Professional Documents
Culture Documents
ปล.1 ข้อสอบเสมือ นจริง ชุด iTest ภาค ก (ก.พ.) ระดับ ปวช.-ปวส. ชุดที่ 2 ปี 2567 เป็นชุดข้อสอบวัด
ความรู้ ความเข้าใจในการสอบ ภาค ก (ก.พ.) เมื่อทาข้อสอบเสร็จแล้ว จะมีเฉลย และคะแนนให้กรอกเพื่อเช็ค
ผลสอบ (เช็คได้ทั้งแบบภาพรวม ทั้งแบบรายวิชา หรือแม้แต่แบบรายหัวข้อ)
ปล 2 ท้ายชุดมีวิเคราะห์ผลสอบ (เก็บคะแนนไว้) ปีนี้พิเศษ พี่โยจะเชิญเข้ากลุ่ม Facebook กลุ่มปิด iTest
(เฉพาะคนที่ทาแบบทดสอบ)
“คุณก็สอบผ่านได้ แค่รู้ว่าข้อสอบจริงออกอะไร”
แบบทดสอบภาคความรูค้ วามสามารถทั่วไป ภาค ก (ก.พ.)
iTest ข้อสอบเสมือนจริง ระดับ ปวช.-ปวท.-ปวส. ชุดที่ 1/2566
คาสั่ง จงเลือกคาตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว
6. ร้านค้าคิดราคาขายสินค้าไว้สูงกว่าต้นทุนหนึ่งเท่าตัว และประกาศขายลดราคาให้แก่ผู้ซื้อ 40% เขายังได้กาไร
อีกร้อยละเท่าใด?
1. 20% 2. 25%
3. 30% 4. 35%
7. ข้าวสารราคาถังละ 42.50 บาท ข้าวสารราคาถังละ 37.50 บาท นามาผสมกันแล้วขายถังละ 45 บาท
จะได้กาไรกี่เปอร์เซ็นต์?
1. 10% 2. 12.5%
3. 15% 4. 20%
8. เหล้า 15 ปี บ มีแอลกอฮอล์ 20% หากเอาน้าเปล่าเติมลงไปอีก 3 ปีบ ความเข้มข้นของแอลกอฮอล์
จะเป็นร้อยละเท่าใด?
1 1
1. 14 % 2. 15 %
2 2
2 2
3. 16 % 4. 17 %
3 3
9. ถ้าสี่เหลี่ยมผืนผ้ารูปหนึ่งมีความยาวด้านกว้างเพิ่มขึ้น 20% และด้านยาวลดลง 20% อยากทราบว่า
พื้นที่สี่เหลี่ยมผืนผ้ารูปดังกล่าว มีพื้นที่เพิ่มขึ้นหรือลดลงกี่เปอร์เซ็นต์?
1. 1% 2. 2%
3. 3% 4. 4%
10. จานวนประชากรในหมู่บ้านหนึ่ง เพิ่มขึ้นจาก 3,000 เป็น 9,000 คน อยากทราบว่าประชากรเพิ่มขึ้น
ร้อยละเท่าใด?
1. 100% 2. 200%
3. 300% 4. 400%
หลักในการทาตอบ
ตอบ 1. ถ้าข้อสรุปทั้งสองเป็นจริงตามเงื่อนไข
ตอบ 2. ถ้าข้อสรุปทั้งสองไม่เป็นจริงตามเงื่อนไข
ตอบ 3. ถ้าข้อสรุปทั้งสองไม่แน่ชัด คือดูจากเงื่อนไขแล้วไม่สามารถสรุปได้ว่าจริงหรือไม่จริง
ตอบ 4. ถ้าข้อสรุปทั้งสองมีข้อสรุปใดข้อสรุปหนึ่ง ที่เป็นจริง หรือไม่จริง หรือไม่แน่ชัด
ซึ่งไม่ซ้ากับอีกข้อสรุปหนึ่ง
การสรุปความจากภาษา
คาสั่ง ในแต่ละข้อจะประกอบด้วยเงื่อนไขหรือข้อมูลที่กาหนดให้ และข้อสรุปเป็นคู่ ๆ จากเงื่อนไขนั้น
ให้ศึกษาเงื่อนไขที่กาหนดให้ก่อน แล้วจึงอาศัยความรู้ที่ได้จากเงื่อนไขดังกล่าวมาใช้พิจารณาข้อสรุปทั้งสอง
ของแต่ละข้อ แล้วทาตอบลงในกระดาษคาตอบ โดยยึดหลักในการทาตอบดังนี้
โจทย์เงื่อนไขภาษา
1. ในการเลือกตั้งของเขตเลือกตั้งหนึ่ง มีผู้สมัครเลือกตั้งจานวน 4 คน แต่ละคนสังกัดพรรคการเมืองคนละพรรค
ดังนี้ พรรคประชาชาติ พรรคปวงไทย พรรครวมไทย พรรคกิจประชา
2. ผู้สมัครเลือกตั้งทั้ง 4 คน มีอาชีพเดิมและอายุต่าง แต่ละคนมีชื่อดังนี้ สมพงษ์ ธีระศักดิ์ ประพันธ์ และอนุพงษ์
3. มีผู้สมัครรับเลือกตั้งจบการศึกษาปริญญาเอก อีกคนหนึ่งจบปริญญาโท และอีก 2 คน จบการศึกษา
ระดับเดียวกัน
4. อาชีพของผู้สมัครแต่ละคน คือ ข้าราชการบานาญ อาจารย์มหาวิทยาลัย นักธุรกิจ และทนายความ
5. ผู้สมัครของพรรครวมไทยมีอาชีพเดิมเป็นทนายความ ส่วนผู้สมัครของพรรคประชาชาติส่งผู้ที่เป็นข้าราชการบานาญ
6. ธีระศักดิ์จบการศึกษาระดับปริญญาตรี และไม่ได้สังกัดพรรคประชาชาติ และไม่เคยเป็นทนายความ
7. พรรคปวงไทยส่งสมพงษ์ลงสมัครรับเลือกตั้ง
8. ประพันธ์มีอายุ 53 ปี และไม่ได้สังกัดพรรคประชาชาติในขณะที่อนุพงษ์มีอายุ 64 ปี
9. คนที่จบการศึกษาระดับปริญญาเอกมีอายุเพียง 41 ปี
10. ผู้สมัครรับเลือกตั้งที่เป็นนักธุรกิจจบการศึกษาปริญญาตรี
คาถาม
21. ข้อสรุปที่ 1 สมพงษ์สังกัดพรรคปวงไทย
ข้อสรุปที่ 2 อนุพงษ์ไม่ได้จบปริญญาเอก
22. ข้อสรุปที่ 1 พรรครวมไทยไม่ได้ส่งประพันธ์ลงเลือกตั้ง
ข้อสรุปที่ 2 สมพงษ์เป็นนักธุรกิจ
23. ข้อสรุปที่ 1 ธีระศักดิ์มีอายุมากกว่าประพันธ์
ข้อสรุปที่ 2 อนุพงษ์จบการศึกษาระดับปริญญาโท
24. ข้อสรุปที่ 1 ผู้สมัครพรรคประชาชาติอายุมากกว่าผู้สมัครพรรครวมไทย
ข้อสรุปที่ 2 ธีระศักดิ์เป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย
25. ข้อสรุปที่ 1 สมพงษ์มีอายุน้อยกว่าอนุพงษ์ 23 ปี
ข้อสรุปที่ 2 ประพันธ์จบการศึกษาปริญญาตรี
การสรุปความจากสัญลักษณ์
คาสั่ง ข้อสอบจะประกอบด้วยเงื่อนไข และข้อสรุป ซึ่งอยู่ในรูปของตัวอักษรและเครื่องหมายต่าง ๆ
ดังต่อไปนี้
= หมายถึง เท่ากับ ≠ หมายถึง ไม่เท่ากับซึ่งอาจจะมากกว่าหรือน้อยกว่า
> หมายถึง มากกว่า ≯ หมายถึง ไม่มากกว่าซึ่งอาจจะเท่ากันหรือน้อยกว่า
< หมายถึง น้อยกว่า ≮ หมายถึง ไม่น้อยกว่าซึ่งอาจจะเท่ากันหรือมากกว่า
≥ หมายถึง มากกว่าหรือเท่ากับ ≤ หมายถึง น้อยกว่าหรือเท่ากับ
ให้ ศึ ก ษาท าความเข้ า ใจกั บ เงื่ อ นไขที่ ก าหนดให้ และอาศั ย ความรู้ ที่ ไ ด้ จ ากเงื่ อ นไขดั ง กล่ า ว
มาพิจารณาข้อสรุปทั้งสองของแต่ละข้อ แล้วทาในกระดาษคาตอบโดยยึดหลักในการทาตอบครั้งนี้
หลักในการทาตอบ
ตอบ 1. ถ้าข้อสรุปทั้งสองถูกหรือเป็นจริงตามเงื่อนไข
ตอบ 2. ถ้าข้อสรุปทั้งสองผิดหรือไม่เป็นจริงตามเงื่อนไข
ตอบ 3. ถ้าข้อสรุปทั้งสองไม่สามารถสรุปได้แน่ชัดว่าถูกหรือผิดตามเงื่อนไข
ตอบ 4. ถ้าข้อสรุปทั้งสองมีข้อสรุปใดข้อสรุปหนึ่ง ที่เป็นจริงหรือไม่จริงหรือไม่แน่ชัด
ซึ่งไม่ซ้ากับอีกข้อสรุปหนึ่ง
คาถาม
26. ข้อสรุปที่ 1 Q<K
ข้อสรุปที่ 2 P<W
27. ข้อสรุปที่ 1 L>Q
ข้อสรุปที่ 2 K=P
28. ข้อสรุปที่ 1 W≤P
ข้อสรุปที่ 2 Q=W
29. ข้อสรุปที่ 1 L>A
ข้อสรุปที่ 2 W≥L
30. ข้อสรุปที่ 1 Q<A
ข้อสรุปที่ 2 A<N
A B D
> ≮ =C
2 3 6
H
B ≮ (E + F) = 4G > 3
(ทุกตัวอักษรมีค่ามากกว่าศูนย์)
คาถาม
31. ข้อสรุปที่ 1 A ≮ C
B D
ข้อสรุปที่ 2 2
< 5
Instruction: Read the following passage and choose the best answer
Instruction: Read the following passage and choose the best answer
The population of the world has increased more in modern times than in all other
ages of history combined. World population totaled about 500 million in 1650. It doubled
in the period from 1650-1850. Today the population is more than five billion. Estimates
based on research by the United Nations indicated that it will more than double in the
twenty-five years between 1975 and year 2000. Reaching seven billion by the turn of the
century.
No one knows the limits of population that the earth can support Thomas
Malthus, an English economist developed a theory that became widely accepted in the
nineteenth century. He suggested that because world population tended to increase more
rapidly than the food supply, a continual strain was exerted upon available resources.
Malthus cited wars, famines, epidemics, and other disasters as the usual limitations of
population growth.
With recent advances in science and technology, including improved agricultural
methods and great strides in medicine, some of the limiting factors in population growth
have been lessened, with obvious results. International organizations in target areas along
with a decrease in birth rates to effect a lasting solution.
71. The title below that best expresses the ideas in this passage is?
1. Thomas Malthus’ theory.
2. The United Nation’s Estimate.
3. Limiting Factors in Population Growth.
4. A ‘Brief History of Population and Overpopulation.
72. By 1850, approximately what was the world population?
1. 500 million 2. One billion
3. Five billion 4. Seven billion
73. World population doubled in the years between?
1. 500-1650 2. 1650-1850
3. 1650-today 4. 1850-2000
74. According to this passage, by the year 2000 the earth’s population should exceed the
present figure by how much?
1.500 million 2. Five billion
3. Two billion 4. Seven billion
75. Who was Thomas Malthus?
1. A scientist 2. A doctor of medicine
3. An economist 4. A United Nations representative
76. ข้อใดคืออานาจหน้าที่ของคณะกรรมการจังหวัด
1. ทาหน้าที่เป็นที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการจังหวัด
2. ให้ความเห็นชอบในการจัดทาแผนพัฒนาจังหวัด
3. ปฏิบัติหน้าที่อื่นตามที่กฎหมายหรือมติของคณะรัฐมนตรีกาหนด
4. ถูกทั้งข้อ 1. และ 3.
77. ข้อใดกล่าวผิดเกี่ยวกับคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัด
1. เรียกโดยย่อว่า ก.ธ.จ.
2. ผู้ตรวจราชการสานักนายกรัฐมนตรีซึ่งมีเขตอานาจในจังหวัดเป็นประธาน
3. ทาหน้าที่สอดส่องและเสนอแนะการปฏิบัติภารกิจของหน่วยงานของรัฐในจังหวัดใช้วิธีการบริหาร
กิจการบ้านเมืองที่ดีและเป็นไปตามหลักการที่กาหนดไว้ในมาตรา 3/1
4. มีผู้แทนภาคประชาสังคม ผู้แทนผู้บริหารองค์กรปกครองท้องถิ่นและผู้แทนภาคธุรกิจเอกชน
เป็นกรรมการ
78. ข้อใดผิด
1. ผู้ว่าราชการจังหวัด รองผู้ว่าราชการจังหวัด และผู้ช่วยผู้ว่าราชการจังหวัด สังกัดระทรวงมหาดไทย
2. เลขาธิการคณะรัฐมนตรีเป็นข้าราชการพลเรือนสามัญ
3. เลขาธิการนายกรัฐมนตรีและรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมืองเป็นข้าราชการการเมือง
4. รองเลขาธิการคณะรัฐมนตรีและผู้ช่วยเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เป็นข้าราชการการเมือง
79. ข้าราชการตาแหน่งใดที่สังกัดสานักปลัดกระทรวงมหาดไทย
1. ผู้ว่าราชการจังหวัด รองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าสานักงานจังหวัด
2. ผู้ว่าราชการจังหวัด รองผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้ช่วยผู้ว่าราชการจังหวัด ปลัดจังหวัด
3. ผู้ว่าราชการจังหวัด รองผู้ว่าราชการจังหวัด ปลัดจังหวัด
4. ผู้ว่าราชการจังหวัด รองผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้ช่วยผู้ว่าราชการจังหวัด ปลัดจังหวัด เสมียนตราจังหวัด
80. การตั้ง ยุบ และเปลี่ยนแปลงเขตอาเภอให้กระทาได้ตามข้อใด
1. ประกาศกระทรวงมหาดไทย 2. ตราเป็นพระราชกาหนด
3. ตราเป็นพระราชบัญญัติ 4. ตราเป็นพระราชกฤษฎีกา
81. ข้อใดไม่ถูกต้อง
1. การตั้ง ยุบ และเปลี่ยนแปลงอาเภอ ให้จัดทาเป็นประกาศกระทรวงมหาดไทย
2. ในอาเภอหนึ่งมีนายอาเภอหนึ่งคนเป็นหัวหน้าปกครองบังคับบัญชาบรรดาข้าราชการในอาเภอ
และรับผิดชอบการบริหารราชการของอาเภอ
3. นายอาเภอสังกัดกระทรวงมหาดไทย
4. นายอาเภอมีอานาจที่ควบคุมดูแลการบริหารราชการส่วนท้องถิ่นในอาเภอตามกฎหมาย
82. หน่วยงานใดต่อไปนี้มีหน้าที่จัดทาแผนนิติบัญญัติ
1. สานักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี 2. สานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
3. สานักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี 4. ข้อ 1. และข้อ 2. ถูก
83. แผนปฏิบัติราชการ 4 ปีจะต้องสอดคล้องกับแผนใด
1. แผนนิติบัญญัติ 2. แผนบริหารราชการแผ่นดิน
3. แผนปฏิบัติราชการ 4. แผนปฏิบัติราชการประจาปี
84. สานักงบประมาณจะจัดสรรงบประมาณให้แก่ส่วนราชการก็ต่อเมื่อแผนปฏิบัติราชการประจาปีของส่วนราชการ
ได้รับความเห็นชอบจาก
1. คณะรัฐมนตรี 2. รัฐสภา
3. รัฐมนตรีเจ้าสังกัด 4. ก.พ.ร.
85. เมื่อสิ้นปีงบประมาณส่วนราชการจะต้องทารายงานใดเสนอแก่คณะรัฐมนตรี
1. รายงานแสดงผลสัมฤทธิ์ของแผ่นปฏิบัติราชการประจาปี
2. รายงานการใช้จ่ายงบประมาณ
3. รายงานประเมินผลการปฏิบัติตามแผนปฏิบัติราชการประจาปี
4. รายงานตัวชี้วัดแห่งความสาเร็จ
86. ในกรณีที่ภารกิจใดมีความเกี่ยวข้องกับหลายส่วนราชการหรือเป็นภารกิจที่ใกล้เคียงหรือต่อเนื่องกัน
ให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องนั้นร่วมกันกาหนดแนวทางการปฏิบัติราชการเพื่อให้เกิดตามข้อใด
1. การบริหารราชการแบบบูรณาการร่วมกัน 2. ประชาชนมีส่วนร่วม
3. หลักความคุ้มค่า 4. หลักความรับผิดชอบ
87. ส่วนราชการมีหน้าที่พัฒนาความรู้ในส่วนราชการเพื่อให้มีลักษณะเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้อย่างสม่าเสมอ
เพื่อให้บรรลุเป้าหมายของการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดีตามข้อใด
1. เกิดประโยชน์สุขของประชาชน
2. เกิดผลสัมฤทธิ์ต่อภารกิจของรัฐ
3. มีประสิทธิภาพและความคุ้มค่าในเชิงภารกิจแห่งรัฐ
4. มีการปรับปรุงภารกิจของส่วนราชการให้ทันต่อสถานการณ์
88. กรณีเจ้าหน้าที่ถูกคัดค้านถ้าที่ประชุมมีมติคะแนนเสียงไม่ น้อยกว่าเท่าใดให้กรรมการผู้นั้นปฏิบัติหน้าที่
ต่อไปได้
1. 2 ใน 3 2. 1 ใน 4
3. 3 ใน 5 4. 2 ใน 5
89. กรรมการผู้ ท รงคุ ณ วุ ฒิ ใ นคณะกรรมการวิ ธี ป ฏิ บั ติ ร าชการทางปกครองมี ว าระต าแหน่ ง คราวละกี่ ปี
และอาจได้รับการแต่งตั้งได้อีก
1. 3 ปี 2. 3 ปี ไม่เกิน 2 วาระ
3. 4 ปี 4. 4 ปี ไม่เกิน 2 วาระ
90. เจ้าหน้าที่ใดดังต่อไปนี้จะทาการพิจารณาทางปกครองไม่ได้
1. เป็นคู่กรณีเอง 2. เป็นคู่หมั้นหรือคู่สมรสของคู่กรณี
3. เป็นญาติของคู่กรณี 4. ถูกทุกข้อ
91. ใครอาจเป็ น คู่ ก รณี ใ นการพิ จ ารณาทางปกครองได้ ต ามขอบเขตที่ สิ ท ธิ ข องตนถู ก กระทบกระเทื อ น
หรืออาจถูกกระทบกระเทือนโดยมิอาจหลีกเลี่ยงได้
1. บุคคลธรรมดา 2. คณะบุคคล
3. นิติบุคคล 4. ถูกทุกข้อ
92. ผู้ที่จะทาการพิจารณาทางปกครองไม่ได้คือข้อใด
1. เป็นคู่กรณีเอง 2. เป็นคู่หมั้นของคู่กรณี
3. เป็นญาติของคู่กรณี 4. ถูกทุกข้อ
93. ที่ประชุมมีมติให้กรรมการผู้ถูกคัดค้านปฏิบัติหน้าที่ต่อไป ต้องมีคะแนนเสียงเท่าใดของกรรมการที่ไม่ถูกคัดค้าน
ก็ให้กรรมการผู้นั้นปฏิบัติหน้าที่ต่อไปได้
1. ไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่ง 2. ไม่น้อยกว่าหนึ่งในสาม
3. ไม่น้อยกว่าสองในสาม 4. ไม่น้อยกว่าสามในสี่
94. นายด าเป็ น ข้ า ราชการผู้ คุ ม ของเรื อ นจ าแห่ ง หนึ่ ง และมี ห น้ า ที่ ดู แ ลและขั บ รถยนต์ ได้ รั บ ค าสั่ ง
จากผู้บัญชาการเรือนจา ให้นารถยนต์ ไปขนแกลบจากโรงสี ได้นานายแดงซึ่งเป็นนักโทษชั้นดีไปด้วย
เมื่อไปถึงโรงสีนายดาและนายแดงได้ร่วมกันนาสายยางที่เตรียมมาดูดน้ามันออกจากรถยนต์เพื่อนาไปขาย
แล้ ว น าเงิ น มาแบ่ ง กั น นายด าและนายแดงมี ค วามผิ ด ตามประมวลกฎหมายอาญาฐานใดหรื อ ไม่
ข้อใดกล่าวถูกต้อง
1. นายดามีความผิดต่อตาแหน่งหน้าที่ราชการตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 147 อันเป็นความผิด
เกี่ยวกับเจ้าพนักงานยักยอกทรัพย์
2. นายแดงมิ ใ ช่ เ จ้ า พนั ก งานผู้ มี ต าแหน่ ง หน้ า ที่ ร าชการจึ ง มี เ พี ย งความผิ ด ฐานเป็ น ผู้ ส นั บ สนุ น
ให้กระทาความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 86 ประกอบมาตรา 147
3. นายด ามี ค วามผิ ด ต่ อ ต าแหน่ ง หน้ า ที่ ร าชการตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 148
อันเป็นความผิดเกี่ยวกับเจ้าพนักงานใช้อานาจในตาแหน่งโดยมิชอบ
4. 1. และ 2. ถูก
95. นาย ก เป็น พนักงานขับรถของหน่วยงานราชการแห่งหนึ่ง มีหน้าที่ขับรถ ดูแล บารุงรักษารถได้ดูดเอาน้ามัน
จากรถคันดังกล่าวไปขายหรือเอาไปให้นาย ข ซึ่งเป็นเพื่อน นาย ก มีความผิดเกี่ยวกับเจ้าพนักงานฐานใด
1. ฐานเจ้าพนักงานยักยอกตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147
2. ฐานเจ้าพนักงาน ใช้อานาจในตาแหน่งโดยมิชอบ ข่มขืนใจหรือจูงใจเพื่อให้บุคคลใดมอบให้
หรือหามาให้ซึ่งทรัพย์สนิ หรือประโยชน์อื่นใดแก่ตนเองหรือผู้อื่นตามมาตรา 148
3. ฐานเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 157
4. 1. และ 3.
96. ความรับผิดทางละเมิด เกิดจากการกระทาความเสียหายทางด้านใด
1. ชีวิต และร่างกาย 2. อนามัย เสรีภาพ และทรัพย์สิน
3. สิทธิอย่างหนึ่งอย่างใด 4. ถูกทุกข้อ
97. ถ้าการละเมิดเกิดจากเจ้าหน้าที่ซึ่งไม่ได้สังกัดหน่วยงานของรัฐแห่งใดให้ถือว่าหน่วยใดเป็นเป็นผู้รับผิด
ใช้ค่าสินไหมทดแทน
1. หน่วยงานของรัฐที่เจ้าหน้าที่นั้นสังกัดอยู่ 2. กระทรวงการคลัง
3. กระทรวงมหาดไทย 4. สานักนายกรัฐมนตรี
98. “เจ้าหน้าที่ของรัฐ” มีความหมายความตามข้อใด พระราชบัญญัติมาตรฐานทางจริยธรรม พ.ศ. ๒๕๖๒
1. ข้าราชการ 2. พนักงาน
3. ลูกจ้าง 4. ถูกทุกข้อ
99. มาตรฐานทางจริยธรรมคือหลักเกณฑ์การประพฤติปฏิบัติอย่างมีคุณธรรมของเจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งจะต้อง
ประกอบด้วยข้อ
1. 4 2. 5
3. 6 4. 7
100. คณะกรรมการมาตรฐานทางจริยธรรมคณะหนึ่งเรียกโดยย่อว่า “ก.ม.จ.” ประกอบด้วยบุคคลใดเป็นประธาน
และบุคคลใดเป็นกรรมการและเลขานุการ
1. นายกรัฐมนตรีหรือรองนายกรัฐมนตรีซึ่งนายกรัฐมนตรีมอบหมาย เป็นประธานกรรมการ
2. ให้เลขาธิการ ก.พ. เป็นกรรมการและเลขานุการ
3. นายกรัฐมนตร์เท่านั้นเป็นประธานกรรมการ
4. 1. และ 2. ถูก
เฉลย
แบบทดสอบภาคความรู้ความสามารถทั่วไป ภาค ก. (ก.พ.)
iTest ข้อสอบเสมือนจริง ระดับ ปวช.-ปวท.-ปวส. ชุดที่ 1/2566
1. วิชาความสามารถในการคิดวิเคราะห์ 50 ข้อ
- การคิดวิเคราะห์เชิงปริมาณ (ข้อ 1 – 15)