Professional Documents
Culture Documents
การจัดการพืน
้ ทีส
้ ีเขียวในชุมชนเขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร
Green area Management of Klongtoei District
Community Bangkok Metropolitan
คณะผู้วจิ ัย
นายวิทยาภรณ์ จรัสด้วง
คณะผู้วจิ ัย
นายวิทยาภรณ์ จรัสด้วง
นายวิทยาภรณ์ จรัสด้วง
หัวหน้าโครงการวิจยั
ข
บทคัดย่อ
Abstract
Research on "Green Area Management in Khlong Toei Community Bangkok "Study on the
green areas that utilize the combination of the importance and benefits of green space to help
mitigate global warming. Is a recreation Homes and recreational facilities of people of all ages.
Creation of green space. Political power group Business power And these three social forces when
coordinated a strategic alliance to create green space in urban areas. Success is faster. In urban
areas, every square inch of land ownership. If used as a green area should create benefits to occur
together. Both to the original owner. Supported business community City Administration or Political
Sector The green infrastructure of the city according to the 12-year Bangkok Development Plan
(2009-2020) is Bangkok 2020's vision. Sustainable Metropolis or Khlong Toei is an inner city.
Named after the canal as a local symbol. It is assumed that the name of the species is a species of
Shrub (pandanus) that grows there. Originally a district in Prakanong district, the present Khlong
Toei area is located in Khlong Toei, a congested inner-city community. And dense commercial
areas need to provide enough green space for the needs of the community for recreation. Green
area development in the Khlong Toei area is a mission of Bangkok. And the community can be
used for recreation, along with resolutions. Cabinet on Sustainable Green Area Policy Action Plan is
a green area with large trees. It is a key element and is maintained sustainably, and a sustainable
greenfield policy action plan aims to increase sustainable green space The urban population, at a
total of no less than 1.25 square wah, per population over a period of five years, can be sustained
sustainably. From this point of view, the researcher has come up with the idea that there must be
continuous action. In parts of Case of Wat Klong Toei nai Community in 1,2,3, with the provision of
green space to meet the needs of the community for recreation. Therefore, the management of
green space must be developed to develop cooperation between the city administration. The
business and social sectors in each of the relevant communities. This will result in the
implementation of transformational mechanisms and administrative units to support integrated
management. Including the relevant legal regulations.
ง
สารบัญ
เรื่ อง หน้ า
กิตติกรรมประกาศ ก
บทคัดย่อภาษาไทย ข
บทคัดย่อภาษาอังกฤษ ค
สารบัญ ง
สารบัญตาราง ฉ
สารบัญภาพ ช
สารบัญแผนภูมิ ซ
บทที่ 1 บทนำ 1
1.1 ความเป็ นมาและความสาคัญของปัญหา 1
1.2 วัตถุประสงค์ของโครงการวิจยั 3
1.3 กรอบแนวความคิดของโครงการวิจยั 3
1.4 ขอบเขตของโครงการวิจยั 3
1.5 ระยะเวลาทาการวิจยั 4
1.6 ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ 4
บทที่ 2 การทบทวนวรรณกรรม
2.1 ประวัติศาสตร์ชุมชนคลองเตย 5
2.2 สภาพทัว่ ไปของแขวงคลองเตย 12
2.3 พื้นที่สีเขียว 21
2.4 แนวทางการเพิ่มพื้นที่สีเขียวในกรุ งเทพมหานคร 29
2.5 แนวความคิดในการวางผังที่โล่งและการรักษาคุณภาพสิ่ งแวดล้อม 34
บทที่ 3 เนื้อหาการวิจยั
3.1 วิธีการดาเนินการวิจยั 46
3.2 เครื่ องมือที่ใช้ในการดาเนินการวิจยั 46
จ
บทที่ 4 ผลการวิจยั
4.1 สรุ ปผลการสัมภาษณ์และสอบถาม 50
4.2 ความคิดเห็นของตัวแทนกลุ่มผูน้ าชุมชนในพื้นที่ 50
บรรณานุกรม
ภาคผนวก
ฉ
สารบัญตาราง
หน้ า
สารบัญภาพ
หน้า
ภาพที่ 3 แสดงคลองหัวลาโพงในปัจจุบนั 8
ภาพที่ 4 คลองหัวลาโพงช่วงที่เลียบไปกับทางรถไฟสายหัวลาโพง-ปากน้ า 10
ภาพที่ 5 สภาพชุมชนแออัดคลองเตย 18
ภาพที่ 6 เคหะชุมชนคลองเตย 20
ภาพที่ 27 ถนนด้านหน้าชุมชนวัดคลองเตยใน 3 65
สารบัญแผนภูมิ
หน้า
ภาพที่ 1 กรอบแนวความคิดของโครงการวิจยั 3
1
บทที่ 1
บทนา
พื้นที่ ลานจอดรถ เพิ่มพื้นที่ สีเขี ยวในแนวเส้ นทางคมนาคม และเพิ่มพื้นที่ สีเขี ยวโดยการแทนที่พ้ืนที่ เดิ ม
(urban infill) เป็ นต้น (วารสารสานักยุทธศาสตร์ และประเมินผล ปี ที่ 2 ฉบับที่ 1 ประจาเดือนเมษายน-
พฤษภาคม 2552)
เขตคลองเตยเป็ นเขตชั้นใน ได้ชื่อตามคลองอันเป็ นสัญลักษณ์ทอ้ งถิ่น สันนิ ษฐานจากชื่ อเรี ยกเป็ น
ชื่ อของพันธุ์ ไม้ชนิ ดหนึ่ ง (ต้นเตย) ที่ ข้ ึ นมากบริ เ วณนั้น แต่เดิ ม เป็ นแขวงหนึ่ ง ในเขตพระโขนงที่ ต้ งั เขต
คลองเตยในปั จจุ บนั นี้ ในอดี ตคือ เมืองปากน้ าพระประแดงโบราณ ทางฝั่ งตะวันออกลาน้ าเจ้าพระยา อยู่
ระหว่างคลองพระโขนงกับคลองช่องนนทรี (ปั จจุบนั เป็ นที่ทาการของการท่าเรื อแห่ งประเทศไทย)(สุ ชาติ
เอื้ อไตรรั ตน์ การศึก ษาวิจ ยั ในการจัดการผังบริ เวณที่ อยู่อาศัยและอาคารบ้านพักอาศัย โดยใช้ภูมิปัญญา
ท้องถิ่นประสานด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่เพื่อยกระดับคุ ณภาพชี วิต : กรณี ศึกษาชุ มชนแออัดคลองเตย 12
ชุมชน : 2555)
จากการศึ กษาเขตคลองเตยซึ่ ง เป็ นชุ มชนเขตชั้นในที่ แออัดไปด้วยชุ มชน และเขตพาณิ ชยกรรม
หนาแน่ นมีความจาเป็ นที่จะต้องจัดหาพื้นที่สีเขียวให้เพียงพอต่อความต้องการของชุ มชนเพื่อการพักผ่อน
หย่อนใจ การพัฒนาพื้นที่ สีเขี ยวในพื้นที่ เขตคลองเตยจึ งเป็ นภารกิ จของกรุ งเทพมหานคร และชุ มชนให้
สามารถใช้ป ระโยชน์ เพื่ อการพัก ผ่อ นหย่อ นใจประกอบกับ มติ คณะรั ฐ มนตรี เรื่ องแผนปฏิ บ ัติก ารเชิ ง
นโยบายด้า นการจัด การพื้ น ที่ สี เ ขี ย วชุ ม ชนอย่า งยัง่ ยื น คื อ พื้ น ที่ สี เ ขี ย วที่ มี ต้นไม้ยื น ต้น ขนาดใหญ่ เป็ น
องค์ประกอบหลักและได้รับการบารุ งรั กษาให้คงอยู่อย่างยัง่ ยืนและแผนปฏิ บตั ิการเชิ งนโยบายด้านการ
จัดการพื้นที่สีเขียวชุ มชนอย่างยัง่ ยืนมีเป้ าหมายเพิ่มพื้นที่สีเขียวยัง่ ยืน ของชุมชนเมืองโดยภาพรวมให้ได้ไม่
น้อยกว่า 5 ตารางเมตร ต่อประชากร 1 คน ภายในระยะเวลา 5 ปี และสามารถดารงรักษาไว้ได้อย่างยัง่ ยืน
(Asa สมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมถ์)
จากประเด็นดังกล่าวผูว้ ิจยั จึงเกิ ดแนวคิ ดที่จะต้องมี การดาเนิ นการอย่างต่อเนื่ องในส่ วนของ การ
บริ หารจัดการพื้นที่สีเขียวในชุ มชนเชื้ อเพลิ งเขตคลองเตย โดยต้องมี การจัดหาพื้นที่สีเขียวให้เพียงพอต่อ
ความต้อ งการของชุ ม ชนเพื่ อ การพัก ผ่อ นหย่อ นใจ ดัง นั้น ในการจัด การพื้ น ที่ สี เ ขี ย วจะต้อ งได้รั บ การ
สร้างสรรค์พฒั นาให้เกิดความร่ วมมือกันระหว่างฝ่ ายบริ หารเมือง ภาคธุ รกิจและภาคสังคมในแต่ละชุ มชนที่
เกี่ยวข้อง ซึ่ งจะส่ งผลปรากฏต่อการดาเนิ นการให้เกิดการแปลงกลไกและหน่วยงานการบริ หารเพื่อรองรับ
การบริ หารจัดการเชิ งบูรณาการ รวมถึงการมีระเบียบกฎหมายที่เกี่ยวข้อง การขยายบทบาทให้สถานศึกษา
และวัดในชุมชนบริ เวณพื้นที่สีเขียวเข้ามามีบทบาท ในส่ วนของภาคธุ รกิจเน้นธุ รกิจในพื้นที่บริ เวณแวดล้อม
(ชนายุส ตินารักษ์: ก่อสร้าง ซีเอสอาร์ CSR พัฒนาเมือง 17th March 2013)
3
1.3 ขอบเขตของโครงการวิจัย
1.3.1 พื้ น ที่ ก ารศึ ก ษาครอบคลุ ม พื้ น ที่ บ ริ เ วณชุ ม ชนวัด คลองเตยใน 1,2,3 เขตคลองเตย
กรุ งเทพมหานคร
1.3.2 ขอบเขตเนื้อหาในการศึกษา โดยทาการศึกษาประเด็นดังต่อไปนี้ ศึกษาสภาพแวดล้อมพื้นที่สี
เขียว ด้านกายภาพ เศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม ตลอดจนวิถีชีวติ ของชุมชน
1.4 กรอบแนวความคิดของโครงการวิจัย
กรุ งเทพมหานคร
การจัดการพื้นที่สีเขียว นโยบายการจัดการพื้นที่สีเขียว
การอนุรักษ์
เมืองสีเขียว
1.5 ระยะเวลาทาการวิจัย
แผนการดาเนินงาน
กิจกรรม 2558 2559
ต.ค. พ.ย. ธ.ค. ม.ค. ก.พ. มี.ค. เม.ย. พ.ค. มิ.ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย.
1. ศึกษาข้อมูลเกี่ ยวกับผังชุ มชนใน
พื้นที่
2. รวบรวมข้ อ มู ล ที่ เ กี่ ย วข้ อ งกั บ
ค ว า ม ต้ อ ง ก า ร ข อ ง ชุ ม ช น ใ น
การศึกษาผังชุ มชนเพื่อสร้ างพื้นที่สี
เขียว
3. ศึ ก ษาข้อ มู ล ด้า นกายภาพของ
พื้นที่
4. การสั ง เกต และการส ารวจ
ภาคสนาม การ สัมภาษณ์
5. วิเคราะห์มูล
6. จัดทารายงานการวิจยั
1.6 ประโยชน์ ที่คาดว่ าจะได้ รับ เช่ น ด้ านวิชาการ ด้ านนโยบาย ด้ านเศรษฐกิจ/พาณิชย์ ด้ านสั งคมและชุ มชน
รวมถึงการเผยแพร่ ในวารสาร จดสิ ทธิบัตร ฯลฯ และหน่ วยงานทีน่ าผลการวิจัยไปใช้ ประโยชน์
1.6.1 ทราบถึงรู ปแบบและการวางแผนของการจัดการพัฒนาพื้นที่สีเขียวของชุ มชนวัดคลองเตย
ใน 1, 2, 3 เขตคลองเตย บทบาทตลอดจนความสาคัญของพื้นที่สีเขียวชุ มชนวัดคลองเตยใน 1, 2, 3 เขต
คลองเตย
1.6.2 เป็ นการสร้ างความเข้าใจและความเข้มแข็งของชุ มชนในการบริ หารจัดการพื้นที่สีเขียวใน
การอนุรักษ์พ้ืนที่สีเขียวของชุมชนวัดคลองเตยใน 1, 2, 3 เดิมอย่างยัง่ ยืน
1.6.3 หน่วยงานที่นาผลการวิจยั ไปใช้ประโยชน์ ได้แก่ กรุ งเทพมหานครและ พื้นที่ใกล้เคียง
5
บทที่ 2
การทบทวนวรรณกรรม
คลองเตยเป็ นชุ ม ชนขนาดใหญ่ ที่ ต้ งั มานานหลายสิ บ ปี ทํา ให้เ กิ ด กลุ่ ม องค์ก รที่ สํา คัญ รวมถึ ง
เหตุการณ์ตื่นเต้น น่าสนใจ และน่าจดจํามากหลายเหตุการณ์ ดังที่จะนําเสนอให้เห็นดังนี้
ด้ านภูมิสังคม
“ภูมิ” หมายถึง ภูมิประเทศ ภูมิอากาศ และสภาพแวดล้อมของท้องถิ่น ส่ วน "สังคม" คือ กลุ่มคนที่
อยูอ่ าศัย และทํามาหากินในพื้นที่
การพัฒนาโดยยึดหลัก “ภูมิสังคม” หมายถึงการคํานึงถึงสภาพภูมิประเทศ ภูมิอากาศของบริ เวณนั้น
ๆ ขณะเดี ยวกันก็คาํ นึ งถึ งลักษณะนิ สัยใจคอ ชี วิตความเป็ นอยู่ และวัฒนธรรมประเพณี ทอ้ งถิ่นของผูค้ นใน
พื้นที่ ควบคู่ กนั ไปด้วย ดังพระราชดํารั สตอนหนึ่ ง ความว่าการพัฒนาจะต้องเป็ นไปตามภูมิประเทศทาง
ภูมิศาสตร์ และภูมิประเทศทางสังคมศาสตร์ คือนิสัยใจคอของคนเรา จะไปบังคับให้คนอื่นคิดอย่างอื่นไม่ได้
เราต้องแนะนํา เราเข้าไปช่วย โดยที่จะคิดให้เขาเข้ากับเราไม่ได้ แต่ถา้ เราเข้าไปแล้ว เราเข้าไปดูวา่ เขาต้องการ
อะไรจริ ง ๆ แล้วก็ อ ธิ บ ายให้ เขาเข้า ใจ หลัก การของการพัฒนานี้ จะเกิ ด ประโยชน์ อ ย่า งยิ่ง ในปั จ จุ บ ัน
คลองเตยมี ค วามแตกต่ า งจากอดี ต เป็ นอย่า งมาก อัน เนื่ อ งมาจากสภาพสั ง คม สภาพเศรษฐกิ จ จํา นวน
ประชากร ปั ญหาของชุ มชนและอื่น ๆ ที่เปลี่ ยนแปลงไป 3.3.1 ข้อมูลทัว่ ไปทางสังคมของเขตคลองเตยเขต
คลองเตย เป็ น 1 ใน 50 เขตการปกครองของกรุ ง เทพมหานคร อยู่ใ นกลุ่ ม เขตเจ้า พระยา ซึ่ ง ถื อเป็ นเขต
เศรษฐกิ จ ใหม่ และการพัฒ นาตามแนววงแหวนอุ ต สาหกรรม เขตคลองเตย29 ซึ่ งเกิ ด มาจาก
กระบวนการพัฒนาตามแผนการพัฒนาของประเทศไทย ทําให้ตอ้ งมีท่าเรื อ เป็ นแหล่งเชื่ อมโยงทางการค้า
ภายในประเทศ และระหว่างประเทศ เพื่อความสะดวกสบายในการขนส่ งผลิตภัณฑ์ เครื่ องอุปโภค บริ โภค มี
รายละเอียดที่สําคัญทางด้านภูมิสังคม โดยมี ประชากรทั้ง 3 แขวงของเขตคลองเตย มีจาํ นวน 121,575 คน
แยกเป็ นชาย 58,727 คน และหญิง 62,484 คน
ที่ต้ งั ชุ มชนคลองเตยในปั จจุบนั นี้ น้ นั คือ เมืองปากนํ้าพระประแดงโบราณ ทางฝั่งตะวันออกลํานํ้า
เจ้าพระยาอยูร่ ะหว่างคลอง พระโขนงกับคลองช่องนนทรี (ปั จจุบนั เป็ นที่ทาํ การของการท่าเรื อแห่ งประเทศ
ไทย)ในทางภูมิศาสตร์ บริ เวณ นี้ เป็ นบริ เวณที่น้ าํ ในแม่น้ าํ เจ้าพระยาไหลขึ้นเหนื อ บังคับให้เรื อต้องแล่นช้า
เพราะจะต้องทวนนํ้าทวนลมเหมาะสําหรับตั้งด่านตรวจ การเข้าออกจึงเป็ นเมืองหน้าด่านทางทะเล หรื อด่าน
ใต้ม าตั้ง แต่ ครั้ งอดี ตทั้ง ในสมัย ละโว้ ราวพุ ทธศัก ราช 1400 ซึ่ ง ขอมแผ่อาํ นาจ ปกครองแถบลุ่ ม แม่ น้ าํ
เจ้าพระยาไว้ท้ งั หมดและในสมัยอยุธยาเมื่อสมเด็จพระรามาธิ บดีที่1(พระเจ้าอู่ทอง)ออกจากสุ พรรณบุรีมา
สร้าง “กรุ งเทพทวาราวดีศรี อยุธยา ฯ” (หรื อกรุ งศรี อยุธยา)ในพุทธศักราช 1893 ได้แผ่อาํ นาจปกครองกรุ ง
สุ โขทัยมีอาํ นาจเหนือเขมรและ ทางใต้ลงไปถึงแหลมมลายู) หลักฐานทางประวัติศาสตร์ และโบราณคดีของ
เมืองพระประแดงที่คลองเตยปรากฏเด่นชัด ก็คือ ศาลพระประแดง (หรื อศาลเจ้าพ่อ พระประแดง) ที่มีอายุ
ยืนยาวมาจนถึงทุกวันนี้ ตั้งแต่ราวพุทธศักราช 2401 ก่อนสมเด็จพระไชยราชา ขุดคลองลัดบางกอก สมเด็จ
พระรามาธิ บดีที่ 2 ทรงพระกรุ ณาโปรดเกล้าให้ขุดชําระคลองสําโรงและคลองหัวตะเข้ พบเทวรู ปทอง
สัมฤทธิ์ 2 องค์ระหว่างคลอง สําโรงต่อกับคลองทับนาง โปรดเกล้าให้สร้ างศาลประดิษฐานไว้ที่เมืองพระ
ประแดงศาลพระประแดงที่เมืองพระประแดงนี้ ปรากฏใน นิ ราศเมืองแกลงของสุ นทรภู่ ซึ่ งแต่งเมื่อต้นปี
7
เดียวบ้าง บ้านไม้ 2 ชั้นบ้าง มีตึกแถว อาคารพาณิ ชย์เพียง 2-3 หลัง ในชุมชนมีบา้ นที่มีเลขที่ (ทะเบียนบ้าน)
จํานวน 57 หลังคาเรื อน (เจ้าของบ้านอยู่อาศัยเอง) และมี บา้ นที่ เปิ ดให้เช่ าโดยไม่มีเลขที่ อีกประมาณ 50
หลังคาเรื อน ส่ งผลให้ชุมชนมีการเข้า-ออกของคนที่มาเช่าบ้านอยูเ่ ป็ นประจํา
2) ชุมชนล็อค 1-2-3
เป็ นชุ มชนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเขตคลองเตย ตั้งอยู่ใต้ทางด่วนท่าเรื อและริ มทางรถไฟ บ้านเรื อน
ในชุมชนเป็ นบ้านไม้สองชั้น และชั้นเดียวคละกันไป ซึ่ งมีสภาพแออัดค่อนข้างทรุ ดโทรมและไม่ได้เรี ยงกัน
เป็ นระเบี ยบ มี พ้ื นที่ ท้ งั หมดกว่า 15 ไร่ พื้นที่ ต่อเนื่ องกับชุ มชนล็ อค 4-5-6 สามารถเดิ นถึ งกันได้ ภายใน
ชุมชนมีลกั ษณะเหมือนใยแมงมุม สามารถเข้าออกได้หลายทาง ทั้งด้านหน้า และด้านหลังชุ มชน ยากแก่การ
เดินของคนนอกชุมชน
3) ชุมชนล็อค 1-2-3
ไม่มีเลขที่ ซอยดํารงลัทธพิพฒั น์ 5 แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กทม. 10110ประธาน 1 คน รอง
ประธาน 4 คน และคณะกรรมการอี ก 20 คน รวมทั้งสิ้ น 25 คนจํานวนที่ สามารถเลื อกตั้งได้ มี ประมาณ
8,000 คน (ไม่รวมเด็กที่ยงั ไม่มีสิทธิ์ เลือกตั้ง) จากจํานวน 2,000 ครัวเรื อน
4) ชุมชนคลองเตยล็อค 4-5-6
เป็ นชุมชนที่ต้ งั อยูร่ ิ มทางด่วนอาจณรงค์ ระยะทางจากทางด่วนถึงที่ทาํ การชุมชนประมาณ 500 เมตร
ซึ่ งชุ มชนนี้ เป็ นทางผ่านของชุ มชนหมู่บา้ นพัฒนา 70 ไร่ และมูลนิ ธิดวงประทีป ชุ มชนมีความสะอาดเป็ น
ระเบียบ ที่ทาํ การชุมชนมีลกั ษณะเป็ นอาคาร ซึ่ งแยกออกเป็ น 2 ส่ วน คือ ที่ทาํ การชุ มชน และอีกส่ วนหนึ่ งใช้
เป็ นสถานที่ การทํากายภาพบํา บัดของผูส้ ู งอายุ ด้า นหน้าของที่ ทาํ การชุ มชนมี ม ้านั่ง เพื่อใช้ตอ้ นรั บ แขก
บรรยากาศของชุมชนโดยรอบอากาศถ่ายเทดีมาก
5) ชุมชนซอยเจริ ญสุ ข
เป็ นชุมชนเมือง มีพ้ืนที่ขนาดใหญ่ต้ งั อยูบ่ ริ เวณถนนพระราม 4 เยื้องกับตลาดคลองเตยและอยูต่ ิดกับ
ชุ มชนริ มคลองไผ่สิงห์โต ทางเข้า-ออกชุ มชนสามารถเข้า-ออกได้หลายทางเช่ น สามารถออกซอยไผ่สิงห์
ออกซอยสุ ขุมวิท 22 ออกซอยกรี ทรัพย์ ถนนภายในชุ มชนมีการราดคอนกรี ตอย่างดี แต่ถนนค่อนข้างแคบ
ลักษณะบ้านเรื อนเป็ นตึกแถว อาคารพาณิ ชย์ (ประมาณ 4 ชั้น) และบ้านเดี่ยว บ้านเกือบทุกหลังไม่มีพ้ืนที่วา่ ง
ระหว่างบ้านแต่ละหลัง
6) ชุมชนตลาดปี นัง
เป็ นชุ มชนขนาดเล็ก ตั้งอยูบ่ ริ เวณริ มทางรถไฟสายท่าเรื อคลองเตยและอยูใ่ กล้ทางด่วนบริ เวณมุม
ถนน ณ ระนอง กับถนนพระราม 3 บริ เวณชุ มชนรายล้อมไปด้วยร้านขายเครื่ องนอน เสื่ อนํ้ามัน ร้านขนม
แบบขายส่ ง ร้ านเครื่ องสังฆภัณฑ์ สํานักงาน ธนาคาร มีท้ งั ตึกแถวและอาคารพาณิ ชย์ซ่ ึ งกล่าวได้วา่ รอบ ๆ
ชุมชนมีความเป็ นอยูแ่ ละลักษณะการประกอบอาชีพที่มีความเป็ นชุมชนเมืองค่อนข้างสู งบ้านเรื อนมีลกั ษณะ
เป็ นบ้านไม้ช้ นั เดียวบ้าง 2 ชั้นบ้างที่ค่อนข้างเก่าและคับแคบ ไม่มีการปรับปรุ ง
15
7) ชุมชนน้องใหม่
เป็ นชุ ม ชนเปิ ด มี ก ารเคลื่ อ นไหวเข้า -ออกตลอดเวลา แต่ ช าวบ้า นที่ อ ยู่ อ าศัย มายาวนานก็ มี
ความคุน้ เคยกันเป็ นอย่างดี
8) ชุมชนบ้านกล้วย
เป็ นที่ดินของการท่าเรื อ มีพ้ืนที่ประมาณ 1 ไร่ เศษ ชุ มชนตั้งอยู่ตามแนวถนนริ มทางรถไฟสายเก่า
(หลังโลตัส พระราม 4 ) ซึ่ งอยูต่ ิดกับชุ มชนร่ วมใจสามัคคี ลักษณะบ้านเรื อนส่ วนใหญ่เป็ นบ้านไม้เล็ก ๆ มี
ทั้ง 2 ชั้นและชั้นเดียว บ้านแต่ละหลังอยูต่ ิดกัน (ไม่มีพ้ืนที่วา่ งระหว่างแต่ละหลัง) หน้าบ้านนั้นจะอยูต่ ิดถนน
มาก (พอเปิ ดประตูหน้าบ้านก็ถึงถนน) และส่ วนมากบ้านแต่ละหลังจะมีรถเข็นสําหรับใช้ในการประกอบ
อาชีพ เช่น การขายลูกชิ้น ขายปลาหมึก เป็ นต้น
9) ชุมชนพัฒนาใหม่
เป็ นชุมชนแออัด และบุกรุ กที่ดินการท่าเรื อ ตั้งอยูต่ รงข้ามห้างโลตัส พระรามสี่ ใกล้กบั แยกศุลกากร
สภาพแวดล้อมไม่ค่อยถูกสุ ขลักษณะ มีภาวะมลพิษมาก สภาพบ้านเรื อนปลูกติดๆ กัน เป็ นครึ่ งปูนครึ่ งไม้
และไม้ที่ใช้ทาํ บ้านอยูอ่ าศัยไม่มีคุณภาพเท่าที่ควร มีบา้ นเรื อนทั้งหมด 507 หลังคาเรื อน
10) ชุมชนพัฒนาอาเซีย
อยู่ในซอย เป็ นบ้านส่ วนตัว ไม่ค่อยมีบา้ นเช่ า และคนในชุ มชนไม่ค่อยให้ความร่ วมมือเท่าที่ ควร
เพราะขาดผูน้ าํ ที่ดี เนื่องจากประธานไม่ได้ทาํ ประโยชน์ใดให้กบั ชุ มชน จึงไม่มีผลงาน และคณะกรรมการที่
ได้รับเลือกเข้ามาไม่มีโอกาสได้ทาํ งานร่ วมกัน ขาดการประสานงานกันระหว่างคณะกรรมการภายในชุมชน
11) ชุมชนร่ มเกล้า
เป็ นชุ มชนเปิ ดมี การเข้า -ออกของประชาชนตลอดเวลา แต่อยู่อาศัยกันแบบพี่ น้องให้ความช่ วยเหลื อกัน
ชุมชนมีขนาดปานกลางตั้งอยูร่ ิ มทางด่วนอาจณรงค์มีสภาพเหมือนชุมชนทัว่ ไปของเขตคลองเตย
12) ชุมชนร่ วมใจสามัคคี
เดิ ม ชุ ม ชนเป็ นชุ ม ชนเดี ย วกับ ชุ ม ชนบ้า นกล้วย เขตพระโขนง ตั้ง อยู่เป็ นแนวยาวเลี ย บคลองหัวลําโพง
ประมาณ 2 กิโลเมตร มีรถรางรถไฟสายแรกของประเทศไทยถึงปากนํ้า
13) ชุมชนริ มคลองไผ่สิงห์โต
เป็ นชุมชนที่ต้ งั อยูต่ รงข้ามกับตลาดคลองเตย (สี่ แยกพระราม 4) ลักษณะบ้านจะเป็ นบ้านไม้ที่อยูร่ ิ ม
คลองไผ่สิ ง ห์ โต บ้า นทั้ง 44 หลัง คาจะตั้ง อยู่เป็ นระนาบแนวเดี ย วกันและทุ ก หลัง จะทาสี บ ้า นเป็ นสี ฟ้ า
เหมือนกันหมด เพราะชุมชนเป็ นชุมชนเข้มแข็งที่สามารถพึ่งตนเองได้และเป็ นช่วงที่ พอช. เข้ามาดําเนิ นการ
เรื่ องโครงการบ้านมัน่ คงด้วย (อยู่ระหว่างการดําเนิ นการ) ชาวชุ มชนส่ วนใหญ่นบั ถือศาสนาพุทธ มีเพียง 2
ครัวเรื อนเท่านั้นที่นบั ถือศาสนาอิสลามถึงแม้ศาสนาจะต่างกันแต่ก็อยูร่ ่ วมกันฉันท์พี่นอ้ ง
16
5) ชุมชนแฟลต 23-24
เป็ นแฟลตของการเคหะ ให้เช่ าโดยตรงเดื อนละ 300-500 บาทต่อเดื อน ลักษณะการอยู่อาศัย เป็ น
แบบครอบครัว มีพ่อ แม่ ปู่ ย่า อยูด่ ว้ ยกัน สภาพทางกายภาพของอาคาร อากาศถ่ายเทไม่สะดวก มีการขาย
อาหารภายในตึก เช่น อาหารตามสั่ง ก๋ วยเตี๋ยว เป็ นต้น
ชุมชนบ้านจัดสรร
มีลกั ษณะเป็ นบ้านที่ผปู ้ ระกอบการสร้างขึ้นเอง มีสาธารณูป โภคที่ดี ได้แก่
1) ชุมชนตลาดปี นังพัฒนา คนในชุมชนมีลกั ษณะวิถีชีวิตความเป็ นอยูเ่ ป็ นชุ มชนเมืองทัว่ ไป ต่างคน
ต่างอยู่ แต่ก็รู้จกั กัน โดยมีบริ เวณพื้นที่ของชุ มชนคือ ช่วงที่อยู่ต้ งั แต่ตึกมโนรมย์จนถึ งมหาวิทยาลัยกรุ งเทพ
ซึ่ งจะอยูต่ รงข้ามกับชุมชนร่ วมใจสามัคคีและชุ มชนบ้านกล้วย มีพ้ืนที่ประมาณ 200-300 ไร่ ที่พกั อาศัยส่ วน
ใหญ่ของคนในชุมชนมีลกั ษณะเป็ นตึกแถว อาคารพาณิ ชย์
2) ชุ มชนหมู่บา้ นเปรมฤทัย บ้านเดี่ ยว มีร้ ั วรอบขอบชิ ด และมี บริ เวณบ้าน บ้านส่ วนใหญ่ปลู กมา
นานแล้ว
การสร้างเมืองสี เขียว
ต้องอาศัยพลังทางการเมื อง พลังทางธุ รกิ จ และพลังทางสังคม ร่ วมผลักดันในทิศทางเดี ยวกันเป็ น
เสมือนพลังสามประสาน ในแต่ละช่ วงเวลาพลังด้านใดด้านหนึ่ งอาจเป็ นด้านหลักเพื่อชักจูง ผลักดันหรื อ
ดึงดูดให้พลังส่ วนอื่น ๆ เข้าร่ วม แต่ความสําเร็ จเกิดขึ้นได้มากน้อยเพียงใด ย่อมมาจากพลังทั้งสามส่ วนนี้
พื้นที่สีเขียว 5 ประเภท
เรื่ องเกี่ยวกับเมืองสี เขียว ชุมชนสี เขียว อ้างอิงได้จากงานวิจยั มาตรการในการเพิ่มและการจัดการพื้นที่
สี เขียวในเขตชุ มชนอย่างยัง่ ยืน โดยศูนย์วิจยั ป่ าไม้ คณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ที่เสนอต่อ
สํานักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่ งแวดล้อม งานวิจยั นี้ ให้คาํ นิ ยามของ“พื้นที่สีเขียวใน
เขตชุ มชนเมือง” ว่าหมายถึง พื้นที่โล่งว่างในเขตเทศบาล ซึ่ งมีพืชพรรณเป็ นองค์ประกอบหลัก ได้รับการ
จัดการตามหลักวิชานววัฒนวิทยาและหลักการทางภูมิสถาปั ตยกรรม เพื่อเสริ มสร้ างภูมิทศั น์ให้เอื้ออํานวย
ต่อการพักผ่อนหย่อนใจและเพื่อเสริ มสร้างสภาพแวดล้อมของเมือง อันจะทําให้ชุมชนเมืองเป็ นเมืองสี เขียว
ที่ร่มรื่ นสวยงามและน่าอยูต่ ลอดไป
เรื่ องเกี่ยวกับพื้นที่สีเขียวยังมีรายละเอียดที่น่าสนใจเพิ่มเติมโดยแบ่งเป็ นลักษณะต่าง ๆ กันคือ
ข้ อแรกพื้นที่ธรรมชาติ เป็ นพื้นที่สีเขี ยวที่ มีอยู่ตามธรรมชาติ มักเป็ นแหล่ งรวมของระบบนิ เวศที่
จําเป็ นต้องดูแลรักษาให้คงอยูใ่ นสภาพที่สมบูรณ์ตลอดไป ส่ วนใหญ่อยูบ่ ริ เวณต้นนํ้า ป่ าไม้ ภูเขา
ข้ อสองพื้นที่สีเขียวเพื่อบริ การ ส่ วนนี้ เป็ นพื้นที่สีเขียวที่ประชาชนเข้าไปใช้บริ การเพื่อการพักผ่อน
หย่ อ นใจ ออกกํา ลั ง กาย ขณะที่ มี บ ทบาทเสริ มสร้ า งทัศ นี ย ภาพที่ ส วยงามให้ ก ั บ เมื อ งในรู ปแบบ
สวนสาธารณะสวนหย่อม สนามกี ฬากลางแจ้ง สนามเด็กเล่น ลานเมือง สวนพฤกษศาสตร์ สวนรุ กขชาติ
และสวนสัตว์ ปั จจุบนั กรุ งเทพมหานครมีพ้ืนที่สีเขียวในรู ปแบบนี้ หลายแห่ ง อาทิเช่น สวนหลวง ร.9 สวน
ลุมพินี ศูนย์เยาวชน ลานคนเมือง ฯลฯ
ข้ อสามพื้นที่ สี เขี ย วเพื่อสิ่ ง แวดล้อมมี คุณสมบัติเสริ มสร้ า งคุ ณค่ าด้า นสิ่ งแวดล้อม เช่ น เพิ่ม ก๊า ซ
ออกซิ เจน และลดอุ ณหภูมิความร้ อนในเมื อง แม้ประชาชนไม่สามารถเข้าไปใช้บริ การได้โดยตรง แต่มี
คุ ณค่าด้านสิ่ งแวดล้อมซึ่ งเป็ นเสมือนปอดของชุ มชนเมือง โดยรู ปแบบในกรุ งเทพมหานครได้แก่ สวนใน
บ้าน พื้นที่สีเขียวในโรงเรี ยน หน่วยงานราชการ ศาสนสถาน สนามกอล์ฟ
ข้ อสี่ พ้ืนที่สีเขียวริ มเส้นทางสัญจร เป็ นพื้นที่สีเขียวที่อยู่ในแนวเส้นทางสัญจรสาธารณะ พื้นที่น้ ี มี
บทบาทเสริ มสร้ างคุ ณค่า ด้านสิ่ งแวดล้อมและการบริ การ ได้แก่ พื้นที่ ตามแนวถนน เกาะกลางถนน ริ ม
ทางเดิน แนวถอยร่ น ริ มแม่น้ าํ ลําคลอง ริ มทางรถไฟ
ข้ อห้ าพื้นที่สีเขียวเพื่อเศรษฐกิจชุมชน เป็ นพื้นที่ที่สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้แก่ผเู ้ ป็ นเจ้าของได้แก่
สวนไม้ผลยืนต้น สวนป่ าเศรษฐกิ จ พื้นที่ว่างในบริ เวณสถานประกอบการ พื้นที่สีเขียวเพื่อเศรษฐกิจชุ มชน
ในกรุ งเทพมหานคร ได้แก่บริ เวณชานเมืองทั้งฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตกของกรุ งเทพมหานคร เช่น สวน
ผัก สวนผลไม้ ฯลฯ
26
“พื้น ที่สี เ ขี ย ว” ได้มี ผูใ้ ห้ ค าํ จํา กัด ความไว้ห ลายประการ แต่ ส่ ว นใหญ่ ท ่วั ไปมัก หมายถึ ง
สวนสาธารณะ ซึ่ งเป็ นบริ เวณที่ปลูกต้นไม้เป็ นจํานวนมาก กั้นเป็ นขอบเขตไว้เพื่อประชาชนทัว่ ไปจาก
งานวิจยั มาตรการในการเพิ่มและการจัดการพื้นที่สีเขียวในเขตชุ มชนอย่างยัง่ ยืนโดยศูนย์วิจยั ป่ าไม้คณะวน
ศาสตร์ มหาวิท ยาลัย เกษตรศาสตร์ ที่ เสนอต่ อสํ า นัก งานนโยบายและแผนทรั พ ยากรธรรมชาติ และ
สิ่ งแวดล้อม ได้ให้คาํ นิยามของ “พื้นที่สีเขียวในเขตชุมชนเมือง” ว่าหมายถึง พื้นที่โล่งว่างในเขตเทศบาล ซึ่ ง
มีพืชพรรณเป็ นองค์ประกอบหลัก ได้รับการจัดการตามหลักวิชาวนวัฒนวิทยาและหลักการทางภูมิสถาปั ตย์
เพื่อเสริ มสร้างภูมิทศั น์ให้เอื้ออํานวยต่อการพักผ่อนหย่อนใจและเพื่อเสริ มสร้างสภาพแวดล้อมของเมือง อัน
จะทําให้ชุมชนเมืองเป็ นเมืองสี เขียวที่ร่มรื่ นสวยงามและน่าอยูต่ ลอดไป
1.พืน้ ทีธ่ รรมชาติ เป็ นพื้นที่ที่มีอยูต่ ามธรรมชาติ เป็ นแหล่งรวมของระบบนิ เวศที่จาํ เป็ นต้องอนุ รักษ์
ให้คงอยูใ่ นสภาพที่สมบูรณ์ตลอดไป โดยมีการจัดการที่เหมาะสม ส่ วนใหญ่จะอยูบ่ ริ เวณต้นนํ้า ป่ าไม้ ภูเขา
2.พืน้ ที่สีเขียวเพื่อบริ การ เป็ นพื้นที่ สีเขียวที่ประชาชนสามารถเข้าไปใช้บริ การเพื่อการพักผ่อน
หย่อนใจ ออกกําลังกายและเสริ มสร้างทัศนี ยภาพที่สวยงามให้กบั เมืองในรู ปแบบสวนสาธารณะสวนหย่อม
สนามกี ฬากลางแจ้ง สนามเด็กเล่ น ลานเมือง สวนพฤกษศาสตร์ สวนรุ กขชาติ และสวนสัตว์ ซึ่ ง
กรุ งเทพมหานครมีพ้ืนที่สีเขียวในรู ปแบบนี้หลายแห่ง อาทิเช่น สวนหลวง ร.9 สวนลุมพินี ศูนย์เยาวชน ลาน
คนเมือง ฯลฯ
3.พืน้ ทีส่ ี เขียว เพือ่ สิ่ งแวดล้อม เป็ นพื้นที่สีเขียวที่เสริ มสร้างคุณค่าด้านสิ่ งแวดล้อม เช่นการเพิ่มก๊าซ
ออกซิ เจน และลดอุณหภูมิความร้อนในเมือง แม้ประชาชนจะไม่สามารถเข้าไปใช้บริ การได้โดยตรง แต่มี
คุณค่าด้านสิ่ งแวดล้อมซึ่ งเป็ นเสมือนปอดของชุ มชนเมือง โดยรู ปแบบในกรุ งเทพมหานครได้แก่ สวนใน
บ้าน พื้นที่สีเขียวในโรงเรี ยน หน่วยงานราชการ ศาสนสถาน สนามกอล์ฟ
4.พืน้ ทีส่ ี เขียวริมเส้ นทางสั ญจรเป็ นพื้นที่สีเขียวที่อยูใ่ นแนวเส้นทางสัญจรสาธารณะซึ่ งมีบทบาททั้ง
การเสริ มสร้างคุณค่าด้านสิ่ งแวดล้อมและการบริ การได้แก่ พื้นที่ตามแนวถนน เกาะกลางถนน ริ มทางเดิน
แนวถอยร่ น ริ มแม่น้ าํ ลําคลอง ริ มทางรถไฟ
5.พืน้ ทีส่ ี เขียว เพือ่ เศรษฐกิจชุ มชน เป็ นการสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้แก่ผเู ้ ป็ นเจ้าของได้แก่ สวน
ไม้ผลยืนต้น สวนป่ าเศรษฐกิจ พื้นที่วา่ งในบริ เวณสถานประกอบการ ในกรุ งเทพมหานคร ได้แก่ บริ เวณ
ชานเมืองทั้งฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตกของกรุ งเทพมหานคร เช่น สวนผัก สวนผลไม้ ฯลฯ โดยในเขต
ชุ มชนเมืองยังมีพ้ืนที่ที่มีศกั ยภาพและมีความเหมาะสมที่จะนํามาพัฒนาเป็ นพื้นที่สีเขียวอย่างยัง่ ยืน ได้แก่
พื้นที่วา่ งรกร้าง พื้นที่ส่วนราชการ พื้นที่ศาสนสถาน พื้นที่สถานศึกษา พื้นที่ลานกิจกรรมของชุ มชน พื้นที่
ว่า งภายหลัง การพัฒนาสาธารณู ป โภคและสาธารณู ป การ พื้ นที่ ว่า งตามอาคารบ้า นเรื อ นและสถาน
ประกอบการของเอกชน เป็ นต้น ปั จจุบนั มีกระแสความคิดใหม่ๆในการเชื่ อมต่อพื้นที่นนั ทนาการทัว่ เมือง
แทนการกระจุกตัวเป็ นจุดๆ ทําให้เกิ ดการเปลี่ ยนแปลงแนวความคิดของ“สวนสาธารณะในเมือง” เป็ น
“เมืองในสวนสาธารณะ” และสวนสาธารณะจะขยายต่อเชื่ อมกับที่วา่ งสาธารณะต่างๆในเมือง เช่ น ลาน
31
- อังกฤษ 17.50 23
- เม็กซิโก 9.40 15
- โปแลนด์ 9.40 15
- สิ งคโปร์ 6.80 10.90
- ญี่ปุ่น 3.37 5.4
- มาเลเซีย 1.80 2.90
- ไทเป 0.25 0.40
ที่มา : Park and Greenery Space Planning in a large City : Laboratory of Urban Landscape
Design, Nobura สวนสาธารณะต่อประชากร 1,000 คน (หน่วย: ไร่ ) เนื้อที่สวนสาธารณะ ต่อประชากร 1 คน
(หน่วย : ตารางเมตร) หมายเหตุ Masuda, Prefecture, College of Agriculture.มาตรฐานเนื้ อที่สวนสาธารณะ
ต่อประชากรในประเทศไทยหน่วยงาน เนื้อที่
5.ที่ลุ่ม
6.ที่วา่ ง
7.พื้นที่ไม้ยนื ต้น
8.พื้นที่เกษตรกรรม
9.พื้นที่เพาะเลี้ยงสัตว์น้ าํ
10.พื้นที่พฒั นาแล้ว เช่น อาคาร บ้านเรื อน ถนน
11.พื้นที่อื่นๆ เช่น พื้นที่ริมคลอง พื้นที่ใต้ทางด่วน ทางพิเศษเกณฑ์การพิจารณาในการกําหนดพื้นที่
เป้ าหมายเพื่อพัฒนาเป็ นพื้นที่สีเขียว
1.สถานภาพพื้นที่สีเขียวในปั จจุบนั
2.เกณฑ์ทางผังเมืองในการกําหนดพื้นที่เป้ าหมาย
2.1 ความหนาแน่นของประชากร (Population density)
2.2 ความหนาแน่นของสัณฐานเมือง (Urban bulk density) ความหนาแน่นของกลุ่มอาคาร
ที่เกาะตัวในพื้นที่ชุมชนที่หนาแน่ นและพื้นที่ว่างที่ปราศจากการใช้ประโยชน์ เป็ นการฟื้ นสภาพ
พื้นที่
ว่างให้เกิดคุณค่าการใช้ประโยชน์ที่เหมาะสม ถูกต้องและเกิดประโยชน์ต่อชุมชนโดยรอบ
2.3 ด้านภูมิสัณฐาน (Urban topography)
3.การวิเคราะห์ จุดอ่อน จุดแข็ง โอกาสและอุปสรรค (SWOT Analysis) ของพื้นที่เป้ าหมาย
3.1 ข้อมูลหลักที่มาจากหลักวิชาการและหลักทางเทคนิค
3.1.1 โดยการสํารวจพื้นที่จากภาพถ่ายดาวเทียม
3.1.2 แปลภาพถ่ายตามโครงสร้างฐานข้อมูล
3.1.3 สํารวจสภาพความเป็ นจริ งของพื้นที่ (existing topography)
3.2 ข้อมูลรองที่มาจากข้อมูลทางสถิติ
3.2.1 ปั จจัยชี้ นาํ เชิ งลบ ได้แก่ ความหนาแน่นของประชากร ความหนาแน่นทาง
สัณฐานเมือง และพื้นที่พฒั นาแล้ว16
3.2.2 ปั จจัยชี้นาํ เชิงบวก ได้แก่ พื้นที่วา่ ง แหล่งนํ้าธรรมชาติ สวัสดิการทางสังคม
พื้นที่กนั ชน
4.ขั้นตอนการดําเนิ นงานในการกําหนดพื้นที่เป้ าหมาย ใช้เกณฑ์ในทุกข้อที่กล่าวมาเพื่อพิจารณาหา
พื้นที่ที่เหมาะสมในการกําหนดพื้นที่สีเขียว
4.1 จัดทําแผนที่พ้ืนที่สีเขียวแสดงขนาดและที่ต้ งั ของพื้นที่สีเขียว พิจารณาจากข้อมูลทาง
เทคนิคและกายภาพ (ภาพถ่ายดาวเทียม)
4.2 พิจารณาเกณฑ์ต่างๆเชิงผังเมืองจากข้อมูลเชิงสถิติและข้อมูลแผนที่ ความหนาแน่นของ
ประชากร สัณฐานของเมืองและการวิเคราะห์ SWOT
42
บทที่ 3
เนือ้ หาการวิจัย
3.1 วิธีการดาเนินการวิจัย
1. เพื่อศึกษานโยบายการจัดการพื้นที่สีเขียว
2. เพื่อสร้ างความเข้าใจและความเข้มแข็งของชุ มชนในการบริ หารจัดการพื้นที่สีเขียวใน
การอนุรักษ์พ้ืนที่สีเขียวของชุมชนเดิมอย่างยัง่ ยืน
3. เพื่อศึกษารู ปแบบของการจัดการพัฒนาพื้นที่สีเขียวของชุมชนเขตคลองเตย
4. เพื่อเสนอแนวทางในการดาเนิ นการอนุ รักษ์และพัฒนาพื้นที่ สีเขียวในชุ มชนเดิ มอย่าง
ยัง่ ยืน
ในกระบวนการในการดาเนิ นการวิจยั ผูว้ ิจยั ต้องพิจารณาออกแบบเครื่ องมือวิจยั ที่จะทาให้ได้มาซึ่ ง
ข้อมูลเพื่อที่จะนาไปวิเคราะห์และสรุ ปผลตามวัตถุประสงค์ที่ได้กาหนดไว้
1) ระบบสาธารณูปโภค
2) ระบบสาธารณูปการ
49
การแบ่งเขตการปกครอง
เขตคลองเตยมีการปกครองย่อย 3 แขวง (khwaeng) ได้แก่
บทที่ 4
ผลการวิจัย
2. การสร้างจิตสานึก การจัดการและดูแลพื้นที่สีเขียวของชุมชนชน
-เห็นด้วยกับจิตสานึกแห่งการรักษาคุณค่าของการเกื้อกูลสิ่ งมีชีวติ พื้นถิ่น
-ในส่ วนของโครงสร้างพี้นฐานสี เขียวของเมือง เป็ นการสร้างสุ ขภาพ และคุณภาพชีวิตมือ
สาหรับชุมชนและชาวเมือง ชุมชนเห็นด้วยมาก
- สาหรับการจัดการและดูแลพื้นที่สีเขียวของชุมชน เป็ นการใช้ประโยชน์ดว้ ยจิตสานึกถึง
คุณค่าของสิ่ งแวดล้อมตอบว่าเห็นด้วยเกือบทั้งหมด
-ท่านคิดว่าการสร้ างจิตสานึ ก การจัดการและการดูแลพื้นที่สีเขียวของขุมชน ควรมีวิธีการ
อย่างไรส่ วนใหญ่ตอบว่า ให้ผนู้ าชุมชนแจ้งให้ทราบโดยผูน้ าชุมชนเสี ยสละนาประชาชนในชุ มชนร่ วมกัน
พัฒนาชุมชน ปลูกต้นไม้ ทาความสะอาดบ้านเรื อนตัดแต่งต้นไม้
บทที่ 5
สรุปผลการวิจัยและข้ อเสนอแนะ
-เพื่อจากัดมลภาวะ -Out put ความร้ อน, มลพิษในอากาศเช่ นฝุ่ นละออง คาร์ บอนไดออกไซด์
มีเทน, มลพิษในน้ า ฯลฯ
- เป็ นระบบธรรมชาติเพื่อเกื้อกูลชีวติ
- จุนเจือทรัพยากรอากาศและน้ า
Green
Good life
จุดสี เขียว
โครงข่ายสี เขียว
สาธารณูปโภคสี เขียว
เมืองสี เขียว
พื้นที่สีเขียวในเมือง
สานักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่ งแวดล้อมจาแนกพื้นที่สีเขียวเป็ น
1. พื้นที่สีเขียวเพื่อการบริ การสาธารณะ
2. พื้นที่สีเขียวเพื่ออรรถประโยชน์
3. พื้นที่พ้ืนที่สีเขียวบริ เวณเส้นทางสัญจร
4. พื้นที่สีเขียวเพื่อเศรษฐกิจชุมชน
- พื้นที่ซ่ ึ งไม่เพิ่มความร้อนของสภาพอากาศ
- พื้นที่ซ่ ึ งเกื้อกูลระบบจัดการน้ าตามธรรมชาติ(Zero Waster Water/Zero Increasing Stormwater
Runoff)
- พื้นที่ซ่ ึ งเอื้อความหลากหลายทางชีวภาพ
- พื้นที่ซ่ ึ งส่ งเสริ มการเป็ นกลางเชิงคาร์บอน(Carbon Neutral หรื อ Net Zero Carbon Footprint)
ตัวอย่างเกณฑ์พ้นื ที่สีเขียว
เกณฑ์และแนวทางในการจัดการสิ่ งแวดล้อมสาหรับอาคารสานักงานราชการเขียวในโครงการ
พัฒนาสนับสนุนและ และประเมินการจัดการสิ่ งแวดล้อมของหน่วยงานภาครัฐ
1.พื้นที่สีเขียวเพื่อการบริ การสาธารณะ
2.พื้นที่สีเขียวเพื่ออรรถประโยชน์
3.พื้นที่สีเขียวเพื่อบริ เวณทางสัญจร
4.พื้นที่สีเขียวเพื่อเศรษฐกิจชุมชน
ตัวอย่างเกณฑ์พ้นื ที่สีเขียว
70
การเลือกที่ต้ งั
-คุณค่าทางนิเวศน์ต่า
-ใช้พ้ืนที่หรื ออาคารที่มีการใช้งานมาแล้ว
งานภูมิสถาปัตยกรรม
เทศบาลนคร 4 ตารางเมตร/คน
เทศบาลเมือง 3 ตารางเมตร/คน
เทศบาลตาบล 2 ตารางเมตร/คน
71
เทศบาลนคร 10 ตารางเมตร/คน
เทศบาลเมือง 15 ตารางเมตร/คน
เทศบาลตาบล 30 ตารางเมตร/คน
1. พื้นที่สีเขียวเพื่อการบริ การสาธารณะ
2. พื้นที่สีเขียวเพื่ออรรถประโยชน์
3. พื้นที่พ้ืนที่สีเขียวบริ เวณเส้นทางสัญจร
4. พื้นที่สีเขียวเพื่อเศรษฐกิจชุมชน
1. พืน้ ที่ธรรมชาติ เป็ นพื้นที่ที่มีอยูต่ ามธรรมชาติ เป็ นแหล่งรวมของระบบนิ เวศที่จาเป็ นต้องอนุ รักษ์
ให้คงอยูใ่ นสภาพที่สมบูรณ์ตลอดไป โดยมีการจัดการที่เหมาะสม ส่ วนใหญ่จะอยูบ่ ริ เวณต้นน้ า ป่ าไม้ ภูเขา
2. พืน้ ทีส่ ี เขียวเพือ่ บริการ เป็ นพื้นที่สีเขียวที่ประชาชนสามารถเข้าไปใช้บริ การเพื่อการพักผ่อนหย่อน
ใจ ออกกาลังกายและเสริ มสร้างทัศนียภาพที่สวยงามให้กบั เมืองในรู ปแบบสวนสาธารณะ สวนหย่อม สนาม
กีฬากลางแจ้ง สนามเด็กเล่น ลานเมือง สวนพฤกษศาสตร์ สวนรุ กขชาติ และสวนสัตว์ ซึ่งกรุ งเทพมหานครมี
พื้นที่สีเขียวในรู ปแบบนี้หลายแห่ง อาทิเช่น สวนหลวง ร.9 สวนลุมพินี ศูนย์เยาวชน ลานคนเมือง ฯลฯ
3.พืน้ ที่สีเขียวเพื่อสิ่ งแวดล้ อม เป็ นพื้นที่สีเขียวที่เสริ มสร้ างคุ ณค่าด้านสิ่ งแวดล้อม เช่ นการเพิ่มก๊า
ออกซิ เจน และลดอุณหภูมิความร้อนในเมือง แม้ประชาชนจะไม่สามารถเข้าไปใช้บริ การได้โดยตรง แต่มี
คุณค่าด้านสิ่ งแวดล้อมซึ่ งเป็ นเสมือนปอดของชุ มชนเมือง โดยรู ปแบบในกรุ งเทพมหานครได้แก่ สวนใน
บ้าน พื้นที่สีเขียวในโรงเรี ยน หน่วยงานราชการ ศาสนสถาน สนามกอล์ฟ
4. พืน้ ทีส่ ี เขียวริมเส้ นทางสั ญจร เป็ นพื้นที่สีเขียวที่อยูใ่ นแนวเส้นทางสัญจรสาธารณะซึ่ งมีบทบาททั้ง
การเสริ มสร้างคุณค่าด้านสิ่ งแวดล้อมและการบริ การ ได้แก่ พื้นที่ตามแนวถนน เกาะกลางถนน ริ มทางเดิน
แนวถอยร่ น ริ มแม่น้ า ลาคลอง ริ มทางรถไฟ
5. พืน้ ทีส่ ี เขียวเพือ่ เศรษฐกิจชุ มชน เป็ นการสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้แก่ผเู ้ ป็ นเจ้าของได้แก่ สวนไม้
ผลยืนต้น สวนป่ าเศรษฐกิจ พื้นที่วา่ งในบริ เวณสถานประกอบการ ในกรุ งเทพมหานคร ได้แก่บริ เวณชาน
เมืองทั้งฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตกของกรุ งเทพมหานคร เช่น สวนผัก สวนผลไม้ ฯลฯโดยในเขตชุมชน
เมืองยังมีพ้ืนที่ที่มีศกั ยภาพและมีความเหมาะสมที่จะนามาพัฒนาเป็ นพื้นที่สีเขียวอย่างยัง่ ยืน ได้แก่ พื้นที่วา่ ง
รกร้าง พื้นที่ส่วนราชการ พื้นที่ศาสนสถาน พื้นที่สถานศึกษา พื้นที่ลานกิจกรรมของชุ มชน พื้นที่ว่าง
ภายหลังการพัฒนาสาธารณูปโภคและสาธารณูปการ พื้นที่วา่ งตามอาคารบ้านเรื อนและสถานประกอบการ
ขอเอกชน เป็ นต้นปั จจุบนั มีกระแสความคิดใหม่ๆในการเชื่ อมต่อพื้นที่นนั ทนาการทัว่ เมืองแทนการกระจุก
ตัวเป็ นจุดๆ ทาให้เกิ ดการเปลี่ ยนแปลงแนวความคิ ดของ “สวนสาธารณะในเมือง” เป็ น “เมืองใน
สวนสาธารณะ” และสวนสาธารณะจะขยายต่ อเชื่ อมกับ ที่ ว่า งสาธารณะต่ า งๆในเมื อง เช่ น ลาน
สวนสาธารณะ ถนน ทาจักรยาน และทางเดินเท้า ทาให้เมืองมีความสวยงามมากขึ้น เรี ยกว่า “อุทยานวิถี”
(Greenways)อุทยานวิถี (Greenways) เป็ นสวนสาธารณะแนวยาวที่เชื่ อมร้อยพื้นที่สาคัญของเมือง ที่โล่งว่าง
ของเมืองเข้าด้วยกัน โดยมีหลากหลายลักษณะคือ
1. เส้ นทางสี เขียว (Parkway) ได้แก่ ระบบทางเท้าในพื้นที่ที่สามารถจัดให้คนเดินต่อเนื่ องในสภาพภูมิ
ทัศน์ที่ดี เช่น ปิ ดถนนที่มีการใช้งานน้อย หรื อเส้นทางรถไฟที่เลิกใช้แล้วเป็ นเส้นทางเดิน
2. เส้ นทางเลียบลานา้ (Blue way) ได้แก่ พื้นที่ริมน้ าต่างๆ
3. เส้ นทางดาดผิว (Pave way) ได้แก่ ทางเท้าย่านที่มีคนใช้เป็ นจานวนมาก ปรับให้เป็ นทางเดินที่
สะดวก มีมา้ นัง่ ร้านขายเครื่ องดื่ม ส่ งเสริ มกิจกรรมการพักผ่อนแบบเมืองในระหว่างทาง
73
ฉบับสมบูรณ์แผนแม่บทพืน
้ ทีส
่ ีเขียวของกรุงเทพมหานคร .
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน.
การพัฒนาที่ว่างสาธารณะเพื่อความเป็นเมืองน่าอยู่ . เอกสาร
ประกอบการประชุมเชิงปฏิบัติการเวทีเครือข่ายเมืองน่าอยู่ ชุมชนน่าอยู่
ครั้งที่ 3 . กรุงเทพมหานคร.
ศูนย์วิจัยป่าไม้ คณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ . 2547 .
รายงานฉบับสมบูรณ์ มาตรการในการเพิ่มและการจัดการพืน ้ ทีส
่ เี ขียวใน
เขตชุมชนอย่างยัง่ ยืน . มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน.
สานักงานเลขาธิการสภาการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ . 2548 .
รายงานการวิจย
ั การจัดการเรียนรูข
้ องแหล่งการเรียนรู้ตลอดชีวิต :
สวนสาธารณะ . กรุงเทพมหานคร.
สานักผังเมือง กรุงเทพมหานคร . 2542 . รายงานโครงการจัดทาผัง
เมืองรวมกรุงเทพมหานคร : ด้านสวนสาธารณะ . สานักผังเมือง
กรุงเทพมหานคร.
มูลนิธิพัฒนาไท คณะอนุกรรมการประสานการพัฒนาเมืองอย่าง
ยัง่ ยืน : เมืองน่าอยู่ สานักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคม
แห่งชาติ สถาบันชุมชนท้องถิ่นพัฒนา สถาบันการเรียนรู้และพัฒนาประชา
สังคม องค์กรภาคี พันธมิตรและสานักงานกองทุนสนับสนุนการเสริมสร้าง
สุขภาพ . 2547 .
Faludi, A. and Van der Valk (1994) Rule and Order: Dutch Planning Doctrine in the
TwentiethCentury. Dordrecht: Kluwer. p. 3.
www.nesdb.go.th/portals/0/eco_datas/area/.../05%20chapter%202.pdf
http://www.nesdb.go.th/portals/0/eco_datas/area/data/training_CU/report%20-
%20PDF/05%20chapter%202.pdf สื บค้นข้อมูลออนไลน์เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2555
http://www.land.arch.chula.ac.th/data/file_20100204163001.pdf
สื บค้นข้อมูลออนไลน์เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2560
ภาคผนวก
แบบสอบถามผู้นาชุมชนและประชาชนในชุมชน
ประกอบการทาวิจัย เรื่อง
“การจัดการพืน้ ที่สีเขียวในชุมชนเขตคลองเตย กรุ งเทพมหานคร”
ผู้ดาเนินงานวิจัย นายวิทยาภรณ์ จรัสด้ วง หัวหน้ าโครงการวิจัย
คณะวิศวกรรมศาสตร์ และสถาปั ตยกรรมศาสตร์
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย
------------------------
ส่ วนที่ 1 ข้ อมูลทั่วไป
1. เพศ
ชาย หญิง
5. ระดับการศึกษา..............................................................................
อาเภอ/เขต........................................................ จังหวัด..........................................................
7. อาชีพ..............................................................................
3. ลักษณะของการดาเนินการ
เห็นด้ วย ไม่เห็นด้ วย
4. ผลของการประชุมหารื อเกี่ยวกับการจัดการพื ้นที่สเี ขียวของชุมชน
....................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................
.................................................................................................................................................
5. อุปสรรคในการดาเนินงาน
....................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................
.................................................................................................................................................
6. ข้ อเสนอแนะอื่น ๆ
....................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................
.................................................................................................................................................
7. เหตุผลที่ไม่ได้ มีสว่ นร่วมการจัดการและดูแลพื ้นที่สเี ขียวของชุมชน
ไม่มีเวลา ไม่ชอบนโยบาย
************
ประวัตินักวิจัย
หัวหน้ าโครงการวิจัย
1. ชื่อ-สกุล (ภาษาไทย) นายวิทยาภรณ์ จรัสด้วง
ชื่อ – นามสกุล (ภาษาอังกฤษ) Mr. Wittayaporn Jaratduang
2. หมายเลขบัตรประจาตัวประชาชน 39305 01021 309
3. ตาแหน่ งปัจจุบัน อาจารย์
4. หน่ วยงานทีอ่ ยู่ทสี่ ามารถติดต่ อได้
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย
225 ถนนพญาไท เขตปทุมวัน กรุ งเทพฯ 10330
โทร 0-2252-2736 ต่อ 30 โทรสาร 0-2252-7580
5. ประวัติการศึกษา
ปริญญาตรี เทคโนโลยีการเกษตรบัณฑิต ( เทคโนโลยีภูมิทศั น์ )
สถาบันเทคโนโลยีการเกษตรแม่โจ้ ( มหาวิทยาลัยแม่โจ้ )
ปริญญาโท การวางแผนภาคและเมืองมหาบัณฑิต ( การวางผังเมือง )
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
6. สาขาวิชาการทีม่ ีความชานาญพิเศษ
6.1 อาจารย์ผสู้ อนวิชาภาพร่ าง นักศึกษาระดับปริ ญญาตรี สาขาวิชาสถาปั ตยกรรมภายใน
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย
6.2 อาจารย์ผูส้ อนวิชาภูมิสถาปั ตยกรรมขั้นพื้นฐาน นักศึ กษาระดับปริ ญญาตรี สาขาวิชา
สถาปัตยกรรมภายใน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย
6.3 อาจารย์ผูส้ อนวิชาไม้ประดับภายในอาคาร นักศึกษาระดับปริ ญญาตรี สาขาวิชา
สถาปัตยกรรมภายใน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย