิได้ ทรงให้ ศัตรู ของข้าพระองค์ ยินดีเพราะข้ าพระองค์ ข้าแต่ พระยาห์ เวห์ พระเจ้ าของ
ข้ าพระองค์ ข้ าพระองค์ ได้ ทูลขอความช่ วยเหลือจากพระองค์ และพระองค์ ทรงรั กษาข้าพระองค์ ให้ หายข้ าแต่ พระยาห์
เวห์ พระองค์ ทรงนำข้ าพระองค์ ขึน้ มาจากแดนคนตาย ทรงให้ ข้าพระองค์ มีชีวิต จึ งไม่ ต้องลงไปยังหลุมมรณาท่ านผู้
จงรั กภักดีต่อพระยาห์ เวห์ เอ๋ ย จงร้ องเพลงสดุดีพระองค์ ยกย่ องพระนามบริ สุทธิ์ ของพระองค์ ...พระองค์ ได้ ทรงเปลี่ยน
การไว้ ทุกข์ ของข้าพระองค์ เป็ นการเต้ นรำ พระองค์ ทรงถอดเสื ้อผ้ ากระสอบของข้าพระองค์ ออก และทรงคาดเอวข้ า
พระองค์ ด้วยความยินดีเพื่อข้าพระองค์ จะร้ องเพลงสดุดีพระองค์ และไม่ นิ่งเงียบ ข้ าแต่ พระยาห์ เวห์ พระเจ้ าของข้าพระ
องค์ ข้ าพระองค์ จะขอบพระคุณพระองค์ เป็ นนิตย์ (สดุดี 30:1–4, 11–12) คำอธิษฐานขององค์พระผูเ้ ป็ นเจ้าเริ่ มต้นว่า “
ข้ าแต่ พระบิดาของข้าพระองค์ ทั้งหลาย ผู้สถิตในสวรรค์ ขอให้ พระนามของพระองค์ เป็ นที่เคารพสักการะ" นัน่ เป็ นการ
เริ่ มต้นของการอธิษฐานวิงวอนที่แท้จริ งทั้งหมด ... และตอนจบคือ "เหตุว่าราชอำนาจ และฤทธิ์ เดช และพระสิ ริเป็ น
ของพระองค์ สืบ ๆ ไปเป็ นนิตย์ อาเมน" (มัทธิว 6:9–13) จงทำให้สิ่งนี้เป็ นการเริ่ มต้นและตอนจบแห่งคำอธิษฐานของ
คุณในวันนี้ และเห็นชีวิตการอธิษฐานของคุณทะยานขึ้นสู่ระดับใหม่ของประสิ ทธิผล
6
พฤศจิกายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“แต่เดี๋ยวนี้ ความชอบธรรมของพระเจ้านั้นปรากฏ...โดยความเชื่อในพระเยซูคริ สต์แก่ทุกคนที่เชื่อ...พระเจ้าทรงมีพระคุณให้เขา
เป็ นผูช้ อบธรรมโดยไม่คิดมูลค่า โดยที่พระเยซูคริ สต์ทรงไถ่เขา...เพื่อจะสำแดงในปัจจุบนั นี้วา่ พระองค์ทรงเป็ นผูช้ อบธรรม และ
ทรงให้ผทู้ ี่เชื่อในพระเยซูเป็ นผูช้ อบธรรมด้วย” (โรม 3:21–22, 24, 26)
ไฟประจำวัน!
ข้าพเจ้ารู้จกั พระองค์ที่ขา้ พเจ้าเชื่อ และข้าพเจ้าเชื่อมัน่ ว่า พระองค์ทรงสามารถรักษาสิ่ งที่พระองค์ทรงมอบไว้กบั ข้าพเจ้า จนถึง
วันพิพากษาได้
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
โรม 3:21–26; 2 ทิโมธี 1:12
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
2 พงศ์กษัตริ ย ์ 19;
ฮีบรู 1
เย็น:
โฮเชยา 12;
สดุดี 135 และ 136
ความเชื่อและการรู้
ความเชื่อหมายถึงการวางความมัน่ ใจในบางสิ่ ง นัน่ ไม่ได้หมายความว่าเชื่อในสิ่ งใดก็ได้ สิ่ งใดก็ตามที่เราไว้วางใจต้อง
เชื่ อถือได้ ความเชื่อของคริ สเตียนคือความเชื่อในพระคริ สต์ นี่ไม่ใช่เรื่ องที่ไร้เหตุผล “ความเชื่อแบบหลับหูหลับตา” นั้นเลินเล่อ
และขาดความรับผิดชอบ เหมือนกับการเอาเงินของคุณใส่ ในมือของคนที่คุณไม่รู้สิ่งใดเกี่ยวกับเขาเลย พี่นอ้ งคริ สเตียนคนหนึ่ง
รู้สึกสงสารคนที่เคยติดคุก เขาจึงจ้างคนที่เคยติดคุกมาเพื่อให้เขาเริ่ มใหม่ เขาแสดงความมัน่ ใจในชายคนหนึ่งโดยการตั้งให้เขา
เป็ นผูจ้ ดั การทัว่ ไป ชายคนนั้นแอบขโมยของเขาอย่างลับ ๆ และการขโมยของเขาเกือบทำให้ธุรกิจเสี ยหาย ภายหลังเขาทราบว่า
เหตุผลที่พนักงานที่เขาไว้ใจรายนี้ โดนคดีคือการยักยอกทรัพย์! ความเชื่อแบบหลับหูหลับตา!
ผูค้ นทัว่ โลกกำลังวางความเชื่อมัน่ ในความหลากหลายไม่รู้จบของศาสนา ระบบ เทพเจ้า ทฤษฎี ลัทธิ และผูท้ ี่ป่าว
ประกาศตนเองว่าเป็ นพระเมสสิ ยาห์ มีเพียงคนโง่เท่านั้นที่จะไว้วางใจในเทพเจ้าที่ไม่รู้จกั แต่คนโง่เชื่อเมื่อมีการใช้เทคนิคและ
ความกดดันทางอารมณ์ที่รุนแรง เมื่อเร็ว ๆ นี้ พวกเขาฆ่าตัวตายหมู่ดว้ ยความหวังลมๆ แล้งๆ “ความเชื่อ” (หรื อศาสนา) ส่ วน
ใหญ่ท้ งั เก่าและใหม่ ไม่สญ ั ญาสิ่ งใดในด้านนี้ ของนิรันดรกาล แต่ "พาย 1 ชิ้นในท้องฟ้ าเมื่อคุณตาย" อยาตอลเลาะห์ โคไมนี ผู้
ล่วงลับได้ส่งเด็กวัยรุ่ นเข้าสู่ สมรภูมิรบพร้อมกับคำสัญญาที่วา่ ถ้าพวกเขาตายด้วยการฆ่าคนนอกศาสนา พวกเขาจะไปสวรรค์
ทันที การฆ่าคนจะทำให้ใคร ๆ เหมาะสมกับสวรรค์ได้อย่างไร? ใครจะเชื่อล่ะ? แต่นี่เป็ นตัวอย่างของความหลอกลวงของ
อิทธิพลของซาตาน จักรพรรดิสเปนในช่วงเวลาของการสื บสวนรู้สึกกระวนกระวายใจเกี่ยวกับความรอดของตัวเอง เพราะว่าเขา
คิดว่าเขาไม่ได้เผาชาวยิวและคนอื่นๆ ที่ไม่ใช่คาทอลิกมากพอ! “ความเชื่อ” ไม่กี่อย่างที่เป็ นเหมือนประสบการณ์ทวั่ ไปของผูเ้ ชื่อ
คริ สเตียน อันที่จริ งแล้ว ไม่มีประสบการณ์จริ งเกี่ยวกับพระเจ้าเลย ไม่มีการอัศจรรย์ ไม่มีการให้อภัย ไม่มีชยั ชนะเหนือความบาป
ไม่มีความเข้มแข็งในความทุกข์ยาก ไม่มีสนั ติสุขกับพระเจ้า ไม่มีความชื่นชมยินดี บางคนส่ งเสริ มการยอมจำนนต่อโชคชะตาว่า
เป็ นคุณธรรมที่ยิง่ ใหญ่ แต่ผเู้ ชื่อคริ สเตียนเอาชนะโชคชะตาได้ พวกเขาไม่ยอมอ่อนข้อให้กบั สิ่ งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ จงรู้วา่ ความเชื่อ
ของคุณในพระคริ สต์ มีความหมายต่อคุณอย่างไร!
7
พฤศจิกายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“เพราะเหตุน้ ีขา้ พเจ้าจึงต้องทนทุกข์ล ำบากเช่นนี้ แต่ขา้ พเจ้าก็ไม่อบั อาย เพราะว่าข้าพเจ้ารู้จกั พระองค์ที่ขา้ พเจ้าเชื่อ และข้าพเจ้า
เชื่อมัน่ ว่า พระองค์ทรงสามารถรักษาสิ่ งที่พระองค์ทรงมอบไว้กบั ข้าพเจ้า จนถึงวันพิพากษาได้” (2 ทิโมธี 1:12)
ไฟประจำวัน!
ฉันเป็ นลูกของพระเจ้าโดยความเชื่อในพระเยซูคริ สต์
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
ยอห์น 8:39–41,44; 1 โคริ นธ์ 1:21; กาลาเทีย 3:26; 2 ทิโมธี 1:12
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
2 พงศ์กษัตริ ย ์ 20;
ฮีบรู 2
เย็น:
โฮเชยา 13;
สดุดี 137 และ 138
ความเชื่อผิด ๆ
ศาสนาส่ วนใหญ่ก ำหนดกฎ คำอธิษฐานเพื่ออธิษฐาน การปฏิบตั ิเพื่อสังเกต และเสนอ (เป็ นรางวัล) ความหวังใน
อนาคตบางประเภท นี่เป็ นวันแห่งการคลัง่ ไคล้การฆ่าตัวตาย การกล่าวอ้างอย่างรุ นแรง การขู่กรรโชกด้วยเสี ยงกรี ดร้อง และการ
ฆาตกรรม แต่อบั ราฮัม บิดาแห่ง 3 ศาสนาในปัจจุบนั ไม่หลงระเริ งไปกับการเดินขบวนอย่างเพ้อเจ้อ ในสมัยของพระคริ สต์ มีคน
อ้างว่าเป็ นลูกของอับราฮัมซึ่งเต็มไปด้วยความเกลียดชังและต้องการจะฆ่าพระเยซู พระเยซูตรัสกับเขาว่า “ถ้ าพวกท่ านเป็ นลูก
ของอับราฮั มแล้ว ท่ านก็จะทำในสิ่ งที่อับราฮั มทำแต่ เดี๋ยวนีพ้ วกท่ านหาโอกาสฆ่ าเรา ...อับราฮัมไม่ ได้ ทำอย่ างนี ้ พวกท่ านทำสิ่ งที่
พ่ อของท่ าน [มาร] ทำ” ...มันเป็ นฆาตกรตั้งแต่ เริ่ มแรก” (ยอห์น 8:39–41, 44) ผูร้ ู้ความจริ งย่อมไม่เดือดเนื้ อร้อนใจ เมื่อเกิด
กระแสวิจารณ์กป็ ล่อยให้ความจริ งพิสูจน์เอง วิธีการเผยแพร่ ความจริ งของคริ สเตียนแสดงให้เห็นว่าข่าวประเสริ ฐเป็ นแบบใด
นัน่ คือไม่มีการข่มขู่ ไม่ใช้ดาบ หรื อการข่มขู่ “พระเจ้ าจึ งพอพระทัยจะช่ วยพวกที่เชื่ อให้ รอดโดยคำเทศนาโง่ ๆ” (1 โคริ นธ์ 1:21)
คริ สเตียนกลุ่มแรกกล่ าวว่ า “เราจะพิชิตโลกด้ วยความรั ก” และพวกเขาก็ท ำเช่นนั้น
9
พฤศจิกายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“เพราะเมื่อก่อนท่านทั้งหลายเป็ นความมืด แต่บดั นี้ท่านเป็ นความสว่างในองค์พระผูเ้ ป็ นเจ้า จงดำเนินชีวิตอย่างคนของความ
สว่าง” (เอเฟซัส 5:8)
ไฟประจำวัน!
ฉันได้เลิกบรรดากิจการแห่งความมืด และสวมเครื่ องอาวุธแห่งความสว่าง
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
โรม 13:12; 1 โคริ นธ์ 2:12; กาลาเทีย 4:8–11; เอเฟซัส 5:6–11; 6:11–14; 2 ทิโมธี 3:3, 5, 7
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
2 พงศ์กษัตริ ย ์ 22;
ฮีบรู 4
เย็น:
โยเอล 1; สดุดี 140 และ 141
ของประทานเพือ่ การทำสงคราม
ของประทานของพระวิญญาณถูกประทานให้แก่เราเปล่าๆ “เราไม่ ได้ รับวิญญาณของโลก แต่ ได้ รับพระวิญญาณซึ่ งมา
จากพระเจ้ า เพื่อจะได้ ร้ ู ถึงสิ่ งต่ างๆ ที่ พระเจ้ าประทานแก่ เรา” (1 โคริ นธ์ 2:12) มีของเลียนแบบราคาถูกในท้องตลาด นัน่ คือ
นวัตกรรมทางศาสนา, การสัน่ , พลังฝ่ ายวิญญาณ, การบำบัดด้วยแสงตะวัน, ความหอมหวาน และแสงจากแหล่งใดก็ไม่รู้ “แต่ จง
เข้าใจข้ อนีค้ ือ วาระสุดท้ ายนั้นจะเป็ นเวลาที่น่ากลัว...ยึดถือทางพระเจ้ าแต่ เพียงเปลือกนอก แต่ ปฏิเสธฤทธิ์ เดชของทางนั้น จง
อย่ าเกี่ยวข้ องกับคนพวกนั้น!...ร่ำเรี ยนอยู่เสมอ แต่ ไม่ สามารถเข้าใจหลักความจริ งได้ เลย” (2 ทิโมธี 3:1, 5, 7)
ในหลายประเทศ งานของเรารบกวนผูท้ ี่อา้ งว่ามีฤทธิ์ อ ำนาจ การปกป้ องคุม้ ครอง และการรักษาโรค ผมระลึกถึงแม่มด
ที่ทรงพลังเป็ นพิเศษซึ่งถูกนำตัวมาจากอเมริ กาเพื่อสาปแช่งและทำลายสิ่ งที่ผมกำลังเทศนา เธอยืนอยูด่ า้ นหลังของฝูงชนและทำ
พิธีของเธอ ผมสวมยุทธภัณฑ์ท้ งั ชุดของพระเจ้าขณะที่เธอพยายามโจมตีฝ่ายวิญญาณต่อผม เพราะเหตุน้ ีจงรับยุทธภัณฑ์ท้ งั ชุด
ของพระเจ้าไว้ เพื่อท่านจะสามารถต่อสู้ในวันชัว่ ร้ายนั้น และเมื่อทำทุกอย่างแล้วจะยังยืนหยัดอยูไ่ ด้ (เอเฟซัส 6:13) ความ
พยายามของเธอต่อยุทธภัณฑ์น้ นั ไร้ผล!
10
พฤศจิกายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“พี่นอ้ งทั้งหลาย ข้าพเจ้าไม่ถือว่าข้าพเจ้าฉวยไว้ได้แล้ว แต่ขา้ พเจ้าทำอย่างหนึ่ง คือลืมสิ่ งที่ผา่ นพ้นมา แล้วโน้มตัวไปยังสิ่ งที่อยู่
เบื้องหน้าและข้าพเจ้าบากบัน่ มุ่งไปสู่หลักชัย เพื่อจะได้รับรางวัลคือการทรงเรี ยกแห่งเบื้องบนซึ่งมีในพระเยซูคริ สต์” (ฟี ลิปปี
3:13–14)
ไฟประจำวัน!
“ข้าพเจ้าจะไม่ตาย แต่ขา้ พเจ้าจะเป็ นอยู่ และประกาศพระราชกิจของพระยาห์เวห์” (สดุดี 118:17)
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
สดุดี 118:17; ยากอบ 1:22; 1 ยอห์น 2:18
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
2 พงศ์กษัตริ ย ์ 23;
ฮีบรู 5
เย็น:
โยเอล 2; สดุดี 142
เด็กและคนชราในชั่วโมงสุ ดท้ าย
ผมรู้สึกขอบพระคุณชัว่ นิรันดร์ที่ขณะที่ผมยังเป็ นเด็ก พระเยซูคริ สต์ได้เข้ามาอยูใ่ นหัวใจของผมและทรงเรี ยกผมให้รับ
ใช้พระองค์ ผมรู้วา่ พระองค์ได้เรี ยกผมให้เป็ นผูร้ ับใช้ของพระองค์ และผมไม่เคยเสี ยใจเลยแม้แต่ช่วงเดียว วันเดียวในชีวิตของ
ผมที่ได้รับใช้พระองค์ การตอบสนองต่อของประทานแห่ งความรอดจากพระองค์ และการตอบสนองต่อการทรงเรี ยกให้รับใช้
สิ่ งเหล่านี้เป็ นเหตุการณ์สำคัญในชีวิตของผูเ้ ชื่อทุกคน ไม่วา่ เด็กหรื อคนชรา การตระหนักว่าเรากำลังดำเนินชีวิตอยูใ่ น “ชั่วโมง
สุดท้ าย” (1 ยอห์น 2:18) ยังบีบคั้นหัวใจของเรา กระตุน้ ให้เรา “เป็ นผู้ประพฤติตามพระวจนะ ไม่ ใช่ เป็ นเพียงผู้ฟังเท่ านั้น มิฉะ
นั้นจะเป็ นการหลอกตัวเอง” (ยากอบ 1:22 )
อย่างไรก็ตามเด็กมีสถานะที่แตกต่างกันเล็กน้อยในชัว่ โมงสุ ดท้ายเดียวกัน เมื่อคนชราได้รับความรอด วิญญาณจิตก็ได้
รับความรอด เมื่อเด็กได้รับความรอด ทั้งวิญญาณจิตและชัว่ ชีวิตได้รับความรอด เด็กมี 1 ชัว่ โมงที่อาจเป็ นทั้งชีวิต และช่างเป็ น
ชัว่ โมงที่เปี่ ยมไปด้วยพระสิ ริอะไรเช่นนี้ ! 1 ชัว่ โมงที่เต็มไปด้วยความรัก ความชื่นชมยินดี สันติสุข จุดประสงค์ และความ
ปลอดภัย แม้วา่ ชัว่ โมงสุ ดท้ายจะกินเวลาไปตลอดชีวิตก็ตาม วิธีเดียวที่จะดำเนินชีวิตอยูใ่ นวันพรุ่ งนี้คือดำเนินชีวิตในความเชื่อ
และทำกิจกรรมเพื่อพระเยซูในวันนี้
ครั้งหนึ่งผมอธิษฐานเผือ่ ชายชราที่ก ำลังจะตาย ทันใดนั้น ความคิดแปลกๆ ท้าทายผมว่า “ผมจะอธิษฐานอย่างไร ถ้าผม
อยูใ่ นที่ของเขา?” นักการเมืองชื่อดังคนหนึ่งมีความปรารถนาครั้งสุ ดท้ายคือ “พายหมูอร่ อย 1 ชิ้น!” ใช้เวลาไม่นานก่อนที่ผมจะรู้
คำตอบด้วยตนเองว่า ผมจะขอให้องค์พระผูเ้ ป็ นเจ้าประทานกำลังให้แก่ผมและช่วยผมจัดงานประกาศใหญ่อีก 1 ครั้ง! ผมอยาก
จะยิงเข้าเป้ าอีกครั้งและนำวิญญาณจิต 1 แสนดวงไปที่เชิงกางเขนของพระคริ สต์อีกครั้ง ไม่มีอะไรยิง่ ใหญ่ไปกว่านั้น นัน่ คือไม่มี
วิธีตายใดที่เปี่ ยมไปด้วยพระสิ ริมากกว่าการต่อสู้ในสมรภูมิแห่งชัยชนะ ผมขอแนะนำให้คุณทำให้สิ่งนั้นเป็ นเป้ าหมายของคุณ!
11
พฤศจิกายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“ขโมยนั้นย่อมมาเพื่อจะลัก ฆ่า และทำลาย เรามาเพื่อพวกเขาจะได้ชีวิตและจะได้อย่างครบบริ บูรณ์” (ยอห์น 10:10)
ไฟประจำวัน!
เมื่อเราเดินในการเจิมของพระเจ้า เราก็ได้รับชัยชนะ
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
เลวีนิติ 10:1–2; อิสยาห์ 10:27; ยอห์น 10:10; 1 ยอห์น 3:8; วิวรณ์ 12:11
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
2 พงศ์กษัตริ ย ์ 24;
ฮีบรู 6
เย็น:
โยเอล 3; สดุดี 143
พายุหมุน
ในงานประกาศใหญ่ Great African Gospel ของเรา มีชยั ชนะที่ยิง่ ใหญ่เหนือฤทธิ์ อ ำนาจของซาตานและเวทมนตร์คาถา
กองวัสดุเวทย์มนตร์กองมหึ มาถูกนำมาเผา เจ้าของของสิ่ งเหล่านี้ได้รับการปลดปล่อยจากความกลัวและการกดขี่ของซาตานเมื่อ
พวกเขารับพระเยซูเป็ นองค์พระผูเ้ ป็ นเจ้าและผูช้ ่วยให้รอดของพวกเขา ผมมักจะชี้ ไปที่เปลวไฟและพูดว่า "นัน่ เหมือนกับบ้าน
สุ ดท้ายของมาร นัน่ คือในบึงไฟ!" ซาตานไม่ได้ควบคุมไฟนรก เปลวไฟเหล่านั้นเป็ นการพิพากษาต่อมัน เมื่อ “กิจการของมาร”
เหล่านั้น (1 ยอห์น 3:8) เหลือแต่เถ้าถ่าน เราจะเห็นไฟที่แท้จริ งขององค์พระผูเ้ ป็ นเจ้าตกลงบนฝูงชนจำนวนมาก
การต่อต้านการเจิมเป็ นไฟต้องห้ามแห่งการทำลายล้างและความตาย แต่เปลวไฟจากการทรงสถิตขององค์พระผูเ้ ป็ นเจ้า
จะเผาผลาญมัน เช่นเดียวกับที่เผาผลาญไฟต้องห้ามของนาดับและอาบีฮู หลังจากนั้น การเจิมที่หอมหวานแห่งสันติสุขจะหลัง่
ไหลไปทัว่ คริ สตจักร ตลอดทางลงมาถึงเท้าและชายเสื้ อคลุม ขอให้เราลืมการต่อสู้เก่า ๆ ในหมู่ประชากรของพระเจ้าเกี่ยวกับ
ปัญหาที่ไม่นำไปสู่ความรอดของชายและหญิง ศัตรู ของเราไม่ใช่คณะนิกายอื่นหรื อแม้แต่ลทั ธิ นิกาย ศัตรู ของเราคือมาร และคำ
โกหกมากมายที่มนั หลอกลวงโลก นัน่ คือคำโกหกที่วา่ พระเจ้าตายแล้ว การโกหกที่วา่ พระเจ้าไม่แยแส คำโกหกที่วา่ เราสามารถ
ทำได้โดยไม่มีพระเยซู “พวกเขาชนะมารด้ วยพระโลหิ ตของพระเมษโปดก” (วิวรณ์ 12:11) จงระลึกว่า "มาร" เป็ นเอกพจน์! เรา
มีศตั รู ตวั เดียวคือมาร มีฤทธิ์ อ ำนาจหนึ่งที่จะต่อต้านมัน นัน่ คือพระวิญญาณบริ สุทธิ์ เมื่อเราเดินในการเจิมของพระเจ้า นัน่ คือ
พร้อมสำหรับการรับใช้ เต็มไปด้วยไฟบริ สุทธิ์ จากนั้นเราก็เป็ นพายุหมุนแห่งการทำลายล้างเหนือดินแดนที่ถูกขโมยไปของศัตรู
เราเป็ นอาวุธแห่งจุดประสงค์และความกระตือรื อร้นที่ไม่มีใครหยุดยั้ง ยึดคืนสิ่ งที่ศตั รู ขโมยไป นัน่ คือชีวิตของชายและหญิงทัว่
โลก! ปล่อยให้สิ่งนี้เป็ นจุดประสงค์ของคุณในวันนี้
พฤศจิกายน
12
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“จงถวายพระเกียรติแด่พระองค์ผทู้ รงสามารถให้ท่านทั้งหลายตั้งมัน่ คงตามข่าวประเสริ ฐซึ่งข้าพเจ้าได้ประกาศนั้น คือเรื่ องเกี่ยว
กับพระเยซูคริ สต์ ตามการเปิ ดเผยข้อล้ำลึก ซึ่งได้ปิดบังไว้ต้ งั แต่โบราณกาลแต่เดี๋ยวนี้ ได้เปิ ดเผยให้ปรากฏแล้ว ...ขอพระเกียรติ
จงมีแด่พระเจ้าผูท้ รงสัพพัญญูแต่องค์เดียวสื บๆ ไปเป็ นนิตย์ อาเมน” (โรม 16:25–27)
ไฟประจำวัน!
การเข้ามาของพระวจนะของพระองค์ให้ความสว่าง ทั้งให้ความเข้าใจแก่คนรู้นอ้ ย
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
ปฐมกาล 1:3; 2:12; สดุดี 119:11, 97–98, 105; 130; อิสยาห์ 50:11; มัทธิว 13:14; โรม 10:17
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
2 พงศ์กษัตริ ย ์ 25;
ฮีบรู 7
เย็น:
อาโมส 1; สดุดี 144
พระคำทำให้ เกิดความเชื่อ
พระผูส้ ร้างผูท้ รงห่วงใยมากพอที่จะปล่อยให้เผ่าพันธุ์มนุษย์น้ ี ด ำเนินต่อไป เห็นได้ชดั ว่าไม่ตอ้ งการปล่อยให้เราอยูใ่ น
ความมืดเกี่ยวกับพระองค์เอง พระองค์ทรงเปิ ดเผยพระองค์เอง นัน่ คือวิธีเดียวที่เราจะรู้จกั พระองค์ การให้เหตุผลที่ยากของเรา
เป็ นเหมือนหิ นเหล็กไฟที่ท ำให้เกิดแค่ประกายไฟ ไม่ใช่แสง “นี่แน่ ะ พวกเจ้ าทุกคนที่ก่อไฟ ผู้เอาดุ้นไฟคาดตัวเจ้ าไว้ จงเดินด้ วย
แสงไฟของพวกเจ้ า [แต่] เจ้ าจะต้ องนอนลงในที่ทุกข์ ทรมาน” (อิสยาห์ 50:11) ประกาย แสงกระพริ บทางความคิดไม่ส่องทาง
ชีวิตมากนัก นักปรัชญาหลงทางเหมือนคนอื่นๆ แต่พวกเขาก็พยายามนำทางเรา คนตาบอดนำทางคนตาบอด พระเจ้าตรัสว่า “จง
เกิดความสว่าง!” พระองค์ทรงนำความสว่างมาสู่ อบั ราฮัม โมเสส ดาวิด ผูเ้ ผยพระวจนะ และในที่สุดผ่านทางพระเยซูคริ สต์
“โอ ข้ าพระองค์ รักธรรมบัญญัติของพระองค์ จริ งๆ เป็ นคำภาวนาของข้าพระองค์ เสมอพระบัญญัติของพระองค์ ทำให้
ข้ าพระองค์ ฉลาดกว่ าศัตรู ของข้ าพระองค์ เพราะพระบัญญัตินั้นอยู่กับข้าพระองค์ เป็ นนิตย์ ...พระวจนะของพระองค์ เป็ นตะเกียง
แก่ เท้ าของข้าพระองค์ และเป็ นความสว่ างแก่ ทางของข้าพระองค์ ” (สดุดี 119:97–98, 105) มีคนจำนวนมากเกินไปที่เพิกเฉยต่อ
พระคัมภีร์โดยไม่ตระหนักว่าพวกเขาสร้างความเสี ยหายอะไรบ้างจากการกระทำดังกล่าว พระคัมภีร์เป็ นไดนาไมต์ พระคัมภีร์
เป็ นดินแดนที่ยงั ไม่มีใครค้นพบสำหรับหลาย ๆ คน แม้วา่ “ทองคำที่บริ เวณนั้นเป็ นทองคำเนือ้ ดี” (ปฐมกาล 2:12) ในการปลด
ตะขอของพระคัมภีร์และเด็ดใบไม้แห่งรักษาเหล่านี้ตอ้ งใช้นิ้วแห่งความเชื่อ แต่ “ความเชื่ อเกิดขึน้ ได้ จาก…พระคำของพระเจ้ า”
(โรม 10:17) พระเจ้าประทานความเชื่อแก่เราในการอ่านพระคัมภีร์ เพื่อให้เราสามารถรวบรวมความเชื่อได้ ถ้าเราต้องการ
การได้รับความเชื่อคือการอ่านพระคำ เพียงแค่อ่าน เป็ นการพิสูจน์ในตัวเอง เคมีของมันระเบิดและทำให้เรามีความ
มัน่ ใจเกี่ยวกับตัวมันเอง “ความเชื่ อเกิดขึน้ ได้ กเ็ พราะการได้ ยิน และการได้ ยินเกิดขึน้ ได้ กเ็ พราะพระคำของพระเจ้ า” (โรม 10:17)
และ “เจ้ าจะได้ ยินเมื่อได้ ยิน” (มัทธิว 13:14) อับราฮัมเชื่อพระเจ้าเมื่อพระเจ้าตรัส พระผูส้ ร้างทำให้เรามีฤทธิ์ อ ำนาจที่จะจดจำ
เสี ยงของพระองค์ได้ เช่นเดียวกับที่อบั ราฮัมจำเสี ยงนั้นได้ นัน่ คือสิ่ งที่เราจะทำในตอนนี้ นัน่ คือให้พระคัมภีร์พดู เองเพื่อนำความ
เชื่อมาให้แก่คุณ!
13
พฤศจิกายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“แต่ถา้ ไม่มีความเชื่อแล้ว จะไม่เป็ นที่พอพระทัยเลย” (ฮีบรู 11:6)
ไฟประจำวัน!
พระเจ้าสามารถทำสิ่ งใดก็ได้ แต่พระองค์ไม่ท ำอะไรเลย ถ้าปราศจากผูท้ ี่เชื่อ
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
ฮีบรู 11:6
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
1 พงศาวดาร 1 และ 2; ฮีบรู 8
เย็น:
อาโมส 2; สดุดี 145
ความเชื่อและคำสั ญญา
ความเชื่อคืออะไร? มันไม่ใช่กลีบสมองส่ วนเกินหรื อชิ้นส่ วนที่ติดอยูใ่ นวิญญาณจิตของเรา เราเลือกที่จะเชื่อ ความเชื่อ
คือทัศนคติ ความเชื่อเป็ นพื้นฐานเดียวที่เป็ นไปได้สำหรับความสัมพันธ์ที่ใช้การได้ สำหรับผมแล้ว ดูเหมือนว่าความเชื่อใน
พระเจ้าไม่เพียงดีเท่านั้น แต่ยงั เป็ นสิ่ งที่สมควรทำอีกด้วย เป็ นเรื่ องไร้สาระที่จะคาดหวังการติดต่อกับพระเจ้าบนข้อกำหนดอื่น
พระเจ้าที่มองไม่เห็นจะเกี่ยวข้องกับเราได้อย่างไร ทั้งในปัจจุบนั และอนาคตที่ไม่รู้จกั ? ถ้าเราไปไม่ได้ไกลขนาดนั้น เราจะมีค่า
อะไร? ถ้าเราไม่สามารถไว้วางใจผูท้ รงมีฤทธิ์ อ ำนาจทั้งหมดของสิ่ งที่มีชีวิตทุกอย่างได้ เราคิดว่าเราเป็ นใคร? นี่คือสิ่ งเล็กน้อย
ที่สุดที่พระเจ้าทรงคาด “แต่ ถ้าไม่ มีความเชื่ อแล้ว จะไม่ เป็ นที่พอพระทัยเลย” (ฮีบรู 11:6) ถ้าผูใ้ ดพูดว่า “ฉันไม่ใช่ผเู้ ชื่อที่ยงิ่ ใหญ่”
นัน่ ก็แย่เกินไป เพราะว่าพระเจ้าไม่พอพระทัยพวกเขา! พวกเขา หรื อผูใ้ ดก็ตามจะยินดีหรื อไม่ ถ้าบางคนไม่ไว้วางใจพวกเขา?
14
พฤศจิกายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“ขอทรงสอนข้าพระองค์ท้ งั หลายให้นบั วันของตน เพื่อพวกข้าพระองค์จะมีจิตใจที่มีปัญญา” (สดุดี 90:12)
ไฟประจำวัน!
ลูกทั้งหลายเอ๋ ย บัดนี้เป็ นวาระสุ ดท้ายแล้ว!
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
สดุดี 90:12; มัทธิว 24:36; ยอห์น 20:21; โรม 13:11; 1 ยอห์น 2:18
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
1 พงศาวดาร 3 และ 4; ฮีบรู 9
เย็น:
อาโมส 3; สดุดี 146 และ 147
ชั่วโมงสุ ดท้ ายของคุณ
สมมติวา่ นี่เป็ นชัว่ โมงสุ ดท้ายของคุณ คุณจะทำอะไร? ช่างเป็ นการเตรี ยมการที่กระวนกระวายและวุน่ วายเสี ยนี่กระไร!
แต่ให้ผมบอกคุณว่า “ลูกทั้งหลายเอ๋ ย บัดนี เ้ ป็ นวาระสุดท้ ายแล้ว” (1 ยอห์น 2:18) ผมรู้วา่ ดูเหมือนว่า "ชัว่ โมงสุ ดท้าย" นี้กินเวลา
ยาวนานมาก ดังที่ยอห์นเขียนคำเหล่านั้นเมื่อ 2 พันปี ก่อน แต่อย่าให้สิ่งนั้นทำให้คุณสับสน สิ่ งหนึ่งที่เรามัน่ ใจได้กค็ ือ ถ้านัน่ เป็ น
ชัว่ โมงสุ ดท้ายแล้ว แน่นอนว่าตอนนี้กเ็ ป็ น! ถ้ายอห์นกำลังเขียนในวันนี้ เขาอาจจะเขียนว่า “ลูกทั้งหลายเอ๋ ย บัดนี้ เป็ นวินาทีสุด
ท้ายของชัว่ โมงสุ ดท้ายแล้ว” เมื่อยอห์นเขียนข้อนี้ เขากำลังเฝ้ าดูนาฬิกาของพระเจ้า ไม่ใช่นาฬิกาของเรา เข็มของมันยังไม่หยุดนิ่ง
ชัว่ โมงของพระเจ้าจะคงอยูไ่ ด้นานเท่าใด โดยวัดโดยวิธีการรักษาเวลาของแผ่นดินโลก? สิ่ งหนึ่งที่เรารู้คือเราไม่รู้วา่ เราใกล้จะถึง
กาลอวสานเพียงใด พระเยซูตรัสว่า “แต่ ไม่ มีใครรู้ เรื่ องวันหรื อเวลา” (มัทธิว 24:36) อย่างไรก็ตาม เห็นได้ชดั ว่าเราเข้าใกล้จุดจบ
มากขึ้นทุกวัน เปาโลก็เห็นเช่นนั้นด้วย “นอกจากนั้นท่ านควรจะรู้ ว่านี่เป็ นเวลาที่ควรตื่นจากหลับแล้ว เพราะว่ าความรอดได้ เข้า
มาใกล้ กว่ าสมัยที่เราเริ่ มเชื่ อนั้น” (โรม 13:11)
“ความงดงามในความบริ สุทธิ์ ” (สดุดี 96:9) ห้ามความเย่อหยิง่ ความเย่อหยิง่ คือ “แมลงวันตาย ย่ อมทำให้ น ้ำมันหอม
บูดเหม็นไป และทำให้ มีกลิ่นเหม็น” (ปัญญาจารย์ 10:1) ความพยายามที่เย่อหยิง่ ของเราในการทำให้บริ สุทธิ์ น้ นั ส่ งกลิ่นเหม็น
และไม่สะอาด “ความชอบธรรมทั้งหมดของพวกข้ าพระองค์ เหมือนเสื ้อผ้ าสกปรก” (อิสยาห์ 64:6) นัน่ เป็ นเพราะว่าสิ่ งเหล่านั้น
สร้างทัศนคติเชิงตัดสิ นและกล่าวโทษต่อผูท้ ี่เราคิดว่ามีมาตรฐานต่ำกว่า เราสวมใส่ อากาศฝ่ ายวิญญาณด้วยความถูกต้องที่ไม่น่า
ดึงดูดใจ ชีวิตที่เคร่ งกฏมีโอกาสเกิดผลที่แท้จริ งของพระวิญญาณมากพอๆ กับที่น้ำแข็งอาร์กติกมีโอกาสออกกล้วยไม้ แต่เมื่อเรา
“ถวายพระเกียรติซึ่งควรแก่ พระนามของพระองค์ แด่ พระยาห์ เวห์ จงนำเครื่ องบูชามาเข้าเฝ้ าพระองค์ ” (1 พงศาวดาร 16:29) จาก
นั้นเราจะเชื้อเชิญกลิ่นหอมของพระเจ้าให้ซึมซาบชีวิตของเรา อาจฟังดูแปลกที่ได้ยนิ สิ่ งนี้ แต่ตอนนี้คุณรู้แล้วว่าผมหมายถึงอะไร
เมื่อพูดว่า “จงมีกลิ่นเหมือนพระคริ สต์ในวันนี้ !”
17
พฤศจิกายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“ลืมสิ่ งที่ผา่ นพ้นมา แล้วโน้มตัวไปยังสิ่ งที่อยูเ่ บื้องหน้าและข้าพเจ้าบากบัน่ มุ่งไปสู่หลักชัย เพื่อจะได้รับรางวัลคือการทรงเรี ยก
แห่งเบื้องบนซึ่งมีในพระเยซูคริ สต์” (ฟี ลิปปี 3:13–14)
ไฟประจำวัน!
ฉันจะอุตส่ าห์ถวายตัวท่านเองที่พระเจ้าทรงรับรองแล้วแด่พระองค์ เป็ นคนงานที่ไม่อบั อาย สอนพระวจนะแห่งความจริ งอย่าง
ถูกต้อง
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
มัทธิว 20:1–16; 2 ทิโมธี 2:15; ฟี ลิปปี 3:13–14
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
1 พงศาวดาร 9 และ 10; ฮีบรู 12 เย็น:
อาโมส 6; ลูกา 1:39
จ่ ายเป็ นรายชั่วโมง
หลายปี ก่อนทางตอนเหนื อของเยอรมัน ผมได้รับสิ ทธิพิเศษให้น ำสตรี สูงอายุมาถึงองค์พระผูเ้ ป็ นเจ้า ตลอดชีวิตของ
เธอ เธอเป็ นนักเล่นออร์แกนในคริ สตจักร แต่ไม่เคยรู้จกั พระเยซูในฐานะพระผูช้ ่วยให้รอดของเธอเอง เมื่อเธอได้ยนิ ข่าว
ประเสริ ฐและเปิ ดหัวใจต่อองค์พระผูเ้ ป็ นเจ้า เธอเปี่ ยมล้นไปด้วยความชื่นชมยินดีของพระวิญญาณบริ สุทธิ์ 3 วันต่อมาผมพบเธอ
อีกครั้ง แต่คราวนี้ เธอแตกสลายอย่างสมบูรณ์ ผมถามเธอด้วยความงุนงงว่าทำไมถึงเป็ นเช่นนี้ เธอบอกผมทั้งน้ำตาว่า “ฉันอายุ 70
ปี แล้ว และเพิ่งรับพระเยซูเป็ นพระผูช้ ่วยให้รอด ฉันอาจจะมีชีวิตอยูไ่ ด้อีกสัก 5 หรื อ 10 ปี แต่ฉนั เสี ยเวลาไปตลอด 70 ปี ที่ผา่ น
มา”
แน่นอนว่าสิ่ งนี้ท ำให้ผมประทับใจอย่างมาก จากนั้นผมก็พดู ว่า “ใช่ แต่ผมรู้วา่ จะเกิดอะไรขึ้น วันหนึ่งเราจะยืนอยูห่ น้า
บัลลังก์พิพากษาของพระคริ สต์ แต่พระองค์จะไม่ทรงสนใจมากว่าเราตัดร่ องแห่งชีวิตเพื่อพระองค์ยาวแค่ไหน ลึกเพียงใด 5 หรื อ
10 ปี ทั้งหมดเพื่อพระเยซูน้ นั มีมากกว่าการเป็ นคริ สเตียนที่อุ่นๆ 50 ปี ”
อย่ าสะสมทรั พย์ สมบัติเพื่อตัวพวกท่ านเองไว้ ในโลก ที่ อาจเป็ นสนิมและที่แมลงกินเสี ยได้ และที่ขโมยอาจทะลวงลัก
เอาไปได้ แต่ จงสะสมทรั พย์ สมบัติเพื่อตัวพวกท่ านเองไว้ ในสวรรค์ ที่ ไม่ มีแมลงจะกินและไม่ มีสนิมจะกัด และที่ไม่ มี
ขโมยทะลวงลักเอาไปได้ เพราะว่ าทรั พย์ สมบัติของท่ านอยู่ที่ไหน ใจของท่ านก็อยู่ที่นั่นด้ วย (มัทธิ ว 6:19–21) คำ
อธิ ษฐานอันดับหนึ่งของใครหลายๆ เป็ นเรื่ องเกี่ยวกับเรื่ องอันดับหนึ่ง นั่นคือพวกเขาเอง แต่ เมื่อราชอาณาจักรของ
พระเจ้ าเป็ นอันดับหนึ่ง ก็ไม่ ผิดที่จะทูลขอสิ่ งที่ดีจากพระเจ้ า “ของประทานที่ดีและเลิศทุกอย่ างนั้นมาจากเบือ้ งบน คือ
มาจากพระผู้สร้ างแห่ งบรรดาดวงสว่ าง ในพระองค์ ไม่ มีการแปรปรวนหรื อเงาของการเปลี่ยนแปลง” (ยากอบ 1:17)
ของขวัญทางวัตถุที่อยู่รอบตัวเรานั้นมาจากพระเจ้ าในฐานะของขวัญแก่ ผ้ ทู ี่พระองค์ ทรงสร้ าง “พระองค์ ทรงให้ ผ้ ทู ี่
กระหายได้ อิ่มเอม” (สดุดี 107:9) ไม่ ว่าจะเป็ นรสนิยมใดก็ตาม พระเจ้ าประทานอำนาจให้ เราได้ รับความมัง่ คั่ง แต่ ไม่ มี
สิ่ งใดที่ถกู สร้ างขึน้ มาเพื่อพวกวัตถุนิยมเท่ านั้น ความร่ำรวยไม่ ใช่ เป้ าหมายหลักของความเชื่ อ ความเชื่ อได้ ถกู ประทาน
ให้ เพื่อให้ ได้ ครอบครอง พระเจ้ าไม่ ได้ แสดงความมัง่ คั่งมากมายของพระองค์ ในโลกที่มหั ศจรรย์ ของเราเพียงเพื่อ
เป็ นการทดลองคริ สเตียน ผู้เชื่ อมีสิทธิ์เรี ยกร้ องสิ่ งดีๆ ในชี วิตนีม้ ากพอๆ กับคนอื่นๆ อย่ างไรก็ตาม การมุ่งความสนใจ
ไปที่ความปรารถนาและคำอธิ ษฐานของเรานั้นเป็ นคนละเรื่ องกัน แรงจูงใจของการได้ รับคือการให้ นั่นคือเพื่อบรรเทา
ความหิ วโหยและทุกข์ ใจ และเพื่อให้ พระนามขององค์ พระผู้เป็ นเจ้ าเป็ นที่ร้ ู จัก ความเชื่ อและการอธิ ษฐานเป็ นเรื่ อง
เดียวกัน ขึน้ อยู่กับกันและกัน จงเอาจริ งเอาจังกับทั้งสองนีใ้ นชี วิตของคุณ และเฝ้ าดูทั้งสองนีห้ ลัง่ ไหลออกมาจากคุณ
เป็ นพลังแห่ งพระพรที่ทรงพลัง
19
พฤศจิกายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“แต่พวกท่านได้รับการชโลมจากพระองค์ผบู้ ริ สุทธิ์ แล้ว” (1 ยอห์น 2:20)
ไฟประจำวัน!
คำตอบของพระเจ้าต่อปฏิปักษ์ของพระคริ สต์ คือ การเจิมของพระองค์
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
อิสยาห์ 44:3; โยเอล 2:28, 31; 1 ยอห์น 2:18–27
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
1 พงศาวดาร 13 และ 14; ยากอบ 1
เย็น:
อาโมส 8; ลูกา 3
คลืน่ ของพระเจ้ า
นักวิทยาศาสตร์ทางทะเลกล่าวว่าคลื่นทะเลเคลื่อนตัวเป็ นระยะทางหลายพันไมล์ใต้ผวิ น้ำ ตลอดแนวคลื่นที่สงบนิ่ง
เมื่อใกล้ถึงแผ่นดิน พวกมันพัฒนาวงโคจรอันน่าเกรงขาม งอไหล่ที่ทรงพลัง และสร้างโมเมนตัมและปริ มาตรอย่างรวดเร็ ว เพื่อ
ระเบิดขึ้นฝั่งอย่างงดงามในที่สุด การแผ่ขยายที่เปี่ ยมด้วยพระสิ ริของฤทธิ์ อ ำนาจของพระวิญญาณบริ สุทธิ์ ก ำลังรวบรวมขึ้นอย่าง
ฉับพลันในทุกวันนี้ ทัว่ โลก ราวกับว่ากำลังรี บไปที่ฝั่ง คลื่นที่ยกตัวขึ้นพิสูจน์วา่ ฝั่งอยูไ่ ม่ไกล พระเยซูก ำลังจะมาเร็ ว ๆ นี้ ! นี่เป็ น
ชัว่ โมงสุ ดท้ายแล้ว! การเทออกของพระวิญญาณในวันเพนเทคอสต์ในยุคสุ ดท้ายเริ่ มขึ้นในปี 1901 และความจริ งของ “บัพติศมา
ในพระวิญญาณบริ สุทธิ์ พร้อมด้วยหมายสำคัญ"กำลังกลับคืนมา การฟื้ นฟูที่ทรงพลังที่สุดของการถาโถมทั้งหมดเข้ามาราวกับ
คลื่นจากสวรรค์ นี่เป็ นคลื่นลูกเดียวกับที่เกิดในกรุ งเยรู ซาเล็มเมื่อ 1900 ปี ก่อน ฤทธิ์ อำนาจอันท่วมท้นจากสวรรค์ “น้ำท่ วมบน
ดินแห้ ง” (อิสยาห์ 44:3) ได้อวยพรโลกเป็ นเวลา 200 หรื อ 300 ปี จากนั้นด้วยความไม่เชื่อและการเป็ นฝ่ ายโลกดูเหมือนจะลดลง
คริ สตจักรสอนด้วยซ้ำว่าฤทธิ์ อ ำนาจดังกล่าวมีไว้สำหรับอัครทูตและสาวกยุคแรกเท่านั้น พระวิญญาณบริ สุทธิ์ กลายเป็ นเพียงข้อ
ที่ 3 ของหลักข้อเชื่อ ถูกกักขังและผลักไสไปสู่ อดีต
21
พฤศจิกายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
"ขอให้ [เรา] เจริ ญขึ้นในทุกด้านสู่พระองค์ผเู้ ป็ นศีรษะคือพระคริ สต์เนื่องจากพระองค์น้ ี เอง ร่ างกายทั้งหมดจึงได้รับการเชื่อม
และประสานเข้าด้วยกันโดยทุกๆ ข้อต่อที่ประทานมานั้น และเมื่อแต่ละส่วนทำงานตามหน้าที่แล้ว ก็ท ำให้ร่างกายเจริ ญและ
เสริ มสร้างตนเองขึ้นด้วยความรัก” (เอเฟซัส 4:15–16)
ไฟประจำวัน!
บรรดาผูร้ ู้จกั พระเจ้าจะเข้มแข็ง และยืนหยัดต่อสู้
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
สดุดี 139:15; ดาเนียล 11:32; เอเฟซัส 4:15–16; 1 เปโตร 5:6
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
1 พงศาวดาร 16; ยากอบ 3
เย็น:
โอบาดีห์; ลูกา 5
การทรงเรียกหลายอย่ าง
การประกาศข่าวประเสริ ฐเป็ นการทรงรี ยกของผม มีการทรงเรี ยกอื่น ๆ ที่จะดึงดูดชายและหญิง : อัครทูต ศิษยาภิบาล
ครู ผูเ้ ผยพระวจนะ ผูป้ กครอง นักดนตรี ผูจ้ ดั งาน นักอธิษฐานวิงวอน และคนงานในความสามารถที่แตกต่างกันนับพัน เมื่อ
พระเจ้าวางพระหัตถ์ลงบนเรา พระองค์ท ำ 2 สิ่ ง ประการแรก พระองค์ประทานพันธกิจให้แก่เรา แล้วพระองค์กท็ รงเปิ ดประตูให้
งานรับใช้ เราแต่ละคนมีสถานที่พิเศษและสำคัญยิง่ ในราชอาณาจักรของพระองค์ ผูเ้ ชื่อทุกคนถูกสกัดเป็ นรายบุคคล “ถูกสร้ าง
อย่ างชำนาญ ณ ภายในที่ลึกแห่ งแผ่ นดินโลก” (สดุดี 139:15) บางคนอยูห่ ่างไกลจากการทำงานทัว่ ไป แต่พวกเขาแทบจะไม่ได้
รับการต้อนรับด้วยเสี ยงเชียร์ที่ดี
นิมิตใหม่อาจสร้างความปั่นป่ วนได้ ไม่เพียงแต่กบั ผูท้ ี่ได้รับเท่านั้น แต่ยงั รวมถึงผูท้ ี่ไม่ได้รับด้วย โดยเฉพาะอย่างยิง่ ถ้า
มันทำให้ผชู้ ายอยูใ่ นไฟแก็ซ อาจมีความขุ่นเคือง การวิพากษ์วิจารณ์ หรื อแม้แต่ความอิจฉาริ ษยา บางครั้งเพื่อนสนิทและเพื่อน
ร่ วมงานของชายคนหนึ่งก็ไม่เชื่อว่าพระเจ้าได้ทรงวางการทรงเรี ยกเข้าไปในวิญญาณจิตของเขา แต่ไม่มีแผนกบัญชีสำหรับการ
เลือกของพระเจ้า ดังที่เปาโลชี้ ให้เห็นเกี่ยวกับยาโคบ การทรงเรี ยกเป็ นคำแนะนำของพระเจ้าทั้งหมด ไม่ใช่ของมนุษย์ ถ้าพระเจ้า
ทรงเรี ยก ข้อพิสูจน์ที่ดีที่สุดคือความอดทนของเราเมื่อเราถูกตัดสิ นและวิพากษ์วิจารณ์ในทางที่ผดิ คนที่รู้ว า่ พระเจ้าได้ส่งเขามา
จะพอใจในพระเจ้า และปล่อยให้ผทู้ ี่ไม่ชอบใจหรื อเข้าใจผิดให้องค์พระผูเ้ ป็ นเจ้าจัดการ “เพราะฉะนั้น พวกท่ านจงถ่ อมตัวลง
ภายใต้ พระหั ตถ์ อันทรงฤทธิ์ ของพระเจ้ า เพื่อว่ าพระองค์ จะทรงยกพวกท่ านขึน้ เมื่อถึงเวลาอันควร" (1 เปโตร 5:6) เราต้องระวัง
ไม่ให้จดั การกับคำวิพากษ์วจิ ารณ์ในทางที่ผดิ บางครั้งคุณเห็นหลังหัวของคุณเองผ่านทางสายตาของคนอื่น! สิ่ งที่คนอื่นพูดถึงเรา
นั้นสำคัญ ไม่วา่ จะเป็ นศัตรู หรื อมิตรก็ตาม ผมสรรเสริ ญองค์พระผูเ้ ป็ นเจ้าสำหรับชายและหญิงที่เลือกสรรแล้วซึ่งพระองค์ได้ทรง
แนะนำผมสำหรับการรับรู้และการหยัง่ รู้ของพวกเขา ผมจะเป็ นคนโง่ที่จะไม่ฟังพวกเขา เช่นเดียวกับพันธกรคนอื่นๆ ผูเ้ ผยแพร่
ข่าวประเสริ ฐก็ตอ้ งการคำแนะนำ ผูเ้ ผยแพร่ ข่าวประเสริ ฐไม่สามารถเป็ นกฎหมายสำหรับตัวเขาเอง เขาเป็ นสมาชิกในพระกาย
ของพระคริ สต์ จงค้นหาตำแหน่งที่คุณเหมาะสมกับพระกายและปล่อยให้ตวั เองมีประโยชน์ที่นนั่ !
22
พฤศจิกายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“ข้าแต่พระยาห์เวห์ ขอให้ศตั รู ท้ งั สิ้ นของพระองค์พินาศดังนี้ แต่ขอให้ผทู้ ี่รักพระองค์เป็ นดัง่ ดวงตะวันเมื่อโผล่ข้ ึนด้วยอานุภาพ”
(ผูว้ ินิจฉัย 5:31)
ไฟประจำวัน!
ฉันจะไม่เป็ นคริ สเตียนที่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน!
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
อพยพ 17:15; ผูว้ ินิจฉัย 4:1–24; 5:1–31
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
1 พงศาวดาร 17; ยากอบ 4
เย็น:
โยนาห์ 1; ลูกา 6
ร้ านค้ าเรือของดาน
อิสราเอลมีปัญหามากมาย พวกเขามักถูกกดขี่โดยผูร้ ุ กราน พระเจ้าทรงตั้งผูน้ ำ (ผูว้ ินิจฉัย) ขึ้นมาเพื่อทำให้พวกเขารวม
ตัวกันและช่วยเหลือพวกเขาในการป้ องกันตนเอง ผูว้ ินิจฉัยคนหนึ่งคือเดโบราห์ ผูเ้ ผยพระวจนะหญิง ยาบิน กษัตริ ย ช์ าวคานาอัน
ได้ส่งคนของเขาไปภายใต้สิเสราเพื่อปล้นฆ่าชาวอิสราเอล พระวิญญาณของพระเจ้าทรงปลุกเร้าเดโบราห์เพื่อต่อต้านการโจมตีน้ ี
และด้วยการใช้พลังแห่งการโน้มน้าวใจของเธอ เธอได้สร้างแรงบันดาลใจให้อิสราเอลชุมนุมภายใต้การนำของบาราค แต่ละเผ่า
ได้รับการเรี ยกจากเดโบราห์ให้รวมตัวกัน และทำในสิ่ งที่พวกเขาไม่สามารถทำได้ตามลำพัง นัน่ คือยืนหยัดต่อสู้กบั สิ เสรา น่า
สนใจที่จะเห็นว่าเผ่าต่างๆ มีปฏิกิริยาแตกต่างกันอย่างไร ความจริ งแล้ว เรื่ องเก่าๆ นี้เป็ นเหมือนกระจกเงาที่ส่องหน้าคริ สตจักร
ในปัจจุบนั หลังจากได้รับชัยชนะ เดโบราห์ถามคำถามที่เสี ยดแทงเกี่ยวกับเผ่าดานว่า “แล้ วทำไมดานยังอยู่กับเรื อ?” (วนฉ. 5:17
คนเผ่าดานเดินเรื อเดินเรื อเพื่อขายให้ชาวอิสราเอล โดยนำสิ นค้ามาจากมุมไกล ๆ แล้วจอดเรื อที่ท่าเรื อ เรื อของพวกเขากลายเป็ น
ร้านค้าขายโดยตรงกับประชาชน) นี่คือดานเองที่ร้านค้าของเขา รวบรวมใบเสร็ จด้วยความพึงพอใจ ทันใดนั้น ผูส้ ่ งสารก็มาถึง
พร้อมกับส่ งคนไปหาดานว่า “ดานที่รัก สิ เสรากำลังทำลายล้างอิสราเอล เรากำลังต่อสู้กบั ทุกสิ่ งตามที่เราจัดการ แต่ทุกเผ่าต้อง
รวมกันขับไล่ขา้ ศึก มาช่วยเดี๋ยวนี ้ เพื่อนร่ วมชาติของคุณกำลังเลือดไหลและกำลังจะตาย โปรดตอบสนอง เดโบราห์ (ผูว้ ินิจฉัย
ของอิสราเอล)”
25
พฤศจิกายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“คนที่วางใจในเราจะทำกิจการที่เราทำนั้นด้วย และเขาจะทำกิจที่ยงิ่ ใหญ่กว่านั้นอีก เพราะว่าเราจะไปหาพระบิดาของเรา”
(ยอห์น 14:12)
ไฟประจำวัน!
เราใช้แขน มือ เท้า และปากของเราในการเผยแพร่ ข่าวประเสริ ฐของพระองค์ แต่สิ่งเหล่านี้กเ็ ป็ นของพระองค์ดว้ ย
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
ยอห์น 14:12; 16:7; โรม 12:4–5; 1 โคริ นธ์ 6:15; 12:12, 18, 27;
เอเฟซัส 5:30
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
1 พงศาวดาร 21; 1 เปโตร 2
เย็น:
โยนาห์ 4; ลูกา 9
ยิง่ ใหญ่ กว่ าพระเยซู หรือ?
เราได้เห็นมุมมองที่น่าทึ่งของราชอาณาจักรนี้ “คนที่วางใจในเราจะทำกิจการที่เราทำนั้นด้ วย และเขาจะทำกิจที่ยิ่งใหญ่
กว่ านั้นอีก เพราะว่ าเราจะไปหาพระบิดาของเรา” (ยอห์น 14:12) คำภาษากรี กที่แปลว่า “ยิ่งใหญ่ กว่ า” (meizona) ไม่ได้ระบุวา่
เป็ นความยิง่ ใหญ่ใด ไม่วา่ จะเป็ นจำนวน คุณภาพ หรื อขนาด นี่เป็ นปัญหาสำหรับนักศึกษาพระคัมภีร์หลายคน แน่นอนว่าไม่มีสิ่ง
ใดเหนือกว่าการอัศจรรย์ของพระเยซูในความสามารถทั้งหมดอย่างแท้จริ ง เช่น การทำให้ลาซารัสเป็ นขึ้นมาจากความตาย! แต่มี
ความรู้สึกว่าบางคนสามารถทำสิ่ งที่ยงิ่ ใหญ่กว่าพระคริ สต์
ประการแรก อาจมีจ ำนวนมากกว่า และประการที่ 2 สิ่ งเหล่านี้สามารถกระจายไปทัว่ พื้นที่ที่กว้างขึ้น ทั้ง 2 นี้เกิดขึ้นเมื่อ
เหล่าสาวกเดินทางออกไปเผยแพร่ ข่าวประเสริ ฐ เห็นได้ชดั ว่ามีงานบางอย่างของพระองค์ที่เราไม่สามารถทำได้เนื่องจาก
พระองค์ทรงเป็ นพระบุตรของพระเจ้า พระองค์เท่านั้นที่เป็ นพระผูไ้ ถ่ พระองค์ผเู้ ดียวสามารถตายเพื่อความบาปของโลกทั้งใบ
กิจที่พระองค์ทรงกล่าวถึงคือกิจแห่งความเมตตา การปลดปล่อย การรักษา และความช่วยเหลือ
26
พฤศจิกายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“ความเชื่อคือความมัน่ ใจในสิ่ งที่หวังไว้ เป็ นความแน่ใจในสิ่ งที่มองไม่เห็นโดยความเชื่อนี้เองคนสมัยก่อนจึงได้รับการรับรอง
จากพระเจ้า” (ฮีบรู 11:1–2)
ไฟประจำวัน!
ความเชื่อ คือ เลือดหล่อเลี้ยงชีวิตลูกของพระเจ้า
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
ฮีบรู 11:1–40; 12:1–29
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
1 พงศาวดาร 22; 1 เปโตร 3
เย็น:
มีคาห์ 1; ลูกา 10
ความเชื่อโบราณ
เราได้รับสิ่ งที่เราดำเนินชีวิตอยูเ่ พื่อ แต่เราดำเนินชีวิตอยูโ่ ดยสิ่ งที่เราได้รับหรื อไม่? สภาพนั้นยอดเยีย่ มเมื่อเทียบกับใน
อดีต เรามีเนื้ อหาและความอิ่มเอมใจอย่างน่าอัศจรรย์หรื อไม่? มีคนที่ยอดเยีย่ ม ดื่มด่ำกับการดำรงอยูข่ องมนุษย์เหมือนเหล้าองุ่น
ชั้นเลิศ แม้วา่ เมื่อความไม่รู้จะลึกซึ้ ง เช่น ยักษ์ใหญ่ฝ่ายวิญญาณอย่าง เอโนค อับราฮัม และซามูเอล พวกเขาไม่ได้ท่อง
อินเทอร์เน็ต ท่องโลกกว้างอย่างรอบรู้ แต่จมดิ่งลงสู่เบื้องลึกของความเป็ นจริ ง ความเข้าใจอย่างลึกซึ้ งถูกแผดเผาในดวงตาของ
พวกเขา ถ้าเราพบกับหนึ่งในบุคคลที่ยิง่ ใหญ่เหล่านี้ เราจะรู้สึกด้อยกว่าต่อหน้าความยิง่ ใหญ่
ใครคือผูท้ ี่อยูใ่ น “ม้วนเกียรติยศแห่งความเชื่อ”? อาเบล เอโนค โนอาห์ อับราฮัม ซาราห์ อิสอัค ยาโคบ โยเซฟ โมเสส
โยชูวา ราหับ กิเดโอน บาราค แซมสัน เยฟธาห์ ดาวิด ซามูเอล ผูเ้ ผยพระวจนะทั้งหมด คนเหล่านี้คือคนโบราณ คนที่รู้จกั พระเจ้า
พวกเขาไม่ได้ใช้ค ำว่า "ความเชื่ อ" เป็ นสภาวะของจิตใจ พวกเขาคิดในแง่ปฏิบตั ิเท่านั้น เช่น เดินกับพระเจ้า รับใช้ ยำเกรง เชื่อฟัง
และแนบแน่นกับพระองค์ นัน่ คือความเชื่อ และนัน่ คือสาเหตุที่พระคัมภีร์ตอ้ งเป็ นผูน้ ำทางของเราทุกกระเบียดนิ้ว ทุกวันนี้ ความ
เชื่อถูกมองว่าเป็ นทรัพย์สิน ซึ่งวางซ้อนกันอย่างปลอดภัยในตูจ้ ิตวิทยาของเรา เรานำออกมาปัดฝุ่ นและจัดแสดงตามแต่โอกาส
ความเชื่ อคือความมัน่ ใจในสิ่ งที่หวังไว้ เป็ นความแน่ ใจในสิ่ งที่มองไม่ เห็นโดยความเชื่ อนีเ้ องคนสมัยก่ อนจึ งได้ รับการ
รั บรองจากพระเจ้ าโดยความเชื่ อ เราจึ งเข้าใจว่ า พระเจ้ าได้ ทรงสร้ างจักรวาล ด้ วยพระดำรั สของพระองค์ ดังนั้นสิ่ งที่
มองเห็นจึ งเป็ นสิ่ งที่เกิดจากสิ่ งที่ไม่ ปรากฏให้ เห็น (ฮี บรู 11:1–3) คนสมัยก่ อนจะไม่ ด ำเนินชี วิตประจำวันโดย
ปราศจากความเชื่ อมากไปกว่ าการไม่ สวมเสื ้อผ้ า มันเป็ นบรรยากาศที่พวกเขาหายใจ ไม่ ใช่ แค่ ช่วงเวลาที่สะดวกเท่ านั้น
ปั จจุบันโลกมองว่ าศาสนาเป็ นเพียงเรื่ องหรื อหลักปฏิบัติเป็ นครั้ งคราว วันอาทิตย์ เป็ นวันสำหรั บศาสนา สำหรั บบุรุษผู้
ยิ่งใหญ่ เหล่ านี ้ ความสัมพันธ์ ของพวกเขากับพระเจ้ าคือคุณสมบัติที่ส ำคัญในช่ วงเวลาตื่นนอนของพวกเขา และเป็ นสิ่ ง
ที่คิดไม่ ถึง ถ้ าปราศจากพระองค์ คุณควรมีความเชื่ อแบบนั้น !
27
พฤศจิกายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“เราเป็ นชีวิตและการเป็ นขึ้นจากตาย คนที่วางใจในเราจะมีชีวิตอีกแม้วา่ เขาจะตายไปและทุกคนที่มีชีวิตและวางใจในเราจะไม่
ตายเลย” (ยอห์น 11:25–26)
ไฟประจำวัน!
ฉันมีชีวิต และไหวตัว และเป็ นอยูใ่ นพระองค์
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
เอเสเคียล 18:4; มัทธิว 10:28; ยอห์น 11:25; กิจการ 17:28; 1 เปโตร 1:10–12
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
1 พงศาวดาร 23; 1 เปโตร 4
เย็น:
มีคาห์ 2; ลูกา 11
ความเชื่อชนิดใหม่
โลกในสมัยโบราณเป็ นสถานที่ที่เต็มไปด้วยอันตราย นานาประเทศไม่รู้วา่ จะรับมือกับความเจ็บป่ วย โรคระบาด ความ
แห้งแล้ง และความอดอยากอย่างไร ศัตรู ลอ้ มรอบพวกเขา แต่อิสราเอลเรี ยนรู้วา่ พระเจ้า คือ เอล ชัดดัย นัน่ คือ ผูท้ รงพอเพียงใน
ทุกสิ่ ง ผูป้ กป้ อง ผูป้ ลดปล่อย ผูเ้ ยียวยา ฐานที่มนั่ "โล่และดั้ง" ของพวกเขา (สดุดี 91:4) ประชาชาติอื่น ๆ มองไปที่เทพเจ้าของ
พวกเขา นัน่ คือต่อเทพเจ้าแห่งฝน ถ้าพวกเขาต้องการฝน ต่อเทพเจ้าแห่งความอุดมสมบูรณ์เพื่อการเก็บเกี่ยวของพวกเขา พวกเขา
ถวายเครื่ องบูชาที่ศาลเจ้าเพื่อเป็ นสิ นบนเมื่อพวกเขาต้องการความช่วยเหลือ นัน่ คือทั้งหมดที่เหล่าเทพเจ้าต้องการ มิฉะนั้นผูค้ น
จะลืมพวกเขา คนต่างศาสนาไม่มีความรู้สึกที่ยงั่ ยืนเกี่ยวกับความห่วงใยอย่างต่อเนื่องของพระเจ้า มีเพียงอิสราเอลเท่านั้นที่
เพลิดเพลินกับสิ่ งนี้ ในอิสราเอล พระเจ้าส่ งผูเ้ ผยพระวจนะมาเพื่อให้พวกเขามัน่ ใจในความสัตย์ซื่อของพระองค์ พระองค์ทรง
เป็ นผูเ้ ลี้ยงของพวกเขา และพวกเขาเป็ นแกะแห่งทุ่งหญ้าของพระองค์ นี่เป็ นเรื่ องที่เหนือความคาดหมายของคนนอกศาสนา
แม้แต่พวกนอกรี ตที่ยงิ่ ใหญ่ที่สุด เช่น โสเครติสและอริ สโตเติลก็ไม่มีความตระหนักรู้ถึงพระเจ้า ชาวอิสราเอลเป็ นคนของ
พระเจ้ า ยกตัวอย่างเช่น ในขณะที่ชาวเอเฟซัสยกย่องไดอาน่าแห่งชาวเอเฟซัส (หรื ออาร์ทิมิสตามภาษากรี ก) พวกเขาไม่ใช่คน
ของไดอาน่า พวกเขาเพียงแค่สนับสนุนเธอ
29
พฤศจิกายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“อย่าทำงานเพื่อแสวงหาอาหารที่เสื่ อมสูญได้ แต่จงแสวงหาอาหารที่คงทนอยูจ่ นถึงชีวิตนิรันดร์ ซึ่งบุตรมนุษย์จะมอบให้กบั
พวกท่าน เพราะพระเจ้าคือพระบิดาทรงรับรองท่านผูน้ ้ ีแล้ว” (ยอห์น 6:27)
ไฟประจำวัน!
พระคริ สต์ตอ้ งได้รับความไว้วางใจสำหรับทุกสิ่ ง ไม่ใช่แค่การอัศจรรย์ครั้งหรื อ 2 ครั้งเท่านั้น
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
มัทธิว 16:14; 21:11; ยอห์น 2:23–25; 6:36; 1 โคริ นธ์ 3:1–2
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
1 พงศาวดาร 26–27; 2 เปโตร 1
เย็น:
มีคาห์ 4; ลูกา 13
ขั้นที่ 3 ขั้นที่ 4
เมื่อเราเติบโตและก้าวหน้าในเส้นทางแห่งความเชื่อตลอดชีวิต เราก้าวหน้าจากวัยเด็กไปสู่ วยั ผูใ้ หญ่ พี่นอ้ งทั้งหลาย
ข้าพเจ้าไม่อาจจะพูดกับท่าน เหมือนพูดกับพวกที่อยูฝ่ ่ ายจิตวิญญาณ แต่ตอ้ งพูดเหมือนพวกที่อยูฝ่ ่ ายเนื้อหนัง เหมือนกับพวกที่
เป็ นทารกในพระคริ สต์ขา้ พเจ้าเลี้ยงพวกท่านด้วยน้ำนม ไม่ใช่ดว้ ยอาหารแข็ง เพราะว่าเมื่อก่อนท่านไม่สามารถรับ และเดี๋ยวนี้
ท่านก็ยงั คงไม่สามารถรับได้ (1 โคริ นธ์ 3:1–2) ให้เราดูวา่ ความเชื่อของเราเจริ ญเติบโตต่อไปอย่างไร:
ขั้นที่ 3 : เชื่อในพระเยซูในฐานะผู้ได้ รับการดลใจ เหมือนผู้เผยพระวจนะ พวกสาวกบอกพระคริ สต์วา่ ผูค้ นคิดอย่างไร
เกี่ยวกับพระองค์ “บางคนว่ า [คุณเป็ น] เป็ นยอห์ นผู้ให้ บัพติศมา แต่ บางคนว่ าเป็ นเอลียาห์ ส่ วนคนอื่นๆ ว่ าเป็ นเยเรมีย์ หรื อเป็ น
คนหนึ่งในบรรดาผู้เผยพระวจนะ” (มัทธิว 16:14) พระองค์เสด็จเข้ากรุ งเยรู ซาเล็มและ “ฝูงชนก็ตอบว่ า “นี่ คือเยซูผ้ เู ผยพระ
วจนะที่มาจากนาซาเร็ ธแคว้ นกาลิลี”” (มัทธิว 21:11) พวกเขาปรบมือให้พระองค์ แต่พระเยซูทรงร้องไห้เช่นเดียวกับเยเรมีย ์ พวก
เขาไปไกลมากแล้ว แต่ไม่อนุญาตให้พระองค์น ำพวกเขามาอยูใ่ ต้ปีกของพระองค์และช่วยพวกเขาให้รอด เราไม่สามารถพูดได้วา่
พระองค์เป็ นผูเ้ ผยพระวจนะ เช่นเดียวกับที่กล่าวว่าเซอร์ คริ สโตเฟอร์ เวรน เป็ นสถาปนิก ผูเ้ ผยพระวจนะต้องถูกได้ยนิ และการ
จะได้ยนิ พระคริ สต์เป็ นเส้นทางที่ยาวนาน นาน
30
พฤศจิกายน
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“ให้พระคริ สต์ประทับในใจของท่านโดยทางความเชื่อ ให้ท่านได้หยัง่ รากและตั้งมัน่ อยูใ่ นความรัก...เพื่อพวกท่านจะได้รับความ
บริ บูรณ์ของพระเจ้าอย่างเต็มเปี่ ยม (เอเฟซัส 3:17, 19)
ไฟประจำวัน!
ข้าพเจ้าถูกตรึ งร่ วมกับพระคริ สต์แล้ว ข้าพเจ้าเองไม่มีชีวิตอยูต่ ่อไป แต่พระคริ สต์ต่างหากที่ทรงมีชีวิตอยูใ่ นข้าพเจ้า ชีวิตซึ่งข้าพ
เจ้าดำเนินอยูใ่ นร่ างกายขณะนี้ ข้าพเจ้าดำเนินอยูโ่ ดยความเชื่อในพระบุตรของพระเจ้าผูไ้ ด้ทรงรักข้าพเจ้า และได้ทรงสละพระ
องค์เองเพื่อข้าพเจ้า
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
สดุดี 27:10; 41:9; กาลาเทีย 2:20; เอเฟซัส 4:14–15; 1 เธสะโลนิกา 5:23
อ่านพระคัมภีร์ใน 1 ปี :
เช้า:
1 พงศาวดาร 28; 2 เปโตร 2
เย็น:
มีคาห์ 5; ลูกา 14
ขั้นที่ 5 ขั้นที่ 6
อัครทูตเปาโลเป็ นห่วงอย่างมากเกี่ยวกับการทำให้คริ สเตียนใหม่เป็ นผูใ้ หญ่ดว้ ยการมอบคำสอนของเขาให้ เพื่อเราจะ
ไม่เป็ นเด็กอีกต่อไป ถูกซัดไปซัดมาและพัดไปพัดมาด้วยลมคำสัง่ สอนทุกอย่าง ด้วยเล่ห์กลของมนุษย์...แต่ให้เรายึดถือความจริ ง
ด้วยความรัก เพื่อจะเจริ ญขึ้นในทุกด้านสู่พระองค์ผเู้ ป็ นศีรษะคือพระคริ สต์ (เอเฟซัส 4:14–15) ขณะที่คุณเดินต่อไปในเส้นทาง
แห่งความเชื่อตลอดชีวิต คุณจะทำตามขั้นตอนเหล่านี้ ขั้นที่ 5 : เชื่ออย่ างไว้ วางใจ สิ่ งนี้เปลี่ยนความเชื่อเป็ นความสัมพันธ์ส่วนตัว
เราไว้วางใจคนอื่นเช่นพ่อแม่ของเรา พวกเขารู้จกั เรา เรารู้สึกว่าพวกเขาจะไม่ท ำให้เราผิดหวัง นัน่ คือ “ความเชื่อ” ส่ วนตัวที่
พระเจ้าต้องการให้เราวางในพระองค์ ชีวิตของเราเปิ ดกว้างต่อพระองค์ราวกับว่าพระองค์ประทับอยูใ่ นห้องนัง่ เล่นของเรา เรา
อาจสารภาพบาปของเราด้วย พระองค์รู้ถึงสิ่ งเหล่านั้นอยูแ่ ล้ว ถ้าเราติดอยูบ่ นหิ้งผนังบนภูเขาและผูช้ ่วยชีวิตที่เชี่ยวชาญมา เราก็
ต้องฝากชีวิตไว้ในมือของเขา ไม่วา่ เราจะเก่ง รวย แข็งแกร่ ง หรื อโง่เขลาเพียงใด นัน่ คือความเชื่อที่ช่วยให้รอด และพระคริ สต์
ทรงเป็ นผูช้ ่วยชีวิตของเรา
1
ธันวาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“เพราะเหตุน้ ี เราจะต้องเอาใจใส่ ในสิ่ งต่างๆ ที่เราได้ยนิ ให้มากขึ้นอีก เพื่อเราจะไม่ห่างไกลไปจากข้อความเหล่านั้น” (ฮีบรู 2:1)
ไฟประจำวัน!
ถ้าเรามี "ความจริ ง" โดยปราศจากความจริ งของพระคริ สต์ เราก็ตายโดยปราศจากความจริ งแห่งการให้อภัย
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
สดุดี 14:1; โรม 10:14; 2 เธสะโลนิกา 2:11–12; ฮีบรู 2:1, 3
อ่านพระคัมภีร์ในหนึ่งปี :
เช้า:
1 พงศาวดาร 29; 2 เปโตร 3
เย็น:
มีคาห์ 6; ลูกา 15
ความไม่ เชื่อเป็ นสิ่ งที่ให้ อภัยได้ เมื่อใด?
การไม่เชื่อในพระเจ้าสามารถได้รับการอภัย ถ้าผูค้ นไม่รู้เกี่ยวกับพระองค์ “พวกที่ยงั ไม่ ได้ ยินถึงพระองค์ จะเชื่ อใน
พระองค์ ได้ อย่ างไร?” (โรม 10:14) แต่ความไม่รู้อาจจำเป็ นต้องได้รับการให้อภัย ในสังคมตะวันตกของเรา การไม่ได้ยนิ ข่าว
ประเสริ ฐถือเป็ นความดื้อรั้นที่ไม่อาจให้อภัยได้ พระเจ้าจะให้อภัยคนที่ไม่ยอมแม้แต่จะฟังหลังจากที่พระบุตรสิ้ นพระชนม์เพราะ
บาปของพวกเขาได้อย่างไร? “เพราะเหตุนี้ เราจะต้ องเอาใจใส่ ในสิ่ งต่ างๆ ที่ เราได้ ยินให้ มากขึน้ อีก เพื่อเราจะไม่ ห่างไกลไปจาก
ข้ อความเหล่ านั้น เราจะรอดพ้ นได้ อย่ างไร? ถ้ าเราละเลยความรอดอันยิ่งใหญ่ เช่ นนี?้ ” (ฮีบรู 2:1, 3) ถ้าเรามี “ความจริ ง” โดย
ปราศจากความจริ งของพระคริ สต์ เราก็ตายโดยปราศจากความจริ งแห่งการให้อภัย
3
ธันวาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“พวกท่านจึงไม่ใช่คนนอกและคนต่างด้าวอีกต่อไป แต่เป็ นพลเมืองเดียวกับบรรดาธรรมิกชน และเป็ นครอบครัวของพระเจ้า
ท่านทั้งหลายถูกก่อร่ างสร้างขึ้นบนรากฐานของบรรดาอัครทูตและบรรดาผูเ้ ผยพระวจนะ มีพระเยซูคริ สต์เป็ นศิลาหัวมุม” (เอ
เฟซัส 2:19–20)
ไฟประจำวัน!
ถ้าฉันทำสิ่ งที่พวกอัครทูตทำ ฉันก็จะได้สิ่งที่พวกอัครทูตได้!
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
มัทธิว 76:22; เอเฟซัส 2:12; 19
อ่านพระคัมภีร์ในหนึ่งปี :
เช้า:
2 พงศาวดาร 2; 1 ยอห์น 2
เย็น:
นาฮูม 1; ลูกา 17
ข่ าวประเสริฐแห่ งไม้ กางเขน
ข่าวประเสริ ฐที่เหล่าสาวกประกาศเมื่อพวกเขาออกไปนั้น คือข่าวประเสริ ฐเรื่ องราชอาณาจักรของพระเจ้า นัน่ คือข่าวดี
ที่วา่ ราชอาณาจักรอยูใ่ กล้พวกเขาแล้ว แต่พวกเขาเทศนาด้วยถ้อยคำที่ยอห์นผูถ้ วายบัพติศมาไม่ได้ใช้ และพระเยซูเองใช้เป็ นครั้ง
คราวเท่านั้น ข่าวประเสริ ฐเรื่ องราชอาณาจักรของพวกเขาได้รับการป่ าวประกาศในภาษาของพระคริ สต์ที่ถูกตรึ งกางเขน ไม่ใช่
ข่าวประเสริ ฐอื่น แต่มีขอ้ เท็จจริ งใหม่มากมาย ข้อเท็จจริ งที่สำคัญยิ่งเกี่ยวกับราชอาณาจักรของพระเจ้า นัน่ คือไม้ กางเขน เมื่อพระ
เยซูได้ตรัสเรื่ องนี้ ก่อนหน้านี้ เปโตรพยายามกล่าวห้ามพระองค์ดว้ ยซ้ำ ในตอนแรกสิ่ งที่ดูเหมือนอุกอาจสำหรับเหล่าสาวกคือ
(เมื่อพวกเขาตระหนักในภายหลัง) ความลึกลับที่สำคัญทั้งหมดของราชอาณาจักร นัน่ คือการเสี ยสละตนเองของกษัตริ ยเ์ พื่อราช
อาณาจักร ราชอาณาจักรนี้ ถูกสถาปนาขึ้นโดยการต่อสู้ครั้งยิง่ ใหญ่และชัยชนะของพระคริ สต์ พระโลหิ ตของพระองค์ท ำ
เครื่ องหมายรากฐาน กลโกธาเป็ นที่มาของพลวัตแห่งการทรงไถ่ของพระเจ้า พลังงานนิวเคลียร์แห่งข่าวประเสริ ฐ และของ
ประทานทั้งหมดของพระวิญญาณ
4
ธันวาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“เราจึงอดอาหารและวิงวอนพระเจ้าของเราเพื่อเรื่ องนี้ และพระองค์ทรงฟังเสี ยงร้องทูลของเรา” (เอสรา 8:23)
ไฟประจำวัน!
เมื่อท่านเมื่อถืออดอาหาร จงล้างหน้าและเอาน้ำมันชโลมศีรษะ เพื่อคนทั้งหลายจะไม่รู้วา่ ท่านถืออดอาหาร แต่ให้ปรากฏแก่พระ
บิดาของท่าน ผูส้ ถิตในที่ลบั และพระบิดาของท่าน ผูท้ อดพระเนตรเห็นในที่ลบั จะประทานบำเหน็จแก่ท่าน
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
เอสรา 8:23; สดุดี 119:105; มัทธิว 6:16–18; มาระโก 9:25–29; ลูกา 4:18–19; 9:2; 11:13; 24:49
อ่านพระคัมภีร์ในหนึ่งปี :
เช้า:
2 พงศาวดาร 3 และ 4; 1 ยอห์น 3
เย็น:
นาฮูม 2; ลูกา 18
การอดอาหารและความเชื่อ
บางคนบอกว่าพวกเขาจะอดอาหาร ถ้าจำเป็ นจนถึงแก่ความตาย จนกว่าพระเจ้าจะตอบพวกเขา นัน่ น่าประทับใจ แต่สิ่ง
นี้ส่งผลต่อพระเจ้าหรื อไม่? ความอดทนของพวกเขาเป็ นหมายสำคัญที่พระเจ้าจะตรัสหรื อ? หรื อพวกเขากำลังพยายามบังคับ
พระหัตถ์ของพระเจ้าโดยการคุกคามฝ่ ายวิญญาณที่ละเอียดอ่อน? พระเจ้าไม่ทรงยอมจำนนต่อแรงกดดันทางอารมณ์ใดๆ การอด
อาหารเพื่อบิดพระกรของพระเจ้าถือเป็ นข้อผิดพลาด การอดอาหารเป็ นเพียงวิธีการสำแดงความเร่ งรี บของเรา เหมือนการร้อง
เรี ยกพระเจ้าด้วยเสี ยงดังหรื อไม่ลดละ คนต่างศาสนาคิดว่าพวกเขาสามารถนำกำลังบางอย่างมาจากพระของพวกเขาได้โดยการ
ออกแรง การเอาเลือดออก และความพยายามอื่นๆ แต่พระเจ้าไม่เหมือนซุส อพอลโล หรื อ บาอัล พระเจ้าทรงพอพระทัยที่ได้ยนิ
ลูกๆ ของพระองค์ และพวกเขาไม่จ ำเป็ นต้องส่ งเสี ยงดังหรื อทำบางสิ่ งบางอย่าง การอธิษฐานเกิดผลเมื่อเรากำลังมีส่วนร่ วมใน
งานของพระเจ้า โดยเฉพาะงานบางอย่าง
และข้ าพเจ้ ากล่ าวว่ า “วิบัติแก่ ข้าพเจ้ า เพราะว่ าข้ าพเจ้ าพินาศแล้ว เพราะข้าพเจ้ าเป็ นคนริ มฝี ปากไม่ สะอาดและข้าพเจ้ า
อยู่ท่ามกลางชนชาติที่ริมฝี ปากไม่ สะอาด แต่ ดวงตาของข้าพเจ้ าได้ เห็นกษัตริ ย์ คือพระยาห์ เวห์ จอมทัพ” แล้วองค์ หนึ่ง
ในพวกเสราฟิ มบินมาหาข้าพเจ้ า ในมือมีถ่านเพลิงซึ่ งท่ านเอาคีมคีบมาจากแท่ นบูชาและท่ านแตะต้ องปากของข้ าพเจ้ า
พูดว่ า “นี่แน่ ะ สิ่ งนีไ้ ด้ แตะต้ องริ มฝี ปากของเจ้ าแล้ ว ความผิดของเจ้ าก็ถกู ขจัด และบาปของเจ้ าก็ได้ รับการลบล้ าง”
(อิสยาห์ 6:5–7) การเจิ มของพระเจ้ าเปลี่ยนแปลงเรา
ในตัวเราเอง เป็ นคนบาปและถูกจำกัด เราไม่เหมาะที่จะเป็ นวิหารของพระวิญญาณเลย แต่เราถูกสร้างให้พอดี เรา
แปลกใจและนมัสการ เมื่อพระวิญญาณผูท้ รงฤทธิ์ นั้นประทับอยูใ่ นตัวเรา หลังจากนั้นน้ำมัน มือ หรื อสิ่ งอื่นใดที่อยูบ่ นเนื้ อ
ภายนอกของเราก็เป็ นเพียงสัญลักษณ์ของความยิง่ ใหญ่แห่งการทรงสถิตของพระองค์เท่านั้น นอกจากการเจิม ยังมีสญ ั ลักษณ์
อื่นๆ ของพระวิญญาณอีกด้วย การเจิมไม่สามารถเรี ยนรู้เป็ นเพียงแค่ความรู้ในหัว แต่ตอ้ งเข้าไปในหัวใจและถูกสำแดงออกใน
ชีวิต มันจะต้อง “หยัง่ รากลงล่ าง และเกิดผลขึน้ บน” (อิสยาห์ 37:31) จงอนุญาตให้การเจิมของพระเยซูคริ สต์เป็ นพลังชีวิตที่
สำคัญในตัวคุณ!
6
ธันวาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“ถ้าพระวิญญาณของพระองค์ ผูท้ รงให้พระเยซูเป็ นขึ้นมาจากตายสถิตอยูใ่ นท่านทั้งหลาย พระองค์ผทู้ รงให้พระเยซูคริ สต์เป็ น
ขึ้นมาจากตายแล้วนั้น จะทรงทำให้กายซึ่งต้องตายของพวกท่านเป็ นขึ้นมาใหม่ โดยพระวิญญาณของพระองค์ซ่ ึงสถิตอยูใ่ นท่าน”
(โรม 8:11)
ไฟประจำวัน!
ฤทธิ์อำนาจแห่งราชอาณาจักรที่อยูบ่ นพระเยซูคริ สต์มีไว้สำหรับการทำหมายสำคัญและการอัศจรรย์ พระวิญญาณองค์เดียวกัน
ถูกประทานให้แก่ผทู้ ี่อยูใ่ นราชอาณาจักรของพระเจ้า
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
ลูกา 12:32; ยอห์น 1:33–34; 9:3–4; 15:5; โรม 8:11
อ่านพระคัมภีร์ในหนึ่งปี :
เช้า:
2 พงศาวดาร 6:12; 1 ยอห์น 5
เย็น:
ฮาบากุก 1; ลูกา 20
ฤทธิ์อำนาจของราชอาณาจักร
เมื่อพระเยซูทรงพบชายตาบอด พระองค์ตรัสว่า “เราต้ องทำพระราชกิจของผู้ทรงใช้ เรามาเมื่อยังวันอยู่” (ยอห์น 9:4)
ด้วยเหตุน้ ี พระองค์ทรงแสดงให้เห็นว่าการฟื้ นฟูคนตาบอดเป็ นงานของพระบิดา ความเมตตาของราชอาณาจักรยังคงดำเนินต่อ
ไปตราบเท่าที่พระเยซูยงั อยูใ่ นโลก มากยิง่ กว่านั้นสิ่ งเหล่านี้กลับมาหลังจากที่พระองค์ได้จากไป พระเยซูตรัสกับเหล่าสาวกของ
พระองค์วา่ “กลางคืนอันเป็ นเวลาที่ไม่ มีใครทำงานนั้นกำลังใกล้ เข้ามา” พระองค์ทรงหมายความว่าในไม่ชา้ พระองค์จะถูกตรึ ง
กางเขน กลางคืนจะมา และจะไม่มีคนตาบอดคนใดมองเห็นได้ พระองค์ตรัสกับเหล่าสาวกว่า “แยกจากเราแล้วพวกท่ านจะทำ
สิ่ งใดไม่ ได้ เลย” (ยอห์น 15:5) และพวกเขาไม่ได้ท ำอะไรไม่นานนัก หลังจากนั้นพวกเขาก็ได้รับสิ่ งที่พระเยซูได้ทรงสัญญาไว้
นัน่ คือฤทธิ์ อ ำนาจเมื่อพระวิญญาณบริ สุทธิ์ เสด็จมา!
ตอนนี้ถา้ ฤทธิ์ อ ำนาจของราชอาณาจักรคือพระวิญญาณบริ สุทธิ์ ฤทธิ์ อ ำนาจของราชอาณาจักรก็ถูกมอบให้กบั คริ สต
จักรในวันเพ็นเทคอสต์ นี่เป็ นมากกว่าฤทธิ์ อ ำนาจและสิ ทธิอ ำนาจ ในการพูดที่สำคัญ พระคริ สต์ตรัสกับสาวกของพระองค์วา่
“พระบิดาของพวกท่ านชอบพระทัยจะประทานแผ่ นดินนั้นให้ แก่ ท่าน” (ลูกา 12:32) ผูเ้ ชื่อสื บทอดแม่กญ ุ แจ สต็อก และถัง
น้ำมัน ฤทธิ์ อ ำนาจแห่งราชอาณาจักรที่อยูบ่ นพระเยซูคริ สต์มีไว้สำหรับทำหมายสำคัญและการอัศจรรย์ พระวิญญาณองค์
เดียวกันถูกประทานให้แก่ผทู้ ี่อยูใ่ นราชอาณาจักรของพระเจ้าเพื่อจุดประสงค์แห่งราชอาณาจักรเดียวกัน ดังที่ยอห์นผูถ้ วายบัพติศ
มาเปิ ดเผยว่า “เมื่อเห็นพระวิญญาณเสด็จลงมาสถิตอยู่กับคนใด คนนั้นแหละจะเป็ นคนให้ บัพติศมาด้ วยพระวิญญาณบริ สุทธิ์ ”
(ยอห์น 1:33) พระวิญญาณประทานฤทธิ์ อำนาจเดียวกันแก่พระเยซูและคนของพระองค์
มีความแตกต่างระหว่างพระคริ สต์กบั สาวกของพระองค์ และค่อนข้างสังเกตได้! ความแตกต่างอันดับแรกคือพระองค์
เป็ นผูใ้ ด ผูท้ ี่พดู ว่า “พระคำของพระคริ สต์บนริ มฝี ปากของเราก็เหมือนกับบนพระโอษฐ์ของพระคริ สต์” จะต้องระลึกถึงสิ่ งนี้วา่
ไม่ใช่ค ำพูดที่สำคัญ แต่เป็ นบุคคลที่พดู เราอาจเป็ นบุตรบุญธรรมของพระเจ้า แต่พระองค์คือพระบุตรชัว่ นิรันดร์และเพียงองค์
เดียว ข้อแตกต่างที่ 2 คือพระวิญญาณมาจากพระองค์ พระองค์คือแหล่งที่มา เราไม่ใช่แหล่งที่มา แต่เป็ นช่องทาง ลำน้ำซึ่งน้ำแห่ง
ความบริ บูรณ์ของพระองค์ไหลผ่าน จงเปิ ดประตูช่องของคุณให้กว้างเพื่อให้พระองค์เข้าถึงชีวิตของคุณได้อย่างอิสระ
7
ธันวาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“จงถวายสาธุการแด่พระยาห์เวห์ เมื่อพวกผูน้ ำได้นำคนอิสราเอล เมื่อประชาชนอาสาสมัคร!” (ผูว้ ินิจฉัย 5:2)
ไฟประจำวัน!
พระองค์เป็ นจอมเจ้านายและจอมกษัตริ ย ์ และผูท้ ี่อยูก่ บั พระองค์ถูกเรี ยก เลือก และซื่อสัตย์
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
ผูว้ ินิจฉัย 4:1–24; 5:1–31; เยเรมีย ์ 8:20; มัทธิว 6:33; วิวรณ์ 17:14
อ่านพระคัมภีร์ในหนึ่งปี :
เช้า:
2 พงศาวดาร 7; 1 ยอห์น 5
เย็น:
ฮาบากุก 2; ลูกา 21
ผู้หาเงิน หรือผู้สร้ างประวัติศาสตร์ ?
ถ้าเราเปรี ยบเทียบเรื่ องราวของเดโบราห์ในผูว้ ินิจฉัยกับโลกของเรา เผ่าดานเป็ นตัวแทนของใคร? ดานเป็ นคริ สเตียนที่
อยูใ่ นครอบครัวของพระเจ้า รู้ถึงข้อเรี ยกร้องของพระเจ้าเหนือเขา ได้ยนิ การทรงเรี ยกของพระองค์ แต่ไม่ตอบสนอง เขายังคงอยู่
ในร้านค้าเรื อเมื่อพระเจ้าต้องการให้เขา “แสวงหาแผ่ นดินของพระเจ้ าก่ อน” (มัทธิว 6:33) เสี ยงดนตรี ที่ดงั กึกก้อง เสี ยงปรบมือ
ของผูท้ ี่ยงั ไม่กลับใจใหม่ หรื อความคิดเห็นของครอบครัวและเพื่อนฝูงทำให้เขาหูหนวกต่อการทรงเรี ยกของพระเจ้าผูท้ รง
พระชนม์ ดานร้องเพลงเกี่ยวกับ "การลาก่อนที่แสนหวานบนชายฝั่งที่งดงาม" แต่เรื อของเขาจะไปถึงหรื อไม่ หรื อเพียงแค่ดิ้นรน
ในทะเลแห่งชีวิต? สามารถเป็ นอย่างนี้ได้หรื อไม่? ดูซากปรักหักพังของชีวิตที่ผคู้ นเลือกลำดับความสำคัญผิด คนที่เสี ยใจที่สุด
บางคนคือคนที่ไม่ได้เฝ้ ามองพระเจ้า และในที่สุด สิ่ งต่างๆ ก็ผดิ พลาดอย่างมหันต์ ความสำเร็จกลายเป็ นขี้เถ้า ความนิยมกลาย
เป็ นเหม็นเปรี้ ยว พวกเขาเลือกโอกาสของดานจากร้านค้าเรื อ นัน่ คือพวกเขาปล่อยให้คนอื่นติดตามพระคริ สต์ไปยังทุ่งแห่งการ
เก็บเกี่ยว หรื อสนามรบ หรื ออาจจะเป็ นสนามเผยแผ่ของพระองค์ ในท้ายที่สุด พวกเขาเห็นว่าความชื่นชมยินดีและความพอใจ
ของพวกเขากลายเป็ นโศกนาฏกรรม นัน่ คือ “ฤดูเกี่ยวก็ผ่านไป ฤดูแล้ งก็สิ้นสุดแล้ ว และเราทั้งหลายก็ไม่ รอด!” (เยเรมีย ์ 8:20)
นักวิ่งที่มีจดหมายรับสมัครของเดโบราห์หวังว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีเมื่อเขาไปถึงเผ่าเศบูลุนและนัฟทาลี ชาย 2 คน
กำลังทำงานในไร่ นา และเฝ้ ารอเวลาสิ้ นสุ ดของวันและเพื่อความชื่นชมยินดีของภรรยาและลูก ๆ ของพวกเขา พวกเขาเบียดเสี ยด
กันรอบ ๆ นักวิ่งที่ส่งหนังสื อเพื่อฟังและพิจารณาการเรี ยกของเดโบราห์ พวกเขาควรทำอย่างไร? มีเพียงทางเลือกเดียว นัน่ คือ
ไป! พวกเขาตะโกนว่า “สรรเสริ ญองค์พระผูเ้ ป็ นเจ้า” ที่พระเจ้าได้ทรงเจิมบางคนให้น ำเรา ให้เรามายุติการก่อกวนอย่างต่อ
เนื่องจากยาบินและกลุ่มโจรของเขากันเถอะ ขอบคุณพระเจ้าสำหรับเดโบราห์! เราจะสนับสนุนเธอให้ถึงที่สุด บอกเธอว่าเรา
กำลังไป!” เศบูลุนและนัฟทาลีเปลี่ยนขอตัดแต่งกิ่งให้เป็ นหอก เด็ก ๆ ถูกกอด ภรรยาที่ร้องไห้ถูกจูบ และผูช้ ายก็เดินเข้าไปในฝุ่ น
ของสนามรบ “เศบูลนุ เป็ นเผ่ าที่เสี่ ยงตาย ฝ่ ายนัฟทาลีกเ็ ช่ นกัน ณ ที่ สูงของสนามรบ” (ผูว้ ินิจฉัย 5:18) นัน่ คือการสรรเสริ ญอย่าง
สูง คำสรรเสริ ญที่คุณต้องการได้ยนิ จากพระเจ้า
8
ธันวาคม
ข้อพระคัมภีร์วนั นี้
“ท่านก็จงเลือกเสี ยในวันนี้ วา่ ท่านจะปรนนิบตั ิใคร” (ยชว.24:15)
ไฟประจำวัน!
คนที่สู้ทนต่อการทดลองใจก็เป็ นสุ ข เพราะเมื่อเขาผ่านการทดสอบแล้ว เขาจะได้รับมงกุฎแห่งชีวิตที่พระเจ้าทรงสัญญาไว้กบั คน
ทั้งหลายที่รักพระองค์
ทำเครื่ องหมายคำพูดของฉัน:
ผูว้ ินิจฉัย 4:1–24; 5:1–31; มัทธิว 10:39; ยากอบ 1:12; วิวรณ์ 2:10
อ่านพระคัมภีร์ในหนึ่งปี :
เช้า:
2 พงศาวดาร 8; 3 ยอห์น
เย็น:
ฮาบากุก 3; ลูกา 22
คน 2 ประเภท
เมื่อชนะสงครามระหว่างชาวอิสราเอลกับชาวคานาอัน เดโบราห์ ผูว้ ินิจฉัยมาถึงที่ฝั่งท่าเรื อเพื่อเยีย่ มดาน และถาม
คำถามหนึ่งแก่เขาว่า “ทำไมดานยังอยูบ่ นเรื อ?” ดานนัง่ นิ่ง นิ้วคลำหาเหรี ยญอย่างประหม่า เขาไม่สามารถเงยหน้าขึ้นมองสตรี ผู้
ได้รับการเจิมจากพระวิญญาณบริ สุทธิ์ ผูน้ ้ ี คำถามของเธอตามหลอกหลอนเขาไปตลอดชีวิต และคำถามนั้นจะได้ยนิ อีกครั้งที่
บัลลังก์ของพระเจ้า เมื่อดานและพวกเราที่เหลือทั้งหมดต้องรับผิดชอบชีวิตของเรา ดานจะมองดูองค์พระผูเ้ ป็ นเจ้าหรื อไม่ หรื อ
ละอายใจเกินไป ไม่รู้จะตอบอย่างไร ก้มหน้าลงด้วยความสับสน? เศบูลุนและนัฟทาลีไม่ได้สนใจธุรกิจของดาน ดานทำเงินได้
แต่เศบูลุนและนัฟทาลีสร้างประวัติศาสตร์ในวันนั้น ต่อสู้เพื่อช่วยอิสราเอลในการสู้รบที่ยงั คงเป็ นที่พดู ถึงในปัจจุบนั พวกเขา
เสี่ ยงทุกอย่างแม้แต่ชีวิตตัวเองต่อสู้ในที่สูงของสนาม ดานไม่ได้เดิมพันอะไรเลย เขาไม่เคยเสี่ ยง เมื่อดานเสี ยชีวิต เขาเป็ นคนที่
ร่ำรวยที่สุดในประเทศ จากนั้น ขณะที่วิญญาณจิตของเขาออกจากร่ าง บางทีดานอาจคว้าทองของเขาไว้และอยากจะนำมันไป
ด้วย ทูตแห่งความตายอาจหัวเราะเยาะเขาว่า “คุณได้สร้างกองของคุณแล้ว ตอนนี้ คนอื่นจะใช้มนั !”