01 - แนวข้อสอบอังกฤษ 500 ข้อ

แนวข้อสอบเข้ารับราชการ
ก.พ. ภาค ก.
วิชาภาษาอังกฤษ
- แนวข้อสอบภาษาอังกฤษเพื่อบรรจุเข้ารับราชการทุกระดับในสังกัด ก.พ.
- ครอบคลุมการสอบภาคความรู้ความสามารถทั่วไป (ภาค ก.) วิชาภาษาอังกฤษใน
ทุกกระทรวง ทบวง กรม
- แนวข้อสอบเสมือนจริง 15 ชุด กว่า 500 ข้อ เน้นเทคนิคการวิเคราะห์โจทย์และ
การทาข้อสอบ
- อ่านเข้าใจง่าย พร้อมคาแปล เฉลยและคาอธิบาย ช่วยให้สอบผ่านได้จริง
หลักเกณฑ์การสอบแข่งขันเข้ารับราชการความรู้ความสามารถทั่วไป (ภาค ก.)
การสอบเพื่อวัดความรู้ความสามารถทั่วไป มีเกณฑ์ในการสอบดังนี้
1. วิชาความสามารถทั่วไป และวิชาภาษาไทย (คะแนนเต็ม 150 คะแนน)
1) วิชาความสามารถทั่วไป (คะแนนเต็ม 100 คะแนน) เป็นการสอบเพื่อวัดความสามารถ
(1) ด้านการคิดคานวณ โดยทดสอบความสามารถในการประยุกต์ใช้ ความคิดรวบยอด
ทางคณิตศาสตร์เบื้องต้น การวิเคราะห์หาความสัมพันธ์ของจานวนหรือปริมาณ การแก้ปัญหาเชิงปริมาณ และ
การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณต่าง ๆ
(2) ด้านเหตุผล โดยทดสอบความสามารถในการคิดหาความสัมพันธ์ เชื่อมโยงของคา
ข้อความหรือรูปภาพ การหาข้อยุติหรือข้อสรุปอย่างสมเหตุสมผลจากข้อความ สัญลักษณ์ รูปภาพ สถานการณ์
หรือแบบจาลองต่าง ๆ
2) วิชาภาษาไทย (คะแนนเต็ม 50 คะแนน) เป็นการสอบเพื่อวัดความสามารถ
(1) ด้านความเข้าใจภาษา โดยทดสอบความสามารถในการอ่านและการทาความเข้าใจ
กับบทความหรือข้อความที่กาหนดให้ แล้วตอบคาถามที่ตามมาในแต่ละบทความหรือข้อความ รวมทั้งการสรุป
ความและตีความ และ
(2) ด้านการใช้ภาษา โดยทดสอบความสามารถในการเลือกใช้คาหรือกลุ่มคา การเขียน
ประโยคได้ถูกต้องตามหลักภาษา และการเรียงข้อความ
2. วิชาภาษาอังกฤษ (คะแนนเต็ม 50 คะแนน) เป็นการสอบเพื่อวัดความสามารถด้านการพูด เขียน
อ่าน และฟังภาษาอังกฤษ และความเข้าใจสาระสาคัญของข้อความในระดับเบื้องต้น
เกณฑ์การสอบผ่าน
1. วิชาความสามารถทั่วไปและวิชาภาษาไทย จะต้องได้คะแนนรวมไม่ต่ากว่าร้อยละ 60 หรือตามที่
ก.พ. กาหนด
2. วิชาภาษาอังกฤษ จะต้องได้คะแนนไม่ต่ากว่าร้อยละ 50 หรือตามที่ ก.พ. กาหนดของแต่ละระดับ
วุฒิการศึกษา
ผู้เข้าสอบจะต้องผ่านทั้ง 2 เกณฑ์จึงจะถือว่าเป็นผู้สอบผ่านการวัดความรู้ความสามารถทั่วไป
ผู้เข้าสอบเพื่อวัดความรู้ความสามารถทั่วไป ที่มีหลักฐานรับรองผลการทดสอบภาษาอังกฤษที่ยังไม่
หมดอายุการรับรองผลการทดสอบจาก TOEFL (ไม่รวม TOEFL ITP), TOEIC, IELTS, CU TEP และ TU GET
ตามเงื่ อ นไขที่ ก.พ. ก าหนด ให้ ถื อ เสมื อ นว่ า เป็น ผู้สอบผ่า นวิ ช าภาษาอัง กฤษ ในการสอบเพื่ อ วั ด ความรู้
ความสามารถทั่วไปในครั้งนั้น
เงื่อนไขผลการทดสอบภาษาอังกฤษ
- TOEFL 60 คะแนน (คะแนนเต็ม 120)
- TOEIC 495 คะแนน (คะแนนเต็ม 990)
- IELTS 4.5 คะแนน (คะแนนเต็ม 9)
- CU TEP 60 คะแนน (คะแนนเต็ม 120)
- TU GET 500 คะแนน (คะแนนเต็ม 1,000)
ผู้สอบจะต้องยื่นหลักฐานรับรองผลการทดสอบภาษาอังกฤษ ที่ยังไม่หมดอายุการรับรอง ผลการทดสอบ
ต่อสานักงาน ก.พ. ก่อนวันสอบเพื่อวัดความรู้ความสามารถทั่วไป หรือภายใน 150 วัน นับแต่วันที่สอบเพื่อวัด
ความรู้ความสามารถทั่วไปในครั้งนั้น
แนวข้อสอบ
หลักสูตรการสอบแข่งขันเข้ารับราชการความรู้ความสามารถทั่วไป (ภาค ก.) เป็นข้อสอบปรนัยแบบ 4
ตัวเลือกจานวน 85 ข้อ 200 คะแนน ใช้เวลาทาข้อสอบ 2 ชั่วโมง 40 นาที (ข้อมูลการสอบประจาปี 2558)
โดยมีรายละเอียดดังนี้
- ความรู้ความสามารถทั่ วไป 40 ข้อ 100 คะแนน ให้เวลา 80 นาที (2 นาทีต่อข้อ ข้อละ 2.5
คะแนน)
- ด้านการคานวณ 20 ข้อ 50 คะแนน
- อนุกรม 5 ข้อ 12.5 คะแนน
- สดมภ์ 5 ข้อ 12.5 คะแนน
- ตารางข้อมูลสถิติ 5 ข้อ 12.5 คะแนน
- คณิตศาสตร์ทั่วไป 5 ข้อ 12.5 คะแนน
- ด้านเหตุผล 20 ข้อ 50 คะแนน
- อุปมาอุปไมย 5 ข้อ 12.5 คะแนน
- ตรรกศาสตร์ 5 ข้อ 12.5 คะแนน
- เงื่อนไขสัญลักษณ์ 5 ข้อ 12.5 คะแนน
- เงื่อนไขทางภาษา 5 ข้อ 12.5 คะแนน
- ภาษาไทย 20 ข้อ 50 คะแนน ให้เวลา 40 นาที (2 นาทีตอ่ ข้อ ข้อละ 2.5 คะแนน)
- ด้านความเข้าใจภาษา 10 ข้อ 25 คะแนน
- บทความ 10 ข้อ 25 คะแนน
- ด้านการใช้ภาษา 10 ข้อ 25 คะแนน
- การเรียงประโยค 5 ข้อ 12.5 คะแนน
- ข้อบทพร่องทางภาษา 5 ข้อ 12.5 คะแนน
(เกณฑ์การสอบผ่าน 36 ข้อ)
- ภาษาอังกฤษ 25 ข้อ 50 คะแนน ให้เวลา 40 นาที (ประมาณ 1.5 นาทีต่อข้อ ข้อละ 2 คะแนน)
- บทสนทนา 5 ข้อ 10 คะแนน
- คาศัพท์ 5 ข้อ 10 คะแนน
- โครงสร้างภาษา 5 ข้อ 10 คะแนน
- บทความ 10 ข้อ 20 คะแนน
(เกณฑ์การสอบผ่าน 13 ข้อ)
ปัญหาและคาแนะนาในการสอบภาษาอังกฤษ
ในการสอบ ก.พ. ภาค ก. ซึ่ งมี วิชาที่ใช้สอบ 3 วิชา คือ วิชาความสามารถทั่ว วิชาภาษาไทย และ
ภาษาอังกฤษ และมีจานวนผู้เข้าสอบไม่น้อยที่สอบผ่านในส่วนวิชาความสามารถทั่วไปและวิชาภาษาไทย แต่ไม่
ผ่านวิชาภาษาอังกฤษ ทั้ง ๆ ที่ได้มีโอกาสสอบแก้ตัวอีกครั้งก็ยังไม่ผ่าน ก็ต้องรอสมัครสอบใหม่ในปีถัดไป ซึ่ง
อาจมีสาเหตุที่ทาให้การสอบไม่ประสบผลสาเร็จมากมาย แต่ในการสอบครั้งถัดไป หนังสือเล่มนี้อาจจะช่วย
ท่านได้
1. ไม่ รู้ ว่ า ออกสอบเพื่ อ อะไร มี อ ะไรบ้ า ง ปั ญ หานี้ คื อ ปั ญ หาแรกที่ ส าคั ญ ที่ สุ ด ที่ ผู้ อ่ า นพบเจอ
โดยเฉพาะผู้อ่านที่สมัครสอบ ก.พ. ภาค ก. เป็นครั้งแรก เนื่องจากเนื้อหาภาษาอังกฤษมีเป็นจานวนมาก ไม่
ทราบว่าขอบเขตเนื้อหาการสอบมีความยากระดับไหน จึงเป็นการยากที่จะเตรียมตัวให้พร้อมสาหรับสอบใน
ช่วงเวลาจากัด จากปัญหาดังกล่าว หนังสือ “คู่มือเตรียมสอบ ก.พ. ภาค ก. วิชาภาษาอังกฤษ” เล่มนี้สามารถ
ช่วยได้
หนังสือเล่มนี้ได้รวบรวมแนวข้อสอบ ก.พ. ภาค ก. วิชาภาษาอังกฤษเอาไว้หลากหลายชุดโดย
เรียบเรียงจากแนวข้อสอบจริงในปีที่ผ่าน ๆ มา และเก็งข้อสอบที่คาดว่าจะออกในการสอบครั้งถัดไปเพื่อให้
ผู้อ่านได้ทราบขอบเขตเนื้อหาการสอบ ระดับความยากของข้อสอบ ที่สาคัญ คือ รู้แนวข้อสอบที่คาดว่าจะออก
สอบจริง ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมากในการสอบ ก.พ. ภาค ก. วิชาภาษาอังกฤษให้ผ่านตามเกณฑ์ที่ ก.พ.
กาหนดที่คะแนนไม่ต่ากว่าร้อยละ 50
2. เนื้อหาเยอะ อ่านไม่ทัน จาได้ไม่หมด ปัญหานี้แก้ได้ เพราะหนังสือเล่นนี้ได้รับรวบรวมแนวข้อสอบ
ก.พ. ภาค ก. วิชาภาษาอังกฤษเอาไว้หลากหลายชุด อีกทั้งได้สรุปเทคนิคการทาข้อสอบวิชาภาษาอังกฤษไว้ให้
แล้ว จึงเป็นการช่วยให้ผู้อ่านไม่จาเป็นต้องเสียเวลาไปหาเนื้อหาหรือแนวข้อสอบอื่นเพิ่มเติม เพราะแนวข้อสอบ
ในเล่ม เป็นข้อสอบเสมือนจริงที่ครอบคลุมขอบเขตการสอบทั้งหมดแล้ว ที่สาคัญหากไม่มีเวลาเตรียมตัวที่มาก
พอ ผู้อ่านสามารถอ่านเพียงเทคนิคการสอบและแนวข้อสอบในเล่มก็เพียงพอในการสอบในผ่านได้แล้ว
3. สอบกี่ครั้งก็ไม่ผ่านภาษาอังกฤษ หากผู้อ่านท่านใดที่สอบไม่ผ่าน ก.พ. ภาค ก. วิชาภาษาอังกฤษ
สักทีอาจด้วยว่า อ่านหนังสือไม่ทัน ไม่รู้แนวข้อสอบ เนื้อหาเยอะจาไม่ หมด อยากให้ทุกท่านลองอ่านหนังสือ
เล่มนี้สักครั้ง อาจจะช่วยให้การสอบที่จะมาถึงสอบผ่านก็เป็นได้ เพราะแนวข้อสอบในหนังสือเล่มนี้ ได้รวบรวม
จากแนวข้อสอบจริง ซึ่งจะช่วยให้ทุกท่านมีความพร้อมมากขึ้น
แนวทางการปฏิบัติของผู้เข้าสอบในวันสอบ
การเตรียมอุปกรณ์และเอกสาร
1. สิ่งที่ผู้เข้าสอบจะต้องเตรียมนามาในวันสอบ มีดังนี้
1.1 บัตรประจาตัวประชาชน หรือบัตรประจาตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐ ซึ่งมีรูปถ่าย ลายมือชื่อ และ
เลขประจาตัวประชาชน 13 หลัก (สานักงาน ก.พ. จะไม่อนุญาตให้ใช้ใบแจ้งความ สาเนาบัตร หรือบัตรอื่น ๆ
เช่น ใบขับขี่ หนังสือเดินทาง เป็นต้น)
1.2 ปากกา ยางลบ ดินสอที่มีความดาเท่ากับ 2B หรือมากกว่า
1.3 กระเป๋าเงิน
2. สิ่งที่ห้ามนาเข้าห้องสอบโดยเด็ดขาด หากเจ้าหน้าที่ตรวจพบว่าผู้ใดนาเข้ามาในห้องสอบ จะถือว่า
มีเจตนากระทาการทุจริตในการสอบ และต้องยุติการสอบทันที ได้แก่
2.1 เครื่องมือสื่อสารอิเล็กทรอนิกส์ทุกชนิด เช่น โทรศัพท์เคลื่อนที่ (มือถือ) วิทยุติดตามตัว
วิทยุสื่อสาร เป็นต้น
2.2 เครื่องคานวณ อุปกรณ์ที่ใช้คานวณได้
2.3 เครื่องบันทึกภาพ เครื่องบันทึกเสียง
2.4 เอกสาร ตารา
2.5 กระเป๋าต่าง ๆ กระเป๋าสะพายสุภาพสตรี
การปฏิบัติตามระเบียบ
1. แต่งกายให้สุภาพเรียบร้อยตามประเพณีนิยม และประพฤติตนเป็นสุภาพชน ห้ามสวมกางเกงขา
สั้น เสื้อไม่มีแขน รองเท้าแตะฟองน้า
2. ไปถึงสถานที่ ส อบก่อ นเริ่ม เวลาสอบไม่น้ อยกว่า 40 นาที แต่จะเข้าห้อ งสอบได้ ต่ อเมื่ อ ได้ รั บ
อนุญาตจากกรรมการหรือเจ้าหน้าที่คุมสอบแล้ว
3. ผู้สมัครสอบที่ไปถึงห้องสอบหลังจากที่ได้เริ่มทาตอบแล้ว 30 นาที จะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าสอบ
4. ต้องนั่งสอบตามที่นั่งสอบ ห้องสอบ และสถานที่สอบที่สานักงาน ก.พ. กาหนดให้ ผู้ใดนั่งสอบผิ ด
สถานที่สอบจะไม่ได้รับการตรวจกระดาษคาตอบ
5. ต้องนั่งอยู่ในห้องสอบจนหมดเวลาทาตอบ
6. ห้ามคัดลอกข้อสอบ หรือนาแบบทดสอบ และกระดาษคาตอบออกจากห้องสอบโดยเด็ดขาด
7. เชื่ อ ฟั ง และปฏิ บั ติ ต ามค าสั่ ง และค าแนะน าของหั ว หน้ า ห้ อ งสอบ หรื อ เจ้ า หน้ า ที่ คุ ม สอบโดย
เคร่งครัด
8. เมื่อหมดเวลาทาตอบ หัวหน้าห้องสอบ หรือเจ้าหน้าที่คุมสอบสิ่งให้หยุดทาตอบจะต้องหยุดทันที
และจะออกจากห้องสอบได้ต่อเมื่อหัวหน้าห้องสอบ หรือเจ้าหน้าที่คุมสอบได้อนุญาตแล้ว
การยุติการทาตอบ
หากพบว่าผู้ใดไม่มีบัตรประจาตัวประชาชน หรือบัตรประจาตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือพบว่าผู้ใดมีสิ่งที่
ห้ามนาเข้าห้องสอบในระหว่างดาเนินการสอบ ผู้นั้นจะต้องยุติการทาตอบทันที และจะออกจากห้องสอบได้
เมื่อหมดเวลาทาตอบ รวมทั้งจะไม่ตรวจให้คะแนนสาหรับบุคคลผู้นั้น
ขอให้ทุกท่านโชคดีในการสอบ และสอบผ่านได้ตามตั้งใจ
แนวข้อสอบวิชาภาษาอังกฤษ ชุดที่ 1
Part 1: Select the most appropriate choice for each item. (Q1-Q5)
A : Hey Dan! _____(1.)_____?
B : Yes, I have just _____(2.)_____ from UK. How are you, Lisa?
A : I’m fine. Thanks. Do you live in UK now?
B : No, I don’t. I _____(3.)_____ the export company there.
A : That’s great!
B : It’s great but I have to work almost 7 days.
A : Oh, you should get some rest.
B : Thank you. _____(4.)_____?
A : I’m running my own business in New York.
B : That’s great! _____(5.)_____?
A : It’s laundry service.
1. Please use conversation above.
a. What do you do?
b. Long time no see.
c. How do you do?
d. Where did you go?
a. returns
b. returning
c. return
d. returned
a. work on
b. work to
c. work at
d. work in
a. How about you?
b. What are yours?
c. What did you do?
d. How is it?
a. What’s it?
b. What are you looking for?
c. Is it a part of business?
d. What’s kind of business?
Part 2: Fill in the blank. (Q6-Q10)
6. The manager is going to __________ new customers in Asia tomorrow.
a. leave
b. attend
c. see
d. greet
7. Parents should not leave __________ children alone in the room.
a. disabled
b. disable
c. disability
d. disablement
8. Jimmy has got a scholarship from a university in China. He will __________ there for 2 years.
a. live
b. been
c. visit
d. stay
9. If he submits the accounting report to me with today, he __________ more point for this training.
a. is getting
b. gets
c. get
d. will get
10. Would you like to add more sugar or do you prefer __________ for your coffee?
a. syrup
b. salt
c. vinegar
d. sauce
Part 3: Choose the correct answer. (Q11-Q15)
11. NYC company has launched a new product to the market. Its current customers __________ to attend
the event.
a. is invited
b. are invited
c. is inviting
d. are inviting
12. The significant conference will be held __________ June 2017.
a. in
b. on
c. at
d. from
13. Would you mind __________ the phone next to you?
a. answer
b. answers
c. answered
d. answering
14. Mr. Jason will attend the technological exhibition __________ he can find the new devices.
a. where
b. which
c. when
d. who
15. According to a new policy, the employees will be paid for __________ within 24 hours.
a. to accident
b. accidental
c. accidentally
d. an accident
Part 4: Read the following letter and select the best answer for each item. (Q16-Q20)
TPS Export Thailand Co., Ltd.
22/12, Changwattana Road,
Laksi, Bangkok 10210
August 5, 2016
Mr. Edward Smith
BIGGA Manufacturing
112, Prapadang, Samutprakarn
10130
Dear Mr. Smith,
I have enclosed purchase order no. 021/2016 for the following supplies:
- 100 packs of woolen fabric
- 650 packs of cotton fabric
I would like to receive these items as soon as possible or no later than middle of this month. However,
the delivery address is attached on the enclosed purchase order.
As we have talked on the phone for 10 percent discount, I highly appreciate the offer and I will pay by
cashier’s cheque after receiving the invoice.
It you have any questions concerning the order, please do not hesitate to contact me.
Sincerely yours,
Mr. Agapol Troy
Purchasing Supervisor
Enclosure
16. What product does Mr. Agapol want to buy?
a. Cloth
b. Packs
c. Woods
d. Metals
17. The phrase “middle of this month” refers to.
a. 15 August 2016
b. 30 August 2016
c. 15 September 2016
d. 30 September 2016
18. What is attached on the enclosed purchase order?
a. Delivery letter
b. Delivery address
c. Delivery detail
d. Delivery order
19. How would Mr. Agapol like to pay after getting the invoice?
a. Credit card
b. Transfer
c. Cash
d. Cashier’s cheque
20. What does “hesitate” mean?
a. To worry
b. To excite
c. To annoy
d. To bother
Part 5: Read the following text and select the best answer for each item. (Q21-Q25)
Many people agree that Pitbull is the most dangerous dog in the world. When people first meet
it, they will walk away. Pitbull is not permitted in some countries. If an officer finds it or people report
to the office, owner will pay for the fine and Pitbull will be killed for safety. However, in some countries
you can have it. When you have Pitbull, the most important thing you should know is to look after your
Pitbull every step when you take it outside. You cannot know what will happen. It may meet and fight
with other dogs. In the fight, Pitbull will not let them run away easily. It will bite on other dogs’ neck until
they’re dead, so the owner has to know how to protect other dogs and how to save them from Pitbull.
To avoid dangerous situation, there are some suggestions for the owner. Pitbull should not walk
without leash and do not let it pull you while walking. Pitbull is a powerful dog, so it has to do exercise
every day, at least 30 minutes or walk 1 kilometer per day to release an energy out and calm itself down.
21. The most suitable title for this passage is _________.
a. Pitbull Adoption
b. Tips for Pitbull
c. Getting to know Pitbull
d. Dangerous Dog
22. The word “permitted” in line 2 means __________.
a. Have
b. Feed
c. Allow
d. Adopt
23. The pronoun “It” in the sixth line refers to __________.
a. Owner
b. Pitbull
c. Other dogs
d. People
24. In the passage, what should the owner do?
a. Let Pitbull walk off-leash.
b. Do not let Pitbull pull you.
c. Give Pitbull some food.
d. Let Pitbull bite other dogs.
25. The tone of passage is __________.
a. Negative
b. Positive
c. Aggressive
d. Suggestive
เฉลยแนวข้อสอบวิชาภาษาอังกฤษ ชุดที่ 1
A : Hey Dan! _____(1.)_____? (สวัสดีแดน ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ)
B : Yes, I have just _____(2.)_____ from UK. How are you, Lisa? (ใช่ ค รั บ ผมเพิ่ ง กลั บ จากอั ง กฤษคุ ณ เป็ น
อย่างไรบ้างลิซ่า)
A : I’m fine. Thank you. Do you live in UK now? (ฉันสบายดี ขอบคุณค่ะ ตอนนี้คุณอาศัยอยู่ที่อังกฤษหรือ)
B : No, I don’t. I _____(3.)_____ the export company there. (เปล่าครับ ผมทางานให้กับบริษัทส่งออกที่นั่น
ครับ)
A : That’s great! (เยี่ยมไปเลย)
B : It’s great but I have to work almost 7 days. (มันเยี่ยมมาก แต่ผมต้องทางานเกือบทุกวันเลย)
A : Oh, you should get some rest. (โอ้ คุณควรพักผ่อนบ้างนะ)
B : Thank you. _____(4.)_____? (ขอบคุณ แล้วตอนนี้คุณทางานอะไรหรือครับ)
A : I’m running my own business in New York (ฉันกาลังทาธุรกิจของฉันเองในนิวยอร์กค่ะ)
B : That’s great! _____(5.)_____? (สุดยอดมาก คุณทาธุรกิจอะไรหรือครับ)
A : It’s laundry service. (บริการซักรีดค่ะ)
1. Please use conversation above. (กรุณาใช้บทสนทนาด้านบน)
a. What do you do? (คุณทาอะไรอยู่หรือ)
b. Long time no see. (ไม่เจอกันตั้งนาน)
c. How do you do? (คุณเป็นอย่างไรบ้าง)
d. Where did you go? (คุณไปไหนมา)
คาตอบ : ข้อ b.
คาอธิบาย : ข้อนี้ใช้สานวนทักทายแบบไม่เป็นทางการ ใช้เมื่อไม่ได้พบเจอกันเป็นระยะเวลานานแล้ว
เพิ่มเติม : สามารถใช้สานวนอื่นที่ให้ความหมายในเชิงเดียวกันได้อีก เช่น
สานวนการถาม ลักษณะการตอบ
- How have you been? --> I’m good., I’m fine., I’m pretty good.
- How have you been lately? --> not to bad. I’m not very well.
- It’s been a while. --> Yes, how are you?, Yes, what’s going on?
a. returns (กลับ)
b. returning (กาลังกลับ)
c. return (กลับ)
d. returned (กลับมาแล้ว)
คาตอบ : ข้อ d.
คาอธิบาย : ข้อนี้เป็นประโยครูปแบบ Present Perfect Tense แสดงถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและจบไปแล้วแต่ผลการกระทา
ยังคงอยู่ มีโครงสร้างประโยคดังนี้ Subject + have, has + V.3 + Object (ตาม English Tips ข้อที่ 1.)
a. work on (ทางานอย่างต่อเนื่อง)
b. work to (ทางานกับ, เพื่อบางสิ่ง)
c. work at (ทางานที่)
d. work in (ทางานใน)
คาตอบ : ข้อ c.
คาอธิบาย : ข้อนี้เป็นลักษณะคา Phrasal Preposition หรือ Verb + Preposition จนเกิดความหมายใหม่ หรือใกล้เคียงกับ
ความหมายเดิม (ตาม English Tips ข้อที่ 7.)
a. How about you? (แล้วคุณล่ะ)
b. What are yours? (ของคุณคืออะไรหรือ)
c. What did you do? (คุณทาอะไรมาแล้วบ้าง)
d. How is it? (มันเป็นอย่างไรหรือ)
คาตอบ : ข้อ a.
คาอธิบาย : หากต้องการถามคาถามในลักษณะ “แล้วคุณล่ะ” มักใช้ประโยค How about you? ใช้ถามเมื่อมีการสนทนา
เกี่ยวกับเรื่องใดเรื่องหนึ่งก่อนอยู่แล้ว
เพิ่มเติม : สามารถใช้สานวนอื่นที่ให้ความหมายในเชิงเดียวกันได้อีก เช่น
- And you?
- What about you?
a. What’s it? (มันคืออะไรหรือ)
b. What are you looking for? (คุณกาลังมองหาอะไรหรือ)
c. Is it a part of business? (มันคือส่วนหนึ่งในธุรกิจหรือ)
d. What’s kind of business? (เป็นธุรกิจแบบไหนหรือ)
คาอธิบาย : หากต้องการทราบถึงประเภท หรือชนิดสิ่งของ หรือบุคคล จะต้องใช้คาถามที่ขึ้นต้นด้วย What’s kind of +
Noun?
เพิ่มเติม : สามารถเติมคาหลัง of ได้ กรณีต้องการทราบถึงสิ่งที่ต้องการ เช่น
- What’s kind of food? (เป็นอาหารประเภทใด)
- What’s kind of work? (เป็นงานประเภทใด)
6. The manager is going to __________ new customers in Japan tomorrow. (ผู้ จั ด การจะเข้ า พบลู ก ค้ า ใหม่ ที่
ประเทศญี่ปุ่นในวันพรุ่งนี้)
a. leave (จากไป)
b. attend (เข้าร่วม)
c. see (เข้าพบ)
d. greet (ทักทาย)
คาอธิบาย : จากประโยคจะเห็นว่า is going to คือ Verb ในประโยคอยู่แล้วซึ่งเป็น Verb แท้ แต่หากต้องการใช้ Verb อีกตัว
เพื่อมาขยายประโยคเพิ่มเติมซึ่งทาหน้าที่เหมือนเป็นกรรม จะต้องใช้ Verb ประเภท Infinitive with to คือ to + V.1 (คือ กริยา
ที่ไม่ผันตามประธานและไม่มีการเปลี่ยนรูป)
7. Parents should not leave __________ children alone in the room. (ผู้ปกครองไม่ควรปล่อยให้เด็กที่ไม่สามารถ
ช่วยเหลือตัวเองได้อยู่ในห้องตามลาพัง)
a. disabled (พิการ, ทุพพลภาพ)
b. disable (ทาให้พิการ)
c. disability (ความพิการ, ทุพพลภาพ)
d. disablement (ความพิการ, ทุพพลภาพ)
คาอธิบาย : Children คือ Noun ดังนั้น หน้าคานามจึงต้องเป็น Adjective เท่านั้น ตามโครงสร้าง Adjective + Noun คือ
disabled children หรือเด็กพิการ, เด็กที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ (ตาม English Tips ข้อที่ 14.)
8. Jimmy has got a scholarship from a university in China. He will __________ there for 2 years. (จิมมี่ได้รับ
ทุนการศึกษาจากมหาวิทยาลัยที่ประเทศจีน เขาจะพักอาศัยที่นั่นเป็นเวลา 2 ปี)
a. live (อาศัยอยู่)
b. been (อยู่)
c. visit (เยี่ยมพบ)
d. stay (อาศัยอยู่)
คาอธิบาย : กรณีพานักหรืออาศัยอยู่ที่ใดชั่วคราวหรือเป็นระยะเวลาสั้น ๆ ต้องใช้คาว่า stay แต่หากอยู่แบบถาวรใช้คาว่า live
(ตาม English Tips ข้อที่ 3.)
9. If Dan submits the accounting report to me within today, he __________ more point for this training.
(หากแดนส่งรายงานการบัญชีให้ผมภายในวันนี้ เขาจะได้รับคะแนนเพิ่มสาหรับการอบรมครั้งนี้)
a. is getting (กาลังได้รับ)
b. gets (ได้รับ)
c. get (ได้รับ)
d. will get (จะได้รับ)
คาอธิบาย : เงื่อนไข If Clause แบบที่ 1 การให้เหตุและผล หรือเหตุการณ์ที่เป็นจริงด้วยโครงสร้าง If + Present Simple
Tense + S, + Future Simple Tense (ตาม English Tips ข้อที่ 17.)
10. Would you like to add more sugar or do you prefer __________ for you coffee? (คุ ณ ต้ อ งการเพิ่ ม น้ าตาม
หรือน้าเชื่อมในกาแฟของคุณดีครับ)
a. syrup (น้าเชื่อม)
b. salt (เกลือ)
c. vinegar (น้าส้มสายชู)
d. sauce (น้าจิ้ม)
คาอธิบาย : การใช้ prefer เพื่อแสดงถึงสิ่งที่ชอบมากกว่า จากโจทย์ผู้ถามเสนอตัวเลือกระหว่าง sugar และ syrup ที่สามารถ
ให้ความหวานได้ทั้งสองอย่าง ผู้ตอบจึงต้องเลือกตอบตัวเลือกที่ชอบมากกว่า
เพิ่มเติม : ประโยคที่ใช้คาถามลักษณะนี้ สามารถตอบได้ดังนี้
- I prefer adding/to add more syrup.
- Syrup, please.
11. NYC company has launched a new product to the market. Its current customers __________ to attend
the event. (บริษัทเอ็นวายซีเปิดตัวสินค้าใหม่ออกสู่ตลาด บริษัทจึงได้เชิญลูกค้าปัจจุบันเข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าว)
a. is invited (ถูกเชิญ)
b. are invited (ถูกเชิญ)
c. is inviting (กาลังเชิญ)
d. are inviting (กาลังเชิญ)
คาอธิบาย : ประโยค Passive Voice คือ ประธาน คือ ผู้ถูกกระทา มีโครงสร้าง Subject + V.to be + V.3 (ตาม English Tips
ข้อที่ 18.)
เพิ่มเติม : ประธาน คือ current customers จึงต้องใช้ are เพราะประธานเป็นพหูพจน์ Its ไม่ใช่ประธาน ใช้แสดงความเป็น
เจ้าของเท่านั้น
12. The significant conference will be held __________ June 2017. (การประชุ ม ที่ ส าคั ญ จะถู ก จั ด ขึ้ น ในเดื อ น
มิถุนายน 2017)
a. in (ใน)
b. on (บน)
c. at (ที่)
d. from (จาก)
คาอธิบาย : Preposition “in” ต้องตามด้วยเดือน (ตาม English Tips ข้อที่ 8.)
เพิ่มเติม : การบอกเวลาด้วย Preposition “in” ต้องตามด้วยทศวรรษ ศตวรรษ เดือน ปี และฤดูกาล ส่วน “on” ตามด้วยวันที่
และวัน
13. Would you mind __________ the phone next to you? (คุณจะรังเกียจไหมครับหากจะให้ช่วยรับโทรศัพท์ที่อยู่
ข้างคุณ)
a. answer (รับสาย)
b. answers (รับสาย)
c. answered (รับสาย)
d. answering (รับสาย)
คาอธิบาย : ตามโครงสร้าง Would you mind + V.ing
เพิ่มเติม : ลักษณะการตอบคาถาม Would you mind + V.ing สามารถตอบให้สอดคล้องกับบริบทได้ ไม่กาหนดตามตัว เช่น
- Of course.
- No, I wouldn’t / I don’t. หรือ Not at all.
14. Mr. Jason will attend the technology exhibition __________ he can find the new devices. (คุ ณ เจสั น จะ
เข้าร่วมงานแสดงเทคโนโลยี ซึ่งจะเป็นสถานที่ที่ทาให้เขาพบกับอุปกรณ์ใหม่ ๆ ได้)
a. where (ที่ซึ่ง)
b. which (สิ่งที่)
c. when (เมื่อ, ขณะ)
d. whose (ของใคร)
คาอธิบาย : exhibition คือ สถานที่แสดงสินค้าหรือผลงาน จึงใช้ where เพื่อเชื่อมประโยค (ตาม English Tips ข้อที่ 9.)
15. According to a new policy, the employees will be paid for __________ within 24 hours. ( สื บ เ นื่ อ ง จ า ก
นโยบายใหม่ พนักงานทุกคนจะได้รับเงินกรณีเกิดอุบัติเหตุภายใน 24 ชั่วโมง)
a. to accident (ที่อุบัติเหตุ)
b. accidental (เกี่ยวกับอุบัติเหตุ)
c. accidentally (อย่างเป็นอุบัติเหตุ)
d. an accident (อุบัติเหตุ)
คาอธิบาย : ข้อนี้หลังคาบุพบท for ต้องตามด้วยคานาม (ตาม English Tips ข้อที่ 7.)
เพิ่มเติม : นอกจากนี้ pay for ยังเป็นลักษณะคา Verb + Preposition ซึ่งหมายถึง การจ่ายเพื่อบางสิ่ง
TPS Export Thailand Co., Ltd.
August 5, 2016
Mr. Edward Smith
BIGGA Manufacturing
112, Prapadang, Samutprakarn
10130
Dear Mr. Smith, (เรียน คุณสมิธ)
I have enclosed purchase order no. 021/2016 for the following supplies: (ผมได้แนบรายการใบสั่งซื้อเลขที่
021/2016 สาหรับสิ่งซื่อรายการสินค้า ดังนี้)
- 100 packs of woolen fabric (ผ้าขนสัตว์ 100 แพ็ค)
- 650 packs of cotton fabric (ผ้าฝ้าย 650 แพ็ค)
I would like to receive these items as soon as possible or no later than middle of this month. However,
the delivery address is attached on the enclosed purchase order. (ผมต้องการรับสินค้าเหล่านี้อย่างเร็วที่สุด หรือไม่
เกินกลางเดือนนี้ อย่างไรก็ตามผมได้แนบที่อยู่ที่จัดส่งมาพร้อมกับใบสั่งซื้อนี้)
As we have talked on the phone for 10 percent discount, I highly appreciate the offer and I will pay by
cashier’s cheque after receiving the invoice. (ตามที่เราได้คุยกันผ่านทางโทรศัพท์เรื่องส่วนลด 10 เปอร์เซ็นต์ ผมต้อง
ขอขอบคุณเป็นอย่างยิ่งและผมจะชาระเงินเป็นเช็คเงินสดหลังจากได้รับใบแจ้งหนี้)
If you have any questions concerning the order, please do not hesitate to contact me. ( ห า ก มี ค า ถ า ม
เพิ่มเติม โปรดอย่าลังเลที่จะติดต่อผม)
Sincerely yours, (ขอแสดงความนับถือ)
Mr. Agapol Troy
Purchasing Supervisor (หัวหน้าฝ่ายจัดซื้อ)
Enclosure (เอกสารแนบ)
16. What product does Mr. Agapol want to buy? (สินค้าอะไรที่คุณเอกพลต้องการจะซื้อ)
a. Cloth (ผ้า)
b. Packs (หีบห่อ)
c. Woods (ไม้)
d. Metals (โลหะ)
เพิ่มเติม : ศึกษาเทคนิคการทาข้อสอบ Reading ตาม English Tips Part 2
17. The phrase “middle of this month” refers to. (คาว่า “กลางเดือนนี”้ อ้างอิงถึงวันที่)
a. 15 August 2016 (15 สิงหาคม 2016)
b. 30 August 2016 (30 สิงหาคม 2016)
c. 15 September 2016 (15 กันยายน 2016)
d. 30 September 2016 (30 กันยายน 2016)
คาอธิบาย : middle หมายถึง กลาง middle of the month จึงหมายความว่า กลางเดือน หรือวันที่ 15 ของเดือนนั้น ๆ
18. What is attached on the enclosed purchase order? (เอกสารอะไรที่ถูกแนบมากับใบสั่งซื้อ)ป
a. Delivery letter (จดหมายที่จัดส่ง)
b. Delivery address (ที่อยู่ที่จัดส่ง)
c. Delivery details (รายละเอียดที่จัดส่ง)
d. Delivery order (คาสั่งซื้อที่จัดส่ง)
19. How would Mr. Agapol like to pay after getting the invoice? (คุณเอกพลจะชาระเงินด้วยวิธีใด)
a. Credit card (บัตรเครดิต)
b. Transfer (โอนเงิน)
c. Cash (เงินสด)
d. Cashier’s cheque (เช็คเงินสด)
20. What does “hesitate” mean? (คาว่า “hesitate” มีความหมายว่าอะไร)
a. To worry (กังวล)
b. To excite (ตื่นเต้น)
c. To annoy (ราคาญ)
d. To bother (รบกวน)
Many people agree that Pitbull is the most dangerous dog in the world. When people first meet
it, they will walk away. Pitbull is not permitted in some countries. If an officer finds it or people report
to the office, owner will pay for the fine and Pitbull will be killed for safety. However, in some countries
you can have it. When you have Pitbull, the most important thing you should know is to look after your
Pitbull every step when you take it outside. You cannot know what will happen. It may meet and fight
with other dogs. In the fight, Pitbull will not let them run away easily. It will bite on other dogs’ neck until
they’re dead, so the owner has to know how to protect other dogs and how to save them from Pitbull.
(หลายคนลงความเห็นว่า พิทบลู คือ สุนัขที่อันตรายที่สุดในโลก เมื่อพวกเขาเจอมันในครั้งแรก สิ่งที่พวกเขาจะทา คือ เดิน
ให้ห่างจากมัน อย่างไรก็ ดีพิทบูลไม่ได้รับอนุญาตให้เลี้ยงในบางประเทศ หากเจ้าหน้าที่พบมันหรือมีคนแจ้งต่อเจ้าหน้าที่ เจ้า
ของพิทบูลจะต้องจ่ายค่าปรับ และสุนัขต้องถูกฆ่าเพื่อความปลอดภัยแต่อย่างไรก็ตามในบางประเทศ คุณสามารถเลี้ยงพิทบูลได้
เมื่อคุณได้เลี้ยงมันแล้วสิ่งที่สาคัญที่ควรทราบ คื อ ต้องดูแลสุนัขของคุณอย่างดีตอนที่พามันออกไปข้างนอก คุณไม่สามารถรู้ได้
เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้น มันอาจจะเจอและต่อสู้กับสุนัขตัวอื่นได้ มันจะไม่ปล่อยให้สุนัขตัวอื่นวิ่นหนีหายไปอย่างง่ายดาย และใน
การต่อสู้นั้น ๆ มันจะกัดเข้าที่คอของสุนัขตัวนั้นจนกว่าจะตาย ดังนั้น คุณควรรู้วิธีป้องกันสุนัขตัวอื่น และการช่วยสนัขตัวอื่นจาก
พิบูลของคุณ)
To avoid dangerous situation, there are some suggestions for the owner. Pitbull should not walk
without leash and do not let it pull you while walking. Pitbull is a powerful dog, so it has to do exercise
every day, at least 30 minutes or walk 1 kilometer per day to release an energy out and calm itself down.
(เพื่อหลีกเลี่ยงเหตุการณ์อันตราย และนี่คือคาแนะนาสาหรับเจ้าของที่ควรทา เจ้าของไม่ควรนาพิบูลออกมาเดินข้างนอก
โดยไม่มีสายจูง และไม่ควรปล่อยให้สุนัขลากคุณระหว่างเดิน พิทบูลเป็นสุนัขที่แข็งแรงดังนั้น มันจะต้องได้ออกกาลังกายทุกวัน
อย่างน้อยวันละ 30 นาที หรือเดินวันละ 1 กิโลเมตรเพื่อลดพลังงานและทาให้มันสงบ)
21. The most suitable title for this passage is _________. (หัวข้อที่เหมาะสมสาหรับบทความนี้คือ)
a. Pitbull Adoption (การอุปการะพิทบูล)
b. Tips for Pitbull (เคล็ดลับสาหรับพิทบูล)
c. Getting to know Pitbull (ทาความรู้จักพิทบูล)
d. Dangerous Dog (สุนัขอันตราย)
22. The word “permitted” in line 2 means __________. (คาว่า “permitted” ในบรรทัดที่ 2 หมายถึง)
a. Have (มี)
b. Feed (เลี้ยง)
c. Allow (อนุญาต)
d. Adopt (อุปการะ)
23. The pronoun “It” in the sixth line refers to __________. (สรรพนาม “It” ในบรรทัดที่ 6 อ้างอิงถึง)
a. Owner (เจ้าของพิทบูล)
b. Pitbull (พิทบูล)
c. Other dogs (สุนัขตัวอื่น)
d. People (ประชาชน)
24. In the passage, what should the owner do? (ในบทความ เจ้าของควรปฏิบัติอย่างไร)
a. Let Pitbull walk off-leash. (ปล่อยให้พิทบูลเดินโดยไม่มีสายจูง)
b. Do not let Pitbull pull you. (ไม่ปล่อยให้พิทบูลบ้าง)
c. Give Pitbull some food. (ให้อาหารพิทบูลบ้าง)
d. Let Pitbull bite other dogs. (ปล่อยให้พิทบูลกัดสุนัขตัวอื่น)
25. The tone of passage is __________. (บทความมีลักษณะเป็น)
a. Negative (เชิงลบ)
b. Positive (เชิงบวก)
c. Aggressive (เชิงรุนแรง)
d. Suggestive (เชิงแนะนา)
A : Good morning Mr. Suwat, How are you?
B : Good morning Mr. John _____(1.)_____. Thank you.
A : I’m calling you because I would like to know more about the conference next week. Do you have
_____(2.)_____?
B : Of course. What information would you like to know?
A : I would like to know when is the exact date?
B : It _____(3.)_____ held on 22-25 December.
A : Could you please send me the list of _____(4.)_____?
B : Sure! I will send it to you by e-mail.
A : Okay, thank you very much.
B : _____(5.)_____
a. I’m doing well.
b. I’m really surprised.
c. I’m very pretty.
d. I’m not sure.
a. some information
b. some informations
c. any information
d. any informations
a. will
b. will be
c. will have
d. will has
a. people
b. attendees
c. conferees
d. visitors
a. That’s perfect.
b. It’s my pleasure.
c. It’s my willingness.
d. That’s fine.
6. Most of the undergraduates enjoy __________ mathematics class.
a. practice
b. studying
c. learn
d. working
7. Mr. Kanok __________ promoted to be a general manager for two weeks.
a. has been
b. have been
c. had been
d. is going to be
8. Please close __________ door.
a. none
b. a
c. an
d. the
9. I cannot insist you this copying machine is __________ than current one.
a. cheap
b. cheaper
c. cheapest
d. cheaply
10. She had arrived, when the manager __________ the room.
a. reaches
b. reached
c. reach
d. is reaching
Part 3: Short Conversation. Choose the correct answer. (Q11-Q15)
11. __________ to Miss Chanida, please?
a. Could I speak
b. Could you call
c. Am I speaking
d. Do you speak
12. Excuse me, __________ the National Museum?
a. When is
b. Where is
c. What is
d. Where are
13. Welcome to Late Hotel, __________ can I do for you?
a. when
b. where
c. how
d. what
14. I __________ to the north of Taiwan with my family last week.
a. go
b. am going
c. went
d. gone
15. Can I have __________ ball pens and folders, please?
a. dozen of
b. kind of
c. price of
d. amount of
Hilton Toy Co., Ltd.
111-12, Haven Avenue,
New York City, USA 09124
April 6, 2016
Miss Jenny Wong
818, Branford Street,
CA, USA 07651
Dear Miss Wong,
We received your application for secretary position yesterday. After reviewing your application, we
would like to invite you for an interview.
Your interview is scheduled for Friday, April 12th at 09.30 A.M. When you arrive at the company, please
come to Human Resource Department on the 4th floor.
If you are not convenient, please contact me directly at 234-00023 ext. 113 to reschedule. We look
forward to meeting you soon at Hilton Toy.
Sincerely yours,
Mr. Andrew Jackson
Homan Resource Manager
16. When did Mr. Andrew receive the application?
a. April 5, 2016
b. April 6, 2016
c. April 11, 2016
d. April 12, 2016
17. What position does Miss Wong apply for?
a. Homan Resource Manager
b. Secretary
c. Accounting Officer
d. Marketing Planner
18. What is purpose of appointment?
a. To ask for information
b. To interview
c. To be rescheduled
d. To see Mr. Andrew
19. How can Miss Wong contact Mr. Andrew?
a. By phone
b. By email
c. By mail
d. By cell phone
20. What does “reschedule” mean?
a. To cancel the interview
b. To change the place
c. To postpone the time
d. To assign a new date
Elementary schools are aware of integrated learning. It has been popular in some schools. Most
of the teachers and parents agree to change standard curriculum to be integrated curriculum. Students
do not need to focus only on textbook or computer. They can learn by doing activities such as cooking
plant, experiment, arts, and crafts. They will learn their skills through these activities in consequence of
skill development in the future. When they go to the higher level, they can plan and choose suitable
course.
In a class, students will be encouraged to learn through both textbooks and activities that related
to each other. They will learn and participate in a workshop. This part helps them to analyze, plan, and
do it by themselves. For example planting a tree make them learn to analyze the situation of growth
from the textbooks and multimedia things, they will realize how to let the tree grow efficiently, then they
plan the procedure of plant, finally they plant it. Teacher will give them some advice in every procedure
to encourage them.
21. The most suitable title for this passage is __________.
a. Learning Change
b. Skill Improvement
c. Integrated Learning
d. The Popular School
22. The pronoun “They” in line 3 refer to __________.
a. Schools
b. Teachers
c. Parents
d. Students
23. The word “development” in line 5 means __________.
a. Make it better
b. Make it bad
c. Make it different
d. Make it possible
24. What will students get from the workshop?
a. They will analyze, plan, and do the activity.
b. They will know how to plant the tree.
c. They will learn from textbooks and computers.
d. They will get the high grade.
25. How does teacher encourage the students?
a. Let the students plant the tree.
b. Give the students some advice.
c. Let the students think by themselves.
d. Give the students some textbooks and multimedia things.
A : Good morning Mr. Suwat, How are you? (สวัสดีคุณสุวัฒน์ เป็นอย่างไรบ้างครับ)
B : Good morning Mr. John _____(1.)_____. Thank you. (สวัสดีคุณจอห์น ผมสบายดี ขอบคุณครับ)
A : I’m calling you because I would like to know more about the conference next week. Do you have
_____(2.)_____? (ผมโทรหาคุณเพราะผมอยากทราบเพิ่มเติมเกี่ยวกับงานประชุมในสัปดาห์หน้า ไม่ทราบว่าคุณ
พอจะมีข้อมูลบ้างไหมครับ)
B : Of course. What information would you like to know? (แน่นอน คุณต้องการทราบอะไรเพิ่มเติมหรือครับ)
A : I would like to know when is the exact date? (ผมอยากทราบวันจัดงานที่แน่นอนครับ)
B : It _____(3.)_____ held on 22-25 December. (งานจะจัดขึ้นวันที่ 22-25 ธันวาคม ครับ)
A : Could you please send me the list of _____(4.)_____? (คุณช่วยส่งรายชื่อผู้เข้าร่วมงานครั้งนี้ให้ผมหน่อย
ได้ไหมครับ)
B : Sure! I will send it to you by e-mail. (ได้แน่นอน เดี๋ยวผมจะส่งให้คุณทางอีเมลนะครับ)
A : Okay, thank you very much. (ตกลง ขอบคุณมากครับ)
B : _____(5.)_____ (ด้วยความยินดีครับ)
a. I’m doing well. (ผมสบายดี)
b. I’m really surprised. (ผมประหลาดใจจริง ๆ)
c. I’m very pretty. (ผมสวยมาก)
d. I’m not sure. (ผมไม่แน่ใจ)
คาอธิบาย : ข้อนี้คู่สนทนาถามถึงความเป็นอยู่ ดังนั้น จึงต้องตอบให้ตรงกับคาถาม จะสังเกตได้ว่าตัวเลือกอื่นนั้นจะไม่เกี่ยวข้อง
กับเรื่องความเป็นอยู่
เพิ่มเติม : การตอบเรื่องความเป็นอยู่นั้น ยังสามารถใช้คาอื่นที่ให้ความหมายในเชิงเดียวกันได้อีก เช่น
- I’m good. หรือ I’m fine.
- I’m pretty good.
- I’m not doing well.
- I’m not going well.
- I feel not good. เป็นต้น
a. some information (ข้อมูล)
b. some informations (ข้อมูล)
c. any information (ข้อมูล)
d. any informations (ข้อมูล)
คาอธิบาย : การใช้ some, any เอกพจน์และพหูพจน์ ข้อนี้ตอบข้อ c. เพราะ any จะใช้กับประโยคคาถามหรือประโยคปฏิเสธ
และ information เป็นคานามนับไม่ได้ ห้ามเติม s
เพิ่ ม เติ ม : ค านามที่ เ ป็ น เอกพจน์ ห้ า มเติ ม s มี ห ลายค า ผู้ ส อบต้ อ งท่ อ งจ า และส่ ว นใหญ่ ที่ ข้ อ สอบออกมี ดั ง นี้ furniture,
equipment, information, knowledge, money, homework, baggage, luggage เป็นต้น
a. will (จะ)
b. will be (จะ)
c. will have (จะมี)
d. will has (จะมี)
คาอธิบาย : ข้อนี้เป็นประโยครูปแบบ Future Simple Tense แสดงถึงเหตุการณ์ที่กาลังจะเกิดขึ้น โดยประธานเป็นผู้ถูกกระทา
คือ งานประชุม ซึ่งไม่สามารถจัดตัวเองได้ ต้องมีผู้จัด จึงเป็นประโยค Passive Voice มีโครงสร้างประโยค Subject + will +
V.to be + V.3 + Object (ตาม English Tips ข้อที่ 18.)
a. people (ประชาชน)
b. attendees (ผู้เข้าร่วม)
c. conferees (ผู้ร่วมประชุม)
d. visitors (ผู้เยี่ยมชน)
คาอธิบาย : ข้อนี้บทสนทนากล่าวถึงงานประชุม ดังนั้น จึงตอบข้อ c. หมายถึง ผู้เข้าร่วมประชุม ซึ่งจะสอดคล้องกับบริบทของ
การสนทนา
a. That’s perfect. (มันเยี่ยมมาก)
b. It’s my pleasure. (ด้วยความยินดี)
c. It’s my willingness. (ด้วยความเต็มใจ)
d. That’s fine. (ไม่เป็นไร)
คาอธิบาย : ข้อนี้เป็นประโยคตอบรับเมื่อผู้พูดแสดงความขอบคุณ
เพิ่มเติม : สานวนการตอบรับยังมีสานวนอื่นที่สามารถใช้ในเชิงเดียวกันได้อีก เช่น
- You’re welcome.
- With my pleasure.
- My pleasure.
6. Most of the undergraduates enjoy __________ mathematics class. (นักศึกษาส่วนใหญ่สนุกกับการเรียนวิชา
คณิตศาสตร์)
a. practice (ฝึกฝน)
b. studying (เรียน)
c. learn (เรียนรู้)
d. working (ทางาน)
คาอธิบาย : ข้อนี้ Main Verb หรือกริยาหลัก คือ enjoy ซึ่งหากมีกริยาตามหลัง กริยานั้นต้องอยู่ในรูปของ V.ing (Gerund)
เพิ่มเติม : Verb หรือกริยาที่ต้องตามด้วยกริยา V.ing ผู้สอบต้องอาศัยการท่องจา และส่วนใหญ่ที่ข้อสอบออกจะมีดังนี้ finish,
enjoy, go, keedp, recommend, suggest, stop เป็นต้น (ตาม English Tips ข้อที่ 4.) แต่ในกรณี go และ stop นั้นสามารถ
ตามได้ทั้ง Infinitive with to และ Gerund ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ เช่น
กรณี “go”
1. เมื่อไปทากิจกรรมใดเป็นระยะเวลานานต้องตามด้วย Gerund
- I go shopping at the mall.
- I want to go swimming with you.
2. เมื่อใช้ go ในกรณีทั่วไปต้องตามด้วย Infinitive with to
- I don’t want to go to see the doctor.
- They go to have lunch at the canteen.
กรณี “stop”
1. เมื่อหยุดทาสิ่งที่กาลังทาอยู่ในทันที (ไม่ทาต่อแล้ว) ต้องตามด้วย Gerund
- My kinds stop playing the computer game.
- He stops smoking after he got sick.
2. เมื่อหยุดทาสิ่งหนึ่งเพื่อมาทาอีกสิ่งหนึ่งต้องตามด้วย Infinitive with to
- I stop to buy a book at the book store.
- She stops to drink some water.
7. Mr. Kanok __________ promoted to be a general manager for two weeks. (คุณกนกเพิ่งถูกเลื่อนตาแหน่งเป็น
ผู้จัดการทั่วไปได้สองสัปดาห์แล้ว)
a. has been (เพิ่งเป็น)
b. have been (เพิ่งเป็น)
c. had been (เป็นมาแล้ว)
d. is going to be (กาลังจะเป็น)
คาอธิบาย : ข้อนี้เป็นประโยครูปแบบ Present Perfect Tense แสดงถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและต่อเนื่องมายังปัจจุบัน โดยข้อนี้
ประธานเป็นผู้ถูกกระทา คือ คุณกนกได้ถูกเลื่อนตาแหน่ง เพราะคุณกนกไม่สามารถเลื่อนตาแหน่งของตัวเองได้ ต้องมีหัวหน้า
เป็นผู้กระทา จึงเป็นประโยค Passive Voice มีโครงสร้างประโยคดังนี้ Subject + has, have + V.to be + V.3 + Object
8. Please close __________ door. (กรุณาปิดประตูด้วย)
a. none (ไม่มีคาตอบ)
b. a (หนึ่ง)
c. an (หนึ่ง)
d. the (หนึ่ง)
คาอธิบาย : ข้อนี้ออกเกี่ยวกับ Article ซึ่งตอบข้อ d. เพราะการสนทนานี้เป็นที่ทราบกันว่า คือ ประตูบานใดจึงต้องใช้ the (ตาม
English Tips ข้อที่ 16.)
9. I cannot insist you this copying machine is __________ than current one. (ฉันไม่สามารถยืนยันได้ว่าเครื่อ ง
ถ่ายเอกสารนี้จะถูกว่าเครื่องที่ใช้อยู่)
a. cheap (ถูก)
b. cheaper (ถูกกว่า)
c. cheapest (ถูกที่สุด)
d. cheaply (อย่างถูก)
ค าอธิ บ าย : ข้ อ นี้ อ อกเกี่ ย วกั บ การเปรี ย บเที ย บ (Comparison of Adjective) ขั้ น ที่ 2 หรื อ ขั้ น กว่ า จากโจทย์ คื อ การ
เปรียบเทียบราคาของเครื่องถ่ายเอกสารสองเครื่อง จึงต้องเลือกคาตอบที่เป็นขั้นกว่า (ตาม English Tips ข้อที่ 10.)
เพิ่มเติม : one ในที่นี้ใช้อ้างอิงถึง copying machine เป็นการอ้างอิงโดยทั้งสองฝ่ายทราบกันดีว่ากล่าวถึงอะไร และใช้ current
ทาหน้าที่เป็น adjective มาขยายเพื่อให้รู้ชัดเจนว่า คือ เครื่องที่ใช้ปัจจุบัน
10. She had arrived, when the manager __________ the room. (เมื่อผู้จัดการถึงห้อง เธอก็มาถึงแล้ว)
a. reaches
b. reached
c. reach
d. is reaching
คาอธิบาย : ข้อนี้ออกเกี่ยวกับ Tense รูปแบบ Past Perfect Tense คือ สองเหตุการณ์เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่แตกต่างกัน หรือไม่
ห่างกันมาก โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนจะอยู่ในรูปแบบ Past Perfect Tense ส่วนเหตุการณ์ที่ตามมาจะอยู่ในรูปของ Past
Simple Tense (ตาม English Tips ข้อที่ 19.)
เพิ่มเติม :
- ลักษณะโครงสร้าง Past Perfect Tense คือ Subject + had + V.3 + Object
- ลักษณะโครงสร้าง Past Simple Tense คือ Subject + V.2 + Object
Part 3: Short Conversation. Choose the correct answer. (Q11-Q15)
11. __________ to Miss Chanida, please? (ผมขอสายคุณชนิดาครับ)
a. Could I speak (รบกวนของสาย)
b. Could you call (คุณช่วยเรียก)
c. Am I speaking (ฉันกาลังคุย)
d. Do you speak (คุณพูดได้ไหม)
คาอธิบาย : เป็นประโยคร้องขอที่ใช้ Could I ในการขึ้นต้นประโยคคาถาม และเพื่อเพิ่มความสุภาพควรเติม Please หลัง
ประโยคทุกครั้ง
เพิ่มเติม : ประโยคร้องขอสามารถใช้ประโยคอื่นที่ให้ความหมายในเชิงเดียวกันได้อีก ดังนี้
- May I speak to Miss Chanida, Please?
- Can I speak to Miss Chanida, please?
- Could you pass me the bottle of water, please?
12. Excuse me, __________ the National Museum? (ขอโทษนะคะ ไม่ทราบว่าพิพิธภัณฑ์แห่งชาติอยู่ตรงไหนหรือคะ)
a. When is (เมื่อไร)
b. Where is (ที่ไหน)
c. What is (คืออะไร)
d. Where are (ที่ไหน)
คาอธิบาย : สามารถใช้ประโยคอื่นที่ให้ความหมายในเชิงเดียวกันได้อีก เช่น
- How can I go to _____(สถานที่)_____?
- How can I get there?
13. Welcome to Late Hotel, __________ can I do for you? (ยินดีต้อนรับสู่โรงแรมลาเต้ค่ะ มีอะไรให้ดิฉันช่วยไหม
คะ)
a. when (เมื่อใด)
b. where (ที่ไหน)
c. how (อย่างไร)
d. what (อะไร)
คาอธิบาย : จากโจทย์ คือ ประโยคเสนอความช่วยเหลือใช้ what ขึ้นประโยคเท่านั้น
เพิ่มเติม : ประโยคที่ใช้เพื่อเสนอความช่วยเหลือ มีดังนี้
- What can I do for you?
- May I help you?
- Is there anything I can do for you?
14. I __________ to the north of Taiwan with my family last week. (ฉันไปทางเหนือของไต้หวันกับครอบครั วมา
เมื่ออาทิตย์ก่อน)
a. go (ไป)
b. am going (กาลังไป)
c. went (ไปมาแล้ว)
d. gone (ไป)
คาอธิบาย : ข้อนี้เกี่ยวกับ Past Simple Tense สังเกตได้จากประโยคมีตัวบอกเวลา คือ last week นั้นแสดงว่าเหตุการณ์ได้
เกิดขึ้นมาแล้ว จึงต้องใช้ Verb 2 เพื่อแสดงถึงอดีต ตามโครงสร้าง Subject + V.2 + Object
15. Can I have __________ ball pens and folders, please? (ผมขอซื้อปากกาลูกลื่น 1 โหล และแฟ้มเอกสาร 1 โหล
ครับ)
a. dozen of (1 โหล)
b. kind of (ประเภท)
c. price of (ราคาของ)
d. amount of (จานวน)
คาอธิบาย : dozen หมายถึง 12 ชิ้น เป็นการระบุจานวนที่แน่นอน จึงเป็นคาตอบที่เหมาะสมที่สุด
Hilton Toy Co., Ltd.
111-12, Haven Avenue,
New York City, USA 09124
April 6, 2016
Miss Jenny Wong
818, Branford Street,
CA, USA 07651
Dear Miss Wong, (เรียน คุณหว่อง)
We received your application for secretary position yesterday. After reviewing your application, we
would like to invite you for an interview. (เราได้รับใบสมัครของคุณในตาแหน่งเลขานุการเมื่อวานนี้ หลักจากพิจารณาใบ
สมัครของคุณแล้วเราขอเชิญคุณเพื่อเข้าร่วมการสัมภาษณ์งาน)
Your interview is scheduled for Friday, April 12th at 09.30 A.M. When you arrive at the company, please
come to Human Resource Department on the 4th floor. (การสัมภาษณ์งานครั้งนี้จะมีขึ้นในวันศุกร์ที่ 12 เมษายน เวลา
09.30 น. เมื่อคุณมาถึงบริษัทแล้วกรุณาติดต่อที่ฝ่ายทรัพยากรบุคคล ชั้น 4)
If you are not convenient, please contact me directly at 234-00023 ext. 113 to reschedule. We look
forward to meeting you soon at Hilton Toy. (หากคุณไม่สะดวกมาในวันดังกล่าว กรุณาติดต่อผมโดยตรงที่หมายเลข
234-00023 ต่อ 113 เพื่อเปลี่ยนวันสัมภาษณ์ ผมหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะได้พบคุณที่ฮิลตัน ทอยเร็ว ๆ นี้)
Mr. Andrew Jackson
Homan Resource Manager (ผู้จัดการฝ่ายทรัพยากรบุคคล)
16. When did Mr. Andrew receive the application? (คุณแอนดริวได้รับในสมัครเมื่อใด)
a. April 5, 2016 (5 เมษายน 2559)
b. April 6, 2016 (6 เมษายน 2559)
c. April 11, 2016 (11 เมษายน 2559)
d. April 12, 2016 (12 เมษายน 2559)
คาอธิบาย : สังเกตจากวันที่ที่ระบุไว้บนหัวจดหมาย นอกจากนี้ย่อหน้าแรกคุณแอนดริวได้เกริ่มแล้วว่าได้รับจดหมายเมื่อวานนี้
คือ วันที่ 5
17. What position does Miss Wong apply for? (คุณหว่องสมัครตาแหน่งอะไร)
a. Homan Resource Manager (ผู้จัดการฝ่ายบุคคล)
b. Secretary (เลขานุการ)
c. Accounting Officer (พนักงานบัญชี)
d. Marketing Planner (เจ้าหน้าที่วางแผนด้านการตลาด)
18. What is purpose of appointment? (จุดประสงค์ของการนัดพบคืออะไร)
a. To ask for information (เพื่อขอข้อมูล)
b. To interview (เพื่อสัมภาษณ์)
c. To be rescheduled (เพื่อเปลี่ยนตารางนัด)
d. To see Mr. Andrew (เพื่อพบคุณแอนดริว)
19. How can Miss Wong contact Mr. Andrew? (คุณหว่องจะสามารถติดต่อคุณแอนดริวได้อย่างไร)
a. By phone (ทางโทรศัพท์)
b. By email (ทางอีเมล)
c. By mail (ทางไปรษณีย์)
d. By cell phone (ทางโทรศัพท์มือถือ)
คาอธิบาย : ข้อนี้ให้สังเกตตรงหลังเบอร์โทรที่ใช้คา ext. (phone number) ย่อมาจาก Extension หมายถึง เบอร์ต่อภายใน
สามารถเตาได้ว่าต้องเป็นเบอร์โทรศัพท์ภายในสานักงาน
20. What does “reschedule” mean? (คาว่า “reschedule” หมายถึงอะไร)
a. To cancel the interview (ยกเลิกการสัมภาษณ์)
b. To change the place (เปลี่ยนสถานที่)
c. To postpone the time (เลื่อนเวลา)
d. To assign a new date (เปลี่ยนตารางนัดวันใหม่)
Elementary schools are aware of integrated learning. It has been popular in some schools. Most
of the teachers and parents agree to change standard curriculum to be integrated curriculum. Students
do not need to focus only on textbook or computer. They can learn by doing activities such as cooking
plant, experiment, arts, and crafts. They will learn their skills through these activities in consequence of
skill development in the future. When they go to the higher level, they can plan and choose suitable
course.
(โรงเรียนประถมได้ตระหนักถึงการเรียนรู้แบบบูรณาการ ตอนนี้กาลังเป็นที่นิยมในบางโรงเรียน คุณครูและพ่อแม่ส่วน
ใหญ่เห็นด้วยที่จะเปลี่ยนจากหลักสูตรมาตรฐานทั่วไป เป็นหลักสูตรการเรียนรู้แบบบูรณาการนักเรียนไม่จาเป็นจะต้องมุ่งเน้นไป
ที่หนังสือหรือคอมพิวเตอร์เท่านั้น นักเรียนสามารถเรียนผ่านการทากิจกรรมต่าง ๆ เช่น การทาอาหาร การปลูกต้นไม้ การ
ทดสอบวิทยาศาสตร์ ศิลปะ และการฝีมือ เด็ก ๆ จะได้เรียนรู้ทักษะต่าง ๆ ของพวกเขาผ่านกิจกรรมเหล่านี้ ซึ่งจะส่งผลถึงการ
พัฒนาทักษะในอนาคต เมื่อพวกเราเรียนในระดับที่สูงขึ้น พวกเขาจะสามารถวางแผนและเลือกคอร์สเรียนที่เหมาะสมได้)
In a class, students will be encouraged to learn through both textbooks and activities that related
to each other. They will learn and participate in a workshop. This part helps them to analyze, plan, and
do it by themselves. For example planting a tree make them learn to analyze the situation of growth
from the textbooks and multimedia things, they will realize how to let the tree grow efficiently, then they
plan the procedure of plant, finally they plant it. Teacher will give them some advice in every procedure
to encourage them.
(ภายในห้องเรียนนั้น นักเรียนทุกคนจะได้รับการสนับสนุนให้เรียนผ่านทั้งหนังสือเรียนและกิจกรรมต่าง ๆ ที่เชื่อมโยงถึง
กัน เด็ก ๆ จะได้เรียนรู้และมีส่วนร่วมในการทากิจกรรม ในส่วนนี้จะช่วยให้เด็กสามารถคิดวิเคราะห์ วางแผน และลงมือทาด้วย
ตัวเอง ตัวอย่างเช่น การปลูกต้นไม้ เด็ก ๆ จะเรียนรู้เพื่อวิเคราะห์การเติบโตของต้นไม้จากในหนังสือเรียน และสื่อการสอนหลาย
ๆ อย่าง เด็ก ๆ จะเข้าใจได้ว่าจะทาอย่างไรให้ต้นไม้นั้นโตอย่างมีประสิทธิภาพ และเด็ก ๆ จะเริ่มวางแผนเพื่อปลูกต้นไม้ จากนั้น
ขั้นตอนสุดท้าย คือ การลงมือทา คุณครูจะเป็นผู้ดูแลให้คาปรึกษาในทุกขั้นตอนเพื่อคอยสนับสนุนพวกเขา)
21. The most suitable title for this passage is __________. (หัวข้อที่เหมาะสมสาหรับบทความนี้ คือ)
a. Learning Change (การเปลี่ยนแปลงการเรียนรู้)
b. Skill Improvement (การปรับปรุงทักษะ)
c. Integrated Learning (การเรียนรู้แบบบูรณาการ)
d. The Popular School (โรงเรียนที่เป็นที่นิยม)
22. The pronoun “They” in line 3 refer to __________. (สรรพนาม “They” ในบรรทัดที่ 3 อ้างอิงถึง)
a. Schools (โรงเรียน)
b. Teachers (คุณครู)
c. Parents (พ่อแม่)
d. Students (นักเรียน)
23. The word “development” in line 5 means __________. (คาว่า “development” ในบรรทัดที่ 5 อ้างอิงถึง)
a. Make it better (ทาให้ดีขึ้น)
b. Make it bad (ทาให้แย่ลง)
c. Make it different (ทาให้แตกต่าง)
d. Make it possible (ทาให้เป็นไปได้)
24. What will students get from the workshop? (นักเรียนได้รับอะไรจากการลองปฏิบัติ)
a. They will analyze, plan, and do the activity. (ได้รู้จักวิเคราะห์ วางแผน และลงมือทา)
b. They will know how to plant the tree. (ได้รู้จักการปลูกต้นไม้)
c. They will learn from textbooks and computers. (ได้เรียนรู้จากหนังสือและคอมพิวเตอร์)
d. They will get the high grade. (ได้เกรดดี ๆ)
25. How does teacher encourage the students? (คุณครูจะช่วยสนับสนุนนักเรียนได้อย่างไร)
a. Let the students plant the tree. (ให้นักเรียนปลูกต้นไม้)
b. Give the students some advice. (ให้คาแนะนาแก่นักเรียน)
c. Let the students think by themselves. (ให้นักเรียนคิดเอง)
d. Give the students some textbooks and multimedia things. (ให้หนังสือเรียนและสื่อการเรียนต่าง ๆ แก่
นักเรียน)
A : Good afternoon. _____(1.)_____?
B : Yes, please. I’m coming for an interview, but I don’t know where the interview room is.
A : _____(2.)_____
B : My name is Lisa. I’m from California.
A : Please _____(3.)_____. Let me check the schedule.
B : Thank you.
A : Okay, please go to the interview room on the 3rd floor.
B : _____(4.)_____?
A : You can take an elevator everthere. When you arrive at the 3rd floor. Please turn left. You will see
the room next to the elevator. That is the interview room. Mr. David is _____(5.)_____.
B : Okay. Thanks.
A : You’re welcome.
a. What is your purpose?
b. Could you tell me please?
c. What do you need?
d. May I help you?
a. What’s your information?
b. Where are you from?
c. What’s your name?
d. How old are you?
a. have a seat
b. wait for a moment
c. turn off your phone
d. introduce yourself
a. How can I get there?
b. Where are they?
c. Where is the direction?
d. How far is it?
a. wait for you
b. waits for you
c. waiting for you
d. been waiting for you
6. Could you __________ her to turn off the radio? We are doing homework.
a. speak
b. say
c. talk
d. tell
7. Excuse me, I would like to __________ some money from my account.
a. open account
b. withdraw
c. deposited
d. exchange
8. As I’m a team leader, I’m really grateful and would like to thank to my team. Our sales __________ to
15% from last month.
a. follow
b. higher
c. increase
d. decrease
9. If Mr. James were a president of WWW company, he would __________ many departments there.
a. develop
b. expand
c. solve
d. coordinate
10. The government __________ the urgent situation to people in the south area yesterday.
a. announce
b. announces
c. announced
d. announcement
11. Do you have __________ to provide the manager a financial report?
a. a few minutes
b. a favor
c. any time
d. a lot of time
12. IT staff has __________ an interesting GPS device to his client.
a. be demonstrating
b. been demonstrating
c. be demonstrated
d. been demonstrated
13. I would like to discuss with the general manager __________ will be in charge of taking care of this
conference.
a. what
b. which
c. who
d. whom
14. The president decides to arrange the event for special customers on the beach __________ Phetchaburi.
a. in
b. on
c. at
d. into
15. All of domestic products __________ to Asia, Europe, and South America.
a. is exported
b. are exported
c. is imported
d. are imported
Memo
Date: October 28th, 2016
To: Maria Nicolus, Sale Executive and Viva Delanay, Marketing Manager
From: Kathy Sylvia, General Manager
Subject: Meeting
Please be informed that the meeting will be held on November 5th, 2016 at the Customer Service
Building, room no. 3 at 9.00 a.m. I would like to invite you to attend this meeting. There will be many topics
which relate to your department and I would like to discuss about them. The topics are as follows:
1. New promotion for new customers.
2. Discount for current customers.
3. Changing the packaging of products.
4. Grand opening event.
If you cannot attend this meeting, please inform me or my secretary as soon as you can. I will
reschedule and let you know the changing date later.
16. Who will arrange the meeting?
a. Maria Nicolus and Kathy Syvia
b. Viva Delanay
c. Kathy Syvia
d. Maria Nicolus and Viva Delanay
17. What is the purpose of this meeting?
a. To invite
b. To attend
c. To discuss
d. To inform
18. Which of the following is not correct about the topics for this meeting?
a. New promotion
b. Offering discount
c. Changing packaging
d. Big sale event
19. When Maria and Viva have to contact the general manager?
a. They cannot attend the meeting.
b. They cannot pay attention.
c. They need to reschedule.
d. They confirm to attend the meeting.
20. What does “attend” mean?
a. To separate
b. To participate
c. To combine
d. To involve
Have you felt nervous when you are giving a speech in front of many people? Would you like to
know how do professional speakers get rid of their nervousness? There are some tips to help you
relieve the nervousness. First of all, you should concentrate on your speech. You must be aware of
what you are going to speak. You should arrange the topics in your mind. You can leave your feeling
behind and pay all your attention to the speech.
Next, when you are on the stage and the audience are staring at you, do not panic. You have to
relax, do not worry about anything. You take a deep breath in and out, and make yourself at home.
You should control the feeling, think positively, and encourage yourself.
Finally, while you are giving the speech, do not forget to look and smile at your audience. Let them
know how confident you are. The most important thing of giving the speech in public is to practice
yourself as much as you can. You will be more confident and become a professional speaker.
21. The passage is mainly about __________.
a. How to give a speech
b. To relieve nervousness
c. Speaker’s nervousness
d. Tips of presentation
22. What does the author suggest the speaker to do?
a. Concentrate, relax, and react to audience.
b. Concentrate, relax, and be confident.
c. concentrate, relax and worry.
d. Concentrate, relax and react to speaker.
23. According to the passage, what should the speaker do?
a. Do not pay much attention.
b. To relax after going to the stage.
c. To focus on the speech.
d. Do not know what is going to do.
24. Which of the following is not mentioned in the passage?
a. Concentrate on giving the speech.
b. Make yourself at home.
c. Look and smile at the audience.
d. Get rid of the confidence.
25. What does “concentrate” mean?
a. Invent
b. Establish
c. Focus
d. Concern
A : Good afternoon. _____(1.)_____? (สวัสดีครับ มีอะไรให้ผมช่วยไหมครับ)
B : Yes, please. I’m coming for an interview, but I don’t know where the interview room is. (ใช่ค่ะ ฉัน
มาสัมภาษณ์งานค่ะ)
A : _____(2.)_____ (คุณชื่ออะไรหรือครับ)
B : My name is Lisa. I’m from California. (ฉันชื่อลิซ่า มาจากแคลิฟอร์เนียค่ะ)
A : Please _____(3.)_____. Let me check the schedule. (กรุณารอสักครู่นะครับ ผมขอเช็คตารางนัดก่อน)
B : Thank you. (ขอบคุณค่ะ)
A : Okay, please go to the interview room on the 3rd floor. (ได้แล้วครับ คุณสามารถไปที่ห้องสัมภาษณ์ชั้น 3
ได้เลยครับ)
B : _____(4.)_____? (ฉันจะไปที่นั่นได้อย่างไรคะ)
A : You can take an elevator everthere. When you arrive at the 3rd floor. Please turn left. You will see
the room next to the elevator. That is the interview room. Mr. David is _____(5.)_____. (คุณสามารถ
ขึ้นลิฟต์ตรงโน้นได้เลยครับ เมื่อคุณถึงชั้น 3 แล้วให้เลี้ยวซ้ายนะครับ คุณจะเห็นห้องสัมภาษณ์อยู่ข้าง ๆ ลิฟต์ คุณ
เดวิดกาลังรอคุณอยู่ครับ)
B : Okay. Thanks. (ได้ค่ะ ขอบคุณค่ะ)
A : You’re welcome. (ด้วยความยินดีครับ)
a. What is your purpose? (จุดประสงค์ของคุณคืออะไร)
b. Could you tell me please? (คุณบอกผมหน่อยได้ไหม)
c. What do you need? (คุณต้องการอะไร)
d. May I help you? (มีอะไรให้ผมช่วยไหม)
คาอธิบาย : ข้อนี้เกี่ยวกับประโยคขอความช่วยเหลือ ผู้สอบต้องสังเกตจากคาตอบของคู่สนทนา และเลือกคาตอบที่เป็นไปได้
จากตัวเลือกที่ให้
เพิ่มเติม : สามารถใช้ประโยคที่ให้ความหมายในเชิงเดียวกันได้อีก เช่น
- Can I help you?
- What can I do for you?
- Would you like me to help you?
สาหรับการตอบสามารถตอบได้หลากหลาย เช่น Yes, please, thanks, thank you for helping me เป็นต้น
a. What’s your information? (ข้อมูลของคุณคืออะไร)
b. Where are you from? (คุณมาจากที่ไหน)
c. What’s your name? (คุณชื่ออะไรหรือ)
d. How old are you? (คุณอายุเท่าไร)
คาอธิบาย : ผู้สอบต้องสังเกตจากคาตอบของคู่สนทนา และเลือกคาตอบที่เป็นไปได้จากตัวเลือกที่ให้
เพิ่มเติม : หากต้องการบอกชื่อ สามารถใช้ประโยคอื่นที่ให้ความหมายในเชิงเดียวกันได้อีก เช่น I’m Lisa หรือ Lisa (บอกเพียง
ชื่อ)
a. have a seat (เชิญนั่ง)
b. wait for a moment (รอสักครู่)
c. turn off your phone (ปิดโทรศัพท์ของคุณ)
d. introduce yourself (แนะนาตัวเอง)
คาอธิบาย : ผู้สอบต้องสังเกตจากคาตอบของคู่สนทนา และเลือกคาตอบที่เป็นไปได้จากตัวเลือกที่ให้
เพิ่มเติม : สามารถใช้ประโยคอื่นที่ให้ความหมาย “รอสักครู่” ได้อีก เช่น
- Please wait for a minute.
- Please wait for a while.
- Just a moment please.
a. How can I get there? (ฉันจะไปที่นั่นได้อย่างไร)
b. Where are they? (พวกเขาอยู่ที่ไหน)
c. Where is the direction? (เส้นทางอยู่ที่ไหน)
d. How far is it? (มันไกลแค่ไหน)
คาอธิบาย : ข้อนี้เป็นประโยคสอบถามเส้นทาง ผู้สอบต้องสังเกตจากคาตอบของคู่สนทนา และเลือกคาตอบที่เป็นไปได้จาก
ตัวเลือกที่ให้
เพิ่มเติม : สามารถใช้ประโยคถามเส้นทางที่ให้ความหมายในเชิงเดียวกันได้อีก เช่น
- How can I go to _____(สถานที่)_____?
- How can I get there?
- Where is _____(สถานที่)_____?
a. wait for you (รอคุณ)
b. waits for you (รอคุณ)
c. waiting for you (กาลังรอคุณ)
d. been waiting for you (รอคุณนานแล้ว)
ค าอธิ บ าย : จากประโยคจะเห็ นว่า คุณเดวิด ก าลั ง รอลิซ่ า อยู่ ซึ่ งเป็นเหตุก ารณ์ ปั จจุ บันที่ ต่อเนื่อง จึง ใช้ป ระโยค Present
Continuous
เพิ่มเติม : โครงสร้าง Present Continuous ประกอบด้วย Subject + V.to be + V.ing + Object แสดงถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
อย่างต่อเนื่องในปัจจุบัน
6. Could you __________ her to turn off the radio? We are doing homework. (คุณช่วยบอกเธอให้ปิดวิทยุหน่อย
ได้ไหม พวกเรากาลังทาการบ้านกันอยู่)
a. speak (พูด)
b. say (พูด)
c. talk (คุย)
d. tell (บอก)
คาอธิบาย : ส่วนที่หายไป คือ Verb แล้วจึงตามด้วยกรรม ดังนั้น กริยาที่สามารถตามด้วยกรรมได้ในทันทีจึงเป็น tell ซึ่ง
แตกต่างจากตัวเลือกอื่น ๆ ที่ต้องตามด้วย Preposition หรือ Pronoun เช่น
- speak to her
- say that + (he, she, it เป็นต้น)
- talk to her
7. Excuse me, I would like to __________ some money from my account. (ขอโทษครั บ ผมอยากจะถอนเงิ น
จากบัญชีผมสักหน่อยครับ)
a. open account (เปิดบัญชี)
b. withdraw (ถอน)
c. deposited (ฝาก)
d. exchange (แลกเปลี่ยน)
คาอธิบาย : would like คือ Verb ในประโยคเป็น Verb ช่วย หากต้องการใช้ Verb อีกตัวเพื่อเป็น Main Verb หรือกริยาแท้
จะต้องใช้ Verb ประเภท Infinitive with to คือ to + V.1
เพิ่มเติม : สามารถสังเกตจากคาบุพบท (Preposition) “from” ที่ใช้คู่กับ withdraw เพราะคาอื่นไม่เข้าคู่กับคาว่า “from”
8. As I’m a team leader, I’m really grateful and would like to thank to my team. Our sales __________ to
15% from last month. (ในฐานะหัวหน้าทีม ผมรู้สึกซาบซึ้งใจและอยากขอบคุณทีมงานของผมที่ทาให้ยอดขายเพิ่มขึ้น
ถึง 15% จากเดือนก่อน)
a. follow (ติดตาม)
b. higher (สูง)
c. increase (เพิ่มขึ้น)
d. decrease (ลดลง)
คาอธิบาย : คาศัพท์เกี่ยวกับการบอกระดับที่มีการเปลี่ยนแปลง สังเกตจาก to 15% พิจารณาได้ว่าเป็นการเพิ่มขึ้น ดังนั้น
ผู้สอบต้องทายความหมายจากตัวเลือก
เพิ่มเติม : สามารถใช้คาศัพท์คาอื่นที่ให้ความหมายในเชิงเดียวกันได้อีก เช่น
- rise to / rise up to (เพิ่มขึ้น)
- be up to (เพิ่มขึ้น)
- be down (ลดลง)
- decline (ลดลง)
- drop down (ลดลง)
9. If Mr. James were a president of WWW company, he would __________ many departments there. (หาก
คุณเจมส์เป็นประธานของบริษัท WWW เขาคงจะพัฒนาหลาย ๆ ฝ่ายที่นั่น)
a. develop (พัฒนา)
b. expand (ขยาย)
c. solve (แก้ปัญหา)
d. coordinate (ประสานงาน)
คาอธิบาย : เงื่อนไข If Clause แบบที่ 2 การให้เหตุและผล หรือเหตุการณ์ที่เป็นไปไม่ได้ในปัจจุบันด้วยโครงสร้าง If + Past
Simple Tense, + S + would + Infinitive (ตาม English Tips ข้อที่ 17.)
10. The government __________ the urgent situation to people in the south area yesterday. ( รั ฐ บ า ล ไ ด้
ประกาศสถานการณ์เร่งด่วนแก่ประชาชนทางภาคใต้เมื่อวานนี้)
a. announce (ประกาศ)
b. announces (ประกาศ)
c. announced (ประกาศ)
d. announcement (ถูกประกาศ)
คาอธิบาย : คาที่หายไป คือ Verb อีกทั้งเหตุการณ์ได้เกิดขึ้นแล้วเมื่อวานนี้ สังเกตได้จากคาว่า yesterday ดังนั้น Verb จึงต้อง
ใช้ช่องที่ 2 เพื่อแสดงถึงอดีต
เพิ่มเติม : โครงสร้าง Past Simple ประกอบด้วย Subject + V.2 + Object (แสดงถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและจบลงแล้วแล้วใน
อดีต)
11. Do you have __________ to provide the manager a financial report? (คุณพอจะมีเวลาสัก 2-3 นาทีเพื่อช่วย
จัดรายงานการเงินให้หัวหน้าไหมคะ)
a. a few minutes (2-3 นาที)
b. a favor (ความช่วยเหลือ)
c. any time (เวลาสักเล็กน้อย)
d. a lot of time (มีเวลามาก)
คาอธิบาย : ข้อนี้เป็นรูปแบบสานวนคาถามเพื่อขอความช่วยเหลือ
เพิ่มเติม : สามารถใช้ประโยคอื่นในเชิงขอความช่วยเหลือได้อีก เช่น
- Can you give me a favor?
- Can you do me a favor?
- Can I ask you for helping me?
- Could you help me open the door, please?
สาหรับการตอบสามารถตอบได้หลากหลาย เช่น Yes I can, Sure, Of course, Exactly เป็นต้น
12. IT staff has __________ an interesting GPS device to his client. (เจ้าหน้าที่ด้าน IT กาลังสาธิตอุปกรณ์ติดตาม
ยานพาหนะที่น่าสนใจให้แก่ลูกค้าของเขา)
a. be demonstrating (กาลังสาธิต)
b. been demonstrating (กาลังสาธิต)
c. be demonstrated (ถูกสาธิต)
d. been demonstrated (ถูกสาธิต)
คาอธิบาย : จากประโยคเป็นการแสดงให้เห็นว่า เจ้าหน้าที่ได้สาธิตอุปกรณ์มาแล้ว ณ ช่วงเวลาหนึ่ง และได้แสดงต่อมาถึงเวลา
ปัจจุบัน
เพิ่มเติม : โครงสร้าง Present Perfect Continuous ประกอบด้วย Subject + have, has + been + V.ing + Object (แสดง
ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ณ ช่วงเวลาหนึ่งและดาเนินอย่างต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน)
13. I would like to discuss with the general manager __________ will be in charge of taking care of this
conference. (ผมอยากขอปรึกษากับผู้จัดการทั่วไปที่มีหน้าที่ดูแลการประชุมครั้งนี้)
a. what (อะไร)
b. which (อันไหน)
c. who (ใคร)
d. whom (ใคร)
คาอธิบาย : ข้อนี้ตอบ c. เพราะ general manager คือ บุคคล จึงต้องใช้ who เพื่อเชื่อมประโยค ไม่สามารถใช้ whom ได้
เนื่องจากจะใช้กรณีที่บุคคลนั้น ๆ เป็นกรรมของประโยคเท่านั้น (ตาม English Tips ข้อที่ 9.)
14. The president decides to arrange the event for special customers on the beach __________ Phetchaburi.
(ท่านประธานตัดสินใจที่จะจัดงานอีเวนต์สาหรับลูกค้าพิเศษ บนชายหาดในจังหวัดเพชรบุรี)
a. in (ใน)
b. on (บน)
c. at (ที่)
d. into (เข้าไปใน)
คาอธิบาย : ข้อนี้ออกเกี่ยวกับ Preposition ซึ่งคาตอบ คือ “in” และตามด้วยเมือง จังหวัด และประเทศ (ตาม English Tips
ข้อที่ 8.)
15. All of domestic products __________ to Asia, Europe, and South America. (สิ น ค้ า ในประเทศทั้ ง หมดได้ ถู ก
ส่งออกไปยังเอเชีย ยุโรป และอเมริกาใต้)
a. is exported (ถูกส่งออก)
b. are exported (ถูกส่งออก)
c. is imported (ถูกนาเข้า)
d. are imported (ถูกนาเข้า)
ค าอธิ บาย : เนื่องจาก domestic products เติม s และเป็นประธานจึงต้องใช้ are และผลิตภัณฑ์ไม่สามารถส่งตัวเองไป
ต่างประเทศได้เอง ข้อนี้จึงเป็น Passive Voice คือ ประธานเป็นผู้ถูกกระทา มีโครงสร้างประโยค Subject + V.to be + V.3
Memo
Date: October 28th,
2016
To: Maria Nicolus, Sale Executive and Viva Delanay, Marketing Manager
From: Kathy Sylvia, General Manager
Subject: Meeting
Please be informed that the meeting will be held on November 5th, 2016 at the Customer Service
Building, room no. 3 at 9.00 a.m. I would like to invite you to attend this meeting. There will be many topics
which relate to your department and I would like to discuss about them. The topics are as follows: (ขอแจ้ ง
เพื่อให้ทราบว่าการประชุมจะถูกจัดขึ้นในวั นที่ 5 พ.ย. 2559 ที่อาคารบริการลูกค้า ห้องที่ 3 เวลา 9 โมงเช้า ดิฉันจึงขอเชิญทุก
ท่านเข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ ซึ่งจะมีหลายหัวข้อที่เกี่ยวข้องกับฝ่ายของท่าน ดิฉันต้องการหารือเกี่ยวกับหัวข้อต่าง ๆ ตาม
รายละเอียด ดังนี้)
1. New promotion for new customers. (โปรโมชันใหม่สาหรับลูกค้าใหม่)
2. Discount for current customers. (ส่วนลดสาหรับลูกค้าปัจจุบัน)
3. Changing the packaging of products. (การเปลี่ยนหีบห่อของสินค้า)
4. Grand opening event. (งานเปิดตัวสินค้าใหม่)
reschedule and let you know the changing date later. (หากคุณไม่สามารถเข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ได้ กรุณาแจ้งให้
ดิฉันหรือเลขานุการของดิฉันทราบโดยเร็วที่สุด เพื่อดิฉันจะเปลี่ยนแปลงตารางและแจ้งให้รับทราบอีกครั้ง)
16. Who will arrange the meeting? (ใครจะเป็นผู้จัดงานประชุม)
a. Maria Nicolus and Kathy Syvia
b. Viva Delanay
c. Kathy Syvia
d. Maria Nicolus and Viva Delanay
17. What is the purpose of this meeting? (จุดประสงค์ของการประชุมนี้คืออะไร)
a. To invite (เพิ่มเชิญ)
b. To attend (เพื่อเข้าร่วม)
c. To discuss (เพื่อหารือ)
d. To inform (เพื่อทราบ)
18. Which of the following is not correct about the topics for this meeting? (ข้อไหนที่ไม่ถูกต้องเกี่ยวกับหัวข้อที่
จะประชุม)
a. New promotion (โปรโมชันใหม่)
b. Offering discount (มอบส่วนลด)
c. Changing packaging (เปลี่ยนหีบห่อ)
d. Big sale event (งานลดราคาสินค้า)
19. When Maria and Viva have to contact the general manager? (เมื่อใดที่มาเรียและวิว่าต้องติดต่อผู้จัดการทั่วไป)
a. They cannot attend the meeting. (พวกเขาไม่สามารถเข้าร่วมประชุมได้)
b. They cannot pay attention. (พวกเขาไม่สามารถให้ความสนใจได้)
c. They need to reschedule. (พวกเขาต้องการเปลี่ยนตารางเวลา)
d. They confirm to attend the meeting. (พวกเขาต้องการยืนยันเข้าร่วมประชุม)
20. What does “attend” mean? (คาว่า “attend” หมายถึงอะไร)
a. To separate (แยกออกจาก)
b. To participate (เข้าร่วม)
c. To combine (เอามารวมกัน)
d. To involve (เกี่ยวพันกัน)
Have you felt nervous when you are giving a speech in front of many people? Would you like to
know how do professional speakers get rid of their nervousness? There are some tips to help you
relieve the nervousness. First of all, you should concentrate on your speech. You must be aware of
what you are going to speak. You should arrange the topics in your mind. You can leave your feeling
behind and pay all your attention to the speech.
(คุณรู้สึกประหม่าเมื่อต้องกล่าวบรรยายต่อหน้าผู้คนเยอะ ๆ บ้างไหม คุณอยากรู้ไหมว่านักพูดมืออาชีพนั้นเขามีวิธีจัดการ
ความประหม่านั้นอย่างไร มีเคล็ดลับหลายข้อที่ช่วยลดความประหม่าของคุณ ได้ เริ่มแรกนั้นคุณควรเพ่งสมาธิไปที่การบรรยาย
ของคุณ คุณต้องตระหนักไว้เสมอว่าคุณกาลังจะกล่าวอะไร ค่อย ๆ เรียงลาดับหัวข้อในใจ ทิ้งความรู้สึกประหม่าไว้ และตั้งใจเพื่อ
การบรรยายของคุณ)
Next, when you are on the stage and the audience are staring at you, do not panic. You have to
relax, do not worry about anything. You take a deep breath in and out, and make yourself at home.
You should control the feeling, think positively, and encourage yourself.
(ขั้นต่อไป เมื่อคุณอยู่บนเวทีและผู้ฟังกาลังจ้องมองคุณอยู่ อย่าตื่ นตระหนก คุณต้องผ่อนคลาย แล้วเลิกกังวลกับทุกสิ่ง
อย่าง หายใจเข้าออกลึก ๆ ปล่อยตัวตามสบาย คุณต้องควบคุมความรู้สึกของคุณให้ได้ คิดบวกและให้กาลังใจตัวเอง)
Finally, while you are giving the speech, do not forget to look and smile at your audience. Let them
know how confident you are. The most important thing of giving the speech in public is to practice
yourself as much as you can. You will be more confident and become a professional speaker.
(ขั้นตอนสุดท้าย ขณะที่คุณกาลังกล่าวบรรยายอยู่นั้น อย่าลืมมองและยิ้มให้กับผู้ฟัง แสดงให้พวกเขาเห็นว่าคุณมีความ
มั่นใจแค่ไหน สิ่งที่สาคัญที่สุดของการกล่าวบรรยายในที่สาธารณะนั้น คือ การฝึกฝนตัวเองให้มากที่สุดเท่าที่จะทาได้ ซึ่งจะทาให้
คุณมั่นใจมากขึ้นและกลายเป็นนักพูดมืออาชีพได้เอง)
21. The passage is mainly about __________. (ข้อความนี้เกี่ยวกับเรื่อง)
a. How to give a speech (การนาเสนอรายงาน)
b. To relieve nervousness (ลดอาการประหม่า)
c. Speaker’s nervousness (ความประหม่าของผู้พูด)
d. Tips of presentation (เทคนิคการนาเสนอ)
22. What does the author suggest the speaker to do? (ผู้เขียนมีวิธีแนะนาอย่างไร)
a. Concentrate, relax, and react to audience. (จดจ่อ ผ่อนคลาย และตอบสนองผู้ฟัง)
b. Concentrate, relax, and be confident. (จดจ่อ ผ่อนคลาย และมั่นใจ)
c. concentrate, relax and worry. (จดจ่อ ผ่อนคลาย และกังวล)
d. Concentrate, relax and react to speaker. (จดจ่อ ผ่อนคลาย และตอบสนองผู้พูด)
23. According to the passage, what should the speaker do? (จากบทความ ผู้พูดควรทาตัวอย่างไรเมื่อต้องนาเสนอ)
a. Do not pay much attention. (ไม่ต้องให้ความใส่ใจ)
b. To relax after going to the stage. (ผ่อนคลายหลังขึ้นเวที)
c. To focus on the speech. (จดจ่อในการนาเสนอ หรือการพูด)
d. Do not know what is going to do. (ไม่รู้กาลังจะทาอะไร)
24. Which of the following is not mentioned in the passage? (ข้อใดที่ไม่ได้กล่าวถึงในบทความ)
a. Concentrate on giving the speech. (ให้ความสนใจในการนาเสนอ)
b. Make yourself at home. (ทาตัวสบาย ๆ)
c. Look and smile at the audience. (มองและยิ้มให้ผู้ฟัง)
d. Get rid of the confidence. (กาจัดความมั่นใจ)
25. What does “concentrate” mean? (คาว่า “concentrate’ หมายถึงอะไร)
a. Invent (สร้างสรรค์)
b. Establish (ก่อตั้ง)
c. Focus (ให้ความสนใจ)
d. Concern (กังวล)
A : Good afternoon. How are you?
B : I’m pretty good. Thank you.
A : That’s great. Could you please _____(1.)_____?
B : Let me introduce myself. My name is Lisa. I’m 29 years old. I _____(2.)_____ California and I was
studying there until I graduated from a high school, then I have lived in New York for many years.
A : How about _____(3.)_____.
B : I have no brothers or sisters. My mom is a housewife, and my dad is a professor in a college.
A : Could you please tell me more about your _____(4.)_____ background?
B : I graduated with a bachelor degree in science field at New York University. When I was studying in
the university, I was a part of student committee and I was a class representative.
A : How about your work experience?
B : I worked at NYC laboratory as a scientist for 5 years. Now _____(5.)_____ at BCC Chemical
Company as a chemical scientist.
A : Alright, I will get back to you about the interview result. Thank you for coming today.
a. tell me your background
b. tell me your story
c. introduce myself
d. introduce yourself
a. come from
b. leave for
c. was in
d. were in
a. your parents’ career
b. your family background
c. your family situation
d. your parents’ life
a. education
b. study
c. university
d. learning
a. I’m working
b. I was working
c. I have been working
d. I worked
6. The president of BCC Company is going to __________ the contract with the other parties.
a. write
b. draft
c. sign
d. keep
7. There is a high __________ of manufacturing that guarantees the quality of product.
a. service
b. capacity
c. safety
d. suitably
8. My mother is preparing __________ of dishes for a special guest who comes to join my birthday party
tonight.
a. variety
b. tasty
c. vary
d. category
9. If Lisa and Jen can go to the night theatre, they should be able to __________ early for an exam
tomorrow.
a. stand up
b. pick up
c. sit up
d. get up
10. I would rather go __________ the mountain than diving.
a. climbing
b. walking
c. running
d. crawling
11. The chef is very careful to make sure that only the best ingredients __________ in the meals.
a. use
b. are used
c. used
d. is used
12. I would like to offer you fifty percent of discount for next purchase. Can I have an appointment
__________ you?
a. with
b. in
c. to
d. at
13. As you can see the sales figures for the last three months on __________, there are continuously
increasing.
a. screen
b. a screen
c. the screen
d. of screen
14. The comedy movie __________ I watched last night was a funny movie.
a. what
b. which
c. when
d. whose
15. The staff is announcing that the flight from Hong Kong will be delayed __________ about forty minutes.
a. to land
b. landing
c. to board
d. boarding
88/41, Sukhumvit 14
Wattana, Bangkok 10300
March 17, 2016
BCC Chemical Co., Ltd.
123/22, Sukhumvit 28
Dear Human Resource Manager,
I have seen a job opening for a personal assistant on the www.jobs.com website on March 16th, 2016. I
would be grateful if you kindly consider me for that position. My name is Sittidate Chareanjai. I graduated
with a bachelor degree in business administration field from Dhurakij Pundit University in May 2015.
While I was an undergraduate at the university, I was a member of singing club and used to be a class
representative of business major. I was a tutor to help students who needed to improve their Mathemetics
and English. I also enjoyed playing and joining other activities such as football, basketball, and guitar.
I currently work as a supervisor assistant at Teresa Company. I am in charge of arranging the meeting,
event, and taking care of VIP customer. I can communicate in Thai, Chinese and English with great fluency. I
do believe that my experience and ability would meet the job requirements.
If you need any further information regarding my enclosed resume. Please call me at 090-123-121. I
look forward to hearing from you soon.
Best regards,
Mr. Sittidate Chareanjai
Enclosure: Resume
16. Which vacancy is open now?
a. Supervisor assistant
b. Personal assistant
c. VIP customer
d. Human resource manager
17. What is the purpose of this letter?
a. To apply
b. To resign
c. To accept
d. To join
18. What is his duty when he was a tutor?
a. To help improve students’ skills.
b. To be a part of singing club.
c. To join other activities and singing club.
d. To help students who needed to be a class representative.
19. Which of the following is correct about Mr. Sittidate?
a. He works as a personal assistant.
b. He can communicate various languages.
c. He does not take care of VIP customer.
d. He plans the job requirements.
20. What does “fluency” mean?
a. Awful
b. Not bad
c. Quite good
d. Very well
The success of running business is the most importance that all businessmen need to have. They
think that the only way to have the success in business is a unique product but it is not easy to make
the unique product and respond to all consumers. The businessmen should do some research. They
should exactly know the segment, position, target, and consumers’ behavior. The result of research
will help them a lot. They will have an idea to make a product.
Why the unique product is very important? If there are the same products in the market,
the consumer will not be convinced. There is no difference. It may be the cause of price war. The
businessmen have to reduce the price to compete with others. It’s not only the price that is reduced,
but also the quality of materials. A lower price of product will convince the consumer to buy the
product except for high quality. Consequently, the way to be successful is to make a unique product,
for being another choice in the market.
21. The passage is mainly about __________?
a. To know the consumers’ behavior.
b. To have the success in business.
c. To make the different quality.
d. To be the leading in the market.
22. What is a unique product?
a. A modern product
b. A mass product
c. A special product
d. An expired product
23. What should the businessmen do?
a. To make the same product in the market.
b. To know the marketing mix.
c. To respond all of consumers.
d. To do some marketing research.
24. When will the price war occur?
a. All products are the same.
b. All materials are the same.
c. The price is different.
d. The market is different.
25. What does “reduce’ mean?
a. Decrease
b. Release
c. Significant
d. Valuable
A : Good afternoon. How are you? (สวัสดีครับ คุณเป็นอย่างไรบ้าง)
B : I’m pretty good. Thank you. (สบายดีค่ะ ขอบคุณ)
A : That’s great. Could you please _____(1.)_____? (เยี่ยมครับ กรุณาแนะนาตัวเองหน่อยครับ)
B : Let me introduce myself. My name is Lisa. I’m 29 years old. I _____(2.)_____ California and I was
studying there until I graduated from a high school, then I have lived in New York for many years.
(ฉันขอแนะนาตัวเองค่ะ ฉันชื่อลิซ่า อายุ 29 ปี ฉันเคยอยู่ที่แคลิฟอร์เนียและเรียนที่นั่นจนจบชั้นมัธยม จากนั้นฉัน
จึงย้ายมาอยู่ที่นิวยอร์กได้หลายปีแล้วค่ะ)
A : How about _____(3.)_____. (แล้วครอบครัวของคุณล่ะครับ)
B : I have no brothers or sisters. My mom is a housewife, and my dad is a professor in a college. (ฉัน
ไม่มีพนี่ ้องค่ะ คุณแม่เป็นแม่บ้าน ส่วนคุณพ่อของฉันเป็นอาจารย์อยู่ในวิทยาลัย)
A : Could you please tell me more about your _____(4.)_____ background? (คุ ณ ช่ ว ยบอกผมเพิ่ ม เติ ม
เกี่ยวกับการศึกษาของคุณหน่อยได้ไหมครับ)
B : I graduated with a bachelor degree in science field at New York University. When I was studying in
the university, I was a part of student committee and I was a class representative. (ฉั น จบปริ ญ ญา
ตรีสาขาวิทยาศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยนิวยอร์กค่ะ ตอนที่ฉันเรียนอยู่ในมหาวิทยาลัย ฉันเป็นคณะกรรมการนักศึกษา
และยังเป็นหัวหน้าห้องด้วยค่ะ)
A : How about your work experience? (แล้วประสบการณ์การทางานของคุณล่ะครับ)
B : I worked at NYC laboratory as a scientist for 5 years. Now _____(5.)_____ at BCC Chemical
Company as a chemical scientist. (ฉันเคยทางานอยู่ที่ห้องทดลอง NYC ในตาแหน่งนักวิทยาศาสตร์อยู่ 5 ปี
ค่ะ ตอนนี้ฉันทางานที่บริษัทเกี่ยวกับเคมีภัณฑ์ BCC ในตาแหน่งนักวิทยาศาสตร์ด้านเคมีค่ะ)
A : Alright, I will get back to you about the interview result. Thank you for coming today. (เอาล่ ะ ครั บ
ผมจะแจ้งผมการสัมภาษณ์งานในครั้งนี้ให้คุณทราบ ขอบคุณที่มาในวันนี้ครับ)
a. tell me your background (เล่นประวัติของคุณให้ผมฟังหน่อย)
b. tell me your story (บอกเรื่องราวของคุณให้ผมฟังหน่อย)
c. introduce myself (แนะนาตัวเอง)
d. introduce yourself (แนะนาตัวคุณ)
คาอธิบาย : Could you please introduce yourself? ประโยคขอให้คู่สนทนาแนะนาตัวเอง
เพิ่มเติม : ประโยคแนะนาตัวเองสามารถใช้ได้ ดังนี้
- I would like to introduce myself, my name is __________
- May I introduce myself? My name is __________
- My name is __________
a. come from (มาจาก)
b. leave for (ออกเดินทาง)
c. was in (เคยอยู่ที่)
d. were in (เคยอยู่ที่)
คาอธิบาย : ข้อนี้เนื่องจากผู้ตอบเคยอาศัยอยู่ที่เมืองหนึ่ง ตั้งแต่อดีตจนถึงช่วงเวลาหนึ่ง แต่ปัจจุบันไม่ได้อยู่แล้ว จึงควรใช้ Verb
ช่อง 2 เพื่อแสดงถึงอดีตที่ผ่านมา คือ was ตามประธาน คือ I
เพิ่มเติม : โครงสร้าง Past Simple ประกอบด้วย Subject + V.2 + Object (แสดงถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและจบไปแล้วในอดีต)
a. your parents’ career (อาชีพของพ่อแม่ของคุณ)
b. your family background (ภูมิหลังครอบครัวของคุณ)
c. your family situation (สถานการณ์ครอบครัวของคุณ)
d. your parents’ life (ชีวิตของพ่อแม่ของคุณ)
คาอธิบาย : How about your family background? เป็นประโยคคาถามเกี่ยวกับครอบครัว
เพิ่มเติม : ประโยคตอบคาถามเกี่ยวกับครอบครัวได้ ดังนี้
- I have (จานวน) sister (s) / brother (s). (ฉันมีพี่สาว / น้องสาว / พี่ชาย / น้องชาย ... คน)
- My dad / mom works as … (อาชีพ) … (พ่อ / แม่ ฉันเป็น …)
- I’m the eldest sister / brother in the family. (ฉันเป็นพี่สาว / พี่ชายคนโตของครอบครัว)
- I’m the youngest sister / brother in the family. (ฉันเป็นน้องสาว / น้องชายคนเล็กของครอบครัว)
- I’m the middle sister / middle brother in the family. (ฉันเป็นพี่สาว / พี่ชายคนกลางของครอบครับ)
a. education (การศึกษา)
b. study (การเรียน)
c. university (มหาวิทยาลัย)
d. learning (การเรียนรู้)
คาอธิบาย : หากถามเกี่ยวกับการศึกษาควรใช้คาว่า education
เพิ่มเติม : ประโยคที่มักใช้เกี่ยวกับการตอบคาถามเกี่ยวกับการศึกษา มีดังนี้
- I graduated with + วุฒิการศึกษา
- I graduated in + สาขาวิชา
- I graduated at + ชื่อสถานศึกษาที่จบการศึกษา
- my major is + สาขาวิชา
- my minor is + สาขาวิชา
- field in + สาขาวิชา
a. I’m working (ฉันกาลังทางานอยู่)
b. I was working (ฉันเคยทางานอยู่)
c. I have been working (ฉันยังคงทางานอยู่)
d. I worked (ฉันเคยทางาน)
คาอธิบาย : จากคาถาม ประโยคที่หายไปมีสองตาแหน่ง คือ Subject และ Verb จะเห็นได้ว่าคาตอบมี Subject ที่ให้มาแล้ว
คือ I จึงต้องพิจารณา Verb ที่ตามมาว่าควรเป็นแบบใด ดังนั้น ผู้สอบอ่านบริบท ซึ่งผู้ถูกสัมภาษณ์ได้กล่าวถึงการทางานใน
ปัจจุบันและเป็นจริง ดังนั้น จึงเป็นลักษณะของ Present Simple Tense
เพิ่มเติม : โครงสร้าง Present Simple Tense ประกอบด้วย Subject + V.1 (s, es) + Object (แสดงถึงเหตุการณ์ที่เป็นจริง
ในปัจจุบัน)
6. The president of BCC Company is going to __________ the contract with the other parties. ( ป ร ะ ธ า น
บริษัท BCC กาลังจะเซ็นสัญญาร่วมกับบริษัทอื่น)
a. write (เขียน)
b. draft (ร่าง)
c. sign (เซ็น)
d. keep (เก็บ)
คาอธิบาย : ข้อนี้ต้องการคาตอบที่เป็น Main Verb หรือกริยาหลัก เนื่องจาก is going เป็น Auxiliary Verb หรือกริยาช่วย
เท่านั้น จากตัวเลือกจะเห็นว่าเป็น Verb ทั้งหมด ดังนั้น ผู้สอบต้องดูความหมายของตัวเลือกที่เหมาะสม (ตาม English Tips ข้อ
ที่ 2.)
เพิ่มเติม : sign มักใช้คู่กับคาเหล่านี้ เช่น
- sign the name
- sign the contract
- sign the agreement
7. There is a high __________ of manufacturing that guarantees the quality of product. (การผลิ ต นี้ มี ค วาม
ปลอดภัยสูงที่จะรับประกันคุณภาพของสินค้า)
a. service (การบริการ)
b. capacity (ประสิทธิภาพ)
c. safety (ความปลอดภัย)
d. suitably (อย่างเหมาะสม)
คาอธิบาย : ข้อนี้ต้องการคาตอบที่เป็น Noun หรือคานาม เนื่องจาก high เป็น Adjective ที่มาขยายคานาม จากตัวเลือกจะ
เห็นว่าเป็น Noun ทั้งหมด ดังนั้น ผู้สอบต้องดูความหมายของตัวเลือกที่เหมาะสม (ตาม English Tips ข้อที่ 13.)
8. My mother is preparing __________ of dishes for a special guest who comes to join my birthday party
tonight. (แม่ของฉันกาลังเตรียมอาหารหลายอย่างสาหรับแขกพิเศษของเรา ที่จะมาร่วมงานวันเกิดคืนนี้)
a. variety (หลากหลาย)
b. tasty (รสชาติดี)
c. vary (แตกต่าง)
d. category (หมวดหมู่)
ค าอธิ บ าย : ข้ อ นี้ ต้ อ งการค าตอบที่ เป็ น Noun ตามหลั ก Noun + of + Noun จากตั ว เลื อ กจะเห็น ว่ า ทั้ง Noun (variety,
category), Verb (Vary) ที่มีรูปคล้ายคานาม เพราะลงท้ายด้วย ry และ Adjective (tasty) ที่มีรูปคล้ายคานาม เพราะลงท้าย
ty ดังนั้น ผู้สอบต้องดูความหมายของตัวเลือกที่เหมาะสม (ตาม English Tips ข้อที่ 13.)
9. If Lisa and Jen can go to the night theatre, they should be able to __________ early for an exam
tomorrow. (หากลิซ่าและเจนไปโรงหนังตอนกลางคืนได้ พวกเขาก็ต้องตื่นเช้าเพื่อไปสอบพรุ่งนี้ได้เช่นกัน)
a. stand up (ลุกขึ้น)
b. pick up (เก็บขึ้นมา)
c. sit up (ลุกขึ้นและนั่ง)
d. get up (ลุกขึ้น/ตื่นนอน)
คาอธิบาย : เงื่อนไข If Clause แบบที่ 1 การให้เหตุผลและผล หรือเหตุการณ์ที่เป็นจริงด้วยโครงสร้าง If + Present Simple
Tense, + S + Future Simple Tense. (ตาม English Tips ข้อที่ 17.)
10. I would rather go __________ the mountain than diving. (ฉันอยากจะไปปีนเขามากกว่าดาน้า)
a. climbing (ปีน)
b. walking (เดิน)
c. running (วิ่ง)
d. crawling (คลาน)
คาอธิบาย : การเติม Verb หลัง go นั้นจะไม่ใช้ go + Infinitive with to เหมือน Verb ทั่วไป แต่จะใช้ Gerund คือ V.ing แทน
11. The chef is very careful to make sure that only the best ingredients __________ in the meals. (พ่ อ ครั ว
ระมัดระวังเป็นอย่างมาก เพื่อให้แน่ใจว่าส่วนผสมที่ดีที่สุดได้ถูกใช้ในแต่ละมื้ออาหาร)
a. use (ใช้)
b. are used (ถูกใช้)
c. used (ใช้แล้ว)
d. is used (ถูกใช้)
คาอธิบาย : เนื่องจากประธาน คือ the best ingredients เป็นพหูพจน์จึงต้องใช้ are และส่วนผสมไม่สามารถใช้ตัวเองได้ ข้อนี้
จึงเป็น Passive Voice คือ ประธานเป็นผู้ถูกกระทา มีโครงสร้างประโยค Subject + V.to be + V.3 (ตาม English Tips ข้อที่
18.)
12. I would like to offer you fifty percent of discount for next purchase. Can I have an appointment
__________ you? (ฉันจะนาเสนอส่วนลดจานวน 50% สาหรับการซื้อครั้งถัดไปแก่คุณ ฉันอยากขอนัดหมายเพื่อเข้าพบ
คุณได้ไหม)
a. with (กับ)
b. in (ใน)
c. to (ถึง)
d. at (ที่)
คาอธิบาย : ข้อที่ต้องการคาตอบที่เป็น Preposition จะเห็นได้ว่าตัวเลือกที่ให้นั้นเป็นคาบุพบททั้งหมด
ดังนั้น ผู้สอบต้องพิจารณาและเลือกคาตอบที่เหมาะสม อย่างไรก็ดีคาบุพบทเฉพาะนั้นมีเป็นจานวนมากผู้สอบจึงต้องฝึกฝนและ
ท่องจาให้ดี (ตาม English Tips ข้อที่ 6.)
13. As you can see the sales figures for the last three months on __________, there are continuously
increasing. (ตามที่คุณได้เห็นจานวนยอดขายเมื่อสามเดือนก่อนบนหน้าจอนั้น ยอดขายได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง)
a. screen (หน้าจอ)
b. a screen (หน้าจออันหนึ่ง)
c. the screen (หน้าจออันนั้น)
d. of screen (ของหน้าจอ)
คาอธิบาย : ข้อนี้ออกเกี่ยวกับ Article ซึ่งจากข้อสอบเป็นที่เข้าใจระหว่างกัน ระหว่างผู้พูดและผู้ฟังว่าหน้าจอไหน จึงต้องใช้
the ที่บ่งบอกถึงการเจาะจงในสิ่งนั้น (ตาม English Tips ข้อที่ 16.)
14. The comedy movie __________ I watched last night was a funny movie. (หนังตลกเรื่องนั้นที่ฉันดูเมื่อคืนเป็น
หนังที่ตลกมาก)
b. which (สิ่งไหน)
c. when (เมื่อไร)
คาอธิบาย : Movie นับเป็นนามทัว่ ไป จึงใช้ which เพื่อเชื่อมประโยค (ตาม English Tips ข้อที่ 9.)
15. The staff is announcing that the flight from Hong Kong will be delayed __________ about forty minutes.
(เจ้าหน้าที่ประกาศว่า ไฟลท์ที่มาจากฮ่องกงจะลงจอดช้าไปประมาณ 40 นาที)
a. to land (ลงจอด)
b. landing (ลงจอด)
c. to board (ขึ้นเครื่อง)
d. boarding (ขึ้นเครื่อง)
คาอธิบาย : การเติม Verb หลัง delay นั้นจะไม่ใช้ delay + Infinitive with to เหมือน Verb ทั่วไป แต่จะใช้ Gerund คือ
V.ing (ตาม English Tips ข้อที่ 4.)
88/41, Sukhumvit 14
March 17, 2016
BCC Chemical Co., Ltd.
Dear Human Resource Manager, (เรียน ผู้จัดการฝ่ายทรัพยากรบุคคล)
I have seen a job opening for a personal assistant on the www.jobs.com website on March 16th, 2016. I
would be grateful if you kindly consider me for that position. My name is Sittidate Chareanjai. I graduated
with a bachelor degree in business administration field from Dhurakij Pundit University in May 2015.
(ผมเห็นประกาศการรับสมัครงานในตาแหน่งผู้ช่วยส่วนตัว บนเว็บไซต์ www.job.com เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2559 ผม
รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งหากคุณกรุณาพิจารณาผมสาหรับตาแหน่งดังกล่าว ผมชื่อสิทธิเดช เจริญใจ ผมจบการศึกษาระดับปริญญา
ตรีในสาขาบริหารธุรกิจ จากมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์เมื่อเดือนพฤษภาคม ปีที่แล้ว)
While I was an undergraduate at the university, I was a member of singing club and used to be a class
representative of business major. I was a tutor to help students who needed to improve their Mathemetics
and English. I also enjoyed playing and joining other activities such as football, basketball, and guitar.
(ในระหว่างที่ผมเป็นนักศึกษาอยู่ในมหาวิทยาลัยนั้น ผมเป็นสมาชิกชมรมร้องเพลง และยังเคยเป็นตัวแทนของสาขาธุรกิจ
อีกด้วย ผมเป็นติวเตอร์ช่วยนักศึกษาคนอื่น ๆ พัฒนาทักษะด้านคณิตศาสตร์และอังกฤษ ผมยังชอบเข้าร่วมกิจกรรมอื่น ๆ อีก
ด้วย เช่น ฟุตบอล บาสเกตบอล และเล่นกีตาร์)
I currently work as a supervisor assistant at Teresa Company. I am in charge of arranging the meeting,
event, and taking care of VIP customer. I can communicate in Thai, Chinese and English with great fluency. I
do believe that my experience and ability would meet the job requirements.
(ตอนนี้ผมทางานเป็นผู้ช่วยหัวหน้าที่บริษัทเทเรซ่า ผมมีหน้าที่ในจัดประชุม งานอีเวนต์ และดูแลลูกค้าคนสาคัญของ
บริษัท ผมสื่อสารภาษาไทย จีน และอังกฤษได้เป็นอย่างดี ผมจึงเชื่อว่าด้วยประสบการณ์และความสามารถของผมจะตรงกับ
คุณสมบัติของงานนี้)
If you need any further information regarding my enclosed resume. Please call me at 090-123-121. I
look forward to hearing from you soon.
(หากคุณต้องการข้อมูลเพิ่มเติมจากประวัติโดยย่อของผมที่แนบมานี้ กรุณาโทรหาผมได้ที 090-123-121 ผมหวังเป็นอย่าง
ยิ่งจะได้พบคุณเร็ว ๆ นี้)
Best regards, (ด้วยความเคารพ)
Mr. Sittidate Chareanjai
Enclosure: Resume (เอกสานแนบ : รีซูเม่)
16. Which vacancy is open now? (ตาแหน่งงานว่างที่กาลังเปิดรับสมัครคือตาแหน่งใด)
a. Supervisor assistant (ผู้ช่วยหัวหน้า)
b. Personal assistant (ผู้ช่วยส่วนตัว)
c. VIP customer (ลูกค้าคนสาคัญ)
d. Human resource manager (ผู้จัดการทรัพยากรบุคคล)
17. What is the purpose of this letter? (จุดประสงค์ของจดหมายนี้คืออะไร)
a. To apply (เพื่อสมัครงาน)
b. To resign (เพื่อลาออก)
c. To accept (เพื่อยอมรับ)
d. To join (เพื่อเข้าร่วม)
คาตอบ : a.
18. What is his duty when he was a tutor? (หน้าที่ของติวเตอร์คืออะไร)
a. To help improve students’ skills. (เพื่อช่วยพัฒนาทักษะของนักศึกษา)
b. To be a part of singing club. (เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของชมรมร้องเพลง)
c. To join other activities and singing club. (เพื่อเข้าร่วมกิจกรรมและชมรมร้องเพลง)
d. To help students who needed to be a class representative. (เพื่อช่วยนักเรียนให้เป็นตัวแทน)
19. Which of the following is correct about Mr. Sittidate? (ข้อใดกล่าวถูกต้องเกี่ยวกับคุณสิทธิเดช)
a. He works as a personal assistant. (เขาทางานในตาแหน่งผู้ช่วยส่วนตัว)
b. He can communicate various languages. (เขาสามารถสื่อสารได้หลายภาษา)
c. He does not take care of VIP customer. (เขาไม่ได้ดูแลลูกค้าคนสาคัญ)
d. He plans the job requirements. (เขาวางแผนคุณสมบัติของงาน)
20. What does “fluency” mean? (คาว่า “fluency” หมายถึงอะไร)
a. Awful (แย่มาก)
b. Not bad (ไม่แย่เท่าไร)
c. Quite good (ค่อนข้างดี)
d. Very well (ดีมาก)
The success of running business is the most importance that all businessmen need to have. They
think that the only way to have the success in business is a unique product but it is not easy to make
the unique product and respond to all consumers. The businessmen should do some research. They
should exactly know the segment, position, target, and consumers’ behavior. The result of research
will help them a lot. They will have an idea to make a product.
(ความสาเร็จในการทาธุรกิจ คือสิ่งสาคัญที่นักธุรกิจทุกคนปรารถนา พวกเขาคิดว่า การประสบความสาเร็จในการทาธุรกิจ
คือ การมีสินค้าที่เป็นพิเศษเฉพาะตัว แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทาให้สินค้าเหล่านั้นตอบสนองผู้บริโภคทุกคนได้ นักธุรกิจจึงควร
ต้องมีการทางานวิจัย ซึ่งพวกเขาต้องรู้ส่วนแบ่งการตลาดตาแหน่งของสินค้า กลุ่มเป้าหมาย และพฤติกรรมของผู้บริโภคให้ชัดเจน
ผลการวิจัยจะช่ว่ยให้มีแนวทางในการทาสินค้กานั้น)
Why the unique product is very important? If there are the same products in the market,
the consumer will not be convinced. There is no difference. It may be the cause of price war. The
businessmen have to reduce the price to compete with others. It’s not only the price that is reduced,
but also the quality of materials. A lower price of product will convince the consumer to buy the
product except for high quality. Consequently, the way to be successful is to make a unique product,
for being another choice in the market.
(ทาไมสินค้าพิเศษเฉพาะตัวจึงมีความสาคัญมาก หากในตลาดมีสินค้าที่เหมือนกันหมด ลูกค้าก็จะไม่ถูกโน้มน้าวให้ซื้ อ
สินค้าใด เพราะไม่มีความแตกต่างเกิดขึ้น ซึ่งอาจจะเห็นสาเหตุให้เกิดสงครามราคา นักธุรกิจจึงต้องลดราคาเพื่อแข่งกับรายอื่น
แต่ไม่ใช่ลดเพียงแค่ราคาเท่านั้น คุณภาพของวัตถุดิบก็จะลดลง ราคาที่ถูกลงของสินค้านั้นจะดึงดูดผู้บริโภคได้ แต่ไม่ใช่คุณภาพที่
จะดึงดูดผู้บริโภค ดังนั้น การประสบความสาเร็จจึงควรทาสินค้าพิเศษเฉพาะตัว เพื่อเป็นอีกตัวเลือกในตลาด)
21. The passage is mainly about __________? (เนื้อหาเรื่องนี้เกี่ยวกับ)
a. To know the consumers’ behavior. (เพื่อรูพ้ ฤติกรรมของผู้บริโภค)
b. To have the success in business. (เพื่อประสบความสาเร็จในธุรกิจ)
c. To make the different quality. (เพื่อสร้างคุณภาพที่แตกต่าง)
d. To be the leading in the market. (เพื่อเป็นผู้นาในตลาด)
22. What is a unique product? (สินค้าเฉพาะคืออะไร)
a. A modern product (สินค้าทันสมัย)
b. A mass product (สินค้าทั่วไป)
c. A special product (สินค้าพิเศษ)
d. An expired product (สินค้าหมดอายุ)
23. What should the businessmen do? (นักธุรกิจควรทาอย่างไร)
a. To make the same product in the market. (สร้างสินค้าที่เหมือน ๆ กันในตลาด)
b. To know the marketing mix. (รู้เกี่ยวกับส่วนประสมทางการตลาด)
c. To respond all of consumers. (ตอบสนองผู้บริโภค)
d. To do some marketing research. (ทาการวิจัยตลาด)
24. When will the price war occur? (สงครามราคาจะเกิดขึ้นเมื่อใด)
a. All products are the same. (สินค้าที่ความเหมือนกัน)
b. All materials are the same. (วัตถุดิบมีความเหมือนกัน)
c. The price is different. (ราคามีความแตกต่าง)
d. The market is different. (ตลาดมีความแตกต่าง)
25. What does “reduce’ mean? (คาว่า “reduce” หมายถึงอะไร)
a. Decrease (ลดลง)
b. Release (ปล่อย)
c. Significant (สาคัญ)
d. Valuable (มีคุณค่า)
A : Hello, may I talk to Miss Linda?
B : Yes, I’m speaking. Who _____(1.)_____?
A : I’m Tony from S & C House company. We _____(2.)_____ in the meeting at your office last week.
B : I see. What can I do for you?
A : I’m planning to _____(3.)_____ a new product next two months. Could you please come to see
me at my office? I would like to talk about more details and I need your company to
_____(4.)_____ this event for me.
B : Sure, could you please tell me your company’s address?
A : 44/2 S & C building, Avenue Street. When you _____(5.)_____ the company please contact my
assistant at the first floor. He will lead you to a meeting room.
B : Ok, I and my team will come to see you tomorrow at 10 o’clock in the morning. See you there.
Thank you for calling me.
A : Ok. See you tomorrow. Bye.
a. is calling.
b. is asking
c. is speaking
d. is telling
a. met
b. meet
c. meets
d. meeting
a. open
b. introduce
c. start
d. launch
a. organizes
b. organize
c. organized
d. organizing
a. depart from
b. arrive at
c. leave for
d. appear on
6. You can take my __________ book before taking a real test.
a. exercise
b. manual
c. homework
d. comic
7. Dan likes to sing a song, but he doesn’t get the __________ to sing.
a. opportunity
b. chance
c. occasion
d. time
8. The manager has gone out of the office and he will not be __________ till 10 o’clock.
a. come
b. next
c. back
d. there
9. These parcels are very heavy, can you give me a __________?
a. space
b. favorite
c. support
d. hand
10. Linda didn’t write the __________, so she cannot sum up any information to the president.
a. introduction
b. description
c. meeting minutes
d. work review
11. James is __________ of the purchasing department.
a. charge
b. charging
c. in charge
d. charged
12. The government is planning to improve extremely __________ situation.
a. the current
b. a current
c. current
d. currently
13. The social network has made a great impact __________ people’s life.
a. to
b. at
c. on
d. in
14. David __________ the monthly sales when the vice president came into the room.
a. present
b. presents
c. is presenting
d. was presenting
15. Lisa and Jane calculated the profit of company for previous year. __________ need to compare with
the current year’s.
a. They
b. Their
c. She
d. Her
To: S. will (Willsmith@tpsexport.com)
From: T. Agapol (Agapol.t@Biggagroup.com)
Subject: Receivables
Date: August 10th, 2010 09:48 AM
In a recent delivery from TPS Export Thailand, there was a problem; I ordered 100 packs of woolen
fabric on August 5th, but I received 100 packs of cotton fabric and an incorrect invoice.
I have returned all the packs of cotton fabric to your attention. I would like you to check and send me
the right products by August 13th or no later than August 15th. Also, please correct the invoice.
I appreciate your taking care of this for me.
Sincerely yours,
Mr. Agapol Troy
16. What is the purchasing supervisor doing?
a. Writing the cancel letter.
b. Writing the claim letter.
c. Writing the order letter.
d. Writing the reply letter.
17. What happened to him?
a. He paid for an incorrect invoice.
b. He received the incorrect fabric.
c. He ordered the correct product.
d. He didn’t receive the invoice.
18. When did he order the product from TPS Export Thailand?
a. 5th August
b. 10th August
c. 13th August
d. 15th August
19. What did he do after receiving thee products?
a. He returned all the incorrect invoice.
b. He received the correct invoice.
c. He returned all the incorrect products.
d. He ordered the correct products.
20. What does he need TPS to do?
a. Sending the incorrect invoice.
b. Cancelling the correct invoice.
c. Ordering the new products.
d. Sending the right products.
Part 5: Read the following text and select the best answer for each item (Q21-Q25)
People spend their time on using an internet. They use the internet to meet new people, search
some information, and entertain themselves. The internet has a great impact on their life all the time.
Most people think the internet is the way to make them know the world and people better. They think
it has brought them closer together, but some people do not think its consequence is good. They think
people are becoming more isolated. They do not talk, meet, and do any activities in real community.
They spend much time on texting to people, playing games and whatever they need. Their family, and
friends will be being ignored. Finally, these internet users are coming to be isolated.
There are both advantages and disadvantages of using the internet, so people should consider
and separate their time to be with other people and doo some activities together instead of using the
internet. It cannot be closer when they look at only the screen of computer or cell phone. The internet
is used for connecting people together not isolating people from the real community. They should use
the internet with sufficiency and intelligence.
21. Why does the internet have great impact on peopled?
a. They spend lots of time on texting.
b. The internet is important for their career.
c. The internet is a part of entertainment.
d. They put their life on the internet.
22. The pronoun “it” in the line 4 refers to __________.
a. The internet
b. The world
c. The way
d. The impact
23. What did people think about disadvantage of using the internet?
a. They use the internet with sufficiency and intelligence.
b. They will be isolated from the real community.
c. they are coming closer together.
d. they can join some activities in real community.
24. What is the main reason of using the internet?
a. Making new friends from social network.
b. Separating people from real community.
c. Connecting with people.
d. Downloading some information.
25. What does “isolate” mean?
a. Together
b. Join
c. Alone
d. Stick
A : Hello, may I talk to Miss Linda? (สวัสดีครับ ขอสายคุณลินดาครับ)
B : Yes, I’m speaking. Who _____(1.)_____? (กาลังพูดค่ะ ไม่ทราบว่าใครกาลังพูด)
A : I’m Tony from S & C House company. We _____(2.)_____ in the meeting at your office last week.
(ผมชื่อโทนี่จากบริษัท S & C House เราเจอกันในที่ประชุมเมื่ออาทิตย์ก่อนที่ออฟฟิศของคุณครับ)
B : I see. What can I do for you? (อ๋อค่ะ มีอะไรให้ฉันช่วยไหมคะ)
A : I’m planning to _____(3.)_____ a new product next two months. Could you please come to see
me at my office? I would like to talk about more details and I need your company to
_____(4.)_____ this event for me. (ผมกาลังวางแผนที่จะเปิดตัวสินค้าใหม่อีกสองเดือนข้างหน้านี้ คุณช่ วยมา
พบผมที่ออฟฟิศได้ไหมครับ ผมอยากจะขอพูดคุยเกี่ยวกับรายละเอียดเพิ่มเติม และอยากให้บริษัทของคุณเป็นคน
พูดอีเวนต์นี้)
B : Sure, could you please tell me your company’s address? (ได้ค่ะ ฉันขอทราบที่อยู่บริษัทหน่อยได้ไหมคะ)
A : 44/2 S & C building, Avenue Street. When you _____(5.)_____ the company please contact my
assistant at the first floor. He will lead you to a meeting room. (44/2 อาคาร S & C ถนนอเวนิวถ้าคุณ
มาถึงบริษัทแล้ว กรุณาติดต่อผู้ช่วยผมที่ชั้นหนึ่งได้เลยนะครับ เขาจะพาคุณมาที่ห้องประชุม)
B : Ok, I and my team will come to see you tomorrow at 10 o’clock in the morning. See you there.
Thank you for calling me. (ได้ค่ะ ฉันและทีมของฉันจะเข้าไปพบคุณในวันพรุ่งนี้ 10 โมงเช้าเจอกันที่นั่นนะคะ
ขอบคุณที่โทรเข้ามาค่ะ)
A : Ok. See you tomorrow. Bye. (ตกลงครับ เจอกันพรุ่งนี้ครับ)
a. is calling (กาลังโทร)
b. is asking (กาลังถาม)
c. is speaking (กาลังพูด)
d. is telling (กาลังบอก)
คาอธิบาย : ข้อนี้ต้องสังเกตจากคาตอบของคู่สนทนา แล้วจึงพิจารณาตัวเลือกและเลือกให้เหมาะสมกับคาตอบของคู่สนทนา
a. met (เคยพบ)
b. meet (พบ)
c. meets (พบ)
d. meeting (กาลังพบ)
คาอธิบาย : ข้อนี้พิจารณาจากบริบท last week แสดงถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้วจึงเป็นอดีต ดังนั้น Verb จึงต้องใช้ช่องที่ 2
เพื่อแสดงถึงอดีต
เพิ่มเติม : โครงสร้าง Past Simple ประกอบด้วย Subject + V.2 + Object (แสดงถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้วในอดีต)
a. open (เปิด)
b. introduce (แนะนา)
c. start (เริ่มต้น)
d. launch (เปิดตัวสินค้า)
คาอธิบาย : ข้อนี้คาที่หายไปเป็น Verb ประเภท Infinitive with to เมื่อประโยคมี Verb 2 ตัว ซึ่งตังหนึ่งเป็นกริยาช่วย อีกตัว
จะเป็นกริยาแท้ ดังนั้น ต้องใช้ to เพื่อกั้นกลางระหว่าง Verb ทั้งสองตัว และ Verb ที่ตามหลัง to ต้องเป็นช่อง 1 เท่านั้น
นอกจากนั้นผู้สอบควรพิจารณาความหมายที่เหมาะสม คือ คาว่า launch ที่แปลว่า “เปิดตัวสินค้า” เพราะในบริบทเป็ นการ
หารือกันเกี่ยวกับการเปิดตัวสินค้าใหม่ของบริษัท
a. organizes (จัดการ)
b. organize (จัดการ)
c. organized (เคยจัดการ)
d. organizing (กาลังจัดการ)
คาอธิบาย : ข้อนี้สังเกตประโยค I need your company to __________ กริยา (Verb) ที่หายไปต้องเป็นประเภท Infinitive
with to หรือ to + V.1 เท่านั้น เช่น I need you to do this for me.
a. depart from (ออกจาก)
b. arrive at (มาถึง)
c. leave for (เดินทางไป)
d. appear on (ปรากฏตัว)
คาอธิบาย : ข้อนี้เป็นคา Phrasal Preposition หรือ Verb + Preposition จนเกิดความหมายใหม่หรือใกล้เคียงกับความหมาย
เดิม (ตาม English Tips ข้อที่ 7.)
6. You can take my __________ book before taking a real test. (คุ ณ สามารถเอาหนั ง สื อ แบบฝึ ก หั ด ของฉั น ไป
ก่อนที่คุณจะทาข้อสอบจริงได้นะ)
a. exercise (แบบฝึกหัด)
b. manual (คู่มือ)
c. homework (การบ้าน)
d. comic (หนังสือการ์ตูน)
คาอธิบาย : ข้อนี้เกี่ยวกับคาศัพท์ ผู้สอบจึงควรอ่านบริบทเพื่อดูความเป็นไปได้ และเดาคาศัพท์จากบริบทนั้น ๆ ในที่นี้ คือ ผู้ฟัง
กาลังจะมีสอบ จึงควรต้องหัดทาแบบฝึกหัดก่อนทาข้อสอบจริง
7. Dan likes to sing a song, but he doesn’t get the __________ to sing. (แดนเป็ น คนชอบร้ อ งเพลงแต่ เ ขาไม่ มี
โอกาสได้ร้องเพลงเลย)
a. opportunity (โอกาส)
b. chance (โอกาส)
c. occasion (โอกาสพิเศษ)
d. time (เวลา)
คาอธิบาย : ข้อนี้เกี่ยวกับคาศัพท์ ผู้สอบจึงควรอ่านบริบทเพื่อดูความเป็นไปได้ และเดาคาศัพท์จากบริบทนั้น ๆ ในที่นี้พูดถึง
โอกาสที่เป็นไปได้ที่แดนจะได้แสดงความสามารถ
เพิ่มเติม : ความแตกต่างระหว่าง opportunity และ chance แม้จะแปลว่า โอกาส เหมือนกัน แต่การใช้มีความแตกต่างกัน
ดังนี้
- opportunity ใช้เป็นทางการมากกว่า และหมายถึงโอกาสที่ได้รับเป็นสิ่งที่ดี เช่น การงาน การเรียน เป็นต้น
- chance ใช้ในลักษณะที่มีความเป็นไปได้ และเป็นเหตุบังเอิญที่ไม่ได้คาดคิดไว้
8. The manager has gone out of the office and he will not be __________ till 10 o’clock. (ผู้จัดการเพิ่งออกไป
ข้างนอกและเขาจะไม่กลับจนถึงเวลา 10 โมง)
a. come (มา)
b. next (ต่อไป)
c. back (กลับ)
d. there (ที่นั่น)
คาอธิบาย : ข้อนี้เกี่ยวกับคาศัพท์ ผู้สอบจึงควรอ่านบริบทเพื่อดูความเป็นไปได้ และเดาคาศัพท์จากบริบทนั้น ๆ ในที่นี้เห็นชัดว่า
ผู้จัดการจะไม่อยู่ที่ออฟฟิศเป็นเวลานาน และเขาจะไม่กลับเข้ามาจนกว่าจะ 10 โมง
9. These parcels are very heavy, can you give me a __________? (พัสดุพวกนี้หนักมากเลย คุณช่วยฉันหน่อยได้
ไหม)
a. space (พื้นที่)
b. favorite (สิ่งโปรด)
c. support (การสนับสนุน)
d. hand (มือ)
คาอธิบาย : ข้อนี้ออกเกี่ยวกับประโยคขอความช่วยเหลือ ผู้สอบควรพิจารณาจากบริบทและเลือกตัวเลือกที่ถูกต้อง
เพิ่มเติม : สามารถใช้ประโยคอื่นที่ให้ความหมายในเชิงเดียวกันได้อีก เช่น
- Can you help me, please?
10. Linda didn’t write the __________, so she cannot sum up any information to the president. (ลินดาไม่ได้
จดบันทึกการประชุม เธอจึงไม่สามารถสรุปข้อมูลใดให้ประธานได้)
a. introduction (การแนะนา)
b. description (การบรรยาย)
c. meeting minutes (รายงานการประชุม)
d. work review (บทวิจารณ์การทางาน)
คาอธิบาย : ข้อนี้เกี่ยวกับคาศัพท์ ผู้สอบจึงควรอ่านบริบทเพื่อดูความเป็นไปได้ ในที่นี้จะเห็นว่าลินดาไม่มีข้อมูลให้ประธาน
เพราะเธอไม่ได้จดรายงานการประชุมตอนที่ประชุม
11. James is __________ of the purchasing department. (เจมส์รับผิดชอบงานในฝ่ายจัดซื้อ)
a. charge (ชาระเงิน)
b. charging (กาลังชาระเงิน)
c. in charge (รับผิดชอบ, หน้าที่)
d. charged (ชาระเงินแล้ว)
คาอธิบาย : in charge of แปลว่า มีความรับผิดชอบต่อ
เพิ่มเติม : การใช้ in charge of เขียนได้ดังนี้ Subject + V.to be + in charge of + Object
12. The government is planning to improve extremely __________ situation. (รั ฐ บาลก าลั ง วางแผนปรั บ ปรุ ง
สถานการณ์ในปัจจุบันอย่างเต็มที่)
a. the current (ปัจจุบันนี้)
b. a current (ปัจจุบัน)
c. current (ปัจจุบัน)
d. currently (อย่างปัจจุบัน)
คาอธิบาย : ข้อนี้เกี่ยวกับ Article เจาะจงเหตุการณ์ที่กาลังเกิดขึ้น จึงต้องใช้ the (ตาม English Tips ข้อที่ 10.)
13. The social network has made a great impact __________ people’s life. (เครือข่ายสังคมออนไลน์มีผลกระทบ
กับชีวิตของผู้คนเป็นอย่างยิ่ง)
a. to (ถึง)
b. at (ที่)
c. on (บน)
d. in (ใน)
คาอธิบาย : ข้อนี้หากต้องการบอกว่าสิ่งใดมีผลกระทบต่ออะไร ต้องใช้ impact on
14. David __________ the monthly sales when the vice president came into the room. (เดวิ ด ก าลั ง น าเสนอ
ยอดขายประจาเดือนอยู่ ก่อนที่รองประธานจะเข้ามาในห้อง)
a. present (นาเสนอ)
b. presents (นาเสนอ)
c. is presenting (กาลังนาเสนอ)
d. was presenting (กาลังนาเสนอ)
คาอธิบาย : ข้อนี้เกี่ยวกับ Tense รูปแบบ Past Perfect Tense คือ สองเหตุการณ์เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่แตกต่างกัน หรือไม่ห่าง
กันมาก โดยเหตุการณ์ที่ เกิ ดขึ้น ก่อ นจะอยู่ใ นรู ปแบบ Past Perfect Tense ส่วนเหตุการณ์ที่ตามมาจะอยู่ในรู ปของ Past
Simple Tense (ตาม English Tips ข้อที่ 19.)
15. Lisa and Jane calculated the profit of company for previous year. __________ need to compare with
the current year’s. (ลิ ซ่ า และเจนได้ ค านวณก าไรของบริ ษัทเมื่อ ปี ที่แ ล้ว พวกเขาต้ อ งการน ามาเปรี ย บเที ยบกับปี
ปัจจุบัน)
a. They (พวกเขา)
b. Their (ของพวกเขา)
c. She (เธอ)
d. Her (ของเธอ)
คาอธิบาย : ข้อนี้เกี่ยวกับ Pronoun หรือสรรพนาม จากโจทย์จะเห็นได้ว่า ประธาน คือ Lisa และ Jane ดังนั้น เท่ากับว่า
ประธานมีมากกว่า 1 คน จึงต้องใช้ They มาเป็นประธานในประโยคถัดไปที่อ้างอิงถึงประโยคแรก จุดสังเกตอีกข้อ คือ คาว่า
“need” ซึ่งเป็นกริยาตามประธานไม่มีการเติม s
To: S. will (Willsmith@tpsexport.com)
From: T. Agapol (Agapol.t@Biggagroup.com)
Subject: Receivables
Date: August 10th, 2010 09:48 AM
In a recent delivery from TPS Export Thailand, there was a problem; I ordered 100 packs of woolen
fabric on August 5th, but I received 100 packs of cotton fabric and an incorrect invoice.
(ในการขนส่งจากบริษัท TPS Export Thailand ซึ่งพบว่าเกิดปัญหาจากการส่งออกจากบริษัท ผมได้สั่งซื้อผ้า ขนสัตว์
จานวน 100 เพ็ค เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม แต่ของที่ผมได้รับเป็นผ้าฝ้ายจานวน 100 เพ็ค อีกทั้งยังได้รับใบแจ้งหนี้ที่ไม่ถูกต้อง)
I have returned all the packs of cotton fabric to your attention. I would like you to check and send me
the right products by August 13th or no later than August 15th. Also, please correct the invoice.
(ผมจึงนาส่งคืนผ้าฝ้ายทั้งหมดเพื่อให้คุณพิจารณา ทั้งนี้ผมต้องการให้ตรวจสอบและส่งสินค้าที่ถูกต้องมาให้ผมภายในวันที่
13 สิงหาคม หรือไม่เกิน 15 สิงหาคม พร้อมใบเสร็จที่ถูกต้อง)
I appreciate your taking care of this for me. (ผมจะขอบคุณมากที่ช่วยดูแลในเรื่องดังกล่าว)
Sincerely yours,
Mr. Agapol Troy
16. What is the purchasing supervisor doing? (หัวหน้าจัดซื้อกาลังทาอะไร)
a. Writing the cancel letter. (เขียนจดหมายยกเลิกสินค้า)
b. Writing the claim letter. (เขียนจดหมายแจ้งปัญหา)
c. Writing the order letter. (เขียนจดหมายสั่งซื้อสินค้า)
d. Writing the reply letter. (เขียนจดหมายตอบกลับ)
17. What happened to him? (เกิดอะไรขึ้นกับเขา)
a. He paid for an incorrect invoice. (เขาจ่ายเงินผิดเลขที่ใบแจ้งหนี้)
b. He received the incorrect fabric. (เขาได้รับสินค้าไม่ถูกต้อง)
c. He ordered the correct product. (เขาสั่งซื้อสินค้าถูกต้อง)
d. He didn’t receive the invoice. (เขาไม่ได้รับใบแจ้งหนี้)
18. When did he order the product from TPS Export Thailand? (เขาได้สั่งซื้อสินค้าเมื่อใด)
a. 5th August (5 สิงหาคม)
b. 10th August (10 สิงหาคม)
c. 13th August (13 สิงหาคม)
d. 15th August (15 สิงหาคม)
19. What did he do after receiving thee products? (เขาทาอย่างไรหลังจากได้รับสินค้า)
a. He returned all the incorrect invoice. (ส่งคืนใบแจ้งหนี้ที่ผิดพลาดทั้งหมด)
b. He received the correct invoice. (ได้รับใบแจ้งหนี้ที่ถูกต้อง)
c. He returned all the incorrect products. (ส่งคืนสินค้าที่ผิดพลาดทั้งหมด)
d. He ordered the correct products. (สั่งซื้อสินค้าที่ถูกต้อง)
20. What does he need TPS to do? (เขาต้องการให้บริษัท TPS ทาอย่างไร)
a. Sending the incorrect invoice. (ส่งใบแจ้งหนี้ที่ใหม่ถูกต้อง)
b. Cancelling the correct invoice. (ยกเลิกใบแจ้งหนี้ที่ถูกต้อง)
c. Ordering the new products. (สั่งซื้อสินค้าใหม่)
d. Sending the right products. (ส่งสินค้าที่ถูกต้อง)
Part 5: Read the following text and select the best answer for each item (Q21-Q25)
People spend their time on using an internet. They use the internet to meet new people, search
some information, and entertain themselves. The internet has a great impact on their life all the time.
Most people think the internet is the way to make them know the world and people better. They think
it has brought them closer together, but some people do not think its consequence is good. They think
people are becoming more isolated. They do not talk, meet, and do any activities in real community.
They spend much time on texting to people, playing games and whatever they need. Their family, and
friends will be being ignored. Finally, these internet users are coming to be isolated.
(ผู้คนมักใช้เวลาไปกับการใช้อินเทอร์เน็ต พวกเขาใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อพบกับเพื่อนใหม่ ด้นหาข้อมูล และเพื่อความบันเทิง
ของตัวเอง อินเทอร์เน็ตจึงมีผลกระทบกับชีวิตของพวกเขาตลอดเวลา คนส่วนใหญ่คิดว่าอินเทอร์เน็ต คือ เส้นทางที่ทาให้เขาได้
รู้จักโลกและผู้คนได้ดีขึ้น พวกเขาคิดว่าอินเทอร์เน็ตนั้นจะทาให้พวกเขาใกล้กันมากขึ้น แต่ผู้คนบางส่วนไม่คิดว่าผลจากการใช้
อินเทอร์เน็ตนั้นเป็นเรื่องที่ดี พวกเขาคิดว่านั่นจะทาให้ผู้คนเกิดการแยกตัวออกมาจากสังคม พวกเขาจะไม่พูด ไม่ออกมาพบเจอ
ท ากิจกรรมร่วมกัน พวกเขาจะใช้เวลาส่ วนใหญ่ ไปกับการส่งข้อความหากัน หรือทาอะไรก็ตามที่พ วกเขกาต้องการ ทาให้
ครอบครัวและเพื่อนจะถูกเมินเฉย และสุดท้ายผู้คนเหล่านี้ก็จะแยกตัวออกจากสังคม)
There are both advantages and disadvantages of using the internet, so people should consider
and separate their time to be with other people and doo some activities together instead of using the
internet. It cannot be closer when they look at only the screen of computer or cell phone. The internet
is used for connecting people together not isolating people from the real community. They should use
the internet with sufficiency and intelligence.
(การใช้งานอินเทอร์เน็ตนั้นมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ดังนั้น พวกเขาจึงควรพิจารณาและแบ่งเวลาที่จะอยู่กับผู้อื่น และทา
กิจกรรมร่วมกันมากกว่าการใช้เวลาไปกับการเล่นอินเทอร์เน็ต มันไม่สามารถทาให้พวกเขาได้ใกล้ชิดกันมากขึ้นได้ หากพวกเขา
มัวแต่ดูที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ หรือบนจอมือถือ อินเทอร์เน็ตนั้นควรจะทาให้ผู้คนได้ติดต่อกันมากกว่าการทาให้ผู้คนแยกออก
จากสังคมที่แท้จริง พวกเขาจึงควรใช้อินเทอร์เน็ตอย่างพอดีและมีสติ)
21. Why does the internet have great impact on peopled? (ทาไมอินเทอร์เน็ตถึงมีผลกระทบต่อผู้คน)
a. They spend lots of time on texting. (พวกเขาใช้เวลาไปกับการส่งข้อความ)
b. The internet is important for their career. (อินเทอร์เน็ตสาคัญต่ออาชีพการงาน)
c. The internet is a part of entertainment. (อินเทอร์เน็ตเป็นส่วนหนึ่งของสิ่งบันเทิง)
d. They put their life on the internet. (พวกเขาเอาชีวิตของตัวเองผูกติดกับอินเทอร์เน็ต)
22. The pronoun “it” in the line 4 refers to __________. (สรรพนาม “it” ในบรรทัดที่ 4 อ้างอิงถึง)
a. The internet (อินเทอร์เน็ต)
b. The world (โลก)
c. The way (เส้นทาง)
d. The impact (ผลกระทบ)
23. What did people think about disadvantage of using the internet? (ผู้ ค นคิ ด อย่ า งไรกั บ ข้ อ เสี ย ของการใช้
อินเทอร์เน็ต)
a. They use the internet with sufficiency and intelligence. (พวกเขาใช้อินเทอร์เน็ตพอดีและมีสติ)
b. They will be isolated from the real community. (พวกเขาถูกแยกออกจากสังคม)
c. they are coming closer together. (พวกเขาเข้าใกล้กันมาขึ้น)
d. they can join some activities in real community. (พวกเขาสามารถร่วมกิจกรรมกันในสังคมได้)
24. What is the main reason of using the internet? (เหตุหลักในการใช้อินเทอร์เน็ตคืออะไร)
a. Making new friends from social network. (หาเพื่อนใหม่ในสังคมออนไลน์)
b. Separating people from real community. (แยกตัวออกจากสังคมแท้จริง)
c. Connecting with people. (ติดต่อกับคนอื่น ๆ)
d. Downloading some information. (ดาวน์โหลดข้อมูล)
25. What does “isolate” mean? (คาว่า “isolate” หมายถึงอะไร)
a. Together (ด้วยกัน)
b. Join (เข้าร่วม)
c. Alone (โดดเดี่ยว)
d. Stick (ติดอยู่)
A : Excuse me, I’m looking for a place to visit, but I don’t have any ideas. Would you mind suggesting
me?
B : Of course, there are many _____(1.)_____ places. What kinds of place would you like to go?
A : I liked to go to the place where is full of nature or culture. I don’t like an adventure.
B : No problem. I would like to _____(2.)_____ Samed Island. It’s a beach with white sand and full of
nature. It’s not far from Bangkok. It spends about 2 hours to go there.
A : That’s great. It’s not too long _____(3.)_____. How can I get there?
B : You can buy a ticket here. It’s cost 150 Baht for one way, then you take a VIP bus in front of the
hotel. When you arrive at the port, the blue ferry will be waiting there for you.
A : How about _____(4.)_____? I would like to stay there for 2 days.
B : I will call Sabai Hotel and make a room _____(5.)_____ for a night. The hotel is in front of the is
land. You can see it easily.
A : Ok. Thank you very much.
B : With my pleasure.
a. frightening
b. bored
c. interesting
d. disgusted
a. criticize
b. recommend
c. introduce
d. advise
a. distance
b. range
c. path
d. section
a. compensation
b. declaration
c. attraction
d. accommodation
a. reservation
b. exhibition
c. vacation
d. destination
6. The human resource manager would like to __________ the capital of each department.
a. reduce
b. resist
c. recover
d. review
7. The customer is explaining a problem to thee manager. We don’t want to __________ them right now.
a. continue
b. interrupt
c. separate
d. anticipate
8. A marketing planer who __________ a lot of marketing strategies is very knowledgeable.
a. knows
b. learns
c. makes
d. checks
9. Mr. Well is going on a __________ trip. He is meeting with our biggest partner for a new product in Paris.
a. working
b. holiday
c. business
d. vacation
10. In the modern business world, a unique product can __________ consumers to buy easily.
a. assigning
b. admitted
c. assumption
d. attract
11. If I __________ you, I would participate in the saving green world forum competition. It would be a
great experience.
a. was
b. were
c. am
d. be
12. According to annual sales, the president expects __________ expand the domestic product in Europe
and South America.
a. in
b. of
c. to
d. for
13. The headquarters building __________ so all of the staff members have to temporarily work at another
building.
a. repairs
b. is repairing
c. was repairing
d. is being repaired
14. Many students were enthusiastic __________ the school announced there would be an open house
event this month.
a. when
b. where
c. what
d. whom
15. Lucy has the knowledge of integrated marketing communication __________ than research marketing.
a. the best
b. better
c. as good as
d. more better
MEMORANDUM
Date: June 29th, 2009
To: Mr. Smith Wills, Project Engineer
From: Mr. Peter Troy, Researcher
Subject: The effects of building a new bridge.
According to our Easy Go Project, the new bridge will be built near the river and village. I am really
concerned about the effects of construction. I am afraid that the river and people in the village will get the
great effects from it. I am trying to find a solution to solve the problem, so I discussed with the president
and vice president yesterday. They agreed to move the structure of the bridge to another area.
From my thorough research of ecology, I found that an area where is located in the north of the city is
suitable for this project. I will send the result to you by email as soon as possible. Please study the result to
find out the plan of building the new bridge. I believe that you will understand the situation and will let me
know the plan of this project soon.
Peter Troy
16. Who is writing the memo?
a. The engineer
b. The researcher
c. The president
d. The vice president
17. What is the researcher concerned about?
a. The effects of building the bridge.
b. The effects of people in the village.
c. The effects of the river near the building bridge.
d. The effects of the river and people near the building bridge.
18. What did the committee need to do?
a. Do the research of ecology.
b. Cancel the Easy Go Project.
c. Move the bridge to the north of the city.
d. Discuss with another company.
19. What is the engineer going to do?
a. Try to find the new area in the north of the city.
b. Plan to move the bridge into the village.
c. Send the result to the committee.
d. Study the result and let the researcher know the plan.
20. The pronoun “it” in the 3rd line refers to __________.
a. The effect of building
b. The result of research
c. The new area
d. The river and Village
Most parent always concern about their children’s life skills. They try to encourage children to
get an experience from doing outside activity. They believe that experience helps children develop their
skills better than let them sit in the square room, surf an internet, and read a book. Children, therefore,
are encouraged by their parent to do the outside activity, and get the new experience they need. For
example, they work a for a part time job, climb the mountain, play extreme sports, etc. Children will
know how to communicate with other people and how to solve the problem by themselves. They will
be brave to decide by their own. Those things are the expected things that parents need to get from
their children.
However, some parents disagree with this method. They believe that children should spend their time
on getting more knowledge from learning in the library. It’s better than getting the experience from real
situation. They are afraid of doing outside activity may waste the children’s time. They will get only
enjoyment, so the parents encourage children to study hard and give them the textbook which is
full of knowledge as a reward. Anyway, these different methods cannot prove a real consequence. It
depends on children to choose their own method and design a right thing by themselves.
21. Why do the parents encourage their children to do the outside activity?
a. Get a new experience
b. Improve the skills
c. Get a part time job
d. Play the extreme sports
22. What do children get from doing outside activity?
a. To learn how to face the problem and communicate with people.
b. To learn how to spend their time on the new experience.
c. To learn how to connect with peopled and avoid the problem.
d. To learn how to design their own activity.
23. The pronoun “them” in the line 3 refers to __________.
a. People
b. Parents
c. Children
d. Things
24. Why do some parents disagree to encourage their children to do the outside activity?
a. The children will waste their space.
b. The children will not get the reward.
c. The children will know their own learning method.
d. The children will learn nothing
25. What should the children do?
a. Communicate with other people.
b. Enjoy learning in the library.
c. Choose their own learning style.
d. Do their own activity.
A : Excuse me, I’m looking for a place to visit, but I don’t have any ideas. Would you mind suggesting
me? (ขอโทษค่ะ ฉันกาลังมองหาที่เที่ยวอยู่ แต่ไม่รู้เลยว่าจะไปที่ไหนดี คุณสามารถแนะนาหน่อยได้ไหมคะ)
B : Of course, there are many _____(1.)_____ places. What kinds of place would you like to go? ( ไ ด้
ค่ะ มีที่น่าสนใจหลายที่ ไม่ทราบว่าคุณชอบที่เที่ยวแบบไหนคะ)
A : I liked to go to the place where is full of nature or culture. I don’t like an adventure. (ฉันชอบเที่ยว
ตามธรรมชาติ หรือแบบวัฒนธรรมค่ะ ฉันไม่ชอบแนวผจญภัย)
B : No problem. I would like to _____(2.)_____ Samed Island. It’s a beach with white sand and full of
nature. It’s not far from Bangkok. It spends about 2 hours to go there. (ไม่ มี ปั ญ หาค่ ะ ฉั น ขอแนะน า
เป็นเกาะเสม็ด ซึ่งเป็นหาดที่มีทราบสีขาวและเต็มไปด้วยธรรมชาติ อยู่ไม่ห่างจากกรุงเทพฯ ใช้เวาเดินทางประมาณ
2 ชั่วโมง)
A : That’s great. It’s not too long _____(3.)_____. How can I get there? (เยี่ยมเลยค่ะ ระยะทางก็ไม่ไกลมาก
แล้วฉันจะไปที่นั่นได้อย่างไรคะ)
B : You can buy a ticket here. It’s cost 150 Baht for one way, then you take a VIP bus in front of the
hotel. When you arrive at the port, the blue ferry will be waiting there for you. (คุ ณ สามารถซื้ อ ตั๋ ว
ที่นี่ได้เลยค่ะ ราคา 150 บาทต่อเที่ยว จากนั้นคุณขึ้นรถบัส VIP ได้ที่หน้าโรงแรมนี้ เมื่อคุณไปถึงท่าเรือ จะมีเรือข้าม
ฟากสีฟ้าจอดรอคุณอยู่ที่นั่น)
A : How about _____(4.)_____? I would like to stay there for 2 days. (แล้วเรื่องที่พักล่ะคะ ฉันอยากจะพักที่
นั่นสัก 2 วัน)
B : I will call Sabai Hotel and make a room _____(5.)_____ for a night. The hotel is in front of the is
land. You can see it easily. (ฉันจะโทรไปจองห้องให้คุณสาหรับ 1 คืนที่โรงแรมสบาย โรงแรมนี้จะอยู่ตรงหน้า
เกาะ คุณจะเห็นมันได้ง่ายมาก)
A : Ok. Thank you very much. (ได้ค่ะ ขอบคุณมากค่ะ)
B : With my pleasure. (ด้วยความยินดีค่ะ)
a. frightening (น่ากลัว)
b. bored (น่าเบื่อ)
c. interesting (น่าสนใจ)
d. disgusted (น่าขยะแขยง)
คาอธิบาย : ข้อนี้คาตอบเป็นคาศัพท์ประเภท Adjective หรือคาคุณศัพท์บรรยายความรู้สึก
เพิ่ มเติม : คา Adjective เมื่อใช้เพื่อสื่อแสดงความรู้สึกต่อสิ่งที่ทาให้เกิดความรู้สึก จะต้องเติม ing หลังคาคุณศัพท์ (ตาม
a. criticize (วิจารณ์)
b. recommend (แนะนา)
c. introduce (แนะนา)
d. advise (ชี้แนะ)
คาอธิบาย : คาศัพท์เกี่ยวกับการให้คาแนะนา จากตัวเลือกจะเห็นได้ว่าหากแปลเป็นภาษาไทยแล้วจะมีความเป็นไปได้อยู่ 2 ข้อ
แต่หากรู้หลักการใช้แล้ว จะสามารถเลือกข้อที่ถูกต้องได้ โดยหลักการใช้มีดังนี้
- Recommend ใช้เพื่อแนะนาในสิ่งเห็นแล้วว่าดี เหมาะสม ยืนยันในความคิดเห็นนี้
- Introduce ใช้เพื่อแนะนาบุคคล แนะนาเป็นครั้งแรก เช่น แนะนาตัวเอง แนะนาเพื่อน เป็นต้น
- Suggest ใช้เพื่อแนะนาเพื่อเสนอความคิดเห็น และพิจารณาว่าจะเอาไปใช้หรือไม่
- Advise ใช้เพื่อชี้แนะ ให้คาปรึกษา เช่น ด้านการงาน ด้านการเรียน ด้านสุขภาพ เป็นต้น
a. distance (ระยะทาง)
b. range (ขอบเขต)
c. path (เส้นทาง)
d. section (กลุ่ม, หมวด)
คาอธิบาย : คาศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับระยะทาง จึงต้องดูบริบท ทายคาศัพท์ และเลือกคาตอบที่เหมาะสม
4. Please use conversation above. (กรุณาใช้บนสนทนาด้านบน)
a. compensation (การชดเชย)
b. declaration (การยืนยัน)
c. attraction (ความดึงดูด)
d. accommodation (สถานที่พัก)
คาอธิบาย : คาศัพท์ที่เกี่ยวข้องที่พักอาศัย จึงต้องดูบริบท ทายคาศัพท์ และเลือกคาตอบที่เหมาะสม
5. Please use conversation above. (กรุณาใช้บนสนทนาด้านบน)
a. reservation (การจอง)
b. exhibition (งานแสดง)
c. vacation (วันหยุดยาว)
d. destination (จุดหมายปลายทาง)
คาอธิบาย : คาศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับการจองที่พัก จึงต้องดูบริบท ทายคาศัพท์ และเลือกคาที่เหมาะสม
เพิ่มเติม : reservation เป็นคานาม ซึ่งแปลว่า การจอง แต่หากจะใช้ reserve ที่เป็นคากริยา ซึ่งแปลว่า จองก็ได้ แต่การใช้จะ
แตกต่างกันดังนี้
- I have a room reservation for 2 nights.
- I reserve a room for 2 nights. หรือจะใช้คาว่า book แทน reserve ก็ได้เช่นเดียวกัน โดยให้ความหมายเดียวกัน เช่น
I book a room for 2 nights.
6. The human resource manager would like to __________ the capital of each department. (ผู้ จั ด การฝ่ า ย
ทรัพยากรบุคคลต้องการลดต้นทุนของแต่ละแผนก)
a. reduce (ลดลง)
b. resist (ต่อต้าน)
c. recover (ฟื้นตัว)
d. review (ทบทวน)
คาอธิบาย : คาตอบเป็น Verb เนื่องจากตามหลัง would like to ซึ่งเป็น Verb ช่วย จึงต้องการ Verb แท้ที่เป็น V.1 จาก
ตัวเลือกเป็น Verb ทั้งหมด ผู้สอบต้องหายคาศัพท์และเลือกตอบให้ถูกต้อง
7. The customer is explaining a problem to thee manager. We don’t want to __________ them right now.
(ลูกค้ากาลังอธิบายถึงปัญหาให้ผู้จัดการทราบ เราจึงไม่อยากเข้าไปขัดจังหวะพวกเขาในตอนนี้)
a. continue (ดาเนินต่อ)
b. interrupt (ขัดขวาง)
c. separate (แยกออก)
d. anticipate (คาดหวัง)
คาอธิบาย : คาตอบเป็น Verb เนื่องจากตามหลัง want to ซึ่งเป็น Verb ช่วย จึงต้องการ Verb แท้ที่เป็นช่อง 1. จากตัวเลือก
เป็น Verb ทั้งหมด ผู้สอบต้องทายคาศัพท์และเลือกตอบให้ถูกต้อง
8. A marketing planer who __________ a lot of marketing strategies is very knowledgeable. ( นั ก ว า ง แ ผ น
การตลาดที่รู้เรื่องเกี่ยวกับกลยุทธ์ทางการตลาดมาก ๆ นั้น จะเป็นคนที่รอบรู้)
a. knows (รู้)
b. learns (เรียน)
c. makes (ทา)
d. checks (ตรวจสอบ)
ค าอธิ บ าย : ค าตอบเป็ น Verb เนื่ อ งจาก who เป็ น Adjective Clause การใช้ who เพื่ อ เชื่ อ มประโยค โดยมี โ ครงสร้ า ง
Subject + Who + Object สาหรับ Verb ที่ใช้ต้องดู Subject ว่าเป็นเอกพจน์หรือพหูพจน์และจึงใช้ตามประธานนั้น ๆ
9. Mr. Well is going on a __________ trip. He is meeting with our biggest partner for a new product in Paris.
(คุณเวลกาลังจะเดินทางเพื่อทาธุรกิจ เขาจะเข้าพบกับหุ้นส่วนที่ใหญ่ที่สุดเราเพื่อสินค้าใหม่ในปารีส)
a. working (การทางาน)
b. holiday (วันหยุด)
c. business (ธุรกิจ)
d. vacation (วันหยุดยาว)
คาอธิบาย : คาตอบเป็น Noun ซึ่งคานามที่หายไปจะทาหน้าที่เป็นเสมือนคา Adjective คือ ขยาย Noun อีกทีนั่นก็คือ trip
จากตัวเลือกที่ใช้จะเป็น Noun ทั้งหมด ผู้อ่านจึงต้องพิจารณาบริบท และเลือกคาตอบที่เหมาะสม
10. In the modern business world, a unique product can __________ consumers to buy easily. (ในโลกของ
ธุรกิจที่ทันสมัยนั้น สินค้าที่มีเอกลักษณ์จะสามารถดึงดูดผู้บริโภคเพื่อซื้อสินค้าได้อย่างง่ายดาย)
a. assigning (กาหนด)
b. admitted (ยอมรับ)
c. assumption (การสมมติ)
d. attract (ดึงดูด)
ค าอธิ บาย : ข้อนี้ให้สังเกตว่า Verb ที่ตามหลัง can จากจะต้องเป็น V.1 เท่านั้น ตัวเลือกจึงมีเพียงข้อ d. ที่ถูกต้อง (ตาม
11. If I __________ you, I would participate in the saving green world forum competition. It would be a
great experience. (ถ้าฉันเป็นคุณ ฉันจะเข้าร่วมการแข่งขันแสดงความคิดเห็นเรื่องรักษ์โลก มันจะเป็นประสบการณ์ที่ดี
มากเลย)
a. was (เป็น)
b. were (เป็น)
c. am (เป็น)
d. be (เป็น)
คาอธิบาย : กฎ If Clause หากใช้ I ในกรณีที่แสดงถึงความเป็นไปไม่ได้ (เงื่อนไขที่ 2) ต้องใช้ were ทุกครั้งไม่ใช้ was ตาม
ประธานเหมือนประโยคปกติ (ตาม English Tips ข้อที่ 17.)
12. According to annual sales, the president expects __________ expand the domestic product in Europe
and South America. (สืบเนื่องจากยอดขายประจาปี ประธานคาดหวังว่าจะขยายสินค้าภายในประเทศไปยังยุโรปและ
อเมริกาใต้)
a. in (ใน)
b. of (ของ)
c. to (ที่)
d. for (สาหรับ)
คาอธิบาย : จากประโยคจะเห็นว่า expects คือ Verb ในประโยคอยู่แล้ว ซึ่งเป็น Verb แท้ แต่หากต้องการใช้ Verb อีกตัวเพื่อ
มาขยายประโยคเพิ่มเติม ซึ่งทาหน้าที่เหมือนเป็นกรรม จะต้องใช้ Verb ประเภท Infinitive with to คือ to + V.1
13. The headquarters building __________ so all of the staff members have to temporarily work at another
building. (อาคารสานักงานใหญ่กาลังถูกซ่อมแซมอยู่ ดังนั้น พนักงานทั้งหมดจะต้องไปทางานที่อาคารอื่นชั่วคราว)
a. repairs (ซ่อมแซม)
b. is repairing (กาลังซ่อมแซม)
c. was repairing (กาลังซ่อมแซม)
d. is being repaired (กาลังถูกซ่อมแซม)
คาอธิบาย : ข้อนี้ประโยคเป็น Passive Voice เพราะอาคารไม่สามารถซ่อมแซมตัวเองได้ จะต้องถูกซ่อมแซมจากคนเท่านั้น
นอกจากนี้อาคารกาลังถูกซ่อมแซมอยู่ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ต่อเนื่อง จึงต้องใช้โครงสร้างประโยค Subject + V.to be + V.3 (ตาม
14. Many students were enthusiastic __________ the school announced there would be an open house
event this month. (นักเรียนหลายคนกระตือรือร้นมาก เมื่อทางโรงเรียนประกาศว่าจะมีการจัดงานเปิดบ้านในเดือนนี้)
a. when (เมื่อไร)
b. where (ที่ไหน)
c. what (อะไร)
d. whom (ของใคร)
คาอธิบาย : ประโยค Adverb Clause เพื่อขยายประโยคแรก เป็นการขยายเพื่อบอกเหตุผล
เพิ่มเติม : การใช้ Adverb Clause จะใช้เพื่อขยายประโยคแรกเสมอ โดยประเภทของการใช้จะแยกได้หลายรูปแบบ เช่น ใช้เพื่อ
บอกเหตุผล เวลา สถานที่ ลักษณะ การเปรียบเทียบ เป็นต้น การใช้จึงจะขึ้นอยู่กับประโยคนั้น ๆ
15. Lucy has the knowledge of integrated marketing communication __________ than research marketing.
(ลูซี่มีความรู้ทางด้านการสื่อสารการตลาดเชิงบูรณาการมากกว่าการวิจัยตลาด)
a. the best (ดีที่สุด)
b. better (ดีกว่า)
c. as good as (ดีเท่า ๆ กับ)
d. more better (ดีกว่า)
คาอธิบาย : การเปรียบเทียบ หรือ Comparison of Adjective อยู่ในขั้นกว่า จากประโยคจะสังเกตได้จากคาว่า than ดังนั้น
ต้องเลือกคา Adjective ที่อยู่ในขั้นกว่าระดับที่ 2 ของ good คือ better ส่วน more better นั้นผิด หากใช้ better แล้วต้องไม่
เติม more เพราะเป็น Adjective ที่เปลี่ยนรูปตามลาดับขั้น (ตาม English Tips ข้อที่ 10.)
เพิ่มเติม : Adjective หรือคาคุณศัพท์ที่เปลี่ยนรูปตามลาดับขั้นมีมากมายหลายคา ผู้สอบจึงควรท่องจา ตัวอย่างเช่น
ความหมาย ขั้นที่ 1 ขั้นที่ 2 ขั้นที่ 3
ดี Good Better Best
แย่ Bad Worse Worst
น้อย Little Less Least
มาก Much/Many More Most
MEMORANDUM
Date: June 29th, 2009
To: Mr. Smith Wills, Project Engineer
From: Mr. Peter Troy, Researcher
Subject: The effects of building a new bridge.
According to our Easy Go Project, the new bridge will be built near the river and village. I am really
concerned about the effects of construction. I am afraid that the river and people in the village will get the
great effects from it. I am trying to find a solution to solve the problem, so I discussed with the president
and vice president yesterday. They agreed to move the structure of the bridge to another area.
(สืบเนื่องจากโครงการ Easy Go ของบริษัทนั้น สะพานเชือ่ มแห่งใหม่จะถูกสร้างใกล้กับแม่น้าและหมู่บ้าน ซึ่งผมรู้สึกกังวล
เกี่ยวกับผลกระทบในการก่อสร้างครั้งนี้เป้นอย่างมาก ผมเกรงว่าแม่น้าและผู้คนในหมู่บ้านจะได้รับผลกระทบมหาศาลจากมัน
ผมพยายามหาแนวทางเพื่อแก้ไขปัญหานี้ ดังนั้น ผมจึงได้หารือกับประธานและรองประธานเมื่อวานนี้ และพวกเขาเห็นด้วยที่จะ
ย้ายโครงสร้างของสะพานไปยังพื้นที่อื่น)
From my thorough research of ecology, I found that an area where is located in the north of the city is
suitable for this project. I will send the result to you by email as soon as possible. Please study the result to
find out the plan of building the new bridge. I believe that you will understand the situation and will let me
know the plan of this project soon.
(จากการทาวิจัยระบบนิเวศโดยละเอียดของผม ผมพบว่า ยังมีพื้นที่ทางทิศเหนือของเมืองเหมาะที่จะทาโครงการนี้ ผมจะ
ส่งผลการวิจัยให้คุณทางอีเมลโดยเร็วที่สุด ผมขอให้คุณศึกษาผลการวิจัยนี้และหาแนวทางในการก่อสร้างสะพานเชื่อมใหม่นี้ด้วย
ผมเชื่อว่าคุณจะเข้าใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและกรุณาแจ้งให้ผมทราบเกี่ยวกับแนวทางของโครงการนี้โดยเร็ว)
Peter Troy
16. Who is writing the memo? (ใครเป็นผู้เขียนจดหมายนี้)
a. The engineer (วิศวกร)
b. The researcher (นักวิจัย)
c. The president (ประธาน)
d. The vice president (รองประธาน)
17. What is the researcher concerned about? (นักวิจัยกังวลเกี่ยวกับเรื่องใด)
a. The effects of building the bridge. (ผลกระทบของการสร้างสะพาน)
b. The effects of people in the village. (ผลกระทบของคนในหมู่บ้าน)
c. The effects of the river near the building bridge. (ผลกระทบของแม่น้าที่อยู่ใกล้กับสะพานที่กาลังสร้าง)
d. The effects of the river and people near the building bridge. (ผมกระทบของแม่น้าและผู้คนที่อยู่ใกล้กับ
สะพานที่กาลังสร้าง)
18. What did the committee need to do? (คณะกรรมการต้องการทาอย่างไร)
a. Do the research of ecology. (ทาการวิจัยระบบนิเวศ)
b. Cancel the Easy Go Project. (ยกเลิกโครงการ Easy Go)
c. Move the bridge to the north of the city. (ย้ายไปทางทิศเหนือของเมือง)
d. Discuss with another company. (หารือกับบริษัทอื่น)
19. What is the engineer going to do? (วิศวกรต้องจะต้องทาสิ่งใด)
a. Try to find the new area in the north of the city. (หาพื้นที่ใหม่ทางทิศเหนือของเมือง)
b. Plan to move the bridge into the village. (วางแผนเพื่อย้ายสะพานเข้าในหมู่บ้าน)
c. Send the result to the committee. (ส่งผลการวิจัยไปให้คณะกรรมการ)
d. Study the result and let the researcher know the plan. (ศึ ก ษาผลการวิ จั ย และแจ้ ง ให้ นั ก วิ จั ย ทราบ
แนวทาง)
20. The pronoun “it” in the 3rd line refers to __________. (สรรพนาม “it” บรรทัดที่ 3 หมายถึง)
a. The effect of building (ผลกระทบของการก่อสร้าง)
b. The result of research (ผลการวิจัย)
c. The new area (พื้นที่ใหม่)
d. The river and Village (แม่น้าและหมู่บ้าน)
Most parent always concern about their children’s life skills. They try to encourage children to
get an experience from doing outside activity. They believe that experience helps children develop their
skills better than let them sit in the square room, surf an internet, and read a book. Children, therefore,
are encouraged by their parent to do the outside activity, and get the new experience they need. For
example, they work a for a part time job, climb the mountain, play extreme sports, etc. Children will
know how to communicate with other people and how to solve the problem by themselves. They will
be brave to decide by their own. Those things are the expected things that parents need to get from
their children.
(ผู้ปกครองส่วนใหญ่มักกังวลเกี่ยวกับทักษะการใช้ชีวิตของลูก ๆ ของพวกเขา พวกเขาจึงพยายามส่งเสริมให้ลูก ๆ ได้มี
ประสบการณ์จากการทากิจกรรมนอกบ้าน พวกเขาเชื่อว่าประสบการณ์เหล่านั้นจะช่วยพัฒนาทักษะของเด็ก ๆ ให้ดีขึ้น มากกว่า
ปล่อยให้เด็ก ๆ นั่งอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมท่องโลกอยู่แต่ในอินเทอร์เน็ตและอ่านแต่หนังสือ ดังนั้น เด็ก ๆ จึงถูกส่งเสริมให้ทากิจกรรม
นอกบ้านเพื่อรับประสบการณ์ใหม่ ๆ อย่างที่ต้องการ เช่น ทางานพาร์ตไทม์ ปีนเขา เล่นกีฬาที่ท้าทาย เป็นต้น เด็ก ๆ จะได้
เรียนรู้เพื่อสื่อสารกับผู้อื่น และแก้ปัญหาด้วยตัวเอง ซึ่งจะทาให้พวกเขากล้าตัดสินใจด้วยตัวเอง นั่นคือสิ่งที่ผู้ปกครองหวังจะเห็น
จากลูกของพวกเขา)
However, some parents disagree with this method. They believe that children should spend their time
on getting more knowledge from learning in the library. It’s better than getting the experience from real
situation. They are afraid of doing outside activity may waste the children’s time. They will get only
enjoyment, so the parents encourage children to study hard and give them the textbook which is
full of knowledge as a reward. Anyway, these different methods cannot prove a real consequence. It
depends on children to choose their own method and design a right thing by themselves.
(อย่างไรก็ดี ผู้ปกครองบางส่วนไม่ได้เห็นด้วยกับวิธีการนี้นัก พวกเขาเชื่อว่าเด็กควรจะใช้เวลาในการค้นหาความรู้ใน
ห้องสมุดมากกว่าที่จะใช้เวลาในการหาประสบการณ์จากสถานการณ์จริง พวกเขาเกรงว่าการทากิจกรรมนอกบ้านนั้นจะทาให้
เด็ก ๆ เสียเวลา พวกเขาจะได้รับแค่ความสนุกสนานเพียงเท่านั้น ดังนั้น พวกเขาจึงส่งเสริมให้เด็ก ๆ ตั้งใจเรียนและให้รางวัลเป็น
หนังสือเรียนที่เต็มไปด้วยความรู้ อย่างไรก็ตามวิธีการที่แตกต่างกันเหล่านี้ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าผลลัพธ์ที่แท้จริงจะเป็นอย่างไร
ทุกสิ่งขึ้นอยู่กับเด็ก ๆ ที่เลือกที่จะใช้วิธีการและออกแบบวิธีการเหล่านั้นให้ถูกต้องด้วยตัวของพวกเขาเอง)
21. Why do the parents encourage their children to do the outside activity? (ทาไมผู้ปกครองจึงส่งเสริมให้ลูก ๆ
ของพวกเขาทากิจกรรมนอกบ้าน)
a. Get a new experience (เพื่อได้รับประสบการณ์ใหม่)
b. Improve the skills (เพื่อพัฒนาทักษะต่าง ๆ)
c. Get a part time job (เพื่อทางานพาร์ตไทม)
d. Play the extreme sports (เพื่อเล่นกีฬาที่ท้าทาย)
คาตอบ : ข้อ b
22. What do children get from doing outside activity? (เด็ก ๆ จะได้รับอะไรจากทากิจกรรมนอกบ้าน)
a. To learn how to face the problem and communicate with people. (เพื่อเรียนรู้ในการเผชิญปัญหาลื่อ
สารกับผู้อื่น)
b. To learn how to spend their time on the new experience. (เพื่อเรียนรู้ที่จะใช้เวลาไปกับประการณ์ใหม่
ๆ)
c. To learn how to connect with peopled and avoid the problem. (เพื่อเรียนรู้ที่จะเชื่อมต่อกับผู้คนและ
หลีกเลี่ยงปัญหา)
d. To learn how to design their own activity. (เพื่อเรียนรู้การออกแบบกิจกรรมของตัวเอง)
23. The pronoun “them” in the line 3 refers to __________. (สรรพนาม “them” ในบรรทัดที่ 3 อ้างอิงถึง)
a. People (ประชาชน)
b. Parents (ผู้ปกครอง)
c. Children (เด็ก ๆ)
d. Things (สิ่งของ)
24. Why do some parents disagree to encourage their children to do the outside activity? (ท าไมผู้ ป กครอง
บางคนจึงไม่เห็นด้วยที่จะส่งเสริมให้ลูก ๆ ของพวกเขาทากิจกรรมนอกบ้าน)
a. The children will waste their space. (เด็กจะเสียระยะห่างของพวกเขา)
b. The children will not get the reward. (เด็กจะไม่ได้รับรางวัล)
c. The children will know their own learning method. (เด็กจะรู้วิธีการเรียนรู้ของพวกเขาเอง)
d. The children will learn nothing (เด็กจะไม่ได้เรียนรู้อะไรเลย)
25. What should the children do? (เด็ก ๆ ควรทาอย่างไรบ้าง)
a. Communicate with other people. (สื่อสารกับผู้อื่น)
b. Enjoy learning in the library. (สนุกไปกับการเรียนในห้องสมุด)
c. Choose their own learning style. (เลือกแบบการเรียนรู้ของตัวเอง)
d. Do their own activity. (ทากิจกรรมของตัวเอง)
A : Good morning Jen. Have you seen Paul?
B : No, I haven’t seen him. I have reached the office. _____(1.)____?
A : Paul and I are going to attend the meeting this morning. We will present the _____(2.)_____ to
the manager, but my laptop is not working now.
B : That’s terrible. If you _____(3.)_____, you can use mine. I will use it in the afternoon.
A : Oh, thank you very much. Anyway, do you know where I can get my laptop repaired?
B : _____(4.)_____ computer shop is behind this building, but the cost is quite expensive. If you don’t
hurry, I recommend the shop in the town. It’s cheaper and better than here.
A : how long does it take?
B : It _____(5.)_____ the queue, but I suppose it may spend a few days.
A : it’s fine. I will go to the town when I finish the meeting. Thanks.
B : That’s alright.
a. Where are you going?
b. What’s happening?
c. Who are you looking for?
d. When do you get out?
a. personal detail
b. application from
c. important document
d. annual report
a. don’t have
b. don’t know
c. don’t mind
d. don’t use
a. The nearest
b. The most near
c. The near
d. The nearer
a. depends on
b. concentrates on
c. decides on
d. plans on
6. In recent years the profit has been decreased from 25% to 15%. We need to focus on the new
__________.
a. opportunity
b. benefits
c. advantage
d. strategies
7. I bought dozens of the eggs for cooking last month. How do I know when they will __________?
a. destroy
b. appear
c. expire
d. gather
8. Somchai will be an __________ for mid-tern exam. Could you please prepare the exam sheets for him?
a. inspector
b. professor
c. scientist
d. athlete
9. A candidate has completely filled in the application from. When will you make an __________ for the
interview?
a. occupation
b. appointment
c. emigration
d. instrument
10. We will move to the new office next week, so we should __________ all the necessary things within
this week.
a. split
b. compile
c. devise
d. leave
11. Television and radio channels are the most effective advertising of __________ our new branch.
a. promote
b. promoting
c. promotes
d. promoted
12. The president needs to invest more __________ Machine to Machine business this year.
a. in
b. on
c. with
d. at
13. The traffic was __________ heavy in the morning. I wasted my time for two hours on the road.
a. obviously
b. frequently
c. consequently
d. terribly
14. Dan __________ in Paris for five years. He acquaints with spending his life there.
a. is worked
b. has worked
c. are working
d. had worked
15. The skyscraper __________ my brother worked is the most beautiful company in the town.
a. which
b. whose
c. where
d. when
Mega Rooms & Service
31/21, Bangna Road
Bangkok 10100
February 15th, 2016
Mr. Edward Smith
BIGGA Technology Company
26, Prapadang, Samutprakarn 10130
Dear Mr. Smith,
I would like to thank you for your interest in Mega Rooms & Service. This letter will confirm the
arrangement for your company’s training.
We understand that your company would like to reserve our one room and facilities for the training on
March 11th. Twenty people will attend this training, so you will need one medium room with thirteen round
tables, twelve square tables, and twenty-two chairs with horseshoe style in the room.
As you requested, we will provide two microphones and four speakers. Please tell us whether you want
a computer or a laptop in the room.
I appreciate having this opportunity to take care of your training. If you have any questions, do not
hesitate to let me know.
Sincerely yours,
Mr. Agapol Troy
Sale Executive
16. What is the main purpose of this letter?
a. To inform the date of training.
b. To reserve the room and facilities.
c. To confirm the arrangement.
d. To provide the tables and chairs.
17. How many trainees will participate in the training?
a. Twenty trainees
b. Twenty-two trainees
c. Twelve trainees
d. Thirteen trainees
18. What style of the chairs did Mr. Smith request?
a. Square style
b. Horseshoe style
c. Theater style
d. Circle style
19. What will not provide for the training?
a. Two microphones and four speakers?
b. One medium room and facilities.
c. One computer and one laptop.
d. Twenty-to chairs, thirteen round tables, and twelve square tables.
20. What does “provide” mean?
a. To perform
b. To pack
c. To prove
d. To prepare
The fact that nowadays social network is a part of tools for running business. Most of successful
businesses come from social network which is working as a tool of public relations and marketing
channels. The product will be rapidly known, distributed, and promoted to consumer. Reviewing the
product from celebrity or lucky draw on social network helps increase followers easily. Those followers
will be interested in the product and looking for it from thee shop by themselves. It is called “pull
strategy” which is a part of marketing strategies and keys of success. It convinces the consumer by
advertising the product with various activities on social network.
The social network is just a bridge for followers to become customers. When the social network
is compared with other marketing tools; the result found that it can reach all customer target groups
as well as television channel. There are rapid, clear, and measurable responses which are called
two-way communication; therefore, the businessman can see this opportunity of growing the business
and choose this channel to be the first tool.
21. The most suitable title for his passage is __________.
a. The tool of marking channels and strategies.
b. An effective channel of running business.
c. The success of business on social network.
d. The communication of social network channel.
22. What is the significant function of social network for business?
a. To be the tools of public relations and marketing channels.
b. To choose the effective product and convince the consumer.
c. To be the main tool of marketing strategies and keys of success.
d. To increase the target group by convincing the merchant.
23. Why does the social network become the effective tool?
a. It is two-way communication.
b. It increase followers rapidly and easily.
c. It is the bridge for followers to buy the product.
d. it is better than other marketing tools.
24. The pronoun “it” in the 5th line refers to __________.
a. Shop
b. Followers
c. Social network
d. Product
a. Negative
b. Positive
c. Critical
d. Suggestive
A : Good morning Jen. Have you seen Paul? (สวัสดีเจน คุณเห็นพอลบ้างไหม)
B : No, I haven’t seen him. I have reached the office. _____(1.)____? (ไม่ค่ะ ไม่เห็นเลย ฉันเพิ่งมาถึงออฟฟิศ
เกิดอะไรขึ้นหรือ)
A : Paul and I are going to attend the meeting this morning. We will present the _____(2.)_____ to
the manager, but my laptop is not working now. (พอลกับผมต้องเข้าประชุมเช้านี้ เรามีนาเสนอรายงาน
ประจาปีให้ผู้จัดการ แต่แล็ปทอปผมใช้งานไม่ได้)
B : That’s terrible. If you _____(3.)_____, you can use mine. I will use it in the afternoon. (นั่นมันแย่มาก
เลย ถ้าคุณไม่รังเกียจ ใช้ของฉันก่อนก็ได้ค่ะ ฉันจะใช้งานแค่ตอนช่วงบ่าย)
A : Oh, thank you very much. Anyway, do you know where I can get my laptop repaired? (โอ้ ขอบคุณ
มาก ๆ ครับ ว่าแต่คุณพอจะรู้ไหมว่า ผมจะนาแล็ปทอปไปซ่อมที่ไหนได้บ้าง)
B : _____(4.)_____ computer shop is behind this building, but the cost is quite expensive. If you don’t
hurry, I recommend the shop in the town. It’s cheaper and better than here. (ร้านคอมพิวเตอร์ที่ใกล้
ที่สุดอยู่ด้านหลังตึกนี้ค่ะ แต่ค่าใช้จ่ายค่อนข้างแพง ถ้าคุณไม่รีบมาก ฉันแนะนาร้านในเมืองราคาจะถูกและดีกว่าที่นี้
ค่ะ)
A : how long does it take? (มันใช้เวลาซ่อมนานไหมครับ)
B : It _____(5.)_____ the queue, but I suppose it may spend a few days. (ขึ้นอยู่กับคิวลูกค้าค่ะ แต่ฉันคิด
ว่าน่าจะใช้เวลาประมาณ 2-3 วัน)
A : it’s fine. I will go to the town when I finish the meeting. Thanks. (ได้ ค รั บ ผมจะเข้ า ในเมื อ งเมื่ อ ผม
ประชุมเสร็จ ขอบคุณครับ)
B : That’s alright. (ไม่เป็นไรค่ะ)
a. Where are you going? (คุณกาลังจะไปไหน)
b. What’s happening? (เกิดอะไรขึ้น)
c. Who are you looking for? (คุณกาลังมองหาใคร)
d. When do you get out? (คุณจะออกไปเมื่อไร)
คาอธิบาย : เป็นประโยคถามถึงเหตุการณ์ที่กาลังเกิดขึ้น ผู้สอบต้องสังเกตจากการตอบของคู่สนทนา
เพิ่มเติม : สามารถใช้ประโยคอื่นที่ให้ความหมาย “เกิดอะไรขึ้น” ได้อีก เช่น
- What’s wrong?
- What’s going on?
- What happened?
a. personal detail (รายละเอียดส่วนตัว)
b. application from (ใบสมัคร)
c. important document (เอกสารสาคัญ)
d. annual report (รายงานประจาปี)
คาอธิบาย : ข้อนี้ออกคาศัพท์ควรรู้ในทางธุรกิจ ต้องอาศัยการท่องจาและเลือกใช้ให้ตรงตามบริบท
a. don’t have (ไม่มี)
b. don’t know (ไม่รู้จัก)
c. don’t mind (ไม่รังเกียจ)
d. don’t use (ไม่ใช้)
คาอธิบาย : เป็นคาประกอบในประโยคที่มีความหมายในเชิง “เกรงใจ” หรือ “ไม่รังเกียจที่จะกระทาในบางสิ่ง” เช่น
- If you don’t mind, you can go with me. (หากคุณไม่รังเกียจ คุณไปกับฉันได้นะ)
- Would you mind talking to me? (คุณรังเกียจที่จะคุยกับผมไหม)
- No, I don’t mind. (ไม่ค่ะ ฉันไม่รังเกียจ)
a. The nearest (ใกล้ที่สุด)
b. The most near (ใกล้กว่า)
c. The near (ใกล้)
d. The nearer (ใกล้กว่า)
คาอธิบาย : Comparison of Adjective เป็นการเปรียบเทียบสิ่งหนึ่งกับสิ่งหนึ่งหรือหลาย ๆ สิ่ง การใช้ the most near และ
the nearer นั้นไม่นิยมใช้และเป็นการใช้ที่ผิด เนื่องจาก near เป็นคาศัพท์คาเดียวจึงใช้วิธีการเติม –er แทน ดังนั้น หากจะใช้
คาว่าใกล้กว่าจึงต้องใช้ nearer than ไม่ใช้ The most near หรือ The nearer (ตาม English Tips ข้อที่ 10.)
a. depends on (ขึ้นอยู่กับ)
b. concentrates on (เพ่งสมาธิกับ)
c. decides on (ตัดสินใจเรื่อง)
d. plans on (วางแผนในเรื่อง)
คาอธิบาย : คาบุพบทเฉพาะ (กริยา + คาบุพบท) ผู้สอบต้องอาศัยการท่องจาและนาไปใช้ให้ตรงตามบริบท
6. In recent years the profit has been decreased from 25% to 15%. We need to focus on the new
__________. (ในปีที่ผ่านมากาไรได้ลดลงจากเดิม 25% ลงไปที่ 15% พวกเราจะต้องมุ่งเน้นไปที่กลยุทธ์ใหม่)
b. benefits (ผมประโยชน์)
c. advantage (ความได้เปรียบ)
d. strategies (กลยุทธ์)
คาอธิบาย : ข้อนี้เกีย่ วกับ Noun สังเกตว่าหน้าคาที่หายไปเป็น Adjective ดังนั้น คาที่ตามมาควรเป็นคานามจากตัวเลือกผู้สอบ
ควรรู้และท่องจาเพื่อนาไปใช้ให้ตรงกับบริบท
7. I bought dozens of the eggs for cooking last month. How do I know when they will __________? (เดือน
ที่แล้วฉันซื้อไข่มาทาอาหารหลายโหล ฉันจะรู้ได้อย่างไรว่าไข่หมดอายุเมื่อไร)
a. destroy (ทาลาย)
b. appear (ปรากฏ)
c. expire (หมดอายุ)
d. gather (รวบรวม)
คาอธิบาย : ข้อนี้เกี่ยวกับ Verb เพราะ will เป็นกริยาช่วย ดังนั้น ต้องมีกริยาแท้ตามหลัง จากตัวเลือก คือ กริยาแท้ทั้งหมด
ดังนั้น ผู้อ่านควรรู้ความหมาย ท่องจา และนาไปใช้ให้ตรงกับบริบท (ตาม English Tip ข้อที่ 3.)
8. Somchai will be an __________ for mid-tern exam. Could you please prepare the exam sheets for him?
(สมชายจะเป็นผู้คุมสอบในช่วงสอบกลางภาคเรียน คุณช่วยเตรียมข้อสอบให้เขาหน่อยได้ไหม)
a. inspector (ผู้คุมสอบ)
b. professor (อาจารย์มหาวิทยาลัย)
c. scientist (นักวิทยาศาสตร์)
d. athlete (นักกีฬา)
คาอธิบาย : ข้อนี้เกี่ยวกับ Vocabulary สังเกตว่า หน้าคาที่หายไปเป็น an ดังนั้น คาที่ตามมาต้องเป็นศัพท์ที่ขึ้นต้นด้วย a, e, i,
o, u ดังนั้น ผู้อ่านควรท่องจาคาศัพท์และนาไปใช้ให้ตรงกับบริบท (ตาม English Tips ข้อที่ 16.)
9. A candidate has completely filled in the application from. When will you make an __________ for the
interview? (ผู้สมัครกรอกใบสมัครเสร็จแล้ว คุณจะนัดหมายให้เข้ามาสัมภาษณ์เมื่อไรคะ)
a. occupation (อาชีพ)
b. appointment (นัดหมาย)
c. emigration (การย้ายถิ่นฐาน)
d. instrument (เครื่องดนตรี)
คาอธิบาย : ข้อนี้เกี่ยวกับ Vocabulary สังเกตว่าหน้าคาที่หายไปเป็น an ดังนั้น คาที่ตามมาต้องเป็นศัพท์ที่ขึ้นต้นด้วย a, e, i,
o, u ดังนั้น ผู้อ่านควรท่องจาคาศัพท์และนาไปใช้ให้ตรงกับบริบท (ตาม English Tip ข้อที่ 16.)
10. We will move to the new office next week, so we should __________ all the necessary things within
this week. (เราจะย้ายไปออฟฟิศใหม่สัปดาห์หน้าแล้ว ดังนั้น เราควรจะรวบรวมสิ่งของที่จาเป็นทั้งหมดภายในสัปดาห์นี้)
a. split (แบ่งแยก)
b. compile (รวบรวม)
c. devise (คิดวางแผน)
d. leave (ปล่อยทิ้งไว้)
คาอธิบาย : ข้อนีเ้ กี่ยวกับ Verb เพราะ should เป็นกริยาช่วย ดังนั้น ต้องมีกริยาแท้ตามหลัง จากตัวเลือก คือ กริยาแท้ทั้งหมด
ดังนั้น ผู้อ่านควรรู้ความหมาย ท่องจา และนาไปใช้ให้ตรงกับบริบท (ตาม English Tips ข้อที่ 5.)
11. Television and radio channels are the most effective advertising of __________ our new branch. (ช่องทาง
สื่อสารทางโทรทัศน์และวิทยุ เป็นการโฆษณาที่ได้ผลมากที่สุดในการโปรโมทสาขาใหม่ของเรา)
a. promote (โปรโมท)
b. promoting (กาลังโปรโมท)
c. promotes (โปรโมท)
d. promoted (ถูกโปรโมท, เคยโปรโมท)
คาอธิบาย : ข้อนี้สังเกตว่า of คือ Preposition ดังนั้น คาที่ตามมาต้องเป็นคานามหรือ Gerund เท่านั้น (ตาม English Tips ข้อ
ที่ 6.)
12. The president needs to invest more __________ Machine to Machine business this year. (ประธานต้องการ
เพิ่มการลงทุนในธุรกิจประเภทอุปกรณ์สื่อสารกับอุปกรณ์ด้วยกันเองในปีนี้)
a. in (ใน)
b. on (บน)
c. with (กับ)
d. at (ที่)
คาอธิบาย : การใช้ invest เพื่อแสดงถึงการลงทุนต้องใช้คู่กับ in เท่านั้น
13. The traffic was __________ heavy in the morning. I wasted my time for two hours on the road. (การจราจร
เมื่อเช้าติดขัดสุด ๆ เลย ผมเสียเวลาบนท้องถนนตั้งสองชั่วโมง)
a. obviously (อย่างชัดเจน)
b. frequently (บ่อย ๆ)
c. consequently (เพราะฉะนั้น)
d. terribly (อย่างสุดขีด)
คาอธิบาย : ตาแหน่งที่หายไป คือ Adverb สังเกตว่า Verb หลัก คือ was ส่วน heavy คือ Adjective และตัวเลือกทั้งหมดเป็น
Adverb ผู้อ่านจึงต้องท่องจาความหมายของคาเหล่านั้นและนาไปใช้ให้ตรงกับบริบท
14. Dan __________ in Paris for five years. He acquaints with spending his life there. (แดนทางานอยู่ที่ปารีสมา
ห้าปีแล้ว เขาปรับตัวกับการใช้ชีวิตของเขาที่นั่นได้แล้ว)
a. is worked (ถูกทางาน)
b. has worked (ทางาน)
c. are working (กาลังทางาน)
d. had worked (เคยทางานมาแล้ว)
คาอธิบาย : ประโยครูปแบบ Present Perfect Tense แสดงถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและจบไปแล้ว แต่ผลการกระทายังคงอยู่ มี
โครงสร้างประโยคดังนี้ Subject + have, has + V.3 + Object (ตาม English Tips ข้อที่ 1.)
15. The skyscraper __________ my brother worked is the most beautiful company in the town. (ตึ ก ระฟ้ า ที่
ซึ่งพี่ชายของฉันทางานอยู่เป็นบริษัทที่สวยที่สุดในเมืองนี้)
a. which (อัน, ชิ้น)
b. whose (ของใคร)
c. where (ที่ไหน)
d. when (เมื่อไร)
คาอธิบาย : ข้อนี้เกี่ยวกับ Adjective Clause ซึ่ง skyscraper เป็นสถานที่จึงต้องใช้ where เพื่อเชื่อมประโยค (ตาม English
Tips ข้อที่ 9.)
Mega Rooms & Service
31/21, Bangna Road
Bangkok 10100
February 15th, 2016
Mr. Edward Smith
BIGGA Technology Company
26, Prapadang, Samutprakarn 10130
Dear Mr. Smith,
I would like to thank you for your interest in Mega Rooms & Service. This letter will confirm the
arrangement for your company’s training.
(ผมขอขอบพระคุณในความสนใจของท่านต่อ Mega Rooms & Service จดหมาดฉบับนี้ส่งมาเพื่อยืนยันการจัดเตรียม
งานอบรมสาหรับบริษัทของท่าน)
We understand that your company would like to reserve our one room and facilities for the training on
March 11th. Twenty people will attend this training, so you will need one medium room with thirteen round
tables, twelve square tables, and twenty-two chairs with horseshoe style in the room.
(เราเข้าใจว่าบริษัทของท่านต้องการจองห้องและสิ่งอานวยความสะดวก เพื่อใช้สาหรับการอบรมในวันที่ 11 มีนาคมนี้
ผู้เข้าร่วมอบรมครั้งนี้มีจานวน 20 ท่าน ท่านจึงต้องการห้องขนาดกลางหนึ่งห้องพร้อมโต๊ะกลม 13 ตัว โต๊ะสี่เหลี่ยมจัตุรัส 12 ตัว
และเก้าอี้ 22 ตัว จัดวางในรูปแบบเกือบม้า)
As you requested, we will provide two microphones and four speakers. Please tell us whether you want
a computer or a laptop in the room.
(ตามที่ท่านได้แจ้งความประสงค์ไ ว้ เราจะจัดเตรียมไมโครโฟน 2 ตัวและลาโพง 4 ตัว หากคุณต้องการคอมพิวเตอร์หรือ
โน้ตบุ๊คสามารถแจ้งให้เราทราบได้)
I appreciate having this opportunity to take care of your training. If you have any questions, do not
hesitate to let me know.
(ผมรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งสาหรับโอกาสที่ได้ดูแลงานอบรมของท่านในครั้งนี้ หากท่านมีคาถามใดเพิ่มเติมโปรดอย่าลังเลที่
จะแจ้งให้ผมทราบ)
Sincerely yours,
Mr. Agapol Troy
Sale Executive
16. What is the main purpose of this letter? (จุดประสงค์หลักของจดหมายฉบับนี้คืออะไร)
a. To inform the date of training. (เพื่อแจ้งวันที่อบรม)
b. To reserve the room and facilities. (เพื่อจองห้องและสิ่งอานวยความสะดวก)
c. To confirm the arrangement. (เพื่อยืนยันการจัดเตรียมงาน)
d. To provide the tables and chairs. (เพื่อจัดเตรียมโต๊ะและเก้าอี้)
17. How many trainees will participate in the training? (จะมีผู้เข้ารับการอบรมในครั้งนี้จานวนเท่าใด)
a. Twenty trainees (20 ท่าน)
b. Twenty-two trainees (22 ท่าน)
c. Twelve trainees (12 ท่าน)
d. Thirteen trainees (13 ท่าน)
18. What style of the chairs did Mr. Smith request? (คุณสมิธต้องการวางเก้าอี้รูปแบบใด)
a. Square style (รูปแบบสี่เหลี่ยมจัตุรัส)
b. Horseshoe style (รูปแบบเกือกม้า)
c. Theater style (รูปแบบโรงหนัง)
d. Circle style (รูปแบบวงกลม)
19. What will not provide for the training? (การอบรมนี้จะไม่มีอะไรจัดเตรียมไว้ให้)
a. Two microphones and four speakers? (ไมโครโฟน 2 ตัวและลาโพง 4 ตัว)
b. One medium room and facilities. (ห้องขนาดกลางหนึ่งห้องและสิ่งอานวยความสะดวก)
c. One computer and one laptop. (คอมพิวเตอร์หนึ่งเครื่องและโน้ตบุ๊คหนึ่งเครื่อง)
d. Twenty-to chairs, thirteen round tables, and twelve square tables. (เก้าอี้ 22 ตัว โต๊ะกรม 13 ตัว และ
โต๊ะสี่เหลี่ยมจัตุรัส 12 ตัว)
20. What does “provide” mean? (คาว่า “provide” หมายถึงอะไร)
a. To perform (ทางาน หรือแสดง)
b. To pack (บรรจุหีบห่อ)
c. To prove (พิสูจน์)
d. To prepare (จัดเตรียม)
The fact that nowadays social network is a part of tools for running business. Most of successful
businesses come from social network which is working as a tool of public relations and marketing
channels. The product will be rapidly known, distributed, and promoted to consumer. Reviewing the
product from celebrity or lucky draw on social network helps increase followers easily. Those followers
will be interested in the product and looking for it from thee shop by themselves. It is called “pull
strategy” which is a part of marketing strategies and keys of success. It convinces the consumer by
advertising the product with various activities on social network.
(ความเป็นจริงในปัจจุบันนั้น เครือข่ายสังคมออนไลน์เป็นส่วนหนึ่งของเครื่องมือที่ใช้ในการดาเนินธุรกิจ ธุ รกิจที่ประสบ
ความสาเร็จ ส่วนใหญ่มาจากการใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์ ให้เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือในการใช้เพื่อประชาสัมพันธ์ และเพิ่มช่อง
ทางการทาตลาด สินค้าจะเป็นที่รู้จัก อีกทั้งจะถูกกระจาย และส่งเสริมการขายด้วยกิจกรรมต่าง ๆ ที่ไปสู่ผู้บริโภคอย่างรวดเร็ว
การใช้บุคคลที่มีชื่อเสียงวิจารณ์สินค้า หรือลุ้นรางวัลต่าง ๆ นั้น จะทาให้เพิ่มผู้ติดตามได้อย่างง่ายดาย ผู้ติดตามเหล่านั้นจะเกิด
ความสนใจในตัวสินค้า และจะเดินไปหาสินค้าที่ร้านค้าด้วยตัวเอง สิ่งนี้จึงเรียกว่า กลยุทธ์แบบดึง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์
ทางการตลาดและเป็นกุญแจของความสาเร็จ เพื่อโน้มน้าวผู้บริโภคโดยการโฆษณาสินค้าผ่านกิจกรรมที่หลากหลายบนเครือข่าย
สังคมออนไลน์)
The social network is just a bridge for followers to become customers. When the social network
is compared with other marketing tools; the result found that it can reach all customer target groups
as well as television channel. There are rapid, clear, and measurable responses which are called
two-way communication; therefore, the businessman can see this opportunity of growing the business
and choose this channel to be the first tool.
(เครื อ ข่ า ยสั ง คมออนไลน์ เ ป็ น เพี ย งตั ว กลางเพื่ อ ให้ ผู้ ติ ด ตามกลายมาเป็ น ลู ก ค้ า เมื่ อ น าเครื อ ข่ า ยสั ง คมออนไลน์ ม า
เปรียบเทียบกับเครื่องมือการทาตลาดแบบอื่น ๆ ผลลัพธ์ที่พบ คือ เครือข่ายสังคมออนไลน์นั้น สามารถเขาถึงลูกค้าได้ทุก
กลุ่มเป้าหมายพอ ๆ กับช่องทางทางโทรศัพท์ ซึ่งมีผลตอบกลับที่รวดเร็ว ชัดเจนและวัดได้ ที่เรียกว่า การติดต่อแบบสองทาง
ดังนั้น นักธุรกิจจึงมองเห็นโอกาสในการเติบโตของธุรกิจ และเลือกที่จะใช้ช่องทางนี้เป็นเครื่องมือลาดับแรก)
21. The most suitable title for his passage is __________. (หัวข้อที่เหมาะสมที่สุดของบทความนี้คือ)
a. The tool of marking channels and strategies. (เครื่องมือช่องทางและกลยุทธ์ทางการตลาด)
b. An effective channel of running business. (ช่องทางที่มีประสิทธิภาพในการดาเนินธุรกิจ)
c. The success of business on social network. (ความสาเร็จของธุรกิจบนเครือข่ายสังคมออนไลน์)
d. The communication of social network channel. (การติดต่อสื่อสารของช่องทางเครือข่ายสังคมออนไลน์)
22. What is the significant function of social network for business? (บทบาทที่สาคัญของเครือข่ายสังคมออนไลน์
สาหรับธุรกิจคืออะไร)
a. To be the tools of public relations and marketing channels. (เพื่ อ เป็ น เครื่ อ งมื อ ในการประชาสั ม พั น ธ์
และช่องทางการทาตลาด)
b. To choose the effective product and convince the consumer. (เพื่อเลือกสินค้าที่มีประสิทธิภาพและโน้ม
น้าวผู้บริโภค)
c. To be the main tool of marketing strategies and keys of success. (เพื่ อ เป็ น เครื่ อ งมื อ หลั ก ของกลยุ ท ธ์
ทางการตลาดและกุญแจแห่งความสาเร็จ)
d. To increase the target group by convincing the merchant. (เพื่อเพิ่มกลุ่มเป้าหมายด้วยการโน้นน้าวผู้จัด
จาหน่าย)
23. Why does the social network become the effective tool? (เพราะเหตุใดเครือข่ายสังคมออนไลน์จึงกลายมาเป็น
เครื่องมือที่มีประสิทธิภาพ)
a. It is two-way communication. (เป็นการติดต่อสื่อสารแบบสองทาง)
b. It increase followers rapidly and easily. (เพิ่มผู้ติดตามได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว)
c. It is the bridge for followers to buy the product. (เป็นตัวเชื่อมสาหรับผู้ติดตามเพื่อซื้อสินค้า)
d. it is better than other marketing tools. (ได้ผลดีกว่าเครื่องมือการตลาดแบบอื่น ๆ)
24. The pronoun “it” in the 5th line refers to __________. (สรรพนาม “it” ในบรรทัดที่ 5 อ้างอิงถึง)
a. Shop (ร้านค้า)
b. Followers (ผู้ติดตาม)
c. Social network (เครือข่ายสังคมออนไลน์)
d. Product (สินค้า)
25. The tone of passage is __________. (บทความมีลักษณะเป็น)
c. Critical (เชิงวิจารณ์)
A : Excuse me. Could you tell me where the bus stop is?
B : Of course, you _____(1.)_____ on that white building and turn left at the corner. Then cross over
the road at _____(2.)_____. The bus stop is on your right side.
A : Do you know how much the fare is?
B : It depends on your _____(3.)_____. Where are you going?
A : I’m going to national museum.
B : The fare is about 10-15 Baht.
A : How long does it take? I have an appointment with my friend. I’m _____(4.)_____ of being late.
B : It spends 20-30 minutes from the bus station. If the traffic is heavy, it will spend almost one hour.
I _____(5)_____ going by underground. It’s faster than the bus. The underground station is next to
the bus stop.
A : That’s a great idea. Thank you very much.
B : You’re welcome.
a. go away
b. go straight
c. go forward
d. go through
a. the interruption
b. the intermediary
c. the interview
d. the intersection
a. direction
b. target
c. destination
d. objective
a. annoyed
b. bored
c. terrible
d. afraid
a. recommend
b. suggest
c. advise
d. introduce
6. According to the current economy, the president will reduce the __________ of business management
in the middle of this year.
a. budget
b. interest
c. capital
d. money
7. Dan and Ken are going to open a garage and a coffee shop in a new __________ in the south of the
city.
a. space
b. area
c. blank
d. park
8. The system of higher education which is governed by __________ of education has been changed to
the new curriculum.
a. Agency
b. Section
c. Division
d. Ministry
9. The tax assessment is expected to be __________ by this cabinet even though it will extremely affect
export and import business.
a. repeated
b. reacted
c. reformed
d. released
10. People who experience in studying __________ will get a job easier than inexperienced people.
a. foreign
b. abroad
c. international
d. domestic
11. The manager needs everybody to attend this meeting because he __________ discuss about an
important issue.
a. is
b. does
c. has
d. will
12. If we finish the financial report before 5 o’clock, we __________ Marry at the hospital.
a. visit
b. would visit
c. would have visited
d. will visit
13. That handsome man __________ we met at the restaurant yesterday is the new vice president.
a. who
b. who is
c. whom
d. whose
14. Neither Dan __________ Paul can explain why the room for VIP customer was cancelled.
a. nor
b. and
c. or
d. with
15. The supervisor was __________ at Ken’s performance in the event. He changed his mind to promote
him as an assistant supervisor.
a. disappointing
b. disappointed
c. interesting
d. interested
KTT Material Co., Ltd.
88/41, Sukhumvit 14
June 30th, 2016
BCC Chemical Co., Lid.
Dear Mr. Oman,
I would like to inform that your account balance of 240,000 Baht of March invoice was overdue. As I
informed you last time, all the accounts are due within 30 days. I still have not received or heard from you
regarding the payment. The invoice is attached for your reference.
I would like to apologize that I cannot consider extending your credit for the next purchase. This is your
second reminder. Please remit the payment as soon as possible.
I hope to continue our valuable relationship with BCC Chemical.
Best regards,
Sarah Lloyd
Senior Accountant
a. Receive the payment
b. Extend the credit
c. Inform the account balance
d. Ask for the payment
17. When is the due date of March invoice?
a. 31th March
b. 30th April
c. 31st May
d. 30th June
18. Why cannot the company extend the credit for BCC Chemical?
a. The payment was overdue more than 30 day.
b. BCC Chemical did not contact KTT Material.
c. KTT Material received the payment within 30 day.
d. It is the second reminder of payment.
19. When should BCC Chemical make a payment?
a. As soon as possible.
b. Within next week.
c. No longer than this month.
d. Before the next purchase.
20. What does “consider” mean?
a. Making an appointment
b. Making a choice
c. Making a decision
d. Making a wish
An animal foundation was informed from people nearby. They found a little kitten in the river.
He was trying to survive in that situation, so people rescued the little kitten and sent him to the animal
foundation immediately. The little was two months old. He was weak and hungry. A member
of staff of the animal foundation had been healing him for a week. He was recovering. The animal
foundation was finding a permanent home for him. The little kitten was named “Hope”
After a few days, Hope was adopted by Lisa and her family. Lisa saw an announcement for
finding home on the website. She was interested in adoption. She went to another town where Hope
is living. It is almost one hundred kilometers far from her town. Hope is living with Lisa and her family
in the north of the town. He is now three years old and becoming a big cat.
21. Where was the little kitten found by people?
a. On the tree
b. In the river
c. On the street
d. In the jungle
22. Where was the temporary shelter?
a. The animal foundation
b. Lisa’s home
c. The permanent home
d. The another town
23. How old is Hope now?
a. A few days
b. A week
c. 2 months
d. 3 years
24. Where did Lisa find the announcement?
a. In the newspaper
b. On the street
c. On the television
d. On the website
25. What does “kitten” mean?
a. Baby cat
b. Baby dog
c. Baby kangaroo
d. Baby rabbit
A : Excuse me. Could you tell me where the bus stop is? (ขอโทษครับ คุณช่วยบอกผมหน่อยได้ไหมว่าป้าย
รถโดยสารไปทางไหน)
B : Of course, you _____(1.)_____ on that white building and turn left at the corner. Then cross over
the road at _____(2.)_____. The bus stop is on your right side. (ได้ค่ะ คุณเดินตรงไปที่ตึกสีขาวตรงนั้น
และเลี้ยวซ้ายตรงหัวมุม จากนั้นข้ามถนนตรงสี่แยก ป้ายรถโดยสารจะอยู่ด้านขวาของคุณค่ะ)
A : Do you know how much the fare is? (พอจะทราบไหมครับว่าค่าโดยสารเท่าไร)
B : It depends on your _____(3.)_____. Where are you going? (ขึ้นอยู่กับปลายทางที่คุณไปค่ะ คุณจะไปไหน
หรือคะ)
A : I’m going to national museum. (ผมกาลังจะไปพิพิธภัณฑ์แห่งชาติครับ)
B : The fare is about 10-15 Baht. (ค่าโดยสารประมาณ 10-15 บาทค่ะ)
A : How long does it take? I have an appointment with my friend. I’m _____(4.)_____ of being late.
(มันใช้เวลานานไหมครับ ผมมีนัดกับเพื่อน เกรงว่าอาจสายได้)
B : It spends 20-30 minutes from the bus station. If the traffic is heavy, it will spend almost one hour.
I _____(5)_____ going by underground. It’s faster than the bus. The underground station is next to
the bus stop. (ใช้เวลาประมาณ 20-30 นาทีจากป้ายรถโดยสาร ถ้ารถติดหน่อยก็จะใช้เวลาเกือบหนึ่งชั่วโมง ฉัน
แนะนาให้คุณไปด้วยรถไฟใต้ดินดีกว่า เร็วกว่ารถโดยสาร ส่วนสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินอยู่ข้าง ๆ กับป้ายรถโดยสารเลย
ค่ะ)
A : That’s a great idea. Thank you very much. (เป็นความคิดที่ดีมากเลย ขอบคุณมากครับ)
B : You’re welcome. (ยินดีค่ะ)
a. go away (เดินไปให้ห่าง)
b. go straight (เดินตรงไป)
c. go forward (เดินไปข้างหน้าอีก)
d. go through (เดินผ่านไปยัง)
คาอธิบาย : ข้อนี้เป็นคาศัพท์เกี่ยวกับการบอกทิศทางซึ่งเป็นคาศัพท์ที่ควรรู้
a. the interruption (การขัดจังหวะ)
b. the intermediary (คนกลาง)
c. the interview (การสัมภาษณ์งาน)
d. the intersection (สี่แยก)
คาอธิบาย : ข้อนี้เป็นคาศัพท์เกี่ยวกับการบอกทิศทางซึ่งเป็นคาศัพท์ที่ควรรู้
a. direction (ทิศทาง)
b. target (เป้าหมาย)
c. destination (จุดหมายปลายทาง)
d. objective (วัตถุประสงค์)
คาอธิบาย : ข้อนี้เป็นคาศัพท์เกี่ยวกับการเดินทางซึ่งเป็นคาศัพท์ที่ควรรู้
a. annoyed (ราคาญ)
b. bored (น่าเบื่อ)
c. terrible (แย่มาก)
d. afraid (เกรง, กลัว)
คาอธิบาย : ข้อนี้เกี่ยวกับคาคุณศัพท์ (Adjective) สังเกตได้จากคาก่อนหน้านั้นเป็น Verb to be และตัวเลือกที่ให้ทั้งหมดนั้น
เป็นคาคุณศัพท์ ดังนั้น ผู้สอบต้องทายความหมายและเลือกตอบให้ตรงกับบริบทของเนื้อหา
เพิ่มเติม : คาคุณศัพท์ที่ต้องใช้คู่กับ of ได้แก่ bored of, afraid of, ashamed of, envious of, frightened of, jealous of,
kind of, tired of เป็นต้น
a. recommend (แนะนา)
b. suggest (แนะนา)
c. advise (ชี้แนะ)
d. introduce (แนะนาตัว)
คาอธิบาย : ข้อนี้คาตอบจะเป็นคาศัพท์เกี่ยวกับการให้คาแนะนา จากตัวเลือกจะเห็นได้ว่าหากแปลกเป็นภาษาไทยแล้วจะมี
ความเป็นไปได้อยู่ 2 ข้อ แต่หากรู้หลักการใช้แล้ว จะสามารถเลือกข้อที่ถูกต้องได้ โดยหลักการใช้มีดังนี้
- Recommend ใช้เพื่อแนะนาในสิ่งเห็นแล้วว่าดี เหมาะสม ยืนยันในความคิดเห็นนี้
- Suggest ใช้เพื่อแนะนาเพื่อเสนอความคิดเห็น และพิจารณาว่าจะเอาไปใช้หรือไม่
- Advise ใช้เพื่อชี้แนะ ให้คาปรึกษา เช่น ด้านการงาน ด้านการเรียน ด้านสุขภาพ เป็นต้น
- Introduce ใช้เพื่อแนะนาบุคคล แนะนาเป็นครั้งแรก เช่น แนะนาตัวเอง แนะนาเพื่อน เป็นต้น
6. According to the current economy, the president will reduce the __________ of business management
in the middle of this year. (สืบเนื่องจากสภาพเศรษฐกิจปัจจุบัน ประธานจะลดงบประมาณของการจัดการธุรกิจลงใน
กลางปีนี้)
a. budget (งบประมาณ)
b. interest (ดอกเบี้ย)
c. capital (เงินทุน)
d. money (เงิน)
คาอธิบาย : ข้อที่เกี่ยวกับคาศัพท์ (Vocabulary) ตาแหน่งที่หายไป คือ ตาแหน่งของคานาม สังเกตว่ามี of ตามหลัง แต่ตัวเลือก
ที่ให้มาทั้งหมดนั้นเป็นคานาม ดังนี้ ผู้อ่านต้องทายความหมายและเลือกตอบให้ตรงกับบริบทของเนื้อหา
7. Dan and Ken are going to open a garage and a coffee shop in a new __________ in the south of the
city. (แดนและเคนกาลังจะเปิดอู่ซ่อมรถและร้านกาแฟในพื้นที่แห่งใหม่ทางตอนใต้ของเมือง)
a. space (ที่ว่าง)
b. area (พื้นที่, บริเวณ)
c. blank (ช่องว่าง)
d. park (สวนสาธารณะ)
คาอธิบาย : ข้อนี้เกี่ยวกับคาศัพท์ (Vocabulary) ตาแหน่งที่หายไป คือ ตาแหน่งของคานาม แต่ตัวเลือกที่ให้มาทั้งหมดนั้นเป็น
คานาม ดังนั้น ผู้อ่านต้องทายความหมายและเลือกตอบให้ตรงกับบริบทของเนื้อหา
8. The system of higher education which is governed by __________ of education has been changed to
the new curriculum. (ระบบการศึกษาระดับอุดมศึกษาซึ่งควบคุมโดยกระทรวงศึกษาธิการได้ถูกเปลี่ยนหลักสูตรใหม่
แล้ว)
a. Agency (บริษัทตัวแทน)
b. Section (เขต)
c. Division (แผนก, ส่วน)
d. Ministry (กระทรวง)
คาอธิบาย : ข้อนี้เกี่ยวกับคาศัพท์ (Vocabulary) ตาแหน่งที่หายไป คือ ตาแหน่งของคานาม สังเกตว่ามี of ตามหลัง แต่ตัวเลือก
ที่ให้มาทั้งหมดนั้นเป็นคานาม ดังนั้น ผู้อ่านต้องทายความหมายและเลือกตอบให้ตรงกับบริบทของเนื้อหา
9. The tax assessment is expected to be __________ by this cabinet even though it will extremely affect
export and import business. (การประเมินภาษีได้ถูกคาดหวังว่าจะมีการปฏิรูปโดยคณะรัฐบาลนี้ แม้ว่ามันจะส่งผล
กระทบที่รุนแรงต่อธุรกิจนาเข้าและส่งออกก็ตาม)
a. repeated (กล่าวซ้า)
b. reacted (ตอบสนอง)
c. reformed (ปฏิรูป)
d. released (ปลดปล่อย)
คาอธิบาย : ข้อนี้เป็นประโยค Passive Voice คือ ประธาน คือ ผู้ถูกกระทา มีโครงสร้าง Subject + V.to be + V.3 (ตาม
English Tips ข้อที่ 18.) ดังนั้น ต้องพิจารณาความหมายและเลือกตอบให้ตรงบริบท
10. People who experience in studying __________ will get a job easier than inexperienced people. (คนที่มี
ประสบการณ์ในการเรียนที่ต่างประเทศ จะได้งานง่ายกว่าคนที่ไม่มีประสบการณ์)
a. foreign (เกี่ยวกับต่างประเทศ) - Adjective
b. abroad (ต่างประเทศ) - Adverb
c. international (ระหว่างประเทศ) - Adjective
d. domestic (ภายในประเทศ) – Adjective
คาอธิบาย : ข้อนี้เกี่ยวกับคาศัพท์ (Vocabulary) ตาแหน่งที่หายไป คือ ตาแหน่งของกริยาวิเศษณ์ (Adverb) และตัวเลือกที่ให้
มาทั้งหมดหน้าที่จะแตกต่างกัน ดังนั้น ผู้อ่านต้องทายความหมายและเลือกตอบให้ตรงกับบริบทของเนื้อหา
เพิ่มเติม : เมื่อต้องการบอกถึงการกระทาใด ๆ ในต่างประเทศนั้นจะใช้ abroad เป็นตัวขยายกริยาเหล่านั้นเสมอ เช่น study
abroad, work abroad, go abroad และ live abroad เป็นต้น
11. The manager needs everybody to attend this meeting because he __________ discuss about an
important issue. (ผู้จัดการต้องการให้ทุกคนเข้าประชุมครั้งนี้ เขาจะหารือเกี่ยวกับประเด็นสาคัญบางอย่าง)
a. is (เป็น)
b. does (ทา)
c. has (มี)
d. will (จะ)
ค าอธิ บ าย : ข้ อ นี้ อ อกเกี่ ย วกั บ Future Simple Tense ซึ่ ง เป็ น เหตุ ก ารณ์ ใ นอนาคตที่ ก าลั ง จะเกิ ด ขึ้ น ดั ง นั้ น เพื่ อ แสดงถึ ง
เหตุการณ์ดังกล่าว จึงต้องใช้กริยาที่สอดคล้องกับเหตุการณ์ ตามโครงสร้าง Future Simple Tense คือ Subject + will + V.1
+ Object
12. If we finish the financial report before 5 o’clock, we __________ Marry at the hospital. (ถ้าเราทารายงาน
การเงินเสร็จก่อน 5 โมง เราจะไปเยี่ยมแมรี่กันที่โรงพยาบาล)
a. visit (เยี่ยม)
b. would visit (อาจจะเยี่ยม)
c. would have visited (ได้ไปเยี่ยม)
d. will visit (จะไปเยี่ยม)
คาอธิบาย : ข้อนี้ออกเกี่ยวกับเงื่อนไข If Clause แบบที่ 1 การให้เหตุและผล หรือเหตุการณ์ที่เป็นจริงด้วยโครงสร้าง If +
Present Simple Tense, + Future Simple Tense (ตาม English Tips ข้อที่ 9.)
13. That handsome man __________ we met at the restaurant yesterday is the new vice president. (ผู้ ช าย
หน้าตาดีคนที่เราพบที่ร้านอาหารเมื่อวานนี้ คือ รองประธานคนใหม่)
a. who (ใคร)
b. who is (ใครคือ)
c. whom (ใคร)
คาอธิบาย : ข้อนี้เกี่ยวกับ Adjective Clause เป็นการเชื่อมประโยคสองประโยคเข้าด้วยกัน จากโจทย์กาลังกล่าวถึงผู้ชาย
หน้าตาดีซึ่งเป็นกรรม จึงต้องเลือกใช้ whom ซึ่งผู้สอบต้องจาไว้ว่าหลักการใช้ whom หรือตระกูลนี้จะต้องใช้แทนเป็นตัวคน
เท่านั้น โดยสังเกตว่าหลังคาที่หายไปเป็นอีกประโยคหนึ่ง แตกต่างกับ who หรือ whose ที่หลังประโยคจะไม่ตามด้วยประธาน
ของประโยค
เพิ่มเติม : หลักการเชื่อมประโยคของ who, whom และ whose
- Subject + who + ตามด้วย Verb (กรณี who ทาหน้าแทนประธาน)
- Subject + whom + ตามด้วย Subject + Verb (กรณี whom ทาหน้าแทนกรรม)
- Subject + whose + ตามด้วย Noun (กรณี whose ทาหน้าที่แสดงความเป็นเจ้าของ)
14. Neither Dan __________ Paul can explain why the room for VIP customer was cancelled. (ไม่ว่าแดนหรือ
พบพอลก็ไม่สามารถอธิบายได้ว่าทาไมห้องของลูกค้า VIP จึงถูกยกเลิก)
a. nor (หรือ)
b. and (และ)
c. or (หรือ)
d. with (กับ)
คาอธิบาย : เป็นการเชื่อมประโดยด้วย Neither ซึ่งการใช้ Neither ต้องคู่กับ nor และใช้กับประโยคปฏิเสธหรือเชิงลบเท่านั้น
เพิ่มเติม : การเชื่อมประโยคอื่นด้วยกลุ่มคาประเภทนี้ มีดังนี้
- Either _____or_____ ใช้กับประโยคบอกเล่าหรือเชิงบวกเท่านัน้
- Both _____and_____ ใช้เชื่อมประโยคบอกเล่าและปฏิเสธ
- Between _____and_____ ใช้กับประโยคบอกเล่าหรือปฏิเสธ
15. The supervisor was __________ at Ken’s performance in the event. He changed his mind to promote
him as an assistant supervisor. (หั ว หน้ า งานผิ ด หวั ง กั บ ผลงานของเคนในงานอี เ วนต์ เขาจึ ง เปลี่ ย นใจที่ จ ะเลื่ อ น
ตาแหน่งให้เขาเป็นผู้ช่วยหัวหน้าแล้ว)
a. disappointing (น่าผิดหวัง)
b. disappointed (ผิดหวัง)
c. interesting (น่าสนใจ)
d. interested (สนใจ)
คาอธิบาย : ข้อนี้จากตาแหน่งที่หายไปจะเกี่ยวกับคาคุณศัพท์ (Adjective) เกี่ยวกับความรู้สึกของบุคคล สังเกตได้ว่าจะมี Verb
to be นาหน้าและลงท้ายด้วย ed ซึ่งแปลว่า รู้สึก หากลงท้ายด้วย ing จะแปลว่า น่า ... เช่น น่าสนใจ น่าผิดหวัง เป็นต้น ซึ่งไม่
ใช้กับบุคคล (ตาม English Tips ข้อที่ 11.)
KTT Material Co., Ltd.
88/41, Sukhumvit 14
June 30th, 2016
BCC Chemical Co., Lid.
Dear Mr. Oman,
I would like to inform that your account balance of 240,000 Baht of March invoice was overdue. As I
informed you last time, all the accounts are due within 30 days. I still have not received or heard from you
regarding the payment. The invoice is attached for your reference.
(ดิฉันขอแจ้งให้คุณทราบยอดชาระของเดือนมีนาคม จานวน 240,000 บาท ได้ครบกาหนดชาระเงินแล้ว ตามที่ดิฉันได้
แจ้งให้คุณรับทราบเมื่อครั้งก่อน ยอดชาระทั้งหมดนั้นจะมีกาหนดชาระภายใน 30 วัน ดิฉันยังไม่ได้รับหรือรับทราบเกี่ยวกับการ
ชาระเงินของคุณ ซึ่งใบแจ้งหนีได้ถูกแนบมาพร้อมกันนี้เพื่อใช้สาหรับอ้างอิง)
I would like to apologize that I cannot consider extending your credit for the next purchase. This is your
second reminder. Please remit the payment as soon as possible.
(ดิฉันต้องขออภัย ที่ไม่สามารถพิจารณาขยายเครดิตสาหรับการสั่งซื้อครั้งถัดไปให้คุณได้ ครั้งนี้เป็นการแจ้งเตือนชาระหนี้
ครั้งที่สองแล้ว จึงขอให้คุณทาการชาระเงินโดยเร็วที่สุด)
I hope to continue our valuable relationship with BCC Chemical. ( ดิ ฉั น ห วั ง เ ป็ น อ ย่ า ง ยิ่ ง ว่ า จ ะ ไ ด ส า น
สัมพันธไมตรีที่มีค่าต่อเนื่องกับบริษัท BCC Chemical)
Best regards,
Sarah Lloyd
Senior Accountant
a. Receive the payment (รับการชาระเงิน)
b. Extend the credit (ขยายเครดิต)
c. Inform the account balance (แจ้งยอดชาระ)
d. Ask for the payment (ขอให้ชาระเงิน)
17. When is the due date of March invoice? (กาหนดชาระเงินของใบแจ้งหนี้เดือนมีนาคมคือเมื่อใด)
a. 31th March (31 มีนาคม)
b. 30th April (30 เมษายน)
c. 31st May (31 พฤษภาคม)
d. 30th June (30 มิถุนายน)
18. Why cannot the company extend the credit for BCC Chemical? (ท าไมบริ ษั ท จึ ง ไม่ ส ามารถขยายเครดิ ต ใน
บริษัท BCC Chemical ได้)
a. The payment was overdue more than 30 day. (การชาระเงินเกินกาหนดเลย 30 วันแล้ว)
b. BCC Chemical did not contact KTT Material. (บริษัท BCC Chemical ไม่ได้ติดต่อบริษัท KTT Material)
c. KTT Material received the payment within 30 day. (บริษัท KTT Material ได้รับชาระเงินภายใน 30 วัน)
d. It is the second reminder of payment. (เป็นการแจ้งเตือนครั้งที่สองของการชาระเงิน)
19. When should BCC Chemical make a payment? (บริษัท BCC Chemical ควรจะดาเนินการชาระเงินเมื่อใด)
a. As soon as possible. (โดยเร็วที่สุด)
b. Within next week. (ภายในอาทิตย์หน้า)
c. No longer than this month. (ไม่เกินเดือนนี้)
d. Before the next purchase. (ก่อนการสั่งซื้อครั้งถัดไป)
20. What does “consider” mean? (คาว่า “consider” หมายถึงอะไร)
a. Making an appointment (นัดหมาย)
b. Making a choice (สร้างตัวเลือก)
c. Making a decision (ตัดสินใจ)
d. Making a wish (อธิษฐาน)
An animal foundation was informed from people nearby. They found a little kitten in the river.
He was trying to survive in that situation, so people rescued the little kitten and sent him to the animal
foundation immediately. The little was two months old. He was weak and hungry. A member
of staff of the animal foundation had been healing him for a week. He was recovering. The animal
foundation was finding a permanent home for him. The little kitten was named “Hope”
(มูลนิธิสัตว์ได้รับแจ้งจากประชาชนแถบใกล้เคียว พวกเขาพบลูกแมวในแม่น้า ลูกแมวตัวนั้นพยายามที่จะมีชีวิตอยู่ใน
สถานการณ์แบบนั้น ดังนั้น พวกเขาจึงช่วยเหลือลูกแมวและนาไปยังมูลนิธิสัตว์ทันที ลูกแมวมีอายุเพียง 2 เดือนทั้งอ่อนแอและ
หิว เจ้าหน้าที่คนหนึ่งได้รักษาลูกแมวตัวนี้ประมาณหนึ่งอาทิตย์ ลูกแมวจึงมีอาการดีขึ้น มูลนิธิสัตว์จึงหาบ้านถาวรให้กับลูกแมว
ตัวนี้ โดยลูกแมวตัวนี้ถูกตั้งชื่อว่า “โฮป”)
After a few days, Hope was adopted by Lisa and her family. Lisa saw an announcement for
finding home on the website. She was interested in adoption. She went to another town where Hope
is living. It is almost one hundred kilometers far from her town. Hope is living with Lisa and her family
in the north of the town. He is now three years old and becoming a big cat.
(หลังจากนั้นสองสามวัน โฮปได้ถูกรับเลี้ยงโดยลิซ่าและครอบครับของเธอ ลิซ่าได้เห็นประกาศหาบ้านบนเว็บไซต์ เธอ
สนใจที่จะรับเลี้ยงลูกแมว เธอได้เดินทางไปอีกเมืองหนึ่ง ที่ที่ซึ่งโฮปได้อาศัยอยู่ เป็นเมืองที่ห่างจากเมืองของเธอเกือบ 100
กิโลเมตร โฮปได้อาศัยอยู่กับลิซ่าและครอบครัวที่ อยู่ทางตอนเหนือของเมืองตอนนี้โฮปอายุได้ 3 ปีแล้วและกาลังจะกลายเป็น
แมวโตเต็มวัย)
21. Where was the little kitten found by people? (ผู้คนได้พบลูกแมวที่ไหน)
a. On the tree (บนต้นไม้)
b. In the river (ในแม่น้า)
c. On the street (บนถนน)
d. In the jungle (ในป่า)
22. Where was the temporary shelter? (ที่ใดคือแหล่งพักพิงชั่วคราว)
a. The animal foundation (มูลนิธิสัตว์)
b. Lisa’s home (บ้านของลิซ่า)
c. The permanent home (บ้านถาวร)
d. The another town (เมืองอื่น)
23. How old is Hope now? (ตอนนี้โฮปมีอายุเท่าใด)
a. A few days (2-3 วัน)
b. A week (หนึ่งสัปดาห์)
c. 2 months (2 เดือน)
d. 3 years (3 ปี)
24. Where did Lisa find the announcement? (ลิซ่าเจอประกาศจากที่ไหน)
a. In the newspaper (ในหนังสือพิมพ์)
b. On the street (บนถนน)
c. On the television (ในโทรศัพท์)
d. On the website (บนเว็บไซต์)
25. What does “kitten” mean? (คาว่า “kitten” หมายถึงอะไร)
a. Baby cat (ลูกแมว)
b. Baby dog (ลูกหมา)
c. Baby kangaroo (ลูกจิงโจ้)
d. Baby rabbit (ลูกกระต่าย)
A : Welcome to AWWs Furniture. May I help you, sir?
B : Yes, please. I’m _____(1.)_____ a white dining table with four leather chairs.
A : How about this dining table? It’s the best seller.
B : That’s great. Are there various colors?
A : Yes, sir. _____(2.)_____ do you prefer?
B : I prefer black or white, but if you have brown, it _____(3.)_____ better.
A : There are more than three colors; white, black, brown, blue, and yellow.
B : It’s perfect. If I need more special options, do I have to pay more?
A : What option _____(4.)_____, sir?
B : I need four white cushions for each chair.
A : You have to pay more about 20% of the normal price.
B : Could you please _____(5.)_____ this dining table within this week?
A : Maybe this Sunday. Are you available?
B : That’s great. I’m free. Thank you.
a. waiting for
b. paying for
c. looking for
d. opening for
a. What color
b. What size
c. What time
d. What day
a. will be
b. is going
c. have been
d. would be
a. did you refer
b. do you prefer
c. could you refer
d. don’t you prefer
a. delivery
b. delivers
c. delivered
d. deliver
6. This course is intended for people who need to be a __________ researcher.
a. professor
b. professional
c. potential
d. probability
7. We will submit our report tomorrow, so today we have to __________ doing until finishing the report.
a. save
b. keep
c. stop
d. enjoy
8. According to the current situation, all of workers will be decreased their __________.
a. profit
b. capital
c. wage
d. expense
9. We have to know the real __________ in this market before we plan the right strategy.
a. supplier
b. target
c. merchant
d. dealer
10. The goal of running business is the __________ that everybody should be aware.
a. section
b. rule
c. policy
d. mission
11. He __________ comes to the office early, but he was late for twenty minutes this morning.
a. nearly
b. usually
c. hardly
d. mostly
12. If the annual sales __________ decrease, we would get more profit this year.
a. wasn’t
b. weren’t
c. don’t
d. didn’t
13. Paul and Somchai will participate in the ASEAN activity with our partner __________ March.
a. of
b. at
c. in
d. on
14. The emergency signal rang when I __________ my graphic presentation to supervisor.
a. am doing
b. was doing
c. has been doing
d. have been doing
15. Sale manager requires two candidates who can speak __________ Chinese and French with great
fluency.
a. both
b. between
c. as well as
d. either
Tell Telecom Co., Ltd.
99/9, Ramkamhang Road,
Meenburi, Bangkok 10510
14th February, 2016
Mr. Somchai Sawasdee
Sunflower Travel
123, Changwattana Road, Laksi,
Bangkok 10210
Dear Mr. Somchai,
Regarding to your request, Tell Telecom would like to offer you a question with special price for tourist
SIM prepaid system. The minimum quantity of order is 1,000 (one thousand) cards per times. Please see the
following items below:
Tell Tourist SIM
Package Bonus Internet 4G* Free all network Period (Days)
(Include VAT) (Bath) calls
150 Baht 20 1 GB 100 minutes 7
4G Usage: Users can access 4G at the maximum speed.
Terms & Conditions
The extra fee with special price as follows:
- Local calls will be charged at 0.50 Bath/minute
- Local SMS will be charged at 1 Baht/SMS
- International calls will be charge at 1.50 Baht/minute
- International SMS will be charged at 2 Baht/SMS
- Internet will be charged at 0.25 Baht/MB
If you have any further questions I can assist you. Please do not hesitate to contact me soon.
Sincerely,
Ladda Sookjai
Sale Executive
16. What did Mr. Somchai request from Tell Telecom?
a. Quotation
b. Price of SIM
c. 4G Internet
d. Special price
17. What is the minimum price of SIM cards?
a. One hundred Baht
b. One hundred and fifty Baht
c. Two hundred and fifty Baht
d. One thousand Baht
18. How many minutes does a user get from 250 Baht package?
a. Twenty minutes
b. Forty minutes
c. One hundred minutes
d. One hundred and fifty minutes
19. What are the terms and conditions for Tourist SIM cards?
a. Low price for extra fee.
b. Free all network calls.
c. Special package.
d. Free local and international SMS.
20. Who should Mr. Somchai contact when he has some questions?
a. Marketing Executive
b. Export Sale Executive
c. Sale Executive
d. General Manager
The good public transportation is the first choice for people who live in the city. People who
are going to buy a house will firstly consider the public transportation and them the places nearby,
for example, a shopping mall, a hospital, a market, and a school. Why the public transportation is so
important and becomes the first choice? People need to travel easily and avoid the heavy traffic that
makes them waste their time on the road. They concern about the time and distance from one place
to another place. It should not be longer than 30 minutes in the city. Therefore, if they get the good
public transportation which responds to their needs, they will choose if for the first choice.
For more reason, the good public transportation can help people save their money. They do not
need to buy a car. They do not waste their money on car maintenance, gasoline, car insurance, and
driving license. Their quality of life will be better. They have more time and money to do everything they
need. However, the good public transportation does not benefit for only people who live in the city,
but it still benefits travelers who come to travel in their city. If the city is the destination for travelers,
it will be and advantage of the city. The economy of the city will be better and that will help make the
country have the best transportation.
21. Who is the target of the good public transportation?
a. People in another place.
b. People in the city.
c. People who need to buy a house.
d. People who live the place nearby.
22. Why the public transportation is the first choice for consideration?
a. It’s convenient for travel.
b. It avoids the good traffic.
c. People can go another place nearby.
d. People waste the time on the road.
23. How can the good public transportation develop the country?
a. People can go everywhere they need.
b. The travelers will be attracted to come.
c. People can save their money.
d. The city will be expanded the way.
24. The pronoun “it” in the 7th line refers to __________.
a. City
b. Place
c. Economy
d. Transportation
a. Negative
b. Positive
c. Suggestive
d. Aggressive
A : Welcome to AWW Furniture. May I help you, sir? (ยินดีต้อนรับสู่ AWW เฟอร์นิเจอร์ครับ มีอะไรให้ช่วย
ไหมครับ)
B : Yes, please. I’m _____(1.)_____ a white dining table with four leather chairs. (ครั บ ผมก าลั ง มองหา
โต๊ะกินข้าวสีขาวพร้อมเก้าอี้หนังสี่ที่นั่งครับ)
A : How about this dining table? It’s the best seller. (ชุดนี้เป็นไงครับ เป็นชุดที่ขายดีมาก)
B : That’s great. Are there various colors? (เยี่ยมไปเลย มีหลายสีไหมครับ)
A : Yes, sir. _____(2.)_____ do you prefer? (มีหลายสีครับ คุณต้องการสีไหนหรือครับ)ด
B : I prefer black or white, but if you have brown, it _____(3.)_____ better. (ผมอยากได้สีดาหรือสีขาวก็ได้
แต่ถ้ามีสีนาตาลจะดีมากครับ)
A : There are more than three colors; white, black, brown, blue, and yellow. (ชุดนี้มีมากกว่า 3 สี ครับ มี
สีขาว สีดา สีน้าตาล สีฟ้า และสีเหลือง)
B : It’s perfect. If I need more special options, do I have to pay more? (เยี่ยมมากเลยครับ ถ้าผมต้องการ
เพิ่มตัวเลือกเข้าไป ผมจะต้องจ่ายเพิ่มไหนครับ)
A : What option _____(4.)_____, sir? (คุณต้องการอะไรเพิ่มหรือครับ)
B : I need four white cushions for each chair. (ผมอยากเพิ่มหมอนอิงสีขาวสี่ใบสาหรับเก้าอี้แต่ละตัว)
A : You have to pay more about 20% of the normal price. (คุณต้องจ่ายเพิ่มประมาณ 20% ของราคาปกติ
ครับ)
B : Could you please _____(5.)_____ this dining table within this week? (คุ ณ จะช่ ว ยส่ ง ของให้ ผ มภายใน
อาทิตย์นี้ไหมครับ)
A : Maybe this Sunday. Are you available? (อาจเป็นวันอาทิตย์นี้ สะดวกไหมครับ)
B : That’s great. I’m fee. Thank you. (เยี่ยมเลย ผมสะดวกครับ ขอบคุณมาก)
a. waiting for (กาลังรอ)
b. paying for (กาลังจ่ายเงินสาหรับ)
c. looking for (กาลังมองหา)
d. opening for (กาลังเปิดเพื่อ)
คาอธิบาย : เป็นการใช้ Verb หรือกริยาคู่กับ Preposition หรือคาบุพบท จนเกิดเป็นคาที่ให้ความหมายใหม่หรือใกล้เคียง
ความหมายเดิม ผู้อ่านจึงต้องอาศัยการท่องจาและนาไปใช้ให้ถูกต้อง
a. What color (สีอะไร)
b. What size (ขนาดใด)
c. What time (เวลาใด)
d. What day (วันไหน)
คาอธิบาย : ข้อนี้ให้สังเกตจากบริบทที่เป็นคาตอบว่ามีแนวทางการตอบในลักษณะใด จึงจะสามารถเลือกตามให้ตรงกับบริบท
นั้น ๆ ได้
a. will be
b. is going
c. have been
d. would be
คาอธิบาย : เงื่อนไข If Clause แบบที่ 1 การให้เหตุและผล หรือแหตุการณ์ที่เป็นจริงในปัจจุบันด้วยโครงสร้าง If + Present
Simple Tense, S. + Will + infinitive (ตาม English Tips ข้อที่ 17.)
a. did you refer (คุณได้อ้างอิงถึงอะไรหรือ)
b. do you prefer (คุณชอบมากกว่าหรือ)
c. cloud you refer (คุณสามารถอ้างอิงได้ไหม)
d. don’t you prefer (คุณไม่ชอบหรือ)
คาอธิบาย : ลักษณะประโยคที่แสดงถึงสิ่งที่ชอบมากกว่า
เพิ่มเติม : ประโยคดังกล่าวสามารถใช้ถามระหว่างของสองสิ่งที่ขอบ หรืออยากทาที่สุดก็ได้ เช่น
- Do you prefer going shopping or going swimming?
- Do you prefer paying by cash or credit card?
- Do you prefer black or white?
5. Please use conversation above. (กรุณาใช้บทนทนาด้านบน)
a. delivery (การจัดส่ง)
b. delivers (ส่งมอบ)
c. delivered (ได้ส่งมอบแล้ว)
d. deliver (ส่งมอบ)
คาอธิบาย : จากบริบท คาถามขึ้นต้นด้วย Could you please ตาแหน่งที่หายไป คือ กริยา (verb) ช่องที่ 1 ไม่เติม s และ es
ดังนั้น deliver จึงเป็นคาตอบที่เหมาะสมที่สุด เพราะเป็นกริยาช่อง 1 (ตาม English Tips ข้อที่ 5.)
6. This course is intended for people who need to be a __________ researcher. (คอร์ ส นี้ มุ่ ง หมายให้ ส าหรั บ
ผู้คนที่ต้องการจะเป็นนักวิจัยมืออาชีพ)
a. professor (ศาสตราจารย์)
b. professional (มืออาชีพ)
c. potential (ศักยภาพ)
d. probability (ความน่าจะเป็น)
คาอธิบาย : ข้อนี้เกี่ยวกับคาศัพท์ (Vocabulary) ตาแหน่งที่หายไป คือ ตาแหน่งของคาคุณศัพท์ (Adjective) ดังนั้น ผู้อ่านต้อง
ทายความหมายและเลือกตอบให้ตรงกับบริบทของเนื้อหา
7. We will submit our tomorrow, so today we have to __________ doing until finishing the report. (เราต้อง
ส่งรายงานพรุ่งนี้ ดังนั้น วันนี้เราจะทารายงานจนกว่าจะเสร็จ)
a. save (รักษา)
b. keep (เก็บ)
c. stop (หยุด)
d. enjoy (สนุก)
คาอธิบาย : ข้อนี้เกี่ยวกับคาศัพท์ (Vocabulary) ตาแหน่งที่หายไป คือ ตาแหน่งของกริยา (Verb) ซึ่งตัวเลือกที่ให้มานั้นจะต้อง
ตามด้วย Gerund Verb หรือ V.ing (ตาม English Tips ข้อที่ 4.)
เพิ่มเติม : กริยาที่แสดงให้เห็นถึงการกระทาที่ต้องทาต่อเนื่องจะใช้ keep + กริยาที่แสดงถึงการต่อเนื่องในรูปแบบของ Gerund
Verb ตัวอย่างเช่น
- keep doing
- keep working
- keep running
8. According to the current situation, all of workers will be decreased their __________. (สื บ เนื่ อ งจากหตุ
การณ์ในปัจจุบัน คนงานทั้งหมดจะถูกลดค่าจ้างลง)
a. profit (กาไร)
b. capital (ต้นทุน)
c. wage (ค่าแรง)
d. expense (รายจ่าย)
คาอธิบาย : ข้อนี้เกี่ยวกับคาศัพท์ (Vocabulary) ตาแหน่งที่หายไป คือ ตาแหน่งของคานาม ตัวเลือกที่ให้มาทั้งหมดนั้นเป็น
9. We have to know the real __________ in this market before we plan the right strategy. ( เ ร า ต้ อ ง รู้ ถึ ง
กลุ่มเป้าหมายที่แท้จริงในตลาดนี้ก่อนที่เราจะวางแผนกลยุทธ์ที่ถูกต้อง)
a. supplier (ผู้จัดหาวัตถุดิบ)
b. target (กลุ่มเป้าหมาย)
c. merchant (ผู้จัดจาหน่าย)
d. dealer (ตัวแทนจาหน่าย)
10. The goal of running business is the __________ that everybody should be aware. (เป้าหมายของการดาเนิน
ธุรกิจคือภารกิจที่ทุกคนควรตระหนักรู้)
a. section (เขต)
b. rule (กฎ)
c. policy (นโยบาย)
d. mission (ภารกิจ)
คานาม ด้งนั้น ผู้อ่านต้องทายความหมายและเลือกตอบให้ตรงกับบริบทของเนื้อหา
11. He __________ comes to the office early, but he was late for twenty minutes this morning. (โดยปกติเขา
มักจะมาถึงที่ออฟฟิศเร็ว แต่วันนี้เขาสายไป 15 นาที)
a. nearly (เกือบจะ)
b. usually (โดยปกติ)
c. hardly (แทบจะไม่)
d. mostly (โดยส่วนมาก)
คาอธิบาย : ข้อนี้ตาแหน่งที่หายไปเป็นตาแหน่งของกริยาวิเศษณ์ (Adverb) ซึ่งขยายกริยา comes จากตัวเลือกที่ให้นั้นจะเป็น
Adverb ทั้งหมด ดังนั้น ผู้อ่านต้องทายความหมายและเลือกตอบให้ตรงกับบริบทของเนื้อหา
12. If the annual sales __________ decrease, we would get more profit this year. (ถ้ายอดขายประจาปีไม่ตกลง
เราอาจจะได้กาไรมากขึ้นในปีนี้)
a. wasn’t (ไม่)
b. weren’t (ไม่)
c. don’t (ไม่)
d. didn’t (ไม่)
คาอธิบาย : ข้อนี้ออกเกี่ยวกับเงื่อนไข If Clause แบบที่ 2 ใช้กับเหตุการณ์ที่ตรงข้ามกับปัจจุบันหรืออนาคตและเหตุการณ์ที่
เป็นไปไม่ได้ If + Past Simple, Subject + would + Verb Infinitive (ตาม English Tips ข้อที่ 17.)
13. Paul and Somchai will participate in the ASEAN activity with our partner __________ March. ( พ อ ล แ ล ะ
สมชายจะต้องเข้าร่วมกิจกรรมอาเซียนกับหุ้นส่วนของเราในเดือนมีนาคม)
a. of (ของ)
b. at (ที่)
c. in (ใน)
d. on (บน)
คาอธิบาย : ข้อนี้ตาแหน่งที่หายไปเป็นตาแหน่งของคาบุพบท (Preposition) ซึ่งการใช้บุพบทกับเดือนในนั้นต้องใช้ in เท่านัน
14. The emergency signal rang when I __________ my graphic presentation to supervisor. (สัญญาณฉุกเฉินดัง
ขึ้นตอนที่ฉันกาลังกราฟิกนาเสนอให้หัวหน้า)
a. am doing (กาลังทา)
b. was doing (กาลังทา)
c. has been doing (กาลังทา)
d. have been doing (กาลังทา)
คาอธิบาย : ข้อนี้ออกเกี่ยวกับ Past Continuous Tense ซึ่งมีเหตุการณ์หนึ่งเกิดขึ้นก่อน และมีอีกแหตุการณ์แทรกขึ้นมา ตาม
โครงสร้าง คือ Subject + V.2 + Object + Subject + was, were + V.ing + Object
15. Sale manager requires two candidates who can speak __________ Chinese and French with great
fluency. (ผู้จัดการฝ่ายขายต้องการผู้สมัครสองคน ที่สามารถพูดได้ทั้งจีนและฝรั่งเศสอย่างคล่องแคล่ว)
a. both (ทั้งสอง)
b. between (ระหว่าง)
c. as well as (พอ ๆ กับ)
d. either (ไม่ทั้งสอง)
คาอธิบาย : ข้อนี้เป็นคาศัพท์ที่ผู้อ่านควรจา การใช้ both เป็นการพูดถึงจานวนของของสองสิ่งหรือคนสองคนหลักการใช้นั้น
จะต้องใช้ both … and … เสมอ
เพิ่มเติม : between ต้องใช้คู่กับ and เช่นกัน แต่จะใช้แตกต่างจาก both เพราะ both จะเป็นการพูดถึงสิ่งของหรือคนที่มี
จ านวนเพี ย งสอง แต่ between เป็ น การใช้ เ พื่ อ แสดงว่ า มี อี ก สิ่ ง หนึ่ ง หรื อ คนหนึ่ ง อยู่ ร ะหว่ า งของสองสิ่ ง หรื อ คนสองคน
ตัวอย่างเช่น
- My son is sitting between his grandma and grandpa.
- I put the salt between sugar and oil bottle.
Tell Telecom Co., Ltd.
14th February, 2016
Mr. Somchai Sawasdee
Sunflower Travel
123, Changwattana Road, Laksi,
Bangkok 10210
Dear Mr. Somchai, (เรียน คุณสมชาย)
Regarding to your request, Tell Telecom would like to offer you a question with special price for tourist
SIM prepaid system. The minimum quantity of order is 1,000 (one thousand) cards per times. Please see the
following items below:
(ตามความต้องการของคุณ Tell Telecom ขอเสนอใบเสนอราคาพร้อมราคาพิเศษสาหรับซิมการ์ดนักท่องเที่ยวระบบ
เติมเงิน จานวนสิ่งซื้อขั้นต่า 1,000 อันต่อครั้ง กรุณาพิจารณาข้อเสมอตามรายละเอียดด้านล่างนี้)
Tell Tourist SIM
Package Bonus Internet 4G* Free all network Period (Days)
(Include VAT) (Bath) calls
4G Usage: Users can access 4G at the maximum speed. (ปริมาณ 4G: ผู้ใช้สามารถใช้ 4G ได้ที่ความเร็วสูงสุด)
Terms & Conditions (ข้อกาหนดและเงื่อนไข)
The extra fee with special price as follows: (ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมราคาพิเศษดังนี้)
- Local calls will be charged at 0.50 Bath/minute (โทรในประเทศค่าบริการ 0.50 บาท/นาที)
- Local SMS will be charged at 1 Baht/SMS (ข้อความสั้นในประเทศค่าบริการ 1 บาท/ข้อความ)
- International calls will be charge at 1.50 Baht/minute (โทรระหว่างประเทศค่าบริการ 1.50 บาท/นาที)
- International SMS will be charged at 2 Baht/SMS (ข้อความสั้นระหว่างประเทศค่าบริการ 2 บาท/ข้อความ)
- Internet will be charged at 0.25 Baht/MB (อินเทอร์เน็ตค่าบริการ 0.25 บาท/MB)
If you have any further questions I can assist you. Please do not hesitate to contact me soon. (หากคุณมีคาถาม
เพิ่มเติมที่ดิฉันจะสามารถช่วยคุณได้ กรุณาอย่าลังเลที่จะติดต่อดิฉันโดยเร็ว)
Sincerely,
Ladda Sookjai
Sale Executive
16. What did Mr. Somchai request from Tell Telecom? (คุณสมชายต้องการอะไรจาก Tell Telecom)
a. Quotation (ใบเสนอราคา)
b. Price of SIM (ราคาของซิมการ์ด)
c. 4G Internet (อินเทอร์เน็ต 4G)
d. Special price (ราคาพิเศษ)
17. What is the minimum price of SIM cards? (ราคาต่าสุดของซิมการ์ดคือเท่าใด)
a. One hundred Baht (100 บาท)
b. One hundred and fifty Baht (150 บาท)
c. Two hundred and fifty Baht (250 บาท)
d. One thousand Baht (1,000 บาท)
18. How many minutes does a user get from 250 Baht package? (แพ็คเกจ 250 บาท ผู้ใช้งานจะได้นาทีการโทร
เท่าใด)
a. Twenty minutes (250 นาที)
b. Forty minutes (40 นาที)
c. One hundred minutes (100 นาที)
d. One hundred and fifty minutes (150 นาที)
19. What are the terms and conditions for Tourist SIM cards? (ข้อกาหนดและเงื่อนไขสาหรับซิม การ์ดนักท่องเที่ยว
นี้คืออะไร)
a. Low price for extra fee. (ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมราคาถูก)
b. Free all network calls. (โทรฟรีทุกเครือข่าย)
c. Special package. (แพ็คเกจพิเศษ)
d. Free local and international SMS. (ฟรีข้อความสั้นในประเทศและระหว่างประเทศ)
20. Who should Mr. Somchai contact when he has some questions? (คุณสมชายควรติดต่อใครเมื่อมีข้อสงสัย)
a. Marketing Executive (เจ้าหน้าที่การตลาด)
b. Export Sale Executive (เจ้าหน้าที่ฝ่ายขายส่งออก)
c. Sale Executive (เจ้าหน้าที่ฝ่ายขาย)
d. General Manager (ผู้จัดการทั่วไป)
The good public transportation is the first choice for people who live in the city. People who
are going to buy a house will firstly consider the public transportation and them the places nearby,
for example, a shopping mall, a hospital, a market, and a school. Why the public transportation is so
important and becomes the first choice? People need to travel easily and avoid the heavy traffic that
makes them waste their time on the road. They concern about the time and distance from one place
to another place. It should not be longer than 30 minutes in the city. Therefore, if they get the good
public transportation which responds to their needs, they will choose if for the first choice.
(การคมนาคมสาธารณะที่ดี คือ ตัวเลือกอันดับแรกของผู้คนที่อาศัยในเมือง ผู้คนที่กาลังจะซื้อบ้านนั้นมักจะพิจารณาถึง
การคมนาคมสาธารณะเป็นอันดับแรก จากนั้นจึงจะเป็นสถานที่ใกล้เคียง เช่น ห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาล ตลาด และโรงเรียน
ทาไมการคมนาคมขนส่งสาธารณะจึงสาคัญมาก และกลายมาเป็นตัวเลือกอับดับแรก เพราะผู้คนต้องการเดินทางที่ง่าย และ
หลีกเลี่ยงรถติดที่ทาให้พวกเขาเสียเวลาอยู่บนท้องถนนพวกเขากังวลต่อเวลา และระยะทางจากสถานที่หนึ่งไปยังสถานที่หนึ่ง ซึ่ง
ไม่ควรจะใช้เวลาเกิน 30 นาทีของในเมือง ดังนั้น หากพวกเขามีการคมนาคมขนส่งสาธารณะที่ดีที่สามารถตอบสนองความ
ต้องการของพวกเขาได้ พวกเขาก็จะเลือกการคมนาคมนั้นเป็นอันดับแรก)
For more reason, the good public transportation can help people save their money. They do not
need to buy a car. They do not waste their money on car maintenance, gasoline, car insurance, and
driving license. Their quality of life will be better. They have more time and money to do everything they
need. However, the good public transportation does not benefit for only people who live in the city,
but it still benefits travelers who come to travel in their city. If the city is the destination for travelers,
it will be and advantage of the city. The economy of the city will be better and that will help make the
country have the best transportation.
(อีกเหตุผลหนึ่งที่การคมนาคมขนส่งสาธารณะที่ดี สามารถช่วยผู้คนให้ประหยัดเงินได พวกเขาไม่จาเป็นต้องซื้อรถ พวก
เขาจะไม่เสียเงินไปกับการบารุงรักษารถ น้ามัน ประกันรถ และใบขับขี่ คุณภาพชีวิตของพวกเขาจะดีขึ้น การคมนาคมขนส่ง
สาธารณะที่ดีนั้นไม่เพียงส่งผลดีแก่ผู้คนที่อาศัยในเมืองเท่านั้ น แต่ยังส่งผลดีต่อนักเดินทางที่เข้ามาท่องเที่ยวในเมืองของพวกเขา
ด้วย หากเมืองนั้น ๆ เป็นจุดหมายปลายทางของนักเดินทาง มันจะกลายเป็นจุดเด่นของเมือง ซึ่งจะทาให้เศรษฐกิจของเมือง
เพิ่มขึ้น และจะช่วยพัฒนากลายเป็นประเทศที่การคมนาคมขนส่งดีที่สุด)
21. Who is the target of the good public transportation? (ใครคือกลุ่มเป้าหมายของการคมนาคมขนส่งสาธารณะที่ดี)
a. People in another place. (ผู้คนในอีกสถานที่หนึ่ง)
b. People in the city. (ผู้คนในเมือง)
c. People who need to buy a house. (ผู้คนที่ต้องการซื้อบ้าน)
d. People who live the place nearby. (ผู้คนที่อาศัยอยู่สถานที่ใกล้ ๆ)
22. Why the public transportation is the first choice for consideration? (ทาไมการคมนาคมขนส่งสาธารณะจึงเป็น
ตัวเลือกอันดับแรก)
a. It’s convenient for travel. (มีความสะดวกในการเดินทาง)
b. It avoids the good traffic. (หลีกเลี่ยงการจราจรที่คล่องตัว)
c. People can go another place nearby. (ผู้คนสามารถไปอีกสถานที่ใกล้ ๆ ได้)
d. People waste the time on the road. (ผู้คนเสียเวลาบนถนน)
23. How can the good public transportation develop the country? (การคมนาคมขนส่ ง สาธารณะที่ ดี ส ามารถ
พัฒนาประเทศได้อย่างไร)
a. People can go everywhere they need. (ผู้คนเดินทางไปทุกที่ที่อยากไปได้)
b. The travelers will be attracted to come. (นักท่องเที่ยวจะถูกดึงดูดให้มาเที่ยว)
c. People can save their money. (ผู้คนสามารถประหยัดเงินได้)
d. The city will be expanded the way. (เมืองจะถูกขยายเส้นทาง)
24. The pronoun “it” in the 7th line refers to __________. (สรรพนาม “it” ในบรรทัดที่ 7 อ้างอิงถึงอะไร)
a. City (เมือง)
b. Place (สถานที่)
c. Economy (เศรษฐกิจ)
d. Transportation (การคมนาคมขนส่ง)
25. The tone of passage is __________. (บทความนี้มีลักษณะ)
a. Negative (แง่ลบ)
b. Positive (แง่บวก)
c. Suggestive (แนะนา)
d. Aggressive (รุนแรง)
A : Hi John. _____(1.)_____ going to attend the annual seminar in Rayong?
B : Yes, but I still don’t know when it is. Do you know the detail?
A : It will be held on 15-18 December. It’s about 3 days.
B : Oh, I don’t have much time to _____(2.)_____ the annual report.
A : Do we need to prepare the annual report in this seminar?
B : Yes. All departments have to _____(3.)_____ the report to the president.
A : I think only the manager will inform the annual report.
B : All members of each department have to prepare the _____(4.)_____ for the manager. The
manager will be the representative to inform the annual report.
A : That’s alright. I will arrange and prepare the report within this week.
B : We have to prepare the information within this week, but the problem is we don’t get any
information from another team. We have to _____(5.) them.
A : When will we get it from them?
B : I suppose it will be on this Friday.
A : Oh, we will be working all night to finish the report.
B : That’s right.
a. Did you
b. Do you
c. Are you
d. Will you
a. prepare
b. collect
c. present
d. reply
a. release
b. send
c. issue
d. announce
a. research folder
b. document file
c. annual report
d. meeting detail
a. answer to
b. need for
c. hold on
d. wait for
6. The technicians need __________ working hours sometimes because they have to spend much time to
solve the problem.
a. unique
b. limited
c. strict
d. flexible
7. Some parents extremely __________ their children to study and travel by themselves.
a. permit
b. despair
c. encourage
d. suggest
8. Dr. David is planning to open a new __________ of cancer institute in New York next month.
a. faculty
b. branch
c. section
d. region
9. The __________ of our supplier to the material increase was satisfied.
a. reaction
b. deduction
c. election
d. production
10. The salesman was trying to __________ with a customer about ordering the current product.
a. negotiate
b. decide
c. defend
d. consider
Part 3: choose the correct answer. (Q11-Q15)
11. If I were him, I __________ volunteer for community service in South Africa.
a. will
b. can
c. would
d. could
12. According to marketing strategies, the manager needs to change the target in telecommunication market
__________ general business to unique business.
a. about
b. between
c. over
d. from
13. This hospital is very famous for plastic surgery, so it __________ to be the full service plastic surgery
hospital in Asia.
a. renovates
b. is renovating
c. was renovating
d. is being renovate
14. All customers are interesting in jewelry exhibition __________ they can meet various and new products.
a. when
b. where
c. what
d. who
15. A thief was attempting to break into Nina’s house last night, but I assured that my village is __________
in these areas.
a. safer than
b. more safe
c. the safest
d. the most safe
Micro Company Limited
67, Moo.3 Thungsonghong,
Thursday 9th February, 2016
Subject: Education Software Service
Dear: Mr. David,
Referring to your application for Education Software Service, we are pleased to provide you with the
service to Fun Math Education Center.
In addition, we kindly inform you about terms and conditions of the service that Micro reserves the
right to temporarily suspend the service without prior notice or terminate the service agreement if Micro can
prove that the use of Education Software Service by Fun Math Education Center is against the law or breaches
the terms and conditions.
If there are any further questions, please contact our staff Miss Jenny Lee at 02-111-3333-9. We look
forward to hearing from you soon.
Best regards,
Miss Saran Walker
Sale and Marketing Manager
16. What service does Micro Company provide for Mr. David?
a. Education Software
b. Math Software
c. Education Center
d. Math Center
17. What is the terms and conditions of his service?
a. Do not terminate the service.
b. Do not use the illegal service.
c. Do not notice the user.
d. Do not accept the legal service.
18. What does not Micro Company mention about the terms and conditions?
a. To terminate the service.
b. To suspend the service.
c. To provide the right service.
d. To prove the offense.
19. Who can Mr. David contact with?
a. The manager of Fun Math Education Center.
b. The manager of Micro Company.
c. The staff of Fun Math Education Center.
d. The staff of Micro Company.
20. What does “application” mean?
a. agreement
b. decision
c. feedback
d. request
Preparation for an examination is an important thing that students should do. Some students
have a problem when they are going to do the examination. They are nervous and pressured. These
are some tips to prepare yourself for the examination, first, you should study the lesson by yourself
or with your friends to summarize the lesson. Try to find key words and the sentences which are
emphasized. In general, the emphasized sentences are the main. You should remember and study
hard because. It may occur on the exam sheets.
Second, you should review the summary before doing the examination at least 1-2 weeks. You
should spend the time about 2 hours per day and take a rest every 2 days. It helps remember the
summary well. You will not be nervous and pressured. Finally, you should go to sleep early. Your brain
will be fresh and ready for the examination.
21. The most suitable title for this passage is __________.
a. How to do the examination?
b. The best choice of preparation yourself.
c. The students’ preparation.
d. Get ready for the examination.
22. How many steps to prepare yourself for the examination?
a. Two steps
b. Three steps
c. Four steps
d. More than four steps
23. What is an importance of preparation for the examination?
a. To do the exam well.
b. To get the highest score.
c. To release the pressure.
d. To pass the examination.
24. What is the first step of preparation?
a. Avoid the key words.
b. Study hard after examination.
c. Sum up the emphasized sentences.
d. Review the lesson for friends.
25. How long does the preparation take before doing the examination?
a. Two hours
b. A day
c. Two days
d. One to two weeks.
A : Hi John. _____(1.)_____ going to attend the annual seminar in Rayong? (สวัสดีจอห์น คุณจะเข้าร่วมงาน
สัมมนาประจาปีที่ระยองไหม)
B : Yes, but I still don’t know when it is. Do you know the detail? (ไปสิ แต่ผมยังไม่รูเลยว่าเมื่อไร คุณพอจะ
รู้รายละเอียดไหม)
A : It will be held on 15-18 December. It’s about 3 days. (วันที่ 15-18 ธันวาคม ประมาณ 3 วัน)
B : Oh, I don’t have much time to _____(2.)_____ the annual report. (โอ้ ผมมีเวลาไม่มากที่เตรียมรายงาน
ประจาปีแล้วสิ)
A : Do we need to prepare the annual report in this seminar? (เราต้องเตรียมรายงานประจาปีสาหรับงาม
สัมมนาด้วยหรือ)
B : Yes. All departments have to _____(3.)_____ the report to the president. (ใช่ ทุ ก แผนกจะต้ อ งส่ ง
รายงานให้กับประธาน)
A : I think only the manager will inform the annual report. (ผมนึกว่าเฉพาะผู้จัดการเสียอีกที่ต้องเป็นคนแจ้ง
รายงานประจาปี)
B : All members of each department have to prepare the _____(4.)_____ for the manager. The
manager will be the representative to inform the annual report. (สมาชิกทุกคนของแต่ละฝ่ายจะต้อง
เตรียมรายงานประจาปีให้ผู้จัดการ ผู้จัดการจะเป็นตัวแทนเพื่อแจ้งรายงานนั้น)
A : That’s alright. I will arrange and prepare the report within this week. (ได้ ผมจะจั ด การและเตรี ย ม
รายงานภายในอาทิตย์นี้)
B : We have to prepare the information within this week, but the problem is we don’t get any
information from another team. We have to _____(5.) them. (เราต้องเตรียมข้อมูลภายในอาทิตย์นี้ แต่
ปัญหา คือ เรายังไม่ไดรับข้อมูลใด ๆ มาจากอีกทีมหนึ่งเลย เราต้องรอพวกเขาก่อน)
A : When will we get it from them? (เราจะได้ข้อมูลเมื่อไรหรือ)
B : I suppose it will be on this Friday. (ผมคิดว่าน่าจะเป็นวันศุกร์นี้)
A : Oh, we will be working all night to finish the report. (โอ้ เราคงต้องทารายงานกันทั้งคืนแน่)
B : That’s right. (ถูกต้องแล้ว)
a. Did you (คุณทา)
b. Do you (คุณทา)
c. Are you (คุณคือ)
d. Will you (คุณจะ)
คาอธิบาย : การใช้ going to นั้นจะต้องตามหลังกริยาแท้ที่เป็น verb to be เท่านั้น จากตัวเลือกข้อที่ถูกจะมีเพียงข้อเดียว คือ
Are you (หากเป็นประโยคบอกเล่าจะอยู่ในรูป You are going to …)
เพิ่มเติม : Verb to be ที่ใช้กับ going to ต้องเป็นในรูปของปัจจุบันเท่านั้น เพราะการใช้ going to เป็นการบ่งบอกถึงสิ่งที่
จะต้องทาอย่างแน่นอนในเวลาอันใกล้ ตัวอย่างของ verb to be ที่ใช่มีดังนี้
- Are you (รูปแบบประโยคบอกเล่า คือ you are)
- Is she / he / it (รูปแบบประโยคบอกเล่า คือ She / He / It + is)
a. prepare (จัดเตรียม)
b. collect (รวบรวม)
c. present (นาเสนอ)
d. reply (ตอบกลับ)
คาอธิบาย : ข้อนี้เกี่ยวกับกริยา (Verb) ตาแหน่งที่หายไป คือ ตาแหน่งของกริยาช่องที่ 1 (Verb) เพราะตามหลังกริยา ประโยค I
don’t have much time to ซึ่งกริยาที่ตามหลัง to จะต้องเป็นกริยาช่อง 1 เท่านั้น (ตาม English Tips ข้อที่ 1.)
a. release (ปลดปล่อย)
b. send (ส่ง)
c. issue (ตีพิมพ์)
d. announce (ประกาศ)
คาอธิบาย : ข้อนี้เกี่ยวกับกริยา (Verb) ตาแหน่งที่หายไป คือ ตาแหน่งของกริยาช่องที่ 1 (Verb) เพราะตามหลังกริยา have to
ซึ่งกริยาที่ตามหลัง to จะต้องเป็นกริยาช่อง 1 เท่านั้น (ตาม English Tips ข้อที่ 1.)
a. research folder (แฟ้มงานวิจัย)
b. document file (ไฟล์เอกสาร)
c. annual report (รายงานประจาปี)
d. meeting detail (รายละเอียดการประชุม)
คาอธิบาย : ข้อนี่เกี่ยวกับคาศัพท์ (Vocabulary) ตาแหน่งที่หายไป คือ ตาแหน่งของคานาม (Noun) สังเกตจากข้างหน้าเป็น
the จึงต้องตามด้วยคานามเท่านั้น
a. answer to (ตอบกลับ)
b. need for (ต้องการเพื่อ)
c. hold on (จับไว้)
d. wait for (รอเพื่อ)
คาอธิบาย : ข้อนี้เกี่ยวกับ Preposition Phrasal หรือ Verb + Preposition จนเกิดความหมายใหม่หรือใกล้เคียงกับความหมาย
เดิม (ตาม English Tips ข้อที่ 7.)
6. The technicians need __________ working hours sometimes because they have to spend much time to
solve the problem. (ช่างเทคนิคต้องการชั่วโมงการทางานที่ยืดหยุ่นในบางครั้ง เพราะว่าพวกเขาต้องใช้เวลาในการ
แก้ปัญหา)
a. unique (พิเศษ)
b. limited (จากัด)
c. strict (เข้มงวด)
d. flexible (ยืดหยุ่น)
คาอธิบาย : ข้อนี้เกี่ยวกับคาศัพท์ (vocabulary) ตาแหน่งที่หายไป คือ ตาแหน่งของคาคุณศัพท์ (Adjective)
7. Some parents extremely __________ their children to study and travel by themselves. (ผู้ปกครองบางส่วน
สนับสนุนลูก ๆ ของพวกเขาให้ไปเรียนและท่องเที่ยวในต่างประเทศด้วยตัวเองอย่างเต็มที่)
a. permit (อนุญาต)
b. despair (หมดหวัง)
c. encourage (สนับสนุน)
d. suggest (แนะนา)
คาอธิบาย : ข้อนีเ้ กี่ยวกับคาศัพท์ (Vocabulary) ตาแหน่งที่หายไป คือ กริยา (Verb)
8. Dr. David is planning to open a new __________ of cancer institute in New York next month. (คุ ณ หมอ
เดวิดวางแผนที่จะเปิดสาขาใหม่ของสถาบันมะเร็งที่นิวยอร์กในเดือนหน้า)
a. faculty (คณะเรียน)
b. branch (สาขา)
c. section (ฝ่าย)
d. region (ภูมิภาค)
คาอธิบาย : ข้อนี้เกี่ยวกับคาศัพท์ (Vocabulary) ตาแหน่งที่หายไป คือ คานาม (Noun)
9. The __________ of our supplier to the material increase was satisfied. (ปฏิ กิ ริ ย าตอบกลั บ ของผู้ จ าหน่ า ย
วัตถุดิบของเราเกี่ยวกับการเพิ่มวัตถุดิบเป็นที่น่าพอใจ)
a. reaction (ปฏิกิริยา)
b. deduction (การหักออก)
c. election (การเลือกตั้ง)
d. production (การผลิต)
คาอธิบาย : ข้อนี้เกี่ยวกับคาศัพท์ (Vocabulary) ตาแหน่งที่หายไป คือ คานาม (Noun)
10. The salesman was trying to __________ with a customer about ordering the current product. (พนั ก งาน
ขายได้พยายามเจรจากับลูกค้าเกี่ยวกับการสั่งซื้อสินค้าที่มีในปัจจุบัน)
a. negotiate (เจรจา)
b. decide (ตัดสินใจ)
c. defend (ปกป้อง)
d. consider (พิจารณา)
คาอธิบาย : ข้อนี้เกี่ยวกับคาศัพท์ (Vocabulary) ตาแหน่งที่หายไป คือ กริยาช่องที่ 1 (Verb) เพราะตามหลังกริยา was trying
to ซึ่งกริยาที่ตามหลัง to จะต้องเป็นกริยาช่อง 1 เท่านั้น
Part 3: choose the correct answer. (Q11-Q15)
11. If I were him, I __________ volunteer for community service in South Africa. (ถ้าฉันเป็นเขา ฉันจะอาสาไป
บริการชุมชนที่แอฟริกาใต้)
a. will (จะ)
b. can (สามารถ)
c. would (จะ)
d. could (สามารถ)
คาอธิบาย : ข้อนี้เกี่ยวกับกฎ If Clause กรณีที่แสดงถึงความเป็นไปไม่ได้ (เงื่อนไขที่ 2) ต้องใช้ would + V.1 ทุกครั้ง (หลักการ
ใช้ If Clause ตาม English Tips ข้อที่ 17.)
12. According to marketing strategies, the manager needs to change the target in telecommunication market
__________ general business to unique business. (ตามกลยุทธ์การตลาด ผู้จัดการจึงต้องการเปลี่ยนกลุ่มเป้าหมาย
ในตลาดโทรคมนาคมจากธุรกิจทั่วไปเป็นธุรกิจเฉพาะ)
a. about (เกี่ยวกับ)
b. between (ระหว่าง)
c. over (เหนือกว่า)
d. from (จาก)
คาอธิบาย : ข้อที่เกี่ยวกับคาบุพบท (Preposition) จากโจทย์เมื่อใช้บุพบทที่ต้องการแสดงจากสิ่งหนึ่งไปสิ่งหนึ่ง หรือจากจานวน
หนึ่งไปอีกจานวนหนึ่งต้องใช้ from … (Noun) … to … (Noun) … เสมอ
13. This hospital is very famous for plastic surgery, so it __________ to be the full service plastic surgery
hospital in Asia. (โรงพยาบาลนี้มีชื่อเสียงมากในเรื่องศัลยกรรมพลาสติก ดังนั้น จึงได้ถูกปรับปรุงให้เป็นโรงพยาบาล
ศัลยกรรมพลาสติกแบบครบวงจรในแถบเอเชีย)
a. renovates (ปรับปรุง)
b. is renovating (กาลังปรับปรุง)
c. was renovating (ได้ปรับปรุง)
d. is being renovate (ได้ถูกปรับปรุง)
คาอธิบาย : ข้อนี้ประโยคเป็น Passive Voice เพราะโรงพยาบาลไม่สามารถปรับปรุงตัวเองได้ จะต้องถูกปรับปรุงจากคนเท่านั้น
นอกจากนี้โรงพยาบาลกาลังถูกซ่อมแซมอยู่ จึงต้องใช้โครงสร้างประโยค Subject + V.to be + being + V.3 (หลักการใช้ตาม
14. All customers are interesting in jewelry exhibition __________ they can meet various and new products.
(ลูกค้าทั้งหมดได้สนใจในงานแสดงอัญมณี ซึ่งเป็นที่ที่พวกเขาสามารถพบกับสินค้าใหม่และหลากหลายได้)
a. when (เมื่อ)
b. where (ซึ่งที่)
c. what (อะไร)
d. who (ใคร)
คาอธิบาย : จากประโยคจะใช้ Adjective Clause เพื่อเชื่อมและขยาย exhibition ใช้ where ในการบอกเหตุผลว่าเป็นสถานที่
ที่มีสินค้าหลากหลายใหม่ ๆ
เพิ่มเติม : การใช้ Adjective Clause ใช้เพื่อขยายคานามข้างหน้า การจะเลือกใช้คาใดนั้นจึงขึ้นอยู่กับคานามข้างหน้าเสมอ
15. A thief was attempting to break into Nina’s house last night, but I assured that my village is __________
in these areas. (ขโมยได้พยายามบุกเข้าบ้านนิน่าเมื่อคืนนี้ แต่ฉันมั่นใจว่าหมู่บ้านฉันเป็นที่ที่ปลอดภัยที่สุดในแถบนี้)
a. safer than (ปลอดภัยกว่า)
b. more safe (ปลอดภัยกว่า – รูปแบบการเปลี่ยนรูปผิด)
c. the safest (ปลอดภัยที่สุด)
d. the most safe (ปลอดภัยที่สุด – รูปแบบการเปลี่ยนรูปผิด)
คาอธิบาย : ข้อนี้เกี่ยวกับการเปรียบเทียบ หรือ Comparison of Adjective อยู่ในขั้นสูงสุด จากประโยคจะสังเกตได้จากคาว่า
these areas ซึ่งหมายความว่าจะต้องเปรียบเทียบมากกว่า 2 สิ่ง ดังนั้น ต้องเลือกคา Adjective ที่อยู่ในขั้นสูงสุดของ safe คือ
the safest (หลักการใช้ตาม English Tips ข้อที่ 10.)
Micro Company Limited
67, Moo.3 Thungsonghong,
Thursday 9th February, 2016
Subject: Education Software Service (หัวเรื่อง: บริการซอฟต์แวร์เพื่อการศึกษา)
Dear: Mr. David, (เรียน คุณเดวิด)
Referring to your application for Education Software Service, we are pleased to provide you with the
service to Fun Math Education Center.
(ตามความต้ อ งการของท่ า นส าหรั บ บริ ก ารซอฟต์ แ วร์ เ พื่ อ การศึ ก ษานั้ น เรายิ น ดี ที่ จ ะให้ บ ริ ก ารแก่ ศู น ย์ การเรี ย นรู้
คณิตศาสตร์ Fun Math)
In addition, we kindly inform you about terms and conditions of the service that Micro reserves the
right to temporarily suspend the service without prior notice or terminate the service agreement if Micro can
prove that the use of Education Software Service by Fun Math Education Center is against the law or breaches
the terms and conditions.
(นอกเหนือจากบริการแล้ว เราขอแจ้งให้ท่านทราบข้อกาหนดและเงื่อนไขของบริการว่า บริษัท Micro ได้รับสิทธิ์ในการ
ระงับบริการชั่วคราวโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า หรือยกเลิกสัญญาใช้บริการ หากบริษัทพิสูจน์ได้ว่า การใช้บริการซอฟต์แวร์
เพื่อการศึกษาโดยศูนย์การเรียนรู้คณิตศาสตร์ Fun Math นั้นขัดต่อกฎหมายหรือฝ่าฝืนข้อกาหนดและเงื่อนไขของบริษัท)
If there are any further questions, please contact our staff Miss Jenny Lee at 02-111-3333-9. We look
forward to hearing from you soon.
(หากท่านมีคาถามเพิ่มเติม กรุณาติดต่อเจ้าหน้าที่คุณเจนนี้ ลี โทร 02-111-3333-9 เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับการ
พิจารณาจากท่านเร็ว ๆ นี้)
Best regards, (ด้วยความเคารพ)
Miss Saran Walker
Sale and Marketing Manager (ผู้จัดการฝ่ายขายและการตลาด)
16. What service does Micro Company provide for Mr. David? (บริษัท Micro ให้บริการอะไรแก่คุณเดวิด)
a. Education Software (ซอฟต์แวร์เพื่อการศึกษา)
b. Math Software (ซอฟต์แวร์ด้านคณิตศาสตร์)
c. Education Center (ศูนย์การศึกษา)
d. Math Center (ศูนย์คณิตศาสตร์)
17. What is the terms and conditions of his service? (ข้อกาหนดและเงื่อนไขของบริการนี้คืออะไร)
a. Do not terminate the service. (ห้ามยกเลิกบริการ)
b. Do not use the illegal service. (ห้ามใช้บริการที่ผิดกฎหมาย)
c. Do not notice the user. (ห้ามแจ้งให้ผู้ใช้ทราบ)
d. Do not accept the legal service. (ห้ามยอมรับบริการที่ถูกกฎหมาย)
18. What does not Micro Company mention about the terms and conditions? (บริ ษั ท Micro ไม่ ไ ด้ แ จ้ ง อะไร
เกี่ยวกับข้อกาหนดและเงื่อนไขของบริการ)
a. To terminate the service. (ยกเลิกบริการ)
b. To suspend the service. (ระงับบริการ)
c. To provide the right service. (จัดการบริการที่ถูกต้อง)
d. To prove the offense. (พิสูจน์การกระทาผิด)
19. Who can Mr. David contact with? (คุณเดวิดสามารถติดต่อใครได้)
a. The manager of Fun Math Education Center. (ผู้จัดการศูนย์การเรียนรู้คณิตศาสตร์ Fun Math)
b. The manager of Micro Company. (ผู้จัดการของบริษัท Micro)
c. The staff of Fun Math Education Center. (เจ้าหน้าที่ศูนย์การเรียนรู้คณิตศาสตร์ Fun Math)
d. The staff of Micro Company. (เจ้าหน้าที่ของบริษัท Micro)
20. What does “application” mean? (คาว่า “application” หมายถึงอะไร)
a. agreement (ข้อตกลง)
b. decision (การตัดสินใจ)
c. feedback (ผลตอบรับ)
d. request (การร้องขอ)
Preparation for an examination is an important thing that students should do. Some students
have a problem when they are going to do the examination. They are nervous and pressured. These
are some tips to prepare yourself for the examination, first, you should study the lesson by yourself
or with your friends to summarize the lesson. Try to find key words and the sentences which are
emphasized. In general, the emphasized sentences are the main. You should remember and study
hard because. It may occur on the exam sheets.
(การเตรียมตัวก่อนการสอบถือเป็นสิ่งที่สาคัญที่นักเรียนควรทา นักเรียนบางคมมักมีปัญหาเมื่อพวกเขาต้องทาข้อสอบ
พวกเขาจะประหม่าและกดดัน นี่คือเคล็ดลับเพื่อเตรียมตัวของคุณสาหรับการสอบ ขั้นแรกคุณควรศึกษาบทเรียนด้วยตัวคุณเอง
หรือกับเพื่อนของคุณเพื่อสรุปบทเรียน พยายามหาคาสาคัญและประโยคที่ถูกเน้นย้า โดยทั่วไปแล้ว ประโยคที่ถูกเน้นย้านั้นคือ
ใจความสาคัญ คุณควรจดจาและศึกษาใจความนั้นอย่างหนัก ซึ่งมันอาจจะออกอยู่ในข้อสอบได้)
Second, you should review the summary before doing the examination at least 1-2 weeks. You
should spend the time about 2 hours per day and take a rest every 2 days. It helps remember the
summary well. You will not be nervous and pressured. Finally, you should go to sleep early. Your brain
will be fresh and ready for the examination.
(ขั้นตอนที่ 2 คุณควรทบทวนบทสรุปก่อนทาข้อสอบอย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ คุณควรใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงต่อวัน และ
พักทุก ๆ 2 วัน มันจะช่วยให้จาบทสรุปได้ดี คุณจะไม่ประหม่าและไม่กดดัน ขั้นตอนสุดท้ายคุณควรนอนแต่หัวค่า ซึ่งจะทาให้ส
สมองของคุณสดชื่นและพร้อมสาหรับการสอบ)
21. The most suitable title for this passage is __________. (หัวข้อที่เหมาะสมสาหรับบทความนี้คือ)
a. How to do the examination? (ทาข้อสอบอย่างไร)
b. The best choice of preparation yourself. (ทางเลือกที่ดีที่สุดในการเตรียมตัวของคุณ)
c. The students’ preparation. (การเตรียมตัวของนักเรียน)
d. Get ready for the examination (เตรียมพร้อมสาหรับการสอบ)
22. How many steps to prepare yourself for the examination? (การเตรียมตัวสาหรับการสอบมีกี่ขั้นตอน)
a. Two steps (2 ขั้นตอน)
b. Three steps (3 ขั้นตอน)
c. Four steps (4 ขั้นตอน)
d. More than four steps (มากกว่า 4 ขั้นตอน)
23. What is an importance of preparation for the examination? (อะไรคือสิ่งสาคัญของการเตรียมตัวสาหรับการอบ)
a. To do the exam well. (เพื่อทาข้อสอบได้ดี)
b. To get the highest score. (เพื่อได้คะแนนสูงสุด)
c. To release the pressure. (เพื่อบรรเทาความกดดัน)
d. To pass the examination. (เพื่อให้สอบผ่าน)
24. What is the first step of preparation? (ขั้นตอนแรกของการเตรียมตัวคืออะไร)
a. Avoid the key words. (หลีกเลี่ยงคาสาคัญ)
b. Study hard after examination. (ศึกษาอย่างหนักหลังการสอบ)
c. Sum up the emphasized sentences. (สรุปประโยคที่เน้นย้า)
d. Review the lesson for friends. (ทบทวนบทเรียนให้เพื่อน)
25. How long does the preparation take before doing the examination? (ต้ อ งใช้ เ วลาในการเตรี ย มตั ว ก่ อ นการ
สอบนานเท่าไร)
a. Two hours (2 ชั่วโมง)
b. A day (หนึ่งวัน)
c. Two days (สองวัน)
d. One to two weeks. (1-2 สัปดาห์)
A : Hi Paul. Mike is speaking. How are you?
B : I’m fine. It seems long time no see.
A : Yes, I’m quite busy with the new project. Anyways, can you _____(1.)_____?
B : Of course. What can I do for you?
A : My colleague quit the job last week, so there is _____(2.)_____ now. I’m looking for someone who
will replace her. Could you please recruit a person for this vacancy?
B : What is that vacancy? Could you tell me more details?
A : It’s a project coordinator. I urgently need the staff for this position.
B : Can you send me the _____(3.)_____ of this position by fax?
A : Oh, my fax is _____(4.)_____. Can I send you by email?
B : Yes, please send it to me within today. I’ll check the details first and them I’ll _____(5.)_____ the
company’s website.
A : Okay. Thank you for your help.
B : That’s alright.
a. call me in
b. hand me over to
c. give me a favor
d. catch me up
a. vacancy
b. a candidate
c. a staff member
d. an employee
a. resume
b. cover letter
c. work experience
d. job descriptions
a. out of reach
b. out of order
c. out of stock
d. out of date
a. deal with
b. announce on
c. apply for
d. cooperate with
6. The president sees an __________ to expand the business in North and South America.
a. opportunity
b. opposite
c. occasion
d. occident
7. The supplier has provided several items for our company to __________.
a. manage
b. discuss
c. consider
d. expose
8. Jane suggests me organizing the files into different __________ because it is easier to find them on my
computer.
a. template
b. format
c. style
d. categories
9. Lisa’s brother was __________ by a truck while he was riding a bicycle to his school.
a. harmless
b. hit
c. careful
d. pulled
10. The technological devices have a bad __________ on children. They would rather spend their time on
other activities.
a. pressure
b. situation
c. forecast
d. influence
11. Could you please __________ me manage these important documents?
a. help
b. send
c. hand
d. give
12. Mr. Kevin’s company and BWW Company are going to __________ into the same company.
a. split
b. divide
c. separate
d. merge
13. I would like to work at the headquarters __________ I can present my capability directly to the
president.
a. what
b. where
c. who
d. which
14. Suda volunteers to work on the research in Africa. She is not scared __________ the infectious disease.
a. in
b. on
c. at
d. of
15. All materials __________ by the mice, so we cannot send the product to our vendee on time.
a. was destroying
b. have destroyed
c. had been destroying
d. were destroyed
Memo
Date: January 16th, 2016
To: IT Helpdesk Supervisor
From: Jenny Smith, Sale and Marketing Manager
Subject: Meeting
Please be informed that our client is going to join the meeting about IT service next week; therefore, I
would like to discuss with you about IT service before negotiating with the client. The meeting will be held
on January 19th, 2016 at Sale and Marketing department, room no. 1 at 10.00 a.m. There will be a few
topics that relate to your department. The topics are as follows:
1. Contract center for users.
2. The current solution.
3. Changing the users’ password.
16. Who will be required to attend the meeting?
a. Sale Manager
b. Secretary
c. Client
d. IT Supervisor
17. What is the purpose of this meeting?
a. To negotiate
b. To attend
c. To discuss
d. To meet
18. Which of the following is not correct about the topics for this meeting?
a. Contact center
b. Present solution
c. Current users
d. Changing password
19. Where will the meeting take place?
a. IT department
b. Sale department
c. Service department
d. Sale and Marketing department
20. What does “client” mean?
a. Merchant
b. Dealer
c. Customer
d. Vender
In a modern life, some parents spend time with their children on many activities, so a media will
be involved with a part of activity. The good parents know how to use the media for their children. The
main purpose of using the media is to develop children’s skills. The parents use the media to let them
know about the basic thing around the children’s life; for example, the parents let the children learn about
nature, language, gesture, and food. The children’s brain can be developed easily and quickly. However,
there are some disadvantages of using the media for children that the parents should know.
The parents should not let the children learn through the media by themselves, and the parents should
limit the time of using the media. If they let the children use the media too long, the children will waste
their time on it. They will not be interested in doing other activities. They will not develop other skills that
they should have in the real life. For example, it the children spend their time on television more than 1-2
hours, they won’t go out to do exercise or to explore a new experience with their friends. Consequently,
the best ways are to limit the time for children to use the media, select only the good and knowledgeable
media.
21. What is the passage is talking about?
a. Using the media for children.
b. The best activity for children.
c. Children’s development.
d. The advantage of media for parents.
22. The word “involved” in line 2 means __________.
a. To be implicated
b. To be developed
c. To be used
d. To be cleared
23. The pronoun “them” in the third line refers to __________.
a. Parents
b. Children
c. Friends
d. Skills
24. In the passage, what should the parents do?
a. To let the children spend much time on media.
b. To explore the new experience with friends.
c. To select the good media for children.
d. To limit the number of media.
a. Negative
b. Positive
c. Aggressive
d. Suggestive
A : Hi Paul. Mike is speaking. How are you? (สวัสดีพอล นี่ไมค์กาลังพูดอยู่นะครับ คุณเป็นยังไงบ้าง)
B : I’m fine. It seems long time no see. (ผมสบายดี เหมือนว่าราจะไม่ได้เจอกันนานแล้วนะ)
A : Yes, I’m quite busy with the new project. Anyways, can you _____(1.)_____? (ใช่ ค รั บ ผมค่ อ นข้ า งยุ่ ง
กับโครงการใหม่ อย่างไรก็ดีคุณช่วยผมหน่อยได้ไหมครับ)
B : Of course. What can I do for you? (ได้สิ มีอะไรให้ผมช่วยเหรอ)
A : My colleague quit the job last week, so there is _____(2.)_____ now. I’m looking for someone who
will replace her. Could you please recruit a person for this vacancy? (เพื่อนร่วมงานผมเพิ่งลาออกจาก
งานเมื่ออาทิตย์แล้ว ดังนั้น จึงมีตาแหน่งว่างอยู่หนึ่งตาแหน่งในตอนนี้ ผมกาลังมองหาข้นมาแทนเธอ คุณช่วยรับคน
มาสมัครตาแหน่งที่ว่างนี้หน่อยได้ไหมครับ)
B : What is that vacancy? Could you tell me more details? (ต าแหน่ ง อะไรหรื อ ที่ ว่ า งอยู่ คุ ณ ช่ ว ยบอก
รายละเอียดให้ผมเพิ่มหน่อยได้ไหมครับ)
A : It’s a project coordinator. I urgently need the staff for this position. (ผู้ ป ระสานงานโครงการครั บ ผม
ต้องการพนักงานด่วนมากสาหรับตาแหน่งนี้)
B : Can you send me the _____(3.)_____ of this position by fax? (คุณช่วยส่งรายละเอียดงานของตาแหน่งนี้
ให้ผมทางแฟกซ์หน่อยได้ไหม)
A : Oh, my fax is _____(4.)_____. Can I send you by email? (โอ้ เครื่องแฟกซ์ผมเสียอยู่ ผมส่งให้คุณทางอีเมล
ได้ไหมครับ)
B : Yes, please send it to me within today. I’ll check the details first and them I’ll _____(5.)_____ the
company’s website. (ได้สิ ส่งมาให้ผมภายในวันนี้นะครับ ผมต้องตรวจสอบรายละเอียดก่อนแล้ว ถึงประกาศลง
บนเว็ปไซต์ของบริษัทได้)
A : Okay. Thank you for your help. (ตกลงครับ ขอบคุณมากสาหรับความช่วยเหลือครับ)
B : That’s alright. (ไม่เป็นไรครับ)
1. Please use conversation above. (กรุณาใช้บทนทนาด้านบน)
a. call me in (เรียกให้ช่วย)
b. hand me over to (ส่งมอบบางสิ่ง)
c. give me a favor (ให้ความช่วยเหลือ)
d. catch me up (ตามฉันจนทัน)
คาอธิบาย : รูปแบบประโยคขอความช่วยเหลือ
เพิ่มเติม : สามารถใช้ประโยคอื่นเพื่อขอความช่วยเหลือที่ให้ความหมายในเชิงเดียวกันได้อีก เช่น
- Can you help me?
- Can you give me a hand?
a. vacancy (ตาแหน่งงานว่าง)
b. a candidate (ผู้สมัครหรือผู้ท้าชิง)
c. a staff member (พนักงาน)
d. an employee (ลูกจ้าง)
คาอธิบาย : ข้อนี้เกี่ยวกับคาศัพท์ (Vocabulary) เกี่ยวกับการสมัครงาน ผู้อ่านควรท่องจาเพราะเป็นคาศัพท์ที่ควรรู้
a. resume (ประวัติโดยย่อ)
b. cover letter (จดหมายแนะนาตัว)
c. work experience (ประสบการณ์การทางาน)
d. job descriptions (รายละเอียดของงาน)
คาอธิบาย : ข้อนี้เกี่ยวกับคาศัพท์ (Vocabulary) เกี่ยวกับการสมัครงาน ผู้อ่านควรท่องจาเพราะเป็นคาศัพท์ที่ควรรู้
a. out of reach (เอื้อมไม่ถึง)
b. out of order (ชารุด)
c. out of stock (ของหมด)
d. out of date (ล้าสมัย)
คาอธิบาย : ข้อนี้เกี่ยวกับคาวลี (Phrase) ที่ให้ความหมาย ชารุด เสียหาย ผู้อ่านควรท่องจาเพราะเป็นคาศัพท์ที่ควรรู้
a. deal with (ติดต่อกับ)
b. announce on (ประกาศบน)
c. apply for (สมัคร)
d. cooperate with (ร่วมมือกับ)
ค าอธิ บ าย : ข้ อ นี้ ใ ห้ สั ง เกตจากบริบ ทว่ า กาลั ง สนทนาในเรื่ อ งใด ซึ่ ง พอลได้ พู ด ถึ ง การกระทาที่ เกี่ ย วกั บ คอมพิ ว เตอร์หรือ
อินเทอร์เน็ต ซึ่งจะต้องใช้คาบุพบท on ทุกครั้ง เช่น
- I am searching for the information on the internet.
- Jen wrote her comment on a website.
6. The president sees an __________ to expand the business in North and South America. ( ป ร ะ ธ า น ไ ด้
มองเห็นโอกาสในการขยายธุรกิจไปยังอเมริกาเหนือและอเมริกาใต้)
b. opposite (สิ่งตรงข้าม)
c. occasion (โอกาสพิเศษ)
d. occident (ประเทศกตะวันตก)
คาอธิบาย : ข้อนี้เกี่ยวกับคาศัพท์ (Vocabulary) ตาแหน่งที่หายไป คือ คานาม (Noun) จากตัวเลือกที่ให้นั้นจะเป็นคานาม
ทั้งหมด ดังนั้น ผู้อ่านต้องทายความหมายและเลือกตอบให้ตรงกับบริบทของเนื้อหา
7. The supplier has provided several items for our company to __________. (ผู้จาหน่ายวัตถุดิบได้จัดสินค้าให้
บริษัทเราหลายรายการมาเพื่อพิจารณา)
a. manage (จัดการ)
b. discuss (ปรึกษา)
c. consider (พิจารณา)
d. expose (เปิดเผย)
คาอธิบาย : ข้อนี้เกี่ยวกับคาศัพท์ (Vocabulary) ตาแหน่งที่หายได้ คือ กริยาช่องที่ 1 (Verb) ซึ่งสังเกตว่าหลัง to นั้นจะมีคาอยู่
2 ประเภทที่ใช้เติมได้ คือ Noun (คานาม) และ Verb (กริยา) และตัวเลือกที่ให้เป็นกริยาช่องที่ 1 ทั้งหมด ดังนั้น ผู้อ่านต้องทาย
ความหมายและเลือกตอบให้ตรงกับบริบทของเนื้อหา
8. Jane suggests me organizing the files into different __________ because it is easier to find them on my
computer. (เจนแนะนาฉันให้แบ่งไฟล์ออกเป็นแต่ละประเภท เพราะมันจะทาให้ค้นหาในคอมพิวเตอร์ง่ายขึ้น)
a. template (แม่แบบ)
b. format (รูปแบบ)
c. style (รูปแบบ)
d. categories (ประเภท)
9. Lisa’s brother was __________ by a truck while he was riding a bicycle to his school. (น้องชายของลิซ่าถูก
รถบรรทุกชนระหว่างที่เขาขี่จักรยานไปโรงเรียน)
a. harmless (ไม่อันตราย)
b. hit (ชน)
c. careful (ระวัง)
d. pulled (ดึง)
คาอธิบาย : ข้อนี้เกี่ยวกับคาศัพท์ (Vocabulary) ตาแหน่งที่หายไป คือ กริยาช่องที่ 3 (verb) ซึ่งสังเกตว่าประโยคนี้ประธานเป็น
ผู้ถูกกระทาจึงเข้าโครงสร้างของประโยค Passive Voice คาที่หายไปต้องเป็นกริยาช่องที่ 3 เท่านั้น และจากตัวเลือกแล้ว มี
กริยาช่องที่ 3 (verb 3) เพียง 2 ข้อ ดังนั้น ผู้อ่านต้องทายความหมายและเลือกตอบให้ตรงกับบริบทของเนื้อหา
10. The technological devices have a bad __________ on children. They would rather spend their time on
other activities. (อุปกรณ์เกี่ยวกับเทคโนโลยีมีอิทธิพลที่ไม่ดีต่อเด็ก ๆ พวกเขาควรจะใช้เวลาไปกับกิจกรรมอื่น ๆ
มากกว่า)
a. pressure (ความกดดัน)
b. situation (เหตุการณ์)
c. forecast (การพยาการณ์)
d. influence (อิทธิพล)
11. Could you please __________ me manage these important documents? (คุณสามารถช่วยฉันจัดการเอกสาร
สาคัญพวกนี้ได้ไหมคะ)
a. help (ช่วย)
b. send (ส่ง)
c. hand (ส่ง)
d. give (ให้)
คาอธิบาย : ข้อนี้ตาแหน่งที่หายไป คือ คากริยา (verb) สังเกตจากประโยคคาถามที่ขึ้นต้นด้วย Could จะต้องมีกริยาที่ตามมา
คือ กริยาช่องที่ 1 เท่านั้น
เพิ่มเติม : ประโยคคาถามที่ขึ้นต้นด้วย Can, Could, Will, Would, Do, Does, Did เป็นต้น จะต้องมีกริยาที่ตามมาเป้นกริยา
ช่องที่ 1 เท่านั้น
12. Mr. Kevin’s company and BWW Company are going to __________ into the same company. (บริ ษั ท คุ ณ
เควินและบริษัท BWW กาลังจะรวมเป็นบริษัทเดียวกัน)
a. split (แยกออก)
b. divide (แบ่งออก)
c. separate (แบ่งออก)
d. merge (รวมกัน)
คาอธิบาย : ข้อนี้ตาแหน่งที่หายไป คือ คากริยา (Verb) สังเกตจากกริยาช่วย are going to แสดงวว่าตาแหน่งที่หายไปต้องเป็น
กริยาช่อง 1 เท่านั้น จากตัวเลือกที่ให้นั้นจะเป็นกริยาทั้งหมด ดังนั้น ผู้อ่านต้องทายความหมายและเลือกคาตอบให้ตรงกับบริบท
ของเนื้อหา
13. I would like to work at the headquarters __________ I can present my capability directly to the
president. (ฉันต้องการทางานที่สานักงานใหญ่ ที่ซึ่งฉันสามารถแสดงศักยภาพของฉันให้แก่ประธานเห็นได้โดยตรง)
b. where (ที่ซึ่ง)
c. who (ใคร)
d. which (สิ่งไหน)
ค าอธิ บาย : ข้อนี้ตาแหน่งที่ หายไป คือ Adjective Clause ซึ่ งเป็นสถานที่ต้องใช้ where เพื่อเชื่อมประโยคเท่านั้น (ตาม
14. Suda volunteers to work on the research in Africa. She is not scared __________ the infectious disease.
(สุดาอาสาทางานวิจัยในแอฟริกา เธอไม่กลัวกับโรคติดต่อที่นั่นเลย)
a. in (ใน)
b. on (บน)
c. at (ที่)
d. of (ของ)
คาอธิบาย : ข้อนี้เกี่ยวกับคาบุพบท (Preposition) ซึ่งคาตอบต้องเป็น “of” เท่านั้น เพราะ scared ต้องใช้คู่กับ of เสมอ
เพิ่มเติม : คาคุณศัพท์อื่นที่ต้องใช้คู่กับ of ได้แก่ bored of, scared of, afraid of, jealous of เป็นต้น
15. All materials __________ by the mice, so we cannot send the product to our vendee on time. (วัตถุดิบ
ทั้งหมดโดนทาลายจากพวกหนู ดังนั้น เราจึงไม่สามารถส่งสินค้าให้แก่ผู้ซื้อได้ตามกาหนด)
a. was destroying
b. have destroyed
c. had been destroying
d. were destroyed
ค าอธิ บาย : เนื่องจาก materials เติม s และเป็นประธานพหูพจน์ อีกทั้งวัตถุดิบไม่สามารถทาลายตัวเองได้ ข้อนี้จึงเป็น
Passive Voice คื อ ประธานป็ น ผู้ ถู กกระท าอย่ า งต่อ เนื่อ ง มี โ ครงสร้า งประโยค Subject + V.to be + being + V.3 (ตาม
Memo
Date: January 16th, 2016
To: IT Helpdesk Supervisor
From: Jenny Smith, Sale and Marketing Manager
Subject: Meeting
Please be informed that our client is going to join the meeting about IT service next week; therefore, I
would like to discuss with you about IT service before negotiating with the client. The meeting will be held
on January 19th, 2016 at Sale and Marketing department, room no. 1 at 10.00 a.m. There will be a few
topics that relate to your department. The topics are as follows:
(โปรดรับทราบว่าลูกค้าของเราจะร่วมประชุมเกี่ยวกับบริการ IT ในสัปดาห์หน้า ดังนั้น ฉันจึงอยากปรึกษากับคุณเกี่ยวกับ
การบริการด้าน IT ก่อนที่จะเจรจากับลูกค้า การประชุมจะจัดขึ้นในวันที่ 19 มกราคม 2559 ที่ฝ่ายขายและการตลาด ห้องที่ 1
เวลา 10,00 น. ซึ่งจะมีหัวข้อที่เกี่ยวข้องกับฝ่ายของคุณอยู่ 2-3 ข้อ หัวข้อมีดังนี้)
1. Contract center for users. (ศูนย์การติดต่อสาหรับผู้ใช้งาน)
2. The current solution. (การแก้ปัญหาในปัจจุบัน)
3. Changing the users’ password. (การเปลี่ยนรหัสผ่านของผู้ใช้งาน)
(หากคุณไม่สามารถเข้าร่วมประชุมนี้ได้ โปรดแจ้งให้ฉันหรือเลขานุการของฉันทราบอย่างเร็วที่สุดฉันจะดาเนินการ
เปลี่ยนแปลงการประชุมและแจ้งให้คุณทราบวันในภายหลัง)
16. Who will be required to attend the meeting? (ใครต้องเข้าร่วมประชุม)
a. Sale Manager (ผู้จัดการฝ่ายขาย)
b. Secretary (เลขานุการ)
c. Client (ลูกค้า)
d. IT Supervisor (หัวหน้างานฝ่าย IT)
คาอธิบาย : ศึกษาเทคนิคการทาข้อสอบ Reading ตาม English Tips Part 2
17. What is the purpose of this meeting? (จุดประสงค์ของการประชุมคืออะไร)
a. To negotiate (เพื่อเจรจา)
b. To attend (เพื่อเข้าร่วม)
c. To discuss (เพื่อหารือ)
d. To meet (เพื่อพบปะ)
18. Which of the following is not correct about the topics for this meeting? (ข้อใดไม่ถูกต้องเกี่ยวกับหัวข้อการ
ประชุมครั้งนี้)
a. Contact center (ศูนย์ติดต่อ)
b. Present solution (การแก้ปัญหาปัจจุบัน)
c. Current users (ผู้ใช้งานปัจจุบัน)
d. Changing password (การเปลี่ยนรหัสผ่าน)
19. Where will the meeting take place? (ที่ประชุมจะจัดขึ้นที่ใด)
a. IT department (ฝ่าย IT)
b. Sale department (ฝ่ายขาย)
c. Service department (ฝ่ายบริการ)
d. Sale and Marketing department (ฝ่ายขายและการตลาด)
20. What does “client” mean? (คาว่า “client” หมายถึงอะไร)
a. Merchant (พ่อค้า)
b. Dealer (ตัวแทน)
c. Customer (ลูกค้า)
d. Vender (ผู้ขาย)
In a modern life, some parents spend time with their children on many activities, so a media will
be involved with a part of activity. The good parents know how to use the media for their children. The
main purpose of using the media is to develop children’s skills. The parents use the media to let them
know about the basic thing around the children’s life; for example, the parents let the children learn about
nature, language, gesture, and food. The children’s brain can be developed easily and quickly. However,
there are some disadvantages of using the media for children that the parents should know.
(ในชีวิตปัจจุบันนั้น พ่อแม่บางคนได้ใช้เวลากับลูก ๆ ของพวกเขาในการทากิจกรรมต่าง ๆ ดังนั้นสื่อมีเดียจึงเข้ามามีส่วน
เกี่ยวข้องเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรม พ่อแม่มีดีจะรู้ว่าควรใช้สื่อมีเดียกับเด็ก อย่างไรจุดประสงค์หลักของการใช้สื่อมีเดีย คือ
ต้องการพัฒนาทักษะของเด็ก ๆ พ่อแม่ใช้สื่อเพื่อสอนให้เด็กรู้เกี่ยวกับสิ่งพื้นฐานรอบตัวในชีวิตของเด็ก ๆ ตัวอย่างเช่น พวกเขา
ให้เด็กได้เรียนรู้เกีย่ วกับธรรมชาติ ภาษาท่าทาง และอาหาร สมองของเด็กจะได้รับการพัฒนาอย่างง่ายดายและรวดเร็ว อย่างไรก็
ตาม ก็ยังคงมีข้อเสียในการใช้สื่อมีเดียสาหรับเด็กที่พ่อแม่ควรทราบ)
The parents should not let the children learn through the media by themselves, and the parents should
limit the time of using the media. If they let the children use the media too long, the children will waste
their time on it. They will not be interested in doing other activities. They will not develop other skills that
they should have in the real life. For example, it the children spend their time on television more than 1-2
hours, they won’t go out to do exercise or to explore a new experience with their friends. Consequently,
the best ways are to limit the time for children to use the media, select only the good and knowledgeable
media.
(พ่อแม่ไม่ควรให้เด็ก ๆ เรียนรู้ผ่านสื่อมีเดียไม่มีพวกเขาอยู่ด้วย และควรกาจัดเวลาสาหรับการใช้สื่อมีเดีย หากพวกเขา
ปล่อยให้เด็กใช้สื่อมีเดียนานเกินไป เด็ก ๆ จะเสียเวลาไปกับสื่อเหล่านั้น และเด็กจะไม่สนใจในการทากิจกรรมอื่น ๆ พวกเขาจะ
ไม่ได้พัฒนาทักษะทางด้านอื่น ๆ ที่ควรจะมีในชีวิตจริง ตัวอย่างเช่น หากเด็ก ๆ ใช้เวลากับโทรทัศน์มากกว่า 1-2 ชั่วโมง เด็ก ๆ
จะไม่ออกกาลังกาย หรือไม่ไปสารวจประสบการณ์ใหม่กับเพื่อน ๆ ของเขา ดังนั้น ทางที่ดีที่สุด คือ การจากัดเวลาในการใช้สื่อให้
เด็ก ๆ และเลือกแต่สื่อที่ดีและมีความมรู้เท่านั้น)
21. What is the passage is talking about? (บทความนี้กาลังพูดเกี่ยวกับอะไร)
a. Using the media for children. (การใช้สื่อมีเดียสาหรับเด็ก)
b. The best activity for children. (กิจกรรมที่ดีที่สุดสาหรับเด็ก)
c. Children’s development. (การพัฒนาของเด็ก ๆ)
d. The advantage of media for parents. (ประโยชน์ของสื่อมีเดียสาหรับพ่อแม่)
22. The word “involved” in line 2 means __________. (คาว่า “involved” ในบรรทัดที่ 2 หมายถึง)
a. To be implicated (ถูกทาให้เกี่ยวข้อง)
b. To be developed (ถูกพัฒนา)
c. To be used (ถูกใช้)
d. To be cleared (ถูกทาให้ชัดเจน)
23. The pronoun “them” in the third line refers to __________. (สรรพนาม “them” ในบรรทัดที่ 4 อ้างอิงถึง)
a. Parents (พ่อแม่)
b. Children (เด็ก ๆ)
c. Friends (เพื่อน ๆ)
d. Skills (ทักษะต่าง ๆ)
24. In the passage, what should the parents do? (ในบทความ พ่อแม่ควรทาอย่างไรบ้าง)
a. To let the children spend much time on media. (ปล่อยให้เด็ก ๆ ใช้เวลากับสื่อมีเดียมาก ๆ)
b. To explore the new experience with friends. (สารวจประสบการณ์ใหม่ ๆ กับเพื่อน)
c. To select the good media for children. (เลือกสื่อมีเดียที่ดีให้เด็ก ๆ)
d. To limit the number of media. (จากัดจานวนของสื่อมีเดีย)
25. The tone of passage is __________. (ลักษณะของบทความนี้คือ)
c. Aggressive (เชิงรุนแรง)
A : Good morning, please _____(1.)_____.
B : Thank you very much.
A : _____(2.)_____?
B : I’m pretty good. Thank you.
A : _____(3.)_____ about our job vacancy?
B : I saw the announcement on website.
A : Could you tell me a little about your educational background?
B : I _____(4.)_____ Kasetsart University in 2012, with a Bachelor’s degree in International Business.
A : Are you planning to study in a higher degree?
B : Yes, I will enroll in _____(5.)_____ for Integrated Marketing Communication.
A : How about your work experience?
B : When I left Kasetsart University. I worked at the GNM Company for three year.
a. come in
b. have a seat
c. make a call
d. stand up
a. How much is it?
b. Are you alright?
c. Are you pretty?
d. How are you?
a. Where did you know
b. How can you find
c. When do you know
d. Why did you find
a. graduated with
b. graduated at
c. graduated from
d. graduated to
a. exchange program
b. bachelor program
c. master program
d. doctorate program
6. We have to find the solution urgently for this __________ before the client complains as.
a. issue
b. source
c. option
d. method
7. I would like to go somewhere, but I still do not know my __________.
a. accommodation
b. journey
c. destination
d. destiny
8. An admission __________ of international program is very high, so I have to find a part-time job this
summer break.
a. free
b. fee
c. fear
d. fair
9. The president needs to __________ the management policy after the company was amalgamated with
our partner.
a. inform
b. quote
c. survey
d. change
10. The cause of this strike is that the employees need to be __________ their wage within next month.
a. cost
b. divided
c. increased
d. income
11. Lisa will be in charge of taking care a customer __________ will visit our company this week.
a. where
b. what
c. whom
d. who
12. The flash flood situation __________ damages all people in the northern area.
a. safely
b. seriously
c. usually
d. kingly
13. I suppose Dan won’t join us in this trip. He is concerned __________ his internship next week.
a. to
b. at
c. about
d. of
14. David __________ from Germany. He was there around 10 year after he had graduated from a high
school.
a. returned
b. returns
c. has returned
d. has been returned
15. Jane is a friendly and smart woman. __________ can deal with all the problems well, so the manager
always needs her to be a part of the team.
a. He
b. His
c. She
d. Her
Innova Technology Co., Lid.
September 13, 2016
Mr. Suchart Doodee
Software & Devices Co., Lid.
222/2, Prapadang, Samutprakarn
10130
Dear Mr. Suchart,
I have enclosed purchase order no. 018/2016 for the following supplies:
- Financial software (including yearly maintenance)
- Management software (including yearly maintenance)
- 6 boxes of laser printer
- 4 widescreen LCD monitors (32-Inch)
I would like to receive these items no later than the end of this month. However, the delivery address
is the same with the head letter.
I will highly appreciate if you can considerate about 30 percent discount for this purchase. Anyway, I
will pay for these items by credit card after receiving the invoice. If you have any questions about the order,
please do not hesitate to contact me.
Sincerely yours,
Miss Suda Jaidee
Purchasing Manager
16. What product does not Mr. Suchart require?
a. Financial software
b. Maintenance software
c. Laser printer
d. LCD monitor
17. What does the phrase “the end of this month” refer to?
a. 1 September 2016
b. 13 September 2016
c. 15 September 2016
d. 30 September 2016
18. What does Miss Suda need to considerate about?
a. Discount
b. Delivery
c. Invoice
d. Order
19. How would Mr. Suchart like to pay after getting the invoice?
a. Credit card
b. Transfer
c. Cash
d. Cashier’s cheque
20. What does “purchase” mean?
a. To sell
b. To buy
c. To return
d. To borrow
An essay is a kind of writing. The components of the essay are an introduction, a body, and a
conclusion. The introduction is a purpose or opening idea. The reader will know what and why the
author wrote this. It is like a bridge which brings the reader into the next part. Next, the body is a main
part that explains about the content. The reader will know about who, what, when, why, and
how it is written. For this reason, the author should write this part clearly.
The conclusion is to summarize the content into the brief statement which is related to the body
of the essay. One more important thing is the author should summarize only the important content that
makes the reader get the point and understand the essay well.
21. What is an essay?
a. A piece of writing
b. A few questions
c. A formal speech
d. An academic content
22. What is the first part of the essay?
a. Opening
b. Main part
c. Closing
d. Topic
23. Why should the author write the introduction?
a. To understand the content.
b. To explain what is going to be.
c. To find the answer.
d. To know what the objective is.
24. How should the author write the essay?
a. To write everything into the conclusion.
b. To write the essay clearly.
c. To write the essay briefly.
d. To write only the important details.
25. What does “conclusion” mean?
a. Introduction
b. Beginning
c. Summary
d. Conduction
A : Good morning, please _____(1.)_____. (สวัสดีตอนเช้า เชิญนั่งครับ)
B : Thank you very much. (ขอบคุณมากครับ)
A : _____(2.)_____? (คุณเป็นอย่างไรบ้างครับ)
B : I’m pretty good. Thank you. (ค่อนข้างดีครับ)
A : _____(3.)_____ about our job vacancy? (คุณทราบตาแหน่งงานว่างของเราจากที่ไหนครับ)
B : I saw the announcement on website. (ผมเจอประกาศบนเว็บไซต์ครับ)
A : Could you tell me a little about your educational background? (คุณช่วยบอกผมเกี่ยวกับการศึกษาของ
คุณหน่อยได้ไหมครับ)
B : I _____(4.)_____ Kasetsart University in 2012, with a Bachelor’s degree in International Business.
(ผมจบจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์เมื่อปี 2012 ด้วยปริญญาตรีในสาขาธุรกิจระหว่างประเทศครับ)
A : Are you planning to study in a higher degree? (คุณวางแผนที่จะเรียนในระดับที่สูงขึ้นไหมครับ)
B : Yes, I will enroll in _____(5.)_____ for Integrated Marketing Communication. (ครับ ผมจะสมัครหลักสูตร
ปริญญาโทในสาขาการสื่อสารการตลาดเชิงบูรณาการครับ)
A : How about your work experience? (แล้วประสบการณ์การทางานของคุณล่ะครับ)
B : When I left Kasetsart University. I worked at the GNM Company for three year. (ตอนที่ ผ มจบจาก
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ผมทางานได้ 3 ปีที่บริษัท GNM ครับ)
a. come in (เข้ามาข้างใน)
b. have a seat (เชิญนั่ง)
c. make a call (โทรหา)
d. stand up (ยืนขึ้น)
คาอธิบาย : ข้อนี้ผู้อ่านต้องทายความหมายและดูความเป็นไปได้จากโจทย์ โดยสังเกตจากบริบท
เพิ่มเติม : การพูดเพื่อเชิญให้บุคคลอื่นนั่งมารถใช้ได้หลากหลายคา เช่น sit down please, please take a seat เป็นต้น
a. How much is it? (ราคาเท่าไร)
b. Are you alright? (คุณไม่เป็นไรใช่ไหม)
c. Are you pretty? (คุณสวยไหม)
d. How are you? (คุณเป็นอย่างไรบ้าง)
เพิ่มเติม : ประโยคถามความเป็นอยู่สามารถใช้ได้หลายคา เช่น How do you do?, How have you been? เป็นต้น
a. Where did you know (คุณรู้มาจากที่ไหน)
b. How can you find (คุณหาเจอได้อย่างไร)
c. When do you know (คุณรู้เมื่อไร)
d. Why did you find (ทาไมคุณถึงค้นหา)
a. graduated with (จบการศึกษาด้วย)
b. graduated at (จบการศึกษาที่)
c. graduated from (จบการศึกษาจาก)
d. graduated to (จบการศึกษาถึง)
คาอธิบาย : graduated from + ชื่อสถานศึกษา = จบการศึกษาจาก ...
a. exchange program (หลักสูตรแลกเปลี่ยน)
b. bachelor program (หลักสูตรปริญญาตรี)
c. master program (หลักสูตรปริญญาโท)
d. doctorate program (หลักสูตรปริญญาเอก)
คาอธิบาย : ข้อนี้ในสังเกตจากบทความ ซึ่งจะพบว่าผู้ถูกสัมภาษณ์ได้จบการศึกษาจากปริญญาตรีมาแล้ว ดังนั้น การศึกษาขั้นที่
สูงขึ้นจึงควรเป็นระดับหลักสูตรปริญญาโท
6. We have to find the solution urgently for this __________ before the client complains as. (เราจาเป็นต้อง
หาแนวทางแก้ไขอย่างเร่งด่วนสาหรับประเด็นนี้ก่อนที่ลูกค้าจะร้องมาทางเรา)
a. issue (ประเด็น)
b. source (แหล่งข่าว)
c. option (ทางเลือก)
d. method (วิธีการ)
7. I would like to go somewhere, but I still do not know my __________. (ฉันอยากจะไปที่ไหนสักแห่งหนึ่ง แต่
ฉันยังไม่รู้จุดหมายปลายทางเลย)
a. accommodation (ที่พัก)
b. journey (การเดินทาง)
c. destination (จุดหมายปลายทาง)
d. destiny (โชคชะตา)
8. An admission __________ of international program is very high, so I have to find a part-time job this
summer break. (ค่าเรียนของหลักสูตรนานาชาติสูงมาก ดังนั้น ฉันจาเป็นต้องหางานนอกเวลาช่วงปิดภาคฤดูร้อนนี้)
a. free (ไม่มีค่าใช้จ่าย)
b. fee (ค่าธรรมเนียม)
c. fear (ความกลัว)
d. fair (งานออกร้าน)
คาอธิบาย : ข้อนี้เกี่ยวกับคาศัพท์ (Vocabulary) ตาแหน่งที่หายได้ คือ คานาม (Noun) ดังนั้น ผู้อ่านต้องทายความหมายและ
เลือกตอบให้ตรงกับบริบทของเนื้อหา
9. The president needs to __________ the management policy after the company was amalgamated with
our partner. (ท่านประธานต้องการเปลี่ยนนโยบายการจัดการหลังจากที่บริษัทได้ควบกิจการกับพันธมิตรเรา)
a. inform (แจ้งให้ทราบ)
b. quote (บอกราคา)
c. survey (สารวจ)
d. change (เปลี่ยน)
คาอธิบาย : ข้อนี้เกี่ยวกับคาศัพท์ (Vocabulary) ตาแหน่งที่หายได้ คือ กริยาช่องที่ 1 (Verb) ซึ่งสังเกตว่าหลัง to นั้นจะมีค่าอยู่
2 ประเภทที่ใช้เติมได้ คือ Noun (คานาม) และ verb (กริยา) และตัวเลือกที่ให้มีก็เป็นกริยาช่องที่ 1 ทั้งหมด ดังนั้น ผู้อ่านต้อง
10. The cause of this strike is that the employees need to be __________ their wage within next month.
(สาเหตุของการหยุดงานประท้วงครั้งนี้ คือ พนักงานต้องการถูกเพิ่มค่าจ้างภายในเดือนนี้)
a. cost (ค่าใช้จ่าย)
b. divided (แบ่งออก)
c. increased (เพิ่มขึ้น)
d. income (รายได้)
คาอธิบาย : ข้อนี้เกี่ยวกับคาศัพท์ (Vocabulary) ตาแหน่งที่หายได้ คือ กริยาช่อง 3 (Verb 3) เพราะพนักงานไม่สามารถเพิ่ม
ค่าแรงเองได้ เป็นประโยค Passive Voice (ตาม English Tips ข้อที่ 18.)
11. Lisa will be in charge of taking care a customer __________ will visit our company this week. (ลิซ่าจะทา
หน้าที่ดูแลลูกค้าผู้ที่จะมาเยี่ยมบริษัทเราอาทิตย์นี้)
a. where (ที่ซึ่ง)
b. what (อะไรซึ่ง)
c. whom (ผู้ที่)
d. who (ผู้ที่)
คาอธิบาย : ข้อนี้ตาแหน่งที่หายไป คือ adjective Clause ซึ่งคาก่อนหน้า คือ customer ได้กล่าวถึงบุคคลจึงต้องใช้ who ที่
ทาหน้าที่เป็นประธานของประโยคที่ขยายความ (ตาม English Tips ข้อที่ 9.) ไม่ใช้ whom เนื่องจาก customer ไม่ใช่กรรม
ของประโยคที่ขยายความ
12. The flash flood situation __________ damages all people in the northern area. (เหตุการณ์น้าท่วมฉับพลัน
สร้างความเสียหายอย่างรุนแรงให้แก่ประชาชนทุกคนทางภาคเหนือ)
a. safely (อย่างปลอดภัย)
b. seriously (อย่างรุนแรง)
c. usually (อย่างปกติ)
d. kingly (อย่างอ่อนโยน)
คาอธิบาย : ข้อนี้ตาแหน่งที่หายไป คือ Adverb ซึ่งจะขยายกริยา damage ว่ามีความเสียหายอย่างไร ดังนั้น ผู้อ่านต้องทาย
ความหมายและเลือกตอบให้ตรงกับบริบทของเนื้อหา
13. I suppose Dan won’t join us in this trip. He is concerned __________ his internship next week. (ฉันเดาว่า
แดนคงไม่ร่วมเดิมทางไปกับเราในครั้งนี้ เขากังวลเกี่ยวกับเรื่องฝึกงานของเขาในอาทิตย์หน้า)
a. to (ถึง)
b. at (ที่)
c. about (เกี่ยวกับ)
d. of (ของ)
คาอธิบาย : การใช้ concern ต้องใช้คู่กับบุพบท about เสมอ
14. David __________ from Germany. He was there around 10 year after he had graduated from a high
school. (เดวิดเพิ่งกลับมาจากเยอรมนี เขาไปอยู่ที่นั่นได้ประมาณ 10 ปี แล้วหลังจากที่เขาเรียนจบชั้นมัธยม)
a. returned (กลับมานานแล้ว)
b. returns (กลับมา)
c. has returned (เพิ่มกลับมา)
d. has been returned (ถูกทาให้กลับมา)
คาอธิบาย : ข้อนี้เป็นประโยครูปแบบ Present Perfect Tense แสดงถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและจบไปแล้ว แต่ผลการกระทา
ยังคงอยู่ มีโครงสร้างประโยคดังนี้ Subject + have, has + V.3 + object (ตาม English Tips ข้อที่ 1.)
15. Jane is a friendly and smart woman. __________ can deal with all the problems well, so the manager
always needs her to be a part of the team. (เจนเป็นผู้หญิงที่เป็นมิตรและฉลาด เธอสามารถจัดการกับทุกปัญหา
ได้ดี ดังนั้น ผู้จัดการจึงต้องการให้เธอร่วมทีมอยู่เสนอ)
a. He
b. His
c. She
d. Her
คาอธิบาย : ข้อนี้เกี่ยวกับ Pronoun หรือสรรพนาม จากโจทย์จะเห็นไดว่าประโยคแรกได้กล่าวถึง Jane ซึ่งเป็นผู้หญิง ดังนั้น
ประโยคถัดตาแหน่งที่หายไป คือ ประธาน เมื่อต้องใช้ Pronoun แทนจึงต้องใช้ she
Innova Technology Co., Lid.
September 13, 2016
Mr. Suchart Doodee
Software & Devices Co., Lid.
222/2, Prapadang, Samutprakarn
10130
Dear Mr. Suchart,
I have enclosed purchase order no. 018/2016 for the following supplies: (ดิฉันได้แนบรายการใบสั่งซื้อเลขที่
018/2016 สาหรับสั่งซือ้ รายการสินค้า ดังนี้)
- Financial software (including yearly maintenance) (ซอฟต์แวร์การเงิน รวมถึงการบารุงรักษาประจาปี)
- Management software (including yearly maintenance) (ซอฟต์ แ วร์ ก ารจั ด การ รวมถึ ง การบ ารุ ง รั ก ษา
ประจาปี)
- 6 boxes of laser printer (เครื่องพิมพ์แบบเลเซอร์ 6 กล่อง)
- 4 widescreen LCD monitors (32-Inch) (จอภาพหน้ากว้างแบบ LED 4 เครื่อง)
I would like to receive these items no later than the end of this month. However, the delivery address
is the same with the head letter. (ดิฉันต้องการรับสินค้าเหล่านี้ไม่เกินสินเดือนนี้ อย่างไรก็ตามที่อยู่ที่จัดส่ง คือ ที่อยู่บนหัว
จดหมายนี้)
I will highly appreciate if you can considerate about 30 percent discount for this purchase. Anyway, I
will pay for these items by credit card after receiving the invoice. If you have any questions about the order,
please do not hesitate to contact me. (ดิฉันจะยินดีอย่างยิ่งหากคุณพิจารณาส่วนลด 30% ให้แก่เราสาหรับการซื้อในครั้ง
นี้ อย่างไรก็ตามดิฉันจะชาระเงินด้วยบัตรเครติดหลังจากได้รับใบแจ้งนี้ หากคุณมีคาถามเกี่ยวกั บการสั่งซื้อครั้งนี้ โปรดอย่าลังเล
ที่จะติดต่อดิฉัน)
Sincerely yours,
Miss Suda Jaidee
Purchasing Manager
16. What product does not Mr. Suchart require? (สินค้าใดที่คุณสุดาไม่ได้แจ้งในการสั่งซื้อ)
a. Financial software (ซอฟต์แวร์การเงิน)
b. Maintenance software (ซอฟต์แวร์การดูแลรักษา)
c. Laser printer (เครื่องพิมพ์แบบเลเซอร์)
d. LCD monitor (จอภาพแบบ LED)
17. What does the phrase “the end of this month” refer to? (คาว่า “สิ้นเดือนนี้” อ้างอิงถึงวันใด)
a. 1 September 2016 (1 กันยายน 2016)
b. 13 September 2016 (13 กันยายน 2016)
c. 15 September 2016 (15 กันยายน 2016)
d. 30 September 2016 (30 กันยายน 2016)
18. What does Miss Suda need to considerate about? (คุณสุชาติจาเป็นต้องพิจารณาถึงสิ่งใด)
a. Discount (ส่วนลด)
b. Delivery (การจัดส่ง)
c. Invoice (ใบแจ้งหนี้)
d. Order (การสั่งซื้อ)
19. How would Mr. Suchart like to pay after getting the invoice? (คุณสุดาจะชาระเงินด้วยวิธีใด)
a. Credit card (บัตรเครดิต)
b. Transfer (โอนเงิน)
c. Cash (เงินสด)
d. Cashier’s cheque (เช็คเงินสด)
20. What does “purchase” mean? (คาว่า “purchase” มีความหมายว่าอะไร)
a. To sell (ขาย)
b. To buy (ซื้อ)
c. To return (คืน)
d. To borrow (ยืม)
An essay is a kind of writing. The components of the essay are an introduction, a body, and a
conclusion. The introduction is a purpose or opening idea. The reader will know what and why the
author wrote this. It is like a bridge which brings the reader into the next part. Next, the body is a main
part that explains about the content. The reader will know about who, what, when, why, and
how it is written. For this reason, the author should write this part clearly.
(เรียงความ คือ ประเภทหนึ่งของการเขียน องค์ประกอบของเรียงความนั้นประกอบด้วยส่วนนา เนื้อหาและบทสรุป ใน
ส่วนของส่วนนานั้น คือ วัตถุประสงค์หรือส่วนเปิดไอเดีย ผู้อ่านจะได้รู้ว่ากาลังจะเขียนถึงอะไรและทาไมถึงเขียนขึ้นมา ส่วนนี้เป็น
เหมือนสะพานที่พาผู้อ่านเข้าสู่ในส่วนต่อไป และในส่วนถัดไปนั้น คือ เนื้อหาที่เป็นเนื้อหาสาคัญที่อธิบายเกี่ยวกับเนื้อหา ผู้อ่าน
จะรู้เพิ่มเติมว่าใคร อะไร ที่ไหน เมื่อไร ทาไม และอย่างไรที่เกิดขึ้นในเนื้อหา ดังนั้น ผู้เขียนจึงควรเขียนเนื้อหาส่วนนี้ให้ชัดเจน)
The conclusion is to summarize the content into the brief statement which is related to the body
of the essay. One more important thing is the author should summarize only the important content that
makes the reader get the point and understand the essay well.
(บทสรุป คือ การเขียนสรุปเนื้อหาให้เป็นบทความกระชับ ซึ่งจะเชื่อมโยงถึงเนื้อหาของเรียงความ อีก หนึ่งสิ่งสาคัญ คือ
ผู้เขียนควรสรุปเฉพาะเนื้อหาที่สาคัญที่ทาให้ผู้อ่านเข้าใจเรียงความได้ดี)
21. What is an essay? (เรียงความคืออะไร)
a. A piece of writing (ส่วนหนึ่งของงานเขียน)
b. A few questions (คาถามสองสามข้อ)
c. A formal speech (การพูดอย่างเป็นทางการ)
d. An academic content (เนื้อหาวิชาการ)
22. What is the first part of the essay? (ข้อใดคือส่วนแรกของเรียงความ)
a. Opening (ส่วนเปิด)
b. Main part (ส่วนสาคัญ)
c. Closing (ส่วนปิดท้าย)
d. Topic (หัวข้อ)
23. Why should the author write the introduction? (ทาไมนักเขียนจึงควรเขียนส่วนนาของเรียงความ)
a. To understand the content. (เพื่อเข้าใจเนื้อหา)
b. To explain what is going to be. (เพื่ออธิบายว่าอะไรจะเกิดขึ้น)
c. To find the answer. (เพื่อหาคาตอบ)
d. To know what the objective is. (เพื่อทราบว่าวัตถุประสงค์คืออะไร)
24. How should the author write the essay? (นักเขียนควรเขียนเรียงความอย่างไร)
a. To write everything into the conclusion. (เขียนทุกอย่างลงในบทสรุป)
b. To write the essay clearly. (เขียนอย่างชัดเจน)
c. To write the essay briefly. (เขียนออย่างกระชับ)
d. To write only the important details. (เขียนเฉพาะส่วนที่สาคัญ)
25. What does “conclusion” mean? (คาว่า “conclusion” หมายถึงอะไร)
a. Introduction (บทนา)
b. Beginning (ส่วนนา)
c. Summary (สรุป)
d. Conduction (การนา)
A : Hello, _____(1.)_____ Mr. Peter?
B : Yes, I’m speaking. Who is speaking, please?
A : I’m Kan from Product department. I met you at the annual seminar in Rayong last week.
B : Yes, I remember you. _____(2.)_____?
A : I’m good. Anyways, I’m planning to advertise our current product on TV and radio channels, but
I have no idea about the concept of that. I will _____(3.)_____ and invite you to attend the
meeting. What do you think?
B : It’s a good idea. _____(4.)_____ of the meeting?
A : A small meeting room at the first floor. It will be on this Friday around 10 o’clock in the morning.
B : Ok, I will be there with my team before 10 o’clock. I need to prepare _____(5.)_____ of an
advertisement.
A : That’s great. Thank you.
a. May I speak to
b. Am I speaking to
c. Can you speak
d. Do you speak to
a. How do you know?
b. What can I do for you?
c. How are you?
d. Why did you call me?
a. arrange the meeting
b. arranging the meeting
c. arranges the meeting
d. arranged the meeting
a. Who is the president?
b. Where is the place?
c. What is the main topic?
d. When is it?
a. presentation
b. a presentation
c. an presentation
d. the presentation
6. A student who wears a short skirt is not __________ to go into the classroom.
a. forbidden
b. prohibited
c. allowed
d. banned
7. Lisa needs to __________ at the airport, but she doesn’t get a chance to do.
a. work
b. study
c. visit
d. does
8. The manager has gone out of the __________ and he will not be back till afternoon.
a. school
b. office
c. campus
d. residence
9. The luggage is full of my clothes and very heavy, can you __________ me please?
a. serve
b. deal
c. help
d. support
10. Ann has just done the meeting minutes, so she has to submit all the details to the __________.
a. partner
b. worker
c. president
d. employee
11. The gross domestic product of China is the __________ value among Asia countries.
a. high
b. as high ass
c. higher than
d. highest
12. The innovation product __________ to expand fifty to seventy percent in Europe.
a. expect
b. expects
c. is expect
d. is expected
13. We should seriously check the quality of product before distributing __________ our dealers.
a. with
b. from
c. at
d. to
14. As you can see on __________, our sales rise up from five to ten percent this month.
a. screen
b. a careen
c. the screen
d. of screen
15. The prime minister would like to thank all staff members and security officers __________ are in charge
of taking care the ceremony.
a. which
b. who
c. where
d. what
To: Andy (Andylee@mycominter.com)
From: Perter (Peter.k@liveoffice.com)
Subject: Incorrect Product
Date: September 1st, 2016 10:50 AM
In a recent delivery from My Com International Company, there was a problem. I ordered 10 boxes of
printers, and 5 boxes of speakers on August 21st, but I received 15 boxes of screens and an incorrect invoice.
I have returned all boxes of screens to your attention. I would like you to check and send me the right
products within 7 working days after you get this email. Also, please correct the invoice.
I appreciate your taking care of this for me.
Sincerely yours,
Mr. Peter Kay
Purchasing Manager
16. What is the main purpose of this email?
a. To cancel the invoice.
b. To make a claim.
c. To order the products.
d. To reply the letter.
17. What happened to him?
a. He received the incorrect products.
b. He ordered the correct products.
c. He received the correct invoice.
d. He didn’t receive the invoice.
18. When did he order the product from the merchant?
a. 15th August
b. 21st August
c. 1st September
d. 7th September
19. What did Mr. Peter do after receiving the product?
a. He returned all the correct invoice.
b. He received the correct invoice.
c. He returned all the incorrect products.
d. He ordered the incorrect products.
20. What does he need Mr. Andy to do?
a. Sending the incorrect invoice.
b. Cancelling the correct invoice.
c. Ordering the new product.
d. Sending the correct products.
Do you know how to prepare yourself for travel? There are some tips for travelers to prepare
themselves before going out to their destination. First of all, you should exactly know the place where
you need to go. To define the destination is important. It will be easier to find several places nearby
to travel. When you know your destination, you have to find more information about that place. You
have to plan for the first place to go and the next. The plan helps you save costs and time. You can
manage your time to travel to many places. If you have limited time and you do not need to waste
your time for travel.
Second, you should reserve the accommodation for each place. If you travel to many places
and have to stay at different places each night. Do not forget to confirm your accommodation before
checking in. Finally, you should list the things you need for your travel. To categorize the things will
be easier and better for preparation. It helps you put the things into your baggage and manage its
space well, so you will have more space for souvenir for your family and friends.
21. What is the purpose of this passage?
a. To advertise the travel.
b. To share the tips for travel.
c. To encourage the travel.
d. To criticize the accommodation.
22. What is the first tip for travelers?
a. To de find the destination.
b. To reserve the accommodation.
c. To limit the time.
d. To plan the necessary things.
23. Why should the travelers have the plan?
a. To waste time and money.
b. To start having a reservation.
c. To avoid getting lost the way.
d. To know exactly where to go.
24. What is not mentioned in the passage?
a. Destiny
b. Places
c. Stuff
d. Accommodation
25. The pronoun “its” in the 11th line refers to __________.
a. Things
b. Family
c. Friends
d. Baggage
A : Hello, _____(1.)_____ Mr. Peter? (สวัสดี ผมขอสายคุณปีเตอร์ได้ไหมครับ)
B : Yes, I’m speaking. Who is speaking, please? (ครับ ผมกาลังพูดครับ นั่นใครกาลังพูดอยู่หรือครับ)
A : I’m Kan from Product department. I met you at the annual seminar in Rayong last week. (ผมกาน
ครับจากแผนกผลิตภัณฑ์ ผมเจอคุณที่งานสัมมนาประจาปีที่ระยองเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว)
B : Yes, I remember you. _____(2.)_____? (ครับ ผมจาคุณได้ เป็นอย่างไรบ้างครับ)
A : I’m good. Anyways, I’m planning to advertise our current product on TV and radio channels, but
I have no idea about the concept of that. I will _____(3.)_____ and invite you to attend the
meeting. What do you think? (ผมสบายดี พอดีว่าผมกาลังวางแผนที่จะโฆษณาสินค้าตัวปัจจุบันทางโทรทัศน์
และวิทยุ แต่ผมยังไม่มีแนวทางเกี่ยวกับการโฆษณาเลย ผมจะจัดประชุมและเชิญคุณมาเข้าร่วมการประชุม คุณคิด
ว่าอย่างไรครับ)
B : It’s a good idea. _____(4.)_____ of the meeting? (ดีครับ จะจัดประชุมที่ไหนหรือครับ)
A : A small meeting room at the first floor. It will be on this Friday around 10 o’clock in the morning.
(ห้องประชุมเล็กชั้น 1 จะประชุมศุกร์นี้ตอนเช้าประมาณ 10 โมงครับ)
B : Ok, I will be there with my team before 10 o’clock. I need to prepare _____(5.)_____ of an
advertisement. (ได้ครับ ผมจะไปถึงที่นั่นพร้อมทีมของผมก่อน 10 โมงนะครับ ผมต้องการเตรียมการนาเสนอ
สาหรับการโฆษณาด้วย)
A : That’s great. Thank you. (เยี่ยมมากเลยครับ ขอบคุณครับ)
a. May I speak to (ผมขอคุยกับ)
b. Am I speaking to (ผมกาลังคุยกับ)
c. Can you speak (คุณสามารถพูด)
d. Do you speak to (คุณได้พูดกับ)
คาอธิบาย : ข้อนี้เป็นประโยคเกี่ยวกับการสนทนาทางโทรศัพท์ โดยใช้ May I speak to แล้วตามด้วยชื่อหรือตาแหน่งของบุคคล
ที่ต้องการสนทนาด้วย
เพิ่มเติม : สามารถใช้ประโยคอื่นโดยให้ความหมายในเชิงเดียวกันได้อีก เช่น
- Can I speak / talk to Mr. Peter, please?
- May I speak / talk to Mr. Peter, please?
- I’d like to speak to Mr. Peter. Could you call him for me, please?
a. How do you know? (คุณรู้ได้อย่างไร)
b. What can I do for you? (มีอะไรให้ผมช่วยไหม)
c. How are you? (คุณเป็นอย่างไรบ้าง)
d. Why did you call me? (คุณโทรหาผมทาไมหรือ)
คาอธิบาย : ข้อนี้ให้สังเกตจากบริบทของผู้ตอบว่าตอบในเรื่องใด แล้งจึงพิจารณาตัวเลือกที่ให้และตอบให้ตรงกับบริบทนั้น ๆ
a. arrange the meeting (จัดการประชุม)
b. arranging the meeting (กาลังจัดการประชุม)
c. arranges the meeting (จัดการประชุม)
d. arranged the meeting (จัดการประชุมไปแล้ว)
คาอธิบาย : ข้อนี้ให้สังเกตจากคาก่อนหน้าซึ่งเป็น I will แสดงถึงเหตุการณ์ที่เป็น Future Simple Tense หรือเหตุการณ์ที่จะ
เกิดในอนาคต โครงสร้าง คือ Subject + will + V.1 + Object ดังนั้น กริยาหรือ Verb ที่ตามหลัง will จะต้องเป็นกิริยาช่องที่
1 เท่านั้น (ตาม English Tips ข้อที่ 3.)
a. Who is the president? (ใครเป็นประธาน)
b. Where is the place? (สถานที่ใด)
c. What is the main topic? (หัวข้อหลักคืออะไร)
d. When is it? (เมื่อไร)
คาอธิบาย : ข้อนี้ให้สังเกตจากบริบทของผู้ตอบว่าตอบในเรื่องใด แล้วจึงพิจารณาตัวเลือกที่ให้และตอบให้ตรงกับบริบทนั้น ๆ
a. presentation (สิ่งที่นาเสนอ)
b. a presentation (สิ่งที่นาเสนอสิ่งหนึ่ง)
c. an presentation (สิ่งที่นาเสนอสิ่งหนึ่ง)
d. the presentation (สิ่งที่นาเสนอ)
คาอธิบาย : ข้อนี้ออกเกี่ยวกับ Article คือ การแสดงจาเพาะเจาะจงซึ่งเป็นสิ่งที่ทราบกันดีระหว่างผู้พูดและผู้ฟัง (ตาม English
6. A student who wears a short skirt is not __________ to go into the classroom. (นักเรียนที่สวมกระโปรงสั้น
จะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปในห้องเรียน)
a. forbidden (ห้าม)
b. prohibited (ไม่ได้รับอนุญาต)
c. allowed (อนุญาต)
d. banned (ห้าม)
คาอธิบาย : ข้อนี้เกี่ยวกับคาศัพท์ (Vocabulary) ตาแหน่งที่หายไป คือ กริยาช่องที่ 3 (Verb) ซึ่งเป็นประโยค Passive Voice
หรือประธานเป็นผู้ถูกกระทา ตัวเลือกที่ให้เป็นกริยาทั้งหมด ดังนั้น ผู้อ่านต้องทายความหมายและเลือกตอบให้ตรงกับบริบทของ
เนื้อหา
เพิ่มเติม : สังเกตว่าหลัง V.to be (is, am, are, etc) มีกริยาอยู่ 2 ประเภทที่ใช้เติมได้ คือ Gerund (V.ing) และ Verb 3 เท่านั้น
7. Lisa needs to __________ at the airport, but she doesn’t get a chance to do. (ลิซ่าต้องการทางานที่สนามบิน
แต่เธอไม่มีโอกาสได้ทา)
a. work (ทางาน)
b. study (เรียน)
c. visit (เยี่ยมเยียน)
d. does (ทา)
คาอธิบาย : ข้อนี้เกี่ยวกับคาศัพท์ (Vocabulary) ตาแหน่งที่หายไป คือ กริยาช่องที่ 1 (Verb) ซึ่งสังเกตว่าหลัง to นั้นจะมีคาอยู่
2 ประเภทที่ใช้เติมได้ คือ Noun (คานาม) และ Verb (กริยา) และตัวเลือกที่ให้มีก็เป็นกริยาช่องที่ 1 ทั้งหมด ดังนั้น ผู้อ่านต้อง
8. The manager has gone out of the __________ and he will not be back till afternoon. (ผู้ จั ด การเพิ่ ง ออก
จากสานักงานไปสักพักและจะไม่เข้ามาจนถึงช่วงบ่าย)
a. school (โรงเรียน)
b. office (สานักงาน)
c. campus (มหาวิทยาลัย)
d. residence (ที่พักอาศัย)
คาอธิบาย : ข้อนี้เกี่ยวกับคาศัพท์ (Vocabulary) ตาแหน่งที่หายไป คือ คานาม (Noun) ดังนั้น ผู้อ่านต้องทายความหมายและ
9. The luggage is full of my clothes and very heavy, can you __________ me please? (กระเป๋าเดินทางเต็มไป
ด้วยเสื้อผ้าของฉันและมันหนักมาก คุณช่วยฉันหน่อยได้ไหม)
a. serve (บริการ)
b. deal (จัดการ)
c. help (ช่วยเหลือ)
d. support (สนับสนุน)
คาอธิบาย : ข้อนี้เกี่ยวกับคาศัพท์ (Vocabulary) ตาแหน่งที่หายไป คือ กริยาช่องที่ 1 (Verb) ซึ่งสังเกตว่าประโยคใด ๆ ก็แล้วแต่
หากใช้ can เข้ามาเป็นกริยาช่วยแล้วนั้น (Auxiliary verb) กริยาแท้ที่ตามมาต้องเป็นช่อง 1 เท่านั้น ห้ามผันตามประธาน
เด็ดขาด (ตาม English Tips ข้อที่ 5.)
10. Ann has just done the meeting minutes, so she has to submit all the details to the __________. ( แ อ น
เพิ่งทารายงานประชุมเสร็จ ดังนั้น เธอต้องส่งรายละเอียดทั้งหมดให้กับประธาน)
a. partner (หุ้นส่วน)
b. worker (คนงาน)
c. president (ประธาน)
d. employee (ลูกจ้าง)
11. The gross domestic product of China is the __________ value among Asia countries. (รายได้ ร วมสิ น ค้ า
ภายในประเทศของจีนนั้นสูงที่สุดในเอเชีย)
a. high (สูง)
b. as high ass (สูงพอ ๆ กับ)
c. higher than (สูงกว่า)
d. highest (สูงที่สุด)
คาอธิบาย : ข้อนี้ออกเกี่ยวกับการเปรียบเทียบ (Comparison for Adjective) ขั้นสุด จากโจทย์สังเกตได้ว่ามี the นาหน้า อีก
ทั้งยังเป็นการเปรียบเทียบที่มากกว่าหนึ่งประเทศ จากโจทย์ คือ ทั้งเอเชีย จึงต้องตอบเป็นขั้นสูงสุด (ตาม English Tips ข้อที่
10.)
12. The innovation product __________ to expand fifty to seventy percent in Europe. (ผลิ ต ภั ณ ฑ์ น วั ต กรรม
ใหม่ถูกคาดหวังให้ขยายจาก 50 เป็น 70 เปอร์เซ็นต์ในยุโรป)
a. expect (คาดหวัง)
b. expects (คาดหวัง)
c. is expect (คาดหวัง)
d. is expected (ถูกคาดหวัง)
คาอธิบาย : ข้อนี้เป็นประโยคแบบ Passive Voice คือ ประธานเป็นผู้ถูกกระทา ซึ่งประธาน คือ The innovation product ที่
ไม่สามารถคาดหวังในตัวเองได้ เพราะเป็นสิ่งของจึงถูกคาดหวังจากผู้ผลิต ดังนั้น ต้องใช้โครงสร้างประโยค คือ Subject + V.to
be + V.3 (ตา English Tips ข้อที่ 18.)
13. We should seriously check the quality of product before distributing __________ our dealers. (เราควร
ตรวจสอบคุณภาพของสินค้าอย่างละเอียดก่อนกระจายไปยังตัวแทนจาหน่ายของเรา)
a. with (กับ)
b. from (จาก)
c. at (ที่)
d. to (ถึง)
คาอธิบาย : ข้อนี้เกี่ยวกับคาบุพบท หรือ Preposition เป็นการใช้เพื่อระบุตาแหน่งของคานาม จากโจทย์การใช้ distribute
ต้องคู่กับ to เท่านั้น ซึ่งแปลได้ว่า ส่งมอบไปที่ หรือกระจายไปที่
14. As you can see on __________, our sales rise up from five to ten percent this month. (ตามที่ คุ ณ เห็ น บน
หน้าจอ ยอดขายของเราเพิ่มขึ้นจาก 5 เป็น 10 เปอร์เซ็นต์ในเดือนนี้)
a. screen (หน้าจอ)
b. a careen (หน้าจอหนึ่ง)
c. the screen (หน้าจอ)
d. of screen (ของหน้าจอ)
คาอธิบาย : ข้อนี้เกี่ยวกับ Article คือ การแสดงจาเพราะเจาะจง ซึ่งเป็นสิ่งที่ทราบกันดีระหว่างผู้พูดและผู้ฟัง (ตาม English
15. The prime minister would like to thank all staff members and security officers __________ are in charge
of taking care the ceremony. (นายกรัฐมนตรีต้องการขอบคุณเจ้าหน้าที่และพนักงานรักษาความปลอดภัยทุกคนที่มี
หน้าที่ดูแลพิธีการนี)้
a. which (อันซึ่ง)
b. who (ผู้ซึ่ง)
c. where (ที่ซึ่ง)
d. what (อะไร)
คาอธิบาย : จากโจทย์คาหน้าช่องว่างที่หายไป คือ all staff and security officer ซึ่งหมายถึง บุคคล ดังนั้นต้องใช who ใน
การเชื่อมประโยคเท่านั้น (ตาม English Tips ข้อที่ 9.)
To: Andy (Andylee@mycominter.com)
From: Perter (Peter.k@liveoffice.com)
Subject: Incorrect Product
Date: September 1st, 2016 10:50 AM
In a recent delivery from My Com International Company, there was a problem. I ordered 10 boxes of
printers, and 5 boxes of speakers on August 21st, but I received 15 boxes of screens and an incorrect invoice.
(ในการขนส่งจากบริษัท My Com International ซึ่งพบว่าเกิดปัญหาจากการส่งของจากบริษัทผมได้สั่งซื้อเครื่องพิมพ์จานวน
10 กล่องและลาโพง 5 กล่องเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม แต่ของที่ผมได้รับเป็นหน้าจอจานวน 15 กล่องอีกทั้งใบแจ้งหนี้ก็ไม่ถูกต้อง)
I have returned all boxes of screens to your attention. I would like you to check and send me the right
products within 7 working days after you get this email. Also, please correct the invoice. ( ผ ม จึ ง ส่ ง คื น สิ นค้ า
ทั้งหมดเพื่อให้คุณพิจารณา ผมต้องการให้คุณตรวจสอบและส่งสินค้าที่ถูกต้องมาให้ผมภายใน 7 วันทาการหลังจากได้รับอีเมลนี้
พร้อมใบเสร็จที่ถูกต้อง)
I appreciate your taking care of this for me. (ผมจะขอบคุณมากที่ช่วยดูแลในเรื่องดังกล่าว)
Mr. Peter Kay (นายปีเตอร์ เคย์)
Purchasing Manager (ผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ)
16. What is the main purpose of this email? (จุดประสงค์หลักของอีเมลฉบับนี้คืออะไร)
a. To cancel the invoice. (ยกเลิกใบแจ้งหนี้)
b. To make a claim. (ทาการเรียกร้อง)
c. To order the products. (สั่งซื้อสินค้า)
d. To reply the letter. (ตอบกลับจดหมาย)
17. What happened to him? (เกิดอะไรขึ้นกับเขา)
a. He received the incorrect products. (เขาได้รับสินค้าที่ไม่ถูกต้อง)
b. He ordered the correct products. (เขาสั่งซื้อสินค้าที่ถูกต้อง)
c. He received the correct invoice. (เขาได้รับใบแจ้งหนี้ที่ถูกต้อง)
d. He didn’t receive the invoice. (เขาไม่ได้รับใบแจ้งหนี้)
18. When did he order the product from the merchant? (เขาได้สั่งซื้อสินค้ากับผู้จาหน่ายเมื่อใด)
b. 21st August (21 สิงหาคม)
c. 1st September (1 กันยายน)
d. 7th September (7 กันยายน)
19. What did Mr. Peter do after receiving the product? (คุณปีเตอร์ทาอย่างไรหลังจากได้รับสินค้า)
a. He returned all the correct invoice. (เขาคืนใบแจ้งหนี้ที่ถูกต้องทั้งหมด)
b. He received the correct invoice. (เขาได้รับใบแจ้งหนี้ที่ถูกต้อง)
c. He returned all the incorrect products. (เขาคืนสินค้าที่ผิดพลาดทั้งหมด)
d. He ordered the incorrect products. (เขาส่งซื้อสินค้าที่ผิดพลาด)
20. What does he need Mr. Andy to do? (เขาต้องการให้คุณแอนดีทาอย่างไร)
a. Sending the incorrect invoice. (ส่งในแจ้งหนี้ไม่ถูกต้อง)
b. Cancelling the correct invoice. (ยกเลิกใบแจ้งหนี้ที่ถูกต้อง)
c. Ordering the new product. (ส่งซื้อสินค้าใหม่)
d. Sending the correct products. (ส่งสินค้าที่ถูกต้อง)
Do you know how to prepare yourself for travel? There are some tips for travelers to prepare
themselves before going out to their destination. First of all, you should exactly know the place where
you need to go. To define the destination is important. It will be easier to find several places nearby
to travel. When you know your destination, you have to find more information about that place. You
have to plan for the first place to go and the next. The plan helps you save costs and time. You can
manage your time to travel to many places. If you have limited time and you do not need to waste
your time for travel.
(คุณรู้วิธีเตรียมตัวสาหรับท่องเที่ยวหรือไม่ นี่คือทริป สาหรับนักท่องเพื่อเตรียมตัวก่อนออกไปยังจุดหมายปลายทางของ
พวกเขา สิ่งแรกคุณต้องรู้อย่างแน่นอนก่อนว่าสถานที่ใดที่คุณต้องการจะไป เพื่อระบุจุดหมายปลายทางเป็นสิ่งที่สาคัญ ซึ่งจะช่วย
ให้หาสถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียงได้ง่ายขึ้น เมื่อคุณรู้จุดหมายปลายทางแล้ว คุณต้องหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสถานที่นั้น ๆ คุณ
ต้องวางแผนว่าคุณจะไปสถานที่ใดเป็นที่แรกและที่ถัดไป การวางแผนจะช่วยให้คุณประหยัดงบประมาณและเวลา คุณจะ
สามารถจัดการเวลาเพื่อท่องเที่ยวได้หลายที่หากคุณมีเวลาที่จากัดและไม่ต้องเสียเวลาในการท่องเที่ยว)
Second, you should reserve the accommodation for each place. If you travel to many places
and have to stay at different places each night. Do not forget to confirm your accommodation before
checking in. Finally, you should list the things you need for your travel. To categorize the things will
be easier and better for preparation. It helps you put the things into your baggage and manage its
space well, so you will have more space for souvenir for your family and friends.
(ข้อที่สอง คุณควรจองที่พักสาหรับแต่ละสถานที่ไว้ด้วย หากคุณต้องเดินทางไปหลายที่และต้องพักหลายที่ในแต่ละคืน
อย่าลืมยืนยันที่พักของคุณก่อนจะเข้าเช็ดอิน และข้อสุดท้ายคุณควรจะจดรายการสิ่งของที่คุณ ต้องการสาหรับการท่องเที่ยวของ
คุณ หากแยกของออกเป็นหมวดหมู่ก็จะง่ายและสะดวกในการเตรียมตัว มันช่วยให้คุณเก็บของลงในกระเป๋าเดินทาง และจัดการ
กับเนื้อที่ของกระเป๋าได้ดี ดังนั้น คุณจะมีพื้นที่เหลือพอสาหรับของที่ระลึกสาหรับครอบครัวและเพื่อนของคุณ)
21. What is the purpose of this passage? (จุดประสงค์ของเนื้อหานี้คืออะไร)
a. To advertise the travel. (เพื่อโฆษณาการท่องเที่ยว)
b. To share the tips for travel. (เพื่อแบ่งเคล็ดลับทริปสาหรับท่องเที่ยว)
c. To encourage the travel. (เพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยว)
d. To criticize the accommodation. (เพื่อวิจารณ์ที่พัก)
22. What is the first tip for travelers? (เคล็ดลับแรกสาหรับนักท่องเที่ยวคืออะไร)
a. To de find the destination. (กาหนดจุดหมายปลายทาง)
b. To reserve the accommodation. (จองสถานที่พัก)
c. To limit the time. (จากัดเวลา)
d. To plan the necessary things. (วางแผนสิ่งของที่จาเป็น)
23. Why should the travelers have the plan? (ทาไมนักท่องเที่ยวจึงควรมีแผนเดินทาง)
a. To waste time and money. (เพื่อเสียเวลาและเงิน)
b. To start having a reservation. (เพื่อเริ่มทาการจอง)
c. To avoid getting lost the way. (เพื่อหลีกเลี่ยงการหลงการ)
d. To know exactly where to go. (เพื่อจะรู้ได้แน่นอนว่าจะไปที่ใด)
24. What is not mentioned in the passage? (ข้อใดที่ไม่ได้กล่าวในบทความ)
a. Destiny (โชคชะตา)
b. Places (สถานที่)
c. Stuff (สิ่งของ)
d. Accommodation (ที่พัก)
25. The pronoun “its” in the 11th line refers to __________. (สรรพนาม “its” ในบรรทัดที่ 11 อ้างอิงถึง)
a. Things (สิ่งของ)
b. Family (ครอบครัว)
c. Friends (เพื่อน)
d. Baggage (กระเป๋าเดินทาง)
A : Jen, I’m _____(1.)_____ the direction to department of international trade. Could you tell me how
can I go there?
B : Certainly, you _____(2.)_____ the road and walk along the road about 500 meters. It’s next to the
national bank.
A : What time does the department open?
B : Let me call my friend. She works there. _____(3.)_____ please.
A : Ok, thank you very much.
B : She said the department is open now. Would you like to go there now?
A : I will go there in the afternoon. I should finish my work _____(4.)_____ this morning. Then, I will
go there to submit some documents.
B : Fine, it’s _____(5.)_____ around 4 PM and not working tomorrow.
A : Oh, really? Ok, I will hurry to do my work. Thank you for you help.
a. asking for
b. begging for
c. looking for
d. apologize for
a. come here
b. go through
c. cross over
d. return from
a. hold up
b. hold out
c. hold off
d. hold on
a. without
b. within
c. inside
d. outside
a. open
b. opened
c. close
d. closed
6. Because of __________, the manager need to reduce the expense of management.
a. recession
b. reception
c. regression
d. repression
7. We are going to __________ our time in New York this summer. Would you like to join us?
a. splash
b. spend
c. speak
d. split
8. I really apologize for my __________. I will refund the money for you and give you a special voucher.
a. accuracy
b. precision
c. correctness
d. mistake
9. Could you please __________ to me what happened in the conference?
a. correct
b. conceal
c. describe
d. declare
10. I have paid around 15,000 baht for the tuition __________ in this semester.
a. fee
b. free
c. fair
d. fine
11. It is the first time Mr. Somchai gives a speech in public, so he is very __________.
a. nervous
b. delighted
c. exciting
d. fantastic
12. My country is __________ small as Singapore. You can travel around within two days.
a. the
b. more
c. as
d. than
13. __________ we have found in the survey research conforms to our null hypothesis.
a. When
b. Where
c. What
d. Which
14. Lisa should __________ some water during exercise. It helps burn more fat.
a. drink
b. drinks
c. to drink
d. drinking
15. As you can see on the screen, I have __________ our new product with current product.
a. completed
b. complete
c. compared
d. compare
US International Co., Ltd.
33/4, 15th floor The Sun
building Bangkrapi, Bangkok
10310
August 25th, 2016
8/88, Thungsonghong, Laksi,
Bangkok 10210
Dear Mr. David,
On September 15th, we are going to move our Arts & Design office. All accounts previously handled
through Bangkok will now be managed through our new office in Nonthaburi. Please note the new address:
Arts & Design Co., Lid.
22 Bangtalad, Pakkred,
Nonthaburi, 11120
www.ArtsandDesign.co.th
Our new account manager, Edward Lee, will contact you shortly to introduce himself and answer any
question you might have.
We look forward to working with you from our new office.
Best regards,
Jay Wong
Division Manager
a. Require the previous quotation.
b. Extend the credit.
c. Inform the new address.
d. Introduce the current manager.
17. When will Arts & Design move to the new office?
a. 25th August
b. 25th September
c. 15th August
d. 15th September
18. Where is the current office of Arts & Design company?
a. Bangtalad
b. Bangkrapi
c. Nonthaburi
d. Thungsonghong
19. Who is going to contact the customer?
a. The new manager
b. The division manager
c. Mr. David
d. Mr. Jay Wong
20. What is the purpose of Mr. Edward’s contact?
a. Introduce the new office.
b. Introduce himself.
c. Ask some questions.
d. Ask for the answers.
English is the important language for people who have to work in an international company and
study in a campus. They develop themselves by learning English from many places both in Thailand
and overseas. There are four English skills which people should learn and practice. There are reading,
writing, speaking, and listening, Each skill has many levels. It starts from basic is advance level. Some
people start learning from reading, but some start from speaking. However, to start from any skills is
the best start for people who need to learn English.
Why is English important to people? Because it is the language that people around the world can
communicate with other people in different countries. Even though they have different personality, culture,
religion, food, and language. English makes them understand each other. In a workplace, people can
exchanged a product or run a business together. It has more chance to get the new market and new
experience in other countries not only in Thailand. That is why people should encourage themselves
to learn English.
21. In the passage, how do people develop their English skills?
a. To learn English.
b. To travel aboard.
c. To work in Thailand.
d. To stay in upcountry.
22. The pronoun “They” in the 2nd line refers to __________.
a. Company
b. People
c. Overseas
d. Places
23. Why should people study English?
a. They can travel and work in Thailand.
b. They can get the new position in workplace.
c. They can communicate with people in different countries.
d. They can exchange money from another country.
24. Which English skill is not mentioned in the passage?
a. Reading
b. Speaking
c. Writing
d. Learning
25. The pronoun “it” in 7th line refers to __________.
a. Country
b. World
c. Language
d. English
A : Jen, I’m _____(1.)_____ the direction to department of international trade. Could you tell me how
can I go there? (เจน ผมกาลังมองหาเส้นทางที่จะไปกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ คุณช่วยบอกผมหน่อย
ได้ไหมว่าจะไปนั่นได้อย่างไร)
B : Certainly, you _____(2.)_____ the road and walk along the road about 500 meters. It’s next to the
national bank. (ได้สิ คุณต้องข้ามถนนเส้นนี้และเดินไปตามถนนอีกประมาณ 500 เมตร มันจะอยู่ข้างกับธนาคาร
แห่งชาติ)
A : What time does the department open? (เปิดทาการกี่โมงหรือครับ)
B : Let me call my friend. She works there. _____(3.)_____ please. (ขอฉันโทรหาเพื่อนก่อน เพื่อนฉันทางาน
อยู่ที่นั่น รอสักครู่ค่ะ)
A : Ok, thank you very much. (ได้ครับ ขอบคุณมาก)
B : She said the department is open now. Would you like to go there now? (เธอบอกว่ากรมเปิดแล้วค่ะ
คุณจะไปตอนนี้เลยไหมคะ)
A : I will go there in the afternoon. I should finish my work _____(4.)_____ this morning. Then, I will
go there to submit some documents. (ผมจะไปตอนบ่ายครับ ผมต้องทางานให้เสร็จภายในเช้านี้ จากนั้นผม
จะไปส่งเอกสารที่นั่นครับ)
B : Fine, it’s _____(5.)_____ around 4 PM and not working tomorrow. (ได้ค่ะ กรมปิดประมาณ 4 โมงเย็น
นะคะและปิดทาการพรุ่งนี้ค่ะ)
A : Oh, really? Ok, I will hurry to do my work. Thank you for you help. (จริ ง หรื อ ครั บ ได้ เ ลย ผมจะรี บ
ทางานให้เสร็จ ขอบคุณมากสาหรับความช่วยเหลือครับ)
B : You’re welcome. (ด้วยความยินดีค่ะ)
a. asking for (ขอร้อง)
b. begging for (ร้องขอ)
c. looking for (มองหา)
d. apologize for (ขอโทษสาหรับ)
คาอธิบาย : ข้อนี้เป็นลักษณะคา Phrasal Verbs หรือ กริยา + คาบุพบท ดังนั้น การเลือกตอบจะต้องดูบริบทโดยรวม
เพิ่มเติม : สามารถใช้ประโยคอื่นโดยให้ความหมายในเชิงเดียวกันได้อีก เช่น
- search for = ค้นหา (ข้อมูล เป็นต้น)
- look for = มองหา (คน สัตว์ หรือสิ่งของก็ได้)
a. come here (มาทางนี้)
b. go through (เดินทะลุผ่าน)
c. cross over (ข้ามทาง)
d. return from (กลับจาก)
คาอธิบาย : ข้อนี้เป็นคาศัพท์เกี่ยวกับการบอกเส้นทาง การเลือกตอบจะต้องดูบริบทโดยรวม
a. hold up (ติดอยู่)
b. hold out (ยื่นออก)
c. hold off (เลื่อนการกระทา)
d. hold on (รอสักครู่)
คาอธิบาย : ข้อนี้เป็นลักษณะคา Phrasal Verbs หรือ กริยา + คาบุพบท ดังนั้น การเลือกตอบจะต้องดูบริบทโดยรวม
a. without (ปราศจาก)
b. within (ภายใน)
c. inside (ด้านใน)
d. outside (ด้านนอก)
คาอธิบาย : ข้อนี้เกี่ยวกับคาบุพบท (Preposition) การเลือกตอบจะต้องดูบริบทโดยรวม
a. open (เปิด)
b. opened (เคยปิด)
c. close (ปิด)
d. closed (เคยปิด)
คาอธิบาย : ประโยคแสดงถึงการปิด-เปิดของสถานที่ เช่น It’s closed. หรือ it’s open. ในประโยคดังกล่าวถือว่า closed และ
open ทาหน้าที่เป็นคาคุณศัพท์ (Adjective) ไม่ใช้เป็นกริยา จึงต้องใช้ Verb to be นาหน้า
เพิ่มเติม : เมื่อ close ทาหน้าที่เป็น adjective ต้องเติม ed ทุกครั้ง ต่างจาก open ที่แม้ถึงทาหน้าที่เป็น Adjective จะไม่เติม
ed
6. Because of __________, the manager need to reduce the expense of management. (เพราะการตกต่าทาง
เศรษฐกิจ ผู้จัดการจึงต้องลดรายจ่ายของการบริหารจัดการ)
a. recession (การตกต่าทางเศรษฐกิจ)
b. reception (การต้อนรับ)
c. regression (การถดถอย)
d. repression (การอดกลั้น)
คาอธิบาย : ข้อนี้เกี่ยวกับคาศัพท์ (Vocabulary) ตาแหน่งที่หายได้ คือ คานาม (Noun) ดังนั้น ผู้อ่านต้องทายความหมายและ
เลือกตองให้ตรงกับบริบทของเนื้อหา
เพิ่มเติม : Because of จะต้องตามด้วยคานามเสนอ แตกต่างจาก Because ที่ต้องตามด้วยประโยคเท่านั้น
7. We are going to __________ our time in New York this summer. Would you like to join us? (เราก าลั ง จะ
ไปใช้เวลาช่วงหน้าร้อนที่นิวยอร์ก คุณต้องการไปด้วยกันไหม)
a. splash (กระเด็น)
b. spend (ใช้เวลา)
c. speak (พูดคุย)
d. split (แยกออก)
คาอธิบาย : ข้อนี้เกี่ยวกับคาศัพท์ (Vocabulary) ตาแหน่งที่หายไป คือ กริยาช่องที่ 1 (Verb) ซึ่งสังเกตว่าหลัง to นั้นจะมีคาอยู่
2 ประเภทที่ใช้เติมได้ คือ Noun (คานาม) และ Verb (กริยา) และตัวเลือกที่ให้มีก็เป็นกริยา ช่องที่ 1 ทั้งหมด ดังนั้น ผู้อ่านต้อง
ทายความหมายและเลือกตอบให้ตรงกับบริบทของเนื้อนา
8. I really apologize for my __________. I will refund the money for you and give you a special voucher.
(ผมต้องขออภัยจริง ๆ สาหรับความผิดพลาดของผม ผมจะคืนเงินและให้วอเชอร์พิเศษกับคุณ)
a. accuracy (ความแม่นยา)
b. precision (ความกระชับและแม่นยา)
c. correctness (ความถูกต้อง)
d. mistake (ความผิดพลาด)
อธิบาย : ข้อนี้เกี่ยวกับคาศัพท์ (Vocabulary) ตาแหน่งที่หายไป คือ คานาม (Noun) ดังนั้น ผู้อ่านต้องทายความหมายและ
9. Could you please __________ to me what happened in the conference? (คุณช่วยบรรยายให้ผมฟังถึงสิ่งที่
เกิดขึ้นในการประชุมได้ไหมครับ)
a. correct (ทาให้ถูก)
b. conceal (ปกปิด)
c. describe (บรรยาย)
d. declare (สาแดง)
คาอธิบาย : ข้อนี้เกี่ยวกับคาศัพท์ (Vocabulary) ตาแหน่งที่หายไป คือ กริยาช่องที่ 1 (verb) ซึ่งสังเกตว่าประโยคใด ๆ ก็แล้วแต่
หากใช้ could เข้ามาเป็นกริยาช่วยแล้วนั้น (Auxiliary Verb) กริยาแท้ที่ตามมาต้องเป็นที่ช่อง 1 เท่านั้น ห้ามผันตามประธาน
10. I have paid around 15,000 baht for the tuition __________ in this semester. (ฉั น เพิ่ ง จ่ า ยเงิ น ไปประมาณ
15,000 บาทสาหรับค่าเล่าเรียนในเทอมนี้)
a. fee (ค่าธรรมเนียม)
b. free (ให้เปล่าหรือแจกฟรี)
c. fair (งานแสดงสินค้า)
d. fine (ค่าปรับ)
อธิบาย : ข้อนี้เกี่ยวกับคาศัพท์ (Vocabulary) ตาแหน่งที่หายไป คือ คานาม (Noun) ดังนั้น ผู้อ่านต้องทายความหมายและ
11. It is the first time Mr. Somchai gives a speech in public, so he is very __________. (นี้ เ ป็ น ครั้ ง แรกที่ คุ ณ
สมชายจะพูดปราศรัยในที่สาธารณะ เขาจึงประหม่ามาก)
a. nervous (ประหม่า)
b. delighted (ปีติยินดี)
c. exciting (ตื่นเต้น)
d. fantastic (มหัศจรรย์)
คาอธิบาย : ข้อนี้ตาแหน่งที่หายไป คือ คาคุณศัพท์ (Adjective) สังเกตจากกริยาแท้ (Main Verb) คือ Verb to be ซึ่งมักจะ
ต้องตามด้วย Adjective, Gerund และ Infinitive with to แต่จากตัวเลือกที่กาหนดเป็นคาคุณศัพท์ทั้งหมด ผู้อ่านต้องทาย
ความหมายและเลือกให้ตรงกับบริบท (ตาม English Tips ข้อที่ 11.)
12. My country is __________ small as Singapore. You can travel around within two days. (ประเทศของฉันเล็ก
พอ ๆ กับประเทศสิงคโปร์ คุณสามารถท่องเที่ยวได้ทั่วประเทศภายใน 2 วัน)
a. the (คาชี้เฉพาะ)
b. more (มากกว่า)
c. as (ขณะที่, ดังที่)
d. than (กว่า)
คาอธิบาย : ข้อนี้เกี่ยวกับการเปรียบเทียบ (Comparison of Adjective) เปรียบเทียบสิ่งที่มีขนาดเท่ากัน และอีกสิ่งหนึ่งที่ควร
สังเกต คือ มี as อีกตัวตามหลัง small ซึ่งเป็น Adjective หรือคาคุณศัพท์ ดังนั้น ต้องเป็น as อย่างแน่นอน โครงสร้าง as +
Adjective + as (ตาม English Tips ข้อที่ 10.)
13. __________ we have found in the survey research conforms to our null hypothesis. (สิ่งที่เราพบในงานวิจัย
เชิงสารวจนั้น ได้สอดคล้องกับสมมติฐานหลักของเรา)
a. When (เมื่อที่)
b. Where (ที่ซึ่ง)
c. What (อะไรที่)
d. Which (สิ่งที่)
คาอธิบาย : ข้อนี้เกี่ยวกับประโยค Noun Clause (คานามประเภทหนึ่ง) การเลือกใช้ผู้อ่านต้องทายความหมายของตัวเลือกและ
ใช้ให้ถูกบริบท (ตาม English Tips ข้อที่ 15.)
14. Lisa should __________ some water during exercise. It helps burn more fat. (ลิซ่าควรดื่มน้าบ้างในระหว่าง
การออกกาลังกาย มันจะช่วยเผาผลาญไขมันมากขึ้น)
a. drink (ดื่ม)
b. drinks (ดื่ม)
c. to drink (ดื่ม)
d. drinking (กาลังดื่ม)
หากใช้ should เข้ามาเป็นกริยาช่วยแล้วนั้น (Auxiliary Verb) กริยาแท้ที่ตามมาต้องเป็นช่องที่ 1 เท่านั้น ห้ามผันตามประธาน
15. As you can see on the screen, I have __________ our new product with current product. (ดังที่คุณเห็นบน
หน้าจอ ผมได้เปรียบเทียบสินค้าใหม่ของเรากับสินค้าปัจจุบัน)
a. completed (ทาให้สมบูรณ์)
b. complete (ทาให้สมบูรณ์)
c. compared (เปรียบเทียบ)
d. compare (เปรียบเทียบ)
คาอธิบาย : ข้อนี้เกี่ยวกับ Present Perfect Tense แสดงถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน และผลของการกระทายังคงปรากฏ
อยู่ ตามโครงสร้าง Subject + has, have + V.3
เพิ่มเติม : คาว่า compare เมื่อต้องการเปรียบเทียบกับสิ่งใด สิ่งที่ลักษณะคล้ายกันมักใช้คู่กับ with แต่หากเปรียบเทียบกับสิ่งที่
แตกต่างกันต้องใช้ to
US International Co., Ltd.
33/4, 15th floor The Sun
building Bangkrapi, Bangkok
10310
August 25th, 2016
8/88, Thungsonghong, Laksi,
Bangkok 10210
Dear Mr. David, (เรียน คุณเดวิด)
On September 15th, we are going to move our Arts & Design office. All accounts previously handled
through Bangkok will now be managed through our new office in Nonthaburi. Please note the new address:
(ตามกาหนดวันที่ 15 กันยายนนี้ เรื่องการย้ายออฟฟิศ Art & Design นั้น ซึ่งบัญชีทั้งหมดที่ก่อนหน้านี้ได้ดาเนินการที่กรุงเทพ ฯ
จะถูกบริการจัดการไปยังออฟฟิศใหม่ที่จังหวัดนนทบุรี จึงขอแจ้งให้ท่านทราบที่อยู่ใหม่ดังนี้)
Arts & Design Co., Lid. (บริษัท Arts & Design จากัด)
22 Bangtalad, Pakkred, (22 ต. บางตลาด อ. ปากเกร็ด)
Nonthaburi, 11120 (จ. นนทบุรี 11120)
www.ArtsandDesign.co.th
Our new account manager, Edward Lee, will contact you shortly to introduce himself and answer any
question you might have. (คุณเอ็ดเวิร์ด ลี ผู้จัดการคนใหม่ของเราจะติดต่อภายในเร็ววัน เพื่อแนะนาตัวเองและตอบคาถาม
ที่ท่านอาจต้องการทราบ)
We look forward to working with you from our new office. (เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้ทางานร่วมกันกับท่านที่
ออฟฟิศใหม่ของเรา)
Best regards, (ขอแสดงความนับถือ)
Jay Wong (เจย์ หว่อง)
Division Manager (ผู้จัดการแผนก)
a. Require the previous quotation. (ขอใบเสนอราคาใบก่อนหน้านี้)
b. Extend the credit. (ขยายเครดิต)
c. Inform the new address. (แจ้งที่อยู่ใหม่)
d. Introduce the current manager. (แนะนาผู้จัดการคนปัจจุบัน)
17. When will Arts & Design move to the new office? (บริษัทจะย้ายไปออฟฟิศใหม่เมื่อใด)
b. 25th September (25 กันยายน)
c. 15th August (15 สิงหาคม)
d. 15th September (15 กันยายน)
18. Where is the current office of Arts & Design company? (ปัจจุบันบริษัทตั้งอยู่ที่ใด)
a. Bangtalad (บางตลาด)
b. Bangkrapi (บางกะปิ)
c. Nonthaburi (นนทบุรี)
d. Thungsonghong (ทุ่งสองห้อง)
19. Who is going to contact the customer? (ใครจะเป็นผู้ติดต่อไปหาลูกค้า)
a. The new manager (ผู้จัดการใหม่)
b. The division manager (ผู้จัดการฝ่าย)
c. Mr. David (คุณเดวิด)
d. Mr. Jay Wong (คุณเจย์ หว่อง)
20. What is the purpose of Mr. Edward’s contact? (จุดประสงค์ในการติดต่อของคุณเอ็ดเวิร์ดคืออะไร)
a. Introduce the new office. (แนะนาออฟฟิศใหม่)
b. Introduce himself. (แนะนาตัวเองเขาเอง)
c. Ask some questions. (ถามคาถามบางอย่าง)
d. Ask for the answers. (ถามหาคาตอบ)
English is the important language for people who have to work in an international company and
study in a campus. They develop themselves by learning English from many places both in Thailand
and overseas. There are four English skills which people should learn and practice. There are reading,
writing, speaking, and listening, Each skill has many levels. It starts from basic is advance level. Some
people start learning from reading, but some start from speaking. However, to start from any skills is
the best start for people who need to learn English.
(ภาษาอังกฤษ เป็นภาษาที่สาคัญสาหรับคนที่ต้องทางานในบริษัทระหว่างประเทศ และเรียนในมหาวิทยาลัย พวกเขา
พัฒนาตัวเองด้วยการเรียนภาษาอังกฤษจากที่ต่าง ๆ ทั้งในและต่างประเทศ ภาษาอังกฤษมีอยู่ 4 ทักษะ คือ การอ่าน การเขียน
การพูด และการฟัง แต่ละทักษะมีหลายระดับ เริ่มจากระดับง่ายไปจนถึงระดับยาก บางคนเรียนภาษาอังกฤษโดยเริ่มจากการ
อ่าน แต่บางคนเริ่มจากการพูด แต่ไม่ว่าจะเริ่มจากทักษะใด ก็เป็นการเริ่มที่ดีสาหรับผู้ที่ต้องการเรียนภาษาอังกฤษ)
Why is English important to people? Because it is the language that people around the world can
communicate with other people in different countries. Even though they have different personality, culture,
religion, food, and language. English makes them understand each other. In a workplace, people can
exchanged a product or run a business together. It has more chance to get the new market and new
experience in other countries not only in Thailand. That is why people should encourage themselves
to learn English.
(ทาไมภาษาอังกฤษถึงสาคัญสาหรับผู้คน เพราะว่ามันเป็นภาษาที่คนทั่วโลกสามารถติดต่อสื่อสารกับผู้คนที่อยู่ในต่างแดน
ได้ แม้ว่าพวกเขาจะแตกต่างกันทางด้านบุคลิกภาพ วัฒนธรรม ศาสนา อาหาร และภาษา แต่ภาษาอังกฤษทาให้พวกเขาเข้าใจ
กัน ในสถานที่ทางาน ผู้คนสามารถแลกเปลี่ยนสินค้าหรือบริหารธุรกิจร่วมกันได้ มันช่วยให้เพิ่มโอกาสในการทาตลาดใหม่ หรือ
ได้รับประสบการณ์ใหม่ ๆ ในประเทศอื่น ๆ ไม่ใช่เพียงแต่ในประเทศไทย นั้นจึงตอบได้ว่าทาไมผู้คนจึงควรกระตุ้นตัวเองเพื่อ
เรียนภาษาอังกฤษ)
21. In the passage, how do people develop their English skills? (ในบทความ ผู้ ค นมี ก ารพั ฒ นาตั ว เองเกี่ ย วกั บ
ภาษาอังกฤษอย่างไร)
a. To learn English. (เรียนภาษาอังกฤษ)
b. To travel aboard. (ท่องเที่ยวในต่างประเทศ)
c. To work in Thailand. (ทางานในประเทศไทย)
d. To stay in upcountry. (พักอาศัยในต่างจังหวัด)
22. The pronoun “They” in the 2nd line refers to __________. (สรรพนาม “They” ในบรรทัดที่ 2 อ้างอิงถึง)
a. Company (บริษัท)
b. People (ผู้คน)
c. Overseas (ต่างประเทศ)
d. Places (สถานที่ต่าง ๆ)
23. Why should people study English? (ทาไมผู้คนจึงควรเรียนภาษาอังกฤษ)
a. They can travel and work in Thailand. (พวกเขาสามารถเที่ยวและทางานในประเทศไทย)
b. They can get the new position in workplace. (พวกเขาสามารถได้รับตาแหน่งใหม่ในที่ทางาน)
c. They can communicate with people in different countries. (พวกเขาสามารถติดต่อสื่อสารกับผู้คนในต่าง
แดน)
d. They can exchange money from another country. (พวกเขาสามารถแลกเปลี่ยนเงินตราจากอีกประเทศ
อีก)
24. Which English skill is not mentioned in the passage? (ทักษะภาษาอังกฤษด้านใดที่ไม่ได้กล่าวถึงในบทความ)
a. Reading (การอ่าน)
b. Speaking (การพูด)
c. Writing (การเขียน)
d. Learning (การเรียน)
25. The pronoun “it” in 7th line refers to __________. (สรรพนาม “it” ในบรรทัดที่ 7 อ้างอิงถึง)
a. Country (ประเทศ)
b. World (โลก)
c. Language (ภาษา)
d. English (ภาษาอังกฤษ)
A : Good morning. _____(1.)_____ to Mr. Somsak, please?
B : Just moment, please.
A : Thank you.
B : I’m sorry. He is not around here at this moment.
A : _____(2.)_____ back to the office?
B : I’m not sure. Maybe in the afternoon. Would you like to _____(3.)_____?
A : Yes. Please tell him to return a call to Nuch from Department of Lands.
B : Okay, Can I have _____(4.)_____, please?
A : Certainly. The number is 02-123-1234.
B : Is there _____(5.)_____ I can help you?
A : Please tell him to call me back as soon as he can.
B : Okay. I’ll tell him.
A : Thank you very much.
a. Can I have
b. May I talk
c. Can I tell
d. May I ask
a. Where did he go
b. Where have you been
c. What do you do
d. When will he come
a. leave a message
b. take a note
c. take a break
d. have a message
a. your phone number
b. your extension
c. your information
d. your address
a. somewhere else
b. something else
c. anything else
d. what else
6. MRT is the most convenient __________ for people who live in the city.
a. transfer
b. transformation
c. transportation
d. transaction
7. This city is rich of natural __________ which are the learning center for exchange students.
a. resources
b. ingredients
c. properties
d. components
8. NTT will be our new foreign __________, we will order the materials from this company.
a. customer
b. client
c. buyer
d. supplier
9. If you have any questions, you can __________ me by this phone number.
a. connect
b. contact
c. answer
d. relate
10. I would like to offer you a special 50% __________ for next purchase.
a. addition
b. rate
c. price
d. discount
11. My greatest pleasure __________ to conserve the nature and forest.
a. is
b. am
c. are
d. be
12. Linda told me to bring a lab top for this meeting, __________ I left it in the office.
a. or
b. and
c. but
d. so
13. The purchase manager needs to buy a new projector __________ has good quality.
a. what
b. which
c. where
d. when
14. __________ your nor I need to attend the meeting tomorrow.
a. Neither
b. Either
c. Between
d. Both
15. The president __________ the manager to promote Nina to be an assistant manager.
a. depends on
b. consists of
c. belongs to
d. agrees with
New Tech Co., Lid.
8th March, 2016
Mr. Klevin Troy
Sunflower Co., Lid.
1/11, Changwattana Road, Laksi,
Bangkok 10210
Dear Mr. Klevin,
Thank you for your March 5t letter regarding the items missing from our shipment. We would like to
apologize for the mistakes and will send the missing items to you as soon as possible.
The four projectors with manuals will be sent to you with separate package. In this case, we would like
to give a discount coupon for twenty percent for your next purchase. Please check attached file.
We regret the mistake and apologize for any inconvenience. We look forward to serving you soon.
Sincerely yours.
Helen Maker
Customer Service Department
16. Why did Helen send the letter to Mr. Klevin?
a. She sent the incorrect items.
b. She needed to sorry for shipment.
c. She requested for a discount.
d. She needed to separate package.
17. What are the missing items?
a. Projectors with manuals
b. Four manuals
c. Four projectors
d. Discount coupons
18. What is the file attached with his letter?
a. A discount coupon for 10%
b. A discount coupon for 12%
c. A discount coupon for 20%
d. A discount coupon for 22%
19. When can Mr. Klevin use a discount coupon?
a. Next day
b. Next week
c. Next month
d. Next times
20. What does “mistake” mean?
a. Failure
b. Fault
c. Correct
d. Confession
A telephone is an electronic device which is important for people who have to communicate with
other people. First generation of telephone was used for calling people in another place. Most people
who had the telephone in the first generation were the rich and important people because of its cost.
It was very expensive. Next generation, the telephone was developed to a cellphone. Its cost was still
expensive, but not as expensive as the first telephone. The cellphone was more modern than the first
generation. It was focused by the rich people, important people, and businessmen. These people were
a target of cellphone market as well.
Moreover, the cellphone is developed until it becomes a smartphone. Its functions are various
such as chatting, texting SMS, taking photo, sending email, calling in and out. The smartphone strongly
competes in the market. According to the competition, everybody can have a smartphone in the modern
world because its cost is cheaper and functions are better than the past. That is a good opportunity
for people. They have more choice to select the smartphone with good quality, but low price.
21. What was the main function for the first generation of telephone?
a. Taking photo
b. Texting SMS
c. Calling in and out
d. Sending email
22. In the first generation of telephone, why cannot everybody get a telephone?
a. Its high price.
b. Its low price.
c. Its high quality.
d. Its low quality.
23. What happened with telephone in the next generation?
a. There was more target group.
b. There were various prices in the market.
c. It was focused on functions and cost.
d. It was improved to be a mobile phone.
24. The pronoun “They” in 12th line refers to __________.
a. Businessmen
b. Telephone
c. People
d. Functions
25. How is the situation in the smartphone market now?
a. There are more competitions.
b. There are more modern people.
c. The cost is cheaper than before.
d. The quality is good and worthy.
A : Good morning. _____(1.)_____ to Mr. Somsak, please? (สวัสดีค่ะ ฉันขอสายคุณสมศักดิ์หน่อยได้ไหมคะ)
B : Just moment, please. (กรุณารอสักครู่ค่ะ)
A : Thank you. (ขอบคุณค่ะ)
B : I’m sorry. He is not around here at this moment. (ต้องขอโทษด้วยค่ะ ตอนนี้เขาไม่อยู่ค่ะ)
A : _____(2.)_____ back to the office? (เขาจะกลับมาถึงออฟฟิศเมื่อไรหรือคะ)
B : I’m not sure. Maybe in the afternoon. Would you like to _____(3.)_____? (ฉันไม่แน่ใจอาจจะเป็นช่วง
บ่าย คุณต้องการฝากข้อความไว้ไหมคะ)
A : Yes. Please tell him to return a call to Nuch from Department of Lands. (ได้ ค่ ะ รบกวนบอกให้ โ ทร
กลับหานุชจากกรมที่ดินด้วยค่ะ)
B : Okay, Can I have _____(4.)_____, please? (ได้ค่ะ ขอทราบเบอร์โทรศัพท์ด้วยค่ะ)
A : Certainly. The number is 02-123-1234. (ค่ะ เบอร์โทร 02-123-1234 ค่ะ)
B : Is there _____(5.)_____ I can help you? (มีอะไรให้ฉันช่วยอีกไหมคะ)
A : Please tell him to call me back as soon as he can. (รบกวนบอกเขาให้โทรกลับหาฉันเร็วที่สุดค่ะ)
B : Okay. I’ll tell him. (ได้ค่ะ จะแจ้งให้ค่ะ)
A : Thank you very much. (ขอบคุณมากค่ะ)
B : You’re welcome. (ยินดีค่ะ)
a. Can I have (ฉันขอ)
b. May I talk (ฉันขอคุย)
c. Can I tell (ฉันขอบอก)
d. May I ask (ฉันขอถาม)
คาอธิบาย : ข้อนี้ออกเกี่ยวกับประโยคสนทนาทางโทรศัพท์ ผู้สอบต้องสังเกตโจทย์และทายความหมายของตัวเลือก แล้วจึง
เลือกตอบให้ตรงกับบริบท
เพิ่มเติม : สามารถใช้ประโยคอื่นที่ให้ความหมายในเชิงเดียวกันได้อีก เช่น
- May I speak to …
- Can/Could I speaker to …
- I’d like to talk to …
a. Where did he go (เขาไปไหนมา)
b. Where have you been (คุณไปไหนมา)
c. What do you do (คุณทาอะไร)
d. When will he come (เขาจะมาเมื่อไร)
คาอธิบาย : ข้อนี้ประโยคคาถามในรูปแบบ Future Simple Tense ถามเหตุการณ์ที่กาลังจะเกิดขึ้นในอนาคต มีโครงสร้าง
When + will + Subject + V.1 (ตาม English Tips ข้อที่ 3.)
a. leave a message (ฝากข้อความ)
b. take a note (จดโน้ต)
c. take a break (พักผ่อน)
d. have a message (มีข้อความ)
คาอธิบาย : ข้อนี้เกี่ยวกับประโยคสนทนาทางโทรศัพท์ จากตัวเลือกมีเพียงคาตอบเดียวที่ถูกต้อง คือ ข้อ a. ไม่สามารถใช้ข้อ d.
ได้ เพราะ have a massage คือ บอกต่อให้ผู้อื่นทราบว่ามีข้อความถึงคนคนนั้น เช่น กรณีที่คุณศักดิ์กลับมา ผู้รับโทรศัพท์
สามารถบอกคุณสมศักดิ์ได้ด้วยประโยค you have a messaged from Khun Nuch. (คุณมีข้อความจากคุณนุชค่ะ)
เพิ่มเติม : สามารถใช้ประโยคอื่นที่ให้ความหมายในเชิงฝากข้อความได้อีก เช่น
- Can/Could/May I leave a message?
- May I take a message/note?
- Will/Would you leave a massage?
a. your phone number (เบอร์โทรของคุณ)
b. your extension (เบอร์ต่อของคุณ)
c. your information (ข้อมูลของคุณ)
d. your address (ที่อยู่ของคุณ)
คาอธิบาย : ข้อนี้ให้สังเกตจากคาตอบบรรทัดถัดในโจทย์ จากนั้นทายความหมายของตัวเลือก แล้วเลือกตอบให้ตรงกับบริบท
a. somewhere else (มีที่ไหนอีก)
b. something else (มีอะไรอีก)
c. anything else (มีอะไรอีก)
d. what else (มีอะไรอีก)
คาอธิบาย : โจทย์ขึ้นต้นด้วย Is there มี 2 ตัวเลือกที่ต้องพิจารณา คือ ข้อ b. และ c. ซึ่งใช้หลักการเดียวกับ any และ some
กล่าวคือ any (anything else) ใช้กับประโยคคาถามหรือปฏิเสธเท่านั้น ส่วน some (something else) ใช้กับประโยคบอกเล่า
เท่านั้น
6. MRT is the most convenient __________ for people who live in the city. (MRT เป็นการขนส่งที่สะดวกที่สุด
สาหรับผู้คนที่อาศัยอยู่ในเมือง)
a. transfer (การโอนย้าย)
b. transformation (การแปรรูป)
c. transportation (การขนส่ง)
d. transaction (การติดต่อธุรกิจ)
เลือกตอบให้ตรงกับบริบทของเนื้อหาก
7. This city is rich of natural __________ which are the learning center for exchange students. (เมื อ งนี้ อุ ด ม
สมบูรณ์ไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติ ที่เป็นศูนย์การเรียนรู้สาหรับนักเรียนแลกเปลี่ยน)
a. resources (แหล่งทรัพยากร)
b. ingredients (ส่วนผสม)
c. properties (อสังหาริมทรัพย์)
d. components (องค์ประกอบ)
8. NTT will be our new foreign __________, we will order the materials from this company. (NTT คือ ผู้จัดการ
วัตถุดิบต่างชาติรายใหม่ของเรา เราจะสั่งซื้อวัตถุดิบจากบริษัทนี้)
a. customer (ลูกค้า)
b. client (ลูกค้า)
c. buyer (ผู้ซื้อ)
d. supplier (ผู้จัดหา)
9. If you have any questions, you can __________ me by this phone number. (หากคุณมีคาถาม คุณสามารถ
ติดต่อฉันได้ตามเบอร์โทรนี้ค่ะ)
a. connect (เชื่อมต่อ)
b. contact (ติดต่อ)
c. answer (ตอบกลับ)
d. relate (เชื่อมโยง)
หากใช้ can เข้ามาเป้นกริยาช่วยแล้วนั้น (Auxiliary Verb) กริยาแท้ที่ตามมาต้องเป็นช่องที่ 1 เท่านั้น ห้ามผันตามประธาน
10. I would like to offer you a special 50% __________ for next purchase. (ฉันขอเสนอส่วนลดพิเศษ 50% ให้กับ
คุณสาหรับการซื้อครั้งถัดไป)
a. addition (การบวกเพิ่ม)
b. rate (อัตรา)
c. price (ราคา)
d. discount (ส่วนลด)
11. My greatest pleasure __________ to conserve the nature and forest. (ความปี ติ ยิ น ดี ที่ สุ ด ของฉั น คื อ การ
อนุรักษ์ธรรมชาติและป่าไม้)
a. is (เป็น, อยู่, คือ)
b. am (เป็น, อยู่, คือ)
c. are (เป็น, อยู่, คือ)
d. be (เป็น, อยู่, คือ)
คาอธิบาย : ข้อนี้เกี่ยวกับกริยา (Verb) จะเลือกใช้กริยาตัวใดนั้นใด้ดูที่ประธาน ในข้อนี้ประธานคือ My greatest pleasure ซึ่ง
เป็นเอกพจน์ต้องใช้กริยาเอกพจน์ คือ is
12. Linda told me to bring a lab top for this meeting, __________ I left it in the office. (ลิ น ดาบอกฉั น ให้ เ อา
แล็ปทอปมาด้วยสาหรับการประชุม แต่ฉันลืมมันไว้ที่ออฟฟิศ)
a. or (หรือ)
b. and (และ)
c. but (แต่)
d. so (ดังนั้น)
คาอธิบาย : ข้อนี้เกี่ยวกับคาสันธาน (Conjunction) เพื่อเชื่อมประโยคเข้าด้วยกัน จากโจทย์จะเห็นได้ว่าประโยคที่ 1 และ
ประโยคที่ 2 มีความขัดแย้งกัน ดังนั้น Conjunction ที่ใช้ต้องแสดงถึงความขัดแย้งของประโยคนั้นก็คือ but
13. The purchase manager needs to buy a new projector __________ has good quality. (ผู้ จั ด การฝ่ า ยจั ด ซื้ อ
ต้องการซื้อโปรเจ็กเตอร์ตัวใหม่ที่มีคุณภาพดี)
b. which (สิ่งที่)
c. where (ที่ไหน)
d. when (เมื่อไร)
คาอธิบาย : ข้อนี้เกี่ยวกับประโยค Adjective Clause คือ การขยายคานามอีกประเภทหนึ่ง จากโจทย์ต้องการขยายคานาม
Projector ซึ่งเป็นสิ่งของ จึงต้องใช้ which (ตาม English Tips ข้อที่ 9.)
14. __________ your nor I need to attend the meeting tomorrow. (ทั้งคุณและฉันไม่จาเป็นต้องเข้าร่วมประชุมใน
วันพรุ่งนี้)
a. Neither (ต่างก็ไม่)
b. Either (ถ้าไม่...ก็)
c. Between (ระหว่าง)
d. Both (ทั้งสอง)
คาอธิบาย : ข้อนี้เกี่ยวกับประโยคการใช้ Neither … + nor … ซึ่งใช้เป็นเชิงปฏิเสธ การเติมกริยาหลังประธานต้องสังเกตสรรพ
นามที่อยู่หลัง nor แล้วจึงเลือกใช้กริยาที่ถูกต้อง
15. The president __________ the manager to promote Nina to be an assistant manager. (ประธานเห็ น ด้ ว ย
กับผู้จัดการที่เลื่อนตาแหน่งให้นิน่าเป็นผู้ช่วยผู้จัดการ)
a. depends on (ขึ้นอยู่กับ)
b. consists of (ประกอบด้วย)
c. belongs to (เป็นของ)
d. agrees with (เห็นด้วยกับ)
คาอธิบาย : ข้อนี้เกี่ยวกับกริยาเฉพาะ หากเห็นด้วยกับบุคคลใดต้องใช้ agree with + บุคคล แต่หากต้องการแสดงว่าเห็นด้วย
กับสิ่งใดให้เปลี่ยนจาก with เป็น to ตัวอย่างเช่น I agree to change the flight. (ฉันเห็นด้วยที่จะเปลี่ยนเที่ยวบิน)
New Tech Co., Lid.
8th March, 2016
Mr. Klevin Troy
Sunflower Co., Lid.
1/11, Changwattana Road, Laksi,
Bangkok 10210
Dear Mr. Klevin, (เรียน คุณเคลวิน)
Thank you for your March 5t letter regarding the items missing from our shipment. We would like to
apologize for the mistakes and will send the missing items to you as soon as possible. ( ข อ ข อ บ คุ ณ ส า ห รั บ
จดหมาย เพื่อแจ้งเกี่ยวกับรายการที่หล่นหายไประหว่างการจัดส่งของบริษัท เมื่อวันที่ 5 มีนาคม บริษัทต้องขออภัยสาหรับความ
ผิดพลาดครั้งนี้ และจะจัดส่งรายการที่หายไปให้คุณโดยเร็วที่สุด)
The four projectors with manuals will be sent to you with separate package. In this case, we would like
to give a discount coupon for twenty percent for your next purchase. Please check attached file. (โปรเจ็กเตอร์
4 เครื่องพร้อมคู่มือจะถูกจัดส่งไปถึงท่านโดยแยกหีบห่อ ในกรณีนี้บริษัทขอมอบคูปองส่วนลด 20% ให้แก่ท่านสาหรับการซื้อครั้ง
หน้า กรุณาดูเอกสารแนบ)
We regret the mistake and apologize for any inconvenience. We look forward to serving you soon.
(บริษัทรู้สึกเสียใจต่อความผิดพลาดครั้งนี้ และขออภัยสาหรับความไม่สะดวกนี้อีกครั้ง บริษัทหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้บริการคุณ
อีกเร็ว ๆ นี้)
Helen Maker
Customer Service Department (ฝ่ายบริการลูกค้า)
16. Why did Helen send the letter to Mr. Klevin? (ทาไมเฮเลนส่งจดหมายไปหาคุณเคลวิน)
a. She sent the incorrect items. (เธอส่งสินค้าผิดรายการ)
b. She needed to sorry for shipment. (เธอต้องการขอโทษเรื่องการขนส่ง)
c. She requested for a discount. (เธอต้องการส่วนลด)
d. She needed to separate package. (เธอต้องการแยกหีบห่อ)
17. What are the missing items? (รายการใดที่หายไป)
a. Projectors with manuals (โปรเจ็กเตอร์พร้อมคู่มือ)
b. Four manuals (คู่มือ 4 เล่ม)
c. Four projectors (โปรเจ๊กเตอร์ 4 เครื่อง)
d. Discount coupons (คูปองส่วนลดต่าง ๆ)
18. What is the file attached with his letter? (เอกสารใดที่ถูกแนบมากับจดหมาย)
a. A discount coupon for 10% (คูปองส่วนลด 10%)
b. A discount coupon for 12% (คูปองส่วนลด 12%)
c. A discount coupon for 20% (คูปองส่วนลด 20%)
d. A discount coupon for 22% (คูปองส่วนลด 22%)
19. When can Mr. Klevin use a discount coupon? (คุณคลวินจะใช้คูปองส่วนลดได้เมื่อใด)
a. Next day (วันถัดไป)
b. Next week (อาทิตย์ถัดไป)
c. Next month (เดือนถัดไป)
d. Next times (ครั้งถัดไป)
20. What does “mistake” mean? (คาว่า “mistake” หมายถึงอะไร)
a. Failure (ความล้มเหลว)
b. Fault (ความผิดพลาด)
c. Correct (ความถูกต้อง)
d. Confession (การสารภาพผิด)
A telephone is an electronic device which is important for people who have to communicate with
other people. First generation of telephone was used for calling people in another place. Most people
who had the telephone in the first generation were the rich and important people because of its cost.
It was very expensive. Next generation, the telephone was developed to a cellphone. Its cost was still
expensive, but not as expensive as the first telephone. The cellphone was more modern than the first
generation. It was focused by the rich people, important people, and businessmen. These people were
a target of cellphone market as well.
(โทรศัพท์เป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ประเภทหนึ่ง ซึ่งสาคัญกับผู้คนที่ต้องติดต่อสื่อสารกับผู้อื่นโทรศัพท์รุ่นแรก ๆ นั้น ใช้
เพื่อโทรหาผู้คนที่อยู่อีกที่หนึ่ง คนส่วนมากที่มีโทรศัพท์ในยุคนั้นจะเป็นผู้คนที่ร่ารวยและเป็นบุคคลสาคัญ เพราะราคาของ
โทรศัพท์ที่แพงมากนั่นเอง ในยุคถัดไปโทรศัพท์ถูกพัฒนามาเป็นโทรศัพท์มือถือ ราคาของมันยังคงอยู่แต่ไม่แพงเท่าโทรศัพท์รุ่น
แรก โทรศัพท์มือถือมีความทันสมัยมากกว่ารุ่นแรกซึ่งโทรศัพท์มือถือได้ถูกจับตามองจากคนร่ารวย บุคคลสาคัญ และนักธุรกิจ
ทั้งหลาย ผู้คนเหล่านี้เป็นกลุ่มเป้าหมายของตลาดโทรศัพท์มือถือเช่นเดียวกัน)
Moreover, the cellphone is developed until it becomes a smartphone. Its functions are various
such as chatting, texting SMS, taking photo, sending email, calling in and out. The smartphone strongly
competes in the market. According to the competition, everybody can have a smartphone in the modern
world because its cost is cheaper and functions are better than the past. That is a good opportunity
for people. They have more choice to select the smartphone with good quality, but low price.
(ยิ่ ง ไปกว่ า นั้ น โทรศั พ ท์ มื อ ถือ ได้ถู กพั ฒนาอย่ า งต่อ เนื่อ งจนกลายมาเป็น โทรศัพ ท์ส มาร์ทโฟน การท า งานของมันมี
หลากหลายมากขึ้น เช่น พูดคุยกันได้ ส่งข้อความ ถ่ายรูป ส่งอีเมล โทรเข้าและออกได้โทรศัพท์สมาร์ทโฟนแข่งขันกันอย่างดุ
เดือนในตลาด และเพราะการแข่งขันนี้เองทาให้ทุกคนสามารถมีโทรศัพท์สมาร์ทโฟนได้ในโลกที่ทันสมัยนี้ เพราะราคาที่ถูกลง
และการทางานที่ดีขึ้นกว่ าแต่ตอนแรก นั้นจึงเป็นโอกาสที่ดีสาหรับผู้คนทั่วไปที่มีตัวเลือกมากขึ้น และสามารถเลือกโทรศัพท์
สมาร์ทโฟนที่คุณภาพดีแต่ราคาถูกได้)
21. What was the main function for the first generation of telephone? (การทางานหลักของโทรศัพท์รุ่นแรกคือ
อะไร)
a. Taking photo (ถ่ายรูป)
b. Texting SMS (ส่งข้อความ)
c. Calling in and out (โทรเข้า – ออก)
d. Sending email (ส่งอีเมล)
22. In the first generation of telephone, why cannot everybody get a telephone? (ทาไมทุกคนจึงไม่สามารถมี
โทรศัพท์ได้ในรุ่นแรก ๆ)
a. Its high price. (โทรศัพท์มีราคาสูง)
b. Its low price. (โทรศัพท์มีราคาถูก)
c. Its high quality. (โทรศัพท์มีคุณภาพสูง)
d. Its low quality. (โทรศัพท์มีคุณภาพต่า)
23. What happened with telephone in the next generation? (เกิดอะไรขึ้นกับโทรศัพท์ในยุคถัดมา)
a. There was more target group. (มีกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น)
b. There were various prices in the market. (มีราคาหลากหลายในท้องตลาด)
c. It was focused on functions and cost. (โทรศัพท์ถูกเพ่งเล็งไปที่การทางานและราคา)
d. It was improved to be a mobile phone. (โทรศัพท์ถูกพัฒนาให้กลายเป็นโทรศัพท์มือถือ)
24. The pronoun “They” in 12th line refers to __________. (สรรพนาม “They” บรรทัดที่ 12 อ้างอิงถึง)
a. Businessmen (นักธุรกิจ)
b. Telephone (โทรศัพท์)
c. People (ผู้คนทั่วไป)
d. Functions (การทางานที่หลากหลาย)
25. How is the situation in the smartphone market now? (เหตุการณ์ในตลาดของโทรศัพท์สมาร์ทโฟน)
a. There are more competitions. (มีการแข่งขันมากขึ้น)
b. There are more modern people. (มีผู้คนทันสมัยมากขึ้น)
c. The cost is cheaper than before. (ราคาถูกกว่าเมื่อก่อน)
d. The quality is good and worthy. (คุณภาพดีและคุ้มค่า)
ภาคผนวก
English Tips
1. ประเภทคาที่ตามหลังกริยา have, has มีวิธีสังเกตดังนี้
- have, has + V.3 (กริยาช่องที่ 3)
- have, has + Noun (คานาม)
- have, has + to + V.1 (กริยาช่องที่ 1)
- have, has + been
- I have returned from UK.
- He has a red car.
- You have to go to hospital.
- She has been there for a long time.
2. ประเภทคาที่ตามหลังกริยา be going to มีวิธีสังเกตดังนี้
- V.to be (is, am, are) going to + V.1 (กริยาช่องที่ 1)
- V.to be (is, am, are) going to + Noun (คานาม)
- Mary is going to travel abroad next week.
- I am going to shopping mall with Nancy.
3. ประเภทคาที่ตามหลังกริยา will มีวิธีสังเกตดังนี้
- will + V.1 (กริยาช่องที่ 1)
- will + be + Gerund (กริยาเติม ing) หรือ Noun (คานาม)
- Jimmy will stay in China for two years.
- My cousin will be cleaning the house tomorrow.
4. การเติมกริยาหลังกริยาเฉพาะ
เมื่อเจอกริยาเหล่านี้ เช่น delay, enjoy, go, keep, finish, start, stop, suggest เป็นต้น กริยาที่ตามมาต้องเป็น
Gerund Verb หรือกริยาเติม ing เท่านั้น
- keep doing
- start working
- enjoy eating
- go shopping
5. หลักการเติมกริยาหลังกริยาช่วย (Auxiliary Verb) มีดังนี้
- กริยาแท้ที่ตามมาต้องเป็นช่องที่ 1 เท่านั้น
- I should go to school early.
- She can drive by herself.
หมายเหตุ
- กลุ่มกริยาช่วย ได้แก่ can, could, may, might, should, must, need, use to, dare to เป็นต้น
6. ประเภทคาที่ตามหลังคาบุพบท (Preposition) มีวิธีสังเกตดังนี้
- Preposition + Noun (คานาม)
- Preposition + Gerund (กริยาเติม ing)
- According to the new policy, the employees will be paid for an accident within 24 hours.
7. การใช้คาบุพบทเฉพาะ (Phrasal Preposition)
การใช้ ค าบุ พ บทเฉพาะ คื อ การน าประเภทค าอื่ น มาประสมกั บ ค าบุ พ บท (Preposition) จนได้ ค าใหม่ ที่ มี
ความหมายใหม่ หรื อ ใกล้ เ คี ย งกั บ ความหมายเดิ ม โดยส่ ว นใหญ่ จ ะเป็ น ค าประเภทกริ ย า (Verb) หรื อ ค าคุ ณ ศั พ ท์
(Adjective) เช่น
- work for, work at (ทางานที่)
- attached to (ร่วมกับ)
- appointment with (มีนัดกับ)
- bored of (เบื่อหน่ายกับ)
- interested in (สนในใจ)
- Dan works for Export Company.
- I have an appointment with Mr. John.
- My mother is interested in Thai food.
8. การใช้คาบุพบท (Preposition) in และ on กับ วัน เดือน ปี หรือคาที่บ่งบอกถึงกาลเวลา มีวิธีสังเกต ดังนี้
- in + year
- in + month
- on + date
- on + day
- in 1988
- in June
- on Monday
- on December 22
การใช้ in, no และ at กับสถานที่ มีวิธีใช้ดังนี้
- in + เมือง จังหวัด ประเทศ ทวีป
- on + ชั้นตึก ถนน ชายหาด ชายฝั่ง
- at + ตาแหน่งสถานที่ ถนนที่มีเลขที่ และเวลา
- in Tokyo, in English, in Asia
- on the 2nd floor, on the beach, on changwattana Road
- at the company, at 16 Changwattana Road
9. ประโยค Adjective Clause เป็นประโยคที่ใช้เพื่อขยายคานาม โดยมีวิธีสังเกตและใช้ดังนี้
ตัวอย่าง Mr. Jason will attend the technology exhibition where he can find the new devices.
คานาม exhibition ของประโยคแรก หมายถึง สถานที่ จึงใช้คาเชื่อม (Relative Pronoun) where แล้วตามต้อง
ประโยค Adjective Clause
- ข้อสอบอาจออกคาเชื่อมตัวอื่น แต่วิธีการสังเกต คือ คาเชื่อมที่ใช้ขึ้นอยู่กับคานามที่อยู่ด้านหน้าเสมอ
- คาเชื่อมส่วนใหญ่ที่พบมีดังนี้ who (ใคร), whom (ใคร ใช้เป็นกรรมของประโยค), whose (ของใคร), which (ฮัน
ไหน), When (เมื่อไร), where (สถานที่)
10. การเปรียบเทียบคาคุณศัพท์และคากริยาวิเศษณ์ (Comparison of Adjective and Adverb) มีทั้งหมด 3 ระดับ คือ
- ระดับที่เท่ากัน (Positive Degree)
- ระดับมากกว่าเปรียบเทียบของสองสิ่ง หรือระหว่างบุคคลสองคน (Comparative Degree)
- ระดับสูงสุดเปรียบเทียบหลายสิ่ง หรือหลายคน (Superlative Degree)
แต่ละระดับมีโครงสร้างคาที่แตกต่างและซับซ้อน โดยมีหลักการสังเกตที่โครงสร้าง และต้องท่องจาคาคุ ณศัพท์ที่
เปลี่ยนรูป มีรายละเอียดดังนี้
A. ระดับที่เท่ากัน (Positive Degree)
- ใช้ as _____as หรือ the same _____ as ในประโยค คาเหล่านี้จะเป็นจุดสังเกตในข้อสอบ
- สามารถใช้ Adjective หรือ Adverb ก็ได้ แต่ต้องคงรูปเดิม
- Jasmine smells as good as rose. (ดอกมะลิมีกลิ่นหอมพอ ๆ กับดอกกุหลาบ)
- Ben does not work as much as I can. (เบนไม่สามารถทางานได้มากเท่าฉัน)
- Paula is the same shapely as Maria. (พอลล่าและมาเรียมีรูปร่างดีเหมือน ๆ กัน)
B. ระดับมากกว่าเปรียบเทียบของสองสิ่ง หรือระหว่างบุคคลสองคน (Comparative Degree)
- ใช้ more _____ than หรือ than ในประโยค คาเหล่านี้จะเป็นจุดสังเกตในข้อสอบ
- คาคุณศัพท์ (Adjective) ต้องเปลี่ยนรูปตามหลักขั้น กว่า เช่น การเติม er สาหรับคาพยางค์เดียว หรือ การเติม
more, more _____ than สาหรับคาสองพยางค์ขึ้นไป เป็นต้น หรือการเปลี่ยนรูปเป็นอีกคาหนึ่งที่เขียนต่างจาก
เดิม
- His sword is longer than mine. (ดาบของเขายาวกว่าของฉัน)
- Jimmy sings better than before. (จิมมี่ร้องเพลงดีกว่าเมื่อก่อน)
- Wire internet is more stable than wires one. (อินเทอร์เน็ตแบบลากสายเสถียรกว่าแบบไร้สาย)
C. ระดับสูงสุดเปรียบเทียบหลายสิ่ง หรือหลายคน (Superative Degree)
- ใช้ the _____ หรือ the most _____ ในประโยค คาเหล่านี้จะเป็นจุดสังเกตในข้อสอบ
- คาคุณศัพท์ (Adjective) ต้องเปลี่ยนรูปตามหลักขั้นสุด เช่น การเดิม est สาหรับคาพยางค์เดียว หรือ การเติม
most สาหรับคาสองพยางค์ขึ้นไป เป็นต้น หรือการเปลี่ยนรูปเป็นอีกคาหนึ่งที่เขียนต่างจากเดิม และต้องมี the
นาหน้าคาเหล่านี้อยู่เสนอ ยกเว้น adverb
- BWW is the most expensive car. (EWW คือ รถที่ราคาแพงที่สุด)
- He made this situation worst. (เขาทาให้สถานการณ์มันแย่สุด ๆ)
- Justin is the gentlest man in this class. (จัสตินเป็นสุภาพบุรษที่สุดในห้องนี้)
หมายเหตุ : คาเปรียบเทียบมักจะเขียนไว้หลัง Verb เสมอ
11. การสังเกตตาแหน่งคาคุณศัพท์ หรือ Adjective มีรายละเอียดดังนี้
- ตามหลัง Verb to be
- ตามหลัง Linking Verb
- อยู่หน้าคานาม
- He is excited to see me. (Verb to be)
- This rose smells very good. (Linking Verb)
- She lives in a beautiful house. (Noun)
12. การใช้คาคุณศัพท์ หรือ Adjective เพื่อแสดงความรู้สึกของบุคคล
เมื่อเจอข้อสอบที่ต้องเติม Adjective ประเภทความรู้สึกของบุคคล จะต้องเติม ed หลังคาศัพท์นั้น ๆ เสมอ
- I’m interested in Thai history.
- He’s scared of snake.
- My cousin is getting bored of studying math’s.
แต่หากใช้กับสิ่งขออง สัตว์ หรือไม่ใช้บุคคล ที่ทาให้เกิดความรู้สึก จะต้องเติม ing หลังคาศัพท์แทน ed
- The Thai history is interesting.
- This game is very exciting.
- To study maths is very boring.
13. การสังเกตคาศัพท์ที่เป็นคานาม (Noun)
เมื่อเจอข้อสอบที่ออกตัวเลือกคล้ายกับคานาม มักจะลงท้าย (Suffix) ity, er, an, ian, ee, ist เป็นต้น
- Variety
- Teacher
- American
- Vegetarian
- Trainee
- Scientist
หมายเหตุ : อย่างไรก็ตามหลักเกณฑ์เหล่านี้อาจไม่ตายตัว เนื่องจากจะมีคาศัพท์ประเภท adverb, verb, และ adjective
ที่มีรูปแบบเหมือนกับคานาม ดังนั้น ผู้สอบจึงต้องหมั่นฝึกฝนและท่องจา
14. การสังเกตคานาม (Noun) ที่มีคาคุณศัพท์ (Adjective) มาขยาย
มีโครงสร้างดังนี้
Adjective + Noun
Parents should not leave disabled children alone is the room.
หมายเหตุ : Adjective ต้องอยู่หน้าคานามเสนอ และจะถือว่าคานั้น คือ คานาม
15. ประโยค Noun Clause ถือเป็นคานามอีกประเภทหนึ่ง มีวิธีสังเกตดังนี้
1. เป็นประธานที่เป็นเอกพจน์ของประโยค
2. เป็นกรรมของประโยค
- What you have said is not the true.
- I don’t know where he wants to go.
- กลุ่มคา who, whose, what, where, when, why, which มักถูกนามาใช้ในการสร้าง Noun Clause
16. การใช้ Article (a, am, the) มีหลักการใช้ Article ที่ควรจาดังนี้
- หากแสดงที่สิ่งของหรือบุคคลที่นับได้เพียง 1 สิ่งหรือ 1 คนเท่านั้นให้ใช้ a.
- หากสิ่งของหรือบุคคลนั้น ๆ มีอักษรที่ขึ้นต้นด้วย a, e, I, o, u ต้องใช้ an เท่านั้น
- หากสิ่งของหรือบุคคลนั้น ๆ มีอักษรที่ขึ้นต้นด้วย u แต่ไม่ออกเสียงเป็นสระให้เดิม a เท่านั้น เช่น a university
เป็นต้น
- หากสิ่งของหรือบุคคลนั้น ๆ ไม่ได้ขึ้นต้นด้วย a, e, I, o, u แต่ออกเสียงเป็นสระให้เติม an เท่านั้น เช่น an hour
เป็นต้น
- หากต้องการกล่าวถึงสิ่งใดโดยเฉพาะ หรือเป็นที่ทราบกันดีระหว่างผู้พูดและผู้ฟังให้ใช้ the เท่านั้น
17. หลักการใช้ If clause มี 3 เงื่อนไข ดังนี้
- เงื่อนไขที่ 1 : ใช้กับเหตุการณ์ที่เป็นจริง หรือเป็นเหตุเป็นผลซึ่งกันและกัน if + Present Simple, Subject + will
+ Infinitive หรือ Present Simple
- เงื่อนไขที่ 2 : ใช้กับเหตุการณ์ที่ตรงข้ามกับปัจจุบันหรืออนาคต และเหตุการณ์ที่เป็นไปได้ If + Past Simple,
Subject + would + Infinitive
- เงื่อนไขที่ 3 : ใช้กับเหตุการณ์ที่ตรงข้ามกับความเป็นจริงในอดีต If + Past Perfect, Subject + Would + have
+ Past Participle
- If Dan sends the accounting report to manager within today, he will get more point.
- If Dan sent the accounting report to manager, he would get more point.
- If Dan had sent the accounting report to manager, he would have passed the training.
หมายเหตุ : หากสับสนในการใช้เงื่อนไข ให้สังเกตดังนี้
- ประโยคหลัก If ให้ดูว่าใช้ Tense ใด ประโยคเงื่อนไขให้ใช้ Verb ตรงกับประโยค if (ตามเงื่อนไข)
- ประโยคเงื่อนไขให้ดูว่าใช้ Verb ใด ประโยค if ให้ใช้ tense ตรงกับประโยคเงื่อนไข (ตามเงื่อนไข)
18. วิธีสังเกตประโยค Active Voice (ประธานเป็นผู้กระทา) และ Passive Voice (ประธานเป็นผู้ถูกกระทา) มีดังนี้
- Subject + Verb + Object (Active Voice)
- Subject + V.to be + V.3 + by + Object (passive voice)
- The president of NYC Company will invite the current customers for the event.
- The current customers will be invited to attend the event by NYC Company.
หมายเหตุ : วิธีสังเกตประโยค Passive Voice มักใช้ V.to be + V.3 + by หรือ V.to be + V.3
19. เหตุการณ์ตามหลัง หรือเหตุการณ์แทรกในประโยค Past Perfect Tense และ Past Continuous Tense
ประโยค Past Perfect Tense จะมีสองเหตุการณ์เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่แตกต่างกัน หรือไม่ห่างกันมาก
ส่วนประโยค Past Continuous Tense จะมีสองเหตุการณ์เช่นกัน แต่จะมีเหตุการณ์หนึ่งเกิดขึ้นก่อน แล้วมีอีก
เหตุการณ์แทรกขึ้นมา ทั้ง 2 Tense จะมีหลักสังเกตประโยคที่ตามมา หรือเหตุการณ์ที่แทรกขึ้นมาเหมือนกัน คือ ประโยค
นัน้ จะต้องเป็น Past Simple Tense เสมอ
- She had arrived, when the manager reached the room.
- I was singing a song while he came into the hall.
Part 2: Reading Tips
ข้อสอบในส่วนของการอ่านนั้น โดยส่วนใหญ่จะมี 1-2 ย่อหน้า ซึ่งผู้สอบส่วนใหญ่จะประหม่าต่อการทาข้อสอบส่วนนี้
ดังนั้น ผู้เขียนขอแนะนาเทคนิคสาคัญ เพื่อหาคาตอบในบทความนั้นได้อย่างรวดเร็วและถูกต้อง ดังนี้
1. การอ่านโจทย์คาถาม
ควรอ่านโจทย์คาถามก่อนเป็นอันดับแรกว่า บทความนั้นต้องการทราบอะไร จากนั้นจึงกลับไปอ่านบทความเพื่อหา
คาตอบ โดยส่วนใหญ่แล้วคาถามจะถามไล่ไปทีละย่อหน้า จึงควรอ่านบทความคร่าว ๆ (Skim) หากพอคาตอบแล้วให้
กลับไปพิจารณาตัวเลือก และกลับมาดูบทความอีกครั้ง (Scan) ว่าคาตอบนั้นตรงกับตัวเลือกใด แล้วจึงเขียนคาตอบลงไป
2. การตอบหัวข้อบทความ
คาถามที่มักถามเป็นอันดับต้น ๆ ของข้อสอบการอ่านนั้น จะถามเกี่ยวกับหัวข้อที่เหมาะสมของบทความ เนื่องจาก
บางบทความจะไม่ให้หัวข้อมา จะให้เพียงแต่เนื้อหา ผู้สอบจะต้องเลือกตัวเลือกที่เหมาะกับบทความนั้น ๆ การเลือกหัวข้อ
ให้ตรงบทความนั้น ส่วนใหญ่คาตอบจะอยู่ในย่อหน้าแรก จึงต้องทาการอ่านบทความคร่าว ๆ (Skim) เพื่อหาคาตอบ แต่
ในบางครั้งคาตอบอาจจะไม่อยู่ในย่อหน้าแรก ผู้สอบอาจต้องอ่านบทความโดยรวม จึงจะวิเคราะห์บทความและตอบ
คาถามได้
3. จับใจความสาคัญ
หลักการจับใจความสาคัญของบทความนั้น ผู้สอบจะต้องตั้งคาถามในใจ โดยใช้หลัก 4W + 1H คือ
- What (บทความนี้เกี่ยวกับอะไร)
- Where (เหตุการณ์เกิดที่ไหน)
- When (เหตุการณ์เกิดเมื่อใด)
- Why (ทาไมจึงเกิดเหตุการณ์นั้น)
- How (เกิดขึ้นได้อย่างไร)
ในบทความหนึ่ง ๆ อาจไม่สามารถตอบครบได้ทุกหลัก แต่เป็นหลักการที่ผู้สอบควรจดจาเนื่องจากจะทาให้เข้าใจใน
บทความมากยิ่งขึ้น และจะจับใจความสาคัญของบทความได้
4. การอ้างอิงสรรพนาม
ข้อสอบมักถามถึงสรรพนามเหล่านี้จะแทนคานามใด ผู้สอบจึงต้องสังเกตประโยคก่อนหน้าว่ามีคานามใดเป็น
ประธาน คาใดเป็นกรรม คาใดเป็นเอกพจน์ และคาใดเป็นพหูพจน์ และดูสรรพนาม ที่ถูกถามว่าน่าจะตรงกับคานามใด
โดยส่วนใหญ่แล้วมักจะเป็นประโยคก่อนหน้า 1-3 ประโยค จึงต้องสังเกตและทาความเข้าใจให้ดี
5. การทายคาศัพท์
ข้อสอบมักถามคาศัพท์ที่ใกล้เคียง หรือตรงข้ามกัน ดังนั้น จึงต้องอาศัยพื้นฐานความรู้ด้านคาศัพท์ของผู้สอบด้วย
แต่หากไม่สามารถตอบได้เลย ผู้สอบต้องใช้เทคนิคการอ่านประโยคและทายคาศัพท์ที่มีโอกาสใช่มากที่สุด

01 - แนวข้อสอบอังกฤษ 500 ข้อ

Uploaded by

Document Information

Copyright

Available Formats

Share this document

Share or Embed Document

Sharing Options

Did you find this document useful?

Is this content inappropriate?

Copyright:

Available Formats

01 - แนวข้อสอบอังกฤษ 500 ข้อ

Uploaded by

Copyright:

Available Formats

แนวข้อสอบเข้ารับราชการ

You might also like